Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สถิติและการวิเคราะห์ข้อมูล

สถิติและการวิเคราะห์ข้อมูล

Published by tiwa, 2020-05-27 04:32:55

Description: สถิติและการวิเคราะห์ข้อมูล

Keywords: สถิติเบื้องต้น

Search

Read the Text Version

การวิเคราะห์ข้อมลู ด้วยโปรแกรม SPSS (Statistical Package for the Social Science for Windows) 51

การเตรียมขอ้ มลู เพือ่ การวิเคราะห์ 1. การรวบรวมข้อมลู หรือควบคมุ การเคลือ่ นย้ายเอกสาร (Source document) 2. การตรวจสอบ หรือบรรณาธิกร (Editing) 2.1 ความสมบรู ณ์ 2.2 ความถกู ต้อง 2.3 ตรวจดใู ห้ตรงกบั ข้อตกลงในการปฏิบตั ิ 3. การแยกประเภทของข้อมลู (Categorization) 52

การเตรียมขอ้ มลู เพือ่ การวิเคราะห์ 4. การวิเคราะห์ข้อมลู 4.1 การกาหนดรหัส (encoded) 4.1.1 การกาหนดเลขหมายประจาตัว 4.1.2 การกาหนดรหสั ในแต่ละข้อคาถาม 4.2 การลงรหสั (coding) 4.3 การกาหนดสถิติที่ใช้ 4.3.1 วิเคราะห์จุดมุ่งหมาย หรือสมมติฐานของการวิจัย 4.3.2 เลือกใช้สถิติในการวิเคราะห์สมมติฐาน 53

การวิเคราะห์ลักษณะที่สาคญั ของประชากร หรือกลุม่ ตวั อยา่ ง ด้วยโปรแกรม SPSS 54

การวิเคราะห์ลกั ษณะทีส่ าคัญของประชากร หรือ กลมุ่ ตัวอย่าง ด้วยโปรแกรม SPSS 1 3 2 45 6 55

การวิเคราะหล์ กั ษณะที่สาคัญของประชากร หรือกล่มุ ตวั อยา่ ง ดว้ ยโปรแกรม SPSS • ผลการวิเคราะหข์ ้อมูล 56

การวิเคราะห์ลกั ษณะที่สาคัญของประชากร หรือ 7 กล่มุ ตวั อย่าง ดว้ ยโปรแกรม SPSS 1 2 3 8 6 4 5 57

การวิเคราะห์ลกั ษณะที่สาคญั ของประชากร หรือกลุ่มตวั อย่าง ดว้ ยโปรแกรม SPSS • ผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู . จากผลการวิเคราะหข์ ้อมูล จงบรรยายว่า นักศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สพุ รรณบรุ ี 1) มลี กั ษณะอย่างไร 2) มคี วามเครยี ดระดับใด 3) แหล่งทีม่ าของความเครียด ได้แก้อะไรบา้ ง 4) มวี ิธีเผชญิ กบั ความเครียด อย่างไร 58

ตวั อยา่ งการนาเสนอข้อมลู ของกลุ่มตวั อย่างด้วยสถิติบรรยาย 4.1 อม ว่ อม ี่ยว า แ ะ อม าร รรม า อ อาย ่ี 4.1 อม ว่ อม ่ียว า แ ะ อม าร รรม า อ อาย ่ี ออ า าย วย (N = 30) ออ า าย วย (N = 30) ( อ) () () 16 53.30 มอ อ ร 6 20.00 าย 14 46.70 อ วมแวน า รอ าร อ ร วย า * 19 76.00 อาย อน น (60 - 69 ี ) 6 20.00 แวน าย า 5 20.00 อาย อน า (70 - 79 ี ) 15 50.00 วอรค อร 1 4.00 อาย อน าย (80 ี น ) 9 30.00 ม า1 า 5 17.90 (mean = 74.50, SD = 6.54) * 21 75.00 มี าร ระ อ รรม า าย 1 น 2 7.10 าน คน ราว า 21 70.00 มี าร ระ อ รรม า าย 2 น นย คราะ คน รา าน าะแ ว 9 30.00 มี าร ระ อ รรม า ายมา วา 2 น 24 41.40 13 22.40 มมี รค ระ า ว * 7 23.30 * 10 17.20 มี รค ระ า ว านวน 1 รค 10 33.30 าความ ะอา าน 5 8.60 มี รค ระ า ว านวน 2 รค 7 23.30 3 5.20 มี รค ระ า ว านวน 3 รค 6 20.00 มรอ าน 2 3.40 นออ า าย/ น ม 1 1.70 ความ น 15 45.50 แ วแ น มน น อ 9 27.30 วย าน ร ครว อ อ น รอร 4 12.10 า วาน 1 3.00 า นว า อ 1 3.00 ่น รยาน 1 3.00 มะ ร านม 1 3.00 มมีอา าร 12 40.00 อม มา 1 3.00 มีอา าร * ว 14 66.70 น่ ว น รว 5 23.80 ม อ ร ระ านยา 9 30.00 นาม 1 4.80 อ ยาร ระ าน 21 70.00 า น่ 1 4.80 แ น าออนแร *1 *1 59 (ทวิ า มหาพรหม สปุ รดี า ม่ันคง และศภุ ร วงศ์วทญั ญู, 2560)

ตวั อยา่ งการแปลผลการวิเคราะหข์ ้อมลู ดว้ ยสถิติบรรยาย จากตารางแสดงผลการวิเคราะห์กลุ่มตัวอย่างจานวน 200 คน อายุต่าสุด เท่ากับ 16 ปี สูงสดุ เท่ากับ 89 ปี พิสยั ของอายเุ ท่ากบั 73 ปี อายุเฉลี่ยเท่ากับ 49.34 ปี ค่าเบ่ียงเบนมาตรฐานเท่ากับ 21.571 ค่าความแปรปรวนเท่ากับ 465.319 โค้งการ กระจายของข้อมลู มีความเบเ้ ท่ากับ .095 มีความโด่งเทา่ กับ -1.187 ดัชนีมวลกายต่าสุดเท่ากับ 17 กิโลกรัมต่อตารางเมตร สูงสุดเท่ากับ 42 กิโลกรัมต่อตารางเมตร พิสัยของดัชนีมวลกายเท่ากับ 25 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ดัชนีมวลกายเฉลี่ยเท่ากับ 29.37 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน เท่ากบั 6.078 คา่ ความแปรปรวนเทา่ กบั 36.938 โคง้ การกระจายของข้อมูลมีความเบ้ เท่ากับ -.003 มีความโด่งเท่ากับ -.759 .................................... 60

การพิสูจนส์ มมติฐานทางการวิจยั 61

ประเภทของการพิสูจนส์ มมติฐานทางการวิจยั การทดสอบสมมติฐานทางสถิติ มี 2 วิธี ได้แก่ • การทดสอบสมมติฐานแบบสองทาง (Two – Tail Test) • การทดสอบสมมติฐานนแบบทางเดียว (One – Tail Test) 62

การยอมรับหรือปฏิเสธสมมติฐานทางการวิจยั การยอมรบั หรือปฏเิ สธสมมติฐานทางการวิจัยข้นึ อยูก่ ับ • เขตการยอมรับและปฏิเสธ (Ho) oขอบเขตวิกฤต (Critical Region) oคา่ วิกฤต (Critical Region) • ระดับความมนี ัยสาคัญ (Level of Significance) หรือ คา่ ระดับนยั สาคัญทางสถิติ • ระดับความเชื่อม่นั (Level of Confidence) 63

สถิติสาหรับพิสจู น์สมมติฐานการวิจยั • สถิตพิ าราเมตริก (Parametric Statistics) – การทดสอบเกี่ยวกับค่าพารามิเตอร์ของประชากร – อาจเปน็ การทดสอบเกี่ยวกับค่าเฉลี่ยหรือสัดส่วนในประชากร – มขี ้อตกลงเบื้องต้น ได้แก่ กลุ่มตวั อย่างทีส่ ุ่มมาน้ันมาจากประชากรทีม่ ีการแจกแจงปกติ ความแปรปรวนของประชากรคงที่ และผลการวัดมาจากตวั แปรตามที่อยู่ในมาตรา อันตรภาค หรืออตั ราส่วน – สถิติพาราเมตริกที่นิยมใช้ในการทดสอบสมมตฐิ าน ได้แก่ ▪ Z-test และ t-test (Independent t-test, Paired t-test) ▪ การวิเคราะห์ความแปรปรวน (Analysis of Variance, ANOVA) ▪ การวิเคราะห์ความแปรปรวนร่วม (Analysis of Covariance, ANCOVA) ▪ การวิเคราะห์ความถดถอยและสหสมั พันธ์ (Regression and Correlation) 64

สถิติสาหรับพิสจู นส์ มมติฐานการวิจยั • สถติ นิ อนพาราเมตรกิ (nonparametric statistics) – เป็นสถิติทีไ่ ม่ไดท้ ดสอบเก่ยี วกบั ค่าพารามเิ ตอร์ของประชากร – การทดสอบไมค่ านึงถงึ ลกั ษณะการแจกแจงของประชากร ว่ามีลกั ษณะเช่นไร บางครงั้ จึงถกู เรยี กว่า “สถิติการแจกแจงอสิ ระ (Distribution-Free Statistics)” – สามารถใช้ไดก้ บั ข้อมูลทีม่ ีการวดั ระดบั นามบัญญัติ ขึ้นไป – สถิตินอนพาราเมตริกที่นยิ มใช้ ได้แก่ ▪ การทดสอบกรณีกลุม่ ตัวอยา่ งเดียว – การทดสอบทวนิ าม (Binomial test) – การทดสอบไคสแควร์ (Chi-square for goodness of fit test) » Chi-square test for proportion » Chi-square for goodness of fit test – การทดสอบโคโมโกรอฟ-สเมนอฟ (Kolmogorov-Smirnov test) – การทดสอบรนั (Run test) 65

สถิติสาหรับพิสจู นส์ มมติฐานการวิจัย 66 • (ต่อ) สถติ นิ อนพาราเมตรกิ ทนี่ ยิ มใช้ ได้แก่ – การทดสอบกรณีตัวอยา่ ง 2 กลุม่ ที่พ่งึ พิงกัน ▪ การทดสอบแมคนีมาร์ (McNemar test) ▪ การทดสอบเครื่องหมาย (Sign test) ▪ การทดสอบวลิ คอกซนั (Wilcoxon signed rank test) – การทดสอบกรณีตวั อยา่ ง 2 กลุม่ ทีเ่ ปน็ อิสระต่อกนั ▪ การทดสอบไคสแควร์ (Chi-square for homogeneity test) – Chi-square for independence of two variable ▪ การทดสอบมธั ยฐาน (Median test) ▪ การทดสอบแมนวิทนี (Mann-Whitney U test) ▪ การทดสอบโคโมโกรอฟ-สเมนอฟ ซี (Kolmogorov-Smirnov Z test) ▪ การทดสอบวาลว์ วฟู โฟวิทซ์ (Wald Wolfowitz runs test) ▪ การทดสอบโมเสส เอกตรีม รีแอกชนั (Moses extreme reactions test)

สถิติสาหรบั พิสูจน์สมมติฐานการวิจยั • (ต่อ) สถติ นิ อนพาราเมตรกิ ทนี่ ยิ มใช้ ได้แก่ – การทดสอบกรณตี ัวอยา่ ง k กลุม่ ที่พึง่ พงิ กนั ▪ การทดสอบฟรีดแมน (Friedman test) ▪ การทดสอบเคนดอล (Kendall’s W test) ▪ การทดสอบคอกแครน (Cochran’s Q test) – การทดสอบกรณตี วั อยา่ ง k กลุม่ ที่เปน็ อิสระตอ่ กัน ▪ การทดสอบครสั คอล วอลลสิ (Kruskal-Wallis H test) ▪ การทดสอบมธั ยฐาน (Median test) ▪ 1การทดสอบจอนเฮยี -แทปรา (Jonckheere-Terpstra test) 67

การเลือกใชส้ ถิติ สาหรบั พิสจู น์ สมมติฐานการวิจัย ทางการพยาบาล 68

Z-test และ t-test (Independent t-test, Paired t-test) • สถิติทีใ่ ช้ในการเปรียบเทียบคา่ เฉลีย่ ของ – กลุ่มตัวอยา่ งหนึง่ กลุ่มกบั ประชากร ----> One Sample t-test – กลุ่มตวั อยา่ งสองกลุ่มท่มี ีความสมั พันธก์ ัน ----> Paired samples t-test – กลุ่มตัวอย่างสองกลุ่มท่เี ปน็ อสิ ระต่อกนั ----> Independent t-test 69

Z-test และ t-test (Independent t-test, Paired t-test) • One Sample t-test • ข้อตกลงเบือ้ งตน้ 1. กลุ่มตัวอยา่ งมีขนาดเลก็ 2. ข้อมลู เปน็ interval scale หรือ ratio scale 3. กลุ่มตัวอย่างได้มาจากการสมุ่ จากประชากรทีม่ กี ารแจกแจงแบบปกติ (ทดสอบด้วย Kolmogorov–Smirnov Test) • การวิเคราะหข์ ้อมูลด้วย SPSS (สาธติ ) วตั ถปุ ระสงค:์ เพื่อทดสอบค่าเฉลีย่ ของความเครียดของนักศึกษาพยาบาลศาสตรบัณฑิตวิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี สุพรรณบรุ ี ว่ามากกวา่ หรือเท่ากบั 8 หรือไม่ (เมื่อกาหนดให้ คะแนน 0-4 เครียดน้อย, คะแนน 5-7 เครียดปานกลาง,คะแนน 8-9 เครียดมาก, คะแนน 10-15 เครียดมาก ที่สุด) 70

Z-test และ t-test (Independent t-test, Paired t-test) • One Sample t-test • ขอ้ ตกลงเบื้องตน้ เร่อื ง: กลุ่มตวั อย่างได้มาจากการสมุ่ จากประชากร ท่มี ีการแจกแจงแบบปกติ (ทดสอบด้วย Kolmogorov–Smirnov Test) 71

Z-test และ t-test (Independent t-test, Paired t-test) • One Sample t-test • ข้อตกลงเบือ้ งตน้ เรอ่ื ง: กลุ่มตัวอย่างได้มาจากการสมุ่ จากประชากรทีม่ กี ารแจก แจงแบบปกต(ิ ทดสอบด้วย Kolmogorov–Smirnov Test) ผลการวเิ คราะห์การแจกแจงปกตขิ องคา่ เฉลีย่ ของ ความเครียดของนักศกึ ษาพยาบาลศาสตรบณั ฑิต วิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี สพุ รรณบุรี ดว้ ยสถิติ Kolmogorov–Smirnov Test พบวา่ ค่า Kolmogorov– Smirnov Z = .105; p = .000 ซึ่งคา่ p < .05 จงึ สรปุ ผลวา่ ปฏิเสธสมมติฐานนัล (Ho) หมายความว่าคา่ เฉลี่ยของ ความเครียดของนกั ศกึ ษาพยาบาลศาสตรบัณฑิต วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุพรรณบุ ไมม่ ีมกี ารแจก แจงแบบปกติ ซึ่งเปน็ ไม่ไปตามข้อตกลงเบ้อื งตน้ ของการ ใช้สถิติ One Sample t-test (จึงควรเปลี่ยนไปใชส้ ถิติใน กลุ่ม nonparametric) 72

Z-test และ t-test (Independent t-test, Paired t-test) • One Sample t-test • การวิเคราะหข์ ้อมูลดว้ ย SPSS (สาธติ ) 1 2 3 5 4 6 7 73

Z-test และ t-test (Independent t-test, Paired t-test) • One Sample t-test • ตัวอยา่ งการนาเสนอผลการวิจยั 74

Z-test และ t-test (Independent t-test, Paired t-test) • One Sample t-test • ตัวอยา่ งการนาเสนอผลการวิจยั 75

Z-test และ t-test (Independent t-test, Paired t-test) Paired t-test • ข้อตกลงเบอ้ื งตน้ 1. กลุ่มตัวอยา่ งมีขนาดเลก็ 2. คา่ ของตัวแปรตามตอ้ งเป็นอสิ ระจากกัน 3. ข้อมลู เป็น interval scale หรือ ratio scale 4. กลุ่มตวั อยา่ งได้มาจากการสุ่มจากประชากรที่มกี ารแจกแจงแบบปกติ (ทดสอบด้วย Kolmogorov–Smirnov Test) • การวิเคราะหข์ อ้ มลู ด้วย SPSS (สาธติ , เอกสารประกอบฯ หนา้ 214) วตั ถปุ ระสงค์: เพื่อเปรียบเทียบผลการเรียนตลอดหลกั สูตรระหวา่ งผลการเรียน ตลอดหลกั สูตรมัธยมศกึ ษาผลการเรียนตลอดหลกั สูตรพยาบาลศาสตรบณั ฑิต 76

Z-test และ t-test (Independent t-test, Paired t-test) Paired t-test • การวิเครา1ะห์ข้อมลู ดว้ ย SPSS (สาธติ , เอกสารประกอบฯ หน้า 214) 2 3 5 4 7 77

Z-test และ t-test (Independent t-test, Paired t-test) Paired t-test • ตัวอย่างการนาเสนอผลการวิจัย 78

Z-test และ t-test (Independent t-test, Paired t-test) Paired t-test • ตัวอย่างการนาเสนอผลการวิจัย 79

Z-test และ t-test (Independent t-test, Paired t-test) Independent t – test • ข้อตกลงเบอ้ื งตน้ 1. กลุ่มตัวอยา่ งมีขนาดเล็ก 2. ประชากร 2 กลุ่มตอ้ งเปน็ อสิ ระจากกนั 3. ข้อมลู เป็น interval scale หรือ ratio scale 4. กลุ่มตัวอยา่ งได้มาจากการสุ่มจากประชากรทีม่ กี ารแจกแจงแบบปกติ (ทดสอบด้วย Kolmogorov–Smirnov Test) • การวิเคราะหข์ ้อมลู ดว้ ย SPSS (สาธติ , เอกสารประกอบฯ หน้า 204) วตั ถุประสงค์: เพือ่ เปรียบเทียบระดับความเครียดของนักศึกษาชายและนักศึกษาหญิง 80

Z-test และ t-test (Independent t-test, Paired t-test) Independent t – test • การวิเคราะห์ขอ้ มลู ดว้ ย SPSS (สาธติ , เอกสารประกอบฯ หนา้ 204) 81

Z-test และ t-test (Independent t-test, Paired t-test) Independent t – test • ตวั อย่างการนาเสนอผลการวิจัย 82

Z-test และ t-test (Independent t-test, Paired t-test) Independent t – test • ตวั อย่างการนาเสนอผลการวิจัย 83

การวิเคราะหค์ วามแปรปรวน (Analysis of Variance, ANOVA) Analysis of Variance, ANOVA • ขอ้ ตกลงเบ้อื งตน้ 1. ข้อมลู เป็น interval scale หรือ ratio scale 2. กลุ่มตวั อย่างได้มาจากการสมุ่ จากประชากรที่มกี ารแจกแจงแบบปกติ (ทดสอบด้วย Kolmogorov–Smirnov Test) 3. ความแปรปรวนของตัวแปรตามในแต่ละกลุ่มมีคา่ เทา่ กัน (homogeneity of variance): ทาการทดสอบด้วย Levene Statistic Test • การวิเคราะหข์ อ้ มูลดว้ ย SPSS (สาธติ , เอกสารประกอบฯ หน้า 222) วตั ถปุ ระสงค์: เพื่อเปรียบเทียบระดบั ความเครียดของนักศึกษาแต่ละชนั้ ปี 84

การวิเคราะห์ความแปรปรวน (Analysis of Variance, ANOVA) Analysis of Variance, ANOVA 85

การวิเคราะหค์ วามแปรปรวน (Analysis of Variance, ANOVA) Analysis of Variance, ANOVA - Omnibus Test 86

การวิเคราะหค์ วามแปรปรวน (Analysis of Variance, ANOVA) Analysis of Variance, ANOVA - Omnibus Test • ตวั อยา่ งการนาเสนอผลการวิจยั (Omnibus Test) 87

การวิเคราะห์ความแปรปรวน (Analysis of Variance, ANOVA) Analysis of Variance, ANOVA - Omnibus Test • ตัวอยา่ งการนาเสนอผลการวิจัย ในท่นี ี้ p-value > .05 จึงไม่ไดท้ าการเปรยี บเทยี บรายคู่ แต่กรณที ่ี p-value < .05 ต้องทาการเปรียบเทียบรายคู่เพือ่ ดูว่ามคี ใู่ ดบา้ งท่แี ตกต่างกัน (Post hoc test) 88

การวิเคราะหค์ วามแปรปรวน (Analysis of Variance, ANOVA) Analysis of Variance, ANOVA – Post hoc test 89

การวิเคราะห์ความแปรปรวน (Analysis of Variance, ANOVA) Analysis of Variance, ANOVA - Post hoc test • ตวั อย่างการนาเสนอ ผลการวิจัย 90

การวิเคราะหค์ วามแปรปรวน (Analysis of Variance, ANOVA) Analysis of Variance, ANOVA- Post hoc test • ตวั อย่างการนาเสนอผลการวิจยั ในที่น้ี p-value > .05 จึงสรปุ ผลการเปรียบเทยี บ รายคู่ได้ว่า ระดบั ความเครียดของนกั ศึกษา พยาบาลทุกชนั้ ปคี ไู่ ม่แตกตา่ งกัน 91

การวิเคราะห์สหสมั พนั ธ์ (Correlation) Simple Correlation • Pearson correlation - ข้อมูลเป็น interval scale หรือ ratio scale • Spearman rank correlation - ข้อมูลเป็น nominal scale ขึ้นไป วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล แหล่งท่ีมาของ ความเครยี ด กบั ระดบั ความเครียด 92

การวิเคราะหส์ หสมั พนั ธ์ (Correlation) Pearson correlation 93

การวิเคราะหส์ หสมั พันธ์ (Correlation) Spearman rank correlation 94

การวิเคราะห์สหสัมพนั ธ์ (Correlation) Simple Correlation - การแปลผลการวเิ คราะห์ข้อมลู จากขอ้ มูลชาย =1, หญิง = 2 เมื่อเพศเปลย่ี นทาใหค้ ่า r เปน็ -.119 ในที่น้ี p-value < .05 จึงสรปุ ว่า แสดงว่า นกั ศึกษาชายเครียดมากกว่านกั ศกึ ษาหญิง เพศมคี วามสมั พนั ธก์ บั ระดับ ความเครยี ดในทางลบ อย่างมี นยั สาคัญทางสถติ ิทีร่ ะดบั .05 (p = .040, r = -.119) 95

การวิเคราะหส์ หสมั พนั ธ์ (Correlation) การอ่านคา่ Simple Correlation - ระบคุ วามสมั พันธ์ - ทศิ ทาง - ขนาดความสาพันธ์ - ระดับความสมั พนั ธ์ (Hinkle D. E. 1998, p.118) 96

การวิเคราะหไ์ คสแควร์ (Chi-Square Test) • ข้อตกลงเบื้องต้น - Chi-Square Test 1. ใช้ค่าความถีห่ รอื จานวนนับ(Frequency data) ของแต่ละกลุ่มยอ่ ยในการคานวณคา่ ไม่สามารถใชค้ ่าสดั ส่วน ร้อยละ หรือค่าเฉลีย่ แทนได้ 2. ขนาดตัวอยา่ งเพยี งพอ(Adequate sample size) มคี า่ เฉลีย่ ในแต่ละกลุ่มย่อย (Cell) เป็นไปตามขอ้ กาหนด โดยเมือ่ แจกแจงความถีใ่ นตารางแล้ว ต้องไมม่ ี cell ใดที่มี ค่าความถเ่ี ป็น 0 และคานวณค่า Eij ที่น้อยกวา่ 5 ไมเ่ กินรอ้ ยละ 20 ของจานวน Cell 3. แตล่ ะกล่มุ ของข้อมลู ที่ศึกษาต้องเปน็ อสิ ระจากกนั (Measures independent of each other) ตวั อย่างแต่ละรายถูกจดั เข้ากลุม่ ไดเ้ พยี งกล่มุ เดียว หรือใชข้ อ้ มูลครง้ั เดียว 4. การจดั กล่มุ หรือประเภทของตวั แปรตอ้ งมีความหมายและมีเหตุผลเชงิ ทฤษฎี (Theoretical basis for the categorization of the variables) 97

การวิเคราะห์ไคสแควร์ (Chi-Square Test) 98

การวิเคราะห์ไคสแควร์ (Chi-Square Test) 99

การวิเคราะหไ์ คสแควร์ (Chi-Square Test) 100


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook