Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานวิจัยภาษาชอง

รายงานวิจัยภาษาชอง

Description: รายงานวิจัยภาษาชอง.

Search

Read the Text Version

ภาคผนวก ใบแสดงความยินยอม (ภาษาชอง) ๑๐๔  

แบบบนั ทึกขอ้ มูลรายการมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรม ๑. การระบอุ ัตลักษณม์ รดกภูมปิ ญั ญาทางวฒั นธรรม ๑.๑ ระบุชอื่ มรดกภูมิปญั ญาทางวฒั นธรรม (ซง่ึ ใช้โดยชุมชนหรือกลมุ่ คนที่เกยี่ วขอ้ ง) ภาษาชอง ๑.๒ ระบชุ ่อื เต็มและชือ่ ยอ่ (รวมท้ังระบสุ าขาของมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวัฒนธรรมดงั กล่าว) ภาษาชอง สาขาภาษา ๑.๓ ระบชุ มุ ชนที่เก่ียวข้องกับมรดกภมู ิปัญญาทางวัฒนธรรมท้งั ในความหมายพ้ืนท่ี และกลุม่ ผ้ปู ฏบิ ตั ิ ชุมชนกลุม่ ชาตพิ นั ธชุ์ อง ตําบลคลองพลู และ ตําบลตะเคียนทอง อาํ เภอเขาคิชฌกฏู จงั หวัดจันทบรุ ี ๑.๔ ระบุท่ีตั้งทางภูมิศาสตร์ (หากท่ีตั้งทางภูมิศาสตร์ของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมมีมากกว่าหนึ่ง โปรด ระบทุ ุกแห่งทีท่ ราบ) ชาวชองอาศัยอยู่ในแถบภาคตะวันออกของประเทศไทย อาศัยอยู่หนาแน่นในเขตอําเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจนั ทบุรี โดยเฉพาะ ๒ ตาํ บลทางตอนเหนือของอําเภอ คือ ตําบลตะเคียนทอง และตําบลคลองพลู ส่วน ตําบลท่ีอยู่ทางใต้ คือ ตําบลพลวง และตําบลชากไทย รวมถึงตําบลทับไทรในอําเภอโป่งน้ําร้อน มีประชากรที่ พูดภาษาชองเหลืออยนู่ อ้ ยมาก นอกจากนยี้ ังพบในจงั หวัดฉะเชงิ เทรา และจงั หวัดระยองอีกด้วย ปัจจุบันพบว่า มีคนชองที่สามารถใช้ภาษาชองได้ดีประมาณ ๒๐๐ คน จาก ๔,๐๐๐ คน ซึ่งจัดเป็นหนึ่งในกลุ่มภาษาที่อยู่ใน ภาวะวิกฤตใกลส้ ูญของประเทศไทย (สุวไิ ล เปรมศรรี ัตน,์ ๒๕๔๓) ๑.๕ แสดงคุณลกั ษณะและคณุ คา่ ของมรดกภูมิปญั ญาทางวฒั นธรรมโดยสงั เขป ภาษาชอง เป็นภาษาในตระกูลออสโตรเอเชียติก สาขามอญ–เขมร กลุ่มย่อยเปียริก ภาษาในสาขาเดียวกัน ที่มีความใกล้เคียง ได้แก่ ภาษากะซอง และภาษาซําเรท่ีพบในจังหวัดตราด และภาษาซะอุ้ง ท่ีพบในจังหวัด กาญจนบุรี ภาษาชองมีระบบเสียงท่ีแสดงลักษณะของภาษากลุ่มมอญ-เขมรท่ีชัดเจน โดยมีพยัญชนะต้น (๒๒ ตวั ) พยญั ชนะสะกด (๑๑ ตวั ) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ตัวสะกด จ ญ และ ฮ เป็นต้น และมีลักษณะน้ําเสียงที่ โดดเด่น แทนการมีเสียงวรรณยุกต์ดังในภาษาไทย ภาษาชองไม่มีวรรณยุกต์แต่มีลักษณะนํ้าเสียง ๔ ลักษณะ ได้แก่ ๑) ลักษณะน้ําเสียงกลางปกติ เช่น กะวาญ = กระวาน, กะปาว = ควาย ๒) ลักษณะน้ําเสียงต่ําใหญ่ (เสยี งกอ้ งมีลม) เช่น กะว่าย = เสอื , มะงา่ ม = ผึง้ ๓) ลักษณะนาํ้ เสียงสงู บีบ (เสยี งปกติตามด้วยการกักของเสน้ เสียง) เช่น ค้อน = หนู, ซู้จ = มด ๔) ลักษณะน้ําเสียงต่ํากระตุก (เสียงก้องมีลมตามด้วยการกักของเส้นเสียง) เช่น ช์อง = ชอง, เม์ว = ปลา ไวยากรณ์ภาษาชองโดยท่ัวไปมีลักษณะเรียงคําแบบประธาน – กริยา – กรรม เช่นเดียวกับภาษากลมุ่ มอญ-เขมรอืน่ ๆ เชน่ ประโยคว่า อูญ ฮอบ ปล็อง ม่อง เม์ว <พ่อ-กิน-ข้าว-กับ-ปลา> = พ่อกินข้าวกบั ปลา ลกั ษณะไวยากรณ์ท่ีเป็นเอกลักษณ์ คือการใช้คําปฏิเสธ ๒ คํา ประกบหน้าและหลังคํากริยา ๑๐๕  

หรือกริยาวลี เช่น ย่าย ม่อง ตา พ์าย นั่ก อิฮ อีน กะปิฮ ฮอบ ปล็อง อิฮ <ยาย-กับ-ตา-สอง- คน-ไม่-มี-อะไร- กนิ -ข้าว-ไม่> = สองคนตายายไม่มอี ะไรจะกนิ เป็นต้น ปัจจุบันการใช้ภาษาชอง ตลอดจนวัฒนธรรมของชาวชองอยู่ในภาวะถดถอยเป็นอย่างมาก คนชอง ส่วนมากใช้ภาษาไทยในการสื่อสารในชีวิตประจําวันแม้แต่ผู้สูงอายุ เยาวชนชาวชองรุ่นอายุต่ํากว่า ๓๐ ปี ไม่ สามารถพูดภาษาชองได้ และใช้ภาษาไทยเป็นภาษาที่หน่ึง ภาษาชองจึงจัดเป็นภาษาท่ีอยู่ในภาวะวิกฤตข้ัน รุนแรงใกล้สูญ ซึ่งมีผลต่อการสูญเสียภูมิปัญญาท้องถิ่นและองค์ความรู้ในด้านต่าง ๆ ท่ีสะท้อนผ่านคําศัพท์ใน ภาษาชอง เช่น เรื่องเก่ียวกับป่า พรรณพืช อาหารพ้ืนบ้าน สมุนไพร พิธีกรรม ความเช่ือและประเพณี เช่น พิธี แต่งงาน “กาตกั ” ของชาวชอง และการละเล่นพืน้ บ้าน เชน่ “ซะบา” เปน็ ต้น ๒. ลกั ษณะขององค์ประกอบมรดกภูมิปญั ญาทางวฒั นธรรม ๒.๑ ผปู้ ฏบิ ตั ิ / ผ้แู สดง ทีเ่ กย่ี วขอ้ งโดยตรงกับรายการมรดกภมู ิปญั ญาทางวัฒนธรรม (ระบชุ ่อื อายุ เพศ กลมุ่ อาชีพหรอื ความชํานาญ ฯลฯ) ๑) นางม่วง ลมหวาย ทอี่ ยู่ : ๒๙ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกูฏ จ.จนั ทบรุ ี อาชีพ : ทําสวนผลไม้ (ปราชญช์ มุ ชน / ผู้บอกภาษา) ๒) นางสลดิ ดวงสวสั ด์ิ ท่อี ยู่ : ๘ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี อาชพี : ทาํ สวนผลไม้ (ปราชญ์ชุมชน / ผูบ้ อกภาษา) ๓) นางเสยี ง คลา้ ยมะลิ ที่อยู่ : ๒๑ หมู่ ๔ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกฏู จ.จันทบรุ ี อาชีพ : ทําสวนผลไม้ (ปราชญช์ ุมชน / ผู้บอกภาษา) ๔) นายจน้ิ ผันผาย ท่ีอยู่ : ๒๒ หมู่ ๔ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกูฏ จ.จนั ทบรุ ี อาชพี : ทําสวนผลไม้ (ปราชญ์ชมุ ชน / ผ้บู อกภาษา) ๕) นางดวงฤดี ดวงสวัสดิ์ ทอ่ี ยู่ : ๘ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกฎู จ.จันทบรุ ี อาชีพ : ทาํ สวนผลไม้ (ปราชญช์ มุ ชน / ผู้บอกภาษา) ๖) นางจรรณลี ควรสถาน ท่ีอยู่ : หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกูฎ จ.จนั ทบรุ ี อาชีพ : ทําสวนผลไม้ ๗) นางบุบผา ลมหวาย ท่ีอยู่ : หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฎ จ.จันทบุรี อาชพี : ทําสวนผลไม้ ๑๐๖  

๘) นางหยด แสนทะวงษ์ ๑๐๗ ที่อยู่ : หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกฎู จ.จันทบุรี อาชีพ : ทําสวนผลไม้ ๙) นายมณเฑยี ร พัฒเสมา ที่อยู่ : ๒๐ / ๑๗ หมู่ ๘ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกฎู จ.จันทบรุ ี อาชีพ : ทาํ สวนผลไม้ / สมาชกิ อบต. ตาํ บลคลองพลู ๑๐) น.ส. วาสนา คลองวงษ์ ท่ีอยู่ : ๑๔ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกฎู จ.จนั ทบรุ ี อาชีพ : ทาํ สวนผลไม้ ๑๑) นายจารกึ แก้วสวา่ ง ที่อยู่ : หมู่ ๔ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกฎู จ.จนั ทบุรี อาชีพ : ทาํ สวนผลไม้ (ปราชญช์ ุมชน / ผูบ้ อกภาษา) ๑๒) น.ส. วาสนา คลองวงษ์ ทอี่ ยู่ ๑๔ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฎ จ.จนั ทบุรี อาชีพ : ทาํ สวนผลไม้ ๑๓) นายเฉยี น ผนั ผาย ทอ่ี ยู่ : ๒๒ หมู่ ๔ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกฏู จ.จนั ทบรุ ี อาชีพ : ทาํ สวนผลไม้ (ปราชญ์ชุมชน / ผบู้ อกภาษา) ๑๔) นางนกนอ้ ย ควรสถาน ทีอ่ ยู่ : ๔๓/๔ หมู่ ๖ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกูฏ จ.จันทบุรี อาชีพ : ทาํ สวนผลไม้ (ปราชญ์ชุมชนด้านอาหารพน้ื บ้าน) ๑๕) นางมาลี วรรณภกั ดี ที่อยู่ : ๕๔/๒ หมู่ ๖ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกูฏ จ.จันทบุรี อาชพี : ทําสวนผลไม้ ๑๖) น.ส. นกิ ร มาตราช ท่ีอยู่ : ๒/๑ หมู่ ๖ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกฏู จ.จนั ทบุรี อาชีพ : ทําสวนผลไม้ ๑๗) น.ส. ปภาณนิ โยธี ทอี่ ยู่ : ๙/๑ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี อาชีพ : ทําสวนผลไม้ ๑๘) น.ส. ศริ พิ ร ควรสถาน ท่ีอยู่ : ๙/๑ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกฏู จ.จันทบรุ ี อาชีพ : ทําสวนผลไม้  

๑๙) นายรักษ์ ฉัตรเงนิ ๑๐๘ ทอ่ี ยู่ : ๑๖/๑ หมู่ ๒ ต.ตะเคียนทอง อ.เขาคชิ ฌกูฎ จ.จันทบรุ ี อาชีพ : ทาํ สวนผลไม้ (ปราชญ์ชมุ ชน / ผ้บู อกภาษา) ๒๐) นายเฉิน ผันผาย ท่อี ยู่ : ๑/๒ หมู่ ๔ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกูฎ จ.จันทบรุ ี อาชพี : ทําสวนผลไม้ (ปราชญช์ ุมชน / ผูบ้ อกภาษา) ๒๑) นางทานิน วรรณภกั ดี ท่อี ยู่ : ๒/๒ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบรุ ี อาชพี : ทาํ สวนผลไม้ ๒๒) น.ส. ชดิ าภา มติ รเพ่ือนบา้ น ทอ่ี ยู่ : ๒๐/๒ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบรุ ี อาชพี : ทําสวนผลไม้ ๒๓) น.ส. นิตตรา มติ รเพือ่ นบ้าน ท่อี ยู่ : ๒๐/๒ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกฏู จ.จนั ทบุรี อาชีพ : ทาํ สวนผลไม้ ๒๔) น.ส. สริ ริ ตั น์ สีสมบตั ิ ทีอ่ ยู่ : ๑/๓ หมู่ ๔ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกูฏ จ.จนั ทบุรี อาชพี : ทําสวนผลไม้ ๒๕) นายหนู สสี มบตั ิ ทอี่ ยู่ : ๑/๓ หมู่ ๔ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกฏู จ.จันทบุรี อาชีพ : ทาํ สวนผลไม้ (ปราชญช์ มุ ชน / ผู้บอกภาษา) ๒๖) นายอเนก ฉัตรเงนิ ท่ีอยู่ : ๑/๔ หมู่ ๕ ต.ตะเคียนทอง อ.เขาคิชฌกฎู จ.จนั ทบุรี อาชีพ : กาํ นนั ต.ตะเคยี นทอง ๒๗) นายชยั ณรงค์ อาลัย ท่ีอยู่ : ๒๑/๔ หมู่ ๕ ต.ตะเคยี นมอง อ.เขาคิชฌกฎู จ.จันทบุรี อาชีพ : ทาํ สวนผลไม้ / ครูภูมปิ ญั ญาโรงเรยี นวดั ตะเคยี นทอง / ผ้บู อกภาษา ๒๘) นางลา เต่าเงิน ท่อี ยู่ : ๒๕/๔ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จนั ทบรุ ี อาชีพ : ทําสวนผลไม้ ๒๙) น.ส. รตั นา ขันสัมฤทธิ์ ที่อยู่ : ๘/๕ หมู่ ๖ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี อาชีพ : ทําสวนผลไม้  

๓๐) นางกหุ ลาบ เต่าเงนิ ที่อยู่ : ๒๕/๕ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกฏู จ.จนั ทบรุ ี อาชพี : ทาํ สวนผลไม้ (ปราชญช์ ุมชนด้านอาหารพื้นบ้าน) ๓๑) น.ส.เกวรินทร์ เต่าเงนิ ท่อี ยู่ : ๒๕/๕ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกูฏ จ.จันทบุรี อาชพี : ทําสวนผลไม้ ๓๒) น.ส. วไิ ล เตา่ เงนิ ที่อยู่ : ๒๕/๕ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกฏู จ.จันทบรุ ี อาชีพ : ทาํ สวนผลไม้ ๓๓) นายสาํ ราญ เกื้อกิจ ทอ่ี ยู่ : ๑/๖ หมู่ ๔ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกฏู จ.จนั ทบุรี อาชพี : ทําสวนผลไม้ ๓๔) นางสมศรี ศรษี ะเกตุ ท่ีอยู่ : ๒๒/๖ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกูฏ จ.จนั ทบุรี อาชีพ : ทาํ สวนผลไม้ ๓๕) นางอํานวย มาลัย ที่อยู่ : ๙/๗ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกูฏ จ.จนั ทบรุ ี อาชพี : ทําสวนผลไม้ (ปราชญช์ มุ ชนด้านอาหารพ้ืนบ้าน) ๓๖) นายไพรวัล ผันผาย ที่อยู่ : ๙/๗ หมู่ ๔ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกฏู จ.จันทบรุ ี อาชีพ : ทาํ สวนผลไม้ ๓๗) นายรงุ่ เพช็ ร ผันผาย ทีอ่ ยู่ : ๒๑/๙ หมู่ ๔ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกฏู จ.จนั ทบุรี อาชพี : ทําสวนผลไม้ ๒.๒ บุคคลในชมุ ชนซงึ่ ถึงแมจ้ ะเกย่ี วข้องกับมรดกภมู ปิ ัญญาทางวฒั นธรรมโดยตรงนอ้ ย แต่เอ้ือประโยชนต์ อ่ การถือปฏิบัติหรือเอือ้ อํานวยตอ่ ความสะดวกในการถือปฏบิ ัติหรอื การสืบทอด ฯ (เชน่ จัดเตรยี มเวที เสอ้ื ผา้ ฝึกอบรม และควบคุมดแู ล) กล่มุ ชาติพันธชุ์ อง คอื บุคคลตามข้อ ๒.๑ ๒.๓ ภาษา ทาํ เนียบภาษา ระดับภาษาทีเ่ กีย่ วข้อง ภาษาชอง เป็นภาษาในตระกูลออสโตรเอเชียติก สาขามอญ–เขมร กลุ่มย่อยเปียริก รายละเอียดตามข้อ ๑.๕ ๑๐๙  

๒.๔ องคป์ ระกอบท่ีจับตอ้ งได้ (เชน่ อุปกรณเ์ ครือ่ งมือ เสอ้ื ผ้า หรือพ้ืนทพี่ ิเศษเฉพาะ วัตถทุ ใ่ี ชใ้ นพิธีกรรม) (ถา้ มี) ซึง่ เก่ียวกับการถอื ปฏบิ ตั ิหรอื สบื ทอดมรดกภูมิปญั ญาทางวฒั นธรรม ท้ังภาษาชอง เป็นภาษาพูด แต่ไม่มีภาษาเขียน ดังนั้นทั้งชาวชองจึงได้รวมกลุ่มกัน เพ่ือพัฒนาระบบ ตัวเขียนร่วมกับนักภาษาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยมหิดล โดยใช้อักษรไทย ๑ ตัว แทน ๑ เสียง เพื่อเป็น เคร่ืองมือในการบันทึกองค์ความรู้ของชาวชอง นอกจากน้ียังได้ใช้เป็นส่ือในการเรียนการสอนภาษาท้องถ่ินใน โรงเรียนใหแ้ ก่เดก็ ชาวชองอีกดว้ ย ๒.๕ องค์ประกอบที่จับต้องไม่ได้ (ถ้ามี) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการถือปฏิบัติหรือสืบทอดมรดกภูมิปัญญาทาง วัฒนธรรม ภาษาชองเปน็ ภาษาทใ่ี ชใ้ นชีวติ ประจาํ วัน ผู้ทสี่ ามารถพดู ได้ดอี ยู่ในกลุม่ ผ้สู งู อายุ นอกจากน้ยี งั มกี ารสบื สาน ประเพณี วฒั นธรรม ตลอดจนองคค์ วามรขู้ องตนเอง เช่น องคค์ วามร้ดู า้ นอาหารพืน้ บา้ นของชาวชอง เป็นตน้ ๒.๖ แนวปฏิบตั ิตามจารตี ในการเข้าถึง การใช้และการมสี ว่ นรว่ มในมรดกภูมปิ ัญญาทางวัฒนธรรม (ถา้ ม)ี เช่น หากมีขอ้ กาํ หนดบางอย่างที่ห้ามบุคคลบางประเภท เชน่ ผชู้ ายไมใ่ หเ้ ขา้ ร่วม หรือถอื ปฏบิ ตั ิ ควรปฏิบัตติ าม จารีตดงั กล่าวและระบุข้อกาํ หนดดงั กล่าว ภาษาชอง เป็นภาษากลุ่มชาติพันธ์ุท่ีสามารถใช้พูดในชีวิตประจําวัน แต่ปัจจุบัน ผู้ท่ีสามารถพูดได้เป็น อย่างดีมีเฉพาะผู้สูงอายุเท่าน้ัน ประกอบกับกระแสโลกาภิวัตน์ ท่ีทําให้เกิดการเปล่ียนแปลงทางวัฒนธรรม ทํา ให้การใชภ้ าษาชองถดถอยลง จนเดก็ และเยาวชนไม่สามารถพดู หรอื สื่อสารได้ ๒.๗ แนวทางการถา่ ยทอดมรดกภมู ิปญั ญาทางวฒั นธรรมสคู่ นอ่ืน ๆ ในชมุ ชน แนวทางการถ่ายทอดภาษาและวัฒนธรรมชอง ซึ่งถือเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม สามารถทําได้ หลากหลายแนวทาง เช่น การใช้ภาษาชองในบ้าน การจัดการเรียนการสอนภาษาท้องถ่ินในโรงเรียน การ อนุรักษ์ฟื้นฟูภาษาและวัฒนธรรมชุมชนในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ การบันทึกองค์ความรู้ภูมิปัญญาท้องถ่ินของ ตนเอง และถ่ายทอดสู่กลุม่ เดก็ และเยาวชน เปน็ ต้น ๒.๘ องคก์ รต่าง ๆ ทเี่ กย่ี วข้อง (องคก์ รชุมชน, NGOs, ฯลฯ) ถา้ มี องคก์ รท่ีเกีย่ วข้องในชมุ ชนชอง ไดแ้ ก่ เทศบาลตําบลคลองพล,ู เทศบาลตําบลตะเคียนทอง, สภาวัฒนธรรม อําเภอเขาคิชฌกูฏ, โรงเรียนวัดคลองพลู, โรงเรียนตะเคียนทอง (เพชโรปถัมภ์), โรงเรียนวัดนํ้าขุ่น, โรงเรียน ทุ่งกบิล, องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี, สํานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา จังหวัดจันทบุรี, ศูนย์ประสานงาน วิจัยเพอ่ื ทอ้ งถ่ิน ภาคตะวนั ออก จังหวดั จนั ทบรุ ี เป็นต้น ๑๑๐  

๓. สภาวะของมรดกภูมิปัญญาทางวฒั นธรรม : ความอยูร่ อด ๓.๑ ปจั จยั คกุ คาม (ถา้ ม)ี ทมี่ ผี ลตอ่ ความอยรู่ อดของมรดกภมู ปิ ัญญาทางวฒั นธรรมภายในชมุ ชนตา่ ง ๆ ท่ี เก่ียวขอ้ ง ภาษาชองถือเป็นภาษาท่ีอยู่ในภาวะวิกฤตใกล้สูญ เนื่องจากมีผู้พูดเป็นจํานวนน้อย สามารถพูดได้ดีในรุ่น สงู อายุ ยังมกี ารใช้ในบ้านและในชุมชนไม่มากนัก ทงั้ นมี้ สี าเหตสุ าํ คญั ทที่ าํ ใหภ้ าษาอยู่ในภาวะวกิ ฤต ๒ ประการ ไดแ้ ก่ ๑) เกิดจากกระแสโลกาภิวัตน์ ท่ีส่งผลทําให้เกิดความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ เช่น ระบบการคมนาคมขนสง่ ระบบการสอ่ื สาร เทคโนโลยีสารสนเทศ เปน็ ต้น ทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม และวัฒนธรรมอย่างรวดเร็ว ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงของสภาพเศรษฐกิจ ดังเช่น แต่เดิมชุมชนชอง อาศัย การเพาะปลูกเพื่อเลี้ยงชีพ ประกอบกับการพ่ึงพิงทรัพยากรจากป่า เช่น การเพาะและเก็บลูกกระวานของ ชาวชอง การล่าสัตว์ เป็นต้น ปัจจุบันการเลี้ยงชีพได้เปลี่ยนไปสู่การเกษตรที่เช่ือมโยงกับระบบตลาดอย่าง ชัดเจน นอกจากน้ียังมีการพัฒนาระบบคมนาคม ระบบส่ือมวลชน ได้แก่ วิทยุ โทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ ที่ ล้วนใช้ภาษาไทยเป็นภาษาในการส่ือสาร รวมถึงการอพยพเข้ามาของประชากรกลุ่มชาติพันธ์ุอ่ืน การติดต่อ ค้าขายกับคนต่างถิ่น ล้วนส่งผลให้ภาษาชองสูญเสียสถานะของการเป็นภาษาหลักในชีวิตประจําวันของชุมชน ลงไป เรื่อย ๆ รวมถึงส่งผลต่อการสูญเสียภูมิปัญญา วัฒนธรรมท้องถ่ิน และอัตลักษณ์ทางชาติพันธุ์ของ ตนเองอีกดว้ ย ๒) เกิดจากนโยบายของภาครัฐ ดังจะเห็นได้ชัดเจนจากการที่รัฐบาลไทยออกกฎหมายการศึกษา ภาคบังคับ (พ.ศ. ๒๔๖๘) ที่กําหนดให้เยาวชนท่ัวประเทศเข้าเรียนในโรงเรียนสามัญของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งจัดการเรียนการสอนและส่ือการเรียนการสอนเป็นภาษาไทยซึ่งเป็นภาษาราชการ ประกอบกับการจัดการ เรียนการสอนที่ขาดการเชื่อมโยงอย่างเป็นระบบ ระหว่างภาษาและวัฒนธรรมท้องถิ่นกับภาษาและวัฒนธรรม ของโรงเรียนซ่ึงใช้ภาษาราชการ (ภาษาไทย) เพียงภาษาเดียวเป็นสื่อ (สุวิไล เปรมศรีรัตน์ และคณะ, ๒๕๕๓) ทําใหเ้ ด็กและเยาวชนกลุม่ ชาติพันธไ์ุ มไ่ ดใ้ ชภ้ าษาท้องถิ่นในโรงเรียน ๓.๒ ปจั จยั คุกคาม (ถ้าม)ี ทม่ี ีผลตอ่ การสืบทอดของรายการมรดกภูมิปัญญาทางวฒั นธรรมภายในชมุ ชนต่าง ๆ ทเ่ี กย่ี วข้อง สอดคลอ้ งกบั ขอ้ ๓.๑ ๓.๓ ปจั จัยคุกคามทม่ี ีผลต่อความยง่ั ยืนในการเข้าถึง การใช้ทรัพยากรและองค์ประกอบทจ่ี บั ต้องได้ (ถา้ มี) ซึ่ง เกย่ี วข้องกับมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรม สอดคลอ้ งกับขอ้ ๓.๑ ๑๑๑  

๓.๔ ความอยรู่ อดของมรดกภูมิปญั ญาทางวฒั นธรรมอื่น ๆ (ถา้ ม)ี เก่ียวพันกับมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรมท่ี มกี ารจดั เกบ็ รวบรวมข้อมูล ชุมชนชาวชองได้มีการดําเนินงานฟื้นฟูภาษาและวัฒนธรรมของตนเอง ด้วยตนเอง โดยผ่านกระบวนการ ดําเนินงานวิจัยเพ่ือท้องถิ่น ซ่ึงในกลุ่มชองได้เริ่มมีการดําเนินงานฟ้ืนฟูภาษาและวัฒนธรรมของตนเองตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๔ และ พ.ศ. ๒๕๔๘ ตามลาํ ดับ การฟ้ืนฟูภาษาและวัฒนธรรมของกลุ่มชอง เริ่มต้นจากการทําระบบตัวเขียน โดยใช้อักษรไทย ๑ ตัว แทน ๑ เสียง เพ่ือเป็นเครื่องมือในการบันทึกภาษา รวมทั้งองค์ความรู้และภูมิปัญญาของตนเอง จากนั้นได้จัดทํา หลักสูตรสําหรับการเรียนการสอนในโรงเรียน โดยเริ่มต้ังแต่ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ นอกจากน้ียังได้มีการฟ้ืนฟู ภาษาและวฒั นธรรมของตนเองในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ได้จัดทําศูนย์การเรียนรู้ภาษา – วัฒนธรรมชอง การเก็บ รวบรวมองคค์ วามรู้เรอ่ื งคลมุ้ – คลา้ เปน็ ตน้ ๓.๕ การปกปอ้ งคุม้ ครองหรอื มาตรการอน่ื ๆ ทม่ี อี ยู่ (ถา้ ม)ี ซ่ึงใหค้ วามใส่ใจแกป้ ญั หาปจั จัยคกุ คามเหลา่ นแี้ ละ ส่งเสริมใหม้ ีการถอื ปฏบิ ัติหรอื การสืบทอดมรกดภูมิปัญญาทางวฒั นธรรมในอนาคต ปัจจุบันกลุ่มชอง ได้ระดมความคิดเห็นเพ่ือค้นหาแนวทางในการปกป้องคุ้มครองให้ภาษาของตนเองได้มี การใช้มากข้ึน ตลอดจนการถ่ายทอดภาษา ความรู้และภูมิปัญญาให้กับเยาวชนหรือคนรุ่นใหม่ ท้ังนี้ชุมชนชาว ชองมีความพยายามและผลักดันให้เกิดการเรียนการสอนภาษาท้องถิ่นภายในโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง จําเปน็ ต้องได้รับการสนับสนนุ โดยเฉพาะดา้ นงบประมาณจากหนว่ ยงานและองค์กรท่เี ก่ยี วขอ้ ง ๔. ข้อจํากดั และการอนญุ าตเกย่ี วกับการใชข้ อ้ มลู ๔.๑ การยนิ ยอมจากชุมชนและชมุ ชนทเี่ กยี่ วขอ้ งในการจดั เก็บรวบรวมขอ้ มูล ชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์ชอง มีความยินยอมในการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลท่ีเกี่ยวข้องกับภาษาและวัฒนธรรม ชอง ๔.๒ ข้อจาํ กัด (ถ้าม)ี ในการใชห้ รอื การเขา้ ถึงขอ้ มลู ท่จี ัดเกบ็ รวบรวม ข้อมูลท่ีได้จากการเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งของกลุ่มชอง ได้ถูกจัดเก็บไว้ในชุมชน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้นํา และ นักวิจัยชุมชน และภายในโรงเรียน ซึ่งข้อจํากัดในด้านงบประมาณ ทําให้ยังไม่สามารถเผยแพร่ได้อย่าง กวา้ งขวาง ๔.๓ บคุ คลทใ่ี ห้ข้อมูล : ช่อื และสถานภาพ หรือความเกยี่ วพัน ข้อมลู บุคคลผูบ้ อกภาษาของกลุ่มชาติพันธช์ุ อง สอดคล้องกบั ขอ้ ๒.๑ ๔.๔ วันและสถานทจ่ี ัดเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู กิจกรรมเปิดเวทีชี้แจงโครงการ วันท่ี ๒๙ กันยายน ๒๕๕๕ ณ โรงเรียนคลองพลูวิทยา ต.คลองพลู ๑๑๒  

อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี ๑. กิจกรรมวางแผนเก็บข้อมูล ร่วมกับชุมชน วันท่ี ๔ พฤศจิกายน และ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ ณ ศูนย์ การเรยี นร้ภู าษาและวัฒนธรรมชอง ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จนั ทบรุ ี ๒. กิจกรรมบันทึกเสียงผู้บอกภาษา วันที่ ๓ – ๘ มกราคม ๒๕๕๖ ณ สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรม เอเชยี มหาวิทยาลัยมหดิ ล ๓. กิจกรรมประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “การใช้เคร่ืองมือทางภาษาเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล” วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ณ โรงเรียนวดั ทงุ่ กบลิ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบรุ ี ๔. ทีมวิจัยท้องถ่ินชาวชอง เข้าร่วมงานประชุมเสวนาเรื่อง “วันภาษาแม่สากล : เปิดโลกภูมิปัญญาภาษา แม”่ วนั ที่ ๒๑ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๕๖ ณ สถาบนั วจิ ยั ภาษาและวฒั นธรรมเอเชีย มหาวิทยาลยั มหิดล ๕. กิจกรรมปฏิบัติการทําอาหารพ้ืนบ้าน ครั้งที่ ๑ วันท่ี ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๖ ณ วัดทุ่งกบิล ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกูฏ จ.จนั ทบุรี ๖. กิจกรรมปฏิบัติการทําอาหารพ้ืนบ้าน ครั้งที่ ๒ และจัดทําทําเนียบแม่ครัว วันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ณ วดั ทุ่งกบิล ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกูฏ จ.จันทบุรี ๗. กจิ กรรมปฏบิ ตั ิการทําอาหารพน้ื บ้าน ครง้ั ที่ ๓ วันท่ี ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ณ วัดทงุ่ กบิล ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบรุ ี ๘. กิจกรรมวางแผนจัดเวทีระดมความคิดเห็นและนําเสนอข้อมูลร่วมกับชุมชน วันท่ี ๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๖ ณ วัดทุ่งกบลิ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกฏู จ.จนั ทบรุ ี ๙. กจิ กรรมจัดเวทีระดมความคดิ เหน็ และนาํ เสนอขอ้ มูล วันท่ี ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ณ วัดทุ่งกบิล ต. คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จนั ทบรุ ี ๑๐. กิจกรรมเผยแพรข่ ้อมลู ยงั ชมุ ชนอื่น ๆ วันท่ี ๑ สิงหาคม ๒๕๕๖ ณ บ้านวังกระแพร ต.ทับไทร อ.โป่ง นาํ้ ร้อน จ.จนั ทบุรี และบา้ นทุ่งสะพาน ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฎ จ.จันทบุรี ๕. การอา้ งอิงเกยี่ วกบั รายการมรดกภมู ิปญั ญาทางวัฒนธรรม (ถา้ มี) ๕.๑ เอกสารประกอบตา่ ง ๆ (ถ้ามี) เชน่ รายงานวจิ ยั และส่งิ พิมพ์ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม. ๒๕๕๕. มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ. กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวง วฒั นธรรม. ฉวีวรรณ ประจวบเหมาะ. ๒๕๕๕. เอกสาร (ร่าง) แนวทางการรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลมรดกภูมิปัญญาทาง วฒั นธรรม. เอกสารอัดสาํ เนา เฉิน ผันผาย. ๒๕๔๗. รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการการอนุรักษ์และฟ้ืนฟูภาษาชอง ต.ตะเคียนทอง และ ต.คลองกลู ก่ิงอ.เขาคิชฌกูฎ จ.จนั ทบุรี ระยะที่ ๒. สาํ นกั งานกองทุนสนับสนุนการวจิ ยั (สกว.). _____. ม.ป.ป. บันทกึ วฒั นธรรมชอง. เอกสารอัดสําเนา. ชัยอนันต์ สมุทรวานิช. ๒๕๕๑. ปาฐกถาพิเศษ เร่ือง “ความสําคัญของนโยบายภาษาแห่งชาติ” ในการประชุม ทางวิชาการเร่ือง “ความหลากหลายและความสําคัญของภาษาท้องถ่ินท่ีนําไปสู่นโยบายภาษา ๑๑๓  

แหง่ ชาติ”. ประวีร์ บรรจงการ. ๒๕๕๔. รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการแนวทางการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรภาษา และวัฒนธรรมประเพณีชองแบบบรู ณาการโรงเรียนวัดตะเคยี นทอง (เพชโรปถัมภ์) โดยชุมชนมีส่วนร่วม ตําบลตะเคยี นทอง อาํ เภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี. สาํ นกั งานกองทนุ สนับสนนุ การวจิ ัย (สกว). มณเฑียร พฒั เสมา. ๒๕๕๐. รายงานฉบบั สมบูรณ์ โครงการการศึกษาความรชู้ าวชองเรือ่ งคล้มุ – คล้า (รุ่นทาก – รุ่นเชอ) โดยใช้ภาษาชองเป็นแนวทางในการศึกษา. สํานักงานกองทนุ สนบั สนุนการวิจัย (สกว.). ราชบณั ฑติ ยสถาน. ๒๕๕๕. คมู่ ือระบบเขยี น ภาษาชอง อักษรไทย. ราชบัณฑติ ยสถาน. รุ่งเพชร ผันผาย. ๒๕๕๑. รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการวิจัยการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ฟ้ืนฟูภาษา – วัฒนธรรมชอง เป็นแหล่งเรียนรู้ชุมชน โดยชุมชนมีส่วนร่วม. สํานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.). สายฝน เหลื่อมคั้น. ๒๕๓๔. ภาษาชอง หมู่บ้านนํ้าขุ่น ๑ ตําบลคลองพลู อําเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาจารึกภาษาไทย ภาควิชาภาษาตะวันออก บัณฑิตวิทยาลัย มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร. สิริรัตน์ สีสมบัติ. ๒๕๕๒. แหล่งเรียนรู้ชุมชนกับการฟื้นฟูอัตลักษณ์ทางชาติพันธ์ุของชาวชอง. วิทยานิพนธ์ ปริญญามหาบณั ฑติ สาขาวัฒนธรรมศกึ ษา บณั ฑิตวทิ ยาลัย มหาวทิ ยาลยั มหิดล. สุรพล ไชยพงษ์. ๒๕๕๐. รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการการสร้างหลักสูตรภาษาชองโดยการมีส่วนร่วมของ ชุมชน ต.คลองพลู และ ต.ตะเคียนทอง ก่ิงอ.เขาคิชฌกูฎ จ.จันทบุรี. สํานักงานกองทุนสนับสนุนการ วิจัย (สกว.). สุเรขา สุพรรณไพบูลย์. ๒๕๒๕. ระบบเสียงในภาษาชองหมู่บ้านตะเคียนทอง ตําบลตะเคียนทอง อําเภอ มะขาม จังหวัดจันทบุรี. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทร วโิ รฒประสานมติ ร. _____. ๒๕๓๐. การศึกษากลุม่ ชาติพันธชุ์ าวชอง. สมาคมสงั คมศาสตร์แหง่ ประเทศไทย. _____. ๒๕๔๒. สารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคกลาง เล่ม ๔. มูลนิธิสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ธนาคารไทย พาณชิ ย์. สวุ ิไล เปรมศรรี ัตน์. ๒๕๔๓. “พฒั นาระบบเขียนภาษาชอง”. วารสารภาษาและวฒั นธรรม ฉบับท่ี ๒: ๕ – ๑๘. สุวิไล เปรมศรีรัตน์ และสิริรัตน์ สีสมบัติ. ม.ป.ป. สารานุกรมชอง. สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล. สุวิไล เปรมศรีรัตน์ และคณะ. ๒๕๔๗. แผนที่ภาษาของกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ในประเทศไทย. สํานักงาน คณะกรรมการวฒั นธรรมแห่งชาติ. _____. ๒๕๕๓. โครงการวิจัยปฏิบัติการเรื่อง “การจัดการเรียนการสอนโดยใช้ภาษาท้องถิ่น และภาษาไทย เป็นสื่อ : กรณีการจัดการศึกษาแบบทวิภาษา (ภาษาไทย – ภาษามลายูถ่ิน) ในโรงเรียนเขตพ้ืนท่ี ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้. ศูนย์ศึกษาและฟ้ืนฟูภาษาและวัฒนธรรมในภาวะวิกฤต สถาบันวิจัยภาษาและ วัฒนธรรมเอเชีย มหาวทิ ยาลยั มหิดล. _____. ๒๕๕๐. ประสบการณ์การฟ้ืนฟูภาษาในประเทศไทย กรณีภาษาชอง จังหวัดจันทบุรี. สํานักงาน กองทุนสนบั สนุนการวิจยั (สกว.). ๑๑๔  

_____. ๒๕๕๑. พจนานุกรมภาษาชอง. ศูนย์ศึกษาและฟื้นฟูภาษาและวัฒนธรรมในภาวะวิกฤต สถาบันวิจัย ภาษาและวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาชนบท มหาวิทยาลยั มหิดล. อสิ ระ ชูศร.ี ๒๕๔๓. “วิถคี นชอง วัฒนธรรมการกินของชนช้ันด้ังเดิมในจันทบุรี”. วารสารครัว ฉบับที่ ๗๑: ๗๐ – ๗๗. _____. ๒๕๔๖. ชอง ฟืน้ ความหลงั และไปขา้ งหน้า”. วารสารเมอื งโบราณ ฉบับที่ ๓ : ๖๐ – ๖๗. Isara Choosri. 2002. Mapping Dialects of Chong in Chanthaburi Province, Thailand: An Application of Geographical Information System (GIS). The degree of Master of Art (Linguistic) Faculty of Graduate Studies Mahidol University. Nattamon Rojanakul. 2009. Chong Syntax. The degree of Master of Art (Linguistic) Faculty of Graduate Studies Mahidol University. Siripen Ungsittipoonporn. 2001. A phonological comparison between Klongphlu Chong and Wangkraphrae Chong. The degree of Master of Art (Linguistic) Faculty of Graduate Studies Mahidol University. ๕.๒ สื่อวิดีทศั น์ แถบบนั ทกึ เสยี ง / ภาพต่าง ๆ ทอี่ ยใู่ นหอจดหมายเหตุ และพิพธิ ภัณฑ์ หรือของสะสมสว่ น บุคคล (ถา้ ม)ี DVD ชดุ Field Note Stories กลมุ่ ชอง ตอน : วิถีชน วิถีชอง และ กระวานแหง่ ชอง มรดกของแผ่นดิน DVD ชุด ฟื้นคนฟื้นภาษาด้วยงานวจิ ยั ชาวบ้าน สนับสนุนการผลิตโดย ศูนย์ศึกษาและฟื้นฟูภาษา – วัฒนธรรมในภาวะวิกฤต และ สํานักงานกองทุน สนบั สนุนการวิจัย (สกว.) ฝา่ ยวจิ ัยเพอื่ ท้องถิ่น ๕.๓ เอกสารบนั ทกึ และวัตถุสิ่งของท่อี ยใู่ นหอจดหมายเหตุและพิพิธภัณฑ์ หรือของสะสมสว่ นบคุ คล (ถ้ามี) เอกสาร เร่ืองเล่า นิทาน สื่อการเรียนการสอน ท่ีจัดทําโดยชาวชอง ได้เก็บไว้ภายในชุมชน ในโรงเรียนวัด คลองพลู และโรงเรียนวัดตะเคียนทอง (เพชโรปถัมภ์) เพื่อเป็นส่ือการเรียนการสอนสําหรับเด็กนักเรียนชาว ชองในช้นั ประถมศึกษา ๖. ขอ้ มลู เกย่ี วกับการจัดเกบ็ รวบรวมและบนั ทึกข้อมลู ๖.๑ ผู้เกบ็ ข้อมูล กลุ่มผู้วจิ ยั (นักวิชาการ) ๑. ศาสตราจารยเ์ กียรติคุณ ดร. สุวไิ ล เปรมศรีรัตน์ ประธานกรรมการบรหิ ารมูลนธิ เิ พอื่ การฟ้ืนฟภู าษาและภูมิปญั ญาทอ้ งถ่นิ ๒. อ.ดร. มยรุ ี ถาวรพฒั น์ อาจารย์ประจาํ สาขาภาษาศาสตร์ สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวทิ ยาลัยมหิดล ๓. ผศ.ดร. ศริ เิ พ็ญ อึ้งสิทธิพนู พร ๑๑๕  

อาจารยป์ ระจํา สาขาภาษาศาสตร์ สถาบันวจิ ัยภาษาและวฒั นธรรมเอเชยี มหาวทิ ยาลัยมหิดล ๔. น.ส. กุมารี ลาภอาภรณ์ นักวิจัย ศูนย์ศึกษาและฟ้ืนฟูภาษา – วัฒนธรรมในภาวะวิกฤต สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรม เอเชีย มหาวทิ ยาลยั มหิดล ๕. น.ส. อัจฉราภรณ์ ถาวรพฒั น์ นักวิจัย ศูนย์ศึกษาและฟื้นฟูภาษา – วัฒนธรรมในภาวะวิกฤต สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรม เอเชีย มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล ๖. นายรณกร รักษว์ งศ์ นักวิจัย ศูนย์ศึกษาและฟ้ืนฟูภาษา – วัฒนธรรมในภาวะวิกฤต สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรม เอเชยี มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล ๗. น.ส. ณัฐมน โรจนกลุ นักวิจัย ศูนย์ศึกษาและฟ้ืนฟูภาษา – วัฒนธรรมในภาวะวิกฤต สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรม เอเชยี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่มุ ทมี วจิ ยั ชุมชนชาวชอง สอดคลอ้ งตามข้อ ๒.๑ ๖.๒ ผูบ้ นั ทกึ ขอ้ มูล ผบู้ นั ทกึ ขอ้ มูล ทัง้ กลมุ่ นกั วชิ าการ และกลุ่มชมุ ชนชาวชอง สอดคล้องตามขอ้ ๖.๑ ๖.๓ กระบวนการมสี ว่ นร่วมของชุมชน (ระบปุ ระเภท และระดบั ที่ชุมชนเขา้ มามสี ว่ นรว่ ม เชน่ การเห็น ความสาํ คัญของมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรม การใหค้ วามยินยอม การรว่ มเกบ็ ข้อมูล) ในกระบวนการดําเนินงานวิจัยทีมวิจัยได้คํานึงถึงกระบวนการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยทํา ให้กลุ่มชาติพันธ์ุชอง สามารถเป็นผู้เก็บข้อมูล และสามารถบันทึกองค์ความรู้และภูมิปัญญาท้องถ่ินของตนเอง ไดด้ ้วยตนเอง เชน่ การบันทกึ คาํ ศัพท์ หรือการบนั ทึกองคค์ วามรูเ้ กี่ยวกับอาหารพ้ืนบ้านของชาวชอง เป็นต้น นอกจากนท้ี ีมวิจัยยังสร้างกระบวนการเรียนรู้โดยผ่านการปฏิบัติ ซ่ึงทําให้เห็นการถ่ายทอดองค์ความรู้จาก ร่นุ สรู่ ุ่นได้อีกด้วย ทําให้เด็กรุ่นใหม่ได้ซึมซับวัฒนธรรมของตนเองผ่านการปฏิบัติ เช่น การปฏิบัติการทําอาหาร พ้นื บา้ น เปน็ ตน้ นอกจากน้ีในกระบวนการวิจัยยังได้เชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในชุมชนเข้ามาร่วมรับรู้ รับฟัง และแสดงความ คิดเห็นเก่ียวกับแนวทางการสงวนรักษาภาษาและภูมิปัญญาท้องถ่ินของกลุ่มชาติพันธ์ุ ดังจะเห็นได้จากการจัด เวที “ระดมความคิดเห็น แนวทางในการสงวนรักษาและภูมิปัญญาท้องถ่ินของกลุ่มชาติพันธ์ุ : ภาษาชอง” ซึ่ง มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจํานวนมาก ทั้งจากผู้นําชุมชน และหน่วยงานอ่ืน ๆ ที่เก่ียวข้อง เช่น โรงเรียน องค์การ บริหารส่วนตําบล สภาวัฒนธรรมอําเภอ เป็นต้น จากการจัดกิจกรรมในเวทีดังกล่าว พบว่า ชุมชนกลุ่มชาติ พันธ์ุชอง ยังมีความต้องการให้มีการเรียนการสอนภาษาชองภายในโรงเรียนอย่างต่อเน่ือง ท้ังนี้จําเป็นต้องมี ๑๑๖  

การสนบั สนนุ ด้านงบประมาณอย่างต่อเนื่อง อีกท้ังชุมชนกลุ่มชาติพันธ์ุชอง ยังได้จัดกิจกรรมเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์การขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญา ทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ชองในพ้ืนท่ีอ่ืน ซึ่งทําให้ชุมชนชาวชองในพื้นที่อื่น ๆ ได้รับรู้ และเกิดความ ภาคภูมิใจในภาษาและวฒั นธรรมของตนเอง กระบวนการวิจัยเหล่านี้สามารถทําให้ชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์ได้เกิดความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมและ ภูมิปัญญาของตนเอง รวมถึงมีกําลังใจและเกิดจิตสํานึกในการสงวนรักษาภูมิปัญญาท้องถ่ินของตนเองต่อไป อยา่ งตอ่ เน่อื ง ๖.๔ หลกั ฐานการยินยอมของชมุ ชนและชุมชนที่เก่ียวขอ้ ง (ก) การจดั เก็บรวบรวมขอ้ มูลรายการมรดกภมู ิ ปญั ญาทางวฒั นธรรม (ข) ขอ้ มลู สารสนเทศทใี่ หจ้ ดั เกบ็ รวบรวมและบันทึก ๑. ใบแสดงความยินยอม ให้นํารายการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ภาษาชอง ในฐานะรายการ ตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมจากประเทศไทย เสนอช่ือขอเป็นรายการตัวแทนมรดกภูมิ ปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติตามเง่ือนไขท่ีปรากฏในอนุสัญญาว่าด้วยการปกป้องคุ้มครอง มรดกภมู ปิ ัญญาทางวฒั นธรรม ลงนามโดย นายเฉิน ผนั ผาย ผนู้ ํากล่มุ ชาติพนั ธ์ุชอง ๒. เสยี งภาษาชอง (คําศพั ท์พนื้ ฐาน และ คมู่ ือระบบตัวเขียน) ๓. สาระภาษาชอง ประกอบด้วย ชื่อภาษาท่ีปรากฏ, ระบบโครงสร้าง และรูปแบบภาษา, คําและ ความหมาย, ลักษณะการสื่อสาร, ลักษณะการใช้ภาษาแบบต่าง ๆ ได้แก่ นิทาน เพลง กลอน บันทึก ประเพณี พิธีกรรม อาหารพื้นบ้านชอง รวมถึง คุณค่าภาษาชอง การถ่ายทอดและการสืบทอด ข้อมูล ผูบ้ อกภาษา และผเู้ ก็บข้อมูล / วันเวลาทเ่ี กบ็ ข้อมูล ๔. หนงั สือเร่ือง “รกั ษ์ครวั ชอ์ ง” รวบรวมเมนูอาหารพน้ื บ้าน และแมค่ รัวและกลุม่ เยาวชนชาวชองท่เี ขา้ ร่วมกจิ กรรมปฏบิ ตั ิการทาํ อาหารพ้นื บา้ น ๕. DVD กิจกรรมปฏบิ ตั กิ ารทําอาหารพ้ืนบา้ นของชาวชอง ๖. DVD ภาษาชอง ๖.๕ วนั เวลา ในการบนั ทกึ ขอ้ มลู เขา้ สบู่ ญั ชรี ายการ ระยะเวลาในการบนั ทกึ ขอ้ มลู ภาษาชอง ต้ังแต่เดอื นสงิ หาคม ๒๕๕๕ – ธนั วาคม ๒๕๕๖ ๗. ข้อเสนอแนะในการสบื ทอดมรดกภมู ิปญั ญาทางวฒั นธรรม ๗.๑ การสงวนรกั ษาโดยชุมชน จากการจัดกิจกรรมเวที “ระดมความคิดเห็น แนวทางในการสงวนรักษาภาษาและภูมิปัญญาท้องถิ่นของ กลุม่ ชาตพิ นั ธุ์ : ภาษาชอง” ชมุ ชนไดเ้ สนอแนวทางในการสงวนรกั ษาภาษาของตนเองดงั น้ี ๑. ผู้นําชุมชน และหน่วยงานที่เก่ียวข้องมีการทํางานด้านการอนุรักษ์ ฟ้ืนฟูภาษาและวัฒนธรรมชอง ร่วมกนั อยา่ งจรงิ จงั ๑๑๗  

๒. เกิดเครือขา่ ยคณะทํางานทัง้ ในระดับชมุ ชน ตําบล และจังหวัด ๓. ได้รับการสนับสนุนท้ังในด้านการทํางานและงบประมาณจากหน่วยงานราชการ ให้เกิดกิจกรรมด้าน การอนุรักษ์ภาษาและภูมิปัญญาท้องถ่ินอย่างต่อเน่ือง และสามารถเชื่อมโยงสู่ด้านการท่องเท่ียวเชิง อนุรักษ์ภาษาและวัฒนธรรมชอง (ภาษาชอง เกษตรอินทรีย์ ความมั่นคงทางอาหาร สมุนไพร ผลิตภัณฑพ์ ้ืนบ้านชอง) ๔. เกิดเครือข่ายผู้รู้ หรือครูภูมิปัญญา ท่ีสามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ทางด้านภาษาและวัฒนธรรมสู่ ลกู หลานคนชอง ๕. ทําให้คนชองเกิดสํานึกรักบ้านเกิด เสริมสร้างอัตลักษณ์ของตนเอง และกระตุ้นให้คนชองมีความ ตน่ื ตวั ในการอนุรกั ษ์ภาษาและวฒั นธรรมของตนเอง ๖. สนับสนุนและส่งเสริมให้มีจัดการเรียนการสอนภาษาชอง ตามหลักสูตรท้องถิ่นในโรงเรียนอย่าง ต่อเน่อื ง ๗. จัดกิจกรรมการถ่ายทอดความรู้สู่กลุ่มเด็กและเยาวชน เช่น ฝึกพูดภาษาชอง, ฝึกทําอาหารชอง, ฝึก เขยี นภาษาชอง, เรยี นรู้ความเปน็ อยู่ของคนชองในอดีต ๘. รณรงค์ใหค้ นชองพูดภาษาชองกับคนในครอบครัว / เพอ่ื นบา้ น ๙. จดั กิจกรรมวฒั นธรรม ประเพณพี ื้นบา้ นและการละเล่นของคนชอง ตามงานหรือเทศกาลต่าง ๆ เช่น การเลน่ สะบา้ การรํายนั แย่ ในงานสงกรานต์ เป็นต้น ๑๐. ช่วยกันอนุรักษ์พืชผักสมุนไพรพ้ืนบ้านของชอง เช่น กระวาน ตะไคร้ ข่า แล้วนํามาประกอบอาหาร ชองทานกนั เอง ๑๑. จดั ตัง้ ชมรมคนใชภ้ าษาชอง ๑๒. สนบั สนุนใหม้ ีการเผยแพรภ่ าษา และภมู ปิ ัญญาทอ้ งถิ่นของชาวชองอยา่ งตอ่ เนือ่ ง ๗.๒ การปกปอ้ งคมุ้ ครองโดยหน่วยงานภาครัฐ จากการจัดกิจกรรมเวที “ระดมความคิดเห็น แนวทางในการสงวนรักษาภาษาและภูมิปัญญาท้องถิ่นของ กลุ่มชาติพนั ธุ์ : ภาษาชอง” หนว่ ยงานภาครฐั ได้เขา้ รว่ มในเวทแี ละร่วมแสดงความคิดเห็นดงั นี้ กลุ่มชาติพันธุ์ชอง มีหน่วยงานที่เข้าร่วม ได้แก่ เทศบาลตําบลพลวง, กลุ่มเยาวชน ต.คลองพลู, ครูจาก โรงเรียนวัดคลองพลู, ครูจากโรงเรียนวัดตะเคียนทอง, อาจารย์จากมหาวิทยาลัยราชภัฎรําไพพรรณี, นักวิชาการวัฒนธรรมชํานาญการ วัฒนธรรมอําเภอเขาคิชฌกูฏ, ศึกษานิเทศจากสํานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ประถมศึกษาจนั ทบรุ ี เขต ๒ ตัวแทนจากหน่วยงานเหล่านี้ได้เห็นความสําคัญของภาษาและวัฒนธรรมท้องถิ่น และพยายามหาช่องทาง ใหเ้ กิดการฟนื้ ฟภู าษาและวัฒนธรรมของชุมชนอย่างต่อเน่ือง โดยเฉพาะการจัดการเรียนการสอนภาษาท้องถ่ิน ในระบบโรงเรียนอยา่ งต่อเน่อื งและย่ังยืน ๑๑๘  

ข้อมูลของผู้บอกภาษาชอง ทีมวิจัยได้ใช้กระบวนการวิจัยโดยเน้นรูปแบบการมีส่วนร่วมของชุมชนเป็นหลัก ดังนั้นชุมชนเจ้าของ ภาษา หรือชาวชองจงึ มีบทบาทเปน็ ท้ังผเู้ กบ็ ข้อมลู และผู้ให้ขอ้ มูล ดงั รายละเอียดต่อไปนี้ ๑. นางมว่ ง ลมหวาย ที่อยู่ : ๒๙ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกฏู จ.จันทบุรี อาชีพ : ทาํ สวนผลไม้ (ปราชญ์ชุมชน / ผู้บอกภาษา) ๒. นางสลิด ดวงสวัสดิ์ ทอ่ี ยู่ : ๘ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกฏู จ.จันทบุรี อาชีพ : ทําสวนผลไม้ (ปราชญช์ ุมชน / ผูบ้ อกภาษา) ๓. นางเสียง คลา้ ยมะลิ ท่ีอยู่ : ๒๑ หมู่ ๔ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จนั ทบุรี อาชีพ : ทําสวนผลไม้ (ปราชญช์ มุ ชน / ผบู้ อกภาษา) ๔. นายจิน้ ผันผาย ทีอ่ ยู่ : ๒๒ หมู่ ๔ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกฏู จ.จันทบุรี อาชพี : ทําสวนผลไม้ (ปราชญ์ชุมชน / ผู้บอกภาษา) ๕. นางดวงฤดี ดวงสวัสดิ์ ทอี่ ยู่ : ๘ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกฏู จ.จันทบรุ ี อาชพี : ทําสวนผลไม้ (ปราชญ์ชมุ ชน / ผู้บอกภาษา) ๖. นางจรรณลี ควรสถาน ที่อยู่ : หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกฏู จ.จนั ทบรุ ี อาชีพ : ทําสวนผลไม้ ๗. นางบุบผา ลมหวาย ท่อี ยู่ : หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกฏู จ.จนั ทบุรี อาชีพ : ทาํ สวนผลไม้ ๘. นางหยด แสนทะวงษ์ ท่ีอยู่ : หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบรุ ี อาชพี : ทาํ สวนผลไม้ ๙. นายมณเฑยี ร พฒั เสมา ท่ีอยู่ : ๒๐ / ๑๗ หมู่ ๘ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกฏู จ.จนั ทบรุ ี อาชีพ : ทาํ สวนผลไม้ / สมาชกิ อบต. ตําบลคลองพลู ๑๐. น.ส. วาสนา คลองวงษ์ ท่ีอยู่ : ๑๔ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกฏู จ.จันทบรุ ี ๑๑๙  

อาชพี : ทําสวนผลไม้ ๑๒๐ ๑๑. นายจารกึ แก้วสว่าง ทีอ่ ยู่ : หมู่ ๔ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกฏู จ.จนั ทบุรี อาชพี : ทาํ สวนผลไม้ (ปราชญ์ชมุ ชน / ผ้บู อกภาษา) ๑๒. น.ส. วาสนา คลองวงษ์ ทีอ่ ยู่ ๑๔ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกูฏ จ.จนั ทบุรี อาชพี : ทาํ สวนผลไม้ ๑๓. นายเฉยี น ผันผาย ทอี่ ยู่ : ๒๒ หมู่ ๔ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกฏู จ.จันทบรุ ี อาชีพ : ทําสวนผลไม้ (ปราชญ์ชุมชน / ผู้บอกภาษา) ๑๔. นางนกน้อย ควรสถาน ท่อี ยู่ : ๔๓/๔ หมู่ ๖ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกูฏ จ.จนั ทบุรี อาชพี : ทําสวนผลไม้ (ปราชญช์ มุ ชนดา้ นอาหารพ้ืนบา้ น) ๑๕. นางมาลี วรรณภักดี ทอี่ ยู่ : ๕๔/๒ หมู่ ๖ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกฏู จ.จนั ทบรุ ี อาชีพ : ทาํ สวนผลไม้ ๑๖. น.ส. นิกร มาตราช ท่ีอยู่ : ๒/๑ หมู่ ๖ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกฏู จ.จันทบรุ ี อาชพี : ทาํ สวนผลไม้ ๑๗. น.ส. ปภาณนิ โยธี ทอ่ี ยู่ : ๙/๑ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกูฏ จ.จนั ทบรุ ี อาชพี : ทําสวนผลไม้ ๑๘. น.ส. ศริ พิ ร ควรสถาน ท่อี ยู่ : ๙/๑ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกฏู จ.จนั ทบรุ ี อาชพี : ทาํ สวนผลไม้ ๑๙. นายรกั ษ์ ฉัตรเงิน ทีอ่ ยู่ : ๑๖/๑ หมู่ ๒ ต.ตะเคียนทอง อ.เขาคชิ ฌกฏู จ.จันทบรุ ี อาชพี : ทําสวนผลไม้ (ปราชญช์ ุมชน / ผู้บอกภาษา) ๒๐. นายเฉนิ ผนั ผาย ทอ่ี ยู่ : ๑/๒ หมู่ ๔ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกฏู จ.จันทบรุ ี อาชีพ : ทาํ สวนผลไม้ (ปราชญช์ มุ ชน) ๒๑. นางทานิน วรรณภกั ดี ทอี่ ยู่ : ๒/๒ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จนั ทบุรี  

อาชีพ : ทําสวนผลไม้ ๒๒. น.ส. ชดิ าภา มติ รเพ่ือนบ้าน ท่อี ยู่ : ๒๐/๒ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกูฏ จ.จันทบรุ ี อาชีพ : ทาํ สวนผลไม้ ๒๓. น.ส. นติ ตรา มติ รเพอื่ นบา้ น ท่อี ยู่ : ๒๐/๒ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จนั ทบรุ ี อาชพี : ทําสวนผลไม้ ๒๔. น.ส. สิรริ ัตน์ สสี มบัติ ทอี่ ยู่ : ๑/๓ หมู่ ๔ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบรุ ี อาชพี : ทําสวนผลไม้ ๒๕. นายหนู สีสมบัติ ทอี่ ยู่ : ๑/๓ หมู่ ๔ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี อาชพี : ทาํ สวนผลไม้ (ปราชญช์ ุมชน / ผ้บู อกภาษา) ๒๖. นายอเนก ฉัตรเงนิ ท่ีอยู่ : ๑/๔ หมู่ ๕ ต.ตะเคียนทอง อ.เขาคชิ ฌกูฏ จ.จันทบรุ ี อาชพี : กํานนั ต.ตะเคียนทอง ๒๗. นายชยั ณรงค์ อาลัย ทอ่ี ยู่ : ๒๑/๔ หมู่ ๕ ต.ตะเคยี นมอง อ.เขาคชิ ฌกฏู จ.จนั ทบรุ ี อาชพี : ทําสวนผลไม้ / ครูภมู ิปัญญาโรงเรียนวดั ตะเคียนทอง / ผ้บู อกภาษา ๒๘. นางลา เตา่ เงนิ ท่อี ยู่ : ๒๕/๔ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกูฏ จ.จนั ทบุรี อาชีพ : ทําสวนผลไม้ ๒๙. น.ส. รตั นา ขนั สัมฤทธ์ิ ท่อี ยู่ : ๘/๕ หมู่ ๖ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกฏู จ.จันทบุรี อาชพี : ทาํ สวนผลไม้ ๓๐. นางกุหลาบ เต่าเงนิ ทีอ่ ยู่ : ๒๕/๕ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกฏู จ.จันทบุรี อาชีพ : ทาํ สวนผลไม้ (ปราชญ์ชุมชนดา้ นอาหารพื้นบ้าน) ๓๑. น.ส.เกวรนิ ทร์ เตา่ เงนิ ทีอ่ ยู่ : ๒๕/๕ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกฏู จ.จันทบุรี อาชีพ : ทาํ สวนผลไม้ ๓๒. น.ส. วไิ ล เต่าเงนิ ท่ีอยู่ : ๒๕/๕ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกฏู จ.จนั ทบรุ ี ๑๒๑  

อาชพี : ทาํ สวนผลไม้ ๓๓. นายสําราญ เกือ้ กิจ ทีอ่ ยู่ : ๑/๖ หมู่ ๔ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกฏู จ.จนั ทบุรี อาชีพ : ทําสวนผลไม้ ๓๔. นางสมศรี ศรษี ะเกตุ ท่ีอยู่ : ๒๒/๖ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกฏู จ.จนั ทบรุ ี อาชีพ : ทาํ สวนผลไม้ ๓๕. นางอาํ นวย มาลัย ท่อี ยู่ : ๙/๗ หมู่ ๕ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกูฏ จ.จันทบรุ ี อาชพี : ทําสวนผลไม้ (ปราชญช์ ุมชนดา้ นอาหารพืน้ บ้าน) ๓๖. นายไพรวัล ผันผาย ทอี่ ยู่ : ๙/๗ หมู่ ๔ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี อาชีพ : ทําสวนผลไม้ ๓๗. นายร่งุ เพ็ชร ผนั ผาย ที่อยู่ : ๒๑/๙ หมู่ ๔ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกฏู จ.จันทบรุ ี อาชพี : ทาํ สวนผลไม้ ผู้เก็บข้อมูลและวนั เวลาทเี่ ก็บ ทีมวิจยั จากมหาวทิ ยาลยั มหิดล ๑. ศาสตราจารย์เกยี รติคุณ ดร. สวุ ไิ ล เปรมศรรี ตั น์ ๒. อ.ดร. มยุรี ถาวรพัฒน์ ๓. ผศ.ดร. ศริ ิเพ็ญ อึ้งสิทธิพูนพร ๔. น.ส. กมุ ารี ลาภอาภรณ์ ๕. น.ส. อัจฉราภรณ์ ถาวรพฒั น์ ๖. นายรณกร รกั ษว์ งศ์ ๗. น.ส. ณฐั มน โรจนกุล วันเวลาทเี่ กบ็ ขอ้ มูล / ทํากิจกรรม ๑. กิจกรรมเปิดเวทีชี้แจงโครงการ วันท่ี ๒๙ กันยายน ๒๕๕๕ ณ โรงเรียนคลองพลูวิทยา ต.คลอง พลู อ.เขาคชิ ฌกูฏ จ.จันทบุรี ๒. กิจกรรมวางแผนเก็บข้อมูล ร่วมกับชุมชน วันท่ี ๔ พฤศจิกายน และ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ ณ ศูนย์การเรียนรภู้ าษาและวฒั นธรรมชอง ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกฏู จ.จนั ทบรุ ี ๑๒๒  

๓. กิจกรรมบันทึกเสียงผู้บอกภาษา วันท่ี ๓ – ๘ มกราคม ๒๕๕๖ ณ สถาบันวิจัยภาษาและ วัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลยั มหิดล ๔. กิจกรรมประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “การใช้เครื่องมือทางภาษาเพ่ือเก็บรวบรวมข้อมูล” วันที่ ๓ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๕๖ ณ โรงเรียนวัดทุ่งกบิล ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกฏู จ.จันทบรุ ี ๕. ทีมวิจัยท้องถิ่นชาวชอง เข้าร่วมงานประชุมเสวนาเร่ือง “วันภาษาแม่สากล : เปิดโลกภูมิปัญญา ภาษาแม่” วนั ที่ ๒๑ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๕๖ ณ สถาบันวิจยั ภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล ๖. กิจกรรมปฏิบัติการทําอาหารพื้นบ้าน คร้ังท่ี ๑ วันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๖ ณ วัดทุ่งกบิล ต.คลอง พลู อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จนั ทบรุ ี ๗. กิจกรรมปฏิบัติการทําอาหารพื้นบ้าน คร้ังที่ ๒ และจัดทําทําเนียบแม่ครัว วันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ณ วัดทุง่ กบิล ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกฏู จ.จันทบุรี ๘. กิจกรรมปฏิบัติการทําอาหารพื้นบ้าน คร้ังท่ี ๓ วันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ณ วัดทุ่งกบิล ต. คลองพลู อ.เขาคิชฌกฏู จ.จันทบุรี ๙. กิจกรรมวางแผนจัดเวทีระดมความคิดเห็นและนําเสนอข้อมูลร่วมกับชุมชน วันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๖ ณ วัดทุ่งกบิล ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกูฏ จ.จนั ทบรุ ี ๑๐. กิจกรรมจัดเวทีระดมความคิดเห็น และนาํ เสนอข้อมลู วันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ณ วดั ทงุ่ กบลิ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกฏู จ.จันทบรุ ี ๑๑. กิจกรรมเผยแพร่ข้อมูลยังชุมชนอ่ืน ๆ วันท่ี ๑ สิงหาคม ๒๕๕๖ ณ บ้านวังกระแพร ต.ทับไทร อ. โปง่ นํา้ รอ้ น จ.จนั ทบรุ ี และบ้านท่งุ สะพาน ต.พลวง อ.เขาคิชฌกฏู จ.จนั ทบรุ ี ๑๒๓  

ภาพการทาํ กจิ กรรมของกลมุ่ ชอง ภาพกิจกรรมเวทีช้แี จงโครงการ ฯ กลมุ่ ชอง ภาพกิจกรรมลงพน้ื ทว่ี างแผนเกบ็ ขอ้ มูลชมุ ชน ๑๒๔  

ภาพกจิ กรรมการประชุมเชงิ ปฏบิ ตั ิการเรอ่ื ง “การใช้เครอื่ งมอื ทางภาษา เพ่ือเก็บรวบรวมขอ้ มลู ” ๑๒๕  

ภาพกิจกรรมปฏบิ ตั ิการทาํ อาหารพื้นบา้ น ภาพกจิ กรรมเก็บข้อมูลด้านภาษาของนกั ภาษาศาสตร์ ๑๒๖  

ภาพกิจกรรมเวที“ระดมความคดิ เหน็ แนวทางในการสงวนรักษาภาษาและภูมิปญั ญาทอ้ งถ่นิ ของกลุ่มชาตพิ ันธุ์ : ภาษาชอง” ภาพกิจกรรมเผยแพร่ ประชาสมั พนั ธก์ ารข้นึ ทะเบียนมรดกภมู ปิ ัญญาทางวฒั นธรรม ของกลมุ่ ชาตพิ นั ธุ์ชองในพน้ื ที่อนื่ ๑๒๗