ศาสนทูตองค์สุดท้าย

ค้นพบความงดงามของสิ่งดงั กล่าวใน 7 นาที ! ส่วนที่ 7 จาก 7 เขยี นโดย: ดร. นาญี อบิ รอฮมิ | แปลโดย: อลั อนั ดะลสุ กรุ๊ป | ออกแบบโดย : ดร. ว1าซีม ริยาซ

2

ศาสนทูตองค์สุดท้าย มุฮมั มดั (ขอใหค้ วามเมตตาและสนั ติสุขของอลั ลอฮฺจงมีแด่ท่าน) บุตรชายของอบั ดุลลอฮฺ เกิดท่ีนครมกั กะฮฺ ประมาณปี ค.ศ. 570 ท่านเป็นที่รู้จกั ในหมู่ผคู้ นของท่านในนาม อลั อะมีน (คนที่น่าเช่ือถือ) เมื่อมุฮมั มดั อายไุ ดส้ ่ีสิบ ปี ทูตสวรรคก์ าเบรียลมาหาท่านพร้อมกบั ววิ รณ์ ในตอนแรก มุฮมั มดั ไดร้ ับคำ� สง่ั ใหเ้ ชิญชวนเฉพาะครอบครัวใกล้ ชิดของท่านเท่าน้นั รวมถึงภรรยาของท่านคือพระนางคอดีญะฮฺ เขา้ สู่ศาสนาอิสลาม ในเวลาต่อมา ววิ รณ์ดงั กล่าว ถูกเปิ ดเผยแก่มุฮมั มดั วา่ ท่านจะตอ้ งนำ� สารของอลั ลอฮฺไปยงั มวลมนุษยชาติท้งั ปวง หลงั จากน้นั ตลอดชีวติ ของท่าน ท่านไดน้ ำ� สารน้ีไปยงั ผคู้ นอื่น ๆ เป็นตวั อยา่ งที่ดีเลิศและเป็นแบบอยา่ งที่สมบูรณ์แบบสำ� หรับมนุษยชาติ ในปี ค.ศ. 632 ศาสดามุฮมั มดั ไดจ้ ากโลกน้ีไปเม่ือมีอายไุ ดห้ กสิบสามปี ศาสดามุฮมั มดั (ขอใหค้ วามเมตตาและสนั ติสุขของอลั ลอฮฺจงมีแด่ท่าน) ไดร้ ับการขนานนามวา่ “ผ้ปู ิ ดผนึกของ ศาสดาทงั้ หลาย” ในฐานะศาสดาองคส์ ุดทา้ ย ท่านถูกส่งมาเพ่ือยนื ยนั ความจริงท้งั หมดท่ีไดร้ ับการเปิ ดเผยก่อน หนา้ ท่ีท่านจะมา รวมถึงพระวรสารด้งั เดิมของพระเยซู (ซ่ึงแตกต่างจากพระวรสารในปัจจุบนั ) อลั กรุ อานอนั ประเสริฐไดก้ ล่าวยนื ยนั วา่ “{แต่เป็ นรอซูลของอัลลอฮแฺ ละคนสุดท้ายแห่งบรรดานบี}” [อัลอะหฺซาบ 33:40] เพอ่ื ยนื ยนั ความเชื่อมโยงระหวา่ งพระเยซูและตวั ท่านเอง ศาสดามุฮมั มดั ไดใ้ หส้ ญั ญาวา่ “บุคคลใดทศี่ รัทธาในพระ เยซูแล้วศรัทธาในตัวฉัน บุคคลผ้นู ้ันจะได้รับผลบุญสองเท่า” ท่านยงั ไดก้ ล่าวอีกวา่ “ฉันคอื ผ้ทู ไ่ี กล้ชิดทส่ี ุดกบั พระเยซู บุตรของแมร่ีจากบรรดาผ้คู นทง้ั หลาย เนื่องจากไม่มี ศาสดาผู้ใดระหว่างเขากับฉัน” คำ� กล่าวของท่านศาสดาเหล่าน้ีแสดงให้เราเห็นว่ามุฮมั มดั ให้เกียรติพระเยซู (ขอให้ความเมตตาและสันติสุขขอ งอลั ลอฮฺจงมีแด่ท่านท้งั สอง) หลงั จากน้ี ผมจะพดู ถึงคำ� พยากรณ์ที่พระเยซูไดต้ รัสไวใ้ นพระคมั ภีร์ไบเบิล เกี่ยวกบั การมาของมุฮมั มดั 1

2

บุคลกิ ภาพทโ่ี ดดเด่นของศาสดามุฮัมมดั มุฮมั มดั (ขอใหค้ วามเมตตาและสนั ติสุขของอลั ลอฮฺจงมีแด่ท่าน ) ต้งั แต่ช่วงวยั เดก็ และวยั หนุ่มของท่าน ตลอดช่วง เวลาหลายปี ของการเป็นศาสดาจนถึงวนั ท่ีท่านไดเ้ สียชีวติ ลง - ไดร้ ับการยอมรับจากผทู้ ่ีไม่อคติตลอดระยะเวลาใน ประวตั ิศาสตร์วา่ เป็นบุคคลท่ีมีบุคลิกที่พิเศษและสูงส่งพร้อมดว้ ยอุปนิสยั และศีลธรรมอนั เป็นเอกลกั ษณ์ท่ีโดดเด่น ท่านมีความเมตตา ซื่อสตั ย์ จริงใจ ใจดีและถ่อมตน ทุกรายละเอียดไม่เพียงแต่คำ� พดู ในท่ีสาธารณะของท่านเท่าน้นั แต่รวมถึงชีวิตส่วนตวั ของท่านไดร้ ับการบนั ทึกไวต้ ามความจริงและเกบ็ รักษาไวอ้ ยา่ งดีจนถึงปัจจุบนั ท่านเป็นศาสดา ศาสนทูต ครูสอนศาสนา นกั ปฏิรูปสงั คม ผนู้ ำ� ทางศีลธรรม ผนู้ ำ� รัฐบุรุษ เพ่อื นที่ซ่ือสตั ย์ สหายที่ ดีเยย่ี ม สามีผอู้ ุทิศตน และพอ่ ที่เปี่ ยมดว้ ยความรัก ในหนงั สือ Muhammad: The Prophet of Islam (มฮุ ัมมดั : ศาสดาแห่ง ศาสนาอิสลาม) เรียกท่านวา่ \"แบบอย่างทสี่ มบูรณ์แบบส�ำหรับมนุษย์\" โดยต้งั ขอ้ สงั เกตวา่ : บุคลกิ ภาพของมุฮัมมดั มนั เป็ นเร่ืองยากทสี่ ุดทจ่ี ะรู้ความจริงท้งั หมด ผมสามารถได้มาเพยี งน้อยนิดเท่าน้ัน ช่าง เป็ นฉากทงี่ ดงามต่อเนื่องน่าต่ืนตานัก! นั่นคือมมี ุฮัมมดั ผู้เป็ นศาสดา มมี ุฮัมมดั ผู้เป็ นนักรบ มุฮัมมดั ผู้เป็ นนักธุรกจิ มุฮัมมดั ผู้เป็ นรัฐบุรุษ มุฮัมมดั ผู้เป็ นนักพูดทม่ี วี าทศิลป์ มุฮัมมดั ผู้เป็ นนักปฏริ ูป มุฮัม มดั ผู้เป็ นทพี่ งึ่ พงิ ของบรรดา เหล่าเดก็ กำ� พร้า มุฮัมมดั ผู้เป็ นผู้พทิ กั ษ์บรรดาทาส มุฮัมมดั ผู้เป็ นผู้ปลดปล่อยบรรดาสตรีให้เป็ นอสิ ระ มุฮัมมดั ผู้ เป็ นผู้พพิ ากษา มุฮัมมดั ผู้เป็ นนักบุญ ในบทบาทท้งั หมดอนั งดงามเหล่านี้ ในการดำ� เนินกจิ กรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ เหล่านี้ ท่านเปรียบเสมือนวรี บุรุษผู้หนึ่ง 3

4

บุคลกิ ภาพทโี่ ดดเด่นของศาสดามุฮัมมดั ในทางประวตั ิศาสตร์ ช่วงเวลาส้นั ๆ ของการเป็นศาสดาประมาณยส่ี ิบสามปี ของท่านน้นั ศาสดามุฮมั มดั (ขอให้ ความเมตตาและสนั ติสุขของอลั ลอฮฺจงมีแด่ท่าน ) ไดเ้ ปล่ียนคาบสมุทรอาหรับท้งั หมด... ◆◆ จากลทั ธินอกศาสนาและการบูชารูปป้ันไปสู่การจำ� นนต่อพระเจ้าองค์เดยี ว... ◆◆ จากการทะเลาะววิ าทและสงครามระหว่างเผ่าไปสู่ความเป็ นน�ำ้ หนึ่งใจเดยี วกนั และความร่วมมือ กนั ... ◆◆ จากความมนึ เมาและความเสเพลไปสู่เป็ นความมสี ตแิ ละความเคร่งครัดในการปฎบิ ัตศิ าสนกจิ ... ◆◆ จากความไร้ระเบยี บและอนาธิปไตยไปสู่การใช้ชีวติ ทมี่ รี ะเบยี บวนิ ัย... ◆◆ จากการล่มสลายทางศีลธรรมไปสู่มาตรฐานสูงสุดแห่งความเป็ นเลศิ ทางศีลธรรม ประวตั ิศาสตร์ของมนุษยชาติไม่เคยรับรู้การเปลี่ยนแปลงทางสงั คมที่สมบูรณ์แบบเช่นน้นั มาก่อนหรือต้งั แต่น้นั มา และลองจินตนาการดูสิวา่ ... ส่ิงมหศั จรรยท์ ี่ไม่น่าเช่ือเหล่าน้ีเกิดข้ึนไดใ้ นช่วงเวลาเพียงสองทศวรรษเท่าน้นั 5

6

ศาสดามุฮมั มดั ในพระคมั ภีร์ต่าง ๆ ของโลก แมว้ า่ จะอยนู่ อกขอบเขตของหนงั สือเล่มเลก็ น้ีท่ีจะอธิบายรายละเอียดคำ� พยากรณ์ท้งั หมดในพระคมั ภีร์ทางศาสนา อ่ืน ๆ ท่ีไดพ้ ยากรณ์ถึงการมาของศาสดามุฮมั มดั (ขอใหค้ วามเมตตาและสนั ติสุขของอลั ลอฮฺจงมีแด่ท่าน ) ผมควร กล่าว ณ ท่ีน้ีวา่ นกั วชิ าการมุสลิมไดบ้ นั ทึกคำ� พยากรณ์เหล่าน้นั ไวจ้ ากท่ีปรากฎในพระคมั ภีร์ของชาวคริสเตียน ยวิ ฮินดูและพทุ ธ แทจ้ ริงแลว้ การอา้ งถึงมุฮมั มดั ในพระคมั ภีร์เล่มอ่ืน ๆ เป็นหวั ขอ้ ท่ีน่าสนใจมากซ่ึงไดร้ ับการกล่าวถึงอยา่ งละเอียด ในหนงั สือ บทความและเวบ็ ไซตต์ ่าง ๆ มากมาย ในหนงั สืออนั ยอดเยย่ี ม Muhammad in the Bible (มฮุ ัมมดั ในพระคัมภรี ์ไบเบิล) ศาสตราจารยอ์ บั ดุล-อาฮดั ดาวดู (เดิมคือนกั บวชเดวดิ เบนจามิน) บนั ทึกไวว้ า่ พระคมั ภรี ์ไบเบิลพยากรณ์ถงึ การมาของท่านศาสดาซึ่งเป็ นผู้ท่ี 'เหมือน' โมเสส: เรามาอ่านพระวจนะต่อไปนีใ้ นหนังสือพระราชบัญญตั ิ บทที่ 18 ข้อ 18: และจะใส่ถ้อยคำ� “เราจะให้บังเกดิ ผ้พู ยากรณ์เหมอื นอย่างเจ้าส�ำหรับเขาทงั้ หลายในท่ามกลางพน่ี ้องของพวกเขา ของเราในปากของท่าน” หากคำ� พูดเหล่านีไ้ ม่ได้ใช้กบั มุฮัมมดั ได้ ดงั น้ันคำ� พูดเหล่านีก้ ย็ งั คงไม่ได้รับการพสิ ูจน์ พระเยซูเองไม่เคยอ้างว่าตน เป็ นศาสดาทไ่ี ด้มกี ารพาดพงิ ถงึ แต่อย่างใด... ตามความเช่ือของชาวคริสเตยี นน้ัน พระเยซูจะปรากฏตวั ในฐานะผู้ พพิ ากษาแต่ไม่ใช่ผู้มอบพระราชบญั ญตั ิ แต่ผู้ทถี่ ูกสัญญาไว้จะต้องมาพร้อมกบั “พระราชบัญญตั ิอันเร่าร้อน” ใน “พระหัตถ์ขวาของพระองค์” (พระราชบัญญตั ิ 33:2) 7

8

นกั วชิ าการมุสลิมยนื ยนั วา่ คำ� พยากรณ์น้ีไม่สามารถใชก้ บั ใครไดอ้ ีกแลว้ นอกเหนือจากมุฮมั มดั (ขอใหค้ วามเมตตา และสนั ติสุขของอลั ลอฮฺจงมีแด่ท่าน) เพราะโมเสสและมุฮมั มดั น้นั เหมือนกนั ในหลาย ๆ ดา้ น ชื่อของพวกเขาข้ึน ตน้ ดว้ ยตวั อกั ษรตวั เดียวกนั พวกเขาเหมือนกนั ในสภาพปกติในดา้ นการเกิด การแต่งงาน ภารกิจและการเสียชีวติ ตามปกติ ท้งั สองเป็นศาสดา ผปู้ กครอง ผนู้ ำ� และรัฐบุรุษ; และท้งั สองนำ� มาซ่ึง \"พระราชบัญญตั ิอันเร่าร้อน” ใน ทางกลบั กนั พระเยซูไม่เหมือนโมเสสในดา้ นการเกิด ภารกิจและจุดจบ พระเยซูไม่ไดแ้ ต่งงานและไม่ไดป้ กครอง ประชาชนของพระองคห์ รือต่อสูใ้ นสงครามเหมือนที่โมเสสทำ� เป็นเร่ืองที่ควรค่าแก่การกล่าวไวว้ า่ “ผ้พู ยากรณ์เหมือนอย่างเจ้าส�ำหรับเขาทง้ั หลายในท่ามกลางพนี่ ้องของพวกเขา” หมายความวา่ ศาสดาน้นั มาจากบรรดาพ่ีนอ้ งของชาวอิสราเอล (นนั่ กค็ ือชาวอิชมาเอลซ่ึงเป็นชาวอาหรับ) ไม่ไดม้ า จากชาวอิสราเอลเอง ในพนั ธสญั ญาใหม่ฉบบั ที่มีอยนู่ ้นั พระเยซูทรงพยากรณ์ถึงการมาของผปู้ ลอบประโลมใจอีกท่านหน่ึง โดย ประกาศวา่ “และพระองค์จะประทานผ้ปู ลอบประโลมใจอีกผ้หู น่ึง” (ยอห์น 14:16) ยงั มีการอา้ งถึงพระเยซูอีกวา่ : “แต่อย่างไรกต็ ามเราบอกความจริงแก่ท่านทง้ั หลาย เป็ นประโยชน์ส�ำหรับท่านทง้ั หลายทเี่ ราจะจากไป เพราะถ้า เราไม่จากไป ผ้ปู ลอบประโลมใจกจ็ ะไม่เสดจ็ มายงั ท่านทง้ั หลาย แต่ถ้าเราจากไปแล้ว เรากจ็ ะส่งพระองค์มายงั ท่าน ทง้ั หลาย และเมอื่ พระองค์น้ันเสดจ็ มาแล้ว พระองค์จะทรงต�ำหนิโลกเรื่องบาป และเรื่องความชอบธรรม และเรื่อง การพพิ ากษา... เรายงั มอี ีกหลายส่ิงทจ่ี ะกล่าวแก่ท่านทง้ั หลาย แต่เดย๋ี วนี้ท่านทงั้ หลายยงั ไม่สามารถรับส่ิงเหล่าน้ัน ได้ แต่เมือ่ พระองค์ พระวญิ ญาณแห่งความจริง เสดจ็ มาแล้ว พระองค์จะทรงน�ำท่านทง้ั หลายไปสู่ความจริงทง้ั มวล เพราะพระองค์จะไม่ตรัสโดยพระองค์เอง แต่สิ่งใดกต็ ามทพี่ ระองค์จะทรงได้ยนิ พระองค์จะตรัสสิ่งนั้น และ พระองค์จะทรงแสดงให้ท่านทงั้ หลายทราบถงึ สิ่งเหล่านั้นทจ่ี ะมา พระองค์จะทรงให้เราได้รับสง่าราศี...” (ยอห์น 16 : 7-14) 9

10

แล้วใครคือ 'ผู้ปลอบประโลมใจ' อกี คนทจ่ี ะมาหลงั จากพระเยซู? นกั วชิ าการมุสลิมระบุวา่ มุฮมั มดั (ขอใหค้ วามเมตตาและสนั ติสุขของอลั ลอฮฺจงมีแด่ท่าน) เท่าน้นั ท่ีตรง กบั คำ� พยากรณ์ของพระเยซูไดอ้ ยา่ งสมบูรณ์ดว้ ยเหตุผลหลายประการ ในท่ีน้ีขอยกตวั อยา่ งบางประการ: • เป็นไปไม่ไดท้ ่ีการอา้ งถึง “ผ้ปู ลอบประโลมใจอีกผ้หู น่ึง” ของพระเยซูน้นั จะหมายถึงพระ วญิ ญาณบริสุทธ์ิ (ชาวคริสเตียนหลายคนเช่ือในตรีเอกานุภาพท่ีประกอบไปดว้ ยพระบิดา พระ บุตร และพระวญิ ญาณบริสุทธ์ิ) ตามพระคมั ภีร์ไบเบิล พระวญิ ญาณบริสุทธ์ิมีอยทู่ ่ีนน่ั ก่อนและ ระหว่างภารกิจของพระเยซูขณะที่ผูป้ ลอบประโลมใจน้ันจะมาในภายหลงั • มุฮมั มดั มาเพ่อื ตกั เตือนผคู้ นไม่ใหก้ ระทำ� บาปและสงั่ ใหพ้ วกเขาเป็นคนชอบธรรม ท่านเป็นผู้ ปกครองและผพู้ พิ ากษาโดยมี “พระราชบญั ญตั ิ” อยใู่ น “พระหัตถ์ขวาของพระองค์” • มุฮมั มดั นำ� ผคู้ นไปสู่สจั ธรรมที่แทจ้ ริงเก่ียวกบั พระเจา้ ที่เท่ียงแทอ้ งคเ์ ดียว จุดมุ่งหมายของชีวติ น้ี โลกหนา้ และชีวติ นิรันดร์และสจั ธรรมอื่น ๆ อีกมากมาย • มุฮมั มดั แจง้ ใหเ้ ราทราบถึงสิ่งต่าง ๆ ท่ีจะมาถึงผา่ นคำ� พยากรณ์และความอศั จรรยม์ ากมายท่ีถูก ประทานให้แก่ท่านโดยผูท้ ี่ทรงประทานท่านลงมานน่ั คืออลั ลอฮฺ 11

12

มุฮมั มดั (ขอใหค้ วามเมตตาและสนั ติสุขของอลั ลอฮฺจงมีแด่ท่าน) เป็นศาสดาท่ีไม่ “ตรัสโดย พระองค์เอง แต่ส่ิงใดกต็ ามทพ่ี ระองค์จะทรงได้ยนิ พระองค์จะตรัสสิ่งนั้น” (ยอห์น 16:13) ท่านเป็นผทู้ ่ีพระเจา้ ทรงเปิ ดเผยพระวจนะของพระองคน์ น่ั คืออลั กรุ อานอนั ประเสริฐซ่ึงท่าน อ่านดว้ ยพระนามของอลั ลอฮฺ พระคมั ภีร์ไบเบิลพยากรณ์วา่ “ท่านจะกล่าวในนามของเรา...” (พระราชบัญญตั ิ 18:19) ในความเป็นจริงแลว้ บทต่าง ๆ ในอลั กรุ อาน อนั ประเสริฐจะนำ� หนา้ ดว้ ยวลีท่ีวา่ “ดว้ ยพระนามของอลั ลอฮฺ” อลั กรุ อานอนั ประเสริฐกล่าววา่ : {ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผ้ทู รงกรุณาปราณี ผ้ทู รงเมตตาเสมอ ขอสาบานด้วยดวงดาวเม่ือ มันคล้อยตกลงมา สหาย (มุฮัมมดั ) ของพวกเจ้ามไิ ด้หลงผดิ หรือเชื่อมนั ในทางทผ่ี ดิ และเขา มิได้พูดตามอารมณ์ สิ่ง (ทเ่ี ขาพูด) น้ัน มใิ ช่อื่นใดนอกจากเป็ นวะฮียทฺ ถี่ ูกประทานลงมา} [อันนัจมฺ 53: 1-4] นอกจากน้ีแลว้ มุฮมั มดั และอลั กรุ อานอนั ประเสริฐยงั ไดย้ กยอ่ งพระเยซูอีกดว้ ย ชาวมุสลิม นิยมต้งั ช่ือบุตรชายของพวกเขาวา่ อีซา (ชื่อภาษาอาหรับสำ� หรับพระเยซู) เพือ่ เป็นเกียรติแก่ ท่าน นอกจากน้ี เมื่อชาวยวิ ถามยอห์นผใู้ หบ้ พั ติศมาวา่ เขาเป็นใคร เขาปฏิเสธวา่ เขาไม่ไดเ้ ป็นพระ คริสตห์ รือเอลียาห์หรือ “ศาสดาพยากรณ์ผ้นู ้ัน” “ท่านคือผใู้ ดและท่านไดย้ อมรับ และมิไดป้ ฏิเสธ แต่ไดย้ อมรับวา่ “ข้าพเจ้าไม่ได้เป็ นพระ คริสต์” และเขาทง้ั หลายได้ถามท่านว่า “แล้วอะไรล่ะ ท่านเป็ นเอลยี าห์หรือ” และท่านกล่าวว่า “ข้าพเจ้ามไิ ด้เป็ น” “ท่านเป็ นศาสดาพยากรณ์ผ้นู ั้นหรือ” และท่านตอบว่า “ไม่ได้เป็ น” (ยอห์น 1: 19-21) 13

14

เป็นอีกคร้ังท่ีนกั วชิ าการมุสลิมยนื ยนั วา่ มุฮมั มดั (ขอใหค้ วามเมตตาและสนั ติสุขของอลั ลอฮฺจง มีแด่ท่าน) คือบุคคลที่ถูกอา้ งถึงในขอ้ ความน้ีในพระคมั ภีร์ไบเบิล: “ท่านเป็ นศาสดาพยากรณ์ผ้นู ้ันหรือ” และท่านตอบว่า “ไม่ได้เป็ น” แลว้ “ศาสดาพยากรณ์ผู้ น้ัน” คือใคร? เห็นไดช้ ดั วา่ ขอ้ ความเบ้ืองตน้ ไม่สามารถใชไ้ ดก้ บั ยอห์นผใู้ หบ้ พั ติศมาหรือกบั พระเยซูคริสต์ ตามท่ียอห์นเป็ นพยานเอง ณ จุดนี้ ผู้แสวงหาสัจธรรมทฉี่ ลาด ซื่อสัตย์และจริงใจควรถามอย่างเป็ นกลางว่า: แล้วใครคอื ศาสดาผ้นู ั้น? ใครคือศาสดาทแี่ ท้จริงทมี่ าหลงั จากยอห์นและพระเยซูเพ่ือเผยแพร่สารด้งั เดมิ ของพวกเขา เกย่ี วกบั พระเจ้าทเี่ ทยี่ งแท้องค์เดยี ว? เขาคือมุฮัมมดั ! 15

16

ข้อความทตี่ ดั ตอนมาจากคำ� กล่าวของบุคคลทม่ี ชี ื่อเสียงเกยี่ วกบั ศาสดามุฮัมมดั มีการเขียนวรรณกรรมมากมายเกี่ยวกบั ศาสดามุฮมั มดั (ขอใหค้ วามเมตตาและสนั ติสุขของอลั ลอฮฺจงมี แด่ท่าน) ดา้ นล่างน้ีเป็นเพียงขอ้ ความบางส่วนจากบุคคลสำ� คญั ท่ีเป็นท่ีรู้จกั ลามาร์ตีน (นกั ประวตั ิศาสตร์ช่ือดงั ) ถามวา่ : หากวตั ถุประสงค์ทย่ี งิ่ ใหญ่ เครื่องมือเพยี งน้อยนิดและผลลพั ธ์ทเ่ี หลือเชื่อน้ันเป็ นเกณฑ์สามประการของ ความเป็ นอจั ฉริยะของมนุษย์แล้ว คุณจะกล้าเอาใครทย่ี อดเยยี่ มจากประวตั ศิ าสตร์สมยั ใหม่มาเปรียบเทยี บ กบั มุฮัมมัดได้? ลามาร์ตีนสรุปไวว้ า่ : เมื่อพจิ ารณามาตรฐานความยง่ิ ใหญ่ของมนุษย์ทส่ี ามารถวดั ได้ท้งั หมดแล้ว เราอาจถามได้ว่า มมี นุษย์ผู้ ใดทยี่ งิ่ ใหญ่กว่าเขาบ้างไหม? (Histoire de la Turquie ปารีส 1854 ตอนที่ II หนา้ 276-277) ไมเคิล เอช็ ฮาร์ท ระบุไวใ้ นหนงั สือ The 100: A Ranking of the Most Influential Persons in History (ลำ� ดบั บคุ คลท่ีมอี ิทธิพลท่ีสุด 100 คนแรกในประวตั ิศาสตร์) ของเขาวา่ : การทผ่ี มเลือกจดั มุฮัมมดั ไว้ที่ อนั ดบั แรกของบุคคลทม่ี อี ทิ ธิพลมากทสี่ ุดในโลก อาจจะทำ� ให้ผู้อ่านบางคนแปลกใจและอาจจะถูกสงสัย จากคนอ่ืน ๆ แต่เขาเป็ นคนเดยี วในประวตั ศิ าสตร์ทป่ี ระสบความส�ำเร็จสูงสุดท้งั สองด้านน่ันคือทาง ศาสนาและทางโลก ฮาร์ทสรุปวา่ : เป็ นเพราะการผสมผสานทไ่ี ม่มใี ครเสมอเหมือนของอทิ ธิพลทางโลกและทางศาสนาทำ� ให้ผมรู้สึกว่า มุฮัมมัดควรค่าแก่การยอมรับว่าเป็ นบุคคลส�ำคัญผู้เดียวที่มีอิทธิพลมากท่ีสุดในประวัติศาสตร์ของ มนุษย์ 17

เซอร์ จอร์จ เบอร์นาร์ด ชอวเ์ ขียนไวใ้ นหนงั สือ The Genuine Islam (อิสลามที่เที่ยงแท้) ของเขาวา่ : ผมเช่ือว่าถ้าหากบุคคลอย่างท่านจะต้องรับบทบาทของการเป็ นผู้น�ำในยุคสมยั ใหม่นี้ ท่านเองกจ็ ะประสบ ความส�ำเร็จในการแก้ปัญหาในอนั ที่จะน�ำความสงบสุขและความสุขท่ีเป็ นท่ีปรารถนาอย่างยงิ่ มาสู่โลกใบ นีอ้ ย่างแน่นอน ชอวก์ ล่าวเพิ่มไวว้ า่ : ท่านเป็ นคนทนี่ ่าทงึ่ ทสี่ ุดเท่าทเี่ คยมมี าบนโลกใบนี้ ท่านได้เผยแพร่ศาสนา ก่อต้งั รัฐ สร้างชาติ กำ� หนด หลกั คุณธรรม ริเร่ิมการปฏริ ูปสังคมและการเมืองต่าง ๆ มากมาย จดั ต้งั สังคมทมี่ ปี ระสิทธิภาพและมี พลังเพื่อปฏิบัติและเป็ นตัวแทนของค�ำสอนของท่านและปฏิวัติโลกของความคิดและพฤติกรรมของ มนุษย์โดยสิ้นเชิง ส�ำหรับทุกยุคทุกสมยั ทจ่ี ะมาถงึ มหาตมะคานธีอธิบายไวว้ า่ : ผมเช่ือเหลือเกนิ ว่าดาบไม่ใช่ส่ิงทท่ี ำ� ให้อสิ ลามแผ่ขยายในรูปแบบของการใช้ชีวติ ในอดตี แต่อย่างใด แต่ ทว่าเพราะความเรียบง่ายทเ่ี ข้มงวด ความถ่อมตนของท่านศาสดา ความรอบคอบในการให้คำ� มนั่ สัญญา ของท่าน การใส่ใจอนั แรงกล้าของท่านต่อเพ่ือนและผู้ตดิ ตามของท่าน ความทรหดของท่าน ความ กล้าหาญของท่าน ความศรัทธาอย่างแน่วแน่ของท่านในพระเจ้าและในการปฏบิ ตั ภิ ารกจิ ของท่านเอง (หนังสือพมิ พ์ Young India) 18

โวลฟ์ กงั เกอเธ่ (กวชี าวยโุ รปท่ีมีชื่อเสียง) เช่ือวา่ : ท่านเป็ นศาสดาและไม่ใช่กวแี ต่อย่างใด ดงั น้ันจงึ ควรจะมองว่าอลั กรุ อานของท่านเป็ นกฎหมายแห่งพระเจ้า และไม่ใช่หนังสือท่ีมนุษย์แต่งขนึ้ มาเองเพื่อการศึกษาหรือความบันเทงิ สารานุกรมบริแทนนิกา (ฉบับท่ี 12) ได้อ้างถึง: มีปรากฎรายละเอียดในแหล่งขอ้ มูลในยคุ สมยั แรก ๆ จำ� นวนมากมายท่ีแสดงใหเ้ ห็นวา่ ท่านเป็นคน ซื่อสตั ยแ์ ละตรงไปตรงมาท่ีไดร้ ับความเคารพและความจงรักภกั ดีจากคนอื่น ๆ ที่เป็นคนซ่ือสตั ยแ์ ละตรง ไปตรงมาเหมือนกนั ... มุฮัมมดั เป็ นผู้ทป่ี ระสบความส�ำเร็จมากทส่ี ุดในบรรดาศาสดาและบุคคลส�ำคญั ทาง ศาสนาท้ังหมด โทมสั คาร์ไลล์ ไดก้ ล่าวไวใ้ น Heroes and Hero Worship (วรี บรุ ุษและการบูชาวรี บรุ ุษ): ชายคนเดียวสามารถเช่ือมชนเผา่ ท่ีต่อสู้กนั และชาวเบดูอินเร่ร่อนใหก้ ลายเป็ นประเทศที่มีอำ� นาจและมี อารยธรรมมากท่ีสุดภายในเวลาไม่ถึงสองทศวรรษไดอ้ ยา่ งไรกนั ...คำ� โกหก (การใส่ร้ายแบบตะวนั ตก) ซ่ึงไดร้ ุมเร้าผชู้ ายคนน้ี (มุฮมั มดั ) เป็นเรื่องที่น่าอบั อายต่อตวั เราเองเท่าน้นั 19

20

จอห์น เอสโปซิโต (ศาสตราจารยด์ า้ นศาสนาและกิจการระหวา่ งประเทศ ผอู้ ำ� นวยการศูนยก์ าร ศึกษานานาชาติ ณ วทิ ยาลยั โฮลีครอส และผกู้ ่อต้งั ศูนย์ PABT เพ่ือความเขา้ ใจระหวา่ งชาวมุสลิม- คริสเตียน มหาวทิ ยาลยั จอร์จทาวน์ สหรัฐอเมริกา) ไดแ้ สดงใหเ้ ห็นในหนงั สือ Islam The Straight Path (อิสลาม:เสน้ ทางท่ีเท่ียงตรง) ของเขาวา่ : มุฮัมมดั เป็ นหน่ึงในบุคคลส�ำคญั ทางศาสนา ศาสดา ผู้ก่อต้งั ศาสนา ซึ่งมลี กั ษณะและบุคลกิ ภาพทโี่ ดด เด่นเป็ นแรงบนั ดาลใจให้เกดิ ความมน่ั ใจและความมุ่งมน่ั ทไี่ ม่ธรรมดา ความส�ำเร็จอนั ยอดเยยี่ มของ ท่านในการดึงดูดผู้ติดตามและสร้างรัฐชุมชนที่ครอบคลุมท่ัวท้ังอาระเบียน้ันไม่เพยี งแต่มาจากข้อเท็จ จริงที่ว่าท่านเป็ นนักยุทธศาสตร์ทางการทหารท่ีฉลาดเฉลยี วเพยี งอย่างเดียวแต่ยังรวมถึงข้อเท็จจริงท่ี ว่าท่านเป็ นคนทไ่ี ม่ธรรมดา...สาวกของมุฮัมมดั พบว่าท่านเป็ นคนมคี ุณธรรม น่าเช่ือถือ เคร่งศาสนา ซื่อสัตย์และเห็นอกเห็นใจ เขาไดช้ ้ีแจงวา่ “มุฮัมมดั ไม่ใช่ผู้ก่อต้งั ศาสนาอสิ ลามแต่อย่างใด ท่านไม่ได้ก่อต้งั ศาสนาใหม่” ศาสตราจารยเ์ อสโปซิโตไดเ้ นน้ ย้ำ� ขอ้ เทจ็ จริงน้ีวา่ : อสิ ลามน�ำมาซึ่งการปฏริ ูป เป็ นการเรียกร้องให้มกี ารยอมจำ� นนอย่างเบ็ดเสร็จอกี คร้ัง (อสิ ลาม) ต่อ อัลลอฮฺและการปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระองค์ดังที่ทรงเปิ ดเผยในรูปแบบที่สมบูรณ์เป็ นคร้ัง สุดท้ายแก่มุฮัมมดั ผู้ซ่ึงเป็ นท่านสุดท้ายหรือ 'ตราประทบั ' ของบรรดาศาสดา ดงั น้ัน ส�ำหรับมุฮัมมดั แล้ว อสิ ลามจงึ ไม่ใช่ความเชื่อใหม่แต่อย่างใด แต่เป็ นการฟื้ นฟูศรัทธาทแี่ ท้จริง... 21

22

คำ� กล่าวอนั งดงาม ต่อไปน้ีคือตวั อยา่ งคำ� กล่าวของท่านศาสดาเพ่ือใหค้ ุณไดเ้ ขา้ ใจถึงความงดงามและความอ่อนหวานของ คำ� กล่าวเหล่าน้นั : • “ถ้อยคำ� ทดี่ ถี อื เป็ นการกศุ ล” • “รอยยมิ้ ทจ่ี ริงใจถอื เป็ นการกศุ ล” • “บุคคลทดี่ ที ส่ี ุดในหมู่พวกท่านคอื บุคคลทมี่ อี ปุ นิสัยดที สี่ ุด” • “การขจดั ส่ิงทเี่ ป็ นอันตรายออกจากเส้นทาง (ท้องถนน) ถอื เป็ นการกศุ ล” • “[ลกั ษณะ] ของความศรัทธาทดี่ ที สี่ ุดคอื ความอดทนและความอดกลนั้ ” • เมอ่ื ถูกถามว่าลกั ษณะข้อใดของศาสนาอิสลามทด่ี ที สี่ ุด ท่านตอบว่า “จงให้อาหารและทกั ทายทงั้ คนทคี่ ณุ รู้จักและคนท่ีคุณไม่รู้จัก” นอกจากนี้ ท่านศาสดามุฮัมมดั (ขอให้ความเมตตาและสันตสิ ุขของอลั ลอฮฺจงมแี ด่ท่าน)ได้กล่าวอกี ว่า: • “พระองค์ผ้ทู รงเมตตา [พระเจ้า] ทรงให้ความเมตตาแก่ผ้ทู มี่ ีความเมตตา หากคณุ แสดงความเมตตาต่อผ้ทู ่ี อย่บู นโลกน้ี พระองค์ผ้ทู รงสถติ ในสวรรค์กจ็ ะทรงแสดงความเมตตาต่อคณุ ” • “ไม่มีผ้ใู ดในหมู่พวกท่านจะมีศรัทธาอย่างแท้จริง จนกว่าเขาจะปรารถนาให้แก่พนี่ ้องของเขาในส่ิงทเ่ี ขา ปรารถนาเพื่อตัวเขาเอง” • “บุคคลทร่ี ับประทานจนอ่ิมท้องในขณะทเ่ี พอื่ นบ้านของเขาเข้านอนโดยไม่มีอาหาร ตกถงึ ท้องนั้นย่อมไม่ใช่ผ้ศู รัทธา” • “ผ้มู อี �ำนาจไม่ใช่ผ้ทู ที่ ำ� ให้อีกฝ่ ายแพ้ แท้จริงแล้วผ้ทู มี่ ีอ�ำนาจคอื ผ้ทู คี่ วบคมุ ตนเองในขณะทเี่ ขาโกรธได้” • “พระเจ้าไม่ได้ตัดสินคณุ ตามสภาพร่างกายและรูปร่างหน้าตาของคณุ แต่พระองค์ทรงตรวจดูหัวใจของคณุ และมองดูการกระทำ� ของคณุ ” 23

• “บุคคลทด่ี ที สี่ ุดในหมู่พวกคณุ คอื บุคคลทก่ี ระทำ� ดที ส่ี ุดต่อครอบครัวของเขา และฉันคอื บุคคลทด่ี ที ส่ี ุดใน หมู่พวกคุณท่ีกระท�ำดีต่อครอบครัวของฉัน” • “บุคคลทด่ี ที สี่ ุดในหมู่พวกคณุ คอื บุคคลทดี่ ที ส่ี ุดต่อบรรดาสตรีของพวกเขา” • “ลกั ษณะทด่ี ที สี่ ุดในศาสนาอิสลามคอื การประพฤติตนด้วยความสุภาพอ่อนโยนและความอดกลนั้ ” • “บุคคลทดี่ ที ส่ี ุดคอื บุคคลทเี่ ป็ นประโยชน์ต่อบุคคล [อื่น] มากทสี่ ุด” ศาสดามุฮมั มดั ยงั ปฏิบตั ิตามส่ิงท่ีท่านสอนอีกดว้ ย การปฏิบตั ิและพฤติกรรมของท่านที่มีต่อผอู้ ื่นไดส้ ะทอ้ นถึงบุคลิกภาพ ท่ีพิเศษและไม่เหมือนใครในดา้ นศีลธรรม ความเมตตา ความซ่ือสตั ย์ ความจริงใจ ความโอบออ้ มอารี ความสุจริต ความ อ่อนนอ้ มถ่อมตน ความเอ้ืออาทร การใหอ้ ภยั ความอดทน ความอดกล้นั และคุณธรรมอื่น ๆ ของท่านอีกมากมาย เร่ืองราวและหลกั ฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวกบั คุณลกั ษณะส่วนตวั อนั งดงามของท่านศาสดาน้นั มีมากมายเกินกวา่ ที่จะกล่าว ถึงไดใ้ นท่ีน้ี ดงั น้นั เราขอยกตวั อยา่ งเพียงตวั อยา่ งเดียว • หลงั จากทฝี่ ่ ายตรงข้ามของท่านในนครมกั กะฮฺปฏเิ สธท่านและสารแห่งศาสนาอสิ ลามของท่านแล้ว... • หลงั จากทพี่ วกเขาข่มเหงรังแกท่าน พยายามทจ่ี ะฆ่าท่านหลายต่อหลายคร้ัง... • หลงั จากทพี่ วกเขาทรมานและสังหารสาวกของท่านและบุคคลทรี่ ักของท่านไปหลายคน... • หลังจากที่พวกเขาต่อสู้กับท่านและบรรดาสาวกของท่านเพื่อขับไล่พวกเขาออกจากบ้านและยึดทรัพย์สิน และที่ดินของพวกเขา... 24

มุฮมั มดั ปฏิบตั ิต่อศตั รูเหล่าน้ีอยา่ งไรเมื่อท่านพิชิตและปลดปล่อยนครมกั กะฮฺจากการบูชารูปป้ันต่าง ๆ และลทั ธินอกรีต? หลงั จากชยั ชนะคร้ังสำ� คญั ท่ีสุดสำ� หรับมุฮมั มดั และมุสลิมแลว้ ณ จุดสูงสุดของความปิ ติยนิ ดี ความปลาบปล้ืม และความสุขของพวกเขาเมื่อกลบั มายงั นครมกั กะฮฺอนั ศกั ด์ิสิทธ์ิ... ศาสดามุฮมั มดั ไดร้ วบรวมชาวมกั กะฮฺซ่ึง กลวั ว่าท่านจะทำ� ร้ายหรือแมก้ ระทงั่ จะฆ่าพวกเขาเหล่าน้นั เพื่อแกแ้ คน้ สำ� หรับการล่วงละเมิดและการฆ่าชาว มุสลิมในอดีตที่ผา่ นมา มุฮมั มดั ถามพวกเขาวา่ “คณุ คดิ ว่าฉันจะทำ� อย่างไรกบั คณุ หรือ” พวกเขาตอบวา่ “คณุ เป็ นพน่ี ้องทใี่ จดแี ละบุตรชายของพนี่ ้องผ้มู เี กยี รติของเรา” จากน้นั ศาสดาผใู้ จดี ใจกวา้ ง เอ้ือเฟ้ื อเผอ่ื แผแ่ ละเมตตากไ็ ดใ้ หอ้ ภยั พวกเขา ท่านไดป้ ระกาศวา่ “พวกคณุ จะไม่ได้รับอันตรายใด ๆ พวกคณุ ไปได้ พวกคณุ เป็ นอิสระแล้ว\" คุณเคยเห็นเหตุการณ์ดงั กล่าวหรือไม่? คุณเคยไดย้ นิ เร่ืองราวดงั กล่าวหรือไม่? คุณสมั ผสั ถึงความเมตตาของท่านศาสดาไดห้ รือไม่? 25

26

ศาสตราจารยจ์ อห์น เอสโปซิโตอธิบายถึงเหตุการณ์ประวตั ิศาสตร์ที่ไม่เคยเกิดข้ึนมาก่อนน้ีวา่ : แทนท่ีจะอาฆาตพยาบาทและปลน้ สะดมในฐานะผชู้ นะ ยอมให้มกี ารนิรโทษกรรมแทนการกวดั แกว่งดาบใส่ศัตรูเก่าของท่าน ในส่วนของพวกเขาแล้ว ชาวนครมกั กะฮฺได้เปลย่ี นมานับถือศาสนาอสิ ลาม ยอมรับความเป็ นผู้น�ำของมุฮัมมดั และรวมอยู่ในอุมมะฮฺ (ประชาชาติ มุสลมิ ) เดยี วกนั ในทางตรงกนั ขา้ ม คุณตระหนกั ถึงความโหดร้ายของชาติมหาอำ� นาจต่าง ๆ ในประวตั ิศาสตร์ของมนุษย์ หรือไม่ เมื่อพวกเขาโจมตี รุกราน และทรมานผอู้ ื่นอยา่ งไม่ยตุ ิธรรม? เป็นท่ีน่าสงั เกตวา่ ยง่ิ เราคน้ พบเกี่ยวกบั ชีวติ ของมุฮมั มดั มากเท่าไหร่ เรากย็ งิ่ ตระหนกั ถึงความประพฤติ และบุคลิกภาพอนั ยอดเยย่ี มของท่านมากข้ึนเท่าน้นั และแน่นอนวา่ {และเรามไิ ด้ส่งเจ้ามาเพอื่ อ่ืนใด นอกจากเพอ่ื เป็ นความเมตตาแก่ประชาชาติทง้ั หลาย} [อัลอัมบิยาอฺ 21:107] ศาสดามุฮมั มดั กล่าววา่ \"ฉันถูกส่งมาเพอื่ ทำ� ให้คณุ ลกั ษณะอันสูงส่งนั้นมีความสมบูรณ์แบบ\" เพือ่ เป็นการยนื ยนั ในความจริงน้ี อลั ลอฮฺไดบ้ อกท่านในอลั กรุ อ่านอนั ประเสริฐวา่ {และแท้จริงเจ้าน้ัน อย่บู นคณุ ธรรมอันยง่ิ ใหญ่} [อัลก้อลมั 68:4] 27

คุณยงั ต้องการรู้อะไรเพม่ิ อกี ไหม? หากคุณยงั ต้องการรู้เพม่ิ เตมิ และสนใจทจี่ ะค้นหาข้อมูลและรายละเอยี ดเกย่ี วกบั ศาสนา อสิ ลามเพมิ่ เตมิ โปรดเยย่ี มชมเวบ็ ไซต์ของเราได้ท:่ี www.discoveritsbeauty.com อย่าลงั เลทจี่ ะส่งคำ� ถามหรือข้อเสนอแนะของคุณไปท:่ี [email protected] ซีร่ีส์ค้นพบความงดงามของส่ิงดงั กล่าวใน 7 เวบ็ ไซต์เกยี่ วกบั อสิ ลามทม่ี ปี ระโยชน์: นาท:ี http://www.allahsquran.com 11. เพยี งแค่ปลายยอดของภูเขาน�ำ้ แขง็ http://www.quranexplorer.com 22. ศาสนาของอดมั และอฟี http://www.islamhouse.com 33. หลกั การพืน้ ฐานของศาสนาอสิ ลาม http://www.edialogue.org 44. การตอบคำ� ถามส�ำคญั ของมนุษยชาติ http://www.islamreligion.com 55. พระนามทง่ี ดงามของพระเจ้า http://www.newmuslimguide.com 66. ววิ รณ์สุดท้าย http://www.guidetoislam.com 77. ศาสนทูตองค์สุดท้าย http://www.rasoulallah.net 28

คำ� ปฏญิ าณตนแห่งศรัทธาประตูสู่อิสลาม “ฉันขอปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าอ่ืนใดนอกจากอัลลอฮฺ และฉันขอปฏิญาณว่ามฮุ ัมมดั เป็ นศาสนทูตของอัลลอฮ”ฺ ในภาษาอาหรับอ่านว่า: โดยมคี ำ� อ่านดงั นี:้ อัชฮะดุอัน ลาอิลาฮะ อิลลลั ลอฮ วะอัชฮะดุ อันนะ มฮุ ัมมะดนั เราะซุลลุ ลอฮ นี่คือคำ� ปฏิญาณตนแห่งศรัทธาที่บุคคลที่ตอ้ งการรับนบั ถือศาสนาอิสลามตอ้ งเปล่งประกาศ ออกมา เป็นการสรุปความจริง ความงดงามและความเรียบง่ายของอิสลาม 29

3300

ช่ือและคำ� นิยามพืน้ ฐานของอสิ ลาม อลั ลอฮฺ: ในภาษาอาหรับน้นั อลั ลอฮฺเป็นชื่อเฉพาะสำ� หรับพระนามของพระเจา้ ผสู้ ร้างท่ีเท่ียงแทอ้ งคเ์ ดียว อิสลามสอนวา่ อลั ลอฮฺเป็นพระเจา้ ที่แทจ้ ริงของมวลมนุษยชาติ ชาวอาหรับเช้ือสายยวิ และคริสเตียนใช้ ช่ือน้ี (อลั ลอฮฺ) ในการอา้ งถึงพระเจา้ และเป็นคำ� ท่ีใชส้ ำ� หรับพระเจา้ ในพระคมั ภีร์ฉบบั ภาษาอาหรับ มุฮัมมดั : ศาสดาองคส์ ุดทา้ ยของพระเจา้ ที่แทจ้ ริงหน่ึงเดียว (อลั ลอฮฺ) ท่ีถูกส่งมายงั มวลมนุษยชาติ (ขอใหค้ วามเมตตาและสันติสุขของอลั ลอฮจงมีแด่ท่าน) อลั กรุ อานอนั ประเสริฐ: โองการชุดสุดทา้ ยของพระเจา้ ที่เที่ยงแทอ้ งคเ์ ดียว (อลั ลอฮฺ) ท่ีถูกประทาน ลงมาใหแ้ ก่ศาสดามุฮมั มดั อสิ ลาม: การยอมจำ� นนต่อพระประสงคข์ องพระเจา้ ผสู้ ร้างท่ีเท่ียงแทอ้ งคเ์ ดียว (อลั ลอฮฺ) มุสลมิ : ผทู้ ่ียอมจำ� นนต่อความประสงคข์ องพระเจา้ ผสู้ ร้างท่ีเท่ียงแทอ้ งคเ์ ดียว (อลั ลอฮฺ) 31

32 www.discoveritsbeauty.com | www.alandalusgroup.org