บทท่ี 15 การศึกษา 1 บทน�ำ 2 ทัว่ ไป 3 หนา้ ที่ 4 มสี ่วนรว่ ม 5 ประสานงาน สาระสำ�คญั 6 การศกึ ษาเปน็ สทิ ธิมนุษยชนขนั้ พน้ื ฐาน และสามารถเป็นเคร่อื งมอื การเผชิญ จัดการข้อมูล หน้าเหตุการณ์วกิ ฤตได้ในภายภาคหน้า ควรหลีกเลยี่ งการใช้สถานศกึ ษาเพ่ือเปน็ ศนู ย์พักพงิ ช่ัวคราว ในกรณีที่มี 7 ความจ�ำ เป็นสงู ควรจะมมี าตรการบรรเทาผลกระทบท่จี ะตามมา สิ่งแวดลอ้ ม 8 จัดตั้งศูนย์ 9 ปกป้องคมุ้ ครอง การดำ�รงไว้ซ่งึ การเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพของผู้ท่ีจำ�ต้องอพยพโยกย้ายถ่ินที่อยู่อาศัย 10 สทิ ธทิ าง เปน็ สทิ ธิมนษุ ยชนข้ันพนื้ ฐานและเป็นมาตราการการคุ้มครองสิทธิที่สำ�คญั ผู้ อาหาร การศึกษา จัดการศนู ย์ ควรประสานงานกับหนว่ ยงานภาครัฐท่ีดแู ลดา้ นการศึกษา และ หน่วยงานอ่ืนที่เกีย่ วขอ้ ง เพอ่ื ให้สทิ ธทิ างการศกึ ษาแกผ่ พู้ ักพงิ และชมุ ชนรอบ 11 ศูนยพ์ กั พงิ หากมกี ารใช้โรงเรยี นหรือสถานศึกษาเปน็ ศูนยพ์ กั พิงช่วั คราว ควร สิง่ ของเคร่ืองใช้ วางมาตรการบรรเทาผลกระทบที่ตามมา จากการขาดความตอ่ เนอ่ื งของระบบ 12 การเรยี นรู้ในทง้ั ระยะสนั้ และระยะยาว ทอี่ ยู่อาศัย จากประสบการณ์ 13 น้�ำ ในประเทศฟสิ ิปนิ ส์ การใช้โรงเรยี นเปน็ ศูนย์พกั พิงชั่วคราว นำ�ไปสู่การโต้ แย้งเปรียบเทยี บความส�ำ คญั ระหว่างสิทธิในการอยู่อาศัยกบั สิทธใิ นการ 14 ศึกษา สาธารณสขุ 15 การศึกษา 16 สง่ เสรมิ อาชพี 91 17 ปดิ และสง่ คืนศูนย์
15.1 การใช้สถานศึกษาเปน็ ศูนย์พกั พิงช่ัวคราว อาคารเรียน โดยหลกั การแลว้ ไมค่ วรน�ำ อาคารเรียนมาเป็นศูนย์พักพิง ท้ังนี้ และในการ ส�ำ รวจสถานท่คี วรใหส้ ถานศกึ ษาเปน็ ทางเลือกสดุ ทา้ ย ในกรณที ี่ไมส่ ามารถ หลกี เลยี่ งได้ผจู้ ดั การศนู ย์ ควรประสานงานกับหน่วยงานดา้ นการศึกษาท้อง ถิ่นเพื่อลดผลกระทบจากการใช้พื้นที่โรงเรียนหรือสถานศึกษาเป็นศูนย์พักพิง โดยปฏบิ ัติตามยุทธศาสตร์ ดงั ต่อไปนี้ • หลกี เลยี่ งการใช้อาคารเป็นสถานศึกษาและทีอ่ ยู่อาศยั ไปพร้อมๆ กนั หาก ใชพ้ ื้นท่สี ถานศกึ ษาจัดตง้ั เป็นศูนย์พกั พงิ ช่วั คราว ควรเรง่ หาสถานทอี่ ่นื เพื่อ ใชเ้ ปน็ โรงเรยี น หรือปรับขยายภาคเวลาการศึกษา และไม่ควรทำ�ให้ต้องลด เวลาเรียนหรอื ยกเลิกการเรียนการสอน • หากจำ�เป็นต้องใช้สถานศึกษาเป็นทั้งอาคารเรียนและศูนย์พักพิงชั่วคราว ควรแบ่งแยกพื้นที่สำ�หรับการเรียนการสอนและพ้ืนท่ีศูนย์พักพิงให้ชัดเจน รวมทง้ั แบง่ แยกพนื้ ทหี่ อ้ งนำ้�และท่ีซักลา้ ง • การใช้อาคารเป็นสถานศึกษาและศูนย์พักพิงในเวลาเดียวกันอาจมีความ เส่ียงด้านความปลอดภัยต่อเด็กและเยาวชนจึงควรมีมาตรการจัดการความ เส่ียงนี้ เช่น ตดั โอกาสไมใ่ ห้คนทไ่ี มใ่ ชเ่ จา้ หนา้ ทโ่ี รงเรยี นติดต่อกบั เด็กได้ • ไม่ควรมีการบงั คับผลักดันไล่ผู้พกั พิงให้ออกจากพ้นื ท6ี่ • ดูแลรักษาทรัพย์สินของสถานศึกษาไม่ให้เกิดความเสียหายระหว่างการ ใช้พนื้ ท่ีเปน็ ศนู ยพ์ กั พงิ ชั่วคราว ควรยา้ ยหอ้ งสมุด เอกสาร อุปกรณห์ ้อง ทดลอง โตะ๊ และเกา้ อ้ไี ปเกบ็ ในทที่ ่เี หมาะสมเพ่อื ป้องกันความเสียหายทีอ่ าจ จะเกดิ ขึน้ อ่านขอ้ มูลเพม่ิ เตมิ เก่ยี วกบั การปดิ ศูนย์พักพงิ ชว่ั คราวได้ในบทที่ 17 จากประสบการณ์ ในประเทศศรีลังกา กลุ่มผู้พักพงิ ในโรงเรียนนำ�โต๊ะเรียนมาเป็นเชือ้ เพลิง อปุ กรณก์ ารเรยี นถกู ทำ�ลาย และใช้เวลานานหลายปีกวา่ จะไดอ้ ปุ กรณก์ าร เรยี นชดุ ใหมม่ าทดแทน ส่งผลเสียระยะยาวตอ่ การเรียนการสอน 6 ‘การไล่ท’่ี หน้า 102 92
หลีกเลี่ยง การใช้สถานศึกษาเป็นศูนย์พักพิงอาจสร้างความขัดแย้งและความไม่พอใจให้ ความขดั แย้ง แกช่ มุ ชนข้างเคียงได้ เพ่อื มิใหเ้ กิดปญั หาดงั กลา่ ว ควรปฏบิ ัตติ ามวธิ ีการดงั ต่อ กบั ชุมชน ไปนี้ • หากมีการใชอ้ าคารสถานศกึ ษาเปน็ ศูนยพ์ ักพิงช่วั คราว ควรรบั รองวา่ จะ จัดหาพื้นทอ่ี น่ื เพื่อใช้ประกอบการเรียนการสอน และรับรองวา่ อาคารสถาน ศึกษาหลงั การปิดศูนยพ์ ักพิงช่ัวคราวจะมีสภาพคงเดมิ หากเป็นไปได้ ควร หาโอกาสปรบั ปรุงสภาพอาคารและพนื้ ท่รี อบตัวอาคาร เชน่ รกั ษาความ สะอาด ปรับโครงสรา้ งอาคาร และปรบั ปรงุ สนามเดก็ เลน่ • หาแนวทางชดเชยให้กับชุมชนที่อนุญาตให้ใช้สถานศึกษาเป็นศูนย์พักพิง ชั่วคราว เพ่ือลดความรสู้ ึกด้านลบและความขดั แยง้ • ก�ำ หนดเวลาการส่งคนื พ้ืนทส่ี ถานศกึ ษา นบั ตั้งแต่เริม่ ดำ�เนินการศนู ยพ์ กั พงิ และพยายามทำ�ให้ไดต้ ามทีก่ �ำ หนด • หากเปน็ ไปได้ หนว่ ยงานด้านการศึกษาควรเข้ามามรว่ มในการบรหิ าร จดั การพืน้ ทีส่ ถานศึกษาท่ีใชเ้ ป็นศูนย์พกั พิง โดยประสานงานกับผู้จดั การ ศูนย์ เพ่ือจดั กจิ กรรมพฒั นาคุณภาพชวี ิตของผูพ้ กั พงิ ซง่ึ เป็นประโยชนต์ ่อ สภาพจิตใจของชุมชนรอบศูนยพ์ กั พิงและกลมุ่ ผอู้ ย่อู าศยั จากประสบการณ์ กลุ่มเด็กและเยาวชนของโรงเรียนซ่งึ ใช้เปน็ ศูนย์พักพิงทำ�หนา้ ทเี่ ปน็ อาสา สมคั รดา้ นวัฒนธรรมและนันทนาการ โดยร่วมจัดกจิ กรรมกบั กลุ่มผพู้ ักพงิ และเปน็ สว่ นหน่ึงของการฟน้ื ฟเู ยียวยา 93
15.2 หลักพงึ ปฏิบัติในการใหก้ ารศึกษา การให้การศกึ ษา ในสถานการณ์ฉกุ เฉิน การใหก้ ารศึกษาอยา่ งต่อเนือ่ งเปน็ สิ่งส�ำ คญั เพราะเปน็ สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่มีบทบาทสำ�คัญในการให้ความคุ้มครองต่อสภาพ ร่างกายและสภาพจติ ใจ การใหท้ ่พี ักพิงในสถานศกึ ษาจะตอ้ งไม่เปน็ อปุ สรรค ต่อการให้การศกึ ษาในชมุ ชนท่ีรับรองผู้พักพิง โดยหลักการแล้ว การให้การ ศึกษาต่อกลุ่มผู้พักพิงและกลุ่มนักเรียนในชุมชนควรกระทำ�โดยโรงเรียนอื่นใน พ้ืนท่ี หากไมส่ ามารถด�ำ เนินการเช่นนัน้ ได้ ก็ควรจดั ต้ังพนื้ ท่ีการเรียนรแู้ ละหา แนวทางแกไ้ ขปญั หาในระยะยาว นอกจากแนวทางการรับมอื ท่กี ล่าวมาขา้ งต้น แลว้ ผ้จู ัดการศนู ยย์ งั ควรประสานงานกบั หนว่ ยงานดา้ นการศกึ ษาทอ้ งถนิ่ ใน ประเด็นตา่ งๆ ดังน้ี ข้อสังเกตทวั่ ไปเกีย่ วการศึกษา การศึกษา ประเดน็ หลกั ในการพิจารณา ประเมินการ • มีการสำ�รวจจำ�นวนเด็กและเยาวชนท่ีไม่ได้เรียนหนังสือท้ังในชุมชนรอบศูนย์และกลุ่ม ผพู้ กั พิง โดยอาศยั ความร่วมมอื จากหน่วยงานหลักที่เก่ยี วข้องจากท้ังสองฝ่าย ขอ้ มูลที่ รวบรวมได้ควรแยกออกโดยแบ่งเพศ และ อายุ • วิเคราะห์ความเป็นไปไดใ้ นการให้การศึกษา เช่น เด็กและเยาวชนในศูนยพ์ กั พงิ สามารถ จะไปเรยี นทีโ่ รงเรียนในท้องถน่ิ ได้หรอื ไม่ จ�ำ เป็นหรอื ไม่ท่จี ะต้องจดั ตงั้ พืน้ ท่กี ารเรยี นรู้ ภายในหรือใกลศ้ ูนยพ์ กั พิง เด็กและเยาวชนจากชุมชนรอบศนู ยจ์ ะเข้ามาเรียนท่ศี ูนย์การ เรียนรชู้ ัว่ คราวหรอื ไม่ การมีส่วนร่วม • กลุ่มผู้พักพิงและชุมชนรอบศูนย์ควรมีส่วนในการรวบรวมสถิติจำ�นวนเด็กท่ีไม่ได้เรียน ของชุมชน หนงั สือ และรว่ มหาพ้ืนที่สำ�หรับใชจ้ ดั การเรยี นการสอน • วิเคราะหก์ ารพฒั นาสรา้ งองค์ความร้แู ละการเรยี นรู้ของชมุ ชนรอบศูนยท์ ม่ี อี ยู่เดมิ แล้ว พจิ ารณาวา่ จะสามารถรว่ มเสรมิ ส่ิงเหล่าน้ีได้อย่างไร • พจิ ารณาถึงทรัพยากรท่จี ะช่วยในการเรยี นการสอนในชุมชน เช่น ครู นกั สงั คมสงเคราะห์ หรอื บุคคลท่ที รงคณุ วุฒิ แลว้ พิจารณาวา่ จะใหบ้ คุ คลกลุ่มนเี้ ขา้ มามีสว่ นชว่ ยในกิจกรรม การเรียนรแู้ ละนันทนาการสำ�หรับเดก็ และเยาวชนไดอ้ ยา่ งไร สภาพแวดล้อม • ในกรณที ีผ่ ้พู ักพิงสามารถเข้าเรียนได้ที่สถานศกึ ษาในท้องถ่นิ ควรตรวจสอบวา่ มีเอกสาร ทเ่ี อ้ือต่อการ ทจี่ �ำ เปน็ ครบ (เอกสารแสดงตน แบบรายงานผลจากสถานศกึ ษา) ถนนหนทางปลอดภัย เรยี นรู้ และใช้สัญจรได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรค�ำ นึงถึงกลุม่ เส่ียง เชน่ เดก็ ผ้หู ญิงและคนพกิ าร รวมทัง้ ไม่ควรปล่อยให้ค่าเล่าเรยี นเป็นอุปสรรคต่อการเขา้ ศกึ ษา • ในกรณีที่มีการจดั ตัง้ พื้นทีก่ ารเรยี นรชู้ ว่ั คราว ควรเลอื กสถานท่ีทปี่ ลอดภัย มีอุปกรณ์ เคร่ืองใช้ที่ถูกสุขอนามัยและมีน้ำ�สะอาดในปริมาณท่ีเพียงพอต่อการรักษาสุขอนามัย พรอ้ มกนั น้ี ควรพิจารณาถงึ การใหบ้ รกิ ารด้านอ่นื ๆ เช่น สุขอนามัยในโรงเรยี น และบริการ อาหารกลางวนั • สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ท่ีปลอดภัยสามารถตอบสนองความต้องการทางด้านกายและ จิตใจได้ ควรมกี ารอบรมครูหรือผู้สอนใหม้ ีทกั ษะในการสร้างสภาพแวดลอ้ มที่เอ้อื ต่อการ เรยี นรู้ และชว่ ยเสรมิ สร้างกจิ วตั รประจำ�วัน ตอ่ หนา้ ถดั ไป 94
ข้อสังเกตทั่วไปเกย่ี วการศกึ ษา การศึกษา ประเด็นหลกั ในการพจิ ารณา การเรยี น • การศึกษายังเป็นโอกาสเรียนรู้เรื่องความปลอดภัยและการเอาตัวรอดจากสถานการณ์ การสอน ตา่ งๆ เชน่ หลกั สุขอนามัย หรอื การปฏบิ ตั ติ วั ตามป้ายเตอื นภยั อันตรายตา่ งๆ • ในกรณที ี่มีการจดั ต้ังพ้ืนที่การเรยี นร้ชู วั่ คราว ควรเลอื กใช้ภาษา หลกั สูตรและส่อื การ เรยี นการสอนท่ีเปน็ ทค่ี ุ้นเคยของผ้พู กั พิง โดยเฉพาะอยา่ งยิง่ ในชว่ งระยะเริม่ ตน้ • ประสานงานกับสถานศึกษาในทงั้ ถ่ินเพ่อื จดั หลักสตู รเรง่ รัด หรือจดั ชนั้ เรียนชดเชย ครหู รือผู้สอน • พยายามหาครผู ้มู ีประสบการณใ์ นกลมุ่ ผูพ้ ักพงิ หรอื อาจใหผ้ ใู้ หญ่ท่ีมีความรบั ผดิ ชอบและ เปน็ ทเ่ี คารพในกลุ่มผู้พกั พงิ มาสอน และรว่ มพัฒนาจรรยาบรรณในการสอน (Code of Conduct) ดว้ ยกัน • ครผู ูส้ อนควรไดร้ บั ความชว่ ยเหลือทางจติ สังคม เช่น ใหพ้ ื้นท่ีและเวลาแก่กลุ่มครผู ู้สอน เพอื่ พบปะพูดคุยและชว่ ยเหลอื เกื้อกูลซ่งึ กนั และกัน • เงินชดเชยที่ให้กับครูผู้สอนในศูนย์การเรียนรู้ชั่วคราวของศูนย์พักพิงต้องมีอัตราเทียบ เท่ากบั ในทอ้ งตลาด นโยบายดา้ น • ในกรณีท่ีจ�ำ เปน็ ควรมกี ารประสานงานกบั หนว่ ยงานด้านการศกึ ษาสว่ นทอ้ งถ่นิ เพ่อื ย้าย การศกึ ษาและ โอนนกั เรียนจากศนู ย์การเรียนรชู้ วั่ คราวไปยังสถานศึกษาในท้องถน่ิ ซง่ึ นโยบายควรมี ประสานงาน ความยดื หยนุ่ ในการสนับสนนุ ด้านการศกึ ษา • ประสานกบั หน่วยงานดา้ นการศึกษาเพ่ือใหผ้ เู้ รียนไดร้ ับประกาศนียบตั รรับรอง หลงั เรียน จบในระหว่างท่อี ย่ใู นศูนยพ์ ักพิง ตอ่ จากหนา้ ท่แี ลว้ 95
ศกึ ษาข้อมลู เพิม่ เติมไดท้ ี่ UทRี่:eNcwEowSnwCst.Orinu,ec2tei0os0nit6e; ..CoGhrgua/iptdoteeobrlko1iot0/kd:oLfocesra/PCrnlhainangpntiSenrgp1a0Ec.depusdcfaantidonSicnhoEoml eFragceinlitcieiess. and WDiทnี่:itosewpmrnlwaeawcnlel’.ysimndReeiesnepstf:uiltageAce.eoredergsCp/otoeoumrorsclmkoeintis/fsdos.orioconsr,/gr2iag0nh0its6_a.ttoiRo_niegsdh.twptdoofrkEindgucwaittihonreDfuugrienegs and UveNnHt CanRd, 2R0e0s7p.oSndafetoSVcihooleonlsceanindRLeefaurgneinegSEcnhvoiorolsn,mAeGntu, iHdeo.w to Pre- ทN:่ีRhCtt,p2:/0/w08w.wT.hnerc.Cnaom/aprcMh/a_nimagg/e9m29e3n5t 7T9o.opldkfit; Chapter 17 : Education. UNICEF, 2009. A Practical Guide for Developing Child Friendly Space. ทRIN:ี่eEshEptto,pn2:/s0/we1,w0R.wIe.NucEnoivEceeMrfy.oi.nrigm/euamprSo/tManindiamrdusmf_oSrtEandduacradtiso_nE: nPgrleispha_r2e0d1n0e.spsd,f Odenfearuelts.apsopnxse website: http://oneresponse.info/GlobalClusters/Pages/ 96
บทท่ี 16 การสง่ เสริมอาชพี 1 บทน�ำ 2 ทัว่ ไป 3 หน้าที่ 4 มีส่วนรว่ ม 5 ประสานงาน สาระส�ำ คัญ 6 จัดการขอ้ มลู การจัดฝึกและส่งเสริมอาชีพมีความสำ�คัญเป็นพิเศษสำ�หรับผู้พักพิงที่ต้อง 7 อาศยั อยใู่ นศนู ยเ์ ป็นเวลายาว ในการวางแผนโครงการ ควรค�ำ นงึ ถึง สถานที่ เพศและความรูพ้ ืน้ ฐานของผู้ สงิ่ แวดลอ้ ม ท่สี นใจ ผนวกกบั บรบิ ทและสาเหตขุ องการโยกย้ายที่อยู่อาศัย สร้างความเข้าใจถึงแนวคดิ และความสำ�คัญของการสง่ เสรมิ อาชพี 8 จัดตัง้ ศูนย์ 9 ปกปอ้ งคมุ้ ครอง 10 อาหาร 16.1 หลกั พิจารณาทัว่ ไปในการส่งเสริมอาชีพ 11 การสง่ เสรมิ การส่งเสริมอาชีพในศูนย์พักพิงชั่วคราวสามารถนำ�จะสำ�คัญเป็นพิเศษสำ�หรับ สิ่งของเคร่อื งใช้ อาชีพ ผูพ้ กั พิงท่ตี อ้ งอาศยั อยู่ในศนู ยเ์ ป็นเวลายาวนาน เมื่อสถานการณ์เรม่ิ คลค่ี ลาย ตัวลง ความช่วยเหลอื จากภายนอกก็จะลดลงตามไป ท�ำ ให้ต้องมีการการหา 12 แนวทางใหผ้ พู้ กั พิงสามารถพง่ึ พาตนเองไดม้ ากข้ึน โครงการสง่ เสรมิ อาชพี ท่ี ท่ีอยอู่ าศยั จะสำ�เร็จได้ต้องมีการวางแผนและปูพ้ืนก่อนท่ีความช่วยเหลือจากภายนอกจะ 13 หมดไป น�ำ้ ขอ้ ควร ปจั จยั สำ�คัญต่อการพิจารณาโครงการสง่ เสริมอาชพี ของผพู้ กั พงิ มดี งั น้ี 14 พิจารณา สาธารณสุข • ทต่ี ง้ั ของศูนย์พกั พิงช่ัวคราว – ทตี่ ้ังของศูนย์พกั พิงมผี ลโดยตรงกับการ 15 เลอื กแนวทางการสง่ เสริมอาชีพ การทศี่ ูนยพ์ ักพงิ ต้งั อยู่ในตวั เมอื งหรืออยู่ แถบชานเมืองมีผลทำ�ให้แนวทางต่างกันออกไปจากศูนย์พักพิงที่ต้ังอยู่ใน การศกึ ษา ชนบท 16 สง่ เสรมิ อาชพี 97 17 ปิดและสง่ คนื ศนู ย์
ขอ้ ควร • การกลับสูส่ ภาวะก่อนการโยกยา้ ย - ตามปกติแลว้ ผพู้ กั พิงมักอยากจะกลับ พจิ ารณา ไปด�ำ เนนิ ชีวติ เหมือนเดิม พืน้ ฐานทางเศรษฐกจิ และสงั คมของชมุ ชนในเขต เมืองหรอื เขตชานเมืองมีอิทธิพส�ำ คญั ต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจของผู้พักพิง ขอ้ แนะน�ำ ดังน้นั การเลือกการฝกึ อบรมอาชพี ที่ เหมาะสมกับบริบทอาจเป็นแนวทาง การส่งเสรมิ อาชพี มปี จั จัยภาย การพัฒนาวิชาชีพและการแก้ปัญหา นอกทหี่ ลากหลาย ซ่ึงบางอย่าง อย่างย่งั ยนื อาจไม่สามารถเปลีย่ นแปลงได้ • ศูนย์พักพิงช่ัวคราวในเขตชานเมืองมักต้ังอยู่ใกล้กับถ่ินที่อยู่อาศัยของผู้ พกั พงิ ในกรณีน้ี ครอบครัวผ้ปู ระสบภัยท่ีพกั พงิ ในศนู ยย์ งั สามารถใช้ที่ดนิ ทำ�กนิ มอี ุปกรณเ์ พอื่ ทำ�มาหาเลย้ี งชีพ และมีตลาดเพื่อคา้ ขาย (เฉพาะใน กรณที ่ไี ม่มปี ญั หาด้านความปลอดภยั ) ทำ�ให้ผพู้ กั พิงสามารถด�ำ เนนิ ชีวติ ได้ ตามปกติ • การศกึ ษา – การเพม่ิ ระดบั ความรู้ของผู้พกั พิงอาจเปน็ การเปิดโอกาสทาง เลอื กทางเศรษฐกิจข้นึ ดังน้นั การจดั ฝึกอบรมความรวู้ ชิ าชีพจงึ มีความ ส�ำ คัญตอ่ กิจกรรมสง่ เสริมการสร้างอาชพี • เพศ – บทบาทของผู้หญิงมักเปลีย่ นไประหว่างการใช้ชวี ิตในศูนยพ์ ักพงิ ผู้ หญิงมักมบี ทบาทหน้าท่ีมากขน้ึ ในการอยรู่ อดของครอบครวั และด้วยความ มงุ่ มัน่ ท่ีจะผนกึ ครอบครัวใหค้ งอย่ดู ว้ ยกัน ผู้หญงิ จึงมกั มีความคดิ สร้างสรรค์ ในการหาชอ่ งทางการเล้ียงชพี มากกวา่ ผชู้ าย • การจัดฝึกอบรมทางวิชาชีพเพ่ือส่งเสริมอาชีพหรือเพ่ิมช่องทางการเพิ่มราย ได้ทมี่ ุง่ เปา้ ไปท่ีผู้หญิงจงึ มกั ประสบผลสำ�เรจ็ และไม่เพียงแตเ่ ป็นการเพม่ิ รายได้ให้กล่มุ ผ้พู กั พิง แต่ยังสง่ ผลให้บทบาทหนา้ ทขี่ องผหู้ ญิงเปลีย่ นไปใน ทางทีด่ ีขึน้ อย่างไรก็ตาม ควรพจิ ารณาด้วยว่าวิธกี ารดังกลา่ วไมไ่ ด้เป็นการ ลดบทบาทความสำ�คญั ของกลมุ่ ผชู้ าย และควรมีการวเิ คราะหบ์ ทบาท ความสัมพันธ์ของหญิงและชายเพ่ือให้แน่ใจได้ว่าการเสริมสร้างอำ�นาจและ บทบาทของผ้หู ญิง (Empowerment of women) ไมไ่ ด้ท�ำ ใหร้ ะดบั ความ รุนแรงในครอบครอบครัวหรอื ความรุนแรงบนฐานเพศสภาวะเพิ่มขนึ้ 98
16.2 แนวทางการส่งเสริมอาชพี วัตถปุ ระสงค์ โครงการส่งเสริมอาชีพควรมีวัตถุประสงค์และขั้นตอนการดำ�เนินงานท่ีชัดเจน และขัน้ ตอนการ ความส�ำ เร็จของโครงการส่งเสรมิ อาชีพข้นึ อยู่กับการวางแนวทางท่ชี ดั เจน การ ด�ำ เนินโครงการ วิเคราะห์จัดสรรทรพั ยากรท่เี หมาะสมและความเข้าใจในศักยภาพของผูพ้ กั พงิ รปู แบบการสง่ เสริมอาชีพแกผ่ ู้พักพิง ประเภท วัตถปุ ระสงค์ ขอ้ กำ�หนด ขอ้ แนะน�ำ ความม่ันคงทาง • ลดปัญหาของผูพ้ ักพงิ • ต้องมีทักษะพ้ืนฐาน • เหมาะส�ำ หรบั ศนู ยพ์ ักพงิ ใน อาหารการกิน หรือ การพ่งึ พาตนเอง ในการจดั หาอาหาร ทางการเกษตร แถบชานเมอื งท่มี ีพื้นท่เี พ่อื การเพาะปลูก • เหมาะสำ�หรบั คนในกลุม่ เสยี่ งทไี่ มม่ ศี กั ยภาพในการ ออกไปหางานข้างนอก การฝกึ วชิ าชีพ • สง่ เสรมิ อาชีพใหม่ที่ • แรงจงู ใจ • เนน้ การตอบโจทยค์ วาม ยั่งยนื • ความต่ืนตวั ตอ้ งการแรงงานในตลาด แรงงานท้องถ่ิน การสรา้ งรายได้ • เริม่ ด�ำ เนิน หรือขยาย • ความร้เู ฉพาะดา้ น • เหมาะส�ำ หรบั ศนู ยพ์ ักพงิ ท่ี กิจการห้างร้านที่ให้ผล • ความรเู้ รอ่ื งการตลาด อยูใ่ นเขตชมุ ชนเมอื งหรอื ก�ำ ไร เพือ่ หารายได้เข้า • ความรบู้ ัญชีขั้นพนื้ ฐาน ชานเมือง ครอบครัว • มคี วามเป็นนักลงทนุ • เหมาะสำ�หรับบคุ คลท่มี ีความ รแู้ ละทกั ษะ • ไม่เหมาะสำ�หรับบุคคลใน กล่มุ เสย่ี ง การหางาน • จัดหางาน • ความรู้เฉพาะด้าน • เหมาะสำ�หรับศนู ยพ์ กั พงิ ที่ การสรา้ งงาน • แรงจงู ใจ อยูใ่ นเขตชมุ ชนเมืองหรอื ชานเมือง • เหมาะส�ำ หรับบุคคลท่มี ีความ ร้แู ละทักษะ • อาจมุ่งไปท่กี ล่มุ คนอายนุ ้อย • ไม่เหมาะส�ำ หรบั บุคคลใน กลมุ่ เสย่ี ง โครงการสง่ ศูนย์พักพิงชั่วคราวมกั ตัง้ อยู่ในพื้นท่ีทีค่ อ่ นข้างจะยากจน และมชี ุมชนขา้ งเคียง เสริมอาชีพรว่ ม ที่ก็ต้องการโอกาสความเจริญทางเศรษฐกจิ โครงการส่งเสริมอาชีพร่วมซึง่ เป็น โครงการท่มี ุง่ ชว่ ยเหลอื สมาชิกในชุมชนและกลมุ่ ผู้พกั พิง สามารถชว่ ยสร้าง ความสมดุลและลดความตงึ เครยี ดในพื้นท่ี 99
เอกสารเพ่อื ศึกษาเพม่ิ เติม Nท่:ีRhCtt,p2:/0/w08w.wT.hnerc.Cnaom/aprcMh/a_nimagg/e9m29e3n5t 8T1o.opldkfit; Chapter 18: Livelihoods. 100
บทท่ี 17 การปดิ ศนู ย์พักพิงชั่วคราว 1 บทนำ� 2 ทว่ั ไป 3 หน้าที่ 4 มีสว่ นร่วม 5 ประสานงาน สาระสำ�คัญ 6 จดั การขอ้ มลู การหาทางออกที่ย่ังยืนเพื่อผู้พักพิงควรเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่มีการจัดตั้งศูนย์ 7 พักพิงช่ัวคราวจนถงึ การปิดศูนยพ์ ักพงิ วิธีการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนของการอพยพโยกย้ายที่อยู่อาศัยหลังจากปิดศูนย์ สงิ่ แวดล้อม พักพงิ ชั่วคราว มอี ยู่ 3 แบบ โดยรวม จา่ ยคา่ ชดเชยเพอื่ ช่วยเหลอื การกลับ สุ่ถน่ิ ทอ่ี ยอู่ าศัย จัดให้มกี ารยา้ ยไปตง้ั ถิ่นฐานในท่ใี หม่ และจัดใหเ้ ข้ารว่ ม 8 โครงการเคหะชุมชนอยา่ งเช่น บ้านมั่นคง หรอื บ้านเอ้อื อาทร จดั ตง้ั ศูนย์ 9 ปกปอ้ งคมุ้ ครอง การขบั ไล่ผ้พู กั พิงให้ออกจากศนู ยอาจท�ำ ได้ตามกฎหมาย แต่จะต้องไม่เปน็ 10 การทำ�ใหช้ ีวติ ความเปน็ อยขู่ องผู้พักพงิ แยล่ ง อาหาร 11 สง่ิ ของเคร่อื งใช้ การวางแผน การปิดศนู ย์พกั พงิ ชวั่ คราวควรเป็นประเด็นท่ตี อ้ งพจิ ารณาอย่างถถ่ี ้วน ตัง้ แต่ 12 ปิดศนู ยพ์ กั พิง เร่มิ จัดตงั้ ศนู ย์และตลอดระยะเวลาการใชง้ าน7 รูปแบบการปดิ ศูนย์มผี ลกระทบ ทอ่ี ยู่อาศยั อย่างมากต่ออนาคตของผูพ้ ักพงิ ในบางกรณี การปดิ ศูนย์พักพงิ ช่ัวคราวอาจมี ผลมาจากสถานการณ์ทีค่ ลคี่ ลายลง สง่ ผลใหผ้ ้พู ักพิงสามารถเดนิ ทางกลบั บ้าน 13 ของตนเพอ่ื รับความชว่ ยเหลือจากภาครฐั ในการฟืน้ ฟเู ยียวยา ในสถานการณ์ นำ้� อ่นื ๆ การปดิ ศนู ย์พักพิงช่ัวคราวอาจมีผลมาจากการไล่ที่ หรือมกี าร รับผพู้ กั พงิ เข้าเปน็ สว่ นหนงึ่ ของชุมชนข้างเคียง 14 สาธารณสุข ศึกษาข้อมลู เพมิ่ เติมเกี่ยวกับการจดั ต้ังศนู ย์พักพงิ ชว่ั คราว ในบทท่ี 8 15 การศกึ ษา 7 ‘การจดั ต้งั ศนู ยพ์ กั พิงชว่ั คราว’ หนา้ 45 16 สง่ เสรมิ อาชีพ 101 17 ปิดและสง่ คนื ศูนย์
การประสาน ฝ่ายประสานงานกลางและผู้จัดการศูนย์มีหน้าท่ีในการรับรองว่าผู้พักพิงได้รับ งานเพอ่ื ปิดศนู ย์ การคุ้มครองสทิ ธิ เมื่อศนู ย์พกั พิงปิดตัวลง ยงั มหี น้าที่ประสานงานอย่างใกลช้ ิด พกั พิงชั่วคราว กับหนว่ ยงานภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคเอกชนท่เี ก่ยี วขอ้ ง เพื่อใหข้ ้อมูล ข่าวสารเกย่ี วกบั การปิดศูนย์เป็นไปในทิศทางเดยี วกัน โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงศนู ย์ พักพิงทีใ่ ชอ้ าคารสำ�คัญของชมุ ชนข้างเคียง (เช่น โรงเรียน และโรงพยาบาล) คณะกรรมการ การตั้งคณะกรรมการประสานงานเพื่อปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวควรประกอบไป ประสานงาน ดว้ ย หน่วยงานภาครฐั ฝา่ ยประสานงานกลาง ผู้จดั การศนู ย์ ผใู้ ห้ความช่วย ปดิ ศูนยพ์ ักพิง เหลอื ภายในศนู ย์ ตัวแทนจากชุมชนข้างเคียง ตัวแทนอาสาสมคั ร และผู้พักพงิ ในศนู ย์ คณะกรรมการประสานงานฯมีหน้าทต่ี รวจสอบวา่ การสง่ ผ่านถ่ายทอด ข้อมลู จากทง้ั สองทาง (ข้อมูลท่ีเขา้ มาในศนู ย์และข้อมลู ที่ออกจากทางศูนย)์ เปน็ ไปอย่างสอดคลอ้ ง คณะกรรมการประสานงานฯควรตรวจสอบการประสาน งานระหวา่ งหน่วยงานทีเ่ กย่ี วข้อง เพ่ือให้การปิดศูนยพ์ กั พงิ ชัว่ คราวด�ำ เนินไป อย่างราบรืน่ 17.1 การไล่ที่ สาเหตขุ อง ศูนย์พักพิงชั่วคราวอาจต้องปิดตัวลงและผู้พักพิงถูกขับไล่ออกจากศูนย์ด้วย การไล่ท่ี สาเหตุต่างๆ รวมถึง • สถานทตี่ ัง้ ของศนู ย์ไม่เหมาะสม (เช่น มกี ารปนเป้ือนของสารพิษ) ทางออก • ความเส่ยี งตอ่ ความปลอดภยั (เชน่ ศูนยพ์ ักพงิ อยใู่ นจดุ เสยี่ งต่อความรนุ แรง) ทพ่ี อเพยี ง • สภาพของตัวอาคารทีไ่ ม่ปลอดภัย (เช่น โครงสร้างอาคารไมม่ น่ั คงแข็งแรง) • การไม่ได้รบั การยอมรบั จากหน่วยงานในทอ้ งถ่นิ (เชน่ ศนู ยพ์ กั พงิ นอกระบบ) 102 • การคืนพนื้ ทใี่ ชส้ อยของอาคาร (เช่นโรงเรยี น หรือสถานีตำ�รวจ) สง่ ผลใหม้ ี การผลกั ดนั ผพู้ ักพงิ ออกจากศูนย์ แม้ว่ารฐั มสี ทิ ธทิ ่จี ะสงั่ ปดิ ศนู ยพ์ ักพงิ ชั่วคราว แต่ตอ้ งปฏบิ ัตติ ามข้อก�ำ หนดทว่ี า่ สถานภาพของผู้พักพงิ ตอ้ งไมแ่ ยล่ ง สภาพชวี ิตความเปน็ อยู่ของผู้พักพิงหลงั จากปิดศนู ย์พกั พงิ ตอ้ งเทียบเทา่ หรอื สูงกว่ามาตรฐานทจี ัดไว้ในศนู ยท์ ปี่ ดิ ลง ผู้ จัดการศูนย์และฝ่ายประสานงานกลาง ควรกำ�กับดูแลการปิดอย่างใกล้ชิดเพื่อ ข้อแนะน�ำ ให้มั่นใจว่าข้อกำ�หนดพ้ืนฐานดังกล่าว ได้รบั การปฏบิ ตั ติ าม ทงั้ น้ี ผ้จู ัดการศนู ย์ การขบั ไล่และการปิดศนู ยพ์ กั พิง ควรให้การสนับสนุนและความช่วยเหลือ สามารถปฏบิ ตั ไิ ด้โดยไมข่ ัดต่อ เฉพาะด้านแก่หน่วยงานที่รับผิดชอบการ กฎหมาย แต่ผู้พกั พงิ ตอ้ งไดร้ ับ ดำ�เนินการปดิ ศนู ย์พักพิงชัว่ คราว ความเคารพในสทิ ธขิ ัน้ พนื้ ฐาน
การมสี ว่ นรว่ ม เหนอื ส่งิ อื่นใด ผ้อู ยู่อาศัยในศูนย์พกั พิง ขอ้ แนะน�ำ ของผอู้ ยูอ่ าศยั ชั่วคราวควรต้องได้รับแจ้งให้ทราบถึง เมอื่ มกี ารด�ำ เนนิ การขับไลอ่ อก สถานการณ์และการตัดสินใจท่ีจะคืน จากพน้ื ที่โดยไมเ่ ต็มใจ ควรทำ� พ้นื ท่ศี นู ยพ์ กั พงิ อยู่อย่างตอ่ เนื่อง และไม่ ขอ้ ตกลงด้านการใหค้ วามช่วย ควรถูกริดรอนสิทธิท่ีจะมีส่วนร่วมในการ เหลือกลมุ่ ผจู้ �ำ ตอ้ งอพยพโยก ตดั สนิ ใจในข้นั ตอนการด�ำ เนินการ การ ยา้ ยทอ่ี ยอู่ าศัย รว่ มกับกระทรวง ถูกขับไล่ให้ออกจากพื้นท่ีโดยไม่เต็มใจ การพฒั นาสงั คมและความมน่ั คง ผนวกกบั ความหวาดกลัวจะ “ถกู ท้ิงใหอ้ ยู่ ของมนษุ ย์ บนถนน” มักก่อให้เกิดแรงต้าน ทำ�ให้การ ผ่อนผันตอ่ รองเปน็ ไปไดย้ าก มาตรฐานข้ันตำ�่ การเรยี กรอ้ งสิทธิในนามของผ้พู ักพิง การใหข้ อ้ มลู และการรับประกนั สิทธขิ อง ในการปิดศูนย์ ผ้พู ักพิง รวมถงึ การปลกุ จิตส�ำ นึกของท้งั ฝา่ ยหน่วยงานท่เี ก่ียวข้องและผพู้ กั พิง เปน็ แนวทางทม่ี สี ว่ นชว่ ยสร้างมาตรฐานเบ้อื งต้นในการปดิ ศนู ย์พกั พิงชว่ั คราว 17.2 การมุ่งสแู่ นวทางการแก้ปัญหาท่ยี งั่ ยนื การมุง่ สู่แนว การกำ�หนดแนวทางแก้ปัญหาท่ียั่งยืนเป็นกระบวนการท่ีต้องการความร่วมมือ ทางการแก้ จากทกุ ภาคส่วน โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ ความร่วมมือจากผูพ้ กั พิง แนวทางการแก้ ปญั หาท่ียั่งยนื ปญั หาท่ียั่งยนื เพอ่ื ผ้จู ำ�ตอ้ งอพยพโยกย้ายทอี่ ยอู่ าศยั ทุกคน มอี ยู่สามหลกั ใหญ่ ทสี่ ามารถปรับใช้ได้กับการโยกยา้ ยทอ่ี ยอู่ าศัยทุกรูปแบบ ดังต่อไปน้ี การกลับ คนื สถู่ ิ่นฐาน การตั้งถิน่ ฐานในทใี่ หม่ หรือการผนวกเขา้ เปน็ สว่ นหนึง่ ของท้อง ถ่ิน ในระหวา่ งขัน้ ตอนของการหาแนวทางแก้ปญั หาที่ย่ังยืน สถานภาพและ การใชง้ านของตวั อาคารทเี่ ป็นศนู ยพ์ กั พงิ อาจจะตอ้ งยตุ ลิ ง เมอื่ สถานภาพการ เปน็ ศูนยพ์ กั พิงสนิ้ สดุ ลง ท้ังสามสถานการณ์ดงั จะกลา่ วถงึ ต่อไปนมี้ ักเกิด 1) ผู้ พักพิงยา้ ยออกจากศนู ยพ์ ักพงิ 2) ผ้พู กั พงิ ยังคงอยูใ่ ชพ้ ้นื ทใ่ี นศูนย์พกั พงิ ตอ่ หรอื 3) การใช้พนื้ ทีใ่ นศนู ย์พกั พงิ ไมช่ ัดเจน ท้งั สามสถานการณ์ดงั กลา่ วมาอาจ ส่งผลกระทบแก่ผู้ทเ่ี คยพักพิงในศูนย์ ตา่ งกันออกไปดังต่อไปน้ี การยา้ ยออกจากศูนยพ์ กั พิง การย้ายออก ผพู้ ักพงิ อาจย้ายออกจากศูนย์พกั พิงในคราวเดียวหรอื คอ่ ยๆ ทยอยออกเพ่ือ จากศูนย์พกั พิง เดินทางกลบั สู่ถนิ่ ฐาน หากผพู้ กั พิงไมส่ ามารถกลับสูถ่ ิน่ ฐานเดิมได้ อาจมที าง เลอื กอ่ืน เชน่ การยา้ ยเข้าท่อี ยู่ใหม่เป็นการถาวร หรือเขา้ ร่วมโครงการเคหะ ชุมชน หลังจากผู้พกั พงิ ย้ายออกจากศูนย์ฯหมดแล้ว อาคารทใี่ ช้เปน็ ศนู ยพ์ ักพิง ช่ัวคราวควรไดร้ ับการบูรณะเพอื่ ให้มกี ารใช้งานอาคารต่อไปได้ ความรบั ผิด ชอบและงบประมาณสำ�หรับการบูรณะสถานท่ีหลังปิดศูนย์พักพิงเป็นประเด็น สำ�คัญสำ�หรับเจ้าของสถานที่และผู้บริหารงานซึ่งควรได้รับการช้ีแจงตั้งแต่เร่ิม ต้งั ศนู ยพ์ ักพงิ 103
ทางเลอื กหลัง ผู้พักพงิ ทไ่ี มส่ ามารถเดนิ ทางกลบั ถิน่ ทีอ่ ยอู่ าศยั เดิมได้มักมที างเลือกอยู่ 2 ทาง ออกจากศนู ย์ เมื่อย้ายออกจากศนู ย์พกั พงิ ชั่วคราว ที่อยูอ่ าศัยแหง่ ใหม่ มีการสร้างบ้านใหม่ข้ึนมาหรือนำ�บ้านท่ีมีอยู่มาดัดแปลงใช้เป็นท่ีอยู่อาศัยถาวร ให้แกผ่ ้พู ักพงิ ในศนู ย์พักพิงชวั่ คราว ตามปกติ รฐั จะจดั หาบ้านหลังใหม่ให้แก่ กลุ่มคนผู้จ�ำ ตอ้ งอพยพโยกยา้ ยท่อี ยอู่ าศยั โดยไมค่ ดิ คา่ ใชจ้ ่าย หรอื มเี ง่ือนไขใน การจ่ายผ่อนทดี่ ี และถือเปน็ ส่วนหน่ึงของโครงการเคหะชุมชน จากประสบการณ์ ในประเทศอาเซอรไ์ บจาน มกี ารสร้างหม่บู า้ นขึน้ ใหม่และออกใบอนญุ าติ พกั อาศัยระยะยาวเพื่อรองรับกล่มุ ที่จำ�ต้องอพยพโยกยา้ ยถิน่ ฐานที่ยา้ ย ออกจากศูนย์พกั พิงชวั่ คราวและคา่ ยผูล้ ภี้ ยั การจ่ายค่าชดเชย ผพู้ ักพิงในศนู ยพ์ ักพงิ ชั่วคราว เชน่ เดยี วกับประชาชนทีไ่ ด้รับความเดือดร้อน มี สิทธิที่จะได้รับเงินชดเชยเพ่ือชดเชยความเสียหายหรือความสูญเสียที่เกิดขึ้น ซง่ึ อาจเปน็ ในรปู แบบของเงนิ สด หรอื ใบสงั่ จ่าย อาคารยังคงถูกใชเ้ ป็นศูนยพ์ ักพิง การแปรสภาพ แนวทางนี้หมายถึงในกรณีที่ผู้พักพิงยังคงอยู่ในศูนย์พักพิงต่อไปแม้ว่าอาคาร เป็นการครอบ จะไมไ่ ดเ้ ปน็ ศูนยพ์ กั พิงตามทางกฎหมายแล้ว แต่มีการเปลย่ี นสถานภาพทาง ครองสว่ นบุคคล กฎหมายของตัวอาคารให้มาเป็นห้องพกั สว่ นบคุ ลล หรอื อาคารหอ้ งชดุ (แฟลต) ทีม่ เี จา้ ของรว่ ม การแปรสภาพดังกล่าวน้ี เรยี กวา่ การแปรสภาพเป็นการครอบ ครองส่วนบุคคล จากประสบการณ์ ในประเทศจอร์เจยี กลมุ่ ผพู้ ักพงิ ได้รบั อนญุ าตใหถ้ อื ครองกรรมสิทธิ์ของ ศนู ย์พกั พิงรว่ มกันในโครงการฟ้ืนฟผู ปู้ ระสบภัย การถือครอง หากศูนย์พักพิงได้แปรสภาพเป็นการครอบครองสว่ นบุคคล กลมุ่ ผพู้ ักพิงใน กรรมสทิ ธ์ิ ศูนย์พักพิงอาจกลายมาเปน็ เจา้ ของอาคาร หรือผู้พกั พิงอาจได้รบั ขอ้ เสนอใน รปู แบบของสัญญาเชา่ ระยะยาว ในกรณนี ศี้ นู ย์พักพิงชัว่ คราวก็จะ กลายเปน็ อาคารหอ้ งชุดท่วั ไป 104
สถานภาพที่ไม่ชัดเจน / โครงการเคหะชุมชน สถานภาพท่ีไม่ อกี ทางเลอื กหน่งึ มักเรียกว่าการปล่อยใหส้ ถานะของศนู ย์พักพงิ ชว่ั คราว “ไม่ ชดั เจน ชดั เจน” ซึง่ หมายถงึ รูปแบบของการเคหะชมุ ชน โดยคนทอ่ี ยใู่ นกลมุ่ เสย่ี งใน ศูนยพ์ ักพงิ จะได้รบั เข้าร่วมโครงการเคหะชมุ ชนของรฐั จากประสบการณ์ ในประเทศเซอร์เบยี มกี ารจัดสรรใหผ้ ้พู ักพงิ ทอี่ ยู่ในกลมุ่ เสย่ี งไดเ้ ข้ารว่ มใน โครงการเคหะชุมชนของเทศบาลสว่ นทอ้ งถิน่ โครงการเคหะ อาจใช้อาคารที่ใช้เป็นศูนย์พักพิงเดิมมาปรับให้เข้ากับโครงการเคหะชุมชน ชมุ ชน หรือน�ำ เอาอาคารอืน่ มาใช้ โดยผ้พู กั พงิ ที่อยใู่ นกล่มุ เส่ียงกลายมาเป็นผูเ้ ช่า และ มีการสนบั สนุนจากองค์กรพัฒนาสังคม รูปแบบการปดิ ศูนยพ์ กั พิงชัว่ คราว ขอ้ ดี ผลกระทบ • ภาพลกั ษณค์ วามเปน็ • การขาดตอนของเครอื ขา่ ยทาง การใชอ้ าคาร ผลลัพธ์ต่อผูพ้ กั พงิ ยา้ ยออกจากศูนย์ ตั้งทอ่ี ยอู่ าศยั แห่งใหม่ อยขู่ องชวี ติ ดขี ้ีนโดย สงั คมทส่ี รา้ งขึน้ ระหวา่ งการ รวม โยกยา้ ยท่ีอยู่อาศยั • ตอ้ งมีหลักประกนั การบริการ ข้ันพนื้ ฐานทางสงั คม (การเขา้ ถึงบรกิ ารด้านสุขภาพและการ ศกึ ษา) • ต้องคำ�นึงถึงการท�ำ มาหากิน มีค่าใช้จ่ายเพ่ิม เน่ืองจากตอ้ ง สร้างสาธารณูปโภคขน้ั พื้นฐาน (ถนน ประปา ระบบก�ำ จดั สง่ิ ปฏิกลู และระบบไฟฟ้า) ได้รับค่าชดเชย • มีหลากหลายทางเลือก • ราคาทพ่ี ักอาศัยในทอ้ งตลาด ในการเลอื กประเภท เพิม่ สงู ขึน้ ท�ำ ใหย้ ากต่อการ และท�ำ เลท่ีตงั้ ของท่ี หาที่พักอาศัยทีเ่ หมาะสมให้ อยูใ่ หม่ แกผ่ พู้ ักพงิ • ไมจ่ �ำ เป็นต้องมีแนวคดิ • ผพู้ กั พิงรสู้ ึกถึงความไมเ่ ท่า โดยรวม เทียมกัน (ข้ึนอยู่กบั วา่ ค่า ชดเชยค�ำ นวณตอ่ หัว หรือ ต่อตารางเมตรของพ้นื ที่ ใช้สอย ฯลฯ) ตอ่ หนา้ ถดั ไป 105
รปู แบบการปิดศูนยพ์ ักพงิ ชว่ั คราว การใชอ้ าคาร ผลลพั ธต์ อ่ ผู้พักพิง ขอ้ ดี ผลกระทบ อาคารยงั คงถูกใช้ เปน็ ศูนย์พกั พิง การแปรสภาพเป็นการ • มเี ครอื ข่ายทางสงั คมที่ • ความไม่แน่ชดั เรอื่ งการถือ ครอบครองส่วนบุคคล แนน่ แฟน้ ครองกรรมสิทธิอ์ าจท�ำ ใหข้ ้นั • ได้รับบรกิ ารทางสงั คม ตอนล่าช้า • เปน็ ทางออกท่ี • ขัน้ ตอนการด�ำ เนินการทาง ประหยัดค่าใชจ้ า่ ย กฎหมายซับซอ้ นและยืดเยอื้ • รัฐแบง่ รับแบ่งสทู้ ่จี ะถ่ายโอน การถอื ครองกรรมสิทธ์ิ สถานภาพท่ี โครงการเคหะชุมชน • เป็นแนวทางออกที่ • คณุ สมบตั ิของผูม้ ีสทิ ธอิ ิง ไมช่ ดั เจน เหมาะสมกบั ผู้ที่อยู่ใน จากความเส่ยี ง แทนทจ่ี ะอิง กลุ่มเสีย่ ง จากสถานภาพความเปน็ อยู่ แนวทางแก้ ไข (เฉพาะผู้ท่อี ยู่ในกลมุ่ เสี่ยงจึง ปญั หาแบบ ไดร้ ับเขา้ ร่วมโครงการ) บรู ณาการ • เปน็ แนวทางแกป้ ญั หาท่มี ี ค่าใช้จา่ ยสูง และอาศยั ความ สนับสนนุ จากภาครฐั อย่าง ตอ่ เนื่อง ต่อจากหนา้ ทแี่ ลว้ ฝ่ายประสานงานกลางของศูนย์พักพิงช่ัวคราวมีบทบาทหน้าที่สำ�คัญในการ ส่งเสริมแนวทางแก้ไขปญั หาแบบบรู ณาการ ซึ่งเปน็ ครอบคลุ มถึงปัจจยั สำ�คัญ ทั้งหมดของการดำ�รงชีวิตอย่างมศี กั ดศ์ิ รี รวมถึงทีพ่ ักอาศัยและสาธารณูปโภค ท่เี หมาะสม การเข้าถึงบรกิ ารขนั้ พื้นฐาน ทางสงั คม การทำ�มาหากิน การไดร้ ับ ข้อแนะน�ำ การชดเชยสทิ ธิ รวมถึงสทิ ธิ์ในการมีส่วน ร่วมในฐานะประชาชน พรอ้ มกันน้ี ควร แนวทางการแก้ปัญหาท่ยี ่ังยืน พิจารณาแนวทางออกที่ย่ังยืนในการให้ คือ แนวทางทอ่ี าศัยความร่วม ความช่วยเหลอื ตามความจำ�เป็น เช่น มอื จากทุกภาคสว่ น การแจกชุดความช่วยเหลือให้แก่ผู้พักพิง ทีเ่ ดินทางกลบั ท่ีพักอาศยั แนวทางการ ควรระวงั ไมใ่ ห้มกี ารแกไ้ ขปัญหาเฉพาะเรือ่ งที่อยอู่ าศัยเพยี งอยา่ งเดียว องค์ แก้ไขปัญหา ประกอบทั้งหมดของแนวทางที่กล่าวมาข้างต้นล้วนแต่ต้องอาศัยการแก้ไขท่ีมี อยา่ งยัง่ ยนื ประสิทธิผลเพอื่ การหาทางออกท่ยี ง่ั ยืนให้แก่ผพู้ ักพิง เอกสารเพอ่ื ศกึ ษาเพิม่ เติม NRC, 2008. The Camp Management Toolkit; Chapter 7: Camp Set-up and Closure. ที่: http://www.nrc.no/arch/_img/9293559.pdf 106
กล่มุ ประสานงานการบริหารจดั การทอ่ี ยอู่ าศัยชั่วคราว Camp Coodination and Camp Management Cluster
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118