แผนเขียนแบบงานโครงสร้าง

แผนการสอน วชิ า เขียนแบบงานโครงสร้าง รหสั วิชา 20106-2003 ประเภทวชิ าอตุ สาหกรรม สาขาวชิ าชา่ งกอ่ สรา้ ง ระดับประกาศนียบตั รวิชาชีพ พุทธศกั ราช 2562 โดย นายชุตเิ ทพ มาดีตีระเทวาพงษ์ พนกั งานราชการ (ครู) สาขางานกอ่ สรา้ ง วิทยาลยั การอาชีพขุนหาญ สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา กระทรวงศึกษาธกิ าร

แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยที่ 1 สอนครงั้ ท่ี 1,2,3,4 วชิ า เขียนแบบงานโครงสรา้ ง รหสั วิชา 20106- 2003 จานวน 6 ชั่วโมง/สัปดาห์ ช่อื หน่วย รายการประกอบแบบก่อสรา้ ง รวม 24 ชัว่ โมง ชื่องาน รายการประกอบแบบกอ่ สรา้ ง หัวข้อเรื่อง-หัวขอ้ ย่อย 1. บทนา 2. ชนดิ ของแบบก่อสรา้ ง 3. เครื่องมอื และอุปกรณ์ทีใ่ ชใ้ นการเขยี นแบบก่อสรา้ ง 4. รายการประกอบแบบก่อสร้าง 5. ตวั อยา่ งแบบบา้ นพักอาศัย สาระสาคัญ การเขยี นแบบบา้ นพักอาศยั จาเปน็ ตอ้ งมีผ้เู ชย่ี วชาญในสาขาเปน็ ผู้ออกแบบ จาแนกได้ 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ทางสถาปตั ยกรรมและทางวิศวกรรม ฝึกการใชเคร่ืองมือเขียนแบบจากตัวอยา่ งแบบ บา้ นพกั อาศัย สมรรถนะ 1. แสดงความรเู้ กี่ยวกับรายการประกอบแบบกอ่ สร้าง 2. แสดงความรู้เกี่ยวกับเคร่ืองมืออปุ กรณใ์ นการเขียนแบบก่อสรา้ ง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - ด้านความรู้ 1. อธบิ ายความหมายของแบบบา้ นจากสถาปนิกผ้อู อกแบบได้ 2. อธบิ ายประเภทของแบบก่อสรา้ งทางสถาปัตยกรรมและวศิ วกรรมได้ 3. สามารถใช้เคร่ืองมือเขยี นแบบอย่างมีคุณภาพได้ 4. สามารถอา่ นรายการประกอบแบบก่อสร้างงานโครงสร้าง ไฟฟ้า สุขาภบิ าล ได้ 5. อธบิ ายแบบกอ่ สรา้ งแต่ละแบบได้ - ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพียง ตรงต่อเวลา มวี ินัย มีความรบั ผิดชอบ ละเอยี ดรอบคอบ สนใจใฝร่ ู้ มคี วามซอ่ื สตั ย์ต่อ ตวั เอง ในการเขียนแบบก่อสร้าง มีเหตุผลและประหยัด

กจิ กรรมการเรยี นการสอน การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาหท์ ่ี 1-2 คาบที่ 1-4 /36) ขนั้ ตอนการดาเนินกิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั ท่ี 1 ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี นและทบทวนความรู้เดมิ 1.1 ครแู จง้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรใู้ ห้นักเรียนทราบ และรว่ มกนั กาหนดเกณฑ์ในการ ผา่ น ควรไม่ตา่ กวา่ ร้อยละ 50 และต้องมเี วลาเรียนไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 80 1.2 นาเข้าสบู่ ทเรยี น โดยถามความรพู้ น้ื ฐานเดิม เกี่ยวกบั รายการประกอบแบบก่อสรา้ ง ของนักเรยี นที่เคยเรยี นมาในรายวิชา เขียนแบบงานสถาปตั ยกรรม รหัสวชิ า 20106-2002 1.3 ครูกล่าวถึงแบบงานโครงสรา้ ง เพ่อื ดึงดดู นกั เรยี นให้อยากรู้ถงึ การวเิ คราะห์การ ออกแบบและการเขยี นแบบงานโครงสรา้ ง 1.4 นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียนประจาหน่วยด้วยข้อสอบแบบปรนยั จานวน 14 ข้อ ขนั้ ที่ 2 ขนั้ เพิม่ ความรู้ใหม่ 2.1 ครบู รรยายเนื้อหาด้วยสไลด์คอมพิวเตอร์ หนว่ ยท่ี 1 รายการประกอบแบบ ก่อสรา้ ง 2.2 ในระหว่างการบรรยายเน้ือหาครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถามเปน็ ช่วง ๆ ใน เน้อื หาท่เี รยี น ครตู อบคาถามและสุ่มสอบถามความเขา้ ใจในเนอ้ื หาทเ่ี รยี นพรอ้ มอธิบายในเรอื่ งทน่ี ักเรยี นยังมี ขอ้ สงสยั เพ่ิมเติม ขัน้ ท่ี 3 ข้นั นาไปใช้หรอื ประเมินผล 3.1 ครมู อบหมายให้นักเรยี นทาแบบฝึกหดั ท้ายหน่วยท่ี 1 3.2 ครูให้นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียนหนว่ ยท่ี 1 3.3 ครมู อบหมายใหท้ าใบงาน1 ใบตอ่ สัปดาห์ และให้สง่ ตามกาหนดเวลา ข้ันที่ 4 ขนั้ สรุป 4.1 ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรปุ เนื้อหา หน่วยที่ 1 4.2 ครูนาผลจากการตรวจแบบฝึกหดั ทน่ี ักเรียนส่ง มาอธิบายเพม่ิ เติมในประเด็นที่ นกั เรียนยังไม่เขา้ ใจ 4.3 ครนู าใบงานของนกั เรียนมาสรุป ข้อผดิ พลาดในการเขียนแบบ และวิธกี ารแก้ไข ขั้นที่ 5 สอดแทรกคุณธรรมและจรยิ ธรรม ครูกลา่ วถึงจิตสานกึ และความรับผดิ ชอบต่อหนา้ ที่ และความรับผดิ ชอบต่อ สังคมสว่ นรวม และหลักการอยูร่ ว่ มกันในสังคมอย่างมีความสุข

กิจกรรมการเรียนการสอน สอ่ื /อุปกรณ์/แหลง่ เรยี นรู้ 1. เอกสารประกอบการเรยี นหนว่ ยที่ 1 รายการประกอบแบบก่อสรา้ ง 2. สไลด์คอมพิวเตอร์หนว่ ยที่ 1 รายการประกอบแบบก่อสร้าง 3. แบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยที่ 1 รายการประกอบแบบกอ่ สร้าง จานวน 14 ข้อ 4. แบบฝึกหดั ท้ายหน่วยท่ี 1 รายการประกอบแบบก่อสร้าง จานวน 10 ข้อ 4. แบบทดสอบหลังเรียนหน่วยท่ี 1 รายการประกอบแบบก่อสรา้ ง จานวน 12 ข้อ 5. แหล่งการเรียนรเู้ พิ่มเติม 5.1 หนังสือการออกแบบก่อสรา้ ง, 5.2 หนังสอื การออกแบบทางสถาปัตยกรรม 5.3 หนงั สือการออกแบบโครงสร้างไม้และเหล็ก 5.4 เวบ็ ไซด์เกี่ยวกับการออกแบบกอ่ สร้างบ้านพักอาศัย การวดั ผลประเมนิ ผล 1. วธิ กี ารวดั 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นขณะทาการเรียนการสอน 1.2 ตรวจแบบฝึกหัดท้ายหน่วย หนว่ ยที่ 1 รายการประกอบแบบกอ่ สร้าง 1.3 การสุ่มสอบถามขณะเรยี น และเขียนแบบตามใบงานทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย 1.4 แบบทดสอบก่อนเรียน และหลงั เรียน หน่วยที่ 1 รายการประกอบแบบก่อสรา้ ง 1.5 ประเมินผลกิจกรรม งานฝึกปฏบิ ตั ิ ตามใบงานที่ไดร้ ับมอบหมายแตล่ ะสัปดาห์ 2. เครอ่ื งมือวัด 2.1 แบบทดสอบก่อนเรียน และหลงั เรียน หนว่ ยท่ี 1 รายการประกอบแบบก่อสร้าง 2.2 ตรวจแบบฝึกหดั ท้ายหน่วย หน่วยท่ี 1 รายการประกอบแบบก่อสร้าง 2.3 ตรวจประเมินผลตามใบงานท่ีมอบหมายให้ทาแตล่ ะสปั ดาห์

บันทึกหลงั การสอน หน่วยที่ 1 สอนครัง้ ท่ี 1-4 วิชา เขียนแบบงานโครงสร้าง รหัสวชิ า 20106- 2003 จานวน 6 ช่วั โมง/สปั ดาห์ ช่ือหน่วย รายการประกอบแบบก่อสร้าง รวม 24 ชว่ั โมง ชือ่ เรื่อง รายการประกอบแบบก่อสรา้ ง 1. ผลการใช้แผนการจัดการเรยี นรู้ ……………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ผลการเรียนของนักเรยี น/ผลการสอนของครู/ปญั หาท่ีพบ ……………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. แนวทางการแกป้ ัญหา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ……………………………………….. ลงชือ่ ……………………………… (……………………………….) (…..……………………….) ตัวแทนนักเรียน ครผู ู้สอน วันท่.ี .........เดอื น.........................พ.ศ. ..............

ข้อคิดเห็นหรอื ขอ้ เสนอแนะ .......................................................................................................................... ................................................................................................................................................................. ..... ความคิดเห็นของหัวหนา้ พฒั นาหลักสตู รการเรียนการสอน ……………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………... (……………………………) หัวหนา้ งานพฒั นาหลักสูตรการเรยี นการสอน ความคิดเห็นของรองผูอ้ านวยการฝา่ ยวิชาการ ……………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………... (……………………………..) รองผู้อานวยการฝา่ ยวิชาการ ความคิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะของผบู้ ริหาร (…………………………..) ……………………………………………………………………………………………………………... ผู้อานวยการ ……………………………………………………………………………………………………………... วทิ ยาลัย ……….…./…………….……/……..……

แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยที่ 2 สอนคร้งั ที่ 5,6,7,8 วชิ า เขียนแบบงานโครงสรา้ ง รหสั วิชา 20106- 2003 จานวน 6 ชั่วโมง/สปั ดาห์ ช่อื หน่วย การเขยี นแบบผังโครงสร้าง รวม 48 ชวั่ โมง ชื่องาน การเขียนแบบผงั โครงสร้าง หวั ข้อเรอื่ ง-หวั ข้อย่อย 6. บทนา 7. โครงสร้างบา้ นพักอาศยั 8. วสั ดุท่ใี ช้ก่อสร้าง 9. โครงสรา้ งผังฐานราก 10. โครงสรา้ งไม้ 11. โครงสร้างคอนกรตี เสรมิ เหลก็ 12. โครงหลงั คา สาระสาคญั การเขียนผังโครงสรา้ งผ้อู อกแบบต้องมีความร้ใู นชิ้นสว่ นโครงร้าง รวมทงั้ วัสดุท่ีใชใ้ นการออกแบบ โครงสรา้ งบ้านพักอาศยั จะเขียนเฉพาะโครงสรา้ งท่ีอยู่บนดินและใตด้ ิน เชน่ โครงสร้างฐานราก คอนกรตี เสรมิ เหล็ก เปน็ ต้น แตไ่ ม่รวมระบบไฟฟ้า สมรรถนะ แสดงความรเู้ กี่ยวกบั ผังโครงสร้างบา้ นพักอาศัย จุดประสงค์การเรียนรู้ - ดา้ นความรู้ 1. อธิบายความหมายของโครงสรา้ งบา้ นพักอาศัยได้ 2. อธิบายวสั ดุท่ใี ชใ้ นการก่อสร้างบ้านพกั อาศยั ได้ 3. สามารถเขียนแบบโครงสร้างผงั ฐานรากได้ 4. สามารถเขียนแบบโครงสร้างไมแ้ ละโครงสรา้ งเหลก็ ได้ 5. อธบิ ายการอา่ นแบบก่อสรา้ งแตล่ ะแบบได้ - ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม/บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพียง ตรงตอ่ เวลา มวี นิ ัย มีความรับผิดชอบ ละเอยี ดรอบคอบ สนใจใฝ่รู้ มคี วามซ่อื สตั ย์ต่อ ตวั เอง ในการเขียนแบบก่อสรา้ ง มเี หตุผลและประหยดั

กิจกรรมการเรียนการสอน การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ (สัปดาห์ที่ 5-8 คาบท่ี 1-6 /48) ขั้นตอนการดาเนินกจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้ันที่ 1 ขั้นนาเข้าสบู่ ทเรียนและทบทวนความรเู้ ดมิ 1.1 ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ให้นกั เรียนทราบ และรว่ มกนั กาหนดเกณฑ์ในการ ผา่ น ควรไม่ต่ากว่าร้อยละ 50 และตอ้ งมเี วลาเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 1.2 นาเข้าส่บู ทเรียน โดยถามความรู้พ้นื ฐานเดิม เกีย่ วกบั การเขียนแบบผงั โครงสร้างของ นักเรียนทเ่ี คยเรยี นมาในรายวิชา เขียนแบบงานสถาปัตยกรรม รหัสวชิ า 20106-2002 ฯลฯ 1.3 ครูกลา่ วถึงแบบผังโครงสรา้ ง เพอ่ื ดึงดูดนกั เรยี นให้อยากรูถ้ ึงการวิเคราะห์การ ออกแบบและการเขยี นแบบผังโครงสร้าง และนาโมเดลบา้ นมาใหด้ ู 1.4 นกั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรียนประจาหน่วยด้วยข้อสอบแบบปรนัย จานวน 14 ข้อ ข้นั ท่ี 2 ข้ันเพ่มิ ความร้ใู หม่ 2.1 ครบู รรยายเนอื้ หาดว้ ยสไลด์คอมพิวเตอร์ หนว่ ยท่ี 2 การเขยี นแบบผัง โครงสร้าง 2.2 ในระหว่างการบรรยายเนื้อหาครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นสอบถามเป็นชว่ ง ๆ ใน เนื้อหาที่เรียน ครตู อบคาถามและสุม่ สอบถามความเขา้ ใจในเนอ้ื หาท่ีเรียนพร้อมอธิบายในเรื่องทน่ี ักเรียนยังมี ข้อสงสัยเพ่ิมเติม ขัน้ ท่ี 3 ขั้นนาไปใชห้ รอื ประเมนิ ผล 3.1 ครูมอบหมายใหน้ ักเรยี นทาแบบฝึกหดั ท้ายหน่วยที่ 2 3.2 ครูใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียนหน่วยที่ 2 3.3 ครูมอบหมายให้ทาใบงาน1 ใบตอ่ สปั ดาห์ และใหส้ ่งตามกาหนดเวลา ขัน้ ที่ 4 ขั้นสรปุ 4.1 ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรุปเนื้อหา หน่วยที่ 2 4.2 ครนู าผลจากการตรวจแบบฝึกหัดที่นักเรียนส่ง มาอธิบายเพิ่มเติมในประเด็นที่ นักเรยี นยงั ไม่เขา้ ใจ 4.3 ครูนาใบงานของนักเรียนมาสรุป ขอ้ ผดิ พลาดในการเขยี นแบบ และวิธีการแก้ไข ขนั้ ที่ 5 สอดแทรกคุณธรรมและจรยิ ธรรม ครกู ลา่ วถงึ จิตสานึกและความรับผดิ ชอบต่อหน้าที่ และความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คมส่วนรวม และหลักการอยู่รว่ มกนั ในสงั คมอยา่ งมีความสุข

กจิ กรรมการเรยี นการสอน สอ่ื /อุปกรณ์/แหลง่ เรยี นรู้ 1. เอกสารประกอบการเรียนหนว่ ยท่ี 2 การเขยี นแบบผังโครงสรา้ ง 2. สไลด์คอมพิวเตอร์หนว่ ยที่ 2 การเขียนแบบผงั โครงสร้าง 3. แบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยท่ี 2 การเขยี นแบบผังโครงสรา้ ง จานวน 14 ข้อ 4. แบบฝึกหดั ท้ายหน่วยที่ 2 การเขยี นแบบผังโครงสรา้ ง จานวน 10 ขอ้ 4. แบบทดสอบหลังเรียนหน่วยท่ี 2 การเขียนแบบผังโครงสรา้ ง จานวน 12 ขอ้ 5. แหล่งการเรียนรเู้ พิ่มเตมิ 5.1 หนังสือการออกแบบก่อสร้าง, 5.2 หนังสอื การออกแบบทางสถาปัตยกรรม 5.3 หนงั สือการออกแบบโครงสร้างไม้และเหล็ก 5.4 เวบ็ ไซด์เกี่ยวกับการออกแบบกอ่ สร้างบ้านพักอาศยั การวดั ผลประเมนิ ผล 1. วธิ กี ารวดั 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนขณะทาการเรยี นการสอน 1.2 ตรวจแบบฝึกหัดท้ายหน่วย หนว่ ยที่ 2 การเขยี นแบบผงั โครงสรา้ ง 1.3 การสุ่มสอบถามขณะเรยี น และเขียนแบบตามใบงานทีไ่ ด้รบั มอบหมาย 1.4 แบบทดสอบก่อนเรียน และหลังเรียน หน่วยที่ 2 การเขียนแบบผังโครงสรา้ ง 1.5 ประเมินผลกิจกรรม งานฝกึ ปฏบิ ัติ ตามใบงานที่ได้รับมอบหมายแต่ละสัปดาห์ 2. เครอ่ื งมือวัด 2.1 แบบทดสอบก่อนเรียน และหลงั เรียน หน่วยที่ 2 การเขยี นแบบผังโครงสรา้ ง 2.2 ตรวจแบบฝึกหดั ท้ายหน่วย หน่วยท่ี 2 การเขียนแบบผงั โครงสรา้ ง 2.3 ตรวจประเมินผลตามใบงานทีม่ อบหมายใหท้ าแต่ละสปั ดาห์

บนั ทึกหลงั การสอน หนว่ ยที่ 2 สอนคร้งั ท่ี 5-8 วชิ า เขยี นแบบงานโครงสร้าง รหสั วชิ า 20106- 2003 จานวน 6 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ ชือ่ หน่วย การเขยี นแบบผังโครงสรา้ ง รวม 48 ชวั่ โมง ช่ือเรอ่ื ง การเขยี นแบบผังโครงสร้าง 4. ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้ ……………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. ผลการเรียนของนักเรยี น/ผลการสอนของคร/ู ปัญหาท่ีพบ ……………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… 6. แนวทางการแกป้ ัญหา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ……………………………………….. ลงชอ่ื ……………………………… (……………………………….) (…..……………………….) ตัวแทนนักเรยี น ครผู สู้ อน วันท่.ี .........เดอื น.........................พ.ศ. ..............

ข้อคิดเห็นหรือขอ้ เสนอแนะ .......................................................................................................................... ................................................................................................................................................................. ..... ความคิดเหน็ ของหวั หน้าพัฒนาหลกั สูตรการเรยี นการสอน ……………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………... (……………………………) หัวหนา้ งานพัฒนาหลกั สูตรการเรยี นการสอน ความคดิ เห็นของรองผ้อู านวยการฝา่ ยวชิ าการ ……………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………... (……………………………..) รองผู้อานวยการฝา่ ยวิชาการ ความคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะของผู้บรหิ าร ……………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………... (…………………………..) ผูอ้ านวยการวิทยาลัย ……….…./…………….……/……..……

แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยท่ี 3 สอนครั้งที่ 9,10,11,12 วิชา เขียนแบบงานโครงสรา้ ง รหัสวชิ า 20106- 2003 จานวน 6 ชั่วโมง/สัปดาห์ ชอื่ หน่วย การเขียนแบบขยายโครงสรา้ ง รวม 72 ชว่ั โมง ชอื่ งาน การเขียนแบบขยายโครงสร้าง หวั ข้อเรอื่ ง-หวั ขอ้ ย่อย 13. บทนา 14. หลักการและข้อกาหนดการเขียนผงั ขยายโครงสร้าง 15. การเขยี นรูปขยายฐานราก 16. การเขยี นรปู ขยายเสา 17. การเขียนรปู ขยายคาน 18. การเขยี นรูปขยายพ้ืน 19. การเขียนรปู ขยายหลงั คา สาระสาคญั การเขียนแบบรปู ขยายโครงสรา้ งเป็นการขยายรูปภาพโครงสร้างให้มีรายละเอียดมากขนึ้ เพื่อให้การ ก่อสร้างไมเ่ กิดการผิดพลาด หลกั การเขียนผงั โครงสร้างตา่ งๆ เชน่ ฐานราก เสา คานพ้ืน ฯลฯ ตอ้ งมีความ เข้าใจสญั ลกั ษณ์ตา่ งๆ รวมทง้ั แรงภายนอกท่มี ากระทาต่อโครงสร้างดว้ ย สมรรถนะ แสดงความรเู้ กี่ยวกบั การเขยี นแบบขยายโครงสรา้ งบา้ นพกั อาศัย จุดประสงค์การเรียนรู้ - ด้านความรู้ 1. อธบิ ายหลกั การและขอ้ กาหนดการเขยี นแบบขยายโครงสร้างบา้ นพักอาศยั ได้ 2. อธิบายรูปขยายของฐานราก และเสาของบ้านพักอาศยั ได้ 3. สามารถเขียนแบบขยายโครงสร้างของคานและพื้นได้ 4. สามารถเขียนแบบขยายโครงสร้างหลงั คาได้ 5. อธบิ ายการอา่ นแบบขยายโครงสรา้ งบา้ นพักอาศัยได้ - ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม/บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพียง ตรงตอ่ เวลา มีวนิ ยั มีความรับผดิ ชอบ ละเอยี ดรอบคอบ สนใจใฝร่ ู้ มคี วามซอ่ื สตั ย์ต่อ ตัวเอง ในการเขียนแบบก่อสร้าง มเี หตผุ ลและประหยัด

กจิ กรรมการเรียนการสอน การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สัปดาหท์ ่ี 9-12 คาบท่ี 1-6 /72) ข้ันตอนการดาเนนิ กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ ท่ี 1 ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรยี นและทบทวนความรเู้ ดมิ 1.1 ครแู จง้ จุดประสงค์การเรียนรใู้ ห้นกั เรยี นทราบ และร่วมกนั กาหนดเกณฑ์ในการ ผ่าน ควรไม่ต่ากวา่ ร้อยละ 50 และตอ้ งมเี วลาเรียนไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 80 1.2 นาเขา้ สูบ่ ทเรียน โดยถามความร้พู ้นื ฐานเดิม เก่ยี วกับการเขยี นแบบขยายโครงสรา้ ง บา้ นพกั อาศยั ของนักเรียนที่เคยเรยี นมาในรายวิชา เขียนแบบงานสถาปัตยกรรม รหสั วชิ า 20106-2002 ฯลฯ 1.3 ครูกลา่ วถึงแบบผังโครงสร้าง เพอ่ื ดึงดูดนักเรยี นให้อยากรถู้ ึงการวเิ คราะห์การ ออกแบบและการเขยี นแบบขยายโครงสร้าง และนาโมเดลบา้ นมาให้ดู 1.4 นักเรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นประจาหนว่ ยดว้ ยข้อสอบแบบปรนัย จานวน 14 ขอ้ ขน้ั ท่ี 2 ขั้นเพมิ่ ความรู้ใหม่ 2.1 ครบู รรยายเน้อื หาด้วยสไลด์คอมพิวเตอร์ หนว่ ยท่ี 3 การเขียนแบบขยาย โครงสรา้ ง 2.2 ในระหว่างการบรรยายเนื้อหาครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นสอบถามเป็นช่วง ๆ ใน เน้ือหาที่เรียน ครูตอบคาถามและสุ่มสอบถามความเขา้ ใจในเนอ้ื หาที่เรยี นพรอ้ มอธบิ ายในเรอื่ งทีน่ ักเรยี นยงั มี ขอ้ สงสยั เพ่ิมเตมิ ขน้ั ที่ 3 ข้ันนาไปใช้หรอื ประเมนิ ผล 3.1 ครมู อบหมายใหน้ ักเรยี นทาแบบฝกึ หัดท้ายหน่วยที่ 3 3.2 ครใู ห้นักเรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี นหน่วยท่ี 3 3.3 ครูมอบหมายใหท้ าใบงาน1 ใบต่อสัปดาห์ และให้ส่งตามกาหนดเวลา ขน้ั ท่ี 4 ข้ันสรุป 4.1 ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรุปเน้ือหา หนว่ ยที่ 3 4.2 ครนู าผลจากการตรวจแบบฝึกหดั ทน่ี กั เรียนสง่ มาอธบิ ายเพมิ่ เตมิ ในประเด็นท่ี นกั เรยี นยังไมเ่ ขา้ ใจ 4.3 ครนู าใบงานของนกั เรียนมาสรุป ขอ้ ผดิ พลาดในการเขยี นแบบ และวิธีการแก้ไข ข้นั ท่ี 5 สอดแทรกคณุ ธรรมและจรยิ ธรรม ครูกลา่ วถึงจติ สานกึ และความรับผดิ ชอบต่อหนา้ ที่ และความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คมสว่ นรวม และหลักการอย่รู ่วมกันในสงั คมอยา่ งมีความสุข

กจิ กรรมการเรียนการสอน สอ่ื /อุปกรณ/์ แหล่งเรียนรู้ 1. เอกสารประกอบการเรียนหนว่ ยที่ 3 การเขียนแบบขยายโครงสรา้ ง 2. สไลด์คอมพิวเตอรห์ น่วยที่ 3 การเขยี นแบบขยายโครงสรา้ ง 3. แบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยท่ี 3 การเขียนแบบขยายโครงสรา้ ง จานวน 14 ขอ้ 4. แบบฝึกหัดท้ายหน่วยที่ 3 การเขียนแบบขยายโครงสร้าง จานวน 10 ขอ้ 4. แบบทดสอบหลงั เรียนหน่วยที่ 3 การเขยี นแบบขยายโครงสร้าง จานวน 12 ข้อ 5. แหล่งการเรยี นรเู้ พิ่มเติม 5.1 หนังสอื การออกแบบก่อสรา้ ง, 5.2 หนังสอื การออกแบบทางสถาปัตยกรรม 5.3 หนังสอื การออกแบบโครงสรา้ งไม้และเหลก็ 5.4 เว็บไซดเ์ ก่ยี วกับการออกแบบก่อสร้างบ้านพักอาศัย การวดั ผลประเมินผล 1. วธิ กี ารวดั 1.1 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนขณะทาการเรียนการสอน 1.2 ตรวจแบบฝึกหัดทา้ ยหน่วย หนว่ ยที่ 3 การเขยี นแบบขยายโครงสรา้ ง 1.3 การสุ่มสอบถามขณะเรยี น และเขียนแบบตามใบงานทไี่ ด้รับมอบหมาย 1.4 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น และหลงั เรียน หน่วยที่ 3 การเขียนแบบขยายโครงสรา้ ง 1.5 ประเมินผลกิจกรรม งานฝึกปฏิบตั ิ ตามใบงานที่ได้รบั มอบหมายแตล่ ะสัปดาห์ 2. เครอ่ื งมือวดั 2.1 แบบทดสอบก่อนเรียน และหลังเรยี น หนว่ ยที่ 3 การเขียนแบบขยายโครงสร้าง 2.2 ตรวจแบบฝึกหัดทา้ ยหนว่ ย หนว่ ยท่ี 3 การเขยี นแบบขยายโครงสรา้ ง 2.3 ตรวจประเมนิ ผลตามใบงานท่มี อบหมายใหท้ าแต่ละสัปดาห์

บนั ทึกหลงั การสอน หนว่ ยที่ 3 สอนครงั้ ที่ 9-12 วชิ า เขียนแบบงานโครงสร้าง รหสั วชิ า 20106- 2003 จานวน 6 ช่ัวโมง/สัปดาห์ ชอ่ื หน่วย การเขยี นแบบขยายโครงสรา้ ง รวม 72 ชัว่ โมง ช่อื เร่ือง การเขียนแบบขยายโครงสร้าง 7. ผลการใช้แผนการจัดการเรยี นรู้ ……………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… 8. ผลการเรยี นของนักเรยี น/ผลการสอนของคร/ู ปัญหาท่ีพบ ……………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… 9. แนวทางการแก้ปญั หา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ……………………………………….. ลงชอื่ ……………………………… (……………………………….) (…..……………………….) ตัวแทนนกั เรียน ครผู สู้ อน วันที่..........เดือน.........................พ.ศ. ..............

ข้อคิดเห็นหรือขอ้ เสนอแนะ .......................................................................................................................... ................................................................................................................................................................. ..... ความคิดเหน็ ของหวั หน้าพัฒนาหลกั สตู รการเรยี นการสอน ……………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………... (……………………………) หัวหนา้ งานพัฒนาหลักสูตรการเรยี นการสอน ความคดิ เห็นของรองผ้อู านวยการฝ่ายวิชาการ ……………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………... (……………………………..) รองผ้อู านวยการฝา่ ยวชิ าการ ความคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะของผ้บู รหิ าร ……………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………... (…………………………..) ผู้อานวยการวิทยาลยั ……….…./…………….……/……..……

แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยที่ 4 สอนครงั้ ที่ 13,14,15,16 วชิ า เขียนแบบงานโครงสร้าง รหัสวชิ า 20106- 2003 จานวน 6 ชั่วโมง/สปั ดาห์ ชื่อหน่วย การเขียนแบบสขุ าภบิ าล รวม 96 ชั่วโมง ชื่องาน การเขียนแบบสขุ าภิบาล หัวข้อเรอื่ ง-หัวข้อย่อย 20. บทนา 21. แบบระบบระบายนา้ อาคารบ้านพกั อาศยั 22. วัสดุที่ใช้ในระบบระบายนา้ 23. สัญลกั ษณ์ที่ใช้เขียนอุปกรณร์ ะบบน้าดี-น้าเสยี 24. หลกั การเขียนผงั ระบบสขุ าภาบาล สาระสาคญั แบบสุขาภบิ าลเป็นแบบของระบบการจ่ายนา้ ดี และระบายน้าเสยี ทง้ั หมดของบ้านพกั อาศัย รวมถึง บอ่ เกรอะ-บ่อซมึ และแรงดันน้าของทอ่ ประปาภายในอาคาร วสั ดทุ ีใ่ ชต้ ้องมีคุณภาพ และการเขยี นสัญลกั ษณ์ ของอปุ กรณต์ อ้ งตามกฎข้อบังคบั ของกระทรวง สมรรถนะ แสดงความรู้เกี่ยวกับการเขยี นแบบสขุ าภิบาลของบา้ นพกั อาศัย จุดประสงค์การเรยี นรู้ - ด้านความรู้ 1. อธบิ ายระบบสุขาภบิ าลของบ้านพกั อาศยั ได้ 2. อธบิ ายระบบน้าดี-นา้ เสยี บ่อเกรอะ-บอ่ ซึม แรงดันนา้ ของบ้านพักอาศัยได้ 3. สามารถจาแนกวสั ดทุ ่ีใช้ในระบบระบายสง่ิ ปฏิกูลจากชักโครกได้ถกู ต้อง 4. สามารถเขียนสัญลกั ษณข์ องอุปกรณร์ ะบบนา้ ดี-น้าเสยี ตามข้อกาหนดของกฎกระทวงได้ 5. อธิบายการอ่านแบบสขุ าภิบาลของบา้ นพักอาศยั ได้ - ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพียง ตรงต่อเวลา มวี ินัย มีความรับผดิ ชอบ ละเอยี ดรอบคอบ สนใจใฝ่รู้ มีความซื่อสัตยต์ ่อ ตัวเอง ในการเขยี นแบบก่อสร้าง มีเหตผุ ลและประหยดั

กจิ กรรมการเรยี นการสอน การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาหท์ ี่ 13-16 คาบท่ี 1-6 /96) ข้นั ตอนการดาเนินกจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั ท่ี 1 ข้นั นาเขา้ สู่บทเรยี นและทบทวนความรู้เดิม 1.1 ครูแจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรียนร้ใู ห้นักเรียนทราบ และร่วมกนั กาหนดเกณฑ์ในการ ผ่าน ควรไม่ตา่ กว่าร้อยละ 50 และต้องมเี วลาเรียนไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 80 1.2 นาเขา้ สู่บทเรียน โดยถามความร้พู นื้ ฐานเดมิ เกยี่ วกบั การเขยี นแบบสุขาภิบาลบ้านพกั อาศัยของนักเรียนทเ่ี คยเรียนมาในรายวิชา เขยี นแบบงานสถาปัตยกรรม รหสั วชิ า 20106-2002 ฯลฯ 1.3 ครกู ล่าวถงึ แบบผังโครงสรา้ ง เพอื่ ดึงดูดนกั เรียนใหอ้ ยากรูถ้ ึงการวเิ คราะห์การ ออกแบบและการเขียนแบบขยายโครงสรา้ ง และนาโมเดลบ้านมาใหด้ ู 1.4 นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี นประจาหน่วยด้วยข้อสอบแบบปรนัย จานวน 14 ขอ้ ขนั้ ท่ี 2 ข้ันเพม่ิ ความรู้ใหม่ 2.1 ครบู รรยายเน้อื หาดว้ ยสไลด์คอมพวิ เตอร์ หนว่ ยที่ 4 การเขยี นแบบสุขาภิบาล 2.2 ในระหวา่ งการบรรยายเนื้อหาครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนสอบถามเปน็ ชว่ ง ๆ ใน เนอื้ หาที่เรยี น ครูตอบคาถามและสุม่ สอบถามความเขา้ ใจในเนื้อหาทีเ่ รียนพร้อมอธบิ ายในเรอ่ื งทีน่ ักเรียนยังมี ขอ้ สงสยั เพ่ิมเตมิ ขนั้ ท่ี 3 ขั้นนาไปใชห้ รอื ประเมินผล 3.1 ครูมอบหมายให้นกั เรยี นทาแบบฝึกหัดทา้ ยหน่วยท่ี 4 3.2 ครใู หน้ กั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียนหนว่ ยที่ 4 3.3 ครมู อบหมายให้ทาใบงาน1 ใบต่อสัปดาห์ และใหส้ ่งตามกาหนดเวลา ขั้นที่ 4 ขั้นสรุป 4.1 ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปเนื้อหา หน่วยท่ี 4 4.2 ครูนาผลจากการตรวจแบบฝึกหดั ทน่ี ักเรยี นส่ง มาอธิบายเพิ่มเติมในประเดน็ ท่ี นกั เรยี นยงั ไมเ่ ข้าใจ 4.3 ครนู าใบงานของนกั เรยี นมาสรุป ข้อผิดพลาดในการเขียนแบบ และวธิ ีการแก้ไข ข้นั ท่ี 5 สอดแทรกคณุ ธรรมและจรยิ ธรรม ครูกลา่ วถงึ จิตสานึกและความรับผดิ ชอบต่อหนา้ ท่ี และความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คมสว่ นรวม และหลกั การอยู่รว่ มกนั ในสังคมอย่างมีความสุข

กิจกรรมการเรยี นการสอน สือ่ /อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี นรู้ 1. เอกสารประกอบการเรียนหนว่ ยท่ี 4 การเขยี นแบบสขุ าภิบาล 2. สไลด์คอมพวิ เตอรห์ น่วยที่ 4 การเขียนแบบสขุ าภบิ าล 3. แบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยที่ 4 การเขยี นแบบขยายโครงสร้าง จานวน 14 ขอ้ 4. แบบฝกึ หดั ท้ายหนว่ ยที่ 4 การเขียนแบบขยายโครงสรา้ ง จานวน 10 ข้อ 4. แบบทดสอบหลังเรียนหน่วยที่ 4 การเขียนแบบขยายโครงสรา้ ง จานวน 12 ขอ้ 5. แหล่งการเรยี นรเู้ พ่ิมเตมิ 5.1 หนงั สือการออกแบบก่อสรา้ ง, 5.2 หนงั สอื การออกแบบทางสถาปัตยกรรม 5.3 หนงั สือการออกแบบโครงสร้างไมแ้ ละเหล็ก 5.4 เว็บไซดเ์ ก่ียวกับการออกแบบกอ่ สร้างบา้ นพักอาศยั การวัดผลประเมินผล 1. วธิ ีการวัด 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนขณะทาการเรยี นการสอน 1.2 ตรวจแบบฝกึ หดั ทา้ ยหนว่ ย หนว่ ยที่ 4 การเขยี นแบบขยายโครงสรา้ ง 1.3 การสุ่มสอบถามขณะเรยี น และเขยี นแบบตามใบงานทไี่ ด้รับมอบหมาย 1.4 แบบทดสอบก่อนเรียน และหลงั เรียน หน่วยท่ี 4 การเขยี นแบบขยายโครงสรา้ ง 1.5 ประเมนิ ผลกิจกรรม งานฝึกปฏิบัติ ตามใบงานท่ีไดร้ ับมอบหมายแตล่ ะสปั ดาห์ 2. เครื่องมือวัด 2.1 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น และหลงั เรียน หนว่ ยท่ี 4 การเขยี นแบบขยายโครงสรา้ ง 2.2 ตรวจแบบฝกึ หัดทา้ ยหนว่ ย หนว่ ยท่ี 4 การเขียนแบบขยายโครงสร้าง 2.3 ตรวจประเมนิ ผลตามใบงานท่มี อบหมายใหท้ าแตล่ ะสัปดาห์

บันทกึ หลงั การสอน หน่วยท่ี 4 สอนครั้งท่ี 13 -16 วชิ า เขยี นแบบงานโครงสรา้ ง รหสั วิชา 20106- 2003 จานวน 6 ช่วั โมง/สปั ดาห์ ชอื่ หน่วย การเขียนแบบขยายโครงสรา้ ง รวม 96 ชัว่ โมง ชอื่ เรอ่ื ง การเขียนแบบขยายโครงสร้าง 10. ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้ ……………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… 11. ผลการเรยี นของนักเรยี น/ผลการสอนของครู/ปญั หาท่ีพบ ……………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… 12. แนวทางการแกป้ ญั หา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ……………………………………….. ลงชื่อ ……………………………… (……………………………….) (…..……………………….) ตวั แทนนกั เรยี น ครูผู้สอน วนั ท่ี..........เดอื น.........................พ.ศ. ..............

ข้อคดิ เหน็ หรือข้อเสนอแนะ .......................................................................................................................... ................................................................................................................................................................. ..... ความคิดเห็นของหัวหนา้ พฒั นาหลกั สูตรการเรียนการสอน ……………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………... (……………………………) หัวหนา้ งานพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน ความคิดเห็นของรองผู้อานวยการฝา่ ยวิชาการ ……………………………………………………………………………………………………………... …………………………………………………………………………………………………………… (……………………………..) รองผูอ้ านวยการฝ่ายวชิ าการ ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของผบู้ ริหาร ……………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………... (…………………………..) ผ้อู านวยการวทิ ยาลัย ……….…./…………….……/……..……

แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยที่ 5 สอนครง้ั ที่ 17 วิชา เขียนแบบงานโครงสรา้ ง รหสั วิชา 20106- 2003 จานวน 6 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ ชอื่ หน่วย การเขยี นแบบระบบไฟฟ้า รวม 102 ชั่วโมง ชอื่ งาน การเขยี นแบบระบบไฟฟา้ หัวข้อเรอื่ ง-หวั ขอ้ ย่อย 25. บทนา 26. แบบแปลนระบบไฟฟ้าภายในอาคาร 27. วสั ดุท่ใี ชใ้ นระบบไฟฟ้า 28. สญั ลกั ษณ์ไฟฟา้ 29. การเขยี นผงั ระบบไฟฟ้า สาระสาคัญ การเขยี นแบบแปลนระบบไฟฟ้า คือ การเขยี นผงั แสดงอปุ กรณ์ไฟฟา้ ภายในอาคาร เชน่ หลอดไฟ สวทิ ชไ์ ฟ ฯลฯ ต้องทราบถึงแรงดันกระแสไฟฟา้ ทใี่ ช้ อปุ กรณ์สายไฟฟ้าทีใ่ ชต้ ้องทนแรงดันกระแสไฟฟา้ แบบ ระบบไฟฟ้าตอ้ งมรี ปู ขยายวงจรไฟฟ้า และสญั ลักษณ์ไฟฟ้าที่สมบูรณ์ สมรรถนะ แสดงความรเู้ กี่ยวกบั การเขยี นแบบระบบไฟฟา้ ของบ้านพักอาศัย จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ - ด้านความรู้ 1. อธบิ ายระบบไฟฟ้าของบา้ นพักอาศัยได้ 2. อธบิ ายระบบรงดนั ไฟฟา้ ที่ส่งไฟอุปกรณไ์ ฟฟ้าภายในบ้านพักอาศยั ได้ 3. สามารถจาแนกวสั ดุทใี่ ชใ้ นระบบไฟฟ้าของบา้ นพกั อาศัยไดถ้ ูกตอ้ ง 4. สามารถเขยี นสญั ลักษณข์ องอปุ กรณร์ ะบบไฟฟา้ ทใ่ี ชใ้ นอาคารได้ 5. อธิบายการอา่ นและเขยี นแบบระบบไฟฟา้ ของบ้านพกั อาศัยได้ - ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพียง ตรงต่อเวลา มวี นิ ยั มคี วามรบั ผิดชอบ ละเอยี ดรอบคอบ สนใจใฝร่ ู้ มีความซื่อสตั ย์ต่อ ตวั เอง ในการเขียนแบบก่อสรา้ ง มีเหตุผลและประหยดั

กจิ กรรมการเรียนการสอน การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สัปดาห์ท่ี 17 คาบท่ี 1-6 /102) ขัน้ ตอนการดาเนนิ กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้ันที่ 1 ขัน้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี นและทบทวนความรูเ้ ดิม 1.1 ครูแจง้ จดุ ประสงค์การเรียนรูใ้ หน้ ักเรียนทราบ และรว่ มกนั กาหนดเกณฑใ์ นการ ผา่ น ควรไมต่ า่ กว่าร้อยละ 50 และตอ้ งมเี วลาเรยี นไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 80 1.2 นาเขา้ สู่บทเรียน โดยถามความรู้พื้นฐานเดิม เกีย่ วกบั การเขยี นแบบระบบไฟฟ้า บ้านพักอาศัยของนักเรยี นที่เคยเรยี นมาในรายวชิ า เขยี นแบบงานสถาปตั ยกรรม รหัสวชิ า 20106-2002 ฯลฯ 1.3 ครูกล่าวถึงแบบผงั ระบบไฟฟ้า เพอ่ื ดึงดดู นักเรียนใหอ้ ยากรู้ถึงการวิเคราะห์การ ออกแบบและการเขยี นแบบขยายโครงสร้าง และนาโมเดลบา้ นมาใหด้ ู 1.4 นกั เรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี นประจาหน่วยดว้ ยข้อสอบแบบปรนัย จานวน 14 ขอ้ ขั้นที่ 2 ข้นั เพม่ิ ความรใู้ หม่ 2.1 ครูบรรยายเนือ้ หาดว้ ยสไลด์คอมพวิ เตอร์ หน่วยท่ี 4 การเขยี นแบบระบบไฟฟ้า 2.2 ในระหว่างการบรรยายเนื้อหาครูเปิดโอกาสให้นักเรยี นสอบถามเป็นช่วง ๆ ใน เน้อื หาทเ่ี รยี น ครตู อบคาถามและสุ่มสอบถามความเข้าใจในเน้อื หาทีเ่ รียนพรอ้ มอธิบายในเรือ่ งที่นักเรยี นยงั มี ข้อสงสัยเพ่ิมเติม ขน้ั ท่ี 3 ขัน้ นาไปใช้หรอื ประเมนิ ผล 3.1 ครูมอบหมายใหน้ ักเรยี นทาแบบฝึกหดั ทา้ ยหนว่ ยที่ 5 3.2 ครใู ห้นักเรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี นหนว่ ยท่ี 5 3.3 ครมู อบหมายให้ทาใบงาน1 ใบต่อสปั ดาห์ และให้ส่งตามกาหนดเวลา ขนั้ ท่ี 4 ขน้ั สรุป 4.1 ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรปุ เนื้อหา หนว่ ยที่ 5 4.2 ครนู าผลจากการตรวจแบบฝึกหดั ทน่ี กั เรยี นสง่ มาอธิบายเพ่มิ เตมิ ในประเด็นที่ นักเรยี นยังไมเ่ ข้าใจ 4.3 ครูนาใบงานของนกั เรยี นมาสรุป ขอ้ ผดิ พลาดในการเขียนแบบ และวธิ ีการแก้ไข ข้ันที่ 5 สอดแทรกคุณธรรมและจริยธรรม ครกู ลา่ วถงึ จิตสานึกและความรับผดิ ชอบต่อหน้าที่ และความรับผิดชอบตอ่ สงั คมส่วนรวม และหลักการอยู่รว่ มกนั ในสงั คมอยา่ งมีความสขุ

กิจกรรมการเรยี นการสอน สือ่ /อปุ กรณ์/แหล่งเรียนรู้ 1. เอกสารประกอบการเรยี นหน่วยท่ี 5 การเขยี นแบบระบบไฟฟ้า 2. สไลด์คอมพิวเตอร์หนว่ ยท่ี 5 การเขยี นแบบระบบไฟฟา้ 3. แบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยที่ 5 การเขียนแบบระบบไฟฟ้า จานวน 14 ข้อ 4. แบบฝึกหัดท้ายหนว่ ยท่ี 5 การเขยี นแบบระบบไฟฟ้า จานวน 10 ข้อ 4. แบบทดสอบหลังเรียนหน่วยท่ี 5 การเขียนแบบระบบไฟฟ้า จานวน 12 ข้อ 5. แหล่งการเรียนรเู้ พ่ิมเตมิ 5.1 หนังสอื การออกแบบก่อสร้าง, 5.2 หนังสอื การออกแบบทางสถาปตั ยกรรม 5.3 หนังสอื การออกแบบโครงสรา้ งไม้และเหลก็ 5.4 เวบ็ ไซด์เกยี่ วกบั การออกแบบก่อสรา้ งบ้านพักอาศยั การวดั ผลประเมินผล 1. วธิ กี ารวดั 1.1 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นขณะทาการเรียนการสอน 1.2 ตรวจแบบฝึกหดั ทา้ ยหน่วย หน่วยที่ 5 การเขยี นแบบระบบไฟฟ้า 1.3 การสุ่มสอบถามขณะเรียน และเขียนแบบตามใบงานทไ่ี ด้รบั มอบหมาย 1.4 แบบทดสอบก่อนเรียน และหลังเรียน หน่วยที่ 5 การเขยี นแบบระบบไฟฟ้า 1.5 ประเมินผลกจิ กรรม งานฝึกปฏบิ ตั ิ ตามใบงานท่ีไดร้ บั มอบหมายเป็นสัปดาหส์ ดุ ท้าย 2. เครือ่ งมือวดั 2.1 แบบทดสอบก่อนเรียน และหลงั เรยี น หนว่ ยที่ 5 การเขียนแบบระบบไฟฟ้า 2.2 ตรวจแบบฝึกหดั ท้ายหนว่ ย หนว่ ยท่ี 5 การเขียนแบบระบบไฟฟา้ 2.3 ตรวจประเมินผลตามใบงานทมี่ อบหมายใหท้ าสปั ดาห์สุดทา้ ย

บนั ทึกหลงั การสอน หนว่ ยที่ 5 สอนครงั้ ที่ 17 วิชา เขยี นแบบงานโครงสร้าง รหสั วิชา 20106- 2003 จานวน 6 ชว่ั โมง/สัปดาห์ ชอื่ หน่วย การเขียนแบบระบบไฟฟ้า รวม 102 ช่ัวโมง ชอ่ื เร่อื ง การเขยี นแบบระบบไฟฟ้า 13. ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ ……………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… 14. ผลการเรยี นของนักเรียน/ผลการสอนของครู/ปญั หาท่ีพบ ……………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… 15. แนวทางการแกป้ ญั หา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………….. ลงชอื่ ……………………………… (……………………………….) (…..……………………….) ตัวแทนนกั เรียน ครผู ้สู อน วันที่..........เดอื น.........................พ.ศ. ..............

ข้อคิดเห็นหรือขอ้ เสนอแนะ .......................................................................................................................... ................................................................................................................................................................. ..... ความคิดเหน็ ของหวั หน้าพัฒนาหลกั สูตรการเรยี นการสอน ……………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………... (……………………………) หัวหน้างานพฒั นาหลักสูตรการเรียนการสอน ความคดิ เห็นของรองผ้อู านวยการฝา่ ยวิชาการ ……………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………... (……………………………..) รองผูอ้ านวยการฝ่ายวชิ าการ ความคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะของผูบ้ ริหาร ……………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………... (…………………………..) ผู้อานวยการวิทยาลยั ……….…./…………….……/……..……

เฉลย แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยที่ 1 รายการประกอบแบบกอ่ สรา้ ง ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ คาส่ัง จงทาเครื่องหมายกากบาท (X) ทบั ตัวอักษรหน้าคาตอบท่ีถูกท่ีสุด 1. การออกแบบบ้านพักอาศยั ขน้ึ อยกู่ ับความต้องการของใคร ก. พอ่ -แม่ ข. พ่ี-น้อง ค. ผรู้ ับเหมา ง. ผวู้ ่าจา้ ง 2. ผ้ทู ีส่ ามารถออกแบบและรับรองแบบในการกอ่ สร้างไดค้ ือผใู้ ด ก. ผรู้ บั เหมา ข. นายช่างคมุ งาน ค. สถาปนกิ ง. หัวหน้าช่าง 3. ผูท้ ี่สามารถคานวณโครงสร้างทีร่ บั นา้ หนกั คอื ผ้ใู ด ก. สถาปนิก ข. วศิ วกร ค. ผูร้ บั เหมา ง. หวั หนา้ ชา่ ง 4. แบบก่อสร้างสถาปัตยกรรมควรประกอบดว้ ยส่วนใดของบา้ น ก. ดา้ นหนา้ ของบา้ น ข. ดา้ นขา้ งของบา้ น ค. ดา้ นบนของบ้าน ง. ทุกดา้ นของบ้าน 5. แบบกอ่ สรา้ งสามารถแบ่งออกไดก้ ช่ี นิด ก. 2 ชนิด ข. 3 ชนดิ ค. 4 ชนดิ ง. 6 ชนดิ 6. วัสดทุ รี่ ับน้าหนกั คือวสั ดอุ ะไร ก. ถงั น้าร้อน ข. บันได ค. เสา ง. กาแพง 7. โครงสรา้ งกาแพงใช้เป็นสว่ นใดของอาคาร ก. รบั นา้ หนกั ข. ถ่ายน้าหนกั ค. ป้องกนั ลมฝน ง. ป้องกนั แสงแดด 8. ปัจจุบันสถาปนกิ ผู้ออกแบบบ้านพกั อาศยั ตอ้ งข้ึนทะเบยี นกับหนว่ ยงานใด ก. สภาสถาปนิกแหง่ ประเทศไทย ข. สมาคมสถาปนิกแห่งประเทศไทย ค. วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ง. วศิ วกรรมสยามแหง่ ประเทศไทย 9. โตะ๊ เขียนแบบที่ไดม้ าตรฐานควรมีขนาดอยา่ งน้อยเท่ากับเทา่ ไหร่ ก. 200 x 300 มม. ข. 400 x 600 มม. ค. 600 x 900 มม. ง. 800 x 1,200 มม. 10. กระดาษท่ใี ชเ้ ขียนแบบ A2 มขี นาดเท่าไหร่ ก. 224 x 326 มม. ข. 339 x 428 มม. ค. 414 x 515 มม. ง. 420 x 595 มม. 11. ดนิ สอ HB ใชส้ าหรบั เขียนอะไรในแบบ ก. เสน้ ตรง ข. ตัวอกั ษร ค. เสน้ โค้ง ง. ขอบรูป 12. การควบคมุ คุณภาพวสั ดุก่อสร้างควรทาอย่าไร ก. เกบ็ ตัวอยา่ งวัสดุ ข. วสั ดไุ มแ่ ตกหัก ค. วสั ดุมผี ิวเรยี บ ง. วสั ดบุ รรจใุ นกลอ่ ง

13. การวางผงั เปน็ ความรับผิดชอบของผู้ใด ก. เจ้าของบา้ น ข. ช่างสารวจ ค. ผ้รู ับเหมา ง. ผู้ออกแบบ 14. เหล็กกลมสามารถต้านแรงดงึ ได้กี่กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร ก. 900 กก./ตร.ซม. ข. 1,500 กก./ตร.ซม. ค. 2,100 กก./ตร.ซม ง. 2,400 กก./ตร.ซม. เฉลย แบบฝึกหัด หน่วยท่ี 1 รายการประกอบแบบกอ่ สรา้ ง ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ -- 1. แบบกอ่ สรา้ งทใ่ี ชใ้ นการกอ่ สรา้ ง คอื สถาปนิกทไี่ ดร้ ับอนุญาตจากสมาคมสถาปนิกแหง่ ประเทศไทย เป็นผู้รบั รอง 2. แบบกอ่ สรา้ งทีส่ ถาปนิกเป็นผู้ออกแบบ คือ แบบท่ีมีรายละเอยี ดต่าง ๆท่คี รบสมบูรณ์ของแปลน บ้าน ที่มกี ารกาหนดรปู ร่างของบา้ นในทกุ ด้าน รวมทัง้ รูปหน้าตัดของบา้ น 3. รายละเอยี ดและภาพขยายต่าง ๆ คือ สามารถใช้ในการก่อสร้างได้ครบ รวมทง้ั รายการวัสดตุ า่ ง ๆ เช่น วสั ดเุ หล็ก คอนกรีต พ้นื ผนงั หลังคา ประตู หนา้ ตา่ ง เคร่ืองสขุ ภณั ฑ์ 4. แบบก่อสร้างโครงสร้าง คือ เป็นแบบก่อสร้างทมี่ ีความสาคญั มากทส่ี ดุ เพราะเปน็ แบบก่อสรา้ งท่ีมี การคานวณโครงสรา้ งท่ีรับนา้ หนกั ของบ้าน 5. แบบกอ่ สร้างไฟฟา้ คือ ตอ้ งคานวณออกแบบโดยวศิ วกรไฟฟา้ อปุ กรณ์ไฟฟา้ ต้องตดิ ต้ังอยา่ ง ปลอดภัย 6. แบบก่อสร้างสขุ าภิบาล คอื เป็นแบบก่อสรา้ งที่ใช้สาหรบั ระบบการวางทอ่ น้าดี-น้าทิ้งสู่ภายนอก หรอื สทู่ อ่ ระบบสาธารณะ และยงั รวมถึงการวางท่อระบบบ่อเกรอะ 7. ตวั อยา่ งเครื่องมือและอปุ กรณ์ทีใ่ ช้เขียนแบบ คือ โต๊ะเขียนแบบ กระดาษเขยี นแบบ ไม้ที ไม้ บรรทดั สามเหลยี่ ม และไม้บรรทดั มาตราส่วน เป็นตน้ 8. การวางผังและกาหนดขอบเขตท่ีดินก่อสร้างกาหนด คือ โดย เจ้าของท่ดี ิน ส่วนการวางผงั และทา ระดับผรู้ ับจา้ งเปน็ ผู้กาหนดโดยความเหน็ ชอบจากเจ้าของที่ดนิ 9. งานเสาเขม็ คือ เสาเขม็ ต้องมคี ณุ สมบตั ทิ ีร่ บั แรงอดั เสาต้องตรงไมค่ ดงง และต้องไดร้ ับรองมาตรา บานผลิตภัณฑอ์ ตุ สาหกรรม หรอื มอก. จากกระทรวงอุตสาหกรรม 10. ลักษณะเหลก็ เสรมิ คอนกรีต คอื ต้องไดร้ บั รองมาตรฐานผลติ ภณั ฑอ์ ตุ สาหกรรม(มอก.) สามารถ ต้านแรงดงึ ได้ 2,400 กก/ตร.ซม. เฉลย แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยท่ี 1 รายการประกอบแบบกอ่ สร้าง คาสั่ง จงทาเคร่ืองหมายกากบาท (X) ทบั ตัวอกั ษรหน้าคาตอบที่ถูกท่ีสุด 1. แบบบา้ นพกั อาศยั สองชั้นทม่ี ีแบบขยายโครงสรา้ งใครเป็นผูอ้ อกแบบ ก. สถาปนกิ ข. วศิ วกร ค. ผรู้ ับเหมา ง. ผเู้ ขยี นแบบ 2. แบบโครงสรา้ งบ้านพักอาศัยใครเปน็ ผูอ้ ออกแบบ ก. สถาปนิก ข. วิศวกร ค. ผรู้ ับเหมา ง. ผเู้ ขยี นแบบ

3. ผูท้ ี่สามารถออกแบบคานวณช้นิ ส่วนทร่ี ับนา้ หนักของบา้ นคอื ผ้ใู ด ก. ผรู้ ับเหมา ข. ผเู้ ขียนแบบ ค. วิศวกร ง. สถาปนิก 4. ปจั จุบันวิศวกรผู้ออกแบบบ้านพักอาศยั ตอ้ งข้ึนทะเบียนกบั หนว่ ยงานใด ก. สภาสถาปนิกแหง่ ประเทศไทย ข. สมาคมสถาปนิกแหง่ ประเทศไทย ค. วิศวกรรมสถานแหง่ ประเทศไทย ง. วิศวกรรมสยามแห่งประเทศไทย 5. แบบบ้านทางวิศวกรรมต้องรวมถงึ ช้นิ ส่วนใดของบา้ น ยกเว้นขอ้ ใด ก. ฐานราก ข. คาน ค. กาแพง ง. ดนิ ถม 6. ถ้าบ้านท่ีสรา้ งเกินถล่มทับคนตายใครเป็นผู้รับผิดชอบ ก. ผูร้ ับเหมา ข. ผูเ้ ขยี นแบบ ค. วศิ วกร ง. สถาปนกิ 7. ไมบ้ รรทดั มาตราสว่ นมหี ลายมาตราส่วน ยกเว้นข้อใด ก. 1: 100 ข. 1 : 500 ค. 1 : 1,250 ง. 1: 1,550 8. ดนิ สอขนาด H, 2H ใช้สาหรับงานอะไรในการเขยี นแบบบา้ น ก. เขียนชอื่ วัสดุ ข. เขยี นรายละเอยี ด ค. เขยี นตดั เสน้ ง. เขยี นรปู บ้าน 9. การเทคอนกรีตเสา หรือหลอ่ ในทกี่ ่อสรา้ ง ต้องมีการทดสอบ ค่าการยุบตวั (slump) ของคอนกรีต สูงสดุ ไมเ่ กนิ ก่เี ซนติเมตร ก. 5 เซนติเมตร ข. 10 เซนติเมตร ค. 15 เซนตเิ มตร ง. 20 เซนตเิ มตร 10. การตอกเสาเข็มด้วยป่นั จ่ัน คา่ ความคลาดเคล่ือนไม่ควรเกินกี่มลิ ลิเมตร/เมตร ก. 5 มลิ ลเิ มตร/เมตร ข. 10 มิลลเิ มตร/เมตร ค. 15 มิลลเิ มตร/เมตร ง. 20 มลิ ลเิ มตร/เมตร 11. กระดาษเขียนแบบ A3 มขี นาดเทา่ กบั เทา่ ไหร่ A3(297 x 420 มิลลเิ มตร ก. 97 x 120 มิลลิเมตร ข. 197 x 220 มลิ ลิเมตร ค. 297 x 420 มิลลิเมตร ง. 397 x 620 มลิ ลิเมตร 12. สวทิ ชไ์ ฟฟ้า มอก.824-2551 กาหนดแรงดันไฟฟา้ ไม่เกินกโี่ วลต์ ก. 120 โวลต์ ข. 230 โวลต์ ค. 440 โวลต์ ง. 510 โวลต์ เฉลย แบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยที่ 2 การเขียนแบบผังโครงสร้าง ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ คาส่งั จงทาเคร่ืองหมายกากบาท (X) ทับตวั อกั ษรหน้าคาตอบท่ีถูกทสี่ ดุ 1. ส่วนใดสาคญั มากท่สี ุดในการเขยี นผงั โครงสร้างบา้ นพักอาศยั ก. ความสวยงาม ข. ความแข็งแรง ค. ราคาแพง ง. ตดิ ทะเล

2. การก่อสรา้ งใหบ้ า้ นมีความแขง็ แรงและไมเ่ กิดปัญหาทรุดตวั หรอื พังทลาย ควรมีการพิจารณาใน ส่วนใดสาคัญทีส่ ดุ ก. การเลือกวัสดุทแ่ี พง ข. การตอ่ หัวเสา ค. การเลือกผู้รบั เหมา ง. การกาหนดวันสร้างเสร็จ 3. ชนิ้ ส่วนท่รี บั นา้ หนักและความปลอดภัยของโครงสรา้ งถูกกาหนดเปน็ มาตรฐานโดยสถาบันใด ก. สถาปนิกสยามแห่งประเทศไทย ข. สภาสถาปนิกแห่งประเทศไทย ค. สภาวศิ วกรแห่งประเทศไทย ง. วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย 4. การเขยี นรูปตัดบ้านจะแสดงรปู ลักษณะที่อยู่ในสว่ นใด ก. อยู่ในดนิ ข. อย่ใู ต้ดิน ค. อยูใ่ นอากาศ ง. อยใู่ นน้า 5. กาแพงทาหน้าทต่ี รงกับข้อใดมากท่สี ุด ก. รับนา้ หนกั ข. ถา่ ยนา้ หนกั ค. ตา้ นน้าหนกั ง. รบั -ถ่ายนา้ หนัก 6. เสาทาหนา้ ทตี่ รงกบั ขอ้ ใดมากท่สี ดุ ก. รับนา้ หนัก ข. ถา่ ยนา้ หนกั ค. ต้านน้าหนัก ง. รับ-ถ่ายนา้ หนัก 7. ดินท่อี ยู่ใตด้ ินทาหน้าท่ีอะไร ก. คอยอ้มุ นา้ ข. คลายน้า ค. ปอ้ งกันการเคลื่อนตัว ง. ทาให้เคล่อื นตัวง่าย 8. ฐานรากแบบตอ่ เนื่องทาหน้ารบั น้าหนักจากช้นิ สว่ นโครงสรา้ งใด ก. เสา ข. ผนงั ค. คาน ง. หลงั คา 9. เสาเหลก็ รูปพรรณมรี ปู ลกั ษณะอย่างไร ก. รปู ตัวอี ข. รูปตัวเอ ค. รูปตัวเอส ง. รูปตวั ดับบิว 10. ปัจจบุ ันไมท้ ใ่ี ช้กอ่ สรา้ ง เชน่ ทาพืน้ หายากข้นึ จึงมกี ารผลติ ไมเ้ ทียมทท่ี าจากวัสดอุ ะไร ก. ไมอ้ ดั ข. หินผสมดิน ค. คอนกรตี ผสมเถ้า ง. ไฟเบอรซ์ เี มนต์ 11. ตอม่อทาหนา้ ที่อะไรในโครงสร้างบ้าน ก. รบั นา้ หนกั ข. รบั -ถ่ายน้าหนัก ค. ถา่ ยน้าหนัก ง. รวมนา้ หนกั 12. ข้อดีของหลังคาทรงแบนคอื อะไร ก. สร้างงา่ ย ข. ราคาถูก ค. รบั ความรอ้ นได้ดี ง. ร่ัวซึมยาก 13. ข้อดขี องหลังคาทรงผเี ส้ือคอื อะไร ก. สรา้ งง่าย ข. ราคาถกู ค. รับความร้อนไดด้ ี ง. รัว่ ซึมงา่ ย 14. วัสดทุ ีใ่ ช้ทาฐานรากต้องสามารถรับนา้ หนักท่ีปลอดภัยได้ 1,700 กิโลกรมั /ตัน ก. 1,100 กโิ ลกรมั /ตนั ข. 1,400 กิโลกรัม/ตัน ค. 1,600 กโิ ลกรัม/ตนั ง. 1,700 กิโลกรัม/ตัน

เฉลยแบบฝกึ หดั หน่วยที่ 2 การเขยี นแบบผงั โครงสรา้ ง ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ 1. โครงสรา้ งทนี่ ามาประกอบกนั ตอ้ งมีลกั ษณะ คือโครงสร้างท่ีนามาประกอบกันต้องมีความมัน่ คง ถาวรตามมาตรฐานความปลอดภยั ของวิศวกรรมสถานแหง่ ประเทศไทยที่เป็นผกู้ าหนดความปลอดภัย 2. การเขยี นโครงสร้างล้านพักอาศยั มลี ักษณะ คือ โครงสรา้ งบ้านพักอาศยั จะเขยี นในลกั ษณะโครงท่ี ไม่รวมกาแพง หรือ วัสดุอืน่ ๆ เช่น สขุ ภัณฑ์ ไฟฟา้ 3. โครงสรา้ งที่ไม่ไดร้ บั น้าหนัก คือ กาแพง และพ้ืน 4. โครงสรา้ งที่อยใู่ ต้ดนิ จะใชว้ ัสดุ คือ คอนกรีต และเหลก็ เสริมคอนกรตี 5. ฐานราก ใชว้ สั ดุ คอื ฐานราก ใชว้ สั ดุส่วนผสมของปนู ซิเมนต์ หิน ทราย และเหล็กเสริม 6. ตอมอ่ คือ ส่วนของโครงสร้างทรี่ ับนา้ หนกั จากการถา่ ยน้าหนกั ของเสาลงส่ฐู านราก 7. เสาเหลก็ เหมาะกับอาคารสูงเปน็ ส่วนใหญ่ หรอื อาคารจอดรถหลายๆช้ัน 8. ปจั จุบนั วัสดทุ ี่ใชแ้ ทนไม้ คือ ไฟเบอร์ซีเมนต์ 9. วสั ดทุ ีใ่ ช้มงุ หลังทรงผีเสอ้ื คือ กระเบื้องลอนคู่ และเมทัลชที 10. คอนกรตี เสริมสามารถรับน้าหนักทปี่ ลอดภัย คือ 1,700 กิโลกรมั /ตัน เฉลย แบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยที่ 2 การเขยี นแบบผังโครงสร้าง ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- คาสง่ั จงทาเคร่ืองหมายกากบาท (X) ทับตวั อกั ษรหน้าคาตอบท่ีถูกทสี่ ุด 1. ใครคือผูท้ ่ีออกแบบช้ืนสว่ นโครงสรา้ งท่ีรบั นา้ หนัก ก. สถาปนกิ ข. วิศวกร ค. หวั หน้าชา่ ง ง. ผูร้ ับเหมา 2. การออกแบบความกวา้ งของเทาวนโ์ ฮมไมเ่ กนิ กี่เมตรไม่ต้องรบั รองโดยสถาปนกิ และวิศวกร ก. 5 เมตร ข. 6 เมตร ค. 7 เมตร ง. 9 เมตร 3. สว่ นใดของโครงสรา้ งท่ีรับน้าหนกั ของโครงสรา้ งบา้ นไว้ทัง้ หมด ก. ตอมอ่ ข. ฐานราก ค. เสา ง. ดนิ ใต้ดนิ 4. สว่ นใดของโครงสรา้ งที่ทาหน้าที่ถา่ ยนา้ หนัก ก. ฐานราก ข. หลงั คา ค. พืน้ ง. ผนงั 5. การบม่ คอนกรีตควรบ่มให้ครบจานวนก่วี ัน ก. 10 วนั ข. 20 วัน ค. 28 วัน ง. 30 วัน 6. ไมท้ ่ีสาหรบั ทาพน้ื คือไมป้ ระเภทใด ก. ไมอ้ ัด ข. ไม้ MDE ค. ไม้สน ง. ไม้เต็ง

7. คอนกรีตทห่ี ุ้มฐานรากเพ่ือปอ้ งกันความช้นื ควรมคี วามหนาเทา่ ไร ก. 1-2 ซม. ข. 2-3 ซม. ค. 3-4 ซม. ง. 4-5 ซม. 8. ไม่ทีใ่ ช้ทาอเสมีขนาดเท่าไร ก. 1 x 6 น้ิว ข. 1 x 8 นว้ิ ค. 2 x 6 นิว้ ง. 2 x 8 นว้ิ 9. “แรงอดั ” คือ แรงที่ทาให้วตั ถุเปน็ เช่นไร ก. บีบเขา้ หากัน ข. ทลายเข้าหากนั ค. รวมตวั กัน ง. แยกออกจากกัน 10. ตามข้อบังคบั การควบคุมอาคารของกรงุ เทพมหานครเกิดขนึ้ ในปีใด ก. พ.ศ. 2511 ข. พ.ศ. 2522 ค. พ.ศ. 2533 ง. พ.ศ. 2544 11. เหลก็ ขอ้ ออ้ ยมคี วามสามารถรบั แรงดงึ ไดไ้ มเ่ กนิ กกี่ ิโลกรัม/ตร.ซม. ก. ไม่เกิน 1,000 กิโลกรมั /ตร.ซม. ข. ไมเ่ กนิ 1,200 กิโลกรัม/ตร.ซม. ค. ไม่เกนิ 1,500 กโิ ลกรัม/ตร.ซม. ง. ไม่เกิน 1,800 กโิ ลกรมั /ตร.ซม. 12. หลังคาคอนกรีตตามมาตรฐาน มอก. 535-2540 มนี า้ หนกั กก.ต่อแผ่น ก. 1.05 กก/แผน่ ข. 2.05 กก/แผน่ ค. 4.05 กก/แผ่น ง. 5.05 กก/แผ่น เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยที่ 3 การเขียนแบบขยายโครงสร้าง ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ คาสัง่ จงทาเคร่ืองหมายกากบาท (X) ทับตัวอักษรหน้าคาตอบที่ถูกทีส่ ดุ 1. การเขียนรปู ขยายโครงสรา้ งมจี ุดประสงคเ์ พ่ือการใด ก. ความชดั เจน ข. เพม่ิ ส่วนขยาย ค. ใหช้ นิ้ สว่ นใหญ่ขึน้ ง. ตอ่ เตมิ ช้นิ ส่วน 2. การเขียนรูปขยายชิ้นส่วนของโครงสรา้ งควรใชส้ ง่ิ ใด ก. ชิ้นส่วนจริง ข. มาตรส่วน ค. ดูจากแคตตาล๊อค ง. ดจู ากสถานทก่ี ่อสรา้ ง 3. ช้นิ ส่วนโครงสร้างใดนิยมเขียนรูปขยาย ก. หอ้ งน้า-ห้องสว้ ม ข. ประตู-หน้าตา่ ง ค. คาน-เสา ง. ถูกทุกข้อ 4. ส่วนใหญจ่ ะเขยี นรปู ขยายในแผน่ เดียวกับโครงสร้าง และจะไวด้ ้านใดของโครงสร้าง ก. ซา้ ยมอื ข. ดา้ นลา่ ง ค. ขวามือ ง. ดา้ นบน 5. สญั ลักษณท์ ี่เป็นวงกลมและมตี ัวเลขอยดู่ ้านบนบง่ บอกถึงอะไรในแบบ ก. ตวั เลขแบบ ข. ช่อื แบบขยาย ค. ขนาดแบบ ง. เรียงลาดบั แบบ

6. สญั ลกั ษณท์ เี่ ปน็ วงกลมและมหี วั ลูกศรอยู่ดา้ นบนวงกลมบง่ บอกถงึ อะไรในแบบ ก. รูปแนวตั้งแบบ ข. รปู ทศิ แบบ ค. รูปสารบัญแบบ ง. รปู ตดั แบบ 7. ตัวอักษรท่ีเขียนว่า F1 ของแบบพ้นื แสดงถงึ ลกั ษณช์ ิน้ สว่ นใดในภาษาอังกฤษ ก. Flower ข. Floor ค. Fever ง. Follow 8. เส้นบอกขนาดท่เี ขียน เปน็ วงกลมสองวงมีขีดยาวถงึ กันและบอกขนาดตัวเลข หมายถงึ อะไรในแบบ ก. รมิ ถงึ ริม ข. ศนู ย์กลางถึงศนู ย์กลาง ค. รมิ ถึงศนู ยก์ ลาง ง. ศนู ยก์ ลางถงึ รมิ 9. เสน้ สองเสน้ ตามแนวนอนทม่ี ีจุดไขป่ ลาเตม็ ไปหมด ระหว่างเส้นทง้ั สองจะหมายถึงสญั ลกั ษณ์ใด ก. ผนังคอนกรีต ข. ผนงั ก่ออฐิ ค. ผนงั ปนู เคลือบ ง. ผนงั ก่อฉาบ 10. รูปของฐานรากทเี่ ขียนในแบบก่อสรา้ งจะตั้งอย่บู นชั้นใด ก. คอนกรตี ละเอียด ข. ดนิ ปนปูน ค. คอนกรตี หยาบ ง. ถูกทกุ ข้อ 11. เหล็กปลอกของฐานรากนิยมใชเ้ หล็กอะไรในการทา ก. เหล็กกลม ข. เหล็กแบน ค. เหลก็ ข้ออ้อย ง. เหลก็ ลวด 12. คานทไี่ ม่เสริมเหล็กไม่มีความสามารถตา้ นแรงใด ก. แรงกด ข. แรงฉกี ค. แรงดงึ ง. แรงอัด 13. เสาท่ใี ช้ทาโครงสร้างบ้านมีก่ชี นิด ก. ชนิดเดียว ข. สองชนิด ค. สามชนิด ง. ส่ีชนดิ 14. เหล็กคอม้าที่เสรมิ ในโครงสร้างคานช่วยรับแรงอะไร ก. แรงกด ข. แรงอัด ค. แรงดึง ง. แรงเฉือน เฉลยแบบฝกึ หัด หน่วยที่ 3 การเขยี นแบบขยายโครงสร้าง ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ 1. จุดประสงคก์ ารเขียนแบบขยายโครงสร้าง คือ เพื่อให้รายละเอียดต่าง ๆมคี วามชดั เจนมากยง่ิ ขึ้น และยงั ชว่ ยใหช้ า่ งท่ีก่อสร้างเข้าใจแบบทีจะสรา้ งได้ถกู ต้อง 2. วธิ ีการกาหนดสัญลกั ษณ์ในการกาหนดรูปขยาย คือ จะกาหนดโดยใช้สัญลกั ษณ์วงกลมมหี ัวลกู ศร และตัวเลขอยู่ภายในวงกลม 3. รูปขยายฐานรากจะออกแบบคานวณ โดยวิศวกรโยธาผซู้ ึง่ มคี วามร้เู ชี่ยวชาญในการคานวณ และ ตอ้ งได้รับใบอนุญาตจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย 4. ฐานรากต้นื คือ เปน็ ฐานรากทีไ่ มม่ เี สาเข็มรองรบั ฐานรากจะอยูบ่ นดนิ ดว้ ยตวั เองโดยไมม่ เี สาเข้ม รองรับฐานราก ฐานรากแบบน้เี หมาะกบั พืน้ ดินทมี่ คี วามสามรถรบั นา้ หนกั ได้สูง 5. เหล็ก RB 16 mm. คอื เหล็กกลมทีม่ ีเสน้ ผ่านศูนย์กลาง 16 มลิ ลิเมตร

6. ฐานรากตนื้ ควรต้งั อยูบ่ น คอนกรีตหยาบที่รองรับดว้ ยทรายหยาบท่บี ดอัดแนน่ เหามะกบั พ้นื ดินท่ี มคี วามแขง็ 7. สญั ลักษณ์ C1, C2 หมายถึง สัญลักษณข์ องเสาตน้ ที่ 1 และตน้ ท่ี 2 8. เหลก็ ปลอกของเสาใช้เหล็กขนาด RB 6 @ 0.15 เมตร 9. เหล็กเสริมคานใชส้ าหรับ รับแรงดงึ เมื่อมีแรงจากภายนอกมากระทา 10. มาตรฐานเหลก็ เสริมถูกกาหนดโดย มาตรฐานผลิตภัณฑ์อตุ สาหกรรม กระทรวงอตุ สาหกรรม เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยที่ 3 การเขียนแบบขยายโครงสรา้ ง ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ คาสัง่ จงทาเครื่องหมายกากบาท (X) ทบั ตวั อักษรหนา้ คาตอบที่ถูกท่สี ดุ 1. ผใู้ ดมคี วามสามารถออกแบบคานวณน้าหนักบรรทุกของโครงสรา้ ง ก. สถาปนิก ข. ผรู้ ับเหมาก่อสร้าง ค. วิศวกร ง. นายชา่ งคมุ งานก่อสรา้ ง 2. สัญลักษณเ์ สน้ ตรงสองเส้นตัดกันที่มุมตัดมีเส้นทามมุ 45 องศาทจี่ ุดตัดท้ังสองบอกถึงอะไรในแบบ ก. รมิ ถึงริม ข. ศนู ย์กลางถงึ ศนู ยก์ ลาง ค. รมิ ถงึ ศูนย์กลาง ง. ศนู ย์กลางถึงริม 3. ตวั เลขท่อี ยู่ในวงกลมแสดงถึงหมายเลขอะไร ก. ชน้ิ ส่วนวสั ดุ ข. จานวนวัสดุ ค. เลขกากบั วัสดุ ง. ความหนาวสั ดุ 4. เครอื่ งหมาย @ ความหมายหมายถึงอะไร ก. ระยะชดิ ข. ระยะห่าง ค. ระยะลึก ง. ระยะสูง 5. กระดาษท่ใี ชใ้ นการเขียนแบบบา้ นคอื ขนาดเท่าไร ก. A0 ข. A1 ค. A2 ง. A3 6. นา้ หนักของเหล็กกลมเส้นผ่านศูนยก์ ลาง 6 มม. มีน้าหนักเท่ากับเทา่ ไหร่ ก. 0.22 กก/เมตร ข. 0.33 กก/เมตร ค. 0.44 กก/เมตร ง. 0.55 กก/เมตร 7. สญั ลักษณ์ F1 ที่ใชแ้ ทนฐานราก ตรงกับภาษาอังกฤษคือข้อใด ก. Follower ข. Foundation ค. Fundamental ง. Funny more 8. ถา้ ต้องการความแข็งแรงมากสุดของคานควรเสริมเหล็กอย่างไร ก. เหลก็ กลมและเหล็กหูชา้ ง ข. เหล็กเหล่ียมและเหลก็ ปากเปด็ ค. เหล็กตรงและเหล็กคอม้า ง. เหลก็ แบนและเหล็กจมกู นก 9. เหล็กเสริมทีม่ ตี วั อักษร DB ย่อมาจากคาว่าอะไร ก. Deform Bar ข. Dower Bar ค. Death Bar ง. Dearer Bar

10. เหล็กเสริมในคานท่ใี ส่ตลอดความยาวคานมีขนาดเทา่ ไร ก. 6 mm. ข. 16 mm. ค. 8 mm. ง. 18 mm. 11. การใช้พื้นสาเรจ็ รปู ก่อสร้างพน้ื หลังจากวาพื้นแลว้ ควรทาส่งิ ใดต่อจากนัน้ ก. แต่งผิวให้เรยี บมัน ข. หยดปนู ตามรอยต่อ ค. เททับหลงั ให้เรยี บ ง. ดรู อยตามดตลอดพ้นื 12. ชน้ิ สว่ นโครงสรา้ งทต่ี อ่ จาก “อกไก่ ” คือ ช้ินส่วนใดของโครงหลังคา ก. แป ข. จันทัน ค. ด้งั ง. อเส เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยที่ 4 การเขยี นแบบสขุ าภบิ าล ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ คาสงั่ จงทาเคร่ืองหมายกากบาท (X) ทับตวั อกั ษรหนา้ คาตอบท่ีถกู ทีส่ ดุ 1. ทอ่ ประปาท่ีใช้ในระบบส่วนใหญ่จะใช้ท่อขนาดเท่าไหร่ ก. 1/2 น้ิว ข. 3/8 น้วิ ค. 4/8 นวิ้ ง. 5/8 นิว้ 2. ถงั ชักโครกสว่ นใหญ่ใชท้ ่อพวี ซี ขี นาดเทา่ ไหร่ ก. 1/8 นิ้ว ข. 3/4 น้ิว ค. 4/8 นว้ิ ง. 5/8 น้วิ 3. ในบางที่นา้ อาจจะต้องทาการกรองก่อนนาไปใชเ้ พอื่ ทดสอบดูค่าใด ก. ค่าความกระด้าง ข. ค่าความหนดื ค. คา่ De ง. คา่ pH 4. การวางท่อน้าท้ิงควรวางใหท้ ่อมีความลาดเอยี งเทา่ ไหร่ ก. 1:20 ข. 1:40 ค. 1:50 ง. 1:100 5. ทอ่ พีวซี ีมีขนาดใหญ่สุดเท่าไร ก. 1 น้วิ ข. 2 นิ้ว ค. 3 นว้ิ ง. 4 นิว้ 6. การระบายกลิน่ ในระบบควรทาอยา่ งไร ก. ปดิ ฝา ข. เจาะรู ค. ใส่ท่อ ง. ทาบ่อดัก 7. ระยะติดตง้ั โถชักโครกจากพื้นควรสงู เทา่ ไร ก. 300 มม. ข. 400 มม. ค. 500 มม. ง. 600 มม. 8. ระยะติดตัง้ ฝักบัวควรห่างจากกาแพงเทา่ ไร ก. 45 ซม. ข. 55 ซม. ค. 65 ซม. ง. 70 ซม. 9. ในถงั พักนา้ ควรติดต้งั อะไรเพือ่ ป้องกนั นา้ ลน้

ก. โซช่ กั ข. ก๊อก ค. ลกู ลอย ง. วาลว์ 10. นา้ ประปาควรผา่ นอุปกรณใ์ ดก่อนเขา้ บา้ น ก. ไส้กรอง ข. บ่อพัก ค. วาล์ว ง. มเิ ตอร์ 11. ถา้ หอ้ งนา้ มีกลิ่นเหมน็ ควรทาสงิ่ ใด ก. ใส่ลูกเหม็นมาก ๆ ข. ดทู ่อระบายกลน่ิ ค. ลา้ งหอ้ งน้า ง. ใสก่ ้อนดบั กลน่ิ 12. อา่ งล้างหน้าหลมุ ตื้นมีความลึกอา่ งเท่ากบั เทา่ ไร ก. 47 มม. ข. 52 มม. ค. 63 มม. ง. 69 มม. 13. สญั ลักษณ์คาวา่ W หมายถึงอะไร ก. Waste ข. Winter ค. Water ง. Winey 14. สญั ลกั ษณด์ งั รปู หมายถึงอะไร ก. วาลว์ น้า ข. กอ๊ กน้า ค. ประแจน้า ง. ประตนู า้ เฉลยแบบฝึกหดั หน่วยที่ 4 การเขยี นแบบสุขาภบิ าล ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ 1. แบบสขุ าภบิ าลของบ้านพักอาศยั คือ จะเป็นแบบท่ีรวบรวมระบบท่อจ่ายน้าดี และระบบทอ่ นา้ ทง้ิ ที่ใชท้ อ่ ประปาเป็นวัสดใุ นการจ่ายนา้ ดี-ทิง้ น้าเสีย และยังรวมถึงบ่อเกรอะ-บอ่ ซมึ 2. การเขียนแบบระบบจ่ายน้า ผงั สุขาภิบาล คือ ผอู้ อกแบบจะเขยี นแบบเปน็ ลักษณะไดอะแกรมของ ระบบจ่ายนา้ ผงั สุขาภบิ าล แปลนทอ่ ประปา 3. ระบบน้าดภี ายในอาคาร คือ เป็นระบบสขุ าภิบาลทสี่ าคัญสาหรบั การชะลา้ งส่ิงสกปรกต่าง เชน่ การอาบนา้ การใช้กบั ถังชกั โครก การล้างผกั และผลไม้ เป็นตน้ 4. ระบบจ่ายน้าภายในอาคาร คือ ระบบจา่ ยน้าถือเปน็ ส่วนสาคญั สาหรับผู้อยู่อาศยั ภายในบ้าน อุปกรณ์ท่ใี ชเ้ ปน็ อปุ กรณจ์ ่ายน้ามักจะเกดิ ปัญหาการรั่วซมึ และอุปกรณแ์ ตกรา้ ว ทาให้ระบบจา่ ยนา้ ไม่ มีประสทิ ธภิ าพ 5. คุณภาพของน้าทมี่ ีสารตกค้าง คือ คณุ ภาพของนา้ ที่มสี ารตกคา้ งบางชนิดทไี่ ม่สามารถน้าไปใชไ้ ด้ โดยตรง เช่น คา่ pH ของนา้ หรอื คา่ ออกซิเจนละลายน้า (DO) คา่ ความขุ่น (Turbidity) ของนา้ เปน็ ตน้ 6.ระบบแรงดันนา้ ภายในอาคาร คอื ระบบแรงดนั นา้ กเ็ ปน็ สิง่ จาเปน็ ของระบบจ่ายนา้ ของอาคาร บ้านพกั อาศัยไม่คอ่ ยโหลต้องมกี ารติดตง้ั ปม้ั นา้ เพอื่ เพิ่มแรงดัน 7. ท่อทใ่ี ชภ้ ายในอาคารมลี ักษณ์ คือ มลี ักษณะที่เป็นอปุ กรณ์ที่ต้องมีความคงทนแขง็ แรง และมี ความสามารถรองรับสิง่ ปฏิกลู ต่าง ๆเหลา่ น้นั ได้ดี เช่น ขนาดของท่อ ควรใช้ เส้นผา่ นศนู ย์ 1 1/2 ถึง 2 นวิ้ การวางท่อต้องใหม้ ีความลาดเอียง 1:50

8. อปุ กรณ์ท่ีใช้ในระบบสิ่งปฏิกลู คอื อุปกรณ์ทีใ่ ช้ระบบสิ่งปฏกิ ลู ในห้องน้า หลกั ๆมี โถชกั โครก อา่ ง ล้างหน้า ฟกั บัวอาบนา้ เป็นต้น 9. การตอ่ สายน้าดีไปชักโครกจะมีระยะหา่ งเท่ากบั ชกั โครกเปน็ อปุ กรณ์ทรี่ ะบายสิ่งปฏกิ ลู ทสี่ าคญั ภายในห้องนา้ การตอ่ สายน้าดีมาทโ่ี ถชักโครก ระยะหา่ งจะเท่ากับ 200 มลิ ลเิ มตร 10. สญั ลักษณ์ คือ สัญลกั ษณ์ของชอ่ งล้างท่อบรเิ วณผนัง WCO เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยท่ี 4 การเขยี นแบบสุขาภิบาล ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- คาสัง่ จงทาเครื่องหมายกากบาท (X) ทับตัวอกั ษรหน้าคาตอบที่ถกู ทส่ี ดุ 1. ท่อประปาหลกั ที่ใชท้ ่อพีวีซี ท่มี ีขนาดเสน้ ผา่ ศูนยก์ ลางเล็กสดุ เทา่ กบั กนี่ ิ้ว ก. 1/2 นิ้ว ข. 3/4 นว้ิ ค. 3/8 นิว้ ง. 5/8 นิว้ 2. ถงั ชักโครกจะเลือกใชข้ นาดท่อพีวซี ีกี่นว้ิ ก. 1/2 นว้ิ ข. 2/4 น้ิว ค. 3/8 นิว้ ง. 5/8 นิ้ว 3. นา้ ทคี่ นเราสามารถดมื่ ไดม้ ีคา่ pH เทา่ กับเทา่ ไร ก. pH 7 ข. pH 8 ค. pH 9 ง. pH 11 4. ขนาดของท่อสาหรบั ระบายส่ิงปฏกิ ลู ควรใช้ เส้นผ่านศนู ย์ 1 1/2 ถงึ 2 นิ้ว ก. 1 1/4 น้ิว ข. 1 1/2 น้ิว ค. 1 2/6 นิว้ ง. 1 3/8 น้ิว 5. บอ่ เกรอะควรวางอยู่บนชน้ั ใดใตด้ ิน ก. ช้นั ดิน ข. ชัน้ ทราย ค. ชั้นหนิ ง. ชั้นคอนกรีต 6. การต่อสายนา้ ดีมาทีโ่ ถชักโครก ระยะห่างจะเท่ากบั กม่ี ิลลเิ มตร ก. 200 มลิ ลิเมตร ข. 300 มลิ ลเิ มตร ค. 400 มิลลเิ มตร ง. 600 มลิ ลิเมตร 7. สัญลกั ษณ์ BT ย่อมาจากคาว่าอะไร ก. Bad Tube ข. Bath Tube ค. Baht Turn ง. Bus Turn 8. สญั ลักษณ์ SK ย่อมาจากคาวา่ อะไร ก. Seed ข. Sunk ค. Sink ง. Sang 9. คาวา่ ท่อตรงกับภาษาองั กฤษตามขอ้ ใด ก. Pipe ข. Paper ค. Pupil ง. Pine 10. ท่อใต้อา่ งลา้ งหน้าถึงรูระบายมีความยาวเท่ากับเท่าไร ก. 70 มม. ข. 100 มม.

ค. 110 มม. ง. 135 มม. 11. น้าจากบ่อบาบดั ส่งไหลสู่สาธารณะควรผ่านสง่ิ ใดก่อน ข. บอ่ ตะแกรง ก. บอ่ เกรอะ ง. บ่อทราย ค. บอ่ พกั 12. ท่อที่เขา้ ถังบาบัดมีขนาดกีน่ ว้ิ ข. 2 1/2 น้ิว ก. 2 นวิ้ ง. 4 1/2 นว้ิ ค. 4 นวิ้ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยท่ี 5 การเขียนแบบระบบไฟฟ้า ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ คาส่ัง จงทาเครื่องหมายกากบาท (X) ทับตัวอักษรหน้าคาตอบที่ถกู ทีส่ ุด 1. ระบบไฟฟา้ ภายในอาคารเปน็ ระบบไฟฟ้าแรงตา่ ท่ีมแี รงดันไฟฟา้ ไมเ่ กิน 1,000 โวลต์ ก. ไม่เกนิ 200 โวลต์ ข. ไม่เกิน 300 โวลต์ ค. ไมเ่ กนิ 600 โวลต์ ง. ไม่เกิน 1,000 โวลต์ 2. สง่ิ ใดสาคัญในการเขยี นแบบแปลนระบบไฟฟ้าของอาคารบา้ นพักทอี่ ยู่อาศยั ก. โคมไฟฟ้า ข. สวิทชไ์ ฟฟ้า ค. สัญลักษณไ์ ฟฟ้า ง. รูปขยายไฟฟา้ 3. ระบบไฟฟ้า 1 เฟส สายไฟท่ีมีกระแสไฟใช้สัญลกั ษณ์ตวั อักษรใดในการกาหนด ก. สญั ลักษณ์ L ข. สญั ลักษณ์ N ค. สญั ลักษณ์ W ง. สญั ลกั ษณ์ O 4. ปัจจุบนั สายไฟฟา้ ท่ีใชภ้ ายในบ้านพักอาศัยมี 3 เส้น เส้นทเ่ี พม่ิ คือ อะไร ก. สายเมน ข. สายรอง ค. สายดนิ ง. สายฟ้า 5. ระบบไฟฟา้ 3 เฟส จะมีสายไฟ 4 เสน้ จะมแี รงดันกระแสไฟฟา้ ก่ีโวลต์ ก. 220 โวลต์ ข. 380 โวลต์ ค. 420 โวลต์ ง. 480 โวลต์ 6. ไฟฟ้าท่ีมาจากแหลง่ จา่ ยไฟก่อนต่อเขา้ บ้านจะผ่านอุปกรณ์ใด ก. สวิทช์ ข. คดั เอา้ ว์ ค. กล่องจา่ ยไฟ ง. มิเตอร์ 7. แท่งหลกั ดนิ มีขนาดเส้นผา่ ศูนย์กลางก่ีมิลลเิ มตร ก. 10 มลิ ลเิ มตร ข. 16 มิลลิเมตร ค. 18 มลิ ลเิ มตร ง. 22 มลิ ลเิ มตร 8. ปัจจัยที่ทาใหส้ ายไฟมีความต้านทานไฟดีข้ึนจะขน้ึ กับส่งิ ใด ก. ใสฉ่ นวนหนา ข. ลวดทองเหลอื ง ค. อณุ หภมู ิ ง. อยู่ใต้หลังคา 9. เต้ารบั หมายถึง อุปกรณ์ไฟฟา้ ใด ก. ทต่ี อ่ วงจรไฟ ข. ทีร่ ับไฟ ค. ท่ีดึงไฟ ง. ทจี่ ่ายไฟ

10. สาย VAF เปน็ สายไฟเด่ียว สามารถทนความร้อนได้ก่ีโวลต์ ข. ได้ 200 โวลต์ ก. ได้ 150 โวลต์ ง. ได้ 300 โวลต์ ค. ได้ 250 โวลต์ ข. 2. 0 เมตร 11. แท่งหลักดินท่ีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านมขี นาดความยาวก่ีเมตร ง. 3.0 เมตร ก. 1.4 เมตร ค. 2.4 เมตร ข. มอก. 12-2532 ง. มอก. 12-2535 12. สายไฟฟ้าตอ้ งมีมาตรฐานอตุ สาหกรรม มอก. ตามข้อใด ก. มอก. 11-2531 ข. 10 มิลลิเมตร ค. มอก. 11-2533 ง. 15 มลิ ลิเมตร 13. ท่อโลหะบางทรี่ ้อยสายไฟมขี นาดเส้นผา่ ศูนย์กลางก่ีมลิ ลเิ มตร ก. 8 มลิ ลเิ มตร ค. 12 มิลลิเมตร 14. ทอ่ พวี ีซีมีขนาดความยาวกีเ่ มตรต่อหนึง่ ท่อน ข. 3 เมตร ก. 2 เมตร ง. 4 เมตร ค. 3.5 เมตร เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยที่ 5 การเขยี นแบบระบบไฟฟา้ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. ผังไฟฟ้า คอื ผงั ที่แสดงการตดิ ต้งั หลอดไฟฟ้า หรือ โคมไฟฟา้ และสวทิ ช์ไฟฟ้า 2. ระบบไฟฟา้ ภายในอาคารเปน็ ระบบ ไฟฟ้าแรงต่า ทม่ี แี รงดนั ไฟฟา้ ไม่เกนิ 1,000 โวลต์ 3. บ้านทีต่ ดิ ต้ังระบบไฟฟา้ 15amp คือ สามารถตดิ ต้ังเคร่ืองปรบั อากาศได้ 3 เคร่อื ง กับ เครอ่ื งทา นา้ อุ่น 1 เคร่ือง 4. ระบบไฟฟา้ 3 เฟส จะมีสายไฟ 4 เส้น เหมาะกบั อาคารพาณิชยท์ ี่เป็นทง้ั ที่พักอาศยั และโรงงาน ขนาดเล็ก 5. แปลนระบบไฟฟา้ อาคารทพี่ กั อาศยั จะประกอบดว้ ย สายไฟ เต้ารบั สวทิ ช์ และโคมไฟฟ้า 6. สายไฟฟา้ คอื เป็นวัสดทุ ่ีห่อหุ้มลวดทองแดงทเ่ี ปน็ สือ่ นาไฟฟา้ จากแหลง่ จา่ ยไฟไปยังบริภณั ฑไ์ ฟฟา้ ตา่ ง ๆ 7. สาย VAF คือ เปน็ สายไฟเด่ียว สามารถทนความร้อนได้ 300 โวลต์ ใช้เปน็ สายเดินเข้าอาคาร บา้ นพักอาศัยระบบ 1 เฟส การเดนิ สายเดนิ สายลอย แต่ห้ามรอ้ ยท่อและฝังดนิ 8. ทอ่ โลหะ คือ ท่อท่ีทาจากวัสดุท่เี ป็นใยหนิ หรอื ซเี มนต์ ความแข็งแรงน้อยกวา่ ทอ่ โลหะชนดิ อ่ืน มี 2 ชนดิ คอื ท่อโลหะบาง และท่อโลหะหนา 9. สวทิ ช์ไฟฟา้ แบ่งเป็น 2 ชนดิ คอื สวทิ ชท์ างเดยี ว และสวิทชส์ ามทาง 10. เต้ารับ คือ เปน็ ตัวสาหรบั ต่อวงจรไฟฟ้า เพื่อใหก้ ระแสไฟฟ้าไหลผ่านเขา้ อปุ กรณ์ไฟฟ้า มรี ูสาหรบั เสียบ 2 รู ปัจจบุ ันมี 3 รู คอื เพม่ิ รูสาหรบั สายดินอีกหนงึ่ รู เพ่อื ป้องกนั กระแสไฟฟ้าร่ัวจากอปุ กรณ์ ไฟฟา้

เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยท่ี 5 การเขียนแบบระบบไฟฟา้ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ คาส่งั จงทาเครื่องหมายกากบาท (X) ทับตวั อกั ษรหนา้ คาตอบที่ถกู ท่สี ุด 1. ระบบไฟฟ้า 1 เฟส มสี ายไฟ 2 เสน้ คอื ขอ้ ใด ก. สาย H, E ข. สาย P, O ค. สาย L, N ง. สาย W, N 2. กระแสไฟท่ีมแี รงดนั 220 โวลต์ กบั 15 amp. สามารถติดตงั้ แอร์ได้จานวนกเี่ ครื่อง ก. ได้ 1 เครอื่ ง ข. ได้ 2 เคร่อื ง ค. ได้ 3 เคร่ือง ง. ได้ 4 เคร่ือง 3. สายไฟฟ้าท่มี สี ัญลกั ษณ์ N คอื สายอะไร ก. สายมีไฟฟ้า ข. สายไมม่ ีไฟฟา้ ค. สายเปลา่ ง. สายไว้ต่อหลอดไฟ 4. มเิ ตอรไ์ ฟฟ้าหน้าบา้ น เลขเครอื่ งมิเตอร์ไฟฟ้าที่การไฟฟา้ ใช้ คือ ตัวอกั ษรใด ก. WEA ข. MEA ค. TEA ง. UEA 5. สายไฟทเี่ ป็นสายออ่ นมลี กั ษณะอยา่ งไร ก. สามารถต่อไดไ้ กล ข. ต่อได้ไม่ไกล ค. งอไมไ่ ด้ ง. สามารถงอได้ 6. สวิทชส์ ามทางใชก้ บั สว่ นใดของบ้านพักอาศยั ก. บันได ข. ห้องนอน ค. ห้องครวั ง. ช้ันลอย 7. ปัจจบุ ันหลอดไฟอะไรมีอายุการใชง้ านนานกว่าแลประหยดั กว่า ก. หลอดไส้ ข. หลอด LED ค. หลอดเกลียว ง. หลอด Fluorescent 8. สาย THW เปน็ สายทท่ี นแรงดันได้ 750 โวลต์ ก. 210 โวลต์ ข. 480 โวลต์ ค. 640 โวลต์ ง. 750 โวลต์ 9. สัญลักษณเ์ ครื่องหมายเสน้ สองเส้นตามแนวนอน คือ สญั ลักษณ์อะไร ก. กระแสไฟฟ้าตรง ข. กระแสไฟฟ้าสลับ ค. กระแสไฟฟา้ แรงต่า ง. กระแสไฟฟา้ แรงสงู 10. แหล่งจา่ ยกระแสไฟฟ้า ตรงกบั ภาษาอังกฤษ คือ ข้อใด ก. Road ข. Load ค. Rider ง. Lower 11. คาวา่ Feeder มีความหมายว่าอย่างไร ก. การดึงไฟ ข. การรับไฟ ค. การป้อนไฟ ง. การตอ่ ไฟ 12. บ้านพกั อาศยั ควรใชไ้ ฟก่ีเฟสจงึ เหมาะสม ก. 1 เฟส ข. 2 เฟส ค. 3 เฟส ง. 4 เฟส