ปลากดั (Betta splendens Regan) จัดทาํ : กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ จดั ทาํ เอกสารอิเลก็ ทรอนกิ สโ ดย : สํานักสง เสรมิ และฝก อบรม มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร สารบัญ 2 3 U คํานํา 10 U พันธปุ ลากัด 11 U การเลย้ี งพอ แมพ นั ธปุ ลากัด 12 U ลักษณะทดี่ ขี องปลากัด 13 U ลกั ษณะทไี่ มด ขี องปลากดั 15 U ลกั ษณะสีของปลากดั 15 U วธิ กี ารเพาะพันธุ 16 U การอนบุ าลลกู ปลา 17 U โรคทพ่ี บในปลากดั และการปอ งกนั รกั ษา 19 U วธิ กี ารแปลงเพศปลากดั U เทคนิคการฝก หัดปลากดั เพื่อการแขงขันหรอื ปลาเกง
ปลากดั 2 คาํ นํา ปลากัด Betta splendens Regan เปนปลาพ้ืนเมืองของไทยท่ีนิยมเพาะเล้ียงเปนเวลาหลาย รอยปมาแลว ท้ังน้ีเพื่อไวดูเลนและเพื่อกีฬากัดปลาและเปนที่รูจักกันดีในตางประเทศมานาน เชนกัน ปจจุบันประเทศไทยมีการเพาะเลี้ยงปลากัดกันอยางแพรหลาย เน่ืองจากเปนปลาท่ีเล้ียง และเพาะพันธุไดงาย ปหนึ่ง ๆ ประเทศไทยไดสงปลากัดไปขายตางประเทศคิดเปนมูลคาไมนอย กวา 20 ลา นบาท ปลากัดพันธุด้ังเดิมในธรรมชาติ มีสีน้ําตาลขุนหรือสีเทาแกมเขียว ครีบและหางสั้น ปลา เพศผูมีครีบและหางยาวกวาปลาเพศเมียเล็กนอย จากการเพาะพันธุและการคัดพันธุติดตอกันมา นาน ทําใหไดปลากัดที่มีสีสวยงามหลายสี อีกทั้งลักษณะครีบก็แผกวางใหญสวยงามกวาพันธุ ด้ังเดิมมาก และจากสาเหตุนี้ทําใหมีการจําแนกพันธุปลากัดออกไปไดเปนหลายชนิด เชน ปลากัด หมอ ปลากดั ทุง ปลากดั จนี ปลากดั เขมร เปนตน การแพรกระจายของปลากัดพบทั่วไปทุกภาคของ ประเทศไทยอาศัยอยูใ นอา งเกบ็ นา้ํ ทะเลสาบ หนอง บงึ แองนา้ํ ลาํ คลอง ฯลฯ ในการเลี้ยงปลากัดเพื่อการตอสู มีการคัดเลือกพันธุใหมีคุณสมบัติเฉพาะที่สามารถใชใน การตอ สู โดยเรมิ่ ตนจากการรวบรวมปลาจากแหลงน้ําธรรมชาติเรียกกันวา ปลากัดปาหรือปลากัด ทุง ที่มีลําตัวคอนขางเล็กบอบบางสีน้ําตาลขุนหรือเทาแกมเขียว นํามาเพาะเลี้ยงและคัดพันธุหลาย ช่ัวอายุ จนไดปลาที่รูปรางแข็งแรง ลําตัวหนาและใหญขึ้น สีสันสวยสด เชน สีแดงเขม สีน้ําเงินเขม นํ้าตาลเขม หรือสีผสมระหวางสีดังกลาว และเรียกปลากัดท่ีไดจากการคัดพันธุเพ่ือการตอสูน้ีวา ปลากัดหมอ ปลากัดลูกหมอ หรือปลากัดไทย ตอมาไดมีผูพยายามคัดพันธุปลากัดโดยเนนความ สวยงามเพอ่ื เลย้ี งไวด ูเลน โดยคดั พันธุเพื่อใหไ ดปลาท่มี คี รีบยาว สีสวย ซงึ่ นยิ มเรียกปลากัดลักษณะ เชนนี้วา ปลากัดจีนหรือปลากดั เขมร ตา งประเทศรูจักปลากัดในนาม Siamese fighting fish
ปลากัด 3 พันธปุ ลากัด ปลากัดหมอ (Shotfin Betta Splendens) ปลากดั หมอ เปน ปลาทีไ่ ดร บั ความนยิ มเลน นยิ มเลีย้ งไวกัดกนั มาแตโบราณกาล มรี ูปราง และลาํ ตัวท่ใี หญก วาปลากดั ทงุ และลกู ผสม มปี ากใหญ ตวั ใหญ สีเขมเปนปลากดั ท่ีไดร ับ การ ยอมรับวา เปน ปลาทีม่ นี าํ้ อดนํ้าทนมากและยังกัดไดเ กง ทนทรหดไดด ี กวาปลากดั ชนดิ อื่น ๆ ดงั น้นั ปลากดั หมอจงึ เปน ปลากัดทมี่ ีผเู ลี้ยงกันมากกวา ปลากัดทุงและ ปลาลูกผสม เพราะ ความทีป่ ลากัด หมอ เปน ปลากัดที่มีเลอื ดของนกั สูเกนิ 100 และยงั มปี ระวัตกิ ารเปนนักสเู ปน ท่ีประจกั ษแ กนกั เลน ปลามาแตส มยั โบราณมาจนทุกวนั นี้ ปลากดั หมอทม่ี อี ยใู นมือ นักเลนนักเลี้ยงปลากดั เวลานี้มอี ยู 5 สดี ว ยกนั คอื 1. สนี ้ําเงิน 2. สแี ดง 3. สีประดู 4. สเี ขยี วคราม 5. สเี ทาหรือสเี หล็ก รปู รา งลกั ษณะหมอ ท่มี ชี ื่อเสียงดีและมีประวัติการกดั เกงท่ีไดพ สิ จู นก ันมาแลววาเปน ปลา กดั ทด่ี เี ลศิ ปากคม และกดั ทน มี 3 รูปลกั ษณะ คอื 1. ปลากัดหมอรูปปลาชอ น สงั เกตไดจ ากลักษณะปลาท่ีมหี นา ส้นั ลาํ ตัวหนา ชว งหวั ยาว และ โคนหางใหญ ซ่ึงได แสดงถึงความเปนปลาทม่ี พี ละกาํ ลงั มาก กัดไดร นุ แรง และมีประวตั ิการกดั ชนะ เปนอันดบั หนึง่ 2. ปลากดั หมอ รูปปลากราย สงั เกตไดจ ากลกั ษณะของปลาทีมหี นา หงอนขึน้ ลาํ ตัวสั้นและแบน เปน ปลาท่ีวา ยหรอื เคล่ือนไหวไดค ลองแคลว และกัดไดไ วซ่ึงนับ ไดวา เปน ปลากัดทมี่ ปี ระวตั ศิ าสตร การกดั ไดเั สมอเหมอื นกัน 3. ปลากัดหมอ รปู ปลาหมอสังเกตไดจากลักษณะของตัวปลาทม่ี รี ปู รางคลา ยๆกับปลากราย แต มีหนากลมและลําตวั สน้ั เปน ปลาท่เี ลาขานกนั วา เปน ปลาทที่ รหด อดทน และกดั ไดไว ถอื ไดว า เปนปลาทีมีประวตั กิ ารกัดดมี ากตวั หนง่ึ นอกจากจะดทู ร่ี ูปรา งและสีสันของปลากดั ท่ดี เี ลิศแลว และยงั จะตองดูลักษณะของปลาตรงตาม ตาํ ราแลว กจ็ ะตองมสี ี ตรงตามตาํ ราอกี และไมม เี กล็ดสีแดงแซม เลยหรอื ถาเปน ปลาออกสแี ดงเขม
ปลากัด 4 ออกดาํ กจ็ ะตอ งไมมีเกล็ดเขยี วแซมเชนกนั ปลา ท่ีมสี สี ันและรปู รางตรงตามตาํ ราเชน นีจ้ ดั วา เปน ปลาท่ีมลี กั ษณะดีเยีย่ มปลากดั หมอไม เหมอื นปลากัด ลูกทงุ เพราะไมอาจ จะไปชอนเอาจากรมิ คลองหนองบงึ หรอื แองตนี ควายไมไ ด เพราะปลากดั หมอ ไมไดม าจากการเพาะพันธุและคัดเลือก พนั ธทุ ด่ี ี มา หลายช่ัวอายคุ น ซึง่ ได แสดงถึงภูมิปญญาคนไทยโบราณจนไดป ลากดั ท่ีมรี ปู รา ง แขง็ แรงลาํ ตัวหนา และยงั วา ยนํา้ ไดป ราด เปรียวและมสี ีสันสวยงาม ตลอดระยะเวลา ของการคดั พนั ธุไ ดวางเปา หมาย ไวเ พอื่ ท่จี ะใหไดปลาเพ่อื การตอ สูโดยเฉพาะ เพราะ ฉะนน้ั การหาปลากดั หมอ มาเล้ยี งและผสมพนั ธขุ ึ้นเองโดยจะตอ งหาปลากดั ทงั้ ตวั ผแู ละตวั เมียที่มีความทรหดปากคมกดั เกง และยงั ตองเลอื กปลากดั หมอ พันธุแทจรงิ ๆ เพราะถาตวั หนงึ่ เปนปลากดั หมอแตอกี ตัวหนึง่ เปนพนั ธุ อ่ืนๆ ลูกท่ไี ดม า จะเปน ปลากัดลูก ผสมไป จะเสยี ทั้งราคาและศกั ดศิ์ รี ปจ จุบันไดแ บง สีของปลากดั หมอ ไว 3 ประเภท คือ 1. สีเดียว (Solid Colour) 2. สองสี (Bi-Colour) 3. หลากสี (Multi-Colour) แตโ บราณกาลน้ันปลากดั หมอถกู พฒั นาขนึ้ มาเพอ่ื กดั ในชุมชน และ ตอมาไดพัฒนาเปน การเพาะพนั ธุใ นเชงิ พาณชิ ย โดยแบงปลา กัดหมอ ออกเปน 2 ประเภท คอื ปลา เกงและปลาโหลปลาเกง คอื ปลาทีเ่ พาะพันธุขึน้ เพ่อื การพนันโดยตรง จะตอ ง เปน ปลาทก่ี ัดไดไ ว คม กัดถูกเปาหมายสําคญั และทน ทานปลาโหล คอื ปลาที่เพาะเชิงปรมิ าณ ไมเ นน ความสามารถ ในการกดั แตเ พือ่ เปน งานอดิเรกเปนหลักหรือเรยี กวา เล้ียงเอาไวดเู ลน เพลิน ๆ ตาดเี ทานั้นปจ จบุ นั ไดมีการ เพาะพนั ธุปลาหมอ เพิม่ อีก รูปแบบหนงึ่ ออกมาก็คือเพาะเพ่อื ใหไ ดสที ี่ตอ งการ เชน สีเดียว หรือสแี ปลก ๆ ซึ่งกาํ ลงั เปน ที่นิยมเพิ่มขน้ึ อยา งรวดเรว็ มาก เปน ท่เี ขา ใจกันวา ปลากดั หมอมจี ําหนา ยภายในประเทศเปนสว นใหญ แตสงออกไดไ มม ากนกั เนือ่ งจากโลกนยิ ม ตะวนั ตกไมน ิยมการกดั ปลา เพราะมองวาเปน การทรมานสัตวแ ตอยา งไรก็ตาม ปจ จุบนั มชี าวเอเซยี ไปอยใู นโลกตะวันตกกัน มากขน้ึ จึงทาํ ใหปลากดั หมอ เริม่ เปน ที่นิยมของคน เอเซยี ในตา งประเทศ และขณะเดียว กันน้นั ชาวตะวันตกทง้ั ในยโุ รปและทวปี อเมรกิ ากเ็ ริม่ ใหความ สนใจกับปลากดั หมอ กนั มากขนึ้ นาจะทําใหไ ทยมโี อกาสจะสงออกไดอ กี มากกไ็ ด
ปลากดั 5 ปลากดั ลกู ผสม (Hybrid Betta) \" ลูกสงั กะสี \" หรอื \" ลกู ตะกวั่ \" เปนช่อื ปลาทีเ่ กดิ จากการผสมพนั ธุร ะหวา งปลากัดทงุ กับ ปลาหมอผสมขามพันธุ ซงึ่ อาจจะใชพ อปลากดั ทงุ กับแมป ลากัดหมอ หรือ พอเปน ปลากัดหมอ กับ แมป ลากัดทุง เมอื่ ไดล กู ผสมออกมานกั เลี้ยงปลากดั กจ็ ะ เรยี กกนั วา ลกู สงั กะสหี รอื ลูกตะก่ัว หรือ อาจจะมีบางรายใชพอปลากดั ทงุ หรอื พอ ปลากัดหมอ กบั แมล ูกผสมเม่อื ไดลกู กจ็ ะเรยี ก วาลูก สงั กะสหี รืออาจจะมบี างที่ใชพ อเปนลูกผสมกับพอ ปลากดั ทุง หรือพอ ปลากดั หมอ เม่อื ไดลกู ออกมาก็ เรยี กวาเปนลูก ผสม เหมือนกนั เทา กับวา เมื่อใชพ อ แมปลากัดตา งเหลากนั มาผสมไดลกู เมื่อไรก็จะ เรียกวา ลูกสงั กะสี หรอื ลกู ตะกัว่ ซงึ่ กจ็ ะได ปลากัดใหมลกู ผสมทลี่ ําตวั มหี ลายสี และเปน ปลากัดท่ี มคี วามทน ทรหดและกัดไดคมและวองไวมากทีเดยี ว และเมือ่ นาํ ไปกดั กับ ปลากัดทงุ หรอื ปลากดั ปาชยั ชนะมักจะตกเปนของลกู ผสมเสียเปนสวน ใหญวา กนั วา ปลากดั ลูกผสมทม่ี ปี ระวตั ิ การกดั เกง กวา ปลาอน่ื ในบรรดาพวกปลากัดลกู สังกะสีดว ยกนั มกั จะเปน ปลากดั ลกู ผสมรปู ปลาชอน ซง่ึ สามารถสังเกตไดตรง ทม่ี คี รีบยาว กระ โดงยาว และหางใหญซ ง่ึ นบั ไดวา เปนปลากดั ท่เี กงและมี รปู รางงดงามมากแตอยา งไรกด็ ี แมว า ปลากัดลูกผสมจะกัดไดเกง และ รูปรางสวยงามดมี ากก็ จริง แตน กั เลงปลากัดกน็ ิยมเลยี้ งและเพาะพันธุกนั นอย กวาปลากดั หมอ ซง่ึ ตามตํานานกลา วไววา อาจจะ เปน เพราะปลากัดลกู ผสมมีนํา้ อดนาํ้ ทนในการตอสูน อยกวา ปลา กดั หมอ และเปนทร่ี กู ันใน วงการปลากดั วา ถาเอาปลากัดลูก ผสมไปกดั กับปลากัดหมอแลว ปลากดั ลกู ผสมมกั จะเปน ฝา ยพาย แพแตอยา งไรกต็ ามก็มีบางครงั้ เหมอื นกนั ท่ี นกั เลงปลากดั บาง คนท่ีมีปลากดั ลกู ผสมตวั เกงไปกดั กับปลากดั หมอ สามารถกาํ ชัยชนะไดบา ง ซึ่งนานๆจะเปน ชัยชนะของปลากัดลูกผสม และ การท่ี ปลากดั ลูกสงั กะสี สามารถเอาชนะปลากัดลกู หมอ ไดกอ็ าจะมาจากสาเหตทุ ีป่ ลากัดหมอตัวนน้ั มี อายุออนวัยกวาปลากัดลกู ผสม หรอื มขี นาดลําตัวเลก็ กวาหรอื ปลากดั หมอ เจ็บปว ย ไมสม บรู ณห รือ มสี าเหตอุ น่ื ๆอีกหลายประการ อนั เปน ตนเหตใุ หปลากัดหมอ ตองพายแพต าม สภาพคามไม สมบรู ณข องรา งกาย
ปลากัด 6 ปลากัดจนี ปลากัดจีนเปน ปลากัดพน้ื เมอื งในไทยเรานเ่ี องเกดขึ้นได เนอื่ งจากการทผ่ี นู ําปลากดั ท่ีมรี ปู รา ง สวยงามสีสนั สดสวยมา เลี้ยงเพอ่ื ความสวยงาม เลย้ี งเพอื่ ดูเลน โดย คดั พนั ธุทม่ี คี รีบยาว สสี วย และปจจบุ นั ไดม ีการพฒั นาใหหางปลากดั ตวั ผูสามารถ แผอ อกไดถ งึ 180 องศา หรอื ครึ่งวงกลม และยงั ไดพ ัฒนากา นหางจากสองแฉก ธรรมดา ใหมีจาํ นวน 5 แฉก หรอื มากกวานน้ั เพื่อเปนตวั ชว ยแผค วามกวา งของหางมากขนึ้ และยังไดพัฒนาลกั ษณะของหางใหมีสองแฉกแยกจากกนั เรียกวาหางคู (Double tail) และยงั มีอีกชนดิ หนึ่งเปน หางท่มี ีลกั ษณะบานออกเหมอื นปากอาว (Delta tail) ปจ จบุ นั เมอื งไทยไดส ามารถผลติ ปลากัดทม่ี ีสสี ัน เชน สีเขยี ว สีมวง แดง นา้ํ เงนิ ฯลฯ หรอื ผสม ระหวางสดี งั กลา ครีบตา งๆยกเวน ครีบอกย่ืนยาวออกเปนพวง โดย เฉพาะครบี ทหี่ างใหมีความยาว พอๆกับความยาวของลาํ ตัวและหัวรวมกนั แตอยา งไรก็ดี ปลากดั ทฝี่ ร่ังตะวนั ตกไดน ําไปจาก เมืองไทยไดม กี ารพฒั นาการในดา น รปู รา ง และสีสนั กันมานาน แลว จนไดป ลากดั ที่มีสีเพม่ิ มากขึน้ และมีความสวยงามมากขน้ึ โดยอาศัยเทคโนโลยเี ขา ชว ย ดวั เชน ในญีป่ นุ ไดท ํามานานเลว ในการบีบ สี ของปลาใหไ ด ตามความตอ งการดวยการใชเทคนคิ การบบี สขี องปลากดั แตกไ็ ดใ ชร ะยะเวลานาน พอสมควร ซ่งึ กวาจะ ไดปลาสที ต่ี อ งการกกต็ อ งใชเ วลา 4-5 รุน ขนึ้ ไป และยงั มกี ารใชเ ทคนคิ การฉดี ยีนสสขี องปลาทตี่ อ งการเขา ไปในปลากดั ตัวเมยี ซงึ่ เทคนิคนีต้ องใชค วามชาํ นาญและใชเทคนคิ ทาง วิทยาศาสตรเ ขา มาชวย ซึง่ ในตา ง ประเทศเชน ญ่ปี นุ ทาํ ไดแลว แตเ มืองไทย ของเรายังไมมกี ารใชวิธี นีเ้ พราะตอ งลงทนุ สงู แตผ ลผลิตที่ไดม ีความแนน อนและรวดเร็ว ซง่ึ คาดกนั วาในอนาคตอันใกลเ มอื ง ไทยคงมกี ารนําเทคนคิ ดังกลา ว เขา มาใชห รอื ไมก็จะตองใชเ ทคนคิ ในการปรับปรงุ สายพันธปุ ลากดั ดว ยวธิ ีอื่นๆมาใช สีของปลากัดจีนในปจจุบนั ไดแ ยกไวเ ปน 3ประเภทคอื 1. สีเดยี ว(Solid color) 2. สองสี (Bi-color) 3. หลากสี (Multi-Color) สเี ดยี ว หมายถงึ ปลากดั ที่มคี รบี และลําตัวเปน สเี ดยี วกันท้ังหมด โดยไมม สี อี น่ื ปะปนอยูเลย ยกเวนปลากัดสีเกยี ว เขมาดําจากปากจรดครบี หู เสนของครีบและขอบ เกล็ด ของปลาจะเปน สีใดก็
ปลากดั 7 ได สว นตะเกียบทอ งอนุโลมใหม ีสีอ่ืนได แตป ลา กดั สเี ผอื กท้งั ตวั ครบี ทองจะมสี ีอน้ื ไมไ ด ครีบหู อนุโลมใหเปนครีบเงากระจกได สองสี หมายถึงปลาทมี่ ตี วั และครีบสตี างกันโดยลาํ ตวั และครีบมสี ีเดียวที่แตกตา งกัน รวมถึงปลา ที่มลี าํ ตัวเผอื กและสี เดยี วดว ย ยกเวนเขมา จากปากจรดโคน ครีบหแู ละ เสน ของครีบของปลาจะ เปนสใี ดก็ไดต ะเกียบ(ครบี ทอ ง)อนุโลมใหม ีสอี ่ืนๆได ครบี หอู นุโลมใหเปน ครบี กระจกได หลากสี หมายถงึ ปลาทมี่ สี ขี น้ึ ไปในสว นของลาํ ตวั และหรอื มีสองสขี ้นึ ไปในสว นของครีบที่เปน กระจกถอื เปนสวนหนง่ึ สี ยกเวน เขมา ดําจากปากจรดโคน ครีบ หแู ละเสน ครบี ปลาจะเปนสีใดกไ็ ด ตะเกียบ อนโุ ลมใหมสี ีอนื่ ได ครีบของหอู นโุ ลมใหเ ปน ครบี กระจกทง้ั สองครบี ได แตอยา งไรก็ดี บางตําราแบงสอี อกเปนถงึ 6 รูปแบบคือ 1. สเี ดยี ว (Solid Colored Betta) เปน สีเดียวทัง้ ครีบและตัว 2. สผี สม (Bi-Colored Betta) สว นใหญจ ะมีสองสีผสมกัน 3. สีผสมเขมร (Cambodia Colored Betta) 4. ลายผีเส้ือ (Buterfly Colored Betta) 5. ลายผเี สือ้ เขมร (Cambodain Butterfly Colored Betta) 6. ลายหนิ ออน (Meable Colored Betta) ปจจุบันการเพาะพนั ปลากดั จนี มงุ เปา หมายเนน เพอื่ การสงออกเปน หลกั เพราะชาว ตา งประเทศชน่ื ชอบความสวยงาม ของหางทแี่ ผกวา งไดส วยงาม ตามตํานาน กลา ว วา ปลากัดจีน น้นั บรรพบุรุษ ของเราไดพฒั นาข้นึ มาเปน เวลายาวนานกวารอ ยป มาแลว เพราะฝรัง่ ไดพ ดู ถึงปลา กัดหางยาวเปน ครัง้ แรกเมอื่ ประมาณรอยปกอน แสดงวา ในประ เทศไทยเราไดพ ัฒนาปลากัดจีน มานานกวา นน้ั ปลาจีนในปจ จบุ นั ไดเ ปลยี่ นแปลงไปจากเดมิ โดยมรี ปู รางสสี นั ทสี วยงามมากขนึ้ มี ครบี หลัง ครบี หาง กนคอนขาง ยาว และพรอ ม กันก็มกี ารพฒั นาสายพันธุด วยการนําสายพันธุผ ม กนั เอง และนาํ สายพันธจุ ากตางประเทศเขามาผสมจนไดสาย ปลากดั ทสี่ วยงามกงั ท่ี เห็นกนั อยใู น ทกุ วันนี้ จากการศกึ ษาปลากดั พันธใุ หมทไี่ ดข องพบวา ทงั้ ปลากดั ครีบยาวและครีบสน้ั ตางก็อยใู น ประเภทเดยี วกนั เพราะมลี กั ษณะ โคโมโซมเดยี วกัน นอกจากนั้นยงั พบวา ปลากัด ท่มี ีครบี ยาวและ ครีบสั้นสามารถผสมพันธุกันไดั โดยทเี่ ปอรเ ซ็นตก ารฟก เปน ตวั และอตั ราการอยรู อดของลูกผสมท่ี เกิดมากไมม คี วามแตกตา งไปจากลกู ปลาท่ี เกิดจากการผสม พนั ธุระหวางปลากัดพวกเดยี วกนั แต อยา งใด
ปลากัด 8 ระยะ 2-3 ปท ่ผี านมา จากกระแสความตอ งการเล้ยี งปลาสวยงามมมี ากขนึ้ ตามลาํ ดบั ทง้ั นีอ้ าจจะเปน เพราะสภาพทางเศรษฐกิจหรอื สภาพสังคมทาํ ใหเ กิด ความ เครยี ดและหาทางออกโดยกสฃารหัน มาหาสงิ่ ท่สี วยงามหรือสงิ่ จรรโลงใจกนั มากขึ้นเพ่อื ชวยผอ น คลายอารมณก ารทาํ งานหนัก ดงั นน้ั ระยะเวลาทผ่ี า น มาสัตวนํ้าในกลุม ปลาสวยงามหลายชนดิ มอี นาคตดขี ึน้ จนทําใหผูเลี้ยงสามารถ หนั มายดึ เปน อาชีพไดแ ละทาํ รายไดใหผเู ลย้ี งไดด พี อสมควร ซงึ่ รวมถึงปลากดซงึ่ ไม เพียงแตจ ะกัด เกง เพียง อยา งเดียว แตตกม็ ี ความสวยงามชนดิ หน่งึ ทใ่ี นขณะน้สี ามารถจะกลา วไดวาปลากัดมี ความโดดเดนเปน พเิ ศษกวาสตั วน ้าํ ตัวอนื้ ๆหลายตวั กไ็ ด เพราะ ปลากัดไดร บั ความสนใจ ไปเกือบ ทุกระดับในประเทศ และยงั มตี ลาดใหญทวั่ โลกตอ งการปลากัดคณุ ภาพดีอกี มากดว ย ปลากดั เขมร (Cambodain Betta) รูปรางลกั ษณะสีสันสวยงามเชน เดียวกันกับปลากัดจีน แตจ ะมลี กั ษณะท่ีแตกตางไปจาก ปลากดั จนี ตรงทป่ี ลายครบี จะมีสีขาวเหน็ ไดช ดั ซึ่งเม่ือปลากีดจนี ไดรั บั ความนิยม มากข้ึนใน ตางประเทศจงึ ทาํ ใหปลากดั เขมรซึ่งคลายๆกบั ปลากัดจนี จงึ ไดร ับความนยิ มมากขึ้นในตา งประเทศ ดี ซึง่ เปน ผลพลอยไดจากากรท่ปี ากัดจนี มี ตลาดตา งประ เทศดีขนึ้ จึงจงู ใหปลากดั เขมร ซ่ึงมีความ สวยงามคลา ยปลากดั จีนพลอยฟาพลอยฝนไดสงออกไปดวยทุกวันน้ีการเพาะเลีย้ งปลากัดมิมุงกนั แตเพียงการ เพาะปลาเพอื่ การพนนั เหมือนแตกอ น แตไ ดม ีการหันมาเพาะ เล้ยี งเอาไวด ูเลน สวยงามเพลดิ เพลินตาดวยและเพาะเลีย้ งไวเพื่อเปนสินคา สงออกตา งประเทศกนั มาก ข้ึนซึง่ คาดกัน วาปลากัด ไทยสามารถสงขายตา งประ เทศนาํ รายไดด ีเขา ประเทศเปนอนั ดบั ตน ๆของปลาสวยงาม ไทยทั้วหมดและปลากดี เขมร ซึ่งไดเพาะ เลี้ยงในประ เทศกเ็ ปน สวนหนง่ึ ของปลาหีดจีนท่สี ง ออก เพราะวานอกจากจะ เปน ปลาทีส่ วยงาม ครบี ยาวพรวิ้ สวยงามแลว ยงั มคี ณุ สมบตั พิ เิ ศษติดตวั อยู ตลอดเวลาในเชิงการ ตอสูไ ดส รา งความตนื่ เตนใหแ กผ เู ลย้ี งไดอยา งดดี ว ยการซอื้ ขายปลากดั เขมร ยงั ไมดีเทา กนั การซ้ือขายปลากัดจีน เน่อื งจากยังไมเ ปนท่รี ูจักกันนกั หรือยงั ไมไ ดร ับความนยิ มมา กดทา กบั ปลากดั จีน จึงทําใหราคาปลากดั เขมรตา่ํ หวา ราคาปลากดั จนี มากพอสมควร แตอ ยา งไรก็ ดี การที่รปู รา งลกั ษณะ ปลากดั เขมรคลา ยกับปลากัดจีน จึงทาํ ไหห ารยอมแมวขายขน้ึ ในบางแหง ใหกับคนทตี่ าไมถึง ไมทราบความแตกตา งระหวาง ปลากดั จนี กับ ปลากัดเขมรไปในราคาเทา กับ ปลากดั จีน เพราะฉะน้ันเพอื่ ปองกัน มิใหถ กู แหกตาอกี กข็ อใหด ูปลากดั ทม่ี คี วามสวย งามเหมือนกับ ปลากดั จีน แตม ปี ลายครีบสีขาวชดั เจนกแ็ สดงวา เปนปลากัดเขมร ราคายอ มจะตองตาํ่ กวา ราคา ปลากดั จนี ซง่ึ ได รับความนยิ มกนั มากในตางประเทศ
ปลากัด 9 ปลากัดทงุ (Wild Betta) แตเ ดิมจะเรียกกันวาปลากดั ลกู ทงุ แตร ะยะหลังไดต ดั คําวา ลกู ออก เหลอื แตปลากดั ทงุ ซึง่ บางแหง ก็เรียกปลากดั ปา เปน ปลากดั ทม่ี ีลาํ ตวั คอนขา งบอบบาง มสี นี ้าํ ตาล ขนุ หรอื แถบเขยี วมี ปากคอ นขา งแหลม มฟี นซี่เลก็ แหลมคม ปลาชนิดนี้บรรดา นกั เลงปลากดั หรือมอื อาชพี เลน ปลากัด ซ่ึงเปนชาวชนบทเปน สวนใหญ นยิ มเลย้ี งไวเ พือ่ กดั แขงขัน กนั เนื่องจากปลากดั ทงุ จะกัด ไมทน เหมอื นปลากดั หมอ และลกู ผสมหรอื เรยี กกนั วาลกู สงั กะสีกต็ ามแตก็มกี ารเลยี้ งปลากัดปา ไวน อย เหมือน กันเพื่อเอาไวก ดั กบั บปลากัดปา ดว ยกนั เมื่อตัวเกงกดั ชนะตวั อ่ืนๆกเ็ กบ็ เอาไวเลย้ี ง เพาะพนั ธุเ อาลูกไวกัดตอไปแตถาตัวไหนกดั แพก ไ็ มเ กบ็ เอา ไวทาํ พันธุตอไปอีกแลว หนั ไปหาปลา ตวั ใหมม าเลย้ี งแทน ซึง่ สามารถหา ไดไ มย ากเลย การจะหาปลากดั ทงุ ตัวใหมม าทดแทนตวั เกานั้น ไมย ากเยน็ เทา ไรนกั ถาอยใู นชว งทม่ี ฝี นตกในทอ งนา ของชาวชนบท ซึ่งมีน้ําขงั อยตู ามบึง คลอง หนอง บอ ท่ัวไป และในชวงฤดฝู นปลากดั จะกอหวอดเกาะตามพนั ธุไมนํ้าตามแหลง นํ้าตาง ๆ ทีไ่ ม คอยจะลกึ นกั ซึง่ มกั จะเปนบริเวณรมิ บึงริมหนองหรอื แอง น้าํ ทีม่ นี า้ํ ต้ืน ๆ ซง่ึ จะมองเหน็ หวอด ที่ ปลากดั พนนาํ้ ลายขน้ึ มาเปน ฟอง รวมกนั เปน ฟองใหญก วาตวั ปลากดั ประมาณ 2 เทาของ ความยาว ของลําตวั ปลาและลอยขน้ึ มาเหนือผวิ น้าํ จนเห็นไดชดั และความ เหนยี วของ ฟองทรี่ วมกันจะอยูได นานมาก แมจ ะถูกน้าํ ฝนตกลงมามากแตห วอดปลากดั จะ ไมละลาย ดงั นน้ั เมอื่ เราเดนิ ไปตามริม บอหรอื รมิ หนองรมิ คลองบงึ เมื่อเห็นหวอดปลากัดอยูต รง ไหนกจ็ งมองใหด ี ๆ จะเห็น วามตี วั ปลา กดั วายวนเวยี นอยใู ตห วอด ของมันเพอื่ ใชเ ปนสถานท่ดี ึงดดู ใหต ัวเมียไปหาเพื่อจะผสมพนั ธุกัน จงึ เปนการงายมาก ทจี่ ะจบั ปลาตวั นั้น โดยใชส วิงหรือเครอ่ื งมอื อน่ื ๆ ชอนจับปลาขนึ้ มาไวเ ลย้ี ง ตอไป แตถาเปน นักเลี้ยงมอื อาชีพตามชนบททม่ี คี วาม ชํานาญในการจับปลากจ็ ะใชมือเปลาจบั ปลาขน้ึ มา ไดอยา งงา ย ดาย แลวใสภาชนะท่มี ีไวนาํ กลบั บา น หรือสถาน ท่เี ลย้ี งปลาตอไป ดว ยภูมิปญ ญาของ คนโบราณไดแ สดงออกถึงการคัดเลือกปลากดั ทงุ ท่กี ดั เกงไวเปนพอแมพันธุเพอื่ จะได ปลากัดรนุ ใหมท ่กี ัดไดเกง และชนะ ซึง่ ตาม คาํ กลา วขานเลาตอกนั มาวาตามตาํ นานน้ันระบวุ าปลากัดลูกทงุ ที่ มปี ระวัตกิ ารกดั เกง มากมอี ยู 2 รปู ลักษณะดวยกนั คอื 1. ปลากดั ทุง รปู ปลาชอ น มีลกั ษณะของลาํ ตวั ปลาท่ีกลมยาว ครบี ใหญ กระโดงใหญ ปลายหาง รปู ใบโพธิ์ ซง่ึ เปนท่ี ยอมรับกันวา เปนปลาที่ประวตั กิ ารกดั เปน เลศิ ในบรรดาปลากัดทุงดว ยกนั 2. ปลากัดทุงรปู ปลาชอ น มลี กั ษณะรูปรางเหมือนกัน แตมีความแตกตา งกนั ทีป่ ลายหางกลม ปลากัดทงุ ชนิดนกี้ ดั ได รุนแรงมาก และมีประวัตกิ ารกดั เกงพอใชไ ด เหมือนกันเนื่องจากปลากดั ทุง กัดไดไ มค อยจะทนนกั นกั เลน ปลากัดจงึ ไมคอยจะ นิยมเพาะพนั ธุร ะหวา งปลากดั ทงุ ดว ยกนั นกั แต
ปลากัด 10 จะเอาไปผสมกบั ปลากดั พันธุอื่น ๆ ไดล กู ผสมในชอ่ื ทเ่ี รียกกนั วา \" ลูกสังกะสี \" ซึง่ นกั เลนปลากดั เกา แกมักจะพดู กนั วาลูกปลาสงั กะสนี ั้นเปนปลากดั ท่กี ดั ไดค ลอ งแคลวและมีความอดทนเปนท่ีสอง รองจากปลา กดั หมอ หรอื บางตัวอาจจะดกี วา ปลากดั หมอ ดว ยซา้ํ ไป ตามตาํ นานเกา แกไดบ นั ทกึ ไวว าลกู สังกะสบี างครอก หรือบางตัวมีรปู รา งและสสี ันคลาย ปลากดั ทุงมากจนคนทต่ี าไม ถึงอาจจะมองวาเปนปลากดั ทุงได จึงมนี กั เลีย้ งนกั เลนปลากัดบางคน ถกู หลอกใหเอาปลากดั ทุงไปกดั กบั ลกู สังกะสี ก็ยอมแนนอน วา ปลากัดทงุ ตวั จริงจะตองแพพนนั เพราะปลากัดลกู สงั กะสีกัดไดเกง กวา ยอ ม จะชนะแนน อน ยกเวน แตป ลากัดทุงตัวนัน้ จะเปน ปลา กดั ทกี่ ดั ไดเกงจริง ๆ เทา นนั้ จงึ จะกัดชนะลกู สงั กะสไี ดเ หมอื นกัน แตป ลากดั ทงุ ทกี่ ดั ชนะลูกสังกะสี ไดน น้ั มนี อย ตวั เหลือเกนิ หรือแทบจะ ไมม เี ลยก็วาได แตอยา งไรกต็ าม แมในไทยจะไมค อยนยิ ม ปลากดั ปาหรอื ปลากัดทุง กต็ าม แตป ลากดั ปา กลับไมไดรับความนยิ มอยา ง ดมี ากจาก คนเอเซยี ดวยกันทีไ่ ปอาศยั อยูใ น ตางประเทศจะแสวงหาปลากดั ซ่งึ มลี ักษณะประจาํ พนั ธุทแี่ นนอน และมี การระบุแหลง ท่มี าเพราะปลากดั ปามคี ณุ ลักษณะจาํ เพาะเชน เดยี วกบั ปลาอิมแบลิสจากเกาะสมุย ไม เหมอื นกบั ปลาอิมแบลสิ ในมาเลเซยี และยัง มขี าววา ชาวเยอรมนตี องการพ้นื ทป่ี ระมาณ 100-200 ไรในประเทศเพอ่ื เพาะเลย้ี ง ปลากดั ปา ในประเทศไทยและในสิงคโปรด วย ปลากดั ปา มามากใน มาเลเซีย อนิ โดนเี ซยี บรูไน สิงคโปร และโดยเฉพาะใน อินโดนีเซีย มปี ลากัดปา หลายสายพันธุ ซง่ึ มคี วามสามารถมาก และปลากัดไทยไดพ ัฒนามาจาก ปลากดั ปา หรอื ปลากัดทงุ ซงึ่ มสี ายพันธุที่ เรยี กวา เบตตา สะเพลน็ เดน อมิ เบลสิ (Betta splendens Imbelis) มีเหงอื กเขยี ว ตะเกยี บด่งิ แดง เกลด็ เขม วาว และปลากดั ทุง ท่ีเพาะเลย้ี งกันในปจจบุ นั ไดม า จากจงั หวดั เชยี งราย เปนพันธุบ ริสุทธ์ิ ไม ถูกสายพนั ธปุ ลากดั อื่นผสมขา มพนั ธุแตอ ยา งใด การเลี้ยงพอ แมพนั ธปุ ลากดั เน่ืองจากปลากัดเปนปลาที่มีนิสัยกาวราว ชอบตอสู เมื่ออายุประมาณ 1 1/2 -2 เดือน การเลี้ยงปลากัดจึง จาํ เปนตอ งรบี แยกปลากัดเลีย้ งในภาชนะเพียง 1 ตวั กอ นท่ีปลา จะมีพฤติกรรมตอสูกัน ภาชนะท่ีเหมาะสมที่สุดควรนํามาใช เล้ียงปลากัดไดแก ขวด(สุรา) ชนิดแบนบรรจุนํ้าได 150 ซีซี เพราะสามารถเรียงกันไดไมสิ้นเปลืองเน้ือท่ี การแยกเพศจะ สังเกตเห็นวาปลาเพศผูจะมีลําตัวสีเขม ครีบยาว ลายบนลําตัว มองเห็นชัดเจนและขนาดมักจะโตกวาเพศเมีย สวนปลาเพศเมียจะมีสีซีดจาง มีลาดพาดตามยาว ลาํ ตวั 2-3 แถบ และมักจะมขี นาดเล็กกวา ปลาเพศผู นํ้าทใ่ี ชเ ลยี้ ง ปลากัดตองเปน นํา้ ท่สี ะอาดปราศจากคลอรีน มคี วามเปนกรด-ดาง (pH) ประมาณ 6.5-7.5 มคี วามกระดา ง 75-100 มิลลกิ รมั ตอลติ ร และมคี วามเปนดา ง 150-200 มิลลกิ รัมตอ ลติ ร ควรบรรจุน้ําลงในขวดเพยี ง 1/2 ขวด เพ่ือเวนชองวา งใหอากาศไดส ัมผัสกับผวิ น้าํ
ปลากัด 11 อาหารทีใ่ ชเลีย้ งปลา ปลากดั เปน ปลาท่ีชอบกนิ สัตวน้ําขนาดเล็กเปน อาหาร อาหารท่ี เหมาะสมจะใชเล้ียงพอ แมพ นั ธุปลากดั ไดแ ก ลกู นาํ้ หนอนแดง ไรสนี า้ํ ตาล (Artemia) ทีม่ ชี วี ติ การ ใหอ าหารควรใหวนั ละ 1 ครง้ั ใหปริมาณทพี่ อดีปลากินอ่ิม อาหารทใ่ี ชเลี้ยงทุกคร้ังควรลา งดว ยน้ํา สะอาด แลว แชใ นดางทับทมิ เขมขน 500-1,000 สวนในลานสวน (0.5-1.0 กรมั /ลิตร) เปนเวลา 10-20 วินาที เพ่อื ฆา เชื้อโรคทีต่ ิดมากบั อาหารหลงั จากน้ันจงึ ลา งดวยนาํ้ สะอาดอีกครงั้ หนง่ึ การถายเทนาํ้ ควรกระทาํ สัปดาหละ 1-2 คร้งั ระยะเวลาท่ีเหมาะสมในการผสมพนั ธปุ ลากัด คือ ชว งระหวา งเดอื นพฤษภาคม - กันยายน โดยอณุ หภูมนิ ํา้ ควรอยูระหวา ง 26-28 องศาเซลเซียส การคัดเลอื กพอแมพันธุ ปลาท่นี าํ มาทาํ การเพาะพนั ธุ ควรมีอายุตงั้ แต 5-6 เดือนขึน้ ไป โดยปลาจะใหไ ขค รั้งละประมาณ 500-1,000 ฟอง ในฤดูผสมพนั ธุ จะสงั เกตเหน็ ความสมบรู ณเ พศ ของปลาไดช ดั เจน ในการคดั เลือกปลาเพือ่ ผสมพันธุ มีหลกั ทค่ี วรปฏบิ ัติดังนี้ ปลาเพศผู คดั ปลาทแ่ี ขง็ แรง ปราดเปรยี ว ลักษณะสสี ดสวย ชอบสรา งรงั ซง่ึ เรียกวา “หวอด” โดยการพนฟองอากาศท่มี ีนํ้าเมอื กจากปากและลําคอผสมดว ย ซ่ึงแสดงถึงวา ปลาเพศผูมี ความสมบูรณท างเพศเต็มทพ่ี รอ มทจ่ี ะผสมพนั ธุ ปลาเพศเมีย คดั เลือกปลาทแี่ ขง็ แรง สังเกตบรเิ วณทอ งมีลกั ษณะอมู เปง แบรเิ วณใทอ ง จะมีตุมสีขาวใกลก ับรกู นเหน็ ไดชดั เจน ซ่งึ ตมุ สขี าวน้เี รยี กกันวา “ไขนํ้า” ลักษณะที่ดีของปลากดั การดูลกั ษณะปลากดั จะดูเปน 3 สว นใหญ ๆ คอื สี รปู ทรง (ครีบและลาํ ตวั ) และกรยิ า อาการ ปลาทส่ี มบูรณมีลักษณะที่ดจี ะตองมอี าการกระฉบั กระเฉง มสี ีสนั สวยงาม มคี วามสมดลุ ระหวางขนาดและลักษณะของครบี และลาํ ตวั และมคี รบี ทไ่ี ดล ักษณะสวยงาม ปลากดั มีครบี เดย่ี ว สามครีบ คือ ครบี หลงั ครบี หาง และครบี กน และมคี รบี คูสองคคู ือครบี ทอ งหรือทวนหรือตะเกยี บ และครบี อกซงึ่ อยูต ิดบรเิ วณเหงอื ก ครบี หาง เปนครบี ทมี่ รี ปู แบบหลากหลายมากท่ีสดุ รูปแบบโดยท่วั ไป สําหรับปลาหางเดย่ี ว อาจเปน หางกลม หางคร่ึงวงกลม หางรปู สามเหล่ียม หางกลมปลายแหลม หางยวย และหางรปู ใบ โพธิ์ หางทกุ แบบควรมกี ารกระจาย ของกานครีบเทากัน ระหวา งสวนบนและสวนลางของเสน ท่ีลาก ผาน แนวขนานลาํ ตัว หางควรแผเต็มสมบูรณไ ดสดั สว น ในกรณขี องปลาหางคูล ักษณะหางอาจเปน ลักษณะที่เช่อื มตอกันจนปลายหางเกือบเปน เสนตรง หรอื เวาเลก็ นอ ย หรอื เวามากเปน รูปหัวใจ หรือหางแยกทซ่ี อนทับเกยกนั หรอื หางทแี่ ยกจากกนั เต็มที่โดยไมซ อ นทบั หรอื เปน หางที่เวา ลกึ ใน ระดบั ตาง ๆ แตย ังไมแ ยกกันเดด็ ขาด
ปลากัด 12 ครบี กน ลกั ษณะครีบที่ดคี วรจะมีขอบครบี สว นหนาและสวนหลังขนานกนั และคอ ย ๆ โคง ไปทางดา นหลงั ขอบดานหนา และขอบดา นหลัง จะตอ งไมเรียวแหลมเขาหากัน ลักษณะท่ีดจี ะตอง แผกวา งทาํ มมุ และซอนทบั ดเู ปนเนอ้ื เดียวกนั กบั ครีบหาง แตไมเ ชื่อมตอ กับครีบหาง ครบี ทอง ลกั ษณะควรเหมอื นใบมีดทม่ี ดี า นคมอยดู านหลัง ขอบดานหนา โคงเขา เลก็ นอ ย ปลายแหลม ครีบทัง้ คคู วรมคี วามยาวและขนาด เทากัน และไมไ ขวก ัน ครบี จะตอ งไมส ้ันหรอื กวาง เกนิ ไป และไมยาวหรือแคบเกินไป ครีบอก ควรเปนครบี ที่สมบูรณกวางและยาว ลักษณะทีไ่ มดขี องปลากดั ลกั ษณะทีไ่ มด ขี องปลากดั ลําตวั บางยาว ถือเปนปลาทไี่ มแข็งแรง ปากเล็ก ปากบาง หวั สัน้ หวั งอนลงลา ง เครอ่ื งมาก ท่ีเรยี กวา \"เครอื่ งแจ\" เค่ืองเพชรหรอื หางเพชร ไมท าแพร คอื เปน สีท่ี แพรวพราวเกนิ ไป แตถ าเปนปลากัดพนั ธหุ มอ หรือพนั ธทุ างหไ็ มห า ม แกม แทน หมายถงึ เกล็ดที่ แกม เปนแผนใหญแ ละมสี แี พรวพราว สว นมากมกั เปนสเี ขยี ว กระโดวสแี ดง หรือทเี่ รยี กวา \"โดง แดง\" สําหรบั ปลาลูกทุง ลูกปา ถือเปน ลักษณะทไ่ี มดี คอื เปน ปลาใจนอ ย ดังคาํ หา มทีว่ า \"วัวลัน่ ดา\" ปลาโดงแดง อยา แทงมาก \" แตถาเปนปลาพันธลุ ูกหมอหรอื พนั ธุพันทางกไ็ มห าม ตาโปนหรือตา ถลน แววตาเหมอื นตาแมวหรอื ตางูสงิ เครอื่ งหนาหรอื ทเี รยี กวา เครอ่ื งทบึ เปนปลาทเี่ คลอื่ นไหวชา ไมวองไว ปราดเปรยี ว โคนหางหรือแปนเลก็ มักเปนปลาท่ีไมค อ ยมกี ําลงั สันหลงั ขาวทีเ่ รยี กวา \"หลังเขียว\" เปน ปลาใจนอย ไมเทา สีขาวมากมักเปน ปลาไมเทา ออ น เปนปลาทไี่ มแ ขง็ แรง และไมม ี นาํ้ อดนา้ํ ทน หางดอก คอื หางทม่ี ีจดุ ประท่วั ไปในแพนหาง สีของปลากัด ลูกปา ดาํ เหมอื นฐาน เรยี กวา \"ดําเกลด็ หาย\" หรอื \"ดาํ เกล็ดจม\" เขียวอมดาํ เรยี กวา \"เขยี วดาํ \"เขียวคราม คอื เขยี วอม นาํ้ เงนิ เขยี วใหญ คอื สเี ขียวแกทั้งตวั เขียวลูกหวาย คอื สเี ขียวอมแดงเขียวผักตบหรอื สีเขยี วออน คอื มสี ีเขียวเหมือนสีใบผกั ตบ บางแหง เรยี กวา \"เขยี วทบื ฟอง\" เปนปลากดั ลกู ทุงหรือลูกปา ชนดิ เลว ท่สี ุดคอื มกั ไมช นะคตู อ สูเ ลยก็วา ไดแ ดงปูนแหง หรือเรยี กวา \"สหี มวนเชี่ยน\"แดงอมดํา หรอื ที่ เรยี กวา \"สลี ูกขรบ\" (ตะขบ) หมายถึง สที ่ีคลา ยกับสผี ลตะขบสกุ แดงกาํ่ เปนสีแดงแกแ ตม เี กล็ดสี
ปลากัด 13 เขียวเลก็ นอยคลายผลระกาํ สุกแดงหมอตาย สีคลา ยกบั สีปลาหมอตายเปนสีแดงจาง ๆ ซีด ๆขาว เปน สขี าวใสจนเหน็ กระดกู เรยี กวา \"ขาวเหน็ กาง\" เปน สขี องปลากดั ท่ีหายากทส่ี ดุ ลกั ษณะสขี องปลากัด โดยสรุปสขี องปลากัดท่เี ปน มาตรฐาน จะมรี ูปแบบพ้ืนฐาน 5 รปู แบบ คือ สีเดย่ี ว สองสี ลายผเี ส้อื ลายหนิ ออน และหลากสี ปลากัดสเี ดย่ี ว ปลากดั สีเดยี่ ว เปน ปลากัดที่มีสีเดียวทงั้ ลําตัวและครบี และเปน สโี ทนเดียวกันทง้ั หมด ปลา กดั สเี ดย่ี วแบงออกเปน 2 กลมุ ใหญ ๆ คอื ปลากัดสีเดยี่ ว สีเขม และปลากัดสีเด่ียวสอี อ น และอาจ แบง เปน กลุม ยอย ๆ ลงไปไดอกี ตามรายละเอียดของสี ปลากัดสีเดี่ยวท่ีสมบรู ณจ ะตองไมม สี ีอน่ื ใด ปะปนใน สวนของลําตัวและครบี เลย ยกเวนท่ีดวงตา และเหงอื ก ปลากัดสองสี ลกั ษณะทสี่ าํ คัญของปลากดั สองสี คือลาํ ตัวจะตองมสี ีเดียว และครีบทงั้ หมดจะตอ งมสี เี ดียว เชนกัน แตส ขี องครบี จะตองตา งกับสขี องลาํ ตัว ปลากดั สองสีอาจแบงออกไดเ ปน 2 ประเภทใหญ ๆ คอื 1. ปลากัดสองสีชนิดลาํ ตวั สีเขม ปลากดั สองสชี นิดน้ีจะมีลําตวั สีเขม สใี ดสีหน่ึง เชน แดง ดํา นา้ํ เงิน เขยี ว และครบี กต็ อ งเปนสเี ดยี วท่เี ปน สอี ่นื ทไ่ี มเหมอื นสขี องลาํ ตัวโดยอาจเปนสีเขมอ่นื ๆ หรอื เปนสีออนกไ็ ด ลกั ษณะท่สี ําคญั ของปลากดั สองสลี ําตัวสเี ขม ท่ดี คี ือ มสี ลี ําตวั และสคี รีบตัดกัน ชั ดั เจน และสีของลําตัวและสขี องครีบแยกกันตรงบริเวณทค่ี รบี ตอ กบั ลาํ ตัว 2. ปลากัดสองสชี นิดลําตวั สีออน เปน ปลากดั ท่มี ลี าํ ตวั สีออนสีใดสหี น่งึ และมคี รบี อีกสหี น่ึง ทแี่ ตกตา งจากสขี องลําตัวอาจเปนสีออ นหรอื เขม ก็ได ลักษณะที่สําคัญของปลากดั สองสีลาํ ตัวสีออ น ที่ดคี ือสลี าํ ตวั และสคี รบี ตอ งตัดกนั ชดั เจน ครีบท่ีมสี ีเขมจะดกี วา ครบี สีออ น สขี องลาํ ตวั และสีของ ครบี แยกกนั ตรงบรเิ วณสวนตอระหวา งครบี และลาํ ตัว
ปลากดั 14 ปลากดั สลี วดลาย ปลากัดท่ีอยูในประเภทนเี้ ปน ปลากดั ทไี่ มไดจ ดั อยใู นประเภทสเี ดย่ี วและสองสี ประกอบดวย กลุมยอ ย ๆ ดงั นี้ (1) ปลากัดลายผเี สื้อ ปลากัดลายผีเสอ้ื เปนปลากัดทม่ี สี เี ปน ลวดลายรูปแบบเฉพาะทบี่ ริเวณครบี โดยครบี จะมสี ี เปน แถบ ๆ ขนานกับเสน วงรอบลาํ ตวั การพิจารณาลกั ษณะ ที่ดขี องปลากัดลายผีเสื้อ จะพิจารณา ที่การตดั กันของแถบสี และความคมของขอบสเี ปนหลกั ไมใชด ทู ี่สขี องลําตัวและครีบเหมือนท่ัว ๆ ไป ปลากดั ที่ มีสีของครีบซงึ่ แถบสีดา นในเปน สเี หลอื งและแถบดา นนอกเปน สีเหลืองออ นจึงไมจ ัด อยใู นประเภทลายผเี สอ้ื แนวของแถบสีบนครีบควรลากเปนรูปไข รอบตวั ปลา ปลากัดลายผเี สอื้ สามารถแบง ออกไดเ ปน 2 กลุม ใหญ ๆ คือ - ลายผเี สือ้ 2 แถบสี ครีบจะประกอบดวยแถบสีทีต่ ดั กนั ชัดเจน 2 แถบ ลักษณะทดี่ แี ถบสีทงั้ สองควรจะมคี วามกวางเทา กัน เปน คนละครึ่งของความ กวา งของครบี - ลายผเี สอื้ หลายแถบสี หมายถงึ ปลากดั ลายผีเส้อื ทีส่ ขี องครบี มตี งั้ แต 3 แถบข้นึ ไป ลกั ษณะ ท่ดี คี วามกวา งของแถบสแี ตล ะแถบควรจะเทากบั ความ กวางของครบี หารดวยจาํ นวนแถบสี สขี อง ลําตัวและสขี องครีบแถบแรกทีอ่ ยชู ิดลาํ ตวั อาจเปนสีเดยี ว สองสี ลายหนิ ออน หรอื หลากสกี ็ได (2) ปลากัดลายหนิ ออ น ปลากดั ลายหนิ ออ นเปน ปลากัดในชดุ ของปลาทีม่ สี เี ปนลวดลายรูปแบบเฉพาะ เชน เดยี วกนั โดยครบี จะไมม แี ถบสี และบนลาํ ตวั จะมสี ีอนื่ แตม เปน ลวดลายหินออ น ปลากดั ลายหนิ ออ นแบง ออกเปน ชนดิ หลกั ๆ 2 ชนดิ ลายหินออ นธรรมดา ปลากดั ชนิดนจี้ ะไมม สี แี ดง เขียว น้ําเงิน และเทา ปรากฏในลายหนิ ออน บนครบี กจ็ ะไมป รากฏสเี หลานีเ้ ชนกนั ปลาจะมีสดี าํ เขม หวั หรอื หนา ขาว ลวดลายจะ ประกอบดวยสดี ํา สเี นอื้ และสขี าวเทา นน้ั ลายหินออ นสี สีบริเวณหนา และคางยังคงลักษณะเปนสขี าว หรอื สเี น้ือ แตลําตัวและครบี อาจปรากฏสผี สมของสีแดง เขียว นาํ้ เงิน และเทา ลําตัวของปลากดั ลาย หนิ ออนสีอาจประกอบดวย สเี หลา นีใ้ นลวดลาย แตจ ะตอ งมสี เี น้อื อยู
ปลากัด 15 วิธกี ารเพาะพันธุ 1. นําขวดปลาเพศผูและเพศเมยี ท่ีมคี วามสมบูรณทางเพศเต็มทมี่ าวางตดิ กนั ซึ่งวธิ ีน้ี เรยี กวา “เทียบคู” ซึง่ ควรจะเปน บรเิ วณทป่ี ราศจากสิ่งรบกวน จะทาํ ใหปลาตกใจ ใชเ วลาเทยี บคู ประมาณ 3-10 วนั 2. จากน้นั นาํ ปลาเพศผูแ ละเพศเมยี ใสล งในภาชนะทีเ่ ตรยี มไวส ําหรบั ผสมพนั ธุ เชน ขนั พลาสติก โหลแกว กาละมงั ตูกระจกหรอื อางดิน แลวใสพันธไุ มนํ้าทแ่ี ชด า งทบั ทมิ เรยี บรอ ยแลว ซึ่ง ชนิดพันธุไมน าํ้ ท่นี ิยมใช ไดแ กส าหรา ยพงุ ชะโด สาหรา ยหางกระรอก จอก ใบผักตบชวาเปน ตน 3. เม่ือปลาสามารถปรบั ตัวใหช ินกบั สภาพในภาชนะ (ประมาณ 1-2 วัน) ปลาเพศผจู ะเร่ิม กอหวอดตดิ กบั พนั ธุไม 4. หลงั จากสรา งหวอดเสรจ็ ปลาเพศผจู ะพองตัวกางครบี ไลตอ นตวั เมยี ใหไปอยใู ตห วอด 5. ขณะทตี่ วั เมยี ลอยตัวข้นึ มาบริเวณผิวน้ํา ปลาตัวผูจะรดั ตัวเมียบริเวณชอ งอวยั วะเพศ 6. จากน้นั ไขกจ็ ะหลุดออกมา พรอมกับเพศผูจะฉดี นา้ํ เชือ้ เขาผสม และปลาเพศผจู ะตามลง ไปใชป ากดดู ไขอมไว วายนํ้าขึน้ ไปพนไขเขาไปไวใ นฟองอากาศจนกวา จะหมด 7. เมื่อส้นิ สดุ การวางไขป ลาเพศผูจะทําหนา ท่ีดแู ลไขเพียงลาํ พงั และจะไลต อ นปลาเพศเมยี ไปอยูทม่ี มุ ภาชนะ 8. หลังจากน้นั รบี นําปลาเพศเมยี ออกจากภาชนะเพอ่ื ปองกันไมใ หป ลาเพศเมียกินไข 9. ปลอ ยใหปลาเพศผดู แู ลไข 2 วัน จงึ แยกเพศผอู อก การอนุบาลลูกปลา ไขป ลากดั จะฟก เปน ตัวหลงั จากไดร บั การผสมนา้ํ เชอื้ ประมาณ 36 ช่ัวโมง โดยในชวงแรก จะมถี งุ อาหาร (Yolk sac) ติดตัวมาดว ย ดังนน้ั ชว ง 3-4 วันแรก จึงยังไมต องใหอาหาร เปนเวลา 3—5 วนั แลว จึงเปลีย่ นเปนตัวออ นของไรแดง (Moina) ตอมาจึงเปล่ียนเปนไรแดงเต็มวยั เล้ยี งตอ ไป จนกระทงั่ ปลาสามารถกนิ ลูกนํา้ ได และผูเลย้ี งสามารถแยก เพศปลากัดไดเ มอื่ ปลามีอายปุ ระมาณ 1 เดือนข้ึนไป
ปลากดั 16 โรคทพี่ บในปลากดั และการปองกันรักษา ปลากัดท่ีเล้ียงถกู วิธมี ักไมคอ ยเปนโรค แตถ าสภาพแวดลอ มมีการเปลย่ี นแปลงไปในทางที่ ไมเ หมาะสมกบั การดาํ รงชวี ติ ของมนั ( อณุ หภูมลิ ดตาํ่ ลง น้าํ สกปรก ) ปลากดั ก็จะเปน โรคได โรคท่ี มัก พบในปลากัด มดี งั นี้ โรคจุดขาว ( White spot disease ) เกิดจากสัตวเซลลเดียวทช่ี อ่ื วา Ichthyophthirius multifilis นยิ มเรียกท่ัวไปวา \" อค๊ิ \" เปนสตั ว เซลลเดียวท่มี ขี นาดใหญท ่ีสดุ พบวา ทาํ ใหป ลาเกดิ โรคในปลา ตัวออนของ \" อคิ๊ \" จะฝงตัวเขาไป อยใู ตเ ยอ่ื บุผวิ บรเิ วณลําตัวและเหงอื ก ทาํ ใหเ หน็ บรเิ วณนน้ั เปน จดุ ขาว ๆ ขนาดประมาณ 0.5 -1.0 มม. เมื่ออิ๊คเจรญิ เตม็ ท่ีจะหลดุ ออกจากตวั ปลา วา ยนาํ้ เปน อสิ ระและจะสรา งเกราะหมุ ตัว มกี ารแบง เซลลขยายพนั ธุ รวดเร็วเปนตัวออ นทีเ่ รยี กวา \" โทไมท \" ( Tomite ) ในเกราะหน่งึ จะมโี ทไมทตงั้ แต 500 -2,000 ตัว เมอ่ื สภาพแวดลอมเหมาะสมเกราะจะแตกออก โทไมทก็จะวา ยนํ้าไปเกาะท่ตี ัวปลา ตอไป มกั จะพบโรคจดุ ขาวระบาด ในชวงท่อี ณุ หภูมขิ องน้ํามีการเปล่ยี นแปลงจากสูงเปน ตา่ํ หรือตํ่า เปน สงู การรกั ษาที่ไดผ ลดี คอื ใชฟ อรมาลนิ เขม ขน 25 - 30 สวนในลานสงู (ppm) ผสมกบั มาลาไคท กรีน 0.1 สว นในลา นสวน แชต ดิ ตอ กัน 3 - 5 วัน แลว จึงเปลย่ี นน้าํ โรคสนมิ ( Velvet disease ) เกิดจากสัตวเซลลเดยี วชนดิ แส ( Flagellum ) มรี ปู กลมรี มีชื่อวา Oodinium sp. อาการของโรค นี้คอื ตามผวิ หนังปลาจะมลี กั ษณะคลายกํามะหย่สี ีเหลอื งปนน้ําตาล กระจายเปน หยอม ๆ เนอื่ งจากมี Oodinium เกาะอยู พบปรสติ น้ตี ามลาํ ตัวและเหงอื ก การปอ งกนั และกําจดั ควรใชเกลือ แกงเขม ขน 1 % แชปลาไวน าน 24 ชว่ั โมง และควรทาํ ซํา้ ทกุ 2 วนั หลงั จากเปลยี่ นนาํ้ ทใี่ ชเ ลี้ยงปลา ออกหมดแลว โรคทเ่ี กิดจากปลงิ ใส ปลงิ ใสท่พี บมอี ยู 2 ชนดิ คอื Gryodactylus sp. และ Dactylogyrus sp. อาการของโรคทพี่ บใน ปลากัด คอื สวนหวั ของปลาจะซดี สวนลาํ ตวั ของปลามสี เี ขม และมีอาการของครบี กรอ นรว มดว ย พบปรสติ นีต้ ามลาํ ตัวและเหงอื ก การปองกันและกาํ จดั ควรใชฟ อรม าลินเขม ขน 30 - 50 สว นในลา น สวน หรือ Dipterex เขน ขน 25 สว นในลา นสวน แชต ลอดไป โรคทเ่ี กิดจากเชอื้ รา โดยปกตแิ ลวเชื้อราไมใ ชสาเหตุทแี่ ทจรงิ ของโรค มกั จะพบหลังจาก ปลาบอบช้าํ เนอื่ งจาก การจับ เชอ้ื ราทมี่ กั พบเสมอคือ Ssprolegnia sp. อาการของโรคจากเชอื้ รา คอื จะเหน็ เปนปยุ ขาว คลายสาํ ลบี รเิ วณท่เี ปนโรค สําหรบั การรกั ษาใชมาลาไคทก รนี เขมขน 0.1 - 0.25 สว นในลานสวน รวมกบั ฟอรม าลนิ เขม ขน 25 สว นในลา นสวน แชต ดิ ตอ กนั 3 วัน
ปลากดั 17 โรคทเี่ กิดจากแบคทเี รยี อาการทีป่ รากฏคือ มอี าการทองบวม และมขี องเหลวในชอ งทอ งมาก การรักษา ใชแ ชใ นยา ปฏชิ วี นะ เชน ออกซิเทตราไซคลิน หรือ คลอแรมฟนคิ อลที่มคี วามเขม ขน 10 - 20 สว นในลา นสว น โดยแชต ดิ ตอ กนั 3 - 5 วัน และตองเปล่ียนนาํ้ ใหมทกุ วนั แลวเติมยาใหม ีความเขม ขน เทาเดิมทกุ ครง้ั หรือใชเกลอื แกงเขม ขน 0.5 % วิธกี ารแปลงเพศปลากัด \"ปลากดั \" ปจจบุ ันไดรับความนิยมเลี้ยงกนั อยา งแพรห ลายในตา งประเทศ เน่ืองจากเพศผู นน้ั จะมสี สี นั สดใสสวยงาม รวมท้ังยงั มคี รบี หยู าวและใหญกวาเพศเมีย จากลักษณะน้จี ึงมกี ารใช ตอ สูกันเพื่อเปนเกมกฬี าและการพนนั จึงทาํ ใหเ พศผูเ ปน ทีน่ ยิ มในการเล้ียงมากกวา แตจากการศกึ ษาพบวาอตั ราสวนเพศผูและเพศเมยี ท่ี ไดจากการเพาะพนั ธเุ ปน 1 ตอ 1 ดังนัน้ ผเู ล้ยี งปลาชนดิ นเ้ี พื่อ การจําหนาย จงึ ตองศึกษาเทคนคิ ในการเพาะพันธุท ่เี หมาะสม และลดตน ทนุ เพอ่ื ใหไดเพศทีต่ รงกบั ความตอ งการของตลาด การใชฮอรโ มนในการแปลงเพศปลาหรอื ในการผลติ ปลาเพศใดเพศหนง่ึ กาํ ลังไดรบั ความสนใจอยา งมาก แต วิธกี ารนีก้ ็ยงั มีขอจํากดั การอยูมากท้งั ในดา นราคาและวธิ ีใช เนื่องจากเกษตรกรสวนใหญมพี ื้นความรูท างดา นการใช ฮอรโ มนนอยอยู ดงั น้ัน อาจได \"ปลากดั \" ที่ไมตรงกบั ความตอ งการ ตองส่ังซื้อฮอรโ มนมาจากตา งประเทศ ทําใหเ กดิ การเสียดลุ การคา คณะวทิ ยาศาสตรก ารประมง สถาบนั เทคโนโลยรี าชมงคลตรัง โดย \"อุไรวรรณ วฒั นกลุ \" จึงทาํ \"โครงการศึกษาสารสกดั จากใบมงั คดุ ตอ การเปลีย่ นลักษณะเพศในปลากดั \" ข้นึ และไดผล ออกมานา สนใจยงิ่ การวจิ ยั ในครง้ั น้ไี ดม กี ารนํา \"ใบมงั คดุ \" ทง้ั สดและแหง มาทาํ การทดลองในแตละความ เขม ขน วา มีผลตอการเปลีย่ นลักษณะเพศหรือสัดสวนเพศมากนอยแคไ หน โดยนาํ มาสกัดเปน น้ําชา เพ่ือเล้ยี ง \"ปลากดั \" ต้ังแตแ รกเกิดจนสามารถแยกเพศได เพื่อเปนแนวทางในการนําฮอรโมนจาก ธรรมชาตมิ าใชทดแทน หากไดผ ลกจ็ ะเปน ประโยชนใ นการนํามาเปล่ยี นเพศปลาหรอื ทาํ หมนั ปลา เพือ่ ลดกจิ กรรมการสืบพันธแุ ละสงผลตอ การเพิ่มอตั ราเจรญิ เตบิ โต ตลอดจนสามารถนําไปใช สงเสรมิ อุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงปลาสวยงามได
ปลากัด 18 สําหรบั วธิ กี ารศกึ ษานั้นแบง ออกเปน 3 ขั้นตอน ไดแก การเตรยี มสารสกดั จาก \"ใบมังคดุ แหง\" ดว ยการ ทดลองเลย้ี งปลาพอแมพันธทุ ่ีมคี วามสมบูรณเพศและ พรอมทีจ่ ะผสมพันธุ ในอตั ราสว นน้ําเปลาตอ นา้ํ สกัดจาก \"ใบมงั คดุ \" เทา กบั 1 ตอ 1 จนเม่อื ลกู ปลามอี ายุได 3-4 วัน จึงใหไขแ ดงตม สกุ เปน อาหารวันละ 1 ครงั้ เปนเวลา 3-5 วัน หลังจากนั้นเปลย่ี นเปนใหไ รแดงและลูกนา้ํ จนกระทง่ั ปลาโต รวมทั้งการเกบ็ ขอ มูลและเปรยี บเทียบความ แตกตา งของอตั ราสวนเพศ ดวยวิธี \"Chi-Square test\" ทั้งนี้ เม่ือเล้ียง \"ปลากดั \" ดว ยนาํ้ หมกั จาก \"ใบมงั คดุ สด\" ทรี่ ะดบั ความเขม ขน ตา งๆ กนั เปนเวลา 30 วนั พบวา สารสกดั ทรี่ ะดับความเขมขน 25 กรัม มผี ลตอการเปลยี่ นลักษณะเพศปลา มากทีส่ ดุ นน่ั คือ เพศผู คดิ เปน 76.79% ในขณะท่ีเพศเมีย คดิ เปน 23.21% เทานั้น สว นสารสกดั ท่ี ระดับความเขม ขน 70 กรัม จะมีผลตอการเปลยี่ นลกั ษณะปลาเปนเพศเมยี คดิ เปน 76.81% ในขณะ ทเ่ี พศผู คิดเปน 23.19% เทา นนั้ สําหรบั สารสกัดทรี่ ะดับความเขม ขน 50 กรมั ไมมคี วามแตกตา ง ระหวางสดั สว นเพศ แตถาใชส ารสกดั ทรี่ ะดับความเขม ขน 100 กรัม กจ็ ะทาํ ให \"ปลากดั \" ไม สามารถทนไดแ ละเสยี ชีวิตไปทง้ั หมด อยา งไรกต็ าม เมือ่ เล้ยี งปลาดวยนํ้าหมกั จาก \"ใบมงั คดุ แหง \" กลับไมพ บวา มีผลตออัตรา การเปลย่ี นเพศและสัดสว นเพศใหเ ปน เพศผู ไมวา จะมสี ารสกดั ท่รี ะดบั ความเขม ขน 0 กรัม 25 กรมั 50 กรัม 70 กรัม หรือ 100 กรัม โดยเฉพาะปลาที่เลย้ี งดว ยสารทร่ี ะดบั ความเขมขน 25 กรมั นัน้ พบวา การเปล่ียนเพศมีความแตกตางกนั นอ ยมากคอื เพศผู 42.08% และเพศเมีย 57.92% ดงั น้ัน ปลาทเ่ี ล้ยี งดวยสารสกัด \"ใบมงั คดุ แหง \" ทกุ ชดุ การทดลองจะมีอตั ราสว นเพศเมยี สูงกวาเพศผู และ ไมส ามารถแปลงใหเ ปน เพศผูได โดย \"อไุ รวรรณ วัฒนกลุ \" มขี อเสนอแนะอันสืบเนอื่ งมาจากงานวิจยั วา ควรจะมกี ารทดลอง ระดบั ความเขมขนของสารสกัดไมใ หเ กิน 25 กรัม เพื่อหาระดบั ความเขมขน ท่ีเหมาะสมตอ การ เปลย่ี นเพศ รวมทง้ั ควรทาํ การศกึ ษาการใช \"ใบมงั คดุ \" ในการแปลงเพศปลาเศรษฐกิจชนิดอ่ืนๆ ท่ี ตองการเพศเมียเปนหลัก และควรจะมกี ารศึกษาทดลองหมกั \"ปลากัด\" ตงั้ แตย ังเปน พอ แมพนั ธุ เพอ่ื ดูถึงประสทิ ธภิ าพในการทจ่ี ะเปลยี่ นเพศ ผลของโครงการในครั้งนีส้ รปุ ไดชดั เจนวา สารสกดั \"ใบมังคุดสด\" ท่รี ะดบั ความเขมขน 25 กรัมนั้น มผี ลตอการเปลย่ี นลักษณะ \"ปลากัด\" ใหเ ปน เพศผมู ากทส่ี ุด ถือเปน ขา วดีสําหรบั ทัง้ ผูข าย และผูเลีย้ งทจี่ ะมกี ารพฒั นาสายพนั ธุใ หสวยงามและตรงกบั ความตอ งการ แมจ ะเปนการใช เทคโนโลยีเขามาเพอื่ เปลย่ี นแปลงธรรมชาติ ทอ่ี าจจะดแู ปลกๆ กันไปบางกต็ ามที
ปลากัด 19 เทคนิคการฝก หดั ปลากัดเพ่อื การแขงขนั หรอื ปลาเกง สาํ หรับปลากดั ทด่ี แี ละพรอ มลงสนามจะตองไดรบั การฝก ให กดั เกง ดว ยการฝก ตง้ั แตใ นบอ เลย้ี งแลวทาํ การคดั เลอื กปลาท่ีกัดเกง ออกมแลว นําไปกัดกดั ปลากดั ในครอกอน่ื ๆ จนกระท่งั ไดปลาที่กดั เกง ตามความตอ งการ เดมิ ทนี ัน้ กอนทจ่ี ะนําปลากดั ออกกัดใน สนามแขง ตา งๆคนเกา แกม กั จะมีคาถาสาํ หรบั เปาเสกกาํ กับการกัด ปลาในแตล ะครั้งซ่ึงคาถาสาํ หรับการกัดปลาในแตละคร้งั กค็ อื นะกัดตัง กะขะชนะ ตังขามกี าํ ลังดงั พระยาปลาใน มหาสมทุ รสกุ โุ ย เกล็ดแกว มณีหมุ หอ ตัวขา ดงั เกาะเพชรพตุ ากะเก เขยี้ วแกวท้ังสด่ี ุจตรีเพชรหนุมาน มะอะอุ ปลาใดมารอนราน วินาศ สันติ สําหรับปลาทจ่ี ะเลยี้ งเพ่อื การแขง ขันหรอื การกดั นนั้ พออายคุ รบ 6-8 เดอื น ใหเ อาปลา ขึ้นมาจากอางมาใสขวด เพอ่ื ดวู า ปลาตวั ไหนสมบูรณแ ละลกั ษณะดีกใ็ หค ัดไวลงอา งหมักท่ีใชใ บตอง แหง ของกลว ยนา้ํ วา หรือใบหกู วางแชอา งหมักทงิ้ ไว 10-15 วนั จงึ นาํ เอาปลาขน้ึ มา หากเปน ปลาท่ี อวนเกนิ ไปในระหวา งหมกั ก็ควรใหอ ดอาหารบา ง โดยใหอาหารวันเวน วนั เม่อื ครบกาํ หนตามท่ี หมักไวจ ะไดป ลาทีม่ รี ูปรา งสวยเกล็ดแนน ผวิ เปนมันเรียบ ตอจากนนั้ ใหนาํ ปลามาใสใ นขวดและ เร่มิ ฝกได ในการฝกปลาจะมีชอื่ เรียกวา ”ลกู ไล” ใหห าขวดหลนาํ้ กลัน่ มาตัดปากออก เพอ่ื ความ สะดวกเวลาตกั ปลาแลวใหเ อาปลาตัวเมียเล็กๆขนาดอายไุ ด 3-4 เดือนประมาณ 5-6 ตัว ใสลงใน โหลพอเชาประมาณ 6-7 โมง ก็เปนปลาทเ่ี ลย้ี งใหพ องใสกนั ประมาณ 1 นาที เมือ่ เห็นวาดดุ ีแลว กต็ กั ใสโ หลลูกใหมป ลาก็จะไลกดั ลูกไลไปรอบๆ ใหม ันไลอ ยปู ระมาณ 30 นาที กใ็ หต กั ปลาตวั ผูข นึ้ การ ทาํ เชนนจ้ี ะทาํ ใหปลาวา ยนํ้าแข็งแรงไมต ก นอกจากการฝกลูกไลแ ลว กต็ อ งฝก”พานตวั เมีย” โดยเอาปลากัดตัวเมียทมี่ ีขนาดใหญ หนอ ยนงึ ลงหมักประมาณ 4-5 วนั เพือ่ ใหปลาดแุ ลวนํามาใสโ หลจากนน้ั ใหเ อาปลากัดตวั ผทู ่ีเลย้ี งใส ลงไปทัง้ ปลาตัวผแู ละปลาตัวเมียจะพองเขาหากนั คลายจะกดั กนั มกี ารวิ่งลอ ไปมา การพานตัวเมีย น้ีจะใชเวลาประมาณ 3-5นาทีกพ็ อ และเวลาพานตัวเมียนน้ั ตอ งคอยดูตลอดเวลา อยา ใหป ลาตวั ผู กัดปลาตวั เมยี ได เพราะไมเชน นนั้ ปลาตวั เมยี จะกลวั ไมพองเขาหาตัวผหู รอื ลกู ไลล อ กบั ปลาตัวผู การพานกจ็ ะไมมีประโยชน การพานนคี้ วรทาํ ในชา งบาย พอพานเสรจ็ แลวกใ็ หตกั เอาออกมาใสขวด โหลพกั ไวส ักครหู นงึ่ จึงใหอาหารพอถงึ 6 โมงเย็นก็เอาลงอางนอนซง่ึ เปน อางที่มลี กั ษณะเดยี วกนั กบั อางรดั ต้ังไวใ นทีส่ งบ ไมใหส ะเทือนทาํ เชน นต้ี ดิ ตอ กนั ประมาณ 10-12 วนั ปลาที่เลีย้ งไวก็จะสมบูรณ กดั ไมแพคตู อสู ซึ่งเซยี นปลากดั มักกลา วกนั วา ”นาํ้ เลยี้ งดี” เชน เดียวกับไกชน ปลากัดพวกน้แี มว า จะ มคี วามดจุ รงิ แตถ า ถูกชอ นใสขวดใหมห รอื ถูกแสงสวางอยา งกะทนั หันมนั จะตนื่ ตกใจไดง ายๆ
ปลากัด 20 เหมือนกันดงั นัน้ ก็ตอ งมกี ารฝกโดยหม่นั เปล่ยี นขวดบอ ยๆไมใ หซ า้ํ ลกั ษณะแบบเดยี วกนั เปนการฝก ใหปลาเคยชินกบั สถานที่ใหมๆ ไมจ าํ เจ เมื่อถงึ เวลานําไปกดั จริง มนั กจ็ ะไมเ กิดอาการต่ืนเวที การ ฝกแบบน้เี รยี กวา”ปลอบ” เทคนิคการนาํ ปลากดั เขา แขงขนั วา กนั วา ปลากัดทเี่ หมาะแกการนําเขา แขงขนั หรือเพอื่ การกดั นัน้ จะตอ งเปน ปลาทม่ี ีอายประมาณ1 ปเ ต็ม เพราะปลากัดอาย1ุ เตม็ จะเปน ปลาท่ีสมบูรณแ ขง็ แรง และแกรง พอทจ่ี ะเปนปลานกั สไู ดอยางเตม็ ความสามารถ แตค วามเปนปลา กดั เกงใชวา จะอยูทอ่ี ายหุ รอื ขนาดของปลากห็ าไม ยอ มขนึ้ อยกู ับการฝก หดั ปลาดว ย รมถึงการหมกั ปลากดั ใหไความแกรง เกล็ดหนาและปากคมแขง็ แรง ซง่ึ หลักการเหลา นีบ้ รรดาเซยี นปลากัดแตล ะ คนจะมีเทคนคิ การทาํ ใหป ลาเกงแตกตางกนั ดังจะเห็นไดจ าก ปา ยหนารา นตามตลาดซนั เดยวา เปน ปลากดั เกง จากฉะเชิงเทราบา ง ราชบรุ ีบา ง เพชรบุรีบา ง นครปฐมบา งหรอื ไมก็เปน ปลากัดเกง จาก ภาคใต สวนการเทียบคูปลาเพ่ือการกัดกนั นัน้ จะอาศยั การวางขวดทมี่ ีปลาพรอมจะลงสูส นามกัด อยใู นขวด โดยการวางขวดใกลๆกัดเพอื่ จะไดส งั เกตดขู นาดของตวั ปลาวามีความเหมาะสมทจี่ ะกัด กันหรอื ไม เม่ือตางฝา ยตา งกด็ วู า ปลาของตนมีขนาดใกลเคยี งกันหรือไมบ างครง้ั กอ็ าศยั ความพอใจ และการตกลงกนั ของทง้ั สองฝา ยดว ย โดยไมจ าํ เปนวา ปลาจะมขี นาดเทาหรอื ใกลเคยี งกนั เพยี งอยา ง เดยี วหลงั จากท่ีตา งฝายตา งเทยี บปลากันแลวตกลงทีจ่ ะปลอยปลากัด พวกเขาทัง้ สองฝายกจ็ ะเทนาํ้ ออกจากขวดโหลทตี่ นใสป ลามาลงนาชนะทเ่ี ตรยี มไวเ หลอื นา้ํ ในขวดโหลพยี งเล็กนอย จากนน้ั จึงเท ปลารวมกันเพือ่ การแขง ขนั กนั ตอไป อน่ึงในการทบี่ รรดาเซยี นปลากัดทง้ั หลายจะทาํ การคดั เลอื กปลาของตนเองมาเพือ่ การ แขงขันกันนกี้ ต็ อ งอาศยั มอื นํา้ เลี้ยงดงั กลา วโดยการคดั เลอื กปลาทม่ี ลี กั ษณะเดนในการกัดเปนปลา กดั แมน กดั รนุ แรง กดั เฉพาะทส่ี าํ คญั เชนบรเิ วณหู บรเิ วณกระเพาะ และบริเวณหางหรือตามครบี ตา งๆ ของลาํ ตวั ปลา วากนั วา ปลากดั เกงในแตล ะครอกจะมี ความเกง เหมอื นกันแทบทกุ ตัว คือหากเปนประหลาดกี ็ จะดที ง้ั ครอก ตรงกันขา มหากเสียกจ็ ะเสียทั้งครอก เชนกนั “ถา ขแ้ี พก็แพเหมอื นกนั ทง้ั ครอกชนะก็ชนะ เหมอื นกันท้ังครอก” ขอสําคัญเมือ่ ปลากดั ที่กดั แขงขันกนั ชนะแลวจะ ไมส ามารถนําปลาน้ันมากดั ไดอกี เปนครั้งท่สี อง เนือ่ งจากวาปลาจะบอบชา้ํ เกนิ ไป ควรนาํ ไปเล้ียงเปน พอ พันธุเทา นน้ั และควรดแู ลเอาใจใสเ ปนอยา งดใี นการ พักฟนปลา เมือ่ ปลาพักฟนดแี ลว จึงนาํ ไปผสมพนั ธุ ตอ ไป ฉะนัน้ เมื่อปลากดั ผา นการฝก ฝนทด่ี แี ลว ยอมไดเปรยี บใน การกดั กนั เพื่อการแขง ขันทุกครง้ั แตท งั้ น้ยี อมขน้ึ อยกู บั สายพนั ธขุ องปลาในแตล ะแหลงดว ยวามคี วามทนทานหนงั เหนียวหรอื กดั เกง ดีหรอื ไม อยา งเชนปลากัดทข่ี นึ้ ชื่อคือปลากัดแดร้ิว ปลากัดเพชรบุรี และปลากัดมาเลเซียเปนตน .
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: