สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 6 กลุ่มสาระการเรยี นร้สู งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 Slide PowerPoint_ส่อื ประกอบการสอน บรษิ ัท อักษรเจริญทศั น์ อจท. จำกดั : 142 ถนนตะนำว เขตพระนคร กรงุ เทพฯ 10200 Aksorn Charoen Tat ACT. Co., Ltd: 142 Tanao Rd. Pranakorn Bangkok 10200 Thailand โทร./แฟกซ์ : 0 2622 2999 (อตั โนมตั ิ 20 คสู่ ำย) [email protected]/www.aksorn.com
4หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ภูมิศาสตร์นา่ รู้ ตวั ช้ีวดั • สบื คน้ และอธิบำยลักษณะทำงกำยภำพของประเทศไทยด้วยแผนที่ รปู ถำ่ ยทำงอำกำศ ภำพจำกดำวเทียม • อธบิ ำยควำมสมั พนั ธ์ระหวำ่ งลกั ษณะทำงกำยภำพกบั ภยั พบิ ัติในประเทศไทยเพอ่ื เตรียมพรอ้ มรบั มอื ภยั พบิ ตั ิ • วิเครำะห์ปฏสิ ัมพนั ธร์ ะหวำ่ งส่งิ แวดล้อมทำงกำยภำพกับลกั ษณะกิจกรรมทำงเศรษฐกจิ และสังคมในประเทศไทย • วเิ ครำะห์กำรเปลย่ี นแปลงทำงกำยภำพของประเทศไทยในอดีตกับปจั จุบนั และผลที่เกดิ ขึ้นจำกกำรเปลีย่ นแปลง • นำเสนอตัวอยำ่ งทีส่ ะท้อนใหเ้ ห็นผลจำกกำรรักษำและทำลำยทรัพยำกรและสง่ิ แวดล้อม และเสนอแนวทำงในกำรจดั กำรที่ย่งั ยนื ในประเทศไทย
ลกั ษณะทางกายภาพสง่ ผลตอ่ การดาเนนิ ชีวติ ของนักเรียนอย่างไร
แผนท่ี จงั หวดั ต่อไปนี้อยบู่ ริเวณใดในแผนที่ 3 1. จงั หวดั ราชบุรี 2. จังหวัดชลบรุ ี 5 6 12 3. จังหวดั เชียงใหม่ 4. จงั หวดั นครศรีธรรมราช 4 5. จังหวัดนครสวรรค์ 6. จังหวัดอุบลราชธานี
รูปถา่ ยทางอากาศ แหล่งชมุ ชนตั้งอยู่หนาแน่น บรเิ วณสองฝั่งริมแม่น้า รูปทีถ่ ำ่ ยจำกอำกำศยำน ถำ่ ยลงมำในแนวดง่ิ หรอื แนวเฉียงกับพ้ืนโลก พ้นื ทเ่ี ป็นท่ีราบลุม่ แม่นา้ จึงมีการทา เกษตรกรรมเปน็ บริเวณกวา้ ง แมน่ ้าไหลคดเค้ียวไปตามพ้นื ที่ เหมาะสม ตอ่ การตงั้ ถน่ิ ฐานและทาการเกษตรกรรม
ภาพจากดาวเทยี ม แหลง่ นา้ ขนาดใหญ่ เปน็ แหลง่ ทาประมง และใชน้ า้ ในการเพาะปลกู ภำพที่บนั ทึกจำกดำวเทยี มแลว้ ส่งสัญญำณมำยังพ้ืนโลก แหลง่ ชุมชนตง้ั อยใู่ กลแ้ หล่งนา้ เพอื่ ความ สะดวกในการนานา้ มาใชป้ ระโยชน์ บริเวณท่รี าบใกลแ้ หล่งน้า เปน็ พ้นื ทท่ี าเกษตรกรรม
ลักษณะทางกายภาพ เปน็ ที่ราบแอ่งกระทะ ของประเทศไทย เปน็ ทรี่ าบลมุ่ แมน่ า้ ขนาดใหญ่ เปน็ ภูเขาสงู สลบั กับหบุ เขา เป็นทีร่ าบล่มุ แม่น้าและทร่ี าบ และที่ราบล่มุ แมน่ ้าขนาดเลก็ ชายฝัง่ ทะเล เปน็ ภเู ขาสงู สลบั กบั ทรี่ าบลุ่มแมน่ า้ ขนาดเลก็ และมีท่รี าบชายฝ่ังทะเล เปน็ คาบสมุทร มชี ายฝง่ั ทะเล ขนาบอยู่ท้งั 2 ดา้ น
ภาคเหนอื เปน็ ภเู ขำสูงสลับกบั หบุ เขำ และท่ีรำบล่มุ แมน่ ้ำขนำดเล็ก เปน็ ตน้ กำเนดิ ของแม่น้ำหลำยสำย ดอยอนิ ทนนท์ ภูชี้ฟ้า เปน็ ยอดเขำทีส่ ูงที่สดุ ของ มีลกั ษณะเปน็ หน้ำผำ ประเทศไทย สูง 2,565 เมตร ปลำยแหลมช้ขี น้ึ ฟ้ำ กว๊านพะเยา สภำพอำกำศหนำวเย็นจึงปลกู พืช ทะเลสำบนำ้ จดื เมืองหนำว เช่น กะหล่ำปลี สตรอเบอร์รี ท่ีใหญ่ทส่ี ุดในภำคเหนือ
ภาคกลาง เป็นทีร่ ำบลุ่มแม่น้ำกว้ำงใหญ่ ขอบของภำคเปน็ ทวิ เขำและทส่ี ูงตอ่ เนื่องมำจำกภำคเหนือและตะวันออกเฉยี งเหนอื ลานหนิ ปมุ่ เกิดจำกกำรสึกกรอ่ นของหนิ แมน่ า้ เจา้ พระยา และอิทธิพลจำกลมและฝน เป็นแมน่ ้ำสำยหลกั ของภำคกลำง บงึ บอระเพด็ เกิดจำกแมน่ ้ำปงิ และแม่นำ้ น่ำน เปน็ แหลง่ นำ้ จดื ขนำดใหญ่ที่สุด ไหลมำรวมกนั ของประเทศไทย
ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื เป็นที่รำบสูง บริเวณตอนกลำงเป็นแอ่งกระทะ มีขอบสงู ชันตำมแนวทิวเขำ ภกู ระดงึ หนองหาร เปน็ ภเู ขำหนิ ทรำยยอดตัด เป็นทะเลสำบน้ำจืด จุดสงู สุดอยบู ริเวณคอกเมย ทใี่ หญท่ ี่สดุ ในภำค สงู 1,316 เมตร สามพนั โบก มอหนิ ขาว แก่งหนิ หินเว้ำแหวง่ ใต้แมน่ ำ้ โขง ปรำกฏในชว่ งน้ำแล้ง กลุ่มหนิ ทรำยสีขำวตั้งเรียงกนั เกดิ จำกกำรแตกหัก กัดเซำะ
ภาคตะวันออก มีทวิ เขำและที่สงู อยู่ทำงตอนกลำง มเี นินเขำ ท่ีดอน บำงส่วนเปน็ ที่รำบสลับกบั เนนิ เขำคล้ำยลูกฟกู พัทยา ละลุ เมอื งชำยฝ่งั ทะเลอ่ำวไทย เกดิ จำกฝนกัดเซำะ กำรพังทลำยของดนิ ทงุ่ โปรงทอง เกาะช้าง เปน็ แหลง่ ทอ่ งเทีย่ วเชงิ ใหญเ่ ปน็ อันดับที่ 2 รองจำกเกำะ ระบบนิเวศน์ของปำ่ ชำยเลน ภเู กต็ เป็นแหล่งทอ่ งเที่ยวสำคญั
ภาคตะวันตก ทิวเขำต่อเนอื่ งมำจำกภำคเหนือ มที ีร่ ำบล่มุ แมน่ ำ้ และที่รำบชำยฝัง่ ทะเล สะพานขา้ มแม่น้าแคว นา้ ตกทลี อซู เป็นสะพำนท่สี รำ้ งตงั้ แต่ เปน็ น้ำตกขนำดใหญ่ สงู ประมำณ สมยั สงครำมโลกครัง้ ท่ี 2 300 เมตร ในเขตทวิ เขำถนนธงชัย เขื่อนศรนี ครินทร์ อทุ ยานแหง่ ชาติเขาสามร้อยยอด สรำ้ งขึน้ บนแม่นำ้ แควใหญ่ เป็นภเู ขำหินปนู รมิ ฝัง่ ทะเล เป็นเขอ่ื นเอนกประสงค์ และมีทีร่ ำบน้ำท่วมขงั ตลอดปี
ภาคใต้ เป็นแบบคำบสมทุ ร มีทิวเขำสูงอยตู่ รงกลำง และมีท่ีรำบชำยฝ่งั ทะเลขนำบอย่ทู ั้ง 2 ดำ้ น เกาะปนั หยี เขอื่ นรชั ชประภา มหี มูบ่ ้ำนตัง้ เรียงรำยบนทะเล มภี ูเขำหนิ ปูนรูปรำ่ งแปลกตำ ถกู เรยี กวำ่ กุ้ยหลนิ เมอื งไทย เกาะปอดะ ทะเลสาบสงขลา มีหำดทรำยล้อมรอบ 3 ดำ้ น ยกเวน้ ด้ำนตะวนั ตกเป็น เปน็ ทะเลสำบนำ้ จืดทม่ี ี หนำ้ ผำสูงชัน ทำงออกสูท่ ะเลอำ่ วไทย
ลักษณะภมู อิ ากาศ ประเทศไทยตั้งอย่ใู นเขตร้อน ใกล้เส้นศนู ย์สูตร อุณหภมู ิเฉลี่ยตลอดปีประมำณ 27 องศำเซลเซยี ส มี 3 ฤดู ได้แก่ ฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนำว ฤดูหนาว ฤดูรอ้ น เร่ิมกลำงเดือนพฤษภำคม เริ่มกลำงเดอื นกมุ ภำพันธ์ ถงึ กลำงเดือนกมุ ภำพันธ์ ถึงกลำงเดอื นพฤษภำคม ฤดูฝน เรม่ิ กลำงเดอื นพฤษภำคม ถึงกลำงเดอื นพฤศจิกำยน
VDO
VDO
ทรัพยากร : น้า 1 กำรใช้นำ้ ในประเทศไทยส่วนใหญใ่ ช้เพ่ือกำรเกษตร อปุ โภคบรโิ ภค 2 3 และใชน้ ำ้ มำกขน้ึ ทุกปี จงึ ตอ้ งมีกำรบรหิ ำรจดั กำรน้ำอย่ำงมปี ระสทิ ธภิ ำพ 4 67 5 11 8 ที่ตง้ั เข่อื นสาคญั 9 12 10 1 เขอ่ื นแม่งดั สมบูรณ์ชล 13 เขือ่ นทับเสลำ 25 เข่ือนแก่งกระจำน 13 17 19 20 21 24 14 16 18 22 23 2 เข่ือนแม่กวงอุดมธำรำ 14 เขอ่ื นวชริ ำลงกรณ 26 เขอื่ นปรำณบุรี 15 3 เขือ่ นกว่ิ คอหมำ 15 เขื่อนศรีนครนิ ทร์ 27 เขอื่ นรชั ชประภำ 25 26 4 เขื่อนกิว่ ลม 16 เขื่อนกระเสยี ว 28 เขือ่ นบำงลำง 5 เข่อื นสริ กิ ิติ์ 17 เขอ่ื นปำ่ สักชลสิทธ์ิ 6 เขอ่ื นภมู ิพล 18 เขอ่ื นขนุ ดำ่ นปรำกำรชล 7 เข่อื นแควน้อยบำรงุ แดน 19 เขอื่ นลำตะคอง 8 เขอื่ นจฬุ ำภรณ์ 20 เขอ่ื นลำพระเพลิง 9 เขือ่ นอุบลรตั น์ 21 เขอื่ นมูลบน 27 28 10 เขื่อนลำปำว 22 เขื่อนลำแซะ 11 เข่ือนน้ำอูน 23 เขอ่ื นลำนำงรอง 12 เขื่อนน้ำพุง 24 เข่อื นสริ ินธร
พน้ื ทีล่ ุ่มน้า หนว่ ยของพืน้ ท่ซี ึง่ ลอ้ มรอบดว้ ยสนั ปันนำ้ เป็นพน้ื ท่รี บั น้ำฝนของแม่นำ้ สำยหลกั ในลมุ่ นำ้ นนั้ ๆ เมื่อฝนตกลงมำในพ้ืนท่ลี ่มุ นำ้ จะไหล ออกสลู่ ำธำรสำยย่อย ๆ แล้วรวมกนั ออกสลู่ ำธำรสำยใหญ่และรวมกนั ออกสแู่ ม่นำ้ สำยหลกั จนไหลออกปำกนำ้ ในทส่ี ดุ สนั ปันนา้ ลาธารสายยอ่ ย ๆ (boundary) (sub-order) ลาธารสายหลกั (order) แม่นา้ สายหลัก (mainstream) ปากน้า (outlet) กำรแบง่ พ้นื ที่ลุ่มนำ้ จะทำใหส้ ำมำรถจัดกำรพ้ืนทีล่ มุ่ นำ้ ไดอ้ ยำ่ งมีประสทิ ธภิ ำพ ทำให้มปี รมิ ำณนำ้ ใช้เพยี งพอ มคี ณุ ภำพท่ดี แี ละมี กำรไหลอย่ำงสม่ำเสมอ รวมถึงควบคุมเสถยี รภำพของดินและกำรใชท้ รพั ยำกรอื่นๆ
พ้ืนทีล่ ่มุ นา้ ในประเทศไทย 2 32 1 ลุม่ น้ำสำละวนิ 14 ลมุ่ น้ำแม่กลอง 167 2 2 ลุม่ น้ำโขง 15 ลุม่ นำ้ ปรำจีนบรุ ี 89 3 ลุ่มน้ำกก 16 ลุ่มน้ำบำงปะกง 4 ลุ่มนำ้ ชี 17 ลมุ่ นำ้ โตนเลสำบ 4 5 ลุ่มนำ้ มูล 18 ล่มุ นำ้ ชำยฝ่งั ทะเลตะวนั ออก 6 ลมุ่ น้ำปงิ 19 ลมุ่ น้ำเพชรบรุ ี 11 10 12 5 7 ลุ่มนำ้ วัง 20 ลมุ่ น้ำชำยฝัง่ ทะเลประจวบครี ีขนั ธ์ 14 21 ลุ่มนำ้ ภำคใต้ฝ่งั ตะวนั ออก 17 8 ลุ่มน้ำยม 13 22 ลุม่ นำ้ ตำปี 15 9 ลุม่ นำ้ น่ำน 23 ลุ่มน้ำทะเลสำบสงขลำ 16 10 ลุ่มน้ำเจำ้ พระยำ 19 18 11 ลมุ่ นำ้ สะแกกรัง 24 ลุ่มนำ้ ปตั ตำนี 12 ลุม่ น้ำป่ำสัก 20 13 ลุม่ น้ำท่ำจนี 25 ลุ่มน้ำภำคใต้ฝง่ั ตะวนั ตก 21 25 22 21 23 21 24 21
ทรพั ยากร : ป่าไม้ ปำ่ ไม้มคี วำมสำคัญต่อระบบนเิ วศ ช่วยอนุรกั ษ์ดนิ และน้ำ เป็นแหลง่ ตน้ น้ำลำธำร สร้ำงวัฏจกั รของคำร์บอน ไนโตรเจน และออกซิเจน ปำ่ ตน้ นำ้ เป็นพน้ื ทลี่ ำดชัน สูงจำกระดบั น้ำทะเล มำกกว่ำ 35% 700 เมตร ป่ำไมใ้ นประเทศไทยมลี กั ษณะแตกตำ่ งกันไปตำมสภำพภูมปิ ระเทศ และภูมิอำกำศ แบง่ เปน็ 2 ประเภท 1. ปา่ ผลัดใบ 2. ปา่ ไม่ผลดั ใบ ปำ่ เบญจพรรณ ปำ่ ดิบเขำ ป่ำชำยเลน ปำ่ เตง็ รัง ป่ำดบิ ชื้น ป่ำพรุ ปำ่ ดิบแลง้ ป่ำชำยหำด ป่ำสนเขำ
ทรพั ยากร : ปา่ ไม้ ป่าผลัดใบ ปา่ ไม่ผลัดใบ ปา่ ไมผ่ ลดั ใบ ป่าชายเลน ปา่ ชายหาด ปา่ พรุ ปา่ ดบิ ชนื้ ปา่ ดบิ แล้ง ป่าเบญจพรรณ ปา่ เต็งรัง ปา่ สนเขา ป่าดบิ เขา
ปา่ ดบิ ชนื้ เปน็ ป่ำท่ตี น้ ไม้เขยี วชอ่มุ ตลอดปี พบมำกบริเวณชำยฝง่ั ภำคตะวันออกและภำคใต้ ปา่ มเี รอื นยอดสงู พนั ธ์ุไมส้ ว่ นใหญเ่ ปน็ วงศย์ าง เหียง ตะเคยี น พันธไุ์ ม้ช้นั ลา่ งเป็นปาลม์ หวาย เถาวัลย์
ปา่ เบญจพรรณ เป็นป่ำไมผ้ ลดั ใบ เป็นป่ำท่ีมีพรรณไม้เด่น 5 ชนดิ คือ สัก มะคำ่ แดง ประดู่ และชิงชนั เปน็ ปา่ โปรง่ ต้นไมจ้ ะขน้ึ อยู่ห่างกัน ทาใหแ้ สงอาทิตย์ตกถงึ พ้นื มาก ในฤดูแลง้ ตน้ ไม้จะผลดั ใบ ทาใหเ้ กิดไฟปา่ ได้งา่ ย
ปา่ ชายเลน เป็นป่ำไม้ไมผ่ ลดั ใบ ไมท้ ่พี บจะมรี ำกคำ้ ยันและรำกหำยใจ พบบรเิ วณดินเลนริมทะเลหรอื บริเวณปำกแม่น้ำ โกงกาง มักขึ้นบริเวณดา้ นนอกของป่าชายเลน ริมแมน่ ้า หรอื รมิ ชายทะเลที่นา้ ทะเลท่วมถึง รากคา้ ยัน ชว่ ยให้โกงกางทรงตัวอยู่ได้ ในบรเิ วณดินเลน
ปา่ อนุรกั ษ์ พนื้ ทปี่ า่ สงวนแห่งชาติถูกกาหนดไว้เพ่อื - อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ดิน นำ้ พันธพ์ุ ชื และพันธ์ุสตั วห์ ำยำก - ป้องกนั ภยั ธรรมชำติทีเ่ กิดจำกน้ำทว่ มและกำรพังทลำยของดนิ - ประโยชน์ในด้ำนกำรศกึ ษำ กำรวจิ ัย และควำมมน่ั คงของชำติ พื้นทอ่ี ุทยานแหง่ ชาติ เช่น พื้นทเ่ี ขตรักษาพนั ธสุ์ ตั ว์ป่า เช่น จ.เพชรบรุ ี จ.ตาก อทุ ยำนแหง่ ชำติแก่งกระจำน เขตรกั ษำพนั ธ์ุสัตว์ปำ่ ทุง่ ใหญ่นเรศวร
ทรัพยากร : แร่ แร่เป็นทรัพยำกรท่ีใช้แล้วหมดไป มคี วำมสำคัญในอตุ สำหกรรม แบง่ เปน็ 3 ประเภท 1. แร่โลหะ ใชผ้ ลิต อิเลก็ ทรอนิกส์ ยำนยนต์ อำหำรกระปอ๋ ง 2. แร่อโลหะ ใช้ผลิต วสั ดกุ ่อสรำ้ ง อำหำร ยำ 3. แร่เชอื้ เพลงิ และพลังงาน ใช้สาหรับ โรงไฟฟ้ำ โรงกลน่ั นำ้ มัน แปรรูปปโิ ตรเลยี ม
คาถาม จากแผนท่ี รปู ถา่ ยทางอากาศ และภาพจากดาวเทียม ประเทศไทยมลี ักษณะ ภมู ิประเทศ ภมู อิ ากาศ และทรพั ยากรธรรมชาตอิ ย่างไร
กจิ กรรมทางเศรษฐกิจ สถิตจิ านวนประชากรไทย พ.ศ. 2562 มีท้งั สน้ิ 66,558,935 คน 6.3 หน่วย : ลา้ นคน 9.4 6.3 20.3 22 3.4 ภำคใต้ ภำคเหนือ 3.4 ภำคตะวนั ตก 4.8 4.8 20.3 ภำคตะวนั ออก ภำคกลำง 22 9.4 ภำคตะวนั ออก เฉยี งเหนือ ที่มำ : สำนกั ทะเบยี นกลำง กระทรวงมหำดไทย
ลกั ษณะภูมปิ ระเทศเป็นที่ราบระหวา่ งหุบเขา การสร้างบา้ นเรือนกระจาย ไมห่ นาแน่น มปี ระชากรอาศยั อยู่เบาบาง ผคู้ นส่วนใหญ่ประกอบอาชีพคลา้ ยกัน เช่น เกษตรกรรม
ลักษณะภูมิประเทศเปน็ ที่ราบ การสร้างบ้านเรือนหนาแนน่ มาก ทั้งบา้ นเด่ียว คอนโดมิเนยี ม และบ้านจดั สรร มปี ระชากรอาศัย อย่หู นาแนน่ การประกอบอาชีพมีความหลากหลาย เช่น พนักงานบริษัท ขา้ ราชการ พ่อค้าแม่ค้า
เกษตรกรรม เปน็ รำกฐำนทำงเศรษฐกจิ ของไทย พชื เศรษฐกจิ สำคญั พชื เศรษฐกจิ ทเ่ี พาะปลกู มากที่สดุ
พ้นื ท่ีปลูกข้าวของประเทศไทย ขา้ ว มีพื้นที่เพำะปลูกมำกกว่ำพชื ชนดิ อน่ื ๆ เจริญเตบิ โตได้ดี ในดินเหนยี วและดินร่วนปนเหนยี ว ปลกู มาก ในทลี่ มุ่ ภำคกลำงและภำคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ
พ้นื ทปี่ ลูกยางพาราของประเทศไทย ยางพารา นำ้ ยำงดิบเป็นวตั ถุดิบสำคัญในอุตสำหกรรมตำ่ งๆ เจรญิ เติบโตไดด้ ี ในอำกำศร้อนช้นื ฝนตกชกุ ปลกู มาก ในภำคใตแ้ ละบำงบริเวณของภำคตะวนั ออก และภำคตะวันออกเฉยี งเหนือ
พ้นื ที่ปลกู ขา้ วโพดของประเทศไทย ข้าวโพด เป็นวัตถดุ ิบสำคญั ในกำรผลิตอำหำรสัตว์ เพอื่ กำรบรโิ ภค ภำยในประเทศและส่งออก เจริญเติบโตไดด้ ี ในพื้นทรี่ ำบท่ีระบำยนำ้ ไดด้ ี ไมม่ นี ้ำ ท่วมขงั ปลกู มาก ในภำคเหนือ ภำคกลำง และภำคตะวันออก เฉียงเหนือ
พ้นื ท่ีปลูกมันสาปะหลังของประเทศไทย มนั สาปะหลงั เป็นวัตถุดิบในกำรผลิตมนั เส้น มนั อดั เมด็ แปง้ มนั เพ่อื ส่งออกไปยงั ต่ำงประเทศ เจรญิ เติบโตไดด้ ี ในพ้ืนทีท่ เ่ี ป็นดนิ รว่ นปนทรำย ไม่มีนำ้ ขัง ปลูกมาก ในภำคตะวนั ออกเฉียงเหนือ รองลงมำคือ ภำคกลำง และภำคเหนอื
พ้นื ทีป่ ลกู ออ้ ยของประเทศไทย ออ้ ย เป็นวัตถุดิบในอุตสำหกรรมน้ำตำล และพลงั งำนทดแทน จำกกำกออ้ ย ชำนอ้อย เจรญิ เตบิ โตได้ดี ในบรเิ วณท่ีดอนนำ้ ไม่ขัง ดนิ ร่วนซุย ระบำยนำ้ ไดด้ ี ปลกู ทว่ั ไป ในทุกภำคของประเทศไทย ยกเว้นภำคใต้
พ้นื ท่ีปลกู ปาลม์ นา้ มันของประเทศไทย ปาล์มน้ามัน เป็นวัตถุดิบสำคญั ในอุตสำหกรรมอำหำร และใชเ้ ป็นน้ำมัน ในกำรปรงุ อำหำรทวั่ ไป เจริญเตบิ โตได้ดี ในพ้ืนท่ีที่มฝี นตกชกุ สมำ่ เสมอตลอดปี มีควำมชนื้ สงู และมแี สงแดดจัด ปลกู มาก ในภำคใต้
ผลผลิตสินคา้ เกษตรสาคัญปี 2562 30 25 25.8 20 15 16.8 ปาล์มน้ามนั 10 5 4.46 5.02 0 ขา้ วโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพารา ข้าวนาปี หน่วย : ล้ำนกิโลกรมั
ข้อมูลผลผลติ ข้าวปี 2562 7,651,689 ตัน 7,651,689 ตัน ภำคเหนอื 12,525,929 ตัน 12,525,929 ตัน ภำคตะวนั ออกเฉียงเหนอื 5,290,467 ตนั 335,873 ตัน 5,290,467 ตัน 335,873 ตนั ภำคใต้ ภำคกลำง ที่มำ : สำนกั งำนเศรษฐกิจกำรเกษตร
ปรมิ าณการจับสัตวน์ า้ เคม็ จากการทาประมงพาณชิ ยป์ ี 2562 อ่าวไทย 919,107 ตัน ทะเลอนั ดามัน 330,096 ตนั 22,469 ตนั 25,000 20,000 15,000 10,000 5,000 4,783 ตัน 2,568 ตัน 0 38 ตนั 121 ตัน หมกึ สัตว์นา้ อน่ื ๆ ปู กงุ้ หอย ทม่ี ำ : กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ปรมิ าณการจับสัตวน์ า้ จืดจากธรรมชาติ จาแนกตามชนิดสตั วน์ ้าปี 2562 ชนิดสตั ว์น้า ปรมิ าณ (ตัน) มลู คา่ (พนั บาท) ปลาตะเพียน 24,858 1,175,869 19,919 1,075,679 ปลานิล 965 3,413,914 ก้งุ ก้ามกราม 57,914 387,097 ปลาอ่นื ๆ 2,663 166,352 สัตว์น้าอื่นๆ ทม่ี ำ : กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ข้อมลู ปศุสัตว์ปี 2562 455,637,640 ตัว 31,086,208 ตวั 5,871,807 ตัว 11,289,185 ตัว 1,226,785 ตัว 666,311 ตัว 832,533 ตวั 70,089 ตัว โคเนื้อ โคนม กระบอื สกุ ร ไก่ เปด็ แพะ แกะ ที่มำ : กรมปศุสตั ว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
อตุ สาหกรรม : สนิ ค้าสง่ ออกปี 2562 ประเทศค่คู ้าสาคัญของไทย 5 อนั ดบั แรก คอื สหรัฐอเมรกิ า จีน ญ่ีป่นุ เวยี ดนาม ฮ่องกง หนว่ ย : ลา้ นบาท 846,435 564,626 486,216 347,649 284,263 รถ อุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ อปุ กรณ์ อญั มณแี ละเครื่องประดับ ผลิตภณั ฑ์ยาง เม็ดพลาสติก และส่วนประกอบ และส่วนประกอบ ท่ีมำ : สำนักงำนปลดั กระทรวงพำณชิ ย์
อตุ สาหกรรม : สนิ ค้านาเข้าปี 2562 ประเทศคคู่ า้ สาคญั ของไทย 5 อันดบั แรก คือ จนี ญ่ปี ุ่น สหรัฐอเมรกิ า มาเลเซีย เกาหลีใต้ หนว่ ย : ลา้ นบาท 667,022 657,430 551,658 480,917 406,429 น้ามันดิบ เคร่อื งจกั ร เคร่อื งจกั รไฟฟ้า เคมีภัณฑ์ เหลก็ เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ และส่วนประกอบ และสว่ นประกอบ ที่มำ : สำนักงำนปลัดกระทรวงพำณิชย์
การท่องเที่ยว จานวนนักทอ่ งเทีย่ วต่างชาติ 5 อนั ดบั เดือนธนั วาคม 2562 900,000 851,385 800,000 700,000 600,000 518,567 500,000 400,000 300,000 222,564 189,000 181,638 200,000 100,000 0 จนี มาเลเซยี อินเดีย รัสเซีย เกาหลใี ต้ หน่วย : คน ทม่ี ำ : กองเศรษฐกจิ กำรท่องเทีย่ วและกฬี ำ
การท่องเที่ยว จังหวดั ที่มรี ายได้จากการท่องเท่ยี วมากทส่ี ดุ 5 อันดับแรก รายได้จากการท่องเทีย่ วปี 2562 รวม 2,781,180 ล้านบาท 1 กรงุ เทพมหานคร 2 ภูเก็ต 3 ชลบรุ ี 471,605 ลำ้ นบำท 275,077 ล้ำนบำท 4 กระบ่ี 5 เชยี งใหม่ 1,060,801 ลำ้ นบำท 119,419 ลำ้ นบำท 109,056 ล้ำนบำท ทมี่ ำ : กองเศรษฐกจิ กำรทอ่ งเทยี่ วและกฬี ำ
การทอ่ งเท่ยี ว จงั หวัดที่มีนักท่องเทยี่ วมากที่สุด 5 อันดบั แรก 70,000,000 65,593,687 60,000,000 50,000,000 40,000,000 30,000,000 18,576,146 20,000,000 10,000,000 14,545,187 10,820,564 9,972,316 0 กรงุ เทพมหานคร ชลบรุ ี ภเู ก็ต เชยี งใหม่ นครราชสีมา หนว่ ย : คน ทม่ี ำ : กองเศรษฐกิจกำรทอ่ งเท่ียวและกีฬำ
ภาคเหนอื : สังคมและวัฒนธรรม อาหารภาคเหนอื การแต่งกาย พิธบี วชตน้ ไม้
ประเพณบี วชต้นไม้ พื้นทท่ี ี่มีกำรบุกรกุ ตดั ไมท้ ำลำยปำ่ มำกจะมีประเพณบี วชตน้ ไม้ เพ่ือช่วยอนรุ ักษ์ป่ำไม้ ซง่ึ กำรบวชต้นไม้ จะเป็นกำรสรำ้ งควำมรกั ควำมสำมคั คขี องคนในชุมชนให้รักและหวงแหนปำ่ ไม้ของชมุ ชน การบวชตน้ ไมจ้ ะนาผ้าเหลือง มาพนั รอบตน้ ไม้
ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ : สงั คมและวัฒนธรรม อาหารภาคตะวนั การแต่งกาย ประเพณีบญุ บ้งั ไฟ ออกเฉยี งเหนือ
Search