ก คำนำ การเรียนรผู้ ่านเวบ็ บลอ็ ก เปน็ ชอ่ งทางใหมใ่ นการพฒั นาการเรยี นการสอนทม่ี ีประสิทธิภาพใน การพัฒนาการเรียนรู้และความเหมาะสมกับโลกยุคใหม่ ผู้เรียนในระบบการเรียนรู้ผ่านเครือข่าย อินเทอร์เน็ตจะเป็นคนที่มีความสามารถแสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเอง เนื่องจากการเรียนรู้ผ่าน เครือข่ายอินเทอร์เน็ตเอื้อให้เกิดกาเรียนรู้ตลอดเวลาไม่จากัดสถานที่ ไม่ต้องรอให้ผู้สอนคอยป้อน ความรู้ให้ ดังนั้นผู้เรียนจึงได้รับการฝึกฝนในการค้นหาข้อมูล การเรียนรู้วิธีการเข้าถึงแหล่งความรู้ การเลอื กวิธีการเรียนรู้และวิธีการประมวลความรดู้ ้วยตนเอง จะทาใหเ้ กิดการพัฒนาคุณภาพชวี ติ ของ ตนเอง ทาให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาทางความคิดมากกว่าการฟังการบรรยายในห้องเรียนเพียงอย่าง เดียว เนื่องจากเป็นการส่ือสารแบบสองทางและมีรูปแบบการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย มีการปฏิสัมพันธ์ ทางความคิดระหว่างผู้เรียนด้วยกันเอง นอกจากน้ี การเรียนรู้ผ่านเว็บบล็อกทาให้เกิดชุมชนแห่งการ เรียนรู้ ผู้เรียนจะมีการปฏิสัมพันธ์กับข้อมูลและความรู้จานวนมาก ซ่ึงอาจจะทาให้เกิดการต่อยอด ความรู้หรือทาให้เกดิ ความรู้ใหม่ๆ ดว้ ยเหตุนี้ ผู้พัฒนาสื่อนวัตกรรมสนใจและเลือกพัฒนาส่ือการเรียนรู้ผ่านเว็บบล็อก รายวิชา การออกแบบผลติ ภณั ฑ์ เพอ่ื ใชป้ ระกอบการจัดการเรยี นการสอน สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ผู้พัฒนาส่ือนวัตกรรม ขอขอบคุณผู้อานวยการและคณะครูโรงเรียนรัษฎานุประดิษฐ์อนุสรณ์ ทกุ ท่าน ทใ่ี หค้ วามชว่ ยเหลือ ให้กาลังใจ สนับสนุน อานวยความสะดวกและหวังเป็นอย่างย่ิงว่าเอกสาร นจ้ี ะเป็นประโยชน์ตอ่ ครแู ละนกั เรยี น ตลอดจนผ้สู นใจในวงการศกึ ษาเปน็ อยา่ งดี จฑุ ารัตน์ ใจบุญ
ข คำชีแ้ จง บทเรียนเว็บบล็อก รายวิชาการออกแบบผลิตภัณฑ์ สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 โดย จัดทาเป็นเว็บบลอ็ ก https://jumjaiboon.blog มีองคป์ ระกอบ 6 ส่วน ดังน้ี 1. ส่วนของเน้ือหารายวิชา จะประกอบด้วย หน้าหลัก แนะนาการใช้บทเรียน รายวิชา เน้ือหาและผู้พัฒนาบทเรียน ซึ่งส่วนนี้เป็นองค์ประกอบท่ีสาคัญ นักเรียนมีหน้าท่ีศึกษาเนื้อหาด้วย ตนเอง โดยมีครูคอยใหค้ วามชว่ ยเหลอื แบง่ เนอื้ หาเปน็ 6 หน่วย ดงั น้ี หนว่ ยที่ 1 การออกแบบผลติ ภณั ฑ์ หนว่ ยท่ี 2 รจู้ ักโปรแกรม Google SketchUp หนว่ ยที่ 3 เคร่ืองมือ Principal หนว่ ยที่ 4 วาดรูปสร้างโมเดล หนว่ ยที่ 5 การใชเ้ คร่ืองมอื ปรับแตง่ หนว่ ยที่ 6 การสร้างและออกแบบช้ินงาน 2. ส่วนรายวิชาการออกแบบผลิตภณั ฑ์ จะประกอบด้วย หน้าหลัก สาระและมาตรฐาน การเรยี นรู้ คาอธิบายรายวิชา โครงสรา้ งรายวชิ า แบบสอบถามความพึงพอใจ 3. สว่ นวิดีโอสาธติ ตัวอย่างชน้ิ งาน 4. ส่วนแลกเปล่ยี นเรียนรู้ จะประกอบดว้ ยแลกเปลยี่ นเรยี นรู้และติดตอ่ ครูผูส้ อน 5. สว่ นเพิ่มเติม จะประกอบดว้ ยเอกสารประกอบการเรยี น แหลง่ เรยี นรเู้ พ่มิ เตมิ ผลงานนักเรยี น 6. สว่ นสถิติการเขา้ ชม เปน็ การนบั จานวนครัง้ การเข้าใชง้ านบทเรยี นเวบ็ บล็อก ผพู้ ัฒนาส่ือนวัตกรรม หวังเป็นอย่างย่ิงวา่ บทเรยี นเว็บบล็อก รายวิชาการออกแบบผลติ ภัณฑ์ จะเป็นประโยชน์ต่อครู นักเรียนและบุคคลท่ีเก่ียวข้องให้สามารถพัฒนาการเรียนการสอนได้อย่างมี ประสิทธภิ าพ จุฑารัตน์ ใจบญุ
ค สำรบัญ หนำ้ ก เรื่อง ข คำนำ คำช้ีแจง 1 บทนำ 1 2 วิสัยทศั น์ 2 จดุ หมาย 3 ทาไมต้องเรียนการงานอาชีพและเทคโนโลยี เรียนรู้อะไรในการงานอาชีพและเทคโนโลยี 3 สมรรถนะสาคัญของผู้เรียนหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน 4 พุทธศักราช 2551 4 คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 5 สาระการเรยี นรแู้ ละมาตรฐานการเรยี นรู้ กล่มุ สาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี 6 ตัวชวี้ ดั ชว่ งชน้ั ม.4-6 8 คณุ ภาพผู้เรียนจบช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 6 12 กาหนดสาระสาคญั และผลการเรียนรู้ 13 การวิเคราะหผ์ ลการเรยี นรู้เพ่อื จดั ทาคาอธิบายรายวชิ า 16 คาอธิบายรายวชิ า โครงสร้างรายวิชา 18 การวัดและประเมินผล 18 ค่มู อื กำรใชบ้ ทเรยี นเว็บบล็อก 18 แนะนาระบบบทเรียนเวบ็ บล็อก 18 19 กลมุ่ เปา้ หมาย 19 วัตถุประสงค์ 19 ขอ้ กาหนดของเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ เตรยี มพร้อมเขา้ สู่ระบบ การเรียกใช้โปรแกรม Web Browser การเข้าสูบ่ ทเรยี นเว็บบล็อก
ง สำรบญั (ตอ่ ) หนำ้ 21 เรือ่ ง 21 แนะนาเมนูทัว่ ไปของบทเรยี นเว็บบลอ็ ก 22 หนา้ หลกั ของบทเรียนเวบ็ บล็อก 22 สว่ นประกอบตา่ งๆ ในบทเรียนเว็บบลอ็ ก รายวชิ าการออกแบบผลติ ภัณฑ์ 23 หนา้ หลกั 24 แนะนาการใช้บทเรยี น 26 รายวชิ า 30 หน่วยที่ 1 34 หนว่ ยที่ 2 38 หนว่ ยที่ 3 43 หนว่ ยที่ 4 48 หนว่ ยที่ 5 53 หน่วยที่ 6 54 ผพู้ ฒั นาบทเรยี น 55 ส่วนรายวชิ าการออกแบบผลิตภณั ฑ์ 58 สว่ นวดิ โี อสาธิตตัวอย่างชิ้นงาน 60 ส่วนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 62 สว่ นเพ่มิ เติม 63 ส่วนสถติ กิ ารเขา้ ชม บรรณำนกุ รม
1 การพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มุ่งพัฒนา ผเู้ รียนทกุ คน ซงึ่ เปน็ กาลังของชาติให้เปน็ มนุษย์ทีม่ ีความสมดลุ ท้ังด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มี จิตสานึกในความเป็นพลเมืองไทยและเป็นพลโลก ยึดมั่นในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทางเป็นประมุข มีความรู้และทักษะพื้นฐานรวมท้ังเจตคติท่ีจาเป็นต่อการศึกษา ตอ่ การประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวติ โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเปน็ สาคญั บนพ้ืนฐานความเชอื่ ว่า ทกุ คนสามารถเรยี นร้แู ละพฒั นาตนเองไดเ้ ต็มตามศักยภาพ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีเป็นกลุ่มสาระที่ช่วยพัฒนาให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ มีทกั ษะพืน้ ฐานท่ีจาเปน็ ต่อการดารงชวี ิตและรู้เทา่ ทันการเปลี่ยนแปลงสามารถนาความรู้ เกี่ยวกับการดารงชีวิต การอาชีพ และเทคโนโลยี มาใช้ประโยชน์ในการทางานอย่างมีความคิด สร้างสรรค์และแข่งขนั ในสังคมไทยและสากล เห็นแนวทางในการประกอบอาชีพ รักการทางานและ มีเจตคตทิ ด่ี ตี ่อการทางาน สามารถดารงชวี ติ อยใู่ นสงั คมได้อยา่ งพอเพียงและมีความสุข วิสัยทัศน์ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน มุง่ พฒั นาผู้เรยี นทุกคน ซง่ึ เป็นกาลังของชาติใหเ้ ป็น มนุษยท์ ่ีมคี วามสมดุลท้ังด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสานกึ ในความเป็นพลเมืองไทยและเป็น พลโลก ยึดมั่นในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทางเป็นประมุข มี ความรู้และทักษะพื้นฐานรวมท้ังเจตคติท่ีจาเป็นต่อการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพและการศึกษา ตลอดชีวิต โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญบนพื้นฐานความเช่ือว่า ทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนา ตนเองไดเ้ ตม็ ตามศักยภาพ จดุ หมำย หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน มงุ่ พฒั นาผเู้ รียนให้เปน็ คนดี มีปัญญา มคี วามสขุ มีศกั ยภาพในการศกึ ษาต่อ และประกอบอาชพี จึงกาหนดเป็นจดุ หมายเพ่ือใหเ้ กิดกับผู้เรียน เมือ่ จบ การศึกษาขั้นพื้นฐาน ดงั น้ี 1. มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ มท่พี ึงประสงค์ เห็นคณุ ค่าของตนเอง มีวินยั และ ปฏิบัตติ นตามหลักธรรมของพระพทุ ธศาสนา หรอื ศาสนาที่ตนนบั ถือ ยึดหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 2. มคี วามรู้ ความสามารถในการสื่อสาร การคดิ การแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยี และมี ทักษะชวี ิต 3. มสี ุขภาพกายและสขุ ภาพจติ ที่ดี มีสขุ นิสัย และรกั การออกกาลงั กาย
2 4. มีความรกั ชาติ มีจติ สานึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยดึ มน่ั ในวถิ ีชวี ติ และการ ปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมุข 5. มจี ิตสานกึ ในการอนุรักษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย การอนรุ กั ษ์และพัฒนา ส่งิ แวดล้อม มจี ิตสาธารณะท่ีม่งุ ทาประโยชนแ์ ละสร้างสง่ิ ท่ีดงี ามในสังคม และอยรู่ ่วมกันในสงั คมอยา่ ง มคี วามสขุ ทำไมต้องเรียนกำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีเป็นกลุ่มสาระท่ีช่วยพัฒนาให้ผู้เรียน มีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะพ้ืนฐานท่ีจาเป็นต่อการดารงชีวิต และรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง สามารถนาความรู้เกย่ี วกับการดารงชีวิต การอาชีพและเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ในการทางานอย่างมี ความคิดสร้างสรรค์และแข่งขันในสังคมไทยและสากล เห็นแนวทางในการประกอบอาชีพ รักการ ทางานและมเี จตคตทิ ่ดี ีต่อการทางาน สามารถดารงชวี ิตอยู่ในสังคมไดอ้ ย่างพอเพยี งและมีความสุข เรียนรู้อะไรในกำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี กล่มุ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี มุ่งพัฒนาผ้เู รียนแบบองคร์ วม เพ่ือให้มี ความรคู้ วามสามารถ มที ักษะในการทางาน เหน็ แนวทางในการประกอบอาชพี และการศึกษาต่อได้ อยา่ งมีประสิทธภิ าพ โดยมีสาระสาคัญ ดังนี้ การดารงชีวิตและครอบครัว เป็นสาระเกี่ยวกับการทางานในชีวิตประจาวัน ช่วยเหลือ ตนเอง ครอบครัวและสังคมได้ในสภาพเศรษฐกิจท่ีพอเพียง ไม่ทาลายสิ่งแวดล้อม เน้นการปฏิบัติ จริงจนเกิดความม่ันใจและภูมิใจในผลสาเร็จของงาน เพื่อให้ค้นพบความสามารถ ความถนัด และ ความสนใจของตนเอง การออกแบบและเทคโนโลยี เป็นสาระการเรยี นรู้ท่ีเกี่ยวกับการพัฒนาความสามารถของ มนุษย์อย่างสร้างสรรค์ โดยนาความรู้มาใชก้ ับกระบวนการเทคโนโลยี สร้างส่ิงของเครื่องใช้ วิธีการ หรือเพ่มิ ประสิทธภิ าพในการดารงชีวติ เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร เป็นสาระเกี่ยวกับกระบวนการเทคโนโลยี สารสนเทศ การติดต่อสื่อสาร การค้นหาข้อมูล การใช้ข้อมูลและสารสนเทศ การแก้ปัญหาหรือการ สร้างงาน คณุ คา่ และผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร การอาชีพ เป็นสาระทเี่ กยี่ วข้องกับทกั ษะทีจ่ าเป็นต่ออาชีพ เหน็ ความสาคัญของคณุ ธรรม จริยธรรมและเจตคติที่ดีต่ออาชีพ ใช้เทคโนโลยีได้เหมาะสม เห็นคุณค่าของอาชีพสุจริต และเห็น แนวทางในการประกอบอาชีพ
3 สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี นหลกั สตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำขน้ั พน้ื ฐำน พุทธศกั รำช 2551 หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน มุ่งใหผ้ ู้เรียนเกิดสมรรถนะสาคัญ 5 ประการ ดงั นี้ 1. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและสง่ สาร มวี ัฒนธรรมในการใช้ ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปล่ียนข้อมูล ขา่ วสารและประสบการณ์อนั จะเปน็ ประโยชน์ต่อการพฒั นาตนเองและสงั คม รวมทัง้ การเจรจาต่อรอง เพื่อขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและ ความถูกตอ้ ง ตลอดจนการเลือกใช้วธิ ีการสอื่ สาร ท่ีมปี ระสิทธภิ าพโดยคานงึ ถึงผลกระทบท่ีมีต่อตนเอง และสังคม 2. ความสามารถในการคิด เปน็ ความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ การคิดสงั เคราะห์ การคิด อยา่ งสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเปน็ ระบบ เพ่ือนาไปสู่การสร้างองค์ความรู้ หรือสารสนเทศเพ่ือการตดั สนิ ใจเก่ยี วกบั ตนเองและสงั คมได้อยา่ งเหมาะสม 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ท่ี เผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจ ความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มา ใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา และมีการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพโดยคานึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น ตอ่ ตนเอง สงั คมและส่งิ แวดลอ้ ม 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ ในการดาเนินชีวิตประจาวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทางาน และการอยู่ ร่วมกันในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความ ขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปล่ียนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการร้จู กั หลีกเลย่ี งพฤตกิ รรมไมพ่ ึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบตอ่ ตนเองและผ้อู ืน่ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี เปน็ ความสามารถในการเลอื ก และใช้ เทคโนโลยดี า้ น ตา่ ง ๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพือ่ การพฒั นาตนเองและสังคม ในด้านการเรยี นรู้ การ สอื่ สาร การทางาน การแกป้ ัญหาอยา่ งสรา้ งสรรค์ ถูกต้อง เหมาะสม และมคี ุณธรรม คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อให้สามารถอย่รู ว่ มกับผู้อ่ืนได้อยา่ งมคี วามสขุ ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ดงั น้ี 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 2. ซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต 3. มวี นิ ัย 4. ใฝ่เรียนรู้ 5. อยู่อยา่ งพอเพียง 6. มุ่งม่นั ในการทางาน 7. รักความเปน็ ไทย
4 8. มีจิตสาธารณะ สำระกำรเรยี นรแู้ ละมำตรฐำนกำรเรยี นรู้ กล่มุ สำระกำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี สำระที่ 1 กำรดำรงชีวิตและครอบครัว มำตรฐำน ง 1.1 เข้าใจการทางาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทางาน ทักษะการจัดการ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการทางานร่วมกัน และทักษะการแสวงหา ความรู้ มีคุณธรรมและลักษณะนิสัยในการทางาน มีจิตสานึกในการใช้พลังงาน ทรัพยากรและ ส่งิ แวดล้อมเพอ่ื การดารงชีวติ และครอบครัว สำระที่ 2 กำรออกแบบและเทคโนโลยี มำตรฐำน ง 2.1 เข้าใจเทคโนโลยีและกระบวนการเทคโนโลยี ออกแบบและสร้างสิ่งของ เครื่องใช้หรอื วธิ ีการตามกระบวนการเทคโนโลยอี ย่างมีความคิดสร้างสรรค์ เลือกใช้เทคโนโลยีในทาง สร้างสรรค์ตอ่ ชวี ิต สังคม สิ่งแวดลอ้ ม และมสี ่วนรว่ มในการจดั การเทคโนโลยที ีย่ งั่ ยืน สำระท่ี 3 เทคโนโลยสี ำรสนเทศและกำรสือ่ สำร มำตรฐำน ง 3.1 เข้าใจ เห็นคุณค่า และใช้กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการสืบค้น ข้อมูล การเรียนรู้ การส่ือสาร การแก้ปัญหา การทางานและอาชีพอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล มี คุณธรรม สำระที่ 4 กำรอำชีพ มำตรฐำน ง 4.1 เข้าใจ มีทักษะท่ีจาเป็น มีประสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชีพ ใช้ เทคโนโลยีเพอ่ื พฒั นาอาชพี มคี ณุ ธรรมและมเี จตคติที่ดตี ่ออาชพี ตัวช้วี ดั ชว่ งช้นั ม.4-6 สำระที่ 2 กำรออกแบบและเทคโนโลยี มำตรฐำน ง 2.1 เข้าใจเทคโนโลยีและกระบวนการเทคโนโลยี ออกแบบและสร้างส่ิงของ เคร่ืองใช้หรอื วธิ ีการตามกระบวนการเทคโนโลยีอยา่ งมีความคิดสร้างสรรค์ เลือกใชเ้ ทคโนโลยีในทาง สรา้ งสรรค์ต่อชวี ิต สังคม ส่ิงแวดลอ้ ม และมสี ว่ นร่วมในการจดั การเทคโนโลยที ีย่ งั่ ยืน 1. อธบิ ายและเช่อื มโยงความสัมพันธร์ ะหวา่ งเทคโนโลยกี บั ศาสตรอ์ ืน่ ๆ 2. วเิ คราะหร์ ะบบเทคโนโลยี 3. สร้างและพัฒนาสิ่งของเคร่ืองใช้หรือ วิธีการ ตามกระบวนการเทคโนโลยีอย่างปลอดภัย โดยถ่ายทอดความคิดเป็นภาพฉายและแบบจาลองเพอ่ื นาไปส่กู ารสร้างชิ้นงาน หรือถา่ ยทอดความคิด ของวิธีการเป็นแบบจาลองความคิดและการรายงานผลโดยใช้ซอฟท์แวร์ช่วยในการออกแบบหรือ นาเสนอผลงาน 4. มีความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการ ในงานที่ผลติ เอง หรือการ พัฒนาผลิตภณั ฑ์ทผ่ี ู้อืน่ ผลติ 5. วิเคราะห์และเลือกใช้เทคโนโลยีท่ีเหมาะสมกับชีวิตประจาวันอย่างสร้างสรรค์ต่อชีวิต สงั คมและสง่ิ แวดล้อม และมีการจดั การเทคโนโลยที ีย่ งั่ ยืนดว้ ยวิธกี ารของเทคโนโลยีสะอาด
5 สำระท่ี 3 เทคโนโลยสี ำรสนเทศและกำรสื่อสำร มำตรฐำน ง 3.1 เข้าใจ เห็นคุณค่า และใช้กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการสืบค้น ข้อมูล การเรียนรู้ การสื่อสาร การแก้ปัญหา การทางานและอาชีพอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล มี คุณธรรม 1. อธบิ ายองคป์ ระกอบของระบบสารสนเทศ 2. อธิบายองคป์ ระกอบและหลกั การทางานของคอมพิวเตอร์ 3. อธิบายระบบสือ่ สารขอ้ มลู สาหรับเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ 4. บอกคณุ ลกั ษณะของคอมพิวเตอร์ และอปุ กรณ์ตอ่ พว่ ง 5. แก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 6. เขยี นโปรแกรมภาษา 7. พฒั นาโครงงานคอมพิวเตอร์ 8. ใชฮ้ ารด์ แวร์และซอฟต์แวรใ์ ห้เหมาะสมกับงาน 9. ตดิ ต่อส่ือสาร คน้ หาขอ้ มลู ผ่านอนิ เทอรเ์ นต็ 10.ใชค้ อมพิวเตอร์ในการประมวลผลขอ้ มลู ใหเ้ ป็นสารสนเทศเพ่ือประกอบ การตดั สนิ ใจ 11.ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศนาเสนองานในรูปแบบที่เหมาะสม ตรงตามวตั ถปุ ระสงคข์ องงาน 12.ใช้คอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสร้างชิน้ งานหรอื โครงงานอย่างมีจิตสานกึ และความรบั ผดิ ชอบ 13.บอกขอ้ ควรปฏบิ ัตสิ าหรบั ผูใ้ ชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ คณุ ภำพผู้เรียนจบช้ันมัธยมศกึ ษำปีที่ 6 เข้าใจวธิ ีการทางานเพอื่ การดารงชวี ิต สรา้ งผลงานอยา่ งมีความคิดสร้างสรรค์ มีทกั ษะการ ทางานร่วมกัน ทักษะการจัดการ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา และทักษะการแสวงหาความรู้ ทางาน อยา่ งมคี ณุ ธรรม และมีจติ สานึกในการใช้พลังงานและทรพั ยากรอย่างคุ้มคา่ และย่งั ยืน เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยีกับศาสตร์อื่นๆ วิเคราะห์ระบบเทคโนโลยี มี ความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการ สร้างและพัฒนาสิ่งของเคร่ืองใช้หรือ วิธีการ ตามกระบวนการเทคโนโลยีอย่างปลอดภัยโดยใช้ซอฟท์แวร์ช่วยในการออกแบบหรือนาเสนอ ผลงาน วิเคราะห์และเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับชีวิตประจาวันอย่างสร้างสรรค์ต่อชีวิต สังคม ส่ิงแวดล้อม และมีการจดั การเทคโนโลยดี ว้ ยวธิ ีการของเทคโนโลยสี ะอาด เข้าใจองค์ประกอบของระบบสารสนเทศ องค์ประกอบและหลักการทางานของ คอมพิวเตอร์ ระบบส่ือสารข้อมูลสาหรับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ คุณลักษณะของคอมพิวเตอร์และ อุปกรณ์ต่อพ่วง และมีทักษะการใช้คอมพิวเตอร์แก้ปัญหา เขียนโปรแกรมภาษา พัฒนาโครงงาน คอมพิวเตอร์ ใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ติดต่อสื่อสารและค้นหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ใช้คอมพิวเตอร์ในการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ นาเสนองาน และใชค้ อมพิวเตอร์สรา้ งชิน้ งานหรอื โครงงาน เข้าใจแนวทางสู่อาชีพ การเลือก และใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมกับอาชีพ มี ประสบการณใ์ นอาชพี ท่ีถนดั และสนใจ และมคี ณุ ลักษณะทด่ี ีต่ออาชพี
6 กำหนดสำระสำคัญและผลกำรเรยี นรู้ รหสั วชิ ำ ง30242 รำยวชิ ำ กำรออกแบบผลิตภัณฑ์ ชัน้ มธั ยมศึกษำปีท่ี 4 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี เวลำ 40 ชว่ั โมง ภำคเรยี นที่ 1 จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ ขอ้ ที่ ผลกำรเรียนรู้ สำระสำคญั 1 อธบิ ายความหมาย ความสาคัญ คุณสมบัติ การออกแบบผลิตภัณฑ์ คือ การ และองค์ประกอบของการออกแบบผลิตภณั ฑ์ ออกแบบสงิ่ ของเคร่ืองใช้ เพื่อนามาใช้ ได้ สอยในชีวติ ประจาวัน โดยเนน้ การผลติ จานวนมากในรูปสินค้า เพ่อื ใหผ้ ่านไป ยงั ผู้บรโิ ภค (consumer) ในวง กวา้ ง โดยทรี่ ูปแบบและคณุ ภาพของ ผลติ ภัณฑจ์ ะเป็นปจั จัยสาคญั ชกั จูง ผู้บรโิ ภคใหเ้ กิดความกระหายทจี่ ะ จา่ ยเงินซ้อื ผลติ ภณั ฑ์นนั้ 2 รู้และเขา้ ใจการออกแบบผลิตภณั ฑ์ด้วย โปรแกรม Google เป็นโปรแกรม โปรแกรม Google SketchUp ได้ ออกแบบ 3 มิติ ที่มีความง่ายต่อการใช้ งานและเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง โดย ส่วนใหญ่จะถูกนามาใช้ในงานออกแบบ สถาปัตยกรรม งานตกแต่งภายใน งาน ออกแบบผลิตภัณฑ์ และงานออกแบบ Display 3 รู้และเข้าใจการใช้งานเครือ่ งมือหลักของ การเร่มิ ตน้ ทางานกับโมเดล 3 มิติ โปรแกรม Google SketchUp ได้ จาเปน็ ตอ้ งมีความคุ้นเคยกับการหยบิ จบั ชิน้ งานดว้ ยเครอื่ งมือเลอื กช้ินงาน ลบวตั ถุทีไ่ ม่ต้องการดว้ ยเครื่องมือลบ และการใส่สใี ห้กบั โมเดลดว้ ยเครอื่ งมือ เทสพี ้ืนผิว
7 ขอ้ ท่ี ผลกำรเรยี นรู้ สำระสำคัญ 4 รูแ้ ละเข้าใจการใชง้ านเครื่องมือวาดรปู ในการ การวาดโครงร่างโมเดล ด้วยชดุ ออกแบบโมเดลได้ เครอื่ งมือ Drawing ไม่ว่าจะเป็นการ สรา้ งรูปสเี่ หลย่ี มเสน้ ตรง เส้นโค้ง วงกลม และรูปทรงอน่ื ๆ 5 รู้และเขา้ ใจการใช้งานเคร่อื งมือปรับแตง่ ได้ เครื่องมือท่จี าเปน็ ต่อจากเคร่ืองมือ วาดและสรา้ งรูปทรงคอื กลุ่มเครื่องมือ ปรับแตง่ ตา่ ง ๆ จะทาใหช้ ิน้ งานท่ีเรา วาดกลายเป็นโมเดลที่ต้องการได้ด้วย เทคนคิ หลายอยา่ ง 6 สามารถออกแบบ สรา้ งตกแต่งและนาเสนอ โปรแกรม Google SketchUp ชน้ิ งานไดอ้ ยา่ งสร้างสรรค์และสวยงามได้ สามารถออกแบบ สรา้ ง ตกแตง่ โมเดล เปน็ รูปร่างต่าง ๆ เปน็ งานแอนเิ มชน่ั และภาพนิง่ ได้ สามารถ Export ชน้ิ งานเป็นโมเดล 3 มิติไดห้ ลากหลาย รปู แบบ
8 กำรวเิ ครำะห์ผลกำรเรียนรเู้ พอื่ จดั ทำคำอธิบำยรำยวิชำ รหสั วิชำ ง30242 รำยวิชำ กำรออกแบบผลติ ภัณฑ์ ชัน้ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 4 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี เวลำ 40 ชั่วโมง ภำคเรียนท่ี 1 จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ ผลกำรเรยี นรู้ สำระกำรเรียนรู้ ทักษะกระบวนกำร คุณลักษณะอัน สมรรถนะสำคัญ (K) (P) พึงประสงค์ (C) 1. อธบิ าย ความหมาย 1. ความหมาย 1.สบื ค้นข้อมูล (A) - ความสามารถ ความสาคญั และ เกย่ี วกับ ในการคดิ คณุ สมบัตแิ ละ ความสาคญั ผลิตภณั ฑ์และ - มวี นิ ยั องคป์ ระกอบ ของการ การออกแบบ - ใฝ่เรยี นรู้ - ความสามารถ ของการ ออกแบบ ผลติ ภัณฑไ์ ด้ - มุ่งมน่ั ในการ ในการ ออกแบบ ผลติ ภณั ฑ์ ทางาน แก้ปัญหา ผลติ ภณั ฑไ์ ด้ 2.สืบค้นขอ้ มูล 2. คุณสมบตั ิของ เกยี่ วกบั - ความสามารถ ผลติ ภณั ฑ์และ ผลิตภัณฑแ์ ละนัก ในการใช้ นกั ออกแบบ ออกแบบ เทคโนโลยี ผลติ ภัณฑ์ท่ีดี ผลติ ภณั ฑ์ท่ีดี ตลอดจน ตลอดจนปัจจัยท่ี องคป์ ระกอบ มีอทิ ธิพลตอ่ การ ของการ กาหนด ออกแบบ องคป์ ระกอบของ ผลติ ภัณฑ์ได้ การออกแบบ ผลิตภณั ฑ์ได้ 2. รู้และเขา้ ใจการ 1. ความรเู้ บอื้ งต้น 1. สบื ค้นขอ้ มูล - มวี นิ ยั - ความสามารถ ออกแบบ ของโปรแกรม เกย่ี วกบั - ใฝ่เรียนรู้ ในการคิด ผลิตภณั ฑด์ ้วย Google ความสามารถ - มงุ่ มั่นในการ โปรแกรม SketchUp ของโปรแกรม ทางาน - ความสามารถ Google Google ในการ SketchUp ได้ 2. ความต้องการ SketchUp ได้ แก้ปญั หา พน้ื ฐานของ โปรแกรม - ความสามารถ Google ในการใช้ SketchUp เทคโนโลยี
9 ผลกำรเรียนรู้ สำระกำรเรยี นรู้ ทกั ษะกระบวนกำร คุณลกั ษณะ สมรรถนะสำคัญ (K) (P) อันพงึ ประสงค์ (C) 2. รู้และเข้าใจการ ออกแบบ 3. การเรยี กใชง้ าน 2. เรยี กใช้งาน (A) ผลิตภณั ฑด์ ้วย โปรแกรมและ โปรแกรมและ โปรแกรม หนา้ ต่างการ หน้าต่างการ Google ทางานของ ทางานของ SketchUp ได้ โปรแกรม โปรแกรม Google Google SketchUp SketchUp ได้ 4. การสร้างไฟล์ 3. สรา้ งไฟล์ บนั ทึก บันทึก เปิดและ เปิดและออกจาก ออกจาก โปรแกรม โปรแกรม Google Google SketchUp ได้ SketchUp 4. เลือกเทมเพลต 5. การเลอื กเทม และทางานกับ เพลตและการ แกนอ้างองิ ได้ ทางานกับแกน อา้ งองิ 5. เรียกใชง้ าน มมุ มองภาพและ 6. การกาหนด การแสดงผลใน มุมมองภาพและ รูปแบบตา่ ง ๆ ได้ การแสดงผลใน รปู แบบต่าง ๆ 3. รแู้ ละเขา้ ใจการ 1. การใช้เครื่องมือ 1. เรยี กใช้เครอ่ื งมือ - มีวินัย - ความสามารถ ใช้งานเคร่อื งมอื เลือกโมเดล หลกั ในการทางาน - ใฝ่เรยี นรู้ ในการคิด 2. การใชเ้ ครือ่ งมือ กบั โมเดลได้ - มุ่งมัน่ ในการ หลักของ ลบโมเดล ทางาน - ความสามารถ โปรแกรม ในการ Google 3. การใชเ้ ครอื่ งมือ แก้ปญั หา SketchUp ได้ กาหนดสีพ้ืนผิว โมเดล - ความสามารถ ในการใช้ เทคโนโลยี
10 ผลกำรเรยี นรู้ สำระกำรเรียนรู้ ทกั ษะกระบวนกำร คุณลกั ษณะ สมรรถนะสำคญั (K) (P) อนั พงึ ประสงค์ (C) 4.รแู้ ละเข้าใจการ ใชง้ านเคร่อื งมือ 1. เครื่องมอื 1. เรียกใชเ้ ครอ่ื งมือ (A) - ความสามารถ วาดรปู ในการ Drawing Tools ในการคิด ออกแบบโมเดล - วาดสี่เหล่ยี ม วาดรปู ในการ - มีวินยั ได้ - วาดเส้นตรง ออกแบบโมเดลได้ - ใฝเ่ รยี นรู้ - ความสามารถ - มุ่งมน่ั ในการ ในการ - วาดพนื้ ท่ปี ิด ทางาน แกป้ ัญหา - วาดวงกลม - ความสามารถ - วาดเสน้ โค้ง ในการใช้ - วาดรูปหลาย เทคโนโลยี เหลี่ยม - วาดเส้นอสิ ระ 5. รแู้ ละเข้าใจ 1. ประเภท 1. ออกแบบโมเดล - มีวินยั - ความสามารถ การใชง้ าน ส่วนประกอบ ด้วยเครอื่ งมือ - ใฝ่เรียนรู้ ในการคดิ เครอื่ งมือ และคณุ สมบตั ิ ปรับแตง่ ได้ - มงุ่ มั่นในการ ปรบั แตง่ ได้ ของ 3D Model ทางาน - ความสามารถ ในการ 2. การผลกั /ดงึ วตั ถุ แกป้ ญั หา 3. การเคลือ่ นย้าย - ความสามารถ และหมนุ วัตถุ ในการใช้ 4. การเปลย่ี นขนาด เทคโนโลยี และทศิ ทางของ วตั ถุ 5. การสร้างขอบ ขนาน 6. การสร้างวัตถุ ตามเสน้ ทาง 6. สามารถ 1. การตกแต่ง 1. ออกแบบ สร้าง - มีวินัย - ความสามารถ ออกแบบ สร้าง โมเดล ตกแต่งและ - ใฝ่เรยี นรู้ ในการคิด ตกแตง่ และ - จดั การพื้นผวิ - มุ่งมนั่ ในการ นาเสนอชิ้นงาน บนโมเดล นาเสนอโมเดลได้ ทางาน - ความสามารถ ไดอ้ ยา่ ง - การสรา้ ง อยา่ งสร้างสรรค์ ในการ สรา้ งสรรค์และ ขอ้ ความ 3 มติ ิ และสวยงามได้ แกป้ ัญหา สวยงามได้ - ความสามารถ ในการใช้ เทคโนโลยี
11 ผลกำรเรยี นรู้ สำระกำรเรียนรู้ ทกั ษะกระบวนกำร คุณลักษณะ สมรรถนะสำคญั (K) (P) อนั พึงประสงค์ (C) 6. สามารถ ออกแบบ สร้าง - การเรยี กใช้ (A) ตกแต่งและ โมเดลจาก นาเสนอชนิ้ งาน Components ไดอ้ ย่าง - การใสแ่ สงเงา สรา้ งสรรคแ์ ละ และหมอก สวยงามได้ 2. การออกแบบ โมเดลตา่ งๆ - โมเดลบ้าน - โมเดลเกา้ อ้ี - การออกแบบ ห้องนัง่ เล่น - การออกแบบ บ้านในฝัน 3. การนาเสนอ โมเดล - การเอกซ์ พอรต์ โมเดล - การพมิ พ์ โมเดล
12 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ รหสั วชิ ำ ง30242 รำยวิชำ กำรออกแบบผลิตภณั ฑ์ ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีที่ 4 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ กำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี เวลำ 40 ชัว่ โมง ภำคเรียนที่ 1 จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ ศึกษา วิเคราะห์ อธิบายหลักการ การออกแบบผลิตภัณฑ์ รู้จักกับโปรแกรม Google SketchUp การทางานเบื้องต้นของโปรแกรม Google SketchUp การออกแบบ สร้างโมเดลและ การนาเสนอโมเดล ด้วยโปรแกรม Google SketchUp โดยสามารถสร้างโมเดลช้ินงานและตกแต่งชิ้นงานของตนเองพร้อมทั้ง Export ไฟล์เป็น2 มิติ 3 มิติและภาพเคลื่อนไหวได้ โดยใช้การนาเสนอโมเดล โดยนาหลักการออกแบบผลิตภัณฑ์ มาพัฒนา ผลงานตามความสนใจและความถนัดอย่างเป็นระบบ โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศให้เหมาะสมมี หลักการใช้โปรแกรมในการนาเสนอผลงานด้วยกระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการทางานเป็น กลมุ่ จนสามารถสร้างช้ินงานจากจนิ ตนาการ เพ่ือสร้างช้ินงานตามหลักการการออกแบบผลิตภัณฑ์ มีจิตสานึกในการใช้ทรัพยากรอย่าง คุ้มค่า มีจริยธรรมคอมพิวเตอร์ในการใช้คอมพิวเตอร์ ไม่คัดลอกผลงานผู้อ่ืน ใช้คาสุภาพ และไม่สร้าง ความเสียหายต่อผู้อน่ื ผลกำรเรียนรู้ 1. อธิบายความหมาย ความสาคัญ คณุ สมบัติและองค์ประกอบของการออกแบบผลติ ภณั ฑ์ ได้ 2. รแู้ ละเขา้ ใจการออกแบบผลิตภัณฑ์ด้วยโปรแกรม Google SketchUp ได้ 3. รแู้ ละเข้าใจการใช้งานเครอ่ื งมือหลักของโปรแกรม Google SketchUp ได้ 4. รูแ้ ละเข้าใจการใชง้ านเครอ่ื งมือวาดรูปในการออกแบบโมเดลได้ 5. รู้และเขา้ ใจการใชง้ านเครอ่ื งมือปรบั แตง่ ได้ 6. สามารถออกแบบ สรา้ งตกแต่งและนาเสนอชิน้ งานได้อยา่ งสร้างสรรค์และสวยงามได้ รวม 6 ผลกำรเรยี นรู้
13 โครงสร้ำงรำยวิชำ รหสั วชิ ำ ง30242 รำยวิชำ กำรออกแบบผลติ ภณั ฑ์ ช้นั มัธยมศกึ ษำปีที่ 4 กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้ กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี เวลำ 40 ช่วั โมง ภำคเรยี นที่ 1 จำนวน 1.0 หน่วยกติ ชอ่ื หน่วย ผลกำรเรียนรู้ สำระกำรเรียนรู้ เวลำ นำ้ หนัก กำรเรยี นรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน การออกแบบ ผลิตภณั ฑ์ 1. อธิบายความหมาย 1.ความหมายและ 4 10 6 รู้จักโปรแกรม ความสาคญั คุณสมบัติ ความสาคญั ของการ 15 Google SketchUp และองคป์ ระกอบของ ออกแบบผลิตภณั ฑ์ การออกแบบ 2.คณุ สมบตั ิของ ผลติ ภัณฑ์ได้ ผลติ ภัณฑ์และนัก ออกแบบผลิตภัณฑ์ท่ีดี ตลอดจนองคป์ ระกอบ ของการออกแบบ ผลิตภณั ฑ์ได้ 2. รแู้ ละเข้าใจการ 1. ความรูเ้ บื้องต้นของ ออกแบบผลติ ภณั ฑ์ โปรแกรม Google ดว้ ยโปรแกรม Google SketchUp SketchUp ได้ 2. ความต้องการ พน้ื ฐานของ โปรแกรม Google SketchUp 3. การเรยี กใชง้ าน โปรแกรมและ หนา้ ต่างการทางาน ของโปรแกรม Google SketchUp 4. การสร้างไฟล์ บนั ทึก เปิดและออกจาก โปรแกรม Google SketchUp
14 ช่อื หน่วย ผลกำรเรียนรู้ สำระกำรเรยี นรู้ เวลำ น้ำหนัก กำรเรียนรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน ร้จู ักโปรแกรม 5. การเลอื กเทมเพลต 6 15 Google 4 SketchUp (ตอ่ ) และการทางนกบั 6 10 6 เคร่อื งมอื แกนอ้างองิ 15 Principal 6. การกาหนดมุมมอง 15 วาดรูปสร้าง โมเดล ภาพและการ การใชเ้ ครื่องมือ แสดงผลในรปู แบบ ปรับแตง่ ต่าง ๆ 1. การใชเ้ ครอื่ งมือเลอื ก 3. ร้แู ละเขา้ ใจการใช้ โมเดล งานเคร่ืองมือหลักของ โปรแกรม Google 2. การใชเ้ ครือ่ งมือลบ SketchUp ได้ โมเดล 3. การใช้เคร่ืองมือ กาหนดสพี ืน้ ผวิ โมเดล 4. รู้และเข้าใจการใช้ 1. เคร่อื งมอื Drawing งานเครอ่ื งมอื วาดรปู ใน Tools - วาดสเี่ หล่ียม การออกแบบโมเดลได้ - วาดเสน้ ตรง - วาดวงกลม - วาดเส้นโคง้ - วาดรูปหลายเหลย่ี ม - วาดเส้นอิสระ 1. ประเภท 5. รู้และเข้าใจการใช้ ส่วนประกอบ และ งานเครื่องมือปรับแตง่ คุณสมบัติของ 3D ได้ Model 2. การผลกั /ดึงวตั ถุ 3. การเคลือ่ นย้ายและ หมนุ วตั ถุ 4. การเปล่ยี นขนาด และทิศทางของวตั ถุ 5. การสรา้ งขอบขนาน 6. การสร้างวัตถุตาม เสน้ ทาง
15 ชอ่ื หน่วย ผลกำรเรียนรู้ สำระกำรเรยี นรู้ เวลำ นำ้ หนัก กำรเรยี นรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน การสร้างและ 6. สามารถออกแบบ 1.การตกแตง่ โมเดล 14 35 ออกแบบชิน้ งาน - จัดการพืน้ ผิวบน สร้างตกแตง่ และ โมเดล 40 100 นาเสนอชน้ิ งานได้อยา่ ง - การสรา้ งข้อความ สรา้ งสรรค์และสวยงาม 3 มติ ิ ได้ - การเรียกใช้โมเดล จาก Components - การใส่แสงเงาและ หมอก 2. การออกแบบโมเดล ต่างๆ - โมเดลบา้ น - โมเดลเก้าอี้ - การออกแบบ หอ้ งนั่งเลน่ - การออกแบบบา้ น ในฝัน 3. การนาเสนอโมเดล - การเอกซ์พอร์ต โมเดล - การพมิ พ์โมเดล รวมตลอดภาคเรยี น
16 กำรวัดและประเมนิ ผล ผลการเรียนดเี ยีย่ ม ชว่ งคะแนน 80 – 100 กำรใหค้ ะแนนผลกำรเรยี น ผลการเรยี นดีมาก ช่วงคะแนน 75 – 79 ผลการเรียนดี ชว่ งคะแนน 70 – 74 4 หมายถึง ผลการเรยี นคอ่ นขา้ งดี ช่วงคะแนน 65 – 69 3.5 หมายถึง ผลการเรยี นปานกลาง ชว่ งคะแนน 60 – 64 3 หมายถงึ ผลการเรยี นพอใช้ ชว่ งคะแนน 55 – 59 2.5 หมายถึง ผลการเรียนผา่ นเกณฑ์ข้ันตา่ ช่วงคะแนน 50 – 54 2 หมายถึง ผลการเรยี นตา่ กวา่ เกณฑ์ ชว่ งคะแนน 0 – 49 1.5 หมายถึง 1 หมายถงึ 0 หมายถึง กรณไี มม่ ีผลกำรเรียน ผเู้ รียนไมม่ สี ทิ ธเิ ขา้ รบั การวดั ผลปลายภาคเรียน เนื่องจากผู้เรยี น มี มส หมายถึง เวลาเรยี นไม่ถึงร้อยละ 80 ของเวลาเรียนในแตล่ ะรายวชิ า และ ไม่ได้รับการผอ่ นผนั ให้เขา้ รับการวดั ผลปลายภาคเรียน ร หมายถึง รอการตดั สินและยงั ตัดสนิ ผลการเรียนไม่ได้ เนื่องจากผ้เู รียนไม่มี ขอ้ มูล ผลการเรยี นรายวชิ านั้นครบถ้วน ไม่ได้วัดผลระหวา่ งภาค เรยี น/ปลายภาคเรียน ไม่ได้สง่ งานทีม่ อบหมายใหท้ า ซง่ึ งานนัน้ เปน็ สว่ นหน่ึงของการตดั สินผลการเรียน หรอื มเี หตุสดุ วิสยั ท่ีทาให้ ประเมินผลการเรียนไม่ได้ เกณฑก์ ำรประเมินกำรอำ่ น คิดวเิ ครำะห์และเขียนส่ือควำม มดี งั นี้ 3 หมายถึง ดีเยยี่ ม มีผลงานท่แี สดงถึงความสามารถในการอา่ น คิดวเิ คราะห์ และเขียนที่มีคุณภาพดีเลิศอยู่เสมอ 2 หมายถงึ ดี มีผลงานทีแ่ สดงถึงความสามารถในการอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และ เขียนทีม่ ีคุณภาพเปน็ ทยี่ อมรับ 1 หมายถึง ผ่าน มผี ลงานทีแ่ สดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขียนที่มคี ุณภาพเป็นทีย่ อมรบั แต่ยังมขี ้อบกพรอ่ ง บาง ประการ 0 หมายถงึ ไม่ผา่ น ไม่มผี ลงานทแี่ สดงถึงความสามารถในการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขียน หรอื ถ้ามีผลงาน ผลงานนั้นยังมขี ้อบกพร่อง ทีต่ ้องได้รับการปรับปรงุ แกไ้ ขหลายประการ
17 เกณฑก์ ำรประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงคข์ องผู้เรียน มีดังนี้ 3 หมายถึง ดเี ยี่ยม ผ้เู รยี นปฏิบัติตนตามคุณลักษณะจนเปน็ นิสยั และนาไปใช้ 2 หมายถงึ ในชีวติ ประจาวันเพือ่ ประโยชนส์ ขุ ของตนเองและสังคม โดย พิจารณาจากผลการประเมนิ ระดบั ดีเย่ยี ม จานวน 5 - 8 1 หมายถงึ คุณลกั ษณะ และไม่มีคุณลกั ษณะใดไดผ้ ลการประเมนิ ต่ากว่าระดับ 0 หมายถงึ ดี ดี ผู้เรยี นมีคณุ ลักษณะในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ เพื่อใหเ้ ป็นการ ยอมรบั ของสงั คม โดยพิจารณาจาก 1. ได้ผลการประเมินระดับดเี ยยี่ ม จานวน 1-4 คณุ ลักษณะ และไม่ มคี ณุ ลกั ษณะใดไดผ้ ลการประเมนิ ต่ากว่า ระดบั ดี หรอื 2. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ดี 8 คุณลกั ษณะ หรือ 3. ไดผ้ ลการประเมินระดับดีข้ึนไป จานวน 5-7 คุณลกั ษณะ และมี บางคุณลกั ษณะได้ ผลการประเมนิ ระดบั ผา่ น ผ่าน หมายถึง ผูเ้ รียนรับรูแ้ ละปฏิบัติตามกฎเกณฑแ์ ละเงื่อนไขท่ี สถานศึกษากาหนด โดยพจิ ารณาจาก 1. ได้ผลการประเมนิ ระดับผา่ นทัง้ 8 คุณลักษณะ หรือ 2. ไดผ้ ลการประเมนิ ตั้งแต่ระดับดขี ้ึนไป จานวน 1-4 ลกั ษณะ และ คุณลกั ษณะท่เี หลือไดร้ บั ผลการประเมินระดับผา่ น ไม่ผ่าน หมายถึง ผเู้ รยี นรบั ร้แู ละปฏบิ ัตไิ ด้ไมค่ รบตามกฎเกณฑ์ และเง่ือนไข ท่สี ถานศึกษากาหนด โดยพิจารณาจากผลการ ประเมนิ ระดบั ไม่ผา่ น ตั้งแต่ 1 คุณลักษณะ
18 1. แนะนำระบบบทเรยี นเว็บบล็อก 1.1 กลุม่ เป้ำหมำย บทเรียนเว็บบลอ็ ก รายวชิ า การออกแบบผลิตภณั ฑ์ ง30242 จัดทาขึน้ เพ่ือเป็นสื่อประกอบการ จัดการเรยี นการสอนสาหรับนกั เรยี นช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 4 และผ้เู รยี นท่วั ไป ซึง่ ตอ้ งมคี วามรู้พืน้ ฐานใน การใช้งานคอมพวิ เตอรแ์ ละอินเทอรเ์ นต็ มาบ้างแล้ว 1.2 วัตถุประสงค์ - เพ่ือพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการจัดการเรียนการสอนให้ทันสมัย ผู้เรียนสามารถ เรียนรผู้ า่ นระบบเครอื ข่ายอินเทอรเ์ นต็ ได้แบบไม่จากัดเวลาและสถานท่ี - เพ่อื ขยายโอกาสทางการเรียนรู้ให้แกผ่ ู้เรียนท่ัวไปได้มโี อกาสและชอ่ งทางการศึกษามากข้ึน 1.3 ขอ้ กำหนดของเครื่องคอมพิวเตอร์ คณุ สมบตั ขิ องเครอื่ งคอมพิวเตอร์ - มีหน่วยประมวลผลกลาง CPU ความเร็ว 1 GHz ข้ึนไป - มหี นว่ ยความจา RAM 512 MB หรอื มากกวา่ - สามารถเช่ือมต่อระบบเครือข่ายอินเตอร์เนต็ ผ่านระบบ LAN หรือ Wireless ได้ - มีระบบปฏบิ ัติการไม่ต่ากว่า Windows XP - มีโปรแกรมเวบ็ บราวเซอร์(Web Browser) เช่น Google Chrome , Mozilla Firefox หรอื Internet Explorer - มโี ปรแกรมเปิดอ่านไฟล์PDF เช่น Acrobat Reader , Foxit Reader เป็นต้น
19 2. เตรียมพร้อมเข้ำสู่ระบบ 2.1 กำรเรยี กใช้โปรแกรม Web Browser - เมื่อผเู้ รียนเข้าระบบปฏิบตั ิการ Windows แล้ว ให้ผ้เู รยี นดับเบิลคลกิ ทีโ่ ปรแกรม Web Browser (Google Chrome , Mozilla Firefox หรอื Internet Explorer) ในที่นี้ยกตัวอยา่ งการใช้ โปรแกรม Web Browser Google Chrome ดับเบลิ คลกิ ที่ไอคอน Google Chrome รูปท่ี 1 : แนะนาไอคอนโปรแกรม Google Chrome 2.2 กำรเข้ำสู่บทเรียนเว็บบล็อก คลกิ ท่ีชอ่ ง Address Bar พิมพ์ URL เพ่อื เข้าบทเรยี นเวบ็ บล็อก ดังน้ี https://jumjaiboon.blog จากน้ันกดปุ่ม Enter ดังรปู พมิ พ์ URL รูปที่ 2 : แสดงการพิมพ์ URL ในช่อง Address Bar
20 รปู ท่ี 3 : แสดงหน้าบทเรยี นเวบ็ บล็อก รายวชิ า การออกแบบผลติ ภณั ฑ์
21 3. แนะนำเมนทู ่วั ไปของบทเรียนเว็บบล็อก 3.1 หนำ้ หลักของบทเรียนเว็บบล็อก เปน็ หนา้ แรกของบทเรยี นเวบ็ บล็อก รายวชิ าการออกแบบ ผลติ ภัณฑ์ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 เป็นการจดั การเรียนการสอนโดยใช้ Blog “jumjaiboon” ซง่ึ ประกอบดว้ ยสว่ นประกอบต่างๆ ดงั น้ี 1 2 3 4 5 6 รูปท่ี 4 : แสดงหน้าหลักของบทเรยี นเวบ็ บลอ็ ก รายวิชา การออกแบบผลิตภณั ฑ์
22 3.2 ส่วนประกอบตำ่ งๆ ในบทเรียนเวบ็ บล็อก รำยวชิ ำกำรออกแบบผลติ ภัณฑ์ 3.2.1 สว่ นเนื้อหำรำยวชิ ำ จะประกอบด้วย หน้าหลัก แนะนาการใช้บทเรยี น รายวิชา หนว่ ยที่ 1 หนว่ ยที่ 2 หนว่ ยท่ี 3 หนว่ ยท่ี 4 หน่วยท่ี 5 หน่วยที่ 6 และผู้พฒั นาบทเรียน รปู ที่ 5 : แสดงเมนูส่วนเนอื้ หารายวิชา หนำ้ หลกั : แสดงรายละเอยี ดเกย่ี วกับบทเรยี นเว็บบลอ็ ก รปู ที่ 6 : แสดงหน้าหลกั
23 แนะนำกำรใชบ้ ทเรยี น : แสดงรายละเอียดและขน้ั ตอน เป็นคาชแี้ จงในการ จดั การเรยี นการสอนระหวา่ งครผู สู้ อนกับนักเรียนด้วยบทเรียนเวบ็ บล็อกรายวิชา การออกแบบ ผลิตภัณฑ์ รปู ท่ี 7 : แสดงหนา้ แนะนาการใช้บทเรยี น
24 รำยวชิ ำ : แสดงรายละเอียดเกย่ี วกบั รายวิชา ประกอบดว้ ยสาระและ มาตรฐานการเรียนรู้ คาอธิบายรายวิชา โครงสร้างรายวชิ า แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิกอ่ นเรียนและ แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธห์ิ ลงั เรียน - สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ประกอบดว้ ยสาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ที่ เกี่ยวข้อง รปู ท่ี 8 : แสดงหน้าสาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ - คาอธบิ ายรายวชิ า จะแสดงข้อมลู รหัสวิชา ช่ือรายวิชา กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ชั้นปี ภาคเรยี นทส่ี อน จานวนหนว่ ยกติ จานวนชั่วโมง คาอธบิ ายรายวิชา และผลการเรียนรู้ รปู ที่ 9 : แสดงหนา้ คาอธบิ ายรายวิชา
25 - โครงสรา้ งรายวชิ า จะแสดงข้อมลู รหสั วิชา ชอ่ื รายวิชา กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ช้ันปี ภาคเรียนที่สอน จานวนหนว่ ยกติ จานวนช่วั โมง ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ สาระการ เรยี นรู้ เวลาและน้าหนักคะแนน รูปที่ 10 : แสดงหนา้ โครงสรา้ งรายวชิ า - แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์กิ ่อนเรยี น เป็นแบบทดสอบ จานวน 30 ขอ้ โดยให้ นักเรยี นกรอกช่อื -สกลุ ชัน้ เลขท่ี แลว้ ทาแบบทดสอบโดยเลอื กคาตอบทถี่ ูกทสี่ ดุ และให้คลิกป่มุ Submit หรอื ปมุ่ สง่ รปู ท่ี 11 : แสดงหน้าแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธิก์ ่อนเรยี น
26 - แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธหิ์ ลงั เรียน เปน็ แบบทดสอบ จานวน 30 ข้อ โดยให้ นักเรียนกรอกชอ่ื -สกุล ชน้ั เลขที่ แล้วทาแบบทดสอบโดยเลือกคาตอบท่ถี กู ทีส่ ุด และให้คลกิ ปุ่ม Submit หรอื ปุ่ม ส่ง รปู ท่ี 12 : แสดงหนา้ แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธหิ์ ลังเรยี น หน่วยท่ี 1 : แสดงรายละเอียดหน่วยท่ี 1 การออกแบบผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย จุดประสงค์การเรยี นรหู้ น่วยท่ี 1 แบบทดสอบก่อนเรียน ความหมายและความสาคัญของการออกแบบ ผลิตภัณฑ์ คุณสมบัติ องค์ประกอบของการออกแบบผลิตภัณฑ์ ใบงานที่ 1.1 และแบบทดสอบหลัง เรียน รูปท่ี 13 : แสดงเมนูหนว่ ยท่ี 1
27 - จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ประกอบด้วยสาระสาคัญ จุดประสงคก์ ารเรียนรูด้ า้ นความรู้(K) ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) และด้านคุณลักษณะ (A) รูปที่ 14 : แสดงหนา้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้หนว่ ยท่ี 1 - แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ในแต่ละหนว่ ยจะมแี บบทดสอบก่อนเรยี น จานวน 10 ขอ้ โดย ให้นกั เรียนกรอกชอ่ื -สกลุ ชั้น เลขท่ี แล้วทาแบบทดสอบโดยเลือกคาตอบที่ถูกที่สุด และให้คลกิ ปมุ่ Submit หรือปุ่ม สง่ รปู ท่ี 15 : แสดงหน้าแบบทดสอบก่อนเรยี น
28 - เน้อื หา ประกอบดว้ ยเน้ือหาหัวขอ้ ย่อยในแต่ละหน่วย โดยคลิกแต่ละหวั ข้อ รูปที่ 16 : แสดงหน้าเนอ้ื หาหนว่ ยที่ 1
29 - ใบงาน สาหรับใบงานนักเรยี นอา่ นคาช้ีแจงและดาวน์โหลดไฟล์มาทาและสง่ ใบงาน แนบไฟล์มายัง E-Mail ทีร่ ะบุ รูปที่ 17 : แสดงหนา้ ใบงานท่ี 1.1 - แบบทดสอบหลังเรียน ในแต่ละหน่วยจะมีแบบทดสอบหลังเรยี น จานวน 10 ขอ้ โดย ให้นักเรยี นกรอกชื่อ-สกุล ชัน้ เลขท่ี แลว้ ทาแบบทดสอบโดยเลือกคาตอบที่ถูกทีส่ ดุ และให้คลิกปุ่ม Submit หรือปุม่ ส่ง รปู ท่ี 18 : แสดงหน้าแบบทดสอบหลังเรียน
30 หน่วยที่ 2 : แสดงรายละเอียดหน่วยที่ 2 รู้จักโปรแกรม Google SketchUp ประกอบด้วยจุดประสงค์การเรียนรู้หน่วยท่ี 2 แบบทดสอบก่อนเรียน ความรู้เบ้ืองต้นเกี่ยวกับ โปรแกรม Google SketchUp ใบงานที่ 2.1 การเปิดใชง้ านโปรแกรม Google SketchUp เร่ิมต้น ทางานบนโปรแกรม Google SketchUp ใบงานที่ 2.2 เทมเพลตและการทางานกับแกนอ้างอิง มุมมองภาพและการแสดงผล ใบงานท่ี 2.3 และแบบทดสอบหลงั เรยี น รปู ที่ 19 : แสดงเมนหู นว่ ยที่ 2 - จุดประสงค์การเรียนรู้ ประกอบดว้ ยสาระสาคัญ จดุ ประสงค์การเรียนรดู้ ้านความรู้(K) ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) และด้านคุณลกั ษณะ (A) รปู ที่ 20 : แสดงหนา้ จดุ ประสงค์การเรียนรหู้ น่วยท่ี 2
31 - แบบทดสอบก่อนเรียน ในแต่ละหนว่ ยจะมแี บบทดสอบกอ่ นเรยี น จานวน 10 ข้อ โดย ให้นกั เรียนกรอกช่ือ-สกลุ ชน้ั เลขท่ี แลว้ ทาแบบทดสอบโดยเลือกคาตอบทีถ่ ูกทสี่ ุด และให้คลิกป่มุ Submit หรอื ปุม่ ส่ง รปู ที่ 21 : แสดงหน้าแบบทดสอบก่อนเรยี น - เน้อื หา ประกอบด้วยเน้ือหาหัวขอ้ ย่อยในแตล่ ะหน่วย โดยคลกิ แต่ละหัวข้อ
32 รปู ที่ 22 : แสดงหนา้ เนื้อหาหนว่ ยที่ 2 - ใบงาน สาหรบั ใบงานนักเรียนอ่านคาช้แี จงและดาวน์โหลดไฟลม์ าทาและส่งใบงาน แนบไฟล์มายงั E-Mail ที่ระบุ รปู ที่ 23 : แสดงหน้าใบงานท่ี 2.1
33 รปู ที่ 24 : แสดงหน้าใบงานท่ี 2.2 รปู ท่ี 25 : แสดงหนา้ ใบงานท่ี 2.3
34 - แบบทดสอบหลงั เรยี น ในแต่ละหน่วยจะมีแบบทดสอบหลังเรียน จานวน 10 ขอ้ โดย ให้นกั เรียนกรอกช่อื -สกลุ ช้นั เลขท่ี แล้วทาแบบทดสอบโดยเลอื กคาตอบที่ถูกทีส่ ุด และใหค้ ลกิ ปุ่ม Submit หรือปุม่ สง่ รปู ที่ 26 : แสดงหนา้ แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยท่ี 3 : แสดงรายละเอียดหน่วยที่ 3 เคร่ืองมือ Principal ประกอบด้วย จุดประสงค์การเรียนรู้หน่วยที่ 3 แบบทดสอบก่อนเรียน ส่วนประกอบของโมเดล เครื่องมือเลือก โมเดล ใบงานที่ 3.1 เครื่องมือเทสพี น้ื ผวิ โมเดล แบบฝึกปฏิบัตทิ ี่ 3.2 และแบบทดสอบหลังเรียน รูปที่ 27 : แสดงเมนหู นว่ ยท่ี 3
35 - จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ประกอบด้วยสาระสาคัญ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ด้านความรู้(K) ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) และด้านคุณลกั ษณะ (A) รูปที่ 28 : แสดงหน้าจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้หนว่ ยท่ี 3 - แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ในแต่ละหน่วยจะมีแบบทดสอบก่อนเรียน จานวน 10 ข้อ โดย ให้นกั เรียนกรอกชอ่ื -สกลุ ชั้น เลขท่ี แล้วทาแบบทดสอบโดยเลือกคาตอบที่ถูกท่สี ุด และใหค้ ลกิ ปุ่ม Submit หรือปุ่ม สง่ รปู ที่ 29 : แสดงหนา้ แบบทดสอบก่อนเรียน
36 - เน้อื หา ประกอบดว้ ยเน้ือหาหัวขอ้ ย่อยในแต่ละหน่วย โดยคลิกแต่ละหวั ข้อ รูปที่ 30 : แสดงหน้าเนอ้ื หาหนว่ ยที่ 3
37 - ใบงาน สาหรบั ใบงานนักเรยี นอ่านคาช้ีแจงและดาวนโ์ หลดไฟลม์ าทาและสง่ ใบงาน แนบไฟล์มายงั E-Mail ท่รี ะบุ รปู ที่ 31 : แสดงหนา้ ใบงานที่ 3.1 - แบบฝึกปฏิบตั ิ ให้นักเรียนฝกึ ปฏบิ ัติแลว้ บนั ทึกไวใ้ นเคร่อื งคอมพิวเตอร์ รูปที่ 33 : แสดงหนา้ แบบฝึกปฏบิ ัติท่ี 3.2
38 - แบบทดสอบหลงั เรียน ในแต่ละหนว่ ยจะมแี บบทดสอบหลังเรยี น จานวน 10 ขอ้ โดย ใหน้ ักเรยี นกรอกช่ือ-สกลุ ชนั้ เลขท่ี แลว้ ทาแบบทดสอบโดยเลอื กคาตอบท่ถี ูกท่สี ุด และให้คลกิ ปมุ่ Submit หรอื ปุ่ม ส่ง รูปท่ี 34 : แสดงหน้าแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยท่ี 4 : แสดงรายละเอียดหน่วยที่ 4 วาดรูปสร้างโมเดล ประกอบด้วย จดุ ประสงค์การเรียนรูห้ น่วยท่ี 4 แบบทดสอบก่อนเรยี น เคร่ืองมอื วาดรูปสร้างโมเดล เครื่องมือวาด รูปส่ีเหล่ียม เคร่ืองมือวาดเส้นตรง การสร้างพ้ืนท่ีปิด แบบฝึกปฏิบัติที่ 4.1 เคร่ืองมือวาดรูปวงกลม เคร่ืองมือวาดเส้นโค้ง แบบฝึกปฏิบัติท่ี 4.2 เคร่ืองมือวาดรูปหลายเหล่ียม เคร่ืองมือวาดเส้นอิสระ แบบฝกึ ปฏบิ ัติที่ 4.3 และแบบทดสอบหลงั เรียน รปู ที่ 35 : แสดงเมนูหนว่ ยท่ี 4
39 - จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ประกอบด้วยสาระสาคัญ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ด้านความรู้(K) ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) และด้านคุณลกั ษณะ (A) รูปที่ 36 : แสดงหนา้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้หนว่ ยท่ี 4 - แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ในแต่ละหน่วยจะมีแบบทดสอบก่อนเรียน จานวน 10 ข้อ โดย ให้นกั เรียนกรอกชอ่ื -สกลุ ชั้น เลขท่ี แล้วทาแบบทดสอบโดยเลือกคาตอบที่ถูกท่สี ุด และใหค้ ลกิ ปุ่ม Submit หรือปุ่ม สง่ รปู ที่ 37 : แสดงหนา้ แบบทดสอบก่อนเรียน
40 - เน้อื หา ประกอบดว้ ยเน้ือหาหัวขอ้ ย่อยในแต่ละหน่วย โดยคลิกแต่ละหวั ข้อ รูปที่ 38 : แสดงหน้าเนอ้ื หาหนว่ ยที่ 4
41 - แบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ ให้นกั เรยี นฝึกปฏิบตั แิ ล้วบนั ทกึ ไว้ในเคร่ืองคอมพิวเตอร์ รูปท่ี 39 : แสดงหน้าแบบฝกึ ปฏิบัติที่ 4.1 รูปท่ี 40 : แสดงหน้าแบบฝึกปฏบิ ัติท่ี 4.2
42 รปู ท่ี 41 : แสดงหนา้ แบบฝกึ ปฏิบตั ิท่ี 4.3 - แบบทดสอบหลังเรยี น ในแต่ละหนว่ ยจะมแี บบทดสอบหลังเรยี น จานวน 10 ขอ้ โดย ใหน้ กั เรยี นกรอกช่ือ-สกุล ชน้ั เลขที่ แล้วทาแบบทดสอบโดยเลอื กคาตอบที่ถูกทีส่ ดุ และให้คลิกป่มุ Submit หรอื ป่มุ ส่ง รูปท่ี 44 : แสดงหน้าแบบทดสอบหลงั เรียน
43 หน่วยที่ 5 : แสดงรายละเอียดหน่วยท่ี 5 การใช้เครื่องมือปรับแต่ง ประกอบด้วย จุดประสงค์การเรียนรู้หน่วยที่ 5 แบบทดสอบก่อนเรียน โมเดล 3 มิติ เคร่ืองมือผลักและดึงวัตถุ เคร่ืองมือเคล่ือนย้ายวัตถุ การปรับแต่งรูปทรงด้วยเครื่องมือ Move แบบฝึกปฏิบัติท่ี 5.1 เครื่องมือ หมุนวัตถุ เครื่องมือปรับขนาดวัตถุ แบบฝึกปฏิบัติที่ 5.2 เคร่ืองมือสร้างเส้นขอบขนานวัตถุ เคร่อื งมอื สรา้ งวัตถตุ ามเสน้ ทาง แบบฝึกปฏิบตั ทิ ี่ 5.3 และแบบทดสอบหลังเรียน รูปท่ี 45 : แสดงเมนูหน่วยท่ี 5
44 - จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ประกอบด้วยสาระสาคัญ จุดประสงคก์ ารเรียนรูด้ า้ นความรู้ (K) ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) และด้านคุณลักษณะ (A) รูปที่ 46 : แสดงหนา้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้หนว่ ยท่ี 5 - แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ในแต่ละหนว่ ยจะมแี บบทดสอบก่อนเรยี น จานวน 10 ขอ้ โดย ให้นกั เรียนกรอกชอ่ื -สกลุ ชั้น เลขท่ี แล้วทาแบบทดสอบโดยเลือกคาตอบที่ถูกที่สุด และให้คลกิ ปมุ่ Submit หรือปุ่ม สง่ รปู ท่ี 47 : แสดงหน้าแบบทดสอบก่อนเรยี น
45 - เน้อื หา ประกอบดว้ ยเน้ือหาหัวขอ้ ย่อยในแต่ละหน่วย โดยคลิกแต่ละหวั ข้อ รูปที่ 48 : แสดงหน้าเนอ้ื หาหนว่ ยที่ 5
Search