89 1) ด้านความรับผดิ ชอบ การจดั การเรียนรู้พลศึกษาในขนั้ ที่ 1ขนั้ เตรียม นกั เรียนแสดงออกถึงการดแู ล เอาใจใสอ่ ปุ กรณ์ในการเรียน การเข้าเรียนตรงเวลา เสือ้ ผ้าท่ีสวมใส่ในการเรียน เน่ืองจากผ้วู ิจยั ได้ กาหนดกฎเกณฑ์ ให้นกั เรียนดแู ลอุปกรณ์ในการเรียน การตรงตอ่ เวลา การช่วยกนั ดแู ลรักษา อปุ กรณ์ สนามที่ใช้ในการเรียน และยงั ชว่ ยเก็บอปุ กรณ์โดยท่ีครูไม่ต้องสง่ั ซ่ึงสอดคล้องกบั พยงุ ศกั ดิ์ สนเทศ (2530)กลา่ ววา่ ครูผ้สู อนวิชาพลศกึ ษาจะต้องปลกู ฝังให้นกั เรียนโดยการมอบหมาย งานให้นกั เรียนเป็ นกล่มุ หรือรายบคุ คลรับผิดชอบตา่ งๆ เชน่ การเตรียมอปุ กรณ์ การเก็บอปุ กรณ์ การทาความสะอาดสนามกีฬาหรือห้องเรียนพลศกึ ษา นอกจากนีใ้ นขนั้ ท่ี 3ขนั้ อธิบายสาธิตและฝึ ก ปฏิบตั ิและขนั้ นาไปใช้ ผ้วู ิจยั ได้สอดแทรกความมีระเบียบวินยั ในตนเองตามแนวคิดของเพียเจต์ โดยให้นกั เรียนแสดงถงึ ความรับผิดชอบตอ่ หน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายคือการปฏิบตั ทิ กั ษะให้ได้ตาม เกณฑ์ที่ครู กาหนดเพื่อประโยชน์ของกลุ่มและเพ่ือหลีกเลี่ยงการถูกลงโทษและครู ให้ แต่ละกลุ่ม แขง่ ขนั กนั ปฏิบตั ทิ กั ษะ กลมุ่ ไหนชนะจะได้รับคาชมเชยจากครูและเพ่ือน กล่มุ ไหนแพ้จะถกู ลงโทษ โดยให้ทาท่ากายบริการและในขนั้ ที่ 4ขนั้ นาไปใช้ก็ได้สอดแทรกความมีระเบียบวินยั ในตนเองตาม แนวคดิ ของเพียเจต์ โดยให้นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ แขง่ ขนั ปฏิบตั กิ ิจกรรมท่ีครูกาหนดให้นกั เรียนในกล่มุ ช่วยกันกาหนดหน้าท่ีตามความสามารถของแต่ละคนและให้ เพ่ือนที่มีทกั ษะดีคอยให้คาแนะนา ปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องของสมาชิกภายในกลุ่มซ่ึงกันและกัน ซ่ึงนักเรียนได้แสดงออกถึงการ ยอมรับผลการประเมินความสามารถและทาหน้ าท่ีตามที่เพื่อนๆมอบหมายให้ อย่างเต็ม ความสามารถ ซึ่งสอดคล้องกบั แบบสงั เกตความมีระเบียบวินยั ในตนเองพบว่านกั เรียนแสดงถึง ความรับผิดชอบตอ่ หน้าท่ี สามารถปฏิบตั ไิ ด้ตามคาแนะนาของเพื่อน มีความสนใจเอาใจใสใ่ นการ เรียนและยังช่วยเก็บอุปกรณ์โดยท่ีครูไม่ต้องสง่ั ซึ่งเป็ นผลให้พบว่ามีค่าเฉล่ียของคะแนนความมี ระเบียบวินยั ในตนเองด้านความรับผิดชอบ หลงั การทดลองของนกั เรียนกลมุ่ ทดลองสูงกวา่ นกั เรียน กล่มุ ควบคมุ สอดคล้องกับ ณัฐพร สดุ ดี (2550)ได้ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกบั การฝึ กพฒั นาให้มี ระเบียบวินยั ในตนเองโดยผ่านกิจกรรมพลศึกษา อาจจะจดั กิจกรรมพลศกึ ษาโดยสอดแทรกแบบ ฝึ กท่ีเน้นการมีระเบียบวินยั ในตนเองและเป็ นวิธีท่ีจะปรับเปลี่ยนความไม่มีระเบียบของนกั เรียนได้ 2) ด้านความเช่ือมนั่ ในตนเอง การจดั การเรียนรู้พลศึกษาในขนั้ ท่ี 1ขนั้ เตรียม ผ้วู ิจยั ให้นกั เรียนได้มีส่วนร่วม ในการยืดเหยียดกล้ามเนือ้ ก่อนการเรียนโดยครูสาธิตวิธีการยืดเหยียดกล้ามเนือ้ ให้นกั เรียนดเู ป็ น ตวั อยา่ งแล้วให้นกั เรียนอาสาเป็ นตวั แทนของเพ่ือนออกมานาเพ่ือนยืดเหยียดกล้ามเนือ้ และผ้วู ิจยั
90 อธิบายถึงประโยชน์ของความเช่ือมน่ั ในตนเอง ขนั้ ท่ี 3ขนั้ อธิบายสาธิตและฝึ กปฏิบตั ิ เป็ นขนั้ ที่ พฒั นาความเช่ือมน่ั ในตนเองโดยที่ให้นกั เรียนกล้ายกมือถามเมื่อไม่เข้าใจในทกั ษะท่ีครูสอนและ ผ้วู จิ ยั ให้นกั เรียนขออาสาเป็ นตวั แทนของกลมุ่ เพื่อที่จะออกมาแขง่ ขนั ปฏิบตั ทิ กั ษะกบั เพื่อนเพื่อให้ ได้ทกั ษะตามเกณฑ์ที่ครูกาหนด และขนั้ ท่ี 4ขนั้ นาไปใช้ ผ้วู ิจยั ให้นกั เรียนแข่งขนั กีฬาฟุตบอลตาม กฎ กติกา มารยาทของการเล่นกีฬาฟุตบอลโดยนักเรียนในกลุ่มช่วยกันแบ่งหน้ าท่ีตาม ความสามารถของแต่ละบุคคลและแสดงความคิดเห็น เม่ือนกั เรียนยิงประตไู ด้ให้นกั เรียนแสดง ทา่ ทางดีใจออกมา1ทา่ ซง่ึ สอดคล้องกบั แบบสงั เกตความมีระเบียบวนิ ยั ในตนเองพบว่านกั เรียนเม่ือ ครูให้ออกมาสาธิต นกั เรียนจะยกมือก่อนเพ่ือน กล้าปฏิบตั ิทกั ษะโดยไม่อายใครและเม่ือมีการ ประชุมภายในทีมนักเรียนมักจะแสดงความคิดเห็นออกมาเสมอเป็ นผลให้พบว่ามีค่าเฉลี่ยของ คะแนนความมีระเบียบวินยั ในตนเองด้านความเช่ือมนั่ ในตนเอง หลงั การทดลองของนกั เรียนกล่มุ ทดลองสงู กว่านกั เรียนกล่มุ ควบคมุ อย่างมีนยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั .05 ซง่ึ สอดคล้องกบั แนวคิด ของเพียเจต์ในขนั้ ตนเองเป็ นใหญ่และขนั้ เล่นอย่างมีกฎเกณฑ์ซ่ึงสอดคล้องกับงานวิจยั ของวิภา มาศ เมืองอ่(ู 2542)พบว่ากิจกรรมกล่มุ เป็ นวิธีการท่ีชว่ ยให้ผ้เู รียนเกิดการเรียนรู้โดยการปฏิบตั จิ ริง เกิดการแลกเปล่ียนทัศนคติและประสบการณ์ระหว่างสมาชิกในกลุ่มในการพัฒนาตนเองของ สมาชิกภายในกลุ่มและพัฒนาบคุ ลิกภาพด้านความเช่ือมั่นในตนเองและสอดคล้องกับวาสนา คณุ าอภิสิทธิ์ (2539) ได้กลา่ ววา่ การปลกู ฝังให้นกั เรียนมีระเบยี บวินยั เป็นเรื่องที่สาคญั เรื่องหนึ่งใน กิจกรรมการสอนพลศึกษาความมีระเบียบวินัยจะทาให้เกิดความสงบสุข บรรลุสู่จุดหมาย ปลายทาง 3) ด้านความอดทน การจดั การเรียนรู้พลศกึ ษาในขนั้ ท่ี 3ขนั้ อธิบายสาธิตและฝึ กปฏิบตั ิและขนั้ ท่ี 4 ขนั้ นาไปใช้ ผ้วู ิจยั ให้นกั เรียนฝึ กปฏิบตั ิทกั ษะตามเกณฑ์ท่ีกาหนดและให้นกั เรียนแข่งขนั ปฏิบตั ิ ทกั ษะเป็นกลมุ่ เชน่ นกั เรียนทกุ คนเข้าแถวในกลมุ่ ได้ฝึ กปฏิบตั ทิ กั ษะการรับและส่งลกู ฟตุ บอลด้วย ข้างเท้าด้านในโดยที่นกั เรียนส่งบอลแล้วว่ิงไปตอ่ แถวเพื่อนด้านหลงั ทกุ คนในกล่มุ ได้ปฏิบตั ิทกุ คน จนครบ20ครัง้ แล้วคอ่ ยมาเริ่มใหมโ่ ดยให้นกั เรียนทกุ คนทาพร้อมกนั โดยรอสญั ญาณนกหวีดจากครู และเข้าแถวให้เป็ นระเบียบเรียบร้อย ทาให้นกั เรียนได้เข้าร่วมและฝึ กปฏิบตั ิทกั ษะ นกั เรียนจะ แสดงออกถึงการปฏิบตั กิ ิจกรรมร่วมกนั อยา่ งสนกุ สนาน มีการร่วมกนั แขง่ ขนั ในกิจกรรมตา่ งๆอย่าง เตม็ ความสามารถ มีการช่วยเหลือซึ่งกนั และกันภายในกล่มุ ตงั้ ใจอดทนฝึ กปฏิบตั ิให้ครบตามท่ี ครูผ้สู อนกาหนดซึ่งสอดคล้องกับแบบสงั เกตความมีระเบียบวินยั ในตนเองพบว่านกั เรียนตงั้ ใจฝึ ก ทกั ษะจนเสร็จกระบวนการ โดยไม่เลน่ กนั ระหวา่ งฝึ กปฏิบตั ิ แม้ทกั ษะจะยากนกั เรียนจะมงุ่ มน่ั ทา
91 ให้สาเร็จและไม่พดู คยุ กนั หรือหยอกล้อเล่นกนั ขณะครูกาลงั อธิบายเป็ นผลให้พบวา่ มีคา่ เฉลี่ยของ คะแนนความมีระเบียบวินยั ในตนเองด้านความอดทน หลงั การทดลองของนกั เรียนกลมุ่ ทดลองสูง กวา่ นกั เรียนกลมุ่ ควบคมุ อยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติท่ีระดบั .05ซงึ่ สอดคล้องกบั แนวคดิ ของเพียเจต์ ในขนั้ เลน่ ตามลาดบั ขนั้ ร่วมมือและขนั้ เล่นอยา่ งมีกฎเกณฑ์สอดคล้องกบั เซวิสครอฟ (Sheviskov, 1985)ได้กล่าวว่าระเบียบวินยั ท่ีดีควรปลูกฝังให้แก่เด็กคือระเบียบวินัยในตนเอง ในการปลูกฝัง ระเบยี บวนิ ยั ควรเป็นเร่ืองของความจริงใจ มใิ ชก่ ารทางานตามคาสง่ั การเสริมสร้างระเบียบวินยั ใน ตนเองของนกั เรียนนนั้ ควรเกิดจากความรู้ความเข้าใจมากกว่าระเบียบวินยั ท่ีเกิดจากการบงั คบั และสามารถให้นกั เรียนได้เรียนรู้ระเบียบวินยั โดยผ่านกิจกรรมตา่ งๆซ่ึงสอดคล้องกบั ณฐั พร สดุ ดี (2550) ได้ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกบั การฝึ กพฒั นาให้มีระเบียบวินยั ในตนเองโดยผ่านกิจกรรมพล ศกึ ษา อาจจะจดั กิจกรรมพลศึกษาโดยสอดแทรกแบบฝึ กที่เน้นการมีระเบียบวินยั ในตนเองและ เป็ นวิธีท่ีจะปรับเปลี่ยนความไม่มีระเบียบของนักเรียนได้ และสอดคล้องกับวรศกั ดิ์ เพียรชอบ (2548) ท่ีได้กลา่ ววา่ กิจกรรมพลศกึ ษาท่ีอยภู่ ายใต้การจดั และดาเนินการจดั การเรียนการสอนของ ครูที่มีความสามารถและกิจกรรมท่ีดีนนั้ จะสง่ เสริมและพัฒนาคณุ ลกั ษณะต่างๆได้ เช่นมีระเบียบ วินยั มีความอดทน 4) ด้านความเป็นผ้นู า การจดั การเรียนรู้พลศกึ ษาในขนั้ ท่ี 4ขนั้ นาไปใช้ เป็นขนั้ ที่พฒั นามีระเบียบวินยั ในตนเองในด้านความเป็ นผ้นู า ผ้วู ิจยั ให้ความสาคญั กบั การสง่ เสริมให้นกั เรียนเลน่ กีฬาฟุตบอล ตามกฎ กติกา มารยาท ก่อนกิจกรรมในการเล่นทีมครูให้นักเรียนได้มีการเลือกหวั หน้าทีม เพื่อที่จะให้ นักเรียนได้แสดงถึงความเป็ นผู้นาแล้ วนักเรียนในกลุ่มช่วยกันแบ่งหน้ าท่ีตาม ความสามารถของแต่ละบุคคลโดยให้มีการผ้รู ักษาประตหู น่ึงคนโดยครูจะให้กฎกติกาในการเล่น แตล่ ะเกมนนั้ ๆ เช่นก่อนจะยิงประตูนกั เรียนต้องส่งลกู ด้วยข้างเท้าด้านในให้ได้ก่อนอย่างน้อย 2 ครัง้ ถึงจะยิงประตไู ด้มีและก่อนเริ่มเกมผู้วิจยั ให้นักเรียนจับมือกันก่อนและหลังแข่งขนั เม่ือ กระทบกระทงั่ หรือมีการฟาล์วเกิดขนึ ้ ให้นกั เรียนกลา่ วขอโทษ มีการกล่าวช่ืนชมเม่ือเพื่อนได้รับชยั ชนะ ทงั้ นีผ้ ้วู ิจยั ได้เน้นยา้ การแสดงมารยาทดงั กล่าวทกุ ครัง้ อยา่ งสม่าเสมอและให้คาชมเชยเม่ือมี นกั เรียนแสดงพฤติกรรมความเป็ นผ้นู ำซึ่งสอดคล้องกบั แบบสงั เกตควำมมีระเบียบวินยั ในตนเอง พบว่ำนกั เรียนแสดงออกถึงควำมมีนำ้ ใจเป็ นนกั กีฬำ รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ไม่แสดงกำรกระทำที่เอำ เปรียบผู้อื่น คอยให้กำลังใจเพื่อนๆอยู่เสมอและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นและร่วมมือ ปรึกษาหารือกนั เพื่อปรับปรุงภายในทีมซง่ึ สอดคล้องกบั แนวคิดของเพียเจต์ในขนั้ อยำ่ งมีกฎเกณฑ์ เป็ นผลให้พบว่ำค่ำเฉล่ียของคะแนนควำมมีระเบียบวินัยในตนเองด้ำนควำมเป็ นผู้นำ หลังกำร
92 ทดลองของนกั เรียนกล่มุ ทดลองสงู กวำ่ นกั เรียนกล่มุ ควบคมุ อย่ำงมีนยั สำคญั ทำงสถิติท่ีระดบั .05 สอดคล้องกบั กบั เฮอร์ล็อค (Hurlock, 1984) ได้กลา่ ววา่ การปลกู ฝังระเบียบวินยั ในตนเองนนั้ จะ ช่วยให้ เด็กร้ ู สึกมั่นใจโดยบอกว่าส่ิงใดควรทาและสิ่งใดไม่ควรทา และช่วยให้ เด็กหลีกเล่ียงต่อ ความรู้สึกผิดหรืออบั อายต่อส่ิงที่ผิดแล้วยงั ช่วยให้เด็กได้เรียนรู้การประพฤติตน ที่จะเป็ นทางไปสู่ การเป็นผ้นู าท่ีนา่ ยกยอ่ งนบั ถือและการปรับตวั ให้ประสบผลสาเร็จและมีความสขุ 2.2 ในระยะตดิ ตามผลการจดั การเรียนรู้พลศกึ ษาโดยใช้กิจกรรมกีฬาฟุตบอลตามแนวคิด ของเพียเจต์ทาให้คา่ เฉลี่ยของคะแนนความมีระเบียบวินยั ในตนเองสูงกว่านกั เรียนกล่มุ ควบคมุ ที่ ได้รับการจดั การเรียนรู้กิจกรรมพลศกึ ษาโดยใช้กิจกรรมกีฬาฟตุ บอลแบบปกติอย่างมีนยั สาคญั ทาง สถิตทิ ่ีระดบั .05ซงึ่ เป็นไปตามสมมติฐานข้อท่ี 2 วา่ นกั เรียนท่ีได้รับการจดั การเรียนรู้พลศกึ ษาโดยใช้ กิจกรรมกีฬาฟตุ บอลตามแนวคิดของเพียเจต์จะมีคา่ เฉลี่ยของคะแนนความมีระเบียบวินยั ในตนเอง สงู กวา่ นกั เรียนกลมุ่ ควบคมุ ท่ีได้รับจดั การเรียนรู้กิจกรรมพลศกึ ษาโดยใช้กิจกรรมกีฬาฟตุ บอลแบบ ปกติ จงึ สามารถอภิปรายผลได้ดงั นี ้ ระยะติดตามผลนักเรียนกลุ่มทดลองมีค่าเฉล่ียของคะแนนความมีระเบียบวินัยใน ตนเองในระยะตดิ ตามผลสงู กวา่ ระยะกอ่ นการทดลองและสงู กว่านกั เรียนกล่มุ ควบคมุ นนั้ แสดงให้ เห็นถึงการคงอยู่ของพฤติกรรมความมีระเบียบวินยั ในตนเองจากระยะหลงั การทดลองจนถึงระยะ ตดิ ตามผล ซงึ่ เป็ นผลเนื่องมาจากการท่ีนกั เรียนกล่มุ ทดลองได้จากการฝึ กซา้ ๆในเทคนิคตา่ งๆใน ระยะทดลองโดยใช้กิจกรรมกีฬาฟตุ บอลเป็ นส่ือซง่ึ สอดคล้องกบั แนวคดิ ทฤษฏีจิตวิทยาพฒั นาการ ของเพียเจต์ ซ่ึงมีพืน้ ฐานมาจากแนวคิดของเพียเจต์ท่ีว่าพัฒนาการทางจริยธรรมมีลักษณะ เช่นเดียวกันกับพฒั นาการทางสติปัญญาคือเม่ือมนษุ ย์เติบโตและเกิดการเรียนรู้ส่ิงต่างๆมากขึน้ ความสามารถทางสติปัญญาก็จะเพ่ิมพูนมากขึน้ จริยธรรมก็จะมีการพัฒนาขึน้ ไปตามระดับ สติปัญญาด้วย (Piaget 1967) ทาให้นกั เรียนมีทกั ษะในการคิดมีเหตผุ ลให้มนั่ คงตอ่ ไปจนเป็ น ลกั ษณะนิสยั ซงึ่ เป็นผลให้นกั เรียนสามารถรักษารูปแบบการคดิ ที่มีเหตผุ ลไปสรู่ ะยะตดิ ตามผลได้ จากข้อค้นพบท่ีได้จากการวิจัยครัง้ นี ้ แสดงให้เห็นว่าการจัดการเรียนรู้พลศึกษาโดยใช้ กิจกรรมกีฬาฟตุ บอลตามแนวคิดของเพียเจต์ที่มีผลตอ่ ความมีระเบียบวินยั ในตนเองของนกั เรียน ประถมศกึ ษา ที่ผ้วู ิจยั พฒั นาขนึ ้ สามารถพฒั นาความมีระเบียบวินยั ในตนเองได้ทงั้ 4 ด้านซึง่ เป็ น คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องนกั เรียนประถมศกึ ษาได้อยา่ งมีประสิทธิภาพกวา่ การจดั การเรียนรู้ พลศกึ ษาโดยใช้กิจกรรมกีฬาฟตุ บอลแบบปกติ
93 ข้อเสนอแนะ 1. ข้อเสนอแนะจากผลการวจิ ัย 1.1 ก่อนการทดลองผู้วิจัยควรทาการศึกษาปัญหาพฤติกรรมของเด็กนักเรียน โดย สอบถามครู ผ้ปู กครองหรือเพื่อนๆ เพื่อใช้เป็นข้อมลู ในก่อนการทดลองว่านกั เรียนคนนีม้ ีพฤตกิ รรม ความมีระเบยี บวนิ ยั ในตนเองมากน้อยเพียงใด 1.2 การจดั การเรียนรู้ในขนั้ อธิบายสาธิตและฝึ กปฏิบตั ิ และขนั้ นาไปใช้ควรจดั เวลาให้มี ความเหมาะสมกบั แตล่ ะกิจกรรมในการทาวจิ ยั ควรยืดหยนุ่ ได้ตามความเหมาะสม ควรจดั กิจกรรม ให้มีความหลากหลายและนกั เรียนรู้สกึ สนกุ มีความเหมาะสมกบั กิจกรรม 1.3 การจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมกลุ่มกิจกรรมกลุ่ม ครูผู้สอนควรอธิบายถึงวิธีการ เรียนแบบกระบวนการกลมุ่ และกระต้นุ ให้ผ้เู รียนได้มีบทบาทหรือมีสว่ นร่วมในการทากิจกรรมทกุ คน 1.4 การจดั การเรียนรู้ในขนั้ นาไปใช้ควรส่งเสริมให้นกั เรียนมีการแข่งขนั โดยไม่เน้นการ ปฏิบตั ทิ กั ษะมากจนเกินไป เพราะพืน้ ฐานทกั ษะกีฬาฟตุ บอลแตล่ ะคนไม่เท่ากนั เป็ นผลจะทาให้ นกั เรียนไมก่ ล้าที่ปฏิบตั ทิ กั ษะ 1.5 ครูควรมีกิจกรรมตามแนวคิดของเพียเจต์อย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาความคงทนของ พฤตกิ รรมความมีระเบยี บวนิ ยั ในตนเอง 2. ข้อเสนอแนะในการทาการวจิ ัยครัง้ ต่อไป 2.1 ควรมีการนาแนวคิดของเพียเจต์ไปใช้เพื่อพัฒนาจริยธรรมในด้านท่ีไม่พึงประสงค์ เชน่ พฤตกิ รรมก้าวร้าว พฤตกิ รรมความวิตกกงั วลสงู เป็นต้น 2.2 ควรมีการนาแนวคิดของเพียเจต์ไปใช้ในการจดั การเรียนรู้พลศึกษาโดยใช้กิจกรรม อื่นๆที่สอดคล้องกบั แนวคดิ ของเพียเจต์ เชน่ กีฬาบาสเกตบอล กีฬาวอลเลย์บอล เป็นต้น
รายการอ้างองิ ภาษาไทย กลั ยา รอดสวุ รรณ. 2537. การวเิ คราะห์องคป์ ระกอบความมีวินยั ในตนเองของนกั เรียนชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 6 ในจงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา. วทิ ยานิพนธ์ปริญญามหาบณั ฑิต คณะ ศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั ศรีนครินทรวโิ รฒ. การะเกด ดวงดาว. 2546. การใช้กิจกรรมกลมุ่ เพ่ือเสริมสร้างความมีระเบียบวินยั ของนกั เรียนชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 6 โรงเรียนบ้านดอนมลู (สวุ รรณสาราษฎร์บารุง)จงั หวดั แพร่. วทิ ยานิพนธ์ปริญญามหาบณั ฑิต สาขาวิชาจิตวทิ ยาการศกึ ษาและการแนะแนว มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่. กลุ ยา ตนั ตผิ ลาชีวะ. 2542. การฝึกวินยั เด็ก. วารสารการศกึ ษาปฐมวยั 3(2)(เมษายน): 60-65. กลุ ยา ตนั ตผิ ลาชีวะ. 2547. การศกึ ษาสาหรับผ้ปู กครองของเดก็ ปฐมวยั . เอกสารคาสอนสาขาวชิ า การศกึ ษาปฐมวยั . กรุงเทพมหานคร: คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศรีนครินทรวิโรฒ. โคทม อารียา. 2541. การพฒั นาความมีวินยั และประชาธิปไตย. ในเพชราภรณ์รื่นรมย์คาบรรยาย เก่ียวกบั แนวคดิ และทฤษฎีในการพฒั นาคณุ ธรรม จริยธรรมที่เน้นความมีวนิ ยั และความ เป็นประชาธิปไตย. พิมพ์ครัง้ ที่ 3. กรุงเทพมหานคร: กรมวิชาการ กระทรวงศกึ ษาธิการ. จริ กรณ์ ศริ ิประเสริฐ. 2543. ทกั ษะและเทคนิคการสอนพลศกึ ษาในระดบั ประถมศกึ ษา. พิมพ์ครัง้ ท่ี1. กรุงเทพมหานคร: สานกั พมิ พ์จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั . ฉนั ทนา ภาคบงกช และคณะ. 2539. การสารวจคณุ ลกั ษณะทางวินยั ที่พงึ ประสงค์ในสงั คมไทย. กรุงเทพมหานคร: สถาบนั วจิ ยั พฤตกิ รรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ศรีนครินทรวิโรฒ. ชชั ฏพร มาลารัตน์. 2543. กิจกรรมกลมุ่ ท่ีมีผลตอ่ การพฒั นาบคุ ลิกภาพของนกั เรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี 2 โรงเรียนมงฟอร์ตวทิ ยาลยั จงั หวดั เชียงใหม่.วิทยานพิ นธ์ปริญญา มหาบณั ฑิต คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั เชียงใหม่. ชยั วชิ ิต เชียรชนะ. 2548. การพฒั นาแบบวดั ความมีวนิ ยั ในตนเองของนกั เรียนชว่ งชนั้ ท่ี3 กรณีศกึ ษาจงั หวดั นครนายก.วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบณั ฑติ สาขาวชิ าการวดั ผล การศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั ศรีนครินทรวโิ รฒ. ณฏั ฐ์พร สตาภรณ์. 2540. การศกึ ษาองคป์ ระกอบความมีวนิ ยั ในตนเองของนกั เรียนทหารและพลเรือน. วทิ ยานพิ นธ์ปริญญามหาบณั ฑติ สาขาวิชาการวดั ผลการศกึ ษา มหาวิทยาลยั ศรีนครินทรวิโรฒ.
95 ณฐั พร สดุ ดี. 2550. ฝึกระเบียบวินยั ผา่ นกิจกรรมพลศกึ ษา. วารสารครุศาสตร์ ปี ที่ 36 ฉบบั ที่ 1 (กรกฏาคม-ตลุ าคม): 115-123. ณฐั พล กล้าหาญ. 2540. การพฒั นาจริยธรรมความมีวินยั ในตนเองด้วยกิจกรรมกลมุ่ สมั พนั ธ์ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 4. วทิ ยานพิ นธ์ปริญญามหาบณั ฑติ สาขาวชิ าการประถมศกึ ษา มหาวิทยาลยั ขอนแก่น. ณฐั วฒุ ิ ภิญโญทรัพย์. 2551. ผลของการใช้กระบวนการกลมุ่ ตอ่ การพฒั นาความมีระเบยี บวนิ ยั ใน ตนเองของนกั เรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาชนั้ ปี ที่ 2. วทิ ยานิพนธ์ปริญญามหาบณั ฑิต สาขาวิชา การแนะแนวและให้คาปรึกษา มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น. ดวงกมล ไตรวิจิตรคณุ . 2550. เอกสารประกอบการสอน : การวดั และประเมินผลการเรียนการสอน (2756621). กรุงเทพมหานคร: ภาควิชาวิจยั และจิตวทิ ยาการศกึ ษา คณะครุศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . (อดั สาเนา) ดวงเดือน พนั ธมุ นาวนิ . 2522.การพฒั นาจริยธรรม. กรุงเทพมหานคร: สถาบนั วิจยั พฤตกิ รรม ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศรีนครินทรวิโรฒ. ดวงเดือน พนั ธมุ นาวนิ . 2538. พฤตกิ รรมศาสตร์ เลม่ 1 พืน้ ฐานความเข้าใจทางจิตวิทยา. กรุงเทพมหานคร: สานกั พิมพ์ไทยวฒั นาพานิช. ทิพวรรณ แสงพนั ธ์. 2542. การสง่ เสริมวนิ ยั ของนกั เรียนตามทศั นะของผ้บู ริหารโรงเรียนและครู สงั คมศกึ ษาในโรงเรียนมธั ยมศกึ ษาจงั หวดั ขอนแกน่ . วทิ ยานพิ นธ์ปริญญามหาบณั ฑิต คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ . ทิศนา แขมมณี. 2550. รูปแบบการเรียนการสอน : ทางเลือกท่ีหลากหลาย. กรุงเทพมหานคร: สานกั พิมพ์จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั . ธิดารัตน์ ธนะคาดี. 2552. การพฒั นาแบบวดั ความมีวนิ ยั ในตนเองสาหรับนกั เรียนช่วงชนั้ ที่ 2 โรงเรียนในสงั กดั สานกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษากรุงเทพมหานคร เขต 1.วทิ ยานิพนธ์ ปริญญามหาบณั ฑิต สาขาวิชาการวดั ผลการศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั ศรีนครินทรวโิ รฒ. ธิตมิ า จกั รเพชร. 2544. ผลของชดุ การแนะแนวท่ีมีตอ่ ความมีวินยั ในตนเองของนกั เรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 1 โรงเรียนสเุ หร่าแสนแสบ กรุงเทพมหานคร. สารนพิ นธ์ปริญญา มหาบณั ฑิต สาขาจติ วิทยาการแนะแนว มหาวทิ ยาลยั ศรีนครินทรวิโรฒ. นพิ นธ์ จนั ทร์มณี. 2543. ผลของการฝึกความอ่อนตวั และความแขง็ แรงของกล้ามเนือ้ ท่ีมีตอ่ ความสามารถในการทมุ่ ลกู ฟตุ บอล.วทิ ยานิพนธ์ปริญญามหาบณั ฑิต สาขาวิชาพลศกึ ษา ภาควชิ าพลศกึ ษา คณะครุศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั .
96 ประพมิ พร สนั วงศ์. 2551. การใช้กิจกรรมแนะแนวเพื่อเสริมสร้างระเบียบวินยั ในตนเองของ นกั เรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี 3. วทิ ยานพิ นธ์ปริญญามหาบณั ฑติ สาขาวิชาจิตวทิ ยา การศกึ ษาและการแนะแนว มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่. ปราณี ปริยวาที. 2551. การพฒั นาจริยธรรมของเดก็ ปฐมวยั โดยการเลา่ นิทานและตดิ ตามผล. วทิ ยานพิ นธ์ปริญญามหาบณั ฑิต สาขาวชิ าการศกึ ษาปฐมวยั มหาวทิ ยาลยั ศรีนครินทรวิโรฒ. ผ้จู ดั การออนไลน์. องึ ้ ! เดก็ ไทยสานกึ เส่ือมลง ยอมโกงหากจาเป็น. [ออนไลน์]. 21 กนั ยายน 2554 แหลง่ ท่ีมา: http://www.dmh.go.th/sty_libnews/news/view.asp?id=16406 [20 มกราคม 2555] พยงุ ศกั ดิ์ สนเทศ. 2530. การปลกู ฝังจริยธรรมและคณุ ธรรมในการสอนวิชาพลศกึ ษา. สารพฒั นา หลกั สตู ร 66 (กนั ยายน): 31-34. พรรณทิพย์ ศริ ิวรรณบศุ ย์. 2553. ทฤษฎีจติ วิทยาพฒั นาการ. พิมพ์ครัง้ ท่ี 5. กรุงเทพมหานคร: สานกั พมิ พ์จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . พชิ ยั อนั ปัญญา. 2552. การพฒั นาระเบยี บวนิ ยั นกั เรียนระดบั ชว่ งชนั้ ท่ี3 โรงเรียนเทศบาลบ้าน สอ่ งนางใย สงั กดั กองการบริการศกึ ษาเทศบาลเมืองมหาสารคาม. วทิ ยานพิ นธ์ปริญญา มหาบณั ฑิต สาขาการบริหารการศกึ ษา มหาวิทยาลยั ราชภฎั มหาสารคาม. พนิ จิ และค้มุ ครองเดก็ และเยาวชน, กรม. ข้อมลู สถิต.ิ [ออนไลน์].2553. แหลง่ ที่มา: http://www.djop.moj.go.th [11 กรกฎคม 2554] พมิ พา มว่ งศริ ิธรรม. 2544. ผลของการปรับพฤตกิ รรมทางปัญญาท่ีมีตอ่ ความมีระเบียบวินยั ใน ตนเองของนกั กีฬา. วิทยานิพนธ์ปริญญาดษุ ฎีบณั ฑิต สาขาวชิ าพลศกึ ษา ภาควิชาพลศกึ ษา คณะครุศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั . มงคล แฝงสาเคน. 2545. การฝึกฟตุ บอล. กรุงเทพมหานคร: โอเดยี นสโตร์. มตชิ น. โลกทงึ่ ญี่ป่ นุ ไร้เหตกุ ารณ์ปล้นสะดม-รับมือวกิ ฤตอยา่ งมีระเบียบวินยั เป็นตวั อยา่ งให้โลก อยา่ งดี. [ออนไลน์]. 15 มีนาคม 2554.แหลง่ ที่มา http://www.matichon.co.th/. [11 กรกฎาคม 2554] ร้อยโทดนยั ดวงภมุ เมศร์. 2552. การพฒั นารูปแบบการเรียนการสอนพลศกึ ษาเพื่อพฒั นา กระบวนการคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณและความมีนา้ ใจนกั กีฬาของนกั เรียนระดบั ประถมศกึ ษา. วิทยานิพนธ์ปริญญาดษุ ฏีบณั ฑิต สาขาวิชาพลศกึ ษา ภาควชิ าหลกั สตู ร การสอนและเทคโนโลยี คณะครุศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั .
97 รังสมิ นั ต์ สนุ ทรไชยา. 2535. ผลของตวั แบบท่ีมีตอ่ พฤติกรรมการมีระเบียบวนิ ยั ในชนั้ เรียนของ นกั เรียนวยั ยา่ งเข้าส่วู ยั รุ่น. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบณั ฑิต ภาควชิ าจิตวิทยา จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . ราชบณั ฑิตยสถาน. 2546. พจนานกุ รมฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ. 2542. กรุงเทพมหานคร: นานมีบ๊คุ พบั ลเิ คชน่ั . เรขา ดลุ ยรัตน์. 2549. ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งการอบรมเลีย้ งดกู ารจดั กระบวนการกลมุ่ การจดั การ เกี่ยวกบั การสอนกบั พฤตกิ รรมความมีระเบยี บวนิ ยั ในห้องเรียนของนกั เรียนประถมศกึ ษา วทิ ยานิพนธ์ปริญญามหาบณั ฑิต สาขาวิชาการประถมศกึ ษา มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์. แรมสมร อยสู่ ถาพร. 2535. การสร้างเสริมวนิ ยั ในตนเอง. กรุงเทพมหานคร: สานกั พิมพ์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . วรศกั ดิ์ เพียรชอบ. 2548. หนงั สือรวมบทความเก่ียวกบั ปรัชญา หลกั การ วธิ ีสอนและการวดั เพ่ือ ประเมินทางพลศกึ ษา. กรุงเทพมหานคร: สานกั พิมพ์จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั . วาสนา คณุ าอภิสิทธ์ิ. 2539. การสอนพลศกึ ษา. กรุงเทพมหานคร: วทิ ยพฒั น์. วชิ าการ, กรม. 2537. คมู่ ือและสื่อการพฒั นาความเชื่อมนั่ ในตนเอง. โครงการวจิ ยั และพฒั นา ระบบงานแนะแนวในและนอกสถานศกึ ษา ศนู ย์แนะแนวการอาชีพ. กรุงเทพมหานคร: โรง พิมพ์ ครุ ุสภาลาดพร้าว. วิชาการ, กรม. 2542. กรอบความคดิ เพื่อสง่ เสริมและพฒั นาคณุ ธรรมจริยธรรมท่ีเน้นความมีวินยั และความเป็ นประชาธิปไตย. กรุงเทพมหานคร: กรมวชิ าการ. วิชาการ, กรม. 2542. การสงั เคราะห์รูปแบบการพฒั นาแบบการพฒั นาศกั ยภาพของเดก็ ไทยด้าน การควบคมุ ตนเอง. กรุงเทพมหานคร: กรมวิชาการ. วิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา, สานกั . 2551. ตวั ชีว้ ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลมุ่ สาระ การเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนึ ้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551. กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พ์ชมุ นมุ สหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย. วทิ ยา เลาหกลุ . 2545. เส้นทางสชู่ ยั ชนะ. สมาคมฟตุ บอลแหง่ ประเทศไทยในพระบรมราชปู ถมั ภ์: กรุงเทพมหานคร. วิภามาศ เมืองอ.ู 2542. ผลของการใช้กิจกรรมกลมุ่ ตอ่ การปรับตวั ทางสงั คมของนกั เรียน มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี 1 โรงเรียนยพุ ราชวิทยาลยั จงั หวดั เชียงใหม่. วทิ ยานิพนธ์ปริญญา มหาบณั ฑิต คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั เชียงใหม.่
98 วิลาพณั ย์ อรุ บญุ นวลชาติ. 2549. การพฒั นาโปรแกรมการฝึกอบรมตามแนวทางไตรสิกขาเพื่อ เสริมสร้างความมีวนิ ยั ในตนเองของนกั เรียนชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 5. วทิ ยานพิ นธ์ปริญญา มหาบณั ฑิต สาขาวิชาประถมศกึ ษา ภาควชิ าหลกั สตู ร การสอนและเทคโนโลยี คณะครุศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั . ศลิ ปชยั สวุ รรณธาดา. 2533. การเรียนรู้ทกั ษะการเคล่ือนไหวทฤษฎีและการปฏิบตั ิ. กรุงเทพมหานคร: คณะครุศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั . ศกึ ษาธิการ, กระทรวง. กรมวชิ าการ. กองวจิ ยั ทางการศกึ ษา. 2545. การวจิ ยั เพ่ือพฒั นาการเรียนรู้ ตามหลกั สตู รการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน. กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พ์ครุ ุสภา. สมโภชน์ เอี่ยมสุภาษิต.2553. ทฤษฎีและเทคนิคการปรับพฤติกรรม. กรุงเทพมหานคร. จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . สขุ สวสั ดิ์ ชนะพาล. 2550. ผลของการฝึกเสริมด้วยโปรแกรมการฝึกความคลอ่ งแคลว่ ว่องไวท่ีมีตอ่ ความสามารถในการเลีย้ งลกู ฟตุ บอลของนกั กีฬาฟตุ บอลอายุ 12-14ปี .วทิ ยานพิ นธ์ ปริญญามหาบณั ฑิต สาขาวิชาพลศกึ ษา ภาควิชาหลกั สตู ร การสอนและเทคโนโลยี คณะครุศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . สชุ า จนั ทน์เอม. 2543. จติ วิทยาเดก็ .พิมพ์ครัง้ ที่4. กรุงเทพมหานคร: ไทยวฒั นาพาณิชย์. สพุ ตั รา เทียนอดุ ม. 2535. การพฒั นาแบบวดั ความมีระเบยี บวินยั สาหรับนกั เรียนชนั้ ประถมศกึ ษา ปี ท่ี6. วิทยานพิ นธ์ปริญญาหาบณั ฑิต สาขาวชิ าวจิ ยั การศกึ ษา ภาควิชาวิจยั การศกึ ษา คณะครุศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . สรุ พงษ์ ชเู ดช. 2542. ผลของการฝึกอบรมตามแนวทางไตรสิกขาท่ีมีตอ่ การพฒั นาวินยั ในตนเอง ของนกั เรียนชนั้ ประถมศกึ ษาปี ท่ี 5.วทิ ยานพิ นธ์ปริญญาดษุ ฎีบณั ฑิต สาขาการวิจยั พฤตกิ รรมศาสตร์ประยกุ ต์ มหาวิทยาลยั ศรีนครินทรวิโรฒ. สรุ างค์ โค้วตระกลู . 2544. จติ วทิ ยาศกึ ษา. พิมพ์ครัง้ ที่ 5. กรุงเทพมหานคร: สานกั พมิ พ์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . อภิวฒั น์ งวั่ ลาหิน. 2553. การจดั การเรียนรู้พลศกึ ษาโดยใช้กิจกรรมกีฬาฟตุ บอลตามแนวคดิ พฒั นาจริยธรรมของโคลเบริ ์กเพื่อพฒั นาความมีนา้ ใจนกั กีฬาของนกั เรียนประถมศกึ ษา. วทิ ยานพิ นธ์ปริญญามหาบณั ฑติ สาขาวิชาสขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ภาควิชาหลกั สตู ร การสอนและเทคโนโลยี คณะครุศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั .
99 อรวรรณ พานิชปฐมพงศ์. 2542. ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งปัจจยั บางประการกบั พฤตกิ รรมด้านความ มีวินยั ในตนเองของนกั เรียนชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 6. วิทยานพิ นธ์ปริญญามหาบณั ฑิต สาขาวชิ าการวดั ผลการศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั ศรีนครินทรวิโรฒ. อญั จนา ประสานชาต.ิ 2545. ผลของการฝึกจิตลกั ษณะเพื่อพฒั นาพฤตกิ รรมวนิ ยั ในตนเองของ นกั เรียนระดบั ประถมศกึ ษา. วทิ ยานพิ นธ์ปริญญามหาบณั ฑติ คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ . ภาษาอังกฤษ Ausubel, D. P. 1972. Ego Development and the Personality. 3rd. New York: Grund and Stration. Ausubel, D.P. 1986. Educational psychology. Acognitive View. New York: Holt Rinegartand Winston. Baruch, D. W. 1949. New Ways in Discipline and Your Child Today. New York: Whittlesy House. BrothertonP. Self-discipline is the key to success. [Online]. 2002. Available from: http://www.ird.com/buymyslf/pbroth/000827.htm [8 February 2005] Bucher, C.A. 1964. Foundations of Physical Education. Saint Louis: C.V. Mosby. Curwin, R.L.and Mendler, A.N. 1980. The discipline book. A complete guide toschool and classroommanagement. VA: Reston Publishing. Freeman, W.H. 1977. Physical Education in a Changing Society. Illinois: Houghton. Glucek,S. and Eleanor, J. 1985. Untravelling Juvenile Celinquency. New York: Education Association. Good, C.V. 1973. Dictionary of education. New York: MaGraw Hill. Hurlock, E. B. 1984. Child Development. 6th . Singapore: McGraw-Hill. Jersild, A.T. 1968. Child Psychology. Engle-wood Cliffs. Prentice-Hall. Kazdin, A.E. 1982. Behavior Therapy. Behavioral Rehearsal, self-instructions, and homework practice in developing assertiveness. Khoffman,M.L. 1970. Moral Development. Manual of child Psychology. Edited by McGraw-Hill, Paul Mussen. New York: John Wiley and Son.
100 Mussen, Panl, H. and others. 1969. Child Development and Personality. New York: Harper & Row. Piaget, J. 1965. The Moral Judgement of the Child. New York: The Free Press. Piaget, J. 1967. Six Psychology Studies. New York: Random House. Sharman, J.R. 1934. Introduction to Physical Education. New York: AS.Parves. Sheviakov, G.V. 1985. Discipline For Today’s Children and Youth. Washington D.C.: National The Journal of Educational Research: 153-156. Sheviakov, G.V. and Fritz, 1995. Discipline For Today’s Children and Youth. WashingtonD.C. Thurman, Christopher W.1983. Effects of Rational-Emotive Treatment Program on Type A Behavior Among College Students. Jornal of College Students Personal: 417-423. Webster’s third new international dictionary of the English language. 1993. In. P.B.Gove(editor in chief and the Merriam-Webster editorial staff). Chicago: Encyclopaedia Britannica. Zelie, K. and Stone, C. and Lehr, E. 1980. Cognitive Behavioral Intervention in School Discipline: A Preliminary Student. The Personnel and Guidance Journal: 80-83.
ภาคผนวก
102 ภาคผนวก ก รายนามผ้ทู รงคณุ วฒุ ิ
103 รายนามผู้ทรงคุณวุฒพิ ิจารณาเคร่ืองมอื ท่ใี ช้ในการวิจัย 1. ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์ ดร. ศลิ ปชยั สวุ รรณธาดา อาจารย์ประจา คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั 2. ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์ ดร. สมบรู ณ์ อินทร์ถมยา อาจารย์ประจา สาขาวชิ าสขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ภาควิชาหลกั สตู ร การสอน และเทคโนโลยีการศกึ ษา คณะครุศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั 3. ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์ ณฐั พร สดุ ดี อาจารย์ประจากลมุ่ สาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา โรงเรียนสาธิตจฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั ฝ่ ายประถม 4. อาจารย์ ดร. พิมพา มว่ งศิริธรรม อาจารย์ประจาภาควิชาพลศกึ ษา คณะพลศกึ ษา มหาวิทยาลยั ศรีนครินทรวิโรฒ 5. อาจารย์สรุ างค์ ควนสวุ รรณ อาจารย์ประจากลมุ่ สาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา โรงเรียนวิชากร
104 ภาคผนวก ข หนงั สือขอความร่วมมือในการทาวจิ ยั
105
106
107
108
109
110
111 ภาคผนวก ค เครื่องมือท่ีใช้ในการทดลอง
112 แผนการจดั การเรียนรู้พลศึกษาโดยใช้กจิ กรรมกีฬาฟุตบอล ตามแนวคดิ ของเพยี เจต์ท่มี ีผลต่อความมีระเบยี บวินัยในตนเอง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา วิชาพลศึกษา สาระท่ี 3 การเคล่ือนไหว การออกกาลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทยและกีฬาสากล กิจกรรมการเรียนรู้กีฬาฟุตบอล การสร้างความค้นุ เคยกบั ลกู ฟุตบอล แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 เร่ือง การใช้ฝ่ าเท้าควบคมุ ลกู ฟตุ บอล ชัน้ ประถมศกึ ษาปี ท่ี 6 จานวน 30 คน จานวน 1 คาบ 60 นาที ____________________________________________________________________________ มาตรฐานการเรียนรู้ พ 3.1: เข้าใจ มีทกั ษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเลน่ เกม และกีฬา พ 3.2: รักการออกกาลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบตั ิเป็ น ประจาอย่าง สม่าเสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีนา้ ใจ นกั กีฬา มีจิตวิญญาณในการแขง่ ขนั และชื่นชมในสนุ ทรียภาพ ของกีฬา สาระสาคัญ การเลน่ กีฬาฟตุ บอลให้เกิดประสิทธิภาพ ผ้เู ล่นต้องเรียนรู้จนเกิดทกั ษะพืน้ ฐานหลายด้าน การทาความค้นุ เคยกับลูกฟุตบอลโดยใช้ฝ่ าเท้าควบคุมลูกฟุตบอล เป็ นทักษะพืน้ ฐานสาหรับ เทคนิคการเล่นกีฬาฟุตบอล ซ่ึงต้องอาศยั การฝึ กฝนจนชานาญ และเป็ นทกั ษะท่ีต้องการพฒั นา อยา่ งตอ่ เนื่อง จุดประสงค์การเรียนรู้ : นกั เรียนสามารถ 1.แสดงทา่ ทางการอบอ่นุ ร่างกายก่อนออกกาลงั กายและคลายอนุ่ ด้วยทา่ ทางตา่ งๆได้ 2.พฒั นาสมรรถภาพทางกายในด้านระบบไหลเวียนของโลหิตและด้านความคลอ่ งแคลว่ วอ่ งไวด้วยการเลน่ เกมวง่ิ เปรีย้ ว 3.ปฏิบตั ทิ กั ษะการใช้ฝ่ าเท้าควบคมุ ลกู ฟตุ บอลอย่กู บั ที่ เคลื่อนที่ไปด้านหน้าและด้านหลงั ได้อยา่ งถกู ต้องและคล่องแคลว่ วอ่ งไว 4.แสดงความมีระเบยี บวินยั ในตนเองออกมาครบทงั้ 4 ด้าน (ความรับผิดชอบ ด้านความ เช่ือมนั่ ตนเอง ด้านความอดทนและด้านความเป็นผ้นู า) 5.แขง่ ขนั กีฬาฟตุ บอลโดยตามกฎ กตกิ า มารยาทในกีฬาฟตุ บอลระหวา่ งจดั กิจกรรม
113 สาระการเรียนรู้ 1.การอบอนุ่ ร่างกายและการคลายอนุ่ 2.การพฒั นาสมรรถภาพด้วยการเลน่ เกมว่ิงเปรีย้ ว 3.การใช้ฝ่ าเท้าควบคมุ ลกู ฟตุ บอลอย่กู บั ท่ี เคลื่อนท่ีไปด้านหน้าและด้านหลงั 4.การแสดงความมีระเบียบวินยั ในตนเองทงั้ 4ด้าน (ความรับผิดชอบ ด้านความเชื่อมน่ั ตนเอง ด้านความอดทนและด้านความเป็นผ้นู า) 5.กฎ กตกิ า มารยาทในกีฬาฟตุ บอล
114 สาระการ กิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ ตอนการดาเนินกิจกรรม การ เรียนรู้ ตามแนวคดิ ของเพยี เจต์ ประเมินผล การเรียนรู้ 1.วางเท้าบน ขัน้ ท่ี 1 ขัน้ เตรียม (5 นาที) สงั เกตการ ปฏบิ ตั ิของ ลกู ฟตุ บอล 1.ให้นกั เรียนเข้าแถวตอน 5 แถว ดงั รูป นกั เรียน แล้วใช้ฝ่ าเท้า สงั เกตวา่ นกั เรียนสามารถ แตะลกู อบอนุ่ ร่างกาย ฟตุ บอลสลบั โดยการยดื เหยียด ไปมาทงั้ เท้า กล้ามเนอื ้ ได้ ซ้ายและเท้า ขวา โดยให้ ลกู ฟตุ บอลอยู่ = ครู = นกั เรียน กบั ที่ 2.วางเท้าบน 2.สารวจจานวนและตรวจการแต่งกาย ลกู ฟตุ บอล ของนกั เรียนถามคาถามเข้าสเู่ นอื ้ หา แล้วใช้ฝ่ าเท้า 3.แบ่งกลมุ่ นกั เรียนเป็ น 5 กลมุ่ ตามแถว แตะลกู แล้วให้นกั เรียนแต่กลมุ่ อาสาเป็ นตวั แทน ฟตุ บอลสลบั ออกมานาเพ่ือนยืดเหยียดกล้ามเนือ้ ขา ไปมาทงั้ เท้า คนละ 2 ทา่ ซ้ายและเท้า ขวา โดยให้ 1 ลกู ฟตุ บอล เคลอ่ื นที่ไป 52 ด้านหน้าและ ด้านหลงั 43 = ครู = นกั เรียน
115 สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ ตอนการดาเนินกิจกรรม การ ตามแนวคดิ ของเพยี เจต์ ประเมินผล การเรียนรู้ ขัน้ ท่ี 2 ขัน้ พฒั นาสมรรถภาพทาง สงั เกตการ กาย (10 นาที) ปฏบิ ตั ขิ อง 1.ให้นกั เรียนเข้าแถวตอน 5 แถว ดงั นกั เรียน รูป = ครู = นกั เรียน 1.สงั เกตวา่ 2.ครูอธิบายกฎ กติกาการเลน่ เกม นกั เรียนทกุ คน วิง่ เปีย้ ว ได้ออกกาลงั 3.ให้นกั เรียนแบง่ ออกเป็ น 2 กลมุ่ กายเพือ่ พฒั นา กลมุ่ ละ15คน แขง่ ขนั เลน่ เกมวิ่ง สมรรถภาพทาง เปรีย้ ว กาย 10 m 2.การสงั เกต นกั เรียนทกุ คนมี = ครู = นกั เรียน ระเบียบวนิ ยั ใน = ทิศทาง = กรวย ตนเองในการ ปฏิบตั ิกิจกรรม = ทิศทางการวง่ิ เลน่ เกมวง่ิ เปรีย้ ว เต็ม ความสามารถ อยา่ งถกู ต้อง ตามกฎ กติกา และมีความ สนกุ สนาน
116 สาระการ กิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ ตอนการดาเนินกิจกรรม การ เรียนรู้ ตามแนวคิดของเพยี เจต์ ประเมินผล ขัน้ ท่ี 3 อธิบาย สาธิตและฝึ กปฏิบตั ิ การเรียนรู้ (20 นาท)ี การทากจิ กรรมตามแนวคดิ สงั เกตการ 1.ให้นกั เรียนเข้าแถวตอน 5 แถว ดงั รูป ของเพยี เจต์ ปฏบิ ตั ขิ อง 2.ครูอธิบายและสาธิตทักษะการใช้ฝ่ า 1. ขัน้ เล่นตามลาดับ นกั เรียน เท้ า คว บคุมลูกฟุตบอลใ ห้ อยู่กับที่ และ นกั เรียนทุกคนเข้าแถวในกล่มุ เคลอ่ื นทีไ่ ปด้านหน้า ด้านหลงั ได้ปฏิบัติทักษะการใช้ฝ่ าเท้า สงั เกตความมี 3.ครูให้ลกู ฟตุ บอลนกั เรียนคนละ1ลกู ให้ ควบคุมลกู ฟุตบอลสลบั เท้าอยู่ ระเบยี บวนิ ยั ใน นกั เรียนแตล่ ะคนฝึกตามที่ครูอธิบายและ กบั ที่ให้ได้30ครัง้ โดยท่ีนกั เรียน ตนเองในการ สาธิตโดยให้นกั เรียนทกุ คนปฏิบตั ิทกั ษะ ทุกคนในกลุ่มได้ ปฏิบัติทุกคน ปฏบิ ตั ิทกั ษะ การใช้ฝ่ าเท้าควบคมุ ลกู ฟตุ บอลสลบั เท้า จนครบแล้วคอ่ ยมาเร่ิมใหม่โดย และสามารถ อยู่กับที่และเคล่ือนท่ีไปด้านหน้ าและ ให้นักเรียนทุกคนทาพร้ อมกัน ปฏบิ ตั ิทกั ษะได้ ด้านหลงั คนละ 5 ครัง้ โดยรอสญั ญาณนกหวีดจากครู ตามเกณฑ์ทคี่ รู (กิจกรรมนีน้ ักเรียนจะได้ ฝึ ก ปฏิบัติทักษะภายในกล่มุ ตาม กาหนด ก ฎ เ ก ณ ฑ์ แ ล ะ ต า ม ล า ดับ ก่อนหลงั ที่วางไว้เพ่ือเป็ นการ สง่ เสริมความมีระเบียบวินยั ใน ตนเองด้ านความรับผิดชอบ และความอดทน) = ครู = นกั เรียน = ทิศทางการวง่ิ = ลกู ฟตุ บอล =กรวย
117 สาระการ กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ ตอนการดาเนินกจิ กรรม การ เรียนรู้ ตามแนวคิดของเพยี เจต์ ประเมินผล การเรียนรู้ 2. ขัน้ ตนเองเป็ นใหญ่ สงั เกตความมี ครูให้นักเรียนทุกกลุ่มแข่งขัน ระเบียบวินยั ใน ปฏิบัติทักษะการใช้ ฝ่ าเท้ า ตนเองในการ ควบคุมฟตุ บอลอย่กู ับท่ีไปโดย ปฏบิ ตั ิทกั ษะ ครูให้นกั เรียนเข้าแถวตามกลมุ่ และสามารถ และข ออา สานัก เรี ย นเป็ น ปฏบิ ตั ทิ กั ษะได้ ตวั แทนของกลมุ่ ออกมากลมุ่ ละ ตามเกณฑ์ทค่ี รู 4คน ออกมาปฏิบตั ิทักษะการ กาหนด ใช้ฝ่ าเท้าควบคมุ ฟตุ บอลอยกู่ บั ที่ ให้ ได้ 30ครั้งจบครบ4คน กล่มุ ไหนปฏิบัติทกั ษะได้เสร็จ กอ่ นและถกู ต้องตามทกั ษะเป็ น ฝ่ ายชนะ (กิจกรรมนนี ้ กั เรียนได้ มีการแข่งขันและกล้ าที่จะ อาสาเป็ นตัวแทนกล่มุ ออกมา ปฏิ บัติ ทัก ษ ะ เ พื่ อ เ ป็ นก า ร สง่ เสริมความมีระเบียบวินยั ใน ตนเองด้านความเป็ นผ้นู าและ ความเชื่อมนั่ ตนเอง) สงั เกตการร่วม ขัน้ ท่ี 4 ขัน้ นาไปใช้ (20นาที) 3. ขัน้ ร่วมมอื ปฏบิ ตั กิ ิจกรรม 1.ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเตรียมแข่งขัน ครูกาหนดให้นกั เรียนในแต่ละ ของนกั เรียน ปฏบิ ตั ิกิจกรรมตามท่ีครูกาหนด กลุ่มแข่งขันตามท่ีครูกาหนด ความมรี ะเบยี บ 2.ครูให้นกั เรียนเข้าแถวตามกลมุ่ แขง่ ขนั โดยให้นกั เรียนภายในกล่มุ ได้ วินยั ในตนเองใน การใช้ฝ่ าเท้าควบคมุ ลกู ฟตุ บอลเคล่อื นท่ี กาหนดคนท่ีจะปฏิบัติเป็ นคน การปฏิบตั ิ ไปข้างหน้าและกลับหลัง กลุ่มไหนทา แรก คนท่สี องตามลาดบั โดยให้ ทกั ษะได้สงู กวา่ ครบหมดทงั้ กลมุ่ กอ่ น ภายในเวลา 1นาที นักเรียนช่วยกันกาหนดหน้าที่ เกณฑ์ท่คี รู และถกู ต้องเป็ นฝ่ ายชนะ ตามความสามารถของแต่ละ กาหนด คนพร้อมให้คาแนะนาปรับปรุง และการยนิ ยอม
118 สาระการ กิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ ตอนการดาเนินกิจกรรม การ เรียนรู้ ตามแนวคิดของเพียเจต์ ประเมินผล การเรียนรู้ มอบหมายให้เป็ นการส่งเสริม ปรับปรุงแก้ไข ความมีระเบียบวินยั ในตนเอง ข้อบกพร่องตาม ด้ านความรับผิดชอบ ความ คาแนะนาของ เชื่อมน่ั ตนเอง ความอดทนและ สมาชิกในกลมุ่ ด้านความเป็ นผ้นู า) 5m = ครู = นกั เรียน = ทิศทางการใช้ฝ่ าเท้าควบคุม บอล = ลกู ฟตุ บอล =กรวย สงั เกตการร่วม 3.ครูอธิบายกฎ กตกิ า มารยาทของการ 4.ขัน้ เล่นอย่างมกี ฎเกณฑ์ ปฏิบตั ิกิจกรรม เลน่ กีฬาฟตุ บอล ครูกาหนดให้นกั เรียนในแต่ละ ของนกั เรียน 4.ครูให้นกั เรียนเข้าแถวตามกลมุ่ แขง่ ขนั กลุ่มแข่งขันตามที่ครูกาหนด ความมีระเบียบ กนั ใช้ฝ่ าควบคมุ ลกู ฟตุ บอลเคลอื่ นทไี่ ป โดยให้ มีข้ อแม้ ว่าก่อนที่จะยิง วินยั ในตนเองใน ข้างหน้าและยิงประตู ประตูนักเรียนต้ องใช้ ฝ่ าเท้ า การปฏิบตั ิ ทกั ษะได้สงู กวา่ ค ว บคุม ลูก ใ ห้ เ ค ล่ื อ นที่ ไ ป เกณฑ์ทค่ี รู ด้านหน้าได้อย่างน้อย10ครัง้ กาหนด ก่อนถึงกรวยแล้วค่อยยิงประตู และการปฏิบตั ิ ถึงจะนับให้เป็ นประตูได้กลุ่ม หน้าท่ตี ามท่ี ทาได้ 10ประตูก่อนเป็ นฝ่ าย เพอื่ นๆได้ ชนะ(นกั เรียนได้แขง่ ขนั และเลน่ มอบหมาย 10 m 5 m กี ฬ า ฟุต บ อ ล ฟุต บ อ ล ต า ม ก ฎ = ครู = นกั เรียน กติกา มารยาทเพื่อเป็ นการ สง่ เสริมความมีระเบียบวินยั ใน = ทิศทางการใช้ฝ่ าเท้าควบคุม ตนเองด้ านความรับผิดชอบ บอลและยงิ ประตู ความเช่ือม่ันในตนเอง ความ = ลกู ฟตุ บอล =กรวย อดทนและความเป็ นผ้นู า)
119 สาระการเรียนรู้ ขัน้ ตอนการดาเนินกิจกรรม การ ตามแนวคดิ ของเพยี เจต์ ประเมินผล กจิ กรรมการเรียนรู้ การเรียนรู้ ขัน้ สรุปและสุขปฏิบัติ (5นาที) สงั เกตการ 1.ให้นกั เรียนเข้าแถวตอน 5 แถว ปฏิบตั ิของ ดงั รูป นกั เรียน = ครู = นกั เรียน สงั เกตวา่ 2.ครูนานกั เรียนคลายอนุ่ โดยการ นกั เรียนสามารถ ยดื เหยยี ดกล้ามเนอื ้ 3.ครูและผู้เรียนช่วยกันสรุปสาระ คลายอนุ่ ส า คัญ ข อ ง บ ท เ รี ย น แ ล ะ ผ ล ก า ร ร่างกายโดยการ ปฏบิ ตั กิ ิจกรรม 4.ครู และนักเรี ยนร่ วมกันสรุ ปเหตุ ยดื เหยยี ด การณ์ต่างๆในชัน้ เรียนท่ีเก่ียวข้อง กล้ามเนอื ้ ได้ กบั ความมีระเบียบวินยั ในตนเอง4 ด้าน 5.นดั หมายการเรียนครงั้ ตอ่ ไป 6.ครูให้หวั หน้าสง่ั เลกิ แถว ส่อื อุปกรณ์และแหล่งการเรียนรู้ 1.ลกู ฟตุ บอล 30ลกู 2.กรวย 30 อนั 3.สนามฟตุ บอล บันทกึ หลงั การสอน …………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………
120 ใบความรู้ ท่ี 1 การสร้างความคุ้นเคยกับลูกฟุตบอลโดยการใช้ฝ่ าเท้าควบคุมลูกฟุตบอล วธิ ีการสร้างความค้นุ เคยกบั ลกู ฟตุ บอล 1. วางเท้าบนลกู ฟตุ บอลแล้วใช้ฝ่ าเท้าแตะลกู ฟตุ บอลสลบั ไปมาทงั้ เท้าซ้ายและเท้าขวา โดยให้ลกู ฟตุ บอลอยกู่ บั ท่ี 2.วางเท้าบนลกู ฟตุ บอลแล้วใช้ฝ่ าเท้าแตะลกู ฟตุ บอลสลบั ไปมาทงั้ เท้าซ้ายและเท้าขวา โดยให้ลกู ฟตุ บอลเคลื่อนท่ีไปด้านหน้าและด้านหลงั
121 แผนการจัดการเรียนรู้พลศกึ ษาโดยใช้กจิ กรรมกฬี าฟุตบอล ตามแนวคิดของเพยี เจต์ท่มี ีผลต่อความมีระเบยี บวนิ ัยในตนเอง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศกึ ษาและพลศึกษา วชิ าพลศกึ ษา สาระท่ี 3 การเคล่ือนไหว การออกกาลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทยและกีฬาสากล กิจกรรมการเรียนรู้กีฬาฟุตบอล ทกั ษะกีฬาพืน้ ฐาน แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 เร่ือง การรับและสง่ ลกู ฟตุ บอลด้วยข้างเท้าด้านใน ชัน้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 6 จานวน 30 คน จานวน 1 คาบ 60 นาที ____________________________________________________________________________ มาตรฐานการเรียนรู้ พ 3.1: เข้าใจ มีทกั ษะในการเคล่ือนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา พ 3.2: รักการออกกาลงั กาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบตั ิเป็ น ประจาอย่าง สม่าเสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีนา้ ใจ นกั กีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขนั และช่ืนชมในสนุ ทรียภาพ ของกีฬา สาระสาคัญ ทกั ษะพืน้ ฐานในกีฬาฟุตบอลท่ีสาคญั ในการท่ีจะเล่นกีฬาฟุตบอลให้เกิดประสิทธิภาพมี มากมาย การรับและสง่ ลกู ฟตุ บอลด้วยข้างเท้าด้านในเป็ นทกั ษะท่ีสาคญั มากเพราะหมายถึงการที่ สามารถรับลูกฟุตบอลและเตะลูกฟุตบอลให้ไปในทิศทางท่ีต้องการตลอดจนนาไปส่เู ป้ าหมายท่ี สาคญั ของการเลน่ กีฬาฟตุ บอลคือการทาประตู จุดประสงค์การเรียนรู้ : นกั เรียนสามารถ 1.แสดงทา่ ทางการอบอนุ่ ร่างกายก่อนออกกาลงั กายและคลายอนุ่ ด้วยทา่ ทางตา่ งๆได้ 2.พฒั นาสมรรถภาพทางกายด้านระบบไหลเวียนโลหิตด้วยการเลน่ เกมจบั กลมุ่ มหาสนกุ 3.ปฏิบตั ทิ กั ษะการรับและสง่ ลกู ฟตุ บอลด้วยข้างเท้าด้านใน ได้อยา่ งถกู ต้อง 4.แสดงความมีระเบียบวนิ ยั ในตนเองออกมาครบทงั้ 4 ด้าน(ความรับผิดชอบ ด้านความ เชื่อมน่ั ตนเอง ด้านความอดทนและด้านความเป็นผ้นู า) 5.แขง่ ขนั กีฬาฟตุ บอลโดยตามกฎ กตกิ า มารยาทในกีฬาฟตุ บอลระหวา่ งจดั กิจกรรม
122 สาระการเรียนรู้ 1.การอบอนุ่ ร่างกายและการคลายอนุ่ 2.การพฒั นาสมรรถภาพด้วยการเลน่ เกมจบั กลมุ่ มหาสนกุ 3.การสง่ ลกู ฟตุ บอลด้วยข้างเท้าด้านในและรับลกู ฟตุ บอล 4.การแสดงความมีระเบียบวินยั ในตนเองทงั้ 4ด้าน (ความรับผิดชอบ ด้านความเช่ือมน่ั ตนเอง ด้านความอดทนและด้านความเป็นผ้นู า) 5.กฎ กตกิ า มารยาทในกีฬาฟตุ บอล
123 สาระการ กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ ตอนการดาเนินกิจกรรม การประเมินผล เรียนรู้ ตามแนวคดิ ของเพยี เจต์ การเรียนรู้ 1.ตามองลกู ขัน้ ท่ี 1 ขัน้ เตรียม (5 นาท)ี สงั เกตการปฏบิ ตั ิ เท้าทีไ่ มไ่ ด้เตะ 1.ให้นกั เรียนเข้าแถวตอน 5 แถว ดงั ของนกั เรียน เป็ นเท้าหลกั วาง รูป สงั เกตวา่ นกั เรียน สามารถอบอนุ่ ไว้ระดบั เดยี วกบั ร่างกายโดยการ ลกู บอลงอเขา่ ยืดเหยยี ด กล้ามเนอื ้ ได้ เลก็ น้อยแบะ เท้าทจ่ี ะเตะออก เกร็งข้อเท้าและ หวั เขา่ โดยใช้ แรงจากสะโพก = ครู = นกั เรียน ลากตวั โน้มไป ข้างหน้านา้ หนกั 2.สารวจจานวนและตรวจการแตง่ อยบู่ นเท้าหลกั กายของนกั เรียนถามคาถามเข้าสู่ ต้องการให้ลกู เนอื ้ หา ไปในทศิ ทางใด 3.แบง่ กลมุ่ นกั เรียนเป็ น 5 กลมุ่ ตาม ให้หนั หน้าข้าง แถวแล้วให้นกั เรียนแตก่ ลมุ่ อาสา เท้าไปทศิ ทางท่ี เป็ นตวั แทนออกมานาเพ่อื นยดื ต้องการการเตะ เหยียดกล้ามเนอื ้ ขาคนละ 2 ทา่ ด้วยข้างเท้าด้าน ใน 1 52 43 = ครู = นกั เรียน
124 สาระการ กิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ ตอนการดาเนินกจิ กรรม การประเมนิ ผล เรียนรู้ ตามแนวคิดของเพยี เจต์ การเรียนรู้ 2.ให้ยกเท้าขนึ ้ ขัน้ ท่ี 2 ขัน้ พฒั นาสมรรถภาพ สงั เกตการปฏบิ ตั ิ เลก็ น้อยเพอื่ รับ ทางกาย (10 นาที) ของนกั เรียน ลกู บอลทีเ่ ข้ามา 1.ให้นกั เรียนเข้าแถวตอน 5 แถว หาตวั เมอื่ ลกู ดงั รูป 1.สงั เกตวา่ นกั เรียน บอลสมั ผสั ข้าง ทกุ คนได้ออกกาลงั เท้าด้านใน ให้ = ครู = นกั เรียน กายเพ่อื พฒั นา ผอ่ นนา้ หนกั ลกู 2.ครูอธิบายกฎ กตกิ าการเลน่ เกม สมรรถภาพทาง บอลด้วยการดงึ จบั กลมุ่ มหาสนกุ เท้ากลบั 3.ครูแบ่งออกเป็ น 2 กลมุ่ กลมุ่ ละ กาย เลก็ น้อย ก้มตวั 15คน เล่นเกมจับกล่มุ มหาสนุก 2.สงั เกตนกั เรียน และแขนกาง โด ย ที่ค รู ผู้ส อ น ใ ห้ นัก เ รี ย นวิ่ ง ทกุ คนมีระเบยี บ ออกเพ่ือทรงตวั เหยาะๆไปท่ัวๆสนามจากนัน้ ให้ วนิ ยั ในตนเองใน เท้าหลงั งอเลก็ นัก เ รี ย นฟั ง ต า ม ค า สั่ง ค รู เ ช่ น การปฏิบตั ิกิจกรรม น้อย กระโดด นง่ั แล้วคอยฟังสญั ญาณ เลน่ เกมจบั กลมุ่ ครูสง่ั เช่นให้จบั กลมุ่ 5 คน กลมุ่ มหาสนกุ เต็ม ไหนช้าสดุ หรือนกั เรียนคนไหนไม่มี ความสามารถ กลุ่ม จะต้องทาท่ากายบริหาร อยา่ งถกู ต้องตาม จานวน 10 ครัง้ กฎ กติกาและมี ความสนกุ สนาน = ครู = นกั เรียน = กรวย
125 สาระการ กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ ตอนการดาเนินกิจกรรม การประเมินผล เรียนรู้ ตามแนวคิดของเพียเจต์ การเรียนรู้ ขัน้ ท่ี 3 อธิบาย สาธิตและฝึ ก การทากจิ กรรมตามแนวคดิ ปฏบิ ัติ (20 นาท)ี สงั เกตการปฏิบตั ิ 1.ให้นกั เรียนเข้าแถวตอน 5 แถว ของเพียเจต์ ของนกั เรียน ดงั รูป 1. ขัน้ เล่นตามลาดบั นกั เรียนทุกคนเข้าแถวในกลุ่ม สงั เกตความมี 2.ครูอธิบายและสาธิตทกั ษะการรับ ได้ฝึ กปฏิบัติทักษะการรับและ ระเบยี บวินยั ใน และสง่ ลกู ฟตุ บอลด้วยข้างเท้าด้าน สง่ ลกู ฟุตบอลด้วยข้างเท้าด้าน ตนเองในการ ใน ในโดยที่นกั เรียนสง่ บอลแล้วว่ิง ปฏิบตั ิทกั ษะและ 3.ครูให้ นักเรี ยนจับคู่และให้ ลูก ไปต่อแถวเพื่อนด้านหลงั ทกุ คน สามารถปฏบิ ตั ิ ฟตุ บอลค่ลู ะ1ลกู ให้นกั เรียนแต่ละ ในกลมุ่ ได้ปฏิบตั ิทุกคนจนครบ ทกั ษะได้ตาม คฝู่ ึกตามท่ีครูอธิบายและสาธิตโดย 20ครัง้ แล้วค่อยมาเริ่มใหม่โดย เกณฑ์ท่คี รูกาหนด ให้นกั เรียนทุกคนปฏิบตั ิทกั ษะการ ให้นักเรียนทุกคนทาพร้ อมกัน รับและส่ง ลูกฟุตบอลด้ วยข้ างเท้ า โดยรอสญั ญาณนกหวีดจากครู ด้านในคนละ 10 ครัง้ (กิจกรรมนีน้ ักเรี ยนจะได้ ฝึ ก ปฏิบัติทักษะภายในกลุ่มตาม ก ฎ เ ก ณ ฑ์ แ ล ะ ต า ม ล า ดั บ ก่อนหลังที่วางไว้เพ่ือเป็ นการ สง่ เสริมความมีระเบียบวินยั ใน ตนเองด้านความรับผดิ ชอบและ ความอดทน) 10 m = ครู = นกั เรียน = ทศิ ทางการสง่ = ลกู ฟตุ บอล =กรวย =ทศิ ทางการวง่ิ
126 สาระการ กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ ตอนการดาเนินกิจกรรม การประเมินผล เรียนรู้ ตามแนวคิดของเพยี เจต์ การเรียนรู้ ขัน้ ท่ี 4 ขัน้ นาไปใช้ (20นาที) 2. ขัน้ ตนเองเป็ นใหญ่ สงั เกตความมี 1.ให้ นักเรี ยนแต่ละกลุ่มเตรี ยม ครูให้ นักเรียนทุกกลุ่มแข่งขัน ระเบียบวนิ ยั ใน แข่งขันปฏิบัติกิจกรรมตามท่ีครู ปฏิบัติทักษะการรับและส่งลูก ตนเองในการ กาหนด ฟตุ บอลด้วยข้างเท้าด้านในโดย ปฏิบตั ิทกั ษะและ 2.ครู ให้ นักเ รี ยน เข้ าแถวตามกลุ่ม ครูให้นกั เรียนเข้าแถวตามกลมุ่ สามารถปฏบิ ตั ิ แข่งขนั เล่นลิงชิงบอล กล่มุ ไหนมี แ ละ ข อ อ า สา นัก เ รี ย นเ ป็ น ทกั ษะได้ตาม จานวนการส่งลูกฟุตบอลต่อเน่ือง ตวั แทนของกลมุ่ ออกมากลมุ่ ละ เกณฑ์ทค่ี รูกาหนด โดยลงิ ไมส่ ามารถแย่งได้ ได้จานวน 4คน ออกมาปฏิบัติทักษะการ ครัง้ มากท่สี ดุ ให้เวลากลมุ่ ละ 3 นาที รับและส่งลูกฟุตบอลด้ ว ยข้ า ง สงั เกตการร่วม เท้าด้านในให้ได้20ครัง้ ภายใน ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมของ เวลา 1นาทีกลุ่มไหนปฏิบัติ นกั เรียนความมี ทกั ษะได้เสร็จก่อนและถูกต้อง ต า ม ทั ก ษ ะ เ ป็ น ฝ่ า ย ช น ะ ระเบียบวนิ ยั ใน (กิจกรรมนีน้ ักเรี ยนได้ มีการ ตนเองในการ แข่งขนั และกล้าท่ีจะอาสาเป็ น ปฏบิ ตั ิทกั ษะตาม ตั ว แ ท น ก ลุ่ ม อ อ ก ม า ป ฏิ บั ติ เกณฑ์ทคี่ รูกาหนด ทักษะเพ่ือเป็ นการส่งเสริ ม และการยินยอม ความมีระเบียบวินัยในตนเอง ปรับปรุงแก้ไข ด้านความเป็ นผู้นาและความ เชื่อมน่ั ตนเอง) 3. ขัน้ ร่วมมอื ครู กาหนดให้ นักเรี ยนในแต่ละ ก ลุ่ม แ ข่ ง ขัน ต า ม ท่ี ค รู ก า ห น ด โดยให้ นักเรี ยนภายในกลุ่มได้ กาหนดคนที่จะเป็ นลิงชิงบอล1 คนที่โดยให้ นักเรี ยนช่วยกัน กาหนดหน้าท่ีของแตล่ ะคนตาม ความสามารถและให้ แก้ ไข ข้อบกพร่องของสมาชิกภายใน
127 สาระการ กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ ตอนการดาเนินกจิ กรรม การ เรียนรู้ ตามแนวคิดของเพียเจต์ ประเมนิ ผล การเรียนรู้ โดยมีกฎกติกาว่านักเรี ยนทุกคน กลุ่ม(นักเรี ยนได้ แสดงความ ข้อบกพร่อง ภายในกลมุ่ ต้องรับและสง่ ลกู ฟุตบอล คิดเห็นและได้ ทาหน้ าท่ีตามท่ี ตามคาแนะนา ด้วยข้างเท้าด้านใน โดยนับคะแนน เพือ่ นๆได้เป็ นการสง่ เสริมความมี ของสมาชิกใน รวมทงั้ กล่มุ กล่มุ ไหนทาได้ทาคะแนน ระเบียบวินยั ในตนเองด้านความ กลมุ่ ได้สงู สดุ และถกู ต้องเป็ นฝ่ ายชนะ รับผดิ ชอบ ความอดทน) = ครู = นกั เรียน 4. ขัน้ เล่นอย่างมีกฎเกณฑ์ = นกั เรียนท่เี ป็ นลงิ ชิงบอล ครูให้นกั เรียนในกลมุ่ ช่วยกนั แบง่ = ลกู ฟตุ บอล หน้าท่ีตามความสามารถของแต่ 3.ครูอธิบายกฎ กติกา มารยาทของ ละบุคคลโดยให้ มีการเลือก หัวหน้ าทีมหน่ึงคนโดยจากการ การเลน่ กีฬาฟตุ บอล สงั เกตการแบง่ 4.ครูแบ่งนักเรียนออกเป็ น2กลุ่มให้ คัดเลือกจากเพ่ือนร่วมทีมและ หน้าท่ี นักเรียนแข่งขันกีฬาฟุตบอลตามกฎ ผู้รักษาประตูหน่ึงคนโดยมีข้ อ แม้ ว่าก่อนท่ีจะยิงประตูนักเรี ยน รับผิดชอบใน กติกา มารยาทของการเล่นกีฬา ต้ องรับและส่งลูกบอลด้ วยข้ าง ทีมของ ฟตุ บอล เท้ าด้ านในก่อนที่จะยิงประตูถึง นกั เรียนและ การปฏิบตั ิ จะนบั ให้เป็ นประตไู ด้และเม่ือยิง หน้าท่ตี ามท่ี ประตูได้ให้นกั เรียนแสดงท่าทาง เพอ่ื นๆได้ ดีใจออกมา 1ท่า(นักเรียนได้ แขง่ ขนั และเลน่ กีฬาฟตุ บอลตาม มอบหมาย กฎ กติกา มารยาทเพ่ือเป็ นการ ส่งเสริมความมีระเบียบวินัยใน ตนเองด้ าน ความรับผิดชอบ ความเช่ือมั่นในตนเอง ความ อดทนและความเป็ นผ้นู า
128 สาระการเรียนรู้ ขัน้ ตอนการดาเนินกิจกรรม การ ตามแนวคิดของเพียเจต์ ประเมินผล กิจกรรมการเรียนรู้ การเรียนรู้ ขัน้ สรุปและสุขปฏิบตั ิ (5นาที) สงั เกตการ 1.ให้นกั เรียนเข้าแถวตอน 5 แถว ดงั ปฏิบตั ขิ อง รูป นกั เรียน = ครู = นกั เรียน สงั เกตวา่ 2.ครูนานกั เรียนคลายอนุ่ โดยการยดื นกั เรียนสามารถ เหยียดกล้ามเนอื ้ 3.ค รู แ ล ะ ผู้ เ รี ย น ช่ ว ย กั น ส รุ ป คลายอนุ่ สาระสาคญั ของบทเรียนและผลการ ร่างกายโดยการ ปฏิบตั กิ ิจกรรม 4.ค รู แ ล ะ นั ก เ รี ย น ร่ ว ม กั น ส รุ ป ยดื เหยยี ด เ ห ตุ ก า ร ณ์ ต่ า ง ๆ ใ น ชั้น เ รี ย น ท่ี กล้ามเนอื ้ ได้ เกี่ยวข้องกบั ความมีระเบียบวินัยใน ตนเอง4 ด้าน 5.นดั หมายการเรียนครงั้ ตอ่ ไป 6.ครูให้หวั หน้าสงั่ เลกิ แถว ส่อื อุปกรณ์และแหล่งการเรียนรู้ 1.ลกู ฟตุ บอล 30 ลกู 2.กรวย 30 อนั 3.เสอื ้ ทีมใช้สาหรับแบง่ ข้าง 15 ตวั 4.สนามฟตุ บอล บันทึกหลงั การสอน …………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………
129 ใบความรู้ท่ี 2 การรับและส่งลูกฟุตบอลด้วยข้างเท้าด้านใน การสง่ ลกู ฟตุ บอลให้เพ่ือนร่วมทีมนนั้ มีหลายวิธีด้วยกนั เชน่ การสง่ ด้วยข้างเท้าด้านใน การ สง่ ด้วยข้างเท้าด้านนอก และการสง่ ด้วยหลงั เท้าแตก่ ารสง่ ลกู ด้วยข้างเท้าด้านในนบั ว่าเป็ นทกั ษะที่ ใช้มากที่สุดในการเล่นฟุตบอลทงั้ นีเ้ พราะว่าเป็ นการส่งลกู ท่ีแน่นอนและแม่นยามากที่สุดโดยมี วิธีการเตะดงั นี ้ คือ ตามองลูก เท้าที่ไม่ได้เตะเป็ นเท้าหลักวางไว้ระดับเดียวกับลูกบอลงอเข่า เล็กน้อยแบะเท้าที่จะเตะออก เกร็งข้อเท้าและหวั เข่า โดยใช้แรงจากสะโพก ลากตวั โน้มไปข้างหน้า นา้ หนกั อยบู่ นเท้าหลกั ต้องการให้ลกู ไปในทศิ ทางใดให้หนั หน้าข้างเท้าไปทิศทางท่ีต้องการการเตะ ด้วยข้างเท้าด้านใน การรับลกู ฟตุ บอลนนั้ มีหลายวิธีแต่วิธีท่ีจะใช้มากที่สดุ คือการรับลกู ด้วยข้างเท้าด้านใน มี วธิ ีการคือให้ยกเท้าขนึ ้ เล็กน้อย เพ่ือลกู บอลที่เข้ามาหาตวั เม่ือลกู บอลสมั ผสั ข้างเท้าด้านใน ให้ผอ่ น นา้ หนกั ลกู บอลด้วยการดงึ เท้ากลบั เลก็ น้อย ก้มตวั และแขนกางออกเพ่ือทรงตวั เท้าหลงั งอเล็กน้อย
130 แผนการจดั การเรียนรู้พลศกึ ษาโดยใช้กจิ กรรมกฬี าฟุตบอล ตามแนวคิดของเพยี เจต์ท่มี ีผลต่อความมีระเบยี บวินัยในตนเอง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศกึ ษาและพลศึกษา วิชาพลศกึ ษา สาระท่ี 3 การเคล่ือนไหว การออกกาลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทยและกีฬาสากล กิจกรรมการเรียนรู้กีฬาฟุตบอล ทกั ษะกีฬาพืน้ ฐาน ช่ือแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 เร่ือง การหยดุ ลกู ฟตุ บอลด้วยฝ่ าเท้าและหลงั เท้า ชัน้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 6 จานวน 30 คน จานวน 1 คาบ 60 นาที ____________________________________________________________________________ มาตรฐานการเรียนรู้ พ 3.1: เข้าใจ มีทกั ษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเลน่ เกม และกีฬา พ 3.2: รักการออกกาลงั กาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบตั ิเป็ น ประจาอย่าง สม่าเสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีนา้ ใจ นกั กีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขนั และช่ืนชมในสนุ ทรียภาพ ของกีฬา สาระสาคัญ การเลน่ กีฬาฟตุ บอลให้เกิดประสิทธิภาพ ผ้เู ลน่ ต้องเรียนรู้จนเกิดทกั ษะพืน้ ฐานหลายด้าน ทกั ษะพืน้ ฐานในกีฬาฟุตบอลท่ีสาคญั ในการท่ีจะเล่นกีฬาฟุตบอลให้ เกิดประสิทธิภาพมีมากมาย การหยดุ ลกู ฟตุ บอลด้วยฝ่ าเท้าและหลงั เท้าเป็นทกั ษะหนงึ่ ท่ีจาเป็ นท่ีจะต้องได้รับการจดั การเรียนรู้ เพราะจะนาไปสกู่ ารฝึกทกั ษะฟตุ บอลทกั ษะอ่ืนๆตอ่ ไป จุดประสงค์การเรียนรู้ : นกั เรียนสามารถ 1.แสดงทา่ ทางการอบอ่นุ ร่างกายก่อนออกกาลงั กายและคลายอนุ่ 2.พฒั นาสมรรถภาพทางกายด้านระบบไหลเวียนโลหติ และความคลอ่ งแคลว่ ว่องไวด้วย การเลน่ เกมแขง่ วง่ิ ซกิ แซก 3.ปฏิบตั ทิ กั ษะการหยดุ ลกู ฟตุ บอลด้วยฝ่ าเท้าและหลงั เท้า 4.แสดงความมีระเบยี บวนิ ยั ในตนเองออกมาครบทงั้ 4 ด้าน(ความรับผิดชอบ ด้านความ เช่ือมนั่ ตนเอง ด้านความอดทนและด้านความเป็นผ้นู า) 5.แขง่ ขนั กีฬาฟตุ บอลโดยตามกฎ กตกิ า มารยาทในกีฬาฟตุ บอลระหวา่ งจดั กิจกรรม
131 สาระการเรียนรู้ 1.การอบอนุ่ ร่างกายและการคลายอนุ่ 2.การพฒั นาสมรรถภาพด้วยการเลน่ เกมแขง่ วิง่ ซิกแซก 3.การหยดุ ลกู ฟตุ บอลด้วยฝ่ าเท้าและหลงั เท้า 4.การแสดงความมีระเบียบวินยั ในตนเองทงั้ 4ด้าน (ความรับผิดชอบ ด้านความเช่ือมน่ั ตนเอง ด้านความอดทนและด้านความเป็นผ้นู า) 5.กฎ กตกิ า มารยาทในกีฬาฟตุ บอล
132 สาระการ กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ ตอนการดาเนินกิจกรรม การประเมนิ ผล เรียนรู้ ตามแนวคิดของเพียเจต์ การเรียนรู้ 1.หนั หน้าหาลกู ขัน้ ท่ี 1 ขัน้ เตรียม (5 นาท)ี สงั เกตการปฏบิ ตั ิ บอล ให้เปิ ด 1.ให้นกั เรียนเข้าแถวตอน 5 แถว ดงั ของนกั เรียน ปลายเท้าทามมุ รูป กบั พนื ้ โดยการ สงั เกตวา่ นกั เรียน กดส้นเท้าลงมี = ครู = นกั เรียน สามารถอบอนุ่ เนอื ้ ทเ่ี พียง 2.สารวจจานวนและตรวจการแตง่ ร่างกายโดยการ พอทจ่ี ะจบั ลกู กายของนกั เรียนถามคาถามเข้าสู่ บอลได้ เนอื ้ หา ยดื เหยยี ด ประมาณ 3-4 3.แบง่ กลมุ่ นกั เรียนเป็ น 5 กลมุ่ ตาม กล้ามเนอื ้ ได้ นวิ ้ เขา่ งอ แถวแล้วให้นกั เรียนแตก่ ลมุ่ อาสา เลก็ น้อย ไมเ่ กร็ง เป็ นตวั แทนออกมานาเพอ่ื นยดื กางแขนออก เหยยี ดกล้ามเนอื ้ ขาคนละ 2 ทา่ เม่ือลกู เข้าไปอยู่ ในฝ่ าเท้า ให้กด 1 ปลายเท้าลง 52 เบาๆ หากลกู โดง่ ให้ปลอ่ ยลกู บอลลงพนื ้ กอ่ นท่ลี กู จะ กระดอนขนึ ้ มา ให้ใช้ฝ่ าเท้าวาง เหมอื นลกู บอล เหยยี บลกู บอล เบา 43 = ครู = นกั เรียน
133 สาระการ กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ ตอนการดาเนินกจิ กรรม การประเมินผล เรียนรู้ ตามแนวคดิ ของเพียเจต์ การเรียนรู้ 2.ให้ยกเท้าไป ขัน้ ท่ี 2 ขัน้ พัฒนาสมรรถภาพ สงั เกตการปฏบิ ตั ิ ข้างหน้าเพื่อดกั ทางกาย (10 นาที) ของนกั เรียน ลกู บอลเมือ่ ลกู 1.ให้นกั เรียนเข้าแถวตอน 5 แถว บอลสมั ผสั เท้า 1.สงั เกตวา่ นกั เรียน ดงั รูป ทกุ คนได้ออกกาลงั กายเพื่อพฒั นา ให้ผอ่ นนา้ หนกั สมรรถภาพทาง ลกู บอลด้วยการ กาย 2.การสงั เกต ดงึ เท้ากลบั นกั เรียนทกุ คนมี ระเบยี บวินยั ใน เลก็ น้อย ก้มตวั ตนเองในการ ปฏิบตั กิ ิจกรรมเลน่ และ แขนกาง เกมแขง่ วง่ิ ซกิ แซก เต็มความสามารถ ออกเพ่อื ทรงตวั = ครู = นกั เรียน อยา่ งถกู ต้องตาม เท้าหลงั งอ 2.ครูอธิบายกฎ กตกิ าเกมแขง่ วงิ่ ซิก กฎ กตกิ าและมี เลก็ น้อยหาก แซก ความสนกุ สนาน เป็ นลกู โดง่ ตา 3.ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็ น 5 กลมุ่ มองท่ลี กู กอ่ นท่ี เลน่ เกมแขง่ วงิ่ ซกิ แซก ให้แตล่ ะ ลกู จะตกให้ยก กลมุ่ วิ่งซิกแซกอ้อมหลกั จากนนั้ วิ่ง เท้าขนึ ้ ไปหาลกู กลบั ไปตอ่ หลงั เพ่อื น กลมุ่ ไหนทา บอล เม่ือสมั ผสั ครบ 5 รอบกอ่ นเป็ นฝ่ ายชนะ ถกู ลกู เท้าก็ ผอ่ นตามแล้ว ดงึ ลกู ลงพนื ้ = ครู = นกั เรียน = ทศิ ทาง = กรวย = ทศิ ทางการว่ิง = เสาหลกั
134 สาระการ กิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ ตอนการดาเนินกิจกรรม การประเมนิ ผล เรียนรู้ ตามแนวคิดของเพียเจต์ การเรียนรู้ ขัน้ ท่ี 3 อธิบาย สาธิตและฝึ ก การทากจิ กรรมตามแนวคดิ ปฏบิ ตั ิ (20 นาท)ี สงั เกตการปฏิบตั ิ 1.ให้นกั เรียนเข้าแถวตอน 5 แถว ของเพียเจต์ ของนกั เรียน ดงั รูป 1. ขัน้ เล่นตามลาดบั นักเรี ยนทุกคนเข้ าแถวในกลุ่ม สงั เกตความมี 2.ครู อธิ บ า ย และ สา ธิ ต ทักษ ะ กา ร ได้ฝึ กปฏิบตั ิทกั ษะการหยุดลูก ระเบยี บวนิ ยั ใน หยดุ ลกู ฟตุ บอลด้วยฝ่ าเท้าและหลงั ฟตุ บอลด้วยฝ่ าเท้าและหลงั เท้า ตนเองในการ เท้า โดยให้นกั เรียนโยนบอลให้เพอื่ น ปฏบิ ตั ิทกั ษะและ 3.ครูให้ นักเรี ยนจับคู่และให้ ลูก แล้ วให้ เพื่อนหยุดลูกบอลด้ วย สามารถปฏบิ ตั ิ ฟุตบอลคลู่ ะ1ลกู ให้นกั เรียนแต่ละ ฝ่ าเท้าและหลงั เท้า ทา่ ละ2ครัง้ ทกั ษะได้ตาม คฝู่ ึกตามท่คี รูอธิบายและสาธิตโดย ค นท่ี ทา เ สร็ จ ก็ ม า โย น บอ ลใ ห้ เกณฑ์ท่คี รูกาหนด ให้นกั เรียนทุกคนปฏิบตั ิทกั ษะการ เพื่อนทาอย่างนีไ้ ปเร่ือยๆจน หยดุ ลกู ฟตุ บอลด้วยฝ่ าเท้าและหลงั ครบคนละ2รอบโดยท่ีนักเรียน เท้าคนละ 10 ครัง้ ทุก คนใ นก ลุ่ม ได้ ปฏิบัติ ทุก ค น จนครบแล้วคอ่ ยมาเริ่มใหม่โดย ให้นักเรียนทุกคนทาพร้ อมกัน โดยรอสญั ญาณนกหวีดจากครู (กิจกรรมนีน้ ักเรียนจะได้ ฝึ ก ปฏิบัติทักษะภายในกลุ่มตาม ก ฎ เ ก ณ ฑ์ แ ล ะ ต า ม ล า ดั บ ก่อนหลังท่ีวางไว้เพื่อเป็ นการ สง่ เสริมความมีระเบียบวินยั ใน ตนเองด้านความรับผดิ ชอบและ ความอดทน) 5m = ครู = นกั เรียน = ทิศทางการโยนลูก บอล = ลกู ฟตุ บอล =กรวย =ทศิ ทางการวง่ิ
135 สาระการ กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ ตอนการดาเนินกิจกรรม การประเมินผล เรียนรู้ ตามแนวคดิ ของเพยี เจต์ การเรียนรู้ 2. ขัน้ ตนเองเป็ นใหญ่ สงั เกตความมี ครูให้ นักเรียนทุกกลุ่มแข่งขัน ระเบยี บวนิ ยั ใน ป ฏิ บั ติ ทั ก ษ ะ ก า ร ห ยุ ด ลู ก ตนเองในการ ฟตุ บอลด้วยฝ่ าเท้าและหลงั เท้า ปฏิบตั ิทกั ษะและ โดยครูให้นกั เรียนเข้าแถวตาม สามารถปฏบิ ตั ิ กล่มุ และขออาสานกั เรียนเป็ น ทกั ษะได้ตาม ตวั แทนของกลมุ่ ออกมากลมุ่ ละ เกณฑ์ทค่ี รูกาหนด 4คน ออกมาปฏิบัติทักษะการ หยดุ ลกู ฟตุ บอลด้วยฝ่ าเท้าและ หลังเท้ าให้ ได้ 20ครัง้ ภายใน เวลา 1นาทีกลุ่มไหนปฏิบัติ ทกั ษะได้เสร็จก่อนและถูกต้อง ต า ม ทั ก ษ ะ เ ป็ น ฝ่ า ย ช น ะ (กิจกรรมนีน้ ักเรี ยนได้ มีการ แข่งขันและกล้าที่จะอาสาเป็ น ตั ว แ ท น ก ลุ่ ม อ อ ก ม า ป ฏิ บั ติ ทักษะเพื่อเป็ นการส่งเสริ ม ความมีระเบียบวินัยในตนเอง ด้านความเป็ นผู้นาและความ เชื่อมนั่ ตนเอง) 5m = ครู = นกั เรียน = ทิศทางโยนลกู บอล = ลกู ฟตุ บอล =กรวย =ทิศทางการว่งิ
136 สาระการ กิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ ตอนการดาเนินกจิ กรรม การประเมนิ ผล เรียนรู้ ตามแนวคดิ ของเพียเจต์ การเรียนรู้ ขัน้ ท่ี 4 ขัน้ นาไปใช้ (20นาที) 3. ขัน้ ร่วมมอื 1.ให้ นักเรี ยนแต่ละกลุ่มเตรี ยม ครูกาหนดให้นักเรียนในแต่ละ สงั เกตการร่วม แข่งขันปฏิบัติกิจกรรมตามที่ครู กลุ่มแข่งขันตามท่ีครูกาหนด ปฏบิ ตั ิกิจกรรมของ กาหนด โดยให้นักเรียนภายในกลุ่มได้ นกั เรียนความมี 2.ครูให้นักเรียนเข้าแถวตามกลุ่ม กาหนดคนที่จะสง่ บอลให้เพื่อน ระเบยี บวินยั ใน แข่งขันปฏิบัติทักษะการหยุดลูก โดยมกี ฎกติกาวา่ นกั เรียนทกุ คน ตนเองในการ ฟตุ บอลด้วยฝ่ าเท้าและหลงั เท้า ภายในกลมุ่ ต้องหยดุ ลกู ฟตุ บอล ปฏบิ ตั ิทกั ษะตาม ด้วยฝ่ าเท้าและหลงั เท้าสลบั กนั เกณฑ์ทค่ี รูกาหนด จะได้ 1คะแนนใครทาเสร็ จแล้ ว ไปตอ่ หลงั เพ่ือนปฏิบตั ิทีละกลมุ่ ภายในเวลา 2นาที โดยนับ คะแนนรวมทงั้ กลมุ่ กลมุ่ ไหนทา ได้คะแนนสงู สดุ และถกู ต้องเป็ น ฝ่ ายชนะ(นกั เรียนได้แสดงความ คิดเห็นและได้ ทาหน้ าท่ีตาม ที่ เพ่อื นๆได้เป็ นการสง่ เสริมความ มีระเบียบวินัยในตนเองด้ าน ความรับผิดชอบ ความเช่ือม่นั ตนเอง ความอดทนและด้ าน ความเป็ นผ้นู า) 5m = ครู = นกั เรียน =ทิศทางการโยน = ทศิ ทางการว่งิ = ลกู ฟตุ บอล = กรวย
137 สาระการ กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ ตอนการดาเนินกจิ กรรม การ เรียนรู้ ตามแนวคิดของเพียเจต์ ประเมนิ ผล การเรียนรู้ 3.ครูอธิบายกฎ กติกา มารยาทของ 4. ขัน้ เล่นอย่างมกี ฎเกณฑ์ สงั เกตการแบง่ ครูให้นกั เรียนในกลมุ่ ช่วยกนั แบง่ หน้าที่ การเลน่ กีฬาฟตุ บอล 4.ครูแบ่งนักเรียนออกเป็ น2กลุ่มให้ หน้าที่ตามความสามารถของแต่ รับผดิ ชอบใน นกั เรียนแข่งขันกีฬาฟุตบอลตามกฎ ละบุคคลโดยให้ มีการเลือก ทีมของ กติกา มารยาทของการเล่นกีฬา หวั หน้าทีมหนึ่งคนโดยจากการ นกั เรียนและ คัดเลือกจากเพื่อนร่วมทีมและ การปฏบิ ตั ิ ฟตุ บอล ผู้รักษาประตูหน่ึงคนโดยมีข้ อ หน้าทีต่ ามท่ี แม้ว่าก่อนที่จะยิงประตูนักเรียน เพ่อื นๆได้ ต้องหยุดลกู บอลด้วยฝ่ าเท้าหรือ มอบหมาย หลงั เท้าก่อนท่ีจะยิงประตูถึงจะ นับให้ เป็ นประตูได้ และเม่ือยิง ประตไู ด้ให้นกั เรียนแสดงท่าทาง ดีใจออกมา 1ท่า(นักเรี ยนได้ แข่งขนั และเลน่ กีฬาฟุตบอลตาม กฎ กติกา มารยาทเพ่ือเป็ นการ ส่งเสริมความมีระเบียบวินัยใน ตนเองด้ าน ความรับผิดชอบ ความเช่ือม่ันในตนเอง ความ อดทนและความเป็ นผ้นู า)
138 สาระการเรียนรู้ ขัน้ ตอนการดาเนินกจิ กรรม การ ตามแนวคิดของเพียเจต์ ประเมนิ ผล กจิ กรรมการเรียนรู้ การเรียนรู้ ขัน้ สรุปและสุขปฏิบัติ (5นาที) สงั เกตการ 1.ให้นกั เรียนเข้าแถวตอน 5 แถว ดงั ปฏิบตั ขิ อง รูป นกั เรียน = ครู = นกั เรียน สงั เกตวา่ 2.ครูนานกั เรียนคลายอนุ่ โดยการยืด นกั เรียนสามารถ เหยยี ดกล้ามเนอื ้ 3.ค รู แ ล ะ ผู้ เ รี ย น ช่ ว ย กั น ส รุ ป คลายอนุ่ สาระสาคญั ของบทเรียนและผลการ ร่างกายโดยการ ปฏิบตั กิ ิจกรรม 4.ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุป ยดื เหยยี ด เหตกุ ารณ์ ตา่ งๆในชนั้ เรียนท่ี กล้ามเนอื ้ ได้ เกี่ยวข้องกบั ความมีระเบยี บวินยั ใน ตนเอง4 ด้าน 5.นดั หมายการเรียนครงั้ ตอ่ ไป 6.ครูให้หวั หน้าสง่ั เลกิ แถว ส่อื อุปกรณ์และแหล่งการเรียนรู้ 1.ลกู ฟตุ บอล 30ลกู 2.กรวย 30 อนั 3.เสาหลกั 30 อนั 4.เสอื ้ ทีมใช้สาหรับแบง่ ข้าง 15 ตวั 5.สนามฟตุ บอล บนั ทกึ หลังการสอน ……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234