หนงั สือเรียนสาระความรู้พ้นื ฐาน รายวชิ าภาษาองั กฤษในชีวิตประจาวนั (English in Daily Life) (พต21001) ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย สานักงานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ ห้ามจาหน่าย หนงั สือเรียนเลม่ น้ีจดั พิมพด์ ว้ ยเงินงบประมาณแผน่ ดินเพอื่ การศึกษาตลอดชีวิตสาหรับประชาชน ลิขสิทธ์ิเป็นของ สานกั งาน กศน. สานกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ เอกสารทางวชิ าการลาดบั ท่ี 5/2555
หนงั สือเรียนสาระความรู้พ้ืนฐาน รายวชิ าภาษาองั กฤษในชีวติ ประจาวนั (พต21001) (English in Daily Life) ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560 ลิขสิทธ์ิเป็นของ สานกั งาน กศน. สานกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ เอกสารทางวชิ าการหมายเลข 5/2555
คํานํา กระทรวงศึกษาธกิ ารไดประกาศใชห ลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 เมือ่ วันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2551 แทนหลกั เกณฑแ ละวธิ กี ารจดั การศึกษานอกโรงเรียนตามหลกั สตู รการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2544 ซึง่ เปน หลักสตู รทพ่ี ฒั นาขน้ึ ตามหลักปรชั ญาและความเชอ่ื พืน้ ฐานในการจดั การศกึ ษา นอกโรงเรยี นท่ีมีกลุมเปา หมายเปนผใู หญมกี ารเรียนรแู ละส่ังสมความรแู ละประสบการณอ ยา งตอ เนอื่ ง ในปง บประมาณ 2554 กระทรวงศกึ ษาธกิ ารไดกาํ หนดแผนยทุ ธศาสตรในการขับเคล่ือนนโยบายทางการ ศึกษาเพื่อเพ่ิมศักยภาพและขีดความสามารถในการแขง ขันใหป ระชาชนไดมอี าชีพที่สามารถสรางรายไดท่ีมั่งค่ัง และมนั่ คง เปนบคุ ลากรทม่ี วี นิ ัย เปย มไปดว ยคณุ ธรรมและจรยิ ธรรม และมจี ติ สาํ นึกรบั ผิดชอบตอ ตนเองและผอู นื่ สํานกั งาน กศน. จงึ ไดพจิ ารณาทบทวนหลักการ จุดหมาย มาตรฐาน ผลการเรยี นรูที่คาดหวงั และเนอ้ื หาสาระ ท้งั 5 กลุมสาระการเรยี นรู ของหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551ใหม คี วาม สอดคลองตอบสนองนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ซ่ึงสงผลใหตองปรับปรุงหนังสือเรียน โดยการเพ่ิมและ สอดแทรกเนอื้ หาสาระเกยี่ วกบั อาชีพ คุณธรรม จริยธรรมและการเตรียมพรอมเพื่อเขาสูประชาคมอาเซียน ใน รายวชิ าทม่ี ีความเก่ียวของสัมพันธกัน แตยังคงหลักการและวิธีการเดิมในการพัฒนาหนังสือที่ใหผูเรียนศกึ ษา คน ควาความรดู ว ยตนเอง ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม ทําแบบฝกหดั เพื่อทดสอบความรคู วามเขา ใจ มกี ารอภปิ รายแลกเปลยี่ น เรียนรูก บั กลุม หรอื ศึกษาเพ่ิมเติมจากภมู ปิ ญ ญาทองถน่ิ แหลง การเรยี นรูและสื่ออน่ื การปรับปรงุ หนังสอื เรยี นในครง้ั นี้ ไดร ับความรว มมอื อยา งดีย่งิ จากผทู รงคณุ วุฒิในแตละสาขาวชิ า และ ผเู กย่ี วขอ งในการจัดการเรยี นการสอนทศ่ี ึกษาคน ควา รวบรวมขอ มูลองคค วามรูจากสอื่ ตา ง ๆ มาเรยี บเรยี งเนอื้ หา ใหครบถว นสอดคลองกับมาตรฐาน ผลการเรยี นรูท่คี าดหวัง ตัวชี้วัดและกรอบเน้อื หาสาระของรายวชิ า สาํ นกั งาน กศน.ขอขอบคุณผูมีสวนเก่ยี วขอ งทกุ ทา นไว ณ โอกาสน้ี และหวงั วาหนงั สอื เรียนชดุ น้ีจะเปน ประโยชนแ กผ เู รยี น ครู ผูสอน และผูเก่ียวของในทุกระดบั หากมีขอเสนอแนะประการใด สํานักงาน กศน. ขอนอมรับดวยความ ขอบคณุ ยงิ่
สารบัญ หนา คํานาํ 1 คําแนะนาํ การใชหนงั สอื เรียน โครงสรา งรายวิชา พต21001 ภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจาํ วนั 2 15 บทท่ี 1 การใชภ าษาในการส่อื สารความหมายในชีวติ ประจาํ วนั 20 (Language in Daily Life) 25 เรอื่ งที่ 1 การทักทายและการกลา วลา (Greeting and Leave Taking) 32 เร่ืองท่ี 2 การแนะนาํ ตนเองและผอู ื่น (Introducing Yourself and Others) เรือ่ งท่ี 3 การใหแ ละการสอบถามขอ มลู สวนตัว (Sharing Personal Data) เรอ่ื งท่ี 4 การใชภาษากาย (Body Language) เรื่องท่ี 5 การพูดโทรศพั ท (Telephone Conversation) บทที่ 2 คุณรสู กึ อยา งไร (How do you feel?) 43 เรอ่ื งท่ี 1 ภาพยนตรเ รือ่ งนีเ้ ปนอยางไรบาง (How about the movie?) 44 เรอ่ื งที่ 2 คณุ สนใจอะไร (What are you interested in?) 48 เร่ืองท่ี 3 เสียใจดว ยนะ (Sorry to hear that.) 52 เรื่องท่ี 4 ยนิ ดดี ว ย (Congratulations!) 57
บทท่ี 3 คณุ คดิ อยา งไร (What do you think?) หนา เร่อื งท่ี 1 ฉนั ควรสวมใสช ุดไหนดี สําหรบั งานเล้ยี งตอ นรบั 62 (Which dress should I wear to the welcome party?) 63 เรื่องท่ี 2 เดนิ ซื้อของ (Shopping) เรื่องที่ 3 การใหบริการดา นตา ง ๆ (Various Services) 67 เรื่องที่ 4 ขอโทษ (Excuse me) 73 83 บทท่ี 4 รปู แบบประโยคในภาษาองั กฤษ (Types of English Sentence) 96 เร่ืองที่ 1 ชนดิ ของประโยคภาษาองั กฤษท่ีใชในการส่อื สาร 97 (Types of English Sentence for communication) เรอ่ื งที่ 2 ประโยคความรวม (Compound Sentence) 117 บทที่ 5 อดีตกาล (Past Tense) 127 เรื่องที่ 1 ทบทวนการใช Present Simple Tense, Present Continuous Tense 128 และ Future Simple Tense เรื่องท่ี 2 Past Simple Tense 149 เรอ่ื งท่ี 3 Past Continuous Tense 159 บทท่ี 6 อาชีพพนักงานขับรถรับจา ง 165 เร่ืองท่ี 1 การพดู ภาษาองั กฤษตามมารยาทสงั คม และเหมาะสม กบั สถานการณ 166 เรื่องท่ี 2 การพดู แสดงความรสู กึ และแสดงความคดิ เห็น 170 เรื่องท่ี 3 การพูดแสดงความชวยเหลอื 173
เรื่องท่ี 4 การขออนญุ าต 175 เร่ืองที่ 5 การพดู แทรกอยา งสภุ าพ 176 บทที่ 7 ภาษาองั กฤษสาํ หรับพนกั งานบรกิ ารในสถานทต่ี าง ๆ 181 เร่ืองท่ี 1 การใหบ ริการ ณ สถานบริการประเภทตา ง ๆ (Various Services) 182 เฉลยแบบฝก หัด 193 บรรณานกุ รม 213 คณะผูจัดทาํ 217
คาํ แนะนาํ ในการใชห นังสอื เรยี น หนังสือสาระความรูพื้นฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษในชีวิตประจําวัน (พต21001) เปนหนงั สอื เรียนทจี่ ดั ทําขน้ึ สําหรบั ผเู รยี นทเ่ี ปนนกั ศกึ ษานอกระบบ ในการศึกษาหนังสือสาระความรูพ้ืนฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษในชีวิตประจําวัน (พต21001) ผูเรียนควรปฏิบตั ิดังน้ี 1. ศกึ ษาโครงสรา งรายวิชาใหเ ขา ใจในหัวขอ และสาระสําคัญ ผลการเรียนรูที่คาดหวังและ ขอบขา ยเนอื้ หาของรายวิชานั้น ๆ โดยละเอยี ด 2. ศึกษารายละเอยี ดเน้ือหาของแตละบทอยางละเอียดและทํากิจกรรมตามที่กําหนดแลว ตรวจสอบกับแนวตอบกิจกรรมทายเลม ถาผูเรียนตอบผิดควรกลับไปศึกษาและทํา ความเขาใจในเน้อื หานั้นใหมใหเ ขาใจกอ นทีจ่ ะศกึ ษาเรอ่ื ง ตอ ๆ ไป 3. ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมทา ยเร่อื งของแตละเรือ่ ง เพ่อื เปนการสรปุ ความรู ความเขา ใจของเนื้อหาใน เรอ่ื งนัน้ ๆ อกี ครัง้ และการปฏิบัตกิ ิจกรรมของแตล ะเนื้อหา แตล ะเรอื่ ง ผูเรียนสามารถ นาํ ไปตรวจสอบกับครแู ละเพ่อื น ๆ ที่รวมเรียนในรายวิชาและระดบั เดยี วกันได 4. แบบเรยี นเลมนมี้ ี 5 บท คอื บทที่ 1 การใชภ าษาทา ทางในการสื่อความหมายในชีวิตประจําวัน (Language in Daily Life) บทที่ 2 คณุ รสู ึกอยางไร (How do you feel?) บทท่ี 3 คณุ คดิ อยางไร (What do you think?) บทท่ี 4 รูปแบบประโยคในภาษาอังกฤษ (Types of English Sentence) บทที่ 5 อดีตกาล (Past Tense) บทท่ี 6 อาชพี พนักงานขับรถรับจา ง บทท่ี 7 ภาษาองั กฤษสําหรบั พนกั งานบรกิ ารในสถานทต่ี าง ๆ
1 บทที่ 1 การใชภ าษาในการส่อื ความหมายในชวี ติ ประจาํ วัน (Language in Daily Life) สาระสาํ คัญ สงั คมโลกทุกวันนีม้ ีการตดิ ตอส่ือสารกนั อยา งกวางขวาง ไมวา จะเปนการตดิ ตอดวย ตนเอง หรอื ตดิ ตอ ทางโทรศพั ท ทางอนิ เทอรเ น็ต ภาษาองั กฤษเปนภาษาสากลท่สี ําคญั ซงึ่ คนสวนใหญใน โลกใชใ นการติดตอ สื่อสารรองลงมาจากภาษาจีน อยางไรก็ตามแมวาภาษาอังกฤษจะเปนภาษาท่ีจําเปน ในยุคปจจุบนั แตก็มไิ ดหมายความวา ทกุ คนจะรแู ละเขา ใจภาษาอังกฤษไดทง้ั หมด การสนทนาโดย ใชภ าษาทา ทางประกอบจงึ เปน เรอื่ งจาํ เปน อีกอยางหน่งึ ทจ่ี ะชว ยใหค สู นทนา เขา ใจและสื่อความหมาย ในชีวิตประจําวนั ได ผลการเรียนรทู ค่ี าดหวงั ผเู รยี นสามารถฟง พูด อาน เขยี นภาษาอังกฤษในสถานการณตาง ๆ โดยใชสถานการณ จําลองและ/หรือสือ่ ที่เหมาะสม ขอบขายเนื้อหา เรอื่ งที่ 1 การทักทายและการกลา วลา (Greeting and Leave Taking) เร่ืองที่ 2 การแนะนาํ ตนเองและผอู ่ืน (Introducing Yourself and Others) เรื่องท่ี 3 การใหแ ละการสอบถามขอ มลู สว นตัว (Sharing Personal Data) เร่อื งที่ 4 การใชภ าษากาย (Body Language) เรื่องท่ี 5 การพดู โทรศพั ท (Telephone Conversation)
2 เรอ่ื งท่ี 1 การทักทายและการกลาวลา (Greeting and Leave Taking) ตามปกติในชวี ติ ประจาํ วนั เม่ือเราพบผูคนในท่ตี าง ๆ เราจะตอ งมีการทักทายและกลา วลากัน ใหเหมาะสมตามโอกาส ในภาษาองั กฤษมีวธิ กี ารทกั ทาย (Greeting) และกลาวลา (Leave taking) กนั อยางไรบา ง 1. การทกั ทาย (Greeting) ถา เปน คนทค่ี ุนเคยและสนิทสนมกนั มักจะใชคาํ วา Hello หรอื Hiซงึ่ แปลวา สวสั ดี แตการทกั ทายอยา งเปนทางการสาํ หรบั ผไู มคนุ เคยกนั หรืออยใู นสถานภาพ ทแี่ ตกตา งกนั เชน เจา นายกับลูกนอ ง ครูกบั ลกู ศิษย จะใชค ําวา Good morning. (สวสั ดีตอนเชา ) Good afternoon. (สวสั ดีตอนกลางวัน) และ Good evening. (สวสั ดีตอนเยน็ ) ตอดว ยคาํ ทกั ทายวา How are you? (คุณสบายดหี รอื ) ซงึ่ คสู นทนาก็จะตอบและถามกลับในทาํ นองเดยี วกนั Situation 1 Suda : Hi, Malee. How are you? Malee : Fine, thanks. And you? Suda : Very well, thank you.
3 ในสถานการณน ้ี สดุ ากบั มาลเี ปน เพือ่ นกนั เม่ือพบกนั กท็ กั ทายและถามทุกขสขุ ซง่ึ กนั และกันกอ น Situation 2 Wichai : Hi, Mana. Mana : Hi, Wichai. How are you? Wichai : I'm fine, thanks. And you? Mana : Fine, thanks. ในสถานการณน ี้ วิชยั กบั มานะเปน เพ่ือนกัน เม่ือพบกันก็สอบถามทุกขส ขุ ซึง่ กนั และกนั เชนเดียวกนั Situation 3 Suda : Good morning, Miss Kaewta. Kaewta : Good morning. How about your homework?
4 Suda : I've done all. I'll hand you now. ในสถานการณน ี้ สดุ าพบครแู กว ตากท็ ักทายวาสวสั ดี (ตอนเชา ) ครแู กว ตาก็กลา ววา สวัสดี (ตอนเชา ) เพอื่ ทักทายตอบและถามเรอื่ งการบาน ซง่ึ สุดาก็ตอบวา ทาํ เสรจ็ แลว และจะสงครเู ดี๋ยวน้ี สําหรบั ชวงเวลาของการกลาวคําทักทายในภาษาองั กฤษ แบง ออกไดเปน 3 ชว งดงั นี้ Good morning. ใชค ําทักทายในตอนเชา ตั้งแตหลงั เท่ียงคนื เวลา 00.00 น. ถึงตอนเทย่ี งวัน 12.00 น. Good afternoon. ใชค ําทกั ทายในตอนหลังเท่ียงวนั ถึงกอ นพระอาทติ ยต ก Good evening. ใชคาํ ทกั ทาย หลังเวลา 17.00 น. หรือหลงั ดวงอาทิตยตก เปน ตน ไป สาํ นวนที่ใชสอบถามทกุ ขสขุ วา เปนอยา งไรบา งเมื่อพบกนั ในภาษาองั กฤษนยิ มใช หลายสาํ นวนดว ยกนั เชน How are you? How are you today? สบายดไี หม / เปนอยางไรบา ง How are you doing? How have you been? สบายดีไหม/เปนอยางไรบา ง (ใชใ นกรณีทไ่ี มไ ดพ บเจอกันเปน เวลานาน) นอกจากนี้ ยังมีสาํ นวนที่ใชก นั อกี ดงั น้ี How is it up? (How's it up?) หมูนีเ้ ปน อยา งไร What is up? (What's up?) สํานวน How are you? ใชทักทายอยางเปนทางการ สวนสํานวนอ่ืน ๆ ใชทักทาย อยางไมเ ปนทางการ
5 สาํ นวนที่ใชตอบรับถึงการสอบถามทุกขส ขุ วา เปนอยา งไรเมือ่ พบกนั เชน Fine, thank you. And how are you? สบายดี ขอบคณุ แลวคณุ ละ Very well, thanks. How about you? สบายดมี าก ขอบคณุ แลว คณุ ละ Great, thanks. How about you? So so. ก็เรอื่ ย ๆ นะ I'm quite well, thank you. And you? สบายดนี ะ ขอบคณุ แลว คณุ ละ Not quite well, I have a cold. And you? ไมส บายนกั เปนหวดั แลว คณุ ละ กจิ กรรม เม่อื ผเู รยี นศกึ ษาเนอ้ื หารายละเอยี ดเรือ่ งการทกั ทายแลว ใหฝ ก ปฏบิ ตั แิ ละทบทวน ดงั ตอ ไปน้ี 1. ใหจ ับคฝู ก สนทนา โดยแสดงบทบาทสมมติ ดังนี้ 1.1 เปน Suda กับ Malee ตาม Situation 1 1.2 เปน Wichai กับ Mana ตาม Situation 2 1.3 เปน Suda กบั Kaewta ตาม Situation 3 2. ใหฝกเขียนบทสนทนาท้งั 3 Situation อยา งละ 2 บท โดยใหก าํ หนดช่อื คสู นทนา ดว ยตนอง และใชสาํ นวนทแ่ี ตกตา งกนั 2. การกลาวลา (Leave Taking) โดยปกติ กอนจะจบสิ้นการสนทนาตามมารยาทและ ธรรมเนียมปฏิบัติของคนท่ัวโลก ไมวาจะเปนประเทศใดก็ตาม ส่ิงสําคัญประการหนึ่งที่ไมสามารถ ละเลยได คอื การกลา วลา (Leave Taking) โดยทัว่ ไป สาํ นวนที่ใชใ นการกลาวลา ไดแก Goodbye, Bye แปลวา ลากอน
6 นอกจากนีย้ งั มสี าํ นวนทีใ่ ชใ นการกลา วลาอนื่ ๆ อกี ซึ่งจะใชตามสถานการณต า ง ๆ ท่เี กดิ ขึน้ เชน See you. แลว เจอกนั ใหม See you later. แลว พบกนั ใหม So long. ลาที (คนสนิท) I'll be seeing you. แลว คอ ยพบกนั ใหม Good day. กลา วลาตอนกลางวัน Good night. กลา วลาตอนกลางคนื Situation 1 Suda : Hello, Mana. Mana : Hello, Suda. How are you? Suda : Fine, thanks. And you? Mana : Very well, thanks. Where's Malee? Suda : She goes to the hospital. Mana : What's happened? Suda : She accompanies her mother to see the doctor. Mana : Please tell her, I miss her. I've to go now. Goodbye.
7 Suda : See you later. สํานวน See you laterใชในกรณีท่ีไมไดระบุเวลา ในกรณีที่ผูสนทนาตองการกลาวลา โดยการระบุเวลาท่จี ะพบกันอีกครงั้ หนง่ึ แนน อน ใหใ ชสาํ นวน ดังน้ี See you tomorrow. แลว พบกนั วนั พรงุ น้ี See you next year. ไวพบกนั ปหนา See you on Sunday. แลว พบกนั วันอาทิตย การบอกลาในกรณที ีม่ ธี รุ ะสาํ คญั ทจ่ี ะตองขอลากลับกอน ใชสาํ นวนดงั นี้ I'd better be on my way. จําเปนจะตองไปแลว I'll be back. เดีย๋ วฉนั จะกลบั มา Situation 2 รูปภาพ Kaewta : I'll teach the supplementary lessons on Saturday. Malee : That's a very kind of you. Kaewta : It's my pleasure. Goodbye. Malee : See you on Sunday.
8 การกลา วลาคสู นทนา เพื่อแสดงความหว งใย ใชสํานวน ดงั น้ี Take care. ดแู ลตวั เองใหด ีนะ Take care of yourself. การบอกลาคสู นทนาท่กี าํ ลงั จะไปงานเล้ียงหรือไปเที่ยว ใชส าํ นวนดงั น้ี Have a good time. ขอใหมีความสุขนะ Have a nice time. Have a pleasant trip. เดินทางใหส นกุ /ปลอดภยั นะ Have a nice trip. Have a good holiday. ขอใหส นุกสนานในวนั หยุดนะ Have a nice holiday. Situation 3 รปู ภาพ Wichai : Hi, Suda. How are you doing? Suda : Not so well, thanks, and you? Wichai : Fine, What's happened? Suda : I catch a cold. I have to see the doctor now. Goodbye. Wichai : Take care of yourself, Malee.
9 Situation 4 รปู ภาพ Wichai : Hi, Malee. Malee : Hi, Wichai. What's up? Wichai : Very well, thanks. How about you? Malee : Fine, thanks. I'll go to Chiangmai to see the little panda. Wichai : How nice! Malee : I've to go now. I'll buy something at the department store. Bye Wichai Have a good time. การบอกลาหรอื อวยพรคูสนทนาทจี่ ะเขาสอบหรือเสยี่ งโชค ใหใชส าํ นวนดงั น้ี Good luck. ขอใหโชคดี การบอกลาคสู นทนาในกรณีทตี่ องจากกนั ไปไกล ใหใชสาํ นวนดังน้ี Don't forget me. อยาลมื ฉนั นะ Don't forget to write. อยา ลืมเขียนจดหมายสง ขา วถงึ กนั นะ Drop me a line. เขียนจดหมายมาบา งนะ
10 การบอกลาคสู นทนาทม่ี าเย่ียมบา น ใหใชส าํ นวนดงั น้ี Please come again. โปรดแวะมาอีกนะ We look forward to seeing you again. พวกเรารอคอยทจ่ี ะพบคุณอกี นะ Situation 5 รูปภาพ Mana : When will you leave for England? Wichai : Next week. You can visit me if you have time. Mana : I love to. Have you already prepared all things? Wichai : Yes. I'll go to say goodbye to all of my cousins during these days I'm afraid I have to go now. Bye. Mana : Don't forget to write. ขอ สังเกต คําศพั ทแ ละสาํ นวนที่สาํ คัญในเรอื่ งน้ี คอื 1. to accompany เปน คาํ กริยา (Verb) หมายถงึ ไปดว ยกนั 2. pleasure เปนคาํ นาม (Noun) หมายถงึ ความพงึ พอใจ 3. pleasant เปน คําคุณศพั ท (Adjective) หมายถงึ เปนทพี่ งึ พอใจ 4. to look forward to เปนสํานวนท่ตี อ งตามดว ยกริยา ing (V.ing) เทานน้ั (to look forward to + V.ing) หมายถงึ ตัง้ ตารอ
11 กจิ กรรม 5. to leave for เปน คํากรยิ า หมายถงึ เดินทางไปยงั ..... ถาใช to leave โดยไมม ี for หมายถึง เดินทางจากที่หน่งึ ไปยงั ทีอ่ ื่น 1. ใหผเู รียนฝกพูดและเขยี นคาํ กลา วลาในแตละสถานการณ 2. เพ่อื จะไดนาํ ไปใชไดถ กู ตอ งและเหมาะสม ใหท ําแบบฝก หัดตอ ไปนี้ Exercise 1 Choose the best answer. Jaew : Hi, Toy. Toy : _______ (1) _______. How have you been? Jaew : _______ (2) _______. And you? Toy : Good, thanks. _______ (3) _______. Jaew : I've changed my work. Now I'm with Jook. Toy : ______ (4) _______. I hope you enjoy it. Jaew : I think so. I'm afraid I have to go now. I've a meeting this afternoon. ___________ (5)____________. Toy : See you later. 1. a. Hi. b. Hi. Jaew. c. Good morning. d. Good morning, Jaew. 2. a. Very well. b. Very well, thank. c. Very well, thanks.
12 d. Very well, Toy. 3. a. How does your work? b. How about your work? c. How do you do your work? d. How are you doing your work? 4. a. How nice! b. How good! c. How's that! d. How about! 5. a. Bye. b. See you. c. Good luck. d. I'll be back. Exercise 2 Choose the best answer. 1. Pom : Hi, Jun. How's life? Jun : ________________. a. I'm fine, thank you. b. Very well, thanks, and you? c. Fine, thanks. d. Nothing to complain.
13 2. Nooch : ____________________. Lak : I'm O.K. a. Good morning, Madam. How are you keeping? b. Good morning, Miss Lak. How are you today? c. Hello, lady. How are everything? d. Hello, Lak. How are you doing? 3. Ton : What's wrong with you, Sommai? Sommai : _______________________ a. I'm not so well. I catch a cold. b. I'm O.K. I'll go to see the doctor. c. Nothing to complain. I have a toothache. d. So, so. My leg is broken. 4. Tui : My mother is waiting for me at the bus stop. I have to go now, bye! Kaew : ___________________________ a. See you. b. Take care. c. Have a good time. d. Please come again.
14 5. Mr.Ya : I'm sorry. I have to leave for Chiangmai now. Goodbye! Miss Pattana : __________________________________________ a. See you later. b. Please come again. c. Have a nice trip. d. Take good care of yourself.
15 เร่ืองท่ี 2 การแนะนาํ ตนเองและผูอื่น (Introducing Yourself and Others) เมือ่ คนพบกันครั้งแรก การแนะนําตนเองใหบ ุคคลอืน่ รจู กั เปนสิ่งสาํ คญั และจําเปนกอนจะ สนทนาพูดคยุ กนั ในเรื่องอื่น ๆ ซง่ึ การแนะนาํ ตนเองและผูอ่นื ในภาษาอังกฤษมสี ํานวนท่ีใชก นั ดงั น้ี 1. การแนะนาํ ตนเอง (Introducing Yourself) ในการแนะนาํ ตนเองใหผูอนื่ รูจกั จะเรมิ่ ตน ดว ยการกลา วทักทายและแนะนําตนเองดว ยสาํ นวนตา ง ๆ ดงั นี้ Hello. My name is (ชอื่ ของผูพูด) . (สําหรบั ผทู อ่ี ยใู นสถานะเดยี วกนั เชน เปนนักศกึ ษาดว ยกนั เปนตน) Hi. I'm (ชอื่ ของผพู ูด). (สาํ หรบั ผทู ีอ่ ยใู นวยั เดยี วกนั ) Good morning. My name is (ช่ือของผูพูด). สวสั ดฉี นั /ผม/ดิฉนั ชื่อ____ Good morning. I'm (ชือ่ ของผพู ดู ). (สาํ หรบั การพูดคยุ อยา งเปน ทางการ) หากตองการบอกชือ่ เลน ใหท ราบดวยกอ็ าจพูดวา Hello. My name is (ชอื่ ของผพู ูด) and my nickname is (ชอ่ื เลน ของผพู ดู ). เมอ่ื กลา วแนะนาํ ตวั แลว คูส นทนาจะตอบวา It's nice to meet you. Nice to meet you. ยินดที ่ีไดร ูจักคณุ I'm glad to meet you.
16 I'm glad to see you. Situation 1 รปู ภาพ Suda : Hi. I'm Suda. What's your name? Malee : Hi. My name is Malee. Suda : Nice to meet you. Malee : Nice to meet you, too. Situation 2 รปู ภาพ กิจกรรม Wichai : Hello. I'm Wichai, my nickname is Chai. Mana : Hello. My name is Mana and my nickname is Na. 1. Wichai : I'm glad to meet you. Mana : I'm glad to meet you, too. ใหผ ูเรยี นจบั คูสนทนา โดยแสดงบทบาทสมมตุ ดิ ังตวั อยา งทงั้ 2 สถานการณ
17 2. ใหฝ กเขยี นบทสนทนาทัง้ 2 Situations โดยใหกําหนดชอ่ื ผสู นทนาดว ยตนเอง 2. การแนะนําผูอื่น (Introducing Others) ในสภาพความเปนจริงของสังคม การพบปะ สังสรรคระหวางกลมุ เพือ่ นหรือบุคคลท่ีทํางานในท่ีเดียวกันตองเกิดขึ้นอยูตลอดเวลา การแนะนํา บุคคลอนื่ ใหรูจ ักกันจงึ เปน เรอ่ื งปกติที่เกดิ ข้ึนอยูเสมอ ในสังคมชาวตะวันตกถอื เปนธรรมเนียมปฏิบัติ วา หากจะพดู คุยระหวา งบุคคลทไ่ี มร จู ักจะตอ งไดรับการแนะนําใหรจู ักกนั เสยี กอ น ยกตัวอยาง เชน สุดาตองการแนะนาํ ใหมาลรี ูจ กั กบั สุวฒั น สุดาตองกลา วแนะนาํ ดงั นี้ Suda : Malee, this is Suwat. Suwat, this is Malee. (มาลนี ่ีคือคณุ สวุ ัฒน คณุ สวุ ัฒนนคี่ อื คุณมาล)ี นอกจากน้ี ยงั มีสาํ นวนท่สี ามารถใชกลา วแนะนาํ ใหบ คุ คลรจู ักอกี เชน Suwat, I'd like to introduce you to Miss Malee. (สวุ ฒั น ผมขอแนะนาํ ใหค ุณรจู กั คุณมาล)ี Suwat, let me introduce Miss Malee to you. (สุวฒั น ผมขออนญุ าตแนะนาํ ใหค ุณรจู กั กบั คณุ มาล)ี Suwat, this is my friend, Miss Malee. (สวุ ัฒน น่คี อื เพื่อนของผม คณุ มาล)ี เม่ือมีการแนะนําใหบ คุ คลหนึ่งรจู ักกับอีกบคุ คลหนึง่ ผทู ี่ไดรบั การแนะนาํ จะทักทาย กลบั วา How do you do? Nice to meet you. ยนิ ดีท่ีไดร ูจ กั Glad to meet you. และคสู นทนากจ็ ะกลา ววา How do you do? Nice to meet you, too. ยินดที ่ไี ดร จู กั เชน กนั Glad to meet you, too.
18 ตวั อยา งบทสนทนาในการแนะนาํ ผูอ นื่ ในสถานการณตาง ๆ ดงั นี้ Situation 1 รปู ภาพ Suda : Suwat, I'd like to introduce you to may friend, Miss Malee. Suwat : How do you do, Miss Malee? Malee : How do you do, Mr.Suwat? Situation 2 รูปภาพ Wichai : Mana, this is Malee, my friend. Mana : How do you do, Miss Malee? Malee : How do you do, Mr. Mana?
19 กจิ กรรม ใหผ ูเ รียนทําแบบฝกหัดตอ ไปน้ี Exercise Fill in the blank with correct expression. 1. Busaba : Suree, this is Dara. Suree : Nice to meet you. Dara : ____________________________ 2. Ta : Took,________________________ Took : Hello, Tik. Tik : Hi, Took. 3. Pom : Pook, this is Pom. Pook : ____________________________ Pom : Nice to meet you too. 4. Mr. Joe : Mr. John, _____________________ Mr. John : How do you do? Mrs. Roger : How do you do? 5. Miss. Agner : Mrs. Johnson, may I introduce you to Mr. Anderson. Mrs. Johnson : _______________________________________ Mr. Anderson : _______________________________________
20 เร่ืองที่ 3 การใหแ ละสอบถามขอ มลู สวนตัว (Sharing Personal Data) เมื่อคสู นทนาไดทกั ทายแลวก็จะมีการพูดคุยและแลกเปลี่ยนขอมูลซ่ึงกันและกัน การสอบถาม ขอมูลสวนตัวถือไดวาเปนการทําความรูจักกันใหมากข้ึน ขอมูลสวนตัวจะประกอบดวย ชื่อ นามสกุล ชอื่ เลน วัน เดอื น ปเ กิด อายุ สญั ชาติ ท่ีอยู ครอบครวั อาชีพ งานอดิเรก ฯลฯ 1. การถามช่ือ คุณชอ่ื อะไร A : What's your name? B : My name is (ชอื่ ผตู อบคาํ ถาม). หรอื I'm (ชือ่ ผูต อบคําถาม). 2. การถามชื่อบุคคลท่ี 3 A : Who's that? นน่ั ใคร B : He/She is (ชอื่ ของบุคคลนนั้ ๆ). 3. การถามวนั /เดอื น/ปเกิด A : When were you born? คุณเกดิ เมื่อไร B : I was born on Oct 24, 1987. (กรณที บ่ี อกวันเกิดดว ย ใหใ ช Preposition on) I was born in June, 1987. (กรณบี อกเฉพาะเดอื นเกิดใหใช Preposition in)
21 4. การถามสว นสูง/น้าํ หนัก คุณสงู เทาไร A : How tall are you? ฉันสงู 175 ซม. B : I'm 175 centimeters tall. คณุ หนักเทา ไหร A : How much do you weigh? ฉันหนกั 60 กิโลกรมั B : I weigh about 60 kilograms. 5. การถามสญั ชาติ คุณมสี ญั ชาตอิ ะไร A : What is your nationality? ฉันสญั ชาติไทย B : I'm Thai. ฉันสญั ชาตแิ คนาดา I'm Canadian. ฉันสญั ชาตอิ เมรกิ ัน I'm American. 6. การถามที่อยู A : Where do you live? คณุ อาศยั อยูท่ไี หน B : I live on Sukhumvit Road. (ชื่อถนนใช Preposition “on”) I live at 4 Sukhumvit Road. (กรณมี เี ลขที่ขา งบา นและชอื่ ถนนใหใ ช Preposition “at”) I live in Chiangmai. (ช่อื จังหวดั ชอ่ื เมือง I live in Bangkok. ชือ่ ประเทศ ใหใช Preposition “in”) I live in Thailand. 7. การสอบถามสถานทที่ าํ งาน A : Where do you work? คณุ ทํางานทไ่ี หน B : I work in ABC Company. ฉันทาํ งานทบ่ี รษิ ัท ABC A : What company do you work for? คณุ ทาํ งานทบี่ ริษทั ไหน B : I work for ABC Company. ฉนั ทาํ งานทีบ่ ริษทั ABC
22 8. การถามอาชีพการทาํ งาน A : What do you do? คณุ ทําอะไร ฉันเปน ครู B : I'm a teacher. ฉนั เปนหมอ A : I'm a doctor. a คําตอบ คอื I'm (ช่ืออาชพี ). an 9. การถามถงึ สมาชกิ ในครอบครวั A : How many sisters and brothers do you have? คุณมพี ่ีนอ งกค่ี น B : I have 2 sisters and a brother. ฉนั มพี สี่ าวสองคนและนองชาย 1 คน A : How many persons are there in your family? ในครอบครวั คณุ มกี ่คี น B : There are 5 persons in my family. ในครอบครวั ของฉนั มี 5 คน 10. การถามเบอรโ ทรศพั ท/ E-mail A : Do you have any telephone numbers or an e-mail address? B : Yes, I do. My telephone number is 02-3806871 and my mobile number is 081-8331140. My e-mail is (e-mail address ของแตละบคุ คล).
23 ขอ สังเกต การออกเสียงอา นหมายเลยโทรศพั ท จะอานทลี ะตัว ยกเวนเลขที่ซา้ํ กนั จะใช คําวา Double ซึง่ หมายเลข 0 จะใชค ําวา oh แทนกไ็ ด เชน 081-8351140 อา นวา oh - eight - one - eight - three - five - double one -four - oh 02-3806871 อานวา oh - two - three - eight - oh - six - eight - seven - one Situation 1 Ask your friend about his/her personal data.
24 Situation 2 Ask your friend about his/her personal data. กจิ กรรม Exercise Please introduce yourself briefly about 5-6 sentences. ________________________________________________________ ________________________________________________________ ________________________________________________________ ________________________________________________________ ________________________________________________________ ________________________________________________________ ________________________________________________________
25 เรื่องท่ี 4 การใชภ าษาทางกาย (Body Language) Body Language - the movement of your body that show what you are really feeling or thinking. ภาษากาย หมายถงึ การเคลอ่ื นไหวในลักษณะตาง ๆ ของรางกายที่แสดงใหเห็นถึงสิ่งท่ีเรา รสู กึ หรอื คิด การใชภ าษากายมคี วามแตกตางกันในแตละเชอื้ ชาติ ภาษาในเรือ่ งของการแสดงทาทาง ไดแ ก ทางสายตา การสัมผัสและการสื่อสารท่ีไมใชคําพูด แตกตางไปตามวัฒนธรรมของแตละ ประเทศ จากการวินิจฉัยของนักจิตวิทยา มหาวิทยาลัยอ็อกฟอรด ของ Dr. Peter Collett ในหนังสือ Foreign Bodies ไดศ กึ ษาความแตกตางของการใชลักษณะทาทางเมือ่ รูสึกตืน่ เตน หรอื แสดงอาการสบ ประมาท สว นชาวอติ าลี กรีก ฝร่งั เศส สเปนและโปรตุเกส จะแสดงลักษณะทาทางเพ่ือตองการเนน ในส่ิงที่พวกเขาพูดหรือตองการใหผูอื่นหันมาสนใจ แมกระทั่งเมื่ออยูในความเงียบ มือของพวกเขา ก็จะวุนวายอยูกับการสง ขอความดวยการสง สญั ญาณตา ง ๆ Here are some examples of body language. They are used by people in English-speaking countries. (ภาพเหลา นคี้ อื ตัวอยา งของการใชภาษากาย ซึ่งนาํ มาใชโ ดยผคู นท่อี ยใู นประเทศทใ่ี ชภ าษาอังกฤษเปนสอื่ กลาง) What time is it? I don't know. (เวลาเทาไหรแ ลว ) (ฉันไมทราบ)
26 Wish me luck! (ขอใหฉนั โชคด)ี Walk arm - in - arm in public. Show anger. (ควงแขนกนั ) (แสดงอาการโกรธ)
27 Show affection in public. Show affection in public Indicate that you don't understand something. (แสดงความรกั ในท่ีสาธารณะ) (แสดงอาการวา ไมเ ขา ใจ) Victory go up (สญั ลกั ษณของชัยชนะ) (เดินขึ้นไป)
28 Examples of Body Language (ตัวอยางของภาษาทา ทาง) sitting with legs crossed, foot kicking slightly boredom (นัง่ ไขวหา ง เตะเทาไปมาเลก็ นอย) (แสดงอาการเบ่อื ) hand to cheek (เอามอื เทาคาง) thinking (กําลงั ใชความคดิ ) touch, slightly rubbing the nose lying, doubt, rejection (เอามือแตะจมกู แลว ถูเบา ๆ) (โกหก, สงสยั , ปฎิเสธ) tapping or drumming fingers impatience (ใชน้ิวมอื เคาะเปน จังหวะ) (กระสบั กระสา ย) In your country (ในประเทศของคุณ) 1. What gestures do you use to call a waiter in the restaurant? (ใชท าทางอยา งไรเมื่อจะเรียกพนกั งานเสริ ฟ ในรา นอาหาร) Ans. Wave ours hands. (ตอบ โบกมอื ) 2. What gestures do you use to indicate, “Yes” or “No”? (ใชทาทางอยา งไรเม่อื จะตอบรบั หรอื ตอบปฎิเสธ) Ans. Nod when refers \"Yes\" and shake one's head when we refers “No”. (ตอบ กมศีรษะเม่อื ตอ งการตอบวา\"ใช\" และสนั่ หัวเมอื่ ตอ งการตอบวา \"ไมใช\" ) 3. How much eye-contact is there between people talking to each other? (มกี ารสอื่ สารกนั ทางสายตามากนอ ยแคไหนเมือ่ พดู คยุ กนั ) Ans. They will gaze one another. (ตอบ เขาตา งมองตากนั )
29 4. How much eye-contact is there between strangers passing each other in the street? (มีการสอื่ สารกนั ทางสายตามากนอ ยแคไ หน เม่ือคนแปลกหนา เดนิ สวนกนั บนถนน) Ans. They don't look at one another. (ตอบ เขาไมม องหนา กัน) 5. Do people stand close enough to touch when they are speaking? (คนเรายนื ใกลก นั จนสมั ผสั กนั ไดตอนทพี่ ดู คยุ กนั หรือไม) Ans. Yes, they do. (ตอบ ใช) 6. Do people walk arm in arm in public? (คนเราเดินเดย่ี วแขนกนั ในทีส่ าธารณะหรอื ไม) Ans. A few of them do. (ตอบ มีไมก ค่ี นทท่ี าํ เชน นน้ั ) 7. Do people show affection in public? (คนเราแสดงความรสู กึ รกั ใครใ นทีส่ าธารณะหรือไม) Ans. Some of them do. (ตอบ บางคนทาํ เชนนน้ั ) กจิ กรรม ใหผฝู ก ใชภ าษากายเพ่ือแสดงความหมายตา ง ๆ ใหผ ูเรยี นชมวีดทิ ัศน เรือ่ ง Our Town Discovery (มี VDO ประกอบดว ย) 1. ใหท าํ แบบฝกหัดตอ ไปนี้ 2. 3.
30 Exercise 1 What might each picture mean? Match the picture with the sentences given. a. I don't know b. I know the answer. c. Wish me luck! d. This smells terrible. e. What time is it? f. I can't hear you. 12 3 4 56
31 Exercise 2 Match the hand signals with the instructions. 1 23 45 …….1. Let's go up. …….2. Let's go down. .........3. Are you O.K.? I'm O.K. .……4. You'll be killed. …….5. I can't breathe. I'm running out of air.
32 เรื่องท่ี 5 การพดู โทรศัพท (Telephone Conversation) การติดตอส่ือสารทางโทรศัพทเปนวิธีการท่ีสะดวกและรวดเร็ว การรับและพูดโทรศัพท โดยใชภาษาองั กฤษดวยสาํ นวนทถ่ี ูกตองและชดั เจนตรงตามความตอ งการของผพู ดู จะชวยใหส อ่ื สารได เขาใจตรงกันตามวัตถุประสงค ผูเรียนจึงตองศึกษาคําศัพท สํานวนและประโยคภาษาอังกฤษ ในการสนทนาทางโทรศัพทใ หเขาใจและนําไปใชใ นแตละสถานการณไดอยางเหมาะสม กอ นอน่ื เราตอ งทราบวธิ ีการใชโทรศัพทป ระเภทตาง ๆ ที่มกั จะใชในชีวติ ประจาํ วนั มดี งั น้ี 1. โทรศัพทบานหรือสํานักงาน (home or office telephone) การใชโทรศัพท ท่ีติดตั้งอยูที่บาน หรอื สาํ นักงานเพอื่ ติดตอกบั บุคคลตาง ๆ นั้น มวี ธิ กี ารใชดังน้ี Lift handset. Listen for dial tone. (ยกหโู ทรศัพทขน้ึ ) (ฟงเสยี งสญั ญาณ)
33 Dial number. Speak when connected. (กด/หมุนหมายเลข) (พูดเมื่อมีผรู บั สาย) Replace handset. (วางหโู ทรศัพท) ผูเรยี นคงเขาใจวธิ ีการใชโทรศพั ทบานหรือสํานักงานซ่ึงใชไดไมยาก หลายคนคงคุนเคย กับการใชโทรศพั ทป ระเภทนี้อยแู ลว 2. โทรศัพทเคล่ือนที่ (mobile phone หรือ cell phone) ในปจจุบันจะเห็นไดวา การใช โทรศพั ทเคลื่อนท่ีหรือทเี่ รามักเรียกกนั วา “มอื ถือ” เปน ไปอยางแพรหลาย ผูเรียนเกือบทุกคนคงจะ คุนเคยกับการใชโ ทรศัพทเคลือ่ นทอ่ี ยูแลว ลองมาทบทวนอกี ทหี นง่ึ วา ใชอ ยางไร
34 Ensure the phone is switch on and in service. Enter the phone number. (ตรวจสอบใหแ นใจวาเปด โทรศัพทม อื ถอื แลว (กดหมายเลขโทรศัพท) และใชก ารได) Press dial key. Speak when connected. (กดปุมตอ สายโทรศัพท) (พูดเมื่อมผี ูร บั สาย)
35 Press end key. Press dial key to answer the phone call. (กดปมุ วางสาย) (กดปุม ตอสายเมอ่ื ตองการรบั โทรศพั ท) 3. การใชโทรศัพทสาธารณะ ในปจจุบันโทรศัพทสาธารณะมีอยูทั่วไปในท่ีตาง ๆ เปน จาํ นวนไมนอย ผเู รยี นคงเคยใชโทรศพั ทสาธารณะมาแลว ลองทบทวนดวู า ไดทาํ ตามขนั้ ตอน เหลา น้หี รอื ไม Lift handset. Insert coins. (ยกหโู ทรศัพทข ึ้น) (หยอดเหรียญ)
36 Listen for dial tone. Dial number. (ฟง เสยี งสัญญาณ) (กดหมายเลข) Speak when connected. Insert more coins if warning sign shows. (พูดเมื่อมผี รู ับสาย) (เติมเหรยี ญเพม่ิ หากมีสญั ญาณเตอื นวา เงนิ จะหมด)
37 Replace handset. Removed unused coins. (วางหโู ทรศัพท) (หยิบเหรียญที่ไมไดใชคืน) คาํ ศพั ทท ี่ควรรเู ก่ยี วกับการใชโทรศัพท Word Study สํานวนทมี่ กั จะใชใ นการพูดโทรศพั ท มีดงั น้ี Sorry, I can't hear. ขอโทษนะคะ/ครับ ดฉิ นั /ผม ไมไดย นิ เลยคะ /ครับ Louder, please. กรณุ าพูดดงั กวา นีค้ ะ/ครบั Pardon? ขอโทษวาอะไรนะคะ/ครบั He's not here now. ขณะน้เี ขาไมอยคู ะ/ครับ My phone number is…… โทรศัพทของฉนั หมายเลข........................... Sorry, you've got a wrong ขอโทษคะ/ครบั คุณโทรผดิ หมายเลขแลว คะ /ครบั number. A phone line is busy. สายโทรศพั ทไมว า ง
38 A telephone is out of order. โทรศัพทขัดขอ งหรือเสีย Who's calling? ใครกาํ ลังพดู , ใครกําลังโทรศพั ท Just a moment, please. กรณุ ารอสกั ครู Just a minutes, please. การสนทนาทางโทรศัพท (Telephone conversation) วธิ ีการสนทนาทางโทรศพั ทตองใชคาํ ศพั ทและสํานวนท่ถี กู ตองในกรณตี างๆ ดงั เชน ตัวอยา ง สถานการณต อ ไปน้ี Situation 1 กรณีบุคคลทีเ่ ราตอ งการพดู ดวยอยู ณ ที่นัน้ Suda : Hello. Can I speak to Wipa, please? Malee : Hello. Who's calling, please? Suda : I'm Suda. Malee : Hold on, please
39 Situation 2 กรณีบุคคลทเ่ี ราตอ งการพูดดวยไมอยู ณ ท่ีน้ันและไมตองฝากขอความไว แตวาจะโทรศัพท กลบั มาอีกครง้ั หนง่ึ Suda : Hello. This is Suda. Could I speak to Wipa, please? Malee : Sorry. She isn't in. Would you like to leave a message? Suda : No, thank you. I'll call her later. Malee : All right. Goodbye. Suda : Thanks. Goodbye. Situation 3 กรณบี คุ คลทเี่ ราตอ งการพูดดวยไมอยู ณ ท่ีนั้นและตอ งฝากขอความไว
40 Suda : Hello. Here's Suda speaking. Is Malee in? Wipa : Sorry. She's out. Would you like to leave a message? Suda : Yes, please tell her that I can't see her tomorrow. Wipa : All right, I'll tell her. Suda : Thanks a lot. Goodbye. Wipa : You're welcome. Goodbye. กจิ กรรม ใหผูเ รียนจับคสู นทนาตามบทสนทนาและฝก ออกเสยี งทัง้ 3 สถานการณ ใหทาํ แบบฝก หัดตอ ไปนี้ 1. 2.
41 Exercise 1 Complete each blank with one of the verbs given. Replace Dial Listen Speak Enter Press Remove Ensure Lift Insert 1. ____________________ handset. 2. ____________________ coins. 3. ____________________ for dial tone. 4. ____________________ number. 5. ____________________ when connected. 6. ____________________ handset after speaking. 7. ____________________ unused coins. 8. ____________________ the phone is switched on. 9. ____________________ the phone number. 10. ____________________ dial key. Exercise 2 Complete this telephone conversation. Woman : (1) . This is 02-3184596. Jack : Woman : _________(2_)________. Jack : Woman : Sorry, ________(_3_)______. Jack : Oh! I'm Jack Reed. Can I (4) for her, Mr. Reed? Yes. Could you tell Pam to (5) at 02-5618244.
42 Exercise 3 Complete this telephone conversation. Pam : Hello. (1) . Jack : Speaking. Pam : Hi Jack. (2) . My mother told me that you (3) . and wanted me to call back. Jack : Oh, yes. Jim cannot go to the concert with me this Friday night because he's a lot of work to finish for tomorrow meeting. Would you like to go with? Pam : (4) , but I can't. I have to work late this friday. Jack : Oh! That's too bad. Goodbye. Pam : (5) .
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229