Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 03__ความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ

03__ความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ

Published by sutthirak_u, 2019-02-05 03:11:21

Description: 03__ความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ

Search

Read the Text Version

อาจารย์ ดร.สทุ ธริ กั ษ์ อ้วนศริ ิ สาขาวชิ าเคมี คณะวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั หมบู่ า้ นจอมบงึ

วัตถปุ ระสงคข์ องการมคี วามปลอดภยั ในหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร 1. เพอ่ื ใหเ้ กิดความปลอดภัยตอ่ เจา้ หน้าทผี่ ปู้ ฏิบัติงานในหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร รวมทงั้ ผู้ เยยี่ มชม 2. เพอื่ เตรียมอปุ กรณด์ า้ นความปลอดภัยให้พอเพียง ต่อผ้ปู ฏิบตั งิ านในหอ้ งปฏิบตั กิ าร 3. เพ่ือลดโอกาสในการสมั ผัสต่อสารเคมใี หอ้ ยูใ่ นระดบั ตา่ ทสี่ ดุ 4. เพื่อลดความเส่ยี งจากการเกดิ อุบตั ิภัยสารเคมขี น้ึ ในห้องปฏบิ ัตกิ าร 5. เพ่อื ป้องกันส่ิงแวดลอ้ มจากมลพิษสารเคมี และของเสียทเี่ กิดจากสารเคมีอนั ตราย 6. เพ่ือใหม้ กี ารตรวจสอบความปลอดภัยในหอ้ งปฏบิ ตั ิการอยา่ งสมา่ เสมอ 2

แผนสขุ อนามัยเคมี (Chemical Hygiene Plan) การจดั หาสารเคมี (Chemical procurement) 1. ข้อมูลเกีย่ วกับสารเคมี วิธกี ารจัดเก็บ และการจัดการของเสยี ทีเ่ กิดขึ้น 2. จดั ให้มกี ารบันทึกวนั ทท่ี ไ่ี ด้รบั สารเคมเี ขา้ มาในหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร 3. สารเคมที ่ียอมรับเพ่อื ใชใ้ นห้องปฏิบตั กิ าร ควรได้รบั ในบรรจภุ ัณฑ์ทีเ่ หมาะสม มี ฉลากระบรุ ายละเอยี ดทช่ี ดั เจน มเี อกสารขอ้ มลู ความปลอดภยั เคมภี ณั ฑ์ (Material safety data sheets) หรอื MSDS ไมค่ วรรบั สารเคมีกรณีท่บี รรจภุ ณั ฑม์ ีการชา่ รดุ ระหวา่ งการขนส่ง 3

4. ควรแจ้งให้เจ้าหนา้ ที่ในห้องปฏิบัตกิ ารได้ทราบกรณเี ปน็ สารเคมี อนั ตราย หรอื สารก่อมะเรง็ ซง่ึ จา่ เปน็ ตอ้ งมีวิธีการจดั เกบ็ เป็นพิเศษ และมกี ารใชส้ ารเคมอี ย่าง ถูกต้อง 4

การปฏบิ ัตงิ านทว่ั ไป  ตอ้ งรับทราบนโยบายด้านความปลอดภัย รวมทง้ั ต้องอ่านคู่มือความปลอดภยั ของ ห้องปฏิบตั ิการก่อนเริม่ ปฏบิ ัติงาน  ตอ้ งทราบอนั ตรายตา่ ง ๆ ทีอ่ าจเกดิ ขน้ึ และแนวทางป้องกนั กอ่ นเริ่มลงมอื ท่างาน โดยเฉพาะเม่ือตอ้ งเรม่ิ งานใหม่  ตอ้ งทราบต่าแหน่งของอปุ กรณ์ช่วยเหลือ และวิธกี ารปฏิบัตติ นทถี่ กู ต้องเมื่อไดร้ บั สารเคมี  ตอ้ งทราบวธิ ีการกา่ จัดของเสียท่เี หมาะสม เพอ่ื ป้องกันผลกระทบตอ่ สภาพแวดลอ้ ม 5

 ตอ้ งตรวจสอบวา่ ภาชนะบรรจสุ ารเคมีแต่ละตวั มปี ้ายและฉลากทถี่ ูกตอ้ ง ชัดเจน  การใชเ้ ครอื่ งมอื ตอ้ งเป็นไปตามลักษณะการใช้งานท่แี ทจ้ รงิ ของเครื่องมอื น้นั ๆ ไมค่ วรปฏิบตั ิงานโดยลา่ พัง กรณที ี่ต้องปฏิบตั ิงานทเ่ี กี่ยวข้องกับสารอนั ตราย  หา้ มมใิ หน้ ่าเขา้ มาเกบ็ หรือรบั ประทานอาหารในหอ้ งปฏบิ ตั ิการ  หา้ มมใิ หน้ ่าเครื่องแก้ว หรอื ภาชนะทใ่ี ชใ้ นหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารไปใช้เพอื่ การปรงุ อาหาร 6

 กรณีเกดิ กลิน่ ผดิ ปกติในหอ้ งปฏบิ ตั ิการควรแจ้งใหผ้ บู้ งั คับบญั ชาทราบโดยทันที  ไม่ควรใชภ้ าชนะแก้วทม่ี รี อยแตกรา้ ว  ควรสวมใสแ่ ว่นตา (Safety glasses) ตลอดเวลาทีป่ ฏิบัตงิ านในหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร  ไม่ควรใชม้ ือในการเกบ็ ภาชนะแกว้ ทีห่ ลน่ แตก ให้ใชไ้ ม้กวาดพนื้ และอุปกรณ์ท่า ความสะอาดท่เี หมาะสม  ใหร้ ายงานการเกดิ อบุ ัตเิ หตุใดๆท่ีเกิดข้นึ ภายในหอ้ งปฏบิ ตั ิการแกผ่ ้บู งั คบั บัญชา โดยทนั ที 7

การปฏบิ ัตงิ านทเี่ กยี่ วข้องกบั สารเคมี (Chemical handling)  การเตรียมสารเคมพี วกกรด ดา่ ง หรอื สารระเหย ควรท่าในตดู้ ดู ควนั  ห้ามเทน่้าลงกรด  ไม่ใช้จุกแกว้ กบั ขวดบรรจุสารละลายด่าง เพราะจุกจะตดิ กับขวดจนเปดิ ไม่ได้  ไม่ใชจ้ กุ ยางกบั ขวดบรรจตุ วั ท่าละลายอนิ ทรยี ์ เชน่ แอลกอฮอล์ อะซีโตน  ห้ามใช้เปลวไฟในการใหค้ วามรอ้ นแก่ของเหลวไวไฟ หรอื ในขบวนการกลน่ั  ให้ความระมัดระวงั ในการจุดไฟในห้องปฏิบตั ิการ ดับไฟทันทเี มอื่ เลกิ ใชง้ านไม่ ควรปล่อยให้ไฟตดิ ทิง้ ไว้โดยไมม่ ีคนดู  กอ่ นทจ่ี ะทา่ การจุดไฟ ควรย้ายวัสดไุ วไฟออกจากบรเิ วณดงั กล่าว นอกจากน้ี ควรแน่ ใจว่าได้ปดิ ภาชนะท่ีบรรจขุ องเหลวไวไฟอยา่ งดแี ลว้  ควรเกบ็ สารเคมไี วไฟในตูส้ า่ หรับเก็บสารเคมีไวไฟโดยเฉพาะ 8

 ใช้อุปกรณ์ไฟฟา้ ทีไ่ มก่ ่อให้เกดิ ประกายไฟ ในกรณีที่มสี ารระเหยไวไฟ (Volatile flammable material) ควรใช้ตดู้ ดู ควันในการถ่ายเท ผสม หรอื ให้ความรอ้ นสารเคมี กรณสี ามารถเลือกใชส้ ารเคมีได้ ควรเลือกใช้สารเคมีท่ีมคี วามเป็นพษิ น้อยที่สุด ใน ปรมิ าณน้อยทส่ี ดุ เทา่ ที่พงึ กระทา่ ได้  อ่านคมู่ อื และเพิ่มความระมดั ระวังเป็นพเิ ศษ เมือ่ ต้องปฏบิ ตั งิ านเกี่ยวข้องกับสาร กอ่ มะเรง็  หลกี เลีย่ งการสดู ดมไอระเหยของสารเคมี ห้ามทดสอบชนดิ ของสารเคมีโดยการดม กล่นิ โดยตรงอยา่ งเดด็ ขาด  การดดู สารละลายโดยใชป้ ิเป็ต ห้ามใช้ปากดดู ให้ใช้ลูกยาง 9

สุขอนามยั บคุ คล (Personal hygiene)  หากผวิ หนังถูกสมั ผสั โดยสารเคมี ตอ้ งล้างออกโดยทันทีดว้ ยน่า้ ประปา หรอื นา้่ สะอาด อยา่ งนอ้ ย 15 นาที  เมอื่ เลิกปฏบิ ัตงิ านในหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารควรลา้ งมือด้วยสบู่ และน่้าสะอาด  ห้ามด่ืม กิน เคยี้ วหมากฝรัง่ สบู บหุ รี่ หรอื แม้แตท่ าเครื่องส่าอางใน ห้องปฏบิ ตั ิการ  หา้ มน่าเครอ่ื งด่ืม อาหาร บุหร่ี และเคร่ืองสา่ อางเขา้ มาเกบ็ ในบริเวณ หอ้ งปฏบิ ัตกิ าร  หา้ มใช้เครื่องไมโครเวฟในหอ้ งปฏิบตั กิ ารเพ่อื เตรยี มกาแฟ อาหาร  หา้ มใชต้ ู้เยน็ ในห้องปฏิบตั กิ ารเพื่อเกบ็ อาหาร 10

การแตง่ กายของเจา้ หนา้ ทห่ี อ้ งปฏบิ ัตกิ าร  ควรใส่เครื่องแตง่ กายให้รดั กุมและเหมาะสม ไม่ควรใส่เส้อื ผา้ หลวม ผ้า คลมุ ผม  ควรใสเ่ สอื้ กาว แขนยาวตลอดเวลาทีป่ ฏิบัตงิ าน เพื่อปอ้ งกนั การ กระเซน็ ปนเปื้อนของสารเคมี  ไมค่ วรใส่กางเกงขาส้ัน หรือ กระโปรงสั้น  ไม่ควรใส่รองเท้าแตะในการปฏบิ ัตงิ าน  ไมค่ วรสวมเครื่องประดบั ในระหวา่ งปฏิบตั ิงาน เพราะอาจได้รับการปนเปอ้ื นของสารเคมี 11

เมือ่ ต้องปฏิบตั ิงานกับสารเคมีอันตรายควรสวมใสอ่ ุปกรณ์ป้องกนั ที่เหมาะสม (Personal protective equipment) เช่น ใส่ถุงมือทเ่ี หมาะสม และใสแ่ ว่นตา เพือ่ ปอ้ งกันการกระเซน็ ของสารเคมเี ข้าตา  ควรถอดถงุ มือท่ีใสร่ ะหว่างปฏิบัติการ เมือ่ ตอ้ งรับโทรศัพท์เพ่ือปอ้ งกนั การ ปนเปอื้ นของสารเคมี ไปยงั อปุ กรณ์ตา่ งๆ รวมทง้ั ควรถอดเสอ้ื กาว เมื่อออกจาก หอ้ งปฏิบตั ิการ เพื่อปอ้ งกันการแพรก่ ระจายของสารเคมจี ากหอ้ งปฏิบัติการ 12

การจดั การภายในอาคารปฏบิ ัตกิ าร (House keeping)  ควรช่วยกนั รักษาความสะอาดของพื้นทีท่ า่ งาน  ทา่ ความสะอาดพ้นื ทท่ี ่างานทุกคร้งั เมอื่ เสรจ็ ภารกจิ ในแต่ละวัน  ควรทิ้งขยะ และของเสยี ในภาชนะท่ีจัดเตรยี มไว้  ควรแยกเคร่อื งแกว้ แตก ในภาชนะรองรับทแ่ี ยกต่างหากจากของเสยี อน่ื ๆ  ไม่ควรเก็บสารเคมีในบริเวณทางเดิน บนั ได หรือวางบนพืน้  ภาชนะบรรจสุ ารเคมีทุกขวด ควรมีป้ายฉลากท่ีชดั เจน  เมอ่ื สิ้นสุดภารกจิ ในแตล่ ะวันควรเก็บขวดสารเคมี กลับเข้าที่ 13

 ของเสยี ที่เป็นสารเคมคี วรแยกเกบ็ พรอ้ มติดป้ายฉลากระบุชนดิ ของ สารเคมใี ห้ชดั เจน  จัดให้มีการทา่ ความสะอาดห้องปฏบิ ัตกิ ารเป็นประจ่า  กรณที ่มี ีการหกของสารเคมีต้องท่าความสะอาดโดยทันที 14

ความรทู้ ว่ั ไปเกีย่ วกบั สารเคมี เกรดของสารเคมี (Chemical grade) เกรดของสารเคมสี ามารถแบง่ ได้หลายระดบั เช่น 1. ACS certified grade มคี ณุ ภาพตามมาตรฐาน American Chemical Society ใชใ้ นหอ้ งปฏิบตั ิการโดยท่วั ไป 2. Reagent grade มคี ณุ ภาพสูง มีมาตรฐานเทียบเทา่ ACS 3. Technical grade นิยมใช้ในงานทางอุตสาหกรรม 4. Practical or Purified grade มีสิ่งเจอื ปนบา้ ง มกั ใช้เฉพาะงาน ทางการศึกษาและงานทางอนินทรีย์เคมี (Inorganic chemical) 5. Primary standard grade มีคุณภาพสงู ใชใ้ นการเตรียม สารละลายมาตรฐาน 15

สารเคมีอนั ตราย (Chemical hazard) สารเคมีอันตราย หมายถึง สารเคมีท่ีมีหลักฐานท่ีเชื่อถือได้ว่าก่อให้เกิด ผลกระทบตอ่ สุขภาพ ทงั้ ผลกระทบอยา่ งฉับพลัน หรือ เรื้อรัง มักรวมถึงสารท่ี ก่อให้เกิดมะเร็ง (Carcinogen) สารพิษที่ก่อให้เกิดผลต่อระบบสืบพันธ์ุ (Reproductive toxins) สารท่ีก่อให้เกิดการระคายเคือง (Irritants) สารท่ี ส่งผลต่อระบบเลอื ด ระบบประสาท เป็นตน้ 16

สารเคมอี นั ตราย (ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย วา่ ดว้ ยความปลอดภัย ในการท่างานเก่ยี วกบั สารเคมีอนั ตราย) หมายถึง สารประกอบ สารผสม ซ่งึ อย่ใู นรูปของของแข็ง ของเหลว และ กา๊ ซ ทม่ี ีลักษณะอยา่ งใดอย่างหนงึ่ หรอื หลายอยา่ งดังตอ่ ไปน้ี 1. มีพษิ กดั กรอ่ น ระคายเคอื ง ทา่ ให้เกิดอาการแพ้ ก่อมะเร็ง หรือ ทา่ ให้ เกดิ อันตรายตอ่ สุขภาพ อนามัย 2. ท่าใหเ้ กดิ การระเบดิ เป็นตวั ทา่ ปฏกิ ิรยิ าที่รุนแรง เปน็ ตัวเพิม่ ออกซเิ จน หรอื ไวไฟ 3. มีกมั มันตภาพรงั สี 17

ตวั อยา่ งสารเคมใี นหนว่ ยงานของสา่ นกั วจิ ยั และพฒั นาประมงชายฝง่ั ท่จี ัดเปน็ สารเคมีอนั ตรายตามประกาศกระทรวงมหาดไทย Acetic acid Chloroform Potassium hydroxide Acetone Hexane Potassium permanganate Acetonitrile Iodine Pyridine Ammonia Hydrochloric acid Rotenone Ammonium nitrate Methanol Sodium azide Ammonium fluoride Nitric acid Sodium carbanate Ethyl acetate Oxalic acid Sodium dichromate Ethyl alcolhol Phenol Sodium fluoride Calcium chloride Phosphoric acid Sodium hydroxide Calcium hydroxide Potassium chromate Sodium hypochlorite Calcium hypochlorite Potassium dichromate Sodium nitrate Calcium oxide Potassium hydroxide Sodium sulphide Cadmium dust Potassium nitrate Sulfuric acid Xylene 18

การแยกประเภทสารเคมี (Classification of chemicals) 1. สารทกี่ อ่ มะเรง็ (Carcinogens) ข้อมลู เก่ียวกับสารกอ่ มะเร็ง สามารถสบื คน้ ได้จาก  IARC (The International Agency for Research on Cancer) ซึ่งเป็น หน่วยงานภายใต้องคก์ รอนามยั โลก ( World Health Organization) http://www.iarc.fr  สถาบนั ความปลอดภยั ในอาชพี และสขุ ภาพแหง่ ชาติ (National Institute for Occupational Safety and Health) หรือ NIOSH หน่วยงานภายใตก้ รมสขุ ภาพและบริการ (Department of Health and Human Service) ประเทศสหรฐั อเมรกิ า http://www.cdc.gov/niosh/npotocca.html 19

สารก่อใหเ้ กดิ มะเรง็ (Carcinogen) ตามมาตรฐาน NIOSH ท่ีพบในหอ้ งปฏบิ ัติการสงั กดั ส่านกั วจิ ัยและพัฒนาประมงชายฝง่ั ชนิด วัตถุประสงคใ์ นการใช้ แคดเมีย่ มผง วิเคราะห์ไนเตรทในน่า้ ใยแกว้ (Glass wool) วเิ คราะหไ์ นเตรทในนา่้ Chloroform - ยาสลบปลา - สกัด DNA ในการท่า PCR Potassium dichromate - วิเคราะห์ Organic carbon ในดิน - วเิ คราะห์ COD ในน้่า Formaldehyde รกั ษาโรคปรสติ สติ ปลา 20

2. สารเคมที เี่ ปน็ สารพษิ (Toxic chemicals) สารทเ่ี ข้าสู่รา่ งกายแลว้ ท่าให้เกดิ ความเสียหายต่อ โครงสรา้ งของอวัยวะต่าง ๆ ของรา่ งกายและ/หรอื ทา่ ลายระบบตา่ ง ๆ ภายในร่างกายจนไมส่ ามารถ ท่างานตอ่ ไปได้ สารเหลา่ น้ี อาจเขา้ สรู่ า่ งกายไดโ้ ดย  การกิน  การหายใจ  การซมึ ผา่ นทางผิวหนัง  การฉดี เข้าร่างกาย 21

ตัวอยา่ งลกั ษณะความเสียหาย Benzene อาการเฉยี บพลนั : รู้สกึ คัน เวยี นศรี ษะ อาการเรอื้ รัง : ปอดบวม เป็นโรคเม็ดโลหติ จาง ถึงตายได้ กรดซลั ฟรู กิ , โซเดียมไฮดรอกไซด์ 50%, สารกัดกร่อน อืน่ ๆ : ทา่ ใหผ้ วิ หนังไหมห้ รืออวยั วะถกู กัดกร่อน คลอรนี : ท่าลายปอด ท่าใหป้ อดไม่สามารถท่าหน้าท่ี แลกเปลีย่ นออกซเิ จนต่อไปได้ 22

หลกั เกณฑท์ ใี่ ช้พจิ ารณาความเปน็ พษิ ของสารเคมี TLV (Threshold limit values) & PEL ( Permissible exposure limits)  ก่าหนดระดบั ความเขม้ ข้นของสารเคมสี ูงสดุ ทม่ี ไี ดใ้ นอากาศ  สารเคมีถูกจัดเปน็ สารพษิ (Toxic chemicals) เมือ่ มีคา่ TLV หรอื PEL ต่ากว่า 50 ppm LD50 (Lethal dose)  LD50 เปน็ การระบุความเขม้ ขน้ ของสารเคมที ่ีให้สตั ว์ทดลองตายลง 50 % โดยสัตว์ทดลองไดร้ บั สารเคมีนน้ั โดยการกนิ การฉีด หรือการดูดซึม (Absorption) หรอื การหายใจ 23

LC50 (Lethal concentration)  LC50 เปน็ การระบคุ วามเข้มข้นของสารเคมที ี่ให้สัตวท์ ดลองตายโดยการหายใจ เท่านั้น ปกติคา่ เหลา่ น้จี ะมีระบอุ ย่ใู นข้อมูลความปลอดภัยเคมีภัณฑ์ (MSDS) ของ สารเคมีน้ันๆ Website : http://msds.pcd.go.th/ 24

3. สารเคมไี วไฟ (Flammable chemicals)  สารเคมีไวไฟหมายถงึ สารเคมที ีม่ จี ุดวาบไฟ (Flash point) ที่อุณหภมู ิต่า กว่ากว่า 93.3 °C ถือเป็นสารเสยี่ งตอ่ การตดิ ไฟและอาจกอ่ ให้เกดิ ความ เสยี หายจากเพลงิ ไหม้ได้ การจัดเกบ็ สารเคมีไวไฟควรเก็บในตเู้ ก็บสารเคมสี า่ หรบั สารเคมไี วไฟ เทา่ นัน้ 25

สารเคมที ต่ี ดิ ไฟเองได้ (Pyrophorics) ตามมาตรฐานของ US OSHA (United States Office of Occupation Safety and Administration) ได้แก่ สารเคมที ่ีสามารถตดิ ไฟ (ignition)ได้เองทอ่ี ณุ หภมู เิ ทา่ กบั หรอื ตา่ กวา่ 54.4 °C สารในกลมุ่ นี้มกั ทา่ ปฏกิ ิรยิ ารุนแรงกบั น่า้ (Water reactive) และตดิ ไฟเมอื่ สัมผัสกบั น้่า หรอื อากาศชืน้ ปฏกิ ิรยิ าทเี่ กิดขึ้นจะเร็วหรอื ชา้ ขน้ึ กับชนิดของสารเคมี ตวั อย่าง สารเคมีประเภทนี้ ไดแ้ ก่ sodium, calcium, magnesium เปน็ ต้น สารเคมบี างตัวสามารถติดไฟขึน้ เองได้ เมื่ออุณหภูมภิ ายนอกถึงจดุ สนั ดาปของ สารเคมีน้ัน โดยไมต่ อ้ งอาศัยอปุ กรณ์อน่ื ช่วย สารเคมีเหล่านไี้ ด้แก่ sodium, potassium, phosphorus เป็นตน้ 26

4. สารเคมที ไ่ี วตอ่ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี (Reactive chemicals) ท่าปฏิกิริยารุนแรง ปล่อยความร้อนหรือแก๊ส ปริมาณมากอย่างรวดเร็ว จนถ่ายเทหรือกระจายสู่ สิ่งแวดล้อมไมท่ ัน ทา่ ให้ควบคุมสถานการณ์ไมไ่ ด้ สารระเบดิ ได้ (Explosive) สารไวต่อน้า่ (Water-sensitive) สารไวต่ออากาศ (Air-sensitive) 27

สารระเบดิ ได้ (Explosive) สารเคมีทีก่ อ่ ใหเ้ กดิ การระเบดิ เม่ือไดร้ บั ความรอ้ น แสง หรอื ตวั เร่ง (catalyst) ไดท้ ่พี บในหอ้ งปฏิบัติการ ไดแ้ ก่ สารประกอบในกลุ่ม nitrate, chlorate, perchlorates, picrate นอกจากนั้นสารประกอบของโลหะเช่น ผงแมกนีเซียม หรอื ผง สงั กะสี เม่อื ผสมกับอากาศ กส็ ามารถระเบดิ ไดเ้ ช่นกัน สารไวตอ่ นา่้ (Water-sensitive) สารเคมที ไ่ี วตอ่ ปฏกิ ริ ยิ ากบั น่า้ เกิดปฏิกิริยารนุ แรง โดยเฉพาะเม่อื มี น้า่ อยูจ่ ่ากัด สารเคมีในกลุ่มน้ี เช่น สาร Alkali และ สาร Alkali earth เชน่ potassium, calcium สารในกลุ่ม Anhydrous metal halides เช่น Aluminum bromide, Germanium chloride เปน็ ตน้ 28

สารไวตอ่ อากาศ (air-sensitive) สารเคมใี นกลุม่ น้ี ท่าปฏิกิริยาอย่างช้า ๆ กับออกซิเจนในอากาศ โดย มแี สง และความร้อนเป็นตวั เร่งปฏิกริ ยิ าเกิดเปน็ สารเปอร์ออกไซด์ ซึ่งสามารถ ก่อให้เกิดการระเบิดรุนแรงได้ การน่าสารเคมีในกลุ่มน้ีมาใช้ต้องแน่ใจว่า ปราศจากสารเปอร์ออกไซด์ บางห้องปฏิบัติการก่าหนดระยะเวลาจัดเก็บ สารเคมีในกล่มุ น้ีเป็นรายสารเคมี 29

5. สารเคมีทม่ี ฤี ทธก์ิ ดั กรอ่ นและอนั ตรายตอ่ การสมั ผสั (Corrosive chemicals and contact hazard chemicals)  หมายถึง สารเคมีที่มผี ลทา่ ลายหรอื เปลยี่ นแปลงเซลล์สง่ิ มชี วี ติ รวมถึง สารเคมที สี่ ามารถกัดกร่อนโลหะอีกด้วย  สารในกลุ่มนี้ กอ่ ใหเ้ กิดการระคายเคอื งตอ่ ระบบทางเดนิ หายใจ ท่าลายเย่อื บุผิวหนัง และเยอ่ื บตุ า  การปฏบิ ัตงิ านกบั สารในกลุ่มนคี้ วรท่าในตดู้ ดู ควัน 30

1. กรดแก่ หรือ กรดเขม้ ขน้ ทกุ ชนดิ สามารถกอ่ ใหเ้ กดิ การระคายเคอื งต่อผวิ หนงั และ เย่ือบตุ า เฉพาะอยา่ ง ยิง่ กรดไนตรคิ กรดโครมิค และ กรดไฮโดรฟลูออริค ทัง้ นก้ี ารเคลอ่ื นย้ายกรด เหลา่ น้คี วรใส่ถุงมือยาง ผ้ายางกันเป้อื น รวมท้งั ควรใสห่ น้ากากปอ้ งกนั ไอระเหย 2. ด่างแก่ เช่น sodium hydroxide, potassium hydroxide, ammonia สาร เหลา่ นี้ มีฤทธริ์ ะคายเคืองตาสงู ดังน้นั การเคลอ่ื นยา้ ยสารเคมีในกลมุ่ น้ตี ้องใส่ อุปกรณ์ป้องกันเชน่ เดียวกนั กบั การเคล่ือนยา้ ยกรดแก่ 31

3. สารเคมีที่ดูดน่้า (Dehydrating agent) สารเคมีในกล่มุ นี้ท่สี ่าคัญ ได้แก่ กรดก่ามะถนั (sulfuric acid), sodium hydroxide, Phosphorus pentoxide และ calcium oxide สารเหล่านี้หาก สมั ผัสผิวหนงั กอ่ ใหเ้ กดิ อาการไหมข้ องผิวหนังได้ 4. สารออกซไิ ดซ์ (Oxidizing agent) ได้แก่ สารท่ีเป็นตัวรับอีเล็คตรอน (Electron acceptor)ในปฏิกิริยา หรืออีกความหมายหนึ่งเป็นตัวให้ออกซิเจน สารเคมีในกลุ่มน้ี เช่น สารประกอบ Hypochlorite, permanganate และ เปอร์-ออกไซด์ เป็นต้น เน่ืองจากสารเคมี ในกลมุ่ นเ้ี ปน็ ตวั ให้ออกซเิ จน จงึ สามารถเป็นตัวเร่งให้เกิดการสันดาป หรือเผาไหม้ ได้ 32

ขอ้ มูลความปลอดภยั เคมภี ณั ฑ์ของ Material safety data sheet ( MSDS) เอกสารข้อมลู ความปลอดภยั ของสารเคมี 1) ช่ือสาร สูตร และ Cas No. ข้อมูลเกี่ยวกบั สารเคมี และบริษัทผู้ผลิตหรือ จา่ หน่าย 2) ส่วนประกอบและขอ้ มลู เกยี่ วกบั ส่วนผสม 3) ขอ้ มูลระบคุ วามเปน็ อันตราย 4) มาตรการปฐมพยาบาล 5) มาตรการผจญเพลิง 6) มาตรการจัดการเมื่อมีอุบัตเิ หตกุ ารหกรวั่ ไหล 7) ขอ้ ปฏิบัติในการใช้และการเกบ็ รกั ษา 8) การควบคมุ การสัมผัสสาร/การป้องกนั ส่วนบุคคล 33

9) สมบตั ทิ างกายภาพและทางเคมี 10) เสถียรภาพและความไวตอ่ การเกิดปฏิกิริยา 11) ขอ้ มูลทางพษิ วิทยา 12) ขอ้ มลู ทางนเิ วศวทิ ยา 13) มาตรการการกา่ จดั 14) ขอ้ มลู การขนสง่ 15) ขอ้ มูลเกี่ยวกับกฎระเบยี บและขอ้ กา่ หนดทีเ่ ก่ียวขอ้ ง 16) ข้อมลู อ่ืน ๆ 34

ฐานข้อมลู MSDS  ฐานขอ้ มลู ของศนู ยข์ อ้ มลู วัตถอุ นั ตรายและเคมีภณั ฑ์ของกรมควบคุมมลพิษ http://msds.pcd.go.th  ฐานขอ้ มูลอาชวี อนามยั และความปลอดภัยเกี่ยวกับการใชส้ ารเคมีของกรมอนามยั กระทรวงสาธารณสขุ http://www.anamai.moph.go.th  ฐานข้อมูลการจดั การความรู้เรือ่ งความปลอดภยั ดา้ นสารเคมี ของจฬุ าลงกรณ์ มหาวทิ ยาลยั http://www.chemtrack.org  website ต่างประเทศท่ีให้บรกิ ารขอ้ มูล MSDS เชน่ http://www.SIRI.org 35

ตวั อยา่ ง MSDS: Acetic acid 1. Acetic acid (aqeous) ; Methanecarboxylic acid ชือ่ เคมี IUPAC : Ethanoic acid ช่ือเคมที ว่ั ไป : Acetic acid (aqeous) ; Methanecarboxylic acid ช่ือพอ้ งอน่ื ๆ : Glacial acetic acid ; Ethylic acid; Vinegar acid; Vinegar; Methanecarboxylic acid; TCLP extraction fluid 2; Shotgun; Glacial acetic acid; Acetic acid, solution, more than 10% but not more than 80% acid; 36

C2H2O2 รหสั EC NO.607-002-00-6 สูตรเคมี รหสั RTECS AF 1225000 ช่ือวงศ์ กรดอนินทรยี ์ IMOCAS No. 64-19-7 UN/ID No.2789, 2790 รหัส EUEINECS/ELINCS200-580-7 ช่ือผู้ผลิต/นา่ เขา้ TEXACO CHEMICAL INC. แหล่งข้อมลู อ่นื ๆ - 37

2. การใชป้ ระโยชน์ (Uses) ใช้เปน็ สารเคมใี นหอ้ งปฏบิ ัติการ, ใช้ในการสังเคราะหส์ าร 3. คา่ มาตรฐานและความเปน็ พษิ (Standard and Toxicity) LD50 (มก./กก.): 3310 ( หนู) LC50 (มก./ม3): 13825.2 / 1ชัว่ โมง ( หนู) IDLH (ppm) : 50 ADI (ppm) : - MAC (ppm) : - PEL- TWA (ppm) : 10 PEL-STEL (ppm) : - PEL-C (ppm) : - TLV-TWA (ppm) : 10 TLV-STEL (ppm) : 15 TLV-C (ppm) : - 38

สัมผสั ทางผิวหนัง - การสัมผสั ถกู ผิวหนังจะก่อให้เกดิ การระคายเคือง เจ็บปวด เป็น ผ่นื แดง และบวม มีอาการแสบไหม้ เกิดเป็นตุม่ ตามผิวหนงั และเน้ือเยอื่ ถูกทา่ ลาย กินหรือกลืนเข้าไป - การกลืนกินเข้าไปท่าให้แสบไหม้ปาก คอ และปวดท้อง เจ็บ หน้าอกคลนื่ ไส้ อาเจยี น ทอ้ งร่วง กระหายน้่า อ่อนเพลีย และเป็นแผลในท้อง ท่าให้ อาเจยี น และท่าลายปอด 4. อันตรายต่อสขุ ภาพอนามยั (Health Effect) สมั ผัสทางหายใจ - การหายใจเอาไอ ละอองหรือฝุ่นเข้าไปท่าใหแ้ สบไหม้จมูก คอและ ตา ไอ แน่นหน้าอก และหายใจติดขัด การสัมผัสเป็นเวลานานท่าให้มีอาการ cyanosis (ผิวหนังและริมฝีปากเป็นสีเขียวคล้่า) โรคปอดอักเสบ ท่าลายปอด หรือ เสียชวี ิตได้ 39

สัมผสั ถกู ตา - การสัมผัสถกู ตาจะท่าใหเ้ กดิ การระคายเคอื ง เจบ็ ปวด น่า้ ตาไหล ท่าให้ตาบวม เป็นผืน่ แดง และแสบไหม้ตา ถ้ารนุ แรงอาจท่าใหต้ าบอดไดก้ ารกอ่ มะเรง็ ความผิดปกติอื่นๆ - การหายใจเอาสารเข้าไปนานๆ จะท่าลายปอด ถ้าถูก ผิวหนังเป็นเวลาติดต่อกัน ท่าให้เป็นโรคผิวหนัง เป็นโรคหลอดลมอักเสบ โรค ปอด ทา่ ลายฟนั ไต 5. การปฐมพยาบาล (First Aid) หายใจเข้าไป : ให้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกสู่บริเวณที่มีอากาศบริสุทธิ์ถ้าผู้ป่วย หยดุ หายใจให้ชว่ ยผายปอด ถา้ หายใจลา่ บากใหอ้ อกซิเจน ส่งไปพบแพทยท์ นั ที 40

กนิ หรือกลนื เข้าไป : ถ้าผู้ป่วยยังมีสติให้ดื่มน้่า อย่ากระตุ้นให้เกิดการอาเจียน แต่ ถ้าเกิดการอาเจียนข้ึนให้ด่ืมน้่าอีก น่าส่งไปพบแพทย์ทันที ห้ามไม่ให้สิ่งใดเข้าปาก ผู้ปว่ ยทหี่ มดสติ สัมผัสถูกผิวหนัง : ให้ฉีดล้างผิวหนังทันทีโดยให้น้่าไหลผ่านอย่างน้อย 15 นาที พร้อมถอดเสื้อผ้า และรองเท้าท่ีปนเปื้อนสารเคมีออก น่าส่งไปพบแพทย์ ซักท่า ความสะอาดเสือ้ ผ้า และรองเท้ากอ่ นน่ากลับมาใช่ใหม่ สัมผัสถูกตา : ให้ฉีดล้างตาโดยให้น่้าไหลผ่านอย่างน้อย 15 นาที กระพริบตาถี่ๆ อย่าให้น้่าลา้ งตาไหลผา่ นหน้า ถ้ายงั มอี าการระคายเคืองอยใู่ หล้ ้างซา้่ อีก 15 นาที 41

9. คณุ สมบตั ทิ างกายภาพและเคมี (Physical and Chemical Properties) สถานะ : ของเหลว สี : ใส กลิ่น : กรด นน.โมเลกลุ : 60 จุดหลอมเหลว/จุดเยอื กแขง็ (°C) : 62 จุดเดือด (°C) : 224 ความถว่ งจา่ เพาะ (นา่้ =1) : 1.05 ความหนาแนน่ ไอ (อากาศ=1) : 2 ความหนืด (mPa.sec) : 1.53 ความดันไอ (มม.ปรอท) : 11 ท่ี 68 °C ความสามารถในการละลายน่้าท่ี (กรัม/100 มล.) : 100 ที่ °C ความเปน็ กรด-ดา่ ง (pH) : 2.5 ที่ 20 °C ข้อมูลทางกายภาพและเคมีอ่นื ๆ : 42

3, 5, 10, 11 & 13 การเกดิ อคั คภี ยั และการระเบดิ (Fire and Explosion) จดุ วาบไฟ (°C) : 42.77 จดุ ลกุ ตดิ ไฟไดเ้ อง (°C) : 426.66 คา่ LEL % : 4 UEL % : 16 - สารนเ้ี ป็นของเหลวไวไฟ - สารท่าปฏกิ ริ ิยารนุ แรงกบั นา่้ อาจเป็นอันตรายต่อบุคคล - สารดบั เพลิง : ผงเคมแี หง้ โฟม คาร์บอนไดออกไซด์ ใช้นา่้ ฉีดหล่อเยน็ ภาชนะบรรจุท่ี สมั ผสั เพลงิ ไหม้ - ในกรณเี กดิ เพลิงไหม้ ใหผ้ ูด้ ับเพลงิ สวมใสอ่ ุปกรณป์ ้องกันอันตรายที่มีเครอ่ื งชว่ ยหายใจ ในตัว - ควรอยู่เหนอื ลมหลกี เลี่ยงไอของสาร - ทา่ ความสะอาด หรือก่าจัดเส้อื ผ้าท้ิงไป 43

12. ผลกระทบตอ่ สง่ิ แวดลอ้ ม (Environmental Impacts) - สารนี้สามารถเกดิ การยอ่ ยสลายทางชวี ภาพได้สงู สามารถกา่ จัดได้อยา่ งงา่ ยดาย - เปน็ พิษต่อสง่ิ มีชวี ติ ในน่า้ ส่งผลเปน็ อนั ตรายเนอ่ื งจากการเปล่ยี นแปลง pH แม้ ในสภาพเจอื จาง - ไม่ส่งผลต่อสิง่ แวดล้อมหากมีการใชแ้ ละจัดการผลิตภัณฑอ์ ย่างเหมาะสม 44

16. เอกสารอา้ งองิ 1. \"Chemical Safety Sheet ,SamsomChemical Publisher ,1991 ,หนา้ 3 \" 2. \"NIOSH Pocket Guide to Chemical Hazards.US.DHHS,1990 ,หน้า 2 \" 3. \"Lange'SHandbook of Chemistry McGrawHill,1999 ,หน้า 1.76 \" 4. \"Fire Protection Guide to Hazardous Material ,NFPA ,1994 ,หนา้ -“ 5. \"ITP. SAX'S Dangerous Properties of Industrial Materials ,1996 , หน้า 1 6. \"สอป.มาตรฐานสารเคมีในอากาศและดชั นวี ดั ทางชวี ภาพ ,นา่ อักษรการพิมพ์ , 2543 , หนา้ 16 \" 7. http://www.cdc.gov/NIOSH ,CISC Card. , 0363 8. \"Firefighter 's Hazardous Materials Reference Book ,1997 ,หน้า 3 \" 9. \" ACGIH. 2000 TLVsand BEIsThreshold Limit Values for ChemicalSubstances and Physical Agents ,and Biological Exposure IndicesOhio.,2000 ,หนา้ 13 \" 10. Source of Ignition หนา้ 70 \" 11. \"อ่ืน ๆ\" http://chemtrack.trf.or.th\" 45

เคร่อื งหมายเตอื นสารเคมอี นั ตราย 46

เคร่อื งหมายเตอื นสารเคมอี นั ตราย วตั ถุระเบิด : ระเบิดได้เมื่อถูกกระแทกเสียดสี หรือ ความร้อน เชน่ ทีเอ็นที ดนิ ปนื พลไุ ฟ ดอกไม้ไฟ ก๊าซไวไฟ : ติดไฟง่ายเม่ือถูกประกายไฟ เช่น ก๊าซ หุงต้ม ก๊าซไฮโดรเจน ก๊าซมีเทน ก๊าซ อะเซทลี ีน ก๊าซพิษ : อาจตายไปเม่ือสูดดม เช่น ก๊าซคลอรีน ก๊าซ แอมโมเนยี ก๊าซไฮโดรเจนคลอไรด์ 47

ก๊าซไม่ไวไฟ, ไม่เป็นพิษ : อาจเกิดระเบิดได้ เม่ือถูก กระแทกอย่างแรก หรือได้รับความร้อนสูงจากภายนอก เ ช่ น ก๊ า ซ อ อ ก ซิ เ จ น ก๊ า ซ ไ น โ ต ร เ จ น เ ห ล ว ก๊ า ซ คาร์บอนไดออกไซด์ ของเหลวไวไฟ : ติดไฟงา่ ยเม่อื ถูกประกายไฟ เช่น น้า่ มัน เชื้อเพลิง ทนิ เนอร์ อะซโิ ตน ไซลิน ของแข็งไวไฟ : ลุกติดไฟง่าย เม่ือถูกเสียดสี หรือความ ร้อนสูงภายใน 45 นาที เช่น ผงก่ามะถัน ฟอสฟอรัส แดง ไม้ขีดไฟ 48

วตั ถทุ ถี่ กู นา่้ แลว้ ใหก้ า๊ ซไวไฟ : เช่น แคลเซียมคารไ์ บด์ โซเดยี ม วัตถทุ เี่ กดิ การลกุ ไหม้ไดเ้ อง : ลุกตดิ ไฟไดเ้ มื่อสัมผสั กับ อากาศภายใน 5 นาที เช่น ฟอสฟอรสั ขาว ฟอสฟอรสั เหลือง โซเดียมซลั ไฟต์ 49

สารเรง่ การตดิ ไฟหรอื วตั ถอุ อกซไิ ดซ์ : ไมต่ ดิ ไฟแตช่ ่วยให้ สารอน่ื เกดิ การลุกไหม้ได้ดีขึน้ เป็นสารท่สี ามารถให้ ออกซิเจนออกมาเร่งการลกุ ไหม้ เมอื่ สัมผสั กับสารไวไฟ เช่น ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ โปแตสเซียมคลอเรต แอมโมเนยี มไนเตรท ออร์แกนิคเปอร์ออกไซด์ : อาจเกิดระเบิดได้เมื่อถูกความ ร้อนไวต่อการกระทบและเสียดสที ่าปฏกิ รยิ ารนุ แรงกบั สาร อื่น ๆ เชน่ อะซิโตนเปอร์-ออกไซด์ 50


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook