วรรณกรรมเยาวชนพื้นบ้าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผีผึบพึ้ม เร่ือง ต๊บุ ปอง ภาพประกอบ เบญจมาศ คำบญุ มี
ผู้เช่ยี วชาญท่ีปรึกษาคณะบรรณาธิการ ศ.ดร.ฉวลี ักษณ์ บณุ ยะกาญจน ผศ.วณี า วสี ะเพญ็ คณะบรรณาธกิ ารอำนวยการ นางทัศนยั วงศ์พเิ ศษกลุ นางสาวเฉียดฉตั รโฉม ปรพิ นธพ์ จนพิสทุ ธิ์ นายวฒั นชัย วินจิ จะกูล นางสาวนันธนา เจรญิ ภักดี คณะบรรณาธกิ ารตน้ ฉบับ รศ.สกุ ญั ญา สุจฉายา ผศ.ดร.ชลภัสส์ วงษป์ ระเสริฐ นายเรืองศกั ด์ิ ปิน่ ประทปี นายณฐั พร ศรมี กุ ด์ พสิ จู น์อักษร นนั ท์ธนัตถ์ จิตประภัสสร อารณี ะ วรี ะวัฒน ์ ผผี บึ พมึ้ เรอื่ ง ตุ๊บปอง ภาพประกอบ เบญจมาศ คำบุญม ี เหมาะสำหรับเดก็ และเยาวชนอายุ 9 ปี ขึน้ ไป พิมพค์ รงั้ ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 จำนวนพิมพ์ 3,000 เลม่ ราคา 100 บาท เลขมาตรฐานสากลประจำหนงั สือ 978-974-287-808-5 เจา้ ของโครงการและดำเนินการจัดพิมพ์ สำนกั งานอุทยานการเรียนรู้ สำนกั งานบรหิ ารและพฒั นาองค์ความรู้ (องคก์ ารมหาชน) สังกัดสำนกั นายกรฐั มนตรี สว่ นบริการ อาคารเซ็นทรัลเวิลด์ ช้นั 8 Dazzle Zone โทรศัพท์ 0-2257-4300 โทรสาร ตอ่ 125 สว่ นสำนักงาน 999/9 อาคารสำนักงานเซน็ ทรัลเวลิ ด์ ชัน้ 17 ถนนพระราม 1 โทรศัพท์ 0-2264-5963-65 โทรสาร 0-2264-5966 www.tkpark.or.th ดำเนนิ การจดั ทำตน้ ฉบบั มลู นธิ หิ นงั สอื เพอื่ เดก็ โทรศัพท์ 0-2805-0202 โทรสาร 0-2805-1308 www.thaibby.in.th ออกแบบรูปเลม่ จัดพิมพ์ และจดั จำหนา่ ย บริษัท แปลน ฟอร์ คิดส์ จำกัด 1/999 ถนนกำแพงเพชร 6 (โลคลั โรด) แขวงสกี นั เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210 โทรศัพท์ 0-2575-2828 โทรสาร 0-2575-2558 www.planforkids.com
คำนำ ในการจดั ตง้ั อทุ ยานการเรยี นรภู้ มู ภิ าคตน้ แบบแตล่ ะภาคนน้ั สำนกั งาน อทุ ยานการเรียนรู้ (TK Park) ไดม้ กี ารเตรยี มการคขู่ นานกนั ไปทั้งดา้ นกายภาพ และเนอื้ หาสาระ กลา่ วคอื ในระหวา่ งทอ่ี งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ กำลงั ปรบั ปรงุ หรือก่อสร้างอาคารสถานที่สำหรับห้องสมุดมีชีวิตในรูปแบบอุทยานการเรียนรู้ สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ก็ประชุมหารือกับบุคลากรในท้องถ่ินและร่วมกัน คัดเลือกหนังสือ ดนตรี และกิจกรรมต่างๆ ไปพร้อมกัน เพื่อเตรียมการด้าน หนังสือและสือ่ ต่างๆซึ่งถอื เสมือนเปน็ จิตวิญญาณของห้องสมดุ โครงการนิทานพื้นบ้าน เป็นส่วนหน่ึงของการเตรียมการทางด้าน เนื้อหาสาระ ด้วยเล็งเห็นว่าเรื่องเล่าในแต่ละชุมชน มีทั้งสาระ ความสนุกสนาน และจินตนาการ สืบทอดกันมาจากภมู ิปัญญาท้องถิ่นอันล้ำลกึ มีความหมายต่อ การเช่ือมโยงวิถีชีวิต วัฒนธรรม และการดำรงอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์กับ มนุษย์ และมนุษย์กับธรรมชาติ แม้จะเป็นเรื่องเล่าเฉพาะกลุ่มชนในพ้ืนท่ี แต่ สาระทแี่ ฝงอยูใ่ นเนือ้ หาเร่ืองราวของนทิ านน้ันคือคติสอนใจ ซึ่งเป็นความรูส้ ากล ทสี่ ามารถนำไปประยกุ ต์ใช้ได้ทกุ หนแห่ง สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ จึงมอบให้มูลนิธิหนังสือเพ่ือเด็ก เป็นผู้ ดำเนนิ การประสานงานกบั ปราชญช์ าวบา้ น นกั วชิ าการ และผทู้ รงคณุ วฒุ ิ รว่ มกนั คัดเลือกนิทานเร่ืองเล่าพื้นบ้านที่มีคุณค่า มีอิทธิพลต่อความคิดและจินตนาการ ของเยาวชนในทางสร้างสรรค์ นำมาเรียบเรียงและจัดทำภาพวาดประกอบ ข้ึนใหม่ เพื่อจัดพิมพ์เป็นหนังสือท่ีมุ่งเสริมสร้างจินตนาการให้อ่านง่ายและ เพลิดเพลิน โดยหวังว่าจะเป็นส่ือจูงใจให้เด็กและเยาวชนทั่วไปสนใจและรัก การอ่านมากยิ่งข้ึน ทั้งยังสามารถนำไปประกอบการเล่านิทานในครอบครัว โรงเรียน และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ เป็นการสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่ สืบไป
หวังเป็นอย่างย่ิงว่า นอกเหนือจากบทบาทในฐานะผู้จุดประกาย แนวคดิ หอ้ งสมดุ มชี วี ติ ในประเทศไทย ใหเ้ ปน็ พนื้ ทแี่ สวงหาความรใู้ นบรรยากาศ การเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์และทันสมัยแล้ว สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ยังจะ ได้ทำหน้าที่ปลูกฝังและส่งเสริมนิสัยรักการอ่านแก่เด็กและเยาวชน บนพ้ืนฐาน ของความเคารพและภาคภูมิใจในภูมิปัญญาของแต่ละท้องถิ่น เสริมสร้างการ ยอมรับความแตกต่างหลากหลายและใช้สติปัญญาแก้ไขปัญหา อันจะนำไปสู่ สังคมสนั ติสมานฉันท์ในทสี่ ดุ สำนกั งานอทุ ยานการเรียนร ู้
สารบัญ 7 15 ≤ หลวงตากับผปี ่ตู า 21 ≤ พีน่ ้องสองหนมุ่ 29 ≤ ผผี บึ พมึ้ 37 ≤ ดนิ แดนลล้ี บั ของผีผึบพม้ึ 43 ≤ สวนของผผี บึ พึม้ 47 ≤ หาทางกลบั บ้าน ≤ จากผผี บึ พ้ึมถงึ เจา้ กำพรา้
หนึ่ง หลวงตากับผีปู่ตา วัดป่าวันน้ี คึกคักเป็นพิเศษ ชาวบ้านพากันมาตามความเชื่อท่ีถือสืบ กันมานับแต่รุ่นก่อนปู่ย่าตายายว่า วันพุธเดือนหกของทุกปี ต้องจัดพิธีเล้ียงผ ี ปู่ตาที่คนในหมู่บ้านถือเป็นพระภูมิเทพาอารักษ์ของหมู่บ้าน คุ้มครองให้คน อยู่เย็นเป็นสุข คอยปกป้องอนั ตราย และภัยทจ่ี ะเกิดข้ึนในหมบู่ า้ น เฒ่าจ้ำตระเตรียมข้าวของต่างๆ ในการทำพิธีเซ่นปู่ตาอยู่ท่ีตูบปู่ตา ท่ีตั้งอยู่ในดอนปู่ตาข้างวัดป่ามากว่าสามสิบปี ก่อนที่หลวงตาจะเข้ามาหักร้าง ถางพง ลงเสาสร้างวดั สร้างกฏุ ิอย่ขู า้ งๆ เมือ่ ย่สี ิบปีกอ่ น จนบดั น้กี ็ยงั คงร่มครึม้ ด้วยต้นไม้ใหญ่ ยืนต้นอย่างร่มตระหง่าน ซ่ึงอาจจะเป็นเพราะความเชื่อเร่ือง ผีปู่ตา ชาวบ้านจึงไม่กล้าโค่นต้นไม้ในบริเวณตูบปู่ตา จึงเป็นการรักษาป่าไว้ได้ โดยปริยาย
ผีผบึ พึม้ หลวงตารบั นมิ นตพ์ รอ้ มพระลกู วดั ทง้ั หมดท่มี อี ยู่หกรูป พอดตี ามความ เชื่อที่ต้องนิมนต์พระเจ็ดหรือเก้ารูปมาสวดในพิธี พระลูกวัดพากันเดินตาม หลวงตาอยา่ งสำรวม จากวัดไมเ่ กนิ สบิ กา้ วก็ถงึ ดอนปตู่ า ชาวบ้านพากนั ถวายภตั ตาหารเพล แม้จะดูนอ้ ยกวา่ สมัยกอ่ น แต่กพ็ อ ให้พระในวัดได้มีอาหารขบฉันมากกว่าทุกวันที่ได้ออกไปเดินบิณฑบาตใน หมู่บ้าน ซึ่งนับวันจะมีคนใส่น้อยลง น้อยลง ตามชีวิตท่ีแก่ปลิดขั้วไปทีละคน เด็กรนุ่ ใหมก่ น็ ้อยนกั ท่ีจะสืบสานวัฒนธรรมและวถิ ขี องคนรุ่นก่อน วันนี้ ถือเป็นวันสำคญั ของหมบู่ ้าน อาหารจงึ มีมากมาย ทั้งขา้ วเหนียว ปลาปิ้ง แกงหน่อไมย้ ่านาง แจ่ว และสม้ สกู ลูกไม้พรอ้ ม เม่ือฉนั เสร็จ พระยะถา สัพพี จนจบ หยาดน้ำเสรจ็ ชาวบา้ นพากันนำ น้ำไปรดโคนต้นโพธิ์ แล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน มีชาวบ้าน 2-3 คน พากันมา กราบหลวงตา สนทนาธรรม ถามถงึ ความเปน็ อยู่ และพูดคยุ ถงึ เรอ่ื งทว่ั ๆไป “คำหมานเป็นอย่างไรบ้างล่ะแม่คำไส ได้ยินเจ้ากำพร้ามันบอกว่าไป เก็บใบยา เจองเู ข้าใหม้ ิใช่หรอื อาการเป็นอย่างไรบ้างเล่าน”ี่ หลวงตาถามแม่เฒ่าคำไสอย่างเป็นห่วง “จะ้ หลวงตา เหน็ ว่ากำลังปีนเก็บหมากอะไรกไ็ มร่ อู้ ยู่บนไม้สงู เจองเู ข้า ตกใจเลยพลัดลงมา ก็ขดั ยอกมากอย่จู ะ้ ” “แลว้ ดแู ลกันอยา่ งไรหรอื นี”่ “เมื่อเช้า ก่อนมาวัดนี่ก็ให้ตาคำส่อนขวัญให้ ตอนนี้ให้นอนพักก่อน ทเุ ลาแล้วค่อยออกไปทำมาหากินใหม”่ แม่เฒ่าคำไสกราบหลวงตา แล้วร่วมสนทนาเร่ืองสัพเพเหระกับคนอ่ืน ไปตามเร่ืองตามราว “หลวงตา อีคำพูนมนั คลอดลูกเมอื่ วานน”้ี ตาคำพนั พ่อนางคำพูนยกมอื ไหว้ พรอ้ มพูดนำเรอ่ื ง “อ้าว คลอดแล้วเหรอ..เออ เผลอแผล็บๆ ครบเก้าเดือนแล้วหรือนี่ ผู้หญิงหรอื ผชู้ ายล่ะ แขง็ แรงดไี หม ฮึ”
หลวงตากบั ผีปูต่ า หลวงตาพูดคยุ ด้วยความใสใ่ จในประชากรคนใหม่ของหมูบ่ ้าน ตาคำพันย้ิมด้วยความศรัทธา ท่ีหลวงตาเป็นห่วงเป็นใยลูกสาวที่เพิ่ง คลอดยงั ไม่คล้อยวนั แลว้ กลา่ วต่อ “เปน็ ผชู้ ายครบั หลวงตา แข็งแรงดที ั้งแม่ท้ังลกู หลวงตาช่วยผกู ดวงดูที ซีครับว่า เจา้ เดก็ คนนี้จะดหี รอื ร้ายยังไง” ตาคำพันถามอย่างเช่ือถือในคำทำนายของหลวงตาเหมือนกับลูกบ้าน คนอืน่ ๆ หลวงตาใชม้ ือลบู แขน แล้วขยับจีวรก่อนจะน่ังคดิ ครูเ่ ลก็ ๆ “เด็กคนน้ีเกิดปีจอ มันจะอยู่เงียเงินลาด ชีวิตมันจะขาดเงินอยู่บ้าง แต่ มันก็ไม่ขาดแคลนความคิดหรอกวะ และไอ้ความคิดของมันน่ีแหละ จะทำมา หาเงินเล้ียงพ่อเล้ียงแม่ได้ ไม่ต้องห่วงมันหรอก เกิดวันจันทร์ ไอ้เด็กคนนี้มันใจ นกั เลง เล้ยี งให้ดนี ะ ถ้าเล้ียงดมี ันจะดใี จหาย เลีย้ งทิง้ ๆ ขว้างๆ มนั จะไม่ดกี ับเด็ก เด็กคนนี้มันชอบอิสระ ทำอะไรทำจรงิ ถึงไหนถึงกัน พูดกบั มนั ดๆี เล้ยี งดๆี ก็จะ ดีกับลกู และพ่อแม่ ป่ยู า่ ตายาย หลวงตาว่าไปตามคำโบราณที่เล่าขานไว้เป็นมรดกทางความคิด แต ่ ทุกครั้งหลวงตาจะทำนายในด้านดีเป็นหลัก ไม่พิพากษาใคร ให้การใช้ชีวิตของ แต่ละคนเปน็ ตวั กำหนดชีวิตของแตล่ ะคนเอง หลวงตานงั่ เสวนาธรรมจนกระท่งั ชาวบ้านคนสดุ ท้ายกราบลา พระลกู วดั เดนิ เขา้ กฏุ ิ ปฏบิ ตั ติ นตามพทุ ธวถิ เี หมอื นเคย ขณะทห่ี ลวงตา เดินทอดน่อง มือไพล่หลัง กวาดตามองรอบๆ วัดอย่างสบายอกสบายใจ พลาง คิดถงึ เมื่อยสี่ ิบปีท่ีผ่านมา ตอนน้นั ท่ีตรงนี้รกทึบไปด้วยต้นไม้ใบปรก แต่ท่ามกลางความขจีเขียว มีสิ่ง โดดเด่นเห็นชัดคือตูบปู่ตาที่ชาวบ้านช่วยกันสร้างข้ึน เม่ือใครจะไปนอกหมู่บ้าน ใครเจ็บใครป่วย หรอื ของของใครหาย กจ็ ะพากนั มากราบไหวผ้ ีปูต่ าในดอนปู่ตา น่แี หละ
10 ผีผึบพึ้ม ตอนน้นั หลวงตามาเด่ียวๆ พอเห็นก็ตัดสินใจทันทีว่า จะสร้างวัดป่าติดกับดอน ปู่ตาน่ีแหละ เพราะถือเป็นสถานท่ีศักดิ์สิทธ์ิ ใครจะรุกล้ำไปตัดต้นไม้หรือแสดง กิริยาหยาบคายไม่ได้ ด้วยความเชื่อว่าถ้าใครพูดไม่ดี ประพฤติปฏิบัติไม่ดี ผ ี ปู่ตาจะลงโทษให้มีอันเป็นไป กว่าจะหักร้างถางพงลงกุฏิได้ ต้องใช้เวลาเป็นปี จึงเข้าที่เข้าทาง กุฏิหลังแรกสำเร็จได้ก็ด้วยฝีมือของหลวงตา และชาวบ้าน 2-3 คน เป็นลกู มือ หลวงตาเดินเร่ือยๆ มาหยุดอยู่ตรงริมรั้ววัด แล้วมองไปยังดอนปู่ตา ที่สาธารณะของหมูบ่ า้ น ยังไม่มใี ครเข้ามาทำอะไรให้งอกเงย “รวึ ่า ชาวบ้านกลัวผปี ่ตู า” หลวงตารำพงึ กับตนเอง กำลังคิดอะไรเพลนิ ๆ หลวงตาเห็นหลงั หวดิ ๆ ไวๆ เดินแวบๆ ผ่านไป “บักกำพรา้ ...บักกำพรา้ ...มานแี่ น” กำพร้าเดินเข้ามาหาหลวงตาอย่างสบายๆแตก่ ส็ ำรวมกริ ิยา “ครับ หลวงตา” “ขา้ คดิ ว่าทขี่ ้างๆ ดอนป่ตู านีม่ นั รกรา้ งวา่ งประโยชนม์ านาน ไม่มใี ครทำ อะไร เอ็งช่วยเข้ามาถางให้เตียน แล้วลงผลหมากรากไม้ เผ่ือจะได้ประโยชน์ โภชน์ผลขน้ึ มาบ้าง เอง็ วา่ ดไี หม” หลวงตามองกำพร้าท่ีกำลังทำท่าอึดอัด เพราะรู้อนาคตอันใกล้ว่าต้อง ได้รับภาระใหม่ไม่ใช่น้อย เร่ืองน้ีเป็นเร่ืองท่ีหลวงตาพูดถึงบ่อยๆ แต่ทุกคร้ัง กำพร้าก็แค่ฟังผ่านๆ ไป ไม่ได้ลงมือทำอย่างจริงจัง จนวันน้ีเห็นทีจะปัดลำบาก เพราะดูทา่ แลว้ คร้ังนหี้ ลวงตาเอาจริงแน ่ “ปลกู อะไรครบั หลวงตา” “ปลูกอะไรก็ได้...ผลหมากรากไม้ท่ีจะได้ดอกได้ผลเอามากินมาขาย เอ็งจะได้มรี ายไดไ้ วเ้ ลี้ยงตวั ในวันข้างหน้าไงบกั กำพรา้ ” “ก็...ไม่เห็นต้องเหนื่อยต้องยาก ลงแรงปลูกอะไรเลยน่ีครับหลวงตา ชาวบ้านก็นำอาหารส้มสูกลูกไม้มาถวายหลวงตา และผมก็ได้กินทุกวันอยู่แล้ว ผมวา่ อย่าลำบากเลยครับหลวงตา”
หลวงตากับผปี ่ตู า 11 “เออ...เอ็งน่ีจรงิ ๆเลยวะ” หลวงตาส่ายหน้า “เอ็งน่มี ันคดิ สัน้ จรงิ ๆว่ะ ไอก้ ำพรา้ ” หลวงตาสีหนา้ จรงิ จงั เสยี งเข้มกวา่ ปกติ “เอ็งรู้ไหมว่า ถ้าเอ็งปลูกต้นหมากรากไม้ ใส่ใจดูแลสักพักจนต้นไม้ต้ัง ตัวได้ ถึงเอ็งจะทิ้งๆ ขวา้ งๆ อย่างไรมันกโ็ ตของมนั เอง เอ็งจะต่ืนหรือเอง็ จะหลับ เอ็งจะดูแล หรือท้ิงๆ ขว้างๆ ไม่ดูไม่แล ต้นไม้มันก็งอกเงยของมันไม่หยุด เอ็ง เห็นไหมว่าบ้านไหนแม้จะมีท่ีดินมากมาย แต่ไม่ได้ลงหมากลงไม้ มันก็จน เพราะไม่มอี ะไรจะเกบ็ กนิ เกบ็ ขาย แตบ่ างบ้านท่ีเขามีทีด่ นิ แค่กะแบะมอื แตร่ ้จู กั ลงหมากลงไม้ พอใหญ่ ผลิดอก ออกผล ได้เก็บกินเก็บขาย กไ็ ดเ้ งินมากินมาอยู่ เหลอื เกบ็ ก็พอมีฐานะมาได้ ถา้ รู้จักกนิ รูจ้ ักเก็บ รู้จักออม” “เอาเถอะ หลวงตา ถ้าหลวงตาอยากฉันอะไร ผมจะไปหามาถวาย เพียงแค่ผมบอกว่าหลวงตาอยากได้อะไร ขี้คร้านชาวบ้านจะรีบหามาถวายให้ ฉันไมห่ มด ถ้าเหลือแลว้ ผมคอ่ ยเอาไปขายละกันนะหลวงตา” “เอ๊ะ...ไอก้ ำพร้าน่ี นรกจริงๆมงึ ” หลวงตาสหี นา้ จรงิ จงั น้ำเสยี งดุ จนกำพรา้ หน้าสลดเสยี งออ่ ย “แล้วจะให้ผมปลูกอะไรเล่าครับ ดินก็แห้ง แล้งก็แล้ง ปลูกอะไรก็ตาย หมด เหนอ่ื ยฟรลี ะมังครับ” กำพร้ายงั เถยี งไม่ตก “เอาอย่างน้ี...ถ้าจะรอให้เอ็งคิดได้ คงเสียเวลาหาประโยชน์ เอ็งจัดการ เขา้ มาหกั รา้ งถางพงในดงขา้ งดอนปตู่ าใหเ้ รยี บ แลว้ ไปขอหนอ่ กลว้ ยจากชาวบา้ น มาซักบ้านละหน่อสองหน่อ เอามาลงในท่ีให้เป็นเร่ืองเป็นราว อยู่ว่างๆ หายใจ ทง้ิ ไปวนั ๆเสยี ชาตเิ กิดจริงๆเอง็ น”ี่ “จะไหวเหรอหลวงตา...จะรอดเรอะ” หลวงตามองกำพรา้ นิง่ ๆแลว้ อธบิ ายอย่างใจเยน็ “กล้วยนนี่ ะ มันมปี ระโยชนท์ ัง้ ตน้ ท้ังใบ ทงั้ ดอก ท้งั ลูก นน่ั นะ และตน้ กล้วยนี่แหละ เป็นไม้ที่คนโบราณเขาใช้ทดสอบดิน ถ้าเอ็งปลูกกล้วยแล้วข้ึนดี แสดงว่าใต้ดินผืนนั้นมีน้ำซับอยู่ ต่อไปเอ็งจะปลูกอะไรก็ได้ ปลูกอะไรก็ขึ้น แต่
12 ผีผึบพึ้ม ถ้าปลูกแล้วไม่ข้ึน ไม่งอกไม่เงย ก็จบกัน ไม่ต้องปลูกอะไรแล้ว เพราะแสดงว่า ใตด้ นิ ผนื น้ีไมม่ นี ้ำ...ไป...ไปจดั การซะเลยวันน้ี อย่าขี้คร้าน” “แตว่ า่ ...หลวงตาครับ...” กำพร้ายังแสดงท่าขัดขืน เพราะกังวลถึงความเหน่ือยยากท่ีจะตามมา และจะตามไปอกี หลายปี “ผมว่า...ขอชาวบ้านก็ได้นะ แล้วกล้วยนี่ บ้านไหนเขาก็ปลูกกันท้ังนั้น แล้วจะเก็บไปขายใครได้ล่ะ ขายจะได้หวีละกี่บาท เครือละกี่บาท ปลูกแล้วใคร จะมาคอยดูแล ใครจะมาน่ังรดน้ำรดท่า ใครจะมาคอยพรวนดินใส่ปุ๋ย เดี๋ยวนก เดย๋ี วหนู กม็ ากนิ เสยี หายหมด ท่าจะเหนอื่ ยเปล่า เหน่ือยฟรี” หลวงตามองหน้ากำพร้า แล้วจูงมือลูกศิษย์รักก้นกุฏิท่ีชูชุบอุปถัมภ ์ เลี้ยงดูกนั มาแต่เลก็ แต่นอ้ ยพามานง่ั ที่โขดหนิ “เอาละเจา้ กำพร้า ข้าจะเลา่ นทิ านใหเ้ อง็ ฟงั สกั เรื่อง” กำพรา้ มองหน้าหลวงตางงๆ... หลวงตาน่ังขัดสมาธิสบายๆมือก็กวัดผ้าไล่แมลง แลว้ เริ่มเล่านิทาน
13
สอง พีน่ ้องสองหนุ่ม “ครัง้ หนงึ่ นานมาแลว้ ” หลวงตามองทอดสายตาไปยงั ป่าใหญ่ ทอ่ี ย่ใู นบรเิ วณตูบปู่ตา “ในป่าทึบแห่งหน่ึง เป็นป่าดงดิบ ในป่าน้ันมีผีป่ามากมายหลายพวก รูปร่างหน้าตาก็ต่างๆ กันไป ผีแต่ละพวกก็จะมีวิธีทำร้ายมนุษย์และสัตว์ต่างกัน ผกี องกอย รปู ร่างเหมือนคนตวั เลก็ ๆ แกรน็ ๆ ชอบกินสัตว์ในน้ำ ท้ังก้งุ หอย ปู ปลา ผีตีนเดียว มีขาข้างเดียว มันชอบป่ายปีนต้นไม้ ข้ึนไปกินส้มสูกลูกไม้ กงิ่ ไม้ ใบ ก้านเป็นอาหาร ผโี พงคา่ งเปน็ ค่างแกๆ่ แตม่ ฤี ทธ์ิเดชมาก ชอบแอบมา ดูดเลอื ดคนขณะนอนหลบั ” “หลวงตา...เลา่ เรือ่ งอะไรก็ไมร่ ู้ ผมขนลุก เสยี วสันหลงั วาบๆเลยเน่ีย” กำพร้าใชม้ ือลบู ขนแขนขนขาท่ีลกุ ชชู นั หนั หนา้ ไปมองรอบๆ ตัว “ฟ้าสว่างแดดจ้าอย่างนี้ เอ็งจะกลัวอะไรวะเจ้ากำพร้า...กลัวไม่เข้าเร่ือง เอ็งน่ี”
16 ผีผึบพ้ึม แลว้ หลวงตาก็เลา่ ต่อ “ผีอีกพวกหน่ึงเรียกว่าผีผึบพ้ึม เป็นผีป่า มีรูปร่างใหญ่โตมาก หน้าตา เครียดถมงึ ทึง ใบหน้ากวา้ ง เวา้ ลึกตรงกลาง ตากวา้ งลกึ มีหนวดเคราน่าเกลยี ด น่ากลัวมาก อาศัยอยู่ในป่าดงดิบ...เอ็งเคยได้ยินไหมละ...เวลาท่ีเห็นคนตัวใหญ่ ไหล่กวา้ ง หนา้ กว้าง ตาลกึ น่าเกลียดนา่ กลวั ชาวบ้านจะเรยี กวา่ ไอ้ผผี ึบพึ้ม” ผผี ึบพมึ้ ชอบกนิ เน้ือเปน็ อาหาร กินท้ังเนื้อคนและเนอ้ื สตั ว ์ สมัยก่อน ถ้าใครมีธุระต้องเข้าป่า จะไปหาผักหาหญ้า หาหยูกหายา หรือจะไปเท่ียวในป่าทึบ ทุกคนจะกลัวผีผึบพึ้มมาก เพราะผีผึบพึ้มมีร่างกายที่ ใหญโ่ ต แขง็ แรง มีพละกำลังมหาศาล ใครก็สู้ไมไ่ หว เรอื่ งมันเกิดตรงทีว่ ่า... มีชายหนุ่มสองคนพ่ีน้อง พ่อแม่ทำไร่ไถนาตามประสาชาวบ้านทั่วไป ไม่ได้มีท่ีทำกินอะไรมากมาย พอลูกชายเติบใหญ่ก็อยากจะขยับขยายหาท่ีทำไร่ ทำนามากขึ้น จะไดข้ า้ วไดห้ มากได้ผลมากขึน้ พ่ีน้องสองหนุ่มน้ี มีบคุ ลิกและนสิ ัยใจคอต่างกันมาก พี่ชายเปน็ คนไมฉ่ ลาด ขขี้ ลาด ขีก้ ลวั และขว้ี ติ กกงั วล น้องชายเป็นคนฉลาด กล้าหาญ กล้าคิดกล้าทำ ไหวพริบดี เป็นคนที่ กล้าตัดสินใจ เมื่อมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นก็ตาม มักแก้ไขให้สถานการณ์ต่างๆ ดีข้ึนเสมอ สองคนพี่น้องยังหนุ่มยังแน่น กำลังวังชายังดีอยู่มาก ก็เลยพากันไป หักร้างถางพง ลงทำไร่อยู่บนยอดเขากลางป่าดงดิบแห่งหนึ่ง ไกลจากบ้านพ่อ บา้ นแมโ่ ขอย ู่ ด้วยความที่ไร่อยู่ไกลจากบ้านพ่อบ้านแม่ ไกลจากหมู่บ้านมาก ทำให้ เดินทางไปเช้าเย็นกลับไม่ไหว สองคนพ่ีน้องจึงช่วยกันสร้างกระท่อมเล็กๆ ยกพื้นสูงพออยู่ได้ง่ายๆ แต่แข็งแรงต้านทานลมฝนได้ดีขึ้นหลังหน่ึงเอาไว้เป็น ท่ีพักผ่อนหย่อนใจ อาศัยเข้ามาพักร้อน พักเหนื่อย พอให้ลมเย็นๆ คลายร้อน คลายเหนือ่ ยใหท้ ุเลา หลังเลิกงานในไร่
พ่นี ้องสองหนมุ่ 17 เมื่อสองคนพี่น้องออกไปทำไร่แต่ละคร้ัง จึงต้องไปนอนค้างคืนคราวละ หลายๆ วนั จงึ ต้องมกี ารตระเตรยี มอาหาร เครอื่ งไมเ้ ครือ่ งมือ ท้ังมีดพร้า จอบ เสียม ขวาน อย่างพร้อมมือ เพราะในป่าทึบน้ันจะไปหาหยิบหายืมใครก ็ ไมไ่ ด้” กำพร้าทำหน้าสงสัย มองหลวงตาอย่างไม่เข้าใจในส่ิงที่หลวงตากำลัง เลา่ “ตกลงหลวงตา จะใหผ้ มทำไร่อยา่ งกบั พนี่ ้องสองหนุม่ น้ีใชไ่ หมครบั ” “เอานา่ ลองฟังไปกอ่ น แลว้ เอ็งค่อยตดั สินใจ”
18 ผีผบึ พึ้ม หลวงตามองเขา้ ไปในป่าขา้ งวดั “แล้วผมนี่ เป็นคนพที่ โ่ี ง่ หรอื เป็นคนน้องที่ฉลาดล่ะครับหลวงตา” “กำพร้าเอ๋ย คนเรานี่นะไม่มีใครท่ีฉลาดได้ตลอด และก็ไม่มีใครท่ีโง่ ร่ำไปหรอกวะ บางครั้งเราก็ฉลาดในบางเร่ือง บางคราวเราก็โง่ในบางอย่าง บางคนมันก็โง่ในเร่ืองฉลาดๆ บางคนมันก็ฉลาดในเรื่องโง่ๆ คนเรามีทั้งโง่และ ฉลาดในคนเดียวกันละวะ มันอยู่ท่ีสถานการณ์ใด ใครจะมีสติพอและแสดงออก มาอยา่ งไรต่างหากเล่า พี่น้องสองหนมุ่ นีก่ ็เหมือนกัน” “แล้วตกลง ผมนี่โงเ่ หมือนพห่ี รอื ฉลาดเหมือนนอ้ งละครบั ” “เอ็งถามอยา่ งนี้ เอง็ ก็รู้ตวั เองดนี วี่ ่าเปน็ เหมือนพ่หี รือนอ้ ง” กำพรา้ เกาหัวแกรกๆงนุ งงกนั คำอธบิ ายของหลวงตา “แล้วสองคนพ่ีน้องนี่จะเจอผีอะไรบ้างครับหลวงตา เจอผีผึบพ้ึมหรือ เปล่า” กำพรา้ เปลยี่ นคำถาม หลวงตายงั คงมองเขา้ ไปในป่าทึบข้างวัด “หลวงตา ในป่าน้ีมีผีรึ เป็นผีผึบพึ้มหรือเปล่า หลวงตาอย่าบอกนะว่า ในปา่ นีเ้ ป็นปา่ ทีส่ องคนพ่ีนอ้ งเคยเข้ามาทำไรใ่ นสมยั ก่อนนะ่ ” กำพรา้ ทำท่ากลัวๆ “เออ เอ็งน่จี ริงๆเชยี ว ขา้ ยังไมไ่ ดบ้ อกอะไรสักหนอ่ ย กลวั ไม่เข้าเรือ่ ง”
19
สาม ผีผึบพึ้ม หลวงตาเล่าตอ่ การออกไปทำไร่แต่ละครั้ง นอกจากอุปกรณ์ในการทำไร่แล้ว สิ่งท่ี สองพี่น้องไม่เคยลืมที่จะหยิบติดมือไปด้วยก็คือปืนคาบศิลา อาวุธประจำตัว คนละกระบอก เพอ่ื ความปลอดภยั และความอนุ่ ใจ ในเชา้ วันหนง่ึ ขณะที่พี่น้องสองหนุ่มต่างคนต่างก็ก้มหน้าก้มตาช่วยกันดายหญ้าในไร่ ไปเร่อื ยๆ จนลืมเวลา เผลอแป๊บเดยี วเกือบค่ำ ตะวันโพล้เพล้ สองพี่น้องจึงชวน กันหยุดงานเพ่ือเขา้ ไปชว่ ยกันหงุ หาอาหาร ขณะท่ีกำลังก่อไฟอยู่น้ัน ปรากฏว่ามีชายชราคนหน่ึงรูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาเครียดถมึงทึง ใบหน้ากว้าง เว้าลึกตรงกลาง ตากว้างลึก มีหนวดเครา นา่ เกลยี ดน่ากลวั มากออกมาจากปา่ ดงดิบ เดินมุง่ หน้าตรงมายงั กระทอ่ ม
22 ผผี บึ พ้ึม พอชายชรามองเห็นผู้ที่กำลังหุงหาอาหารเป็นชายหนุ่มรูปร่างล่ำสัน ก็ คิดถึงรสชาติเน้ือมนุษย์ จนอดน้ำลายไหลไม่ได้ ใช้น้ิวโป้งและน้ิวชี้ลูบริมฝีปาก ตาเปน็ ประกาย ขณะรบี เร่งเดินตรงเข้าไปใกล้ ทกุ ที ทุกท ี พ่ีชายซึ่งกำลังใส่ฟืนอยู่เพลินๆ พอเงยหน้าขึ้นมาเห็นชายชรารูปร่าง สูงใหญ่ หน้าตาน่ากลัว ในป่าที่ไม่คิดว่าจะพบใคร จึงร้องเสียงหลงด้วยความ ตกใจ “ผะ...ผะ...ผี...ผีหลอก” เหวี่ยงฟืนท่ีกำลังจะใส่ในเตาไปโดนกระทะ ตะหลิวปลิวว่อนเกลื่อนไปหมด ว่ิงไม่รู้ทิศรู้ทาง พอคิดได้จึงรีบว่ิงหนีขึ้นไป คลุมโปงซอ่ นตัวบนกระทอ่ ม ทำตวั ลีบอยมู่ ุมหอ้ ง น่ังตัวส่ันไป คิดไปต่างๆ นานา ผู้ชายหน้าตาน่ากลัวน่าจะเป็นผี หรือ เปน็ “ผีผึบพ้มึ ” ทช่ี าวบา้ น เลา่ ขานต่อๆ กันมาว่าชอบกนิ เน้อื มนษุ ย์เปน็ อาหาร จึงเกดิ อาการขนหัวลกุ กลัววา่ ตนจะตกเป็นอาหารค่ำของผีผบึ พมึ้ ในวนั น้ี คดิ ไดอ้ ยา่ งนน้ั กล็ นลาน ตะกายฝา ปนี ขน้ึ ไปอยบู่ นขอื่ แทบไมร่ อด ตวั สน่ั งันงก ขาสัน่ พั่บพับ่ มอื จับข่ือแทบไมต่ ิด ปากกร็ อ้ งตะโกนดว้ ยความกลัว “ผะ...ผะ...ผี...ผีหลอก” “ผะ...ผะ...ผีผึบพ้มึ มนั จะมากนิ เน้อื กแู ลว้ ชว่ ยด้วย...ผะ...ผะ...ผผี ึบพึ้ม มันจะมากินเน้ือกูแล้ว ช่วยด้วย พ่อแก้วแม่แก้ว ช่วยข้อยด้วยเด้อ ช่วยด้วย เดอ้ ” ส่วนน้องชาย กำลังเก็บยอดผักอยู่ปลายไร่ เพื่อเตรียมทำเป็นอาหาร ค่ำ พอได้ยินพ่ีชายร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ ทิ้งผักทั้งกำ รีบว่ิงมาดูพ่ีชาย พอมาใกล้ถึงเรือนก็รู้สึกตกใจกลัวเช่นกัน เมื่อมองข้ึนไปบนเรือน เห็นพี่ชาย เหนี่ยวตัวอยู่บนขอ่ื หว่ งก็หว่ ง กลัวก็กลวั ครนั้ จะวิง่ เข้าไปชว่ ยก็ไมไ่ ด้ เพราะมี ชายชรารูปร่างสูงใหญ่ ยืนทะมึนหน้าตาเครียดถมึงทึงขวางอยู่ตรงบันได คร้ัน จะวิ่งหนไี ปคงไม่พ้น ชายหนุม่ จึงรีบต้ังสติอย่างรวดเร็ว แล้วร้องเรยี กไปว่า “...ปู่...ๆ” นอ้ งชายเรยี กผีผึบพ้มึ อย่างอ่อนนอ้ มวา่ ป ู่ “ขอบคณุ ปเู่ ดอ้ ทอ่ี ุตส่าห์มาเยย่ี มหลานๆ”
ผผี ึบพ้ึม 23 น้องชายทำใจดีสผู้ ี “ปตู่ ้องการอะไร อยากกินเปรยี้ ว อยากหวาน อยากหมาก อยากยา ก็ บอกมาเถอะ ขา้ จะหาให้” ฝา่ ยผีผบึ พึ้มเมื่อเห็นชายหนมุ่ พดู ออ่ นน้อมเชน่ นนั้ เกดิ ความวางใจ จึง ตอบไปวา่ “เออวะ...เอง็ มอี ะไรทีจ่ ะให้ขา้ กินไดบ้ ้าง ก็รีบหามาใหข้ ้ากแ็ ล้วกนั ” พอดีเหลือบไปเห็นปืนคาบศิลาท่ีพิงไว้ข้างฝากระท่อม เลยออกอุบาย บอกกับผผี ึบพึ้มวา่ “ปู่...ข้าวปลาอาหารยังจัดเตรียมไม่เสร็จ ข้ามีกล้องยาสูบชั้นดีอยู่กล้อง หน่ึง เป็นกล้องยาสูบชนิดวิเศษท่ีสุด ปู่ลองดูสักหน่อยไหม ก่อนที่จะหุงหา อาหารเรียบร้อย เห็นพ่อเคยบอกว่า ถ้าใช้กล้องน้ีสูบยาฉุนจะมีรสอร่อยมาก ด้วย...ลองดูนะป.ู่ ..นะ” ผีผบึ พึม้ มองอย่างสนใจพรอ้ มหัวเราะหๆึ เบาๆอยา่ งอารมณด์ ี “ปู่ลองสบู ไหม...เอาไหม” นอ้ งชายคะย้ันคะยอ “สูบเลยนะ ข้าจะจัดมาให้ปู่ลองสูบดู ว่ามันจะวิเศษอย่างท่ีพ่อข้าพูดไว้ ไหม” เมื่อถูกชายหนุ่มรบเร้า ทำให้ผีผึบพ้ึมเกิดความครึ้มอกครึ้มใจ เออเอ็ง อยากให้ข้าทำอะไรก็ลองตามใจดู เดยี๋ วกจู ะกินเน้อื มงึ ให้อรอ่ ยเลย จงึ ตอบตกลง “เออวะ...เออวะ...เอ้า...มาลองดูก็ดีเหมือนกัน ฟังเอ็งพูดชักนึกอยาก ลองข้ึนมาซะแลว้ มา ไปเอามา” น้องชายเดินไปท่ีข้างฝากระท่อม หยิบปืนคาบศิลาท่ีพิงอยู่ แล้วรีบยัด ดนิ ปืนใส่เข้าทางปลายกระบอก ตำจนแน่นไดท้ ่ีดีแล้ว จงึ บรรจลุ ูกกระสนุ จนเต็ม ลำ แล้วเดนิ กลบั มาหาผีผบึ พ้ึมพรอ้ มย่นื ปากกระบอกปืนให ้ “เออวะ...เออวะ ขอบใจว่ะ...มาลองหน่อยซิ มันจะอร่อยแค่ไหน อร่อย
24 ผีผบึ พ้ึม อยา่ งที่เอ็งคุยไว้หรอื เปลา่ ” ผผี ึบพึม้ ยกปากกระบอกปนื ที่บรรจดุ ินปนื และมีกระสุนเตม็ ลำข้นึ มาอม น้องชายเห็นดังนั้นก็กระหย่ิมใจว่าถ้าผีผึบพึ้มตาย พี่ชายและตนจะได้ พ้นภยั เม่ือผีผึบพ้ึมอมปากกระบอกปืน ชายหนุ่มจึงง้างไกปืนแล้วรีบล่ันไก กระสนุ แล่นออกจากลำกล้องทนั ที “ปัง” เสียงปืนดังสนั่น ด้วยแรงสะท้อนของลูกปืนท่ีเข้าไปในปาก ทำให้ผี ผึบพ้มึ ล้มตงึ หงายหลงั ผึง่ ไปนอนแผห่ ลาอย่ทู พี่ ื้นทันท ี แต่ต้องตกตะลึง เม่ือเห็นผีผึบพ้ึมค่อยๆ ลุกขึ้นพร้อมกับถุยลูกปืนออก มาจากปาก เหมือนไม่มีอะไรเกิดข้ึน ชายหนุ่มรู้สึกตกใจกลัวเป็นท่ีสุด แต่ พยายามรวบรวมสติ ต้ังม่ันโดยเร็วแล้วทำท่าทีเป็นปกติ ประคองเสียงไม่ให้ส่ัน ถามผีผบึ พึ้มวา่ “เปน็ อยา่ งไรบ้างละ่ ปู่ ยาสบู ฉนุ ดีไหม ฉนุ ซะลน่ั เลย” ผีผึบพึ้มปัดแขนปดั ขาแลว้ ตอบดว้ ยเสียงเรยี บๆว่า “เออวะ...เออวะ ยาสูบของเอง็ นีม่ นั ฉนุ ดเี หลือเกนิ ” “เอาอีกซกั ปัง...เอ๊ย...เอาอกี ซกั ตง้ั ไหมละ่ ปู่” น้องชายพยายามทำนำ้ เสยี งและสหี น้าให้เป็นปกติ ผผี บึ พึ้มรูส้ กึ สนุก สบู ยาจากกลอ้ งของชายหน่มุ อกี 4-5 ครั้ง จนดินปนื หมด แตอ่ ำนาจของปืนคาบศลิ าไมส่ ามารถทำอะไรผผี บึ พมึ้ ได้ ชายหนุ่มจนปัญญา น่ิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงคิดแผนการใหม่ข้ึนได้ และ บอกผผี ึบพ้ึมวา่ “ปหู่ วิ ไหมละ่ นี่ แหมขา้ นี่แยจ่ ริงๆลืมไปเลยวา่ นี่กเ็ ย็น ถึงเวลาอาหารค่ำ แลว้ ปู่คงหวิ ” “เออวะ...เออวะ...หวิ เหมือนกันวะ่ ”
ผผี ึบพม้ึ 25 ผีผบึ พึม้ หิวอยู่แล้ว จงึ ตอบโดยมริ งั้ รอ “ขา้ มหี มตู ัวใหญอ่ ้วนพอี ยูต่ วั หน่ึง ข้าจะไปเอามาใหป้ กู่ ินกแ็ ล้วกันนะ” ชายหนมุ่ แกลง้ ทำเป็นคิด แล้วพูดว่า “แต่ว่า...ไอ้หมูตัวน้ีไม่รู้มันเป็นอะไรของมัน เลี้ยงเท่าไรก็ไม่เชื่อง มันดุ มันร้ายนัก น่ีถ้าจะจับมันได้ต้องหาซองขนาดใหญ่ไปใส่ แต่...แหม ซองใหญ่ก็ ไมม่ ซี ะดว้ ยซี ปูต่ ้องรอซักหนอ่ ยนะเพราะขา้ ตอ้ งสานซองใสห่ มูกอ่ น” “เออวะ...เออวะ...แต่อย่านานนกั นะ ขา้ หวิ ว่ะ” น้องชายเดินไปที่กองหวายใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างกระท่อม ใช้มีดผ่าหวาย เป็นซกี แลว้ สานเป็นซองใสห่ มู พอสานใกลเ้ สรจ็ จงึ รอ้ งเรยี กผีผบึ พ้ึม “ป.ู่ ..ปู่ ช่วยดใู ห้ข้าหนอ่ ยซวี ่าไอซ้ องทข่ี ้าสานนีน่ ่ะ มนั แข็งแรงดหี รือยัง ดูทีซวิ ่าจะเอาไอ้หมูอ้วนอยู่หรือเปล่า” ชายหนุ่มทำทีเป็นขอให้ผีผึบพ้ึมทดสอบความแน่นหนาของซองใส่หมู โดยเข้าไปในซองหม ู “เออวะ...เออวะ…” ผีผบึ พ้ึมเดินเขา้ ไปหาชายหนุม่ ชายหนุ่มใจช้ืนเพราะเห็นว่าผีผึบพึ้มหลงกลตามแผนการที่คิดไว้ จน ยอมเข้าไปนอนในซองใส่หมูที่ตนสาน เมื่อชายหนุ่มบอกให้ผีผึบพึ้มทดลองถีบ แรงๆ เพื่อทดสอบดูว่า ซองท่ีสานข้ึนมาน้ีแข็งแรงพอที่จะทานหมูดุร้ายดิ้นได้ ไหม ผีผบึ พม้ึ กอ็ อกแรงถีบซองตามทช่ี ายหนุ่มบอก ตรงไหนทแ่ี รงถบี ทำให้ซอง ชำรดุ ขาดรยุ่ ชายหนุ่มก็สานหวายแซมให้หนาขึน้ ในขณะเดียวกันก็สานปิดจน มิดชิดรอบด้าน นอ้ งชายสานซองอย่างแน่นหนา แนใ่ จว่าผีผบึ พมึ้ ไม่สามารถออกมาได ้ น้องชายตะโกนร้องเรียกพ่ีชาย ซึ่งซ่อนตัวอยู่บนขื่อในกระท่อมให้ออก มา “เร็ว เรว็ รีบลงมาเร็ว มาช่วยกนั ฆ่าผผี บึ พ้ึมเร็ว” เรียกพลางรีบไปหาฟืนมากองสุมเป็นกองใหญ่มหึมา แล้วจุดไฟจนลุก
26 ผผี บึ พ้มึ คุโชนสวา่ งไสวไปทัว่ ป่า พี่ชายได้ยินน้องชายตะโกนเรียกเสียงดังล่ัน ก็ยังไม่แน่ใจ จึงค่อยๆ เย่ียมหน้าออกมาชะเง้อคอดู เห็นผีผึบพึ้มอยู่ในซองหมูจึงคลายใจ ความกลัว หายไปได้บ้าง คิดว่านา่ จะปลอดภยั แลว้ จึงรบี ลงจากขอื่ ว่งิ ต๋อื ลงบันไดกระทอ่ ม มาหาน้องชาย “เรว็ ๆพี่ ชว่ ยกัน” นอ้ งชายเร่งให้พ่ีชายชว่ ยกันหามซองทใี่ ส่ผผี ึบพม้ึ ไปโยนลงในกองไฟ ผีผึบพ้ึมเห็นว่าชายหนุ่มทั้งสองคนจะจับตนโยนลงในกองไฟท่ีลุกโชน ขา้ งหน้า จึงรอ้ งโวยวายด้วยความตกใจกลวั “เออวะ..เออวะ..เอ็งจะทำอะไรกันน่ี อย่า...อย่าโยนข้าเข้ากองไฟนะ ข้ากลัว...อย่าทำข้าเลยนะ...ปล่อยข้าไปเถอะ ข้าจะไม่กลับมากวนใจเอ็งอีก ขา้ สัญญา ปลอ่ ยข้าไปเถอะนะ ขา้ แกแ่ ลว้ ” ผผี บึ พมึ้ พยายามพดู อ้อนวอน “เออวะ...เออวะ...ถ้าเอ็งปล่อยข้าไป ข้าจะตอบแทนบุญคุณอย่างสมใจ ท่ีสุด บ้านของข้ามีแก้ว แหวน เงินทองมากมาย ถ้าพวกเอ็งปล่อยข้าไป ข้า รับรองว่าจะไม่ทำอันตราย แล้วข้าจะตอบแทนที่พวกเอ็งปล่อยข้าไป ด้วยแก้ว แหวนเงนิ ทองทม่ี ี ปลอ่ ยข้าไปเถอะนะ ปล่อยขา้ ไปเถอะนะ...นะ” ผีผึบพึ้มอ้อนวอนอยู่นานจนชายหนุ่มทั้งสองเกิดความสงสารใจอ่อน ช่วยกันเอามีดมาตดั หวายปล่อยผีผบึ พึม้ ออกมาจากซอง “เออวะ...เออวะ...ขา้ ขอขอบใจเอง็ ทง้ั สองมากนะทไ่ี ว้ชวี ติ ข้า” ผีผึบพ้ึมออกจากซองได้ จึงกล่าวขอบคุณและบอกชายหนุ่มทั้งสองว่า “เพื่อเป็นการตอบแทนเอ็งท้ังสอง ข้าขอเชิญให้เอ็งทั้งพี่และน้องทั้งสองคนไป เทีย่ วบา้ นของข้า ในปา่ ดงดิบไกลโพ้น” “แล้วข้าจะไปได้อย่างไรเล่า ข้าไม่รจู้ กั ทางน”่ี ชายหนุ่มผูน้ อ้ งถามดว้ ยความสนใจ “เออวะ...เออวะ...ถ้าเช่นนั้นข้าขอเสียมของเอ็งสักเล่มหน่ึงก็แล้วกัน
ผีผบึ พม้ึ 27 ขณะท่ีข้าเดินกลับบ้าน ข้าจะใช้เสียมน่ีแหละขุดดินให้เป็นรอยเพ่ือเป็น เคร่ืองหมายให้เอ็งรู้ทางที่จะไปบ้านข้าก็แล้วกัน ถ้าเอ็งทั้งสองจะไปเท่ียวบ้าน ของขา้ ให้เดินตามรอยเสยี มที่ขา้ ขดุ ไว้กแ็ ล้วกัน” น้องชายเดินไปหยิบเสยี มมายืน่ ให้ผผี ึบพมึ้ “เออวะ...เออวะ ไปให้ได้นะ ข้าจะตอบแทนบุญคุณท่ีเอ็งทั้งสองปล่อย ข้าไปในวันนี้...ข้ามีแก้วแหวนเงินทองอยู่มากมาย ไม่ต้องกลัว ข้าจะดูแลเอ็ง ทงั้ สองอยา่ งดี ให้สมกับคณุ ทเ่ี อ็งไดส้ ร้างกบั ขา้ ไวใ้ นคร้งั นี้ ไปใหไ้ ด้นะ ขา้ จะรอ” ผผี ึบพึม้ ยืนยนั แล้วยนื ยนั อกี ว่า ไมม่ ีอนั ตรายแตอ่ ยา่ งใด แลว้ ผีผึบพึม้ ก็จากไป “หลวงตาครบั แลว้ สองคนพนี่ อ้ งจะไปเทย่ี วบา้ นผผี บึ พม้ึ หรอื เปลา่ ครบั ” เจา้ กำพร้าถามอยา่ งสนใจและสนกุ ไปกับเรือ่ งราวของสองพนี่ อ้ ง “แล้วเจ้าคิดว่าไอ้สองคนพ่ีน้องมันจะไปไหมล่ะ...ไปบ้านผีน่ะ” หลวงตา ถามกลบั “ไมร่ ซู้ ี แตถ่ า้ เปน็ ผมนะ ผมจะไปเพราะมนั กน็ า่ ไปดนู ะวา่ บา้ นผบี า้ นสาง มันเป็นอย่างไร มันอยู่กันอย่างไร เหมือนพวกเราไหม แล้วที่สำคัญผมอยากรู้ ว่าผีผบึ พม้ึ จะให้อะไรเป็นการตอบแทนคุณ” “อา้ ว...แลว้ เอ็งไม่กลัวแล้วหรือ” หลวงตาพูดคุยด้วยท่าทางสบายใจท่ีเห็นเจ้ากำพร้าเกิดความกล้าและ สนอกสนใจในเร่อื งท่เี ลา่ “ก็กลัวอยู่หรอก แต่ว่า...ตกลงพี่น้องสองคนน่ี มันจะไปบ้านผีผึบพึ้ม ไหมครบั หลวงตา” “แลว้ เอ็งว่าไงล่ะ” “ไป” “เอ้า...ไปก็ไป”
สี่ ดินแดนลี้ลับของผีผึบพึ้ม ต่อจากน้ันอกี หลายวนั ชายหน่มุ ท้งั สองก็ยงั คงใชช้ ีวิตทำไรไ่ ปตามปกต ิ จนวนั หนงึ่ เมื่อเสร็จจากงานไร่ดายหญ้า พ่ีชายคิดถึงแก้วแหวนเงินทองที่ผีผึบพึ้ม บอก ก็เลยชวนน้องชายให้ไปเยี่ยมผีผึบพ้ึม แม้พี่ชายจะมีความกลัวและกังวล อยบู่ ้าง แต่มีความโลภอยากได้แกว้ แหวนเงนิ ทองมากกวา่ กเ็ ลยหายกลวั “พ่แี น่ใจนะว่าเชอื่ คำพดู มันได้ คำพดู ของคนยังหลอกกันได้ แล้วคำพูด ของผขี องสางมันไมห่ ลอกเอาดอกรึ จะเช่ือได้รนึ ่ี” น้องชายพูดอย่างกล้าๆกลวั ๆ “ดูท่าแล้วก็น่าจะเชื่อได้นะ ฟังน้ำเสียงที่ผีผึบพ้ึมพูดคิดว่าไม่หลอก หรอกนา่ ” พี่นอ้ งสองคนจึงเตรยี มตวั ออกเดินทางไปหาผีผบึ พึ้ม แต่ด้วยความไม่ประมาทและเพื่อเป็นการป้องกันตัว พี่น้องสองหนุ่มจึง หยบิ มดี เหน็บที่เอว หยิบปนื คาบศิลาสะพายหลงั ไปด้วย
30 ผผี บึ พม้ึ น้องชายขบคิดอย่างคนมีน้ำใจดีว่าไปเยี่ยมผีผึบพึ้มในครั้งน้ี น่าจะมี ของติดไม้ติดมือไปฝากผีผึบพ้ึมบ้าง เผื่อผีผึบพึ้มจะเปลี่ยนใจจากชอบกินเน้ือ มนุษย์มากินมังสวิรัติบ้าง ครั้นจะเอาฟักแฟงแตงกวาสดๆ แบกไปก็จะลำบาก หนักเปล่าๆ จึงเก็บรวบรวมเมล็ดฟักแฟงแตงกวาใส่ถุงใบใหญ่หมายเอาไปฝาก ผีผึบพ้มึ ปลูกไวเ้ กบ็ กินในวันขา้ งหนา้ จะได้ไมอ่ ดอยากต่อไป ชายหนุ่มท้ังสองพากันเดินทางตามรอยเสียมท่ีผีผึบพ้ึมทำไว้ ขณะที่ สองพี่น้องเดินไปข้างหน้า รอยเสียมท่ีผีผึบพ้ึมทำไว้ก็หายไป พอหันหลังกลับ ไปดูทางท่ีเดินผ่านมา รอยเสียมก็หายไปหมดแล้ว ป่าก็ปิดลง มองไม่เห็นทาง เดินท่ีผ่านมา มีเพียงป่ารกชัฏเท่าน้ันที่รายล้อมอยู่รอบตัว สร้างความกังวลให ้ พี่ชายเป็นอยา่ งมาก “ขา้ วา่ ชกั จะยังไงแลว้ นะ” พีช่ ายเริ่มรู้สกึ กงั วลมากขน้ึ “ไมม่ อี ะไรหรอกนา่ ...คงจะเป็นดว้ ยอิทธิฤทธข์ิ องผผี ึบพม้ึ น่ันแหละ...” น้องชายปลอบใจ พี่ชายยังมีอาการละล้าละลัง แต่ก็เดินไปตามทางเร่ือยๆ เหน่ือยก็พา กนั หยุดพกั หนกั ก็พากันนอน น้องชายไม่รู้ตัวเลยว่าขณะท่ีเดินทางรอนแรมผ่านพงผ่านรกชัฏมานั้น ถุงเมล็ดฟักแฟงแตงกวาที่ทนแบกมาน้ัน ถูกหนามแหลมเกี่ยวจนเป็นรู ทำให้ เมลด็ ฟกั แฟง แตงกวา ในถุง รว่ งหล่นตามรายทาง ผา่ นไปสองวัน ชายหนุ่มทั้งสองจึงเดินลึกเข้าถึงกลางป่าดงดิบ และพากันแปลกใจ เพราะป่าทีอ่ ยู่ขา้ งหน้ามลี กั ษณะแตกต่างจากป่าทีผ่ ่านมา ทันใดนั้นชายหนุ่มต้องตกตะลึงเมื่อเห็นป่าทึบท่ีรายล้อมไปด้วยต้นไม้ ใหญ่น้ัน ค่อยๆ เปลี่ยนจากสีเขียวขจีกลับเป็นสีน้ำตาลไหม้ ต้นไม้ใหญ่ก็เป็น สีน้ำตาลคล้ำ ยืนต้นแห้งตาย ใบไม้แห้งกรอบแต่ไม่หลุดจากขั้ว ชายหนุ่ม
ดินแดนลล้ี ับของผีผบึ พ้ึม 31 ท้ังสองขนลุกเกรียวด้วยความวังเวงของบรรยากาศรอบๆ ตัว และความสงัด ปราศจากเสยี งธรรมชาติของป่า แตเ่ มอ่ื มองไปขา้ งหน้า เห็นบ้านไมส้ ดี ำอยู่รำไร หนทางท่ีจะเข้าสู่บ้านไม้สีดำนั้นแม้จะดูไม่ไกลนัก แต่ก็รกเร้ือไปด้วย ต้นไม้ เถาวัลย์ รากไม้ ใบแหง้ ระโยงระยาง ระเกะระกะเต็มไปหมด “ขา้ งหน้านา่ จะเปน็ บา้ นของผผี บึ พม้ึ ...อา้ วเฮ้ย...หมดกัน” น้องชายหันมองถุงใส่เมล็ดฟัก แฟง แตงกวา ท่ีเหลือแต่ถุงเปล่าๆ เพราะเมล็ดพืชเหลา่ นั้นหลน่ หายตามรายทางจนหมด “กะว่าจะเอามาฝากผีผบึ พ้มึ สักหน่อย...หมดกนั ” น้องชายกล่าวอย่างเสียดาย พร้อมขว้างถุงเปล่าไปข้างทางอย่างสุด แรง พอถุงเปลา่ ใบนั้นตกถงึ พน้ื ทันใดนน้ั เกดิ เป็นควนั พวยพงุ่ ฟุ้งไปหมด สักครู่ พอควันจางลง ถุงเปลา่ ที่พื้นหายวบั ไปกบั ตา “จะไหวรึ ขา้ ว่ากลับตอนนกี้ ย็ ังไมส่ ายนะ” พ่ีชายพดู อย่างกลวั ๆ “เอาน่า...อย่าปอดแหกไปหน่อยเลย ไหนๆ ก็มาแล้ว เป็นไงเป็นกัน ละวะ” ทันใดนนั้ ท้องฟ้ายามบ่ายเปล่ียนเป็นสีมืดดำอย่างรวดเร็ว เมฆดำทะมึนลอยมา จากไหนกไ็ มร่ ู้ จๆู่ กป็ รากฏแผก่ ระจายจนบดบังแสงอาทติ ยไ์ ปจนหมดสน้ิ ลมท่ี พัดเบาๆ ค่อยๆ พัดแรงข้ึน...แรงข้ึน ทุกที ทุกที จนกลายเป็นพายุพัดโหม กระหน่ำ เศษใบไม้ใบหญ้าฝุ่นละอองปลิวว่อนไปทั่ว จากเวลายามบ่ายเปลี่ยน เป็นพลบคำ่ อย่างรวดเร็ว สองหนุ่มเหลียวซา้ ยแลขวา หันหนา้ หนั หลังอยา่ งตกใจกลัว ยงั ไม่ทันได้คิดหรือทำอะไรตอ่ ทันใดน้ันเอง เกดิ กระแสลมกระชากชายหนมุ่ ทัง้ สองอย่างรนุ แรง ทำให้ ร่างของทั้งสองหมุนคว้าง ป่าท่ีรกระเกะระกะแยกออกจากกัน แรงดึงดูดฉุด กระชากชายหนุ่มท้ังสองปานกระสุนท่ีพุ่งออกจากปากกระบอกปืน ชายหนุ่ม ท้ังสองตกใจสุดขีด เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดข้ึนเต็มใบหน้าและแผ่นหลัง ต่างคนต่าง
32 ผีผบึ พึ้ม หอบหายใจอยา่ งตดิ ขัด จนเกอื บจะหายใจไมอ่ อก ทัง้ สองพี่นอ้ งตน่ื กลวั จนแทบ จะหยุดหายใจ เม่ือเหลือบมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เห็นเป็นสีดำมืดทะมึนเหมือน ผืนผ้าสดี ำยังคงแผ่ขยายออกไปอยา่ งไมห่ ยุดยงั้ ทันใดน้ันท้ังสองรู้สึกเหมือนถูกกระชากอย่างรุนแรงอีกครั้ง ทำให้ร่าง ของทั้งสองคนหยุดชะงัก เมื่อลืมตาข้ึนพบว่าบัดนี้ท้ังสองคนมาหยุดอยู่หน้า ประตูรัว้ บ้านท่มี องเห็นลิบๆเมือ่ คร่อู ย่างไม่รเู้ นอื้ รูต้ ัว สองพน่ี อ้ งลกุ ขนึ้ แลว้ เดนิ ไปทป่ี ระตรู วั้ คอ่ ยๆ เปดิ ประตไู มท้ เ่ี กา่ ครำ่ ครา่ ผุกร่อนพร้อมท่ีจะพังลงทุกวินาที แต่ทั้งสองคนออกแรงดันเท่าไร ประตูก็ไม่ เขย้ือน ฝดื มาก ไมม่ ีเสียงออดแอดใดๆ สองพี่นอ้ งพยักหน้าให้กันเป็นสญั ญาณ ทร่ี ู้กันว่าให้ดันจนสดุ แรง แต่ประตูก็ไม่ขยบั เขยอ้ื นแตอ่ ยา่ งใด พ่ชี ายรู้สึกกลัวจึง หันหลงั กลับ พรอ้ มเอ่ยปากชวนน้องชายกลับ “ตายแน่แล้วกู คราวนี้ตายแน่ กลับเถอะวะ กลับเถอะ กูไม่เอาแล้ว แกว้ แหวน เงนิ ทองน่ะ...” สิน้ เสยี ง ประตูกเ็ ปดิ ออกโดยทไี่ ม่ตอ้ งดนั สิง่ ทที่ ้งั สองเห็นคอื ผผี บึ พมึ้ กบั เมยี ยนื ทะมนึ คอู่ ยอู่ ยา่ งนา่ สะพรงึ กลวั รปู รา่ งใหญโ่ ต หนา้ ตา ที่เครียดถมึงทึง ใบหน้ากว้าง ตาโบ๋ลึก น่าเกลียดน่ากลัว แม้สองพ่ีน้องจะเคย เห็นกนั มากอ่ นแต่ก็อดทจี่ ะตกใจกลัวไมไ่ ด้ “เข้ามาๆ ข้าดีใจมากที่เอ็งทั้งสองมาเยี่ยม...น่ีเมียข้าเอง งามนักใช่ไหม ล่ะ เห็นตะลึงจังงังทง้ั คูเ่ ลยน่”ี ผผี บึ พ้ึมกับเมยี ยิ้มตอ้ นรับชายหนุ่มท้ังสองอย่างเป็นมติ ร “ข้าได้กลน่ิ เอง็ ตัง้ แตเ่ อง็ เดนิ ทางผา่ นรอยเสียมรอยแรกแลว้ ละ” สองพ่ีนอ้ งมองหนา้ กนั อยา่ งงงๆ แล้วหนั ไปทางผีผึบพึม้ กบั เมียพร้อมๆ กนั “เอ็งมากันเหนือ่ ยๆ มากนิ น้ำกินท่า กนิ อาหารร่วมกนั กอ่ น แล้วคอ่ ยไป พักผ่อนหย่อนใจให้สบายก็แล้วกันนะ เมียข้าเขาจัดเตรียมต้อนรับพวกเอ็งไว้
ดินแดนลล้ี บั ของผผี ึบพ้ึม 33 อย่างสุดฝีมือเทียว ท้ังข้าวปลาอาหารและห้องหับหลับนอน เต็มที่เลยนะ อย่า ได้เกรงอกเกรงใจ คิดเสยี วา่ นเ่ี ป็นบา้ นของเอ็งทงั้ สองเองก็แลว้ กัน” ท้ังสองตอบขอบคุณท่ีปู่และย่าให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ทำให้พี่ชาย ค่อยคลายใจหายกังวลไปได้บ้าง เดินตามน้องชายต้อยๆ ตามผีผึบพ้ึมกับเมีย ไปที่โตะ๊ อาหารทีม่ กี ารจัดอาหารไว้มากมายหลายอยา่ ง “เด๋ียวข้าจะปรุงแกงไข่ให้เอ็งท้ังสองกินดู ต้องกินร้อนๆ ปรงุ เสรจ็ ใหมๆ่ แลว้ กินทันทีถงึ จะดี มันจะได้รสชาติท่วี เิ ศษสดุ จริงๆ อาหารสตู รเด็ดอย่างน้ี ข้า เชื่อว่าเอ็งท้ังสองไม่เคยกินมาก่อนในชีวิต มาเยี่ยมกันถึงที่แล้ว ผัวข้าขอไว้ว่า ต้องปรุงให้เอ็งท้ังสองลองลิ้มชิมดู ข้าไม่ได้ทำบ่อยนักหรอก ถ้าไม่ใช่เทศกาลท่ี สำคญั หรอื ต้องตอ้ นรบั แขกคนพิเศษจรงิ ๆไมไ่ ด้แอ้มหรอกหึ...หึ...” เมียผีผึบพึ้มพูดอย่างอารมณ์ดี แล้วเดินเข้าไปในครัว ต้ังหม้อแกงบน เตาที่ก่อไฟไวแ้ ลว้ พอหมอ้ แกงแตะเตาไฟ...เท่านัน้ ทนั ใดนน้ั เมยี ผีผึบพมึ้ ก.็ ..แวบ...หายตวั ไปทนั ที กลายเปน็ ควันพวยพ่งุ ขึ้นจนมองไม่เห็น พอควันจางลงปรากฏเป็นร่างไก่ตัวเมียตัวหนึ่งร้องกระต๊ากๆ เหยียบอยู่บนหมอ้ แกง ชายหนุ่มท้ังสองได้ยินเสียงไก่ร้อง จึงเหลือบมองเข้าไปในครัว เห็นไก่ ตวั หนึง่ รอ้ งกระต๊ากๆ ตดู กก็ ระดกๆ ไขไ่ มห่ ยดุ ไมห่ ยอ่ น พอไขไ่ ด้คร่งึ หม้อ กเ็ กดิ เป็นควันพวยพุ่งมาจากหม้ออีกครั้งหน่ึง พอควันจาง แม่ไก่ตัวน้ันก็หายไป ปรากฏเป็นร่างของเมียผผี บึ พ้ึม กลับคืนข้ึนมายนื ปรุงอาหารดงั เดมิ พ่ชี ายตะลึงตาค้าง ส่วนน้องชายท่ีคอยสังเกตดูอยู่จึงเดาได้ว่าแม่ไก่ตัวนั้นก็คือเมียของ ผีผึบพึม้ และไข่ที่แมไ่ ก่ไขอ่ อกมานั้นคอื ขีข้ องเมียผผี บึ พึ้มน่นั เอง เม่ือเมียผีผึบพึ้มยกอาหารมาให้ ชายผู้น้องจึงไม่ยอมแตะต้องแกงไข่ เลย กินแต่อาหารชนิดอื่นๆ ท่ีมีอยู่มากมายบนโต๊ะ คร้ันจะบอกพ่ีชายก็ไม่ได้ เพราะน่ังอยู่ตรงกันข้าม ถึงจะพยายามส่งสัญญาณให้พ่ีชายรู้ พ่ีชายก็ไม่เข้าใจ
34 ผผี บึ พมึ้ เพราะเดินทางมาไกลจึงเกิดความหิวโหยไม่ดูอะไรเลย เมื่อเห็นแกงไข่ร้อนๆ น่ากินน่าซด จึงไม่ร้ังรอ ซดเอาๆ กินเอาๆ กินเข้าไปอย่างเต็มพุงโดยไม่รู้ว่า แกงไขท่ ่ีไดก้ นิ อยา่ งเอร็ดอรอ่ ยนนั้ แท้แล้วคือแกงขีข้ องเมยี ผีผึบพึม้ เม่ือกนิ อ่ิมหมพี มี นั ผีผบึ พึ้มจึงพาสองพนี่ ้องไปยงั ห้องทีเ่ มียตนตระเตรยี มไวต้ อ้ นรบั พอก้าวข้ามธรณีประตูเท่าน้ันสองพี่น้องก็รู้สึกวูบเหมือนหลับเป็นตาย ไมร่ สู้ ึกใดๆอีกเลย “สองคนพี่นอ้ งตายเหรอหลวงตา” กำพร้าถามอยา่ งหว่ งใยในชีวติ และทรัพยส์ นิ ของสองพี่น้อง “แล้วเอง็ คิดวา่ ไงละ่ ” หลวงตาถามกลบั “ตายแน่เลย ข้ีของเมียผีผึบพึ้มต้องเป็นพิษแน่ กินเข้าไปเต็มคำ เต็ม คราบอย่างนั้น...ตายแน.่ ..ตายไหมหลวงตา” “ถ้าอย่างนั้น อ้ายผู้พ่ีมันก็ตายคนเดียวละวะ เพราะมันกินอยู่คนเดียว ไอ้คนนอ้ งมนั ไม่ได้กนิ เข้าไปด้วยน.่ี ..” กำพร้าคิดตาม แลว้ พยกั หนา้ เห็นด้วย “แล้วไงละครับหลวงตา...ยึดย้ือ ก๊ักอยู่ได้...เร็วๆ ซีหลวงตา เล่าเร็วๆ แล้วตอ่ ไปเป็นยังไง” “เออ...เอง็ นม่ี นั จรงิ ๆเลยวะ”
35
ห้า สวนของผีผึบพึ้ม ครั้นรุง่ เช้า ชายหนมุ่ ทัง้ สองกต็ ื่นนอนเปน็ ปกติ กินข้าวกินปลาเสร็จสรรพ เมียผผี ึบพมึ้ เกบ็ ถว้ ยชาม เกบ็ สำรบั กับข้าว ผผี บึ พ้ึมพาชายหนมุ่ ท้งั สองออกไปเดนิ เที่ยวในบริเวณรอบๆ บ้าน ส่งิ ที่ ไดพ้ บทำใหท้ ้ังสองพ่นี ้องต่ืนตาตนื่ ใจมาก นับแตก่ ้าวออกจากประตูบ้านผ่านเข้า บริเวณสวน ก็พบพญาเหยี่ยวตัวใหญ่สยายปีกสีม่วงแดงเข้มเฉ่ียวบินสะบัดรับ แรงลม จะงอยปากดำขลับเป็นมันวับ ขยับส่งเสียงดังก้องแข่งกับเสียงลม ดู สีสันแปลกตาไม่เคยเหน็ ท่ีไหนมาก่อน ผีผึบพ้ึมยกมือขึ้นโบกสามคร้ัง พญาเหยี่ยวก็เฉี่ยวลงมายืนอยู่ข้างๆ ผีผบึ พม้ึ ลูบหัวพญาเหย่ยี วตวั ใหญ่สามคร้ัง แลว้ หนั มามองพน่ี อ้ งสองหนมุ่ “แตะตัวข้าไว้อย่าให้มือหลุดนะ”
38 ผผี บึ พมึ้ ผีผึบพึ้มบอกเพียงเท่านี้ ไม่อธิบายอะไรต่อ แต่สองคนพ่ีน้องก็เชื่อ ย่ืนมือไปแตะตวั ผีผบึ พมึ้ อยา่ งงงๆ ผีผึบพึ้มยน่ื มือไปจับขาพญาเหยยี่ วตัวใหญ ่ ทันใดน้ันสองพ่ีน้องก็รู้สึกเบาหวิว ล่องลอยไปในอากาศอย่างบังคับ ตัวเองไม่ได้ จนมาถึงทีแ่ หง่ หน่งึ ทด่ี ูเหมอื นไมห่ ่างจากบ้านของผีผบึ พ้มึ เท่าไรนัก พญาเหยีย่ วตวั ใหญก่ พ็ าท้งั สามร่อนลงพื้น แล้วพญาเหยีย่ วตัวใหญก่ ห็ ายตวั แวบ...ไปในทนั ใด เม่ือได้สติแล้ว ทั้งหมดก็มาอยู่ท่ามกลางบ่อดำใหญ่สามบ่อ ท่ีปากบ่อ ทกุ บอ่ มหี มาดำทะมนึ ตวั โต ทำจมกู ฟดุ ฟดิ หายใจแรงฟดื ฟาด ฟดื ฟาด กวดั หาง แกว่งหัวคอยงับแมลงท่ีบินว่อนอยู่เหนือหัว อ้าปากพยักพเยิดน้ำลายไหลย้อย ไม่ขาดสาย “นค่ี ือบ่อสมบัติของข้า...” ผีผึบพึ้มว่าพลางร่ายเวทมนตร์ ทำให้ก้อนหินและใบไม้แห้งท่ีอยู่ในบ่อ ทางทศิ ตะวันตกกลายเปน็ แกว้ แหวนเงนิ ทองเตม็ บอ่ ไปหมด “โอ้โฮ...สมบัติ...เราจะรวยแล้ว” ชายหนุ่มทั้งสองร้องออกมาพร้อมกัน อยา่ งตน่ื เต้น ผีผึบพึ้มยังคงหลับตาร่ายเวทมนตร์ ทำให้ใยแมงมุมท่ีโยงใยอยู่เต็มบ่อ ทางทศิ ใตก้ ลายเปน็ ทองเต็มบ่อไปหมด “ทอง” ชายหนุ่มทัง้ สองร้องออกมาพร้อมกันอยา่ งตืน่ เตน้ อกี ครั้ง ผผี ึบพึ้มไมห่ ยุดรา่ ยเวทมนตร์ ทำใหเ้ มล็ดมะกำ่ ตาควายทอ่ี ยใู่ นบอ่ ทาง ทิศตะวนั ตกเฉยี งใตก้ ลายเปน็ เพชรนิล จนิ ดา เต็มบอ่ ไปหมด “เพชร” ชายหนุ่มทั้งสองรอ้ งออกมาพรอ้ มกันอย่างต่ืนเตน้ อกี ครงั้ หน่งึ
สวนของผผี บึ พม้ึ 39 “น่ีเป็นสมบัติของข้า ข้าขอตอบแทนท่ีเอ็งได้ไว้ชีวิตข้าในครั้งนั้น เอ็ง อยากได้อะไร หน่อเงิน หน่อทอง หรือหน่อเพชรนิลจินดา จะเอาสักเท่าไรก็ได้ เอาไปเถดิ ขา้ ให้” ผีผึบพึ้มอนุญาตให้สองพ่ีน้องเลือกหน่อเงิน หน่อทอง และหน่อเพชร นิลจนิ ดาตา่ งๆตามความพอใจ “ไม่หรอก ไม่เอาหรอก มันมากเกินไปสำหรับพวกข้า” ชายผู้น้องพูด อย่างเกรงอกเกรงใจ “เอา...เอาซี ทำไมจะไม่เอาเลา่ ...แบกความโงม่ าถึงน่ีเลยนะมึง...” พีช่ ายตำหนิน้องชายอยา่ งจรงิ จงั ด้วยเสียงเข้ม “เอา เอา...ผีผบึ พึ้ม ข้าขอบใจเจา้ มาก พวกเราจะได้หลุดพน้ จากความ จนกนั ซกั ที ทกุ วนั นก้ี เ็ หนอ่ื ยสายตวั แทบขาด ทำเทา่ ไรกไ็ มพ่ อกนิ จนไมจ่ บไมส่ นิ้ ขอบใจ...ขอบใจนะ ผผี บึ พ้มึ ” ชายผู้พี่หายกลัวเป็นปลิดทิ้งทันที ละล่ำละลักขอบอกขอบใจผีผึบพ้ึม ไม่ขาดปาก พดู ไปกว็ ง่ิ รต่ี รงไปยงั บอ่ เงนิ ...บอ่ ทอง...บอ่ เพชรนลิ จนิ ดาอยา่ งตนื่ เตน้ แววตาละโมบอยา่ งไม่กักไม่เก็บ จนนอ้ งชายเกิดความละอายต้องเตอื นสติ “พอทีเถอะน่า...อย่าเลย...มันไม่ใช่ของเรา จะมามักได้ใคร่เอาของปู่ ทำไมกัน” ชายผนู้ อ้ งยงั คงเรียกผผี บึ พึ้มวา่ ปตู่ ลอด ผีผบึ พม้ึ ยมิ้ อย่างพอใจในตวั ชายผู้นอ้ ง ท้งั ท่าทีของเขาและคำเรยี กทใี่ ช้ เรียกตน ไม่เคยเปล่ยี นไปนบั แตว่ นั แรกทีพ่ บกนั จนวันน้ี “เออวะ...เออวะ...เอาไปเถอะ ข้าให้ อยากไดเ้ ท่าไรก็เอาไปเถอะ” นอ้ งชายก้มลงหยิบ เงนิ ทอง และเพชรชิ้นที่เลก็ ท่สี ดุ จากปากบ่อแต่ละ บ่อใส่ในกระเป๋าเสื้อ พร้อมกล่าวขอบใจผีผึบพ้ึมที่กรุณามอบของท่ีมีค่าเช่นนี้ให้ ในขณะทพ่ี ช่ี ายแยกตวั ออกไปหาเส้นหวายมาสานเปน็ กระบุงสองใบ ใชม้ ีดทเ่ี อา ติดตวั มาด้วยตดั ไม้ ถากเปน็ ไม้คานเอาไวห้ าบอย่างรอ้ นรน
40 ผผี บึ พมึ้ พอสานกระบงุ เสร็จ ไดไ้ ม้คานแล้ว พ่ีชายกร็ ีบโกย เงิน ทอง และเพชร นิลจินดาใส่กระบุงจนล้น หกเรี่ยราดยังไม่พอ ยังเอาใส่ในกระเป๋าเส้ือ กระเป๋า กางเกงจนตงุ ไปหมด หาบกห็ นัก ตวั กห็ นกั เพราะท้ังในกระบุงและในตัวเตม็ ไปด้วยเงิน ทอง และเพชรนิลจินดา หนักจนขยับขาแทบไม่ออก แต่พ่ีชายก็พยายามออกแรง อย่างเต็มท่ี ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าจะต้องเอาเงิน ทอง และเพชรนิลจินดา กลบั บ้านใหห้ มด จะได้รำ่ ได้รวยเสยี ท ี “ขา้ ตอ้ งลาปู่ ลายา่ ไปกอ่ นแลว้ มื้ออนื่ ข้าจะมาเยี่ยมใหม่ เสยี ใจที่คร้ังนี้ ไม่มีอะไรตดิ ไมต้ ดิ มอื มาฝากปู่ ฝากยา่ เลย” นอ้ งชายกลา่ วขอบคุณแล้วบอกลาผผี ึบพมึ้ และเมยี เพ่ือกลับบา้ น “เออวะ เออวะ ขา้ รู้วา่ เอง็ น้นั เปน็ คนดีมีนำ้ ใจ ของฝากของเอง็ น่ะ ขา้ ได้ แลว้ และขอคืนให้เอง็ ไปเถอะ เม่ือกลบั บา้ นแลว้ เอ็งจะรูเ้ องว่าข้าหมายความว่า อยา่ งไร” นอ้ งชายงงในคำพูดของผีผึบพมึ้ พช่ี ายเดนิ นำลว่ิ ไปกอ่ นแลว้ ไมร่ ำ่ ไมล่ า เดนิ อยา่ งไมร่ ทู้ ศิ รทู้ าง เดนิ ตปุ ดั ตุเป๋ ด้วยความหนัก แต่กก็ ดั ฟันทน ปัญหาใหญเ่ กดิ ขึน้ จนได ้ รอยเสียมท่ีผีผึบพ้ึมทำไว้เป็นทางให้สองพี่น้องเดินตามมานั้นลบไป หมดแลว้ หันหลังกลับไปเพื่อจะถามทางผีผึบพึ้ม แต่พอหันไปก็ไม่เห็นอะไรแล้ว นอกจากปา่ ดงดบิ ครึ้มทบึ ส่วนผผี ึบพม้ึ หายไปไหนไม่รู้ ไมเ่ หน็ แมแ้ ตเ่ งา พี่ชายไม่รับรู้ใดๆ ง่วนอยู่กับการหาบเงิน ทอง และเพชรนิลจินดาที่ หนักอึง้ อยเู่ ต็มตัวและสองบ่าไหล่
สวนของผผี ึบพึ้ม 41 น้องชายขบคดิ คดิ เท่าไรกค็ ดิ ไมอ่ อก “แลว้ จะทำไงล่ะหลวงตา” กำพร้าถามด้วยความสงสัย พร้อมลุ้นให้สองพ่ีน้องหาทางกลับบ้าน ใหไ้ ด้ “แล้วเอ็งวา่ ไงละ่ ” “ไม่รู้” กำพร้ายอมแพ้ดื้อๆ
หก หาทางกลับบ้าน นอ้ งชายขบคดิ จนหวั แทบแตก กระท่ังเห็นเถาฟัก เถาแฟง เถาแตงกวาที่ทอดยอดเล้ือยตามทาง จึง คดิ ได้วา่ ตอนเดินทางมานั้น ไดแ้ บกถุงเมล็ดฟกั แฟง แตงกวามาดว้ ย แต่ถุงดัน ถกู หนามคมเก่ียวจนขาด ทำใหเ้ มล็ดพืชร่วงตามรายทาง และเมล็ดพชื เหลา่ นนั้ น่าจะได้น้ำได้ฝนจนโตเป็นเถาฟัก แฟง แตงกวานี่แหละ คิดได้ดังนั้น จึงแน่ใจ ว่าไม่หลงทางแน่ ตัดสินใจพาพี่ชายท่ีหาบกระบุงหนักอึ้ง เต็มไปด้วยเงิน ทอง และเพชรนิลจินดา เดนิ ไปตามทางท่ีมีเถาฟกั เถาแฟง เถาแตงกวา แม้จะงงกับกาลเวลาที่เหมือนช่ัวสองสามคืนท่ีจากบ้านมา แต่ทำไม เถาฟัก เถาแฟง เถาแตงกวาจึงได้โตใหญ่ จนใหด้ อกใหผ้ ลมากมายเช่นนี้ ระหวา่ งทางทีไ่ กลแสนไกล “เฮย้ ...ไอ้นอ้ งใจจืด เอง็ ไม่คดิ ที่จะชว่ ยข้าหาบบา้ งเลยร.ึ ..” พ่ชี ายตดั พ้อน้องชาย “ไม่ละ ข้าบอกแล้วว่าของของเขา อย่าเอามาเลย พ่ีก็ไม่เชื่อ เอามา ทำไม เรามสี องมอื สองตนี เทา่ เขา บากบน่ั ขยันทำเขา้ หนอ่ ยกเ็ หลอื กินเหลือเกบ็ เห็นไหมล่ะ..ร้แู ล้วใชไ่ หมละ่ วา่ จิตท่ีคิดจะเอาของคนอื่นเขานน้ั มนั หนักแค่ไหน”
44 ผผี ึบพม้ึ ชายผู้น้องเดินตัวปลิวอย่างสบายอกสบายใจ ไม่สนใจพ่ีชายที่เดินเซ จนยืนไม่อยู่ล้มกลิ้งไม่เปน็ ทา่ ด้วยความเหนื่อยเปลี้ยเพราะเสียแรงหาบเงิน ทอง และเพชรนิลจินดา ที่หนักเกินตัว ทำให้ชายผู้พี่ขยับขาแทบไม่ออก ซ้ายก็ปวด ขวาก็เจ็บ หลังก็ ระบม ไหลบ่ ่าบวมเป่ง แต่ก็ทซู่ ีห้ าบต่อไปเร่ือยๆ จนไมไ่ หวแล้ว มนั ชา่ งหนกั แสนหนกั หนกั จนไปไมไ่ หวแลว้ ชายผพู้ จ่ี งึ ตดั สนิ ใจคอ่ ยๆ หยิบเงิน หยบิ ทอง หยิบเพชรนลิ จนิ ดาทิ้งทีละชนิ้ ทลี ะชิน้ จนหมดโดยไมร่ ู้ตวั กระทง่ั มาถึงกระท่อมของตน ชายผู้น้องใช้มือกำกระเป๋าเส้ือ สัมผัสกับเงิน ทอง และเพชรนิลจินดา ช้ินน้อยที่นำติดตัวมาด้วย รู้สึกดีใจที่กลับมาถึงบ้านด้วยความปลอดภัย พร้อม ระลกึ ถึงผีผบึ พ้ึมด้วยความขอบคุณ “หมด...หมดตัวเลย กไู มเ่ หลืออะไรสกั ช้นิ เงนิ ทอง เพชรนิลจนิ ดา ไม่ เหลอื สกั ช้ิน หมด ฉิบหายหมด” ชายผู้พี่น่ังตีอกชกหัวอย่างคนเสียสติ ร้องไห้เสียดายเงิน ทอง และ เพชรนิลจนิ ดา ที่ต้องทิง้ ไวต้ ามรายทางจนไมเ่ หลือตดิ ตวั แมแ้ ต่ชิ้นเดยี ว “เอานา่ พ.ี่ ..สองมอื สองตนี ของเรานแ่ี หละจะทำใหเ้ รามมี ากกวา่ เงนิ ทอง และเพชรนลิ จนิ ดา ทพี่ ี่ต้องทงิ้ ไปตามทางอีก เชื่อข้าเถอะ” นอ้ งชายปลอบใจพ่ชี าย “หมด...หมดตัวเลยกู ไม่เหลืออะไรสักช้ิน เงิน ทอง เพชรนิลจินดา ไมเ่ หลอื สกั ช้ิน หมด ฉิบหายหมด” พช่ี ายยงั คงเพ้อ นง่ั ตีอกชกหวั อย่างคนเสยี สติ ร้องไห้ไมห่ ยดุ “โน่นไง...พี่เห็นไหม” นอ้ งชายพยายามเบย่ี งความสนใจของพชี่ าย “โน่นไงพี่ ตามทางยาวเหยียด เถาฟัก เถาแฟง เถาแตงกวาเขียวขจี ลูกดกอย่างกับอะไรดี เป็นพืดเปน็ แพเต็มไปหมด เห็นไหมเลา่ ...”
หาทางกลับบา้ น 45 น้องชายชี้มือไปตามทางที่เดินกลับบ้านซึ่งเต็มไปด้วยเถาฟัก เถาแฟง เถาแตงกวาเขยี วขจี ทอดยาวสดุ ลกู หลู กู ตา “น่แี หละ เงิน ทอง และเพชรนิลจินดาของเรา…” พชี่ ายหยุดร้องไห้ มองตามนวิ้ ที่นอ้ งชายช้ี เหมอื นจะคิดได้ แต่ก.็ .. “โอย๊ ต้องเหนือ่ ยตอ้ งยากอกี เท่าไรจึงจะไดส้ กั บาทสกั สตางค์ มึงทำไป เถอะ เหนื่อยจนตายก็ไม่ได้เท่าทองสักกะผีกแท่งของผีผึบพ้ึม มึงทำไปเถอะ... ทำไปคนเดียวเถอะ...กูไม่เอาแล้ว...กูไม่ไหวแล้ว...หมด...หมดตัวเลยกู... ไม่เหลืออะไรสักชิ้น เงิน ทอง เพชรนิลจินดา ไม่เหลือสักช้ิน...หมด ฉิบหาย หมด...” น้องชายเดินส่ายหน้าระอาพี่ ปล่อยให้พ่ีชายน่ังฟูมฟายอยู่คนเดียว แล้วเดินเข้าไปใต้ถุนบ้าน หยิบมีดเหน็บหลัง คว้าหาบคว้าไม้คานได้ก็เดินดุ่มๆ ผา่ นพีช่ ายที่ยงั คงต้งั หน้าต้งั ตาฟมู ฟายไรส้ ตไิ ปอยา่ งไมส่ นใจ ชายผู้น้องตัดลูกฟัก ลูกแฟง ลูกแตงกวาได้มากมาย ตัดเท่าไรก็ไม่ หมด ตัดแล้วกเ็ อาไปขายไดเ้ งินมามากมาย พ่ีชายเห็นดังนั้นก็ได้สติ ปลิดทุกข์ทิ้งแล้วมาช่วยกันตัดลูกฟัก ลูกแฟง ลูกแตงกวาออกขาย ได้เงินมาให้พ่อให้แมไ่ ว้กินไว้ใช้ ท่ีเหลอื จากกินจากใช้ นำ มาสร้างบ้านอยู่อย่างใหญ่โตโอ่อ่า ส่วนท่ียังเหลือก็เก็บไว้ซ้ือเรือกสวนไร่นา ขยายท่ที ำกนิ ไปจนสุดลูกหลู ูกตาตามทางเถาฟัก แฟง แตงกวา พี่น้องสองหนุ่มกลายเป็นเศรษฐีในละแวกหมู่บ้านนั้น แต่งงานมีลูก หลาน และมีความสุขอยูก่ บั ครอบครัวนานตราบชั่วอายุขยั “เรือ่ งผีผึบพ้ึมกจ็ บเพียงเทา่ น”ี้ หลวงตามองหน้าเจา้ กำพร้า “จบแล้วเหรอหลวงตา...กำลังเพลินเชียว”
เจ็ด จากผีผึบพึ้มถึงเจ้ากำพร้า เสยี งไอแคก็ ...ๆของหลวงตาทำใหก้ ำพร้าหยดุ ถามคำถาม “ครับหลวงตา...ผมขอตวั สักประเดย๋ี ว” พดู เสร็จกำพร้าก็กม้ ลงกราบหลวงตา แลว้ เดินจากไปอยา่ งไมม่ ีป่มี ขี ลุ่ย หลวงตามองตามหลังลูกศิษย์ก้นกุฏิตัวน้อยอย่างไม่เข้าใจ แต่เพียงลัด นาที เจ้ากำพร้าก็เดินกลับออกมาพร้อมมีดหวดด้ามยาว เดินดุ่มๆ เข้าไปในป่า รกทบึ ขา้ งวดั แลว้ เรม่ิ หวดมดี ในมืออยา่ งต้งั อกต้งั ใจดว้ ยท่าทีที่มุง่ ม่ัน หลวงตาเดนิ กลับกุฏิอย่างสบายใจ ห้าวนั ถดั มา หลวงตาเหน็ ปา่ ทึบกลายเปน็ ไร่โลง่ “อา้ วจะไปไหนกันละน่ะเจา้ กำพร้า”
48 ผีผึบพ้มึ หลวงตาถามไลห่ ลงั เม่ือเหน็ เจา้ กำพรา้ เดินออกจากวัด “ผมจะลงไปหมู่บ้านสักหน่อยครับหลวงตา ว่าจะออกไปขอหน่อกล้วย บ้านละหน่อ สองหน่อ เมล็ดฟัก เมล็ดแฟงสักบ้านละหยิบมือมาลงในท่ีข้างวัด น่ันไงหลวงตา” หลวงตามองเจา้ กำพร้าอย่างสขุ ใจ นับสบิ วนั เจ้ากำพร้าหมั่นลงหน่อกล้วย หยอดเมล็ดฟัก แฟง แตงกวาท่ีได้จาก ชาวบา้ นจนหมด เขยี วพดื เต็มพน้ื ทีข่ า้ งวดั ทีไ่ ด้ถากไดถ้ างดว้ ยมือตนเอง เหนือ่ ยนกั เมอ่ื เสรจ็ งานแลว้ เจา้ กำพรา้ มานงั่ ใตต้ น้ ไมใ้ หญ่ หายใจดว้ ยความเหนอ่ื ย แต่เม่ือทอดสายตามองไปยังผืนดินที่ตนได้พลิกฟ้ืนข้ึนมากระทั่งเป็นสวนกล้วย ไรฟ่ กั แฟง แตงกวาไดด้ ว้ ยตัวเอง ก็อดภาคภมู ิใจไม่ได้ ดว้ ยความเหนอื่ ยลา้ ตาของเจา้ กำพรา้ คอ่ ยๆ ปรอื และปดิ ลงดว้ ยใบหนา้ ทย่ี ้มิ แย้ม ทนั ใดนนั้ เจ้ากำพร้าก็เห็นลำแสงสว่างแวบจนแสบตา ต้องใช้มือป้อง จนแสง คอ่ ยๆจาง เหน็ ภาพข้างหนา้ เด่นชัด “อุ๊ย...ทำไมผูค้ นมาวัดกันเยอะแยะอย่างนี”้ เจา้ กำพร้ารำพึงกับตนเอง ไมท่ ันไดค้ ดิ อะไรมากไปกว่าน้ี เสยี งผคู้ นที่เขา้ มาต่างแยง่ กนั พดู “ซอ้ื กลว้ ยเครือหนึ่งเถอะวะเจา้ กำพร้า” “ซ้ือฟกั สักสองลูกเถอะวะเจ้ากำพรา้ ” “ซื้อแฟงสักหน่อยเถอะวะเจ้ากำพร้า...” เสียงผู้คนมาขอซ้ือผลหมาก รากไม้จากสวนข้างวัดไม่ไดข้ าด
จากผผี ึบพ้มึ ถงึ เจา้ กำพร้า 49 เจ้ากำพร้ามือเป็นระวิง เพราะต้องตัดกล้วย ตัดลูกฟัก แฟง แตงกวา ออกขาย ไดเ้ งนิ เยอะแยะเต็มไปหมด กำพรา้ นำเงินทองที่ไดม้ าถวายหลวงตา ได้ซ่อมแซมกุฏิที่ผุพัง กระทั่ง แข็งแรงพอที่จะทานแดดทานลมปกคุ้มให้หลวงตาปลอดภัย จะได้อยู่กับกำพร้า นานๆ ท่ีเหลอื จากถวายหลวงตา กำพรา้ นำไปให้แม่ แมข่ องกำพร้างามนกั ไหนหลวงตาบอกว่าแม่ตายแล้ว น่ีไง...หน้าสวยๆ ของแม่ลอยมาอยู่ ใกล้ ๆกำพร้านี่ไง...แม่กอดกำพรา้ เสยี จนแน่น อ้อมกอดของแมอ่ บอ่นุ มาก กำพร้าร้องไห้และตัดพ้อท่ีแม่ท้ิงกำพร้าไว้กับหลวงตานานนักแล้ว กำพรา้ เหงา หันซ้ายกไ็ ม่มแี ม่ หันขวากไ็ มม่ พี ่อ หันหนา้ หนั หลงั ไมม่ ใี ครเลย แม่ลบู หวั ปลอบกำพรา้ อย่างอ่อนโยน วงแขนที่แม่กอดเหมือนปีกแม่ไก่ทีป่ กปอ้ งไม่ใหใ้ ครมาทำร้ายลกู นอ้ ย กำพร้าเองกก็ อดแมแ่ นน่ มาก ไมอ่ ยากใหแ้ มไ่ ปไหนเลย กำพร้ายื่นเงินที่ได้จากการขายกล้วย ขายฟัก แฟง แตงกวามากมาย ให้แม่ ส่วนทเ่ี หลือจากการใหห้ ลวงตา ใหแ้ ม่ กำพรา้ เก็บไวซ้ ื้อเรอื กสวนไร่นา ขยายทท่ี ำกินจากเขตวัดกว้างไปจนสดุ ลูกหลู กู ตา หลวงตามองเจ้ากำพร้าที่กำลังนอนหลับอยู่ใต้ต้นไม้ ใบหน้าขณะหลับ ยังเป้ือนย้ิม หน้าหันไปทางสวนกล้วยท่ีมีหน่อกล้วยหน่ออ่อนลงเรียงกันอย่าง เป็นระเบียบ หลวงตายิ้มอย่างสบายอกสบายใจแล้วเดินเข้ากุฏิอย่างช้าๆ ปล่อยให้ กำพร้าหลับสนิทอย่างสบาย หลวงตาไมเ่ ห็นนำ้ ตาท่ีหยาดคา้ งอย่ทู ่ีหางตาของกำพรา้ หรอก
Search