สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2 The Secondary Educational Service Area Office Bangkok เอกสารการประเมินภาค ค ความเหมาะสมกับตำแหน่ง วิชาชีพ และ การปฏิบัติงานในสถานศึกษา แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาภาษาอังกฤษ อ32101 ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2566 จัดทำโดย ปณิธาน นุชกำเนิด ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสประจำตัวสอบ 185030112
แผนการจัดการเรยี นรู้ กลุ่มสาระ: ภาษาต่างประเทศ วนั ท:ี่ 15 กรกฎาคม 2566 วชิ า: ภาษาอังกฤษ 3 อ32101 เวลา: 1 ช่ัวโมง ระดับช้ัน: มัธยมศึกษาปีที่ 5 ครผู ู้สอน: นายปณิธาน นชุ กำเนดิ หน่วย: การอ่านอย่างมวี ิจารณญาณ (Critical Reading) หวั ข้อ: จดุ ประสงค์ของผ้เู ขยี น (Author’s Purpose) 1. สาระสำคญั ทักษะการอ่านภาษาอังกฤษในหัวข้อ จุดประสงค์ของผู้เขียน (Author’s Purpose) ซึ่งประกอบด้วย 3 จดุ ประสงค์หลักคอื จุดประสงค์ด้านการโน้มน้าว (to persuade) จุดประสงค์ด้านการให้ข้อมูล (to inform) และจุดประสงค์ด้านการให้ความบันเทิง (to entertain) โดยเนื้อหาการเรียนรู้ประกอบด้วยคำอธิบาย จดุ ประสงค์ในแต่ละประเภท ตวั อยา่ งขอ้ ความ และแบบฝกึ หดั ในรปู แบบของประโยคและบทความ 2. มาตรฐานและตัวชีว้ ดั สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรือ่ งท่ีฟงั และอา่ นจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมี เหตุผล ม.4-6/1 ปฏิบตั ติ ามคำแนะนำในคู่มือการใชง้ านตา่ ง ๆ คำชี้แจง คำอธบิ าย และคำบรรยาย ทฟี่ งั และอ่าน ม.4-6/4 จบั ใจความสำคัญ วิเคราะหค์ วาม สรุปความ ตคี วาม และแสดงความคดิ เหน็ จากการฟงั และอ่านเรื่องที่เป็นสารคดีและบนั เทงิ พรอ้ มทัง้ ให้เหตุผลและยกตวั อย่างประกอบ 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 นกั เรยี นสามารถแยกแยะประเภทและลักษณะของจุดประสงคข์ องผเู้ ขียนในรปู แบบประโยค หรอื บทความได้ (K) 3.2 นักเรยี นสามารถนำเสนอประเภทจดุ ประสงค์ของผเู้ ขียนในรูปแบบประโยคหรือบทความได้ (P) 3.3 นกั เรียนสามารถทำงานร่วมกบั ผู้อน่ื และมสี ว่ นร่วมกบั ชั้นเรยี นไดเ้ ปน็ อย่างดี (A) 4. ผลการเรยี นรู้ นักเรียนสามารถเข้าใจในหลักแนวคิดและบอกความแตกต่างของทักษะการอ่านในหัวข้อเรื่อง จุดประสงค์ของผู้เขียน (Author’s Purpose) ในรูปแบบต่าง ๆ ได้ โดยผู้เรียนสามารถแยกแยะประเภทของ จุดประสงค์ของผู้เขียนผ่านการวิเคราะห์เนื้อหาที่อ่านในรูปแบบประโยคและบทความ ต่าง ๆ ได้ นอกจากน้ี นักเรียนได้ฝึกการใช้เทคโนโลยีในรูปแบบต่าง ๆ ในการสืบค้นข้อมูล ตัวอย่างประโยค บทความ พร้อมท้ัง สามารถนำเสนอข้อมลู และทำแบบฝกึ หดั เพื่อพฒั นาความเข้าใจในเนอ้ื หาและความรบั ผดิ ชอบในช้ันเรียน
5. สาระการเรยี นรู้ 5.1 จุดประสงค์ของผเู้ ขียน (Author’s Purpose) แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ดงั น้ี 1. จุดประสงค์ด้านการโน้มน้าว (to persuade) เป็นจุดประสงค์ที่ผู้เขียนต้องการโน้มน้าวหรือชักจูง ให้ผู้อ่านกระทำหรือไม่กระทำ เชื่อหรือสนใจ ในหัวข้อต่าง ๆ เช่น การโฆษณา ป้ายประกาศรับสมัครเลือกต้ัง คำขวญั คำวจิ ารณ์ เปน็ ตน้ 2. จุดประสงค์ด้านการให้ข้อมูล (to inform) เป็นจุดประสงค์ที่ผู้เขียนต้องการให้ข้อมูล เนื้อหาสาระ แก่ผูอ้ า่ น เช่น หนังสอื เรียน ตำราคู่มือ บทความวชิ าการ ฉลากสนิ คา้ เป็นตน้ 3. จุดประสงค์ด้านการให้ความบันเทิง (to entertain) เป็นจุดประสงค์ที่ผู้เขียนต้องการให้ความ บันเทิง ตลกขบขัน เศร้าโศก ต่นื เต้น เช่น บทละคร เรือ่ งส้นั นิยาย เร่อื งตลก เปน็ ต้น 5.2 เทคนิคการแยกแยะประเภทของจดุ ประสงค์ของผเู้ ขยี น 1. ถ้าประโยคหรือบทความนั้น เป็นเรื่องราว บทกลอน หรือบทละคร ให้ถือว่าจุดประสงค์ของการ เขยี นนั้นมเี พอ่ื ให้ความบนั เทงิ (to entertain) 2. หากไม่เป็นตามข้อที่ 1 ให้พิจารณาว่า ประโยคหรือบทความนั้น มีการสร้างข้อโต้แย้งหรือการ เปรียบเทียบหรือไม่ หากมีลักษณะดังกล่าว ให้ถือว่าจุดประสงค์ของผู้เขียนนั้นมีเพื่อการโน้มน้าว (to persuade) 3. หากไม่เป็นตามข้อที่ 2 ให้พิจารณาต่อว่า ประโยคหรือบทความนั้นมีการให้ข้อมูล ความรู้ ขอ้ เทจ็ จรงิ หรือไม่ หากมลี กั ษณะดังกล่าว ให้ถือว่าจุดประสงค์ของผู้เขยี นน้นั มเี พอ่ื การให้ข้อมลู (to inform) 4. หากไม่เป็นไปตามเทคนิคข้อ 1-4 ให้ผู้อ่านลองพิจารณาใหม่อีกครั้ง โดยทบทวนลักษณะตาม เทคนิคในข้างต้น 6. สมรรถนะสำคัญ 6.1 สมรรถนะในการสือ่ สาร 6.2 สมรรถนะในการคิด 6.3 สมรรถนะในการใชเ้ ทคโนโลยี 7. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 7.1 มีวินยั 7.2 ม่งุ มนั่ การทำงาน
8. กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั นำเขา้ สู่บทเรียน (10 นาที) คณุ ครู นกั เรยี น - คณุ ครูทักทายนักเรยี น - นักเรียนทกั ทายคณุ ครู - คุณครเู ร่มิ ต้นการเรียนการสอนด้วยการทำกจิ กรรม - นกั เรยี นเข้าร่วมกจิ กรรม “Why They Do “Why They Do This?” ร่วมกับนักเรียน โดยมอบหมาย This?” และจบั ค่รู ปู ภาพกับจุดประสงค์ของ ให้นักเรยี นจับค่รู ปู ภาพกับจดุ ประสงค์ของผ้เู ขียน ผเู้ ขยี น - คณุ ครูดำเนนิ กจิ กรรมและสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี น - นักเรียนเข้าร่วมกจิ กรรม “Why They Do This?” และจับค่รู ูปภาพลงบนกระดานอย่าง เป็นระเบยี บ - คณุ ครูชนื่ ชมนักเรียนและสอบถามเกีย่ วกบั หวั ข้อ - นกั เรียนตอบคำถามของคณุ ครู การเรียนในวนั น้ี - คณุ ครูนำเสนอหวั ข้อการเรยี นรู้ให้แกน่ กั เรียน - นักเรียนฟงั คำอธิบายของคุณครู - คุณครูอธบิ ายข้ันตอนกิจกรรมการเรียนรู้ในคาบนีแ้ ละนำ - นักเรยี นฟงั คำอธบิ ายของคุณครแู ละ นกั เรยี นเข้าสขู่ ้ันตอนถัดไป เตรียมพร้อมสำหรบั การเรยี นในขน้ั ตอนถัดไป ข้นั การนำเสนอ (15 นาที) คณุ ครู นกั เรยี น - คุณครถู ามคำถามกับนักเรยี นจำนวน 2 คำถามคือ - นักเรียนตอบคำถามของคณุ ครู “What is it? (Author’s Purpose)” และ “Why do we have to learn?” - คณุ ครูชนื่ ชมนกั เรยี นหลงั จากไดร้ ับคำตอบสำหรับคำถาม - นกั เรียนฟงั คำอธิบายของคุณครู ในข้างต้น - คุณครูนำเสนอตวั อย่างข้อสอบทีม่ ีข้อคำถามทเี่ ก่ยี วข้อง กบั จดุ ประสงค์ของผู้เขยี น (Author’s Purpose) - คุณครูต้งั คำถามเกยี่ วกบั จุดประสงค์ของผเู้ ขียน - นกั เรียนร่วมกนั ตอบคำถามรว่ มกบั คณุ ครูใน และมอบหมายให้นักเรยี นยกตวั อย่างประเภทของ หวั ขอ้ เกย่ี วกับประเภทและตวั อย่างของ จดุ ประสงค์ของผ้เู ขยี นทม่ี ักพบเห็นในบทความต่าง ๆ จดุ ประสงคข์ องผเู้ ขยี น - คณุ ครูนำเสนอประเภทของจุดประสงค์ของผู้เขียนให้กบั - นักเรียนฟงั การอธิบายของคุณครู นักเรยี นโดยเรียกวา่ “PIE” ซ่ึงยอ่ มจาก P (Persuade) I (Inform) และ E (Entertain)
ข้ันการนำเสนอ (15 นาที) คุณครู คุณครู - คุณครนู ำเสนอลักษณะของจดุ ประสงค์ของผู้เขยี นใน - นักเรยี นตัง้ ใจฟงั เนอื้ หาสาระการเรยี นรแู้ ละ แตล่ ะประเภทตาม PIE โดยนำรปู ภาพจากกิจกรรมในช่วง ตอบคำถามของคณุ ครู นำเข้าส่บู ทเรยี นมาเป็นตัวอย่างในการอธิบาย และนำเสนอ ตัวอยา่ งเพ่ิมเตมิ ใหก้ บั นักเรยี น - คณุ ครูให้นักเรยี นไดล้ องใช้เทคนิคในการแยกแยะประเภท - นักเรยี นต้งั ใจฟงั เนอ้ื หาความรแู้ ละตอบ ของจดุ ประสงค์ของผู้เขียน โดยใชต้ ัวอยา่ งทค่ี รูกำหนดให้ คำถามโดยใช้เทคนคิ ทีค่ รนู ำเสนอ - คณุ ครูเช็คความรู้ของนกั เรียนก่อนการทำแบบฝึกหัด - นกั เรยี นตัง้ ใจทบทวนเนื้อหาบทเรยี นผ่าน ด้วย Example Task ในหนังสอื บทเรียนหนา้ ที่ 31 Example Task และรว่ มกันเฉลยคำตอบกบั คณุ ครู - คณุ ครชู ่นื ชมการตอบของนักเรยี นและเตรยี มนกั เรียน - นักเรยี นจดคำตอบที่ถูกต้องลงในหนังสอื เขา้ สูข่ ้นั ตอนการเรียนรถู้ ัดไป หน้าท่ี 31 และเตรยี มความพร้อมในการทำ แบบฝึกหดั ในขน้ั ตอนถัดไป ข้นั การฝกึ (10 นาที) คุณครู นกั เรียน - คณุ ครอู ธบิ ายคำช้ีแจงในการทำแบบฝกึ หัดในหน้า - นักเรียนตั้งใจฟังคำอธบิ ายการทำแบบฝกึ หัด 32-33 โดยนักเรียนจะตอ้ งทำแบบฝกึ หดั ลงในใบงานที่ครู และเร่ิมต้นทำแบบฝกึ หัดภายในเวลา 5 นาที มอบหมายใหภ้ ายในเวลา 5 นาที - คุณครูจับเวลาในการทำแบบฝึกหัดเปน็ เวลา 5 นาที - นกั เรยี นตัง้ ใจทำแบบฝกึ หัดภายในเวลาท่ี และมอบหมายให้นักเรียนแลกเปล่ียนกับเพือ่ นสำหรบั คุณครูกำหนด และแลกกนั ตรวจกบั เพอ่ื น การตรวจสอบความถกู ต้องของใบงาน หลังจากหมดเวลาในการทำแบบฝึกหัดแล้ว - คณุ ครูและนักเรียนรว่ มกนั เฉลยแบบฝึกหัด โดยคณุ ครู - นกั เรียนแลกใบงานกนั ตรวจกับเพ่ือนและ จะเก็บใบงานทต่ี รวจเรียบรอ้ ยแล้วหลังการเฉลยคำตอบ สง่ คนื ใหค้ ุณครูหลังจากเฉลยเสรจ็ - คุณครูชื่นชมนักเรียนและนำนักเรยี นไปสขู่ ้นั ตอนถัดไป - นักเรยี นต้งั ใจฟังคณุ ครแู ละเตรยี มพร้อมสู่ ขัน้ ตอนถัดไป
ขน้ั การสร้าง (20 นาที) คุณครู นักเรยี น - คณุ ครอู ธิบายคำช้ีแจงในการทำกิจกรรมกลมุ่ - นกั เรยี นต้งั ใจฟงั คำอธบิ ายวิธีการทำกจิ กรรม “Let’s Find Out” ให้กบั นักเรยี นดงั นี้ จากคณุ ครแู ละแบ่งกลุ่มอย่างเรียบร้อย 1. นกั เรียนแบง่ กลุ่มออกเป็นกลุ่มละ 3-4 คน และสง่ ตัวแทนออกมารับใบงานกบั คุณครู 2. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ จะต้องคน้ ควา้ ตัวอยา่ งจาก จุดประสงคข์ องผู้เขียนทั้ง 3 รูปแบบ โดยเลือกมา เพยี งประเภทเดยี วและให้เหตุผลในการวิเคราะห์ ประเภทของตวั อย่างนั้น 3. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ มเี วลาในการหาขอ้ มูลและ เตรียมการนำเสนอผลงานภายในเวลา 10 นาที 4. นกั เรยี นแต่ละกลุม่ นำเสนอผลงานและ แลกเปล่ยี นความคิดเหน็ - คุณครเู พิ่มเติมช่องทางในการคน้ ควา้ ตัวอยา่ งขอ้ มูลใหก้ บั - นักเรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกันค้นควา้ หาขอ้ มลู นักเรียนและคอยสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานร่วมกนั ของ และปฏิบัติกิจกรรมกลมุ่ นักเรยี นระหว่างการทำงานกล่มุ - คุณครูเปดิ โอกาสให้นักเรยี นไดอ้ อกมานำเสนอขอ้ มูล - นักเรียนในแต่ละกลมุ่ นำเสนอข้อมลู ท่ีได้ ของกลุม่ ตนเอง และใหผ้ ลสะท้อนกลับต่อนักเรยี นใน สืบค้นมา พร้อมท้ังมีเหตุผลประกอบการ แตล่ ะกลมุ่ บรรยาย - คณุ ครชู นื่ ชมผลงานของนกั เรียนทุกกลุม่ และสรปุ - นักเรียนต้งั ใจฟงั คุณครูและเตรยี มพร้อมสู่ กิจกรรมกอ่ นนำเขา้ สู่ขน้ั ตอนการเรียนถดั ไป ขัน้ ตอนการเรียนถัดไป ขนั้ สรปุ บทเรยี น (5 นาที) คณุ ครู นกั เรยี น - คุณครสู รุปเน้อื หาการเรยี นรู้รว่ มกบั นักเรียนโดยให้ - นกั เรียนตง้ั ใจฟังคำอธบิ ายของคุณครูและเขา้ นักเรียนตอบคำถามผา่ น Mentimeter ดังน้ี ร่วมกิจกรรมการสรปุ เนอ้ื หา 1. ในวนั น้ีนกั เรียนไดเ้ รยี นรู้อะไรบา้ ง 2. ให้คะแนนภาพรวมการสอนของคุณครู - คุณครชู ื่นชมนักเรียนและเปิดโอกาสให้นักเรยี นได้ - เมอื่ เกิดความไมเ่ ข้าใจในเนอ้ื หาการเรียน สอบถามหากมีจดุ ทไ่ี มเ่ ขา้ ใจเกยี่ วกับการเรียนภายในคาบ นกั เรยี นสอบถามคำถามต่างๆ กับคณุ ครู - คณุ ครูกล่าวจบช้นั เรยี นและสนิ้ สดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ - นกั เรยี นกล่าวขอบคุณคุณครู
9. สือ่ การเรียนรู้ 9.1 หนงั สอื เรยี นวชิ าภาษาอังกฤษ 3 9.2 สไลดน์ ำเสนอเนอ้ื หาการเรยี นรู้ 9.3 รปู ภาพสำหรบั ขน้ั การนำเข้าส่เู น้ือหา 9.4 ใบงานทบทวนเนื้อหา และใบงานกจิ กรรมกลุ่ม 9.5 เว็บไซต์ Mentimeter 10. การวดั และประเมนิ ผล ส่ิงที่วัด วธิ ีการ-เคร่อื งมือ เกณฑ์ นกั เรียนสามารถแยกแยะประเภท การตอบคำถามระหว่างขั้นตอน นกั เรยี นมผี ลคะแนนมากกว่า และลกั ษณะของจดุ ประสงค์ของผู้เขยี น การสอน การทำแบบฝึกหัด รอ้ ยละ 60 จงึ ถอื ว่าผา่ น ในรูปแบบประโยคหรือบทความได้ (K) และแบบบนั ทึกคะแนนใบงาน เกณฑ์ นกั เรียนสามารถนำเสนอประเภท การทำกจิ กรรมกลมุ่ หลังข้ันตอน นักเรยี นมคี ะแนนรวมการทำ ของจดุ ประสงค์ของผู้เขียนในรูปแบบ การฝกึ ฝน และแบบบันทกึ กจิ กรรมมากกว่าร้อยละ 60 ประโยคหรอื บทความได้ (P) คะแนนใบงาน จงึ ถือว่าผ่านเกณฑ์ นักเรียนสามารถทำงานร่วมกับผอู้ ืน่ และ การสงั เกตพฤติกรรมนักเรียน มีคะแนนรวมจากการ มีสว่ นร่วมกับชนั้ เรียนได้เปน็ อยา่ งดี (A) และแบบประเมินพฤติกรรมการมี ประเมนิ พฤติกรรมผ้เู รยี น 2 ส่วนรว่ มของนักเรยี น จาก 3 คะแนนข้นึ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ การสงั เกตพฤติกรรม ดว้ ยแบบ นกั เรยี นมีคะแนนประเมนิ มวี ินยั ประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ พฤติกรรมอยู่ในระดับพอใช้ ประสงค์ ขึน้ ไป จงึ ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ มุง่ มนั่ ในการทำงาน การสังเกตพฤติกรรม ดว้ ยแบบ นักเรียนมคี ะแนนประเมนิ ประเมินคุณลักษณะอันพึง พฤติกรรมอยู่ในระดบั พอใช้ ประสงค์ ขึน้ ไป จึงถือวา่ ผา่ นเกณฑ์ 10. บนั ทกึ หลังการเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................... ........... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ผู้สอน () วันที่ เดอื น พ.ศ.
11. ข้อคิดเหน็ / ขอ้ เสนอแนะจากผบู้ รหิ าร .............................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................... ........... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ () วนั ท่ี เดือน พ.ศ.
แบบบนั ทกึ คะแนนใบงาน ท่ี ชื่อ-สกุล Challenging Time Worksheet รวม ขอ้ 1 (2) ข้อ 2 (2) ข้อ 3 (2) ขอ้ 4 (2) ข้อ 5 (2) (10) การประเมินผล คะแนนรวม 6-10 คะแนน หมายถงึ ผ่านเกณฑ์ คะแนนรวม 0-5 คะแนน หมายถึง ไมผ่ า่ นเกณฑ์
แบบบันทึกคะแนนใบงาน Let’s Find Out Worksheet ท่ี ชือ่ -สกุล ตรงตอ่ เวลา การนำเสนอ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ความถกู ตอ้ ง รวม (10) (2) (2) (2) (4) ดา้ นตรงต่อเวลา (2) เกณฑ์การใหค้ ะแนน ด้านความคดิ สรา้ งสรรค์ (2) ด้านการนำเสนอ (2) 2 คะแนน หมายถึง นักเรยี นสามารถ 2 คะแนน หมายถงึ นักเรยี นมีความคิด ส่งงานภายในเวลาท่กี ำหนดได้ 2 คะแนน หมายถงึ นกั เรียนมี สรา้ งสรรค์ในการทำกิจกรรม 1 คะแนน หมายถงึ นักเรียนไม่ การเตรยี มการนำเสนอ 1 คะแนน หมายถงึ นกั เรียนไมม่ ีการ สามารถส่งงานภายในเวลาที่ 1 คะแนน หมายถงึ นกั เรยี นไม่ นำความคดิ สรา้ งสรรค์มาใชใ้ นการทำ กำหนดได้ มกี ารเตรียมตัวการนำเสนอ กิจกรรม หรอื มกี ารติดขดั จำนวนมาก ด้านความถกู ตอ้ ง (4) 4 คะแนน หมายถงึ นกั เรียน 3 คะแนน หมายถึง 2 คะแนน หมายถงึ นักเรียน 1 คะแนน หมายถึง ระบปุ ระเภทของจุดประสงค์ และให้เหตผุ ลประกอบได้ นักเรยี นระบปุ ระเภท ระบุประเภทของจุดประสงค์ นักเรยี นไม่มีการระบุ อยา่ งถูกต้อง ของจุดประสงค์ แต่มีการ แต่ไม่มกี ารระบุเหตผุ ล ทงั้ ประเภทและ ระบเุ หตผุ ลไม่ถกู ต้อง ประกอบ เหตผุ ล การประเมินผล คะแนนรวม 6-10 คะแนน หมายถงึ ผา่ นเกณฑ์ คะแนนรวม 0-5 คะแนน หมายถงึ ไม่ผ่านเกณฑ์
แบบประเมนิ พฤติกรรมการมีสว่ นร่วมของนักเรียน ท่ี พฤติกรรม การโตต้ อบในช้นั เรยี น 0 การทำกจิ กรรมกลุ่ม 1 รวม ชือ่ -สกุล 01 10 (3) เกณฑก์ ารให้คะแนน พฤตกิ รรมการมีสว่ นรว่ ม หมายถงึ ผู้เรียนใหค้ วามร่วมมือในการทำกิจกรรมต่างๆ ในหอ้ งเรยี น การใหค้ ะแนนการมีส่วนร่วม การประเมินผล 1 คะแนน หมายถงึ ผ้เู รยี นมีส่วนร่วม ในการทำกจิ กรรม คะแนนรวม 2-3 คะแนน หมายถงึ ผา่ นเกณฑ์ 0 คะแนน หมายถึง ผเู้ รียนไม่มีสว่ น คะแนนรวม 0-1 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง ร่วมในการทำกิจกรรม
แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ท่ี ช่อื -สกลุ มวี ินัย มงุ่ ม่นั ในการ รวม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน (1) ทำงาน (4) (5) เกณฑ์การให้คะแนนการมีวินัย 1 คะแนน หมายถงึ ผเู้ รยี นเข้าเรียนตรงตาม เวลาท่กี ำหนด 0 คะแนน หมายถงึ ผเู้ รยี นเข้าเรียนช้ากวา่ เวลาทก่ี ำหนด เกณฑก์ ารให้คะแนนความมุ่งมน่ั ในการ ทำงาน 4 คะแนน หมายถึง ผู้เรียนต้งั ใจทำงานกลุม่ มีสว่ นร่วมในการแสดงความคิดเหน็ ชิ้นงาน สมบูรณ์ และสง่ งานตามเวลาท่กี ำหนด 3 คะแนน หมายถึง ผู้เรียนให้ความร่วมมือใน การทำงานกลุ่มในระดับดี ทำงานท่ีได้รบั มอบหมายอย่างสมบรู ณ์ แตส่ ่งช้ากวา่ เวลาท่ี กำหนด 2 คะแนน หมายถึง ผเู้ รยี นมีส่วนในการ ทำงานปานกลาง ทำงานทีไ่ ด้รับมอบหมายไม่ สมบรู ณ์ แตส่ ่งภายในเวลาท่ีกำหนด 1 คะแนน หมายถงึ ผเู้ รียนมีส่วนในการ ทำงานนอ้ ย แสดงความเหน็ น้อย ทำงานท่ี ไดร้ ับมอบหมายไมส่ มบรู ณ์ และส่งชา้ กว่า กำหนด การประเมนิ ผล คะแนนรวม 4-5 คะแนน หมายถงึ ดี คะแนนรวม 2-3 คะแนน หมายถงึ พอใช้ คะแนนรวม 0-1 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง
ตวั อยา่ งสื่อการเรียนรู้
ตวั อย่างส่อื การสอนในขัน้ ตอนการฝกึ และข้ันตอนการสรา้ ง QR Code เอกสารประกอบการสอน
Search
Read the Text Version
- 1 - 1
Pages: