Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือ เรื่องการเป็นนักนันทนาการ

คู่มือ เรื่องการเป็นนักนันทนาการ

Description: คู่มือ เรื่องการเป็นนักนันทนาการ.

Search

Read the Text Version

๘. กิจกรรมนันทนาการประเภทวรรณกรรม (Reading, Writingand Speeking Activities) เป็นกิจกรรม ท่ีส่งเสริมให้บุคคล พัฒนาทักษะความรู้ความสามารถ และสามารถจัดได้ทุกระดับวัยและเพศ เป็นกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลิน การแสดงอัตลักษณ์ แห่งตนอย่างสร้างสรรค์ ก่อให้เกิดการพัฒนาจินตนาการ สามารถเข้าร่วม กิจกรรมแบบประหยัดได้และเป็นกิจกรรมท่ีเก่าแก่ของมนุษยชาติประเภท ของวรรณกรรมมี ดังน้ี การอา่ น (Reading) การอ่าน (Reading) เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์มี หลายรูปแบบ คือ • การอ่านหนังสอื ประวตั ศิ าสตรค์ นสำ� คัญ • การจดั วธิ ีอ่านอย่างมปี ระสทิ ธิผลและประสิทธภิ าพ • การอ่านเพื่อพัฒนาตนเอง • การอ่านนวนิยาย • การอา่ นหนงั สือพิมพ์ • การอ่านเพ่ือชุมชน • การอ่านหนังสือปริทศั น์ • การอ่านหนงั สอื วรรณกรรมช้นั เยยี่ ม 45คมู่ ือ เร่อื ง การเปน็ นักนันทนาการ Department of Physical Education

การเขียน (Writing) การเขียน (Writing) เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยการ เขยี นตามจุดมุ่งหมายตา่ งๆ กนั มีหลายรปู แบบ คอื • การเขียนจดหมายสงั คมธรุ กิจ • การเขียนบทรอ้ ยกรองเรือ่ งสั้น • การเขียนแบบสมัครเล่น • การเขยี นบทร้อยแกว้ เพื่อสอื่ มวลชน • การเขยี นเร่ืองบทความบทวิจารณใ์ นคอลัมน์ • การเขียนเพอื่ พัฒนาทกั ษะภาษา • การเขียนบันทกึ กิจวัตรประจำ� วัน • การเขียนหนงั สอื รายปกั ษ์ • การเขยี นตำ� รา 46 คู่มือ เร่ือง การเปน็ นกั นันทนาการ Department of Physical Education

การพูด (Speaking) การพดู (Speaking) เปน็ การสอื่ สารใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจ สอื่ ความหมาย ใหต้ รงกนั ตามความต้องการของมนษุ ย์ ซึ่งมมี ากมายหลายรูปแบบ คือ • การพดู โตว้ าที • การพดู ทางวิทยุ โทรทศั น์ • การพดู แบบเล่านทิ าน • การพูดอภปิ รายซกั ถาม • การพูดพบปะสภากาแฟ • การพูดในท่ปี ระชมุ • การพูดในเชิงธรุ กจิ การทูต • การพูดเป็นพิธกี ร 47ค่มู ือ เรื่อง การเปน็ นกั นนั ทนาการ Department of Physical Education

๙. กจิ กรรมนันทนาการทางสังคม (Social Activities) กิจกรรมนันทนาการทางสังคม คือ กิจกรรมท่ีเสริมสร้างความ สมั พันธอ์ นั ดใี นสงั คมของบคุ คลและกล่มุ ทีย่ งั ไม่รู้จักกนั ให้รู้จักกันหรือบคุ คล และกลุ่มที่รู้จักกันแล้วให้มีความสัมพันธ์อันดีมากยิ่งขึ้นกิจกรรมทางสังคม แบ่งเปน็ กจิ กรรมตา่ งๆ ดังน้ี • เกมซึ่งมีความหลากหลาย เช่น เกมกลุ่มสัมพันธ์ เกม สรา้ งสรรค์ เกมเบ็ดเตลด็ เกมการแขง่ ขนั เกมจนิ ตนาการ ฯลฯ • ละครเพื่อเป็นการส่งเสริมกิจกรรมสังคม ละครช่วยในการ เสรมิ สรา้ งการแสดงออกทางจนิ ตนาการ และความสนกุ สนานเพลดิ เพลนิ ของ ชุมชน • ดนตรีเพ่ือเป็นมหรสพ เพื่อการสร้างสรรค์ในกลุ่มคน และ เป็นการระบายอารมณ์ สรา้ งความรกั ความเข้าใจ สร้างมิตรภาพ วฒั นธรรม และประเพณีในชาติและนานาชาติ • การเต้นร�ำและกิจกรรมเข้าจังหวะ การลีลาศ การละเล่น พ้ืนเมอื ง เตน้ ร�ำประกอบจังหวะดนตรี การร้องเพลงคาราโอเกะ เปน็ การเปดิ โอกาสทางสงั คมใหช้ มุ ชน และสรา้ งความสัมพนั ธ์ระหว่างประเทศ • กฬี าเพอื่ นนั ทนาการทางสงั คม เปน็ การสง่ เสรมิ ความสามคั คี การใช้เวลาวา่ งของสมาชกิ เพอ่ื การสงั คมและมนุษยสัมพนั ธ์ • การจัดการแสดงศิลปหัตถกรรม ซ่ึงมีประโยชน์ต่อชุมชน เชน่ ชมุ ชนหนงึ่ จะรว่ มใจกนั จดั เทศกาลศลิ ปหตั ถกรรมของหมบู่ า้ นหรอื ชมุ ชน โดยใช้ศิลปหัตถกรรมเป็นสื่อและกิจกรรมของชุมชน ตลอดจนเป็นมหกรรม เทศกาลศลิ ปหัตถกรรมนานาชาติ 48 คู่มอื เรอ่ื ง การเป็นนกั นนั ทนาการ Department of Physical Education

• งานเลย้ี งสงั สรรค์ การไปรบั ประทานอาหารนอกบา้ น ปคิ นกิ งานปารต์ ้ี เปน็ กจิ กรรมทางสงั คมทเี่ สรมิ สรา้ งบรรยากาศครอบครวั และชมุ ชน ให้อบอุ่น และสรา้ งความเขา้ ใจอนั ดตี อ่ กัน • กิจกรรมทางศาสนา เป็นกิจกรรมท่ีเสริมสร้างความสัมพันธ์ ของกลุ่มคนในชุมชนก่อให้เกิดความสุข สงบ เรียบร้อย และความสามัคคี ปรองดอง อันได้แก่ การประกอบศาสนกิจตามศาสนสถาน • กิจกรรมนนั ทนาการพเิ ศษ (Special Activities) หมายถึง กิจกรรมท่ีจัดขึ้นในโอกาสพิเศษตามเทศกาล เพ่ือให้บุคคล และกลุ่ม เขา้ มารว่ มดว้ ยความสมคั รใจ เพอื่ ความสนกุ สนานกจิ กรรมนนั ทนาการพเิ ศษ แบง่ เป็นกจิ กรรมต่างๆ ดังนี้ - เทศกาลมหกรรมตา่ งๆ เชน่ วนั สงกรานต์ ลอยกระทง หรอื เทศกาลศลิ ปหัตถกรรม วันเกดิ ชุมชน เป็นต้น - นิทรรศการในโอกาสส�ำคัญต่างๆ เป็นการส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจแก่ชุมชน เช่น งานอดิเรก การประกวดสิ่งประดิษฐ์ สัตว์เล้ียง แสตมป์ ฯลฯ - การแสดงบนเวทีในโอกาสส�ำคัญต่างๆ เช่น ละครสัตว์ คอนเสิร์ต ดนตรี ฯลฯ - การประกวดทกั ษะ ความสามารถ เชน่ การจดั สวนดอกไม้ แข่งขันตกปลา ท�ำขนมเค้ก ประกวดนางงาม แข่งขันกินอาหาร หรือผลไม้ แขง่ ขนั จกั รยานพ้นื บา้ น ฯลฯ - เทศกาลเต้นร�ำ เทศกาลดนตรี เทศกาลศิลปหัตถกรรม เทศกาลกนิ เจ เทศกาลกีฬาพื้นบา้ น ฯลฯ 49คมู่ ือ เร่อื ง การเป็นนกั นนั ทนาการ Department of Physical Education

• กจิ กรรมนันทนาการอาสาสมัคร (Volunteer Activities) หมายถึง การอาสาสมัครเข้าไปช่วยเหลืองานสังคมหรือองค์กร หน่วยงาน ต่างๆ ในยามว่าง โดยไม่หวังผลตอบแทน เป็นกิจกรรมอาสาสมัครท่ีส่งเสริม ในเรอ่ื งคณุ ธรรม จรยิ ธรรม การใหแ้ ละการรบั การรว่ มมอื ของชมุ ชนอนั กอ่ ให้ เกิดความพึงพอใจและการพัฒนาจิตใจของบุคคลและสังคมอาสาสมัคร เป็นการให้บริการโดยปราศจากสินจ้างรางวัล เป็นการเสริมทักษะและ คณุ ภาพชวี ติ การใหบ้ รกิ ารอาสาสมคั ร เปน็ การพฒั นาชมุ ชนและประเทศชาติ โดยอาศัยแรงงาน ความร่วมมือของกลุ่มหนว่ ยงานเอกชนชุมชน และองคก์ ร ธุรกิจการค้าที่จะต้องจัดบริการชุมชน กิจกรรมนันทนาการการอาสาสมัครมี หลากหลายกจิ กรรม เชน่ - การพัฒนาชุมชน ได้แก่ วัด โรงเรียน ชุมชน สถานท่ี ราชการ โบราณสถาน - ลกู เสอื /ลกู เสือชาวบ้านพฒั นาชุมชนหรอื หมู่บ้าน - กีฬาที่จัดโดยสโมสร สมาคม กีฬา หรือสถาบันการศึกษา สมาคมผปู้ กครอง ศษิ ยเ์ กา่ - งานศิลปะ จัดกิจกรรมศิลปะชุมชน การส่งเสริมศิลป หัตถกรรมพื้นบ้าน - นันทนาการนอกเมอื งกลางแจง้ - สมาคม Y.M.C.A. สมาคม Y.W.C.A. บา้ นพกั เยาวชน จดั กจิ กรรมเพอื่ บรกิ ารชุมชนในเมอื งและนานาชาติ 50 ค่มู ือ เร่ือง การเป็นนักนันทนาการ Department of Physical Education

- สำ� นกั งานคณะกรรมการสง่ เสรมิ และประสานงานเยาวชน แหง่ ชาติ มกี จิ กรรมอาสาสมคั รสำ� หรบั เยาวชน ใหเ้ กดิ การพฒั นาลกั ษณะนสิ ยั ทพี่ งึ ประสงค์ - สำ� นกั สง่ เสรมิ และพฒั นานนั ทนาการ สำ� นกั งานพฒั นาการ กีฬาและนันทนาการ มีการจัดตั้งศูนย์เครือข่ายนันทนาการอาสาสมัคร เพ่ือ ให้บรกิ ารผนู้ �ำกจิ กรรมนันทนาการแก่สถานศึกษาหน่วยงานตา่ งๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชนในลักษณะการใหบ้ รกิ ารแบบอาสาสมคั ร - ศูนย์เยาวชน ส่งเสริมการพัฒนาเยาวชนและการบริการ อาสาสมคั รแกช่ ุมชน - โรงเรยี นและสถาบนั อดุ มศกึ ษา จดั ชมุ ชน ชมรม ฝกึ อบรม นักเรียน นสิ ติ นักศึกษาใหร้ ู้จกั ท�ำกิจกรรมอาสาสมคั รบรกิ ารสังคม - สมาคมและมูลนิธิท่ีเป็นองค์กรเอกชนอาสาสมัคร จัด กิจกรรมอาสาสมัครบริการชุมชน สังคม เช่น สมาคมสตรี สภาสตรีแห่งชาติ และเด็ก มูลนิธิสายใจไทย มูลนิธิต่างๆ สโมสรโรตารี สโมสรไลออนส์ และ สโมสรตา่ งๆ ในประเทศ โดยล้วนเป็นกจิ กรรมนันทนาการอาสาสมัครท้งั ส้นิ 51คูม่ ือ เรื่อง การเป็นนกั นันทนาการ Department of Physical Education

ทรพั ยากรทางนนั ทนาการ ทรัพยากร เป็นเคร่ืองมือ หรือส่ือ หรือวิถีทางที่จะน�ำไปสู่การ ร่วมกิจกรรมการท�ำกิจกรรมหรือการส่งเสริมกิจกรรมท่ีมนุษย์สามารถ เข้าถงึ ได้ ทรัพยากรทางนันทนาการจึงเป็นเคร่ืองมือ หรือส่ือ หรือวิถีทางท่ีจะ ท�ำให้บุคคลเข้าร่วมกิจกรรมนันทนาการ การท�ำกิจกรรมนันทนาการหรือ การส่งเสริมกิจกรรมนันทนาการท่ีจะท�ำให้มนุษย์เข้าถึงนันทนาการได้ตาม ตอ้ งการดว้ ยความพอใจและสมัครใจ ทรัพยากรทางนันทนาการจึงเป็นปัจจัยหลักในการสร้างกิจกรรมท่ีจะ ทำ� ให้มนษุ ย์ได้เขา้ ถึงกจิ กรรมนันทนาการทแี่ ท้จรงิ องคป์ ระกอบทรัพยากรทางนนั ทนาการ ทรัพยากรทางนันทนาการ ในท่ีน้ีจะกล่าวถึงทรัพยากรที่ใช้ในการ ประกอบกจิ กรรมนนั ทนาการได้แบบองค์รวมของนนั ทนาการ องค์ประกอบของทรัพยากรทางนันทนาการ (ส�ำนักส่งเสริมและ พัฒนานนั ทนาการ, ๒๕๔๖ : ๒) ประกอบดว้ ย • สถานท่หี รือแหลง่ นันทนาการ • อปุ กรณ์และส่อื ทางนนั ทนาการ • บุคลากรและองค์การทางนันทนาการ • กิจกรรมทางนนั ทนาการ • การจดั การทางนันทนาการ 52 คมู่ อื เรือ่ ง การเปน็ นกั นนั ทนาการ Department of Physical Education

๑. สถานท่ีหรอื แหล่งนันทนาการ ทรัพยากรทางนันทนาการท่ีเป็นองค์ประกอบเพื่อนันทนาการท่ี เปน็ สถานทหี่ รอื แหลง่ นนั ทนาการ จะเปน็ พนื้ ทห่ี รอื สภาพแวดลอ้ มทสี่ ามารถ เขา้ ไปศกึ ษา ไปดู ไปชม หรอื ไปทำ� กจิ กรรม ภายใตบ้ รรยากาศในภมู ปิ ระเทศ ที่ส่งเสริมให้รู้สึกสบาย ผ่อนคลาย สถานท่ีบางแห่งได้ท�ำหน้าท่ีหลายอย่าง เช่น เป็นห้องเรียนแหล่งการเรียนรู้ เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ เป็นแหล่ง ท่องเที่ยวเป็นทรัพยากรธรรมชาติ ตามสภาพท่ีจะน�ำมาเป็นประเด็นใน การพิจารณา เม่ือน�ำมาใช้ท�ำกิจกรรมเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจท�ำกิจกรรม เสริมความสนุกสนานก็ถือวา่ เปน็ สถานท่หี รือแหลง่ นนั ทนาการ ตวั อย่างสถานทีห่ รอื แหลง่ นนั ทนาการ เช่น ปา่ ไม้ น้�ำตก สัตวป์ า่ สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ อุทยานแห่งชาติ ฯลฯ บางทีสถานท่ีหรือแหล่ง นนั ทนาการกม็ กี ารจดั การเขา้ มารว่ ม เชน่ ศนู ยเ์ ยาวชน อทุ ยานประวตั ศิ าสตร์ สวนสาธารณะ ค่ายลูกเสือ ฯลฯ สถานท่ีและแหล่งนันทนาการจึงเป็น ทรพั ยากรทางนนั ทนาการแบบครอบจกั รวาล คอื แหลง่ หรอื พนื้ ทที่ ใ่ี ชไ้ มว่ า่ จะ เป็นการเข้าถึงสถานที่หรือแหล่งนันทนาการเพื่อนันทนาการโดยตรงหรือ โดยออ้ ม ถา้ เขา้ หลกั การทางนนั ทนาการกถ็ อื วา่ เปน็ ทรพั ยากรทางนนั ทนาการ ไดท้ ง้ั สิน้ 53คูม่ ือ เรื่อง การเปน็ นักนนั ทนาการ Department of Physical Education

๒. อปุ กรณแ์ ละสอื่ ทางนนั ทนาการ การน�ำอุปกรณ์หรือส่ือมาใช้แล้วมาเกิดผลทางนันทนาการ ก็นับว่าอุปกรณ์และส่ือน้ันเป็นอุปกรณ์และส่ือทางนันทนาการและ เป็นทรัพยากรทางนันทนาการด้วย เช่น เคร่ืองดนตรี เคร่ืองกีฬา เรือ แพ ของเล่น ฯลฯ อุปกรณ์และส่ือทางนันทนาการเหล่าน้ียังช่วยให้มนุษย์มี กจิ กรรมตามกฎกตกิ า หรอื ขอ้ ตกลง ตามกรรมวธิ ตี ง้ั แตก่ ารเรมิ่ ตน้ จนมที กั ษะ การเรียนรู้ ถึงข้ันมีความช�ำนาญ มีความสามารถระดับท่ีสูงขึ้นอุปกรณ์และ ส่ือทางนันทนาการเป็นสิ่งที่มนุษย์แสวงหาได้เสมอใน บทบาทของ อุปกรณ์และส่ือทางนันทนาการที่ เกิดจากชีวิตประจ�ำวัน ชีวิตการเรียน ชีวิตการ ท�ำงาน เม่ือน�ำอุปกรณ์และส่ือมาใช้ เ พื่ อ ช ่ ว ย ใ ห ้ ม นุ ษ ย ์ มี ค ว า ม สุ ข ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ หรือใช้เวลาอิสระเพื่อการ เพลิดเพลินจะได้อุปกรณ์และ สื่ อ น้ั น เ ป ็ น อุ ป ก ร ณ ์ แ ล ะ ส่ื อ ทางนันทนาการ ตัวอย่างเช่น การอา่ นหนงั สือ ฟังวิทยุ ดูโทรทศั น์ หรอื แม้แต่ การใชม้ อื เคาะจงั หวะ หรอื ผวิ ปากเปน็ เพลง ฯลฯ อุปกรณ์และสื่อทางนันทนาการซ่ึงหลากหลายและ มากมายแบบเฉพาะเจาะจงตามหนา้ ทขี่ องอปุ กรณแ์ ละสอ่ื หรอื การนำ� อปุ กรณ์ และสื่อที่มีหนา้ ท่อี ยา่ งอนื่ มาใช้เพ่ือนันทนาการ จึงถือรวมเป็นทรัพยากรทาง นันทนาการได้ท้งั หมด 54 คูม่ ือ เรือ่ ง การเปน็ นักนนั ทนาการ Department of Physical Education

๓. บุคลากรและองค์การทางนันทนาการ มนุษย์เป็นทรัพยากรบุคคลท่ีส�ำคัญของกิจการต่างๆ ในการ ขับเคลื่อนใหเ้ กิดหรอื มีการกระทำ� บุคลากรทางนันทนาการจงึ เป็นบุคคลที่มี ความรคู้ วามสามารถ มที กั ษะและประสบการณใ์ นเรอื่ งนนั ทนาการ ซง่ึ หมายถงึ บคุ ลากรทเี่ ปน็ ผนู้ ำ� หรอื ผปู้ ระกอบกจิ กรรมทางนนั ทนาการกบั บคุ ลากรในการ จดั การนนั ทนาการ เชน่ ผนู้ ำ� กลมุ่ หวั หนา้ ครอบครวั ผมู้ คี วามรคู้ วามสามารถ ในการสร้างกิจกรรมนันทนาการ ฯลฯ บุคลากรมีส่วนท�ำให้ กจิ กรรมนนั ทนาการนา่ สนใจ และเกดิ การกระทำ� รว่ มกนั ส่วนองค์การเป็นหน่วยสังคมหรือหน่วยงานท่ี กลุ่มบุคคลร่วมกันเข้ามาด�ำเนินการกิจกรรม นันทนาการ ใหบ้ รรลเุ ป้าหมาย ตวั อยา่ งบคุ ลากรและองคก์ าร ทางนันทนาการ เช่น ผู้น�ำค่ายเยาวชน ศลิ ปนิ มคั คเุ ทศก์ องคก์ ารสวนสตั ว์ สวนสนกุ หน่วยงานราชการ หน่วยงานเอกชน ที่จัด ดำ� เนินการด้านนันทนาการ ฯลฯ 55คู่มอื เรื่อง การเปน็ นักนันทนาการ Department of Physical Education

๔. กจิ กรรมนันทนาการ กิจกรรมนันทนาการ ถ้าเป็นทรัพยากรทางนันทนาการได้จะ เปน็ ทรพั ยากรในรปู แบบนามธรรม ในทนี่ จี้ งึ รวมเอากจิ กรรมนนั ทนาการเปน็ ทรัพยากรนนั ทนาการดว้ ยเหตุผล • กิจกรรมนันทนาการเป็นส่ือนามธรรม ที่สามารถก่อให้เกิด กจิ กรรมร่วมกนั ของบุคคลและสถานที่ • กิจกรรมนันทนาการเป็นส่ิงปฏิบัติเชื่อมการจัดการ สนอง ต่อความตอ้ งการของบุคลากรหรอื องคก์ าร • กจิ กรรมนนั ทนาการกอ่ ใหเ้ กดิ ผลลพั ธ์ คอื การรว่ มกนั ในการ ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ผ่อนคลาย สนุกสนานเพลิดเพลิน จึงกล่าวได้ว่า กิจกรรมนันทนาการเป็นสื่อทางนันทนาการท่ีเป็น นามธรรม ก่อให้เกิดเหตุการณ์เห็นเป็นรูปธรรมท่ีมีประโยชน์ได้และให้ผล จากการประกอบกิจกรรมนนั ทนาการนน้ั ตวั อยา่ งกิจกรรมนันทนาการ เช่น การเล่นเกม การท่องเทีย่ ว การท�ำ กิจกรรมกลางแจง้ การทำ� งานอดเิ รก การสรา้ งสรรค์ การเลน่ กอลฟ์ ฯลฯ 56 คู่มือ เรื่อง การเปน็ นกั นนั ทนาการ Department of Physical Education

๕. การจดั การทางนันทนาการ ทรัพยากรทางการจัดการมี ๔ ด้าน คือ บุคลากร (Man) งบประมาณ (Money) ทรพั ยากรส่งิ ของ (Material) และการบรหิ ารจัดการ (Management) การใช้การบริหารจัดการทางนันทนาการเป็นเร่ืองของการ ใช้บุคลากรและองค์การสถานที่หรือแหล่งนันทนาการ อุปกรณ์และสื่อทาง นันทนาการ และกิจกรรมนันทนาการมาจัดการให้เป็นระบบระเบียบ มีแนว ปฏิบัติท�ำให้เกิดรูปแบบนันทนาการที่เป็นธุรกิจบริการ เช่น โรงภาพยนตร์ รา้ นคาราโอเกะ สถานบนั เทงิ สวนสตั ว์ การจดั งานเทศกาล การแสดงมหรสพ ฯลฯ การน�ำเอาการจัดการทางนันทนาการมาเป็นองค์ประกอบหน่ึง ของทรัพยากรนันทนาการท�ำให้เกิดการจัดการของภาครัฐ เช่น สถานที่ ราชการต่างๆ ก�ำหนดให้มีการบริหารจัดการด้านนันทนาการ ส่วนของภาค เอกชนดำ� เนนิ การควบคไู่ ปกบั ธรุ กจิ การคา้ พน้ื ฐานทรพั ยากรทางนนั ทนาการ ของไทยทรพั ยากรทางนันทนาการทีก่ ล่าวมาน้นั เมอื่ พจิ ารณาถึง 57คมู่ ือ เรือ่ ง การเป็นนกั นนั ทนาการ Department of Physical Education

พื้นฐานทรัพยากรในประเทศไทย ท่ีเราจะเข้าถึงได้จะพบว่าคนไทย โชคดีทีไ่ ด้อยอู่ าศยั อย่ใู นประเทศไทย โดยมีปจั จัยสำ� คญั คือ • ภูมิประเทศเหมาะสม มถี ่ินฐานอุดมสมบรู ณ์ดว้ ยทรพั ยากร- ธรรมชาติ จนสามารถใชท้ รพั ยากรธรรมชาตมิ าเปน็ ทรพั ยากรทางนนั ทนาการ ได้มากมาย • ภมู อิ ากาศ เออ้ื อำ� นวยตอ่ วถิ ชี วี ติ และความเปน็ อยขู่ องคนไทย ประเทศไทยมีภูมิอากาศแบบเขตร้อน แต่มีทะเลถึงสองฝั่งท�ำให้ภูมิอากาศ ไมร่ อ้ นนกั มี ๓ ฤดกู าล คอื ฤดรู อ้ น ฤดฝู น และฤดหู นาว ทำ� ใหม้ สี ภาพอากาศ ท่ีสบายเพียงพอทจ่ี ะพักผอ่ นได้ทุกฤดกู าล • วฒั นธรรมประเพณไี ทย ประเทศไทยมวี ฒั นธรรมประเพณที ี่ สวยงาม และมคี วามหมายตอ่ การดำ� รงชวี ติ วฒั นธรรมประเพณใี นระดบั ชาติ สะท้อนสภาพสังคมไทยถึงภมู ปิ ัญญาในการใชว้ ฒั นธรรมประเพณเี พ่อื ใหเ้ กิด ความสนุกสนานและคุณค่าทางจิตใจที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติต่อตนเองและ สังคม วัฒนธรรมประเพณีระดับท้องถิ่นจะสะท้อนถึงสภาพชีวิต การท�ำมา หากนิ การประกอบอาชพี และความเชอื่ คา่ นิยมซ่ึงจะแฝงด้วยคติความเชอื่ และเปน็ ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ ทหี่ ลอมรวมสงั คมทอ้ งถนิ่ ในการใชส้ ภาพแวดลอ้ ม รอบตัวเพอ่ื เปน็ ทรพั ยากรในการทำ� กิจกรรมนนั ทนาการ 58 คมู่ อื เรื่อง การเป็นนกั นันทนาการ Department of Physical Education

• อุปนิสัยและวิถีชีวิตของคนไทย คนไทยชอบอิสระและ รักสนุก จึงง่ายท่ีจะจัดกิจกรรมนันทนาการ ความร่วมมือร่วมใจกันอย่าง สนกุ สนานเปน็ ทม่ี าของการมอี ปุ นสิ ยั ใจคอยมิ้ แยม้ แจม่ ใส ตามลกั ษณะ ของคนไทยพ้ืนฐานวิถีชีวิตของคนไทย ผูกพันกับครอบครัว และเป็นครอบครัว แบบขยาย หมายความว่า เป็นสังคมท่ี นับถือผูกพันกับพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย และ เคารพรักนับถือกันในระบบเครือญาติและ ผูกพันกับบุตรหลานแม้แต่เพ่ือนบ้าน ผู้ใกล้ชิดมีการนับถือกันเสมอประหนึ่ง ญาติพี่น้อง ท�ำให้ความสัมพันธ์ก่อเกิด กิจกรรมในครอบครัว ญาติมิตร สนิทสนมกันแบบแนบแน่นกิจกรรม นันทนาการจะใช้ทรัพยากรมนุษย์ มาเปน็ ทรพั ยากรทางนนั ทนาการดว้ ยการเกอื้ กลู และ กิจกรรมผูกพันสัมพันธ์ชุมชนกันแบบหมู่คณะต่อ ไปได้ 59คู่มือ เรอ่ื ง การเปน็ นักนนั ทนาการ Department of Physical Education

บทท่ี ๓ เทคนิคการจดั กลมุ่ และรปู ขบวนแถว การจัดกลุ่มหรือรูปขบวนแถว แต่ละกิจกรรมมีวิธีการท่ีแตกต่างกัน นักนันทนาการต้องศึกษารายละเอียดถึงวิธีการเล่นของกิจกรรมนั้นๆ เพื่อ จะได้แบ่งกลุ่มหรือจัดขบวนให้เอ้ือต่อการท�ำกิจกรรมนั้นๆ ได้ถูกต้อง โดย การแบง่ กลมุ่ ซง่ึ เปน็ รปู แถวตา่ งๆ แลว้ ยงั มวี ธิ แี บง่ กลมุ่ ตามวนั เกดิ ตามเดอื นเกดิ ตามปีเกิด ตามสีท่ีชอบ ตามเพลง แบ่งโดยการนับเลข แบ่งโดยการจับคู่ เปน็ ตน้ การแบ่งกลุ่มเป็นการจัดกลุ่มผู้ร่วมกิจกรรมเพื่อให้เหมาะสมกับเกม หรอื กจิ กรรมทจ่ี ะจดั ขึ้นซ่งึ ใชป้ ระโยชน์หลายประการด้วยกนั คอื • การแบ่งกลุ่มเพ่ือเลือกเกมให้เหมาะสมกับลักษณะหรือ ธรรมชาตขิ องกลมุ่ ตา่ งๆ คือ เพศ วยั อาชพี การศกึ ษา • เพ่ือก�ำหนดบทบาทหรือขบวนการจัดกิจกรรม ให้สอดคล้อง เหมาะสม สะดวกต่อการจัดด�ำเนินการ รูปแบบ การมีส่วนร่วมการก�ำหนด เวลา • เพ่ือการสังเกตข้อแตกตา่ งของแต่ละกล่มุ ว่ามีความแตกต่าง หรอื คล้ายคลึงกันอย่างไร สะดวกต่อการประเมนิ ผลสรุปผลกจิ กรรม 60 ค่มู อื เรอื่ ง การเปน็ นกั นันทนาการ Department of Physical Education

• เพื่อความปลอดภัยส�ำหรับการเล่น ซ่ึงถ้ากลุ่มบุคคลมีความ แตกตา่ งกนั ในดา้ นรา่ งกาย วฒุ ภิ าวะ นำ� มาเลน่ รว่ มกนั อาจทำ� ใหเ้ กดิ อนั ตราย แกผ่ ู้รว่ มกจิ กรรมได้ • เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้น�ำเกม จะได้ใช้วิธีการหรือการ เตรียมการตลอดจนการจัดสถานที่ อุปกรณ์ และบริเวณท่ีจะใช้ด�ำเนินการ ไดเ้ หมาะสม เทคนคิ การแบ่งกลุ่ม การแบ่งกลุ่มเป็นส่ิงจ�ำเป็นท่ีผู้น�ำเกมจะต้องมีความช�ำนาญและมี การเตรียมการ มีวิธีการในการแบ่งกลุ่มก่อนท่ีจะเริ่มอธิบาย วิธีการเล่น และเล่นเกมนั้นๆ ทั้งนี้จะต้องค�ำนึงถึงผู้ร่วมกิจกรรม เพศ วัย พื้นความรู้ ประสบการณ์ โดยเฉพาะเด็กเล็ก จ�ำเป็นจะต้องใช้วิธีการที่ง่ายๆ เช่น แบ่ง เป็นกลุ่มสี เปน็ ตน้ การจัดแถว ส�ำหรับการจัดแถวมีลักษณะท่ีย่อยเล็กลงจากการจัดกลุ่ม คือ เป็น ลักษณะของการจัดกลุ่มย่อยให้เหมาะสมกับสถานที่ร่วมกิจกรรมน้ัน และ ให้เหมาะสมกับเกมหรือการเล่นในแต่ละเกม แต่ละลักษณะของการเล่น นอกจากนี้การจัดแถวยังมีประโยชน์ด้านอ่ืนๆ เช่น ลักษณะของแถวหรือ รูปแบบมีส่วนผลักดันให้สมาชิกเกิดความสนใจหรือเกิดผลต่อการตอบสนอง กิจกรรมทีแ่ ตกต่างกนั เชน่ 61คูม่ ือ เรือ่ ง การเปน็ นักนันทนาการ Department of Physical Education

• การยนื หรอื นงั่ เปน็ รปู วงกลม จะใหค้ วามรสู้ กึ มสี ว่ นรว่ มตอ่ กลมุ่ • การอยู่เป็นกลุ่มกระจัดกระจาย จะให้ผลต่อความรู้สึกน้อย เพราะทุกคนมกั จะยุง่ อยกู่ ับตวั เอง • การยืนบนจุดหรือเส้นท่ีก�ำหนด จะให้ความรู้สึกตื่นเต้นเป็น จุดสนใจ • การยืนเป็นแถวต่อกัน เป็นสัญลักษณ์ของการเล่นเกมผลัด (Relay Games) ท่ีสมบูรณ์แบบ ความต้องการหรือขึ้นอยู่กับผู้น�ำเกมเป็น ผู้ก�ำหนด เพื่อให้เกิดความสัมพันธ์เหมาะสมกับลักษณะของการเล่นและ การด�ำเนินการต่อไป ซงึ่ เปน็ รปู แบบหลายลักษณะดว้ ยกนั คอื ๑. แถววงกลม เปน็ รปู แบบทเ่ี หมาะสมสำ� หรับการจดั เกมทัว่ ไป โดยเฉพาะเกมเบ็ดเตล็ด เพราะให้ความรู้สึกท่ีทุกคนมีส่วนร่วม และสามารถ เหน็ พฤตกิ รรมของทกุ คนอยา่ งทวั่ ถงึ ใชก้ บั จำ� นวนผเู้ ลน่ ไดม้ ากพอสมควร คอื ๑๒-๓๐ คน 62 คู่มอื เรื่อง การเปน็ นักนันทนาการ Department of Physical Education

๒. แถวหนา้ กระดาน ใชก้ บั จำ� นวนผเู้ ลน่ ไมม่ ากนกั คอื ประมาณ ๖-๑๒ คน ไมเ่ หมาะสำ� หรบั การจดั เกมทม่ี กี ารบรรยายยกเวน้ การแขง่ ขนั ทเ่ี ปน็ จุดก�ำหนดระยะทาง เชน่ วง่ิ ๕๐ เมตร หรือเกมทใี่ ชก้ ารเคลื่อนทไี่ ปยังเขตท่ี กำ� หนด ๓. แถวครง่ึ วงกลม เหมาะสำ� หรบั การจดั กจิ กรรมโดยมผี นู้ ำ� เปน็ ผูแ้ สดง และใช้กบั กล่มุ ที่มขี นาดกลางคือ ๖–๑๕ คน 63คมู่ ือ เรอ่ื ง การเป็นนักนันทนาการ Department of Physical Education

๔. แถวตอนหรือแถวลึก ไม่เหมาะสมส�ำหรับการจัดกิจกรรม ยกเว้นเป็นการจัดเกมลักษณะของเกมผลัดเปล่ียน (Relay Games) และ มักใช้กับจ�ำนวนผู้เล่นท่ีมีมาก โดยแบ่งเป็นชุดหรือเป็นทีมและเหมาะกับ การเลน่ ทใ่ี ช้อปุ กรณ์เพราะลดจำ� นวนลงได้ ๕. แถวรูปฉากหรือรูปเหลี่ยม ใช้กับพ้ืนที่จ�ำกัดเป็นลักษณะ รูปสี่เหล่ียม หรือต้องให้ทุกคนได้มองเห็นและได้ยินเสียงชัดเจนเป็นการลด ความยาวหรอื ความกว้างของแถวหนา้ กระดาน • แถวรูปฉาก 64 คมู่ อื เรอ่ื ง การเป็นนกั นนั ทนาการ Department of Physical Education

• แถวรูปตวั ยู • แถวรูปสี่เหลี่ยม • แถวรูปสามเหลี่ยม 65ค่มู ือ เรอ่ื ง การเป็นนักนันทนาการ Department of Physical Education

๖. แถวซ้อนกันหลายแถวหรือซ้อนกันเป็นคู่ สามารถจัดได้ทุกแบบ ของแถว จะเป็นวงกลม คร่ึงวงกลม หน้ากระดาน ใช้กับผู้เล่นจ�ำนวนมาก เพื่อให้การอธิบายหรือส่ือความหมายได้ทั่วถึงยิ่งขึ้น และใช้กับลักษณะของ เกม แต่ละประเภทเป็นตัวก�ำหนดลักษณะ เช่น วงกลมคู่ใช้กับเล่นประกอบ ดนตรี (เต้นร�ำ, ร�ำวง) ซึง่ จะแสดงรายละเอียดต่อไปน้ี คือ • วงกลม ๒ วง • วงกลมตอนลึก 66 คมู่ อื เรอ่ื ง การเปน็ นกั นนั ทนาการ Department of Physical Education

• ครง่ึ วงกลมตอนลกึ • หนา้ กระดานหลายแถว • ตอนหันหนา้ เขา้ หากัน 67ค่มู อื เรอ่ื ง การเป็นนักนันทนาการ Department of Physical Education

• แถวฉากซ้อนกนั ลกั ษณะตา่ งๆ 68 คมู่ ือ เรือ่ ง การเป็นนักนนั ทนาการ Department of Physical Education

๗. แถวซิกแซก็ มักจดั เป็นลักษณะของแถวค่ใู นรปู ตา่ งๆ ไดแ้ ก่ • แถวหนา้ กระดาน • แถวรปู กลม • แถวรูปฉาก 69ค่มู อื เร่อื ง การเปน็ นักนันทนาการ Department of Physical Education

ความปลอดภัยในการเล่นเกม ความปลอดภยั (Safety Factors) เกมการเล่นต่างๆ ที่กล่าวมาในบทก่อนหน้าน้ี เป็นเกมที่จะน�ำไปใช้ ส�ำหรับเด็ก เกมการเล่นยังเป็นส่วนส�ำคัญอย่างมากในการท่ีจะช่วยพัฒนา ความเจริญเติบโตของเด็ก ท้ังทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และ สติปัญญา จึงเป็นสิ่งส�ำคัญอย่างย่ิงที่ผู้น�ำต้องตระหนักถึงความปลอดภัย มิให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นแก่เด็กตลอดเวลาที่เล่น เพราะเมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เกมการเล่นจะกลายเป็นส่ิงสกัดก้ันความเจริญด้านต่างๆ ของเด็กแทนการ สง่ เสรมิ พฒั นา และจะทำ� ใหเ้ ดก็ เกดิ ความหวาดกลวั ในการทจี่ ะเลน่ ดงั นน้ั ผนู้ ำ� จงึ ต้องศึกษาเรยี นรู้ และสามารถนำ� ความรู้เกี่ยวกบั ความปลอดภยั ไปปอ้ งกนั อบุ ตั ิเหตทุ จี่ ะเกิดข้ึนในขณะเล่นได้ • การลื่นและหกล้ม ผู้น�ำควรเตือนว่าในการวิ่งต้องระมัดระวัง ให้มากควรจะฝึกการกลับตัวและการเปล่ียนทิศทางอย่างรวดเร็ว บริเวณ สนามเล่นควรปราศจากสิ่งที่ท�ำให้เกิดอันตราย ผู้น�ำควรจะให้ผู้เล่นได้รู้ถึง สถานการณ์ท่ีจะก่อให้เกิดอันตราย เช่น สถานท่ีเรียบมักลื่น หรือมีหลุมหรือ ทีท่ ม่ี ีกรวดทราย • วงิ่ ชนกนั และการสะดดุ หกลม้ ควรจะใหผ้ เู้ ลน่ ตน่ื ตวั อยเู่ สมอ ถา้ จะต้องวิ่งสวนทางกันจะต้องวิ่งไปทางขวาของตนเองหรือแล้วแต่จะก�ำหนด ถา้ จะเลน่ เกมทม่ี จี ดุ หมาย กลมุ่ ควรจะกระจดั กระจายเพอ่ื ปอ้ งกนั การวง่ิ ชนกนั และสอนให้เด็กไล่แตะโดยการสัมผัสเบาๆ ไม่ควรผลักหรือดัน ผู้น�ำควรเน้น อยูเ่ สมอวา่ การแตะกันจะต้องเป็นไปอยา่ งถกู ตอ้ งตามทไ่ี ด้กำ� หนด 70 คู่มือ เรอื่ ง การเป็นนักนนั ทนาการ Department of Physical Education

• การตีผู้อ่ืนด้วยไม้กลมยาว ขว้างด้วยถุงถ่ัว หรือลูกบอล ควร จะสอนให้เด็กใช้สิ่งเหล่าน้ีให้ถูกต้อง ดังนั้นผู้น�ำเกมจึงควรคิดหาวิธีป้องกัน อุบัติเหตุไว้ตลอดเวลา ซึ่งมีสิ่งที่ควรค�ำนึงด้วยกัน ๓ ประการ ในการป้องกัน คอื ๑. เกย่ี วกบั เครื่องอ�ำนวยความสะดวกและอปุ กรณ์ต่างๆ • บริเวณสนามเล่น จ�ำเป็นอย่างย่ิงท่ีสนามเล่นจะต้องอยู่ใน สภาพท่ีมีความปลอดภัยสูงท่ีสุดเท่าที่จะมากได้มีสิ่งควรค�ำนึงถึงคือ ขนาด สัดส่วน แสงแดด พื้นสนาม การมีร้ัวล้อมรอบเพ่ือป้องกันมิให้เด็กวิ่งออกไป ยังถนนภายนอกท่ีมีการจราจรพลุกพล่าน และข้อควรระวังก็คือไม่ควรใช้ รว้ั ลวดหนามล้อม เพราะเด็กอาจได้รับอันตรายจากรั้วลวดหนามนน่ั เอง นอกจากนใ้ี นสนามเลน่ หากมบี รเิ วณกวา้ งขวางยง่ิ ตอ้ งมน่ั ใจเปน็ พเิ ศษ เพราะผนู้ ำ� อาจจะควบคมุ ดแู ลไมถ่ งึ อาจจดั ใหเ้ ดก็ ๆ ชว่ ยคอยดแู ลและปอ้ งกนั อนั ตรายประจำ� อยู่ในสนามเลน่ ตลอดเวลาที่เปิดบรกิ ารใชส้ นามนอกเวลา 71คมู่ อื เรือ่ ง การเป็นนักนันทนาการ Department of Physical Education

• ขอ้ เสนอแนะกฎระเบยี บเกยี่ วกบั ความปลอดภยั ในสนามเลน่ o ควรจะไดม้ ีการวางแผนและวิธดี �ำเนินงานทรี่ ัดกุม o บริเวณพ้ืนสนามต้องราบเรียบปราศจากสิ่งปฏิกูลต่างๆ เช่น เศษอิฐ เศษกระเบ้ือง เศษแก้ว หลมุ บ่อ มีน้�ำขงั o ห้ามเด็กปีนป่ายต้นไม้ หรือหลังคาอาคารเพ่ือข้ึนไปเก็บ อุปกรณท์ ไ่ี ปคา้ งอยู่ o ขณะมกี จิ กรรมในสนามห้ามเดนิ ลดั สนาม o หา้ มข่ีจักรยานในสนามเลน่ เป็นอันขาด o จดั บอ่ ทรายในบริเวณทม่ี กี ิจกรรมโลดโผน ๒. เกยี่ วกับผ้นู �ำ • ผนู้ ำ� ควรไดร้ บั การฝกึ อบรมหรอื ไดร้ บั การศกึ ษาทางนนั ทนาการ จากสถาบนั ผลติ นกั นันทนาการโดยตรง • จัดเกมใหเ้ หมาะกบั เดก็ • ฝกึ ใหเ้ ดก็ เลน่ เกมเบาๆ ไปสเู่ กมหนกั หรอื เกมทง่ี า่ ยไปสเู่ กมทย่ี าก • หมั่นตรวจหรือสังเกตสุขภาพของผเู้ ลน่ ทุกคร้ัง • ตอ้ งตรวจอุปกรณท์ ่ีจะใช้เลน่ เกมทุกครั้ง • การจัดแขง่ ขันควรจดั เป็นร่นุ ตามอายุ น้�ำหนกั ส่วนสงู 72 คูม่ ือ เรื่อง การเป็นนักนันทนาการ Department of Physical Education

• ถา้ มอี บุ ตั เิ หตแุ มแ้ ตเ่ พยี งเลก็ นอ้ ยตอ้ งทำ� การปฐมพยาบาลทนั ที • จัดให้มีเด็กผู้น�ำหรือหัวหน้าทีมให้มีบทบาทท่ีจะช่วยในเร่ือง การปอ้ งกันอนั ตรายบ้างในบางกรณี • ฝ่ายผู้น�ำควรวางแผนในการป้องกันอันตรายอันอาจจะเกิดแก่ เด็กด้วย ๓. เก่ียวกบั ตัวนักเรียนเอง • ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอุบัติเหตุในกิจกรรมเกมแก่เด็ก ก่อนเข้าร่วมเกมนัน้ ๆ • ใหเ้ ด็กเล่นเกมน้ันๆ อย่างถูกตอ้ งและเกดิ ทักษะขึน้ จรงิ ๆ • ให้เด็กช่วยส�ำรวจอุปกรณ์ทุกคร้ังก่อนเล่นเป็นการสร้างนิสัย ความปลอดภยั แกเ่ ดก็ และปอ้ งกนั อุบัตเิ หตุในการเล่นครง้ั น้นั ดว้ ย • ฝกึ เดก็ ใหม้ นี สิ ยั เชอ่ื ฟงั กฎกตกิ าและขอ้ หา้ มตา่ งๆ ในดา้ นความ ปลอดภยั • ต้องรักษาสุขภาพตนเองให้มีสุขภาพดี ถ้าป่วยหรือร่างกาย ผดิ ปกตกิ ค็ วรงดการเขา้ รว่ มกิจกรรมคร้งั นน้ั ๆ • จดั หาเครอ่ื งปอ้ งกนั ตามชนดิ ของเกมนน้ั ๆ ประเภททมี่ กี ารตอ่ สู้ การปะทะควรมเี บาะรองรับกนั สะเทอื นกระแทกกับพ้นื 73ค่มู อื เรื่อง การเปน็ นักนนั ทนาการ Department of Physical Education

สรปุ เพือ่ ความปลอดภยั ในการเลน่ เกม ๑. ผู้เล่นควรจะได้รับการสอนให้หยุดทันทีเม่ือได้ยินนกหวีด อาจ เปน็ การใหน้ ั่งลง ๒. ต้องควบคุมการเล่นหยาบโดยไม่จ�ำเป็น การผลัก การดึง การดัน ควรให้มนี ้อยทสี่ ุด ๓. มหี อ้ งอยา่ งเพยี งพอทจี่ ะเลน่ เกมและไดร้ บั การรกั ษาเปน็ อยา่ งดี การ วงิ่ ชนรวั้ หรอื กำ� แพงในขณะวง่ิ เปน็ อนั ตรายทพ่ี บบอ่ ยๆ ควรจะมเี สน้ ขดี ไวก้ อ่ น ทจ่ี ะถึงสิ่งกดี ขวางเหล่าน้ัน ๔. ไม่ควรปลอ่ ยใหเ้ ดก็ ไวเ้ ล็บยาว ๕. ควรจะไดบ้ นั ทกึ สาเหตุของอบุ ตั เิ หตทุ ี่เกิดขนึ้ ไว้ 74 ค่มู ือ เรือ่ ง การเป็นนักนันทนาการ Department of Physical Education

บทที่ ๔ จิตวทิ ยาประยุกต์ ส�ำหรบั นักนันทนาการ นกั นนั ทนาการ นน้ั เปรยี บเสมอื นกบั ชา่ งไม้ จะตอ้ งมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ งานของตน รวู้ ่าก�ำลงั จะทำ� อะไร อย่างไร ด้วยเครือ่ งมือชนิดไหน การท�ำงาน จ�ำเป็นต้อง ใช้ความเข้าใจ ใช้ทักษะ ใช้ความสามารถอย่างมีประสบการณ์ นอกจากน้ีจ�ำเป็นต้องมีความรู้เก่ียวกับเคร่ืองมือเป็นอย่างดีด้วย น่ันคือ การท่ีนักนันทนาการทุกคนจะต้องเข้าใจถึงบทบาทของตนเองรู้จักและมี ความเข้าใจในผูเ้ ขา้ ร่วมกิจกรรมนันทนาการเป็นอย่างดี ผู้เข้าร่วมกิจกรรมนันทนาการแต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกัน ความ เข้าใจเรื่องนี้เป็นส่ิงส�ำคัญ จะท�ำให้เกิดความเข้าใจในพฤติกรรมของแต่ละ บุคคล ดังนั้นการตัดสินพฤติกรรมท่ีสัมผัสได้น้ัน จึงจ�ำเป็นจะต้องกระท�ำ อยา่ งรอบคอบและอาศยั ความเจนจัดในบคุ คล เพือ่ ทีจ่ ะสามารถใช้เครือ่ งมอื ที่เหมาะสมในการใหค้ วามชว่ ยเหลือ หน้าท่ีของนักนันทนาการ คือ การช่วยให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม นันทนาการเกิดการพัฒนาทั้งด้านทักษะ อุปนิสัย เจตคติ ได้อย่างเหมาะสม สามารถดำ� เนนิ ชวี ติ อยา่ งมคี ณุ คา่ ในสงั คมปจั จบุ นั ได้ โดยผเู้ ขา้ รว่ มกจิ กรรมเอง ร้สู ึกมีความสขุ ทีไ่ ดด้ �ำเนินชวี ิตเช่นน้นั ดงั นนั้ นกั นนั ทนาการทดี่ ี ควรจะตอ้ งมคี วามรู้ และความเขา้ ใจในปจั จยั ต่างๆ ดงั ต่อไปน้ี เพื่อนำ� ไปประยกุ ต์ใช้ในการจดั กจิ กรรมนนั ทนาการ 75คมู่ อื เรื่อง การเปน็ นกั นนั ทนาการ Department of Physical Education

พัฒนาการของมนุษย์ พฒั นาการของมนษุ ย์ แบง่ เปน็ ๑) วัยทารกแรกเกดิ - ๒ ปี ๒) วยั เด็กตอนต้น ๒ - ๖ ปี ๓) วัยเดก็ ตอนกลาง หญงิ ๖ - ๑๑ ปี ชาย ๖ - ๑๓ ปี ๔) วัยเตรียมเข้าสู่วัยรุ่นหรือวัยเด็กตอนปลาย หญิง ๑๑ - ๑๓ ปี ชาย ๑๓ - ๑๕ ปี ๕) วยั รนุ่ ตอนตน้ หญงิ ๑๓ - ๑๕ ปี ชาย ๑๕ - ๑๗ ปี ๖) วยั รุน่ ตอนกลาง หญงิ ๑๕ - ๑๘ ปี ชาย ๑๗ - ๑๙ ปี ๗) วยั รุ่นตอนปลาย หญงิ ๑๘–๒๑ ปี ชาย ๑๙ - ๒๑ ปี ๘) วยั ผู้ใหญ่ตอนต้น ๒๑ - ๓๕ ปี ๙) วัยผู้ใหญต่ อนกลาง ๓๕ - ๕๐ ปี ๑๐) วัยผู้ใหญ่ตอนปลาย ๕๐ - ๖๕ ปี ๑๑) วยั ชราตอนต้น ๖๕ - ๗๕ ปี ๑๒) วยั ชรา ๗๕ ปี ขนึ้ ไป 76 คู่มือ เรือ่ ง การเปน็ นักนนั ทนาการ Department of Physical Education

อย่างไรกด็ ี จากจดุ ม่งุ หมายในการทำ� งานของนักนนั ทนาการ มุง่ ทจี่ ะ พัฒนาผู้เข้าร่วมกิจกรรมนันทนาการ ให้เจริญขึ้นทั้งทางด้านร่างกาย สตปิ ญั ญา และจติ ใจ นกั กจิ กรรมนนั ทนาการจงึ จำ� เปน็ ตอ้ งเขา้ ใจความแตกตา่ ง ของบุคคลในแต่ละวัยน้ี เพ่ือท่ีจะได้มีการประสานงานในจุดต่างๆ ของ การท�ำงาน จึงขอเสนอลักษณะเอกลักษณท์ วั่ ๆ ไปของวยั ตา่ งๆ ดงั น้ี วัย ๑-๓ ปี • ความเจริญทางกระดูกเพ่ิมท้ังขนาดและเปลี่ยนแปลงภายใน อย่างรวดเรว็ • กลา้ มเนื้อใหญเ่ จรญิ เติบโตเรว็ แตก่ ล้ามเนอ้ื เลก็ ยังไมเ่ จรญิ • มีความเจริญทางประสาทและสมองเพ่มิ ขน้ึ วัย ๔-๕ ปี • กระดกู เจริญช้ากวา่ อายุ ๑–๒ ขวบ กระดูกมีธาตุแคลเซยี มนอ้ ย จึงมลี กั ษณะเปราะหรอื หกั งา่ ย • กลา้ มเน้อื ใหญม่ กี ารเจริญเติบโต โดยเฉพาะสว่ นแขน ขา ลำ� ตวั • จะมีความสนใจตอ่ กจิ กรรมในระยะเวลาสั้นๆ • ชอบทำ� ตามใจตนเอง • วยั น้ีกำ� ลังอยูใ่ นวยั จินตนาการ และชอบการเลียนแบบ • จะมีพลังหรือก�ำลังเหลืออยู่อย่างมากมายจึงต้องการร่วมใน กจิ กรรมนนั ทนาการท่ีตอ้ งใชก้ �ำลัง 77ค่มู อื เรือ่ ง การเปน็ นกั นันทนาการ Department of Physical Education

วยั ๖-๘ ปี • กระดกู เจรญิ เติบโตเร็วข้ึน ความสงู เพิ่มขึ้น ๑–๒ นิ้วตอ่ ปี ท�ำให้ ขายาวขึ้น • กลา้ มเน้อื เจรญิ เร็วข้นึ โดยเฉพาะกลา้ มเนอ้ื ใหญๆ่ • ทรวดทรง แสดงใหเ้ หน็ ได้ชัดว่าดีและบกพร่อง • หวั ใจเจริญเรว็ มาก • สามารถทรงตวั ได้ดี • บางคนมโี รคประสาทอ่อน เชน่ กัดเล็บ หรอื ดดู มอื • ต้องการกิจกรรมประเภทเคล่ือนไหวมาก และสนใจอยา่ งไมร่ ู้จกั จบสน้ิ อยา่ งไรกด็ ีต้องเปล่ยี นกิจกรรมบอ่ ยๆ เพราะในวัยน้ีจะเบ่อื งา่ ย • มีความตอ้ งการพักผ่อนมาก ควรนอนวันละ ๑๒ ชวั่ โมง • สนใจตนเอง ชอบมีส่วนรว่ ม • ไม่ชอบดา้ นนามธรรม แตช่ อบแสดงออก • ผู้ชายเติบโตช้ากว่าผู้หญิง ร่างกายจะขยายออกทางส่วนสูง มากกวา่ สว่ นกวา้ ง 78 คมู่ อื เรอื่ ง การเป็นนกั นันทนาการ Department of Physical Education

วัย ๙-๑๐ ปี • สว่ นสูงและนำ�้ หนักเจรญิ ช้าลง • ความสัมพนั ธข์ องอวัยวะทำ� งานได้ดขี ้นึ • การพฒั นาทางดา้ นสายตาเจริญเตม็ ท่ี วัยนีจ้ ะแสดงใหเ้ ห็นไดช้ ดั ว่าสายตาน้นั ปกติดีหรอื ไม่ • สนใจการเล่นหรือเรียนรว่ มกนั กบั คนอ่ืนเปน็ หมู่เป็นคณะ • ชอบแสดงตวั เปน็ ผู้น�ำ • ระยะเวลาของความสนใจตอ่ การเรียนร้มู ีมากข้นึ • กล้ามเน้อื ใหญ่และกล้ามเนอ้ื เลก็ เจริญข้ึน • ร่างกายตอ้ งการเคลอื่ นไหวและการพักผ่อนมาก • สนใจเร่อื งของจินตนาการ • มีความร้สู กึ ไวต่อความล้มเหลวและจะมีความทรงจำ� ต่อสิง่ นั้น • การเจรญิ เตบิ โตของเดก็ หญงิ จะเรว็ กวา่ เดก็ ชายประมาณ ๑ - ๒ ปี • หญงิ ชาย แยกกลุ่มกนั อย่างชดั เจน 79คมู่ ือ เรือ่ ง การเปน็ นกั นนั ทนาการ Department of Physical Education

วัย ๑๑ - ๑๔ ปี • เป็นระยะหัวเลี้ยวหัวต่อ จากวัยเด็กจะเข้าสู่วัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ ระยะนีห้ ัวใจยงั เจรญิ เติบโตไมเ่ ตม็ ท่ี ร่างกายมกี ารเจ็บป่วยเลก็ ๆ นอ้ ยๆ บ่อย • ผหู้ ญงิ ยังมกี ารเจริญเตบิ โตเรว็ กวา่ ผชู้ าย • ชอบเลน่ กีฬาท่ีเปน็ หมู่หรือเป็นกลุม่ ทีเ่ ป็นเพศเดียวกนั • มีความสนใจกิจกรรมกลางแจ้ง • มีการตอบสนองในภาวะต่างๆ มีความแตกต่างระหว่างบุคคลซง่ึ ไม่เหมือนกนั • การประสานงานระหวา่ งระบบประสาทและระบบกลา้ มเนอื้ ดขี นึ้ • ชอบเล่นเกมทต่ี ่นื เตน้ โลดโผน ผจญภยั ชอบการแขง่ ขัน • มกี ารเปลย่ี นแปลงอยา่ งรวดเรว็ ในเรอื่ งอารมณ์ ความสนใจ ทำ� ให้ เป็นเหยื่อของสังคมได้ง่าย • ผู้หญิงมักวิตกกังวลเร่ืองร่างกายภายนอก ในขณะท่ีผู้ชายกังวล เร่ืองเสียง • มักสร้างปมเด่นข่มปมด้อยตนเองไว้ เช่น การแต่งตัว ท�ำเสียง แปลกๆ เรียกรอ้ งความสนใจ 80 คู่มอื เรือ่ ง การเป็นนักนันทนาการ Department of Physical Education

วัย ๑๕-๑๘ ปี • เป็นระยะของความเติบโตอย่างรวดเร็ว ผู้หญิงจะเจริญเติบโต รวดเร็วกว่าผู้ชาย ความเจริญเร่ืองเพศ ผู้หญิงเจริญเติบโตก่อนผู้ชาย ผู้หญิง จะสนใจและเอาใจใส่ทรวดทรงเป็นพิเศษ ความสัมพันธ์ของประสาทและ กล้ามเน้ือมีมากขน้ึ • จะค่อยๆ เปลี่ยนไปสนใจเพศตรงขา้ ม • ในวัยนมี้ คี วามจ�ำ การมเี หตผุ ล และการตดั สินใจดีขนึ้ • ยอมรับรู้ถึงความส�ำคัญของหมู่คณะ และการปรับตัวให้เข้ากับ หมคู่ ณะ • ชอบในการแขง่ ขันกฬี า • ความสนใจมีระยะเวลานาน • มีความสนใจในกจิ กรรมและกฬี าทางสงั คมเป็นพเิ ศษ • ผ้หู ญิงเข้าสูว่ ัยรุ่น ผู้ชายบางคนยงั เป็นเดก็ อยู่ 81คู่มอื เรอ่ื ง การเปน็ นักนนั ทนาการ Department of Physical Education

กฎของการเรยี นรู้ มีนักจิตวิทยาหลายท่านที่ก�ำลังศึกษาเก่ียวกับทฤษฎี (กฎ) ของการ เรียนรู้แต่ในที่น้ี ขอยกทฤษฎีของธอนไดด์ ซึ่งเป็นนักจิตวิทยาที่มีช่ือเสียง คนหน่ึง เขาเช่ือในทฤษฎีแห่งการกระตุ้นและการตอบสนองอันจะเป็นผล ไปถงึ การเปล่ยี นแปลงพฤติกรรม ดงั นี้ ๑. กฎแหง่ ความพรอ้ ม (Law of Readiness) เมอื่ รา่ งกายมคี วามพรอ้ ม ทจี่ ะแสดงพฤตกิ รรมและลงมอื กระทำ� ยอ่ มกอ่ ใหเ้ กดิ ความพอใจ แตต่ รงกนั ขา้ ม หากถูกชะงักไม่ให้กระท�ำหรือร่างกายยังไม่พร้อมท่ีจะกระท�ำ จะเกิดผล ตรงกันข้าม คือความไม่พึงพอใจกฎนี้สามารถน�ำมาใช้ในการพัฒนาเยาวชน โดยผู้น�ำต้องจัดหากิจกรรมที่เหมาะกับวุฒิภาวะของเยาวชนเฉพาะอย่างย่ิง ดา้ นรา่ งกาย จงึ จะท�ำให้เกิดความพึงพอใจ ๒. กฎแห่งการฝึก (Law of Exercise) ถ้าหากร่างกายได้กระท�ำ พฤตกิ รรมใดซ้ำ� ๆ อยเู่ สมอ การกระทำ� ซำ�้ ๆ น้ันจะทำ� ให้เกดิ เป็นนิสัย ๓. กฎแห่งผล (Law of Effect) เมื่อผลที่ได้รับก่อให้เกิดความพึง พอใจการตอบสนองอย่างดีจะเกิดอย่างน้ันซ�้ำๆ อีก และอาจมีแนวโน้มจะ เกดิ ขน้ึ ในทางตรงกนั ขา้ ม ถ้าผลเกดิ ความไมพ่ งึ พอใจ การตอบสนองดังกล่าว จะไม่เกิดข้ึนอีก จะเห็นว่ากฎทั้ง ๓ ข้อ มีประโยชน์ในการจัดกิจกรรมให้กับ เยาวชน เพื่อให้เกิดการพัฒนาท้ังด้านร่างกายสติปัญญา และจิตใจ หากเรา น�ำไปประยุกตใ์ ชจ้ ะได้ผลดี 82 คู่มอื เร่อื ง การเป็นนักนันทนาการ Department of Physical Education

การยอมรบั ธรรมชาติของคน การยอมรับธรรมชาติของคน • ยอมรบั ว่าคนเรานน้ั แตกตา่ งกัน - ทางกาย - ทางอารมณ์ - ทางสตปิ ัญญา - ทางสังคม • ยอมรับวา่ ทกุ คนตอ้ งการเปน็ พระเอกของชวี ิต • ยอมรับว่าคนเราน้ันต้องการแสดงออก ถ้าไม่ส่งเสริมให้เขาได้ แสดงออกเขาจะไมใ่ หค้ วามรว่ มมอื (แสดงออกในขอบเขตท่ีสามารถทำ� ได้) • ยอมรับวา่ คนเราชอบความแปลกใหม่ เบือ่ ความซ�้ำซาก จ�ำเจ • การเรียนรู้พฤติกรรมเพื่อการเปลี่ยนแปลงมนุษย์พฤติกรรม ทกุ อยา่ งทม่ี นษุ ยแ์ สดงออกตอ้ งมสี าเหตุ สาเหตเุ หมอื นกนั อาจแสดงพฤตกิ รรม ตา่ งกนั สาเหตตุ า่ งกนั อาจแสดงพฤตกิ รรมเหมอื นกนั พฤตกิ รรมทส่ี ะสมมานาน อาจกลายเป็นนิสัย เจตคติที่มีอยู่อาจเปล่ียนแปลงได้ตามกาลเวลาในการ เปล่ียนพฤติกรรมมนุษย์โดยอาศัยกิจกรรมต่างๆ น้ัน ทางพฤติกรรมศาสตร์ ได้ศึกษาไว้ว่า - ความรู้ ความสามารถเรยี นรเู้ ปลย่ี นแปลงไดง้ า่ ยในระยะเวลาสน้ั - เจตคตเิ ปลย่ี นแปลงได้ยากกวา่ การเปลี่ยนแปลงทางความรู้ 83คูม่ อื เรอ่ื ง การเปน็ นักนันทนาการ Department of Physical Education

- พฤติกรรมของคนแต่ละคนต้องใช้เวลาเปล่ียนแปลงมากขึ้น ทั้งด้านความร้แู ละความเขา้ ใจและเจตคติ - พฤติกรรมกลมุ่ เป็นการเปลย่ี นแปลงท่ียากท่ีสุด 84 คู่มือ เร่ือง การเปน็ นกั นันทนาการ Department of Physical Education

ทฤษฎคี วามตอ้ งการของมนษุ ย์ ทฤษฎีความต้องการของมนุษย์ ของ อับบราฮัม เอช. มาสโลว์ (Abraham H. Maslow) กลา่ ววา่ มนษุ ยม์ ีความตอ้ งการแบง่ เป็น ๕ ขนั้ ดังน้ี ๑. ความตอ้ งการขน้ั พน้ื ฐานในการดำ� รงชวี ติ (Physical/Biological Needs) ประกอบดว้ ย ความตอ้ งการเพอื่ ความอยรู่ อด (Survival) การพกั ผอ่ น (Rest) อาหาร (Food) และทีอ่ ยอู่ าศัย (Shelter) ๒. ความตอ้ งการความม่นั คงปลอดภยั (Safety/SecurityNeeds) ความมั่นคงปลอดภัยทางกาย ทรัพย์สิน รวมไปถึงความมั่นคงของงานอาชีพ (Physical Safety and Job Security) ๓. ความต้องการความรักและการยอมรับจากสังคม (Social Needs) ไดแ้ ก่ การเปน็ เจา้ ของ (Belonging) ไดร้ บั การยอมรบั (Acceptance) และเป็นสว่ นหนึ่งของสงั คม (Association) ๔. ความต้องการเกียรติยศ (Ego–Esteem Needs) ได้แก่ ได้รับ การยอมรับ (Recognition) ได้รับความเชื่อม่ัน (Confidence) เพื่อให้ได้รับ เกียรติยศเหล่าน้ี จึงต้องเสียสละด้านก�ำลังกาย ก�ำลังใจ ก�ำลังทรัพย์ และ ก�ำลงั สมอง เปน็ ต้น ๕. ความตอ้ งการบรรลเุ ปา้ หมายสงู สดุ ในชวี ติ (Self–Actualization) มีความเปน็ ตวั ของตวั เอง มคี วามคดิ สร้างสรรค์ พฒั นาด้านจิตใจสูง 85คมู่ ือ เรอ่ื ง การเป็นนกั นนั ทนาการ Department of Physical Education

86 คูม่ อื เรื่อง การเปน็ นักนนั ทนาการ Department of Physical Education

การแบง่ ชนดิ ของคน การแบ่งชนิดของคน คาทส์และมานน์ (Katz and Mann) แบ่งคน เปน็ ๓ ประเภท ตามคุณสมบตั ิเดน่ ของแตล่ ะประเภท ดังน้ี ๑. ประเภทปัญญาชน (Conceptual Skills) มคี ุณสมบตั ิเดน่ ด้าน • การวเิ คราะห์ (Analytical) • ความมีเหตผุ ล (Logical) • ความคิดสรา้ งสรรค์ (Creativity) • ความสามารถแก้ไขปัญหา (Problem–Solving) • มสี ายตากวา้ งไกล (Foresight) ๒. ประเภทชนช้ันกลาง (Technical Skills) มีคณุ สมบัตเิ ดน่ ด้าน • ความรู้ (Knowledge) • ความสามารถทางเทคนคิ (Techniques) ๓. ประเภทสามัญชน (Human Skills) มคี ณุ สมบตั ิทั่วไป คอื • ความสามารถสอื่ สมั พนั ธ์ (Interpersonal) • ความสามารถในการส่อื สาร (Communication) • มีสามญั สำ� นกึ (Sensitivity) 87ค่มู อื เร่ือง การเป็นนกั นนั ทนาการ Department of Physical Education

88 คูม่ อื เรื่อง การเปน็ นักนนั ทนาการ Department of Physical Education

บทที่ ๕ เทคนิคการสร้างสัมพันธ์ภาพ โดยใช้เกม เกมสรา้ งสมั พันธภาพ ทำ� ไมเราตอ้ งสรา้ งสมั พนั ธภาพ เพราะมนั เปน็ สงิ่ แรกทตี่ อ้ งสรา้ งใหเ้ กดิ ความสมั พนั ธแ์ ละมิตรภาพจะได้กอ่ เกิดงอกเงยขนึ้ มา เพอื่ ท่ีจะได้ท�ำกิจกรรม ท่จี ดั ขึน้ ใหบ้ รรลุสูเ่ ปา้ หมายได้โดยงา่ ย ถา้ เราไมไ่ ด้รบั ความร่วมมือแล้ว ก็ยาก ท่ีจะบรรลุจุดประสงค์ของกิจกรรมหรอื เกมทจ่ี ัดข้ึน เกมหรือกิจกรรม ท่ีจัดข้ึนเพ่ือสร้างความสัมพันธ์ให้ดีข้ึนน้ัน ธรรมดา คนเรานแี่ หละมกั จะมเี กราะปอ้ งกนั ตวั เองใหม้ คี วามปลอดภยั จากสงิ่ ทอี่ ยใู่ กล้ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุส่ิงของหรือมนุษย์ด้วยกัน ถ้าเราท�ำลายเกราะป้องกันให้ผู้ เข้าร่วมกิจกรรมรู้ถึงความปลอดภัย รู้ถึงมิตรภาพที่เกิดขึ้นว่าจะได้ประโยชน์ อย่างไร ก็น่าจะง่ายกว่าโดยอาศัยขบวนการในการจัดกิจกรรมข้ึนมา อยู่ดีๆ บอกว่าทุกคนจับมือกันเพ่ือท�ำกิจกรรม การจับมือกันก็เร่ิมข้ึนทันทีให้เห็นว่า กิจกรรมสามารถท�ำให้เกิดความใกล้ชิด ความผูกพันในการท�ำกิจกรรมด้วย กันได้ 89คูม่ ือ เรือ่ ง การเปน็ นักนนั ทนาการ Department of Physical Education

บางกลมุ่ รจู้ กั กนั ทำ� งานดว้ ยกนั กจิ กรรมกต็ อ้ งอกี แบบหนง่ึ ซงึ่ ตอ้ งเนน้ ความแนน่ ของกล่มุ ความกระชับของกล่มุ พลังกลุ่มทีท่ ุกคนต้องแสดงออก บางกลมุ่ ทำ� งานดว้ ยกนั อยคู่ นละแผนก อยา่ งนตี้ อ้ งอาศยั ขบวนการจดั กจิ กรรมสร้างสมั พันธ์ให้เกิดขึน้ โดยเร็ว บางกลมุ่ มากนั คนละทศิ คนละทาง ไมร่ จู้ กั กนั มากอ่ น ไมเ่ คยรว่ มงานกนั อยา่ งนกี้ ารจดั กจิ กรรมจะงา่ ยขนึ้ เพราะยงั เหนยี มอายกนั อยู่ ตอ้ งเรม่ิ กจิ กรรม นับ ๑ - ๑๐ กันก่อนเลยไปทีละข้ันตอนทุกคร้ัง ต้องเน้นถึงช่ือเพื่อนสมาชิก ในกลุ่ม การสร้างสัมพันธภาพนั้น เน้นถึงสาระความส�ำคัญและความกระชับ เพ่ือให้เกิดความสัมพันธ์ในกลุ่ม และแต่ละกลุ่มโดยเร็ว ลักษณะของเกมจะ ตอ้ งตอ่ เนอื่ ง กระชบั ฉบั ไว ยง่ิ เปน็ เกมหรอื กจิ กรรมใหท้ ำ� ไดม้ กี ารพดู คยุ ตกลง วางแผนในชว่ งระยะเวลาสนั้ ๆ การไดพ้ ดู คยุ สอื่ สารเทา่ กบั วา่ ไดเ้ ปดิ เผยตวั เอง ออกมาทั้งความคดิ เห็น การแสดงออก การกระทำ� ในดา้ นต่างๆ กอ็ อกมาทาง กิจกรรมทเ่ี ราจัดข้ึนนน่ั เอง ขอยกตวั อยา่ งกจิ กรรมทไี่ ดม้ กี ารพดู คยุ วางแผนฝกึ ซอ้ มและปฏบิ ตั โิ ดย ใชร้ ะยะเวลาสนั้ ๆ เพือ่ ทำ� กิจกรรมต่อไป (ปรีชาคงสขุ . มปป. : ๒๖-๒๗) กิจกรรมตบแผละ เห็นเด็กนักเรียนเล่นกัน ๒ คนบ้าง ๔ คนบ้างลักษณะการตบแผละ มีความหลากหลายกันอย่างมาก เพียงแต่เห็นผู้หญิงเล่น ผู้ชายคงไม่มานั่ง ตบแผละกันหรอก แต่เราเอาเข้ามาเป็นกิจกรรมเพื่อสร้างสัมพันธภาพให้ เล่นเกมจับกลุ่มกันก่อน ๒ คน แล้วให้ถามชื่อกันถ้ารู้จักกันแล้วไม่เป็นไร เร่ิมกิจกรรมโดยให้ท้ัง ๒ คน ฝึกซ้อมตบแผละหาวิธีการในการตบแผละให้ 90 คู่มือ เรือ่ ง การเป็นนกั นนั ทนาการ Department of Physical Education

พร้อมเพรียง จะมีลูกเล่นแบบไหน อยู่ท่ีข้อตกลงท้ัง ๒ คน เม่ือพร้อมแล้วก็ ให้ทุกคนทุกคู่ได้ตบแผละที่ได้นัดหมาย จากน้ันเราก็จะรวมจาก ๒ คน เป็น ๔ คน กลุ่มก็จะใหญ่ข้ึน และให้ใช้วิธีการเดียวกันในการตบแผละจะมีวิธีการ ใดที่ทั้ง ๔ คน จะตบแผละด้วยกนั อย่างมจี งั หวะ กจิ กรรมบวั ตมู ใหท้ กุ คนเอาแขนเกยี่ วกนั ไวพ้ รอ้ มกนั กบั นงั่ ลงโดยใหเ้ ทา้ เหยยี ดออกมา เม่ือส่ังว่าบัวบานทุกคนก็จะต้องนอนหงายลงไปโดยท่ีแขนท่ีเกี่ยวกันไว้ หา้ มหลดุ ออกเมอื่ บอกวา่ บวั ตมู ทกุ คนจะตอ้ งนง่ั ในลกั ษณะเดมิ เปน็ การสรา้ ง สัมพนั ธ์ในลักษณะแขนทีเ่ กยี่ วรั้งกันไว้ กิจกรรมชี้โพรงให้กระรอก โพรง ๕ กระรอก ๓ คน ๕ คนจบั มอื กนั คอื โพรงสว่ นกระรอก ๓ หมายถงึ ผู้ท่ีเป็นกระรอกต้องเข้าไปอยู่ในโพรง ๓ คน และ ๓ คน ที่เข้าไปอยู่ในโพรง จะต้องแนะน�ำชื่อทักทายในกลุ่มรูปแบบโพรงกระรอกจะเปล่ียนไปตามผู้น�ำ สง่ั ก่อนจบเกม (Game over) บทสรุป และความหมายท่ีกระชับ ค�ำพูดที่กินใจ ส่ิงที่ให้ข้อคิด ใหก้ ำ� ลงั ใจจะเปน็ บทสง่ ทา้ ยของการจบเกม เกมทเ่ี ราทำ� จะตอ้ งมบี ทสรปุ ใหก้ บั ผทู้ เี่ ข้ารว่ มกจิ กรรม เลน่ ไปทำ� ไม เลน่ ไปเพือ่ อะไร เล่นแล้วไดอ้ ะไร น�ำไปปรับ ไปใช้ได้อย่างไร 91คู่มือ เร่อื ง การเปน็ นกั นันทนาการ Department of Physical Education

บทสรปุ บางอย่างที่เก่ียวขอ้ งกบั ผูเ้ ขา้ รว่ มกิจกรรม ในกรณีที่ไมค่ ่อยจะกนิ เส้นกัน “ไผ่ยังต่างปล้อง พีน่ อ้ งยังตา่ งใจ แต่พวกเราต้องรกั กนั ” เกี่ยวกับการท�ำงานท่ีไม่ค่อยรับผิดชอบก็จะมีบทสรุปส้ันๆ กินใจ พอควร “เสือเวลาออกล่าเหยื่อไม่ว่าเป็นสัตว์เล็ก สัตว์ใหญ่มันก็ ออกแรงเท่ากนั ” ส่ิงทีเ่ กย่ี วกับความสามัคคใี นหมคู่ ณะเรากม็ กั จะมคี ำ� กลา่ วทว่ี ่า “รวมกันเราอยู่ แยกกันเราตาย แต่ถ้ารวมกันแล้วไม่ท�ำอะไร แยกกันตายเสียดกี ว่า” หรือแม้แต่การท�ำงานเป็นทีม เพ่ือช้ีให้เห็นจากธรรมชาติท่ีเราน�ำมา เปรียบเทียบ “มดแดงพึ่งเรี่ยวแรงตวั เอง ไมเ่ กง่ เด่ียวแตเ่ ก่งทมี ” การอยู่ด้วยกัน การให้เกียรติแก่กันและกันเป็นส่ิงที่ดี เราจะมีค�ำ เปรยี บเปรยท่ีว่า “รวงข้าวท่ีมีคุณภาพยังโค้งคำ� นับพืน้ ดิน สว่ นรวงข้าวท่ไี ร้คณุ ภาพชูชอ่ รับลมแสงแดดไปตามเร่อื ง” ผ้ทู ่ใี หเ้ กียรตกิ บั เรา คอื ผู้ยิ่งใหญท่ ี่แทจ้ ริง ผ้ทู ่ไี มใ่ หเ้ กียรติแถมท�ำให้เราเลก็ ลงไมใ่ ชผ่ ู้ย่งิ ใหญท่ ่ีแทจ้ ริง 92 คมู่ อื เร่ือง การเป็นนักนันทนาการ Department of Physical Education

“หนทางไกลหมน่ื ลี้ ตอ้ งเริม่ ต้นด้วยกา้ วแรก” (คำ� คมของ เลา่ จ้อื ) “ผมเปน็ คนเดนิ ช้า แตผ่ มไมเ่ คยเดินถอยหลัง” (อับราฮมั ลินคอล์น) “ผมยอมไมไ่ ด้ ถ้าไม่ลองพยายาม” (เกียรตศิ ักดิ์ เสนาเมอื ง) “เพยี งเมื่อทา่ นหยุดกา้ ว ท่านก็เริ่มถอยหลังแล้ว” (เทียม โชควฒั นา) 93คมู่ อื เรอื่ ง การเป็นนักนนั ทนาการ Department of Physical Education

ท�ำไมเราถงึ ตอ้ งมีเกมและกจิ กรรม ในโลกใบนี้ถ้าขาดเกมหรือกิจกรรมหรืออย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว เราจะ หนั หน้าไปท�ำอะไรกันบา้ ง คงจะทำ� แตง่ าน งาน และก็งาน เมือ่ เวลาพกั ผ่อน ก็คงนอนอย่างเดียวไมร่ ูว้ ่าจะทำ� อะไรกนั ดี นักวิจัยชาวอังกฤษยังบอกกล่าวว่าถ้าไม่อยากให้สมองฝ่อต้องท�ำ กิจกรรมเข้าสังคม เล่นหมากฮอส หมากรุก ไม่มีประเทศไหนที่ไม่มีเกมให้ เด็กเล่น แม้แต่การเป่ายิงฉุบ แต่ละประเทศก็มีรูปแบบการตัดสินด้วยการ เปา่ ยงิ ฉบุ ซง่ึ การเลน่ กค็ ลา้ ยคลงึ กนั เดก็ ๆเลน่ กระโดดเชอื กอเมรกิ าโดดทสี องเสน้ เราเลน่ ตง้ั เต ญปี่ นุ่ กม็ ี แสดงวา่ เกมกม็ กี ารพฒั นาเคลอื่ นไหวรบั กนั ไปรบั กนั มา มกี ารปรับเปลีย่ นใหเ้ หมาะกับสงั คมนัน้ ๆ รวมถึงกฎกติกาการเล่นดว้ ย ย่ิงยุค IT เกมในคอมพิวเตอร์มีหลากหลายรูปแบบนับตั้งแต่ PACK MAN MARIO จนถึง Ragnarok กม็ ีการพฒั นาไปอีกระบบหนง่ึ ยังอยากชใ้ี ห้ เห็นถึงเกมมีส่วนส�ำคัญกับวิถีชีวิตจนบางครั้งอาจจะเป็นกิจวัตรไปเสียแล้ว วนั ไหนไมไ่ ด้เลน่ หรือถูกห้ามกพ็ าลจะตายใหไ้ ดเ้ ลย 94 คมู่ อื เรอ่ื ง การเป็นนักนนั ทนาการ Department of Physical Education