Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อุตรดิตถ์

Description: อุตรดิตถ์ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งพระแท่นศิลาอาสน์ ตำนานอันลึกลับของเมืองลับแล ดินแดนแห่งลางสาดหวานหอม และเป็นบ้านเกิดของพระยาพิชัยดาบหัก ขุนศึกคู่บารมีของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่สมัยก่อนยุคประวัติศาสตร์ เนื่องจากมีการค้นพบกลองมโหระทึกทำด้วยทองสัมฤทธิ์ที่ตำบลท่าเสา อำเภอเมืองฯ ซึ่งเป็นโลหะชนิดที่มีใช้กันอยู่ในยุคสัมฤทธิ์หรือยุคโลหะตอนต้น อันเป็นยุคก่อนประวัติศาสตร์นั่นเอง
นอกจากมีโบราณสถาน แหล่งประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจแล้ว อุตรดิตถ์ยังมีสถานที่ท่องเที่ยว ที่สวยงามน่าเที่ยวอีกหลายแห่ง.

Search

Read the Text Version

อตุ รดติ ถ์

ออุตุตรดรดติ ิตถถ์ ์ 2 อตุ รดติ ถ์

อตุ รดิตถ์ 3

อทุ ยานแหง่ ชาติภสู อยดาว 4 อุตรดิตถ์

สารบัญ การเดนิ ทาง ๗ สถานทท่ี อ่ งเท่ียว ๙ อำ� เภอเมืองอตุ รดติ ถ ์ ๙ อ�ำเภอตรอน ๑๒ อ�ำเภอทองแสนขนั ๑๕ อ�ำเภอท่ำปลำ ๑๗ อำ� เภอน้�ำปำด ๒๓ อ�ำเภอบ้ำนโคก ๒๗ อำ� เภอพชิ ยั ๒๙ อ�ำเภอฟำกทำ่ ๓๐ อ�ำเภอลบั แล ๓๐ เทศกาลงานประเพณี ๔๒ สนิ ค้าพน้ื เมืองและของที่ระลึก ๔๔ ตัวอยา่ งรายการนา� เท่ยี ว ๔๘ สิ่งอา� นวยความสะดวกในจังหวัดอตุ รดติ ถ์ ๕๐ สถำนที่พกั ๕๐ รำ้ นอำหำร ๕๓ หมายเลขโทรศพั ท์สา� คัญ ๕๘ อตุ รดิตถ์ 5

ซมุ้ ประตูเมืองลับแล อตุ รดิตถ์เหลก็ นํ้าพล้ี ือเลื่อง เมืองลางสาดหวาน 6 อตุ รดติ ถ์ บานพระยาพชิ ัยดาบหกั ถ่นิ สักใหญข องโลก

อุตรดิตถ์ มีควำมหมำยว่ำ “เมืองท่ำแห่งทิศเหนือ” กโิ ลเมตร สำมำรถเดนิ ทำงไปได ้ ๒ เส้นทำง คือ และก่อนจะมำเป็นเมืองท่ำส�ำคัญ แต่เดิมอุตรดิตถ์ ๑. จำกกรุงเทพฯ ใช้ทำงหลวงหมำยเลข ๑ แล้ว เคยเป็นเมืองในปกครองของเมืองพิชัยอันเป็นเมือง แยกเข้ำทำงหลวงหมำยเลข ๓๒ ผ่ำนจังหวัด เก่ำแก่ เมือ่ ปี พ.ศ. ๒๔๗๐ มีกำรคน้ พบภำพเขยี นสี พระนครศรีอยุธยำ อ่ำงทอง สิงห์บุรี ชัยนำท และ โบรำณบนหน้ำผำเขำตำพรหม หลังท่ีว่ำกำรอ�ำเภอ เข้ำจังหวดั นครสวรรค์ จำกน้ันใชท้ ำงหลวงหมำยเลข ทองแสนขนั และกลองมโหระทกึ ทำ� ดว้ ยทองสมั ฤทธ์ิ ๑๑๗ เข้ำจังหวัดพิษณุโลก จำกนั้นใช้ทำงหลวง ที่ตำ� บลท่ำเสำ อำ� เภอเมอื งอตุ รดติ ถ์ ทำ� ให้เรำทรำบ หมำยเลข ๑๑ จนถงึ จังหวดั อุตรดิตถ์ ว่ำอุตรดิตถ์เป็นดินแดนที่มีผู้คนเข้ำมำอำศัยอยู่ก่อน ๒. ใช้เส้นทำงกรุงเทพฯ-สิงห์บุรี แล้วแยกเข้ำ พ.ศ. ๑๐๐๐ มำแลว้ เมือ่ พ.ศ. ๑๘๙๓ มีหลักฐำน ทำงหลวงหมำยเลข ๑๑ สำยอนิ ทรบ์ รุ -ี ตำกฟำ้ จนถงึ ปรำกฏว่ำ เมืองพิชัยซ่ึงอยู่ในท้องที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ทำงหลวงหมำยเลข ๑๒ สำยพษิ ณโุ ลก-หลม่ สกั เลยี้ ว ในปัจจุบัน ก็เป็นหน่ึงในเมืองขึ้น ๑๖ เมืองในสมัย ซ้ำยไปอีก ๘ กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวำเข้ำทำงหลวง กรงุ ศรอี ยธุ ยำดว้ ย และ พ.ศ.๒๓๑๖ ได้มกี องทัพยก หมำยเลข ๑๑ จนถึงจงั หวดั อุตรดติ ถ์ มำตีเมืองพิชัย เจ้ำพระยำสุรสีห์กับพระยำพิชัย ได้ รถโดยสารประจ�าทาง บริษทั ขนสง่ จำ� กดั มบี ริกำร ยกกองทัพเข้ำป้องกันเมือง พระยำพิชัยถือดำบสอง เดินรถเส้นทำงกรุงเทพฯ-อุตรดิตถ์ ทุกวัน โดย มือเขำ้ ต่อสจู้ นดำบหัก จึงมีช่ือเรียกว่ำ “พระยำพชิ ัย ออกจำกสถำนีขนส่งผู้โดยสำรกรุงเทพฯ (จตุจักร) ดำบหกั ” สอบถำมข้อมลู โทร. ๐ ๒๙๓๖ ๒๘๕๒-๖๖ www. transport.co.th สถำนีขนส่งผู้โดยสำรอุตรดิตถ ์ ชว่ งรชั กำลท ่ี ๓ เมอื งพชิ ยั ไดก้ ลำยเปน็ หวั เมอื งสำ� คญั โทร. ๐ ๕๕๘๑ ๖๗๙๖ และ บรษิ ัทเชดิ ชยั ทวั ร ์ โทร. มีกำรติดต่อซื้อขำยสินค้ำท่ีต�ำบลบำงโพท่ำอิฐซ่ึง ๐ ๒๙๓๖ ๐๑๙๘-๙ บรษิ ทั นครชยั แอร ์ จำ� กดั (NCA) อยตู่ ดิ แมน่ ำ�้ นำ่ น เปน็ แหลง่ รวมสนิ คำ้ จำกเมอื งหลวง โทร. ๑๖๒๔ หรอื ๐ ๕๕๔๔ ๒๗๙๓ บรษิ ทั สุโขทยั พระบำง เมอื งแพร ่ เมอื งนำ่ น ตลอดจนแควน้ สบิ สอง วนิ ทัวร์ โทร. ๐ ๒๙๓๖ ๓๗๕๓ บริษทั โชครุง่ ทวที วั ร ์ ปันนำก็น�ำสินค้ำพ้ืนเมืองมำจ�ำหน่ำยและส่งต่อไป โทร. ๐ ๒๙๓๖ ๔๒๗๕ จนถงึ กรุงเทพฯ ในปี พ.ศ. ๒๔๓๐ พระบำทสมเดจ็ รถไฟ จำกสถำนีรถไฟกรุงเทพ (หัวล�ำโพง) มีรถไฟ พระจลุ จอมเกลำ้ เจำ้ อยหู่ วั ทรงเหน็ วำ่ ทต่ี ำ� บลบำงโพ ไปจงั หวดั อตุ รดติ ถท์ กุ วนั สอบถำมขอ้ มลู โทร. ๑๖๙๐ ท่ำอิฐคงจะเจริญต่อไปในภำยหน้ำ จึงโปรดให้ตั้ง www.railway.co.th สถำนรี ถไฟอุตรดติ ถ์ โทร. ๐ ตำ� บลบำงโพท่ำอฐิ เปน็ “เมอื งอุตรดติ ถ์” และข้นึ อยู่ ๕๕๔๑ ๑๐๒๓ กบั เมอื งพชิ ยั ตอ่ มำในป ี พ.ศ. ๒๔๔๒ พระบำทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลำ้ เจำ้ อยหู่ วั ไดโ้ ปรดใหย้ ำ้ ยศำลำกลำง เมืองพิชัยไปต้ังอยู่ท่ีเมืองอุตรดิตถ์ และภำยหลังจึง การเดนิ ทาง โปรดให้เปลี่ยนนำมเมืองพิชัยเป็นเมือง “อุตรดิตถ์” ในตัวเมืองอุตรดิตถ์มีบริกำรรถส�ำหรับนักท่องเที่ยว เป็นตน้ มำ ได้แก่ -รถสองแถว มีรถบริกำรจำกสถำนีขนส่งผู้โดยสำร อตุ รดติ ถไ์ ปยงั สถำนทต่ี ำ่ ง ๆ ภำยในตวั เมอื ง นกั ทอ่ งเทย่ี ว การเดินทาง อำจเหมำไปเทยี่ วไดท้ ง้ั ในเมอื งและอำ� เภอตำ่ ง ๆ รำคำ รถยนต์ จังหวัดอุตรดิตถ์ห่ำงจำกกรุงเทพฯ ๔๙๑ ข้ึนอยู่กับระยะทำง อุตรดติ ถ์ 7

วัดท่าถนน 8 อุตรดติ ถ์

-รถสามล้อเครื่องและมอเตอร์ไซค์รับจ้าง จอดอยู่ และพบว่ำเป็นพระพุทธรูปสัมฤทธ์ิ มีพุทธลักษณะ หน้ำตลำดเทศบำล และหน้ำสถำนีขนส่งผู้โดยสำร งดงำมมำกและไดอ้ ญั เชญิ มำประดษิ ฐำนไวท้ วี่ ดั ทำ่ ถนน อุตรดิตถ ์ เน่ืองจำกเป็นพระพุทธรูปน่ังขัดสมำธิเพชร จึงเรียก ว่ำ “หลวงพ่อเพชร” ภำยหลังพระบำทสมเด็จพระ ระยะทางจากอา� เภอเมอื งอตุ รดิตถ์ไปอ�าเภอต่าง ๆ จุลจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัวโปรดให้สรำ้ งวัดเบญจมบพิตร ลบั แล ๘ กโิ ลเมตร เสรจ็ แลว้ จงึ ได้อัญเชญิ หลวงพอ่ เพชรไปประดิษฐำน ตรอน ๒๔ กโิ ลเมตร เปน็ เวลำ ๑๐ ป ี ตอ่ มำหลวงนฤนำรถเสน ี (พนั ) ไดข้ อ ทำ่ ปลำ ๔๐ กโิ ลเมตร พระรำชทำนกลับคืนมำประดิษฐำนไว้ท่ีวัดท่ำถนน ทองแสนขนั ๔๒ กิโลเมตร ดงั เดมิ พชิ ยั ๔๕ กิโลเมตร น�ำ้ ปำด ๗๒ กโิ ลเมตร วัดธรรมาธิปไตย ตั้งอยู่ในตัวเมืองใกล้สี่แยกจุดตัด ฟำกทำ่ ๑๑๓ กโิ ลเมตร ระหวำ่ งของถนนอนิ ใจม ี กบั ถนนสำ� รำญรน่ื เดมิ ชอ่ื วดั บำ้ นโคก ๑๖๕ กิโลเมตร ตน้ มะขำม ภำยในมตี กึ ธรรมสภำเปน็ ทเี่ กบ็ บำนประตู ของวหิ ำรหลงั ใหญแ่ ละเกำ่ แกม่ ำกของวดั พระฝำง บำน ระยะทางจากอ�าเภอเมืองจังหวัดอุตรดิตถ์ไปยัง ประตทู ำ� จำกไมป้ รขู นำดกวำ้ ง ๒.๒ เมตร สงู ๕.๓ เมตร จงั หวดั ใกล้เคยี ง และหนำ ๑๖ เซนตเิ มตร แกะสลกั ในสมยั อยธุ ยำเปน็ แพร ่ ๗๔ กโิ ลเมตร ลำยกนกกำ้ นขด มลี ำยพมุ่ ทรงขำ้ วบณิ ฑ ์ ๗ พมุ่ ระหวำ่ ง สโุ ขทยั ๑๐๐ กโิ ลเมตร พมุ่ มกี นกใบเทศขนำบสองดำ้ น กลำ่ วกนั วำ่ เปน็ บำน พษิ ณุโลก ๑๑๘ กโิ ลเมตร ประตไู มแ้ กะสลกั ทม่ี คี วำมงำมเชน่ เดยี วกบั ประตวู หิ ำร น่ำน ๑๙๑ กิโลเมตร วดั สทุ ศั นเ์ ทพวรำรำมวรมหำวหิ ำรทก่ี รงุ เทพฯ เลย ๓๘๗ กิโลเมตร อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก ประดิษฐำนอยู่หน้ำ สถานทที่ อ่ งเทีย่ ว ศำลำกลำงจังหวัดอุตรดิตถ์ สร้ำงข้ึนเพื่อเป็นเกียรติ อา� เภอเมืองอตุ รดิตถ ์ ประวตั ใิ นควำมกลำ้ หำญ รกั ชำต ิ และควำมเสยี สละ วดั ทา่ ถนน เดมิ ชอื่ “วดั วงั เตำหมอ้ ” ตงั้ อยบู่ รเิ วณรมิ เม่ือครั้งพระยำพิชัยดำบหักครองเมืองพิชัยในสมัย แม่น�ำ้ นำ่ น ถนนเกษมรำษฎร ์ ต�ำบลทำ่ อิฐ ตรงขำ้ ม ธนบรุ ี ทำ่ นไดส้ รำ้ งเกยี รตปิ ระวตั ไิ วโ้ ดยเฉพำะอยำ่ งยง่ิ สถำนีรถไฟอุตรดิตถ์ เป็นท่ีประดิษฐำน “หลวงพ่อ เมอื่ พ.ศ. ๒๓๑๖ ขำ้ ศกึ ยกทพั มำตเี มอื งพชิ ยั พระยำ เพชร” ซึง่ เป็นพระพทุ ธรูปสมั ฤทธสิ์ มยั เชียงแสน นัง่ พิชัยดำบหักได้ยกทัพไปสกัดไว้ จนข้ำศึกแตกพ่ำย ขดั สมำธเิ พชร ตำมประวัตกิ ล่ำวว่ำ ใน พ.ศ. ๒๔๓๖ กลบั ไป กำรรบในครงั้ นน้ั ดำบคมู่ อื ของพระยำพชิ ยั ดำบ ขณะที่หลวงพ่อด้วงเจ้ำอำวำสวัดหมอนไม้ เดินทำง หกั ขำ้ งขวำไดห้ กั ไป แตก่ ย็ งั รบไดช้ ยั ชนะ ดว้ ยวรี กรรม กลับจำกรับนิมนต์ที่วัดสว่ำงอำรมณ์ ต�ำบลไผ่ล้อม ดังกล่ำวจึงได้สมญำนำมว่ำ “พระยำพิชัยดำบหัก” อำ� เภอลบั แล เมอ่ื ผำ่ นวดั สะแกทเี่ ปน็ วดั รำ้ ง ไดพ้ บเนนิ ดนิ อนสุ ำวรยี แ์ หง่ นอ้ี อกแบบ และหลอ่ โดยกรมศลิ ปำกร เป็นจอมปลวกขนำดใหญ่ และเห็นเกศพระพุทธรูป ท�ำพิธีเปิดเม่ือวันที่ ๒๐ กุมภำพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๒ พ้นออกมำจำกจอมปลวก จึงได้ขุดจอมปลวกออก ปัจจุบันได้ยกฐำนอนุสำวรีย์ฯ ให้สูงข้ึน ๒.๕ เมตร อุตรดติ ถ์ 9

อนุสาวรยี พ์ ระยาพชิ ยั ดาบหกั 10 อุตรดติ ถ์

ภำยในบริเวณอนสุ ำวรีย์มี พพิ ธิ ภัณฑด์ ำบเหล็กน้�ำพี้ ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นที่เก็บรักษำดำบเหล็กน�้ำพ้ี ขนำดใหญ ่ มนี ำ้� หนกั ๕๕๗.๘ กโิ ลกรมั ฝกั ดำบทำ� ดว้ ย ไม้ประดู่ฝังลวดลำยมุกหุ้มปลอกเงินสลักลำย และ พิพิธภัณฑ์พระยำพิชัยดำบหัก เก็บรวบรวมประวัติ ของพระยำพิชัยดำบหัก แบบจ�ำลองสนำมรบและ วิถีชีวิตผู้คนเมืองอุตรดิตถ์ในสมัยอยุธยำตอนปลำย รวมทงั้ เครอื่ งมอื เครอื่ งใชใ้ นสมยั โบรำณ เปดิ ใหเ้ ขำ้ ชม ทกุ วันตงั้ แตเ่ วลำ ๐๘.๐๐-๑๘.๐๐ น. วดั กลางธรรมสาคร อยทู่ ถ่ี นนเจรญิ ธรรม ตำ� บลบำ้ นเกำะ อยู่ห่ำงจำกตัวอ�ำเภอ ๓ กิโลเมตร เป็นวัดโบรำณ ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยำ มีพระอุโบสถท่ีมีลวดลำย รูปปน้ั สวยงำม ภำยในมพี ระประธำนเป็นพระพุทธ รูปปูนปั้นลงรักปิดทองมีพุทธลักษณะงดงำมศิลปะ รตั นโกสนิ ทรต์ อนตน้ ผสมศลิ ปะแบบลำวหลวงพระบำง และจิตรกรรมฝำผนังเป็นภำพพระเวสสันดรชำดก และเทพชุมนุมสมยั รตั นโกสนิ ทรต์ อนตน้ นอกจำกน้ ี ยงั มอี ำคำรพพิ ธิ ภณั ฑท์ จี่ ดั แสดงวตั ถโุ บรำณ เครอื่ งใช้ โบรำณ ดำบนำ้� พ ้ี ตพู้ ระไตรปฎิ ก พระเครอ่ื งปำงตำ่ ง ๆ ปัจจุบันวัดกลำงยังเป็นศูนย์กลำงกำรปฏิบัติธรรมใน เขตเมืองอุตรดิตถ ์ มีกำรจัดบวชชพี รำหมณ์ และฝึก กรรมฐำนปลี ะหลำยครงั้ สำมำรถสอบถำมขอ้ มลู ไดท้ ี่ วดั ใหญท่ า่ เสา โทร. ๐๘ ๙๕๖๖ ๙๔๑๙ วัดน�า้ รดิ เหนือ ตง้ั อยหู่ มู่ท ่ี ๙ ต�ำบลน�ำ้ ริด ภำยในวัด มีพระพุทธรูปปำงพยำบำลภิกษุอำพำธ เรียกว่ำ วดั ใหญ่ทา่ เสา ต้งั อย่ทู ถี่ นนสำ� รำญรนื่ ตำ� บลทำ่ เสำ พระพยำบำล พระอิริยำบถนั่งชันพระชำนุเบื้องขวำ อยูใ่ กลก้ บั สถำนรี ถไฟ สนั นษิ ฐำนวำ่ สรำ้ งในสมัยกรุง ประคองพระภิกษุอำพำธด้วยพระหัตถ์ขวำให้นอนที่ ศรีอยุธยำตอนปลำย และเป็นสถำนท่ีเรียนมวยของ พระเพลำ (ตัก) พระหัตถ์ซ้ำยประคองมือซ้ำยพระ พระยำพชิ บั ดำบหกั ซงึ่ ทำ่ นเปน็ ลกู ศษิ ยข์ องหลวงปเู่ มฆ ภิกษุอำพำธ พระพักตร์เพ่งมองในลักษณะเมตตำ ภำยในวัดมีโบรำณสถำนและปูชนียวัตถุมำกมำย มี สงสำร มีควำมสูง ๑๖๐ เซนติเมตร กว้ำง ๑๘๐ วิหำรหลวงพ่อเย๊กซ่ึงเป็นวิหำรเก่ำแก่ และหอไตร เซนตเิ มตร เปน็ พระพุทธรปู ๑ ใน ๘๐ ปำงตำมพุทธ โบรำณทตี่ กแตง่ ดว้ ยกระจกส ี แตป่ จั จบุ นั ไมไ่ ดใ้ ชเ้ กบ็ ประวัต ิ มเี รอ่ื งเลำ่ ว่ำ นำยประสิทธ ิ์ เอย่ี มงวิ้ งำม เคย พระไตรปฎิ กแลว้ วดั น้ีขึ้นทะเบียนเป็นโบรำณสถำน ป่วยด้วยโรคอัมพฤกษ์ เมื่ออำกำรทุเลำจึงบวชและ เมือ่ พ.ศ. ๒๕๔๐ เดินทำงไปศึกษำพระธรรมที่จังหวัดชลบุรี ได้พบ อุตรดิตถ์ 11

กับพระพุทธรปู ปำงดงั กลำ่ วทวี่ ดั แหง่ หนง่ึ จงึ อธษิ ฐำน สำรีริกธำตุ และได้ท�ำกำรบูรณะใหม่ในสมัยรัชกำล ขอใหห้ ำยจำกโรค พร้อมกับวำดรูปเหมือนพระพุทธ ที่ ๔ พระวิหำรหลวง เดิมประดิษฐำนพระพุทธรูป รูปเพ่ือเป็นแบบในกำรปั้น ซ่ึงใช้เวลำในกำรปั้น ๕ เชียงแสน ภำยในวหิ ำรมพี ระประธำนองคใ์ หญ ่ พระ เดอื น จงึ แล้วเสรจ็ จำกน้ันได้ปิดทององคพ์ ระ และ อุโบสถ หลังเก่ำเป็นที่ประดิษฐำน “พระฝำง” ซึ่ง น�ำมำประดิษฐำนไว้ที่วัดน้�ำริดเหนือ ภำยหลังจึงมี เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องมหำจักรพรรดิ พระบำท สุขภำพดีขึ้น สมเด็จพระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัว โปรดให้อัญเชิญ การเดินทาง จำกตัวอ�ำเภอเมืองใช้หลวงหมำยเลข ไปประดษิ ฐำนไวท้ ่ีวดั เบญจมบพติ ร กรุงเทพฯ จึงได้ ๑๐๔๕ ระยะทำง ๑๑ กิโลเมตร มีกำรสร้ำงพระฝำงองค์ใหม่ข้ึนมำประดิษฐำนอยู่ใน อุโบสถแทนองค์เดิม และที่ผนังด้ำนหน้ำมีประตูไม้ กลมุ่ หตั ถกรรมผลติ ภณั ฑผ์ กั ตบชวา บำ้ นทำ่ หมทู่ ี่ ๕ ทสี่ รำ้ งขน้ึ ใหมม่ ลี วดลำยแกะสลกั งดงำม โดยของเดมิ ต�ำบลหำดกรวด ห่ำงจำกตัวเมือง ๑๒ กิโลเมตร นำ� ไปเกบ็ รักษำไวท้ ว่ี ดั ธรรมำธิปไตย กลุ่มแม่บ้ำนหัตถกรรมนี้ได้รับกำรส่งเสริมจำกศูนย์ การเดนิ ทาง วดั พระฝำงอยหู่ ำ่ งจำกตวั เมอื งประมำณ ส่งเสริมอุตสำหกรรมภำคเหนือ จังหวัดพิษณุโลก ๒๕ กโิ ลเมตร ไปตำมทำงหลวงหมำยเลข ๑๐๔๕ ถงึ และส�ำนักงำนอุตสำหกรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ ผลิต ทำงหลวงหมำยเลข ๑๑ เล้ียวขวำไปทำงพิษณุโลก สินค้ำจำกผักตบชวำซึ่งมีฝีมือประณีตและรูปแบบ ๒ กิโลเมตร แล้วเล้ียวซ้ำยจำกทำงแยกเข้ำไป ๑๔ ทันสมัย เช่น โคมไฟ แจกัน กระเป๋ำ ตะกร้ำและ กโิ ลเมตร รองเท้ำ เป็นผลิตภัณท์โอทอป ของกลุ่มภำยใต้ช่ือ สนิ ค้ำ “ท่ำชวำ”สอบถำมขอ้ มลู ไดท้ ่ี คณุ ปรำณ ี คุ้ม จุดชมวิวเขาพลึง ต้ังอยู่ที่ต�ำบลบ้ำนด่ำนนำขำม อกั ษร ประธำนกลุม่ ฯ โทร. ๐๘ ๐๖๘๗ ๒๗๖๗ หรือ ระหว่ำงเส้นทำงเด่นชัยจังหวัดแพร่และจังหวัด ก�ำนันไพรวัลย์ โทร. ๐๘ ๗๒๐๐ ๑๒๔๗ อุตรดิตถ์ เป็นจุดส�ำหรับพักรถและจุดชมทิวทัศน์ การเดินทาง ใช้ทำงหลวงหมำยเลข ๑๐๔๐ สำยวัง ทสี่ วยทส่ี ดุ ของจงั หวดั อตุ รดติ ถ ์ เพรำะตง้ั อยบู่ นสนั เขำ กะพ้ี เลี้ยวซ้ำยไปทำงอ�ำเภอตรอน ขับตรงไปข้ำม สำมำรถมองเหน็ ทศั นยี ภำพของหบุ เขำทส่ี ลบั ซบั ซอ้ น สะพำนพบสำมแยกให้เลี้ยวขวำไปตำมทำงหลวง สวยงำม หมำยเลข ๑๒๐๔ ประมำณ ๒.๕ กิโลเมตร จะเห็น ปำ้ ยหมบู่ ำ้ นอุตสำหกรรมฯ อยู่ทำงซำ้ ยมือแล้วเลย้ี ว อ�าเภอตรอน เขำ้ ไปอีก ๓๐๐ เมตร วัดบ้านแก่งใต้ ตั้งอยู่หมู่ที่ ๓ ต�ำบลบ้ำนแก่ง เป็น วัดเก่ำแก่อำยุประมำณ ๓๐๐ ปี แต่เดิมวัดตั้งอยู่ วดั พระฝางสวางคบรุ มี นุ นี าถ อยรู่ มิ แมน่ ำ�้ นำ่ น บำ้ น กลำงล�ำน้�ำน่ำน แต่กระแสน้�ำไหลเชี่ยวท�ำให้ตลิ่งพัง พระฝำง หมู่ที่ ๓ ต�ำบลผำจุก ในอดีตเป็นท่ีต้ังของ จึงต้องย้ำยมำสร้ำงใหม่ในสถำนท่ีปัจจุบัน วัดนี้ยัง เมืองสวำงคบุรีมุนีนำถ และเคยเป็นวัดที่จ�ำพรรษำ เคยเป็นสถำนท่ีฝึกมวยของพระยำพิชัยเม่ือคร้ังท่ำน ของ “เจ้ำพระฝำง” เมืองสวำงคบุรี ซ่ึงอยู่ในสมณ ยังเป็นเด็ก นอกจำกนี้ยังเป็นท่ีประดิษฐำน “หลวง เพศแต่นุ่งหม่ ผ้ำแดง ทำ่ นได้รวบรวมผ้คู นเพอื่ กอบกู้ พอ่ เพชร” พระพทุ ธรปู ปำงสมำธเิ พชร ขนำดหนำ้ ตกั เอกรำชสมัยเสียกรุงศรีอยธุ ยำ คร้ังท่ี ๒ สิ่งทส่ี �ำคัญ ๓.๘๐ เมตร สงู ๔.๕๐ เมตร เนอ่ื งจำกอโุ บสถวดั แหง่ น้ี ภำยในวดั คอื เจดยี พ์ ระมหำธำต ุ เปน็ ทบี่ รรจพุ ระบรม สร้ำงมำประมำณ ๖๐ ปีแลว้ เกดิ กำรชำ� รดุ ทำงวัด 12 อุตรดิตถ์

วดั พระฝางสวางคบรุ ีมุนีนาถ จึงบูรณะปฏิสังขรณ์องค์พระประธำนหลวงพ่อเพชร ประเพณีทอดแหบึงทับกระดำนขึ้นในเดือนเมษำยน ขณะทช่ี ำ่ งจำกจงั หวดั พจิ ติ รทำ� กำรซอ่ มแซมองคพ์ ระ ของทุกปี ซึง่ ในบึงจะมีปลำหลำยชนดิ เชน่ ปลำบกึ ประธำนอยนู่ นั้ กพ็ บวำ่ มปี นู จำ� นวนมำกหลดุ รว่ งออก ปลำสวำย ปลำนิล และปลำใน เปน็ ต้น จำกบริเวณท้องของพระประธำน และพบว่ำมีเศียร พระซอ่ นอยขู่ ำ้ งใน ชำวบำ้ นจงึ เรยี กวำ่ “พระอกแตก” วัดคลึงคราช ตั้งอยู่ริมแม่น้�ำน่ำน บ้ำนเด่นส�ำโรง ตอ่ มำมผี เู้ สนอให้เรียกชอ่ื วำ่ “พระพทุ ธซอ้ น” ตำ� บลหำดสองแคว เป็นวดั สมยั โบรำณ ตำมตำ� นำน กล่ำวว่ำ วัดคลึงครำชตั้งอยู่ในเมืองตำชูชก ซ่ึงเป็น บึงทับกระดาน ต้งั อย่ใู นเขตต�ำบลวังแดง เปน็ บงึ นำ�้ เมอื งเกำ่ แกท่ มี่ คี วำมเปน็ มำเชอื่ มรอ้ ยกบั พทุ ธประวตั ิ ขนำดกลำงทเ่ี ปน็ แหลง่ อำหำรของนก และยงั ไดม้ กี ำร ในเร่ืองพระเวสสันดรชำดก วัดคลึงครำชได้รับกำร ปรบั ภมู ทิ ัศนบ์ ึงแหง่ นี ้ ใหเ้ ปน็ ทพ่ี กั ผ่อนหยอ่ นใจของ บูรณะโดยหลวงพ่อพุ่มจันทสโรเมื่อ ๑๐๐ กว่ำปี ประชำชน มรี ำ้ นอำหำรบรกิ ำร นอกจำกนย้ี งั มกี ำรจดั มำแลว้ จำกหลกั ฐำนพบวำ่ ไดม้ กี ำรขดุ ดนิ จำกรมิ สระ อตุ รดติ ถ์ 13

มำปั้นเป็นอิฐ แล้วน�ำมำสร้ำงวิหำรและพระอุโบสถ สกุลเวยี งจันทน์ นอกจำกน้ีบริเวณสระยังพบเศษเครื่องปั้นดินเผำท่ี - ชมิ อำหำรพ้ืนบำ้ น แตกหกั และโอง่ โบรำณซงึ่ ขดุ พบเมอื่ ประมำณป ี พ.ศ. - ร่วมงำนประเพณีไหลแพไฟ พิธีขอบคุณพืชพันธุ์ ๒๕๐๐ ภำยในโอง่ บรรจกุ ระดูก ปัจจบุ ันเกบ็ รักษำไว้ ธัญญำหำรและสำยนำ�้ ทกุ วนั ท่ ี ๔-๖ ธนั วำคมของ ในวดั คลึงครำช ทุกป ี - ร่วมงำนย้อนร�ำลึกเส้นทำงประวัติศำสตร์ รัชกำล ชุมชนลาวเวียง ณ บ้านหาดสองแคว ต้ังอยู่ท่ี ที่ ๕ เสดจ็ ประพำสเมอื งตรอนตรสี นิ ธ์ุ ซึ่งก�ำหนดจดั หมู่บ้ำนหำดสองแคว ต�ำบลหำดสองแคว เนื่องจำก ขึน้ ในวันที ่ ๒๒ ตุลำคมของทุกปี ณ วดั หำดสองแคว บรรพบุรุษของชำวลำวเวียงได้ย้ำยมำจำกเมือง - พักคำ้ ง ณ โฮมสเตยบ์ ้ำนหำดสองแคว เวยี งจนั ทน ์ สำธำรณรฐั ประชำธปิ ไตยประชำชนลำว ได้ต้ังชื่อหมู่บ้ำนขึ้นตำมลักษณะภูมิประเทศที่ตั้งอยู่ พพิ ธิ ภณั ฑพ์ น้ื บา้ นวดั หาดสองแคว ตงั้ อยภู่ ำยในวดั ในขณะน้ัน ซึ่งเป็นทำงออกของล�ำน�้ำสองสำยที่ไหล หำดสองแคว ตำ� บลหำดสองแคว เปน็ ทเี่ กบ็ รวบรวม มำบรรจบกนั คอื แมน่ ำ้� นำ่ น กบั คลองตรอน เกดิ เปน็ วัตถุโบรำณข้ำวของเครื่องใช้ในชีวิตประจ�ำวันของ สนั ทรำยยนื่ ออกมำเปน็ แนวยำวตลอดหมบู่ ำ้ นจงึ เรยี ก ชำวบำ้ น สะทอ้ นประเพณวี ถิ ชี วี ติ ของไทยเชอ้ื สำยลำว บริเวณน้ีว่ำ “บ้ำนหำดสองแคว” ชำวเรือท่ีเดินทำง ทม่ี ำจำกเวยี งจันทน์ ซึง่ อพยพมำตง้ั ถ่ินฐำนในแถบนี้ ผำ่ นมำจงึ มกั จะคำ้ งแรมบรเิ วณหำดทรำยแหง่ น ้ี ทำ� ให้ กำรเขำ้ ชมสำมำรถตดิ ตอ่ ลว่ งหนำ้ ไดท้ ่ี โทร. ๐ ๕๕๔๗ ชำวบ้ำนมีอำชีพเสริมและรำยได้ดี อีกท้ังยังรักษำ ๖๐๘๑, ๐๘ ๑๘๘๘ ๔๓๔๑ วฒั นธรรมประเพณดี ง้ั เดมิ ตลอดจนควำมเชอื่ ในเรอื่ ง ตำ่ งๆ กำรทำ� บญุ ตำมเทศกำลและตกั บำตรพระทกุ วนั ศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณ มิได้ขำด โดยกำรหำบอำหำรไปถวำยท่ีวัด เรียกว่ำ ชายแดนอุตรดิตถ์ เป็นสถำนศึกษำสังกัดส�ำนักงำน “กำรตกั บำตรหำบจงั หนั ” หรอื “กำรตักบำตรหำบ ส่งเสริมกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำม สำแหรก” สอบถำมขอ้ มูล โทร. ๐ ๕๕๔๙ ๖๐๙๘, อัธยำศัย มีวัตถุประสงค์ฝึกและพัฒนำอำชีพรำษฎร ๐๘ ๔๕๐๕ ๔๖๗๒ ไทยเพ่ือเสริมสร้ำงควำมม่ันคงตำมแนวชำยแดนโดย กจิ กรรมส�าหรบั นกั ท่องเที่ยว ยึดปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียงตำมแนวพระรำชด�ำริ - สมั ผสั วถิ ชี วี ติ ชำวบำ้ นหำดสองแคว ทน่ี ำ� วสั ดเุ หลอื ใช้ ของพระบำทสมเด็จพระปรมินทรมหำภูมิพลอดุลย มำทำ� เปน็ ของใช้ในครัวเรอื น เดช รัชกำลที่ ๙ ในพน้ื ท่ ี ๕ จังหวัด มีกำรจดั ดำ� เนิน - ชมกำรตกั บำตรหำบจังหนั กำรในพื้นท่ีปกติ ๓ จังหวัด คือ จังหวัดอุตรดิตถ์ - ชมพพิ ิธภัณฑพ์ ื้นบ้ำนวฒั นธรรม จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดน่ำน ภำยในศูนย์มี - ชมแมน่ ำ้� สองส ี กิจกรรมกำรเรียนรู้ต่ำงๆ มำกมำย เชน่ กำรสง่ เสริม - ชมผลิตภณั ฑ์อำหำรแปรรูป กำรเล้ียงจง้ิ หรีด กบ เปด็ และหมหู ลุม กำรเพำะเห็ด - ตำมรอยเส้นทำงเสด็จประพำสต้น (รัชกำลที่ ๕) นำงฟำ้ กำรปลกู ผกั ปลอดสำรพษิ และกำรท�ำนำวำง ในแมน่ ้ำ� นำ่ น ต้นเดียว เป็นต้น สอบถำมข้อมูล โทร. ๐ ๕๕๔๙ - สำ� รวจร่องรอยเมอื งโบรำณตำชชู ก ๖๐๐๕ - ซอื้ สินคำ้ หตั ถกรรมผำ้ ทอนำ�้ อำ่ ง ซง่ึ เป็นเอกลักษณ์ 14 อตุ รดิตถ์

อ�าเภอทองแสนขนั ภำยในบริเวณพิพิธภัณฑ์ คงเหลือบ่อเหล็กน�้ำพ้ีอยู ่ พิพิธภัณฑ์บ่อเหล็กน�้าพี้ ต้ังอยู่บ้ำนน้�ำพ้ี หมู่ท่ี ๑ ๒ บ่อ ได้แก่ “บ่อพระแสง” เป็นโบรำณสถำนซ่ึงมี ต�ำบลน้�ำพี้ รวบรวมหลักฐำนต่ำง ๆ เกี่ยวกับประวัติ ควำมส�ำคัญเน่ืองจำกเป็นแหล่งเหล็กกล้ำที่น�ำมำท�ำ เหลก็ นำ้� พ ี้โดยจดั แสดงและจำ� ลองใหเ้ หน็ ถงึ กระบวนกำร พระแสงดำบในสมัยโบรำณ สงวนไว้ใช้ท�ำพระแสง ขน้ั ตอนกำรตเี หลก็ นำ้� พ ้ี ตงั้ แตก่ ำรขดุ แรเ่ หลก็ นำ้� พ ี้ จน ดำบสำ� หรบั พระมหำกษตั รยิ เ์ ทำ่ น้นั อีกบ่อหน่งึ เรยี ก ตีเป็นดำบท่ีมีควำมแกร่งและควำมคมเป็นเลิศ ดำบ วำ่ “บ่อพระขรรค์” เปน็ บอ่ ที่ชำ่ งทำ� พระขรรคถ์ วำย น้�ำพี้จึงเป็นอำวุธคู่กำยของขุนศึกและนักรบไทยใน พระมหำกษัตริย์ ปัจจุบันอนุญำตให้มีกำรตกเหล็ก สมัยโบรำณ บริเวณโดยรอบตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ นำ�้ พี้ ขน้ึ จำกบ่อท้ังสองได้ ประดับ มีร้ำนขำยของที่ระลึกและเคร่ืองรำงท่ีท�ำ นอกจำกนี้ยังมี ศาลเจ้าพ่อบ่อเหล็กน�้าพี้ ต้ังอยู่ จำกเหล็กน�้ำพ้ี พิพิธภัณฑ์แห่งน้ีเปิดเมื่อวันท่ี ๑๒ บริเวณทิศเหนือของบ่อพระแสงและบ่อพระขรรค ์ สงิ หำคม พ.ศ. ๒๕๔๒ ซง่ึ มตี ำ� นำนวำ่ บอ่ เหลก็ นำ้� พม้ี ปี ธู่ รรมรำชทเี่ ปน็ เจำ้ พอ่ “บ่อพระแสง” สถิตย์อยู่ในศำลน้ีเพ่ือคอยปกปักษ์ พพิ ิธภัณฑบ์ ่อเหล็กนา้� พี้ อตุ รดิตถ์ 15

รักษำบ่อพระแสงและบ่อพระขรรค์ เป็นศำลที่สร้ำง ตะเภำ-วังผำชัน ไปทำงบ้ำนน้�ำพี้ ห่ำงจำกตัวเมือง ขึ้นใหม่มีลักษณะทรงไทยสีขำว พ้ืนปูด้วยหินอ่อน ๑๘ กโิ ลเมตร ไรอ่ งนุ่ คำนำอันอยู่ทำงขวำมือ ภำยในตง้ั รปู เจำ้ พอ่ ๓ ตน หลอ่ ดว้ ยเหลก็ นำ�้ พที้ ง้ั องค์ เพ่ือเปน็ ทยี่ ึดเหน่ียวจิตใจของชำวน้�ำพี้ ภาพเขียนบนหน้าผายุคก่อนประวตั ศิ าสตร ์ เขาตา พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้ำชมทุกวัน ตั้งแต่เวลำ ๐๘.๐๐- พรม อย่ทู ่บี ำ้ นถ�้ำดนิ ตำ� บลบอ่ ทอง เขำตำพรมเป็น ๑๗.๐๐ น. สอบถำมขอ้ มูล โทร. ๐ ๕๕๔๗ ๙๑๓๕, เขำหนิ ทรำยสงู ประมำณ ๓๐๐ เมตร ภำพเขยี นทเ่ี พงิ ๐๘ ๑๔๗๔ ๐๑๔๗ ผำอยสู่ ูงจำกพ้ืนประมำณ ๖ เมตร กวำ้ งประมำณ ๑ การเดินทาง ใช้ทำงหลวงหมำยเลข ๑๑ และเข้ำ เมตร ยำว ๑.๕๐ เมตร พนื้ หนำ้ เรยี บ เปน็ ภำพเขียน ทำงหลวงหมำยเลข ๑๒๔๔ มำยงั อำ� เภอทองแสนขนั สีแดงลักษณะเป็นลำยเส้น เป็นรูปสัญลักษณ์คล้ำย จำกนน้ั แยกขวำเขำ้ วดั นำ้� พ ี้ แลว้ ตรงไปอกี ๓ กโิ ลเมตร รูปคน ภำพรูปทรง เลขำคณิต เป็นรูปวงกลม และ รวมระยะทำง ๔๐ กโิ ลเมตรจำกตัวจงั หวัด เสน้ โครงรปู จุดไขป่ ลำคล้ำยรวงขำ้ ว เป็นภำพเขียนสี แห่งแรกและแห่งเดียวในจังหวัดอุตรดิตถ์ และยังไม่ ยา่ นการคา้ ผลติ ภณั ฑเ์ หลก็ นา�้ พ ี้ ตงั้ อยบู่ รเิ วณปำกทำง สำมำรถกำ� หนดอำยขุ องภำพเขยี นได ้ สอบถำมขอ้ มลู เข้ำหมู่บ้ำนน�้ำพี้ มีร้ำนจ�ำหน่ำยสินค้ำหลำกหลำย โทร. ๐ ๕๕๘๒ ๔๐๒๖-๘ รูปแบบทเี่ ปน็ ฝมี อื ของชำวบ้ำน มีคณุ ภำพและรำคำ การเดินทาง จำกอ�ำเภอเมือง ใชท้ ำงหลวงหมำยเลข ทเี่ หมำะสม เชน่ มดี ดำบ พระขรรค ์ รปู หลอ่ พระพทุ ธรปู ๑๑ ประมำณ ๒๐ กิโลเมตร จำกน้ันเลี้ยวซ้ำยเข้ำ ที่ท�ำจำกเหล็กน้�ำพี้ ตลอดระยะทำง ๑ กิโลเมตร ทำงหลวงหมำยเลข ๑๒๑๔ อีก ๑๒ กิโลเมตร จะ รำ้ นเปิดทุกวนั เวลำ ๐๘.๐๐–๑๗.๐๐ น. และมกี ำร พบทำงเข้ำหมบู่ ำ้ นถ้�ำดิน เลยี้ วเข้ำไปอกี ๑ กิโลเมตร สำธิตตีดำบจำกแร่เหล็กให้ชม สอบถำมข้อมูล โทร. ๐๘ ๑๐๓๗ ๑๒๔๙ วนอทุ ยานถา�้ จนั ตง้ั อยทู่ บี่ ำ้ นนำ้� หมใี หญ ่ ซงึ่ เปน็ พน้ื ที่ ที่อุดมสมบูรณ์ มีสัตว์ป่ำชุกชุม มีคลองตรอนไหล ไร่องุ่นคานาอัน ตั้งอยู่ที่ต�ำบลน�้ำพี้ ตัวอำคำรเป็น ผ่ำนกลำงหมู่บ้ำน ภำยในวนอุทยำนมีถ�้ำหินปูนที่มี สถำปัตยกรรมแบบทัสคำนีของประเทศอิตำลี เน้น หินงอกหินย้อยสวยงำมและมีต้นจันผำอยู่บริเวณถ�้ำ ควำมโคง้ มนและใชส้ สี ม้ สลบั เหลอื งดโู ดดเดน่ ภำยใน จงึ เรียกว่ำ “ถ้�ำจัน” อำคำรมหี อคอยขนำดยอ่ มพรอ้ มบนั ไดวน นกั ทอ่ งเทยี่ ว สถานทท่ี ่องเทยี่ วภายในวนอุทยาน สำมำรถขึน้ มำชมทัศนยี ภำพแบบ ๓๖๐ องศำ ส่วน ถ�า้ จัน เปน็ ถำ�้ ขนำดใหญ่ทส่ี ุด มีลักษณะเปน็ ห้องโถง พนื้ ทด่ี ำ้ นขำ้ งเปน็ ไรอ่ งนุ่ ใกลก้ นั มบี อ่ นำ้� ขนำดใหญใ่ ห้ ใหญ่คล้ำยห้องประชุม และภำยในมีหินย้อยสลับ ควำมชมุ่ ชน่ื รวมไปถึงรำ้ นขำยอำหำร เครื่องด่มื และ ซับซ้อนเป็นห้องๆ เดิมเรียกว่ำถ�้ำค้ำงคำว เพรำะมี ร้ำนขำยของที่ระลึก ผลผลิตจะเร่ิมมีให้เก็บได้ต้ังแต่ คำ้ งคำวเปน็ จ�ำนวนมำก ช่วงเดือนเมษำยนเป็นตน้ ไป พอหมดชว่ งฤดเู กบ็ องุ่น ถ�้าเสือดาว ลักษณะเป็นโพรงมีทำงเข้ำได้หลำยทำง กย็ งั มมี ลั เบอรร์ หี่ รอื ลกู หมอ่ นผลสดใหเ้ กบ็ ชมิ ได ้ เปดิ สลับซับซ้อนและภำยในยังมีหินงอกหินย้อย ซึ่งมี ใหเ้ ขำ้ ชมทกุ วัน เวลำ ๑๐.๐๐-๒๐.๐๐ น. สอบถำม ลักษณะเดน่ สวยงำมมำก ขอ้ มูล โทร. ๐๘ ๖๒๐๗ ๒๐๙๖ ถา�้ ธารสวรรค์ถา้� ววั แดงจะมลี กั ษณะคลำ้ ยกบั ถำ้� เสอื ดำว การเดินทาง ใช้ทำงหลวงหมำยเลข ๑๑ แยกคุ้ง ซึง่ มหี นิ งอกหินย้อยสวยงำมเช่นกนั 16 อุตรดติ ถ์

ถ�้ำเต่ำ มีเสำหินขนำดใหญ่ และมีหินงอกหินย้อย จุดชมวิว เส้นทำงสำยป่ำแดง น้�ำกรำยและล�ำน้�ำ คลำ้ ยรปู สตั วห์ ลำยชนดิ เชน่ งจู งอำง และเตำ่ เปน็ ตน้ นำงพญำทล่ี ดั เลำะตำมรมิ เขำ มที ศั นยี ภำพทสี่ วยงำม ถ้�ำเจดีย์ ดูตำมลักษณะภำยนอกคล้ำยกับเจดีย์องค์ มำก เนื่องจำกเส้นทำงสำยน้ีตัดผ่ำนป่ำดิบแล้ง ใหญ่ มีหนิ ก่อตวั เรยี งข้ึนเป็นแนว และป่ำดิบเขำท�ำให้อำกำศเย็นสบำย นอกจำกน้ียัง การเดินทาง อยู่ห่ำงจำกตัวเมืองอุตรดิตถ์ประมำณ สำมำรถพบเหน็ พรรณไม้นำนำชนิด เช่น กลว้ ยไมป้ ่ำ ๔๕ กิโลเมตร โดยมีถนนป่ำขนุน–วังผำชันตัดผ่ำน พญำเสือโคร่งและเฟิรน์ พนั ธตุ์ ำ่ ง ๆ ตำมทำงหลวงหมำยเลข ๑๐๔๗ เสน้ ทางเดนิ ศกึ ษาธรรมชาต ิ ม ี ๒ เสน้ ทำง คอื เสน้ ทำง ที่ ๑ ระยะทำง ๒.๕ กิโลเมตร และเส้นทำงที่ ๒ อา� เภอท่าปลา ระยะทำง ๔ กิโลเมตร มีจดุ ชมวิวตลอดเส้นทำง และ อทุ ยานแหง่ ชาตลิ า� นา�้ นา่ น ตงั้ อยทู่ ต่ี ำ� บลผำเลอื ด มพี นื้ ที่ สำมำรถมองเห็นทิวทัศน์อันสวยงำมของอ่ำงเก็บน้�ำ ครอบคลมุ ๒ จงั หวดั คอื จงั หวดั แพรแ่ ละอตุ รดติ ถ ์ เปน็ เขอ่ื นสิริกติ ิ์ ทวิ เขำสลบั ซบั ซอ้ น ประกอบดว้ ยปำ่ นำนำชนดิ ทยี่ งั คง แก่งนางพญา เป็นแก่งหินน้อยใหญ่ลดหล่ันกันอยู่ ควำมสมบรู ณแ์ ละเปน็ แหลง่ ตน้ นำ้� ลำ� ธำรของอำ่ งเกบ็ นำ้� กลำงล�ำน�ำ้ นำงพญำ ซ่งึ มนี ำ�้ ไหลตลอดทง้ั ปแี ละเปน็ เหนอื เขอ่ื นสริ กิ ติ ์ิ มพี นื้ ทที่ งั้ หมดประมำณ ๙๙๙ ตำรำง บริเวณท่สี วยงำมมำก กโิ ลเมตร ประกอบดว้ ยปำ่ เบญจพรรณ ปำ่ ดบิ แลง้ ปำ่ ดบิ เขำ ในอุทยำนแห่งชำติล�ำน�้ำน่ำนยังมีน้�ำตกหลำยแห่ง และปำ่ เตง็ รงั ซง่ึ จะพลดั ใบเปลย่ี นสสี วยงำมเมอ่ื ยำ่ งเขำ้ สู่ เช่น น�้าตกเชิงทอง น้�าตกห้วยมุ่นและน�้าตกดอยผา ฤดหู นำว และเปน็ ทอ่ี ยอู่ ำศยั ของสตั วป์ ำ่ จำ� นวนมำก เชน่ หมอก ซง่ึ เปน็ นำ�้ ตกขนำดเลก็ มนี ำ้� ไหลตลอดปเี พรำะ เกง้ กวำง หมปู ำ่ หมแี ละสตั วป์ กี ไมน่ อ้ ยกวำ่ ๒๐๐ ชนดิ มีสภำพป่ำต้นน้�ำท่อี ุดมสมบูรณ์ อทุ ยำนแหง่ ชำตลิ ำ� นำ�้ นำ่ นไดป้ ระกำศเปน็ อทุ ยำนแหง่ ชำต ิ เนื่องจำกเป็นน้�ำตกท่ีอยู่ใกล้หน่วยพิทักษ์อุทยำนฯ เมือ่ วันที ่ ๓๐ กันยำยน พ.ศ. ๒๕๔๑ จดุ ที่สงู ท่สี ดุ ของ “เชิงทอง” จึงสำมำรถเดินทำงจำกจังหวัดแพร่ได้ อทุ ยำนฯ คอื ยอดเขำภพู ญำพ่อ สูงถงึ ๑,๓๕๐ เมตร สะดวกกว่ำ โดยเริ่มจำกตัวอ�ำเภอเมืองแพร่ เมื่อถึง เปน็ จดุ แบง่ เขตจงั หวดั แพรก่ บั จงั หวดั อตุ รดติ ถ ์ อทุ ยำน วัดพระธำตุชอ่ แฮ เลี้ยวซำ้ ยตรงไปอกี ๙ กิโลเมตร แห่งชำติฯ มีอำกำศหนำวเย็นตลอดปี ฝนตกชุกใน อทุ ยำนแหง่ ชำตฯิ มบี ำ้ นพกั รบั รองและสถำนทกี่ ำงเตน็ ท์ เดือนพฤษภำคม-กันยำยน และในฤดูหนำวอำกำศ ไวบ้ รกิ ำร ตดิ ตอ่ สอบถำมขอ้ มลู โทร. ๐ ๕๕๔๓ ๖๗๕๑ จะหนำวเย็น หรอื กรมอทุ ยำนแหง่ ชำต ิ สตั วป์ ำ่ และพนั ธพ์ุ ชื โทร. ๐ สถานท่ที อ่ งเทีย่ วภายในอทุ ยานฯ ๒๕๖๒ ๐๗๖๐ www.dnp.go.th อาคารแสดงพันธป์ุ ลาน�้าจืด จดั แสดงพนั ธ์ปุ ลำน�้ำจดื การเดินทาง ใช้ทำงหลวงหมำยเลข ๑๐๔๕ ถึง หลำกพันธ ์ุ เช่น ปลำตะเพยี นอนิ โด ปลำตะโดด เปิด หลักกิโลเมตรที่ ๔๓-๔๔ สำยอุตรดิตถ์-เขื่อนสิริกิต ์ิ ใหเ้ ข้ำชม ตั้งแต่เวลำ ๐๘.๐๐-๑๗.๐๐ น. ผ่ำนสำมแยกร่วมจิต อ�ำเภอท่ำปลำ และสำมแยก อ่างเก็บนา�้ เข่ือนสิริกิติ์ เป็นอ่ำงเก็บน�้ำขนำดใหญ่ มี ห้วยเจริญจะพบทำงแยกซ้ำยมือ เข้ำไปประมำณ ๔ พ้ืนท่ีประมำณ ๒๐๓ ตำรำงกิโลเมตร ภำยในเข่ือน กิโลเมตร จะถึงท่ีท�ำกำรอุทยำนแห่งชำติฯ อยู่ห่ำง มีเกำะแก่งมำกมำยเหมำะส�ำหรับกำรล่องแพชมวิว จำกตวั จงั หวดั ๔๕ กิโลเมตร ทวิ ทศั น์ อตุ รดติ ถ์ 17

เขอ่ื นสริ กิ ิต์ิ ดอยพระธาตุ องค์พระเจดีย์กลางน�้า ตั้งอยู่เหนือ ทำงหลวงหมำยเลข ๑๑๔๖ จำกนัน้ แยกซ้ำยเขำ้ เสน้ เข่ือนสิริกิติ์ประมำณ ๖ กิโลเมตร จำกกำรศึกษำ ทำงหลวงหมำยเลข ๑๑๖๓ ประมำณ ๖ กโิ ลเมตร ทำงประวัติศำสตร์และกำรขุดค้นวัตถุโบรำณพบ แล้วแยกขวำใช้เส้นทำงหมำยเลข ๑๓๔๑ อีก ๔ ว่ำกำรสร้ำงเจดีย์กลำงน�้ำน่ำจะอยู่รำวยุคต้นกรุง กิโลเมตร จะมีทำงแยกไปเขื่อนดิน ตรงไปเป็นบ้ำน รัตนโกสินทร์ เมื่อสร้ำงเขื่อนสิริกิต์ิพ้ืนที่หมู่บ้ำน ทำ่ เรอื ท่สี ำมำรถตดิ ตอ่ เรอื ไปชมดอยพระธำตุได้ ทำ่ ปลำกจ็ มอยใู่ ตอ้ ำ่ งเกบ็ นำ�้ สว่ นเจดยี ต์ ง้ั อยบู่ นดอย บรเิ วณพ้ืนท่รี อบๆ จงึ เป็นเสมอื นเกำะกลำงน้�ำ เจดยี ์ เขอ่ื นสริ กิ ติ ์ิ เป็นเข่ือนดินที่ใหญ่ท่ีสุดในประเทศไทย บนดอยพระธำตุน้มี อี ำยุประมำณ ๒๐๐ ป ี จดุ ท่ีมอง ก่อสร้ำงขึ้นตำมโครงกำรพัฒนำลุ่มน�้ำน่ำน เดิมชื่อ เห็นเจดีย์กลำงน�้ำได้ชัดเจนท่ีสุด คือ บริเวณท่ำเรือ เขื่อนผำซ่อม ต่อมำได้รับพระบรมรำชำนุญำตให้ เก่ำในเขตอุทยำนล�ำน้�ำน่ำนซ่ึงอยู่ในพื้นท่ีของหมู่ท ี่ อัญเชิญพระนำมำภิไธยสมเด็จพระนำงเจ้ำสิริกิต ิ์ ๘ ต�ำบลผำเลือด ณ จุดนี้เป็นริมฝั่งของอ่ำงเก็บน�้ำ พระบรมรำชนิ นี ำถ พระบรมรำชชนนพี นั ปหี ลวง จงึ ได้ เขื่อนสิริกิต์ิ เจดีย์มีระเบียงและพระพุทธรูปปูนปั้น ใชช้ อ่ื วำ่ “เขอ่ื นสริ กิ ติ ”ิ์ เปน็ เขอ่ื นดนิ ถมแกนดนิ เหนยี ว สีขำวอยู่โดยรอบ สำมำรถมองเห็นทิวทัศน์อันกว้ำง สงู ๑๑๓.๖๐ เมตร ยำว ๘๑๐ เมตร สนั เขอ่ื นกวำ้ ง ๑๒ ไกลของเขื่อนสิริกิต์ิ ภำยในบริเวณวัดด้ำนล่ำงร่มรื่น เมตร อำ่ งเกบ็ นำ้� สำมำรถเกบ็ กกั นำ�้ ไดส้ งู สดุ ๙,๕๑๐ มีกุฎพิ ระและโรงทำน ล้ำนลูกบำศก์เมตร ซึ่งมีควำมจุมำกเป็นล�ำดับที่สำม การเดนิ ทาง จำกสำมแยกอำ� เภอทำ่ ปลำ แยกซำ้ ยเขำ้ รองจำกอำ่ งเกบ็ นำ้� เขอ่ื นศรนี ครนิ ทรแ์ ละเขอ่ื นภมู พิ ล 18 อุตรดิตถ์

สถานทท่ี ่องเทย่ี วภายในเขื่อนสิรกิ ิติ์ เนื่องในวโรกำสทรงเจริญพระชนมพรรษำครบ ๖ สวนสุมาลัย กฟผ. สร้ำงข้ึนเพ่ือเฉลิมฉลองและเทิด รอบ ในป ี พ.ศ. ๒๕๔๗ โดยทรงพระรำชทำนนำมวำ่ พระเกียรติสมเด็จพระนำงเจ้ำฯ พระบรมรำชินีนำถ “สะพำนเฉลมิ พระเกยี รตบิ รมรำชนิ นี ำถ” และโปรดฯ พระบรมรำชชนนีพันปีหลวง เน่ืองในวโรกำสทรง ให้อัญเชิญตรำสัญลักษณ์งำนเฉลิมพระชนมพรรษำ เจรญิ พระชนมพรรษำครบ ๕ รอบ เมอ่ื ป ี พ.ศ. ๒๕๓๕ ครบ ๖ รอบ ๑๒ สิงหำคม ๒๕๔๗ มำประดิษฐำน และยังเป็นสถำนที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจของ บนแผน่ ปำ้ ยพระรำชดำ� รสั แทนอกั ษรพระนำมำภไิ ธย ประชำชนท่ัวไป ภำยในสวนประกอบด้วยพันธุ์ไม้ ย่อ ส.ก. หลำยชนิด สระบัว สวนสมนุ ไพร ลำนอเนกประสงค์ บริเวณสันเขือ่ น บรเิ วณเหนือเขอ่ื นสริ กิ ิต์ิเป็นทะเล ลำนสุขภำพ และ “ประติมำกรรมสู่แสงสว่ำง” ซึ่ง สำบนำ�้ จดื ขนำดใหญ ่ มที วิ ทศั นท์ ส่ี วยงำม โดยเฉพำะ เป็นสญั ลกั ษณ์ของสวนสุมำลยั อันสอื่ ควำมหมำยถงึ อย่ำงยิ่ง ในช่วงพระอำทิตย์อัสดง สัมผัสวิถีชีวิต สมเด็จพระนำงเจ้ำฯ พระบรมรำชินีนำถท่ีทรงเป็น ของชำวประมง ท่ีพักอำศัยอยู่ตำมแพในอ่ำงเก็บน�้ำ องค์ผู้นำ� งำนศิลปำชพี ของไทย นอกจำกน้ียังมีร้ำนอำหำรมำกมำยไว้คอยบริกำรนัก สสู่ ำยตำอำรยประเทศ ทอ่ งเทีย่ วอีกด้วย สะพานเฉลิมพระเกียรติบรมราชินีนาถ สร้ำง พระพุทธสิริสัตตราช (หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์) จ�ำลอง ข้ึนเพื่อเทิดพระเกียรติแด่สมเด็จพระนำงเจ้ำฯ พระพุทธสิรสิ ัตตรำช หรอื หลวงพอ่ เจ็ดกษตั รยิ ์ เปน็ พระบรมรำชินีนำถ พระบรมรำชชนนีพันปีหลวง พระพทุ ธรปู โบรำณปำงสมำธ ิ ประทบั นง่ั บนขนดหำง สะพานเฉลิมพระเกยี รติบรมราชินนี าถ อุตรดติ ถ์ 19

ของพญำงู ๗ องค์ ถือเป็นพระพุทธรูปคู่บุญบำรมี ตอ่ ๓ หรอื www.sirikitdam.egat.com หลวงปู่สอ พนั ธโุ ล (พระครูภำวนำกิจโกศล) แหง่ วัด เรอื บริการ ชมทัศนยี ภำพของอ่ำงเก็บน�้ำเขอ่ื นสิรกิ ติ ิ ์ บำ้ นหนองแสง ตำ� บลสงิ ห ์ อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั ยโสธร ทะเลสำบสุริยัน-จันทรำ สมเดจ็ พระนำงเจำ้ ฯ พระบรมรำชนิ นี ำถ พระบรมรำช - เรอื น่ำนนท ี ๑ โดยสำรได ้ ๘๐ คน ชนนพี นั ปหี ลวง เสดจ็ พระรำชดำ� เนนิ ทรงเททองหลอ่ - เรือนำ่ นนท ี ๘ โดยสำรได้ ๒๕ คน พระพุทธสิริสัตตรำชจ�ำลอง (หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์) เขอ่ื นสริ กิ ติ ิ์เปิดใหเ้ ข้ำชมทกุ วนั ตั้งแต่เวลำ ๐๘.๐๐- ณ วดั บวรนิเวศวิหำร กรุงเทพมหำนคร เมื่อวนั ที่ ๓ ๑๖.๐๐ น. สอบถำมข้อมูลได้ท่ี ส�ำนักงำนกลุ่มงำน เมษำยน พทุ ธศักรำช ๒๕๔๒ และ กฟผ. ได้อญั เชญิ นันทนำกำรเขอื่ นสิรกิ ิต ์ิ โทร. ๐ ๕๕๔๖ ๑๑๔๐ ต่อ มำประดิษฐำน ณ บริเวณสนั เข่อื นสิรกิ ิต ์ิ เม่ือวนั ท่ี ๘ ๓๕๐๑-๒ หรือ แผนกประชำสัมพันธ์และชุมชน สิงหำคม พ.ศ. ๒๕๔๒ สัมพนั ธ์ โทร. ๐ ๕๕๔๖ ๑๑๓๖ บำ้ นพักรับรอง โทร. ๐ ๕๕๔๖ ๑๑๓๔ กจิ กรรมท่องเท่ียว การเดินทาง จำกตัวเมืองอุตรดิตถ์ไปตำมทำงหลวง - ชมแปลงเกษตรชีววิถเี พ่อื กำรพฒั นำอยำ่ งย่ังยนื หมำยเลข ๑๐๔๕ (เขื่อนสิริกิติ์-ท่ำปลำ) ระยะทำง - ชมวงั มัจฉำพรอ้ มใหอ้ ำหำรปลำ ประมำณ ๕๘ กิโลเมตรถึงเขื่อนสริ กิ ิติ์ หรอื โดยสำร - เดินป่ำเสน้ ทำงเชิงนเิ วศน ์ รถประจำ� ทำงสำยอตุ รดติ ถ-์ ฟำกท่ำ-บำ้ นโคก (ท่ำรถ - กำงเต็นทพ์ กั แรม อยู่บริเวณหอนำฬิกำ ถนนส�ำรำญรื่น) หรือจะเหมำ - เลอื กซอื้ สนิ คำ้ ทศี่ นู ยจ์ ำ� หนำ่ ยสนิ คำ้ ผลติ ภณั ฑช์ มุ ชน แท็กซบ่ี รเิ วณสถำนีรถไฟอุตรดติ ถก์ ไ็ ดเ้ ช่นกัน สิ่งอ�านวยความสะดวก เขื่อนดินช่องเขาขาด ตั้งอยู่ทำงทิศตะวันตกเฉียง บา้ นพกั เขอื่ นสริ กิ ติ ม์ิ บี ำ้ นพกั ทง้ั ในรปู แบบบำ้ นเดยี่ ว เหนือของเขื่อนสิริกิติ์ ห่ำงจำกเขื่อนประมำณ ๔๒ บำ้ นเรอื นแถวและบำ้ นทำวเฮำส ์สำมำรถรองรบั ผมู้ ำเยอื น กโิ ลเมตร ก่อสรำ้ งโดยกรมชลประทำนตำมโครงกำร ไดถ้ งึ ๒๘๐ คน พรอ้ มสง่ิ อำ� นวยควำมสะดวกครบครนั พัฒนำลุ่มน้�ำน่ำน เดิมชื่อ “แซดเดิ้ล” (Saddle) หอ้ งประชุมสัมมนา และหอ้ งจัดเลยี้ ง พร้อมอุปกรณ์ ประกอบข้ึนด้วยเข่ือนดิน (Dike) ปิดก้ันช่องเขำท่ีมี โสตทัศนูปกรณ์ จ�ำนวน ๓ ห้อง รองรับผู้เข้ำร่วม ระดับต�ำ่ กวำ่ ระดับเกบ็ กกั นำ้� จ�ำนวน ๘ แห่ง มคี วำม ประชมุ ได้ ๒๐-๑๒๐ คน ยำวต่อเนื่องรวม ๕.๓ กิโลเมตร ตัวเขื่อนตั้งอยู่ท่ี ร้านอาหารระเบียงน่านเขื่อนสิริกิต์ิ เป็นร้ำนอำหำร อ�ำเภอท่ำปลำ จังหวัดอุตรดิตถ์ ก่อสร้ำงระหว่ำงป ี ทต่ี ง้ั อยู่รมิ แมน่ �้ำนำ่ น สำมำรถมองเห็นสะพำนแขวน พ.ศ. ๒๕๐๖ แลว้ เสร็จป ี พ.ศ. ๒๕๑๕ ปจั จบุ ันกำร เฉลิมพระเกียรติฯ ที่สวยงำม พร้อมอำหำรข้ึนช่ือ ไฟฟ้ำฝ่ำยผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้เสริมหิน หลำยรำยกำร ทิ้งท่ีตัวเขื่อนเพ่ือเพ่ิมควำมแข็งแรงและป้องกันกำร กัดเซำะของน้�ำตลอดแนวตัวเขือ่ นทั้งหมด สนามกอล์ฟเขื่อนสิริกิติ์ (กำรไฟฟ้ำฝ่ำยผลิตแห่ง ประเทศไทย) อำ� เภอทำ่ ปลำ มขี นำด ๑๘ หลมุ เปดิ ให้ สถานทที่ อ่ งเทย่ี วภายในบรเิ วณเขอื่ นดนิ ชอ่ งเขาขาด บรกิ ำรทกุ วนั เวลำ ๐๖.๐๐-๑๗.๐๐ น. สอบถำมขอ้ มลู ศาลาชมววิ มบี รรยำกำศรม่ รน่ื ทศั นยี ภำพอนั สวยงำม โทร. ๐ ๕๕๔๖ ๑๑๔๐ ตอ่ ๓๕๐๑-๒, ๐๘ ๙๙๖๑ ๖๕๗ ภำยในบริเวณยังมีเคร่ืองดื่มและร้ำนอำหำรบริกำร 20 อุตรดิตถ์

เขื่อนดินชอ่ งเขาขาด โดยใช้พชื ผกั จำกโครงกำรชีววิถีฯ ของเข่อื นดินฯ ไปถนนจะไต่ระดับลงจำกเขำจนไปส้ินสุดที่ อ�ำเภอ แปลงเกษตรทฤษฎใี หม่ตามแนวพระราชด�าร ิ ทำ่ ปลำ และสำมำรถเดนิ ทำงตอ่ ไปถงึ ทที่ ำ� กำรอทุ ยำน นักท่องเที่ยวสำมำรถเลือกซ้ือพืชผักผลไม้ปลอดสำร แหง่ ชำตลิ ำ� นำ้� นำ่ น นกั ทอ่ งเทยี่ วสำมำรถเดนิ ปำ่ ศกึ ษำ พษิ ได้หลำกหลำยชนิด ธรรมชำตขิ องพรรณไม ้ ดนู กและกำงเตน็ ทพ์ กั แรมได ้ กจิ กรรมภายในเข่อื นดนิ ชอ่ งเขาขาด หมู่บ้านท่าเรอื บำ้ นท่ำเรือ หมูท่ ่ ี ๙ เปน็ หมูบ่ ำ้ นริม ตกปลา มีบริกำรแพตกปลำขนำดบรรจุผู้โดยสำร ทะเลสำบเหนอื เขอ่ื นสริ กิ ติ ์ิ มแี พสำ� หรบั นกั ทอ่ งเทยี่ ว ได้แพละ ๕-๑๐ คน เส้นทำงล่องแพจำกเขื่อนดิน- ที่ต้องกำรล่องชมทศั นยี ภำพบรเิ วณอ่ำงเกบ็ น�้ำ มีทัง้ เขื่อนสิรกิ ติ ์ ิ สอบถำมข้อมูลได้ท่ีกำ� นันเอก โทร. ๐๘ แบบค้ำงคืนหรือเช้ำไปเย็นกลับ ขนำดจุได้ ๒๐-๕๐ ๙๙๖๐ ๖๖๔๓ คน รำคำ ๒,๕๐๐-๔,๐๐๐ บำท ตดิ ตอ่ สอบถำมขอ้ มลู ไดท้ ี่ แพเกษณิ ี ทัวร ์ โทร. ๐๘ ๕๗๓๒ ๐๙๒๕, ๐๘ ภูพญาพอ่ ต�าบลนางพญา ตั้งอยู่ในเขตอทุ ยำนแหง่ ๑๙๕๓ ๙๔๔๐ หรอื ๐๘ ๕๗๒๗ ๖๔๙๖ และแพ ชำตลิ �ำน้ำ� นำ่ น เปน็ จุดสงู สดุ บนเส้นทำงสำยเชิงทอง ทำ่ ปลำ ปญั ญำทวั ร ์ (ลงุ แจง้ ) โทร. ๐๘ ๗๒๐๔ ๒๗๓๙, - ก่ิวเคยี น สงู ๑,๓๕๐ เมตร จำกระดับนำ�้ ทะเล และ ๐๘ ๖๗๓๗ ๖๐๙๘, ๐๘ ๙๒๖๑ ๙๒๑๖ ยังเป็นยอดเขำสูงสุดที่แบ่งเขตแดนระหว่ำงจังหวัด การเดินทาง จำกสำมแยกอ�ำเภอท่ำปลำแยกซ้ำย แพร่กับจังหวัดอุตรดิตถ์ บนภูพญำพ่อมีศำลซึ่งเป็น เข้ำทำงหลวงหมำยเลข ๑๑๔๖ จำกนน้ั แยกซ้ำยเขำ้ ท่ีเคำรพของชำวบ้ำนในท้องถิ่น บริเวณนี้เป็นจุด ทำงหลวงหมำยเลข ๑๑๖๓ ประมำณ ๖ กโิ ลเมตร ชมทิวทัศน์ที่มองเห็นเขำและผืนป่ำกว้ำงไกลไปจน แลว้ แยกขวำใชท้ ำงหมำยเลข ๑๓๔๑ อกี ๔ กโิ ลเมตร สุดสำยตำที่อ่ำงเก็บน�้ำเข่ือนสิริกิติ์ เส้นทำงช่วงถัด มที ำงแยกไปเข่ือนดนิ ตรงไปจะเปน็ บ้ำนท่ำเรอื อุตรดิตถ์ 21

หม่บู า้ นท่าเรอื เส้นทางท่องเท่ียวนางพญา (อุตรดิตถ์)–หมู่บ้าน - น่งั เรอื คนละ ๕๐ บำท/เท่ียว ประมงปากนาย (นา่ น) เปน็ กำรลอ่ งแพจำกหมทู่ ี่ ๘ - รถมอเตอรไ์ ซคค์ ันละ ๑๐๐ บำท/เท่ียว บ้ำนห้วยไผ่ ต�ำบลท่ำแฝก อ�ำเภอท่ำปลำ จังหวัด - รถยนตค์ นั ละ ๒๕๐ บำท/เทีย่ ว อตุ รดติ ถ ์ ไปหมบู่ ำ้ นประมงปำกนำย จงั หวดั นำ่ น ซง่ึ สอบถำมขอ้ มลู ไดท้ ี่ แพลงุ ต้ ี โทร. ๐๘ ๙๕๖๖ ๕๑๖๙ เป็นหมู่บ้ำนประมงเดิมที่อยู่ริมแม่น้�ำน่ำน หลังกำร สร้ำงเขื่อนสิริกิต์ิ หมู่บ้ำนปำกนำยได้กลำยเป็นส่วน จุดชมวิวห้วยน�้ารี ต้ังอยู่ที่บ้ำนก่ิวเคียน ต�ำบลจริม หน่ึงของอ่ำงเก็บน�้ำเหนือเขื่อน ซ่ึงมีลักษณะเหมือน อยหู่ ำ่ งจำกตวั อำ� เภอทำ่ ปลำตำมเสน้ ทำงไปบำ้ นนำ้� พรำ้ ทะเลสำบขนำดใหญ่ โอบล้อมด้วยทิวเขำเขียวขจ ี และนำงพญำประมำณ ๑๒ กโิ ลเมตร ชำวบ้ำนปำกนำยประกอบอำชีพประมง มีแพร้ำน อำหำรให้เลือกชิมปลำจำกเขอ่ื น เช่น ปลำกด ปลำบ่ ู บา้ น ณ ภาสริ ิ เลขท ่ี ๙๙/๒ หมทู่ ่ี ๑๑ ตำ� บลผำเลอื ด ปลำคงั ปลำแรด ปลำทบั ทมิ เปน็ ตน้ และบำงแหง่ ทำ� ใกล้กับสนำมกอล์ฟเข่ือนสิริกิติ์ เป็นแหล่งท่องเท่ียว เปน็ หอ้ งพกั ไว้บริกำรนักท่องเท่ยี ว ในช่วงนอกฤดฝู น ใหม่เหมำะส�ำหรับพำเด็กๆ มำท�ำกิจกรรมร่วมกัน ชำวประมงจะมแี พลำกไปวดั ปำกนำย สำมำรถนงั่ รบั ในครอบครวั ภำยในมเี ครอ่ื งเลน่ และกจิ กรรมทอ่ งเทยี่ ว ประทำนอำหำรบนเรอื ไดใ้ ชเ้ วลำประมำณ ๒ ชั่วโมง แนวผจญภัย เชน่ กจิ กรรมฟำรม์ สระน�ำ้ ส�ำหรบั เดก็ การเดินทาง จำกอ�ำเภอท่ำปลำ จังหวัดอุตรดิตถ์ ไตเ่ ชือก ยงิ ธนู ขับรถ ATV, Water ball ค่ำเขำ้ ชม ไปหมู่บ้ำนประมงปำกนำย จังหวัดน่ำน ด้วยแพ (ไม่รวมค่ำกจิ กรรม) ผ้ใู หญ ่ ๕๐ บำท เดก็ ๓๐ บำท ขนำนยนต ์ อัตรำค่ำบริกำร ดังนี้ เด็กท่ีสูงไม่เกิน ๑๒๐ เซ็นติเมตร ไม่เสียค่ำเข้ำชม 22 อุตรดติ ถ์

เปดิ บริกำรทกุ วนั ต้ังแตเ่ วลำ ๐๙.๐๐-๑๙.๐๐ น. สอบถำมขอ้ มลู โทร. ๐๘ ๑๓๗๘ ๔๓๖๔, ๐๘ ๑๙๘๑ ๘๘๑๐ การเดินทาง ใช้ทำงหลวงหมำยเลข ๑๐๔๕ ทำงไป เขอื่ นสิรกิ ติ ์ ิ จำกน้นั เลย้ี วขวำไปทำงสนำมกอล์ฟ จะ พบบำ้ น ณ ภำสิริอยู่ทำงขวำมือ อา� เภอน�า้ ปาด อนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาปาด พญำปำดเป็นผู้สร้ำง เมืองน�้ำปำด เมืองฟำกท่ำ ซ่ึงในปัจจุบันคือ อ�ำเภอ นำ�้ ปำดและอำ� เภอฟำกทำ่ มเี รอ่ื งเลำ่ สบื ตอ่ กนั มำวำ่ ทำ่ น พญำปำด เปน็ คนลำวอำศยั อยทู่ เ่ี วยี งจนั ทน ์ ภำยหลงั ได้ชักชวนพลเมืองเวียงจันทร์ และบริเวณใกล้เคียง อพยพมงุ่ หนำ้ มำทำงทศิ ตะวนั ตกของเวยี งจนั ทนแ์ ละ ไดเ้ ขำ้ มำตง้ั ถน่ิ ฐำนขน้ึ ใหมท่ รี่ มิ ฝง่ั แมน่ ำ�้ บำ้ นสองคอน (อำ� เภอฟำกทำ่ ) ตอ่ มำพญำปำดไดส้ รำ้ งเมอื งขน้ึ มำใหม่ อกี ทต่ี ำ� บลบำ้ นฝำย (อำ� เภอนำ�้ ปำด) ซง่ึ ตงั้ อยรู่ มิ แมน่ ำ้� เหมือนกัน แม่น�้ำน้ันต่อมำได้ช่ือว่ำ “แม่น�้ำปำด” ตำมชอ่ื ของพญำปำด ในเดอื นมนี ำคมของทกุ ป ี มกี ำร จัดงำนบวงสรวงเจ้ำพ่อพญำปำด เทศกำลหอม- กระเทยี ม และของดีอำ� เภอน้ำ� ปำด” อุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่ (อุทยานแห่งชาติ อทุ ยานแหง่ ชาตติ น้ สักใหญ่ คลองตรอน) บ้ำนปำงเกลือ หมู่ที่ ๔ ต�ำบลน�้ำไคร ้ กิโลเมตร ประกำศเปน็ อทุ ยำนแหง่ ชำติเมอื่ วนั ท ่ี ๔ เป็นถิ่นก�ำเนิดของไม้สักท่ีส�ำคัญของประเทศและมี ธนั วำคม พ.ศ. ๒๕๔๖ ต้นสักใหญ่ขน้ึ อย่ ู พน้ื ทปี่ ระกอบไปดว้ ยป่ำธรรมชำติ สถานทท่ี อ่ งเทยี่ วภายในอทุ ยานฯ ทสี่ มบรู ณ ์ เปน็ ปำ่ เบญจพรรณผสมปำ่ เตง็ รงั บนเนนิ เขำ ต้นสกั ใหญ ่ อำยุ ๑,๕๐๐ ปี อยู่หมู่ท ี่ ๔ ต�ำบลน�้ำไคร ้ มยี อดดอย “ภเู มย่ี ง” เปน็ ยอดดอยทสี่ งู ทส่ี ดุ ในอทุ ยำนฯ พบเมือ่ ประมำณ พ.ศ. ๒๔๗๐ ในพื้นท่บี ้ำนปำงเหลือ พรอ้ มทงั้ ยอดภเู ขำควำ่� เรอื และภเู ขำหงำยเรอื มนี ำ้� ตก บริเวณกิโลเมตรที่ ๕๖-๕๗ ลึกเข้ำไปประมำณ ๑ ทสี่ วยงำมหลำยแหง่ เชน่ นำ�้ ตกหว้ ยโปรง่ นำ้� ตกหว้ ย กิโลเมตร วดั ควำมโตทีค่ วำมสูงระดับอก ๑.๓ เมตร คอมและน้�ำตกห้วยเนียม มีคลองที่ชื่อว่ำ “คลอง จำกพื้นดิน ได้ ๙๔๘ เซนติเมตร ต้นสักมีควำมสูง ตรอน” เป็นคลองซึ่งล�ำห้วยต่ำงๆ ไหลมำรวมกัน ๓๗.๘ เมตร รอบโคนต้น ขนำด ๑๑ คนโอบ อำยุ ท่ีคลองนี้และไหลลงสู่แม่น�้ำน่ำน อุทยำนฯ มีพื้น ของตน้ สกั ใหญป่ ระมำณ ๑,๕๐๐ ป ี (เทยี บจำกขนำด โดยรวม ๓๒๔,๒๔๐.๘๐ ไร่ หรือ ๕๑๘.๘๐ ตำรำง และวงปจี ำกตอไมส้ กั บรเิ วณใกลเ้ คยี ง) และเนอ่ื งจำก อตุ รดติ ถ์ 23

ลกั ษณะทไี่ มส่ มบรู ณ ์ ลำ� ตน้ เปน็ โพรงไมเ่ หมำะทจี่ ะนำ� การเดินทาง มำแปรรปู จงึ ทำ� ใหต้ น้ สกั ใหญร่ อดพน้ จำกำรทำ� ไมใ้ นอดตี เสน้ ทำงท ่ี ๑ จำกจงั หวดั อตุ รดติ ถไ์ ปอำ� เภอนำ้� ปำด ใช้ เหลือไว้เป็นอนุสรณ์ให้คนรุ่นหลังได้มีโอกำสชมและ ทำงหลวงหมำยเลข ๑๐๔๕ ระยะทำง ๖๘ กโิ ลเมตร ศึกษำจนถึงปัจจุบัน ภำยในอุทยำนยังมีนิทรรศกำร จำกท่ีท�ำกำรอ�ำเภอน�้ำปำด ใช้ทำงหลวงหมำยเลข ต้นสกั ใหญ่ไว้ให้ศกึ ษำอีกดวั ย ๑๒๑๒ สำยหว้ ยเดอ่ื -บ้ำนเพีย ถงึ บ้ำนตน้ ขนุนระยะ น�้าตกคลองตรอน เกดิ จำกหว้ ยคลองตรอน มนี �้ำตก ทำงประมำณ ๒๓ กิโลเมตร ๒ แห่ง คือ แห่งแรกมี ๔ ชัน้ มีควำมสงู ประมำณ ๒๐ เส้นทำงที่ ๒ ป่ำคลองตรอนฝั่งซ้ำย (ภูเม่ียง) จำก เมตร แหง่ ท ี่ ๒ หำ่ งจำกแหง่ แรกประมำณ ๑.๕ เมตร อ�ำเภอเมืองอุตรดิตถ์ เดินทำงตำมทำงหลวงแผ่น มีควำมสูงประมำณ ๓๐ เมตร ต้องเดินเท้ำเข้ำชม ดนิ หมำยเลข ๑๑ (พิษณโุ ลก-เดน่ ชยั ) ระหวำ่ งหลัก น้�ำตกทง้ั สอง กโิ ลเมตรที่ ๑๐๗-๑๐๘ (สำมแยกบำ้ นปำ่ ขนุน) แยก น�้าตกห้วยคอม อยู่บริเวณตอนกลำงของห้วยคอม ไปตำมทำงหลวงจังหวัดหมำยเลข ๑๐๔๗ ระหว่ำง บำ้ นหว้ ยคอม ตำ� บลนำ้� ไผ ่ ประกอบดว้ ยนำ้� ตก ๓ แหง่ หลกั กโิ ลเมตรท ่ี ๓๖-๓๗ สำมำรถเทยี่ วชมถำ้� จนั และ แหง่ ที่ ๑ เป็นน�ำ้ ตกชัน้ เดียวสูงประมำณ ๑๕ เมตร เมื่อเดินทำงต่อไปตำมทำงหลวงจังหวัดหมำยเลข แห่งที่ ๒ อยู่ห่ำงจำกแหง่ แรก ๒๐๐ เมตร เป็นนำ�้ ตก ๑๐๔๗ อีกประมำณ ๑๑ กิโลเมตร ถึงทำงแยกเข้ำ ๒ ช้นั สูงประมำณ ๑๕ เมตร แห่งท่ี ๓ หำ่ งจำกแห่งท ่ี ทท่ี ำ� กำรอทุ ยำนแหง่ ชำตติ น้ สกั ใหญ ่ โดยเดนิ ทำงตำม ๒ ประมำณ ๓๐ เมตร เปน็ นำ้� ตกชน้ั เดยี วสงู ๒๐ เมตร ทำงแยกเข้ำไปอีก ๓ กิโลเมตร ถึงที่ท�ำกำรอุทยำน กำรเดินทำงต้องเดินเท้ำ ห่ำงจำกหมู่บ้ำนห้วยคอม แห่งชำตติ น้ สักใหญ่ ประมำณ ๕ กิโลเมตร เส้นทำงที ่ ๓ ป่ำคลองตรอนฝ่ังขวำ (ตน้ สักใหญ่) จำก ยอดภเู มย่ี ง เปน็ ผำขนำดใหญ ่ มคี วำมสงู จำกระดบั นำ้� ทำงหลวงสำยพิษณุโลก-อุตรดิตถ์ ตรงกิโลเมตรท ่ี ทะเลปำนกลำง ๑,๖๕๖ เมตร เปน็ เทือกเขำแบง่ เขต ๑๐๔-๑๑๐ เขำ้ ไปตำมทำงหลวงหมำยเลข ๑๐๔๗ ไป จังหวัดอุตรดิตถ์และจังหวัดพิษณุโลก เม่ืออยู่บน อกี ๕๓ กิโลเมตร จึงถึงอทุ ยำนฯ ต้นสกั ใหญ่ หนำ้ ผำแล้ว สำมำรถชมทศั นียภำพของทง้ั ๒ จงั หวดั เส้นทำงท่ ี ๔ ป่ำคลองตรอนฝงั่ ขวำ (ตน้ สักใหญ)่ จำก และมองเห็นเขอ่ื นสริ กิ ติ ์ิได้ นอกจำกนี้ยังพบกุหลำบ ทำงหลวงสำยอุตรดิตถ์-เขื่อนสิริกิต์ิ-น�้ำปำด แยก พันป ี ขำ้ หลวงดงตำว เอนอำ้ และขันหมำกป่ำ รวม เข้ำไปตรงกิโลเมตรท่ี ๖๔-๖๕ เข้ำไปตำมทำงหลวง ท้ังพรรณไม้นำนำชนิด และสัตว์ป่ำต่ำงๆ เช่น เก้ง หมำยเลข ๑๐๔๗ ไปอีกประมำณ ๙ กิโลเมตร จงึ ถึง หมูปำ่ เสือลำยเมฆ เลยี งผำ หมีกระจง และเต่ำปูลู อุทยำนฯ ต้นสกั ใหญ่ ตลอดเสน้ ทำงสยู่ อดภเู มย่ี ง จะพบนำ�้ ตกทงั้ หมด ๘ ชน้ั แต่ละชั้นมลี ักษณะควำมสวยงำมแตกต่ำงกนั ออกไป แม่น้า� สองสี บรเิ วณสะพำนเช่ือมระหวำ่ งเข่อื นสิริกิติ์ บนยอดภเู มยี่ งสำมำรถกำงเตน็ ทไ์ ด ้ แตไ่ มม่ สี งิ่ อำ� นวย กับตลำดสดบ้ำนปำกปำด มีแม่น�้ำไหลมำบรรจบ ควำมสะดวก กำรเดินทำงเข้ำชมต้องเดินเท้ำเท่ำน้ัน กัน คือ แม่น�้ำน่ำนท่ีปล่อยจำกเข่ือนและแม่น้�ำปำด อุทยำนฯ ยังมีที่พักบริกำรแก่นักท่องเท่ียว โดย ที่ไหลลงมำจำกช่องเขำอีกด้ำนหน่ึง เนื่องจำกดินฝั่ง สำมำรถจองท่ีพักไดด้ ้วยตนเองผ่ำนทำง www.dnp. อ�ำเภอน�้ำปำดซ่ึงส่วนใหญ่เป็นดินลูกรัง เวลำฝนตก go.th สอบถำมข้อมูลได้ท่ีท�ำกำรอุทยำน โทร. ๐ กจ็ ะชะลำ้ งตะกอนแดงลงมำดว้ ย สอบถำมขอ้ มลู ไดท้ ่ี ๕๕๒๘ ๒๓๔๗ หรอื ๐๘ ๙๙๕๘ ๖๗๕๙ แผนกประชำสมั พนั ธเ์ ขอ่ื นสริ กิ ติ ์ิโทร. ๐ ๕๕๔๖ ๑๑๓๖ 24 อุตรดติ ถ์

พระใหญ่แห่งห้วยมุ่น ส�ำหรับนักท่องเที่ยวที่ใช้ สถานทที่ ่องเท่ยี วภายในอทุ ยานฯ เสน้ ทำง อำ� เภอบำ้ นโคก-หว้ ยมนุ่ มำถงึ ทำงโคง้ กอ่ นถงึ น้�าตกภูสอยดาว อยู่ริมเส้นทำงหลวงแผ่นดิน ๓ แยกไปอำ� เภอนำ้� ปำด จะเหน็ พระพทุ ธรปู องคใ์ หญ่ หมำยเลข ๑๒๖๘ ใกล้กับที่ท�ำกำรอุทยำนแห่งชำต ิ อยบู่ นเขำ ชำวบ้ำนเรียกวำ่ “พระใหญ”่ มที ง้ั หมด ๕ ช้ัน แตล่ ะชน้ั มชี ื่อเรียกท่ไี พเรำะวำ่ ภูสอยดำว สกำวเดือน เหมือนฝัน กรรณิกำร์ และ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีพื้นท่ีครอบคลุมอยู่ใน สภุ ำภรณ ์ มีน�้ำไหลตลอดปี ท้องท่ีป่ำสงวนแห่งชำติป่ำน�้ำปำด ท้องท่ีต�ำบลม่วง น�้าตกสายทิพย์ เป็นน�้ำตก ๗ ชั้น ควำมสูงแต่ละ เจ็ดตน้ ตำ� บลนำขุม ตำ� บลบ้ำนโคก อำ� เภอบ้ำนโคก ชั้นประมำณ ๕-๑๐ เมตร สภำพป่ำโดยรอบน้�ำตก ต�ำบลหว้ ยมนุ่ อ�ำเภอน้�ำปำด จังหวัดอุตรดติ ถ ์ ต�ำบล มีควำมชุ่มช้ืนมำก จึงมีมอสสีเขียวข้ึนปกคลุมทั่วไป บ่อภำค อ�ำเภอชำติตระกำร จังหวัดพิษณุโลก เป็น ตำมก้อนหนิ ริมน�้ำ พื้นที่ท่ีมีสภำพป่ำค่อนข้ำงสมบูรณ์ปกคลุมไปด้วย ทงุ่ ดอกไมใ้ นปา่ สน ชว่ งฤดฝู น ระหวำ่ งเดอื นสงิ หำคม ปำ่ ธรรมชำติท่สี วยงำม เปน็ แหลง่ ต้นนำ้� ลำ� ธำร ยอด ถงึ เดอื นกนั ยำยนของทกุ ป ี จะมดี อกไมด้ นิ ชชู อ่ แยง่ กนั สูงสุดของภูสอยดำวสูงจำกระดับน�้ำทะเล ๒,๑๐๒ ออกดอกเปน็ กลมุ่ หนำแนน่ เชน่ ดอกหงอนนำค ดอกสรอ้ ย เมตร ซึง่ สูงเปน็ อันดบั ๔ ของประเทศไทย อุทยำน สวุ รรณำ และดอกหญำ้ รำกหอม ในฤดหู นำวจะมดี อก แห่งชำติภูสอยดำวมีเนื้อท่ี ๑๒๕,๑๑๐ ไร่ หรือ กระดุมเงิน กลว้ ยไม้รองเท้ำนำร ี อินทนนท์ และต้น ๒๐๐.๑๘ ตำรำงกโิ ลเมตร เมเปลิ ซง่ึ จะเปลยี่ นเป็นสแี ดงสวยงำมมำก ท่งุ ดอกไมใ้ นปา่ สน อุตรดิตถ์ 25

ลานสนสามใบภสู อยดาว มพี น้ื ทป่ี ระมำณ ๑.๖ ตำรำง หมำยเลข ๑๑๔๓ ประมำณ ๔๓ กิโลเมตร ถึงอ�ำเภอ กิโลเมตร เป็นที่รำบบนภูเขำ ต้ังอยู่สูงจำกระดับน�้ำ ชำติตระกำร แยกเข้ำทำงหลวงหมำยเลข ๑๒๓๗ ทะเลประมำณ ๑,๖๓๓ เมตร สภำพพนื้ ทข่ี องลำนสน ประมำณ ๕๘ กโิ ลเมตร ผำ่ นบำ้ นบอ่ ภำคไปบรรจบกบั สำมใบจะเปน็ เนนิ สงู ตำ�่ สลบั กนั ไป ชน้ั ลำ่ งเปน็ ทงุ่ หญำ้ ทำงหลวงหมำยเลข ๑๒๖๘ ประมำณ ๑๒ กโิ ลเมตร ถงึ กว้ำงใหญ ่ ท่สี ดุ ในประเทศ บนลำนสนยงั เปน็ จดุ ชม นำ้� ตกภสู อยดำว และศนู ยบ์ รกิ ำรนกั ทอ่ งเทยี่ ว ขบั ตอ่ ไป พระอำทติ ยต์ กที่สวยงำม แตไ่ มม่ บี ำ้ นพักและอำหำร อีกประมำณ ๑ กโิ ลเมตร จะพบกับทีท่ ำ� กำรอทุ ยำน หำกตอ้ งกำรพกั คำ้ งแรมตอ้ งเตรยี มเตน็ ทแ์ ละอำหำร แห่งชำติภูสอยดำว รวมระยะทำงประมำณ ๑๘๙ ไปเอง กโิ ลเมตร การเดินทาง ต้องเดินเท้ำจำกน�้ำตกภูสอยดำว ริม -จำกจังหวัดอตุ รดิตถ์ ใช้ทำงหลวงหมำยเลข ๑๐๔๗ เส้นทำงหลวงแผ่นดินหมำยเลข ๑๒๖๘ ขึ้นสู่ยอด (อตุ รดิตถ์-น้�ำปำด) ระยะทำง ๗๑.๓ กโิ ลเมตร ถึง ภูสอยดำวระยะทำงประมำณ ๖.๕ กิโลเมตร ใช้ อำ� เภอนำ�้ ปำด แลว้ เขำ้ ส่ทู ำงหลวงหมำยเลข ๑๒๓๙ เวลำเดินเท้ำประมำณ ๔-๖ ช่ัวโมง ต้องติดต่อขอ ระยะทำง ๓๘.๖ กิโลเมตร เล้ียวขวำสู่ทำงหลวง เจ้ำหน้ำท่ีน�ำทำงจำกอุทยำนฯ ซึ่งมีบริกำรลูกหำบ หมำยเลข ๑๒๖๘ อกี ๑๕.๕ กิโลเมตร จะถงึ น�้ำตก ช่วยขนสัมภำระ ทั้งน้ีทำงอุทยำนฯ อนุญำตให้ขึ้นภู ภูสอยดำว และศูนย์บริกำรนักท่องเที่ยว ขับต่อไป ได้ต้ังแตเ่ วลำ ๐๘.๐๐-๑๔.๐๐ น. อีกประมำณ ๑ กิโลเมตร จะพบกับท่ที ำ� กำรอุทยำน หลักเขตไทย-ลาว เป็นหลักเขตท่ีปักปันเขตแดน แห่งชำติภูสอยดำว รวมระยะทำงประมำณ ๑๓๓ ระหว่ำงประเทศไทยและสำธำรณรัฐประชำธิปไตย กิโลเมตร ประชำชนลำว ทำ� ข้นึ หลงั สงครำมบ้ำนร่มเกล้ำ -เดนิ ทำงโดยรถโดยสำรประจำ� ทำง มรี ถโดยสำรปรบั อำกำศออกจำกบรเิ วณหนำ้ สถำนรี ถไฟอตุ รดติ ถห์ ลงั เกำ่ ส่ิงอ�านวยความสะดวก ไปอ�ำเภอน�้ำปำดทุกชั่วโมง ต้ังแต่เวลำ ๐๖.๐๐- ทจี่ อดรถ มีท่จี อดรถใหบ้ ริกำรแกน่ กั ท่องเท่ยี ว ๑๗.๐๐ น. ใชเ้ วลำประมำณ ๒.๓๐ ชว่ั โมง จำกนน้ั ลงรถ บริการอาหาร มีร้ำนอำหำรไว้บริกำรนักท่องเที่ยว ที่หน้ำโรงพยำบำลอ�ำเภอน้�ำปำด เหมำรถสองแถว เฉพำะทำงข้ึนภู ไปภูสอยดำวใช้เวลำเดินทำงอีกประมำณ ๓ ชั่วโมง ลานกางเตน็ ท์ อทุ ยานฯ มเี ตน็ ทแ์ ละสถำนทกี่ ำงเตน็ ท์ ส�ำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องกำรจะเดินทำงกลับไป ไวใ้ หบ้ ริกำรนักท่องเทยี่ ว สอบถำมข้อมลู โทร. ทำงอำ� เภอชำตติ ระกำร จงั หวดั พษิ ณโุ ลก ตอ้ งเหมำ ๐ ๕๕๔๓ ๖๐๐๑-๒ หรือ www.dnp.go.th รถไป ใช้เวลำ ๒ ช่ัวโมง และต่อรถโดยสำรท้องถิ่น ศนู ยบ์ รกิ ารนักทอ่ งเทีย่ ว เปิดให้บริกำรข้อมูลทกุ วัน เส้นทำงอำ� เภอชำติตระกำร–นครไทย–พษิ ณุโลก ใช้ ไมเ่ วน้ วนั หยดุ รำชกำร ระหวำ่ งเวลำ ๐๘.๐๐-๑๖.๓๐ น. เวลำเดนิ ทำงประมำณ ๓ ชว่ั โมง บรกิ ำรระหวำ่ งเวลำ การเดินทาง นักท่องเท่ียวสำมำรถเดินทำงได้ ๓ ๐๕.๐๐-๑๗.๓๐ น. เส้นทำง คือ หมำยเหตุ : หากนักท่องเที่ยวเดินทางไปถึงอุทยาน -จำกจังหวัดพิษณุโลก ขับรถไปตำมทำงหลวง แหง่ ชาตภิ สู อยดาวแลว้ ไมส่ ามารถขนึ้ ยอดภสู อยดาว หมำยเลข ประมำณ ๖๔ กิโลเมตร แล้วเล้ียวขวำ ไดท้ ัน (กอ่ นเวลา ๑๔.๐๐ น.) อุทยานแห่งชาตฯิ ได้ ไปตำมทำงหลวงหมำยเลข ๑๒๔๖ ประมำณ ๑๒ จดั เตรยี มสถานทก่ี างเตน็ ทไ์ วบ้ รกิ าร บรเิ วณทท่ี า� การ กิโลเมตร ถึงบ้ำนแพะเล้ียวขวำไปตำมทำงหลวง อทุ ยานแหง่ ชาติ สอบถำมขอ้ มลู ไดท้ ี่ อทุ ยำนแหง่ ชำติ 26 อุตรดิตถ์

ภูสอยดำว โทร. ๐ ๕๕๔๓ ๖๐๐๑-๒ ปำกลำยไปยงั เมอื งสะมะคำม แขวงเวยี งจนั ทน ์ สปป. นอกจำกน ี้ นกั ทอ่ งเทยี่ วยงั สำมำรถเดนิ ทำงจำกอทุ ยำน ลำว ซึง่ ขณะน ี้ (พ.ศ. ๒๕๕๘) สะพำนขำ้ มแม่น้ำ� โขง แห่งชำติภูสอยดำว ไปยังแหล่งท่องเที่ยวเช่ือมโยง ที่เมืองปำกลำยอยู่ระหว่ำงกำรก่อสร้ำง โดยจะแล้ว สวนพฤกษศำสตรบ์ ำ้ นรม่ เกลำ้ พษิ ณโุ ลกในพระรำชดำ� ริ เสรจ็ และเปดิ ใชใ้ นป ี พ.ศ. ๒๕๖๑ ซง่ึ จะทำ� ใหก้ ำรเดนิ ได ้ โดยภำยในสวนฯ ไดม้ กี ำรจดั แสดงพรรณไมป้ ระจำ� ถนิ่ ทำงจำกจังหวัดอุตรดิตถ์ไปนครเวียงจันทน์มีระยะ ไมห้ ำยำกและใกลส้ ญู พนั ธ ์ุ มโี รงเรอื นรวบรวมกลว้ ยไม้ ทำง ๔๐๐ กิโลเมตร ใชร้ ะยะเวลำเพียง ๖-๗ ชั่วโมง ไทย ทหี่ ำชมไดย้ ำกกวำ่ ๓๐๐ ชนดิ รวมถงึ พนั ธไ์ุ มท้ ี่ (สะพำนข้ำมแม่น้�ำโขง-เวียงจันทน์ ๒๐๐ กิโลเมตร คน้ พบชนดิ ใหมข่ องโลกคอื สรอ้ ยสยำม สอบถำมขอ้ มลู เป็นเส้นทำงภูเขำอยู่ระหว่ำงกำรก่อสร้ำง ๓๐ โทร. ๐ ๕๕๓๑ ๖๗๑๓-๕ กโิ ลเมตร พนื้ ทร่ี ำบอยรู่ ะหวำ่ งกอ่ สรำ้ ง ๒๐ กโิ ลเมตร และเปน็ ทำงลำดยำง ๑๕๐ กิโลเมตร) อ�าเภอบ้านโคก -จุดผ่านแดนถาวรภูดู่ จังหวัดอุตรดิตถ์ เปิดท�ำกำร จดุ ผา่ นแดนถาวรภดู ู่ ตง้ั อยหู่ มทู่ ่ี ๒ ตำ� บลมว่ งเจด็ ตน้ ทกุ วนั ต้งั แตเ่ วลำ ๐๖.๐๐-๒๐.๐๐ น. ประกำศเปน็ จดุ ผำ่ นแดนถำวรเมอื่ วนั ท ่ี ๑๙ พฤษภำคม -ดา่ นสากลพูดู่ (ผาแก้ว) เมืองปากลาย แขวงไซยะบรุ ี ๒๕๕๖ เพอื่ อำ� นวยควำมสะดวกในกำรคมนำคมขนสง่ สปป. ลาว เปิดท�ำกำรทุกวันต้ังแต่เวลำ ๐๘.๓๐- กำรพัฒนำเศรษฐกิจกำรค้ำและกำรท่องเที่ยว เพื่อ ๑๖.๓๐ น. รองรบั กำรเขำ้ สปู่ ระชำคมอำเซยี นใน ป ี ๒๕๕๘ ทำ� ให้ -ค่ำธรรมเนยี มท่ดี ำ่ นสำกลพดู ู่ (ผำแกว้ ) สำมำรถเดินทำงจังหวัดอุตรดิตถ์ไปยังเมืองหลวง -ค่ำผ่ำนดำ่ นคนละ ๔๐ บำท พระบำง สปป.ลำวได ้ โดยมีระยะทำงดงั น้ี -คำ่ ธรรมเนยี มรถยนต ์ คนั ละ ๒๕๐ บำท รถยนตท์ กุ คนั -จังหวัดอุตรดิตถ์-จุดผ่ำนแดนถำวรภูดู่ ระยะทำง ท่ีผ่ำนด่ำนสำกลพูดู่ (ผำแก้ว) จะต้องท�ำประกัน ๑๖๐ กโิ ลเมตร ใชเ้ วลำ ๒.๓๐ ชว่ั โมง รถยนต์ คนั ละ ๓๐๐ บำท ระยะเวลำ ๗ วนั -จุดผ่ำนแดนถำวรภูดู่-เมืองปำกลำย (สสป.ลำว) ระยะทำง ๓๘ กโิ ลเมตร ใชเ้ วลำ ๔๐ นำที การนา� รถยนตเ์ ขา้ สปป.ลาว -เมืองปำกลำย-แขวงไชยะบุรี ระยะทำง ๑๕๐ กำรขบั รถขำ้ มแดนไปยงั สปป.ลำว เจำ้ ของรถจะตอ้ ง กิโลเมตร ใช้เวลำ ๓ ชวั่ โมง มหี ลักฐำน ดังน้ี -แขวงไชยะบุรี-หลวงพระบำง ระยะทำง ๑๑๐ -หนงั สอื อนญุ ำตรถระหวำ่ งประเทศ หรอื พาสปอรต์ กโิ ลเมตร ใชเ้ วลำ ๒ ชว่ั โมง รถ ซง่ึ สำมำรถตดิ ตอ่ ขอรบั ได ้ ณ กรมกำรขนสง่ ทำงบก ดังนั้น กำรเดินทำงจำกจังหวัดอุตรดิตถ์ไปยังเมือง จตจุ กั ร หรอื สำ� นกั งำนขนสง่ จงั หวดั ทวั่ ประเทศ เพยี ง มรดกโลก หลวงพระบำง สปป.ลำว ระยะทำง ๔๕๘ น�ำรถเข้ำรับกำรตรวจสภำพ พร้อมหลักฐำน ได้แก ่ กิโลเมตร ใช้เวลำเดินทำงประมำณ ๘ ช่ัวโมง กำร สำ� เนำสมดุ คมู่ อื จดทะเบยี น และสำ� เนำบตั รประจำ� ตวั เปดิ จดุ ผำ่ นแดนถำวรภดู ทู่ ำ� ใหก้ ำรเดนิ ทำงสะดวกขน้ึ ประชำชนมำแสดง โดยเจำ้ ของรถจะไดร้ บั พำสปอรต์ เนื่องจำกไม่ต้องข้ึนภูเขำที่ชันมำก และเป็นถนน รถและสต๊ิกเกอร์แสดงประเทศ สำ� หรับนำ� ไปตดิ ไวท้ ่ี ลำดยำงตลอดเส้นทำง นอกจำกน้ี จดุ ผ่ำนแดนถำวร รถกอ่ นน�ำรถเข้ำ สปป.ลำว ภูดู ่ สำมำรถเดินทำงไปยงั นครเวยี งจันทน์ สปป. ลำว -เอกสำรของผู้ขับรถหรือผู้เดินทำง ประกอบด้วย เพียง ๒๓๐ กโิ ลเมตร โดยข้ำมแพขนำนยนต์ที่เมอื ง หนังสือเดินทาง (พำสปอร์ต) จำกกรมกำรกงสุล อตุ รดิตถ์ 27

และหนังสือผ่านแดน ซึง่ สำมำรถติดต่อขอรับได้ ณ ๔. ส�ำเนำเอกสำรหน้ำผถู้ อื กรรมสทิ ธิ์ ท่ีท�ำกำร บริษัท ขนส่ง จ�ำกัด ภำยในสถำนีขนส่ง ๕. สำ� เนำหนำ้ รำยกำรเสยี ภำษี ผู้โดยสำรจังหวัดชำยแดนไทย-ลำว โดยน�ำส�ำเนำ ๖. สำ� เนำบัตรประจำ� ตวั ผูม้ อบอ�ำนำจ บัตรประชำชน และรปู ถำ่ ยขนำด ๑ นวิ้ จ�ำนวน ๒ ๗. สำ� เนำบตั รประชำชนผ้รู บั มอบอำ� นำจ รปู ไปแสดง หมำยเหตุ ค่ำธรรมเนียมกำรขอพำสปอร์ตรถยนต ์ -ส�ำหรบั ผขู้ บั รถทม่ี ีใบอนุญำตขับรถแบบเดิม จะตอ้ ง ๕๕ บำท จะได้พำสปอร์ตเล่มม่วง ๑ เล่มและ น�ำใบอนุญำตขับรถ และส�ำเนำบัตรประชำชน ไป สต๊ิกเกอร ์ ตัว T ๒ ใบ ติดต่อขอท�ำใบอนุญำตขับรถแบบใหม่เป็นภำษำ อังกฤษ ณ กรมกำรขนส่งทำงบก หรือส�ำนักงำน เอกสารการผ่านแดน ขนสง่ ทว่ั ประเทศ ๑. หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) สำมำรถเดินทำง -ส�ำหรับผู้มีใบอนุญำตขับรถรูปแบบใหม่ซ่ึงถ่ำยรูป ไปท่ัว สปป. ลำว สำมำรถออกได้ทุกด่ำน (ในขณะ เจ้ำของลงบนบัตรและมีข้อควำมภำษำอังกฤษ น้ีด่ำนสำกลพูด ู่ (ผำแกว้ ) ผ่ำนเขำ้ ออกได ้ เฉพำะคน กำ� กับข้อควำมภำษำไทย สำมำรถใช้ขับรถใน สปป. ไทย และ สปป.ลำวเทำ่ นน้ั ประเทศท ี่ ๓ ยงั ผำ่ นไมไ่ ด)้ ลำว และประเทศในกลุ่มอำเซียนได้โดยไม่ต้องน�ำ ๒. เอกสำรผำ่ นแดนชั่วครำว มีกำ� หนด ๓ วัน ๒ คืน ไปแปลอกี อยู่ได้เฉพำะในแขวงไชยะบุรีเท่ำนั้น สอบถำมข้อมูล ท้ังน้ี ผู้ประสงค์เปลี่ยนใบอนุญำตขับรถเป็นแบบ ได้ท่ี ส�ำนักงำนจังหวัดอุตรดิตถ์ โทร. ๐ ๕๕๔๑ พลำสตกิ สำมำรถดำ� เนินกำรได้ ณ สำ� นกั งำนขนสง่ ๑๙๗๗ ต่อ ๒๓๓๔ หรือ อบต.ม่วงเจ็ดตน้ โทร. ๐ ทั่วประเทศเช่นกัน เพียงน�ำใบอนุญำตฉบับเดิม ๕๕๘๑ ๓๑๔๒ พร้อมสำ� เนำ บตั รประจ�ำตัวประชำชนมำแสดง เสีย ค่ำธรรมเนียมเปล่ียนใบอนุญำตและค่ำค�ำขอเปล่ียน ตลาดการค้าชายแดนไทย-ลาว (ตลำดนัดบ้ำนบ่อ จำ� นวน ๑๐๕ บำท และค่ำบริกำรถ่ำยรปู อกี จ�ำนวน เบ้ียหรือตลำดช่องมหำรำช) ตั้งอยู่หมู่ท่ี ๑ ต�ำบล ๑๐๐ บำท บอ่ เบย้ี ถ้ำผ่ำนชำยแดนเขำ้ ไปจะพบหมู่บำ้ น ๓ แหง่ ไดแ้ ก่ บำ้ นใหม่ บำ้ นกลำงและบ้ำนสวำ่ ง ซ่งึ เคยเปน็ เอกสารประกอบการขอพาสปอร์ตรถยนต์ สำเหตสุ งครำมไทย-ลำว เมอื่ ป ี ๒๕๒๗ ปจั จบุ นั ยงั ไม่ กรณผี ถู้ ือกรรมสิทธม์ิ าเอง เป็นท่ยี ุติว่ำหมบู่ ้ำนดังกลำ่ วเป็นของประเทศใด สว่ น 1.คู่มอื จดทะเบียนรถยนต์ (ฉบบั จริง) ทำงชอ่ งมหำรำชสำมำรถเข้ำไปถึงเมอื งทุง่ มไี ซ สปป. 2.ส�ำเนำเอกสำรหน้ำผูถ้ อื กรรมสิทธ์ิ ลำวได้ ซ่ึงทุกวันอำทิตย์จะเปิดเป็นจุดค้ำขำยแลก 3.สำ� เนำรำยกำรเสยี ภำษี เปลยี่ นสินค้ำไทยกับ สปป. ลำว สอบถำมข้อมูลได้ที่ 4.สำ� เนำบัตรประจำ� ตวั ประชำชน อบต.บ่อเบยี้ โทร. ๐ ๕๕๔๓ ๖๗๖๖ 5.ทะเบียนบ้ำนผู้ถือกรรมสทิ ธิ์ กรณผี ู้ถอื กรรมสิทธิ์ไมม่ าเอง ตลาดการคา้ ชายแดนไทย-ลาว ตลาดผอ่ นปรนชอ่ ง ๑. ค่มู ือจดทะเบียนรถยนต์ (ฉบับจรงิ ) ห้วยตา่ ง เขตตดิ ตอ่ หมูท่ ี่ ๗ บ้ำนหนองไผ่ กบั บำ้ น ๒. ใบมอบอำ� นำจตวั จรงิ อำกรแสตมป ์ ๑๐ บำท ขอนแกน่ เมอื งบอ่ แตน เมอื งแกน่ ทำ้ ว สปป.ลำว เปน็ ๓. ส�ำเนำใบมอบอ�ำนำจ ตลำดทเี่ ปดิ โอกำสใหป้ ระชำชนของทง้ั สองประเทศได้ 28 อุตรดติ ถ์

ซื้อขำยแลกเปล่ียนสินค้ำอุปโภค บริโภคและสินค้ำ ภำยในประดิษฐำนพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปำงมำรวิชัย อน่ื ๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพ้นื ทช่ี ำยแดน สำ� หรับ ขนำดหนำ้ ตกั กวำ้ ง ๔๐ นว้ิ ชำยสงั ฆำฎยิ ำว ปลำยเปน็ สินคำ้ ที่ สปป. ลำวนำ� มำขำย ไดแ้ ก่ เหล็กเกำ่ สินคำ้ รปู เข้ยี วตะขำบ มีรศั มรี ูปเปลว เม็ดพระศกใหญ่และ ทำงกำรเกษตรตำมฤดูกำล ถว่ั ชนิดตำ่ ง ๆ สินคำ้ พนื้ เรียงตัวโค้งลงมำบรรจบกันที่กลำงพระนลำฏ เป็น บำ้ น ไวน์ สินคำ้ ทรี่ ะลกึ มำกมำย เปิดทกุ วนั พุธ ตง้ั แต่ ศิลปะแบบสุโขทยั เวลำ ๐๖.๐๐-๑๓.๐๐ น. สอบถำมขอ้ มลู ไดท้ เี่ ทศบำล ต�ำบลบำ้ นโคก โทร. ๐ ๕๕๔๘ ๖๐๘๗ กา� แพงเมอื งพชิ ยั จำกกำรสำ� รวจทำงโบรำณคดพี บวำ่ สภำพของก�ำแพงเมืองด้ำนทิศตะวันออก จะเห็น อา� เภอพชิ ยั เป็นแนวก�ำแพงเมือง เน่ืองจำกบริเวณใกล้เคียงเป็น ศาลพระยาพิชัยดาบหัก ตั้งอยู่ริมแม่น�้ำน่ำน ถนน พื้นท่ีท�ำกำรเกษตร จึงไม่ค่อยมีกำรสร้ำงบ้ำนเรือน หนำ้ วดั มหำธำต ุ เปน็ ศำลทส่ี รำ้ งขนึ้ ใหม ่ มขี นำดใหญ่ บนแนวก�ำแพงเมืองท�ำให้พื้นท่ีไม่ถูกรบกวนมำกนัก และดโู ดดเดน่ เปน็ สงำ่ มรี ปู ปน้ั พระยำพชิ ยั ดำบหกั นงั่ ก�ำแพงเมืองพิชัยมีลักษณะเป็นเนินดินสูงประมำณ อยบู่ นแทน่ มเี สอื้ ผำ้ และอำวธุ เกำ่ แกเ่ กบ็ รกั ษำไวร้ วม ๔-๕ เมตร กว้ำงประมำณ ๑๐ เมตร เรมิ่ ตง้ั แตท่ ำง กับสิ่งของท่มี ผี นู้ �ำมำถวำย ทศิ เหนอื ตดิ กบั ถนนสำยพชิ ยั -ตรอน ยำวไปทำงตะวนั ออก จำกน้ันหักมุมลงไปทำงทิศใต้ประมำณ ๘๐๐ พพิ ธิ ภณั ฑบ์ า้ นเกดิ พระยาพชิ ยั ดาบหกั ตงั้ อยทู่ บี่ ำ้ น เมตร แล้วหักมุมมำทำงทิศตะวันตกจนสุดถนนสำย หว้ ยคำ ต�ำบลในเมือง ห่ำงจำกอ�ำเภอพชิ ยั ไปทำงทิศ พชิ ยั -ตรอนอกี ครง้ั สนั นษิ ฐำนวำ่ มกี ำรกอ่ สรำ้ งขนึ้ ใน ตะวนั ออกประมำณ ๕ กโิ ลเมตร เปน็ สถำนทเี่ กดิ ของ รชั สมยั สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนำถเมอ่ื พ.ศ. ๒๐๓๓ พระยำพิชัยดำบหัก ตัวอำคำรพิพิธภัณฑ์ตกแต่งไว้ อย่ำงสมบูรณ์ โดยเฉพำะชีวประวัติที่น่ำศึกษำ และ วดั หนา้ พระธาต ุ ตงั้ อยรู่ มิ แมน่ ำ้� นำ่ น หมทู่ ี่ ๑ ตำ� บลใน วีรกรรมของท่ำนโดยละเอียด เพ่ือเป็นกำรระลึกถึง เมอื ง เปน็ วดั เกำ่ แกค่ บู่ ำ้ นคเู่ มอื งพชิ ยั อำยรุ ำว ๑,๐๐๐ คุณงำมควำมดีของท่ำน อีกทั้งยังมีกำรจ�ำลองวิถี ป ี ภำยในบรเิ วณวดั มีโบรำณวตั ถุทส่ี �ำคญั คอื “หลวง ชวี ิตชำวพิชัยไว้อย่ำงน่ำชม มีกำรปรับแตง่ ภมู ทิ ัศนท์ ่ี พ่อโต” เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นขนำดใหญ่ หน้ำตัก แสดงถึงวิถีชีวิตชุมชนชำวเมืองพิชัยที่เคยรุ่งเรืองใน กว้ำง ๓ วำ ประดิษฐำนอยู่ในวิหำรแบบปรำสำท อดีต เพ่ือให้เด็กและเยำวชนตลอดจนประชำชนได้ จตั ุรมุข เน้อื ทีภ่ ำยใน ๙๙ ตำรำงวำ ตำมต�ำนำนระบุ ศกึ ษำคน้ ควำ้ เรยี นรดู้ ำ้ นศำสนำ และศลิ ปวฒั นธรรม ว่ำสร้ำงโดยพระยำโคตรบอง เมอ่ื พ.ศ. ๑๔๗๐ และ ทอ้ งถนิ่ ภำยในวหิ ำรยงั เปน็ ทป่ี ระดษิ ฐำน “รอยพระพทุ ธบำท จ�ำลอง” ด้วย ในบริเวณวัดมีพระเจดีย์ยอด ๕ องค ์ วดั มหาธาต ุ ตง้ั อยหู่ ำ่ งจำกตวั เมอื งพชิ ยั ไปทำงทศิ ใต้ สงู ๔๙ เมตร บรรจ ุ “พระบรมสำรีรกิ ธำตุ” และจะมี ประมำณ ๑ กโิ ลเมตร เปน็ วดั ทสี่ มเดจ็ พระเจำ้ บรม กำรจัดงำนประเพณีนมัสกำรหลวงพ่อโตและของดี วงศเ์ ธอฯ กรมพระยำนรศิ รำนวุ ดั ตวิ งศ ์ ไดม้ ำประทบั เมืองพิชยั ในเดอื นกมุ ภำพันธ์ของทกุ ปี เม่ือครั้งเสด็จตรวจรำชกำรหัวเมืองฝ่ำยเหนือท่ีเมือง พิชัย หลักฐำนทำงโบรำณคดีที่พบในวัดมหำธำต ุ ได้แก่ เจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง ใบเสมำ และโบสถ์ซึ่ง อุตรดิตถ์ 29

พระนอนพรอ้ มสาวก ประดษิ ฐำนอยทู่ โ่ี บสถพ์ ระนอน ๕.๗๐ เมตร สูง ๙.๗๐ เมตร สร้ำงข้ึนจำกควำม ตำ� บลพชิ ยั เปน็ ศลิ ปะสมยั อยธุ ยำ มพี ทุ ธลกั ษณะเปน็ เลือ่ มใสศรทั ธำของประชำชน เพอื่ เป็นท่สี ักกำรบูชำ พระนอนปำงพระเจำ้ เขำ้ นพิ พำนอยบู่ นแทน่ มพี ระสำวก ของชำวอ�ำเภอฟำกท่ำ และเนื่องในปีมหำมงคลท่ี ลอ้ มรอบและแสดงอำกปั กริ ยิ ำตำ่ งๆ ทเี่ ปน็ กศุ โลบำย สมเด็จพระญำณสังวรสมเด็จพระสังฆรำชสกลมหำ จำ� นวน ๙ รปู ซงึ่ ปจั จบุ นั เหลอื เพยี งโบสถแ์ ละพระนอน สังฆปริณำยกเจริญพระชนมำยุ ๑๐๐ พรรษำ อีก เทำ่ นน้ั ทมี่ กี ำรทำ� นบุ ำ� รงุ หลำยสมยั แตเ่ ดมิ พระนอน ทงั้ ยังเป็นวโรกำสทพ่ี ระบำทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลำ้ และพระพทุ ธสำวกมอี งคส์ ดี ำ� แตภ่ ำยหลงั ไดม้ กี ำรลงรกั เจ้ำอยู่หวั รชั กำลที ่ ๕ เสดจ็ ฯ เยอื นจงั หวดั อุตรดิตถ ์ ปดิ ทองเพอื่ ควำมสวยงำม ครบรอบ ๑๑๒ ปี จึงจัดกำรทอดผ้ำป่ำสำมัคคีข้ึน เพอ่ื สรำ้ งพระพทุ ธรปู ณ บริเวณลำนโคกธำตวุ งั ขวญั สะพานปรมนิ ทร ์ ตง้ั อย่หู มู่ที ่ ๔ ตำ� บลดำรำ กอ่ สร้ำง ขนึ้ เมอ่ื ป ี พ.ศ. ๒๔๔๙ ในสมยั รชั กำลท ี่ ๕ เปน็ สะพำน อา� เภอลับแล รถไฟทข่ี ำ้ มแมน่ ำ�้ นำ่ นกอ่ นถงึ สถำนรี ถไฟชมุ ทำงบำ้ น อำ� เภอลบั แลอยหู่ ำ่ งจำกตวั เมอื งอตุ รดติ ถ ์ ๙ กโิ ลเมตร ดำรำ และเป็นสะพำนรถไฟใหญ่ที่สุดของทำงรถไฟ เป็นเมอื งโบรำณสมัยกรงุ ศรีอยธุ ยำ พระบำทสมเด็จ สำยเหนือ พระบำทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยู่ พระจุลจอมเกลำ้ เจำ้ อย่หู วั ได้เคยเสด็จมำเมอื่ ป ี พ.ศ. หัวรชั กำลที ่ ๕ ไดท้ รงประกอบพระรำชพิธเี ปิด เม่อื ๒๔๔๔ คำ� วำ่ “ลบั แล” น้นั สมเดจ็ กรมพระยำด�ำรง วันท่ี ๗ ธันวำคม พ.ศ. ๒๔๕๒ และพระรำชทำน รำชำนภุ ำพสนั นษิ ฐำนวำ่ ชำวเมอื งแพรแ่ ละเมอื งนำ่ น นำมว่ำ “สะพำนปรมินทร์” ต่อมำระหว่ำงปี พ.ศ. ไดห้ นขี ำ้ ศกึ และควำมเดอื ดรอ้ นมำตงั้ ชมุ ชนอยบู่ รเิ วณนี้ ๒๔๘๕-๒๔๘๘ ประเทศไทยเข้ำสู่ภำวะสงครำมโลก เนื่องจำกภูมิประเทศเป็นป่ำรกและอยู่ในหุบเขำที่ ครงั้ ท ี่ ๒ (สงครำมมหำเอเชยี บรู พำ) จำกกำรทง้ิ ระเบดิ ซับซ้อน คนนอกเข้ำมำในพื้นท่ีจะหลงทำงได้ง่ำย ท�ำให้สะพำนปรมินทร์พังเสียหำย ภำยหลังสงครำม อ�ำเภอลับแลนอกจำกจะมีโบรำณสถำนท่ีน่ำสนใจ สน้ิ สดุ จงึ ไดบ้ รู ณะใหเ้ ปน็ สะพำนเหลก็ แลว้ เสรจ็ เมอื่ ปี มำกมำยแล้วยังเป็นแหล่งผลิตสินค้ำหัตถกรรมผ้ำ พ.ศ. ๒๔๙๖ ซิ่นตีนจก และไม้กวำดตองกงอีกทั้งยังเป็นแหล่ง ปลูกลำงสำดซึ่งเป็นผลไม้ที่ข้ึนชื่อของจังหวัดด้วย อ�าเภอฟากท่า การเดนิ ทาง ใชท้ ำงหลวงหมำยเลข ๑๐๒ ไปประมำณ สสุ านหอยลา้ นป ี ตงั้ อยทู่ บี่ ำ้ นนำไรเ่ ดยี ว หมทู่ ่ี ๕ ตำ� บล ๓ กิโลเมตร ถึงทำงแยกแล้วเล้ียวขวำไปทำงหลวง สองห้อง บริเวณที่พบสุสำนห่ำงจำกบ้ำนนำไร่เดียว หมำยเลข ๑๐๔๑ อีก ๖ กโิ ลเมตร ถงึ อ�ำเภอลับแล ประมำณ ๑ กิโลเมตร มเี น้ือทป่ี ระมำณ ๒ ไร่ สภำพ พนื้ ทเ่ี ปน็ เนนิ เขำทอี่ ยตู่ ดิ รมิ ลำ� หว้ ยมว่ ง ลกั ษณะทพี่ บ อนุสาวรีย์พระศรีพนมมาศ อยู่บริเวณสี่แยกตลำด มเี ปลือกหอยติดอยูก่ ับหินจำ� นวนมำก สนั นษิ ฐำนว่ำ ลบั แล ทำ่ นเกดิ ทเ่ี มอื งลบั แล มชี อ่ื เดมิ วำ่ นำยทองอนิ บรเิ วณดงั กลำ่ วเคยเปน็ ทะเล หรอื หนองนำ�้ ขนำดใหญ ่ เปน็ นำยอำกรสรุ ำเชอ้ื สำยจนี แตด่ ว้ ยควำมรกั ในบำ้ นเกดิ และเป็นคนที่มีควำมคิดก้ำวหน้ำ ท่ำนจึงได้พัฒนำ พระพทุ ธรตั นญาณสงั วร หรอื “หลวงพอ่ โตทนั ใจ” เมอื งลับแลมำโดยตลอด เชน่ ทำงด้ำนกำรคมนำคม ประดิษฐำนอยูท่ ่ีบำ้ นวังขวญั หมู่ที ่ ๙ ตำ� บลฟำกท่ำ ทำ่ นไดว้ ำงผงั เมอื งลบั แล ดำ้ นชลประทำนมกี ำรสรำ้ ง เป็นพระพุทธรูปปำงสะดุ้งมำร ขนำดหน้ำตักกว้ำง ฝำยหลวง ดำ้ นกำรปกครองทำ่ นเปน็ นำยอำ� เภอคนแรก 30 อุตรดิตถ์

อนุสาวรยี พ์ ระศรีพนมมาศ ท่ีใช้กำรปกครองแบบพอ่ ปกครองลกู ด้ำนกำรศกึ ษำ ลับแลเป็นอย่ำงมำก จึงเป็นที่เคำรพนับถือของชำว ท่ำนได้ตั้งโรงเรียนรำษฎร์แห่งแรกของอ�ำเภอลับแล ลับแล ในสมัยรัชกำลที่ ๕ ท่ำนได้รับบรรดำศักด์ิ และตอ่ มำไดส้ รำ้ งโรงเรยี นพนมมำศพทิ ยำกรอกี แหง่ หนงึ่ เป็นขุนพิศำลจีนะกิจ และต่อมำได้เลื่อนเป็นพระศรี สว่ นดำ้ นอตุ สำหกรรมทำ่ นไดร้ เิ รม่ิ ใหช้ ำวบำ้ นมรี ำยได้ พนมมำศ มยี ศเป็นอ�ำมำตย์ตรี ดำ� รงตำ� แหน่งเกษตร ด้วยกำรท�ำไม้กวำดจำกดอกตองกงจนเป็นสินค้ำ มณฑลพษิ ณโุ ลกใน พ.ศ. ๒๔๕๑ ทข่ี น้ึ ชอื่ ผลงำนของทำ่ นสรำ้ งควำมเจรญิ ใหแ้ กอ่ ำ� เภอ อุตรดติ ถ์ 31

ซุม้ ประตเู มืองลบั แล ซุ้มประตูเมืองลับแล เป็นซุ้มประตูเมืองที่สร้ำง เล่ำให้ลูกสำวฟัง ท�ำให้หญิงสำวเสียใจมำกที่สำมีไม่ ข้ึนใหม่ ซ่ึงเป็นสัญลักษณ์ของเมืองลับแล ลักษณะ รกั ษำวำจำสตั ย ์ จงึ ไลส่ ำมอี อกจำกหมบู่ ำ้ น พรอ้ มกบั สถำปัตยกรรมเป็นศิลปะประยุกต์แบบสุโขทัยมี ได้จัดย่ำมใส่เสบียงรวมท้ังหัวขมิ้นจ�ำนวนหน่ึง และ ขนำดกวำ้ ง ๑๐ เมตร ยำว ๔๑ เมตร ออกแบบโดย กำ� ชบั ไมใ่ หเ้ ปดิ ยำ่ มจนกวำ่ จะถงึ บำ้ น แตร่ ะหวำ่ งเดนิ กรมศลิ ปำกร ทดี่ ำ้ นขำ้ งของซมุ้ ประตมู ปี ระตมิ ำกรรม ทำงชำยหนุม่ รสู้ ึกหนัก จึงหยิบขมนิ้ ทิ้งไปเรื่อย ๆ พอ รปู ปน้ั หญงิ สำวยนื อมุ้ ลกู นอ้ ยสหี นำ้ เศรำ้ สรอ้ ย ขำ้ ง ๆ กลบั ถึงบำ้ นจึงหยิบขมนิ้ ทีเ่ หลอื ข้นึ มำ ปรำกฏวำ่ เป็น มีสำมีน่ังก้มหน้ำในมือถือถุงย่ำมใส่ขม้ินเตรียมเดิน ทองคำ� ชำยหนมุ่ เกดิ ควำมเสยี ดำย จงึ ยอ้ นกลบั ไปหำ ทำงออกจำกเมืองลับแล ตำมตำ� นำนของเมอื งลับแล ขมนิ้ ทที่ งิ้ ไว ้ แตข่ มน้ิ ไดง้ อกเปน็ ตน้ หมดแลว้ และชำย ทเี่ ลำ่ สบื ตอ่ กนั มำ “มชี ำยหนมุ่ ชำวทงุ่ ยงั้ ไดห้ ลงเขำ้ ไป หนุ่มก็ไม่สำมำรถหำทำงกลบั เขำ้ เมืองลบั แลได้อีก” ในเมืองลบั แล ซ่งึ ทง้ั เมอื งมีแต่ผหู้ ญงิ ทีถ่ อื ศีลหำ้ มพดู ปดอยำ่ งเครง่ ครดั ชำยหนมุ่ ไดพ้ บรกั และแตง่ งำนกบั พิพิธภัณฑ์เมืองลับแล เป็นศูนย์กลำงเผยแพร่ หญิงสำวในหมู่บ้ำนและสัญญำว่ำจะอยู่ในศีลธรรม ให้ควำมรู้เกี่ยวกับประวัติศำสตร์ วัฒนธรรม ไม่พูดปด อยู่มำวันหนึ่งภรรยำไม่อยู่บ้ำน ลูกน้อยก็ ขนบธรรมเนยี มประเพณ ี ภูมิปัญญำท้องถิน่ และวิถี ร้องไห้ไม่ยอมหยุด ท�ำให้ผู้เป็นพ่อปลอบว่ำ “แม่มำ ชีวติ ชมุ ชนของเมืองลับแลตั้งแตอ่ ดตี ถงึ ปจั จุบนั รวม แล้วๆ” เพือ่ ใหล้ ูกหยดุ รอ้ ง เม่ือแมย่ ำยได้ยินก็น�ำไป ทั้งผลงำนของพระศรีพนมมำศ มียศเป็นอ�ำมำตย์ 32 อุตรดิตถ์

ตรี ดำ� รงตำ� แหนง่ เกษตรมณฑลพษิ ณโุ ลก ซง่ึ ทำ่ นไดส้ รำ้ ง ยวนลบั แล โดยในป ี พ.ศ. ๒๕๔๕ ครโู จ หรอื คณุ จงจรณู ควำมเจรญิ ใหแ้ กอ่ ำ� เภอลบั แลเปน็ อยำ่ งมำก เชน่ วำง มะโนค�ำ ได้รวมกลุ่มทอผ้ำบ้ำนคุ้มขึ้น เพ่ือเป็นกำร ผงั เมอื งลบั แล สรำ้ งฝำยหลวง พฒั นำกำรศกึ ษำ และสง่ อนุรักษ์กำรทอผ้ำแบบโบรำณ โดยผ้ำซ่ินตีนจก เสรมิ กำรเกษตร จึงเป็นที่เคำรพนับถือของชำวลับแล ของสำวชำวลับแลน้ัน มีกำรออกแบบที่หลำกหลำย มำจนปัจจุบัน ภำยในพิพิธภัณฑ์ประกอบด้วย ลำน ทง้ั ดำ้ นลวดลำย สสี นั และมวี ธิ กี ำรทอ โดยนำ� เสน้ ไหม กิจกรรม วัฒนธรรม ประเพณี อำคำรพิพิธภัณฑ์ แทม้ ำยอ้ มสธี รรมชำตแิ ลว้ จกดว้ ยขนเมน่ แบบดัง้ เดมิ บ้ำนพระศรีพนมมำศ เรือนจ�ำลองของเมืองลับแล ในอดตี อำคำรจำ� หนำ่ ยสนิ คำ้ ศนู ยบ์ รกิ ำรนกั ทอ่ งเทย่ี ว วดั พระบรมธาตทุ งุ่ ยง้ั บำ้ นทงุ่ ยง้ั หมทู่ ่ี ๓ ตำ� บลทงุ่ ยงั้ วดั เชงิ อนุรกั ษ ์ สอบถำมขอ้ มลู โทร. ๐ ๕๕๔๓ ๑๐๗๖ แหง่ นเ้ี ดมิ ชอื่ วดั มหำธำต ุ เปน็ วดั เกำ่ แกม่ ตี ำ� นำนเกย่ี วกบั กำรเสดจ็ มำของพระพทุ ธเจำ้ ในวดั ประกอบดว้ ยวิหำร ศนู ยก์ ารเรยี นรภู้ มู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ บา้ นครโู จ บา้ นคมุ้ - แบบล้ำนนำซ่ึงอยู่ด้ำนหน้ำ หลังคำซ้อนกัน ๓ ชั้น นาทะเล เป็นศูนย์กำรเรียนรู้กำรทอผ้ำซ่ินตีนจกไท- มีพระประธำนนำม “หลวงพ่อประธำนเฒ่ำ” เป็น พิพธิ ภณั ฑเ์ มอื งลบั แล อุตรดติ ถ์ 33

วัดพระบรมธาตทุ ุ่งยัง้ พระพทุ ธรปู ปำงมำรวชิ ยั ศลิ ปะเชยี งแสน มจี ติ รกรรม มมี ณฑปเปน็ ศลิ ปะเชยี งแสนครอบรอยพระพทุ ธบำทค ู่ ฝำผนังเก่ำแก่ เร่ือง พระสังข์ทอง ด้ำนหลังวิหำรมี ที่ประดษิ ฐำนบนฐำนดอกบัวสงู ประมำณ ๑.๕ เมตร พระบรมธำตุทุ่งยั้ง ซ่ึงเป็นเจดีย์เก่ำบรรจุพระบรม ทว่ี ัดยงั มี “หลวงพ่อพุทธรังส”ี เปน็ พระพุทธรปู ปำง สำรีรกิ ธำตุของพระพุทธเจำ้ เปน็ แบบลังกำทรงกลม มำรวชิ ยั หลอ่ ดว้ ยสมั ฤทธ ิ์ ศลิ ปะสโุ ขทยั ขนำดหนำ้ ตกั ฐำนเปน็ รูปสีเ่ หลี่ยม ๓ ชัน้ ฐำนล่ำงมีเจดยี ์องคเ์ ลก็ ๆ กวำ้ ง ๕๕ นว้ิ สงู ๖๖ นว้ิ เดมิ ประดษิ ฐำนอยใู่ นมณฑป เป็นบริวำรอยู่ ๔ มุม ฐำนชนั้ ท่ี ๓ มซี ุ้มคหู ำ ๔ ด้ำน มปี นู พอกหมุ้ ไวท้ ง้ั องค ์ ตอ่ มำไดก้ ระเทำะปนู ออกและ สันนษิ ฐำนว่ำได้รับกำรบรู ณะขึ้นภำยหลัง นำ� ไปประดิษฐำนไว้ในพระอโุ บสถทส่ี ร้ำงใหม่ การเดินทาง ออกจำกตัวเมืองอุตรดิตถ์ใช้ทำงหลวง หมำยเลข ๑๐๒ ไปประมำณ ๓ กโิ ลเมตร จะเห็นวัด วัดพระแท่นศิลาอาสน์ อยู่ท่ีบ้ำนพระแท่น ต�ำบล อย่ทู ำงซ้ำยมือ ทุ่งยงั้ เลยวัดพระยืนไปเลก็ น้อย วัดแห่งน้มี พี ระแทน่ ศลิ ำอำสนเ์ ปน็ ศลิ ำแลงรปู สเ่ี หลยี่ มผนื ผำ้ กวำ้ ง ๘ ฟตุ วดั พระยนื พทุ ธบาทยคุ ล อยเู่ ลยวดั พระบรมธำตทุ งุ่ ยง้ั ยำว ๑๐ ฟุต สงู ๓ ฟุต ฐำนของพระแท่นโดยรอบ ประมำณ ๕๐๐ เมตร วดั อยทู่ ำงซำ้ ยมอื ใกลท้ ำงแยก ภำยใน ประดับด้วยลำยกลีบบัว สันนิษฐำนว่ำสร้ำงขึ้นใน 34 อุตรดติ ถ์

วดั พระยนื พทุ ธบาทยคุ ล อุตรดติ ถ์ 35

วัดพระแทน่ ศิลาอาสน์ สมัยสโุ ขทัย ตอ่ มำใน พ.ศ. ๒๔๕๑ ไดเ้ กดิ ไฟป่ำไหม้ สมนุ ไพร ชัน้ ลา่ ง เป็นกำรจดั แสดงเครือ่ งมือจบั สัตว์ มณฑปและวิหำรจนเหลือแต่แท่นศิลำแลง รัชกำล น้�ำโบรำณและเรือพำยโบรำณ ส่วนชั้นบน เป็นกำร ท ่ี ๕ จงึ โปรดฯ ให้ปฏิสงั ขรณ์ใหม่ บำนประตวู หิ ำร จดั แสดงเกย่ี วกบั เรอื่ งรำววถิ ชี วี ติ ชำววงั และชำวบำ้ น พระแท่นศิลำอำสน์ที่เป็นไม้สักแกะสลักนั้น เดิม สมัยก่อน เคร่ืองจักสำน เครื่องมือตีเหล็ก เคร่ือง เคยเป็นบำนประตูวิหำรพระพุทธชินรำช วัดพระศรี มือปรุงยำสมุนไพรแผนโบรำณ เครื่องสังคโลกสมัย รัตนมหำธำตุวรมหำวิหำร จังหวัดพิษณุโลกมำก่อน สุโขทัย ธรรมำสน์หลวงซึ่งเป็นธรรมำสน์โบรำณ ภำยในวิหำรยังมีภำพวำดเก่ียวกับพระรำชกรณียกิจ ฝีมือช่ำงสมัยอยุธยำ พระพุทธรูปท่ีแกะจำกต้นโพธิ์ ของรำชวงศ์จกั รี ส่วนใหญ่เก่ยี วกบั รชั กำลท ่ี ๕ และ โบรำณ และพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย-กรุงศรีอยุธยำ รัชกำลปัจจุบัน ทำงวัดจัดให้มงี ำนนมสั กำรพระแทน่ รวมถึงศิลปะวัฒนธรรมของชำวเหนือ เปิดทุกวัน ศิลำอำสนใ์ นวันเพ็ญเดือน ๓ ของทุกป ี นอกจำกนนั้ ต้งั แต่เวลำ ๐๘.๐๐-๑๗.๐๐ น. สอบถำมข้อมูล โทร. ยงั ม ี พพิ ธิ ภณั ฑท์ อ้ งถนิ่ เปน็ ศำลำกำรเปรยี ญเกำ่ สรำ้ ง ๐ ๕๕๔๕ ๓๕๒๗ ดว้ ยไม ้ ม ี ๒ ชนั้ แบบลำ้ นนำ กอ่ ตง้ั โดยนำยเฉลมิ ศลิ ป ์ ชยปำโล ด้ำนหน้ำตกแต่งด้วยไม้ดอกและสวน 36 อตุ รดิตถ์

วัดพระนอนพุทธไสยาสน์ ต้งั อยู่หม่ทู ี่ ๖ ตำ� บลทงุ่ ยั้ง ใกล้กับวัดพระแท่นศิลำอำสน์ และวัดพระยืนพุทธ บำทยุคล โดยมถี นนบรมอำสน ์ (ทำงหลวงหมำยเลข ๑๐๒ อตุ รดติ ถ-์ ศรสี ชั นำลยั ) คนั่ อยตู่ รงกลำง ภำยในวดั มพี ระวหิ ำรจตั รุ มขุ หลงั หนงึ่ ภำยในประดษิ ฐำนแทน่ ศลิ ำ ขนำดใหญ ่ ตำมตำ� นำนกลำ่ ววำ่ เปน็ พระแทน่ บรรทม ขององค์สมเด็จพระสัมมำสัมพุทธเจ้ำเม่ือคร้ังเสด็จ ทเี่ มืองแหง่ น้ี หนองพระแล ตั้งอยู่ที่บำ้ นหนองพระแล ตำ� บลท่งุ ยง้ั เปน็ แหลง่ นำ�้ ธรรมชำตขิ นำดใหญ ่ บรเิ วณโดยรอบเปน็ สวนสำธำรณะทชี่ ำวเมอื งลบั แลนยิ มมำพกั ผอ่ นหยอ่ นใจ และออกก�ำลงั กำย การเดนิ ทาง ตำมเสน้ ทำงหลวงหมำยเลข ๑๐๔๑ หำ่ ง จำกตัวจังหวัด ๑๓ กิโลเมตร อยู่ระหว่ำงทำงไปวัด พระแท่นศิลำอำสน์ เวยี งเจา้ เงาะ อยทู่ ต่ี ำ� บลทงุ่ ยง้ั ลกั ษณะเปน็ ทร่ี ำบ พน้ื ดนิ หนองพระแล ปนศิลำแลง ด้ำนทิศเหนือติดกับหนองพระแลและ ดอยตงุ และอญั เชิญมำบรรจทุ เี่ จดีย์วัดป่ำแกว้ แห่งน้ ี หนองพระทยั เปน็ ทล่ี มุ่ ซงึ่ กรมศลิ ปำกรไดข้ นึ้ ทะเบยี น เจดยี อ์ งค์น้ถี อื เป็นเจดยี แ์ ห่งแรกของอำ� เภอลบั แล ที่ เป็นโบรำณสถำน อ้ำงอิงถึงวรรณคดีเรื่องสังข์ทอง บรรจุพระบรมสำรรี ิกธำตไุ ว้ภำยใน รูปทรงเจดยี ์เป็น เจ้ำเงำะได้พำนำงรจนำมำอยู่ท่ีกระท่อมปลำยนำ สถำปตั ยกรรมแบบล้ำนนำ ผสมไทล้อื แห่งนี้ เม่ือคร้ังถูกท้ำวสำมลและนำงมณฑำเนรเทศ การเดนิ ทาง ใชท้ ำงหลวงหมำยเลข ๑๐๔๓ วดั อยหู่ ำ่ ง ออกจำกวัง จึงเรียกว่ำ เวียงเจ้ำเงำะ นักโบรำณคดี จำกอำ� เภอเมอื งประมำณ ๑๐ กิโลเมตร สันนิษฐำนว่ำ เวียงเจ้ำเงำะแต่เดิมเคยเป็นเมืองเก่ำ มำก่อน เพรำะได้มีกำรขุดค้นพบโบรำณวัตถุ เช่น วดั ทอ้ งลบั แล ตงั้ อยทู่ ต่ี ำ� บลฝำยหลวง เปน็ วดั เกำ่ แก่ พร้ำสัมฤทธิ์ ก�ำไลหินโครงกระดูก แหวนหิน กลอง สิ่งที่นำ่ สนใจ คอื “ภำพสะทอ้ นหัวกลับ” ของศำลำ มโหระทึก เปน็ ต้น กำรเปรยี ญฝง่ั ตรงขำ้ มทป่ี รำกฏบนผนงั ในพระอโุ บสถ โดยพระสมชำยท่ีมำบวชท่วี ัดเมือ่ พ.ศ. ๒๕๕๔ เปน็ วัดเจดยี ์คีรีวหิ าร (วัดป่าแก้ว) บำ้ นวดั ป่ำ หม่ทู ี่ ๑ ผู้พบภำพดังกล่ำวขณะท่ีเข้ำไปท�ำวัตรภำยในโบสถ์ ตำ� บลฝำยหลวง ตำมตำ� นำนเชอ่ื กนั วำ่ เจำ้ ฟำ้ ฮำ่ มกมุ ำร ทป่ี ดิ ประตแู ละหนำ้ ตำ่ ง ชว่ งเวลำทจี่ ะชมภำพหวั กลบั ทรงสร้ำงวัดน้ีขึ้นมำเม่ือประมำณปี พ.ศ. ๑๕๑๙ ได้อย่ำงชัดเจนคือ วันท่ีมีแสงแดดจัด ช่วงเวลำ พระองคไ์ ดเ้ สดจ็ ไปเฝำ้ พระเจำ้ เรอื งธริ ำช กษตั รยิ แ์ หง่ ๑๓.๐๐-๑๖.๐๐ น. ภำยในโบสถ์ยงั มภี ำพจิตรกรรม โยนกนคร เพื่อกรำบทูลขอแบ่งพระบรมสำรีริกธำตุ ฝำผนังเป็นเรอื่ งต�ำนำนและวถิ ชี ีวติ ของชำวลับแล อตุ รดิตถ์ 37

มีเร่ืองเล่ำว่ำ หมอภูมินทร์ ซ่ึงเป็นทันตแพทย์ชำว หล่อหลวงพ่ออู่ทององค์ใหม่ขึ้นมำแทน โดยมีขนำด จังหวัดเชียงใหม่ ได้ฝันเห็นเจ้ำฟ้ำฮ่ำมกุมำร ปฐม เท่ำองคเ์ ดมิ ทำ� พิธีพทุ ธำภเิ ษกแล้วนำ� ไปประดิษฐำน กษตั รยิ แ์ หง่ นครลบั แลมำบอกวำ่ มผี พู้ บภำพหวั กลบั ที่อโุ บสถ เพ่ือให้พุทธศำสนิกชนได้สกั กำรบูชำ ภำยในโบสถ ์ คณุ หมอจงึ ไดเ้ ดนิ ทำงมำพสิ จู น ์ และไดเ้ หน็ ภำพปรำกฏข้ึนจริงตำมที่เจ้ำฟ้ำฮ่ำมกุมำรมำเข้ำฝัน วัดผักราก ตั้งอยู่ที่ต�ำบลแม่พูล เป็นวัดเก่ำแก่ จึงเกิดควำมศรัทธำและสร้ำงเจดีย์แก้วขึ้นบริเวณ อีกแห่งหน่ึงของอ�ำเภอลับแล สร้ำงข้ึนเมื่อ พ.ศ. ข้ำงพระอุโบสถ นอกจำกน้ียังมีหอไตรโบรำณกลำง ๒๓๙๑ มีพระธำตุและอุโบสถแบบล้ำนนำท่ีได้รับ นำ้� อำยุหลำยรอ้ ยป ี สนั นษิ ฐำนวำ่ สรำ้ งมำตงั้ แต่สมัย รำงวัลสถำปัตยกรรมดีเด่น ทั้งยังได้รับพระรำชทำน กรุงศรีอยุธยำ วิสงุ คำมสมี ำ เม่อื พ.ศ. ๒๔๔๙ (ท่ดี ินพระรำชทำน เพ่ือใหส้ ร้ำงเปน็ อุโบสถ) วัดไผ่ลอ้ ม ต้งั อยู่ทต่ี �ำบลไผ่ลอ้ ม เป็นวดั เก่ำแกอ่ กี วัด หนง่ึ ของอำ� เภอลบั แล สรำ้ งขนึ้ เมอื่ พ.ศ. ๒๐๑๙ เปน็ อนุสาวรีย์เจ้าฟ้าฮ่ามกุมาร บ้ำนท้องทับแล หมู่ท ี่ วัดที่ค้นพบหลวงพ่อเพ็ชร พระพุทธรูปคู่บ้ำนคู่เมือง ๗ ต�ำบลฝำยหลวง เป็นอนุสำวรีย์ของปฐมกษัตริย์ ของจงั หวดั อุตรดติ ถ์ ผู้ครองเมืองลับแล พระองค์ทรงเป็นพระรำชบุตร ในพระเจ้ำเรืองไทธิรำช กษัตริย์วงค์สิงหนวัติแห่ง วดั ดงสระแก้ว ต้งั อยูบ่ ้ำนดงสระแก้ว ต�ำบลไผ่ลอ้ ม อำณำจักรโยนกนำคนครเชียงแสน พระรำชบิดำ สร้ำงเมอื่ ปี พ.ศ. ๒๔๖๐ ส�ำหรับพระอโุ บสถสรำ้ งขึน้ ส่งมำครองเมืองลับแล เม่ือ พ.ศ. ๑๕๑๓ ทรงท�ำนุ เม่ือ พ.ศ. ๒๔๘๔ ด้วยไมส้ กั ทองทัง้ หลงั และมีใตถ้ ุน บำ� รงุ บำ้ นเมอื งจนเจรญิ กำ้ วหนำ้ รำษฎรอยดู่ ว้ ยควำม สูง ๖๐ เซนติเมตร เพ่ือให้พุทธศำสนิกชนได้ลอด ร่มเยน็ เปน็ สขุ เม่ือเสด็จสวรรคต ประชำชนจึงนำ� อัฐิ ใต้ฐำนพระอุโบสถตำมควำมเชื่อ พระธรรมกิจโกศล พระองค์มำบรรจุไว ้ ณ ม่อนอำรักษ์ซ่ึงเปน็ ท่สี ักกำระ เจ้ำอำวำสองค์แรกได้รับพระพุทธรูปจำกวัดรำช ของประชำชนทวั่ ไป และไดจ้ ดั ประเพณแี หน่ ำ�้ ขนึ้ โฮง บรู ณะ กรงุ เทพฯ มำโดยวธิ จี บั สลำกเมอ่ื พ.ศ. ๒๔๘๕ (เป็นประเพณีท่ีน�ำน�้ำอบน้�ำปรุงมำเข้ำร่วมขบวนแห ่ ท่ำนจับได้พระปูนท่ีมีพระเศียรโต รูปร่ำงไม่งดงำม โดยมีขบวนแห่ตุง คำนหำบ ขบวนแห่วัฒนธรรม และไดอ้ ญั เชญิ มำเปน็ พระประธำนในพระอโุ บสถ ตอ่ มำ พร้อมเครื่องถวำย และน�ำไปสักกำระดวงวิญญำณ เมือ่ พ.ศ. ๒๕๐๘ มกี ำรซอ่ มแซมหลงั คำพระอโุ บสถ เจำ้ ฟำ้ ฮำ่ มกมุ ำร) สบื ทอดมำจนถงึ ปจั จบุ นั บนเนนิ เขำ แผน่ กระเบอ้ื งหลน่ ลงมำโดนหวั ไหลข่ ำ้ งซำ้ ยของพระ ดำ้ นหลงั อนสุ ำวรยี ย์ งั มที ำงขน้ึ ไปยงั จดุ ชมววิ สำมำรถ ปูน ท�ำให้ปูนท่ีหุ้มอยู่แตก เม่ือช่วยกันกระเทำะปูน มองเหน็ ภูมทิ ศั นข์ องเมืองลบั แลได้ ออกมำ จงึ เหน็ เปน็ พระพทุ ธรปู ทองค�ำ ปำงมำรวิชยั การเดินทาง จำกแยกตลำดลับแล ใช้ทำงหลวง สมยั อทู่ อง เรยี กว่ำ “หลวงพอ่ อทู่ อง” ประมำณ พ.ศ. หมำยเลข ๑๐๔๓ เสน้ ทำงไปนำ้� ตกแมพ่ ลู จะพบวดั ใหม่ ๒๕๒๐ หลวงพอ่ อทู่ องไดถ้ กู โจรกรรมไป ชำวดงสระแกว้ อยู่ขวำมือ เล้ียวซ้ำยเข้ำซอยฝั่งตรงข้ำมวัดใหม่ เสยี ใจเปน็ อนั มำก พยำยำมตดิ ตำมหำอยหู่ ลำยป ี กไ็ ม่ ประมำณ ๘๐๐ เมตร รวมระยะทำงจำกตัวจังหวัด สำมำรถไดอ้ งคห์ ลวงพอ่ อทู่ องกลบั คนื มำ ดงั นนั้ ในวนั ถึงอนสุ ำวรียฯ์ ๑๒ กโิ ลเมตร ท ่ี ๖ มนี ำคม พ.ศ. ๒๕๔๘ พระครปู ภำกร สทิ ธิคุณ เจ้ำอำวำสวัดหัวดงสระแก้ว และชำวบ้ำนได้ช่วยกัน 38 อตุ รดิตถ์

อนสุ าวรยี เ์ จา้ ฟา้ ฮา่ มกมุ าร อุตรดติ ถ์ 39

วดั ดอนสกั ศูนย์ปฏิบัติธรรมม่อนอารักษ์ ตั้งอยู่บนเนินเขำสูง สลักลวดลำยกนก รูปหงส์และรูปนก ก้ำนขดไขว้ ติดกับอนุสำวรยี เ์ จำ้ ฟำ้ ฮำ่ มกุมำร เปน็ จุดชมทวิ ทัศน์ ลำยเทพพนมและภำพยักษ ์ คันทวยเชิงชำยก็สลกั ไม้ ท่ีดีที่สุดแห่งหนึ่งของลับแล สำมำรถมองเห็นภูเขำ เปน็ รปู พญำนำคงดงำมเชน่ กนั เสำแปดเหลยี่ มกอ่ อฐิ และป่ำไม้ท่ียังอุดมสมบูรณ์ ท้องนำสีเขียวอ่อนเป็น ฉำบปนู บวั หวั เสำเปน็ บวั โถกลบี ซอ้ น บนฝำผนงั ดำ้ นใน ตำรำงส่ีเหลี่ยมเล็กๆ และเห็นหมู่บ้ำนที่โอบล้อมไว้ และทีเ่ สำมภี ำพชำดกตำ่ ง ๆ และมธี รรมำสนเ์ กำ่ แก่ ดว้ ยภเู ขำ นอกจำกนย้ี งั เปน็ สถำนทค่ี น้ พบวตั ถโุ บรำณ สลกั ลำยตดิ กระจกสงี ดงำม อำยปุ ระมำณสองพนั ป ี ไดแ้ ก ่ ขวำนสมั ฤทธ ์ิ เครอื่ งดนิ เผำ เคร่อื งมอื เครอื่ งใช้ และเครอื่ งประดับ วัดห้องสงู ต้ังอยู่ทบี่ ้ำนหอ้ งสงู ต�ำบลชัยชมุ พล สร้ำง ด้วยสถำปัตยกรรมงดงำม เช่น หอระฆัง และพระ วัดดอนสัก อยู่บ้ำนต้นม่วง ต�ำบลฝำยหลวง ห่ำง อุโบสถ โดยเฉพำะพระอุโบสถ ก่อสร้ำงเป็นรูปเรือ จำกท่วี ่ำกำรอ�ำเภอประมำณ ๑ กิโลเมตร ทีไ่ ดช้ อื่ วำ่ สพุ รรณหงส ์ เสำไฟฟำ้ ภำยในวดั ทกุ ตน้ สรำ้ งเปน็ แบบ วัดดอนสักเพรำะต้ังอยู่บนเนินดิน ที่แต่เดิมมีต้นสัก เสำหงสค์ ำบโคมไฟ เชน่ เดยี วกับถนนอกั ษะ จงั หวัด ข้ึนอยู่มำกมำย เชื่อว่ำสร้ำงข้ึนในสมัยกรุงอยุธยำ นครปฐม แต่ที่พิเศษสุดของวัด คือ ห้องน้�ำท่ีมีช่ือ ตอนปลำย เคยถกู ไฟไหมม้ ำครั้งหน่งึ จึงทำ� ใหโ้ บรำณ ว่ำ “สุขำรวมใจ” มีเนือ้ ท่ีกวำ้ งถงึ ๓๙๖ ตำรำงเมตร วัตถุเสียหำยเป็นจ�ำนวนมำกเหลือแต่วิหำรซ่ึงสร้ำง เพรำะนอกจำกจะตกแต่งสวยงำมแล้ว ยังมีห้องน�้ำ หันหน้ำไปทำงทิศตะวันออก หลังคำมุงกระเบ้ือง แยกหญิง-ชำย ห้องน�้ำคนพิกำร ซ่ึงทุกห้องติดตั้ง ดินเผำลดหล่ันลงเป็น ๓ ช้ัน ด้ำนนอกส่วนหน้ำบัน โทรทัศนแ์ ละพดั ลมไว้บริกำรดว้ ย ประดับด้วยไม้แกะสลักลวดลำย ท่ีบำนประตูไม้ 40 อุตรดิตถ์

ตลาดเทศบาลต�าบลหัวดง เป็นตลำดผลไม้ที่ใหญ่ ทส่ี ดุ ของอำ� เภอลบั แล จำ� หนำ่ ยผลไมต้ ำมฤดกู ำล เชน่ ทเุ รยี น ลำงสำด ลองกอง ลำงกอง มงั คดุ และเงำะ เป็นต้น ในช่วงหน้ำผลไม้จะมีกำรจัดงำนเทศกำล ทเุ รยี นหลงหลนิ ลบั แล รวมทง้ั อำหำรพน้ื บำ้ นทขี่ นึ้ ชอ่ื ได้แก่ ขำ้ วแคบ หม่พี ัน และขำ้ วพันผัก นา�้ ตกแมพ่ ลู ตง้ั อยบู่ ำ้ นตน้ เกลอื หมทู่ ่ี ๔ ตำ� บลแมพ่ ลู เป็นน้�ำตกที่เกิดจำกกำรตกแต่งธำรน�้ำให้คล้ำยกับ น�้ำตกธรรมชำติ โดยกำรเทปูนให้ลดหล่ันลงมำ มี ควำมสูงประมำณ ๒๐ เมตร บริเวณโดยรอบน�้ำตก มคี วำมร่มร่นื มรี ้ำนจำ� หน่ำยของทร่ี ะลกึ รำ้ นอำหำร และลำนจอดรถไวบ้ ริกำร การเดนิ ทาง จำกอำ� เภอเมอื งอตุ รดติ ถถ์ งึ อำ� เภอลบั แล ระยะทำง ๘ กโิ ลเมตร จำกน้นั ใช้ทำงหลวงหมำยเลข ๑๐๔๓ อกี ประมำณ ๑๒ กโิ ลเมตร ดอยโจโกเ้ กา๊ แก ตง้ั อยทู่ ตี่ ำ� บลแมพ่ ลู เปน็ ยอดดอยท่ี น้า� ตกแมพ่ ูล เป็นรอยต่อ ๓ จังหวดั คือ อุตรดิตถ์ แพร่ สุโขทัย ซง่ึ เป็นจุดกำงเต้นท์พักแรมในช่วงฤดูหนำว ที่สำมำรถ เห็นทวิ ทัศน์ทีส่ วยงำมของจงั หวดั อตุ รดิตถไ์ ด้ ม่อนลับแล ต้ังอยู่บนเส้นทำงไปน�้ำตกแม่พูล ห่ำง สถำนที่จัดแสดงผ้ำซิ่นตีนจกลับแลที่มีอำยุนับร้อยปี จำกแยกศรีพนมมำศ ๑ กิโลเมตร ภำยในมีร้ำน ก่อตั้งโดยอำจำรย์สมชำย ซงึ่ เปน็ เจ้ำของบำ้ น เพ่ือ อำหำรบรรยำกำศร่มรืน่ เรือนทอผำ้ ม่อนลบั แล เปน็ เก็บรักษำผ้ำพนื้ เมืองที่เป็นเอกลกั ษณ์ของชำวลบั แล ที่รวบรวมผ้ำทอพ้ืนเมืองลับแลที่ทอขึ้นในอดีตและ เช่น ผ้ำจกยุคแรก ซ่ินดอกเคียะ ซ่ินกำฝำกเขยี ว ซน่ิ ที่ทอในปัจจุบัน บ้ำนของฝำกม่อนลับแล เป็นร้ำน กำฝำกแดง และพญำผ้ำ เป็นต้น รวมท้ังข้ำวของ จ�ำหน่ำยสินค้ำหัตถกรรมพื้นเมือง ผ้ำทอพ้ืนเมือง เครือ่ งใช้สมัยโบรำณอีกด้วย สินค้ำที่ขึ้นช่ือเมืองลับแล ผลไม้ตำมฤดูกำล และ เครื่องด่ืมเพ่ือสุขภำพ เปิดบริกำรทุกวัน ต้ังแต่เวลำ ย่านถนนคนกิน ตั้งอยู่ที่ถนนรำษฏร์อุทิศ มีร้ำน ๑๐.๐๐–๒๑.๐๐ น. สอบถำมข้อมูล โทร. ๐ ๕๕๔๓ อำหำรพนื้ เมอื งตลอดเสน้ ทำง เชน่ รำ้ นกว๋ ยเตยี๋ วรกั ๑๔๓๙, ๐๘ ๑๗๘๕ ๒๔๗๗ ไอตมิ รำ้ นขำ้ วพนั ผกั อนิ ด ้ี รำ้ นขนมจนี นำ�้ เงยี้ ว ขำ้ วแคบ ขำ้ วควบ หม่พี ันป้ำหวำ่ ง ข้ำวพนั ผักป้ำตอ ร้ำนเจ๊นีย์ บ้านผา้ จก ๒๐๐ ปี ตั้งอยู่ท่ถี นนศรดี อนไชย เป็น ของทอด ฯลฯ อุตรดติ ถ์ 41

เส้นทางผลไม้ และวิธีการขนส่งผลไม้ ด้วยรถ เทศกาลงานประเพณี จักรยานยนต์ วิถีชีวิตและอำชีพของชำวลับแลส่วน งานพระยาพิชัยดาบหักและงานกาชาด จัดข้ึน ใหญ่ คือ กำรทำ� สวนผลไมท้ ่ีมเี อกลักษณ์ เพรำะชำว ในระหว่ำงวันท่ี ๗-๑๖ เดือนมกรำคมของทุกปี ณ ลับแลท�ำสวนผลไม้ได้ทั้งในที่รำบและบนภูเขำ ซึ่ง บรเิ วณสนำมกีฬำพระยำพิชยั ดำบหัก เปน็ งำนร�ำลึก ท�ำมำต้ังแตบ่ รรพบุรุษ มีผลไมใ้ ห้ผลผลติ ตลอดปี ทงั้ ถึงวีรกรรมของพระยำพิชัยดำบหัก มีกำรออกร้ำน ลองกอง ลำงสำด ทุเรยี นและมงั คดุ ชำวลับแลปลกู ของเหล่ำกำชำดจังหวัด กำรแสดงศิลปะวัฒนธรรม ทเุ รยี นบนภเู ขำดว้ ยกำรใชห้ นงั สตกิ๊ ยงิ สง่ เมลด็ ทเุ รยี น กิจกรรมรื่นเริงต่ำง ๆ และพิธีบวงสรวงพระยำพิชัย พันธุ์ดีขึ้นไปตกบนภูเขำ ให้เมล็ดเจริญเติบโตตำม ดำบหกั ธรรมชำติ เจ้ำของสวนใส่ปุ๋ยบ้ำงตำมวำระ จำกนั้น ทุเรียนจะผลิดอกออกผล ชำวสวนเก็บผลผลิตด้วย งานประเพณีบุญกองข้าวใหญ่ท่ีบ้านโคก จัดข้ึน กำรใช้ลวดสลิงข้ำมเขำและใช้กำรชักรอกเข่งบรรทุก ระหว่ำงวันท่ี ๑๙-๒๒ มกรำคมของทุกปี ท่ีบริเวณ ทุเรียนจำกเขำลูกหน่ึงมำยังอีกลูกหน่ึง จำกน้ันก็ใช้ สนำมกีฬำภูเวียง ณ ที่ว่ำกำรอ�ำเภอบ้ำนโคก เพ่ือ มอเตอร์ไซค์เป็นพำหนะในกำรขนทุเรียนลงจำกเขำ เปน็ กำรสง่ เสรมิ ประเพณ ี โดยในงำนจะมกี ำรกอ่ เจดยี ์ ทเุ รยี นทีส่ รำ้ งชอ่ื เสียงให้กับอ�ำเภอลับแล คอื ทเุ รียน บุญกองข้ำวใหญ่ ถือเป็นกำรรวมตัวของเกษตรกร พันธุห์ ลง-หลิน ในพื้นท่ี หลังเก็บเกี่ยวข้ำวในนำจะน�ำข้ำวเปลือก เสน้ ทางจักรยาน มเี สน้ ทำงแนะนำ� ดงั น้ี หรือข้ำวสำรจำกทุกหลังคำเรือนมำร่วมท�ำบุญ อีก เส้นทางท่ี ๑ จำกอนุสำวรีย์พระศรีพนมมำศ ผ่ำน ท้ังภำยในงำนยงั จดั ให้มนี ทิ รรศกำร กำรออกร้ำนคำ้ ตลำดศรีพนมมำศ เลี้ยวซ้ำยไปวัดศรีดอนสัก ตรง ของชมุ ชน กำรประกวดอำหำรพน้ื บำ้ น ไดแ้ ก ่ ขำ้ วโขป ไปจะผ่ำนส่ีแยก ผ่ำนสถูปบรรจุพระอัฐิพระศรีพนม ขำ้ วจ ่ี ขำ้ วหลำม กำรแข่งขนั กฬี ำเซปกั ตะกร้อ และ มำศ ผำ่ นร้ำนกว๋ ยเต๋ียวรกั ไอติม วัดปำ่ ยำง ถนนคน เปตอง เดิน แวะชิมอำหำรพืน้ เมือง ชมซมุ้ ประตลู ับแล แล้ว วกกลบั จุดเดิม งานนมสั การพระแทน่ ศลิ าอาสน ์ พระพทุ ธบำทยคุ ล เส้นทางท ่ี ๒ จำกม่อนจำ� ศลี เล้ยี วซ้ำยที่มอ่ นลบั แล และพระนอนพุทธไสยำสน์ จัดข้ึนในช่วงขึ้น ๘ ค�่ำ- ผำ่ นสถำนอี นำมยั เลยี้ วซำ้ ยผำ่ นวดั ทอ้ งหลวง ผำ่ นวดั ๑๕ คำ่� เดอื น ๓ ในเดอื นกมุ ภำพนั ธ ์ ตรงกบั เปน็ วนั ใหม ่ วดั เจดยี ค์ รี วี หิ ำร วดั ทงุ่ เอย้ี ง ปม๊ั ปตท. มอ่ นจำ� ศลี มำฆบชู ำของทกุ ป ี ณ วดั พระแทน่ ศลิ ำอำสน ์ วดั พระยนื เสน้ ทางท ี่ ๓ เรม่ิ จำกตลำดผลไม ้ ผำ่ นเทศบำลตำ� บลศรี พุทธบำทยุคล และวัดพระนอนพุทธบำทไสยำสน์ พนมมำศ วดั ดอนคำ่ วดั ดอนแกว้ เฮอื นลบั แล สวนผลไม ้ ตำ� บลทงุ่ ยง้ั อำ� เภอลบั แล มกี ำรจดั งำนสมโภช งำน นำ้� ตกแมพ่ ลู (ระยะทำงไปนำ้� ตกแมพ่ ลู คอ่ นขำ้ งไกล) มหรสพ และกำรออกร้ำนสินค้ำพื้นเมือง สอบถำม ส�ำนักงำนเทศบำลต�ำบลศรีพนมมำศ อ�ำเภอลับแล ขอ้ มลู ไดท้ ่ี เทศบำลตำ� บลทงุ่ ยงั้ โทร. ๐ ๕๕๘๑ ๖๕๙๔- มีบริกำรรถจักรยำนให้นักท่องเท่ียวยืมโดยไม่เสียค่ำ ๖ และอำ� เภอลบั แล โทร. ๐ ๕๕๔๓ ๑๐๘๙ ใชจ้ ำ่ ย และยงั มรี ถรำงนำ� ชมเมอื งลบั แลดว้ ย สอบถำม ขอ้ มลู ไดท้ เี่ ทศบำลตำ� บลศรพี นมมำศ โทร. ๐ ๕๕๔๓ งานนมัสการหลวงพ่อโตและมหกรรมของดีเมือง ๑๐๗๖ พิชัย จัดข้ึนในเดือนกุมภำพันธ์ของทุกปี เป็นงำน นมัสกำรหลวงพ่อโต พระพุทธรูปปูนปั้นขนำดใหญ่ 42 อุตรดิตถ์

ประเพณถี วายพระเพลงิ พระบรมศพสมเดจ็ พระสมั มาสมั พทุ ธเจ้า (ประเพณีอัฏฐมีบูชา) บริเวณวัดพระธำตุ ภำยในงำนมีกำรจัดมหรสพ พระเถระผู้ใหญ่ในวัดเจดีย์ศรีวิหำร สักกำระดวง มำกมำย วญิ ญำณบรเิ วณอนสุ ำวรยี เ์ จำ้ ฟำ้ ฮำ่ มกมุ ำร กำรแสดง ถวำยหน้ำอนสุ ำวรียแ์ ละกำรฟ้อนรำ� งานเทศกาลวันกระเทียม จัดช่วงต้นเดือนมีนำคม ณ บริเวณสนำมกีฬำอ�ำเภอน้�ำปำด มีกำรออกร้ำน งานเทศกาลกินปลา อา� เภอท่าปลา จดั ข้ึนในเดือน จ�ำหน่ำยผลิตภัณฑ์จำกกระเทียม ประกวดธิดำ เมษำยนของทกุ ป ี เพอ่ื เปน็ กำรสง่ เสรมิ ดำ้ นกำรทอ่ งเทย่ี ว กระเทียม ขบวนแห่กำรละเล่นท้องถ่ินและมหรสพ และสรำ้ งรำยได้ให้ประชำชนภำยในทอ้ งถิ่น ต่ำงๆ สอบถำมข้อมูลได้ที่อ�ำเภอน้�ำปำด โทร. ๐ ๕๕๔๘ ๑๐๔๕, ๐ ๕๕๔๘ ๑๐๓๒ ประเพณีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระ สมั มาสมั พทุ ธเจา้ (ประเพณอี ฏั ฐมบี ชู า) จดั ขนึ้ ในวนั ประเพณีแห่น้�าข้ึนโฮง จัดขึ้นในวันที่ ๑๔ เดือน แรม ๘ ค�ำ่ เดือน ๖ ณ วดั พระบรมธำตุทุ่งยั้ง อ�ำเภอ เมษำยนของทกุ ป ี บรเิ วณเชงิ ดอยมอ่ นอำรกั ษ ์ อำ� เภอ ลบั แล เปน็ กำรนอ้ มจติ รำ� ลกึ ถงึ องคพ์ ระสมั มำสมั พทุ ธ ลบั แล มีกำรกรวดน้�ำรดน้�ำใหแ้ ก่บรรพบุรษุ ทลี่ ่วงลับ เจำ้ ตลอดจนพระธรรมคำ� สง่ั สอนของพระองค ์ ในงำน ไปแล้ว ด้วยกำรน�ำน�้ำอบและน้�ำหอมไปสรงตำม มีกำรจ�ำลองพิธีถวำยพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จ ศำลเจ้ำ ซ่ึงเป็นท่ีนับถือในหมู่บ้ำน มีขบวนพิธีจำก พระสมั มำสัมพทุ ธเจ้ำ มีกำรตกแตง่ วดั อย่ำงสวยงำม หมู่บ้ำนต่ำงๆ อัญเชิญน�้ำมนต์และเคร่ืองสักกำระ พร้อมกำรปฏบิ ัติธรรมและฟังเทศนำธรรม ไปรอบเมอื ง สกั กำระอนสุ ำวรยี พ์ ระศรพี นมมำศ สรงนำ�้ อตุ รดิตถ์ 43

เทศกาลทุเรียน และผลไม้เมืองลับแล (มหัศจรรย์ สืบสานงานวัฒนธรรมประเพณีและของดีอ�าเภอ ทุเรียนหลง–หลินเมืองลับแล) จัดข้ึนประมำณ ท่าปลา จัดขึ้นในเดือนพฤศจิกำยน ณ สนำมกลำง มิถุนำยนหรือกรกฎำคมของทุกปีขึ้นอยู่กับช่วงเวลำ อ�ำเภอท่ำปลำ มีวัตถุประสงค์เพ่ือพัฒนำคุณภำพ ท่ผี ลผลิตออก ณ ตลำดกลำงผลไม ้ (OTOP) เทศบำล ชีวิตของประชำชนอ�ำเภอท่ำปลำ ในพื้นที่รอบโรง ต�ำบลหวั ดง ตำ� บลแมพ่ ูล อ�ำเภอลบั แล เพอื่ เปน็ กำร ไฟฟำ้ เข่อื นสริ ิกิต์ิ ให้ไดร้ บั กำรพัฒนำอย่ำงยัง่ ยืนและ ส่งเสริมและเผยแพร่ช่ือเสียงทุเรียนเมืองลับแล ยังเป็นกำรส่งเสริมกำรท่องเที่ยวของอ�ำเภอท่ำปลำ ภำยในงำนมีกิจกรรมท่ีน่ำสนใจมำกมำย มีกำร อีกดว้ ย ประกวดกระเช้ำผลไม้ กำรประกวดสินค้ำพ้ืนเมือง ลบั แล เช่น ขำ้ วพนั ผกั กำรแข่งขนั สม้ ต�ำทเุ รียนลีลำ งานดอกฝ้ายบานท่ีบ้านโคก จัดขึ้นเพ่ือเผยแพร่ ทเุ รยี นทอด กำรแขง่ ขนั ชกมวยไทย เปน็ ตน้ สอบถำม ผลผลิตฝ้ำย ในช่วงกลำงเดือนธันวำคมของทุกปี ณ ขอ้ มลู ไดท้ เ่ี ทศบำลตำ� บลหวั ดง โทร. ๐ ๕๕๔๒ ๗๒๒๒ สนำมกีฬำอ�ำเภอบ้ำนโคก มีกำรจ�ำหน่ำยผลิตภัณฑ์ หรอื ททท. ส�ำนักงำนแพร่ โทร. ๐ ๕๔๕๒ ๑๑๒๗ จำกฝำ้ ย สำธติ กำรทอผำ้ ขบวนแห ่ ประกวดธดิ ำฝำ้ ย และกำรละเล่นพ้ืนบ้ำนของชำวบ้ำนโคก สอบถำม งานเทศกาลลางสาดหวานและมหกรรมของดเี มอื ง ข้อมลู ได้ท่อี ำ� เภอบ้ำนโคก โทร. ๐ ๕๕๔๘ ๖๑๒๔ อตุ รดติ ถ ์ จดั ขน้ึ ประมำณปลำยเดอื นกนั ยำยนของทกุ ปี ณ บรเิ วณสนำมกฬี ำพระยำพชิ ยั ดำบหกั หนำ้ ศำลำกลำง งานประเพณีไหลแพไฟเฉลิมพระเกียรติ จัดข้ึน จังหวัดอุตรดิตถ์ ซ่ึงเป็นช่วงท่ีลำงสำดอนั เปน็ ผลไม้ ประมำณเดือนธันวำคมของทุกปี ณ บริเวณท่ำน�้ำ ขนึ้ ชอื่ ของจงั หวดั และผลไมอ้ กี หลำกหลำยชนิดก�ำลัง วัดหำดสองแคว อ�ำเภอตรอน เพื่อเป็นกำรขอบคุณ ออกผล ในงำนมกี ำรออกรำ้ นผลไม ้นทิ รรศกำรทำงวชิ ำกำร พืชพันธุ์ธัญญำหำรและสำยน้�ำ มีกำรแสดง แสง สี เกย่ี วกบั ลำงสำด กำรประกวดลำงสำด กำรประกวดธดิ ำ เสียง และส่ือผสมเกี่ยวกับถิ่นฐำนชีวิตชำวอ�ำเภอ ชำวสวน กำรประกวดรถผลไม้ ขบวนแห่รถผลไม้ ตรอน กำรแสดงทำงวัฒนธรรม และกำรจ�ำหน่ำย และกำรออกร้ำนสินคำ้ ของดีจำกทกุ อ�ำเภอ สินค้ำโอทอป พิธีย้อนร�าลึกเส้นทางประวัติศาสตร์รัชกาลท่ี ๕ สินคา้ พ้นื เมอื งและของที่ระลึก เสด็จเมืองตรอนตรสี ินธุ์ ก�ำหนดจัดขน้ึ ทกุ วนั ท ่ี ๒๒ ขา้ วแคบ เปน็ ของกนิ พน้ื เมอื งของชำวลบั แล ลกั ษณะ ตลุ ำคม ของทุกป ี ณ วัดหำดสองแคว อ�ำเภอตรอน จะคลำ้ ยแผน่ โรตสี ำยไหม มรี สชำตเิ คม็ ซง่ึ ทำ� จำกแปง้ มีวัตถุประสงค์เพ่ือเป็นกำรร�ำลึกและเทิดพระเกียรติ ข้ำวจ้ำวท่ีผ่ำนกำรหมักตำมสูตรของชำวบ้ำน น�ำมำ พระบำทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลำ้ เจ้ำอยูห่ วั เพื่อให้ น่ึงคล้ำยกำรท�ำข้ำวเกรียบปำกหม้อ จำกน้ันก็น�ำไป เยำวชนและประชำชนได้ทรำบถึงพระรำชประวัติ ตำกแดดใหแ้ ห้ง มรี สชำตเิ ปรยี้ วและเคม็ ผสมกนั และพระรำชกรณียกิจของพระองค์ท่ำน รวมถึง วฒั นธรรมประเพณขี องชมุ ชนในอดตี และยงั เปน็ กำร หมพ่ี นั คอื ขำ้ วแคบทที่ ำ� มำจำกขำ้ วเหนยี วทแี่ ชค่ ำ้ งคนื ประชำสัมพันธ์กำรท่องเทยี่ วในท้องถ่นิ แลว้ นำ� มำโมเ่ ปน็ แปง้ ผสมงำดำ� และเกลอื จะไดแ้ ผน่ ขำ้ ว แคบแลว้ นำ� มำหอ่ เสน้ หมท่ี ค่ี ลกุ เคลำ้ เครอ่ื งปรงุ รสดว้ ย ถวั่ งอก นำ�้ ปลำ มะนำวและพรกิ ปน่ 44 อตุ รดติ ถ์

ขา้ วพนั ผกั วธิ กี ำรทำ� เหมอื นกำรทำ� ขำ้ วแคบ จะใสไ่ ข่ ขา้ วเกรยี บวา่ ว เปน็ อำหำรพนื้ บำ้ นประเภทขบเคย้ี ว ดว้ ยก็ไดต้ อ่ จำกนนั้ ใสผ่ ักต่ำง ๆ เชน่ คะนำ้ ผักบ้งุ จีน ข้ำวเกรียบว่ำวหรือข้ำวควบ ท�ำในช่วงฤดูร้อน กะหลำ�่ ปล ี แครอท วุน้ เสน้ โรยหน้ำดว้ ยหมูสบั และ เน่ืองจำกต้องอำศัยแสงแดดจัดท�ำให้ข้ำวเกรียบแห้ง เต้ำหู้ทอด ปรุงรสด้วยพริกข้ีหนูสดต�ำละเอียดผสม สนทิ ไมเ่ ปน็ เชื้อรำ น้�ำปลำ ซอสพริก ซอสถัว่ เหลอื ง พริกปน่ และนำ�้ ตำล ทุเรียนหลงลับแล เจ้ำของเดิมคือนำยลม-นำงหลง ข้าวพนั ไม้ ใช้แป้งชนดิ เดยี วกนั กับข้ำวพนั ผกั โดยท่ี อุประ เป็นทุเรียนที่ได้รับรำงวัลยอดเยี่ยมจำกกำร ขำ้ วพนั ไม้ไมต่ อ้ งใสผ่ กั เมือ่ แป้งสกุ กน็ �ำไม้มำพนั แปง้ ประกวดทเุ รยี นทป่ี ลกู จำกเมลด็ ซงึ่ รว่ มดำ� เนนิ กำรจดั เพื่อนำ� ออกจำกเตำ รับประทำนพร้อมนำ�้ จม้ิ ประกวดระหวำ่ งกรมวชิ ำกำรกำรเกษตร ทรงผลกลม มขี นำดเลก็ ถงึ ปำนกลำง รสชำตหิ อมหวำนมนั กลนิ่ ลอดชอ่ งเคม็ เปน็ อำหำรพน้ื เมอื งลบั แล ลอดชอ่ งเคม็ ออ่ น เมลด็ ลบี ใชเ้ สน้ ลอดชอ่ งโรยหนำ้ ดว้ ยปลำปน่ หรอื กงุ้ แหง้ ปน่ และ ตน้ หอมกบั ผกั ชหี นำมซอย ปรงุ รสเปรยี้ วดว้ ยมะปรำง นำ�้ ปลำ พรกิ ปน่ รสชำตเิ คม็ เลก็ นอ้ ย หมีพ่ ัน อตุ รดติ ถ์ 45

ทเุ รยี นหลนิ ลบั แล ตน้ เดมิ ปลกู โดยนำยหลนิ ปนั ดำล กลว้ ยกวน เรม่ิ จำกนำ� กลว้ ยสกุ มำปอกเปลอื กออกให้ ที่บำ้ นผำมูบ ต�ำบลแม่พูล อ�ำเภอลับแล โดยน�ำเมล็ด หมด น�ำไปบดให้ละเอยี ด นำ� กะทไิ ปต้งั ไฟใหแ้ ตกมัน ทุเรียนมำปลูกแล้วเกิดกำรกลำยพันธุ์ มีลักษณะ หลังจำกน้ันน�ำกล้วยท่ีบดลงกวนให้เป็นเนื้อเดียวกัน ที่แปลกกว่ำทุเรียนพันธุ์อื่น ๆ จึงส่งเข้ำประกวด เตมิ น้�ำตำล แบะแซ นม กวนจนเปลี่ยนสแี ละเหนียว ประเภททเุ รยี นทป่ี ลกู จำกเมลด็ ลกั ษณะผลมขี นำดเลก็ จับเป็นก้อน จึงยกลงจำกเตำแบ่งบรรจุภัณฑ์ตำม ผลเป็นทรงกระบอก หนำมผลโค้งแหลมคม เน้ือ ขนำดท่ีต้องกำร ละเอียดสีเหลืองอ่อน รสชำติหวำนมัน กล่ินอ่อน เมลด็ ลีบ ผลิตภัณฑ์เม็ดมะม่วงหินพานต์ อ�ำเภอท่ำปลำ มี ท้ังแบบทอดเค็ม อบเนย และแบบกรอบแก้ว เม็ด สับปะรดห้วยมุ่น ของดีจำกต�ำบลห้วยมุ่น อ�ำเภอ มะม่วงหิมพำนต์เป็นแหล่งของวิตำมินบีท่ีช่วย น�้ำปำด สับปะรดปัตตำเวียท่ีน�ำเข้ำไปปลูกในต�ำบล รักษำเส้นประสำทและเนื้อเย่ือกล้ำมเนื้อ ตลอดจน หว้ ยมุ่นจนกลำยเป็นพนั ธทุ์ ้องถิ่น มีลกั ษณะแตกตำ่ ง เสริมควำมต้ำนทำนต่อควำมเครียด รวมทั้งมีสำร ไปจำกพนั ธ์ดุ ง้ั เดิม มรี สชำตหิ วำนอร่อย เน้ือหนำนมิ่ ต้ำนอนุมูลอิสระท่ีจ�ำเป็นต่อร่ำงกำย และช่วยลด สีเหลืองอมน้�ำผ้ึง รสชำติหวำนฉ่�ำ ตำไม่ลึกท�ำให้มี คอเลสเตอรอลอีกดว้ ย ส่วนของเนื้อมำก ผลค่อนข้ำงเล็ก รับประทำนแล้ว ไม่ระคำยคอ ปลาซวิ แกว้ อำ� เภอทำ่ ปลำ เป็นปลำอกี ชนดิ หน่งึ ที่มี มำกในอำ่ งเกบ็ นำ�้ เขอ่ื นสริ กิ ติ ์ิ ชำวทำ่ เรอื ไดป้ ระกอบ ลางสาดและลองกอง เป็นผลไม้ท่ีมีชื่อเสียงของ อำชีพโดยท�ำแพยอ เม่ือ พ.ศ. ๒๕๓๖ จึงได้จัด จังหวัดอุตรดิตถ์เพรำะรสชำติที่หอมหวำน ลำงสำด ตั้งกลุ่มปลำซิวแก้ว น�ำมำแปรรูปเพ่ือใช้ประกอบ และลองกองทปี่ ลกู ในอำ� เภอลบั แล จะออกผลในชว่ ง อำหำร โดยน�ำมำท�ำปลำซิวแก้วตำกแห้ง มีโปรตีน เดอื นสงิ หำคม-ตุลำคม และแคลเซียมท่ีสงู ลูกตาวเชือ่ ม ตำว ต๋ำว หรือ ลูกชดิ เปน็ ปำลม์ ชนิด ผา้ ซ่นิ ตนี จก คอื ผำ้ นุง่ ท่ีมีโครงสรำ้ ง ๓ สว่ น ส่วนหัว หน่ึงเป็นไม้ป่ำ มีชื่อต่ำงกันไปตำมแต่ละท้องถ่ิน ส่วนกลำง ส่วนตีน (เชิงผ้ำ) และมีลวดลำยต่ำง ๆ ลักษณะคลำ้ ยตน้ จำก เช่น “ลำยนำค” เปน็ ลำยดงั้ เดิมของชำว ไท-ยวน ท่ี ตั้งถ่ินฐำนที่อ�ำเภอลับแล มีควำมอ่อนช้อยสวยงำม ขนมเทยี นเสวย เปน็ ขนมไทยโบรำณทคี่ ดิ คน้ ขน้ึ โดย และมีควำมหมำยในทำง “มีอ�ำนำจวำสนำ” ผ้ำซ่ิน ชำวอุตรดิตถ์ เพื่อเป็นอำหำรรับรองข้ำรำชบริพำร ตีนจกลบั แลมลี ำยหลกั ท้ังหมด ๑๖ ลำย แตล่ ะลำย ท่ีมำเยือนเมืองอุตรดิตถ์ในสมัยก่อน โดยส่วนผสม จะอยตู่ รงกลำงผนื ผำ้ ประกบดว้ ยลำยเครอ่ื งหรอื ลำย ของขนมเทียนเสวยน้ันมีเพียงแป้งข้ำวเหนียวโม่สด ประกอบทัง้ ขำ้ งบนและข้ำงลำ่ ง กะท ิ งำขำว น้�ำตำลทรำยแดง และน้�ำผงึ้ ไมก้ วาดตองกง เปน็ ไมก้ วำดทท่ี ำ� ขนึ้ จำกดอกตองกง หัวผักกาดเค็ม มีชื่อเสียงมำกในด้ำนคุณภำพ และ มคี วำมคงทนเปน็ พเิ ศษ พระศรพี นมมำศ อำ� มำตยต์ รี รำคำยุตธิ รรม ดำ� รงตำ� แหนง่ เกษตรมณฑลพษิ ณโุ ลก เปน็ ผรู้ เิ รมิ่ และ 46 อุตรดติ ถ์

ชักชวนใหช้ ำวบำ้ นท�ำข้ึน โดยท่ำนจะเป็นผ้รู ับซ้อื เอง โครงการศนู ยก์ ารเรยี นรอู้ นั เนอื่ งมาจากพระราชดา� ริ และนำ� ไปเปน็ ของฝำก ไดม้ กี ำรนำ� ผำ้ สแี ดงมำตดั เปน็ ศนู ยก์ ำรเรยี นรเู้ กษตรอนิ ทรยี แ์ ละชวี ภำพชำววงั ๑๐๙/๑ ชนิ้ เลก็ ๆ แล้วน�ำมำสอดเข้ำทีป่ ลำยของไมก้ วำด จน หมู่ที่ ๔ ต�ำบลวังกะพี้ โทร. ๐๘ ๗๘๔๒ ๖๖๐๘ กลำยเป็นสัญลกั ษณข์ องไม้กวำดเมืองลบั แล บ้านเทียนหอม ๑๔/๗ หม ู่ ๕ (ตดิ ถนน) ต�ำบลป่ำเซ่ำ จ�ำหน่ำยขนม เครือ่ งหนงั และสินค้ำทร่ี ะลึก โทร. ผลิตภัณฑ์ดาบเหล็กน�้าพี้ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ท�ำจำก ๐ ๕๕๔๑ ๒๗๓๐ แร่เหลก็ น�ำ้ พ้ที ม่ี ีควำมแกรง่ เหนียวและเกดิ สนมิ ยำก ลมเย็น ๑๗๓ หม ู่ ๕ ถนนหลวงสำย ๑๑ พิษณโุ ลก- จำกตำ� รำพชิ ยั สงครำมได้กล่ำวไว้วำ่ “เหล็กน�ำ้ พเ้ี ป็น เดน่ ชยั ก.ม. ๑๐๐ ตำ� บลปำ่ เซำ่ จำ� หนำ่ ยสนิ คำ้ ทร่ี ะลกึ โลหะมหศั จรรยม์ อี ำนภุ ำพ มพี ลงั ในตวั มสี งิ่ ศกั ดส์ิ ทิ ธิ์ โทร. ๐ ๕๕๔๑ ๔๖๑๑ สถิตอยู่ทุกๆ อณู สำมำรถป้องกันคุณไสยและส่ิง เลา่ ซนุ่ เสง็ ๒๘๖ ถนนอนิ ใจม ี ขำยหนอ่ ไมแ้ ละลกู ตำว เลวร้ำยท่ีมองไม่เห็นด้วยตำด�ำได้” ปัจจุบันแร่เหล็ก เชื่อมกระป๋องทงั้ ขำยปลีกและขำยสง่ โทร. น้�ำพีถ้ อื ว่ำเป็นวัตถุมงคล โดยเช่ือกันว่ำเหลก็ นำ�้ พอี้ ยู่ ๐ ๕๕๔๑ ๑๒๙๔ ในตระกลู เดียวกันกับเหล็กไหล อา� เภอทองแสนขัน ผลติ ภณั ฑผ์ กั ตบชวา เปน็ งำนหตั ถกรรมของกลมุ่ แมบ่ ำ้ น กลมุ่ ผลติ ภณั ฑด์ าบเหลก็ นา้� พ ้ี ๔๖/๑ หม ู่ ๑ บำ้ นนำ�้ พ ี้ ทบ่ี ำ้ นทำ่ รว่ มกนั ผลติ ขน้ึ จำกผกั ตบชวำ เปน็ งำนฝมี อื ตำ� บลน�ำ้ พี ้ โทร. ๐๘ ๙๕๖๘ ๑๙๗๐ ที่มีควำมปรำณีตและมีรูปแบบท่ีทันสมัย เหมำะท่ี จะซอ้ื มำเปน็ ของฝำกหรอื ของตกแตง่ บำ้ น เชน่ โคมไฟ อ�าเภอทา่ ปลา แจกัน กระเปำ๋ ตะกร้ำ รองเท้ำ เป็นต้น วิสาหกิจชุมชนกลุ่มส่งเสริมอาชีพบ้านหาดไก่ต้อย หม่ ู ๓ ต�ำบลหำดล้ำ โทร. ๐๘ ๙๙๖๐ ๑๓๘๘ ข้าวกล้องไรซ์เบอร์ร่ี ได้มำจำกกำรผสมข้ำมพันธุ์ ระหว่ำงข้ำวเจ้ำหอมนิลกับข้ำวขำวดอกมะลิ ๑๐๕ อา� เภอพชิ ัย จำกกำรพัฒนำพนั ธขุ์ ำ้ วพิเศษ โดยศนู ยว์ ิทยำศำสตร์ กลุ่มแม่บ้านเกษตรบ้านป่ากะพ้ี ๑๙๙/๒ หมู่ ๔ ขำ้ วฯ มหำวทิ ยำลยั เกษตรศำสตร ์ เพอื่ ใหไ้ ดเ้ มลด็ พนั ธ์ุ ตำ� บลทำ่ มะเฟอื ง จำ� หนำ่ ยผลติ ภณั ฑก์ ลว้ ยกวน โทร. ที่มีคุณภำพดีและให้ประโยชน์สูงสุดแก่ผู้บริโภค มี ๑๖๘๘ ๐๙๓๕ จำ� หนำ่ ยทร่ี ำ้ นขำยของฝำกท่วั ไป อ�าเภอลับแล ร้านขายของทร่ี ะลกึ กลุ่มแม่บ้านน�้าท่วมร่วมใจ ๓๔/๒ ต�ำบลฝำย อ�าเภอเมอื งอุตรดิตถ ์ หลวง จ�ำหนำ่ ยขำ้ วแคบ “ศรลี บั แล ข้ำวแคบปรงุ รส กนกมณี ๑๖๕/๒ ถนนบรมอำสน์ รับสั่งท�ำและ OTOP” โทร. ๐ ๕๕๔๕ ๐๕๐๐, ๐๘ ๓๘๗๐ ๔๗๖๑ จ�ำหน่ำยขนมเทียนเสวย โทร. ๐ ๕๕๘๓ ๒๘๔๕ เฉลิมกำรค้ำ ตลำดบ้ำนค้มุ จ�ำหน่ำยผ้ำพนื้ เมอื ง โทร. กลุ่มหัตถกรรมผลิตภัณฑ์ผักตบชวา หมู่ ๕ ต�ำบล ๐ ๕๕๔๓ ๑๐๖๕ หำดกรวด โทร. ๐ ๕๕๔๔ ๕๓๕๔ ตะวันฉาย ๑๕๑ หมู่ ๑ ต�ำบลแม่พูล จ�ำหน่ำย ผลติ ภณั ฑข์ องเมอื งลับแล โทร. ๐๘ ๗๕๒๑ ๒๔๓๒ อุตรดติ ถ์ 47

บา้ นบนดอย ๗๗ หม ู่ ๒ ตำ� บลแมพ่ ลู (อยขู่ วำมอื กอ่ น สำมำรถในกำรขบั ขอี่ ยำ่ งชำ� นำญ และกำรใชส้ ลงิ ชกั รอก ถงึ สำ� นกั งำนเทศบำลตำ� บลหวั ดง ๑๕๐ เมตร) โทร. ๐ ตระกร้ำผลไม้จำกภูเขำลูกหนึ่งไปยังภูเขำอีกลูกหนึ่ง ๕๕๔๕ ๗๒๗๐ E-mail: [email protected] นอกจำกนนั้ นกั ทอ่ งเทย่ี วยงั มโี อกำสไดช้ มิ ทเุ รยี นทอ้ งถน่ิ บุญถึง อยู่ในตลำดลับแล จ�ำหน่ำยผ้ำพ้ืนเมือง ผ้ำ พันธห์ุ ลงลบั แลและหลินลับแล ซ่งึ มีรสชำติหวำนมนั ซ่ินตนี จก ผ้ำซ่นิ ลบั แล ซน่ิ มกุ ลบั แลและผ้ำหม่ โทร. และมีกล่ินหอม ติดต่อเกษตรอ�ำเภอลับแล โทร. ๐ ๐ ๕๕๔๓ ๑๐๒๐ ๕๕๔๓ ๑๐๔๐ คุณธีระพล โทร. ๐๘ ๑๕๓๓ ๕๒๗๘ พนื้ เมอื ง ๑๔๘ ถนนอนิ ใจม ี (เขำ้ ซมุ้ ประตเู มอื งลบั แล จะอยู่ซำ้ ยมอื ) โทร. ๐ ๕๕๔๓ ๑๐๔๒ ตวั อย่างรายการน�าเทย่ี ว มอ่ นลบั แล ๙๘ หม ู่ ๖ ตำ� บลฝำยหลวง จำ� หนำ่ ยสนิ คำ้ วันแรก ทร่ี ะลึก โทร. ๐ ๕๕๔๓ ๑๔๓๙ เชำ้ - ออกเดินทำงจำกตัวอ�ำเภอเมอื ง ลับแลโภชนา ๘๑๙ บ้ำนคอกช้ำง ถนนเขำน้�ำตก จงั หวดั อตุ รดติ ถ์ จ�ำหนำ่ ยสินคำ้ ที่ระลึก โทร. ๐ ๕๕๔๓ ๑๐๒๘ - ชมพพิ ิธภัณฑบ์ อ่ เหลก็ น้ำ� พี้ และ เปดิ เวลำ ๐๗.๓๐-๑๙.๐๐ น. ตกเหลก็ บอ่ น้�ำพ้ี แหล่งแรเ่ หลก็ ที่มี วิสาหกิจชุมชนร่องยางนางเหลียว (เรณูผ้าทอ ควำมแข็งแกร่งและเหนยี วทีส่ ดุ ลับแล) ๑๕๕/๙ ตดิ กบั โรงพยำบำลลบั แล หม่ ู ๑๑ ทอี่ �ำเภอทองแสนขัน ต�ำบลชยั จุมพล โทร. ๐ ๕๕๔๕ ๐๓๕๐ - แวะอทุ ยำนแห่งชำตติ น้ สักใหญ ่ อำ� เภอ ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ศิลปะหัตถกรรมทางด้าน นำ้� ปำด ศกึ ษำระบบนเิ วศของธรรมชำต ิ และ การทอผ้า (กลุ่มทอผ้าซ่ินตีนจกบ้านคุ้ม-นาทะเล) ชมตน้ สกั ท่ีมขี นำดใหญอ่ ำยุ ๑,๕๐๐ ปี ๓๑ หมู่ ๔ ตำ� บลชยั จมุ พล โทร. ๐๘ ๗๑๙๘ ๗๓๕๓ บ่ำย - เดนิ ทำงไปอำ� เภอทำ่ ปลำ ชมเข่อื นสิรกิ ิติ ์ ศูนย์ฝึกอาชีพและจ�าหน่ายสินค้าพ้ืนเมือง ใกล้กับ กิจกำรโรงผลติ กระแสไฟฟ้ำ ทวิ ทัศน์ อนุสำวรีย์ศรีพนมมำศ เทศบำลต�ำบลศรีพนมมำศ ทะเลสำบเหนือเขือ่ นสริ กิ ิต์ิ จ�ำหน่ำยผ้ำพื้นเมือง เส้ือผ้ำทอ ผ้ำถุงลับแล ผ้ำซ่ิน - รบั ประทำนอำหำรทร่ี ำ้ นอำหำรเหนอื เขอื่ น ตีนจก เปดิ เวลำ ๐๘.๐๐-๑๖.๐๐ น. สิรกิ ติ ์ิ อรวรรณ ๓๖๘ (ข้ำงตลำดลับแล) ถนนเขำน้�ำตก - ลอ่ งทะเลสำบเหนอื เขอ่ื น (ทะเลสำบสรุ ยิ นั ต์ จ�ำหนำ่ ยผ้ำซนิ่ ตนี จก โทร. ๐ ๕๕๔๓ ๑๐๕๙ -จันทรำ)(พักคำ้ งบนแพหรอื เรอื ๑ คนื พร้อมรับประทำนอำหำรเย็น-เชำ้ ) กจิ กรรมที่นา่ สนใจ วันทีส่ อง ทอ่ งเทีย่ วเชิงเกษตร เช้ำ - เดนิ ทำงออกจำกอำ� เภอท่ำปลำกลับเข้ำ สวนผลไม้อ�าเภอลับแล สัมผัสควำมเป็นอยู่ของ ตัวเมอื ง ชำวสวน กำรปลกู ผลไมแ้ บบผสมผสำนสลบั ฟันปลำ - สกั กำระอนสุ ำวรยี พ์ ระยำพชิ ยั ดำบหกั หนำ้ บนพนื้ ท่สี งู ปลกู ไมท้ นแล้ง เช่น มะปรำง มะไฟและ ศำลำกลำงจังหวดั กระท้อน ดำ้ นลำ่ งปลกู ไม้ทีช่ อบน้�ำ เช่น มังคดุ และ - พพิ ธิ ภณั ฑด์ ำบเหลก็ นำ้� พ ี้ พพิ ธิ ภณั ฑพ์ ระยำ กลำงสนั เขำปลกู ลำงสำดและทเุ รยี น วธิ เี กบ็ ผลไมข้ อง พชิ ัยดำบหกั ทน่ี ่ี คอื ใชร้ ถมอเตอรไ์ ซคว์ ง่ิ ตำมสนั เขำทตี่ อ้ งใชค้ วำม - นมัสกำรหลวงพอ่ เพชร วดั ทำ่ ถนน 48 อุตรดิตถ์

- ชมจติ รกรรมฝำผนงั วดั กลำงสมัยอยธุ ยำ หัตถกรรมผำ้ ทอน�้ำอำ่ ง ตอนปลำย ถึงรตั นโกสนิ ทร์ตอนตน้ - ชิมอำหำรพื้นบ้ำน - รับประทำนอำหำรกลำงวนั บ่ำย - แวะวัดคลงึ ครำช เปน็ วดั ทมี่ ีอำยุกว่ำ บำ่ ย - เดนิ ทำงไปอำ� เภอลับแล แวะตลำดผลไม้ ๑๐๐ ปี ชมวตั ถโุ บรำณ - เดินทำงไปนมัสกำรพระแท่นศิลำอำสน ์ ณ - ชมกำรเลยี้ งจิง้ หรดี กบ เป็ดและหมูหลมุ วดั พระแทน่ ศิลำอำสน์ กำรเพำะเหด็ นำงฟำ้ กำรปลกู ผกั ปลอดสำรพษิ และชมพพิ ธิ ภณั ฑใ์ นวดั พระแทน่ ศลิ ำอำสน ์ และกำรทำ� นำวำงตน้ เดยี ว ทศี่ นู ยฝ์ กึ และ และกิจกรรมป่ันจกั รยำน พฒั นำอำชพี รำษฎรไทยบริเวณชำยแดน - เขำ้ ท่ีพัก อตุ รดิตถ์ - เดนิ ทำงกลับตัวเมืองอุตรดติ ถ์ พรอ้ มแวะ โปรแกรมพักโฮมสเตย์ สัมผสั วิถีชุมชน ซ้อื ของฝำก วนั แรก เชำ้ - ออกเดนิ ทำงจำกตัวเมอื งไปสักกำระ โปรแกรมเย่ยี มชมเมืองมรดกโลก หลวงพระบาง อนสุ ำวรยี ์พระยำพิชยั ดำบหัก วนั แรก - เดินทำงไปอ�ำเภอลบั แล แวะพพิ ธิ ภณั ฑ์ เช้ำ - เดินทำงออกจำกจงั หวัดอุตรดิตถ์ เมืองลับแล ซมุ้ ประตเู มืองลับแล - ผำ่ นพธิ ตี รวจลงตรำ ณ ดำ่ นภดู ู่อำ� เภอบำ้ นโคก - เท่ยี วชมสวนผลไมอ้ �ำเภอลบั แล ชมวธิ ีเกบ็ - เดินทำงเขำ้ สเู่ มืองปำกลำย ชมวถิ ชี วี ติ ของ ผลไมท้ ีใ่ ชร้ ถมอเตอร์ไซคว์ ่งิ ตำมสันเขำ ชมิ ชำวเมอื งปำกลำย ทุเรยี นพนั ธุห์ ลงลับแลและหลนิ ลบั แล บ่ำย - เข้ำสู่แขวงไชยะบรุ ี แวะชมตลำดสด บำ้ น หรอื ทอ่ งเทย่ี วเสน้ ทำงจกั รยำน ๓ เสน้ ทำง น�้ำปยุ - รับประทำนอำหำรพื้นบ้ำนเมอื งลบั แล - เข้ำสเู่ มืองมรดกโลกหลวงพระบำง บำ่ ย - แวะไหวอ้ นุสำวรีย์พระศรพี นมมำศ วนั ทส่ี อง สักกำระพระแท่นศิลำอำสน์ เช้ำ - เทย่ี วชมตลำดเชำ้ เมอื งมรดกหลวงโลก - เดินทำงไปอำ� เภอตรอน หลวงพระบำง - สมั ผสั วถิ ชี วี ติ และวฒั นธรรมชมุ ชนลำวเวยี ง - ชมพพิ ธิ ภณั ฑ์แหง่ ชำติ ที่บำ้ นหำดสองแคว - ตลำดดำรำ - เขำ้ พักทโ่ี ฮมสเตย์ บำ่ ย - เยย่ี มชมวดั เชยี งของ วดั พระบำง และวัด วันที่สอง พระธำตพุ ูส ี เชำ้ - ชมกำรตกั บำตรหำบจงั หนั ทบี่ ำ้ นหำดสองแคว - แวะซ้ือสนิ คำ้ ท่ีพืน้ เมอื ง ณ ตลำดมดื หลวง ชมพพิ ธิ ภณั ฑ์พ้ืนบำ้ น พระบำง - ชมแมน่ ำ้� สองสี ชมผลิตภัณฑอ์ ำหำร วนั ทีส่ าม แปรรปู หรือ ตำมรอยเสน้ ทำงเสด็จ เชำ้ - ทำ� บญุ ใสบ่ ำตรขำ้ วเหนียว ประพำสตน้ (รชั กำลที่ ๕) ในแม่น้ำ� น่ำน - เดินทำงสูแ่ ขวงไชยะบุรี ซ้ือสนิ คำ้ - เดินทำงถงึ จงั หวดั อตุ รดติ ถ์ อุตรดิตถ์ 49

สิ่งอ�านวยความสะดวกในจังหวดั อุตรดิตถ์ ทำ่ อฐิ โทร. ๐ ๕๕๔๔ ๒๙๓๕ จำ� นวน ๒๗ หอ้ ง รำคำ สถานท่ีพกั ๒๐๐-๔๐๐ บำท (ข้อมูลห้องพักในเอกสารนี้ มีการเปล่ียนแปลงได้ เดอะเพลส ๓๗๔/๒๑ ถนนย่ำนศิลำอำสน์ ต�ำบล โปรดสอบถามจากโรงแรมก่อนเขา้ พัก) ทำ่ อฐิ จำ� นวน ๓๒ ห้อง รำคำ ๔๐๐ บำท โทร. ๐๘ ๙๙๖๐ ๕๕๙๗, ๐๙ ๑๘๓๙ ๓๕๑๕ อ�าเภอเมืองอตุ รดิตถ์ เดอะรมู ๑๗/๑ ถนนเจษฎำบดนิ ทรเ์ หนอื (เกำะกลำง) กรนี ววิ ๕๐/๕ หม่ ู ๔ บำ้ นแมพ่ ร่อง ต�ำบลบ้ำนเกำะ ตำ� บลทำ่ อิฐ จ�ำนวน ๓๖ ห้อง รำคำ ๓๐๐-๘๐๐ บำท จ�ำนวน ๒๖ ห้อง รำคำ ๕๕๐-๙๕๐ บำท โทร. ๐ โทร. ๐ ๕๕๔๑ ๓๔๕๖ ๕๕๔๐ ๗๘๘๘, ๐๘ ๑๓๗๙ ๗๘๘๑ เดอะรมู อุตรดิตถ์ ๑๗/๑ ถนนเจษฎำบดินทร ์ ต�ำบล กัลปพฤกษ ์ ๒๕๐/๒ ตำ� บลท่ำเสำ จำ� นวน ๔๐ ห้อง ท่ำอฐิ จำ� นวน ๓๔ ห้อง รำคำ ๓๕๐-๘๐๐ บำท โทร. รำคำ ๔๐๐ บำท โทร. ๐ ๕๕๔๔ ๐๗๘๖-๗ ๐ ๕๕๔๑ ๓๔๕๖ กง่ิ ทอง รสี อรท์ ๑๒๓/๑๙ หม ู่ ๕ ถนนศรชี ำววงั ตำ� บล ต้นกลา้ แฮบป้ ี โฮม ๘/๘ ซอย ๑๔ ถนนบรมอำสน ์ บำ้ นเกำะ จำ� นวน ๖๒ หอ้ ง รำคำ ๕๐๐-๗๕๐ โทร. จ�ำนวน ๒๑ ห้อง รำคำ ๓๕๐-๔๐๐ บำท โทร. ๐ ๐ ๕๕๔๐ ๗๓๔๙, ๐๘ ๓๖๒๓ ๗๑๑๗ ๕๕๔๔ ๐๔๖๕ ก๊ดู ไทม ์ บตู ิก ๒๙๐/๑๐ ถนนส�ำรำญรน่ื ต�ำบลทำ่ อฐิ ตน้ ทอง รสี อรท์ ๑๒๓/๙ หม ู่ ๕ ถนนศรชี ำววงั ตำ� บล จำ� นวน ๕๐ หอ้ ง รำคำ ๕๐๐-๖๐๐ บำท โทร. ๐๘ บำ้ นเกำะ จำ� นวน ๕๔ หอ้ ง รำคำ ๔๐๐-๔๙๐ บำท ๖๙๒๖ ๔๕๔๕, ๐ ๕๕๔๑ ๑๕๕๔ www.uttara- โทร. ๐ ๕๕๔๔ ๓๒๐๔, ๐๘ ๓๖๒๓ ๗๑๑๗ dithotel.com. ตกั เงนิ รสี อรท์ ๖๗/๒ ๖๗/๑๐ หม ู่ ๕ ตำ� บลบำ้ นเกำะ แกรนด์วนา ๒๐๘ ถนนบรมอำสน์ ต�ำบลท่ำอิฐ จ�ำนวน ๕ ห้อง รำคำ ๔๙๐-๕๙๐ บำท โทร. ๐ จ�ำนวน ๑๖ หอ้ ง รำคำ ๔๐๐ บำท โทร. ๐ ๕๕๔๐ ๕๕๔๔ ๑๓๕๔ ๓๘๘๓-๔ โทรสำร ๐ ๕๕๔๔ ๔๗๕๗ ไทธนา รีสอร์ท ๒/๙๐ ถนนพำดวำรี ต�ำบลท่ำอิฐ ขุนฝางคลับเฮาส์ รีสอร์ท ๔๑/๑-๔ ต�ำบลขุนฝำง จ�ำนวน ๔๓ ห้อง รำคำ ๔๐๐-๕๐๐ บำท โทร. ๐ (แยกวังสีสูบ ทำงไปเข่ือนสิริกิติ์) จ�ำนวน ๑๖ ห้อง ๕๕๔๔ ๓๒๒๒ โทรสำร ๐ ๕๕๔๐ ๓๖๗๙ รำคำ ๕๐๐-๒,๐๐๐ บำท โทร. ๐๘ ๐๖๘๖ ๘๙๑๙ ไทธนา อพารต์ เมนท ์ ๗๔/๑๘ ซอย ๓ ถนนบรมอำสน ์ ชบา รสี อรท์ ๕/๑ ตำ� บลทำ่ เสำ (ซอยหนองหนิ ตรง ตำ� บลท่ำอิฐ จำ� นวน ๖๐ ห้อง รำคำ ๓๕๐ บำท/วัน ข้ำมโรงเรียนวัดอรัญญิกำรำม) จ�ำนวน ๔๐ ห้อง โทร. ๐ ๕๕๘๓ ๒๓๘๙, ๐ ๕๕๘๓ ๒๒๒๗ โทรสำร รำคำ ๓๕๐-๔๕๐ บำท สอบถำมข้อมูลโทร. ๐ ๐ ๕๕๔๑ ๗๗๗๒ ๕๕๔๔ ๐๔๔๐ ไทยมติ ร อพาร์ทเมน้ ท์ ๒๘/๑ หม ู่ ๔ ถนนอนิ ใจมี ชัชวาลรีสอร์ท ๒๘๔ หมู่ ๕ ต�ำบลท่ำเสำ (หลัง ตำ� บลทำ่ เสำ จำ� นวน ๒๐ หอ้ ง รำคำ ๓๘๐-๔๕๐ บำท ตลำดสดเทศบำล ๕ ริมคลอง) จ�ำนวน ๓๕ ห้อง โทร. ๐ ๕๕๔๔ ๑๓๕๔ รำคำ ๔๐๐-๕๕๐ บำท โทร. ๐ ๕๕๔๑ ๑๔๕๕, ๐๘ ธนากร การ์เดน ๑๓/๒๗ ถนนอินใจมี ซอย ๑ ต�ำบล ๑๗๐๗ ๓๑๐๓, ๐๘ ๑๙๖๒ ๒๒๙๘ www.chatcha- ท่ำอฐิ จ�ำนวน ๓๓ ห้อง รำคำ ๔๐๐-๕๐๐ บำท โทร. wanresort.com ๐ ๕๕๔๔ ๑๑๑๘-๒๐ ดวงเกษม แมนชัน่ ๑๑/๕๐-๕๑ ถนนอนิ ใจม ี ตำ� บล นร-กมล แมนชน่ั ๑๕๙/๕ หมู่ ๔ ต�ำบลบ้ำนเกำะ 50 อุตรดิตถ์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook