Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พระราชาผู้ทรงธรรม : ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสด้านการเมืองการปกครอง

พระราชาผู้ทรงธรรม : ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสด้านการเมืองการปกครอง

Description: พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อชีวิตความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของพสกนิกร และความเจริญรุ่งเรืองอย่างยั่งยืนของประเทศชาติภายใต้แนวพระราชดำริปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทรงตั้งมั่นอยู่ใน
ทศพิธราชธรรมสมดังพระปฐมบรมราชโองการที่ว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุข แห่งมหาชนชาวสยาม”.

Search

Read the Text Version

กระแสพระราชดำรัส(๑) พระราชทานแก่คณะกรรมการเนติบัณฑิต รุ่นที่ ๒๒(๒) ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วันอังคารท่ี ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๑๖ ขอขอบใจท่ีนำเงินการกุศลจากงานที่ได้จัดเพ่ือที่จะพบปะกันในระหว่างเนติบัญฑิต รุ่นท่ี ๒๒ มามอบ ทำให้นึกถึงว่าท่านท้ังหลายได้ผ่านการศึกษาและมาคุยกันเพ่ือที่จะทำ หน้าที่ในด้านกฎหมายโดยสมบูรณ์ ก็เป็นส่ิงท่ีน่าชื่นชม ทั้งได้แสดงปณิธานที่จะปฏิบัติงาน อนั สำคญั ดว้ ยความตง้ั ใจและดว้ ยความรู้ในวิชาการทีถ่ ูกต้องในกจิ การ งานในด้านกฎหมายเป็นงานที่สำคัญสำหรับบ้านเมือง เพราะว่าบ้านเมืองของเรา จะต้องมีกฎเกณฑ์ มีระเบียบการที่แน่นแฟ้น เพื่อที่จะให้รักษาความยุติธรรมในหมู่ชน ความยุติธรรมน้ีบางทีก็หายาก เพราะว่าพวกเราอยู่ในจำพวกที่ย่อมต้องนึกถึงผลประโยชน์ ผลประโยชน์จะต้องอยู่ในขอบเขต มิฉะน้ันจะมีการเบียดเบียนซึ่งกันและกัน กฎหมายก ็ มีไว้สำหรับช่วยบรรเทาเท่าน้ันเอง คือเมื่อความเบียดเบียนเกิดข้ึนแล้ว ก็แก้ไขเพื่อไม่ให้ ความเบียดเบียนน้ันลุกลามไป ถ้าเราสามารถท่ีจะรักษาความเป็นระเบียบและความ ยุติธรรมได้ โลกเราก็จะอยู่เย็นเป็นสุข มีความสงบ เป็นรากฐานสำหรับให้มีความเจริญ ก้าวหนา้ ไดต้ ามความประสงค ์ การท่ีจะรักษาความเรียบร้อยนี้ก็เป็นงานที่จะต้องใช้สมอง ใช้ปัญญาที่เฉียบแหลม ท่ีจะต้องร่วมมือกันเพื่อสร้างความดีนี้ไว้ ผู้ท่ีมีวิชาเหมือนกันก็ย่อมต้องร่วมมือซึ่งกันและ กัน นอกจากนี้ก็จะต้องพยายามท่ีจะร่วมมือกับผู้อื่นเพื่อที่จะรักษาความดีตามอุดมคติ เมื่อ (๑) เรียบเรยี งขึ้นตามทไี่ ดบ้ ันทกึ พระสุรเสียงไว้ (๒) พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายประภาศน์ อวยชัย เลขาธิการเนติบัณฑิตยสภา พร้อมด้วยคณะกรรมการเนติบัณฑิต รุ่นที่ ๒๒ รวม ๒๑ คน เฝ้า ฯ ทลู เกลา้ ฯ ถวายเงนิ รายไดจ้ ากการจดั งานเนตบิ ณั ฑติ สมั พนั ธ์ ครง้ั ที่ ๑ เมอื่ วนั ที่ ๓๑ ตลุ าคม ๒๕๑๓ โดย เสด็จพระราชกุศลตามพระราชอธั ยาศัย ส ถ า บั น1พ0ร1ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชาผทู้ รงธรรม : ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสดา้ นการเมอื งการปกครอง สักครู่น้ีมียุวพุทธิกสมาคมมา ก็เมื่อออกจากห้องนี้ไป ก็ได้ขอร้องให้ทำตามอุดมคติที ่ ยุวพุทธิกสมาคมได้วางเอาไว้ และได้ขอร้องให้ร่วมมือกับทางฝ่ายอื่น ที่จะสร้างความเรียบ ร้อย เช่นได้บอกไว้ว่าขอให้ร่วมมือในการอบรมและช่วยเหลือผู้อื่นท่ีประสบเคราะห์ร้าย ในกิจการอ่ืน ๆ ในท่ีน้ีก็ขอร้องกับท่านท้ังหลายและผู้ท่ีมีความรู้ในด้านกฎหมาย ให้ร่วม มือกับผู้อื่นท่ีเขามีความรู้ในด้านน้ี และมีความตั้งใจในแนวอื่น ร่วมมือกันเพ่ือให้จุดประ- สงค์ซึ่งทุกฝ่ายมีอยู่ด้วยกัน คือ ความมั่นคงและความผาสุกของส่วนรวม ขอให้ร่วมมือ อย่างดี และสร้างความยุติธรรม สร้างความก้าวหน้า ความมั่นคง ด้วยการร่วมมือในด้าน วชิ าการ และท้ังรว่ มมอื ในทางอดุ มคติ ฉะนั้น ก็ขอให้ทุกคนสามารถท่ีจะปฏิบัติงานที่สำคัญของตน และขอให้ร่วมมือ กับผู้อ่ืนในงานท่ีจะสร้างความเรียบร้อย สร้างความก้าวหน้าแก่บ้านเมืองต่อไป ขอทุกท่าน จงประสบความสำเร็จในงานการในหน้าท่ี ความเจริญก้าวหน้าในชีวิตทุกประการ ขอให้ มกี ำลังกายกำลังใจท่ีสมบรู ณ์พรอ้ ม และประสบความสำเร็จ. ส ถ า บั น1พ0ร2ะ ป ก เ ก ล้ า

พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานประกาศนียบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร วันพฤหัสบดีที่ ๖ กันยายน ๒๕๑๖ ข้าพเจ้าและพระราชินีมีความยินดี ท่ีได้มาร่วมงานแจกประกาศนียบัตรของเนติ- บัณฑิตยสภาอีกคร้ังหน่ึง และขอแสดงความชื่นชมกับเนติบัณฑิต ที่ได้รับเกียรติและ ความสำเรจ็ ในการศึกษาทกุ คน ท่านท้ังหลายส่วนใหญ่ จะได้เป็นผู้นำในด้านกฎหมาย และผู้ประสาทความเป็น ธรรมแก่ประชาชนต่อไป โดยอาชีพและหน้าที่ชอบที่จะถือว่างานของท่านเป็นงานสำคัญ พิเศษ ซึ่งควรจะต้องกระทำด้วยความระมัดระวัง อย่างละเอียดรอบคอบและเที่ยงตรง โดยสุดความสามารถ จะปลอ่ ยให้ผดิ พลาดบกพรอ่ งไม่ได้เลยเปน็ อันขาด ข้าพเจ้าจึงใคร่ฝากข้อพิจารณาไว้ เพื่อประโยชน์ของการปฏิบัติงานของแต่ละคน ว่า กฎหมายท้ังหมดซึ่งประกาศใช้บังคับแก่ประชาชนนั้น แม้จะมีบทบัญญัติอันเท่ียงธรรม และครอบคลุมไปถึงประชาชนทั่วประเทศอยู่ในตัว โดยหลักการ แล้วก็ตาม แต่คดีความ ที่เกิดข้ึนนั้นก็ยังผิดแผกแปลกกันไปได้มาก ตามเหตุแวดล้อม สภาพการณ์ และพื้นฐาน ทางเศรษฐกิจสังคมของแต่ละท้องถิ่น การใช้กฎหมายบังคับคดีต่าง ๆ จำเป็นต้องใช้วิจารณ- ญาณอันถูกต้องของนักกฎหมายควบคู่ไปด้วยทุกกรณี จึงจะสามารถรักษาความยุติธรรม ไว้ มิให้ส่ันคลอนและขาดตกบกพร่องได้ นักกฎหมายทุกคนจะต้องตั้งใจใช้กฎหมายเพื่อ ผดุงความเป็นธรรม ความผาสุกสงบ ความมั่นคงของมหาชนและประเทศชาติ ท้ังต้อง เพ่งถึงการใช้วิจารณญาณอันถูกถ้วนให้มากที่สุด ควบคู่กับการใช้กฎหมายเสมอตลอดไป มฉิ ะน้นั อาจไมบ่ รรลผุ ลตามทีท่ กุ คนมุ่งหวัง ขอขอบใจในน้ำใจไมตรีของทุกท่าน ในการที่ได้ต้อนรับข้าพเจ้าและพระราชินี และขออวยพรให้เนติบัณฑิตใหม่ทุกคนประสบความสำเร็จในชีวิต มีความเจริญก้าวหน้า ในหน้าที่การงานทุก ๆ ประการตามที่มงุ่ ประสงค.์ ส ถ า บั น1พ0ร3ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชดำรัส ณ หอพระสมุด สวนจิตรลดา วันอาทิตย์ที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ วันนี้ เป็นวันมหาวิปโยค ท่ีน่าเศร้าสลดอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย ตลอด ระยะเวลา ๖ - ๗ วัน ที่ผ่านมา ได้มีการเรียกร้องและการเจรจากัน จนกระท่ังนักศึกษา และรัฐบาลทำข้อตกลงกันได้ แต่แล้วมีการขว้างระเบิดขวดและยิงแกสน้ำตาข้ึน ทำให้ เกิดการปะทะกัน และมีคนได้รับบาดเจ็บหลายคน ความรุนแรงได้ทวีข้ึนท้ังพระนคร ถึง ขนั้ จลาจล และยังไมส่ ้นิ สุด มคี นไทยด้วยกนั ต้องเสยี ชวี ติ นับร้อย ขอให้ทุกฝ่ายทุกคนจงระงับเหตุแห่งความรุนแรงด้วยการต้ังสติยับยั้ง เพื่อให้ชาติ บ้านเมอื งคนื ส่สู ภาพปรกติเรว็ ทสี่ ดุ อน่ึงเพ่ือขจัดเหตุร้ายนั้น จอมพล ถนอม กิตติขจร ได้ขอลาออกจากตำแหน่ง นายกรฐั มนตรีเมื่อค่ำวันนี้ ข้าพเจา้ จงึ แต่งตั้งให้ นายสญั ญา ธรรมศกั ด์ิ เป็นนายกรัฐมนตรี ขอให้ทุกคนทุกฝ่ายร่วมกันสนับสนุน เพื่อให้คณะรัฐบาลใหม่สามารถบริหารงาน แผ่นดินได้โดยมีประสิทธิภาพเต็มเป่ียม และแก้ไขสถานการณ์ให้คืนสู่สภาพเรียบร้อยได ้ โดยเร็ว ยังความสงบสุขความเจริญรุ่งเรืองให้บังเกิดแก่ประเทศและประชาชนชาวไทยโดย ท่ัวกัน. ส ถ า บั น1พ0ร4ะ ป ก เ ก ล้ า

กระแสพระบรมราโชวาท(๑) ในโอกาสที่นายสัญญา ธรรมศักด์ิ นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี ฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าท่ี ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วันอังคารท่ี ๑๖ ตุลาคม ๒๕๑๖ ข้าพเจ้าขอขอบใจนายกรัฐมนตรีท่ีได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทุก ท่านท่ีได้รับเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลใหม่ ท่านได้มารับตำแหน่งในวาระท่ีวิกฤติอย่างย่ิง และ เป็นสถานการณ์ท่ีฉุกเฉิน การที่ได้รับตำแหน่งในวาระน้ีจึงเป็นส่ิงท่ีลำบากท่ีจะปฏิบัติต่อไป เพราะว่างานต่าง ๆ จะต้องทำด้วยความกล้าหาญ ทำด้วยความรอบคอบ เพ่ือให้สามารถ นำพาประเทศชาติใหม้ ีความมนั่ คงและมคี วามเจรญิ ต่อไป ปัญหาของสถานการณ์ในปัจจุบันนี้มีแปลกประหลาดหลายอย่าง คือนอกจากงาน ตามปรกติของประเทศชาติที่จะต้องปฏิบัติ เช่นสวัสดิภาพของประชาชน ความก้าวหน้า ของประชาชนตามปรกติแล้ว ยังมีสถานการณ์ท่ีแหวกแนว และถ้าพูดถึงสถานการณ์แบ่ง ก็ได้เป็นสองอย่าง แบ่งสถานการณ์เป็นทางวัตถุอย่างหน่ึง กับสถานการณ์ทางจิตใจอีก อย่างหน่ึง ทางวัตถุสำหรับในกรุงเทพนี้ นอกจากสถานการณ์ทางวัตถุท่ีเป็นปรกติคือส่ิง ก่อสร้างข้ึนมา ซ่ึงจะต้องพยายามสร้างให้ดีข้ึน ยังมีส่ิงที่ถูกทำลายซ่ึงจะต้องซ่อมแซม ในทางจิตใจก็เช่นเดียวกัน มีสิ่งท่ีจะต้องพัฒนาให้ประชาชนมีความคิดที่ดีมีความซ่ือสัตย ์ สุจริต และมีความคิดในทางพัฒนา และอีกอย่างหน่ึงก็ต้องซ่อมแซมจิตใจท่ีสูญลงไป ด้วยเหตุการณ์ท่ีได้ผ่านมาในสัปดาห์ที่แล้ว เหตุการณ์นี้ได้ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงอย่าง ประหลาด เพราะว่าเป็นเร่ืองของจิตใจท่ีจะอยากให้มีการปกครองท่ีถูกต้อง เพื่อให้ทุกคน ได้สามารถอยู่ในประเทศไทยด้วยความมีเกียรติ ด้วยความปลอดภัย และด้วยความภูมิใจ แต่สภาพในปัจจุบันน้ีก็พูดอีกอย่างได้เหมือนกันว่าเป็นอย่างไร ยิ่งค้านกัน คือการได้มา ซ่ึงสำหรับคนภายนอกท่ัว ๆ ไปเห็นว่าเป็นการได้มาซ่ึงประชาธิปไตย โดยได้ต่อสู้ และ (๑) เรียบเรียงขึ้นตามท่ไี ดบ้ ันทกึ พระสรุ เสยี งไว้ ส ถ า บั น1พ0ร5ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชาผทู้ รงธรรม : ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรสั ดา้ นการเมอื งการปกครอง ได้เท่ากับได้ชัยชนะว่ารัฐบาลนี้จะให้ประชาธิปไตย และได้แถลงแล้วก่อนอื่นว่าจะได ้ รัฐธรรมนูญภายใน ๖ เดือน แต่ในเวลาเดียวกันกลไกต่าง ๆ ของการปกครองก็อลเวงไป หมด เช่นการรักษาความสงบก็ตาม คือการรักษาความสะอาดทั้งทางจิตใจและทางวัตถุ แทน ที่จะเป็นของทางราชการ ก็เป็นของเอกชน และรัฐบาลนี้ก็จะต้องมีหน้าที่ท่ีพิเศษ คือจะ ต้องทำให้ภาระต่าง ๆ กลับคืนมาสู่ตน ภาระต่าง ๆ ของรัฐบาล ของทางราชการก็ต้องกลับ มาเป็นของทางราชการ ทั้งน้ีก็เพ่ือที่จะให้ได้บรรลุผลถึงจุดประสงค์ของการมีรัฐบาล ของ การมีรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตย คือเป็นผู้นำพาประเทศไปสู่ความเจริญหรือความดี และโดยมากตามแบบของประชาธิปไตย ก็คือมีการเลือกผู้แทนของแต่ละคนขึ้นมาเพ่ือท ี่ จะมาปกครองประเทศ มาเป็นสภาผู้แทนราษฎร และสภาผู้แทนราษฎรจึงได้เลือกหรือ ควบคุมผู้ที่จะมาเป็นคณะรัฐมนตรี ในปัจจุบันนี้คณะรัฐมนตรีตั้งขึ้นมามิใช่โดยที่ประชาชน ไดเ้ ลือกข้นึ มา แตโ่ ดยต้งั ขึน้ มาเฉย ๆ มาทำหนา้ ที่ ซ่งึ ควรจะทำได.้ ส ถ า บั น1พ0ร 6ะ ป ก เ ก ล้ า

กระแสพระบรมราโชวาท(๑) (๒) พระราชทานแก่นักเรียน นักศึกษา ครู และอาจารย์ ในโอกาสเข้า ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร วันเสาร์ท่ี ๒๗ ตุลาคม ๒๕๑๖ ข้าพเจ้ามีความยินดีที่ได้มีโอกาสพบปะกับนักเรียนนักศึกษาทั้งหลาย ผู้เป็นผู้แทน ของนักเรียนและนักศึกษาอีกมากหลาย และทราบดีว่าในระยะนี้มีความสะเทือนใจมาก โดย ได้มีเหตุการณ์เกิดข้ึนที่ทำให้มีความรู้สึกเป็นพิเศษ เร่ืองท่ีได้ผ่านมานี้ย่อมเป็นส่ิงท่ีน่า สะเทือนใจมากจริง ๆ แต่ว่าถ้าเราทุกคนจะพิจารณาดูแล้วก็ต้องถือว่าเป็นบทเรียน และ เป็นส่ิงที่จะเป็นรากฐานสำหรับอนาคตได้ ฉะนั้นเหตุต่าง ๆ ท่ีเกิดขึ้นจึงต้องรับการพิจารณา อย่างรอบคอบ ในเบ้ืองต้นก็ขอแสดงความช่ืนชม แม้ว่าอยู่ในสถานการณ์ท่ีน่าหนักใจปาน ใด แต่ความร่วมมือของเหล่านักเรียนนักศึกษาก็ทำให้สามารถกลับคืนสู่สภาพปรกติในไม่ช้า ในเวลาอันส้ัน ท่ีเห็นได้ชัดอย่างยิ่งก็เช่นการจราจร ซึ่งในเวลาท่ีปั่นป่วน มีเหล่าลูกเสือ ได้มาช่วยอำนวยความสะดวก ซ่ึงทำให้สถานการณ์เบาบางลงไปอย่างย่ิง นอกจากน้ีเวลา มีเหตุอะไร ทุกคนก็ได้ช่วยกันเพ่ือให้ระงับเหตุ อันนี้เป็นเหตุผลที่ทำให้บ้านเมืองของเรา แม้จะมีความปั่นป่วนได้กลับคืนสู่สภาพปรกติได้ และอย่างที่อธิบดีได้กล่าวว่านานาประเทศ ได้มีความยุ่งยาก แต่ประเทศไทยแม้จะมีความยุ่งยากก็ยังอยู่ได้ ม่ันคงได้ อันน้ีเป็นความ ลับ ฉะนั้นทุกคนจะเป็นนักเรียน จะเป็นนักศึกษา จะเป็นครูในสถาบันใดก็ตาม ตลอด จนประชาชนทั่วไปก็จะต้องสำนึกถึงข้อนี้ซ่ึงสำคัญ คือคนไทยทุกคนไม่ว่าจะอยู่ในวัยใด มีศาสนาใด มีอาชีพใด ย่อมต้องช่วยซึ่งกันและกัน ช่วยกันอุ้มชูชาติบ้านเมืองคือส่วน รวมให้อยู่ได้ ข้อน้ีได้พูดมาเสมอและคงได้ยินจากหลายคนท่ีให้คำแนะนำให้โอวาทว่าทุก คนต้องนึกถึงส่วนรวมเป็นท่ีตั้ง ท่ีต้องเห็นแก่ส่วนรวมเป็นท่ีตั้งน้ันก็เพราะเหตุว่า แต่ละ (๑) เรียบเรยี งขน้ึ ตามท่ีได้บันทึกพระสรุ เสียงไว้ (๒) พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายพงศศ์ กั ด์ิ วรสุนทโรสถ อธิบดีกรมอาชีวศึกษา นำนักเรียน นักศึกษา ครู และอาจารย์ ของสถานศึกษาในระดับอุดม ศึกษา อาชวี ศกึ ษา และสามญั ศกึ ษา เฝา้ ฯ รบั พระราชทานพระบรมราโชวาท ส ถ า บั น1พ0ร7ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชาผทู้ รงธรรม : ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรสั ด้านการเมืองการปกครอง คน แต่ละบุคคลต้องอาศัยส่วนรวมเป็นท่ีอยู่อาศัย ถ้าส่วนรวมอยู่เย็นเป็นสุขแต่ละบุคคล กอ็ ยูเ่ ยน็ เป็นสขุ ฉะนน้ั ทกุ คนมีหน้าทที่ ่จี ะสรา้ งใหส้ ว่ นรวมมีความมั่นคงและความสงบ เพื่อการน้ีก็ต้องพิจารณาต่อไปว่าจะทำอย่างไร แต่ละคนมีหน้าท่ีและได้รับคำบอก อยู่เสมอว่านักเรียนก็มีหน้าท่ีท่ีจะเรียน อันน้ีอาจน่ารำคาญบ้าง แต่ว่าเหตุผล คือแต่ละคน มีพลังของตัวสร้างข้ึนมา และรวมพลังก็เป็นพลังแรง พลังนี้มีหลายชนิด พลังกาย และ พลังใจ ทั้งพลังความรู้ ถ้าได้รวบรวมพลังกายได้แล้วก็เป็นสิ่งอย่างหน่ึงท่ีน่าช่ืนชม เพ่ือ ให้พลังกายน้ีได้เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมได้มากยิ่งขึ้น ต้องพยายามที่จะสร้างพลังวิชาความ รู้และพลังใจให้มีข้ึน พลังจิตใจน้ีถ้าพูดโดยส่วนรวมแล้วเป็นสิ่งท่ีสำคัญ เพราะรวมท้ัง เกี่ยวข้องกับเร่ืองที่จะทราบว่าสิ่งใดควรสิ่งใดไม่ควร ทั้งทำให้สามารถที่จะคิดดีชอบเพ่ือให้ ตนได้สามารถปฏิบัติหน้าที่ของตน เพ่ือตนเองและเพ่ือส่วนรวมได้ดี ยกตัวอย่างเวลาเรา มีความโกรธแค้น เราก็มีกำลังกายมาก แต่ว่ากำลังกายนั้นอาจมีไม่ได้เต็มที่ คือไม่ได้รับ การควบคุมจากวิชาความรู้หรือส่ิงที่ดีที่อยู่ในตัวได้ อาจเปะปะไปบ้าง ฉะนั้นความโกรธ นั้นก็เป็นผลทำให้เราไม่สามารถท่ีจะใช้กำลังกายโดยเต็มเป่ียม เหตุผลก็คือเวลาเรามีความ โกรธ จิตใจของเราไม่สว่าง มีสิ่งท่ีมาครอบอยู่ทำให้มืดมนไม่เห็นทางเราจึงอาจเปะปะ และ มิใช่เฉพาะความโกรธ ความเศร้าก็ทำให้มืดก็ได้ หรือแม้แต่ความดีใจก็ทำให้มืดก็ได้ ฉะนั้น ทุกคนจึงมีหน้าที่ท่ีจะควบคุมจิตใจ ทั้งจิตใจทางโกรธ ทางเศร้า หรือทางดีใจเพ่ือให้ทุก คนสามารถทจี่ ะมีความสว่างในใจ ในวันนี้เพ่ือท่ีจะให้ขจัดความเศร้าหรือความโกรธหรือความดีใจเพ่ือให้มีความสว่าง จึงได้มีการสวดมนต์ของพระทั่วราชอาณาจักร เพ่ือท่ีจะให้มีความสว่างไสวในใจของประ- ชาชนทุกคน การสวดมนต์ครั้งน้ี ก็เป็นทางหนึ่งท่ีจะทำให้ระลึกถึงส่ิงท่ีดีที่งาม และทำให ้ บุคคลแต่ละคนสามารถที่จะหาความสว่าง ที่สวดมนต์วันนี้ก็เป็นการสวดมนต์ทางพุทธศาสนา แต่ศาสนาอื่น ๆ ก็ได้มีการสวดมนต์เหมือนกัน ประชาชนในประเทศไทยก็มีศาสนาต่าง ๆ นานา แต่ละคนก็มีสิ่งศักด์ิสิทธ์ิที่จะยึดและมีความดีที่จะยึด ฉะนั้นควรที่จะพยายามที่จะ ยึดส่ิงทด่ี ีเพื่อความสวา่ งของตน คราวนี้มาถึงวิธีที่จะทำให้มีความสว่าง สามารถที่จะมองเห็นสิ่งที่ดีท่ีงาม และ สามารถที่จะสร้างกำลังใจและกำลังวิชาให้แก่ตน คือแต่ละคนท่ีมาในวันน้ีก็เป็นผู้ที่กำลัง ศึกษาวิชาความรู้ในด้านต่าง ๆ ซ่ึงจะเป็นประโยชน์ในวันข้างหน้าเพื่อสร้างตน สร้างบ้าน ส ถ า บั น1พ0ร8ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชาผทู้ รงธรรม : ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรสั ดา้ นการเมืองการปกครอง เมืองให้มีความเจริญ ให้สามารถที่จะใช้วิชาความรู้ให้เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมและแก่ส่วน ตัว ถ้าแต่ละคนพากเพียรที่จะศึกษาในวิชาการ จะเป็นวิชาการใดก็ตามอย่างเคร่งครัดและ อย่างขะมักเขม้น ก็จะแก้ปัญหาในการสร้างบ้านเมืองได้อย่างยิ่ง เพราะเหตุว่าถ้าขาดวิชา ความรู้ก็เท่ากับไม่สามารถท่ีจะใช้กำลังของตนเพื่อให้เป็นประโยชน์ได้เต็มท่ี เม่ือมีโอกาส เรียน ก็จะทำให้สร้างเสริมตนเองให้มีสามารถสูง ทำให้มีทางที่จะช่วยส่วนรวมมากข้ึน ตัวเองเท่ากับเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่ง เครื่องมือทุกชนิดถ้าเราไม่สามารถที่จะใช้ ก็ไม ่ เกิดประโยชน์ใด ๆ เครื่องมือมีเครื่องมือที่ง่าย ๆ และมีเครื่องมือที่ค่อนข้างจะมีกลไกท ่ี ยุ่งยากและสับสน กลไกท่ียุ่งยากสับสนนั้น ถ้าทุกคนจะใช้ก็ต้องพยายามเรียนรู้ แต ่ กลไกที่ง่าย ๆ หรือเครื่องมือท่ีง่าย ๆ ก็ต้องเรียนรู้เหมือนกัน ให้ยกตัวอย่างท่ีง่ายท่ีสุดคือ อย่างไม้บรรทัดท่ีแต่ละคนต้องใช้ทุกวิชาเขาก็ใช้ไม้บรรทัดตีเส้น โดยเฉพาะวิชาอย่างช่าง ก่อสร้างเขาก็ใช้ไม้บรรทัดสำหรับขีดเส้น ถ้าหากเราใช้ไม่เป็นก็ถือว่าเป็นไม้ แล้วก็เท่าที่ได้ เห็น บางทีเคยเห็นเขาถือไม้บรรทัดไว้สำหรับตีหัวคน ไม่ใช่สำหรับมาใช้เพ่ือท่ีจะวัด ส่วนและขีดเส้น การใช้ไม้บรรทัดมาตีหัวคนน้ันก็มีประโยชน์เหมือนกัน แต่ว่าประโยชน ์ ของไม้บรรทัดก็จำกัดในข้อน้ัน ใช้ไม้อื่น ๆ ก็ยังได้ แต่ถ้ามาใช้ประโยชน์อย่างเต็มท่ีของ ไม้บรรทัด ก็จะทำให้สามารถสร้างสรรค์ส่ิงที่ดี แล้วก็เป็นประโยชน์มากขึ้นตามลำดับ ไม้ บรรทัดนั้นส่วนมากก็มีขีดเอาไว้ว่ามีเซนติเมตร บางอันท่ีมีมากกว่า อาจมีเป็นมุมฉาก หรือเป็นมุมต่าง ๆ ถ้าเรามาใช้ประโยชน์จากไม้บรรทัดน้ี เราก็จะสามารถจะสร้างตึกรามที ่ ใหญ่โต เขียนแบบเขื่อนหรือสร้างถนนได้ เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมแก่ตนเองได้มาก ฉะน้ันการใช้เคร่ืองมือก็ย่อมต้องเรียนรู้วิชาให้ใช้เป็นประโยชน์ให้ใช้เต็มท่ี แต่ละคนมี สมอง มีกาย ก็ต้องเรียนรู้ท่ีจะใช้ให้ถูกต้องเพื่อท่ีจะเป็นประโยชน์แก่ตน ประโยชน์แก่ ส่วนรวม จึงขอวิงวอนให้นักเรียน นักศึกษาท้ังหลายให้พยายามที่จะสร้างตนเองด้วยการ ขะมักเขม้นในการเรียน การเรียนนี้เขาอาจว่าได้ว่าที่บอกให้เรียนเถิดน้ัน อาจนึกว่าให ้ เรียนเพราะว่าไม่อยากให้มาก่อความวุ่นวาย ถ้ามาถามว่าเป็นเช่นน้ีจริงหรือเปล่า ก็ขอตอบ ว่าจริงส่วนหนึ่ง เพราะว่าคนที่มีความรู้จะสามารถที่จะก่อความวุ่นวายในทางท่ีมีประโยชน์ ถ้าเราก่อวุ่นวายท้ังที ก็ขอให้ก่อวุ่นวายท่ีเป็นประโยชน์ ในระยะเวลาท่ีผ่านมาก็เป็นเวลา หลายปีอยู่ ก็เห็นว่ามีการแสดงความวุ่นวายท่ีเป็นประโยชน์บ้างไม่เป็นประโยชน์บ้าง แต่ที่ ไม่เป็นประโยชน์ก็มากอยู่ ไอ้ไม่เป็นประโยชน์น้ีแหละที่หนักใจ ถึงขอให้ทุกคนพิจารณาใน การหาความรู้วิชาการและหาความรู้ในทางจิตใจ เพื่อท่ีจะให้ความวุ่นวายท่ีไม่เป็นประโยชน ์ น้ันเป็นประโยชน์ข้ึนมา ความวุ่นวายท่ีจะไม่เป็นประโยชน์น้ันเป็นสิ่งที่มีข้อเสียหายหลาย ส ถ า บั น1พ0ร 9ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชาผทู้ รงธรรม : ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสด้านการเมืองการปกครอง อย่าง เสียหายต่อตนเอง คือแต่ละคน แต่ละนักเรียน แต่ละนักศึกษา และเป็นข้อเสียแก่บ้าน เมือง คือข้อเสียแก่แต่ละคน และแก่ช่ือเสียงของสถาบันของตน จะเป็นโรงเรียน จะเป็น มหาวิทยาลัย จะเป็นวิทยาลัยก็ตาม เสียหายเพราะว่าจะทำให้คนเขาเสื่อมความนับถือ ถ้าก่อ ความวุ่นวายที่ไร้ประโยชน์ ทำให้เส่ือมความนับถือ ก็ทำให้เส่ือมกำลังของตนเองด้วยซ้ำ เพราะว่าคนก็ระแวงคนก็ดูถูก ฉะนั้นที่ขอวิงวอนให้เรียนและไม่ให้ก่อวุ่นวายนั้น ไม่ใช่ เพราะผู้พูดวิงวอนเพ่ือผู้พูด แต่ว่าวิงวอนเพื่อตัวของท่านเองทุกคน เพ่ือให้มีช่ือเสียงที่ดี เม่ือมีชื่อเสียงท่ีดีแล้ว กำลังของแต่ละคนจะเพิ่มขึ้นมา จะมีคนท่ัวไปเขาเกรงใจเขานับถือ ความคิดท่ีดี ซ่ึงทุกคนก็เชื่อม่ันว่ามีความคิดที่ดี ที่จะสร้างงาน สร้างบ้านให้เจริญ ให้ไม่ เหมือนนานาประเทศท่ีเขาล่มจม ไม่เหมือนนานาประเทศท่ีเขาประสบเหตุร้าย ให้เป็น เมืองไทยเป็นประเทศไทยที่คงอยู่ ท่ีมีเกียรติและมีความม่ันคง ก็ขอให้ทุกคนพยายาม สร้างตนเพ่ือท่ีจะสร้างบ้านได้ ข้อที่ได้กล่าวเหล่าน้ีก็ยินดีท่ีทราบว่าแต่ละคนคิดอยู่เสมอ คิดมาอยู่ตลอด และเชื่อว่าทุกคนก็พยายามคิดยิ่งขึ้นในทุกวันนี้ เพราะว่าเหตุการณ์ของ บ้านเมืองคับขัน ถ้าทุกคนพยายามที่จะขะมักเขม้นในหน้าท่ีของตน คือศึกษาวิชาความ รู้ศึกษาใจของตัว ศึกษาส่ิงท่ีดีที่งาม และปรองดองกัน ใช้กำลังของตัวในทางที่สร้างสรรค์ ในทางท่ีจะเป็นประโยชน์ หรือสร้างเกียรติของตน ซ่ึงเท่ากับสร้างเกียรติของบ้านเมือง เรา แน่ใจได้ว่าบ้านเมืองของเราจะอยู่ ทุกคนจะมีเสรีภาพ ทุกคนจะมีท่ีอยู่อย่างสบายอย่าง ก้าวหน้าได้แน่ ไม่ต้องให้ใครมากดหัวข่ี และประชาธิปไตยที่ทุกคนปรารถนาก็จะเกิดขึ้น โดยแท้ ในข้อสุดท้ายก็ขอพูดถึงว่าทุกส่ิงทุกอย่างท่ีพูดนี้ คือการสร้างสรรค์ตนเอง การ สร้างบ้านเมืองก็ตาม มิใช่ว่าสร้างในวันเดียว ต้องใช้เวลาต้องใช้ความเพียร ต้องใช้ความ อดทนเสียสละ แต่สำคัญท่ีสุดคือความอดทนคือไม่ย่อท้อ ไม่ย่อท้อในสิ่งที่ดีงาม ส่ิงท่ีดี งามนั้นทำมันน่าเบ่ือ บางทีเหมือนว่าไม่ได้ผล ไม่ดัง คือดูมันครึทำดีนี่ แต่ขอรับรองว่า การทำให้ดีไม่ครึต้องมีความอดทน เวลาข้างหน้าจะเห็นผลแน่นอนในความอดทนของตน ในความเพียรของตน ต้องถือว่าวันน้ีเราทำยังไม่ได้ผล อย่าไปท้อบอกว่าวันน้ีเราทำแล้ว ก็ไม่ได้ผล พรุ่งน้ีเราจะต้องทำอีก วันนี้เราทำ พรุ่งนี้เราก็ทำ อาทิตย์หน้าเราก็ทำ เดือน หน้าเราก็ทำ ผลอาจได้ปีหน้า หรืออีกสองปีหรือสามปีข้างหน้า แต่ว่าถ้าสมมติว่าวันน้ี เราทำแล้วบอกว่าไม่มีประโยชน์ เพราะว่าพรุ่งน้ีไม่ได้ผล เลิกเสีย พรุ่งน้ีไม่ได้ผลแน่ เป็น ส่ิงที่แน่นอน แต่ว่าพรุ่งน้ีเราจะอยู่หรือไม่อยู่ก็ไม่ทราบ ก็เชื่อว่าอยู่ แต่ว่าปีหน้าเราจะอย่ ู หรือไม่ถ้าเราหยุดทำสิ่งที่ดี ฉะน้ัน ความไม่ย่อท้อ ความเพียร ความเพียรน่ีหมายความ ส ถ า บั น1พ1ร 0ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชาผทู้ รงธรรม : ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรสั ด้านการเมืองการปกครอง ว่าไม่ใช่ความเพียรในการทำงานเท่าน้ันเอง หมายถึงความเพียรที่จะข่มใจตัวเองด้วย ความ กล้าหาญท่ีจะข่มใจตัวเองให้อดทน ไม่ใช่อดทนแล้วก็เหมือนว่าใครทำก็ทำไป เราทนเอา ไว้ เท่ากับคนอื่นเขาเอาเปรียบเรา ไม่ใช่อดทนที่จะยังไม่เห็นผล อดทนที่จะทราบว่าสิ่ง ใดที่เราทำต้องใช้เวลา ถ้าเราอดทน หรือถ้าพูดตามธรรมดาว่า “เหนียว” ไว้ อดทนใน ความดี ทำใหด้ ี เหนียวไวใ้ นความดีแล้ว ภายภาคหนา้ ไดผ้ ลแน่ เคยพูดมาหลายแห่งแล้วหลายเร่ือง อย่างเช่นความเลวต่าง ๆ ท่ีมีอยู่ในเมืองไทย ความทุจริตคอรัปช่ันน้ันมี ถ้าแต่ละคนมีปณิธานที่จะไม่คอรัปชั่น ท่ีจะไม่ทุจริต และสะสม กำลังของตน สร้างตัวเองให้มีความรู้ ให้มีความแข็งแกร่ง และรักษาความรู้น้ัน รักษา ความแข็งแกร่ง ความมีปณิธานท่ีจะสร้างความดีสำหรับส่วนรวมและสำหรับส่วนตัว ถ้า รักษาเหนียวไว้ในความดีนี้ภายภาคหน้าความดีน้ันเกิดข้ึน เราก็ต้องรักษาความดีนั้นไปตลอด คนท่ียังมีอายุน้อยมีกำไรเพราะว่าสามารถที่จะถึงในภายหน้าในอนาคตได้ ถ้าเรารักษาความ ดีวันน้ีจริง ๆ คือรักษาความดีท่ีสุจริต บริสุทธ์ิแท้ ๆ รักษาไว้ได้ สิบปีข้างหน้าท่านท้ังหลาย เป็นผู้ที่มีหน้าที่สำคัญ งานการสำคัญ ผู้ที่อยู่ในหน้าท่ีในงานการสำคัญจะเป็นคนสุจริต จะ เป็นที่ไม่คอรัปช่ัน เป็นที่มีวิชาความรู้ก็สร้างบ้านเมืองได้ มีอิทธิพล ยิ่งย่ีสิบปีข้างหน้า คนท่ีมีความบริสุทธ์ิใจที่รักษาไว้ ที่เหนียวไว้จะมีมากข้ึน แล้วคนเลวก็ต้องถอย เมืองไทย ก็จะมีแต่คนท่ีบริสุทธิ์ใจ แต่ก็เป็นความหวัง จึงขอวิงวอนเป็นครั้งสุดท้ายว่า ต้องเรียน ต้องหาวิชาต้องสร้างตัวเอง มีความคิดพิจารณาท่ีรอบคอบ และเหนียวไว้ในความดีบริสุทธ์ิ จึงจะทำให้งานท่ีทำ ปณิธานที่ตั้งไว้ในระยะนี้เป็นผล เกิดเป็นประโยชน์ ก็ขอพูดแค่นี้ ขอ ให้การท่ีทุกคนได้มีความสามัคคี มีความต้ังใจที่ดี มีความเข้มแข็ง ช่วยซึ่งกันและกัน ช่วยส่วนรวมเช่นนี้ เป็นผลทำให้ประสบความสำเร็จที่แท้จริง ท่ีบริสุทธิ์ และขอให้ทุกคน มีกำลังใจ กำลังกายต่อเนื่องไปเวลานาน ประสบแต่ความที่ดี ความท่ีงาม ประสบความ สำเร็จ ทั้งในการศึกษา ท้ังในกิจการเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของส่วนรวม และความ เจริญรงุ่ เรืองของแต่ละคน ขอจงมีความสุขความเจริญทกุ ประการ. ส ถ า บั น1พ1ร 1ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชดำรัส ในพิธีเปิดประชุมสมัชชาแห่งชาติ ณ ราชตฤณมัยสมาคม แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ วันอังคารท่ี ๑๘ ธันวาคม ๒๕๑๖ ข้าพเจา้ มีความยนิ ดีเป็นอย่างยง่ิ ท่ีไดม้ าเปิดการประชมุ สมัชชาแหง่ ชาตใิ นวาระน้ ี วัตถุประสงค์แห่งการแต่งตั้งสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ และหน้าท่ีของสมัชชาแห่ง ชาติ นั้น ท่านทั้งหลายคงจะทราบดีโดยทั่วกัน เพราะได้แจ้งไว้แล้วในประกาศแต่งตั้ง สมาชิกสมัชชาแห่งชาติ ในการประชุมคร้ังนี้ สมาชิกแห่งสมัชชาจะต้องกระทำหน้าท่ีของ ท่านโดยสุจริตยุติธรรม เพ่ือให้ได้มาซึ่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ อันเป็นตัวแทนของผลประ โยชน์ อาชีพ วิชาการ ตลอดจนทรรศนะความคิดเห็นอันกว้างขวาง ในประเทศของเรา อย่างแท้จริง เพ่ือท่ีจะได้ทำหน้าท่ีทางนิติบัญญัติ รวมทั้งพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราช- อาณาจักร อนั จกั ได้ประกาศใชเ้ ปน็ หลกั ในการปกครองบ้านเมอื งต่อไป ข้าพเจ้ามั่นใจว่าท่านทุกคนท่ีมาประชุม ณ ท่ีน้ี มีเจตนาดีต่อบ้านเมือง และม ี ความรับผิดชอบต่อประเทศชาติอันเป็นที่รักของเราทั้งปวง และด้วยความม่ันใจนี้ ข้าพเจ้า ขอมอบหมายใหท้ ่านรว่ มกนั เลือกผ้ทู ส่ี มควรจะได้เป็นสมาชิกสภานติ บิ ัญญตั ิแห่งชาติตอ่ ไป บัดนี้ได้เวลาอันเป็นมงคลแล้ว ข้าพเจ้าขอเปิดการประชุมสมัชชาแห่งชาติ ณ บัดนี้ ขอให้การประชุมและการเลือกต้ังดำเนินไปโดยเรียบร้อย สำเร็จประโยชน์ที่ปรารถนาทุก ประการ ทั้งขอให้ทกุ ทา่ นท่ีมาชมุ นมุ พร้อมกัน ณ ที่นี้ มคี วามสุขความสวัสดีทวั่ กัน. ส ถ า บั น1พ1ร2ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชดำรัส ในพิธีเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ณ พระที่น่ังอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต วันศุกร์ท่ี ๒๘ ธันวาคม ๒๕๑๖ ข้าพเจ้ามีความยินดีเป็นอันมาก ท่ีได้มาทำพิธีเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาต ิ ในโอกาสน ี้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติชุดนี้ ถึงแม้ว่าโดยนิตินัยจะเป็นสภาแต่งต้ัง แต่ก็ได้ แต่งต้ังมาจากบุคคลท่ีสมัชชาแห่งชาติได้คัดเลือกแล้ว ว่าเป็นผู้ที่สมควรจะเป็นสมาชิกได้ ข้าพเจ้ามีความพอใจมากที่ได้เห็นว่า ผลแห่งการคัดเลือกนั้น ได้ทำให้สภามีสมาชิกที่มา จากคนหลายกลุ่มหลายอาชีพ ซึ่งตามปกติอยู่ห่างไกลกัน แต่ได้มาร่วมประชุมกันในสภา นิติบัญญัตินี้ เพื่อแลกเปล่ียนและรับฟังความคิดเห็นของกันและกัน แล้วร่วมกันตัดสินใจ ในทางที่จะเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองที่รักของเราต่อไป ตามเจตนารมณ์แห่งการปกครอง ระบอบประชาธิปไตย ข้าพเจ้ามีความหวังว่าท่านทั้งหลายจะได้ร่วมกันรักษาเจตนารมณ์นี ้ ไว้ ให้เป็นรากฐานแห่งการปกครอง ซ่ึงประชาชนของข้าพเจ้าจะได้เข้ามามีส่วนมีเสียงโดย สมบูรณใ์ นเวลาข้างหนา้ ภารกิจท่ีท่านท้ังหลายจะต้องรับต่อไปน้ัน นับว่าเป็นภารกิจอันหนัก เพราะนอก จากจะต้องพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญต่าง ๆ ท่ีรัฐบาลจะได้เสนอขึ้นมา ในยามท่ีประเทศ ต้องตกอยู่ในภาวะแห่งความผันผวนในทางเศรษฐกิจและในทางการเมือง น้ีแล้ว ท่าน ทั้งหลายยังจะต้องเป็นผู้พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวร อันจักเป็นหลักในการปกครอง ประเทศ ด้วยความเป็นธรรม ดว้ ยสนั ตสิ ขุ และด้วยความกา้ วหน้า ต่อไป ข้าพเจ้าม่ันใจว่า เมื่อได้ตระหนักในภารกิจอันหนักของท่านนี้แล้ว ท่านก็คงจะ ได้ปฏิบัติหน้าท่ีทั้งหมดด้วยความสุจริตเที่ยงธรรม และด้วยความรอบคอบสุขุม ให้กิจการ งานทุกอย่างสัมฤทธิ์ผลอันสมบูรณ์ เพื่อความมั่นคงของบ้านเมือง และเพ่ือประโยชน์สุข ของประชาชนท้ังปวง ส ถ า บั น1พ1ร3ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชาผทู้ รงธรรม : ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสดา้ นการเมอื งการปกครอง บัดน้ี ได้เวลาอันเป็นศุภมงคลแล้ว ข้าพเจ้าขอเปิดการประชุมสภานิติบัญญัต ิ แห่งชาติ เพื่อดำเนินงานตามหน้าที่ของสภาต่อไป ขอคุณพระศรีรัตนตรัยและส่ิงศักด์ิสิทธ์ิ ทั้งหลายในสากลโลก จงบันดาลให้กิจการทุกอย่างดำเนินไปโดยเรียบร้อย ปราศจากอุปสรรค ใด ๆ จนบรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ทุกประการ ขอให้ท่านทั้งหลายประสบแต่ความ สขุ สวสั ดตี ลอดไป. ส ถ า บั น1พ1ร4ะ ป ก เ ก ล้ า

พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานประกาศนียบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา ณ ศาลาดุสิดาลัย วันพฤหัสบดีท่ี ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๗ ขอแสดงความยินดีด้วยอย่างมากกับเนติบัณฑิตทุกคน ผู้ได้รับเกียรติและความ สำเรจ็ ในการศึกษา ท่านท้ังหลายคงจะได้ใช้วิชาการด้านกฎหมาย ดำเนินอาชีพและการงานต่อไปใน เบื้องหน้า และส่วนใหญ่ก็คงจะได้มีตำแหน่งหน้าที่ ท่ีต้องใช้กฎหมายเพื่อดำรงความยุติ- ธรรมในบ้านเมือง อันจัดว่าเป็นหน้าที่ท่ีสำคัญย่ิงอย่างหนึ่ง ซ่ึงจำเป็นต้องกระทำอย่างถูกต้อง เที่ยงตรง ท้ังจะปล่อยให้บกพรอ่ งผิดพลาดไม่ได้เลยเป็นอนั ขาด หน้าท่ีของท่านน้ัน กล่าวโดยสาระมีสองทางสำคัญ คือในฐานะผู้ปฏิบัติใช้กฎหมาย ทางหน่ึง กับในฐานะบุคคลผู้รู้กฎหมายอีกทางหน่ึง ในฐานะผู้ใช้กฎหมาย ท่านจะต้อง มั่นคงและเพียรพยายามอย่างที่สุด ทั้งในความเห็นท้ังในการปฏิบัติ ที่จะใช้กฎหมายเพ่ือ รักษาและผดุงความยุติธรรมโดยเคร่งครัด มิใช่เพื่อผลพลอยได้อย่างอ่ืน โดยสังวรระวังอยู่ ตลอดเวลา ท่ีจะใช้ความถูกต้องเป็นธรรมควบคู่กันไปกับตัวบทกฎหมาย ให้ความเป็นธรรม นั้นเป็นพื้นฐานรองรับบทบัญญัติแห่งกฎหมายท่ีนำมาใช้ ในฐานะบุคคลผู้รู้กฎหมายนั้น ท่านจะต้องมีความสำนึกและความขวนขวายอยู่เสมอ ท่ีจะค้นคว้า ท้ังที่จะเอื้อเฟ้ือช่วย เหลือประชาชนทั่วไป ให้ได้มีความรู้ความเข้าใจในกลไกของการใช้กฎหมาย เพ่ือป้องกัน มิให้มีการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือเบียดเบียนกัน และเพ่ือคุ้มครองรักษาความเที่ยงธรรม ความสงบสขุ ในแผ่นดิน ข้าพเจ้าหวังอย่างย่ิงว่า เนติบัณฑิตจะทราบตระหนักในหน้าที่ท้ังน้ี จะเป็นผู้ขยัน หมั่นสำรวจตรวจสอบตนเองอยู่เสมอ และจะประพฤติปฏิบัติตนปฏิบัติงานโดยเท่ียงตรงถูก ตอ้ ง ขออวยพรให้ทุกท่านประสบความสำเร็จและความเจริญก้าวหน้าในชีวิต ท้ังมีความ สุขความสวัสดที ุกเมอ่ื ไป. ส ถ า บั น1พ1ร5ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชดำรัส(๑) พระราชทานแก่คณะรัฐมนตรี(๒) ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วันอังคารที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๑๘ คำปฏิญาณที่ท่านได้กล่าวมาน้ี เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ฯ โดยแท้ ท่ีจะต้องปฏิบัติ แต่อย่างไรก็ตามผู้ที่ปฏิบัติตามคำปฏิญาณอย่างเคร่งครัดนั้นก็ถือว่าเป็นผู้ท่ี มีคุณธรรมอยู่ในตัวเอง และเป็นความดีสำหรับตัวเองและสำหรับประเทศ นอกจากนี้ถ้า ปฏบิ ตั ิดี กจ็ ะเปน็ ผลด ี ขอใหม้ คี วามสำเร็จ สามารถปฏบิ ตั งิ านสำเร็จให้มีประโยชนเ์ พ่อื ประเทศชาติ (๑) เรียบเรยี งขน้ึ ตามทไ่ี ดบ้ ันทึกพระสุรเสยี งไว ้ (๒) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช นายก รฐั มนตรี นำคณะรฐั มนตรเี ขา้ เฝา้ ฯ ถวายสตั ยป์ ฏญิ าณ ตามบทบญั ญตั ริ ฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศักราช ๒๕๑๗ มาตรา ๑๗๘ ส ถ า บั น1พ1ร 6ะ ป ก เ ก ล้ า

พระบรมราโชวาท(๑) พระราชทานแก่คณะผู้พิพากษา ฯ(๒) ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วันพุธท่ี ๖ สิงหาคม ๒๕๑๘ คำปฏิญาณที่ได้กล่าวน้ี เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ท่ีให้ผู้พิพากษา ท่ีจะออกไปปฏิบัติราชการคร้ังแรกได้มีการปฏิญาณตน ตามความจริงนั้น คำปฏิญาณนี้ได ้ ทำไว้กับตัวตั้งแต่คร้ังแรกที่สำเร็จการศึกษาในวิชาของตัวเอง ตลอดมาถึงคราวนี้ และ สมควรที่จะพิจารณาให้ดีว่ามีความสำคัญอย่างไร ถ้าปฏิญาณกันพร่ำเพรื่อก็อาจทำให้คำ ปฏิญาณหม่นหมองลงไป ควรที่จะสะสมความดีอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งใด หรือ อยู่ที่ใด โดยเฉพาะผู้พิพากษาน้ัน ข้อความหรือจุดหมายของคำปฏิญาณการแสดงตนที่จะ ปฏิบัติเพ่ือประโยชน์สุขของประชาชนนั้น มีความสำคัญมาก เพราะเท่ากับเป็นความยุติ- ธรรม พึงมีอยู่ของตน และถ้าทำงานด้วยเจตนานี้ ก็จะเป็นการช่วยเหลือประชาชนได้ แทจ้ รงิ และสร้างให้บ้านเมอื งมีความเจรญิ และมีขอ่ื แปได้ ฉะน้ัน ควรท่ีจะพิจารณาอยู่เสมอว่า งานที่มีอยู่สำคัญเพียงใด และงานของผู ้ พิพากษา จะช่วยให้บ้านเมืองมีความมั่นคงอยู่ได้เพียงไหน ในฐานะส่วนตัวผู้มีความรู้ต้อง พยายามท่ีจะอุ้มชูผู้ที่อาจด้อยความรู้กว่าตนอยู่เสมอ ฉะนั้น ขอให้พยายามปฏิบัติงานท้ัง ในด้านที่มีอยู่เป็นส่วนตัว และนอกหน้าที่ให้สมกับท่ีได้รับการยกย่องเป็นผู้พิพากษา ผู้ท่ ี รักษาความยุติธรรม งานที่ไม่ใช่ง่าย แต่ว่าถ้าทำแล้วจะมีการตอบแทนอยู่ท่ีตัวเอง นับถือ ตัวเองได้ว่าเป็นผู้ท่ีสุจริต บริสุทธ์ิ เป็นผู้ที่ขัดเกลาตัวให้ประเสริฐข้ึนไป ให้มีความนับถือ ตวั เองอย่างแท้จรงิ ไมต่ อ้ งสงสัยตวั เองเลย (๑) เรียบเรียงข้ึนตามที่ไดบ้ นั ทึกพระสุรเสียงไว ้ (๒) พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั พระราชทานพระบรมราชวโรกาสใหน้ ายสธุ รรม ภทั ราคม ประธานศาลฎกี า นำ นายจารุ ชาลีวรรณ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดตะก่ัวป่า นายประชา ประสงค์จรรยา ผู้พิพากษาศาลจังหวัด แมส่ ะเรยี ง นายทวสี ทิ ธิ์ คณุ รตั นศริ ิ ผพู้ พิ ากษาศาลจงั หวดั แมฮ่ อ่ งสอน และนายประศาสน์ สงิ ฆมานนั ท์ ผ้พู พิ ากษาศาลจงั หวัดเบตง เฝ้าฯ ถวายสตั ยป์ ฏิญาณกอ่ นเข้ารับหน้าท ี่ ส ถ า บั น1พ1ร7ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชาผทู้ รงธรรม : ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสด้านการเมอื งการปกครอง ก็ขอให้ได้สามารถปฏิบัติงานด้วยความเรียบร้อยตลอด เป็นเกียรติแก่ตนเอง มี ความสบายใจ มีความภูมิใจ ขอให้มีกำลังใจกำลังกายเข้มแข็ง ท่ีจะปฏิบัติงานเพ่ือประเทศ ปฏิบัติตนให้ดีท่ีสุด เป็นประโยชน์ต่อตน เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และเป็นประโยชน ์ ต่อบ้านเมือง ขอจงประสบความเจริญรงุ่ เรอื งทกุ ประการ. ส ถ า บั น1พ1ร8ะ ป ก เ ก ล้ า

พระบรมราโชวาท(๑) ในพิธีพระราชทานประกาศนียบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษาของสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา ณ ศาลาดุสิดาลัย วันพฤหัสบดีท่ี ๖ พฤศจิกายน ๒๕๑๘ ข้าพเจ้ายินดีที่ได้พบกับคณะเนติบัณฑิต และได้มอบประกาศนียบัตรแก่เนติบัณ- ฑิตใหม่ในโอกาสเดียวกัน ขอแสดงความชื่นชมด้วย กับผู้ที่ได้รับเกียรติและความสำเร็จ ครัง้ นท้ี ั่วกันทกุ คน ผู้ท่ีสำเร็จการศึกษาแล้ว ส่วนใหญ่คงจะได้ใช้วิชาการด้านกฎหมายดำเนินการงาน เป็นหน้าท่ีเพ่ือรักษาความยุติธรรมและประสาทความเป็นธรรมแก่ประชาชน ดังนั้น โดย อาชีพและหน้าที่ ชอบท่ีจะถือว่าแต่ละท่านทำงานท่ีสำคัญพิเศษ ซึ่งจะต้องกระทำด้วยความ ระมัดระวังอย่างละเอียดรอบคอบ มั่นใจ และเที่ยงตรงบริสุทธิ์ ไม่ปล่อยให้ผิดพลาดบกพร่อง ดว้ ยประการใด ๆ การพิจารณาตัดสินอรรถคดีน้ัน กระทำตามตัวบทกฎหมาย ตัวบทกฎหมายจึง สำคัญมาก และจะต้องมีบทบัญญัติอันถูกต้อง เป็นธรรม ปราศจากช่องโหว่ สำหรับ กฎหมายไทย ได้ช่ือว่าเป็นกฎหมายท่ีดีทีเดียว มีความเป็นธรรมมากที่สุด และมีช่องโหว่น้อย ที่สุด ความไม่เป็นธรรม หากจะเกิดข้ึนในการตัดสินอรรถคดี ไม่น่าจะอยู่ที่ตัวบทกฎหมาย แต่อยู่ท่ีตัวบุคคล ตราบใดท่ีผู้ใช้กฎหมายมีความสุจริต มีจรรยาและมโนธรรมของนัก กฎหมายมนั่ คงแล้ว กไ็ ม่ควรจะเกดิ ความผดิ พลาด เมื่อกฎหมายของเราดีอยู่แล้ว จุดใหญ่ที่สำคัญท่ีสุดในการธำรงรักษาความยุติธรรม ในบ้านเมือง จึงได้แก่การสร้างนักกฎหมายท่ีดี ท่ีจะสามารถวิเคราะห์และใช้กฎหมายได้ตรง (๑) พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และสมเดจ็ พระนางเจา้ พระบรมราชนิ นี าถ พระราชทานพระบรมราชวโรกาส ใหค้ ณะกรรมการเนตบิ ณั ฑติ ยสภา และคณาจารยน์ ำผสู้ อบไลไ่ ดต้ ามหลกั สตู รของสำนกั อบรมศกึ ษากฎหมาย แหง่ เนติบณั ฑติ ยสภา ประจำปกี ารศกึ ษา ๒๕๑๗ เฝา้ ฯ รับพระราชทานประกาศนียบัตรเนติบัณฑติ . ส ถ า บั น1พ1ร 9ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชาผทู้ รงธรรม : ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรสั ดา้ นการเมอื งการปกครอง ตามจุดประสงค์ ข้าพเจ้าจึงปรารถนาอย่างย่ิง ท่ีจะให้ทุกคนสร้างตนให้เป็นนักกฎหมายท่ีด ี ท่ีแท้ โดยฝึกตนให้มีความกล้าในอาชีพของนักกฎหมาย คือกล้าท่ีจะปฏิบัติการไปตาม ความถูกต้องเที่ยงตรง ทั้งตามกฎหมายและศีลธรรม ไม่ปล่อยให้ภยาคติ คือความเอียง เอนไปด้วยความหวาดกลัวในอิทธิพลต่าง ๆ เข้าครอบงำ สำหรับเป็นกำลังส่งให้ทำงานได้ ด้วยความองอาจ มั่นใจ และมุมานะ อีกประการหนึ่งต้องฝึกให้มีความเคารพเช่ือมั่นใน สัจธรรมคือความถูกต้องตามคลองธรรม ตามความเป็นจริงอย่างมั่นคง ไม่หว่ันไหวด้วย โลกธรรม ไม่เห็นส่ิงอ่ืนใดว่าย่ิงไปกว่าความจริง สำหรับป้องกันมิให้ความอยุติธรรมและ ความทุจริตเกิดข้ึน นอกจากนั้น ต้องฝึกให้มีความสุขุมถ่ีถ้วนในกระบวนการทำงานทุก ข้ันทุกตอน สำหรับประคับประคองป้องกันมิให้การงานบกพร่องผิดพลาดแม้ในสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ท้ังนี้เพ่ือทุกคนจักได้เป็นนักกฎหมายที่แท้จริง ที่จะขจัดช่องโหว่ในกฎหมายให ้ หมดไป และทำใหก้ ารใชก้ ฎหมายเปน็ ไปตามวัตถปุ ระสงค์อนั สงู ท่มี งุ่ หมายไว้ ขออวยพรให้เนติบัณฑิตใหม่ประสบความสุข ความสำเร็จ และความเจริญรุ่งเรือง ในชวี ติ และการงาน ของให้ทา่ นทัง้ ปวงทมี่ าร่วมประชมุ ในพิธนี ้ี มคี วามสวสั ดีทกุ เมือ่ . ส ถ า บั น1พ2ร ะ0ป ก เ ก ล้ า

พระราชดำรัส(๑) พระราชทานแก่คณะรัฐมนตรีในโอกาส ฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตน ก่อนเข้าปฏิบัติหน้าท่ี(๒) ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วันจันทร์ที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๑๙ คำสัตย์ปฏิญาณของรัฐมนตรีท่ีเข้าเฝ้า ฯ รับตำแหน่งคร้ังน้ี เป็นไปตามบทบัญญัต ิ ของรัฐธรรมนูญ ถ้าอยากจะรักษาระบอบประชาธิปไตยก็ต้องพยายามรักษาคำสัตย์ปฏิญาณน้ ี โดยเคร่งครัด ท้ังในคำและนึกในใจ เพื่อท่ีจะสร้างเสริมให้การปกครองแบบประชาธิปไตย เป็นไปโดยดี และมีประโยชน์ต่อประเทศชาติ คำสัตย์ปฏิญาณใด ๆ จะมีความหมาย ต้องถาม ความรู้สึกว่า เม่ือไรเราจำ แม้จะไม่ได้มีการบังคับตามกฎหมาย และยิ่งไม่มีคำบังคับตาม กฎหมาย ก็ควรจะถือว่าเป็นคำกล่าวที่แสดงความต้ังใจท่ีจะปฏิบัติงาน ปฏิบัติตนให้ดี โดย เฉพาะในสมัยน้ี เวลาน้ี เหตุการณ์น้ี เราจะต้องร่วมกันปฏิบัติให้ชาติบ้านเมืองมีความม่ันคง โดยแท้จริง โดยอาศัยหลักที่มีในกฎหมาย ตลอดจนบทบัญญัติท่ีมีในรัฐธรรมนูญ ให ้ สามารถรักษาบ้านเมืองให้มีความปึกแผ่นสามัคคีกัน และเราทั้งหลายทุกคนจะอยู่ได้โดย ผาสกุ ก็ขอให้ท่านท้ังหลายที่ได้ให้คำสัตย์ปฏิญาณนี้ จงสามารถท่ีจะทำตามความหมาย ของคำสัตย์ปฏิญาณน้ี เพราะเหตุว่า เราจะต้องร่วมกันสร้างสรรค์บ้านเมืองให้มีกำลังพอที่ จะต้านกับเหตุการณ์ใด ๆ ท่ีจะเกิดขึ้น ซึ่งก็ทราบดีแล้วว่าในประเทศน้ีเรายังมีระเบียบที่ดี และจะสามารถเผชิญกับเหตุการณ์ของโลกได้ ขอให้ท่านท้ังหลายจงประสบความสำเร็จใน การงานของตน มกี ำลงั กายกำลงั ใจพรอ้ มสมบูรณ์ มคี วามเจรญิ รงุ่ เรอื งท่ัวหนา้ กนั . (๑) เ รยี บเรยี งขึ้นตามทไ่ี ด้บนั ทกึ พระสรุ เสียงไว้ (๒) พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั พระราชทานพระบรมราชวโรกาสใหห้ มอ่ มราชวงศค์ กึ ฤทธ์ิ ปราโมช นายกรฐั มนตรี นำรัฐมนตรีที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งต้ังใหม่ จำนวน ๑๓ คน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย ์ ปฏญิ าณตนกอ่ นเขา้ ปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี ณ พระตำหนกั จติ รลดารโหฐาน ส ถ า บั น1พ2ร ะ1ป ก เ ก ล้ า

พระบรมราโชวาท(๑) พระราชทานเน่ืองในโอกาสท่ีผู้พิพากษาประจำกระทรวง ฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าท่ี(๒) ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วันศุกร์ที่ ๙ เมษายน ๒๕๑๙ คำให้สัตย์ปฏิญาณตนของผู้พิพากษาที่จะเข้ารับหน้าที่เป็นครั้งแรกนั้น เป็นไปตาม บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ แต่คำเปล่งนั้นควรจะมาจากหัวใจของแต่ละคน ท้ังมาจากความ เป็นผู้พิพากษา คือ ความเป็นเจ้าหน้าท่ีฝ่ายตุลาการ ซ่ึงจะต้องรักษาความยุติธรรมเป็น สำคัญ และคณะผู้พิพากษาที่เข้ามาในวันนี้ ได้นำเงินมาเพื่อสมทบทุนในมูลนิธิสายใจไทย น้ัน ก็แสดงซึ่งความห่วงใยต่อประเทศชาติอย่างเห็นประจักษ์ ฝ่ายตุลาการน้ีเป็นส่วนหน่ึง ที่สำคัญในการปกครองประเทศชาติ ในระบอบประชาธิปไตยหรือจะในระบอบใดที่เห็น ความสำคัญของความผาสุกของประชาชน ฉะน้ัน ท่านท้ังหลายมีหน้าที่สำคัญ ได้ต้ังจิต อธิษฐานอย่างแรงกล้าท่ีจะปฏิบัติอย่างเข้มงวด อย่างยุติธรรม และอย่างสุจริตนั้น ก็เป็น ส่งิ ท่นี า่ ปลืม้ ใจ และเช่ือว่าประเทศชาติจะอยู่ได้ต่อไปอยา่ งแน่นอนและมัน่ คง ที่ท่านนึกถึงเจ้าหน้าท่ี ทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร และทุกฝ่ายท่ีเขาปฏิบัติหน้าที ่ เพ่ือรักษาความม่ันคงในการป้องกันโดยตรงนั้น ก็แสดงให้เห็นว่า ท่านก็ห่วงใยประเทศชาต ิ และห่วงใยผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่อันตรายเหล่านั้น แต่ขอท่านถือว่า ท่ีให้บริจาคน้ีก็เป็นส่วนหนึ่ง ของการช่วยให้ความม่ันคงของประเทศ อีกส่วนท่ีสำคัญย่ิง คือ การปฏิบัติของท่านเอง ถ้าแต่ละคนปฏิบัติหน้าที่ให้ความยุติธรรม และไม่ใช่ให้ความยุติธรรมในหน้าท่ีผู้พิพากษา อยู่ในโรงศาลเท่าน้ันเอง แต่ให้ความยุติธรรม ดูว่าอะไรจะแก้ไขได้ แม้จะบอกว่าไม่ใช ่ หน้าที่ผู้พิพากษาที่จะไปแก้กฎหมายหรือแก้การปกครอง แต่ในฐานะผู้มีความรู้ ผู้มีเหตุผล (๑) เรียบเรียงขึน้ ตามท่ีได้บนั ทกึ พระสุรเสียงไว ้ (๒) พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายสธุ รรม ภทั ราคม ประธานศาลฏกี า นำ ผพู้ พิ ากษาประจำกระทรวงเฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาทถวายสตั ย์ปฏญิ าณกอ่ นเขา้ รับหน้าท ี่ ส ถ า บั น1พ2ร 2ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชาผทู้ รงธรรม : ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสด้านการเมอื งการปกครอง และผู้ท่ีรู้จักจิตใจของคน ทั้งฐานะผู้ท่ีรักชาติส่วนรวม ต้องแสวงหาวิธีการท่ีจะแก้ไขใน ทุก ๆ ทาง ในฐานะเป็นผู้เช่ียวชาญ ผู้มีความรู้ และผู้ที่เป็นเจ้าของประเทศผู้หนึ่ง มีสิทธ ิ ทจี่ ะพดู มสี ทิ ธทิ ่จี ะคดิ และมีสิทธทิ ่ีจะปรึกษาหารอื กนั ในฐานะประชาชน ฉะนั้น ก็ขอร้องให้ท่านทั้งหลายนอกจากคำปฏิญาณที่ได้เปล่งไว้ ให้พยายามปฏิบัต ิ ด้วยความร่าเริงใจ ท่ีใช้คำว่าร่าเริงใจ หมายความว่า เต็มใจ ไม่ใช่เพราะถูกบังคับ จะเป็น บังคับของกฎหมายรัฐธรรมนูญ หรือบังคับของคำปฏิญาณ หรือบังคับของผู้บังคับบัญชา แต่บังคับของตัวเองจึงจะร่าเริงใจว่าได้ทำหน้าที่ของตน ทำหน้าที่ท่ีเหมาะสม เพ่ือรักษาส่วน รวม และในท่ีสุดก็รักษาตัวเอง ในด้านความปลอดภัยของตัวเอง และในด้านความพอใจ ของตัวเอง สร้างเกียรติแก่ตัวเอง สร้างความร่าเริงใจแก่ตัวเอง ฉะน้ันก็ขอให้ท่านได้พิจารณา อย่างรอบคอบว่า เมื่อออกไปรับหน้าท่ีแล้ว จะต้องทำอย่างไร คือ ประกอบด้วยงานใน ราชการโดยตรง งานในฐานะผู้รู้ ผู้ที่มีความรู้ดี ผู้ที่มีเหตุผลดี สามารถท่ีจะใช้ความเฉลียว ฉลาด พิจารณาสถานการณ์ต่าง ๆ ในฐานะที่เป็นเจ้าของประเทศ คือ เป็นคนไทยท่ีอยากจะ เห็นความผาสุกของสว่ นรวม เพื่อให้มคี วามภมู ิใจไดว้ า่ มีประเทศทีม่ ีความมนั่ คง ขอให้ท่านทั้งหลายจงสามารถปฏิบัติหน้าท่ี และบรรลุเป้าหมายทุกอย่างที่ได้ต้ังเอา ไว้ท่ีชอบธรรม และที่สร้างสรรค์ ขอท่านทั้งหลายจงมีแต่ความเจริญผาสุก กำลังกาย กำลัง ใจสมบูรณ์ เพ่ือท่ีจะบรรลุเป้าหมายของท่าน และเป้าหมายของส่วนรวม ขอจงประสบแต่ ความเจรญิ . ส ถ า บั น1พ2ร 3ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชดำรัส ในพิธีเปิดประชุมรัฐสภา ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม วันศุกร์ท่ี ๑๖ เมษายน ๒๕๑๙ ขา้ พเจา้ มีความยนิ ดี ท่ีได้มาทำพิธเี ปิดประชุมรฐั สภา ณ โอกาสน้ ี ภาระหน้าที่ของสมาชิกแห่งรัฐสภามีความสำคัญอย่างย่ิงต่อความมั่นคงและความ เจริญก้าวหน้าของประเทศ จำเป็นที่จะต้องใช้สติปัญญาความสามารถของท่านปฏิบัติโดย เต็มกำลัง เพื่อให้ดำเนินไปตามวิถีทางแห่งรัฐธรรมนูญ การปรึกษาตกลงในปัญหาใด ๆ ท่ีจะมีข้ึนในสภานี้ ควรเป็นไปอย่างมีเหตุผลและหลักการ ทั้งด้วยความสมัครสมานสามัคค ี รว่ มมอื กนั ดว้ ยความบรสิ ทุ ธใ์ิ จ เพ่อื ประโยชนส์ ขุ ของประเทศชาติและประชาชน บัดนี้ถึงเวลาอันเป็นมงคลแล้ว ข้าพเจ้าขอเปิดประชุมรัฐสภาตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธ์ิท้ังหลาย อันเป็นที่เคารพเล่ือมใสของชาวเรา จงดลบันดาลให้การดำเนินงานของสภานี้เป็นไปโดยเรียบร้อย บรรลุผลสำเร็จอันพึงประสงค์ อำนวยความเจริญผาสุกแก่อาณาประชาราษฎรและแก่ชาติบ้านเมืองยั่งยืนสืบไป ท้ังขอให ้ ท่านทั้งหลายมีความสุขความสวัสดโี ดยทว่ั กัน. ส ถ า บั น1พ2ร 4ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชดำรัส(๑) พระราชทานแก่คณะรัฐมนตรีในโอกาส ฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าท่ี(๒) ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วันพฤหัสบดีท่ี ๒๒ เมษายน ๒๕๑๙ การที่คณะรัฐมนตรีได้มาปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าท่ีน้ัน เป็นไปตามบทบัญญัติ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งมีความหมายว่าแต่ละท่านได้ต้ังจิตอธิษฐาน และได้ตั้งปณิธาน ที่จะปฏิบัติหน้าท่ีอันสำคัญโดยเปล่งด้วยวาจาออกมา ความจริงแต่ละคน ที่เข้ามารับหน้าที่ท่ีสำคัญเช่นน้ีก็เช่ือได้ว่าได้ตั้งใจเอาไว้แล้วในการท่ีจะทำงานตามท่ีมีโอกาส ที่ได้ทำ และโอกาสน้ีคือหน้าท่ีของคณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีแต่ละท่านก็ย่อมทราบดีว่าม ี ความสำคัญเพียงไร สำหรับประเทศชาติ คณะรัฐบาลคือส่วนบริหารของท้ังประเทศ ความ เป็นไปของประเทศ ความม่ันคงของประเทศ ความสุขความสบาย ความก้าวหน้าของ ประชาชนก็ขึ้นอยู่ที่คณะรัฐบาลจะปฏิบัติดีชอบ ด้วยความเฉลียวฉลาด ด้วยความตั้งใจ แนว่ แน ่ ฉะน้ัน เช่ือได้ว่า คำปฏิญาณทั้งหมดท่านได้จำไว้ในใจหมดแล้ว ก็ขอให้รักษา ไว้เพื่อที่จะให้ประเทศชาติมีความเจริญรุ่งเรือง โดยเฉพาะท่านต่างก็ทราบว่าเวลานี้มีสภาพ หรือสถานการณ์ท่ัวโลกที่ไม่ค่อยจะน่าชื่นชมนัก แม้จะเป็นสิ่งธรรมดาว่า โลกก็ต้องมีความ วุ่นวายเป็นครั้งคราวอย่างเช่นที่ดำรงอยู่เสมอ เวลาน้ีเป็นเวลาท่ีวุ่นวายย่อมทำให้ประเทศไทย ได้รับผลแห่งความวุ่นวายนั้นด้วย ฉะนั้น การที่คณะรัฐบาลนี้เข้ารับหน้าที่ก็เป็นเวลาท่ีลำบาก แต่ทุกคนก็หวัง ทุกคนทุกอาชีพประชาชนทั้งประเทศเขาหวังว่า รัฐบาลนี้จะฟันฝ่า อุปสรรคด้วยความแข็งแรง เข้มแข็ง ด้วยวิชาการและด้วยความคิดที่ตั้งใจบริสุทธ์ิผุดผ่อง เพื่อให้นำประเทศผ่านอุปสรรคและความลำบากท้ังหลายตามท่ีประเทศไทยได้ผ่านมาแล้ว (๑) เรยี บเรียงขึน้ ตามท่ีไดบ้ นั ทกึ พระสรุ เสยี งไว ้ (๒) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช นายกรัฐ- มนตรี นำคณะรัฐมนตรีท่ีทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งต้ังใหม่ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิ- ญาณตนกอ่ นเขา้ ปฏบิ ตั หิ นา้ ท ี่ ส ถ า บั น1พ2ร 5ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชาผทู้ รงธรรม : ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรสั ด้านการเมอื งการปกครอง ก็ขอให้ท่านระลึกว่าประเทศไทยได้สามารถต้ังอยู่มาเป็นเวลาช้านาน มีเอกภาพและมีความ สมบูรณ์เป็นชาติท่ีแข็งแกร่งมาเป็นเวลานาน ไม่ใช่ชาติใหม่ ๆ ไม่ใช่ว่าเราตั้งขึ้นมาอย่างผิด หรืออย่างท่ีมาปะติดปะต่อ ชาติไทยเรามีบุคลิกของตนในฐานะชาติ ฉะน้ันเป็นหน้าท่ีของ ท่านท้ังหลายที่จะรักษาบ้านเมืองให้คงอยู่ ถ้าช่วยกันทำด้วยความต้ังใจแล้ว เชื่อว่าประชาชน ทั้งหลาย เจ้าหน้าที่ทุกคนท่ีมีความสามารถก็จะร่วมแรงหนุนรัฐบาลให้อยู่ และให้สามารถ ปฏิบัติ ไม่มีการขัดข้อง หรือมีการแก่งแย่ง หรือมีการแกล้งที่จะให้การงานน้ีเสียผลไป นอกจากผู้ที่อยากท่ีจะให้บ้านเมืองประเทศชาติแตกสลายไปเพ่ือประโยชน์ซ่ึงไม่ใช่ไทย ฉะน้ัน ก็ขอให้ท่านท้ังหลายได้ทำตามปณิธานท่ีได้ต้ังไว้ในใจก่อนท่ีจะเป็นรัฐมนตรีด้วยซ้ำ ใหแ้ น่วแน่ และปฏบิ ัตติ ามดว้ ยความมัน่ ใจ ขอท่านท้ังหลายจงประสบความสำเร็จ และมีกายใจเข้มแข็ง แข็งแรง สามารถ นำความเจรญิ มั่นคงมาสูป่ ระเทศ. ส ถ า บั น1พ2ร ะ6ป ก เ ก ล้ า

พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วันพฤหัสบดีที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๑๙ ข้าพเจ้าและพระราชินีมีความยินดี ที่ได้มาร่วมในพิธีมอบปริญญาบัตรของมหา- วิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมีความพอใจท่ีได้ทราบว่ากิจการของมหาวิทยาลัยทุก ๆ ด้าน รวมท้ังการเผยแพร่วิทยาการให้ถึงประชาชน ได้ดำเนินก้าวหน้ามาด้วยดี ขอแสดงความ ชื่นชมกับผู้ทรงคุณวุฒิ และกับผู้สำเร็จการศึกษาทุกคน ท่ีได้รับเกียรติและความสำเร็จใน ครั้งนี้ วิชาการต่าง ๆ ที่จัดสอนในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์นั้น กล่าวโดยเบ็ดเสร็จ ก็คือ วิชาการสำหรับใช้ในการส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศโดยตรง ดังน้ัน เม่ือมามอบปริญญา- บัตรท่ีนี่จึงรู้สึกปิติยินดีว่าบ้านเมืองของเราจะได้กำลังของผู้มีความรู้และมีความกระตือรือร้น มาช่วยงานของชาตเิ พ่ิมข้นึ โครงการพัฒนาต่าง ๆ ต้ังขึ้นเพ่ือปรับปรุงดัดแปลงสิ่งท่ีมีอยู่แล้ว คือทรัพยากรตาม ธรรมชาติให้เกิดผลเป็นประโยชน์แก่ประเทศและประชาชนส่วนรวมให้ได้มากท่ีสุด ในทาง ปฏิบัติน้ัน นอกจากจะได้ผลส่วนใหญ่ หรือส่วนรวม ตามจุดประสงค์แล้ว บางทีก็อาจ ทำให้มีการเสียหายในบางส่วนได้บ้าง เพ่ือที่จะให้โครงการมีผลเต็มเม็ดเต็มหน่วย จำเป็น ต้องพิจารณาจัดต้ังโดยรอบคอบและละเอียดถ่ีถ้วน ให้ทราบว่าผลที่เกิดจากโครงการนั้นจะ มีขอบเขตต่อเน่ืองไปเพียงใด และมีผลดีผลเสียประการใด ที่จุดใดบ้าง จักได้สามารถวาง แผนงานให้สอดคล้องต้องกันทุกส่วนทุกข้ัน เพื่อแก้ไขส่วนที่จะเสียหายให้กลับเป็นดี ให้ โครงการได้ประโยชน์มากที่สุด บัณฑิตของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ควรจะถือว่าได้รับการ ศึกษามาเป็นอย่างดี มีความรู้สูง สมควรท่ีสุดที่จะรับภาระดังกล่าว จึงขอให้แต่ละคน บำเพ็ญตนเป็นนักวิชาการที่ดี เป็นนักปฏิบัติการที่สามารถ ท่ีจะใช้วิชาความรู้พร้อมท้ังความ คดิ พิจารณาอนั สุขุม ใหเ้ ปน็ ประโยชนเ์ กื้อกลู ประเทศชาติและประชาชนได้อยา่ งแทจ้ รงิ ขออวยพรให้บัณฑิตใหม่ และทุก ๆ ท่านที่ร่วมชุมนุมในพิธีน้ี มีความสุขสวัสด ี พรอ้ มทงั้ ความสำเร็จในชวี ติ และหน้าทกี่ ารงานทกุ ประการ. ส ถ า บั น1พ2ร 7ะ ป ก เ ก ล้ า

พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วันศุกร์ที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๑๙ ข้าพเจ้าและพระราชินีมีความยินดี ท่ีได้มาร่วมในพิธีมอบปริญญาบัตรของมหา- วิทยาลัยเกษตรศาสตร์อีกวาระหน่ึง ขอแสดงความชื่นชมกับผู้สำเร็จการศึกษาทุก ๆ คน ท่ ี ได้รับเกยี รตแิ ละความสำเร็จในการศกึ ษาคร้ังนี้ เมื่อวันวาน ข้าพเจ้าได้กล่าวในที่ประชุมน้ีเป็นความว่า ในการวางโครงการพัฒนา เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศน้ัน จำเป็นต้องพิจารณาอย่างละเอียดถ่ีถ้วนว่า ผลจาก โครงการที่จัดมีขอบเขตต่อเน่ืองไปเพียงใด และมีผลดีผลเสียท่ีจุดใดอย่างไรบ้าง เพื่อ จะได้วางแผนงานให้สอดคล้องต้องกันทุก ๆ ส่วน ให้โครงการได้ประโยชน์มากที่สุด บัณฑิต ของมหาวิทยาลัยมีความรู้ความสามารถอันเหมาะสมท่ีจะรับภาระน้ี จึงควรที่จะได้บำเพ็ญ ตัวเป็นนักวิชาการท่ีดี เป็นนักปฏิบัติที่สามารถ ในอันท่ีจะใช้วิชาการโดยรอบคอบสุขุม ให ้ เปน็ ประโยชนเ์ ก้อื กลู ประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริงตอ่ ไป การจะทำงานให้มีประสิทธิผลและได้ดำเนินไปได้โดยราบร่ืนนั้น จำเป็นอย่างย่ิงจะ ต้องทำด้วยความรับผิดชอบอย่างสูง ไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง ไม่บิดเบือนจุดประสงค์ที่แท ้ จริงของงาน สำคัญที่สุด ต้องเข้าใจความหมายของคำว่า “ความรับผิดชอบ” ให้ถูกต้อง ขอให้เข้าใจว่า “รับผิด” ไม่ใช่การรับโทษ หรือถูกลงโทษ “รับชอบ” ไม่ใช่รับรางวัล หรือ รับคำชมเชย การรู้จักรับผิด หรือยอมรับรู้ว่าอะไรผิดพลาดเสียหาย และเสียหายเพราะ อะไร เพียงใดน้ัน มีประโยชน์ทำให้บุคคลรู้จักพิจารณาตนเอง ยอมรับความผิดของตนเอง โดยใจจริง เป็นทางท่ีจะช่วยให้แก้ไขความผิดได้ และให้รู้ว่าจะต้องปฏิบัติแก้ไขใหม่ ส่วน การรู้จักรับชอบหรือรู้ว่าอะไรถูก อันได้แก่ถูกตามความมุ่งหมาย ถูกตามหลักวิชา ถูก ตามวิธีการนั้น มีประโยชน์ทำให้ทราบแจ้งว่า จะทำให้งานสำเร็จสมบูรณ์ได้อย่างไร จัก ได้ถือปฏิบัติต่อไป นอกจากนั้น เมื่อเข้าใจความหมายของคำว่า “รับผิดชอบ” ตามนัย ส ถ า บั น1พ2ร 8ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชาผทู้ รงธรรม : ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรสั ด้านการเมืองการปกครอง ดังกล่าวแล้ว ผู้ที่เข้าใจซึ้งในความรับผิดชอบ จะสำนึกตระหนักได้ทันทีว่า ความรับผิดชอบ คือหน้าที่ท่ีได้รับมอบหมายให้ทำ จะหลีกเล่ียงละเลยไม่ได้ จึงใคร่ขอให้บัณฑิตศึกษาและ สังวรระวังในความรับผิดชอบให้มากท่ีสุด ผู้ใดมีความรับผิดชอบ จะสามารถประกอบ การงานใหบ้ รรลผุ ลสำเรจ็ ตามทีม่ ุ่งหมายไว้ ไดอ้ ยา่ งแนน่ อน ขออวยพรให้บัณฑิตใหม่ และทุก ๆ ท่านท่ีร่วมชุมนุมอยู่ในพิธีนี้ มีความสุขสวัสดี พร้อมทง้ั ความสำเรจ็ ในชวี ติ และหน้าทีก่ ารงานทุกประการ. ส ถ า บั น1พ2ร ะ9ป ก เ ก ล้ า

พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่สามัคคีสมาคม ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อเชิญไปอ่านในการชุมนุมสามัญประจำปี ระหว่างวันท่ี ๒๐ - ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๑๙ ขอแสดงความชื่นชมยินดีด้วย ที่สามัคคีสมาคมจัดงานชุมนุมประจำปีขึ้นอีกดังเคย การชุมนุมเช่นนี้เป็นประโยชน์มากในทางท่ีจะก่อให้เกิดความปรองดองกัน และให้เกิดความ เข้าใจในความคิดจิตใจของกันและกันลึกซึ้งย่ิงข้ึน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญอย่างยิ่งของบุคคล ในการท่ีจะร่วมกันทำงานใหญ่ระดบั ชาตใิ นภายหน้า อาจเป็นเพราะปัจจุบันนี้โลกแคบเข้า ชาติต่าง ๆ ติดต่อผูกพันกันได้สะดวกกว้าง ขวางมาก จึงมีความคิดและความเห็นเกิดข้ึนในหมู่คนเป็นอันมากว่าประเทศและชาติกำเนิด มิใช่ส่ิงสำคัญท่ีจะยึดถือเหมือนแต่ก่อน จุดมุ่งหมายท่ีพึงยึดม่ัน ควรจะเป็นอุดมการณ์อย่างใด อย่างหนึ่ง ซ่ึงบุคคลจะต้องพยายามขวนขวายต่อสู้เพื่อให้ได้มาเหมือนกันหมด ท่านทั้งหลาย น่าจะพิจารณาความคิดนี้ให้ละเอียดลึกซ้ึงพร้อมทุกแง่ทุกมุมด้วยเหตุผลและด้วยปัญญาอัน อิสระ เม่ือได้พิจารณาแล้ว ท่านอาจเห็นว่าชาติและประเทศน้ัน ยังคงเป็นจุดหมายที่เราควร ยึดมั่นอยู่ต่อไป จักได้ช่วยกันรักษาชาติบ้านเมืองไทยของเราไว้ให้คงคุณลักษณะและคง อิสรภาพเสรีภาพอยู่คู่โลกตลอดไป ขออวยพรให้การชุมนุมสำเร็จผลตามที่มุ่งหมาย และขอให้ทุกคนท่ีชุมนุมพร้อม กัน ณ ท่นี ้ี มคี วามสขุ ความสวัสดี และความสมประสงคใ์ นสิ่งทคี่ วรปรารถนาท่วั กัน. ส ถ า บั น1พ3ร 0ะ ป ก เ ก ล้ า

พระบรมราโชวาท(๑) พระราชทานแก่นักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์(๒) ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา วันจันทร์ที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๑๙ ในวันน้ีได้มามอบปริญญาแก่นักศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ณ วิทยา เขตนี้ ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกที่ได้มา คราวก่อน ๆ น้ีก็ได้เคยไปมอบปริญญาที่ปัตตานี และเกิดปัญหาขึ้นมาว่า มหาวิทยาลัยน้ีมีวิทยาเขตถึง ๒ แห่ง และเกิดความน้อยใจกันว่า ทำไมไปมอบปริญญาที่แห่งเดียวไม่มา ณ ท่ีน้ี บัดนี้ก็ได้แก้ไขสถานการณ์แล้วได้มาท่ีนี่ เม่ือปีท่ีแล้วท่ีปัตตานีก็ได้พบกับนักศึกษาท่ีกำลังศึกษาในมหาวิทยาลัยเหมือนกัน และก็ได ้ แจ้งต่อเขาว่าในปีหน้า คือปีน้ีจะมาท่ีหาดใหญ่ ก็ไม่มีข้อท่ีจะเกิดความเข้าใจผิดกัน อย่างไร ก็ตาม ทุกครั้งท่ีเข้าในงานมอบปริญญาท่ีไหนก็ตาม มีความรู้สึกว่ามีความยินดี เพราะเห็น ผู้มีความรู้ คือผู้ท่ีได้เล่าได้เรียนในวิชาการต่าง ๆ ได้สำเร็จการศึกษา และจะออกไปปฏิบัต ิ งานตามความรู้ที่มี เป็นความรู้ท่ีมีความแตกต่างกันหลายสาขา รวมความท่ีเรียกว่าศิลป- วทิ ยา ศิลปวิทยาน้ีคือความรู้ในวิชาการ ความรู้ในวิชาการน้ีแบ่งเป็นหลายชนิดด้วยกัน และต้องใช้กันทั้งน้ัน สำหรับให้สังคมและประเทศมีความเจริญรุ่งเรือง คือประเทศเรามีอยู่ ต้ังอยู่ และสังคมก็คือทุกคนที่อยู่ ณ ท่ีนี้ ทุกคนท่ีอาศัยอยู่ในประเทศเป็นสังคม สังคมนี ้ อยู่ร่วมกันเพื่ออะไร ก็เพื่อให้อยู่ได้สบาย มีความผาสุก ความม่ันคง อนาคตแจ่มใส เพ่ือ การน้ี เราก็ต้องใช้ความรู้เพื่อท่ีจะทะนุบำรุงความม่ันคงน้ี ทะนุบำรุงและส่งเสริมให้ความ (๑) เรยี บเรยี งขน้ึ ตามทไี่ ดบ้ นั ทกึ พระสรุ เสยี งไว ้ (๒) พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ เสดจ็ พระราชดำเนนิ พรอ้ มดว้ ย สมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอทัง้ สองพระองค์ ไปพระราชทานปรญิ ญาบตั ร ฯ ทรงวางศลิ าฤกษอ์ าคารเรยี นและโรงพยาบาล ณ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ วทิ ยาเขตหาดใหญ่ และทรงประกอบพธิ บี รรจพุ ระสารรี กิ ธาตใุ นพระพทุ ธมหา- มงคลบพิตร ณ วิหารพระพุทธมหามงคลบพิตร อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ตลอดจนทรงเย่ียมราษฎร จงั หวดั สงขลา ส ถ า บั น1พ3ร 1ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชาผทู้ รงธรรม : ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรสั ด้านการเมอื งการปกครอง เป็นอยู่ อยู่อย่างสบายข้ึนทุกที ให้อยู่สบายขึ้นน้ีก็ต้องมีหลายอย่างประกอบกัน สิ่งที่ สำคัญก็คือต้องเห็นอกเห็นใจกัน และเก้ือหนุนสนับสนุนซึ่งกันและกัน ถ้าเก้ือหนุนสนับ สนุนซึ่งกันและกันด้วยวิชาการก็ย่ิงดี ถ้าพูดถึงวิชาการในการอยู่เป็นสังคมก็เรียกว่าสังคม- ศาสตร์ ก็ต้องใช้วิชาการของสังคมศาสตร์มาทำให้การอยู่ร่วมกันเป็นไปโดยสวัสดิภาพ คือ ให้รู้ว่า คนเรามาอยู่เป็นสังคมจะต้องมีระเบียบการอย่างไร เม่ือพูดถึงเช่นนี้ก็หมายความ ต้องมีวิชาทางด้านนิติศาสตร์มาประกอบด้วย คือจะต้องมีระเบียบการ มีกฎหมาย มีระเบียบ ที่มั่นคง ถ้าพูดถึงระเบียบมีกฎหมายนั้นก็จะต้องรู้ทางด้านรัฐศาสตร์ คือการปกครอง ปกครองน้ีไม่ใช่กดขี่ ปกครองคือให้ทุกคนมีการเป็นอยู่โดยไม่เบียดเบียนผู้อ่ืน โดยส่งเสริม ผู้อ่ืน อันนี้ก็จะต้องมีการจัดระเบียบปกครองให้ดี เพ่ือไม่ให้มีการเบียดเบียนกัน เพราะ แต่ละคนถ้าลืมไปว่าอยู่ในสังคม ก็อาจจะอยากมีเสรีภาพมาก แต่ละคนที่อยากมีเสรีภาพ ก็อาจจะนึกว่า นั่งที่ใดที่น้ันเป็นของตน และข้างเคียงของตนก็เป็นของตนเหมือนกัน ลืม ไปว่ามีคนอ่ืนอยู่ข้าง ๆ อย่างท่านทั้งหลายที่นั่งอยู่อย่างมีระเบียบเรียบร้อยนี้ ถ้าเกิดลืมข้ึน มา เกิดหลับหูหลับตาแล้วก็นึกว่าไม่มีใครอยู่ข้าง ๆ ก็เกิดบิดขี้เกียจข้ึนมา บิดไปบิดมาก็ ไปโดนคนอื่น คนอื่นเขาก็เคืองเอา การเคืองของคนอื่นนั้นอาจจะแสดงออกมาในรูปต่าง ๆ กัน อาจจะบอกอย่าเลย อย่าทำอย่างน้ีเป็นการกวนกัน แต่ถ้าเกิดใจร้อน ไม่ยั้งสติ อาจ ทะเลาะกันเลย ก็ไม่เกิดประโยชน์แก่ผู้ใดเลย ทำให้ท้ังหมดอลเวง และทำให้ไม่มีความ ผาสกุ มัน่ คง ฉะนั้น การท่ีอยู่เป็นสังคมก็จะต้องมีระเบียบ และมีความรู้ในเสรีภาพของตน นอกจากน้ี นอกจากระเบียบ และความรู้ถึงเสรีภาพ ถึงขอบเขตของเสรีภาพ ซ่ึงหมาย ความว่า แต่ละคนจะต้องมีความรู้ในธรรมะ คือรู้ว่าจะต้องปฏิบัติตนอย่างไรถึงจะมีความ เจริญ มีความดี มีความผาสุก เราก็ย่อมอยากอยู่ดีข้ึนตลอดไป การอยู่ดีขึ้นตลอดไปน้ัน จะต้องมีวิชาการอย่างตอนนี้ เรานั่งอยู่ ยืนอยู่ในท่ีน้ี ก็เคราะห์ดีที่เวลานี้ฝนไม่ตก แต่ถ้าตก ก็ยังไม่มีความเดือดร้อนเท่าไหร่ ไม่มีความลำบากเท่าไหร่ เพราะว่ามีหลังคาอยู่ ไม่เหมือน ท่ีปัตตานีเมื่อปีที่แล้วท่ีเดือดร้อน เพราะว่าการชุมนุมดังนี้ แบบน้ี กระทำข้างนอก ฝนตก ก็ต้องลำบาก ต้องย้ายที่ เพราะว่ากลัวเปียกกัน คราวนี้ ถ้าสมมุติว่าฝนตกก็ไม่ค่อยเปียกกัน แต่สำหรับอย่างนี้ก็ต้องสร้างหลังคา ต้องสร้างอาคาร การสร้างอาคารต้องใช้หลักวิชา วิทยาการท่ีเหมาะสม มิฉะนั้นอาคารอาจจะไม่แข็งแรง ถ้ามีพายุฝนขึ้นมาก็อาจจะล้มลง มา เกิดความไม่เรียบร้อย เกิดอันตราย ฉะน้ัน อยากอยู่ดี อยากให้มีความสบายข้ึนก็ต้อง ส ถ า บั น1พ3ร2ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชาผทู้ รงธรรม : ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรสั ด้านการเมืองการปกครอง อาศัยวิทยาการ ในที่น้ีก็วิทยาการในด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม ฉะน้ัน การอยู่ดี กินดี ก็ต้องอาศัยวิชาการ ว่าถึงวิชาการทางวิศวกรรมทางเกษตรกรรม ทางอื่น ๆ ทางการ แพทย์ ทางการศึกษา ท้ังหมดนี่ก็เป็นวิชาการท่ีทำให้เราอยู่ดีข้ึน ก็จะต้องช่วยกันให้ผู้ท่ีมี ความสามารถท่ีจะเรียนในสาขาวิชาต่าง ๆ นี้ ได้เรียน ได้มีความรู้ เพื่อท่ีจะบริการ เพ่ือท ี่ ทำงานให้ส่วนรวมมีความก้าวหน้าได้ ถ้าแต่ละคนได้เรียนรู้มาดีแล้ว ก็สามารถท่ีจะปฏิบัต ิ ตามทมี่ คี วามตงั้ ใจในใจตงั้ แต่เด๋ยี วนเ้ี ปน็ ต้นไปว่า อยากจะทำงานเพือ่ สว่ นรวม วันน้ี ขอพูดถึงการทำงานเพื่อส่วนรวม รายงานของอธิการบดีเมื่อตะกี้ในพิธีมอบ ปริญญาบัตร ก็ได้กล่าวถึงการพัฒนาของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ท่ีได้ทำร่วมกับทาง การ และทางประชาชน เพ่ือสร้างความก้าวหน้าแก่ประชาชน และส่วนรวม การออกไป ปฏิบัตินั้นส่วนมากท่ีปฏิบัติกันค่อนข้างจะปฏิบัติทางดิ่ง หรือที่เรียกว่าทางต้ัง คือผู้ที่ม ี ความรู้ไปปฏิบัติในท้องที่ และพยายามไปให้ความรู้หรือช่วยเหลือคนในท้องท่ีโดยให้ความ รู้ในวิชาการของตน นักศึกษาท่ีออกไปก็ไปในวิชาการของตัว ทั้งอาจารย์ก็ไปให้การปรึกษา การปรึกษาในทางวิชาน้ัน ๆ ประชาชนหรือชาวบ้านจะได้รับประโยชน์ ก็เข้าใจว่าจะได้ใน ทางนั้น แต่ลืมไปว่าการพัฒนาน้ี การรู้จักกันน่าจะรู้จักกันทางนอน หรือทางราบด้วยเหมือน กัน คือวิชาเช่นออกไปปฏิบัติในทางวิศวกรรมศาสตร์ วิชาการทางวิศวกรรมศาสตร์น้ี ถ้า ไปปฏิบัติก็จะต้องดูสภาพของส่ิงท่ีเราจะไปทำในท้องที่ ก็หมายความว่ามองลงไปสู่พ้ืนฐาน แล้วก็มองขึ้นไปทางวิชาการช้ันสูง ก็คือตำหรับตำราของการวิศวกรรม อันน้ีเป็นการมอง ทางด่ิง ทางตั้ง แต่ว่าต้องไม่ลืมว่าที่ไปปฏิบัติน้ัน ชาวบ้านมีปัญหาทางวิศวกรรม แต่ก็ม ี ปัญหาทางอื่นด้วย ทางความเป็นอยู่ ทางด้านการเพาะปลูก ทางด้านความสบายไม่สบาย ของกาย ทางด้านทำมาหากินเลี้ยงชีพ คือทางเศรษฐกิจ วิชาเหล่าน้ีคือเศรษฐกิจ ทางการ แพทย์หรือทางการค้า ทางการเกษตร ท้ังน้ัน เป็นวิชาการท่ีไม่ใช่วิศวกรรม แต่ว่าชาวบ้าน ทุกคนต้องอาศัยท้ังนั้น ที่จริงไม่ใช่ชาวบ้าน จะเรียกว่าชาวบ้านก็ได้ ทุกคนก็เป็นชาวบ้าน เพราะต้องมีบ้านอยู่ ท่านทั้งหลายผู้เป็นนักศึกษาก็เป็นชาวบ้าน ท่านทั้งหลายก็มีความ จำเป็นท่ีจะอาศัยทุกวิชาการ เพราะว่าเป็นผู้ที่มีกาย มีกายแล้วก็จะต้องอาศัยอาหาร ก็ต้อง อาศัยส่ิงท่ีมาจากเกษตรกรรม มาจากอุตสาหกรรม มาจากการค้า ทุกอย่างนี้มาแตะต้อง กายท่านทั้งนั้น รวมทั้งเวลาไม่สบายก็ต้องหาหมอ หรือถ้าไม่หาหมอท่านท้ังหลายก็จะ ต้องใช้วิชาหมอของตนเองที่จะรักษาตัวเอง ไม่รักษาไม่ได้ ฉะน้ัน แต่ละคนเรียกว่า ชาวบ้านทุกคน จะต้องมีการอาศัยวิชาการทุกด้านไม่ใช่เฉพาะในด้านท่ีคณะออกไปพัฒนา จะต้องให้คณะท่ีออกไปเช่นยกตัวอย่างตะกี้ว่า นักวิศวกรรมออกไปก็จะต้องสนใจในขั้น ส ถ า บั น1พ3ร 3ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชาผทู้ รงธรรม : ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรสั ด้านการเมืองการปกครอง ต่าง ๆ กับวิชาอ่ืน เช่นจะสร้างเคร่ืองก็จะต้องสนใจในทางกสิกรรม เพราะว่า เครื่องโดย มากก็จะไปสำหรับช่วยในทางความเป็นอยู่ของกสิกร หรือผู้ที่ใช้วัสดุที่มาจากการกสิกรรม ต้องรู้เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ เพราะว่าวัตถุที่เป็นกสิกรรมเป็นวัตถุดิบ เราจะใช้เคร่ืองท่ีสร้าง ด้วยวิชาวิศวกรรมมาสำหรับดัดแปลงให้วัตถุดิบน้ันมีคุณค่ามากข้ึน และทำให้ขายได้ดี ก็ เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ เศรษฐกิจนี้เราก็จะต้องทราบว่า วัตถุนั้นมีราคาดีหรือไม่ดี ในสภาพ ใด ถ้าเราจะเปลี่ยนแปลงดัดแปลงคุณภาพให้ดีขึ้น ให้เก็บรักษาไว้ได้นาน หรือให้มีความ บริสุทธิ์มากขึ้น จะขายได้ดีกว่าอย่างแน่นอน ก็เก่ียวข้องกับเศรษฐกิจอันน้ี ก็แสดงให้เห็น ว่าผู้ที่ออกไปไม่ใช่เฉพาะชาวบ้านที่จะรับผลประโยชน์ ผู้ท่ีออกไปนึกว่าจะไปพัฒนา คือ ไปให้ประโยชน์ต่อผู้อื่นก็จะต้องมีความรู้รอบด้าน และติดต่อกับผู้อ่ืนท่ีอยู่ในระดับเดียวกัน ของตัวให้สอดคล้องกัน หมายความว่าผู้ที่เป็นนักศึกษาที่จะออกไปพัฒนา ออกไปช่วย และในเวลาเดียวก็ได้ความรู้ ขอให้มีความสอดคล้อง มีความรู้จัก และปรึกษาหารือ กับนักศึกษาเพ่ือนนักศึกษาที่ศึกษาในแขนงอ่ืน วิชาการอื่น ๆ ด้วย ปรึกษาหารือกันใน กิจการที่กำลังทำ และในกิจการอ่ืนท่ีไม่ใช่ว่ากำลังทำ แต่ว่าก็เกี่ยวข้องกับตัวเหมือนกัน ให้ปรึกษาหารือกัน รู้จักกันทุกคนในทางราบ หมายความว่า จำพวกผู้ที่มีความรู้พอ ๆ กัน และที่มีความคิดคล้าย ๆ กัน ไม่ใช่ว่าได้รับคำส่ังให้ออกพัฒนาก็ไปพัฒนา ไปถามคนอื่น ท่ีรับคำสั่งพัฒนาถามเขาว่า เขารับคำสั่งจากที่ไหน ถามเขาว่าเขามาพัฒนาอะไร แล้วก็ แลกเปล่ียนความคิดความเห็นอันน้ี ก็จะเป็นประโยชน์ต่อตนประโยชน์ต่อชาวบ้านผู้ท่ีได้รับ การพัฒนาอย่างเต็มเปี่ยม มิฉะน้ันผู้ท่ีรับการพัฒนาจะไม่ได้รับประโยชน์ เพราะว่า ต่าง คนต่างเอาวิชาของตัวเป็นใหญ่มาให้ ซึ่งอาจจะไม่เป็นประโยชน์แก่ชาวบ้าน ถ้าประสาน กันกับวิชาอ่ืน แนวอื่น สายอื่น ก็จะมีประโยชน์ได้เต็มที่ เพราะว่าผู้ที่ไปพัฒนาก็สอดคล้อง ผู้ที่ได้รับการพัฒนาก็จะได้รับวิชาการ หรือได้รับบริการช่วยเหลือท่ีสอดคล้องเหมาะกับชีวิต เหมาะกับพื้นท่ี ตลอดจนครูบาอาจารย์ที่ไปช่วยให้การศึกษาก็จะต้องให้สอดคล้องกันเหมือน กัน ไม่ใช่ว่าครูบาอาจารย์ที่มีวิชาเฉพาะไปแล้วก็จะบังคับให้มีการพัฒนาในด้านวิชาเฉพาะ ก็จะต้องให้บรรดาคณาจารย์ต่าง ๆ ท่ีไปช่วยให้การปรึกษา ให้ปรึกษาระหว่างกันเอง คือ ระหว่างวิชาการต่าง ๆ เพื่อให้การปรึกษานั้นสอดคล้องกันให้ดี การพูดดังน้ัน คือ อยากให้ ทุกด้าน ทุกคน มีโอกาสให้ประโยชน์แก่ทุกคน ชาวบ้านทุกคน ดังนี้จะทำให้การพัฒนา ของผู้ที่มีความรู้เป็นประโยชน์ย่ิง และสำหรับนักศึกษาที่ออกไปพัฒนาจะเกิดความรู้เช่น เดียวกัน เกิดความสามารถเช่นเดียวกัน เพื่อท่ีจะไปปฏิบัติต่อไปในอนาคตเมื่อศึกษา เสร็จแล้ว ดังท่ีผู้ที่ได้รับปริญญาในวันนี้ก็ออกไปปฏิบัติการเพื่อประโยชน์ของตน เพ่ือประ- ส ถ า บั น1พ3ร4ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชาผทู้ รงธรรม : ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรสั ดา้ นการเมืองการปกครอง โยชน์ของชาติบ้านเมือง และให้สมกับที่ได้ปฏิญาณตนว่า จะทำประโยชน์ และอุ้มชูบ้าน เมืองให้มีความม่ันคง ที่ปฏิญาณตนเช่นน้ันนะก็เป็นความฉลาดอย่างหน่ึงแล้ว เพราะว่าถ้า ทำประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองแล้วก็เป็นประโยชน์แก่ตัวอย่างแน่นอน เพราะว่าชาติบ้าน เมืองน้ีเป็นท่ีอยู่อาศัยของเรา เรามีชาติบ้านเมืองเราก็ต้องอุ้มชู เราต้องรักษาชาติบ้านเมือง เช่นเดียวกับเรามีบ้านช่องอยู่ เราไม่ได้ไปทุบให้พัง ถ้าทุบให้พังฝนตกก็รั่ว แดดออกก็เผา เพราะฉะน้ันผู้ท่ีปฏิญาณตนว่า จะใช้วิธีความรู้ปกป้องบ้านเมืองให้อยู่ดีก็เท่ากับสร้างท่ีอยู่ท ี่ อาศัยปกปอ้ งหวั ตัวเองไม่ให้แตก ไมใ่ หป้ วด ไม่ให้ตาย ฉะน้ัน มาถึงข้ันนี้ท่ีนักศึกษาท้ังหลายท่ีกำลังศึกษาอยู่ นั่งอยู่ ณ ที่นี้ ได้มาเป็น กำลังใจ เป็นพยานต่อการมอบปริญญารับปริญญา ก็ขอให้หน่ึงเมื่อเป็นผู้ที่มาเป็นพยานต่อ ผู้ท่ีรับปริญญา ก็ให้กำลังใจกับผู้ท่ีได้รับปริญญาแล้ว ให้สามารถทำตามที่ได้ปฏิญาณตน และสำหรับตัวเองก็นักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ ขอให้เป็นกำลังใจต่อตัวเอง คือให้ผู้ท่ีได ้ สำเร็จการศึกษาเป็นตัวอย่าง เป็นกำลังใจให้พวกเราทั้งหลายสามารถท่ีจะเรียนรู้ เพ่ือที่จะ ได้ปริญญาคือความสำเร็จ ไม่ใช่รับปริญญาเป็นสิ่งท่ีสำคัญ สำคัญอยู่ที่ความสำเร็จ คือ ได้ความรู้พร้อมท่ีจะไปใช้ ต้องมีกำลังใจมากที่จะเรียนถึงได้ปริญญา ก็ขอให้มีกำลังใจ ดูรุ่นพ่ีเป็นตัวอย่าง และเตรียมตัวต้ังแต่บัดน้ีท่ีจะปฏิญาณตนว่า จะทำประโยชน์ต่อบ้าน เมือง ยังไม่ต้องปฏิญาณตนก็ทำประโยชน์ต่อบ้านเมืองได้แล้วนับแต่บัดน้ี คำปฏิญาณนั้น เป็นการยืนยันเท่านั้นเอง เป็นคำที่พูดออกมา ความจริงทุกคนก็ควรจะปฏิญาณตนด้วยตน เอง กับตัวเองแล้ว ได้พูดมาต้ังแต่เรื่องออกไปพัฒนาทั้งด้านความรู้สูง คือให้มีความรู้สูง นี้ให้เป็นประโยชน์ถึงชาวบ้านได้อย่างไร แล้วก็เข้าใจว่าคงเห็นว่าความรู้น้ีก็เป็นความสำคัญ ความสามัคคีก็เป็นความสำคัญ การสอดคล้องกันในวิชาก็เป็นของสำคัญ การต้ังจิตท่ีจะ ทำงานทำการเพ่อื ส่วนรวมก็เปน็ ของสำคญั เพราะวา่ จะทำใหม้ บี ้านมหี ลังคาปกปอ้ งหัวไว ้ ฉะนั้น ก็เข้าใจว่าท่านท้ังหลายจะต้องมีกำลังใจให้มาก ก็ขอให้มีกำลังใจ ไม่ได ้ ขอที่จะให้พร ไม่ได้ขอพรอะไรเลย ก็ไม่ต้องให้พร เพราะว่าถ้าแต่ละคนมีกำลังใจในทาง ที่ถูก มีการต้ังใจที่จะทำอะไรที่ถูกย่อมมีพรอยู่แล้วกับตัวตลอด ไม่ต้องให้ คือผู้ที่ต้ังใจดี มีความคิดสุจริตบริสุทธิ์เป็นพรอยู่แล้ว ถ้าเอาความคิดบริสุทธ์ิสุจริตนี้มาเพ่งอะไรก็ตาม จะ มาคิดจะเรียนดี ๆ ก็เรียนได้ดี เพราะมีความต้ังใจที่จะเรียนไม่วอกแวกไปที่ไหน เม่ือเรียนดี แล้วจะสอบไล่ หรือไม่สอบไล่ ไม่ได้หมายความว่าจะยุไม่ให้สอบไล่ แต่ว่าถ้ามีการสอบไล่ หรือไม่มีการสอบไล่ก็ตาม เราได้เล่าเรียนได้ศึกษาดีแล้ว เรามีความรู้ ความรู้นี้เม่ือมี ส ถ า บั น1พ3ร 5ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชาผทู้ รงธรรม : ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสดา้ นการเมอื งการปกครอง ความต้ังใจบริสุทธิ์แล้ว จะเอาไปใช้ก็เอาไปใช้ได้ดี ฉะนั้นก็ไม่ต้องพร เพียงแต่พูดว่าให้ ไปดูกำลังใจของตัว ความตั้งใจของตัวว่า จะมีดีหรือไม่มีดี ถ้าผู้ใดทักท้วงว่าไม่ได้ขอพร แต่ก็ขอพรอยู่ดี ผู้ใดท่ีต้องการพรไปเพ่งดูในความตั้งใจของตนว่า ดีหรือไม่ดี บริสุทธิ ์ หรือไม่บริสุทธ์ิ เหมือนไปเปิดตู้ดูในตู้นั้นจะเห็นว่ามีห่อหน่ึงเขียนว่า พร เปิดห่อนั้นจะมีพร อยู่ในนั้น และจะมีวิธีที่จะปฏิบัติให้ได้ความสำเร็จท้ังในการเรียนถึงสอบไล่ได้ หรือในกรณ ี ที่ไม่มีการสอบจะได้ความรู้ท่ีดีที่มั่นคง จะได้รับการยืนยันว่าเป็นผู้มีความรู้ดี และเม่ือออก ไปทำงาน จะมีความสำเร็จ มีบุคคลอ่ืน คือผู้อื่นจะยกย่องชมเชย เราจะมีความสำเร็จ ความพอใจทกุ ประการ กข็ อให้โชคดที กุ คน. ส ถ า บั น1พ3ร ะ6ป ก เ ก ล้ า

พระราชดำรัส(๑) พระราชทานแก่คณะรัฐมนตรีในโอกาส ฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ฯ(๒) ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วันอังคารท่ี ๕ ตุลาคม ๒๕๑๙ คำปฏิญาณของคณะรัฐมนตรีก่อนเข้ารับหน้าท่ีน้ัน ก็เป็นไปตามบทบัญญัติของ รัฐธรรมนูญท่ีให้คณะรัฐมนตรีปฏิญาณตนก่อนรับหน้าที่ เป็นคำที่เปล่งออกมาเพ่ือยืนยันว่า จะปฏิบัติงานเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ นับว่าเป็นการแสดงความต้ังใจท่ีแน่วแน่ ถ้า ถือว่าเป็นการทำตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญน้ันเฉย ๆ ก็อาจจะไม่ศักดิ์สิทธ์ินัก แต่ถ้า ทำด้วยความตั้งใจจริง ก็เป็นสิ่งท่ีจะทำให้ประชาชนเชื่อมั่นในรัฐบาลได้ ฉะนั้น ต้องขอให ้ ท่านพิจารณาดี ๆ ในคำปฏิญาณซึ่งส้ันและสรุปท่ีสุด และขยายความเอาเองในกรอบของ คำปฏิญาณน้ี ซ่ึงมีสาระสำคัญว่า จะปฏิบัติหน้าท่ีด้วยความซ่ือสัตย์ สุจริต เพ่ือประโยชน ์ ของบ้านเมอื ง ก็ขอให้ท่านทั้งหลายมีกำลังใจ และกายสมบูรณ์ และมีความตั้งใจแน่วแน่ท่ีจะ รักษาคำปฏิญาณนี้ จะได้ชื่อว่าได้ปฏิบัติงานด้วยความเฉลียวฉลาด ด้วยความเสียสละ ด้วย ความเห็นแก่ส่วนรวม ก็ขอให้ท่านทั้งหลายมีความสำเร็จ ความเจริญทุกประการ ประสบ แต่ความม่ันคง ความเจริญ และความสำเร็จในทกุ ส่ิงทกุ อยา่ งท่สี มควร (๑) เรยี บเรยี งขน้ึ ตามทไ่ี ดบ้ นั ทกึ พระสรุ เสยี งไว ้ (๒) พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ หมอ่ มราชวงศเ์ สนยี ์ ปราโมช นายกรฐั มนตรี นำคณะรฐั มนตรี เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาท ถวายสตั ยป์ ฏญิ าณ ฯ ณ พระตำหนกั จติ รลดารโหฐาน ส ถ า บั น1พ3ร7ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชดำรัส(๑) พระราชทานแก่คณะรัฐมนตรีในโอกาส ฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ฯ(๒) ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วันศุกร์ที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๑๙ บัดนี้ท่านได้มาปฏิญาณตน เข้ารับหน้าที่รัฐมนตรี โดยท่ีถือว่าเป็นคณะรัฐมนตรี ท่ีจะเข้าบริหารราชการแผ่นดิน การปฏิญาณตนนี้เป็นการแสดงเจตนาแรงกล้าที่จะปฏิบัติให ้ มปี ระโยชน์ ใหม้ ผี ลตอ่ ชาตบิ า้ นเมอื ง ใหช้ าตบิ ้านเมอื งมีความมั่นคง กา้ วหนา้ เจรญิ เวลานี้ก็มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้ว ซ่ึงมีข้อความแสดงและชี้ทางวิธีการปฏิบัติ เพ่ือให้ประเทศชาติมีความมั่นคงถาวรได้ โดยได้ชี้ให้เห็นเป็นทางโดยลำดับ ฉะนั้น การท่ ี ท่านทั้งหลายได้มารับหน้าที่คณะรัฐบาลนี้ จึงมีแนวทางแล้ว และท่ีท่านได้ปฏิญาณก็หมาย ความว่า ท่านจะพยายามที่จะปฏิบัติตามแนวทางนี้ เพื่อให้ได้ผลอันสมบูรณ์ตามเจตนารมณ ์ ของบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ความจริงคนเราถ้าจะปฏิบัติหน้าที่ใด ๆ ยิ่งเป็นหน้าที่สูงก็ย่ิง สำคัญ จะต้องต้ังเจตนาที่แรงกล้า ซ่ึงท่านได้ต้ังแล้ว อีกข้อก็ต้องมีความสามารถในหลักวิชา ในการกระทำ เพ่ือให้ปฏิบัติได้ ซ่ึงท่านก็มีอยู่แล้ว และข้อสำคัญท่ีสุด คือการปฏิบัติให้เป็น ไปตามเจตนาโดยใช้ความสามารถในการงานที่ท่านจะทำ การปฏิบัติน้ีก็อยู่ข้างหน้า ก็ขอให ้ การปฏิบัตินี้ได้เป็นผลดีต่อประเทศชาติ ต่อเจตนาที่วางเอาไว้ ในการน้ีท่านจะต้องรักษา ความเข้มแข็งอยู่ตลอด ไม่ละเลยจากความเข้มแข็ง ไม่นอกแนวจากความบริสุทธิ์ใจในการ กระทำ ใช้สติปัญญา ใช้ความรู้ให้มาก ให้ดีที่สุด โดยถือหลักเหตุผลที่แน่นแฟ้น ดังนี้การ ปฏิบัติของท่านก็เชื่อว่าจะมีผลดีต่อประเทศชาติแน่ ฉะน้ันก็ขอให้ท่านทั้งหลายรักษาเจตนา ทีไ่ ด้กลา่ วในคำปฏิญาณ ปฏบิ ตั หิ น้าทดี่ ว้ ยความซ่อื ตรง ดว้ ยความมีเหตผุ ล ขอให้ท่านมีกำลังกาย กำลังใจ กำลังความตั้งใจ อธิษฐานท่ีจะปฏิบัติหน้าท่ีอย่าง สมบูรณ์เต็มท่ี เพื่อประสบความสำเร็จ ความเจริญรุ่งเรือง ขอให้ท่านได้มีกำลังท้ังหมด เพื่อ สามารถที่จะปฏิบัติหน้าทีข่ องท่านซงึ่ สำคัญ (๑) เรยี บเรยี งขน้ึ ตามทไ่ี ดบ้ นั ทกึ พระสรุ เสยี งไว ้ (๒) พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายธานนิ ทร์ กรยั วเิ ชยี ร นายกรฐั มนตรี นำคณะรฐั มนตรี เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาท ถวายสตั ยป์ ฏญิ าณกอ่ นเขา้ รบั หนา้ ที่ ณ พระตำหนกั จติ รลดารโหฐาน ส ถ า บั น1พ3ร8ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชดำรัส ในพิธีเปิดประชุมสภาปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ณ พระท่ีนั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต วันพฤหัสบดีท่ี ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๑๙ ข้าพเจ้ามีความยินดี ที่ได้มาทำพิธีเปิดประชุมสภาปฏิรูปการปกครองแผ่นดินใน โอกาสนี้ ขอแสดงความช่ืนชมกับท่านท้ังปวง ที่ได้รับมอบหมายให้มาร่วมงานสำคัญของ บ้านเมอื ง การเรียกประชุมสภาปฏิรูปการปกครองแผ่นดินคร้ังน้ี ควรจะนับเป็นนิมิตหมาย ของการเร่ิมต้นที่ดี นับแต่วาระน้ีไป ท่านท้ังหลายจะได้ประชุมปรึกษากันดำเนินการปกครอง ของประเทศ และใช้อำนาจนิติบัญญัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อฟ้ืนฟู เสถียรภาพของประเทศทุก ๆ ด้าน ให้บังเกิดความม่ันคงปลอดภัยและความวัฒนาผาสุก ข้ึนแก่ชาติบ้านเมืองและประชาชน ข้าพเจ้าเช่ือใจว่า บรรดาสมาชิกแห่งสภานี้มีความ สำนึกในชาติอยู่ถ้วนทั่วทุกคน และต่างเล็งเห็นว่า สถานการณ์อันเป็นภัยต่อความปลอดภัย ของชาติยังคงมีอยู่ตามท่ีทราบกันแล้ว ดังน้ัน จึงควรจะตระหนักว่าภารกิจของท่านมีความ สำคัญอย่างย่ิงยวด และจะต้องรีบเร่งพิจารณาดำเนินการให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและรวดเร็ว ขอให้ท่านร่วมแรง ร่วมใจ ร่วมสามัคคีกัน ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตบริสุทธ์ิใจ และ ด้วยความคิดพิจารณาอันรอบคอบสุขุม ให้กิจการงานทุกอย่างสัมฤทธ์ิผลอันสมบูรณ์บริบูรณ์ และบรรลผุ ลตามจุดประสงค์ของการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยของเรา บัดน้ี ได้เวลาอันเป็นศุภมงคลแล้ว ข้าพเจ้าขอเปิดการประชุมสภาปฏิรูปการ ปกครองแผ่นดิน เพื่อให้ดำเนินการตามหน้าท่ีสภานิติบัญญัติต่อไป ขออำนาจคุณพระ- ศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธ์ิในสากลโลก จงดลบันดาลให้กิจการของสภานี้ดำเนินไปโดย ราบร่ืนปราศจากอุปสรรคทั้งปวง และบรรลุผลอันเลิศทุกประการ ขอให้ท่านท้ังหลาย ประสบแต่ความสุขความสวสั ดจี งทกุ เมื่อ. ส ถ า บั น1พ3ร ะ9ป ก เ ก ล้ า

พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานประกาศนียบัตร แก่ผู้สอบไล่ได้ตามหลักสูตรของสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร วันอังคารที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๒๐ ข้าพเจ้ามีความยินดี ท่ีได้มาทำพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่เนติบัณฑิตในโอกาสน้ี และขอแสดงความชืน่ ชมด้วย ทท่ี ุกคนได้รบั เกยี รตแิ ละความสำเร็จครง้ั สำคัญย่งิ ท่านท้ังหลายศึกษาวิชากฎหมายก้าวหน้ามาได้ถึงเพียงนี้ ย่อมเข้าใจได้ว่าต่างม ี ความตั้งใจที่จะประกอบการงานด้านกฎหมายเป็นหลักต่อไป กฎหมายไทยนั้นได้รับความ เช่ือถือยกย่องทั่วไปในนานาประเทศ ว่าเป็นกฎหมายที่มีมาตรฐานสูง อำนวยความยุติธรรม และความเท่ียงตรงถูกต้องได้เป็นอย่างเยี่ยม ข้อนี้ นักกฎหมายไทยย่อมทราบและภาคภูมิใจ อยู่ด้วยกันแล้ว แต่มีข้อเท็จจริงอยู่ข้อหน่ึงว่า กฎหมายท้ังปวงจะธำรงความยุติธรรมและถูก ต้องเท่ียงตรง หรือจะธำรงความศักดิ์สิทธ์ิและประสิทธิภาพเต็มเป่ียมอยู่ได้หรือไม่เพียงไร นั้น ขึ้นอยู่กับการใช้ คือถ้าใช้ให้ได้ถูกวัตถุประสงค์หรือเจตนารมณ์ของกฎหมายนั้น ๆ จริง แล้ว ก็จะทรงความศักด์ิสิทธิ์และประสิทธิภาพอันสมบูรณ์ไว้ได้ แต่ถ้าหากนำไปใช้ให้ผิด วัตถุประสงค์และเจตนารมณ์ โดยการพลิกแพลงบิดพลิ้วให้ผันผวนไปด้วยความหลงผิด ด้วยอคติ หรือด้วยเจตนาอันไม่สุจริตต่าง ๆ กฎหมายก็เส่ือมความศักดิ์สิทธิ์และประสิทธิ- ภาพลงทันที และกลับกลายเป็นพิษเป็นภัยแก่ประชาชนอย่างใหญ่หลวง ผู้ที่ต้องการจะใช้ กฎหมายสร้างสรรค์ความผาสุกสงบและความเป็นปึกแผ่นก้าวหน้าของประชาชนและบ้าน เมือง จึงจำเป็นอย่างย่ิงท่ีจะต้องรักษาวัตถุประสงค์อันจริงแท้ของกฎหมายแต่ละฉบับไว้ให ้ แน่วแน่เสมอไป อย่างไม่มีข้อแม้ประการใด ๆ พร้อมท้ังต้องรักษาอุดมคติ จรรยา ความ สุจริต และมโนธรรมของนักกฎหมายไว้โดยรอบคอบเคร่งครัด เสมอด้วยรักษาชีวิตของตน เอง กฎหมายไทยจึงจะทรงคุณค่าอันสมบูรณ์บริบูรณ์ เป็นที่เชื่อถือยกย่องอยู่โดยตลอดได้ ส ถ า บั น1พ4ร 0ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชาผทู้ รงธรรม : ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสด้านการเมอื งการปกครอง ไม่ต้องกลายเป็นกฎหมายโบราณล้าสมัย ดังท่ีมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกิดข้ึนในบางคร้ังบาง คราว ขออวยพรให้เนติบัณฑิตใหม่ประสบความสุข ความสำเร็จ และความเจริญรุ่งเรือง ในชีวติ และการงาน ทั้งขอใหท้ กุ ท่านท่มี าร่วมประชมุ ในพธิ ีน้ี มีความสวสั ดีทุกเมื่อจงทว่ั กัน ส ถ า บั น1พ4ร 1ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชดำรัส(๑) พระราชทานแก่คณะรัฐมนตรีในโอกาสเข้า ฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณเข้ารับตำแหน่ง ณ พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ วันเสาร์ที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๒๐ ขอแสดงความยินดีและขอต้อนรับคณะรัฐมนตรีใหม่ท่ีจะเข้ารับภาระในการบริหาร ประเทศ และท่ีได้ให้คำปฏิญาณน้ัน ก็ถือว่าเป็นส่ิงท่ีสำคัญไม่น้อย เพราะว่าแสดงถึงเจตนา ของแต่ละคน ท่จี ะปฏิบัตงิ านด้วยความต้ังใจ เพือ่ ความอยรู่ อด ความมัน่ คงของประเทศชาติ คำปฏิญาณทั้งหลายก็มีความสำคัญท้ังน้ัน เพราะเป็นการเปล่งวาจาออกมา ท่ีจะ นำส่ิงที่ดี ความรู้ที่มีอยู่ในตัวมาปฏิบัติงานและโดยเฉพาะในงานของคณะรัฐมนตรี ทุกคน มีงานท่ีสำคัญยิ่ง เพราะว่าจะต้องรับผิดชอบ และจะต้องตั้งใจที่จะทำหน้าที่เพื่อความเจริญ ม่ันคงของประเทศชาติเป็นเจตนา คำปฏิญาณนั้นส้ันและกินความลึกซ้ึงมาก เพราะเหตุว่า การปฏิบัติงานของชาตินั้นจะต้องสอดคล้องกันทุกฝ่าย ซ่ึงมีรัฐมนตรีกระทรวงต่าง ๆ มา พร้อมกัน ก็ขอให้ได้พยายามใช้ความสามารถที่มี และความต้ังใจซื่อตรง ประกอบด้วย ความบริสุทธิ์ใจของท่าน เพื่อให้หน้าที่ที่ได้กล่าวไว้สำเร็จเป็นผลดีต่อส่วนรวม ก็พอมีข้อ สังเกตว่าคำปฏิญาณน้ี สำคัญอยู่ที่การเปล่งออกมา และสำคัญย่ิงในการต้ังจิตใจท่ีจะทำตาม คำปฏิญาณ และจะปฏิญาณท่ีไหนก็ได้ เพราะว่าจิตใจของเรา มิใช่ว่าจะปฏิญาณต่อหน้าสิ่ง ใด ต่อหน้าผู้ใดจะเป็นผล การปฏิญาณอยู่ท่ีตัว และถ้าปฏิญาณแล้ว และปฏิบัติตามคำ ปฏิญาณและความต้ังใจแน่วแน่เป็นเจตนารมณ์ ย่อมทำให้งานน้ันสำเร็จได้ เพราะสิ่ง ศกั ดิ์สทิ ธ์ิท้ังหลายท่เี คารพนับถือจะช่วยแนน่ อน ฉะนั้น ก็ขอให้ท่านท้ังหลายยึดมั่นในคำปฏิญาณของตน และความต้ังใจดีของตน เช่ือได้แน่ว่า งานภาระที่ตั้งใจจะปฏิบัตินั้นจะมีความสำเร็จได้ และเป็นส่ิงท่ีสำคัญท่ีสุดท่ี งานจะดำเนินไปด้วยดี เพราะเหตุว่าประเทศชาติต้องการให้มีการปกครองท่ีมีประสิทธิภาพ (๑) เรยี บเรยี งขึน้ ตามทีไ่ ดบ้ ันทึกพระสรุ เสียงไว ้ ส ถ า บั น1พ4ร2ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชาผทู้ รงธรรม : ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรสั ด้านการเมืองการปกครอง และมีความต้ังใจแน่วแน่ ถ้าท่านทั้งหลายปฏิบัติได้ดี เช่นน้ี ก็จะทำให้ประเทศชาติมีความ มั่นคง ความก้าวหน้าได้ และประชาชนจะอยู่ดี ก็ขอให้ทุกท่านมีจิตใจมั่นคง มีความสามารถ แข็งแรง เพื่อปฏิบตั ิงานน้ี ในโอกาสน้ี ก็ขอให้ท่านประกอบด้วยจิตใจและร่างกายท่ีเข้มแข็ง สามารถที่จะ ทำให้ภารกิจนานาประการลุล่วงไปด้วยดี ด้วยความสอดคล้อง ด้วยความมีประสิทธิภาพ สูง เพ่ือความมั่นคงเจริญ และก้าวหน้าของประเทศ ขอให้ท่านทั้งหลายจงประสบความ สำเร็จ. ส ถ า บั น1พ4ร 3ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชดำรัส ในพิธีเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันพุธที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๒๐ ข้าพเจ้ามีความยินดี ท่ีได้มาทำพิธีเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซ่ึงบัดนี้ ทา่ นทง้ั ปวงได้รับมอบหมายให้เปน็ สมาชิกรว่ มบรหิ ารงานแลว้ ภาระหน้าท่ีของสมาชิกแห่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความ ม่ันคงและความเจริญของประเทศ จำเป็นที่จะต้องใช้สติปัญญาความสามารถของท่านปฏิบัต ิ โดยเต็มกำลัง ท้ังในการร่างรัฐธรรมนูญและการบัญญัติกฎหมาย การปรึกษาตกลงกันใน ปัญหาใด ๆ ท่ีจะมีขึ้นในสภานี้ จะต้องกระทำไปอย่างมีเหตุผลและหลักการ ทั้งด้วยความ สมานสามัคคี ร่วมมือกันด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติและ ประชาชนอันเปน็ เปา้ หมายอันสงู สุด บัดน้ีถึงเวลาอันเป็นมงคลแล้ว ข้าพเจ้าขอเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติตั้งแต ่ บัดนี้เป็นต้นไป ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและส่ิงศักดิ์สิทธ์ิทั้งหลาย อันเป็นที่เคารพ เล่ือมใสของชาวเรา จงดลบันดาลให้การดำเนินงานของสภาน้ีเป็นไปโดยเรียบร้อย บรรลุผล สำเร็จอันพึงประสงค์ อำนวยความเจริญผาสุกแก่อาณาประชาราษฎรและแก่ชาติบ้านเมือง ยั่งยืนสืบไป ทัง้ ขอใหท้ า่ นทง้ั หลายมคี วามสุขความสวสั ดีทวั่ หนา้ กนั . ส ถ า บั น1พ4ร 4ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชดำรัส(๑) ในโอกาสท่ีประธานศาลฎีกา(๒) นำผู้พิพากษา ฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ก่อนเข้ารับตำแหน่งหน้าที่ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วันศุกร์ท่ี ๒๙ กันยายน ๒๕๒๑ ผู้พิพากษาที่จะออกไปรับตำแหน่งหน้าท่ีเป็นครั้งแรกน้ัน มีการปฏิญาณตนเช่นน้ี เป็นประเพณีขึ้นมา ก็มีประโยชน์ เพราะว่าเป็นการแสดงเปล่งวาจาออกมาด้วยตัวเอง ในสิ่ง ท่ีควรจะคิดอยู่ในใจ และโดยเฉพาะมาเปล่งวาจากันพร้อมเพรียงกันทุกคน ก็เป็นกำลังท่ีสุด และเป็นประโยชน์แก่หน้าที่การงานที่จะทำ และเป็นประโยชน์แก่ตนเองคือทำให้มีกำลังใจ ท่สี ามารถปฏิบตั หิ นา้ ท่กี ารงาน คำปฏิญาณน้ีส้ัน ๆ หนักแน่น กินความลึก การท่ีจะออกปฏิบัติหน้าท่ีเพื่อประโยชน์ ของส่วนรวม เพ่ือความยุติธรรมสถิตอยู่ในประเทศ ประชาชนท่ีได้รับความผาสุกเพราะทราบ ว่ามีความยุติธรรมนี้ เป็นสิ่งท่ีสำคัญที่สุด ในการที่ได้กล่าวว่าจะปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เที่ยงธรรม ปราศจากอคติน้ี ก็เป็นหัวใจสำคัญของงานของผู้พิพากษา ไม่ต้องอธิบาย ยืดยาว เพราะแต่ละท่านก็ได้ศึกษามา ได้เตรียมจิตใจมา และทราบตระหนักดีแล้วว่า ความ ยุติธรรมนน้ั จะเกิดข้ึนกด็ ้วยความยตุ ิธรรม และซอ่ื สตั ย์สุจรติ นอกเหนือจากงานของผู้พิพากษา ซ่ึงปฏิบัติงานในโรงศาล โดยรับฟังข้อเท็จจริง แห่งคดีในเรื่องในราวจากการเบิกพยาน และส่ิงท่ีกล่าวในโรงศาล เมื่อศาลทำงาน หมาย ความว่าในเวลาที่กำลังทำงานเป็นทางการ งานน้ียากลำบากเพราะเห็นว่าจะไปเอาความร ู้ ความคิดจากที่อ่ืนนอกจากในโรงศาลก็อาจจะปฏิบัติไม่ได้ จะทำไม่ได้ เพราะเป็นระเบียบ และจะเกิดบังคับแต่ว่าในหน้าที่ของผู้พิพากษา มีส่ิงที่สำคัญและเขียนไว้ในกฎหมาย เช่นใน (๑) เรียบเรียงขน้ึ ตามทีไ่ ด้บนั ทกึ พระสรุ เสียงไว้ (๒) นายวิกรม เมาลานนท์ ส ถ า บั น1พ4ร 5ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชาผทู้ รงธรรม : ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรสั ดา้ นการเมอื งการปกครอง บทลงโทษ มีข้อสำคัญที่ว่าส่วนมากกฎหมายแต่ละมาตรามีว่าผู้พิพากษาจะต้องใช้ดุลยพินิจ น้ีก็เหตุของงานแต่ว่าต้องใช้ดุลยพินิจตรงน้ีแหละที่สำคัญ จะต้องใช้สิ่งท่ีเราได้ยินได้ฟัง ท่ี เขาเบิกความในโรงศาลเป็นประกัน มาประสมประสานกับความดี ความฉลาด และความ รู้ที่มีอยู่ในตัวท่ีรับมาก่อน และจิตใจที่สุจริตและยุติธรรมเพื่อที่จะให้ดุลยพินิจน้ัน ซึ่งก็ หมายความว่ามาพิจารณา มาดู มาเพ่งด้วยความยุติธรรม มาชั่งใจว่าที่เขาเบิกความนั้น กิน ความแค่ไหน ฉะน้ัน การที่ผู้พิพากษาจะอ้างว่าตัดสินความ หรือได้ตัดสินใจอย่างไร ก ็ เพราะว่าได้ยินเขาพูดในโรงศาลเขาเบิกความอย่างน้ี ทำอย่างอ่ืนไม่ได้ อันน้ี ข้อนี้ มีขอบ เขตที่กว้างพอใช้ ถ้ามาประสมประเสกับความคิดความรู้ท่ีตัวมี นอกเหนือจากท่ีได้ยินใน โรงศาล ฉะน้ันก็เป็นงานท่ียากและรับผิดชอบมาก เพื่อท่ีจะมีความคิดหรือความรู้ท่ีได้จาก ส่ิงที่ไม่ใช่ส่ิงที่ได้ยินในศาล เพื่อท่ีจะปฏิบัติตามกฎหมายที่ว่าต้องใช้ดุลยพินิจน้ัน จำต้อง ทำงานนอกศาลด้วย หมายความว่าผู้ที่มีตำแหน่งหน้าที่เป็นผู้พิพากษา ดูเหมือนว่ามีหน้าที ่ เพียงแต่เวลาไปน่ังบัลลังก์ แต่ว่าเพ่ือให้ได้วัตถุดิบ ความรู้ เพ่ือที่จะมาปฏิบัติตามกฎหมาย ที่บอกว่าต้องมีดุลยพินิจ จะต้องหาความรู้นี้นอกโรงศาล และมาเก็บเอาไว้มาพิจารณาไว ้ เตรียมไว้เป็นเคร่ืองมือ การหาความรู้นอกโรงศาลนี่มี ๒ อย่าง อย่างหน่ึงเก่ียวข้องกับคดี หรือเรื่องท่ีกำลังพิจารณาโดยตรง หมายความว่าได้ฟังจากเจ้าหน้าท่ีต่าง ๆ ได้ฟังจากพยาน ต่าง ๆ หรือได้ดูส่ิงแวดล้อมต่าง ๆ ท่ีเขาไม่ได้มากล่าว แล้วพิจารณาว่าจริงหรือไม่จริง อันนี ้ ก็คงทราบ อันน้ีก็เป็นการเรียนหรือการพิจารณาเฉพาะคดีนั้น ๆ แต่สำหรับท่ัวไปยังมีการ ขวนขวาย การหาความรู้อีกอย่างหนึ่ง ก็คือความรู้ท่ัวไป อย่างไปในท้องท่ีท่ีเรายังไม่รู้จักดี เราไม่ใช่ว่าไปในท้องท่ีไปดูบ้านพักสบายหรือไม่สบาย เสร็จแล้วเม่ือมีคดีหรือมีงานท่ีจะทำ ก็ไปโรงศาลไปน่ังบัลลังก์ใส่เส้ือครุย ไปในที่ที่จะทำงานในท้องที่นั้น จะต้องรู้จักพ้ืนที่ก่อน ก็หมายความว่าไปดูหาความรู้รอบตัว และความเป็นอยู่ของผู้ท่ีจะเป็นตัวละคอน ตัวปฏิบัติ ในโรงศาล หมายถึงความเป็นอยู่ของราษฎร หมายถึงเศรษฐกิจ หมายถึงความคิดความเห็น ทั่ว ๆ ไป และในลักษณะภูมิประเทศว่าเป็นท่ีราบหรือเป็นที่สูง หรือเป็นท่ีภูเขาหรือเป็น ที่ใกล้ทะเล ท้ังหมดน้ีมีส่วนท่ีจะทำให้จิตใจของคนเราเปลี่ยนแปลงไปได้ และทำให้เรารู้จัก และเข้าใจว่าจะทำอย่างไรสำหรับให้เกิดความยุติธรรมได้ ฉะนั้นการหาความรู้รอบตัวนี้ใน ท้องที่จึงเป็นส่วนท่ีสำคัญ วิธีท่ีจะออกไปหาความรู้รอบตัวนี้ ก็อาจจะต้องไปทำหน้าที่เหมือน ไม่ใช่หน้าท่ีของผู้พิพากษาเลย แต่โดยท่ีเรามีความรู้ ได้เรียนรู้มาเป็นเวลาหลายปี และม ี ความฉลาด คือสามารถที่จะเม่ือเห็นอะไรได้ยินอะไร สามารถที่จะนำมาพิจารณาและใช้ เป็นประโยชน์ให้รู้ซึ้ง เราจะต้องออกไป ไม่ใช่ไปเป็นนักสืบ อย่าไปถือว่าจะต้องออกไป ส ถ า บั น1พ4ร 6ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชาผทู้ รงธรรม : ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรสั ดา้ นการเมอื งการปกครอง เป็นนักสืบไปเป็นผู้ท่ีไปสัมภาษณ์ราษฎร ออกไปดูความเป็นอยู่ของเขา และถ้าช่วยเขาได้ก ็ ช่วยเขา แนะนำเขาได้ก็แนะนำเขา ท้ังในข้อท่ีเก่ียวข้องกับงานกฎหมาย ทั้งในข้อท่ีเกี่ยว กับความเป็นอยู่ ทั้งในข้อที่เป็นจิตใจและร่างกาย ถ้าไปช่วยอย่างน้ันได้เท่ากับเป็นการทำ งานเพื่อให้ลดงานที่จะต้องทำในโรงศาลด้วยซ้ำ เพราะเหตุว่าคดีหลายคดีที่เกิดขึ้นทั่วทุก แห่ง ทั้งในพระนคร ทั้งในต่างจังหวัด ท้ังในหมู่บ้าน ท้ังในท่ีที่ไม่ใช่หมู่บ้าน เกิดขึ้นเพราะ เหตุว่าไม่มีความรู้พอ ท้ังในกฎหมายอย่างหน่ึง ถ้าท่านทั้งหลายจะกระทำตามคำปฏิญาณ ที่ได้เปล่งเมื่อสักครู่นี้อย่างเข้มแข็งให้ครบถ้วนจริง ๆ จะต้องมีความรู้สึกว่าไม่อยากให้มีคด ี เกิดขึ้นท่ีจะต้องทำงาน เพราะว่าถ้ามีคดีเกิดขึ้นท่ีจะต้องทำงานก็หมายความว่ามีความเดือด ร้อน ถ้าสามารถท่ีจะออกไป ถึงไม่เรียกว่าไปพัฒนา แต่ไปช่วยเหลือแผ่เมตตาให้แก่ผู้ท่ีเดือด ร้อน จะเป็นการลดคดีต่าง ๆ ได้อย่างดี งานของผู้พิพากษาน้ันเป็นงานที่ยากแต่ว่าถ้าทำทั้ง สองอย่าง ท้ังในโรงศาลตามหน้าที่น่ังบัลลังก์ ท้ังในหน้าที่ท่ีจะพยายามลดคดี ก็จะเป็นการ ทำงานที่ครบถ้วน ก็เชื่อว่าจะต้ังใจทำกัน และถ้าตั้งใจทำกันทุกคน ประเทศชาติของเราจะ เป็นท่ีที่น่าอยู่น่าสบายกว่าที่เป็นอยู่เดี๋ยวน้ีส่วนหน่ึง อย่าไปนึกว่าเด๋ียวนี้สถานการณ์มันยุ่ง เราทำนิดหน่อยอย่างนี้มันจะช่วยได้หรือ ช่วย แต่ละคนช่วย ในเมืองไทยมีประชากรก็ทราบ ว่านับกันได้เท่าไหร่ แต่ว่ากันว่า ๔๕ ล้านคน ถ้าแต่ละคนบอกว่าคนเดียวจะช่วยได้อย่างไร ท้ัง ๔๕ ล้านคนทุกคนพูดอย่างนี้ก็แย่ แต่ถ้าแต่ละคนพูดว่าเราต้ังใจช่วย คนอื่นก็ช่วยอาจจะ ไปให้ท้ัง ๔๕ ล้านช่วยและปรองดองกันเต็มที่ก็อาจจะเป็นไปไม่ได้ แต่ว่าถ้าเราหน่ึงคน ก็ลดความเดือดร้อนลงไปหน่ึงคน แต่ในท่ีน้ีก็ที่ได้ปฏิญาณตนก็ ๖๐ กว่าคน ก็เป็นเป็น ๖๐ เท่า จากหนึ่งคนท่ีรู้สึกตัวว่าเราเป็นคนคนหน่ึงก็เป็น ๖๐ เท่า ๖๐ คน ไอ้ ๖๐ เท่ามัน ๖๐๐ เปอร์เซ็นต์ มันเป็นไม่ใช่ ๖๐๐ เปอร์เซ็นต์ มันเป็นเท่าไร หกหมื่น........ ไม่ใช่ หกพัน เปอร์เซ็นต์ ถ้านับเป็นเปอร์เซ็นต์ก็น่าดู ฉะนั้นเราก็ต้องพยายามท่ีจะทำจิตใจที่เข้มแข็ง เหมือนท่ีปฏิญาณ รักษาคำปฏิญาณท่ีเข้มแข็งไว้ แล้วก็จะเป็นผู้ที่ได้ช่วยส่วนรวมให้มีความดี มีความเข้มแข็งได้ ท้ังจะเป็นความพอใจท่ีแต่ละคนมี ทำให้มีความสุขใจได้ เพราะคนเรา ก็ย่อมตอ้ งการมีความสขุ ใจ ท่คี ือสขุ ใจ เพราะฉะน้ันก็ขอให้คำปฏิญาณน้ี และความหมายลึกซึ้ง ก้องอยู่อย่างน้ีตลอดเวลา เพื่อสามารถทำหน้าที่ และในการนี้ เพื่อให้คำปฏิญาณนี้ก้องอยู่ในหัว ให้ทุกคนมีกำลังกาย ใจเขม้ แข็งแข็งแรง เพือ่ ประสบความเจริญและความสำเร็จทกุ ประการ. ส ถ า บั น1พ4ร 7ะ ป ก เ ก ล้ า

พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานประกาศนียบัตร แกผ่ สู้ อบไลไ่ ดต้ ามหลกั สตู รของสำนกั อบรมศกึ ษากฎหมายแหง่ เนตบิ ณั ฑติ ยสภา ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร วันจันทร์ที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๒๑ ข้าพเจ้ามีความยินดี ที่ได้มาทำพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่เนติบัณฑิต รุ่นที่ ๒๙ และรุ่นท่ี ๓๐ ณ โอกาสนี้ ขอแสดงความช่ืนชมกับทุกคนเป็นอย่างมาก ท่ีได้รับเกียรติและ ความสำเรจ็ ท่านทั้งหลายส่วนมากคงจะได้ทำหน้าที่ในศาลสถิตยุติธรรม หรือไม่ก็คงจะประ- กอบการงานทางด้านกฎหมาย การที่อยู่กับกฎหมายและใช้กฎหมายมาก ๆ นั้น อาจทำให้ ติดในตัวบทกฎหมายมากไป และทำให้เห็นว่า ลำพังตัวบทกฎหมายจะให้ความยุติธรรม ได้โดยสมบูรณ์ ความจริง กฎหมายเป็นเพียงเครื่องมือสำหรับกำหนดความถูกผิด เพื่อ อาศัยเป็นหลักวินิจฉัยในการอำนวยความยุติธรรม หาใช่ปัจจัยสำคัญสิ่งเดียวในการให้ความ ยุติธรรมไม่ ดังนั้น จะอาศัยตัวบทกฎหมายกับคำให้การในศาลเท่านั้นไม่ได้ ท้ังน้ีเพราะ ตัวบทของกฎหมาย รวมทั้งข้อเท็จจริงท่ีนำมากล่าวแก่ศาล เป็นส่ิงท่ีอาจนำมาพลิกแพลง ให้ผิดเพ้ียนไปได้ต่าง ๆ ด้วยความหลง ด้วยอคติ หรือด้วยเจตนาอันไม่สุจริต ทำให้ความ เที่ยงธรรมต้องถูกริดรอนทำลายไป การอำนวยความยุติธรรม จึงต้องอาศัยตัวผู้ใช้กฎหมาย คือท่านทั้งหลาย เป็นปัจจัยสำคัญด้วย เท่า ๆ กันกับตัวกฎหมาย ในการท่ีท่านจะได้กระทำ หน้าท่ี ที่สามารถอำนวยคุณอำนวยโทษให้แก่ประชาชนได้ต่อไป จึงจำเป็นอย่างยิ่งท่ีจะต้อง ทำตัวให้เป็นผู้ยุติธรรมก่อนเป็นเบื้องต้น ด้วยการตั้งใจให้มั่นคงที่จะรักษาความเป็นกลาง และรักษาวัตถุประสงค์ของกฎหมายแต่ละฉบับไว้โดยเคร่งครัดแน่วแน่ พร้อมกับรักษาความ สุจริต จรรยา และมโนธรรมของนักกฎหมายไว้เสมอกับชีวิต ปฏิบัติหน้าท่ีด้วยความสุขุม รอบคอบประกอบด้วยอุเบกขาและปัญญาอันกระจ่างแจ่มใส ท่านจึงจะมีดุลยพินิจท่ีเที่ยงแท้ ถูกต้อง และสามารถเป็นที่พึ่งท่ีอาศัยของประชาชน ผู้อยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายบ้าน เมือง ไดแ้ ท้จริง ส ถ า บั น1พ4ร 8ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชาผทู้ รงธรรม : ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรสั ดา้ นการเมืองการปกครอง ขออวยพรให้เนติบัณฑิตใหม่ประสบความสุข ความสำเร็จ และความเจริญรุ่ง เรืองในชีวิตและการงาน ท้ังขอให้ทุกท่านที่มาร่วมประชุมในพิธีนี้ มีความสวัสดีทุกเม่ือจง ทั่วกัน. ส ถ า บั น1พ4ร 9ะ ป ก เ ก ล้ า

พระราชดำรัส ในพิธีเปิดประชุมรัฐสภา วันอังคารท่ี ๘ พฤษภาคม ๒๕๒๒ ข้าพเจ้ามีความยินดีท่ีได้มาทำพิธีเปิดประชุมรัฐสภาในโอกาสน้ี ขอแสดงความ ชืน่ ชมกับทา่ นทั้งปวง ทไ่ี ด้รับมอบหมายให้มารว่ มงานสำคญั ของบา้ นเมือง ควรจะเป็นท่ีพึงพอใจทั่วกัน ท่ีบัดนี้ได้มีรัฐสภาข้ึนเป็นฝ่ายนิติบัญญัติโดยสมบูรณ ์ ตามบทรัฐธรรมนูญแล้ว ต่อไป จึงเป็นภาระและความรับผิดชอบโดยตรงของท่านทั้งหลาย ท้ังสมาชิกวุฒิสภา ท้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ท่ีจะต้องปฏิบัติหน้าท่ีให้ถูกต้อง เที่ยงตรง และสมบูรณ์บริบูรณ์ เพ่ือให้บังเกิดแต่เฉพาะสิ่งที่เป็นคุณเป็นประโยชน์แก่บ้านเมืองและ ประชาชน โดยไม่ละเลยปล่อยปละให้เกิดความบกพร่องและความล่าช้าติดขัดข้ึนอย่างไร เหตุผล แต่ละท่านท่ีได้รับการเลือกเฟ้นแต่งต้ังเข้ามาในสภาน้ี อยู่ในฐานะผู้ทรงความรู้ความ สามารถและความรับผิดชอบ เหมาะสมท่ีจะร่วมกันปฏิบัติหน้าท่ีทางนิติบัญญัติอยู่แล้ว ขอ ให้ต้ังใจใช้สติปัญญาความสามารถปฏิบัติภาระของตน ๆ โดยเต็มกำลัง ด้วยความสุจริตและ บริสุทธ์ิใจ เรื่องราวและปัญหาใด ๆ ที่เข้ามาสู่สภา ควรจะพิจารณาด้วยเหตุผลอันถูกต้อง และด้วยความฉลาดรอบคอบ ให้สำเร็จลุล่วงไปโดยมิชักช้า งานของชาติจักได้ดำเนินรุด หนา้ ไปโดยสวสั ดี และบ้านเมืองของเราจกั ได้ดำรงม่ันคงอยู่ดว้ ยความสงบผาสกุ บัดนี้ได้เวลาอันเป็นมงคลแล้ว ข้าพเจ้าขอเปิดประชุมรัฐสภา ขอคุณพระศรีรัตน- ตรัยจงดลบันดาลให้กิจการของสภานี้ สัมฤทธ์ิผลท่ีจะอำนวยประโยชน์แก่ประเทศประชาชน ชาวไทยทงั้ มวลอยา่ งเต็มเป่ยี ม ขออวยพรให้ทา่ นท้งั ปวงมคี วามสขุ ความเจรญิ โดยทัว่ กัน. ส ถ า บั น1พ5ร 0ะ ป ก เ ก ล้ า