Leadership for Transcendence ภาวะการนำเพื่อการข้ามพ้น

Leadership for Transcendence ผู้เขา้ อบรมจบั ค่สู นทนาเกยี่ วกับแนวทาง ในการน�ำเป้าประสงค์ทไี่ ดค้ น้ พบระหว่างการอบรม มาหลอมรวมให้เข้ากับชีวิตประจำ� วนั ของตนเอง 201

ภาวะการนำ� เพื่อการขา้ มพ้น ข้ันตอนท่ีห้า เป็นการเข้าไปรับรู้เพื่อนร่วมทางของเราจ�ำพวกท่ีเป็นเสียง วพิ ากษว์ จิ ารณ์ หรอื ผทู้ ม่ี าปกปอ้ งเราเพราะไมต่ อ้ งการใหเ้ ราไปบนเสน้ ทางนน้ั โดยค้นหาว่าเราสามารถท�ำอะไรได้บ้างในการเข้าไปรับรู้เสียงเหล่านี้ รวมถึง ให้เกยี รติ และขออนญุ าตให้เสียงเหลา่ นี้ไปอยขู่ ้าง ๆ ก่อน เพอ่ื ให้เราเดนิ ผ่าน ไปบนเสน้ ทางแหง่ เป้าประสงค์ท่ีจรงิ แท้ได้ โจทย์ทสี่ ำ� คญั คอื เราจะท�ำอยา่ งไร ให้เข้าไปฟังเสียงเหล่าน้ีได้โดยท่ีสามารถได้ยินเจตจ�ำนงของเสียงเหล่าน้ีแต่ไม่ ตอ่ สู้กบั เสียงเหลา่ นี้ ขั้นตอนท่ีหก เป็นการค้นหาการกระท�ำเพ่ือท�ำให้ความคิดหรือสมอง ของเราให้เงียบสงบลง เพื่อน�ำพาคลื่นสมองของเราให้เปล่ียนจากคลื่นสมอง ท่ีมีความถ่ีสูงคือระดับเบตา (Beta wave) ไปยังคล่ืนสมองท่ีมีระดับความถี่ ต่ำ� กวา่ เชน่ คลื่นสมองระดบั อัลฟา (Alpha wave) และธตี า (Theta wave) ซ่ึงจะท�ำใหเ้ ราสามารถเชือ่ มโยงกบั ปญั ญาญาณของเราไดด้ ยี ิง่ ข้นึ ข้ันตอนท่ีเจ็ด เป็นขั้นตอนที่เปิดให้ปัญญาญาณของเราเข้ามาส่งสารว่า เราควรต้องท�ำอะไรเพื่อให้เราสามารถด�ำรงอยู่บนหนทางของเป้าประสงค์ โดยให้เราและผู้เข้าร่วมท่ีเป็นคู่สนทนาของเราสัมผัสปัญญาญาณของ ตนเอง แล้วกล่าวออกมาว่ามีส่ิงใดผุดข้ึนมาจากการเข้าไปสัมผัสปัญญาญาณ โดยผลดั กนั เปน็ ผู้รับและผูใ้ หป้ ญั ญาญาณ หลังจากเสร็จส้ินกิจกรรมข้างต้น วิกรัมได้ปิดวงการอบรมโดยการให้ ผู้เข้าร่วมสะท้อนความคิดเกี่ยวกับกิจกรรมการหลอมรวมเป้าประสงค์ในชีวิต ประจ�ำวัน หรอื ส่ิงอื่นใดท่อี ยากจะกล่าวท้งิ ท้ายในการอบรม ผู้เข้าร่วม : ถ้าเป้าประสงค์เปรียบเหมือนแสงของดวงดาว ก็ต้อง ขอบคุณกระบวนการในการอบรมทั้งสามวันท่ีท�ำให้ผมได้เห็นเป้าประสงค์ ชัดเจนข้ึนและได้รับพลังงานจากคนในห้องอบรม ท�ำให้ท้องฟ้าที่มืดมน เปลี่ยนเป็นค่�ำคืนท่ีสว่างสดใสไปด้วยแสงของดวงดาว และเป้าประสงค์ ของเราก็ล้วนอยู่บนท้องฟ้าเดียวกัน กระบวนการที่ได้ท�ำในสามวันนี้ มีความลึกซึ้ง บางค�ำถามหรือกระบวนการในบางกิจกรรม ท�ำให้ผม 202

Leadership for Transcendence แตะไปถึงจิตวิญญาณตนเอง ท่ีผ่านมาผมท�ำงานด้านองค์กรและได้เห็น รูปแบบองค์กรท่ีมีชีวิตระดับสูง ในสามวันนี้ผมได้ศึกษาเร่ือง Reinventing organization ซ่ึงมีเรื่องของเป้าหมายท่ีขับเคล่ือนคน ผมประจักษ์ว่า ถ้าหากเปรียบพวกเราเสมือนองค์กรหน่ึง เราจะเป็นองค์กรที่มีจิตวิญญาณ ขั้นสูง และมีกระบวนการจัดการตนเองที่ทรงพลัง กระบวนการเม่ือวาน ท�ำให้เราเชื่อและไว้ใจสรรพส่ิงท่ีมีอยู่ข้างหน้าโดยไม่มีข้อสงสัยหรือข้อกังวล ใด ๆ สามวันที่ผ่านมายังมีผู้เข้าอบรมอีกหลายท่านที่ผมยังไม่ได้คุยด้วย แตผ่ มกลับร้สู ึกเหมอื นวา่ ทกุ คนไดค้ ยุ กับผม การเรยี นรู้ทัง้ สามวันนมี้ หศั จรรย์ และสวยงามมาก ผเู้ ขา้ ร่วม : สิง่ แรกท่ีไดเ้ รยี นรู้จากการอบรมคอื เป้าประสงค์จะตามหาเรา เจอเอง ในกลุ่มย่อยคุณอดิศรได้พูดบางอย่างที่ท�ำให้เราชัดเจนในการลงมือ ปฏิบัติในสิ่งที่ตรงกับเป้าประสงค์ เมื่อวานตอนเช้าระหว่างท่ีร่วมกิจกรรม การยืนท�ำสมาธิ ยังรู้สึกว่าเป้าประสงค์ท่ีได้รับมาเป็นโจทย์ที่ย่ิงใหญ่มาก แตก่ ระบวนการ 7 ข้ันตอนทไ่ี ด้ทำ� ไปกช็ ว่ ยใหเ้ ราเหน็ หนทางชดั ข้นึ วา่ เราจะ ท�ำใหเ้ ปา้ ประสงค์เป็นสว่ นหน่ึงในชีวิตของเราได้อยา่ งไร ผูเ้ ขา้ รว่ ม : ผมคิดว่าผมเปน็ คนทแี่ ปลกที่สุดในการอบรมนี้ อย่างแรกคอื ผมฟังภาษาอังกฤษไม่เข้าใจ อย่างที่สองคือ ผมน่าจะเป็นคนเดียวท่ีมาจาก ชุมชนชาวบ้าน แต่สิ่งมหัศจรรย์คือเคร่ืองมือท่ีได้รับจากวิทยากรน่าจะเป็น เคร่ืองมือที่ท�ำให้ชุมชนสามารถพัฒนาอย่างรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของ สังคมได้ สามวันนี้เป็นค�ำตอบยืนยันว่า จุดหมายท่ีเราก�ำลังจะเดินทางไปถึง นั้นเป็นเร่ืองย่ิงใหญ่ท่ีชุมชนเราจะต้องช่วยกันเติมเต็ม ขอบคุณโครงการผู้น�ำ แห่งอนาคตท่ีให้โอกาสผมมาอบรม และได้เจอกัลยาณมิตรอีกมากมายจาก เวทแี หง่ นี้ ณัฐฬส : การที่เราได้มาเรียนรู้ร่วมกัน อาจจะดูเหมือนมาเพ่ือเรียน รู้เป้าประสงค์ของตัวเอง แต่ที่จริงแล้วเรามีเป้าประสงค์ร่วมกันของกลุ่ม ผู้เข้าร่วมในการอบรมนี้ด้วย ผมคิดว่าเป้าประสงค์ร่วมก�ำลังเรียกร้อง 203

ภาวะการน�ำเพื่อการข้ามพ้น หรือปรารถนาให้พวกเรามาเป็นครอบครัวเดียวกัน โดยท่ีข้ามพ้นบทบาท การมีมากมีน้อย หรือว่าการแข่งขันไป เพราะว่ามีสิ่งท่ียิ่งใหญ่กว่าตัวเราที่ ต้องการให้เรารับใช้ ผู้เข้าร่วมหลายท่านกล่าวว่าในการอบรมน้ีเราได้พูดผ่าน จติ วญิ ญาณของกันและกนั ซึ่งเป็นภาษาของความเงยี บ ผมคิดวา่ กระบวนการ อบรมท่ีวิกรัมออกแบบ มคี วามเรยี บง่าย มีขน้ั ตอนชดั เจน และสามารถสร้าง ความเช่ือมโยงระหว่างเรากับจิตวิญญาณของเราเอง และจิตวิญญาณของ คนอน่ื ๆ ในการอบรมน้ี ท�ำให้เกดิ ความเงยี บ การใสใ่ จ การทะนถุ นอม และ การรับฟังซ่ึงกันและกัน ส่วนผมเองก็ได้ท�ำความรู้จักจิตวิญญาณของตัวเอง และรสู้ กึ ขอบคณุ เปา้ ประสงคไ์ ดม้ ากขน้ึ เปา้ ประสงคเ์ ปน็ เหมอื นคนแปลกหนา้ ทีเ่ ราไมร่ ู้จัก แตเ่ ป้าประสงคก์ ลบั รจู้ กั เราและทราบว่าเราสามารถจะเป็นอะไร ทม่ี ากกวา่ นีไ้ ด้ เราจึงต้องทำ� ความรจู้ ักเป้าประสงคก์ ันตอ่ ไป อธิษฐาน์ : ตอนจัดการอบรมหลักสูตรน้ีขึ้นมาไม่คิดว่าการอบรมจะพา เรามาได้ไกลและลึกได้ขนาดนี้ วันนี้ข้างในมีความส่ันสะเทือนเพราะสิ่งท่ีเกิด ขึน้ ในวง ความส่นั สะเทือนน้ีไม่ได้เกิดแค่กบั คน 40 คน แต่เกิดกบั สังคมและ ประเทศ เพราะเราแต่ละคนมีบทบาทท่ีจะไปสร้างผลกระทบ และท�ำงาน กับคนอีกมากมายรอบตัวเรา คนท่ีเข้าร่วมอบรมในครั้งนี้ก็ถูกเลือกมาด้วย มีเสียงเรียกที่พาทุกคนมานั่งตรงน้ี ยินดีท่ีได้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ นี้ อยากขอบคุณทุกคน เพราะพลังงานดี ๆ ที่เกิดขึ้นในห้องมาจากพวกเรา ทุกคนที่เปิดใจแบ่งปัน อยากขอบคุณทีมงานเบื้องหลังทุกคนที่สนับสนุน ให้เกิดพื้นที่น้ีเกิดข้ึน และขอบคุณล่าม คือคุณณัฐฬส ซึ่งเป็นมากกว่าล่าม เขาเป็นทั้งทีมงาน เพื่อน และเป็นผู้โอบอุ้ม สุดท้ายขอขอบคุณวิกรัมและ คุณสวุ ีร์ที่น�ำพาการเรียนร้ทู ล่ี ึกซึ้งมาให้พวกเราได้รับรแู้ ละแบ่งปันกัน 204

Leadership for Transcendence ก่อนปดิ การอบรม ผเู้ ข้าร่วมได้แลกเปลยี่ นกันในวงอบรม เกยี่ วกับส่งิ ทีไ่ ดร้ ับในสามวันทีผ่ ่านมา 205

สรุปท้ายหลักสตู ร ในหลกั สตู รหวั ขอ้ “การนำ� ดว้ ยเปา้ ประสงคท์ างจติ วญิ ญาณ” ผู้เข้าอบรมได้แลกเปล่ียนเรียนรู้และท�ำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเกิด การใคร่ครวญเป้าประสงค์ท่ีจริงแท้ของตนเอง ในการอบรม วนั แรก ผเู้ ขา้ รว่ มไดท้ ำ� ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั การเขา้ ถงึ เปา้ ประสงค์ ที่จริงแท้ และได้ค้นหาเป้าประสงค์ของตนเอง ผ่านชุดค�ำถาม และการเชื่อมโยงกับปัญญาญาณ ในการอบรมวันที่สอง ผู้เข้าร่วมได้ลองพิจารณาบุคคลที่ตนเองช่ืนชม ท�ำให้เห็น ว่าตนเองมีทรัพยากรหรือคุณสมบัติใดบ้างในการเดินตาม เป้าประสงค์ จากน้ัน ผู้เข้าร่วมได้ท�ำความเข้าใจเส้นทาง การเดินตามเป้าประสงค์ของตนเองที่ผ่านมา ผ่านกรอบ ความคิดเรื่องการเดินทางของผู้กล้า (Hero’s journey) ท�ำให้เห็นเส้นการเดินทางชีวิตในภาพรวมของตนเอง รวมถึง จุดติดขัดหรือเติบโตในระดับปลีกย่อย ต่อมาในการอบรมวันท่ี สาม ผูเ้ ขา้ ร่วมไดพ้ ิจารณาเพอื่ นร่วมทางท่สี นับสนุนและทา้ ทาย ต่อเป้าประสงค์ รวมไปถึงการหลอมรวมสิ่งที่ได้เรียนรู้ในสาม วันไปสู่การปฏิบัติจริงในชีวิตประจ�ำวัน โดยฝึกท�ำกระบวนการ 7 ขั้นตอนเพื่อให้ค้นพบแนวทางในการเดินบนเส้นทางแห่ง เป้าประสงค์ท่ีจริงแท้ได้ดีย่ิงข้ึน

สารส่งท้าย ชุดการอบรมเชิงปฏิบัติการภาวะการน�ำเพ่ือการข้ามพ้น ซ่ึง ประกอบด้วยหลักสูตรภาวะการน�ำที่ด�ำรงอยู่บนขอบ การน�ำด้วย ปัญญาญาณ และการน�ำด้วยเป้าประสงค์ทางจิตวิญญาณ เป็น ชุดการอบรมท่ีออกแบบมาเพื่อส่งเสริมศักยภาพแก่ผู้เข้าอบรมให้ สามารถเลือกเดินบนขอบได้อย่างสมดุลและมีคุณภาพ พร้อมด้วย ทักษะการเข้าถึงญาณทัศนะ และสามารถก้าวเดินบนหนทาง แ ห ่ ง เป้าประสงค์ที่ แ ท ้ จ ริ ง ด ้ ว ย ใ จ ท่ี มั่ น ค ง แ ล ะ พ ร ้ อ ม เ รี ย น รู ้ เม่ือผเู้ ขา้ รว่ มน�ำความรู้และทักษะเหล่านี้หลอมรวมเข้ากับวิถีชีวิต และการท�ำงานจนเป็นหนึ่งเดียวกัน ท�ำให้มีความพร้อมในการเป็น “ผู้น�ำการเปลี่ยนแปลง” ของชุมชนและสังคมเพ่ิมข้ึน เปรียบได้ กับผู้กล้าท่ีมีพร้อมด้วยปัญญา อาวุธ และทรัพยากรต่าง ๆ ใน การเดินทางฝ่าฟันอุปสรรคนานาเพื่อไปยังเป้าหมายอันประเสริฐ ได้ในท่ีสุด