Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่1 ศาสนากับการดำเนินชีวิต

หน่วยที่1 ศาสนากับการดำเนินชีวิต

Published by Nannongbon School, 2021-07-01 05:03:38

Description: หน่วยที่1 ศาสนากับการดำเนินชีวิต

Search

Read the Text Version

สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 6 กลุ่มสาระการเรยี นร้สู งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 Slide PowerPoint_ส่อื ประกอบการสอน บรษิ ัท อักษรเจริญทศั น์ อจท. จำกดั : 142 ถนนตะนำว เขตพระนคร กรงุ เทพฯ 10200 Aksorn Charoen Tat ACT. Co., Ltd: 142 Tanao Rd. Pranakorn Bangkok 10200 Thailand โทร./แฟกซ์ : 0 2622 2999 (อตั โนมตั ิ 20 คสู่ ำย) [email protected]/www.aksorn.com

1หน่วยการเรยี นรู้ที่ ศาสนากบั การดาเนนิ ชวี ิต ตวั ชวี้ ัด • วิเครำะห์ควำมสำคญั ของพระพทุ ธศำสนำในฐำนะเป็นศำสนำประจำชำติ หรือควำมสำคัญของศำสนำท่ีตนนบั ถือ • สรปุ พทุ ธประวตั ติ ้งั แตป่ ลงอำยสุ ังขำรจนถึงสังเวชนียสถำน หรอื ประวตั ิศำสดำท่ีตนนบั ถือตำมที่กำหนด • วิเครำะห์ควำมสำคัญและเคำรพพระรตั นตรัย ปฏบิ ตั ติ ำมไตรสกิ ขำและหลกั ธรรมโอวำท 3 ในพระพทุ ธศำสนำ หรือหลักธรรมของศำสนำทตี่ นนบั ถอื ตำมทีก่ ำหนด • ปฏิบัติตนตำมหลกั ธรรมของศำสนำทีต่ นนับถือเพือ่ แก้ปญั หำอบำยมขุ และสิ่งเสพตดิ • อธิบำยหลักธรรมสำคัญของศำสนำอ่ืน ๆ โดยสังเขป • เหน็ คณุ คำ่ และประพฤตติ นตำมแบบอยำ่ งกำรดำเนนิ ชีวติ และขอ้ คดิ จำกประวัตสิ ำวก ชำดก เรื่องเล่ำ และศำสนิกชนตวั อย่ำงตำมท่ีกำหนด

1หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ศาสนากบั การดาเนินชวี ิต ตัวชว้ี ัด • ช่นื ชมกำรทำควำมดีของบุคคลในประเทศตำมหลักศำสนำ พรอ้ มทงั้ บอกแนวปฏิบตั ใิ นกำรดำเนินชวี ติ • เหน็ คุณค่ำและสวดมนต์ แผเ่ มตตำและบริหำรจิตเจรญิ ปญั ญำ มีสตทิ ่ีเป็นพ้ืนฐำนของสมำธิในพระพุทธศำสนำ หรือกำรพฒั นำจติ ตำมแนวทำงของศำสนำทตี่ นนับถอื ตำมท่ีกำหนด • อธบิ ำยลักษณะสำคญั ของศำสนพิธี พธิ ีกรรมของศำสนำอ่นื ๆ และปฏบิ ตั ิตนไดอ้ ย่ำงเหมำะสมเมื่อต้องเข้ำรว่ มพิธี • อธบิ ำยควำมรู้เก่ียวกับสถำนท่ีตำ่ ง ๆ ในศำสนสถำน และปฏิบัติตนได้อย่ำงเหมำะสม • มมี รรยำทของควำมเป็นศำสนกิ ชนทดี่ ี ตำมทก่ี ำหนด • อธิบำยประโยชน์ของกำรเขำ้ ร่วมในศำสนพิธี พิธกี รรม และกิจกรรมในวนั สำคญั ทำงศำสนำ ตำมที่กำหนด และปฏิบัตติ นไดถ้ ูกตอ้ ง • แสดงตนเปน็ พทุ ธมำมกะ หรอื แสดงตนเปน็ ศำสนกิ ชนของศำสนำที่ตนนบั ถอื

คนเรานับถอื ศาสนาเพราะอะไร

ศาสนากบั การดาเนนิ ชีวติ พระพทุ ธศำสนำ หลักธรรมนำควำมสุข เรยี นรู้ส่งิ ท่ีดี ควำมสำคญั ของ พุทธประวัติ พระพทุ ธศำสนำ ศำสนำครสิ ต์ ศำสนำอิสลำม ศำสนำฮินดู แบบอยำ่ ง กำรพฒั นำจติ และ พระพทุ ธศำสนำ กำรทำควำมดี เจริญปญั ญำ พระรตั นตรัย หลักควำมรกั หลกั ศรัทธำ 6 หลกั ธรรม 10 หลกั ตรีเอกำนภุ ำพ หลกั ปฏบิ ตั ิ 5 หลักอำศรม 4 ไตรสิกขำ บญั ญตั ิ 10 ประกำร โอวำท 3 หลกั ธรรมเพ่ือ แก้ปัญหำอบำยมุข และส่ิงเสพติด พทุ ธศำสนสภุ ำษติ

ศำสนกิ ชนทด่ี แี ละศำสนพธิ นี ่ำรู้ ศำสนสถำน มรรยำทของ พธิ ีกรรมสำคญั พิธกี รรมสำคัญ พธิ กี รรมสำคญั พิธกี รรมสำคญั และกำรปฏิบตั ิตน ศำสนิกชน ของพระพทุ ธศำสนำ ของศำสนำครสิ ต์ ของศำสนำอิสลำม ของศำสนำฮินดู กำรอำรำธนำศลี พิธีศลี ลำ้ งบำป กำรละหมำด กฎสำหรับวรรณะ อำรำธนำธรรม พธิ ศี ีลกำลงั พธิ ีถือศีลอด พิธีสัมสกำร และอำรำธนำพระปริตร พธิ ศี ีลแกบ้ ำป พิธฮี จั ญ์ พิธีศรำทธ์ กำรบวช พธิ ีบชู ำเทวดำ พธิ ที อดผำ้ ปำ่ พิธีศลี มหำสนิท พิธีทอดกฐิน พิธีศีลเจมิ คนไข้ กำรแสดงตนเปน็ พิธีศลี บวช พทุ ธมำมกะ พิธศี ลี สมรส กำรทำบุญในงำนอวมงคล วนั สำคัญทำงพระพทุ ธศำสนำ

พระพทุ ธศาสนา พระพทุ ธศาสนา พระพุทธศาสนาเป็นหลกั มีความสาคัญอย่างไร เปน็ เอกลักษณ์ของชาติ ในการพัฒนาชาตไิ ทย พระพุทธศาสนาเป็นรากฐาน พระพุทธศาสนา และมรดกทางวัฒนธรรมไทย เป็นศูนย์รวมจิตใจ

VDO

ประสตู ิ ตรสั รู้ ปจั ฉมิ สาวก สภุ ัททปรพิ ำชกทรำบข่ำววำ่ ก่อนพุทธศักรำช 80 ปี พรรษำที่ 35 กอ่ นปรนิ ิพพำน 1 วัน พระพทุ ธเจำ้ เสดจ็ มำที่เมอื ง กสุ นิ ำจึงรบี เขำ้ เฝำ้ เพอ่ื ถำม ข้อสงสยั บำงประกำร เม่ือได้ฟงั ข้อเฉลย เกิดควำมเลอ่ื มใส จงึ ขออปุ สมบทเป็นปัจฉิมสำวก ของพระพุทธเจ้ำ ออกผนวช ปลงพระชนมายุสงั ขาร หลงั จำกพระพทุ ธเจำ้ ประกำศศำสนำมำเปน็ พรรษำท่ี 29 ก่อนปรินิพพำน 3 เดอื น เวลำ 45 ปี พระพุทธเจ้ำทรงประชวรหนกั และในวันข้นึ 15 คำ่ เดอื น 3 ทรงปลง พระชนมำยสุ ังขำรว่ำ พระองค์จะปรินิพพำน ในอกี 3 เดอื นขำ้ งหน้ำ

ปรนิ พิ พาน พระพทุ ธเจ้ำปรินพิ พำน แจกพระบรมสารีริกธาตุ เจำ้ ผู้ครองนครท้งั หลำย พรรษำที่ 80 ในวนั ขนึ้ 15 คำ่ เดือน 6 หลงั พิธถี วำยพระเพลิง ได้ส่งทตู ำนทุ ูตมำขอสว่ นแบ่ง ก่อนพทุ ธศกั รำช 1 ปี ขณะ พระบรมสำรีริกธำตุ เพื่อนำไป พระชนมำยุได้ 80 พรรษำ สกั กำรบูชำทบ่ี ำ้ นเมอื งของตน โดยโทณพรำหมณท์ ำหนำ้ ท่ี เป็นผแู้ บ่งพระบรมสำรรี กิ ธำตุ ถวายพระเพลงิ พธิ ถี วำยพระเพลงิ พระพุทธสรรี ะ หลังปรินิพพำน 8 วนั จดั ทำข้นึ ท่ีมกุฏพันธนเจดีย์ เมอื ง กสุ นิ ำรำ ในวันแรม 8 ค่ำ เดอื น 6 หลังจำกพระพทุ ธเจ้ำปรินพิ พำน ได้ 8 วัน

สงั เวชนียสถาน สถำนท่ีทท่ี ำใหพ้ ทุ ธศำสนกิ ชนเกดิ ควำมระลึกถึงพระพุทธเจ้ำ มี 4 แห่ง สถานที่ประสูติ สถานท่ีตรัสรู้ เนปาล ลมุ พนิ ีวนั แควน้ อธู อนิ เดีย พทุ ธคยำ รฐั พิหำร ประเทศเนปำล ประเทศอินเดีย สถานทปี่ รินิพพาน สถานท่ีแสดงปฐมเทศนา กุสนิ ำรำ รัฐอุตตรประเทศ สำรนำถ รฐั อุตตรประเทศ ประเทศอนิ เดีย ประเทศอินเดีย

พระรัตนตรยั ไตรสกิ ขา โอวาท 3 การปฏบิ ตั ติ นตามหลักธรรมของศาสนา เพือ่ แกป้ ัญหาอบายมขุ และส่งิ เสพตดิ พุทธศาสนสภุ าษิต

เชื่อวำ่ กรรมมอี ยู่จริง เช่ือวำ่ ผลของกรรมมีจรงิ ศรัทธำ เชอื่ วำ่ สตั ว์โลกมกี รรมเปน็ ของตน เชอ่ื ในพระปัญญำและกำรตรสั รขู้ อง พระพุทธเจ้ำ วำ่ เปน็ ควำมจริง พระรัตนตรยั (แก้วอนั ประเสรฐิ 3 ประการ) พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ สมเดจ็ พระสมั มำสมั พทุ ธเจ้ำ คำสง่ั สอนขององค์สมเด็จพระสมั มำ สำวกของสมเดจ็ พระสมั มำสัมพุทธเจ้ำ ผู้คน้ พบหลกั ธรรม ท่ีชว่ ยดับ สมั พทุ ธเจำ้ เพอ่ื ควำมดับทุกข์ ผูศ้ กึ ษำและปฏบิ ตั ติ ำมหลกั ธรรม ควำมทุกขแ์ กม่ นษุ ย์ แลว้ นำมำสง่ั สอนพทุ ธศำสนกิ ชน อรยิ สัจ 4 พทุ ธกจิ 5 เวลำ ควำมสำคญั ของพระสงฆ์ หลักกรรม

พระรตั นตรัย 1 ชว่ งเช้า 2 ชว่ งเย็น ทรงออกบิณฑบำต โปรดสตั ว์ พระพทุ ธ และสนทนำธรรมกับผู้ทีท่ รง เสดจ็ ออกไปแสดงธรรม เล็งเห็นว่ำส่งั สอนได้ แกป่ ระชำชนในทอ้ งถ่ินนั้น พุทธกิจของสมเด็จ พระสมั มำสมั พทุ ธเจ้ำ 5 ชว่ งใกล้รุง่ บาเพ็ญพุทธกิจ 3 ชว่ งค่า ทรงพจิ ำรณำเลอื ก บุคคลท่จี ะเสด็จ 5 เวลา ทรงประทำนโอวำท ไปโปรดในตอนเช้ำ แกเ่ หลำ่ ภกิ ษุสงฆ์ 4 ช่วงเท่ยี งคืน ทรงตอบปญั หำธรรม และแสดงธรรมแกเ่ ทวดำ

พระรัตนตรัย สภำวะที่ ทนไดย้ ำก พระธรรม ทุกข์ ข้อปฏบิ ัติใหถ้ ึง ควำมดับทุกข์ มรรค อรยิ สัจ สมทุ ยั สำเหตุ มี 8 ประกำร ทท่ี ำให้ เกดิ ทกุ ข์ นโิ รธ ควำมดบั ทกุ ข์

พระรัตนตรยั สมั มำทฏิ ฐิ : เหน็ ชอบ สัมมำอำชีวะ : เลย้ี งชีพชอบ สมั มำวำยำมะ : พยำยำมชอบ พระธรรม สัมมำสติ : ระลกึ ชอบ สมั มำสังกปั ปะ : ดำรชิ อบ สมั มำสมำธิ : ตัง้ จิตมัน่ ชอบ มรรค 8 สัมมำวำจำ : เจรจำชอบ สมั มำกมั มนั ตะ : กระทำชอบ

พระรตั นตรยั หลักกรรม ไม่ฆ่ำสตั ว์ พดู สิง่ ดงี ำม พระธรรม การกระทาโดยเจตนา ไมโ่ ลภ ไม่นำของผูอ้ ืน่ มำเปน็ ของตน กุศลกรรม กรรม กายกรรม กำรกระทำทำงกำย (ทำ) (ทาด)ี เรียกตำมทำงที่เกิด วจีกรรม กำรกระทำทำงวำจำ (พูด) มโนกรรม กำรกระทำทำงจิต (คดิ ) อกศุ ลกรรม (ทาชวั่ ) โลภ อยำกได้ พระพุทธเจ้ำทรงสอนหลักกรรมไวด้ ว้ ยเหตุผล สิ่งของของผู้อนื่ ▪ ทำลำยควำมเชอ่ื เรื่องวรรณะ ฆ่ำสัตว์ ▪ ให้ตั้งตนในควำมไม่ประมำท พูดเท็จ ▪ สอนให้มนุษยม์ คี วำมเพียร ชว่ ยเหลอื ตนเอง ▪ ให้เป็นคนเชื่อมัน่ ในเหตุและผล

พระรตั นตรัย ความสาคัญของพระสงฆ์ พระสงฆ์ เป็นผ้ปู ระพฤติดี ปฏิบัตชิ อบ เป็นผู้สืบทอดอำยุพระพุทธศำสนำ เรียนร้พู ระธรรมแล้วนำมำเผยแพร่ เป็นแบบอยำ่ งท่ดี ที ำงศีลธรรม เป็นแบบอยำ่ งใหผ้ อู้ ่ืนทำตำม

หลักคาสอนสาคัญของพระพทุ ธศาสนา ไตรสกิ ขา (ข้อปฏบิ ตั ิที่ตอ้ งศกึ ษา 3 อยา่ ง) ศีล สมาธิ ปญั ญา • ไม่เบยี ดเบียนผู้อ่นื ท้งั ทำงกำย • กำรสำรวมจิตใจให้แน่วแน่ • ควำมฉลำดรอบรู้ในเหตแุ ละผล และวำจำ • ทำจิตใจใหจ้ ดจ่ออยูก่ ับส่งิ ใดส่ิงหนง่ึ • ปัญญำจะเกิดเม่ือจติ ตั้งมนั่ • กำรรักษำศลี เปน็ พ้นื ฐำน • เมอ่ื จติ เป็นสมำธจิ ะทำให้เกดิ ปญั ญำ ทก่ี ่อใหเ้ กดิ คุณธรรม

สัมมาทิฏฐิ เหน็ ชอบ สมั มาสงั กัปปะ ดำรชิ อบ ปญั ญา ศลี สมั มาวาจา เจรจำชอบ ไตรสกิ ขา มรรค 8 สัมมากมั มนั ตะ กระทำชอบ กบั สมาธิ สมั มาอาชวี ะ เลี้ยงชพี ชอบ ไตรสกิ ขา สมั มาวายามะ พยำยำมชอบ สมั มาสติ ระลกึ ชอบ สมั มาสมาธิ ตงั้ จติ มนั่ ชอบ

หลกั คาสอนสาคญั ของพระพทุ ธศาสนา โอวาท (โอวาทปาตโิ มกข์ ถอื เป็นหวั ใจสาคญั ของพระพทุ ธศาสนา มี 3 ประการ) การไม่ทาความช่วั ท้ังปวง การทาแตค่ วามดี การทาจติ ของตนให้ผอ่ งใสบริสุทธ์ิ หลกั ธรรมท่สี นบั สนนุ หลกั ธรรมท่สี นบั สนุน หลักธรรมท่ีสนับสนุน ▪ เบญจศลี ▪ เบญจธรรม ▪ กำรบริหำรจติ และเจรญิ ปัญญำ ▪ อบำยมุข 6 ▪ กศุ ลมลู 3 ▪ อกศุ ลมูล 3 ▪ พละ 4 ▪ คำรวะ 6 ▪ กตญั ญูกตเวทตี ่อพระมหำกษตั รยิ ์ ▪ มงคล 38

โอวาท 3 เบญจศีล หรือศีล ไม่ฆำ่ สตั ว์ ไมล่ กั ขโมย การไม่ทาความชว่ั ทั้งปวง ช่วยคุ้มครองตน ไม่ประพฤตผิ ิดในกำม ไม่ใหท้ ำควำมชว่ั ไมพ่ ูดปด ไมด่ ่มื สรุ ำและเสพสง่ิ เสพติด 5 ประกำร ดืม่ สุรำ เสพส่งิ เสพตดิ เท่ียวกลำงคนื เที่ยวดกู ำรละเลน่ อบายมุข ทำงไปสูค่ วำมเส่ือมที่เปน็ อบำยมุข มี 6 อยำ่ ง เล่นกำรพนัน คบคนชวั่ เปน็ มติ ร เกียจครำ้ นทำงำน

โอวาท 3 การไม่ทาความชัว่ ทัง้ ปวง อกุศลมูล ต้นเหตแุ หง่ ควำมช่วั มี 3 อยำ่ ง โลภะ – ควำมโลภ อยากไดส้ งิ่ ของต่างๆ ทาทจุ รติ ลักทรพั ย์ ฉ้อโกง อื่นๆ โทสะ – ควำมโกรธ คิดรา้ ยตอ่ ผอู้ น่ื กระทาสงิ่ ไม่ดี สร้างความเดอื ดร้อนใหผ้ อู้ ่ืน โมหะ – ควำมหลง ไม่รู้จริง กระทาสิ่งไม่ดี เกิดความเดือดรอ้ นตอ่ ตนเองและผอู้ ื่น

โอวาท 3 เบญจธรรม หรอื ธรรม ขอ้ พงึ ปฏิบตั ิ เพือ่ ใหช้ วี ติ เจริญรงุ่ เรือง มี 5 ประกำร การทาแต่ความดี มเี มตตำกรณุ ำ มีควำมสำรวมในกำม มีสัมมำอำชีวะ มสี จั จะ มีสติสัมปชญั ญะ กศุ ลมลู ตน้ เหตแุ ห่งควำมดี ผูท้ ่ีมีหลกั ธรรมน้จี ะขจดั อกศุ ลมูลได้ อโลภะ – ควำมไม่โลภ อโทสะ – ควำมไม่โกรธ อโมหะ – ควำมไมห่ ลง

โอวาท 3 พละ ปญั ญำพละ – กำลังปัญญำ กำรทำสิ่งตำ่ งๆ ดว้ ยปัญญำ ธรรมอันเป็นพลัง วริ ิยพละ – กำลงั ควำมเพยี ร กำรพยำยำมทำส่ิงตำ่ งๆ จนสำเร็จ การทาแตค่ วามดี อนวัชชพละ – กำลังคือกำรกระทำท่ีไมม่ ีโทษ กำรทำส่งิ ตำ่ งๆ ด้วยควำมสุจรติ สงั คหพละ – กำลังกำรสงเครำะห์ กำรชว่ ยเหลือเกอ้ื กลู ผ้อู ่นื คารวะ กำรประพฤตติ นให้เป็นประโยชนต์ ่อสงั คม มีควำมเคำรพและตระหนัก คำรวะในพระพุทธเจ้ำ ในกำรปฏิบตั ิตน คำรวะในพระธรรม คำรวะในพระสงฆ์ ตอ่ สิ่งสำคัญ 6 ประกำร คำรวะในกำรศึกษำ คำรวะในควำมไมป่ ระมำท คำรวะในกำรต้อนรับ

โอวาท 3 มงคล ธรรมอนั เปน็ เหตุทำใหเ้ กิดควำมสุข การทาแต่ความดี ควำมเจริญกำ้ วหน้ำในกำรดำเนนิ ชีวิต มี 38 ประกำร (ชั้น ป.6 ศึกษำเพยี ง 3 ประกำร) กตัญญูกตเวทตี อ่ พระมหากษตั ริย์ มวี นิ ัย อย่ใู นระเบียบ แบบแผน ขอ้ บังคบั สำนกึ ในพระมหำกรุณำธคิ ุณ นำพระบรมรำโชวำทมำเปน็ แนวทำงในกำรดำเนินชวี ติ กำรงำนไมม่ โี ทษ ทำงำนท่ไี มผ่ ดิ กฎหมำย ไม่ผดิ ศีลธรรม ปฏิบตั ิตนเปน็ พลเมอื งดี ไมป่ ระมำทในธรรม มสี ติรอบคอบ คอยเตือนตนให้ทำควำมดี ละเว้นควำมชั่ว

โอวาท 3 สวดมนตไ์ หว้พระ ปฏิบตั ิสมำธิ การทาจิตของตนใหผ้ ่องใสบริสุทธ์ิ เรำสำมำรถทำจติ ใจ ใหผ้ อ่ งใสบรสิ ุทธ์ิได้ ดว้ ยกำรหม่ันบริหำรจิต และเจริญปญั ญำ

การปฏิบตั ติ นเพื่อแกป้ ญั หาอบายมุขและสงิ่ เสพตดิ การปฏบิ ัติตนตามหลักธรรมที่ศกึ ษา อริยสจั 4 หลักกรรม ไตรสิกขา โอวาท 3 เบญจศีล เบญธรรม อบายมุข 6 อกุศลมูล 3 กศุ ลมูล 3 พละ 4 คารวะ 6 มงคล 38

พุทธศาสนสภุ าษิต สจฺเจน กติ ฺต˚ิ ปปฺโปติ ยถาวาที ตถาการี (สัด-เจ-นะ กดิ -ติง ปับ-โป-ติ) (ยะ-ถำ-วำ-ที ตะ-ถำ-กำ-รี) คนจะได้เกยี รติดว้ ยสจั จะ พูดเช่นไร ทำเช่นน้นั กำรรกั ษำคำพูด กำรรักษำสจั จะ ทำให้ผอู้ น่ื ยอมรบั เชื่อมั่น สร้ำงควำมนิยม นับถอื เน้น เพือ่ พูดคำไหนคำนนั้ พดู อะไรไป ปฏบิ ัตไิ ดต้ ำมทีพ่ ูด ทำใหเ้ กดิ ควำมไวว้ ำงใจ ได้รบั กำรยกยอ่ งจำกผอู้ น่ื

หลกั ธรรมสาคญั ของศาสนาคริสต์ หลกั ความรกั ความรัก ควำมปรำรถนำใหผ้ ู้อนื่ มคี วำมสุข มนุษย์ ความรัก พระเจ้า มคี วำมเมตตำกรุณำ มนษุ ย์ ความรกั มนษุ ย์ ให้อภยั ซงึ่ กนั และกัน

หลกั ธรรมสาคัญของศาสนาคริสต์ พระบิดา หลักตรีเอกานภุ าพ กำรนับถอื พระเจ้ำเพียงองคเ์ ดียว แต่มี 3 สภำวะ พระเจ้า พระบุตร พระจิต

หลกั ธรรมสาคญั ของศาสนาครสิ ต์ ข้อปฏิบตั ิ 10 ข้อ ท่พี ระเจำ้ ทรงประทำนให้ครสิ ต์ศำสนิกชน บญั ญตั ิ 10 ประการ 6 อยำ่ ผิดประเวณี 7 อย่ำลกั ขโมย 1 จงนมัสกำรพระเจ้ำพระองคเ์ ดียว 8 อย่ำพูดเทจ็ 2 อย่ำออกนำมพระเจำ้ โดยไมม่ เี หตุผล 9 อย่ำคดิ มชิ อบ 3 จงถือวันพระเจ้ำเป็นวันศกั ดิ์สทิ ธิ์ 10 อย่ำมีควำมโลภในทรพั ย์สนิ ของผูอ้ ื่น 4 จงนบั ถือบิดำมำรดำ 5 อยำ่ ฆำ่ คน

หลกั ธรรมสาคญั ของศาสนาอิสลาม หลักศรทั ธา 6 ประการ หลักคำสอนทีเ่ ปน็ ควำมจรงิ แท้แน่นอนและตอ้ งยดึ ถอื ปฏบิ ตั ิ ศรทั ธาตอ่ อัลลอฮ์ ศรัทธาต่อศาสนทตู ศรัทธาตอ่ เทวทูตของอัลลอฮ์ เปน็ พระเจ้ำเพยี งพระองค์เดียว ศำสนทูต (เรำะซลู ) จะนำคำส่งั สอน เทวทตู จะทำหนำ้ ทีส่ ื่อสำรกบั ของอัลลอฮม์ ำเผยแผแ่ กม่ นุษย์ ศำสนทตู (เรำะซูล) ศรทั ธาในวนั พิพากษาโลก ศรทั ธาต่อพระคัมภรี ท์ ้ังหลาย ศรัทธาในลิขติ ของอลั ลอฮ์ มสุ ลมิ ต้องเชือ่ วำ่ โลกมีวนั แตกดบั เปน็ คมั ภรี ท์ ีอ่ ัลลอฮ์ประทำนมำให้ มุสลิมต้องเชื่อวำ่ อลั ลอฮเ์ ป็นผลู้ ิขติ มนุษย์ตอ้ งทำควำมดี เพอื่ เผยแผ่มำยงั มนษุ ย์ ชวี ิตมนษุ ย์ สิ่งตำ่ งๆ ทเี่ กดิ ลว้ นเปน็ ควำมประสงคข์ องอัลลอฮ์

หลกั ธรรมสาคัญของศาสนาอสิ ลาม หลกั ปฏบิ ัติ 5 ประการ หลักพ้นื ฐำนท่มี สุ ลมิ ตอ้ งปฏิบัติ การปฏญิ าณตน มสุ ลมิ ตอ้ งกลำ่ วคำปฏญิ ำณว่ำ “ขา้ พเจ้าขอปฏญิ าณว่า ไม่มพี ระเจา้ อื่นใด นอกจากอลั ลอฮ์ และนบมี ุฮมั มดั คอื ศาสนทูตของพระองค์” การละหมาด มสุ ลมิ ตอ้ งปฏบิ ัตลิ ะหมำดวนั ละ 5 เวลำ (ย่ำรุ่ง บ่ำย เยน็ พลบค่ำ กลำงคนื ) การบริจาค บริจำคทรพั ย์ อำหำร สง่ิ ของ ใหท้ ำนแกค่ นทีเ่ หมำะสมตำมศำสนบญั ญัติ ซะกาต ในเดอื นเรำะมะฎอน ตำมปฏิทินของอิสลำม โดยละเว้นกำรกนิ ดม่ื เสพ การถือศีลอด กำรปฏิบตั ิท่ีไมถ่ ูกต้อง ตงั้ แตด่ วงอำทิตยข์ ้ึนจนถงึ ดวงอำทิตย์ตก มุสลิมต้องหำโอกำสไปประกอบพิธีฮจั ญ์ที่นครเมกกะ ประเทศซำอดุ อี ำระเบีย การประกอบ อย่ำงนอ้ ย 1 ครงั้ ในชีวิต พิธฮี ัจญ์

หลกั ธรรมสาคญั ของศาสนาฮนิ ดู หลกั ธรรม 10 ประการ ลักษณะของธรรมะ 10 ประกำร 1. ธฤติ 2. กษมา 3. ทมะ 4. อัสเตยะ 5. เศาจะ ควำมพอใจ ควำมกลำ้ ควำมอดทน กำรข่มจติ ใจ มีสติ กำรไมล่ กั ขโมย กำรทำตนให้บริสุทธ์ิ ควำมมั่นคง ควำมเพยี รพยำยำม ท้งั กำยใจ 6. อินทรยี นคิ รหะ 7. ธี 8. วทิ ยา 9. สตั ยา 10. อโกธะ หมนั่ ตรวจสอบ มปี ัญญำ มีสติ ควำมรูท้ ำงปรชั ญำ ควำมจริงใจ ควำมไมโ่ กรธ อนิ ทรยี ท์ งั้ 10 ประกำร ควำมซ่อื สัตย์

หลกั ธรรมสาคญั ของศาสนาฮนิ ดู 1. พรหมจารี วัยท่ีต้องศึกษำเลำ่ เรยี น 4. สันนยาสี อายุตั้งแต่ 1 ปี – 25 ปี 2. คฤหัสถ์ วัยแห่งกำรออกบวช บำเพญ็ เพียร วัยแหง่ กำรครองเรอื น โดยมศี รัทธำ เสยี สละทุกอย่ำง หลัก อาศรม 4 อายุ 26 ปี – 50 ปี อายุ 76 ปี – 100 ปี ข้นั ตอนกำรดำเนนิ ชีวิตของมนุษย์ ตำมหลกั ธรรมของศำสนำฮนิ ดู 3. วานปรสั ถ์ แยกตัวออกจำกบำ้ น ไปปฏบิ ตั ธิ รรม อายุ 51 ปี – 75 ปี

แบบอย่างการทาความดี การพัฒนาจติ ตามแนวทางของศาสนา พระราธะ การสวดมนตไ์ หว้พระสรรเสรญิ คุณพระรตั นตรัย ทีฆตี โิ กสลชาดก การแผเ่ มตตา สพั พทาฐิชาดก สตสิ มั ปชัญญะ สมาธิ และปญั ญา พ่อขนุ รามคาแหงมหาราช วิธีบริหารจิตและเจริญปญั ญา สมเดจ็ พระมหาสมณเจ้ากรมพระปรมานุชิตชโิ นรส ประโยชนข์ องการบรหิ ารจติ และเจริญปญั ญา พระราชวิสทุ ธปิ ระชานาถ วธิ ีฝกึ การยืน การเดิน การน่ัง และการนอนอย่างมสี ต

พระราธะ หากนกั เรียนปฏิบัตติ นเปน็ คน ว่านอนสอนงา่ ย จะส่งผลดอี ยา่ งไร แต่เดมิ พระรำธะเปน็ พรำหมณ์ อำศยั อยูใ่ นกรุงรำชคฤห์ เมอื่ แกต่ วั ลงถูกลูกทอดท้งิ จงึ ไปอำศัยอยทู่ ่ีวัด ท่ำนมีควำมประสงค์ตอ้ งกำรบวช แตไ่ มม่ ใี ครบวชให้ ในเวลำตอ่ มำพระพุทธเจ้ำ ได้พบกบั รำธพรำหมณแ์ ละทรงอนุญำตใหพ้ ระสำรบี ตุ รบวชให้รำธพรำหมณ์ เมอื่ บวชแล้ว พระรำธะไดจ้ ำริกไปกบั พระสำรีบุตรและเรยี นรู้ ฝกึ ฝน ปฏิบัตติ น ดว้ ยควำมตง้ั ใจ ต่อมำกไ็ ด้สำเร็จเป็นพระอรหนั ต์ พระพุทธเจ้ำทรงยกย่องพระรำธะว่ำ เป็นผู้เลศิ กว่ำภกิ ษทุ ัง้ หลำยในกำรรแู้ จม่ แจ้ง ในพระธรรมเทศนำ คณุ ธรรมทีเ่ ป็นแบบอยา่ ง กำรเปน็ ผวู้ ่ำนอนสอนงำ่ ย เชื่อฟัง ปฏิบตั ติ ำม และมคี วำมเคำรพตอ่ ผู้ใหก้ ำรอบรมสง่ั สอน กำรมีควำมกตัญญกู ตเวทตี อ่ ผู้มีพระคุณตอ่ เรำ

หากนักเรยี นร้จู กั ใหอ้ ภยั ทฆี ตี โิ กสลชาดก แก่คนรอบขา้ ง จะสง่ ผลดีอย่างไร ทีฆำวกุ มุ ำรเปน็ พระรำชโอรสของพระเจำ้ ทีฆตี ิโกสล ในเวลำตอ่ มำ คุณธรรมท่ีเป็นแบบอยา่ ง พระเจำ้ พรหมทตั ได้เขำ้ มำทำศึกแลว้ ไดร้ ับชยั ชนะ กำรยึดมน่ั ในคำสัง่ สอนของพ่อแม่ พระเจ้ำพรหมทตั ไดฆ้ ำ่ พระเจำ้ ทีฆตี ิโกสลและพระมเหสี แต่ทีฆำวุกุมำรหลบหนไี ปได้ กำรเป็นผูไ้ มจ่ องเวรและรู้จักให้อภัย ในเวลำต่อมำทฆี ำวุกุมำรเติบโตข้ึน และมีโอกำสไดเ้ ปน็ ทหำรรบั ใชค้ นสนทิ ของพระเจำ้ พรหมทัต วันหนง่ึ ทีฆำวุกมุ ำรมีโอกำสทีจ่ ะฆำ่ พระเจ้ำพรหมทัต แต่ไดร้ ะลกึ ถงึ โอวำทของ พระบิดำและพระมำรดำทว่ี ำ่ “เวรยอ่ มระงบั ดว้ ยกำรไม่จองเวร” ทีฆำวกุ ุมำร จึงล้มเลกิ ควำมตั้งใจท่ีจะฆำ่ พระเจ้ำพรหมทัต

สัพพทาฐิชาดก ผู้ท่ีใชอ้ านาจในทางท่ไี ม่ถูกต้อง จะส่งผลอยา่ งไร สุนขั จิ้งจอกตวั หน่งึ นำมวำ่ สัพพทำฐิ มีควำมสำมำรถพเิ ศษในกำรรำ่ ยมนตว์ ิเศษ สัพพทำฐิจงึ รำ่ ยมนต์บังคับสตั ว์ทั้งหลำยให้อยู่ในอำนำจ แล้วตั้งตนเป็นใหญ่ สัพพทำฐิหลงในอำนำจ คิดจะชิงรำชสมบัติจำกพระเจำ้ พรหมทตั แห่งกรุงพำรำณสี สพั พทำฐิวำงแผนให้รำชสีหค์ ำรำมเพื่อให้ชำวเมืองพำรำณสแี กว้ หูแตกและเสยี ชีวิต แตป่ โุ รหิตของพระเจำ้ พรหมทตั ออกอบุ ำยใหช้ ำวเมอื งเอำแป้งมำอดุ หูไว้ เม่ือรำชสหี ์คำรำม ชำวเมืองพำรำณสจี ึงไมไ่ ด้ยินเสียง แตบ่ รรดำสตั ว์บริวำร ของสัพพทำฐไิ ดย้ ินเสียง และแตกตื่นว่ิงหนี ชำ้ ง 2 ตัว ซ่ึงเปน็ บริวำรของสพั พทำฐิ เกิดควำมตกใจและเหยียบสพั พทำฐิจนเสียชวี ิต คตธิ รรม ผยู้ งิ่ ใหญแ่ ละมอี ำนำจ ถ้ำหลงใหลในอำนำจ จะทำให้พบกบั ควำมพินำศ

ทรงเป็นพระมหำกษัตรยิ ์พระองคท์ ่ี 3 แหง่ กรงุ สุโขทยั ทรงขึ้นครองรำชย์ พ่อขนุ รามคาแหงมหาราช เมอื่ พ.ศ. 1822 และทรงเปน็ พระมหำกษัตริย์ทีเ่ ป็นมหำรำชองค์แรกของไทย ลำยสอื ไทยท่ีบันทึกอยบู่ นศิลำจำรกึ พระราชกรณยี กิจ พอ่ ขุนรำมคำแหง ซึ่งเปน็ ตวั อักษร ท่พี อ่ ขุนรำมคำแหงทรงคดิ ประดษิ ฐ์ขน้ึ ทรงปกครองประเทศแบบพอ่ ปกครองลูก ทรงนำพระพทุ ธศำสนำลทั ธลิ งั กำวงศ์จำกเมืองนครศรีธรรมรำช มำประดิษฐำนในกรุงสุโขทยั ทรงประดิษฐ์อักษรไทยท่เี รยี กวำ่ ลายสอื ไทย ศลิ ำจำรกึ พอ่ ขุนรำมคำแหง หลกั ที่ 1 ปจั จบุ ัน เกบ็ รักษำอยู่ที่ พิพธิ ภัณฑสถำนแหง่ ชำติ พระนคร

สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระปรมานชุ ติ ชิโนรส สมเด็จพระมหำสมณเจ้ำ กรมพระปรมำนุชิตชิโนรสทรงเปน็ พระรำชโอรสในพระบำทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟำ้ จุฬำโลกมหำรำช ทรงมพี ระนำมเดมิ ว่ำ พระเจ้ำลูกยำเธอ พระองค์เจำ้ วำสกุ รี เมอื่ พระชนมำยุ 12 พรรษำ ไดบ้ รรพชำเป็นสำมเณรและต่อมำได้ทรงผนวช เปน็ พระภิกษุ เมอ่ื พ.ศ. 2357 ทรงดำรงตำแหน่งเจ้ำอำวำสวัดพระเชตพุ นวิมลมงั คลำรำมรำชวรมหำวหิ ำร พระองค์ทรงมีพระปรีชำ สำมำรถในทำงกวี ทรงนิพนธ์วรรณคดีตำ่ ง ๆ ไวม้ ำก เช่น ลิลติ ตะเลงพำ่ ย รำ่ ยยำวมหำเวสสันดรชำดก ยเู นสโกได้ประกำศยกย่องพระองคใ์ นฐำนะปูชนยี บุคคลผ้มู ผี ลงำนดีเดน่ ทำงดำ้ นวัฒนธรรมระดบั โลก เมอ่ื พ.ศ. 2533

พระราชวสิ ุทธปิ ระชานาถ พระรำชวสิ ทุ ธปิ ระชำนำถ ท่ำนเป็นเจำ้ อำวำสวัดพระบำทน้ำพุ อำเภอเมืองฯ จังหวดั ลพบุรี ท่ำนท่มุ เทให้ควำมชว่ ยเหลือและดูแลผ้ตู ิดเช้ือเอดส์ โดยใชว้ ดั พระบำทนำ้ พุ เป็นสถำนดูแล พักฟืน้ และรกั ษำผปู้ ว่ ยโรคเอดส์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2535 ท่ำนเป็นผู้ให้ควำมรูเ้ รอ่ื งโรคเอดสแ์ ก่ชำวบ้ำนและหนว่ ยงำนต่ำงๆ นอกจำกนี้ ท่ำนไดต้ ง้ั ศูนยส์ งเครำะหป์ ระชำชน เพอื่ แจกจ่ำยขำ้ วสำรอำหำรแหง้ และสิ่งของจำเป็น แก่ผู้ยำกไร้

การพฒั นาจติ ตามแนวทางของศาสนา สวดมนตไ์ หว้พระ แผเ่ มตตา การบริหารจติ และเจริญปญั ญา สรรเสรญิ คณุ พระรัตนตรยั ส่งควำมปรำรถนำดีและเมตตำ กอ่ นปฏบิ ตั ิ เตรียมควำมพรอ้ มร่ำงกำย ใหก้ ับมนษุ ย์และสรรพสัตว์ ขณะปฏบิ ัติ เลือกสถำนท่ที ส่ี งบ ใหม้ นุษย์และสรรพสัตว์ หลงั ปฏบิ ตั ิ อยูร่ ่วมกันอย่ำงผำสกุ กำหนดลมหำยใจเข้ำ - ออก ไมเ่ บยี ดเบยี นกัน ควบคมุ จติ ใจไม่ให้ฟุ้งซำ่ น ใช้เวลำปฏิบตั ิ 10 นำที แผ่เมตตำ กรวดน้ำ

การพัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนา สตกิ ับร่างกาย ฝึกกาหนดความรสู้ ึก ฝึกให้มีสมาธิ กาหนด ใจ ตา การฟัง ตง้ั ใจฟงั มีจติ ใจจดจ่อกบั เร่ืองที่ฟัง ยืนอยา่ งมีสติ ยนื อยู่ท่ใี ด กาย อายตนะทงั้ 6 หู ยืนเวลำใด กำหนดลมหำยใจเข้ำ - ออก ลิ้น จมกู การอ่าน ตั้งใจอ่ำน ไมค่ ิดฟงุ้ ซำ่ น สมั ผัส นอกเหนือเรือ่ งท่ีอ่ำน เดนิ อยา่ งมีสติ เดินเป็นจงั หวะ ไม่ชำ้ ไม่เร็ว ส่งิ เรา้ ภายนอก การคดิ นำสงิ่ ทไ่ี ดฟ้ งั อ่ำน มำคิด รู้ย่ำงก้ำว ว่ำเปน็ เท้ำซ้ำย หรอื เท้ำขวำ ความรสู้ ึก พิจำรณำหำเหตผุ ล น่งั อยา่ งมีสติ น่ังอยู่ท่ีใด การถาม ซักถำมในประเด็นท่ียงั ไม่เข้ำใจ นั่งอยู่เวลำใด หลังจำกคดิ แลว้ กำหนดลมหำยใจเข้ำ - ออก การเขียน นำเรอ่ื งทไ่ี ด้ฟัง อ่ำน คิด และถำม นอนอย่างมีสติ กำลังนอนอยู่ มำสรุป มำเรยี บเรียงเขียนใหม่ กำหนดลมหำยใจเข้ำ – ออก – เกดิ กิเลส – จิตใจสงบ ตำมควำมเข้ำใจของตน – หลงใหล – ไม่ฟงุ้ ซ่ำน ใช้ทำ่ นอนตะแคงขวำ – เกิดควำมอยำก

ศำสนสถำนและ พธิ ีกรรมสำคัญของ พธิ กี รรมสำคัญของ กำรปฏบิ ตั ิตนทีเ่ หมำะสม พระพทุ ธศำสนำ ศำสนำอสิ ลำม เมอื่ อยู่ในศำสนสถำน มำรยำทของศำสนิกชน พิธกี รรมสำคญั ของ พธิ ีกรรมสำคัญของ ศำสนำครสิ ต์ ศำสนำฮินดู

สวมใส่กระโปรงยำวคลุมเข่ำ ใส่เสื้อสีสุภำพ แขนสน้ั หรือแขนยำว ไม่นุ่งกระโปรงสัน้ เกินไป ไม่ใสเ่ สอื้ แขนกดุ หรือเสอ้ื รดั รูป สวมกำงเกงสุภำพ ไม่รดั รปู เกินไป สวมกระโปรงหรอื กำงเกงยำวคลุมเขำ่ ไม่สวมกำงเกงขำสั้น นกั เรยี นปฏบิ ตั ติ นอย่างไร สวมกำงเกงขำยำว เม่ือไปวดั หรอื กำงเกงขำยำวเลยเข่ำ สวมกำงเกงท่ไี ม่รัดรูป สวมชุดสุภาพ สารวมกิรยิ าวาจา ไม่สง่ เสยี งดังรบกวนผู้อ่ืน ตั้งใจรบั ศีล มีสมาธิ ไม่คิดฟุ้งซ่าน

พิธอี ุปสมบท ผู้ท่จี ะบวช เรียกวำ่ นำค คอื กำรบวชเปน็ พระภิกษใุ นพระพุทธศำสนำ เพือ่ กำรแสวงหำควำมหมำยของชวี ติ (หลุดพ้นจำก พระผู้เข้ำรว่ มในพธิ บี วช ควำมทกุ ข์) ผู้ทจ่ี ะอุปสมบทได้ ตอ้ งเป็นชำยทีม่ ีอำยุ เรียกวำ่ พระอนั ดบั ตง้ั แต่ 20 ปี ข้ึนไป พระผู้สวดในพธิ ีบวช ผ้ำไตรจีวร คุณสมบตั ิของผู้บวช เรียกวำ่ พระกรรมวำจำจำรย์ ไมเ่ ปน็ โรคติดต่อ ไมเ่ ป็นผู้มอี วัยวะบกพรอ่ งหรือพกิ ำร ไมเ่ ปน็ คนตดิ สุรำยำเสพติด ไม่เป็นคนมีพนั ธะ ไม่เปน็ ผู้ตอ้ งหำหนีคดีควำม พระเถระผู้เปน็ ประธำนในพธิ บี วช เรยี กว่ำ พระอุปชั ฌำย์

พธิ ที อดกฐนิ คอื พิธถี วำยผำ้ กฐินแกพ่ ระภิกษุ เพือ่ สงเครำะหพ์ ระภิกษุท่อี ยู่จำพรรษำครบ 3 เดือน ชำวพทุ ธทม่ี ศี รัทธำต้องกำรจะถวำยกฐนิ ต้องจองกฐิน (แจง้ ควำมประสงค์) ณ วดั ใด วดั หนึง่ จำกนั้นจงึ เตรียมเครื่องกฐินและนำไปทอดท่วี ดั ตำมวนั และเวลำทีแ่ จ้งไว้ ซ่ึงจะอยู่ในช่วงตง้ั แตว่ นั แรม 1 ค่ำ เดอื น 11 จนถงึ กลำงเดอื น 12 เปน็ เวลำ 1 เดือน องคก์ ฐนิ คือ ผ้ำกฐนิ หรอื ผำ้ ผนื ท่ถี วำยสงฆ์ เพ่ือกรำนกฐิน ส่วนของอน่ื ๆ เรียกว่ำ บริวารกฐนิ ทาไมแต่ละวัดจึงทอดกฐินได้ ปลี ะ 1 คร้งั เท่าน้ัน

พธิ ศี ลี ลา้ งบาป พธิ ีศลี กาลงั คอื พธิ ีล้ำงบำปหรือมลทินทตี่ ดิ ตวั มำตั้งแต่กำเนิด คอื พิธเี จิมนำ้ มนั สำหรับคริสตชนที่มวี ฒุ ภิ ำวะ เพื่อเร่มิ ตน้ กำรเป็นครสิ ต์ศำสนกิ ชน เพื่อยืนยันกำรนบั ถือศำสนำครสิ ตโ์ ดยสมบูรณ์ มักกระทำทำรกแรกเกิดและกบั ผใู้ หญท่ ส่ี มคั รใจเป็นคริสตศ์ ำสนกิ ชน ครสิ ตศ์ ำสนิกชนท่มี ีวฒุ ิภำวะทำงควำมคดิ เข้ำรับศีลกำลัง ด้วยกำรเทน้ำบนศีรษะของผู้รับศลี พรอ้ มคำกลำ่ ว เปน็ เคร่ืองหมำย จำกพระสังฆรำชด้วยกำรปกมือหรือเจิมน้ำมนั คริสมำบนหนำ้ ผำก ของกำรล้ำงบำป เปน็ พธิ ที ีท่ ำเพียงครั้งเดียวในชีวิต


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook