สรุปรายงานและประเมนิ ผล โครงการพฒั นาบุคลากรดา้ นประชาคมอาเซียน ปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๙ หลกั สตู ร “การสรา้ งความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะ สมรรถนะแกบ่ ุคลากรในด้าน การสรา้ งทัศนคติเชงิ บวกระดบั สากล (Internationalization Attitude) และความเขา้ ใจเรือ่ งการรวมกลมุ่ แบบภมู ิภาคนยิ ม (Regionalism) สาหรบั บุคลากรฝา่ ยนติ ิบัญญตั ิ ระหว่างวันที่ ๒๐ - ๒๒ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๘ ณ โรงแรมรอยลั รเิ วอร์ กรงุ เทพมหานคร และโรงแรมแคปปิตอล เจ แอทเขาใหญ่ จังหวดั นครราชสมี า กล่มุ งานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏบิ ตั หิ นา้ ท่สี านกั งานศูนยป์ ระชาคมอาเซียน ของสานักงานเลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎร
สรปุ รายงานและประเมนิ ผล โครงการพฒั นาบคุ ลากรดา้ นประชาคมอาเซยี น ปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๙ หลักสตู ร “การสรา้ งความรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะ สมรรถนะแก่บุคลากร ในด้านการสรา้ งทศั นคติเชิงบวกระดบั สากล (Internationalization Attitude) และความเขา้ ใจเรอื่ งการรวมกลุ่มแบบภมู ภิ าคนิยม (Regionalism) สาหรับบคุ ลากรฝ่ายนติ บิ ัญญัติ ระหว่างวันท่ี ๒๐ - ๒๒ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๘ ณ โรงแรมรอยัลรเิ วอร์ กรงุ เทพมหานคร และโรงแรมแคปปติ อล เจ แอทเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา กลมุ่ งานเลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎร ปฏิบัติหนา้ ทสี่ านกั งานศูนย์ประชาคมอาเซยี น ของสานกั งานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร
สารบญั หนา้ หลกั การและเหตผุ ล กาหนดการ สรุปผล ๑ »» การบรรยาย เร่อื ง “การรวมกลุ่มแบบภูมภิ าคนิยม (Regionalism : นยั ต่อประชาคมอาเซียน)” โดย นายนรชติ สงิ หเสนี โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนญู อดีตปลัดกระทรวงการตา่ งประเทศ อดตี เอกอคั รราชทูตผแู้ ทนถาวรไทยประจาสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก สหรฐั อเมริกา สรุปผล ๑๐ »» การเสวนา เร่อื ง “บคุ ลากรฝา่ ยนิติบัญญตั ิกบั สรา้ งทัศนคตเิ ชงิ บวกระดับสากล (Internationalization Attitude) โดย ดร.กมลนิ ทร์ พินจิ ภวู ดล ผ้อู านวยการสถาบนั ระหวา่ งประเทศเพ่ือการคา้ และการพัฒนา และ นางสาวสภุ าสนิ ี ขมะสนุ ทร รองเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร ดาเนินรายการ โดย ผแู้ ทนสถานีวทิ ยกุ ระจายเสยี งและวทิ ยโุ ทรทัศนร์ ฐั สภา สรุปผล ๑๓ »» การบรรยาย เร่อื ง “สมรรถนะพิเศษของขา้ ราชการที่ทางานเกย่ี วข้องกับประชาคมอาเซยี น ของสานักงานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร และเสน้ ทางความกา้ วหนา้ ” โดย นายหรินทร์ สูตะบุตร นกั พฒั นาทรัพยากรบคุ คลชานาญการพเิ ศษ สานกั พัฒนาบคุ ลากร สรุปผล ๒๐ »» การแบ่งกลุม่ ระดมสมอง เรอื่ ง “การขบั เคลื่อนประชาคมอาเซยี นในบริบทนติ ิบญั ญตั ิ” (๖ กลุ่มยอ่ ย) โดย วิทยากรกระบวนการ ของสถาบันระหวา่ งประเทศเพอ่ื การค้าและการพัฒนา และวทิ ยากรกระบวนการสานักงานศนู ยป์ ระชาคมอาเซียนฯ การช้แี จงการแสดงบทบาทสมมติภายใต้สถานการณ์จาลอง และการแบง่ กล่มุ ระดมสมอง ๒๔ เพอ่ื กาหนดเน้ือหาและซักซ้อมการแสดงบทบาทสมมตภิ ายใต้สถานการณจ์ าลอง »» การแสดงบทบาทสมมตภิ ายใต้สถานการณจ์ าลอง (Simulation) ๓๒ »» กิจกรรมสานสัมพนั ธ์บุคลากรฝ่ายนิตบิ ัญญตั ิ Asean night ๓๗ »» สรปุ ผลการทดสอบความรู้ก่อน – หลงั ท่ไี ด้รับจากการเขา้ รว่ มกิจกรรม ๓๘ »» สรปุ ภาพรวมประมวลผลความพงึ พอใจ ๓๙
โครงการพฒั นาบุคลากรดา้ นประชาคมอาเซียน ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ๑ หลกั การและเหตุผล รัฐสภาเป็นองค์กรที่ถูกกาหนดข้ึนมาเพื่อให้ทาหน้าที่ด้านนิติบัญญัติ ภายในขอบเขตและวิธีการ ท่ีรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมสภาได้บัญญัติไว้ ทั้งหน้าที่ในการตรากฎหมาย และการควบคุมการบริหาร ราชการแผ่นดิน และเมื่อประเทศไทยจะต้องเข้าสู่ความเป็นประชาคมอาเซียนอย่างสมบูรณ์ใน ปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่ง การเข้าสู่ประชาคมอาเซียนน้ีเป็นนโยบายด้านต่างประเทศของไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยประเทศไทย ได้ทุ่มเทและให้ความสาคัญอย่างเต็มท่ีเพื่อทาให้ความร่วมมือในกรอบอาเซียนบรรลุผลสัมฤทธ์ิตามเป้าหมายท่ี กาหนดไว้ สาหรับการเข้าเป็นประชาคมเดียวกันจะประกอบด้วย ๓ เสาหลัก ได้แก่ ประชาคมการเมืองและความ ม่ันคงอาเซียน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และประชาคมสังคมและวัฒนธรรม ทั้งนี้ข้าราชการรัฐสภาสามัญของ สานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะเป็นหน่วยงานสนับสนุนการปฏิบัติงานของสภาผู้แทนราษฎร ในการตรากฎหมาย และการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน มีความจาเป็นท่ีจะต้องพัฒนาความรู้ ความ เช่ียวชาญด้านกฎหมายระ หว่างประเทศ เพ่ือสนับสนุนงานของสภาผู้แทนราษฎรและรัฐสภา อันเป็นการปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของประเทศไทย อีกท้ังส่งเสริมความมีเสถยี รภาพในภูมิภาคอาเซียน ทก่ี าลังพัฒนาอย่างคอ่ ยเป็นค่อยไป รวมทั้งพัฒนาองค์ความรู้ สมรรถนะ ซึ่งผู้ดารงตาแหน่งนิติกร และวทิ ยากร ของสานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรซ่ึงเป็นสายงานหลักท่ีปฏิบัติงานด้านประชาคมอาเซียน จะเปลี่ยนฐานะไปเป็นนักกฎหมายนิติบัญญัติ และนักวิชาการนิติบัญญัติให้มีความเช่ียวชาญ ทางด้านสาขากฎหมายระหว่างประเทศ จึงเห็นควรให้มีการพัฒนาความรู้ด้านกฎหมายระหว่างประเทศ เพ่ือ การปฏิบัติหน้าที่ในงานด้านกฎหมาย การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน และติดตามประเมินผล การบังคับใช้กฎหมายตามความรับผิดชอบของรัฐสภาในการรักษาประโยชน์ของชาติและเป็นการ ทาหน้าทใ่ี นบรบิ ทของประเทศสมาชิกอาเซยี นตอ่ ไป ทั้งนี้ การเสริมสร้างความรู้เพียงประการเดียวอาจจะไม่เพียงพอต่อการสนับสนุนภารกิจด้านนิติ บญั ญัติดังกล่าว ดังนัน้ ในการเตรียมความพร้อมให้ข้าราชการรัฐสภาสามญั มีท้ัง “ความรู้” และ “ทัศนคติ” ทด่ี ี ย่อมเป็นการสร้างพื้นฐานอันแข็งแกร่ง และความสามารถในการปรบั ตัวกับสถานการณ์ท่ีจะมีความท้าทายมาก ขึ้นทั้งในระดับอาเซียน และระดับโลกต่อไป ดังนั้น ภารกิจที่สาคัญหนึ่งในการเตรียมพร้อมของประชาชนไทย และหมายรวมถึงข้าราชการรัฐสภาไทยที่จะดาเนินการคู่ขนานกันคือ การปรับทัศนคติเชิงบวกในระดับสากล ซ่ึงหมายถึงการเห็นถึงประโยชน์ที่จะได้จากการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนและเปิดสู่การรวมตัวในภูมิภาค อาเซียน และเห็นถึงประโยชน์ของการมีความร่วมมือกับประเทศ ในประชาคมอาเซียนและสามารถ สร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์ ของประเทศและผลประโยชน์ของภูมิภาคได้ ซ่ึงจะเป็นรากฐานให้ทางาน ในระดับภูมิภาคได้ดี ศูนย์ประชาคมอาเซียนของสานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้เล็งเห็นความสาคัญ ของการสร้างทัศนคติดังกล่าว อันได้แก่ ความภาคภูมิใจในมิติทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมและการ ต่างประเทศของไทย ขณะท่ีเห็นคุณค่าและสนใจท่จี ะเรยี นรู้มติ ิต่างๆของอาเซียนและการรวมตัวในภูมภิ าคและ ของประเทศอ่ืนในประชาคมอาเซียน ความเขา้ ใจมิตขิ องการรวมตัวในภมู ิภาคและยอมรบั ความแตกต่างทางมิติ ในเสาหลักของประชาคมอาเซยี น และยุทธศาสตรข์ องอาเซียน และปฏบิ ัติกับประเทศสมาชิกอาเซียนอย่างเท่า เทยี ม และเขา้ ใจมารยาท กาลเทศะ ตลอดจนธรรมเนยี มปฏิบัตขิ องประเทศในกลมุ่ ประชาคมอาเซียนที่แตกต่าง และพยายามปรับตัวให้สอดคล้องกับวัฒนธรรม โดยในการปรับพฤติกรรมน้ัน จะเน้นการพูดถึงประชาคม อาเซียนในทางที่ดี เป็นบวกและเป็นประโยชน์ มีการแสดงความคิดเห็นท่ีแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจเรื่อง ประชาคมอาเซียนและภูมิภาคนิยม มีการแสดงกิริยาที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศในประชาคมอาเซียน ดังน้ัน การฝึกอบรมในโครงการนี้ซ่ึงประกอบด้วยภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ จะช่วยปรับเปล่ียนพฤติกรรมให้ สอดคล้องกับบรบิ ททางภมู ิภาค เศรษฐกจิ การเมืองและสงั คมและวัฒนธรรมทเ่ี ปลีย่ นไป มคี วามรูแ้ ละความ
เข้าใจในด้านภาษาต่างประเทศในข้ันพ้ืนฐานเพ่ือการติดต่อส่ือสารด้วยวิธีการ เนื้อหา และถ้อยคาท่ีเหมาะสม กับบริบททางสังคมและวัฒนธรรมของผู้อ่ืนในกลุ่มประชาคมอาเซียน และบริบทด้านประชาคมอาเซียนใน ประเทศสมาชิกอาเซยี นและมีความรู้ความเข้าใจในหลักการ แนวคดิ ทฤษฎีในงานภาษาตา่ งประเทศ โดยการ ดาเนินการโครงการพัฒนาบุคลากรน้ี จะดาเนินการกับบุคลากรฯ ของสานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในสายงานหลักดา้ นกระบวนการนิติบญั ญตั ิ สายงานดา้ นต่างประเทศ และสายงานวเิ คราะห์นโยบายและแผน ๒. วตั ถุประสงค์ ๒.๑ เพ่อื พัฒนาข้าราชการรัฐสภาสามญั ในตาแหนง่ นิติกร วิทยากร นกั วเิ ทศสัมพันธ์ และนักวเิ คราะห์ นโยบายและแผนของสานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรให้มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ ในด้านยุทธศาสตร์ประชาคมอาเซียน ด้านข้อตกลงและสนธิสัญญา ด้านการร่างกฎหมาย การให้ความเห็น ทางกฎหมาย การให้ความเห็นด้านวิชาการ การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน และระบบงานด้านนิติ บญั ญัติ ในการทปี่ ระเทศไทยจะเปน็ ส่วนหนึง่ ของประชาคมอาเซียน ๒.๒ เพื่อเป็นการเสริมสร้างผู้ปฏิบัติงานทางด้านกฎหมายซึ่งเป็นสายงานหลักของส่วนราชการ สงั กัดรัฐสภาให้มีบทบาทสาคัญที่จะรองรับการทางานทางด้านกระบวนการนิติบัญญัติของรัฐสภาในบริบทของ ความเปน็ ประเทศสมาชิกอาเซยี นไดอ้ ยา่ งมีคุณภาพและเป็นที่ยอมรบั ๒.๓ เพ่ือเสรมิ สร้างทักษะให้ผู้ปฏบิ ัติงานทางดา้ นกฎหมาย สามารถปฏิบัตงิ านท่ีเกี่ยวขอ้ งกับกฎหมาย ระหว่างประเทศไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ๒.๔ เพ่ือให้ข้าราชการรัฐสภาสามัญในสายงานหลักด้านกระบวนการนิติบัญญัติ สายงานหลั ก ด้านต่างประเทศ มีบูรณาการการทางานร่วมกันกับข้าราชการในสายงานสนับสนุน เช่น สายงานวิเคราะห์ นโยบายและแผน เพื่อการขบั เคล่ือนประชาคมอาเซยี น ได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ และประสทิ ธิผล ๒.๔ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจและทักษะ ในการปรับทัศนคติเชิงบวกระดับสากลให้กับบุคลากรฯ ของสานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในสายงานหลักด้านกระบวนการนิติบัญญัติ สายงานด้านต่างประเทศ และสายงานวิเคราะห์นโยบายและแผน ๒.๕ เพื่อเตรียมความพร้อมบุคลากรของรัฐสภาท่ีดาเนินการด้านประชาคมอาเซียนตามแผน ทรพั ยากรมนุษย์ด้านประชาคมอาเซียน ให้เขา้ ใจบริบทของประชาคมอาเซียนได้อย่างชัดเจน เข้าใจบริบท และ นัยสาคัญของมิติภูมิภาคทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมต่างๆ ของอาเซียนประเทศ ในประชาคมอาเซียนอย่างลึกซึ้ง และเข้าใจรากฐานทางความแตกต่างทางความคิดอันจะทาให้เข้าใจวิธีคิด ของผู้อ่นื อยา่ งชัดแจง้ ยง่ิ ขนึ้ ๒.๖ เพ่ือให้บุคลากรของรัฐสภาท่ีปฏิบัติงานด้านประชาคมอาเซียนภายใต้ระบบงานด้านประชาคม อาเซียนของสานักงานศูนย์ประชาคมอาเซียนของสานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้แก่ สานักงานศูนย์ ประชาคมอาเซียน ในสายงานหลักด้านกระบวนการนิติบัญญัติ ด้านต่างประเทศ และสายงานสนับสนุนด้าน วิเคราะห์นโยบายและแผน สามารถขับเคลื่อนบทบาทของฝ่ายนิติบัญญัติด้านประชาคมอาเซียนได้อย่างมี ประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล เป็นกลไกท่ีอานวยความสะดวกให้แก่รัฐสภาในการขับเคล่ือนประชาคม อาเซียนในบรบิ ทภายในของประเทศและบรบิ ทอาเซียน สรา้ งสัมพันธภาพที่ดีในทางการเมือง เศรษฐกิจ สงั คมและ วัฒนธรรมที่แตกต่าง โดยประสานและประนีประนอมด้วยความเข้าใจในแต่ละบริบทอย่างชัดเจน และ ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ ท่าที ให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ท่ีแตกต่าง เพื่อประสานประโยชน์ภายใน ภมู ภิ าค ระหวา่ งประเทศ หรือระหว่างวฒั นธรรมไดอ้ ย่างมีประสิทธผิ ลสูง
๓. เป้าหมาย จัดกิจกรรมและสัมมนาเชิงปฏิบัติการใน ๒ หลักสูตร คือ ๑. หลักสูตรการสร้างความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ สมรรถนะด้านประชาคมอาเซียนแก่บุคลากร ในการมีทัศนคติเชิงบวกในระดับสากล การเพิ่มพลังความคิดเพื่อประสิทธิภาพในการทางาน และการนาเสนอ และเจรจาต่อรองเพ่ือผลสัมฤทธิ์ ๒. หลักสูตรการสร้างความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ สมรรถนะแก่บุคลากรในด้านกฎหมายระหว่าง ประเทศทเ่ี กีย่ วกบั ประชาคมอาเซยี น ครอบคลมุ สามเสาหลักของประชาคมอาเซียน ๔. กล่มุ เปา้ หมาย การพัฒนาบุคลากรดา้ นประชาคมอาเซียนของสานักงานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎรให้มีความรู้ ทักษะที่ สูงขน้ึ ในด้านกฎหมายระหว่างประเทศ ตลอดจนเขา้ ใจสมรรถนะเฉพาะทางที่จะปฏิบัติงานด้านประชาคมอาเซียน ในบริบทนิติบัญญัตจิ ะเป็นหลักสูตรเฉพาะแตจ่ ะดาเนนิ การไปด้วยกัน ท้งั สองหลักสูตรมีกลมุ่ เป้าหมาย ได้แก่ - ผบู้ ริหารของสานักงานเลขาธิการสภาผ้แู ทนราษฎร - นิติกรและวิทยากรจากสานกั หลกั ดา้ นกระบวนการนิตบิ ัญญตั ิ - นกั วิเทศสมั พนั ธ์ จากสานกั ดา้ นตา่ งประเทศ - นกั วเิ คราะหน์ โยบายและแผน จากสานักนโยบายและแผน - นิติกร วิทยากร นักวิเทศสัมพันธ์ และนักวิเคราะห์นโยบายและแผนของสานักงานศูนย์ประชาคม อาเซยี น ๕. วธิ ดี าเนนิ งานและกิจกรรม ข้นั ตอนการดาเนินงานโครงการพฒั นาบุคลากรในรปู แบบการฝกึ อบรมเชงิ ปฏิบตั กิ าร มดี งั นี้ ออกแบบและจัดทาหลักสูตรการสร้างความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ สมรรถนะด้านประชาคม อาเซียนแก่บุคลากรในการมีทัศนคติเชิงบวกในระดับสากล การเพิ่มพลังความคิดเพื่อประสิทธิภาพในการ ทางานและการนาเสนอและเจรจาต่อเนื่องเพ่ือผลสัมฤทธ์ิ ดาเนินการโดย สานักงานศูนย์ประชาคมอาเซียน หลักสูตรน้ีเปน็ เร่ืองที่เกีย่ วข้องกับการเสริมสร้างสมรรถนะ ทัศนคติ ค่านิยม กระบวนทัศน์สาหรบั บุคลากรที่ทางาน ด้านประชาคมอาเซียนในบริบทนิติบัญญัติ ซึ่งสมรรถนะนี้มีความสาคัญและจาเป็นอย่างย่ิง ขณะเดียวกันการ กาหนดสมรรถนะน้ี ได้จากการสกัดกล่ันกรองโดยผู้เช่ียวชาญและได้มีการนามาใช้เป็นกรอบในการคัดเลือก บุคลากรที่มาช่วยราชการของสานักงานศูนย์ประชาคมอาเซียนของสานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ใน ปีงบประมาณ ๒๕๕๘ แล้วขยายผลจาก “คานิยาม” ของสมรรถนะดังกล่าว ไปสู่การปฏิบัติและให้สมรรถนะ ดังกลา่ วเปน็ มาตรฐานตอ่ ไปจงึ กาหนดกรอบการฝกึ อบรม ดงั กลา่ วขน้ึ ๖. ระยะเวลาดาเนนิ งาน ตุลาคม ๒๕๕๘ – มถิ ุนายน ๒๕๕๙ ๗. งบประมาณ งบประมาณ จานวน ๒,๕๐๐,๐๐๐ บาท ๘ ผู้รับผดิ ชอบโครงการ สานักงานศูนยป์ ระชาคมอาเซยี น ๙. ประโยชน์ทค่ี าดวา่ จะไดร้ ับ ๑. สานักงานฯ มีบุคลากรในสายงานหลกั ด้านกระบวนการนติ ิบัญญัติและสายงานด้านต่างประเทศ ที่ มีความพร้อมในการปฏิบัติงานด้านประชาคมอาเซียนในบริบทนิติบัญญัติ ในด้านทัศนคติเชิงบวกในระดับสากล (internationalization attitude) และมคี วามเข้าใจเรื่องภูมิภาคนยิ ม (regionalism)
1 ๒. ข้าราชการรัฐสภาสามัญในตาแหน่งนิติกรและวิทยากร มีความรู้ ความสามารถในด้านกฎหมาย ระหวา่ งประเทศ เพอื่ ปฏิบัตงิ านในการร่างกฎหมาย การใหค้ วามเห็นทางกฎหมาย ด้านข้อตกลงและสนธสิ ัญญา การให้ความเห็นด้านวิชาการ การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน และระบบงานด้านนิติบัญญัติในการที่ ประเทศไทยจะเข้าเป็นส่วนหน่ึงของประชาคมอาเซียน และในฐานะท่ีประเทศไทยเป็นสมาชิกอาเซียน ที่มีบทบาทต่อความเจริญก้าวหน้าของภูมิภาค รวมทั้งสามารถนาความรู้ท่ีได้รับไปใช้ในการปฏิบัติหน้าท่ี ได้อย่างถกู ตอ้ งและมีประสทิ ธภิ าพ ๓. บุคลากรในสายงานหลักด้านกระบวนการนิติบัญญัติและสายงานด้านต่างประเทศที่เข้าร่วม โครงการมีความรู้ ทกั ษะ สมรรถนะด้านประชาคมอาเซยี นสงู ข้ึน ๑๐. ตัวชี้วัด ๑. ร้อยละ ๘๐ ของผู้เข้ารับการฝึกอบรม มีความเข้าใจเรื่อง ทัศนคติเชิงบวกในระดับสากล (internationalization attitude) เรอ่ื งภมู ภิ าคนยิ ม (regionalism) และเรือ่ งกฎหมายระหว่างประเทศ ๒. รอ้ ยละของบุคลากร ทเี่ ขา้ ร่วมโครงการมคี วามรู้ ทักษะ สมรรถนะดา้ นประชาคมอาเซยี นเพมิ่ ขน้ึ ๑๑. การตดิ ตามและประเมินผล - ใช้แบบสอบถาม - การ Focus Group - การตดิ ตามนาผลการอบรมไปใช้ปฏิบตั งิ าน
กาหนดการ โครงการพัฒนาบุคลากรด้านประชาคมอาเซยี น ปีงบประมาณ พ๒๕๕๙ .ศ. หลกั สตู ร การสร้างความรคู้ วามเขา้ ใจ ทักษะ สมรรถนะแก่บคุ ลากร ในด้านการสร้างทัศนคติเชิงบวกระดบั สากล (Internationalization Attitude) และความเข้าใจเรอื่ งการรวมกลุ่มแบบภูมภิ าคนิยม (Regionalism) สาหรับบคุ ลากรฝา่ ยนิตบิ ัญญัติ วนั ศกุ รท์ ี่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ณ ห้องบงกชรตั น์ เอ ชัน้ ๒ โรงแรมรอยัลริเวอร์ กรุงเทพมหานคร วันศกุ ร์ที่ ๒๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๘ เวลา ๐๘.๓๐ – ๐๙.๓๐ นาฬกิ า - ลงทะเบยี นกลมุ่ เปา้ หมาย เวลา ๐๙.๓๐ – ๑๐.๐๐ นาฬกิ า - ชแ้ี จงวตั ถปุ ระสงค์การจดั กจิ กรรม โดย รองเลขาธกิ ารสภาผ้แู ทนราษฎร (นางสาวสภุ าสนิ ี ขมะสนุ ทร) เวลา ๑๐.๐๐ – ๑๑.๐๐ นาฬกิ า การบรรยาย เรอื่ ง “การรวมกลมุ่ แบบภูมภิ าคนยิ ม (Regionalism : นัยตอ่ ประชาคมอาเซยี น)” โดย นายนรชิต สงิ หเสนี โฆษกคณะกรรมการร่างรฐั ธรรมนญู อดตี ปลดั กระทรวงการตา่ งประเทศ อดีตเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจาสหประชาชาติ ณ นครนวิ ยอรก์ สหรัฐอเมริกา เวลา ๑๑.๐๐ - ๑๒.๓๐ นาฬิกา - การเสวนา เร่ือง “บุคลากรฝา่ ยนิติบัญญัติกบั สรา้ งทัศนคตเิ ชงิ บวกระดับสากล (Internationalization Attitude)” โดย ดร.กมลินทร์ พินิจภวู ดล ผู้อานวยการสถาบนั ระหวา่ งประเทศเพื่อการค้าและการพฒั นา และ นางสาวสุภาสนิ ี ขมะสุนทร รองเลขาธิการสภา ผแู้ ทนราษฎร ดาเนนิ รายการ โดย ผแู้ ทนสถานวี ิทยุกระจายเสียงและวทิ ยุ โทรทัศน์รฐั สภา เวลา ๑๒.๓๐ – ๑๓.๓๐ นาฬิกา - รับประทานอาหารกลางวนั เวลา ๑๓.๓๐ – ๑๔.๓๐ นาฬกิ า - การบรรยาย เรอื่ ง “สมรรถนะพิเศษของข้าราชการท่ีทางาน เกีย่ วข้องกับประชาคมอาเซียนของสานกั งานเลขาธิการสภา ผู้แทนราษฎร และเสน้ ทางความก้าวหนา้ ” โดย นายหรินทร์ สตู ะบุตร นักพัฒนาทรัพยากรบุคคล ชานาญการพิเศษ สานกั พฒั นาบุคลากร ช่วยราชการ สานกั งานศนู ยป์ ระชาคมอาเซยี นของสานักงานเลขาธกิ ารสภา ผูแ้ ทนราษฎร เวลา ๑๔.๓๐ – ๑๖.๓๐ นาฬกิ า - การแบ่งกลมุ่ ระดมสมอง เรื่อง “การขบั เคลอ่ื นประชาคมอาเซียน ในบริบทนติ บิ ัญญัติ” (จานวน ๖ กลมุ่ ย่อย) โดย วทิ ยากรกระบวนการ ของสถาบันระหว่างประเทศเพอื่ การค้าและการพฒั นา และวทิ ยากรกระบวนการ ของสานกั งาน ศนู ย์ประชาคมอาเซียนของสานกั งานเลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎร เวลา ๑๖.๓๐ – ๑๖.๔๕ นาฬิกา - การชี้แจงการฝกึ อบรมเชงิ ปฏิบตั ิ ณ ต่างจงั หวดั โดย นายอาพล นันทขว้าง ผบู้ งั คับบัญชากลมุ่ งานเลขาธกิ ารสภาผ้แู ทนราษฎร หมายเหตุ รับประทานอาหารวา่ ง เวลา ๑๐.๐๐ - ๑๐.๑๕ นาฬกิ า และ ๑๕.๐๐ - ๑๕.๑๕ นาฬิกา
กาหนดการ โครงการพฒั นาบุคลากรดา้ นประชาคมอาเซยี น ปีงบประมาณ พ๒๕๕๙ .ศ. หลกั สตู ร การสรา้ งความรคู้ วามเขา้ ใจ ทักษะ สมรรถนะแก่บุคลากร ในดา้ นการสรา้ งทัศนคตเิ ชงิ บวกระดับ สากล (Internationalization Attitude) และความเข้าใจเรอื่ งการรวมกลุ่มแบบภูมภิ าคนยิ ม (Regionalism) สาหรับบคุ ลากรฝา่ ยนิติบญั ญัติ วันที่ ๒๑ – ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ณ โรงแรมแคปปติ อล เจ แอทเขาใหญ่ อาเภอปากชอ่ ง จังหวดั นครราชสีมา วันเสาร์ที่ ๒๑ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๘ เวลา ๐๖.๐๐ – ๐๘.๐๐ นาฬิกา - คณะพร้อมกนั หน้าอาคารรฐั สภา/รบั ประทานอาหารเช้าบนรถ เวลา ๐๘.๐๐ นาฬิกา - คณะเดินทางออกจากรฐั สภา เวลา ๑๑.๓๐ นาฬิกา - เดินทางถึงทพี่ ัก/สถานทจี่ ัดกจิ กรรม เวลา ๑๒.๐๐ – ๑๓.๐๐ นาฬกิ า - รบั ประทานอาหารกลางวนั เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๗.๓๐ นาฬิกา - คณะวิทยากรของสถาบันระหว่างประเทศเพอ่ื การคา้ และการ พฒั นาช้ีแจงการแสดงบทบาทสมมติภายใต้สถานการณจ์ าลอง และการแบ่งกลุ่มระดมสมอง เพอ่ื กาหนดเน้ือหาและซกั ซ้อม การแสดงบทบาทสมมติภายใตส้ ถานการณจ์ าลอง เรื่อง “การขับเคล่ือนประชาคมอาเซยี นในบรบิ ทนติ ิบัญญตั ิ” (จานวน ๖ กลุ่มย่อย) โดย วทิ ยากรกระบวนการของสถาบนั ระหว่างประเทศเพือ่ การค้าและการพัฒนาและวทิ ยากร กระบวนการของสานักงานศูนย์ประชาคมอาเซยี น เวลา ๑๗.๓๐ – ๑๘.๓๐ นาฬิกา - รบั ประทานอาหารเย็น เวลา ๑๘.๓๐ – ๒๑.๐๐ นาฬิกา - กจิ กรรมสานสัมพันธบ์ ุคลากรฝา่ ยนติ บิ ัญญตั ิ ASEAN Night โดย วิทยากรของสถาบนั ระหว่างประเทศเพ่อื การคา้ และการพัฒนา วนั อาทิตย์ท่ี ๒๒ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๘ เวลา ๐๗.๐๐ - ๐๘.๓๐ นาฬกิ า - รบั ประทานอาหารเชา้ เวลา ๐๘.๓๐ – ๑๒.๓๐ นาฬกิ า - การแสดงบทบาทสมมติภายใตส้ ถานการณ์จาลอง (Simulation) และการสรปุ องค์ความรู้ และการนาองค์ความรู้ ไปประยุกต์ใชใ้ นการทางาน เวลา ๑๒.๓๐ - ๑๓.๓๐ นาฬิกา - รับประทานอาหารกลางวนั เวลา ๑๓.๓๐ – ๑๔.๐๐ นาฬกิ า - กลมุ่ เปา้ หมายทาแบบทดสอบหลังเข้าร่วมกจิ กรรม เวลา ๑๔.๐๐ – ๑๔.๓๐ นาฬกิ า - ประเมินผลการเขา้ ร่วมกิจกรรม เวลา ๑๔.๓๐ นาฬิกา - เดนิ ทางกลบั กรงุ เทพฯ เวลา ๑๗.๓๐ นาฬกิ า - เดินทางถงึ สานักงานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร .............................................................
1 การบรรยาย เร่ือง “การรวมกลุ่มแบบภูมภิ าคนิยม (Regionalism : นยั ตอ่ ประชาคมอาเซียน)” โดย นายนรชิต สิงหเสนี โฆษกคณะกรรมการรา่ งรัฐธรรมนญู อดตี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดตี เอกอคั รราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจาสหประชาชาติ ณ นครนวิ ยอร์ก สหรัฐอเมริกา สรุปสาระสาคญั Regionalism คือการแสดงเจตจานงร่วมกันท่ีจะมีท้ังความเปน็ อันหนึ่งอันเดียวและมอี ัตลักษณ์ร่วมกัน รวมทั้งมวี ัตถุประสงค์รว่ มกนั ประกอบกับการจัดตง้ั หรือดาเนินการองคก์ รต่างๆ เพ่ือให้เป็นการแสดงออกซ่งึ อัต ลักษณ์และมกี ารแสดงออกซ่ึงการดาเนนิ งานหรือจดั กิจกรรมรว่ มกันในภมู ภิ าคใดภูมิภาคหนง่ึ ภูมภิ าคอาเซียนมี ความร่วมมือกันมาตั้งแต่ ค.ศ.๑๙๔๐ แต่ก็ไม่ค่อยประสบความสาเร็จเท่าใดนัก ประชาคมอาเซียนก่อต้ังเม่ือ พ.ศ. ๒๕๑๐ เมอื่ เปรยี บเทยี บกับปจั จบุ ันมีความแตกต่างกนั อยา่ งมาก ประเทศแถบอินโดจีนมีการปกครองแบบ คอมมิวนิสต์ ประเทศสิงคโปร์แยกตัวออกจากมาเลเซีย ความขัดแย้งในภูมิภาคมีอยู่มาก มีความพยายามท่ีจะ รวมตวั กนั สมาคมอาสา (Association of South-East Asia : ASA) ซึ่งเป็นสมาคมก่อนอาเซียน มีสมาชิกเพียง ๓ ประเทศ ประกอบด้วย ไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย อีกหนึ่งสมาคมคือ มาฟิลิปโด ประกอบดว้ ย ประเทศ มาเลเซีย ฟิลปิ ปินส์ อนิ โดนีเซีย แต่มีปญั หาค่อนข้างเยอะในเรื่องแนวความคิดและเขตแดน ประเทศไทยจงึ เข้า ไปไกล่เกลี่ยและมีแนวความคิดว่าควรจัดตั้งองค์กรในกลุ่มประเทศเหล่านี้ นายถนัด คอมันตร์ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการตา่ งประเทศ สมยั จอมพล ถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรี จึงได้เชิญรัฐมนตรีต่างประเทศของ ประเทศเหล่านี้มาประชุมกันที่แหลมแท่น บางแสน จึงเป็นท่ีมาของการจัดตั้งสมาคมอาเซียน เพราะฉนั้นเรา สามารถภาคภูมิใจได้ว่าแนวความคิดการจัดต้ังประชาคมอาเซียน และยกร่างป ฏิญญาอาเซียนนั้น เกิดจาก แนวคิดของประเทศไทย ปฏิญญาอาเซยี นมี ๕ มาตรา จานวน ๒ หน้า ในท่ีสุด ๘ สิงหาคม ๒๕๑๐ ได้มกี ารลง นามปฏญิ ญา (Declaration of ASEAN Concord) ทว่ี ังสราญรมญ์ กระทรวงการต่างประเทศ กรุงเทพมหานคร โดยผู้แทนจาก ๕ ประเทศ ได้แก่ นายอาดัม มาลิก รัฐมนตรีต่างประทศอินโดนีเซีย ตุน อับดุล ราชัก บิน ฮุสเซน รองนายกรฐั มนตรี รัฐมนตรกี ลาโหมและรัฐมนตรกี ระทรวงพฒั นาแหง่ ชาติมาเลเซีย นายนาซิโซ รามอส รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ นายเอส ราชารัตนัม รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ และพันเอก (พิเศษ) ถนัด คอมันต์ รฐั มนตรตี า่ งประเทศไทย
2 - การลงนามปฏิญญาอาเซียน (ASEAN Declaration หรอื Bangkok Declaration) กรุงเทพมหานคร - ววิ ฒั นาการของอาเซยี น • ๘ สงิ หาคม ๒๕๑๐ (๑๙๖๗) ปฏิญญาอาเซยี น (ASEAN Declaration หรอื Bangkok Declaration) กรุงเทพมหานคร • ๒๕๑๔ (๑๙๗๑) ปฏิญญาวา่ ดว้ ยเขตสนั ติภาพ เสรภี าพ และความเปน็ กลาง (Zone of Peace, Freedom and Neutrality Declaration : ZOPFAN) - กรงุ กัวลาลมั เปอร์ • ๒๕๑๙ (๑๙๗๖) สนธสิ ัญญามติ รภาพและความรว่ มมือในภูมิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia : TAC) – บาหลี • ๒๕๓๕ (๑๙๙๒) เขตการค้าเสรอี าเซยี น (Asean Free Trade Area : AFTA) • ๒๕๓๘ (๑๙๙๕) สนธสิ ัญญาว่าด้วยเขตปลอดอาวุธนวิ เคลยี รใ์ นเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ (Treaty on the Southeast Asia Nuclear Weapon Free Zone : SEANWFZ) - กรุงเทพมหานคร • ๒๕๔๖ (๒๐๐๓) การประชมุ สุดยอด คร้งั ที่ ๙ ตกลงจัดต้งั ประชาคมอาเซยี น (Asean Community) • ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ (๒๐๐๗) ลงนามกฎบตั รอาเซยี น (Asean Charter) - สงิ คโ์ ปร์ • ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๑ (๒๐๐๘) กฎบตั รอาเซียน (Asean Charter) มีผลใช้บงั คับ • ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ ( ๒๐๑๕) ประชาคมอาเซยี น One Community
3 - ASEAN Declaration หรือ Bangkok Declaration - วตั ถปุ ระสงค์ • สง่ เสรมิ ความเขา้ ใจอันดีระหวา่ งประเทศสมาชิก • ธารงสันตภิ าพ เสถยี รภาพ ความมน่ั คง • เสรมิ สร้างเศรษฐกิจและความอยดู่ กี นิ ดีของประชาชน • พัฒนาสังคมและวฒั นธรรม • สง่ เสรมิ ความรว่ มมอื กับภายนอก และองค์การระหว่างประเทศตา่ งๆ • ประโยชน์ที่ไทยได้จากอาเซยี น • เป็นกลไกสร้างความไว้เน้ือเชื่อใจ รักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค เอื้ออานวยต่อการพัฒนา ทางเศรษฐกจิ ของไทย • เพ่มิ โอกาสการค้าและการลงทุน • กระตนุ้ ใหเ้ กิดการพฒั นา • รว่ มมือกันพัฒนาเครอื ขา่ ยความเชอ่ื มโยงโครงสร้างพื้นฐาน • รว่ มมือกันเพอ่ื รบั มือกับภัยคุกคามและความท้าทาย • ตา่ งๆ เชน่ โรคระบาด ภยั ทางธรรมชาติ • อาชญากรรมขา้ มชาติ ปญั หาหมอกควัน • เพม่ิ บทบาทและนา้ หนักต่อรองของไทยในเวทรี ะหว่างประเทศ
4 ประเดน็ ท้าทายของอาเซยี น ความแตกตา่ ง ผลประโยชน์ ขาดความไวเ้ น้ือเช่ือใจ ด้านเช้อื ชาติ ศาสนา VS ความขดั แย้งใน ระดบั การพัฒนา ภูมิภาค ประวัตศิ าสตร์ ประชาคมอาเซียน การแข่งขันเพ่อื แยง่ ชงิ ความแตกต่างดา้ น การแข่งขันของมหาอานาจ ทรพั ยากร ตลาด สถาบันการเมอื ง สหรฐั ฯ รัสเซีย จนี อนิ เดยี ญีป่ ุน่ การลงทุน เศรษฐกิจ และสังคม ความทา้ ทายจากภายนอก • การเปลยี่ นแปลงในโลกอยา่ งรวดเรว็ ในยุคโลกาภวิ ัตน์ • ผลกระทบจากประเด็นความทา้ ทายขยายวงกว้างขน้ึ • การแข่งขนั ของประเทศมหาอานาจในภูมภิ าค • ความจาเป็นตอ้ งปรับตวั ใหท้ นั สถานการณ์ และผนกึ พลังรว่ มมือกันรักษาผลประโยชน์ • ในด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ การค้า กฎบตั รอาเซยี น (ASEAN Charter) • มีผลใชบ้ ังคบั เมอ่ื ๑๕ ธนั วาคม ๒๕๕๑ • วัตถุประสงค์ สร้างประชาคมอาเซียนที่มีกฎกติกาท่ีชัดเจน มีประสิทธิภาพ และมีประชาชน เปน็ ศนู ยก์ ลาง • เนื้อหา • วางหลักการและเปา้ หมาย • ใหส้ ถานะนติ ิบุคคลกบั อาเซียน • กาหนดโครงสรา้ งองค์กร และกลไกต่างๆ ของอาเซียน • กลไกระงบั ข้อพิพาทโดยสันตวิ ธิ ี • กฎระเบยี บเกีย่ วกับการดาเนนิ ความสมั พนั ธก์ บั นอกภูมภิ าค
5 โครงสรา้ งอาเซยี นภายใต้กฎบัตรอาเซียน ประชาคมการเมืองและความม่นั คงอาเซยี น(ASEAN Political-Security Community: APSC) เป้าหมาย • เพื่อใหอ้ าเซียนเปน็ สังคมท่สี มาชิก • มีความไวเ้ นอ้ื เชอ่ื ใจระหวา่ งกันและกัน • มีเสถียรภาพ มสี นั ติภาพ และมคี วามปลอดภยั ในชีวติ และทรัพยส์ นิ บทบาทของไทย ดา้ นการเมืองและความม่นั คง • ผลกั ดนั การจดั ตั้งและการดาเนนิ การของคณะกรรมาธิการระหวา่ งรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสทิ ธิมนุษยชน (AICHR) • ผลักดนั การจดั ตงั้ เขตปลอดอาวธุ นวิ เคลียร์ในภูมภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ • ส่งเสริมมาตรการสร้างความไว้เน้ือเชื่อใจ (CBMs) และการทูตเชิงป้องกัน (Preventive Diplomacy) ในกรอบ ARF • ส่งเสริมให้อาเซียนรว่ มมอื กันมากข้นึ ในการรบั มือกับภยั คุกคามดา้ นความมน่ั คงรูปแบบใหม่ (Non-Traditional Security Threats) • สง่ เสรมิ ให้มคี วามโปรง่ ใสด้านนโยบายและข้อมลู ทางทหารในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ • ยกระดับบทบาทของรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนในด้านการจัดการภัยพิบัติ และความร่วมมือกับภาค ส่วนต่างๆ ในการแก้ไขภัยคกุ คามด้านความมัน่ คงรปู แบบใหม่
6 ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น (ASEAN Economic Community : AEC) เป้าหมาย • เพื่อให้ประชาชนของประเทศสมาชิกมกี ารคา้ ขายระหว่างกนั มากข้นึ • มีการไปมาหาสกู่ นั ได้อยา่ งสะดวก และมีศกั ยภาพในการแข่งขนั บทบาทของไทย ด้านเศรษฐกจิ • นายกรัฐมนตรี อานนั ท์ ปนั ยารชนุ ผลักดันขอ้ เสนอจัดตัง้ AFTA เมอ่ื ปี ๒๕๓๕ • ส่งเสริมการลดชอ่ งว่างด้านการพัฒนาระหวา่ งประเทศสมาชิกอาเซยี น • จัดตั้ง Chiang Mai Initiative เมื่อปี ๒๕๔๓ (การสารองแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศ เพื่อเป็นกลไก ความรว่ มมอื ทางการเงินทีช่ ่วยเสรมิ สร้างสภาพคลอ่ งระยะสัน้ ในภมู ิภาค) • สง่ เสรมิ ความเชื่อมโยงในอาเซยี น (ASEAN Connectivity) ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซยี น (ASEAN Socio-Cultural Community : ASCC) เปา้ หมาย • เพื่อให้อาเซียนเป็นสังคมที่มีเอกภาพ มีความเอื้ออาทรต่อกัน มีความเป็นอยู่ท่ีดี พัฒนาทุกด้าน และมี ความม่ันคงทางสังคม บทบาทของไทย ดา้ นสงั คมวัฒนธรรม • มีบทบาทหลักในเรื่องการปราบปรามยาเสพติด สาธารณสุข การศึกษา การพัฒนาเยาวชน และ สนับสนุน การจัดทาปฏิญญาว่าดว้ ยการขจัดความรุนแรงตอ่ สตรี เปน็ ตน้ • สง่ เสริมการจัดตั้งคณะกรรมาธิการว่าด้วยการปกป้องและส่งเสริมสิทธิของสตรีและเด็ก (ACWC) และ ผลักดันทศวรรษคนพกิ ารอาเซียน • สง่ เสริมความร่วมมือด้านการศึกษา เช่น จัดตั้ง ASEAN University Network (AUN) และการพัฒนา หลักสูตรเกีย่ วกับอาเซยี น • ส่งเสรมิ ความร่วมมอื ดา้ นการจัดการภยั พบิ ตั ิ และปัญหาขา้ มพรมแดน อาทิ ปญั หาหมอกควัน แผนแม่บทว่าดว้ ยความเชือ่ มโยงระหวา่ งกนั ในอาเซยี น ความเชอ่ื มโยงด้านโครงสร้างพน้ื ฐาน • คมนาคม • เทคโนโลยสี ารสนเทศ • พลังงาน ความเชอ่ื มโยงดา้ นกฎระเบียบ • เปดิ เสรีและอานวยความสะดวกทางการค้า • เปิดเสรแี ละอานวยความสะดวกการบริการและการลงทนุ • ความตกลง/ข้อตกลงยอมรับรว่ มกัน • ความตกลงการขนส่งในภูมิภาค • พธิ ีการในการข้ามพรมแดน • โครงการเสริมสร้างศกั ยภาพ ความเชื่อมโยงด้านประชาชน • การศึกษาและวัฒนธรรม • การท่องเท่ยี ว
7 การเชอื่ มโยงในอาเซยี น อาเซียนกับภายนอกภมู ภิ าค (External Relations)
8 การเตรียมความพรอ้ มของไทยสาหรบั ประชาคมอาเซียน • สรา้ งความพรอ้ มและความเข้มแข็ง ทั้งทางด้านเศรษฐกจิ สังคมและวัฒนธรรม และการเมอื ง และความมนั่ คง • เร่งดาเนินการตามขอ้ ผูกพันในการรวมตัวเปน็ ประชาคมอาเซียนในปี ๒๕๕๘ ท้ังในมิติเศรษฐกิจ สังคม และความมน่ั คง ตลอดจนการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมขนส่งภายในและภายนอกภูมิภาค • การเตรียมความพร้อมมิใช่เป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศเพียงหน่วยงานเดียว แต่เป็น เกีย่ วขอ้ งกับทกุ ส่วนราชการและทกุ ภาคส่วน การปรับตวั เพอื่ เตรยี มความพร้อมสปู่ ระชาคมอาเซยี น • Structural Change • ปรับโครงสร้างส่วนราชการ โดยเพม่ิ “หนว่ ยอาเซยี น” ในหนว่ ยงานระดบั กระทรวง • ปรับปรุง/ปฏิรปู กฎหมาย กฎระเบยี บต่างๆ • ประสานความร่วมมือระหว่างภาครฐั และภาคเอกชนให้ใกลช้ ดิ ยิ่งขึน้ • Mindset Change • สรา้ งความรูส้ กึ รว่ มกันในความเปน็ อาเซยี น • ปรบั แนวคดิ และวสิ ัยทัศนใ์ หก้ ว้างกว่าประเทศไทย • Learning • สง่ เสรมิ การเรยี นรแู้ ละพฒั นาทกั ษะภาษาและวิชาชีพ • สรา้ งความตระหนักรู้และมีขอ้ มูลทถ่ี กู ต้องเกี่ยวกับประชาคมอาเซียน
9 ภาคราชการ • การเตรยี มความพร้อมในดา้ นนิตบิ ัญญัติ เพอ่ื ผ่านกฎหมายต่าง ๆ ตามพันธกรณีท่ีมกี บั อาเซยี น • การเตรยี มความพร้อมเกย่ี วกบั : • ภาษาองั กฤษ และภาษาประเทศเพอ่ื นบ้าน • ความร้เู กี่ยวกบั อาเซียน กฎระเบยี บเกย่ี วกับอาเซยี น • ทักษะการประชุมเจรจาในกรอบอาเซยี น • หลักสูตร อาเซียนศกึ ษาสาหรบั สถาบันการศกึ ษา และภาคราชการ ภาคเอกชน • เตรยี มความพรอ้ มด้านภาษา ท้ังภาษาอังกฤษ และภาษาท้องถ่ิน เน่อื งจากอังกฤษเป็นภาษากลาง สว่ นภาษาท้องถนิ่ สาหรับการติดตอ่ และการท่องเทย่ี ว • ส่งเสริมนักลงทุนไทย ให้มีความพร้อมที่จะการลงทุนในประเทศสมาชิกอาเซียน พร้อมท้ังข้อมูล พืน้ ฐาน อาทิ วฒั นธรรม บทกฎหมาย • ปรับปรุงประสิทธิภาพภาคธุรกิจของไทยเพ่ือรองรับการลงทุนจากต่างชาติและประเทศสมาชิก อาเซียน • พฒั นาศักยภาพของภาคเอกชนและแรงงานไทยใหต้ อบสนองความต้องการและสามารถแข่งขันใน อาเซยี น ภาคประชาชน • สรา้ งความเขา้ ใจท่ถี กู ตอ้ งเรื่องการเข้าสู่ ประชาคมอาเซียน • ศึกษาวัฒนธรรมของสมาชิก โดยเฉพาะประเทศท่ีมีวัฒนธรรมท่ีแตกต่างกัน เพ่ือเข้าใจและปฏิบัติ ทถ่ี กู ต้อง • ปลูกฝังความรูส้ กึ ร่วมของความเปน็ พลเมืองอาเซียน • ส่งเสริมวัฒนธรรมไทยให้เป็นท่ีรู้จักอย่างแพร่หลายโดยใช้จุดแข็งด้านวัฒนธรรมที่ประเทศสมาชิก อาเซยี นยอมรับ
10 การเสวนา เร่อื ง บคุ ลากรฝ่ายนิตบิ ัญญตั ิกับการสรา้ งทัศนคติเชิงบวกระดับสากล (Internationalization Attitude) โดย ดร.กมลินทร์ พินจิ ภวู ดล ผ้อู านวยการสถาบนั ระหว่างประเทศเพ่อื การค้าและการพัฒนา และ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร (นางสาวสุภาสนิ ี ขมะสุนทร) ดาเนินรายการโดย นายยลู ัด ดาริหเ์ ลิศ นักประชาสมั พนั ธช์ านาญการพเิ ศษ สถานวี ิทยกุ ระจายเสียงและวิทยโุ ทรทัศน์รฐั สภา สรปุ สาระสาคัญ ความเชอื่ มโยงของงานนิติบัญญัตกิ ับอาเซียน รองเลขาธิการสภาผ้แู ทนราษฎร (นางสาวสุภาสินี ขมะสุนทร) กล่าวว่า บุคลากรของสานักงานทุก คนทั้งสายงานหลักและสายงานสนับสนุนเกี่ยวข้องกับกระบวนการนิติบัญญัติ เริ่มจากสานักประชุมท่ีต้อง พิจารณาลาดับความสาคัญของระเบียบวาระและเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาให้กับประธานสภา ผู้แทนราษฎรในเร่ืองท่ีจะต้องเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา สานักประธานสภาผู้แทนราษฎร มีหน้าที่ทาความ เข้าใจกับประธานสภาผู้แทนราษฎร สานักวิชาการ ที่ชว่ ยสนับสนุนข้อมูล ศูนย์ประชาคมอาเซียนต้องพิจารณา สารวจวา่ มเี รอื่ งใดท่สี าคญั ทกุ สานกั สามารถเก่ยี วข้องในงานด้านอาเซยี นได้ พิจารณาความเหมาะสมและความเข้าใจกับรัฐสภา เพื่อทาให้เกิดความย่ังยืน ต่อเนื่อง ใกล้ชิด ประชาชน เน่ืองจากต่อไปอาเซียนจะเข้ามาเป็นส่วนหน่ึงของชีวิต โดยมีความเห็นในทุกบริบท อาเซียนจะ กลายเปน็ กระบวนทศั น์ใหม่ของภมู ิภาคที่ทุกประเทศมีบทบาทให้อาเซยี นดาเนินต่อไปได้
11 สรุปสาระสาคัญมิติความเป็นระหว่างประเทศ โดย ดร.กมลินทร์ พินิจภูวดล ผู้อานวยการสถาบันระหว่าง ประเทศเพอื่ การคา้ และการพฒั นา มิตคิ วามเป็นระหวา่ งประเทศ ๑. ความเป็น Globalization เกิดขนึ้ ในปี ๑๙๙๐ หลังสงครามเย็น ๒. Regionalism and Regional ๓. Connectivity ความเชอื่ มโยงระดับองคก์ ร เช่น รฐั สภา AIPA การเชอ่ื มโยงระดับบคุ คล เน่ืองจากภาคพลเมืองกม็ ีความสาคญั โดยเฉพาะกบั ประชาคมสงั คมและวฒั นธรรม ๔. Regional Integration Agreement บทบาทของรัฐสภาในการบูรณาการกฎหมาย ความร่วมมือ เป็นไปแบบ Spaghetti Bowl ๕. International Trade and Investment Agreement เช่น FTA ที่เป็นกรอบกติกาที่ต้องเข้าใจ ความตกลงทไี่ ทยเปน็ ภาคกี ็ต้องมีการเหน็ ชอบจากรัฐสภามกี ารอนวุ ตั รการกฎหมาย ๖. 21st Century Skills ทักษะท่ีคนทางานจะต้องรู้ในลักษณะสหวิทยาการ คือ ควรมีความรู้รอบตัว การเงิน เศรษฐกิจ ธุรกจิ พลเมืองทด่ี ี สุขภาพ ส่งิ แวดล้อม บุคคลตอ้ งมี 5 R 4 C • Critical thinking • Communication • Collaboration • Creativity Silent Generation • Baby Bloomer • Generation X • Generation Y • Generation Z ๗. Democracy Rule of Law ความร่วมมือระหว่างประเทศ เช่น อาเซียน ประชาธิปไตย ธรรมา ภิบาล นติ ธิ รรม สิทธิพ้ืนฐาน สิทธมิ นุษยชน สหภาพยโุ รป สิทธมิ นษุ ยชน นติ ิธรรม ๘. Emerging Issue กฎหมายการค้าการลงทุน องค์การการค้าโลก WTO การประชุมสหประชาชาติ ว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรือ อังค์ถัด (อังกฤษ : United Nations Conference on Trade and Development ย่อว่า UNCTAD) การอุดหนุนด้านการค้า การเปิดเสรีภาคบริการ กฎหมายการค้าการลงทุน ทวิภาคี คดพี พิ าทของรัฐกบั เอกชน เชน่ คดี Walter Bau ส่งิ แวดลอ้ ม, CSR Global Value chain MPG&SDG 16 Good 5 P People Planet Peace Partnership Prosperity ๙. พลเมืองอาเซียน คนไทยต้องมีความคิดเป็นพลเมืองอาเซียน เน่ืองจากมีความสาคัญกับ ความก้าวหน้าของประเทศ ด้านนิติบญั ญัติ ต้องเป็นองค์กรท่ีทาหน้าท่ีในการยืน่ โอกาส ทัศนคติในเร่ืองการเป็น ภมู ภิ าคเดียวกัน ขบั เคลือ่ นภมู ภิ าคอาเซียนไดอ้ ย่างมีพลัง สามารถเป็นรปู ธรรม เกดิ ประโยชน์ ขณะเดียวกันตอ้ ง รักษาความเป็นไทย ต้องมีเส้นแบ่งท่ีดีระหว่างความชาตินิยมกับการเปน็ partner ท่ีดขี องภูมิภาค เพ่ือใหไ้ ด้รับ ประโยชน์อยา่ งเตม็ ที่
12 คณุ ลักษณะของพลเมืองอาเซียนตามกฎบตั รอาเซียน ๑. รักความสงบและการแก้ปญั หาด้วยสันติวธิ ี ๒. มคี วามเช่ยี วชาญในอาชีพและมคี วามสามารถหลากหลาย ๓. มนี า้ ใจเออื้ อาทรตอ่ ผ้อู ่นื ๔. เคารพสทิ ธแิ ละหนา้ ทขี่ องผอู้ ืน่ ๕. มจี ติ สานึกรกั ษาทรัพยากรธรรมชาติ ส่ิงแวดลอ้ มและวัฒนธรรมในภูมิภาค ๖. พัฒนาตนเองอยูเ่ สมอ ๗. มคี วามรับผดิ ชอบร่วมกนั ๘. เคารพความแตกต่างระหว่างบคุ คลและสังคม ๙. ยึดมัน่ หลกั สามคั คแี ละมมี นุษยสัมพันธ์ทด่ี ีกบั ผ้อู ่ืน ต้องเข้าใจในวัฒนธรรมของประเทศในอาเซยี น ทกุ ประเทศมีวฒั นธรรมทด่ี ี ตอ้ งปรับทศั นคตวิ า่ ตนเองเกง่ ทส่ี ุด สรุปสาระสาคัญด้านความพร้อมของบุคลากร โดย รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร (นางสาวสุภาสินี ขมะสุนทร) ข้าราชการต้องมองอาเซียนในมุมมองใหม่ เป็นมาตรฐานกลางเพ่ือการทางานในประเทศและการ ทางานร่วมกันกับทั้ง ๑๐ ประเทศเพ่ือให้ทุกสานักงานทางานด้านประชาคมอาเซียนได้ เช่น เร่ืองชาตินิยม เป็นเร่ืองท่ีท้าทายเพราะทุกประเทศย่อมเห็นแก่ประโยชน์ชองประเทศตนเป็นหลัก งานส่วนใหญ่รัฐเข้ามา ควบคุม นอกจากนั้นหน่วยงานส่วนใหญ่จะมีข้อมูลพื้นฐาน แต่ยังไม่มีรายละเอียด การนาเสนอร่าง พระราชบญั ญัตขิ องหน่วยงานราชการส่วนใหญ่ก็จะไม่มีการนาเสนอข้อมูลเกี่ยวกบั พนั ธกรณีท่เี กย่ี วขอ้ ง รฐั สภา ต้องมบี ทบาทเปน็ ศูนย์ขอ้ มลู ของกฎหมายอาเซียน นอกจากมหาวทิ ยาลัยท่ีเป็นศนู ยข์ อ้ มูลด้านวิชาการ
13 การบรรยาย เร่ือง “สมรรถนะพิเศษของข้าราชการที่ทางานเกี่ยวข้องกับประชาคมอาเซียนของ สานักงานเลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎร และเส้นทางความก้าวหนา้ ” โดย นายหรินทร์ สูตะบุตร นักพัฒนาทรัพยากรบุคคลชานาญการพิเศษ สานักพัฒนาบุคลากร ชว่ ยราชการสานกั งานศูนย์ประชาคมอาเซียนฯ สรุปสาระสาคัญ ๑. แนวทางการส่งเสรมิ คนไทย/การมสี ว่ นร่วมของพลเมือง เพ่อื ขับเคลอ่ื นประเทศไทยสู่ประชาคมอาเซยี น
14 สานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้มีส่วนเก่ียวข้องกับการส่งเสริมคนไทย การมีส่วนร่วมของ พลเมือง เพื่อขับเคล่ือนประเทศไทยสู่ประชาคมอาเซียน โดยการนาเอาเรื่องประชาคมอาเซียนไปสู่ความเป็น พลเมืองอาเซยี น และความเปน็ พลเมืองอาเซียนไปสู่พลเมืองไทย โดยพลเมืองไทยยังคงมีความเป็นชาตินิยมอยู่ สว่ นหนึ่ง โดยอีกส่วนหนง่ึ พลเมืองไทยคือพลเมืองอาเซียน จากแผนภาพแนวทางการส่งเสริมคนไทย การมีสว่ น ร่วมของพลเมือง เพื่อขับเคล่ือนประเทศไทยสู่ประชาคมอาเซียนจะเห็นว่าสานักงานเลขาธิการสภา ผู้แทนราษฎร จาเป็นต้องพฒั นาความรู้ ทกั ษะ และสมรรถนะของความเปน็ พลเมืองอาเซยี นด้วย ผู้อานวยการสถาบันระหว่างประเทศเพ่ือการค้าและการพัฒนา (ดร.กมลินทร์ พินิจภูวดล) ได้พูดถึง ทักษะการเรียนรู้แห่งศตวรรษท่ี ๒๑ ที่จะสร้างคนให้มีคุณภาพ มีคุณค่าเป็นที่ยอมรับ สามารถทางาน และใช้ชีวิตในศตวรรษที่ ๒๑ ซึ่งนอกจากการมีความรู้ในวิชาหลัก (Core subjects) แล้ว จะต้องรู้ใน ลักษณะสหวิทยาการ (Interdisciplinary) และต้องมีความรู้รอบตัวอื่นๆ ด้วย เช่น Global awareness เศรษฐกิจ การเงิน การประกอบธุรกิจ หน้าท่ีพลเมือง สุขภาพ และส่ิงแวดล้อม เป็นต้น อีกทั้งจะต้องมีทักษะ ชีวิต และทักษะอาชีพด้วย (Life and Career Skills) เช่น ทักษะการสร้างความสมั พันธ์ระหว่างบุคคล ซ่ึงต้อง มีทั้งศาสตร์และศิลป์ ทักษะทางสังคม การมองโลกในแง่ดี การควบคุมอารมณ์ ทาประโยชน์เพื่อผู้อื่น มีภาวะ ผู้นา รู้จักการให้ ทาดีโดยไม่หวังผลตอบแทน ดังน้ัน การเรียนรู้ ต้องเรียนกันตลอดชีวิต โดยต้องมีทักษะการ เรียนรู้และสร้างนวตั กรรมใหม่ (Learning and Innovation Skills) มน่ั ฝึกฝน พฒั นาตัวเอง เรียนใหเ้ กดิ ทักษะ เรียนโดยการปฏิบัติ (learning by doing) การคิดวิเคราะห์ เรียนรู้วิธีการแก้ปัญหา มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะในการส่ือสาร และทักษะแห่งความร่วมมือ หรือเรียกง่ายๆว่า ต้องมี ๔ C คือ Communication, Collaboration, Creativity และ Critical Thinking และท่ีขาดไม้ได้คือ ทักษะด้านสารสนเทศ ส่ือ และ เทคโนโลยี (Information, Media and Technology Skills) ซึง่ สอดคล้องกับสมรรถนะพิเศษของขา้ ราชการที่ ต้องทางานเกี่ยวข้องกับประชาคมอาเซียนของสานักงานเลขาธิการสภาผ้แู ทนราษฎร ๒. สมรรถนะพิเศษของข้าราชการทที่ างานเกีย่ วขอ้ งกบั ประชาคมอาเซียนของสานักงานเลขาธกิ าร สภาผแู้ ทนราษฎร แบง่ ออกเปน็ ระดบั ที่ ๐ – ๕ ซ่งึ ประกอบไปด้วย ๓ สมรรถนะ ดงั นี้ สมรรถนะที่ ๑ การมที ศั นคติเชิงบวกในระดบั สากล (Internationalization attitude) ในเร่ืองนจี้ ะ รวมถึงความเป็นภมู ิภาคนิยมด้วย (regionalism) สมรรถนะท่ี ๒ การเพิ่มพลังความคิดเพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพในการทางาน (Energetic thinking) เนือ่ งจากการจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนจะตอ้ งมีการปรับเปลยี่ น เราจะต้องคุน้ เคยวา่ ต่อไปข้างหน้าเราจะต้องมี การเปล่ียนแปลงมากมาย โดยเฉพาะอย่างย่ิงในเรื่องของการปรับกฎหมายให้เข้าสู่กฎบัตรอาเซียน (Legal Harmonization) เปน็ เร่ืองทตี่ ้องทาศึกษาเรียนรู้ โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ ผทู้ ่เี ปน็ นติ กิ ร สมรรถนะที่ ๓ การนาเสนอและเจรจาตอ่ รองเพื่อผลสัมฤทธิ์ (Presentation/Negotiation Drive) ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ กลุ่มเป้าหมาย หรือ Focus Group คือ สานักด้านต่างประเทศ และสานักด้านกระบวนการนิติบัญญัติ จะเคยเจอสมรรถนะพิเศษของข้าราชการท่ีทางานเกี่ยวข้องกับ ประชาคมอาเซียนของสานักงานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎรแล้ว โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ สานักงาน เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จะเพิ่มสานักด้านนโยบายและแผน เนื่องจากอยู่ใน ๔ สายงานหลักที่จะมีส่วน เก่ียวข้องกบั ศูนยป์ ระชาคมอาเซยี น ได้แก่ นิตกิ ร วิทยากร นกั วเิ ทศสมั พนั ธ์ และนกั วิเคราะห์นโยบายและแผน การฝึกอบรมในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ สานักงานศูนย์ประชาคมอาเซียนฯ จะเนน้ สมรรถนะท่ี ๑ การมีทศั นคติเชงิ บวกในระดับสากล (Internationalization attitude) เนื่องจากการที่เราจะทางานเกย่ี วกับ ประชามคมอาเซียนได้ เราจะต้องปรับทัศนคติหรือกรอบความคิดของเราให้เป็นระดับสากลและเป็นเชิงบวก ด้วย หมายถึง อย่าเพิ่งกังวลว่าจะเกิดอะไรข้ึน เมื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียนแล้ว ยกตังอย่างเช่น เหตุการณ์ช่วง
15 ปี ค.ศ. ๒๐๐๐ ท่ีมีคาทานายว่า นา้ จะท่วมโลก หรือโลกจะแตก แต่สิง่ เหล่านี้ก็ไม่เกิดขน้ึ เนื่องจากกระบวนการ เตรียมความพร้อมท่ีดี ในกรณีของรัฐสภา ภายใต้การกากับดูแลของรองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร (นางสาว สุภาสินี ขมะสุนทร) ท่านได้เตรียมความพร้อมให้กับข้าราชการรัฐสภา และยังจัดทาฐานข้อมูลให้กับสมาชิก รฐั สภาและประชาชนทว่ั ไป ตอ่ จากน้ันจึงเข้ามาสู่สมรรถนะที่ ๒ คอื การเพิม่ พลังความคดิ เพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพ ในการทางาน (Energetic thinking) จะเก่ียวกับการศึกษากฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งนี้ นิติกรที่รัฐสภาส่วน ใหญ่จะเรียนเก่ียวกับกฎหมายมหาชนเป็นหลัก ดังนั้น วิทยากร นักวิเทศสัมพันธ์ และนักวเิ คราะหน์ โยบายและ แผน จึงสามารถเขา้ ไปชว่ ยในเร่อื งของความเป็นนานาชาติ หรือด้านตา่ งประเทศได้ ๓. แผนเสน้ ทางความก้าวหนา้ ในสายอาชีพของสานกั งานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร กรอบการส่ังสมประสบการณ์และผลงานเส้นทางความกา้ วหนา้ ๔ สายงานหลักที่เก่ยี วข้องกับศูนย์ ประชาคมอาเซียน (นติ ิกร วิทยากร นักวิเทศสมั พนั ธ์ และนกั วิเคราะห์นโยบายและแผน) ดงั นี้
16
17 สายงานหลกั ๔ สายงานหลัก ท่ีเกีย่ วข้องกับศูนย์ประชาคมอาเซียน (วิทยากร นิตกิ ร นักวิเทศสมั พันธ์ และนักวิเคราะห์นโยบายและแผน) ทจ่ี ะขึ้นไปสู่ท่ปี รกึ ษาด้านระบบงานนิตบิ ัญญัติ (วิทยากร ระดับทรงคุณวุฒิ) ท่ีปรึกษาด้านกฎหมาย (นิติกร ระดับทรงคุณวุฒิ) ท่ีปรึกษาด้านต่างประเทศ (นักวิเทศสัมพันธ์ ระดับ ทรงคุณวุฒิ) และผู้อานวยการสานักนโยบายและแผน (อานวยการ ระดับสูง) จะเห็นว่า ทุกๆ กรอบการสั่งสม ประสบการณ์และผลงานเส้นทางความก้าวหน้า ๔ สายงานหลักที่เก่ียวข้องกับศูนย์ประชาคมอาเซียน (นิติกร วิทยากร นักวิเทศสัมพันธ์ และนักวิเคราะห์นโยบายและแผน) จะมีศูนย์ประชาคมอาเซียนอยู่ด้วยทุกกรอบ ดังน้ัน หากท่านเข้ามาสกู่ ระบวกการสั่งสมประสบการณแ์ ละผลงานท่ีเก่ียวข้องกับศูนย์ประชาคมอาเซียน ท่าน ก็ยังอยู่ในกระบวนการเล่อื นระดบั หรอื ตาแหนง่
18 ในขณะนี้ศูนย์ประชาคมอาเซียนฯ จะมีความชัดเจนขึ้นเร่ือยๆ ดังจะเห็นจากกรอบการส่ังสม ประสบการณแ์ ละผลงานของผู้มีศักยภาพในศูนยป์ ระชาคมอาเซยี น ดังน้ี โครงสร้างของศูนย์ประชาคมอาเซียนฯ จะมีผู้อานวยการศูนย์ประชาคมอาเซียน เป็นตาแหน่งสูงสุด ซึ่งมาจาก ๔ สายงานหลักท่ีเกี่ยวข้องกับศูนย์ประชาคมอาเซียน (วิทยากร นิติกร นักวิเทศสัมพันธ์ และ นักวิเคราะห์นโยบายและแผน) หรือสายงานอื่นท่ีเกี่ยวข้อง ภายในสายงานท่ีเก่ียวข้อง แม้จะเปลี่ยนปรับ ตาแหน่งไปมา ก็ยังสามารถเสนอผลงานในการเล่ือนตาแหน่งได้ เพราะเป็นสายงานท่ีเกี่ยวข้องกัน แต่ถ้าเป็น วิทยากรแล้วเปลี่ยนเป็นตาแหน่งนิติกร หรือสายงานประเภทท่ัวไปจะเปล่ียนเป็นสายงานประเภทวิชาการ จะต้องใช้เวลาเพื่อศกึ ษาเรียนรูง้ านก่อน จนกว่าจะเข้าสู้กระบวนการเล่ือนระดับ เน่ืองจากเป็นงานในสายงานที่ ไมส่ ามารถทางานทดแทนกนั ได้ ดงั น้ัน ไม่ต้องกังวลในเร่ืองเส้นทางความก้าวหนา้ ภายในศนู ย์ประชาคมอาเซยี น ของสานักงานเลขาธกิ ารสภาผูแ้ ทนราษฎร เนือ่ งจากสามารถกลับไปทางานที่สานกั เดิมตอ่ ไปได้ หรอื ถ้าต้องการ เข้ามาปฏิบัติหน้าท่ีท่ีศูนย์ประชาคมอาเซียนอย่างจริงจัง สานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ก็มีเส้นทาง ความก้าวหนา้ ในสายอาชพี รองรบั ไว้ คาถาม นายสญั ชยั สนิ ธุวงษ์ ผ้บู งั คับบัญชากลุ่มงานกฎหมาย ๑ สานักกฎหมาย บุคลากรของศูนย์ประชาคมอาเซียนมีจานวนเพียงพอท่ีจะสามารถรองรับภารกิจของศูนย์ประชาคม อาเซียนไหม ศูนย์ประชาคมอาเซียนได้มีการประชาสัมพันธ์หรือโน้มน้าวบคุ ลากรภายในสานักนักงานฯ ให้เข้า มาทางานในศูนย์ประชาคมอาเซยี นมากแค่ไหน เช่น การให้ทุนการศึกษา การแลกเปลยี่ นขา้ ราชการ คาตอบ นายหรินทร์ สตู ะบตุ ร นักพฒั นาทรัพยากรบุคคลชานาญการพเิ ศษ สานกั พัฒนาบคุ ลากร ช่วยราชการ สานกั งานศนู ย์ประชาคมอาเซยี นของสายกั งานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร
19 สานักพัฒนาบุคลากร ได้มีโครงการศึกษาแลกเปล่ียนข้าราชการรัฐสภา โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ มกี ารรับและส่งบคุ ลากร จานวน ๓ ประเทศ ได้แก่ ประเทศอนิ โดนเี ซีย ประเทศฟลิ ิปปินส์ และประเทศ พม่า ซึ่งนาโดยรองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร (นางสาวสุภาสินี ขมะสุนทร) และท่ีปรึกษาด้านต่างประเทศ (นางพรพิศ เพชรเจริญ) ต่อมาในเดือนมีนาคม ๒๕๕๘ คณะรัฐมนตรี ได้มีคาสั่งไม่ให้ข้าราชการเดินทางออก นอกประเทศ สง่ ผลมาจนปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ทง้ั น้ี ข้าราชการรัฐสภาบางสว่ นยังเดินทางไปต่างประเทศ อันเนื่องมาจากเป็นพันธกรณีระหว่างประเทศ ซึ่งถือเป็นข้อยกเว้น อาทิ การเดินทางไปสมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) การเดินทางไปยังประเทศอินโดนีเซีย ประเทศฟิลิปปินส์ และประเทศพม่า รองเลขาธิการสภา ผู้แทนราษฎร (นางสาวสุภาสินี ขมะสุนทร) ได้เจริญสัมพันธไมตรีกับหลายหน่วยงาน อาทิ สานักเลขาธิการ อาเซียน (ASEAN Secretariat) สานักงานเลขาธิการสมัชชารัฐสภาอาเซียน มูลนิธิอาเซียน (ASEAN Foundation) รฐั สภาอินโดนีเซีย กระทรวงการตา่ งประเทศอินโดนเี ซยี รัฐสภาพมา่ และกระทรวงต่างประเทศ พม่า เป็นต้น ส่ิงเหล่านี้จะช่วยเพ่ิมโอกาสในการแลกเปล่ียนข้าราชการรัฐสภาของประเทศไทยได้ เพราะรอง เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร (นางสาวสุภาสินี ขมะสุนทร) มีความสามารถด้านแนวปฏิบัติพิธีการทูตท่ีเป็น นานาชาติ ส่งผลให้สมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) ต้องการให้มีข้าราชการรัฐสภาของไทยไปฝึกงาน แต่ติด เงื่อนไขในเร่ืองของความรู้ท่ีเป็นนานาชาติของข้าราชการ เช่น การท่ีจะเดินทางไปแลกเปลี่ยนที่ประเทศ อินโดนีเซียก็ควรมีความรู้ด้านภาษาบาฮาซา หรือ จะเดินทางไปแลกเปล่ียนที่ประเทศฟิลิปปินส์ก็ควรมีความรู้ ดา้ นภาษาตากาล็อก ซึ่งจะช่วยเปิดโอกาสในการส่งข้าราชการไปแลกเปลย่ี นไดม้ ากยิง่ ข้ึนในปีงบประมาณที่ผ่าน มาสานักพัฒนาบุคลากรได้จัดให้มีการแลกเปล่ียนข้าราชการรัฐสภาไทย แต่มีระยะเวลาไม่เกิน ๒ อาทิตย์ อาจ เป็นเพราะมาตรการรักษาความปลอดภัยของประเทศที่เราส่งข้าราชการไป แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สานักพัฒนา บุคลากร มีแนวคิดอยู่เสมอว่าจะพัฒนาการแลกเปลี่ยนข้าราชการรฐั สภาไทยให้ดีข้ึน มีระยะเวลามากขึ้น และ เกิดประโยชน์ต่อรัฐสภาอยา่ งแท้จรงิ การประชมุ สมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) ซ่งึ ได้ Work Shop ในเรื่องภาคประชาสงั คมนน้ั ที่ประชุมได้ มคี วามพยายามท่จี ะผลักดันใหม้ ีการทา ASEAN European Parliament เพื่อตอ่ สู้กบั European Parliament แตก่ ไ็ ม่ประสบความสาเรจ็ จงึ เป็นทน่ี ่าเสียดายที่เราไมส่ ามารถพัฒนาหรอื ผลักดันเรอ่ื งได้ เส้นทางความก้าวหน้า ศูนย์ประชาคมอาเซยี นของสานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ต้องการนิติ กรท่ีมีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายระหว่างประเทศมาช่วยปฏิบัติงาน แต่นักเรียนทุนท่ีรัฐสภาส่งไปเรียนท่ี เกี่ยวข้องกบั กฎหมายระหวา่ งประเทศมีจานวนนอ้ ยมาก เพราะกฎหมายระหวา่ งประเทศไมไ่ ด้อยูใ่ นลาดบั แรกท่ี จะถูกจัดลาดับความสาคัญ ดังนั้น นักเรียนทุนกฎหมายในปีท่ีผ่านของรัฐสภา จึงตกไปเป็นของนักกฎหมาย มหาชน
20 การแบง่ กลุ่มระดมสมอง เรือ่ ง การขบั เคล่ือนประชาคมอาเซียนในบริบทนติ ิบัญญัติ (๖ กลมุ่ ย่อย) โดย วทิ ยากรกระบวนการ ของสถาบันระหว่างประเทศเพ่อื การคา้ และการพัฒนา การดาเนินการจัดกิจกรรมเร่ิมต้นด้วยการละลายพฤติกรรมของผู้เข้าร่วมโครงการ เพื่อละลาย พฤติกรรมของผู้เข้าร่วมโครงการที่มาจากสานักต่างๆ ให้มีความสัมพันธ์ที่ดี และมีความเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ในกลุ่ม เพือ่ จะสามารถทางานรว่ มกันได้อยา่ งมีความสขุ และประสบความสาเร็จตามเป้าหมายทวี่ างไว้ กิจกรรมการแบ่งกลุ่มระดมสมอง เรื่อง การขับเคล่ือนประชาคมอาเซียนในบริบทนิติบัญญัติ โดยใชเ้ ทคนคิ World café World café หรือ สภากาแฟ คือกระบวนการสานเสวนาเพ่ือให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็น ในหัวข้อ ประโยชน์ต่อประเทศไทย ประโยชน์ต่อสานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และประโยชน์ต่อตนเองในด้าน ประชาคมอาเซียน โดยแบ่งกลุ่มผู้เข้าร่วมอบรมออกเป็น ๖ กลุ่ม ให้สมาชิกในกลุ่มระดมสมองร่วมกันแสดง ความคดิ เห็นเขยี นบรรยายลงในฟลิปชาร์ต แลว้ ให้ตวั แทนกลุ่ม (นักการทูต) เปน็ ผ้รู ายงานผลการระดมสมองต่อ สมาชิกกลุ่มอื่นๆ ท่ีจะเวียนกันเข้ามารับฟัง และเสนอแนะเพิ่มเติมในประเด็นท่ีแตกต่างกัน แต่ละรอบใช้เวลา ๕ – ๑๐ นาที
21 ผลสรปุ การระดมสมอง world café ประโยชนท์ ีส่ านักงานได้รับ ประโยชน์ทป่ี ระเทศไดร้ บั ประโยชน์ที่ตัวเองได้รับ - ความรว่ มมือระหวา่ งประเทศ - ประชาชนมคี ณุ ภาพชีวิตท่ีดีข้นึ - การศึกษาพฒั นาขน้ึ โดยเฉพาะ - ไดข้ ้อมลู ไว้เพ่ือสนบั สนุนของการ - สนิ ค้าราคาถกู ภาษาอังกฤษ ทางานของฝา่ ยนติ บิ ญั ญตั ิ - สร้างอานาจตอ่ รองในเวทีโลก - มโี อกาสทางอาชีพในการทางานใน - สส., สว. ขา้ ราชการไดพ้ ฒั นาดา้ น - เศรษฐกิจดีข้ึน ประเทศอาเซียน ภาษาในอาเซียน - ลดความขัดแย้งสร้างสนั ตภิ าพ - เรียนรวู้ ฒั นธรรมและภาษา - ได้แลกเปลี่ยนการทางานของฝา่ ยนิติ - เศรษฐกจิ ชายแดนดีขนึ้ - พฒั นาทกั ษะดา้ นภาษาต่างๆ บญั ญัตใิ นรฐั สภาของประเทศในกลมุ่ - การทอ่ งเทยี่ วดขี ึ้น - เรยี นรู้และพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ อาเซียน - ไดเ้ ครอื ขา่ ยทัง้ 9 ประเทศ และภาษาต่างๆในอาเซียน - ข้าราชการได้มีทศั นคติ มมุ มองท่ดี ีขนึ้ - มคี วามเปน็ พลเมืองอาเซียน - เรียนรูท้ ักษะในการทางานเปน็ ทมี ใน ต่อกลุ่มประเทศอาเซยี น - อานาจการต่อรองผลประโยชน์ทาง ระดบั อาเซยี น - บคุ ลากรของสานักงานไดร้ บั การ เศรษฐกิจในรูปแบบภมู ภิ าค - ความตื่นตวั ในการเรยี นรูภ้ าษาต่างๆ พัฒนาเก่ียวกับกฎหมายภายในและ - การค้า การบริการ การลงทุน ของอาเซยี น เช่น บาฮาซา พม่า ฯ กฎหมายระหวา่ งประเทศซง่ึ เก่ยี วข้อง แรงงาน มีมากขนึ้ กบั บริบทในอาเซยี น - การเรยี นรู้และแลกเปลยี่ นความ - เรยี นร้รู ะบบการเมืองและระบบการ หลากหลายทางวัฒนธรรม ตรากฎหมาย - ส่งเสริมใหเ้ กดิ ความรว่ มมือและ - มีเครือข่ายระหวา่ งสานกั งานทงั้ สรา้ งความสัมพนั ธ์ท่ีดีระหวา่ งกัน ภายในและนอกประเทศ (ทางการเมือง) - บุคลากรมีประสบการณ์ในการ - กอ่ ให้เกิดความสงบสขุ แลกเปล่ยี น - ระงับข้อพิพาท - การพฒั นาและการเปรียบเทยี บ - การแลกเปลี่ยนสนิ ค้าและเงินตรา กฎหมายระหวา่ งประเทศ - อานาจตอ่ รองทางการคา้ - การสร้างฐานข้อมลู แลกเปลี่ยนการ - ประโยชน์ทางด้านภาษี เรียนรู้ การทางาน ระหว่างสานกั งาน - ตืน่ ตัวและตระหนักถึงอาเซียน รฐั สภาอาเซยี น - เปิดตลาดการคา้ การลงทนุ เสรี - การยกระดับองค์กรไปสู่สากล - เปน็ การลดกาแพงภาษี - การเปดิ โลกทศั นแ์ ละพัฒนาศักยภาพ - เป็นจดุ ศูนยก์ ลางการคมนาคม ของบุคลากร ขนส่ง - พัฒนาความเป็นมืออาชพี ด้านการ - พัฒนาการสือ่ สาร คมนาคม ต่างประเทศ - สง่ เสริมการทอ่ งเทีย่ ว - ขา้ ราชการสามารถขน้ึ เงินเดือนโดย - เกดิ ความม่ันคงในภมู ิภาคอาเซยี น ฐานราชการประเทศในอาเซยี นมฐี าน - เกิดสนั ตภิ าพ
22 ประโยชน์ทส่ี านกั งานไดร้ บั ประโยชน์ที่ประเทศได้รบั ประโยชนท์ ต่ี ัวเองได้รบั เงินสูงสุด เช่นมาเลเซยี มีเงนิ เดอื น - รจู้ ดุ แขง็ จดุ อ่อนเมื่อเปรียบเทียบกบั มากกว่า 3 เท่า ประเทศในอาเซยี น - เสริมสรา้ งเครอื ขา่ ยในด้านนิตบิ ัญญตั ิ - ตน่ื ตวั และตระหนกั ถงึ การเข้าสู่ กบั รัฐสภาต่างประเทศ และองคก์ ร ประชาคมอาเซียน อาเซียน - เป็นศนู ยข์ ้อมลู ด้านนิติบัญญัตขิ อง ประเทศตา่ งๆในอาเซียน - เสรมิ สรา้ งความสมั พันธท์ างการทตู กับอาเซยี นในระดับทวิภาคีและพหภุ าคี - เป็นศูนย์กลางข้อมลู และระบบ รวบรวมข้อมูลองคค์ วามรเู้ พ่ือนามาใช้ ในวงงานนติ บิ ัญญัติและประชาชน ทัว่ ไป - พฒั นาศกั ยภาพของข้าราชการใน สานกั งานเลขาฯ เชน่ ความรู้ทางด้าน ภาษา ความหลากหลายทางด้าน วฒั นธรรม สงั คม เศรษฐกิจ - การสร้างเครือขา่ ยของระบบงาน รฐั สภาและบคุ ลากรในวงงานดา้ นนิติ บญั ญตั ิของประเทศอาเซยี น - ส่งเสรมิ องคค์ วามร้ดู ้านกฎหมาย ไดแ้ ก่ บุคลากรในสานักงาน - แลกเปลยี่ นบคุ ลากรในวงงานรฐั สภา ในอาเซียน
23 จากนั้น นายอาพล นันทขว้าง ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวช้ีแจงการ ฝกึ อบรมเชิงปฏิบตั ิการ ณ ต่างจงั หวัด
24 กจิ กรรม วันท่ี ๒๑ – ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ณ โรงแรมแคปปิตอล เจ แอทเขาใหญ่ อาเภอปากช่อง จังหวดั นครราชสีมา เมื่อผู้เข้าร่วมโครงการเดินทางถึงโรงแรมและรับประทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว วิทยากร กระบวนการได้ช้ีแจงกระบวนการดาเนินกิจกรรม โดยในภาคบ่ายเร่ิมต้นด้วยกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์และสวัสดี อาเซียน แฟนพันธุ์แท้อาเซียน และ Do’s and Don’t AC Activity ซ่ึงเป็นเกมท่ีสร้างความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐาน ศิลปวัฒนธรรม การปฏิบัติตนที่ถูกต้องและควรหลีกเล่ียงของประเทศสมาชิกอาเซียน โดยมุ่งหวังว่าเม่ือเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนแล้ว ผู้เข้าร่วมโครงการจะสามารถปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้อง และเข้าใจถึงศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ความเช่ือของอาเซียนมากย่ิงขึ้น กิจกรรมดังกล่าวนอกจากให้ความรู้ ความเข้าใจอาเซียนแล้ว ยังสอดแทรกการฝกึ ฝนให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้ร้จู ักการทางานเป็นทีม การระดมความ คิดเห็น และได้รบั ความสนุกสนานไปดว้ ย การชแ้ี จงการแสดงบทบาทสมมตภิ ายใต้สถานการณจ์ าลอง (Simulation) และการแบ่งกลุ่มระดมสมอง และซักซ้อมเพื่อกาหนดเนอื้ หาและซักซ้อมการแสดง เร่ือง “การขับเคลอ่ื นประชาคมอาเซียนในบรบิ ทนิติ บญั ญตั ิ” โดย วิทยากรของสถาบันระหว่างประเทศเพอ่ื การคา้ และการพัฒนา และวิทยากรของสานกั งาน ศนู ยป์ ระชาคมอาเซียนฯ กิจกรรมการฝึกอบรม หลักสตู รการสร้างความรู้ ความเข้าใจ ทกั ษะ สมรรถนะด้านประชาคมอาเซียน แก่บุคลากรในการมีทัศนคติเชิงบวกในระดับสากล การเพิ่มพลังความคิดเพื่อประสิทธิภาพในการทางาน และ การนาเสนอและเจรจาต่อรองเพื่อผลสัมฤทธิ์ ดาเนินการโดยศูนย์ประชาคมอาเซียนร่วมกับองค์กรเครือข่าย สถาบันระหว่างประเทศเพ่ือการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) หลักสูตรน้ีเป็นเร่ืองที่เกี่ยวข้องกับการ สร้างเสริมสมรรถนะ ทัศนคติ ค่านิยม กระบวนทัศน์สาหรับบุคลากรที่ทางานด้านประชาคมอาเซียนในบริบท นิติบัญญัติ ซ่ึงสมรรถนะน้ีมีความสาคัญและจาเป็นอย่างยิ่งในการเตรียมความพร้อมบุคลากรของรัฐสภาให้
25 เข้าใจบริบทของประชาคมอาเซียนอย่างลึกซึ้ง และเข้าใจรากฐานทางความแตกต่างทางความคิด อันจะทาให้ เข้าใจวิธีคิดของผู้อื่นอย่างชัดแจ้งย่ิงข้ึน ทั้งนี้ การกาหนดสมรรถนะดังกล่าวได้จากการสกัดกลั่นกรองโดย ผู้เชี่ยวชาญและได้มีการนามาใช้เป็นกรอบในการคัดเลือกบุคลากรที่มาช่วยราชการของสานักงานศูนย์ ประชาคมอาเซียนของสานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในปีงบประมาณ ๒๕๕๘ แล้ว ท้ังนี้บุคลากรที่ ดารงตาแหน่งนิติกร วิทยากร นักวิเคราะห์นโยบายและแผน และนักวิเทศสัมพันธ์ ท้ังนี้ เพ่ือขยายผลจาก “คานยิ าม” ของสมรรถนะดังกล่าวไปสูก่ ารปฏิบตั จิ รงิ (Behavioral indicators) อนึ่ง สาหรับสมรรถนะด้านประชาคมอาเซียน มีอยู่ ๓ ประการ คือ การมีทัศนคติเชิงบวกในระดับ สากล การเพิ่มพลังความคิดเชิงบวกในระดับสากล การเพ่ิมพลังความคิดเพื่อประสิทธิภาพในการทางานและ การนาเสนอและการเจรจาตอ่ รองเพ่ือผลสัมฤทธิ์ ดงั น้ี คาอธิบายสมรรถนะด้านประชาคมอาเซยี น - การมที ัศนคติเชงิ บวกในระดบั สากล (Internationalization Attitude) คาจากัดความ การเห็นถึงประโยชน์ท่ีจะได้จากการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนและเปิดสู่การรวมตัวใน ภูมิภาคอาเซียน และเห็นถึงประโยชน์ของการมคี วามร่วมมือกับประเทศในประชาคมอาเซียนและสามารถสรา้ ง สมดุลระหว่างผลประโยชน์ของประเทศและผลประโยชน์ของภูมิภาคได้ ซ่ึงจะเป็นรากฐานให้ทางานในระดับ ภูมภิ าคได้ดี - การเพม่ิ พลังความคิดเพื่อประสทิ ธิภาพในการทางาน (Energetic Thinking) คาจากัดความ การแลกเปล่ียนข้อมูล ติดตามสถานการณ์ของภูมิภาค ด้วยทักษะในการคิดอย่างเป็น รูปธรรม และตื่นตัวในบริบทนานาชาติ เน้นเป้าหมายแบบบูรณาการ โดยสร้างบทบาทเชิงรุกและเชิงรับของ ประเทศไทยในประชาคมอาเซียนด้วยการเป็นผู้ผลักดันและอานวยความสะดวกในบทบาทการรวมตัวกันใน ภูมิภาคและกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกภาคส่วนจากข้อตกลงของประชาคมอาเซียนและแผนปฏิบัติการพร้อม ทง้ั นโยบาย ท้งั ในและต่างประเทศอยา่ งร้เู ท่ากัน - การนาเสนอและเจรจาต่อรองเพอื่ ผลสัมฤทธ์ิ (Presentation/Negotiation Drive) คาจากัดความ ดาเนินการตามยุทธศาสตร์อย่างชัดเจนในการนาทุกภาคส่วนให้ตระหนักรู้และเข้าถึง ผลประโยชน์จากประชาคมอาเซียนอย่างเท่าเทียมกัน โดยภาครัฐมีบทบาทเชิงรุกในการนาเสนอและเจรจา ต่อรองและการสนับสนุนทุกภาคส่วนในการได้รับผลประโยชน์จากประชาคมอาเซียนสูงสุดและเพ่ิมขี ด ความสามารถในการแข่งขันสงู สุด และมีบทบาทในการดาเนินกระบวนการนิติบญั ญตั ิและการทูตรัฐสภาในด้าน ประชาคมอาเซยี นและการดาเนินการของรฐั สภาในดา้ นประชาอาเซยี น ทั้งน้ีในการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสมรรถนะ จาเป็นต้องใช้เทคนิคหลายประการทั้งการ บรรยายให้ความรู้ การใช้เกม การแบ่งกลุ่มระดมสมอง และประการสาคัญคือ การใช้เทคนิคบทบาทสมมติ ภายใตส้ ถานการณ์จาลอง เป็นวิธีการฝกึ อบรมประเภทหนงึ่ ทจ่ี ะวัดองค์ความรจู้ ากพฤติกรรมการแสดงออกของ ผเู้ ข้าร่วมกจิ กรรม โดยจะมีผู้ใหข้ ้อเสนอแนะ (Commentator) หรอื วทิ ยากรเป็นผใู้ ห้คาแนะนา
26 การแสดงบทบาทสมมตภิ ายใตส้ ถานการณ์จาลอง เรอ่ื ง “การขับเคล่ือนประชาคมอาเซียนในบริบทนติ ิบญั ญัติ” ความหมายของการแสดงบทบาทสมมติ (Role Play) การแสดงบทบาทสมมติ คอื การเปล่ียนพฤติกรรมเพื่อสวมบทบาททางสังคม หรือ ความพยายาม ในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนใดคนหนึ่ง เพ่ือบรรลุบทบาททางสังคม บางครั้ง ก็นาไปใช้โดยมี วัตถุประสงค์เป็นการเฉพาะ เช่น เพ่ือการฝึกอบรมหรือเพื่อฝึกซ้อมให้บุคลากรเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติ หน้าที่ โดยดาเนินการไปพร้อม ๆ กับการปรับปรุงสมรรถนะของบุคลากรในการปฏิบัติหน้าท่ีบางอย่าง ภายใต้ บทบาทใดบทบาทหนึ่ง เพอ่ื ใหก้ ารทางานให้มีประสทิ ธิภาพยิง่ ขึน้ ในมติ ทิ างการศึกษา การแสดงบทบาทสมมตุ ิจะช่วยให้ผ้เู รยี นรู้สามารถเขา้ ใจมิติที่หลากหลายของ เรื่องท่ีกาลังศึกษา ขณะเดียวกัน ก็ทาให้ผู้เรียนรู้มีความสนใจและมีส่วนเกี่ยวข้องกับเน้ือหาโดยตรง โดยไม่ใช่ เรียนจากตาราเท่านั้น แต่ยังได้เรียนรู้ที่จะนาความรู้จากตารามาผสมผสานกับเหตุการณ์ท่ีเกิดขึ้นจริงอีกด้วย ท้ังนี้ การเรียนรู้จะทาให้เกิดการตั้งคาถาม การสารวจทางเลือกต่างๆท่ีอาจเป็นคาตอบ และแสวงหาทางออก ใหมๆ่ ทมี่ ลี กั ษณะสรา้ งสรรค์ นอกจากนี้ การแสดงบทบาทสมมุติยังเป็นเครื่องมือท่ีดีในการพัฒนาและช่วยสร้างเสริมทักษะต่างๆท่ี จาเปน็ ตอ่ คนรนุ่ ใหม่ ท่ามกลางความท้าทายตา่ งๆ ในศตวรรษท่ี ๒๑ เมอ่ื โลกและสงั คมประเทศมคี วามสลบั ซับซอ้ นมาก ขึ้น ตัวอย่างของทักษะเหล่าน้ี ได้แก่ การเป็นผู้มีความคิดริเริ่ม ความสามารถในการแก้ปัญหา การสร้างความ ตระหนักในตัวเอง การทางามเป็นทมี และทกั ษะในการสอื่ ความรู้และความคดิ อย่างเป็นระบบ ความหมายของการแสดงสถานการณ์จาลอง (Simulation) การแสดงสถานการณ์จาลอง คือ การเลียนแบบเหตุการณ์จริง สถานการณ์จริง หรือกระบวนการ จริงของเรื่องใดเร่ืองหน่ึง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ สถานการณ์ หรือกระบวนการที่เลือกมาใช้ เพื่อศึกษาลักษณะ พฤติกรรม หรือ องค์ประกอบของเรื่องน้ันๆ การแสดงสถานการณ์จาลองสามารถนามาใช้ได้ในหลายบริบท เช่น เพื่อแสดงผลที่อาจเกิดข้ึนจริงจากเงื่อนไขบางเร่ือง หรือเพื่อทดลองดูว่าผลที่อาจเกิดข้ึนน้ัน อาจเกิดอะไร ได้บา้ งในกรณีเรื่องทจี่ รงิ ไม่อาจทาได้ เพราะเสย่ี งอันตรายเกนิ ไป หรอื เพราะไมม่ ีสถานการณอ์ ยจู่ รงิ เป็นตน้ การแสดงบทบาทสมมุติภายใตส้ ถานการณ์จาลอง (Role Playing Simulation) การแสดงบทบาทสมมุติภายใต้สถานการณ์จาลอง จึงเป็นการนาเอาการแสดงบทบาทสมมุติมา ผนวกกับการทาสถานการณ์จาลอง เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างอิสระและสร้างสรรค์ ปลอดจากความกดดัน ต่างๆ โดยโจทย์สถานการณจ์ าลองจะเขียนขอบเขตของตัวละครและตัวสถานการณ์ให้กว้างหรือแคบ เรียบง่ายหรือ สลับซับซอ้ น แล้วแตร่ ะดับอายุ ความรู้ ภูมิหลัง ประสบการณ์ และศักยภาพของตัวผู้เรียนรู้ รวมท้ังระยะเวลาท่ี มีสาหรบั การทาแบบฝึกหดั ในลักษณะดังกล่าวด้วย
27 แบบฝกึ หดั การแสดง “บทบาทสมมตุ ิ” ภายใต้ “สถานการณจ์ าลอง” (Role Playing Simulation) สาหรบั การทดลองปฏบิ ตั ิ การฝกึ อบรมหลักสูตร การสร้างความรูค้ วามเขา้ ใจ ทกั ษะ สมรรถนะแกบ่ คุ ลากร ในดา้ นการสร้างทศั นคตเิ ชงิ บวกระดับสากล (Internationalization Attitude) และความเข้าใจเรื่องการรวมกลุ่มแบบภมู ิภาคนิยม (Regionalism) สาหรับบุคลากรฝ่ายนิตบิ ญั ญตั ิ กรอบเน้อื หาหลัก (Main Theme) การขับเคล่ือนประชาคมอาเซียนในบรบิ ทนิติบญั ญตั ิ ผเู้ รียนรูห้ ลัก ๑. ในการทาแบบฝกึ หดั ครั้งนี้ มีผูเ้ รยี นรู้หลัก ซึ่งประกอบด้วย รวมผู้เรยี นร้หู ลักท้งั สิ้น ๖๙ คน กลุ่มเปา้ หมายท่เี ขา้ รว่ มกจิ กรรมเป็นข้าราชการของสานักงานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่ ระดับปฏิบัตกิ าร – ระดบั เชี่ยวชาญจากสานกั หลักด้านกระบวนการนิตบิ ญั ญตั แิ ละด้าน ต่างประเทศ สานักนโยบายและแผน และข้าราชการสานักงานศูนย์ประชาคมอาเซียน และ ขา้ ราชการที่ช่วยราชการสานักงานศนู ยป์ ระชาคมอาเซียน ๒. ในจานวน ๖๙ คนนี้ จะแบ่งออกเป็นกลุ่มยอ่ ย ๖ กลุ่มย่อย ผลท่คี าดว่าผูเ้ รยี นรู้หลักจะไดร้ บั ๑. เพ่ือให้ข้าราชการรัฐสภาสามัญในสายงานหลักด้านกระบวนการนิติบัญญัติ สายงานหลักด้าน ต่างประเทศ มีบูรณาการการทางานร่วมกันกับข้าราชการในสายงานสนับสนุน เช่น สายงาน วเิ คราะห์นโยบายและแผน เพื่อการขบั เคลือ่ นประชาคมอาเซยี น ได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ และ ประสทิ ธผิ ล ๒. เพอื่ สรา้ งความรู้ ความเข้าใจและทักษะ ในการปรบั ทัศนคตเิ ชงิ บวกระดับสากลให้กับบคุ ลากรฯของ สานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในสายงานหลักด้านกระบวนการนิติบัญญัติ สายงานด้าน ตา่ งประเทศ และสายงานวเิ คราะหน์ โยบายและแผน ๓. เพื่อเตรียมความพร้อมบุคลากรของรัฐสภาที่ดาเนินการด้านประชาคมอาเซียนตามแผนทรัพยากร มนุษย์ด้านประชาคมอาเซียน ให้เข้าใจบริบทของประชาคมอาเซียนได้อย่างชัดเจน เข้าใจบริบท และนัยสาคัญของมิติภูมิภาคทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมต่างๆ ของอาเซียน ประเทศในประชาคมอาเซียนอย่างลึกซึ้ง และเข้าใจรากฐานทางความแตกต่างทางความคิดอันจะ ทาใหเ้ ขา้ ใจวิธคี ดิ ของผอู้ ื่นอย่างชัดแจง้ ยิง่ ข้นึ ๔. เพื่อให้บุคลากรของรัฐสภาที่ปฏิบัติงานด้านประชาคมอาเซียนภายใต้ระบบงานด้านประชาคม อาเซียนของสานักงานศูนย์ประชาคมอาเซียนของสานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้แก่ สานักงานศูนย์ประชาคมอาเซียน ในสายงานหลักด้านกระบวนการนิติบัญญัติ ด้านต่างประเทศ และสายงานสนับสนุนด้านวิเคราะห์นโยบายและแผน สามารถขับเคลื่อนบทบาทของฝ่ายนิติ บัญญัติด้านประชาคมอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลเป็นกลไกที่อานวยความ สะดวกให้แก่รัฐสภาในการขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนในบริบทภายในของประเทศและบริบท อาเซยี น สรา้ งสัมพนั ธภาพที่ดีในทางการเมือง เศรษฐกจิ สังคมและวัฒนธรรมทแ่ี ตกต่าง โดยประสาน และประนีประนอมด้วยความเข้าใจในแต่ละบริบทอย่างชัดเจน และปรับเปล่ียนกลยุทธ์ ท่าที ให้
28 เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ท่ีแตกต่าง เพื่อประสานประโยชน์ภายในภูมิภาค ระหว่าง ประเทศ หรือระหว่างวัฒนธรรมได้อย่างมปี ระสทิ ธิผลสูง กรอบการวดั ผลการแสดงบทบาทสมมติภายใต้สถานการณ์จาลอง ๑. เกณฑด์ ้านเนอื้ หา ๑.๑ การช้ีประเดน็ ๒๕ คะแนน - การชีใ้ ห้เหน็ ถึงประโยชนท์ ่ีจะไดร้ ับจากการเขา้ สู่ประชาคมอาเซียน - การช้ใี ห้เห็นถึงประโยชนข์ องการมคี วามร่วมมือกบั ประเทศของประชาคมอาเซียน - การสร้างสมดุลระหวา่ งผลประโยชนข์ องประเทศ และผลประโยชนข์ องภมู ภิ าคได้ - การช้ีให้เห็นถงึ บทบาทเชงิ รุกของประเทศไทยในการผลกั ดนั การรวมตัวกนั ในภมู ิภาค - การชี้ให้เห็นถึงกระบวนการนติ บิ ญั ญตั แิ ละการทูตรฐั สภาทีม่ ีสว่ นขบั เคลือ่ นประชาคม อาเซียน ๑.๒ การอธิบายขยายความประเดน็ ท่ีได้ช้ี ๒๕ คะแนน รวม ๕๐ คะแนน ๒. เกณฑ์ด้านทักษะ ๒.๑ การเข้าถงึ บทบาทสมมติในลักษณะที่สนบั สนุนประเด็น ๑๐ คะแนน ๒.๒ ความรอบรู้เกย่ี วกับเหตุการณ์ปัจจุบัน ๑๐ คะแนน ๒.๓ ความคิดสรา้ งสรรค์และจนิ ตนาการ ๑๐ คะแนน ๒.๔ ความคดิ นอกกรอบ เช่น เสนอทางเลือกอ่นื ๑๐ คะแนน รวม ๔๐ คะแนน กรรมการตดั สนิ โดยหลักการกรรมการตัดสินไม่ได้เป็นคนเดียวกับวิทยากรกระบวนการของแต่ละกลุ่ม โดยควรเป็นกรรมการกลางซ่ึงกากับ ดูแลการจัดกิจกรรม ซึ่งกาหนดให้รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร (นางสาวสภุ าสินี ขมะสุนทร) และนายหรินทร์ สตู ะบตุ ร นักทรัพยากรบุคคลชานาญการพเิ ศษ เป็นผเู้ สนอแนะ (Commentator) และใหค้ ะแนนตัดสนิ และไดเ้ ปดิ โอกาสใหผ้ ้เู ขา้ ร่วมโครงการกลุ่มอืน่ ๆ ไดล้ งคะแนนดว้ ย ข้อควรระวังและความเข้าใจผิด แบบฝกึ หัดน้ีไม่ไดม้ ขี ้ึนเพื่อวัตถุประสงค์ในการวัดความสามารถการแสดงละครเป็นหลัก การ เข้าถงึ บทบาทสมมติจึงเปน็ เพียงสว่ นสนับสนนุ การช้ปี ระเด็น และการสรา้ งความสมจรงิ สมจังในการสร้างขอ้ โตแ้ ยง้ และการป้องกันประเด็นท่ีไดช้ ้ีไว้หรือโต้แย้งไวเ้ ท่านน้ั ๑. แบบฝกึ หดั นี้ไม่สนบั สนุนใหม้ ีการล็อบบี้กันระหว่างกลุ่มตา่ งๆ ถึงแม้ในโลกความเป็นจรงิ จะมกี ารล็อบบี้ก็ตาม เพราะจะไม่ทาให้เกดิ การเรียนรู้แต่อย่างใด ๒. แบบฝีกหดั น้ีไม่ใช่การโต้วาที เพราะมงุ่ เนน้ การหาทางออกรว่ มกัน มากกว่าการเอาชนะกัน ๓. แบบฝกึ หดั น้ีไม่เน้นการเล่นโวหาร แตเ่ นน้ การจัดระบบคิดท่ีดี และเน้นการนาความรมู้ า ใช้อยา่ งถูกตอ้ ง ๔. แบบฝกึ หดั น้ีไม่สนบั สนนุ การเลยี นแบบการประชมุ สภาในลักษณะที่ไมค่ วรเอาเย่ยี งอยา่ ง
29 แบบฝกึ หัดกิจกรรมบทบาทสมมตุ ภิ ายใต้สถานการณ์จาลอง โจทยส์ าหรบั การแสดงบทบาทสมมติฯ เรอื่ ง “การขับเคล่ือนประชาคมอาเซยี นในบริบทนิติบญั ญตั ิ” “วันน้ี การประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โดยมีนายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฏิรูป แห่งชาติ ทาหน้าที่ประธานในการประชุม โดยที่ประชุมได้พิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการปฏิรูป การเกษตร อุตสาหกรรม พาณิชย์ การท่องเท่ียว และบริการ จานวน ๒ เรื่อง ประกอบด้วย วาระการพัฒนา ประเทศ ๑. เศรษฐกิจดิจิตอล และ ๒. การเป็นศูนย์กลางอาเซียน (Asean Hub) โดยนายเกริกไกร จีระแพทย์ ประธานกรรมาธิการฯ ชี้แจงว่าเศรษฐกิจดิจิตอลต้องไดร้ ับการพัฒนาอย่างต่อเน่ือง เน่ืองจากหลายประเทศใน อาเซียนมีการพัฒนาไปไกลกวา่ ประเทศไทยท้งั เร่ืองระบบดจิ ิทลั เกตเวย์ และการสนับสนุนส่งเสริมให้เกดิ ความรู้ ด้านดิจติ อลอย่างแทจ้ รงิ ด้านกรรมาธิการฯ กล่าวว่า การปฏิรูปครั้งน้ีเพื่อขับเคล่ือนเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐท่ีต้องการ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางทางการค้าและ บรกิ ารในระดบั ภูมิภาคและระดบั โลก เพื่อยกระดบั เศรษฐกิจของไทยใหเ้ ทยี บเท่ากับนานาชาติ พร้อมทั้งพัฒนา กฎหมายที่เอื้อต่อระบบดิจิตอล นอกจากน้ี ควรมีการแข่งขันท่ีเสรีอย่างเป็นธรรม ควรเพิ่มโครงข่าย โทรคมนาคม บริหารคลืน่ ความถี่ให้สงู สุด เพิ่มช่องทางเชื่อมโครงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตอย่างทั่วถึง และท่ีสาคัญ คือ ต้องคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาให้เกิดความชัดเจน ดังนั้นทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันดาเนินการ อนึ่ง ในท่ีประชุม ผู้สอ่ื ข่าวรายงานว่า ท่ีประชมุ ส่วนใหญ่ต่างอภิปรายใหก้ ารสนับสนุน โดยมองว่าเป็น ส่วนสาคัญที่จะช่วยพัฒนา และเพ่ิมศักยภาพด้านเศรษฐกิจของประเทศได้ นอกจากนี้ยังเสนอว่าควรจะนา เศรษฐกิจดิจิทัลมาสนับสนุนด้านการศึกษาและการเกษตรด้วย ท้ังการศึกษาทางไกลผ่านระบบอินเทอร์เน็ต หรือ การเรียนออนไลน์ การกระจายข้อมูลด้านการศึกษา การมีฐานข้อมูลให้เกษตรกรได้เข้ามาศึกษา การศึกษา ตลาดของเกษตรกรเพื่อพฒั นาเป็นศูนย์กลางด้านอาหารซึ่งจะช่วยลดความเหล่ือมล้าจากปัญหาการขาดโอกาส ทางการศึกษาและการประกอบอาชีพ รวมถึงการแก้ปัญหาด้านสาธารณสุข เรื่องสุขภาพ อาทิ การบริหารจัดการด้าน การบริการในกรณีการใช้ Tele Consultation ผ่านโครงข่ายดิจิตอลในพ้ืนท่ีท่ีขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ การผ่าตัดทางไกล รวมถึงการเชื่อมโยงความรู้ต่างๆ ด้านสาธารณสุขไปสู่ประชาชน ซ่ึงทั้งหมดควรออกแ บบ เพอ่ื ใหท้ ุกคนสามารถใชไ้ ด้รวมถงึ คนพิการดว้ ย นอกจากน้ี ท่ีประชุมยังเสนอให้เขียนเร่ือง Digital Map ให้เหมือนกับระบบทะเบียนราษฎร ๑๓ หลักโดยมองว่าจะเปน็ ประโยชน์ในการจดั เก็บภาษี ประโยชนด์ ้านผังเมอื ง การวางแผน และการขยายเส้นทาง ต่างๆ ทั้งนี้ ท่ีประชุมยังพิจารณาว่าแม้ว่าเศรษฐกิจดิจติ อลจะมีประโยชน์แต่ต้องพัฒนาองค์ความรู้และเตรียมคนให้ พร้อมและรู้เท่าทัน เพื่อใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดบทบาทของรัฐในการให้บริการและแทรกแซงตลาด มหี ลักประกนั เรื่องความปลอดภยั ของข้อมลู ความมั่นคงและขอ้ มูลสว่ นตัว ในช่วงท้ายของการประชุม ไดพ้ ิจารณาเพื่อให้การผลักดันการปฏริ ูปดังกล่าวเกิดผลอยา่ งเป็นรูปธรรม จึงจาเป็นต้องมีการตราพระราชบัญญัติ “เศรษฐกิจดิจิตอล” ข้ึนมา เพื่อเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พิจารณาตอ่ ไป จากน้ันท่ีประชุมได้มีมติเห็นชอบรายงานวาระการพัฒนา ด้วยคะแนนเห็นด้วย ๑๙๗ เสียง งดออก เสียง ๒ เสียง และไม่ลงคะแนน ๑ เสียง อนึ่ง หลังจากประชุมเสร็จ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติได้แถลงข่าว สรุปผลการประชุมตอ่ ผู้สื่อขา่ วอย่างเปน็ ทางการ”
30 ผู้เรียนรู้หลกั ตอ้ งแสดงบทบาทดงั กล่าว ดงั น้ี กลมุ่ ท่ี ๑. สีชมพู ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ และรองประธานสภาปฏริ ปู แหง่ ชาติ ผ้บู ริหารของสานักงานเลขาธิการสภาผูแ้ ทนราษฎร กลมุ่ ท่ี ๒. สเี หลือง คณะกรรมาธิการปฏริ ปู การเกษตร อตุ สาหกรรม พาณชิ ย์ การท่องเที่ยว และบรกิ าร (รวมถงึ บทบาทฝ่ายเลขานุการของ คณะกรรมาธิการฯ) กลุม่ ท่ี ๓. สีสม้ เจา้ หนา้ ทขี่ องสานักการประชุมทท่ี าหน้าท่ดี แู ลความเรยี บร้อย ในการประชมุ กลมุ่ ท่ี ๔. สีน้าเงนิ คณะส่ือมวลชน กลมุ่ ที่ ๕. สมี ว่ ง สภานิติบัญญตั แิ หง่ ชาติ พจิ ารณาพระราชบญั ญตั ิ “เศรษฐกิจ ดจิ ิตอล” กลุ่มท่ี ๖. สเี ขียว หนว่ ยงานทีเ่ ก่ยี วข้อง นกั วิชาการ ร่วมเป็น“อนุกรรมาธกิ าร ปฏริ ปู เศรษฐกิจดิจติ อล” สาหรับขน้ั ตอนการดาเนนิ งานใหแ้ บง่ กลมุ่ จับสลากบทบาทท่ีไดร้ ับ และนาไปปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี ๑. แต่ละกลมุ่ จะแยกกันไปประชุมหารอื ภายในห้องย่อยเพื่อหาประเด็น และทางออกสาหรับ การเขา้ รว่ มประชมุ โดยจะมีวิทยากรกระบวนการจากคณาจารย์ และข้าราชการ สานักงานศูนยป์ ระชาคมอาเซียนเปน็ ผใู้ ห้คาปรกึ ษาแนะนา ๒. แตล่ ะกลมุ่ จะไดร้ ับอปุ กรณ์อย่างละเท่า ๆ กัน เช่น กระดาษ ปากกา ฟิวเจอร์บอรด์ กรรไกร สาหรับนาไปจัดทาเป็นอุปกรณป์ ระกอบฉาก หรอื ชดุ ประกอบการแสดง ๓. วันเสารท์ ่ี ๒๑ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๘ การประชุมภายในกล่มุ ยอ่ ยจะใชเ้ วลาประมาณ ๒ ช่ัวโมง เมอ่ื แต่ละกลุม่ ประชุมหารอื ชีป้ ระเดน็ และแบง่ หน้าท่ีการแสดงบทบาทเสรจ็ เรียบรอ้ ยแล้ว จะซักซ้อมบทบาทตนเองในกลมุ่ ย่อยของตนเอง และจะแสดงในหอ้ ง ประชุมใหญ่ วนั อาทติ ย์ที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ๔. วันอาทิตยท์ ่ี ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ คณะพร้อมกนั ทหี่ ้องประชมุ ใหญ่ คณาจารยจ์ ะทา หน้าที่เปน็ สอ่ื มวลชน และซกั ถามท่ปี ระชมุ ในชว่ งท้ายการประชุม ทั้งน้ี แตล่ ะกลมุ่ จะ เร่ิมแสดงบทบาทของตนเอง และไมม่ ีการช้นี าหรือลาดบั ข้ันตอนจากคณาจารย์ ๕. การนาเสนอประเดน็ การแสดงบทบาทสมมติ ๖. คณาจารย์สรุปองคค์ วามรู้และให้ข้อเสนอแนะ รายละเอียดสถานการณจ์ าลอง เรือ่ ง “การเตรียมความพร้อมของข้าราชการเพ่ือจัดการประชมุ สมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) คร้ังท่ี ๓๗” ประธานสภานิติบญั ญัตแิ หง่ ชาติ (สนช.) เป็นประธานการประชุม ร่วมกับคณะผู้แทน สนช. และสานัก ต่างๆ ท่ีเก่ียวข้องจากสานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเตรียมความพร้อมสาหรับการประชุมใหญ่ สมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) คร้ังที่ ๓๗ ณ กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันท่ี ๑๔ – ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ซงึ่ รัฐสภาประเทศสมาชิกในอาเซียนท้ัง ๑๐ ประเทศ จะร่วมนาเสนอประเด็นหลักต่อท่ีประชุมใหญ่ AIPA เพ่ือ การตระหนักรู้และสร้างความร่วมมือระหว่างกันในหัวขอ้ “การสร้างการมีส่วนร่วมของประชาคมอาเซียนที่ยึด ประชาชนเป็นพ้นื ฐานและมปี ระชาชนเป็นศูนยก์ ลางไปยังทกุ ภาคสว่ น”
31 ในการนี้ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้มอบหมายให้คณะผู้แทนไทย เตรียมข้อมูล อภปิ รายสาหรับการประชุมดงั กลา่ ว อาทิ ดา้ นการเมอื ง เศรษฐกิจ สังคม โดยมุ่งเน้นการสรา้ งความเข้มแขง็ ของ ประชาคมอาเซียนโดยใช้หลักธรรมาภิบาล การป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น และส่งเสริมการสร้างความสัมพันธ์ ประชาคมอาเซยี นบนพ้ืนฐานความไว้เนื้อเชื่อใจ เพ่ือผลประโยชน์ร่วมกัน รวมถึงการผลักดนั ใหอ้ าเซียนมคี วาม เช่ือมโยงด้านการขนส่งระหว่างกันอย่างเป็นรปู ธรรม ขณะเดียวกันจะหารือกับประเทศผู้สังเกตการณ์ อาทิ จีน สภายุโรป และรัสเซีย ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการทูต และความร่วมมือในด้านต่างๆ ระหว่างกัน โดยเฉพาะดา้ นการค้า การทอ่ งเท่ียว และการต่อตา้ นอาชญากรรมขา้ มชาติ ทั้งนี้ ท่านได้รับมอบหมายจากประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้เตรียมเอกสารสาหรับประเด็นการ อภปิ ราย ซงึ่ ทา่ นจะตอ้ งร่วมหารือกบั คณะทางานของทา่ น ประกอบดว้ ย นติ กิ ร วิทยากร นักวิเทศสัมพันธ์ และ นกั วิเคราะห์นโยบายและแผน เพ่ือดาเนินการดังกล่าว บทบาทสมมตภิ ายใต้สถานการณจ์ าลอง ขอให้แสดงบทบาทสมมติภายใต้สถานการณ์จาลองดังกล่าว โดยแสดงให้เห็นถึงการประชุมหารือ เพ่ือเตรียมการจัดประชุม การจัดทาเอกสารวิชาการให้แก่คณะผู้แทนไทยในการประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภา อาเซียน (AIPA) ดังกล่าว ซึ่งคณะทางานจะแบ่งเป็น ๖ ด้าน ทั้งนี้ ประธานสภานิติบัญญัติได้นัดประชุมให้ คณะทางานรายงานความก้าวหน้าการเตรียมการดงั กล่าว ในวันอาทิตย์ท่ี ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ณ โรงแรม แคปปิตอล เจ เขาใหญ่ ดงั นี้ กล่มุ ที่ ๑ คณะทางานด้านกฎหมายและความมนั่ คง กลุ่มท่ี ๒ คณะทางานด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน กลมุ่ ท่ี ๓ คณะทางานดา้ นการสรา้ งเครอื ข่ายความร่วมมือทางวฒั นธรรม กลุ่มที่ ๔ คณะทางานด้านการประชาสมั พันธ์
32 กลุ่มท่ี ๕ คณะทางานด้านการยกระดบั การให้บรกิ ารด้านสขุ ภาพและสาธารณสุข กลุม่ ที่ ๖ คณะทางานดา้ นการจัดการทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ มอยา่ งยง่ั ยืน กติกาการแสดงสถานการณจ์ าลอง ๑. จบั สลากลาดบั การแสดงโดยผู้บริหารสานักงานเลขาธิการสภาผ้แู ทนราษฎร ๒. ใช้เวลาในการแสดงกลุ่มละ ๘ – ๑๐ นาที รวมเวลาแนะนาผู้แสดงและเกรนิ่ นา ๓. มีพิธกี รอยา่ งน้อย ๑ คน แนะนาผู้แสดงและเกริ่นนา ๔. ทกุ คนในทมี รว่ มการแสดง ๕. ในการแสดงต้องมีตวั ละครที่เป็นเจา้ หน้าทค่ี รบทัง้ ๔ ตาแหนง่ ไดแ้ ก่ วทิ ยากร นติ ิกร นกั วเิ ทศ สมั พนั ธ์ และนกั วิเคราะหน์ โยบายและแผน ๖. สามารถใชอ้ ุปกรณ์ Slide/Clip/เพลง/แสงเสียง ประกอบได้ตามความเหมาะสม ๗. ใหเ้ วลาในการเตรยี มพร้อมสถานที่ก่อนการแสดง ไม่เกิน ๓ นาที ๘. ใหต้ วั แทนแตล่ ะทีมให้ความคิดเหน็ การแสดงของกลุ่มอ่ืน ไม่เกิน ๒ นาที ๙. การตดั สนิ ใชก้ าร Vote โดยผเู้ ขา้ ร่วมการอบรมทุกคน โดยไม่ Vote กลุม่ ของตนเอง การแสดงบทบาทสมมติภายใต้สถานการณ์จาลอง (Simulation) เรื่อง “การเตรียมความพร้อมของข้าราชการเพอ่ื จดั การประชมุ สมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) คร้งั ท่ี ๓๗” สรปุ ผลการแสดงบทบาทสมมตภิ ายใตส้ ถานการณจ์ าลอง ของ ๖ กลมุ่ กลมุ่ ท่ี ๑ (สีน้าตาล) สถานการณ์จาลอง เรอ่ื ง การประชุมเพือ่ หารอื และแกไ้ ขสถานการณ์โรคไข้เลือดออก กลมุ่ สีน้าตาลแสดงบทบาทสมมติภายใต้สถานการณ์จาลอง เป็นการจาลองการประชมุ รว่ มกับประเทศ สมาชิกอาเซียน เพื่อหารอื แนวทางการปอ้ งกนั และแกไ้ ขสถานการณ์โรคไข้เลอื ดออก โดยมีบุคลากรจากวิชาชีพ ต่างๆ โดยมีบุคลากรจากสาขาอาชพี ต่างๆ เข้าร่วมประชุม สมรรถนะทแี่ สดงออก กลุ่มสีน้าตาลได้แสดงพลังความคิดเพื่อมุ่งผลสัมฤทธ์ิ (Energetic thinking) โดยมีการระดมสมอง ระดมความคิดเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน กลุ่มสีน้าตาลมีทัศนคติเชิงบวกในระดับสากล (Internationalization attitude) ในระดับสงู มาก เน่ืองจากเป็นการประชุมร่วมกันของประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อแก้ไขปัญหาระดับ ภมู ิภาคร่วมกนั
33 การนาเสนอและการเจรจาต่อรองน้ัน โดยเฉพาะอย่างย่ิงการเจรจาต่อรองยังแสดงออกมาไม่ชัดเจน เนื่องจากเป็นเร่ืองที่ไม่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์และไม่มีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียชัดเจน บรรยากาศการประชุมจึง เป็นลกั ษณะการนาเสนอเพ่อื ประสานความร่วมมือ มากกวา่ จะมเี รื่องผลประโยชนม์ าเก่ยี วข้อง กลุ่มที่ ๒ (สฟี า้ ) สถานการณจ์ าลอง เร่ือง การประชมุ เพื่อเตรียมการใหร้ องเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรไปประชุมระดบั ภมู ภิ าค สมรรถนะที่แสดงออก กลุ่มสีฟ้ามีการแสดงพลังความคิดเพื่อผลสัมฤทธิ์ชัดเจน มีการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นท่ี หลากหลาย มีแงม่ ุมการพจิ ารณาครอบถว้ น การมีทัศนคติเชิงบวกในระดับสากล มีการพิจารณาผลดี/ผลเสีย ในการเจรจาเข้าใจในการประชุมที่ กลา่ วถงึ การใชป้ ระโยชนร์ ว่ มกันในภูมิภาคในเรือ่ งทรัพยากรธรรมชาติ การนาเสนอและการเจรจาต่อรอง มีการเตรียมข้อมูลท่ีครบถ้วนรอบด้าน เพื่อนาเสนอในการประชุม ระดับภูมิภาค แต่อาจจะต้องเตรียมข้อมูลและเตรียมการ หากต้องมีการเจรจาต่อรอง เพราะเร่ือง ทรัพยากรธรรมชาตเิ ป็นเรื่องที่มีผไู้ ด้เสียประโยชน์ในเวทกี ารเจรจาระหวา่ งประเทศ กลุม่ ท่ี ๓ (สชี มพ)ู สถานการณจ์ าลอง เรือ่ ง การประชุมเตรียมการรับรองผู้มาเยือนจากต่างประเทศ สมรรถนะท่ีแสดงออก กลุ่มสีชมพูแสดงพลังความคิดเพื่อมุ่งผลสัมฤทธิ์ มีการระดมความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง หลากหลายในวิธีการรับผู้มาเยือนจากต่างประเทศ มีการพูดถึง Do & Don’t (พฤติกรรมท่ีควรแสดง/ไม่ควร แสดง) ในบรบิ ทของประเทศในภูมิภาคอาเซียน
34 ทศั นคติเชิงบวกในระดับสากล แสดงออกได้ชัดเจนมากมีการปรับทศั นคติของผูป้ ระชุมให้เข้าใจและมี แนวคิดเชิงบวกในการที่จะมปี ฏิสมั พนั ธ์กบั ต่างชาติ การนาเสนอและการเจรจาต่อรอง การนาเสนอในลักษณะการสรา้ งมติ รในวงสนทนาในท่ปี ระชุม ไมไ่ ด้ มีการเจรจาตอ่ รองชดั เจน เน่อื งจากเป็นการให้ขอ้ มลู เพ่อื เปน็ การรับรองชาวต่างประเทศทจ่ี ะมาเยือนไทย ข้อเสนอแนะ การให้ตระหนักถึง Do & Don’t (พฤติกรรมที่ควรแสดง/ไม่ควรแสดง) เป็นสิ่งสาคัญ เพราะถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องคานึงถึง เพราะการเข้าใจในวัฒนธรรมของแต่ละชาติเป็น Soft power ท่ีจะนาไปสู่การสานสัมพันธ์และการเจรจาทม่ี ีพลงั มาก และการเข้าใจในวฒั นธรรมจะทาใหเ้ กดิ บรรยากาศของ ความร่วมมอื ในระดบั ภูมภิ าค กลุม่ ที่ ๔ (สีม่วง) สถานการณ์จาลอง เร่อื ง การประชุมเพ่ือการปฏิรูปกฎหมาย สมรรถนะท่ีแสดงออก กลุ่มสีม่วงแสดงพลังความคิดเพื่อมุ่งผลสัมฤทธิ์ มีการระดมความคิดเห็น แต่ยังไม่ระบุเจาะจงหัวข้อ เรอ่ื งในการอภิปรายทช่ี ดั เจน ทาใหบ้ รรยากาศในการพูดคุยเปน็ ไปอยา่ งไม่มีทศิ ทางทีช่ ดั เจน ทัศนคติเชิงบวกในระดับสากล มีความพยายามที่จะปรับปรุงแก้ไข ปฏิรูปกฎหมายเพื่อทาให้กฎหมาย ในประเทศกับกฎหมายในภูมิภาคมีความสอดคล้องกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจที่จะให้มีการปรับทัศนคติ และการปฏบิ ตั ติ อ่ กนั ของประชาชนในภมู ิภาคในเชงิ บวกตอ่ กนั เพ่ือรับการเขา้ สปู่ ระชาคมอาเซยี น การนาเสนอและการเจรจาต่อรอง มีการเตรียมการท่ีจะนาเสนอแนวทางการปฏิรูปกฎหมาย และ พร้อมที่จะเข้าสู่การเจรจา แต่เน่ืองจากจุดเน้นของกฎหมายยังไม่ชัดเจน อาจทาให้ความพยายามในการเจรจา ในเวทปี ระชมุ ไม่สัมฤทธิผ์ ลได้ ข้อเสนอแนะ เป็นความจาเป็นอย่างยิ่งในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนท่ีจะต้องปฏิรูปกฎหมายของทุก ประเทศใหส้ อดรบั กนั และสอดคล้องกบั กฎบตั รอาเซยี น ดว้ ยกระบวนการบูรณาการ (Legal harmonization)
35 กลุม่ ที่ ๕ (สีเขียว) สถานการณ์จาลอง เร่ือง การประชมุ เพื่อเตรยี มการประชาสัมพนั ธ์ประเทศ สมรรถนะท่ีแสดงออก กลุ่มสีเขียวแสดงพลังความคิดเพื่อมุ่งผลสัมฤทธิ์ มีการแสดงพลังความคิดเห็นที่หลากหลายและระดม ความคดิ เหน็ อย่างกว้างขวาง ทัศนคติเชิงบวกในระดับสากล การประชาสัมพันธท์ ่ีมีประสิทธภิ าพส่งผลให้การปรับทัศนคติของคนใน ชาติต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียนให้เป็นบวก และปรับความเข้าใจเข้าหากันได้ ซ่ึงเหมาะกับการเข้าเป็นประชาคม อาเซยี น การนาเสนอและการเจรจาต่อรอง เป็นการนาเสนอในเชิงบวก และไม่มีประเด็นด้านการเจรจาต่อรอง ข้อเสนอแนะ การประชาสัมพันธ์น้ันมีท้ังเชิงรุกและเชิงรับ ควรคิดรับมือท้ัง ๒ แนวทาง และควร คานึงถึงการทูตรัฐสภา (Parliamentary diplomacy) มาใช้ในการประชาสัมพันธ์/นาเสนอ เพ่ือสร้าง ความสมั พนั ธท์ ด่ี ขี องรฐั สภาของประเทศในกลุ่มอาเซียนในระดับภูมภิ าคได้ กล่มุ ที่ ๖ (สสี ้ม) สถานการณจ์ าลอง เรอ่ื ง การประชุมเกย่ี วกับสถานการณร์ าคานา้ ตาล สมรรถนะที่แสดงออก กลุ่มสสี ้มแสดงพลงั ความคิดเพอ่ื มุ่งผลสัมฤทธ์ิ ได้ครบถ้วนสมบรู ณ์ในเรอื่ งข้อมลู อ้างอิง มีการเสนอเรอื่ ง น้าตาลครบทุกด้าน เป็นตัวอย่างของการเตรียมการด้านข้อมูลท่ีสมบูรณ์ทุกแง่มุม และมีการแลกเปล่ียนความ คดิ เห็นและระดมความคดิ เหน็ อยา่ งรอบดา้ น
36 ทัศนคติเชิงบวกในระดับสากล มีการพูดถึงประโยชน์อันพึงได้ร่วมกัน ซึ่งเป็นการแสดงถึงความ พยายามในการปรับทัศนคติของชาติต่างๆ เข้าหากัน และมีแนวโน้มจะนาไปสู่การมีทัศนคติท่ีดีต่อกันมรดับ สากล การนาเสนอและเจรจาต่อรอง การนาเสนอข้อมูลมีความครบถ้วนอย่างย่ิงแสดงให้เห็นถึงความพร้อม ในการเตรยี มการในเวทปี ระชมุ และเวทกี ารเจรจาได้เป็นอยา่ งดี ผลคะแนนการแสดงบทบาทสมมติในสถานการณ์จาลอง การแสดงบทบาทสมมติภายใต้สถานการณ์จาลอง (Simulation) จานวน ๖ กลุ่ม (๖ สี) ภายใต้ สถานการณ์จาลอง ซ่ึงประกอบดว้ ยบทบาทของขา้ ราชการรัฐสภาในตาแหน่ง วทิ ยากร นติ ิกร นักวเิ ทศสัมพนั ธ์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ต่างแสดงบทบทบาทสมมติได้อย่างสมบทบาทภายใต้เวลาท่ีจากัด มีการเตรียม ข้อมูลสาหรับการนาเสนออย่างครบถ้วน ได้นาอุปกรณ์เคร่ืองมือ การแต่งกายท่ีพอจะหาได้ในเวลาที่จากัด นามาประกอบการแสดงให้ดูสมจริงย่ิงขึ้น ภายหลังการแสดงบทบาทสมมติของแต่ละกลุ่ม จะได้รับการแสดง ความคิดเห็นจากรองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร (นางสาวสุภาสินี ขมะสุนทร) นายหรินทร์ สูตะบุตร นกั ทรัพยากรบุคคลชานาญการพิเศษ (Commentator) และผเู้ ข้าร่วมโครงการกลุ่มอน่ื ๆ เป็นการเพิม่ พูนความ ความรู้ ประสบการณ์ และข้อบกพรอ่ งในการแสดงบทบาทสมมติ กิจกรรมน้ีนามาซ่ึงการระดมความคิดเห็นของ สมาชิกในกลุ่ม การร่วมแรงร่วมใจกันแสดงบทบาทต่างๆ และความสนุกสนาน ประทับใจในมิตรภาพของ ผ้เู ข้ารว่ มโครงการทกุ ๆ คน ผลคะแนนการแสดงบทบาทสมมติในสถานการณจ์ าลอง กลุม่ สนี ้าตาล ๘๓ คะแนน กลุ่มสฟี ้า ๘๓ คะแนน กลุ่มสชี มพู ๘๒ คะแนน กลุ่มสีมว่ ง ๘๒ คะแนน กลุม่ สเี ขยี ว ๘๒ คะแนน กลมุ่ สสี ม้ ๘๕ คะแนน กลุ่มท่ีได้รับคะแนนสูงสุดจากการโหวตของผู้เข้าร่วมโครงการทุกคนในการแสดงบทบาทสมมติภายใต้ สถานการณจ์ าลอง (Simulation) ไดแ้ ก่ กลุ่มท่ี ๖ (สีสม้ )
37 กจิ กรรมสานสมั พันธบ์ ุคลากรฝ่ายนติ ิบัญญัติ “ASEAN Night” กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ “ASEAN Night” เป็นกิจกรรมการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับ ศิลปวัฒนธรรม การแต่งกายของชาติสมาชิกอาเซียน ในกิจกรรมน้ีมีการประกวดการแต่งกายชาติอาเซียน ซ่ึงผู้เข้าร่วมโครงการได้เข้าร่วมการประกวดการแต่งกายประเทศต่างๆ ได้แก่ การแต่งกายประเทศเวียดนาม ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศลาว ประเทศพม่า ประเทศไทย เป็นต้น ซึ่งได้สร้างความคิดสร้างสรรค์ ความสนุกสนาน และความประทบั ใจแก่ผรู้ ่วมโครงการ
38 สรปุ ผลแบบทดสอบความรูก้ ่อน – หลงั โครงการพัฒนาบุคลากรด้านประชาคมอาเซียน ประจาปี ๒๕๕๙ หลักสูตร การสรา้ งความรคู้ วามเขา้ ใจ ทกั ษะ สมรรถนะแกบ่ ุลากร ในดา้ นการสร้างทัศนคติเชิงบวก ระดับสากล (Internationalization Attitude) และความเขา้ ใจเรอื่ งการรวมกลุม่ แบบภมู ิภาคนยิ ม (Regionalism) สาหรับบคุ ลากรฝ่ายนิตบิ ญั ญัติ ระหว่างวันที่ ๒๐ – ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ณ โรงแรมรอยลั รเิ วอร์ กรงุ เทพมหานคร และโรงแรมแคปปติ อล เจ แอทเขาใหญ่ จงั หวดั นครราชสมี า แบบทดสอบก่อน – หลังเข้าร่วมกิจกรรม มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทดสอบความรู้ ท่ีได้จากการเข้าร่วมกิจกรรม ว่ามีความรู้ความเข้าใจมากน้อยเพียงใดในด้านการมีทัศนคติเชิงบวกในระดับ สากล ด้านพลังความคิดเพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพในการทางาน ด้านการนาเสนอและเจรจาต่อรองเพ่ือผลสัมฤทธ์ิ รวมถงึ ความเขา้ ใจเรือ่ งการรวมกล่มุ แบบภมู ภิ าคนิยม ผู้ทาแบบทดสอบก่อนเข้าร่วมกิจกรรม จานวน ๘๖ คน คิดเป็นร้อยละ ๗๑.๖๖ ของจานวนผู้เข้าร่วม กิจกรรมท้ังหมด และผู้ทาแบบทดสอบหลังเข้าร่วมกิจกรรม จานวน ๒๗ คน ทาการทดสอบแบบสอบถาม จานวน ๑๐ ข้อ ซึ่งคะแนนแบบทดสอบสามารถสรปุ ได้ ดงั น้ี แบบทดสอบก่อนเข้าร่วมกิจกรรม คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้คะแนนสูงสุด ๘ คะแนน และคะแนนตา่ สุด ๑ คะแนน คดิ เปน็ คา่ เฉลี่ยของคะแนนเท่ากับ ๔.๘๙ (X = ๔.๘๙) แบบทดสอบหลังเข้าร่วมกิจกรรม คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้คะแนนสูงสุด ๙ คะแนน และคะแนนตา่ สุด ๒ คะแนน คดิ เป็นค่าเฉลย่ี นของคะแนนเทา่ กบั ๕.๔๑ (X = ๕.๔๑) ดังนั้น เม่ือทาการทดสอบผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งก่อนและหลัง ทาให้ทราบว่ากลุ่มเป้าหมายมีความรู้ ความเข้าใจด้านการมีทัศนคติเชิงบวกในระดับสากล ด้านพลังความคิดเพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพในการทางาน ด้านการนาเสนอและเจรจาต่อรองเพื่อผลสัมฤทธิ์ รวมถึงความเข้าใจเร่ืองการรวมกลุ่มแบบภูมิภาคนิยมเพ่ิม มากขึน้ รอ้ ยละ ๑๐.๖๓ ตารางแสดงรายละเอยี ดของคะแนนการทดสอบกอ่ น – หลังเขา้ ร่วมโครงการ แบบทดสอบกอ่ น แบบทดสอบหลงั คะแนนทีไ่ ด้ จานวนผเู้ ขา้ รว่ มกจิ กรรม รอ้ ยละ คะแนนท่ไี ด้ จานวนผู้เข้ารว่ มกจิ กรรม รอ้ ยละ ๑ ที่ได้คะแนน (คน) ทไ่ี ด้คะแนน (คน) - ๒ ๓.๗ ๓ ๑ ๑.๒ ๑ - ๑๔.๘ ๔ ๑๘.๕ ๕ ๓ ๓.๕ ๒ ๑ ๒๕.๙ ๖ ๗.๔ ๗ ๗ ๘.๑ ๓ ๔ ๗.๔ ๘ ๑๑.๑ ๙ ๒๔ ๒๗.๙ ๔ ๕ ๑๑.๑ ๑๐ - รวม ๑๙ ๒๒.๑ ๕ ๗ ๑๐๐ ๒๓ ๒๖.๗ ๖ ๒ ๘ ๙.๓ ๗ ๒ ๑ ๑.๒ ๘ ๓ - -๙ ๓ - - ๑๐ - ๘๖ ๑๐๐ รวม ๒๗
39 ทั้งน้ีปัจจัยท่ีทาให้จานวนผู้ทาแบบทอสอบ หลัง มีจานวนน้อยกว่าแบบทดสอบ คือ การทา แบบทดสอบ ก่อน จะทาใน วันแรก ที่จัดกิจกรรม ณ โรงแรมรอยัลริเวอร์ ซึ่งมีจานวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมท้ังสิ้น ๑๒๑ คน แต่ในการเข้าร่วมกิจกรรมฝึกอบรมท่ีโรงแรมแคปปิตอลเจ แอทเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา มีผู้เข้าร่วม กจิ กรรมลดลงเหลอื เพียง ๖๔ คน ประกอบกับมีบางคนที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลและกลับก่อนช่วงเวลา การทาแบบทดสอบ จึงทาให้เก็บแบบทอสอบไดจ้ านวนน้อย สรปุ ภาพรวมประมวลผลความพึงพอใจและความไม่พึงพอใจ โครงการพัฒนาบคุ ลากรด้านประชาคมอาเซียน ประจาปี ๒๕๕๙ หลักสูตร การสร้างความรูค้ วามเขา้ ใจ ทักษะ สมรรถนะแกบ่ ลุ ากร ในด้านการสรา้ งทศั นคติเชงิ บวก ระดับสากล (Internationalization Attitude) และความเขา้ ใจเรอื่ งการรวมกลุ่มแบบภมู ภิ าคนิยม (Regionalism) สาหรับบุคลากรฝ่ายนิตบิ ญั ญตั ิ ณ โรงแรมรอยัลริเวอร์ กรุงเทพมหานคร และโรงแรมแคปปติ อล เจ แอทเขาใหญ่ จังหวดั นครราชสมี า การประมวลผลความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมายต่อการดาเนินโครงการพัฒนาบุคลากรด้านประชาคม อาเซียน ประจาปี ๒๕๕๙ หลักสตู ร การสร้างความรู้ความเข้าใจ ทักษะ สมรรถนะแก่บุลากร ในด้านการสร้าง ทัศนคติเชิงบวกระดับสากล (Internationalization Attitude) และความเข้าใจเร่ืองการรวมกลุ่มแบบภูมิภาค นิยม (Regionalism) สาหรบั บุคลากรฝา่ ยนติ ิบัญญัติ ระหวา่ งวันที่ ๒๐ – ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ โดยการเก็บ รวบรวมขอ้ มลู จากแบบสอบถาม ซ่งึ สามารถสรุปการประมวลผลออกเปน็ ๔ สว่ น ดังน้ี สว่ นท่ี ๑ ข้อมูลของผ้ตู อบแบบสอบถาม ๑.๑ กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ ๖๔.๓๐ และเป็นเพศชาย คิดเป็นร้อยละ ๓๕.๗๐ ๑.๒ กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่มีอายุโดยเฉล่ียเท่ากับ ๓๕.๒๕ ปี (X = 35.25) โดยมีอายุน้อยสุด เทา่ กับ ๒๓ ปี และมีอายมุ ากสุด เท่ากับ ๕๔ ปี ๑.๓ กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่มีการศึกษาในระดับปริญญาโท คิดเป็นร้อยละ ๗๑.๔๐ รองลงมาใน ระดบั ปริญญาตรี คดิ เป็นรอ้ ยละ ๒๘.๖๐ ตามลาดบั ๑.๔ กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่เคยเข้ารว่ มกิจกรรมของศูนย์ประชาคมอาเซยี นของสานักงานเลขาธิการ สภาผแู้ ทนราษฎร คิดเป็นร้อยละ ๖๔.๓๐ และไม่เคยเข้ารว่ มกจิ กรรมของศูนย์ประชาคมอาเซียนของสานักงาน เลขาธิการสภาผ้แู ทนราษฎร คิดเป็นร้อยละ ๓๕.๗๐ ตามลาดับ สว่ นที่ ๒ ความพึงพอใจ/ความร้คู วามเขา้ ใจ และการนาไปประยกุ ต์ใช้ ๒.๑ ความรู้ความเข้าใจในด้านการสร้างทัศนคติเชิงบวก (Internationalization Attitude) : แสดงผลความพงึ พอใจ/ความรคู้ วามเข้าใจ และการนาไปประยกุ ตใ์ ชข้ องกลุ่มเป้าหมาย ดงั นี้ ก่อนการสัมมนาฯ คา่ เฉลี่ยเท่ากับ ๒.๙๖ หรือคิดเป็นรอ้ ยละ 59.20 หลงั การสัมมนาฯ ค่าเฉลีย่ เทา่ กับ ๔.๒๑ หรือคิดเปน็ ร้อยละ 84.20 ๒.๒ ความรู้ความเข้าใจเร่ืองการรวมกลุ่มแบบภูมิภาคนิยม (Regionalism) : แสดงผลความพึงพอใจ /ความร้คู วามเขา้ ใจ และการนาไปประยกุ ต์ใชข้ องกลุ่มเปา้ หมาย ดังน้ี กอ่ นการสมั มนาฯ ค่าเฉลี่ยเทา่ กบั ๓.๑๑ หรือคิดเป็นร้อยละ 62.20 หลังการสมั มนาฯ คา่ เฉลย่ี เทา่ กบั ๔.๓๒ หรอื คิดเปน็ ร้อยละ 86.40
40 ๒.๓ ความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับสมรรถนะพิเศษของข้าราชการท่ีทางานเก่ียวข้องกับประชาคม อาเซียนและเส้นทางความกา้ วหน้าของสานกั งานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร : แสดงผลความพึงพอใจ/ความรู้ ความเขา้ ใจ และการนาไปประยุกตใ์ ช้ของกลมุ่ เปา้ หมาย ดงั น้ี กอ่ นการสมั มนาฯ คา่ เฉล่ยี เทา่ กบั ๒.๘๙ หรอื คดิ เปน็ รอ้ ยละ 57.80 หลังการสมั มนาฯ คา่ เฉลยี่ เทา่ กบั ๔.๒๙ หรอื คิดเปน็ รอ้ ยละ 85.80 ๒.๔ ความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับการขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนในบริบทนิติบัญญัติ : แสดงผลความพึง พอใจ/ความรู้ความเข้าใจ และการนาไปประยกุ ต์ใช้ของกล่มุ เปา้ หมาย ดังน้ี กอ่ นการสมั มนาฯ คา่ เฉลีย่ เทา่ กับ ๓.๐๐ หรอื คิดเปน็ ร้อยละ 60.00 หลงั การสมั มนาฯ คา่ เฉลยี่ เท่ากับ ๔.๓๖ หรอื คดิ เป็นรอ้ ยละ 87.20 ๒.๕ การนาความรู้ที่ได้รบั ไปประยุกต์กับการปฏิบัตงิ าน : แสดงผลความพึงพอใจ/ความรู้ความเข้าใจ และการนาไปประยุกต์ใชข้ องกลุ่มเปา้ หมาย ค่าเฉลยี่ เทา่ กบั ๔.๔๖ หรือคิดเปน็ รอ้ ยละ 89.20 *** ภาพรวมความพึงพอใจ/ความรู้ความเข้าใจ และการนาไปประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติงาน ของกลุ่มเป้าหมาย เฉลยี่ เท่ากบั 3.81 หรอื คิดเป็นรอ้ ยละ 76.20 สว่ นที่ ๓ ความพึงพอใจในการเข้าร่วมสมั มนา ๓.๑ ความพึงพอใจในด้านวิชาการ : แสดงผลความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมาย ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.17 หรอื คิดเปน็ รอ้ ยละ 83.40 ๓.๒ ความพงึ พอใจในด้านการมีสว่ นร่วม : แสดงผลความพึงพอใจของกลุ่มเปา้ หมาย ค่าเฉลยี่ เทา่ กับ 4.42 หรอื คิดเปน็ ร้อยละ 88.40 ๓.๓ ความพึงพอใจในด้านสถานที่/ระยะเวลา : แสดงผลความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมาย ค่าเฉล่ีย เทา่ กบั 4.13 หรือคิดเป็นร้อยละ 82.60 *** ภาพรวมความพึงพอใจในการเข้าร่วมสัมมนา ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.24 หรือคิดเป็นร้อยละ 84.80 สว่ นท่ี ๔ ข้อเสนอแนะ ดา้ นองคค์ วามรู้ กลุ่มเป้าหมายต้องการพัฒนาความรู้ ความเข้าใจในเร่ืองกฎหมายระหว่างประเทศที่เก่ียวกับ ประชาคมอาเซียน ตลอดจนสามารถนาไปใช้ได้อย่างเหมาะสม รวมถงึ การแลกเปลี่ยนความรู้ในการปฏิบตั ิงาน ท่ีเก่ียวข้องจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ซ่ึงจะสามารถเป็นส่วนหน่ึงในการส่งผลให้บุคลากรของสานักงาน เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเกิดความเข้าใจในการปฏิบัติงานและสามารถสนับสนุนการขับเคลื่อนภารกิจของ รัฐสภาทีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั การเขา้ ส่ปู ระชาคมอาเซยี นไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพและประสทิ ธิผลตอ่ ไป ด้านกจิ กรรม กลุ่มเป้าหมายต้องการให้มีการจัดโครงการพัฒนาบุคลากรด้านประชาคมอา เซียนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มเคร่ืองข่ายในการดาเนินงานของศูนย์ประชาคมอาเซียนท้ังภายในและภายนอกรัฐสภา ซ่ึงการจัด ฝึกอบรมอย่างต่อเน่ืองยังเป็นการสร้างกาลังใจและทัศนคติที่ดีในการทางาน อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มทักษะใน หน้าที่การงาน เนื่องจากการฝึกอบรมในแต่ละหลักสูตรจะสร้างความรู้ความชานาญทางวิชาการแก่บุคลากร ของสานักงาน รวมถึงช่วยให้บุคลากรของสานักงานรู้สึกผ่อนคลายจากสภาพวะตึงเครียดท่ีเกิดจากการทางาน
41 นอกจากน้ียังแสดงให้เห็นว่าสานักงานมีความใส่ใจและพร้อมส่งเสริมบุคลากรให้มีความก้าวหน้าในอาชีพการ งาน ซ่ึงทาให้บคุ ลากรมีกาลังใจทจ่ี ะทางานใหด้ มี ีประสิทธภิ าพเพ่ือสานกั งานมากขน้ึ ท้งั นี้ ประโยชนท์ ี่สานกั งาน จะไดร้ ับจากการจัดฝึกอบรมพนักงานอย่างต่อเนื่องทม่ี ีความสาคัญอกี ประเด็นคือ การนาโอกาสในการฝึกอบรม มาเป็นหน่ึงในตัวดัชนีช้ีวัดประสิทธิภาพทางาน (Key Performance Indicators – KPIs) ด้วย เพ่ือกระตุ้นใน องค์กรมคี วามพัฒนาอย่างยง่ั ยืน ตารางแสดงรายการประเมินความพึงพอใจต่อการดาเนนิ งาน โครงการพัฒนาบุคลากรดา้ นประชาคมอาเซียน ประจาปี ๒๕๕๙ หลักสตู ร การสร้างความรู้ความเข้าใจ ทกั ษะ สมรรถนะแกบ่ ลุ ากร ในดา้ นการสร้างทัศนคตเิ ชงิ บวก ระดบั สากล (Internationalization Attitude) และความเข้าใจเรอื่ งการรวมกลุม่ แบบภมู ิภาคนยิ ม (Regionalism) สาหรับบุคลากรฝ่ายนติ บิ ัญญตั ิ ณ โรงแรมรอยลั ริเวอร์ กรุงเทพมหานคร และโรงแรมแคปปติ อล เจ แอทเขาใหญ่ จังหวดั นครราชสีมา รายการประเมนิ ค่าเฉล่ยี แปร ความพงึ พอใจ ความหมาย ๑. ความรู้ความเขา้ ใจในด้านการสรา้ งทศั นคตเิ ชิงบวก (Internationalization Attitude) ๒.๙๖ ปานกลาง กอ่ นการสัมมนาฯ ๔.๒๑ สงู หลังการสัมมนาฯ 3.59 สงู เฉลย่ี ๓.๑๑ ปานกลาง ๒. ความรคู้ วามเข้าใจเร่อื งการรวมกล่มุ แบบภูมภิ าคนิยม (Regionalism) ๔.๓๒ สูง ก่อนการสมั มนาฯ 3.72 สูง หลังการสัมมนาฯ เฉลยี่ ๒.๘๙ ปานกลาง ๔.๒๙ สงู ๓. ความรคู้ วามเข้าใจเกี่ยวกบั สมรรถนะพเิ ศษของข้าราชการท่ที างานเก่ียวขอ้ งกับ 3.59 สงู ป ร ะ ช า ค ม อ า เ ซี ย น แ ล ะ เ ส้ น ท า ง ค ว า ม ก้ า ว ห น้ า ข อ ง ส า นั ก ง า น เ ล ข า ธิ ก า ร สภาผูแ้ ทนราษฎร ๓.๐๐ ปานกลาง ๔.๓๖ สงู กอ่ นการสัมมนาฯ 3.68 สงู หลังการสมั มนาฯ ๔.๔๖ สงู เฉล่ยี ๔.๑๔ สูง ๔. ความรคู้ วามเข้าใจเกยี่ วกบั การขบั เคล่ือนประชาคมอาเซียนในบรบิ ทนติ บิ ัญญตั ิ ๓.๙๓ สงู ๔.๑๔ สูง กอ่ นการสัมมนาฯ ๔.๒๑ สงู หลังการสมั มนาฯ เฉลีย่ ๕. ความรู้ที่ไดร้ บั ไปประยกุ ต์กับการปฏบิ ัตงิ าน ๖. ดา้ นวิชาการ ๑) เนือ้ หาการบรรยาย ๒) ระยะเวลาการบรรยาย ๓) วิทยากร/รปู แบบการบรรยาย ๔) เนอ้ื หาการเสวนา
Search