กลยทุ ธการตดั สินใจการแกไ้ ขปัญหา1. เขา้ ใจสถานการณ์2. ยอมรับปัญหาจริงที่เกิดข้ึน3. หาทางเลือกหลายๆ ทาง4. ตดั สินใจเลือกทางที่เห็นวา่ ดีท่ีสุด5. เป็นทางเลือกท่ีเป็นที่ยอมรับของบุคคลที่เกี่ยวขอ้ ง 101
การบริหารความขดั แยง้• ความขดั แย้ง หมายถึง• - สภาพที่บุคคลเกิดความต้องการ มีจุดมุ่งหมายมากกวา่ หน่ึงอยา่ งใน• เวลาเดียวกนั• - และทิศทางที่จะไปสู่การสนองความตอ้ งการน้นั ไม่อาจไปดว้ ยกนั ได้• - ทาํ ใหบ้ คุ คลเกิดสภาพท่ีไม่พ่งึ พอใจ หรือขดั เคืองใจ อนั เป็นผลจาก สภาพ• ความขดั แยง้ ทีเกิดข้ึน และไม่อาจหาข้อยตุ ิที่พึงพอใจกนั ได้• อาจเกิดข้ึนในตวั บุคคลเดียวกนั หรือ• ระหวา่ งกลุ่มบุคคล 102• บุคคลกบั กลุม่
ผลเสียของความขดั แยง้1. ทาํ ลายความร่วมมือ2. ทาํ ลายความสามคั คี3. ประสิทธิภาพการทาํ งานดอ้ ยลง 103
สาเหตุของความขดั แยง้1. ความคิดเห็นต่างกนั2. ผลประโยชน์ขดั กนั3. ค่านิยมต่างกนั4. อคติต่อกนั อิจฉาริษยา5. ตีความจากการรับรู้ที่ต่างกนั6. ชิงดี ชิงเด่นกนั7. การส่ือสารไม่ดี8. แบ่งพรรค แบ่งพวก 104
9. ความไม่ชดั เจนของบทบาทหนา้ ท่ี 105 10. เป้ าหมายของการทาํ งานท่ีต่างกนั กบั เป้ าหมายส่วนบุคคล 11. ความเปลี่ยนแปลงท่ีไม่อาจยอมรับกนั ได้สรุป o จากทศั นคติ (Emotion) o จากวธิ ีการทางาน (Fact) และ (Authority) o จากผลประโยนช์ (Benefit)
แนวทางหลกั ท่ีก่อใหเ้ กิดผลสาํ เร็จ (Constructive Scientific Method)1. เขา้ ใจวา่ เป็นธรรมชาติที่ตอ้ งเกิด และหาทางแกไ้ ขได้2. เปลี่ยนความคิดจาก “เอาชนะกนั ” มาเป็น “เอาชนะปัญหา”3. มีการวิเคราะห์วา่ ปัญหา เกิดจากสาเหตุ• 3.1 ทศั นคติบุคคล ลกั ษณะนิสยั (Emotion)• 3.2 อาํ นาจ วิธีการทาํ งานในหนา้ ที่ (Authority)• 3.3 ผลประโยชน์ (Benefit) 106
4. พร้อมทจี่ ะเปิ ดเผยความต้องการท่แี ท้จริงของตนด้วยความจริงใจ5. ต้องมกี ารตดิ ต่อสื่อสารทีด่ ีแก่กนั ไม่ใช้อารมณ์6. หลกี เลยี่ งการโหวต เอา แพ้ – ชนะ กนั7. พยายามใช้ข้อมูลให้มากทส่ี ุด8. ต้องระลกึ ว่า อย่าเอาแต่ใจตนเอง จงประสานประโยชน์ 107
การขจดั สภาพความขัดแย้งภายในจิตใจส่งผลใหเ้ กิดอาการทางจิตใจที่เรียกวา่ “ความคบั ขอ้ งใจ” (Frustration) 108
วิธีหาทางออกโดยการปรับตวั ตามวิธีการ1.ใกลช้ ิดกบั ส่ิงที่เป็นปัญหามากข้ึน กจ็ ะไดข้ อ้ มูล และความรู้สึกมากข้ึน พอที่จะแกไ้ ขได้2.ยอมเสียเวลาหาขอ้ มูลเพิ่มข้ึน เปรียบเทียบระหวา่ งขอ้ ดี / ขอ้ เสียใหถ้ ่องแท้3.ปรึกษาหารือผทู้ ่ีเก่ียวขอ้ ง4.หาวิธีแกป้ ัญหาความขดั แยง้ โดยไม่เกิดปัญหาอื่นตามมา5.เมื่อตดั สินใจเลือกแลว้ กไ็ ม่ตอ้ งไปกงั วลอีก ยอมรับในผลที่เกิดข้ึนอยา่ ง องอาจ 109
รูปแบบในการแกป้ ัญหาความขดั แยง้ ระหวา่ ง บุคคล หรือ กลุ่ม1. แบบชนะ – แพ้ คอื - ต่างฝ่ ายต่างขบั เค่ียว เพอื่ เอาชนะกนั - เมื่อมีฝ่ ายแพ้ ความเป็นศตั รูกเ็ กิด เป็นการแก้ปัญหาความขดั แย้งที่มีผลเสียหายเหมือนกัน 2. แบบ แพ้ – แพ้ คอื - ต่างฝ่ ายต่างไม่ยอมใหใ้ ครไดป้ ระโยชน์ พงั เป็นพงั หรือ ไดค้ นละ นอ้ ยกเ็ อา เป็นการแก้ปัญหาความขดั แย้งที่ได้รับประโยชน์น้อย 110
3. แบบ ชนะ – ชนะ คอื - ท้งั สองฝ่ ายต่างร่วมมือกนั แกไ้ ขปัญหาความขดั แยง้ - โดยมีเป้ าหมายใหแ้ ต่ละฝ่ ายไดป้ ระสบผลสาํ เร็จ เป็นการแก้ไขปัญหาความขดั แย้งที่ไม่มีผ้ใู ดแพ้ เรียกว่า WIN-WIN Concept เกิดจาก การประสานประโยชน์ - เนน้ ความพอใจของท้งั สองฝ่ ายมากที่สุด 111 การประนีประนอม - มีการต่อรอง โดยต่างฝ่ ายต่าง ไดร้ ับผล บางส่วนตามท่ีตนตอ้ งการ
การแกไ้ ขการขดั แยง้ ระหวา่ งผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชาโดยยดึ ถอื หลกั ทจ่ี ะทาให้เกดิ คุณค่าในผลตัดสิน1. หลกั นิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์2. พิจารณาใหด้ ีก่อนลงมือตดั สินใจแกป้ ัญหา3. ตอ้ งมีศิลป์ ในการเลือกใชใ้ หเ้ หมาะสมกบั บุคคล และสถานการณ์แต่ ล่ะเร่ืองน้นั ๆ ซ่ึงไม่สามารถกาํ หนดตายตวั ลงไปได้ 112
วิธีการ1.นิติศาสตร์ คือ การช้ีชดั ลงไปเลยวา่ โครถูกใครผดิ ผลดี เป็นการแสดงใหเ้ ห็นถึงความเด็ดขาดดี และความเขม็ แขง็ ของ ผนู้ าํ ผลเสีย อาจจะเกิดการไม่ยอมรับการตดั สินข้ึนมา เพราะธรรมชาติทุก คนมกั จะคิดวา่ ตนเองถูกเสมอ2. รัฐศาสตร์ คือ เป็นการแกป้ ัญหาโดยยดึ หลกั อลุ่มอล่วย ใหย้ อมกนั ไดท้ ้งั สองฝ่ ายเป็นหลกั โดยไม่ช้ีชดั วา่ ใครถกู ใครผดิ จะไดไ้ ม่มีใครผดิ หวงั ท้งั สองฝ่ าย 113
วิธีการของผดู้ าํ เนินการท่ีมีผลสาํ เร็จ1.ตอ้ งมีความสามารถในการเจรจา เพือ่ ใหย้ อมๆ กนั2.ตอ้ งมีวิธีพดู ท่ีทาํ ใหฝ้ ่ ายท่ีรู้สึกวา่ ไดเ้ ปรียบ เกิดความไม่แน่ใจ และรู้สึกวา่ จะ เสียเปรียบแทน3.ตอ้ งมีทางเลือกใหห้ ลายทาง โดยแต่ละทางจะไม่มีใครไดเ้ ปรียบเสียเปรียบกนั4.ท้งั คูจ่ ะรู้สึกวา่ ไม่ผดิ หวงั 114
ข้อเสีย :- ในกรณีต่างฝ่ ายไม่ยอมกนั แลว้ จาํ เป็นตอ้ งใชห้ ลกั นิติศาสตร์ มาตดั สินใหเ้ ดด็ ขาด เพ่อื ไม่ใหย้ ดื เย้อื ออกไปอีก โดยใหเ้ ห็นและยดึ หลกั 1. มีเหตุผล 2. บนความถูกตอ้ ง 3. เป็นที่ยอมรับของคนส่วนใหญ่ 4. ยตุ ิธรรมในท่ีสุด 115
การทาํ งานร่วมกนั เป็นทีม 116 1. เป้ าหมายของทมี งาน 1.1 เป็ นท่ีเข้าใจ 1.2 เป็ นทยี่ อมรับ 1.3 เป็ นจริงได้ 1.4 วดั และประเมนิ ได้ 2. หน้าทแี่ ละบทบาทของทมี งาน 2.1 กาหนดได้ชัดเจน 2.2 เป็ นทยี่ อมรับ 2.3 เป็ นทเ่ี ข้าใจ
3. ภาวะผู้นา 3.1 นาผู้อนื่ ได้ 3.1.1 รอบรู้กว่า 3.1.2 นาไปทศิ ทางทถี่ ูกต้อง 3.1.3 ทาเพอื่ ส่วนรวม 3.2 ปรับสไตล์ให้สอดคล้องกบั สถานการณ์ได้4. การมสี ่วนร่วมของสมาชิก 4.1 เพอ่ื ประสานอจั ฉริยภาพของมนุษย์ 4.2 เพอ่ื ให้เกดิ ความผูกพนั 117
5. การตดั สินใจบนความเห็นพ้อง 5.1 เพอ่ื ให้ทุกคนยอมรับ 5.2 เพอ่ื ให้เกดิ พนั ธะผูกพนั 5.3 เพอ่ื ไม่ให้เกดิ ความรู้สึกแพ้ ชนะ6. ความไว้เนือ้ เช่ือใจ 6.1 หัวหน้าเชื่อมน่ั ในความซื่อสัตย์ ของลกู น้อง 6.2 มนั่ ใจว่าหัวหน้าจะนาไปสู่ชีวติ ทดี่ กี ว่า 6.3 เพอ่ื นร่วมงานไว้วางใจ ซึ่งกนั และกนั 118
7. การส่ือสาร 7.1 เปิ ดเผย / จริงใจ 7.2 ส่ือสาร 2 ทาง 7.3 แสดงออกทางภาษากาย8. การพฒั นาความคดิ สร้างสรรค์ 8.1 เห็นในส่ิงทคี่ นทวั่ ไปไม่เห็น 8.2 ไม่มองข้ามสิ่งทคี่ นอนื่ มองข้าม 8.3 ชอบสมมุติ / จนิ ตนาการ 119
8.4 ไม่องิ กรอบ กฏระเบยี บ 8.5 เน้นอนาคตมากกว่าปัจจุปัน 8.6 แสวงหาวธิ ีการใหม่9. การบริหารความขดั แย้ง 9.1 การขดั แย้งอยู่ในระดบั ทเ่ี หมาะสม 9.2 มุ่งสู่บูรณาการ 120
10. พฒั นาบุคลากร 10.1 การฝึ กอบรม 10.2 การศึกาต่อ 10.3 การดูงาน 10.4 การหมุนเวยี นงาน 121
บทสรปุ ...• คณุ สมบตั ิ และการปฏบิ ตั ิตนตามแนวทางท่ีนาเสนอ มาทง้ั หมดจะทาใหบ้ คุ ลากรในองคก์ ารทางานอยา่ งมี ความสขุ และสนกุ กบั งาน จนสามารถประสบผลสาเรจ็ ในชีวิตสว่ นตวั และชีวิตการทางาน ทางานที่ไหน อยู่ กบั คนไดอ้ ยา่ งมีความสขุ และสรา้ งความสขุ ใหผ้ อู้ ่ืน แลว้ จะเจรญิ กา้ วหนา้ ทกุ ท่าน ชีวิตมีสขุ สงั คมสงบสขุ และสนั ติสขุ บงั เกิดตลอดไป
แบบฝึ กหดั• การเป็นหวั หนา้ งานที่ดี ลกู นอ้ งรัก และทาํ งานใหเ้ สร็จตามเป้ าหมาย• การสร้างแรงจูงใจใหล้ กู นอ้ งทาํ งานใหเ้ ร็วข้ึน ดีข้ึนกวา่ เดิม มีคุณภาพสูง เป็นที่ตอ้ งการของลกู คา้ และทาํ งานดว้ ยความสุข• การคาํ นึงถึงการลดของเสีย ไม่ทาํ งานซ้าํ ซอ้ น โดยใหร้ ักองคก์ ารเสมือน บา้ นที่สองท่ีนาํ เงินไปส่งเสียเล้ียงดูบา้ นหลงั ท่ีหน่ึง• ฯลฯ
ขอใหโ้ ชคดีทกุ ท่าน สวสั ดี..
การบูรณาการ ภาวะผู้นา การบริหารจดั การยคุ ใหม่ ppt การบริหารทีมงานและภาวะผ้นู าhttp://www.chiangrai.net/dashboard5/Files/KMData_List/%7B15315213_16225541443812%7D_19.%20%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B0%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%B3.ppt
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125