Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ผลิตชิ้นส่วนด้วยเครื่องมือกล 1-01

ผลิตชิ้นส่วนด้วยเครื่องมือกล 1-01

Published by ผาสุข ไชยสุรินทร์, 2021-08-08 15:14:00

Description: ผลิตชิ้นส่วนด้วยเครื่องมือกล 1-01

Search

Read the Text Version

ชลอ การทวี

เคร่อื งกลงึ เปน เคร่อื งจักรกลที่สาํ คัญมากในงาน เครอื่ งมอื กล สามารถทํางานไดอเนกประสงค ไดแก กลงึ ข้นึ รปู กลึงตกรอง กลึงเรียว กลึงเกลยี ว กลงึ เย้อื งศูนย พิมพล าย เจาะรู รมี เมอร ตาปเกลยี ว ฯลฯ อปุ กรณท ใ่ี ช กบั เคร่อื งกลงึ ก็มหี ลายชนิด ข้ึนอยกู บั วัตถปุ ระสงคของ การใชง านแตล ะชนิด เชน หวั จับดอกสวาน ยนั ศูนยทาย กนั สะทาน เปน ตน

1. หลกั การทาํ งานของเครอื่ งกลึง 2. อุปกรณและเครอื่ งมอื ทใ่ี ชสาํ หรับงานกลงึ 3. ความเรว็ ในงานกลึง 4. ความปลอดภัยในการใชเคร่อื งกลึง 5. ข้นั ตอนปฏบิ ตั ิงานกลงึ 6. การบํารงุ รกั ษาเคร่อื งกลึง

1. อธิบายหลักการทํางานของเครือ่ งกลงึ ได 2. บอกอปุ กรณแ ละเครือ่ งมอื ท่ใี ชสําหรับงานกลึงได 3. คาํ นวณหาคา ความเรว็ ในงานกลงึ ได 4. อธบิ ายความปลอดภยั ในการใชเคร่ืองกลงึ ได 5. อธิบายข้นั ตอนการปฏิบัติงานกลงึ ได 6. บอกวธิ กี ารบาํ รุงรกั ษาเคร่อื งกลึงได

หลกั การทํางานของเครอื่ งกลงึ ไมว าจะเปน เครอ่ื งกลึงชนิดใด จะมหี ลักการทํางานที่คลายกนั คอื ชน้ิ งานจะหมุนตดั เครอ่ื งมือตัด ไดแก มีดกลงึ มีดควา น ดอกสวา น ดอกตาป ฯลฯ เพ่ือใหไดขนาด และรปู รา งตามตองการ เพยี งแตวาจะทาํ งานดว ยมอื ไดแก เคร่ืองกลงึ พื้นฐาน คอื เครอื่ งกลึงยันศูนยเ หนอื แทน เคร่อื งกลึง เทอเรต หรือ อตั โนมตั โิ ดยมโี ปรแกรมควบคมุ การทํางาน มผี ู ปฏบิ ัตคิ อยควบคุมดแู ล คอยตรวจสอบช้ินงาน ปอนวสั ดชุ ิ้นงาน คือเครอื่ งกลึง ซี เอน็ ซี

เครื่องกลงึ สามารถทาํ งานไดห ลายอยาง ไดแก กลงึ ปาดหนา กลงึ ปอก กลงึ ตกรอ ง กลงึ เรยี ว กลึงเกลยี ว เจาะรู พิมพลาย ฯลฯ ถา มีอุปกรณพิเศษมาเพิม่ เตมิ ก็ สามารถทาํ งานเฉพาะอยางไดอีก เชน มีชดุ พเิ ศษเพื่อ เจียระไน ชดุ พเิ ศษในการกัดงาน เปนตน

อุปกรณทีใ่ ชกบั เครอื่ งกลึงมีจํานวนมากมายหลายชนดิ อุปกรณท ี่ใชก บั เครื่องกลงึ ท่เี กีย่ วกับการเรียนในหนวยน้ี คอื 1. ยันศนู ยเ ครื่องกลึง ในการกลงึ งานจาํ นวนมากที่ ตองกลงึ ระหวา งศนู ย ชนิ้ งานจะตอ งมีการเจาะรยู นั ศูนยท ่ี ปลายทง้ั สอง โดยท่ัวๆ ไปจะใชมมุ รวม 60 องศา แบง ออกเปน

- ยันศูนยต าย (Dead Center) ยันศูนยท ่ใี ชท่ัวๆ ไปใน โรงฝกงานบางครัง้ กใ็ ชยนั ศูนยต าย มีมมุ รวม 60 องศา และมี กา นเรยี ว มาตรฐานมอสทําดว ยเหล็กรอบสงู หรือเหล็กทํา เคร่อื งมือท่ีมีคณุ ภาพดี และตรงสว นปลายทาํ ดว ยวสั ดคุ ารไ บด ควรระมดั ระวงั ในการใชง าน ควร หลอลื่นเพ่ือปอ งกันการเกิด ความรอนและขยายตัวในขณะใชง าน เพราะอาจจะทําใหยนั ศูนยแ ละชน้ิ งานเกดิ ความเสยี หายได

- ยันศูนยเปน หรอื ยนั ศนู ยหมุน (Live Center or Revolving Dead Center) มีการนาํ มาใชแทนยนั ศนู ย ตาย ภายในประกอบดว ยตลบั ลกู ปน ในขณะใชงาน ชนิ้ งานกบั ยันศนู ยจะหมุนไปดวยกันซง่ึ ไมจาํ เปนตอ ง หลอ ล่นื ขณะใชงาน

2. หวั จับ (Chucks) ช้นิ งานบางชิ้นมีขนาดและรปู รางไมสามารถจับยึด หรือกลึงระหวา งศูนยไ ด โดยทว่ั ๆ ไปจะจบั ยึดดวยหวั จับ ซงึ่ มีหวั จบั ฟนพรอ มสจ่ี บั ฟนอสิ ระ และหัวจบั สปริง (Collet Chuck)

หวั จับแบบสามจบั ฟน พรอ ม (Three Jaws Universal Chuck) ใชส ําหรบั จับยึดชิ้นงานกลมและ ชนิ้ งานหกเหลี่ยม ซึง่ มคี วามเท่ียงตรงสงู สามารถจบั ชิ้นงานไดโ ต 100-400 มลิ ลิเมตร ฟน จะมีสองชุด คือ ชุดฟนจับนอกและชดุ ฟน จับใน

-หัวจับแบบสจี่ บั ฟน อิสระ (Four Jaws Independent Chuck) ฟนแตละฟนสามารถปรบั ไดอิสระ ดวยประแจขัน จบั สามารถใชจ ับชิ้นงานกลม สี่เหลยี่ ม และชิน้ งานท่ีมรี ูปรา ง พเิ ศษๆ ฟนจะใชชดุ เดยี วสามารถกลับเพือ่ จับนอกและจับใน ได

- Collet Chuck เปน หวั จบั ท่แี มน ยําจะใชกบั งานที่ ตอ งการความเทีย่ งตรงสูง หัวจบั แบบนจ้ี ะมีลกั ษณะเปน สปริง คอื หยุนตวั ได ใชจ บั ยดึ งานกลม งานสีเ่ หล่ียมจตั ุรัส งานหกเหล่ยี ม

- หวั จบั แมเ หลก็ (Magnetic Chuck) เปน หัวจับทใี่ ช จับชิน้ งานท่เี ปนเหลก็ เปนชน้ิ งานท่ีบางไมส ามารถจับดว ย อปุ กรณจ ับยึดอ่ืนๆ เหมาะสําหรับในการกลงึ เล็กนอ ย

-หนา จาน (Faceplate) ใชสาํ หรบั จับยดึ ชน้ิ งานท่ีใหญๆ หรอื มีรูปรา งไมส ามารถจบั ยดึ ดว ยหัวจับแบบตางๆ ได ในการ จบั ยึดจะมี T-Slot เปน อุปกรณจ บั ยึดรว มกบั เหล็กแทงฉาก (Angle Plate) ในการจับยึดงาน ควรจะตองมีการนาํ เหล็ก มาถวงใหสมดุลกบั ชิ้นงาน ขณะที่หนาจานหมนุ ปฏบิ ัติงาน กลงึ จะไดไ มเกดิ การส่ันสะเทอื น

3.กันสะทาน (Rests) เปน อุปกรณท่ใี ชร องรบั ช้นิ งานทย่ี าวๆ ท่ี นาํ มากลึงหรอื นาํ มาเจาะบนเครอ่ื งกลึง กันสะทา นมี 2 ชนดิ คอื กนั สะทา นนงิ่ และกนั สะทา นตาม - กนั สะทานนง่ิ (Steady Rest) ใชส าํ หรบั รองรบั ช้ินงานทยี่ าวๆ หรอื งาน ทอ่ี ยรู ะหวา งยันศูนย กันสะทา นนิง่ จะยึดอยู บนรางเลอื่ นของเครอื่ งกลงึ กนั สะทานนิ่งจะมี ขาประคองงานอยู 3 ขา ใชใ นกรณไี มส ามารถ ยันศูนยทา ยได เชน ตอ งการเจาะรู

-กันสะทานตาม (Follow Rest) จะยดึ อยูบนอานมา จะเคลอ่ื นทีไ่ ปพรอ มกับแทน เล่ือน กันสะทานตามทาํ หนา ทป่ี ระคองการโกง งอของชิ้นงานขณะกลึงงาน กนั สะทานตามน้ีจะมขี าประคองอยู 2 ขา อยูตรงกนั ขาม กับมดี กลึง

4.แมนเดล (Mandrel) ใชสําหรับจับยดึ ช้นิ งานท่ตี องการกลึงระหวางศนู ย จบั ยึดช้นิ งานโดยการใสในรขู องชิ้นงาน ตวั อยา งเชน การกลงึ ขนึ้ รปู ช้นิ งานเพ่อื นาํ ไปกดั เฟอง ฯลฯ

5.หวงพา (Lathe Dog) ใชจบั ยึดชิ้นงานท่ีกลึงระหวา งศนู ย หวงพาจะมสี ว นท่เี ปน หางยื่นออกมา เพ่อื ขดั กบั จานพาเพือ่ พาใหช น้ิ งานหมุน ขณะ กลึงจะมขี นาดและรปู รางแบบตา งๆ หว งพาจะมีทั้งแบบหาง งอและแบบหางตรง

6. ดา มจับมดี กลึง (Tool Holder) ใชจับยึดมีดกลงึ เหลก็ รอบสูงทใี่ ชใ นงานกลึงทีม่ ขี นาด เลก็ ประมาณ 1/4 นิ้ว (6.3 มม.) ดามมีดมีรอ งส่เี หล่ียม เพ่อื นํามดี กลงึ ใสเพื่อจับยดึ ดวยเกลียวจะมีมุมเอยี งทาํ มมุ กับพน้ื ประมาณ 15-20 องศา ดา มมดี กลึงขวา ดา มมดี กลงึ ซา ย ดามมีดตรง

ดา มจับมดี คารไบดแ บบตา งๆ

7.ดา มจบั มีดตัด (Cutting Off หรือ Parting Tool) ใชจับมีดตดั เพอื่ ตดั หรอื ตกรอง ชิ้นงาน มดี ตดั จะยาว และบางซง่ึ มอี ยู 3 ลกั ษณะ ดา มมดี ตดั ซา ย ดา มมีดตดั ขวา ดา มมีดตดั ตรง

8.ดา มจับมีดควาน (Boring Tool Holder) เปนดามมีดท่ใี ชใ นการควานรู มหี ลาย รปู แบบ

9. ปอมมีด (Toolposts) ใชส าํ หรบั จับยึดมีดกลึงโดยตรง หรือใชจับ ยดึ ดา มมดี กลงึ ทจี่ บั ยดึ มีดกลงึ อีกที มีหลายแบบ -ปอ มมีดมาตรฐาน (Standard or Round Tool post) จะเปน ปอ มมีดทมี่ ีลักษณะกลม สามารถ ปรบั ความสงู ต่ําของปลายมดี ได งายโดยการปรบั ท่ลี ม่ิ รองมีดกลงึ

-ปอ มมดี แบบเทอเรต (Turret Type Toolpost) เปนปอมมีด ที่สามารถจบั ยดึ มีดกลึงไดพรอ มกนั ทง้ั สดี่ าน เหมาะสาํ หรบั การ ทํางานท่ีตอ งการทําหลายขัน้ ตอน ตอ งการใชเ ครื่องมอื ตดั หลาย อยา ง เชน การกลึงปาดหนา กลงึ ปอก กลงึ เกลียว หรอื ตัด ชิ้นงาน ฯลฯ

1.ความเร็วตดั (Cutting Speed) คือ ความเรว็ ท่ีเสน รอบวงของ ช้ินงานวง่ิ ผานมีดกลงึ ในเวลา 1 นาที ตัวอยา งเชน งานชน้ิ หน่ึงใช ความเรว็ ตัด 30 เมตรตอนาที หมายความวา ความยาวเสนรอบวง ของช้ินงานว่งิ ตัดผา นมดี กลงึ 30 เมตร ในเวลา 1 นาที หนว ยของ ความเรว็ ตัด มีหนวยเปน เมตรตอ นาที ในระบบเมตริก และ ฟุต ตอนาที ในระบบอังกฤษ

คา ความเร็วตดั สําหรบั มีดกลึงทท่ี ําดว ยเหลก็ รอบสูง (H.S.S) งานกลงึ และงานควาน งานกลงึ เกลียว วสั ดุงาน กลึงหยาบ กลงึ ละเอยี ด ฟตุ /นาที เมตร/นาที ฟุต/นาที เมตร/นาที ฟุต/นาที เมตร/นาที เหลก็ กลา 90 27 100 30 35 11 เหล็กเครื่องมอื 70 21 90 27 30 9 เหลก็ หลอ 60 18 80 24 25 8 บรอนซ 90 27 100 30 25 8 อะลูมเิ นยี ม 200 61 300 93 60 18

การคาํ นวณหาคาความเรว็ รอบทเ่ี หมาะสมกับช้นิ งาน เมื่อกําหนด V = π1,0D00N (เมตรตอนาที) V แทน ความเร็วตดั (เมตร/นาที) D แทน ความโตของชิน้ งาน (มม.) N แทน ความเรว็ รอบของชิน้ งาน (รอบ/นาท)ี จากสตู รความเร็วตัดทําการยายสมการ N =1π,00D0 V ≈ 320 (รอบตอ นาที) VD

ตวั อยางท่ี 1 จงคาํ นวณหาคา ความเรว็ รอบ เพ่อื กลึงหยาบเหลก็ เคร่อื งมอื (Tool Steel) มขี นาดเสน ผานศูนยก ลาง 50 มิลลิเมตร (คาความเร็วตัด V = 21 เมตร/นาที) V = π1,0D00N (เมตรตอ นาที) 1,000 V N = πD (รอบตอ นาท)ี = 31.,1040106XX21 = 51033.69 รอบตอ นาที

สตู ร ความเร็วตดั ระบบองั กฤษ V = πD N (ฟตุ ตอ นาที) 12 เมือ่ กาํ หนด V แทน ความเร็วตดั (ฟตุ /นาท)ี D แทน ความโตของชิน้ งาน (นว้ิ ) N แทน ความเร็วรอบ (รอบ/นาท)ี จากสตู รความเร็วตัดทําการยายสมการ N= 12 V = 4DV (รอบตอนาท)ี πD

ตวั อยางท่ี 2 จงคาํ นวณคาความเรว็ รอบเพื่อกลึงหยาบเหล็กหลอ ขนาดเสน ผานศูนยก ลาง 2 น้ิว (คาความเร็วตดั V = 60 ฟตุ /นาท)ี V = π1D2 N (ฟุตตอนาท)ี 12 V = 4DV (รอบตอนาท)ี N= πD = 4 X2 60 = 120 รอบตอ นาที

2.อัตราปอ นกลงึ (Feed) อัตราปอ นกลึง หมายถงึ ระยะทางที่มีดกลึงเคล่ือนทไ่ี ปในขณะที่ งานหมุนครบ 1 รอบ ตัวอยา งเชน เมื่อตง้ั อัตราปอน 0.4 มม./รอบ หมายความวา มีดกลงึ จะเคลอ่ื นทีก่ ินงานไป เปนระยะทาง 0.4 มม. เมื่องานหมนุ ครบ 1 รอบ อตั ราปอ นสามารถต้ังอัตโนมตั ไิ ดจากการ ตงั้ เปลย่ี นชดุ เฟอ งท่ชี ดุ หวั เครอ่ื งกลึงในการกลงึ หยาบจะใชอ ัตราปอ น กลงึ ที่เร็วกวาการกลงึ ละเอียด ในการกลงึ ท่วั ๆ ไปจะใชอตั ราปอน กลึงหยาบอยรู ะหวาง 0.25-0.40 มม./รอบ และอัตราปอ นละเอยี ด อยรู ะหวา ง 0.07-0.13 มม./รอบ

อัตราปอ นกลงึ สําหรับมดี กลงึ ที่ทําดว ยเหล็กรอบสูง (H.S.S) วัสดุงาน กลึงหยาบ กลงึ ละเอียด นิ้ว มม. นิว้ มม. เหล็กกลา เหล็กเครือ่ งมือ 0.010-0.020 0.25-0.50 0.003-0.010 0.07-0.25 เหล็กหลอ 0.010-0.020 0.25-0.50 0.003-0.010 0.07-0.25 บรอนซ 0.015-0.025 0.40-0.65 0.005-0.012 0.13-0.30 อลมู เิ นยี ม 0.015-0.025 0.40-0.65 0.003-0.010 0.07-0.25 0.015-0.030 0.40-0.75 0.005-0.010 0.13-0.25

3.การปอ นกินลกึ (Depth of Cut) การปอนกินลึก หมายถงึ การปอนมดี กลงึ กนิ ลกึ ในชนิ้ งานแตละครง้ั เพื่อปอนกลึงในการปอนกินลึกดานหนึง่ และอีกดานจะหมนุ มาตดั มดี กลงึ ดวยทาํ ใหขนาดความโตของชน้ิ งานลดลงสองเทาของการปอนกินลึก ใน การปอ นกินลกึ มากหรือนอยข้ึนอยูก ับปจจัยดงั ตอไปน้ี  สภาพของเครื่องกลงึ  ชนดิ และรูปรา งของมีดกลงึ ทใ่ี ช  ความแนน หนาในการจับยึดชิ้นงาน เครอื่ งกลงึ และมดี กลงึ  อัตราปอนกลงึ  ผวิ ของงานท่ีตอ งการ เชน การกลึงหยาบ จะปอนกนิ ลึกมากกวา การ กลงึ ละเอียด

ความปลอดภัยในการใชเ ครือ่ งกลงึ ผปู ฏบิ ัติงานท่ดี ีจะตอ งคาํ นงึ ถงึ ความปลอดภยั และปฏิบัตติ ามกฎ ความปลอดภยั ของโรงปฏิบัตงิ าน ถาไมป ฏิบตั ิตามอาจจะเปน สาเหตทุ ําให เกดิ อบุ ตั ิเหตุได ทาํ ใหเ สียเวลาและคาใชจ ายตางๆ ซง่ึ เปน สาเหตุทาํ ใหเปน ตน ทนุ ของสินคามีราคาสูงขึ้น เคร่อื งกลึงกเ็ หมือนเครื่องจักรกลทวั่ ๆ ไป ซงึ่ อาจจะเกดิ อุบัตเิ หตไุ ดถา ทาํ งานไมถ กู วธิ ี ผูปฏิบัตงิ านทีด่ ีจะตอ งคํานงึ ถึงความสําคญั ในการเกบ็ รกั ษาและทําความสะอาดเคร่อื งกลงึ บรเิ วณปฏิบตั ิงานรอบๆ ใหเ ปน ระเบยี บ เรยี บรอ ยอุบัติเหตุไมเ กดิ ขน้ึ ถาหากผูปฏิบัติงาน ปฏิบตั งิ านดว ยความ ระมัดระวงั ปฏิบัตติ าม คําเตือนและกฎระเบียบของโรงฝก งานซึง่ โดยท่วั ๆ ไปจะมีดงั นี้

 สวมแวน ตานิรภยั ในขณะปฏบิ ตั ิงานตลอดเวลา เพอื่ ปองกัน เศษโลหะกระเด็นเขาตา  พบั แขนเสอื้ ใหเ รยี บรอ ยกรณีใสเ สือ้ แขนยาวฝกงาน ถาไม จําเปนควรใสเ ส้อื แขนส้นั จะเหมาะสมกวา ไมค วรใสเนก็ ไท ปฏิบตั งิ านกลงึ

 ไมสวมแหวนและนาฬิกาปฏิบัติงานกลึง  ไมปฏบิ ตั ิงานกลงึ จนกวาจะรูวธิ ีการใชและวิธีการควบคมุ เครื่องกลงึ ควรรวู าถา เปด สวติ ซและโยกแขนโยกตางๆ จะเกดิ อะไรขึ้น จะตอ งรูวิธีปด เครือ่ งอยา งฉกุ เฉินเมอ่ื กรณีเกดิ เหตกุ ารณท ี่ไมค าดฝนเกิดข้ึน เชน กรณเี กดิ อุบัตเิ หตุ

 ไมป ฏิบัตงิ านเมื่อฝาครอบสว นตา งๆ ของเคร่ืองกลงึ ถกู เปด อยูห รือปด อยางไมสมบูรณเ รียบรอ ย เชน ฝาครอบของชดุ เฟอ งสง กําลงั สายพาน และเพลา ฯลฯ  หยุดเครอ่ื งกลงึ กอ นทําการวัดขนาดของชิ้นงาน การทาํ ความสะอาด การ หยอดนาํ้ มนั หรอื การปรบั สวนตางๆ ของเครือ่ งกลงึ  หามใชผ าทาํ ความสะอาดชิ้นงานขณะที่เครือ่ งกลึงกาํ ลงั ทาํ งานอยู  หามหยดุ หวั จบั หรือจานพาดวยมอื เพราะอาจจะทําใหม อื หรอื น้วิ มอื ไดร บั อุบตั ิเหตุ  ตองมั่นใจวาหัวจับหรือจานพายึดแนน อยางดีกอนทําการเปดสวิตซ ปฏบิ ัตงิ าน เพราะหวั จบั หรอื จานพาจะหลดุ กระเด็นออกมาโดน ผูปฏบิ ัตงิ าน

 นาํ เอาประแจขันหัวจบั ออกจากหัวจับทกุ คร้ังหลงั จากใชงาน ถา ลืมทงิ้ ไวขณะเปด สวติ ซเครอื่ งกลงึ เพือ่ ปฏิบตั ิงาน อาจจะทําให ประแจขันหัวจับหลดุ กระเดน็ ออกมาโดนผูปฏิบตั ิงานที่อยูใ กลๆ ได หรอื ถาไมห ลุดกระเด็นออกมาประแจขนั หวั จับจะกระแทกท่ี รางเลอ่ื นทําใหเ กิดความเสยี หายได

 เคลอ่ื นที่แทนเล่ือนออกใหห างจากหัวจบั และทําการหมุนหัว จบั ดว ยมือกอ นเพื่อทาํ การทดสอบ ปองกนั การกระแทกกัน ระหวา งหวั จับและแทนเล่ือน  รกั ษาความสะอาดพน้ื โรงงานรอบๆ เครอ่ื งกลงึ เพื่อกําจัด จาระบี นํ้ามัน เศษโลหะ ฯลฯ  ไมใชม อื หรือผาหยิบเศษโลหะออก ควรใชแปรงปดเศษโลหะ  ในการตะไบงาน ขัดงาน ทาํ ความสะอาดหรอื ปรบั ชิ้นงานบน เครือ่ งกลงึ ควรถอยเครือ่ งมือตัดออกกอ น เพอื่ ปอ งกัน เครอ่ื งมือตัดทีม่ ีคม ทําใหเกดิ อันตรายตอมอื หรอื แขนของ ผปู ฏบิ ัติงาน

การกลึงตกรองเปน การกลึงข้นึ รูปบนชน้ิ งานแบบหนงึ่ การกลึง ตกรองมหี ลายรปู แบบ เชน การกลึงตกรอ งบา ฉาก การกลงึ ตกรอ ง ตวั วี การกลึงตกรองโคง เปน ตน อุปกรณและเคร่อื งมอื ทใี่ ชในการกลงึ ตกรอ ง กรณีงานยาวตอง มยี นั ศนู ยทายแลว ยังตองมีมีดกลึงเปนรูปทรงตาง ๆ ตามตองการ

ขัน้ ตอนการกลงึ ตกรองหรอื กลงึ เซาะรอ ง 1. ลับมีดกลึงตกรองใหไ ดขนาดความกวา งปลายมีดทตี่ อ งการ (กรณีตอ งการ ตกรองท่มี คี วามกวางมาก ควรใชปลายมีดที่เลก็ กวาขนาดจรงิ แลวใชวธิ ี กลึงขายรองเอา เพ่ือปองกันการสะทา นของมดี เนื่องจากมหี นา สมั ผสั มาก ทาํ ใหผ วิ งานไมเรียบ) 2. กลึงปาดหนา และกลึงปอกขน้ึ รปู ชนิ้ งานตามแบบงาน ดวยมดี กลงึ ปาด หนา และมดี กลงึ ปอก กรณีชิ้นงานยาวตองยันศูนยทายก็ตองเจาะรยู นั ศูนยด ว ย 3. นําชิน้ งานไปรา งแบบงานทจี่ ะตกรอ ง 4. จับยึดช้นิ งานดว ยหวั จบั สามจับฟนพรอ ม หรือส่ีจับฟนอสิ ระ กรณีชน้ิ งาน ยาวควรมีการยนั ศูนยท าย

5. ต้งั ความเร็วของเครอ่ื งกลงึ ประมาณ 1/3 หรือ 1/4 เทาของความเร็ว งานกลึงปกติ 6. จบั มีดกลงึ ตกรอ งใหต ้งั ฉากกับช้ินงาน และไดตําแหนงท่ีจะกลึงตกรอ ง 7. เปด สวติ ซเ ครื่องกลงึ และคอยปอนมดี กลึงตกรอง กอนจนแนใจวา ตําแหนง ถูกตอง 8. ปอนมีดกลงึ ใหไดขนาดความลึกและความกวางของรองทต่ี อ งการ โดย การตรวจสอบความกวา งรอ งและขนาดเสน ผา นศูนยก ลางชิ้นงานดวย เวอรเนียรคาลเิ ปอร (ในการปอนความลึกควรฝก ใชสเกลปอนกินลกึ ของ แทนตดั ขวาง) 9. เมื่อไดขนาดของชน้ิ งานทถ่ี กู ตอ ง หยดุ เครื่องเพ่ือตรวจสอบอีกครง้ั และ นาํ ชิ้นงานออก 10. เก็บเครื่องมอื และทําความสะอาดเคร่ืองกลึง

การพิมพลายเปนการกดใหช น้ิ งานนนู ขนึ้ มา มที ้ังลายไขวแ ละลายตรง การพมิ พ ลายทาํ ใหการจับชน้ิ งานกระชบั และจบั ได มั่นคง บางคร้ังในการพิมพล ายตรงเพือ่ ให ช้ินงานมขี นาดใหญข น้ึ เพื่อใชส าํ หรบั สวม งานใหแนนข้ึนพมิ พล ายท้งั สองแบบจะมี อยู 3 แบบ คือ แบบละเอียด ปานกลาง และหยาบ

ขั้นตอนการพมิ พลายบนเคร่อื งกลึง 1.จบั ยดึ ชนิ้ งานโดยการยนั ศนู ยทายและทาํ เครอ่ื งหมายระยะความยาวที่จะ พมิ พลาย 2. ตงั้ ความเรว็ ของเครื่องกลงึ ประมาณ ¼ ของความเร็วงานกลึง 3. ต้งั อัตราปอนของแทนเล่ือนประมาณ 0.3-0.8 มิลลิเมตรตอรอบ 4. ต้งั ลอพมิ พลายใหไดศนู ยโดยการเทยี บกบั ปลายยนั ศนู ย 5. ตั้งลอพมิ พล ายใหตั้งฉากกบั ชิน้ งานและจบั ยึดลอ พมิ พล ายใหแนน 6. เปด สวติ ซเครือ่ งกลึงและปอนลอ พิมพลายสมั ผัสงานเบาๆ กอ นจน แนใ จวาลายที่พิมพถูกตอง

7. เลื่อนลอพมิ พล ายใหไ ดข นาดความยาวทต่ี องการพิมพล าย 8. ออกแรงกดลอพมิ พลายบนชิ้นงานใหไดล ายประมาณ 0.6 มิลลเิ มตร แลว เปดเคร่ืองและออกแรงกดจนไดลายทต่ี องการ 9. หยุดเคร่อื งเพ่อื ตรวจสอบลายท่ีพิมพ 10. ถา พิมพลายออกมาถกู ตองก็ปอ นอัตโนมตั ิทแี่ ทน เล่ือน 11. พมิ พล ายจนไดขนาดทตี่ อ งการ

การตัง้ ศนู ยล อพิมพล าย ต้ังลอพิมพลายตั้งฉากกบั ชน้ิ งานใกลป ลายชิน้ งาน ลายลาทยทเี่ สเี่ ียสยี ลายลาทยท่ีใีใ่ชไชด ได ลาลยายทที่เสเ่ี ยี สีย ลายทพ่ี มิ พเ สยี และลายท่พี ิมพถ กู ตอง

การกลงึ เรียวเปน การกลงึ ใหช น้ิ งานมขี นาดเสนผานศนู ยท้งั สองดานมีขนาดไมเทากนั คือมีขนาดเล็กลง หรือ ขนาดใหญขึ้น เปนอตั ราสวนเทาๆ กนั ไปตลอดความยาวช้ินงานทก่ี ลงึ วธิ ีการ กลงึ เรียวโดยทัว่ ๆ ไปมี 3 วธิ ี คอื การกลึงโดยตั้งองศา Compound Rest , การกลึงโดยการเยอื้ งศนู ยทา ยแทน และ การกลึงเรยี วโดยใชอ ุปกรณพ เิ ศษ (Taper Attachment)

ขนั้ ตอนการกลงึ เรยี ว  การกลึงเรียวดวยวิธีตั้งองศาท่ี Compound Rest 1. นาํ ชิ้นงานจับยึดบนเครอ่ื งกลึงดวยอุปกรณท ่เี หมาะสม เชน การจับยึดดว ย หัวจับสามจบั ฟน พรอม หวั จับส่จี ับฟน อิสระ เปนตน 2. ตั้งองศาท่ี Compound Rest จากการคาํ นวณหาคามมุ โดยการนําคา ที่ คํานวณไดล บออกจาก 90 องศา กอ นเน่ืองจาก Compound Rest จะมคี า 0 องศา ทต่ี ําแหนงตั้งฉากกบั ชิ้นงาน 3. ทําการปอ นกลึงดวยมอื เพราะไมส ามารถปอนอตั โนมัติได เม่ือปอนจน ไดพอประมาณแลวทาํ การตรวจสอบเรียวกอ น เพื่อจะไดป รับใหไ ดเ รยี วท่ี ถูกตอง อยา กลงึ จนไดข นาดกอนทําการตรวจสอบเรียว เพราะจะไมม ี ขนาดใหกลงึ ปรับ

4. เมื่อไดม มุ เรียวทถ่ี กู ตอ งทําการกลงึ จนไดข นาดท่ตี อ งการ โดย การปอ นกลึงละเอยี ดในเที่ยวสุดทาย อยางชาๆ และสมํ่าเสมอ 5. ปดสวิตชค วบคุมเคร่ืองกลงึ ทุกจุด นาํ ชนิ้ งานออก 6. ปรับเคร่ืองกลงึ ใหอยใู นตําแหนง เดมิ และทาํ ความสะอาด เคร่ืองกลึง พรอ มเก็บเครอ่ื งมือและอุปกรณต า งๆ เขา ท่ใี ห เรยี บรอ ย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook