แผนการจัดการเรยี นรู้ มุ่งเนน้ ฐานสมรรถนะ และบรู ณาการคา่ นยิ มหลกั ของคนไทย 12 ประการ ช่อื วิชา พื้นฐานงานปูน รหสั วชิ า 20106-1003 หลกั สตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชพี พทุ ธศักราช 2562 ประเภทวิชา อุตสาหกรรม สาขาวชิ าชา่ งกอ่ สรา้ ง สาขางานกอ่ สรา้ ง จดั ทาโดย นายชุตเิ ทพ มาดตี รี ะเทวาพงษ์ วทิ ยาลยั การอาชีพขุนหาญ สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
รายการตรวจสอบและอนญุ าตให้ใช้ ชอื่ วิชา พน้ื ฐานงานปูน รหัสวิชา 2106 – 1002 ผู้สอน นายชุตเิ ทพ มาดตี รี ะเทวาพงษ์ เสนอ ผ๎อู านวยการวทิ ยาลัยการอาชีพขุนหาญ ผํานรองผ๎ูอานวยการฝา่ ยวิชาการ เพอื่ ตรวจสอบและอนุญาตใหใ๎ ช๎ ลงชือ่ (.......................................................) ครผู ส๎ู อน ............../.............../............. ควรอนญุ าตให๎ใช๎การสอนได๎ ควรปรบั ปรุงเกยี่ วกับ......................................................................................................... ลงชือ่ (.......................................................) หัวหน๎าแผนกวชิ า ............../......................../.................... เห็นควรอนุญาตให๎ใชก๎ ารสอนได๎ ควรปรับปรงุ ดังเสนอ อืน่ ๆ ............................................................................................................................. ... ลงชอ่ื (.......................................................) รองผอู๎ านวยการฝ่ายวิชาการ ............../......................../.................... อนญุ าตให๎ใช๎การสอนได๎ อน่ื ๆ ................................................................................................................................ ลงชอื่ ..................................................... (.......................................................) ผู๎อานวยการ ............../......................../....................
คานา แผนการจัดการเรียนร๎ู มํุงเน๎นฐานสมรรถนะ บูรณาการคํานิยมหลักของคนไทย 12 ประการ วิชา พ้ืนฐานงานปูน รหัสวิชา 20106-1003 เลํมน้ีได๎จัดทาข้ึนเพื่อใช๎เป็นคํูมือประกอบ การสอน หรือเป็น แนวทางการสอนในรายวิชาเพื่อพัฒนาผ๎ูเรียนเป็นสาคัญ ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 สาขาวิชาชํางกํอสร๎าง สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร การจัดทาได๎มีการพัฒนาเพ่ือให๎เหมาะสมกับผู๎เรียน โดยแบํงเนื้อหาออกเป็น 17 หนํวย การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนยึดผู๎เรียนเป็นสาคัญ มีการบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และ คํานิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ไว๎ในหนํวยการเรียนรู๎ตามความเหมาะสม สอดคล๎องกับเนื้อหา มี แบบฝึกหดั แบบทดสอบหลงั เรยี น พรอ๎ มเฉลย มใี บงาน และสือ่ การเรียนการสอนตาํ ง ๆ เพ่ือให๎เกิดประสิทธิผล แกผํ ๎ูเรยี นมากย่งิ ข้ึน ผู๎จัดทาหวังวําแผนการจัดการเรียนร๎ูเลํมน้ีคงจะเป็นแนวทางและเป็นประโยชน๑ตํอครู-อาจารย๑และ นักเรียน หากมขี อ๎ เสนอแนะประการใด ผจ๎ู ัดทายนิ ดนี ๎อมรับไว๎เพอื่ ปรบั ปรุงแก๎ไขในครั้งตํอไป (นายชตุ ิเทพ มาดตี รี ะเทวาพงษ๑)
สารบญั หนา้ คานา ............................................................................................................................................... 3 สารบัญ ............................................................................................................................................ 4 หลักสตู รรายวชิ า ............................................................................................................................. 5 หนํวยการเรียนรู๎ .............................................................................................................................. 6 การวัดผลและประเมินผล ................................................................................................................ 7 หนํวยการเรยี นร๎ทู ่สี อดคล๎องกับสมรรถนะรายวิชา .......................................................................... 8 โครงการจดั การเรยี นร๎ู ..................................................................................................................... 9 สมรรถนะยํอยและจดุ ประสงค๑เชิงพฤติกรรม ................................................................................... 10 ตารางวิเคราะหห๑ ลักสตู รรายวชิ า ..................................................................................................... 27 แผนการจดั การเรียนรู๎ที่ 1 เคร่ืองมือ อุปกรณ๑ และวสั ดใุ นงานปูน................................................. 28 แผนการจัดการเรยี นร๎ูท่ี 2 การกอํ อิฐมอญครงึ่ แผนํ ........................................................................ 31 แผนการจัดการเรยี นรู๎ท่ี 3 การกํออฐิ มอญครง่ึ แผํนเข๎ามุมฉากหนง่ึ มุม.......................................... 35 แผนการจดั การเรยี นรู๎ท่ี 4 การกํออฐิ มอญครึ่งแผํนเขา๎ มุมฉากสองมมุ ........................................... 39 แผนการจดั การเรยี นรู๎ที่ 5 การกอํ อฐิ มอญครง่ึ แผนํ รปู วงกลม (บอํ น้า)........................................... 43 แผนการจดั การเรยี นรู๎ที่ 6 การกํออิฐเต็มแผํน................................................................................ 47 แผนการจัดการเรยี นร๎ูที่ 7 การกอํ อิฐเสาส่ีเหลยี่ ม.......................................................................... 51 แผนการจดั การเรยี นรู๎ที่ 8 การกอํ อฐิ เสาหกเหลย่ี ม....................................................................... 55 แผนการจดั การเรียนร๎ูท่ี 9 การกํออิฐเสาแปดเหลยี่ ม.................................................................... 59 แผนการจดั การเรียนรู๎ท่ี 10 การกํอคอนกรตี บล็อก........................................................................ 63 แผนการจดั การเรียนร๎ูท่ี 11 การกํออฐิ ประดับ การกอํ อิฐโชวแ๑ นว และการเซาะรํองเหล่ียม.......... 67 แผนการจัดการเรียนร๎ูท่ี 12 การกํออฐิ ประดบั การกอํ อิฐโชวแ๑ นว และการเซาะรํองโคง๎ ............... 72 แผนการจัดการเรียนร๎ูท่ี 13 การกํออิฐมวลเบา............................................................................... 77 แผนการจัดการเรียนรู๎ท่ี 14 การทาระดบั ผนงั ................................................................................ 81 แผนการจัดการเรียนร๎ูที่ 15 การฉาบผนังเรยี บ............................................................................... 85 แผนการจัดการเรยี นรู๎ท่ี 16 การจับเหล่ียมเสา............................................................................... 88 แผนการจดั การเรยี นร๎ูที่ 17 การฉาบเสา........................................................................................ 92
หน่วยการเรียนรู้ ชอื่ วิชา พ้นื ฐานงานปูน รหสั วชิ า 2106 – 1002 ท–ป–น 0–6–2 จานวนคาบสอน 6 คาบ: สปั ดาห์ ระดบั ชั้น ปวช. หน่วย ชื่อหน่วย จานวน ท่มี า I ท่ี คาบ A B C D E F G H / 1 เคร่ืองมือ อุปกรณ๑ และวสั ดใุ นงานปูน 2 // /// / / / 2 การกํออิฐมอญครึ่งแผํน 4 /// / / / / 3 การกํออฐิ มอญครึ่งแผนํ เขา๎ มุมฉากหน่งึ มมุ 6 / // / / 4 การกํออฐิ มอญครึ่งแผนํ เข๎ามุมฉากสองมมุ 6 / // / / / 5 การกํออิฐมอญคร่ึงแผํนรูปวงกลม (บอํ น้า) 6 / / / / / 6 การกํออฐิ เตม็ แผนํ 6 /// // / 7 การกํออิฐเสาสี่เหล่ียม 6 /// / // 8 การกํออฐิ เสาหกเหล่ยี ม 6 //////// 9 การกํออิฐเสาแปดเหลี่ยม 6 /// /// 10 การกํอคอนกรีตบล็อก 12 / / / / / / 11 การกอํ อฐิ ประดบั การกอํ อฐิ โชวแ๑ นว และการเซาะรอํ งเหล่ยี ม 6 / // 12 การกอํ อฐิ ประดับ การกํออฐิ โชว๑แนวและการเซาะรํองโค๎ง 6 // / 13 การกํออฐิ มวลเบา 6 // / // 14 การทาระดับผนงั 6 // / 15 การฉาบผนงั เรยี บ 6 // /// 16 การจับเหล่ยี มเสา 6 / //// / 17 การฉาบเสา 6 //////// วัดผลสมั ฤทธิ์ปลายภาคเรียน 6 รวม 108 หมายเหตุ A = งานกอํ อิฐและงานฉาบปูนภาคปฏบิ ัติ B = Q–CON C = คูมํ ือการใช๎ปนู ซีเมนตป๑ อรต๑ แลนดเ๑ อนกประสงค๑ D = อินทรีมอรต๑ าร๑ แมกซ๑ E = ปูนซเี มนต๑และการประยุกต๑ใชง๎ าน F = เทคนคิ การใช๎ปูนซีเมนต๑ G = อนิ ทรซี ปุ เปอร๑บลอ๏ ก H = ผนงั อนิ ทรี ซุปเปอร๑บล็อก I = เทคนคิ งานปูน–คอนกรีต J = ชํางปนู กํอสรา๎ ง K = วสั ดุกํอสรา๎ ง
การวัดผลและประเมนิ ผล ชอ่ื วิชา พน้ื ฐานงานปนู รหสั วชิ า 2106 – 1002 ท–ป–น 0–6–2 จานวนคาบสอน 6 คาบ: สปั ดาห์ ระดบั ชน้ั ปวช. 1. คะแนนการวดั ผล - พทุ ธิพิสัย 1) แบบฝกึ หดั 10 % 2) ทดสอบหลงั เรยี น 10 % 3) วัดผลสมั ฤทธิ์ (ปลายภาค) 10 % - ทกั ษะพสิ ยั 1) ใบงาน 30 % 2) ทดสอบภาคปฏิบตั ิ 20% - จติ พิสยั รวม 20 % รวมทง้ั หมด 100 % (คะแนนทดสอบกํอนเรียนไวส๎ าหรับเปรียบเทยี บกบั คะแนนทดสอบหลังเรียน) คะแนนระหว่างภาค/ปลายภาค 70 : 20 ระหวํางภาค 1) แบบฝึกหัด 10 % 2) ทดสอบหลงั เรียน 10 % 3) ใบงาน 30 % 4) จติ พิสัย 20 % รวม 70 % ปลายภาค 1) วัดผลสมั ฤทธ์ิ (ปลายภาค) 10 % 2) ทดสอบภาคปฏบิ ัติ 20 % รวม 30 % 2. คะแนนการประเมนิ ผล (อิงเกณฑ์) 80 – 100 คะแนน ได๎ผลการเรียน 4.0 หมายถึง ผลการเรยี นอยูใํ นเกณฑ๑ดเี ยย่ี ม 75 – 79 คะแนน ได๎ผลการเรียน 3.5 หมายถึง ผลการเรียนอยใํู นเกณฑ๑ดีมาก 70 – 74 คะแนน ไดผ๎ ลการเรยี น 3.0 หมายถึง ผลการเรียนอยใํู นเกณฑด๑ ี 65 – 69 คะแนน ได๎ผลการเรยี น 2.5 หมายถึง ผลการเรยี นอยูใํ นเกณฑ๑ดีพอใช๎ 60 – 64 คะแนน ได๎ผลการเรยี น 2.0 หมายถึง ผลการเรียนอยูํในเกณฑ๑พอใช๎ 55 – 59 คะแนน ได๎ผลการเรยี น 1.5 หมายถึง ผลการเรียนอยูํในเกณฑอ๑ ํอน 50 – 54 คะแนน ได๎ผลการเรยี น 1.0 หมายถงึ ผลการเรียนอยใํู นเกณฑอ๑ ํอนมาก 50 คะแนน ไดผ๎ ลการเรียน 0 หมายถึง ผลการเรียนตา่ กวําเกณฑ๑ข้ันต่า
ความสอดคลอ้ งของหน่วยกับสมรรถนะรายวิชา ชอื่ วิชา พนื้ ฐานงานปูน รหสั วชิ า 20106-1003 ท–ป–น 0–6–2 จานวนคาบสอน 6 คาบ: สัปดาห์ ระดับชนั้ ปวช. ความสอดคลอ้ งกับ สมรรถนะรายวิชา หนว่ ย ชอื่ หน่วย คาบ 1. แสดงความรู๎เ ีก่ยวกับการใ ๎ชเครื่องมืองานปูน การ ํกอ ิอฐ ฉาบปูน 2. เตรียมความพร๎อมของรํางกาย เคร่ืองมือ ัวสดุอุปกรณ๑ 3. ผสมปูน ํกอ ิอฐและฉาบปูนตามรูปแบบตําง ๆ ตามข้ันตอน 1 เครอื่ งมอื อปุ กรณ๑ และวัสดใุ นงานปูน 2 / 2 การกํออิฐมอญครึ่งแผนํ 4 // 3 การกํออิฐมอญครึ่งแผํนเขา๎ มุมฉากหนงึ่ มุม 6 // 4 การกํออิฐมอญครึ่งแผํนเขา๎ มุมฉากสองมมุ 6 // 5 การกํออิฐมอญครึ่งแผํนรูปวงกลม (บํอน้า) 6 /// 6 การกํออฐิ เต็มแผํน 6 /// 7 การกํออฐิ เสาส่ีเหล่ยี ม 6 /// 8 การกํออิฐเสาหกเหลยี่ ม 6 /// 9 การกํออฐิ เสาแปดเหลยี่ ม 6 /// 10 การกํอคอนกรตี บล็อก 12 /// 11 การกํออฐิ ประดบั การกํออิฐโชวแ๑ นว และการเซาะรอํ งเหลี่ยม 6 /// 12 การกํออฐิ ประดบั การกํออิฐโชว๑แนวและการเซาะรอํ งโคง๎ 6 /// 13 การกํออฐิ มวลเบา 6 /// 14 การทาระดบั ผนงั 6 ///
ความสอดคลอ้ งของหน่วยกับสมรรถนะรายวชิ า ช่อื วิชา พ้ืนฐานงานปูน รหสั วชิ า 2106 – 1002 ท–ป–น 0–6–2 จานวนคาบสอน 6 คาบ: สัปดาห์ ระดับช้ัน ปวช. ความสอดคล้องกบั สมรรถนะรายวิชา หนว่ ย ชื่อหน่วย คาบ 1. แสดงความรู๎เ ีก่ยวกับการใ ๎ชเครื่องมืองานปูน การ ํกอ ิอฐ ฉาบปูน 2. เตรียมความพร๎อมของรํางกาย เคร่ืองมือ ัวสดุอุปกรณ๑ 3. ผสมปูน ํกอ ิอฐและฉาบปูนตามรูปแบบตําง ๆ ตามข้ันตอน 15 การฉาบผนังเรียบ 6 /// 16 การจบั เหล่ียมเสา 6 /// 17 การฉาบเสา 6 /// 108 วัดผลสมั ฤทธป์ิ ลายภาคเรยี น
โครงการจัดการเรียนรู้ ชอ่ื วิชา พนื้ ฐานงานปูน รหสั วิชา 2106 – 1002 ท–ป–น 0–6–2 จานวนคาบสอน 6 คาบ: สัปดาห์ ระดบั ชนั้ ปวช. สัปดาห์ ทฤษฏี ปฏบิ ัติ จานวน ท่ี คาบ หนวํ ยที่ 1 เคร่ืองมอื อปุ กรณ๑ และวัสดุในงานปนู – 2 1 4 หนวํ ยที่ 2 การกอํ อฐิ มอญครึง่ แผํน ใบงานท่ี 1 การกอํ อฐิ มอญครง่ึ แผํน 2 6 หนวํ ยท่ี 3 การกอํ อิฐมอญครึง่ แผนํ เข๎ามุมฉากหนึ่ง ใบงานที่ 2 การกอํ อฐิ มอญครงึ่ แผํนเข๎า 3 6 มมุ มุมฉากหน่ึงมุม 4 6 หนํวยที่ 4 การกํออฐิ มอญครึ่งแผนํ เข๎ามมุ ฉากสอง ใบงานที่ 3 การกอํ อิฐมอญครึ่งแผํนเข๎า 5 6 6 มมุ มุมฉากสองมุม 6 7 6 8 หนํวยท่ี 5 การกอํ อิฐมอญครง่ึ แผํนรูปวงกลม (บอํ ใบงานท่ี 4 การกอํ อิฐมอญคร่ึงแผํนรูป 6 9–10 12 น้า) วงกลม (บํอนา้ ) 11 6 หนวํ ยที่ 6 การกอํ อิฐเตม็ แผํน ใบงานที่ 5 การกํออฐิ เต็มแผํน 12 6 หนวํ ยที่ 7 การกอํ อิฐเสาส่ีเหลย่ี ม ใบงานท่ี 6 การกอํ อิฐเสาสีเ่ หลีย่ ม 13 6 14 หนวํ ยท่ี 8 การกอํ อฐิ เสาหกเหล่ียม ใบงานท่ี 7 การกํออิฐเสาหกเหลย่ี ม 6 15 6 16 หนวํ ยที่ 9 การกอํ อฐิ เสาแปดเหลยี่ ม ใบงานท่ี 8 การกํออิฐเสาแปดเหล่ียม 6 17 6 18 หนวํ ยที่ 10 การกอํ คอนกรตี บลอ็ ก ใบงานท่ี 9 การกํอคอนกรีตบล็อก 6 108 หนํวยที่ 11 การกอํ อฐิ ประดบั การกํออิฐโชว๑แนว ใบงานท่ี 10 การกอํ อิฐประดับ การกํอ และการเซาะรํองเหลี่ยม อฐิ โชว๑แนวและการเซาะรํองเหลยี่ ม หนวํ ยที่ 12 การกอํ อิฐประดบั การกํออฐิ โชว๑แนว ใบงานท่ี 11 การกอํ อฐิ ประดบั การกอํ และการเซาะรํองโค๎ง อิฐโชวแ๑ นว และการเซาะรอํ งโคง๎ หนํวยท่ี 13 การกํออิฐมวลเบา ใบงานที่ 12 การกํออฐิ มวลเบา หนํวยท่ี 14 การทาระดบั ผนงั ใบงานที่ 13 การทาระดบั ผนัง หนวํ ยที่ 15 การฉาบผนังเรยี บ ใบงานที่ 14 การฉาบผนังเรยี บ หนวํ ยท่ี 16 การจบั เหลีย่ มเสา ใบงานท่ี 15 การจับเหลย่ี มเสา หนํวยที่ 17 การฉาบเสา ใบงานที่ 16 การฉาบเสา วัดผลและประเมินผลปลายภาคเรยี น รวม
สมรรถนะยอ่ ยและจดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ช่ือวิชา พ้ืนฐานงานปูน รหัสวิชา 2106 – 1002 ท–ป–น 0–6–2 จานวนคาบสอน 6 คาบ: สปั ดาห์ ระดบั ชน้ั ปวช. ช่ือเรื่อง สมรรถนะย่อยและจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม หนว่ ยที่ 1 เคร่ืองมอื อปุ กรณ๑ และวสั ดุใน สมรรถนะย่อย (Element of Competency) งานปูน 1. แสดงความรู๎เก่ียวกับการใชเ๎ ครอื่ งมืองานปนู การกํออิฐ 1.1 เคร่ืองมืองานปูนและวิธกี ารใช๎ ฉาบปนู เครื่องมือ 2. เตรยี มความพรอ๎ มของราํ งกาย เคร่อื งมอื วสั ดอุ ุปกรณ๑ 1.2 การระวังรักษาเครื่องมอื จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม 1.3 การซํอมแซมเครื่องมือ 1.4 องคป๑ ระกอบของมอร๑ตา๎ ร๑ 1. บอกถึงเคร่ืองมือ อุปกรณ๑ และวัสดุที่ใช๎ในการกํออิฐและ 1.5 ชนิดของปนู กอํ และอตั ราสวํ นผสม ฉาบปนู ได๎อยํางถกู ตอ๎ ง 1.6 วสั ดุงานปนู และการจดั กองวสั ดุ 2.อธบิ ายวิธกี ารรกั ษาเครอื่ งมอื และการซํอมแซมเครอ่ื งมอื ได๎ 3.บอกองค๑ประกอบของคอนกรีต ชนิดของปูนกํอ และ อตั ราสวํ นผสมได๎ 4. บอกวัสดุงานปูนและการจัดกองวัสดุได๎ ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม/บูรณาการค่านิยมหลักของคนไทย แสดงออกถงึ เป็นผม๎ู ีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ประเมนิ ผลงานของ ตนเองรวํ มกับผสู๎ อน สามารถนาหลกั การไปประยุกต๑ใช๎กับงาน จรงิ และมที ักษะของความปลอดภัยและรกั ษาสง่ิ แวดล๎อม
สมรรถนะยอ่ ยและจุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม ชอ่ื วิชา พื้นฐานงานปนู รหัสวิชา 2106 – 1002 ท–ป–น 0–6–2 จานวนคาบสอน 6 คาบ: สปั ดาห์ ระดับช้ัน ปวช. ชอื่ เร่อื ง สมรรถนะย่อยและจดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม หนว่ ยท่ี 2 การกํออฐิ มอญครง่ึ แผนํ สมรรถนะย่อย (Element of Competency) 2.1 ความหมายและประเภทของ แสดงความร๎เู กีย่ วกับการกํออิฐมอญครึ่งแผํน การกอํ อฐิ จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 2.2 หลกั การกอํ อฐิ 1. อธิบายหลกั การกอํ อฐิ มอญคร่ึงแผนํ ได๎ 2.3 ลาดบั ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั ิงาน 2. กํออิฐมอญครึ่งแผํนได๎อยํางถูกต๎อง ประณีต สวยงาม 2.4 ขอ๎ ควรระวังในการกอํ อิฐ มีความแขง็ แรง ใบงานที่ 1 การกอํ อฐิ มอญครึ่งแผํน 3. ลาดบั ขน้ั ตอนการปฏบิ ตั ิงานได๎ 4. ปฏิบัติตนเป็นผ๎มู ีคุณธรรม จริยธรรมได๎ 5. ประเมินผลงานตนเองรวํ มกบั ผส๎ู อนได๎ 6. นาหลักการไปประยุกต๑ใช๎กับงานจริงได๎ 7. มีทกั ษะของความปลอดภยั และรักษาสง่ิ แวดล๎อม สมรรถนะย่อย กํออฐิ มอญคร่งึ แผํนตามข้นั ตอน จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม 1. กํออิฐมอญครึ่งแผํนได๎อยํางถูกต๎อง ประณีต สวยงาม มีความแข็งแรง 2. ปฏิบตั งิ านตามลาดบั ข้นั ตอนในใบงานได๎ ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม/บูรณาการค่านยิ มหลักของคนไทย แสดงออกถงึ กจิ นสิ ยั ท่ีดีในการทางาน ตรงตํอเวลา ความสนใจ ใฝร่ ู๎ ไมหํ ยดนง่ิ ท่ีจะแกป๎ ัญหา ความซ่ือสัตย๑ ความรวํ มมอื
สมรรถนะยอ่ ยและจดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม ชื่อวิชา พื้นฐานงานปนู รหัสวชิ า 2106 – 1002 ท–ป–น 0–6–2 จานวนคาบสอน 6 คาบ: สัปดาห์ ระดับชั้น ปวช. ช่ือเรอื่ ง สมรรถนะยอ่ ยและจุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม หน่วยท่ี 3 การกอํ อฐิ มอญครึง่ แผํนเข๎ามุมฉาก สมรรถนะยอ่ ย (Element of Competency) หนง่ึ มุม แสดงความร๎เู กี่ยวกบั การกํออิฐมอญคร่ึงแผํนเขา๎ มมุ ฉากหนง่ึ 3.1 การกํออิฐ มมุ 3.2 ลาดับขั้นตอนการปฏบิ ตั งิ าน จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. อธบิ ายหลกั การกํออิฐมอญครงึ่ แผํนเขา๎ มมุ ฉากหน่ึงมุมได๎ 2. สามารถกํออิฐครึ่งแผํนเข๎ามุมได๎อยํางถูกต๎อง ประณีต สวยงาม มีความแข็งแรง 3. อธบิ ายข้ันตอนการกํออิฐครง่ึ แผํนเข๎ามมุ ฉากหนง่ึ มุมได๎ 4. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผ๎มู ีคณุ ธรรม จริยธรรมได๎ 5. ประเมินผลงานตนเองรวํ มกบั ผส๎ู อนได๎ 6. นาหลกั การไปประยกุ ตใ๑ ชก๎ บั งานจริงได๎ สมรรถนะยอ่ ย กอํ อฐิ มอญครึง่ แผนํ เข๎ามุมฉากหนึง่ มุมตามขั้นตอน ใบงานที่ 2 การกํออฐิ มอญครึ่งแผนํ เข๎ามมุ ฉาก จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม หนึ่งมุม 1. สามารถกํออิฐคร่ึงแผํนเข๎ามุมฉากหนึ่งมุมได๎อยํางถูกต๎อง ประณตี สวยงาม มคี วามแข็งแรง 2. ปฏิบตั งิ านตามลาดับขัน้ ตอนในใบงานได๎ ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม/บูรณาการคา่ นยิ มหลักของคนไทย แสดงออกด๎านความสนใจใฝ่รู๎ การตรงตํอเวลา ความซื่อสตั ย๑ สจุ รติ มรี ะเบยี บวนิ ยั เคารพกฎกตกิ า ความรวํ มมือ/ยอมรับความ คิดเหน็ สํวนใหญํ
สมรรถนะย่อยและจดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ชอ่ื วิชา พืน้ ฐานงานปนู รหสั วิชา 2106 – 1002 ท–ป–น 0–6–2 จานวนคาบสอน 6 คาบ: สัปดาห์ ระดับช้นั ปวช. ช่ือเรอ่ื ง สมรรถนะย่อยและจดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม หน่วยท่ี 4 การกอํ อิฐมอญครงึ่ แผํนเข๎ามุม สมรรถนะยอ่ ย (Element of Competency) ฉากสองมมุ แสดงความรเู๎ กย่ี วกับกํออฐิ มอญคร่งึ แผํนเข๎ามมุ ฉากสองมุม 4.1 การกอํ อิฐ จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 4.2 ลาดบั ขั้นตอนการปฏิบัติงาน 1. อธิบายหลกั การกอํ อฐิ ครงึ่ แผํนเข๎ามมุ ฉากสองมุมได๎ 4.3 ขนั้ ตอนการกํออฐิ มอญครึง่ แผนํ เขา๎ มมุ 2. สามารถกํออิฐคร่ึงแผํนเข๎ามุมได๎อยํางถูกต๎อง ประณีต ฉากสองมุม สวยงาม มีความแขง็ แรง 3. อธิบายข้นั ตอนการกํออิฐครงึ่ แผนํ เขา๎ มมุ ฉากสองมมุ ได๎ 4. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผ๎มู คี ณุ ธรรม จริยธรรมได๎ 5. ประเมินผลงานตนเองรํวมกับผส๎ู อนได๎ 6. นาหลกั การไปประยุกตใ๑ ชก๎ ับงานจรงิ ได๎ 7. มที กั ษะของความปลอดภยั และรกั ษาสง่ิ แวดล๎อม สมรรถนะยอ่ ย กํออฐิ มอญคร่ึงแผนํ เขา๎ มุมฉากสองมุมตามข้นั ตอน ใบงานที่ 3 กอํ อฐิ มอญครึง่ แผํนเขา๎ มุมฉากสอง จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม มมุ 1. สามารถกํออิฐมอญครึ่งแผํนเข๎ามุมฉากสองมุมได๎อยําง ถูกต๎อง ประณีต สวยงาม มีความแข็งแรง 2. ปฏิบัตงิ านตามลาดับข้ันตอนในใบงานได๎ ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม/บรู ณาการค่านิยมหลักของคนไทย แสดงออกถึงกิจนิสัยท่ีดีในการทางาน ตรงตํอเวลา ความสนใจใฝร่ ๎ู ไมหํ ยดนิ่งทีจ่ ะแก๎ปัญหา ซ่ือสัตย๑ เสียสละ อดทน ความรํวมมอื
สมรรถนะยอ่ ยและจุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ช่อื วิชา พนื้ ฐานงานปนู รหัสวชิ า 2106 – 1002 ท–ป–น 0–6–2 จานวนคาบสอน 6 คาบ: สปั ดาห์ ระดบั ชั้น ปวช. ช่อื เรอื่ ง สมรรถนะย่อยและจดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม หนว่ ยท่ี 5 การกํออฐิ มอญครงึ่ แผนํ รปู วงกลม สมรรถนะยอ่ ย (Element of Competency) (บํอนา้ ) แสดงความรเ๎ู กี่ยวกบั การกํออิฐมอญครึ่งแผํนรปู วงกลม 5.1 การผสมปูนกอํ และปนู ฉาบ 5.2 อตั ราสํวนผสมของปนู กอํ และปนู ฉาบ จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม 5.3 สตู รวงกลม 1. อธบิ ายหลักการกํออิฐมอญครง่ึ แผนํ รปู วงกลมได๎ 5.4 ขัน้ ตอนการกํออิฐมอญครง่ึ แผํนรูป 2. กํออิฐมอญครึ่งแผํนรูปวงกลมได๎อยํางถูกต๎อง ประณีต วงกลม สวยงาม มคี วามแข็งแรง ใบงานที่ 4 กํออฐิ มอญครงึ่ แผนํ รูปวงกลม 3. ปฏิบัตติ นเป็นผมู๎ คี ณุ ธรรม จริยธรรมได๎ (บอํ น้า) 4. ประเมินผลงานตนเองรวํ มกบั ผส๎ู อนได๎ 5. นาหลกั การไปประยกุ ตใ๑ ชก๎ บั งานจรงิ ได๎ สมรรถนะยอ่ ย กํออฐิ มอญครงึ่ แผํนรปู วงกลมตามขั้นตอน จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. สามารถกํออิฐมอญคร่ึงแผํนรูปวงกลม (บํอน้า) ได๎อยําง ถูกตอ๎ ง ประณีต สวยงาม มคี วามแข็งแรง 2. ปฏบิ ตั ิงานตามลาดบั ขนั้ ตอนในใบงานได๎ ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม/บูรณาการค่านยิ มหลกั ของคนไทย แสดงถงึ กจิ นสิ ยั ทีด่ ีในการทางาน มีความรอบคอบ เรียบร๎อย และตระหนักถึงความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน การตรงตํอ เวลา ความรํวมมือ/ยอมรับความคิดเห็นสวํ นใหญํ
สมรรถนะย่อยและจุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม ชื่อวิชา พ้นื ฐานงานปนู รหัสวิชา 2106 – 1002 ท–ป–น 0–6–2 จานวนคาบสอน 6 คาบ: สัปดาห์ ระดับชัน้ ปวช. ช่อื เรื่อง สมรรถนะย่อยและจดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม หนว่ ยท่ี 6 การกํออิฐมอญเต็มแผนํ สมรรถนะย่อย (Element of Competency) 6.1 ความหมายของการกํออฐิ มอญเต็มแผํน แสดงความรู๎เกีย่ วกับการกอํ อิฐมอญเตม็ แผํน 6.2 ลาดบั ขน้ั ตอนการกํออฐิ มอญเตม็ แผนํ จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ใบงานท่ี 5 กอํ อิฐมอญเต็มแผํน 1. อธบิ ายหลักการกอํ อิฐมอญเต็มแผํนได๎ 2. กํออฐิ มอญเต็มแผํนไดอ๎ ยํางถูกตอ๎ ง ประณตี สวยงาม มคี วามแข็งแรง 3. ปฏิบตั ิตนเป็นผ๎มู ีคณุ ธรรม จริยธรรมได๎ 4. ประเมนิ ผลงานตนเองรวํ มกบั ผส๎ู อนได๎ 5. นาหลกั การไปประยกุ ต๑ใชก๎ บั งานจริงได๎ 6. มที ักษะของความปลอดภยั และรกั ษาสิ่งแวดล๎อม สมรรถนะย่อย กํออิฐมอญเตม็ แผํนตามขัน้ ตอน จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม 1. สามารถกอํ อิฐมอญเต็มแผํนไดอ๎ ยาํ งถกู ต๎อง ประณตี สวยงาม มีความแขง็ แรง 2. ปฏิบัตงิ านตามลาดบั ข้ันตอนในใบงานได๎ ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการคา่ นยิ มหลักของคนไทย แสดงออกถึงกจิ นสิ ัยท่ีดีในการทางาน ตรงตํอเวลา ความ สนใจใฝ่ร๎ู ไมํหยดนิ่งท่ีจะแก๎ปัญหา ความซ่ือสัตย๑ ความ รวํ มมือ ตระหนกั ถึงความปลอดภยั ในการทางาน
สมรรถนะยอ่ ยและจุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ชือ่ วิชา พื้นฐานงานปนู รหสั วิชา 2106 – 1002 ท–ป–น 0–6–2 จานวนคาบสอน 6 คาบ: สัปดาห์ ระดับช้ัน ปวช. ช่ือเร่ือง สมรรถนะย่อยและจุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม หนว่ ยที่ 7 การกํออิฐเสาสีเ่ หลย่ี ม สมรรถนะยอ่ ย (Element of Competency) 7.1 การกอํ อฐิ แสดงความร๎ูเก่ียวกบั การกอํ อิฐเสาส่ีเหล่ียม 7.2 ขั้นตอนการกํออฐิ เสาสเ่ี หลีย่ ม จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม ใบงานที่ 6 กอํ อฐิ เสาสีเ่ หล่ียม 1. อธิบายหลกั การกํออิฐเสาสีเ่ หล่ียมได๎ 2. กํออิฐเสาส่ีเหล่ียมได๎อยํางถูกต๎อง ประณีต สวยงาม มี ความแขง็ แรง 3. ปฏบิ ัติตนเป็นผู๎มีคุณธรรม จริยธรรมได๎ 4. ประเมนิ ผลงานตนเองรํวมกับผสู๎ อนได๎ 5. นาหลักการไปประยกุ ตใ๑ ช๎กบั งานจรงิ ได๎ 6. มที ักษะของความปลอดภยั และรักษาส่ิงแวดล๎อม สมรรถนะย่อย กํออิฐเสาส่ีเหลย่ี มตามข้นั ตอน จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. สามารถกอํ อิฐเสาสเ่ี หลยี่ มไดอ๎ ยํางถกู ต๎อง ประณีต สวยงาม มคี วามแข็งแรง 2. ปฏบิ ตั ิงานตามลาดบั ขัน้ ตอนในใบงานได๎ ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม/บูรณาการคา่ นิยมหลกั ของคนไทย แสดงออกถงึ การตรงตํอเวลา ความสนใจใฝร่ ๎ู ไมํหยดนิ่งที่ จะแกป๎ ญั หา ความซ่อื สตั ย๑ ความรวํ มมอื ชํวยเหลือเกื้อกลู
สมรรถนะยอ่ ยและจุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ชอ่ื วิชา พ้ืนฐานงานปูน รหัสวชิ า 2106 – 1002 ท–ป–น 0–6–2 จานวนคาบสอน 6 คาบ: สปั ดาห์ ระดบั ชนั้ ปวช. ช่อื เร่ือง สมรรถนะย่อยและจดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม หนว่ ยท่ี 8 การกอํ อิฐเสาหกเหลี่ยม สมรรถนะย่อย (Element of Competency) 8.1 ขนั้ ตอนการกอํ อิฐเสาหกเหลี่ยม แสดงความร๎ูเกีย่ วกับการกอํ อิฐเสาหกเหลีย่ ม ใบงานท่ี 7 การกอํ อิฐเสาหกเหล่ยี ม จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. อธิบายหลกั การกอํ อฐิ เสาหกเหลี่ยมได๎ 2. กอํ อฐิ เสาหกเหล่ียมไดอ๎ ยาํ งถูกตอ๎ ง ประณตี สวยงาม มี ความแขง็ แรง 3. ปฏบิ ัติตนเปน็ ผู๎มคี ณุ ธรรม จริยธรรมได๎ 4. ประเมนิ ผลงานตนเองรวํ มกับผส๎ู อนได๎ 5. นาหลักการไปประยกุ ต๑ใชก๎ บั งานจรงิ ได๎ 6. มที กั ษะของความปลอดภัยและรกั ษาส่งิ แวดล๎อม สมรรถนะยอ่ ย กํออิฐเสาหกเหลี่ยมตามข้ันตอน จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. สามารถกอํ อิฐเสาหกเหลี่ยมไดอ๎ ยาํ งถูกตอ๎ ง ประณตี สวยงาม มคี วามแข็งแรง 2. ปฏิบัติงานตามลาดบั ข้ันตอนในใบงานได๎ ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม/บูรณาการค่านิยมหลักของคนไทย แสดงออกด๎านการตรงตํอเวลา ความสนใจใฝร่ ๎ู ไมหํ ยดนงิ่ ที่ จะแก๎ปัญหา ความซอื่ สัตย๑ ความรวํ มมอื
สมรรถนะยอ่ ยและจุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ชื่อวิชา พน้ื ฐานงานปนู รหสั วิชา 2106 – 1002 ท–ป–น 0–6–2 จานวนคาบสอน 6 คาบ: สัปดาห์ ระดบั ชน้ั ปวช. ชอ่ื เรือ่ ง สมรรถนะย่อยและจดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม หนว่ ยที่ 9 การกํออฐิ เสาแปดเหลีย่ ม สมรรถนะยอ่ ย (Element of Competency) 9.1 ขน้ั ตอนการกอํ อฐิ เสาแปดเหล่ยี ม แสดงความรู๎เก่ียวกบั การกอํ อฐิ เสาแปดเหลยี่ ม ใบงานท่ี 8 การกํออฐิ เสาแปดเหลย่ี ม จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1. อธิบายหลกั การกํออฐิ เสาแปดเหลี่ยมได๎ 2. กํออิฐเสาแปดเหลี่ยมได๎อยํางถูกต๎อง ประณีต สวยงาม มี ความแขง็ แรง 3. ปฏิบตั ิตนเปน็ ผ๎ูมีคณุ ธรรม จริยธรรมได๎ 4. ประเมนิ ผลงานตนเองรวํ มกับผ๎ูสอนได๎ 5. นาหลกั การไปประยุกตใ๑ ช๎กบั งานจรงิ ได๎ 6. มีทกั ษะของความปลอดภยั และรกั ษาสงิ่ แวดล๎อม สมรรถนะยอ่ ย กอํ อิฐเสาแปดเหล่ียมตามขั้นตอน จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม 1. สามารถกอํ อฐิ เสาแปดเหลยี่ มได๎อยํางถูกตอ๎ ง ประณตี สวยงาม มคี วามแข็งแรง 2. ปฏบิ ัติงานตามลาดับขั้นตอนในใบงานได๎ ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม/บูรณาการคา่ นิยมหลักของคนไทย แสดงออกถึงกจิ นิสยั ท่ดี ีในการทางาน ตรงตอํ เวลา ความ สนใจใฝร่ ู๎ ไมํหยดนง่ิ ทจ่ี ะแกป๎ ญั หา ความซ่ือสตั ย๑ ความรวํ มมอื
สมรรถนะย่อยและจดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ชือ่ วิชา พน้ื ฐานงานปูน รหสั วิชา 2106 – 1002 ท–ป–น 0–6–2 จานวนคาบสอน 6 คาบ: สปั ดาห์ ระดบั ชัน้ ปวช. ชื่อเรอ่ื ง สมรรถนะย่อยและจุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม หน่วยท่ี 10 การกอํ คอนกรตี บล็อก สมรรถนะยอ่ ย (Element of Competency) 10.1 หลักการกอํ คอนกรตี บลอ็ ก แสดงความร๎ูเกย่ี วกับการกอํ คอนกรตี บลอ็ ก 10.2 ข้ันตอนการกอํ คอนกรตี บล็อก จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม ใบงานที่ 9 การกํอคอนกรตี บลอ็ ก 1. อธิบายหลกั การกอํ อิฐบล็อกได๎ 2. กํออิฐบล็อกได๎อยํางถูกต๎อง ประณีต สวยงาม มีความ แขง็ แรง 3. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผมู๎ คี ุณธรรม จรยิ ธรรมได๎ 4. ประเมนิ ผลงานตนเองรํวมกับผส๎ู อนได๎ 5. นาหลกั การไปประยกุ ตใ๑ ช๎กับงานจรงิ ได๎ 6. มที ักษะของความปลอดภัยและรกั ษาส่ิงแวดล๎อม สมรรถนะย่อย กํอคอนกรตี บล็อกตามข้ันตอน จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 1. สามารถกํอคอนกรีตบล็อกไดอ๎ ยาํ งถกู ต๎อง ประณตี สวยงาม มคี วามแข็งแรง 2. ปฏิบัติงานตามลาดบั ข้นั ตอนในใบงานได๎ ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม/บูรณาการคา่ นยิ มหลักของคนไทย แสดงออกดา๎ นการตรงตอํ เวลา ความสนใจใฝ่ร๎ู ไมหํ ยดนิ่งท่ี จะแก๎ปญั หา ความซ่ือสัตย๑ ความรวํ มมอื
สมรรถนะยอ่ ยและจุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ชอื่ วิชา พ้นื ฐานงานปูน รหัสวชิ า 2106 – 1002 ท–ป–น 0–6–2 จานวนคาบสอน 6 คาบ: สัปดาห์ ระดับช้ัน ปวช. ชื่อเร่ือง สมรรถนะย่อยและจดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม หน่วยที่ 11 การกอํ อฐิ ประดบั การกํออิฐโชว๑ สมรรถนะย่อย (Element of Competency) แนว และการเซาะรํองเหล่ียม แสดงความรู๎เกี่ยวกับการกํออิฐประดับ การกํออิฐโชว๑แนว 11.1 การกอํ อิฐประดับ การกอํ อิฐโชว๑แนว และการเซาะรํองเหลีย่ ม และการเซาะรํองเหล่ียม จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 11.2 ข้นั ตอนการแตงํ แนวกอํ และการเซาะ 1. อธิบายหลักการ การแตํงแนวกํอท้ังแนวระดับและแนวด่ิง รอํ งเหลีย่ ม ได๎ 2. แตํงแนวกํอท้ังแนวระดับและแนวด่ิงได๎อยํางถูกต๎อง ประณีต สวยงาม 3. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผูม๎ ีคุณธรรม จรยิ ธรรมได๎ 4. ประเมนิ ผลงานตนเองรวํ มกับผสู๎ อนได๎ 5. นาหลักการไปประยกุ ตใ๑ ชก๎ บั งานจรงิ ได๎ 6. มที ักษะของความปลอดภยั และรกั ษาส่ิงแวดลอ๎ ม สมรรถนะยอ่ ย กํออิฐประดับ กอํ อฐิ โชว๑แนว และเซาะรอํ งเหลยี่ มตาม ใบงานท่ี 10 การกํออิฐประดับ การกํออิฐโชว๑ ขัน้ ตอน แนว และการเซาะรํองเหลย่ี ม จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม 1. สามารถกํออฐิ ประดบั กํออิฐโชวแ๑ นว และเซาะรอํ ง เหลย่ี มตามขั้นตอนได๎อยาํ งถูกตอ๎ ง ประณตี สวยงาม มคี วาม แข็งแรง 2. ปฏิบัตงิ านตามลาดับข้ันตอนในใบงานได๎ ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม/บูรณาการค่านยิ มหลักของคนไทย แสดงออกด๎านความสนใจใฝร่ ๎ู การตรงตํอเวลา ความ ซ่อื สตั ย๑ สุจริต ความมนี ้าใจและแบํงบนั ความรวํ มมอื /ยอมรบั ความคิดเห็นสํวนใหญํ
สมรรถนะย่อยและจุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ชื่อวิชา พืน้ ฐานงานปนู รหัสวชิ า 2106 – 1002 ท–ป–น 0–6–2 จานวนคาบสอน 6 คาบ: สัปดาห์ ระดับชั้น ปวช. ชอ่ื เรอื่ ง สมรรถนะย่อยและจดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม หนว่ ยที่ 12 การกอํ อฐิ ประดับ การกอํ อิฐโชว๑ สมรรถนะย่อย (Element of Competency) แนว และการเซาะรอํ งโคง๎ แสดงความรู๎เกี่ยวกับการกํออิฐประดับ การกํออิฐโชว๑แนว 12.1 การกํออฐิ ประดับ การกํออฐิ โชวแ๑ นว และการเซาะรํองโค๎ง และการเซาะรอํ งโคง๎ จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม 12.2 ข้ันตอนการแตงํ แนวกอํ และเซาะรํอง 1. อธบิ ายหลักการ การแตงํ แนวกํอทั้งแนวระดับและแนวด่ิง โคง๎ ได๎ 2. แตํงแนวกํอท้ังแนวระดับและแนวด่ิงได๎อยํางถูกต๎อง ประณตี สวยงาม 3. ปฏบิ ตั ิตนเป็นผ๎ูมีคุณธรรม จริยธรรมได๎ 4. ประเมินผลงานตนเองรํวมกับผ๎สู อนได๎ 5. นาหลักการไปประยกุ ต๑ใช๎กบั งานจริงได๎ 6. มีทกั ษะของความปลอดภัยและรักษาสงิ่ แวดลอ๎ ม สมรรถนะยอ่ ย กํออิฐประดับ การกํออฐิ โชวแ๑ นว และการเซาะรอํ งโค๎งตาม ข้นั ตอน ใบงานท่ี 11 การกํออิฐประดับ การกํออิฐโชว๑ จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม แนว และการเซาะรอํ งโคง๎ 1. สามารถกํออฐิ ประดับ การกํออฐิ โชว๑แนว และการเซาะ รอํ งโคง๎ ได๎อยํางถกู ตอ๎ ง ประณตี สวยงาม มีความแขง็ แรง 2. ปฏบิ ัติงานตามลาดับขั้นตอนในใบงานได๎ ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม/บรู ณาการค่านิยมหลกั ของคนไทย แสดงออกด๎านความสนใจใฝ่รู๎ การตรงตอํ เวลา ความ ซือ่ สัตย๑ สจุ รติ ความมีน้าใจและแบํงบนั ความรวํ มมอื /ยอมรบั ความคิดเห็นสวํ นใหญํ
สมรรถนะย่อยและจุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ชือ่ วิชา พนื้ ฐานงานปูน รหัสวิชา 2106 – 1002 ท–ป–น 0–6–2 จานวนคาบสอน 6 คาบ: สัปดาห์ ระดับชัน้ ปวช. ชอ่ื เรอ่ื ง สมรรถนะย่อยและจดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม หน่วยที่ 13 การกํออิฐมวลเบา สมรรถนะยอ่ ย (Element of Competency) 13.1 การกอํ อิฐมวลเบา Q–CON แสดงความรเ๎ู กย่ี วกบั การกํออิฐมวลเบา 13.2 การตดิ ตัง้ และคณุ ลกั ษณะพิเศษ จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม ใบงานที่ 12 การกํออิฐมวลเบา 1. อธิบายหลักการ การกอํ อฐิ มวลเบาได๎ 2. กํออิฐมวลเบาได๎อยํางถูกต๎อง ประณีต สวยงาม และมี ความแขง็ แรง 3. ปฏิบตั ิตนเป็นผมู๎ คี ุณธรรม จริยธรรมได๎ 4. ประเมนิ ผลงานตนเองรํวมกบั ผูส๎ อนได๎ 5. นาหลกั การไปประยกุ ต๑ใช๎กบั งานจริงได๎ 6. มที กั ษะของความปลอดภยั และรักษาสง่ิ แวดลอ๎ ม สมรรถนะย่อย กํออิฐมวลเบาตามขั้นตอน จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. สามารถ กอํ อิฐมวลเบาไดอ๎ ยาํ งถูกต๎อง ประณตี สวยงาม มีความแขง็ แรง 2. ปฏบิ ัติงานตามลาดับขน้ั ตอนในใบงานได๎ ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม/บูรณาการคา่ นยิ มหลักของคนไทย แสดงออกถึงกิจนิสัยที่ดีในการทางาน รบั ผดิ ชอบ ประณีต รอบคอบ ตรงตอํ เวลา สะอาด ปลอดภัย และ รกั ษาสภาพแวดล๎อม
สมรรถนะย่อยและจดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม ช่ือวิชา พน้ื ฐานงานปนู รหสั วิชา 2106 – 1002 ท–ป–น 0–6–2 จานวนคาบสอน 6 คาบ: สัปดาห์ ระดับชัน้ ปวช. ช่อื เร่อื ง สมรรถนะย่อยและจดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม หนว่ ยที่ 14 การทาระดับผนงั สมรรถนะยอ่ ย (Element of Competency) 14.1 การทาระดบั ผนงั แสดงความร๎ูเกี่ยวกบั หลักการทาระดับผนงั ใบงานท่ี 13 การทาระดับผนัง จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม 1. อธบิ ายหลกั การทาระดบั ผนังได๎ 2. ทาระดับผนังได๎อยํางถูกต๎อง ประณีต สวยงาม และมี ความแข็งแรง 3. ปฏิบัติตนเปน็ ผมู๎ คี ุณธรรม จรยิ ธรรมได๎ 4. ประเมนิ ผลงานตนเองรวํ มกบั ผส๎ู อนได๎ 5. นาหลักการไปประยุกตใ๑ ชก๎ บั งานจรงิ ได๎ 6. มที กั ษะของความปลอดภัยและรักษาส่งิ แวดลอ๎ ม สมรรถนะย่อย ทาระดับผนงั ตามขน้ั ตอน จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. สามารถทาระดบั ผนังไดอ๎ ยาํ งถกู ตอ๎ ง ประณตี สวยงาม มี ความแข็งแรง 2. ปฏบิ ัตงิ านตามลาดับขั้นตอนในใบงานได๎ ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการคา่ นิยมหลกั ของคนไทย แสดงออกถึงกจิ นสิ ัยทีด่ ใี นการทางาน ตรงตอํ เวลา ความ สนใจใฝ่รู๎ ไมํหยดนงิ่ ทีจ่ ะแกป๎ ัญหา ความซ่ือสตั ย๑ ความรํวมมือ
สมรรถนะย่อยและจุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ชอื่ วิชา พืน้ ฐานงานปูน รหสั วิชา 2106 – 1002 ท–ป–น 0–6–2 จานวนคาบสอน 6 คาบ: สปั ดาห์ ระดับชัน้ ปวช. ช่ือเรอื่ ง สมรรถนะย่อยและจดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม หนว่ ยท่ี 15 การฉาบผนงั เรยี บ สมรรถนะย่อย (Element of Competency) 15.1 การฉาบผนงั เรียบ แสดงความรเู๎ ก่ยี วกับการฉาบผนังเรียบ ใบงานที่ 14 การฉาบผนังเรยี บ จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม 1. อธบิ ายหลักการ การฉาบผนงั เรียบได๎ 2. ฉาบผนงั เรยี บได๎อยาํ งถกู ต๎อง ประณีต สวยงาม 3. ปฏบิ ัติตนเป็นผู๎มคี ณุ ธรรม จริยธรรมได๎ 4. ประเมนิ ผลงานตนเองรวํ มกบั ผูส๎ อนได๎ 5. นาหลักการไปประยุกตใ๑ ช๎กบั งานจรงิ ได๎ 6. มที ักษะความปลอดภยั และรักษาสิ่งแวดล๎อม สมรรถนะย่อย ฉาบผนงั เรียบตามข้ันตอน จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1. สามารถฉาบผนังเรยี บไดอ๎ ยาํ งถกู ต๎อง ประณีต สวยงาม มีความแข็งแรง 2. ปฏบิ ตั ิงานตามลาดับขนั้ ตอนในใบงานได๎ ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม/บรู ณาการคา่ นิยมหลกั ของคนไทย แสดงออกถึงกิจนสิ ัยทีด่ ีในการทางาน ความมีวินัย ความมี มนุษยสัมพนั ธ๑ ความรบั ผดิ ชอบและความเช่อื มนั่ ในตนเอง
สมรรถนะย่อยและจุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ช่อื วิชา พน้ื ฐานงานปนู รหัสวิชา 2106 – 1002 ท–ป–น 0–6–2 จานวนคาบสอน 6 คาบ: สัปดาห์ ระดบั ชน้ั ปวช. ชื่อเรอ่ื ง สมรรถนะย่อยและจดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม หนว่ ยที่ 16 การจับเหลยี่ มเสา สมรรถนะยอ่ ย (Element of Competency) 16.1 ข้นั ตอนการจบั เหลี่ยมเสา แสดงความรูเ๎ กี่ยวกับการจับเหล่ยี มเสา ใบงานท่ี 15 การจบั เหลี่ยมเสา จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม 1. อธบิ ายหลักการจบั เหลีย่ มเสาได๎ 2. จับเหลี่ยมเสาได๎อยํางถูกต๎อง ประณีต สวยงาม และมี ความแข็งแรง 3. ปฏบิ ตั ิตนเป็นผ๎มู คี ุณธรรม จริยธรรมได๎ 4. ประเมินผลงานตนเองรวํ มกับผส๎ู อนได๎ 5. นาหลักการไปประยุกต๑ใช๎กบั งานจริงได๎ 6. มีทกั ษะของความปลอดภัยและรกั ษาสงิ่ แวดลอ๎ ม สมรรถนะย่อย จับเหลี่ยมเสาตามขน้ั ตอน จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 1. สามารถจับเหลย่ี มเสาไดอ๎ ยาํ งถูกต๎อง ประณตี สวยงาม มี ความแข็งแรง 2. ปฏิบัติงานตามลาดบั ข้นั ตอนในใบงานได๎ ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม/บูรณาการคา่ นยิ มหลกั ของคนไทย แสดงออกด๎านความสนใจใฝร่ ู๎ การตรงตอํ เวลา ความ ซอ่ื สตั ย๑ สจุ ริต ความมนี า้ ใจและแบํงบนั ความรวํ มมือ/ยอมรับ ความคดิ เห็นสํวนใหญํ
สมรรถนะยอ่ ยและจดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ช่ือวิชา พืน้ ฐานงานปูน รหสั วชิ า 2106 – 1002 ท–ป–น 0–6–2 จานวนคาบสอน 6 คาบ: สปั ดาห์ ระดบั ชัน้ ปวช. ช่ือเรื่อง สมรรถนะย่อยและจดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม หนว่ ยท่ี 17 การฉาบเสา สมรรถนะย่อย (Element of Competency) 17.1 การฉาบเสา แสดงความรเ๎ู กี่ยวกบั การฉาบเสา ใบงานที่ 16 การฉาบเสา จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม 1. อธิบายหลกั การฉาบเสาได๎ 2. ฉาบเสาได๎อยํางถูกต๎อง ประณีต สวยงาม และมีความ แขง็ แรง 3. ปฏบิ ตั ิตนเป็นผู๎มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรมได๎ 4. ประเมนิ ผลงานตนเองรํวมกบั ผ๎สู อนได๎ 5. นาหลกั การไปประยกุ ต๑ใช๎กบั งานจริงได๎ 6. มีทักษะของความปลอดภยั และรกั ษาส่ิงแวดลอ๎ ม สมรรถนะยอ่ ย ฉาบเสาตามข้นั ตอน จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม 1. สามารถการฉาบเสาไดอ๎ ยาํ งถกู ต๎อง ประณีต สวยงาม มี ความแข็งแรง 2. ปฏบิ ัตงิ านตามลาดบั ขน้ั ตอนในใบงานได๎ ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการคา่ นยิ มหลกั ของคนไทย แสดงออกด๎านความสนใจใฝร่ ๎ู การตรงตํอเวลา ความซ่ือสัตย๑ สจุ ริต ความมนี า้ ใจและแบงํ บนั ความรํวมมือ/ยอมรบั ความ คดิ เหน็ สํวนใหญํ
ตารางวิเคราะห์หลกั สตู รรายวิชา ชื่อวิชา พน้ื ฐานงานปนู รหัสวิชา 2106 – 1002 ท–ป–น 0–6–2 จานวนคาบสอน 6 คาบ: สัปดาห์ ระดับช้ัน ปวช. พทุ ธิพสิ ัย (30%) พฤติกรรม ความรู๎ความจา ความเข๎าใจ ชือ่ หนํวย ประ ุยกต๑-นาไปใ ๎ช ิวเคราะห๑ สูงก ํวา ัทกษะพิ ัสย (50%) จิตพิสัย (20%) รวม ลา ัดบความสา ัคญ 1. เครือ่ งมือ อุปกรณ๑ และวัสดใุ น 11 - 135 งานปูน 3272 2. การกํออฐิ มอญครงึ่ แผํน 11 3163 3. การกํออิฐมอญครง่ึ แผํนเขา๎ มุม 11 ฉากหนง่ึ มุม 3163 4. การกอํ อิฐมอญครง่ึ แผนํ เข๎ามุม 1-1 3272 ฉากสองมุม 3163 5. การกอํ อฐิ มอญครึ่งแผนํ รปู วงกลม 1 1 3163 (บํอนา้ ) 315 315 6. การกํออิฐเตม็ แผนํ 11 5291 7. การกํออิฐเสาสเ่ี หลี่ยม 1-1 3163 8. การกอํ อฐิ เสาหกเหล่ยี ม -1 3163 9. การกอํ อิฐเสาแปดเหลี่ยม --1 3163 3154 10. การกํอคอนกรตี บล็อก 11 3154 3163 11. การกํออฐิ ประดับ การกํออิฐโชว๑ 1 - 1 3163 แนว และการเซาะรํองเหลยี่ ม 50 20 100 12. การกอํ อฐิ ประดับ การกอํ อฐิ โชว๑ 1 1 แนวและการเซาะรอํ งโค๎ง 13. การกอํ อฐิ มวลเบา 11 14. การทาระดบั ผนัง -1 15. การฉาบผนงั เรียบ -1 16. การจับเหลีย่ มเสา 1-1 17. การฉาบเสา 1-1 รวม 13 11 6 30
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 หน่วยท่ี 1 ช่ือวิชา พนื้ ฐานงานปนู (2106 – 1002) เวลาเรยี นรวม 108 คาบ ชือ่ หน่วย เคร่ืองมือ อปุ กรณ๑ และวัสดใุ น งานปนู สอนครั้งที่ 1/18 ช่ือเรือ่ ง เคร่อื งมือ อุปกรณ๑ และวัสดุใน งานปนู จานวน 2 คาบ หวั ข้อเร่อื ง ปฏบิ ัติ ทฤษฎี - 1.1 เคร่อื งมืองานปนู และวิธกี ารใช๎เครอ่ื งมอื 1.2 การระวงั รกั ษาเคร่อื งมอื 1.3 การซอํ มแซมเคร่อื งมือ 1.4 องคป๑ ระกอบของมอร๑ตา๎ ร๑ 1.5 ชนดิ ของปนู กอํ และอตั ราสวํ นผสม 1.6 วัสดุงานปูนและการจดั กองวสั ดุ สมรรถนะย่อย 1. แสดงความรเ๎ู กีย่ วกับการใชเ๎ ครอื่ งมืองานปูน การกํออฐิ ฉาบปนู 2. เตรียมความพร๎อมของราํ งกาย เครอื่ งมือ วสั ดอุ ปุ กรณ๑ จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ดา้ นความรู้ 1. บอกถึงเครื่องมือ อปุ กรณ๑ และวสั ดทุ ใี่ ช๎ในการกอํ อฐิ และฉาบปนู ได๎อยาํ งถกู ต๎อง 2. อธิบายวธิ ีการรกั ษาเครื่องมือและการซํอมแซมเครอ่ื งมอื ได๎ 3. บอกองคป๑ ระกอบของคอนกรตี ชนดิ ของปูนกํอ และอัตราสวํ นผสมได๎ 4. บอกวัสดุงานปนู และการจัดกองวัสดุได๎ ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม/บูรณาการคา่ นยิ มหลักของคนไทย 12 ประการ แสดงออกถงึ เป็นผ๎ูมีคุณธรรม จริยธรรม ประเมินผลงานของตนเองรวํ มกบั ผู๎สอน สามารถนาหลกั การ ไปประยุกต๑ใช๎กบั งานจริง และมีทักษะของความปลอดภยั และรกั ษาสิ่งแวดล๎อม
เนื้อหาสาระ 1. เครอื่ งมือและอุปกรณ๑เป็นเคร่ืองมือชํวยในการปฏิบัติงานปูน จาเป็นต๎องรู๎ลักษณะ ขนาด และหน๎าที่ ในการใช๎งานให๎เหมาะสมกับการใช๎งานท่ีปฏิบัติ เครื่องมืองานปูน แบํงเป็น 2 ประเภท คือ เคร่ืองมือสํวนตัว และเคร่ืองมือสํวนกลาง ซึ่งเคร่ืองมือสํวนตัว หมายถึง เคร่ืองมือที่ใช๎สาหรับประจาตัวชําง สํวนเครื่องมือ สวํ นกลาง หมายถึง เครื่องมือทใ่ี ชส๎ าหรับสวํ นรวม 2. วัสดุแตํละประเภทจะมีคุณสมบัติในการใช๎งานที่แตกตํางกัน การนามาใช๎งานจะต๎องให๎เหมาะสมกับ ประเภทของงานน้นั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สัปดาหท์ ่ี 1/18, คาบท่ี 1–2/108) 1. ครูช้ีแจงรายละเอียดเก่ียวกับจุดประสงค๑ สมรรถนะและคาอธิบายรายวิชา การวัดผลและ ประเมินผลการเรียน คุณลกั ษณะนสิ ัยทต่ี ๎องการใหเ๎ กดิ ขึน้ และข๎อตกลงในการเรียน 2. ครใู ห๎หนงั สือเรยี น 3. ครนู าเข๎าสบูํ ทเรียน และครแู จ๎งจุดประสงคก๑ ารเรียน 4. ครูสอนเน้อื หาสาระขอ๎ 1.1 – 1.6 5. นกั เรียนทาแผนผงั ความคดิ เรื่อง เคร่ืองมอื อปุ กรณ๑ และวสั ดใุ นงานปนู และแบบฝึกหัดทา๎ ยบท 6. ครูและนักเรยี นรํวมกนั เฉลยแบบฝึกหัด และรํวมอภิปรายสรุปบทเรียน 7. นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียนหนํวยที่ 1 สอ่ื และแหลง่ การเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนพื้นฐานงานปูน ของสานักพมิ พศ๑ ูนยห๑ นังสือเมอื งไทย 2. แบบทดสอบหลงั เรียน 3. อินเตอร๑เนต็ การวัดและการประเมนิ ผล การวดั ผล การประเมนิ ผล (ใชเ๎ ครื่องมือ) (นาผลเทียบกบั เกณฑแ๑ ละแปลความหมาย) 1. แบบสงั เกตการทางานกลมํุ และนาเสนอผลงานกลมุํ 2. แบบทดสอบหลงั เรยี น (Post–test) หนวํ ยท่ี 1 เกณฑผ๑ ําน 60% 3. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม ตามสภาพจริง เกณฑผ๑ าํ น 50% เกณฑผ๑ าํ น 60% งานท่ีมอบหมาย งานทมี่ อบหมายนอกเหนือเวลาเรยี น ให๎ศึกษาข๎อมูลเทคโนโลยีเก่ียวกับเครื่องมือ อุปกรณ๑ และวัสดุใน งานปูนท่ีทันสมัย บนั ทึกสาระสาคญั ไมํเกิน 2 หนา๎ กระดาษ สํงผสู๎ อนในการเรยี นครง้ั ตอํ ไป
ผลงาน/ชน้ิ งาน/ความสาเร็จของผ้เู รยี น 1. คะแนนการทาแบบฝึกหัด 2. คะแนนแบบทดสอบหลังเรียน (Post–test) หนวํ ยท่ี 1 3. คะแนนจากการเขยี นแผนผังความคดิ เร่ือง เครื่องมือ อปุ กรณ๑ และวสั ดใุ นงานปนู เอกสารอ้างองิ จรี ะศักดิ์ สทิ ธิผล (2557). พน้ื ฐานงานปนู (2106–1002). นนทบรุ ี : ศนู ย๑หนังสอื เมืองไทย.
บันทึกหลงั การสอน 1. ผลการใช้แผนการจดั การเรยี นรู้ (จุดประสงค๑การเรียนร๎/ู กจิ กรรม/การประเมินผล) ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ..................................................... ....................................... .................................................................................... ................................................................................ .......... ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. ผลการเรยี นของนกั เรยี น/ผลการสอนของครู/ปญั หาท่ีพบ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ......................................................... ................................... ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3. แนวทางการแกป้ ญั หา ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. .................................................... ........................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ............................................... ลงช่ือ..................................... .......... (...............................................) (........................................ .....) ตัวแทนนกั เรยี น ครผู ๎สู อน
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 หนว่ ยที่ 2 ช่อื วิชา พื้นฐานงานปนู (2106 – 1002) เวลาเรยี นรวม 108 คาบ ชอื่ หน่วย การกอํ อิฐมอญคร่งึ แผํน สอนครัง้ ท่ี 1/18 จานวน 4 คาบ ชือ่ เรอ่ื ง การกอํ อฐิ มอญคร่ึงแผนํ หวั ขอ้ เร่ือง ปฏบิ ัติ ใบงานท่ี 1 การกอํ อิฐมอญครง่ึ แผํน ทฤษฎี 2.1 ความหมายและประเภทของการกอํ อิฐ ขอ๎ ควรระวังในการกอํ อิฐ 2.2 หลกั การกอํ อิฐ 2.3 ลาดับข้ันตอนการปฏบิ ัตงิ าน 2.4 ข๎อควรระวังในการกํออิฐ สมรรถนะยอ่ ย 1. แสดงความร๎เู ก่ียวกับการกอํ อิฐมอญครง่ึ แผนํ 2. กอํ อฐิ มอญครึง่ แผนํ ตามขน้ั ตอน จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม ด้านความรู้ 1. อธิบายหลกั การกํออิฐมอญครึ่งแผํนได๎ 2. กอํ อฐิ มอญครงึ่ แผํนไดอ๎ ยาํ งถกู ต๎อง ประณีต สวยงาม มีความแข็งแรง 3. ลาดับขน้ั ตอนการปฏบิ ัตงิ านได๎ 4. ปฏิบตั ิตนเป็นผ๎ูมคี ุณธรรม จรยิ ธรรมได๎ 5. ประเมนิ ผลงานตนเองรวํ มกบั ผ๎สู อนได๎ 6. นาหลักการไปประยุกต๑ใช๎กบั งานจรงิ ได๎ 7. มีทักษะของความปลอดภัยและรักษาส่ิงแวดล๎อม ดา้ นทักษะ 1. กํออฐิ มอญครง่ึ แผํนได๎อยาํ งถูกต๎อง ประณตี สวยงาม มีความแข็งแรง 2. ปฏบิ ัติงานตามลาดับขนั้ ตอนในใบงานได๎ ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม/บูรณาการคา่ นิยมหลักของคนไทย 12 ประการ แสดงออกถึงกิจนิสัยท่ีดีในการทางาน ตรงตํอเวลา ความสนใจใฝ่ร๎ู ไมํหยดนิ่งท่ีจะแก๎ปัญหา ความ ซื่อสตั ย๑ ความรํวมมอื
เน้ือหาสาระ ความหมายของการกอ่ อิฐ การกอํ อิฐ คอื การจัดอฐิ ให๎ถกู ต๎องตามหลกั วชิ าการ แนวปูนกํอสํวนต้ังและแนวนอนบนหลังแผํนอิฐช้ันที่ หนึ่งจะตอ๎ งใช๎เกรยี งตกั ปนู ใสใํ หพ๎ อดีแล๎วใช๎ปลายเกรียงเกลี่ยไปมา โดยทาพ้ืนหน๎าปูนกํอให๎ขรุขระพอประมาณ มคี วามหนาบางเทํา ๆ กัน (การเกลี่ยปูนเรียบเกินไปเม่ือวางอิฐทับลงปูนกํอเมื่อแข็งตัวแล๎วแผํนอิฐกับปูนจะจับ กันไมํสนิท) เม่ือเห็นวําปูนมีความหนาบางพอดีแล๎วจึงวางแผํนอิฐทับ ใช๎ด๎ามเกรียงเคาะจนเข๎าท่ี (ไมํควรเคาะ แรงอฐิ จะแตก) แนวปูนกอํ หรอื มอร๑ตา๎ หนาประมาณ 1.5–2 ซม. ประเภทของการกอ่ อฐิ แบํงออกเป็น 2 ประเภท คอื 1. กํออฐิ โชว๑แนว (ไมตํ อ๎ งฉาบทับ) เพ่ืออวดผวิ ปูนหรอื แนวของอิฐต๎องอาศัยความชานาญ การตกแตงํ มีหลายประเภท ดงั น้ี (1) การเซาะรอํ งสเี่ หล่ียม (2) การเซาะรอํ งสามเหลย่ี ม (3) การเซาะรอํ งโค๎ง การตกแตํงเซาะรํองแตํละแบบ ควรระวังรักษาความสะอาดหน๎าผนังถือปูนแตํละผนัง ทั้งด๎านหน๎าและ ดา๎ นหลังผนังตอ๎ งใชผ๎ ๎าสะอาดชุบน้าคอยเช็ดอยเูํ สมออยําทิ้งไวจ๎ นจบั แข็ง 2. กอํ อฐิ แล๎วฉาบทับ ได๎แกํ งานกอํ สร๎างท่ีกอํ ด๎วยอฐิ มอญหรือท่ีเปน็ ชนิดเดยี วกัน ซึ่งมผี ิว ไมํเรียบ เมื่อทาการถอื ปนู ปนู ที่ถือจะจบั และยึดเกาะได๎ดี สาระที่เกย่ี วขอ๎ ง 1. การเตรยี มพน้ื ทป่ี ฏบิ ัตงิ านกํออิฐเป็นขั้นตอนแรกท่ีผู๎ปฏิบตั ิควรทราบหลักการตําง ๆ เพ่ือการทางานที่ ใหค๎ วามสะดวกและปลอดภยั 2. เคร่ืองมือและอุปกรณ๑งานปูนมีหลายประเภท และหลายชนิด ดังน้ันชํางปูนควรรู๎จักการเตรียมการ และการใชง๎ านให๎เหมาะสมกับงานทีป่ ฏบิ ตั ิ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาห์ที่ 1/18, คาบที่ 3–6/108) 1. ครูตรวจสอบความพร๎อมและช้แี จงข๎อมลู เกย่ี วกับแนวทางกับการเรียนภาคปฏบิ ตั ขิ องงานปูน 2. ครนู าเขา๎ สบูํ ทเรยี น และครูแจง๎ จดุ ประสงค๑การเรียน 3. ครสู อนเนื้อหาสาระขอ๎ 2.1 – 2.2 4. นักเรยี นทาแบบฝึกหัดท่ี 2 5. ครูและนกั เรยี นรวํ มกนั เฉลยแบบฝกึ หดั และรํวมอภิปรายสรุปบทเรียน 6. ใหน๎ กั เรยี นทาตามใบงานท่ี 1 ขณะนักเรียนทาใบงาน ครจู ะสงั เกตการทางานกลํมุ และตรวจผลงาน ภาคปฏิบัติ 7. ให๎นักเรยี นทาความสะอาดเครื่องมอื อปุ กรณ๑ และบริเวณพน้ื ที่ปฏบิ ัตงิ านใหเ๎ รียบร๎อย 8. ครใู ห๎นกั เรยี นรํวมกันสรปุ ผล ประเมนิ ผลงานรํวมกนั และทาแบบทดสอบหลังเรยี น
ส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนังสือเรยี นพืน้ ฐานงานปูน ของสานักพิมพศ๑ ูนย๑หนงั สือเมืองไทย 2. แบบทดสอบหลังเรยี น 3. อุปกรณพ๑ ้ืนฐานงานปนู เครอ่ื งมอื และวสั ดฝุ กึ การวัดและการประเมินผล การวัดผล การประเมินผล (ใชเ๎ คร่ืองมอื ) (นาผลเทยี บกับเกณฑแ๑ ละแปลความหมาย) 1. แบบสังเกตการทางานกลุํมและนาเสนอผลงานกลํมุ 2. ผลงานตามใบงานท่ี 1 และแบบประเมนิ เกณฑผ๑ าํ น 60% 3. แบบทดสอบหลังเรยี น (Post–test) หนวํ ยท่ี 2 เกณฑ๑ผําน 60% 4. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ตามสภาพจริง เกณฑผ๑ ําน 50% เกณฑผ๑ ําน 60% งานท่มี อบหมาย งานทมี่ อบหมายนอกเหนือเวลาเรียน ทาแบบฝกึ หัดให๎ถูกต๎อง สมบรู ณ๑ และศึกษาเรื่องการกอํ อฐิ มอญ คร่งึ แผนํ เข๎ามุมฉากหน่งึ มุม ผลงาน/ชนิ้ งาน/ความสาเรจ็ ของผ้เู รยี น 1. ผลการทากิจกรรมตามใบงานที่ 1 2. คะแนนแบบทดสอบหลังเรียน (Post–test) หนํวยท่ี 2 เอกสารอา้ งอิง จีระศกั ด์ิ สิทธผิ ล (2557). พนื้ ฐานงานปูน (2106 – 1002). นนทบรุ ี : ศูนย๑หนงั สอื เมืองไทย.
บันทึกหลงั การสอน 1. ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ (จุดประสงค๑การเรยี นร๎ู/กิจกรรม/การประเมินผล) ............................................................................................................................. ................................................. ....................................................................................................................................... ....................................... .................................................................................... .......................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................. ................................................................. 2. ผลการเรียนของนักเรียน/ผลการสอนของครู/ปญั หาท่ีพบ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ......................................................... ................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. .................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ................................................. 3. แนวทางการแก้ปัญหา ................................................................................................................................................................... ........... ........................................................................................................................ ...................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ......................................................................................................................................................... ..................... .............................................................................................................. ................................................................ ............................................................................................................... ............................................................ ... ลงชื่อ............................................... ลงช่ือ.......................................... ..... (...............................................) (.......................... ...................) ตัวแทนนักเรยี น ครผู ู๎สอน
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 หนว่ ยที่ 3 ชอ่ื วิชา พ้ืนฐานงานปูน (2106–1002) เวลาเรยี นรวม 108 คาบ ช่อื หน่วย การกํออิฐมอญคร่งึ แผนํ เขา๎ มมุ ฉากหนง่ึ มุม สอนครัง้ ที่ 2/18 จานวน 6 คาบ ช่อื เรอ่ื ง การกอํ อิฐมอญครึง่ แผํนเข๎ามมุ ฉากหนึง่ มุม ปฏบิ ตั ิ หัวขอ้ เรอื่ ง ทฤษฎี 3.1 การกอํ อฐิ ใบงานท่ี 2 การกํออิฐมอญครึ่งแผนํ เขา๎ มุมฉากหน่ึง 3.2 ลาดับขัน้ ตอนการปฏิบัตงิ าน มุม ข๎อควรระวังในการกํออฐิ สมรรถนะย่อย 1. แสดงความร๎เู กยี่ วกบั การกอํ อฐิ มอญครึ่งแผํนเขา๎ มุมฉากหน่งึ มุมได๎ 2. กํออฐิ มอญครึง่ แผนํ เขา๎ มุมฉากหนงึ่ มุมตามข้นั ตอน จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ด้านความรู้ 1. อธบิ ายหลักการกํออิฐมอญครึ่งแผนํ เขา๎ มมุ ฉากหนงึ่ มมุ ได๎ 2. สามารถกํออฐิ ครง่ึ แผํนเข๎ามมุ ได๎อยาํ งถกู ต๎อง ประณีต สวยงาม มีความแขง็ แรง 3. อธบิ ายข้นั ตอนการกอํ อฐิ คร่งึ แผนํ เข๎ามมุ ฉากหนึง่ มุมได๎ 4. ปฏบิ ัติตนเป็นผูม๎ ีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมได๎ 5. ประเมนิ ผลงานตนเองรวํ มกับผสู๎ อนได๎ 6. นาหลักการไปประยกุ ต๑ใช๎กับงานจรงิ ได๎ ด้านทักษะ 1. กอํ อิฐมอญครึ่งแผํนเขา๎ มุมฉากหน่งึ มุมได๎อยํางถกู ต๎อง ประณีต สวยงาม มคี วามแข็งแรง 2. ปฏิบัตงิ านตามลาดับขัน้ ตอนในใบงานได๎ ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม/บูรณาการค่านยิ มหลกั ของคนไทย 12 ประการ แสดงออกด๎านความสนใจใฝ่ร๎ู การตรงตํอเวลา ความซ่ือสัตย๑สุจริต มีระเบียบวินัย เคารพกฎกติกา ความรํวมมอื /ยอมรบั ความคดิ เหน็ สํวนใหญํ
เน้ือหาสาระ การกํออฐิ ในแตลํ ะขน้ั ตอนควรมีการปฏบิ ตั ดิ ังนี้ 1. การกอํ อฐิ ในแตํละชัน้ ตอ๎ งกํออิฐสลบั แนวเพอ่ื ไมใํ ห๎รอยตํอของอิฐตรงกันในชน้ั ที่ติดกัน การกํอสลบั นจ้ี ะทาให๎กาแพงหรือเสาท่ีกํอมกี ารยดึ กนั แนํนหนาข้นึ ท้ังยังชํวยถาํ ยหรอื เฉล่ียแรงท่ีมากับผนังในแนวตง้ั ซง่ึ เมอื่ กํอเสรจ็ แล๎วผนังจะดูเรยี บรอ๎ ย สวยงาม และจะไมํกอํ ปัญหากบั การฉาบปูนในภายหลัง 2. การกอํ อฐิ ต๎องทาจากมมุ กํอน เพราะต๎องการใหอ๎ ิฐท่ีกํอเปน็ มุมเป็นหลกั สาหรบั แนวระดับนา้ การ กํอ ท่ีมุมน้ีไมคํ วรเกิน 3 ช้นั แลว๎ ตรวจสอบระดับ แตถํ า๎ ต๎องการให๎งานดีควรกํออิฐทีม่ ุมกํอน 1–2 ชั้น แล๎วใช๎ เชอื กขงึ จากมุมท่ไี ดด๎ ง่ิ ท้ังสองด๎านเพ่ือให๎เป็นเส๎นตรงไดแ๎ นวระดับ สาหรับอฐิ ทจ่ี ะกํอตรงกลางท้งั แนวระดับและ แนวด่งิ ใหก๎ อํ อิฐตามแนวท่ีเชือกขึงเพื่อให๎อฐิ เปน็ แนวตรงและไดร๎ ะนาบเดียวกัน 3. อิฐท่ใี ช๎กํอผนงั ควรชุบน้าใหช๎ ํมุ กอํ น (กรณขี องปูนขาวไมํต๎องชบุ นา้ จนชมํุ แตํพอให๎อิฐมีความ สะอาดหน๎าผิวไมมํ สี ่งิ สกปรกก็ถือวาํ ใชไ๎ ด๎) เพ่อื ป้องกันไมํให๎อิฐดดู น้าจากสํวนผสมของปูนกํอมากเกนิ ไป ถ๎าอิฐดดู นา้ จากสวํ นผสมของปูนมากเกินไปปูนกํออาจแตกรา๎ วได๎ โดยทั่วไปความหนาของปูนกอํ (Mortar) ควร อยทํู ี่ประมาณ 1.5–2 เซนติเมตร ในขณะท่ีอิฐบล็อกไมํต๎องแชํน้าสามารถนามากํอไดเ๎ ลย 4. การกํออฐิ ถ๎าผนังที่มคี วามยาวหรือความสูงมากกวาํ 2 เมตร ตอ๎ งมีเสาเอน็ หรือคานทับหลัง คอนกรีตเสรมิ เหลก็ ต๎องเว๎นชํองไวป๎ ระมาณ 10 เซนติเมตร และต๎องทิ้งไว๎เปน็ เวลาอยาํ งน๎อย 3 วัน เพือ่ ให๎ปูน แขง็ ตวั และเข๎าทเ่ี สียกํอนจงึ ทาการกํออิฐใหช๎ นท๎องคานหรือพนื้ ได๎ 5. ขณะทาการกํออิฐ ใหท๎ าการเกบ็ เศษปูนทตี่ กให๎หมดรวมถึงบรเิ วณท่ใี กล๎เคียง เนื่องจากความสะอาด ของบรเิ วณงานทาให๎เอื้ออานวยตอํ การทางาน การประหยัดปรมิ าณปูนที่ใช๎ ใช๎ปูนอยาํ งค๎มุ คํา และหากถ๎า ปลํอยเศษปนู ทิ้งไว๎ปนู จะแห๎งตดิ 6. เม่อื กํอเสร็จแลว๎ ควรมกี ารบํมน้าและท้ิงไว๎อยํางน๎อย 3–7 วนั เพือ่ ใหป๎ นู กํอแข็งตวั แล๎วจึงทาการ ฉาบปนู (กรณีใชป๎ นู ซเี มนต๑ แตปํ ูนทใี่ ช๎ทาการฝกึ กํอในทน่ี ้ีใช๎เปน็ ปูนขาวจึงไมํจาเป็นต๎องบมํ เพราะตอ๎ งรอ้ื เก็บทา ความสะอาดทุกครัง้ ) รปู การก่ออิฐมอญครง่ึ แผน่ เข้ามุมฉากหน่งึ มุม
กิจกรรมการเรียนรู้ (สัปดาหท์ ี่ 2/18, คาบที่ 7–12/108) 1. ครูตรวจสอบความพร๎อมนักเรียนท้งั กาลงั กายและกาลังใจ ด๎วยการขานช่อื และออกาลงั กายรํวมกัน 2. ครูนาเขา๎ สํูบทเรียน และครูแจง๎ จุดประสงคก๑ ารเรยี น 3. ครสู อนเน้ือหาสาระขอ๎ 3.1 – 2.2 4. นกั เรียนทาแบบฝกึ หัดที่ 3 5. ครแู ละนักเรยี นรวํ มกันเฉลยแบบฝึกหัด และรวํ มอภปิ รายสรุปบทเรยี น 6. ใหน๎ กั เรียนทาตามใบงานท่ี 2 ขณะนักเรยี นทาใบงาน ครูจะสงั เกตการทางานกลุํม และตรวจผลงาน ภาคปฏบิ ัติ 8. ให๎นักเรียนทาความสะอาดเครื่องมือ อปุ กรณ๑ และบริเวณพนื้ ทป่ี ฏบิ ตั ิงานให๎เรยี บรอ๎ ย 9. ครใู ห๎นกั เรียนรวํ มกันสรปุ ผล ประเมนิ ผลงานรวํ มกัน และทาแบบทดสอบหลงั เรยี น สื่อและแหลง่ การเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี นพน้ื ฐานงานปูน ของสานกั พิมพศ๑ ูนยห๑ นงั สือเมืองไทย 2. แบบทดสอบหลังเรยี น 3. อปุ กรณพ๑ น้ื ฐานงานปูน เครื่องมือ และวสั ดฝุ กึ การวดั และการประเมนิ ผล การวดั ผล การประเมินผล (ใช๎เคร่อื งมอื ) (นาผลเทยี บกบั เกณฑ๑และแปลความหมาย) 1. แบบสงั เกตการทางานกลมุํ และนาเสนอผลงานกลมุํ 2. ผลงานตามใบงานที่ 2 และแบบประเมนิ เกณฑ๑ผําน 60% 3. แบบทดสอบหลังเรยี น (Post–test) หนํวยที่ 3 เกณฑผ๑ าํ น 60% 4. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ตามสภาพจรงิ เกณฑผ๑ ําน 50% เกณฑ๑ผาํ น 60% งานทม่ี อบหมาย งานท่ีมอบหมายนอกเหนือเวลาเรียน ทาแบบฝึกหัดให๎ถูกต๎อง สมบรู ณ๑ และศึกษาเร่ืองการกอํ อิฐมอญ คร่ึงแผนํ เข๎ามุมฉากสองมุม ผลงาน/ช้ินงาน/ความสาเรจ็ ของผ้เู รยี น ผลการทากจิ กรรมตามใบงานท่ี 2 และคะแนนแบบทดสอบหลังเรียน (Post–test) หนํวยที่ 3 เอกสารอ้างอิง จรี ะศกั ดิ์ สทิ ธผิ ล (2557). พนื้ ฐานงานปนู (2106 – 1002). นนทบรุ ี : ศูนยห๑ นังสือเมืองไทย
บันทึกหลงั การสอน 1. ผลการใช้แผนการจัดการเรยี นรู้ (จุดประสงค๑การเรยี นร๎ู/กจิ กรรม/การประเมินผล) ............................................................................................................................. ................................................. ..................................................................................................................................... ......................................... .................................................................................... .......................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. ผลการเรียนของนักเรียน/ผลการสอนของคร/ู ปัญหาที่พบ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ......................................................... ................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. .................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ................................................. 3. แนวทางการแก้ปัญหา ................................................................................................................................................................... ........... ........................................................................................................................ ...................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ......................................................................................................................................................... ..................... .............................................................................................................. ................................................................ ............................................................................................................... ............................................................ ... ลงชื่อ............................................... ลงชอ่ื ............................................... (...............................................) (.......................... ...................) ตวั แทนนกั เรียน ครผู ู๎สอน
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4 หนว่ ยท่ี 4 ชือ่ วิชา พ้ืนฐานงานปูน (2106 – 1002) เวลาเรียนรวม 108 คาบ ชอื่ หน่วย การกอํ อฐิ มอญครึ่งแผนํ เข๎ามุมฉากสองมุม สอนครัง้ ที่ 3/18 จานวน 6 คาบ ช่อื เรอื่ ง การกํออิฐมอญครงึ่ แผนํ เขา๎ มมุ ฉากสองมุม ปฏบิ ตั ิ หวั ข้อเรือ่ ง ทฤษฎี 4.1 การกอํ อฐิ ใบงานที่ 3 กํออิฐมอญคร่งึ แผํนเข๎ามุมฉากสองมมุ 4.2 ลาดับขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ าน 4.3 ข้ันตอนการกอํ อฐิ มอญคร่งึ แผนํ เข๎ามุมฉาก สองมุม สมรรถนะยอ่ ย 1. แสดงความรเู๎ กี่ยวกับกํออิฐมอญครง่ึ แผํนเข๎ามุมฉากสองมุม 2. กอํ อฐิ มอญครง่ึ แผนํ เขา๎ มมุ ฉากสองมุมตามขั้นตอน จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ดา้ นความรู้ 1. อธิบายหลกั การกํออฐิ ครง่ึ แผนํ เขา๎ มมุ ฉากสองมมุ ได๎ 2. สามารถกอํ อิฐคร่งึ แผนํ เข๎ามมุ ได๎อยํางถกู ต๎อง ประณีต สวยงาม มีความแขง็ แรง 3. อธิบายข้ันตอนการกอํ อฐิ คร่ึงแผํนเขา๎ มมุ ฉากสองมุมได๎ 4. ปฏิบัติตนเปน็ ผ๎มู ีคุณธรรม จริยธรรมได๎ 5. ประเมินผลงานตนเองรํวมกบั ผ๎ูสอนได๎ 6. นาหลกั การไปประยกุ ตใ๑ ชก๎ ับงานจรงิ ได๎ 7. มที ักษะของความปลอดภัยและรักษาส่ิงแวดลอ๎ ม ด้านทักษะ 1. กอํ อิฐมอญคร่ึงแผนํ เขา๎ มมุ ฉากสองมมุ ไดอ๎ ยํางถูกตอ๎ ง ประณตี สวยงาม มีความแข็งแรง 2. ปฏิบตั งิ านตามลาดบั ขั้นตอนในใบงานได๎ ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม/บรู ณาการค่านิยมหลกั ของคนไทย 12 ประการ แสดงออกถึงกิจนิสัยที่ดีในการทางาน ตรงตํอเวลา ความสนใจใฝ่ร๎ู ไมํหยดน่ิงท่ีจะแก๎ปัญหา ซ่ือสัตย๑ เสียสละ อดทน ความรํวมมือ
เนือ้ หาสาระ การกํออฐิ ในแตํละขัน้ ตอนควรมกี ารปฏิบัติดังนี้ 1. การกอํ อฐิ ในแตํละช้ัน ต๎องกํออิฐสลับแนวเพ่ือไมใํ ห๎รอยตํอของอิฐตรงกนั ในชน้ั ทต่ี ดิ กนั การกํอสลบั น้จี ะทาให๎กาแพงหรือเสาที่กํอมกี ารยึดกนั แนํนหนาขนึ้ ท้ังยังชวํ ยถํายหรือเฉล่ียแรงท่ีมากับผนงั ในแนวต้งั ซ่งึ เม่อื กํอเสรจ็ แล๎วผนงั จะดูเรียบรอ๎ ย สวยงาม และจะไมํกํอปัญหากบั การฉาบปูนในภายหลัง 2. การกํออิฐ ต๎องทาจากมุมกํอน เพราะต๎องการให๎อฐิ ท่ีกอํ เป็นมุมเป็นหลักสาหรับแนวระดบั น้า การ กํอ ท่ีมมุ นี้ไมํควรเกิน 3 ชน้ั แลว๎ ตรวจสอบระดับ แตํถา๎ ต๎องการใหง๎ านดีควรกอํ อฐิ ท่ีมุมกํอน 1–2 ช้นั แล๎วใช๎ เชอื กขงึ จากมุมทไ่ี ด๎ดง่ิ ทั้งสองด๎านเพ่ือให๎เปน็ เส๎นตรงได๎แนวระดับ สาหรบั อิฐท่ีจะกํอตรงกลางทงั้ แนวระดับและ แนวดง่ิ ใหก๎ ํออิฐตามแนวท่เี ชือกขึงเพ่ือให๎อิฐเป็นแนวตรงและได๎ระนาบเดียวกัน 3. อฐิ ทใี่ ชก๎ ํอผนัง ควรชบุ นา้ ใหช๎ ุมํ กอํ น (กรณขี องปูนขาวไมํตอ๎ งชบุ น้าจนชํมุ แตํพอให๎อฐิ มคี วาม สะอาดหนา๎ ผิวไมมํ สี ิ่งสกปรกกถ็ อื วําใชไ๎ ด๎) เพอื่ ป้องกนั ไมํใหอ๎ ฐิ ดูดนา้ จากสวํ นผสมของปูนกํอมากเกนิ ไป ถา๎ อิฐดดู น้าจากสํวนผสมของปูนมากเกนิ ไปปูนกอํ อาจแตกร๎าวได๎ โดยทว่ั ไปความหนาของปูนกอํ (Mortar) ควร อยูํท่ปี ระมาณ 1.5–2 เซนติเมตร ในขณะทอี่ ิฐบล็อกไมํต๎องแชนํ ้าสามารถนามากํอได๎เลย 4. การกํออฐิ ถา๎ ผนังที่มีความยาวหรือความสูงมากกวาํ 2 เมตร ตอ๎ งมีเสาเอ็นหรือคานทับหลงั คอนกรีตเสรมิ เหลก็ ต๎องเว๎นชํองไว๎ประมาณ 10 เซนตเิ มตร และต๎องทิ้งไว๎เปน็ เวลาอยาํ งนอ๎ ย 3 วนั เพอ่ื ให๎ปนู แขง็ ตัวและเข๎าทเ่ี สยี กํอนจึงทาการกํออฐิ ใหช๎ นท๎องคานหรือพ้ืนได๎ 5. ขณะทาการกอํ อฐิ ให๎ทาการเก็บเศษปนู ทตี่ กให๎หมดรวมถงึ บริเวณทใ่ี กลเ๎ คียง เนื่องจากความสะอาด ของบรเิ วณงานทาให๎เอื้ออานวยตอํ การทางาน การประหยัดปริมาณปนู ท่ีใช๎ ใชป๎ นู อยํางคม๎ุ คาํ และหากถ๎า ปลอํ ยเศษปูนทิง้ ไวป๎ ูนจะแห๎งติด 6. เม่ือกํอเสรจ็ แล๎วควรมกี ารบมํ นา้ และทิง้ ไว๎อยํางน๎อย 3–7 วัน เพ่อื ใหป๎ ูนกอํ แขง็ ตัวแล๎วจึงทาการ ฉาบปูน (กรณีใช๎ปนู ซเี มนต๑ แตปํ ูนทีใ่ ชท๎ าการฝึกกํอในทน่ี ้ีใชเ๎ ปน็ ปูนขาวจึงไมจํ าเป็นต๎องบมํ เพราะต๎องรอ้ื เกบ็ ทา ความสะอาดทุกครั้ง) รูปการก่ออิฐมอญครงึ่ แผ่นเข้ามุมฉากสองมุม
กจิ กรรมการเรียนรู้ (สปั ดาหท์ ี่ 3/18, คาบท่ี 13–18/108) 1. ครูตรวจสอบความพร๎อมนักเรียนท้ังกาลังกายและกาลังใจ ด๎วยการขานชื่อและออกกาลังกาย รวํ มกัน 2. ครนู าเข๎าสูบํ ทเรียน และครแู จง๎ จดุ ประสงคก๑ ารเรยี น 3. ครสู อนเนอื้ หาสาระข๎อ 4.1 – 4.3 4. นกั เรียนทาแบบฝึกหดั ท่ี 4 5. ครูและนกั เรียนรํวมกนั เฉลยแบบฝึกหัด และรํวมอภิปรายสรุปบทเรียน 6. ให๎นักเรยี นทาตามใบงานท่ี 3 ขณะนักเรยี นทาใบงาน ครจู ะสงั เกตการทางานกลุํม และตรวจผลงาน ภาคปฏิบตั ิ 8. ใหน๎ ักเรยี นทาความสะอาดเคร่ืองมือ อุปกรณ๑ และบริเวณพื้นที่ปฏบิ ัติงานใหเ๎ รยี บร๎อย 9. ครใู ห๎นกั เรียนรํวมกันสรุปผล ประเมนิ ผลงานรวํ มกัน และทาแบบทดสอบหลงั เรยี น สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนพนื้ ฐานงานปนู ของสานกั พมิ พศ๑ ูนยห๑ นงั สอื เมืองไทย 2. แบบทดสอบหลังเรียน 3. อปุ กรณพ๑ น้ื ฐานงานปนู เครอื่ งมือ และวัสดุฝึก การวดั และการประเมินผล การวดั ผล การประเมินผล (ใชเ๎ ครอ่ื งมอื ) (นาผลเทียบกับเกณฑ๑และแปลความหมาย) 1. แบบสังเกตการทางานกลมุํ และนาเสนอผลงานกลุํม 2. ผลงานตามใบงานที่ 3 และแบบประเมนิ เกณฑผ๑ าํ น 60% 3. แบบทดสอบหลงั เรยี น (Post–test) หนํวยที่ 4 เกณฑ๑ผําน 60% 4. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ตามสภาพจริง เกณฑผ๑ าํ น 50% เกณฑ๑ผาํ น 60% งานที่มอบหมาย งานท่มี อบหมายนอกเหนือเวลาเรยี น ทาแบบฝกึ หดั ให๎ถกู ต๎อง สมบูรณ๑ และศึกษาเรื่องการกํออฐิ มอญ คร่งึ แผํนรปู วงกลม (บํอน้า) ผลงาน/ชิน้ งาน/ความสาเรจ็ ของผ้เู รยี น 1. ผลการทากิจกรรมตามใบงานที่ 3 2. คะแนนแบบทดสอบหลงั เรียน (Post–test) หนํวยที่ 4
เอกสารอา้ งองิ จีระศกั ดิ์ สิทธิผล (2557). พน้ื ฐานงานปนู (2106 – 1002). นนทบุรี : ศูนยห๑ นงั สอื เมืองไทย. บันทกึ หลงั การสอน 1. ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ (จุดประสงค๑การเรียนร๎ู/กจิ กรรม/การประเมนิ ผล) ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ..................................................... ....................................... .................................................................................... ................................................................................ .......... ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 2. ผลการเรยี นของนักเรยี น/ผลการสอนของครู/ปัญหาที่พบ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ......................................................... ................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. .................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ................................................. 3. แนวทางการแกป้ ัญหา ................................................................................................................................................................... ........... ........................................................................................................................ ...................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ......................................................................................................................................................... ..................... .............................................................................................................. ................................................................ ............................................................................................................... ............................................................ ... ลงชื่อ............................................... ลงชื่อ.......................................... ..... (...............................................) (.......................... ...................) ตัวแทนนกั เรียน ครผู สู๎ อน
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 5 หน่วยท่ี 5 ชือ่ วิชา พ้ืนฐานงานปูน (2106–1002) เวลาเรยี นรวม 108 คาบ ชอ่ื หน่วย การกอํ อฐิ มอญคร่ึงแผนํ รูปวงกลม (บํอนา้ ) สอนครงั้ ที่ 4/18 จานวน 6 คาบ ชอ่ื เร่ือง การกํออิฐมอญคร่ึงแผนํ รูปวงกลม (บํอน้า) ปฏิบัติ หวั ข้อเรอื่ ง ทฤษฎี 5.1 การผสมปนู กอํ และปูนฉาบ ใบงานที่ 4 กํออิฐมอญคร่งึ แผํนรปู วงกลม 5.2 อัตราสวํ นผสมของปูนกอํ และปนู ฉาบ (บอํ นา้ ) 5.3 สตู รวงกลม 5.4 ข้นั ตอนการกอํ อฐิ มอญคร่ึงแผนํ รูปวงกลม สมรรถนะย่อย 1. แสดงความรูเ๎ ก่ียวกบั การกํออิฐมอญครง่ึ แผํนรูปวงกลม 2. กอํ อิฐมอญครงึ่ แผํนรูปวงกลมตามข้ันตอน จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ดา้ นความรู้ 1. อธิบายหลักการกํออฐิ มอญครึง่ แผํนรปู วงกลมได๎ 2. กอํ อฐิ มอญครึง่ แผนํ รูปวงกลมได๎อยาํ งถูกต๎อง ประณตี สวยงาม มีความแข็งแรง 3. ปฏิบตั ิตนเปน็ ผ๎มู ีคุณธรรม จริยธรรมได๎ 4. ประเมนิ ผลงานตนเองรวํ มกบั ผสู๎ อนได๎ 5. นาหลักการไปประยุกต๑ใชก๎ ับงานจริงได๎ ด้านทกั ษะ 1. กํออิฐมอญครึง่ แผํนรปู วงกลม (บํอนา้ ) ได๎อยาํ งถูกต๎อง ประณตี สวยงาม มคี วามแขง็ แรง 2. ปฏบิ ตั งิ านตามลาดบั ข้นั ตอนในใบงานได๎ ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม/บูรณาการคา่ นิยมหลักของคนไทย 12 ประการ แสดงถึงกิจนิสัยท่ีดีในการทางาน มีความรอบคอบ เรียบร๎อยและตระหนักถึงความปลอดภัยใน การปฏบิ ัติงาน การตรงตอํ เวลา ความรวํ มมือ/ยอมรับความคิดเห็นสํวนใหญํ
เน้อื หาสาระ การผสมปนู กํอและปูนฉาบ มดี งั นี้ 1. การผสมโดยน้าหนัก คือ การช่ังน้าหนักของสํวนผสมตามกาหนด จะได๎สํวนผสมของปูนกํอและปูน ฉาบท่ีแนนํ อนและสมา่ เสมอทกุ ครั้ง 2. การผสมโดยปริมาตร คือ การตวงสํวนผสมตามกาหนด จะได๎สํวนผสมของปูนกํอและปูนฉาบ ทีแ่ นํนอนพอควร เหมาะกับงานกํอสรา๎ งทั่วไป อัตราสํวนผสมของปูนกํอและปูนฉาบข้ึนอยูํกับชนิดของการใช๎งานวําเป็นกํอหรืองานฉาบ และเป็นงาน ภายนอกถูกกับดินฟ้าอากาศโดยตรงหรือไมํ ต๎องการฝีมือละเอียดเพียงใด และการกาหนดความหนาของปูน ฉาบ เป็นต๎น ตารางแสดงอตั ราสว่ นผสมของปนู กอ่ สดั ส่วนของการผสมปูนก่อ ปนู กํอ 1 : 3–4 ปนู ซีเมนต๑ : ทราย 3–4 ตารางที่ 5.2 อัตราสํวนผสมของปนู ฉาบ สดั ส่วนของการผสมปูนฉาบ ฉาบครง้ั ที่ 1 1 : 0.5 : 2 ปูนซีเมนต๑ : ปนู ขาว : ทราย ฉาบครง้ั ท่ี 2 1:1:3 ปนู ซเี มนต๑ : ปนู ขาว : ทราย ฉาบครั้งท่ี 3 1 : 1 : 5–6 ปูนซีเมนต๑ : ปูนขาว : ทราย สตู รวงกลม มดี ังน้ี พ้นื ทวี่ งกลม = r2 ; r= รัศมี 2r ; r= รศั มี เสน๎ รอบวง = กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สัปดาหท์ ี่ 4/18, คาบท่ี 19–24/108) 1. ครูตรวจสอบความพร๎อมนักเรียนท้ังกาลังกายและกาลังใจ ด๎วยการขานช่ือและออกกาลังกาย รํวมกัน 2. ครนู าเขา๎ สูํบทเรียน และครแู จง๎ จดุ ประสงค๑การเรียน 3. ครูสอนเนือ้ หาสาระข๎อ 5.1 – 5.4 4. นกั เรียนทาแบบฝกึ หัดที่ 5 5. ครแู ละนกั เรยี นรํวมกันเฉลยแบบฝกึ หัด และรวํ มอภปิ รายสรุปบทเรยี น 6. ใหน๎ กั เรียนทาตามใบงานท่ี 4 ขณะนักเรยี นทาใบงาน ครูจะสังเกตการทางานกลมุํ และตรวจผลงาน ภาคปฏบิ ัติ 8. ใหน๎ ักเรียนทาความสะอาดเครื่องมอื อุปกรณ๑ และบริเวณพืน้ ท่ปี ฏบิ ตั ิงานใหเ๎ รียบร๎อย
9. ครใู ห๎นักเรยี นรวํ มกันสรุปผล ประเมินผลงานรวํ มกนั และทาแบบทดสอบหลงั เรยี น สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรียนพ้นื ฐานงานปนู ของสานกั พิมพศ๑ นู ย๑หนังสือเมืองไทย 2. แบบทดสอบหลังเรยี น 3. อุปกรณพ๑ ้นื ฐานงานปนู เครอื่ งมอื และวสั ดุฝกึ การวดั และการประเมินผล การวัดผล การประเมนิ ผล (ใช๎เครอื่ งมือ) (นาผลเทียบกบั เกณฑ๑และแปลความหมาย) 1. แบบสงั เกตการทางานกลุมํ และนาเสนอผลงานกลมํุ 2. ผลงานตามใบงานที่ 4 และแบบประเมนิ เกณฑ๑ผําน 60% 3. แบบทดสอบหลังเรียน (Post–test) หนํวยที่ 5 เกณฑ๑ผําน 60% 4. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม ตามสภาพจรงิ เกณฑผ๑ ําน 50% เกณฑ๑ผาํ น 60% งานทีม่ อบหมาย งานที่มอบหมายนอกเหนือเวลาเรียน ทาแบบฝกึ หดั ให๎ถกู ต๎อง สมบรู ณ๑ และศึกษาเรื่องการกํออฐิ มอญ เต็มแผนํ ผลงาน/ชน้ิ งาน/ความสาเรจ็ ของผ้เู รียน 1. ผลการทากจิ กรรมตามใบงานท่ี 4 2. คะแนนแบบทดสอบหลงั เรียน (Post–test) หนวํ ยที่ 5 เอกสารอา้ งองิ จีระศกั ด์ิ สทิ ธิผล (2557). พ้ืนฐานงานปูน (2106 – 1002). นนทบรุ ี : ศนู ยห๑ นังสือเมอื งไทย.
บนั ทกึ หลงั การสอน 1. ผลการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ (จดุ ประสงค๑การเรยี นร๎ู/กจิ กรรม/การประเมนิ ผล) ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ..................................................... ....................................... .................................................................................... ................................................................................ .......... ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 2. ผลการเรียนของนักเรียน/ผลการสอนของครู/ปัญหาท่ีพบ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ......................................................... ................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................... ............................................................................................. ...................... .................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ................................................. 3. แนวทางการแก้ปัญหา ...................................................................................................................................................... ........................ ........................................................................................................... ................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................ .................................. ................................................................................................. ................................................. ............................ ............................................................................................................... ............................................................ ... ลงชื่อ............................................... ลงชอื่ ............................................... (...............................................) (.............................................) ตวั แทนนกั เรยี น ครผู ๎ูสอน
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 6 หน่วยท่ี 6 ชื่อวิชา พน้ื ฐานงานปนู (2106 – 1002) เวลาเรียนรวม 108 คาบ ชือ่ หน่วย การกํออิฐมอญเต็มแผนํ สอนครั้งที่ 5/18 จานวน 6 คาบ ช่อื เรอ่ื ง การกํออิฐมอญเต็มแผํน ปฏบิ ัติ หวั ข้อเรื่อง ทฤษฎี 6.1 ความหมายของการกํออิฐมอญเต็มแผนํ ใบงานท่ี 5 กํออิฐมอญเตม็ แผํน 6.2 ลาดับขน้ั ตอนการกํออิฐมอญเต็มแผํน สมรรถนะย่อย 1. แสดงความรู๎เกี่ยวกบั การกอํ อิฐมอญเต็มแผํน 2. กอํ อฐิ มอญเตม็ แผนํ ตามข้ันตอน จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ด้านความรู้ 1. อธบิ ายหลกั การกํออฐิ มอญเตม็ แผนํ ได๎ 2. กอํ อิฐมอญเตม็ แผํนไดอ๎ ยาํ งถูกต๎อง ประณีต สวยงาม มคี วามแข็งแรง 3. ปฏิบัตติ นเปน็ ผู๎มคี ุณธรรม จรยิ ธรรมได๎ 4. ประเมนิ ผลงานตนเองรวํ มกบั ผ๎สู อนได๎ 5. นาหลักการไปประยุกต๑ใชก๎ ับงานจริงได๎ 6. มที ักษะของความปลอดภัยและรักษาส่ิงแวดลอ๎ ม ดา้ นทักษะ 1. สามารถกอํ อฐิ มอญเต็มแผนํ ไดอ๎ ยาํ งถกู ต๎อง ประณีต สวยงาม มคี วามแขง็ แรง 2. ปฏิบัตงิ านตามลาดบั ข้ันตอนในใบงานได๎ ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม/บรู ณาการคา่ นิยมหลักของคนไทย 12 ประการ แสดงออกถึงกิจนิสัยที่ดีในการทางาน ตรงตํอเวลา ความสนใจใฝ่รู๎ ไมํหยดน่ิงท่ีจะแก๎ปัญหา ความ ซอ่ื สัตย๑ ความรํวมมือ ตระหนกั ถงึ ความปลอดภยั ในการทางาน เนอ้ื หาสาระ การกํออิฐมอญเต็มแผํน หมายถึง การกํออิฐมอญท่ีมีการวางแผํนอิฐตามขวางของผนัง ซึ่งเมื่อฉาบปูน แลว๎ จะทาใหผ๎ นังน้ันมคี วามหนาประมาณ 15–20 เซนติเมตร ลาดับขนั้ ตอนการกอํ อฐิ มอญเต็มแผํน 1. ศึกษาแบบการกํออฐิ มอญเตม็ แผนํ ให๎ดกี อํ น 2. จัดบริเวณฝกึ ให๎เรียบร๎อย แบงํ สถานทสี่ าหรับแตํละกลมุํ เรม่ิ ทาแนวขน้ึ รูป
3. เตรยี มเบกิ เครือ่ งมือสาหรบั การฝึกใหค๎ รบ และทกุ ชน้ิ อยํูในสภาพใช๎งานได๎ วางอยํูใกล๎ ๆ กับบริเวณ ท่ีมอบหมายใหท๎ าการฝึกกอํ 4. แบํงกลุมํ ผสมปนู ในบํอปนู ขาวใหท๎ ั่วกนั 5. ใช๎ตลบั เมตรวัดความยาวตามท่กี าหนด 6. จดั การขนอิฐและปูนกอํ ไลม๑มอร๑ตา๎ ตักใสํถงั ปนู แล๎วยกมาวางใหส๎ ะดวกไมํกดี ขวาง 7. เร่ิมต๎นกํอจากด๎านปลายสุดของทั้งสองด๎านกํอน กํอเรียงซ๎อนสลับให๎ตรงปลายสูง 1–3 ช้ัน โดยใหม๎ ีความลาดลดหลัน่ กันไป 8. ให๎แนวปูนกํอมีความหนาเม่ือกดลงไปแล๎วประมาณ 1.5–2 ซม. เม่ือปูนทะลักออกมาให๎ใช๎เกรียง ปาดขึ้นแล๎วตักใสํกระป๋องทันที หรือจะใสํบนแผํนหลังอิฐท่ีกํอแล๎ว หรือรอยตํอท่ียังไมํเต็มก็ได๎ การปาดปูนให๎ ปนู ตกพืน้ ให๎น๎อยท่สี ุดหรอื ไมํตกเลย 9. ระหวํางทาการกํอให๎ใช๎สายตาเล็งให๎ได๎มุมและดิ่ง และหลังอิฐจะต๎องเกือบได๎ระดับ เมื่อครบ 3 ช้นั กใ็ ช๎ระดบั นา้ หรือจับดง่ิ ใหไ๎ ดม๎ มุ ท้งั ซา๎ ยและขวา 10. ใช๎เชือกผูกตะปูเสียบเข๎าไปในรอยปูนกํอหลังอิฐช้ันแรกประมาณ 3/4 ของความยาวปูนและ ให๎หํางจากหัวมุมประมาณ 2–3 ซม. เพราะจะได๎ยึดติดไมํหลุด ขึงเชือกสองด๎านให๎ตึงและได๎ระดับน้า แนวเชือกควรอยูํหาํ งประมาณ 2 มม. เพอื่ จะไมํตดิ แนวปูนและหัวมมุ 11. กอํ อฐิ ผนงั ชํวงกลางในชัน้ ท่ี 1 ตลอดขนานกับเชือก ทดลองดีดเส๎นเชือกอยํูเสมอวําเชือกตึงและไมํ มบี างสํวนของผนงั ไปหนุนได๎ 12. ให๎ทาการขงึ เชือกระดบั ทุก ๆ 2 ชน้ั การฝกึ ใหช๎ านาญอาจจะเปน็ 3–5 ชัน้ ตอํ คร้ังกไ็ ด๎ 13. เม่ือใกลจ๎ ะถึงชนั้ บน ใหท๎ ดลองเรียงอิฐดูกอํ น กะระยะแนวปูนกํอใหพ๎ อดกี ับความสงู ทตี่ ๎องการ 14. ทาการกํอด๎วยความประณีต โดยการยึดหลักการกํออิฐท้ังให๎ความชานาญและรวดเร็วขึ้นอีก ในเมือ่ ไดฝ๎ กึ กํอครงั้ ตอํ ๆ ไป 15. เมื่อเสร็จงานตามแบบกาหนดขึ้น ให๎ทาความสะอาดบริเวณกํออิฐ ขนอิฐที่เหลือเก็บเข๎าท่ี ใหผ๎ ๎สู อนทาการตรวจให๎คะแนน จงึ คอํ ยเก็บงานให๎เรียบร๎อยอีกครัง้ รปู ความกวา้ งของแผน่ ก่ออฐิ มอญเต็มแผน่ (1 แผ่นอฐิ มอญ)
กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สัปดาหท์ ่ี 5/18, คาบท่ี 25–30/108) 1. ครูตรวจสอบความพร๎อมนักเรียนท้ังกาลังกายและกาลังใจ ด๎วยการขานช่ือและออกกาลังกาย รวํ มกัน 2. ครูนาเข๎าสบํู ทเรยี น และครแู จ๎งจดุ ประสงค๑การเรยี น 3. ครสู อนเนอื้ หาสาระข๎อ 6.1 – 6.2 4. นักเรียนทาแบบฝกึ หัดที่ 6 5. ครแู ละนักเรยี นรํวมกนั เฉลยแบบฝกึ หดั และรวํ มอภิปรายสรุปบทเรียน 6. ใหน๎ ักเรยี นทาตามใบงานท่ี 5 ขณะนักเรยี นทาใบงาน ครจู ะสังเกตการทางานกลมํุ และตรวจผลงาน ภาคปฏิบตั ิ 8. ให๎นักเรยี นทาความสะอาดเคร่ืองมอื อปุ กรณ๑ และบรเิ วณพื้นท่ีปฏิบตั ิงานใหเ๎ รยี บร๎อย 9. ครใู ห๎นักเรยี นรวํ มกันสรุปผล ประเมนิ ผลงานรํวมกัน และทาแบบทดสอบหลงั เรียน สือ่ และแหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนพนื้ ฐานงานปนู ของสานกั พมิ พ๑ศูนย๑หนงั สือเมอื งไทย 2. แบบทดสอบหลังเรยี น 3. อปุ กรณพ๑ ้ืนฐานงานปูน เครื่องมือ และวสั ดุฝกึ การวดั และการประเมนิ ผล การวดั ผล การประเมินผล (ใช๎เครื่องมือ) (นาผลเทยี บกับเกณฑ๑และแปลความหมาย) 1. แบบสังเกตการทางานกลํุมและนาเสนอผลงานกลุมํ 2. ผลงานตามใบงานที่ 5 และแบบประเมนิ เกณฑ๑ผาํ น 60% 3. แบบทดสอบหลังเรียน (Post–test) หนวํ ยที่ 6 เกณฑ๑ผาํ น 60% 4. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ตามสภาพจริง เกณฑผ๑ าํ น 50% เกณฑ๑ผําน 60% งานท่ีมอบหมาย งานท่ีมอบหมายนอกเหนือเวลาเรยี น ทาแบบฝึกหัดให๎ถูกต๎อง สมบูรณ๑ และศึกษาเร่ืองการกอํ อฐิ เสา สเ่ี หล่ยี ม ผลงาน/ช้นิ งาน/ความสาเร็จของผ้เู รียน 1. ผลการทากิจกรรมตามใบงานที่ 5 2. คะแนนแบบทดสอบหลงั เรียน (Post–test) หนวํ ยท่ี 6
Search