Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือกฎหมายไฟนอล_compressed

หนังสือกฎหมายไฟนอล_compressed

Published by Threechada Loakaewnoo, 2021-12-01 16:29:19

Description: หนังสือกฎหมายไฟนอล_compressed

Search

Read the Text Version

กฎหมายน่ารู้ สำหรับการคุมครอง ทรัพยสินทางปญญา สินคาภูมิปญญาทองถิ่นไทย จดั ทำโดย สำนักสง เสริมภูมปิ ญ ญาทอ งถ่นิ และวิสาหกจิ ชมุ ชน กรมการพฒั นาชมุ ชน กระทรวงมหาดไทย โครงการ พฒั นาศกั ยภาพผลิตภณั ฑ OTOP ดานกฎหมายการคุมครองสนิ คาภูมิปญ ญาทอ งถิ่นไทย

คาํ นาํ ปจ� จบุ ันผลิตภณั ฑ์ OTOP เปน� หนึง� ในธรุ กจิ ที�ประสบความสําเร็จอย่างแพร่หลาย จากการศึกษาวิเคราะห์ พบว่าภาพลักษณ์ที�โดดเด่นของสินค้า OTOP ที�ผู้บริโภคนึกถึงมากท�ีสุด ได้แก่ การเป�นของดีประจําพ�ื นถิ�น เป�นสินค้าจากภูมิป�ญญาโดยชุมชน ที�ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ และเป�นสินค้าท�ีสะท้อนความมั�งคั�ง ทางวัฒนธรรมของชาติไทยท�ีแตกต่างกันในแต่ละพ�ื นถิ�น โดยประกอบกับประเทศไทยมีจุดแข็งในการ เป�นศูนย์กลางการท่องเที�ยวท�ีสําคัญแห่งหน�ึงในเอเชียที�มีความโดดเด่นด้านวัฒนธรรม ทําให้อัตราการเติบโต ของนักท่องเที�ยวจากต่างประเทศมาสู่ไทยสูงขึ�น ส่งผลให้การรู้จักและเลือกซื�อสินค้าเชิงสัญลักษณ์หรือ สินคา้ เอกลกั ษณ์ รวมถึงสนิ คา้ ภูมปิ ญ� ญาทอ้ งถิ�นของไทยเติบโตอยา่ งตอ่ เนอื� ง นอกจากป�จจัยด้านการตลาดแล้ว หากต้องการยกระดับมาตรฐานและเพิ� มมูลค่าให้สินค้า OTOP ไทย ซ�ึงเป�นสินค้าที�มีเอกลักษณ์เฉพาะพื�นถ�ิน ผู้ผลิต ผู้ประกอบการยังจําเป�นต้องศึกษาด้านกฎหมายหรือข้อบังคับ ว่าวัตถุดิบท�ีนํามาผลิตไม่ก่อเกิดอันตรายต่อผู้บริโภค ต่อชุมชน ต่อส�ิงแวดล้อม หรือการจดทะเบียน ภาษีมูลค่าเพ�ิ มสําหรับผู้ที�มีรายได้จากการขายสินค้าเกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อป� เหล่านี�ล้วนมีความสําคัญ เพราะปจ� จุบนั ในโลกออนไลน์ นอกจากเปน� ช่องทางการจาํ หน่ายการตลาดที�ดีแล้ว ยงั เปน� สิ�งท�ที าํ ใหก้ ลุ่มลูกค้าหรือ ผู้บริโภคเห็นรายละเอียดของสินค้า และเกิดการแพร่กระจายสู่สายตาผู้บริโภคท�ัวโลก บางสินค้าไม่ได้มาตรฐาน ทําให้เกิดการร้องเรียนและฟ�องร้อง ซึ�งรวมถึงเกิดการลอกเลียนแบบ กันจากภายในประเทศเองและ จากต่างประเทศ ธรุ กจิ ก่อเกดิ ความเสยี หาย เพื�อให้ผลิตภัณฑ์ภูมิป�ญญาท้องถิ�นไทยสามารถเติบโตอย่างมีคุณภาพ สามารถแข่งขันทางการตลาด ได้อย่างยั�งยืน กรมการพั ฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จึงได้จัดทําโครงการพั ฒนาศักยภาพผลิตภัณฑ์ OTOP ด้านกฎหมายการคุ้มครองสินค้าภูมิป�ญญาท้องถ�ินไทยขึ�น เพื�อส่งเสริมให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ได้รับองค์ความรู้ เกิดความเข้าใจด้านกฎหมายที�เก�ียวข้องกับการคุ้มครองสินค้าภูมิป�ญญาท้องถ�นิ ไทย สามารถ ต่อรองและรักษาผลประโยชน์ให้ธุรกิจได้ อีกท�ังเพื� อเพ�ิ มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับผู้ผลิต ผปู้ ระกอบการ ในการตอ่ รองและดาํ รงไว้ซง�ึ ความเป�นเจ้าของภมู ิป�ญญาของชมุ ชนของประเทศไทยสืบไป ขอขอบคุณ คณะทํางานและผู้มีส่วนเก�ียวข้องทุกท่าน ที�ร่วมกันจัดทําหนังสือรวบรวมองค์ความรู้น�ี ซ�ึงจะเป�นประโยชน์อย่างย�ิงในการดาํ เนินธุรกจิ ต่อผผู้ ลติ ผูป้ ระกอบการ OTOP กรมการพัฒนาชมุ ชน พฤศจกิ ายน 2564 ก

บทนาํ จากภาพรวมเป�าหมายการพั ฒนาประเทศ “ประเทศชาติมั�นคง ประชาชนมีความสุข เศรษฐกิจพั ฒนา อย่างต่อเน�ือง สังคมเป�นธรรม ฐานทรัพยากรธรรมชาติยั�งยืน” โดยยกระดับศักยภาพของประเทศใน หลากหลายมิติ พั ฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป�นคนดี เก่ง แ ล ะ มี คุ ณ ภ า พ ส ร้ า ง โ อ ก า ส แ ล ะ ค ว า ม เ ส ม อ ภ า ค ท า ง สั ง ค ม สร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตท�ีเป�นมิตรกับสิ�งแวดล้อม และมี ภาครัฐของประชาชนเพ�ื อประชาชนและประโยชน์ส่วนรวม ภายใต้ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ป� (2560 - 2579) มีกรอบแนวคิดด้านการสร้าง ความสามารถในการแข่งขันที�มุ่งเน้น การพั ฒนาภาคการผลิตและ บรกิ ารใหส้ ามารถแขง่ ขนั ได้ ประชาชนมคี ณุ ภาพชีวิตและมีรายได้ที�ดีขึ�น รัฐบาลมีนโยบายที�สอดคล้องในการลดความเหล�ือมลํ�าของ สังคม และการสรา้ งโอกาสเข้าถึงบริการของรัฐ มงุ่ เนน้ การสรา้ งอาชีพ และการมีรายได้ที�มั�นคงโดยการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ�น ให้เกิดความ เข้มแข็งโดยการใช้มูลคา่ และความคมุ้ คา่ อัตลักษณข์ องท้องถิ�น เนน้ การ เตรียมคนและสังคมเชิงรุก โดยระดมกําลังจากประชากรทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย และจากภาคส่วนต่างๆ ในทุก ระดับ ไม่ว่าจะเป�นภาครัฐ ภาคเอกชน ครอบครัว ชุมชน ท้องถิ�น ร่วมเป�นพลังในการขับเคล�ือนการพัฒนาสังคม อีกทั�ง พันธกิจกระทรวงมหาดไทยเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนและเศรษฐกิจฐานรากโดยการมีส่วนร่วม ของทุกภาคส่วนภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพี ยง เป�นพี� เลี�ยงและให้คําปรึกษาแนะนํา โดยกรมการ พัฒนาชมุ ชนขับเคล�ือนการดําเนนิ งาน ในการสง่ เสริมให้ชุมชนนําภูมิป�ญญาท้องถิน� มาต่อยอดแปรรูปพัฒนาและ ผลิตเป�นสินค้า เป�นผลิตภัณฑ์ สร้างอาชีพสร้างรายได้กลับคืนสู่ชุมชน โดยส่งเสริมการวิเคราะห์ วิจัย พั ฒนา และสร้างองค์ความรู้เพ�ื อใช้ในงานพั ฒนาชุมชน การจัดทํายุทธศาสตร์ชุมชน รวมทั�งการฝ�กอบรมและพั ฒนา ขา้ ราชการ เจ้าหน้าท�ที �เี ก�ยี วขอ้ ง ผู้นําชมุ ชน และเครอื ข่ายใหม้ ีความรู้ ทกั ษะ ทัศนคติ และสมรรถนะ ในการทาํ งาน ประกอบกับป�จจุบันสินค้า OTOP มีช่องทางการจําหน่ายท�ีหลากหลาย ทําให้สินค้าภูมิป�ญญาท�ีเกิดจาก ชุมชนเผยแพร่ไปท�ัวโลก เกิดการเลียนแบบท�ังภายในประเทศและนอกประเทศ เน�ืองจาก OTOP เป�นสินค้าหรือ บริการที�มีความเป�นนวัตกรรมน้อย ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากการลอกเลียนแบบกันง่าย เนื�องจากผลิตภัณฑ์ส่วน ใหญ่มักจะเป�น “มรดก”เก่าแก่ด�ังเดิมของท้องถิ�นที�เอามาปรับประยุกต์บ้างเล็กน้อย เพราะจะเกิดนวัตกรรมได้ ก็ต่อเม�ือมี “การเรียนรู้” ไม่ใช่“การเลียนแบบ” จึงก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทย ท�ีไม่สามารถแข่งขันกับภาคธุรกิจขนาดใหญ่ซึ�งมีโรงงานสามารถผลิตสินค้าจํานวนมาก ด้วยระยะเวลาอันรวดเรว็ และจําหน่ายได้ในราคาถูกกว่า กรมการพั ฒนาชุมชน จึงได้จัดทําโครงการพั ฒนาศักยภาพผลิตภัณฑ์ OTOP ด้านกฎหมายการคุ้มครองสินคา้ ภูมิป�ญญาท้องถ�ินไทยขึ�น เพ�ือให้ชุมชนเกิดองค์ความรดู้ ้านกฎหมายและสามารถ บังคับใช้กฎหมายท�ีเก�ียวข้องกับการเป�นผู้ประกอบการได้ จนนําไปสู่การพัฒนาธุรกิจท�ีถูกต้องตามกระบวนการ ของกฎหมาย ข

สารบัญ หน้า เร่ือง ก ข คํานํา ค บทนํา 1 สารบัญ 5 1. ครบเครื่องเร่ืองการจดทะเบียนพาณิชย์สําหรับผู้ประกอบการ OTOP 8 2. ภาษีน่ารู้กับวิสาหกิจชุมชน 12 3. การเตรียมคําขอจดสิทธิบัตรที่ผู้ประกอบการต้องรู้ 15 4. เปิดกฎหมายน่ารู้เรื่องเคร่ืองหมายการค้าTrademark 18 5. เจาะประเด็นกฎหมายแรงงานท่ีผู้ประกอบการควรรู้ 22 6. เจาะประเด็นติดปีกให้ธุรกิจยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน 28 7. เจาะประเด็นกฎหมายกับการประกอบธุรกิจออนไลน์...เร่ืองง่าย ๆ ท่ีไม่ควรละเลย 30 8. สิ่งที่ต้องรู้ก่อนนําสินค้าเข้าหรือออกนอกประเทศ 34 9. บัญชีเร่ืองง่าย เร่ืองน่ารู้สําหรับบัญชีของผู้ประกอบการ OTOP และวิสาหกิจชุมชน 37 10. ข้อต้องรู้!! เตรียมความพร้อมผู้ประกอบการจดทะเบียนโรงงาน 40 11. กฎหมายประกันสังคมนายจ้างควรรู้ลูกจ้างควรทราบ 43 12. กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค 13. เทคนิคการขออนุญาตจากองค์กรอาหารและยา (อย.) ค

01 ครบเครอื่ ง เรอื่ งการจดทะเบียนพาณชิ ย์ สาํ หรบั ผปู้ ระกอบการ OTOP 1

01 ครบเคร่ือง เรือ่ งการจดทะเบยี นพาณิชย์ สาํ หรบั ผู้ประกอบการ OTOP การจดทะเบยี นพาณชิ ย์ คือ อะไร? การจดทะเบียนพาณชิ ยธ์ รรมดา การจดทะเบียนพาณชิ ย์ คอื การจดทะเบยี นกับ การจดทะเบียนพาณิชยอ์ เิ ล็กทรอนิกส์ กรมพั ฒนาธุรกิจการค้าตามพระราชบัญญัติ ทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. 2549 ทร่ี ะบุไว้อย่าง (สําหรับธุรกิจท่สี ามารถชําระเงินผ่านระบบออนไลนไ์ ดท้ ัง้ ผ่านเวบ็ ไซตแ์ ละแอปพลเิ คชนั ) ชดั เจนวา่ ผู้ประกอบการทด่ี ําเนินธุรกิจไม่ว่าจะ ในรูปแบบใดของบุคคลธรรมดา หรอื นติ บิ คุ คล หมายเหตุ : จะตอ้ งมีการจดทะเบียนพาณชิ ย์ เพ่ือเปน็ การ 1. กรณที ีข่ ายของออนไลนผ์ ่านช่องทางโซเซียลมเี ดียทีไ่ ม่สามารถชําระเงินผ่าน ยนื ยนั วา่ ธรุ กจิ ของคณุ เปน็ ธรุ กจิ ทถี่ กู ตอ้ งตาม แพลตฟอรม์ น้นั ๆ ได้ สามารถจดทะเบียนพาณชิ ย์แบบธรรมดาและยืนภาษีไดต้ ามปกติ กฎหมาย รวมถึงสามารถสรา้ งความน่าเช่อื ให้ 2. หากตอ้ งการจดทะเบียนพาณิชยอ์ เิ ล็กทรอนกิ ส์จะตอ้ งยนื่ เอกสารเพ่ิ มเตมิ คือ กบั กจิ การหรอื ธรุ กจิ และสรา้ งสรา้ งความเชอ่ื มนั่ รายละเอียดเกยี่ วกับเวบ็ ไซต์ (เอกสารแนบ แบบ ทพ.) และเอกสารจดโดเมนเนม ใหก้ ับลกู คา้ ไดอ้ ีกด้วย ปจั จบุ นั ทแี่ สดงว่าคุณเปน็ เจ้าของโดเมนเนม การจดทะเบยี นพาณชิ ย์ มี 2 รปู แบบ คอื 1. บคุ คลธรรมดา 2.ห้างห้นุ ส่วนสามัญ ตวั อย่างเช่น - โรงสีข้าว และโรงเลอื่ ยทใี่ ชเ้ ครอื่ งจกั ร หรอื ห้างหนุ้ สว่ นสามญั พาณิชยกจิ 5. วิสาหกิจชมุ ชุน - กจิ การขายสินคา้ เจา้ ของกิจการหตั ถกรรมหรือ นิติบคุ คล แบบไหนทต่ี อ้ ง อุตสาหกรรม ทีส่ ามารถผลิตและขายสินค้าไดเ้ ป็นเงิน จดทะเบียนพาณชิ ย์ 20 บาท/วนั หรือมสี ตอ๊ กสินค้าทมี่ ีมูลค่าต้งั แต่ หา้ งห้นุ ส่วนจํากัด 500 บาทขนึ้ ไป - กจิ การขนสง่ ทางทะเล การขนสง่ ทางรถไฟ การขนส่งทาง 3. นติ ิบุคคลตา่ งประเทศมา รถยนต์ประจาํ ทาง การขายทอดตลาด การรับซอื้ ขายทีด่ ิน การให้กยู้ มื เงนิ การรับแลกเปลยี่ นหรือซอื้ ขายเงินตราตา่ ง ประเทศ การซือ้ ขายต๋ัวเงนิ การธนาคาร โรงรบั จํานาํ และการ ทําโรงแรม - กจิ การทขี่ าย ให้เชา่ ผลติ หรอื รับจา้ งผลติ แผน่ ซดี ี แถบบันทกึ วีดที ศั น์ แผ่นวดี ีทศั น์ ดีวีดี หรอื แผ่นระบบดจิ ิทัล เฉพาะทเี่ กีย่ วกับการบนั เทิง เปดิ สานักงานสาขาใน 4. บรษิ ัทจํากัด บริษทั มหาชนจํากดั ประเทศไทย พาณิชยกจิ ท่ไี ดร้ ับการยกเวน้ ไม่ต้องจดทะเบยี นพาณิชย์ ได้แก่ 1 การค้าเร่ การคา้ แผงลอย 4 พาณิชยกิจของกระทรวง ทบวง กรม 2 พาณิชยกิจเพ่ื อการบํารุงศาสนา 5 พาณิชยกิจของมลู นธิ ิ สมาคม สหกรณ์ หรอื เพ่ื อการกุศล 6 พาณิชยกิจของกลุ่มเกษตรกร ท่ไี ด้ 3 พาณิชยกจิ ของนิตบิ คุ คลซง่ึ ได้มีพระราชบัญญัติ จดทะเบียนตาม ปว.141 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2515 หรอื พระราชกฤษฎกี าจดั ตง้ั ขนึ้ 2

ระยะเวลาการจดทะเบียนพาณชิ ย์ 02 การเปลยี่ นแปลงรายการจดทะเบยี น ตอ้ งจดทะเบยี นภายใน 30 วัน 01 จดทะเบยี นพาณิชย์ต้ังใหม่ นบั แต่วันทมี่ กี ารเปลยี่ นแปลง ตอ้ งจดทะเบียนภายใน 30 วัน ตามรายการเปลยี่ นแปลง ดงั นี้ นบั แต่วันเร่มิ ประกอบพาณชิ ยกิจ 2.1 เปลย่ี นชือ่ ทใ่ี ช้ในการประกอบพาณิชยกิจ 03 เลกิ ประกอบพาณิชยกจิ 2.2 เลิกประกอบพาณชิ ยกิจบางส่วน หรือเพ่ิมใหม่ ต้องจดทะเบยี นภายใน 30 วนั 2.3 เพ่ิมหรอื ลดเงินทุน นับแตว่ ันทเี่ ลิกประกอบพาณชิ ยกจิ 2.4 ย้ายสํานกั งานใหญ่ 2.5 เปลี่ยนผู้จดั การ 04 ใบทะเบียนพาณชิ ยส์ ญู หาย 2.6 เจา้ ของหรือผจู้ ัดการเปลย่ี นทีอ่ ยู่ ต้องยืน่ ขอใบแทนภายใน 30 วนั 2.7 ยา้ ย เลิก หรอื เพ่ิมสาขา โรงเกบ็ สนิ คา้ หรือ นบั แตว่ ันสูญหาย ตวั แทนค้าต่าง 2.8 แกไ้ ขเพ่ิมเตมิ ผเู้ ปน็ หุน้ สว่ น (หุน้ ส่วนเข้า/ออก) เงินลงหนุ้ จาํ นวนเงินลงทุนของห้าง 2.9 จาํ นวนเงินทนุ จํานวนหนุ้ และมูลค่าหนุ้ ของบริษทั จาํ กดั จํานวนและมลู ค่าหุ้น ทีบ่ คุ คลแต่ละสญั ชาติถืออยู่ 2.10 รายการอื่นๆ เชน่ แกไ้ ขชื่อเว็บไซต์ ช่ืออักษรโรมัน ฯลฯ หน้าท่ีของผปู้ ระกอบพาณิชยกิจ ต้องขอจดทะเบียน ต้องแสดง จดั ใหม้ ปี า้ ยชอื่ ทใี่ ชใ้ นการประกอบ ตอ้ งยน่ื คาํ ขอใบแทน ต้องไปให้ข้อเทจ็ จรงิ ต้องอํานวย ตอ่ นายทะเบยี น ใบทะเบยี นพาณชิ ย์ พาณิชยกจิ ไวห้ น้าสํานักงาน ใบทะเบยี นพาณชิ ย์ เกี่ยวกับรายการ ความสะดวกแกน่ าย ภายใน 30 วัน นบั แต่วันท่ี หรือใบแทน แหง่ ใหญ่และสาํ นกั งานสาขาโดย ภายใน 30 วนั จดทะเบยี นตามคาํ สง่ั ทะเบยี นและ เริม่ ประกอบ ใบทะเบียนพาณชิ ย์ เปดิ เผยภายในเวลา 30 วัน นับแต่วนั ท่สี ญู หาย ของนายทะเบยี น พนกั งานเจ้าหน้าที่ เปล่ยี นแปลง ไว้ ณ สาํ นกั งาน ซง่ึ เข้าทําการตรวจ หรือ เลกิ กจิ การ นบั แตว่ ันทจี่ ดทะเบียนพาณิชย์ หรอื ชํารุด สอบในสาํ นักงาน ในทเ่ี ปดิ เผย ปา้ ยชือ่ ใหเ้ ขยี นเป็นอักษรไทย และเหน็ ไดง้ ่าย ของผู้ประกอบ อา่ นง่ายและชดั เจน กิจการ จะมีอักษรต่างประเทศในปา้ ยชอื่ ด้วยก็ได้ และจะต้องตรงกบั ชอื่ ทีจ่ ดทะเบียนไว้ หากเป็นสํานักงานสาขา จะตอ้ งมคี ําวา่ \"สาขา\" ไวด้ ้วย บทกาํ หนดโทษ ประกอบพาณิชยกิจโดยไม่จดทะเบียน แสดงรายการเท็จ ไม่ยอมให้ถ้อยคํา ไม่ยอมให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีเข้า ไปตรวจสอบในสํานักงาน มีความผิดต้องระวางโทษ ปรับไม่เกิน 2,000 บาท กรณีไม่จดทะเบียนอันเป็นความผิด ต่อเน่ืองปรับอีก วันละไม่เกิน 100 บาท จนกว่าจะได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ ถ้าใบทะเบียนพาณิชย์สูญหายไม่ย่ืนคําร้องขอใบรับแทน หรือไม่แสดงใบทะเบียนพาณิชย์ ไว้ที่สํานักงาน ที่เห็นได้ง่าย ไม่จัดทําป้ายช่ือ มีความผิดปรับไม่เกิน 200 บาท และถ้าเป็นความผิดต่อเนื่อง ปรับอีกวันละไม่เกิน 20 บาท จนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง ผู้ประกอบพาณิชยกิจซึ่งกระทําการฉ้อโกงประชาชน ปนสินค้าโดยเจตนาทุจริตปลอมสินค้า หรือกระทําการทุจริตอ่ืนใดอย่างร้ายแรงในการประกอบกิจการจะถูกถอนใบทะเบียนพาณิชย์ เม่ือถูกส่ังถอนใบทะเบียน พาณิชย์แล้วจะประกอบกิจการต่อไปไม่ได้ เว้นแต่รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงพาณิชย์จะส่ังให้รับจดทะเบียนพาณิชย์ใหม่ ผู้ประกอบพาณิชยกิจท่ีถูกสั่งถอนใบทะเบียนพาณิชย์แล้ว ยังฝ่าฝืน ประกอบพาณิชยกิจต่อไป มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกินหน่ึงหม่ืนบาท หรือจําคุกไม่เกินหน่ึงปีหรือทั้งปรับท้ังจํา 3

ค่าธรรมเนยี มการจดทะเบยี นพาณิชย์ การขอดําเนินการตาม พ.ร.บ. ทะเบียนพาณชิ ย์ฯ จะตอ้ งเสียค่าธรรมเนยี มตามประเภทของการดาํ เนนิ การดงั ตอ่ ไปน้ี 1. จดทะเบยี นพาณชิ ยต์ ้ังใหม่ 50บาท 4. ขอใหอ้ อกใบแทนใบทะเบียนพาณิชย์ 30บาท 20บาท 2. จดทะเบียนเปลยี่ นแปลง 20บาท 5. ขอตรวจเอกสารของผูป้ ระกอบพาณิชยกิจรายหนงึ่ 20บาท รายการจดทะเบียน 6. ขอให้เจ้าหน้าทคี่ ัดสําเนาและรบั รอง 30บาท 3. จดทะเบยี นเปลีย่ นแปลง สาํ เนาเอกสารของผูป้ ระกอบพาณชิ ยกจิ รายการจดทะเบยี น (หนงึ่ คาํ ขอ คิดเป็น หนึง่ ฉบับ) สถานทีจ่ ดทะเบียน 2. ในภูมิภาค ยนื่ จดทะเบียนไดท้ ี่ 1. ในเขตกรุงเทพมหานคร ยืน่ จดทะเบียนพาณิชยไ์ ดท้ ี่ เทศบาล องค์การบริหารสว่ นตําบล หรอื เมืองพั ทยา รบั จดทะเบียนพาณชิ ย์ ของผูป้ ระกอบพาณชิ ยกจิ ทมี่ ี สาํ นกั งานเศรษฐกิจการคลัง สาํ นกั การคลงั สํานักงานแห่งใหญ่ต้ังอย่ใู นท้องทเี่ ทศบาล กรุงเทพมหานคร รับจดทะเบยี นพาณิชยกิจ องค์การบริหารส่วนตําบล หรือเมอื งพั ทยา แล้วแตก่ รณี ของผู้ประกอบพาณชิ ยกิจ ทีม่ ีสํานักงานแห่งใหญ่ สอบถามรายละเอยี ดเพ่ิ มเตมิ ได้ที่ ต้งั อยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร ส่วนกํากับดูแลการจดทะเบียนพาณชิ ย์และภูมภิ าค โทร. 0-2224-1916, 0-2225-1945 กองทะเบียนบริษทั มหาชนและธุรกจิ พิ เศษ กรมพั ฒนาธรุ กิจการค้า โทร. 0-2547-4446-7 ฝ่ายปกครอง สํานกั งานเขตทุกแหง่ และสาํ นกั งานพาณิชยจ์ ังหวัดทุกจังหวัด รบั จดทะเบียนพาณิชยกิจของผู้ประกอบพาณิชยกิจ ทมี่ ีสาํ นักงานแหง่ ใหญ่ ต้งั อยู่ในท้องทขี่ องเขตน้ัน เอกสารท่ใี ชใ้ นการจดทะเบยี นพาณชิ ย์ สามารถ Download แบบพิมพ์ไปใช้ในการจดทะเบียนไดท้ ี่ www.dbd.go.th /ดาวน์แบบฟอรม์ /ทะเบยี นพาณชิ ย์ หรอื https://dbdregcom.dbd.go.th/mainsite หรอื ขอรบั แบบพิมพ์ได้ทีส่ ํานักงานเศรษฐกจิ การคลงั กรุงเทพมหานคร , สาํ นักงานเขตทกุ เขตเทศบาล องคก์ ารบริหารส่วนตําบล และเมอื งพัทยา แหล่งข้อมูล : กรมพัฒนาธุรกิจการค้า https://www.dbd.go.th 4

02 ภาษีน่ารู้ กบั วิสาหกจิ ชุมชน 5

02 ภาษนี า่ รู้ กบั วสิ าหกิจชุมชน ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง วิ ส า ห กิ จ ชุ ม ช น ภาษีเงินได้ อากรแสตมป์ บคุ คลธรรมดา วสิ าหกิจชุมชน หมายถึง กจิ การของชมุ ชนทีม่ ีการ ผลติ สนิ คา้ การใหบ้ รกิ ารหรอื การอ่นื ๆซ่งึ ดาํ เนนิ การ ภาษีเงนิ ได้ ภาษธี ุรกิจเฉพาะ โดยคณะบคุ คลทม่ี คี วามผกู พันมวี ถิ ชี วี ติ รว่ มกนั และ นิตบิ คุ คล ภาษีมูลค่าเพ่ิ ม รวมตวั กนั ประกอบกจิ การเพ่ือสรา้ งรายไดแ้ ละพ่ึงพา ตนเองของครอบครวั ชมุ ชนและระหวา่ งชมุ ชนโดยมี ภาษสี รรพากรทีเ่ กย่ี วข้องกับวสิ าหกจิ ชุมชน กฎหมายท่ีเกย่ี วข้องกับวิสาหกจิ ชุมชน คือ พระราช บญั ญัตสิ ่งเสรมิ วิสาหกิจชมุ ชน พ.ศ.2548 มีผล 2 ภาษเี งินไดน้ ิตบิ คุ คล บงั คบั ใช้ต้ังแต่วนั ท่ี 19 มกราคม 2548 วิสาหกจิ ชุมชนทป่ี ระกอบกิจการในรูปแบบของบริษัทหรือ เลขประจาํ ตัวผ้เู สยี ภาษอี ากรของวิสาหกิจชมุ ชน หา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลมหี นา้ ท่เี สียภาษเี งินได้นติ ิบคุ คลจากฐานกําไรสุทธิ วสิ าหกิจชมุ ชนทย่ี งั ไม่มเี ลขประจาํ ตวั ผ้เู สียภาษีอากร จะต้องดาํ เนินการขอเลขประจาํ ตัวผู้เสียภาษีอากรดังนี้ ภาษเี งนิ ไดน้ ติ บิ คุ คล = กําไรสุทธิ (ทางภาษ)ี x อัตราภาษีเงนิ ไดน้ ิติบคุ คลบญั ชีทีต่ อ้ งจัดทาํ : บัญชีงบดลุ บัญชีทาํ การ บัญชงี บกาํ ไรขาดทนุ โดยมผี ูส้ อบบญั ชรี บั อนญุ าต (CPA) • วิสาหกิจชุมชนท่ปี ระกอบการในรปู แบบของหา้ งหนุ้ ส่วน หรือผู้สอบบญั ชภี าษอี ากร (TA) ตรวจสอบและรับรองบญั ชี (แลว้ แต่กรณี) สามัญหรือคณะบุคคลท่มี ิใช่นิตบิ ุคคลจะตอ้ งขอมเี ลขประจําตัว ผเู้ สียภาษอี ากร ไดท้ ี่สํานักงานสรรพกรพ้ืนที่สาขาท่วี ิสาหกิจชมุ ชน มีภูมิลําเนาอยู่ภายใน 60 วัน นบั แตว่ ันทีม่ ีเงนิ ไดพ้ ึงประเมิน • วิสาหกจิ ชมุ ชนท่ปี ระกอบการในรปู แบบของหา้ งหุ้นส่วนสามญั • การยืน่ แบบแสดงรายการภาษี นติ ิบคุ คล ห้างหุ้นส่วนจาํ กัด บริษัทจาํ กัด หรือบริษัทมหาชนจาํ กัด (1) ย่นื แบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิตบิ คุ คลคร่งึ ปี (ภ.ง.ด.51) ภายใน 2 เดอื น จะตอ้ งขอมเี ลขประจําตวั ผูเ้ สียภาษีอากรไดท้ ส่ี ํานักงานสรรพกรพื้นที่ นับจากวันสุดทา้ ยของ 6 เดอื นแรกของรอบระยะเวลาบัญชี หรอื สํานักงานสรรพากรพื้นทีส่ าขาทีว่ สิ าหกจิ ชุมชนมีภูมลิ าํ เนาอยู่ (2)ยื่นแบบแสดงรายการภาษเี งินได้นิติบุคคประจาํ ปี (ภ.ง.ด.50) ภายใน 150 วนั หรอื ยืน่ คาํ ขอทางอนิ เทอรเ์ น็ตภายใน 60 วนั นับแตว่ นั ทไ่ี ดร้ ับการ นบั จากวันสุดทา้ ยของรอบระยะเวลาบญั ชี จดทะเบียนนติ บิ ุคคล 3 ภาษมี ลู คา่ เพิ่ ม 1 ภาษเี งินได้บคุ คลธรรมดา ภาษีมลู ค่าเพ่ิม วสิ าหกิจชุมชนทีม่ รี ายรบั จากการขายสินคา้ หรอื ใหบ้ รกิ ารเกินกวา่ กรณีวิสาหกิจชมุ ชนประกอบกิจการในรูปแบบห้างห้นุ ส่วน 1.8 ลา้ นบาทตอ่ ปมี ีหน้าท่ตี อ้ งย่นื คาํ ขอจดทะเบยี นภาษีมลู ค่าเพิ่มทีส่ ํานกั งาน หรือคณะบุคคลท่มี ใิ ชน่ ติ ิบคุ คล รายไดโ้ ดยส่วนใหญ่เป็นราย สรรพากรพื้นท่สี าขา (ตา่ งจงั หวัด) หรือสํานักงานสรรพากรพื้นที่ท่วี สิ าหกิจชุมชน ไดจ้ ากการให้เชา่ ทรัพย์สิน วิชาชพี อสิ ระ รับจ้างทําของหรือ ตง้ั อยู่ (กทม.) หรือทางอินเทอร์เน็ตภายใน 30 วัน นับแต่วนั ทม่ี รี ายรบั เกิน อ่นื ๆ สามารถหักคา่ ใช้จา่ ยได้ 2 วธิ ี สําหรับผปู้ ระกอบจดทะเบยี นภาษีมลู คา่ เพ่ิ มแลว้ เมือ่ มกี ารขายสนิ ค้าหรือให้บริการ ต้องจัดทาํ ใบกาํ กบั ภาษี หมายเหตุ : วิสาหกจิ ต้องจดั ทาํ รายงานเงนิ สดรับ-จา่ ย เกบ็ รกั ษารายงานเงินสดรับ ให้แกผ่ ู้ซอื้ สนิ คา้ หรือผ้รู ับบริการทกุ คร้งั ท้ังนวี้ สิ าหกจิ ชุมชนทปี่ ระกอบกจิ การลักษณะค้าปลกี หรือให้บรกิ าร - จ่ายและใบสําคญั การจดทะเบียน ณ ทตี่ ้งั ของวสิ าหกิจชมุ ชนไม่นอ้ ยกวา่ 5 ปี รายย่อยสามารถออกใบกํากับภาษอี ยา่ งยอ่ ได้ และต้องดําเนินการจัดทํารายงานภาษขี าย รายงานภาษซี อื้ รายงาน สนิ คา้ และวัตถดุ ิบ สามารถจัดทาํ สง่ มอบและเก็บรกั ษาใบกํากับภาษีผา่ นระบบ e-Tax Invoice by Email ได้ • การคํานวณภาษี 2 วิธเี ปรยี บเทียบกนั และชาํ ระภาษีตามวธิ ีทค่ี าํ นวณได้มากกว่า วิธที ี่ 1 : ภาษี = เงินได้สุทธิ (เงนิ ได้ - คา่ ใชจ้ ่าย – คา่ ลดหยอ่ น) x อัตราภาษเี งินได้บุคคลธรรมดา • การยื่นแบบแสดงรายการภาษี วิธีที่ 2 : ภาษี = เงนิ ได้เหนือจากเงินเดือนตั้งแต่ 120,000 บาทขึ้นไป x 0.5% ย่นื แบบแสดงรายการภาษีมลู ค่าเพิ่ม (ภ.พ.30) ภายในวันท่ี 15 ของเดอื น (ถ้าคาํ นวณภาษตี ามวิธีท่ี 2 แลว้ ไมเ่ กนิ 5,000 บาท ใหเ้ สียภาษีตามวธิ ที ี่ 1) ถดั ไปไม่วา่ จะมีการขายหรอื ให้บรกิ ารในเดอื นภาษีนน้ั หรือไมก่ ็ตาม • การย่นื แบบแสดงรายการภาษี (1) ยน่ื แบบแสดงรายการภาษเี งินไดบ้ ุคคลธรรมาดาครึง่ ปี (ภ.ง.ด.94) 4 ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ สําหรบั เงนิ ได้ประเภทที่ 5-8 ทีไ่ ดร้ บั ตัง้ แตเ่ ดอื น มกราคม - มถิ ุนายน วสิ าหกจิ ชมุ ชนทป่ี ระกอบการกจิ การทอ่ี ยใู่ นบงั คบั ทต่ี อ้ งเสียภาษธี รุ กจิ ตัง้ แต่ 60,000 บาทขึน้ ไป โดยยืน่ ภายในเดอื นกันยายนของปที ี่มเี งินได้ เฉพาะจะต้องนํารายรบั มาเสียภาษีกรณเี ปน็ ผ้ปู ระกอบการจดทะเบียน (2) ยื่นแบบแสดงรายการภาษเี งินได้บคุ คลธรรมดาประจาํ ปี (ภ.ง.ด.90) ภาษีธุรกจิ เฉพาะจะตอ้ งย่นื แบบแสดงรายการภาษี ภ.ธ.40 ภายใน สําหรับเงินได้ประเภทที่ 1-8 ทีไ่ ด้รับตัง้ แต่เดือนมกราคม - ธันวาคม วันที่ 15 ของเดือนถัดไปทกุ เดือนไมว่ า่ จะมรี ายรบั หรือไม่ ตั้งแต่ 60,000 บาทขึ้นไป โดยยน่ื ภายในเดือนมีนาคมของปถี ดั ไป 5 อากรแสตมป์ หากมีการทําสัญญาหรือตราสารอ่นื ๆ ทอี่ ยูใ่ นบังคบั ตอ้ งเสียอากรแสตมป์ ตามบัญชีอากรแสตมปจ์ ะต้องมเี สียอากรแสตมปใ์ ห้ถกู ต้องครบถว้ น 6

ภาษีหัก ณ ท่ีจ่าย วิสาหกิจชุมชนท่ไี ดร้ บั เงินได้บางประเภท เงินไดด้ งั กลา่ วอาจถูกหักภาษี ณ ทจ่ี า่ ย ซึ่งวสิ าหกิจขุมชนสามารถนาํ เงนิ ภาษที ถ่ี กู หกั ไวมาหักออกจากภาษที ต่ี อ้ งชาํ ระ เมื่อยน่ื แบบเสียภาษเี งินไดค้ รง่ึ ปหี รอื ประจําปภี าษใี นทางกลับกนั เม่อื วสิ าหกิจชมุ ชน มกี ารจา่ ยเงนิ ไดบ้ างประเภทกอ็ าจตอ้ งทาํ หนา้ ทเี่ ปน็ ผหู้ กั ภาษเี งนิ ได้ณทจี่ า่ ยและนาํ สง่ เงินภาษีแกก่ รมสรรพากรเชน่ เดยี วกัน วสิ าหกจิ ชมุ ชนทเี่ ปน็ หา้ งหนุ้ สว่ นสามญั หรอื คณะบคุ คลทมี่ ใิ ชน่ ติ บิ คุ คลเมอื่ จา่ ยเงนิ ได้ 01 พึงประเมนิ ตามตารางสรปุ การหกั ภาษเี งินได้ ณ ท่จี ่าย ไมย่ นื่ ขอมี เลขประจาํ ตัวผู้เสียภาษีอากร (ตารางสรปุ ภาษีเงินไดห้ กั ณ ท่จี ่าย http://interweb.rd.go.th) ต้องระวางโทษปรับ พรอ้ มนําส่งภาษีให้กรมสรรพากร ไม่เกิน 2,000 บาท 02 โทษทางอาญา 04 เจตนาละเลย ไมย่ นื่ แบบแสดงรายการ ไม่ยนื่ แบบแสดงรายการ ภาษภี ายในกาํ หนดเวลา เพื่อหลกี เลีย่ งการเสียภาษี ต้องระวางโทษปรับ ตอ้ งระวางโทษปรับ ไมเ่ กนิ 2,000 บาท ไมเ่ กิน 5,000 บาท หรือจําคกุ ไมเ่ กนิ 6 เดือน หรือท้งั จาํ ท้ังปรบั สทิ ธปิ ระโยชน์ที่วิสาหกิจชุมชนจะได้รับ 03 รัฐบาลมนี โยบายส่งเสรมิ วสิ าหกิจชมุ ชน ใหส้ ามารถเติบโตไดอ้ ย่าง ไมจ่ ดั ทํารายงานเงนิ สด เขม้ แขง็ เปน็ องคก์ รทางธรุ กจิ ในระดบั ฐานรากซงึ่ สามารถพัฒนาและ รับ – จา่ ย เตบิ โตเปน็ SMEs ได้ในอนาคต จงึ ไดม้ ีมาตรการภาษเี พื่อสนบั สนุน และส่งเสรมิ วสิ าหกิจชุมชน ตอ้ งระวางโทษปรับ ไม่เกนิ 2,000 บาท โดยยกเว้นภาษีเงนิ ไดบ้ ุคคลธรรมดาใหก้ ับ วิสาหกิจชมุ ชน ตามกฎหมายวสิ าหกิจชุมชนเฉพาะ ท่ีเปน็ หา้ งห้นุ ส่วนสามัญ หรอื คณะบุคคลทีม่ ใิ ช่ นิติบุคคลซ่งึ มเี งินไดไ้ มเ่ กนิ 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้ังแตป่ ภี าษี 2552 เปน็ ต้นมา ไมต่ ้องรวมคํานวณ เพื่ อเสยี ภาษีเงินไดบ้ คุ คลธรรมดาสําหรับรายได้ ทีร่ บั ต้งั แต่วนั ที่ 1 มกราคม 2560 -2562 วิสาหกิจชุมชนมีรายได้ในปี 2560 เปน็ ตน้ ไป เกิน 60,000 บาต่อปจี ะต้องยนื่ แบบแสดง ภาษเี งนิ ได้บคุ คลธรรมดาจึงได้รับสทิ ธิประโยชน์ (วิสาหกจิ ชุมชนทม่ี ีรายได้ไม่เกนิ 60,000 บาทตอ่ ปี ไมต่ ้องย่นื แบบแสดงฯ) ท้ังน้ีแต่เดิมการยกเว้นภาษีเงินได้พึ งประเมินของวิสาหกิจชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนเฉพาะท่ีเป็น หา้ งหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบคุ คลทไ่ี ม่ใชเ่ ปน็ นติ ิบุคคลจะสน้ิ สดุ ลงในวันท่ี 31 ธนั วาคม 2562 แตเ่ พื่ อเปน็ การสง่ เสริมและสนับสนนุ การทาํ ธุรกิจของวสิ าหกิจชุมชน รวมท้ังทาํ ใหเ้ ศรษฐกจิ ของชมุ ชนมคี วามเข้มแข็งและมีการ พั ฒนาอยา่ งตอ่ เนอื่ ง รัฐบาลได้ขยายการยกเวน้ ใหถ้ ึงที่ 31 ธันวาคม 2565 ดงั นน้ั กรมส่งเสรมิ การเกษตร จึงแจ้งใหว้ ิสาหกิจชุมชนทราบสทิ ธิทีไ่ ด้รับในการขยายเวลาการยกเว้นภาษตี ามประกาศกระทรวง การคลังดงั กล่าว ทง้ั นี้ หากวิสาหกจิ ชุมชนใดยังไมม่ ีเลขประจําตัวผู้เสยี ภาษอี ากร ใหข้ อยื่นคําร้องขอมีเลขประจําตัวผูเ้ สียภาษีอากร ของวิสาหกจิ ชมุ ชน ณ สํานักงานสรรพากรพ้ืนท่ี หรือสํานักงานสรรพากรพ้ืนท่สี าขาทว่ี ิสาหกิจชุมชนมีภมู ิลําเนาต้งั อยู่ เพื่อปฏบิ ัติตามระเบียบและกฎหมายต่อไป แหลง่ ทมี่ าของข้อมูล 7 1. ค่มู ือภาษภี าษสี าํ หรับวิสาหกจิ ชมุ (ฉบบั ปรบั ปรุง) https://www.rd.go.th/publish/fileadmin/user_upload/porkor/taxused/community_091160.pdf 2. ภาษีกบั วิสาหกจิ ชุมชน https://www.nasnpptk.com/content/6885/ภาษกี ับวสิ าหกิจชมุ ชน

03 การเตรียมคาํ ขอจดสิทธิบตั ร ที่ผ้ปู ระกอบการต้องรู้ 8

03 การเตรียมคําขอจดสทิ ธบิ ัตร ทผ่ี ู้ประกอบการตอ้ งรู้ ความคิด ประดิษฐ์ ออกแบบ เพ่ือใหผ้ ลติ ภณั ฑม์ คี วาม ผปู้ ระกอบการควรขอรบั “ส่ิงใดก็ตามทผี่ ปู้ ระกอบการสร้างสรรคข์ นึ้ มาใหม่ สรา้ งสรรคท์ นี่ าํ ไป โดดเดน่ แตกตา่ งด้วย ความคมุ้ ครองดว้ ยการ หรือทําขึน้ มาเองไม่ได้ไปลอกเลยี นแบบใครมา จดสิทธบิ ตั ร หรืออนุ สามารถขอรับการคุ้มครองส่งิ ประดิษฐน์ ้ันได”้ สู่การพั ฒนา ลกั ษณะเฉพาะ สิทธิบัตร สทิ ธิบัตร โดยเว็บไซตข์ องกรมทรัพยส์ ินทางปัญญากระทรวงพาณิชย์ ให้ความหมายของสทิ ธบิ ัตรไวด้ ังนี้ ความเหมือนและความแตกตา่ ง ของสิทธบิ ตั ร / อนุสทิ ธบิ ัตร / สทิ ธิบตั รการออกแบบผลิตภัณฑ์ “สทิ ธิบตั ร หมายถงึ อนุสิทธบิ ตั ร หมายถงึ สิทธิบตั ร อนสุ ิทธบิ ัตร ออกแบบผลติ ภณั ฑ์ หนงั สอื สาํ คัญทรี่ ฐั ออกใหเ้ พื่อคุม้ ครองการ หนงั สอื สาํ คญั ทรี่ ัฐออกใหเ้ พื่ อคมุ้ ครอง (เหมือนกัน) ในแง่ของการคุ้มครองลักษณะองคป์ ระกอบ คุ้มครองรปู รา่ งหรือรปู ทรงภายนอก ประดิษฐ์ (Invention) หรือการออกแบบ การประดษิ ฐจ์ ะมลี กั ษณะคลา้ ยกนั กบั การ โครงสร้างหรอื กลไกของ ผลิตภณั ฑ์รวมทัง้ กรรมวิธี ของผลิตภณั ฑ์ รวมถงึ ลวดลาย ผลติ ภัณฑ์ (Product Design) ทมี่ ลี กั ษณะ ประดษิ ฐ์ แต่เป็นความคิดสร้างสรรค์ทีม่ ี หรอื สีของผลิตภณั ฑ์ ตามทีก่ ฎหมายกําหนด เป็นสทิ ธพิ ิเศษทใี่ หผ้ ู้ ระดับการพั ฒนาเทคโนโลยไี ม่สงู มาก ในการผลติ การรักษาหรือปรับปรุงคุณภาพของผลติ ภณั ฑ์ใหด้ ขี ึ้น ประดิษฐค์ ิดค้นหรือผอู้ อกแบบผลติ ภัณฑม์ ี หรอื เป็นการประดษิ ฐ์คิดค้นเพี ยงเลก็ สิทธ์ทิ ีจ่ ะผลิตสนิ ค้า จําหนา่ ยสินคา้ แต่เพียง น้อยและมปี ระโยชน์ใช้สอยมากขึน้ รวม (ตา่ งกัน) ในแง่ของเง่อื นไขการพิจารณาสิทธบิ ัตร/อนุสิทธิบัตร การออกแบบผลติ ภณั ฑ์ ผ้เู ดียวในช่วงระยะเวลาหนงึ่ การประดิษฐ์ ท้ังกรรมวธิ ใี นการผลติ การรักษาหรอื ซึง่ การประดษิ ฐ์ท่จี ะขอรบั อนุสิทธิบตั รได้ แตกต่างจากการประดษิ ฐต์ รงท่ี (Invention) หมายถงึ ความคดิ สร้างสรรค์ ปรบั ปรุงคุณภาพของผลิตภณั ฑใ์ ห้ดีขนึ้ เกยี่ วกบั ลกั ษณะองคป์ ระกอบโครงสรา้ งหรอื หรอื ทาํ ใหเ้ กดิ ผลติ ภณั ฑข์ นึ้ ใหมท่ แี่ ตกตา่ ง อาจจะเป็นการประดิษฐท์ ม่ี ีการปรับปรุงเพียงเล็กน้อย เป็นการคุ้มครองโครงสรา้ ง กลไกของผลิตภัณฑ์รวมท้งั กรรมวิธใี นการ ไปจากเดมิ เช่น กลไกของเครอื่ งยนต์ และมีประโยชนใ์ ช้สอยมากขนึ้ ภายนอกของผลติ ภณั ฑ์ ผลติ การรักษาหรอื ปรบั ปรงุ คณุ ภาพของ ยารกั ษาโรค วธิ กี ารในการเกบ็ รักษาพื ช ผลติ ภณั ฑ์ใหด้ ขี ึน้ หรอื ทําให้ เกดิ ผลิตภณั ฑ์ ผักผลไม้ไมใ่ หเ้ น่าเสียเรว็ เกินไป ระบบตรวจสอบ รับจดทะเบยี น ส่วนการประดิษฐเ์ ปน็ การค้มุ ครอง ขนึ้ ใหมท่ แี่ ตกตา่ งไปจากเดมิ และเนน้ การผลติ (ตรวจสอบสาระสําคัญ (ผู้มสี ่วนร่วมได้เสียอาจยน่ื ตรวจสอบ โครงสร้างของผลติ ภณั ฑ์ ทมี่ ลี กั ษณะของการแก้ไขปญั หาทางเทคนคิ ทไี่ ม่สามารถคิดค้นขนึ้ โดยง่าย เชน่ กลไกของ กอ่ นการให้สิทธิ) ภายใน 1 ปี หลังรบั จดทะเบียน) ระบบตรวจสอบ เครอื่ งยนต์ยารกั ษาโรควธิ ีการในการเก็บ รกั ษาพืชผักผลไมไ้ ม่ใหเ้ น่าเสยี เร็วเกินไป อายคุ ุ้มครอง 20 ปี อายุคุม้ ครอง 6 ปี อายุคุ้มครอง 10 ปี (ต่ออายุได้ 2 ครัง้ ละ 2 ปี รวม 10 ป)ี ค่าธรรมเนียม 140,000 บาท คา่ ธรรมเนียม 7,500 ค่าธรรมเนยี ม 17,000 บาท เงือ่ นไขการขอรับ สิทธิบัตรการประดษิ ฐ์ ส่งิ ใดกต็ ามทผี่ ู้ประกอบการสรา้ งสรรค์ข้ึนมาใหม่ สิทธบิ ัตรหรอื เป็นการประดษิ ฐข์ นึ้ ใหมเ่ ปน็ การประดษิ ฐท์ มี่ ขี ้นั หรอื ทําขน้ึ มาเองไม่ไดไ้ ปลอกเลยี นแบบใครมา อนสุ ิทธบิ ัตร การผลิตสงู ขนึ้ เปน็ การผลิตทีส่ ามารถประยุกต์ใน สามารถขอรับการคุ้มครองสง่ิ ประดษิ ฐน์ ัน้ ได้ ทางอตุ สาหกรรม อนสุ ทิ ธิบัตรการประดิษฐ์ เป็นการประดิษฐข์ นึ้ ใหมเ่ ป็นการประดิษฐ์ ทสี่ ามารถประยุกตใ์ นทางอุตสาหกรรม สทิ ธิบัตรการออกแบบผลติ ภณั ฑ์ 9 เปน็ ผลติ ภัณฑใ์ หมเ่ พื่ ออตุ สาหกรรมรวมท้งั หัตถกรรม สิทธบิ ัตรการประดษิ ฐจ์ ะเปน็ การคุ้มครองกรรมวธิ ี โครงสร้าง กลไกเทคนคิ ต่างๆ อนุสทิ ธิบัตรการประดิษฐ์ ก็เชน่ กันแต่ต้องเป็นอะไรทีเ่ ล็กๆ นอ้ ยๆ ท้งั สทิ ธบิ ัตรและ อนสุ ิทธบิ ัตรตอ้ งเป็นการประดิษฐข์ นึ้ ใหมแ่ ละสามารถ ประยกุ ต์ใช้ในเชงิ อุตสาหกรรม หากเปน็ สทิ ธบิ ัตรการออกแบบผลติ ภัณฑต์ อ้ งเป็นการสรา้ งสรรค์อลงั การ แบบทไี่ มม่ ใี ครจะมาลอกเลียนแบบได้

การเตรียมการก่อนทีผ่ ู้ประกอบการ ก่อนท่ีผู้ประกอบการจะย่ืนคําขอจดทะเบียนสิทธิบัตร ยนื่ คาํ ขอจดทะเบียนสิทธิบัตร ต้องตรวจสอบว่าส่ิงประดิษฐ์ของตนเองคืออะไร ทําเพ่ืออะไร เข้าข่ายการคุ้มครองสิทธิบัตร ผูป้ ระกอบการต้องเตรียมเอกสาร 6 รายการ หรอื อนสุ ิทธบิ ตั รหรอื สิทธบิ ตั รการออกแบบผลติ ภณั ฑ์ ส่ิงประดิษฐ์ท่ีเราคิดค้นขึ้นมามีความแตกต่าง แบบพิ มพ์ คําขอ เหมอื นคลา้ ยจากส่ิงประดษิ ฐข์ องบคุ คลอน่ื ทจี่ ดทะเบยี น (สป/สผ/อสป/001-ก) อยแู่ ลว้ หรอื ไม่แนวโนม้ การพัฒนาตอ่ ยอดเปน็ อยา่ งไร คําขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์หรืออนุสิทธิบัตร รายละเอียดของการประดิษฐ์ โดยสิ่งท่ีมีรายละเอียดก็คือรายละเอียด ข้อถือสิทธิ ของการประดิษฐ์ ส่วนข้อถือสิทธิจะต้องทําเองว่า ส่ิงประดิษฐ์ของเรามีวิธีการของเราเทคนิคของเรา เราจะขอถือสิทธิอะไรในตัวแบบผลิตภัณฑ์หรือกลไกนี้ หรือสิ่งประดิษฐ์ของเรา ต้องเขียนรายละเอียดให้ บคุ คลหนงึ่ บคุ คลใดหรอื ผตู้ รวจสอบทรี่ บั คาํ ขอสามารถ อา่ นดว้ ยตวั หนงั สอื ทเี่ ราอธบิ ายตามขนั้ ตอนและสามารถ ทาํ ความเขา้ ใจไดโ้ ดยใชต้ วั อกั ษรเปน็ สอื่ ในการอธบิ ายราย ละเอียดทุกข้ันตอน รูปเขียน (ถ้ามี) เอกสารประกอบคําขอ บทสรุปการประดิษฐ์ เช่น หนังสือรับรองสิทธิ สําเนาบัตรประชาชน หนังสือสัญญาโอนสิทธิ สัญญาการว่าจ้าง หนังสือมอบอํานาจ เป็นต้น “รายละเอยี ดการประดิษฐ์” จะตอ้ งแสดงขอ้ มูลอะไรบ้าง? 1) ชอื่ ทีแ่ สดงถึงการประดษิ ฐ์ 2) สาขาวทิ ยาการทีเ่ กยี่ วข้องกับการประดิษฐ์ 3) ภูมิหลงั ของศิลปะหรือวทิ ยาการทเี่ กีย่ วข้อง 4) ลักษณะและความมุ่งหมายของการประดษิ ฐ์ 5) การเปดิ เผยการประดิษฐ์โดยสมบรู ณ์ 6) คําอธบิ ายรูปเขยี นโดยย่อ (ถ้ามี) 7) วธิ ีการในการประดิษฐ์ทดี่ ีทสี่ ดุ ในการย่ืนไม่ต้องอธิบายรายละเอียดของการประดิษฐ์ คาํ ขอรบั สิทธบิ ัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ แต่ใช้รูปภาพเป็นส่วนประกอบคําขอแสดงให้เห็น ผูป้ ระกอบการตอ้ งเตรียมเอกสาร 4 รายการ แบบผลิตภัณฑ์ท้ัง 6 ด้าน 01 แบบพิมพ์คําขอ สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ คือ (สป/สผ/อสป/001-ก) การออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ท่ีเน้นรูปร่างลักษณะภายนอก จะคุ้มครองรูปลักษณะภายนอก ลวดลายบนตัวผลิตภัณฑ์ 02 ข้อถือสิทธิ แต่ลวดลายต้องใหม่ไม่ใช่ธรรมดาท่ัวไป แต่การประยุกต์ สงิ่ ทม่ี อี ยแู่ ลว้ โดยนาํ มาประดษิ ฐเ์ พิ่มเตมิ เลก็ นอ้ ยหรอื นาํ ของ 03 รูปแสดงแบบผลิตภัณฑ์ ท่ีมีอยู่แล้วมาประยุกต์ใช้งาน ยังไม่ถือว่าเป็นการออกแบบ เช่น รูปถ่าย รูปเขียนท้ัง 6 ด้าน ผลิตภัณฑ์ใหม่ 04 เอกสารประกอบคําขอ กรณีท่ีผู้ประกอบการได้ออกแบบผลิตภัณฑ์ ผลิตและนําไป จํ า ห น่ า ย แ ล้ ว แ ล ะ จ ะ นํ า ม า จ ด สิ ท ธิ บั ต ร ก า ร อ อ ก แ บ บ เช่น หนังสือรับรองสิทธิ สําเนาบัตรประชาชน ผลิตภัณฑ์ ลักษณะเช่นนี้ ไม่ถือว่าเป็นการออกแบบใหม่ หนังสือสัญญาโอนสิทธิ สัญญาการว่าจ้าง จะต้องทําการพั ฒนาต่อยอดขึ้นมาก่อนเพื่ อให้ใหม่ขึ้น หนังสือมอบอํานาจ หนังสือรับรองนิติบุคคล จึงจะได้รับการคุ้มครอง กรณีย่ืนในนามบริษัท เป็นต้น คู่มือการขอรับสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตร ฉบับประชาชน ความรู้ความเข้าใจในข้ันตอนการขอรับความคุ้มครองการประดิษฐ์ภายใต้กรอบของกฎหมายอย่างถูกต้อง ครบถ้วน การเขียนและการจัดเตรียมคําขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์หรืออนุสิทธิบัตร รวมถึงตัวอย่างคําขอ รับสิทธิบัตรในสาขาต่างๆ และข้อมูลอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ เพื่ อความรวดเร็วในการได้รับ สิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร คลิกดูรายละเอียด https://www.ipthailand.go.th/th/patent-0110.html 10

ค้นหาข้อมูลได้จากเว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา https://www.ipthailand.go.th/th/patent-001.html เช่น การเข้าเรียนระบบการเรียนทางไกลทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเป็นทางการ หรือต้องการได้รับความรู้เพิ่ มเติมโดยสามารถเรียนได้ตลอดและไม่เสียค่าใช้จ่าย สอบถามรายละเอียดเพ่ิมเติม โทร. 0 2547 4661 ในวันและเวลาราชการ รวมทั้งติดตามข่าวสารผ่าน Facebook : การเรียนรู้ทรัพย์สินทางปัญญา การตรวจสอบความเหมือนคล้ายของเครื่องหมายการค้า การยื่นคําขอผ่านเว็บไซต์ของกรมทรัพย์สินทางปัญญา ตลอดจนการตรวจสอบสถานะคําขอ ในภาพรวมเก่ียวกับทรัพย์สินทางปัญญาแต่ละประเภท ผู้ประกอบการสามารถใช้บริการ สําหรับผู้ประกอบการที่ต้องการย่ืนคําขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์หรืออนุสิทธิบัตร สามารถรับคําปรึกษาด้านทรัพย์สินทางปัญญาแบบครบวงจร ตั้งแต่การสร้างสรรค์ การขอรับความคุ้มครอง การป้องปรามการละเมิด และการนําไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ รวมถึงการให้บริการฐานข้อมูลสิทธิบัตรเพื่ อหาแนวโน้มเทคโนโลยีที่สามารถนําไปใช้ ในการวิจัยและพัฒนาในอนาคต โดยติดต่อขอรับบริการได้ที่ iPAC - ศูนย์ให้คําปรึกษาด้านทรัพย์สินทางปัญญา ช้ัน 4 กรมทรัพย์สินทางปัญญา โทร. 0 2547 5026 11

04 เปดิ กฎหมายนา่ รเู้ ร่อื ง เครอ่ื งหมายการค้า Trademark 12

04 เปดิ กฎหมายนา่ รูเ้ ร่อื ง เครือ่ งหมายการคา้ Trademark เคร่อื งหมายการคา้ คืออะไร เคร่ืองหมายการค้า (Trade Mark) เครื่องหมายการค้า คอื เครอ่ื งหมายหรือ คือ เคร่อื งหมายทใ่ี ช้เปน็ ท่ีหมายเก่ยี วขอ้ งกบั สินคา้ เพ่ือแสดง สัญลักษณ์หรอื ตราท่ใี ช้กบั สินคา้ หรือบริการ ซ่งึ ว่าสินคา้ ท่ี ใช้เคร่อื งหมายนั้นแตกต่างกบั สินค้าทใ่ี ช้ เครือ่ งหมายทใ่ี ห้ความคุ้มครองตาม พระราช เคร่ืองหมายการคา้ ของบุคคลอน่ื เชน่ บรสี มาม่า โคคาโคลา่ บัญญัตเิ คร่อื งหมายการคา้ พ.ศ. 2534 แกไ้ ขเพ่ิม ไนกี้ กระทงิ แดง เปน็ ตน้ เตมิ โดยพระราชบญั ญัตเิ คร่อื งหมายการคา้ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2543 มี 4 ประเภท ดงั ตอ่ ไปนี้ เครือ่ งหมายบริการ (Service Mark) ประโยชนข์ องการจดทะเบียนเครอื่ งหมายการคา้ คอื เครอ่ื งหมายทีใ่ ชเ้ ปน็ ท่หี มายหรือเกีย่ วขอ้ งกับบรกิ าร เพื่อ แสดงวา่ บรกิ ารทใี่ ช้เครือ่ งหมายนนั้ แตกตา่ งกับบรกิ ารทใ่ี ช้ เครอ่ื งหมายการคา้ (Trademark) คอื เครือ่ งหมาย บรกิ ารของบคุ คลอน่ื เช่น เครอ่ื งหมายของสาย การบิน ธนาคาร โรงแรม ป๊ มั นํ้ามัน เปน็ ตน้ ตราสนิ ค้าหรอื สว่ นหนึ่งของตราสินคา้ เพื่อแสดงว่าสนิ คา้ ทใ่ี ชเ้ คร่ืองหมายของเจา้ ของเครอ่ื งหมายการค้าน้นั เครือ่ งหมายรับรอง (Certification Mark) เจ้าของมีสทิ ธิตามกฎหมายเพียงผ้เู ดยี ว เราไม่สามารถใช้ เครอ่ื งหมายการค้าของบุคคลอน่ื และบคุ คลอน่ื ก็ไมส่ ามารถใช้ คอื เครอื่ งหมายทเี่ จา้ ของเครอื่ งหมายรบั รองใชเ้ ปน็ ทหี่ มายหรอื เครอ่ื งหมายการค้าของเราได้ จงึ ตอ้ งมกี ารออกแบบโลโก้ เวน้ เก่ยี วขอ้ งกับ สินค้าและบริการของบุคคลอนื่ เพื่อเปน็ การ แต่จะมีสัญญาและข้อตกลงตอ่ กัน (เช่นการควบกิจการ) รับรองคณุ ภาพของสนิ ค้า หรอื บรกิ ารนั้น เชน่ เชลลช์ วนชิม แมช่ อ้ ยนางราํ ฮาลาล (Halal) อย. ISO เปน็ ตน้ สัญลักษณ์อาจจะประกอบไปดว้ ย ชอ่ื ข้อความ วลี สัญลักษณ์ ภาพถ่าย ภาพวาด ภาพประดิษฐ์ งานออกแบบ เครอ่ื งหมายร่วม (Collective Mark) หรอื หลายสว่ นรว่ มกนั โดยมคี วามหมายทางด้านทรพั ยส์ ิน ทางปญั ญาเปน็ เครอ่ื งหมายแสดงถึง ชื่อสนิ ค้าเฉพาะอย่าง คอื เคร่อื งหมายการค้าหรอื เครื่องหมายบริการท่ใี ชโ้ ดยบรษิ ัท หรอื ทกุ ประเภทในเครอ่ื งหมายการคา้ จะเปน็ การแสดงภาพ หรือวิสาหกจิ ในกลุ่ม เดียวกัน หรอื โดยสมาชกิ ของสมาคม เคร่อื งหมาย ช่อื ตราสัญลักษณเ์ พ่ือแสดงถงึ อา้ งถึง กลุ่มบคุ คล หรือองคก์ รอื่นใดของรฐั หรือเอกชน เช่น ตราชา้ ง มคี วามหมายถึงสง่ิ ใด ๆ กต็ ามท่มี คี วามเกี่ยวข้องกัน ของบริษทั ปนู ซเิ มนตไ์ ทย จาํ กดั ตรามติ รผลของบรษิ ัทน้าํ ตาล มิตรผล จํากดั เปน็ ตน้ เครือ่ งหมายการค้าทเี่ ป็นสญั ลกั ษณส์ ากล คือการกํากับด้วย ™ หมายถงึ เครือ่ งหมายการค้าทมี่ ิได้จดทะเบยี น หรือ ® หมายถึงเครือ่ งหมายการคา้ จดทะเบยี น ซงึ่ จะไดร้ ับสิทธคิ มุ้ ครองตามกฎหมาย การจดทะเบยี นเครือ่ งหมายการค้าจึงมปี ระโยชนด์ งั นี้ ไดร้ บั การคุม้ ครอง เคร่อื งหมายการคา้ การประกอบกจิ การ การ ปกป้องการปลอมแปลง สามารถจําหน่าย สิทธิในเครอื่ งหมาย สรา้ งมลู ค่า ความน่าเช่อื ถอื โฆษณาเงนิ ทล่ี งทนุ ไปส่วน การเลยี นแบบโดยใชบ้ งั คบั เครอื่ งหมายการคา้ หรือให้ ในตวั สินค้าและสรา้ งความจดจํา หนง่ึ จะเปน็ กาํ ไรสว่ นหนงึ่ จะ ทางกฎหมาย มีสิทธเิ รียก ท่วั ประเทศ รอ้ งคา่ เสียหายในทางแพ่ง สิทธิในการใช้ ไปสรา้ งมูลค่าให้ และฟอ้ งรอ้ งในคดีอาญา เครื่องหมายการค้าได้ เครื่องหมายการคา้ 10 สามารถนํา เปน็ การประกาศโฆษณา ใช้เคร่อื งหมาย (R) ได้รบั การคุ้มครอง ปกปอ้ งสิทธิ เกบ็ เกย่ี วผลประโยชน์ เคร่ืองหมายการค้าไป วา่ เครอ่ื งหมายการคา้ ดงั เพื่อบง่ บอกวา่ ถงึ 10 ปี ซึ่งสามารถตอ่ ในการทําตลาดด้วย จากการใชเ้ ครือ่ งหมาย ใช้กบั สินคา้ ประเภทอืน่ กลา่ วไมส่ ามารถนําไป เครอ่ื งหมายน้ี โดยการใหเ้ ช่าสิทธิ์หรือ ทาํ ให้จําหนา่ ยไดง้ า่ ยข้นึ ใชโ้ ดยไมไ่ ดร้ บั อนุญาต อายทุ กุ ๆ 10 ปี เครอ่ื งหมาย ไดร้ บั การจดทะเบยี นตาม โดยการย่ืนคาํ รองตอ่ การสร้างแฟรนไชส์ จากเจ้าของ กฎหมายแล้ว อายุภายใน 90 วนั ก่อน 13 วันหมดอายุ

เสียง ใช้เป็นเครอื่ งหมายการคา้ ได้หรอื ไม่ เสียงที่จดทะเบียนเครือ่ งหมายการค้าไม่ได้ เช่น เสียง “เสียง” สามารถจดทะเบียนเครอื่ งหมายการคา้ ได้ รถยนต์ เสียงนก เสียงรถไฟ เป็นต้น โดยเสยี งทจี่ ะจดทะเบยี นเครอื่ งหมายการคา้ ไดน้ นั้ จะ ตอ้ งเปน็ เสยี งทีม่ ลี กั ษณะบ่งเฉพาะกล่าวคือจะต้อง เสยี งทจ่ี ดทะเบยี นเครื่องหมายการค้าไดแ้ ลว้ เชน่ เสยี งโฆษณา เปน็ เสยี งอนั ไมไ่ ดเ้ ลง็ ถงึ ลกั ษณะหรอื คณุ สมบตั ขิ อง ผา้ อนามัยโซฟี เสียงโฆษณาผา้ ออ้ มเด็ก มาม่โี พโค หรอื ท่ไี ดจ้ ด สนิ คา้ โดยตรงหรือเสยี งท่ไี ม่เปน็ เสยี งโดย ทะเบียนการค้าในต่างประเทศแล้ว เช่น ดนตรีไตเตล้ิ ของค่าย ธรรมชาตขิ องสนิ คา้ น้นั หรอื เสียงทไ่ี ม่ได้เกดิ จาก ภาพยนตร์ Marvel,20th Century Fox,หรือ Harry Potter, การทํางานของสินคา้ น้นั ซึ่งเมื่อประชาชนฟงั แลว้ เสยี งสงิ โตคํารามของคา่ ยภาพยนตร์ MGM หรอื เสียงโหร่ อ้ ง สามารถแยกความแตกตา่ งระหวา่ งสนิ คา้ ของเจา้ ของ ของซาตาน เป็นตน้ เคร่ืองหมายการคา้ กับสินค้าของบคุ คลอืน่ ได้ ข้นั ตอนการจดทะเบียนเครอื่ งหมายการคา้ เครือ่ งหมายบรกิ าร เครือ่ งหมายรับรอง เครือ่ งหมายร่วม หลักฐานการจดทะเบียนเครือ่ งหมายการค้า ใบคําขอจดทะเบียนเครื่องหมายการคา้ รปู เครื่องหมาย หนังสือรับรองความเปน็ 1.การตรวจค้น ซึง่ ศนู ยท์ รพั ยส์ นิ ทางปัญญาฯ เจา้ ของงานลิขสิทธิ์ 2. การยน่ื คําขอจดทะเบียน ได้เน้นสเี หลือง ได้แก่ (โดยถา้ ข้อมูลมจี ํานวน ซึง่ ศูนยท์ รพั ย์สินทางปญั ญาฯ 3.การเตรียมคาํ ขอและเอกสารประกอบ ได้ เนน้ สเี หลอื ง • ชอื่ เจา้ ของเครอื่ งหมายการค้า เกนิ 20 แผน่ สว่ นที่ตอ้ งแก้ไข ได้แก่ • รปู เครอื่ งหมาย • คําอ่านและแปล (ถา้ ม)ี ให้ส่งเปน็ ซีดแี ทนตวั เอกสาร) • ชือ่ ผู้ประดษิ ฐ์(ทกุ ทา่ น) • จาํ พวก และรายการบรกิ าร • หนว่ ยงานต้นสังกดั • ระบุการขอจดทะเบยี น • ชือ่ ทแี่ สดงถงึ การส่งิ ประดิษฐ์ ท้ังนี้ตอ้ งเตรียมสําเนาใบคําขอจด ทะเบยี นเครื่องหมายการคา้ 5 ฉบับและ รปู เครอ่ื งหมายการคา้ 5 รูป 1. การตรวจค้น 4. บตั รประจําตัวของเจ้าของ ก่อนยืน่ คาํ ขอจดทะเบียน ผขู้ อจดทะเบียนควรตรวจค้นเครือ่ งหมายของตนที่ประสงค์ จะยน่ื ขอจดทะเบยี นวา่ เหมอื นหรอื คลา้ ยกับเครอ่ื งหมายของบคุ คลอ่นื ที่จดทะเบียนไว้ 5.หนงั สือ แลว้ หรืออยรู่ ะหว่างขอจดทะเบียนหรือไม่ ต้งั ตวั แทน 2. การยนื่ คาํ ขอจดทะเบียน 6.เอกสาร ผู้ขอจดทะเบยี นจะต้องจดั เตรยี มคําขอจดทะเบยี น (แบบ ก.01) โดยกรอกแบบคาํ ขอใหค้ รบ ประกอบอืน่ ๆ ถว้ นโดยการพิมพ์ และแนบหลักฐานประกอบคําขอ พร้อมชําระค่าธรรมเนียมการยน่ื คําขอจด ทะเบียนสินค้าหรือบรกิ าร อยา่ งละ 500 บาท สามารถย่นื คําขอได้ 4 ชอ่ งทาง คือ 1) กลุม่ บริการตรวจรบั คาํ ขอ ช้นั 3 กรมทรัพย์สนิ ทางปัญญา กระทรวงพาณชิ ย์ 2) สาํ นักงานพาณิชยจ์ ังหวัด 3) ทางไปรษณยี ์ลงทะเบียนตอบรับ 4) ทางอินเตอร์เนต็ ผา่ นเว็บไซตก์ รมฯ https://www.ipthailand.go.th 3. การเตรียมคําขอและเอกสารประกอบ คําขอจดทะเบยี นเครอ่ื งหมายการคา้ เครื่องหมายบริการเครอ่ื งหมายรบั รองและเคร่อื งหมาย ร่วม ให้ใช้แบบ ก. 01 * กรณเี กยี่ วกบั เอกสารเพ่ิมเตมิ 4. บตั รประจาํ ตวั ของเจา้ ของ กรณีเปน็ บคุ คลธรรมดา ให้ใช้สาํ เนาบตั รประจาํ ตวั ประชาชน หรอื สําเนาบัตรประจาํ ตวั อืน่ ๆ ทีท่ างราชการออกให้ กรณีเปน็ นิตบิ ุคคล ให้ใชต้ น้ ฉบบั หนงั สือรับรองนติ ิบคุ คลทอี่ อกใหไ้ ม่เกิน 6 เดอื น 5. หนังสอื ต้ังตัวแทน หรือหนังสือมอบอํานาจ (กรณมี อบอาํ นาจให้บคุ คลอนื่ กระทําการแทนเจ้าของ) ให้แนบเอกสาร หนังสอื มอบอํานาจ (แบบ ก. 18) สําเนาบตั รประจาํ ตัวประชาชนของตวั แทน ติดอากรแสตมป์ 30 บาท 6. เอกสารประกอบคําขอจดทะเบียนอืน่ ๆ(ถ้าม)ี เชน่ หลกั ฐานพิ สูจน์ลกั ษณะบง่ เฉพาะ หรือหนงั สอื ผอ่ นผันการนําส่งเอกสาร (แบบ ก.19) เปน็ ตน้ หมายเหตุ : สามารถอา่ นข้อปฏิบตั แิ ละข้ันตอนในการยืน่ จดทะเบยี นเครอื่ งหมายการค้า 14 ในราชอาณาจักรไทยได้ทเี่ ว็บไซตก์ รมทรพั ยส์ นิ ทางปญั ญา https://www.ipthailand.go.th แหล่งขอ้ มูล 1. กรมทรพั ยส์ ินทางปญั ญา https://www.ipthailand.go.th 2. ศูนยท์ รพั ย์สินทางปัญญาและบม่ เพาะวิสาหกจิ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ http://tuipi.tu.ac.th/tuip05.php

05 เจาะประเด็นกฎหมายแรงงาน ที่ผู้ประกอบการควรรู้ 15

05 เจาะประเด็นกฎหมายแรงงาน ทผ่ี ู้ประกอบการควรรู้ “การเป็นสถานประกอบการ ต้องมีกฎหมายของหลายๆกระทรวง เขา้ มาเกยี่ วขอ้ ง หนึง่ ในน้ันทสี่ าํ คัญคอื กฎหมายค้มุ ครองแรงงาน” ไม่วา่ ลูกจา้ งจะขนึ้ ทะเบยี นถูกกฎหมายหรอื ไม่แต่ เมือ่ มาทํางาน การจา่ ยคา่ จ้างต้อง เป็นไปตามกฎหมายกาํ หนด และมคี วามเทา่ เทยี ม ความเท่าเทียมเป็นเรอื่ งทีถ่ ูกหยบิ ยกมาพู ดถงึ การขายสนิ คา้ เพราะอาจถกู ลกู คา้ ตา่ ง ประเทศไม่ซือ้ สนิ ค้าเนอื่ งจากการ ปฏิบตั ิตอ่ ลกู จ้างในโรงงานทไี่ ม่เทา่ เทียมกนั กฎหมายคุ้มครองแรงงาน เวลาการทาํ งานตามมาตรฐานสากลนายจา้ งใช้แรงงาน เปน็ เร่อื งสําคญั ท่ผี ้ปู ระกอบการทุกท่านจําเปน็ ต้องทราบ *โดยไม่รวมเวลาพักอกี 1 ช่วั โมง หลายบรษิ ทั โดยเฉพาะบรษิ ทั ทท่ี าํ การคา้ กบั ตา่ งประเทศมองวา่ ไมเ่ กิน ไมเ่ กิน งานที่อาจเปน็ อนั ตรายตอ่ สขุ ภาพและ กฎหมายคุ้มครองแรงงานเปน็ หน่งึ ในเรือ่ งทีต่ อ้ งระมัดระวงั ความปลอดภยั เช่น งานท่เี กี่ยวขอ้ ง นอกจากการดําเนนิ งานท่จี ะสง่ ผลกระทบต่อสังคมและลกู ค้า 8 7 สารเคมี กัมมันตภาพรังสี งานท่มี ี การดาํ เนนิ ธรุ กจิ ของสถานประกอบการทม่ี ลี กู จา้ งมมี าตรฐาน เสียงดงั หรอื งานทม่ี ีความร้อน ฯลฯ พ้ืนฐานท่ีเก่ียวขอ้ งกบั กฎหมายคุ้มครองแรงงานซึง่ ชม./วัน ชม./วัน ผปู้ ระกอบการหรอื นายจา้ งควรใหค้ วามเอาใจใสแ่ ละดาํ เนนิ การ ให้ถูกต้องในสิทธิหน้าทต่ี ามกฎหมายคุม้ ครองแรงงาน * หากให้ลกู จ้างทํางานเกิน 8 ชว่ั โมงต่อวัน ถือวา่ เปน็ การใหท้ าํ งานล่วงเวลา จะตอ้ งจา่ ยคา่ จา้ งให้กบั ลูกจา้ งโดยคํานวณเวลาเปน็ ชว่ั โมง ก้าวแรกของสถานประกอบการเมื่อเร่มิ มลี กู จ้างซง่ึ ตาม ยกเว้นพนกั งานท่มี ตี ําแหนง่ งานระดับหัวหน้างานข้นึ ไป หากทํางานล่วงเวลา กฎหมายก็คือ ผู้ซง่ึ มาทํางานให้กับนายจ้าง ไมว่ ่าลกู จ้างจะขึน้ ไม่ต้องจ่ายค่าล่วงเวลา ทะเบยี นถูกกฎหมายหรอื ไมก่ ็ตาม แต่เมอ่ื มาทาํ งานต้องได้รับ คา่ จ้างเปน็ สง่ิ ตอบแทน ตามพระราชบญั ญัติคุม้ ครอง ไม่น้อยกว่า หากผปู้ ระกอบการให้ลูกจา้ งมาทาํ งานในวนั หยุดจะตอ้ งจา่ ย แรงงาน พ.ศ. 2541 ค่าจา้ งหรอื คา่ ตอบแทน เปน็ เงนิ ที่ ค่าจา้ งทํางานดว้ ย ส่วนวันหยดุ ตามประเพณีหรือวนั หยดุ นายจา้ งและลูกจ้างตกลงกนั จา่ ยเปน็ ค่าตอบแทนในการ 1 นักขัตฤกษ์ในแต่ละปจี ะตอ้ งประกาศอยา่ งชัดเจนให้ ทํางานตามสัญญาจา้ ง นายจา้ งอาจจา่ ยเปน็ รายวัน ราย ลูกจา้ งทราบ ชั่วโมง หรือเหมาจ่ายเปน็ รายเดอื น โดยกฎหมายกําหนดไว้วา่ วนั /สปั ดาห์ คา่ จา้ งตอ้ งเปน็ เงนิ ตราของไทยเวน้ แตไ่ ดร้ บั ความยนิ ยอมจาก ลกู จ้างจึงจะจ่ายเปน็ เงนิ ตราตา่ งประเทศสกลุ อ่นื โดยลูกจ้าง ไม่จําเปน็ ตอ้ งเปน็ วันอาทิตย์ ต้องได้รับคา่ จา้ งในอัตราไม่น้อยกว่าทร่ี ัฐบาลกําหนด ประกาศ ส่วนจะมีวันใดบ้างให้อา้ งอิงวันหยุดของทางราชการ หรือ วนั หยุด พิจารณาวันหยุดจากวฒั นธรรมทอ้ งถิ่น เช่น 3 จังหวัด ชายแดนภาคใตอ้ าจกําหนดให้วันฮารีรายออยู่ในวันหยดุ 13 นักขตั ฤกษ์ใน 13 วนั นนั้ ดว้ ย และในวันหยดุ 13 วนั นั้นจะตอ้ ง มวี นั แรงงานแหง่ ชาติรวมอย่ดู ว้ ย 1 วัน วนั /ปี การบงั คบั ให้ลูกจา้ งทํางานในวันหยุดหรือทํางานล่วงเวลาสามารถทาํ ได้ เชน่ งานเทปนู ก่อสรา้ งทผี่ สมปนู แลว้ แตย่ ังเทปนู ไมเ่ สรจ็ แตถ่ งึ เวลาเลกิ งานก่อน หากไม่ทําตอ่ ปนู ทีผ่ สมไวอ้ าจใช้ไมไ่ ด้และทําใหน้ ายจ้างได้รบั ความเสยี หายได้ กรณีนนี้ ายจา้ งสามารถบังคับให้ลูกจา้ งทาํ งานล่วงเวลาได้ แตต่ อ้ งทําด้วยความสมคั รใจ 16

ไมน่ ้อยกว่า ลูกจา้ งทท่ี ํางานกับนายจา้ งมาครบ 1 ปี นายจ้างจะตอ้ งใหส้ ทิ ธ์ลิ าหยดุ พักผอ่ นประจําปไี ม่นอ้ ยกว่า 6 วัน ซึ่งไมถ่ ือวา่ เปน็ วนั ลา 6 ลูกจ้างทไ่ี มไ่ ดใ้ ช้สิทธล์ิ าหยุดพักผอ่ นประจาํ ปนี ายจ้างต้องจ่ายคนื เปน็ เงิน โดยนําค่าจา้ งรายเดือนหารออกมาเปน็ รายวนั วนั /ปี แต่หากนายจา้ งกําหนดให้ลกู จ้างหยุดและเม่อื ถงึ วนั ดังกล่าวลูกจา้ งไม่หยดุ ถอื วา่ ลูกจา้ งประสงค์สละสิทธ์ขิ องตนเอง โดยนายจ้างไมต่ ้องจ่ายคนื เปน็ เงิน หรือบางสถานประกอบการอาจให้ยกวนั หยุดพักผ่อนประจําปี กรณไี มใ่ ชส้ ทิ ธ์ิ ทีไ่ ม่ไดใ้ ชไ้ ปรวมเปน็ วันหยดุ ในปถี ัดไป นายจ้างต้อง การลาคลอดของลูกจ้างหญงิ มีครรภ์ มสี ทิ ธลิ าคลอดก่อนและหลังการคลอด รวมแลว้ ไมเ่ กนิ 98 วัน จา่ ยคนื โดยที่ นายจ้างตอ้ งจ่ายค่าจ้างในวนั ทาํ งานตลอดระยะเวลาทลี่ า แตไ่ มเ่ กนิ 45 วัน เป็นเงิน ในจํานวนวันลาคลอดน้ใี ห้รวมวันท่ไี ปตรวจครรภ์ดว้ ย ลาคลอด การลาปว่ ยลกู จา้ งสามารถลาปว่ ยได้เท่าท่ปี ว่ ยจรงิ จนกว่าจะหาย ไมเ่ กนิ แต่การลาปว่ ยกฎหมายกําหนดใหน้ ายจา้ งจา่ ยคา่ จ้าง ให้ไมเ่ กนิ 30 วันทาํ งาน ใน 1 ปี การปว่ ยจริงหรอื ปว่ ยเท็จสามารถพิสจู นไ์ ดด้ ว้ ยใบรับรองแพทย์ 98 ลกู จา้ งทล่ี าปว่ ยระยะเวลาตงั้ แต่ 3 วนั ขึ้นไปตอ้ งแสดงใบรบั รองแพทยแ์ ก่นายจ้าง วนั ลาป่วย การลากิจ ลูกจ้างมีสทิ ธล์ิ ากิจโดยได้รับค่าจ้างไม่เกิน 3 วนั ตอ่ ปี นายจา้ งจา่ ย ไม่เกนิ 30 วัน/ปี ลากจิ ได้รบั ค่าจา้ ง ไม่เกนิ 3 วนั /ปี การจา่ ยค่าชดเชยกรณีเลิกจา้ ง • กรณกี ารทดลองงานกาํ หนดไว้ 119 วัน หากทดลองงาน 120 วนั แล้วเลิกจา้ งนายจา้ งตอ้ งจา่ ยค่าชดเชยตามกฎหมาย • แต่หากทดลองงาน 118 วันและ ไมผ่ ่านการทดลองงาน ในกรณนี ีน้ ายจา้ งเลิกจา้ งโดยจา่ ยค่าจา้ งแค่เดือนสดุ ท้ายเท่าน้นั • แต่ถา้ ลูกจ้างทาํ งานครบ 120 วนั แลว้ ถูกเลกิ จา้ ง ถงึ แม้จะไมผ่ า่ นการทดลองงาน นายจา้ งต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย โดยจา่ ยให้ไมน่ ้อยกว่าคา่ จ้าง 30 วนั ของการทํางานสุดทา้ ย อีกหนึง่ เรอื่ งที่ผปู้ ระกอบการควรรู้และจะตอ้ งเตรียมเงนิ สว่ นหน่งึ ไว้ก็คอื ทกุ อาชพี มเี กณฑก์ ารเกษียณ เช่น ราชการและรัฐวิสาหกิจให้เกษียณทอ่ี ายุ 60 ปี สว่ นลูกจ้างในภาคเอกชน หากมีอายุ 60 ปบี ริบรู ณ์ สามารถขอเกษียณกบั นายจ้างได้ และเม่อื ขอเกษยี ณแลว้ นายจา้ งตอ้ งจ่ายค่าชดเชย ใหด้ ้วย โดยตอ้ งดําเนนิ การให้แลว้ เสร็จภายใน 30 วัน ไม่เชน่ น้นั นายจา้ งจะมคี วามผิด กรณที ีน่ ายจา้ งไม่ตอ้ งจา่ ยคา่ ชดเชย กฎหมายอนุญาตใหค้ นอายุ 60 ปี ทีท่ าํ งานไมไ่ หวขอใชส้ ทิ ธ์ิเกษียณ และได้คา่ ชดเชย จากนายจ้าง ตามกฎหมาย สาํ หรบั ผู้ประกอบการทกี่ าํ ลังทําธรุ กจิ ทา่ นต้องเตรยี มเงิน สว่ นนเี้ อาไวเ้ ผอื่ ด้วย ลกู จ้างทอี่ ย่กู บั เราต้งั แตเ่ ร่มิ ต้นธรุ กจิ และทาํ ให้เราเตบิ โตขนึ้ ผปู้ ระกอบการต้องมีเงินค่าชดเชยยามทเี่ ขาเกษียณและออกจากบริษัท การทุจริตตอ่ หนา้ ที่ สว่ นการทาํ ให้นายจ้างได้รบั ความเสยี หายร้ายแรง นายจ้างตอ้ งพิสจู น์ให้ได้วา่ ลกู จา้ งนน้ั ทาํ ให้เสียหายอย่างไร ไมใ่ ชเ่ ปน็ การคิดไปเองของฝ่ายนายจ้าง * กรณที ลี่ กู จา้ งไดร้ ับโทษจําคุกแลว้ รอลงอาญา ลกู จ้างยังสามารถมาทาํ งานตอ่ ได้ หา้ มนายจ้างเลิกจ้างลูกจา้ งคนน้นั เพราะความหมายของการรับโทษจําคกุ คือการเดนิ เขา้ คกุ จริงๆ การใชแ้ รงงานเด็ก ปจั จุบนั มีความเข้มงวดในการใช้แรงงาน 3 กลุ่มท่ผี ู้ประกอบการตอ้ งระวงั โดยเฉพาะกรณตี ้องการ เปดิ ตลาดไปทัว่ โลก ตอ้ งดแู ลแรงงานกลมุ่ แรงงานตา่ งด้าว แรงงานหญิงมีครรภ์ และแรงงานเดก็ หากมปี ญั หาใน 3 เร่อื งนล้ี ูกคา้ จะไมซ่ อ้ื สนิ คา้ การใชแ้ รงงานเด็กห้ามนายจ้างจา้ งเด็กทม่ี อี ายตุ า่ํ กวา่ 15 ปเี ปน็ ลูกจา้ งเดด็ ขาด หากจา้ งเดก็ ที่มีอายุตา่ํ กวา่ 18 ปเี ปน็ ลกู จ้างให้แจ้งหน่วยงานที่เก่ยี วขอ้ งภายใน 15 วนั การเร่มิ ต้นดาํ เนนิ ธรุ กิจผู้ประกอบการสามารถลดปญั หาดา้ นแรงงานทีอ่ าจเกิดขนึ้ ได้ด้วยการศึกษารายละเอียดทเี่ กีย่ วขอ้ งกบั กฎหมายคุ้มครองแรงงาน หรอื ขอรบั คาํ แนะนาํ จากกรมสวัสดิการค้มุ ครองและคมุ้ ครองแรงงาน ประจาํ จงั หวัดทีส่ ถานประกอบการต้งั อยู่ นอกจากนกี้ ระทรวงแรงงาน โดยกรมสวัสดกิ ารและค้มุ ครองแรงงานไดจ้ ัดทํา มาตรฐานแรงงานไทย มรท. 8001-2563 : ขอ้ กาํ หนดความรบั ผิดชอบทางสงั คมดา้ นแรงงานของธุรกจิ สามารถดูเพ่ิ มเตมิ ได้ที่ http://tls.labour.go.th/index.php/vchakan/downloads/mmd/1196-8001-2563-tls-8001-2563 17

06 เจาะประเด็นตดิ ปกี ใหธ้ รุ กจิ ยกระดับมาตรฐาน ผลิตภณั ฑ์ชมุ ชน 18

06 เจาะประเดน็ ตดิ ปกี ให้ธรุ กจิ ยกระดบั มาตรฐาน ผลติ ภัณฑช์ ุมชน มาตรฐานผลิตภัณฑช์ มุ ชน (มผช.) “ผลิตภัณฑห์ รือสินคา้ ชมุ ชนทีม่ ีคณุ ภาพ และผ่านเกณฑ์ ข้อกําหนดไดร้ ับมาตรฐานผลิตภณั ฑ์ชุมชน (มผช.) คือข้อกาํ หนดดา้ นคุณภาพผลติ ภัณฑช์ มุ ชนให้เปน็ ทเ่ี ชอ่ื ถอื สามารถต่อยอดสร้างมลู คา่ เพ่ิ ม และยกระดับมาตรฐาน เปน็ ที่ยอมรบั และสรา้ งความมั่นใจให้กับผบู้ รโิ ภคในการเลอื กซือ้ สินค้าตนเองเพื่ อตอบความต้องการผ้บู รโิ ภคได้ ผลติ ภณั ฑ์โดยมงุ่ เนน้ ใหเ้ กดิ การพัฒนาเพ่ือยกระดบั คณุ ภาพของ ท้ังในประเทศและตา่ งประเทศ” ผลิตภัณฑ์ชมุ ชนให้เปน็ ไปตามมาตรฐานทก่ี าํ หนด และสอดคลอ้ ง กับนโยบาย OTOP ผปู้ ระกอบการผลิตภัณฑ์ชมุ ชน (OTOP) ตอ้ งมผี ลติ ภณั ฑม์ ีคุณลกั ษณะดา้ นคณุ ภาพเพี ยงพอทจี่ ะยืน่ ขอ ใบรับรองมผช. และหากตอ้ งการขอใบรบั รองคณุ ภาพมาตรฐานผลติ ภัณฑช์ ุมชน (มผช.) ควรร้หู ลักเกณฑแ์ ละเงอื่ นไขในข้อกําหนดและข้นั ตอนต่าง ๆ จากสาํ นกั งานมาตรฐานผลติ ภัณฑอ์ ุตสาหกรรม (สมอ.) ข้อกาํ หนดคุณภาพหรือมาตรฐานผลติ ภัณฑช์ มุ ชน (มผช.) กําหนดมาตรฐาน รับรองคุณภาพ พั ฒนาผู้ผลติ ส่งเสริมและ ผลิตภัณฑ์ ประชาสัมพั นธ์ การกําหนดมาตรฐาน พัฒนาผผู้ ลิต สง่ เสริมและประชาสมั พันธ์ ผลติ ภณั ฑต์ อ้ งมีคุณภาพและผา่ นการ ผู้ประกอบการในกลมุ่ OTOP กลุ่มดี สมอ. จะสร้างการรบั รเู้ พ่ือให้รูจ้ ักและ ตรวจสอบถึงได้รับรองมาตรฐาน หาก จะจดั อยู่ในสว่ นของการพัฒนา เกิดความตระหนกั ในเร่อื งมาตรฐาน ผปู้ ระกอบการตอ้ งการรูผ้ ลิตภณั ฑ์มี ผูผ้ ลิต มผช. จะจดั สัมมนาให้ความรู้ คุณภาพผลิตภัณฑช์ มุ ชน เผยแพร่ มาตรฐานหรอื ไม่ ? จะอยใู่ นส่วนของ เทคนิคการควบคมุ คุณภาพเบอื้ งตน้ ประชาสมั พันธ์ผา่ นสอ่ื ต่าง ๆ สร้างแรง งานกําหนดมาตรฐาน แกผ่ ้ปู ระกอบการทัว่ ทกุ ภูมภิ าค จูงใจยกย่องผลิตภณั ฑ์ชาวบ้านทไ่ี ด้รับ เปน็ การเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพใหผ้ ู้ผลติ การรบั รอง ทาํ ให้ผู้บริโภคเกิด รับรองคุณภาพผลิตภณั ฑ์ สนิ คา้ OTOP ให้มีความแข็งแกรง่ ภาพลักษณท์ ี่ดีวา่ เปน็ สินค้าคุณภาพได้ และย่งั ยนื จะมกี ารสง่ เสรมิ ให้ความรู้ มาตรฐาน โดยให้มอี อกงาน ออกบธู ผลติ ภัณฑ์ตอ้ งผ่านการตรวจประเมิน ผู้ประกอบการจนกระท่ังยน่ื ขอ ผา่ นการประสานงานไปทางกระทรวง สถานทผ่ี ลติ /ผลติ ภณั ฑท์ ีท่ าํ ต้องมคี ุณภาพตามมผช. มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนได้ อุตสาหกรรมสว่ นกลาง หรือ /มใี บรับรองอายุ 3 ปี นบั ตง้ั แตว่ ันทร่ี ะบใุ นใบรับรอง ผลติ ภณั ฑท์ ย่ี งั ไมม่ คี ณุ ภาพ?จะอยใู่ น อุตสาหกรรมจงั หวดั ใหส้ ง่ /การตอ่ อายใุ บรบั รองหรือการออกใบรับรองใหม่ ส่วนของการพั ฒนาผู้ผลติ ผปู้ ระกอบการมารว่ มงานหรือแสดง ให้ดาํ เนนิ การตามกระบวนการขอการรบั รองใหม่ โชว์สนิ คา้ ตา่ ง ๆ ผู้ประกอบการท่ไี ด้ (ใบรับรอง มผช. ประกอบด้วย เลขทใ่ี บรบั รอง รบั รองมผช. สามารถเข้าไปดผู ลติ ภณั ฑ์ ชือ่ ผ้ไู ด้รับการรับรอง ผลติ ภณั ฑท์ ี่ได้รับรอง ท่ีไดร้ บั การส่งเสริมในเวปไซด์ วันทีอ่ อกใบรับรอง สถานท่ที ํา/ท่อี ยู่ ช่อื /ประเภท/ ชนดิ วันส้นิ อายุ) ผลิตภณั ฑ์ทีข่ อมาตรฐาน จะอย่ใู นส่วนรบั รองคุณภาพ ผลิตภัณฑ์ 19

มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) ปจั จุบัน (ตลุ าคม 2564) มีการประกาศ 1,563 เรอ่ื ง แต่มีมาตรฐานท่ใี ชไ้ ด้ 1,355 มาตรฐาน เนือ่ งจากมีมาตรฐานบางเรื่องยบุ ไปรวมกบั เล่มอ่นื หรือต้องยกเลิกไป เนอ่ื งจากมกี ารออกมาตรฐานแล้วในบางเรื่องมีเกณฑ์มาตรฐานท่มี ีข้อจํากดั ทาง กฎหมาย โดยเฉพาะกลุม่ ผลติ ภัณฑ์ทีไ่ ม่ใช่อาหารมีการยกเลกิ มากทีส่ ุด เนอ่ื งจากเมือ่ กอ่ นมชี ื่อผลิตภัณฑ์ว่า “อาหารและยา” ทางอย. ประกาศมีสรรพคุณทางยา ทง้ั นีห้ าก มาตรฐานผลิตภณั ฑช์ มชนมกี ารเปล่ยี นแปลงหรือแก้ไข ทางสมอ. จะมีการประกาศ แกไ้ ขเปน็ ปที ่ตี รวจแก้ไข ผา้ และ เครอื่ งแต่งกาย ผ้าและ 98, 7% เครือ่ งแต่งกาย 100, 7% มาตรฐาน 1,355 เรือ่ ง มีสัดส่วนของมาตรฐานกลมุ่ อาหารมีมากทสี่ ดุ อาหาร มาตรฐานผลติ ภัณฑ์ เครือ่ งดืม่ เนอื่ งมผี ้ปู ระกอบการอาหารมากและหลากหลาย รองลงมาไดแ้ ก่ 98, 7% 1,355 เรือ่ ง 98, 7% ของใชข้ องตกแตง่ ของทรี่ ะลึก เครอื่ งดืม่ สมนุ ไพรทไี่ มใ่ ช่อาหาร ผ้าและเครอื่ งแต่งกาย ตามลําดับ กล่มุ ผลิตภณั ฑช์ มุ ชน 5 กลุม่ ประกอบดว้ ย อาหาร เครือ่ งดืม่ ของใช้ของ ของใช้ ของตกแตง่ ของทีร่ ะลึก ตกแตง่ ของทร่ี ะลกึ สมุนไพรท่ไี ม่ใชอ่ าหาร ผ้า เครอ่ื งแตง่ กาย และมี 3 กลุ่ม 443, 33% ได้แก่ อาหาร เครื่องด่มื สมุนไพรท่ไี ม่ใช่อาหาร ต้องมีการตรวจสุขลักษณะและไดร้ บั ใบอนญุ าตจากหน่วยงานท่เี กี่ยวข้องก่อนไปยืน่ ขอใบรบั รองมผช. อาหาร 3 กลมุ่ ผลติ ภัณฑ์ อาหาร ชือ่ มาตรฐาน เครือ่ งดืม่ ขอบขา่ ย เครอื่ งดืม่ ทีต่ อ้ งมกี ารตรวจสอบและ นยิ าม ไดร้ ับการรบั รองด้าน สมุนไพรทีไ่ ม่ใช่อาหาร คณุ ลักษณะทีต่ ้องการ สมุนไพร สขุ ลักษณะก่อน ทไี่ มใ่ ช่อาหาร การบรรจุ เครือ่ งหมายและฉลาก ของใช้ของตกแตง่ ของทรี่ ะลกึ การชักตวั อย่างและเกณฑต์ ดั สิน ผา้ เครอื่ งแต่งกาย การทดสอบ สขุ ลักษณะ กลมุ่ ผลิตภัณฑ์3 กลุ่ม คอื อาหาร เครอื่ งดืม่ สมุนไพรทีไ่ ม่ใชอ่ าหาร สินคา้ ต้องมมี าตรฐานดา้ นสขุ ลักษณะจากหน่วยงานท่เี กยี่ วขอ้ งก่อนไปย่นื ขอมผช. (การตรวจสขุ ลักษณะ ไดแ้ ก่ ตรวจสถานท่ตี ัง้ และอาคารผลิต เครื่องมือ เครอ่ื งจักรและอุปกรณ์ทใ่ี ชใ้ นการผลติ การควบคุมกระบวนการผลิต การสุขาภิบาล การบาํ รงุ รักษาและการทําความสะอาด บุคลากร) เพื่อดคู วามปลอดภัย และให้ผูบ้ ริโภคเชอ่ื มัน่ ว่า นอกจากอาหารทม่ี อี ร่อยแล้ว สถานผลติ ที่เหมาะสม และมีความปลอดภัยดว้ ย การตรวจมาตรฐานจะต้องผ่าน หนว่ ยงานทีเ่ กย่ี วข้องก่อนจงึ สามารถไปย่นื ขอมผช.ได้ เชน่ กระทรวงสาธารณสขุ สาํ นกั งานคณะกรรมอาหาร และยา และกรมสรรพสามติ (ใบรบั รองใหอ้ นญุ าตมอี ายุ 3 ป)ี มาตรฐานผลิตภณั ฑช์ ุมชน 1 เลม่ ประกอบด้วย 1) ชอื่ มาตรฐาน 6) เครือ่ งหมายและฉลาก 2) ขอบขา่ ย 7) การชกั ตัวอยา่ งและเกณฑต์ ดั สิน 3) นิยาม 8) การทดสอบ 4) คณุ ลักษณะทตี่ อ้ งการ 9) สขุ ลกั ษณะ 5) การบรรจุ 20

เกณฑ์กําหนดการตรวจประเมิน ข้ันตอนการรับคําขอ ศกั ยภาพและตวั อย่างผลติ ภัณฑ์ ประกอบด้วย ประกอบด้วย ตรวจสอบคุณสมบัตแิ ละหลักฐานเอกสารทีเ่ กีย่ วข้อง ประเมิน 1) กรณเี ป็นกลมุ่ สถานทีท่ ํา พิจารณาผลิตภณั ฑ์เบือ้ งต้นโดยการตรวจพินจิ ไดแ้ ก่ – หนังสอื รับรองกลุ่ม สําเนาบัตรประชาชนและสาํ เนาทะเบียนบา้ นของประธานกลุม่ ลักษณะโดยรวมเป็นไปตามข้อกาํ หนดในมผช. การบรรจคุ วรมลี ักษณะของภาชนะบรรจุทดี่ ี 2) กรณีเป็นชือ่ บคุ คลธรรมดา ลกั ษณะปรากฏโดยใช้ประสาทสัมผัส เชน่ การดมกล่ิน การ สมั ผสั การชิมรส และเก็บตัวอยา่ งส่งตรวจสอบ – สําเนาบตั ประชาชนและสาํ เนาทะเบยี นบา้ นของผู้ยนื่ ขอ ใบทะเบียนพาณิชย์ โดยตอ้ งมสี ี กล่ินรสทางธรรมชาติไมม่ สี ่ิงแปลกปลอม อีกท้ังมีการกําหนดสว่ นผสมตามเกณฑ์ โดยมีเกณฑ์ในการให้ 3) กรณีเป็นบริษัท/ห้างหุ้นสว่ นจํากดั คะแนนเป็นลาํ ดับ ตามพึงพอใจของผเู้ ชีย่ วชาญทีต่ รวจสอบ – ประกาศนียบตั ร OPC หนงั สือรับรองบรษิ ทั หรอื หนังสอื จดทะเบียนหา้ งหนุ้ สว่ น การตรวจประเมนิ สถานทีท่ ํา จาํ กดั สําเนาบตั รประชาชนและสาํ เนาทะเบียนบ้านของผมู้ ีอาํ นาจหรือหุ้นส่วน ประกอบดว้ ย 1) เป็นสถานทที่ าํ การผลติ จริง 4) กลมุ่ เครือ่ งดืม่ แอลกอฮอล์ 2) ไม่เป็นผู้แอบอา้ งหรอื ทาํ การผลิตแอบแฝง 3) มเี ครอื่ งจักร เครือ่ งมอื อปุ กรณ์ทใี่ ช้ในการผลติ อยา่ งเพียงพอ – ใบอนุญาตให้ผลิตและรายงานผลการวิเคราะห์ผลติ ภัณฑ์จากกรมสรรพสามติ 4) สถานทีท่ าํ ตอ้ งมสี ุขลักษณะเป็นไปตามทมี่ าตรฐานกําหนด 5) ควรมคี วามรู้ ความเขา้ ใจการควบคมุ คณุ ภาพเบอื้ งตน้ 5) กลมุ่ อาหารและเครอื่ งดมื่ 6) การตรวจประเมนิ สถานทีท่ ํา – สําเนาบัตร สาํ เนาใบอนุญาตสถานทีผ่ ลติ จากสอจ./อย. 6) กลุ่มเครือ่ งสาํ อาง – สําเนาใบรับแจง้ ผลิตเครือ่ งสาํ อางควบคมุ สอจ./อย. 7) กล่มุ วตั ถอุ ันตราย (ผลติ ภณั ฑท์ าํ ความสะอาดและผลิตภัณฑไ์ ล่กาํ จดั แมลง) – สาํ เนาใบแจ้งขอ้ เท็จจริงจากสอจ./อย. ผู้ประกอบการทีต่ ้องการรูห้ ลักเกณฑแ์ ละ เงือ่ นไขการขอใบรับรองมาตรฐานผลติ ภณั ฑ์ ชุมชน รายละเอียดแบบฟอร์มตา่ ง ๆ กอ่ น ดําเนนิ การ หรือผู้ทีย่ ืน่ ใบรบั รองมาตรฐาน ผลติ ภัณฑช์ มุ ชนแลว้ ตอ้ งรวู้ า่ สนิ ค้าตัวเองมี มาตรฐานเข้าข่ายผลติ ภัณฑ์ไหน และได้ใบ รับรองหรือไม่ สามารถเขา้ ไปดูรายชือ่ มาตรฐาน ผลติ ภัณฑช์ มุ ชนได้ที่ www.tisi.go.th ** ท้ังนกี้ ารยืน่ ขอใบรบั รองมาตรฐานผลิตภณั ฑข์ นึ้ กบั ความสมคั รใจ ไม่มีกฎหมายบังคบั ไมเ่ สยี ค่าใชจ้ ่ายในการ ตรวจสอบใด ๆ ท้งั ส้ิน แต่ส่งิ ทีผ่ ู้ประกอบการต้องเสยี คือผลิตภัณฑ์ทนี่ ําไปตรวจสอบ เช่น อาหารเครอื่ งดืม่ และสมนุ ไพร หากมีตรวจสอบแลว้ ไมค่ ืน เนือ่ งจากมีการเปดิ ใช้แล้วอาจกอ่ ให้เกดิ การปนเป้ อื น สาํ หรบั ผลิตภัณฑก์ ลุ่ม เครือ่ งแตง่ กายของใชต้ รวจสอบแลว้ ทางมผช.จะคืนใหท้ ุกรายการ โดยผปู้ ระกอบการสามารถส่งผลติ ภัณฑไ์ ปตรวจสอบตามเกณฑ์มาตรฐาน ได้ฟรี • โดยผ้ตู รวจสอบมกี ารตรวจสอบตามความพึ งพอใจ และเพื่ อความปลอดภัยตามความเสยี่ งทอี่ าจจะได้รบั ดว้ ย เชน่ จลุ ินทรีย์ เคมี และหากผู้ประกอบการมคี วามตอ้ งการได้รับการผล Lab สามารถทําเรอื่ งไปขอทีส่ มอ.ได้เพื่ อนาํ ไปใช้ กรณีอนื่ ๆ • ผู้ประกอบการจะต้องได้รับอนญุ าตจากหน่วยงานทเี่ กยี่ วข้องก่อนไปขอตรวจคณุ ภาพและขอใบรบั รองมาตรฐาน ผลิตภัณฑช์ มุ ชนจากสมอ. เช่น สาํ นกั งานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึง่ มีข้อกฎหมายดา้ นความปลอดภัย และกระทรวงสาธารณสขุ กรมสรรพสามติ เป็นต้น 21

07 เจาะประเด็นกฎหมาย กับการประกอบธุรกิจออนไลน์ ...เร่ืองง่าย ๆ ทไ่ี มค่ วรละเลย 22

07 เจาะประเด็นกฎหมาย กับการประกอบธรุ กิจออนไลน์ ...เรือ่ งง่าย ๆ ที่ไม่ควรละเลย “กฎหมายประกอบการธุรกิจออนไลน์ มีหลายฉบบั มสี ่วนเกยี่ วข้องกับ ผู้ประกอบการ ควรรแู้ ละทําความเข้าใจกอ่ นดําเนินการธุรกจิ ในการคา้ ขายออนไลน์ ซงึ่ หน่วยงานหนึง่ มหี น้าทีก่ าํ กาํ กบั ดแู ล คือ สํานักงานคณะ กรรมการคมุ้ ครองผู้บริโภค (สคบ.)” กฎหมายที่ควรรูเ้ ก่ียวกับ ประกอบธุรกจิ “ออนไลน”์ มีสาํ นักงานคณะกรรมการคุ้มครอง 1)พระราชบญั ญตั ขิ าย 2) กฎกระทรวงว่าดว้ ยการ 3) พระราชบญั ญตั ิ ผ้บู รโิ ภค (สคบ.) ทาํ หน้าทก่ี ํากับดแู ล ตรงและตลาดแบบ กําหนดการซือ้ ขายสินค้าหรือ คุ้มครองผู้บริโภค หลกั ๆ 3 ฉบับ ตรง พ.ศ. 2545 บริการ โดยวิธีการพาณชิ ย์ พ.ศ. 2522 วา่ ดว้ ย ซงึ่ ผปู้ ระกอบการควรรแู้ ละทาํ ความเขา้ ใจ อเิ ลก็ ทรอนิกสท์ ไ่ี มถ่ ือวา่ เปน็ การค้มุ ครองผ้บู รโิ ภค กฎหมายเกย่ี วกบั ในการประกอบธุรกิจ ตลาดแบบตรง พ.ศ. 2561 ในด้านการโฆษณา ออนไลน์ พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 การประกอบธุรกิจออนไลนห์ รือการซอ้ื ขายสินคา้ ออนไลน์ ตามกฎหมายนยิ ามวา่ “การตลาดแบบตรง” หมายความว่า การทําตลาดสินคา้ หรอื บริการในลักษณะการสอ่ื สารข้อมูลเพ่ือ เสนอขายสินคา้ หรอื บรกิ ารโดยตรงต่อผู้บรโิ ภค ซง่ึ อยู่ห่างโดยระยะทาง และมุ่งหวังให้บริโภค แต่ละรายตอบกลับ เพ่ือซื้อสนิ ค้าหรือบรกิ ารจากผปู้ ระกอบการธุรกิจตลาดแบบตรงนน้ั ส่วนการ ซือ้ ขายสนิ ค้าหรือบริการโดยวิธีการพาณชิ ยอ์ ิเลก็ ทรอนกิ สท์ ่ไี มถ่ อื วา่ เปน็ ตลาดแบบตรง ให้เปน็ ไป ตามหลักเกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขทก่ี าํ หนดในกฎกระทรวง “การทาํ ตลาดสนิ ค้าหรอื บรกิ ารในลกั ษณะการสอื่ สาร “การซอื้ ขายสินค้าหรือบริการ โดยวิธกี ารพาณิชย์ ขอ้ มลู เพื่ อเสนอขายสินคา้ หรือบรกิ ารโดยตรงตอ่ อเิ ลก็ ทรอนิกสท์ ไี่ ม่ถอื ว่าเป็นตลาดแบบตรง ใหเ้ ป็นไปตาม ผบู้ รโิ ภคซงึ่ อยหู่ า่ งโดยระยะทางและมงุ่ หวงั ใหบ้ รโิ ภค หลักเกณฑล์ ะเงอื่ นไขทกี่ าํ หนดในกฎกระทรวง แตล่ ะรายตอบกลับ” โดยมีวธิ ีการโฆษณาบอกราย ” ไม่ตอ้ งจดทะเบยี นกบั สคบ. ตามพระราชบัญญตั นิ ี้ แต่ ละเอียดของตวั สินคา้ ผ่านหนา้ จอ หรอื ผ่านสอื่ เช่น การทําธุรกรรมพาณชิ ย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commece) แอพพลิเคช่นั อินเตอรเ์ น็ต (facebook, เชน่ ขายเองหรือใหเ้ ชา่ พื้ นทีบ่ นเว็บไซตเ์ กีย่ วกับอกี instagram, line) และทวี ี ถอื ว่าเข้าขา่ ยเป็นการ e-Commece ต้องไปจดทะเบยี นกบั กองพาณิชย์ ตลาดแบบตรง ซึง่ จะตอ้ งจดทะเบียนกบั สคบ. อิเล็กทรอนิกส์ e-Commerce กรมพั ฒนาธุรกิจการค้า ซึง่ ไม่เกีย่ วกบั สว่ นสคบ. 23

กฎกระทรวงว่าดว้ ยการกาํ หนดการซื้อขายสนิ คา้ บรกิ าร โดยวิธีการพาณชิ ย์อิเล็กทรอนิกส์ ท่ีไม่ถอื วา่ เปน็ ตลาดแบบตรง พ.ศ. 2561 1)การขายสินคา้ หรือบริการของบุคคลธรรมดาซึ่งมใิ ชจ่ ดทะเบยี นเปน็ ผปู้ ระกอบธรุ กจิ ตามแบบ ตรงและมรี ายไดจ้ ากการขายสินค้าหรอื บริการโดยวธิ ีพาณิชยอ์ ิเลก็ ทรอนกิ ส์ไมเ่ กินหนึ่งล้าน แปดแสนบาทต่อปี –แตบ่ คุ คลธรรมดามีรายได้เกนิ หนึง่ ล้านแปดแสนบาทตอ่ ปี ไมต่ ้องจด ทะเบยี นกับสคบ. แตต่ ้องเสยี ภาษกี บั กรมสรรพากร และต้องจด VAT. 2) การขายสินค้าหรือบริการของวสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อมทไ่ี ม่ข้นึ ทะเบียนตาม กฏหมายว่าดว้ ยการส่งเสรมิ วสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ มแต่ตอ้ งขึน้ ทะเบียนว่าดว้ ยการ สง่ เสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ม และต้องจดทะเบียนข้นึ กับกรมพัฒนาธรุ กจิ การ คา้ ถา้ ไมจ่ ดทะเบียนหากมกี ารรอ้ งเรียน หรอื เจา้ หนา้ ทีต่ รวจพบผู้ประกอบการจะมีความผิดตาม กฎหมาย ต้องเสียคา่ ปรับต้องระวังโทษจําคุกไมเ่ กนิ หนึง่ ปี หรือปรบั ไม่เกนิ หน่งึ แสนบาท/ปี หรอื ท้งั จําทง้ั ปรบั อีกวนั ละไม่เกินหน่งึ หมืน่ บาท ตลอดเวลาที่ยงั ฝ่าฝืน 3) การขายสินค้าหรือบรกิ ารของวสิ าหกจิ ชุมชนและเครอื ข่ายวิสาหกจิ ชุมชนทไ่ี ดจ้ ดทะเบียน ตามกฏหมายว่าดว้ ยการส่งเสริมวสิ าหกิจชมุ ชน - ได้รับการยกเวน้ ไม่ต้องจดทะเบยี น กบั สคบ. แต่ถา้ ต้องขึ้นทะเบยี นวสิ าหกจิ ชมุ ชน แต่ไม่ทาํ ตามกฎหมาย หากมกี ารรอ้ งเรียน อาจมีความผิดตามกฎหมาย มบี ทลงโทษปรบั ไม่เกนิ หน่งึ ปี ปรบั ไมเ่ กินหนึง่ แสนบาท/ปี และปรบั เพ่ิมวนั ละอกี หนง่ึ หมืน่ บาท ตลอดเวลาทีม่ กี ารฝ่าฝืน 4) การขายสินค้าหรือบริการของสหกรณแ์ ละกลมุ่ เกษตรกรท่ไี ด้จดทะเบียนตามกฏหมายวา่ ด้วยสหกรณ์ - ได้รบั การยกเวน้ ไมต่ อ้ งจดทะเบียนกบั สคบ. แต่ตอ้ งจดทะเบยี นกับสหกรณ์ รปู แบบตลาดขายตรง ประกอบดว้ ย ผู้ประกอบการ สอ่ื (อนิ เตอรเ์ น็ต แอปพลิคชน่ั โทรทัศน์ หนังสอื ) และผบู้ ริโภค รปู แบบตลาดขายตรง ผปู้ ระกอบการ อินเตอร์เน็ต แอปพลเิ คช่นั สือ่ โทรทัศน์ ผู้บริโภค หนังสือ การประกอบธรุ กิจตลาดแบบตรง ห้ามมิให้ผู้ใดประกอบธรุ กิจตลาดแบบตรง เว้น แต่จะได้จดทะเบียนการประกอบธุรกจิ ตลาดแบบตรง (มาตรา 27) โดยถ้าทํากอ่ นจะ ไดร้ ับโทษตามกฎหมาย (มาตรา 51/1) และผ้ใู ดฝ่าฝนื ต้องระวังโทษจาํ คกุ ไม่เกนิ หนึง่ ปี หรอื ปรบั ไมเ่ กนิ หนึง่ แสนบาท หรือท้งั จาํ ท้ังปรับอีกวนั ละไมเ่ กินหนึง่ หมนื่ บาท ตลอดเวลาทีย่ ังฝ่าฝนื 24

สคบ. มีหน้าทีก่ าํ กบั ดแู ลการขายสินคา้ ตลาดแบบตรงทุก ชอ่ งตามแพลตฟอร์ม ทั้งผ้ปู ระกอบการ ส่อื ผ้บู ริโภค ท้ังนีผ้ บู้ รโิ ภคควรทาํ ตามแบบฟอร์มซ้อื ขายเพื่อสามารถซ้อื สนิ คา้ ไดอ้ ย่างมน่ั ใจ หากเกดิ ปญั หา (สนิ คา้ เสียหาย ไมส่ ่งสินค้า ชํารดุ บกพร่อง หรือได้สนิ ค้าไม่ตรงตามท่ซี ้ือ) ไม่สามารถหาผมู้ ารับ ผดิ ชอบ ทางสคบ. จะดําเนิการเจรจาใหจ้ นสดุ ปลายทาง คอื ฟอ้ งดําเนนิ คดใี หถ้ ึงท่สี ดุ โดยไมเ่ สยี คา่ ใชจ้ า่ ย โดยทางสคบ. จะดวู ดิ โี อจากการขนส่งทั้งผู้รับและผซู้ อ้ื การขนสง่ ซึ่งจะดเู ปน็ กรณี ๆ ไป เช่น ช่องทางการรบั ส่ง วิธกี ารโอนเงิน (บัตรเครดิต ชาํ ระปลายทาง หรือท่ธี นาคาร) ถ้ามีการ ปฏิบตั ินอกแพลตฟอร์ม ออกจากกฎกติกา เชน่ ไปติดตอ่ และโอนเงินกนั เองโดยไมผ่ า่ น แพลตฟอรม์ หากเกิดความเสียหาย มกี ารฉอ้ โกงกัน เจา้ ของแพลตฟอรม์ ไมไ่ ดร้ ับรู้ หากมกี ารร้อง เรียนไปสคบ. จะมีปญั หาและยงุ่ ยากไมส่ ามารถจัดการใหไ้ ด้ คุณสมบตั ิและลักษณะต้องหา้ มประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง นิตบิ ุคคล ผ้ยู น่ื คาํ ขอจดทะเบียนการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง ตอ้ งไมเ่ คยถูกเพิกถอนทะเบยี น การประกอบธรุ กิจในระยะเวลาหา้ ปกี ่อนวนั ยน่ื คําขอจดทะเบยี น และตอ้ งมีหุ้นส่วนผ้จู ัดการ ผูจ้ ดั การ หรอื บุคคลซ่งึ รบั ผดิ ชอบในการดําเนินงานของนิติบคุ คล (มาตรา 38/4) โดยไม่มีลักษณะตอ้ งห้ามดังต่อไปนี้ 1 เป็นผู้เป็นบุคคลล้มละลาย การวางหลกั ประกนั ในการยน่ี คาํ ขอจดทะเบยี นการประกอบ 2 เป็นคนไร้ความสามารถหรอื คนเสมอื นไร้ความสามารถ ธุรกิจขายตรงหรือตลาดแบบตรง มาตรา 38/5 ผยู้ ีน่ คําขอจดทะเบยี นการประกอบธุรกิจขาย 3 เคยได้รับโทษจาํ คุกโดยคาํ พิ พากษาถงึ ทส่ี ดุ ใหจ้ ําคกุ ตรงหรอื ตลาดแบบตรง ตอ้ งวางหลักประกนั ตอ่ นาย ทะเบียน เพื่ อเป็นหลกั ประกันการปฎบิ ัตติ ามหลกั เกณฑ์ เว้นแต่เป็นโทษสาํ หรับความผิดทไี่ ด้กระทําโดยประมาท วิธีการ และเงือ่ นไขทกี่ ําหนดในกฎกระทรวง กรณีบคุ คล หรือความผิดระหุโทษ ธรรมดามรี ายไดจ้ ากการประกอบธรุ กจิ ไมเ่ กนิ หนงึ่ ลา้ นแปด แสนบาทต่อปี ภาษไี มต่ อ้ งยนื่ ขอจดตลาดแบบตรง 4 เป็นหุ้นสว่ นผู้จัดการ กรรมการผจู้ ัดการ ผู้จัดการหรือบคุ คลซ่งึ (ยกเว้นให้) *ในกฎหมายตลาดแบบตรง : ผปู้ ระกอบมหี น้า ทตี่ อ้ งรายงานผลประกอบการหรอื ยอดขายกอ่ นหกั รายจา่ ย รบั ผดิ ชอบในการดาํ เนนิ งานของหา้ งหนุ้ สว่ นหรอื บรษิ ทั อนื่ ทจ่ี ด ทุกส้นิ ปี (31 ธนั วาคมของป)ี ภายใน 60 วัน ทะเบียนการประกอบธุรกจิ ขายตรงหรือตลาดแบบตรง 5 เคยเปน็ หุ้นส่วนผู้จดั การ กรรมการผู้จดั การ ผู้จัดการ หรือบคุ คลซง่ึ รับผิดชอบ ในการงานของห้างหุน้ สว่ นหรอื บริษัททเ่ี คยถกู เพิ กถอนทะเบียนการประกอบ ธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรงระยะเวลาหา้ ปกี ่อนวนั ยน่ื คําขอจดทะเบียน (มาตรา 38/2) เงินหลกั ประกันในการยืน่ คําขอ จดทะเบยี นการประกอบธุรกิจขายตรงหรอื ตลาดแบบตรง ผู้ยนื่ คําขอรายใหม่ 5,000 บาท 25,000 บาท - บุคคลธรรมดา - หา้ งหุน้ ส่วนหรือบรษิ ัท ผู้จดทะเบียนประกอบธรุ กิจขายตรง 5,000 บาท 25,000 บาท รายไดไ้ ม่เกิน 25 ลา้ นบาท/ปี 50,000 บาท - บคุ คลธรรมดา 100,000 บาท - หา้ งหุ้นส่วนหรอื บริษทั 200,000 บาท รายไดไ้ ม่เกิน 50 ลา้ นบาท/ปี รายได้ไม่เกิน 100 ล้านบาท/ปี รายได้เกิน 100 ลา้ นบาท/ปี 25

เงนิ หลักประกันทีไ่ ด้วางย่นี คาํ ขอจดทะเบียนการประกอบธรุ กจิ ขายตรงหรือตลาดแบบตรงกบั ทางสคบ. ทัง้ น้ีสคบ. ต้องรับเงินหลักประกันเอาไวเ้ พื่อจ่ายชดเชยเยียวยาให้กบั ผ้บู รโิ ภค หากบรษิ ัททําความเสยี หายใหก้ ับผู้บรโิ ภคและไม่ยอมชดเชยเยยี วยา ในเบ้อื งต้นทางสคบ. จะสั่งให้จ่ายเงินหลักประกันใหผ้ ้บู รโิ ภค ตัวอยา่ งเชน่ 1) หากมีเงินหลักประกนั จากระบบหายไป บริษทั ตอ้ งมหี น้าทีเ่ อาเงินไปเติมให้ครบ ถ้าไม่เตมิ สคบ.อาจจะมกี ารเพิ ก ถอนใบอนญุ าตไมใ่ ห้ประกอบธรุ กจิ ตลาดแบบตรง 2) ถา้ ผู้ประกอบการต้องการเลิกธรุ กจิ หรือมคี วามประสงค์จะไม่ดาํ เนนิ การ สามารถแจง้ ความประสงค์ไปยงั สคบ. นายทะเบียนสคบ. จะคืนรับประกนั พรอ้ มดอกผลมที ้งั เงนิ สดและหนังสอื คาํ้ ประกัน แล้วแต่บริษัทจะเลอื กจะ ใชร้ ปู แบบอาจเป็นเงินสดหรือรับหนงั สือคํา้ ประกนั ถ้าวางหลกั ประกนั เป็นเงินสดทางสคบ. จะเปดิ บัญชไี วแ้ ละ เก็บบญั ชไี วใ้ ห้ ชือ่ บัญชสี คบ.เพื่ อการวางหลักประกัน บริษทั ... การออกเอกสารการซอื้ ขาย ผปู้ ระกอบธุรกิจตลาดแบบตรง มีหนา้ ทีจ่ ดั ทํากฎหมาย 1) จัดทําเอกสารการซอื้ ขายสินคา้ หรือบริการ และให้ผูจ้ าํ หน่ายอิสระหรอื ตัวแทนขายตรง มีหนา้ ทสี่ ง่ มอบเอกสารการซอื้ ขายสนิ ค้าหรอื บริการน้นั แก่ผู้บรโิ ภคพร้อมกับสินค้าหรอื บรกิ าร 2) จัดทาํ เอกสารการซือ้ ขายสินค้าหรอื บริการสง่ มอบให้แก่ผู้บริโภคพร้อมกับสนิ ค้าหรือบรกิ าร 3) เอกสารซือ้ ขาย ตอ้ งมีข้อความภาษาไทยทอี่ ่านเข้าใจงา่ ย โดยระบุชอื่ ผ้ซู อื้ และผูข้ าย วนั ทีซ่ ือ้ ขาย และวนั ทีส่ ่งมอบสนิ ค้าหรือบรกิ าร รวมท้ังสิทธิของผ้บู รโิ ภคในการเลิกสญั ญาดงั กล่าวทเี่ ห็นเดน่ ชัด กวา่ ขอ้ ความท่วั ไป (มาตรา 30) โดย การซอื้ ขายสนิ คา้ หรือการใดทผี่ ปู้ ระกอบธรุ กิจขายตรง ผจู้ ําหน่ายอสิ ระ ตวั แทนขายตรงหรือผูป้ ระกอบธุรกจิ ตลาดแบบตรง ฝา่ ฝนื หรอื ไมป่ ฏิบตั ิ ตามกฎหมาย (มาตรา 30 หรอื มาตรา 31) การซอื้ ขายสนิ คา้ หรอื บรกิ ารน้นั ไมม่ ผี ลผกู พั นผ้บู ริโภค (มาตรา 32) สิทธิของผู้บริโภคในการเลกิ สญั ญา บทกําหนดโทษของเอกสารการซือ้ ขาย ผบู้ รโิ ภคมสี ทิ ธิบอกเลิกสัญญา โดยการส่งหนังสอื ผู้ประกอบธรุ กิจขายตรงหรือผ้ปู ระกอบธรุ กิจตลาดแบบตรง แสดงเจตนาภายในเจ็ดวนั นบั วนั ทไี่ ด้รับสนิ ค้าหรอื บรกิ าร ผใู้ ดไม่จดั ทาํ เอกสารการซอื้ ขายสนิ คา้ หรือบรกิ าร หรือผ้จู ําหนา่ ยอิสระ ตัวแทน ไปยังผปู้ ระกอบธุรกจิ ขายตรงหรอื ผปู้ ระกอบการธรุ กิจตลาด ขายตรงหรอื ผปู้ ระกอบธรุ กจิ ตลาดแบบตรงผใู้ ดไมส่ ง่ มอบเอกสารการซือ้ ขาย แบบตรง สาํ หรับธุรกจิ ขายตรงผู้บรโิ ภคจะแจ้งไปยังผูจ้ ําหน่าย สินคา้ หรอื บริการ หรอื สง่ มอบเอกสารซือ้ ขายสนิ ค้าหรอื บริการทไี่ มเ่ ป็นไปตาม อิสระหรือตวั แทนขายตรงทเี่ กยี่ วขอ้ งก็ได้ และไมใ่ ชบ่ ังคับกบั มาตรา 30 วรรคหนงึ่ หรอื วรรคสอง ต้องระวังโทษไมป่ รบั ไม่เกิน หา้ หมนื่ ประเภทราคาหรือชนิดของสินค้าหรือบรกิ ารตามทกี่ าํ หนดใน บาท (มาตรา 51/2) และ ผู้ใดทําเอกสารการซอื้ ขายสนิ คา้ หรอื บริการทมี่ ี พระราชกฤษฎีกา (มาตรา 33) ขอ้ ความอันเปน็ เท็จ ต้องระวางโทษจําคกุ ไม่เกินหกเดอื นหรอื ปรับไม่เกิน ห้าหมืน่ บาท หรอื ท้งั จาํ ท้งั ปรับ และในกรณที ผี่ ูจ้ าํ หนา่ ยอิสระ ตัวแทนขายตรง เมอื่ ผบู้ รโิ ภคใชส้ ิทธิเลิกสัญญา ให้ผู้จําหนา่ ยอสิ ระตัวแทน ผปู้ ระกอบธุรกิจขายตรงหรือผ้ปู ระกอบธุรกิจตลาดแบบตรงใดไม่คนื เงนิ ขายตรง ผู้ประกอบธุรกจิ ขายตรง หรอื ผปู้ ระกอบธุรกิจตลาด ตามจาํ นวนและภายในกําหนดระยะเวลาตามวรรคหนงึ่ ให้ผู้จาํ หน่ายอสิ ระ แบบตรงคนื เงนิ เตม็ จาํ นวนทผี่ บู้ รโิ ภคจา่ ยไปเพื่ อการซอื้ สินคา้ ตวั แทนขายตรง ผูป้ ระกอบธุรกจิ ขายตรงหรือผปู้ ระกอบธุรกจิ ตลาดแบบตรง การน้ันภายในกําหนดเวลา 15 วันนับแตว่ นั ทีไ่ ด้รบั หนงั สือแสดง น้นั ชาํ ระเบยี้ ปรบั ตามอัตราทคี่ ณะกรรมการระกาศกําหนดใหแ้ ก่ผูบ้ ริโภค เจตนาเลกิ สญั ญา ในกรณีทีผ่ ู้จําหนา่ ยอสิ ระ ตัวแทนขายตรง (มาตรา 51/3) ผ้ปู ระกอบธรุ กิจขายตรงหรือผูป้ ระกอบธรุ กจิ ตลอดแบบตรงใด ไม่คืนเงนิ ตามจํานวนและภายในกาํ หนดเวลาตามวรรคหนงึ่ ให้ ผู้จําหนา่ ยอิสระ ตัวแทนขายตรง ผู้ประกอบธุรกิจขายตรงหรอื ผู้ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงน้นั ชําระเบยี้ ปรบั ตามอัตราที่ คณะกรรมการประกาศกาํ หนดให้แกผ่ บู้ รโิ ภค (มาตรา 36) ประเด็นปญั หาทีม่ ีการรอ้ งเรยี นสูงสดุ 1) ผู้บริโภคได้รบั สินคา้ ไมต่ รงตามทีไ่ ด้ส่งั ซือ้ 2) จัดส่งสนิ ค้าช้ากวา่ กําหนด 3) การกาํ หนดราคาสนิ ค้าผิดพลาด 4) การคืนเงิน คืนสินค้าทมี่ ปี ญั หา ไมเ่ ป็นไปตามข้อตกลง หรอื ลา่ ช้า 5) ผปู้ ระกอบธุรกจิ ใช้ข้อความโฆษณาทเี่ ปน็ เทจ็ หรอื เกนิ จริง เบีย้ ปรับตามอัตราทคี่ ณะกรรมการ ให้คิดในอตั ราดอกเบยี้ สําหรับลกู ค้าช้นั ดรี ายย่อยของธนาคารกรงุ ไทยบวกสบิ (MRR +10) ตอ่ ปขี องจาํ นวนเงินทผี่ ูบ้ รโิ ภคจ่ายไปเพื่ อการซอื้ สนิ ค้าหรอื บริการ 26

พระราชบัญญัตคิ มุ้ ครองผู้บรโิ ภค พ.ศ. 2522 วา่ ดว้ ยการคุม้ ครองผู้บรโิ ภคในด้านการโฆษณา โดยการโฆษณาจะตอ้ งไมก่ ระทาํ ดังน้ี 1) ตอ้ งไม่กระทาํ โดยเป็นเทจ็ หรอื เกินความจรงิ 2) กอ่ ให้เกิดความเขา้ ใจผิดในสาระสาํ คญั 3) สนบั สนุนให้กระทาํ ผดิ กฎหมาย หรอื ศีลธรรม หรือนาํ ไปสูค่ วามเสือ่ มเสยี ในวฒั นธรรมของชาติ 4) ทาํ ใหเ้ กิดความแตกแยก หรือเสือ่ มเสียความสามัคคคี 5) ขอ้ ความอยา่ งอืน่ ตามทกี่ ําหนดในกฎกระทรวง *การโฆษณาต้องมีอ้างอิงทางวชิ าการ บทความหรอื ทางสถิติ กรณีทคี่ ณะกรรมการว่าดว้ ยการโฆษณาเหน็ วา่ การโฆษณาใดฝา่ ฝนื กฎหมาย เชน่ มีข้อความทีไ่ ม่เป็นธรรม เป็นเท็จ คณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณามีอํานาจออก คําส่ังตามหลักเกณฑ์และวิธีการดังนี้ 1) ใหแ้ กไ้ ขข้อความหรือวธิ กี ารในการโฆษณา 2) หา้ มการใช้ข้อความบางอยา่ งทีป่ รากฏในโฆษณา 3) หา้ มการโฆษณาหรือห้ามใช้วิธีการน้ันในการโฆษณา 4) ให้โฆษณาเพื่ อแกไ้ ขความเข้าใจผดิ ของผู้บริโภคทอี่ าจเกิดขึน้ แล้ว (มาตรา 22 มาตรา 23 มาตรา 24 (1) หรือมาตรา 25) กฎกระทรวงฉบับท่ี 5 (พ.ศ.2534) ขอ้ ความโฆษณาสนิ ค้าหรอื บรกิ ารทร่ี ะบุหรือประกาศวา่ ผ้ปู ระกอบธรุ กจิ จดั ให้มกี ารใหข้ องแถมหรือใหส้ ทิ ธิ หรือประโยชนโ์ ดยให้เปลา่ โดยข้อความโฆษณาดังกล่าวมิไดร้ ะบรุ ายละเอยี ด 1) วัน เดอื น ปที เี่ ร่มิ ตน้ และส้นิ สุดของการจัดใหม้ กี ารให้ของแถมหรือใหส้ ิทธหิ รอื ประโยชน์ 2) ประเภท ลักษณะ และมูลคา่ ของแถมสทิ ธิประโยชนแ์ ตล่ ะส่งิ หรือมลู ค่ารวมในแต่ละประเภท เว้นแต่ กรณีทีเ่ ป็นการโฆษณาทางวิทยุกระจายเสยี งหรอื วทิ ยุโทรทัศน์ผู้ประกอบธรุ กจิ จะไมร่ ะบคุ ุณคา่ ของของ แถมสิทธิ หรือประโยชน์แต่ละส่งิ หรือมูลค่ารวมในแตล่ ะประเภทก็ได้ แต่กรณเี สยี่ งโชคต้องไป ขออนญุ าตตามพรบ.การพนันดว้ ย บทลงโทษการโฆษณา ผใู้ ดโฆษณาโดยใช้ขอ้ ความ ฝ่าฝนื หรอื ไมป่ ฏบิ ัตติ ามกฎหมาย ต้องระวางโทษจาํ คกุ ไม่เกนิ สามเดือน หรอื ปรับไม่เกินสามหม่นื บาท หรือทง้ั จาํ ทง้ั ปรับ ปจั จบุ ันมีการปรบั เพ่ิมขน้ึ (มาตรา 48) และในกรณที ่ี นติ บิ ุคคลเปน็ ผ้กู ระทําความผิดซึ่งตอ้ งรบั โทษ กรรมการหรือผู้จดั การหรือผรู้ ับผดิ ชอบในการดาํ เนินการ ของนติ บิ คุ คลนั้นต้องรบั โทษตามที่กฎหมายกําหนดสําหรับความผิดนน้ั ๆ ด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ไดว้ ่าตน ไม่ได้มีส่วนในการกระทําความผิดของนติ ิบุคคลนน้ั (มาตรา 59) ตราสญั ญลักษณ์หรือโลโก้ “ธรุ กิจตลาดแบบตรง Direct Marketing OCPB Register” ผู้ประกอบการตลาดแบบตรงทจี่ ดทะเบียนแลว้ ตรวจสอบรายชอื่ ได้ในเว็บไซดข์ องสคบ. www.ocpb.go.th หรอื ติดต่อ : ฝา่ ยรบั จดทะเบียนและส่งเสริมการประกอบธุรกจิ กองคุ้มครองผูบ้ ริโภคด้านธรุ กจิ ขายตรงและตลาดแบบตรง สาํ นักงานคณะกรรมการค้มุ ครองผูบ้ ริโภค (สคบ.) 27

08 สงิ่ ทตี่ ้องรู้ กอ่ นนาํ สนิ ค้าเข้า หรอื ออกนอกประเทศ 28

08 ส่ิงท่ตี ้องรู้ กอ่ นนาํ สินค้าเข้า หรอื ออกนอกประเทศ “ผปู้ ระกอบการทีต่ ้องการนาํ สนิ คา้ เขา้ หรือออกนอกประเทศจาํ เป็นต้องศกึ ษาขอ้ มูล ของประเทศคคู่ ้าเป้าหมาย ท้ังขอ้ มลู พื้ นฐานท่ัวไป เศรษฐกจิ และนโยบายของแต่ละ ประเทศ พฤตกิ รรมผู้บรโิ ภค กฎระเบยี บด้านการคา้ การลงทุน รวมไปถึงการมอง หา partner ทีด่ ีเพื่ อช่วยให้ธุรกจิ เตบิ โตไดอ้ ย่างม่นั คง” ผปู้ ระกอบการทเี่ พ่ิงเร่มิ ตน้ จะส่งออกสนิ คา้ จะพบว่ามคี วามยุ่งยากอยู่ไม่นอ้ ยในข้นั ตอนการจดั ทาํ เอกสาร รับรองตา่ ง ๆ กอ่ นส่งออกสินคา้ ดงั น้ันการเตรียมความพรอ้ มจงึ เป็นส่งิ สาํ คญั ทเี่ ป็นตวั ชว่ ยใหก้ าร ดาํ เนนิ ธุรกจิ มีความราบรนื่ และคลอ่ งตัวมากย่ิงขึน้ ไมเ่ ปน็ สนิ ค้าต้องหา้ ม 1 5 กฎเหล็กสาํ คัญ มอี ายกุ ารใชง้ านมากกว่า 1 ปขี น้ึ ไป หรือมีสว่ นผสมและปรมิ าณ ของลักษณะ ทีท่ าง FDA ของประเทศ 5 เชน่ ในบางประเทศอาจใชร้ ะยะเวลา ผลติ ภณั ฑก์ อ่ นสง่ ในการขนสง่ นาน 1-2 เดือน ผนู้ าํ เข้าอนุญาต ออกสินคา้ ควรคาํ นวณเผื่อระยะเวลา ของอายสุ ินคา้ สําหรบั การโปรโมท 2 3 ไปจนถงึ ระยะเวลาทีม่ ี ลกู คา้ มาซือ้ สินคา้ ไวด้ ้วย บรรจุภัณฑ์และวสั ดุ ปา้ ยฉลากถกู ตอ้ ง มคี วามเหมาะสมตอ่ การส่งออก สอดคล้องกับกฎระเบยี บ 4 เช่น ปดิ สนทิ ไม่ชํารดุ งา่ ย ไม่ ของประเทศผู้นําเข้า เช่น ภาษาและข้อมูลบนฉลาก ผลิตภัณฑ์ตอ้ งผ่านการรบั รอง เปลืองพ้ื นท่ใี นการขนส่ง มาตรฐานที่ประเทศผ้นู ําเข้ากําหนด และวัสดทุ ใ่ี ช้ต้อง มีความเหมาะสม เช่น สนิ ค้าท่เี ปน็ อาหารจะตอ้ งมี ต่อการขนสง่ การรบั รอง อย. มาตรฐาน โรงงานผู้ผลติ GMP HACCP หรอื มาตรฐานเฉพาะ ของประเทศนัน้ ๆ 6 Checklist การเตรียมเอกสารสาํ หรับสง่ ออกทสี่ ําคัญมาก เอกสารมาตรฐาน เอกสารบรษิ ทั เอกสารเกย่ี วกับโรงงาน เอกสารเกีย่ วกบั เอกสารการส่งออก เอกสารการวางบลิ แหลง่ วตั ถุดิบ และขบวนการผลิต การผลติ ภณั ฑ์ และชําระเงิน • ใบสาํ คญั การจดทะเบยี น • Certificate of Free Sale • หากเป็นพืชการเกษตร หา้ งหุ้นส่วนบรษิ ทั • ใบอนญุ าตผลติ /ใบอนุญาตโรงงาน • รูปถ่ายผลิตภัณฑ์ ดา้ นหน้า และดา้ นหลงั form Ministry of Public • Invoice (ใบวางบิล) ต้องมี GAP • หนังสือรับรองของบริษทั • Process Flow ข้นั ตอนการผลติ • ใบจดทะเบยี นอาหารสบ.5 Health • Packing List (Good Agricultural ทีม่ อี ายุไม่นอ้ ยกวา่ 6 เดือน • มาตรฐานโรงงาน GMP/HACCP /ใบจดแจ้ง กรณีเป็นเครือ่ งสําอาง • Certificate of Fruit, Food, (รายการบรรจกุ ล่อง) Practices) • ทะเบียนผเู้ สียภาษี ภพ.20 • มาตรฐานการผลติ อนื่ ๆ เชน่ • สว่ นประกอบในผลิตภณั ฑ์ ข้อมูลบนฉลาก vegetabl Quarantine • มาตรฐานรบั รองพิเศษ Halal/Organic ทีม่ ีภาษาอังกฤษและภาษาของแต่ละประเทศ • Certificate of Origin from เชน่ Organic • หนังสอื รับรองมาตรฐานบรรจภุ ัณฑ์ เช่น Ministry of Commerce Food Grade ท้ังนขี้ นึ้ อย่กู บั มาตรฐานใน แตล่ ะประเทศน้นั นอกจากการเตรียมความพรอ้ มในเรอื่ งดังกล่าวข้างต้นแล้ว ผ้ปู ระกอบการทสี่ นใจจะสง่ ออกสินคา้ จะต้องตอบคาํ ถามตนเองให้ไดก้ อ่ นวา่ คณุ มีความ พรอ้ มในการส่งออกมากนอ้ ยแค่ไหน มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจในผลติ ภณั ฑ์ รจู้ ดุ เดน่ และจุดออ่ นของสนิ ค้าตนเองเป็นอย่างดี สินค้าน้นั เหมาะกับกลมุ่ ลูกค้า ไหนและ มีช่องทางการตลาดแบบใด สําหรับผปู้ ระกอบการทสี่ นใจธุรกจิ นาํ เขา้ -สง่ ออก จากตา่ งประเทศท้งั มือใหม่หรอื ผูต้ ้องการคําปรึกษาจาก ผู้เชยี่ วชาญ สามารถสอบถามข้อมลู เพ่ิ มเติมได้จากหน่วยงานภาครัฐ ตัวแทนบรษิ ทั นําเข้าสง่ ออก หรอื โครงการภาครฐั ทผี่ ปู้ ระกอบการเขา้ รว่ มกิจกรรม 29

09 บัญชีเรอ่ื งง่าย เร่อื งน่ารู้สําหรบั บัญชี ของผูป้ ระกอบการ OTOP และวิสาหกจิ ชุมชน 30

09 บัญชเี รอ่ื งง่าย เรอื่ งน่ารู้สาํ หรบั บญั ชี ของผปู้ ระกอบการ OTOP และวิสาหกิจชมุ ชน การประกอบธุรกจิ ในปจั จุบนั ไม่วา่ จะเปน็ ขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ หรือขนาดใดๆ จะมกี ารจดทะเบียนหรือ ไม่จดทะเบียน กฎหมาย (พระราชบัญญัติการบญั ชี พ.ศ. 2543) มีการบงั คับใหต้ อ้ งมกี ารจัดทําบญั ชี ซึ่งการจัดทําบญั ชีและงบการเงินน้ี จะทําใหผ้ ูป้ ระกอบการ OTOP ทราบผลการดําเนินธุรกิจ สถานะทางการเงนิ และ นําไปสู่ความมน่ั คงของกิจการ แต่ปญั หาประการหนึ่งของผู้ประกอบการ OTOP ทีพ่ บคอื การไม่ทราบข้อมลู ตัวเลขใน การดําเนินกิจการของตัวเอง ไม่ทราบวา่ มกี ารใชเ้ งนิ ลงทุนไปจาํ นวนเทา่ ไหร่ มรี ายได้วนั ละเท่าไหร่ มสี ินค้าคงเหลือ เทา่ ไหร่ และแม้กระท่งั ธรุ กจิ ไดก้ าํ ไรเทา่ ไหรย่ ังไมส่ ามารถคํานวณออกมาไดเ้ นือ่ งจากไม่มกี ารเกบ็ ขอ้ มูลด้านบญั ชแี ละ งบการเงิน แตใ่ นบางกจิ การของ OTOP ผู้ประกอบการได้จดั ทาํ งบบญั ชีการเงนิ อยา่ งงา่ ยแล้ว หรอื มีการ คาํ นวนกําไรของธรุ กิจครา่ วๆ แต่กลบั เอาเงินท่ไี ด้มาไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว หรอื นําไปซ้อื วตั ถุดิบอน่ื ๆเพิ่มเติม ไม่มี การแยกเงินของกจิ การกับทใ่ี ชส้ ่วนตัว ถึงแม้กิจการจะมยี อดขายและรายไดจ้ าํ นวนมาก แตเ่ ม่อื ประกอบธุรกจิ ไปได้ สกั พักจะกอ่ ให้เกดิ หนี้สิน และเลิกกิจการในท่สี ุด โดยแนวทางหน่งึ ท่ีจะชว่ ยกําจัดปญั หาเหล่าน้ีได้คอื การทาํ บัญชหี รือ งบการเงนิ น่นั เอง เพราะจะทําใหผ้ ู้ประกอบการ OTOP ทราบท่มี าทีไ่ ปของตวั เลขภายในกจิ การเพื่อให้การใชเ้ งิน เปน็ ไปอยา่ งมีระบบ ระเบยี บ และมวี ินัยทางการเงินนัน่ เอง องคป์ ระกอบทางบญั ชที ีส่ ําคัญ ในการจดั ทาํ บญั ชีของธุรกจิ OTOP เพ่ือให้เกิดกระบวนการในการ ทํางานที่เปน็ ระบบหรือจดั การเอกสารในดา้ นทางการบัญชที ี่เหมาะสม จะมอี งคป์ ระกอบที่สําคญั อยู่ 5 หมวด สินทรัพย์ หน้ีสิน ทุน รายได้ คา่ ใชจ้ า่ ย ทรัพยากรทอี่ ยใู่ นความควบคุมของ คือภาระผูกพันในปจั จบุ ัน คือการลงทนุ รายได้ คือ การเพ่ิมค่า การลดค่าของสินทรัพย์ กิจการ ทรัพยากรดังกล่าวเป็นผลของ ของกิจการ เป็นผลของ การเพ่ิมทุน การถอนทุน ของสนิ ทรพั ยห์ รอื การลด หรอื การเพ่ิมขนึ้ ของหนสี้ นิ เหตกุ ารณใ์ นอดตี ซงึ่ กจิ การคาดวา่ จะไดร้ บั เหตกุ ารณ์ในอดีตซงึ่ การ การทีผ่ ปู้ ระกอบการ ลงของหนีส้ ินอนั ส่งผล อนั ส่งผลให้สว่ นของ ประโยชนเ์ ชงิ เศรษฐกจิ จากทรพั ยากรนนั้ ใน ชาํ ระภาระผกู พันนนั้ คาดวา่ OTOP นาํ สินทรพั ย์มา ให้สว่ นของเจ้าของเพ่ิม เจา้ ของลดลง ท้งั นีไ้ ม่รวม อนาคต ซงึ่ สามารถแบง่ ออกได้เป็น จะสง่ ผลใหก้ จิ การสญู เสยี ลงทนุ ขนึ้ โดยไม่รวมถึงเงินทุน ถงึ การแบ่งปนั สว่ นทนุ ให้ ทรพั ยากรทมี่ ปี ระโยชนเ์ ชงิ ทไี่ ดร้ บั จากผมู้ สี ว่ นรว่ มใน กบั ผมู้ สี ว่ นรว่ มในสว่ นของ สนิ ทรพั ยห์ มุนเวียน เศรษฐกิจ สว่ นของเจา้ ของเชน่ ราย เจา้ ของ (สินทรพั ยท์ ีม่ ลี กั ษณะเป็นเงินสดหรอื ไดค้ ่าบริการ ขายสินค้า เทยี บเท่าเงนิ สด) เชน่ เงินสด เงนิ ฝาก ดอกเบีย้ เงินฝากธนาคาร ธนาคาร ลกู หนกี้ ารคา้ ต๋วั รบั เงนิ เป็นตน้ สนิ ทรัพยไ์ ม่หมุนเวียน (สนิ ทรพั ย์ทมี ีอายุการใช้งานหรือการใช้ ประโยชน์ เกินกว่า 1 ป)ี เช่น ทีด่ นิ อาคาร อุปกรณ์สํานกั งาน เครือ่ งจกั ร และสิทธิบตั ร เป็นต้น 31

ชนิดของบัญชีทตี่ ้องจัดทํา เอกสารทตี่ อ้ งใช้ประกอบการลงบัญชี ไดแ้ ก่ มอี ยู่ 3 ประเภทหลกั เอกสารทจี่ ดั ทาํ ขนึ้ โดยบุคคลภายนอก เชน่ ใบเสรจ็ รบั เงิน ทไี่ ด้รบั มาจากการซือ้ สนิ ค้า ซึง่ จะเป็นใบเสร็จ ตัวจริง ใบรับสนิ คา้ ใบกาํ กับสินคา้ เป็นต้น เอกสาร ทจี่ ดั ทําขึน้ โดยผู้มีหน้าทจี่ ดั ทําบัญชเี พื่ อออกใหแ้ ก่ บุคคลภายนอก เชน่ ใบเสรจ็ รบั เงินทีอ่ อกใหแ้ ก่ลูกคา้ ซึง่ จะเป็นตัวจริง ให้เร่มิ ทําบัญชี นับแตว่ ันทไี่ ด้รบั การจดทะเบยี น หรอื วันเร่มิ ประกอบกจิ การเพื่ อ ทีผ่ ้ปู ระกอบการจะสามารถนาํ มาวางแผนการเงินได้ และดําเนนิ การไดถ้ ูกต้องตามกฎหมาย บัญชีรายวนั บัญชแี ยก บัญชสี นิ คา้ ประเภท /วัตถดุ ิบ จะประกอบไปดว้ ย บัญชีราย วันรับเงิน บัญชรี ายวันจ่าย จัดทาํ ขนึ้ เพื่ อแยกต่างหาก แสดงการเคลอื่ นไหวของ เงนิ บัญชีรายวันซือ้ และ สําหรบั รายการตา่ งๆ ในงบ ปรมิ าณสินค้าหรือวัตถดุ บิ การเงิน โดยผ่านรายการตาม แตล่ ะชนิด และประเภทว่ามี บญั ชีรายวนั ขาย ปรมิ าณรับเข้ามา จ่ายออก ประเภทบัญชที เี่ กดิ ขึน้ ไป และยอดคงเหลือเทา่ ใด การยืน่ แบบแสดงรายการและชาํ ระภาษขี องวสิ าหกจิ ชุมชน วสิ าหกิจชุมชนจะเสียภาษีประเภทใดบ้างน้นั ขนึ้ อย่กู ับรูปแบบและธุรกรรมของวสิ าหกิจ ชมุ ชนนน้ั ๆ โดยท่วั ไปแลว้ วสิ าหกจิ ชมุ ชนจะต้องเสียภาษี ดงั นี้ ภาษีมลู ค่าเพ่ิม ภาษเี งนิ ไดบ้ คุ คลธรรมดา (Value Added Tax : VAT) (Persoanl Income Tax : PIT) ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ วสิ าหกจิ ชมุ ชน ภาษีเงินได้นติ ิบคุ คล (Specific Business Tax : SBT) (Corporate Income Tax : CIT) ภาษเี งนิ ได้หัก ณ ทจี่ า่ ย อากรแสตมป์ (Withholding Tax : WHT) (Stamp Duty) วสิ าหกิจชุมชนทีป่ ระกอบกิจการในรูปของหา้ งหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบคุ คลทม่ี ิใช่นติ บิ คุ คล มีหน้าทีต่ ้องเสียภาษีเงินได้บคุ คลธรรมดาตามทก่ี ฎหมายกําหนด แตเ่ นื่องจากรฐั บาลตอ้ งการส่งเสรมิ และสนบั สนุนใหว้ สิ าหกจิ ชมุ ชนสามารถเตบิ โตไดอ้ ย่าง เขม้ แขง็ เป็นองคก์ รทางธรุ กิจทีพ่ ัฒนาอย่างยั่งยนื และเพื่อชว่ ยบรรเทาภาระภาษอี ย่างตอ่ เน่ือง จึงได้ออก กฎกระทรวง ฉบับที่ 330 (พ.ศ.2560) ขยายระยะเวลาการยกเวน้ ภาษีเงนิ ไดส้ ําหรบั วสิ าหกจิ ชมุ ชนตาม กฎหมายว่าดว้ ยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน เฉพาะท่เี ปน็ ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบคุ คลทม่ี ิใชน่ ติ ิบุคคล ซึง่ มเี งนิ ไดไ้ มเ่ กินหนงึ่ ล้านแปดแสนบาทตอ่ ปสี ําหรบั ปภี าษีน้นั ออกไปอีกเป็นระยะเวลา 3 ปี สําหรับเงินไดพ้ ึง ประเมินท่ไี ด้รับตั้งแตว่ นั ที่ 1 มกราคม 2560 ถึงวนั ท่ี 31 ธนั วาคม 2562 32

เงอื่ นไขการยกเว้นภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดาให้แก่วสิ าหกิจชุมชน เปน็ วสิ าหกจิ ชุมชนตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการสง่ เสรมิ วิสาหกจิ ชุมชน ทีต่ ้องจดทะเบยี น และไดร้ บั ใบสาํ คญั แสดงการจดทะเบยี นจากกรมสง่ เสรมิ การเกษตรตามพ.ร.บ.สง่ เสรมิ วสิ าหกจิ ชุมชน พ.ศ. 2548 เฉพาะทีเ่ ปน็ ห้างหุ้นส่วนสามญั หรอื คณะบุคคลท่มี ใิ ช่ นติ บิ ุคคล วสิ าหกจิ ชุมชนทม่ี เี งนิ ได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (5)(6)(7)(8) แหง่ ประมวลรษั ฎากร ตอ้ งจดั ทาํ รายงานแสดงรายไดแ้ ละรายจ่ายประจาํ วัน หรอื รายงานเงนิ สดรบั - จา่ ย ประจาํ วัน เปน็ ภาษาไทย ภายใน 3 วนั ทําการนับแต่วนั ทม่ี ีรายได้หรือรายจ่าย โดยตอ้ งมี รายการและขอ้ ความอย่างนอ้ ยตามแบบท่แี นบท้ายประกาศอธิบดกี รมสรรพากรเกีย่ วกบั ภาษีเงนิ ได้ (ฉบับที่ 161) วิสาหกจิ ชุมชนต้องเก็บรักษารายงานแสดงรายไดแ้ ละรายจา่ ยประจําวนั หรือรายงาน เงินสดรับ - จ่ายประจําวนั และใบสําคญั แสดงการจดทะเบียนวสิ าหกิจชุมชนไว้ไมน่ ้อย กว่า 5 ปี ณ ทต่ี ัง้ ของวสิ าหกิจชมุ ชน พร้อมทีจ่ ะให้เจา้ พนกั งานของกรมสรรพากรตรวจ สอบไดท้ นั ที หมายเหตุ : กรณีวสิ าหกิจชุมชนทมี่ ีเงินได้พึ่ งประเมินเกินกว่า 1,800,000 บาทตอ่ ปี จะต้องนําเงินไดพ้ ึ งประเมนิ ต้งั แตบ่ าทแรก มาคาํ นวณภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดา วิธกี ารคาํ นวนภาษจี ากเงินไดส้ ุทธิ (แบบข้นั บันได) * ตวั อยา่ ง วสิ าหกิจชมุ ชนบ้านวังบอน มรี ายไดเ้ ดอื น 50,000 บาท เงินได้ - คา่ ใชจ้ ่าย - ค่าลดหย่อน = เงินไดส้ ุทธิ (ปลี ะ 600,000 บาท) หักคา่ ใชจ้ า่ ยแบบเหมา 150,000 บาท จ่ายประกันสังคมให้กับสมาชิก 27,000 บาท จากน้ัน ประกันสังคม เงินไดส้ ุทธิ x อตั ราภาษี = เงนิ ภาษีทตี่ ้องจา่ ย 600,000 - 150,000 - (27,000) = 423,000 รายได้ต่อปี คา่ ใชจ้ า่ ย คา่ ลดหย่อน เงินไดส้ ทุ ธิ ตวั อย่างการคาํ นวนภาษีจากเงนิ ไดส้ ุทธิ นําเงนิ ได้สทุ ธมิ าทาํ การคิดเงินทตี่ ้องจา่ ย โดยใชก้ ารคํานวณแบบข้นั บันไดอ้างอิงจากตาราง (แบบข้นั บันได) ข้นั ที่ 1 150,000 x 0% = 0 บาท อตั ราภาษเี งนิ ไดบ้ คุ คลธรรมดา ข้ันที่ 2 ข้นั เงนิ ไดส้ ทุ ธิต้ังแต่ เงนิ ไดส้ ุทธิจาํ นวน อตั ราภาษี ภาษสี งู สุดในแต่ละข้นั เงินได้ ภาษีสะสมสูงสุด 423,000 = 150,000 x 5% = 7,500 บาท สงู สดุ ของข้นั ของข้ัน ข้ันที่ 3 12,300 บาท 0 - 150,000 150,000 5 ยกเวน้ * 0 (เงนิ ได้สทุ ธ)ิ (ชว่ งเงินได้) เกิน 150,000 - 300,000 150,000 5 7,500 7,500 เกนิ 300,000 - 500,000 200,000 10 20,000 27,500 123,000 x 10% = เกนิ 500,000 - 750,000 250,000 15 37,500 65,000 เกนิ 750,000 - 1,000,000 250,000 20 50,000 115,000 381,000 - 300,000 เกนิ 1,000,000 - 2,000,000 1,000,000 25 250,000 365,000 (เงนิ สูงสดุ ของข้นั กอ่ นหน้า) เกิน 2,000,000 - 5,000,000 3,000,000 30 900,000 - 35 1,265,000 วสิ าหกิจรังบอน = 19,800 บาท เกนิ 5,000,000 ขนึ้ ไป ประโยชน์ของการทาํ บญั ชี ให้ทราบกาํ ไรขาดทุนที่แนช่ ัด สามารถ การวางแผนภาษีไดถ้ ูกต้อง และ วางแผนภาษีได้อย่างเหมาะสม ประหยัด ควบคมุ คา่ ใชจ้ า่ ยของบรษิ ทั เนือ่ งจากใน ชว่ ยใหว้ างแผนและตัดสินใจในการดําเนินธุรกจิ และ เสียภาษีไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งตามกฎหมาย การทาํ บญั ชีอยา่ งถูกต้อง จะทําให้ การทาํ บญั ชี จะทําให้กิจการทราบผลการดําเนนิ งาน กิจการทราบจํานวนตน้ ทนุ และคา่ ใชจ้ ่าย ฐานะทางการเงินของธรุ กิจ และความมั่นคงของ ทีเ่ กดิ ข้นึ และสามารถคาํ นวณตน้ ทุน ธุรกจิ โดยในการจัดทาํ บัญชนี ั้นจะบนั ทกึ บัญชี ของสินคา้ และบรกิ ารของกจิ การไดอ้ ยา่ ง รายการตา่ ง ๆ ท่เี กดิ ขึ้นในการดาํ เนินงาน ถกู ตอ้ ง ซงึ่ เป็นภาพสะท้อนในการดําเนินธุรกจิ 33

10 ขอ้ ต้องร้!ู ! เตรยี มความพร้อม ผปู้ ระกอบการ จดทะเบียนโรงงาน 34

10 ข้อตอ้ งรู้!! เตรยี มความพรอ้ ม ผูป้ ระกอบการ จดทะเบียนโรงงาน โรงงานคอื อะไร ทีต่ ้งั เครอื่ งจกั ร / แรงงาน วัตถปุ ระสงค์ ตามกฎหมาย • อาคาร • ใช้เครือ่ งจกั รต้ังแต่ 5 แรงมา้ • ผลิต ประเภทหรือชนิดกจิ การ • สถานที่ • ใชค้ นงานต้ังแต่ 7 คนขึน้ ไป • ประกอบ ทกี่ ําหนดในกระทรวง • ยานพาหนะ • บรรจุ • ซ่อมบาํ รงุ อุตสาหกรรม 104 ประเภท • ทดสอบ • ปรบั ปรงุ • แปรสภาพ • ลําเลียง • เกบ็ รกั ษา • ทําลายส่งิ ใดๆ ประเภทของโรงงานอตุ สาหกรรม พระราชบญั ญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 มาตรา 7 ได้แบง่ โรงงานอุตสาหกรรมออกเป็น 3 จําพวก โรงงานจาํ พวกที่ 1 โรงงานจาํ พวกที่ 2 โรงงานจาํ พวกที่ 3 คือ โรงงานอตุ สาหกรรมทสี่ ามารถ โรงงานอุตสาหกรรมทีจ่ ะตอ้ งแจง้ ใหเ้ จา้ หนา้ ที่ โรงงานอตุ สาหกรรมทีผ่ ู้ประกอบการจะตอ้ งได้ ประกอบการได้โดยไมต่ อ้ งขอใบอนุญาต ทราบก่อนประกอบกิจการ รบั อนญุ าตก่อนถึงจะประกอบกิจการโรงงาน ประกอบกิจการโรงงาน (ร.ง. 4) มกี ารใช้เครือ่ งจกั รไม่เกิน 75 แรงม้า หรอื มีคน ได้ มีการใช้เครอื่ งจกั รมากกว่า 75 แรงม้า และ ใช้เครอื่ งจกั รไม่เกนิ 20 แรงม้า งานไม่เกิน 75 คน อาจก่อปญั หามลพิษมไม่มาก มีจํานวนคนงานมากกวา่ 75 คน อาจก่อใหเ้ กิด ไมก่ อ่ ปญั หามลพิษส่งิ แวดล้อมหรือ นักสามารถแกไ้ ขปรับปรุงได้ไมย่ าก เช่น ปญั หามลพิษหรอื เหตอุ นั ตรายตอ้ งควบคมุ ดแู ล เหตุเดอื ดร้อนอนั ตราย เช่น ฟกั ไข่โดย โรงงานผลิตนาํ้ ดมื่ โรงงานผลิตอาหารกึง่ อยา่ งใกลช้ ิด เช่น โรงงานผลิตสุรา โรงกล่นั ใช้ตอู้ บ โรงงานทํานาํ้ ตาลจากมะพร้าว สําเร็จรูป โรงผลิตนํา้ แข็ง นํา้ มัน โรงงานผลิตเม็ดพลาสติก เป็นตน้ โรงงานทาํ ขนมจนี หรอื โรงงานทาํ ไอศกรมี เป็นต้น รายการเอกสาร รายการเอกสาร • สาํ เนาทะเบียนบา้ นและสําเนาบตั รประจําตัวประชาชน • คาํ ขออนุญาตประกอบกจิ การโรงงาน • หนังสือรบั รองการจดทะเบยี นนติ ิบุคคล (สําหรับบคุ คลธรรมดา) •(ในกรณผี ขู้ อเป็นนติ บิ คุ คล) คัดสําเนาไม่เกนิ 3 เดอื น • สําเนาหนังสอื รับรองการจดทะเบียนนติ บิ คุ คล สาํ เนาบัตรประจาํ ตวั ประชาชน และ สําเนาทะเบียนบ้าน หรือหนังสอื เดนิ ทางของกรรมการผู้มีอาํ นาจลงนาม ระบชุ ือ่ ผูม้ อี าํ นาจลงนาม ทตี่ ้งั สํานักงาน และวัตถปุ ระสงค์ (สาํ หรบั นิตบิ ุคคล) • หนังสือมอบอํานาจ • เอกสารแสดงการมสี ทิ ธ์ใิ ช้ทีด่ ิน เชน่ สาํ เนาโฉนด • แผนผังแสดงส่งิ ปลูกสร้างภายในบริเวณโรงงาน • แบบแปลนแผนผังอาคารโรงงาน ลงนามรบั รองความ • เอกสารอนื่ ๆ ตามทเี่ จ้าหนา้ ทีก่ าํ หนด •ปลอดภัยโดยวิศวกรควบคุม แผนผงั แสดงการติดต้งั เครือ่ งจักร รบั รองความ ปลอดภยั โดยวศิ วกร • สาํ เนาหนงั สืออนญุ าตก่อสรา้ ง • ข้ันตอนการผลิตโดยละเอียด • เอกสารอืน่ ๆตามทเี่ จา้ หน้าทีก่ าํ หนด เช่น รายงาน ประเมนิ ความเสีย่ ง 35

สถานทีห่ ้ามต้ังโรงงาน การจัดต้ังโรงงานทดี่ ี โรงงานจําพวกที่ 1, 2 และ 3 ห้ามต้งั ในบริเวณบ้านจดั สรร อาคารชุด • สถานทีท่ ีม่ สี ภาพแวดล้อมเหมาะสม หอ้ งแถว และบา้ นเพื่อการพักอาศัย • มอี าณาบรเิ วณกว้างขวาง ไมส่ ร้างความเดอื ดรอ้ น ราํ คาญกับคนในชุมชน โรงงานจาํ พวกที่ 1 โรงงานจําพวกที่ 2 โรงงานจาํ พวกที่ 3 • สถานทีต่ ้งั ไม่ก่อให้เกิดเหตุอันตรายตอ่ บคุ คล หรอื ทรพั ย์สนิ ของผอู้ ืน่ โรงงานจําพวกที่ 1 และ 2 ห้ามต้งั อยู่ในบรเิ วณเขตติดต่อสาธารณสถาน • การเตรียมความพรอ้ มเรือ่ งอุปกรณแ์ ละความปลอดภัย เชน่ โรงเรยี น วัด โรงพยาบาล โบราณสถาน สถานทหี่ น่วยงานของรฐั กอ่ นจดั ต้ังและขอใบอนุญาต • โรงงานจาํ พวกที่ 3 บางประเภท จําเป็นตอ้ งทาํ รายงาน และแหล่งอนุรักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ ภายในระยะ 50 เมตร วิเคราะหผ์ ลกระทบต่อส่งิ แวดลอ้ ม (EIA) • หากเป็นโรงงานขนาดใหญส่ ่งผลกระทบในวงกว้างต้อง มกี ารรบั ฟงั ความคิดเห็นของชุมชนในละแวกทตี่ ้งั โรงงาน ทอี่ าจไดร้ บั ผลกระทบจากการกอ่ ต้ังโรงงาน โรงงานจาํ พวกท่ี 1 โรงงานจําพวกที่ 2 โรงงานจาํ พวกที่ 3 หา้ มต้งั อยู่ในบริเวณเขตติดตอ่ สาธารณสถาน ภายในระยะ 100 เมตร โรงงานจาํ พวกท่ี 3 ข้ันตอนในการพิ จารณาอนุญาตโรงงาน ผปู้ ระกอบการยนื่ คําขอ เจ้าหนา้ ทพี่ ิจารณา เจ้าหนา้ ทลี่ งรับเรือ่ ง เจา้ หนา้ ตรวจสอบและพิจารณาการ เจา้ หน้าทีแ่ จง้ ผลการพิจารณาต่อผู้ พรอ้ มเอกสารประกอบ ความครบถ้วน ประกอบกิจการ กระบวนการผลิต ประกอบการ หากอนุมัติจึงดําเนนิ การ ทําเลทีต่ ้ัง การปอ้ งกันเหตุเดือนรอ้ น ออกใบอนุญาตประกอบกจิ การโรงงาน ถกู ต้องของเอกสาร ราํ คาญ และการบาํ บดั มลพิษ พร้อม ร.ง.4 หรือหากไมอ่ นุมัติผ้ปู ระกอบการมี จัดทํารายงานสรปุ ผลการตรวจสอบ สิทธ์ิอทุ ธรณ์ภายใน 30 วัน หากผู้ประกอบการ OTOP มีสถานทเี่ ข้าข่ายโรงงาน เชน่ มีการใชเ้ ครอื่ งจกั รเกนิ 20 แรงม้า จาํ เป็นต้องมกี ารแจ้ง ใหพ้ นกั งานเจ้าหนา้ ทีท่ ราบก่อนดาํ เนินกิจการ (เร่ิมผลิต) ไมเ่ ชน่ น้ันจะมโี ทษตามกฎหมาย กรณีโรงงานจําพวกที่ 2 กรณีโรงงานจําพวกที่ 3 หากผปู้ ระกอบกจิ การโรงงานดาํ เนนิ การโดยไมแ่ จง้ หากผูใ้ ดประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ไดร้ บั ใบ ใหพ้ นกั งานเจา้ หน้าทีท่ ราบตามหลักเกณฑ์ อนญุ าต หรือต้งั โรงงาน โดยไมไ่ ด้รับใบอนุญาต ทีก่ าํ หนดไว้ ตอ้ งระวางโทษจาํ คุกไม่เกิน 6 เดือน ตามหลกั เกณฑ์ทีก่ าํ หนดไว้ ต้องระวางโทษจาํ คุก หรอื ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรอื ท้ังจําท้ังปรบั 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรอื ท้ังจําท้ังปรบั นอกจากนกี้ ารประกอบกิจการโรงงานในระหว่างทีม่ คี ําส่ังหยุดประกอบกจิ การหรอื ภายหลังทีม่ ีคําส่ังประกอบ โรงงาน จะต้องระวางโทษจาํ คุก 2 ปี หรือปรับไม่เกนิ 200,000 บาท และถูกปรบั รายวนั อกี วันละ 5,000 บาท จนกว่าจะหยุดประกอบกิจการ การไมป่ ฏบิ ัตติ ามคาํ ส่งั ของพนักงานเจ้าหนา้ ทซี่ ึง่ ส่งั ให้แกไ้ ขปรบั ปรุง หรือส่ังใหร้ ะงับการกระทาํ หรือให้กระทําใด ๆ ต้องระวางโทษจาํ คกุ หรือปรับ และต้องถกู ปรับรายวนั วนั ละไม่เกิน 5,000 บาท ตลอดเวลาทีฝ่ า่ ฝนื เชน่ กัน 36

11 กฎหมายประกันสังคม นายจ้างควรรู้ ลกู จา้ งควรทราบ 37

11 กฎหมายประกันสังคม นายจ้างควรรู้ ลูกจ้างควรทราบ ประกันสังคม เป็นส่ิงทีผ่ ู้ประกอบการจะตอ้ งปฏิบัติ “ประกนั สังคม...สวสั ดกิ ารทีค่ มุ้ ครองดูแลลกู จ้าง มี ตามกฎหมาย เป็นกฎหมายบงั คับและกาํ หนดให้สถานประกอบการ สทิ ธปิ ระโยชนท์ ้งั หมด 7 ขอ้ เปรียบเสมอื นวัคซีนพื้ น ต้องทาํ ใหแ้ ก่ลกู จ้าง นายจา้ งทีจ่ ดทะเบียนตามกฎหมายเป็น ฐานทีใ่ ชค้ ุ้มครองดูแล ผทู้ ํางานในประเทศไทย” สถานประกอบการ ทมี่ ีลกู จ้างต้งั แต่ 1 คนขึน้ ไป ตอ้ งนําลูกจ้าง เขา้ สู่ระบบประกนั สงั คม ภายใน 30 วัน หากไมป่ ฏบิ ัติตามนายจา้ ง เงนิ สมทบของประกนั สงั คมมาจากเงนิ มโี ทษจําคกุ 6 เดอื น ปรับ 20,000 บาท หรือท้งั จาํ และปรับ ของผู้ประกันตนหรอื ลูกจ้างและนายจา้ งจ่ายสมทบใน อตั ราเท่ากนั และเงินจากรัฐบาล เงนิ ทนี่ ายจ้างส่งเขา้ หลักของประกนั สังคม จะดแู ลกลุ่มทีเ่ ป็นสมาชกิ สมทบจะคาํ นวณจากคา่ จ้าง ในอตั รา ไม่เกิน 5% ของ ใช้หลกั การเฉลีย่ ทุกข์ เฉลีย่ สุข ลกู จ้างทีม่ อี ายุต้งั แต่ 15 ปี คา่ จา้ งของลกู จา้ งทีน่ ายจา้ งจา่ ยให้ โดยคดิ ฐานคา่ จา้ ง บริบูรณข์ นึ้ ไป สามารถสมัครเป็นผูป้ ระกนั ตนได้ และอายตุ ้องไม่ ข้ันตาํ่ 1,650 บาท แตไ่ มเ่ กนิ 15,000 บาท จา่ ยเงนิ เกนิ 60 ปบี รบิ รู ณ์ แต่ถา้ ใครเป็นผู้ประกนั ตนอยู่ถงึ แมอ้ ายุครบ สมทบข้ันตาํ่ 83 บาท แต่ไมเ่ กนิ 750 บาท ในส่วนของ 60 ปแี ลว้ กย็ ังเป็นตอ่ ไปได้ แต่ถ้ายงั ไมเ่ คยเป็นหรอื เคยเป็นแต่ รฐั บาลจะสง่ เงินสมทบอัตรา 2.75 ออกไปนานแลว้ จะกลับเขา้ มา ถ้าอายุ 60 ปบี รบิ ูรณ์แลว้ จะเข้าสู่ ระบบประกนั สังคมไมไ่ ด้ สถานประกอบการทีม่ ีลกู จ้างต้ังแต่ 1 คนขนึ้ ไป ตอ้ ง เข้าสู่ระบบประกันสังคม เมอื่ เข้าส่รู ะบบประกนั สงั คม อัตราเงินสมทบ แล้วนายจ้างต้องจา่ ยเงินสมทบ ประโยชนท์ ดแทน อตั ราที่ กม. จัดเกบ็ จรงิ (%) ข้อกาํ หนดในการเกบ็ เงิน กําหนด (%) ลูกจ้าง นายจ้าง รัฐบาล เข้าประกนั สงั คม เจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ ตาย นายจ้าง 5% ลูกจา้ ง 5% สงเคราะหบ์ ตุ ร ชราภาพ 1.5 1.5 1.5 1.5 ส่วนของลกู จา้ งเอาไว้ใชใ้ นกรณี วา่ งงาน 3 3 31 เจ็บป่วย คลอดบุตร ทพุ พลภาพ รวม 5 0.5 0.5 0.25 ตาย 1.5% สงเคราะหบ์ ุตร 9.5 5 5 2.75 ชราภาพ 3% ว่างงาน 0.5% ประกันสังคมกับสทิ ธิประโยชน์ 7 ข้อสําหรบั ผู้ประกันตน 1 กรณีเจ็บป่วย ประกันสงั คมคมุ้ ครองการเจ็บป่วยทุกกรณี ยกเวน้ การทาํ ศลั ยกรรมหรอื การทําส่งิ ผดิ กฎหมาย โดยผูป้ ระกนั ตนสง่ เงินสมทบ 3 เดอื น ภายใน 15 เดอื น กส็ ามารถใชส้ ทิ ธ์ริ กั ษาพยาบาลได้ 2 กรณีคลอดบุตร จะไดค้ ่าคลอดบุตรคร้งั ละ 15,000 บาท และคา่ ฝากครรภอ์ ีก 1,500 บาท สทิ ธ์ินใี้ ชไ้ ด้ไมจ่ าํ กดั จาํ นวนคร้งั ผูป้ ระกันตนที่ เป็นผชู้ ายหากภรรยาไมม่ บี ัตรประกันสงั คม ฝ่ายชายสามารถเบกิ คา่ คลอดบุตรและคา่ ฝากครรภไ์ ด้ 3 กรณที ุพพลภาพ หากผปู้ ระกนั ตนไดร้ ับอุบัตเิ หตุนอกงานหรอื ใชช้ ีวติ ประจาํ วันแล้วเกดิ อบุ ัติเหตถุ งึ ข้นั ทพุ พลภาพ ประกันสังคมมเี งนิ เยยี วยาให้ เชน่ นายกอ ทุพพลภาพจากอบุ ัตเิ หตขุ ณะขับรถไปเทยี่ ว นอกจากไดร้ ับคา่ รักษาพยาบาลแล้ว นายกอจะได้รบั เงนิ เยยี วยาจาก ประกันสงั คมในอัตรา 50% ของค่าจา้ งสงู สุดตลอดชีวิต 4 กรณเี สียชวี ติ มีเงนิ ค่าทาํ ศพ 50,000 บาท เงนิ ชว่ ยเหลอื ครอบครวั สงู สดุ 90,000 บาท 5 กรณีสงเคราะหบ์ ตุ ร ผ้ปู ระกันตนทีค่ ลอดบุตรออกมาประกนั สงั คมจะใหเ้ งนิ สงเคราะห์บตุ รเดือนละ 800 บาท จนบุตรอายุครบ 6 ขวบ โดยให้ไม่จาํ กัดจาํ นวนบตุ ร หรือคร้งั ละไม่เกิน 3 คน เช่น มลี ูกแฝด 4 คน จะได้รบั เงนิ สงเคราะหบ์ ตุ รไมเ่ กนิ 3 คน อกี หนึง่ คนจะไมไ่ ด้รับ หากบุตร 3 คนอายุครบ 6 ขวบ และผู้ประกันตนมีบตุ รอีก ประกันสงั คมกจ็ ะให้เงินสงเคราะหบ์ ุตรอีก 6 กรณีชราภาพ ผปู้ ระกันตนทีม่ ีอายุ 55 ปี เกษียณทํางานไม่ไหว ประกันสงั คมจะใหเ้ งินชราภาพ 2 รปู แบบคือ บําเหน็จ หรือบํานาญ 7 กรณถี กู เลิกจ้างหรือลาออกเอง โดยทยี่ งั ไม่มงี านทาํ ประกันสังคมมีเงินชว่ ยเหลอื กรณีวา่ งงานให้ดว้ ย 38

นคี่ ือสิทธปิ ระโยชนข์ องประกนั สงั คม…ดังน้นั เมอื่ ผปู้ ระกอบการรับลูกจา้ งมาทาํ งานแลว้ ต้องนาํ ลกู จ้างเข้าสู่ระบบประกันสังคม เพื่ อใหล้ ูกจา้ งได้รบั สวัสดิการพื้ นฐานจากสาํ นกั งานประกันสงั คม โดยเงือ่ นไขการได้รับสิทธใิ นแต่ละกรณีน้นั ลูกจ้างต้องนําส่งเงนิ สมทบตามทปี่ ระกนั สังคมกําหนด นอกจากผู้ประกอบการจะใหค้ า่ จ้างทเี่ ป็นธรรมแล้ว กฎหมายยังกําหนดใหผ้ ูป้ ระกอบการ ดูแล ลูกจา้ งใหท้ าํ งานดว้ ยความปลอดภยั ด้วย พระราชบญั ญตั คิ วามปลอดภยั ในการทํางาน ไดร้ ะบุไวแ้ ล้วว่านายจ้าง มหี นา้ ทีด่ ูแลลูกจ้าง ใหท้ ํางานด้วยความปลอดภยั ท้งั รา่ งกายและจิตใจ หากผู้ประกันตนตอ้ งพั กรกั ษาตัวในสถานพยาบาล ประกันสงั คมจะมเี งนิ ประกันรายได้ให้ เช่น ลาคลอดได้ 98 วนั สถานประกอบการจะจา่ ยคา่ จา้ งให้ 45 วนั ส่วนทีเ่ หลือสามารถมารับไดจ้ าก ประกนั สังคม หรอื กรณีลาป่วย นายจา้ งจา่ ยคา่ จ้างให้ 30 วัน หากครบ 30 วันแล้วยงั ไมห่ าย ปว่ ย ต้องลาต่อ สามารถรบั ค่าจา้ งได้ทีป่ ระกันสงั คม ซงึ่ มเี งินทดแทนการขาดรายได้ให้ “กองทุนเงินทดแทน” การคมุ้ ครองของกองทนุ เงินทดแทน จะดูแล เป็นกองทุนทีจ่ ัดต้ังขนึ้ เพื่ อเป็นทนุ ในการจา่ ยเงนิ ลูกจ้างในเวลาบาดเจบ็ หรือเจบ็ ปว่ ยทเี่ กิดจาก ทดแทนให้แก่ลกู จา้ ง เมอื่ ลกู จา้ งประสบอนั ตราย การทาํ งาน หากผูป้ ระกอบการ หรอื เจ็บป่วย หรอื ถงึ แก่ความตาย หรือสญู หาย ไมน่ าํ ส่งเงินเข้ากองทุน เงินทดแทน เวลาลกู จ้าง เนือ่ งจากการทํางานใหน้ ายจา้ ง เมอื่ นายจ้างขนึ้ ประสบอบุ ตั เิ หตจุ ะต้องจา่ ยเงินเอง ทะเบยี นกองทนุ เงนิ ทดแทนแลว้ ลกู จ้างทกุ คนที่ ประกนั สงั คมจะคมุ้ ครองดูแลการเจบ็ ปว่ ย ทํางานให้กบั นายจา้ งจะได้รบั การคมุ้ ครองจาก บาดเจ็บนอกเวลางานและเวลาตกงานหรอื ว่างงาน กองทุนเงนิ ทดแทน การดําเนินงานของสถานประกอบการในส่วนที่ **หมายเหตุ นายจ้างเป็นผู้มีหนา้ ทจี่ ่ายเงนิ สมทบเข้า เกยี่ วขอ้ งกับพนกั งา/ลูกจ้างมที ้ังเรือ่ งของสวสั ดกิ าร กองทนุ เพี ยงฝ่ายเดียว ในอตั รารอ้ ยละ 0.2-1.0 ของ ความปลอดภัย สภาพแวดล้อมในทีท่ าํ งานจงึ เป็นส่งิ ค่าจ้างตอ่ ปี ตามความเสยี่ งภยั ของกิจการของ สาํ คญั กรณีทีส่ ถานประกอบการตอ้ งไดร้ บั การตรวจ นายจ้าง สอบจากลูกค้า ผปู้ ระกอบการตอ้ งจดั สภาพแวดล้อม ทที่ าํ งาน ให้มีความปลอดภยั โดยลูกจ้างและนายจา้ ง กรณลี กู จา้ งต้องทาํ งานเกีย่ วกับปจั จัยเสีย่ ง เชน่ แสง ต้องมีสว่ นร่วมในการสร้างระบบความปลอดภยั และ เสียง ความรอ้ น สารเคมี ฯลฯ ตอ้ งจดั ให้ลกู จ้างได้รบั การ สถานประกอบการทีด่ ีต้องเน้นท้ังเรอื่ งของคุณภาพ ตรวจสุขภาพประจาํ ปี อย่างนอ้ ย 1 คร้ัง โดยนายจ้างเป็น ของสินค้าและความปลอดภยั ของลูกจา้ ง ผรู้ บั ผิดชอบค่าใช้จ่าย สถานประกอบการทมี่ ลี ูกจา้ งต้งั แต่ 10 คนขึน้ ไป ผู้ประกอบ การตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามมาตรฐานความปลอดภยั ของกระทรวง แรงงานด้วย เช่น การจดั ให้มแี ผนป้องกนั และระงับอัคคี ภัย ทกุ ปตี ้องจดั ใหม้ กี ารซ้อมอพยพหนไี ฟอย่างน้อย 1 คร้ัง ลกู จ้างทุกคนต้องผา่ นการฝกึ อบรมหนไี ฟ หากไมจ่ ัด ใหม้ ีการฝกึ อบรมหนีไฟ จะมโี ทษจาํ คุก 1 ปี ปรับ 400,000 บาท ให้ลูกจา้ งทํางานทมี่ ีความเสีย่ ง หรืองานอันตรายทมี่ ีผลต่อ รา่ งกายชวี ิตจติ ใจ ตอ้ งจดั ทาํ คู่มือความปลอดภยั ใหล้ ูกจ้าง ผูป้ ระกอบการสามารถนํามาตรฐานของ โดยคมู่ ือตอ้ งเป็นภาษาทีผ่ ู้อ่านอ่านแลว้ เข้าใจ หากไมม่ จี ะถกู ปรบั 50,000 บาท กระทรวงแรงงานไปใชใ้ นการวางแผน งานอันตรายตา่ งๆ ตอ้ งจัดหาอุปกรณ์ Safety ให้ลูกจ้าง จัดการธุรกิจให้มมี าตรฐาน หากผูป้ ระกอบ หากลกู จ้างไดร้ บั อุบัติเหตุจากการทํางาน นายจ้างตอ้ งแจง้ การ การต้องการขยายตลาดไปสู่ตา่ งประเทศ บาดเจ็บตอ่ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน แจง้ กองทนุ นอกจากสนิ คา้ ทตี่ อ้ งมคี ณุ ภาพและมาตรฐาน เงินทดแทน กรณีลกู จา้ งเสียชีวิตจากการทํางาน ตอ้ งแจง้ กรม แลว้ มาตรฐานคุณภาพแรงงานก็เป็นส่ิง สวสั ดิการและคุ้มครองแรงงานภายใน 24 ช่ัวโมง หากไม่แจง้ จะถูกปรบั 50,000 บาท สําคญั ผู้ประกอบการควรเตรยี มตวั ต้งั แต่ ธุรกจิ ยังมีขนาดเล็ก เพื่ อให้มีความพร้อม อยา่ งเตม็ ทีใ่ นอนาคต ** หมายเหตุ ผปู้ ระกอบการสามารถดรู ายละเอียดกองทุนเงินทดุ แทนได้ที่ http://sau-jeddah.mol.go.th/employee/compensation_%20fund 39

12 กฎหมายเก่ยี วกบั การคุม้ ครองผบู้ ริโภค 40

12 กฎหมายเก่ียวกับ การคุ้มครองผ้บู ริโภค รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย หมวด 3 “ผ้บู รโิ ภค” หมายความวา่ ผบู้ รโิ ภคตามกฎหมาย สทิ ธแิ ละเสรภี าพของชนชาวไทย มาตรา 61 บญั ญัตวิ า่ ว่าดว้ ยการคุ้มครองผบู้ ริโภค และให้หมายความ \"สทิ ธิของบคุ คลซงึ่ เป็นผ้บู ริโภคยอ่ มได้รบั ความคุม้ ครองในการ รวมถงึ ผูเ้ สยี หายตามกฎหมายเกีย่ วกับความรบั ได้รับข้อมูลทเี่ ป็นความจรงิ และมสี ิทธิร้องเรยี นเพื่ อใหไ้ ดร้ บั การ ผดิ ตอ่ ความเสยี หายทีเ่ กดิ ขึน้ จากสินค้าทไี่ ม่ แกไ้ ขเยียวยาความเสียหาย รวมท้งั มีสทิ ธริ วมตัวกนั เพื่ อพิ ทักษ์ ปลอดภยั ดว้ ย ซึง่ ผู้บริโภคในทนี่ ีร้ วมถึงผปู้ ่วย สิทธขิ องผู้บริโภค ให้มอี งคก์ ารเพื่ อการคุ้มครองผูบ้ รโิ ภคทเี่ ป็น ทีม่ ารับบริการทโี่ รงพยาบาลของรฐั ดว้ ย อิสระจากหน่วยงานของรฐั ซึง่ ประกอบไปด้วยตวั แทนผู้บรโิ ภค ทําหนา้ ทใี่ หค้ วามเหน็ เพื่ อประกอบการพิ จารณาของหนว่ ยงาน พระราชบัญญตั คิ ุ้มครองผูบ้ ริโภค พ.ศ. 2522 ซงึ่ แก้ไขเพ่ิ มเติมโดย ของรัฐในการตราและการบังใช้กฎหมายและกฎ และใหเ้ ห็นในการ พระราชบัญญตั คิ มุ้ ครองผ้บู รโิ ภค (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2541 ได้บัญญตั ิ กาํ หนดมาตรการต่างๆ เพื่ อคมุ้ ครองผูบ้ รโิ ภครวมท้งั ตรวจสอบ สทิ ธิของผูบ้ ริโภคทีจ่ ะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย 5 ประการ และรายงานการกระทาํ หรอื ละเลยการกระทําอนั เป็นการคมุ้ ครอง ผ้บู ริโภค ท้ังนีใ้ หร้ ัฐสนับสนุนงบประมาณในการดําเนนิ การของ 1. สิทธิทจี่ ะไดร้ ับขา่ วสาร องค์กรอิสระดังกลา่ วดว้ ย\" รวมท้งั คาํ พรรณนาคณุ ภาพที่ ถูกต้องและเพี ยงพอเกยี่ วกบั หน้าทขี่ องผู้บรโิ ภค สนิ คา้ หรือบรกิ าร หน้าทีข่ องผูบ้ รโิ ภคสามารถแบ่งออกเป็นหน้าทกี่ อ่ นซอื้ สินค้าและบรกิ ารและหนา้ ทีห่ ลัง ซอื้ สินคา้ และบริการ ซงึ่ หาผ้บู ริโภคไมไ่ ด้กระทาํ การตามหน้าทีจ่ ะไม่ไดร้ บั สทิ ธคิ มุ้ ครอง 5 ประการดงั ทกี่ ลา่ วข้างต้น หน้าทขี่ องผู้บรโิ ภคกอ่ นซอื้ สนิ ค้าหรือบริการ ผู้บริโภคควรใชค้ วาม 2.สทิ ธทิ จี่ ะมอี สิ ระใน สิทธขิ องผ้บู รโิ ภค 5. สทิ ธิทจี่ ะได้รบั ระมดั ระวงั ตามสมควรในการ การเลือกหาสินคา้ ทีจ่ ะได้รบั ความ การพิ จารณาและ ซือ้ สินค้าและรบั บรกิ าร อยา่ คุม้ ครองตาม ชดเชยความเสยี หาย เชือ่ ถือขอ้ ความโฆษณาโดย หรอื บรกิ าร กฎหมาย ไมพ่ ิ จารณาให้รอบคอบ และ หาข้อมลู เพ่ิ มเติมเกยี่ วกับ การเข้าทําสัญญาผูกพั นกนั ขอ้ ตกลงตา่ งๆ ทตี่ ้องการ 3.สทิ ธทิ ีจ่ ะได้รบั คุณภาพ แหล่งกําเนิด และ ตามกฎหมายโดยการลง ใหม้ ีผลบงั คบั ควรทําเป็น ความปลอดภัย ลกั ษณะของสนิ คา้ ว่าเป็น ลายมือชอื่ น้นั ผบู้ ริโภคตอ้ ง หนงั สอื และลงลายมือชอื่ ผู้ จากการใช้สินค้า ความจริงตามทไี่ ดโ้ ฆษณา ตรวจสอบความชัดเจนของ ประกอบธรุ กิจด้วย ไว้หรอื ไม่ ภาษาทใี่ ช้วา่ รดั กมุ และใหส้ ทิ ธิ หรอื บรกิ าร แกผ่ ู้บรโิ ภคครบถ้วนหรือไม่ 4.สทิ ธทิ จี่ ะไดร้ บั ความเปน็ ธรรม ในการทําสัญญา หนา้ ทีข่ องผบู้ ริโภคหลังซือ้ สนิ ค้าหรือบริการ ผบู้ รโิ ภคมหี นา้ ทใี่ นการเกบ็ รกั ษาพยานหลกั ฐาน ในกรณที ีม่ ีการทําสญั ญาเป็นลาย เมอื่ มกี ารละเมดิ สทิ ธิของผ้บู ริโภค ตา่ งๆ ทีแ่ สดงถึงการละเมิดสทิ ธขิ องผบู้ ริโภค ลักษณอ์ ักษรกับผู้ประกอบธุรกิจ ผบู้ ริโภคมหี นา้ ทใี่ นการดําเนนิ การรอ้ ง ไวเ้ พื่ อทําการเรียกรอ้ งตามสทิ ธขิ องตน พยาน ต้องเกบ็ เอกสารสัญญาต่างๆ เรยี นตามสทิ ธิของตน หลกั ฐานดงั กลา่ วอาจจะเปน็ สนิ คา้ ทแี่ สดงใหเ้ หน็ รวมท้ังเอกสารโฆษณา ตามทกี่ ลา่ วมาแลว้ วา่ มปี รมิ าณหรอื คณุ ภาพไมเ่ ปน็ ไปตามมาตรฐาน และใบเสร็จรบั เงนิ ไว้ด้วย ทรี่ ะบไุ วใ้ นฉลากมคี วามสกปรกหรอื เปน็ พิ ษอาจ เกดิ อนั ตรายจากการใช้สินคา้ หรอื บรกิ ารน้นั ได้ ควรจดจําสถานทีท่ ซี่ ือ้ สินค้าหรอื รับบริการน้ัน ไวเ้ พื่ อประกอบการร้องเรยี นดว้ ย 41

หน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้องกับการคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค 1. สํานกั งานคณะกรรมการค้มุ ครองผู้บริโภค ดาํ เนินงานภายใตพ้ ระราชบญั ญัติคมุ้ ครองผ้บู ริโภค พ.ศ. 2522 และพระราชบัญญตั ขิ ายตรงและตลาดแบบ ตรง พ.ศ. 2545 มีบทบาทภารกิจทสี่ าํ คญั เกยี่ วกบั การรับคาํ รอ้ งทกุ ข์ ให้คาํ ปรึกษา แก้ไขปัญหาด้านการ คุ้มครองผบู้ รโิ ภค การตรวจสอบ ควบคมุ ตดิ ตามและสอดส่องพฤตกิ ารณ์ของผูป้ ระกอบธรุ กิจ การจด ทะเบียนการประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง การสง่ เสรมิ สนับสนุน สร้างและพั ฒนาเครอื ข่ายด้าน การคุ้มครองผู้บรโิ ภค การเผยแพร่และประชาสมั พั นธ์ องค์ความรแู้ ละใหก้ ารศกึ ษาแก่ผู้บริโภค บังคบั ใช้และ พั ฒนากฎหมายใหม้ ีความโปร่งใส เป็นธรรม 2. กองบงั คับการปราบปรามการกระทาํ ความผดิ เกยี่ วกับการคมุ้ ครองผูบ้ รโิ ภค อดตี คือกองบังคับการทะเบยี น ต่อมาเมือ่ 7 กันยายน 2552 มีการเปลีย่ นชอื่ และภารกจิ เป็นกองบงั คับการ ปราบปรามการกระทําความผดิ เกยี่ วกับการคุ้มครองผบู้ รโิ ภค ตามพระราชกฤษฎีกาโดยแบง่ สว่ นราชการ สํานักงานตาํ รวจแหง่ ชาติ มอี าํ นาจหน้าทีร่ ักษาความสงบเรยี บร้อย สบื สวนสอบสวนการกระทําทมี่ โี ทษทาง อาญาเกีย่ วกับการค้มุ ครองผบู้ ริโภค สาํ นักงานคณะกรรมการอาหารและยา และมาตรฐานผลิตภณั ฑ์ชมุ ชน หรอื สนบั สนุนการปฏิบตั งิ านของหนว่ ยงานทอี่ นื่ ๆทีเ่ กีย่ วข้องทไี่ ด้รบั มอบหมาย 3. ศาล เป็นผพู้ ิ จารณาคดรี ะหว่างผ้ปู ระกอบธุรกจิ กบั ผู้บรโิ ภค ทีไ่ มไ่ ด้รับความเป็นธรรม เพื่ อใหผ้ ู้บริโภคทไี่ ด้ รับความเสยี หายไดร้ ับการแก้ไขเยยี วยาดว้ ยความรวดเร็ว ประหยัดและมีประสทิ ธภิ าพ อนั เป็นการคมุ้ ครองสทิ ธิของผู้บรโิ ภค การสรา้ งความเชือ่ ม่นั ใหก้ ับผบู้ ริโภค การจดทะเบยี น การรีววิ จากลูกคา้ มสี ถานประกอบการ เอกสารยืนยนั คณุ ภาพ ช่องทางในตดิ ต่อผขู้ าย เปน็ หลักแหลง่ ผลิตภณั ฑ์ การจดทะเบียนวสิ าหกิจชมุ ชน ในสังคมปจั จุบนั ผบู้ รโิ ภคมกั จะเชือ่ คํา ชอ่ งทางในติดต่อผขู้ าย หรอื การจดทะเบียนนิติบคุ คลจะ ทผี่ บู้ รโิ ภคดว้ ยกนั เองพู ดคยุ ถงึ สนิ คา้ การมสี ถานประกอบการเปน็ หลกั แหลง่ เป็นการยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ผ่านการ เป็นช่องทางการขายและจัดจําหนา่ ย น้นั ๆ หากเป็นคาํ ชมทดี่ ีผู้บรโิ ภคกลมุ่ ชัดเจน สถานทีต่ ้งั ของประกอบการจะ ทดสอบขอ้ กาํ หนดด้านคุณภาพและ ช่วยใหผ้ ู้บริโภคม่นั ใจในตวั ช่วยให้ผบู้ ริโภคเกิดความม่นั ใจว่าหาก มาตรฐานซงึ่ แตกต่างกนั ในแต่ละ ทีท่ ํางานเชือ่ มโยงกันในลักษณะ ผลติ ภัณฑ์ OTOP มากขึน้ ใหมๆ่ ทไี่ ม่เคยใชผ้ ลิตภณั ฑก์ ม็ ักจะ มีปญั หาเกยี่ วกับผลิตภัณฑจ์ ะไดร้ ับ ผลติ ภณั ฑ์ เชน่ เครือข่ายของผ้ปู ระกอบการ OTOP เชอื่ ตาม เช่น การโฆษณายาสระผม จะช่วยในการสอื่ สารภาพลกั ษณแ์ ละ เนอื่ งจากทราบ เพื่อปิดผมขาว ต่อให้ผู้ประกอบการ การแกไ้ ขอย่างแนน่ อน มาตรฐาน อย. นโยบายของกิจการไปสูผ่ ูบ้ รโิ ภค และ สถานทีป่ ระกอบการ (สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา) สถานทผี่ ลิตอยา่ งชดั เจน บรรยายสรรพคุณวา่ ผลิตภัณฑ์ มาตรฐานผลติ ภณั ฑช์ มุ ชน สร้างความเชอื่ ม่ันให้กบั ผู้บรโิ ภค ดเี พียงใดก็ไม่สามารถเขา้ ไปน่งั ในใจ (สํานกั งานมาตรฐานผลติ ภัณฑ์ เกยี่ วกบั ชอ่ งทางตดิ ตอ่ หากตอ้ งการ อุตสาหกรรม) ของลกู ค้าไดเ้ ทา่ กบั การรีวิว ส่ังซือ้ ผลติ ภัณฑเ์ พ่ิมเติม หรอื คาํ บอกเล่าจากผูบ้ รโิ ภคด้วย หรือกรณที ีผ่ ลติ ภัณฑ์มปี ญั หา กนั เอง คดีฉ้อโกง เป็นคดีแพ่ งเกีย่ วเนือ่ ง 1 คดีความทีน่ า่ สนใจ ขอ้ หานําเข้าข้อมูลคอมพิ วเตอร์อันเป็น กบั คดอี าญาผเู้ สยี หายมสี ทิ ธเิ รยี ก เท็จโดยประการทนี่ ่าจะเกดิ ความเสยี หาย รอ้ งทรพั ยส์ ินหรอื ราคาทีเ่ สียไป ต่อการรักษาความม่นั คงปลอดภัยของ เมือ่ พนักงานอัยการยืน่ ฟอ้ งคดี อาญา 5 ประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความ ม่นั คง ในทางเศรษฐกจิ ของประเทศ หรอื คดฉี ้อโกงประชาชน การกระทําความผิดตาม 24 โครงสร้างพื้ นฐานอนั เป็นประโยชน์ มาตรา 341 ได้กระทาํ ดว้ ยการแสดงขอ้ ความ 3 สาธารณะของประเทศ อนั เป็นเทจ็ ต่อประชาชน หรือดว้ ยการปกปดิ ความจริงซงึ่ ควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน ข้อหาโฆษณาโดยไมไ่ ดร้ ับอนุญาติ ข้อความ ขอ้ หาโฆษณาสนิ ค้าอันเป็นเท็จ โฆษณาเกนิ จรงิ มี ผกู้ ระทําตอ้ งระวางโทษจําคกุ ไมเ่ กนิ หา้ ปี หรอื ทีใ่ ชใ้ นการโฆษณาทบี่ ุคคลท่วั ไปสามารถรู้ กฎหมายเกีย่ วข้องหลายฉบบั อาทิ พ.ร.บ.อาหาร ปรับไม่เกินหนงึ่ แสนบาท หรือท้งั จําท้งั ปรับ ได้ว่าเป็นข้อความทไี่ ม่อาจเป็นความจริงได้ มาตรา 40 หา้ มไมใ่ ห้ผูใ้ ดโฆษณาคณุ ประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหารอันเป็นเทจ็ หรือ หลอกลวงใหเ้ กดิ ความหลงเชอ่ื โดยไมส่ มควรฝา่ ฝนื ต้องระวางโทษจาํ คุกไมเ่ กิน 3 ปี หรอื ปรับไมเ่ กิน 30,000 บาท 42

13 เทคนคิ การขออนญุ าต จากสาํ นกั งานคณะกรรมการ อาหาร และยา (อย.) 43

13 เทคนิคการขออนุญาต จากสํานกั งานคณะกรรมการ อาหาร และยา (อย.) “การดําเนนิ ธุรกจิ ใหป้ ระสบความสําเร็จ กิจการสามารถอย่ไู ด้ การดาํ เนนิ การถูกตอ้ ง ตามกฎหมาย ผู้บรโิ ภคหรือผ้ใู ช้ผลติ ภณั ฑ์มีความปลอดภัย ผู้ประกอบการต้อง วางแผน ตรวจสอบการดําเนนิ งานในห่วงโซ่ธรุ กจิ ของตนเอง” การเร่มิ ต้นทีด่ ี จะนํามาซ่ึงความถูกต้องในการดาํ เนนิ งาน ธุรกจิ ก็เช่นกัน ...เชอ่ื ว่าผู้ประกอบการทกุ คนตา่ งตอ้ งการท่จี ะประสบความสําเรจ็ ในการประกอบธรุ กิจ กิจการสามารถอยู่ได้ การดาํ เนินงานตา่ งๆ เปน็ ไปอย่างถูกตอ้ งตามกฎหมาย ผ้บู ริโภคหรอื ผูใ้ ชผ้ ลิตภณั ฑม์ ีความปลอดภัย สําหรบั ผู้ ประกอบการท่ีประกอบธุรกิจเก่ยี วกบั ผลิตภัณฑส์ ุขภาพ (ตามขอบเขต อย.) ในเบือ้ งต้นลองมาสํารวจหว่ งโซธ่ ุรกจิ ต้ังแตต่ ้นนํ้ากลางน้ําปลายนา้ํ กันเลยวา่ เป็นอย่างไร หัวใจสู่ความสําเร็จในการประกอบกิจการ ต้นนาํ้ สถานท่ผี ลิตต้องเปน็ สถานท่ีไดม้ าตรฐานตาม ข้อกฎหมายทเ่ี กีย่ วข้อง ตน้ นาํ้ กลางนํา้ ปลายนาํ้ การบริโภค กลางนาํ้ การผลติ ผลิตภัณฑส์ ขุ ภาพ สถานทีผ่ ลิต ผลิตภณั ฑ์ จําหนา่ ย บรโิ ภค สถานท่ผี ลิตทีไ่ ดม้ าตรฐานจะนาํ ไปสู่ผลติ ภณั ฑส์ ุขภาพ ท่ีไดม้ าตรฐาน แต่ละผลติ ภณั ฑจ์ ะมีขอ้ กาํ หนด มาตรฐาน มาตรฐาน ฉลาก/โฆษณา ปลอดภยั แตกตา่ งกันไป ต้องดูวา่ ผลติ ภัณฑ์ทีผ่ ู้ประกอบการผลิต ผปู้ ระกอบการ ผูป้ ระกอบการ ผู้บรโิ ภค เก่ยี วข้องกบั ข้อกาํ หนดอะไรบา้ ง ผู้จําหนา่ ย ผู้ประกอบการ ปลายนาํ้ เกี่ยวขอ้ งกับการจัดจําหน่าย จะมีข้อกําหนดตา่ งๆ แตใ่ นเบอ้ื งตน้ คือ การแสดงฉลากผลิตภณั ฑแ์ ละการโฆษณา สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปน็ องค์กรหลักด้าน ผลติ ภัณฑ์ต่างๆ คุม้ ครองผูบ้ ริโภคและส่งเสรมิ ผ้ปู ระกอบการดา้ นผลติ ภณั ฑ์ สุขภาพเพ่ือประชาชนสขุ ภาพดี โดยผลิตภัณฑ์สุขภาพ ผบู้ รโิ ภคหรอื ลูกคา้ จะต้องได้รับการบริโภคทป่ี ลอดภัย (ตามขอบเขต อย.) ประกอบดว้ ย ยา อาหาร เครื่องสําอาง วัตถอุ นั ตราย เคร่อื งมอื แพทย์ ยาเสพติดใหโ้ ทษ วัตถุออกฤทธ์ิ ตัวอย่างนยิ ามของผลิตภัณฑ์สขุ ภาพประเภทอาหาร ตาม ต่อจิตและประสาท ผลติ ภัณฑ์สมนุ ไพร และสารระเหย แต่ละ พระราชบญั ญตั ิอาหาร พ. ศ. 2522 ผลิตภัณฑจ์ ะมีพระราชบัญญตั ใิ นการกํากบั ดูแล สว่ นสารระเหย อาหารคือ ของกนิ หรือเครอื่ งคํา้ จุนชวี ิต ได้แก่ จะใช้พระราชกําหนด เชน่ พระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 พระราช 1. วัตถุทุกชนิดทีค่ นกนิ ดืม่ หรือนําเขา้ สู่รา่ งกายไม่ว่าด้วย บัญญัตผิ ลติ ภัณฑส์ มนุ ไพร พ.ศ.2562 พระราชบญั ญัตอิ าหาร วิธใี ดๆ หรือในรปู ลักษณะใดๆ แตไ่ มร่ วมถึงยาวัตถอุ อก 2522 พระราชบัญญัติเคร่อื งสําอาง พ.ศ.2558 ฤทธ์ติ อ่ จติ และประสาทหรอื ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษตามกฎหมาย วา่ ดว้ ยการน้ันแลว้ แต่กรณี ผลติ ภัณฑ์สุขภาพตามนิยามของแตล่ ะผลติ ภณั ฑอ์ าจมคี วามซอ้ น 2.วตั ถทุ มี่ งุ่ หมายสาํ หรบั ใชห้ รอื ใชเ้ ปน็ สว่ นผสมในการผลติ ทบั กัน เช่น อาหาร ผลติ ภณั ฑ์สมนุ ไพร และยา ซงึ่ มีวธิ ีนาํ เข้าสู่ อาหารรวมถึงวัตถเุ จอื ปนอาหาร สี และเครอื่ งปรงุ แต่ง ร่างกายได้เหมือนกนั คอื การกนิ แตแ่ ตกตา่ งกนั ตามวัตถปุ ระสงค์ กล่นิ รส ยามีวัตถปุ ระสงคใ์ นการป้องกนั บาํ บดั บรรเทารกั ษาใหห้ ายจากโรค แตอ่ าหารมีวตั ถุประสงค์กนิ เพื่ อดาํ รงชีวิต กินเพื่ อใหอ้ ่ิม และ อาหารยงั อาจมีความคาบเกีย่ วกบั ผลิตภัณฑ์อนื่ เชน่ อาหารทมี่ ี วตั ถปุ ระสงค์เพื่ อใช้ในการลดนาํ้ หนักหรอื อาหารเสริม เนอื่ งจาก ลักษณะผลิตภณั ฑท์ ดี่ ูคลา้ ยยาอาจจะเป็นเม็ดหรือแคปซูล 44

ข้นั ตอนการขออนุญาตถือเป็นสว่ นทสี่ ําคญั การผลิต การนําเขา้ และการส่งออกจะตอ้ งทําอยา่ งไร?? การผลิต หากเปน็ การผลติ เพื่ อจําหน่ายในประเทศไทย กจ็ ะใช้กฎหมายกฎระเบยี บขอ้ บงั คบั ของประเทศไทย การนําเข้า ใชก้ ฎหมายของประเทศไทย การสง่ ออก ยึดตามกฎหมายของประเทศคู่ค้าเป็นหลกั ซึง่ แตล่ ะประเทศจะมีขอ้ กําหนดของตนเอง การผลติ ต้องทําอยา่ งไรบ้าง?? ผ้ปู ระกอบการตอ้ งระบุให้ไดก้ อ่ นว่า ผลิตภณั ฑส์ ขุ ภาพท่จี ะผลิต เปน็ ผลิตภัณฑ์อะไร ผลิตภัณฑ์น้นั ๆ มีข้อกําหนดอะไรบา้ งซ่งึ แต่ละ ผลติ ภัณฑจ์ ะมีขอ้ กาํ หนดปลกี ยอ่ ย เชน่ สถานท่ี ของการผลิตหากจะผลิต อาหารต้องทําสถานท่ใี ห้ได้มาตรฐานอย่างไรซึ่งปจั จุบันจะใชต้ ามมาตรฐาน สถานท่ี GMP 420 เช่น มาตรฐานสถานท่ตี อ้ งมีความปลอดภยั รวมถึง เรือ่ งทเ่ี กีย่ วข้องกบั บุคลากร การสุขาภบิ าล วตั ถดุ บิ ทใ่ี ช้การตรวจสอบ ควบคมุ คณุ ภาพ เปน็ ต้น หากผลติ ภณั ฑ์ทจ่ี ะผลติ เปน็ เคร่อื งสาํ อาง จะมี มาตรฐานสถานท่ซี ึง่ จะใชเ้ กณฑ์ GMP Cosmetic ASEAN เปน็ ตน้ คู่มือการตรวจสถานทผี่ ลติ อาหาร ตามหลักเกณฑ์วิธกี ารทดี่ ใี นการผลติ ที่ บงั คับใช้ เป็นกฎหมาย (GMP 420) ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 420) พ.ศ. 2563 ออกตามความในพระราชบญั ญตั อิ าหาร พ.ศ. 2522 เรอื่ ง วธิ ีการผลิต เครือ่ งมือเครอื่ งใช้ในการผลติ และการเกบ็ รักษาอาหาร เป็นแหล่งข้อมูลเบอื้ งต้น ในการศกึ ษาเพื่ อเตรยี มความพร้อมให้ผูป้ ระกอบการ การเตรยี มตวั ของผูป้ ระกอบการ การผลิตผลติ ภัณฑ์สุขภาพในแตล่ ะผลิตภัณฑ์ของคณะกรรมการอาหารและยา กําหนดใหม้ ีใบอนุญาตท่ีเก่ียวข้องกับการขอผลิตภัณฑ์ การเตรยี มตัวของผปู้ ระกอบการ โดยหลักๆ แบง่ ออกเป็น 2 ประเภท ผู้ประกอบการทเี่ ป็นบุคคลธรรมดา และนติ ิบคุ คล ซึง่ ผ้ปู ระกอบการตอ้ งศกึ ษาขอ้ ดขี ้อเสยี ดว้ ย เพราะหากผ้ปู ระกอบการจดทะเบียนเปน็ บุคคลธรรมดา พอเวลาผา่ นไปแล้ว จะมาขอเปล่ยี นเปน็ นิติบุคคลซึง่ พรบ.ผลติ ภณั ฑส์ ขุ ภาพแตล่ ะผลิตภณั ฑ์ เชน่ อาหาร จะไม่สามารถเปลี่ยนได้ ผปู้ ระกอบการตอ้ งยกเลิกและจดทะเบียนใหมเ่ ท่านน้ั ในกรณนี ้อี าจเปน็ ข้อจํากัดการจะประกอบธุรกิจตอ้ งศึกษาให้ดีก่อน วา่ จะเปน็ ผู้ประกอบการประเภทใด เพราะยงั จะมคี วามเชอ่ื มโยงกบั การเสยี ภาษรี ายไดด้ ้วย หวั ใจสู่ความสาํ เร็จในการประกอบกิจการ ทกุ ผลติ ภณั ฑม์ ขี อ้ กาํ หนดเรอื่ งการแสดงฉลาก ผลติ ภัณฑ์ ผ้ปู ระกอบการจะต้องแสดงฉลาก ผู้ประกอบการต้องรู้ว่าตวั เองจะผลิตอะไร ตามทก่ี ฎหมายกําหนดกอ่ นท่จี ะนําไปขาย ผู้ประกอบการจะจดทะเบยี นเปน็ บคุ คลธรรมดา หรือ เปน็ นิตบิ คุ คล ส่วนการโฆษณาก็มขี ้อกําหนดชัดเจน ผูป้ ระกอบการต้องดูขอ้ กาํ หนดตามพระราชบญั ญตั ิของผลติ ภณั ฑ์ • ยาต้องขออนุญาตกอ่ นโฆษณา นน้ั ๆ ซ่งึ ผลิตภณั ฑ์แตล่ ะประเภทมกี ารขออนญุ าตแตกต่างกนั • อาหารไม่ตอ้ งขออนญุ าต ยกเวน้ เปน็ การโฆษณา ท่มี ีการกล่าวถงึ หรือ การอา้ ง ถึงสรรพคุณ • ยา ตอ้ งขึน้ ทะเบยี นยา ตอ้ งขออนุญาตก่อน • ผลติ ภณั ฑ์สมนุ ไพร ตอ้ งขออนุญาตผลติ ภัณฑ์สมนุ ไพร • เครอ่ื งสําอาง ไม่ได้มีการระบุในเร่อื งของการโฆษณา • อาหาร ตอ้ งขอเลขสารบบ เลข 13 หลกั ไว้แตก่ ารโฆษณาเครอื่ งสาํ อางจะมคี วามเกยี่ วขอ้ งกบั กฎ • เคร่ืองสําอางตอ้ งขอเลขจดแจ้ง หมายของสคบ. ซ่งึ จะเปน็ การดแู ลโฆษณาในภาพรวม • หากเปน็ วัตถุอันตราย ตอ้ งขอทะเบยี นวัตถุอนั ตราย “แต่ละผลิตภณั ฑจ์ ะมคี วามแตกต่างกนั ซงึ่ ผปู้ ระกอบการควรร”ู้ 45

เพื่ อความปลอดภยั ในการบริโภค สาํ นักงานคณะกรรมการอาหารและยา มีนโยบายการเฝา้ ระวงั และควบคุม การเฝ้าระวงั ประจําปี * โดยการสุม่ ตรวจมาตรฐานผลติ ภัณฑ์ ส่งตรวจมาตรฐานสถานที่ เป็นระยะๆ หรือการร้องเรียนจากผบู้ ริโภคดว้ ย ซงึ่ พรบ.ผลิตภัณฑ์สุขภาพบางฉบับ อย.มกี ารให้สินบนการนาํ จบั สว่ นใหญจ่ ะเป็นผลิตภัณฑใ์ นกลุ่มอาหาร ซึง่ ขอ้ กําหนดหลักๆ คือ ตอ้ งแสดงชอื่ ส่วนประกอบทสี่ ําคญั วนั เดอื นปที ีผ่ ลติ และวันเดอื นปที หี่ มดอายุ นํา้ หนักทีเ่ ป็นปรมิ าตรสทุ ธิ สถานท่ผี ปู้ ระกอบการท่ตี ้องการจะผลติ ผลิตภณั ฑส์ ุขภาพ สามารถสอบถามเพื่ อรบั คาํ ปรึกษา ในเขตกรงุ เทพมหานคร ตา่ งจังหวัด ติดตอ่ ทสี่ าํ นักงานคณะกรรมการอาหารและยา ติดต่อทสี่ าํ นักงานสาธารณสุขจงั หวัด กล่มุ งานคุ้มครองผู้บรโิ ภคและเภสัชสาธารณสขุ ตามทที่ สี่ ถานประกอบการต้งั อยู่ 46


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook