Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือ กคศ. วPA ศึกษานิเทศก์

คู่มือ กคศ. วPA ศึกษานิเทศก์

Published by jt2554, 2021-10-10 14:15:34

Description: คู่มือการดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งศึกษานิเทศก์

Keywords: คู่มือ กคศ. วPA ศึกษานิเทศก์

Search

Read the Text Version

- 96 - คำช้ีแจงกำรดำเนนิ กำรประเมินเพ่อื ขอมีวิทยฐำนะและเล่อื นวิทยฐำนะ ตำมหลักเกณฑแ์ ละวธิ ีกำรฯ ว 11/2564 ในชว่ งระยะเวลำเปล่ียนผ่ำน ด้วยหลักเกณฑ์และวิธีกำรประเมินตำแหน่งและวิทยฐำนะข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ ตำแหน่งศึกษำนิเทศก์ (ว 11/2564) หมวด 5 ได้กำหนดแนวปฏิบัติกำรดำเนินกำรขอมีวิทยฐำนะและเลื่อนวิทยฐำนะ ในช่วงระยะเวลำเปล่ียนผ่ำน โดยให้ศึกษำนิเทศก์ที่มีผลกำรพัฒนำงำนตำมข้อตกลงไม่ครบตำมจำนวน รอบกำรประเมินท่ีกำหนดไว้ในหมวด 3 และ 4 แล้วแต่กรณี สำมำรถนำผลกำรปฏิบัติงำน ด้ำนท่ี 3 ด้ำนผลกำรพัฒนำ คุณภำพกำรนิเทศกำรศึกษำ ตำมหลกั เกณฑ์และวิธีกำรฯ ว 17/2552 มำรำยงำนรวมกบั ผลกำรประเมนิ กำรพัฒนำงำน ตำมข้อตกลง (PA) เพ่ือใช้เป็นคุณสมบัติในกำรขอมีวิทยฐำนะหรือเล่ือนวิทยฐำนะ ในช่วงระยะเวลำเปลี่ยนผ่ำน ตำมหลักเกณฑ์และวิธีกำรฯ ว 11/2564 ดังนั้น เพื่อให้มีควำมชัดเจนในกำรดำเนินกำรประเมินดังกล่ำว ก.ค.ศ. จึงมีมติให้คณะกรรมกำรประเมินผลกำรพัฒนำงำนตำมข้อตกลง ดำเนินกำรประเมินผลกำรพัฒนำคุณภำพ กำรนิเทศกำรศึกษำ (ด้ำนท่ี 3 หรือด้ำนท่ี 3 ส่วนที่ 1 แล้วแต่กรณี) ตำมหลักเกณฑ์และวิธีกำรฯ ว 17/2552 หำกมผี ลกำรประเมนิ ผ่ำนเกณฑท์ ่ี ก.ค.ศ. กำหนด สำมำรถนำมำนับรวมกบั ผลกำรพฒั นำงำนตำมข้อตกลง (PA) ได้ ดังน้ี ก. กำรย่นื คำขอในปงี บประมำณ พ.ศ. 2566 (วันที่ 1 ตุลำคม 2565 ึงวันที่ 30 กันยำยน 2566) กรณีศึกษำนิเทศก์ประสงค์จะนำผลกำรพัฒนำคุณภำพกำรนิเทศกำรศึกษำ (ด้ำนที่ 3 หรือด้ำนท่ี 3 ส่วนที่ 1 แล้วแต่กรณี) ตำมหลักเกณฑ์และวิธีกำรฯ ว 17/2552 มำรำยงำนเพื่อนับรวมกับผลกำรพัฒนำงำนตำมข้อตกลง ให้รำยงำนผลกำรพัฒนำคุณภำพกำรนิเทศกำรศกึ ษำ และผลกำรพฒั นำงำนตำมข้อตกลง ดังน้ี 1. ให้คณะกรรมกำรประเมินผลกำรพัฒนำงำนตำมข้อตกลง ดำเนินกำรประเมินผลกำรพัฒนำคุณภำพ กำรนิเทศกำรศึกษำ ตำมตัวช้ีวัดที่กำหนดระดับคุณภำพไว้ 4 ระดับ คือ ระดับ 4 ระดับ 3 ระดับ 2 และระดับ 1 และให้แปลค่ำระดับคุณภำพท่ีได้เป็นคะแนน ตำมท่ี ก.ค.ศ. กำหนดไว้ในคู่มือกำรประเมินฯ ตำมหลักเกณฑ์ และวิธีกำรฯ ว 17/2552 โดยเปรียบเทียบผลกำรพัฒนำคุณภำพกำรนิเทศกำรศึกษำ (ด้ำนท่ี 3 หรือด้ำนที่ 3 ส่วนที่ 1 แล้วแต่กรณี) ปีกำรศึกษำ 2562 กับปีกำรศึกษำ 2563 ทั้งน้ี เกณฑ์กำรตัดสิน ผลกำรพัฒนำคุณภำพ กำรนิเทศกำรศึกษำ (ด้ำนท่ี 3 หรือด้ำนท่ี 3 ส่วนที่ 1 แล้วแต่กรณี) ในแต่ละวิทยฐำนะให้เป็นไปตำมหลักเกณฑ์ และวธิ กี ำรฯ ดังกลำ่ ว 2. นำผลกำรประเมินตำมข้อ 1 มำนับรวมกับผลกำรพัฒนำงำนตำมข้อตกลง ที่ผ่ำนเกณฑ์ ตำมที่ ก.ค.ศ. กำหนด และสรปุ คะแนนที่ไดใ้ นแบบรำยงำนผลกำรประเมิน ดังน้ี

- 97 - (1) ผลกำรพัฒนำคุณภำพกำรนิเทศกำรศึกษำ ตำมหลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ำรฯ ว 17/2552 รำยกำรประเมิน เปรยี บเทยี บปีกำรศกึ ษำ 2562 กับปกี ำรศกึ ษำ 2563 (ว 17/2552) ระดบั คุณภำพที่ได้ คะแนนเตม คะแนนทไ่ี ด้ 1. ผลทเี่ กดิ กับครู 1.1 คณุ ภำพในกำรจดั กำรเรยี นรู้ของครู ………………………… (20) ……… 1.2 ควำมพึงพอใจของครู ………………………… (5) ……… 2. ผลทเ่ี กิดกับผู้เรยี น ………………………… (10) ……… ผลสมั ฤทธ์ทิ ำงกำรเรียนของผเู้ รยี น 3. ผลทเ่ี กดิ กบั สถำนศกึ ษำ ………………………… (10) ……… 3.1 สถำนศึกษำมีกำรพฒั นำคณุ ภำพกำรศึกษำ ……………………… (5) ……… 3.2 สถำนศึกษำไดร้ บั กำรยอมรบั 4. ผลท่เี กิดกับระบบกำรจดั กำรศกึ ษำของสถำนศกึ ษำ 4.1 กำรจดั กำรศึกษำของสถำนศกึ ษำ ………………………… (5) ……… มีควำมสอดคลอ้ งกบั บรบิ ทของชมุ ชนและสังคม ……… …… 4.2 ควำมพึงพอใจของผู้ปกครองและชมุ ชน ……………………… (5) รวมคะแนน 60 สรุป ผลกำรประเมิน  ผ่ำนเกณฑ์  ไม่ผ่ำนเกณฑ์ (2) กำรพฒั นำงำนตำมขอ้ ตกลง (PA) ตำมหลกั เกณฑ์และวิธีกำรฯ ว 11/2564 กำรพัฒนำงำนตำมขอ้ ตกลง เกณฑ์กำรประเมิน ผลกำรประเมนิ ปงี บประมำณ พ.ศ. .... ต้องไดค้ ะแนนจำกกรรมกำรแต่ละคน กรรมกำรคนที่ 1 รอ้ ยละ…… ระหว่ำงวนั ท.่ี ..... ถึงวันที่…… ไม่ตำ่ กว่ำร้อยละ 70 กรรมกำรคนท่ี 2 รอ้ ยละ…… กรรมกำรคนท่ี 3 ร้อยละ…… สรปุ ผลกำรประเมนิ  ผำ่ นเกณฑ์  ไม่ผ่ำนเกณฑ์ ข กำรยนื่ คำขอในปีงบประมำณ พ.ศ. 2567 (วนั ท่ี 1 ตุลำคม 2566 ึงวนั ที่ 30 กันยำยน 2567) กรณีศึกษำนิเทศก์ประสงค์จะนำผลกำรพัฒนำคุณภำพกำรนิเทศกำรศึกษำ (ด้ำนที่ 3 หรือด้ำนที่ 3 ส่วนท่ี 1 แล้วแต่กรณี) ตำมหลักเกณฑ์และวิธีกำรฯ ว 17/2552 มำรำยงำนเพ่ือนับรวมกับผลกำรพัฒนำงำนตำมข้อตกลง ใหร้ ำยงำนผลกำรพฒั นำคณุ ภำพกำรนเิ ทศกำรศกึ ษำ และผลกำรพฒั นำงำนตำมขอ้ ตกลง ดงั น้ี 1. ให้คณะกรรมกำรประเมินผลกำรพัฒนำงำนตำมข้อตกลง ดำเนินกำรประเมินผลกำรพัฒนำคุณภำพ กำรนิเทศกำรศึกษำ ตำมตัวชี้วัดที่กำหนดระดับคุณภำพไว้ 4 ระดับ คือ ระดับ 4 ระดับ 3 ระดับ 2 และระดับ 1 และให้แปลค่ำระดับคุณภำพที่ได้เป็นคะแนน ตำมที่ ก.ค.ศ. กำหนดไว้ในคู่มือกำรประเมินฯ ตำมหลักเกณฑ์ และวิธีกำรฯ ว 17/2552 โดยเปรียบเทียบผลกำรพัฒนำคุณภำพกำรนิเทศกำรศึกษำ (ด้ำนท่ี 3 หรือด้ำนที่ 3 ส่วนที่ 1 แล้วแต่กรณี) ปีกำรศึกษำ 2562 กับปีกำรศึกษำ 2563 ทั้งนี้ เกณฑ์กำรตัดสิน ผลกำรพัฒนำคุณภำพ

- 98 - กำรนิเทศกำรศึกษำ (ด้ำนท่ี 3 หรือด้ำนที่ 3 ส่วนที่ 1 แล้วแต่กรณี) ในแต่ละวิทยฐำนะให้เป็นไปตำมหลักเกณฑ์ และวิธีกำรฯ ดังกลำ่ ว 2. นำผลกำรประเมินตำมข้อ 1 มำนับรวมกับผลกำรพัฒนำงำนตำมข้อตกลง ที่ผ่ำนเกณฑ์ ตำมที่ ก.ค.ศ. กำหนด และสรุปคะแนนทไี่ ดใ้ นแบบรำยงำนผลกำรประเมนิ ดังน้ี (1) ผลกำรพัฒนำคุณภำพกำรนเิ ทศกำรศึกษำ ตำมหลักเกณฑ์และวิธกี ำรฯ ว 17/2552 รำยกำรประเมิน เปรยี บเทยี บปกี ำรศกึ ษำ 2562 กับปีกำรศกึ ษำ 2563 (ว 17/2552) ระดับคณุ ภำพท่ีได้ คะแนนเตม คะแนนท่ีได้ 1. ผลทเ่ี กิดกบั ครู 1.1 คณุ ภำพในกำรจดั กำรเรยี นรู้ของครู ………………………… (20) ……… 1.2 ควำมพึงพอใจของครู ………………………… (5) ……… 2. ผลทเ่ี กิดกบั ผ้เู รยี น ผลสมั ฤทธิ์ทำงกำรเรียนของผเู้ รยี น ………………………… (10) ……… 3. ผลทเ่ี กดิ กับสถำนศกึ ษำ 3.1 สถำนศึกษำมีกำรพัฒนำคณุ ภำพกำรศกึ ษำ ………………………… (10) ……… 3.2 สถำนศกึ ษำได้รบั กำรยอมรบั ……………………… (5) ……… 4. ผลทเี่ กดิ กับระบบกำรจัดกำรศกึ ษำของสถำนศึกษำ 4.1 กำรจดั กำรศึกษำของสถำนศึกษำ ………………………… (5) ……… มีควำมสอดคล้องกบั บรบิ ทของชมุ ชนและสังคม 4.2 ควำมพึงพอใจของผ้ปู กครองและชมุ ชน ……………………… (5) ……… รวมคะแนน 60 …… สรปุ ผลกำรประเมิน  ผ่ำนเกณฑ์  ไม่ผ่ำนเกณฑ์ (2) กำรพฒั นำงำนตำมขอ้ ตกลง (PA) ตำมหลักเกณฑ์และวิธีกำรฯ ว 11/2564 กำรพัฒนำงำนตำมขอ้ ตกลง เกณฑก์ ำรประเมนิ ผลกำรประเมนิ ปงี บประมำณ พ.ศ. ....ระหวำ่ งวันท.ี่ ..... ถงึ วันท่ี…… กรรมกำรคนท่ี 1 รอ้ ยละ…… กรรมกำรคนท่ี 2 รอ้ ยละ…… ต้องไดค้ ะแนนจำกกรรมกำรแตล่ ะคน กรรมกำรคนที่ 3 ร้อยละ…… ปงี บประมำณ พ.ศ. ....ระหวำ่ งวนั ท่.ี ..... ถงึ วนั ท่ี…… ไมต่ ่ำกว่ำรอ้ ยละ 70 กรรมกำรคนท่ี 1 รอ้ ยละ…… กรรมกำรคนท่ี 2 ร้อยละ…… กรรมกำรคนท่ี 3 รอ้ ยละ…… สรปุ ผลกำรประเมิน  ผำ่ นเกณฑ์  ไม่ผำ่ นเกณฑ์ ว 17/2552

- 99 - สว่ นท่ี 4 การประเมนิ เพอ่ื ขอมวี ทิ ยฐานะหรอื เล่อื นวทิ ยฐานะ 4.1 การประเมนิ ดา้ นท่ี 1 ดา้ นทกั ษะการวางแผนพฒั นาการนิเทศการศกึ ษา กลยทุ ธ์ สอ่ื นวตั กรรม หรอื เทคโนโลยี ในการนิเทศการศกึ ษา หรอื การพฒั นาคุณภาพสถานศกึ ษา หรอื หน่วยงานการศกึ ษา และดา้ นท่ี 2 ดา้ นผลลพั ธใ์ นการพฒั นาการนิเทศการศกึ ษา ตอนที่ 4 กำรประเมนิ เพอ่ื ขอมีวทิ ยฐำนะหรือเลอื่ นวทิ ยฐำนะ

- 100 - คำชีแ้ จงกำรประเมนิ เพ่อื ขอมวี ิทยฐำนะหรือเล่ือนวทิ ยฐำนะ ดำ้ นท่ี 1 และด้ำนท่ี 2 กำรประเมินเพ่ือขอมีวิทยฐำนะหรือเลื่อนวิทยฐำนะ ตำมหลักเกณฑ์กำหนดให้มีกำรประเมิน 2 ด้ำน ด้ำนที่ 1 ด้ำนทักษะกำรวำงแผนพัฒนำกำรนิเทศกำรศึกษำ กลยุทธ์ สื่อ นวัตกรรม หรือเทคโนโลยี ในกำรนเิ ทศกำรศกึ ษำ หรอื กำรพัฒนำคุณภำพสถำนศึกษำหรือหนว่ ยงำนกำรศึกษำ ด้ำนที่ 2 ด้ำนผลลัพธ์ในกำรพัฒนำกำรนิเทศกำรศึกษำ โดยมีองค์ประกอบกำรประเมิน เกณฑ์กำรให้คะแนน วิธีกำรประเมนิ และเกณฑก์ ำรตดั สนิ ดังนี้ 1. องค์ประกอบกำรประเมิน กำรประเมินด้ำนที่ 1 ดำ้ นทักษะกำรวำงแผนพฒั นำกำรนิเทศกำรศกึ ษำ กลยุทธ์ สื่อ นวตั กรรม หรือเทคโนโลยี ในกำรนิเทศกำรศึกษำ หรือกำรพัฒนำคุณภำพสถำนศึกษำหรือหน่วยงำนกำรศึกษำ คะแนนเตม 40 คะแนน แบง่ เปน็ 8 ตวั บง่ ช้ี ดังนี้ (1) กระบวนกำรจดั กำรเรียนรู้ (ประกนั คุณภำพ/กำรพัฒนำคุณภำพอย่ำงต่อเน่ือง) (2) คุณภำพของหลักสูตรและนกั เรยี น (3) กำรพัฒนำสมรรถนะ (4) กำรสอนงำนระบบพเ่ี ล้ียง (5) กำรจดั กำรเรียนรู้/กำรแกป้ ญั หำของผ้รู ับกำรนิเทศ (6) ควำมคดิ สรำ้ งสรรคแ์ ละนวัตกรรม (7) ระดมทรัพยำกร เครือข่ำย และควำมรว่ มมือ (8) ภำวะผู้นำแบบรว่ มกนั กำรประเมินด้ำนท่ี 2 ด้ำนผลลัพธ์ในกำรพัฒนำกำรนิเทศกำรศึกษำ คะแนนเตม 20 คะแนน แบง่ เป็น 4 ตัวบ่งช้ี ดงั นี้ (1) ผลงำนหรือผลกำรปฏิบตั เิ ปน็ ผลลพั ธ์ที่เกิดขน้ึ จำกกำรนิเทศกำรศึกษำของศึกษำนเิ ทศก์ (2) ผลงำนหรือผลกำรปฏิบตั ิสง่ ผลถึงกำรพฒั นำครใู นสถำนศึกษำ (3) ผลงำนหรือผลกำรปฏิบตั ิส่งผลถึงกำรพฒั นำผู้เรียน (4) ผลงำนหรอื ผลกำรปฏิบตั ิส่งผลถึงคุณภำพสถำนศกึ ษำ หรือหน่วยงำนกำรศึกษำ 2. เกณฑ์กำรใหค้ ะแนน (Scoring Rubric) ด้ำนที่ 1 ด้ำนทักษะกำรวำงแผนพัฒนำกำรนิเทศกำรศึกษำ กลยุทธ์ ส่ือ นวัตกรรม หรือเทคโนโลยี ในกำรนิเทศกำรศกึ ษำ หรือกำรพัฒนำคณุ ภำพสถำนศกึ ษำหรือหน่วยงำนกำรศกึ ษำ 1 คะแนน เมอ่ื ปรำกฏชดั เจนว่ำสำมำรถปฏบิ ตั ิตำมขอ้ 1 ถึง ข้อ 3 ได้ 1 ข้อ คะแนน เมื่อปรำกฏชดั เจนว่ำสำมำรถปฏิบตั ติ ำมข้อ 1 ถึง ข้อ 3 ได้ 2 ข้อ 3 คะแนน เมื่อปรำกฏชดั เจนว่ำสำมำรถปฏิบตั ิตำมขอ้ 1 ถึง ข้อ 3 ไดท้ ้ัง 3 ข้อ 4 คะแนน เมอื่ ปรำกฏชดั เจนวำ่ สำมำรถปฏิบตั ติ ำมขอ้ 1 ถึง ข้อ 3 ไดท้ ง้ั 3 ข้อ และปรำกฏชัดเจนวำ่ สำมำรถปฏบิ ตั ติ ำมขอ้ 4 หรือ ขอ้ 5 ได้ 1 ข้อ 5 คะแนน เม่ือปรำกฏชดั เจนวำ่ สำมำรถปฏบิ ตั ิตำมขอ้ 1 ถึง ขอ้ 3 ได้ทงั้ 3 ข้อ และปรำกฏชัดเจนว่ำสำมำรถปฏบิ ัตติ ำมข้อ 4 และ ข้อ 5 ไดท้ งั้ 2 ข้อ

- 101 - ดำ้ นที่ 2 ดำ้ นผลลพั ธใ์ นกำรพฒั นำกำรนเิ ทศกำรศึกษำ 1 คะแนน เมอื่ ปฏิบตั ไิ ดห้ รอื ปรำกฏผลชัดเจน 1 ขอ้ จำก 5 ข้อ คะแนน เม่ือปฏิบัตไิ ดห้ รือปรำกฏผลชดั เจน 2 ขอ้ จำก 5 ข้อ เม่ือปฏิบตั ไิ ดห้ รือปรำกฏผลชดั เจน 3 ข้อ จำก 5 ข้อ 3 คะแนน เมื่อปฏิบตั ไิ ดห้ รอื ปรำกฏผลชัดเจน 4 ข้อ จำก 5 ข้อ 4 คะแนน เมอื่ ปฏิบตั ไิ ดห้ รือปรำกฏผลชัดเจนท้ัง 5 ข้อ 5 คะแนน 3. วิธีกำรประเมินเพ่ือขอมีวิทยฐำนะหรอื เล่ือนวทิ ยฐำนะ ด้ำนท่ี 1 ดำ้ นทกั ษะกำรวำงแผนพฒั นำกำรนิเทศกำรศึกษำ กลยุทธ์ ส่ือ นวัตกรรม หรอื เทคโนโลยี ในกำรนเิ ทศกำรศึกษำ หรอื กำรพฒั นำคุณภำพสถำนศึกษำหรือหน่วยงำนกำรศึกษำ ให้คณะกรรมกำรประเมินดำเนินกำรประเมินด้ำนที่ 1 ด้ำนทักษะกำรวำงแผนพัฒนำ กำรนิเทศกำรศึกษำ กลยุทธ์ สื่อ นวัตกรรม หรือเทคโนโลยี ในกำรนิเทศกำรศึกษำ หรือกำรพัฒนำคุณภำพ สถำนศึกษำหรือหน่วยงำนกำรศึกษำ โดยพิจำรณำจำก 1) รำยงำนผลกำรดำเนินกำรตำมแผนพัฒนำกำรนิเทศกำรศึกษำ กลยุทธ์ ส่ือ นวัตกรรม หรอื เทคโนโลยี ในกำรนิเทศกำรศึกษำ หรือกำรพัฒนำคุณภำพสถำนศึกษำหรือหนว่ ยงำนกำรศึกษำ ตำมโครงกำร หรือกิจกรรมในแผนพัฒนำกำรนิเทศกำรศึกษำ ในรูปแบบไฟล์ PDF ซ่ึงผู้ขอได้พัฒนำข้ึนและนำไปใช้ในกำรพัฒนำ กำรนเิ ทศกำรศึกษำจริงในชว่ งท่ีดำรงตำแหน่งศึกษำนิเทศก์หรือดำรงวิทยฐำนะ แลว้ แตก่ รณี 2) กำรนำเสนอกำรพัฒนำกำรนิเทศกำรศึกษำ กลยุทธ์ ส่ือ นวัตกรรม หรือเทคโนโลยี ในกำรนิเทศกำรศกึ ษำ หรอื กำรพฒั นำคุณภำพสถำนศึกษำหรือหน่วยงำนกำรศึกษำ ตำมโครงกำรหรอื กิจกรรม ในแผนพัฒนำกำรนิเทศกำรศึกษำที่เสนอในข้อ 1) โดยแสดงให้เห็นถึงสภำพปัญหำ ที่มำ หรือแรงบันดำลใจ ระดับกำรปฏิบัติที่คำดหวังตำมมำตรฐำนวิทยฐำนะท่ีขอรับกำรประเมิน และผลลัพธ์ที่เกิดจำกกำรดำเนินกำร ตำมโครงกำรหรือกิจกรรม ซึ่งสะท้อนคุณภำพกำรจัดกำรเรียนรู้หรือกำรจัดกำรศึกษำของผู้รับกำรนิเทศ หรือกำรพัฒนำคุณภำพสถำนศึกษำหรือหน่วยงำนกำรศึกษำ ท่ีส่งผลต่อคุณภำพผู้เรียน ทั้งนี้ ให้นำเสนอ เป็นไฟลว์ ดี ทิ ศั น์ตำมรปู แบบที่ ก.ค.ศ. กำหนด จำนวน 1 ไฟล์ ด้ำนที่ 2 ดำ้ นผลลพั ธ์ในกำรพฒั นำกำรนเิ ทศกำรศกึ ษำ ให้คณะกรรมกำรประเมินดำเนินกำรประเมินด้ำนท่ี 2 ด้ำนผลลัพธ์ในกำรพัฒนำกำรนิเทศกำรศึกษำ โดยพิจำรณำจำก ผลงำนหรือกำรปฏิบัติของผู้รับกำรนิเทศ ท่ีสะท้อนคุณภำพกำรจัดกำรเรียนรู้หรือกำรจัดกำรศึกษำ หรือผลกำรพัฒนำคุณภำพสถำนศึกษำหรือหน่วยงำนกำรศึกษำ ที่มีกำรเปล่ียนแปลงไปในทำงที่ดีข้ึน หรือมีกำรพัฒนำมำกข้ึน และส่งผลต่อคุณภำพผู้เรียนที่เสนอไว้ในด้ำนที่ 1 โดยให้นำเสนอเป็นไฟล์วีดิทัศน์ ตำมรปู แบบที่ ก.ค.ศ. กำหนด จำนวน 1 ไฟล์

- 102 - 4. เกณฑก์ ำรตดั สนิ ผู้ผ่ำนกำรประเมินด้ำนที่ 1 ด้ำนทักษะกำรวำงแผนพัฒนำกำรนิเทศกำรศึกษำ กลยุทธ์ สื่อ นวตั กรรม หรือเทคโนโลยี ในกำรนิเทศกำรศึกษำ หรือกำรพฒั นำคุณภำพสถำนศึกษำหรือหน่วยงำนกำรศึกษำ และดำ้ นท่ี 2 ดำ้ นผลลพั ธใ์ นกำรพฒั นำกำรนิเทศกำรศกึ ษำ จะต้องไดค้ ะแนน ดงั น้ี วิทยฐำนะศึกษำนิเทศก์ชำนำญกำร จะตอ้ งไดค้ ะแนนจำกกรรมกำรแต่ละคนไมต่ ่ำกว่ำ ร้อยละ 65 วทิ ยฐำนะศึกษำนิเทศก์ชำนำญกำรพเิ ศษ จะตอ้ งไดค้ ะแนนจำกกรรมกำรแตล่ ะคนไม่ต่ำกวำ่ ร้อยละ 70 วทิ ยฐำนะศกึ ษำนิเทศก์เช่ยี วชำญ จะต้องไดค้ ะแนนจำกกรรมกำรแตล่ ะคนไม่ต่ำกว่ำ ร้อยละ 75 วิทยฐำนะศึกษำนิเทศก์เชย่ี วชำญพเิ ศษ จะต้องได้คะแนนจำกกรรมกำรแต่ละคนไมต่ ำ่ กวำ่ ร้อยละ 80

- 103 - แบบคำขอมีวทิ ยฐำนะหรอื เลอื่ นวทิ ยฐำนะ ของขำ้ รำชกำรครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ ตำแหน่งศึกษำนเิ ทศก์ (ทุกวิทยฐำนะ) ขอมีวทิ ยฐำนะหรอื เลื่อนเปนวทิ ยฐำนะ......................................................................... 1. ข้อมูลทวั่ ไป ชือ่ ผูข้ อ นาย/นาง/นางสาว ...................................................นามสกลุ ……....................…..……............................ เลขประจาตัวประชาชน.........................................................อายุ...........ปี ปีเกษียณอายรุ าชการ......................... ตาแหนง่ ..................................................... วิทยฐานะ................................................ ตาแหน่งเลขท่ี .................. หนว่ ยงานการศกึ ษา........................................................... สงั กดั .......................................................................... ส่วนราชการ.......................................................... รับเงนิ เดือนอนั ดบั ............... อัตราเงินเดือน....................บาท ไดร้ บั แต่งต้ังให้ดำรงตำแหนง่ และวิทยฐำนะปัจจบุ นั เมื่อวันที.่ .............. เดือน........................... พ.ศ. ................ เคยขอมีวิทยฐำนะหรือเลอื่ นวิทยฐำนะเดียวกันน้ี ครั้งสดุ ท้ำย เมือ่ วนั ที่...........เดอื น......................พ.ศ. ............. 2. คณุ วุฒิ 1. มวี ฒุ ปิ ริญญำตรี......................................วชิ ำเอก/สำขำ/โปรแกรมวชิ ำ......................................................... จำกสถำบนั กำรศึกษำ............................................. ประเทศ.............................. เมอื่ วนั ที.่ ............................ 2. มีวฒุ ปิ รญิ ญำโท .....................................วิชำเอก/สำขำ/โปรแกรมวชิ ำ......................................................... จำกสถำบนั กำรศึกษำ............................................. ประเทศ.............................. เม่ือวนั ท่ี............................. 3. มวี ฒุ ปิ รญิ ญำเอก.....................................วชิ ำเอก/สำขำ/โปรแกรมวชิ ำ......................................................... จำกสถำบนั กำรศึกษำ............................................. ประเทศ.............................. เมื่อวันท่.ี ............................ 3. ใบอนญุ ำตประกอบวิชำชีพศกึ ษำนเิ ทศก์ เลขท่.ี ..............ออกให้เมื่อวันที่........... วัน/เดอื น/ปี ท่หี มดอำยุ........ 4. กำรพัฒนำงำนตำมข้อตกลง (PA) ในช่วงระยะเวลำยอ้ นหลัง 3 รอบกำรประเมิน 4.1 ภำระงำนตำมท่ี ก.ค.ศ. กำหนด  เต็มเวลำ  ไม่เต็มเวลำ เนอ่ื งจำก....................................................................................................... 4.2 ผลกำรพัฒนำงำนตำมข้อตกลง รอบที่ 1 ปีงบประมำณ พ.ศ. ...... ระหวำ่ งวนั ท่.ี .............. ถงึ วันท่ี................... มผี ลกำรประเมินร้อยละ...... รอบท่ี 2 ปีงบประมำณ พ.ศ. ...... ระหวำ่ งวนั ท.่ี .............. ถึงวันท่ี................... มีผลกำรประเมินร้อยละ...... รอบท่ี 3 ปงี บประมำณ พ.ศ. ...... ระหวำ่ งวันท.ี่ .............. ถึงวนั ท่ี................... มผี ลกำรประเมินร้อยละ...... ท้ังน้ีศึกษำนิเทศก์ท่ีย่ืนขอรับกำรประเมินช่วงระยะเวลำเปล่ียนผ่ำนในปีงบประมำณ พ.ศ. 2566 ใช้ผลกำรพัฒนำงำนตำมข้อตกลง 1 รอบกำรประเมิน ปีงบประมำณ พ.ศ. 2567 ใช้ผลกำรพัฒนำงำนตำมข้อตกลง 2 รอบกำรประเมิน และตั้งแต่ปีงบประมำณ พ.ศ. 2568 เปน็ ตน้ ไป ใช้ผลกำรพัฒนำงำนตำมขอ้ ตกลง 3 รอบกำรประเมนิ สำหรับศึกษำนิเทศก์ที่ปฏิบัติหน้ำท่ีในจังหวัดชำยแดนภำคใต้ จังหวัดยะลำ ปัตตำนี นรำธิวำส และสงขลำ (เฉพำะพื้นท่ีอำเภอเทพำ สะบ้ำย้อย นำทวี และจะนะ) ที่ยื่นขอรับกำรประเมินเพื่อขอมีวิทยฐำนะ หรือเล่ือนวิทยฐำนะชำนำญกำรหรือชำนำญกำรพิเศษ ในปีงบประมำณ พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป ใช้ผลกำรพัฒนำงำน ตำมขอ้ ตกลง 1 รอบกำรประเมนิ

- 104 - 5. วนิ ัย คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และจรรณยำบรรณวชิ ำชีพ ในช่วงระยะเวลำยอ้ นหลัง 4 ปี  ไมเ่ คยถกู ลงโทษทำงวนิ ัยท่ีหนักกวำ่ โทษภำคทัณฑ์ หรือไม่เคยถูกวินิจฉัยช้ีขำดทำงจรรณยำบรรณวิชำชพี ท่หี นักกว่ำภำคทัณฑ์  เคยถูกลงโทษทำงวินัยท่ีหนักกว่ำโทษภำคทัณฑ์ หรือถูกวินิจฉัยชี้ขำดทำงจรรณยำบรรณวิชำชีพ หนกั กว่ำภำคทัณฑ์ ในปี พ.ศ......... (วนั ท่ี......เดือน..................พ.ศ.........ถงึ วันที่......เดือน..................พ.ศ. ........) ตำมคำส่ัง......................ที่..................เร่อื ง.................................สั่ง ณ วนั ท่ี ................. เดือน ................... พ.ศ. .............. 6. กำรใช้เง่ือนไขลดระยะเวลำ ตำมหนงั สือสำนกั งำน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.4/ว 4 ลงวันท่ี 28 มกรำคม 2564  ไมข่ อใช้เงื่อนไขกำรลดระยะเวลำในกำรขอมีวิทยฐำนะหรือเล่ือนวทิ ยฐำนะ ศึกษำนิเทศก์ที่ประสงค์จะใช้เงื่อนไขกำรลดระยะเวลำในกำรขอมีวิทยฐำนะหรือเล่ือนวิทยฐำนะ ต้องมีผลกำรประเมินผลกำรปฏิบัติงำนในระดับดีเด่น 4 รอบกำรประเมินกำรเลื่อนเงินเดือนล่ำสุดติดต่อกัน ก่อนยน่ื คำขอ และตอ้ งมคี ณุ สมบตั ิตำมข้อใดข้อหน่ึง ดังตอ่ ไปน้ี  ไม่เคยใช้เงอื่ นไขกำรลดระยะเวลำ และประสงค์จะใชเ้ งื่อนไขกำรลดระยะเวลำในกำรขอมวี ทิ ยฐำนะ หรือเลอื่ นวทิ ยฐำนะ  ตำมข้อ 1.1 ควำมสำมำรถทำงภำษำตำ่ งประเทศ สูงกวำ่ ระดับ.................. วนั ที่ผ่ำนกำรทดสอบ....................... วันหมดอำยุ ............................. (ตอ้ งมีอำยไุ มเ่ กิน 2 ปีนบั ถึงวนั ที่ยน่ื คำขอ) “1.1 เป็นผู้มีควำมสำมำรถทำงภำษำต่ำงประเทศ สูงกว่ำระดับ B1 โดยให้เทียบกับเกณฑ์ผลกำรทดสอบ Common European Framework of Reference for Language (CEFR) ตำมหลกั เกณฑก์ ำรเทียบเคยี งผลกำรทดสอบ และประเมนิ สมรรถนะทำงวิชำชีพครู ดำ้ นควำมรแู้ ละประสบกำรณว์ ิชำชีพ ตำมมำตรฐำนวิชำชพี ครู”  ตำมขอ้ 1.2 มคี ุณวฒุ ิระดับปริญญำเอก ............วิชำเอก......................... ทเ่ี ก่ียวข้องกับกำรจัดกำรเรียนรู้ และกำรบริหำรจดั กำรสถำนศึกษำ และไม่เคยนำมำใช้ลดระยะเวลำมำก่อน  เคยใช้เง่อื นไขกำรลดระยะเวลำแลว้ แต่กำรขอเล่ือนวทิ ยฐำนะในครง้ั นี้ ประสงคจ์ ะขอใช้เงื่อนไข กำรลดระยะเวลำตำมข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้  ตำมขอ้ 1.1 ควำมสำมำรถทำงภำษำต่ำงประเทศ สูงกว่ำระดบั .................. วนั ทผ่ี ่ำนกำรทดสอบ....................... วันหมดอำยุ ............................. (ต้องมอี ำยุไม่เกิน 2 ปีนับถงึ วนั ท่ียนื่ คำขอ) “1.1 เป็นผู้มีควำมสำมำรถทำงภำษำต่ำงประเทศ สูงกว่ำระดับ B1 โดยให้เทียบกับเกณฑ์ผลกำรทดสอบ Common European Framework of Reference for Language (CEFR) ตำมหลักเกณฑ์กำรเทียบเคียงผลกำรทดสอบ และประเมนิ สมรรถนะทำงวชิ ำชีพครู ด้ำนควำมรแู้ ละประสบกำรณ์วชิ ำชีพ ตำมมำตรฐำนวชิ ำชพี ครู”  ตำมข้อ 1.2 มคี ุณวฒุ ริ ะดับปรญิ ญำเอก ..............วชิ ำเอก................................ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกับกำรจดั กำรเรยี นรู้ และกำรบรหิ ำรจดั กำรสถำนศึกษำ และไม่เคยนำมำใชล้ ดระยะเวลำมำก่อน ท้งั น้ี เง่อื นไขลดระยะเวลำดงั กล่ำว ไมค่ รอบคลุมถงึ ศกึ ษำนิเทศกผ์ ใู้ ชส้ ทิ ธนิ บั ระยะเวลำทวคี ูณตำมระเบียบ สำนักนำยกรฐั มนตรีว่ำดว้ ยบำเหน็จควำมชอบสำหรบั เจ้ำหนำ้ ทผ่ี ู้ปฏบิ ตั ิงำนในจงั หวัดชำยแดนภำคใต้ พ.ศ. 2550

- 105 - 7. ศกึ ษำนิเทศก์ที่ปฏบิ ตั ิงำนในส ำนศกึ ษำท่ตี งั้ อยูใ่ นพ้ืนท่ีพเิ ศษเฉพำะกิจจงั หวดั ชำยแดนใต้ จงั หวดั ยะลำ ปัตตำนี นรำธิวำส และสงขลำ (เฉพำะพน้ื ที่อำเภอเทพำ สะบำ้ ยอ้ ย นำทวี และจะนะ) หำกประสงค์ใช้สิทธินับระยะเวลำทวีคูณตำมระเบียบสำนักนำยกรัฐมนตรี ว่ำด้วยบำเหน็จควำมชอบ สำหรับเจ้ำหน้ำท่ีผู้ปฏิบัติงำนในจังหวัดชำยแดนภำคใต้ พ.ศ. 2550 ในกำรขอมีวิทยฐำนะชำนำญกำรหรือเลื่อนเป็น วิทยฐำนะชำนำญกำรพิเศษ ผู้ขอได้ปฏิบัติหน้ำที่ในจังหวัด........................................... ตั้งแต่วันที่ ...................................ถึงวันท่ี..................................รวมเป็นเวลำ........ปี.........เดือน.........วัน (ต้องปฏิบัติหน้ำท่ี ในจังหวัดยะลำ ปัตตำนี นรำธิวำส และสงขลำ (เฉพำะพ้ืนท่ีอำเภอเทพำ สะบ้ำย้อย นำทวี และจะนะ) มำแล้ว ไม่น้อยกวำ่ 1 ปี ตดิ ตอ่ กนั นบั ถงึ วันท่ียื่นคำขอ) ทั้งน้ี ศึกษำนิเทศก์ที่ใช้สิทธินับระยะเวลำทวีคูณตำมระเบียบฯ ดังกล่ำว เม่ือได้รับกำรแต่งต้ังให้มีวิทยฐำนะ หรือเล่ือนวิทยฐำนะแล้ว หำกจะย้ำยหรือไปช่วยปฏิบัติรำชกำรนอกเขตพื้นท่ีพิเศษจะต้องมีระยะเวลำปฏิบัติหน้ำท่ี ในพ้นื ที่ดงั กล่ำว ไมน่ อ้ ยกว่ำ 3 ปี นับแต่วันท่มี ผี ลอนมุ ตั ิให้มีวทิ ยฐำนะหรอื เลอื่ นวิทยฐำนะ 8. ข้อมูลกำรประเมนิ เพ่ือขอมีวิทยฐำนะหรือเล่ือนวทิ ยฐำนะ 8.1 ด้านที่ 1 ด้านทักษะการวางแผนพัฒนาการนิเทศการศึกษา กลยุทธ์ ส่ือ นวัตกรรม หรือเทคโนโลยี ในการนเิ ทศการศึกษา หรอื การพัฒนาคุณภาพสถานศกึ ษาหรอื หนว่ ยงานการศึกษา ใหห้ น่วยงำนกำรศึกษำ/สว่ นรำชกำร แล้วแต่กรณี นำข้อมูลของผู้ขอเข้ำสู่ระบบ DPA ดังต่อไปน้ี 8.1.1 รำยงำนผลกำรดำเนินงำนตำมแผนพัฒนำกำรนิเทศกำรศึกษำ กลยุทธ์ สื่อ นวัตกรรม หรือเทคโนโลยี ในกำรนิเทศกำรศึกษำ หรือกำรพัฒนำคุณภำพสถำนศึกษำหรือหน่วยงำนกำรศึกษำ ตำมโครงกำรหรือกิจกรรม ในแผนพัฒนำกำรนิเทศกำรศึกษำ เรื่อง..................................................................... ในรูปแบบไฟล์ PDF จำนวน 1 ไฟล์ (ซ่งึ ผู้ขอไดพ้ ัฒนาขนึ้ และนาไปใช้ในการพฒั นาการนิเทศการศึกษาจรงิ ในตำแหน่งหรอื วทิ ยฐำนะทด่ี ำรงอยู่) 8.1.2 ไฟล์วีดิทัศน์กำรนำเสนอกำรพัฒนำนิเทศกำรศึกษำ กลยุทธ์ สื่อ นวัตกรรม หรือเทคโนโลยี ในกำรนิเทศกำรศึกษำ หรือกำรพัฒนำคุณภำพสถำนศึกษำหรือหน่วยงำนกำรศึกษำ ตำมโครงกำรหรือกิจกรรม ในแผนพัฒนำกำรนเิ ทศกำรศกึ ษำ ท่เี สนอตำมขอ้ 8.1.1 โดยมีรูปแบบตำมที่ ก.ค.ศ. กำหนด จำนวน 1 ไฟล์ 8.2 ด้ำนท่ี 2 ดำ้ นผลลัพธ์ในกำรพฒั นำกำรนิเทศกำรศึกษำ ไฟล์วีดิทัศน์กำรนำเสนอผลงำนหรือผลกำรปฏิบัติของผู้รับกำรนิเทศ ท่ีสะท้อนคุณภำพกำรจัด ก ำ ร เ รี ย น รู้ หรือกำรจัดกำรศึกษำ หรือผลกำรพัฒนำคุณภำพ สถำนศึกษำหรือหน่วยงำนกำรศึกษำ ที่มีกำรเปลี่ยนแปลงไปในทำงที่ดีขึ้นหรือมีกำรพัฒนำมำกข้ึน และส่งผลต่อคุณภำพผู้เรียน ตำมที่เสนอไว้ ในด้ำนที่ 1 โดยมีรปู แบบตำมท่ี ก.ค.ศ. กำหนด จำนวน 1 ไฟล์ 8.3 ด้ำนที่ 3 ด้ำนผลงำนทำงวิชำกำร (เฉพำะผู้ขอเลื่อนเป็นวิทยฐำนะศึกษำนิเทศก์เชี่ยวชำญหรือ ศึกษำนเิ ทศกเ์ ชีย่ วชำญพเิ ศษ) ให้ผู้ขอเสนอผลงำนทำงวิชำกำรตำมที่ ก.ค.ศ. กำหนดในรูปแบบไฟล์ PDF เพ่ือให้หน่วยงำนกำรศึกษำ/ ส่วนรำชกำร แลว้ แตก่ รณี นำข้อมลู เขำ้ สรู่ ะบบ DPA

- 106 - 8.3.1 เสนอผลงำนทำงวชิ ำกำร จำนวน ............... รำยกำร ดังน้ี 1) ชอ่ื ผลงำน ................................................................................................................. 2) ชอื่ ผลงำน ................................................................................................................. 8.3.2 ผลงำนทำงวิชำกำรท่ีได้รับกำรเผยแพร่ สำหรับกำรขอเล่ือนเป็นวิทยฐำนะศึกษำนิเทศก์เชีย่ วชำญพิเศษ ไดน้ ำไปเผยแพร.่ ...................................... และงำนวิจัยได้รับกำรตีพิมพ์เผยแพร่บทควำมวิจัยในวำรสำรวิชำกำรท่ีอยู่ในฐำนข้อมูลของศูนย์ดัชนีกำรอ้ำงอิง วำรสำรไทย หรือ Thai - Journal Citation Index Centre (TCI) กลุ่ม 1 หรือ กลุ่ม 2 โดยให้ส่งบทควำมวิจัย ทต่ี ีพิมพ์เผยแพรใ่ นรูปแบบไฟล์ PDF ดว้ ย ให้ระบชุ ่ือวำรสำร.............................. เลขมำตรฐำนสำกลประจำวำรสำร (ISSN) ...................................เวบ็ ไซต์ .............................. 9. กำรขอรับกำรประเมินในชว่ งระยะเวลำเปลี่ยนผำ่ น ดยใช้ผลกำรปฏิบัติงำนตำมหลกั เกณฑ์เดมิ มำรำยงำน ศึกษำนิเทศก์ท่ีมีคุณสมบัติและประสงค์จะย่ืนขอรับกำรประเมินตำมหลักเกณฑ์และวิธีกำรฯ ว 11/2564 ในช่วงระเวลำเปลีย่ นผ่ำน ให้ยน่ื คำขอตอ่ หน่วยงำนกำรศกึ ษำ/สว่ นรำชกำร แลว้ แตก่ รณี เพอ่ื นำข้อมลู เขำ้ สู่ระบบ DPA 9.1 กำรยนื่ คำขอในปีงบประมำณ พ.ศ. 2566 (วนั ท่ี 1 ตุลำคม 2565 ึงวันท่ี 30 กันยำยน 2566) กรณีศึกษำนิเทศก์ประสงค์จะนำผลกำรพัฒนำคุณภำพกำรนิเทศกำรศึกษำ (ด้ำนท่ี 3 หรือด้ำนท่ี 3 ส่วนที่ 1 แล้วแต่กรณี) ตำมหลักเกณฑ์และวิธีกำรฯ ว 17/2552 มำรำยงำนเพ่ือนับรวมกับผลกำรพัฒนำงำนตำมข้อตกลง ให้รำยงำนผลกำรพัฒนำคณุ ภำพกำรนเิ ทศกำรศึกษำ และผลกำรพฒั นำงำนตำมข้อตกลง ดังนี้ (1) ผลกำรพัฒนำคุณภำพกำรนเิ ทศกำรศึกษำ ตำมหลักเกณฑแ์ ละวิธีกำรฯ ว 17/2552 รำยกำรประเมนิ เปรยี บเทียบปกี ำรศกึ ษำ 2562 กับปีกำรศกึ ษำ 2563 (ว 17/2552) ระดับคุณภำพท่ีได้ คะแนนเตม คะแนนทไ่ี ด้ 1. ผลที่เกดิ กบั ครู 1.1 คณุ ภำพในกำรจดั กำรเรียนรู้ของครู ………………………… (20) ……… 1.2 ควำมพงึ พอใจของครู ………………………… (5) ……… 2. ผลที่เกิดกับผเู้ รียน ผลสมั ฤทธท์ิ ำงกำรเรยี นของผู้เรยี น ………………………… (10) ……… 3. ผลที่เกดิ กับสถำนศกึ ษำ 3.1 สถำนศกึ ษำมีกำรพฒั นำคุณภำพกำรศึกษำ ………………………… (10) ……… 3.2 สถำนศึกษำไดร้ ับกำรยอมรบั ……………………… (5) ……… 4. ผลที่เกดิ กบั ระบบกำรจัดกำรศกึ ษำของสถำนศกึ ษำ 4.1 กำรจดั กำรศึกษำของสถำนศึกษำ ………………………… (5) ……… มคี วำมสอดคล้องกับบริบทของชุมชนและสงั คม 4.2 ควำมพึงพอใจของผูป้ กครองและชุมชน ……………………… (5) ……… รวมคะแนน 60 …… สรุป ผลกำรประเมิน  ผำ่ นเกณฑ์  ไมผ่ ำ่ นเกณฑ์

- 107 - (2) กำรพฒั นำงำนตำมข้อตกลง (PA) ตำมหลักเกณฑแ์ ละวิธีกำรฯ ว 11/2564 กำรพฒั นำงำนตำมข้อตกลง เกณฑก์ ำรประเมิน ผลกำรประเมนิ ปงี บประมำณ พ.ศ. .... ตอ้ งไดค้ ะแนนจำกกรรมกำรแตล่ ะคน กรรมกำรคนท่ี 1 ร้อยละ…… ระหวำ่ งวนั ที.่ ..... ถงึ วันที่…… ไม่ต่ำกว่ำรอ้ ยละ 70 กรรมกำรคนท่ี 2 รอ้ ยละ…… กรรมกำรคนท่ี 3 รอ้ ยละ…… สรุป ผลกำรประเมนิ  ผำ่ นเกณฑ์  ไมผ่ ำ่ นเกณฑ์ 9.2 กำรยืน่ คำขอในปีงบประมำณ พ.ศ. 2567 (วันที่ 1 ตุลำคม 2566 ึงวนั ที่ 30 กนั ยำยน 2567) กรณีศึกษำนิเทศก์ประสงค์จะนำผลกำรพัฒนำคุณภำพกำรนิเทศกำรศึกษำ (ด้ำนท่ี 3 หรือด้ำนที่ 3 ส่วนท่ี 1 แล้วแต่กรณี) ตำมหลักเกณฑ์และวิธีกำรฯ ว 17/2552 มำรำยงำนเพ่ือนับรวมกับผลกำรพัฒนำงำนตำมข้อตกลง ให้รำยงำนผลกำรพัฒนำคณุ ภำพกำรนเิ ทศกำรศึกษำ และผลกำรพัฒนำงำนตำมข้อตกลง ดงั นี้ (1) ผลกำรพัฒนำคณุ ภำพกำรนเิ ทศกำรศึกษำ ตำมหลักเกณฑแ์ ละวธิ ีกำรฯ ว 17/2552 รำยกำรประเมนิ เปรียบเทียบปกี ำรศกึ ษำ 2562 กบั ปกี ำรศกึ ษำ 2563 (ว 17/2552) ระดบั คุณภำพทไี่ ด้ คะแนนเตม คะแนนที่ได้ 1. ผลท่ีเกดิ กบั ครู 1.1 คณุ ภำพในกำรจดั กำรเรยี นรู้ของครู ………………………… (20) ……… 1.2 ควำมพึงพอใจของครู ………………………… (5) ……… 2. ผลทเ่ี กิดกบั ผู้เรียน ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนของผเู้ รยี น ………………………… (10) ……… 3. ผลท่เี กดิ กับสถำนศกึ ษำ 3.1 สถำนศึกษำมกี ำรพฒั นำคุณภำพกำรศึกษำ ………………………… (10) ……… 3.2 สถำนศึกษำไดร้ บั กำรยอมรบั ……………………… (5) ……… 4. ผลที่เกิดกับระบบกำรจดั กำรศกึ ษำของสถำนศึกษำ 4.1 กำรจดั กำรศกึ ษำของสถำนศึกษำ ………………………… (5) ……… มคี วำมสอดคล้องกับบรบิ ทของชุมชนและสังคม 4.2 ควำมพงึ พอใจของผู้ปกครองและชมุ ชน ……………………… (5) ……… รวมคะแนน 60 …… สรปุ ผลกำรประเมิน  ผำ่ นเกณฑ์  ไมผ่ ่ำนเกณฑ์ (2) กำรพัฒนำงำนตำมข้อตกลง (PA) ตำมหลกั เกณฑแ์ ละวิธีกำรฯ ว 11/2564 กำรพัฒนำงำนตำมขอ้ ตกลง เกณฑก์ ำรประเมนิ ผลกำรประเมนิ ปีงบประมำณ พ.ศ. ....ระหวำ่ งวนั ท.่ี ..... ถงึ วันที่…… กรรมกำรคนท่ี 1 ร้อยละ…… กรรมกำรคนท่ี 2 รอ้ ยละ…… ตอ้ งไดค้ ะแนนจำกกรรมกำรแตล่ ะคน กรรมกำรคนท่ี 3 ร้อยละ…… ปีงบประมำณ พ.ศ. ....ระหวำ่ งวันที่...... ถงึ วนั ที่…… ไม่ต่ำกว่ำร้อยละ 70 กรรมกำรคนท่ี 1 ร้อยละ…… กรรมกำรคนท่ี 2 ร้อยละ…… กรรมกำรคนท่ี 3 ร้อยละ…… สรุป ผลกำรประเมิน  ผ่ำนเกณฑ์  ไมผ่ ำ่ นเกณฑ์

- 108 - 9.3 ข้อมลู กำรประเมนิ เพอื่ ขอมวี ิทยฐำนะหรือเลอื่ นวิทยฐำนะ 9.3.1 ด้านที่ 1 ดา้ นทกั ษะการวางแผนพัฒนาการนิเทศการศึกษา กลยุทธ์ สอ่ื นวัตกรรม หรอื เทคโนโลยี ในการนเิ ทศการศึกษา หรือการพัฒนาคุณภาพสถานศกึ ษาหรือหนว่ ยงานการศกึ ษา ใหห้ น่วยงำนกำรศึกษำ/ส่วนรำชกำร แลว้ แตก่ รณี นำขอ้ มูลของผ้ขู อเขำ้ ส่รู ะบบ DPA ดงั ตอ่ ไปน้ี 1) รำยงำนผลกำรดำเนินงำนตำมแผนพัฒนำกำรนิเทศกำรศึกษำ กลยุทธ์ สื่อ นวัตกรรม หรือเทคโนโลยี ในกำรนิเทศกำรศึกษำ หรือกำรพัฒนำคุณภำพสถำนศึกษำหรือหน่วยงำนกำรศึกษำ ตำมโครงกำรหรือกิจกรรม ในแผนพัฒนำกำรนิเทศกำรศึกษำ เรื่อง..................................................................... ในรูปแบบไฟล์ PDF จำนวน 1 ไฟล์ (ซง่ึ ผขู้ อไดพ้ ัฒนาขน้ึ และนาไปใช้ในการพัฒนาการนเิ ทศการศึกษาจริงในตำแหน่งหรอื วิทยฐำนะทด่ี ำรงอยู่) 2) ไฟล์วีดิทัศน์กำรนำเสนอกำรพัฒนำนิเทศกำรศึกษำ กลยุทธ์ สื่อ นวัตกรรม หรือเทคโนโลยี ในกำรนิเทศกำรศึกษำ หรือกำรพัฒนำคุณภำพสถำนศึกษำหรือหน่วยงำนกำรศึกษำ ตำมโครงกำรหรือกิจกรรม ในแผนพฒั นำกำรนิเทศกำรศกึ ษำ ทเี่ สนอตำมขอ้ 1) โดยมีรูปแบบตำมท่ี ก.ค.ศ. กำหนด จำนวน 1 ไฟล์ 9.3.2 ด้ำนท่ี 2 ดำ้ นผลลัพธ์ในกำรพฒั นำกำรนิเทศกำรศกึ ษำ ไฟล์วีดิทัศน์กำรนำเสนอผลงำนหรือผลกำรปฏิบัติของผู้รับกำรนิเทศ ที่สะท้อนคุณภำพกำรจัด กำรเรียนรู้หรือกำรจัดกำรศึกษำ หรือผลกำรพัฒนำคุณภำพสถำนศึกษำหรือหน่วยงำนกำรศึกษำ ท่ีมีกำรเปลี่ยนแปลง ไปในทำงท่ีดีข้ึนหรือมีกำรพัฒนำมำกข้ึน และส่งผลต่อคุณภำพผู้เรียน ตำมท่ีเสนอไว้ในด้ำนท่ี 1 โดยมีรูปแบบ ตำมที่ ก.ค.ศ. กำหนด จำนวน 1 ไฟล์ 9.3.3 ด้ำนที่ 3 ด้ำนผลงำนทำงวิชำกำร (เฉพำะผู้ขอเล่ือนเป็นวิทยฐำนะศึกษำนิเทศก์เช่ียวชำญ หรอื ศกึ ษำนิเทศก์เช่ียวชำญพเิ ศษ) ให้ผู้ขอเสนอผลงำนทำงวิชำกำรตำมท่ี ก.ค.ศ. กำหนดในรูปแบบไฟล์ PDF เพ่ือให้หน่วยงำน กำรศกึ ษำ/ส่วนรำชกำร แลว้ แต่กรณี นำขอ้ มลู เขำ้ สู่ระบบ DPA 1) เสนอผลงำนทำงวชิ ำกำร จำนวน ............... รำยกำร ดังน้ี (1) ชอ่ื ผลงำน ................................................................................................................. (2) ชื่อผลงำน ................................................................................................................. 2) ผลงำนทำงวิชำกำรทไ่ี ดร้ บั กำรเผยแพร่ สำหรบั กำรขอเลื่อนเป็นวิทยฐำนะศึกษำนิเทศก์เชี่ยวชำญพิเศษ ได้นำไปเผยแพร่ ......................... และงำนวิจัยได้รับกำรตีพิมพ์เผยแพร่บทควำมวิจัยในวำรสำรวิชำกำรท่ีอยู่ในฐำนข้อมูลของศูนย์ดัชนีกำรอ้ำงอิง วำรสำรไทย หรือ Thai - Journal Citation Index Centre (TCI) กลุ่ม 1 หรือ กลุ่ม 2 โดยให้ส่งบทควำมวิจัย ท่ีตีพมิ พ์เผยแพร่ในรูปแบบไฟล์ PDF ดว้ ย ให้ระบชุ ่อื วำรสำร.............................. เลขมำตรฐำนสำกลประจำวำรสำร (ISSN) .................................เวบ็ ไซต์ .............................. หมำยเหตุ แบบคำขอมีวิทยฐำนะหรือเล่ือนวิทยฐำนะของข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ ตำแหน่งศึกษำนิเทศก์ ที่กำหนดนี้ เป็นแบบคำขอเบ้ืองต้น เพ่ือให้ผู้ขอใช้เป็นแนวทำงในกำรจัดเตรียมข้อมูล และตรวจสอบคุณสมบัติ ก่อนย่ืนคำขอผู้บังคับบัญชา เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบและรับรองคุณสมบัติ รวมทั้งหลักฐำนของผู้ขอ ก่อนนำเข้ำสู่ระบบ DPA ต่อไป ซ่ึงกำรนำเข้ำข้อมูลคำขอมีวทิ ยฐำนะหรือเล่ือนวทิ ยฐำนะ ให้เป็นไปตำมทกี่ ำหนดไว้ในระบบ DPA

- 109 - แบบประเมนิ ดา้ นท่ี 1 และดา้ นท่ี 2 ตาแหน่งศกึ ษานเิ ทศก์ แบบประเมนิ ตำแหนง่ และวิทยฐำนะ แบบประเมินด้ำนที่ 1 ด้ำนทักษะกำรวำงแผนพัฒนำกำรนิเทศกำรศึกษำ กลยุทธ์ ส่ือ นวัตกรรม หรือเทคโนโลยี ในกำรนิเทศกำรศึกษำ หรือกำรพัฒนำคุณภำพสถำนศึกษำ หรอื หน่วยงำนกำรศึกษำ แบบประเมนิ ดำ้ นท่ี 2 ด้ำนผลลัพธ์ในกำรพฒั นำกำรนเิ ทศกำรศึกษำ

- 110 - PA 4/ศน. สำหรบั กรรมกำรประเมิน แบบประเมนิ ตำแหน่งและวิทยฐำนะ ตำแหน่งศกึ ษำนิเทศก์ วิทยฐำนะศกึ ษำนเิ ทศก์ชำนำญกำร (ทุกสงั กดั ) - PA 4/ศน. ตำแหนง่ ศกึ ษำนเิ ทศก์ วทิ ยฐำนะศึกษำนเิ ทศกช์ ำนำญกำร ผขู้ อรับกำรประเมนิ ชอ่ื ................................................................นำมสกลุ .................................................................ตำแหน่งศกึ ษำนเิ ทศก์ หนว่ ยงำนศึกษำ........................................................ ส่วนรำชกำร................................................................................ รบั เงนิ เดือนอนั ดับ............................อตั รำเงินเดือน.............................บำท ด้ำนที่ 1 ด้ำนทักษะกำรวำงแผนพัฒนำกำรนิเทศกำรศึกษำ กลยุทธ์ สื่อ นวัตกรรม หรือเทค น ลยี ในกำรนิเทศกำรศึกษำ หรอื กำรพัฒนำคุณภำพส ำนศกึ ษำหรือหน่วยงำนกำรศกึ ษำ เกณฑ์กำรใหค้ ะแนน (Scoring Rubric) 1 คะแนน เมอ่ื ปรำกฏชดั เจนว่ำสำมำรถปฏิบัติตำมข้อ 1 ถึง ขอ้ 3 ได้ 1 ข้อ คะแนน เมื่อปรำกฏชัดเจนวำ่ สำมำรถปฏบิ ตั ติ ำมข้อ 1 ถึง ขอ้ 3 ได้ 2 ข้อ 3 คะแนน เม่ือปรำกฏชดั เจนว่ำสำมำรถปฏิบัติตำมข้อ 1 ถึง ข้อ 3 ไดท้ ัง้ 3 ข้อ 4 คะแนน เมอ่ื ปรำกฏชดั เจนวำ่ สำมำรถปฏิบัติตำมข้อ 1 ถึง ข้อ 3 ได้ทั้ง 3 ข้อ 5 คะแนน และปรำกฏชดั เจนวำ่ สำมำรถปฏบิ ตั ติ ำมข้อ 4 หรือ ข้อ 5 ได้ 1 ข้อ เมอื่ ปรำกฏชัดเจนวำ่ สำมำรถปฏิบตั ิตำมขอ้ 1 ถึง ข้อ 3 ได้ทั้ง 3 ขอ้ และปรำกฏชดั เจนวำ่ สำมำรถปฏบิ ัตติ ำมข้อ 4 และ ข้อ 5 ได้ทง้ั 2 ข้อ ตวั ช้ีวัดท่ี 1 กระบวนกำรจดั กำรเรียนรู้ (ประกันคณุ ภำพ/กำรพัฒนำคุณภำพอย่ำงตอ่ เนอ่ื ง) เกณฑ์กำรพจิ ำรณำผลกำรปฏบิ ัติ คะแนน 1) วิเครำะห์ ออกแบบ และจดั ทำแผนกำรนเิ ทศกำรศกึ ษำอยำ่ งเป็นระบบ 2) มกี ลยทุ ธ์กำรนิเทศทหี่ ลำกหลำย 3) ประเมนิ แผนกำรนิเทศกำรศกึ ษำ และนำผลกำรประเมนิ มำปรับปรุง พฒั นำแผนกำรนิเทศให้มคี ณุ ภำพสงู ขึน้ อยำ่ งต่อเน่ือง 4) แสดงใหเ้ หน็ ถงึ การแกป้ ญั หาการจัดการเรียนรู้ หรอื การจัดการศกึ ษา ของผ้รู บั การนเิ ทศ 5) แสดงให้เห็นถงึ ผลการแกป้ ัญหาทีส่ ่งผลตอ่ คณุ ภาพการจดั การเรยี นรู้ หรือการจดั การศกึ ษา ของผ้รู บั การนเิ ทศ

- 111 - คะแนน คะแนน ตวั ชี้วัดท่ี คณุ ภำพของหลกั สูตรและนักเรียน คะแนน เกณฑ์กำรพจิ ำรณำผลกำรปฏบิ ตั ิ 1) สง่ เสริม สนบั สนนุ กำรพัฒนำหลักสตู รสถำนศึกษำ หรือกจิ กรรมกำรเรยี นรู้ 2) สรำ้ งควำมรู้ ประสบกำรณใ์ หม่เกย่ี วกบั กำรพฒั นำหลกั สตู ร หรอื กิจกรรม กำรเรียนรู้ ให้กับผรู้ บั กำรนเิ ทศ 3) นิเทศกำรพัฒนำหลักสตู ร หรือกิจกรรมกำรเรยี นรู้ ได้สอดคล้องกบั บริบท ของสถำนศึกษำ 4) แสดงให้เหน็ ถึงการใชก้ ระบวนการนิเทศเพอ่ื แก้ปัญหาการใชห้ ลกั สตู ร หรอื กจิ กรรมการเรยี นรู้ และการจัดการเรียนรู้ของผรู้ ับการนเิ ทศ 5) แสดงใหเ้ หน็ ถึงผลการแกป้ ัญหาทีส่ ่งผลตอ่ คุณภาพผเู้ รียน หรือผู้รบั การนิเทศ ตวั ช้ีวัดที่ 3 กำรพฒั นำสมรร นะ เกณฑ์กำรพิจำรณำผลกำรปฏบิ ัติ 1) ผรู้ ับกำรนิเทศได้รบั กำรพัฒนำสมรรถนะในกำรปฏิบตั ิงำน 2) เสริมสรำ้ งสมรรถนะผู้รบั กำรนเิ ทศโดยกำรปฏิบัตจิ รงิ 3) ผ้รู บั กำรนเิ ทศพฒั นำสมรรถนะผู้เรยี นตำมหลักสตู ร หรือกจิ กรรมกำรเรียนรู้ 4) แสดงให้เห็นถึงกระบวนการแก้ปัญหาสมรรถนะของผู้รบั กำรนิเทศ ให้สามารถจดั การเรียนรู้หรอื การจัดการศึกษาท่สี ง่ ผลตอ่ คุณภาพผูเ้ รยี น 5) แสดงใหเ้ ห็นผลการนิเทศ เพ่อื แกป้ ญั หาสมรรรถนะของผู้รับการนเิ ทศ ทสี่ ่งผลต่อคณุ ภาพผเู้ รยี น ตัวชีว้ ดั ที่ 4 กำรสอนงำนระบบพีเ่ ลี้ยง เกณฑ์กำรพจิ ำรณำผลกำรปฏบิ ตั ิ 1) แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ สะทอ้ นบทเรียนร่วมกนั เกย่ี วกบั วธิ ีกำรจัดกำรเรยี นรู้ หรือกำรจดั กำรศึกษำ ใหแ้ กผ่ รู้ ับกำรนเิ ทศ และผู้ทเ่ี กย่ี วข้อง (กำรสร้ำงชมุ ชนกำรเรียนรใู้ นสถำนศึกษำ) 2) สรำ้ งแรงบนั ดำลใจและควำมสำเร็จในกำรพฒั นำกำรจดั กำรเรียนรู้ ให้ผรู้ ับกำรนเิ ทศ 3) เปน็ ผ้นู ำทำงวชิ ำกำรในกำรแลกเปลยี่ นเรยี นรู้เพอื่ แกป้ ญั หำ หรอื พัฒนำคณุ ภำพกำรจัดกำรเรียนรขู้ องผ้รู บั กำรนิเทศ (Peer coaching) 4) แสดงใหเ้ หน็ ถึงการแก้ปัญหาเพือ่ ชแี้ นะ เป็นพี่เล้ียงให้ผรู้ ับการนิเทศ คน้ คว้า ทดลอง คิดนวัตกรรมการจดั การเรียนรู้หรอื การจัดการศกึ ษา 5) แสดงใหเ้ หน็ ถงึ ผลการชี้แนะ การเป็นพี่เลีย้ ง เพ่ือแกป้ ัญหาคณุ ภาพ การจัดการเรยี นรู้หรือการจัดการศึกษาของผ้รู บั การนเิ ทศ

- 112 - คะแนน คะแนน ตวั ชวี้ ดั ท่ี 5 กำรจดั กำรเรียนร/ู้ กำรแก้ปญั หำของผู้รับกำรนเิ ทศ คะแนน เกณฑ์กำรพจิ ำรณำผลกำรปฏบิ ัติ 1) ส่งเสรมิ ผรู้ ับกำรนเิ ทศให้สำมำรถจดั กำรเรยี นรทู้ ่สี ่งผลตอ่ คณุ ภำพผู้เรียน 2) ผรู้ บั กำรนเิ ทศ ได้รบั ผลโดยตรง และนำผลจำกกำรนเิ ทศไปใชพ้ ฒั นำ คุณภำพผู้เรียน 3) ดำเนนิ กำรได้ตรงจุดหรือตรงกบั ควำมตอ้ งกำรจำเปน็ ของผูร้ ับกำรนิเทศ 4) แสดงใหเ้ ห็นถงึ ความมุ่งมั่นในการนเิ ทศเพ่อื แก้ไขปัญหาการจดั การเรียนรู้ ของผูร้ ับการนิเทศ 5) แสดงให้เหน็ ถงึ ผลการนิเทศทสี่ ่งผลตอ่ การแกป้ ญั หา การจดั การเรียนรู้ ของผูร้ บั การนิเทศที่สง่ ผลต่อคณุ ภาพผู้เรยี น ตัวชว้ี ดั ที่ 6 ควำมคิดสร้ำงสรรค์และนวัตกรรม เกณฑก์ ำรพจิ ำรณำผลกำรปฏบิ ัติ 1) เปำ้ หมำยกำรพัฒนำกำรนเิ ทศกำรศกึ ษำเพอื่ พฒั นำคุณภำพ กำรจัดกำรเรียนรู้มคี วำมชดั เจนและเป็นไปได้ 2) เหน็ ควำมเปลย่ี นแปลงอยำ่ งสร้ำงสรรคห์ ลังกำรนเิ ทศ 3) นำสื่อ นวัตกรรม หรอื เทคโนโลยี มำประยกุ ต์ใชใ้ นกำรนิเทศ 4) แสดงให้เหน็ ถงึ การนาส่ือ นวัตกรรม หรือเทคโนโลยี มาใชใ้ นการแก้ปญั หา การจดั การเรียนร้ขู องผรู้ บั กำรนเิ ทศ 5) แสดงใหเ้ หน็ ถึงผลการนาสอื่ นวตั กรรม หรอื เทคโนโลยี มาใช้ในการแก้ปัญหาการจดั การเรยี นรขู้ องผรู้ บั การนเิ ทศทีส่ ่งผลตอ่ คณุ ภาพผู้เรียน ตัวชวี้ ดั ท่ี 7 ระดมทรัพยำกร เครือขำ่ ย และควำมร่วมมอื เกณฑ์กำรพิจำรณำผลกำรปฏบิ ตั ิ 1) มีกำรประสำนควำมร่วมมือกบั ผรู้ บั กำรนิเทศและผู้เก่ียวข้อง 2) มกี ำรใชเ้ ครอื ข่ำยในกำรระดมทรพั ยำกรและควำมร่วมมอื จำกภำยนอกหน่วยงำน 3) ผ้รู บั กำรนิเทศไดร้ บั ประโยชน์จำกเครอื ข่ำยควำมร่วมมอื 4) แสดงให้เหน็ ถงึ การแกป้ ัญหาผู้รบั การนิเทศโดยใช้เครือข่ายการทางาน 5) แสดงให้เหน็ ถึงผลการแกป้ ญั หาทสี่ ่งผลลพั ธท์ ่ีดีตอ่ ผู้รบั การนเิ ทศ

- 113 - ตัวชี้วดั ที่ 8 ภำวะผนู้ ำแบบรว่ มกัน คะแนน เกณฑ์กำรพิจำรณำผลกำรปฏบิ ตั ิ 1) มกี ำรทำงำนเปน็ ทีมและเรยี นร้รู ว่ มกัน 2) กระบวนกำรทำงำนเนน้ กำรมีสว่ นร่วมของผรู้ ับกำรนิเทศและผทู้ เ่ี กยี่ วข้อง 3) แสดงใหเ้ ห็นถงึ ภำวะผนู้ ำกำรเปลย่ี นแปลง เพ่ือพฒั นำคุณภำพ กำรจดั กำรเรียนรขู้ องผู้รบั กำรนิเทศ 4) แสดงให้เหน็ ถงึ การแกป้ ัญหาการทางานร่วมกันของผ้รู ับการนิเทศ หรือผ้ทู ี่เก่ียวข้อง 5) แสดงให้เหน็ ถงึ ผลการแก้ปญั หาทส่ี ง่ ผลตอ่ การทางานร่วมกนั ของผรู้ บั การนเิ ทศหรือผ้ทู ี่เก่ยี วข้อง ด้ำนที่ ด้ำนผลลัพธ์ในกำรพัฒนำกำรนเิ ทศกำรศกึ ษำ เกณฑ์กำรให้คะแนน (Scoring Rubric) 1 คะแนน เมื่อปฏิบัตไิ ดห้ รอื ปรำกฏผลชดั เจน 1 ขอ้ จำก 5 ขอ้ คะแนน เม่อื ปฏบิ ตั ิได้หรอื ปรำกฏผลชดั เจน 2 ข้อ จำก 5 ขอ้ 3 คะแนน เมื่อปฏบิ ตั ิได้หรอื ปรำกฏผลชดั เจน 3 ข้อ จำก 5 ข้อ 4 คะแนน เมอ่ื ปฏบิ ัติได้หรอื ปรำกฏผลชดั เจน 4 ข้อ จำก 5 ขอ้ 5 คะแนน เมื่อปฏิบตั ิไดห้ รอื ปรำกฏผลชดั เจนทัง้ 5 ขอ้ ตวั ช้ีวดั ท่ี 1 ผลงำนหรอื ผลกำรปฏิบตั เิ ปนผลลพั ธท์ ่ีเกิดขน้ึ จำกกำรนเิ ทศกำรศกึ ษำของศกึ ษำนเิ ทศก์ เกณฑพ์ ิจำรณำผลงำนหรือผลกำรปฏิบตั ิ คะแนน 1) เปน็ ไปตำมข้อตกลงกำรพฒั นำงำน 2) เหมำะสมกบั บรบิ ทและสภำพของผรู้ บั กำรนิเทศ สถำนศึกษำ หรือหน่วยงำนกำรศกึ ษำ 3) สอดคลอ้ งกบั ปญั หำและควำมตอ้ งกำรจำเป็นในกำรนิเทศ ของผูร้ ับกำรนเิ ทศ สถำนศึกษำ หรอื หน่วยงำนกำรศึกษำ 4) เกดิ ขึน้ จำกผลกำรปฏบิ ัติร่วมกนั ของผู้รับกำรนเิ ทศหรอื ผู้ทีเ่ กี่ยวข้อง ในสถำนศกึ ษำ หรอื หนว่ ยงำนกำรศกึ ษำ 5) เหมำะสม คุ้มคำ่ และเปน็ ประโยชนต์ อ่ คุณภำพกำรจดั กำรเรยี นร้ขู องผูเ้ รียน

- 114 - ตัวชีว้ ัดที่ ผลงำนหรือผลกำรปฏิบัตสิ ง่ ผล ึงกำรพัฒนำครใู นส ำนศกึ ษำ คะแนน เกณฑพ์ ิจำรณำผลงำนหรอื ผลกำรปฏิบัติ 1) ทกั ษะกำรจัดกำรเรยี นรู้ หรือทกั ษะวิชำกำร หรอื ทกั ษะกำรจดั กำร เกี่ยวกบั หลกั สตู ร 2) เกดิ เครือข่ำยกำรเรยี นรู้ร่วมกนั ของครใู นลักษณะชุมชนวชิ ำชีพ 3) ทกั ษะกำรทำงำนเปน็ ทมี และควำมรักสำมคั คีในองค์กร 4) ภำวะผนู้ ำร่วมของครูในกำรพัฒนำสถำนศึกษำ 5) ควำมท่มุ เท เสียสละ และยึดมน่ั ในจรรยำบรรณวชิ ำชีพ ตัวช้วี ดั ท่ี 3 ผลงำนหรอื ผลกำรปฏบิ ัตสิ ง่ ผล ึงกำรพฒั นำผู้เรยี น คะแนน เกณฑพ์ ิจำรณำผลงำนหรอื ผลกำรปฏบิ ตั ิ 1) ทักษะพนื้ ฐำนของผเู้ รยี น เชน่ กำรส่ือสำร กำรเรยี นรู้ คณุ ลกั ษณะ ทพี่ งึ ประสงค์ ทกั ษะชีวิต ทกั ษะกำรคดิ เป็นตน้ 2) คณุ ภำพชีวิต หรือสุขภำวะดำ้ นกำรเรยี นรู้ หรือพฒั นำกำร ดำ้ นรำ่ งกำย จิตใจ อำรมณ์ และสังคม ของผ้เู รยี น 3) กำรบูรณำกำรทกั ษะในกำรทำงำน (Cross – functional Skills) ของผเู้ รยี น เช่น ทกั ษะกระบวนกำร ทักษะทำงสังคม ทักษะกำรจัดกำร ทกั ษะเฉพำะทำง ทกั ษะกำรแก้ปญั หำทซ่ี บั ซอ้ น เปน็ ตน้ 4) ผเู้ รยี นสว่ นใหญ่เปน็ ผูไ้ ดร้ บั ผลกำรพฒั นำ ไม่ใช่เฉพำะผู้เรยี นคนใดคนหน่ึง 5) ผลลัพธท์ ี่เกิดกับผเู้ รียนมคี วำมตอ่ เน่ือง ยงั่ ยนื และส่งผลต่อผเู้ รียน ในระยะยำว ตัวชวี้ ัดที่ 4 ผลงำนหรือผลกำรปฏบิ ัติสง่ ผล งึ คณุ ภำพส ำนศึกษำ หรือหนว่ ยงำนกำรศึกษำ เกณฑ์พิจำรณำผลงำนหรือผลกำรปฏิบตั ิ คะแนน 1) ผลลัพธท์ ่เี กิดข้ึนกบั ผเู้ รยี นเปลยี่ นแปลงไปในทำงทด่ี ขี ึ้น 2) ผูร้ บั บรกิ ำรมีกำรเปลย่ี นแปลงไปในทำงทด่ี ขี ึน้ 3) ปรำกฏผลกำรทำงำนร่วมกันระหวำ่ งครู ผบู้ รหิ ำรสถำนศึกษำ และศึกษำนเิ ทศก์ เพอ่ื พฒั นำผูเ้ รยี น 4) ปรำกฏผลกำรพฒั นำสถำนศกึ ษำในดำ้ นวิชำกำร 5) กำรยอมรับในคณุ ภำพของครูและสถำนศกึ ษำจำกหนว่ ยงำน หรอื องค์กรทเี่ กยี่ วข้อง (ลงชอ่ื ).................................................................. กรรมกำรผู้ประเมนิ (..................................................................) ตำแหนง่ ................................................................... วันท.่ี ........ เดอื น......................................... พ.ศ. ....

- 115 - สำหรบั กรรมกำรประเมิน แบบสรุปผลกำรประเมินตำแหน่งและวิทยฐำนะ ด้ำนที่ 1 และ ด้ำนที่ ผ้ขู อรบั การประเมนิ ช่ือ................................................................นำมสกุล.................................................................ตำแหนง่ ศกึ ษำนิเทศก์ หนว่ ยงำนศึกษำ........................................................ สว่ นรำชกำร................................................................................ รับเงนิ เดือนอันดบั ............................อัตรำเงนิ เดอื น.............................บำท ด้ำนที่ 1 ด้ำนทักษะกำรวำงแผนพัฒนำกำรนิเทศกำรศึกษำ กลยุทธ์ สื่อ นวัตกรรม หรือเทค น ลยี ในกำรนเิ ทศกำรศกึ ษำ หรือกำรพฒั นำคุณภำพส ำนศึกษำหรือหน่วยงำนกำรศกึ ษำ ตวั ชว้ี ัด ทักษะกำรวำงแผนพัฒนำกำรนิเทศกำรศึกษำ กลยุทธ์ คะแนน คะแนน สื่อ นวัตกรรม หรือเทค น ลยใี นกำรนิเทศกำรศกึ ษำ ว่ งน้ำหนกั (คะแนน x .5) หรอื กำรพฒั นำคุณภำพส ำนศึกษำ หรือหน่วยงำนกำรศึกษำ 1. กระบวนกำรจดั กำรเรยี นรู้ (ประกันคณุ ภำพ/กำรพฒั นำคณุ ภำพอยำ่ งตอ่ เนื่อง) 2. คุณภำพของหลกั สตู รและนกั เรยี น 3. กำรพฒั นำสมรรถนะ 4. กำรสอนงำนระบบพี่เลย้ี ง 5. กำรจดั กำรเรยี นร/ู้ กำรแก้ปญั หำของผูร้ บั กำรนเิ ทศ 6. ควำมคดิ สร้ำงสรรคแ์ ละนวตั กรรม 7. ระดมทรพั ยำกร เครือขำ่ ย และควำมรว่ มมือ 8. ภำวะผู้นำแบบรว่ มกัน รวมคะแนน ผลกำรพิจำรณำ  ผำ่ น  ไมผ่ ำ่ น ดำ้ นที่ ด้ำนผลลพั ธ์ในกำรพฒั นำกำรนเิ ทศกำรศึกษำ ตวั ช้ีวดั ผลลัพธ์ในกำรพัฒนำคณุ ภำพผู้เรียน ครู และส ำนศึกษำ คะแนน คะแนน ว่ งนำ้ หนัก (คะแนน x 5) 1. ผลงำนหรือผลกำรปฏิบัติเป็นผลลัพธ์ท่ีเกิดขึน้ จำกกำรนิเทศกำรศึกษำของศึกษำนเิ ทศก์ 2. ผลงำนหรอื ผลกำรปฏบิ ตั สิ ่งผลถึงกำรพัฒนำครใู นสถำนศึกษำ 3. ผลงำนหรอื ผลกำรปฏิบตั สิ ง่ ผลถึงกำรพัฒนำผู้เรียน 4. ผลงำนหรือผลกำรปฏบิ ัตสิ ง่ ผลถึงคณุ ภำพสถำนศกึ ษำ หรอื หน่วยงำนกำรศึกษำ รวมคะแนน ผลกำรพิจำรณำ  ผ่ำน  ไมผ่ ่ำน (ลงช่ือ).................................................................. กรรมกำรผูป้ ระเมนิ (..................................................................) ตำแหนง่ ................................................................... วันท่.ี ........ เดอื น......................................... พ.ศ. ....

- 116 - PA 4/ศน. สำหรบั กรรมกำรประเมิน แบบประเมนิ ตำแหนง่ และวทิ ยฐำนะ ตำแหนง่ ศกึ ษำนิเทศก์ วิทยฐำนะศึกษำนเิ ทศก์ชำนำญกำรพิเศษ (ทุกสังกดั ) ผูข้ อรับกำรประเมนิ ชอื่ ..........................................นำมสกุล..............................................ตำแหนง่ ศกึ ษำนิเทศก์ วิทยฐำนะศกึ ษำนิเทศก์ชำนำญกำร หนว่ ยงำนศกึ ษำ........................................................ สว่ นรำชกำร................................................................................ รับเงนิ เดอื นอนั ดับ............................อัตรำเงนิ เดือน.............................บำท - PA 4/ศน. ตำแหนง่ ศึกษำนิเทศก์ วิทยฐำนะศึกษำนิเทศก์ชำนำญกำรพเิ ศษ ด้ำนที่ 1 ด้ำนทักษะกำรวำงแผนพัฒนำกำรนิเทศกำรศึกษำ กลยุทธ์ สื่อ นวัตกรรม หรือเทค น ลยี ในกำรนิเทศกำรศึกษำ หรือกำรพฒั นำคณุ ภำพส ำนศึกษำหรือหน่วยงำนกำรศกึ ษำ เกณฑ์กำรให้คะแนน (Scoring Rubric) 1 คะแนน เมอ่ื ปรำกฏชัดเจนวำ่ สำมำรถปฏบิ ัติตำมขอ้ 1 ถึง ขอ้ 3 ได้ 1 ข้อ คะแนน เมอื่ ปรำกฏชดั เจนว่ำสำมำรถปฏิบตั ิตำมขอ้ 1 ถึง ขอ้ 3 ได้ 2 ข้อ 3 คะแนน เม่อื ปรำกฏชดั เจนวำ่ สำมำรถปฏิบัตติ ำมข้อ 1 ถงึ ข้อ 3 ได้ทัง้ 3 ข้อ 4 คะแนน เมื่อปรำกฏชดั เจนว่ำสำมำรถปฏบิ ัตติ ำมขอ้ 1 ถงึ ขอ้ 3 ได้ทั้ง 3 ข้อ 5 คะแนน และปรำกฏชดั เจนว่ำสำมำรถปฏบิ ตั ิตำมขอ้ 4 หรือ ข้อ 5 ได้ 1 ข้อ เม่ือปรำกฏชดั เจนว่ำสำมำรถปฏบิ ัตติ ำมข้อ 1 ถึง ขอ้ 3 ไดท้ ้ัง 3 ข้อ และปรำกฏชดั เจนวำ่ สำมำรถปฏิบตั ิตำมข้อ 4 และ ข้อ 5 ได้ท้งั 2 ขอ้ ตวั ช้วี ัดที่ 1 กระบวนกำรจดั กำรเรยี นรู้ (ประกันคณุ ภำพ/กำรพฒั นำคณุ ภำพอยำ่ งต่อเน่ือง) เกณฑก์ ำรพิจำรณำผลกำรปฏบิ ตั ิ คะแนน 1) วเิ ครำะห์ ออกแบบ และจดั ทำแผนกำรนเิ ทศกำรศกึ ษำอย่ำงเปน็ ระบบ 2) มีกลยุทธ์กำรนเิ ทศที่หลำกหลำย 3) ประเมนิ แผนกำรนเิ ทศกำรศกึ ษำ และนำผลกำรประเมนิ มำปรบั ปรงุ พัฒนำแผนกำรนเิ ทศให้มีคุณภำพสูงขน้ึ อยำ่ งตอ่ เนื่อง 4) แสดงใหเ้ หน็ ถงึ กระบวนการวางแผนอยา่ งเปน็ ระบบ เพอ่ื ส่งเสรมิ สมรรถนะการจดั การเรียนรู้ หรือการจัดการศึกษา ของผรู้ ับการนิเทศ 5) แสดงใหเ้ หน็ ถงึ ผลการวางแผนอยา่ งเปน็ ระบบทส่ี ง่ ผลตอ่ คุณภาพ การจัดการเรยี นรู้ หรือการจัดการศึกษา ของผรู้ บั การนิเทศ

- 117 - คะแนน คะแนน ตัวช้ีวัดที่ คณุ ภำพของหลกั สูตรและนกั เรียน คะแนน เกณฑก์ ำรพจิ ำรณำผลกำรปฏบิ ตั ิ 1) สง่ เสริม สนบั สนนุ กำรพฒั นำหลักสูตรสถำนศึกษำ หรือกิจกรรมกำรเรียนรู้ 2) สร้ำงควำมรู้ ประสบกำรณ์ใหม่ เก่ยี วกับกำรพัฒนำหลกั สตู ร หรือกิจกรรม กำรเรียนรู้ ใหก้ บั ผู้รบั กำรนิเทศ 3) นิเทศกำรพัฒนำหลักสูตร หรอื กิจกรรมกำรเรยี นรู้ ไดส้ อดคลอ้ งกับ บรบิ ทของสถำนศึกษำ 4) แสดงใหเ้ หน็ ถึงการใชก้ ระบวนการนเิ ทศ เพื่อพฒั นาการใช้หลกั สตู ร หรือกิจกรรมการเรยี นรู้ และการจดั การเรยี นรู้ ของผูร้ ับการนิเทศ 5) แสดงให้เหน็ ถึงผลการนิเทศเพอื่ พัฒนาการใช้หลกั สตู ร หรือกิจกรรม การเรียนรู้และการจดั การเรียนรู้ ของผรู้ บั การนิเทศ ที่สง่ ผลต่อคณุ ภาพผู้เรียน ตัวชี้วดั ท่ี 3 กำรพัฒนำสมรร นะ เกณฑก์ ำรพิจำรณำผลกำรปฏบิ ตั ิ 1) ผูร้ บั กำรนเิ ทศได้รบั กำรพฒั นำสมรรถนะในกำรปฏิบัตงิ ำน 2) เสริมสร้ำงสมรรถนะผรู้ บั กำรนิเทศโดยกำรปฏิบัตจิ ริง 3) ผู้รับกำรนิเทศพฒั นำสมรรถนะผูเ้ รยี นตำมหลักสูตร หรือกิจกรรมกำรเรียนรู้ 4) แสดงให้เหน็ ถงึ กระบวนการนิเทศเพอื่ พัฒนาสมรรถนะของผรู้ บั การนเิ ทศ ใหส้ ามารถจดั การเรียนรหู้ รือการจดั การศึกษาที่สง่ ผลตอ่ คุณภาพผ้เู รียน 5) แสดงใหเ้ ห็นผลการนเิ ทศเพอ่ื พฒั นาสมรรรถนะของผู้รบั การนิเทศ ท่สี ง่ ผลตอ่ คุณภาพผูเ้ รียน ตัวชี้วดั ที่ 4 กำรสอนงำนระบบพเี่ ลีย้ ง เกณฑก์ ำรพจิ ำรณำผลกำรปฏบิ ัติ 1) แลกเปล่ยี นเรยี นรู้ สะทอ้ นบทเรยี นร่วมกัน เก่ยี วกบั วธิ ีกำรจดั กำรเรียนรู้ หรอื กำรจดั กำรศึกษำ ใหแ้ ก่ผู้รับกำรนเิ ทศ และผทู้ ี่เก่ียวขอ้ ง (กำรสร้ำงชมุ ชนกำรเรยี นรู้ในสถำนศกึ ษำ) 2) สรำ้ งแรงบนั ดำลใจและควำมสำเร็จในกำรพัฒนำกำรจัดกำรเรียนรู้ ให้ผู้รับกำรนิเทศ 3) เป็นผู้นำทำงวชิ ำกำรในกำรแลกเปลย่ี นเรียนรเู้ พือ่ แกป้ ัญหำหรอื พฒั นำ คุณภำพกำรจดั กำรเรียนร้ขู องผู้รับกำรนิเทศ (Peer coaching) 4) แสดงให้เห็นถงึ การพัฒนาเพอื่ ชี้แนะ เป็นพ่เี ลี้ยงใหผ้ ้รู บั การนเิ ทศ ค้นควา้ ทดลอง คดิ นวัตกรรมการจดั การเรยี นรู้หรือการจดั การศึกษา 5) แสดงใหเ้ ห็นถึงผลการชีแ้ นะ การเปน็ พเ่ี ลยี้ ง เพอื่ พัฒนาคุณภาพ การจัดการเรยี นรู้หรอื การจดั การศกึ ษาของผ้รู บั การนเิ ทศ

- 118 - คะแนน คะแนน ตัวชี้วดั ที่ 5 กำรจดั กำรเรยี นร/ู้ กำรแกป้ ญั หำของผรู้ บั กำรนิเทศ คะแนน เกณฑ์กำรพิจำรณำผลกำรปฏบิ ัติ 1) ส่งเสริมผู้รบั กำรนเิ ทศให้สำมำรถจัดกำรเรียนรูท้ ่ีส่งผลตอ่ คุณภำพผู้เรยี น 2) ผูร้ ับกำรนิเทศ ได้รบั ผลโดยตรง และนำผลจำกกำรนิเทศไปใช้ พฒั นำคณุ ภำพผเู้ รยี น 3) ดำเนินกำรได้ตรงจุดหรือตรงกบั ควำมตอ้ งกำรจำเปน็ ของผรู้ บั กำรนเิ ทศ 4) แสดงใหเ้ หน็ ถึงความมงุ่ มัน่ ในการรเิ ริ่มนิเทศเชิงพัฒนาคุณภาพ การจดั การเรียนรู้ของผ้รู บั การนเิ ทศ 5) แสดงให้เหน็ ถงึ ผลการนิเทศเชิงพฒั นาทีส่ ง่ ผลตอ่ คณุ ภาพการจัด การเรียนรขู้ องผ้รู ับกำรนิเทศท่มี ตี อ่ คุณภาพผูเ้ รยี น ตัวช้วี ดั ที่ 6 ควำมคดิ สรำ้ งสรรคแ์ ละนวตั กรรม เกณฑก์ ำรพจิ ำรณำผลกำรปฏบิ ัติ 1) เป้ำหมำยกำรพฒั นำกำรนิเทศกำรศกึ ษำเพื่อพัฒนำคุณภำพ กำรจัดกำรเรยี นรู้มีควำมชดั เจนและเปน็ ไปได้ 2) เห็นควำมเปลย่ี นแปลงอยำ่ งสร้ำงสรรค์หลังกำรนิเทศ 3) นำสอื่ นวตั กรรม หรอื เทคโนโลยี มำประยกุ ต์ใชใ้ นกำรนิเทศ 4) แสดงใหเ้ ห็นถงึ การนิเทศเชงิ พัฒนาโดยการนาสื่อ นวตั กรรม หรอื เทคโนโลยี มาประยุกต์ใชใ้ นการนิเทศเพ่ือพัฒนากระบวนการ การจัดการเรยี นรขู้ องผู้รบั กำรนเิ ทศ 5) แสดงใหเ้ ห็นถึงผลการนาสอื่ นวตั กรรม หรือเทคโนโลยี มาประยกุ ต์ใช้ในการนเิ ทศเชงิ พฒั นาท่สี ่งผลตอ่ คณุ ภาพผเู้ รยี น ตัวช้วี ดั ท่ี 7 ระดมทรพั ยำกร เครือข่ำย และควำมร่วมมือ เกณฑก์ ำรพจิ ำรณำผลกำรปฏบิ ตั ิ 1) มกี ำรประสำนควำมรว่ มมอื กบั ผ้รู บั กำรนเิ ทศและผเู้ กี่ยวข้อง 2) มกี ำรใช้เครือขำ่ ยในกำรระดมทรัพยำกรและควำมร่วมมือ จำกภำยนอกหนว่ ยงำน 3) ผรู้ ับกำรนิเทศได้รบั ประโยชน์จำกเครือขำ่ ยควำมร่วมมือ 4) แสดงให้เห็นถงึ การรเิ ริม่ ในการใชเ้ ครอื ข่ายการทางาน เพื่อพฒั นาผรู้ บั การนเิ ทศ 5) แสดงให้เห็นถึงผลของการริเริ่มในการใช้เครอื ขา่ ยการทางาน

- 119 - ตัวชว้ี ัดที่ 8 ภำวะผู้นำแบบร่วมกัน คะแนน เกณฑก์ ำรพิจำรณำผลกำรปฏบิ ตั ิ 1) มกี ำรทำงำนเปน็ ทีมและเรียนรู้รว่ มกัน 2) กระบวนกำรทำงำนเนน้ กำรมีสว่ นร่วมของผ้รู บั กำรนิเทศและผู้ที่เกี่ยวข้อง 3) แสดงใหเ้ หน็ ถึงภำวะผู้นำกำรเปลยี่ นแปลง เพื่อพฒั นำคุณภำพ กำรจดั กำรเรยี นรู้ของผ้รู ับกำรนเิ ทศ 4) แสดงให้เห็นถึงการทาให้เกดิ การพัฒนากระบวนการทางานร่วมกัน ของผรู้ ับการนเิ ทศหรือผทู้ ่เี กีย่ วข้อง 5) แสดงใหเ้ หน็ ถงึ ผลการพฒั นาท่สี ง่ ผลต่อการทางานร่วมกนั ของผรู้ บั การนิเทศหรือผู้ท่เี ก่ยี วขอ้ ง ด้ำนท่ี ดำ้ นผลลัพธใ์ นกำรพฒั นำกำรนิเทศกำรศกึ ษำ เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน (Scoring Rubric) 1 คะแนน เม่ือปฏิบัตไิ ดห้ รอื ปรำกฏผลชดั เจน 1 ข้อ จำก 5 ขอ้ คะแนน เมื่อปฏบิ ตั ไิ ดห้ รือปรำกฏผลชดั เจน 2 ขอ้ จำก 5 ขอ้ 3 คะแนน เมอ่ื ปฏิบตั ไิ ดห้ รอื ปรำกฏผลชดั เจน 3 ข้อ จำก 5 ขอ้ 4 คะแนน เมื่อปฏบิ ัติได้หรอื ปรำกฏผลชดั เจน 4 ข้อ จำก 5 ข้อ 5 คะแนน เม่อื ปฏิบัติไดห้ รือปรำกฏผลชดั เจนทง้ั 5 ขอ้ ตัวชว้ี ัดท่ี 1 ผลงำนหรือผลกำรปฏบิ ัติเปนผลลัพธ์ท่ีเกดิ ข้ึนจำกกำรนิเทศกำรศกึ ษำของศกึ ษำนิเทศก์ เกณฑ์พิจำรณำผลงำนหรือผลกำรปฏบิ ัติ คะแนน 1) เปน็ ไปตำมขอ้ ตกลงกำรพฒั นำงำน 2) เหมำะสมกับบรบิ ทและสภำพของผรู้ ับกำรนเิ ทศ สถำนศึกษำ หรือหนว่ ยงำนกำรศึกษำ 3) สอดคล้องกับปัญหำและควำมตอ้ งกำรจำเปน็ ในกำรนเิ ทศ ของผ้รู ับกำรนิเทศ สถำนศึกษำ หรอื หนว่ ยงำนกำรศึกษำ 4) เกดิ ขน้ึ จำกผลกำรปฏบิ ตั ริ ว่ มกนั ของผู้รับกำรนิเทศหรือผู้ทเี่ กยี่ วข้อง ในสถำนศึกษำ หรือหน่วยงำนกำรศึกษำ 5) เหมำะสม คมุ้ ค่ำ และเปน็ ประโยชน์ตอ่ คุณภำพกำรจดั กำรเรียนรู้ ของผูเ้ รียน

- 120 - คะแนน ตวั ช้วี ัดท่ี ผลงำนหรือผลกำรปฏิบัตสิ ง่ ผล ึงกำรพัฒนำครูในส ำนศึกษำ เกณฑพ์ ิจำรณำผลงำนหรือผลกำรปฏิบตั ิ 1) ทักษะกำรจัดกำรเรียนรูห้ รอื ทกั ษะวิชำกำร หรอื ทักษะกำรจัดกำร เก่ียวกบั หลักสตู ร 2) เกดิ เครือข่ำยกำรเรยี นรู้ร่วมกนั ของครใู นลกั ษณะชมุ ชนวชิ ำชพี 3) ทักษะกำรทำงำนเป็นทีม และควำมรักสำมคั คใี นองค์กร 4) ภำวะผนู้ ำร่วมของครใู นกำรพัฒนำสถำนศึกษำ 5) ควำมทุ่มเท เสียสละ และยดึ มั่นในจรรยำบรรณวชิ ำชีพ ตวั ช้วี ดั ท่ี 3 ผลงำนหรือผลกำรปฏบิ ตั สิ ่งผล งึ กำรพฒั นำผเู้ รยี น คะแนน เกณฑพ์ จิ ำรณำผลงำนหรือผลกำรปฏบิ ตั ิ 1) ทกั ษะพนื้ ฐำนของผู้เรยี น เชน่ กำรสือ่ สำร กำรเรยี นรู้ คณุ ลกั ษณะ ทพ่ี งึ ประสงค์ ทักษะชวี ติ ทกั ษะกำรคิด เปน็ ต้น 2) คุณภำพชวี ติ หรอื สุขภำวะดำ้ นกำรเรียนรู้ หรือพฒั นำกำร ด้ำนรำ่ งกำย จิตใจ อำรมณ์ และสงั คม ของผูเ้ รยี น 3) กำรบูรณำกำรทกั ษะในกำรทำงำน (Cross - functional Skills) ของผเู้ รียน เช่น ทักษะกระบวนกำร ทักษะทำงสงั คม ทักษะกำรจดั กำร ทักษะเฉพำะทำง ทกั ษะกำรแกป้ ัญหำท่ซี บั ซอ้ น เป็นตน้ 4) ผูเ้ รยี นส่วนใหญ่เป็นผู้ไดร้ ับผลกำรพัฒนำ ไมใ่ ช่เฉพำะผู้เรยี นคนใดคนหนึ่ง 5) ผลลพั ธท์ เี่ กิดกับผู้เรียนมีควำมตอ่ เนอื่ ง ย่งั ยืน และส่งผลตอ่ ผเู้ รียน ในระยะยำว ตัวชี้วัดที่ 4 ผลงำนหรือผลกำรปฏิบตั ิส่งผล งึ คณุ ภำพส ำนศึกษำ หรือหน่วยงำนกำรศึกษำ เกณฑพ์ ิจำรณำผลงำนหรอื ผลกำรปฏิบัติ คะแนน 1) ผลลัพธท์ ีเ่ กิดข้นึ กับผ้เู รียนเปลีย่ นแปลงไปในทำงทดี่ ขี ึ้น 2) ผู้รับบริกำรมีกำรเปลี่ยนแปลงไปในทำงทด่ี ขี ึน้ 3) ปรำกฏผลกำรทำงำนร่วมกนั ระหว่ำงครู ผูบ้ รหิ ำรสถำนศึกษำ และศึกษำนิเทศก์ เพอื่ พฒั นำผู้เรียน 4) ปรำกฏผลกำรพฒั นำสถำนศกึ ษำในด้ำนวิชำกำร 5) กำรยอมรบั ในคุณภำพของครแู ละสถำนศึกษำจำกหน่วยงำน หรือองค์กรท่เี กยี่ วข้อง (ลงชือ่ ).................................................................. กรรมกำรผปู้ ระเมนิ (..................................................................) ตำแหนง่ ................................................................... วนั ที่......... เดอื น......................................... พ.ศ. ....

- 121 - สำหรบั กรรมกำรประเมิน แบบสรปุ ผลกำรประเมินตำแหน่งและวิทยฐำนะ ด้ำนที่ 1 และ ดำ้ นที่ ผู้ขอรบั การประเมิน ช่อื ..........................................นำมสกุล..............................................ตำแหน่งศึกษำนิเทศก์ วิทยฐำนะศึกษำนิเทศกช์ ำนำญกำร หน่วยงำนศึกษำ........................................................ สว่ นรำชกำร................................................................................ รับเงนิ เดอื นอนั ดับ............................อตั รำเงนิ เดอื น.............................บำท ด้ำนที่ 1 ด้ำนทักษะกำรวำงแผนพัฒนำกำรนิเทศกำรศึกษำ กลยุทธ์ สื่อ นวัตกรรม หรือเทค น ลยี ในกำรนเิ ทศกำรศกึ ษำ หรอื กำรพฒั นำคุณภำพส ำนศกึ ษำหรอื หน่วยงำนกำรศึกษำ ตวั ชี้วัด ทักษะกำรวำงแผนพัฒนำกำรนิเทศกำรศึกษำ กลยุทธ์ คะแนน ส่ือ นวัตกรรม หรอื เทค น ลยีในกำรนเิ ทศกำรศกึ ษำ คะแนน ่วงนำ้ หนกั หรือกำรพฒั นำคุณภำพส ำนศึกษำ หรือหน่วยงำนกำรศกึ ษำ (คะแนน x .5) 1. กระบวนกำรจัดกำรเรยี นรู้ (ประกนั คณุ ภำพ/กำรพฒั นำคณุ ภำพอยำ่ งตอ่ เนื่อง) 2. คุณภำพของหลกั สตู รและนักเรยี น 3. กำรพัฒนำสมรรถนะ 4. กำรสอนงำนระบบพี่เลยี้ ง 5. กำรจัดกำรเรยี นร/ู้ กำรแกป้ ญั หำของผู้รบั กำรนิเทศ 6. ควำมคดิ สรำ้ งสรรคแ์ ละนวัตกรรม 7. ระดมทรัพยำกร เครือข่ำย และควำมร่วมมือ 8. ภำวะผ้นู ำแบบร่วมกนั รวมคะแนน ผลกำรพจิ ำรณำ  ผำ่ น  ไม่ผ่ำน ดำ้ นท่ี ดำ้ นผลลพั ธ์ในกำรพฒั นำกำรนเิ ทศกำรศกึ ษำ ตวั ชว้ี ัดผลลพั ธ์ในกำรพฒั นำคุณภำพผเู้ รยี น ครู และส ำนศึกษำ คะแนน คะแนน ว่ งน้ำหนกั (คะแนน x 5) 1. ผลงำนหรือผลกำรปฏิบตั ิเปน็ ผลลพั ธท์ ีเ่ กดิ ขน้ึ จำกกำรนิเทศกำรศึกษำของศึกษำนิเทศก์ 2. ผลงำนหรอื ผลกำรปฏิบัตสิ ่งผลถงึ กำรพฒั นำครใู นสถำนศกึ ษำ 3. ผลงำนหรือผลกำรปฏิบัตสิ ง่ ผลถงึ กำรพัฒนำผเู้ รยี น 4. ผลงำนหรือผลกำรปฏบิ ัตสิ ง่ ผลถงึ คณุ ภำพสถำนศกึ ษำ หรอื หน่วยงำนกำรศึกษำ รวมคะแนน ผลกำรพจิ ำรณำ  ผ่ำน  ไมผ่ ่ำน (ลงชอื่ ).................................................................. กรรมกำรผูป้ ระเมนิ (..................................................................) ตำแหน่ง................................................................... วันท่ี......... เดอื น......................................... พ.ศ. ....

- 122 - PA 4/ศน. แบบประเมินตำแหนง่ และวิทยฐำนะ สำหรบั กรรมกำรประเมนิ ตำแหน่งศกึ ษำนเิ ทศก์ วิทยฐำนะศกึ ษำนิเทศก์เชีย่ วชำญ (ทุกสังกดั ) ผ้ขู อรับกำรประเมนิ ชอ่ื ...............................................นำมสกุล...................................................ตำแหน่งศกึ ษำนิเทศก์ วิทยฐำนะศกึ ษำนิเทศก์ชำนำญกำรพเิ ศษ หนว่ ยงำนศกึ ษำ........................................................ สว่ นรำชกำร................................................................................ รับเงนิ เดอื นอนั ดบั ............................อัตรำเงินเดือน.............................บำท - PA 4/ศน. ตำแหนง่ ศึกษำนิเทศก์ วทิ ยฐำนะศึกษำนเิ ทศกเ์ ชย่ี วชำญ ด้ำนที่ 1 ด้ำนทักษะกำรวำงแผนพัฒนำกำรนิเทศกำรศึกษำ กลยุทธ์ ส่ือ นวัตกรรม หรือเทค น ลยี ในกำรนิเทศกำรศึกษำ หรือกำรพัฒนำคณุ ภำพส ำนศึกษำหรือหน่วยงำนกำรศกึ ษำ เกณฑก์ ำรให้คะแนน (Scoring Rubric) 1 คะแนน เม่อื ปรำกฏชัดเจนวำ่ สำมำรถปฏบิ ตั ิตำมขอ้ 1 ถงึ ข้อ 3 ได้ 1 ข้อ คะแนน เม่อื ปรำกฏชดั เจนวำ่ สำมำรถปฏิบตั ติ ำมขอ้ 1 ถงึ ข้อ 3 ได้ 2 ข้อ 3 คะแนน เมื่อปรำกฏชัดเจนวำ่ สำมำรถปฏิบตั ติ ำมขอ้ 1 ถึง ข้อ 3 ไดท้ งั้ 3 ขอ้ 4 คะแนน เมื่อปรำกฏชดั เจนว่ำสำมำรถปฏิบัตติ ำมข้อ 1 ถงึ ขอ้ 3 ไดท้ ง้ั 3 ขอ้ 5 คะแนน และปรำกฏชดั เจนวำ่ สำมำรถปฏิบัตติ ำมขอ้ 4 หรือ ขอ้ 5 ได้ 1 ข้อ เมอ่ื ปรำกฏชัดเจนวำ่ สำมำรถปฏบิ ตั ติ ำมข้อ 1 ถึง ข้อ 3 ไดท้ ้งั 3 ข้อ และปรำกฏชดั เจนว่ำสำมำรถปฏบิ ตั ิตำมขอ้ 4 และ ข้อ 5 ได้ทง้ั 2 ขอ้ ตวั ช้ีวัดที่ 1 กระบวนกำรจัดกำรเรยี นรู้ (ประกันคณุ ภำพ/กำรพฒั นำคุณภำพอยำ่ งต่อเน่ือง) เกณฑ์กำรพิจำรณำผลกำรปฏบิ ตั ิ คะแนน 1) วเิ ครำะห์ ออกแบบ และจัดทำแผนกำรนิเทศกำรศึกษำอย่ำงเป็นระบบ 2) มกี ลยทุ ธ์กำรนเิ ทศทีห่ ลำกหลำย 3) ประเมินแผนกำรนิเทศกำรศกึ ษำ และนำผลกำรประเมนิ มำปรบั ปรุง พฒั นำแผนกำรนิเทศให้มีคุณภำพสงู ข้ึนอยำ่ งตอ่ เนือ่ ง 4) แสดงให้เห็นถึงการคดิ คน้ ปรบั เปล่ียน การจดั การเรยี นรู้ หรอื การจัด การศึกษาของผู้รับการนิเทศอยา่ งเปน็ ระบบและตอ่ เนือ่ ง 5) แสดงใหเ้ หน็ ถงึ ผลการคิดคน้ ปรบั เปลี่ยน กระบวนการอยา่ งเปน็ ระบบ และต่อเนือ่ ง ของผรู้ บั การนิเทศ ทีส่ ง่ ผลต่อคณุ ภาพการจดั การเรียนรู้ หรอื การจดั การศกึ ษา

- 123 - คะแนน คะแนน ตัวชว้ี ดั ที่ คุณภำพของหลักสตู รและนักเรยี น เกณฑก์ ำรพิจำรณำผลกำรปฏบิ ตั ิ 1) ส่งเสรมิ สนบั สนนุ กำรพัฒนำหลักสตู รสถำนศึกษำ หรือกิจกรรมกำรเรยี นรู้ 2) สรำ้ งควำมรู้ ประสบกำรณ์ใหม่ เกี่ยวกับกำรพฒั นำหลกั สูตร หรือกจิ กรรม กำรเรยี นรู้ ใหก้ บั ผ้รู บั กำรนเิ ทศ 3) นิเทศกำรพฒั นำหลกั สูตร หรอื กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ ไดส้ อดคลอ้ งกบั บริบทของสถำนศกึ ษำ 4) แสดงให้เห็นถึงการคดิ คน้ ปรบั เปลย่ี น กระบวนการนเิ ทศเพอื่ พัฒนา การใชห้ ลักสูตร หรือกิจกรรมการเรยี นรู้ และการจดั การเรยี นรู้ ของผรู้ บั การนิเทศ 5) แสดงให้เห็นถึงผลการนเิ ทศเพื่อการคดิ คน้ ปรบั เปลย่ี น การใชห้ ลกั สูตร หรือกจิ กรรมการเรยี นรู้และการจดั การเรียนรู้ ของผู้รบั การนิเทศ ท่ีส่งผลต่อคณุ ภาพผเู้ รียน ตวั ช้ีวัดท่ี 3 กำรพฒั นำสมรร นะ เกณฑ์กำรพิจำรณำผลกำรปฏบิ ตั ิ 1) ผูร้ ับกำรนิเทศได้รบั กำรพฒั นำสมรรถนะในกำรปฏบิ ัตงิ ำน 2) เสริมสร้ำงสมรรถนะผูร้ บั กำรนเิ ทศโดยกำรปฏิบตั ิจรงิ 3) ผ้รู ับกำรนเิ ทศพฒั นำสมรรถนะผู้เรียนตำมหลกั สูตร หรือกิจกรรมกำรเรียนรู้ 4) แสดงให้เหน็ ถงึ การคดิ ค้น ปรบั เปลยี่ น กระบวนการนิเทศเพ่อื พัฒนา สมรรถนะของผรู้ ับการนเิ ทศให้สามารถจัดการเรยี นรหู้ รอื การจัดการศกึ ษา ทส่ี ่งผลต่อคุณภาพผ้เู รยี น 5) แสดงให้เหน็ ผลการปรับเปลย่ี นสมรรรถนะของผรู้ บั การนเิ ทศ ท่สี ง่ ผลตอ่ คุณภาพผู้เรียน

- 124 - คะแนน คะแนน ตัวชีว้ ดั ที่ 4 กำรสอนงำนระบบพี่เล้ยี ง เกณฑก์ ำรพจิ ำรณำผลกำรปฏบิ ัติ 1) แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ สะท้อนบทเรยี นรว่ มกัน เกยี่ วกบั วธิ กี ำรจดั กำร เรยี นรู้ หรือกำรจัดกำรศึกษำ ใหแ้ ก่ ผู้รับกำรนเิ ทศ และผทู้ ี่เก่ียวขอ้ ง (กำรสรำ้ งชุมชนกำรเรียนรใู้ นสถำนศกึ ษำ) 2) สรำ้ งแรงบนั ดำลใจและควำมสำเร็จในกำรพฒั นำกำรจัดกำรเรียนรู้ ใหผ้ ูร้ ับกำรนิเทศ 3) เปน็ ผ้นู ำทำงวชิ ำกำรในกำรแลกเปลยี่ นเรยี นรเู้ พ่ือแกป้ ญั หำหรอื พัฒนำ คณุ ภำพกำรจดั กำรเรียนร้ขู องผรู้ ับกำรนเิ ทศ (Peer coaching) 4) แสดงใหเ้ หน็ ถงึ การคิดคน้ ปรับเปลย่ี น เพือ่ ช้แี นะ เปน็ พ่ีเล้ียง ใหผ้ ้รู ับการนิเทศ ค้นควา้ ทดลอง คดิ นวัตกรรมการจดั การเรยี นรู้ หรอื การจัดการศึกษาอย่างต่อเนอ่ื ง 5) แสดงให้เห็นถึงผลการคิดคน้ ปรับเปล่ียน การนิเทศเชงิ พฒั นา คณุ ภาพการจดั การเรยี นรู้ของผรู้ บั การนเิ ทศในดา้ นการทดลองคดิ นวตั กรรม อยา่ งต่อเนอื่ ง ตัวชีว้ ดั ท่ี 5 กำรจัดกำรเรียนร/ู้ กำรแกป้ ญั หำของผ้รู บั กำรนิเทศ เกณฑ์กำรพิจำรณำผลกำรปฏบิ ัติ 1) ส่งเสริมผรู้ ับกำรนเิ ทศใหส้ ำมำรถจดั กำรเรยี นรู้ทีส่ ่งผลต่อ คุณภำพผเู้ รยี น 2) ผูร้ ับกำรนิเทศ ได้รบั ผลโดยตรง และนำผลจำกกำรนเิ ทศไปใช้ พัฒนำคุณภำพผ้เู รียน 3) ดำเนนิ กำรไดต้ รงจดุ หรือตรงกับควำมตอ้ งกำรจำเปน็ ของผู้รบั กำรนิเทศ 4) แสดงให้เหน็ ถึงความมุ่งม่นั ในการคิดคน้ ปรบั เปลีย่ นการนิเทศ เพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้ของผู้รบั การนเิ ทศ 5) แสดงใหเ้ ห็นถงึ ผลการคดิ คน้ ปรับเปลี่ยน การนิเทศเชิงพัฒนา ท่สี ่งผลคุณภาพการจัดการเรียนร้ขู องผู้รบั การนิเทศท่สี ง่ ผลต่อคุณภาพผู้เรียน

- 125 - คะแนน คะแนน ตัวชวี้ ดั ท่ี 6 ควำมคิดสร้ำงสรรคแ์ ละนวัตกรรม คะแนน เกณฑ์กำรพิจำรณำผลกำรปฏบิ ัติ 1) เปำ้ หมำยกำรพฒั นำกำรนเิ ทศกำรศกึ ษำเพอื่ พัฒนำคุณภำพ กำรจดั กำรเรยี นรู้มคี วำมชดั เจนและเป็นไปได้ 2) เห็นควำมเปล่ียนแปลงอยำ่ งสรำ้ งสรรคห์ ลงั กำรนเิ ทศ 3) นำสือ่ นวัตกรรม หรือเทคโนโลยี มำประยุกต์ใช้ในกำรนิเทศ 4) แสดงให้เห็นถงึ การคดิ ค้น ปรับเปลยี่ น พฒั นา สอ่ื นวัตกรรม หรอื เทคโนโลยี มาประยุกตใ์ ช้ในการนิเทศ ทาใหผ้ ้รู บั การนิเทศ มีคณุ ภาพการจดั การเรียนรู้สงู ขนึ้ 5) แสดงให้เห็นถึงผลการคิดค้น ปรับเปลีย่ น พฒั นา สอ่ื นวัตกรรม หรอื เทคโนโลยี มาประยุกตใ์ ช้ในการนเิ ทศ ทาใหผ้ ู้รบั การนเิ ทศ มคี ณุ ภาพการจดั การเรียนรสู้ งู ขน้ึ ที่สง่ ผลตอ่ คุณภาพผเู้ รียน ตวั ชี้วัดที่ 7 ระดมทรพั ยำกร เครือขำ่ ย และควำมร่วมมอื เกณฑ์กำรพิจำรณำผลกำรปฏบิ ัติ 1) มกี ำรประสำนควำมรว่ มมอื กบั ผ้รู บั กำรนิเทศและผู้เกี่ยวข้อง 2) มีกำรใช้เครือขำ่ ยในกำรระดมทรัพยำกรและควำมรว่ มมือ จำกภำยนอกหนว่ ยงำน 3) ผรู้ ับกำรนเิ ทศได้รบั ประโยชน์จำกเครอื ข่ำยควำมร่วมมือ 4) แสดงให้เห็นถงึ การคิดคน้ วธิ กี ารใหม่ ๆ ในการสรา้ งเครอื ข่าย ความร่วมมือ 5) แสดงให้เหน็ ถงึ การปรับเปลย่ี นวิธกี ารใหม่ ๆ ในการสร้างเครือขา่ ย ความร่วมมือ ตวั ชวี้ ดั ท่ี 8 ภำวะผู้นำแบบร่วมกนั เกณฑก์ ำรพิจำรณำผลกำรปฏบิ ัติ 1) มีกำรทำงำนเปน็ ทีมและเรยี นรู้รว่ มกัน 2) กระบวนกำรทำงำนเนน้ กำรมีสว่ นรว่ มของผ้รู บั กำรนิเทศและผทู้ ่ีเกีย่ วข้อง 3) แสดงใหเ้ หน็ ถึงภำวะผนู้ ำกำรเปล่ยี นแปลง เพอื่ พฒั นำคุณภำพ กำรจดั กำรเรยี นร้ขู องผู้รับกำรนเิ ทศ 4) แสดงใหเ้ หน็ ถงึ การทาให้เกิดเครือข่ายการทางานร่วมกนั ของผรู้ ับการนเิ ทศหรือผูท้ ่เี กี่ยวข้อง 5) แสดงใหเ้ ห็นถงึ ผลการทาให้เกิดเครอื ขา่ ยการทางานร่วมกนั ของผ้รู บั การนิเทศหรอื ผูท้ เี่ กีย่ วข้อง

- 126 - ด้ำนที่ ดำ้ นผลลพั ธใ์ นกำรพัฒนำกำรนิเทศกำรศึกษำ เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน (Scoring Rubric) 1 คะแนน เมือ่ ปฏิบตั ไิ ดห้ รอื ปรำกฏผลชดั เจน 1 ข้อ จำก 5 ข้อ คะแนน เมอ่ื ปฏบิ ตั ไิ ดห้ รอื ปรำกฏผลชดั เจน 2 ขอ้ จำก 5 ข้อ 3 คะแนน เมื่อปฏิบัติไดห้ รอื ปรำกฏผลชดั เจน 3 ขอ้ จำก 5 ขอ้ 4 คะแนน เม่อื ปฏบิ ัติไดห้ รือปรำกฏผลชดั เจน 4 ขอ้ จำก 5 ขอ้ 5 คะแนน เม่ือปฏิบตั ไิ ด้หรอื ปรำกฏผลชดั เจนทง้ั 5 ข้อ ตวั ชี้วัดที่ 1 ผลงำนหรือผลกำรปฏิบัตเิ ปนผลลพั ธท์ ีเ่ กดิ ขึ้นจำกกำรนเิ ทศกำรศึกษำของศึกษำนเิ ทศก์ เกณฑ์พจิ ำรณำผลงำนหรือผลกำรปฏบิ ตั ิ คะแนน 1) เป็นไปตำมข้อตกลงกำรพฒั นำงำน 2) เหมำะสมกับบรบิ ทและสภำพของผู้รบั กำรนิเทศ สถำนศึกษำ หรอื หน่วยงำนกำรศึกษำ 3) สอดคลอ้ งกับปญั หำและควำมต้องกำรจำเป็นในกำรนเิ ทศ ของผู้รับกำรนิเทศ สถำนศกึ ษำ หรือหน่วยงำนกำรศึกษำ 4) เกดิ ขน้ึ จำกผลกำรปฏบิ ตั ิรว่ มกนั ของผู้รับกำรนิเทศหรือผ้ทู ี่เกีย่ วขอ้ ง ในสถำนศึกษำ หรือหน่วยงำนกำรศึกษำ 5) เหมำะสม ค้มุ คำ่ และเปน็ ประโยชนต์ อ่ คณุ ภำพกำรจัดกำรเรียนรู้ ของผเู้ รียน ตวั ชี้วดั ท่ี ผลงำนหรอื ผลกำรปฏบิ ตั ิส่งผล ึงกำรพัฒนำครใู นส ำนศึกษำ คะแนน เกณฑ์พิจำรณำผลงำนหรือผลกำรปฏิบัติ 1) ทกั ษะกำรจดั กำรเรยี นรู้หรอื ทักษะวชิ ำกำร หรือทกั ษะกำรจัดกำร เกย่ี วกบั หลักสูตร 2) เกิดเครือขำ่ ยกำรเรียนร้รู ว่ มกนั ของครูในลักษณะชมุ ชนวชิ ำชีพ 3) ทักษะกำรทำงำนเปน็ ทมี และควำมรกั สำมัคคใี นองคก์ ร 4) ภำวะผนู้ ำร่วมของครใู นกำรพฒั นำสถำนศึกษำ 5) ควำมทมุ่ เท เสยี สละ และยึดมั่นในจรรยำบรรณวชิ ำชีพ

- 127 - คะแนน ตัวช้วี ดั ท่ี 3 ผลงำนหรอื ผลกำรปฏิบัตสิ ่งผล ึงกำรพฒั นำผเู้ รียน เกณฑพ์ ิจำรณำผลงำนหรอื ผลกำรปฏิบัติ 1) ทกั ษะพน้ื ฐำนของผ้เู รียน เชน่ กำรสื่อสำร กำรเรยี นรู้ คุณลกั ษณะ ที่พงึ ประสงค์ ทกั ษะชีวิต ทกั ษะกำรคิด เปน็ ต้น 2) คุณภำพชวี ติ หรือสุขภำวะดำ้ นกำรเรยี นรู้ หรือพฒั นำกำร ด้ำนรำ่ งกำย จติ ใจ อำรมณ์ และสังคม ของผูเ้ รยี น 3) กำรบรู ณำกำรทักษะในกำรทำงำน (Cross – functional Skills) ของผู้เรยี น เชน่ ทักษะกระบวนกำร ทกั ษะทำงสังคม ทักษะกำรจัดกำร ทกั ษะเฉพำะทำง ทักษะกำรแกป้ ญั หำท่ซี ับซอ้ น เปน็ ตน้ 4) ผู้เรยี นสว่ นใหญเ่ ปน็ ผู้ไดร้ บั ผลกำรพัฒนำ ไม่ใช่เฉพำะผเู้ รียนคนใดคนหนึ่ง 5) ผลลัพธท์ ่ีเกิดกับผู้เรยี นมคี วำมต่อเนือ่ ง ยัง่ ยนื และสง่ ผลตอ่ ผเู้ รียน ในระยะยำว ตัวชีว้ ัดที่ 4 ผลงำนหรอื ผลกำรปฏิบตั สิ ่งผล งึ คุณภำพส ำนศึกษำ หรอื หนว่ ยงำนกำรศกึ ษำ เกณฑพ์ จิ ำรณำผลงำนหรอื ผลกำรปฏิบัติ คะแนน 1) ผลลพั ธท์ ่ีเกิดขน้ึ กับผู้เรยี นเปลย่ี นแปลงไปในทำงทดี่ ีข้ึน 2) ผู้รับบริกำรมกี ำรเปลยี่ นแปลงไปในทำงทีด่ ขี นึ้ 3) ปรำกฏผลกำรทำงำนรว่ มกนั ระหวำ่ งครู ผูบ้ รหิ ำรสถำนศกึ ษำ และศึกษำนเิ ทศก์ เพื่อพัฒนำผู้เรียน 4) ปรำกฏผลกำรพฒั นำสถำนศกึ ษำในดำ้ นวชิ ำกำร 5) กำรยอมรับในคณุ ภำพของครแู ละสถำนศกึ ษำจำกหนว่ ยงำน หรอื องค์กรที่เก่ียวข้อง (ลงชือ่ ).................................................................. กรรมกำรผ้ปู ระเมนิ (..................................................................) ตำแหน่ง................................................................... วันท.่ี ........ เดือน......................................... พ.ศ. ....

- 128 - สำหรบั กรรมกำรประเมนิ แบบสรุปผลกำรประเมนิ ตำแหน่งและวิทยฐำนะ ดำ้ นท่ี 1 และ ดำ้ นท่ี ผขู้ อรบั การประเมิน ชือ่ ...............................................นำมสกลุ ...................................................ตำแหนง่ ศึกษำนิเทศก์ วทิ ยฐำนะศึกษำนเิ ทศกช์ ำนำญกำรพิเศษ หนว่ ยงำนศกึ ษำ........................................................ สว่ นรำชกำร................................................................................ รับเงินเดอื นอนั ดบั ............................อัตรำเงินเดือน.............................บำท ด้ำนที่ 1 ด้ำนทักษะกำรวำงแผนพัฒนำกำรนิเทศกำรศึกษำ กลยุทธ์ สื่อ นวัตกรรม หรือเทค น ลยี ในกำรนิเทศกำรศกึ ษำ หรือกำรพัฒนำคณุ ภำพส ำนศกึ ษำหรือหนว่ ยงำนกำรศึกษำ ตัวชี้วดั ทักษะกำรวำงแผนพัฒนำกำรนิเทศกำรศึกษำ กลยุทธ์ คะแนน สื่อ นวัตกรรม หรือเทค น ลยใี นกำรนิเทศกำรศึกษำ คะแนน ว่ งนำ้ หนกั หรือกำรพฒั นำคุณภำพส ำนศึกษำ หรือหน่วยงำนกำรศึกษำ (คะแนน x .5) 1. กระบวนกำรจดั กำรเรยี นรู้ (ประกันคณุ ภำพ/กำรพฒั นำคณุ ภำพอย่ำงต่อเนื่อง) 2. คณุ ภำพของหลกั สตู รและนกั เรียน 3. กำรพัฒนำสมรรถนะ 4. กำรสอนงำนระบบพเ่ี ลยี้ ง 5. กำรจดั กำรเรียนร/ู้ กำรแก้ปญั หำของผรู้ บั กำรนิเทศ 6. ควำมคดิ สร้ำงสรรค์และนวตั กรรม 7. ระดมทรัพยำกร เครือขำ่ ย และควำมร่วมมือ 8. ภำวะผู้นำแบบร่วมกัน รวมคะแนน ผลกำรพจิ ำรณำ  ผำ่ น  ไม่ผำ่ น คะแนน คะแนน ดำ้ นที่ ด้ำนผลลัพธใ์ นกำรพัฒนำกำรนเิ ทศกำรศกึ ษำ ่วงนำ้ หนัก (คะแนน x 5) ตัวชว้ี ัดผลลพั ธ์ในกำรพฒั นำคณุ ภำพผูเ้ รยี น ครู และส ำนศึกษำ 1. ผลงำนหรือผลกำรปฏบิ ตั เิ ป็นผลลัพธ์ทีเ่ กิดขึน้ จำกกำรนิเทศกำรศึกษำของศึกษำนิเทศก์ 2. ผลงำนหรอื ผลกำรปฏิบตั สิ ง่ ผลถึงกำรพัฒนำครใู นสถำนศึกษำ 3. ผลงำนหรือผลกำรปฏบิ ตั สิ ง่ ผลถึงกำรพัฒนำผูเ้ รยี น 4. ผลงำนหรอื ผลกำรปฏิบัตสิ ง่ ผลถงึ คุณภำพสถำนศกึ ษำ หรอื หน่วยงำนกำรศกึ ษำ รวมคะแนน  ผำ่ น  ไมผ่ ่ำน ผลกำรพิจำรณำ (ลงชื่อ).................................................................. กรรมกำรผ้ปู ระเมิน (..................................................................) ตำแหนง่ ................................................................... วนั ที.่ ........ เดอื น......................................... พ.ศ. ....

- 129 - PA 4/ศน. สำหรบั กรรมกำรประเมิน แบบประเมนิ ตำแหน่งและวทิ ยฐำนะ ตำแหนง่ ศกึ ษำนิเทศก์ วิทยฐำนะศกึ ษำนเิ ทศก์เช่ยี วชำญพิเศษ (ทกุ สังกดั ) ผขู้ อรับกำรประเมิน ชือ่ ..........................................นำมสกุล..............................................ตำแหน่งศกึ ษำนิเทศก์ วิทยฐำนะศกึ ษำนเิ ทศก์เชย่ี วชำญ หน่วยงำนศึกษำ........................................................ ส่วนรำชกำร................................................................................ รับเงินเดอื นอันดบั ............................อตั รำเงินเดือน.............................บำท - PA 4/ศน. ตำแหนง่ ศึกษำนเิ ทศก์ วทิ ยฐำนะศกึ ษำนิเทศกเ์ ชีย่ วชำญพิเศษ ด้ำนที่ 1 ด้ำนทักษะกำรวำงแผนพัฒนำกำรนิเทศกำรศึกษำ กลยุทธ์ สื่อ นวัตกรรม หรือเทค น ลยี ในกำรนิเทศกำรศึกษำ หรือกำรพัฒนำคุณภำพส ำนศกึ ษำหรือหน่วยงำนกำรศกึ ษำ เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน (Scoring Rubric) 1 คะแนน เมื่อปรำกฏชดั เจนวำ่ สำมำรถปฏิบตั ติ ำมข้อ 1 ถึง ข้อ 3 ได้ 1 ขอ้ คะแนน เมือ่ ปรำกฏชดั เจนวำ่ สำมำรถปฏบิ ตั ติ ำมขอ้ 1 ถึง ขอ้ 3 ได้ 2 ขอ้ เม่อื ปรำกฏชดั เจนวำ่ สำมำรถปฏิบตั ิตำมข้อ 1 ถงึ ขอ้ 3 ได้ทงั้ 3 ข้อ 3 คะแนน 4 คะแนน เม่อื ปรำกฏชดั เจนว่ำสำมำรถปฏิบตั ิตำมข้อ 1 ถงึ ขอ้ 3 ได้ทั้ง 3 ข้อ และปรำกฏชัดเจนวำ่ สำมำรถปฏบิ ตั ิตำมขอ้ 4 หรอื ข้อ 5 ได้ 1 ขอ้ 5 คะแนน เมื่อปรำกฏชดั เจนวำ่ สำมำรถปฏิบตั ิตำมขอ้ 1 ถงึ ขอ้ 3 ไดท้ ัง้ 3 ข้อ และปรำกฏชดั เจนวำ่ สำมำรถปฏบิ ัติตำมข้อ 4 และ ขอ้ 5 ได้ท้ัง 2 ข้อ ตัวชวี้ ดั ที่ 1 กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ (ประกันคณุ ภำพ/กำรพฒั นำคุณภำพอย่ำงตอ่ เนอื่ ง) เกณฑก์ ำรพิจำรณำผลกำรปฏบิ ัติ คะแนน 1) วเิ ครำะห์ ออกแบบ และจัดทำแผนกำรนเิ ทศกำรศกึ ษำอยำ่ งเปน็ ระบบ 2) มีกลยทุ ธ์กำรนเิ ทศทห่ี ลำกหลำย 3) ประเมินแผนกำรนิเทศกำรศกึ ษำ และนำผลกำรประเมนิ มำปรบั ปรงุ พัฒนำแผนกำรนเิ ทศใหม้ คี ณุ ภำพสงู ขน้ึ อยำ่ งต่อเน่อื ง 4) แสดงให้เห็นถึงการคดิ ค้น ปรบั เปลีย่ น การจดั การเรยี นรู้ หรือการจัดการศกึ ษาของผ้รู บั การนิเทศอยา่ งเปน็ ระบบและตอ่ เน่ือง และส่งผลต่อการเปล่ียนแปลงคณุ ภาพผู้เรียนให้สูงขึน้ 5) แสดงให้เห็นถึงผลการคดิ คน้ ปรับเปลย่ี น กระบวนการวางแผน พฒั นาคณุ ภาพการจัดการเรียนรู้หรอื การจัดการศึกษา ของผู้รบั การนเิ ทศ อยา่ งเป็นระบบและต่อเนอ่ื ง และเกิดการเปลี่ยนแปลงในวงวชิ าชีพ

- 130 - คะแนน คะแนน ตัวชี้วดั ท่ี คุณภำพของหลักสตู รและนักเรียน เกณฑ์กำรพิจำรณำผลกำรปฏบิ ัติ 1) ส่งเสรมิ สนบั สนนุ กำรพัฒนำหลักสูตรสถำนศกึ ษำ หรือกิจกรรมกำรเรยี นรู้ 2) สร้ำงควำมรู้ ประสบกำรณใ์ หม่ เกยี่ วกบั กำรพัฒนำหลักสตู ร หรือกิจกรรม กำรเรียนรู้ ให้กบั ผู้รบั กำรนเิ ทศ 3) นิเทศกำรพัฒนำหลกั สตู ร หรือกจิ กรรมกำรเรยี นรู้ ได้สอดคลอ้ งกบั บริบทของสถำนศกึ ษำ 4) แสดงใหเ้ หน็ ถงึ การคดิ ค้น ปรบั เปลีย่ น กระบวนการนิเทศ เพือ่ พฒั นาการใชห้ ลกั สูตร หรือกจิ กรรมการเรยี นรู้ และการจดั การเรียนรู้ ของผูร้ บั การนเิ ทศท่เี ปล่ยี นแปลงคณุ ภาพผู้เรียนให้สูงข้ึน 5) แสดงให้เห็นถงึ ผลการคดิ คน้ ปรับเปล่ียน กระบวนการการนเิ ทศ เพอื่ พฒั นาการใชห้ ลักสูตร หรอื กจิ กรรมการเรียนรแู้ ละการจัดการเรียนรู้ ของผู้รับการนิเทศ ที่ทาใหเ้ กิดการเปล่ียนแปลงในวงวิชาชพี ตวั ชวี้ ดั ที่ 3 กำรพัฒนำสมรร นะ เกณฑก์ ำรพิจำรณำผลกำรปฏบิ ัติ 1) ผูร้ บั กำรนเิ ทศไดร้ บั กำรพัฒนำสมรรถนะในกำรปฏิบัติงำน 2) เสริมสรำ้ งสมรรถนะผู้รบั กำรนเิ ทศโดยกำรปฏิบัติจรงิ 3) ผรู้ บั กำรนเิ ทศพฒั นำสมรรถนะผู้เรยี นตำมหลักสตู ร หรือกจิ กรรมกำรเรียนรู้ 4) แสดงใหเ้ หน็ ถึงการคดิ คน้ ปรบั เปล่ียน กระบวนการนเิ ทศเพือ่ พฒั นา สมรรถนะของผรู้ บั การนิเทศใหส้ ามารถจัดการเรียนรู้หรอื การจัดการศึกษา ที่ส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียนท่สี ่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงคุณภาพผู้เรียนให้สงู ขนึ้ 5) แสดงใหเ้ หน็ ผลการนิเทศเพอ่ื ปรับเปล่ียนสมรรรถนะของผรู้ ับการนเิ ทศ ทที่ าใหเ้ กิดการเปล่ียนแปลงในวงวชิ าชีพ

- 131 - คะแนน คะแนน ตวั ช้ีวัดที่ 4 กำรสอนงำนระบบพ่ีเล้ยี ง เกณฑ์กำรพจิ ำรณำผลกำรปฏบิ ตั ิ 1) แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ สะทอ้ นบทเรียนร่วมกนั เกยี่ วกบั วธิ ีกำรจดั กำรเรยี นรู้ หรือกำรจดั กำรศึกษำ ใหแ้ ก่ ผู้รับกำรนิเทศ และผทู้ ่ีเกีย่ วข้อง (กำรสรำ้ งชุมชนกำรเรยี นรู้ในสถำนศกึ ษำ) 2) สร้ำงแรงบนั ดำลใจและควำมสำเร็จในกำรพัฒนำกำรจัดกำรเรยี นรู้ ให้ผู้รับกำรนเิ ทศ 3) เปน็ ผูน้ ำทำงวชิ ำกำรในกำรแลกเปลย่ี นเรียนร้เู พื่อแกป้ ัญหำ หรือพัฒนำคณุ ภำพกำรจดั กำรเรยี นรขู้ องผู้รับกำรนเิ ทศ (Peer coaching) 4) แสดงให้เหน็ ถึงการคิดค้น ปรับเปล่ียน เพ่ือช้แี นะ เปน็ พ่เี ลยี้ ง ให้ผูร้ บั การนิเทศ ค้นควา้ ทดลอง คดิ นวัตกรรมการจดั การเรียนรู้ หรือการจัดการศกึ ษาอยา่ งต่อเนอ่ื ง ทเ่ี ปลยี่ นแปลงคณุ ภาพผู้เรียนใหส้ งู ข้นึ 5) แสดงใหเ้ หน็ ถึงผลการคิดคน้ ปรบั เปลีย่ น การนิเทศเชงิ พัฒนาคุณภาพ การจัดการเรยี นรู้ของผรู้ บั การนเิ ทศในดา้ นการทดลองคดิ นวตั กรรมอย่าง ตอ่ เน่ือง ท่ที าให้เกิดการเปลย่ี นแปลงในวงวิชาชีพ ตวั ช้วี ดั ที่ 5 กำรจัดกำรเรียนร/ู้ กำรแกป้ ัญหำของผรู้ ับกำรนิเทศ เกณฑ์กำรพิจำรณำผลกำรปฏบิ ัติ 1) สง่ เสริมผรู้ บั กำรนิเทศให้สำมำรถจัดกำรเรียนรู้ทส่ี ่งผลตอ่ คณุ ภำพผู้เรียน 2) ผู้รบั กำรนิเทศ ไดร้ บั ผลโดยตรง และนำผลจำกกำรนิเทศไปใช้ พฒั นำคุณภำพผเู้ รียน 3) ดำเนินกำรได้ตรงจุดหรือตรงกบั ควำมต้องกำรจำเปน็ ของผรู้ บั กำรนิเทศ 4) แสดงให้เหน็ ถึงความมุ่งมัน่ ในการคดิ ค้น ปรบั เปลี่ยนการนิเทศ เพอื่ พัฒนาคณุ ภาพการจดั การเรียนรขู้ องผู้รับการนเิ ทศทเี่ ปล่ยี นแปลง คุณภาพผเู้ รยี นให้สงู ขนึ้ 5) แสดงให้เห็นถงึ ผลการคดิ คน้ ปรับเปลย่ี น การนิเทศเชิงพฒั นา ท่ีส่งผลคณุ ภาพการจดั การเรียนรขู้ องผรู้ ับการนิเทศ ที่ทาให้เกดิ การเปลย่ี นแปลงในวงวชิ าชพี

- 132 - คะแนน คะแนน ตวั ชีว้ ดั ที่ 6 ควำมคิดสร้ำงสรรค์และนวัตกรรม คะแนน เกณฑ์กำรพจิ ำรณำผลกำรปฏบิ ัติ 1) เป้ำหมำยกำรพฒั นำกำรนิเทศกำรศึกษำเพ่อื พัฒนำคุณภำพ กำรจดั กำรเรยี นร้มู ีควำมชดั เจนและเป็นไปได้ 2) เหน็ ควำมเปลี่ยนแปลงอยำ่ งสรำ้ งสรรค์หลงั กำรนเิ ทศ 3) นำสอ่ื นวัตกรรม หรือเทคโนโลยี มำประยุกต์ใช้ในกำรนิเทศ 4) แสดงใหเ้ หน็ ถึงการคิดคน้ ปรับเปล่ยี น พฒั นา สื่อ นวตั กรรม หรือเทคโนโลยี มาประยกุ ต์ใชใ้ นการนเิ ทศ ทาใหผ้ รู้ ับการนิเทศ มีคุณภาพการจดั การเรยี นรสู้ งู ขึน้ ทีเ่ ปลยี่ นแปลงคุณภาพผเู้ รียนใหส้ งู ขึ้น 5) แสดงใหเ้ ห็นถึงผลการคดิ คน้ ปรบั เปล่ียน พฒั นา สอ่ื นวัตกรรม หรือเทคโนโลยี มาประยุกต์ใช้ในการนเิ ทศ ทาใหผ้ ู้รับการนเิ ทศ มคี ณุ ภาพ การจัดการเรียนรสู้ ูงข้ึนท่ีสง่ ผลต่อคณุ ภาพผู้เรียน ทท่ี าให้เกิดการเปลีย่ นแปลง ในวงวชิ าชพี ตวั ชวี้ ัดที่ 7 ระดมทรัพยำกร เครอื ข่ำย และควำมรว่ มมือ เกณฑก์ ำรพิจำรณำผลกำรปฏบิ ตั ิ 1) มีกำรประสำนควำมร่วมมอื กบั ผรู้ บั กำรนิเทศและผู้เกย่ี วขอ้ ง 2) มีกำรใชเ้ ครือขำ่ ยในกำรระดมทรพั ยำกรและควำมรว่ มมอื จำกภำยนอกหนว่ ยงำน 3) ผรู้ บั กำรนเิ ทศได้รบั ประโยชน์จำกเครือข่ำยควำมรว่ มมือ 4) แสดงใหเ้ หน็ ถงึ นวตั กรรม การระดมทรัพยากร การสรา้ งเครือขา่ ย ความรว่ มมอื ของสถานศึกษา 5) นวตั กรรมที่พฒั นาข้ึนสง่ ผลลัพธ์ทดี่ ียงิ่ ต่อผ้รู บั การนิเทศ ตวั ช้ีวัดที่ 8 ภำวะผ้นู ำแบบรว่ มกนั เกณฑก์ ำรพจิ ำรณำผลกำรปฏบิ ตั ิ 1) มีกำรทำงำนเปน็ ทีมและเรยี นรู้รว่ มกัน 2) กระบวนกำรทำงำนเน้นกำรมีส่วนร่วมของผูร้ บั กำรนิเทศและผู้ที่เกี่ยวข้อง 3) แสดงให้เห็นถึงภำวะผู้นำ กำรเปลย่ี นแปลง เพอื่ พัฒนำคณุ ภำพกำรจัดกำรเรียนรูข้ องผู้รับกำรนเิ ทศ 4) แสดงให้เห็นถึงการทาใหเ้ กิดเครอื ขา่ ยการทางานรว่ มกนั ของผ้รู บั การนเิ ทศหรือผทู้ ีเ่ กีย่ วขอ้ ง ท่ีเปล่ยี นแปลงคณุ ภาพผูเ้ รียนให้สงู ขึ้น 5) แสดงให้เห็นถึงผลการทาให้เกิดเครอื ขา่ ยการทางานรว่ มกนั ของผู้รับการนิเทศหรอื ผู้ท่เี กีย่ วขอ้ ง ที่ทาให้เกิดการเปลีย่ นแปลงในวงวิชาชีพ

- 133 - ด้ำนที่ ดำ้ นผลลพั ธใ์ นกำรพฒั นำกำรนิเทศกำรศึกษำ เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน (Scoring Rubric) 1 คะแนน เมื่อปฏิบตั ิไดห้ รือปรำกฏผลชดั เจน 1 ข้อ จำก 5 ข้อ คะแนน เมอ่ื ปฏิบตั ไิ ดห้ รอื ปรำกฏผลชดั เจน 2 ข้อ จำก 5 ขอ้ 3 คะแนน เม่อื ปฏิบัติไดห้ รอื ปรำกฏผลชดั เจน 3 ข้อ จำก 5 ขอ้ 4 คะแนน เม่อื ปฏบิ ัตไิ ดห้ รือปรำกฏผลชดั เจน 4 ข้อ จำก 5 ขอ้ 5 คะแนน เมอ่ื ปฏบิ ตั ไิ ด้หรอื ปรำกฏผลชดั เจนทั้ง 5 ข้อ ตวั ช้ีวัดที่ 1 ผลงำนหรอื ผลกำรปฏบิ ัติเปนผลลพั ธ์ทีเ่ กิดข้ึนจำกกำรนิเทศกำรศกึ ษำของศึกษำนเิ ทศก์ เกณฑพ์ จิ ำรณำผลงำนหรือผลกำรปฏบิ ัติ คะแนน 1) เปน็ ไปตำมขอ้ ตกลงกำรพฒั นำงำน 2) เหมำะสมกบั บริบทและสภำพของผู้รบั กำรนิเทศ สถำนศึกษำ หรือหน่วยงำนกำรศึกษำ 3) สอดคลอ้ งกบั ปญั หำและควำมตอ้ งกำรจำเป็นในกำรนเิ ทศ ของผู้รับกำรนิเทศ สถำนศกึ ษำ หรือหน่วยงำนกำรศึกษำ 4) เกดิ ขน้ึ จำกผลกำรปฏบิ ตั ิรว่ มกนั ของผู้รบั กำรนิเทศหรอื ผู้ท่ีเกี่ยวข้อง ในสถำนศึกษำ หรือหนว่ ยงำนกำรศึกษำ 5) เหมำะสม คุ้มคำ่ และเปน็ ประโยชนต์ อ่ คณุ ภำพกำรจัดกำรเรยี นรู้ ของผเู้ รียน ตวั ช้ีวัดท่ี ผลงำนหรอื ผลกำรปฏบิ ตั ิส่งผล ึงกำรพฒั นำครูในส ำนศึกษำ คะแนน เกณฑพ์ ิจำรณำผลงำนหรือผลกำรปฏิบตั ิ 1) ทกั ษะกำรจัดกำรเรยี นรู้หรือ ทกั ษะวิชำกำร หรือทักษะกำรจดั กำร เกย่ี วกบั หลักสูตร 2) เกิดเครือขำ่ ยกำรเรยี นรู้รว่ มกนั ของครูในลกั ษณะชุมชนวชิ ำชพี 3) ทักษะกำรทำงำนเปน็ ทมี และควำมรักสำมคั คใี นองคก์ ร 4) ภำวะผนู้ ำรว่ มของครใู นกำรพัฒนำสถำนศึกษำ 5) ควำมทมุ่ เท เสยี สละ และยึดม่นั ในจรรยำบรรณวชิ ำชพี

- 134 - ตวั ช้ีวดั ท่ี 3 ผลงำนหรอื ผลกำรปฏิบตั สิ ่งผล ึงกำรพัฒนำผเู้ รยี น คะแนน เกณฑ์พจิ ำรณำผลงำนหรอื ผลกำรปฏิบัติ 1) ทกั ษะพืน้ ฐำนของผู้เรียน เชน่ กำรสอื่ สำร กำรเรยี นรู้ คณุ ลกั ษณะ ที่พึงประสงค์ ทักษะชวี ิต ทักษะกำรคดิ เป็นต้น 2) คุณภำพชีวิต หรือสุขภำวะดำ้ นกำรเรยี นรู้ หรือพฒั นำกำร ดำ้ นรำ่ งกำย จติ ใจ อำรมณ์ และสังคม ของผู้เรียน 3) กำรบูรณำกำรทกั ษะในกำรทำงำน (Cross – functional Skills) ของผเู้ รยี น เช่น ทกั ษะกระบวนกำร ทกั ษะทำงสังคม ทักษะกำรจัดกำร ทกั ษะเฉพำะทำง ทักษะกำรแกป้ ญั หำท่ีซบั ซอ้ น เป็นตน้ 4) ผเู้ รยี นส่วนใหญเ่ ปน็ ผ้ไู ด้รบั ผลกำรพัฒนำ ไมใ่ ชเ่ ฉพำะผเู้ รยี นคนใดคนหนึง่ 5) ผลลพั ธท์ เ่ี กิดกบั ผู้เรียนมีควำมตอ่ เนอ่ื ง ยั่งยืน และส่งผลตอ่ ผเู้ รยี น ในระยะยำว ตวั ชีว้ ดั ท่ี 4 ผลงำนหรือผลกำรปฏบิ ัติสง่ ผล งึ คุณภำพส ำนศกึ ษำ หรือหนว่ ยงำนกำรศกึ ษำ เกณฑพ์ ิจำรณำผลงำนหรอื ผลกำรปฏบิ ตั ิ คะแนน 1) ผลลัพธท์ เี่ กดิ ขน้ึ กบั ผเู้ รียนเปล่ยี นแปลงไปในทำงทด่ี ีข้นึ 2) ผู้รบั บริกำรมกี ำรเปลย่ี นแปลงไปในทำงทีด่ ีข้นึ 3) ปรำกฏผลกำรทำงำนร่วมกันระหว่ำงครู ผบู้ รหิ ำรสถำนศกึ ษำ และศกึ ษำนเิ ทศก์ เพ่ือพฒั นำผเู้ รียน 4) ปรำกฏผลกำรพฒั นำสถำนศกึ ษำในด้ำนวิชำกำร 5) กำรยอมรับในคุณภำพของครูและสถำนศกึ ษำจำกหนว่ ยงำน หรอื องค์กรทีเ่ กยี่ วข้อง (ลงชือ่ ).................................................................. กรรมกำรผ้ปู ระเมนิ (..................................................................) ตำแหน่ง................................................................... วันที.่ ........ เดือน......................................... พ.ศ. ....

- 135 - สำหรบั กรรมกำรประเมนิ แบบสรุปผลกำรประเมินตำแหนง่ และวิทยฐำนะ ด้ำนท่ี 1 และ ดำ้ นที่ ผขู้ อรบั การประเมนิ ชือ่ ..........................................นำมสกลุ ..............................................ตำแหนง่ ศกึ ษำนิเทศก์ วิทยฐำนะศึกษำนิเทศก์เชีย่ วชำญ หน่วยงำนศึกษำ........................................................ สว่ นรำชกำร................................................................................ รบั เงินเดอื นอนั ดบั ............................อตั รำเงนิ เดอื น.............................บำท ด้ำนที่ 1 ด้ำนทักษะกำรวำงแผนพัฒนำกำรนิเทศกำรศึกษำ กลยุทธ์ สื่อ นวัตกรรม หรือเทค น ลยี ในกำรนิเทศกำรศกึ ษำ หรอื กำรพฒั นำคณุ ภำพส ำนศึกษำหรือหน่วยงำนกำรศึกษำ ตวั ชีว้ ดั ทักษะกำรวำงแผนพัฒนำกำรนิเทศกำรศึกษำ กลยุทธ์ คะแนน ส่ือ นวัตกรรม หรือเทค น ลยีในกำรนเิ ทศกำรศกึ ษำ คะแนน ่วงน้ำหนกั หรอื กำรพฒั นำคุณภำพส ำนศึกษำ หรือหน่วยงำนกำรศกึ ษำ (คะแนน x .5) 1. กระบวนกำรจัดกำรเรยี นรู้ (ประกันคณุ ภำพ/กำรพฒั นำคณุ ภำพอย่ำงตอ่ เนอื่ ง) 2. คณุ ภำพของหลกั สูตรและนกั เรยี น 3. กำรพัฒนำสมรรถนะ 4. กำรสอนงำนระบบพ่เี ลย้ี ง 5. กำรจัดกำรเรียนร/ู้ กำรแก้ปญั หำของผ้รู บั กำรนิเทศ 6. ควำมคิดสรำ้ งสรรคแ์ ละนวัตกรรม 7. ระดมทรัพยำกร เครือข่ำย และควำมรว่ มมือ 8. ภำวะผู้นำแบบรว่ มกนั รวมคะแนน ผลกำรพจิ ำรณำ  ผ่ำน  ไม่ผำ่ น ด้ำนที่ ด้ำนผลลพั ธ์ในกำรพัฒนำกำรนิเทศกำรศกึ ษำ ตวั ชว้ี ัดผลลัพธใ์ นกำรพฒั นำคุณภำพผ้เู รยี น ครู และส ำนศึกษำ คะแนน คะแนน ว่ งน้ำหนัก (คะแนน x 5) 1. ผลงำนหรือผลกำรปฏิบัติเป็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจำกกำรนิเทศกำรศึกษำของศึกษำนิเทศก์ 2. ผลงำนหรือผลกำรปฏิบตั สิ ง่ ผลถึงกำรพฒั นำครใู นสถำนศกึ ษำ 3. ผลงำนหรอื ผลกำรปฏิบตั สิ ง่ ผลถึงกำรพัฒนำผู้เรยี น 4. ผลงำนหรือผลกำรปฏบิ ัตสิ ่งผลถงึ คณุ ภำพสถำนศกึ ษำ หรือหน่วยงำนกำรศึกษำ รวมคะแนน ผลกำรพิจำรณำ  ผำ่ น  ไม่ผ่ำน (ลงชื่อ).................................................................. กรรมกำรผปู้ ระเมนิ (..................................................................) ตำแหน่ง................................................................... วนั ท.่ี ........ เดอื น......................................... พ.ศ. ....

- 136 - 4.2 กำรประเมนิ ด้ำนท่ี 3 ด้ำนผลงำนทำงวชิ ำกำร กำรประเมินดำ้ นท่ี 3 ด้ำนผลงำนทำงวชิ ำกำร

- 137 - คำช้ีแจงกำรประเมนิ ด้ำนท่ี 3 ด้ำนผลงำนทำงวชิ ำกำร กำรประเมินด้ำนท่ี 3 ด้ำนผลงำนทำงวิชำกำร สำหรับวิทยฐำนะศึกษำนิเทศก์เช่ียวชำญ และศึกษำนิเทศก์วิทยฐำนะเชย่ี วชำญพิเศษ มอี งคป์ ระกอบกำรประเมินและเกณฑ์กำรให้คะแนน วิธกี ำรประเมิน และเกณฑ์กำรตัดสิน ดังนี้ 1. องค์ประกอบกำรประเมินและเกณฑก์ ำรให้คะแนน จำแนกออกเป็น 2 สว่ น จำนวน 6 ตัวชีว้ ดั ดงั นี้ สว่ นที่ 1 คณุ ภำพของผลงำนทำงวชิ ำกำร (คะแนนเต็ม 50 คะแนน) 1.1 ควำมถูกต้องตำมหลกั วชิ ำกำร (20 คะแนน) 1.2 ควำมคำดหวังในระดับกำรปฏิบตั ิงำนตำมมำตรฐำนวิทยฐำนะ (15 คะแนน) 1) วิทยฐำนะศึกษำนเิ ทศกเ์ ชี่ยวชำญ ควำมคำดหวังในระดับกำรปฏบิ ัตงิ ำนตำมมำตรฐำน วทิ ยฐำนะต้องแสดงให้เห็นถึงกำรคิดค้น ปรบั เปลย่ี นนวตั กรรมในกำรนิเทศกำรศึกษำ และเปน็ แบบอย่ำงทดี่ ี 2) วิทยฐำนะศึกษำนิเทศก์เช่ียวชำญพิเศษ ควำมคำดหวังในระดับกำรปฏิบตั ิงำน ตำมมำตรฐำนวิทยฐำนะ ต้องแสดงให้เห็นถึงกำรสร้ำงกำรเปลี่ยนแปลง เผยแพร่และขยำยผลในวงวิชำชีพ และเปน็ แบบอยำ่ งทีด่ ี 1.3 ควำมสมบรู ณข์ องเนื้อหำสำระ (10 คะแนน) 1.4 กำรจดั ทำ กำรพมิ พ์ รปู เลม่ และกำรเผยแพร่ (5 คะแนน) ส่วนท่ี 2 ประโยชนข์ องผลงำนทำงวิชำกำร (คะแนนเต็ม 50 คะแนน) 2.1 ประโยชนต์ อ่ ผูเ้ รียน ครู บคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ กำรจดั กำรศึกษำ หน่วยงำนกำรศกึ ษำ และชุมชน 2.2 ประโยชน์ต่อควำมก้ำวหน้ำในวงวิชำชีพ ต้องสำมำรถปรับเปล่ียน และสร้ำง กำรเปลยี่ นแปลงในวงวชิ ำกำรและวงวชิ ำชพี ตำมมำตรฐำนวทิ ยฐำนะท่ขี อรบั กำรประเมิน 2. วิธีกำรประเมนิ ผลงำนทำงวิชำกำร ให้คณะกรรมกำรประเมินดำเนินกำรประเมินด้ำนท่ี 3 ด้ำนผลงำนทำงวิชำกำร โดยพิจำรณำ ประเมนิ ตำมองค์ประกอบข้อ 1 1) วิทยฐำนะศึกษำนิเทศก์เช่ียวชำญ ต้องมีผลงำนทำงวิชำกำรซึ่งเป็นผลงำนวิจัยเก่ียวกับ กำรพัฒนำกำรนิเทศกำรศึกษำ หรือนวัตกรรมกำรนิเทศกำรศึกษำ ที่แสดงให้เห็นถึงระดับกำรปฏิบัติท่ีคำดหวัง ตำมมำตรฐำนวิทยฐำนะท่ีขอรบั กำรประเมินจำนวน 1 รำยกำรในรปู แบบไฟล์ PDF 2) วิทยฐำนะศึกษำนิเทศก์เช่ียวชำญพิเศษ ต้องมีผลงำนทำงวิชำกำรซึ่งเป็นผลงำนวิจัยเกี่ยวกับ กำรพัฒนำกำรนิเทศกำรศึกษำ และนวัตกรรมกำรนิเทศกำรศึกษำที่แสดงให้เห็นถึงระดับกำรปฏิบัติท่ีคำดหวัง ตำมมำตรฐำนวิทยฐำนะที่ขอรับกำรประเมิน จำนวนอย่ำงละ 1 รำยกำร ในรูปแบบไฟล์ PDF โดยงำนวิจัยต้องได้รับ กำรตีพิมพ์เผยแพร่บทควำมวิจัยในวำรสำรวิชำกำรท่ีอยู่ในฐำนข้อมูลของศูนย์ดัชนีกำรอ้ำงอิงวำรสำรไทย หรือ Thai-Journal Citation Index Centre (TCI) กลุ่ม 1 หรือ กลุ่ม 2 โดยให้ส่งบทควำมวิจัยที่ตีพิมพ์เผยแพร่ ในรูปแบบไฟล์ PDF ด้วย

- 138 - 3. เกณฑ์กำรตัดสนิ ด้ำนท่ี 3 ด้ำนผลงำนทำงวิชำกำร ต้องได้คะแนนจำกกรรมกำรแต่ละคน ไม่ต่ำกว่ำร้อยละ 75 สำหรับกำรขอเลื่อนเป็นวิทยฐำนะศึกษำนิเทศก์เชี่ยวชำญ และไม่ต่ำกว่ำร้อยละ 80 สำหรับกำรขอเล่ือนเป็น วทิ ยฐำนะศกึ ษำนิเทศก์เชย่ี วชำญพิเศษ

- 139 - แบบประเมินดำ้ นท่ี 3 ด้ำนผลงำนทำงวิชำกำร สำหรับวิทยฐำนะศกึ ษำนิเทศก์เชี่ยวชำญ/ศกึ ษำนิเทศก์เช่ยี วชำญพเิ ศษ แบบประเมินด้ำนท่ี 3 ดำ้ นผลงำนทำงวิชำกำร

- 140 - PA 5/ศน./ชช. สำหรบั กรรมกำรประเมิน แบบประเมนิ ด้ำนที่ 3 ดำ้ นผลงำนทำงวชิ ำกำร เพื่อให้ข้ำรำชกำรครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศกึ ษำ ตำแหน่งศกึ ษำนเิ ทศก์ เลอ่ื นเปนวิทยฐำนะศกึ ษำนิเทศกเ์ ชย่ี วชำญ (ทกุ สงั กัด) 1. ข้อมลู ผขู้ อรับกำรประเมิน - PA 5/ศน./ชช. ชอ่ื - สกุล....................................................................................................ตาแหน่งศึกษานิเทศก์ วทิ ยฐานะ............................... หน่วยงานการศึกษา...........................................................................สว่ นราชการ........................................................................ รับเงนิ เดอื นอันดับ.............................อัตราเงินเดือน.............................บาท . ผลกำรประเมิน รำยกำรประเมนิ คะแนน คะแนน หมำยเหตุ เตม ท่ไี ด้ ผลงำนทำงวิชำกำร (100 คะแนน) 1. คณุ ภำพของผลงำนทำงวชิ ำกำร 50 ผู้ผำ่ นกำรประเมินตอ้ งได้คะแนน (20) จำกกรรมกำรแตล่ ะคนไมต่ ำ่ กว่ำ 1.1 ควำมถกู ต้องตำมหลักวิชำกำร (15) รอ้ ยละ 75 1.2 แสดงใหเ้ ห็นถึงกำรคิดค้น ปรับเปลยี่ น (10) 1.3 ควำมสมบูรณข์ องเนอ้ื หำสำระ (5) 1.4 กำรจัดทำ กำรพิมพ์ และรปู เล่ม 2. ประ ยชน์ของผลงำนทำงวิชำกำร 50 2.1 ประโยชนต์ อ่ ผู้เรยี น ครู บุคลำกรทำงกำรศกึ ษำ (25) กำรจัดกำรศึกษำ หนว่ ยงำนกำรศกึ ษำ และชมุ ชน 2.2 ประโยชน์ต่อควำมกำ้ วหนำ้ ทำงวิชำกำร (25) กำรพฒั นำและปรับเปลย่ี นนวตั กรรม กำรนิเทศกำรศึกษำ และเปน็ แบบอยำ่ งทดี่ ี รวมคะแนนผลงำนทำงวชิ ำกำร 100 ผลกำรพิจำรณำ ผำ่ น  ไมผ่ ำ่ น (ลงช่อื )....................................................... กรรมกำรผปู้ ระเมิน (......................................................) ตำแหน่ง......................................................... วนั ท.่ี ........ เดอื น......................................... พ.ศ. ....

- 141 - สำหรบั กรรมกำรประเมนิ ข้อสงั เกตบำงประกำรเกีย่ วกบั ผลงำนทำงวชิ ำกำร รำย (นำย นำง นำงสำว) ............................................................................ ผลงำนทำงวชิ ำกำร เร่อื ง ............................................................................................................................. ........................ 1. คณุ ภำพของผลงำนทำงวชิ ำกำร 1.1 ควำมถูกตอ้ งตำมหลักวิชำกำร .................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................... 1.2 ควำมคำดหวงั ในระดบั กำรปฏบิ ตั ิงำนตำมมำตรฐำนวทิ ยฐำนะทีแ่ สดงใหเ้ ห็นถงึ กำรคดิ คน้ ปรับเปลี่ยน นวตั กรรมกำรนิเทศกำรศกึ ษำ .................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................... 1.3 ควำมสมบูรณข์ องเนือ้ หำสำระ .................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................... 1.4 กำรจดั ทำ กำรพมิ พ์ และรปู เลม่ .................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................... 2. ประโยชนข์ องผลงำนทำงวชิ ำกำร 2.1 ประโยชนต์ อ่ ผู้เรียน ครู บคุ ลำกรทำงกำรศกึ ษำ กำรจัดกำรศกึ ษำ หนว่ ยงำนกำรศกึ ษำ และชมุ ชน .................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................... 2.2 ประโยชนต์ อ่ ควำมกำ้ วหนำ้ ทำงวิชำกำร กำรพัฒนำและปรับเปลี่ยนนวัตกรรม กำรนิเทศกำรศึกษำ และเป็นแบบอย่ำงทีด่ ี .................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................... (ลงช่ือ)....................................................... กรรมกำรผู้ประเมิน (.......................................................) ตำแหน่ง......................................................... วนั ที.่ ........ เดอื น......................................... พ.ศ. ....

- 142 - PA 5/ศน./ชชพ. สำหรบั กรรมกำรประเมิน แบบประเมนิ ดำ้ นท่ี 3 ดำ้ นผลงำนทำงวิชำกำร เพื่อให้ขำ้ รำชกำรครูและบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ ตำแหน่งศึกษำนเิ ทศก์ เล่ือนเปนวทิ ยฐำนะศกึ ษำนเิ ทศกเ์ ชยี่ วชำญพิเศษ (ทุกสังกัด) 1. ขอ้ มูลผขู้ อรบั กำรประเมิน - PA 5/ศน./ชชพ. ชื่อ - สกุล.................................................................................ตาแหน่งศึกษานเิ ทศก์ วทิ ยฐานะ.................................................. หน่วยงานการศึกษา............................................................................ส่วนราชการ........................................................................ รับเงินเดอื นอนั ดับ.............................อัตราเงนิ เดอื น.............................บาท . ผลกำรประเมนิ รำยกำรประเมนิ คะแนน คะแนน หมำยเหตุ เตม ท่ีได้ ผลงำนทำงวชิ ำกำร (100 คะแนน) 1. คณุ ภำพของผลงำนทำงวชิ ำกำร 50 ผูผ้ ำ่ นกำรประเมินต้องได้คะแนน (20) จำกกรรมกำรแตล่ ะคน ไม่ตำ่ กวำ่ 1.1 ควำมถกู ตอ้ งตำมหลักวิชำกำร (15) ร้อยละ 80 1.2 แสดงให้เห็นถึงกำรสรำ้ งกำรเปลย่ี นแปลง (10) 1.3 ควำมสมบูรณ์ของเน้ือหำสำระ (5) 1.4 กำรจัดพมิ พแ์ ละกำรเผยแพร่ในวำรสำรวชิ ำกำร 50 ท่ีอยใู่ นฐำนขอ้ มลู (TCI) กลมุ่ 1 หรอื กลุ่ม 2 (25) 2. ประ ยชน์ของผลงำนทำงวชิ ำกำร (25) 2.1 ประโยชนต์ ่อผูเ้ รยี น ครู บุคลำกรทำงกำรศึกษำ กำรจัดกำรศึกษำ หนว่ ยงำนกำรศึกษำ และชุมชน 2.2 ประโยชนต์ ่อควำมก้ำวหน้ำทำงวิชำกำร เผยแพร่ และขยำยผลจนนำไปสูก่ ำรเปล่ียนแปลง ในวงวิชำชพี และเปน็ แบบอย่ำงท่ดี ี รวมคะแนนผลงำนทำงวชิ ำกำร 100 ผลกำรพจิ ำรณำ ผ่ำน  ไม่ผ่ำน (ลงชื่อ)....................................................... กรรมกำรผปู้ ระเมิน (......................................................) ตำแหนง่ ......................................................... วันท.ี่ ........ เดอื น......................................... พ.ศ. ....

- 143 - สำหรบั กรรมกำรประเมนิ ขอ้ สังเกตบำงประกำรเกี่ยวกับผลงำนทำงวิชำกำร รำย (นำย นำง นำงสำว) ............................................................................ ผลงำนทำงวิชำกำร เร่อื ง ............................................................................................................................. ........................ 1. คณุ ภำพของผลงำนทำงวิชำกำร 1.1 ควำมถกู ต้องตำมหลกั วิชำกำร .................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................... 1.2 ควำมคำดหวังในระดับกำรปฏิบัติงำนตำมมำตรฐำนวิทยฐำนะที่แสดงให้เห็นถึงกำรสร้ำงกำรเปล่ียนแปลง นวัตกรรมกำรนเิ ทศกำรศึกษำ .................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................... 1.3 ควำมสมบูรณ์ของเน้ือหำสำระ .................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................... 1.4 กำรจัดพิมพแ์ ละกำรเผยแพรใ่ นวำรสำรวิชำกำรที่อยู่ในฐำนข้อมูล (TCI) กลุม่ 1 หรอื กลุ่ม 2 .................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................... 2. ประโยชน์ของผลงำนทำงวชิ ำกำร 2.1 ประโยชนต์ ่อผูเ้ รยี น ครู บคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ กำรจดั กำรศกึ ษำ หนว่ ยงำนกำรศึกษำ และชมุ ชน .................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................... 2.2 ประโยชน์ต่อควำมกำ้ วหนำ้ ทำงวชิ ำกำร เผยแพร่และขยำยผลจนนำไปสกู่ ำรเปลี่ยนแปลง ในวงวิชำชพี และเป็นแบบอย่ำงทีด่ ี .................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................... (ลงชื่อ)....................................................... กรรมกำรผปู้ ระเมิน (.......................................................) ตำแหนง่ ......................................................... วนั ที.่ ........ เดือน......................................... พ.ศ. ....

- 144 -


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook