หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นวดั แหลมไผ่ศรี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) 151 ลำดับ ช่อื หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ช้ีวดั เวลา น้ำหนัก รวมทัง้ สน้ิ ตลอดปี (ชวั่ โมง) คะแนน 160 100 หมายเหตุ : อัตราสว่ นคะแนนระหว่างเรียนและการสอบปลายปี 70 : 30 โครงสรา้ งรายวิชา รหสั วชิ า อ 14101 ชือ่ วิชาภาษาองั กฤษ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 80 ช่วั โมง ลำดับ ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชว้ี ัด เวลา น้ำหนัก (ชัว่ โมง) คะแนน 1 Unit 1 ต 1.1 .ป.4.ป ,2/44/ 97 Birthday ต 1.2 .ป.41/, ป5/4.ป ,4/4. ต 1.3 .ป.41/, ป.42/ ต 2.1 .ป.41/, ป.42/, ป3/4. ต 2.2 .ป.42/ ต 4.1 .ป.41/ ต 4.2 .ป.41/ 2 Unit 2 ต 1.1 .ป.4.ป ,2/44/ 10 8 The Great Outdoors ต 1.2 .ป.41/, ป5/4.ป ,4/4. ต 1.3 .ป.41/, ป.42/ ต 2.1 .ป.41/, ป.42/, ป3/4. ต 2.2 .ป.42/ ต3.1 . ป.41/ ต 4.1 .ป.41/ ต 4.2 .ป.41/ 3 Unit 3 ต 1.1 .ป.41/, ป.42/, ป.ป ,3/4.44/ 9 7 Hopes and Dreams ต 1.2 .ป.41/, ป.42/, ป.ป ,3/4.4 ,4/ ป5/4. ต 1.3 .ป.41/, ป.42/, ป3/4. ต 2.1 .ป.41/, ป3/4. ต 3.1 .ป.41/ ต 4.1 .ป.41/ ต 4.2 .ป.41/
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) 152 ลำดับ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชีว้ ัด เวลา น้ำหนัก 4 Unit 4 (ชว่ั โมง) คะแนน School ต 1.1 .ป.42/, ป.ป ,3/4.44/ 10 8 สรุปทบทวนสอบ (สอบกลางป)ี 5 Unit 5 ต 1.2 .ป.41/, ป.ป ,3/4.45/4.ป ,4/ 10 Indoors and Outdoors ต 1.3 .ป.41/, ป.42/, ป3/4. 7 6 Unit 6 ต 2.1 .ป.41/, ป3/4. 8 People ต 2.2 .ป.41/, ป2/4. 7 7 Unit 7 ต 4.1 .ป.41/ 8 Future Plans ต 4.2 .ป.41/ 8 Unit 8 2 Work and Play ต 1.1 .ป.42/, ป.ป ,3/4.44/ 9 ต 1.2 .ป.41/, ป.ป ,3/4.45/4.ป ,4/ ต 1.3 .ป.41/, ป.42/, ป3/4. ต 2.1 .ป.41/, ป.42/, ป3/4. ต 2.2 .ป.41/, ป.42/ ต 3.1 .ป.41/ ต 4.1 .ป.41/ ต 4.2 .ป.41/ ต 1.1 .ป.42/, ป.ป ,3/4.44/ 10 ต 1.2 .ป.41/, ป.ป ,3/4.45/4.ป ,4/ ต.ป 1.3 .41/, ป.42/, ป3/4. ต 2.1 .ป.41/, ป.42/ ต 2.2 .ป.41/, ป.42/ ต 3.1 .ป.41/ ต 4.1 .ป.41/ ต 4.2 .ป.41/ ต 1.1 .ป.41/, ป.42/, ป.ป ,3/4.44/ 9 ต 1.2 .ป.41/, ป.ป ,3/4.45/4.ป ,4/ ต 1.3 .ป.41/, ป.42/, ป3/4. ต 2.1 .ป.41/, ป.42/ ต 2.2 .ป.41/, ป.42/ ต 3.1 .ป.41/ ต 4.1 .ป.41/ ต 4.2 .ป.41/ ต 1.1 .ป.42/, ป.ป ,3/4.44/ 10 ต 1.2 .ป.41/, ป.ป ,3/4.45/4.ป ,4/ ต 1.3 .ป.41/, ป.42/, ป3/4. ต 2.1 .ป.41/, ป.42/, ป3/4. ต 2.2 .ป.41/, ป.42/ ต 3.1 .ป.41/
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) 153 ลำดบั ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ช้วี ัด เวลา น้ำหนัก (ชวั่ โมง) คะแนน ต 4.1 .ป.41/ 2 30 ต 4.2 .ป.41/ 80 100 สรุปทบทวนภาพรวม (สอบปลายป)ี รวมท้ังสน้ิ ตลอดปี หมายเหตุ : อัตราสว่ นคะแนนระหว่างเรยี นและการสอบปลายปี 70 : 30 โครงสร้างรายวชิ า รหัสวิชา อ 15101 ชอื่ วชิ าภาษาอังกฤษ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 5 จำนวน 80 ชั่วโมง ลำดบั ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ชวี้ ดั เวลา นำ้ หนัก (ชั่วโมง) คะแนน 1 Unit 1 ต 1.1 .ป1/5., ป4/5.ป ,3/5.ป ,2/5. 97 Food ต 1.2 .ป4/5. ต 1.3 .ป1/5., ป3/5. ต 2.1 .ป1/5. ต 2.2 .ป1/5. ต 3.1 .ป1/5. ต 4.1 .ป1/5. ต 4.2 .ป1/5. 2 Unit 2 ต 1.1 .ป1/5., ป4/5.ป ,2/5. 10 8 At the Zoo ต 1.2 .ป1/5., ป4/5.ป ,2/5. ต 1.3 .ป1/5., ป3/5. ต 2.1 .ป1/5., ป,2/5. ต 2.2 .ป1/5. ต 3.1 .ป1/5. ต 4.1 .ป1/5. ต 4.2 .ป1/5. 3 Unit 3 ต 1.1 .ป1/5., ป4/5.ป ,3/5.ป ,2/5. 97 The Weekend ต 1.2 .ป1/5., ป5/5.ป ,4/5. ต 1.3 .ป1/5., ป3/5. ต 2.1 .ป1/5., ป2/5. ต 2.2 .ป1/5. ต 3.1 .ป1/5. ต 4.1 .ป1/5.
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) 154 ลำดบั ช่อื หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวช้วี ัด เวลา น้ำหนัก 4 Unit 4 (ช่ัวโมง) คะแนน Activities ต 4.2 .ป1/5. ต 1.1 .ป4/5.ป ,2/5. 10 8 สรุปทบทวนสอบ (สอบกลางป)ี ต 1.2 .ป1/5., ป5/5.ป ,4/5. 5 Unit 5 ต 1.3 .ป1/5., ป3/5.ป ,2/5. 2 10 The Future ต 2.1 .ป1/5. 9 7 ต 2.2 .ป1/5., ป2/5. 6 Unit 6 ต 3.1 .ป1/5. 10 8 Seasons ต 4.1 .ป1/5. ต 4.2 .ป1/5. 9 7 7 Unit 7 The Five Senses ต 1.1 .ป1/5., ป4/5.ป ,3/5.ป ,2/5. 10 8 ต 1.2 .ป1/5., ป5/5.ป ,4/5. 8 Unit 8 ต 1.3 .ป1/5., ป3/5. New Experiences ต 2.1 .ป1/5., ป3/5. ต 2.2 .ป1/5. ต 3.1 .ป1/5. ต 4.1 .ป1/5. ต 4.2 .ป1/5. ต 1.1 .ป1/5., ป4/5.ป ,3/5.ป ,2/5. ต 1.2 .ป1/5., ป5/5.ป ,4/5. ต 1.3 .ป1/5., ป3/5. ต 2.1 .ป1/5., ป3/5. ต 2.2 .ป1/5. ต 3.1 .ป1/5. ต 4.1 .ป1/5. ต 4.2 .ป1/5. ต 1.1 .ป1/5., ป4/5.ป ,2/5. ต 1.2 .ป1/5., ป5/5.ป ,4/5. ต 1.3 .ป1/5., ป2/5. ต 2.1 .ป1/5., ป3/5.ป ,2/5. ต 3.1 .ป1/5. ต 4.1 .ป1/5. ต 1.1 .ป4/5.ป ,2/5. ต 1.2 .ป1/5., ป5/5.ป ,4/5.ป ,3/5. ต1/5.ป 1.3 ., ป3/5. ต 2.1 .ป2/5.
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) 155 ลำดบั ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวช้วี ดั เวลา นำ้ หนัก (ชั่วโมง) คะแนน ต 2.2 .ป1/5., ป2/5. 2 30 ต 3.1 .ป1/5. ตลอดปี 80 100 ต 4.1 .ป1/5. ต 4.2 .ป1/5. สรปุ ทบทวนภาพรวม(สอบปลายปี) รวมท้ังสิ้น หมายเหตุ : อัตราส่วนคะแนนะหว่างเรียนและการสอบปลายปี 70 : 30 โครงสร้างรายวชิ า รหสั วชิ า อ 16101 ชอ่ื วิชาภาษาอังกฤษ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 6 จำนวน 80 ช่วั โมง ลำดับ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชว้ี ัด เวลา น้ำหนัก 1 Unit 1 (ชวั่ โมง) คะแนน School Day ต 1.1 .ป1/6., ป4/6.ป ,3/6.ป ,2/6. ต 1.2 .ป1/6., ป5/6.ป ,4/6. 9 7 2 Unit 2 ต 1.3 .ป1/6. Weekend Fun ต 2.1 .ป1/6. 10 8 ต 3.1 .ป1/6. 3 Unit 3 ต 4.1 .ป1/6. 9 7 Going Shopping ต 4.2 .ป1/6. ต 1.1 .ป1/6., ป4/6.ป ,3/6.ป ,2/6. ต 1.2 .ป1/6., ป ,4/6.ป ,3/6.ป ,2/6. ป5/6. ต 1.3 .ป3/6.ป ,1/6. ต2/6.ป ,1/6.ป 2.1 . ต 2.2 .ป2/6. ต 3.1 .ป1/6. ต 4.1 .ป1/6. ต 4.2 .ป1/6. ต 1.1 .ป1/6., ป4/6.ป ,3/6.ป ,2/6. ต 1.2 .ป4/6.ป ,2/6.
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) 156 ลำดับ ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชวี้ ดั เวลา น้ำหนัก (ช่วั โมง) คะแนน 4 Unit 4 ต 1.3 .ป3/6.ป ,2/6.ป ,1/6. Around Town ต 2.1 .ป3/6.ป ,2/6. 10 8 ต 2.2 .ป1/6., ป2/6. สรุปทบทวนสอบ (สอบกลางป)ี ต 4.1 .ป1/6. 5 Unit 5 ต 1.1 .ป1/6., ป4/6.ป ,3/6.ป ,2/6. Explore the World ต 1.2 .ป1/6., ป4/6.ป ,2/6. ต 2.1 .ป1/6., ป3/6.ป ,2/6. ต 3.1 .ป1/6. ต 4.1 .ป1/6. ต 4.2 .ป1/6. 2 10 ต 1.1 .ป1/6., ป4/6.ป ,3/6.ป ,2/6. 97 ต1/6.ป 1.2 ., ป4/6.ป ,2/6. ต 2.1 .ป1/6., ป2/6. ต 3.1 .ป1/6. ต 4.1 .ป1/6. ต 4.2 .ป1/6. 6 Unit 6 ต 1.1 .ป1/6., ป2/6. 1 08 Doing Things ต 1.2 .ป1/6., ป4/6. ต 1.3 .ป1/6., ป2/6. ต 2.2 .ป1/6. ต 3.1 .ป1/6. ต 4.1 .ป1/6. ต 4.2 .ป1/6. 7 Unit 7 ต 1.1 .ป1/6., ป4/6.ป ,3/6.ป ,2/6. 97 About me ต 1.2 .ป1/6., ป5/6.ป ,4/6. ต 1.3 .ป1/6., ป2/6. ต 2.2 .ป1/6. 8 Unit 8 ต 1.1 .ป4/6.ป ,3/6.ป ,2/6. 1 08 In the Future ต 1.2 .ป1/6., ป5/6.ป ,4/6.
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) 157 ลำดับ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ชว้ี ัด เวลา น้ำหนกั (ชั่วโมง) คะแนน ต 1.3 .ป2/6., ป3/6. 2 30 ต 2.2 .ป1/6. ตลอดปี 80 100 สรุปทบทวนภาพรวม(สอบปลายป)ี รวมท้ังส้ิน หมายเหตุ : อตั ราสว่ นคะแนนระหว่างเรียนและการสอบปลายปี 70 : 30 คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) 158
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) 159 ท11201 ภาษาไทยซอ่ มเสรมิ รายวชิ าเพิ่มเติม กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 เวลา 40 ชั่วโมง -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- คำอธบิ ายรายวิชา อา่ นออกเสียงคำ คำคล้องจอง และข้อความส้ัน ๆ พูดส่ือสารได้ตามวัตถุประสงค์ มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพูด บอกและเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย เขียนสะกดคำและบอกความหมาย ของ คำเรยี บเรยี งคำเปน็ ประโยคง่าย ๆ ต่อคำคลอ้ งจองง่าย ท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนด และบทร้อยกรองตาม ความสนใจ โดยใช้กระบวนการอ่าน การเขียน และพูด วิเคราะห์ สรุป และนำเสนอ เพื่อให้มีความรู้ความ เขา้ ใจ มที กั ษะทางภาษาในการส่ือสาร มีนิสยั รกั การอา่ น เหน็ คุณคา่ ภาษาไทยในฐานะภาษาประจำชาติ ผลการเรยี นรู้ 1. เขา้ ใจในข้อความเรอื่ งส้นั บทอาขยาน คำคลอ้ งจอง 2. เขยี นคำสะกดคำตามมาตราต่างๆได้ถูกต้อง 3. อา่ นคิดถามและตอบคำถามจากเรือ่ งที่อา่ น 4. เขยี นสะกดคำและตอบคำถามไดถ้ ูกต้อง รวมท้ังหมด 4 ผลการเรยี นรู้
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั แหลมไผ่ศรี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) 160 ท12201 ภาษาไทยซอ่ มเสรมิ รายวชิ าเพม่ิ เติม กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 เวลา 40 ช่วั โมง -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- คำอธิบายรายวชิ า อ่านออกเสียงคำ คำคล้องจอง คัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด พูดสื่อสารได้ชัดเจนตรงตาม วัตถุประสงค์ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด บอกและเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย เขียน สะกดคำและบอกความหมายของคำ เรียบเรียงคำเป็นประโยคได้ตรงตามเจตนาของการสื่อสาร บอกลักษณะคำ คล้องจอง เลือกใช้ภาษาไทยมาตรฐาน ท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนด และบทร้อยกรองที่มีคุณค่าตามความ สนใจ โดยใช้กระบวนการอ่าน การเขียน และพูด วิเคราะห์ สรุป และนำเสนอ เพื่อให้มีความรูค้ วามเข้าใจ มี ทกั ษะทางภาษาในการสื่อสาร มนี สิ ัยรกั การอา่ น เหน็ คุณคา่ ภาษาไทยในฐานะภาษาประจำชาติ ผลการเรยี นรู้ 1. สามารถอ่าน และออกเสยี งคำ ประโยคท่ีมีคำควบกลำ้ ไดถ้ ูกต้องชัดเจน 2. ออกเสียงคำ ร/ล ได้ถกู ต้องชัดเจน 3. สามารถแยกคำควบกล้ำแท้และควบกล้ำไม่แท้ได้ 4. นำคำควบกลำ้ แท้ ควบกลำ้ ไม่แทม้ าแต่งประโยค และเรือ่ งราวต่างๆ ได้ รวมท้ังหมด 4 ผลการเรียนรู้
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) 161 ท13201 ภาษาไทยซอ่ มเสรมิ รายวิชาเพมิ่ เติม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 3 เวลา 40 ช่ัวโมง -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- คำอธบิ ายรายวชิ า อ่านออกเสียงคำ ข้อความ เรื่องสั้น ๆ บอกสาระสำคัญจากเรื่อการฟังและการดู ตั้งคำถามและตอบ คำถามเกี่ยวกับเรือ่ งที่ฟังและดู พูดแสดงความคิดเห็น และความรู้สึกจากเร่ืองที่ฟังและดู พูดสื่อสารได้ชัดเจนตรง ตาม วัตถุประสงค์ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด เขียนสะกดคำและบอกความหมาย ของคำ ระบุชนิด และหน้าท่ีของคำในประโยค ใช้พจนานกุ รมค้นหาความหมายของคำ แต่งประโยคงา่ ย ๆ แต่งคำคล้องจอง และคำ ขวัญ เลือกใช้ภาษาไทยมาตรฐาน และภาษาถิ่นได้เหมาะสมกับกาลเทศะ ระบุข้อคิดที่ได้จากการอ่านวรรณกรรม เพอื่ นำไปใชใ้ นชีวิตประจำวัน โดยใช้กระบวนการอ่าน การเขียน และพดู วเิ คราะห์ สรุป และนำเสนอ เพ่อื ให้มี ความรู้ความเข้าใจ มที ักษะทางภาษาในการสื่อสาร มนี ิสัยรักการอ่าน เหน็ คุณค่าภาษาไทยในฐานะภาษาประจำ ชาติ ผลการเรียนรู้ 1. สรปุ ใจความสำคญั ของเรือ่ งท่อี ่านได้ 2. สามารถสรปุ ข้อเทจ็ จริง และขอ้ คดิ เหน็ ได้ 3. ตง้ั คำถาม และตอบคำถามจากเรอ่ื งท่อี ่าน ฟัง ดู และการพดู ไดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล 4. เขียนแสดงความคิดเห็น แสดงความรจู้ ากเรื่องทีอ่ ่านได้ รวมท้ังหมด 4 ผลการเรยี นรู้
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นวดั แหลมไผ่ศรี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) 162 คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) 163 ว14201 คอมพิวเตอร์ รายวิชาเพิม่ เติม กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 เวลา 40 ชัว่ โมง -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาความหมายของข้อมูล แหลง่ ขอ้ มลู ประเภทของข้อมูล ประโยชน์ของข้อมลู รวบรวมขอ้ มูล ชื่อ และหน้าที่ของอุปกรณ์ องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ การใช้งานคอมพิวเตอร์อย่าง ถูกวิธี การใช้อินเทอร์เน็ต การใช้งานโปรแกรม Ms PowerPoint ในการนำเสนอ จัดรูปแบบ ภาพนิ่ง แทรกตารางและแผนภูมิในงาน นำเสนอ นำเสนองานภาพน่งิ โดยการสืบค้น รวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลใกล้ตัว และการอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ตลอดจนสามารถอธิบายสิ่งที่เรียนรู้ สร้างสรรค์ผลงานจากสิ่งที่ได้เรียน สามารถนำไปใช้ ให้เกิดประโยชน์ใน ชวี ติ ประจำวัน เห็นคณุ คา่ ความสำคญั ของชนิ้ งานทีส่ ร้างข้ึน ผลการเรยี นรู้ 1. บอกความหมายของขอ้ มลู แหลง่ ข้อมูล ประเภทของข้อมลู ประโยชนข์ องข้อมูล และรวบรวมขอ้ มลู ได้ 2. บอกชื่อและหนา้ ทขี่ องอปุ กรณ์ องคป์ ระกอบของคอมพิวเตอรแ์ ละใช้งานคอมพวิ เตอร์ไดอ้ ยา่ งถูกวิธี 3. สืบคน้ ข้อมูลโดยใชอ้ ินเทอร์เน็ตได้ 4. ใช้งานโปรแกรม Ms PowerPoint ในการนำเสนอ จดั รูปแบบ ภาพน่งิ ได้ 5. แทรกตารางและแผนภูมิในงานนำเสนอได้ 6.นำเสนองานภาพน่งิ ได้ 7. ประยกุ ต์เพ่ือใชง้ านได้และเหน็ ความสำคญั ของช้ินงาน รวมทั้งหมด 7 ผลการเรยี นรู้
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนวดั แหลมไผ่ศรี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) 164 ว15201 คอมพิวเตอร์ รายวิชาเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 4 เวลา 40 ช่วั โมง -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาความหมาย บทบาทและประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศ ชื่อและหน้าที่ของอุปกรณ์และ องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ ความหมาย ประโยชน์และโทษของอินเทอร์เน็ตและสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต ใช้งานโปรแกรม Ms Excel เบือ้ งตน้ จัดรปู แบบของขอ้ มลู บนเวริ ์กชีต ใช้สตู รและฟงั ก์ช่ันในการคำนวณ อธบิ าย การใช้งาน ออกแบบและสรา้ ง E-book ด้วยโปรแกรม Flip Album โดยการสืบค้น รวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลใกล้ตัว และการอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ตลอดจนสามารถอธิบายสิ่งที่เรียนรู้ สร้างสรรค์ผลงานจากสิ่งที่ได้เรียน สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ใน ชีวติ ประจำวัน เหน็ คณุ คา่ ความสำคัญของชิ้นงานทีส่ ร้างข้นึ ผลการเรยี นรู้ 1.. บอกความหมาย บทบาทและประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศได้ 2. บอกช่อื และหนา้ ที่ของอปุ กรณ์และองค์ประกอบของคอมพวิ เตอร์ได้ 3. บอกความหมาย ประโยชน์และโทษของอนิ เทอรเ์ น็ตและสืบค้นข้อมลู จากอนิ เทอรเ์ น็ตได้ 4. ใชง้ านโปรแกรม Ms Excel เบอื้ งตน้ ได้ 5. จดั รูปแบบของข้อมูลบนเวิรก์ ชีตได้ 6. ใช้สูตรและฟังกช์ ่ันในการคำนวณได้ 7. อธบิ ายการใช้งาน ออกแบบและสรา้ ง E-book ดว้ ยโปรแกรม Flip Albumได้ 8. ประยกุ ต์เพอ่ื ใช้งานได้และเหน็ ความสำคัญของชนิ้ งาน รวมท้งั หมด 8 ผลการเรียนรู้
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) 165 ว16201 คอมพิวเตอร์ รายวิชาเพิม่ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 4 เวลา 40 ชว่ั โมง -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาและฝึกทักษะทางด้านตารางการทำงานด้วยการพัฒนาเว็บเพจด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป Macromedia Dreamweaver 8 การประยุกต์การสร้างเว็บไซต์ การจัดและการตกแต่งข้อความ การแทรก รูปภาพลงในเว็บเพจ การสร้างตาราง การสร้างการเชื่อมโยงในแต่ละหน้าเว็บเพจ เว็บไซต์ การแบ่งหน้าเว็บเพจ เป็นส่วนๆ การสร้างฟอร์มเพื่อรองรับข้อมูลจากผู้ใช้ การประยุกต์สร้างเลเยอร์ในการตกแต่งเอกสารเว็บเพจ การ แทรกมัลติมีเดียส่ือตา่ งๆ ลงในเว็บเพจ การจัดการเว็บไซต์ เช่น การขอพื้นที่เพ่ือรองรับเว็บไซตข์ องเรา การขอขอ ใชบ้ ริการเสริมตา่ งการนำเว็บไซตข์ น้ึ สู่อินเตอร์เนต็ เพ่อื การตกแตง่ เว็บเพจให้สวยงาม เพื่อให้ผู้เรียนศึกษา กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด กระบวนการฝึกปฏิบัติ กระบวนการออกแบบ กระบวนการจัดการ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการคิดวเิ คราะห์ มีนิสัยรักการทำงาน รักการค้นคว้า มีความ รับผิดชอบ ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขมีสมาธิในการทำงานจนสามารถนำทักษะปฏิบัติงานไปใช้ใน ชวี ติ ประจำวันได้ ผลการเรียนรู้ 1. บอกความหมายของโปรแกรม ติดต้ังโปรแกรม เข้าสู่โปรแกรม และ แนะนำส่วนประกอบของ โปรแกรม Macromedia Dreamweaver 8 2. บอกวธิ ีการกำหนดไฟล์และโฟลเดอร์ภายในเวบ็ ไซต์สร้างหนา้ เว็บเพจและกำหนดคุณสมบตั ิให้ เวบ็ เพจ 3. ปฏิบตั กิ ารเลือกรปู แบบตัวอักษร (Font) ปรบั ขนาดและเปล่ยี นสตี ัวอักษร 4. ปฏบิ ตั ิจัดการเกี่ยวกบั รปู ภาพได้ จดั วางรูปภาพประกอบข้อความและใส่รูปภาพเป็นฉากหลงั 5. บอกวธิ กี ารสรา้ งตารางกำหนดคณุ บตั ขิ องตาราง 6. สามารถบอกส่วนประกอบของไฮเปอร์ลิงก์ ปฎิบัติการสร้างไฮเปอร์ลงิ กเ์ ช่ือมโยงระหว่างเว็บ 7. ปฏบิ ตั กิ ารใช้ภาพเคลอ่ื นไหว การค้นหาข้อมลู การสร้างเมนู Pop Up 8. สรา้ งเว็บไซต์ของตนเอง รวมทัง้ หมด 8 ผลการเรยี นรู้
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั แหลมไผ่ศรี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) 166 กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) 167 กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน โรงเรียนวัดแหลมไผ่ศรีได้จัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนโดยมุ่งให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง ได้ฝึกปฏิบัติจริงและค้นพบความถนัดของตนเอง สามารถค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมตามความสนใจจากแหล่ง เรยี นรู้ทีห่ ลากหลาย บำเพ็ญประโยชนเ์ พอ่ื สงั คม มที ักษะในการดำเนินงาน ส่งเสริมให้มีวฒุ ิภาวะทางอารมณ์ สงั คม ศลี ธรรม จริยธรรม ให้ผเู้ รียนรูจ้ กั และเขา้ ใจตนเอง สามารถวางแผนชีวิตและอาชีพไดอ้ ย่างเหมาะสม กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเป็นกิจกรรมที่มุ่งให้ผู้เรียนพัฒนาตนเองตามศักยภาพ พัฒนาการเรียนรู้อย่างรอบ ด้านเพื่อความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม เสริมสร้างให้เป็นผู้มีศีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินัย ปลูกฝังให้สร้างจิตสำนึกของการทำประโยชน์เพื่อสังคม สามรถจักการตนเองได้และอยู่ ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข โรงเรียนวัดนพคุณทอง ได้จัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โดยแบ่งออกเป็น ๓ ลักษณะ ดงั นี้ ๑. กจิ กรรมแนะแนว เปน็ กิจกรรมทสี่ ่งเสริมและพัฒนาผเู้ รยี นให้รูจ้ กั ตนเอง รูร้ กั ษ์ส่ิงแวดล้อม สามารถ ตัดสินใจ คิดแก้ปัญหา กำหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตทั้งด้านการเรียน และอาชีพ สามารถปรับตนได้อย่าง เหมาะสม นอกจากนี้ยังช่วยให้ครูรู้จักและเข้าใจผู้เรียน ทั้งยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยเหลือและให้คำปรึกษาแก่ ผู้ปกครองในการมีส่วนร่วมพัฒนาผู้เรียน โดยนักเรียนทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมแนะแนว ๔๐ ช่ั วโมงต่อปี การศึกษา ๒. กิจกรรมนักเรียน เป็นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาระเบียบวินัย ความเป็นผู้นำ ผู้ตามที่ดี ความรับผิดชอบ การทำงานร่วมกัน รู้จักแก้ปัญหา การตัดสินใจที่เหมาะสม ความมีเหตุผล การช่วยเหลอื แบ่งปันเอื้ออาทรและ สมานฉนั ท์ โดยจัดใหส้ อดคลอ้ งกับความสามารถ ความถนดั และความสนใจของผู้เรยี น ให้ไดป้ ฏิบัตดิ ้วยตนเอง ในทุกขั้นตอน ได้แก่ การศึกษาวิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติตามแผนประเมินและปรับปรุงการทำงานเน้นการ ทำงานรวมกันเป็นกลุ่มตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับวุฒิภาวะของผู้เรียนและบริบทของสถานศึกษาและ ทอ้ งถ่นิ กิจกรรมนกั เรียน ประกอบด้วย กิจกรรมลูกเสอื เนตรนารี นกั เรียนทกุ คนตอ้ งเข้าร่วม กจิ กรรมลูกเสือ เนตรนารี ๓๐ ชง่ั โมงตอ่ ปีการศึกษา กิจกรรมชุมนุม นกั เรยี นทุกคนตอ้ งเขา้ รว่ มกจิ กรรม ชมรม ๔๐ ช่งั โมงต่อ ปกี ารศกึ ษา ๓. กจิ กรรมเพือ่ สังคมและสาธารณประโยชน์ เป็นกิจกรรมที่สง่ เสรมิ ใหผ้ ู้เรียนบำเพ็ญตนใหเ้ ป็นประโยชน์ ต่อสังคม ชุมชนและท้องถิ่นตามความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบ ความดีงาม ความเสยี สละการมีจิตสาธารณะ เชน่ กจิ กรรมอาสาพฒั นาต่างๆ กจิ กรรมสร้างสรรค์สังคม นักเรียนทุกคนต้อง เข้ารว่ มกจิ กรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ ๑๐ ชัว่ โมงต่อปกี ารศกึ ษา
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) 168 โครงสร้างและอัตราเวลาการจดั กิจกรรม กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน ป.๑ ป.๒ ระดับประถมศึกษา ป.๖ 3๐ 3๐ ป.๓ ป.๔ ป.๕ 3๐ ๑. กิจกรรมแนะแนว 3๐ 3๐ 3๐ ๒. กจิ กรรมนกั เรยี น 4๐ 4๐ 4๐ ๔๐ ๔๐ 4๐ 4๐ 4๐ ๔๐ ๒.๑ ลกู เสือ-เนตรนารี ๑๐ ๑๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๑๐ ๒.๒ กิจกรรมชุมนมุ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๓. กิจกรรมเพ่อื สังคม ๑2๐ ๑2๐ ๑2๐ และสาธารณประโยชน์ ๑2๐ ๑2๐ ๑2๐ เวลาเรียนรวม ๑. กจิ กรรมแนะแนว วัตถุประสงค์ ๑. เพ่ือผเู้ รยี นค้นพบความถนดั ความสามารถ ความสนใจของตนเอง รกั ละเหน็ คุณค่าในตนเองและผอู้ ่นื ๒. เพ่ือให้ผู้เรียนแสวงหาความรูจ้ ากข้อมูล ข่าวสาร แหล่งเรียนรู้ ทั้งด้านการศึกษา อาชีพส่วนตัว สังคม เพื่อนำไปใช้ในการวางแผน เลือกแนวทางการศึกษาอาชีพได้อย่างเหมาะสมสอดคล้องกับศักยภาพ ของตนเอง ๓. เพือ่ ให้ผู้เรียนไดพ้ ัฒนาบุคลกิ ภาพ และรับตวั อยใู่ นสงั คมไดอ้ ย่างมีความสขุ ๔. เพอ่ื ให้ผู้เรยี นมคี วามรู้ มที ักษะ มีความคดิ สร้างสรรค์ ในงานอาชีพและมีเจตคติที่ดตี อ่ อาชีพสุจริต ๕. เพื่อให้ผู้เรียนมคี ่านยิ มท่ีดีงามในการดำเนินชีวิต สรา้ งเสริมวินัย คุณธรรมและจริยธรรมแกน่ กั เรยี น ๖. เพ่ือใหผ้ เู้ รียนมีจิตสำนึกในการรับผดิ ชอบตอ่ ตนเอง ครอบครวั สังคม และประเทศชาติ แนวการจัดกิจกรรม โรงเรียนวัดแหลมไผ่ศรี ได้จัดกิจกรรมแนะแนวเพื่อช่วยเหลือและพัฒนาผู้เรียน ดงั นี้ ๑. จัดกิจกรรมเพื่อให้ครูได้รู้จักและช่วยเหลือผู้เรียนมากขึ้น โดยใช้กระบวนการทางจิตวิทยา การ จัดบริการสนเทศ โดยให้มีเอกสารเพื่อใช้ในการสำรวจข้อมูลเกี่ยวกับตัวผู้เรียน ด้วยการสังเกต สัมภาษณ์ การใช้แบบสอบถาม การเขียนประวัติ การพบผู้ปกครองก่อนและระหว่างเรียน การ เย่ยี มบ้านนกั เรียน การใหค้ วามชว่ ยเหลือผเู้ รยี นเร่อื งสุขภาพจิต เศรษฐกิจ การจดั ทำระเบียนสะสม สมดุ รายงานประจำตัวนักเรยี น และบัตรสุขภาพ ๒. การจัดกิจกรรมพัฒนาวุฒิภาวะทางอารมณ์ โดยทำแบบทดสอบเพื่อรู้จักและเข้าใจตนเอง มีทักษะ ในการตัดสินใจ การปรบั ตัว การวางแผนเพอื่ เลือกศกึ ษาต่อ เลือกอาชพี ๓. การจดั บริการให้คำปรึกษาแกผ่ ู้เรยี นรายบคุ คล และรายกล่มุ ในดา้ นการศกึ ษา อาชีพ และส่วนตวั โดยมีผู้ให้คำปรึกษาที่มีคุณวุฒิ และมีความเชี่ยวชาญในเรื่องการให้คำปรึกษา ตลอดจนมีห้องให้ คำปรึกษาทเ่ี หมาะสม ๓.๑ ชว่ ยเหลอื ผู้เรยี นทปี่ ระสบปัญหาดา้ นการเงนิ โดยการใหท้ นุ การศกึ ษาแก่ผเู้ รียน ๓.๒ ตดิ ตามเก็บข้อมูลของนักเรียนท่ีสำเรจ็ การศึกษา
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นวดั แหลมไผ่ศรี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) 169 ๒. กจิ กรรมนกั เรียน ๑. กจิ กรรมลูกเสือ กจิ กรรมลูกเสอื - เนตรนารี ผู้เรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ ทุกคน ได้ฝึกอบรมวิชาลูกเสือ - เนตรนารี เพื่อส่งเสริม หลักการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ส่งเสริมความสามัคคี มีวินัย และ บำเพ็ญประโยชน์ตอ่ สงั คม โดยดำเนินการจัดกิจกรรมตามขอ้ กำหนดของคณะกรรมการลูกเสือแหง่ ชาติ วัตถุประสงค์ พระราชบัญญัติลูกเสือ พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๘ ได้กำหนดวัตถุประสงค์ของการฝึกอบรม เพื่อพัฒนา ลกู เสอื ทง้ั ทางกาย สติปญั ญา จิตใจ และศลี ธรรมใหเ้ ปน็ พลเมืองดี มีความรบั ผิดชอบ และช่วยสรา้ งสรรคส์ ังคม เพื่อให้เกิดความสามัคคี และความเจริญก้าวหน้า ทั้งนี้เพื่อความสงบสุข และความมั่งคงของประเทศชาติตาม แนวทางดังตอ่ ไปนี้ ๑. ให้มีนิสัยในการสงั เกต จดจำ เชอ่ื ฟัง และพึ่งตนเอง ๒. ใหม้ คี วามซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ มีระเบยี บวินัย และเหน็ อกเหน็ ใจผอู้ นื่ ๓. ให้รูจ้ กั บำเพญ็ ตนเพอื่ สาธารณประโยชน์ ๔. ใหร้ ู้จักทำการฝีมือและฝึกฝนการทำกจิ กรรมตา่ งๆตามความเหมาะสม ๕. ให้ร้จู กั รักษาและสง่ เสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม และความมั่งคงชองชาติ แนวการจดั กิจกรรม กจิ กรรมลูกเสือ เนตรนารี ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๑-๓ เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบานการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษาวิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัตกิ ิจกรรมตามมาตรฐาน โดยเน้นระบบหมู่ สรุปผลการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม ปิดประชมุ กอง โดยให้ผู้เรยี นศึกษา และฝกึ ปฏบิ ตั ดิ งั น้ี ๑. เตรียมลูกเสอื สำรอง นิยายเรอ่ื เมาคลี ประวตั กิ ารเร่มิ กิจกรรมลูกเสือสำรอง การทำความ เคารพเป็นหมู่ (แกรนด์ฮาวล์) การทำความเคารพเป็นรายบุคคล การจับมือซ้าย ระเบียบ แถวเบอื้ งต้น คำปฏญิ าณ กฎ และคติพจนข์ องลกู เสือสำรอง ๒. ลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๑ , ๒ และ ๓ อนามัย ความสามารถเชิงทกั ษะ การสำรวจ การ ค้นหาธรรมชาติ ความปลอดภัย บริการ ธง และประเทศต่างๆ การฝีมือ กิจกรรม กลางแจง้ การบันเทงิ การผูกเง่อื น คำปฏญิ าณ และกฎของลูกเสือสำรองโดยใช้กระบาน การทำงาน กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการกลุ่ม กระบวนการจัดการ กระบวนการ คดิ ริเรม่ิ สรา้ งสรรค์ กระบวนการฝึกปฏบิ ตั ิ ทางลกู เสอื กระบวนการทางเทคโนโลยี และ ภมู ิปัญญาทอ้ งถนิ่ ไดอ้ ย่างเหมาะสม เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของ ลูกเสือสำรอง มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟัง และพึ่งตนเอง ซื่อสัตย์ สุจริต มีระเบียบวินัย และเห็นอก เห็นใจผู้อื่น บำเพ็ญตนเพื่อสาธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝีมือ พัฒนากาย จิตใจ และศีลธรรม ทั้งนี้โดยไม่ เก่ยี วขอ้ งกบั ลัทธทิ างการเมืองใดๆ สนใจและอนรุ ักษ์ธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม นำไปใชใ้ นชีวิตประจำวันได้อย่าง มปี ระสทิ ธภิ าพ
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) 170 กิจกรรมลูกเสือ - เนตรนารี ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔-๖ เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามมาตรฐาน โดยเน้นระบบหมู่ สรุปการปฏิบัติกิจกรรม ปิดประชุมกอง โดยให้ผู้เรียนศึกษา และปฏบิ ัติในเรือ่ ง ๑. ลูกเสือตรี ความรู้เกี่ยวกับขบวนการลูกเสือ คำปฏิญาณและกฎของลูกเสือสามัญ กิจกรรม กลางแจ้ง ระเบียบแถว ๒. ลูกเสือโท การร้จู กั ดูแลตนเอง การชว่ ยเหลือผอู้ น่ื การเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ทักษะทางวิชา ลูกเสอื งานอดเิ รกและเร่อื ทีน่ า่ สนใจ คำปฏญิ าณ และกฎของลูกเสือ ระเบียบแถว ๓. ลกู เสอื เอก การพึง่ พาตนเอง การบริการ การผจญภัย วชิ าการของลูกเสือ ระเบียบแถว โดยใช้ กระบวนการทำงาน กระบวนการแก้ปัญหา ระบวนการกลุ่ม กระบวนการจัดการ กระบวนการ คิดริเริ่ม สร้างสรรค์ กระบวนการฝึกปฏิบัติทางลูกเสือ กระบวนการทางเทคโนโลยี และภูมิ ปญั ญาทอ้ งถ่ินได้อยา่ งเหมาะสม เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของ ลูกเสือสามัญ มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟัง และพึ่งตนเอง ซื่อสัตย์ สุจริต มีระเบียบวินัย และเห็นอก เห็นใจผู้อื่น บำเพ็ญตนเพื่อสารธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝีมือ พัฒนากาย จิตใจ และศีลธรรม ทั้งนี้โดยไม่ เกี่ยวข้องกับลัทธิทางการเมืองใดๆ สนใจและอนุรักษธ์ รรมชาติและส่ิงแวดล้อม และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ หมายเหตุ ผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรม และผ่านการทดสอบแล้ว จะได้รับเครื่องหมายลูกเสือตรี ลูกเสือโท และลูกเสอื เอก
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) 171 ๒. กจิ กรรมชมุ นมุ วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพือ่ ใหผ้ ้เู รยี นได้ปฏิบตั ิกจิ กรรมตามความสนใจ ความถนัด และความตอ้ งการของตน ๒. เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาความรู้ ความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ให้เกิด ประสบการณท์ ง้ั ทางวิชาการและวิชาชีพตามศกั ยภาพ ๓. เพื่อสง่ เสริมใหผ้ เู้ รียนใช้เวลาให้เกดิ ประโยชนต์ อ่ ตนเองและส่วนรวม ๔. เพื่อให้ผเู้ รยี นทำงานร่วมกับผอู้ ่นื ไดต้ ามวิถปี ระชาธปิ ไตย แนวการจัดกจิ กรรม การจัดกิจกรรมตามความสนใจ (ชมุ นมุ ) ผ้เู รยี นสามารถเลอื กเข้าเป็นสมาชิกชมรม วางแผนการดำเนิน กจิ กรรมรว่ มกัน โดยมีชมรมทห่ี ลากหลาย เหมาะสมกับเพศ วยั และความสนใจของผู้เรียน ประกอบด้วยกิจกรรม ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม วัฒนธรรม อนุรกั ษส์ ิ่งแวดลอ้ ม ส่งเสรมิ ประชาธิปไตย ส่งเสริมการเรียนรู้ และค่ายวิชาการ การศกึ ษาดูงาน การฝกึ ปฏบิ ตั ิ การบรรยายพเิ ศษดงั ตวั อยา่ งพอสังเขปตอ่ ไปนี้ ๑. กิจกรรมพฒั นาวุฒิภาวะทางอารมณ์ ศลี ธรรมและจริยธรรม จัดสอนจรยิ ธรรมในห้องเรียน จัดให้ มกี ารปฏบิ ตั ิกิจกรรมเนื่องในวนั สำคัญทง้ั ทางชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ โดยผู้เรียนมีส่วนร่วม ในการจัดกิจกรรมท้งั ในด้านวัฒนธรรม ประเพณี กีฬา และศีลปะ ๒. กิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิต จัดกจิ กรรมแข่งขันกีฬาสีทุกช่วงช้ัน โดยผูเ้ รียนได้ฝึกทักษะการทำงาน และการแกป้ ญั หาทกุ ขั้นตอน ๓. กิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการทำงาน จัดกิจกรรมวันวิชาการโดยผู้เรยี นมีโอกาสปฏิบัติจริง และฝึก ทกั ษะการจดั การ ๔. กิจกรรมเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม โดยจัดกิจกรรมสืบสานวัฒนธรรมไทย เช่น ประเพณไี หวค้ รู ประเพณลี อยกระทง ๕. กิจกรรมสง่ เสรมิ การปกครองระบอบประชาธิปไตย จดั ให้มกี ารเลือกคณะกรรมการนักเรียน โดย ให้นำกระบวนการประชาธปิ ไตยไปใชใ้ นการรว่ มวางแผนดำเนนิ งานพฒั นาโรงเรยี น ๖. กิจกรรมคนดีของสังคม จัดให้มีการบรรยายให้ความรู้ เพื่อป้องกันปัญหาโรคติดต่อร้ายแรง ปญั หายาเสพติด ปญั หาวยั รุ่น ใหค้ วามรเู้ พอื่ ปลูกฝงั ใหเ้ ปน็ สภุ าพบุรษุ สุภาพสตรี ๗. กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ โดยจัดแหล่งเรียนรู้ ได้แก่ ห้องสมุด ห้องปฏิบัติการทางภาษา ห้องปฏิบัตกิ ารทางวิทยาศาสตร์ ห้องเทคโนโลยีสารสนเทศ ๘. กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพและอนามัย ให้บริการห้องพยาบาล มีบริการให้ความรู้แก่ผู้เรียน เพ่ือ ปอ้ งกนั โรคระบาดอยา่ งทันเหตกุ ารณ์
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) 172 ๓. กจิ กรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพือ่ ให้ผเู้ รยี นบำเพญ็ ตนใหเ้ ปน็ ประโยชน์ตอ่ ครอบครวั โรงเรยี น ชมุ ชน และประเทศชาติ ๒. เพื่อให้ผู้เรียนออกแบบกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ตามความถนัด และความสนใจในลักษณะอาสาสมคั ร ๓. เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนาศักยภาพในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ๔. เพื่อให้ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์จนเกิดคุณธรรม จริยธรรมตาม คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ๕. เพ่อื ให้ผ้เู รียนมจี ิตสาธารณะและใชเ้ วลาวา่ งให้เกิดประโยชน์ แนวการจดั กจิ กรรม การจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ทำประโยชน์ ตามความสามารถ ความถนัดและความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบ ความดีงาม ความเสียสละต่อสงั คม มจี ติ ใจมุ่งทำประโยชน์ต่อครอบครวั ชมุ ชนและสงั คมกิจกรรมสำคัญ ไดแ้ ก่ กิจกรรมบำเพ็ญ ประโยชน์ กิจกรรมสร้างสรรค์สังคม กิจกรรมดำรงรักษา สืบสาน ศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม กิจกรรมพัฒนา นวตั กรรมและเทคโนโลยี เวลาเรียนสำหรับกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ในส่วนกิจกรรมเพื่อสังคมและ สาธารณประโยชน์ จัดสรรเวลาใหผ้ เู้ รียนระดับประถมศึกษาปที ี่ ๑-๖ รวม ๖ ปี จำนวน ๖๐ ชั่วโมง(เฉลี่ยปีละ ๑๐ ช่ัวโมง) การจัดกิจกรรมเพ่อื สังคมและสาธารณประโยชน์ ในระดบั ประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ เปน็ การจัดกิจกรรม ภายในเวลาเรียน โดยให้ผู้เรียนรายงานแสดงกรเข้าร่วมกิจกรรมลงในสมุดบันทึก และมีผู้รับรองผลการเข้าร่วม กิจกรรมทุกครงั้ แนวทางการประเมินกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน โรงเรียนวดั แหลมไผศ่ รี กำหนดแนวทางในการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี นดังน้ี ๑. การประเมนิ กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี นรายกจิ กรรม มแี นวทางปฏิบัติดงั น้ี ๑.๑ การตรวจสอบเวลาเข้ารว่ มกิจกรรมของผู้เรยี น ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรยี นตลอด ปีการศกึ ษา ๑.๒ ประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนจากการปฏิบัติกิจกรรมและผลงาน/ชิ้นงานของผู้เรียน ผู้เรียน ต้องได้รับการประเมนิ ทุกผลการเรยี นรู้ และผ่านทุกผลการเรียนรู้ โดยแตล่ ะผลการเรยี นรู้ผ่านไม่น้อยกล่าร้อยละ ๕๐ หรอื มีคณุ ภาพในระดับ ๑ ขึน้ ไป
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) 173 ๑.๓ ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติกิจกรรมและผลงาน/ชิ้นงานของผู้เรียนตามเกณฑ์ ข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ ถือว่าผู้เรียนมีผลการเรียน “ผ” ผ่านการประเมินกิจกรรมและนำผลการประเมินไป บันทึกในระเบียนแสดงผลการเรียน ๑.๔ ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน การปฏิบัติกิจกรรมและผลงานไม่เป็นไปตาม เกณฑ์ ข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ ถอื วา่ ผเู้ รยี นมผี ลการเรียน “มผ” โรงเรียนตอ้ งจดั ซอ่ มเสรมิ ให้ผู้เรยี นทำกิจกรรม ในส่วนท่ผี ูเ้ รียนไม่ได้เขา้ ร่วมหรือไม่ได้ทำจนครบถ้วน แล้วจงึ เปลย่ี นผลการเรียนจาก “มผ” เปน็ “ผ” และนำ ผลการประเมนิ ไปบันทกึ ในระเบยี นแสดงผลการเรียน ๒. การประเมินกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียนเพื่อการตัดสิน มีแนวปฏิบัตดิ ังนี้ ๒.๑ กำหนดให้ผู้รับผิดชอบในการรวบรวมข้อมูลเกีย่ วกับการร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของผู้เรยี น ทกุ คนตลอดระดบั การศกึ ษา ๒.๒ ผู้รับผิดชอบสรปุ และตัดสินการร่วมกจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี นของผู้เรียนเปน็ รายบุคคลตามเกณฑ์ ทโ่ี รงเรยี นกำหนด ผู้เรยี นจะตอ้ งผ่านกจิ กรรม ๓ กิจกรรมสำคัญดังนี้ ๒.๒.๑ กจิ กรรมแนะแนว ๒.๒.๒ กจิ กรรมนักเรียน ได้แก่ ๑. กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ๒. กิจกรรมชมุ นุม ๒.๒.๓ กิจกรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ ๒.๓ การนำเสนอผลการประเมนิ ตอ่ คณะกรรมการกลมุ่ สาระการเรยี นรแู้ ละกิจกรรมพฒั นาผ้เู รียน ๒.๔ เสนอผู้บริหารโรงเรียนพิจารณาอนมุ ัตผิ ลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนผ่านเกณฑ์การจบ แตล่ ะระดับการศกึ ษา
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) 174 คำอธิบายรายวชิ า กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) 175 คำอธิบายรายวชิ ากจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี น กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน กจิ กรรมแนะแนว ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที ๑ - ๖ เวลา 3๐ ช่วั โมง/ปี รูจ้ กั และเข้าใจตนเอง รักและเหน็ คณุ ค่าในตนเองและผู้อื่น มวี ุฒภิ าวะทางอารมณ์ มีเจตคติที่ดีต่อการมี ชีวิตที่ดีมีคุณภาพ มีทักษะในการดำเนินชีวิต สามารถปรับตัวให้ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข รู้จัก ตนเองในทุกด้าน รู้ความถนัด ความสนใจ และบุคลิกภาพของตนเอง รู้และเข้าใจโลกของงานอาชีพอย่าง หลากหลาย มีเจตคติที่ดีต่ออาชีพสุจรติ รู้ข้อมูลอาชีพ สามารถเลือกตนแนวทางในการประกอบอาชีพได้อย่าง เหมาะสม มีการเตรียมตัวสู่อาชีพ สามารถวางแผนเพื่อประกอบอาชีพตามที่ตนเองมีความถนัดและสนใจ มี คุณลักษณะพื้นฐานที่จำเป็นในการประกอบอาชีพและพัฒนางานให้ประสบความสำเร็จเพื่อสร้างฐานะทาง เศรษฐกจิ ใหก้ บั ตนเอง ครอบครวั ชุมชนและประเทศชาติ พฒั นาตนเองในด้านการเรียนอยา่ งเต็มศักยภาพ รูจ้ ักแสวงหาความรใู้ ฝ่รูใ้ ฝ่เรียนให้เป็นคนดีมีความรู้และ ทักษะทางวิชาการ รู้จักแสวงหาและใช้ข้อมูลประกอบการวางแผนการเรียนหรือการศึกษาต่อได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ มวี ธิ ีการเรียนรู้ มีทกั ษะการคิด แกป้ ญั หาอย่างสร้างสรรค์ คิดเป็น ทำเปน็ มีคณุ ธรรม จริยธรรม เอ้อื อาทรและสมานฉนั ท์ เพื่อดำรงชีวิตอย่รู วมกนั อยา่ งสงบสขุ ตามวถิ ีชวี ิตเศรษฐกิจพอเพยี ง เพื่อให้ผเู้ รียนเกิดการเรยี นรู้ รจู้ ัก เขา้ ใจ รกั และเหน็ คณุ ค่าในตนเองและผู้อื่น เกิดการเรยี นรสู้ ามารถวาง แผนการเรียนรู้ อาชีพ รวมทั้งการดำเนินชีวิตและมีทักษะทางสังคม เกิดการเรียนรู้สามารถปรับตัวได้อย่าง เหมาะสม อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข พึ่งตนเองได้มีทักษะในการเลือกแนวทางการศึกษา การงานและ อาชีพ ชวี ิตและสงั คม มีสขุ ภาพจิตทด่ี ีและจิตสำนกึ ในการทำประโยชนต์ ่อครอบครวั สงั คมและประเทศชาติตาม หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ผลการเรียนรู้ ๑. เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ ร้จู กั เข้าใจ รกั และเห็นคุณคา่ ในตนเองและผู้อ่ืน ๒. เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ สามารถวางแผนการเรียน การศึกษาต่อ อาชีพ รวมทั้งการดำเนิน ชวี ิต และมีทกั ษะทางสงั คม ๓. เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ สามารถปรับตัวได้อย่างเหมาะสม และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่าง เหมาะสม ๔. สามารถประยุกตใ์ ชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งได้ รวม ๔ ผลการเรียนรู้
กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั แหลมไผ่ศรี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) 176 ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี ๑ คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน กจิ กรรมนักเรยี น (เตรยี มลกู เสอื สำรองและลกู เสอื สำรองดาวดวงท่ี ๑) เวลา 4๐ ช่ัวโมง/ปี เปดิ ประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลกู เสอื และจัดกจิ กรรมโดยให้ศึกษา วเิ คราะห์ วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมแู่ ละปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตามคำปฏิญาณและกฎของลูกเสือสำรอง เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริงใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสำรองที่มีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน ศึกษา ธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม ปิด ประชุมกอง ในเรอ่ื งตอ่ ไปนี้ ๑. เตรียมลูกเสือสำรอง นิยายเมาคลี ประวัติการเริ่มกิจการลูกเสือ การทำความเคารพหมู่ (แกรนด์ฮาวล์) การทำความเคารพเป็นรายบุคคล การจับมือซ้าย ระเบียบแถว เบื้องต้น คำ ปฏิญาณ กฎและคติพจน์ของลกู เสือสำรอง ๒. ลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๑ อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ การค้นหาธรรมชาติ ความปลอดภัย บริการ ธงและประเทศต่าง ๆ การฝีมือ กจิ กรรมกลางแจ้ง การบนั เทิง การผูก เงอ่ื น คำปฏิญาณและกฎของลกู เสือสำรอง เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๑ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติ พจนข์ องลกู เสอื สำรอง มีนสิ ยั ในการสงั เกต จดจำ เชื่อฟงั และพงึ่ ตนเอง มีความซอ่ื สตั ย์ สุจริต มรี ะเบียบวินัย และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น รู้จักบำเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝีมือและฝึกฝนทำกิจกรรม ต่าง ๆ ตามความเหมาะสม รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและความมั่นคงของชาติ และสามารถ ประยุกตใ์ ชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ผลการเรียนรู้ ๑. มนี สิ ัยในการสังเกต จดจำ เชอื่ ฟังและพ่งึ พาตนเองได้ ๒. มคี วามซื่อสัตย์ สจุ รติ มีระเบียบวนิ ยั และเหน็ อกเหน็ ใจผอู้ นื่ ๓. บำเพ็ญตนเพอื่ สงั คมและสาธารณะประโยชน์ ๔. ทำการฝมี ือและฝึกฝนการทำกจิ กรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ๕. รักษาและส่งเสรมิ จารตี ประเพณี วัฒนธรรมประเพณี ภมู ิปัญญาทอ้ งถน่ิ และ ความมั่นคง ๖. อนุรกั ษท์ รัพยากรธรรมชาติ ส่งิ แวดลอ้ มและลดภาวะโลกร้อน ๗. สามารถประยกุ ต์ใชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงได้ รวม ๗ ผลการเรียนรู้
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) 177 กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน คำอธบิ ายรายวิชากิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน ชัน้ ประถมศึกษาปที ี ๒ กจิ กรรมนักเรียน (ลูกเสือสำรองดาวดวงท่ี ๒) เวลา 4๐ ช่วั โมง/ปี เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติตามคำปฏิญาณ คติพจน์และกฎของลูกเสือ สำรอง ศึกษาเรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริงใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสำรองที่มีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจใฝ่รตู้ ามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลและปฏิบตั ิกจิ กรรม ปิดประชุมกอง ในเรอ่ื งตอ่ ไปนี้ ลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๒ นิยายเมาคลี ประวัติการเริ่มกิจการลูกเสือ การทำความเคารพหมู่ (แกรนฮาวล์) การทำความเคารพเป็นรายบุคคล การจับมือซ้าย ระเบียบแถว คำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของ ลูกเสือสำรอง อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ การค้นหาธรรมชาติการอนุรักษ์ทรัพยากรในชุมชน ท้องถิ่น ความปลอดภัย บริการ การผูกเงื่อน ธง และประเทศต่าง ๆ การฝีมือที่ใช้วัสดุเหลือใช้ในท้องถ่ิน กิจกรรมกลางแจ้ง การบันเทิงที่ส่งเสริมสุขภาพกายสุขภาพจิตและอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาตสิ ง่ิ แวดล้อมลดภาวะโลกร้อน เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๒ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของลูกเสือสำรอง มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟังและพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัย และเห็นอกเห็นใจ รู้จักบำเพ็ญเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝีมือและฝึกฝนทำ กิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาตสิ ่ิงแวดล้อม ความม่ันคงของชาติ และสามารถประยุกตใ์ ช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ผลการเรียนรู้ 1. มีนสิ ยั ในการสงั เกต จดจำ เชื่อฟงั และพง่ึ ตนเองได้ 2. มีความซอ่ื สัตย์ สจุ รติ มีระเบียบวินัย และเห็นอกเห็นใจผอู้ น่ื 3. บำเพ็ญตนเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ 4. ทำการฝีมอื และฝกึ ฝนทำกจิ กรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม 5. รกั ษาและสง่ เสรมิ จารีตประเพณี วัฒนธรรม ภูมปิ ัญญาท้องถิ่นและความม่นั คงของชาติ 6. อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน สามารถประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียงได้ รวม ๖ ผลการเรยี นรู้
กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) 178 ช้ันประถมศกึ ษาปที ี ๓ คำอธิบายรายวิชากจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน กิจกรรมนกั เรียน (ลูกเสอื สำรองดาวดวงที่ ๓) เวลา 4๐ ชว่ั โมง/ปี เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติตามคำปฏิญาณ คติพจน์และกฎของลูกเสือ สำรอง ศึกษาเรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริงใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสำรองที่มีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจใฝร่ ูต้ ามวิถเี ศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลและปฏิบัติกจิ กรรม ปิดประชุมกอง ในเรื่องตอ่ ไปน้ี ลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๓ นิยายเมาคลี ประวัติการเริ่มกิจการลูกเสือ การทำความเคารพหมู่ (แกรนฮาวล)์ การทำความเคารพเปน็ รายบุคคล การจับมอื ซ้าย ระเบียบแถว คำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของ ลูกเสือสำรอง อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ การค้นหาธรรมชาติการอนุรักษ์ทรัพยากรในชุมชน ท้องถิ่น ความปลอดภัย บริการ การผูกเงื่อน ธง และประเทศต่าง ๆ การฝีมือที่ใช้วัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่น กิจกรรมกลางแจ้ง การบันเทิงที่ส่งเสริมสุขภาพกายสุขภาพจิตและอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์ ทรพั ยากรธรรมชาตสิ ่ิงแวดล้อมลดภาวะโลกร้อน เพอื่ ให้มคี วามรู้ ความเข้าใจในกจิ กรรมลูกเสือสำรองดาวดวงท่ี ๓ สามารถปฏิบัตติ ามคำปฏิญาณ กฎและ คติพจน์ของลูกเสือสำรอง มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟังและพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัย และเหน็ อกเห็นใจ รจู้ กั บำเพญ็ เพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ รจู้ กั ทำการฝีมอื และฝกึ ฝนทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ ตาม ความเหมาะสม รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สง่ิ แวดล้อม ความม่ันคงของชาติ และสามารถประยกุ ตใ์ ช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ผลการเรียนรู้ ๑. มีนิสัยในการสงั เกต จดจำ เช่ือฟังและพึง่ ตนเองได้ ๒. มคี วามซือ่ สตั ย์ สจุ รติ มรี ะเบยี บวนิ ัย และเหน็ อกเหน็ ใจผูอ้ ่นื ๓. บำเพ็ญตนเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ ๔. ทำการฝมี อื และฝกึ ฝนทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ๕. รกั ษาและส่งเสรมิ จารตี ประเพณี วฒั นธรรม ภูมปิ ัญญาทอ้ งถิน่ และความม่ันคงของชาติ ๖. อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน สามารถประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี งได้ รวม ๖ ผลการเรยี นรู้
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) 179 ช้นั ประถมศึกษาปีที ๔ คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น กจิ กรรมนกั เรยี น (ลูกเสอื สามญั (ลูกเสือตร)ี ) เวลา 4๐ ช่วั โมง/ปี เปิดประชมุ กอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจดั กจิ กรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติกิจกรรมตามคำปฏิญาณ คติพจน์ และกฎของ ลูกเสอื สามญั เรียนรจู้ ากการคดิ และปฏิบตั ิจริง ใชส้ ัญลักษณส์ มาชกิ ลูกเสือสามัญที่มีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้และมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรม ประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ลดภาวะโลกร้อนและประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ความรู้เกี่ยวกับ กระบวนการลูกเสือ ประวัติของ Load Baden Powell พระราชประวัติสังเขปของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎ เกลา้ เจา้ อยู่หัว ววิ ัฒนาการของกระบวนการ ลกู เสอื ไทยและลูกเสือโลก การทำความเคารพ การแสดงรหสั การ จับมอื ซ้าย กจิ กรรมกลางแจ้ง ระเบยี บแถวท่ามือเปล่า ท่ามอื ไม้พลวง การใช้สัญญามือและนกหวีด การต้ังแถว และการเรยี นแถว เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ ของลูกเสอื สามญั มนี ิสัยในการสงั เกต จดจำ เชื่อฟงั และพ่งึ ตนเอง มีความซื่อสัตย์ สุจริต มีระเบยี บวนิ ัย และ เห็นอกเหน็ ใจผู้อนื่ บำเพ็ญตนเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ ทำการฝมี ือและฝึกฝนการทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ ตาม ความเหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและความมั่นคง ประโยชนแ์ ละสามารถประยกุ ตใ์ ชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ผลการเรียนรู้ 1. มีนิสยั ในการสงั เกต จดจำ เชอ่ื ฟงั และพ่ึงตนเองได้ 2. มคี วามซื่อสัตยส์ ุจรติ มีระเบยี บ วินยั และเหน็ อกเหน็ ใจผอู้ ืน่ 3. บำเพญ็ ตนเพือ่ สง่ เสริมและสาธารณะประโยชน์ 4. ทำการฝมี ือและฝึกฝนทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความถนัดและความสนใจ 5. รกั ษาและสง่ เสริมจารตี ประเพณี วัฒนธรรม ภมู ปิ ัญญาท้องถ่นิ และความม่ันคงของชาติ 6. อนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม ลดภาวะโลกร้อน 7. สามารถประยกุ ต์ใชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง รวม ๗ ผลการเรียนรู้
กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั แหลมไผ่ศรี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) 180 ชนั้ ประถมศึกษาปีที ๕ คำอธิบายรายวิชากิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น กิจกรรมนกั เรยี น ( กิจกรรมลูกเสือสามญั (ลกู เสือโท) ) เวลา 4๐ ชัว่ โมง/ปี เปิดประชุมกองดำเนินการตามกระบวนการของลกู เสือ และจดั กิจกรรมโดยใหศ้ ึกษา วเิ คราะห์ วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติกิจกรรมตามคำปฏิญาณ คติพจน์และกฎของ ลูกเสือสามัญ เรียนรู้จากคิดและปฏิบัติจริง ใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสามัญที่มีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรม ภูมิ ปัญญาท้องถิ่น ลดภาวะโลกร้อนและการประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ทักษะในทางวิชา ลกู เสือ การรู้จกั ดูแลตนเอง การชว่ ยเหลอื ผอู้ น่ื การเดนิ ทางไปยงั สถานที่ตา่ ง ๆ ทำงานอดิเรก และเร่ืองที่สนใจ เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ ของลกู เสือสามญั มนี ิสยั ในการสงั เกต จดจำ เชื่อฟงั และพ่งึ ตนเอง มีความซือ่ สตั ย์ สจุ รติ มีระเบยี บวินัย และ เห็นอกเห็นใจผู้อน่ื บำเพ็ญตนเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ ทำการฝมี อื และฝกึ ฝนการทำกิจกรรมต่าง ๆ ตาม ความเหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและความมั่นคง ประโยชน์และสามารถประยุกต์ใชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ผลการเรียนรู้ 1. มนี สิ ยั ในการสังเกต จดจำ เช่อื ฟงั และพ่งึ ตนเองได้ 2. มคี วามซื่อสตั ย์สุจรติ มรี ะเบียบ วนิ ยั และเห็นอกเห็นใจผู้อ่นื 3. บำเพญ็ ตนเพอ่ื สง่ เสริมและสาธารณะประโยชน์ 4. ทำการฝีมือและฝึกฝนทำกจิ กรรมต่าง ๆ ตามความถนดั และความสนใจ 5. รกั ษาและส่งเสริมจารตี ประเพณี วัฒนธรรม ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถิน่ และความม่ันคงของชาติ 6. อนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ้ ม ลดภาวะโลกรอ้ น 7. สามารถประยกุ ต์ใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง รวม ๗ ผลการเรียนรู้
กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั แหลมไผ่ศรี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) 181 ชัน้ ประถมศึกษาปีที ๖ คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน กจิ กรรมนกั เรียน ( กิจกรรมลูกเสือสามญั (ลูกเสือเอก) ) เวลา 4๐ ชวั่ โมง/ปี เปิดประชุมกองดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติตามคำปฏิญาณ คติพจน์ และกฎของลูกเสือ สามญั วชิ าการของลกู เสือ ระเบียบแถว การพึง่ ตนเอง การผจญภัย การใชส้ ัญลกั ษณ์ สมาชกิ ลกู เสอื สามญั ท่ีมี ความเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง ศึกษาธรรมชาติ วัฒนธรรมประเพณี ภูมิปัญญา ท้องถิ่นด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ และประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในการปฏิบัติกิจกรรมเพื่อการ อนรุ กั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละลดภาวะโลกรอ้ น เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของ ลูกเสือสามัญ มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟัง และพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์ สุจริต มีระเบียบวินัย และ เหน็ อกเห็นใจผูอ้ ่ืน บำเพ็ญตนเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ ทำการฝีมือและฝึกฝนการทำกจิ กรรม ต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสรมิ จารีตประเพณี วัฒนธรรมและความม่นั คง ประโยชนแ์ ละสามารถประยกุ ตใ์ ช้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ผลการเรยี นรู้ 1. มีนิสยั ในการสังเกต จดจำ เชื่อฟังและพ่ึงตนเองได้ 2. มีความซอื่ สตั ย์สจุ รติ มีระเบยี บ วินยั และเหน็ อกเห็นใจผ้อู น่ื 3. บำเพ็ญตนเพ่อื สง่ เสริมและสาธารณะประโยชน์ 4. ทำการฝีมือและฝกึ ฝนทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ ตามความถนัดและความสนใจ 5. รกั ษาและสง่ เสรมิ จารตี ประเพณี วัฒนธรรม ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถิ่น และความมัน่ คงของชาติ 6. อนุรักษท์ รพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม ลดภาวะโลกร้อน 7. สามารถประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง รวม ๗ ผลการเรียนรู้
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นวดั แหลมไผ่ศรี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) 182 กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น คำอธบิ ายรายวิชากิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น ชนั้ ประถมศึกษาปที ี ๑ - ๖ กิจกรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์ เวลา ๑๐ ชว่ั โมง/ปี ฝึกปฏิบัติกิจกรรมด้วยความสมัครใจผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย ฝึกการทำงานที่สอดคล้องกับชีวิตจรงิ ตลอดจนสะท้อนความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ สำรวจและใช้ข้อมูลประกอบการวางแผนอย่างเป็นระบบ เน้นทักษะการคิดวิเคราะห์ และใช้ความคิดสร้างสรรค์ การบริการด้านต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและ ส่วนรวม เสริมสร้างความมีน้ำใจ เอื้ออาทร ความเป็นพลเมืองดีและความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัวและ สังคม คิดออกแบบกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ในลักษณะอาสาสมัคร จิตอาสา เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อ สงั คมตามแนวทางวิถีชวี ติ เศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้ผู้เรียนบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว โรงเรียน ชุมชน สังคมและประเทศชาติ สามารถออกแบบการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ตามความถนัดและความสนใจ ในลักษณะอาสาสมัคร พัฒนาศักยภาพตนเองในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ได้อย่างมี ประสิทธิภาพเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์จนเกิดคุณธรรม จริยธรรม ตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มจี ิตสาธารณะและใช้เวลาว่างใหเ้ กิดประโยชน์ และสามารถประยุกต์ใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงได้ ผลการเรียนรู้ 1. บำเพ็ญตนให้เปน็ ประโยชนต์ ่อครอบครวั โรงเรียน ชมุ ชน สงั คมและประเทศชาติ 2. ออกแบบการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ ตามความถนัดและ ความสนใจในลกั ษณะอาสาสมัคร 3. สามารถพฒั นาศักยภาพในการจดั กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชนไ์ ดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ 4. ปฏิบัติกิจการเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์จนเกิดคุณธรรม จริยธรรมตามคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ 5. สามารถประยุกต์ใชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งได้ รวม ๕ ผลการเรยี นรู้
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) 183 กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น คำอธิบายรายวชิ ากิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น ชน้ั ประถมศึกษาปที ี ๑ - ๖ กิจกรรมนักเรียน (กจิ กรรมชุมนุม) เวลา ๔๐ ช่วั โมง/ปี ปฏิบัติกจิ กรรมตามความสนใจ ความถนัด และความตอ้ งการ เพื่อพฒั นาความรู้ ความสามารถด้านการ คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ให้เกิดประสบการณ์ทั้งด้านวิชาการ และพื้นฐานอาชีพ ทักษะชีวิตและสังคมตาม ศักยภาพอย่างรอบดา้ น เพอ่ื ความเปน็ มนุษย์ท่สี มบูรณ์ มคี วามสามารถในการส่ือสาร มีทักษะการคิด แก้ปัญหา ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี พัฒนาทักษะในการทำงานและการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่อื สตั ยส์ จุ ริต มวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ อย่อู ยา่ งพอเพยี ง มุง่ ม่ันในการทำงานรักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ เพื่อให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจ ความถนัด และความต้องการของตน ได้พัฒนาความรู้ ความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ให้เกิดประสบการณ์ทั้งทักษะทางวิชาการ ทักษะอาชีพ ทักษะ ชีวิตและสังคมตามศักยภาพ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม คิดเป็น ทำได้ ทำงานร่วมกับ ผู้อืน่ ไดต้ ามวถิ ปี ระชาธิปไตย และประยกุ ต์หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งได้อย่างเหมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. ปฏิบัตกิ ิจกรรมตามความสนใจ ความถนดั และความตอ้ งการของตน 2. มีความรู้ ความสามารถด้านการคดิ วิเคราะห์ สังเคราะหใ์ ห้เกิดประสบการณ์ ทั้งทางวิชาการและ วชิ าชพี ตามศักยภาพ 3. ใชเ้ วลาวา่ งให้เกดประโยชนต์ ่อตนเองและสว่ นรวม 4. มุง่ มนั่ ในการทำงานและทำงานร่วมกับผู้อนื่ ได้ตามวถิ ปี ระชาธิปไตย 5. ประยุกต์ใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงได้อย่างเหมาะสม รวม ๕ ผลการเรียนรู้
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) 184 คำอธิบายรายวิชา กจิ กรรมชมุ นุม
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นวดั แหลมไผ่ศรี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) 185 คำอธิบายรายวิชากจิ กรรมชุมนมุ กิจกรรมชุมนุมภาษาไทย ระดับชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑-๖ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- หลกั การและเหตุผล ประเทศไทยมีภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาติ อันเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของชาติ สมควรจะ ไดร้ ับการทำนบุ ำรงุ ส่งเสริม และอนรุ ักษ์ไวใ้ ห้ยัง่ ยนื ตลอดไป ทั้งนี้ในยุคปัจจุบันวิชาการและเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วเกิดเทคนิคใหม่ ๆ ในการ ตดิ ต่อส่ือสาร ทีม่ ุง่ เนน้ ความสะดวกรวดเรว็ ส่งผลให้ภาษาไทยซึ่งเป็นส่ือกลางสำคญั ในการตดิ ต่อและผูกพันต่อการ ดำรงชีวิตประจำวนั ของคนไทยได้รับผลกระทบ ทั้งภาษาพูดและภาษาเขียน ทำให้ภาษาไทยเกิดการเปลี่ยนแปลง ไปจากเดิมอย่างน่าวิตกเป็นอย่างยิ่ง สภาพการณ์เช่นนี้หากไม่เร่งรีบหาทางแก้ไขและป้องกันเสียแต่เนิ่นๆ การใช้ ภาษาไทยของเราก็จะยิ่งเสื่อมลง จะส่งผลเสียหายต่อเอกลักษณ์และคุณค่าของภาษาไทยเป็นทวี คูณ อ่านและ เขา้ ใจความหมายของคำ ประโยค ขอ้ ความและจัดทำแบบฝึกเป็นรูปเลม่ จัดทำพจนานุกรมฉบบั จิ๋ว ศึกษา คน้ คว้า เกีย่ วกับ ขา่ ว บทความจากส่งิ ตีพมิ พ์ประเภทตา่ งๆ และประดิษฐท์ ่ีคน่ั หนงั สือประเภทตา่ งๆ เพื่อให้สมาชิกมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ รู้จักค้นคว้า และแก้ปัญหาในการทำงานอย่างมีระบบ เพื่อให้ สมาชิกเป็นผู้มีระเบียบวินัยเพื่อให้สมาชิกมีความเข้าใจและเลื่อมใสการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์เป็นประมุขเพื่อให้สมาชิกมีความรับผิดชอบต่อการปฏิบัติหน้าที่และสิทธิภายในขอบเขตของ กฎหมายเพื่อให้สมาชิกมีความสงบซาบซึ้งในคุณค่า ดำรงไว้และส่งเสริมเอกลักษณ์วัฒนธรรมอันดีงามของชาติ ไทยเพือ่ ใหส้ มาชกิ เกดิ ความรักและสามัคคีในหมคู่ ณะเพื่อให้สมาชิกไดร้ ับการส่งเสรมิ การพฒั นาทางร่างกาย จติ ใจ และรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์เพื่อให้สมาชกิ รู้จักบำเพ็ญประโยชน์ต่อสงั คม และสร้างเสริมความมัน่ คงของ ชาติเพื่อให้สมาชิกมีคุณธรรมและจริยธรรม เพื่อให้สมาชิกพัฒนาตนเองตามวัตถุประสงค์ของการจัดการศึกษา สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกดิ ประโยชน์โดยใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับ ชวี ิตประจำวันไดอ้ ย่างถูกตอ้ งเหมาะสม วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพ่ือให้นักเรียนปฏิบัตกิ จิ กรรมตามความสนใจ ความถนัดและความตอ้ งการของตน ๒. เพ่อื ใหน้ กั เรยี นอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแก้ว ร้อยกรองได้อย่างถูกตอ้ งตามอกั ขระวิธี ๓. นกั เรยี นสามารถเขยี น ไดถ้ ูกต้องตามหลักภาษาไทย ๔. นกั เรยี นได้ใชเ้ วลาว่างให้เกดิ ประโยชน์ต่อตนเองและสว่ นรวม ๕. นักเรยี นมคี วามตระหนกั และเห็นคุณคา่ ของภาษาไทย ในฐานะภาษาประจำชาติ ๖.นกั เรียนสามารถเปน็ ตวั แทนเขา้ ร่วมแข่งขันกจิ กรรมทางคณติ ศาสตร์
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) 186 คำอธิบายรายวชิ ากจิ กรรมชุมนุม กจิ กรรมชุมนมุ คณติ ศาสตร์ ระดับช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๑-๖ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- หลักการและเหตุผล คณิตศาสตร์เปน็ วิชาทีม่ ีความเกี่ยวขอ้ งกับสิ่งทีอ่ ยู่รอบตัวและชีวิตของเรา คณิตศาสตร์สามารถอธิบายสงิ่ ต่างๆ นานาที่อยู่รอบตัวเราได้ ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะมองคณิตศาสตร์นั้น ยาก ซับซ้อน น่าเวียนหัว ทำให้เกิดความเครียด และความวติ กกงั วลในการเรยี น ชมุ นุมนีจ้ ึงจัดขนึ้ มาเพอื่ ใหน้ ักเรยี นในชุมนุมไดม้ องเห็นมมุ มองอีกดา้ นหนงึ่ ของคณิตศาสตร์ โดยการ รวบรวมด้านสนุกสนานของคณิตศาสตร์ ตลอดจนเกร็ดน่ารู้ต่างๆ มากมาย รวมถึงเกร็ดแปลกๆ เกี่ยวกับตัวเลขที่ อาจจะทำให้นักเรียนเกิดหลงรักตัวเลขขึ้นมาก็ได้ และนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยในหลักปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี งไปประยุกตใ์ นกับชวี ติ ประจำวนั ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพื่อให้นกั เรียนมองเหน็ ความสำคญั ของคณติ ศาสตร์ในชีวติ ประจำวัน ๒. เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ มีความสุขและความสนุกสนานในการเข้าร่วม กิจกรรม ในวิชา คณติ ศาสตร์ ๓. เพ่อื ใหน้ ักเรยี นไดป้ ฏบิ ัติกจิ กรรมตามทีต่ นเองถนดั และสนใจ ๔. เพอ่ื สง่ เสริมนกั เรียนใหม้ ีทัศนคติทดี่ ตี อ่ วิชาคณิตศาสตร์ ๕. เพื่อให้นกั เรียนสามารถนำความรู้ไปปรบั ใชใ้ นชีวิตประจำวนั ได้เปน็ และได้ใชเ้ วลาวา่ งให้เป็นประโยชน์ ๖. นกั เรียนสามารถเป็นตัวแทนเข้าร่วมแข่งขนั กจิ กรรมทางคณิตศาสตร์
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) 187 คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมชุมนมุ กิจกรรมชุมนมุ คอมพิวเตอร์ ระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๑-๖ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- หลกั การและเหตุผล ในปัจจุบัน เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็วในหลากหลายสาขาวิชาโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพัฒนาดา้ นการส่อื สารและด้านข้อมลู ดงั นนั้ จึงจำเปน็ อยา่ งยงิ่ ที่สถานศึกษาให้ความสำคญั ต่อการเปล่ียนแปลง ของเทคโนโลยีเพื่อให้ผเู้ รยี นมคี วามรู้ เกิดความตระหนักและเท่าทันเทคโนโลยีในปัจจุบนั เพื่อสนับสนุนให้ผู้เรียนมี คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนในยุคศตวรรษที่ 21 ได้แก่ เป็นนักคิดวิเคราะห์ เป็นนักแก้ปัญหา เป็นนัก สร้างสรรค์ เป็นนักประสานความร่วมมือ รู้จักใช้ข้อมูลและข่าวสาร เป็นผู้เรียนรู้ด้วยตนเอง เป็นนักสื่อสาร และ ตระหนักรับรู้สภาวการณ์ของโลกปัจจุบันและอนาคตกิจกรรมชมุ นมุ คอมพิวเตอร์ จึงเป็นกิจกรรมกลุ่มเสริมทกั ษะ ด้านวิชาการ ในกลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยีเพื่อพัฒนานักเรียนให้เต็มศักยภาพ เพื่อตอบสนอง ศักยภาพของนักเรียนได้หลากหลายวิชาสามารถตอบสนองความต้องการของสังคมสร้างองค์ความรู้และเพิ่มพูน ทักษะคอมพิวเตอร์ให้แก่นักเรียนเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ตรงกับสภาพแวดล้อม และ เทคโนโลยีใหม่ๆ และนำมาปรับใชใ้ นชีวิตประจำวนั ไดอ้ ย่างเหมาะสม วตั ถุประสงค์ ๑. เพอ่ื ให้นกั เรียนเกิดทักษะในการใชเ้ ทคโนโลยีในชวี ิตประจำวนั ๒. เพ่ือให้นกั เรยี นมีความรทู้ างด้านคอมพิวเตอร์ นำมาใชใ้ นงานตา่ งๆ ๓. เพอ่ื ให้นักเรียนพัฒนาความรูค้ วามสามารถด้านการคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ ๔. เพ่อื ให้นกั เรยี นมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรมและค่านยิ มท่พี งึ ประสงค์ ๕. เพอื่ ให้นักเรียนมมี นุษย์สัมพันธใ์ นการทำกิจกรรมรว่ มกันกบั ผอู้ นื่
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนวดั แหลมไผ่ศรี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) 188 คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมชุมนมุ กจิ กรรมชุมนมุ เศรษฐกจิ พอเพยี ง ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๑-๖ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- หลกั การและเหตุผล ฝกึ ทักษะนักเรียนเรยี นรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งใน 3 หลักการ คือ ความพอประมาณ ความมี เหตุผล และการสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี และ 2 เงื่อนไข คือ คุณธรรมและความรู้ โดยนักเรียนฝึกเรียนเกษตร พอเพียง ได้แก่ การเพาะเห็ดนางฟ้า การเลี้ยงไก่พื้นเมือง การเลี้ยงปลาดุกในบ่อซีเมนต์ และการปลูกพืชผัก สวนครวั เพือ่ สามารถนำความรไู้ ปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจำวนั และส่งเสริมอาชีพในอนาคต วัตถปุ ระสงค์ ๑. เพ่อื ฝกึ ทกั ษะการเรยี นร้เู ศรษฐกิจพอเพียง ได้แก่ การเพาะเหด็ นางฟา้ การเล้ยี งไก่พ้นื เมอื ง การเลย้ี ง ปลาดกุ ในบอ่ ซเี มนต์ และการปลกู พืชผกั สวนครวั ๒. เพื่อฝึกนสิ ยั รักการทำงาน อยอู่ ยา่ งพอเพียง ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๓. เพอื่ ส่งเสริมและปลูกฝังวธิ กี ารคดิ ในการปฏบิ ตั ติ นตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั แหลมไผ่ศรี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) 189 คำอธบิ ายรายวิชากจิ กรรมชุมนุม กจิ กรรมชุมนุมรกั การอา่ น ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๑-๖ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- หลกั การและเหตผุ ล อ่านและเข้าใจความหมายของคำ ประโยค ขอ้ ความและจดั ทำแบบฝึกเป็นรูปเล่ม จดั ทำพจนานุกรมฉบับ จวิ๋ ศกึ ษา ค้นคว้าเกยี่ วกบั ข่าว บทความจากสิ่งตีพิมพป์ ระเภทต่างๆ และประดิษฐท์ ่ีคัน่ หนงั สือประเภทตา่ งๆ เพอื่ ให้มีความรคู้ วามเข้าใจและเห็นคณุ คา่ เกี่ยวกบั การจดั ทำแบบฝึกเป็นรูปเล่ม จดั ทำพจนานุกรมฉบับจ๋ิว และประดษิ ฐ์ท่คี น่ั หนังสอื ประเภทตา่ งๆ สามารถนำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้ เพื่อให้สมาชิกมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ รู้จักค้นคว้า และแก้ปัญหาในการทำงานอย่างมีระบบ เพื่อให้ สมาชิกเป็นผู้มีระเบียบวินัยเพื่อให้สมาชิกมีความเข้าใจและเลื่อมใสการปกครองระบอบประชาธิ ปไตยอันมี พระมหากษัตริย์เป็นประมุขเพื่อให้สมาชิกมีความรับผิดชอบต่อการปฏิบัติหน้าที่และสิทธิภายในขอบเขตของ กฎหมายเพื่อให้สมาชิกมีความสงบซาบซึ้งในคุณค่า ดำรงไว้และส่งเสริมเอกลักษณ์วัฒนธรรมอันดีงามของชาติ ไทยเพือ่ ให้สมาชกิ เกดิ ความรักและสามัคคใี นหมู่คณะเพื่อให้สมาชิกได้รับการส่งเสริมการพัฒนาทางร่างกาย จิตใจ และรู้จักใช้เวลาวา่ งให้เป็นประโยชน์เพือ่ ให้สมาชกิ รู้จักบำเพญ็ ประโยชน์ต่อสังคม และสร้างเสริมความมัน่ คงของ ชาติเพื่อให้สมาชิกมีคุณธรรมและจริยธรรม เพื่อให้สมาชิกพัฒนาตนเองตามวัตถุประสงค์ของการจัดการศึกษา สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับ ชีวิตประจำวนั ได้อย่างถกู ตอ้ งเหมาะสม วัตถุประสงค์ ๑ เพ่อื ให้นกั เรียนได้ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามความสนใจ ความถนัดและความตอ้ งการของตน ๒ เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ ความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ให้เกิดประสบการณ์ ทั้ง ทางวิชาการและวชิ าชพี ตามศกั ยภาพ ๒ เพ่อื ใหน้ ักเรยี นได้ใช้เวลาวา่ งให้เกิดประโยชนต์ อ่ ตนเองและส่วนรวม ๔ เพ่ือให้นกั เรียนเกิดความม่งุ ม่ันในการทำงานและทำงานร่วมกับผู้อน่ื ไดต้ ามวถิ ีประชาธปิ ไตย ๕ เพ่อื ให้นักเรยี นรู้จักประยกุ ตใ์ ช้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงได้อยา่ งเหมาะสม
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นวดั แหลมไผ่ศรี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) 190 กจิ กรรมเสรมิ หลกั สูตร
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) 191 โครงสร้างกจิ กรรมเสริมหลักสตู ร กิจกรรมส่งเสรมิ หลกั สูตร ระดับประถมศึกษา ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖ ๑. กิจกรรมลดเวลาเรียน 4๐ 4๐ 4๐ 4๐ 4๐ 4๐ เพ่มิ เวลารู้ ๒. กจิ กรรมตา้ นทุจรติ 40 40 40 40 40 40 เวลาเรยี นรวม 8๐ 8๐ 8๐ 8๐ 8๐ 8๐ กจิ กรรมต้านทุจริต คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมต้านทจุ รติ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที ๑ – ๖ ศึกษาเกี่ยวกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม ความละอายและความ ไม่ทนต่อการทุจริต STRONG / จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต รู้หน้าที่ของพลเมืองและรับผิดชอบต่อสังคมในการ ต่อต้านการทุจริตโดยใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ จำแนก แยกแยะ การฝึกปฏิบัติจริ ง การทำโครงงาน กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน (5 STEPs) การอภิปราย การสืบสอบ การแก้ปัญหา ทักษะการอ่านและการเขียน เพอ่ื ใหม้ คี วามตระหนักและเหน็ ความสำคัญของการต่อตา้ นและการป้องกันการทจุ รติ ผลการเรียนรู้ 1. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกีย่ วกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตน กับผลประโยชน์สว่ นรวม 2. มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกับความละอายและความไม่ทนต่อการทุจรติ 3. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกับ STRONG / จิตพอเพียงตอ่ ต้านการทจุ รติ 4. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั พลเมอื งและมคี วามรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม 5. สามารถคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตน กับผลประโยชนส์ ว่ นรวมได้ 6. ปฏบิ ตั ิตนเป็นผลู้ ะอายและไม่ทนต่อการทจุ ริตทกุ รปู แบบ 7. ปฏบิ ตั ติ นเป็นผทู้ ่ี STRONG / จติ พอเพียงต่อตา้ นการทุจรติ 8. ปฏบิ ัตติ นตามหน้าท่พี ลเมืองและมคี วามรบั ผดิ ชอบต่อสังคม 9. ตระหนกั และเห็นความสำคัญของการตอ่ ต้านและป้องกนั การทจุ รติ รวมทัง้ หมด 9 ผลการเรยี นรู้
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) 192 สว่ นท่ี ๔ เกณฑก์ ารจบการศกึ ษา เกณฑก์ ารจบการศึกษา หลักสูตรโรงเรยี นวัดแหลมไผ่ศรี (ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๒) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ กำหนดเกณฑ์สำหรบั การจบการศึกษา ดงั นี้ เกณฑ์การจบระดบั ประถมศกึ ษา ๑. ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐาน จำนวน ๘๔๐ ชั่วโมง และรายวิชาเพิ่มเติมจำนวน ๔๐ ชั่วโมง และมี ผลการประเมินรายวิชาพื้นฐานผ่านทุกรายวชิ า ๒. ผูเ้ รยี นต้องมีผลการประเมนิ การอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขยี น ระดบั “ผ่าน” ขนึ้ ไป ๓. ผ้เู รียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั “ผ่าน” ขน้ึ ไป ๔. ผ้เู รียนต้องเขา้ รว่ มกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียนและได้รบั การตดั สินผลการเรยี น “ผา่ น” ทกุ กจิ กรรม การจดั การเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้เป็นกระบวนการสำคัญในการนำหลักสตู รสู่การปฏบิ ตั ิ หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ัน พื้นฐาน เป็นหลักสูตรที่มีมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน เป็น เปา้ หมายสำหรบั พัฒนาเดก็ และเยาวชน ในการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณสมบัติตามเป้าหมายหลักสูตร ผู้สอนพยายามคัดสรร กระบวนการเรียนรู้ จัดการเรียนรู้โดยช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ผ่านสาระที่กำหนดไว้ในหลักสูตร ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ รวมทั้งปลูกฝัง เสรมิ สรา้ งคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ พัฒนาทกั ษะต่างๆ อนั เป็นสมรรถนะสำคัญใหผ้ เู้ รยี นบรรลตุ ามเปา้ หมาย ๑. หลักการจัดการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญ และ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยยึดหลักว่า ผู้เรียนมี ความสำคัญที่สุด เชื่อว่าทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ ยึดประโยชน์ที่เกิดกับผู้เรียน กระบวนการจัดการเรยี นรู้ต้องส่งเสริมให้ผ้เู รยี น สามารถพฒั นาตามธรรมชาติและเตม็ ตามศักยภาพ คำนึงถึงความ แตกตา่ งระหว่างบคุ คลและพัฒนาการทางสมองเน้นให้ความสำคญั ทงั้ ความรู้ และคุณธรรม ๒. กระบวนการเรยี นรู้ การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ผู้เรียนจะต้องอาศัยกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลาย เป็น เครื่องมือที่จะนำพาตนเองไปสู่เป้าหมายของหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้ที่จำเป็นสำหรับผู้เรียน อาทิ กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ กระบวนการสร้างความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการทางสังคม กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหา กระบวนการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง กระบวนการปฏิบัติลงมือ
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั แหลมไผ่ศรี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) 193 ทำจริง กระบวนการจัดการ กระบวนการวิจัย กระบวนการเรียนรู้การเรียนรู้ของตนเอง กระบวนการพัฒนา ลกั ษณะนสิ ัย กระบวนการเหล่านี้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ท่ีผู้เรียนควรได้รับการฝึกฝน พัฒนา เพราะจะ สามารถชว่ ยให้ผเู้ รียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี บรรลุเป้าหมายของหลักสูตร ดังนัน้ ผ้สู อน จงึ จำเปน็ ต้องศึกษาทำความ เขา้ ใจในกระบวนการเรียนรตู้ า่ ง ๆ เพือ่ ให้สามารถเลอื กใชใ้ นการจัดกระบวนการเรยี นรู้ได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ๓. การออกแบบการจัดการเรียนรู้ ผู้สอนต้องศึกษาหลักสูตรสถานศึกษาให้เข้าใจถึงมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด สมรรถนะสำคัญของ ผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสาระการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน แล้วจึงพิจารณาออกแบบการ จัดการเรียนรู้โดยเลือกใช้วิธีสอนและเทคนิคการสอน สื่อ/แหล่งเรียนรู้ การวัดและประเมินผล เพื่อให้ผู้เรียนได้ พัฒนาเต็มตามศกั ยภาพและบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนด ๔. บทบาทของผู้สอนและผเู้ รียน การจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามเป้าหมายของหลักสูตร ทั้งผู้สอนและผู้เรียนควรมีบทบาท ดงั น้ี ๔.๑ บทบาทของผ้สู อน ๑) ศกึ ษาวเิ คราะหผ์ ู้เรยี นเป็นรายบุคคล แลว้ นำข้อมูลมาใชใ้ นการวางแผนการจัดการเรียนรู้ ที่ ทา้ ความสามารถของผ้เู รยี น ๒) กำหนดเป้าหมายที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน ด้านความรู้และทักษะกระบวนการ ที่เป็น ความคดิ รวบยอด หลกั การ และความสมั พันธ์ รวมทง้ั คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๓) ออกแบบการเรียนรู้และจัดการเรียนรู้ที่ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลและ พัฒนาการทางสมอง เพอื่ นำผู้เรยี นไปส่เู ปา้ หมาย ๔) จดั บรรยากาศทีเ่ อือ้ ต่อการเรยี นรู้ และดูแลช่วยเหลือผเู้ รียนให้เกิดการเรียนรู้ ๕) จัดเตรียมและเลือกใช้สื่อให้เหมาะสมกับกิจกรรม นำภูมิปัญญาท้องถิ่น เทคโนโลยีที่ เหมาะสมมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการจดั การเรียนการสอน ๖) ประเมินความกา้ วหน้าของผู้เรยี นดว้ ยวธิ ีการทห่ี ลากหลาย เหมาะสมกบั ธรรมชาติของวชิ า และระดบั พฒั นาการของผู้เรียน ๗) วิเคราะห์ผลการประเมินมาใช้ในการซ่อมเสริมและพัฒนาผู้เรียน รวมทั้งปรับปรุงการจัดการ เรยี นการสอนของตนเอง ๔.๒ บทบาทของผูเ้ รียน ๑) กำหนดเป้าหมาย วางแผน และรับผิดชอบการเรียนร้ขู องตนเอง ๒) เสาะแสวงหาความรู้ เข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อความรู้ ตั้งคำถาม คิดหา คำตอบหรือหาแนวทางแก้ปญั หาด้วยวิธกี ารต่างๆ ๓) ลงมอื ปฏบิ ตั จิ รงิ สรุปส่ิงทีไ่ ดเ้ รยี นรดู้ ้วยตนเอง และนำความรูไ้ ปประยุกตใ์ ช้ในสถานการณ์ตา่ งๆ ๔) มีปฏิสมั พันธ์ ทำงาน ทำกิจกรรมร่วมกับกลุม่ และครู ๕) ประเมนิ และพัฒนากระบวนการเรยี นรขู้ องตนเองอย่างตอ่ เนือ่ ง
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั แหลมไผ่ศรี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) 194 ส่ือการเรยี นรู้ สื่อการเรียนรู้เป็นเครื่องมือส่งเสริมสนับสนุนการจัดการกระบวนการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนเข้าถึงความรู้ ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะตามมาตรฐานของหลักสตู รไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ ส่ือการเรยี นรมู้ หี ลากหลาย ประเภท ทั้งสื่อธรรมชาติ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อเทคโนโลยี และเครือข่าย การเรียนรู้ต่างๆ ที่มีในท้องถิ่น การเลือกใช้ส่ือ ควรเลือกให้มคี วามเหมาะสมกบั ระดับพัฒนาการ และลลี าการเรยี นรทู้ หี่ ลากหลายของผ้เู รยี น การจัดหาสื่อการเรียนรู้ ผู้เรียนและผู้สอนสามารถจัดทำและพัฒนาขึ้นเอง หรือปรับปรุงเลือกใช้อย่างมี คุณภาพจากสื่อต่างๆ ที่มีอยู่รอบตัวเพื่อนำมาใช้ประกอบในการจัดการเรียนรู้ที่สามารถส่งเสริมและสื่อสารให้ ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยสถานศึกษาควรจัดให้มีอย่างพอเพียง เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียน เกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริง สถานศึกษา เขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษา หนว่ ยงานทเ่ี ก่ียวขอ้ งและผูม้ ีหนา้ ท่ีจัดการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน ควรดำเนินการดงั น้ี ๑. จัดให้มีแหล่งการเรียนรู้ ศูนย์สื่อการเรียนรู้ ระบบสารสนเทศการเรียนรู้ และเครือข่าย การเรียนร้ทู ม่ี ีประสิทธภิ าพท้ังในสถานศึกษาและในชุมชน เพ่ือการศกึ ษาคน้ ควา้ และการแลกเปล่ียนประสบการณ์ การเรยี นรู้ ระหว่างสถานศึกษา ทอ้ งถิ่น ชมุ ชน สังคมโลก ๒. จัดทำและจัดหาสื่อการเรียนรู้สำหรบั การศึกษาค้นควา้ ของผู้เรียน เสริมความรู้ให้ผู้สอน รวมทั้งจัดหา ส่ิงทีม่ อี ยู่ในท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้เปน็ สอื่ การเรียนรู้ ๓. เลือกและใช้สื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ มีความเหมาะสม มีความหลากหลาย สอดคล้อง กับวิธีการ เรยี นรู้ ธรรมชาติของสาระการเรียนรู้ และความแตกต่างระหวา่ งบคุ คลของผ้เู รยี น ๔. ประเมนิ คณุ ภาพของส่อื การเรียนรู้ท่ีเลือกใชอ้ ยา่ งเปน็ ระบบ ๕. ศึกษาค้นควา้ วจิ ัย เพ่อื พฒั นาสื่อการเรียนรใู้ หส้ อดคลอ้ งกับกระบวนการเรียนรขู้ องผเู้ รยี น ๖. จัดให้มีการกำกับ ติดตาม ประเมินคุณภาพและประสิทธิภาพเกี่ยวกับสื่อและการใช้สื่อ การเรยี นร้เู ปน็ ระยะๆ และสม่ำเสมอ ในการจดั ทำ การเลือกใช้ และการประเมนิ คุณภาพสื่อการเรียนรู้ท่ีใชใ้ นสถานศึกษา ควรคำนึงถึงหลักการ สำคัญของสื่อการเรียนรู้ เช่น ความสอดคล้องกับหลักสูตร วัตถุประสงค์การเรียนรู้ การออกแบบกิจกรรมการ เรียนรู้ การจัดประสบการณใ์ ห้ผูเ้ รียน เนื้อหามีความถูกต้องและทันสมัย ไม่กระทบความมั่นคงของชาติ ไม่ขัดต่อ ศลี ธรรม มีการใช้ภาษาทถี่ ูกต้อง รปู แบบการนำเสนอที่เข้าใจง่าย และนา่ สนใจ การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนต้องอยูบ่ นหลักการพ้นื ฐานสองประการ คือ การประเมินเพ่ือ พัฒนาผู้เรียนและเพื่อตัดสินผลการเรียน ในการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้ประสบผลสำเร็จนั้น ผ้เู รียนจะตอ้ งได้รับการพัฒนาและประเมนิ ตามตวั ช้วี ดั เพื่อใหบ้ รรลุตามมาตรฐานการเรยี นรู้ สะทอ้ นสมรรถนะสำคัญ และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ของผูเ้ รยี นซึง่ เป็นเป้าหมายหลกั ในการวัดและประเมินผล การเรียนรู้ในทุกระดับไม่วา่ จะเป็นระดบั ชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพื้นที่การศึกษา และระดับชาติ การ วัดและประเมินผลการเรียนรู้ เป็นกระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโดยใช้ผลการประเมินเป็นข้อมูลและ สารสนเทศที่แสดงพัฒนาการ ความก้าวหน้า และความสำเร็จทางการเรียนของผู้เรียน ตลอดจนข้อมูลที่เป็น ประโยชน์ตอ่ การส่งเสรมิ ใหผ้ ู้เรยี นเกดิ การพัฒนาและเรียนร้อู ยา่ งเตม็ ตามศกั ยภาพ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ แบ่งออกเป็น ๔ ระดับ ได้แก่ ระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับ เขตพ้นื ที่การศกึ ษา และระดับชาติ มีรายละเอยี ด ดังน้ี
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั แหลมไผ่ศรี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) 195 ๑. การประเมินระดับชั้นเรียน เป็นการวัดและประเมินผลที่อยู่ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ ผู้สอน ดำเนินการเป็นปกติและสม่ำเสมอ ในการจัดการเรียนการสอน ใช้เทคนิคการประเมินอย่างหลากหลาย เช่น การ ซกั ถาม การสังเกต การตรวจการบา้ น การประเมินโครงงาน การประเมินชิ้นงาน/ ภาระงาน แฟ้มสะสมงาน การ ใช้แบบทดสอบ ฯลฯ โดยผู้สอนเป็นผู้ประเมินเองหรือเปิดโอกาสให้ผู้เรียนประเมินตนเอง เพื่อนประเมินเพื่อน ผูป้ กครองร่วมประเมนิ ในกรณที ีไ่ ม่ผ่านตัวช้วี ัดให้มีการสอนซ่อมเสริม การประเมินระดับชั้นเรียนเป็นการตรวจสอบว่า ผู้เรียนมีพัฒนาการความก้าวหน้าในการเรียนรู้ อัน เป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด มีสิ่งที่จะต้องได้รับการพัฒนา ปรบั ปรุงและส่งเสริมในด้านใด นอกจากนีย้ ังเป็นข้อมลู ให้ผสู้ อนใชป้ รบั ปรุงการเรยี นการสอนของตนด้วย ทั้งนี้โดย สอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวช้วี ัด ๒. การประเมนิ ระดับสถานศกึ ษา เป็นการประเมินทส่ี ถานศึกษาดำเนนิ การเพ่ือตัดสนิ ผล การเรียนของ ผู้เรียนเป็นรายปี/รายภาค ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ และ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน นอกจากนี้เพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการศึกษา ของสถานศึกษา ว่าส่ งผลต่อการ เรียนรู้ของผู้เรียนตามเป้าหมายหรือไม่ ผู้เรียนมีจุดพัฒนาในด้านใด รวมทั้งสามารถนำผลการเรียนของผู้เรียนใน สถานศึกษาเปรียบเทียบกับเกณฑ์ระดับชาติ ผลการประเมินระดับสถานศึกษาจะเป็นข้อมูลและสารสนเทศเพื่อ การปรับปรุงนโยบาย หลักสูตร โครงการ หรือวิธีการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนเพื่อการจัดทำแผนพัฒนา คุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ตามแนวทางการประกันคุณภาพการศึกษาและการรายงานผลการจัด การศึกษาต่อคณะกรรมการสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้น พื้นฐาน ผูป้ กครองและชุมชน ๓. การประเมินระดับเขตพื้นที่การศึกษา เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับเขตพื้นที่การศึกษา ตามมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนา คุณภาพการศึกษาของเขตพื้นที่การศึกษา ตามภาระความรับผิดชอบ สามารถดำเนินการโดยประเมินคุณภาพ ผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนด้วยข้อสอบมาตรฐานที่จัดทำและดำเนินการโดยเขตพื้นที่การศึกษา หรือด้วยความร่วมมือ กบั หน่วยงานต้นสงั กัด ในการดำเนินการจัดสอบ นอกจากนยี้ ังไดจ้ ากการตรวจสอบทบทวนข้อมูลจากการประเมิน ระดับสถานศกึ ษาในเขตพนื้ ท่ีการศึกษา ๔. การประเมินระดับชาติ เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับชาติตามมาตรฐานการเรียนรู้ตาม หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน สถานศกึ ษาต้องจัดใหผ้ ู้เรียนทุกคนท่ีเรียน ในชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๓ ช้ัน ประถมศึกษาปีที่ ๖ เข้ารับการประเมิน ผลจากการประเมินใช้เป็นข้อมูลในการเทียบเคียงคุณภาพการศึกษ าใน ระดับต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษา ตลอดจนเป็นข้อมูลสนับสนุนการ ตดั สนิ ใจในระดับนโยบายของประเทศ ข้อมูลการประเมินในระดับต่างๆ ข้างต้น เป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษาในการตรวจสอบทบทวนพัฒนา คุณภาพผู้เรียน ถือเป็นภาระความรับผิดชอบของสถานศึกษาที่จะต้องจัดระบบดูแลช่วยเหลือ ปรับปรุงแก้ไข ส่งเสริมสนับสนุนเพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพบนพื้นฐานความแตกต่างระหว่างบุคคลที่จำแนกตาม สภาพปัญหาและความต้องการ ได้แก่ กลุ่มผู้เรียนทั่วไป กลุ่มผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษ กลุ่มผู้เรียนที่มี ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนตำ่ กลุ่มผเู้ รยี นท่ีมปี ัญหาด้านวนิ ัยและพฤติกรรม กลุ่มผเู้ รียนทปี่ ฏิเสธโรงเรียน กลมุ่ ผเู้ รียน
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) 196 ที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มพิการทางร่างกายและสติปัญญา เป็นต้น ข้อมูลจากการประเมินจึงเป็น หัวใจของสถานศึกษาในการดำเนินการช่วยเหลือผู้เรียนได้ทันท่วงที ปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาและ ประสบความสำเร็จในการเรยี น สถานศึกษาในฐานะผู้รับผิดชอบจัดการศึกษา จะต้องจัดทำระเบียบว่าด้วยการวัดและประเมินผลการ เรียนของสถานศึกษาให้สอดคล้องและเป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติที่เป็นข้อกำหนดของหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน เพื่อให้บคุ ลากรทเี่ ก่ยี วข้องทกุ ฝา่ ยถือปฏบิ ตั ริ ว่ มกัน
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) 197 เกณฑก์ ารวัดและประเมินผลการเรียน ๑. การตดั สนิ การใหร้ ะดับและการรายงานผลการเรยี น ๑.๑ การตัดสนิ ผลการเรยี น ในการตัดสินผลการเรียนของกลุ่มสาระการเรียนรู้ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะ อนั พงึ ประสงค์ และกจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี นนั้น ผสู้ อนต้องคำนึงถึงการพัฒนาผู้เรยี นแต่ละคนเป็นหลัก และต้องเก็บ ข้อมูลของผู้เรียนทุกด้านอย่างสม่ำเสมอและต่อเนือ่ งในแต่ละภาคเรียน รวมทั้งสอนซ่อมเสริมผูเ้ รยี นให้พฒั นาจนเตม็ ตามศกั ยภาพ ระดับประถมศกึ ษา (๑) ผเู้ รียนต้องมเี วลาเรียนไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ ๘๐ ของเวลาเรียนทง้ั หมด (๒) ผูเ้ รยี นต้องไดร้ บั การประเมนิ ทกุ ตัวช้ีวดั และผา่ นตามเกณฑ์ทส่ี ถานศึกษากำหนด (๓) ผู้เรยี นตอ้ งไดร้ บั การตดั สนิ ผลการเรียนทกุ รายวิชา (๔) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมิน และมีผลการประเมินผ่านตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด ใน การอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขยี น คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น การพิจารณาเลื่อนชั้น ถ้าผู้เรียนมีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อย และสถานศึกษาพิจารณาเห็นว่า สามารถพัฒนาและสอนซ่อมเสริมได้ ให้อยู่ในดุลพินิจของสถานศึกษาที่จะผอ่ นผันให้เลื่อนชั้นได้ แต่หากผู้เรียนไม่ ผ่านรายวิชาจำนวนมาก และมีแนวโน้มว่าจะเป็นปัญหาต่อการเรียนในระดับชั้นที่สูงขึ้น สถานศึกษาอาจตั้ง คณะกรรมการพิจารณาใหเ้ รยี นซ้ำชน้ั ได้ ท้ังน้ใี ห้คำนงึ ถึงวุฒิภาวะและความรูค้ วามสามารถของผเู้ รยี นเปน็ สำคัญ ๑.๒ การให้ระดับผลการเรยี น ระดับประถมศึกษา ในการตัดสินเพื่อใหร้ ะดบั ผลการเรยี นรายวชิ า สถานศึกษาสามารถให้ระดับผล การเรยี นหรอื ระดับคุณภาพการปฏิบตั ิของผเู้ รียน เปน็ ระบบตัวเลข ระบบตวั อักษร ระบบรอ้ ยละ และระบบท่ีใช้ คำสำคญั สะทอ้ นมาตรฐาน การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์นั้น ให้ระดับผล การ ประเมนิ เปน็ ดเี ยี่ยม ดี และผ่าน การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะต้องพิจารณาทั้งเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติกิจกรรม และผลงานของผเู้ รยี น ตามเกณฑท์ ส่ี ถานศกึ ษากำหนด และใหผ้ ลการเข้าร่วมกิจกรรมเปน็ ผ่าน และไมผ่ า่ น ๑.๓ การรายงานผลการเรยี น การรายงานผลการเรียนเป็นการสื่อสารให้ผู้ปกครองและผู้เรียนทราบความก้าวหน้าในการเรียนรู้ ของผู้เรียน ซึ่งสถานศึกษาต้องสรุปผลการประเมินและจัดทำเอกสารรายงานให้ผู้ปกครองทราบเป็นระยะๆ หรือ อย่างนอ้ ยภาคเรียนละ ๑ ครั้ง การรายงานผลการเรียนสามารถรายงานเป็นระดับคุณภาพการปฏิบัติของผู้เรียนที่สะท้อนมาตรฐาน การเรยี นรู้กลุม่ สาระการเรยี นรู้
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) 198 ๒. เกณฑก์ ารจบการศึกษา หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน กำหนดเกณฑ์กลางสำหรับการจบการศึกษาเป็น ๑ ระดับ คือ ระดบั ประถมศึกษา ๒.๑ เกณฑก์ ารจบระดับประถมศึกษา (๑) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐาน และรายวิชา/กิจกรรมเพิ่มเติมตามโครงสร้างเวลาเรียนที่ หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐานกำหนด (๒) ผู้เรียนต้องมีผลการประเมินรายวิชาพื้นฐาน ผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่สถานศึกษา กำหนด (๓) ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนในระดับผ่านเกณฑ์การประเมิน ตามท่ีสถานศึกษากำหนด (๔) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมินตามท่ี สถานศกึ ษากำหนด (๕) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศึกษากำหนด สำหรับการจบการศึกษาสำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น การศึกษาเฉพาะทาง การศึกษาสำหรับผู้มี ความสามารถพิเศษ การศึกษาทางเลือก การศึกษาสำหรับผู้ด้อยโอกาส การศึกษาตามอัธยาศัย ให้คณะกรรมการของสถานศึกษา เขตพื้นที่การศึกษา และผู้ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการวัดและประเมินผล การเรียนรู้ ตามหลักเกณฑ์ในแนวปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เอกสารหลักฐานการศึกษา เอกสารหลักฐานการศึกษา เป็นเอกสารสำคัญที่บันทึกผลการเรียน ข้อมูลและสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับ พัฒนาการของผู้เรียนในดา้ นต่าง ๆ แบง่ ออกเปน็ ๒ ประเภท ดงั นี้ ๑. เอกสารหลักฐานการศกึ ษาท่กี ระทรวงศกึ ษาธกิ ารกำหนด ๑.๑ ระเบียนแสดงผลการเรียน เป็นเอกสารแสดงผลการเรียนและรับรองผลการเรียนของ ผเู้ รยี นตามรายวิชา ผลการประเมนิ การอา่ น คดิ วิเคราะห์และเขยี น ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของ สถานศึกษา และผลการประเมินกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน สถานศกึ ษาจะต้องบันทกึ ขอ้ มูลและออกเอกสารนใ้ี ห้ผู้เรียน เป็นรายบุคคล เมื่อผ้เู รียนจบการศกึ ษาระดับประถมศกึ ษา (ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖) ๑.๓ แบบรายงานผู้สำเร็จการศึกษา เป็นเอกสารอนุมัติการจบหลักสูตรโดยบันทึกรายชื่อและ ข้อมลู ของผจู้ บการศึกษาระดบั ประถมศึกษา (ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๖)
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนวดั แหลมไผ่ศรี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) 199 ๒. เอกสารหลักฐานการศึกษาท่สี ถานศึกษากำหนด เป็นเอกสารที่สถานศึกษาจัดทำขึ้นเพื่อบันทึกพัฒนาการ ผลการเรียนรู้ และข้อมูลสำคัญ เกี่ยวกับผู้เรียน เชน่ แบบรายงานประจำตวั นักเรียน แบบบนั ทึกผลการเรยี นประจำรายวิชา ระเบียนสะสม ใบรับรองผลการเรียน และ เอกสารอ่นื ๆ ตามวัตถุประสงค์ของการนำเอกสารไปใช้ การเทยี บโอนผลการเรียน สถานศึกษาสามารถเทยี บโอนผลการเรียนของผู้เรียนในกรณีต่างๆไดแ้ ก่ การย้ายสถานศึกษา การเปลี่ยน รูปแบบการศึกษา การย้ายหลักสูตร การออกกลางคันและขอกลับเข้ารับการศึกษาต่อ การศึกษาจากต่างประเทศ และขอเข้าศึกษาต่อในประเทศ นอกจากนี้ ยังสามารถเทียบโอนความรู้ ทักษะ ประสบการณ์จากแหล่งการเรยี นรู้ อน่ื ๆ เช่น สถานประกอบการ สถาบันศาสนา สถาบนั การฝกึ อบรมอาชีพ การจดั การศึกษาโดยครอบครัว การเทียบโอนผลการเรยี นควรดำเนินการในช่วงก่อนเปดิ ภาคเรียนแรก หรือต้นภาคเรยี นแรก ที่ สถานศกึ ษารบั ผู้ขอเทียบโอนเป็นผเู้ รยี น ทั้งนี้ ผูเ้ รยี นทไี่ ดร้ ับการเทยี บโอนผลการเรียนตอ้ งศึกษาตอ่ เนื่องใน สถานศึกษาท่ีรับเทยี บโอนอย่างน้อย ๑ ภาคเรียน โดยสถานศึกษาทรี่ ับผู้เรยี นจาก การเทียบโอนควรกำหนดรายวิชา/จำนวนหน่วยกติ ทจี่ ะรบั เทยี บโอนตามความเหมาะสม การพิจารณาการเทียบโอน สามารถดำเนนิ การได้ ดังนี้ ๑. พจิ ารณาจากหลักฐานการศึกษา และเอกสารอ่นื ๆ ทีใ่ ห้ข้อมลู แสดงความรู้ ความสามารถของผู้เรียน ๒. พิจารณาจากความรู้ ความสามารถของผู้เรียนโดยการทดสอบด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งภาคความรู้และ ภาคปฏิบัติ ๓. พิจารณาจากความสามารถและการปฏิบัตใิ นสภาพจรงิ การเทยี บโอนผลการเรยี นให้เปน็ ไปตาม ประกาศ หรอื แนวปฏิบตั ิ ของกระทรวงศึกษาธกิ าร การบริหารจดั การหลักสตู ร ในระบบการศึกษาที่มีการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นและสถานศึกษามีบทบาทในการพัฒนาหลักสูตรน้ัน หนว่ ยงานตา่ งๆ ท่เี ก่ยี วขอ้ งในแต่ละระดับ ตัง้ แตร่ ะดบั ชาติ ระดบั ท้องถิ่น จนถงึ ระดบั สถานศึกษา มีบทบาทหน้าท่ี และความรับผิดชอบในการพัฒนา สนับสนุน ส่งเสริม การใช้และพัฒนาหลักสูตรให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อใหก้ ารดำเนินการจดั ทำหลักสูตรสถานศกึ ษาและการจดั การเรยี นการสอนของสถานศึกษามีประสิทธิภาพสูงสุด อนั จะส่งผลใหก้ ารพฒั นาคณุ ภาพผู้เรียนบรรลุตามมาตรฐานการเรียนร้ทู ก่ี ำหนดไว้ในระดับชาติ ระดับท้องถิ่น ได้แก่ สำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษา หน่วยงานต้นสังกัดอื่น ๆ เป็นหน่วยงานท่ีมีบทบาทใน การขับเคลื่อนคุณภาพการจัดการศึกษา เป็นตัวกลางที่จะเชื่อมโยงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานท่ี กำหนดในระดับชาติให้สอดคล้องกับสภาพและความต้องการของท้องถิ่น เพื่อนำไปสู่การจัดทำหลักสูตรของ สถานศึกษา ส่งเสริมการใช้และพัฒนาหลักสูตรในระดับสถานศึกษา ให้ประสบความสำเร็จ โดยมีภารกิจสำคัญ คอื กำหนดเปา้ หมายและจดุ เน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรยี น ในระดบั ท้องถ่นิ โดยพิจารณาให้สอดคล้องกบั สิง่ ที่เป็น ความต้องการในระดับชาติ พัฒนาสาระ การเรียนรู้ท้องถิ่น ประเมินคุณภาพการศึกษาในระดับท้องถิ่น รวมทั้ง เพิ่มพูนคุณภาพการใช้หลักสูตรด้วยการวิจัยและพัฒนา การพัฒนาบุคลากร สนับสนุน ส่งเสริม ติดตามผล ประเมนิ ผล วิเคราะห์ และรายงานผลคุณภาพของผู้เรยี น
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นวดั แหลมไผศ่ รี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) 200 สถานศึกษามีหน้าที่สำคัญในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา การวางแผนและดำเนินการใช้หลักสูตร การเพิ่มพูนคุณภาพการใช้หลักสตู รดว้ ยการวจิ ัยและพฒั นา การปรบั ปรุงและพัฒนาหลักสูตรจัดทำระเบียบการวัด และประเมินผล ในการพัฒนาหลักสตู รสถานศึกษาต้องพิจารณาให้สอดคล้อง กับหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ัน พ้นื ฐาน และรายละเอียดท่เี ขตพ้นื ทก่ี ารศึกษา หรอื หนว่ ยงาน สงั กดั อนื่ ๆ ในระดับทอ้ งถ่ินไดจ้ ดั ทำเพ่ิมเติม รวมทั้ง สถานศึกษาสามารถเพิ่มเติมในส่วนที่เกี่ยวกับสภาพปัญหาในชุมชนและสังคม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และความ ตอ้ งการของผู้เรียน โดยทุกภาคสว่ นเขา้ มามสี ่วนร่วมในการพฒั นาหลักสตู รสถานศึกษา
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201