แผนการจัดการเรยี นรู้ ม่งุ เน้นฐานสมรรถนะและบูรณาการปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ชื่อวิชา วัสดุงานชา่ งอุตสาหกรรม รหสั วิชา 20100 – 1002 ท.ป.น. 2 - 0 - 2 หลักสตู รประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศกั ราช 2562 ประเภทวชิ าช่างอตุ สาหกรรม จัดทาโดย นายชตุ เิ ทพ มาดตี รี ะเทวาพงษ์ วิทยาลัยการอาชพี ขนุ หาญ สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธกิ าร
รายการตรวจสอบและอนุญาตให้ใช้ ชอ่ื วิชา วัสดุงานช่างอตุ สาหกรรม รหสั วชิ า 20100 – 1002 ควรอนญุ าตใหใ้ ช้การสอนได้ ควรปรับปรุงเกย่ี วกับ................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ........................................... ลงชอื่ ..................................................... (.......................................................) หัวหนา้ หมวด / สาขาวชิ า ............../......................../.................... เห็นควรอนญุ าตใหใ้ ช้การสอนได้ ควรปรับปรงุ ดงั เสนอ อืน่ ๆ .................................................................................................................................................... ...... ............................................................................................................................ ............................................... ............................................................................................................................. .............................................. ลงชอ่ื ..................................................... (.......................................................) รองผู้อานวยการฝ่ายวชิ าการ ............../......................../.................... อนุญาตให้ใช้การสอนได้ อน่ื ๆ ...................................................................................................................... .................................... ........................................................................................................................................................................... ลงชอื่ ..................................................... (.......................................................) ผู้อานวยการ ............../......................../....................
แผนการจดั การเรียนรู้แบบฐานสมรรถนะและบรู ณาการตาม ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ช่อื วชิ า วสั ดุชา่ งอตุ สาหกรรม รหัสวชิ า 20100 – 1002 ท.ป.น. 2- 0-2 หลักสูตรประกาศนยี บัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 จดั ทาโดย นายชตุ ิเทพ มาดีตีระเทวาพงษ์ แผนกวชิ าเทคนคิ พ้ืนฐาน วทิ ยาลยั การอาชีพขุนหาญ สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา
บนั ทึกการขออนุมัติการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ ภาคเรยี นท่ี 1 / 2564 ชอ่ื วิชา วัสดุงานช่างอุตสาหกรรม รหัสวชิ า 20100 – 1002 ท.ป.น. 2 - 0 - 2 หลักสูตรประกาศนยี บัตรวชิ าชพี พุทธศักราช 2562 ประเภทวชิ า ช่างอตุ สาหกรรม ขออนุมัติการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ ลงช่อื ...........................................................ครผู สู้ อน ( นายชตุ เิ ทพ มาดตี รี ะเทวาพงษ์ ) ความเห็นหัวหน้าแผนกวิชา ........................................................................................................................................... ลงชื่อ............................................................หน.แผนกฯ ( นายชุติเทพ มาดตี ีระเทวาพงษ์ ) ความเหน็ ของหัวหนา้ งานพัฒนาหลกั สูตรการเรยี นการสอน ............................................................................................................................. .............. ลงชอ่ื ......................................................หน.งานหลักสูตรฯ ( นายธนวนิ สายนาค) ความเห็นของรองผู้อานวยการฝา่ ยวชิ าการ เห็นควรพจิ ารณาอนุมตั ิ ใหใ้ ชป้ ระกอบการเรยี นการสอนได้ ลงชื่อ....................................................รองฝา่ ยวชิ าการ ( นายชาตรี สารีบตุ ร ) ความเหน็ ของผู้อานวยการ อนุมัติ ไม่อนมุ ัติ เพราะ................................................................................................................................ ลงชื่อ................................................ ( นายลาปาง พนั ธเ์ พชร ) ผู้อานวยการวทิ ยาลยั การอาชีพขุนหาญ
ค คานา เอกสารประกอบการสอนวิชา 20100 - 1002 : วสั ดุงานชา่ งอตุ สาหกรรม 2 ( 2 ) เล่มน้ีเรียบ เรยี งขนึ้ ตรงตามหลักสูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ พทุ ธศักราช 2562 ของสานักงานคณะกรรม การการ อาชีวศกึ ษา เอกสารประกอบการสอนเลม่ น้ี แบง่ เนือ้ หาออกเป็น 10 บท ประกอบด้วยเรือ่ ง วัสดใุ น งานอตุ สาหกรรม กรรมวธิ ีการผลติ โลหะนอกจาพวกเหล็ก วัสดุเชือ้ เพลิง วสั ดหุ ล่อล่นื และวัสดุหล่อ เยน็ วัสดกุ ่อสร้าง วสั ดุสังเคราะห์ วสั ดุไฟฟาู และอเิ ล็กทรอนกิ ส์ การผุกร่อนและการปอู งกัน การ ตรวจสอบวสั ดุเบอื้ งต้น และพลงั งานในอนาคต นอกจากน้ยี ังมีแบบฝึกหัดท้ายบทด้วย ข้าพเจ้าขอขอบคุณบดิ า มารดา ครู และอาจารย์ ที่ได้ประสาทวิชาความรูใ้ หแ้ กข่ ้าพเจา้ ที่ ช่วยแนะนา และใหค้ วามอนุเคราะห์เกยี่ วกบั เอกสารวิชาการต่างๆ ตลอดจนบคุ ลากรท่เี กี่ยวขอ้ ง ท่ีข้าพเจา้ ได้นาทฤษฎี และแนวคิดมาใชใ้ นการอา้ งองิ โดยหวงั ว่าเอกสารประกอบการสอน วิชาวสั ดงุ านชา่ ง อตุ สาหกรรม อาจจะเป็นประโยชนต์ ่อผูใ้ ช้ ครอู าจารย์ ผู้สอน และผู้ทีส่ นใจ ซึ่งอาจจะมีข้อตกบกพร่อง บ้าง และหากมีข้อเสนอแนะประการใด ผู้เรยี บเรยี งยนิ ดีนอ้ มรบั ไว้ด้วยความขอบคุณยง่ิ ลงชอื่ ชตุ เิ ทพ มาดตี รี ะเทวาพงษ์ (นายชตุ เิ ทพ มาดตี รี ะเทวาพงษ์ )
สารบญั ง คานา..................................................................................................................................... หน้า สารบญั ................................................................................................................................. ค หลักสตู รรายวชิ า................................................................................................................... ง หน่วยการเรียนรู้.................................................................................................................... จ โครงการจดั การเรยี นรู้........................................................................................................... ฉ สมรรถนะย่อยและจดุ ประสงค์การปฏิบตั ิ.............................................................................. ช ตารางวเิ คราะห์หลักสตู รรายวชิ า........................................................................................... ซ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 วัสดใุ นงานอุตสาหกรรม ............................................................. ต แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 กรรมวิธกี ารผลิตเหล็ก................................................................ 1 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3 โลหะนอกจาพวกเหล็ก............................................................... 6 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4 เชอ้ื เพลิง วสั ดุหล่อลื่น และวัสดหุ ลอ่ เย็น.................................. 11 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 5 วสั ดกุ อ่ สร้าง ............................................................................... 15 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 วัสดุสงั เคราะห์ ........................................................................... 21 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 7 วสั ดไุ ฟฟาู และอเิ ล็กทรอนกิ ส์ ................................................... 26 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 8 การกัดกร่อน และการปูองกนั ................................................... 31 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 9 การตรวจสอบวสั ดุเบือ้ งต้น......................................................... 36 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 10 พลงั งานในอนาคต.................................................................... 41 46 ภาคผนวก เฉลยแบบฝึกหดั บทที่ 1-10
จ หลกั สูตรรายวิชา ชื่อวิชา วสั ดงุ านช่างอุตสาหกรรม รหสั วิชา 20100 - 1002 ท.ป.น. 2-0-2 จานวนคาบสอน 2 คาบ : สปั ดาห์ ระดับช้ัน ปวช. จดุ ประสงคร์ ายวชิ า 1. เพื่อให้มีความเขา้ ใจ หลกั การพ้ืนฐานในการจาแนก ชนิด ลกั ษณะ สมบัติ มาตรฐานการใช้ งานของวัสดุอุตสาหกรรม 2. เพื่อใหส้ ามารถเลอื กวสั ดุอุตสาหกรรมมาใช้ และจดั เก็บได้ตรงตามมาตรฐาน 3. เพ่อื ให้ตระหนกั ถึงคุณคา่ ของวสั ดุ นามาใช้ให้เกิดประโยชนส์ ูงสดุ สมรรถนะรายวชิ า 1. เขา้ ใจหลกั การพืน้ ฐานในการจาแนก ชนิด ลกั ษณะ สมบัติ มาตรฐาน การใชว้ สั ดุอุตสาหกรรม 2. เลอื กวสั ดุอตุ สาหกรรมตามแบบส่ังงาน คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษาลักษณะ ชนิด มาตรฐาน กรรมวิธีการผลิต การใชง้ าน การจัดเกบ็ วสั ดุในงานอตุ สาหกรรม ประกอบดว้ ย โลหะ อโลหะ โลหะผสม อทิ ธิพลของธาตทุ ม่ี ีต่อโลหะผสม เชอื้ เพลงิ วสั ดหุ ล่อลื่นและวสั ดุ หลอ่ เยน็ วัสดกุ อ่ สรา้ ง วสั ดสุ ังเคราะห์ วสั ดไุ ฟฟูาและอเิ ล็กทรอนิกส์ การผกุ ร่อนและการปูองกัน การ ตรวจสอบวัสดุเบอ้ื งตน้ และพลงั งานในอนาคต
ฉ หน่วยการเรยี นรู้ ชื่อวิชา วัสดุงานชา่ งอตุ สาหกรรม รหสั วิชา 20100 - 1002 ท.ป.น. 2-0-2 จานวนคาบสอน 2 คาบ : สปั ดาห์ ระดบั ชัน้ ปวช. หน่วย ชอ่ื หนว่ ย จานวน ทีม่ า ท่ี คาบ A B C D E F G 1 วสั ดใุ นงานอตุ สาหกรรม 2 /// 2 กรรมวิธีการผลิตเหลก็ 6 /// 3 โลหะนอกจาพวกเหลก็ 4 // / 4 เชอ้ื เพลงิ วสั ดุหลอ่ ลืน่ และวัสดหุ ลอ่ เยน็ 4 / / / 5 วสั ดุกอ่ สร้าง สอบกลางภาคเรียน 4 // / 6 วสั ดุสังเคราะห์ 4 // / 7 วัสดุไฟฟูา และอเิ ล็กทรอนกิ ส์ 4 // / 8 การกัดกร่อน และการปูองกัน 2 // 9 การตรวจสอบวัสดเุ บ้อื งตน้ 2 // / 10 พลงั งานในอนาคต สอบปลายภาคเรียน 4 // / / รวม 36 หมายเหตุ. A = หลกั สตู รรายวิชา B = หนงั สือวสั ดุชา่ งอุตสาหกรรม (2100-1002) บรษิ ัทศนู ยห์ นงั สือเมืองไทย จากัด C = วัสดุงานชา่ งอตุ สาหกรรม และกรรมวิธกี ารผลติ เหล็ก (ออนไลน์) D = โลหะนอกจาพวกเหล็ก และเชื้อเพลิง วัสดหุ ลอ่ ลืน่ /วสั ดุหลอ่ เย็น (ออนไลน)์ E = วัสดกุ อ่ สร้าง วสั ดสุ ังเคราะห์ และวัสดไุ ฟฟูาและอิเล็กทรอนิกส์ (ออนไลน์) F = การผุกร่อนและการปอู งกัน และการตรวจสอบวัสดเุ บื้องต้น (ออนไลน์) G = พลงั งานในอนาคต (ออนไลน์)
ช โครงการจดั การเรยี นรู้ ชอ่ื วิชา วัสดุงานช่างอุตสาหกรรม รหัสวิชา 20100 - 1002 ท.ป.น. 2-0-2 จานวนคาบสอน 2 คาบ : สัปดาห์ ระดบั ชนั้ ปวช. สปั ดาหท์ ี่ หน่วยที่ ชื่อหนว่ ย/รายการสอน จานวนคาบ 2 1 1 วสั ดใุ นงานอุตสาหกรรม 2 2 2 2 กรรมวิธีการผลติ เหล็ก 2 2 3 2 กรรมวธิ กี ารผลติ เหล็ก 2 2 4 2 กรรมวธิ กี ารผลิตเหล็ก 2 2 5 3 โลหะนอกจาพวกเหล็ก 2 2 6 3 โลหะนอกจาพวกเหลก็ 2 2 7 4 เช้อื เพลิง วัสดุหล่อลื่น และวสั ดหุ ล่อเยน็ 2 2 8 4 เช้ือเพลิง วสั ดุหล่อลน่ื และวสั ดหุ ล่อเยน็ 2 2 9 1 - 5 วสั ดกุ ่อสรา้ ง ทดสอบกลางภาคเรียน 2 36 10 5 วสั ดุก่อสรา้ ง 11 6 วสั ดุสงั เคราะห์ 12 6 วัสดสุ ังเคราะห์ 13 7 วัสดุไฟฟูา และอิเล็กทรอนกิ ส์ 14 7 วัสดุไฟฟูา และอิเล็กทรอนกิ ส์ 15 8 การกดั กรอ่ น และการปูองกัน 16 9 การตรวจสอบวสั ดุเบอ้ื งตน้ 17 10 พลงั งานในอนาคต 18 6 - 10 พลงั งานในอนาคต ทดสอบปลายภาคเรียน รวม หมายเหตุ. - ครผู ู้สอนสามารถดดั แปลงและประยกุ ต์ใชก้ ิจกรรมการเรยี นการสอนเกี่ยวกบั เนือ้ หาวิชา หรือกิจกรรมตา่ งๆได้ตามความเหมาะสม
ซ สมรรถนะย่อยและจดุ ประสงค์ทว่ั ไป ช่ือวิชา วัสดงุ านช่างอุตสาหกรรม รหสั วิชา 20100 - 1002 ท.ป.น. 2-0-2 จานวนคาบสอน 2 คาบ : สัปดาห์ ระดับชนั้ ปวช. ชอ่ื เรอื่ ง สมรรถนะย่อยและจดุ ประสงคก์ ารปฏบิ ตั ิ สมรรถนะย่อย (Element of Competency) หน่วยที่ 1 วัสดุในงานอุตสาหกรรม 1.1 บทนาวัสดใุ นงานอุตสาหกรรม แสดงความรู้เกี่ยวกับวัสดใุ นงานอุตสาหกรรม 1.2 ความหมายของวสั ดุอตุ สาหกรรม 1.3 ประเภทของวัสดอุ ุตสาหกรรม จดุ ประสงคก์ ารปฏบิ ัติ (Performance 1.4 โลหะ และคณุ สมบตั ิของโลหะ Objectives) 1.5 โลหะจาพวกเหล็ก 1.6 บทสรปุ ดา้ นความรู้ และทักษะ 1.1 อธบิ ายความหมายของวัสดุอตุ สาหกรรมได้ ถูกต้อง 1.2 บอกประเภทของวัสดอุ ุตสาหกรรมได้ 1.3 บอกโลหะ และคุณสมบัติของโลหะได้ 1.4 บอกโลหะจาพวกเหล็กได้ กจิ กรรมอภิปรายประเดน็ สาคัญ พดู อภิปรายประเดน็ สาคัญตามเนอ้ื หาที่กาหนด ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม/บรู ณาการเศรษฐกิจ พอเพียง 1. แสดงออกดา้ นการตรงต่อเวลา 2. ความสมใจใฝรุ ู้ 3. ความซ่ือสัตย์ สจุ รติ 4. ความมีน้าใจ เอ้ือเฟ้ือ แบง่ ปัน 5. ความร่วมมือ 6. ความมีมารยาท สมรรถนะยอ่ ยและจดุ ประสงค์ทว่ั ไป ชอ่ื วิชา วสั ดุงานช่างอุตสาหกรรม รหสั วชิ า 20100 - 1002 ท.ป.น. 2-0-2 จานวนคาบสอน 6 คาบ : สปั ดาห์ ระดับช้นั ปวช. ชอื่ เรอ่ื ง สมรรถนะย่อยและจดุ ประสงคก์ ารปฏิบตั ิ
หน่วยท่ี 2 กรรมวิธีการผลติ เหลก็ ฌ 2.1 บทนา 2.2 กรรมวธิ กี ารผลติ เหลก็ ดิบ สมรรถนะย่อย (Element of Competency) 2.3 กรรมวธิ ีการผลิตเหล็กกลา้ แสดงความรูเ้ กย่ี วกบั กรรมวธิ ีการผลติ เหลก็ 2.4 กรรมวิธกี ารผลติ เหล็กหล่อ 2.5 บทสรุป จุดประสงค์การปฏิบตั ิ (Performance Objectives) กจิ กรรมอภปิ รายประเดน็ สาคัญ ด้านความรู้ และทกั ษะ 2.1 บอกกรรมวิธีการผลิตเหลก็ ดิบได้ 2.2 บอกกรรมวิธีการผลิตเหล็กกลา้ ได้ 2.3 บอกกรรมวิธีการผลติ เหล็กหลอ่ ได้ พดู อภิปรายประเดน็ สาคัญตามเน้ือหาท่ีกาหนด ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม/บรู ณาการเศรษฐกิจ พอเพยี ง 1. แสดงออกดา้ นการตรงตอ่ เวลา 2. ความสมใจใฝรุ ู้ 3. ความซื่อสัตย์ สุจรติ 4. ความมีน้าใจ เอื้อเฟ้ือ แบง่ ปัน 5. ความรว่ มมือ 6. ความมีมารยาท สมรรถนะยอ่ ยและจุดประสงค์ทั่วไป ชอื่ วิชา วสั ดุงานชา่ งอุตสาหกรรม รหัสวิชา 20100 - 1002 ท.ป.น. 2-0-2 จานวนคาบสอน 4 คาบ : สัปดาห์ ระดับชั้น ปวช. ชื่อเรอ่ื ง สมรรถนะยอ่ ยและจุดประสงคก์ ารปฏิบตั ิ สมรรถนะย่อย (Element of Competency) หน่วยที่ 3 โลหะนอกจาพวกเหล็ก 3.1 โลหะนอกจาพวกเหล็ก แสดงความรเู้ กี่ยวกับโลหะนอกจาพวกเหล็ก 3.2 โลหะหนกั 3.3 โลหะเบา จุดประสงคก์ ารปฏบิ ัติ (Performance 3.4 โลหะผสม Objectives) 3.5 โลหะซินเตอร์ ดา้ นความรู้ และทกั ษะ
3.6 บทสรปุ ญ กิจกรรมอภิปรายประเด็นสาคัญ 3.1 บอกโลหะนอกจาพวกเหล็กได้ 3.2 บอกโลหะหนกั ได้ 3.3 บอกโลหะเบาได้ 3.4 บอกโลหะผสมได้ 3.5 บอกโลหะซนิ เตอร์ได้ พดู อภิปรายประเดน็ สาคัญตามเนือ้ หาท่ีกาหนด ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม/บรู ณาการเศรษฐกิจ พอเพียง 1. แสดงออกดา้ นการตรงตอ่ เวลา 2. ความสมใจใฝรุ ู้ 3. ความซื่อสัตย์ สจุ ริต 4. ความมนี ้าใจ เอื้อเฟื้อ แบ่งปัน 5. ความร่วมมือ 6. ความมีมารยาท สมรรถนะยอ่ ยและจุดประสงค์ท่วั ไป ชอ่ื วิชา วัสดุงานช่างอุตสาหกรรม รหัสวิชา 20100 - 1002 ท.ป.น. 2-0-2 จานวนคาบสอน 4 คาบ : สัปดาห์ ระดบั ช้นั ปวช. ชอ่ื เร่อื ง สมรรถนะยอ่ ยและจุดประสงคก์ ารปฏิบตั ิ สมรรถนะย่อย (Element of Competency) หน่วยท่ี 4 เชอ้ื เพลงิ วัสดุหล่อลื่น และวัสดุ หล่อเย็น แสดงความรูเ้ กี่ยวกับเช้ือเพลิง วสั ดหุ ลอ่ ลนื่ และวสั ดุหล่อเยน็ 4.1 บทนา 4.2 ความหมายของเชอ้ื เพลิง จดุ ประสงคก์ ารปฏิบัติ (Performance 4.3 ประเภทของเชอ้ื เพลิง Objectives) 4.4 เชอ้ื เพลงิ แขง็ 4.5 เชอื้ เพลิงเหลว ดา้ นความรู้ และทักษะ 4.6 เชื้อเพลงิ ก๊าซ หรอื แกส๊ 4.1 ความหมายของเชื้อเพลงิ ได้ 4.7 วสั ดหุ ลอ่ ล่นื 4.2 บอกประเภทของเชอ้ื เพลงิ ได้ 4.8 วสั ดหุ ล่อเย็น 4.3 บอกเชอ้ื เพลงิ แขง็ ได้ 4.9 บทสรุป 4.4 บอกเชอ้ื เพลงิ เหลวได้ 4.5 บอกเชือ้ เพลงิ ก๊าซหรือแกส๊ ได้
กจิ กรรมอภปิ รายประเด็นสาคัญ ฎ 4.6 บอกวัสดุหลอ่ ลนื่ ได้ 4.7 บอกวัสดหุ ล่อเยน็ ได้ พูดอภปิ รายประเดน็ สาคัญตามเน้อื หาที่กาหนด ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม/บูรณาการเศรษฐกิจ พอเพยี ง 1. แสดงออกดา้ นการตรงตอ่ เวลา 2. ความสมใจใฝุรู้ 3. ความซื่อสัตย์ สุจรติ 4. ความมีน้าใจ เอื้อเฟ้ือ แบง่ ปนั 5. ความรว่ มมือ 6. ความมีมารยาท สมรรถนะย่อยและจุดประสงค์ทัว่ ไป ชื่อวิชา วัสดงุ านชา่ งอุตสาหกรรม รหสั วิชา 20100 - 1002 ท.ป.น. 2-0-2 จานวนคาบสอน 4 คาบ : สัปดาห์ ระดับชนั้ ปวช. ช่อื เรื่อง สมรรถนะย่อยและจุดประสงคก์ ารปฏิบตั ิ สมรรถนะย่อย (Element of Competency) หนว่ ยท่ี 5 วสั ดกุ ่อสรา้ ง 5.1 บทนา แสดงความรเู้ กยี่ วกับวัสดกุ อ่ สรา้ ง 5.2 ไม้ 5.3 ไม้อัด จดุ ประสงคก์ ารปฏิบัติ (Performance 5.4 อฐิ Objectives) 5.5 หนิ 5.6 ทราย ดา้ นความรู้ และทกั ษะ 5.7 ปูนซีเมนต์ 5.1 อธิบายความหมายของไม้ได้ถูกต้อง 5.8 ปูนขาว 5.2 อธบิ ายความหมายของไมอ้ ัดไดถ้ ูกต้อง 5.9 คอนกรตี 5.3 อธิบายความหมายของอิฐไดถ้ ูกต้อง 5.10 บทสรุป 5.4 อธิบายความหมายของหินไดถ้ ูกตอ้ ง 5.5 อธิบายความหมายของทรายได้ถูกต้อง 5.6 อธบิ ายความหมายของปูนซเี มนต์ได้ถูกต้อง 5.7 อธบิ ายความหมายของปูนขาวได้ถูกต้อง 5.8 อธบิ ายความหมายของคอนกรีตได้ถูกต้อง กิจกรรมอภปิ รายประเดน็ สาคัญ พูดอภปิ รายประเด็นสาคัญตามเนื้อหาที่กาหนด
ฏ ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพียง 1. แสดงออกด้านการตรงต่อเวลา 2. ความสมใจใฝรุ ู้ 3. ความซ่ือสัตย์ สจุ รติ 4. ความมนี ้าใจ เอ้ือเฟ้ือ แบง่ ปนั 5. ความรว่ มมือ 6. ความมีมารยาท สมรรถนะยอ่ ยและจุดประสงค์ทัว่ ไป ชือ่ วิชา วัสดุงานช่างอตุ สาหกรรม รหสั วชิ า 20100 - 1002 ท.ป.น. 2-0-2 จานวนคาบสอน 4 คาบ : สปั ดาห์ ระดับช้นั ปวช. ช่อื เร่อื ง สมรรถนะยอ่ ยและจดุ ประสงคก์ ารปฏบิ ตั ิ สมรรถนะย่อย (Element of Competency) หน่วยที่ 6 วัสดสุ ังเคราะห์ 6.1 ความหมายของวสั ดุสงั เคราะห์ แสดงความร้เู ก่ยี วกับวัสดุสงั เคราะห์ 6.2 ชนิดของวัสดสุ งั เคราะห์ 6.3 พลาสติก จดุ ประสงค์การปฏิบตั ิ (Performance 6.4 ยาง Objectives) 6.5 วัสดปุ ระสาน 6.6 แกว้ ด้านความรู้ และทักษะ 6.7 เซรามกิ ส์ 6.1 อธบิ ายความหมายของวัสดุสงั เคราะห์ไดถ้ ูกต้อง 6.8 สี 6.2 บอกชนิดของวัสดุสงั เคราะห์ได้ 6.9 บทสรุป 6.3 บอกประเภทของพลาสติกและการนาไปใช้งานได้ 6.4 บอกชนิดของยางแตล่ ะประเภทและกานาไปใช้ งานได้ 6.5 บอกประเภทของวัสดุประสานได้ 6.6 บอกวัตถุดบิ ในการทาแก้ว และชนดิ ของแก้วได้ 6.7 อธบิ ายความหมายของเซรามิกส์ และประเภท ของเซรามิกส์ได้ 6.8 อธิบายความหมายของสีและประเภทของสไี ด้ กิจกรรมอภิปรายประเดน็ สาคัญ พูดอภิปรายประเดน็ สาคัญตามเนอื้ หาท่ีกาหนด ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม/บูรณาการเศรษฐกิจ พอเพยี ง 1. แสดงออกดา้ นการตรงต่อเวลา 2. ความสมใจใฝรุ ู้
ฐ 3. ความซ่ือสตั ย์ สุจริต 4. ความมนี ้าใจ เอ้ือเฟื้อ แบง่ ปัน 5. ความรว่ มมือ 6. ความมีมารยาท สมรรถนะย่อยและจดุ ประสงค์ทว่ั ไป ช่อื วิชา วสั ดงุ านชา่ งอุตสาหกรรม รหสั วิชา 20100 - 1002 ท.ป.น. 2-0-2 จานวนคาบสอน 4 คาบ : สัปดาห์ ระดับชัน้ ปวช. ชือ่ เรอ่ื ง สมรรถนะยอ่ ยและจดุ ประสงคก์ ารปฏบิ ตั ิ สมรรถนะย่อย (Element of Competency) หน่วยที่ 7 วสั ดไุ ฟฟูา และอิเลก็ ทรอนิกส์ 7.1 บทนา แสดงความรู้เก่ยี วกบั วสั ดุไฟฟาู และ 7.2 ความหมายของวสั ดุไฟฟูา อเิ ล็กทรอนิกส์ 7.3 วัสดตุ ัวนา 7.4 วสั ดฉุ นวนไฟฟาู จดุ ประสงคก์ ารปฏิบตั ิ (Performance 7.5 วัสดกุ ึ่งตัวนา Objectives) 7.6 วัสดแุ มเ่ หล็ก 7.7 วัสดสุ วติ ชไ์ ฟฟาู ดา้ นความรู้ และทักษะ 7.8 วัสดุอิเลก็ ทรอนิกส์ 7.1 อธิบายความหมายของวัสดไุ ฟฟาู ได้ถกู ต้อง 7.9 บทสรปุ 7.2 บอกวัสดุตวั นาได้ 7.3 บอกวสั ดฉุ นวนไฟฟาู ได้ 7.4 บอกวสั ดุกึง่ ตวั นาได้ 7.5 บอกวัสดแุ ม่เหล็กได้ 7.6 บอกวัสดุสวติ ชไ์ ฟฟาู ได้ 7.7 บอกวัสดอุ ิเลก็ ทรอนิกสไ์ ด้ กิจกรรมอภิปรายประเดน็ สาคัญ พูดอภิปรายประเดน็ สาคัญตามเนื้อหาที่กาหนด ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม/บรู ณาการเศรษฐกิจ พอเพยี ง 1. แสดงออกดา้ นการตรงต่อเวลา 2. ความสมใจใฝุรู้ 3. ความซ่ือสตั ย์ สจุ ริต 4. ความมนี ้าใจ เอื้อเฟ้ือ แบง่ ปนั 5. ความร่วมมือ 6. ความมีมารยาท
ฑ สมรรถนะย่อยและจุดประสงค์ทั่วไป ชือ่ วิชา วสั ดงุ านชา่ งอตุ สาหกรรม รหสั วิชา 20100 - 1002 ท.ป.น. 2-0-2 จานวนคาบสอน 2 คาบ : สปั ดาห์ ระดับชน้ั ปวช. ช่ือเรอื่ ง สมรรถนะยอ่ ยและจดุ ประสงคก์ ารปฏบิ ตั ิ สมรรถนะย่อย (Element of Competency) หน่วยท่ี 8 การกัดกร่อน และการปูองกัน 8.1 บทนา แสดงความรูเ้ กย่ี วกบั การกัดกร่อน และการ 8.2 ความหมายของการกัดกรอ่ น ปอู งกัน 8.3 สาเหตุของการกดั กร่อน 8.4 ประเภทของการกดั กรอ่ น จุดประสงคก์ ารปฏบิ ัติ (Performance 8.5 การปอู งกนั การกดั กร่อน Objectives) 8.6 บทสรปุ ดา้ นความรู้ และทักษะ 8.1 อธบิ ายความหมายของการกดั กร่อนได้ถกู ต้อง 8.2 บอกสาเหตขุ องการกัดกรอ่ นได้ 8.3 บอกประเภทของการกัดกร่อนได้ 8.4 บอกการปูองกนั การกัดกรอ่ นได้ กจิ กรรมอภิปรายประเด็นสาคัญ พูดอภปิ รายประเด็นสาคัญตามเนอื้ หาท่ีกาหนด ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม/บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพียง 1. แสดงออกด้านการตรงตอ่ เวลา 2. ความสมใจใฝุรู้ 3. ความซื่อสตั ย์ สจุ ริต 4. ความมนี ้าใจ เอื้อเฟ้ือ แบง่ ปนั 5. ความร่วมมือ 6. ความมีมารยาท สมรรถนะยอ่ ยและจุดประสงค์ทว่ั ไป ชื่อวิชา วสั ดงุ านชา่ งอุตสาหกรรม รหัสวิชา 20100 - 1002 ท.ป.น. 2-0-2 จานวนคาบสอน 2 คาบ : สปั ดาห์ ระดบั ชนั้ ปวช.
ช่ือเรือ่ ง ฒ หน่วยท่ี 9 การตรวจสอบวสั ดุเบอ้ื งต้น สมรรถนะย่อยและจุดประสงคก์ ารปฏิบตั ิ 9.1 บทนา สมรรถนะย่อย (Element of Competency) 9.2 คุณสมบตั ิของวสั ดุ 9.3 การทดสอบวสั ดุ แสดงความร้เู ก่ยี วกับการตรวจสอบวัสดเุ บือ้ งต้น 9.4 บทสรปุ จดุ ประสงคก์ ารปฏบิ ตั ิ (Performance กิจกรรมอภปิ รายประเด็นสาคัญ Objectives) ด้านความรู้ และทกั ษะ 9.1 อธบิ ายคณุ สมบตั ิของวสั ดุได้ถูกต้อง 9.2 บอกการทดสอบวสั ดุได้ พดู อภปิ รายประเดน็ สาคัญตามเน้อื หาท่ีกาหนด ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม/บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพียง 1. แสดงออกดา้ นการตรงตอ่ เวลา 2. ความสมใจใฝรุ ู้ 3. ความซ่ือสัตย์ สจุ ริต 4. ความมนี ้าใจ เอ้ือเฟื้อ แบ่งปนั 5. ความร่วมมือ 6. ความมีมารยาท สมรรถนะยอ่ ยและจุดประสงค์ท่วั ไป ชือ่ วิชา วสั ดุงานชา่ งอุตสาหกรรม รหัสวชิ า 20100 - 1002 ท.ป.น. 2-0-2 จานวนคาบสอน 4 คาบ : สัปดาห์ ระดบั ชัน้ ปวช. ชอื่ เร่อื ง สมรรถนะยอ่ ยและจดุ ประสงคก์ ารปฏิบตั ิ สมรรถนะย่อย (Element of Competency) หนว่ ยที่ 10 พลังงานในอนาคต 10.1 บทนา แสดงความร้เู กยี่ วกบั พลังงานในอนาคต 10.2 ความหมายของพลงั งาน 10.3 บทบาทของพลังงาน จดุ ประสงค์การปฏบิ ัติ (Performance 10.4 แหล่งของพลงั งาน Objectives)
ณ 10.5 พลงั งานแสงอาทิตย์ ดา้ นความรู้ และทักษะ 10.6 พลงั งานลม 10.1 อธบิ ายความหมายของพลัง งานได้ถกู ต้อง 10.7 พลงั งานชีวมวล 10.2 บอกบทบาทของพลังงานได้ 10.8 พลังงานนา้ 10.3 บอกแหล่งของพลงั งานได้ 10.9 พลังงานน้าขึ้นน้าลง 10.4 บอกพลังงานแสงอาทิตยไ์ ด้ 10.10 พลงั งานความรอ้ นใต้ภิภพ 10.5 บอกพลังงานลมได้ 10.11 พลงั งานคลื่น 10.6 บอกพลงั งานชวี มวลได้ 10.12 พลงั งานนิวเคลียร์ 10.7 บอกพลงั งานนา้ ได้ 10.13 การเลอื กแหล่งพลงั งาน 10.8 บอกพลงั งานน้าขนึ้ นา้ ลงได้ 10.14 บทสรปุ 10.9 บอกพลงั งานความร้อนใต้ ภิภพได้ 10.10 บอกพลงั งานคล่นื ได้ กจิ กรรมอภปิ รายประเดน็ สาคัญ 10.11 บอกพลงั งานนิวเคลยี ร์ได้ 10.12 บอกการเลอื กแหล่งพลงั งานได้ หมายเหตุ ลักษณะเฉพาะของหน่วยสมรรถนะจะมี องคป์ ระกอบ 3 ดา้ น คือ ความรู้ ทกั ษะ และเจตคติ พูดอภปิ รายประเด็นสาคัญตามเน้ือหาท่ีกาหนด ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกิจ พอเพยี ง 1. แสดงออกดา้ นการตรงต่อเวลา 2. ความสมใจใฝุรู้ 3. ความซ่ือสตั ย์ สุจรติ 4. ความมีนา้ ใจ เอื้อเฟื้อ แบง่ ปนั 5. ความร่วมมือ 6. ความมีมารยาท ตารางวิเคราะหห์ ลักสตู รรายวิชา ชอ่ื วิชา วัสดุงานชา่ งอุตสาหกรรม รหัสวชิ า 20100 - 1002 ท.ป.น. 2-0-2 จานวนคาบสอน 2 คาบ : สปั ดาห์ ระดับชน้ั พุทธิพิสัย พฤตกิ รรม ความ ูร้ความจา ความเ ้ขาใจ ชอื่ หน่วย ประยุก ์ต-นาไปใ ้ช ิวเคราะห์ 1.วัสดใุ นงานอตุ สาหกรรม ูสงกว่า 2. กรรมวิธีการผลิตเหลก็ ัทกษะ ิพสัย 3. โลหะนอกจาพวกเหล็ก ิจต ิพสัย 4. เชอ้ื เพลงิ วสั ดุหลอ่ ลื่น และ รวม วสั ดหุ ล่อเยน็ ลาดับความสาคัญ 23 1 67 4 4 2 1 1 1 1 12 1 4321 1 1 14 2 4311 1 1 11 3
ด 5. วัสดุก่อสร้าง 3311 1 1 10 4 1195 6. วสั ดสุ งั เคราะห์ 331 1 1 10 4 1 1 10 4 7. วัสดไุ ฟฟาู และอเิ ลก็ ทรอนิกส์ 3 3 1 1 1 1 10 4 1186 8. การกัดกร่อน และการปอู งกัน 3 3 1 1 9. การตรวจสอบวัสดเุ บอื้ งตน้ 3311 10. พลังงานในอนาคต 231 รวม 31 31 11 7 1 10 9 100 ลาดบั ความสาคัญ 1125634 หมายเหตุ จุดประสงค์การปฏิบัติ (Performance Objectives) ตามหลักสตู รฐานสมรรถนะ จะมคี วามสอดคล้องกับจุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม (Behavioral Objectives) ตามหลักสูตรเดมิ เพียงแต่รูปแบบการเขียนตา่ งกนั แตจ่ ดุ หมายปลายทางเหมือนกัน
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 1 หนว่ ยที่ 1 ชือ่ วิชา วัสดงุ านชา่ งอตุ สาหกรรม เวลาเรยี นรวม 36 คาบ ชอ่ื หน่วย วัสดใุ นงานอตุ สาหกรรม สอนครัง้ ที 1 / 18 ชื่อเรือ่ ง วัสดุในงานอตุ สาหกรรม หวั ข้อเร่อื ง จานวน 2 คาบ 1.1 บทนาวสั ดใุ นงานอุตสาหกรรม 1.4 โลหะ และคุณสมบตั ิของโลหะ 1.2 ความหมายของวัสดุอตุ สาหกรรม 1.5 โลหะจาพวกเหลก็ 1.3 ประเภทของวัสดุอตุ สาหกรรม 1.6 บทสรุป 1. สาระสาคัญ วัสดุอุตสาหกรรม ในปัจจุบันนบั ได้วา่ มีความสาคญั มาก สาหรบั งานอุตสาหกรรมดา้ นโลหะ โดย ผผู้ ลติ และผ้ใู ช้ จะต้องมีความรเู้ กยี่ วกบั ข้อมลู พน้ื ฐานของโลหะ คุณสมบัตแิ ละการนาไป ใชง้ าน ประเภทของวสั ดุในงานอตุ สาหกรรม แบ่งออกได้ 2 ประเภท คือ วัสดปุ ระเภทโลหะ ( Metallic ) และวัสดปุ ระเภทอโลหะ ( Non-Metallic ) เหลก็ ที่นิยมใชใ้ นงานอตุ สาหกรรม แบ่งออกได้ 2 ประเภท คือ เหลก็ กลา้ และเหล็กหลอ่ 2. สมรรถนะประจาหนว่ ยการเรยี นรู้ แสดงความรเู้ กย่ี วกบั วสั ดใุ นงานอุตสาหกรรม 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 จุดประสงคท์ ว่ั ไป 3.1.1 ด้านความรู้และทักษะ 3.1.1.1 อธิบายความหมายของวัสดอุ ุตสาหกรรมได้ถกู ต้อง 3.1.1.2 บอกประเภทของวัสดุอตุ สาหกรรมได้ 3.1.1.3 อธิบายความหมายของโลหะ และคุณสมบตั ิของโลหะได้ 3.1.1.4 บอกโลหะนอกจาพวกเหล็กได้ 3.2 จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม 3.1.2 ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม / บรู ณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง แสดงออกดา้ นการตรงต่อเวลา ความสนใจใฝรุ ู้ ความซ่ือสัตย์ สจุ รติ ความมนี ้าใจ เอื้อ เฟ้ือ แบ่งปัน ความรว่ มมือ มีความรับผดิ ชอบ และความมีมารยาท 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 บทนาวสั ดุในงานอตุ สาหกรรม วัสดุทใ่ี ชใ้ นงานอุตสาหกรรมน้ันมีอยมู่ ากมายหลายชนิด แต่บางอย่างกเ็ ปน็ ธาตุบรสิ ทุ ธิ์ บางอย่างก็ เปน็ สารประกอบ เนอ่ื งจากผู้ที่เปน็ ช่างหรอื วศิ วกรทุกสาขา ไมว่ า่ จะเป็น ชา่ งยนต์ ชา่ งกล ช่างเช่ือม ช่าง ไฟฟาู ชา่ งอิเลคทรอนิคส์ และชา่ งประกอบผลิตภัณฑ์ เปน็ ตน้ มนษุ ยเ์ ราได้คิดคน้ วสั ดุเหลา่ นี้ขน้ึ มามากมาย และผลติ ข้นึ มาดัดแปลงเพอื่ ใชก้ บั งานตา่ งๆ ให้มีความเหมาะสมตามทีต่ ้องการเพื่อใชใ้ นงานอุตสาหกรรม หลกั การเลือกวสั ดมุ าใช้งาน ตอ้ งพิจารณาดังต่อไปนี้ ความแขง็ แรง ความหนาแนน่ ความเปราะ ดา้ นการนาไปใชง้ าน ราคาตน้ ทนุ หรือค่าโสห้ยุ และกรรมวิธกี ารผลิต เปน็ ตน้ แผนกเทคนคิ พื้นฐาน วทิ ยาลัยการอาชพี ขุนหาญ
2 4.2 ความหมายของวสั ดุอุตสาหกรรม วสั ดุอตุ สาหกรรม คือศาสตร์ท่ีเกยี่ วข้องกับวัสดทุ ี่ใชใ้ นงานชา่ ง ท่ีเป็นพ้นื ฐานสาหรบั ช่างทุกสาขาใน งานอุตสาหกรรมนาไปใชใ้ นการผลติ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ชน้ิ ส่วนรถยนต์ อุปกรณเ์ ครื่องจักรกล และ อปุ กรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์ เป็นต้น โดยมี 2 ลักษณะ คือ วสั ดงุ าน คอื วัสดทุ ใี่ ช้ทางานจริง และวสั ดชุ ่วยงาน เป็นวสั ดทุ ่ีช่วยในการผลิต ซึ่งช่างจะต้องเรยี นร้เู กยี่ วกบั คุณสมบตั ิในการนาไปใช้งานให้ถูกตอ้ ง เพอื่ ชว่ ยทาให้ เพ่มิ ประสทิ ธิภาพในการผลติ 4.3 ประเภทของวสั ดอุ ุตสาหกรรม 4.3.1 ประเภทของวสั ดอุ ุตสาหกรรม แบ่งออกได้ 2 ประเภทคือ 4.3.1.1 วัสดุประเภทโลหะ ( Metallic ) คือ วสั ดุท่ไี ดจ้ ากการถลงุ สินแร่ตา่ งๆ โดยส่วนใหญแ่ ล้ว คอ่ นข้างจะเป็นโลหะบรสิ ุทธิ์ มีเนอื้ อ่อน แขง็ แรงน้อย ไม่นิยมนามาใชง้ านโดยตรง แตจ่ ะต้องนาไป ปรบั ปรุง คุณสมบัติเสียก่อนที่จะนามาใช้งาน แยกเปน็ กลุ่มย่อยออกเปน็ 4.3.1.2 โลหะจาพวกเหลก็ ( Ferrous Metal ) คอื โลหะที่มสี ว่ นผสมของเหลก็ เปน็ องค์ ประกอบ เช่น เหลก็ เหนียว เหล็กออ่ น และเหล็กหลอ่ เปน็ ตน้ 4.3.1.3 โลหะนอกจาพวกเหล็ก ( Non - Ferrous Metal ) คอื โลหะที่ไมม่ วี ตั ถุเหล็กเป็นองค์ ประกอบอย่เู ลย เชน่ ทองแดง สงั กะสี อลมู เิ นยี ม แมกนีเซียม ทองเหลือง และ บรอนซ์ เป็นต้นโดยทาง ผ้เู ขียนได้นารายละเอียดไปไว้ในบทท่ี 3 ซึ่งจะมคี วามสมบูรณ์มากข้ึน 4.3.2 วัสดปุ ระเภทอโลหะ ( Non-Metallice ) สามารถท่ีจะแบ่งย่อยออกไดเ้ ป็น 2 ชนิดคือ 4.3.2.1 อินทรีย์สาร ( Organic ) ไดม้ าจากสงิ่ มีชวี ิตทั้งหลาย เช่น ไม้ หนัง และกระดาษ เปน็ ต้น 4.3.2.2 อนนิ ทรีย์สาร ( Inorganic ) ไดม้ าจากพวกแร่ธาตุ และส่ิงตา่ งๆท่ีไมม่ ีชวี ติ เชน่ ดนิ เหนียว หิน ซเี มนต์ แกว้ เซรามกิ ส์ และพลาสตกิ เป็นต้น 4.4 โลหะ และคณุ สมบัติของโลหะ โลหะ (Metals) หมายถึงวัสดทุ ไ่ี ดจ้ ากการถลงุ แรธ่ าตชุ นดิ ตา่ งๆ ทเี่ กิดข้นึ เองโดยธรรมชาติ ทมี่ กี าร จัดเรยี งตัวของอะตอมอย่างเป็นระเบยี บดีกว่าอโลหะ แตเ่ น้อื โลหะยงั บริสุทธิ์ ต้องนาไปปรบั ปรงุ คุณสมบตั ิให้ เหมาะสมก่อนที่จะนาไปใชง้ าน แบง่ ออกได้ 2 ประเภท คือ 4.4.1 โลหะจาพวกเหล็ก (Ferrous Metals) 4.4.2 โลหะนอกจาพวกเหลก็ (Non - Ferrous Metals) คณุ สมบัติของโลหะ โลหะเปน็ วสั ดทุ ่ีไดจ้ ากการถลุงสินแร่โลหะชนิดต่างๆ เช่น เหลก็ อลูมิเนยี ม ทองแดง ทองเหลือง และสงั กะสี เป็นต้น โลหะโดยทัว่ ไปมคี ุณสมบัติ ดังนีค้ ือ เปน็ ตัวนาไฟฟาู ทด่ี ี เป็นตัวนาความร้อนที่ดี มีความแขง็ แรงสงู มีความเหนยี วออ่ นตัวดี มคี วามคงทนถาวร เสือ่ มสลายไดย้ าก มีจดุ หลอมเหลวสูง ผิวเปน็ มัน มีความถ่วงจาเพาะสงู ตใี ห้เปน็ แผ่น หรือนาไปแปรรูปได้ดี และมีการขยายตวั ทอ่ี ณุ หภูมิสูง เป็น ตน้ 4.5 โลหะจาพวกเหลก็ (Ferrous Metals) เป็นโลหะทมี่ ีความหนาแน่นมากกวา่ 4 กรัม / ซม.3 จดั ได้วา่ เป็นโลหะทม่ี คี วามสาคัญต่อระบบงาน อตุ สาหกรรมต่างๆเป็นอยา่ งมาก เน่อื งจากโลหะจะมีความแขง็ แรงสูง สามารถนาไปใช้งานไดส้ ะดวก รวด เรว็ ไดต้ ามความต้องการ โดยทวั่ ไปนั้นเหลก็ ท่ีนยิ มใช้ในงานอุตสาหกรรม ที่พบเห็นมากท่ีสุดมอี ยู่ 2 ประเภทคือ เหล็กกล้า (Steels) และเหล็กหล่อ (Cast Irons) แผนกเทคนิคพ้ืนฐาน วทิ ยาลัยการอาชีพขนุ หาญ
3 5. กิจกรรมการเรียนรู้ (สัปดาหท์ ี่ 1 / 18) เวลาโดยประมาณ (นาที) 5 กิจกรรม 10 1. ครเู ชค็ ช่ือ 10 2. พดู ทกั ทายปราศรยั ท่วั ไป และอบรมคณุ ธรรม 35 จริยธรรม และหลงั จากน้ันทาแบบทดสอบก่อนเรยี น (Pre-test) 3. ขัน้ นาเข้าสูบ่ ทเรียน ดว้ ยการสนทนา การซักถาม ดูภาพจากส่อื ออนไลน์ เน้ือหาท่เี กีย่ วข้องกบั บทเรยี น 4. ขน้ั สอน แนะนาประเด็นสาคัญ และแบ่งนกั เรยี น ค้นควา้ ตามหัวข้อเรอ่ื ง ตวั แทนแตล่ ะกลุม่ นาเสนอ ผลงานหนา้ ช้นั เรยี น กจิ กรรม เวลาโดยประมาณ (นาท)ี 5. นกั เรยี นอภปิ รายร่วมกันในประเดน็ วัสดใุ นงาน 15 อตุ สาหกรรม 6. ครใู หน้ กั เรยี นทาแบบฝึกหัดหน่วยที่ 1 หลงั จาก 30 นักเรยี นทาเสร็จแลว้ เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-test) หนว่ ยท่ี 1 7. ขน้ั สรุป ครแู ละนักเรียนช่วยกันสรปุ เน้ือหา 10 บทเรียน และครเู พิม่ เติมในส่วนที่ยังไม่ครอบคลมุ 8. ครูมอบหมายงาน ให้อ่านเนือ้ หาเพ่ิมเตมิ เรื่อง 5 วสั ดุในงานอตุ สาหกรรม จากสอื่ ออนไลน์ รวม 120 6. สอ่ื และแหลง่ การเรียนรู้ 6.1 หนงั สือเรียน วิชาวัสดงุ านช่างอุตสาหกรรม รหสั วชิ า 20100 – 1002 บรษิ ัทศูนยห์ นังสอื เมืองไทย จากัด 6.2 เวบ็ ไซตอ์ อนไลน์ 6.3 สื่อส่งิ พิมพ์ท่ีเก่ียวข้องกับเนื้อหาบทเรียน 7. หลักฐานการเรยี นรู้ 7.1 ผลการนาเสนองานกลมุ่ 7.2 แบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี 1 7.3 คะแนนแบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-test) หนว่ ยที่ 1 7.4 เนือ้ หาเพ่ิมเติม เรื่องวัสดุในงานอุตสาหกรรม 8. การวดั ผลและประเมนิ ผล การประเมินผล (นาผลเทียบกบั เกณฑแ์ ละแปลความหมาย) การวดั ผล ไวเ้ ปรยี บเทยี บกบั คะแนนสอบหลงั เรียน (ใช้เครือ่ งมือ) 1. แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) หน่วยที่ 1 แผนกเทคนิคพ้นื ฐาน วทิ ยาลัยการอาชพี ขนุ หาญ
4 2. แบบสงั เกตการณ์ทางานกลุ่ม และการนาเสนอผลงานกล่มุ เกณฑผ์ า่ น 50 % 3. แบบฝึกหัดหนว่ ยท่ี 1 เกณฑผ์ า่ น 50 % 4. แบบทดสอบหลังเรียน (Post-test) หน่วยที่ 1 เกณฑ์ผา่ น 50 % 5. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ตามสภาพจริง เกณฑ์ผ่าน 50 % 9. การขับเคลือ่ นปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สมรรถนะ นอ้ มนาเศรษฐกิจพอเพียง โดยการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอยา่ งประหยดั จุดประสงคท์ ่ัวไป จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม/ ผลกระทบ พฤติกรรมบ่งช้ี สงั คม เศรษฐกิจ วฒั นธรรม สิง่ แวดล้อม ประยกุ ตใ์ ช้ปรัชญา 1.การเขา้ ใจธรรมชาติ ของเศรษฐกจิ 2.รกั ษาดูแลธรรมชาติ พอเพยี งดา้ นมี 3.การเรียนรโู้ ดยใช้เงอื่ นไข เหตผุ ลในการ สุภาพและประหยัด ดารงชีวติ แผนกเทคนิคพน้ื ฐาน วิทยาลัยการอาชพี ขุนหาญ
5 10. บนั ทกึ หลังการสอน 10.1 ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้ ........................................................................................ ...................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................ 10.2 ผลการเรียนของนักเรียน/ผลการสอนของครู/ปญั หาที่พบ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................. ................ ................................................................................................................... ........................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................................... ......................... 10.3 แนวทางการแก้ปัญหา .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................ ลงชอ่ื .......................................... ( นายชตุ เิ ทพ มาดตี ีระเทวาพงษ์ ) ครผู สู้ อน แผนกเทคนิคพน้ื ฐาน วทิ ยาลัยการอาชพี ขุนหาญ
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2 6 หน่วยที่ 2 ชื่อวิชา วัสดงุ านช่างอุตสาหกรรม เวลาเรยี นรวม 36 คาบ ชอื่ หน่วย กรรมวิธีการผลิตเหลก็ สอนครั้งที 2-4 / 18 ชอ่ื เรอ่ื ง วสั ดใุ นงานอุตสาหกรรม หัวข้อเรอื่ ง จานวน 6 คาบ 2.1 บทนา 2.2 กรรมวิธกี ารผลติ เหล็กดิบ 2.3 กรรมวธิ ีการผลิตเหลก็ กลา้ 2.4 กรรมวธิ ีการผลิตเหลก็ หล่อ 2.5 บทสรุป 1. สาระสาคัญ โลหะเปน็ วัสดุทไ่ี ด้จากการถลุงแรธ่ าตุ โดยมกี ารจดั เรียงตวั ของอะตอม ที่เป็นระเบียบเรียบร้อยกวา่ อโลหะ ซ่งึ วตั ถุดบิ ท่ีใช้ในการถลงุ ในเตาสูง ได้แก่ สินแรเ่ หลก็ ถา่ นโคก้ หนิ ปูน เศษเหลก็ และอากาศ เปน็ ต้น โดยได้มีการถลงุ ครงั้ แรกทีป่ ระเทศอิหร่าน ตอ่ มาได้ใช้อยา่ งแพรห่ ลายทวั่ ทวีปยุโรป และทวีป เอเชยี ในการนาโลหะไปใชง้ านนั้น จาเปน็ จะต้องรูจ้ ักกรรมวธิ ีการผลิตเหล็กแบบตา่ งๆ เชน่ กรรมวธิ ีการ ผลติ เหลก็ กล้า และกรรมวิธกี ารผลติ เหล็กหล่อ เปน็ ตน้ ตลอดจนคณุ สมบัตขิ องโลหะให้ชดั เจนถกู ต้อง เสียกอ่ น เพ่ือให้ไดผ้ ลผลิตทีอ่ อกมามีคุณภาพตามที่ต้องการ 2. สมรรถนะประจาหน่วย แสดงความรเู้ ก่ียวกบั กรรมวธิ ีการผลติ เหลก็ 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 3.1 จดุ ประสงคท์ ่ัวไป 3.1.1 ด้านความร้แู ละทกั ษะ 3.1.1.1 บอกกรรมวธิ กี ารผลิตเหลก็ ดบิ ได้ 3.1.1.2 บอกกรรมวธิ กี ารผลิตเหล็กกลา้ ได้ 3.1.1.3 บอกกรรมวธิ ีการผลิตเหลก็ หล่อได้ 3.2 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 3.2.1 ด้านคุณธรรม จริยธรรม / บรู ณาการปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง แสดงออกด้านการตรงต่อเวลา ความสนใจใฝรุ ู้ ความซื่อสัตย์ สุจริต ความมนี า้ ใจ เอ้ือ เฟือ้ แบง่ ปนั ความร่วมมือ มคี วามรบั ผิดชอบ และความมีมารยาท 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 บทนา กรรมวิธีการผลติ เหลก็ หรอื การถลุงแร่เหล็ก เป็นการเปล่ยี นแร่เหลก็ ทีอ่ ยู่ในรูปออกไซด์ ให้กลาย เป็นโลหะเหล็ก โดยใช้สารลดออกซิเจนตา่ งๆ เชน่ คารบ์ อน และ ไฮโดรเจน เป็นต้น ส่วนงานผลติ โลหะ คือ การผลิตโลหะจากแร่ การผลติ โดยใช้ความรอ้ น และการผลิตโดยใช้สารละลายทางเคมี แผนกเทคนิคพน้ื ฐาน วทิ ยาลัยการอาชีพขุนหาญ
7 นอกจากน้โี ลหะที่ได้จากแรเ่ รียกว่า โลหะปฐมภูมิ โลหะทีไ่ ดจ้ ากวัสดุหมุนเวียน เรียกว่า โลหะทุติย ภมู ิ และโลหะท่ไี ดจ้ ากแรต่ ้องทาใหบ้ ริสทุ ธิ์ขึน้ อีกเรียกว่า การรีไฟนน์ ง่ิ (Refining) 4.2 กรรมวธิ ีการผลติ เหลก็ ดบิ (Pig Iron Production Process) เหล็กดบิ (Pig Iron) เป็นผลผลติ ที่ไดม้ าจากเตาสูง หรือเรยี กวา่ เตาบลาสตเ์ ฟอร์เนซ (Blast Furnace) โดยการถลงุ สินแรเ่ หลก็ ความรอ้ นทใี่ ช้ในการถลุงนน้ั ซงึ่ ได้มาจากการเผาไหม้ของถา่ นโค้ก (Coke) จะมี ลมรอ้ นเป็นส่ิงที่ชว่ ยในการเผาไหม้ ทง้ั นเี้ พื่อให้ไดอ้ ุณหภมู ิสงู ยิ่งขน้ึ โดยใหค้ วามร้อนสูงไดถ้ ึง 3000 °F หรือประมาณ 1649 °C ในระดับอุณหภมู ดิ ังกล่าวน้ี สามารถหลอมละลายสินแรต่ า่ งๆ ได้ และสิง่ สาคัญคือ สง่ิ สกปรก ซงึ่ ในกระบวนการหลอมละลายสินแรด่ ว้ ยเตาสูงนน้ั จะมีสิง่ สกปรกเกิดขึ้น เราเรียกว่า สแลก (Slag) จะต้องกาจัดออกจากนา้ โลหะ กอ่ นนาโลหะนน้ั ไปเทลงสแู่ บบหลอ่ 4.2.1 วัตถุดบิ ท่ใี ชใ้ นการถลงุ เหลก็ ดบิ มดี งั ต่อไปนี้คือ 1 สินแรเ่ หล็ก (Iron ore) 2 ถา่ นโคก้ (Coke) 3 หนิ ปนู (Limestone) 4 เศษเหล็ก (Scrap Iron) 5 อากาศ (Air) 6 น้า (Water) 4.2.2 สนิ แรเ่ หลก็ ( Iron Ore ) 1 สินแร่เหล็กแมกนีไทต์ (Magnetite : Fe3O4) หรือเรยี กวา่ เฟอร์โรเฟอร์ริกออกไซค์ 2 สนิ แรเ่ หลก็ เฮมาไทต์ (Hematite : Fe2O3) หรอื เรยี กว่า เหลก็ ออกไซด์ 3 สินแร่เหลก็ ลิโมไนต์ (Limonite) หรือเฮมาไทต์ (Hematite) ( Fe2O3+ n(H2O) 4 สนิ แร่เหลก็ ซิเดอร์ไรด์ (Siderite : Fe2CO3) หรือเหลก็ คาร์บอเนต 5 สินแรเ่ หลก็ ไพไรต์ (Pyrite : FeS2) 4.2.3 เตาสูง ( Blast Furnace ) เตาสงู เปน็ เตาท่ีใช้ในการผลติ เหลก็ ดบิ โดยชาวองั กฤษคนแรกท่ีค้นพบ ใช้ไม้เปน็ เช้ือเพลิง ต่อ มามีการพัฒนาใชถ้ ่านหนิ และถา่ นโค้ก เตามคี วามสงู ประมาณ 30 เมตร เสน้ ผ่าศูนยก์ ลางของเตาเฉล่ยี ประมาณ 10 – 12 เมตร การทางานตลอด 24 ชัว่ โมง ประมาณ 7 ปี จงึ หยดุ ทาการซ่อมแซมเตาครง้ั หนึ่ง สามารถที่จะผลติ เหล็กดิบไดว้ ันละ 800-1700 ตนั 4.3 กรรมวธิ กี ารผลติ เหล็กกล้า เหลก็ กล้าเปน็ เหลก็ ท่ีถกู นาไปใช้ในงานตา่ งๆมากมาย เนอ่ื งจากเหล็กกล้าน้นั มีคุณสมบัตใิ นการรับ แรงตา่ งๆได้ดี เชน่ แรงกระแทก (Impact Strength) แรงดงึ (Tensile Strength) แรงอดั (CompressiveStrength) และแรงเฉือน (Shear Strength) ธาตผุ สมสว่ นใหญจ่ ะเปน็ โลหะ และอโลหะ เช่น โมลิบดินั่ม ทังสเตน และ วาเนเดยี ม เป็นต้น สาหรบั กรรมวิธที างความร้อนที่กระทาต่อเหล็กกลา้ น้ัน จะทาให้โครงสรา้ งเล็กๆ (Microstructure) ของเหล็กกลา้ เปลีย่ นไป โดยเหลก็ ทุกชนดิ มีคารบ์ อนผสมอย่ไู ม่ เกนิ 2 เปอร์เซ็นต์ และเหลก็ กลา้ สามารถแบง่ ได้ 2 ประเภทใหญๆ่ คอื 1. เหล็กกล้าคาร์บอน (Carbon Steel) 2. เหลก็ กลา้ ผสม (Alloys Steel) การผลติ เหล็กกลา้ ชนิดตา่ งๆจากเตาแตล่ ะประเภท 1. การผลิตเหล็กกลา้ จากเตาโทมาส (Thomas Furnace) 2. การผลิตเหลก็ กล้าจากเตากระทะ หรอื เตาโอเพนฮารท์ (Open Hearth Furnace) แผนกเทคนิคพนื้ ฐาน วทิ ยาลัยการอาชีพขุนหาญ
8 3. การผลติ เหลก็ กลา้ จากเตาไฟฟูา (Electric Arc Furnace) 4. การผลิตเหล็กกล้าจากเตาเปาุ ด้วยออกซิเจน (Direct Oxygen Process or L.D Process ) 5. การผลติ เหล็กกล้าด้วยเตาเหน่ยี วนากระแสไฟฟูา (Induction or High frequency Furnace) 4.4 กรรมวธิ กี ารผลิตเหล็กหล่อ 4.4.1 ข้ันตอนการทางานของเตาคิวโปลา เหลก็ หล่อ โดยไดจ้ ากเตาควิ โปลา เหลก็ หล่อคลา้ ยกบั เหล็กกล้า (Steel) กต็ รงทีเ่ หล็กหลอ่ น้นั เป็นเหล็กท่มี ีธาตคุ าร์บอนผสมอยูเ่ ชน่ เดยี วกนั และสามารถศึกษาโครงสร้างจากแผนภาพสมดลุ (Equilibrium Diagram) ในรูปกเ็ ช่นเดยี วกัน เพยี งแต่ปริมาณของคาร์บอน ในเหล็กหลอ่ จะมีมากกว่าในเหล็กกล้า คอื มี คาร์บอนตั้งแต่ ร้อยละ 2 - 6.67 ในอุตสาหกรรมเหล็กหล่อ โดยทวั่ ไปแล้วจะมีคารบ์ อนอยรู่ อ้ ยละ 2.5-4 ถา้ ปริมาณคาร์บอนมากกวา่ นี้ เหลก็ จะสูญเสยี คุณสมบตั ิทางดา้ นความเหนยี ว (Ductility) คือ เปราะ และ แตก หกั ไดง้ ่าย เมื่อถูกแรงกระแทกปกตเิ หล็กหล่อสว่ นมากจะขาดคุณสมบัติทางดา้ นความเหนียว เมือ่ เทียบกบั เหล็กกล้า จึงไม่สามารถขนึ้ รปู ดว้ ยการรีด หรือการดงึ ขน้ึ รปู ท่ีอณุ หภมู สิ ูงได้ 4.4.2 ประเภทของเหล็กหล่อ มีหลายชนิดดงั นี้คือ 1. เหล็กหลอ่ สเี ทา (Gray Cast Iron) 2. เหล็กหลอ่ สขี าว (White Cast Iron) 3. เหลก็ หล่อเหนียว (Malleable Cast Iron) 4. เหลก็ หลอ่ ผสมหรือพิเศษ (Special Cast Iron) 5. กิจกรรมการเรยี นรู้ (สัปดาห์ท่ี 2-4 / 18) กิจกรรม เวลาโดยประมาณ (นาท)ี 5 1. ครเู ช็คช่ือ 10 2. พดู ทักทายปราศรัยทั่วไป และอบรมคุณธรรม 20 จรยิ ธรรม และหลังจากนัน้ ทาแบบทดสอบก่อนเรยี น 25 (Pre-test) 20 3. ข้นั นาเข้าสบู่ ทเรียน ดว้ ยการสนทนา การซักถาม 20 ดภู าพจากสอื่ ออนไลน์ เน้ือหาท่ีเก่ยี วข้องกับบทเรียน 10 4. ขน้ั สอน แนะนาประเดน็ สาคญั และแบ่งนักเรยี น 10 ค้นควา้ ตามหัวข้อเรื่อง ตัวแทนแตล่ ะกลุ่ม นาเสนอ 120 ผลงานหน้าช้ันเรยี น 5. นกั เรียนอภปิ รายร่วมกันในประเด็น วัสดใุ นงาน อุตสาหกรรม 6. ครใู ห้นักเรยี นทาแบบฝึกหัดหน่วยที่ 2 หลงั จาก นกั เรยี นทาเสรจ็ แลว้ เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน (Post-test) หนว่ ยที่ 2 7. ขน้ั สรุป ครแู ละนักเรยี นช่วยกนั สรปุ เน้ือหา บทเรียน และครเู พิม่ เติมในส่วนท่ยี งั ไมค่ รอบคลมุ 8. ครูมอบหมายงาน ให้อา่ นเน้อื หาเพิ่มเตมิ เร่ือง กรรมวิธกี ารผลิตเหล็ก จากส่ือออนไลน์ รวม แผนกเทคนคิ พนื้ ฐาน วิทยาลยั การอาชีพขนุ หาญ
9 6. สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้ 6.1 หนังสอื เรยี น วิชาวัสดงุ านช่างอตุ สาหกรรม รหัสวชิ า 2100-1002 บริษทั ศูนยห์ นงั สือเมืองไทย จากัด 6.2 เว็บไซต์ออนไลน์ 6.3 สือ่ ส่ิงพิมพ์ทเี่ กยี่ วข้องกับเนื้อหาบทเรยี น 7. หลกั ฐานการเรียนรู้ 7.1 ผลการนาเสนองานกล่มุ 7.2 แบบฝึกหดั หน่วยที่ 2 7.3 คะแนนแบบทดสอบหลงั เรียน (Post-test) หนว่ ยท่ี 2 7.4 เนอ้ื หาเพิม่ เตมิ เร่ืองกรรมวิธีการผลิตเหลก็ 8. การวดั ผลและประเมนิ ผล การวดั ผล การประเมนิ ผล (ใช้เครอ่ื งมือ) (นาผลเทยี บกับเกณฑแ์ ละแปลความหมาย) 1. แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) หน่วยท่ี 2 ไว้เปรยี บเทียบกบั คะแนนสอบหลงั เรยี น 2. แบบสังเกตการณ์ทางานกลุ่ม และการนาเสนอผลงานกลุ่ม เกณฑผ์ ่าน 50 % 3. แบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี 2 เกณฑผ์ า่ น 50 % 4. แบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-test) หนว่ ยท่ี 2 เกณฑผ์ า่ น 50 % 5. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ตามสภาพจรงิ เกณฑ์ผา่ น 50 % 9. การขับเคลื่อนปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง สมรรถนะ น้อมนาเศรษฐกิจพอเพียง โดยการใชท้ รัพยากรธรรมชาตอิ ยา่ งประหยัด จดุ ประสงค์ท่ัวไป จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม/ ผลกระทบ พฤติกรรมบ่งช้ี สงั คม เศรษฐกิจ วฒั นธรรม สิ่งแวดล้อม ประยกุ ต์ใชป้ รชั ญา 1.การเข้าใจธรรมชาติ ของเศรษฐกจิ 2.รักษาดูแลธรรมชาติ พอเพียงด้านมี 3.การเรยี นร้โู ดยใชเ้ ง่ือนไข เหตผุ ลในการ สภุ าพและประหยัด ดารงชวี ิต แผนกเทคนคิ พน้ื ฐาน วิทยาลัยการอาชีพขุนหาญ
10 10.บันทกึ หลงั การสอน 10.1 ผลการใช้แผนการจดั การเรยี นรู้ ............................................................................................................................................. ................................. .................................................................................................. ............................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................... ........................................... ........................................................................................ ...................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. 10.2 ผลการเรยี นของนักเรียน/ผลการสอนของคร/ู ปัญหาทีพ่ บ ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................... ........................... ........................................................................................................ ...................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ......................................................................................................................................... ..................................... 10.3 แนวทางการแก้ปัญหา .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอื่ ........................................... (ชุตเิ ทพ มาดีตรี ะเทวาพงษ)์ ครผู ้สู อน แผนกเทคนิคพืน้ ฐาน วทิ ยาลยั การอาชีพขุนหาญ
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3 11 หน่วยที่ 3 ช่อื วิชา วัสดงุ านช่างอุตสาหกรรม เวลาเรียนรวม 36 คาบ ชอื่ หน่วย โลหะนอกจาพวกเหล็ก สอนคร้ังที 5-6 / 18 ช่อื เร่อื ง โลหะนอกจาพวกเหล็ก หัวข้อเรื่อง จานวน 4 คาบ 3.1 โลหะนอกจาพวกเหลก็ 3.4 โลหะผสม 3.2 โลหะหนกั 3.5 โลหะซนิ เตอร์ 3.3 โลหะเบา 3.6 บทสรุป 1. สาระสาคัญ โลหะนอกจาพวกเหลก็ (Non- Ferrous Metals) สามารถแบ่งออกได้ 3 ประเภทใหญๆ่ คือ 1.1 โลหะหนกั ( Heavy Metals ) เช่น ทองแดง เงนิ ตะกวั่ สงั กะสี และดบี ุก เปน็ ตน้ 1.2 โลหะเบา ( Light Metals ) เชน่ อลูมเิ นียม และแมกนเี ซียม เปน็ ต้น 1.3 โลหะผสม ( Alloy Metals ) เชน่ ทองเหลอื ง บรอนซ์ และนโิ ครม เปน็ ตน้ 2. สมรรถนะประจาหน่วย แสดงความรเู้ กย่ี วกับโลหะนอกจาพวกเหล็ก 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 จดุ ประสงคท์ ว่ั ไป 3.1.1 ดา้ นความร้แู ละทกั ษะ 3.1.1.1 บอกโลหะนอกจาพวกเหล็กได้ 3.1.1.2 บอกโลหะหนักได้ 3.1.1.3 บอกโลหะเบาได้ 3.1.1.4 บอกโลหะผสมได้ 3.1.1.5 บอกโลหะซินเตอรไ์ ด้ 3.2 จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม 3.2.1 ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม / บรู ณาการปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง แสดงออกด้านการตรงต่อเวลา ความสนใจใฝุรู้ ความซ่ือสัตย์ สจุ รติ ความมนี ้าใจ เอื้อ เฟ้อื แบ่งปนั ความร่วมมือ มคี วามรบั ผิดชอบ และความมมี ารยาท 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 โลหะนอกจาพวกเหล็ก ( Non - Ferrous Metals ) โลหะนอกจาพวกเหลก็ เป็นโลหะที่ไมม่ ีเหล็กผสมอยู่ ปัจจบุ ันนับวา่ มคี วามสาคญั มากข้ึนตาม ลาดับ ในระบบงานอุตสาหกรรม เพราะมีคุณสมบตั ิ ทนต่อการกดั กรอ่ น นา้ หนกั เบา ทนความร้อน เป็นตวั นาไฟฟูา และสามารถนามาขน้ึ รปู ไดง้ า่ ย สามารถแบ่งออกได้ 3 ประเภทใหญ่ๆคือ 1. โลหะหนกั ( Heavy Metals ) 2. โลหะเบา ( Light Metals ) แผนกเทคนิคพน้ื ฐาน วทิ ยาลยั การอาชพี ขนุ หาญ
12 3. โลหะผสม ( Alloy Metals ) 4.2 โลหะหนัก ( Heavy Metals ) โลหะหนกั คอื โลหะที่มคี วามหนาแนน่ มากกว่า 4 กรัม / ลูกบาศก์เซนติเมตร โดยมคี วามสาคญั มาก ในระบบงานอุตสาหกรรมปัจจุบัน ไดแ้ ก่ ทองแดง ( Copper ) สงั กะสี ( Zinc ) ดบี กุ ( Tin ) ตะก่วั ( Lead ) และโครเม่ยี ม ( Chromium ) 4.3 โลหะเบา ( Light Metals ) โลหะเบา คือโลหะที่มีความหนาแนน่ นอ้ ยกว่า 4 กก./ซม.3 ไดแ้ ก่ อลมู เิ นียม แมกนีเซียม ไทเท เนยี ม เซอรโ์ คเนยี ม และแบริลเล่ยี ม เป็นตน้ 4.4 โลหะผสม ( Alloy Metals ) โลหะผสม คือการนาโลหะตั้งแต่ 2 ชนิดข้นึ ไป ผสมกันในอตั ราสว่ นที่แตกต่างกัน หรอื ในอัตรา ส่วนที่กาหนด แล้วหลอมให้ละลายผสมเป็นเนอื้ เดยี วกนั เพอ่ื ใหม้ ีคุณสมบัตเิ หมาะสมท่ีจะนาไปใชง้ าน โดย แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ 1. โลหะผสมหนัก 2. โลหะผสมเบา 5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สัปดาห์ที่ 5-6 / 18) กจิ กรรม เวลาโดยประมาณ (นาที) 5 1. ครูเช็คช่ือ 10 2. พูดทักทายปราศรัยทั่วไป และอบรมคุณธรรม 10 จรยิ ธรรม และหลังจากนน้ั ทาแบบทดสอบก่อนเรียน 35 (Pre-test) 15 3. ข้นั นาเข้าสู่บทเรยี น ด้วยการสนทนา การซักถาม 30 ดูภาพจากสอ่ื ออนไลน์ เนื้อหาทีเ่ กยี่ วข้องกับบทเรียน 10 4. ข้ันสอน แนะนาประเดน็ สาคัญ และแบ่งนกั เรียน 5 ค้นควา้ ตามหวั ข้อเรื่อง ตัวแทนแตล่ ะกลุ่ม นาเสนอ 120 ผลงานหน้าชน้ั เรยี น 5. นักเรียนอภปิ รายร่วมกนั ในประเด็น โลหะนอก จาพวกเหล็ก 6. ครใู หน้ กั เรียนทาแบบฝึกหัดหนว่ ยที่ 3 หลังจาก นกั เรียนทาเสรจ็ แล้ว เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน (Post-test) หนว่ ยท่ี 3 7. ขนั้ สรุป ครูและนักเรยี นช่วยกนั สรปุ เน้ือหา บทเรยี น และครูเพ่มิ เติมในส่วนท่ียงั ไม่ครอบคลมุ 8. ครูมอบหมายงาน ใหอ้ า่ นเนอ้ื หาเพ่ิมเติม เร่ือง โลหะนอกจาพวกเหลก็ จากสอ่ื ออนไลน์ รวม 6. สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้ 6.1 หนงั สอื เรียน วิชาวัสดุงานชา่ งอตุ สาหกรรม รหัสวชิ า 20100 – 1002 บริษัทศูนยห์ นังสอื เมืองไทย จากดั แผนกเทคนิคพนื้ ฐาน วทิ ยาลัยการอาชพี ขุนหาญ
13 6.2 เว็บไซตอ์ อนไลน์ 6.3 ส่ือสิง่ พมิ พท์ ่ีเก่ียวข้องกับเน้ือหาบทเรียน 7. หลกั ฐานการเรยี นรู้ 7.1 ผลการนาเสนองานกลุ่ม 7.2 แบบฝกึ หดั หนว่ ยที่ 3 7.3 คะแนนแบบทดสอบหลงั เรียน (Post-test) หน่วยท่ี 3 7.4 เนอ้ื หาเพมิ่ เติม เรื่องโลหะนอกจาพวกเหล็ก 8. การวัดผลและประเมินผล การวดั ผล การประเมนิ ผล (ใชเ้ คร่ืองมอื ) (นาผลเทียบกับเกณฑแ์ ละแปลความหมาย) 1. แบบทดสอบก่อนเรยี น (Pre-test) หนว่ ยที่ 3 ไวเ้ ปรยี บเทียบกบั คะแนนสอบหลงั เรยี น 2. แบบสงั เกตการณท์ างานกลมุ่ และการนาเสนอผลงานกลุ่ม 3. แบบฝกึ หัดหน่วยท่ี 3 เกณฑผ์ า่ น 50 % 4. แบบทดสอบหลงั เรียน (Post-test) หน่วยที่ 3 เกณฑผ์ า่ น 50 % 5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ตามสภาพจรงิ เกณฑ์ผา่ น 50 % เกณฑ์ผ่าน 50 % 9. การขบั เคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง สมรรถนะ น้อมนาเศรษฐกิจพอเพยี ง โดยการใชท้ รัพยากรธรรมชาติอย่างประหยดั จุดประสงคท์ ั่วไป จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม/ ผลกระทบ พฤตกิ รรมบ่งชี้ สังคม เศรษฐกจิ วัฒนธรรม สง่ิ แวดล้อม ประยุกตใ์ ช้ปรัชญา 1.การเข้าใจธรรมชาติ ของเศรษฐกิจ 2.รกั ษาดแู ลธรรมชาติ พอเพียงดา้ นมี 3.การเรยี นรู้โดยใชเ้ งอ่ื นไข เหตผุ ลในการ สุภาพและประหยัด ดารงชีวิต แผนกเทคนคิ พน้ื ฐาน วทิ ยาลยั การอาชีพขนุ หาญ
14 10. บนั ทึกหลงั การสอน 10.1 ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ...................................................................................................................................... ........................................ ............................................................................................................................ .................................................. ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................................................. ............... 10.2 ผลการเรียนของนกั เรียน/ผลการสอนของครู/ปญั หาทพ่ี บ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................. ................ ................................................................................................................... ........................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................................... .......................... 10.3 แนวทางการแกป้ ัญหา .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................... ................................................................................................. ......... ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอื่ ............................................. (ชุติเทพ มาดตี รี ะเทวาพงษ์) ครผู สู้ อน แผนกเทคนิคพืน้ ฐาน วิทยาลัยการอาชพี ขนุ หาญ
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4 15 หน่วยท่ี 4 ชอ่ื วิชา วัสดุงานช่างอุตสาหกรรม เวลาเรยี นรวม 36 คาบ ชอื่ หน่วย เช้ือเพลิง วัสดหุ ล่อลืน่ และวสั ดุหล่อเยน็ สอนครัง้ ที 7-8 / 18 ชือ่ เร่ือง เช้ือเพลิง วัสดุหล่อลนื่ และวัสดุหล่อเย็น จานวน 4 คาบ หัวข้อเรือ่ ง 4.1 บทนา 4.6 เช้ือเพลงิ กา๊ ซ หรือแก๊ส 4.2 ความหมายของเช้ือเพลงิ 4.7 วัสดหุ ล่อล่ืน 4.3 ประเภทของเชื้อเพลิง 4.8 วสั ดหุ ล่อเยน็ 4.4 เช้อื เพลงิ แข็ง 4.9 บทสรุป 4.5 เชอื้ เพลิงเหลว 1. สาระสาคัญ เช้ือเพลงิ ( Fuels ) เป็นสารใดๆเมื่อเกดิ การเผาไหม้แลว้ จะให้พลงั งานความร้อนออกมา ซ่งึ นา ไป ใช้ประโยชน์ได้ ธาตทุ ี่เป็นองคป์ ระกอบของเชื้อเพลงิ คือ คาร์บอน (C ) และไฮโดรเจน ( H ) สารหลอ่ ลืน่ ( Lubrication ) หมายถงึ สารหรอื วสั ดทุ ี่ใชใ้ นการหลอ่ ลน่ื ชน้ิ สว่ นเคร่อื งจักรกล โดย อาจ จะอย่ใู นรปู ของแข็ง ของเหลว และก๊าซ แต่สารหล่อล่ืนเหล่านี้ จะมีการเติมสารคุณภาพต่างๆเข้าไป เพือ่ ใหม้ คี วามเหมาะสมกบั ลักษณะงาน วัสดหุ ล่อเย็น (Coolant) หรือสารหลอ่ เยน็ ทีใ่ ช้ในการแปรรปู และตัดเฉอื นโลหะด้วยคมตดั เชน่ การกลงึ การเจาะ การใส และการเจยี ระไน เปน็ ต้น เมื่อนาคมตัดไปใช้งานจะเกิดการเสยี ดสี ระหว่างหน้า คมกับวัสดชุ ้นิ งาน ทาใหเ้ กดิ ความรอ้ นขึน้ โดยคมตัดของเครอื่ งมือตัดเสยี หายได้ 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย แสดงความรเู้ กยี่ วกับเช้ือเพลงิ วสั ดหุ ลอ่ ลน่ื และวัสดุหลอ่ เย็น 3. จุดประสงคก์ ารการเรียนรู้ 3.1 จุดประสงค์ทั่วไป 3.1.1 ด้านความรแู้ ละทกั ษะ 3.1.1.1 อธิบายความหมายของเชือ้ เพลงิ ได้ 3.1.1.2 บอกประเภทของเช้อื เพลิงได้ 3.1.1.3 บอกเชอ้ื เพลงิ แข็งได้ 3.1.1.4 บอกเชอื้ เพลงิ เหลวได้ 3.1.1.5 บอกเชือ้ เพลิงกา๊ ซ หรอื แกส๊ ได้ 3.1.1.6 บอกวัสดุหล่อลื่นได้ 3.1.1.7 บอกวสั ดหุ ล่อเยน็ ได้ 3.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม 3.2.1 ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม / บรู ณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แผนกเทคนิคพืน้ ฐาน วทิ ยาลยั การอาชีพขนุ หาญ
16 แสดงออกดา้ นการตรงต่อเวลา ความสนใจใฝุรู้ ความซอ่ื สัตย์ สุจรติ ความมนี า้ ใจ เอื้อ เฟอื้ แบ่งปัน ความรว่ มมือ มคี วามรับผดิ ชอบ และความมีมารยาท 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 บทนา เชอ้ื เพลงิ เปน็ วสั ดุทีม่ คี วามสาคญั มาก ในระบบงานอุตสาหกรรมปจั จบุ ัน ซง่ึ มปี ระโยชนต์ อ่ ครวั เรือน และต่อเศรษฐกิจของโลก เช่น เชือ้ เพลิงผลติ พลังงานไอน้าผลิตกระแสไฟฟูา การเกษตร อุตสาห กรรมรถยนต์ และอตุ สาหกรรมการผลติ เป็นต้น 4.2 ความหมายของเชอื้ เพลงิ เช้ือเพลงิ คือสารใดๆ เมื่อเกิดการเผาไหม้แลว้ จะให้พลังงานความรอ้ นออกมา ซึง่ นาไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ ธาตทุ ี่เป็นองค์ประกอบท่สี าคัญของเช้ือเพลงิ คือ คาร์บอน (C ) และไฮโดรเจน( H ) เมอื่ เช้ือเพลงิ ถูกเผาไหม้ ธาตคุ ารบ์ อน และไฮโดรเจน จะทาปฏิกิริยากบั ก๊าซออกซิเจน แล้วเกิดพลังงานความร้อน น้า และกา๊ ซ คารบ์ อนไดออกไซด์ หรือในบางครัง้ อาจจะเกดิ กา๊ ซคาร์บอนมอนอกไซด์ หรอื เขม่า 4.3 ประเภทของเช้ือเพลิง เช้อื เพลิง ทีใ่ ช้อยโู่ ดยทวั่ ไปเพ่ือการคมนาคม การอุตสาหกรรม และประเภทอ่นื ๆ โดยในปจั จุบนั จะตอ้ งนามาใช้กันอย่างประหยดั เชือ้ เพลงิ แบ่งได้ 3 ประเภทใหญๆ่ ดังนคี้ ือ 1. เชื้อเพลิงแข็ง เปน็ เชอื้ เพลิงทีม่ สี ถานะเปน็ ของแขง็ ที่อุณหภูมหิ อ้ ง เชน่ ถ่านหนิ ฟืนถ่าน ไม้ แกลบ ขเี้ ล่ือย ชานอ้อย ฟางออ้ ย และเศษวสั ดตุ ่างๆ เปน็ ต้น 2. เช้อื เพลิงเหลว เป็นเชอ้ื เพลิงท่มี สี ถานะเป็นของเหลวทอี่ ณุ หภูมิห้อง เชน่ น้ามัน ปิโตร เลยี ม แอลกอฮอล์ น้ามันพืช และนา้ มันสัตว์ เป็นต้น 3. เชื้อเพลิงกา๊ ซ เป็นเชื้อเพลิงที่มีสถานะเปน็ กา๊ ซท่ีอณุ หภูมหิ ้อง เช้ือเพลิงประเภทน้ีสว่ น ใหญ่เป็น สารประกอบไฮโดรคารบ์ อน เช่น กา๊ ซธรรมชาติ กา๊ ซหงุ ตม้ และก๊าซชีวภาพ เปน็ ต้น 4.4 เช้อื เพลงิ แข็ง (Solid Fuel) เปน็ เชอื้ เพลงิ ท่ีมีสถานะเปน็ ของแข็งท่ีอณุ หภูมิห้อง ประกอบด้วยธาตุ คารบ์ อนไฮโดรเจน ไนโตร เจน และกามะถนั แต่เม่ือทาปฏิกิรยิ ากับออกซิเจนแล้ว จะเกดิ การเผาไหมใ้ ห้พลังงานความรอ้ นเกดิ ข้นึ ได้แก่ 1. ถ่านหิน (Coal) 2. ถ่านไม้ และฟืน 3. วสั ดุเหลอื จากการเกษตร (Agriculture Material) 4. ไม้ (wood) 4.5 เชอื้ เพลงิ เหลว (Liquid Fuel) เปน็ เชื้อเพลิงเหลวที่ไดจ้ ากนา้ มันดิบ จากการทับถมของซากพชื ซากสตั ว์ ท่ตี ายแลว้ โดยทบั ถมกัน มาเปน็ เวลาหลายๆล้านปี น้ามนั ดิบ เปน็ สารประกอบไฮโดรคารบ์ อน มอี งค์ประกอบดงั น้ี คือ คารบ์ อน 83 – 87 % ไฮโดรเจน 11 – 15 % ออกซิเจน 5 % กามะถนั 6 % และไนโตรเจน 0.05 % ดงั น้ันใน การนาน้ามันดบิ หรือน้ามนั ปิโตรเลี่ยม มาใช้จะตอ้ งผ่านกรรมวิธกี ารกลนั่ ประเภทของนา้ มนั 1. น้ามนั ดบิ 2. นา้ มันเบนซิล (Benzene or Gasoline) 3. น้ามันดีเซล (Diesel) หรอื นา้ มันโซล่า 4. นา้ มนั ก๊าด (Kerosene) 5. นา้ มันเตา (Furnace Oil) 6. แอลกอฮอล์ (Alcohol) แผนกเทคนคิ พน้ื ฐาน วทิ ยาลยั การอาชีพขนุ หาญ
17 4.6 เช้อื เพลิงกา๊ ซ หรือแกส๊ (Gas Fuel) เช้ือเพลิงก๊าซ หมายถึง กา๊ ซทุกชนิดทีท่ าปฏิกริ ยิ ากับออกซเิ จน แล้วเกดิ การเผาไหม้ทาให้ได้ พลงั งานความรอ้ นทีส่ ามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้ แตเ่ ดิมนั้นเช้ือเพลิงใชใ้ นการหงุ ต้มเปน็ สว่ นใหญ่ ตอ่ มาเช้อื เพลงิ ก๊าซ ได้ถูกนามาใช้ในอุตสาหกรรม และเคร่ืองยนต์ต่างๆมากขึ้น เชื้อเพลงิ กา๊ ซสว่ นใหญ่ เปน็ สาร ประกอบไฮโดรคารบ์ อน เชอ้ื เพลิงก๊าซ ท่ใี ช้ในปัจจบุ ัน ได้แก่ 1. แกส๊ ธรรมชาติ (Natural Gas) มดี งั นคี้ ือ 1. กา๊ ซมเี ทน (CH4) คือใช้เป็นเชือ้ เพลงิ ในการผลิตกระแสไฟฟาู ใชพ้ ลังงานในการเผาไหม้ไปตม้ น้า ในหม้อไอน้า โรงงานถลุงเหลก็ โรงงานปูนซีเมนต์ โรงงานแก้ว และผลิตปุ๋ย เป็นตน้ 2. ก๊าซอเี ทน (C2H6) คอื ใชผ้ ลติ เอทิลนี ในการผลติ เม็ดพลาสตกิ ผลิตภัณฑ์ตา่ งๆ เชน่ ขวดของ เดก็ เลน่ เชือก แห อวน ถุง ดอกไม้ ท่อน้า และสายยาง เปน็ ตน้ 3. ก๊าซโปรเพน (C3H8) คือใชผ้ ลิตโปรพีลีนที่ เปน็ สารต้งั ตน้ ในการผลิตเมด็ พลาสตกิ เพ่อื ทา ผลติ ภณั ฑ์ เช่น กระสอบ แผ่นฟิลม์ และยางสงั เคราะห์ เปน็ ตน้ 4. บิวเทน (C414) เปน็ วตั ถดุ ิบในการผลติ สารเคมี และพลาสติกบางชนิด เช่น รองเท้า ยางรถยนต์ และกระเปา๋ เดินทาง เปน็ ตน้ 2. แก๊สชีวภาพ (Bio - Gas) เปน็ แกส๊ ท่ีไดจ้ ากการหมักยอ่ ยสลายของมลู สัตว์ และเศษพืชต่างๆ เชน่ ผกั ตบชวา แปูงมนั ฟางขา้ ว ขีว้ วั ขีค้ วาย ขหี้ มู และมูลสัตวต์ ่างๆ เปน็ ตน้ ในสภาวะที่มอี อกซิเจนนอ้ ย หรือไม่มี ออกซิเจนเป็นเวลา 20 – 60 วนั โดยจะได้แกส๊ ออกมาเปน็ แกส๊ มีเทน (Methane : CH4) สามารถนาไปจุด ไฟให้ความรอ้ นหุงต้มอาหาร ให้แสงสวา่ งในเวลากลางคืน และนาไปขจัดสิ่งเจือปนใช้เป็นเชอื้ เพลงิ เครือ่ งยนต์ เพ่ือทดแทนน้ามันได้ 3. แก๊สอะเซทีลีน (Acetylene) เป็นแกส๊ ท่ีมีสารประกอบของไฮโดรเจน และคาร์บอน มีสญั ลกั ษณท์ างเคมี C2H2 เป็นแก๊สท่ี มคี ณุ สมบตั ิในการติดไฟ แต่เม่ือรวมตัวกบั แกส๊ ออกซิเจน แล้วจะใหเ้ ปลวไฟท่ีมีอุณหภมู สิ งู แก๊สอะเซทีลีน สามารถเตรยี มได้โดยใหน้ ้าทาปฏิกิรยิ ากับแคลเซยี มคาร์ไบด์ (Calcium Carbide : CaC2) นาไปเปน็ เชื้อเพลิง ในการเชอื่ มประสานโลหะ (Gas Metal Welding) จะได้สมการดังน้ี CaC2 + 2H2O Ca (OH)2 + C2H2 4. แก๊สแอล พี จี หรอื ก๊าซปโิ ตรเลียมเหลว (Liquefied Petroleum Gas : LPG) เปน็ สารประกอบไฮโดรคารบ์ อน มีองคป์ ระกอบของก๊าซโพรเพน (Propane : C3H8) เป็น สว่ นใหญ่ จึงเป็นกา๊ ซท่ีหนักกว่าอากาศ แก๊ส LPG เองไม่มสี ี ไม่มกี ล่ิน เช่นเดยี วกับก๊าซธรรมชาติ แต่ เน่ืองจากเป็นก๊าซทีห่ นกั กว่าอากาศ จงึ มีการสะสม และลุกไหม้ได้งา่ ย 4.7 วสั ดุหล่อลื่น ( Lubrication ) สารหลอ่ ล่นื สารหลอ่ ลื่น หมายถงึ สารหรือวสั ดุท่ใี ช้ในการหล่อลื่นช้ินส่วนเครือ่ งจักรกล โดยอาจจะอยใู่ นรปู ของแขง็ ของเหลว และก๊าซ แต่สารหล่อลน่ื เหลา่ นี้ จะมกี ารเติมสารคณุ ภาพตา่ งๆ ลงไปในน้ามนั หล่อลนื่ ชนิดตา่ งๆ เพอื่ ให้มีความเหมาะสมกับลักษณะงาน แต่สารหลอ่ ลืน่ ทน่ี ยิ มใช้กนั อยา่ งกวา้ งขวางจะเป็นแบบ ลักษณะของเหลว การหล่อลน่ื การหลอ่ ล่ืน คอื การนาเอาสารทมี่ คี วามต้านทานต่อการเฉือนตา่ แทรกเขา้ ไป อยู่ระหว่างผวิ สมั ผสั เพอื่ ปูองกันการขรุขระของผวิ สัมผสั กนั โดยตรง ซง่ึ สารท่ใี ส่เขา้ ไประหวา่ งผิวสมั ผสั ทีเ่ รยี กว่า สารหลอ่ ลืน่ จะ แผนกเทคนิคพ้ืนฐาน วทิ ยาลัยการอาชีพขนุ หาญ
18 อยูร่ ะหวา่ งผิวสัมผสั ได้ตลอดเวลาการทางาน หรือบางช่วง เวลา โดยอาจเป็นช้นั บางๆ เรยี กว่าฟลิ ์มของสาร หลอ่ ล่นื ซึง่ มีความหนาเพียงพอทจี่ ะไม่ใหเ้ กดิ ผวิ ทงั้ สองสัมผัสกนั โดยตรงในช่วงการทางานปกติ ชนิดของสารหลอ่ ลน่ื แบ่งตามสภาพของอุณหภูมิได้ 3 ชนิด ได้แก่ 1. สารหลอ่ ลื่นชนิดเหลว เช่น นา้ มันเคร่ือง น้ามนั พชื และนา้ มันสัตว์ เปน็ ต้น 2. สารหล่อลืน่ ชนิดกงึ่ เหลว เชน่ จาระบี 3. สารหลอ่ ล่นื ชนิดแขง็ เช่น กราไฟต์ ผงหินสบู่ และผงโมลิบดิน่ัม เป็นต้น 4.8 วัสดุหลอ่ เยน็ (Coolant) วัสดหุ ล่อเยน็ หรือสารหล่อเย็น ทใี่ ช้ในการแปรรปู และตัดเฉอื นโลหะด้วยคมตัด เช่น การกลึง การเจาะ การตดั การใส และการเจียระไน เป็นตน้ เมื่อนาคมตัดไปใช้งานจะเกิดการเสยี ดสี ระหวา่ งหน้าคมกบั วัสดุช้นิ งาน ทาใหเ้ กิดความร้อนขึ้น ซึง่ ทาใหค้ มตดั ของเคร่ืองมอื ตัดเสียหายได้ วัสดหุ ลอ่ เย็น แบง่ ออกได้ 3 ประเภทใหญๆ่ ดังนค้ี ือ 1. อากาศ 2. นา้ 3. นา้ มนั 5. กิจกรรมการเรยี นรู้ (สัปดาหท์ ี่ 7-8 / 18) เวลาโดยประมาณ (นาท)ี 5 กิจกรรม 10 1. ครูเช็คชือ่ 2. พูดทักทายปราศรัยทว่ั ไป และอบรมคุณธรรม 10 จรยิ ธรรม และหลงั จากนั้นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น 35 (Pre-test) 3. ขัน้ นาเข้าสบู่ ทเรยี น ด้วยการสนทนา การซักถาม 15 ดภู าพจากส่อื ออนไลน์ เนื้อหาทีเ่ ก่ยี วข้องกับบทเรยี น 30 4. ขน้ั สอน แนะนาประเดน็ สาคญั และแบ่งนักเรียน ค้นคว้าตามหัวข้อเรื่อง ตัวแทนแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอ 10 ผลงานหนา้ ชั้นเรยี น 5. นกั เรยี นอภิปรายร่วมกันในประเด็น เชื้อเพลงิ แผนกเทคนคิ พ้นื ฐาน วิทยาลัยการอาชพี ขนุ หาญ วัสดุหลอ่ ล่นื และวัสดุหลอ่ เยน็ 6. ครใู หน้ กั เรียนทาแบบฝึกหัดหน่วยท่ี 4 หลังจาก นกั เรียนทาเสร็จแล้ว เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน (Post-test) หนว่ ยที่ 4 7. ข้ันสรุป ครูและนักเรียนช่วยกันสรปุ เนือ้ หา บทเรยี น และครูเพิม่ เติมในส่วนทยี่ งั ไม่ครอบคลมุ
19 8. ครมู อบหมายงาน ใหท้ ารายงานเพิ่มเตมิ เรอื่ ง 5 เช้อื เพลงิ วัสดุหล่อล่ืน และวัสดุหลอ่ เย็น จากสื่อ ออนไลน์ รวม 120 6. สอ่ื และแหลงการเรยี นรู้ 6.1 หนังสือเรยี น วิชาวัสดงุ านชา่ งอุตสาหกรรม รหัสวชิ า 20100 – 1002 บริษทั ศูนยห์ นังสอื เมืองไทย จากดั 6.2 เวบ็ ไซตอ์ อนไลน์ 6.3 และสอื่ ส่ิงพมิ พท์ ่ีเกี่ยวขอ้ งกับเน้อื หาบทเรียน 7. หลกั ฐานการเรียนรู้ 7.1. ผลการนาเสนองานกลมุ่ 7.2 แบบฝึกหัดหน่วยท่ี 4 7.3 คะแนนแบบทดสอบหลังเรียน (Post-test) หนว่ ยท่ี 4 7.4 เน้อื หาเพ่ิมเตมิ รายงาน เรอ่ื งเชอื้ เพลงิ วัสดหุ ลอ่ ลืน่ และวัสดหุ ล่อเยน็ 8. การวดั ผลและประเมนิ ผล การวดั ผล การประเมินผล (ใชเ้ คร่ืองมือ) (นาผลเทยี บกบั เกณฑแ์ ละแปลความหมาย) 1. แบบทดสอบก่อนเรยี น (Pre-test) หน่วยท่ี 4 ไว้เปรยี บเทยี บกับคะแนนสอบหลังเรยี น 2. แบบสังเกตการณท์ างานกลุ่ม และการนาเสนอผลงานกลุ่ม 3. แบบฝกึ หดั หน่วยที่ 4 เกณฑ์ผา่ น 50 % 4. แบบทดสอบหลังเรียน (Post-test) หน่วยที่ 4 เกณฑ์ผา่ น 50 % 5. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม ตามสภาพจริง เกณฑผ์ า่ น 50 % เกณฑ์ผา่ น 50 % 9. การขบั เคล่ือนปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง สมรรถนะ น้อมนาเศรษฐกิจพอเพียง โดยการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอยา่ งประหยดั จดุ ประสงคท์ ั่วไป จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม/ ผลกระทบ พฤติกรรมบ่งช้ี สังคม เศรษฐกิจ วฒั นธรรม สง่ิ แวดล้อม ประยุกต์ใช้ปรัชญา 1.การเข้าใจธรรมชาติ ของเศรษฐกิจ 2.รกั ษาดูแลธรรมชาติ พอเพียงด้านมี 3.การเรยี นรโู้ ดยใช้เงอื่ นไข เหตผุ ลในการ สภุ าพและประหยัด ดารงชีวติ แผนกเทคนิคพ้นื ฐาน วทิ ยาลยั การอาชีพขุนหาญ
20 10. บันทึกหลังการสอน 10.1 ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ........................................... ........................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ........................................... ........................................................................................................................................................................... 10.2 ผลการเรียนของนกั เรียน/ผลการสอนของครู/ปญั หาท่พี บ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................. .......... ........................................................................................................................ ................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................................... ............. 10.3 แนวทางการแกป้ ญั หา ........................................................................................... ................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................... ................................................................................................................................. .......................................... ........................................................................................ ...................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................... ลงช่ือ.............................................. (ชตุ ิเทพ มาดีตรี ะเทวาพงษ์) ครผู ้สู อน แผนกเทคนคิ พืน้ ฐาน วทิ ยาลยั การอาชพี ขุนหาญ
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 5 21 หนว่ ยที่ 5 ชอ่ื วิชา วัสดงุ านช่างอตุ สาหกรรม เวลาเรยี นรวม 36 คาบ ชื่อหน่วย วัสดกุ ่อสร้าง สอนครัง้ ที 9-10 / 18 ชอื่ เรื่อง วัสดุกอ่ สร้าง หวั ข้อเร่ือง จานวน 4 คาบ 5.1 บทนา 5.6 ทราย 5.2 ไม้ 5.7 ปนู ซเี มนต์ 5.3 ไมอ้ ดั 5.8 ปนู ขาว 5.4 อฐิ 5.9 คอนกรีต 5.5 หิน 5.10 บทสรุป 1. สาระสาคญั ปัจจุบันสงิ่ ปลกู สรา้ งต่างๆ ถูกสรา้ งขึน้ มาเป็นจานวนมากมาย เพอ่ื สนองความต้องการ และอานวย ความสะดวก ในโลกปัจจุบนั สงิ่ ปลกู สร้างได้ถูกพัฒนาข้นึ ตามเทคโนโลยีทีท่ ันสมยั ขึน้ เป็นระบบท่ีมีความ ทันสมัยขนึ้ มีการนาวัสดสุ งั เคราะห์ ระบบเทคโนโลยีตา่ งๆ มาปรบั ปรงุ ตกแตง่ ใหด้ ีขน้ึ มีความมัน่ คง สะดวกรวดเรว็ เร็ว เพ่อื อานวยความสะดวกในการปฏบิ ัตงิ าน โดยวสั ดุก่อสร้างทีพ่ บเห็นโดยทั่วไป เชน่ ไม้ ไมอ้ ัด อฐิ หนิ ทราย ปูนซีเมนต์ ปูน และคอนกรตี เป็นตน้ 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย แสดงความรเู้ ก่ียวกับวสั ดุก่อสร้าง 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 จุดประสงค์ทัว่ ไป 3.1.1 ดา้ นความรแู้ ละทักษะ 3.1.1.1 อธบิ ายความหมายของไมไ้ ด้ถกู ต้อง 3.1.1.2 อธิบายความหมายไมอ้ ดั ได้ถูกต้อง 3.1.1.3 อธิบายความหมายอิฐได้ถกู ต้อง 3.1.1.4 อธบิ ายความหมายหินได้ถูกตอ้ ง 3.1.1.5 อธิบายความหมายทรายไดถ้ ูกต้อง 3.1.1.6 อธบิ ายความหมายปูนซีเมนตไ์ ด้ถูกต้อง 3.1.1.7 อธิบายความหมายปูนขาวไดถ้ ูกตอ้ ง 3.1.1.8 อธบิ ายความหมายคอนกรีตไดถ้ ูกตอ้ ง 3.2 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 3.1.2 ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม / บรู ณาการปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง แสดงออกด้านการตรงต่อเวลา ความสนใจใฝุรู้ ความซื่อสัตย์ สจุ ริต ความมีน้าใจ เอ้ือ เฟ้อื แบ่งปนั ความรว่ มมือ มคี วามรับผิดชอบ และความมมี ารยาท แผนกเทคนคิ พื้นฐาน วทิ ยาลยั การอาชีพขนุ หาญ
22 4. สาระการเรียนรู้ 4.1บทนา ปัจจบุ นั ส่ิงปลูกสรา้ งต่างๆ ถูกสร้างขน้ึ มาเป็นจานวนมากมาย เพอ่ื สนองความต้องการ และอานวย ความสะดวก โดยความต้องการพื้นฐานทค่ี นเราขาดมิได้คอื ปจั จยั 4 เชน่ อาหาร เครื่อง นุง่ หม่ ที่อยู่ อาศัย และยารกั ษาโรค เปน็ ตน้ โดยในแต่ก่อนนั้นสง่ิ ปลูกสร้างต่างๆทาจากวสั ดุธรรม ชาติ หาง่าย ราคาถกู ซง่ึ เป็นบา้ นไม้ หลังคามุงใบจาก พัฒนาอีกรปู แบบท่ีมีรูปทรงดขี ้นึ มา อาจเปน็ บา้ นไม้ทรงไทย แตใ่ น ปจั จุบันสิ่งปลกู สร้างได้ถกู พัฒนา 4.2 ไม้ (Wood) ไมเ้ ป็นวสั ดกุ ่อสรา้ งท่ีเกิดข้ึนเองตามธรรมชาติ โดยมนุษย์นามาใชป้ ระโยชนใ์ นดา้ นตา่ งๆ เชน่ เคร่อื งเรือน ทีพ่ ักอาศยั และอปุ กรณ์การเกษตร เป็นต้น ในการนาไม้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ให้มากท่ีสุด และตรงกับคณุ สมบตั ิของการนาไปใช้งานด้วย โครงสร้างไม้ของตน้ ไมม้ สี ่วนประกอบที่สาคญั ไดแ้ ก่ ใจ กลาง แก่นไม้ กระพี้ ทางเลี้ยงลาต้น เส้นรศั มี วงปี และเปลอื ก เปน็ ต้น 4.3 ไม้อดั (Ply Wood) ไมอ้ ัด หรือไม้อดั สลบั ชัน้ หมายถึง ผลติ ภัณฑ์ท่ีได้จากการประกอบสมดลุ โดยการนาไม้บางหลาย แผน่ มาประกอบให้ยึดตดิ กันด้วยกาว ลกั ษณะทส่ี าคัญ คือ การจัดให้ไมบ้ างแต่ละแผ่นมีแนวเส้ียนขวางตัง้ ฉากกนั เพือ่ เพ่ิมคุณสมบตั ิทางความแขง็ แรง และลดการขยายตัว หรอื หดตวั ในระนาบของแผน่ ให้นอ้ ยท่ีสุด 4.4 อิฐ (Brick) อฐิ เปน็ วัสดุกอ่ สร้างที่เกิดจากการผสม ทราย ดนิ ถ่าน และแกลบอดั บดให้เป็นดนิ เหนยี วแนน่ เปน็ กอ้ นส่เี หล่ียม นาไปตากให้แหง้ แลว้ นาไปเผาอบให้สกุ เพอ่ื ใชใ้ นการก่อกาแพง ผนังบ้าน พกั อาศัย แต่ ปจั จุบนั มีการนาเอาซีเมนต์มาอดั บดทาเปน็ \"อฐิ บล็อก\" 4.5 หนิ (Stone or Rock) หนิ หมายถงึ มวลของแขง็ ท่ีประกอบไปดว้ ยแร่ชนิดเดียวกัน หรอื หลายชนดิ รวมตัวกนั อยตู่ าม ธรรมชาติ โดยองคป์ ระกอบของเปลือกโลกส่วนใหญ่ เป็นสารประกอบซิลิกอนไดออกไซด์ (SiO2) แตย่ ังมีแร่ ตระกูลคารบ์ อเนต ซง่ึ บรรยากาศโลกในอดตี ส่วนใหญ่ เปน็ คาร์บอนไดออกไซด์ นา้ ฝนได้ละลายคาร์บอน ได ออกไซดบ์ นบรรยากาศลงมาสะสมบนพ้นื ดิน และมหาสมุทร สิง่ มีชีวิตอาศยั คารบ์ อนสร้างธาตอุ าหารและ ร่างกาย เม่อื ตายลงทับถมกัน เป็นตะกอนท่เี กิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หนิ สว่ นใหญบ่ นเปลือกโลกจึง ประกอบด้วยแร่ต่างๆ หนิ แบ่งออกได้ 3 ประเภทใหญ่ๆคือ 1. หินอัคนี (Igneous Rocks) 2. หนิ ชั้นหรอื หนิ ตะกอน (Sedimentary Rock ) 3. หนิ แปร (Metamorphic Rock) 4.6 ทราย (Sand) ทราย คอื เมล็ดของแร่ธาตตุ ่าง ๆ ทเี่ ป็นวสั ดกุ อ่ สร้างใชเ้ ป็นสว่ นผสมของคอนกรีต ทรายจะเปน็ เม็ด เล็กๆ ทแ่ี ตกแยกออกมาจากหนิ โดยเกดิ ขึ้นมาเองตามธรรมชาติ มีขนาดเสน้ ผา่ ศูนย์กลางโตไม่เกิน 2 มม. ถ้า โตกวา่ นี้ เรียกวา่ \" กรวด\" ประเภทของทราย แบง่ ออกเปน็ 4 ชนิด คือ ทรายบก ทรายแมน่ า้ ทรายทะเล และทรายย่อย 4.7ปนู ซีเมนต์ (Cement) ปนู ซีเมนต์ เปน็ วสั ดทุ ี่ใชป้ ระสานในงานปูนทุกประเภท โดยเป็นผงละเอียดเมื่อนาไปผสมกบั น้าใน ปริมาณที่พอดี ซ่ึงจะเกดิ การจับตวั หรอื แข็งตวั เกาะตดิ แนน่ กบั วสั ดุท่ีนาไปผสม ชนดิ ของปูนซีเมนต์ แบง่ ออกไดด้ ังน้ีคือ แผนกเทคนคิ พนื้ ฐาน วิทยาลยั การอาชพี ขุนหาญ
23 1. ปนู ซเี มนต์ปอรต์ แลนด์ (Portland Cement) 2. ปนู ซีเมนตธ์ รรมชาติ (Natural Cement) 3. ปูนซีเมนตป์ สั โซลาน (Puzzolan Cement) 4. ปูนซเี มนต์อลูมินัส (Aluminous Cement) 5. ปูนซีเมนตซ์ ลิ ิกา้ (Silica Cement) 4.8 ปูนขาว (Limes) ปูนขาว คอื ได้มาจากการเผาหินปูนแล้วบดให้เปน็ ผง สมยั กอ่ นเป็นวัสดทุ ี่ใชย้ ดึ ประสานหิน นยิ ม นาไปใสถ่ งุ พลาสติกขาย เป็นวัสดุทีใ่ ชใ้ นงานก่อสรา้ ง เช่น ผสมสนี ้าปูน ผสมปูนฉาบปูนก่อ โรยใต้อาคาร ปูองกนั ปลวก ใช้เพื่อปรับค่าความเปน็ กรดดา่ งของดนิ และนา้ เหมาะสาหรบั บอ่ กุ้ง บอ่ ปลา เลา้ ไก่ และ บ่อบาบัดน้าเสีย เป็นตน้ 4.9 คอนกรตี (Concert) คอนกรีต เป็นวสั ดุท่ีได้จากการผสมปูนซเี มนต์กับ ทราย หิน และน้า ดว้ ยอตั ราส่วนทพ่ี อเหมาะ เข้าด้วยกันในสดั ส่วนท่กี าหนดไว้ ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันพอดี เพื่อความสะดวกในการนาไปใช้งาน โดย เม่อื แขง็ ตวั แล้วสามารถรบั แรงได้สูง หรือคอนกรีต คือ วสั ดกุ อ่ สร้างชนดิ หน่งึ โดยประกอบดว้ ยส่วนผสม 2 สว่ นคือ วสั ดปุ ระสาน ไดแ้ ก่ ปูนซเี มนต์ กบั นา้ ผสมกับวัสดุผสม ได้แก่ ทราย หนิ หรอื กรวด เม่อื นามา ผสมกนั จะคงสภาพเหลวอยชู่ ่วงเวลาหน่งึ ซงึ่ นานพอทจี่ ะนาไปเทลงในแบบหลอ่ ที่มีรปู ร่างตามต้องการ เมือ่ คอนกรีตแข็งตัวเตม็ ท่แี ล้ว จะมคี วามแข็ง แรงและสามารถรับน้าหนกั ได้มาก แตท่ ัง้ นจี้ ะแปรไปตามอายุ ของคอนกรีตที่เพิ่มขนึ้ 5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สัปดาหท์ ี่ 9-10 / 18) กิจกรรม เวลาโดยประมาณ (นาที) 5 1. ครูเชค็ ช่อื 10 2. พูดทักทายปราศรยั ท่วั ไป และอบรมคุณธรรม 10 จริยธรรม และหลังจากนนั้ ทาแบบทดสอบก่อนเรียน 35 (Pre-test) 15 3. ขั้นนาเข้าสบู่ ทเรียน ด้วยการสนทนา การซักถาม 30 ดภู าพจากสอื่ ออนไลน์ เน้ือหาทีเ่ กยี่ วข้องกบั บทเรยี น 4. ขั้นสอน แนะนาประเดน็ สาคัญ และแบ่งนกั เรยี น 10 ค้นคว้าตามหัวข้อเรือ่ ง ตวั แทนแต่ละกลมุ่ นาเสนอ 5 ผลงานหนา้ ชัน้ เรียน 120 5. นักเรยี นอภปิ รายรว่ มกันในประเด็น วสั ดุก่อสรา้ ง 6. ครใู ห้นกั เรยี นทาแบบฝึกหัดหนว่ ยท่ี 5 หลังจาก นักเรยี นทาเสรจ็ แล้ว เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น (Post-test) หน่วยท่ี 5 7. ขั้นสรปุ ครูและนักเรียนช่วยกันสรปุ เนอื้ หา บทเรยี น และครูเพมิ่ เติมในส่วนท่ยี ังไมค่ รอบคลุม 8. ครูมอบหมายงาน ใหท้ ารายงานเพิม่ เตมิ เรอื่ ง วัสดุกอ่ สร้าง จากส่อื ออนไลน์ รวม แผนกเทคนคิ พื้นฐาน วทิ ยาลัยการอาชพี ขนุ หาญ
6. สอ่ื แหล่งการเรียนรู้ 24 6.1 หนงั สอื เรยี น วิชาวสั ดุงานชา่ งอตุ สาหกรรม รหสั วิชา 20100 – 1002 บรษิ ทั ศูนย์หนังสือเมืองไทย จากดั 6.2 เวบ็ ไซต์ออนไลน์ 6.3 และสือ่ สง่ิ พมิ พท์ ีเ่ กยี่ วข้องกับเน้ือหาบทเรยี น 7. หลกั ฐานการเรียนรู้ 7.1 ผลการนาเสนองานกลมุ่ 7.2 แบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี 5 7.3 คะแนนแบบทดสอบหลังเรยี น (Post-test) หน่วยท่ี 5 7.4 เน้ือหาเพ่มิ เตมิ รายงาน วัสดกุ อ่ สร้าง 8. การวัดผลและประเมินผล การวัดผล การประเมินผล (ใชเ้ ครื่องมอื ) (นาผลเทยี บกับเกณฑ์และแปลความหมาย) 1. แบบทดสอบก่อนเรยี น (Pre-test) หนว่ ยท่ี 5 ไวเ้ ปรยี บเทียบกับคะแนนสอบหลงั เรียน 2. แบบสงั เกตการณท์ างานกลมุ่ และการนาเสนอผลงานกลุ่ม เกณฑผ์ ่าน 50 % 3. แบบฝึกหดั หนว่ ยที่ 5 เกณฑผ์ า่ น 50 % 4. แบบทดสอบหลงั เรียน (Post-test) หนว่ ยท่ี 5 เกณฑ์ผา่ น 50 % 5. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ตามสภาพจริง เกณฑ์ผา่ น 50 % 9. การขับเคล่ือนปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง สมรรถนะ นอ้ มนาเศรษฐกิจพอเพียง โดยการใช้ทรัพยากรธรรมชาตอิ ย่างประหยดั จุดประสงคท์ ่ัวไป จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม/ ผลกระทบ พฤติกรรมบ่งชี้ สงั คม เศรษฐกิจ วฒั นธรรม สงิ่ แวดล้อม ประยกุ ตใ์ ช้ปรชั ญา 1.การเขา้ ใจธรรมชาติ ของเศรษฐกจิ 2.รักษาดแู ลธรรมชาติ พอเพยี งด้านมี 3.การเรียนรูโ้ ดยใชเ้ งื่อนไข เหตผุ ลในการ สุภาพและประหยัด ดารงชีวิต แผนกเทคนคิ พนื้ ฐาน วิทยาลัยการอาชพี ขุนหาญ
25 10. บนั ทกึ หลังการสอน 10.1 ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ ........................................................................................................................ ...................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ...................................................................................................................................... ........................................ .............................................................................................................. ................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................... .............................. 10.2 ผลการเรียนของนักเรยี น/ผลการสอนของครู/ปญั หาที่พบ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................. ................ ................................................................................................................... ........................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................................... ......................... 10.3 แนวทางการแก้ปัญหา .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ............................................. (ชตุ ิเทพ มาดีตรี ะเทวาพงษ์) ครูผูส้ อน แผนกเทคนิคพ้ืนฐาน วทิ ยาลยั การอาชพี ขนุ หาญ
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 6 26 หนว่ ยท่ี 6 ชอื่ วิชา วัสดงุ านชา่ งอุตสาหกรรม เวลาเรียนรวม 36 คาบ ชอ่ื หน่วย วัสดุสังเคราะห์ สอนครั้งที 11-12/18 ช่อื เรื่อง วัสดุสงั เคราะห์ หวั ข้อเรอ่ื ง จานวน 4 คาบ 6.1 ความหมายของวัสดสุ ังเคราะห์ 6.6 แก้ว 6.2 ชนิดของวสั ดุสังเคราะห์ 6.7 เซรามกิ ส์ 6.3 พลาสตกิ 6.8 สี 6.4 ยาง 6.9 บทสรุป 6.5 วสั ดปุ ระสาน 1. สาระสาคญั ในปจั จบุ ันมนุษย์เราไดร้ จู้ ักประยกุ ต์วสั ดใุ นธรรมชาติมาใชใ้ นชีวติ ประจาวัน และในระบบโรงงาน อตุ สาหกรรมประเภทตา่ งๆ ซงึ่ นานวันเข้ากจ็ ะหมดหายไปจากโลกปัจจุบัน ดังนั้นจงึ มีการผลติ วัสดชุ นิด ใหม่ขน้ึ มาเพื่อทดแทนสงิ่ ที่มีอยแู่ ล้ว เพื่อทจ่ี ะให้มีคุณสมบัตทิ ใ่ี กลเ้ คยี ง และมีคณุ ภาพท่ีดี เหมาะสมทีน่ าไป ใชง้ าน เรยี กวา่ \"วัสดสุ ังเคราะห์\" ไดแ้ ก่ พลาสติก ยาง วสั ดปุ ระสาน แกว้ สี และเซรามกิ ส์ เป็นต้น 2. สมรรถนะประจาหน่อย แสดงความรู้เกีย่ วกบั วสั ดุสังเคราะห์ 3. จุดประสงค์การการเรยี นรู้ 3.1 จุดประสงค์ท่วั ไป 3.1.1 ด้านความรแู้ ละทักษะ 3.1.1.1 อธบิ ายความหมายของวสั ดุสงั เคราะหไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง 3.1.1.2 บอกชนิดของวสั ดุสังเคราะห์ได้ 3.1.1.3 บอกประเภทของพลาสตกิ และการนาไปใช้งานได้ 3.1.1.4 รจู้ ักชนิดของยางแต่ละประเภทและการนาไปใช้งานได้ 3.1.1.5 บอกประเภทของวัสดุประสานได้ 3.1.1.6 บอกวตั ถุดบิ ในการทาแกว้ และชนิดของแก้วได้ 3.1.1.7 อธิบายความหมายของเซรามกิ ส์ และบอกประเภทของเซรามิกส์ได้ 3.1.1.8 อธบิ ายความหมายของสี และบอกประเภทของสีได้ 3.2 จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม 3.2.1ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม / บูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แสดงออกด้านการตรงต่อเวลา ความสนใจใฝรุ ู้ ความซอ่ื สัตย์ สจุ รติ ความมนี ้าใจ เอื้อ เฟอ้ื แบ่งปัน ความร่วมมือ มีความรับผดิ ชอบ และความมีมารยาท แผนกเทคนิคพน้ื ฐาน วทิ ยาลัยการอาชพี ขุนหาญ
27 4. สาระการเรยี นรู้ 4.1 ความหมายของวสั ดสุ งั เคราะห์ วสั ดสุ งั เคราะห์ ( Synthetic Material ) คือวสั ดุทถ่ี ูกผลิตข้ึนมา เพื่อทดแทนสารใหมท่ ี่มี อยตู่ าม ธรรม ชาติโดยให้มคี ุณสมบัติทดี่ กี ว่า และเหมาะท่จี ะนาไปใชง้ าน เพ่อื ใหม้ ีประโยชน์อย่างอื่นต่อไปด้วย 4.2 ชนิดของวัสดสุ งั เคราะห์ วสั ดสุ งั เคราะห์ สามารถแบ่งออกได้ดังน้ี คอื 1. พลาสติก 2. ยาง 3. วสั ดปุ ระสาน 4. แก้ว 5. เซรามิกส์ 6. สี 4.3 พลาสติก พลาสตกิ คือสารสงั เคราะห์ท่ีผลิตขนึ้ มาด้วยกรรมวิธีทางเคมี เพอื่ ท่ีจะใหเ้ กิดสารข้นึ มาใหม่ โดยมี โครงสร้างโมเลกลุ ท่ีประกอบดว้ ยธาตุ คาร์บอน (C) ไฮโดรเจน (H) ออกซเิ จน (O2) ไนโตรเจน (N) และ คลอรีน (Cl) มีชือ่ ทางเคมีเรยี กว่า โพลเี มอร์ (Polymer) พลาสตกิ แบ่งออกได้ 2 ประเภทคอื 1. เทอรโ์ มเซตต้งิ (Thermo Setting) หรอื พลาสตกิ แขง็ 2. เทอรโ์ ม พลาสตกิ (Thermo Plastics) หรือพลาสติกอ่อน 4.4 ยาง ยาง เปน็ วัสดุชา่ งท่มี คี วามสาคัญมาก เพราะเปน็ วสั ดุท่มี คี วามยดื หยุ่นไดด้ ี ซึ่งมีการนามาใชง้ านกนั อย่างกวา้ งขวาง โดยทพ่ี บเห็นใชท้ า คอื ยางรถยนต์ ยางเครอ่ื งบนิ ทอ่ ยาง พ้นื รองเท้า สายพาน ถุงมือ ยาง ถุงยางอนามยั ชนิ้ ส่วนรถยนต์ และหนังสตกิ๊ เปน็ ตน้ ยางท่ใี ช้กนั ปจั จบุ นั นัน้ แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆคือ 1. ยางธรรมชาติ 2. ยางสังเคราะหห์ รือยางเทียม 4.5 วสั ดปุ ระสาน วัสดุประสาน คอื วสั ดทุ ใี่ ชป้ ระสานวสั ดหุ รือวตั ถตุ า่ งๆ ให้ยึดตดิ แนน่ กนั ต้งั แต่ 2 ชน้ิ ข้ึนไป โดยใช้ แรงประสานยึดเกาะใหต้ ิดแน่นกบั ผวิ งาน วสั ดุประสาน แบง่ ได้ 2 ประเภท คอื 1. วสั ดุประสานธรรมชาติ (Natural Adhesives) 2. วัสดปุ ระสานสังเคราะห์ (Synthetic Resin Adhesives) 4.6 แกว้ วัตถุท่ใี ช้ทาแก้ว คือทรายแก้ว ทรายควอทซ์ หินปูน โคโรไมท์ โซดาไฟ และSalt Cake นาไปหลอมที่ อณุ หภูมปิ ระมาณ 1200 - 1500 องศาเซลเซียส ถา้ ต้องการเตมิ โลหะออกไซด์ เพ่ือให้ได้สตี ามท่ีต้องการ นอกจากนปี้ ระโยชนข์ องแกว้ เช่น ทาแวน่ ตา หลอดไฟ กระจก หนา้ ต่าง เฟอรน์ ิเจอร์ เครอ่ื งตกแตง่ ภายใน บ้าน ถ้วยแก้ว และขวดนา้ เปน็ ต้น 4.7 เซรามกิ ส์ เซรามิกส์ เปน็ วสั ดทุ ่ีผลติ ข้ึนจากดนิ เหนยี ว และวัสดุอน่ื ๆ หรือเปน็ เครอ่ื งป้นั ดนิ เผาที่มนุษยค์ ดิ คน้ สรา้ งข้นึ มา เพอ่ื ประโยชน์ใช้ในชีวิตประจาวนั เชน่ ถว้ ย ชาม กระถาง และโอ่ง เปน็ ต้น โดยมีวัสดทุ ่ีเปน็ โลหะและอโลหะ เป็นส่วนประกอบ เชน่ หินเข้ยี วหนุมาน อลมู นิ า่ แรท่ ลั ซแ์ มกนีไซท์ และดินเหนยี ว แผนกเทคนิคพน้ื ฐาน วิทยาลัยการอาชีพขุนหาญ
28 เป็นตน้ นามาบดใหล้ ะเอยี ด ผสมน้าปนั้ ให้เป็นรปู ร่างต่างๆ แลว้ นาไปผึ่งแดดให้แหง้ จากนัน้ นาไปเผาอบ ให้ได้อุณหภูมติ ามทีต่ ้องการ 4.8 สี สี เป็นวัสดทุ ี่ใช้เคลือบชิน้ งาน ปูองกนั การกัดกรอ่ นของชนิ้ งานท่ีเปน็ โลหะ และชว่ ยเพม่ิ ความสวย งามให้กับชิน้ งาน สเี ป็นวสั ดทุ มี่ คี วามสาคัญมาก ซ่ึงจะนยิ มนาไปใชใ้ นงานอุตสาหกรรมแทบหลายชนิด เหมือนกัน โดยสมี อี งค์ประกอบท่สี าคัญ คอื กาว (Binder) ผงสี (Pigment) ตัวทาละลาย (Solvent) และ สาร เตมิ แตง่ (Additive) 5. กจิ กรรมการเรียนรู้ (สัปดาหท์ ่ี 11-12 / 18) กจิ กรรม เวลาโดยประมาณ (นาที) 1. ครเู ชค็ ชือ่ 5 2. พดู ทักทายปราศรัยทว่ั ไป และอบรมคณุ ธรรม 10 จริยธรรม และหลงั จากนนั้ ทาแบบทดสอบก่อนเรยี น (Pre-test) 3. ขน้ั นาเข้าส่บู ทเรยี น ด้วยการสนทนา การซักถาม 10 ดูภาพจากส่อื ออนไลน์ เนื้อหาทเ่ี กยี่ วข้องกับบทเรยี น 4. ข้ันสอน แนะนาประเดน็ สาคญั และแบ่งนกั เรยี น 35 ค้นคว้าตามหวั ข้อเร่ือง ตวั แทนแต่ละกล่มุ นาเสนอ ผลงานหน้าชัน้ เรียน 5. นักเรียนอภิปรายรว่ มกันในประเดน็ วัสดุ 15 สังเคราะห์ 6. ครใู หน้ กั เรียนทาแบบฝึกหัดหนว่ ยที่ 6 หลังจาก 30 นักเรียนทาเสรจ็ แล้ว เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น (Post-test) หนว่ ยที่ 6 7. ขน้ั สรปุ ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกันสรุปเน้อื หา 10 บทเรียน และครูเพม่ิ เติมในส่วนท่ียงั ไม่ครอบคลมุ 8. ครมู อบหมายงาน ให้ทารายงานเพิ่มเติม เรื่อง 5 วสั ดุสงั เคราะห์ จากสือ่ ออนไลน์ รวม 120 6. ส่ือการเรียนรู้ 6.1 หนังสอื เรียน วชิ าวัสดงุ านชา่ งอุตสาหกรรม รหัสวิชา 20100 – 1002 บริษัทศนู ยห์ นังสอื เมืองไทย จากัด 6.2 เว็บไซต์ออนไลน์ 6.3 สือ่ สง่ิ พมิ พ์ท่เี ก่ียวขอ้ งกบั เนื้อหาบทเรียน 7.หลักฐานการเรียนรู้ 7.1 ผลการนาเสนองานกลมุ่ 7.2 แบบฝกึ หดั หนว่ ยท่ี 6 7.3 คะแนนแบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-test) หน่วยที่ 6 7.4 เนอื้ หาเพม่ิ เติม รายงาน วัสดุสงั เคราะห์ แผนกเทคนิคพืน้ ฐาน วทิ ยาลยั การอาชพี ขุนหาญ
8. การวัดผลและประเมินผล 29 การวัดผล (ใช้เคร่อื งมอื ) การประเมินผล (นาผลเทียบกบั เกณฑแ์ ละแปลความหมาย) 1. แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) หนว่ ยที่ 6 ไว้เปรยี บเทียบกบั คะแนนสอบหลงั เรยี น 2. แบบสงั เกตการณท์ างานกลมุ่ และการนาเสนอผลงานกลุม่ 3. แบบฝกึ หดั หนว่ ยที่ 6 เกณฑผ์ ่าน 50 % 4. แบบทดสอบหลงั เรียน (Post-test) หนว่ ยท่ี 6 เกณฑ์ผ่าน 50 % 5. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ตามสภาพจริง เกณฑ์ผ่าน 50 % เกณฑผ์ ่าน 50 % 9. การขบั เคลอ่ื นปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง สมรรถนะ นอ้ มนาเศรษฐกิจพอเพยี ง โดยการใชท้ รัพยากรธรรมชาตอิ ย่างประหยดั จดุ ประสงคท์ ั่วไป จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม/ ผลกระทบ พฤติกรรมบ่งชี้ สังคม เศรษฐกจิ วฒั นธรรม ส่งิ แวดล้อม ประยกุ ตใ์ ช้ปรชั ญา 1.การเข้าใจธรรมชาติ ของเศรษฐกจิ 2.รกั ษาดูแลธรรมชาติ พอเพยี งดา้ นมี 3.การเรยี นรู้โดยใช้เงื่อนไข เหตุผลในการ สุภาพและประหยัด ดารงชีวติ แผนกเทคนิคพ้นื ฐาน วิทยาลัยการอาชพี ขนุ หาญ
30 10. บันทึกหลังการสอน 10.1 ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................ 10.2 ผลการเรียนของนักเรียน/ผลการสอนของคร/ู ปญั หาท่ีพบ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................. ................ ................................................................................................................... ........................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................................... ......................... 10.3 แนวทางการแกป้ ัญหา .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................ ลงชื่อ............................................... (ชุติเทพ มาดตี รี ะเทวาพงษ)์ ครูผู้สอน แผนกเทคนิคพืน้ ฐาน วทิ ยาลยั การอาชพี ขุนหาญ
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 7 31 หนว่ ยท่ี 7 ชอื่ วิชา วัสดงุ านช่างอุตสาหกรรม เวลาเรียนรวม 36 คาบ ชอื่ หน่วย วัสดุไฟฟ้า และอิเลก็ ทรอนกิ ส์ สอนครัง้ ที 13-14/18 ชื่อเรื่อง วสั ดไุ ฟฟ้า และอเิ ล็กทรอนกิ ส์ หวั ข้อเร่ือง จานวน 4 คาบ 7.1 บทนา 7.6 วสั ดแุ มเ่ หล็ก 7.2 ความหมายของวสั ดไุ ฟฟ้า 7.7 วัสดุสวิทชไ์ ฟฟา้ 7.3 วัสดตุ ัวนา 7.8 วัสดุอเิ ล็กทรอนกิ ส์ 7.4 วสั ดุฉนวนไฟฟ้า 7.9 บทสรุป 7.5 วสั ดุกึง่ ตัวนา 1. สาระสาคัญ วสั ดุไฟฟาู เปน็ วสั ดทุ น่ี ามาใช้ในงานอตุ สาหกรรมไฟฟูา เช่น วัสดตุ ัวนา วสั ดุฉนวนไฟฟูา วสั ดกุ ่งึ ตวั นา วัสดุแม่เหล็ก และวัสดุสวทิ ช์ เป็นต้น การทม่ี นุษยน์ ามาผลติ เป็นอุปกรณต์ ่างๆ เพ่อื อานวยความ สะดวกมาก มาย กจ็ าเป็นจะต้องเลือกใช้วสั ดไุ ฟฟาู ให้ถกู ตอ้ งกบั การใช้งาน เพื่อความปลอดภัยในการใช้ งาน และทาให้การทางานมปี ระสทิ ธิภาพมากข้นึ วสั ดุอิเล็กทรอนิกส์ ในปจั จุบันได้เจริญเตบิ โตก้าวหนา้ อยา่ งรวดเรว็ ตามเทคโนโลยี ได้มวี ิวฒั นาการอยู่ ดว้ ยกัน 4 ยคุ คอื ยคุ หลอดสุญญากาศ ยคุ ทรานซสิ เตอร์ ยุคไอซี และยคุ ชิพ เปน็ ตน้ วัสดุเลก็ ทรอนกิ ส์ โดยทว่ั ไปมดี ังน้คี ือ ตัวต้านทาน ตวั เกบ็ ประจุ ตวั เหนย่ี วนา และหมอ้ แปลงไฟฟูา เป็นตน้ นอกจากน้ีอเิ ล็ก ทรอนกิ ส์ ได้เข้ามามบี ทบาทมากมาย เชน่ ด้านอตุ สาหกรรม ดา้ นการสอ่ื สาร ดา้ นการแพทย์ ด้าน วิทยา ศาสตร์ และเทคโนโลยี ด้านการทหาร และด้านการบนั เทิง เปน็ ต้น 2. สมรรถนะประจาหน่วย แสดงความรู้เก่ยี วกับวัสดไุ ฟฟูา และอิเลก็ ทรอนิกส์ 3. จุดประสงค์การการเรียนรู้ 3.1 จดุ ประสงคท์ ่ัวไป 3.1.1 ด้านความรแู้ ละทักษะ 3.1.1.1 อธิบายความหมายของวัสดุไฟฟูาได้ถกู ต้อง 3.1.1.2 บอกวัสดตุ วั นาได้ 3.1.1.3 บอกวัสดุฉนวนไฟฟูาได้ 3.1.1.4 บอกวัสดกุ ง่ึ ตัวนาได้ 3.1.1.5 บอกวัสดสุ วิทช์ไฟฟาู ได้ 3.1.1.7 บอกวัสดุอิเล็กทรอนกิ ส์ได้ 3.2 จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม แผนกเทคนิคพน้ื ฐาน วทิ ยาลัยการอาชีพขุนหาญ
Search