หลกั สูตรการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน กล่มุ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 1-6 ปกี ารศกึ ษา 2564 โรงเรยี นสตรีวดั ระฆัง เขตบางกอกนอ้ ย จังหวดั กรุงเทพมหานคร สานกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต 1
หลักสตู รการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1- 6 ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนสตรีวัดระฆงั เขตบางกอกน้อย จังหวดั กรงุ เทพมหานคร สานกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษามธั ยมศึกษา เขต 1
วสิ ัยทัศน์กล่มุ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ “รักงานศลิ ป์ คดิ สรา้ งสรรค์ กา้ วทนั เทคโนโลยี มีความเปน็ ไทย ภาคภูมิใจในงานศลิ ปะ” กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ มุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนให้มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับกระบวนการทาง ศิลปะ รปู แบบความเป็นมา ภมู ปิ ัญญาและรากฐานทางวัฒนธรรม ค้นหาศกั ยภาพ ความสนใจ ฝกึ การเรยี นรู้ เห็นคุณค่าและเกิดความซาบซ้ึงในคุณค่าของศิลปะและสิ่งรอบตัว พัฒนาเจตคติ สมาธิ รสนิยม มีทักษะ กระบวนการ วิธีการแสดงออก ความคิดสร้างสรรค์ ส่งเสริมให้ผู้เรียนตระหนักถึงบทบาทของศิลปะในสงั คม ในบริบทที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมทั้งของตนเองและวัฒนธรรมอ่ืน ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนมีความคิดริเร่ิม สร้างสรรค์ ดัดแปลง จินตนาการ มีสุนทรียภาพ เห็นคุณค่าในวัฒนธรรมไทยและสากล ช่วยให้มีจิตใจท่ี งดงาม มสี มาธิ มสี ุขภาพกายและสุขภาพจิตทด่ี ี เปน็ การยกระดบั คุณภาพชีวิตของมนุษยชาติให้ดีขน้ึ และส่งผล ตอ่ คณุ ภาพชีวติ ของสงั คมโดยรวม หลกั การ กล่มุ สาระการเรียนร้มู ุง่ เนน้ และส่งเสริมให้มีความคิดริเรม่ิ สร้างสรรค์ มจี ินตนาการทางศิลปะ ชน่ื ชม ความงาม ความไพเราะ และสุนทรียภาพ ความมีคุณค่า อันเป็นผลต่อคุณภาพชีวิตของมนุษย์ กิจกรรม ศิลปะพัฒนาผู้เรียนโดยตรงทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์และสังคม ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความ เช่ือมั่นในตนเอง แสดงออกในเชิงสร้างสรรค์พัฒนาความรู้สึกในการรับรู้ทางศิลปะ พัฒนาส่ิงแวดล้อม การ มองภาพรวม การสังเกตรายละเอียด สามารถคน้ พบศักยภาพของตนเอง อันเป็นพนื้ ฐานในการศกึ ษาต่อหรือ ประกอบอาชีพได้ มคี วามรบั ผิดชอบ มรี ะเบียบวนิ ัย สามารถทางานร่วมกับผอู้ น่ื ได้อยา่ งมีความสขุ จุดหมาย ๑. ผู้เรียนจบหลักสูตรการศึกษาของโรงเรียนสตรีวัดระฆังอย่างมีคุณภาพ เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ และรักงานศลิ ปะ ๒. ผู้เรยี นมที ักษะทางทัศนศิลป์ ดนตรีและนาฏศิลป์ ดารงความเป็นไทยและอนรุ กั ษ์วฒั นธรรมประจา ชาติ
สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ ๑ ทัศนศลิ ป์ มาตรฐาน ศ ๑.๑ สร้างสรรค์งานทัศนศลิ ป์ตามจินตนาการ และความคดิ สร้างสรรค์ วเิ คราะห์ วิพากษ์ วิจารณค์ ุณคา่ งานทศั นศลิ ป์ ถา่ ยทอดความรูส้ กึ ความคดิ ต่องานศิลปะอยา่ งอิสระ ชืน่ ชม และประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจาวัน มาตรฐาน ศ ๑.๒ เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหวา่ งทศั นศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เหน็ คณุ คา่ งาน ทศั นศิลปท์ เ่ี ปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถ่นิ ภมู ิปญั ญาไทย และสากล สาระที่ ๒ ดนตรี มาตรฐาน ศ ๒.๑ เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่าดนตรี ถ่ายทอดความรู้สกึ ความคิดต่อดนตรอี ยา่ งอสิ ระ ช่นื ชม และประยกุ ต์ใช้ ในชีวติ ประจาวัน มาตรฐาน ศ ๒.๒ เขา้ ใจความสัมพันธร์ ะหวา่ งดนตรี ประวตั ิศาสตร์ และวัฒนธรรม เหน็ คณุ ค่าของดนตรี ท่ี เปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภมู ิปญั ญาท้องถนิ่ ภูมปิ ญั ญาไทยและสากล สาระท่ี ๓ นาฏศิลป์ มาตรฐาน ศ ๓.๑ เขา้ ใจ และแสดงออกทางนาฏศิลปอ์ ย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษว์ ิจารณ์คณุ ค่า นาฏศิลปถ์ ่ายทอดความรสู้ ึก ความคดิ อย่างอสิ ระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ ในชีวติ ประจาวนั มาตรฐาน ศ ๓.๒ เขา้ ใจความสมั พนั ธ์ระหว่างนาฏศลิ ป์ ประวตั ศิ าสตร์และวฒั นธรรม เหน็ คุณค่า ของนาฏศลิ ป์ทีเ่ ปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภูมปิ ัญญาท้องถิน่ ภมู ปิ ญั ญาไทยและสากล
คุณภาพผเู้ รยี น จบชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๓ • รู้และเข้าใจเรื่องทัศนธาตุและหลักการออกแบบและเทคนิคท่ีหลากหลายในการ สร้างงาน ทัศนศิลป์ ๒ มิติ และ ๓ มิติ เพื่อส่อื ความหมายและเรือ่ งราวตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งมีคณุ ภาพ วิเคราะห์รูปแบบเน้ือหา และประเมินคุณค่างานทัศนศิลป์ของตนเองและผู้อื่น สามารถเลือกงานทัศนศิลป์โดยใช้เกณฑ์ท่ีกาหนดข้ึน อย่างเหมาะสม สามารถออกแบบรูปภาพ สัญลักษณ์ กราฟิก ในการนาเสนอข้อมูลและมีความรู้ ทักษะที่ จาเป็นดา้ นอาชีพทเี่ ก่ยี วข้องกนั กับงานทัศนศลิ ป์ • รู้และเขา้ ใจการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการของงานทัศนศิลป์ของชาติและท้องถิน่ แตล่ ะยุคสมัย เห็นคุณค่างานทัศนศิลป์ท่ีสะท้อนวัฒนธรรมและสามารถเปรียบเทียบงานทัศนศิลป์ ที่มาจากยุคสมัยและ วฒั นธรรมตา่ ง ๆ • รู้และเข้าใจถึงความแตกต่างทางด้านเสียง องค์ประกอบ อารมณ์ ความรู้สึกของบทเพลงจาก วัฒนธรรมต่าง ๆ มีทักษะในการร้อง บรรเลงเครื่องดนตรี ทั้งเด่ียวและเป็นวงโดยเน้นเทคนิคการร้องบรรเลง อยา่ งมีคุณภาพ มที กั ษะในการสร้างสรรค์บทเพลงอยา่ งงา่ ย อ่านเขยี นโน้ต ในบันไดเสียงท่มี ีเคร่ืองหมาย แปลง เสียงเบ้ืองต้นได้ รู้และเข้าใจถึงปัจจัยท่ีมีผลต่อรูปแบบของผลงานทางดนตรี องค์ประกอบของผลงานด้าน ดนตรีกบั ศลิ ปะแขนงอนื่ แสดงความคดิ เห็นและบรรยายอารมณค์ วามรู้สกึ ทม่ี ตี ่อบทเพลง สามารถนาเสนอบท เพลงที่ชนื่ ชอบได้อยา่ งมเี หตุผล มีทักษะในการประเมินคุณภาพของบทเพลงและการแสดงดนตรี ร้ถู ึงอาชพี ต่าง ๆ ท่เี ก่ยี วข้องกับดนตรแี ละบทบาทของดนตรใี นธุรกจิ บันเทงิ เข้าใจถงึ อิทธพิ ลของดนตรีท่มี ีต่อบุคคลและสงั คม • รู้และเข้าใจที่มา ความสัมพันธ์ อิทธิพลและบทบาทของดนตรีแต่ละวัฒนธรรมในยุคสมัยต่าง ๆ วิเคราะห์ปจั จัยท่ีทาใหง้ านดนตรีได้รับการยอมรับ • รู้และเข้าใจการใช้นาฏยศัพท์หรอื ศัพท์ทางการละครในการแปลความและส่ือสาร ผ่านการแสดง รวมท้ังพัฒนารูปแบบการแสดง สามารถใช้เกณฑ์ง่าย ๆ ในการพิจารณาคุณภาพ การแสดง วิจารณ์ เปรียบเทยี บงานนาฏศิลป์ โดยใชค้ วามรู้เรื่ององค์ประกอบทางนาฏศิลป์ ร่วมจัดการแสดง นาแนวคิดของการ แสดงไปปรบั ใชใ้ นชวี ิตประจาวัน • รู้และเข้าใจประเภทละครไทยในแต่ละยุคสมัย ปัจจัยท่ีมีผลต่อการเปล่ียนแปลง ของนาฏศิลปไ์ ทย นาฏศิลป์พ้ืนบ้าน ละครไทย และละครพน้ื บา้ น เปรียบเทียบลกั ษณะเฉพาะ ของการแสดง นาฏศิลป์จากวัฒนธรรมต่าง ๆ รวมท้ังสามารถออกแบบและสร้างสรรค์อุปกรณ์ เคร่ืองแต่งกายในการแสดง นาฏศลิ ป์และละคร มคี วามเข้าใจ ความสาคัญ บทบาทของนาฏศลิ ป์ และละครในชวี ติ ประจาวัน
จบช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๖ • รู้และเข้าใจเก่ียวกับทัศนธาตุและหลักการออกแบบในการสื่อความหมาย สามารถใช้ศัพท์ทาง ทัศนศิลป์ อธิบายจุดประสงค์และเนื้อหาของงานทัศนศิลป์ มีทักษะและเทคนิคในการใช้วัสดุ อุปกรณ์และ กระบวนการท่ีสูงข้ึนในการสรา้ งงานทัศนศิลป์ วิเคราะห์เนื้อหาและแนวคิด เทคนิควิธีการ การแสดงออกของ ศิลปนิ ทง้ั ไทยและสากล ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีตา่ ง ๆ ในการออกแบบสร้างสรรค์งานทเี่ หมาะสมกับโอกาส สถานท่ี รวมท้ังแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพสังคมด้วยภาพล้อเลียนหรือการ์ตูน ตลอดจนประเมินและ วจิ ารณ์คุณคา่ งานทัศนศลิ ป์ด้วยหลกั ทฤษฎวี จิ ารณ์ศิลปะ • วิเคราะห์เปรียบเทียบงานทศั นศลิ ป์ในรปู แบบตะวันออกและรปู แบบตะวันตก เขา้ ใจ อิทธพิ ลของมรดกทางวฒั นธรรมภูมิปัญญาระหว่างประเทศทม่ี ีผลตอ่ การสรา้ งสรรค์ งานทศั นศลิ ปใ์ นสังคม • ร้แู ละเขา้ ใจรูปแบบบทเพลงและวงดนตรีแต่ละประเภท และจาแนกรปู แบบ ของวงดนตรีทัง้ ไทย และสากล เข้าใจอทิ ธิพลของวัฒนธรรมต่อการสร้างสรรค์ดนตรี เปรียบเทียบอารมณ์และความรู้สึกทไ่ี ดร้ ับจาก ดนตรีทม่ี าจากวัฒนธรรมต่างกนั อา่ น เขียน โน้ตดนตรีไทยและสากล ในอตั ราจังหวะต่าง ๆ มีทกั ษะในการร้อง เพลงหรือเล่นดนตรีเด่ียวและรวมวงโดยเน้นเทคนิค การแสดงออกและคุณภาพของการแสดง สร้างเกณฑ์ สาหรบั ประเมินคุณภาพการประพันธ์ การเลน่ ดนตรีของตนเองและผอู้ ่นื ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม สามารถนาดนตรีไป ระยกุ ต์ใชใ้ นงานอนื่ ๆ • วิเคราะห์ เปรียบเทียบรูปแบบ ลักษณะเด่นของดนตรีไทยและสากลในวัฒนธรรมต่าง ๆ เข้าใจ บทบาทของดนตรีที่สะท้อนแนวความคิดและค่านิยมของคนในสังคม สถานะทางสังคม ของนักดนตรีใน วฒั นธรรมต่าง ๆ สรา้ งแนวทางและมสี ว่ นร่วมในการส่งเสรมิ และอนุรกั ษ์ดนตรี • มีทักษะในการแสดงหลากหลายรูปแบบ มีความคิดริเร่ิมในการแสดงนาฏศิลป์เป็นคู่ และเป็นหมู่ สร้างสรรค์ละครสั้นในรปู แบบที่ชื่นชอบ สามารถวิเคราะห์แก่นของการแสดงนาฏศิลป์และละครท่ีต้องการสื่อ ความหมายในการแสดง อิทธิพลของเครื่องแต่งกาย แสง สี เสียง ฉาก อุปกรณ์ และสถานท่ีที่มีผลต่อการ แสดง วิจารณ์การแสดงนาฏศิลป์และละคร พัฒนาและใช้เกณฑ์การประเมินในการประเมินการแสดง และสามารถวเิ คราะหท์ ่าทางการเคลอ่ื นไหวของผคู้ นในชีวิตประจาวัน และนามาประยกุ ต์ใชใ้ นการแสดง • เข้าใจวิวัฒนาการของนาฏศิลป์และการแสดงละครไทย และบทบาทของบุคคลสาคัญ ในวงการนาฏศลิ ป์และการละครของประเทศไทยในยุคสมยั ต่าง ๆ สามารถเปรียบเทียบ การนาการแสดงไปใช้ ในโอกาสต่าง ๆ และเสนอแนวคิดในการอนรุ ักษน์ าฏศิลปไ์ ทย
โครงสร้างเวลาเรยี น หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน กาหนดกรอบโครงสรา้ งเวลาเรียน ดังน้ี กลุ่มสาระการเรยี นร/ู้ เวลา มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย กิจกรรม มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ม.๔-๖ ม.๑ ม.๒ ม.๓ ศิลปะ ๘๐(๒ นก.) ๘๐(๒ นก.) ๘๐(๒ นก.) ๑๒๐(๓ นก.)
1 ตวั ชี้วดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี ๑ ทัศนศิลป์ มาตรฐาน ศ ๑.๑ สรา้ งสรรคง์ านทศั นศิลป์ ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์คุณค่างานทศั นศิลป์ ถ่ายทอดความรูส้ ึก ความคิดต่องานศิลปะอยา่ งอิสระ ชื่นชม และประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั มาตรฐาน ศ ๑.๒ เขา้ ใจความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งทศั นศิลป์ ประวตั ิศาสตร์ และวฒั นธรรม เห็นคุณคา่ งาน ทศั นศลิ ป์ ที่เป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน ภูมิปัญญาไทย และสากล สาระท่ี ๒ ดนตรี มาตรฐาน ศ ๒.๑ เขา้ ใจและแสดงออกทางดนตรีอยา่ งสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษว์ ิจารณ์คุณค่า ดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่อดนตรีอยา่ งอิสระ ช่ืนชม และประยุกตใ์ ช้ ในชีวติ ประจาวนั มาตรฐาน ศ ๒.๒ เขา้ ใจความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งดนตรี ประวตั ิศาสตร์ และวฒั นธรรม เห็นคุณค่าของดนตรี ที่ เป็ นมรดกทางวฒั นธรรม ภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน ภมู ิปัญญาไทยและสากล สาระท่ี ๓ นาฏศิลป์ มาตรฐาน ศ ๓.๑ เขา้ ใจ และแสดงออกทางนาฏศิลป์ อยา่ งสรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษว์ จิ ารณ์คุณคา่ นาฏศลิ ป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดอยา่ งอิสระ ชื่นชม และประยกุ ตใ์ ช้ ในชีวติ ประจาวนั มาตรฐาน ศ ๓.๒ เขา้ ใจความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งนาฏศลิ ป์ ประวตั ิศาสตร์และวฒั นธรรม เห็นคุณค่า ของนาฏศิลป์ ท่ีเป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ิน ภมู ิปัญญาไทยและสากล
๒ ตวั ชีว้ ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระที่ ๑ ทัศนศิลป์ มาตรฐาน ศ ๑.๑ สร้างสรรคง์ านทศั นศิลป์ ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่างานทศั นศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องานศิลปะอยา่ งอิสระ ชื่นชม และประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั ช้ัน ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.๑ ๑. บรรยายความแตกต่างและความ • ความแตกต่างและความคลา้ ยคลึงกนั คลา้ ยคลึงกนั ของงานทศั นศลิ ป์ ของทศั นธาตุในงานทศั นศิลป์ และสิ่งแวดลอ้ ม และสิ่งแวดลอ้ มโดยใชค้ วามรู้เรื่องทศั นธาตุ ๒. ระบุ และบรรยายหลกั การออกแบบ • ความเป็ นเอกภาพ ความกลมกลืน ความสมดุล งานทศั นศิลป์ โดยเนน้ ความเป็นเอกภาพ ความกลมกลืน และความสมดุล ๓. วาดภาพทศั นียภาพแสดงใหเ้ ห็น • หลกั การวาดภาพแสดงทศั นียภาพ ระยะไกลใกล้ เป็น ๓ มิติ ๔. รวบรวมงานป้ันหรือส่ือผสมมาสรา้ ง • เอกภาพความกลมกลืนของเรื่องราวในงานป้ัน เป็นเร่ืองราว๓มิตโิ ดยเนน้ ความเป็ นเอกภาพ หรืองานส่ือผสม ความกลมกลืน และการสื่อถึงเร่ืองราว ของงาน ๕. ออกแบบรูปภาพ สญั ลกั ษณ์ • การออกแบบรูปภาพ สญั ลกั ษณ์ หรือกราฟิกอื่น ๆ ในการนาเสนอ หรืองานกราฟิ ก ความคิดและขอ้ มลู ๖. ประเมินงานทศั นศิลป์ และบรรยาย • การประเมินงานทศั นศลิ ป์ ถึงวธิ ีการปรบั ปรุงงานของตนเองและ ผอู้ ื่นโดยใชเ้ กณฑท์ ่ีกาหนดให้
๓ ช้ัน ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.๒ ๑. อภิปรายเก่ียวกบั ทศั นธาตุในดา้ นรูปแบบ • รูปแบบของทศั นธาตุและแนวคิดในงาน และแนวคดิ ของงานทศั นศลิ ป์ ที่เลอื กมา ทศั นศลิ ป์ ๒. บรรยายเกี่ยวกบั ความเหมือนและ • ความเหมือนและความแตกต่างของรูปแบบ ความแตกตา่ งของรูปแบบการใชว้ สั ดุ การใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ในงานทศั นศิลป์ อุปกรณ์ในงานทศั นศิลป์ ของศลิ ปิ น ของศลิ ปิ น ๓. วาดภาพดว้ ยเทคนิคท่หี ลากหลาย • เทคนิคในการวาดภาพสื่อความหมาย ในการสื่อความหมายและเร่ืองราวต่าง ๆ ๔. สรา้ งเกณฑใ์ นการประเมิน • การประเมินและวจิ ารณ์งานทศั นศิลป์ และวจิ ารณ์งานทศั นศลิ ป์ ๕. นาผลการวจิ ารณ์ไปปรับปรุงแกไ้ ข • การพฒั นางานทศั นศิลป์ และพฒั นางาน • การจดั ทาแฟ้มสะสมงานทศั นศิลป์ ๖. วาดภาพแสดงบุคลิกลกั ษณะ • การวาดภาพถ่ายทอดบุคลิกลกั ษณะ ของตวั ละคร ของตวั ละคร ๗. บรรยายวธิ ีการใชง้ านทศั นศิลป์ • งานทศั นศิลป์ ในการโฆษณา ในการโฆษณาเพอื่ โนม้ นา้ วใจ และนาเสนอตวั อยา่ งประกอบ ม.๓ ๑. บรรยายสิ่งแวดลอ้ ม และงานทศั นศลิ ป์ • ทศั นธาตุ หลกั การออกแบบในสิ่งแวดลอ้ ม ทเี่ ลือกมาโดยใชค้ วามรู้เร่ืองทศั นธาตุ และงานทศั นศลิ ป์ และหลกั การออกแบบ ๒. ระบุ และบรรยายเทคนิค วธิ ีการ • เทคนิควธิ ีการของศลิ ปิ นในการสร้างงาน ของศิลปิ นในการสรา้ งงาน ทศั นศลิ ป์ ทศั นศิลป์ • วธิ ีการใชท้ ศั นธาตแุ ละหลกั การออกแบบ ๓. วเิ คราะห์ และบรรยายวธิ ีการใช้ ในการสร้างงานทศั นศิลป์ ทศั นธาตุ และหลกั การออกแบบในการ สร้างงานทศั นศลิ ป์ ของตนเอง • การสร้างงานทศั นศลิ ป์ ท้งั ไทยและสากล ใหม้ ีคุณภาพ ๔. มีทกั ษะในการสร้างงานทศั นศิลป์ อยา่ งนอ้ ย ๓ ประเภท
๔ ช้ัน ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.๓ ๕. มีทกั ษะในการผสมผสานวสั ดุต่าง ๆ • การใชห้ ลกั การออกแบบในการสร้างงาน ในการสร้างงานทศั นศลิ ป์ โดยใช้ สื่อผสม หลกั การออกแบบ ๖. สร้างงานทศั นศิลป์ ท้งั ๒ มิติ และ • การสร้างงานทศั นศิลป์ แบบ ๒ มิติ และ ๓ มิติ ๓ มิติ เพอ่ื ถ่ายทอดประสบการณ์และ เพอ่ื ถ่ายทอดประสบการณ์ และจนิ ตนาการ จินตนาการ ๗. สรา้ งสรรคง์ านทศั นศิลป์ สื่อ • การประยกุ ตใ์ ชท้ ศั นธาตแุ ละหลกั การ ความหมายเป็นเร่ืองราว โดยประยกุ ตใ์ ช้ ออกแบบสร้างงานทศั นศิลป์ ทศั นธาตุ และหลกั การออกแบบ ๘. วเิ คราะหแ์ ละอภิปรายรูปแบบ • การวเิ คราะหร์ ูปแบบ เน้ือหา และคุณคา่ เน้ือหาและคุณคา่ ในงานทศั นศิลป์ ในงานทศั นศลิ ป์ ของตนเอง และผอู้ ื่น หรือของศลิ ปิน ๙. สรา้ งสรรคง์ านทศั นศิลป์ เพอ่ื บรรยาย • การใชเ้ ทคนิค วิธีการท่ีหลากหลาย เหตกุ ารณ์ต่าง ๆ โดยใชเ้ ทคนิค สรา้ งงานทศั นศิลป์ เพอื่ ส่ือความหมาย ทีห่ ลากหลาย ๑๐.ระบอุ าชีพท่เี กี่ยวขอ้ งกบั งาน • การประกอบอาชีพทางทศั นศลิ ป์ ทศั นศิลป์ และทกั ษะทจ่ี าเป็นในการ ประกอบอาชีพน้นั ๆ ๑๑.เลือกงานทศั นศิลป์ โดยใชเ้ กณฑท์ ่ี • การจดั นิทรรศการ กาหนดข้ึนอยา่ งเหมาะสม และนาไป จดั นิทรรศการ ม.๔-๖ ๑. วเิ คราะห์การใชท้ ศั นธาตุ และ • ทศั นธาตแุ ละหลกั การออกแบบ หลกั การออกแบบในการสื่อความหมาย ในรูปแบบตา่ ง ๆ ๒. บรรยายจดุ ประสงคแ์ ละเน้ือหาของ • ศพั ทท์ างทศั นศลิ ป์ งานทศั นศิลป์ โดยใชศ้ พั ทท์ างทศั นศิลป์ ๓. วเิ คราะห์การเลือกใชว้ สั ดุอุปกรณ์ • วสั ดุ อุปกรณ์ และเทคนิคของศลิ ปิ น และเทคนิคของศลิ ปินในการแสดงออก ในการแสดงออกทางทศั นศิลป์ ทางทศั นศลิ ป์
๕ ช้ัน ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.๔-๖ ๔. มีทกั ษะและเทคนิคในการใชว้ สั ดุ • เทคนิค วสั ดุ อุปกรณ์ กระบวนการในการ อุปกรณ์ และกระบวนการทสี่ ูงข้นึ สรา้ งงานทศั นศิลป์ ในการสร้างงานทศั นศลิ ป์ ๕. สรา้ งสรรคง์ านทศั นศิลป์ ดว้ ยเทคโนโลยี • หลกั การออกแบบและการจดั องคป์ ระกอบ ตา่ ง ๆ โดยเนน้ หลกั การออกแบบและ ศลิ ป์ ดว้ ยเทคโนโลยี การจดั องคป์ ระกอบศิลป์ ๖. ออกแบบงานทศั นศลิ ป์ ไดเ้ หมาะกบั • การออกแบบงานทศั นศลิ ป์ โอกาสและสถานที่ ๗. วเิ คราะหแ์ ละอธิบายจดุ มุ่งหมาย • จดุ มุ่งหมายของศิลปิ นในการเลือกใชว้ สั ดุ ของศลิ ปิ นในการเลือกใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ อุปกรณ์ เทคนิคและเน้ือหา ในการสร้างงาน เทคนิคและเน้ือหา เพอ่ื สรา้ งสรรคง์ าน ทศั นศิลป์ ทศั นศลิ ป์ ๘. ประเมินและวจิ ารณ์งานทศั นศิลป์ • ทฤษฎีการวจิ ารณ์ศิลปะ โดยใชท้ ฤษฎีการวจิ ารณ์ศิลปะ ๙. จดั กลุ่มงานทศั นศลิ ป์ เพอื่ สะทอ้ น • การจดั ทาแฟ้มสะสมงานทศั นศิลป์ พฒั นาการและความกา้ วหนา้ ของตนเอง ๑๐.สรา้ งสรรคง์ านทศั นศิลป์ ไทย สากล • การสรา้ งงานทศั นศลิ ป์ จากแนวคิดและ โดยศึกษาจากแนวคดิ และวธิ ีการ วธิ ีการของศิลปิ น สร้างงานของศิลปิ นทต่ี นชื่นชอบ ๑๑.วาดภาพ ระบายสีเป็นภาพลอ้ เลียน • การวาดภาพลอ้ เลียนหรือภาพการ์ตนู หรือภาพการ์ตูนเพอ่ื แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกบั สภาพสงั คมในปัจจุบนั
๖ มาตรฐาน ศ ๑.๒ เขา้ ใจความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งทศั นศิลป์ ประวตั ศิ าสตร์ และวฒั นธรรม เห็นคุณค่า งานทศั นศลิ ป์ ที่เป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภมู ิปัญญาทอ้ งถิ่น ภูมิปัญญาไทย และสากล ช้ัน ตัวชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.๑ ๑. ระบุ และบรรยายเก่ียวกบั ลกั ษณะรูปแบบ • ลกั ษณะ รูปแบบงานทศั นศิลป์ ของชาติ งานทศั นศลิ ป์ ของชาตแิ ละของทอ้ งถิน่ และทอ้ งถ่ิน ตนเองจากอดีตจนถึงปัจจุบนั ๒. ระบุ และเปรียบเทียบงานทศั นศลิ ป์ • งานทศั นศิลป์ ภาคตา่ ง ๆ ในประเทศไทย ของภาคต่าง ๆ ในประเทศไทย ๓. เปรียบเทียบความแตกต่างของ • ความแตกตา่ งของงานทศั นศิลป์ จุดประสงคใ์ นการสรา้ งสรรคง์ าน ในวฒั นธรรมไทยและสากล ทศั นศลิ ป์ ของวฒั นธรรมไทยและสากล ม.๒ ๑. ระบุ และบรรยายเก่ียวกบั วฒั นธรรมต่างๆ • วฒั นธรรมท่สี ะทอ้ นในงานทศั นศลิ ป์ ท่ีสะทอ้ นถึงงานทศั นศลิ ป์ ในปัจจุบนั ปัจจบุ นั ๒. บรรยายถึงการเปล่ียนแปลงของ • งานทศั นศลิ ป์ ของไทยในแตล่ ะยคุ สมยั งานทศั นศลิ ป์ ของไทยในแต่ละยคุ สมยั โดยเนน้ ถึงแนวคดิ และเน้ือหาของงาน ๓. เปรียบเทียบแนวคิดในการออกแบบ • การออกแบบงานทศั นศิลป์ ในวฒั นธรรม งานทศั นศลิ ป์ ทมี่ าจาก วฒั นธรรมไทย ไทยและสากล และสากล ม.๓ ๑. ศึกษาและอภปิ รายเก่ียวกบั งานทศั นศลิ ป์ • งานทศั นศลิ ป์ กบั การสะทอ้ นคุณคา่ ที่สะทอ้ นคุณคา่ ของวฒั นธรรม ของวฒั นธรรม ๒. เปรียบเทียบความแตกตา่ งของ • ความแตกต่างของงานทศั นศลิ ป์ ในแต่ละ งานทศั นศิลป์ ในแตล่ ะยคุ สมยั ยคุ สมยั ของวฒั นธรรมไทยและสากล ของวฒั นธรรมไทยและสากล ม.๔-๖ ๑. วเิ คราะห์ และเปรียบเทียบงานทศั นศลิ ป์ • งานทศั นศลิ ป์ รูปแบบตะวนั ออกและ ในรูปแบบตะวนั ออกและรูปแบบ ตะวนั ตก ตะวนั ตก ๒. ระบุงานทศั นศิลป์ ของศลิ ปิ นทมี่ ีช่ือเสียง • งานทศั นศิลป์ ของศิลปิ นทม่ี ีชื่อเสียง และบรรยายผลตอบรับของสงั คม
๗ ช้ัน ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.๔-๖ ๓. อภปิ รายเก่ียวกบั อิทธิพลของ • อิทธิพลของวฒั นธรรมระหวา่ งประเทศ วฒั นธรรมระหวา่ งประเทศที่มีผลต่อ ท่มี ีผลต่องานทศั นศลิ ป์ งานทศั นศิลป์ ในสงั คม
๘ สาระท่ี ๒ ดนตรี มาตรฐาน ศ ๒.๑ เขา้ ใจและแสดงออกทางดนตรีอยา่ งสร้างสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษว์ จิ ารณ์คุณค่าดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึก ความคดิ ตอ่ ดนตรีอยา่ งอิสระ ช่ืนชม และประยกุ ตใ์ ช้ ในชีวติ ประจาวนั ช้ัน ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.๑ ๑. อ่าน เขยี น ร้องโนต้ ไทย และโนต้ สากล • เครื่องหมายและสญั ลกั ษณ์ทางดนตรี - โนต้ บทเพลงไทย อตั ราจงั หวะสองช้นั - โนต้ สากล ในกญุ แจซอลและฟา ในบนั ไดเสียง C Major ๒. เปรียบเทยี บเสียงรอ้ งและเสียง • เสียงรอ้ งและเสียงของเครื่องดนตรี ของเครื่องดนตรีท่มี าจากวฒั นธรรม ในบทเพลงจากวฒั นธรรมต่าง ๆ ท่ตี า่ งกนั - วธิ ีการขบั รอ้ ง - เครื่องดนตรีทใี่ ช้ ๓. ร้องเพลงและใชเ้ คร่ืองดนตรีบรรเลง • การรอ้ งและการบรรเลงเครื่องดนตรี ประกอบการร้องเพลงดว้ ยบทเพลง ประกอบการร้อง ทีห่ ลากหลายรูปแบบ - บทเพลงพ้นื บา้ น บทเพลงปลุกใจ ๔. จดั ประเภทของวงดนตรีไทยและ - บทเพลงไทยเดิม วงดนตรีท่ีมาจากวฒั นธรรมตา่ ง ๆ - บทเพลงประสานเสียง ๒ แนว - บทเพลงรูปแบบ ABA ๕. แสดงความคดิ เห็นที่มีต่ออารมณ์ของ - บทเพลงประกอบการเตน้ รา บทเพลงท่ีมีความเร็วของจงั หวะ • วงดนตรีพน้ื เมือง และความดงั - เบา แตกต่างกนั • วงดนตรีไทย ๖. เปรียบเทยี บอารมณ์ ความรู้สึกในการ • วงดนตรีสากล ฟังดนตรีแตล่ ะประเภท • การถ่ายทอดอารมณ์ของบทเพลง ๗. นาเสนอตวั อยา่ งเพลงทตี่ นเองช่ืนชอบ - จงั หวะกบั อารมณ์เพลง และอภิปรายลกั ษณะเด่นทท่ี าใหง้ านน้นั - ความดงั -เบากบั อารมณ์เพลง น่าชื่นชม - ความแตกต่างของอารมณ์เพลง • การนาเสนอบทเพลงทต่ี นสนใจ
๙ ช้ัน ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.๑ ๘. ใชเ้ กณฑส์ าหรับประเมินคุณภาพ • การประเมินคุณภาพของบทเพลง งานดนตรีหรือเพลงท่ีฟัง - คุณภาพดา้ นเน้ือหา - คุณภาพดา้ นเสียง - คุณภาพดา้ นองคป์ ระกอบดนตรี ๙. ใชแ้ ละบารุงรักษาเคร่ืองดนตรี • การใชแ้ ละบารุงรกั ษาเคร่ืองดนตรีของตน อยา่ งระมดั ระวงั และรบั ผดิ ชอบ ม.๒ ๑. เปรียบเทียบการใชอ้ งคป์ ระกอบดนตรี • องคป์ ระกอบของดนตรีจากแหล่ง ทม่ี าจากวฒั นธรรมตา่ งกนั วฒั นธรรมต่าง ๆ ๒. อ่าน เขียนรอ้ งโนต้ ไทย และโนต้ สากล • เคร่ืองหมายและสญั ลกั ษณ์ทางดนตรี ทมี่ ีเครื่องหมายแปลงเสียง - โนต้ จากเพลงไทยอตั ราจงั หวะสองช้นั - โนต้ สากล (เครื่องหมายแปลงเสียง) ๓. ระบปุ ัจจยั สาคญั ท่ีมีอิทธิพลตอ่ การ • ปัจจยั ในการสร้างสรรคบ์ ทเพลง สรา้ งสรรคง์ านดนตรี - จนิ ตนาการในการสร้างสรรคบ์ ทเพลง - การถ่ายทอดเร่ืองราวความคดิ ในบทเพลง ๔. ร้องเพลง และเล่นดนตรีเด่ียวและรวมวง • เทคนิคการรอ้ งและบรรเลงดนตรี - การร้องและบรรเลงเดี่ยว - การรอ้ งและบรรเลงเป็นวง ๕. บรรยายอารมณ์ของเพลงและความรูส้ ึก • การบรรยายอารมณ์และความรูส้ ึกในบทเพลง ท่มี ีตอ่ บทเพลงทฟี่ ัง ๖. ประเมิน พฒั นาการทกั ษะทางดนตรี • การประเมินความสามารถทางดนตรี ของตนเอง หลงั จากการฝึกปฏิบตั ิ - ความถูกตอ้ งในการบรรเลง - ความแม่นยาในการอ่านเคร่ืองหมาย และสญั ลกั ษณ์ - การควบคุมคุณภาพเสียงในการรอ้ ง และบรรเลง ๗. ระบงุ านอาชีพต่าง ๆ ที่เกี่ยวขอ้ งกบั • อาชีพทางดา้ นดนตรี ดนตรีและบทบาทของดนตรีในธุรกิจ • บทบาทของดนตรีในธุรกิจบนั เทิง บนั เทิง
๑๐ ช้ัน ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.๓ ๑. เปรียบเทียบองคป์ ระกอบทีใ่ ชใ้ นงาน • การเปรียบเทียบองคป์ ระกอบในงาน ดนตรีและงานศิลปะอื่น ศลิ ปะ ๒. ร้องเพลง เล่นดนตรีเดี่ยว และรวมวง - การใชอ้ งคป์ ระกอบในการ โดยเนน้ เทคนิคการร้อง การเล่น การ สร้างสรรคง์ านดนตรีและศลิ ปะ แสดงออก และคุณภาพสียง แขนงอ่ืน ๓. แต่งเพลงส้นั ๆ จงั หวะงา่ ย ๆ - เทคนิคท่ใี ชใ้ นการสรา้ งสรรคง์ าน ๔. อธิบายเหตผุ ลในการเลือกใช้ ดนตรีและศลิ ปะแขนงอ่ืน องคป์ ระกอบดนตรีในการสร้างสรรค์ งานดนตรีของตนเอง • เทคนิคและการแสดงออกในการขบั ร้อง และบรรเลงดนตรีเด่ียวและรวมวง ๕. เปรียบเทียบความแตกต่างระหวา่ ง งานดนตรีของตนเองและผอู้ ื่น • อตั ราจงั หวะ ๒ และ ๔ ๔ ๔ ๖. อธิบายเกี่ยวกบั อิทธิพลของดนตรี • การประพนั ธเ์ พลงในอตั ราจงั หวะ ๒และ ๔ ท่มี ีตอ่ บคุ คลและสงั คม ๔๔ • การเลือกใชอ้ งคป์ ระกอบในการ สร้างสรรคบ์ ทเพลง - การเลือกจงั หวะเพอื่ สร้างสรรค์ บทเพลง - การเรียบเรียงทานองเพลง • การเปรียบเทยี บความแตกต่างของบทเพลง - สาเนียง - อตั ราจงั หวะ - รูปแบบบทเพลง - การประสานเสียง - เครื่องดนตรีทบ่ี รรเลง • อิทธิพลของดนตรี - อิทธิพลของดนตรีต่อบคุ คล - อิทธิพลของดนตรีตอ่ สงั คม
๑๑ ช้ัน ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.๓ ๗. นาเสนอหรือจดั การแสดงดนตรี • การจดั การแสดงดนตรีในวาระตา่ ง ๆ ที่เหมาะสมโดยการบรู ณาการกบั สาระ การเรียนรู้อื่นในกลุ่มศลิ ปะ - การเลือกวงดนตรี ม.๔-๖ ๑. เปรียบเทียบรูปแบบของบทเพลงและ - การเลือกบทเพลง วงดนตรีแต่ละประเภท - การเลือกและจดั เตรียมสถานท่ี ๒. จาแนกประเภทและรูปแบบของ วงดนตรีท้งั ไทยและสากล - การเตรียมบุคลากร ๓. อธิบายเหตุผลท่คี นต่างวฒั นธรรม สร้างสรรคง์ านดนตรีแตกตา่ งกนั - การเตรียมอุปกรณ์เคร่ืองมือ ๔. อ่าน เขียน โนต้ ดนตรีไทยและสากล - การจดั รายการแสดง ในอตั ราจงั หวะต่าง ๆ • การจดั วงดนตรี - การใชเ้ ครื่องดนตรีในวงดนตรี ประเภทตา่ งๆ - บทเพลงท่ีบรรเลงโดยวงดนตรี ประเภทต่างๆ • ประเภทของวงดนตรี - ประเภทของวงดนตรีไทย - ประเภทของวงดนตรีสากล • ปัจจยั ในการสรา้ งสรรคผ์ ลงานดนตรี ในแต่ละวฒั นธรรม - ความเช่ือกบั การสรา้ งสรรคง์ าน ดนตรี - ศาสนากบั การสร้างสรรคง์ านดนตรี - วถิ ีชีวติ กบั การสร้างสรรคง์ านดนตรี - เทคโนโลยกี บั การสรา้ งสรรคง์ าน ดนตรี • เคร่ืองหมายและสญั ลกั ษณ์ทางดนตรี - เครื่องหมายกาหนดอตั ราจงั หวะ - เคร่ืองหมายกาหนดบนั ไดเสียง • โนต้ บทเพลงไทยอตั ราจงั หวะ ๒ ช้นั และ ๓ ช้นั
๑๒ ช้ัน ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.๔-๖ ๕. รอ้ งเพลง หรือเล่นดนตรีเดี่ยวและ • เทคนิค และ การถ่ายทอดอารมณ์เพลง รวมวงโดยเนน้ เทคนิคการแสดงออก ดว้ ยการรอ้ ง บรรเลงเครื่องดนตรีเด่ียวและ และคุณภาพของการแสดง รวมวง ๖. สร้างเกณฑส์ าหรบั ประเมินคุณภาพ • เกณฑใ์ นการประเมินผลงานดนตรี การประพนั ธแ์ ละการเล่นดนตรี ของตนเองและผอู้ ื่นไดอ้ ยา่ งเหมาะสม - คุณภาพของผลงานทางดนตรี ๗. เปรียบเทยี บอารมณ์ และความรู้สึก - คุณคา่ ของผลงานทางดนตรี ท่ีไดร้ บั จากงานดนตรีทม่ี าจากวฒั นธรรม • การถ่ายทอดอารมณ์ ความรูส้ ึกของงาน ตา่ งกนั ดนตรีจากแต่ละวฒั นธรรม ๘. นาดนตรีไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นงานอื่น ๆ • ดนตรีกบั การผอ่ นคลาย • ดนตรีกบั การพฒั นามนุษย์ • ดนตรีกบั การประชาสมั พนั ธ์ • ดนตรีกบั การบาบดั รกั ษา • ดนตรีกบั ธุรกิจ • ดนตรีกบั การศึกษา
๑๓ มาตรฐาน ศ ๒.๒ เขา้ ใจความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งดนตรี ประวตั ศิ าสตร์ และวฒั นธรรม เห็นคุณคา่ ของดนตรีทเี่ ป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น ภมู ิปัญญาไทยและสากล ช้ัน ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.๑ ๑. อธิบายบทบาทความสมั พนั ธแ์ ละ • บทบาทและอิทธิพลของดนตรี อิทธิพลของดนตรีที่มีตอ่ สงั คมไทย - บทบาทดนตรีในสงั คม - อิทธิพลของดนตรีในสงั คม ๒. ระบคุ วามหลากหลายขององคป์ ระกอบ • องคป์ ระกอบของดนตรีในแต่ละ ดนตรีในวฒั นธรรมต่างกนั วฒั นธรรม ม.๒ ๑. บรรยายบทบาท และอิทธิพลของดนตรี • ดนตรีในวฒั นธรรมตา่ งประเทศ ในวฒั นธรรมของประเทศตา่ ง ๆ - บทบาทของดนตรีในวฒั นธรรม - อิทธิพลของดนตรีในวฒั นธรรม ๒. บรรยายอิทธิพลของวฒั นธรรม • เหตุการณ์ประวตั ศิ าสตร์กบั การเปล่ียนแปลง และเหตกุ ารณ์ในประวตั ิศาสตร์ทีม่ ีตอ่ ทางดนตรีในประเทศไทย รูปแบบของดนตรีในประเทศไทย - การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองกบั ม.๓ ๑. บรรยายววิ ฒั นาการของดนตรีแตล่ ะ งานดนตรี ยคุ สมยั - การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยกี บั งานดนตรี • ประวตั ดิ นตรีไทยยคุ สมยั ตา่ ง ๆ • ประวตั ิดนตรีตะวนั ตกยคุ สมยั ตา่ ง ๆ ๒. อภปิ รายลกั ษณะเด่นทท่ี าใหง้ านดนตรี • ปัจจยั ท่ีทาใหง้ านดนตรีไดร้ ับการยอมรบั น้นั ไดร้ บั การยอมรับ ช้ัน ตัวชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.๔-๖ ๑. วเิ คราะหร์ ูปแบบของดนตรีไทยและ • รูปแบบบทเพลงและวงดนตรีไทยแต่ละ ยคุ สมยั ดนตรีสากลในยคุ สมยั ตา่ ง ๆ • รูปแบบบทเพลงและวงดนตรีสากลแต่ละ ยคุ สมยั ๒. วเิ คราะห์สถานะทางสงั คมของ • ประวตั ิสงั คตี กวี นกั ดนตรีในวฒั นธรรมต่าง ๆ ๓. เปรียบเทยี บลกั ษณะเด่นของดนตรี • ลกั ษณะเด่นของดนตรีในแตล่ ะวฒั นธรรม
๑๔ ในวฒั นธรรมตา่ งๆ - เคร่ืองดนตรี - วงดนตรี ๔. อธิบายบทบาทของดนตรีในการ - ภาษา เน้ือรอ้ ง สะทอ้ นแนวความคดิ และค่านิยม - สาเนียง ทเ่ี ปลี่ยนไปของคนในสงั คม - องคป์ ระกอบบทเพลง ๕. นาเสนอแนวทางในการส่งเสริมและ • บทบาทดนตรีในการสะทอ้ นสงั คม อนุรักษด์ นตรีในฐานะมรดกของชาติ - ค่านิยมของสงั คมในผลงานดนตรี - ความเช่ือของสงั คมในงานดนตรี • แนวทางและวธิ ีการในการส่งเสริม อนุรักษด์ นตรีไทย
๑๕ สาระที่ ๓ นาฏศิลป์ เขา้ ใจ และแสดงออกทางนาฏศิลป์ อยา่ งสรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษว์ จิ ารณ์ มาตรฐาน ศ ๓.๑ คุณค่านาฏศลิ ป์ ถ่ายทอดความรูส้ ึก ความคดิ อยา่ งอิสระ ช่ืนชม และประยกุ ตใ์ ช้ ในชีวติ ประจาวนั ช้ัน ตัวชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.๑ ๑. อธิบายอิทธิพลของนกั แสดงชื่อดงั • การปฏิบตั ิของผแู้ สดงและผชู้ ม ที่มีผลตอ่ การโนม้ นา้ วอารมณ์หรือ • ประวตั นิ กั แสดงท่ีช่ืนชอบ ความคิดของผชู้ ม • การพฒั นารูปแบบของการแสดง • อิทธิพลของนกั แสดงท่มี ีผลตอ่ พฤติกรรม ของผชู้ ม ๒. ใชน้ าฏยศพั ทห์ รือศพั ทท์ างการละคร • นาฏยศพั ทห์ รือศพั ทท์ างการละคร ในการแสดง ในการแสดง • ภาษาท่า และการตบี ท • ทา่ ทางเคลื่อนไหวท่ีแสดงส่ือทางอารมณ์ • ระบาเบด็ เตลด็ • ราวงมาตรฐาน ๓. แสดงนาฏศลิ ป์ และละครในรูปแบบง่ายๆ • รูปแบบการแสดงนาฏศลิ ป์ - นาฏศลิ ป์ - นาฏศลิ ป์ พ้นื บา้ น - นาฏศิลป์ นานาชาติ ๔. ใชท้ กั ษะการทางานเป็นกลุ่ม • บทบาทและหนา้ ทีข่ องฝ่ ายตา่ ง ๆ ในการ ในกระบวนการผลิตการแสดง จดั การแสดง • การสร้างสรรคก์ ิจกรรมการแสดงทสี่ นใจ โดยแบ่งฝ่ ายและหนา้ ท่ใี หช้ ดั เจน
๑๖ ช้ัน ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.๑ ๕. ใชเ้ กณฑง์ า่ ย ๆ ทก่ี าหนดใหใ้ นการ • หลกั ในการชมการแสดง พจิ ารณาคุณภาพการแสดงทช่ี ม โดยเนน้ เรื่องการใชเ้ สียงการแสดงท่า และการเคล่ือนไหว ม.๒ ๑. อธิบายการบรู ณาการศิลปะแขนงอ่นื ๆ • ศิลปะแขนงอ่ืน ๆ กบั การแสดง กบั การแสดง - แสง สี เสียง - ฉาก - เคร่ืองแตง่ กาย - อุปกรณ์ ๒. สร้างสรรคก์ ารแสดงโดยใช้ • หลกั และวธิ ีการสร้างสรรคก์ ารแสดง องคป์ ระกอบนาฏศลิ ป์ และการละคร โดยใชอ้ งคป์ ระกอบนาฏศิลป์ และการละคร ๓. วเิ คราะห์การแสดงของตนเองและผอู้ ่ืน • หลกั และวธิ ีการวเิ คราะห์การแสดง โดยใชน้ าฏยศพั ทห์ รือศพั ทท์ างการละคร ทเี่ หมาะสม ๔. เสนอขอ้ คิดเห็นในการปรับปรุง • วธิ ีการวเิ คราะห์ วจิ ารณ์การแสดง การแสดง นาฏศิลป์ และการละคร • ราวงมาตรฐาน ๕. เชื่อมโยงการเรียนรู้ระหวา่ งนาฏศิลป์ และการละครกบั สาระการเรียนรู้อ่ืน ๆ • ความสมั พนั ธข์ องนาฏศลิ ป์ หรือ การละครกบั สาระการเรียนรู้อื่น ๆ ม.๓ ๑. ระบโุ ครงสรา้ งของบทละครโดยใช้ • องคป์ ระกอบของบทละคร ศพั ทท์ างการละคร - โครงเร่ือง - ตวั ละครและการวางลกั ษณะนิสยั ของตวั ละคร - ความคิดหรือแก่นของเร่ือง - บทสนทนา
๑๗ ช้ัน ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.๓ ๒. ใชน้ าฏยศพั ทห์ รือศพั ทท์ างการละคร • ภาษาทา่ หรือภาษาทางนาฏศลิ ป์ ท่ีเหมาะสมบรรยายเปรียบเทียบการแสดง - ภาษาท่าที่มาจากธรรมชาติ อากปั กิริยาของผคู้ นในชีวติ ประจาวนั และ - ภาษาทา่ ทม่ี าจากการประดิษฐ์ ในการแสดง - ราวงมาตรฐาน ๓. มีทกั ษะในการใชค้ วามคิดในการ • รูปแบบการแสดง พฒั นารูปแบบการแสดง - การแสดงเป็ นหมู่ - การแสดงเด่ียว - การแสดงละคร - การแสดงเป็นชุดเป็นตอน ๔. มีทกั ษะในการแปลความและ • การประดิษฐท์ า่ ราและท่าทางประกอบ การสื่อสารผา่ นการแสดง การแสดง - ความหมาย - ความเป็นมา - ท่าทางท่ใี ชใ้ นการประดิษฐท์ ่ารา ๕. วจิ ารณ์เปรียบเทียบงานนาฏศลิ ป์ • องคป์ ระกอบนาฏศลิ ป์ ทมี่ ีความแตกต่างกนั โดยใชค้ วามรู้ - จงั หวะทานอง เร่ืององคป์ ระกอบนาฏศลิ ป์ - การเคล่ือนไหว - อารมณ์และความรู้สึก - ภาษาทา่ นาฎยศพั ท์ - รูปแบบของการแสดง - การแต่งกาย ๖. ร่วมจดั งานการแสดงในบทบาทหนา้ ที่ • วธิ ีการเลือกการแสดง ต่าง ๆ - ประเภทของงาน - ข้นั ตอน - ประโยชนแ์ ละคุณคา่ ของการแสดง ๗. นาเสนอแนวคิดจากเน้ือเรื่อง • ละครกบั ชีวติ ของการแสดงท่ีสามารถนาไปปรับใช้ ในชีวิตประจาวนั
๑๘ ช้ัน ตัวชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.๔-๖ ๑. มีทกั ษะในการแสดงหลากหลาย • รูปแบบของการแสดง รูปแบบ - ระบา รา ฟ้อน - การแสดงพน้ื เมืองภาคตา่ ง ๆ ๒. สร้างสรรคล์ ะครส้นั ในรูปแบบ - การละครไทย ท่ีช่ืนชอบ - การละครสากล ๓. ใชค้ วามคิดริเริ่มในการแสดงนาฏศลิ ป์ • ละครสร้างสรรค์ เป็ นคู่ และหมู่ - ความเป็นมา - องคป์ ระกอบของละครสร้างสรรค์ ๔. วจิ ารณ์การแสดงตามหลกั นาฏศิลป์ - ละครพดู และการละคร o ละครโศกนาฏกรรม ๕. วเิ คราะหแ์ ก่นของการแสดงนาฏศลิ ป์ o ละครสุขนาฏกรรม และการละครที่ตอ้ งการส่ือความหมาย o ละครแนวเหมือนจริง ในการแสดง o ละครแนวไม่เหมือนจริง ๖. บรรยาย และวเิ คราะห์ อิทธิพลของ เครื่องแตง่ กาย แสง สี เสียง ฉากอุปกรณ์ • การประดิษฐท์ ่าราท่เี ป็ นคูแ่ ละหมู่ และสถานท่ีทมี่ ีผลต่อการแสดง - ความหมาย - ประวตั ิความเป็นมา - ท่าทางท่ใี ชใ้ นการประดิษฐท์ า่ รา - เพลงทใี่ ช้ • หลกั การสร้างสรรคแ์ ละการวจิ ารณ์ • หลกั การชมการแสดงนาฏศิลป์ และละคร • ประวตั คิ วามเป็นมาของนาฏศลิ ป์ และการละคร - ววิ ฒั นาการ - ความงามและคุณคา่ • เทคนิคการจดั การแสดง - แสงสีเสียง - ฉาก - อุปกรณ์ - สถานที่ - เครื่องแต่งกาย
๑๙ ช้ัน ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.๔-๖ ๗. พฒั นาและใชเ้ กณฑก์ ารประเมินในการ • การประเมินคุณภาพของการแสดง ประเมินการแสดง - คุณภาพดา้ นการแสดง - คุณภาพองคป์ ระกอบการแสดง ๘. วเิ คราะห์ทา่ ทาง และการเคล่ือนไหว • การสรา้ งสรรคผ์ ลงาน ของผคู้ นในชีวิตประจาวนั และนามา - การจดั การแสดงในวนั สาคญั ประยกุ ตใ์ ชใ้ นการแสดง ของโรงเรียน - ชุดการแสดงประจาโรงเรียน
๒๐ มาตรฐาน ศ ๓.๒ เขา้ ใจความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งนาฏศิลป์ ประวตั ศิ าสตร์และวฒั นธรรม เห็นคุณคา่ ของนาฏศลิ ป์ ท่เี ป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภมู ิปัญญาทอ้ งถิ่น ภมู ิปัญญาไทยและสากล ช้ัน ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.๑ ๑. ระบุปัจจยั ท่มี ีผลต่อการเปล่ียนแปลง • ปัจจยั ทมี่ ีผลตอ่ การเปล่ียนแปลง ของนาฏศิลป์ นาฏศลิ ป์ พ้นื บา้ น ละครไทย ของนาฏศิลป์ นาฏศิลป์ พน้ื บา้ น ละครไทย และละครพ้นื บา้ น และละครพ้นื บา้ น ๒. บรรยายประเภทของละครไทย • ประเภทของละครไทยในแต่ละยคุ สมยั ในแต่ละยคุ สมยั ม.๒ ๑. เปรียบเทยี บลกั ษณะเฉพาะของ • นาฏศลิ ป์ พน้ื เมือง การแสดงนาฏศลิ ป์ จากวฒั นธรรมตา่ งๆ - ความหมาย - ท่มี า - วฒั นธรรม - ลกั ษณะเฉพาะ ๒. ระบหุ รือแสดงนาฏศิลป์ นาฏศิลป์ • รูปแบบการแสดงประเภทต่าง ๆ - นาฏศิลป์ พน้ื บา้ น ละครไทย ละครพน้ื บา้ น - นาฏศิลป์ พน้ื เมือง หรือมหรสพอื่นทเี่ คยนิยมกนั ในอดีต - ละครไทย - ละครพน้ื บา้ น ม.๒ ๓. อธิบายอิทธิพลของวฒั นธรรมท่มี ีผล • การละครสมยั ต่าง ๆ ตอ่ เน้ือหาของละคร ม.๓ ๑. ออกแบบ และสรา้ งสรรคอ์ ุปกรณ์ • การออกแบบและสรา้ งสรรคอ์ ุปกรณ์และ และเคร่ืองแตง่ กาย เพอ่ื แสดงนาฏศลิ ป์ และ เคร่ืองแตง่ กายเพอ่ื การแสดงนาฏศิลป์ ละครทมี่ าจากวฒั นธรรมตา่ ง ๆ ๒. อธิบายความสาคญั และบทบาทของ • ความสาคญั และบทบาทของนาฏศลิ ป์ นาฏศิลป์ และการละครในชีวติ ประจาวนั และการละครในชีวติ ประจาวนั ๓. แสดงความคิดเห็นในการอนุรักษ์ • การอนุรกั ษน์ าฏศิลป์ ม.๔-๖ ๑. เปรียบเทียบการนาการแสดงไปใชใ้ น • การแสดงนาฏศลิ ป์ ในโอกาสตา่ งๆ โอกาสต่าง ๆ
๒๑ ๒. อภปิ รายบทบาทของบคุ คลสาคญั • บคุ คลสาคญั ในวงการนาฏศลิ ป์ และ ในวงการนาฏศลิ ป์ และการละคร การละครของไทยในยคุ สมยั ตา่ ง ๆ ของประเทศไทยในยคุ สมยั ตา่ งๆ ๓. บรรยายววิ ฒั นาการของนาฏศิลป์ และ • ววิ ฒั นาการของนาฏศิลป์ และการละคร การละครไทย ต้งั แต่อดีตจนถึงปัจจบุ นั ไทยต้งั แต่อดีตจนถึงปัจจบุ นั • การอนุรกั ษน์ าฏศิลป์ ภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น ๔. นาเสนอแนวคิดในการอนุรักษ์ นาฏศลิ ป์ ไทย
โครงสรา้ งรายวชิ าศลิ ปะ ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1 – 6 รายวิชาพื้นฐาน รหสั วชิ า ภาคเรียนที่ 1 คาบ/สป. นก. ศ21101 รายวชิ า 2 1.0 ระดับชัน้ ศ22101 ศิลปะ 1 2 1.0 ม.1/1 – ม.1/8 ศ23101 ศลิ ปะ 3 2 1.0 ม.2/1 – ม.2/8 ศ31101 ศิลปะ 5 1 0.5 ม.3/1 – ม.3/8 ศ32101 ศลิ ปะ 1 1 0.5 ม.4/1 – ม.4/8 ศ33101 ศิลปะ 3 1 0.5 ม.5/1 – ม.5/8 ศิลปะ 5 ม.6/1 – ม.6/8 ระดับชั้น รหัสวชิ า ภาคเรยี นท่ี 2 คาบ/สป. นก. ม.1/1 – ม.1/8 ศ21101 รายวิชา 2 1.0 ม.2/1 – ม.2/8 ศ22101 ศิลปะ 1 2 1.0 ม.3/1 – ม.3/8 ศ23101 ศลิ ปะ 3 2 1.0 ม.4/1 – ม.4/8 ศ31101 ศิลปะ 5 1 0.5 ม.5/1 – ม.5/8 ศ32101 ศลิ ปะ 1 1 0.5 ม.6/1 – ม.6/8 ศ33101 ศิลปะ 3 1 0.5 ศลิ ปะ 5
โครงสรา้ งรายวิชาศลิ ปะ ระดับช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 – 3 รายวชิ าเพ่ิมเตมิ รหัสวชิ า ภาคเรยี นท่ี 1 คาบ/สป. นก. ระดบั ชั้น ศ21201 รายวิชา 2 1.0 ศ21202 ออกแบบ 1 2 1.0 ม.1/4 – ม.1/8 ศ21203 2 1.0 ศ21204 ดนตรไี ทยปฏิบตั ิ 1 2 1.0 ม.2/4 – ม.2/8 ศ22201 ขบั รอ้ ง 1 2 1.0 ศ22202 2 1.0 ม.3/4 – ม.3/8 ศ22203 นาฏศลิ ปไ์ ทยปฏบิ ัติ 1 2 1.0 ระดบั ช้ัน ศ22204 วาดเสน้ 1 2 1.0 ศ23201 2 1.0 ม.1/4 – ม.1/8 ศ23202 ปี่พาทย์มอญ 1 2 1.0 ศ23203 ปฏิบัติเคร่ืองลม 1 2 1.0 ม.2/4 – ม.2/8 ศ23204 นาฏศิลปไ์ ทยมาตรฐาน 1 2 1.0 ม.3/4 – ม.3/8 รหสั วชิ า ศิลปะไทย 1 คาบ/สป. นก. ศ21205 ป่พี าทยแ์ ละเครอ่ื งสาย 1 2 1.0 ศ21206 2 1.0 ศ21207 ดนตรสี ากลปฏิบตั ิ1 2 1.0 ศ21208 นาฏศลิ ปพ์ ื้นเมอื ง 1 2 1.0 ศ22205 ภาคเรยี นท่ี 2 2 1.0 ศ22206 2 1.0 ศ22207 รายวิชา 2 1.0 ศ22208 ออกแบบ 2 2 1.0 ศ23205 ดนตรีไทยปฏบิ ตั ิ 2 2 1.0 ศ23206 ขบั รอ้ ง 2 2 1.0 ศ23207 นาฏศิลป์ไทยปฏิบัติ 2 2 1.0 ศ23208 วาดเส้น 2 2 1.0 ปี่พาทย์มอญ 2 ปฏิบัตเิ ครือ่ งลม 2 นาฏศลิ ป์ไทยมาตรฐาน 2 ศิลปะไทย 2 ปพ่ี าทยแ์ ละเครื่องสาย 2 ดนตรสี ากลปฏิบัติ 2 นาฏศลิ ปพ์ ื้นเมอื ง 2
รายวชิ าสาระเพ่ิมเตมิ กลมุ่ สาระเรียนรู้ศลิ ปะ ปีการศึกษา 2564 - 2566 ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรียนท่ี 1 ช่อื วิชา รหัสวชิ า (ใหน้ บั ต่อจากรหสั วชิ าเพิ่มเตมิ ทีม่ ีอย)ู่ ออกแบบ 1 ดนตรีไทยปฏิบตั ิ 1 ศ21201 ศ21202 ขับร้อง 1 ศ21203 นาฏศลิ ปไ์ ทยปฏิบัติ 1 ศ21204 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 2 ชอ่ื วชิ า รหสั วชิ า (ให้นบั ตอ่ จากรหัสวิชาเพิม่ เติมที่มีอย่)ู ออกแบบ 2 ดนตรีไทยปฏบิ ัติ 2 ศ21205 ศ21206 ขบั รอ้ ง 2 ศ21207 นาฏศลิ ป์ไทยปฏบิ ัติ 2 ศ21208 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นที่ 1 ชอ่ื วชิ า รหสั วชิ า (ใหน้ บั ต่อจากรหัสวิชาเพ่ิมเติมทีม่ ีอย่)ู วาดเส้น 1 ป่ีพาทยม์ อญ 1 ศ22201 ปฏิบตั เิ ครอ่ื งลม 1 ศ22202 นาฏศลิ ปไ์ ทยมาตรฐาน 1 ศ22203 ศ22204
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นท่ี 2 ช่อื วิชา รหัสวิชา (ให้นบั ตอ่ จากรหัสวชิ าเพิ่มเติมทมี่ ีอยู่) วาดเส้น 2 ปพี่ าทย์มอญ 2 ศ22205 ปฏบิ ัตเิ ครื่องลม 2 ศ22206 นาฏศลิ ป์ไทยมาตรฐาน 2 ศ22207 ศ22208 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 รหสั วิชา (ให้นบั ตอ่ จากรหัสวิชาเพม่ิ เติมที่มอี ย)ู่ ชื่อวชิ า ศ23201 ศิลปะไทย 1 ศ23202 ปพี่ าทยแ์ ละเคร่ืองสาย 1 ศ23203 ศ23204 ดนตรีสากลปฏิบัติ1 นาฏศลิ ป์พืน้ เมือง 1 รหสั วชิ า (ให้นบั ตอ่ จากรหัสวิชาเพิ่มเตมิ ทม่ี ีอยู่) ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ศ23205 ศ23206 ช่ือวิชา ศ23207 ศ23208 ศิลปะไทย 2 ปพ่ี าทยแ์ ละเคร่ืองสาย 2 ดนตรสี ากลปฏิบัติ 2 นาฏศลิ ป์พ้ืนเมอื ง 2
คำอธิบำยรำยวชิ ำ ระดับชน้ั มัธยมศึกษำตอนตน้
คำอธบิ ำยรำยวิชำพนื้ ฐำน ศ21101 ศลิ ปะ 1 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ศิลปะ ชนั้ มัธยมศึกษำปที ี่ 1 ภำคเรยี นท่ี 1 เวลำ 40 ช่ัวโมง จำนวน 1 หน่วยกติ .............................................................................................................................................................................. ศึกษา ความแตกต่างและความคล้ายคลึงกันของงานทัศนศิลป์และสิ่งแวดล้อม ระบุและบรรยาย หลักการออกแบบงานทัศนศิลป์ โดยเน้นความเป็นเอกภาพ ความกลมกลืนและความสมดุล วาดภาพ ทศั นียภาพแสดงให้เหน็ ระยะไกลใกล้ เป็น 3 มิติ รวบรวมงานปนั้ หรอื ส่ือผสมมาสรา้ งเปน็ เร่อื งราว 3 มติ ิ โดย เน้นความเป็นเอกภาพ ความกลมกลืนและการส่ือถงึ เรื่องราวของงาน ศึกษาเคร่ืองหมายและสัญลักษณ์ทาง ดนตรี เปรียบเทียบเสียงร้องและเสียงของเคร่ืองดนตรีในบทเพลงจากวัฒนธรรมต่างๆ ใช้และบารุงรักษา เครื่องดนตรี จัดประเภทของวงดนตรีไทยและวงดนตรีที่มาจากวัฒนธรรมต่างๆ แสดงความคิดเห็นที่มีต่อ อารมณ์ของบทเพลงที่มคี วามเรว็ ของจังหวะและความดงั -เบาแตกตา่ งกนั เปรยี บเทียบอารมณ์ ความรู้สกึ ใน การฟังดนตรีแต่ละประเภท นาเสนอตัวอย่างเพลงที่ตนเองชน่ื ชอบ ใช้เกณฑ์สาหรับประเมนิ คุณภาพของงาน ดนตรีหรือเพลงที่ฟัง อธิบายบทบาทความสัมพันธ์และอิทธิพลของดนตรีที่มีต่อสังคมไทยระบุความ หลากหลายขององค์ประกอบดนตรีในวัฒนธรรมต่างกัน อ่าน เขียน ร้องโน้ต ร้องเพลงและใช้เคร่ืองดนตรี บรรเลงประกอบการร้องเพลงดว้ ยบทเพลงทีห่ ลากหลายรูปแบบ ใช้และบารุงรกั ษาเครื่องดนตรี ศกึ ษาประวัติ นักแสดงที่ชื่นชอบ เข้าใจการพัฒนารูปแบบของการแสดง และอิทธิพลของนักแสดงท่ีมีผลต่อพฤติกรรมของ ผู้ชม ฝึกทักษะการแสดงนาฏศิลป์ และละครในรูปแบบง่ายๆโดยใช้ภาษาท่าและนาฏยศัพท์ประกอบท่าทาง เคล่ือนไหวที่แสดงการสื่ออารมณ์ รู้และเข้าใจบทบาทและหน้าท่ีของฝ่ายต่างๆ ในการจัดการแสดง สามารถ กาหนดเกณฑ์ในการพิจารณาคุณค่าของการแสดง สามารถอธิบายปัจจัยการเปลี่ยนแปลงของนาฏศิลป์ไทย นาฏศิลปพ์ น้ื บา้ น ละครไทย ละครพ้นื บ้านในแต่ละยุคสมัย ใช้กระบวนการทางทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์ เรียนรู้พร้อมกับการฝึกปฏิบัติ การสืบเสาะ แสวงหาความรู้ การอภิปราย เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มคี วามสามารถในการตดั สินใจ มีความรกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซ่อื สัตยส์ จุ รติ มีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ อยอู่ ย่างพอเพยี ง ม่งุ มั่นในการทางาน รกั ความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ และนาแนวพระราชดารหิ รือหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งมาใช้ในการดาเนนิ ชีวิตประจาวัน รหสั ตวั ชวี้ ดั ศ 1.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ศ 2.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม1/6 ม.1/7 ม.1/8 ม.1/9 ศ 2.2 ม.1/1 ม.1/2 ศ 3.1 ม.1/1 ม.1/3 ม.1/4 ศ 3.2 ม.1/2 รวมท้งั หมด 19 ตัวชวี้ ัด
คำอธิบำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน ศ21102 ศลิ ปะ 2 กล่มุ สำระกำรเรยี นรศู้ ลิ ปะ ชัน้ มธั ยมศึกษำปีที่ 1 ภำคเรียนท่ี 2 เวลำ 40 ชวั่ โมง จำนวน 1 หน่วยกิต ............................................................................................................................. ....................................... ศึกษา การประเมินงานทัศนศิลป์ ออกแบบรูปภาพ สัญลักษณ์หรือกราฟฟิกอ่ืน ๆ ในการนาเสนอ ความคิดและข้อมูล ระบุและบรรยายเกี่ยวกับลักษณะรูปแบบงานทัศนศิลป์ของชาติและของท้องถ่ินตนเอง จากอดีตจนถงึ ปจั จุบนั ระบุและเปรียบเทียบงานทัศนศิลป์ของภาคต่าง ๆ ในประเทศไทย เปรยี บเทยี บความ แตกตา่ งของจดุ ประสงค์ในการสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ของวฒั นธรรมไทยและสากล ศกึ ษาเครือ่ งหมายและ สัญลักษณ์ทางดนตรี เปรยี บเทียบเสยี งรอ้ งและเสียงของเคร่อื งดนตรีในบทเพลงจากวฒั นธรรมตา่ ง ๆ ใช้และ บารุงรักษาเครื่องดนตรี จัดประเภทของวงดนตรีไทยและวงดนตรีที่มาจากวัฒนธรรมต่าง ๆ แสดงความ คดิ เห็นทีม่ ีต่ออารมณข์ องบทเพลงทีม่ ีความเรว็ ของจังหวะและความดงั -เบาแตกต่างกัน เปรียบเทยี บอารมณ์ ความรู้สึก ในการฟังดนตรีแต่ละประเภท นาเสนอตัวอย่างเพลงที่ตนเองชื่นชอบ ใช้เกณฑ์สาหรับประเมิน คุณภาพของงานดนตรีหรือเพลงท่ีฟัง อธิบายบทบาทความสัมพันธ์และอิทธิพลของดนตรีที่มีต่อสังคมไทย ระบคุ วามหลากหลายขององค์ประกอบดนตรีในวัฒนธรรมต่างกัน อ่าน เขียน รอ้ งโนต้ รอ้ งเพลง และ ใช้ เคร่ืองดนตรีบรรเลงประกอบการร้องเพลงด้วยบทเพลงท่ีหลากหลายรูปแบบ มีทักษะการทางานเป็นกลุ่ม รู้ และเข้าใจบทบาทและหน้าท่ีของฝ่ายต่าง ๆ ในการจดั การแสดง สามารถกาหนดเกณฑ์ในการพิจารณาคุณค่า ของการแสดง สามารถอธิบายปัจจัยการเปล่ียนแปลงของนาฏศิลป์ไทย นาฏศิลป์พื้นบ้าน ละครไทย ละครพนื้ บา้ นในแต่ละยคุ สมยั ใช้กระบวนการทางทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์ เรียนรู้พร้อมกับการฝึกปฏิบัติ การสืบเสาะ แสวงหาความรู้ การอภิปราย เพ่ือให้เกิดการเรียนรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตดั สนิ ใจ มคี วามรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซือ่ สตั ยส์ จุ รติ มีวนิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพียง มงุ่ ม่นั ในการทางาน รกั ความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ และนาแนวพระราชดาริหรือหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดาเนิน ชีวติ ประจาวนั รหสั ตัวชว้ี ัด ศ 1.1 ม.1/5 ม.1/6 ศ 1.2 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ศ 2.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6 ม.1/7 ม.1/8 ม.1/9 ศ 2.2 ม.1/1 ม.1/2 ศ 3.1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ศ 3.2 ม.1/1 รวมทัง้ หมด 21 ตวั ชวี้ ัด
คำอธิบำยรำยวิชำเพิม่ เตมิ ศ๒๑๒๐๔ ออกแบบ ๑ กลุม่ สำระกำรเรียนรูศ้ ลิ ปะ ชั้นมัธยมศึกษำปที ี่ ๑ ภำคเรยี นที่ ๑ เวลำ ๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๑ หน่วยกิต ................................................................................................................................................................... ศึกษาความรู้ท่ัวไปเก่ยี วกับการออกแบบ ฝกึ ปฏบิ ัติออกแบบวัสดุ เครอื่ งใช้ ผังบริเวณ สวนหยอ่ มและ ห้องต่าง ๆ เพือ่ ใหม้ ีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะเบ้ืองตน้ ในการออกแบบได้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและ ประโยชน์ใช้สอย ผลกำรเรียนรู้ ๑. เข้าใจเกย่ี วกบั การออกแบบผลิตภัณฑ์ตา่ ง ๆ ๒. เข้าใจการเลือกใชว้ ัสดุอุปกรณ์ ๓. ฝกึ ทักษะในการออกแบบผลติ ภณั ฑ์ให้ประณตี สวยงาม ๔. ฝกึ ปฏิบตั ิการออกแบบและประดิษฐ์งานศลิ ปะจากวสั ดุ ๕. นาความร้ทู างศลิ ปะการออกแบบไปประยกุ ตใ์ ช้
คำอธิบำยรำยวิชำเพ่มิ เติม ศ๒๑๒๐๒ ดนตรีไทยปฏบิ ัติ ๑ กลุ่มสำระกำรเรียนรศู้ ิลปะ ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี ๑ ภำคเรียนที่ ๑ เวลำ ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑ หนว่ ยกิต ............................................................................................................................. ...................................... ศกึ ษาทฤษฎีการดนตรี หลกั การฝึกหดั เครอื่ งดนตรีไทยเบอื้ งต้น ศพั ทส์ ังคีต อา่ นและเขยี นโนต้ เพลง ไทย การดูแลรักษาเครือ่ งดนตรี ฝกึ ปฏิบตั เิ ครือ่ งดนตรีไทยท่ถี นดั เพอ่ื ให้มคี วามเขา้ ใจ เห็นคณุ ค่าและ สามารถบรรเลงดนตรไี ทยท่ีถนดั ทั้งเดย่ี วและกลุ่มได้ ผลกำรเรียนรู้ ๑. เข้าใจทฤษฎีการดนตรี ๒. เข้าใจหลกั การฝึกหัดเคร่อื งดนตรไี ทยเบื้องตน้ ๓. เขา้ ใจหลักการดูแลและรักษาเครอ่ื งดนตรี ๔. บรรเลงเครอื่ งดนตรไี ทยท่ีถนดั ๕. ปฏบิ ัติตามศพั ท์สังคีต ๖. อา่ นและเขียนโน้ตเพลงไทย ๗. เห็นคุณค่า และบรรเลงดนตรไี ทยท่ีถนัดทั้งเดยี่ วและกลุ่มได้
คำอธิบำยรำยวชิ ำเพม่ิ เติม ศ๒๑๒๐๓ ขบั รอ้ ง กลุม่ สำระกำรเรยี นรูศ้ ิลปะ ชัน้ มธั ยมศึกษำปีท่ี ๑ ภำคเรียนท่ี ๑ เวลำ ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑ หนว่ ยกิต ................................................................................................................................................................... ศกึ ษาทฤษฎีดนตรสี ากล อ่านโนต้ และเขียนโน้ตผ่านบรรทัดหา้ สันได้ถกู ต้อง รับรู้โสตประสาทการฟัง ฝึกไล่บนั ไดเสียงใหต้ รงตามบันไดเสยี ง แยกประเภทของการขบั รอ้ งได้ เข้าใจการร้องเพลงและมีบุคลิกภาพท่ี ถกู ต้อง อกี ทง้ั สามารถร้องเพลงบงั คบั และเพลงตามความถนดั ได้อยา่ งดี โดยร้องเด่ยี วและรอ้ งกลุ่ม ผลกำรเรียนรู้ ๑. เขา้ ใจทฤษฎีการดนตรี ๒. อ่านและเขยี นโนต้ ดนตรีสากล ๓. ไลบ่ ันไดเสียงไดอ้ ยา่ งนอ้ ย 4 บันไดเ้ สียง ๔. ร้องเพลงบงั คับและตามความถนดั อย่างน้อย ๑ เพลง ๕. ระดบั เสยี งของการขับรอ้ งเพลง ๖. ขับร้องเดย่ี วและขบั รอ้ งกลุ่มได้
คำอธบิ ำยรำยวิชำเพมิ่ เติม ศ๒๑๒๐๔ นำฏศลิ ปไ์ ทยปฏบิ ัติ ๑ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ศิลปะ ชั้นมัธยมศกึ ษำปีที่ ๑ ภำคเรียนท่ี ๑ เวลำ ๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๑ หน่วยกิต ............................................................................................................................. ...................................... ศึกษาประวัติความเป็นมาของนาฏศิลป์ไทย และบทเพลงไทยท่ีใช้ในการแสดง ประโยชน์ในการ เรียนวิชานาฏศิลป์ ฝึกปฏิบัติตามจังหวะเพลงด้วยความสนุกสนาน ฝึกปฏิบัติท่าราท่ีเป็นมาตรฐาน และแบบ พน้ื เมอื งเพอื่ สบื ทอดและเผยแพร่นาฏศิลป์ไทย ประดษิ ฐ์ท่าราอย่างสรา้ งสรรค์จากการเรียนหลกั การของภาษา นาฏศิลป์เสนอความคดิ ออกมาเป็นรูปแบบนาฏศลิ ปไ์ ทยอยา่ งสวยงาม เหน็ คณุ ค่าของวฒั นธรรมไทย ผลกำรเรยี นรู้ ๑. มีความรู้ความเข้าใจประวตั คิ วามเปน็ มาของนาฏศิลปไ์ ทย ๒. อธบิ ายนาฏยศพั ทแ์ ละภาษาทา่ ราได้ ๓. มคี วามคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์ กล้าแสดงออก ๔. ปฏบิ ัติท่าราพนื้ ฐานแบบงา่ ยๆ ได้ ๕. สามารถแสดงนาฏศลิ ป์ไดด้ ว้ ยความชนื่ ชมและเหน็ คุณค่า
คำอธบิ ำยรำยวิชำเพ่ิมเตมิ ศ๒๑๒๐๕ ออกแบบ ๒ กลุ่มสำระกำรเรียนรูศ้ ลิ ปะ ชน้ั มัธยมศกึ ษำปีท่ี ๑ ภำคเรียนท่ี ๒ เวลำ ๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต ............................................................................................................................. ...................................... ศึกษาความรู้ทั่วไปเก่ียวกับการออกแบบ ฝึกปฏิบัติออกแบบวัสดุ เคร่ืองใช้ ผังบริเวณ สวนหย่อม และหอ้ งต่าง ๆ เพื่อให้มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะเบอ้ื งต้นในการออกแบบไดเ้ หมาะสมกับสภาพแวดลอ้ มและ ประโยชน์ใชส้ อย ผลกำรเรยี นรู้ ๑. เข้าใจเกี่ยวกับการออกแบบผลิตภัณฑต์ า่ ง ๆ ๒. เข้าใจการเลอื กใช้วัสดอุ ุปกรณ์ ๓. ฝกึ ทกั ษะในการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหป้ ระณีตสวยงาม ๔. ฝกึ ปฏิบตั ิการออกแบบและประดษิ ฐง์ านศิลปะจากวสั ดุ ๕. นาความรู้ทางศลิ ปะการออกแบบไปประยกุ ตใ์ ช้
คำอธิบำยรำยวิชำเพ่ิมเตมิ ศ๒๑๒๐๖ ดนตรีไทยปฏิบตั ิ ๒ กล่มุ สำระกำรเรียนร้ศู ลิ ปะ ชัน้ มธั ยมศึกษำปที ่ี ๑ ภำคเรยี นที่ ๒ เวลำ ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑ หนว่ ยกิต ............................................................................................................................. ...................................... ศกึ ษาทฤษฎีดนตรี หลักการฟงั ดนตรี ศพั ท์สังคตี หน้าทข่ี องเครือ่ งดนตรี ฝกึ ปฏิบัตเิ ครือ่ งดนตรไี ทย ทถ่ี นดั เพ่ือใหม้ คี วามเข้าใจ เหน็ คุณคา่ และสามารถบรรเลงดนตรีไทยท่ีถนดั ทัง้ เดยี่ วและกลุ่มได้ ผลกำรเรียนรู้ ๑. เข้าใจทฤษฎีดนตรี ๒. เข้าใจหลักการฟังดนตรี ๓. เขา้ ใจศัพท์สงั คีต ๔. เข้าใจหนา้ ทขี่ องเครื่องดนตรี ๕. บรรเลงเครอื่ งดนตรีไทยที่ถนดั ๖. อา่ นและเขียนโน้ตเพลงไทย ๗. เหน็ คณุ ค่า และบรรเลงดนตรีไทยทีถ่ นัดท้ังเด่ยี วและกลุม่ ได้
คำอธิบำยรำยวิชำเพิ่มเติม ศ๒๑๒๐๗ ขบั ร้อง ๒ กลุ่มสำระกำรเรียนรศู้ ิลปะ ช้นั มธั ยมศึกษำปที ่ี ๑ ภำคเรียนท่ี ๒ เวลำ ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑ หน่วยกิต ............................................................................................................................. ..................................... ศึกษาทฤษฎีดนตรสี ากล อ่านโนต้ และเขยี นโนต้ ผ่านบรรทดั หา้ สนั ได้ถูกต้อง รบั รู้โสตประสาทการฟัง ฝกึ ไล่บันไดเสียงให้ตรงตามบนั ไดเสยี ง แยกประเภทของการขับรอ้ งได้ เข้าใจการร้องเพลงและมีบุคลกิ ภาพท่ี ถูกต้อง อกี ท้งั สามารถรอ้ งเพลงบังคบั และเพลงตามความถนัดไดอ้ ย่างดี โดยร้องเดย่ี วและร้องกลมุ่ ผลกำรเรยี นรู้ ๑. เข้าใจทฤษฎีการดนตรี ๒. อา่ นและเขยี นโนต้ ดนตรสี ากล ๓. ไล่บันไดเสียงได้อย่างน้อย 4 บันได้เสยี ง ๔. ร้องเพลงบังคบั และตามความถนดั อยา่ งน้อย ๑ เพลง ๕. ระดับเสียงของการขบั รอ้ งเพลง ๖. ขบั ร้องเดี่ยวและขบั ร้องกลุ่มได้
คำอธิบำยรำยวชิ ำเพิม่ เติม ศ๒๑๒๐๘ นำฏศลิ ปไ์ ทยปฏิบตั ิ ๒ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ศลิ ปะ ชัน้ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี ๑ ภำคเรียนท่ี ๒ เวลำ ๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๑ หนว่ ยกิต ............................................................................................................................. ...................................... ศึกษาประวัติความเป็นมาของนาฏศิลป์ไทย และบทเพลงไทยท่ีใช้ในการแสดง ประโยชน์ในการ เรียนวิชานาฏศิลป์ ฝึกปฏิบัติตามจังหวะเพลงด้วยความสนกุ สนาน ฝึกปฏิบัติท่าราท่ีเป็นมาตรฐาน และแบบ พนื้ เมอื งเพื่อสืบทอดและเผยแพรน่ าฏศิลปไ์ ทย ประดษิ ฐ์ทา่ ราอยา่ งสรา้ งสรรค์จากการเรียนหลกั การของภาษา นาฏศลิ ป์เสนอความคดิ ออกมาเป็นรูปแบบนาฏศิลป์ไทยอย่างสวยงาม เห็นคณุ คา่ ของวัฒนธรรมไทย ผลกำรเรยี นรู้ ๑. มีความรู้ความเข้าใจประวัตคิ วามเป็นมาของนาฏศลิ ปไ์ ทย ๒. อธบิ ายนาฏยศัพท์และภาษาท่าราได้ ๓. มีความคดิ รเิ ร่ิมสร้างสรรค์ กล้าแสดงออก ๔. ปฏิบัติการแสดงราวงมาตรฐานได้ ๕. สามารถแสดงนาฏศลิ ปไ์ ดด้ ว้ ยความชืน่ ชมและเห็นคุณค่า
คำอธิบำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน ศ22101 ศลิ ปะ 3 กลมุ่ สำระกำรเรียนรศู้ ลิ ปะ ชัน้ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 2 ภำคเรียนท่ี 1 เวลำ 40 ชัว่ โมง จำนวน 1 หนว่ ยกิต ............................................................................................................................. ..................................... ศึกษา เกี่ยวกับทัศนธาตุในด้านรูปแบบและแนวคิดของงานทัศนศิลป์ที่เลือกมา บรรยายเกี่ยวกับ ความเหมือนและความแตกต่างของรูปแบบการใช้วัสดุ อุปกรณ์ในงานทัศนศิลป์ของศิลปิน วาดภาพด้วย เทคนคิ ทห่ี ลากหลายในการสอ่ื ความหมายและเรือ่ งราวต่าง ๆ เปรยี บเทียบการใช้องค์ประกอบดนตรีทีม่ าจาก วัฒนธรรมต่างกัน อ่าน เขียน ร้องโน้ตไทย และโน้ตสากลท่ีมีเครื่องหมายแปลงเสียง ระบุปัจจัยสาคัญที่มี อิทธิพลต่อการสร้างสรรค์งานดนตรี ร้องเพลงและเล่นดนตรีโดยใช้เทคนิคการร้องและบรรเลงดนตรี บรรยายอารมณข์ องเพลงและความรู้สกึ ท่ีมีต่อบทเพลงท่ฟี งั ประเมิน พัฒนาการทกั ษะทางดนตรีของตนเอง ระบุงานอาชีพต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้องกับดนตรีและบทบาทของดนตรี ในธุรกิจบันเทิง บรรยายบทบาทและ อิทธิพลของดนตรีในวัฒนธรรมของประเทศต่าง ๆ บรรยายอิทธิพลของวัฒนธรรมและเหตุการณ์ใน ประวตั ิศาสตร์ท่ีมีตอ่ รูปแบบของดนตรีในประเทศไทย ฝึกทักษะการสรา้ งสรรค์การแสดงโดยใช้องค์ประกอบ ของนาฏศิลป์และการละคร วิเคราะห์การแสดงและเสนอความคิดเห็นในการปรับปรุง การแสดงเช่ือมโยง การเรียนรู้ระหว่างนาฏศิลป์และการละครกับสาระการเรียนรู้อนื่ ๆ เปรียบเทียบลักษณะเฉพาะของการแสดง นาฏศิลป์จากวัฒนธรรมต่าง ๆ ระบุหรือแสดงนาฏศิลป์ นาฏศิลป์พื้นบ้าน ละครไทย ละครพื้นบ้าน หรือ มหรสพอน่ื ที่นิยมในอดีต อธิบายอิทธพิ ลของวัฒนธรรมท่มี ีตอ่ เน้อื หาของละคร ใช้กระบวนการทางทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์ เรียนรู้พร้อมกับการฝึกปฏิบัติ การสืบเสาะ แสวงหาความรู้ การอภิปราย เพ่ือให้เกิดการเรียนรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตดั สินใจ มีความรกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสตั ยส์ ุจริต มีวนิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ อยู่อยา่ งพอเพียง ม่งุ มัน่ ในการทางาน รัก ความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ และนาแนวพระราชดารหิ รือหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งมาใช้ในการดาเนิน ชีวติ ประจาวนั รหสั ตัวช้วี ัด ศ 1.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ศ 1.2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ศ 2.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ศ 2.2 ม.2/1 ม.2/2 ศ 3.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ศ 3.2 ม.2/3 รวมท้งั หมด 24 ตัวชี้วัด
คำอธิบำยรำยวชิ ำพนื้ ฐำน ศ22102 ศิลปะ 4 กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้ศลิ ปะ ช้ันมัธยมศึกษำปีที่ 2 ภำคเรยี นที่ 2 เวลำ 40 ช่วั โมง จำนวน 1 หนว่ ยกติ ............................................................................................................................. ...................................... ศกึ ษา วิธกี ารใชง้ านทศั นศลิ ปใ์ นการโฆษณาเพือ่ โนม้ น้าวใจและนาเสนอตัวอยา่ งประกอบ วาด ภาพแสดงบุคลกิ ลกั ษณะของตวั ละคร ระบแุ ละบรรยายเก่ียวกบั วัฒนธรรมต่าง ๆ ทส่ี ะท้อนถงึ งานทัศนศิลป์ ในปัจจุบัน บรรยายถึงการเปลี่ยนแปลงของงานทัศนศิลป์ของไทยในแต่ละยุคสมัยโดยเน้นถึงแนวคิดและ เน้ือหาของงาน เปรียบเทียบแนวคิดในการออกแบบงานทัศนศิลป์ที่มาจากวัฒนธรรมไทยและสากล สร้าง เกณฑ์ในการประเมินและวิจารณ์งานทัศนศิลป์ เปรียบเทียบการใช้องค์ประกอบดนตรีท่ีมาจากวัฒนธรรม ต่างกัน อ่าน เขียน รอ้ งโนต้ ไทย และโน้ตสากลท่ีมเี คร่อื งหมายแปลงเสียง ระบปุ ัจจัยสาคญั ทีม่ ีอิทธิพลต่อการ สร้างสรรคง์ านดนตรี รอ้ งเพลงและเลน่ ดนตรโี ดยใช้เทคนิคการร้องและบรรเลงดนตรี บรรยายอารมณ์ของ เพลงและความรสู้ ึกที่มตี ่อบทเพลงที่ฟงั ประเมิน พัฒนาการทักษะทางดนตรีของตนเอง ระบุงานอาชีพต่างๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับดนตรีและบทบาทของดนตรี ในธุรกิจบันเทิง บรรยายบทบาทและอิทธิพลของดนตรีใน วัฒนธรรมของประเทศต่าง ๆ บรรยายอิทธิพลของวัฒนธรรมและเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ ที่มีต่อ รูปแบบของดนตรีในประเทศไทย เปรียบเทียบลักษณะเฉพาะของการแสดงนาฏศิลป์จากวัฒนธรรม อ่ืน ๆ ระบุหรือแสดงนาฏศิลป์ นาฏศิลป์พื้นบ้าน ละครไทย ละครพ้ืนบ้าน หรือมหรสพอื่นที่นิยมในอดีต อธิบาย อิทธพิ ลของวฒั นธรรมทีม่ ตี ่อเน้ือหาของละคร ใช้กระบวนการทางทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์ เรียนรู้พร้อมกับการฝึกปฏิบัติ การสืบเสาะ แสวงหาความรู้ การอภิปราย เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารส่ิงท่ี เรียนรู้ มคี วามสามารถในการตดั สินใจ มคี วามรกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต มวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ อย่อู ยา่ งพอเพยี ง มุ่งมนั่ ในการทางาน รัก ความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ และนาแนวพระราชดารหิ รือหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งมาใช้ในการดาเนิน ชวี ิตประจาวนั รหสั ตวั ชี้วดั ศ 1.1 ม.2/4 ม.2/6 ม.2/7 ศ 1.2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ศ 2.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ศ 2.2 ม.2/1 ม.2/2 ศ 3.1 ม.2/2 ม.2/5 ศ 3.2 ม.2/1 ม.2/2 รวมทัง้ หมด 19 ตัวชว้ี ัด
คำอธบิ ำยรำยวชิ ำเพมิ่ เติม ศ๒๒๒๐๑ วำดเส้น ๑ กลุม่ สำระกำรเรียนรูศ้ ลิ ปะ ชน้ั มธั ยมศึกษำปีที่ ๒ ภำคเรยี นท่ี ๑ เวลำ ๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๐นว่ ยกิต ............................................................................................................................. ...................................... ศึกษา ค้นคว้า วัสดุอุปกรณ์และหลักการวาดเส้น สร้างสรรค์งานวาดเส้นจากประสบการณ์และ จินตนาการ ตามความถนัดและความสนใจ มีทักษะในการวาดเส้น จากรูปร่าง รูปทรง รูปแบบเหมือนจริง บูรณาการกับกลุ่มสาระอ่ืนและชีวิตประจาวันได้ เพ่ือให้มีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะในการวาดเส้นและ นาไปใชใ้ นชวี ิตจรงิ ได้ ผลกำรเรยี นรู้ ๑. ศึกษาค้นควา้ และปฏิบตั งิ านศิลปะในด้านการวาดภาพ แรเงา ๒. รู้จักใชเ้ ครื่องวัสดุ เครอื่ งมือ และอปุ กรณ์ในการวาดภาพได้ถูกต้องเหมาะสม ๓. รจู้ ักองคป์ ระกอบของการวาดภาพ การจดั ภาพ ขนาดสดั สว่ น ๔. รจู้ ักเขา้ ใจ และสามารถวาดภาพแบบทัศนียภาพไดถ้ กู ต้องเหมาะสม ๕. มที กั ษะในการวาดภาพด้วยดินสอ,ปากกา ได้ทัง้ แบบภาพลายเส้นและแบบแรเงา สรา้ งน้าหนกั ๖. รู้ เขา้ ใจ และสามารถวาดภาพแบบทศั นยี ภาพไดถ้ ูกตอ้ งเหมาะสม ๗. ถา่ ยทอดความรู้ – เขา้ ใจ ออกมาในรูปแบบของการวาดภาพได้ดว้ ยความมนั่ ใจ ๘. สามารถวาดภาพจากเรือ่ งราว วัตถุ สิ่งของ แบบหนุ่ นง่ิ และธรรมชาตไิ ด้ตามวุฒิภาวะของผู้เรียน
คำอธิบำยรำยวชิ ำเพ่มิ เตมิ ศ๒๒๒๐๒ ปีพ่ ำทยม์ อญ ๑ กลุ่มสำระกำรเรียนรศู้ ลิ ปะ ชนั้ มัธยมศึกษำปีท่ี ๒ ภำคเรียนที่ ๑ เวลำ ๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๑ หนว่ ยกติ ............................................................................................................................. ....................................... ศึกษาประวตั ิความเป็นมาของป่ีพาทย์มอญ เครื่องดนตรีมอญ การผสมวงป่ีพาทย์มอญ หลักการฟัง เพลงมอญ การปฏิบัติตามศัพท์สังคีต ฝึกปฏิบัติเครื่องดนตรีปี่พาทย์มอญ บรรเลงเพลงมอญประเภทเพลง มอญอัตราจังหวะสองชั้น และเพลงเรว็ เพอ่ื ให้มคี วามเขา้ ใจ เห็นคณุ คา่ และสามารถบรรเลงปพ่ี าทยม์ อญรวม วงได้ ผลกำรเรยี นรู้ ๑. เขา้ ใจประวตั คิ วามเป็นมาของปพี่ าทย์มอญ ๒. เขา้ ใจเรื่องเคร่ืองดนตรมี อญ ๓. เข้าใจหลกั การผสมวงปี่พาทยม์ อญ ๔. เข้าใจหลกั การฟงั เพลงมอญ ๕. ปฏบิ ัติเครอื่ งดนตรตี ามศพั ท์สังคตี ๖. บรรเลงเคร่ืองดนตรีมอญท่ีตนเองถนดั ๗. เห็นคุณค่า และบรรเลงดนตรีไทยทถ่ี นัดท้ังเด่ียวและกลุม่ ได้
คำอธบิ ำยรำยวชิ ำเพ่ิมเติม ศ๒๒๒๐๓ ปฏบิ ัตเิ ครื่องลม ๑ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ศิลปะ ชั้นมธั ยมศึกษำปีท่ี ๒ ภำคเรียนที่ ๑ เวลำ ๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๑ หนว่ ยกติ ............................................................................................................................. ..................................... ศึกษาทฤษฎีดนตรสี ากล เขา้ ใจในคุณภาพของเสยี ง สามารถดูแลรกั ษาเครอื่ งดนตรสี ากลไดถ้ กู ตอ้ ง อกี ท้งั สามารถบรรเลงเครือ่ งดนตรีสากลประเภทเคร่ืองลมตามความถนัดอยา่ งน้อย ๑ ชิ้นจนกระทงั่ ปฏิบตั ติ าม ศพั ท์สังคีตได้ และอ่านเขียนโนต้ ดนตรสี ากลได้อย่างถกู ต้อง ผลกำรเรยี นรู้ ๑. เข้าใจทฤษฎีดนตรสี ากล ๒. เข้าใจ สีสนั และคุณภาพของเสียง ๓. เขา้ ใจหลกั การดูแลและรกั ษาเครอ่ื งดนตรี ๔. บรรเลงเคร่ืองดนตรีสากลปรพเภทเครื่องลมตามความถนัดอย่างนอ้ ย ๑ ชิ้น ๕. ปฏบิ ตั ติ ามศัพท์สงั คตี ๖. อ่านและเขยี นโนต้ สากล
Search