สารบัญ หน้า หน้า หนา้ 41 กล้วย ปาล์มน�้ำมนั มงั คดุ 43 โรคตายพรายกลว้ ย 1 โรคทะลายเน่าปาลม์ น�ำ้ มัน 23 โรคใบจุดมงั คุด 45 กาแฟ เพลี้ยไฟมังคุด 49 มอดเจาะผลกาแฟ 3 มะพรา้ ว 25 ยางพารา 51 เงาะ 5 ด้วงแรดมะพร้าว 53 7 แมลงด�ำหนามมะพร้าว 27 โรครากขาว 55 โรคใบจดุ สาหรา่ ยเงาะ 9 หนอนรา่ นพาราซ่า 29 ลำ� ไย โรคราแปง้ เงาะ 11 หนอนหัวด�ำมะพร้าว 31 หนอนเจาะขวั้ ผลเงาะ 13 โรคพมุ่ ไมก้ วาด 15 มะละกอ ลนิ้ จี่ ชา 17 โรคใบด่างจดุ วงแหวน 33 หนอนเจาะขัว้ ผลลนิ้ จี่ หนอนมว้ นใบชา สม้ มะม่วง 35 หนอนชอนใบส้ม ทุเรยี น โรคแอนแทรกโนส 37 ส้มโอ โรคใบจุดสาหรา่ ยทเุ รยี น เพลีย้ จกั จน่ั มะมว่ ง 39 โรคแคงเกอร์ส้มโอ ดว้ งหนวดยาวเจาะล�ำต้นทุเรียน แมลงวันผลไม้ เพลีย้ ไก่แจท้ เุ รียน หนอนเจาะผลทุเรยี น 19 หนอนเจาะเมลด็ ทเุ รียน 21
โรคตายพรายกลว้ ย เชอ้ื สาเหตุ โรคตายพรายกลว้ ย 1โรค-แมลงศตั รูไมผ้ ล และการปอ้ งกันกำ� จัด เชอ้ื รา Fusarium oxysporum f. sp. cubense กรมสง่ เสรมิ การเกษตร ลักษณะอาการ ใบมีอาการขาดน�้ำ ใบอ่อนจะมีอาการเหลืองไหม้ หรือตายนึ่งและบิดเป็นคลื่น โคนใบแก่ด้านนอกมี สีเหลืองซีด และผืนใบเปล่ียนเป็นสีน้�ำตาลโดยเร่ิมจาก ขอบใบเข้าสูก่ ลางใบ และใบหกั พับภายใน 1 - 2 สัปดาห์ และยืนต้นตายในที่สุด เมื่อผ่าล�ำต้นจะพบเน้ือในเป็น สีน�้ำตาลแดง กล้วยท่ีตกเครือแล้วจะเห่ียว ผลเล็กลีบ หรือแก่ก่อนก�ำหนด ซึ่งท�ำให้ได้ผลผลิตท่ีไม่มีคุณภาพ
ส่วนใหญ่โรคนี้จะแสดงอาการหลังจากกล้วยตกปลีหรือติดผลแล้ว บางคร้ังอาจลามไปยัง หน่อเลก็ ๆ ทเี่ กดิ ใหม่ด้วย การปอ้ งกันและกำ� จดั 1. เลือกแหล่งปลูกที่ดินไม่เป็นกรดจัด มีการระบายน้�ำดี หรือปรับสภาพดินไม่ให้เป็น กรดจัดโดยการใช้ปูนขาวใสด่ นิ 2. คัดเลอื กใช้หนอ่ พนั ธุก์ ล้วยจากแหลง่ ทปี่ ลอดโรค 3. เมื่อเกิดการระบาดของโรค ควรขุดต้นที่เป็นโรคท้ิงท้ังกอ และโรยปูนขาว 1 - 2 กโิ ลกรัมต่อหลมุ 2โรค-แมลงศตั รูไม้ผล และการป้องกันกำ� จัด กรมส่งเสริมการเกษตร
มอดเจาะผลกาแฟ มอดเจาะผลกาแฟ 3โรค-แมลงศัตรูไมผ้ ล และการปอ้ งกนั กำ� จดั ช่อื วทิ ยาศาสตร์ กรมส่งเสรมิ การเกษตร Hypothenemus hampei (Ferris) รปู ร่างลกั ษณะ เป็นแมลงปีกแข็งสีด�ำขนาดเล็ก กว้าง 1 มิลลิเมตร และยาว 2 มิลลิเมตร ท�ำความเสียหายให้กับผลกาแฟ โดยการเจาะผลกาแฟเข้าไปกัดกินเนื้อผลกาแฟ และวางไข่ ขยายพันธุ์อยู่ภายในไดต้ ั้งแตผ่ ลกาแฟมขี นาด 0.5 เซนติเมตร จนถงึ ระยะสกุ แก่ เมือ่ มีการเก็บเกย่ี วกาแฟ มอดท่ีอาศัยอยู่ ภายในผลจะตามไปท�ำลายได้ท่ีลานตาก นอกจากนี้มอด ยังใช้ผลกาแฟที่หลงเหลือจากการเก็บเก่ียวเป็นแหล่งอาศัย ข้ามฤดูด้วย
ลักษณะการทำ� ลาย เมล็ดกาแฟมีรูจากการเข้าท�ำลายของมอดเจาะผลกาแฟมากกว่าหนึ่งรูขึ้นไป ท�ำใหค้ ุณภาพและน�้ำหนักของเมลด็ กาแฟลดลง การป้องกนั และก�ำจัด 1. เก็บผลกาแฟสุกหรือแห้งติดค้างบนก่ิง หรือร่วงหล่นใต้ทรงพุ่ม น�ำไปเผาท�ำลาย นอกแปลง 2. ตดั แตง่ กงิ่ ตามค�ำแนะน�ำขา้ งต้น 3. หลีกเลย่ี งการตากผลกาแฟสุกบนพืน้ ดิน บรเิ วณสวนกาแฟและบริเวณใกล้เคียง 4. พน่ สารกำ� จัดแมลง เช่น ไตรอะโซฟอส อัตรา 40 มิลลลิ ิตร ตอ่ นำ�้ 20 ลติ ร คารโ์ บซัลแฟน อตั รา 80 มลิ ลิลิตร ตอ่ น�ำ้ 20 ลิตร 4โรค-แมลงศตั รูไมผ้ ล และการป้องกนั กำ� จัด กรมสง่ เสรมิ การเกษตร
โรคใบจุดสาหรา่ ยเงาะ เชือ้ สาเหตุ โรคใบจุดสาหรา่ ยเงาะ ลกั ษณะอาการ เช้อื สาหร่ายสเี ขยี ว Cephaleuros virescens 5โรค-แมลงศัตรไู ม้ผล และการป้องกนั กำ� จัด ลกั ษณะอาการ กรมสง่ เสริมการเกษตร โรคนี้เกดิ ขึน้ ได้ท่ีใบและกง่ิ แต่ความเสยี หายเกิดข้ึนมาก เมื่อเป็นท่ีกิ่ง อาการบนใบจะเห็นเป็นจุดหรือดวงสีเทาอ่อน ปนเขียว ต่อมาจะเปลี่ยนเป็นสีแดงสนิมเหล็ก ลักษณะคล้าย ก�ำมะหย่ี ท�ำให้ลดพื้นท่ีสังเคราะห์แสงของใบ อาการบนก่ิง หรือล�ำต้น จะคล้ายกับอาการท่ีเกิดบนใบท�ำให้ผิวเปลือกเสีย และอาจแตกร่อน เช้ือสามารถแพร่ระบาดโดยสปอร์ปลิวไป ตามลม จะระบาดในฤดูฝน หรือในแหล่งท่ีมคี วามชุ่มชื้น
การป้องกันและก�ำจดั 1. ตัดกิ่งหรือใบที่มีอาการเผาท�ำลาย ถ้าพบอาการเป็นกับก่ิงใหญ่ อาจใช้สีทาทับ บริเวณที่เปน็ โรค หรอื ใชป้ นู แดงทา 2. ถา้ ระบาดมาก พน่ สารป้องกนั กำ� จัดโรคพืช เชน่ คอปเปอร์ออกซีคลอไรด์ 6โรค-แมลงศัตรไู ม้ผล และการป้องกันก�ำจัด กรมส่งเสรมิ การเกษตร
โรคราแป้งเงาะ โรคราแปง้ เงาะ ลกั ษณะอาการ เชอ้ื สาเหตุ 7โรค-แมลงศัตรไู ม้ผล และการป้องกันกำ� จัด เชอื้ รา Oidium nephelii กรมสง่ เสริมการเกษตร ลักษณะอาการ ราแป้งท�ำลายเงาะได้ทุกระยะการเจริญเติบโต แต่อาการรุนแรงและความเสียหายเกิดท่ีผลอ่อน อาการ ท่ีสงั เกตเห็นได้ คอื ใบอ่อน ชอ่ ดอก ผลอ่อน จะมผี งฝุน่ แป้ง ปกคลุมอยู่ ท�ำให้ผลอ่อนร่วง ในระยะผลโต ถ้าเป็นโรคนี้ จะท�ำให้แลดูสกปรกและเกิดอาการเงาะขนเกรียนหรือ กุดสั้น ขายไม่ได้ราคา มักระบาดในช่วงอากาศเย็นและชื้น ราจะข้ึนปกคลุมผิวของพืชและสร้างอวัยวะคล้ายราก แทงเข้าไปดูดกนิ นำ�้ เล้ียงภายในพืช
การป้องกันและกำ� จัด 1. ในช่วงแตกใบอ่อนและเริ่มติดผลหมั่นตรวจดูว่าพบราแป้งเข้าท�ำลายใบอ่อน หรือไม่ หากพบพ่นก�ำจัดด้วยก�ำมะถันผงละลายน�้ำ 40 กรัมต่อน�้ำ 20 ลิตร เป็น การกำ� จัดปริมาณเช้อื โรค ท�ำใหก้ ารระบาดในช่วงติดผลนัน้ ลดความรุนแรงลงได้ 2. ในช่วงระยะผลอ่อน หากพบอาการ เลือกใช้สารป้องกันก�ำจัดโรคพืช ดังต่อไปน้ี กำ� มะถันผงละลายน�ำ้ บโี นมิล คารเ์ บนดาซิม ไตรดมี อรฟ์ ไตรฟ์ อร์รนี ไพราโซฟอส และไดโนแคป อตั ราตามค�ำแนะนำ� ในฉลาก 3. เก็บผลเงาะท่ีเป็นโรค ใบแห้ง ก่ิงแห้งท่ีร่วงหล่นมาเผาท�ำลาย เพ่ือป้องกันการ แพร่กระจายของเชือ้ 8โรค-แมลงศตั รูไม้ผล และการป้องกนั ก�ำจัด กรมส่งเสริมการเกษตร
หนอนเจาะขั้วผลเงาะ ชื่อวิทยาศาสตร์ ตัวหนอนและลักษณะการท�ำลาย ลกั ษณะการท�ำลาย Conopomorpha cramerella 9โรค-แมลงศตั รไู มผ้ ล และการปอ้ งกนั ก�ำจัด รูปร่างลักษณะ กรมสง่ เสริมการเกษตร ตัวเต็มวัยเป็นผีเส้ือกลางคืนขนาดเล็ก ตอนกลางวัน อาศัยอยู่ตามต้นพืชอาหาร เพศเมียวางไข่ท่ีผลเงาะ ไข่มีลักษณะกลมรี เม่ือหนอนฟักออกมาจากไข่จะเจาะ และเข้าไปในผล ตัวหนอนมีสีขาว หัวสีน้�ำตาลอ่อน ระยะหนอนประมาณ 14 - 18 วัน ก็จะเข้าดักแด้โดย ไต่ออกมาจากผลและหาท่ีเหมาะสมเข้าดักแด้ ระยะ ดักแด้ 6 - 8 วัน
ลักษณะการทำ� ลาย เม่ือฟักออกจากไข่จะเจาะเข้าไปในผลเงาะบริเวณขั้วผล หรือต�่ำกว่าขั้วลงมาเล็กน้อย บางคร้ังอาจท�ำลายถึงเนื้อและเมล็ด การท�ำลายของหนอนไม่สามารถสังเกตได้จากลักษณะ ภายนอก เมื่อรับประทานผลเงาะจึงจะพบหนอน ศตั รูธรรมชาติ มีแมลงเบียนพวกแตน (Hymenoptera) คอยท�ำลายในระยะที่เป็นตัวหนอน นอกจากนั้น ยงั มโี รคคอยท�ำลายอยดู่ ว้ ย การปอ้ งกนั และก�ำจดั 1. เมื่อพบการระบาดเก็บผลเงาะที่ถูกท�ำลายและร่วงหล่นน�ำไปฝังดิน หรือเผาเพื่อป้องกัน การระบาดในฤดูตอ่ ไป 2. ใชส้ ารก�ำจดั แมลงคารบ์ ารลิ (เซฟวิน 85% ดบั บลวิ พ)ี อัตรา 60 กรัมต่อน้ำ� 20 ลติ ร ในแหล่ง ท่ีมีการระบาด พ่นเม่ือส�ำรวจพบหนอนเจาะข้ัวในระยะผลเร่ิมเปลี่ยนสี พ่นซ้�ำตามความ จำ� เป็น พบท�ำลายมากในเงาะสีชมพู งดพน่ สารก�ำจัดแมลงกอ่ นเกบ็ เกย่ี วอยา่ งนอ้ ย 7 วนั 10โรค-แมลงศัตรไู มผ้ ล และการปอ้ งกนั ก�ำจัด กรมสง่ เสรมิ การเกษตร
หนอนมว้ นใบชา ตัวหนอน ตวั เตม็ วยั ช่ือวทิ ยาศาสตร์ 11โรค-แมลงศัตรไู มผ้ ล และการปอ้ งกันก�ำจัด Homona coffearia (Niether) กรมสง่ เสริมการเกษตร รูปร่างลกั ษณะ ตัวเต็มวัยเป็นผีเส้ือกลางคืน วางไข่บนใบชา เป็นกลุ่ม กลุ่มละ 100 ฟองหรือมากกว่านั้น ไข่จะฟัก เป็นตัวหนอนโตเต็มที่ยาว 12 - 20 มิลลิเมตร เมื่อ เข้าดักแดจ้ ะใช้ใบชาสร้างรัง
ลักษณะการทำ� ลาย ลักษณะการทำ� ลาย ท�ำความเสียหายต่อใบและยอดอ่อนของชา โดยหนอนจะน�ำใบมาติดกันแล้ว กัดกนิ ใบ การปอ้ งกันและกำ� จดั ตัดแต่งกิ่งชา ร่วมกับการควบคุมทางชีววิธีโดยใช้ศัตรูธรรมชาติ เช่น แมลงประเภทต่อ (wasp) 12โรค-แมลงศัตรไู ม้ผล และการปอ้ งกันกำ� จดั กรมส่งเสรมิ การเกษตร
โรคใบจดุ สาหรา่ ยทเุ รียน เชือ้ สาเหตุ โรคใบจดุ สาหรา่ ยทเุ รียน ลักษณะอาการ เชอ้ื สาหร่ายสเี ขียว Cephaleuros virescens 13โรค-แมลงศตั รูไมผ้ ล และการปอ้ งกนั กำ� จัด ลักษณะอาการ กรมส่งเสริมการเกษตร พบโรคนีท้ ั้งท่ีใบและกิง่ อาการบนใบจะเป็นจุดเล็กๆ นูนข้นึ จากผิวใบเล็กนอ้ ย ขอบของจุดมีลักษณะเปน็ แฉกๆ ไม่เรียบ สีค่อนข้างเขียวปนเทา จุดเล็กๆ นี้จะขยายใหญ่ ข้ึนในสภาพความชื้นสูงและได้รับแสงแดดเพียงพอ เมื่อ สาหร่ายแก่ข้ึนจะเปล่ียนเป็นสีน�้ำตาลแดง ซึ่งเป็นระยะที่ สรา้ งอวยั วะสบื พนั ธเ์ุ พอ่ื แพรไ่ ปยงั สว่ นอน่ื ๆ ของตน้ ทเุ รยี น ได้อีก อาการจดุ บนใบน้ไี ม่คอ่ ยท�ำความเสยี หายให้มากนกั
นอกจากบดบังการสังเคราะห์แสงและท�ำให้ใบสกปรก ส่วนอาการท่ีก่ิงจะมีลักษณะ คล้ายขนนกก�ำมะหยี่สีแดงหรือสีน้�ำตาลแดงขึ้นเป็นหย่อมๆ ต่อมาจะท�ำให้เปลือกก่ิงแห้ง และทรุดโทรม โดยเฉพาะต้นทุเรียนเล็กที่มีอายุ 1 - 2 ปี ท่ีมีทรงพุ่มทึบและได้รับแสงแดด ไม่ทว่ั ถึงจะเกดิ ความเสยี หายได้ การปอ้ งกันและกำ� จัด 1. ติดตามสถานการณโ์ รคจุดสาหร่าย โดยสำ� รวจทกุ ตน้ 7 วนั ต่อคร้งั ในช่วงสงิ หาคม - กนั ยายน 2. เก็บรวบรวมใบที่เปน็ โรคและรว่ งหลน่ อยู่ในบรเิ วณสวนไปเผาทำ� ลาย 3. พบอาการของโรคเพียงเล็กนอ้ ย ตัดสว่ นทเี่ ปน็ โรคไปเผาท�ำลาย 4. ใช้สารป้องกันก�ำจัดโรคพืช เม่ือพบใบแก่ถูกท�ำลายมากกว่าร้อยละ 30 ต่อต้น ได้แก่ คอปเปอร์ออกซีคลอไรด์ 85% ดับบลิวพี อัตรา 50 กรัมต่อน้�ำ 20 ลิตร พ่นทใ่ี บใหท้ ่ัวทงั้ ต้น 14โรค-แมลงศัตรไู ม้ผล และการปอ้ งกันก�ำจัด กรมส่งเสริมการเกษตร
ดว้ งหนวดยาวเจาะล�ำต้นทุเรยี น ชอื่ วิทยาศาสตร์ ตัวหนอน Batocera rufomaculata รปู ร่างลักษณะ หนอนมีล�ำตัวเป็นปล้องๆ สีขาวขุ่น ส่วนหัว ค่อนข้างโตกว่าส่วนท้อง ตัวเต็มวัยมีหนวดยาวมีหนาม มีเขี้ยวขนาดใหญ่ อกปลอ้ งแรกมีหนามแหลมท้ัง 2 ขา้ ง มีจุดสีส้มข้างละจุด ตรงบ่ามีหนามแหลมขนาดเล็ก มจี ดุ สสี ้มกระจายอยู่ทั่วทงั้ ปกี ตัวเตม็ วัย 15โรค-แมลงศตั รไู มผ้ ล และการป้องกันกำ� จัด กรมสง่ เสริมการเกษตร
ลักษณะการทำ� ลาย ตัวเมียวางไข่ในเวลากลางคืนตามล�ำต้นและก่ิงขนาดใหญ่ตัวหนอนจะกัดกินชอนไชไปตาม เปลือกไม้ด้านใน หรืออาจกัดคว่ันเปลือกรอบต้น ท�ำให้ท่อน�้ำท่ออาหาร ถูกตัดท�ำลายเป็นเหตุให้ ต้นทรดุ โทรม ใบรว่ ง และยืนต้นตายได้ การป้องกันและกำ� จดั 1. ส�ำรวจหารอยแผลการวางไข่ หรือขุยไมล้ ะเอยี ดบริเวณส่วนตา่ งๆ ของตน้ ทุเรียน เม่อื พบใหใ้ ชม้ ดี แคะดหู ากมไี ขห่ รอื หนอนให้เก็บทำ� ลาย 2. ตัดและเผาท�ำลายต้นทุเรียนท่ีตายหรือต้นท่ีมีหนอนเข้าท�ำลายมากจนไม่สามารถให้ผลผลิตได้ เพือ่ ลดประชากรและแหล่งแพรพ่ นั ธ์ุ 3. ใชต้ าขา่ ยพนั รอบต้นดักตวั เตม็ วัย 4. ใช้สารกำ� จดั แมลง เชน่ ไทอะมโี ทแซม แลมป์ดาไซฮาโลทรนิ 14.1% 10.6% อมิ ิดาโคลพรดิ 10% เอสแอล อะเซททามิพริด 20% เอสพี พ่นให้ชุ่มเฉพาะบริเวณล�ำต้นตั้งแต่โคนต้นจนถึงยอด และกิ่งขนาดใหญ่ ซง่ึ เปน็ ตำ� แหน่งที่ดว้ งชอบวางไข่ พน่ 2 คร้ัง หา่ งกัน 2 สปั ดาห์ 16โรค-แมลงศตั รไู ม้ผล และการป้องกันกำ� จัด กรมส่งเสริมการเกษตร
เพลยี้ ไกแ่ จท้ ุเรยี น ตัวเตม็ วยั เพศเมีย ตวั เต็มวัยเพศผู้ ช่ือวิทยาศาสตร์ 17โรค-แมลงศัตรูไม้ผล และการป้องกนั ก�ำจัด Allocaridara malayensis กรมส่งเสรมิ การเกษตร รูปรา่ งลกั ษณะ ตวั ออ่ นขนาดยาวประมาณ 3 มลิ ลิเมตร และมปี ุยสีขาว ติดตามตัว โดยเฉพาะด้านท้ายของล�ำตัวมีปุยสีขาวคล้ายๆ กับหางไก่ เมื่อลอกคราบเป็นตัวเต็มวัยมีสีน�้ำตาลปนเขียว ขนาดยาวประมาณ 5 มิลลเิ มตร ลักษณะการท�ำลาย แมลงชนิดนี้ท้ังตัวอ่อนและตัวเต็มวัยดูดกินน้�ำเลี้ยง จากใบอ่อนของทุเรียนที่ยังไม่โตเต็มที่ ท�ำให้ใบอ่อนเป็น
จุดสีเหลือง ไม่เจริญเติบโตและเล็กผิดปกติ เม่ือระบาดมากๆ ใบจะหงิกงอ แห้งและร่วงหมด นอกจากนี้ยังท�ำให้ยอดอ่อนแห้งและตายได้ ตัวอ่อนของเพลี้ยชนิดนี้จะขับสารสีขาวออกมา เป็นสาเหตุท�ำให้เกิดเช้ือราตามบริเวณที่สารสีขาวขับออกมา ระยะที่ท�ำลายมากท่ีสุดคือ ในระยะ ตวั อ่อน แมลงชนิดน้ีทำ� ความเสียหายให้กับทุเรยี นพนั ธ์ุชะนมี ากที่สุด การป้องกันและกำ� จัด 1. ติดตามสถานการณเ์ พล้ียไก่แจ้และศัตรูธรรมชาติ 2. อนรุ ักษ์ศัตรธู รรมชาติไว้ควบคุมเพลยี้ ไกแ่ จ้ตามธรรมชาติ 3. กระตุ้นการแตกใบอ่อนให้พร้อมกันทุกต้นเพื่อลดช่วงเวลาการเข้าท�ำลายของเพลี้ยไก่แจ้ ใหส้ ้ันลง 4. ใช้กับดกั กาวเหนียวล่อตวั เตม็ วยั มาทำ� ลาย 5. ใช้นำ้� พ่นใบออ่ นท่ีคลี่แลว้ เพ่ือลดปรมิ าณเพล้ียไก่แจ้ 6. พน่ สารก�ำจดั แมลงเมอื่ สำ� รวจพบเพลย้ี ไก่แจ้ในช่วงแตกยอดอ่อน เช่น แลมบด์ าไซฮาโลทรนิ คาร์โบซลั แฟน คาร์บาริล หรือไซเพอรเ์ มทรนิ โฟซาโลน อัตราตามคำ� แนะน�ำในฉลาก 18โรค-แมลงศัตรูไม้ผล และการป้องกันก�ำจดั กรมสง่ เสริมการเกษตร
หนอนเจาะผลทเุ รยี น ช่อื วิทยาศาสตร์ ตวั หนอน ลกั ษณะการทำ� ลาย Dichocrosis punctiferalis 19โรค-แมลงศตั รูไม้ผล และการปอ้ งกนั กำ� จัด รูปรา่ งลกั ษณะ กรมสง่ เสริมการเกษตร หนอนเจาะผลมีล�ำตัวสีขาว หัวสีน้�ำตาล หนอนท่ีโต เต็มท่ีมีตัวสีน�้ำตาล และมีจุดสีด�ำทั่วล�ำตัว ปีกของผีเส้ือ ตัวเต็มวัยทั้ง 2 คู่ มีสีเหลืองและมีจุดสีด�ำกระจายทั่วปีก หนอนท่ีน�ำมาเล้ียงด้วยผลละหุ่ง มีอายุตามระยะการเจริญ เติบโต คือ ระยะไข่ 4 วัน หนอน 12 - 13 วนั ดักแด้ 7 - 9 วนั ผเี สอื้ เพศผู้ 10 - 18 วนั ผเี สอ้ื เพศเมยี 14 - 18 วัน
ลกั ษณะการท�ำลาย ผีเสื้อตัวเมียจะวางไข่ไว้ที่ผิวผลทุเรียน ตัวหนอนท่ีฟักออกจากไข่ จะแทะกินผิวเปลือกผลทุเรียน ต้ังแต่ผลขนาดเล็กที่อายุประมาณ 2 เดือน จนถึงผลใหญ่ จนกระทั่งตัวโตขึ้นจึงเจาะเข้าไปกินอยู่ภายในผล แล้วจะออกมาเข้าดักแด้อยู่ระหว่างหนามของผล โดยมีใยและมูลของหนอนหุ้มตัว แล้วจึงฟักออกมา เป็นผีเสอ้ื ตวั เตม็ วยั ผลทุเรยี นทีถ่ ูกหนอนท�ำลายจะเนา่ และร่วง เน่อื งจากมีเชือ้ ราเข้าทำ� ลายซ้ำ� การปอ้ งกันและก�ำจดั 1. ตดิ ตามสถานการณห์ นอนเจาะผลและศัตรธู รรมชาติ 2. อนุรักษศ์ ตั รูธรรมชาตไิ ว้ควบคมุ หนอนเจาะผลตามธรรมชาติ 3. ตัดแต่งผลที่ติดกันเป็นคู่และไม่สมบูรณ์ออก เพ่ือป้องกันการวางไข่ของผีเสื้อ และตัดผล ทถ่ี กู หนอนทำ� ลายไปเผา 4. ใช้กระดาษแข็งหรือกิ่งไม้ค่ันผลท่ีสมบูรณ์ติดกันเป็นคู่ เพื่อป้องกันการวางไข่ของผีเสื้อ และ จับตวั หนอนมาท�ำลาย ใช้กับดักแสงไฟสีน�ำ้ เงิน-ดำ� (black-blue light trap) ลอ่ ตวั เตม็ วยั มาท�ำลาย 5. ใช้สารกำ� จดั แมลง เชน่ ฟลเู ฟนนอกซรู อน 5% อซี ี อตั รา 20 - 40 มลิ ลลิ ิตรต่อน้�ำ 20 ลิตร เมอื่ พบผลถูกท�ำลายร้อยละ 10 ต่อต้น 20โรค-แมลงศัตรูไม้ผล และการป้องกนั กำ� จัด กรมส่งเสริมการเกษตร
หนอนเจาะเมล็ดทุเรียน ช่ือวิทยาศาสตร์ ตวั หนอน ตัวเต็มวัย Mudaria luteileprosa 21โรค-แมลงศัตรูไมผ้ ล และการปอ้ งกันก�ำจดั รูปรา่ งลกั ษณะ กรมสง่ เสรมิ การเกษตร หนอนโตเต็มที่ยาวประมาณ 4 เซนติเมตร ก็จะ ออกมา เขา้ ดักแดใ้ นดนิ นาน 1 - 9 เดือน จึงฟักออกมา เปน็ ตวั เต็มวัย ลกั ษณะการท�ำลาย ตัวเต็มวัยวางไข่เป็นฟองเด่ียวๆ บริเวณหนาม ทุเรียนใกล้ข้ัวผล ตัวหนอนที่ฟักออกจากไข่จะเจาะไช
เข้าไปภายในผล เจาะไชเข้าไปกัดกินเมล็ด และถ่ายมูล ออกมา ท�ำให้เนื้อทุเรียนเปรอะเปื้อนเสียหาย หนอน อาศัยในผลทุเรียนจนกระทั่งผลแก่ เมื่อหนอนโตเต็มที่ หรอื ถา้ ผลร่วงกอ่ น จะเจาะรูออกมาเข้าดกั แดใ้ นดนิ การป้องกนั และกำ� จดั 1. ใช้กับดักแสงไฟสีน�้ำเงิน ล่อผีเส้ือมาท�ำลายซ่ึงจะ ลักษณะการทำ� ลาย ทำ� ใหล้ ดปรมิ าณการระบาดลงได้ 2. ใชส้ ารกำ� จดั แมลง เชน่ คารโ์ บซลั แฟน พน่ หลงั จากพบผเี สอื้ ในกบั ดกั แสงไฟครง้ั แรก 3. แช่เมล็ดทุเรียนที่น�ำไปเพาะเป็นต้นตอในการขยายพันธุ์ด้วยสารก�ำจัดแมลง เช่น คาร์บารลิ เพื่อช่วยก�ำจัดหนอนทต่ี ิดมากับเมล็ดได้ 4. เกบ็ ผลทีถ่ ูกทำ� ลายไปเผาทำ� ลายท้ิงทุกวัน 22โรค-แมลงศตั รูไม้ผล และการป้องกนั กำ� จัด กรมสง่ เสรมิ การเกษตร
โรคทะลายเน่าปาลม์ น้ำ� มนั เชอ้ื สาเหตุ โรคทะลายเนา่ ปาลม์ น้ำ� มนั 23โรค-แมลงศตั รูไม้ผล และการป้องกนั กำ� จัด เชือ้ รา Marasmius palmivorus กรมส่งเสริมการเกษตร ลกั ษณะอาการ ท�ำลายผลปาล์มน�้ำมันก่อนที่จะสุก ระบาดมาก ในฤดูฝน ท่ีมีความช้ืนสูง ในระยะแรกพบเส้นใยสีขาว ของเช้ือราบนทะลายปาล์มน้�ำมัน บริเวณช่องระหว่างผล และโคนทะลายส่วนที่ติดทางใบ ต่อมาเส้นใยข้ึนปกคลุม ท้ังทะลาย เกิดอาการผลเน่าเป็นสีน้�ำตาล หากทะลาย ยังคงติดอยู่บนต้นผลจะแสดงอาการเน่าแห้งและ มีเช้ือราชนิดอ่ืนๆ เข้าท�ำลายภายหลังได้ ในแปลงที่
ไม่มีการก�ำจัดทะลายท่ีแสดงอาการเน่าออกจากต้น เช้ือราสาเหตุจะกระจายไปยังทะลาย ท่ีอยู่ใกล้เคียงตลอดจนส่วนอื่นๆ ของต้นปาล์มน้�ำมันได้ โรคน้ีท�ำให้เปอร์เซ็นต์กรดไขมันอิสระ เพิม่ ขึ้น ประสิทธิภาพในการให้นำ้� มันนอ้ ยลง การป้องกันและกำ� จดั 1. ปอ้ งกนั ไม่ให้มแี หลง่ ของโรคอยู่ในสวนปาลม์ น้�ำมัน 2. ทำ� ลายทะลายในชว่ งแรก โดยตัดช่อดอกท้ิงในช่วง 30 เดอื นแรก หลงั จากปลกู 3. ตัดแต่งก้านทางใบให้ส้ัน เพ่ือลดความชื้นบริเวณโคนทางใบ แล้วพ่นสารป้องกัน ก�ำจัดโรคพืช 24โรค-แมลงศัตรไู ม้ผล และการปอ้ งกันกำ� จดั กรมสง่ เสรมิ การเกษตร
ด้วงแรดมะพร้าว ตวั เต็มวัย ลกั ษณะการทำ� ลาย ชื่อวิทยาศาสตร์ 25โรค-แมลงศัตรูไมผ้ ล และการป้องกนั กำ� จัด Oryctes rhinoceros กรมสง่ เสรมิ การเกษตร รูปรา่ งลกั ษณะ ตัวเต็มวัยล�ำตัวมีสีน�้ำตาลแดงเกือบด�ำ มีขนสี น�้ำตาลอ่อนที่ด้านข้างของส่วนหัว อก ขา และด้านล่าง ของล�ำตัว ตัวผู้มีเขาคล้ายนอแรดท่ีส่วนหัวค่อนข้างยาว ตัวเมียมีลักษณะคล้ายตัวผู้แต่มีเขาสั้นกว่า และที่ส่วน ปลายของท้องด้านล่างมีขนเยอะกว่าตัวผู้ และมีขนาด ใหญก่ วา่ ตัวผูไ้ มม่ าก ตวั เมยี วางไข่ในกองเศษซากใบมะพรา้ ว และฟักเป็นตัวหนอนก็จะเจริญเติบโตอยู่ในดิน หนอนมีสี ขาวนวล ส่วนหัวเปน็ สีเหลืองปนนำ้� ตาล
ลักษณะการทำ� ลาย ตัวเต็มวัยจะบินข้ึนไปกัดเจาะโคนทางใบมะพร้าวหรือปาล์มน�้ำมัน รวมท้ังเจาะ ท�ำลายยอดอ่อนที่ยงั ไมค่ ลี่ ท�ำใหท้ างใบท่ีเกดิ ใหม่ไมส่ มบูรณ์ มรี อยขาดแหวง่ เปน็ ริ้วๆ คลา้ ย หางปลาหรือรปู พัด การปอ้ งกนั และกำ� จัด 1. ฝงั เผาหรอื เกลย่ี กองซากพืช เพ่อื เกบ็ หนอนหรอื ดักแด้มาท�ำลาย ไม่ปล่อยกองซาก พชื ทงิ้ นานเกิน 2 - 3 เดือน เพราะจะเป็นท่ขี ยายพนั ธ์ุดว้ งแรด 2. ท�ำความสะอาดบริเวณคอมะพรา้ ว 3. ใช้เชื้อราเมตาไรเซียม คลุกผสมลงในกองล่อขนาด 2 x 2 x 0.5 เมตร อัตรา 200 – 400 กรัมต่อกอง หรือในกองซากพืชท่ีมีหนอนด้วงแรดมะพร้าว อาศยั อยู่เพือ่ ทำ� ลายตวั หนอนท่อี ยใู่ นดิน 4. การใช้กับดักฟีโรโมนลอ่ ตวั เตม็ วยั มาทำ� ลาย 26โรค-แมลงศตั รูไมผ้ ล และการป้องกนั ก�ำจดั กรมสง่ เสรมิ การเกษตร
แมลงดำ� หนามมะพรา้ ว ชอื่ วิทยาศาสตร์ ตวั เตม็ วัย ลกั ษณะการท�ำลาย Brontispa longissima 27โรค-แมลงศตั รไู ม้ผล และการปอ้ งกันกำ� จัด รปู รา่ งลักษณะ กรมส่งเสริมการเกษตร ตัวเต็มวัยเพศเมียวางไข่ในเวลากลางคืน โดย วางเป็นฟองเด่ียวหรือเป็นกลุ่มภายในใบมะพร้าวท่ี ยังไม่คล่ีออก ตัวหนอนของแมลงด�ำหนามมะพร้าวมี 4 วัย จึงเข้าดกั แด้ ตัวเต็มวัยของแมลงดำ� หนามมะพรา้ ว ล�ำตัวมีสีด�ำ หัวและอกมีสีส้ม อาศัยกัดกินใบมะพร้าว อยูร่ ะหวา่ งใบหรอื ภายในใบมะพร้าวทีย่ ังไมค่ ลีอ่ อก
ลักษณะการท�ำลาย ตัวหนอนและตัวเต็มวัยจะกัดกินยอดอ่อนที่สุดของมะพร้าวท่ียังไม่คลี่ โดยจะย้ายไป กินอีกใบหลังจากท่ีใบเดิมคลี่ออก ท�ำให้ยอดอ่อนของมะพร้าวชะงักการเจริญเติบโต เม่ือมีการท�ำลายรุนแรงหลายๆ ใบในแต่ละต้นจะมองเห็นเป็นสีขาวโพลนชัดเจน ซึ่ง ชาวสวนมะพรา้ ว เรียกว่า “โรคหัวหงอก” การปอ้ งกันและกำ� จัด 1. ตัดยอดที่ถูกแมลงกัดกนิ มาเก็บไข่ หนอนและตวั เตม็ วัยไปท�ำลาย 2. ปล่อยแมลงหางหนีบ ท�ำลายไข่ หนอน และดักแด้ของแมลงดำ� หนาม โดยควบคุม อตั รา 300 ตัวต่อไร่ 3. ปล่อยแตนเบียนหนอนอะซีโคเดส ท�ำลายหนอน อัตรา 5 มัมม่ีต่อไร่ 3 คร้ัง หา่ งกนั 2 สปั ดาหต์ ่อครัง้ 4. ใช้เชื้อราเมตาไรเซียม พ่นก�ำจัดหนอน ดักแด้ และตัวเต็มวัยของแมลงด�ำหนาม อตั รา 1 กิโลกรมั ต่อนำ�้ 20 ลิตร 28โรค-แมลงศตั รูไม้ผล และการปอ้ งกนั กำ� จัด กรมสง่ เสรมิ การเกษตร
หนอนร่านพาราซ่า ตวั หนอน ตัวเต็มวยั ช่ือวทิ ยาศาสตร์ 29โรค-แมลงศัตรไู มผ้ ล และการปอ้ งกันก�ำจัด Parasa lepida กรมสง่ เสริมการเกษตร รปู ร่างลักษณะ ตัวเต็มวัยเป็นผีเส้ือขนาดกลาง ล�ำตัวอ้วนส้ัน มีขนปกคลุม เพศเมียวางไข่เป็นกลุ่มๆ บริเวณใต้ใบ ไข่มีสีเหลืองอ่อนกลมแบนวางซ้อนกันมองคล้าย เกล็ดปลา หนอนมีล�ำตัวสีเขียวมีขนแข็งขึ้นเป็นกระจุก เรียงเป็นแถวตลอดล�ำตัว ขนแข็งนี้เม่ือไปถูกเข้า จะท�ำให้รู้สึกปวดแสบปวดร้อนและเป็นผื่นแดง หนอนเม่ือฟักออกจากไข่จะอยู่รวมกันเป็นกระจุก
เมื่อโตขึ้นจะกระจายไปตามใบต่างๆ หนอนจะสร้างรังมีใย ปกคลุม และเข้าดักแด้ตามใบและก่ิง ลักษณะดักแด้เป็น ก้อนแขง็ กลมสีน้ำ� ตาลเข้ม แลว้ จงึ เจริญเป็นตัวเต็มวัย ลักษณะการทำ� ลาย ตัวหนอนจะกัดกินใบแก่มะพร้าวจนเหลือแต่ก้านใบ ลกั ษณะการทำ� ลาย ถ้าระบาดรนุ แรงจะท�ำใหผ้ ลผลิตลดลงอยา่ งมาก การปอ้ งกนั และก�ำจดั 1. สำ� รวจตดิ ตามสถานการณก์ ารระบาด 2. ใช้กับดักแสงไฟล่อตัวเต็มวัยมาท�ำลาย โดยใช้หลอดไฟแสงสีม่วง (black light) ในชว่ งเวลา 03.00 น. ถึงสวา่ ง 3. พ่นด้วยสารก�ำจัดแมลงคาร์บาริล 85% ดับบลิวพี อัตรา 20 กรัมต่อน�้ำ 20 ลิตร ในระยะตัวหนอน 30โรค-แมลงศัตรูไมผ้ ล และการปอ้ งกันก�ำจัด กรมส่งเสริมการเกษตร
หนอนหัวด�ำมะพรา้ ว ชอื่ วทิ ยาศาสตร์ ตัวหนอน ลักษณะการท�ำลาย Opisina arenosella 31โรค-แมลงศัตรไู มผ้ ล และการป้องกนั กำ� จัด รปู ร่างลกั ษณะ กรมส่งเสรมิ การเกษตร ตัวเต็มวัยเป็นผีเสื้อกลางคืน ขนาดล�ำตัวแบนยาวประมาณ 1 - 1.2 เซนติเมตร ปีกสีเทาอ่อน มีจุดสีเทาเข้มท่ีปลายปีก ชอบเกาะน่ิงแนบตัวติดผิวพ้ืนท่ีเกาะ เวลากลางวันจะเกาะนิ่ง หลบอยู่ใต้ใบมะพร้าวหรือในท่ีร่ม ผีเส้ือเพศเมียมีขนาดใหญ่กว่า เพศผู้เล็กน้อย ระยะหนอน 32 - 48 วัน ตัวหนอนเม่ือฟัก ออกมาใหม่ๆ จะอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม มีหัวสีด�ำ ล�ำตัวสีเหลือง เมอ่ื มอี ายมุ ากขน้ึ หวั จะเปลย่ี นเปน็ สนี �้ำตาลเขม้ ลำ� ตวั สนี ำ�้ ตาลออ่ น มลี ายพาดยาวตามล�ำตวั ดักแดม้ ีสนี �ำ้ ตาลเข้ม
ลักษณะการท�ำลาย การท�ำลายจะเกิดในระยะตัวหนอนเท่าน้ัน ท�ำลายใบแก่ของมะพร้าว หนอนจะถักใย ดึงใบมะพร้าว มาเรียง ติดกันเป็นแพ สร้างอุโมงค์เป็นทางยาวอาศัยกัดกินอยู่ภายในอุโมงค์ เข้าดักแด้อยู่ภายใยอุโมงค์ ใบท่ีถูกท�ำลาย มลี ักษณะแห้งเป็นสนี ้�ำตาล การป้องกนั และกำ� จัด 1. ตัดทางใบมะพรา้ วท่ถี ูกหนอนทำ� ลายนำ� ไปเผา เพ่อื กำ� จัดหนอนและดกั แด้ 2. ใช้เชื้อแบคทีเรีย (Bt) พ่นใบมะพร้าวที่ยังไม่ถูกท�ำลาย เพื่อควบคุมหนอนท่ีเพิ่งฟักออกจากไข่ ควรพ่น ตดิ ต่อกนั 3 ครง้ั หา่ งกนั ครัง้ ละ 7 - 10 วนั 3. ปลอ่ ยแตนเบยี นไขท่ รโิ คแกรมมา่ ท�ำลายไขห่ นอนหวั ดำ� อตั รา 10 แผน่ ตอ่ ไร่ อยา่ งตอ่ เนอื่ ง หา่ งกนั 2 สปั ดาห์ จนส�ำรวจไม่พบตวั หนอน 4. ปล่อยแตนเบียนหนอนบราคอนท�ำลายหนอนหัวด�ำ อตั รา 200 ตวั ต่อไร่ อยา่ งตอ่ เนือ่ ง ห่างกนั 2 สัปดาห์ จนสำ� รวจไม่พบตัวหนอน 5. ฉดี สารก�ำจดั แมลง อีมาเม็กตนิ เบนโซเอต 92% อซี ี อัตรา 30 มลิ ลลิ ติ รต่อตน้ เจาะล�ำต้นมะพรา้ วสูงจาก พ้ืนดินประมาณ 1 เมตร จ�ำนวน 2 รู ให้รูอยู่ตรงกันข้ามกัน ใส่สารรูละ 15 มิลลิลิตรแล้วใช้ดินน�้ำมัน อุดรูทันที โดยแนะน�ำให้ฉีดเข้าล�ำต้น เฉพาะมะพร้าวท่ีมีความสูงมากกว่า 12 เมตร ข้ึนไป ห้ามใช้กับ มะพร้าวนำ�้ หอมและมะพร้าวกะทิ 32โรค-แมลงศตั รไู ม้ผล และการปอ้ งกันก�ำจดั กรมสง่ เสริมการเกษตร
โรคใบด่างจุดวงแหวน เชอ้ื สาเหตุ โรคใบดา่ งจดุ วงแหวน 33โรค-แมลงศัตรูไมผ้ ล และการปอ้ งกนั กำ� จัด เชอื้ ไวรัส Papaya ringspot virus (PRV) กรมสง่ เสริมการเกษตร ลักษณะอาการ ระยะต้นกล้า ต้นแคระแกร็น ใบด่างเหลือง หงิกงอ บิดเบ้ียวเสียรูป เรียวเล็กเหมือนหางหนู ถ้าเป็นรุนแรง ใบจะเหลือแค่เส้นใบดเู หมอื นเส้นดา้ ย และต้นกล้าอาจตายได้ หรือไม่เจรญิ เตบิ โต ในต้นท่โี ตแลว้ ใบมีอาการด่าง บิดเบยี้ ว หงิกงอ ยอดและใบมีสีเหลืองกว่าต้นท่ีไม่เป็นโรค และ จะสังเกตเห็นลักษณะจุดหรือทางยาวสีเขียวเข้ม ดูช�้ำ ตามกา้ นใบ ล�ำตน้ การตดิ ผลจะไม่ดีหรือไม่ติดเลย
ผลบิดเบ้ียว มีจุดลักษณะเป็นวงแหวนทั่วท้ังผล เนื้อบริเวณที่เป็นจุดวงแหวนมักจะเป็นไตแข็ง มีรสขม ถ้าเป็นรุนแรงแผลเหล่านี้จะมีลักษณะคล้ายสะเก็ด หรือหูดนูนขึ้นมา บนผิวของผลจะขรุขระ ต้นที่เป็นโรคในระยะออกดอก จะท�ำให้ติดผลไม่ดี และผลท่ีได้จะมีจุดวงแหวนเห็นได้ชัด นอกจากนี้ ดอกในรนุ่ ตอ่ ไปก็จะรว่ ง ไมต่ ดิ ผล การปอ้ งกนั และกำ� จัด เปน็ การยากมากท่จี ะหาวธิ ปี ้องกัน หรอื กำ� จัดโรคนโี้ ดยตรง สง่ิ ทตี่ อ้ งปฏิบัติ คอื 1. ต้องทำ� ลายต้นที่เปน็ โรคน้ี ทแ่ี สดงอาการอย่างแนช่ ดั ก่อน โดยการเผาหรอื ฝังในดนิ ใหล้ ึก 2. ปลูกมะละกอพันธ์ทุ ่ีทนทานตอ่ โรคน้ี เช่น ปากชอ่ ง 1 แขกด�ำ ท่าพระ 3. บริเวณปลูกมะละกอควรก�ำจัดวัชพืชให้หมด เพ่ือป้องกันไม่ให้เป็นท่ีอยู่อาศัยของพวกเพลี้ยอ่อน และควรปลูกหา่ งจากพชื ตระกูลแตง 4. การปลูกพืชอาหารเพลี้ยอ่อน เช่น ข้าวโพด ถ่ัว กล้วย รอบแปลงปลูกมะละกอ โดยเฉพาะด้าน เหนอื ลม เพ่ือเป็นกบั ดักใหเ้ พล้ียอ่อนเข้าดดู กิน และสญู เสียการถา่ ยเช้อื ไวรสั เข้าสมู่ ะละกอ 34โรค-แมลงศตั รูไม้ผล และการปอ้ งกนั กำ� จัด กรมสง่ เสรมิ การเกษตร
โรคแอนแทรกโนส ลักษณะอาการทใ่ี บ ลักษณะอาการทีก่ ่งิ เชอื้ สาเหตุ 35โรค-แมลงศตั รูไมผ้ ล และการป้องกันก�ำจัด เชื้อรา Colletotrichum gloesporioides Penz. กรมสง่ เสริมการเกษตร ลกั ษณะอาการ เชื้อราสามารถเข้าท�ำลายได้เกือบทุกส่วนของมะม่วง ไมว่ ่าจะเปน็ ต้นกล้า ยอดอ่อน ใบออ่ น ชอ่ ดอก ดอก ผลอ่อน ผลแก่ และผลแก่หลังการเกบ็ เกย่ี ว เร่มิ แรกจะเป็นจดุ เลก็ ๆ และขยายออกเป็นวงขนาดต่างๆ กัน บริเวณกลางแผล จะเหน็ เมด็ สดี �ำๆ หรอื สสี ม้ ปนบา้ งเรยี งเปน็ วงอยภู่ ายในแผล หากการเข้าท�ำลายรุนแรงก็จะเกิดอาการใบแห้ง บิดเบ้ียว และร่วงหล่น ช่อดอกแห้งไม่ติดผล ผลเน่าร่วง ตลอดจน ผลเน่าหลังการเกบ็ เก่ยี ว
ลักษณะอาการทผี่ ล การปอ้ งกันและกำ� จดั พ่นด้วยสารป้องกันก�ำจัดโรคพืชในช่วงที่มะม่วงผลิตใบอ่อน ช่วงการออกดอก และติดผล ซึ่งเป็นช่วงที่มะม่วงมีความอ่อนแอต่อการท�ำลายของเช้ือ สารป้องกัน กำ� จัดโรคพืชทีม่ ีประสทิ ธภิ าพ ไดแ้ ก่ เบโนมิล แมนโคเซบ แคพแทน คอปเปอรอ์ อกซีคลอไรด์ เปน็ ต้น 36โรค-แมลงศตั รูไม้ผล และการปอ้ งกันก�ำจัด กรมส่งเสรมิ การเกษตร
เพลยี้ จกั จั่นมะม่วง ตัวเต็มวัย ลักษณะการท�ำลาย ช่อื วิทยาศาสตร์ 37โรค-แมลงศตั รูไมผ้ ล และการปอ้ งกันกำ� จัด Idioscopus clypealis (Lethierry) กรมสง่ เสริมการเกษตร Idioscopus niveosparsus (Lethierry) รูปรา่ งลกั ษณะ เพล้ียจักจ่ันที่พบระบาดมี 2 ชนิด ล�ำตัวมีสีเทา ปนด�ำ หรือน�ำ้ ตาลปนเทา ลำ� ตัวยาว 5.5 - 6.5 มลิ ลเิ มตร เพศเมียวางไข่ตามแกนกลางใบอ่อนหรือก้านช่อดอก ระยะไข่ 7 - 10 วนั ตัวออ่ นลอกคราบ 4 ครั้ง จึงเปน็ ตัวเต็มวยั ระยะตัวอ่อน 17 - 19 วัน
ลักษณะการทำ� ลาย ตัวอ่อน และตัวเต็มวัยดูดกินน�้ำเล้ียงจากใบอ่อน ช่อดอก ก้านดอก และยอดอ่อน ท�ำให้ใบบิดงอโค้งลงด้านใต้ใบ ขอบใบมีอาการปลายใบแห้ง การท�ำลายระยะติดดอก ทำ� ใหด้ อกร่วง ตดิ ผลน้อยหรอื ไม่ตดิ เลย การปอ้ งกันและก�ำจดั ในสวนที่มีการระบาดรุนแรง เม่ือส�ำรวจพบเพลี้ยจักจ่ันมากกว่า 5 ตัวต่อช่อ พ่นสารก�ำจัดแมลงในระยะก่อนดอกบาน และพ่นซ�้ำ 1 - 2 คร้ัง ตามความเหมาะสม สารก�ำจัดแมลงแนะน�ำ คือ แลมบ์ดาไซฮาโลทริน อิมิดาคลอพริด ไดโนทีฟูแรน ไทอะมีโทแซม อัตราตามคำ� แนะนำ� ในฉลาก 38โรค-แมลงศัตรูไม้ผล และการปอ้ งกนั กำ� จัด กรมสง่ เสรมิ การเกษตร
แมลงวนั ผลไม้ ตวั เตม็ วัย ลักษณะการท�ำลาย ช่อื วิทยาศาสตร์ 39โรค-แมลงศัตรูไม้ผล และการปอ้ งกันกำ� จัด Bactrocera dorsalis Hendel. กรมส่งเสรมิ การเกษตร Bactrocera correcta Bezzi. รปู รา่ งลกั ษณะ เป็นแมลงขนาดเล็ก ส่วนหัว อก และท้องมีสี น้�ำตาลอ่อน ท่ีสันหลังอกมีแถบสีเหลืองทองเป็นแห่งๆ ตวั เมีย 1 ตัว วางไขป่ ระมาณ 1,300 ตัว ลักษณะการทำ� ลาย แมลงวันผลไม้วางไข่ในผลไม้ท่ีใกล้สุกและมี เปลือกบาง เพศเมียใช้อวัยวะวางไข่แทงเข้าไปในผลไม้
ตัวหนอนที่ฝักออกจากไข่จะอาศัยและกินอาหารภายในผล ท�ำให้ผลเน่าเสียและร่วงหล่น หนอนจะเข้าดักแด้ในดินแล้ว จงึ ออกเป็นตวั เตม็ วัย การปอ้ งกันและก�ำจัด 1. เก็บท�ำลายผลไม้ที่เน่าเสียจากการท�ำลายของ แมลงวันผลไม้ 2. หอ่ ผลด้วยกระดาษ หรือถงุ พลาสติกใส 3. ใช้สารล่อแมลงวันผลไม้ เช่น เมธิลยูจินอล คิว-ลัวร์ เมด-ลวั ร์ 4. ใช้เหยื่อพิษโปรตีนไฮโดรไลเสทผสมสารก�ำจัดแมลง เปน็ เหยื่อล่อแมลงวนั ผลไม้ 5. ท�ำหมันแมลงวันผลไม้ แล้วน�ำไปปล่อยควบคุม เพื่อลดปริมาณแมลงวันผลไม้ ในธรรมชาติ 40โรค-แมลงศตั รไู ม้ผล และการป้องกนั กำ� จดั กรมสง่ เสรมิ การเกษตร
โรคใบจุดมังคุด โรคใบจดุ มังคดุ ลักษณะอาการ เช้อื สาเหตุ 41โรค-แมลงศตั รไู มผ้ ล และการป้องกนั กำ� จัด เชอื้ รา Pestalotia flagisetula Guba กรมส่งเสริมการเกษตร ลกั ษณะอาการ ใบเกิดเป็นรอยแผลไหม้สีน�้ำตาล มีขอบแผล สีเหลือง รูปร่างของแผลไม่แน่นอน ท�ำให้ใบเสียพ้ืนท่ี ในการสังเคราะห์แสง ความสมบูรณ์ของต้นลดลง หากระบาดรุนแรงใบจะแห้งท้ังใบและร่วงหล่น ท�ำให้ ผลมังคุดไม่มีใบปกคลุม ผิวของผลมังคุดจะกร้านแดด ไม่สวย มักพบโรคใบจุดในช่วงฝนตกชุก ระยะใบอ่อน ถึงเพสลาด
การป้องกนั และก�ำจัด ถ้าพบการระบาดเข้าท�ำลายท่ีใบจ�ำนวนมาก ให้ป้องกันและก�ำจัดด้วยสารป้องกัน ก�ำจัดโรคพชื เช่น คาร์เบนดาซมิ 50% ดบั บลิวพี อตั รา 10 - 15 กรัมตอ่ นำ�้ 20 ลิตร 42โรค-แมลงศตั รูไมผ้ ล และการป้องกันกำ� จัด กรมสง่ เสริมการเกษตร
เพล้ียไฟมงั คดุ เพลย้ี ไฟ ลักษณะการทำ� ลายท่ีผล ช่ือวิทยาศาสตร์ 43โรค-แมลงศัตรูไม้ผล และการป้องกันก�ำจัด Scirtothrips dorsalis และ Scirtothrips oligochaetus กรมส่งเสรมิ การเกษตร รูปร่างลกั ษณะ เพลี้ยไฟเปน็ แมลงขนาดเล็ก มีสเี หลืองหรือน้ำ� ตาลอ่อน ยาวประมาณ 0.7 – 0.8 มิลลิเมตร เคล่ือนไหวได้รวดเร็ว ไข่มีขนาดเล็กมากฝังอยู่ในเน้ือเยื่อของพืช ระยะเวลาจาก ไข่ถึงตัวเต็มวัยใช้เวลาประมาณ 11 – 18 วัน ตัวเต็มวัย มชี ีวติ อยูไ่ ด้ 22 วนั ลักษณะการทำ� ลาย ตัวอ่อนและตัวเต็มวัยดูดกินน�้ำเล้ียงท่ียอดอ่อน ดอกอ่อน และผลอ่อน ท�ำให้ยอดแห้ง ผิวผลเป็นข้ีกลาก
หรือผิวลาย มยี างไหลและอาจทำ� ใหผ้ ลร่วงได้ การท�ำลายรุนแรงในระยะทมี่ งั คุดถูกเพลีย้ ไฟเข้ามา ท�ำลายมากท่ีสุด คือ ระยะแตกใบอ่อน โดยเฉพาะเม่ือมังคุดมีการทยอยแตกใบอ่อน การระบาด ของเพล้ียไฟยังขน้ึ อยกู่ ับอุณหภูมทิ สี่ ูงข้ึนจะส่งผลให้เกิดการเพ่ิมประชากรของเพลยี้ ไฟ การป้องกันและกำ� จัด 1. พ่นนำ้� ในระยะออกดอกจนกระทงั่ ถึงติดผลอ่อนทุก 2 - 3 วัน 2. ใชก้ ับดักกาวเหนยี วขนาดใหญต่ ดิ ต้ังในสวนมงั คุดตง้ั แตม่ งั คุดเริม่ แตกใบออ่ น (กบั ดักกาวเหนียวสีเหลอื งขนาดกวา้ ง 24 น้วิ ยาว 26 น้ิว จำ� นวน 4 กบั ดกั ตอ่ ตน้ ) 3. ใช้ศตั รธู รรมชาติ เพลี้ยไฟตัวหำ�้ และดว้ งเตา่ ตัวห้ำ� 4. การใช้สารกำ� จัดแมลง พ่นด้วยสารก�ำจดั แมลงชนิดใดชนดิ หนงึ่ เช่น ✤ คาร์โบซัลแฟน 20 % อีซี อตั รา 20 มิลลลิ ติ รตอ่ น้ำ� 20 ลิตร ✤ อมิ ิดาโคลพรดิ 10 % เอสแอล อตั รา 10 มลิ ลิลติ รตอ่ น�้ำ 20 ลิตร ✤ ฟโิ ปรนลิ 5 % เอสซี อัตรา 10 มลิ ลลิ ิตรต่อนำ�้ 20 ลติ ร ✤ ไซเพอร์เมทริน 6.25 % โฟซาโลน 22.5 % อีซี อตั รา 40 มิลลิลติ รต่อนำ�้ 20 ลิตร 44โรค-แมลงศตั รูไมผ้ ล และการปอ้ งกนั กำ� จัด กรมส่งเสริมการเกษตร
โรครากขาว โรครากขาว ลักษณะอาการ เชอ้ื สาเหตุ 45โรค-แมลงศตั รไู มผ้ ล และการปอ้ งกันกำ� จัด เชื้อรา Rigidoporus lignosus (Klotzsch) lmazeki กรมสง่ เสริมการเกษตร ลกั ษณะอาการ เช้ือโรคสามารถเข้าท�ำลายต้นยางได้ทุกระยะ การเจริญเติบโต ต้ังแต่อายุ 1 ปีข้ึนไป เมื่อระบบราก ถูกท�ำลายจะแสดงอาการให้เห็นท่ีทรงพุ่ม ซ่ึงเป็นระยะ ที่รุนแรงและไม่สามารถรักษาได้ บริเวณรากที่ถูกเชื้อ เข้าท�ำลายจะปรากฏเส้นใยราสีขาวเจริญแตกสาขา ปกคลุม เกาะติดแน่นกับผิวราก เมื่อเส้นใยอายุมากข้ึน
จะกลายเป็นเส้นกลมนูนสีเหลืองซีด เน้ือไม้ ของรากท่ีเป็นโรคในระยะแรกจะแข็งกระด้าง เปน็ สนี ำ้� ตาลซดี ในระยะรนุ แรงจะกลายเปน็ สคี รมี ถ้าอยู่ในท่ีชื้นแฉะจะอ่อนนิ่ม ดอกเห็ดมีลักษณะ เป็นแผ่นครึ่งวงกลมแผ่นเดียวหรือซ้อนกัน เป็นช้ันๆ ผิวด้านบนเป็นสีเหลืองส้ม โดยมี สีเข้มอ่อนเรียงสลับกันเป็นวง ผิวด้านล่างเป็น สสี ้มแดงหรอื สนี ้�ำตาล ขอบดอกเหด็ เป็นสีขาว 46โรค-แมลงศัตรไู มผ้ ล และการปอ้ งกันก�ำจดั กรมสง่ เสรมิ การเกษตร
การป้องกันและกำ� จัด 1. เตรียมพ้ืนที่ปลูกให้ปลอดโรค ในแหล่งท่ีมีโรคระบาด หลังการเตรียมดินควรปลูก พืชคลุมดินตระกูลถ่ัวเพื่อปรับสภาพดินให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของพืช และจุลนิ ทรีย์ในดินบางชนดิ ท่เี ปน็ พษิ ต่อเชอื้ ราสาเหตุ 2. หลังจากปลูกยางพาราไปแล้ว 1 ปี ควรส�ำรวจต้นยางพาราเป็นประจ�ำ เมื่อพบ ต้นเป็นโรค ควรขุดท�ำลายและรักษาต้นข้างเคียงโดยการใช้สารป้องกันก�ำจัด โรคพืช 3. ต้นยางพาราที่มีอายุมากกว่า 3 ปีขึ้นไป ควรขุดคูล้อมบริเวณต้นเป็นโรค (ขนาด คูกว้าง 30 เซนติเมตร ลึก 60 เซนติเมตร) เพื่อกั้นระหว่างต้นท่ีเป็นโรคและ ต้นปกติ ไมใ่ ห้รากสมั ผัสกนั 47โรค-แมลงศัตรูไมผ้ ล และการป้องกันกำ� จัด กรมส่งเสรมิ การเกษตร
4. ใช้สารป้องกันก�ำจัดโรคพืชกับต้นท่ีเป็นโรคเพียงเล็กน้อย และใช้กับต้นยางพารา ข้างเคียงเพ่ือป้องกันโรค โดยขุดร่องเล็กๆ รอบโคนต้นกว้าง 15 - 20 เซนติเมตร เทสารป้องกันก�ำจัดโรคพืชลงในร่องรอบโคนต้น ทุก 6 เดือน เป็นเวลา 2 ปี สารปอ้ งกนั กำ� จดั โรคพชื ที่แนะน�ำ มดี ังนี้ ✤ คาลกิ ซิน 75% อซี ี อัตรา 10 - 20 ซีซีต่อนำ้� 1 - 2 ลติ รต่อตน้ ✤ อัลโด 10% เอสแอล อัตรา 10 - 20 ซีซตี อ่ นำ้� 1 - 2 ลติ รต่อตน้ ✤ ทิลท์ 25% อีซี อัตรา 30 ซซี ตี อ่ น�้ำ 3 ลติ รต่อตน้ ✤ เอนวลิ 5% อซี ี อัตรา 10 - 20 ซซี ตี อ่ น�ำ้ 2 ลติ รตอ่ ต้น ✤ เบเรต์ 40% เอฟเอส โดยใชใ้ นอตั รา 4 - 8 กรมั ต่อนำ�้ 3 ลติ รตอ่ ตน้ 48โรค-แมลงศตั รไู มผ้ ล และการป้องกนั กำ� จดั กรมส่งเสริมการเกษตร
Search