Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ใบความรู้คำนาม ป.6

ใบความรู้คำนาม ป.6

Published by p21d08, 2019-05-07 22:52:14

Description: ใบความรู้คำนาม ป.6

Search

Read the Text Version

ชดุ การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ เรือ่ ง การจาแนกชนิดของคา ชุดท่ี ๑ คานามเรยี กขาน นางณฐั ิยา ถาวระ ครชู านาญการ โรงเรยี นเทศบาลวัดมเหยงคณ์ สานักการศกึ ษา เทศบาลนครนครศรีธรรมราช

ชดุ การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ เรือ่ ง การจาแนกชนิดของคา ชุดท่ี ๑ คานามเรยี กขาน นางณฐั ิยา ถาวระ ครชู านาญการ โรงเรยี นเทศบาลวัดมเหยงคณ์ สานักการศกึ ษา เทศบาลนครนครศรีธรรมราช

(ก) คานา ชุดการเรียนรู้ เรื่องการจาแนกชนิดของคา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษา ปี ท๖่ี จดั ทาข้ึนเพ่อื พฒั นาทกั ษะทางดา้ นหลกั ภาษไทย จดั ทาข้ึนท้งั หมด ๗ ชุด ไดแ้ ก่ ชุดการเรียนรู้ที่ ๑ คานามเรียกขาน ชุดการเรียนรู้ท่ี ๒ คาสรรพนามใชแ้ ทน ชุดการเรียนรู้ที่ ๓ คากริยาแสนสนุก ชุดการเรียนรู้ที่ ๔ คาวเิ ศษณ์ล้าเลิศ ชุดการเรียนรู้ที่ ๕ คาบุพบทผชู้ ่วยนา ชุดการเรียนรู้ท่ี ๖ คาสนั ธานเช่ือมความ ชุดการเรียนรู้ที่ ๗ คาอทุ านสื่อสารอารมณ์ ซ่ึงเป็นหลกั สูตรในช่วงช้นั ที่ ๒ ชุดการเรียนรู้ เรื่องการจาแนกชนิดของคา สาเร็จไปไดด้ ว้ ยความกรุณาของ นางวรนารถ ไทยานนท์ โรงเรียนอนุบาลขอนแก่น จงั หวดั ขอนแก่น นางการุณา เกียรติเสรีกุล โรงเรียนเทศบาลวดั ศรีทวี จงั หวดั นครศรีธรรมราช นายศิลปชยั สุหลง โรงเรียนทา่ ศาลาประสิทธ์ิศึกษา จงั หวดั นครศรีธรรมราช นางสาววิรัช ชูจนั ทร์ทอง โรงเรียนเทศบาลวดั ใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช และ ดร.ทรงพล โสภณ มหาวิทยาลยั ราชภฏั นครศรีธรรมราช ท่ีไดใ้ หค้ าแนะนาและตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จนไดช้ ุดการเรียนรู้ทีส่ มบรู ณ์ และมีประสิทธิภาพ จึงขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสน้ี นางณฐั ิยา ถาวระ ครูชานาญการ โรงเรียนเทศบาลวดั มเหยงคณ์

(ข) ชุดการเรียนรู้ที่ ๑ คานามเรียกขาน ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๖ สาระที่ ๔ หลกั การใช้ภาษาไทย มาตรฐานการเรียนรู้ ท.๔.๑ : เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทยเปกลารี่ยนแปลง ของภาษาและพลงั ของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษาและ รักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ิของชาติ มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงช้ัน : รู้และเขา้ ใจชนิดและหนา้ ท่ขี องคาในประโยค ชนิดของ ประโยค จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. นกั เรียนสามารถอธิบายความหมายของคานามไดถ้ ูกตอ้ ง ๒. นกั เรียนสามารถบอกหนา้ ทข่ี องคานามไดถ้ ูกตอ้ ง ๓. นกั เรียนสามารถจาแนกชนิดของคานามไดถ้ ูกตอ้ ง ๔. นกั เรียนสามารถนาคานามไปแต่งประโยคเพื่อการสื่อสารไดถ้ กู ตอ้ ง ๕. นกั เรียนสามารถนาเรื่องของคานามไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ๖. นกั เรียนสามารถทาแบบฝึกหดั ไดร้ ้อยละ ๘๐ ข้ึนไป ๗. นกั เรียนสามารถทาแบบทดสอบหลงั เรียนผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ข้ึนไป ๘. นกั เรียนสามารถปฏิบตั ิกิจกรรมตามข้นั ตอนไดอ้ ยา่ งมีวินยั และมีความสุข

(ค) คาแนะนาการใช้ชุดการเรียนรู้ เร่ือง การจาแนกชนดิ ของคา ๑. ชุดการเรียนรู้ เร่ือง การจาแนกชนิดของคามีท้งั หมด ๗ ชุดไดแ้ ก่ ชุดการเรียนรู้ท่ี๑ คานามเรียกขาน ชุดการเรียนรู้ท่ี ๒ คาสรรพนามใชแ้ ทน ชุดการเรียนรู้ท่ี ๓ คากริยาแสนสนุก ชุดการเรียนรู้ท่ี ๔ คาวเิ ศษณ์ล้าเลิศ ชุดการเรียนรู้ท่ี ๕ คาบพุ บทผชู้ ่วยนา ชุดการเรียนรู้ท่ี ๖ คาสนั ธานเชื่อมความ ชุดการเรียนรู้ท่ี ๗ คาอทุ านสื่อสารอารมณ์ ๒. ชุดการเรียนรู้ เร่ือง การจาแนกชนิดของคาเล่มน้ี นกั เรียนสามารถเรียนรู้ไดด้ ว้ ย ตนเอ งตามความสามารถ ซ่ึงประกอบดว้ ย คาแนะนาการใชช้ ุดการเรียนรู้ จุดประสงค์สาระการเรียนรู้ ใบความรู้ คาอธิบายทมี่ ีตวั อยา่ งประกอบแบบฝึกหดั เฉลยแบบฝึกหดั แบบทดสอบ และเฉลยแบบทดสอบ ๓. นกั เรียนศึกษาหาความรู้จากใบความรู้ดว้ ยความต้งั ใจ หากทาไม่ไดห้ รือสงสยั ใหพ้ ยายามศึกษาคาอธิบายในใบความรู้หรือปรึกษาคุณครู ๔. ทาแบบฝึ กหดั ตามลาดบั ข้นั ตอนดว้ ยความซื่อสัตย์ ๕. ครูผสู้ อนควรใหค้ าแนะนาและใหค้ าอธิบายประกอบ พร้อมสรุปตามข้นั ตอน ของชุดการเรียนรู้ ๖. เม่ือศึกษาชุดการเรียนรู้จบแลว้ ใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน หากผลคะแนนของนกั เรียนไม่ผา่ นร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป ก็ใหน้ กั เรียนมาศึกษาใหม่ อกี คร้ัง เพื่อความกา้ วหนา้ ในการเรียน และจะประสบผลสาเร็จ

(ง) สารบญั เรื่อง หน้า คานา ...................................................................................................................... (ก) ชุดการเรียนรู้ท่ี ๑ คานามเรียกขาน ......................................................................... (ข) คาแนะนาการใชช้ ุดการเรียนรู้................................................................................ (ค) สารบญั ................................................................................................................... (ง) แผนผงั ความคิดสรุปเรื่องคานาม............................................................................ ๑ แบบทดสอบก่อนเรียน........................................................................................... ๓ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน................................................................................... ๕ ชนิดของคา ............................................................................................................ ๖ ใบความรู้ท่ี ๑ ความหมายของคานาม .................................................................... ๘ แบบฝึกหดั ท่ี ๑.๑.................................................................................................... ๑๐ เฉลยแบบฝึกหดั ท่ี ๑.๑............................................................................................ ๑๑ แบบฝึกหดั ที่ ๑.๒................................................................................................... ๑๒ เฉลยแบบฝึกหดั ที่ ๑.๑............................................................................................ ๑๓ ใบความรู้ท่ี ๒ ชนิดของคานาม.............................................................................. ๑๔ แบบฝึกหดั ที่ ๒.๑................................................................................................... ๑๖ เฉลยแบบฝึกหดั ท่ี ๒.๑........................................................................................... ๑๗ แบบฝึกหดั ที่ ๒.๒.................................................................................................. ๑๘ เฉลยแบบฝึกหดั ท่ี ๒.๒.......................................................................................... ๑๙ แบบฝึกหดั ที่ ๒.๓ .................................................................................................. ๒๐ ใบความรู้ท่ี ๓ คานามบอกลกั ษณะ คานามบอกอาการ คานามบอกหมวดหมู่ ....... ๒๑ แบบฝึกหดั ท่ี ๓.๑................................................................................................... ๒๖ เฉลยแบบฝึกหดั ที่ ๓.๑........................................................................................... ๒๗

(จ) สารบัญ (ต่อ) แบบฝึกหดั ท่ี ๓.๒ .................................................................................................. ๒๘ เฉลยแบบฝึกหดั ท่ี ๓.๒.......................................................................................... ๒๙ แบบฝึกหดั ท่ี ๓.๓ .................................................................................................. ๓๐ เฉลยแบบฝึกหดั ท่ี ๓.๓ .......................................................................................... ๓๑ แบบฝึกหดั ท่ี ๓.๔ .................................................................................................. ๓๒ เฉลยแบบฝึกหดั ที่ ๓.๔ .......................................................................................... ๓๓ ใบความรู้ท่ี ๔ หนา้ ทข่ี องคานาม............................................................................ ๓๔ แบบฝึกหดั ท่ี ๔.๑................................................................................................... ๓๗ เฉลยแบบฝึกหดั ท่ี ๔.๑........................................................................................... ๓๘ ใบความรู้ที่ ๕ สรุปคานาม..................................................................................... ๓๙ แบบฝึกหดั ที่ ๕.๑................................................................................................... ๔๑ เฉลยแบบฝึกหดั ที่ ๕.๑........................................................................................... ๔๒ แบบทดสอบหลงั เรียน ........................................................................................... ๔๓ เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน ................................................................................... ๔๕ บรรณานุกรม

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๑ แผนผงั ความคดิ เรืองคาํ นามเรียกขาน คาํ ทีใชเ้ รียก คน พืช สตั ว์ สิงของ สถานที ความหมาย คาํ นาม สรรพนาม ชนิด หนา้ ที ๑. วสิ ามานยนาม ๑. ประธานของประโยค ๒. สามานยนาม ๒. กรรมของประโยค ๓. อาการนาม ๓. ขยายคาํ นามอืน ๔. ลกั ษณนาม ๔. ขยายกริยาบอก ๕. สมุหนาม สถานที ทิศทาง เวลา ๕. ส่วนเติมเตม็ ๖. เรียกขาน ๗. กรรมตรง กรรมรอง ของประโยค

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๒ ก่อนทเี พอื นๆจะศกึ ษา ชุดการเรียนรู้เรืองการจําแนกชนิดของคํา ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน ขอใหเ้ พอื นๆ ทุกคนมาทาํ แบบทดสอบก่อนเรียนกนั ก่อน น ะ ค รั บ ว่ า เ ร า มี ค ว า ม รู้ พื น ฐ า น ม า ก น้ อ ย เพียงใด ผลการสอบเป็ นอยา่ งไรนันคุณครู ไม่ไดน้ าํ ไปใชใ้ นการตดั สินผลการเรียน ไม่ตอ้ งกงั วลนะครับ เปิ ดไปทาํ แบบทดสอบ ก่อนเรียนในหนา้ ต่อไปค่ะ

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๓ แบบทดสอบก่อนเรียน ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน คาํ สัง จงทาํ เครืองหมาย  ทบั หนา้ ตวั อกั ษรหนา้ คาํ ตอบทีถูกทสี ุด ๑. ขอ้ ใดคือความหมายของคาํ นาม ก. คาํ ทีใชข้ ยายชือคน สตั ว์ สิงของ ข. คาํ ทีแสดงความเป็นเจา้ ของคน สตั ว์ สิงของ ค. คาํ ทีใชเ้ รียกชือคน พืช สตั ว์ สิงของ สถานที ง. คาํ ทีใชแ้ ทนชือสิงมีชีวิต ๒. “ช้างชอบกนิ กล้วย” คาํ ทีขีดเสน้ ใตเ้ ป็นคาํ นามชนิดใด ก. นามทีใชท้ วั ไป ข. นามทีบอกลกั ษณะ ค. นามทีบอกขนาดและปริมาณ ง. นามทีใชช้ ีเฉพาะ ๓. ขอ้ ใดมีวิสามานยนาม ก. คุณป่ ูชอบนงั อิงหมอนบนเตียง ข. นายโอชาซืออฐู มาเลียง ค. เดก็ ผชู้ ายไม่ชอบเลน่ ตุก๊ ตา ง. ยายอาบนาํ แต่งตวั ใหมเ่ อียม ๔. ขอ้ ใดใชค้ าํ ลกั ษณนามผดิ ข. ฉันมีดินสอใหม่ ๒ อนั ก. พีซือปากกา ๒ ดา้ ม ง. คุณตามีเกวียน ๒ เลม่ ค. คุณพ่อมีขลยุ่ ๒ เลา ๕. คาํ ทีขีดเส้นใตข้ อ้ ใดเป็นสมหุ นาม ก. เหล่าลกู เสือเดินสวนสนาม ข. เครืองบิน ๓ ฝงู บินฉวดั เฉวียน ค. นกฝงู นนั บินมาจากทิศเหนือ ง. ทหารทกุ กองยนื เป็นระเบียบ

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๔ ๖. คาํ นามทีขีดเส้นใตใ้ นขอ้ ใดไมท่ าํ หนา้ ทีเป็นประธานของประโยค ก. บรรจงเขียนจดหมาย ข. แมวกาํ ลงั กดั หนู ค. คนร้ายขโมยทรัพยส์ ิน ง. เชา้ วนั จนั ทร์ฉนั ไปโรงเรียน ๗. ขอ้ ใดไม่มีอาการนาม ก. ความรักทาํ ใหค้ นตาบอด ข. ความววั ไม่ทนั หาย ความควายเขา้ มาแทรก ค. อนั ความคิดวิทยาเหมือนอาวธุ ง. ความเกรงใจเป็นสมบตั ิของผดู้ ี ๘. “พีสงั ใหฉ้ นั ซือดอกไม้ ๓ ” ควรเติมลกั ษณนามใดลงในชอ่ งวา่ ง ก. มดั ข. ห่อ ค. กลีบ ง. กาํ ๙. “ฉนั ฝันเห็นปี ศาจ ๒ ” ควรเติมลกั ษณนามใดลงในชอ่ งวา่ ง ก. ตน ข. รูป ค. องค์ ง. ดวง ๑๐. คาํ ลกั ษณนามในขอ้ ใดใชก้ บั คาํ วา่ “ยา” ไม่ได้ ก. แผง ข. แท่ง ค. หมอ้ ง. หลอด

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๕ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน ๑. ค ๒. ก ๓. ข ๔. ข ๕. ก ๖. ค ๗. ข ๘. ง ๙. ก ๑๐. ข

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๖ ชนิดของคาํ นกั เรียนคะ การทีเราจะจาํ แนก คาํ ในภาษาไทยได้ เราควรรู้จกั ชนิด ของคาํ ในภาษาไทยก่อนนะคะ คาํ คือ เสียงทีเปล่งออกมากีครังก็ไดจ้ ะตอ้ งมีความหมาย คาํ ในภาษาไทยทีเรา ใชใ้ นการฟัง พูด อ่าน และเขียน ในชีวิตประจาํ วนั การแบ่งคาํ หรือการจาํ แนกคาํ หรือปรัชญาของคาํ นนั ๆ จาํ แนกตามความหมายและหน้าทีของคาํ ได้ ๗ ชนิด ดงั นี ๑. คาํ นาม ๒. คาํ สรรพนาม ๓. คาํ กริยา ๔. คําวเิ ศษณ์ ๕. คําบุพบท ๖. คาํ สันธาน ๗. คาํ อทุ าน

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๗ คาํ ไทย คาํ ไทยมีเจ็ดคาํ ทีตอ้ งจาํ ไวใ้ หด้ ี คาํ นามคือคาํ ที ใชเ้ รียกคน สตั ว์ สิงของ เช่น บา้ น หนู หมู หมา ไฟ ปากกา ปลา เงิน ทอง ภูเขา ห้วย ลาํ คลอง เมืองระนองนายทองคาํ หนา้ ทีของนามนะ เป็ นประธานและเป็ นกรรม เลา่ เล่าพอใหจ้ าํ จงหมนั เพียรเลา่ เรียนไป แทนคาํ นามจาํ ใส่ใจ คาํ สองสรรพนาม หนา้ ทีคลา้ ยกบั คาํ นาม เช่น เรา เขา เธอ ใคร บอกอาการนามสรรพนาม กิน วิง พดู ยิม ร้องไห้ คาํ สาม คือ กริยา ให้มีเนือความแปลกไป เช่น เดิน นอน นงั ถาม สรรพนามและกริยา เขียว ดงั แบน หอม หวาน ชา้ วเิ ศษณ์ คือ คาํ ที เหนือ หมด ใด ไหน ดี แน่ ประกอบนามวิเศษณ์ไซร้ สรรพนามตวั อยา่ ง แต่ เชน่ ชวั ดี เลว แป้ น แห่งของ ดว้ ย บน โดย ตาม เหมือน ฉุน เปรียว เคม็ จ๋า คาํ ต่อคาํ ความตอ่ ความ เชน่ กบั เพราะ และเช่นว่า บุพบท นาํ หนา้ นาม ผิดสาํ เนียงธรรมดา ดกู ่อน ใน ยงั แต่ ความรู้สึกผอู้ ทุ าน เฮย้ ไฮ้ ฮา สะพงสะพาน สันธานเชือมถอ้ ยคาํ เลา่ ให้อา่ นจาํ ไวเ้ อยฯ เชือมประโยคให้งดงาม อุทาน การออกเสียง แสดงอารมณ์นา เช่น เหม่ ซิ หรือ หา เรือแพ ขอจบการ (กาพยย์ านี ๑๑) ผ้แู ต่ง รศ.ธนู บุณยรัตพนั ธ์

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๘ ใบความรู้ที ๑ ความหมายของคาํ นาม กลอนสักวา สักวาคาํ นามใช้ เรียกขาน ได้สือสารเร่ งศึกษาอย่าฉงน คาํ เรียกชือโรงเรียนวัดสัตว์พืชคน ถนนหนทางสิงของทังคลองบึง คาํ มี”ความ”และ”การ” สืบสานสร้ าง ดั ง ตั ว อ ย่ า ง ค ว า ม ผิด ค ว า ม คิด ถึง ทังการเขียนการเรียนเพียรคาํ นึง ทุกคนพึงจดจาํ คาํ นามเอย คํานาม หมายถึง คาํ ทีใชเ้ รียกชือคน สัตว์ สิงของ สถานที ทงั มีชีวติ และไม่มีชีวติ มีตวั ตนและไม่มี ตวั ตน ตวั อย่าง เกา้ อี ดวงจนั ทร์ เต่า นาฬกิ า เจา้ แกละ

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๙ นกั เรียนลองศึกษาคาํ นามประเภทต่างๆ จากแผนภูมิขา้ งลา่ งนะคะ แผนภูมคิ ํานาม สัตว์ สถานที สิงของ พชื นกแกว้ วฒั นแพทย์ หนงั สือ มะละกอ คน แมว สมุด มะนาว ป่ ,ู ยา่ สุนขั บา้ น ปากกา ตา, ยาย เจา้ จ๋อ หา้ งสรรพสินคา้ ดินสอ พริก ลุง, ป้ า กระตา่ ย กระเป๋ า ผกั กาด นา้ , อา ปลา ตลาด รถยนต์ กลว้ ย พ่อ, แม่ โรงเรียน นาฬิกา ทุเรียน พี, นอ้ ง ไก่ นาํ ตก รองเทา้ เงาะ เพอื น กุง้ ทะเล แหวน มะม่วง คุณครู ปู พดั ลม มะเขือ เด็กผชู้ าย ผกั บงุ้ เดก็ ผหู้ ญิง พระ นกั เรียนเขา้ ใจความหมายของคาํ นามแลว้ ใช่ไหมคะ ทาํ แบบฝึกหดั ไดแ้ ลว้ คะ่

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๑๐ แบบฝึ กหัด ๑.๑ คาํ ชีแจง นกั เรียนช่วยกนั หาคาํ นาม แล้วขดึ เส้นใต้ด้วยนะคะ กล้วยสองปลี นานมาแลว้ มไี ชชายยาจกไปชอบลกู สาวเศรษฐี อ ย า ก ไ ด้ ม า เ ป็ น คู่ครองของตน คิดวา่ ถา้ ไมไ่ ดด้ ว้ ยเล่ห์ก็ตอ้ งเอาดว้ ยกล จึงออกเดินทางไปสืบ หาหมอเสน่ห์ เดินทางไปหนึงวนั เต็ม ๆ พบกระท่อม หลงั หนึง จึงเขา้ ไปขอ นาํ ดืมจากหญิงชราเจา้ ของกระท่อม ยายแก่ถามไชชายว่าจะเดินทางไปไหน ไชชายจึงเล่าความ ประสงคข์ องตนใหฟ้ ังโดยไมป่ ิ ดบงั แต่อยา่ งใด ยายแก่จึงบอกว่าตนนีแหละเป็นหมอเสน่ห์และช่วย ไชชายได้ หากวา่ ไชชายสามารถหากลว้ ยสองปลีมาใหเ้ ป็นเครืองยาในการทาํ เสน่ห์ ไชชายดีใจมาก ทียายแก่รับปากจะช่วยเหลอื จึงรีบออกเดินทางไปเสาะหากลว้ ยสองปลีเป็ นเวลานานหลายเดือนก็ ยงั ไมพ่ บ ไชชายจึงปลกู กลว้ ยเสียเองจาํ นวนมากหลายชนิด และดูแลไร่กลว้ ยเป็ นอยา่ งดี ใส่ป๋ ุยเอา ใจใส่ตน้ กลว้ ยเป็ นพิเศษ เพือให้ตน้ กลว้ ยออกสองปลีใหไ้ ด้ ไชชายทาํ ไร่กลว้ ยอยนู่ านก็ยงั ไม่ได้ กลว้ ยสองปลแี ต่อยา่ งใด แต่ก็ยงั ไม่ละความพยายาม ไดป้ ลกู กลว้ ยเพิมขึนอีก ขยายไร่กลว้ ยออกไป กวา้ งขวางขึนมากกว่เดิมเรือย ๆ เพอื ทีจะคน้ หากลว้ ยสองปลีให้ได้ ปี แลว้ ปี เล่าทีทาํ ไร่กลว้ ย ไดน้ าํ ผลผลติ จากไร่ไปขายอยเู่ ป็นเวลานานถึง ๗ ปี มเี งินทองเกบ็ จากการขายกลว้ ยเป็ นจาํ นวนมาก จนมี ฐานะเป็นเศรษฐีในเวลาต่อมา เมือมีฐานะรํารวยก็ไปสู่ขอลูกสาวเศรษฐีคนทีไชชายหมายปองไว้ จนไดแ้ ต่งเป็นสามภี รรยาสมความปรารถนา แต่ตน้ กลว้ ยทงั หมดทีไชชายปลกู กไ็ มเ่ คยออกสองปลี เลย ทาํ ใหไ้ ชชายคิดว่ากลว้ ยสองปลีทียายแก่บอกใหห้ ามาทาํ ยาเสน่ห์นันคงไม่มีในโลกนีแน่นอน แต่การทียายแก่สงั ใหห้ ากลว้ ยสองปลีให้ได้ คงเป็ นอุบายเพือยใุ หไ้ ชชายมีความมานะ จนสามารถ เป็นเศรษฐีไดใ้ นเวลาต่อมานนั เอง นิทานเรืองนีใหค้ ติและแนวคิดดงั นี ๑. ความมานะพยายาม จะทาํ ใหพ้ บความสาํ เร็จตามทีปรารถนาไดท้ ุกเรือง ๒. หากคนใดมคี วามขยนั หมนั เพยี รในการประกอบกิจการงานก็สามารถจะหาเงินทองเป็น เศรษฐีมงั มีได้ ทีมา นายเคลา้ เลอื นกฐิน ชาวตาํ บลกลาย หมู่ ๑๐ อาํ เภอท่าศาลา จงั หวดั นครศรีธรรมราช

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๑๑ เฉลยแบบฝึ กหัด ๑.๑ กล้วยสองปลี นานมาแลว้ มีไชชายยาจกไปชอบลกู สาวเศรษฐี อยากไดม้ า เป็นคูค่ รองของตน คิดว่าถา้ ไมไ่ ดด้ ว้ ยเลห่ ์ก็ตอ้ งเอาดว้ ยกล จึ ง อ อ ก เดินทางไปสืบหาหมอเสน่ห์ เดินทางไปหนึงวนั เตม็ ๆ พบ ก ร ะ ท่ อ ม หลังหนึง จึงเข้าไปขอนําดืมจากหญิงชราเจ้าของกระท่อม ยายแก่ถามไชชายว่า จะเดินทางไปไหน ไชชายจึงเล่าความประสงค์ของตนให้ฟังโดยไม่ปิ ดบงั แต่อย่างใด ยายแก่จึงบอกวา่ ตนนีแหละเป็นหมอเสน่ห์และช่วยไชชายได้ หากว่าไชชายสามารถหา กลว้ ยสองปลีมาให้เป็ นเครืองยาในการทาํ เสน่ห์ ไชชายดีใจมากทียายแก่รับปากจะ ชว่ ยเหลือ จึงรีบออกเดินทางไปเสาะหากลว้ ยสองปลีเป็นเวลานานหลายเดือนกย็ งั ไม่พบ ไชชายจึงปลกู กลว้ ยเสียเองจาํ นวนมากหลายชนิด และดูแลไร่กลว้ ยเป็นอยา่ งดี ใส่ป๋ ุยเอา ใจใส่ตน้ กลว้ ยเป็นพิเศษ เพือใหต้ น้ กลว้ ยออกสองปลีให้ได้ ไชชายทาํ ไร่กลว้ ยอยนู่ านก็ ยงั ไม่ไดก้ ล้วยสองปลีแต่อย่างใด แต่ก็ยงั ไม่ละความพยายาม ไดป้ ลูกกลว้ ยเพิมขึนอีก ขยายไร่กลว้ ยออกไปกวา้ งขวางขึนมากกว่เดิมเรือย ๆ เพือทีจะคน้ หากลว้ ยสองปลีให้ได้ ปี แลว้ ปี เลา่ ทีทาํ ไร่กลว้ ย ไดน้ าํ ผลผลิตจากไร่ไปขายอยู่เป็ นเวลานานถึง ๗ ปี มีเงินทอง เก็บจากการขายกลว้ ยเป็ นจาํ นวนมาก จนมีฐานะเป็ นเศรษฐีในเวลาต่อมา เมือมีฐานะ รํารวยก็ไปสู่ขอลูกสาวเศรษฐีคนทีไชชายหมายปองไว้ จนได้แต่งเป็ นสามีภรรยา สมความปรารถนา แต่ตน้ กล้วยทงั หมดทีไชชายปลูกก็ไม่เคยออกสองปลีเลย ทาํ ให้ ไชชายคิดวา่ กลว้ ยสองปลีทียายแก่บอกใหห้ ามาทาํ ยาเสน่ห์นนั คงไม่มีในโลกนีแน่นอน แต่การทียายแก่สังให้หากลว้ ยสองปลีให้ได้ คงเป็ นอุบายเพือยใุ ห้ไชชายมีความมานะ จนสามารถเป็นเศรษฐีไดใ้ นเวลาต่อมานนั เอง

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๑๒ แบบฝึ กหัดที ๑.๒ คําสัง ให้นกั เรียนนาํ คาํ นามทีกาํ หนดใหไ้ ปจดั ให้อยใู่ นกลุม่ ต่อไปนี สมศรี นกแกว้ เสือ โตะ๊ ตู้ เตา่ สุดา มะระ พ่อ ลกู โรงเรียน โรงพยาบาล กระต่าย เงาะ สามเณร ตลาด เตียง ปากกา นาฬิกา แตงโม ตน้ ดาวเรือง หา้ งสรรพสินคา้ จงั หวดั นก กระเทียม ดอกขจร ๑. คน ...................................................................................................... ...................................................................................................... ๒. สตั ว์ ...................................................................................................... ...................................................................................................... ๓. สิงของ ...................................................................................................... ...................................................................................................... ๔. สถานที ...................................................................................................... ...................................................................................................... ๕. พืช ...................................................................................................... ......................................................................................................

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๑๓ เฉลยแบบฝึ กหัดที ๑.๒ ๑. คน สมศรี สุดา พ่อ ลูก พระ ๒. สัตว์ นกแกว้ เสือ เต่า กระตา่ ย นก ๓. สิงของ โต๊ะ ตู้ เตียง ปากกา นาฬิกา ๔. สถานที โรงเรียน โรงพยาบาล ตลาด หา้ งสรรพสินคา้ จงั หวดั ๕. พชื มะระ เงาะ แตงโม ตน้ ดาวเรือง กระเทียม ดอกขจร

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๑๔ ใบความรู้ที ๒ ชนดิ ของคาํ นาม คาํ นามแบ่งออกเป็ น ๕ ชนิด ดังนี ๑. คาํ นามทีไม่ชีเฉพาะ หรือ สามานยนาม (สา-มาน-ยะ-นาม) คือ คาํ นามทีใช้ เรียกชือโดยทวั ไปของ คน สัตว์ สิงของ สถานที สิงทีมีชีวิต หรือไม่มีชีวิต จะเป็ น สิงทีมีรูป หรือไมม่ ีรูปกไ็ ด้ ตวั อย่าง แมวกินปลา วชิ าทาํ ใหเ้ กิดปัญญา ดินสออยใู่ นกระเป๋ า ท่าทางส่อนสิ ัย ชาวสวนปลูกทุเรียน นกแก้วกินเมลด็ พชื นักเรียนเล่นฟุตบอล แมวจบั หนู สามานยนามบางคาํ มีคาํ ย่อยเพือบอกชนิดของนามนัน ๆ เรียกว่า สามานยนามย่อย เช่น คนจีน นกแก้ว กล้วยหอม

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๑๕ ๒. คาํ นามชีเฉพาะ หรือ วิสามานยนาม (วิ-สา-มาน-ยะ-นาม) คือ คาํ นามทีใช้ เรียกชือเฉพาะของคน สตั ว์ สิงของ และสถานที เมือกล่าวออกไปแลว้ ผูฟ้ ังจะเขา้ ใจได้ ทนั ทีว่าเป็นอะไร สิงไหน ตวั อย่าง โรงเรียนเทศบาลวดั มเหยงคณ์ตงั อยใู่ นจงั หวดั นครศรีธรรมราช เขาเป็นขา้ ราชการกระทรวงมหาดไทย เดก็ หญงิ ลีนาสอบเขา้ เรียนต่อมธั ยมศึกษาปี ที ๑ สามก๊กเป็นหนงั สือพงศาวดารจนี คาํ นามทีเป็ นชือชีเฉพาะ (วสิ ามานยนาม) ใช้กับ บุคคล เช่น ดลภทั ร ทิพยธ์ ิดา ปรักมาศ ศราธร สัตว์ เช่น พลายมงคล มา้ นิลมงั กล ชา้ งเอราวณั นิก พิม สิงของ คณุ ทองแดง เช่น บตั รเอทีเอม็ กรุงไทย แถบบนั ทึกเสียงเพลงชาติไทย สถานที พระแสงดาบคาบคา่ ย หนงั สือโคลงโลกนิติ เช่น ดอยสุเทพ เกาะสมยุ วดั พระมหาธาตุ หอพระสูง พทั ยา วดั พระศรีรัตนศาสดาราม อนุสาวรียว์ ีรชนไทย ข้อสังเกต คาํ วสิ ามายนาม จาํ นวนมากมักใช้ตามหลังคาํ สามายนาม เช่น (ประเทศ) ไทย , (เรือพระทนี ัง) สุพรรณหงส์ , (โรงพยาบาล) นครินทร์

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๑๖ แบบฝึ กหัดที ๒.๑ คาํ สัง ใหน้ กั เรียนเขียนคาํ นามทวั ไป และคาํ นามเฉพาะจากคาํ ทกี าํ หนดให้ ลงในช่องวา่ งให้ถูกตอ้ ง นายอําเภอ ดวงอาทิตย์ นิทาน สถานี เพลงชาตไิ ทย โรงพยาบาล พษิ ณุโลก สวนสัตว์ดุสิต ปราสาท พระอภยั มณี คาํ นามทวั ไป __________ ________ ________ ________ ________ คาํ นามเฉพาะ__________ ________ ________ ________ ________

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๑๗ เฉลยแบบฝึ กหัดที ๒.๑ คาํ นามทัวไป นายอําเภอ นิทาน สถานี โรงพยาบาล ปราสาท คาํ นามเฉพาะ ดวงอาทิตย์ เพลงชาติไทย พระอภยั มณี สวนสตั วด์ ุสิต พิษณุโลก

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๑๘ แบบฝึ กหัดที ๒.๒ คาํ สัง บอกใบใ้ ห้ทาย ใหน้ กั เรียนหาคาํ สามานยนามจากความหมายทกี าํ หนด ๑. ( คาํ ๑ พยางค์ ) เป็นแมลงชนิดหนึงทีกินตน้ ขา้ วและกินตน้ ไม้ ๒. ( คาํ ๓ พยางค์ ) ใชเ้ รียกสถานทีทีพระสงฆป์ ระชมุ กนั ทาํ สงั ฆกรรมต่าง ๆ ๓. ( คาํ ๔ พยางค์ ) เราใชเ้ รียกผทู้ อี อกแบบสิงก่อสร้าง ๔. ( คาํ ๕ พยางค์ ) ใชเ้ รียกหนงั สือสาํ หรับคน้ ความหมายของคาํ ทีเรียงลาํ ดบั คาํ ตามตวั อกั ษร ๕. ( คาํ ๒ พยางค์ ) หมายถึงป่ า ๖. ( คาํ ๓ พยางค์ ) ใชเ้ รียกคนทีมีหนา้ ทีประหารชีวิตนกั โทษ ๗. ( คาํ ๔ พยางค์ ) ใชเ้ รียกชือผทู้ ีคดั เลือกรวบรวมเรืองทีลงพิมพ์ ๘. ( คาํ ๒ พยางค์ ) หมายถึงเครืองมือสาํ หรับตดั โดยใชห้ นีบ มี 2 ขา ๙. ( คาํ ๓ พยางค์ ) เป็นชือสถานทีทีทาํ การคา้ เกียวกบั เงิน เชน่ การรับฝากเงิน การจ่ายเงินตามเชค็ ๑๐. ( คาํ ๒ พยางค์ ) ชือของสตั วส์ ีเทา้ ตวั เมียมีถงุ สาํ หรับใส่ลูก ทีหนา้ ทอ้ งดว้ ย

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๑๙ เฉลยแบบฝึ กหัดที ๒.๒ ๑. เพลีย เป็นแมลงชนิดหนึงทีกินตน้ ขา้ วและกินตน้ ไม้ ๒. อโุ บสถ ใชเ้ รียกสถานทีทีพระสงฆป์ ระชมุ กนั ทาํ สงั ฆกรรมต่าง ๆ ๓. วิศวกร เราใชเ้ รียกผทู้ ีออกแบบสิงก่อสร้าง ๔. พจนานุกรม ใชเ้ รียกหนงั สือสาํ หรับคน้ ความหมายของคาํ ทีเรียงลาํ ดบั คาํ ตามตวั อกั ษร ๕. พนา หมายถึงป่ า ๖. เพชฌฆาต ใชเ้ รียกคนทีมีหนา้ ทีประหารชีวิตนกั โทษ ๗. ธนาคาร ใชเ้ รียกชือผทู้ ีคดั เลือกรวบรวมเรืองทีลงพิมพ์ ๘. กรรไกร หมายถึงเครืองมือสาํ หรับตดั โดยใชห้ นีบ มี 2 ขา ๙. ธนาคาร เป็นชือสถานทีทีทาํ การคา้ เกียวกบั เงิน เชน่ การรับฝากเงิน การจ่ายเงินตามเชค็ ๑๐. จิงโจ้ ชือของสตั วส์ ีเทา้ ตวั เมียมีถุงสาํ หรับใส่ลูกทีหนา้ ทอ้ ง ดว้ ย

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๒๐ แบบฝึ กหัดที ๒.๓ คาํ สัง ตอบคาํ ถามใหค้ รบ ๑๐ คาํ ถาม โดยเขียนคาํ ตอบลงในรูปทา้ ยขอ้ แลว้ จะไดค้ าํ วสิ ามานยนาม ๑๐ คาํ ๑. คุณชืออะไร ๒. คุณเรียนหนงั สือทีโรงเรียนอะไร ๓. บา้ นของคณุ อยทู่ ีตาํ บลอะไร ๔. อาจารยท์ ีปรึกษาของคุณชืออะไร ๕. เพือนทีคุณสนิทสนมดว้ ยมากทีสุดชืออะไร ๖. คุณนบั ถือศาสนาอะไร ๗. คุณอยากไปท่องเทียวประเทศใดมากทีสุด ๘. ผอู้ าํ นวยการโรงเรียนทีคณุ เรียนอยชู่ ืออะไร ๙. ชนั มธั ยมศึกษาปี ที ๑ คุณจะเรียนทีโรงเรียนใด ๑๐. สถานทีท่องเทียวทีคุณชอบมากทีสุดคือทไี

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๒๑ ใบความรู้ที ๓ คาํ นามบอกลกั ษณะ (ลกั ษณนาม) คาํ นามบอกอาการ (อาการนาม) คาํ นามบอกหมวดหมู่ (สมหุ นาม) ๓. คาํ นามบอกลักษณะ หรือ ลักษณนาม (ลกั -สะ-หนะ-นาม) คือ คาํ นามทีใช้ บอกลกั ษณะของคน สัตว์ และสิงของ เพือตอ้ งการให้ทราบว่าคาํ นามนันมีลกั ษณะ รูปร่าง สัณฐาน ปริมาณ เวลา วิธีทาํ และลกั ษณะอืน ๆ คาํ ลกั ษณนามจะวางอยูห่ ลงั คาํ นามและมีตวั บอกจาํ นวน (ประมาณวิเศษณ์) ตวั อย่าง นก ๒ ตวั เกาะอยบู่ นกิงไม้ คณุ แมซ่ ือแหวนทอง ๑ วงให้ฉนั ในวนั เกิด เศรษฐีคนนนั สวมสร้อยทอง ๒ เส้น การใช้ลกั ษณะนาม แบ่งเป็ นประเภท ๆ คอื ๓.๑ บุคคลทีมีสถานภาพพเิ ศษ ใชล้ กั ษณะนามเป็น พระองค์ องค์ รูป เชน่ - กรุงธนบุรีมีพระมหากษตั ริย์ ๑ พระองค์ - มีพระภิกษุ สามเณรจาํ พรรษา ๖ รูป - คุณพอ่ มีพระพุทธรูป ๔ องค์ เครืองใช้ของพระมหากษตั ริย์ คาํ ราชาศัพท์ สิงทีเกียวข้องกับพระพุทธเจ้า ใช้ องค์ ๓.๒ อมนุษย์ ใชล้ กั ษณะนาม ตน เช่น ยกั ษ์ ผี นางไม้ พรายนาํ กินนร กินรี คนธรรพ์ นกั สิทธิ ฤๅษี วิทยาธร อสูรกาย ปี ศาจ

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๒๒ ๓.๓ สัตว์ทัว ๆ ไป ใชล้ กั ษณะนาม ตวั ยกเว้น ชา้ งซึงถือว่าเป็นสตั วพ์ ิเศษ ชา้ งบา้ น ใช้ เชือก ชา้ งป่ า ใช้ ตวั ชา้ งขึนระวาง (ชา้ งหลวง) ใช้ ช้าง ๓.๔ คาํ นามทเี ป็ นนามธรรม ใชล้ กั ษณะนาม ข้อ ประการ ประเภท เชน่ อุบาสก อบุ าสิกา ถือศีล ๕ ข้อ เขามีเหตผุ ล ๓ ประการ นักวิทยาศาสตร์ แบ่งสัตว์ได้ ๒ ประเภท ๓.๕ สิงต่าง ๆ ใชล้ กั ษณะนามทีจาํ แนกตามลกั ษณะ หรือจาํ แนกตาม จาํ นวน ปริมาณ ระยะ ขนาด ความจุ หรือตามลกั ษณะของบรรจุภณั ฑ์ เชน่ ทวน เทียน เกวียน ใช้ เลม่ เทียนพรรษา ใช้ ตน้ โทรทศั น์ โทรศพั ท์ โทรสาร ใช้ เครือง ดวงตราไปรษณียากร ตะเกียง ดาวเทียม วิญญาณ ใช้ ดวง จกั รเยบ็ ผา้ โซโล เปี ยนโน มุง้ ใช้ หลงั ๓.๕.๑ ลกั ษณนามบอกสณั ฐาน เช่น วง หลงั แผน่ ผืน บาน ลูก ใบ แทง่ กอ้ น คนั ตน้ ลาํ เครือง ดวง กระบอก เส้น ปาก ปื น ซี แพ ราง เมด็ ตบั เป็นตน้ ๓.๕.๒ ลกั ษณนามบอกจาํ แนก เช่น กอง พวก เหล่า ฝูง หมวด หมู่ โขลง คณะ นิกาย สาํ หรับ ชุด ขอ้ โรง ครอก ชนั ฉบบั ระดบั จาํ พวก อยา่ ง ชนิด รูปแบบ ประเดน็ เป็นตน้ ๓.๕.๓ ลักษณนามบอกปริ มาณ เช่น คู่ กุลี บาท ชัง กิโลกรัม ชะลอม ขวด หีบ หยด กล่อง ชอ้ น ถอ้ ย ลิตร ตมุ่ ไห โยชน์ เป็นตน้

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๒๓ ๓.๕.๔ ลกั ษณนามบอกเวลา เช่น นาที ชวั โมง วนั เดือน ปี ยก รอบ ครัง คราว สมยั ยคุ หก ที ชว่ ง ศตวรรษ กะ เป็นตน้ ๓.๕.๕ ลกั ษณนามบอกวิธีทาํ เช่น จีบ มวน มดั ตบั มว้ น กาํ ทอ่ น ห่อ หยิบ จบั ผกู เป็นตน้ ๔. คาํ นามบอกอาการ (อาการนาม) คือ คาํ นามทีบอกอาการหรือความเป็นอยู่ ส่วนมากมีคาํ วา่ “การ” และ “ความ” นาํ หนา้ คาํ ว่า “การ” ใชน้ าํ หนา้ คาํ กริยาทีแสดงความเป็นไปทาง กาย วาจา เช่น การนงั การเดิน การวิง การพูด การนอน การกิน การจบั คาํ วา่ “ความ” ใช้นําหน้าคาํ กริยาทีแสดงความเป็นไปทางจิตใจหรือ ความนึกคิด เช่น ความคิด ความเขา้ ใจ ความเสือม ความเจริญ ความรัก ความเกลียด ความรู้ ใช้นําหน้าคาํ วเิ ศษณ์ เช่น ความชวั ความดี ความสุข ขอ้ สงั เกต “การ” “ความ” นาํ หนา้ คาํ ชนิดอืนนอกเหนือจากคาํ กริยาและ คาํ วิเศษณ์ ไม่ใช่อาการนาม เช่น การบ้าน การเรือน การฝึ ก การเมือง การคลงั การประปา การไฟฟ้ า ความววั ความควาย ความอาญา ความแพ่ง จะเป็ น สามานยนาม (นามทวั ไป) ๕. คาํ นามบอกหมวดหมู่ (สมุหนาม) คือ คาํ นามทีใชเ้ รียกชือคน สตั ว์ สิงของ ทีอยเู่ ป็นหมวดหมรู่ วมกนั เชน่ กรม กอง กอง ฝงู โขลง คณะ บริษทั ทีม กลุ่ม หมู่ เหลา่ สมาคม เป็นตน้ การสงั เกต จะเขยี นไวห้ นา้ คาํ นาม

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๒๔ ตวั อย่าง โขลงชา้ งเดินอยรู่ ิมลาํ ธาร คณะนกั เรียนร่วมกนั บริจาคโลหิต หมู่ลกู เสือกาํ ลงั เดินทางไกล สมหุ นามแยกยอ่ ยได้ ดงั นี ๕.๑ คาํ ทีแสดงหมวดหม่ขู องนาม ไดแ้ ก่ กอง กลุม่ ก๊ก โขลง คณะ ชดุ พวก ฝงู รัฐบาล เช่น - ฝูงลิงกาํ ลงั วงิ ไลก่ นั บนตน้ ไม้ - กองทหาร ตงั อยทู่ ีหมบู่ า้ นของเรา - รัฐบาลไทยกาํ ลงั เจรจากบั กมั พูชา เรืองเขาพระวิหาร - เดก็ นกั เรียนอนุบาลกาํ ลงั เลน่ อยทู่ ีกองทราย - กลุ่มวยั รุ่นออกชว่ ยเหลือชาวบา้ นประสบภยั แลง้ ๕.๒ คาํ ทีเป็ นชือของสถานทีหรือองค์การต่าง ๆ แต่สมมติให้ เป็ นบุคคลขึนตามความนิยมของภาษา หมายถึง กลุ่มบุคคลทีทาํ หน้าทีรับผิดชอบใน สถานทีหรือองคก์ ารนนั ๆ กจ็ ดั เป็นสมหุ นาม เช่น กรม องค์การ สภา ศาล บริษทั ประเทศ โรงเรียน กระทรวง ตวั อย่าง กรมการปกครองประกาศผลการสอบคดั เลือก สภากาชาดออกใหบ้ ริการแก่ประชาชน บริษทั ประกาศรับสมคั รพนกั งานหลายตาํ แหน่ง ศาลตดั สินคดีผกู้ ่อการร้ายแลว้ เมือวนั จนั ทร์ ประเทศไทยเตรียมตอ้ นรับนกั กีฬาตา่ งชาติ

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๒๕ ตารางเปรียบเทียบ สมุหนาม กบั ลักษณนาม สมุหนาม ลกั ษณนาม คณะครูโรงเรียนเทศบาลวดั มเหยงคณ์ ครูคณะหนึงเดินทางมาโรงเรียนเทศบาลวดั มเหยงคณ์ นกั เรียนชนั ป.๖ กาํ ลงั เดินทางไปทีกองทหาร ทหารกองนนั กาํ ลงั เตรียมตวั ตอ้ นรับนกั เรียนชนั ป.๖ ฝูงนกบินผา่ นอาคารเรียน นกหนงึ ฝงู กาํ ลงั บินผา่ นอาคารเรียน โขลงชา้ งกาํ ลงั เขา้ ทาํ ลายสวนผลไม้ ชา้ งป่ าโขลงหนึงทาํ ลายสวนผลไม้ หม่แู มลงกาํ ลงั ดดู นาํ หวานจากดอกไม้ แมลงหมู่หนึงกาํ ลงั บินไปทีสวนดอกไม้ สมุหนามในขอ้ ๕.๒ จะตอ้ งเป็นสมมตบิ ุคคล จึงจะนบั วา่ เป็น “สมุหนาม” แต่ถา้ หมายถึง สถานทีหรือองคก์ ารตามรูปศพั ทต์ อ้ งนบั ว่าเป็นนามชนิดอืนตามชนิด ของแตล่ ะคาํ ไม่ใช่เป็นสมหุ นาม เช่น บริษทั ตงั อยทู่ ีถนนศรีปราชญ์ บริษทั สามานยนาม บริษทั ขอแสดงความขอบคณุ ลกู คา้ ทกุ คน บริษทั สมหุ นาม โรงเรียน ออกใบรับรองความประพฤติให้นกั เรียน โรงเรียน สมุหนาม ประชาชนในตาํ บลคลงั ชว่ ยกนั สร้างโรงเรียน โรงเรียน สามานยนาม

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๒๖ แบบฝึ กหัดที ๓.๑ คาํ นามบอกลักษณะ จงเตมิ คาํ ลกั ษณนามต่อไปนี ๑. หมู่บา้ นนีมีบา้ นหลาย_______ ๒. งานวดั ปี นีมีคณะลเิ กมาแสดง ๒ _______ ๓. คณะกรรมการ_______นีมกี ารประชุมทกุ วนั ศุกร์ ๔. ทสี ถานีรถไฟ มีรถไฟจอดอยู่หลาย____หลาย ๕. พระภกิ ษุเดนิ มา ๓ _______ ๖. แมซ่ ือเสอื จากจนั ทบรุ ีมาฝากคณุ ยาย ๒ _______ ๗. ขอยมื ร่มใหฉ้ นั ๑ ________ ๘. บา้ นเธอมหี นา้ ตา่ งกี ___________ ๙. สมดุ การบา้ นยงั ขาดอกี ๔ _______ ๑๐.ชา้ งโขลงนีมี ๕ _______ คาํ นามบอกอาการ (อาการนาม) จงเขยี นคาํ ว่า “การ” หรือ “ความ” หนา้ คาํ ทีกาํ หนดให้ตอ่ ไปนี _________เจรจา ____________ถี ________ชุมนุม ___________ฝัน _________พิการ

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๒๗ เฉลยแบบฝึ กทกั ษะที ๓.๑ คาํ นามบอกลกั ษณะ จงเตมิ คาํ ลกั ษณนามตอ่ ไปนี ๑. หมบู่ า้ นนีมีบา้ นหลาย หลงั ๒. งานวดั ปี นีมคี ณะลเิ กมาแสดง ๒ คณะ ๓. คณะกรรมการ ชดุ นีมีการประชมุ ทกุ วนั ศกุ ร์ ๔. ทสี ถานีรถไฟ มรี ถไฟจอดอยูห่ ลาย ขบวน ๕. พระภกิ ษุเดนิ มา ๓ รูป ๖. แมซ่ ือเสอื จากจนั ทบรุ มี าฝากคณุ ยาย ๒ ผืน ๗. ขอยมื ร่มใหฉ้ นั ๑ คนั ๘. บา้ นเธอมีหนา้ ตา่ งกี บาน ๙. สมดุ การบา้ นยงั ขาดอกี ๔ เลม่ ๑๐. ชา้ งโขลงนีมี ๕ เชือก คํานามบอกอาการ (อาการนาม) จงเขียนคาํ ว่า “การ” หรือ “ความ” หนา้ คาํ ทีกาํ หนดใหต้ อ่ ไปนี การเจรจา ความถี การชุมนุม ความฝัน ความพิการ

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๒๘ แบบฝึ กหัดที ๓.๒ คาํ นามบอกหมวดหมู่ (สมุหนาม) คาํ สัง ใหน้ กั เรียนเลือกคาํ นามบอกหมวดหม่ทู ีกาํ หนดให้ เติมลงในช่องว่าง กอง หมู่ คณะ กล่มุ ฝูง ๑. _______นกนางนวลบินยา้ ยถิน ๒. _______คนเริมทยอยกนั กลบั บา้ น ๓. _______ทหารรักษาการณ์อยตู่ ลอดทงั วนั ๔. _______ลูกเสือเขา้ ฐานผจญภยั ๕. _______ศลิ ปิ นแห่งชาตถิ ่ายภาพร่วมกนั

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๒๙ เฉลยแบบฝึ กหัดที ๓.๒ ๑. ฝูงนกนางนวลบินยา้ ยถิน ๒. กลุ่มคนเริมทยอยกนั กลบั บา้ น ๓. กองทหารรักษาการณ์อยตู่ ลอดทงั วนั ๔. หมู่ลกู เสือเขา้ ฐานผจญภยั ๕. คณะศิลปิ นแห่งชาติถา่ ยภาพร่วมกนั

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๓๐ แบบฝึ กหัดที ๓.๓ คาํ สัง เตมิ คาํ นาม ลงในช่องว่างให้ถูกต้องตามสํานวนไทย ๑. สิบ____ไมเ่ ทา่ ______เลียง ๒. เสือจน____ ขา้ จน ______ ๓. เอา____ไปนา เอา____ไปไร่ ๔. _____เปรียว ______หวาน ๕. เห็น______เป็น_______ ๖. สูเ้ หมือน ____จน _______ ๗. หนี_____ปะ _________ ๘. สิบ______ว่าไมเ่ ทา่ ______เห็น ๙. หุงขา้ วประชด______ ปิ ง_____ประชด____ ๑๐. เอา_______ไปตก________ ๑๑. เอา_______ไปฝาก_______ ๑๒. เสียงเทา่ _______หนา้ เทา่ _______ ๑๓. เอา_____ไปล_ู่ _________ ๑๔. หว่าน_____หวงั ผล เลยี งคนกิน_______

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๓๑ เฉลยแบบฝึ กหัดที ๓.๓ ๑. สิบ พ่อตา ไม่เท่า พระยา เลียง ๒. เสือจน ท่า ขา้ จน ทาง ๓. เอา หู ไปนา เอา ตา ไปไร่ ๔. อง่นุ เปรียว มะนาว หวาน ๕. เห็น กงจกั ร เป็น ดอกบัว ๖. สูเ้ หมือน หมา จน ตรอก ๗. หนี เสือ ปะ จระเข้ ๘. สิบ ปาก ว่าไม่เทา่ ตา เห็น ๙. หุงขา้ วประชด หมา ปิ ง ปลา ประชด แมว ๑๐. เอา กุ้งฝอย ไปตก ปลากะพง ๑๑. เอา ปลาย่าง ไปฝาก แมว ๑๒. เสียงเท่า ฟ้ า หนา้ เท่า กลอง ๑๓. เอา ทอง ไปลู่ กระเบอื ง ๑๔. หว่าน พชื หวงั ผล เลียงคนกิน แรง

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๓๒ แบบฝึ กหัดที ๓.๔ คําสัง คําขีดเส้นใต้เป็ นคาํ นามชนิดใด ๑. โรงเรียนเป็นสถานทีให้ความรู้ ๒. พระอภยั มณีเป็นผลงานของสุนทรภู่ ๓. คุณแม่ซือปากกาหลายดา้ ม ๔. ฝงู ลิงกาํ ลงั กินผลไมใ้ นสวนคุณยาย ๕. คณะกรรมการสถานศึกษาคณะนี ไดร้ ับการแต่งตงั แลว้ ๖. การออกกาํ ลงั กายกระทาํ ไดห้ ลายวิธีเชน่ การเดิน การวิง ๗. นกั เรียนชนั ป. 6/1 มีความขยนั ๘. คุณนา้ ของศิริพร ทาํ งานทีการไฟฟ้ า ๙. นกั เรียนหลายคนชว่ ยคณุ ครูเรียงหนงั สือ ๑๐. อญั ชลีไดร้ ับการคดั เลือกเป็นตวั แทนห้อง ป. 6/1

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๓๓ เฉลยแบบฝึ กที ๓.๔ ๑. โรงเรียน เป็น สามานยนาม ความรู้ เป็น อาการนาม ๒. พระอภยั มณี เป็น วิสาสมานยนาม สุนทรภู่ เป็น วิสามานยนาม ๓. คณุ แม่ เป็น สามานยนาม ปากกา เป็น สามานยนาม ๔. ฝงู เป็น สมุหนาม ๕. คณะ เป็น ลกั ษณนาม ๖. การออกกาํ ลงั กาย เป็น อาการนาม การเดิน การวิง เป็น อาการนาม ๗. ความขยนั เป็น อาการนาม ๘. ศิริพร เป็น วิสามานยนาม การไฟฟ้ า เป็น สามานยนาม ๙. คน เป็น ลกั ษณนาม หนงั สือ เป็น สามานยนาม ๑๐. อญั ชลี เป็นวิสามานยนาม, คดั เลือก เป็น อาการนาม

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๓๔ ใบความรู้ที ๔ หน้าทีของคาํ นาม คาํ นาม อาจทาํ หนา้ ทตี ่าง ๆ กนั นกั เรียน ลองสังเกตหนา้ ทขี องคาํ นามนะคะ ๑. เป็ นประธานของประโยค ตวั อย่าง ครูชมนกั เรียน นักเรียนทาํ การบา้ น น้องร้องไห้ แม่ไปตลาด คุณหมอตรวจคนไข้ นกบิน

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๓๕ ๒. คาํ นามทาํ หน้าทเี ป็ นกรรมของประโยค คาํ นามนอกจากทาํ หน้าทีเป็ นประธานของประโยคแล้วคาํ นาม ยงั ทาํ หนา้ ทีเป็นกรรมในประโยคก็ได้ “นกั เรียนสงั เกตคาํ นามทีทาํ หน้าทีเป็น กรรมของประโยคต่อไปนีนะคะ” ตวั อยา่ ง ครูสอนนักเรียน แม่ปิ ดประตู นอ้ งตดั ดอกไม้ นกจกิ หนอน ลุงขมี ้า นอ้ งลา้ งรถ กรรม คือ ผถู้ กู กระทาํ หรือคาํ นามทีมารองรับ คาํ กริยา ในทีนี มา้ รถ นกั เรียน ประตู ดอกไม้ หนอน เป็นคาํ นามทีทาํ หนา้ ทีกรรม

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๓๖ ๓. เป็ นส่วนขยายคํานามอืน เช่น - สตั วป์ ่ าตอ้ งอยใู่ นป่ า (ใชส้ ามายนามขยาย) - ชา้ งโขลงนีตอ้ งเดินทางไปอีกไกล (ใชล้ กั ษณนามขยาย) ๔. เป็ นส่วนเติมเต็มของคํากริยา เช่น - เขาเหมือนพ่อ - เธอคือนางสาวไทย ๕. เป็ นคาํ เรียกขาน ในฐานะประธาน กรรม หรือเรียกขานลอยๆ เช่น - คณุ ครูคะหนูไมเ่ ขา้ ใจเลขขอ้ นีค่ะ - คณุ หมอ ลูกดิฉนั จะหายป่ วยไหมคะ - อาจารย์ครับ ผมนาํ การบา้ นมาส่งครับ ๖. ทาํ หน้าทีขยายกริยาบอกสถานที ทิศทาง หรือเวลา เช่น - ฉันไปโรงเรียน - นกออกหากินเวลาเช้า ๗. ทําหน้าทเี ป็ นกรรมตรงและกรรมรอง เช่น - กรองกาญจน์เยบ็ กระทง (กระทง ทาํ หนา้ ทีเป็นกรรมตรงของกริยาเยบ็ ) - โรงเรียนมอบรางวลั แกน่ ักเรียน ( นกั เรียน เป็นกรรมรอง ส่วนรางวลั เป็ นกรรมตรง) ขอ้ สงั เกต : ประโยคลกั ษณะนีส่วนใหญ่ กรรมตรงจะเป็นสิงของ กรรมรองจะเป็นบุคคล ไปทาํ แบบฝึ กหัดกันเลยค่ะ

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๓๗ แบบฝึ กหัดที ๔.๑ คาํ สัง ใหน้ กั เรียนหาคาํ นาม และจาํ แนกหนา้ ทีของคาํ นามจากประโยคตอ่ ไปนี ข้อ ประโยค คาํ นามในประโยค หน้าที ประธาน กรรม ตวั อยา่ ง นกั เรียนเรียนหนงั สือ นกั เรียน,หนงั สือ นกั เรียน หนงั สือ ๑. ติดตีเดินไปโรงเรียน ………………… …………. …………. ๒. ป้ ากลั ยาขบั รถ ………………… …………. …………. ๓. พ่อสอยมะม่วงนาํ ดอกไม้ ………………… …………. …………. ๔. เดก็ ๆ เลน่ กบั เจา้ มอม ………………… …………. …………. ๕. ณฐั อ่านจดหมาย ………………… …………. …………. ๖. แมววิงไล่หนู ………………… …………. …………. ๗. หนอนกินใบไม้ ………………… …………. …………. ๘. คณุ แมไ่ ปจ่ายตลาด ………………… …………. …………. ๙. พ่อชวนกินปลานิล ………………… …………. …………. ๑๐ คุณครูเลา่ นิทาน ………………… …………. ………….

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๓๘ เฉลยแบบฝึ กหัดที ๔.๑ ข้อ ประโยค คาํ นามในประโยค หน้าที ประธาน กรรม ตวั อยา่ ง นกั เรียนเรียนหนงั สือ นกั เรียน,หนงั สือ นกั เรียน หนงั สือ ๑. ติดตีเดินไปโรงเรียน ติดตี,โรงเรียน ติดตี โรงเรียน ๒. ป้ ากลั ยาขบั รถ ป้ ากลั ยา,รถ ป้ ากลั ยา รถ ๓. พ่อสอยมะมว่ งนาํ ดอกไม้ พ่อ,มะมว่ งนาํ ดอกไม้ พ่อ มะม่วงนาํ ดอกไม้ ๔. เดก็ ๆ เล่นกบั เจา้ มอม เดก็ ๆ,เจา้ มอม เดก็ ๆ เจา้ มอม ๕. ณฐั อ่านจดหมาย ณฐั ,จดหมาย ณฐั จดหมาย ๖. แมววิงไล่หนู แมว,หนู แมว หนู ๗. หนอนกินใบไม้ หนอน,ใบไม้ หนอน ใบไม้ ๘. คณุ แมไ่ ปจ่ายตลาด คุณแม่,ตลาด คณุ แม่ ตลาด ๙. พอ่ ชวนกินปลานิล พ่อ,ปลานิล พ่อ ปลานิล ๑๐ คุณครูเลา่ นิทาน นิทาน คณุ ครู,นิทาน คณุ ครู

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๓๙ ใบความรู้ที ๕ สรุปคาํ นาม ก่อนทจี ะทาํ แบบทดสอบหลังเรียนเรามาสรุป เรือง คํานาม กันก่อนดีกว่าเพือความเข้าใจ คํานาม หมายถึง คาํ ทีใชเ้ รียกชือคน สัตว์ สิงของ และสถานที ทงั มีชีวติ และไม่มีชีวติ มี ตวั ตนและไม่มีตวั ตน ชนิดของคาํ นาม แบง่ ออกเป็น ๕ ชนิด ดงั นี ๑. คาํ นามทไี ม่ชีเฉพาะ หรือ สามานยนาม เชน่ นกั เรียน โต๊ะ โรงเรียน เป็นตน้ ๒. คาํ นามชีเฉพาะ หรือ วสิ ามานยนาม เช่น มดแดง จงั หวดั นครศรีธรรมราช เดก็ ชายหนึง เป็นตน้ ๓. คาํ นามบอกลักษณะ หรือ ลกั ษณนาม เชน่ แห เลา ดา้ ม ปาก เลม่ เป็นตน้ ๔. คาํ นามบอกอาการ (อาการนาม) เช่น การยืน ความดี ความชวั เป็นตน้ ๕. คาํ นามบอกหมวดหมู่ (สมุหนาม) เชน่ โขลง ฝงู กอง คณะ หมู่ เป็นตน้

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๔๐ หน้าทีของคาํ นาม ๑. เป็ นประธานของประโยค เช่น ตาํ รวจจบั ขโมย ครูชมนกั เรียน นักเรียนทาํ การบา้ น น้องร้องไห้ แม่ไปตลาด เป็นตน้ ๒. เป็ นกรรมของประโยค เชน่ ครูตีนกั เรียน ครูสอนนกั เรียน แมป่ ิ ดประตู นอ้ งตดั ดอกไม้ นกจิกหนอน เป็นตน้ ๓. เป็ นส่วนขยายคาํ อืน เชน่ - สตั วป์ ่ าตอ้ งอยใู่ นป่ า (ขยายคาํ นาม) - นอ้ งไปโรงเรียน (ขยายคาํ กริยา) ๔. เป็ นส่วนเตมิ เตม็ ของคาํ กริยา เชน่ - เขาเหมือนพ่อ - เธอคือนางสาวไทย ๕. เป็ นคาํ เรียกขาน เช่น - คุณครูคะหนูไม่เขา้ ใจเลขขอ้ นีคะ่ - คุณหมอ ลูกดิฉนั จะหายป่ วยไหมคะ

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๔๑ แบบฝึ กหัดที ๕.๑ คาํ สัง ให้นักเรียนเขยี นคาํ นามโดยให้พยญั ชนะตวั สุดท้ายของคาํ แรกเป็ นพยญั ชนะต้นของ คาํ ถัดไปลงในช่องว่าง ตัวอย่าง บตั ร รถ ถุง เงิน นอ้ ง ๑. รูปภาพ ................. ................... .................. ................ ๒. วดั ................. ................... .................. ................ ๓. เดก็ ................. ................... .................. ................ ๔. กลว้ ย ................. ................... .................. ................ ๕. กาํ แพง ................. ................... .................. ................ ๖. เพือน ................. ................... .................. ................ ๗. ดอกไม้ ................. ................... .................. ................ ๘. สุนขั ................. ................... .................. ................ ๙. ผเี สือ ................. ................... .................. ................ ๑๐. บวั ................. ................... .................. ................

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๔๒ เฉลยแบบฝึ กหัดที ๕.๑ เขา้ ใจแลว้ ใช่ไหมคะ ไปทาํ แบบทดสอบหลงั เรียนกนั เลยคะ่

ชุดการเรียนรู้ เรืองการจาํ แนกชนิดของคาํ ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน หนา้ ๔๓ แบบทดสอบหลงั เรียน ชุดที ๑ คาํ นามเรียกขาน คําสัง จงทาํ เครืองหมาย  ทบั หนา้ ตวั อกั ษรหนา้ คาํ ตอบทถี ูกทสี ุด ๑. “พีสงั ใหฉ้ นั ซือดอกไม้ ๓ ” ควรเติมลกั ษณนามใดลงในชอ่ งวา่ ง ก. มดั ข. ห่อ ค. กลีบ ง. กาํ ๒. คาํ นามทีขีดเส้นใตใ้ นขอ้ ใดไม่ทาํ หนา้ ทีเป็นประธานของประโยค ก. บรรจงเขยี นจดหมาย ข. แมวกาํ ลงั กดั หนู ค. คนร้ายขโมยทรัพยส์ ิน ง. เชา้ วนั จนั ทร์ฉนั ไป ๓. ขอ้ ใดมีวิสามานยนาม ก. คณุ ป่ ูชอบนงั อิงหมอนบนเตียง ข. นายโอชาซืออูฐมาเลียง ค. เดก็ ผชู้ ายไม่ชอบเลน่ ตกุ๊ ตา ง. ยายอาบนาํ แต่งตวั ใหม่เอียม ๔. คาํ ลกั ษณนามในขอ้ ใดใชก้ บั คาํ วา่ “ยา” ไม่ได้ ก. แผง ข. แท่ง ค. หมอ้ ง. หลอด ๕. คาํ ทีขีดเส้นใตข้ อ้ ใดเป็นสมหุ นาม ก. เหลา่ ลกู เสือเดินสวนสนาม ข. เครืองบิน ๓ ฝงู บินฉวดั เฉวียน ค. นกฝงู นนั บินมาจากทิศเหนือ ง. ทหารทกุ กองยืนเป็นระเบยี บ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook