RENAL FAILURE Chronic kidney disease (CKD) • the presence of kidney damage or decreased GFR for greater than 3 months. Kidney damage is characterized by albuminuria, urine casts, imaging findings, or abnormal renal biopsy. CKD is caused by long term diseases such as diabetes or hypertension. Patients can present with symptoms resulting directly from diminished kidney function. These include malaise, nausea, decreased mental acuity, edema or decreased urine output. However, many patients have no clinical symptoms. In such patients, kidney disease is detected by laboratory tests that are obtained through routine screening or as part of an evaluation of an unrelated illness. 51
RENAL FAILURE TIWA Chronic renal failure (CRF) • is the progressive loss of kidney function. The kidneys attempt to compensate for renal damage by hyperfiltration (excessive straining of the blood) within the remaining functional nephrons (filtering units that consist of a glomerulus and corresponding tubule). • Cause of CRF ⚫Tubular pathology 1. Nephrosclerosis ⚫ Glomerular pathology 2. Chronic pyelonephritis 1. Glomerulonephritis 3. Chronic anagesic nephritis 2. Systemic lupus erythematosus 4. Renal calculi & Renal tumors 3. Nephrotic syndrome
RENAL FAILURE Chronic kidney disease (CKD) • The stages of CKD are a continuum and areclassified as follows (Kellum and Lemeire, 2012): Stage 1: Kidney damage with normal or increased GFR (>90 mL/min/1.73 m2) Stage 2: Mild reduction in GFR (60-89 mL/min/1.73 m2) Stage 3a: Moderate reduction in GFR (45-59 mL/min/1.73 m2) Stage 3b: Moderate reduction in GFR (30-44 mL/min/1.73 m2) Stage 4: Severe reduction in GFR (15-29 mL/min/1.73 m2) Stage 5: Kidney failure (GFR < 15 mL/min/1.73 m2 or dialysis) 53
RENAL FAILURE 54
Clinical Features of Acute Kidney Injury and Chronic Kidney Disease Acute Kidney Injury Chronic Kidney Disease Onset Sudden Gradual (months to years) Common causes •Acute tubular necrosis •Diabetic nephropathy (ischemia or nephrotoxin •Hypertension exposure) •Glomerulonephritis •Pre-renal disease •Polycystic kidney disease (hypovolemic states, •Nephrotoxin exposure hypotension) •Urinary tract obstruction (prostate disease, metastatic cancer) 55
Clinical Features of Acute Kidney Injury and Chronic Kidney Disease Acute Kidney Injury Chronic Kidney Disease Diagnosis* •One of the following:Increase •One of the following, for in serum creatinine (SCr) by at least 3 months:Kidney 0.3 mg/dl within 48 hours damage (albuminuria, •Increase in SCr to 1.5 times urine casts, abnormal renal baseline, which is known or biopsy or imaging) presumed to have occurred •Decreased glomerular within the prior 7 days filtration rate (GFR) of less •Urine volume < 0.5 ml/kg/hr than 60 mL/min/1.73 over 6 hours (Kellum and m2 for at least 3 months Lemeire, 2012) (Kellum and Lemeire, 2012) 56
Clinical Features of Acute Kidney Injury and Chronic Kidney Disease Acute Kidney Injury Chronic Kidney Disease Symptoms •Low or no urine volume, •Weakness, fatigue, hematuria, edema, confusion, anorexia, edema, shortness of breath nausea/vomiting, •Symptoms are often decreased urine output associated with the cause •Many patients are (thirst in patients with asymptomatic until CKD is dehydration, flank pain in advanced patients with obstruction) •Many patients have no symptoms Reversibility Usually, reversible Irreversible, progress5iv7e
Clinical Features of Acute Kidney Injury and Chronic Kidney Disease Acute Kidney Injury Chronic Kidney Disease Management •Identify the etiology •Optimally manage the •Treat reversible causes, such underlying disease process as hypotension, volume •Remove any nephrotoxic depletion, or urinary tract medications obstruction •Monitor and correct water •Remove any nephrotoxic and electrolyte imbalance medications to minimize new •Regulation of blood injury pressure to low-normal •Identify and treat the values complications such as fluid •Treat renal anemia and overload, hyperkalemia, and osteopathy acidemia 58
กระบวนการพยาบาลผ้ปู ว่ ยโรคไตวาย 1. การประเมินภาวะสขุ ภาพ • Subjective Data • Objective Data 2. การกาหนดขอ้ วินิจฉัยทางการพยาบาล ❑ ระยะปัสสาวะออกมาก 1.มีโอกาสทีส่ มองทางานผิดปกติเนือ่ งจากมีภาวะนา้ เกิน และของเสียคง่ั จากไตเสียหนา้ ที่ 2.มีภาวะโปแทสเซียมสูง 3.มีความวิตกกังวลเกี่ยวกบั อาการเจ็บปว่ ย
กระบวนการพยาบาลผ้ปู ว่ ยโรคไตวาย ❑ระยะปัสสาวะน้อย 1. มีโอกาสที่สมองทางานผิดปกติเนือ่ งจากมีภาวะขาด นา้ และของเสียคง่ั จากไตเสียหน้าที่ ❑ระยะพกั ฟื้น – ดูแลให้ผ้ปู ่วยได้รบั อาหาร และน้าตามปกติ ยกเว้น ผปู้ ่วยที่มีความดนั โลหิตสงู ตอ้ งงดอาหารทีม่ ีโซเดียม เปน็ ส่วนประกอบ – การสอน/ ให้คาแนะนา
กระบวนการพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวาย 3. การวางแผนการพยาบาล 4. กิจกรรมการพยาบาล 5. การประเมินผลทางการพยาบาล ตัวอยา่ งกรณศี ึกษา: การพยาบาลผปู้ ่วยไตวายเฉียบพลัน จากยากลมุ่ Aminoglycosides ทีไ่ ด้รับการฟอกเลือดดว้ ย เครื่องไตเทียม (สรุ ียว์ รรณ รตั นกิจสุนทร, 2563) ที่มา: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/pck/article/view/239903/164305
62
ปญั หาการอดุ กลนั้ ของการขบั ถา่ ยปัสสาวะ 63
URINARY TRACT OBSTRUCTION สาเหตุของการอดุ กน้ั บ่อยทีส่ ดุ • นิว่ (urinary stone) นิ่วในระบบทางเดนิ ปัสสาวะ (urinary stones/calculi) • ต่อมลกู หมากโต (Benign prostatic hyperplasia: BPH) 64
URINARY TRACT OBSTRUCTION นิว่ ในระบบทางเดินปสั สาวะ (urinary stones/calculi) • อาจเป็นก้อนหินแข็งเมด็ เดียว หรือหลายเม็ด • มที งั้ นิ่วทึบแสง (opaque stone) และไมท่ ึบแสง (non-opaque stone) • กระเพาะปสั สาวะ ทอ่ ไต ไต กรวยไต หรือ calyces [นิ่วเขากวาง (staghorn stone)] • ชนิดของนิว่ จาแนกตามสารทีเ่ ป็นองค์ประกอบ 1) น่วิ ชนดิ เกลือแคลเซียม >> ร้อยละ 75-80 เชน่ calcium oxalate, calcium phosphate 2) สว่ นผสมระหว่าง oxalate และ phosphate >> รอ้ ยละ 14 เปน็ เกลือ magnesium ammonium phosphate ซึง่ เรียกวา่ struvite >> รอ้ ยละ 10 เป็นชนิด uric acid-based >> รอ้ ยละ 1 เป็น cystine-based 65
URINARY TRACT OBSTRUCTION นิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ (urinary stones/calculi) สาเหตุของการเกิดนิ่ว - ยงั ไม่ทราบแน่ชัด • ปัจจยั ทีส่ ่งเสริมใหเ้ กดิ นิ่ว (Linton, 2012; Mayo Clinic, 2015) ได้แก่ - ภาวะทีป่ สั สาวะมีความเขม้ ขน้ หรือความผิดปกติของคา่ pH ของปัสสาวะ (ค่าปกติ pH 4.5-8.0) - การรับประทานอาหาร ยาบางชนดิ มากเกิน เชน่ โปรตีนจากเน้อื สัตว์ อาหารที่มี ออกซาเลตสงู วิตามินดี วิตามินซี ยาลดกรดที่มีแคลเซียมเปน็ สว่ นประกอบ เป็นต้น - การรับประทานอาหารทีม่ ีแคลเซียมตา่ - โรคหรือความผิดปกติบางอย่าง เช่น Hyperparathyroidism, Gout, Diabetes, obesity, Crohn’s disease การติดเชือ้ ในระบบทางเดินปสั สาวะเปน็ ตน้ - ประวัติคนในครอบครวั เป็นนว่ิ 66
URINARY TRACT OBSTRUCTION นิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ (urinary stones/calculi) อาการและอาการแสดง (Frassetto & Kohlstadt, 2011; Linton, 2012) 1. อาการปวด • นิ่วในไต มกั มีอาการปวดตื้อๆ หรือปวดรุนแรงบริเวณบ้ันเอว • นว่ิ ในท่อไต จะมีอาการปวดบริเวณสีขา้ งและหลัง ปวดทอ้ งรา้ วไปบริเวณขาหนบี อวยั วะเพศ ปวดแบบบิดๆ • นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ สว่ นมากจะมีอาการปวดปสั สาวะ อาจมปี สั สาวะบอ่ ย ปสั สาวะ สะดดุ ปัสสาวะเปน็ เลือดอาจปวดบริเวณหัวเหนา่ ร่วมดว้ ย • น่วิ ในท่อปัสสาวะ จะถ่ายปสั สาวะไมอ่ อกหรือออกเปน็ หยดๆ ปวดขณะถ่ายปัสสาวะ 2. อาการคลืน่ ไส้ อาเจียน 3. ปัสสาวะเปน็ เลอื ด (hematuria) 4. มกี ารติดเชือ้ ในระบบทางเดินปัสสาวะบ่อย (recurrent UTI) 67
URINARY TRACT OBSTRUCTION นิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ (urinary stones/calculi) การรักษานิ่วในทางเดินปสั สาวะ 1. การรักษาดว้ ยยา เชน่ ยาแก้ปวดกลุ่ม opioid และ NSAIDs 2. การสลายนิ่ว (Extracorporeal shock wave lithotripsy: ESWL) 3. การเอานิว่ ออกโดยการส่องกลอ้ ง (Endourologic procedures) • การสอ่ งกลอ้ งโดยการเจาะผ่านผวิ หนงั เขา้ ไป (Percutaneous nephrolithotomy: PCNL) • Ureteroscopy โดยอาจทาใหก้ ้อนนวิ่ แตกเป็นกอ้ นเลก็ กอ่ นดว้ ย Lasertripsy 4. การรักษาโดยการผ่าตัด (Lithotomy) ได้แก่ Nephrolithotomy, 68 Pyelolithotomy, Ureterolithotomy
URINARY TRACT OBSTRUCTION การใชก้ ระบวนการพยาบาลในการดแู ลผทู้ ีม่ ีนิ่วในระบบทางเดินปสั สาวะ 1. การประเมนิ ภาวะสุขภาพ • การซักประวตั ิเกีย่ วกับปจั จัยทีเ่ กีย่ วข้อง ได้แก่ ประวัติการเปน็ น่วิ ในครอบครัว การ รบั ประทานอาหาร ยา ปริมาณนา้ ดื่ม โรคประจาตวั เป็นต้น ❑ อาการสาคัญทีน่ ามาโรงพยาบาล ไดแ้ ก่ อาการปวด ลกั ษณะ ตาแหนง่ ความรุนแรงของ อาการปวด เป็นต้น ❑ ลักษณะของปัสสาวะ จานวน สี ความผดิ ปกติของการขับถา่ ยปัสสาวะ การตดิ เชอ้ื ในทางเดิน ปัสสาวะ เปน็ ต้น • การตรวจร่างกายในระบบที่เกีย่ วขอ้ ง เช่น การคลา-เคาะไต การตรวจตอ่ ม ลกู หมากในผชู้ าย เปน็ ต้น • การตรวจทางหอ้ งปฏบิ ตั ิการ ได้แก่ U/A, U/C, Blood chemistry เป็นต้น • การตรวจทางรังสี เช่น Plain KUB, Intravenous Pyelogram (IVP), CT abdomen 69
URINARY TRACT OBSTRUCTION การใช้กระบวนการพยาบาลในการดูแลผ้ทู ี่มีนิ่วในระบบทางเดินปสั สาวะ 2. การกาหนดขอ้ วินิจฉยั ทางการพยาบาล/ ผลกระทบ • ปวดเนือ่ งจากมกี ารอุดตันในทางเดินปัสสาวะ • แบบแผนการขบั ถ่ายปัสสาวะผดิ ปกตเิ นือ่ งจากมีการอดุ กนั้ • เส่ยี งต่อภาวะขาดสมดุลของสารนา้ เนอื่ งจาก... anorexia, nausea, and vomiting • พรอ่ งความร้เู รื่องการป้องกันการเป็นนิ่วซ้า, การปฏิบัตติ ัวหลังผ่าตดั นิ่ว • เส่ยี งตอ่ การตดิ เช้อื เนื่องจากการมกี ารสอดใส่อุปกรณ์เข้าไปในร่างกาย • ปริมาณเลือดออกจากหวั ใจใน 1 นาทีลดลงเนื่องจากเสียเลือด 70
URINARY TRACT OBSTRUCTION การใชก้ ระบวนการพยาบาลในการดูแลผู้ที่มีนิ่วในระบบทางเดินปสั สาวะ 3. การวางแผนการพยาบาล 4. กิจกรรมการพยาบาล 1. https://www2.si.mahidol.ac.th/division/nursing/si ns/attachments/article/242/Nursing%20Handbook ,%20Prevention%20of%20relapse%20in%20urin ary%20tract%20stones%20after%20surgery.pdf ไม่อยู่ 5. การประเมนิ ผลทางการพยาบาล 71
URINARY TRACT OBSTRUCTION ต่อมลกู หมากโต (Benign prostatic hyperplasia: BPH) 72
URINARY TRACT OBSTRUCTION ตอ่ มลกู หมากโต (Benign prostatic hyperplasia: BPH) • เป็นภาวะที่มีเซลล์เพิ่มขึ้น • อิทธิพลของฮอร์โมน Dihydrotestosteron • ต่อมลูกหมากจะเริม่ โตจากดา้ นใน กดท่อปสั สาวะ – ทาให้ปัสสาวะลาบาก ปัสสาวะออกไม่หมด มีปัสสาวะเหลือค้างในกระเพาะปัสสาวะ เกิดการติดเชอ้ื ในทางเดินปัสสาวะได้ – การที่ทางเดินปัสสาวะถูกกด อาจจะทาให้กระเพาะปัสสาวะบีบตัวได้ไม่ดีและอาจจะ เกิดภาวะไตวายได้ 73
URINARY TRACT OBSTRUCTION ต่อมลกู หมากโต (Benign prostatic hyperplasia: BPH) 74 อาการและอาการแสดง ผ้ปู ่วยส่วนมากจะไม่แสดงอาการ 1. ปัสสาวะไม่สดุ รู้สึกเหมือนยงั ไม่ได้ปัสสาวะ 2. ปสั สาวะบอ่ ย 3. ปัสสาวะสะดุดขณะปัสสาวะ 4. กล้ันปัสสาวะไม่อยู่ 5. ปสั สาวะไมพ่ ุ่ง 6. ตอ้ งใชแ้ รงเบง่ มากเมื่อเริ่มปสั สาวะ 7. ตอ้ งตืน่ ตอนกลางคนื เนอ่ื งจากปวดปัสสาวะบอ่ ย
URINARY TRACT OBSTRUCTION ตอ่ มลูกหมากโต (Benign prostatic hyperplasia: BPH) การรักษาต่อมลูกหมากโต 1. การเฝ้าสังเกตอาการ 2. การรักษาด้วยยา เชน่ • ยากลุ่ม Alfa blocker >> ทาให้กลา้ มเนอ้ื ในต่อมลกู หมากคลายตัว ไมไ่ ทาใหข้ นาดต่อม ลกู หมากลดลง ไดแ้ ก่ Doxazosin, Prazosin, Terazosin (ขยายกล้ามเนื้อของหลอดเลือด และตอ่ มลกู หมากทาให้ความดนั โลหติ ลดลงและปสั สาวะคล่องขึน้ ) • Finasteride ออกฤทธิ์ต่อฮอรโ์ มน testosterone ทาให้ขนาดของตอ่ ม ลกู หมากเลก็ ลงอาการผ้ปู ว่ ยจะดีหลงั จากรบั ประทานไป 6 เดอื น ผลขา้ งเคียงของยาคือความตอ้ งการทางเพศลดลง 75
URINARY TRACT OBSTRUCTION ต่อมลูกหมากโต (Benign prostatic hyperplasia: BPH) การรกั ษาตอ่ มลกู หมากโต 3. การรกั ษาต่อมลูกหมากโตโดยไมใ่ ช้วิธีผ่าตดั ได้แก่ • Transurethral Microwave Procedures โดยการใชค้ วามร้อนจาก Microwave ทาลายเนอ้ื ต่อมลกู หมากผ่านทางท่อปสั สาวะ เรยี กการรักษานว้ี ่า transurethral microwave thermotherapy (TUMT) การรกั ษาวิธีนี้จะทาใหป้ สั สาวะไหลดีขึ้น • Transurethral Needle Ablation (TUNA) โดยใช้พลังงานความร้อนจากคลื่น ความถีว่ ิทยุทาลายตอ่ มลูกหมาก • Balloon dilatation โดยการสวนสายเขา้ ในท่อปสั สาวะและปลายสายมี balloon เพ่อื ขยายทอ่ ปัสสาวะสว่ นที่ตอ่ มลูกหมากอยูผ่ ลคือปัสสาวะจะไหลออกดขี น้ึ ขอ้ เสยี อาจจะมีเลือดออกและเกดิ การตดิ เชือ้ ได้ 76
URINARY TRACT OBSTRUCTION ต่อมลกู หมากโต (Benign prostatic hyperplasia: BPH) การรักษาต่อมลูกหมากโต 4. การรกั ษาตอ่ มลูกหมากโตโดยวิธผี า่ ตัด ไดแ้ ก่ • Transurethral resection of the prostate (TURP) โดยการใส่เครือ่ งมือทีช่ ่อื ว่า Resectoscope เขา้ ทางทอ่ ปสั สาวะและใชเ้ ครื่องมือตดั ชน้ิ เนอื้ ตอ่ มลกู หมาก หลังจากผา่ ตดั ผปู้ ่วยยังคงตอ้ งคาสายสวน ปสั สาวะอีก 2-3 วัน • Transurethral incision of the prostate (TUIP) ใช้ในกรณีที่ตอ่ มลูกหมากไม่โตมาก โดยใส่ เครือ่ งมือเข้าทางท่อปสั สาวะแลว้ กรดี ตอ่ มลูกหมาก 2-3 รอย แต่ไม่มีการตดั ชิ้นเนื้อต่อมลกู หมาก วิธีนี้จะลดความดนั ในต่อมลกู หมากทาให้ปสั สาวะออกงา่ ยขึน้ • Open prostatectomy ใช้กรณที ีต่ ่อมลกู หมากโตมาก โดยผา่ ตดั ผา่ นทางหน้าท้องแล้วเอาตอ่ ม ลูกหมากออก • Laser Surgery โดยการใสเ่ ครือ่ งมือเขา้ ทางทอ่ ปัสสาวะและปลอ่ ยรังสไี ปที่ต่อมลกู หมาก ความรอ้ น จากรงั สีจะทาลายเนือ้ ต่อมลูกหมาก 77
URINARY TRACT OBSTRUCTION การใช้กระบวนการพยาบาลในการดแู ลผู้ป่วยตอ่ มลูกหมากโต 1. การประเมนิ ภาวะสขุ ภาพ • การซักประวัตเิ กีย่ วกบั ปจั จัยทเี่ กีย่ วขอ้ ง ไดแ้ ก่ ❑ อาการแสดงของลักษณะผิดปกติของการขบั ถ่ายปสั สาวะ ตามที่กล่าวข้างตน้ ❑ อาการปวด ปัสสาวะเปน็ เลอื ด เป็นตน้ • การตรวจรา่ งกาย เชน่ การคลากระเพาะปสั สาวะเพื่อดูความตงึ เปน็ ตน้ • การสวนปสั สาวะเพื่อดูปัสสาวะทคี่ ้างอย่หู ลงั ขับถ่ายปสั สาวะ (residual urine) 2. การกาหนดข้อวนิ ิจฉัยทางการพยาบาล/ ผลกระทบ • แบบแผนการขบั ถ่ายปสั สาวะผดิ ปกติเนอื่ งจากมีการอดุ ก้ัน • พรอ่ งความรู้เกี่ยวกบั โรคที่เปน็ การรักษา การปฏิบัตติ วั หลงั ผ่าตัดตอ่ มลกู หมาก 78
URINARY TRACT OBSTRUCTION การใชก้ ระบวนการพยาบาลในการดูแลผู้ปว่ ยต่อมลูกหมากโต 2. การกาหนดขอ้ วินิจฉัยทางการพยาบาล/ ผลกระทบ • แบบแผนการขับถ่ายปัสสาวะผิดปกติเนื่องจากมีการอุดก้ัน (Impair urinary elimination related to obstruction) • พร่องความรู้เกี่ยวกับโรคที่เป็น การรักษา การปฏิบัติตัวหลังผ่าตัดต่อม ลูกหมาก เป็นต้น (Ineffective self-health management of treatment and self-care related to lack of knowledge, limited resources.) 79
URINARY TRACT OBSTRUCTION การใช้กระบวนการพยาบาลในการดแู ลผู้ป่วยต่อมลูกหมากโต 3. การวางแผนการพยาบาล 4. กิจกรรมการพยาบาลหลังการผา่ ตดั ต่อมลูกหมาก • การดูแลการสวนลา้ งปสั สาวะใหม้ ีประสิทธิภาพ ในผปู้ ว่ ยหลังผา่ ตัดตอ่ มลกู หมาก จะมกี ารคาสายสวนปัสสาวะชนิด 3 หางไวเ้ พอ่ื ทา continuous bladder irrigation (CBI) เพ่อื สวนล้างกระเพาะปัสสาวะ • ใหค้ าแนะนาเกี่ยวกบั การปฏิบตั ิตัวหลังผ่าตัดตอ่ มลูกหมาก • แนะนาสังเกตอาการของภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัดต่อมลูกหมาก 5. การประเมินผลทางการพยาบาล 80
ปญั หาการควบคมุ การขบั ถา่ ยปัสสาวะ 81
Urinary Incontinent ภาวะกล้ันปัสสาวะไม่อยู่ (Urinary Incontinent) • ภาวะที่มีการสูญเสียปัสสาวะโดยไม่สามารถควบคุมได้ การกล้ันปัสสาวะ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ทาให้ผู้ป่วยต้องพึ่งพาผู้อื่น เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนหลายประการ เช่น การ ติดเชือ้ ในระบบทางเดนิ ปัสสาวะ เกิดแผลกดทบั หรือเกิดการหกล้มไดง้ า่ ย 82
Urinary Incontinent อาการและอาการแสดงของภาวะกลน้ั ปสั สาวะไม่อยู่ 83
Urinary Incontinent ชนิดของการกลั้นปสั สาวะไมอ่ ยู่ • ชนิดของการกลัน้ ปัสสาวะไมอ่ ยู่ แบง่ ออกเป็น 4 ชนิด ไดแ้ ก่ 1. Stress urinary incontinence คือ การที่มีปัสสาวะออกมาโดย ควบคุมไม่ได้ เมื่อมคี วามดนั ในชอ่ งท้องเพม่ิ ขึ้น 2.Urge urinary incontinence คือ ภาวะที่มีปัสสาวะไหลออกมา ทันทีที่รสู้ ึกปวดปัสสาวะ 3.Overflow urinary incontinence คือ ภาวะที่มีปัสสาวะไหล ออกมาเองโดยไม่มีการปวดปสั สาวะ 4. Function urinary incontinence คือ การสูญเสียปัสสาวะโดย ไมไ่ ดเ้ กิดจากความผิดปกตขิ องระบบทางเดนิ ปสั สาวะส่วนล่าง 84
Urinary Incontinent สาเหตแุ ละปัจจัยสง่ เสริมการกลัน้ ปสั สาวะไม่อยู่ 1. มีปสั สาวะค้างในกระเพาะปัสสาวะจานวนมาก (increase residual urine) 2. ความจุของกระเพาะปสั สาวะลดลง (diminished bladder capacity) 3. กล้ามเนื้อกระเพาะปสั สาวะไม่มีแรงบีบตวั (detrusor instability) 4. ตอ่ มลกู หมากโต (benign prostate hypertrophy) 5. ความอว้ น (obesity) 6. ท้องผกู เรือ้ รงั ( chronic constipation) 85
Urinary Incontinent การใช้กระบวนการพยาบาลในการดูแลผทู้ ีม่ ีภาวะกลนั้ ปัสสาวะไมอ่ ยู่ 1. การประเมนิ ภาวะสขุ ภาพ • Subjective Data • Objective Data 1) ภาวะกลัน้ ปสั สาวะไม่อยู่แบบช่วั คราว (transient urinary incontinence) >>> DIAPPERS D = delirium, I = infection of urinary tract, A = atrophic vaginitis/urethritis, P = pharmacological agents/drug, P = psychological factors, E = endocrine disorder, R = restricted mobility, S = stool impact 2) ภาวะกล้ันปสั สาวะไม่อยู่แบบเรื้อรงั (chronic urinary incontinence) >>> แบง่ ออกเป็น 4 ประเภท Functional incontinence, Urge incontinence(OAB: overactive bladder), Stress incontinence, Overflow incontinence และบางครงั้ อาจแบ่ง 5 ประเภท คือ Reflex incontinence 86
Urinary Incontinent การใช้กระบวนการพยาบาลในการดูแลผ้ทู ีม่ ีภาวะกลั้นปัสสาวะไมอ่ ยู่ 2. การกาหนดข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล/ ผลกระทบจากภาวะกลั้น ปัสสาวะไม่อยู่ • ลื่นล้ม • ปสั สาวะรดทีน่ อน • การติดเชือ้ ในทางเดินปสั สาวะซา้ ๆ • ผิวหนังบริเวณรอบอวัยวะสืบพันธุ์อาจมีผื่นหรือการติดเชื้อจากการ สมั ผัสปสั สาวะเป็นเวลานาน • แยกตัวออกจากสังคมเน่ืองจากความอายเกี่ยวกับภาวะกล้ันปัสสาวะ ไม่อยขู่ องตนเอง 87
Urinary Incontinent การใชก้ ระบวนการพยาบาลในการดูแลผ้ทู ี่มีภาวะกลัน้ ปสั สาวะไม่อยู่ 3. การวางแผนการพยาบาล 4. กิจกรรมการพยาบาล 1. การจดั การโดยใช้พฤติกรรมบาบดั 2. การจัดการโดยการใช้ยา 3. การสวนปสั สาวะตามเวลาแบบสะอาด 4. การใช้อุปกรณอ์ ืน่ ๆ เพ่อื ชว่ ยเหลือผู้ที่กลั้นปัสสาวะ ไม่อยู่ 5. การประเมินผลทางการพยาบาล 88
Urinary Incontinent การใชก้ ระบวนการพยาบาลในการดูแลผทู้ ีม่ ีภาวะกลน้ั ปสั สาวะไมอ่ ยู่ การจัดการโดยใช้ 89 พฤติกรรมบาบดั ❑ Bladder retraining ❑ Kegel exercise ❑ Prompted voiding ❑ Time voiding ❑ Habit retraining ❑ Combined toileting and exercise therapy
Urinary Incontinent Bladder retraining • เป็นวิธีการจดั การวิธีหนึ่งของพฤติกรรมบาบัด ที่ชว่ ยให้อาการกล้นั ปัสสาวะไมอ่ ยขู่ องดีขึ้น • เป็นการพยายามควบคมุ การขับถา่ ยปัสสาวะ โดยฝึกให้กระเพาะปสั สาวะสามารถกกั เกบ็ น้าปสั สาวะในระยะเวลาที่ยาวนานขน้ึ นนั่ คือผสู้ ูงอายุตอ้ งบันทึกและประเมินตนเองก่อนว่า มรี ะยะเวลาทีต่ อ้ งการขบั ถ่ายแตล่ ะครงั้ เฉลีย่ แล้วนานประมาณเท่าใด หลังจากนนั้ ต้ังเปา้ หมายวา่ จะยดื เวลาการขับถา่ ยออกไปอกี จากเดิมประมาณ 5-10 นาทีเมอ่ื รสู้ ึกปวด และต้องการขับถา่ ยในช่วงเวลาทย่ี ืดออกไป แนะนาให้ผูส้ งู อายุหาวิธีการผอ่ นคลายตนเอง จากความรสู้ ึกอยากขบั ถา่ ยปสั สาวะ เช่น การนบั ถอยหลงั 100-1 หรือการกาหนดลม หายใจ เปน็ ต้น จนกระทัง่ สามารถยดื เวลาในการขับถ่ายปัสสาวะออกไปได้ทีละนอ้ ย จนกระทั่งประมาณ 3-4 ชั่วโมง 90
Urinary Incontinent Kegel Exercises https://www.youtube.com/watch?v=Sfkhj1BPxDk การทา Kegel Exercises 4 วิธี...... 1. การกลน้ั ปัสสาวะในช่วงกลางของการขบั ...แล้วตามดว้ ยการปลอ่ ยให้นา้ ปัสสาวะไหลตามเดิม 2. เพศชาย >>> สอดนิว้ มือเข้าไปทางรทู วาร... เกร็งกล้ามเนื้อทีอ่ ยู่รอบรูทวาร ให้รัดนิว้ มือ 3. เพศหญิง>>> สอดนิว้ มอื ทีส่ ะอาดเขา้ ทางช่องคลอด ... เกร็งกลา้ มเนื้อทีอ่ ย่รู อบๆ ชอ่ งคลอดใหร้ ดั นิว้ มือ 4. การเกรง็ และคลายกล้ามเนือ้ องุ้ เชิงกราน 1. เกรง็ กลา้ มเนื้ออุ้งเชิงกรานเป็นเวลา 5 วินาที และปล่อยใหค้ ลายนาน 5 วินาที ทาซา้ 5 ครั้ง 2. เมื่อคนุ้ เคยกบั การบริหารดงั กลา่ วแล้ว ให้เพิม่ ระยะเวลาการปริหาร โดยให้เกรง็ 10 นาที และคลาย กล้ามเนือ้ 10 วินาที ทาซา้ 5 ครั้ง หมายเหตุ: 1. ไมค่ วรทา Kegel exercise ในขณะมีน้าปสั สาวะเตม็ กระเพาะปัสสาวะเพราะจะทาให้นา้ ปัสสาวะเหลือคา้ ง ในกระเพาะปัสสาวะ และเกดิ การอกั เสบของทางเดินปัสสาวะได้ 2. ควรทา Kegel exercise อยา่ งน้อยวันละ 10 ครั้ง 91
Urinary Incontinent การใชก้ ระบวนการพยาบาลในการดแู ลผทู้ ีม่ ีภาวะกล้ันปสั สาวะไมอ่ ยู่ • การกล้ันปสั สาวะไมอ่ ยใู่ นผูส้ งู อายุ ทีม่ า: https://he01.tci- thaijo.org/index.php/jmhs/article/view/58640/48350 • ภาวะกลนั้ ปัสสาวะไม่ได้ในผสู้ งู อายุ ทีม่ า: https://he01.tci- thaijo.org/index.php/bcnsp/article/view/239987/164435 92
Urinary Incontinent การใช้กระบวนการพยาบาลในการดแู ลผู้ที่มีภาวะกล้นั ปัสสาวะไมอ่ ยู่ • ผลของโปรแกรมการฝึกควบคุมการขบั ถ่ายของกระเพาะปสั สาวะ และบรหิ ารกล้ามเนอ้ื อุ้งเชิงกรานตอ่ การปอ้ งกนั ภาวะกล้ัน ปัสสาวะไม่อยใู่ นผ้สู ูงอายเุ พศหญิง ตาบลนาตาล อาเภอทา่ คนั โท จงั หวัดกาฬสินธุ์ ทีม่ า: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/jdpc7kk/article/view/162153/116955 • Kegel Exercises ทีม่ า: https://www.youtube.com/watch?v=Sfkhj1BPxDk 93
การบาดเจบ็ ในระบบการขับถ่ายปสั สาวะ 94
Genitourinary Tract Injury • Pelvic fractures • Lower rib fractures • Accounts for 8-10% of abdominal injuries • L-spine transverse ❑60-80% of GU injuries have associated process fracture injuries. ▪ 5-10% of bladder injuries occur in 95 patients with pelvic fractures; ▪ 1-11% have posterior urethral injuries ❑44% mortality is due to associated injuries • Organs affected 1) Kidney (84%) 2) Bladder, urethra (8% each) 3) Ureters and other organs – rare
Genitourinary Tract Injury สาเหตแุ ละปจั จยั ที่ทาใหเ้ กิด Genitourinary Tract Injury 96 1. Forces: ถกู กระทบกระแทก หรือถูกยิง หรือถูกแทงบรเิ วณชอ่ งทอ้ ง • Compression forces • Shearing forces • Deceleration forces 2. Sources • MVCs • Falls • Assaults • Blast
Genitourinary Tract Injury อาการและอาการแสดงของ Genitourinary Tract Injury อาจพบอาการใดอาการหนึ่ง หรือหลายอาการร่วมกนั ดังนี้ – มเี ลือดออกปนกบั ปสั สาวะ – ถา่ ยปสั สาวะไมอ่ อก – มกี ้อนคลาไดบ้ รเิ วณเอว – เจบ็ ปวดทีบ่ ริเวณเอวขา้ งหน่งึ ขา้ งใด – ปัสสาวะร่ัวเข้าช่องทอ้ ง – มอี าการของเยื่อบชุ อ่ งท้องอกั เสบ – มนี า้ ปัสสาวะไหลออกทีผ่ ิวหนังภายนอก – มรี อบฟกชา้ บรเิ วณลาตวั หรืออุ้งเชิงกราน 97
Genitourinary Tract Injury การใชก้ ระบวนการพยาบาลในการดแู ล Genitourinary Tract Injury 1. Follow ABC’s, perform primary and secondary surveys and ATLS, ATCN, TNCC guidelines 2. Consider the possibility of GU injuries when ordering diagnostic testing 3. Talk to the patient and find out what happened, what bothers them, what feels better, is the pain the same or getting worse 98
Genitourinary Tract Injury การใชก้ ระบวนการพยาบาลในการดูแล Genitourinary Tract Injury 1. การประเมินภาวะสขุ ภาพ • Objective Data >>> • Subjective Data >>> GU History 1) Inspection 1) Congenital anomalies 2) Past injury; surgery 2) Palpation 3) Chronic renal failure 4) Renal artery stenosis 3) Gray Turner’s Sign 5) When they last voided 6) Dialysis 4) Percussion 5) Perineal area • Bleeding from urinary meatus • Butterfly pattern ecchymosis • Scrotal edema • Prostate 99
Genitourinary Tract Injury การใชก้ ระบวนการพยาบาลในการดแู ล Genitourinary Tract Injury 2. การกาหนดข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล/ ผลกระทบจากภาวะกล้ัน ปัสสาวะไมอ่ ยู่ • เลือดไหลเวียนไปสู่เนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกายลดลงเนื่องจากสูญเสีย เลือดจากการบาดเจ็บ • การระบายปัสสาวะออกสู่ภายนอกลดลง เนื่องจากมีล่ิมเลือดขัดขวางการ ระบายปสั สาวะ • ปวดท้อง จากภาวะเยือ่ บุชอ่ งทอ้ งอักเสบ • วิตกกังวลเกีย่ วกบั ภาวะของโรค 100
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108