yiu.ac.thวลั ลอฮุลมะวัฟฟิก เพราะทุกคร้ังท่ีมีการละหมาดฟัรฎูใดๆ ละหมาดฟัรฎูนั้นก็ จะไมส่ ามารถท่ีจะถกู ละหมาดซํ้าอกี คร้งั ในวนั และเวลาดังกลา่ วช่วั ชีวิต หุกม่ การชดละหมาดท่ีไม่สามารถปฏบิ ตั ิ บางคร้ัง ผู้ป่วยอาจสลบหรือไม่รู้สึกตัว ทําให้เขาไม่สามารถละหมาดได้ ดังน้ันเม่ือเขารู้สึกตัวขณะที่เวลาละหมาดยังมีอยู่ เขาจําเป็นต้องทําละหมาดน้ัน ทนั ที แตถ่ ้าเขารู้สึกตวั หลังจากล่วงเวลาไปแล้ว เขาก็ไม่จําเป็นต้องชด (เกาะฎออฺ) ละหมาดท่ีได้ล่วงเวลาไปขณะที่เขาไม่รู้สึกตัว ถึงแม้ว่าจะขาดละหมาดไปก่ีวันก็ ตาม ซึ่งหุก่มของการละหมาดในกรณีน้ีเหมือนกับหุก่มการละหมาดของคน วิกลจริต และสตรีมปี ระจําเดอื น นค่ี อื คาํ ชี้ขาดตามทศั นะของเศาะหาบะฮฺ ตาบิอีน ส่วนใหญ่ และเปน็ ทัศนะของมซั ฮับมาลิกีและชาฟิอยี 1์ 23 หุกม่ ละหมาดของผตู้ ายทีย่ งั ไมท่ ันไดช้ ด เม่ือมุสลิมหรือมุสลิมะฮฺคนใดได้เสียชีวิตลงในสภาพที่ยังมีละหมาด ฟัรฺฎูท่ียังไม่ทันได้ปฏิบัติหรือชด ไม่ว่าจะเป็นละหมาดท่ีขาดไปก่อนการป่วย หรอื ขณะกาํ ลงั ปว่ ย และไม่ว่าการขาดละหมาดน้ันเกิดข้ึนขณะที่มีสติหรือขาด สติไปแล้วก็ตาม ถือว่าไม่จําเป็นต้องให้ผู้ใดละหมาดชดให้ และไม่จําเป็นต้อง จา่ ยคา่ ฟิดยะฮใฺ ดๆทัง้ ส้นิ แต่จงขอดุอาให้แก่เขาเพือ่ ใหอ้ ัลลอฮฺทรงอภัยโทษต่อ บาปทเ่ี ขาได้กระทาํ ไว้ –เฆาะฟะร็อลลอฮุละฮฺ- น่ีคือทัศนะที่เป็นท่ีรู้จักกันตาม ทัศนะของอิหมา่ มชาฟอิ ยี แ์ ละมัซฮับของทา่ น124 วลั ลอฮฺ อะลมั 61 www.islamhouse.com
Search