คู่มือ การเสนอขอขึน้ ทะเบียน มรดกภูมปิ ัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ
คณะผู้จัดทำ� ท่ีปรึกษาโครงการ นางสาวนนั ทยิ า สว่างวฒุ ธิ รรม อธิบดีกรมส่งเสรมิ วัฒนธรรม นายมานสั ทารัสใจ รองอธบิ ดกี รมส่งเสริมวัฒนธรรม นางสนุ ันทา มิตรงาม รองอธิบดีกรมสง่ เสริมวัฒนธรรม นางสาวทัศชล เทพก�ำ ปนาท ผูอ้ �ำ นวยการสถาบนั วัฒนธรรมศกึ ษา คณะทำ�งาน นางสาวกติ ตพิ ร ใจบุญ หวั หน้ากลุ่มบรหิ ารจัดการ มรดกภมู ิปญั ญาทางวฒั นธรรม นางสกุ ญั ญา เย็นสุข นกั วชิ าการวัฒนธรรมชำ�นาญการ นางสาวหทัยรตั น์ จิวจินดา นกั วชิ าการวัฒนธรรมช�ำ นาญการ นางสาวเบ็ญจรศั ม์ มาประณีต นกั วชิ าการวฒั นธรรมช�ำ นาญการ นางสาวสมุ าลี เจยี มจงั หรดี นกั วชิ าการวฒั นธรรมช�ำ นาญการ ชอื่ หนงั สือ คมู่ ือการเสนอขอข้ึนทะเบยี น มรดกภมู ิปญั ญาทางวัฒนธรรมของชาติ จัดทำ�โดย กรมสง่ เสรมิ วฒั นธรรม จำ�นวนหน้า ๖๔ หนา้ พิมพ์คร้งั ท่ี ๑ ๑๔,๐๐๐ เล่ม พิมพ์เมื่อ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๕๘ ISBN ๙๗๘-๖๑๖-๕๔๓-๒๙๑-๗ จดั พมิ พ์โดย สำ�นักงานกิจการโรงพมิ พ์ องคก์ ารสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชปู ถัมภ์
ค�ำ นำ� กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ได้ดำ�เนินนโยบายเพื่อ การปกปอ้ งคมุ้ ครองมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรม โดยกจิ กรรมส�ำ คญั ประการหนง่ึ คือการประกาศข้ึนทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติซึ่งได้เร่ิม ดำ�เนินการมานับตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๒ รายการมรดกภูมิปัญญาเหล่านี้ล้วนเป็น ส่ิงท่ีบรรพบุรุษได้สั่งสมและสร้างสรรค์จากภูมิปัญญาอันมีคุณค่า ควรค่าแก่การ รักษาสืบทอดให้เป็นมรดกวัฒนธรรมเพื่ออนุชนรุ่นหลังได้นำ�มาศึกษาเรียนรู้ สืบสานต่อไป การประกาศขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ นับเป็นหนทางหนึ่งในการปกป้องคุ้มครอง และเป็นหลักฐานส�ำ คัญของคนไทย ท่ีประกาศความเป็นเจ้าของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ในขณะท่ียังไม่มี มาตรการทางกฎหมายทจี่ ะคมุ้ ครองมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรมของชาตอิ ยา่ ง ชัดเจน ท้ังนี้ การประกาศขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ จำ�เป็นต้องมีการเสนอรายการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมจากชุมชนแหล่ง ปฏิบตั ทิ มี่ ปี ระวตั ิศาสตร์ของการสืบทอดมาอยา่ งต่อเนอ่ื ง ในการขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ กรมส่งเสริมวัฒนธรรมโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมรดกภูมิปัญญาทาง วัฒนธรรมได้กำ�หนดสาขาของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมรวม ๗ สาขา ไดแ้ ก่ สาขาศิลปะการแสดง สาขางานชา่ งฝีมือดั้งเดมิ สาขาวรรณกรรมพื้นบา้ น สาขากีฬาภูมิปัญญาไทย สาขาแนวปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรมและงานเทศกาล สาขาความรู้และแนวปฏิบัติเก่ียวกับธรรมชาติและจักรวาล และสาขาภาษา โดยจะพิจารณาข้อมูลที่ได้มีการจัดเก็บและสำ�รวจจากสำ�นักงานวัฒนธรรม จงั หวดั ตา่ งๆ และการพจิ ารณาคดั เลอื กกลนั่ กรองของคณะกรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ิ ตามกระบวนการขน้ั ตอนและหลกั เกณฑก์ ารพจิ ารณาขนึ้ ทะเบยี นของแตล่ ะสาขา ทั้งนี้ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่ได้รับการข้ึนทะเบียนจะอยู่ในลักษณะใด ลกั ษณะหนึง่ คือ
๑. รายการที่มีลกั ษณะเฉพาะในชมุ ชน ทอ้ งถิน่ ทีเ่ ส่ียงตอ่ การสูญหาย ใกล้ขาดผู้สบื ทอด เช่น ภาษาชองุ การสกั ยา คชศาสตรช์ าวกูย เป็นตน้ ๒. รายการท่ีมีลักษณะเฉพาะในชุมชน ท้องถ่ิน ท่ียังมีผู้สืบทอดและ ปฏบิ ัติอยู่ เช่น ประเพณีแหผ่ ้าข้ึนธาตุ ตำ�นานพญากงพญาพาน เปน็ ตน้ ๓. รายการทมี่ อี ตั ลกั ษณช์ ดั เจนและมกี ารปฏบิ ตั ิ สบื ทอดโดยทว่ั ไปหรอื อย่างกวา้ งขวาง เช่น งานแกะสลักผกั ผลไม้ รำ�โทน ประเพณีสงกรานต์ เปน็ ตน้ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คู่มือการเสนอขอ ขนึ้ ทะเบยี นมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรมของชาตจิ ะเปน็ แนวทางในการพจิ ารณา เสนอรายการมรดกภมู ิปัญญาทางวัฒนธรรมของท้องถ่นิ ชุมชน เพอื่ การประกาศ ขน้ึ ทะเบยี นเปน็ มรดกภมู ปิ ญั ญาของชาตติ อ่ ไป ซง่ึ จะเกดิ ประโยชนต์ อ่ การด�ำ เนนิ งาน ของหนว่ ยงานในท้องถนิ่ และสำ�นักงานวัฒนธรรมจงั หวดั การขน้ึ ทะเบียนมรดก ภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติจะเป็นการเสริมสร้างความภาคภูมิใจในกลุ่ม บคุ คล และชมุ ชนของตนเอง และเพอ่ื เปน็ การเผยแพรค่ วามรแู้ ละความเขา้ ใจเกย่ี วกบั มรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรมของประเทศ รวมถงึ การอนรุ กั ษแ์ ละฟนื้ ฟอู ตั ลกั ษณ์ ของกลุ่มชาติพันธ์ุในประเทศไทยให้ดำ�รงอยู่อันจะส่งผลให้มรดกภูมิปัญญาทาง วฒั นธรรมมพี นื้ ทใี่ นการถา่ ยทอด บอกเลา่ เรอ่ื งราวความเปน็ มาและสง่ ผา่ นคณุ คา่ ของมรดกทางวัฒนธรรมให้กับคนรุ่นลูกรุ่นหลานสามารถนำ�ไปพัฒนาสร้างสรรค์ และตอ่ ยอดทุนทางวัฒนธรรมเพอื่ เพมิ่ รายไดอ้ ยา่ งยงั่ ยนื ต่อไป กรมส่งเสรมิ วัฒนธรรม
สารบญั ๑ ๑ ความเป็นมา ๒ การปกป้องคมุ้ ครองมรดกภมู ปิ ัญญาทางวัฒนธรรม ๕ อนสุ ญั ญาวา่ ดว้ ยการสงวนรักษามรดกวฒั นธรรมท่ีจบั ต้องไมไ่ ด้ ๘ ค.ศ. ๒๐๐๓ ของยูเนสโก ๘ มรดกวฒั นธรรมท่ีจับต้องไม่ได้ และมรดกภูมปิ ัญญาทางวัฒนธรรม ๙ ความหมายของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ๑๑ ๑. ศลิ ปะการแสดง ๑๓ ๒. งานชา่ งฝีมอื ดั้งเดมิ ๑๓ ๓. วรรณกรรมพ้ืนบา้ น ๑๔ ๔. กฬี าภูมิปญั ญาไทย ๑๖ ๕. แนวปฏิบตั ิทางสงั คม พธิ ีกรรมและงานเทศกาล ๑๗ ๖. ความรแู้ ละแนวปฏบิ ัตเิ กี่ยวกับธรรมชาติและจกั รวาล ๑๗ ๗. ภาษา ๑๗ การขึน้ ทะเบียนมรดกภูมปิ ัญญาทางวฒั นธรรมของชาต ิ ๑๘ เหตุผลส�ำ คญั ของการประกาศข้ึนทะเบียนมรดกภูมปิ ญั ญา ๑๘ ทางวัฒนธรรม ๒๑ วตั ถปุ ระสงค์การประกาศขน้ึ ทะเบยี น ประโยชน์ทผี่ สู้ บื ทอด/ผถู้ ือครองจะได้รับจากการขน้ึ ทะเบยี น มรดกภมู ิปญั ญาทางวัฒนธรรมของชาติ กรอบเวลาการด�ำ เนนิ งานขึน้ ทะเบยี นมรดกภมู ปิ ญั ญาทาง วฒั นธรรมของชาต ิ เกณฑ์การขน้ึ ทะเบยี นมรดกภมู ิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ
การย่ืนค�ำ ขอเสนอรายการมรดกภูมปิ ัญญาทางวัฒนธรรม ๒๒ เพ่ือขน้ึ ทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ๒๒ ผู้มีสทิ ธยิ ่นื คำ�ขอ ๒๒ ข้ันตอนการดำ�เนนิ งาน ๒๓ เอกสารทใ่ี ช้ยนื่ คำ�ขอ ๒๓ รายละเอยี ดการกรอกคำ�ขอเสนอข้ึนทะเบยี น ๒๘ ตดิ ต่อสอบถาม ๒๙ ภาคผนวก ๑ ๓๐ แบบค�ำ ขอเสนอข้นึ ทะเบยี นมรดกภมู ิปญั ญาทางวัฒนธรรมของชาติ ๓๗ ภาคผนวก ๒ ๓๘ ตัวอยา่ งการเขียนค�ำ ขอ ๕๘ เอกสารอา้ งอิง
ความเป็นมา การปกป้องคมุ้ ครองมรดกภูมิปัญญาทางวฒั นธรรม มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมหรือมรดกวัฒนธรรมท่ีจับต้องไม่ได้ เปน็ สง่ิ ส�ำ คญั ทจี่ ะท�ำ ใหค้ นไทยรสู้ กึ ถงึ ความเปน็ ตวั ตนและความเปน็ เจา้ ของ โดยมี การเชอ่ื มโยงอดีต ปัจจบุ นั และอนาคตของคนไทย นอกจากนี้ การท�ำ ความเขา้ ใจ ในมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของแต่ละชุมชนยังช่วยให้มีการปฏิสัมพันธ์กัน ระหว่างวัฒนธรรม และช่วยให้บุคคลรู้สึกเป็นส่วนหน่ึงของชุมชนและประเทศ ส่งผลท้งั ในด้านความเจรญิ ทางสังคมและเศรษฐกจิ เนอ่ื งจากมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรมแสดงถงึ อตั ลกั ษณท์ างวฒั นธรรม ของผู้คนและชุมชน ที่กำ�ลังถูกคุกคามจากความสูญหายหรือเปล่ียนแปลงไป อันเปน็ ผลจากความขัดแย้ง ดว้ ยเหตนุ ี้ จงึ จำ�เป็นต้องมกี ารปกปอ้ งคุ้มครองมรดก ภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมตามอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรม ทจ่ี บั ตอ้ งไมไ่ ด้ ค.ศ. ๒๐๐๓ ขององคก์ ารสหประชาชาตเิ พอ่ื การศกึ ษาวทิ ยาศาสตร์ และวัฒนธรรม (ยเู นสโก) ท้งั น้ี ยเู นสโกมีความพยายามท่จี ะให้ประเทศสมาชิกมี มาตรการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ มีการจัดทำ�ทะเบียนมรดก วัฒนธรรมท่ีจับต้องไม่ได้โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนในฐานะที่เป็นอนุสัญญา อันเปน็ ขอ้ ตกลงระหวา่ งประเทศ ดงั นน้ั รฐั บาลจ�ำ เปน็ ตอ้ งมวี ธิ ปี ฏบิ ตั ทิ เี่ ปน็ ทยี่ อมรบั ในประเดน็ ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง กับการคุ้มครองและการถ่ายทอดมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม โดยพิจารณา จากเจตนารมณ์และวิธีการที่มีประสิทธิภาพของทุกฝ่ายท่ีเกี่ยวข้องกับมรดกทาง วัฒนธรรม เพ่อื ทจ่ี ะกำ�หนดมาตรการใหท้ ุกคนทีเ่ กยี่ วข้องเขา้ มามสี ว่ นร่วมในการ ดำ�เนนิ การปกป้องคุ้มครองมรดกภูมปิ ัญญาทางวฒั นธรรมของประเทศ คู่มือการเสนอขอขึน้ ทะเบยี นมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวัฒนธรรมของชาติ 1
อนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้อง ไมไ่ ด้ ค.ศ. ๒๐๐๓ ของยเู นสโก “อนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้” คือ ข้อตกลงร่วมกันระหว่างรัฐภาคีที่มีจุดประสงค์ที่จะสงวนรักษามรดกวัฒนธรรม ที่จับต้องไม่ได้ ท้ังในการให้ความเคารพในมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้อง ไม่ได้ของชุมชน กลุ่มชน และปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการสร้างความ ตระหนักรับรู้ในระดับต่างๆเพื่อให้เกิดความชื่นชมร่วมกัน รวมไปถึงการให้ ความรว่ มมอื ชว่ ยเหลอื ซง่ึ กนั และกนั ในระหวา่ งประเทศ ซงึ่ อนสุ ญั ญานเี้ ปน็ อกี หนง่ึ ในหลายๆอนุสัญญาที่องค์การยูเนสโกได้ทำ�ข้ึน เพ่ือประโยชน์ในด้านการ ศึกษา วิทยาศาสตร์หรือวัฒนธรรมระหว่างมวลสมาชิก โดยอนุสัญญาฉบับน้ี ได้ผ่านการรับรองจากที่ประชุมสมัยสามัญขององค์การยูเนสโกเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ (ค.ศ. ๒๐๐๓) และมีผลบังคับใช้เม่ือเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๔๙ (ค.ศ. ๒๐๐๖) ตามทก่ี ล่าวมาแล้วข้างตน้ อนสุ ัญญาฯฉบบั นีจ้ ะต่างกับอนุสัญญาวา่ ดว้ ยการคุ้มครองมรดกโลกทาง วัฒนธรรมและธรรมชาติที่ว่า อนุสัญญาฯฉบับนี้ จะเน้นถึงมรดกของบรรพบุรุษ ทไ่ี ดส้ รา้ งสรรคแ์ ละปฏบิ ตั สิ บื ทอดกนั มาตง้ั แตอ่ ดตี และสง่ ตอ่ ผา่ นลกู หลานแตล่ ะรนุ่ จนกลายมาเป็นอัตลักษณ์ (Identity) ของชุมชน หรือกลุ่มชน ที่ยึดถือปฏิบัติ กันจนถึงทุกวันนี้ โดยอาจจะแสดงออกมาในรูปลักษณะต่างๆ เช่น มุขปาฐะ ภาษา ประเพณี พธิ กี รรม งานเทศกาล การชา่ งฝมี อื ดง้ั เดมิ รวมถงึ ความรเู้ กยี่ วกบั ธรรมชาติและจักรวาล เป็นต้น ในขณะที่อนุสัญญาฯมรดกโลก จะเน้นงานด้าน สถาปัตยกรรม อนุสรณส์ ถาน ศลิ ปกรรม ลวดลายจำ�หลกั แหลง่ ท่ีอยู่อาศยั ในถํ้า กลุ่มอาคาร หรือบริเวณทางโบราณคดีท่ีทรงคุณค่า โดดเด่นเป็นสากล ในแง่มุม ประวัติศาสตร์ ศิลปะหรือวิทยาศาสตร์ ซึ่งหากจะพูดง่ายๆก็คือ อนุสัญญาฯ มรดกโลก จะเน้นในสิ่งที่มองเห็นและจับต้องเป็นรูปธรรมได้ ส่วนอนุสัญญาฯ มรดกวัฒนธรรมท่ีจับต้องไม่ได้ จะเน้นในเรื่องที่เป็นนามธรรมและจับต้องไม่ได้ เชน่ เดียวกบั ช่อื ของอนสุ ญั ญา 2 ค่มู ือการเสนอขอข้ึนทะเบียนมรดกภมู ปิ ัญญาทางวฒั นธรรมของชาติ
สาระในอนสุ ญั ญาวา่ ดว้ ยการสงวนรกั ษามรดกวฒั นธรรมทจ่ี บั ตอ้ งไมไ่ ด้ ขององคก์ ารยูเนสโก ประกอบดว้ ย ๑. นิยามของค�ำ ว่า มรดกวฒั นธรรมที่จบั ตอ้ งไมไ่ ด้ องค์การสหประชาชาติเพ่ือการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม (ยเู นสโก) ไดใ้ หค้ �ำ นยิ ามมรดกวฒั นธรรมทจ่ี บั ตอ้ งไมไ่ ดไ้ วว้ า่ “การปฏบิ ตั ิ การเปน็ ตัวแทน การแสดงออก ความรู้ ทักษะ ตลอดจนเคร่อื งมือ วตั ถุ สิ่งประดษิ ฐ์ และ พืน้ ทีท่ างวฒั นธรรมอนั เปน็ ผลจากส่งิ เหล่าน้ัน ซึ่งชุมชน กล่มุ ชน และในบางกรณี ปจั เจกบคุ คลยอมรบั ว่าเป็นส่วนหนึ่งของมรดกทางวฒั นธรรมของตน” “การสงวนรักษา” หมายถึง มาตรการเพ่ือให้มรดกวัฒนธรรม ท่ีจับต้องไม่ได้ ดำ�รงอยู่รอดต่อไป ซึ่งรวมไปถึงการจ�ำ แนก การบันทึกหลักฐาน การวจิ ัย ปกปอ้ ง คมุ้ ครอง สง่ เสรมิ เชดิ ชู ถ่ายทอด โดยเฉพาะอย่างยิง่ ผา่ นทาง การศึกษาในระบบและนอกระบบ รวมทงั้ การฟืน้ ฟูมรดกดงั กลา่ วในด้านตา่ งๆ ๒. องคป์ ระกอบของมรดกวฒั นธรรมทจ่ี ับตอ้ งไมไ่ ด้ ประกอบด้วย ๑) ความเป็นวัฒนธรรมและการอาศัยอยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน มรดกวฒั นธรรมท่ีจบั ตอ้ งไม่ได้ (Intangible Cultural Heritage) ไมไ่ ด้หมายรวม ไปถงึ เพยี งการเปน็ ตวั แทนของมรดกทไ่ี ดร้ บั การสบื ทอดตอ่ กนั มาจากอดตี แตต่ อ้ ง รวมถึงวิถีทางชนบทท่ีมีการสร้างสรรค์ขึ้นใหม่โดยชุมชนนั้นๆ และธรรมเนียม การปฏบิ ัตเิ กีย่ วกบั เมอื ง ในความหลากหลายทางวัฒนธรรมของชนแต่ละกลุ่ม ๒) ส่ิงท่ีเกิดจากการแบ่งปันประสบการณ์ทางมรดกวัฒนธรรม ที่จับต้องไม่ได้ ซ่ึงเป็นสิ่งท่ีติดตัวมากับบุคคลต่างๆ ท่ีอพยพและย้ายถ่ินมาจาก ทตี่ า่ งๆ หรอื เกดิ การดดั แปลงจากกลมุ่ บคุ คลทอ่ี พยพและตง้ั ถน่ิ ฐานในแตล่ ะพนื้ ท่ี ๓) การเป็นตัวแทนทางมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ไม่ให้กล่าว ถึงเฉพาะค่านิยมทางวัฒนธรรมแต่เพียงอย่างเดียว แต่ให้รวมถึงองค์ความรู้ของ แตล่ ะวฒั นธรรม ส่งิ ทเ่ี ปน็ พิเศษ ซ่งึ เปน็ พ้นื ฐานของความเปน็ ชุมชนด้วย คมู่ อื การเสนอขอข้ึนทะเบยี นมรดกภมู ิปญั ญาทางวัฒนธรรมของชาติ 3
๔) พ้ืนฐานความเป็นชุมชน สำ�หรับมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ซงึ่ สามารถเปน็ มรดกได้ เมอ่ื มกี ารเหน็ คณุ คา่ ของชมุ ชน เชน่ ความเปน็ สงั คม กลมุ่ หรือความเป็นปจั เจกชน ตอ่ การสร้างสรรคส์ ่งิ ตา่ งๆ ประกอบกับการโอนถา่ ยซง่ึ ทกั ษะและความรรู้ ะหว่างชมุ ชน ๓. ความส�ำ คัญของอนุสญั ญาฯ อนสุ ัญญาวา่ ด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมท่ีจบั ต้องไมไ่ ด้ เปน็ เคร่ืองมือทางกฎหมายระหว่างประเทศ ในการปกป้องคุ้มครองมรดกวัฒนธรรม ท่ีจับต้องไม่ได้ รวมทั้งเป็นการเคารพความหลากหลายทางวัฒนธรรมของชุมชน กลุ่มชนและปัจเจกบุคคลทเ่ี กี่ยวข้อง มีความสำ�คญั ดังนี้ ๑) เปน็ การสง่ เสรมิ ความรว่ มมอื ระหวา่ งประเทศเกย่ี วกบั การปกปอ้ ง คมุ้ ครองมรดกวฒั นธรรมทจ่ี บั ตอ้ งไมไ่ ดท้ งั้ ระดบั ชาติ ระดบั ภมู ภิ าคและระดบั โลก ๒) เปน็ การพฒั นาการสงวนรกั ษามรดกวฒั นธรรมทจ่ี บั ตอ้ งไมไ่ ดข้ อง แตล่ ะรฐั ภาคีใหเ้ ข้มแข็งและมปี ระสทิ ธภิ าพยิง่ ขน้ึ ๓) เป็นการยืนยันบทบาทของรัฐภาคีในเวทีโลกต่อการด�ำ เนินงาน เรือ่ งการสงวนรกั ษามรดกวฒั นธรรมท่จี ับตอ้ งไมไ่ ด้ ๔. วตั ถปุ ระสงคข์ องอนสุ ญั ญาวา่ ดว้ ยการสงวนรกั ษามรดกวฒั นธรรม ทีจ่ ับต้องไมไ่ ด้ มดี งั นี้ ๑) เพอื่ ปกป้องคุ้มครองมรดกวฒั นธรรมทีจ่ บั ตอ้ งไมไ่ ด้ ๒) เพอื่ ประกนั วา่ จะเคารพมรดกวฒั นธรรมทจ่ี บั ตอ้ งไมไ่ ดข้ องชมุ ชน กลมุ่ ชน และปจั เจกบคุ คลที่เก่ยี วขอ้ ง ๓) เพื่อเพิ่มความตระหนักในระดับท้องถ่ิน ระดับชาติ และระดับ นานาชาติ ถึงความสำ�คัญของมรดกวัฒนธรรมท่ีจับต้องไม่ได้ และให้เกิดความ ชนื่ ชมร่วมกนั ๔) เพื่อใหค้ วามรว่ มมอื และความช่วยเหลอื ระหว่างประเทศ 4 คู่มือการเสนอขอขนึ้ ทะเบยี นมรดกภูมิปญั ญาทางวัฒนธรรมของชาติ
๕. แนวทางการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมท่ีจบั ต้องไมไ่ ด้ ๑) จดั ท�ำ ทะเบียนมรดกวฒั นธรรมทจี่ ับต้องไม่ได้ ๒) กำ�หนดนโยบายที่มุ่งส่งเสริมบทบาทของมรดกวัฒนธรรม ท่ีจับตอ้ งไมไ่ ด้ ๓) จัดตงั้ องค์กรเพื่อสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมทีจ่ บั ต้องไม่ได้ ๔) สนบั สนนุ ใหเ้ กดิ การศกึ ษา วจิ ยั เพอ่ื สงวนรกั ษามรดกวฒั นธรรม ที่จับต้องไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ท่ีเส่ียงต่อ การสญู หาย ๕) ก�ำ หนดใชม้ าตรการทเี่ หมาะสมทางกฎหมาย ทางเทคนคิ ทางการ บรหิ าร และทางการเงนิ เพอ่ื การสนบั สนนุ การสรา้ งสรรค์ การเพม่ิ ศกั ยภาพบคุ คล การถ่ายทอด การจัดแสดงผลงาน การประกันการเข้าถึง การเคารพต่อจารีต ธรรมเนียมในการเข้าถงึ และการบนั ทึกขอ้ มูล ๖. การสงวนรกั ษามรดกวัฒนธรรมทีจ่ บั ต้องไม่ได้ในระดับนานาชาติ เมื่อประเทศไทยได้เข้าเป็นรัฐภาคี ก็จะสามารถเสนอรายการ ท่ีเป็นตัวแทนของมรดกวัฒนธรรมท่ีจับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ รายการ มรดกวัฒนธรรมท่ีจับต้องไม่ได้ซึ่งต้องได้รับการสงวนรักษาอย่างเร่งด่วน และแผนงานโครงการและกจิ กรรมเพอ่ื สงวนรกั ษามรดกวฒั นธรรมทจี่ บั ตอ้ งไมไ่ ด้ “มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้” และ“มรดกภูมิปัญญา ทางวัฒนธรรม” “มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้” มาจากคำ�ภาษาอังกฤษว่า Intangible Cultural Heritage ซงึ่ ยังไมม่ ีค�ำ แปลเป็นภาษาไทยท่ีชัดเจนและ ตรงตัว และเม่อื แรกใช้ มกี ารเสนอค�ำ แทนดงั กล่าวอย่างหลากหลาย เชน่ มรดก วัฒนธรรมเชิงนามธรรม มรดกวัฒนธรรมทางจติ ใจ มรดกวัฒนธรรมท่ีไม่เปน็ วัตถุ เป็นต้น ซ่ึงแต่ละคำ�เม่ือแปลกลับเป็นภาษาอังกฤษ ยังมีการถกเถียงกันอยู่ และ ยังไมล่ งตวั ทเี ดยี วนัก คมู่ อื การเสนอขอข้นึ ทะเบียนมรดกภูมปิ ัญญาทางวฒั นธรรมของชาติ 5
ต่อมา คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาตไิ ดม้ ีมตเิ มื่อวันที่ ๓๑ สงิ หาคม ๒๕๕๒ ใหใ้ ชศ้ พั ทค์ �ำ วา่ “มรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรม” แทนค�ำ วา่ Intangible Cultural Heritage ดว้ ยพิจารณาเหน็ คำ�ว่า “มรดกวฒั นธรรมท่จี บั ตอ้ งไม่ได”้ อาจจะทำ�ให้เกิดการตีความท่ีไม่ตรงกัน และเห็นว่าภาครัฐควรส่งเสริม ทั้งมรดกวัฒนธรรมทั้งทจี่ บั ตอ้ งไม่ไดแ้ ละทีจ่ ับต้องได้ อย่างไรก็ดี เมื่อกรมส่งเสริมวัฒนธรรมได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าภาพ ในการดำ�เนินการเขา้ ร่วมเปน็ ภาคอี นสุ ัญญาฯ ฉบับน้ี คอื Convention for the Safeguarding of the Intangible Cultural Heritage ในระยะเริ่มต้น ก็ได้ใช้ ค�ำ วา่ “มรดกวฒั นธรรมทจ่ี บั ตอ้ งไมไ่ ด”้ แทนค�ำ วา่ Intangible Cultural Heritage ไปกอ่ นหนา้ นัน้ แลว้ ส�ำ หรับในทางปฏิบตั แิ ล้ว คำ�ว่า “มรดกวัฒนธรรมทจ่ี บั ตอ้ งไม่ได้” และ “มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม” มีความหมายท่ีไม่แตกต่างกัน แต่การจำ�แนก สาขาและประเภทอาจจะมีความแตกต่างกันออกไป ท้ังนี้ ตามอนุสัญญาฯ ฉบบั นข้ี ององคก์ ารยเู นสโก กไ็ ดก้ ลา่ ววา่ การจ�ำ แนกสาขาดงั กลา่ วขน้ึ อยกู่ บั บรบิ ทและ อัตลกั ษณข์ องแต่ละประเทศ อนุสัญญาฯฉบับน้ีได้กำ�หนดขอบเขตลักษณะของมรดกวัฒนธรรม ทจี่ ับต้องไม่ได้ไว้ ๕ สาขา ไดแ้ ก่ ๑. ประเพณแี ละการแสดงออกทเี่ ปน็ มขุ ปาฐะ รวมถงึ ภาษาในฐานะพาหะ ๒. ศิลปะการแสดง ๓. แนวปฏบิ ัติทางสงั คม พธิ กี รรมและงานเทศกาล ๔. ความรแู้ ละแนวปฏบิ ัติเก่ยี วกบั ธรรมชาตแิ ละจกั รวาล ๕. งานช่างฝมี อื ดั้งเดิม ในสว่ นของประเทศไทย กรมส่งเสรมิ วฒั นธรรมไดจ้ ดั ประชมุ ระดมความ คิดจากผู้ทรงคุณวุฒิทุกแขนง เห็นว่าประเทศไทยมีมรดกวัฒนธรรมที่จับต้อง ไมไ่ ด้มลี กั ษณะทมี่ ีความโดดเดน่ และเป็นเอกลักษณ์ จึงได้จำ�แนกสาขาของมรดก 6 คมู่ ือการเสนอขอข้ึนทะเบียนมรดกภูมปิ ัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ
ภมู ปิ ัญญาทางวฒั นธรรมไว้มากกวา่ ทอี่ นุสัญญากำ�หนด และก�ำ หนดประเภทของ แตล่ ะสาขาใหส้ อดคลอ้ งกบั บรบิ ทวฒั นธรรมของประเทศไทย โดยมรดกภมู ปิ ญั ญา ทางวฒั นธรรมทง้ั ๗ สาขา มดี งั น้ี ๑. ศิลปะการแสดง ๒. งานช่างฝีมอื ดง้ั เดมิ ๓. วรรณกรรมพนื้ บา้ น ๔. กีฬาภมู ิปัญญาไทย ๕. แนวปฏบิ ตั ทิ างสงั คม พธิ ีกรรม และงานเทศกาล ๖. ความรแู้ ละแนวปฏบิ ตั เิ กีย่ วกับธรรมชาติและจักรวาล ๗. ภาษา คู่มอื การเสนอขอขน้ึ ทะเบียนมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรมของชาติ 7
ความหมายของมรดกภูมิปัญญาทาง วัฒนธรรม “มรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรม”หมายถงึ การปฏบิ ตั ิการแสดงออกความรู้ ทกั ษะ ตลอดจนเคร่ืองมอื วัตถุ สงิ่ ประดษิ ฐ์ และพ้ืนทีท่ างวัฒนธรรมท่เี กีย่ วเนอ่ื ง กับส่ิงเหล่านั้น ซ่ึงชุมชน กลุ่มชน และในบางกรณีปัจเจกบุคคล ยอมรับว่าเป็น ส่วนหนึ่งของมรดกทางวัฒนธรรมของตน มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ซง่ึ ถา่ ยทอดจากคนรนุ่ หนงึ่ ไปยงั คนอกี รนุ่ หนงึ่ น้ี เปน็ สงิ่ ซงึ่ ชมุ ชนและกลมุ่ ชนสรา้ ง ข้นึ ใหมอ่ ย่างสมา่ํ เสมอ เพื่อตอบสนองตอ่ สภาพแวดล้อมของตน เปน็ ปฏิสัมพนั ธ์ ของพวกเขาทมี่ ตี อ่ ธรรมชาติ และประวตั ศิ าสตรข์ องตน และท�ำ ใหค้ นเหลา่ นน้ั เกดิ ความรสู้ กึ มอี ตั ลกั ษณ์ และความตอ่ เนอ่ื ง ดงั นน้ั จงึ กอ่ ใหเ้ กดิ ความเคารพตอ่ ความ หลากหลายทางวัฒนธรรม และการคดิ สร้างสรรคข์ องมนษุ ย์ มรดกภูมปิ ญั ญาทางวฒั นธรรม จำ�แนกออกเปน็ ๗ สาขา ดังนี้ ๑. ศิลปะการแสดง ความหมาย การแสดงดนตรี การรำ� การเต้น และละครท่ีแสดงเป็นเรื่องราว ทั้งที่ เปน็ การแสดงตามขนบแบบแผน และ/หรอื มกี ารประยกุ ตเ์ ปลย่ี นแปลง การแสดง ท่ีเกดิ ขน้ึ นัน้ เป็นการแสดงสดต่อหนา้ ผู้ชม และมีจดุ มุ่งหมายเพอื่ ความงาม ความ บันเทิงและ/หรือเป็นงานแสดงท่ีก่อให้เกิดการคิด วิพากษ์ นำ�สู่การพัฒนาและ เปลย่ี นแปลงสงั คม ประเภท ๑. ดนตรีและเพลงร้อง หมายถึง เสียงท่ีเกิดจากเครื่องดนตรีและ การขบั รอ้ งทปี่ ระกอบกนั เป็นทำ�นองเพลง ท�ำ ใหร้ ู้สึกเพลิดเพลนิ หรือเกิดอารมณ์ ตา่ งๆ โดยมบี ทบาทหนา้ ทเี่ พอื่ บรรเลง ขบั กลอ่ ม ใหค้ วามบนั เทงิ ประกอบพธิ กี รรม 8 คู่มอื การเสนอขอขน้ึ ทะเบียนมรดกภูมิปญั ญาทางวฒั นธรรมของชาติ
และประกอบการแสดง ดนตรี แบ่งออกเป็นดนตรีในการแสดงและดนตรีใน พธิ กี รรม ตัวอยา่ งเช่น เป๊ยี ะ ปพ่ี าทย์ ซอสามสาย เพลงโคราช ซอลา้ นนา ๒. นาฏศิลปแ์ ละการละคร หมายถึง การแสดงออกทางรา่ งกาย ท่วงทา่ การเคลอื่ นไหว ทา่ เตน้ ทา่ รำ� การเชดิ การพากย์ การใชเ้ สยี ง การขบั รอ้ ง การใชบ้ ท การใช้อุปกรณ์ ฯลฯ ซึ่งสื่อถึงเร่ืองราว อารมณ์ ความรู้สึก อาจแสดงร่วมกับ ดนตรแี ละการขบั ร้องหรอื ไมก่ ็ได้ การแสดง แบ่งออกเปน็ การแสดงในพิธีกรรม การแสดงทีเ่ ป็นเรอ่ื งราวและไม่เป็นเร่อื งราว ตัวอยา่ งเชน่ โขน โนรา ก้านกกงิ กะหร่า มะโยง่ ฟ้อนโยคถี วายไฟ ๒ . คงวาานมชห่ามงฝายีมือด้งั เดิม ภูมิปัญญา ทักษะฝีมือช่าง การเลือกใช้วัสดุ และกลวิธีการสร้างสรรค์ ทีแ่ สดงถึงอตั ลกั ษณ์ สะทอ้ นพฒั นาการทางสงั คม และวฒั นธรรมของกลมุ่ ชน ประเภท ๑. ผา้ และผลติ ภณั ฑจ์ ากผา้ หมายถงึ ผลผลติ ทเ่ี กดิ จากการทอ ยอ้ ม ถกั ปกั ตีเกลียว ยก จก มัดหมี่ พิมพล์ าย ขดิ เกาะ/ล้วง เพือ่ ใช้เป็น เครือ่ งน่งุ ห่ม และ แสดงสถานภาพทางสงั คม ตัวอย่างเช่น ผ้าทอนาหม่ืนศรี ผ้ายก ผ้ามัดหมี่ ผ้าทอไทล้ือ ผ้ายอ้ มคราม ผา้ ทอกะเหรย่ี ง ผา้ ขาวมา้ ๒. เครอื่ งจกั สาน หมายถงึ ภาชนะเครอื่ งใชป้ ระจำ�บา้ นทท่ี �ำ จากวตั ถดุ บิ ในท้องถิ่น เช่น ไผ่ หวาย กระจูด ลำ�เจียก โดยนำ�มาจักและสาน จึงเรียกว่า เครื่องจักสาน กลวิธใี นการท�ำ เครือ่ งจักสาน ได้แก่ การถัก ผูก รัด มัด ร้อย โดยใช้ ตอก หวาย เพือ่ ให้เคร่อื งจกั สานคงทนและคงรูปอยไู่ ด้ตามต้องการ ตวั อยา่ งเชน่ กอ่ งขา้ วดอก เคร่อื งจกั สานไม้ไผ่ ตะกร้อหวาย ขัวแตะ เครือ่ งจกั สานยา่ นลเิ ภา ๓. เครื่องรัก หมายถึง หัตถกรรมท่ีใช้รักเป็นวัสดุสำ�คัญในการ สร้างผลงาน เช่น ปิดทองรดนํ้า ภาพกำ�มะลอ ประดับมุก ประดับกระจกสี คู่มือการเสนอขอขน้ึ ทะเบยี นมรดกภมู ปิ ัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ 9
ปน้ั กระแหนะ และเขนิ รกั หรอื ยางรกั มคี ณุ ลักษณะเป็นยางเหนยี ว สามารถเกาะ จบั พน้ื ของสิง่ ใดสิง่ หน่งึ ทป่ี ระสงคจ์ ะทา หรอื ถมทับหรอื เคลือบผิวได้ดี ทำ�ใหเ้ ปน็ ผิวมันภายหลังรักแห้งสนิท มีคุณภาพคงทนต่อความร้อน ความช้ืน กรดหรือ ด่างอ่อนๆ และยงั เป็นวสั ดุทใี่ ช้เชอื่ มสีมุกหรอื สเี ขา้ ดว้ ยกนั ตัวอยา่ งเช่น เครอื่ งมุกไทย เครื่องรกั ๔. เครื่องป้นั ดินเผา หมายถึง หตั ถกรรมทใ่ี ช้ดนิ เหนียวเป็นวตั ถุดบิ หลัก ในการผลิต มีท้ังชนิดเคลือบและไม่เคลือบ โดยที่เน้ือดินเหนียวต้องมีส่วนผสม ของทราย แม่นํ้าที่เป็นทรายเนื้อละเอียดและช่วยให้เน้ือดินแห้งสนิทไม่แตกร้าว ดินเหนียวท่ีใชท้ ำ�เครื่องปั้นดินเผาจากที่ต่างๆ ใหส้ ีแตกตา่ งกัน ตัวอยา่ งเช่น เครอื่ งปน้ั ดนิ เผาเวียงกาหลง ๕. เครื่องโลหะ หมายถึง ส่ิงที่มีวัสดุหลักเป็นเหล็ก ทองเหลืองหรือ ทองแดง เครอ่ื งโลหะทท่ี ำ�จากเหล็ก นิยมท�ำ โดยการเผาไฟใหอ้ อ่ นตวั และตเี หล็ก เป็นรูปทรงต่างๆ เครื่องโลหะท่ีทำ�จากทองเหลือง นิยมนำ�ทองเหลืองมาเผาจน หลอมเหลวแลว้ จงึ น�ำ ไปเทลงในแบบตามลกั ษณะทตี่ อ้ งการเสรจ็ แลว้ น�ำ มาตกแตง่ สว่ นเครอื่ งโลหะทที่ �ำ จากทองแดง มกี ารน�ำ ทองแดงมาใชเ้ ปน็ โลหะเจอื หลกั สำ�หรบั ผลติ ตวั เรือนของเครอ่ื งประดบั โลหะเงนิ เจือ ตัวอยา่ งเชน่ เครอ่ื งทองเหลอื ง งานคราํ่ บาตรบา้ นบาตร ๖. เครอื่ งไม้ หมายถงึ งานฝมี อื ชา่ งทท่ี �ำ จากไมซ้ งุ หรอื ไมแ้ ปรรปู เปน็ ทอ่ น เป็นแผ่น เพื่อใช้ในงานช่างก่อสร้างประเภทเคร่ืองสับ เครื่องเรือน เครื่องบูชา เครอื่ งตง้ั เครอ่ื งประดบั เครอ่ื งมอื เครอ่ื งใช้ เครอื่ งศาสตรา เครอื่ งดนตรี เครอื่ งเลน่ และยานพาหนะ โดยอาศัยเทคนิควิธกี ารแกะ สลกั สับ ขุด เจาะ กลึง ถาก ขูด และขดั ตัวอยา่ งเช่น เรอื กอและ เกวยี นสลกั ลาย เรอื นไทยพน้ื บ้าน ๗. เครื่องหนงั หมายถึง งานหตั ถกรรมพืน้ บา้ นท่ที ำ�มาจากหนงั สัตวโ์ ดย ผ่านกระบวนการหมักและฟอกหนังเพื่อไม่ให้เน่าเป่ือย และให้เกิดความน่ิมนวล 10 คูม่ อื การเสนอขอข้นึ ทะเบียนมรดกภูมปิ ญั ญาทางวัฒนธรรมของชาติ
สามารถบบี งอไดต้ ามทตี่ อ้ งการ เครอื่ งหนงั นยิ มน�ำ ไปใชใ้ นงานดา้ นศลิ ปะการแสดง รวมถึงอปุ กรณอ์ นื่ ๆ ท่มี หี นงั เป็นส่วนประกอบ ตัวอยา่ งเชน่ รูปหนังตะลุง รปู หนังใหญ่ ๘. เครอื่ งประดบั หมายถงึ งานชา่ งฝมี อื ทป่ี ระดษิ ฐข์ น้ึ เพอื่ การตกแตง่ ให้ เกดิ ความงดงาม เรมิ่ ตน้ จากการใชว้ สั ดทุ หี่ าไดง้ า่ ยในทอ้ งถนิ่ นำ�มาผลติ และพฒั นา ขนึ้ เร่ือยๆ โดยใช้อญั มณแี ละโลหะมคี ่าต่างๆ ตัวอย่างเช่น เครื่องทองโบราณสกลุ ช่างเพชรบรุ ี ๙. งานศิลปกรรมพื้นบ้าน หมายถึง งานท่ีมีการแสดงอารมณ์สะท้อน ออกทางฝมี อื การชา่ งใหเ้ หน็ ประจกั ษเ์ ปน็ รปู ธรรมเพอื่ ตอบสนองตอ่ การยงั ชพี และ ความต้องการดา้ นคณุ ค่าความงาม เช่น งานเขยี น งานปั้น งานแกะสลกั งานหล่อ เปน็ ต้น ตวั อย่างเช่น สัตตภัณฑ์ลา้ นนา งานช่างดอกไม้สด บายศรี ๑๐. ผลติ ภณั ฑอ์ ยา่ งอน่ื หมายถงึ งานชา่ งฝมี อื ดง้ั เดมิ ทไ่ี มส่ ามารถจดั อยู่ ใน ๙ ประเภทแรกได้ ซงึ่ อาจเป็นงานชา่ งฝีมอื ท่ปี ระดิษฐ์หรอื ผลติ ข้นึ จากวสั ดใุ น ท้องถ่ินหรอื จากวัสดุเหลอื ใช้ เปน็ ตน้ ตัวอย่างเชน่ เครือ่ งแตง่ กายมโนหร์ า ๓. วรรณกรรมพื้นบา้ น ความหมาย วรรณกรรมที่ถ่ายทอดอยู่ในวิถีชีวิตชาวบ้าน โดยครอบคลุมวรรณกรรม ที่ถ่ายทอดโดยวธิ กี ารบอกเล่า และทเี่ ขยี นเป็นลายลักษณอ์ ักษร ประเภท ๑. นิทานพ้นื บา้ น หมายถึง เรื่องเล่าท่สี บื ทอดต่อๆ กนั มา เช่น นิทาน จกั รๆวงศๆ์ นทิ านศาสนา นทิ านคติ นทิ านอธบิ ายเหตุ นทิ านเรอ่ื งสตั ว์ นทิ านเรอ่ื งผี มุขตลก นทิ านเรื่องโม้ นิทานเขา้ แบบ ตวั อย่างเชน่ นทิ านสงั ข์ทอง นิทานขนุ ช้างขุนแผน นทิ านวรวงศ์ คู่มือการเสนอขอข้ึนทะเบียนมรดกภูมปิ ญั ญาทางวัฒนธรรมของชาติ 11
๒. ตำ�นานพื้นบ้าน หมายถึง เร่ืองเล่าเก่ียวกับประวัติความเป็นมาของ สถานที่ บคุ คล ศาสนวตั ถุ และศาสนสถานทสี่ �ำ คญั ๆ ในทอ้ งถนิ่ ตา่ งๆ และเรอื่ งเลา่ ทีอ่ ธบิ ายความเป็นมาของความเช่ือและพธิ กี รรมในท้องถน่ิ ตา่ งๆ ตัวอย่างเชน่ ต�ำ นานพระร่วง ตำ�นานเจา้ แมล่ ้มิ กอเหนีย่ ว ๓. บทสวดหรือบทกลา่ วในพิธกี รรม หมายถงึ คำ�สวดทีใ่ ชป้ ระกอบใน พธิ กี รรมตา่ งๆ เชน่ บทท�ำ ขวญั ค�ำ บชู า ค�ำ สมา ค�ำ เวนทาน บทสวดสรภญั ญ์ คาถา บทอานิสงส์ บทประกอบการรกั ษาโรคพนื้ บา้ น ค�ำ ใหพ้ ร คำ�อธษิ ฐาน ฯลฯ ตัวอยา่ งเชน่ บทเวนทาน บทท�ำ ขวญั ชา้ ง บททำ�ขวญั ขา้ ว ๔. บทร้องพ้ืนบ้าน หมายถึง คำ�ร้องท่ีถ่ายทอดสืบต่อกันมาในโอกาส ต่างๆ เช่น บทกล่อมเดก็ บทร้องเล่น บทเก้ยี วพาราสี บทจอ๊ ย ค�ำ เซง้ิ ฯลฯ ตัวอย่างเช่น เพลงแหน่ างแมว กาพย์เซ้งิ บง้ั ไฟ ๕. สำ�นวน ภาษิต หมายถึง คำ�พูดหรือคำ�กล่าวท่ีสืบทอดกันมา มักมี สมั ผสั คลอ้ งจองกนั เชน่ โวหาร คำ�คม ค�ำ พงั เพย ค�ำ อปุ มาอปุ ไมย คำ�ขวญั คตพิ จน์ คำ�สบถสาบาน ค�ำ สาปแชง่ ค�ำ ชม คำ�คะนอง ฯลฯ ตวั อยา่ งเชน่ ผญาอสี าน ๖. ปริศนาคำ�ทาย หมายถึง คำ�หรือข้อความท่ีตั้งเป็นคำ�ถาม คำ�ตอบ ทสี่ ืบทอดกันมา เพื่อให้ผตู้ อบไดท้ ายหรือตอบปัญหา ตัวอย่างเช่น ค�ำ ทาย ปัญหาเชาวน์ ผะหมี ๗. ต�ำ รา หมายถึง องคค์ วามรทู้ ี่มีการเขียนบนั ทกึ ในเอกสารโบราณ เชน่ ต�ำ ราโหราศาสตร์ ตำ�ราดลู กั ษณะคนและสัตว์ ต�ำ รายา ฯลฯ ตวั อยา่ งเชน่ ตำ�ราศาสตรา ตำ�ราพรหมชาติ ตำ�ราพชิ ัยสงคราม 12 คูม่ อื การเสนอขอข้นึ ทะเบยี นมรดกภูมปิ ัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ
๔. กีฬาภูมิปญั ญาไทย ความหมาย การเล่น การกฬี า และศลิ ปะการตอ่ สปู้ ้องกนั ตัว ท่ีมกี ารปฏิบัตกิ ันอยู่ใน ประเทศไทยและมเี อกลักษณส์ ะท้อนวิถไี ทย ประเภท ๑. การเล่นพื้นบ้าน หมายถึง กิจกรรมการเคลื่อนไหวทางกายที่ทำ� ด้วยความสมัครใจ ตามลักษณะเฉพาะของท้องถ่ิน เพื่อให้เกิดความสนุกสนาน เพลิดเพลนิ เกดิ ความรกั และความสามัคคีในหมู่คณะ ตัวอย่างเช่น แนดข้ามส้าว เสือข้ามห้วย หมากเก็บ แย้ลงรู ต่ีจับ วา่ วไทย ไม้หม่ึ เสอื กินววั กาฟกั ไข่ หนอนซอ้ น ๒. กีฬาพื้นบ้าน หมายถึง การเล่นที่มีลักษณะแข่งขันมีผลแพ้ชนะ โดยมีกฎกตกิ าท่ีเป็นลกั ษณะเฉพาะถิน่ ตวั อยา่ งเช่น หมากรุกไทย มวยตบั จาก ตะกรอ้ แขง่ เรือ ตไี ก่คน ๓. ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว หมายถึง วิธีการหรือรูปแบบการต่อสู้ท่ี ใช้ร่างกายหรืออุปกรณ์ โดยได้รับการฝึกฝนตามวัฒนธรรมท่ีได้รับการถ่ายทอด กนั มา ตัวอย่างเชน่ มวยไทย กระบ่ีกระบอง มวยโบราณสกลนคร ๕. แนวปฏิบัติทางสงั คม พิธีกรรมและงานเทศกาล ความหมาย การประพฤตปิ ฏบิ ตั ใิ นแนวทางเดยี วกนั ของคนในชมุ ชนทส่ี บื ทอดตอ่ กนั มา บนหนทางของมงคลวถิ ี น�ำ ไปสสู่ งั คมแหง่ สนั ตสิ ขุ แสดงใหเ้ หน็ อตั ลกั ษณข์ องชมุ ชน และชาติพนั ธุน์ ั้นๆ คู่มอื การเสนอขอข้ึนทะเบยี นมรดกภูมิปัญญาทางวฒั นธรรมของชาติ 13
ประเภท ๑. มารยาท หมายถงึ การประพฤตปิ ฏิบตั ทิ ี่ดีงามต่อผอู้ นื่ ตัวอยา่ งเช่น การแสดงความเคารพแบบไทย ๒. ขนบธรรมเนยี มประเพณี หมายถงึ การประพฤตปิ ฏบิ ตั แิ ละการกระท�ำ กิจกรรมทส่ี บื ทอดตอ่ ๆ กนั มาในวิถชี ีวติ และสังคมของชมุ ชนน้ันๆ ๒.๑ ประเพณีเกย่ี วกบั ศาสนา ตวั อยา่ งเชน่ ประเพณตี กั บาตรเทโว ประเพณรี บั บวั เทศนม์ หาชาติ ๒.๒ ประเพณีเกย่ี วกับเทศกาล ตัวอย่างเชน่ สงกรานต์ ลอยกระทง ประเพณบี ุญบงั้ ไฟ ประเพณกี ารละเลน่ ผีตาโขนในงานบุญหลวง ๒.๓ ประเพณีเก่ียวกับวงจรชวี ิต ตวั อยา่ งเช่น การแต่งงานแบบไทย พิธที ำ�บญุ ต่ออายุ พธิ ไี หว้ครู พธิ ีบายศรสี ขู่ วญั พิธที ำ�ขวญั นาค ๒.๔ ประเพณีเกีย่ วกบั การทำ�มาหากนิ ตัวอย่างเชน่ พิธีกรรมขอฝน ประเพณกี องข้าวศรรี าชา พิธีบูชา แม่โพสพ ประเพณที ำ�ขวัญขา้ ว ๖. ความรูแ้ ละแนวปฏิบตั ิเกีย่ วกับธรรมชาติและจักรวาล ความหมาย องค์ความรู้ วิธีการ ทักษะ ความเช่ือ แนวปฏิบัติและการแสดงออกที่ พัฒนาขึ้นจากการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนกับสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติและ เหนอื ธรรมชาติ ประเภท ๑. อาหารและโภชนาการ หมายถงึ สงิ่ ทมี่ นษุ ยบ์ รโิ ภค รวมถงึ วธิ กี ารปรงุ และประกอบอาหาร รปู แบบการบริโภค และคณุ ค่าทางโภชนาการ ตัวอย่างเช่น สำ�รับอาหารไทย ต้มย�ำ กุ้ง ผดั ไทย ข้าวต้มมัด 14 คูม่ อื การเสนอขอขนึ้ ทะเบยี นมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรมของชาติ
๒. การแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์พื้นบ้าน ๒.๑ การแพทยแ์ ผนไทย หมายถงึ กระบวนการทางการแพทย์ เกยี่ วกบั การตรวจ วนิ จิ ฉยั บ�ำ บดั รกั ษา หรอื ปอ้ งกนั โรค หรอื การสง่ เสรมิ และฟน้ื ฟสู ขุ ภาพ ของมนุษย์และ/หรือสัตว์ ด้วยภูมปิ ัญญาการแพทย์แผนไทย ๒.๒ การแพทย์พ้ืนบ้าน หมายถึง การดูแลสุขภาพตนเองในชุมชน แบบดง้ั เดมิ โดยอาศยั ความเชอ่ื พธิ กี รรม และทรพั ยากรทแี่ ตกตา่ งกนั ไปในแตล่ ะ ท้องถน่ิ จนกลายเปน็ สว่ นหนึ่งของชวี ิต ตัวอย่างเชน่ ฤๅษดี ัดตน ลูกประคบ ยาหอม การนวดไทย ๓. โหราศาสตร์ และดาราศาสตร์ ๓.๑ โหราศาสตร์ หมายถึง ความรู้ในการทำ�นายโชคชะตา ทำ�นาย อนาคตของบุคคล และบ้านเมือง โดยอาศัยตำ�แหน่งของดวงดาวในเวลาท่ีเกิด เหตุการณ์ตา่ งๆ ๓.๒ ดาราศาสตร์ หมายถึง ความรู้ท่ีเกี่ยวกับการสังเกตและอธิบาย ธรรมชาตขิ องดวงดาวและเทหฟ์ ้า ตัวอยา่ งเช่น โหราศาสตร์ไทย ๔. การจดั การทรพั ยากรธรรมชาติ หมายถงึ ความรใู้ นการจดั การระบบ นเิ วศ เพอื่ การอนรุ ักษแ์ ละการใชป้ ระโยชนอ์ ยา่ งย่งั ยนื ตวั อยา่ งเช่น ข้าวหอมมะลิ ไก่ชนไทย คฉึ ยื่ ของกะเหร่ียง ๕. ชยั ภมู แิ ละการตง้ั ถน่ิ ฐาน หมายถงึ ความรแู้ ละความเชอ่ื ในการเลอื ก ทอ่ี ยอู่ าศัย ทสี่ อดคลอ้ งกบั สภาพแวดล้อม และวฒั นธรรมของชุมชน ตวั อย่างเช่น ดอนปตู่ า คู่มือการเสนอขอขึน้ ทะเบยี นมรดกภูมปิ ัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ 15
๗. ภาษา ความหมาย เคร่ืองมือท่ีใช้ส่ือสารในวิถีการดำ�รงชีวิตของชนกลุ่มต่างๆ ซ่ึงสะท้อน โลกทัศน์ ภมู ปิ ัญญา และวฒั นธรรมของแตล่ ะกลุม่ ชน ทั้งเสียงพดู ตัวอักษร หรือ สัญลกั ษณท์ ่ใี ชแ้ ทนเสียงพดู ประเภท ๑. ภาษาไทย หมายถึง ภาษาประจำ�ชาติ หรือภาษาราชการท่ีใช้ใน ประเทศไทย ๒. ภาษาทอ้ งถนิ่ หมายถงึ ภาษาทใ่ี ชส้ อ่ื สารในทอ้ งถนิ่ ใดทอ้ งถน่ิ หนงึ่ และ มกั เปน็ ภาษาแมข่ องคนในทอ้ งถนิ่ นน้ั ในประเทศไทยมภี าษาทอ้ งถนิ่ ทง้ั ทเี่ ปน็ ภาษา ตระกูลไทและภาษาตระกูลอ่ืนๆ แบ่งออกเป็น ภาษาไทยถ่ินตามภมู ิภาค ซ่งึ เป็น ภาษาทใ่ี ชส้ อื่ สารในแตล่ ะภมู ภิ าคของประเทศไทย เชน่ ภาษาไทยกลาง ภาษาไทยถน่ิ อีสาน ภาษาไทยถิ่นเหนือ ภาษาไทยถ่ินใต้ และภาษาชาตพิ นั ธุ์ ซึง่ เปน็ ภาษาทใ่ี ช้ สอื่ สารในชมุ ชนทอ้ งถน่ิ ตา่ ง ๆ ของประเทศไทย เชน่ ภาษาเขมรถน่ิ ไทย ภาษาชอง ภาษามอแกน ภาษาญอ้ ภาษาผไู้ ท ภาษาไทยเบง้ิ /เดง้ิ หรอื ภาษาไทยโคราช เปน็ ตน้ ๓. ภาษาสญั ลกั ษณ์ หมายถงึ ภาษาทใ่ี ชต้ ดิ ตอ่ สอ่ื สารดว้ ยภาษามอื ภาษา ทา่ ทาง หรือเครอื่ งหมายต่างๆ เป็นต้น 16 คู่มอื การเสนอขอขน้ึ ทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวฒั นธรรมของชาติ
การขนึ้ ทะเบยี นมรดกภูมิปัญญาทาง วฒั นธรรมของชาติ เหตผุ ลสำ�คญั ของการประกาศขึน้ ทะเบยี นมรดกภมู ิปญั ญา ทางวฒั นธรรม ในยคุ ทโี่ ลกก�ำ ลงั เปลย่ี นแปลงอยา่ งรวดเรว็ เชน่ ปจั จบุ นั สง่ิ ทเี่ ปน็ ภมู ปิ ญั ญา ของมนุษยชาติ กำ�ลังถูกคุกคามจากอันตรายต่างๆ ทั้งด้วยการถูกครอบง�ำ จาก วัฒนธรรมตา่ งชาติ การฉกฉวยผลประโยชนจ์ ากผ้ทู ม่ี ีเทคโนโลยีทเ่ี หนอื กวา่ หรอื การนำ�ภูมิปัญญาของกลุ่มชนหนึ่งๆ ไปใช้อย่างไม่เหมาะสม ไม่มีการแบ่งปัน ผลประโยชน์ ซงึ่ ปจั จยั ตา่ งๆ เหลา่ นี้ สง่ ผลใหก้ ลมุ่ ชนทไี่ ดร้ บั ผลกระทบถกู ครอบง�ำ จนเกิดการสูญเสียอัตลักษณ์ และสูญเสียภูมิปัญญาที่เป็นองค์ความรู้ของตนไป อย่างรู้เท่าไมถ่ งึ การณ์ การประกาศขน้ึ ทะเบยี นมรดกภมู ปิ ัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ จงึ เปน็ หนทางหน่ึงในการปกป้องคุ้มครอง และเป็นหลักฐานสำ�คัญของประเทศในการ ประกาศความเป็นเจ้าของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมต่างๆ ในขณะท่ียังไม่มี มาตรการทางกฎหมายท่ีจะคุ้มครองมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ รวมทงั้ ในอนาคต หากประเทศไทยไดเ้ ขา้ เปน็ ภาคสี มาชกิ อนสุ ญั ญาวา่ ดว้ ยการสงวน รักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ก็จะเป็นโอกาสอันดีย่ิงในการเผยแพร่ ชอ่ื เสยี งเกยี รตภิ มู ขิ องประเทศชาตใิ หป้ รากฏในเวทโี ลก เชน่ เดยี วกบั ประเทศตา่ งๆ ท่ีเปน็ ภาคีสมาชกิ แลว้ วตั ถุประสงคก์ ารประกาศขึน้ ทะเบียน ๑. เพื่อบันทึกประวัติความเป็นมา ภูมิปัญญา และอัตลักษณ์ของมรดก ภมู ิปัญญาทางวัฒนธรรม คู่มือการเสนอขอข้นึ ทะเบยี นมรดกภูมิปญั ญาทางวัฒนธรรมของชาติ 17
๒. เพอื่ เปน็ ฐานขอ้ มลู ส�ำ คญั เกย่ี วกบั มรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรมทอ่ี ยู่ ในอาณาเขตของประเทศไทย ๓. เพอ่ื เสรมิ สรา้ งบทบาทส�ำ คญั และความภาคภมู ใิ จของชมุ ชน กลมุ่ คน หรือบคุ คล ทเ่ี ป็นผถู้ อื ครองมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรม ๔. เพอ่ื สง่ เสริมและพัฒนาสทิ ธิชมุ ชนในการอนรุ ักษ์ สบื สาน ฟน้ื ฟู และ ปกปอ้ งคมุ้ ครองมรดกภูมปิ ญั ญาทางวัฒนธรรมของท้องถนิ่ และของชาติ ๕. เพื่อรองรับการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาเพื่อการสงวนรักษามรดก วฒั นธรรมทจ่ี ับต้องไม่ได้ของยเู นสโก ประโยชนท์ ผี่ สู้ บื ทอด/ผถู้ อื ครองจะไดร้ บั จากการขนึ้ ทะเบยี น มรดกภูมิปญั ญาทางวัฒนธรรมของชาติ ๑. การสนับสนุนด้านวิชาการและการพัฒนาบุคลากรท่ีรับผิดชอบ ทางด้านวัฒนธรรม รวมท้ังการฝึกอบรมแก่บุคคลท่ีสืบสานมรดกภูมิปัญญาทาง วฒั นธรรมของชาติ ๒. การสนับสนุนด้านการประชาสัมพันธ์ทางด้านการอนุรักษ์มรดก ภูมิปญั ญาทางวฒั นธรรมของชาติ ๓. การสนบั สนนุ และสง่ เสรมิ การสบื ทอดมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรม ของชาติ กรอบเวลาการดำ�เนินงานขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทาง วัฒนธรรมของชาติ ระยะที่ ๑ เตรียมการและยน่ื แบบเสนอขอขึ้นทะเบียนฯ ตุลาคม - ธนั วาคม ๑. ผมู้ สี ทิ ธยิ น่ื ค�ำ ขอจดั ท�ำ ขอ้ มลู สาระส�ำ คญั โดยการมีส่วนร่วมของผู้สืบทอดและ ผถู้ อื ครองมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรม และเสนอผ่านสำ�นักงานวัฒนธรรม จงั หวัด 18 คู่มือการเสนอขอขนึ้ ทะเบยี นมรดกภูมิปญั ญาทางวัฒนธรรมของชาติ
มกราคม - มนี าคม ๒. สำ�นักงานวัฒนธรรมจังหวัดพิจารณา รายการมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรม ที่อยู่ในพ้ืนท่ีเพ่ือขอเสนอข้ึนทะเบียน มรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรมของชาติ ๓. ก�ำ หนดหมดเขตการยน่ื แบบเสนอขอขนึ้ ทะเบียนฯ ต่อกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เพ่ือรับการพิจารณา ท้ังนี้ แบบเสนอ ขอขึ้นทะเบียนฯ ที่ได้รับหลังจากนี้ จะได้รับการพจิ ารณาในรอบปีตอ่ ไป ระยะที่ ๒ พจิ ารณาตรวจสอบขอ้ มลู เมษายน - พฤษภาคม ๑. ประชุมคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ มรดกภมู ิปัญญาทางวฒั นธรรม ๒. ตรวจสอบข้อมูลสาระสำ�คัญของมรดก ภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรมโดยการมสี ว่ น รว่ มของผถู้ อื ครองและผูท้ เ่ี ก่ยี วขอ้ ง ๓. ประชุมคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ มรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรม (คดั เลอื ก) มิถุนายน - กรกฎาคม ๔. ประชุมคณะกรรมการอำ�นวยการ ขน้ึ ทะเบยี นมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรม ของชาติ เพอื่ รบั รองผลการพิจารณา ระยะที่ ๓ ประกาศข้ึนทะเบียนมรดกภมู ิปญั ญาทางวฒั นธรรมของชาติ สิงหาคม - กันยายน - พธิ ปี ระกาศขน้ึ ทะเบยี นมรดกภมู ปิ ญั ญา ทางวฒั นธรรมของชาติ คู่มอื การเสนอขอขน้ึ ทะเบยี นมรดกภมู ิปัญญาทางวฒั นธรรมของชาติ 19
20 ค่มู ือการเสนอขอข้นึ ทะเบยี นมรดกภมู ปิ ัญญาทางวฒั นธรรมของชาติ ข้นั ตอนการขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ สภสาว�ำ นัฒกั นงธารนรวมัฒจังนหธวรรดั มแจลงั ะหชวมุัดชน กกรมระสทง่ รเสวรงิมววฒั ฒั นนธธรรรมรม มรคดณกะภกูมรปิ รญัมกญาารทผ้ทูางรวงัฒคุณนธวรฒุ ริม คณมะรกดรกรมภกูมาปิ รัญอ�ำญนาวทยากงาวรัฒขนึ้นธทระรเมบียน ๑. พิจารณารายการเพื่อขอเสนอ ๒. รับข้อเสนอเพื่อขอข้ึนทะเบียน ๓. พมริจดากรภณูมาิปคัญัดเญลาือทการงาวยัฒกนาธรรเรพมื่อขขอ้ึนงทชาะตเบิ ียน ข้ึนทะเบียนมรดกภูมิปัญญา มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ๔. จดั ท�ำ ขอ้ มลู สาระส�ำ คญั ประกอบการขนึ้ ทะเบยี น ทางวฒั นธรรมของชาติ ของชาติ มรดกภูมิปญั ญาทางวฒั นธรรมของชาต ิ ๖. ขชภมผส้าู้ำที�อูสมตห่่ีเมวิปก ิ รนูลัญี่ยับรสวญ่กวาขมาาร้อรทะขงขสอา้ึนใำง�งนวทผคกัฒู้ัถญะาือเนรใบคหตธียรร้รสนอวรมมจมงบสแรขูรอดลอณบกะง์ ๕. ตทระวเบจยี สนอมบรขด้อกมภูลูมปิสาญั รญะาสทำ�าคงัญวัฒปนระธรกรอมบขกอางชรขาต้ึนิ ๙. รทวัฒับะเทนบธรียรานรบมมแขรลอดะงกชแภาจูตม้งิิปผัญลกญาารทขาึ้นง ๘. นำ�เสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ๗. รภับูมริปอญั งญผลาทกาางรวขฒั ึ้นนทธะรเรบมียขนอมงรชดาตกิ วั ฒ น ธ ร ร ม ล ง น า ม ใ น ป ร ะ ก า ศ ขึ้ น ทะเบยี นมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรม ของชาต ิ ๑๐. จัดพิธีประกาศขึ้นทะเบียนมรดก ภมู ิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ๑๑. เผยแพรส่ อื่ สง่ิ พมิ พแ์ ละวดี ที ศั นม์ รดก ภมู ปิ ัญญาทางวฒั นธรรมของชาติ ๑๒. ส่งเสริมสนับสนุนการถ่ายทอดและ ก า ร สื บ ท อ ด ม ร ด ก ภู มิ ปั ญ ญ า ท า ง วัฒนธรรมของชาติ (ทุนอุดหนุน หรือ จดั ทำ�โครงการ)
เกณฑก์ ารขน้ึ ทะเบยี นมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรมของชาติ กรมส่งเสริมวัฒนธรรมได้ก�ำ หนดเกณฑ์การข้ึนทะเบียนมรดกภูมิปัญญา ทางวัฒนธรรมของชาติ โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิท่ีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม แต่งต้ังจะพิจารณาตามเกณฑ์การประกาศข้ึนทะเบียนเฉพาะของแต่ละสาขา ซ่ึงเกณฑ์มีความสอดคล้องคลา้ ยคลงึ กันประเด็นส�ำ คัญ ประกอบด้วย ๑. เปน็ มรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรมทอี่ ยใู่ นอาณาเขตประเทศไทยและ ทย่ี งั ปฏบิ ตั ิอยู่ในวถิ ชี ีวติ โดยมลี ักษณะดังน้ี ๑.๑ รายการท่ีมีลักษณะเฉพาะในชุมชน ท้องถิ่น ที่เสี่ยงต่อการ สูญหาย ใกลข้ าดผู้สืบทอด ๑.๒ รายการทมี่ ลี กั ษณะเฉพาะในชมุ ชน ทอ้ งถน่ิ ทย่ี งั มผี สู้ บื ทอดและ ปฏบิ ตั ิอยู่ ๑.๓ รายการทม่ี อี ตั ลักษณ์ชัดเจนและมีการปฏบิ ตั ิ สบื ทอดโดยทว่ั ไป หรืออยา่ งกว้างขวาง ๒. มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และมีคุณลักษณะบ่งบอกความเป็น มรดกภมู ปิ ัญญาทางวัฒนธรรมของท้องถน่ิ หรอื ของประเทศชาติ ๓. มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ วชิ าการ ศิลปะ คุณค่าทางจติ ใจ คุณค่า เชิงสรา้ งสรรค์ หรอื ผลงานควรค่าแก่การรกั ษาไว้ ๔. มกี ารบนั ทกึ หลกั ฐานหรอื สามารถอา้ งองิ /สบื คน้ องคค์ วามรภู้ มู ปิ ญั ญา ดง้ั เดิมของวฒั นธรรม ๕. มีความจ�ำ เป็นเร่งด่วนท่ีต้องอนุรักษ์ไว้มิให้เกิดการสูญหายหรือน�ำ ไป ใชอ้ ยา่ งไมเ่ หมาะสม คมู่ ือการเสนอขอขึน้ ทะเบียนมรดกภูมปิ ัญญาทางวฒั นธรรมของชาติ 21
การยืน่ ค�ำ ขอเสนอรายการมรดก ภมู ปิ ัญญาทางวัฒนธรรม เพื่อขึน้ ทะเบียนมรดกภมู ิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ๑. ผมู้ ีสทิ ธิยน่ื ค�ำ ขอ ๑.๑ บคุ คล ๑.๒ ชุมชน ๑.๓ สมาคม มูลนธิ ิ ๑.๔ มหาวิทยาลยั ๑.๕ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ๑.๖ หน่วยงานภาครัฐ ๒. ขนั้ ตอนการด�ำ เนินงาน ๒.๑ ในกรณีท่ีเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมท่ีมีลักษณะเฉพาะ ในชุมชนหรือทอ้ งถ่นิ ให้ส่งคำ�ขอเสนอขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ของชาติให้กับสำ�นักงานวัฒนธรรมจังหวัดในจังหวัดที่ผู้ยื่นขอพำ�นักอยู่ เพอื่ ใหส้ �ำ นกั งานวฒั นธรรมจงั หวดั รวบรวม จดั ท�ำ ทะเบยี น และสง่ ใหก้ รมสง่ เสรมิ วฒั นธรรมตามระยะเวลาที่ก�ำ หนดไว้ ทั้งน้ี ท่ีอยู่ของส�ำ นกั งานวัฒนธรรมจังหวัด สามารถสบื คน้ ได้จากเว็บไซต์ www.m-culture.go.th ๒.๒ ในกรณีที่เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่มีการปฏิบัติและ สืบทอดโดยท่ัวไป ให้ส่งคำ�ขอเสนอขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ของชาติให้กับกรมสง่ เสรมิ วัฒนธรรมตามระยะเวลาทีก่ �ำ หนดไว้ 22 คูม่ อื การเสนอขอขึ้นทะเบียนมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรมของชาติ
วงเลบ็ หนา้ ซอง(ขอเสนอขน้ึ ทะเบยี นมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรม ของชาติ) ส่งมาท่ ี สถาบนั วฒั นธรรมศกึ ษา กรมสง่ เสริมวัฒนธรรม เลขที่ ๑๔ ถนนเทยี มร่วมมติ ร เขตหว้ ยขวาง กรุงเทพฯ ๑๐๓๑๐ ๓. เอกสารที่ใช้ยื่นคำ�ขอ ๓.๑ เอกสารหมายเลข ๑ : ขอ้ มลู สาระส�ำ คญั ของมรดกภมู ปิ ญั ญาทาง วัฒนธรรม ๓.๒ เอกสารหมายเลข ๒ : รายช่ือกลุ่มผู้ปฏิบัติสืบทอดมรดก ภูมปิ ญั ญาทางวัฒนธรรม ๓.๓ เอกสารหมายเลข ๓ : การยนิ ยอมการเสนอขอขน้ึ ทะเบยี นมรดก ภมู ปิ ญั ญาทางวัฒนธรรมของชาติ ๓.๔ ซีดี หรอื ดวี ีดี บรรจขุ ้อมูลเอกสารหมายเลข ๑ – ๓ ๓.๕ ซีดี หรือ ดีวีดี บรรจุวีดิทัศน์เกี่ยวกับมรดกภูมิปัญญาทาง วัฒนธรรมทย่ี นื่ ขอขึน้ ทะเบียนฯ (ถา้ ม)ี ท้ังนี้ แบบคำ�ขอเสนอขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ของชาติ สามารถดาวนโ์ หลดไดท้ างเว็บไซต์ http://ich.culture.go.th ๔. รายละเอยี ดการกรอกค�ำ ขอเสนอข้ึนทะเบยี น เอกสารหมายเลข ๑ : ข้อมูลสาระส�ำ คญั ของมรดกภูมิปญั ญาทางวัฒนธรรม ๑. ชื่อรายการ หมายถึงช่ือท่ีรู้จักโดยท่ัวไปในชุมชน หรือเป็นช่ือ ทเี่ ป็นที่ร้จู กั โดยกวา้ งขวาง ทงั้ น้ี หากมี ชอื่ เรยี กในทอ้ งถน่ิ ใหร้ ะบุไวด้ ้วยเชน่ กัน ๒. สาขา ผู้เสนอจะต้องบ่งช้ีได้ว่ามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ที่เสนอขอขึ้นทะเบียน โดยพิจารณาจากความหมายและประเภทของมรดก คู่มือการเสนอขอข้นึ ทะเบยี นมรดกภมู ปิ ัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ 23
ภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมทง้ั ๗ สาขา คอื ๑) ศิลปะการแสดง ๒) งานชา่ งฝีมอื ดง้ั เดมิ ๓) วรรณกรรมพืน้ บา้ น ๔) กีฬาภูมิปัญญาไทย ๕) แนวปฏบิ ตั ทิ างสังคม พิธีกรรม และงานเทศกาล ๖) ความรู้และแนวปฏิบัติเก่ียวกับธรรมชาติและ จกั รวาล ๗) ภาษา ท้งั น้ี ผู้เสนอสามารถระบุสาขาไดม้ ากกวา่ ๑ สาขา หากเห็นวา่ รายการมรดกภมู ปิ ัญญาทางวฒั นธรรมน้ี จะตอ้ งครอบคลมุ หลายสาขาถงึ จะครบ องคป์ ระกอบ ทง้ั นี้ ผ้เู สนอต้องเขยี นข้อมลู ตามกรอบของแตล่ ะสาขาทกี่ ำ�หนดไว้ ๓. ลักษณะของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม มรดกภูมิปัญญา ทางวัฒนธรรมทไ่ี ดร้ บั การขนึ้ ทะเบยี นจะอยู่ในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง คอื ๓.๑ รายการท่ีมีลักษณะเฉพาะในชมุ ชน ทอ้ งถ่นิ ทีเ่ ส่ียงตอ่ การ สญู หาย ใกล้ขาดผูส้ บื ทอด ยกตัวอยา่ งเช่น ภาษาชอุง การสกั ยา คชศาสตร์ชาวกยุ ๓.๒ รายการทม่ี ลี กั ษณะเฉพาะในชมุ ชน ทอ้ งถน่ิ ทย่ี งั มผี สู้ บื ทอด และปฏบิ ตั ิอยู่ ยกตวั อยา่ งเชน่ ประเพณแี หผ่ า้ ขน้ึ ธาตุ ต�ำ นานพญากงพญาพาน ๓.๓ รายการที่มีอัตลักษณ์ชัดเจนและมีการปฏิบัติ สืบทอด โดยท่วั ไปหรอื อย่างกวา้ งขวาง ยกตัวอย่างเช่น งานแกะสลกั ผักผลไม้ รำ�โทน งกู ินหาง ๔. สาระสำ�คัญของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมโดยสังเขป (๑ ย่อหนา้ ไม่เกนิ ๓๐๐ ค�ำ ) ๕. ประวตั ิความเป็นมา (ไมเ่ กิน ๑ หน้า) ๖. ลักษณะเฉพาะที่แสดงถึงอัตลักษณ์ของมรดกภูมิปัญญาทาง วัฒนธรรม (ไมเ่ กนิ ๓ หน้า) โดยใหม้ ีรายละเอียดครอบคลุมสาระ ดงั ตอ่ ไปนี้ ๖.๑ ศลิ ปะการแสดง - องค์ประกอบของการแสดง เชน่ ผูแ้ สดง วิธกี าร ลำ�ดบั ขั้นตอน จารตี อุปกรณป์ ระกอบ วรรณคดหี รือเร่ืองราวท่ีใช้ ดนตรี และบทเพลงประกอบ ขนบประเพณคี วามเชอ่ื ทเ่ี กย่ี วกบั การแสดง โอกาสในการแสดง 24 คมู่ ือการเสนอขอขนึ้ ทะเบียนมรดกภูมิปญั ญาทางวฒั นธรรมของชาติ
๖.๒ งานชา่ งฝมี อื ดง้ั เดมิ - กลวธิ กี ารผลติ กระบวนการ แหลง่ ผลติ ๖.๓ วรรณกรรมพน้ื บา้ น - โครงเรอ่ื ง ลกั ษณะเดน่ ถน่ิ ก�ำ เนดิ ของเรอ่ื ง ๖.๔ กีฬาภมู ิปญั ญาไทย – วธิ ีการเล่น อปุ กรณ์ สถานท่ี กติกา ๖.๕ แนวปฏบิ ัตทิ างสังคม พิธีกรรม และงานเทศกาล – แหล่ง ปฏิบตั ิ วธิ กี าร ลำ�ดบั ขัน้ ตอน อปุ กรณ์ เคร่ืองมอื เครอื่ งใช้ วาระโอกาส ๖.๖ ความรู้และแนวปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล - ความเชอ่ื ความรู้ วัสดุ กระบวนการ ๖.๗ ภาษา – ลกั ษณะเฉพาะ การใช้ภาษาในวถิ ชี ีวติ ๗. คุณค่าและบทบาทของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่มีต่อ วถิ ชี มุ ชน (๑-๒ ยอ่ หน้า ไมเ่ กนิ ๑,๐๐๐ คำ�) ๘. สถานภาพปจั จุบนั ของการถ่ายทอดความรู้และปัจจยั คุกคาม (๑-๒ ยอ่ หนา้ ไม่เกนิ ๕๐๐ คำ�) ๙. เอกสารอา้ งองิ หมายถงึ เอกสาร หนงั สอื งานวจิ ยั สง่ิ พมิ พ์ หรอื สอื่ อนื่ ใด ทผ่ี เู้ สนอใชอ้ า้ งองิ ในเอกสาร ทงั้ นี้ การอา้ งองิ มขี อ้ ก�ำ หนดตามแหลง่ ทม่ี า ของเอกสารทีน่ ำ�มาใชอ้ ้างอิงดังนี้ ๙.๑ การอา้ งอิงจากหนงั สอื ผู้แต่ง. (ปี). ชื่อเร่อื ง. สถานทีพ่ มิ พ:์ สำ�นกั พมิ พ์. ๙.๒ การอา้ งองิ จากบท/ตอนในหนงั สอื ผแู้ ตง่ . (ปที )ี่ . ชอ่ื บท/ตอน. ใน ชอ่ื บรรณาธกิ าร (บรรณาธกิ าร), ช่ือหนังสอื (หน้า). สถานทพ่ี ิมพ์: สำ�นักพิมพ.์ ๙.๓ การอ้างอิงจากบทความในวารสาร ผู้แต่ง. (ปที ีพ่ มิ พ์). ชอ่ื บทความ. ชื่อวารสาร, ปีท่ี (ฉบบั ท)ี่ , เลขหน้า. ๙.๔ การอา้ งอิงจากบทความในฐานขอ้ มูล ผ้แู ตง่ . (ป)ี . ชอ่ื บทความ. ชอื่ วารสาร, ปที ่ี (ฉบับท่ี), คู่มอื การเสนอขอขนึ้ ทะเบียนมรดกภมู ิปญั ญาทางวัฒนธรรมของชาติ 25
เลขหนา้ . สบื คน้ เมอ่ื วัน เดอื น ปี จากฐานข้อมูล ชอ่ื ฐานข้อมูล. ๙.๕ การอา้ งอิงจากบทความในหนังสือประเภทสารานกุ รม ผแู้ ตง่ . (ปีทพี่ มิ พ์). ช่อื บทความ. ใน ชื่อสารานุกรม (ฉบบั ท,่ี หน้า). สถานทพ่ี มิ พ:์ สำ�นักพิมพ.์ ๙.๖ การอ้างอิงจากเวบ็ ไซต์ ผ้แู ตง่ . (ป)ี . ชื่อเร่อื ง. สบื ค้นเมือ่ วัน เดือน, ปี, จาก ชือ่ เวบ็ ไซต์: URL ๙.๗ การอา้ งองิ จากบทความในหนงั สือพิมพ์ ผแู้ ต่ง. (ปี, เดือน วัน). ชอื่ บทความ. ช่ือหนังสือพิมพ์. หนา้ . ๑๐. บุคคลอ้างอิง หมายถงึ บคุ คลทีเ่ ปน็ ผใู้ ห้ข้อมลู หรอื เปน็ ผทู้ ่ที รงไว้ซง่ึ ความรู้เกย่ี วกบั มรดกภูมิปัญญาทางวฒั นธรรมทเ่ี สนอขอขึ้นทะเบยี น ๑๑. รปู ภาพ พรอ้ มค�ำ อธบิ ายใตภ้ าพ จ�ำ นวน ๑๐ ภาพ และบันทึกไฟลล์ ง ใน CD หรือ DVD ๑๒. ขอ้ มลู เสียง หรือ ขอ้ มูลภาพเคล่ือนไหว ควรอยใู่ นรปู แบบของ CD หรือ DVD โดยรปู แบบของการบันทกึ ทีน่ ิยมคอื WAV MP3 WMA ส�ำ หรบั เสยี ง และ AVI MPEG WMV สำ�หรับภาพเคลอ่ื นไหว ๑๓. ข้อมูลผู้เสนอขอขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ของชาติ ระบุช่ือและหน่วยงานของผู้ท่ีด�ำ เนินการจัดทำ�คำ�ขอเสนอขึ้นทะเบียน มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ พร้อมทั้งแจ้งท่ีอยู่ เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ และอีเมลส์ �ำ หรับการอา้ งองิ ๑๔. ขอ้ มลู ผปู้ ระสานงาน ก�ำ หนดผปู้ ระสานงานทก่ี รมสง่ เสรมิ วฒั นธรรม สามารถประสานสอบถามหรอื ขอขอ้ มลู เพมิ่ เตมิ พรอ้ มทง้ั แจง้ ทอี่ ยู่ เบอรโ์ ทรศพั ท์ ติดต่อและอเี มล์ 26 คูม่ อื การเสนอขอขึ้นทะเบียนมรดกภมู ปิ ัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ
เอกสารหมายเลข ๒ : รายชอื่ กลมุ่ ผปู้ ฏบิ ตั สิ บื ทอดมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรม ๑. ช่อื รายการ หมายถงึ ชื่อทีร่ จู้ กั โดยทว่ั ไปโดยชมุ ชน หรอื เป็นช่ือทเ่ี ป็น ท่รี ู้จักโดยกวา้ งขวาง และเป็นชอื่ เดียวกบั ที่เสนอไวใ้ นเอกสารหมายเลข ๑ ๒. ชอ่ื กลมุ่ ผดู้ �ำ เนนิ การหลกั เชน่ บคุ คล/ชมุ ชน/สมาคม/มลู นธิ /ิ องคก์ ร/ หนว่ ยงาน ทเี่ ปน็ ผปู้ ฏบิ ตั แิ ละสบื ทอดมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรม พรอ้ มสถานที่ ตดิ ตอ่ ๓. สถานทีต่ ดิ ตอ่ ๔. รปู แบบการดำ�เนินการสืบทอด/อนรุ ักษ์/ฟน้ื ฟู ทไ่ี ดด้ �ำ เนินการ ๔.๑ รายละเอียดกิจกรรม ๔.๒ จ�ำ นวนคนทเี่ ขา้ รว่ มกิจกรรม ๔.๓ ระยะเวลาด�ำ เนนิ การ ๔.๔ ผลทไ่ี ด้รบั จากการจดั กจิ กรรม ๕. รูปภาพการจดั กิจกรรมพรอ้ มคำ�อธิบายใตภ้ าพ จำ�นวน ๕ ภาพ ๖. รายชือ่ ผู้ได้รบั การสบื ทอดหลัก ๖.๑ รายช่ือบุคคล/หวั หนา้ คณะ/กลุ่ม สมาคม/ชมุ ชน ๖.๒ ข้อมูลส่วนตวั ท่จี ำ�เปน็ ได้แก่ อายุ/อาชีพ ๖.๓ องคค์ วามรู้ด้านท่ไี ด้รับการสบื ทอด/จำ�นวนปีทส่ี บื ทอดปฏบิ ตั ิ ๖.๔ จ�ำ นวนผทู้ ไ่ี ดร้ บั การถา่ ยทอดองคค์ วามรจู้ ากผสู้ บื ทอดหลกั ตอ่ ปี ๖.๕ สถานที่ติดตอ่ /โทรศพั ท์ คู่มือการเสนอขอข้ึนทะเบียนมรดกภูมปิ ัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ 27
เอกสารหมายเลข ๓ : การยนิ ยอมการเสนอขอข้นึ ทะเบยี นมรดกภมู ปิ ัญญาทาง วฒั นธรรมของชาติจากผสู้ บื ทอดหรอื ผูถ้ อื ครอง บุคคล กลุ่มคน หรือชุมชน หรือในบางกรณีเป็นหน่วยงานท้องถิ่นหรือ องค์กรพัฒนาเอกชนซ่ึงมีบทบาทเป็นผู้สืบทอดหรือผู้ถือครองจะต้องยินยอมการ เสนอขอขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ โดยระบุ ช่ือ-สกุล สถานภาพท่ีเกี่ยวข้องกับมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม และลงลายมือช่ือเพ่ือ รับรองข้อมูลตามเอกสารคำ�ขอเสนอขึ้นทะเบียนฯ และยินยอมให้กรมส่งเสริม วัฒนธรรมเปิดเผยข้อมูลและนำ�ไปใช้ประโยชน์เพื่อขึ้นทะเบียน และลงวันเดือน ปีทไ่ี ด้ลงนาม ทง้ั นี้ จำ�นวนของผู้รบั รองข้ึนอยู่กับดุลพนิ จิ และความเหมาะสมของ ผ้เู สนอ ๕. ตดิ ต่อสอบถาม ผ้สู นใจสามารถสอบถามขอ้ มูลเพม่ิ เติมไดท้ ี่ ๕.๑ ทางโทรศพั ท์ ๐ ๒๒๔๗ ๐๐๑๒-๔ ต่อ ๑๓๑๒ – ๑๓๑๔ ๕.๒ ทางอีเมล์ [email protected] ๕.๓ ทาง Facebook www.facebook.com/ichthailand ๕.๔ ทาง website : http://ich.culture.go.th 28 คู่มือการเสนอขอขึน้ ทะเบียนมรดกภูมิปญั ญาทางวฒั นธรรมของชาติ
๑ภาคผนวก แบบค�ำ ขอเสนอขึ้นทะเบยี นมรดก ภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ค่มู ือการเสนอขอขน้ึ ทะเบียนมรดกภมู ิปญั ญาทางวฒั นธรรมของชาติ 29
ค�ำ ขอเสนอขน้ึ ทะเบยี นมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรมของชาติ เอกสารหมายเลข ๑ : ขอ้ มลู สาระส�ำ คัญของมรดกภมู ิปญั ญาทางวัฒนธรรม ๑. ชอ่ื รายการ..................................................................................................... ชอื่ เรียกในท้องถิน่ .......................................................................................... ๒. สาขา (เลอื กไดม้ ากกวา่ ๑ ชอ่ ง ทง้ั น้ี ใหเ้ ขยี นขอ้ มลู ตามกรอบของแตล่ ะสาขา ตามข้อ ๖) ศลิ ปะการแสดง งานช่างฝมี ือดง้ั เดมิ วรรณกรรมพน้ื บ้าน กีฬาภมู ปิ ญั ญาไทย แนวปฏบิ ตั ิทางสงั คม พธิ ีกรรม และงานเทศกาล ความรูแ้ ละแนวปฏบิ ัตเิ กย่ี วกับธรรมชาติและจักรวาล ภาษา ๓. ลักษณะของมรดกภมู ปิ ญั ญาวฒั นธรรม รายการที่มลี ักษณะเฉพาะในชมุ ชน ทอ้ งถ่นิ ทเี่ สีย่ งต่อการสญู หาย ใกล้ ขาดผสู้ บื ทอด รายการทม่ี ลี กั ษณะเฉพาะในชมุ ชน ทอ้ งถน่ิ ทย่ี งั มผี สู้ บื ทอดและปฏบิ ตั อิ ยู่ รายการทม่ี อี ตั ลกั ษณช์ ดั เจนและมกี ารปฏบิ ตั ิ สบื ทอดโดยทวั่ ไปหรอื อยา่ ง กว้างขวาง ๔. สาระส�ำ คญั ของมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรมโดยสงั เขป (๑ ยอ่ หนา้ ไมเ่ กนิ ๓๐๐ คำ�) 30 คู่มือการเสนอขอขึ้นทะเบียนมรดกภมู ิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ
๕. ประวตั คิ วามเป็นมา (ไม่เกนิ ๑ หนา้ ) ๖. ลักษณะเฉพาะท่ีแสดงถึงอัตลักษณ์ของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม (ไมเ่ กิน ๓ หนา้ ) โดยให้มรี ายละเอียดครอบคลุมสาระ ดังต่อไปนี้ ศิลปะการแสดง - องค์ประกอบของการแสดง เช่น ผู้แสดง วิธีการ ลำ�ดับ ข้ันตอน จารีต อุปกรณ์ประกอบ วรรณคดีหรือเร่ืองราวท่ีใช้ ดนตรี และบทเพลงประกอบ ขนบประเพณีความเช่ือท่ีเกี่ยวกับการแสดง โอกาสในการแสดง งานช่างฝมี ือดงั้ เดิม – กลวธิ ีการผลิต กระบวนการ แหล่งผลิต วรรณกรรมพื้นบ้าน – โครงเรอื่ ง ลกั ษณะเด่น ถนิ่ กำ�เนดิ ของเร่อื ง กฬี าภมู ิปัญญาไทย – วธิ กี ารเลน่ อุปกรณ์ สถานที่ กติกา แนวปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรม และงานเทศกาล – แหล่งปฏิบัติ วิธีการ ลำ�ดับขั้นตอน อปุ กรณ์ เครอ่ื งมอื เครอ่ื งใช้ วาระโอกาส ความรู้และแนวปฏบิ ตั ิเก่ียวกบั ธรรมชาตแิ ละจักรวาล - ความเช่ือ ความรู้ วสั ดุ กระบวนการ ภาษา – ลกั ษณะเฉพาะ การใชภ้ าษาในวถิ ีชีวติ ๗. คณุ คา่ และบทบาทของมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรมทม่ี ตี อ่ วถิ ชี มุ ชน (๑-๒ ย่อหนา้ ไม่เกนิ ๑,๐๐๐ คำ�) คู่มือการเสนอขอขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวฒั นธรรมของชาติ 31
๘. สถานภาพปจั จบุ นั ของการถา่ ยทอดความรแู้ ละปจั จยั คกุ คาม (๑-๒ ยอ่ หนา้ ไม่เกนิ ๕๐๐ คำ�) ๙. เอกสารอ้างอิง ....................................................................................................................... ....................................................................................................................... ....................................................................................................................... ๑๐. บคุ คลอา้ งองิ ....................................................................................................................... ....................................................................................................................... ....................................................................................................................... ๑๑. รูปภาพ พรอ้ มคำ�อธบิ ายใตภ้ าพ จ�ำ นวน ๑๐ ภาพ ....................................................................................................................... ๑๒. ขอ้ มลู เสยี งหรอื ขอ้ มลู ภาพเคลอื่ นไหว (ระบปุ ระเภทของสอื่ ทแี่ นบมาพรอ้ ม คำ�อธิบาย) ข้อมูลเสียง ไดแ้ ก่ ขอ้ มลู ภาพเคลือ่ นไหว ไดแ้ ก่ 32 คมู่ ือการเสนอขอขนึ้ ทะเบียนมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรมของชาติ
๑๓. ข้อมูลผูเ้ สนอขอขึ้นทะเบียนมรดกภมู ิปญั ญาทางวฒั นธรรมของชาติ ชอื่ -สกลุ ........................................................................................................... หนว่ ยงาน........................................................................................................ เลขที่ ......................... อาคาร .........................หมู่ ..…….. ซอย ........................... ถนน ............................................... แขวง/ต�ำ บล .......................................... เขต/อำ�เภอ...................................... จงั หวดั ................................................... รหัสไปรษณยี ์ ................................... โทรศพั ท์ ............................................. โทรสาร ........................................ มือถือ ................................................ อีเมล์ .............................................................................................................. ๑๔. ข้อมูลผ้ปู ระสานงาน ชอื่ -สกลุ ........................................................................................................... โทรศัพท์ ...........................โทรสาร ...................... มอื ถอื ............................. อีเมล์ .............................................................................................................. คมู่ ือการเสนอขอขน้ึ ทะเบียนมรดกภูมปิ ญั ญาทางวฒั นธรรมของชาติ 33
เอกสารหมายเลข ๒ : รายชือ่ กล่มุ ผู้ปฏิบตั ิสืบทอดมรดกภมู ิปญั ญาทางวฒั นธรรม ๑. ชอ่ื รายการ..................................................................................................... ๒. ช่ือกลุ่มผู้ดำ�เนินการหลัก เช่น บุคคล/ชุมชน/สมาคม/มูลนิธิ/องค์กร/ หนว่ ยงาน ...................................................................................................................... ๓. สถานทต่ี ดิ ต่อ เลขที่ ......................... อาคาร .........................หมู่ ..…….. ซอย ........................... ถนน ............................................... แขวง/ต�ำ บล .......................................... เขต/อำ�เภอ...................................... จงั หวดั ................................................... รหสั ไปรษณยี ์ ................................... โทรศัพท์ ............................................. โทรสาร ........................................ มือถือ ................................................ อีเมล์ .............................................................................................................. ๔. รูปแบบการด�ำ เนนิ การสืบทอด/อนรุ กั ษ์/ฟ้ืนฟู ที่ไดด้ ำ�เนินการ รายละเอียด จ�ำ นวนคนที่ ระยะเวลา ผลทไ่ี ดร้ บั จาก กจิ กรรม เข้ารว่ มกจิ กรรม ดำ�เนินการ การจดั กจิ กรรม ๕. รูปภาพการจดั กิจกรรมพรอ้ มค�ำ อธิบายใต้ภาพ จ�ำ นวน ๕ ภาพ ...................................................................................................................... ...................................................................................................................... 34 คูม่ อื การเสนอขอขึ้นทะเบียนมรดกภมู ิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ
๖. รายชอื่ ผู้ได้รับการสบื ทอดหลัก คู่มอื การเสนอขอขน้ึ ทะเบยี นมรดกภูมิปญั ญาทางวฒั นธรรมของชาติ 35 รายชอื่ บุคคล/ ขอ้ มูลสว่ นตวั ท่ี องค์ความร้ดู ้านที่ จ�ำ นวนผทู้ ีไ่ ด้รบั สถานทีต่ ิดต่อ/ หัวหน้าคณะ/กล่มุ จำ�เปน็ ไดแ้ ก่ อาย/ุ ได้รบั การสบื ทอด/ การถ่ายทอด โทรศพั ท์ สมาคม/ชุมชน อาชีพ จ�ำ นวนปีทสี่ บื ทอด องคค์ วามรู้ จากผสู้ ืบทอดหลกั ปฏิบตั ิ ต่อปี
เอกสารหมายเลข ๓ : การยินยอมการเสนอขอขึ้นทะเบียน มรดกภูมิปัญญาทางวฒั นธรรมของชาติ (จากผู้สืบทอดหรือผ้ถู ือครองตามจ�ำ นวนที่พิจารณาแล้วเห็นเหมาะสม) ๑. ช่อื -สกุล........................................................................................................ สถานภาพที่เก่ียวข้องกับมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม............................. ขอรับรองข้อมูลตามเอกสารคำ�ขอเสนอขึ้นทะเบียนฯ และยินยอมให้ กรมส่งเสริมวัฒนธรรมเปิดเผยข้อมูลและน�ำ ไปใช้ประโยชน์เพื่อข้ึนทะเบียน รายการ........................................................................................................... เปน็ มรดกภมู ปิ ัญญาทางวฒั นธรรมของชาต ิ ลงช่ือ ........................................ (.......................................) วันท่ี ......................................... ๒. ชอ่ื -สกลุ ........................................................................................................ สถานภาพทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั มรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรม................................. ขอรับรองข้อมูลตามเอกสารคำ�ขอเสนอขึ้นทะเบียนฯ และยินยอมให้ กรมส่งเสริมวัฒนธรรมเปิดเผยข้อมูลและน�ำ ไปใช้ประโยชน์เพ่ือขึ้นทะเบียน รายการ........................................................................................................... เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวฒั นธรรมของชาต ิ ลงชื่อ ........................................ (.......................................) วันท่ี ......................................... หมายเหตุ : ช่อื รายการให้ตรงกับข้อมูลในเอกสารหมายเลข ๑ ขอ้ ๑ 36 คู่มอื การเสนอขอขน้ึ ทะเบียนมรดกภูมปิ ญั ญาทางวฒั นธรรมของชาติ
๒ภาคผนวก ตัวอย่างการเขยี นค�ำ ขอ ค่มู ือการเสนอขอขน้ึ ทะเบียนมรดกภูมปิ ญั ญาทางวฒั นธรรมของชาติ 37
ตัวอยา่ งที่ ๑ เอกสารหมายเลข ๑ : ข้อมลู สาระสำ�คญั ของมรดกภูมิปัญญาทางวฒั นธรรม ๑. ช่ือรายการ.............ห...น..งั..ป...ร..ะ..โ.ม...ท..ยั.................................................................... ช่ือเรยี กในทอ้ งถ่ิน..........-................................................................................ ๒. สาขา (เลอื กไดม้ ากกวา่ ๑ ชอ่ ง ทงั้ นี้ ใหเ้ ขยี นขอ้ มลู ตามกรอบของแตล่ ะสาขา ตามข้อ ๖) ศิลปะการแสดง งานช่างฝีมอื ดั้งเดิม วรรณกรรมพน้ื บ้าน กีฬาภมู ปิ ัญญาไทย แนวปฏบิ ตั ิทางสงั คม พิธีกรรม และงานเทศกาล ความรแู้ ละแนวปฏิบัตเิ กี่ยวกับธรรมชาติและจกั รวาล ภาษา ๓. ลักษณะของมรดกภูมปิ ัญญาวฒั นธรรม รายการที่มีลักษณะเฉพาะในชุมชน ท้องถ่ิน ที่เสี่ยงต่อการสูญหาย ใกลข้ าดผสู้ ืบทอด รายการทม่ี ลี กั ษณะเฉพาะในชมุ ชน ทอ้ งถน่ิ ทย่ี งั มผี สู้ บื ทอดและปฏบิ ตั อิ ยู่ รายการทมี่ อี ตั ลกั ษณช์ ดั เจนและมกี ารปฏบิ ตั ิ สบื ทอดโดยทว่ั ไปหรอื อยา่ ง กวา้ งขวาง ๔. สาระส�ำ คัญของมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรมโดยสังเขป หนังประโมทัย คือหนังตะลุงของภาคอีสาน โดยการนำ�หมอลำ�กับหนัง ตะลุงมารวมกัน คำ�ว่า “หนังประโมทัย” ท้องที่บางแห่งในภาคอีสานเรียก หนงั ปราโมทัย หรือ หนงั ปะโมทยั ซึ่งมาจากคำ�ๆ เดียวกันคือ “ปราโมทย”์ ซึ่งหมายถงึ ความบนั เทงิ ใจ ความปลม้ื ใจ ดงั นน้ั หนังประโมทยั จึงหมายถงึ หนังท่ีใหค้ วามสนุกสนาน 38 คูม่ อื การเสนอขอข้นึ ทะเบียนมรดกภมู ปิ ัญญาทางวฒั นธรรมของชาติ
๕. ประวตั ิความเป็นมา ประโมทัยหรือปราโมทัยเป็นชื่อของคณะละครร้องซึ่งในสมัย ปลายรัชกาลท่ี ๕ นนั้ การละครของไทยไดพ้ ัฒนาโรงละครเกิดขนึ้ หลายโรง ทงั้ เจา้ นายเชอ้ื พระวงศก์ ใ็ หก้ ารสนบั สนนุ โดยมลี ะครของตนเองขนึ้ หลายคณะ ฉะน้ันจงึ ไดช้ ว่ ยกันสนบั สนนุ ดัดแปลงปรับปรุงขึ้นต้ังแต่สมยั รัชกาลที่ ๕ และ นิยมแพร่หลายสืบทอดมาจนถงึ สมัยรัชกาลท่ี ๗ ละครรอ้ งในชว่ งนีแ้ บ่งออก เปน็ ๒ แบบ ตามลักษณะความเป็นมา คอื ละครรอ้ งแบบไทยเดมิ และละคร ร้องสลับพูด ผู้ให้กำ�เนิดละครร้องสลับพูด คือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ โดยทรงดัดแปลงจากละครชาวตะวันตก ให้ผู้หญงิ แสดงล้วนๆ ใช้ตลกผชู้ ายเปน็ ตวั ประกอบ ด�ำ เนนิ เร่ืองดว้ ยการรอ้ ง ผูกเรื่องแบบชีวิตสามัญชน บางครั้งเรียกละครแบบน้ีว่าละครปรีดาลัย (สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ สร้างโรงละคร ปรีดาลัยแทนโรงละครนฤมิตรซ่ึงถูกไฟไหม้ท่ีแพร่งนราถนนบ้านตะนาง แสดงในวันเสารแ์ ละวันอาทิตย์) สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศ์เธอกรมพระนราธิป ประพนั ธพ์ งศ์ ทรงเปน็ ผปู้ ระพนั ธบ์ ทและก�ำ กบั การแสดงเอง ทรงเรยี กละครรอ้ ง ของพระองคว์ า่ คณะละคร “นฤมิตร” จะเห็นได้ว่าในขณะที่ละครร้องกำ�ลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย อยนู่ น้ั เปน็ ชว่ งเวลาเดยี วกบั ทม่ี หี นงั ประโมทยั เกดิ ขนึ้ ชว่ งทค่ี ณะละครนฤมติ ร ไดเ้ ป็นละครหลวง พ.ศ. ๒๔๕๖ ห่างจากชว่ งทต่ี ้งั หนังตะลงุ คณะฟา้ บ้านทุ่ง ซง่ึ เป็นคณะแรกในอุบลราชธานี ใน พ.ศ. ๒๔๖๙ เพยี ง ๑๓ ปี ละครร้องคณะ ที่ต้ังข้ึนต่อจากคณะหลวงนฤมิตร ก็คือคณะปราโมทัยและปราโมทย์เมือง จะเห็นได้ว่าร่วมสมัยกัน จึงน่าจะเป็นไปได้ที่ทางกรุงเทพได้ต้ังคณะละคร ร้องซ่ึงเป็นของใหม่กำ�ลังเป็นท่ีนิยมในขณะนั้นข้ึนหลายคณะ ต่างก็คิดหา ชอื่ มาตง้ั คณะละครของตวั ตา่ งๆ กนั ไดม้ ผี ยู้ มื เอาชอื่ ละครคณะหนงึ่ ในสมยั นน้ั คูม่ อื การเสนอขอขน้ึ ทะเบยี นมรดกภมู ปิ ัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ 39
มาต้ังช่ือเรียกหนังตะลุงอีสานซ่ึงก็เป็นของใหม่สำ�หรับภาคอีสานเช่นกัน หนังประโมทัยแถบจังหวัดอุบลราชธานี กลุ่มพระบรมวงศานุวงศ์และ ขา้ ราชการซง่ึ มาก�ำ กบั ราชการในยคุ นน้ั จงึ น�ำ ชอ่ื คณะละครรอ้ ง คอื คณะประโมทยั มาตั้งช่ือหนังตะลุงอีสาน และเมื่อพิจารณาเชิงภาษาแล้วจะเห็นได้ว่า ประโมทยั ไมใ่ ชค่ �ำ ภาษาถน่ิ แตค่ วามหมายเหมาะเจาะทจ่ี ะน�ำ มาตง้ั ชอ่ื การละเลน่ เพ่ือความบันเทิงใจ อน่ึง การละเล่นท่ีมีชื่อให้ความหมายว่าความบันเทิงใจ บางแห่งเรียกหนังบักตื้อ หนังบักป่องบักแก้ว หนังบักปอดบักแก้ว หรือชื่อ ตามรูปตัวละครตลกท่ีสำ�คัญหรือเป็นรูปตัวละครท่ีออกประกาศเร่ืองท่ีแสดง ในคนื นั้นใหผ้ ชู้ มทราบ ๖. ลกั ษณะเฉพาะทีแ่ สดงถงึ อัตลกั ษณข์ องมรดกภูมิปัญญาทางวฒั นธรรม สำ�หรับหนังประโมทัยน้ันมีองค์ประกอบสำ�คัญดังต่อไปนี้ คือ ตัวหนัง โรงหนงั ผู้เชดิ บทพากย์ บทเจรจา ดนตรีประกอบ ตลอดจนแสงเสยี งท่ใี ช้ใน การแสดง เป็นตน้ คณะหนังประโมทัยในภาคอีสาน นิยมเรียกเป็นคณะ ในคณะหนึ่งๆ จะมผี ู้เลน่ ประมาณ ๕-๑๐ คน โดยทำ�หนา้ ที่เป็นคนเชิดหนัง คนพากย์และ เจรจา และนักดนตรีซึ่งอาจเพิ่มข้ึนตามจำ�นวนเครื่องดนตรี เคร่ืองดนตรี ประกอบด้วย กลองสองหน้า แคน กลองชุด เบส คยี บ์ อรด์ กตี าร์ ฉิ่ง และ ระนาดเอก เป็นต้น เวทีท่ีใช้แสดงจะอยู่ระดับสายตา ส่วนจอจะสูงจากเวที ประมาณ ๑ เมตร ขนาดของเวทกี ว้างประมาณ ๑.๘๐ เมตร แสงไฟท่สี อ่ งจะ ใชต้ ะเกียงโปะ๊ (เจ้าพาย)ุ ตอ่ มาใชห้ ลอดไฟประมาณ ๖๐ หรอื ๗๐ แรงเทียน ผู้เชิดและผู้พากย์เป็นคนเดียวกัน ปัจจุบันได้พัฒนาตามความนิยมของผู้ชม คือใช้ทำ�นองลำ�ซิ่งเพ่ือความสนุกสนาน เนื้อเรื่องที่ใช้แสดงมีหลายเรื่อง แต่ส่วนมากนิยมเลน่ เรอ่ื งรามเกยี รติ์ หรอื สังขส์ ินชยั 40 คมู่ อื การเสนอขอข้นึ ทะเบยี นมรดกภูมปิ ญั ญาทางวัฒนธรรมของชาติ
การไหว้ครูเป็นพิธีกรรมก่อนการแสดง เม่ือเร่ิมการแสดงต้องไหว้ครู ในจอหรอื ไหวค้ รใู นการแสดงอกี ครงั้ โดยการออกรปู พระฤๅษแี ละการออกรปู ตวั แสดงทงั้ หมด การเชดิ หนงั ประโมทยั นน้ั ผเู้ ชดิ จะยนื เชดิ เมอ่ื ผเู้ ชดิ จบั ตวั หนงั ตัวใด ผเู้ ชิดก็จะพากย์ และเจรจาตามตวั หนงั นั้นไป การพากยห์ นังประโมทัย ดว้ ยภาษาถน่ิ งา่ ยๆ วา่ “ฮอ้ งหนงั ตะลงุ ” (รอ้ งหนงั ตะลงุ ) และเรยี กการเจรจา วา่ “ความเวา้ ” (ค�ำ พดู ) บทพากยห์ นงั ประโมทยั มที งั้ ทเี่ ปน็ กลอนแปด กลอน บทละครแบบภาคกลาง และกลอนลำ�ชนิดตา่ งๆ เช่น ทางยาง ทางส้นั เตย้ เป็นต้น โอกาสในการแสดงของหนงั ประโมทยั จะแสดงตามงานเทศกาลและ งานมงคลตา่ งๆ ท่ไี ดร้ บั ว่าจา้ งใหไ้ ปแสดง ๗. คุณคา่ และบทบาทของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่มตี ่อวิถีชุมชน การแสดงของหนังประโมทัยมักจะมีการแทรกพุทธภาษิตและคติธรรม รวมทั้งแสดงให้เห็นว่าฝ่ายอธรรมย่อมพ่ายแพ้แก่ฝ่ายธรรมะ ผู้ท่ีทำ�ความ ดีแม้ตกยากก็มีผู้อุปการะ ผู้ท่ีทำ�กรรมช่ัวก็จะประสบกับภัยพิบัติ ในที่สุด หนังประโมทัยช่วยอนุรักษ์ไว้ซ่ึงศิลปวัฒนธรรมพ้ืนบ้านอันเก่ียวเนื่องกับการ แสดงของหนังประโมทัย อันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมชิ้นหน่ึงของภาคอีสาน ท่ีชี้ให้เห็นถึงอารยธรรมบางอย่างของอีสาน หนังประโมทัยเป็นมหรสพที่ ผสมผสานกนั ของศลิ ปะพน้ื บา้ นหลายแขนง นบั แตก่ ารสรา้ งรปู หนงั บทพากย์ บทเจรจา ดนตรี การร�ำ และศลิ ปะในการเชดิ ตวั หนงั สง่ิ เหล่าน้ไี ด้หลอ่ หลอม ข้ึนมาจากขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมท้องถ่ิน แล้วสะท้อนออกมาในรูป ของมหรสพที่ให้ความบันเทิง ซึ่งมีคติความคิดของผู้คนในถ่ินนั้นๆ เกี่ยวกับ เรอ่ื งตา่ งๆ สอดแทรกดว้ ย คู่มอื การเสนอขอขนึ้ ทะเบียนมรดกภมู ิปญั ญาทางวัฒนธรรมของชาติ 41
๘. สถานภาพปัจจุบันของการถา่ ยทอดความรแู้ ละปัจจยั คกุ คาม หนังประโมทัยในปัจจุบันเหลือเพียงไม่ก่ีคณะยังรับงานแสดงท่ัวไป ตามงานบุญหรอื งานประเพณีตา่ งๆ ซ่งึ ในอดตี มีเกอื บร้อยคณะในภาคอีสาน โดยหนังประโมทัยได้รับความนิยมลดลง อันเน่ืองมาจากเทคโนโลยีและ รับวัฒนธรรมใหม่ๆ เข้ามาทำ�ให้เกิดการเปล่ียนแปลงทางวัฒนธรรม แต่ยัง มีการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นในวง เนื่องจากการแสดงชนิดน้ี ยังคงได้รับความ นิยมในคนบางกลุ่มหรือบางท้องท่ีในภาคอีสาน และมีหน่วยงานราชการ สถานศกึ ษาหลายแหง่ ไดน้ �ำ การแสดงหนงั ประโมทยั ไปเผยแพรห่ รอื บรรจเุ ปน็ หลักสตู รในการเรียน ๙. เอกสารอ้างองิ เจริญชัย ชนไพโรจน์ (๒๕๒๖). ดนตรแี ละการละเล่นพ้นื บา้ นอีสาน. มหาสารคาม : มหาวทิ ยาลัยศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ มหาสารคาม. ชุมเดช เดชภิมล (๒๕๓๑). การศึกษาเรื่องหนังประโมทัยในจังหวัดร้อยเอ็ด. ปรญิ ญานพิ นธ์ ศศ.ม. มหาสารคาม : มหาวทิ ยาลัยศรีนครินทรวโิ รฒ มหาสารคาม. บญุ เจรญิ บ�ำ รุงชู (๒๕๒๓). หนงั ประโมทัยอีสาน. ปัตตานี : ปัตตานีการชา่ ง. รัถพร ซังธาดา. (๒๕๒๖). หนังประโมทัย : หนังตะลุงอีสาน. กรุงเทพฯ : ศกั ดโิ์ สภาการพิมพ.์ ๑๐.....บ......ุค....ค......ลนน....อาา....ยย..า้ ....งสช....อมุม....งิ..เร..ด....พช......ล..เ..ีศด....กั..ช....ดภ....ิ ์..ิม....ล.... .......................................................................................................................................................... 42 ค่มู ือการเสนอขอข้ึนทะเบยี นมรดกภมู ิปญั ญาทางวฒั นธรรมของชาติ
๑๑. รปู ภาพ พรอ้ มค�ำ อธิบายใต้ภาพ จำ�นวน ๑๐ ภาพ การแสดงหนังประโมทัย ตวั หนงั บักแก้ว ตวั หนังบกั ต้ือ ตวั หนังพระฤๅษี ๑๒. ข้อมลู ผู้เสนอขอขน้ึ ทะเบยี นมรดกภูมปิ ญั ญาทางวฒั นธรรมของชาติ หน่วยงาน ...............นอโ...ท...�ำา......รเย...ภ...ศ...ช...อัพ...ุม......เท...เม...ด...์ือ...๐ช......ง...๔ม...เ...ด...๓ห......ช...า...xภส......x...มิา...x...รล......คx......(xา...ม...xม...ห...x......มา......วห......ิท...า......ยส......าา......ลร......ัยค.........มา......มห.........า๔......ส...๔...า......ร๑......ค...๕...า......๐ม.........)... ....................................................................... คู่มือการเสนอขอขึ้นทะเบยี นมรดกภมู ิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ 43
Search