Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หิ่งห้อย

Description: หิ่งห้อย

Search

Read the Text Version

ห่ิงห้อย รหสั แสงจากหิ่งห้อย วงจรชีวติ หิ่งห้อย หิ่งห้อย เป็ นแมลงจาพวกดว้ ง (Beetle) มี 2 ประเภท คือ ห่ิงห้อยที่พบไดบ้ ่อยๆ มกั จะกะพริบแสงสีเหลือง เขียว ชีวิตของหิ่ งห้อย เร่ิ มต้นข้ึนจากไข่ หนอน ดักแด้ ห่ิงหอ้ ยน้าจืด หรือหิ่งหอ้ ยบก และหิ่งห้อยน้ากร่อย หรือหิ่งห้อยป่ า เหลืองฟ้ า หรือแดงสม้ และหากเขา้ ไปสงั เกตใกลๆ้ ตน้ ลาพู จะ จนกระทงั่ โตเตม็ วยั กลายเป็นหิ่งหอ้ ย ห่ิงหอ้ ยตวั เมียจะวางไข่คร้ัง ชายเลน หรือ หิ่งหอ้ ยป่ าเลน พบว่า ตวั ที่บินไปมาตามพุ่มไมเ้ ป็ นห่ิงห้อยหนุ่ม ส่วน หิ่งห้อย ละหลายร้อยฟองบนดิน ก่ิงไมห้ รือใบหญา้ ในช่วงมิถุนายนจนถึง สาวๆ มกั เกาะนิ่งๆ อยตู่ ามก่ิงไมใ้ บไม้ พฤติกรรม ดงั กล่าว ส่ือถึง กรกฎาคม เม่ือวางไข่เรียบร้อยแลว้ แม่หิ่งหอ้ ยจะไม่ยอ้ นกลบั มาดู ห่ิงหอ้ ยป่ าชายเลน เป็นหิ่งหอ้ ยที่มีขนาดเลก็ มีจุดเด่น คือมี รูปแบบการสืบพนั ธุ์ของสัตวเ์ รืองแสงชนิดน้ี เนื่องจากห่ิงหอ้ ยใช้ ไข่ที่มนั วางไวอ้ ีกเลย ไข่ห่ิงหอ้ ยใชเ้ วลาราว 3 สปั ดาห์ จึงฟักเป็น การกระพริบแสงเป็นจงั หวะพร้อม ๆ กนั การกะพริบแสงสื่อสารกบั เพศตรงขา้ ม เป็ นการประกาศตัว ตวั หนอน ในระยะท่ีเป็นตวั หนอน จะออก หากินเฉพาะในเวลา แบบออ้ มๆ ว่า ห่ิงหอ้ ยตวั น้ีพร้อมแลว้ ที่จะ มีการสืบพนั ธุ์และ กลางคืนเท่าน้นั ในช่วงน้ีหนอนห่ิงหอ้ ยจะยงั อย่ใู นร่างหนอนนอ้ ย การกระพริบแสง เป็ นการบอกพิกัดตาแหน่งที่มนั อยู่ ห่ิงห้อยตวั ผูจ้ ะเป็ นฝ่ ายเริ่ม ไปราว 1-2 ปี หลงั จากน้นั กจ็ ะเริ่มเปลี่ยนเป็ นดกั แดแ้ ละฝังตวั อยู่ กะพริบแสงก่อน เม่ือตวั เมียเห็นลีลาการกะพริบหรือจะเรียกว่า ใต้ดิน รอจนกว่าปี กจะงอกออกมา จึงออกมาจากที่ซ่อนตัว เป็ นการส่งสัญญาณใหเ้ พศตรงขา้ มสนใจ และเขา้ มาผสม ความถี่ในการส่งสญั ญาณ แลว้ เกิดถูกอกถกู ใจ กจ็ ะส่งสญั ญาณ กลายเป็นหิ่งหอ้ ยโตเตม็ วยั ชีวิตหลงั จากน้ี ห่ิงหอ้ ยจะไม่แตะตอ้ ง พนั ธุ์ ซ่ึงห่ิงหอ้ ยแต่ละชนิดจะมีสัญญาณท่ีแตกต่างกนั ท้งั กะพริบชา้ ตอบกลบั ไปยงั ตวั ผู้ จากน้นั ตวั ผูก้ ็จะบินมาหา ตวั เมียเพ่ือเขา้ สู่ อาหารใดนอกจากน้าคา้ งบนใบหญา้ ใบไม้ เท่าน้นั ระยะน้ีถือว่า เร็ว แสงท่ีกะพริบอาจเปลี่ยนสีไดต้ ามสถานที่ท่ีมนั อยู่ และหิ่งห้อย กระบวนการสืบพนั ธุ์ในท่ีสุด เป็ นระยะสุดทา้ ยของวงจรชีวิตห่ิงห้อยแลว้ เพราะพวกมนั จะมี ตวั เมียบางตวั ยงั มีพฤติกรรมกินห่ิงหอ้ ยดว้ ยกนั โดยมนั จะกะพริบ ชีวิตอยไู่ ดอ้ ีกเพียง 3 สปั ดาหก์ จ็ ะตาย แสงล่อใหต้ วั ผบู้ ินเขา้ มาหา การกะพริ บแสงของห่ิ งห้อยน้ันเกิ ดข้ึ นโดยอาศัย กระบวนการทางเคมี บริเวณที่เรืองแสงไดข้ องห่ิงหอ้ ยน้นั จะอย่ทู ี่ บริเวณปลอ้ งทา้ ยซ่ึงมีสารท่ีช่ือว่า ลูซิเฟอริน เมื่อทาปฏิกิริยากบั ออกซิเจน และพลงั งานจากโปรตีน ATP ซ่ึงเป็ นโปรตีนท่ีให้ พลงั งานในเซลล์ ทาใหเ้ กิดกระบวนการเผาไหมภ้ ายในเซลล์ เกิด เป็นพลงั งานแสงข้ึนมา ทาให้เราเห็นแสงเรืองๆ สวา่ งออกมาจาก ปลอ้ งลาตวั ของมนั

ประโยชน์ของห่ิงห้อย เพศเมีย สามารถเลียนแบบการเรืองแสงของหิ่งห้อยเพศเมีย ห่งิ ห้อย... พนั ธุ์อ่ืนได้ เพื่อล่อใหต้ วั ผเู้ ขา้ มาผสมพนั ธุ์กบั มนั แต่เม่ือตวั ผเู้ ขา้ เป็นตวั บ่งช้ีถึงความสมบูรณ์หรือความเส่ือมโทรมของ มากจ็ ะถกู หิ่งหอ้ ยเพศเมียตวั ดงั กลา่ วจบั กินเป็นอาหารทนั ที มหัศจรรย์แห่ง “แมลงมีแสง” ระบบนิเวศ และตวั ออ่ นของหิ่งหอ้ ยมกั ดาเนินชีวิตเป็นผลู้ ่าเหยื่อ โดยกินใส้เดือนดิน หอย และทากเป็ นอาหาร ในการล่าเหยื่อ เอกสารเผยแพร่ กิจกรรมบริหารจดั การความหลากหลายทางชีวภาพ หิ่งหอ้ ยใชก้ ารตามรอยเหย่ือจากเมือกลื่นๆท่ีเหย่ือทิ้งไวต้ ามรอย ทางเดิน และเมื่อพบเหย่ือซ่ึงโดยทวั่ ไปจะมีขนาดใหญ่กว่า ตวั กลุ่มงานวชิ าการ สานกั บรหิ ารพนื้ ที่อนุรกั ษท์ ี่ 5 อ่อนหิ่งหอ้ ยจะปล่อยสารเคมีบางอย่างออกมาจากเข้ียว (ซ่ึงใน กรมอทุ ยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุพ์ ืช แมลงเรียกว่า mandible แต่ในสัตวม์ ีกระดูกสันหลงั mandible หมายถึงขากรรไกรล่าง) ซ่ึงจะมีฤทธ์ิทาให้เหย่ือเป็ นอมั พาต ห ลั ง จ า ก น้ั น ก็ จ ะ จั บ เ ห ยื่ อ กิ น เ ป็ น อ า ห า ร นอกจากน้ียงั มีการพบว่า ตวั อ่อนหิ่งห้อยสามารถกิน อาหารท่ีเป็นซากสตั วท์ ี่ตายแลว้ ได้ (คือเป็น scavenger) และเม่ือ ห่ิงหอ้ ยโตเตม็ วยั โดยทว่ั ไปมนั จะกินนาหวานจากดอกไมเ้ พื่อใช้ สร้าง พลงั งานในการดารงชีวิต ในระยะน้ีหิ่งหอ้ ยจะยงั มีเข้ียวอยู่ ห่ิงหอ้ ยบางชนิดใชก้ ารพรางตวั เพื่อทาทีว่า \"อยากจะผสมพนั ธุ์ กบั ห่ิงหอ้ ยอีกชนิดหน่ึง\" แต่จริงๆ แลว้ ก็เขา้ ไปเพ่ือจบั หิ่งห้อย อี ก ช นิ ด ห น่ึ ง กิ น เ ป็ น อ า ห า ร ดงั น้นั เราจะเห็นไดว้ ่า วตั ถุประสงคข์ องหิ่งหอ้ ยในการ สร้างแสงวบั ๆ ข้ึนมาก็เพื่อสืบพนั ธุ์ และหลอกล่อเหยื่อเพราะ ห่ิ งห้อยแต่ ละชนิ ดมีรู ปแบบและระยะเวลาของการสร้างแสง วบั ๆ แตกต่างกนั นักวิทยาศาสตร์จึงสามารถจาแนกชนิดของ ห่ิงหอ้ ยไดโ้ ดย การดแู สงวบั ๆ ถึงแมจ้ ะไม่แม่นยาเหมือนการจบั ตวั หิ่งห้อยมาศึกษาก็ตาม เพราะเจา้ หิ่งห้อยท่ีชื่อ Photuris sp.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook