การเพาะเล้ยี งปลาบู กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ รูปรางลักษณะ การแพรกระจาย แหลง ทอ่ี ยอู าศยั การสืบพันธุ การเพาะเลี้ยงปลาบู การอนุบาล รูปแบบการเลี้ยงปลาบู โรคพยาธิและการปอ งกนั การรักษาปลาเปนโรค การรวบรวมลูกปลา การตลาด ราคาและผลตอบแทน
การเพาะเลี้ยงปลาบู 2 การขนสงลําเลยี ง การใชประโยชน การแปรรูปปลาบู คําแนะนํา การปองกันสัตวนํ้าจากภัยธรรมชาติ การเพาะเลย้ี งปลาบู ปลาบู หรอื บทู ราย บจู าก บทู อง บเู ออ้ื ย บูสิงโต มชี อ่ื สามญั วา Sand Gody, Marbled Sleepy Gody และชื่อวิทยาศาสตร Oxyleotris mamorata Bleeker ปลาบเู ปน ปลาทม่ี คี วามสําคัญทาง เศรษฐกิจชนิดหนึ่ง ซึง่ ผลผลติ สวนใหญถูกสง ออกไปจําหนายตา งประเทศสามารถทํารายไดเ ขา ประเทศ แตล ะปม มี ลู คา หลายสบิ ลา นบาง ไดแก ฮอ งกง สงิ คโปร มาเลเซยี ฯลฯ เนอ่ื งจากความตอ งการปลา บูท รายจากตา งประเทศมีเพิ่มขึ้นทุกปเ ปน ผลใหปลาบทู รายมีราคาแพงขน้ึ ในอดตี การเลย้ี งปลาบทู ราย นยิ มเลย้ี งกนั มาในกระชงั แถบลมุ น้ําและลําน้าํ สาขาบรเิ วณภาคกลางตง้ั แตจ งั หวดั นครสวรรค อทุ ยั ธานี เรอ่ื ยมาจนถงึ จงั หวดั ปทุมธานี โดยมจี งั หวดั นครสวรรค เปนแหลงเลี้ยงสง ออกทใ่ี หญท ่สี ดุ สําหรับ ปญ หาการเลย้ี งปลาบทู รายขณะนม้ี ี 3 ประการ คอื 1. พันธปุ ลาทีน่ บั วนั จะหายาก ไมเพียงพอตอความตองการ 2. ผเู ลย้ี งยงั ขาดความรแู ละเทคโนโลยใี หม ๆ ในการเพาะเลย้ี ง 3. สภาพสง่ิ แวดลอ มเปลย่ี นแปลง ไมเ ออ้ื อํานวยตอ การเพาะเลย้ี งปลา รปู รา งลกั ษณะ ปลาบทู รายมลี กั ษณะลําตวั กลมยาว ความลกึ ลําตวั ประมาณ 1 ใน 3.5 ของความยาวมาตรฐาน ของลาํ ตวั สวนหัวยาว 1 ใน 2.8 ของความยาวมาตรฐานของลําตวั หวั คอ นขา งโต และดา นบนของหัว แบนราบ หัวมีจุดสีดําประปราย ปากกวางใหญเปด ทางดา นบนตอนมมุ ปากเฉยี งลงและยาวถงึ ระดบั กง่ึ กลางตา ขากรรไกรลา งยน่ื ยาวกวา ขากรรไกรบน ทง้ั ขากรรไกรบนและลา งมฟี น แหลมซเ่ี ลก็ ๆ ๐ กลับไปหนากอนนี้ ๐ หนาถัดไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเพาะเลี้ยงปลาบู 3 ลักษณะฟนเปนแบบฟนแถวเดียว ลกู ตาลกั ษณะโปนกลมอยบู นหวั ถดั จากรมิ ฝป ากบนเลก็ นอ ย รจู มกู คู หนา เปน หลอดยน่ื ขน้ึ มาอยตู ดิ กบั รอ งทแ่ี บง จะงอยปากกบั รมิ ฝป ากบน ครีบหูและครีบหาง มลี กั ษณะ กลมมนใหญ มลี วดลายดําสลบั ขาว มกี า นครบี ออ นอยู 15-16 กา น ครบี หลงั 2 ครบี ครบี อนั หนา สน้ั เปน หนาม 6 กา น เปน กา นครบี สน้ั และเปน หนาม ครบี อนั หลงั เปน กา นครบี ออ น 11 กา น ครบี ทอ งหรอื ครบี อกอยแู นวเดยี วกบั ครบี หแู ละมกี า นครบี ออ น 5 กา น ครบี อกของปลาบไู น Subfamily Eleotrinae แยกจากกันอยางสมบูรณ ซง่ึ แตกตา งจากปลาบชู นดิ อน่ื ในครอบครวั Gobiidae ซง่ึ มคี รบี ทอ งตดิ กนั เปน รปู จาน ครบี กน อยใู นแนวเดยี วกบั ครบี หลงั อนั ทส่ี อง มกี า นครบี ออ น 7 กา น และมอี ยู ในแนวเดยี วกบั ครบี หลงั อนั ทส่ี อง และมคี วามยาวครบี เทา กบั ครบี หลงั อนั ทส่ี อง สว นของครบี มลี าย สนี า้ํ ตาลดาํ แดงสลบั ขาวเปน แถบ ๆ และมจี ดุ สดี ํากระจายอยูทั่วไป ลําตวั มเี กลด็ แบบหนามคลา ยซหี วี และมแี ถบสดี ําขวางลําตวั 4 แถบ ดา นทอ งมสี อี อ น สตี วั ของปลาบทู รายแตกตา งกนั ไปตามถน่ิ ทอ่ี ยู อาศยั ปลาบทู รายจดั เปน ปลาขนาดกลางและเปน ปลาชนดิ เดยี วในครอบครวั นท้ี ่ีมขี นาดใหญท ส่ี ดุ ปกติ มขี นาดประมาณ 30 เซนตเิ มตร เคยพบยาวถึง 60 เซนตเิ มตร การแพรกระจาย ปลาบทู ราย เปน ปลาทเ่ี ราสามารถพบไดท ว่ั ไปในน้ําจดื และน้ํากรอ ยเลก็ นอ ย ในหลายประเทศ โดยเฉพาะในแถบเอเซยี ตะวนั ออกเฉยี งใตแ ละหมเู กาะมลายู ไดแก บอรเ นยี ว เกาะสมุ าตรา อนิ โดนเี ซยี มาเลเซยี จีน ไทย สําหรับในประเทศไทยพบปลาบูขยายพันธุทั่วไปตามแมนํ้าลําคลอง และสาขาทว่ั ทกุ ภาคตามหนองบงึ และอา งเกบ็ น้ําตา ง ๆ เชน แมน ้ําเจาพระยา ปากน้ําโพ บงึ บอระเพด็ แมน า้ํ ลพบรุ ี แมน ้ําทาจีน อา งเกบ็ น้ําเขอ่ื นอบุ ลรตั น จงั หวดั ขอนแกน อา งเกบ็ น้ํา ลาํ ตะคอง จงั หวดั นครราชสมี า อา งเกบ็ น้ําเขอ่ื นสริ กิ ติ จงั หวดั อตุ รดติ ถ อา งเกบ็ น้ําบางพระ จังหวัด ชลบุรี อา งเกบ็ น้ําเขอ่ื นบางลาง จังหวัดยะลา จังหวัดสุโขทัย จังหวัดพิจิตร จังหวัดพิษณุโลก และ ทะเลนอย จังหวดั สงขลา แหลง ทอ่ี ยอู าศยั ปลาบทู รายเปน ปลากนิ เนอ้ื ทช่ี อบอยนู ง่ิ ๆ ตามดนิ ออ น พน้ื ทรายและหลบซอ นตามกอ นหนิ ตอ ไม เสาไม รากหญาหนา ๆ เพอ่ื รอใหเ หยอ่ื ผา นมาแลว เขา โจมตที นั ทดี ว ยความเรว็ ปลาบูทรายพบทั้ง ในนาํ้ จดื และน้ํากรอ ยเลก็ นอ ย ลกู ปลาบทู รายชอบซอ นตวั บรเิ วณรากพชื พนั ธไุ มน ้ํา พวกรากจอก ราก ผัก การสบื พนั ธุ 1. ความแตกตา งลกั ษณะเพศ การสงั เกตลกั ษณะความแตกตา งระหวา งปลาบเู พศผแู ละ เพศเมยี ดูไดจากอวัยวะเพศที่อยูใกลรูทวาร ปลาเพศผมู อี วยั วะเพศเปน แผน เนอ้ื ขนาดเลก็ สามเหลย่ี ม ๐ กลับไปหนากอนนี้ ๐ หนาถัดไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเพาะเลี้ยงปลาบู 4 ปลายแหลม สว นตวั เมยี มอี วยั วะเพศเปน แผน เนอ้ื ขนาดใหญแ ละปา นตอนปลายไมแ หลมแตเ ปน รขู นาด ใหญลักษณะคลายถวยนํ้าชาขนาดเลก็ เมอ่ื พรอ มผสมพนั ธปุ ลายอวยั วะเพศทง้ั ตวั ผแู ละเมยี มสี แี ดง บาง ครง้ั เหน็ เสน เลอื ดฝอยสแี ดงทม่ี าเลย้ี งอวยั วะเพศไดช ดั เจน 2. การเจรญิ พนั ธแุ ละฤดกู าลวางไข ปลาบโู ตเตม็ วยั เมอ่ื มคี วามยาวประมาณ 30 เซนตเิ มตร ขนึ้ ไป ปลาบทู ส่ี ามารถขยายพนั ธไุ ดม ขี นาดตง้ั แต 8 เซนตเิ มตรขน้ึ ไป สําหรบั ปลาเพศเมยี ทม่ี รี งั ไข แกเ ตม็ ทม่ี ขี นาดความยาวสดุ ปลายหาง 12.5 เซนตเิ มตร น้าํ หนกั 34 กรัม และเพศผมู ถี งุ น้ําเชื้อ แกเ ตม็ ทม่ี คี วามยาว 14.5 เซนตเิ มตร น้าํ หนกั 44 กรัม ปลาบจู ะเรม่ิ สรา งอวยั วะเพศภายในตง้ั แต เดอื นมกราคมซง่ึ ในระยะแรกยงั ไมส ามารถแยกออกไดว า เปน รงั ไขห รอื ถงุ น้าํ เชื้อ เมอ่ื ถงึ เดอื นมนี าคมจงึ จะแยกออกไดโ ดยรงั ไขจ ะมจี ดุ สขี าวเลก็ ๆ แลว เจรญิ เปน เมด็ ไขต อ ไป แตถ า เปน ถงุ น้ําเชื้อก็จะเปน สขี าวทบึ ขึ้นจากเดมิ รงั ไขท แ่ี กจ ดั มสี เี หลอื งเขม มเี มด็ ไขอ ยเู ตม็ และมเี สน เลอื ดมาหลอ เลย้ี ง สว นถงุ น้ํา เชื้อที่แกจัดจะมีลักษณะเปนลายมีรอยหยักเล็กนอยและมีสีขาวทึบ ปลาบสู ามารถวางไขไ ดเ กอื บตลอดทง้ั ปย กเวน ในชว งฤดหู นาว ตลอดฤดกู าลการวางไขป ลาบู สามารถวางไขไ ดป ระมาณ 3 ครง้ั ตอ ไป 3. พฤตกิ รรมการผสมพนั ธแุ ละวางไข การผสมพนั ธปุ ลาบใู นธรรมชาตพิ บวา ปลาบูตัวผูจะ หาสถานทใ่ี นการวางไข ไดแก ตอไม เสาไม ทางมะพรา ว ฯลฯ แลวทําความสะอาดวสั ดดุ งั กลา ว หลงั จากนน้ั ตวั ผจู ะเขา เกย้ี วพาราสพี รอ มไลต อ นตวั เมยี ใหไ ปทร่ี งั ทเ่ี ตรยี มไวเ พอ่ื การวางไข การผสมพนั ธุ ปลาบเู รม่ิ ตง้ั แตต อนหวั ค่ําจนถงึ ตอนเชา มดื โดยผสมพันธุแบบภายนอกตัวปลา คอื ตวั เมยี ปลอ ยไข ออกมาตดิ กบั วสั ดแุ ลว ตวั ผปู ลอ ยน้ําเชอ้ื ออกมาผสม โดยทไ่ี ขป ลาบจู ะตดิ กบั ตอไม เสาไมห รอื วสั ดอุ น่ื ๆ ทป่ี ลาบสู ามารถวางไขต ดิ และตวั ผจู ะเฝาดแู ลไข โดยใชครีบหูหรือครีบหางพัดโบกไปมา ไขที่ไดร บั การ ผสมจะฟก เปน ตวั ภายในเวลา 28 ชั่วโมง ที่อุณหภูมิ 25-27 องศาเซลเซยี ส 4. ความดกของไข ปลาบเู ปน ปลาทม่ี รี งั ไขแ บบ 2 พู ปลาบทู ม่ี ขี นาดความยาว 15.2 เซนตเิ มตร มนี ้าํ หนกั รงั ไข 1.6 กรัม และมีจํานวนไขป ระมาณ 6,800 ฟอง และปลาทม่ี คี วามยาว 21.5 เซนตเิ มตร มนี ้าํ หนกั รงั ไข 4.7 กรัม คดิ เปน ไขป ระมาณ 36,200 ฟอง ววิ ฒั นาการของไขป ลาบู ไขท ย่ี งั ไมไ ดร บั การผสมมเี สน ผา ศนู ยก ลางประมาณ 0.83 มลิ ลเิ มตร ความยาวของไขป ระมาณ 1.67 มลิ ลเิ มตรเมอ่ื ยดึ ตดิ กบั วสั ดลุ กู ปลาบใู ชเ วลาฟก ออกเปน ตวั หลดุ ออกจาก เปลอื กไขจ มลงสพู น้ื ประมาณ 32 ชั่วโมง ถึง 5 วัน แลว ลอยไปตามกระแสน้ํา ลกู ปลาอายุ 2 วนั หลงั ฟก ลกู ปลาเรม่ิ กนิ อาหาร เนอ่ื งจากถงุ ไขแ ดงยบุ หมดและเหน็ ปากชดั เจน มกี ารวา ยน้ําในลกั ษณะแนวดง่ิ คอื พงุ ขน้ึ และจมลง มคี วามยาวเฉลย่ี 4 มลิ ลเิ มตร อายุประมาณ 7 วัน ลกู ปลามคี วามยาวประมาณ 4.6 มลิ ลเิ มตร มลี ายสดี ําเขม ทบ่ี รเิ วณสว น ทอ งดา นลา งไปจนถงึ โคนครบี หางตอนลา ง อายปุ ระมาณ 15 วัน ลกู ปลามคี วามยาวเพม่ิ ขน้ึ เปน 5.05 มลิ ลเิ มตร อายปุ ระมาณ 20 วัน ลกู ปลามคี วามยาวเพม่ิ ขน้ึ เปน 7.6 มลิ ลเิ มตร อายุประมาณ 30 วัน ลกู ปลามคี วามยาวประมาณ 8-10 มลิ ลเิ มตร เกดิ ลายพาดขวางลําตวั คลายพอแม สว นเนอ้ื ใสไมม ลี ายและสามารถมองเหน็ อวยั วะภายใน อายปุ ระมาณ 37-45 วัน ลกู ปลามลี กั ษณะคลา ยพอ แมเ พยี งแตม ขี นาดเลก็ สว นทเ่ี ปน เนอ้ื ใส เปลย่ี นเปน ขนุ สนี ้ําตาลเหลอื ง ๐ กลับไปหนากอนนี้ ๐ หนาถัดไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเพาะเลี้ยงปลาบู 5 การเพาะเลย้ี งปลาบู เดมิ การเลย้ี งปลาบใู ชว ธิ ชี อ นลกู ปลาตามรากหญา รากพนั ธไุ มน ้ําในลําคลอง หนองบึง ใน ปจ จบุ นั เนอ่ื งจากสภาพแวดลอ มเสอ่ื มโทรม การใชเ ครอ่ื งมอื จบั ปลาผดิ ประเภทและการทําการประมง เกนิ ศักยภาพ ทําใหล กู ปลาในธรรมชาตมิ ปี รมิ าณลดลง แตเ นอ่ื งจากความตอ งการปลาบเู พอ่ื การ บรโิ ภคและการสง ออกมจี ํานวนสงู ยง่ิ ๆ ขน้ึ จึงทําใหม กี ารขยายตวั ดา นการเลย้ี งปลาบู ซง่ึ กรมประมงได ประสบความสําเรจ็ ในการเพาะพนั ธปุ ลาบู แตก ย็ งั ไมเ พยี งพอตอ ความตอ งการ การเพาะพันธปุ ลาบูมี 2 วิธี คือ 1. วธิ กี ารฉดี ฮอรโ มน 2. วธิ เี ลยี นแบบธรรมชาติ สถานีประมงนํ้าจดื จงั หวดั ปทมุ ธานี ไดพ ฒั นาการเพาะพนั ธุปลาบเู ปนเชิงพาณิชยไ ดส ําเรจ็ โดยเนน การเพาะพนั ธวุ ธิ เี ลยี นแบบธรรมชาตซิ ง่ึ ใหจ ํานวนรงั ไขไ ดม ากกวา วธิ ฉี ดี ฮอรโ มนผสมเทยี ม และ สามารถอนบุ าลลกู ปลาบโู ดยการใชอ าหารธรรมชาตมิ ชี วี ติ ไดอ ยา งมปี ระสิทธิภาพซึ่งมีวิธีดําเนนิ การ ดงั น้ี 1. การคดั เลอื กพอ แมพ นั ธทุ ด่ี มี ผี ลทําใหอ ตั ราการฟก และอตั รารอดตายสงู และไดล กู ปลา ที่แข็งแรง พอ แมพ นั ธปุ ลาบทู ด่ี คี วรมลี กั ษณะ 1.1 ควรเปน ปลาวยั เจรญิ พนั ธุ เพราะไขท ไ่ี ดม อี ตั ราการฟก และอตั รารอดตายสงู 1.2 พอ แมพ นั ธคุ วรมนี ้ําหนกั อยใู นชว ง 300-500 กรัม แตไมค วรเกิน 1 กิโลกรัม และ ไมค วรเปน ปลาทอ่ี ว นหรอื ผอมเกนิ ไป 1.3 เมอ่ื จบั พอ แมพ นั ธขุ น้ึ มาจากทก่ี กั ขงั ใหม ๆ ควรรบี คดั ปลาทม่ี สี นี วลดปู ราดเปรยี ว และ ควรเปน ปลาทป่ี รบั สสี สู ภาพเดมิ ไดเ รว็ เมอ่ื หายตกใจ ไมค วรคดั พอ แมพ นั ธทุ ม่ี สี เี หลอื งซดี ผดิ ปกติ 1.4 เมอ่ื ลบู ตามตวั ปลาจากหวั ไปหางแลว รสู กึ ตวั ปลาลน่ื แสดงวา เปน ปลาท่ีมสี ุขภาพดี 1.5 บรเิ วณนยั ตต าไมข าวขนุ 1.6 ไมใชปลาที่จับได โดยการใชไฟฟา ชอ็ ตเพราะเม่อื เลี้ยงไปสักระยะหนงึ่ แลว ปลาจะตาย มากหรือตายหมดทั้งกระชัง 1.7 ไมม พี ยาธภิ ายนอกหรอื เชอ้ื ราเกาะตามลําตวั ถา มปี รมิ าณไมม ากควรกําจัด รักษา และ ปอ งกนั กอ นนําไปทําเปน พอ แมพ นั ธุ 1.8 บรเิ วณครบี อก ครีบหู ครีบหาง และครบี ทอ งไมค วรมบี าดแผลฉกี ลกึ ถงึ โคนครบี 1.9 ตามลําตวั ไมค วรมบี าดแผลถงึ แมจ ะเปน บาดแผลเลก็ ๆ ก็ตามเพราะจะทําใหต ดิ เชอ้ื โรค และลกุ ลามถงึ ตายในทส่ี ดุ ถาจําเปน ควรรกั ษาใหห ายกอ นนําไปเปน พอ แมพ นั ธุ ๐ กลับไปหนากอนนี้ ๐ หนาถัดไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเพาะเลี้ยงปลาบู 6 2. การเตรยี มบอ พอ แมพ นั ธุ การเตรยี มบอ พอ แมพ นั ธโุ ดยวธิ เี ลยี นแบบธรรมชาติ ขนาดบอ เพาะพนั ธไุ มค วรใหญห รอื เลก็ จนเกนิ ไปเพอ่ื สะดวกตอ การดแู ลและจดั การกับพอแมพันธุ สาํ หรับบอ ขนาด 800 ตารางเมตร ปลอยพอแมพ ันธุ 150 คู ใหผลผลิตดีที่สุด การเตรยี มบอควรวิดบอใหแ หง พรอ มกําจดั ศตั รปู ลาออกใหห มด และที่สําคญั ควรเกบ็ วสั ดทุ ป่ี ลาสามารถใชเ ปน ทว่ี างไขไ ดอ อกใหห มด เชน พวกรากไม ตอไม หิน พืชนํ้า ทางมะพรา ว หรอื วสั ดอุ น่ื เนอ่ื งจากปลาจะวางไขท ว่ี สั ดทุ ไ่ี มไ ดจ ดั เตรยี มไว ซง่ึ ยงุ ยากตอ การรวบรวมรงั ไขป ลาบแู ละการฟก ไขอ กี ดว ย ควรตากบอ ทง้ิ ไว 2-3 วัน แลว ใส ปนู ขาวในอตั รา 50-100 กิโลกรัม/ไร ใสป ยุ คอกในอตั รา 100-150 กโิ ลกรมั ตอ ไร จากนน้ั เปด น้ํา เขา บอ และควรกรองน้ําดว ยตะแกรงตาถ่ี เพอ่ื ปอ งกนั ไขป ลาและลกู ปลาชนดิ อน่ื ๆ ซง่ึ ถอื วา เปน ศตั รโู ดย ตรงตอ ไขป ลาบู เนอ่ื งจากลกู ปลาเหลา นเ้ี ขา มากนิ ไขป ลาบไู ดถ งึ แมว า พอ แมพ นั ธปุ ลาบคู อยเฝา รงั ไขอ ยกู ็ ตาม อกี ทง้ั ยงั เปน ศตั รทู างออ ม คอื ไปแยง อาหารปลาบอู กี ดว ย สาํ หรบั ระดบั น้ําในบอ ควรใหอ ยใู นชว ง 1.00-1.10 เมตร แลวทิ้งไว 2-3 วัน เพอ่ื ใหเ กดิ อาหารธรรมชาตขิ น้ึ ในบอ และควรทําการวเิ คราะหค ณุ สมบตั ขิ องนํ้ากอ นปลอ ยปลาเพอ่ื ใหแ นใ จวา น้ํานน้ั มคี วามเหมาะสมแลว จงึ ปลอ ยพอ แมพ นั ธุ 3. การเลย้ี งและดแู ลพอ แมพ นั ธุ การเลย้ี งพอ แมพ นั ธปุ ลาบคู วรใหอ าหารผสมซง่ึ มสี ตู รอาหาร ดงั น้ี ปลาเปด 94 เปอรเ ซน็ ต ราํ ละเอยี ด 5 เปอรเ ซน็ ต วติ ามนิ และเกลอื แร 1 เปอรเ ซน็ ต อาหารผสมดงั กลา วใหใ นอตั รา 5 เปอรเ ซน็ ตข องน้ําหนักปลาทุกวันหรือ 10 เปอรเ ซน็ ตข องน้ํา หนักปลาทุก 2 วัน เมอ่ื ปลามคี วามคนุ เคยกบั สตู รอาหารดงั กลา วแลว ถา หากผเู ลย้ี งตอ งการเปลย่ี น สูตรอาหารควรเปล่ียนทีละนอยโดยเพ่ิมอาหารสูตรใหมในอาหารสูตรเดิมสําหรับม้ือแรกท่ีจะเปลี่ยน อาหาร ควรมอี ตั ราสว นอาหารเดมิ ตอ อาหารใหมไ มเ กนิ 1 : 1 โดยน้ําหนกั เนอ่ื งจากปลาบจู ะไมย อมรบั อาหารที่เปลี่ยนใหใหมทันที นสิ ยั ปลาบชู อบออกหากนิ ตอนเยน็ และในเวลากลางคนื ควรใหอ าหารปลา บตู อนเย็น สว นการจดั การน้ําในบอ ควรเปลย่ี นถา ยน้ําเดอื นละประมาณหนง่ึ ในสข่ี องปรมิ าตรน้ําในบอ ซง่ึ นา้ํ ทเ่ี ขา บอ ควรมกี ารกรองหลายชน้ั เพอ่ื ปอ งกนั ศตั รปู ลาทง้ั ทางตรงและทางออ มเขา มากบั น้ํา พรอม ทง้ั ลอ มรว้ั รอบ ๆ บอ พอ แมพ นั ธเุ พอ่ื ปอ งกนั ศตั รปู ลาเขา บอ เชน ปลาชอ น ปลาหมอ งกู นิ ปลา ตะกวด ฯลฯ ไมใหเขามาทาํ รายพอแมพันธุที่เลี้ยงไว 4. การเพาะพนั ธปุ ลาบู การเพาะพนั ธปุ ลาบมู ี 2 วิธี คอื การฉดี ฮอรโ มน และการเลยี นแบบ ธรรมชาติ สาํ หรบั วธิ หี ลงั สามารถผลติ พนั ธปุ ลาบไู ดจ ํานวนมากและไดอ ตั ราการรอดตายสงู ๐ กลับไปหนากอนนี้ ๐ หนาถัดไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเพาะเลี้ยงปลาบู 7 4.1 วธิ กี ารฉดี ฮอรโ มน การเพาะพนั ธปุ ลาบเู รม่ิ ครง้ั แรกในป พ.ศ. 2515 โดยนําปลาบูเพศ ผทู ม่ี นี าํ้ หนกั 168 และ 170 กรัม เพศเมีย 196 และ 202 กรัม มาทําการฉดี ฮอรโ มนเพยี งครง้ั เดยี ว ดว ยตอ มใตส มองของปลาในขนาด 1,500 กรัม รว มกบั คลอรโิ อนคิ โกนาโดโทรปน (Chorionic Gonadotropin, C.G.) จํานวน 250 หนว ยมาตรฐาน (International Unit, I.U.) ฉดี เขา ตวั ปลาโดย เฉลย่ี ตวั ละ 62.5 หนว ยมาตรฐาน หลงั จากฉดี ฮอรโ มนแลว นําพอ แมพ นั ธไุ ปปลอ ยลงในบอ ซเี มนตข นด 2x3 ตารางเมตร น้าํ ลกึ 75 เซนตเิ มตร และใชท างมะพรา วเปน วสั ดใุ หแ มป ลาบวู างไข ปรากฎวา แมป ลาทม่ี นี ้ําหนกั 202 กรัม วางไขป ระมาณ 10,000 ฟอง มอี ตั ราการฟก 90 เปอรเ ซน็ ต 4.2 วธิ กี ารเลยี นแบบธรรมชาติ หลงั จากปลอ ยพอ แมพ นั ธปุ ลาบไู ด 3 วนั แลว ปกกระเบื้อง แผน เรยี บขนาด 40x60 เซนตเิ มตรหรอื วสั ดอุ น่ื ทง่ี า ยตอ การโยกยา ยลําเลียง เชน หลักไม ตอไม ฯลฯ เพอ่ื ใหป ลาบมู าวางไข นําแผน กระเบอ้ื งเหลา นไ้ี ปปก ไวเ ปน จดุ ๆ รอบบอแตละจุดปกเปน กระโจม สามเหลย่ี มและหนั ดา นทข่ี รขุ ระไวข า งใน โดยปก ดา นกวา งลงในดนิ กน บอ พรอมทั้งทําเครอ่ื งหมาย ปก หลกั ไมไ วแ สดงบรเิ วณทป่ี ก กระเบอ้ื งเพอ่ื สะดวกในการตรวจสอบและเกบ็ รงั ไข เมอ่ื ปลาบมู คี วาม คนุ เคยกับกระเบ้อื งแผนเรียบดแี ลว ในตอนเยน็ จนถงึ ตอนเชา มดื ปลาบสู ว นใหญเ รม่ิ ทําการวางไขผ สม พันธุที่กระเบื้องแผนเรียบ สว นใหญป ลาบวู างไขต ดิ ดา นในของกระโจมกระเบอ้ื ง รงั ไขป ลาบสู ว นใหญ เปน รปู วงรี แตจ ะมบี างครง้ั เปน รปู วงกลม ลกั ษณะไขป ลาบเู ปน รปู หยดน้ํา สใี ส ดา นแหลมของไขม ี กาวธรรมชาตติ ดิ อยไู วใ ชใ นการยดึ ไขใ หต ดิ กบั วสั ดุ ชวงเชาหรือเย็นของทุกวันใหทําการตรวจสอบแผน กระเบอ้ื งและนํากระเบอ้ื งทม่ี รี งั ไขป ลาบตู ดิ ไปฟก การลําเลยี งรงั ไขป ลาบคู วรใหแ ผน กระเบอ้ื งทม่ี ไี ขป ลา แชน ้ําอยตู ลอดเวลา ขอ ควรระวงั ในการเกบ็ รงั ไขข น้ึ มาฟก คอื เมอ่ื พบกระเบอ้ื งทม่ี รี งั ไขต ดิ อยแู ลว ตอ งนําขึ้นไปฟกทันที เพราะถา นํากลบั ลงไปปก ไวท เ่ี ดมิ พอ แมป ลาบทู เ่ี ฝา อยใู กล ๆ จะมากินไขห มด ในกรณีกระเบื้องแผนเรียบที่ผานการใชงานมานานควรทําความสะอาดโดยแชแผนกระเบื้องในสารเคมี กาํ จดั เชอ้ื รา ไดแก มาลาไคท ก รนี ชนดิ ปราศจากธาตสุ งั กะสี ความเขม ขน 2.4 พีพีเอ็ม ตลอดคนื กอ นนําไปปก เปน กระโจมในบอ ดนิ 5. การฟก ไข การฟกไขปลาบูทําในตกู ระจกขนาดกวา ง 47 เซนตเิ มตร ยาว 77 เซนตเิ มตร ลกึ 60 เซนตเิ มตร โดยใสน ้ําลกึ 47-50 เซนตเิ มตร กอ นนํารงั ไขม าฟก ตอ งฆา เชอ้ื ดว ย มาลาไคท ก รี น ชนดิ ปราศจากสงั กะสี ความเขม ขน 1 พีพีเอ็ม โดยวิธีจุม การฟก ไขต อ งใหอ ากาศตลอดเวลา ตกู ระจกขนาดดงั กลา ว 1 ตใู ชฟ ก รงั ไขป ลาบู 4 รงั เมอ่ื ไขฟ ก เปน ตวั จนหนาแนน ตกู ระจกแลว กร็ วบรวม ลกู ปลาไปอนบุ าลในบอ ซเี มนตข นาด 6 ตารางเมตร เนอ่ื งจากไขป ลาฟก เปน ตวั ไมพ รอ มกนั จึงจําเปน ตอ งคอยยา ยรงั ไขอ อกไปฟก ในตกู ระจกอน่ื ตอ ไปเรอ่ื ย ๆ จนกวา จะฟก เปน ตวั หมดเพอ่ื ปอ งกนั การเนา เสยี ๐ กลับไปหนากอนนี้ ๐ หนาถัดไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเพาะเลี้ยงปลาบู 8 ของน้ําในตูกระจกอันเนื่องมาจากของเสียที่ไขปลาและลูกปลาขับถายออกมาและการสลายตัวของไขเ สีย โดยปกตไิ ขป ลาจะใชเ วลาฟก ออกมาเปน ตวั หมดทง้ั รงั ประมาณ 3-5 วัน การอนบุ าล การอนบุ าลลกู ปลาบแู บง ตามอายขุ องลกู ปลาเปน 3 ระยะคือ 1) การอนบุ าลในบอ ซเี มนตข นาดเลก็ 2) การอนบุ าลในบอ ซเี มนตข นาดใหญ 3) การอนบุ าลในบอ ขนาดใหญห รอื ในบอ ดนิ 1. การอนบุ าลในบอ ซเี มนตข นาดเลก็ การอนบุ าลชว งนเ้ี ปน ชว งทส่ี ําคญั ในการเพาะขยายพันธุ ปลาบู การอนบุ าลลกู ปลาใหไ ดอ ตั ราการรอดตายต่ําหรือสงู ข้ึนอยกู บั ปจ จยั สําคญั 4 ประการ คอื อตั รา การปลอย การจดั การน้ําในการอนบุ าล การใหอ ากาศ ชนดิ อาหารและการใหอ าหาร 1.1 อตั ราการปลอ ยลกู ปลาบวู ยั ออ น ควรปลอ ยอตั รา 20,000 ตวั ตอ 6 ตารางเมตร หรือ ปรมิ าณ 3,300 ตวั /ตารางเมตร 1.2 การจดั การน้ําในการอนบุ าล เนอ่ื งจากลกู ปลาบวู ยั ออ นมขี นาดเลก็ มากและบอบช้ํางา ย ดงั นน้ั การจดั การระบบน้ําตอ งทําอยา งนมุ นวลเพอ่ื ไมใ หล กู ปลาบอบช้ํา ในการอนบุ าลวนั แรกควรเตมิ นา้ํ โดยกรองผา นผา โอลอนแกว ใหไ ดร ะดบั น้ําเฉลย่ี 20-25 เซนตเิ มตร แลวนําลกู ปลาวยั ออ นมาปลอ ย หลงั จากนน้ั ใหเ พม่ิ ระดบั น้ําทุกวัน ๆ ละ 5 เซนตเิ มตร จนไดร ะดบั น้ําเฉลย่ี 40-45 เซนตเิ มตร จงึ เรม่ิ ถา ยน้ํา 50 เปอรเ ซน็ ต ของปรมิ าณน้ําทง้ั หมดทกุ วนั จนลกู ปลาอายไุ ด 1 เดอื น การเพม่ิ ระดบั นา้ํ ในระยะแรกควรเปด น้ําเขา ชา ๆ อยา เปด น้ํารนุ แรงเพราะลกู ปลาในชว งระยะน้ี บอบบางมากและเพอ่ื ไมใ หข องเสยี ทอ่ี ยกู น บอ ฟงุ กระจายขน้ึ เปน อันตรายตอ ลกู ปลาวยั ออ น สว นการ ถา ยเทนา้ํ ในบอ ควรถา ยน้ําออกโดยใชว ธิ กี าลกั น้ําผา นกลอ งกรองน้ํา การสรา งกลอ งกรองน้ํานค้ี วรใหม ี ขนาดพอเหมาะกบั บอ อนบุ าลเพอ่ื สะดวกในการทํางานและขนยา ย กลอ งกรองน้ําทําดว ยโครงไมหรอื ทอ พวี ซี บี ดุ ว ยผาโอลอนแกว การถา ยน้ําออควรทําอยา งชา ๆ เพราะลกู ปลาบวู ยั ออ นสแู รงน้ําทด่ี ดู ออกทง้ิ ไม ได ลกู ปลาจะไปตดิ ตามแผงผา กรองตายไดใ นชว งทา ยของการอนบุ าลประมาณ 1-2 อาทิตย สามารถ เปลย่ี นผา กรองใหม ขี นาดตาใหญข น้ึ อกี เลก็ นอ ยจากเดมิ โดยใหม คี วามสมั พนั ธก บั ขนาดลกู ปลาบู 1.3 การใหอ ากาศ การใหอ ากาศในบอ อนบุ าลสําหรบั ลกู ปลาวยั ออ นในชว งครง่ึ เดอื นแรกจํา เปน ตอ งปลอ ยใหอ ากาศผา นหวั ทรายอยา งชา ๆ และคอ ย ๆ เพราะลกู ปลาระยะนย้ี งั ไมส ามารถวา ยทวน กระแสน้ําทเ่ี คลอ่ื นตามแรงดนั อากาศมาก ๆ ได 1.4 ชนดิ อาหารและการใหอ าหาร อาหารทใ่ี ชใ นการอนบุ าลลกู ปลาบสู ว นใหญเ ปน อาหาร ธรรมชาตมิ ชี วี ติ ยกเวนระยะแรกที่ลูกปลาเพิ่มฟกจะใหอาหารไขระยะตอมาใหโรติเฟอรและไรแดง วธิ กี ารเตรยี มอาหารและการใหอ าหารมชี วี ติ 1.4.1 อาหารไข ตไี ขแ ดงและไขข าวใหเ ปน เนอ้ื เดยี วกนั และใชนํ้ารอ นเตมิ ลงไปขณะทต่ี ไี ขใ น อตั ราสว นน้ํารอ น 150 ซซี ตี อ ไข 1 ฟองนําอาหารไขไ ปกรองดว ยผา โอลอนแกว แลว กรองดว ยผา กรอง แพลงกต อนขนาดตา 59 ไมครอนอกี ครง้ั หนง่ึ นําไปอนบุ าลลกู ปลาชว ง 3 วนั แรกของการอนบุ าลในชว ง เชา กลางวนั และเย็น ปรมิ าณทใ่ี หโดยเฉลยี่ 40 ซี.ซี. ตอ บอ ตอ ครง้ั ๐ กลับไปหนากอนนี้ ๐ หนาถัดไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเพาะเลี้ยงปลาบู 9 1.4.2 โรตเิ ฟอรน ้ําจืด โรตเิ ฟอรเ ปน แพลงกต อนสตั วข นาดเลก็ มหี ลายชนดิ ทง้ั ทอ่ี าศยั อยใู น นา้ํ กรอ ยและน้ําจืด สว นโรตเิ ฟอรน ้ําจืดทีน่ ํามาใชอ นบุ าลลกู ปลาบวู ยั ออ น คอื Brachinonus calyciflorus ในการเพาะโรตเิ ฟอรน น้ั ตอ งเพาะสาหรา ยเซลลเ ดยี วทเ่ี รยี กวา คลอเรลลา หรือที่เรียกกัน ทวั่ ไปวา น้าํ เขียว เพอ่ื ใหเ ปน อาหารของโรตเิ ฟอร วธิ กี ารเพาะน้ําเขยี วคลอเรลลา มขี น้ั ตอนดงั น้ี 1. เตมิ น้ําลงในบอ ใหม รี ะดบั น้ําประมาณ 20 เซนตเิ มตร 2. ละลายปยุ ตามสตู รใดสตู รหนง่ึ สตู รที่ 1 : ปุย N-P-K สตู ร 16-20-0 จาํ นวน 3 ก.ก. ราํ ละเอยี ด จาํ นวน 3 ก.ก. ปนู ขาว จาํ นวน 3 ก.ก. สตู รที่ 2 : อามิ-อามิ หรือกากผงชูรส จาํ นวน 20 ลติ ร ยูเรีย จาํ นวน 1.5 ลติ ร ปุย N-P-K สตู ร 16-20-0 จาํ นวน 1.5 ก.ก. ปุยซุปเปอรฟอสเฟต จาํ นวน 260 กรัม ปนู ขาว จาํ นวน 3 ก.ก. 3. ใสน ้ําเขยี วคลอเรลลา ทม่ี คี วามหนาแนน ประมาณ 5 x 10 เซลล/ 1 ซี.ซี. ประมาณ 2 ตนั ทงิ้ ไว 2-3 วัน ระหวา งนน้ั ตอ งคนบอ ย ๆ เพอ่ื ปอ งกนั การตกตะกอนของน้ําเขียว เมอ่ื สนี ้ําเขม ขน้ึ ใหเ พม่ิ ระดับน้ําเปน 40 เซนตเิ มตร และใสป ยุ ในปรมิ าณครง่ึ หนง่ึ ของปยุ ทใ่ี ชใ นขอ 2 4. ทิ้งไว 2-3 วัน น้าํ จะมสี เี ขยี วเขม ใหน ําโรตเิ ฟอรท ก่ี รองจนเขม ขน ประมาณ 20 ลติ ร (ความหนาแนน 3,621 ตวั ตอ ซี.ซี.) มาใสใ นบอ เพาะน้ําเขียว ถา เปน ไปไดค วรมกี ารเพม่ิ อากาศลงใน บอ เพาะ 5. เมอ่ื โรตเิ ฟอรข ยายตวั เตม็ ท่ี น้าํ จะเปน สชี าและมฟี องอากาศลอยตามผวิ น้ํามาก ก็ใหทํา การกรองโรตเิ ฟอรไ ปใชป ระโยชนใ นการเลย้ี งลกู ปลาบวู ยั ออ นดว ยผา กรองแพลงกต อน 59 ไมครอน หลงั จากโรตเิ ฟอรเ หลอื จํานวนนอ ยในบอ ใหลา งบอ และดําเนนิ การเพาะโรตเิ ฟอรข น้ึ ใหม ทง้ั นค้ี วรใหโ รตเิ ฟอรน ้ําจดื อนบุ าลลกู ปลาบใู นตอนเชา กลางวนั และเย็น มอ้ื ละ 4-6 ลติ ร/ บอ /ครง้ั สาํ หรบั ลกู ปลาอายุ 2-12 วัน หลงั จากนน้ั คอ ย ๆ ลดปรมิ าณการใหโ รตเิ ฟอรจ นลกู ปลาอายุ ได 30-37 วัน 1.4.3 ไรแดง ไรแดงเปน แพลงกต อนสตั วอ กี ชนดิ หนง่ึ มขี นาดเลก็ แตข นาดใหญก วา โรตเิ ฟอร อยา งเหน็ ไดช ดั ชอบอยรู วมกลมุ มสี แี ดง สําหรับวิธีเพาะไรแดง มขี น้ั ตอน คอื 1. ทาํ ความสะอาดบอ ซเี มนตแ ละตากทง้ิ ไว 1 วัน 2. กรองน้ําดว ยถงุ กรองผา โอลอนแกว ใหไ ดร ะดบั น้ํา 20 เซนตเิ มตร และละลายปยุ ตามสตู รใด สตู รหนง่ึ ดงั น้ี สตู รท่ี 1 : อามิ-อามิ จาํ นวน 5 ลติ ร ปุย N-P-K สตู ร 16-20-0 จํานวน 2 ก.ก. ๐ กลับไปหนากอนนี้ ๐ หนาถัดไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเพาะเลี้ยงปลาบู 10 ราํ ละเอยี ด จํานวน 5 ก.ก. ปนู ขาว จํานวน 3 ก.ก. สตู รท่ี 2 : อามิ-อามิ จํานวน 20 ลติ ร ปุย N-P-K สตู ร 16-20-0 จํานวน 1.5 ก.ก. ยูเรีย จํานวน 1.5 ลติ ร ปุยซุปเปอรฟอสเฟต จํานวน 260 กรัม ปนู ขาว จํานวน 3 ก.ก. 3. เตมิ น้ําเขยี วลงบอ ประมาณ 1-2 ตนั คนบอ ย ๆ ประมาณ 3 วัน คลอเรลลา ขยายตวั เตม็ ทซ่ี ง่ึ สนี า้ํ จะมสี เี ขยี วเขม 4. ใสไ รแดงประมาณ 1.5-2.0 กิโลกรัม 5. ประมาณ 2-3 วัน ตอ มา ไรแดงจะขยายตวั เต็มทแี่ ลวดําเนนิ การรวบรวมไรแดงจนหมดบอ หลงั จากนน้ั เรม่ิ ตน เพาะไรแดงใหมต อ ไป การใหไ รแดงควรใหเ มอ่ื ลกู ปลามอี ายุ 12 วนั ขน้ึ ไป และควรใหไ รแดงในปรมิ าณ 200 กรัม/ 6 ตารางเมตร/ครง้ั ในตอนเชา กลางวนั และเย็น จนลกู ปลามอี ายปุ ระมาณ 25 วัน จงึ ลดปรมิ าณลง ตามความเหมาะสม ลกู ปลาบอู ายุ 30-37 วัน มคี วามยาวประมาณ 8-10 มลิ ลเิ มตร จงึ ยา ยลกู ปลาบู ไปอนบุ าลในบอ ขนาดใหญ 2. การอนบุ าลในบอ ซเี มนตข นาดใหญ เมอ่ื ลกู ปลาอายไุ ดป ระมาณ 1 เดอื น ก็ทาํ การยายไป อนบุ าลตอ ในบอ ซเี มนตข นาด 50 ตารางเมตร ทม่ี รี ะดบั น้ําประมาณ 40-50 เซนตเิ มตร โดยคัด ลกู ปลาใหม ขี นาดใกลเ คยี งกนั แลว ปลอ ยลกู ปลาในอตั ราตารางเมตรละ 100-160 ตวั ในชว งสปั ดาห แรกใหอ าหารธรรมชาตมิ ชี วี ติ ไดแก ไรแดง หนอนแดง ฯลฯ ประมาณ 10 เปอรเ ซน็ ตข องน้ําหนกั ตวั ปลา ชว งสปั ดาหท ส่ี องเรม่ิ ฝก ใหก นิ อาหารสมทบทม่ี สี ตู รอาหารประกอบดว ย ปลาเปด 94 เปอรเ ซน็ ต ราํ ละเอยี ด 5 เปอรเ ซน็ ต วติ ามนิ และเกลอื แร 1 เปอรเ ซน็ ต การฝก ใหล กู ปลาบกู นิ อาหารสมทบ ควร คอ ย ๆ ลดปรมิ าณไรแดงและเพม่ิ อาหารสมทบ สําหรบั อาหารสมทบนน้ั ปน เปน กอ นเลก็ ๆ โยนใหลกู ปลาบรู อบบอ และควรเปลย่ี นถา ยน้ําทุกวัน ๆ ละ 5-10 เซนตเิ มตร การเลย้ี งปลาบใู นบอ กลางแจง อาจประสบปญหาสาหรายชนิดที่ไมตองการโดยเฉพาะพวกท่ีเปนเสนใยขึน้ ทว่ั บอ ระหวา งอนบุ าลลกู ปลา ซงึ่ ยากลาํ บากตอ การดแู ล ควรใชน ้ําเขยี วเตมิ เปน ระยะ ๆ ตามความเหมาะสมของคณุ ภาพน้ํา ความขนุ และสนี ้ํา อกี ทง้ั ชว ยขยายอาหารธรรมชาตใิ นบอ ไดแ ก ไรแดง อกี ดว ย 3. การอนบุ าลในบอ ขนาดใหญ หรอื ในบอ ดนิ การอนบุ าลลกู ปลาบขู นาด 2.5 เซนตเิ มตรขน้ึ ไป สว นใหญเ ลย้ี งในบอ ซเี มนตแ ละบอ ดนิ สว นการเลย้ี งในกระชงั นน้ั ปรากฎวา ไมค อ ยประสบผลสําเรจ็ มอี ตั รารอดและอตั ราการเจรญิ เตบิ โตต่ําไมเ หมาะสมทจ่ี ะใชอ นบุ าลลกู ปลาขนาดดงั กลา ว สําหรับการอนุบาลลูกปลาขนาดดังกลาวในบอซีเมนตลูกปลาจะมีอัตรารอดสูงกวาบอดินและ รวบรวมปลาบไู ดส ะดวก แตอ ตั ราการเจรญิ เตบิ โตชา โดยปลอ ยลกู ปลาขนาด 5 เซนตเิ มตร จํานวน 3,000 ตวั หรอื ตารางเมตรละ 60 ตวั ใหอ าหารปลาประกอบดว ย ปลาเปด 94 เปอรเ ซน็ ต รําละเอยี ด 5 เปอรเ ซน็ ต วติ ามนิ และเกลอื แร 1 เปอรเ ซน็ ต ระยะเวลาเลย้ี ง 90 วัน อตั รารอดประมาณ 85 เปอรเ ซน็ ต ลกู ปลาทม่ี นี ้ําหนกั เฉลย่ี 1.46 กรัม เพม่ิ ขน้ึ เปน 4.97 กรัม ความยาวเฉลย่ี 5 เซนตเิ มตร ๐ กลับไปหนากอนนี้ ๐ หนาถัดไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเพาะเลี้ยงปลาบู 11 เพมิ่ เปน 7.55 เซนตเิ มตร นอกจากนก้ี ารตดิ ตง้ั ระบบน้ําหมุนเวียนโดยดึงนํ้าจากบอ พักมาเลี้ยง ลกู ปลาบแู ลว ปลอ ยกลบั สบู อ ดนิ หมนุ เวยี นตลอดเวลากส็ ามารถทําได ส ว นก า ร อ นุ บ า ลลู ก ป ลา บู ใ นบ อ ดิ นไ ด อัตรารอดไมสูงนักและรวบรวมลูกป ลาไดลํ าบากแตมี การเจริญเตบิ โตเรว็ จากการทดลองเลย้ี งปลาบใู นบอ ดนิ ของสถานพี ฒั นาการเพาะเลย้ี งปลาจงั หวัด ปทมุ ธานี ใชเ วลาเลย้ี ง 2 เดอื น โดยใสปุยมูลไกแ หงเพ่อื ใหเ กิดอาหารธรรมชาติ และใหอาหารสมทบ (ปลาเปด 94 เปอรเ ซน็ ต รําละเอยี ด 5 เปอรเ ซน็ ต วติ ามนิ และเกลอื แร 1 เปอรเ ซน็ ต) ในอตั รา 10 เปอรเ ซน็ ตข องน้ําหนักปลาพบวา ไดอ ตั รารอดเฉลย่ี 44 เปอรเ ซน็ ตน ้ําหนกั ลกู ปลาเรม่ิ ปลอ ย 0.04-0.39 กรัม ไดน ้ําหนกั เฉลย่ี 2.4 กรัม จากการศกึ ษาอตั ราปลอ ยลกู ปลาบขู นาด 1.5-3.0 เซนตเิ มตรในบอ ดนิ พบวา อตั ราปลอ ย 10,000 ตวั ตอ บอ ดนิ ครง่ึ ไร หรอื ตารางเมตรละ 12.5 ตวั ในเวลา 1 เดอื น ไดอ ตั รารอดมากทส่ี ดุ คอื 61.06 เปอรเ ซน็ ต การเลย้ี งปลาบู ปลาบมู รี าคาแพงจงึ เปน ทต่ี อ งการของตลาดในประเทศและตา งประเทศเปนจํานวนมาก ทําใหม ี ผสู นใจเลย้ี งปลาบอู ยา งกวา งขวาง การเลย้ี งปลาบมู เี ลย้ี งกนั ในบอ ซเี มนต บอ ดนิ และกระชงั แตที่นิยม เล้ียงกันมากเปนการเล้ียงในกระชัง สวนบอดินก็มีผูเล้ียงกันอยูบางทั้งในรูปการเลี้ยงแบบเด่ียว แบบรวม และแบบผสมผสาน สําหรบั การเลย้ี งในบอ ซเี มนตม กี ารเลย้ี งอยนู อ ยมากเพราะลงทนุ สงู และ ตอ งการน้ําสะอาดในการเลย้ี ง รปู แบบการเลย้ี งปลาบู 1. การเลย้ี งปลาบใู นบอ ดนิ สว นใหญจ ะเลย้ี งรว มกบั ปลาชนดิ อน่ื เชน เลย้ี งรว มกบั ปลานลิ เพอ่ื ไวคุมจํานวนประชากรของลกู ปลานลิ ไมใ หแ นน บอ เชน ดยี วกบั ปลาชอ น นอกจากนย้ี งั มกี ารเลย้ี งรว มกบั ปลาชนดิ อน่ื ใตเ ลา ไก หรอื เลา หมู โดยปลอ ยอตั ราสว นปลาบตู ่ําซง่ึ ขน้ึ อยกู บั ผเู ลย้ี งจะหาซอ้ื พนั ธไุ ด จาํ นวนมากนอ ยเทา ใด เมอ่ื เลย้ี งปลามนี ้ําหนกั 400-500 กรมั ขน้ึ ไป จึงจับจําหนา ยแลว หาพนั ธปุ ลามา ปลอยชดเชย อาหารทใ่ี หเ ปน พวกปลาเปด บดปน เปน กอ น ๆ ใสล งในเรอื แจวใหอ าหารเปน จดุ ๆ รอบ บอ จดุ ทใ่ี หอ าหารมกี ระบะไมป ก อยเู หนอื กน บอ เลก็ นอ ย ในชว งตอนเยน็ ปรมิ าณอาหารทใ่ี หป ระมาณ 5 เปอรเ ซน็ ตข องน้ําหนกั ปลา ใชเ วลาเลย้ี ง 8-12 เดอื น จับจําหนา ยน้ําหนกั ปลาทน่ี ยิ มรบั ซอ้ื ตง้ั แต 400-800 กรมั ไมเ กนิ 1 กิโลกรัม ๐ กลับไปหนากอนนี้ ๐ หนาถัดไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเพาะเลี้ยงปลาบู 12 2. การเลย้ี งปลาบใู นกระชงั ปลาบเู ปน ปลาอกี ชนดิ หนง่ึ ทน่ี ยิ มเลย้ี งในกระชงั เนอ่ื งจากสามารถ เลย้ี งไดห นาแนน ในทแ่ี คบได และเปน ปลากนิ เนอ้ื จงึ ไมจ ําเปน ตอ งพง่ึ อาหารธรรมชาตมิ ากนกั ถงึ แมว า ปลาบมู นี สิ ยั ชอบอยนู ง่ิ เปน สว นใหญ แตชอบที่ที่มีนํ้าไหลผา นโดยเฉพาะทม่ี คี วามขนุ ยง่ิ ดเี พราะปลาบตู ก ใจงา ยเมอ่ื เลย้ี งในน้ําใส ปลาบเู ปน ปลาทม่ี รี าคาแพง ทป่ี ากกระชงั ราคากโิ ลกรมั ละ 320 บาท (ราคาป 2541) การเลี้ยงปลาบูในกระชังมีวิธีการดังนี้ 1. การเลอื กสถานท่ี การเลอื กสถานทท่ี เ่ี หมาะสมในการวางกระชงั ปลาบนู บั เปน จดุ เรม่ิ ตน การเลย้ี งท่ีสําคัญที่สุด ถา เลอื กสถานทเ่ี ลย้ี งไดด ี ทําใหป ลาบเู จรญิ เตบิ โตเรว็ อตั รารอดสงู ทุนคาใชจา ยในการจดั การ สถานที่ที่เหมาะสมสําหรบั การเลย้ี งปลาบใู นกระชงั คอื 1. คณุ สมบตั ขิ องน้ําดแี ละมปี รมิ าณเพยี งพอตลอดป 2. ใกลแ หลง หาพนั ธปุ ลาและอาหารปลาไดง า ย ราคาถกู 3. การคมนาคมสะดวกตอ การลําเลยี งพนั ธปุ ลาและอาหารปลา 4. ไมอยูใกลแหลงโรงงานอุตสาหกรรมและพื้นท่ีที่มีการใชสารเคมีสําหรับการเกษตรมาก เพอ่ื หลกี เลย่ี งสารพษิ ทป่ี นเปอ นมากบั น้ํา 5. นา้ํ มคี วามขนุ พอสมควรเพราะปลาบชู อบทม่ี ดื ชว ยใหป ลากนิ อาหารไดด แี ละไมต กใจงา ย 6. ความลกึ ของน้ําไมค วรต่ํากวา 2 เมตร 7. มกี ระแสน้ําทไ่ี หลแรงพอสมควร 8. ปลอดภยั จากการถกู ลกั ขโมย 9. ปราศจากศตั รแู ละภยั ธรรมชาติ 10. ไมก ดี ขวางการสญั จรทางน้ําและไมผ ดิ กฎหมายบา นเมอื ง 2. ประเภทของกระชัง กระชังสวนใหญเ ปน กระชงั ไมไผหรอื ไมจ ริง สว นกระชงั ตาขา ยไนลอน หรอื ใยสงั เคราะหห รอื ตาขา ยเหลก็ ทใ่ี ชเ ลย้ี งปลาน้ํากรอ ยยงั ไมเ ปน ทน่ี ยิ มของเกษตรกรผเู ลย้ี งปลาน้ําจืด กระชังแบงเปนประเภท ๆ ดงั น้ี 2.1 กระชังไมไ ผล ว น ๆ เหมาะสําหรบั ผเู ลย้ี งปลาทม่ี ที นุ นอ ย อายกุ ารใชง านประมาณ 1-1.5 ป กระชงั ทีใ่ ชก ันท่ัวไปมขี นาดกวา ง 2 เมตร ยาว 5 เมตร ลกึ 1.5 เมตร ราคากระชงั ละ ประมาณ 1,600-2,000 บาท ไมไผที่ใชจะเหลาใหเรียบขนาดกวาง 2.5 เซนตเิ มตร หนา 0.5 เซนตเิ มตร สานเปน รปู สเ่ี หลย่ี มผนื ผา มเี ฝอ กไมไ ผป ด ดา นบน ใชล กู บวบไมไ ผป ระมาณ 50 ลํา ขอ เสยี ของกระชังแบบนี้คือ กระแสน้ําไหลถายเทไมสะดวกมีเศษอาหารเหลือกตกคางในกระชังและทําความ สะอาดกระชงั ยาก 2.2 กระชังทําดว ยไมไ ผแ ตโ ครงกระชงั เปน ไมจ รงิ นําไมไ ผม าผา เปน ซกี ๆ ละประมาณ 3 นว้ิ ตัดเปนทอนตามความกวางและความยาวของขนาดกระชังที่จะสรางและตีไมไผรอบทุกดานของโครง กระชงั ไมจ รงิ ใหม ชี อ งหา งประมาณ 1 เซนตเิ มตร เพอื่ ใหน้ําไหลผา นและใชไ มไ ผข นาดเดยี วกนั ทาํ ฝาปด กระชงั ใชล กู บวบประมาณ 25 ลํา อายกุ ารใชง านประมาณ 2 ป คา สรา งกระชงั ประมาณ 2,800-3,200 บาท ๐ กลับไปหนากอนนี้ ๐ หนาถัดไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเพาะเลี้ยงปลาบู 13 2.3 กระชังไมจ รงิ เหมาะสําหรับผูที่มีทุนมาก กระชงั ชนดิ นม้ี คี วามทนทานอายกุ ารใชง าน 5-7 ป กระชงั สรา งดว ยไมข นาดหนา 4 นว้ิ ใชไ มข นาดหนา 4 นว้ิ หนา 1 นว้ิ ใสกบใหเรียบปดพื้น และดา นขา ง 4 ดา น โดยใหมีระยะหาง 1.5-2 เซนตเิ มตร ดา นบนตไี มป ด เชน เดยี วกบั ดา นขา ง และมี ชอ งปด-เปด สําหรบั ใหอ าหารขนาดกวา ง 40 เซนตเิ มตร ยาว 50 เซนตเิ มตร ทนุ ลอยใชล กู บวบ ประมาณ 100 ลํา กระชงั ไมจ รงิ ขนาด 13 ตารางเมตร ลกึ 1.5 เซนตเิ มตร ราคา 2,500 บาท เมอ่ื ยา งเขา ปท ่ี 3 ตองทาํ การซอ มแซมและซอ มแซมใหมท ุก ๆ 2 ป กระชงั ไมจ รงิ ทน่ี ยิ มใชม ี 3 ขนาด คอื ขนาดที่ 1 กวาง 2.5 เมตร ยาว 8 เมตร ลกึ 1.5 เมตร ขนาดท่ี 2 กวาง 2.5 เมตร ยาว 5 เมตร ลกึ 1.5 เมตร ขนาดท่ี 3 กวาง 2.5 เมตร ยาว 3 เมตร ลกึ 1.5 เมตร 3. ขนาดกระชัง ขนาดกระชงั ทใ่ี ชเ ลย้ี งปลาบขู น้ึ อยกู บั ความตอ งการของผเู ลย้ี ง ซง่ึ ตอ งพจิ ารณา รว มกับขนาดของแหลงนํ้าและเงนิ ทนุ โดยทว่ั ไปกระชงั มขี นาดตง้ั แต 2 x 3 เมตร 2 x 5 เมตร 2.5 x 3 เมตร 2.5 x 8 เมตร กระชงั ดา นบนมฝี าปด เปด และตดิ กญุ แจปอ งกนั การลกั ขโมย 4. อตั ราการปลอ ย พนั ธปุ ลาบทู น่ี ยิ มนํามาเลย้ี งสว นใหญม ขี นาด 100-300 กรัม ซง่ึ ไดจ าก การรวบรวมจากธรรมชาติ หรอื ซอ้ื จากพอ คา คนกลางทด่ี ําเนนิ การทง้ั ขายพนั ธแุ ละรบั ซอ้ื ปลาบขู นาด ตลาดสง เขา กรงุ เทพฯ ปลาบมู นี สิ ยั ชอบนอนนง่ิ อยบู รเิ วณกน กระชงั ทําใหส ามารถปลอ ยปลาบไู ด หนาแนน ประมาณ 70-100 ตวั ตอ ตารางเมตร หรือ 10-30 กโิ ลกรมั ตอ ลกู บาศกเ มตร ในแหลง น้ํา ทมี่ กี ารไหลถายเทของน้ําดมี ากผา นในกระชงั ถา แหลง น้ําใดมคี ณุ สมบตั นิ ้ําไมดีและไหลถายเทชา ควร ปลอ ยตารางเมตรละ 40-50 ตวั กอ นปลอ ยพนั ธปุ ลาลงในกระชงั ควรทําใหป ลามคี วามคนุ เคยกบั น้ํา ทจ่ี ะเลย้ี งโดยเอาน้ําในกระชังปนลงไปในภาชนะดว ยและควรฆา เชอ้ื ปอ งกนั โรคเสยี กอ น สาํ หรบั การปอ งกนั โรค กอ นปลอ ยพนั ธปุ ลาบลู งเลย้ี งควรแชป ลาในน้ําเกลอื ทม่ี คี วามเขม ขน 10 เปอรเ ซน็ ต แลวนํามาแชใ นดา งทบั ทมิ ซง่ึ มคี วามเขม ขน 5-10 พีพีเอ็ม นาน 20 นาที อกี ครง้ั หนง่ึ เพอ่ื กาํ จดั หนอนสมอ แลวนําไปแชใ นน้ํายาเมทธลิ นี บลเู ขม ขน 2-3 พีพีเอ็ม หลงั จากนน้ั นําไปปลอ ยลง เลย้ี งในกระชงั เครอ่ื งมอื ทใ่ี ชร วบรวมพนั ธปุ ลาจากแหลง น้ําธรรมชาตนิ ยิ มใชล อบ ขา ย สวิง ยอยก ฯลฯ แลว นําปลาไปพกั รวมกนั ในกระชงั จนไดป รมิ าณมากพอจงึ คอ ยลําเลยี งพนั ธปุ ลาไปยงั ผเู ลย้ี ง ทั้งนี้ควรจะ ปอ งกนั พนั ธปุ ลาไมใ หเ กดิ ความบอบช้ําหรอื มบี าดแผลและเกดิ ความเครยี ด โดยกอ นพกั ปลาลงใน กระชงั ควรทําการฆา เชอ้ื โรคทต่ี ดิ มากบั ตวั ปลาโดยแชป ลาในน้ําทผ่ี สมเฟอราเนซความเขม ขน 1-2 กรัม ๐ กลับไปหนากอนนี้ ๐ หนาถัดไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเพาะเลี้ยงปลาบู 14 ตอ นํ้า 100 ลติ ร แชไว 5-15 นาที หรอื แชใ นสารละลายดา งทบั ทมิ ทม่ี คี วามเขม ขน 10 พีพีเอ็ม นาน 10 นาที ในระหวา งพกั ปลาควรดแู ลเอาใจใส และใหอ าหารเพยี งพอเพอ่ื ใหป ลาแขง็ แรงขน้ึ กอ นลําเลียง ไปเลย้ี งในกระชงั ตอ ไป 5. อาหารและการใหอ าหาร ปลาบจู ดั เปน ปลากนิ เนอ้ื อาหารทด่ี คี วรมโี ปรตนี 38-40 เปอรเ ซน็ ต ไขมนั 5-8 เปอรเ ซน็ ต คารโ บไฮเดรต 9-12 เปอรเ ซน็ ต วติ ามนิ และแรธ าตุ 0.5-1 เปอรเ ซน็ ต อาหารใชเ ลย้ี งปลาบแู บง เปน 2 ชนิด 5.1 อาหารแบบพน้ื บา น เปน อาหารสดไดจ ากการนําปลาเปด จากทะเลหรอื ปลาน้ําจืด มาสับใหป ลากนิ หรอื ใชเ ครอ่ื งบดอาหาร ซึ่งมีผลดีทาํ ใหก ระดกู ปลาเปด ปน ยอ ยละเอยี ดไมเ ปน อนั ตราย ตอ ลําไสป ลาบู ประหยดั เวลาและแรงงาน สตู รอาหารปลา คอื ปลาเปด สดบดละเอยี ด 94 เปอรเ ซน็ ต รําละเอยี ด 5 เปอรเ ซน็ ต วติ ามนิ เกลอื แร 1 เปอรเ ซน็ ต (เกษตรกรบางรายผสมหัวอาหารหมหู รือไกล งไปดว ย) และควรใสเ กลอื ปน ในอตั รา 100 กรัม ตอ อาหาร 3 กิโลกรัม เพื่อทาํ ใหอ าหารจบั ตวั เหนยี วขน้ึ ปอ งกนั การละลายหรอื ลอยตวั ของอาหาร 5.2 อาหารผสมสตู รสําเรจ็ แบบเปย ก อาหารชนดิ นย้ี งั ไมเ ปน ทแ่ี พรห ลายเตรยี มจาก วัสดุอาหารแหงและเปยก สะดวกในการจดั เกบ็ ไดน านในตเู ยน็ เตรยี มงา ยและถกู สขุ ลกั ษณะ ทง้ั ยงั สามารถเตมิ ยาปฏชิ วี นะและฮอรโ มนเรง การเจรญิ เตบิ โต ปลาบกู นิ อาหารเชอ่ื งชา กวา ปลาชนดิ อน่ื จงึ ควรปน เปน กอ นใสถ าดแขวนไวใ นกระชงั ใหต าํ่ กวา ระดบั ผวิ น้ําประมาณ 50 เซนตเิ มตร การใหอาหารจะใหอาหารทุก ๆ วัน ละ 3-5 เปอรเ ซน็ ต ของนา้ํ หนกั ปลาในกระชงั หรอื ให 2 วนั ครง้ั ๆ ละ 8-10 เปอรเ ซน็ ตข องน้ําหนกั ปลา การใหอ าหารควร สงั เกตวา ปลากนิ อาหารหมดหรอื ไมแ ละคอ ยปรบั เพม่ิ หรอื ลดอาหาร 6. อตั ราการเปลย่ี นอาหารเปน เนอ้ื อตั ราการแลกอาหารเปน เนอ้ื ปลาบทู เ่ี ลย้ี งดว ยปลาเปด อยูระหวาง 7.3-12.2 : 1 7. การจดั การ การเลย้ี งปลาบใู นกระชงั ควรมกี ารจดั การดา นการทําความสะอาด การดูแล รกั ษาและการคดั ขนาด 7.1 การทําความสะอาด ควรใชแ ปรงขดั ภายในกระชงั ใหต ะไครน ้ําตะกอนทต่ี ดิ ตาม ตะไครน ้ําและตวั กระชงั ออก รวมทัง้ เศษอาหารเพราะเปนแหลง หมักหมมและกอใหเกิดเชอ้ื โรค หลัง ๐ กลับไปหนากอนนี้ ๐ หนาถัดไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเพาะเลี้ยงปลาบู 15 จากปลาบูเอาดานขางตัวไปถูกกับดานขางกระชังหรือพ้ืนกระชังอาจทําใหตัวเปนแผลและเชื้อโรคตาม ตะกอนหรอื ตะไครน ้ําเขา ตวั ปลาทางแผลได กรณที ม่ี ตี ะกอนทบั ถมในกระชงั มาก ควรใชพ ลว่ั แซะตะกอนออก หรอื ใชเ ครอ่ื งสบู น้ําดว ย ไ ฟ ฟ า แ บ บ จุ ม ฉี ด ไ ล ต ะ ก อ น เ ก ษ ต ร ก ร บ า ง ร า ย นิ ย ม ใ ช ด า ง ทั บ ทิ ม ห อ ด ว ย ผ า ถู ต า ม ภ า ย ใ น ก ร ะ ชั ง เพอื่ ฆา เชอื้ 7.2 การคดั ขนาด การเลย้ี งปลาบตู อ งทําการคดั ขนาดปลาบอ ย ๆ ครง้ั ปกตเิ ดอื นละ ครง้ั หรอื อยา งนอ ย 2 เดอื นตอ ครง้ั เนอ่ื งจากปลาบเู ปน ปลากนิ เนอ้ื และมนี สิ ยั กา วรา ว ปลาตัวใหญจะ คอยไลไ มใ หป ลาตวั เลก็ ไดม โี อกาสเขา มากนิ อาหารทําใหป ลาตวั เลก็ ผอมลง พฤตกิ รรมกา วรา วนเ้ี กดิ ขน้ึ ในลกู ปลาบตู วั เลก็ เหมอื นกนั คอื ถา ลกู ปลามขี นาดตา งกนั มากกจ็ ะกนิ กนั เองแตใ นปลาบขู นาดใหญจ ะมี พฤตกิ รรมกดั กนั เองและไลก นั ไปมา การคดั ขนาดปลาบทู ําใหป ลามขี นาดโตเทา กนั สม่ําเสมอเตบิ โตเรว็ และเพม่ิ ผลผลติ อกี ดว ย 7.3 การปอ งกันโรค ผเู ลย้ี งควรหมน่ั ดแู ลสขุ ภาพของปลาบอู ยเู สมอ ตรวจดูกระชังภายในให อยใู นสภาพดแี ละควรถอื หลกั ปอ งกนั ไมใ หเ กดิ โรคมากกวา ทป่ี ลอ ยใหปลาเปน แลว ทําการรักษาทีหลัง 8. อตั รารอด อตั ราการรอดตายในการเลย้ี งปลาบขู น้ึ อยกู บั ปจ จยั ความแขง็ แรงของพนั ธปุ ลา คณุ ภาพนา้ํ ในแหลง น้ํา ความสามารถ ความชํานาญในการเลย้ี งและสภาพสง่ิ แวดลอ ม 9. อตั ราการเจรญิ เตบิ โต อตั ราการเจรญิ เตบิ โตของปลาบขู น้ึ กบั ปจ จยั หลายประการ อาทิ อตั ราปลอ ย คณุ ภาพและปรมิ าณอาหาร คณุ สมบตั นิ ้ํา ฯลฯ จากการเลย้ี งปลาบทู แ่ี มน ้ํานา น จ. นครสวรรค พบวา อตั ราปลอ ย ตารางเมตรละ 32 ตวั ใชเ วลาเลย้ี ง 7 เดอื นจะใหผ ลผลติ สงู สดุ 10. ผลผลติ ผลผลติ การเลย้ี งปลาบใู นกระชงั ไมไ ผข นาด 10 ลกู บาศกเ มตร อตั ราการ ปลอ ยปลา 915 ตวั น้าํ หนกั เฉลย่ี 224 กรัม ใชเ วลาเลย้ี ง 5.3 เดอื น ไดน ้ําหนกั เฉลย่ี 435 กรัม สวน กระชงั ไมจ รงิ ขนาด 15 ลกู บาศกเ มตร อตั ราการปลอ ยอาหาร 1,500 ตวั น้าํ หนกั เฉลย่ี 184 กรัม ใชเ วลาเลย้ี ง 8.5 เดอื น ไดน ้ําหนกั เฉลย่ี 422 กรัม ๐ กลับไปหนากอนนี้ ๐ หนาถัดไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเพาะเลี้ยงปลาบู 16 การเลี้ยงปลาบูถามีการเอาใจใสการเล้ียงปลามีประสบการณความชํ านาญและสภาพ แวดลอ มดี ปลาไมเ ปน โรคกจ็ ะใหผลผลิตตอ หนวยพน้ื ที่สงู ขายไดร าคาแพงและมกี ําไรสงู โรคพยาธิและการปอ งกนั เกษตรกรผเู ลย้ี งปลาบสู ว นใหญม คี วามวติ กเรอ่ื งโรคทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ดงั นน้ั การปอ งกนั โรคไวก อ นจงึ เปนทางเดียวที่จะไมทําใหป ลาบเู ปน โรค ซง่ึ ผเู ลย้ี งตอ งคอยเอาใจใสด แู ลสขุ ภาพของปลาบู การจัดการ ทด่ี ที ําใหป ลามสี ขุ ภาพสมบรู ณแ ขง็ แรง อกี ทง้ั ตอ งหมน่ั สงั เกตสภาพแวดลอ มโดยรอบของกระชงั เชน คณุ ภาพน้ําทางตน น้ํา อาการเปน โรคของปลาในธรรมชาติ สาํ หรับโรคพยาธิที่พบในปลาบู แบงเปน 6 ประเภท คอื 1. พยาธภิ ายนอก 1.1 พยาธภิ ายนอกทม่ี องเหน็ ดว ยตาเปลา ไดแก - หนอนสมอ พบมากตามซอกเกลด็ ครบี และในชอ งปาก พยาธพิ วกนจ้ี ะดดู เลอื ดปลา ทาํ ใหป ลาออ นแอ - เออกาซลิ สั ดดู เลอื ดตามเหงอื กปลา ถา เกาะนาน ๆ ทําใหเ หงอื กกรอ น กอใหเกิด ปญหากับระบบหายใจ - โกลซเิ ดยี เปน ตวั ออ นของหอย 2 ฝา เกาะตามซเ่ี หงอื ก ทาํ ใหล ดพน้ื ทใ่ี นการแลก เปลย่ี นออกซเิ จน 1.2 พยาธภิ ายนอกทไ่ี มส ามารถมองเหน็ ไดด ว ยตาเปลา ไดแก ทริกโคไดนา ฮีนีกูยา อพี สิ ไทลิส ชโิ ลโดเนลลา แดคไทโรจัยลัส อาการปลาบทู ม่ี พี ยาธเิ หลา นค้ี อื ลอยหวั เกลด็ หลดุ เหงือกซีด บางครง้ั พบจดุ ขาว ๆ ประปรายทั่วไป 2. พยาธภิ ายใน ไดแก พยาธิตัวกลม พยาธิหัวหนาม ทาํ ใหป ลาผอม ไมก นิ อาหาร 3. เชื้อรา ไดแก แซปโปรเลกเนีย ขน้ึ เปน กระจกุ มแี ขนงมากมายบรเิ วณผวิ หนงั ของลําตวั เชอ้ื นจ้ี ะฝง ลกึ เขา ไปในเนอ้ื เยอ่ื ทําใหเกลด็ หลดุ เกดิ บาดแผล ปลาออ นแอ 4. เชอ้ื บกั เตรี ไดแก แอโรโมแนสไฮโดรฟล า คอรีนีแบคทีเรียม สเตรปโตเรคอคคสั อาการท่ี พบคอื ทองบวม ตาโปน แผลตามลําตวั เกดิ น้ําเหลอื งในชอ งทอ ง ไตบวม เปน ตน สําหรับเชื้อ แอโรโมแนส ไฮโดรฟล า เปน ตวั ทก่ี อ ใหเ กดิ โรคในปลาบมู ากกวา ชนดิ อน่ื ๆ 5. มะเร็งตอมนํ้าเหลอื ง ปลาทป่ี ว ยเปน โรคน้ี หากสงั เกตจะพบวาบรเิ วณแผน ปด เหงือกเร่มิ กาง ออกเนอ่ื งจากโคนครบี หบู วมพองขน้ึ มาคลา ยกบั กอ นเนอ้ื พองออก โดยเฉพาะดา นหนา โคนครบี ๐ กลับไปหนากอนนี้ ๐ หนาถัดไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเพาะเลี้ยงปลาบู 17 กอนมะเร็งดังกลาวจะเติบโตมีขนาดใหญทําใหแผนปดเหงือกกางออกมากและมะเร็งลุกลามถึงแผนปด เหงอื ก กระดกู เหงอื กบนครบี หูและบริเวณสว นหัว โรคนย้ี งั ไมม วี ธิ กี ารรกั ษา 6. โรคตับไต ปลาทเ่ี ปน โรคนไ้ี มม คี วามผดิ ปกตติ ามลกั ษณะภายนอก พบวาเหงือกซีดกวาปกติ เนอ่ื งจากเลอื ดจาง ตบั ไตใหญม สี เี หลอื งออ น มา มมขี นาดใหญแ ละเลอื ดออก สาเหตขุ องโรคมากจาก การไดร บั อาหารไมถ กู สว น การปอ งกนั รกั ษา การปอ งกนั ไมใ หป ลาเปน โรคเปน วธิ ที ด่ี ที ส่ี ดุ ซง่ึ ขน้ึ กบั สภาพแวดลอ ม และ ความเอาใจใสข องเกษตรกรผเู ลย้ี งปลา การรกั ษาปลาเปน โรค 1. การกําจดั พยาธภิ ายนอก สามารถกําจดั ดว ยสารเคมี ใชฟ อรม าลนิ 25-50 พีพีเอ็ม แชวัน ละ 2 ครง้ั ตดิ ตอ กนั 2-3 วัน หรือนําปลาไปแชฟ อรม าลนิ 250 พีพีเอ็ม นาน 1 ชั่วโมง หรือใชก รด เกลเซยี ลอะซติ คิ 1 ตอ 2,000 แช 30 นาที หรือใชดางทับทิม 3-5 พีพเี อม็ แชตลอดไป แตถาใช ความเขม ขน 10 พีพีเอ็ม แช 30 นาที สว นเมทธลี นี บลู ใชฆาโปรโตซัวไดดีโดยเฉพาะโรคอิ๊กโดย เตรยี มสารละลายเมทธลี นี บลู 1 กรัม ตอ น้ํารอ น 100 ซี.ซี. เกบ็ ในขวดกนั แสง ใชส ารละลายทเ่ี ตรยี ม ไว 1 ซี.ซี ตอ น้ํา 5 ลติ ร แชนาน 1 วัน ทําซํ้าทุก ๆ 2 วัน จนหาย สว นโปรโตซวั ชนดิ อน่ื ๆ ใช 3 ซี.ซี. ตอ น้ํา 10 ลติ ร แชต ลอด 2. กําจดั พยาธภิ ายใน ควรใชยาถายพยาธิ เชน ดเี วอรม นิ ผสมในอาหาร 0.1-0.2 เปอรเ ซน็ ต ของน้ําหนกั อาหาร 3 วนั ตดิ ตอ กนั 3. การกําจดั เชอ้ื รา ใชม าลาไคท ก รนี 1-5 สว นตอ น้ําลา นสว นแช 1 ชั่วโมง 3 ครง้ั ตดิ ตอ กนั 4. การกําจดั เชอ้ื บกั เตรี การรักษากระทําไดผ ลตอ เมอ่ื ปลาบตู ดิ เชอ้ื ระยะเรม่ิ แรก แตถา ปลอยไว นานการรกั ษาจะไมค อ ยไดผ ลสําหรบั บคั เตรสี ว นใหญใชย าปฏิชวี นะ เชน ซลั ฟาเมอราซนิ 200 มลิ ลกิ รมั ตอ น้ําหนกั ปลา 1 กิโลกรัม ผสมอาหารใหก นิ ตดิ ตอ กนั 14 วัน อิริโทรมัยซิน 10 กโิ ลกรมั ตอ นา้ํ หนกั ปลา 100 กิโลกรัม ผสมอาหารใหก นิ ตดิ ตอ กนั 14 วัน คลอแรมฟน คิ อล 5-10 กโิ ลกรมั ตอ อาหารปลา 10 กิโลกรัม ตดิ ตอ กนั 5-10 วัน สาํ หรบั คลอแรมฟน คิ อล ถา ใชฉ ดี ควรใช 10-30 มลิ ลกิ รมั ตอ น้ําหนกั ปลา 1 กิโลกรัม วนั ละ 1 ครง้ั 3 วัน การรวบรวมลกู ปลา เครอ่ื งมอื ทใ่ี ชใ นการจบั หรอื รวบรวมปลาบใู นธรรมชาตมิ อี ยหู ลายชนิดดงั น้ี 1. ขา ย เปน เครอ่ื งมอื ทําการประมงทน่ี ยิ มใชก นั มากทส่ี ดุ ขนาดของขา ยทน่ี ยิ มใชม คี วามยาว 150-180 เมตร ลกึ 1.5 เมตร ชอ งตา 2-14 เซนตเิ มตร ใชข า ยประมาณ 4 ผนื ตอ ชาวประมง หนง่ึ ราย 2. เบด็ ราว เปน เครอ่ื งมอื ทําการประมงที่พบกันทั่วไป ขนาดตวั เบด็ ตง้ั แตเ บอร 01-05 เบอร 8 และเบอร 20-24 เบด็ ราว 1 เสน มตี วั เบด็ 20-50 ตวั ชาวประมงบางรายใชเ บด็ ประเภท ไมม เี งย่ี ง ทําใหป ลาบทู จ่ี บั ไดบ าดเจบ็ นอ ยมาก 3. สวงิ เปน เครอ่ื งมอื ขนาดเลก็ ใชช อ นสตั วน ้ําขนาดเลก็ ซง่ึ จะไดป รมิ าณนอ ยในการทําการ ประมงแตล ะครง้ั 4. ลอบ เปน เครอ่ื งมอื ทใ่ี ชป ระกอบเครอ่ื งกน้ั เชน เฝอ กกน้ั แลว ใชล อบวางดกั วธิ นี ป้ี ลาบจู ะ บอบชํ้าหรอื บาดเจบ็ นอ ยที่สดุ ๐ กลับไปหนากอนนี้ ๐ หนาถัดไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเพาะเลี้ยงปลาบู 18 5. กร่ํา เปน การนํากง่ิ ไมแ หง มาสมุ กนั เปน กองขนาดใหญต ามแหลง น้ําปลอ ยทง้ิ ไวใ หป ลาเขา มา อาศยั อยู หลงั จากนน้ั ใชอ วนลอ มแลว เอากง่ิ ไมแ หง ออกเพอ่ื จบั ปลา 6. แห เปน เครอ่ื งมอื จบั สตั วน ้ําพน้ื บา น ขนาดแหทน่ี ยิ มใชค วามยาว 5-9 ศอก (2.5-4.5 เมตร) ขนาดชอ งตา 1.5-6.0 เซนตเิ มตร ซงึ่ นยิ มใชทําการประมงในชว งฤดนู ้ําลดบรเิ วณแหลง น้ําทน่ี ้ํา แหง 7. ยอยก เปน เครอ่ื งมอื จบั ปลาทน่ี ยิ มใชใ นจงั หวดั อบุ ลราชธานเี ปน ยอขนาดใหญติดอยูกับแพ ลอยตามกระแสน้ํา ใชว างจมลงในแหลง น้ําเปน เวลานาน ๆ หรอื ใชแ สงไฟลอ ปลาในเวลากลางคนื แลว ยกยอขน้ึ เพอ่ื จบั ปลา วธิ นี ป้ี ลาบจู ะบอบช้ํานอ ย การตลาด ปจ จบุ นั ปลาบนู บั วนั มรี าคาแพงขน้ึ เนอ่ื งจากพนั ธปุ ลาทน่ี ําไปเลี้ยงหายากและสภาพแวดลอม เปลย่ี นไปแตค วามนยิ มบรโิ ภคปลาบมู ปี รมิ าณสงู ขน้ึ โดยสง เปน สนิ คา ออกไปยงั ประเทศฮอ งกง สงิ คโปรแ ละมาเลเซยี ซง่ึ ผบู รโิ ภคเชอ่ื วา มคี ณุ คา ทางอาหารสงู ทําใหร า งกายแขง็ แรงและเพม่ิ พลงั ในสมยั กอ นนน้ั มกี ารเลย้ี งปลาบใู นกระชงั กนั มาก เชน จงั หวดั นครสวรรค อทุ ยั ธานี ชัยนาท สงิ หบ รุ ี อา งทอง พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี ตอ มาการเลย้ี งปลาบปู ระสบปญ หาปลาเปน โรคและ ตายมาก จํานวนผเู ลย้ี งและผลผลติ ลดลง ราคาปลาจงึ สงู ขน้ึ ตามกลไกตลาด ราคาและผลตอบแทน ราคาพนั ธปุ ลาบทู เ่ี กษตรกรซอ้ื มาเลย้ี งในกระชงั ตง้ั แตป 2525-2537 ราคากโิ ลกรมั ละ 30-160 บาท สว นราคาปลาบเู พอ่ื บรโิ ภคมรี าคาตง้ั แต 200-350 บาทตอกิโลกรมั การขนสง ลําเลยี ง การขนสงลําเลยี งเรม่ิ ตง้ั แตก ารขนสง ลกู พนั ธปุ ลาบขู นาดเลก็ 1-2 นิ้วไปยงั ผูเ ลีย้ ง และการลําเลียง ปลาบขู นาดตลาดไปยงั กลมุ ผบู รโิ ภค วธิ กี ารลําเลยี งมี 2 วิธี 1. การลําเลยี งโดยใชถ งุ พลาสตกิ อดั ออกซเิ จน เหมาะสําหรบั ใชล ําเลยี งลกู ปลาบขู นาดเลก็ 1-2 นว้ิ และปลาบขู นาด 50-250 กรัม วธิ นี เ้ี ปน การลําเลยี งที่เหมาะสมทีส่ ดุ ไมทําใหป ลาบอบช้ํา ปกตใิ ชถ งุ พลาสตขิ นาด 20 x 30 เซนตเิ มตร ใสน ้ําสงู ประมาณ 10-15 เซนตเิ มตร ถงุ ปลาแตล ะถงุ สามารถบรรจลุ กู ปลาขนาด 1-2 นว้ิ จํานวน 500-700 ตวั เมอ่ื ใสพ นั ธปุ ลาแลว อดั ดว ยออกซเิ จน บรสิ ุทธิ์รัดปากถุง สาํ หรบั พนั ธปุ ลาทจ่ี บั ไดจ ากธรรมชาตคิ วรบรรจถุ งุ ละ 5 - 20 ตวั แลว แตข นาดพนั ธุ ปลา ปรมิ าณน้ําในถงุ พลาสตกิ ลําเลยี งไมค วรใสม ากนกั เนอ่ื งจากปลาบมู นี สิ ยั ไมค อ ยเคลอ่ื นไหว เหมอื นปลาชนดิ อน่ื การใสน ้ํามากทาํ ใหม วลน้ําในถงุ มกี ารโยนตวั ไปมามากทําใหปลาถูกกระแทกไปมา บอบชํ้ามากขน้ึ สําหรับการลําเลียงพันธุปลาจากธรรมชาติไปเลี้ยงในกระชงั ควรบรรจุถุงพลาสตกิ อดั ออกซิเจน ดกี วา งลําเลยี งดว ยถาดสงั กะสี 2. การลําเลยี งโดยใชถ าดสงั กะสี เหมาะสําหรบั ใชล ําเลยี งปลาบขู นาดตลาดไปขายพอ คา คน กลางหรอื ภตั ตาคาร ขนาดถาดลําเลยี งมคี วามกวา ง 45 เซนตเิ มตร ยาว 70 เซนตเิ มตร สูง 9 เซนตเิ มตร ดา นขา งตามความยาวของถาดมรี กู ลมขนาด 1.5-2.0 เซนตเิ มตร เรยี งเปน แถวเดย่ี ว สวน ๐ กลับไปหนากอนนี้ ๐ หนาถัดไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเพาะเลี้ยงปลาบู 19 ดา นกวางมีหูหิ้วทั้ง 2 ขา ง ถาดทําดว ยสงั กะสแี ละมฝี าครอบถาด ภายในมแี ผน สงั กะสกี น้ั กลาง แบง ออกเปน 2 ชอ ง วธิ กี ารลําเลยี ง นาํ ปลาบมู าวางเรยี งกนั เปน แถวเพยี งชน้ั เดยี วจนเตม็ ถาดแลว เอาน้ําพรมใหทั่ว และใสน ํ้าพอทว มทอ งปลาเลก็ นอ ยจากนน้ั ปด ฝา ถา ปลามจี ํานวนมากกล็ ําเลยี งถาดขน้ึ รดซอ นเปน ชน้ั ๆ วธิ นี เ้ี หมาะสําหรบั ขนปลาบขู นาดตลาดไปขายเพราะขนไดค รง้ั ละจํานวนมาก ประกอบกบั ปลาบเู ปน ปลาที่อดทนมากพอสมควรเมื่อลําเลียงไปถึงปลายทางแลวถูกนําไปพักในบอปูนแสดงไวใหผูบริโภคได เลอื กซอ้ื หรอื ใสภ าชนะอน่ื ปลาบกู ย็ งั สามารถมชี วี ติ อยไู ดน านพอสมควร การใชป ระโยชน ปลาบสู ามารถเลย้ี งรวมกบั ปลาอน่ื เพอ่ื เปน ตวั ควบคมุ ประชากรปลา เชน การปลอ ยปลาบใู น บอ ปลานลิ เพอ่ื ควบคมุ ประชากรปลานลิ ไมใ หม มี ากเกนิ ไป มฉิ ะนน้ั ปลานลิ จะเตบิ โตชา และไมไ ดข นาด ตามทต่ี อ งการ ทง้ั ยงั ไดผ ลผลติ ปลาบเู ปน รายไดเ สรมิ อกี ทางหนง่ึ ปลาบยู งั สามารถเลย้ี งเปน ปลาสวย งามได เชน ปลาบทู อง แตสวนใหญ ปลาบทู รายนยิ มเลย้ี งเพอ่ื การบรโิ ภคเพราะมเี นอ้ื ขาวสะอาดนมุ อรอ ย รสชาตดิ สี ามารถนําไปแปรรปู เปน อาหารไดห ลายชนดิ ซง่ึ ชาวจนี นยิ มบรโิ ภคโดยมคี วามเชอ่ื วา กนิ แลว ชวยบํารงุ กําลงั รา งกายใหแ ขง็ แรง และตอ งบรโิ ภคปลาบเู ปน ๆ สด ๆ ๐ กลับไปหนากอนนี้ ๐ หนาถัดไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเพาะเลี้ยงปลาบู 20 การแปรรูปปลาบู ปลาบนู ง่ึ บว ย สว นประกอบ ปลาบขู นาด 400-500 กรัม 1 ตวั คน่ึ ฉา ย 2 ตน บว ยดอง 3 ลกู กระเทียมดอง 3 หัว ผกั กาดขาว 1 หัว ซอี ว๊ิ ขาว 3 ชอ นโตะ วธิ ที ํา 1. นาํ ปลาบมู าขอดเกลด็ ดงึ เหงอื กออกแลว ลา งใหส ะอาด 2. นาํ ปลาบลู งในถาดทป่ี ดู ว ยผกั กาดขาว ใสก ระเทียมดองท่หี น่ั เปน แวน บว ยดอง และคึ่น ฉายที่หั่นเปนทอน ราดซอี ว๊ิ ขาวลงบนตวั ปลานําไปนง่ึ ใหส กุ ประมาณ 15-20 นาที ยกลงรบั ประทาน ได นํ้าจม้ิ : โขลกกระเทียม 5 กลบี พรกิ ขห้ี นู 5 เมด็ ใหล ะเอยี ดเตมิ มะนาวน้ําปลาและน้ําตาลเลก็ นอ ย ปรงุ รสตามตอ งการ ปลาบนู ง่ึ แปซ ะ สว นประกอบ ปลาบขู นาด 400-500 กรัม 1 ตวั ผกั กาดขาว 1 หัว ขงิ หน่ั ฝอย 1 ขดี พริกแดงหั่นฝอย 1 ขดี พริกไทย 1 ชอนชา ซอี ว๊ิ ขาว 3 ชอ นโตะ นา้ํ ปลา 2 ชอ นโตะ เตาเจี้ยว 1 ชอ นโตะ วธิ ที ํา 1. นาํ ปลาบมู าขอดเกลด็ ดงึ เหงอื กออกใหห มดแลว ลา งใหส ะอาด 2. นาํ ปลาบวู างบนถาดทป่ี ดู ว ยผกั กาดขาว แลวนําสว นประกอบตา ง ๆ ราดบนตวั ปลา นําไป นง่ึ ใหส กุ ประมาณ 15-20 นาที ยกลงรบั ประทานได นํ้าจม้ิ : โขลกพรกิ ข้หี นูและกระเทียมพอแตกเติมน้ําปลา น้าํ ตาล ปรงุ รสตามใจชอบ ๐ กลับไปหนากอนนี้ ๐ หนาถัดไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเพาะเลี้ยงปลาบู 21 ปลาบนู ง่ึ ซอี ว๊ิ สว นประกอบ ปลาบขู นาด 400-500 กรัม 1 ตวั ผกั กาดขาว 1 หัว ซอี ว๊ิ ขาว 3 ชอ นโตะ คน่ึ ฉา ย 3 ตน วธิ ที ํา 1. นาํ ปลาบมู าขอดเกลด็ ดงึ เหงอื กออกใหห มดลา งใหส ะอาด 2. นาํ ปลาบวู างบนถาดทป่ี ดู ว ยผกั กาดขาว ราดซอี ว๊ิ ขาวใหท ว่ั ตวั ปลา และโรยหนาดวยคึ่น ฉายทห่ี น่ั เปน ทอ น นําไปนง่ึ ในน้ําเดอื ดจดั ประมาณ 20 นาที สกุ ยกมารับประทานได นํ้าจม้ิ : โขลกกระเทียม 5 กลบี พรกิ ขห้ี นู 5 เมด็ ใหล ะเอยี ดใสข งิ หน่ั เปน เสน เลก็ ๆ ลงไป เตมิ เตาเจี้ยวและนํ้าตาลเลก็ นอ ย ปรงุ รสตามใจชอบ ตํ มยําปลาบูกรอบ สว นประกอบ ปลาบขู นาด 400-500 กรัม 1 ตวั ตะไคร 1 ตน ขา ออ นหน่ั ละเอยี ด 1 ขดี มะเขอื เทศหน่ั เปน ซกี 2 ลกู ใบมะกรดู 3 ใบ เห็ดฟางหั่น 1 ขดี พริกขี้หนูแหงเผา มะนาว นา้ํ ปลา ผักชีฝอย วธิ ที ํา 1. นาํ ปลาบขู อดเกลด็ ควักไสแ ละเหงอื กออกใหห มด ลา งใหส ะอาดหน่ั เปน ชน้ิ ๆ แลวนําไป ทอดใหกรอบ 2. ตง้ั นา้ํ ใหเ ดอื ด ทบุ ตะไครแ ลว หน่ั เปน ทอ นใสล งในหมอ พรอ มขา ออ น ใหน ้ําเดอื ดอกี สกั พกั ใสเห็ดฟางหั่น ตม เหด็ ฟางพอสกุ ใสป ลาบทู อดกรอบลงไปตามดว ยมะเขอื เทศหน่ั เปน ซกี ปรงุ รสดว ย น้าํ ปลา มะนาว และพริกขี้หนูแหงเผาโขลกใหแตกตามความพอใจแลวโรยดวยผักชีฝอย ยกลงรบั ประทานได ๐ กลับไปหนากอนนี้ ๐ หนาถัดไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเพาะเลี้ยงปลาบู 22 คําแนะนํา การปอ งกนั สตั วน ้ําจากภยั ธรรมชาติ “ภัยธรรมชาติ” หมายถึง อนั ตรายจากสง่ิ ทเ่ี กดิ มแี ละเปน อยตู ามธรรมดา ของสง่ิ นน้ั ๆ โดยมไิ ด มกี ารปรงุ แตง อาทิ อุทกภัย และฝนแลง เปน ตน กรมประมง จงึ ขอเสนอแนวทางปอ งกนั หรอื ลดความ สญู เสียและความเสียหายแกเกษตรกรผูเพาะเลี้ยงสัตวนํ้าจากการประสบภาวะฝนแลง ฝนตน ฤดแู ละอทุ ก ภัย ดงั น้ี ภาวะฝนแลง ภาวะฝนแลงและฝนท้ิงชวงทํ าใหปริมาณน้ํ ามีนอยท้ังในแหลงน้ํ าธรรมชาติและแหลงน้ํ าชล ประทานซง่ึ เปน แหลง น้ําสําคญั ทใ่ี ชใ นการเพาะเลย้ี งสตั วน ้ําและเกดิ ผลกระทบตอ การประมง ตลอดจน สภาพแวดลอ มไมเ หมาะสมตอ การแพรข ยายพนั ธแุ ละการเจรญิ เตบิ โตของสัตวน ้ํา โดยมวี ธิ กี ารปฏบิ ตั ดิ งั น้ี 1. ควบคมุ การใชน ้ําและรกั ษาปรมิ าณน้ําในทเ่ี ลย้ี งสตั วน ้ําใหม กี ารสญู เสยี นอ ย เชน การร่ัวซึม การกาํ จัดวัชพืช 2. ทํารม เงาใหส ตั วน ้ําเขา พกั และปอ งกนั การระเหยน้ําบางสว น 3. ลดปรมิ าณการใหอ าหารสตั วน ้ําทีม่ ากเกนิ ความจําเปนจะทําใหน ้ําเสยี 4. เพม่ิ ปรมิ าณออกซเิ จนโดยใชเ ครอ่ื งสบู น้ําจากกน บอ พน ใหส มั ผสั อากาศแลว ไหลคนื ลงบอ 5. ปรบั สภาพดนิ และคณุ สมบตั ขิ องน้ํา เชน น้าํ ลกึ 1 เมตร ใสป นู ขาว 50 กก./ไร ถา พน้ื บอ ตะไครห รอื แกส มากเกนิ ไปควรใสเ กลอื 50 กก./ไร เพื่อปรับสภาพผิวดินใหดีขึ้น 6. จบั สัตวนํ้าทไ่ี ดข นาดขน้ึ จําหนา ยหรือบรโิ ภคในเวลาเชา หรอื เยน็ เพอ่ื ลดปรมิ าณสตั วน ้ําใน บอ 7. ตรวจสอบคณุ สมบตั ขิ องน้ําจากภายนอกที่จะสูบเขาบอเลี้ยง เชน พบวา มตี ะกอนและแรธ าตุ ตา ง ๆ เขม ขน ควรงดการสบู น้ําเขา บอ 8. งดเวน การรบกวนสตั วน ้ําเพราะการตกใจจะทําใหส ตั วน ้ําสญู เสยี พลงั งานและอาจตายได 9. งดเวน การขนยา ยสตั วน ้ําโดยเดด็ ขาด หากจําเปน ตอ งทําอยา งระมดั ระวงั 10. แจง ความเสยี หายตามแบบฟอรม กรมประมง เพอ่ื การขอรบั ความชว ยเหลอื อยา งถกู ตอ ง และรวดเรว็ ภาวะฝนตน ฤดู การเตรยี มการรบั ภาวะฝนตน ฤดู เกษตรกรผเู พาะเลย้ี งสตั วน ้ําควรปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี 1. ไมค วรสบู น้ําฝนแรกเขา บอ เพราะน้ําจะพัดพาสิง่ สกปรกจากผวิ ดนิ ลงสูแ หลงนํ้าธรรมชาติ ควรปลอ ยใหน ้ํามปี รมิ าณเพม่ิ ขน้ึ จึงนําน้าํ ไปใชใ นการเพาะเลย้ี งสตั วน ้ํา 2. ควรสบู น้ําในบอ ใหส มั ผสั อากาศจะชว ยเพม่ิ ปรมิ าณออกซเิ จนและปอ งกนั การแบง ชน้ั ของน้าํ 3. ปอ งกนั การไหลของน้ําฝนทจ่ี ะชะลา งแรธ าตแุ ละสารเคมจี ากผวิ ดนิ ลงสบู อ ซง่ึ อาจเปน อนั ตรายตอ สตั วน ้ําได 4. งดการรบกวน การจบั และขนยา ยสตั วน ้ํา ควรรอจนกวา คณุ สมบตั ขิ องน้ํามสี ภาพดเี ปน ปกติ 5. งดจบั สตั วน ้ําเพอ่ื การอนรุ กั ษ เนอ่ื งจากสตั วน ้ําจะผสมพนั ธหุ ลงั จากฝนตกใหม ๆ ๐ กลับไปหนากอนนี้ ๐ หนาถัดไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเพาะเลี้ยงปลาบู 23 ภาวะอทุ กภยั การปองกันสัตวนํ้าสูญหายจากภาวะอุทกภัยควรปฏิบัติตามสภาวะการณกอนเกิดภาวะอุทกภัย คอื ใหจ บั สตั วน ้ําทไ่ี ดข นาดตลาดตอ งการออกจําหนา ย กอ นชว งมรสมุ ในฤดฝู น พรอ มทง้ั สรา งกระชงั ไนลอน กระชงั เนอ้ื อวน บอ ซเี มนต หรอื ขงึ อวนไนลอน เพอ่ื กกั ขงั สตั วน ้ํา “สัตวนํ้าจะปลอดภยั ใหปองกันหมั่นดูแล” ๐ กลับไปหนากอนนี้ ๐ หนาถัดไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ จดั ทําเอกสารอิเล็กทรอนิกสโดย : สาํ นกั สง เสรมิ และฝก อบรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร
Search
Read the Text Version
- 1 - 23
Pages: