94 เล่มที่ 3 เรื่อง ผกั พืน้ บ้าน สอ่ งฟ้าดง ช่ือทิ้งถิ่น : สอ่ งฟ้า สมดั ใหญ่ สอ่ งดาว สอ่ งฟ้าดง ช่ือวิทยาศาสตร์ : Clausena harmandiana (Pierre) Pierre ex Guillaumin ช่ือวงศ์ : RUTACEAE ลกั ษณะ : ไมพ้ ุม่ ขนาดเลก็ อายหุ ลายปี ลาตน้ สเี ขยี วอมน้าตาลเขม้ ใบประกอบแบบขนนก ปลาย ค่ี เรียงสลบั ใบย่อย 3-7 ใบ ใบขอบขนานแกมรูปไข่ ปลายใบแหลม ขอบใบด้านล่างโค้งเบ้ยี ว เลก็ น้อย ใบสเี ขยี วเขม้ ผวิ ใบมนั มจี ุดน้ามนั กระจายและจุดโปร่งแสง ขอบใบมรี อยหยกั แบบฟัน เล่อื ยห่าง มขี นสนั้ ๆ ตรงรอยหยกั ดอกออกเป็นช่อ แยกแขนง ออกท่ปี ลายกงิ่ ดอกเด่ยี วสเี หลอื งอมเขยี วอ่อนๆ กลบี ดอกสขี าวแกมเหลอื ง ออกดอกเดอื นมนี าคม-พฤศจกิ ายน ผลสด รูปกลมรี ผลอ่อนสเี ขยี ว ผลแก่เป็นสชี มพอู มขาว ผลแกค่ ่อนขา้ งฉ่าน้าและมเี มลด็ เดยี ว ตดิ ผลเดอื นเมษายน พบขน้ึ กระจายทวั่ ไปในพน้ื ทท่ี าเลเลย้ี งสตั วส์ าธารณะ ทเ่ี ป็นป่าโปร่ง ป่าเบญจพรรณ ส่วนที่นามาบริโภค : ใบออ่ น ยอดออ่ น รบั ประทานเป็นผกั สด ฤดกู าลที่สามารถใช้ประโยชน์ : ปลายฝนตน้ หนาว
ความหลากหลายของพชื อาหารป่ าและการใช้ประโยชน์จากชมุ ชน 95 มะสงั ช่ือทิ้งถิ่น : Wood apple ผกั สงั หมากกะสงั มะสงั กะสงั หมากสงั กระสงั ช่ือวิทยาศาสตร์ : Feroniella lucida (Scheff.) Swingle ช่ือวงศ์ : RUTACEAE ลกั ษณะ : ไมย้ นื ต้นขนาดกลาง สงู 5-15 เมตร แตกกงิ่ กา้ นขนานกบั ลาต้นหรอื ออกตงั้ ฉากกบั ลา ต้น ลาต้นและกงิ่ กา้ นมหี นามแหลมยาว แขง็ ตรง กง่ิ อ่อนมขี นขน้ึ ปกคลุม ใบประกอบแบบขนนก ชนั้ เดยี วหรอื สองชนั้ ปลายใบค่ี เรยี งตวั กนั แบบสลบั หรอื เป็นกระจุก 2-3 กา้ น ใน 1 ขอ้ มใี บย่อย เกดิ เป็นคู่ๆ เรยี งตวั กนั แบบตรงขา้ ม มจี านวน 3-5 คู่ รปู ไข่กลบั หรอื รูปรี ปลายใบแหลม โคนใบ แหลม ขอบใบเรยี บ ดอกเป็นชอ่ กระจุกตามกงิ่ หรอื ตามซอกใบคลา้ ยๆ กลบี ดอกมี 5 สขี าว ผลทรง กลม สเี ขยี ว เม่อื แก่สนี ้าตาล เปลอื กหนามาก มกี ลน่ิ หอม เมลด็ จานวนมาก รปู ยาวรี ส่วนท่ีนามาบริโภค : ผลมรี สเปรย้ี วใชแ้ ทนมะนาวได้ ใบออ่ น ยอดออ่ น ชอ่ ดอก ลวกรบั ประทาน เป็นผกั ฤดกู าลท่ีสามารถใช้ประโยชน์ : ฤดหู นาว
96 เล่มท่ี 3 เรื่อง ผกั พืน้ บ้าน มะตมู ตงั กระแจะ ชื่อทิ้งถ่ิน : พญายาขะแจะ ตุมตงั ตะนาว พดุ ไทร ชะแจะ กระแจะจนั ช่ือวิทยาศาสตร์ : Hesperethusa crenulata (Roxb.) Roem. ชื่อวงศ์ : RUTACEAE ลกั ษณะ : ไม้ยนื ต้นขนาดกลาง เปลอื กต้นสนี ้าตาล ขรุขระ ลาต้นและกง่ิ มหี นามแขง็ และยาว หนามออกเดย่ี วหรอื เป็น ไมผ่ ลดั ใบ ใบประกอบแบบขนนกชนั้ เดยี ว เรยี งสลบั ใบยอ่ ย 4-13 ใบ รูป วงรแี กมไข่กลบั กา้ นใบแผ่เป็นปีก โคนและปลายใบสอบแคบ ใบมตี ่อมน้ามนั เป็นจุดใสๆ กระจาย อย่ทู วั่ ไป ขอบใบหยกั เป็นซฟ่ี ันเล่อื ย ตน้ื ๆ ดอกชอ่ แบบช่อกระจะ รวมกนั เป็นกระจกุ ตามกงิ่ เลก็ ๆ หรอื ตามซอกใบ มขี นสนั้ นุ่ม สขี าวหรอื สขี าวอมเหลอื ง ผลสด รปู ทรงกลม เมอ่ื อ่อนสเี ขยี ว แกจ่ ดั สี ม่วงคล้า เมลด็ รูปเกือบกลม สีน้าตาลอมสม้ อ่อน ออกดอกเดอื นมนี าคม-พฤษภาคม ผลเดือน พฤษภาคม-ตุลาคม ส่วนท่ีนามาบริโภค : ใบออ่ น ยอดอ่อน ลวกรบั ประทานเป็นผกั ฤดกู าลที่สามารถใช้ประโยชน์ : เดอื นมนี าคม-พฤษภาคม
ความหลากหลายของพชื อาหารป่ าและการใช้ประโยชน์จากชมุ ชน 97 ผกั คาวทอง ชื่อทวั่ ไป : Plu Kaow ผกั คาวทอง พลคู าว ชื่อวิทยาศาสตร์ : Houttuynia cordata Thunb. ช่ือวงศ์ : SAURURACEAE ลกั ษณะ : พชื ลม้ ลุกทอดเลอ้ื ยไปตามพน้ื ดนิ สงู 30-50 ซม. ใบเป็นใบเดย่ี ว แผ่นใบแผ่ โคนใบรปู หวั ใจ ปลายใบแหลมเป็นตง่ิ ผวิ ใบดา้ นบนเรยี บสเี ขยี วเขม้ ดา้ นลา่ งมขี นตามเสน้ ใบ โคนกา้ นใบแผ่ เป็นปีกแคบ ดอกสเี หลอื ง ออกเป็นช่ออดั กนั แน่น มใี บประดบั สขี าวนวลรปู ขอบขนานแกมรูปไข่ ขนาดไม่เท่ากนั กลบี รองดอกและกลบี ดอกลดรปู เกสรผู้ 3 อนั เมลด็ ขนาดเลก็ ค่อนขา้ งกลม พบ ในจนี ไทย ถงึ ญป่ี ่นุ ออกดอกและตดิ ผลชว่ งเดอื นมถิ ุนายน-สงิ หาคม ส่วนท่ีนามาบริโภค : ใบออ่ น ยอดอ่อน รบั ประทานเป็นผกั สด หรอื นามาประกอบอาหารประเภท แกงออ่ ม ฤดกู าลท่ีสามารถใช้ประโยชน์ : ทงั้ ปี
98 เล่มที่ 3 เร่ือง ผกั พืน้ บ้าน ผกั กระแยง ชื่อทวั่ ไป : ผกั กระแยง ผกั แขยงกะออม กะแยงแดง ผกั พา ชื่อวิทยาศาสตร์ : Limnophila aromatica (Lam.) Merr. ช่ือวงศ์ : SCROPHULARIACEAE ลกั ษณะ : ไมล้ ม้ ลุกเน้อื อ่อนฤดเู ดยี ว สงู 30-70 ซม. ทอดเลอ้ื ย แตกรากจากขอ้ ทงั้ ตน้ และใบเม่อื นามาหกั จะมกี ลน่ิ หอมฉุนและเผด็ รอ้ น ใบเดย่ี ว ออกเรยี งตรงขา้ มกนั เป็นค่ๆู ตามขอ้ รูปใบหอก ปลายใบแหลม โคนใบห่อติดกบั ลาต้น ขอบใบจกั เป็นฟันเล่อื ย แผ่นใบสเี ขยี ว ไม่มกี ้านใบ ดอก เดย่ี ว ออกตามซอกใบ แต่จะออกดอกเป็นชอ่ กระจะตรงส่วนยอดของต้น รปู กรวย ปลายบานออก เลก็ น้อย แยกออกเป็นกลบี 4 กลบี สแี ดง สมี ่วง สขี าว หรอื สชี มพอู ่อน ผลเป็นฝักยาวรี เม่อื แก่จะ แตกออก ออกดอกและตดิ เดอื นมนี าคม-กนั ยายน มกั ขน้ึ ตามรมิ คหู รอื คนั นา อา่ งเกบ็ น้า บรเิ วณท่ี มนี ้าขงั เลก็ น้อย และพน้ื ทช่ี มุ่ ชน้ื อน่ื ๆ ส่วนที่นามาบริโภค : ใบอ่อน ยอดอ่อน นามาประกอบอาหารประเภทแกงออ่ ม ฤดกู าลท่ีสามารถใช้ประโยชน์ : ฤดฝู น-ฤดหู นาว
ความหลากหลายของพชื อาหารป่ าและการใช้ประโยชน์จากชมุ ชน 99 มะเขือข่ืน ช่ือทวั่ ไป : Cock roach berryมะเขอื ขม มะเขอื หนาม ช่ือวิทยาศาสตร์ : Solanum aculeatissimum Jacq. ช่ือวงศ์ : SOLANACEAE ลกั ษณะ : ไมล้ ม้ ลุก สงู 1-3 เมตร ตามลาตน้ มหี นามสนั้ ใบเดย่ี ว ออกเรยี งสลบั ใบมหี ลายรปู ร่าง โคนใบเป็นรปู หวั ใจ ขอบใบหยกั เวา้ เป็นพตู ้นื ๆ หลงั ใบสเี ขยี ว ทอ้ งใบเรยี บเป็นมนั มหี นามแหลม ตามเสน้ กลางใบ ดอกเป็นช่อสนั้ แบบช่อกระจะ มดี อกย่อย 4-6 ดอก หรอื ออกดอกเดย่ี วตามซอก ใบ มขี นห่างยาวๆ กลบี ดอกมี 5 กลบี สมี ่วง ออกดอกเดอื นมนี าคม-สงิ หาคม ผลรปู ทรงกลม ผวิ ผลเรยี บเป็นมนั เปลอื กเหนียว ผลอ่อนผวิ เรยี บล่นื สเี ขยี วเขม้ มลี ายขาวแทรก เม่อื สกุ สเี หลอื งสด ชนั้ เน้ือผลบางมสี เี ขยี วอ่อนอมสเี หลอื งใส มกี ลน่ิ เฉพาะ รสข่นื ภายในผลมเี มลด็ จานวนมาก รูป กลมแบนขนาดเลก็ สนี ้าตาลอ่อน ตดิ ผลเดอื นพฤศจกิ ายน-ธนั วาคม ส่วนท่ีนามาบริโภค : ผลแก่ รบั ประทานเน้อื หมุ้ เมลด็ เป็นผกั สด ฤดกู าลท่ีสามารถใช้ประโยชน์ : เดอื นพฤศจกิ ายน-ธนั วาคม
100 เล่มที่ 3 เรื่อง ผกั พืน้ บ้าน มะอึก ชื่อทวั่ ไป : Solanum, Bolo Maka, มะอกึ บกั เขอื ขน ช่ือวิทยาศาสตร์ : Solanum stramonifolium Jacq. ชื่อวงศ์ : SOLANACEAE ลกั ษณะ : ไมพ้ ่มุ ขนาดกลางสงู 1-2 เมตร ทกุ สว่ นของต้นจะมขี นละเอยี ดสนี ้าตาลอ่อนปกคลุมอยู่ ลาตน้ และใบมหี นามและมขี นอ่อนปกคลมุ ใบเป็นใบเดย่ี ว ออกเรยี งสลบั กนั รปู ไขก่ วา้ ง โคนใบเวา้ หรือตัด ขอบใบหยกั เว้าเป็นพู กว้าง 15-25 ซม. ยาว 20-30 ซม. แผ่นใบสีเขยี ว ดอกเป็นช่อ กระจุกท่ซี อกใบ ดอกมสี ขี าว กลบี ดอก 5 กลบี ทโ่ี คนเช่อื มติดกนั ปลายแหลม เกสรตวั ผูส้ เี หลอื ง เป็นเสน้ รวมเป็นยอดแหลม ผลรูปทรงกลม ท่ผี วิ มีขนยาวหนาแน่น ผลอ่อนมสี เี ขยี ว ผลสุกมีสี เหลอื งแกมน้าตาล ในผลมเี มลด็ แบนจานวนมากเรยี งเป็นแถวอย่ภู าย ออกผลในช่วงปลายฤดูฝน รสเปรย้ี วกลนิ่ มเี อกลกั ษณ์พเิ ศษ ส่วนท่ีนามาบริโภค : ผลสดรบั ประทานเป็นผกั หรอื ใสส่ ม้ ตา ฤดกู าลท่ีสามารถใช้ประโยชน์ : ทงั้ ปี
ความหลากหลายของพชื อาหารป่ าและการใช้ประโยชน์จากชมุ ชน 101 มะเขอื พวง ชื่อทวั่ ไป : Turkey berry, Devil’s Fig, Wild Eggplant, Pea Eggplant, Pea Aubergine, Shoo- shoo Bush, มะเขอื พวง ช่ือวิทยาศาสตร์ : Solanum torvum Sw. ช่ือวงศ์ : SOLANACEAE ลกั ษณะ : ไมพ้ ่มุ ขนาดเลก็ สงู ประมาณ 2 เมตร ลาตน้ มหี นามสนั้ ทวั่ ไป แตกกงิ่ กา้ นสาขามากใบ เดย่ี ว ออกเรยี งสลบั รูปรหี รอื รปู ไข่ กวา้ ง 5-20 ซม. ยาว 7-25 ซม. ปลายใบแหลม โคนมน มขี น นุ่มปกคลมุ ทงั้ 2 ดา้ นดอกชอ่ ดอก ออกตามซอกใบและปลายกง่ิ มดี อกย่อยจานวนมาก กลบี เลย้ี ง 5 กลบี สว่ นโคนเช่อื มติดกนั ปลายแยกเป็นแฉก ตดิ คงทน กลบี ดอก สขี าว 5 กลบี เช่อื มติดกนั เป็นรปู ดาวผลกลุ่มออกเป็นชอ่ ผลย่อยรปู ทรงกลม ภายในมเี มลด็ กลมแบนจานวนมาก ส่วนที่นามาบริโภค : ผลสด รบั ประทานเป็นผกั สด หรอื ใสแ่ กงออ่ ม ฤดกู าลที่สามารถใช้ประโยชน์ : ทงั้ ปี
102 เล่มที่ 3 เร่ือง ผกั พืน้ บ้าน มะแวง้ เครอื หมากแขง้ ชื่อทวั่ ไป : Brinja lมะแวง้ เครอื หมากแขง้ เครอื ชื่อวิทยาศาสตร์ : Solanum trilobatum L. ชื่อวงศ์ : SOLANACEAE ลกั ษณะ : ไม้เลื้อย ลาตน้ มหี นามเกดิ จากผวิ ยาว 1-5 มม. ฐานหนามกวา้ งใบเดย่ี ว เรยี งรอบขอ้ รปู ไข่ รูปกลม หรอื รูปขอบขนาน กวา้ ง 0.4-2 ซม. ยาว 0.6-3 ซม. ปลายใบตดั หรอื มนฐานใบตดั หรอื ฐานไม่เท่ากนั ขอบใบเป็นคล่นื ผวิ ใบเกลย้ี งทงั้ สองดา้ น ดอกช่อแบบชอ่ กระจุก ออกทซ่ี อกใบ หรอื ปลายยอดกลบี เลย้ี งสเี ขยี ว เช่อื มกนั ทฐ่ี านเป็นรปู ถว้ ย ปลายแยกเป็น 5 แฉกแต่ละแฉกรปู ใบ หอก ผวิ ดา้ นนอกมขี น ตดิ จนกระทงั่ เป็นผลกลบี ดอกสมี ว่ ง เช่อื มกนั ทฐ่ี าน ปลายแยกเป็น 5 แฉก แต่ละแฉกรปู ใบหอก เกสรเพศผู้มี 5 อนั อบั เรณู สเี หลอื ง รปู รี ติดทฐ่ี าน กา้ นชูเกสร เช่อื มกนั ท่ี ฐานเลก็ น้อย ปลายแยก เป็นแท่งเกสรเพศเมยี รงั ไขอ่ ย่เู หนือวงกลบี รูปกลมยอดเกสรเพศเมยี เป็น กอ้ นกลมผลแบบผลมเี น้ือหลายเมลด็ รปู กลมผลอ่อนสเี ขยี วมลี ายสขี าว ผลแก่สแี ดงเขม้ เมลด็ รูป ไตแบน มจี านวนมากมกั ขน้ึ เองตามธรรมชาติในบรเิ วณท่รี าบชายป่ า ทโ่ี ล่งแจง้ และบรเิ วณทร่ี ก รา้ งรมิ ทาง สามารถพบไดท้ วั่ ทกุ ภาคของประเทศไทย ส่วนท่ีนามาบริโภค : ผลสด รบั ประทานเป็นผกั สดหรอื ใสแ่ กงอ่อม ฤดกู าลที่สามารถใช้ประโยชน์ :
ความหลากหลายของพชื อาหารป่ าและการใช้ประโยชน์จากชุมชน 103 ผกั ส้มก้งุ ช่ือทิ้งถิ่น : กุ่ยเครอื อโี กย อโี กย่ เถาเปรย้ี ว เถาวลั ยข์ น สม้ กยุ่ สม้ ออบสม้ กงุ้ องุน่ ป่า ช่ือวิทยาศาสตร์ : Ampelocissus martinii Planch. ชื่อวงศ์ :VITACEAE ลกั ษณะ : ไม้เถาเลือ้ ยมกั เกาะพนั ตน้ ไมอ้ ่นื ไม่ผลดั ใบ มมี อื เกาะออกตามขอ้ มกั ออกตรงขา้ มกบั ใบ เถาเป็นปลอ้ ง กง่ิ อ่อนยอดอ่อนมขี นสนี ้าตาลอ่อนปกคลุม เถาแก่สนี ้าตาลแดง ใบเด่ยี วเรยี ง สลบั รูปหวั ใจ หยกั เว้า 3-5 แฉก กว้างประมาณ 10-13.5 ซม. ยาว12 ซม. โคนใบเว้ารูปหวั ใจ ปลายใบแหลมหรอื มน ขอบใบหยกั ซฟ่ี ันแหลม ขอบใบเวา้ เป็น 3-5แฉก ผวิ ใบดา้ นบนเกลย้ี ง ผวิ ด้านล่างมีขนสนั้ หนานุ่มสแี ดงปกคลุม ก้านใบมขี น เสน้ ใบหลกั ออกมาจากจุดเดียวกนั ท่ฐี านใบ ดอกชอ่ แบบชอ่ แยกแขนงขนาดใหญ่ ออกตรงขา้ มกบั ใบและโคนเถา เถาทอ่ี อกดอกและตดิ ผล ใบ จะร่วงหมด ดอกย่อยจานวนมาก ขนาดเลก็ กลบี รวมสชี มพู กลางดอกสแี ดงเขม้ เกสรเพศผมู้ ี 5 อนั เกสรเพศเมยี อยู่เหนือวงกลบี ผลสด รูปทรงกลม เป็นพวงแน่นคลา้ ยพวงองุ่น ผลอ่อนสเี ขยี ว เม่อื สุกสแี ดงคลา้ เมลด็ มี 1-2 เมลด็ มเี ปลอื กหมุ้ แขง็ พบตามป่ าเตง็ รงั ป่ าเบญจพรรณ ป่ าผลดั ใบ ออกดอกราวเดอื นเมษายนถงึ พฤษภาคม ตดิ ผลราวเดอื นกรกฎาคมถงึ สงิ หาคม ยอดอ่อนและผล อ่อนรบั ประทานเป็นผกั ส่วนท่ีนามาบริโภค : ใบออ่ น ยอดอ่อน ลวกรบั ประทานเป็นผกั ฤดกู าลท่ีสามารถใช้ประโยชน์ : ฤดฝู น
104 เล่มท่ี 3 เรื่อง ผกั พืน้ บ้าน ขา่ ลิง ช่ือทวั่ ไป : ขา่ ลงิ ช่ือวิทยาศาสตร์ : Alpinia conchigera Griff. ชื่อวงศ์ : ZINGIBERACEAE ลกั ษณะ : ไม้ล้มลุก มเี หงา้ ใต้ดนิ สงู 50-150 ซม.ใบ เดย่ี ว เรยี งสลบั รูปขอบขนานกว้าง 4-10 ซม. ยาว 15-30 ซม. ผวิ ใบเกลย้ี ง ปลายใบแหลมดอก สแี ดงอมม่วงหรอื สขี าวอมเขยี วถงึ เหลอื ง นวล ออกเป็นช่อตัง้ ยาว 15-25 ซม.ดอกย่อยขนาด 1 ซม. กลีบรองดอก เช่ือมกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 3 แฉก กลบี ดอก โคนเช่อื มกนั เป็นหลอดสนั้ ๆ กลบี ปากแผ่ ปลายแยกเป็น 3 กลบี มเี สน้ สมี ่วง แกมแดงเป็นทางผล รปู ทรงกลม ขนาดประมาณ 1 ซม. ผลแก่สสี ม้ ถงึ แดง ปลายผล มกั มกี ลบี เลย้ี งตดิ อย่พู บทวั่ ทุกภาคของประเทศไทย ในทช่ี น้ื ของป่ าดงดบิ ออกดอกและตดิ ผลช่วง เดอื นพฤษภาคม-กมุ ภาพนั ธ์ ส่วนท่ีนามาบริโภค : หนอออ่ น ดอกออ่ น รบั ประทานเป็นผกั สด หรอื ลวก ฤดกู าลที่สามารถใช้ประโยชน์ : ฤดฝู น
ความหลากหลายของพชื อาหารป่ าและการใช้ประโยชน์จากชุมชน 105 กระชาย ช่ือทวั่ ไป : Finger Root, Chinese Ginger, Chinese Keys, Galingaleกระชาย วา่ นพระอาทติ ย์ กระชายดา กะแอน ขงิ ทราย ช่ือวิทยาศาสตร์ : Boesenbergia rotunda (L.) Mansf. ช่ือวงศ์ :ZINGIBERACEAE ลกั ษณะ :ไม้ล้มลุก มเี หงา้ สนั้ แตกหน่อได้ รากอวบ รปู ทรงกระบอกหรอื รปู ทรงไข่ค่อนขา้ งยาว ปลายเรยี ว ใบเป็นใบเดย่ี ว เรยี งสลบั ลกั ษณะเป็นรูปรี มปี ระมาณ 2-7 ใบ โคนใบมนหรอื แหลม ปลายใบเรยี วแหลม ขอบเรยี บ เสน้ กลางดา้ นบนเป็นร่อง ดา้ นล่างจะนูนเป็นสนั กาบใบเป็นสชี มพู ดอกเป็นชอ่ แบบช่อเชงิ ลด ออกทย่ี อดระหวา่ งกาบใบคใู่ นสดุ แต่ละดอกจะมใี บประดบั 2 ใบ สขี าว หรือสขี าวอมชูอ่อนๆ รูปใบหอก กลีบเล้ยี งสขี าวหรือสขี าวอมชมพูอ่อน โคนติดกนั เป็นหลอด ปลายจะแยกเป็น 3 แฉก กลบี ดอกสขี าวหรอื สขี าวอมชมพอู ่อน ปลายแยกเป็น 3 กลบี รูปใบหอก มขี นาดไมเ่ ท่ากนั กลบี ใหญ่มี 1 กลบี สว่ นอกี 2 กลบี มขี นาดเทา่ กนั มเี กสรตวั ผทู้ ส่ี มบรู ณ์ 1 ผลแก่ จะแตกเป็น 3 เสย่ี ง มเี มลด็ คอ่ นขา้ งใหญ่พบขน้ึ ในป่าดบิ รอ้ นชน้ื ส่วนท่ีนามาบริโภค : หนออ่อน รบั ประทานเป็นผกั สด รากเป็นเครอ่ื งแกง ฤดกู าลท่ีสามารถใช้ประโยชน์ : ทงั้ ปี
106 เล่มท่ี 3 เร่ือง ผกั พืน้ บ้าน กระเจียว ชื่อทวั่ ไป : กระเจยี ว ดอกกระเจยี ว ขงิ ดา ดอกว่าน ว่านมหาเมฆ ชื่อวิทยาศาสตร์ : Curcuma aeruginosa Roxb. ชื่อวงศ์ : ZINGIBERACEAE ลกั ษณะ : ไม้ล้มลุก สูง 80-150 ซม. มเี หงา้ อย่ใู ต้ดนิ สเี หลอื งอมเขยี วอ่อน หรอื สมี ่วงอมน้าเงนิ ความยาวของเหงา้ 12 ซม. หวั หรอื เหงา้ เมอ่ื เกบ็ ไวน้ านหลายปีจะเปลย่ี นจากสมี ว่ งเป็นสเี หลอื ง ใบ จะแทงขน้ึ มาจากเหงา้ ทโ่ี คนใบจะมกี าบใบสมี ่วงอมเขยี วเรยี งซอ้ นกนั เป็นชนั้ ๆ มใี บประมาณ 4-7 ใบ รปู ยาวรี ปลายใบแหลม กวา้ งประมาณ 8-20 ซม. ยาว 18-60 ซม. ตรงกลางใบจะมสี มี ่วงแดง ไปจนถึงปลายใบดอกเป็นช่อแทงขน้ึ มาจากเหงา้ และมกี าบใบห่อหุม้ อยู่ กาบใบยาว 12-20 ซม. ดอกรปู ทรงกระบอกกลมรี กลบี ดอกสขี าวหรอื สชี มพแู ดง ประมาณ 20 กลบี เรยี งซอ้ นกนั เป็นชนั้ ๆ บรเิ วณโคนกลบี ดอกเป็นสขี าว ดอกมเี กสรเพศผู้ 1 อนั และเกสรเพศเมยี 1 อนั รงั ไข่มี 3 รงั ผล เป็นพวง รปู ไข่สามเหลย่ี ม ภายในผลมีเมลด็ ลกั ษณะเป็นรูปกลมมเี น้ือสขี าวใสหุ้มอยู่พบตามดนิ ทราย ทงุ่ หญา้ ป่าเบญจพรรณ และในป่าราบทวั่ ไปทวั่ ทุกภาคของประเทศ ส่วนท่ีนามาบริโภค : หนอออ่ น ดอก รบั ประทานเป็นผกั สด หรอื ลวก ฤดกู าลที่สามารถใช้ประโยชน์ : ฤดฝู น
ความหลากหลายของพชื อาหารป่ าและการใช้ประโยชน์จากชมุ ชน 107 กระเจียวขาว ชื่อทวั่ ไป : กระเจยี วขาว กระเจยี วขาวปากเหลอื งกระเจยี วป่ากระเจยี วบวั มหาอุด ช่ือวิทยาศาสตร์ : Curcuma cochinchinensis Gagnep ช่ือวงศ์ : ZINGIBERACEAE ลกั ษณะ : พืชลงหวั ล้มลกุ อายหุ ลายปี เหงา้ อวบน้า หวั รปู ไข่ มเี หงา้ ทส่ี นั้ มาก สงู 40-60 ซม. เน้อื ในสขี าว หรอื เหลอื งอ่อน ใบเดย่ี ว เรยี งสลบั ออกเป็นกอ 1-5 ใบ ใบรปู ขอบขนานแกมรปู ไข่ปลาย ใบเรยี วแหลม ฐานใบมนหรอื ค่อยๆ สอบลงส่กู า้ นใบ ขอบเรยี บ แผ่นใบดา้ นบนเกลย้ี ง ดา้ นล่างมี ขนปกคลุมหนาแน่น กาบใบมขี นาดใหญ่ ลกั ษณะเป็นหลอด ช่อดอกเชงิ ลด ก้านช่อดอกตงั้ ตรง เกดิ จากเหงา้ ใตด้ นิ ออกตดิ กบั พน้ื ดนิ ออกดอกก่อนเกดิ ใบใหม่และเหย่ี วแหง้ ก่อนการสรา้ งใบ แต่ ละช่อมใี บประดบั รองรบั สขี าวอมเหลอื งจนถงึ สชี มพูอ่อน เช่อื มตดิ กนั และเรยี งซอ้ นกนั หลายชนั้ รูปสามเหลย่ี ม หรอื รูปไข่แกมรูปใบหอก ปลายแหลมเกอื บมน มเี สน้ สชี มพูจาง ตามยาว มกี ลนิ่ หอม กลบี ปากมแี ถบสเี หลอื งกวา้ งอย่ตู ามแนวยาวของเสน้ กลางแผ่นกลบี ปาก เกสรเพศผทู้ ่เี ป็น หมนั รูปรแี ผ่แบนคล้ายกลบี ดอก ไม่เช่อื มตดิ กบั กลบี ปาก รงั ไข่ค่อนขา้ งกลม อยู่ใต้วงกลบี มี 3 หอ้ ง ผลแบบแคปซลู รปู ไขห่ รอื ค่อนขา้ งกลมเมลด็ ขนาดเลด็ สดี า เย่อื หุม้ สขี าว ส่วนท่ีนามาบริโภค : หนอออ่ น ดอก รบั ประทานเป็นผกั สด หรอื ลวก ฤดกู าลท่ีสามารถใช้ประโยชน์ : ฤดฝู น
108 เล่มท่ี 3 เร่ือง ผกั พืน้ บ้าน กระเจียวขาว ชื่อทวั่ ไป : White Angelกระเจยี วขาว ช่ือวิทยาศาสตร์ : Curcuma parviflora Wall. ช่ือวงศ์ : ZINGIBERACEAE ลกั ษณะ : ไม้ล้มลุก ลาตน้ ตงั้ ตรง สงู 15-50 ซม. มเี หงา้ อย่ใู ต้ดนิ มกี ลน่ิ หอม เหงา้ มลี กั ษณะเป็น รปู ไข่ มขี นาด2×1 ซม. ภายในเป็นสนี ้าตาลอ่อนๆ ใบเป็นใบเดย่ี ว ออกเรยี งสลบั ใบเป็นรูปขอบ ขนานแกมรูปใบหอกหรอื เป็นรูปรี ปลายใบเรยี วแหลม ฐานใบเป็นรปู ลม่ิ หรอื มน กวา้ ง 6-10 ซม. ยาว16-25 ซม. ผวิ ใบเกลย้ี งทงั้ สองดา้ น ก้านใบแผ่เป็นกาบ ออกดอกเป็นช่อบรเิ วณปลายยอด โดยจะออกจากกลางลาต้น มกี า้ นช่อยาวประมาณ 7-30 ซม. ช่อดอกมดี อกย่อยจานวนมาก กลบี ดอกเป็นสขี าว มใี บประดบั เป็นสเี ขยี ว ใบประดบั ส่วนยอดสขี าว กลบี ดอกเป็นรูปไข่กลบี มสี ขี าว ลว้ นหรอื มสี มี ่วงหรอื สนี ้าเงนิ แตม้ อย่ทู ส่ี ว่ นปลาย ขอบกลบี หยกั เป็นคล่นื ๆ ดอกมเี กสรเพศผทู้ เ่ี ป็น หมนั แผ่เป็นแผ่นคลา้ ยกลบี ดอกสมี ่วงอ่อน และจะออกดอกในช่วงเดอื นมนี าคมถงึ เดอื นธนั วาคม ผลเป็นผลแหง้ และแตกได้ ลกั ษณะของผลเป็นรูปไข่กลบั และมขี นประเทศไทยสามารถพบไดท้ วั่ ทุกภาคของประเทศ ตามป่าดบิ ทวั่ ไป ป่าดบิ แลง้ ป่าผลดั ใบ บรเิ วณโคกและบรเิ วณป่าโปร่ง ส่วนที่นามาบริโภค : หนออ่อน ดอก รบั ประทานเป็นผกั สด หรอื ลวก ฤดกู าลท่ีสามารถใช้ประโยชน์ : ฤดฝู น
ความหลากหลายของพชื อาหารป่ าและการใช้ประโยชน์จากชุมชน 109 กระเจียวแดง ช่ือทวั่ ไป : กระเจยี วแดงอาวแดงกระเจยี วโคก ช่ือวิทยาศาสตร์ : Curcuma sessilis Gage. ช่ือวงศ์ : ZINGIBERACEAE ลกั ษณะ : ไม้ลม้ ลุกมเี หงา้ ใตด้ นิ อย่ไู ดห้ ลายปีสงู 20-30 ซม.ใบเป็น กาบหอ่ รวมตวั กนั แน่นเป็นลา ตน้ เทยี ม ใบเดย่ี ว เรยี งสลบั รปู ขอบขนาน ปลายใบแหลม ฐานใบแหลม เสน้ ใบขนาน กวา้ ง 15-20 ซม.ยาว 30-40 ซม. ขอบใบเรยี บ ผวิ เกลย้ี ง หรอื มขี นสนั้ นุ่ม ดอกออก เป็นช่อแน่นแบบช่อเชงิ ลด รปู ทรงกระบอก กา้ นช่อดอกชอู อกจากปลายลาตน้ เทยี ม ชอ่ ดอกย่อย แต่ละชอ่ มดี อก 2-7 ดอก ใบ ประดบั ทโ่ี คนช่อดอกรองรบั ดอกสเี ขยี ว ดอกสเี หลอื ง มขี น แฉกบนรปู รี แฉกขา้ งแคบกวา่ เลก็ น้อย กลีบปากรูปไข่กลบั สีเหลือง ปลายแยกเป็น 2 พู เกสรเพศผู้ท่ีเป็นหมันรูปไข่กลบั หรอื รูปรี สี เหลอื ง มขี นสนั้ เกสรเพศผทู้ ่สี มบูรณ์ มจี ุดสแี ดงจานวนมาก โคนอบั เรณู เรยี วแหลมเป็นเดอื ย 2 อนั โคง้ เขา้ หากนั เกสรเพศเมีย มรี งั ไข่ใต้วงกลบี มขี นสนั้ หนาแน่น ผลรูปไข่ ผวิ มขี นหนาแน่น เมลด็ มี รปู ร่างคลา้ ยหยดน้า ส่วนท่ีนามาบริโภค : หนออ่อน ดอก รบั ประทานเป็นผกั สด หรอื ลวก ฤดกู าลที่สามารถใช้ประโยชน์ : ฤดฝู น
110 เล่มท่ี 3 เรื่อง ผกั พืน้ บ้าน เทา ชื่อทวั่ ไป : เทา (สาหรา่ ยน้าจดื ) เตา ไก ผกั เตา. ช่ือวิทยาศาสตร์ : Spirogyra sp. ช่ือวงศ์ : ZYGNEMATACEAE ลกั ษณะ : พืชน้าพวกสาหร่าย รปู ร่างเป็นสายเลก็ ๆ เสน้ ยาวคลา้ ยผมรวมกนั เป็นกลุ่ม เกดิ จาก เซลลร์ ปู ทรงกระบอกเรยี งต่อกนั โดยไม่มกี ารแตกแขนง มีสเี ขยี วอ่อน พนั ตวั กนั เป็นกลุ่มกอ้ น เม่อื สมั ผสั จะรู้สกึ อ่อนนุ่ม แต่ละเซลล์ทเ่ี รยี งต่อกนั มขี นาดความยาว 90-110 ไมโครเมตร และความ กว้าง 40-50 ไมโครเมตร เม่ือดูใต้กล้องจุลทรรศน์จะเหน็ คลอโรพลาสต์เรยี งตัวเป็นเกลียวอยู่ ภายในเซลล์ ซง่ึ เป็นลกั ษณะเฉพาะของสาหร่ายในสกุลน้ี โดยทวั่ ไปแลว้ สาหร่ายชนิดน้ีถูกจาแนก อยใู่ นกลุ่มสาหรา่ ยน้าจดื ขนาดใหญ่ แต่สามารถพบล่องลอยบนพน้ื น้า หรอื พนั อย่กู บั วสั ดุต่างๆ ใน บรเิ วณแหลง่ น้าน่งิ เชน่ คลองสง่ น้า หรอื บอ่ เพาะเลย้ี งสตั วน์ ้ากร่อย ส่วนท่ีนามาบริโภค : ทกุ สว่ นนามาลวกทาลาบแบบอสี าน ฤดกู าลที่สามารถใช้ประโยชน์ : ฤดฝู น
ความหลากหลายของพชื อาหารป่ าและการใช้ประโยชน์จากชุมชน 111 บรรณานุกรม ก่องกานดา ชยามฤต. 2545. ค่มู อื จาแนกพรรณไม.้ กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ทั ประชาชน จากดั . คณะเภสชั ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั อบุ ลราชธาน.ี ฐานข้อมลู สมุนไพร คณะเภสชั ศาสตร์ มหาวิทยาลยั อบุ ลราชธานี. [Online] ; www.phargarden.com. ; [15 ธนั วาคม 2558]. โครงการอนุรกั ษ์พนั ธุกรรมพชื อนั เน่อื งมาจากพระราชดาริ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยาม บรมราชกมุ ารี สวนจติ รลดา. 2558. ขอ้ มลู พรรณไม.้ [Online] ; http://www.rspg.or.th/plants_data/index.htm ; [15 ธนั วาคม 2558]. เตม็ สมติ านนท.์ ชื่อพรรณไมแ้ ห่งประเทศไทย. กรงุ เทพฯ: หอพรรณไมก้ รมป่าไมบ้ างเขน.2544 มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล. 2558. กรนี ไฮเปอรม์ ารท์ : สารานุกรมผลติ ผลและผลติ ภณั ฑจ์ ากพชื ใน ซุปเปอรม์ ารเ์ กต็ ใน “ดชั นพี ชื ”. [Online] ; http://www.sc.mahidol.ac.th/wiki/doku.php?id= ดชั นีพชื ; [15 ธนั วาคม 2558]. สถาบนั วจิ ยั และพฒั นาทส่ี งู (องคก์ รมหาชน).โครงการเผยแพรข่ อ้ มลู ทรพั ยากรชวี ภาพและภมู ิ ปัญญาทอ้ งถนิ่ บนพน้ื ทส่ี งู . [Online] ; eherb.hrdi.or.th. ; [15 ธนั วาคม 2558]. สานกั งานพฒั นาเศรษฐกจิ จากฐานชวี ภาพ (องคก์ ารมหาชน). 2558. My Biodiversity. [Online] ; http://www.biogang.net/biodiversity_view.php? ; [15 ธนั วาคม 2558]. องคก์ ารสวนพฤกษศาสตร์ กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม. ฐานขอ้ มูลพรรณไม้ องคก์ ารสวนพฤกษศาสตร.์ . [Online] ; http://www.qsbg.org/ ; [15 ธนั วาคม 2558].
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120