Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 9.การบูรณาการ ภาวะผู้นำ การบริหารจัดการยุคใหม่ ppt

9.การบูรณาการ ภาวะผู้นำ การบริหารจัดการยุคใหม่ ppt

Published by iamkittipan, 2017-07-17 01:31:48

Description: 9.การบูรณาการ ภาวะผู้นำ การบริหารจัดการยุคใหม่ ppt

Search

Read the Text Version

ส่งเสริม EQ เพื่อความฉลาดในอารมณ์ ความฉลาดในอารมณ์ (Emotional Quotient ‟ EQ) ซง่ึ ประกอบดว้ ยทกั ษะ 2 กลมุ่ คอื ทกั ษะในดา้ นการบรหิ ารจดั การตนเอง (Self ‟ Management Skills) และ ทกั ษะในดา้ นบรหิ ารปฏสิ มั พนั ธก์ บั บคุ คลอน่ื (Relationship Skill) ซง่ึ นบั วา่ เป็นทกั ษะ ในการบรหิ ารจดั การตวั เราเอง และทกั ษะ ในการทาํ งานรว่ มกบั บุคคลอน่ื ๆ นบั วา่ สาํ คญั มากต่อความสาํ เรจ็ ในหน้าทก่ี ารงาน ความสขุ และความสาํ เรจ็ ในชวี ติ ประจาํ วนั EQ มคี วามสาํ คญั ไมย่ ง่ิ หยอ่ นกบั Intelligence Quotient (IQ) หรอื ความฉลาดทาง สตปิ ญั ญาหรอื สาํ คญั กวา่ ดว้ ยซ้าํ หากเป็นคนฉลาดหลกั แหลมแตไ่ มม่ ี EQ กจ็ ะประสบ ปญั หา เชน่ เกยี จครา้ นในการทาํ งาน มพี ฤตกิ รรมต่อตา้ นองคก์ ร มที ศั นคตใิ นแงล่ บ อยู่ เสมอวา่ ตนเองไมไ่ ดร้ บั ความเป็นธรรม ชอบนินทาวา่ รา้ นคนอน่ื ชอบปลอ่ ยขา่ วลอื ไร้ สาระ ฯลฯ ปรบั เปลย่ี นวธิ กี ารสอนแบบใหม่ โดยเปิดใหม้ โี อกาสพดู และแสดงความคดิ เหน็ ในชนั้เรยี นและมกี จิ กรรมนอกหลกั สตู รเพอ่ื ใหน้ กั ศกึ ษามโี อกาสปฏสิ มั พนั ธก์ นั เองเพอ่ื ฝึกฝนทกั ษะ EQ พรอ้ มกนั ไปดว้ ย 101

การฝึ กอบรมและพฒั นา (Tra2ining and Development: TD) KAP = Knowledge, Attitude, Practice KSAB = Knowledge, Skill, Attitude, Behavior KUSAVIA= Knowledge, Understanding, Skill, Attitude, Value, Inspiration, Action การอบรม (Training) คอื การจดั กจิ กรรมโดยมงุ่ เน้นงานปจั จบุ นั เพอ่ื ใหน้ ําสง่ิ ท่ี เรยี นรมู้ าใชท้ นั ที เชน่ นกั บญั ชี สอนวธิ กี ารทาํ บญั ชี การศึกษา (Education) คอื การเตรยี มบุคลากรในการปฏบิ ตั งิ านในอนาคตแต่ ยงั คงเกย่ี วขอ้ งกบั งานทป่ี ฏบิ ตั อิ ยู่ เชน่ นกั บญั ชี สอนการบญั ชที จ่ี ะเอามาใชใ้ น อนาคต เชน่ อาจจะมกี ารเปลย่ี นกฎเกณฑต์ า่ งๆในการทาํ งาน การพฒั นา (Development) คอื การจดั กจิ กรรมใหม้ งุ่ เน้นอยทู่ ก่ี ารพฒั นาองคก์ รในอนาคต เชน่ นกั บญั ชี สอนการใชค้ อมพวิ เตอร์ เมอ่ื มกี ารใชร้ ะบบคอมพวิ เตอรท์ ่ีอาจจะเกดิ ขน้ึ ในอนาคต 102

การพฒั นาทรัพยากรมนุษย์และการฝึ กอบรม การฝึกอบรมจะสอนใหพ้ นกั งานรวู้ า่  การพฒั นาทรพั ยากรมนุษย์ ตอ้ งการ ทาํ อะไรและอยา่ งไร สรา้ งใหพ้ นกั งานตอบคาํ ถาม ทาํ ไม ตอ้ งทาํ และใหส้ ามารถชเ้ี ป้าหมาย เน้นใหเ้ รยี นรพู้ ฤตกิ รรม การกระทาํ และวตั ถุประสงคข์ องงานไดช้ ดั เจน เฉพาะเรอ่ื ง การสาธติ หรอื กระบวนการทาํ งาน  เน้นเขา้ ใจแนวคดิ บรบิ ท พฒั นาการ ตดั สนิ ใจ พฒั นาศกั ยภาพตามงานท่ี กรอบเวลาสนั้ (short term) ไดร้ บั มอบหมาย ประเมนิ ประสทิ ธผิ ลจากผลการ  กรอบเวลายาว (Long term) ปฏบิ ตั งิ าน การวเิ คราะหต์ น้ ทุน-กาํ ไร  ประเมนิ จากคุณสมบตั ทิ ต่ี อ้ งการ แบบประเมนิ หรอื ใบประกาศ สง่ เสรมิ ทกั ษะตามแนวคดิ การสรา้ ง ความไดเ้ ปรยี บในการแขง่ ขนั (Competitive advantage) 103

Human Resource Development & Training การพฒั นาทรพั ยากรมนุษย์ (Human Resource Development) ถอื เป็นกุญแจสาํ คญั ทจ่ี ะนําไปสคู่ วามสาํ เรจ็ ของการบรหิ ารจดั การองคก์ ารสมยั ใหม่ โดยท่ี องคก์ ารจะตอ้ งมกี รอบแนวทางการพฒั นาทงั้ ความรู้ ทกั ษะ ทศั นคตทิ เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั เรอ่ื งทต่ี อ้ งการใหเ้ กดิ การเรยี นรู้ และนําไปสกู่ ารปฏบิ ตั โิ ดยตอ้ งมกี ระบวนการสาํ คญั ใน การสรา้ งความรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะ และทศั นคติ เพอ่ื สรา้ งจติ สาํ นึกในการมสี ว่ น รว่ มในการแกไ้ ขปญั หารว่ มกนั การฝึกอบรม (Training) ในฐานะทเ่ี ป็นเครอ่ื งมอื หลกั ในการพฒั นาทรพั ยากร มนุษย์ ซง่ึ ในความเป็นจรงิ แลว้ การฝึกอบรม ซง่ึ เป็นเทคนิควธิ กี ารทใ่ี ชใ้ นการสอ่ื สาร หรอื ถ่ายทอดความรู้ ความคดิ เหน็ ขอ้ เทจ็ จรงิ ประสบการณ์ หรอื ขอ้ มลู ตา่ งๆ เพอ่ื ใหผ้ เู้ ขา้ รว่ มการฝึกอบรมเกดิ ความเขา้ ใจ มที กั ษะ มที ศั นคตทิ ด่ี ี และมี ความสามารถในการปฏบิ ตั งิ าน ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 104

Development เครอ่ื งมอื พฒั นาทรพั ยากรมนุษยม์ หี ลายประเภท เชน่ Career Planning & Development, Coaching/ Mentoring, Training Road Map, Action Learning, Benchmarking, Portfolio, Competency based Management, Performance Management System, Balanced Scorecard, Learning Organization, Knowledge Management, Benchmarking, Job Enrichment/ Job Enlargement, Cultural Change, Broad- banding, 360 Degree Feedback และ Six Sigma 105

การพฒั นาองคก์ าร(OD: O3rganization Development) มงุ่ พฒั นาวธิ แี กป้ ญั หาองคก์ ารดว้ ยวธิ กี ารใหม่ ๆ และสรา้ งสรรคโ์ ดยพยายาม ปรบั โครงสรา้ ง วฒั นธรรม กระบวนการบรหิ าร และกลยทุ ธข์ องการบรหิ าร ทรพั ยากรมนุษยใ์ หส้ อดคลอ้ งกนั วธิ กี ารแกป้ ญั หาโดยปรบั สว่ นต่าง ๆ ใหก้ ลมกลนื กนั สามารถทาํ ใหอ้ งคก์ าร ปรบั ตวั ไดด้ ว้ ยตนเอง และมองเหน็ ปญั หาและความออ่ นแอของตนเองแลว้ นํามา แกไ้ ข การเคลอ่ื นไหวของพฤตกิ รรมศาสตรค์ อื การยอมรบั ในพลงั ของกลุ่มทไ่ี มเ่ ป็น ทางการและการตระหนกั ถงึ ความสาํ คญั ของทรพั ยากรมนุษยท์ ม่ี ตี อ่ ผล ประกอบการขององคก์ ารเหมอื นกบั ทรพั ยากรทางการเงนิ และวตั ถุ ทาํ ใหพ้ นกั งานเหน็ คณุ คา่ ของตนเอง เหน็ คณุ คา่ ของเพอ่ื นรว่ มงาน กระตุน้ ใหเ้ กดิ การทาํ งานเป็นทมี ปรบั เปลย่ี นทศั นคตมิ ากกวา่ ใหค้ วามรู้ Ice Breaking, Walk rally, Group process, Action learning, AIC 106

ความคิดสรา้ งสรรค์1.Integrated Thinking คิดเชิงบรู ณาการ มองเป้ าหมาย เดียวกนั2.System Thinking คิดเชิงระบบ เหน็ ความเชื่อมโยง ของทุกสิ่ง3.Positive Thinking คิดเชิงบวก มองคนในแง่บวก4.Lateral Thinking คิดเชิงบกุ /คิดนอกกรอบ/คิดทาง ขวาง 107

การเรียนร้จู ากการปฏิบตั ิ (Action Learning: AL) เป็นวธิ กี ารทน่ี ิยมใชใ้ นการทาํ OD วธิ กี ารน้ีอยภู่ ายใตแ้ นวคดิ ทว่ี า่ “ การกระทาํ กบั การเรยี นรู้ ตอ้ งเกดิ ควบคกู่ นั ไป” เป็นการเรยี นรทู้ จ่ี ากการปฏบิ ตั ทิ อ่ี าศยั ประสบการณ์ ความรู้ มมุ มองทก่ี ลมุ่ หรอื บุคคลมี จากการซกั ถาม แลกเปลย่ี นความเหน็ นําไปสทู่ างออกใหมๆ่ ท่ี แตกต่าง นําความรมู้ าคดิ ใครค่ รวญแลว้ แลกเปลย่ี นถ่ายทอดแก่กนั สรา้ ง ประโยชน์ใหก้ บั ตน ทมี และองคก์ าร การเรยี นรนู้ ้ีเกดิ จากความสมคั รใจขบั เคล่อื นโดยผเู้ รยี นและกลมุ่ ปจั จยั ทเ่ี ออ้ื ตอ่ ความสาํ เรจ็ ของ AL ตอ้ งไดร้ บั การสนบั สนุนจากฝา่ ยบรหิ าร, ความสามารถในการคดิ ใครค่ รวญ, การมที มี งานทด่ี ,ี วฒั นธรรมองคก์ ารทเ่ี กอ้ื กลู , ผบู้ รหิ ารองคก์ ารทแ่ี สดงไดห้ ลายบทบาท (คร,ู ผนู้ ําทางอุดมการณ์) 108

การเรียนรจู้ ากการปฏิบตั ิ (Action Learning: AL) ปัญหา ตอ้ งเป็นเรอ่ื งทเ่ี ป็นประโยชน์ตอ่ องคก์ าร คมุ้ คา่ กบั เวลา เงนิ ทรพั ยากรทล่ี งทุน กล่มุ พนกั งาน 4-8 คน ทม่ี าจากคนละสว่ นงาน/ หน่วยงานภายในองคก์ าร ซง่ึ ควรมี ทกั ษะฝีมอื ทเ่ี สรมิ กนั เป็นผรู้ ู้ ผสู้ นใจ มอี าํ นาจเกย่ี วขอ้ ง ในประเดน็ ปญั หาทก่ี ลุม่ สนใจ เป็นหลกั กระบวนการซกั ถามและสะท้อนมมุ มอง ตอ้ งคดิ ก่อนทาํ ทาํ แลว้ ใครค่ รวญ วเิ คราะห์ หาความเป็นเหตุเป็นผล แนวทางแกไ้ ข แนวทางแก้ไข นําเอาคาํ แนะนําทไ่ี ดร้ บั ไปปฏบิ ตั ิ ซง่ึ แนวทางนนั้ ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ประหยดั คุม้ คา่ ดกี วา่ เรว็ กวา่ การเรียนรอู้ ยา่ งต่อเน่ือง การเรยี นรู้ คดิ ใครค่ รวญ ในการปฏบิ ตั ติ อ้ งทาํ อยา่ ง ตอ่ เน่ือง จรงิ จงั ในทกุ โอกาสทเ่ี ป็นไปได้ ผเู้ อือ้ ประโยชน์หรอื ผอู้ านวยการกลมุ่ ทาํ หน้าทเ่ี ป็น Learning Coach คอยกระตุน้ วางแผน ควบคุม จดั การกบั การแลกเปลย่ี นความคดิ ผลกั ดนั การปฏบิ ตั ิ แกไ้ ขความ ขดั แยง้ หาขอ้ สรุปของกลุ่ม 109

ประโยชน์ของการเรียนรจู้ ากการปฏิบตั ิ พนักงานสามารถเรียนรแู้ ละจดั การกบั สถานการณ์ในการทางาน จริงได้ ส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยน ความคิดเหน็ และการส่ือสารในทีม เกิดการเรียนร้รู ว่ มกนั ถ่ายโอนทกั ษะและประสบการณ์ท่ีเป็น ประโยชน์ สร้างประโยชน์แก่ทุกฝ่ ายที่เกี่ยวข้อง เอื้อต่อการบริหารการเปลี่ยนแปลง เป็นเคร่ืองมอื พฒั นาบคุ คล ทีมงาน 110

การพฒั นาอาชีพ (CD: C4areer Development) เน้นการวเิ คราะหเ์ พอ่ื ใหท้ ราบความสนใจ คา่ นิยม ความรคู้ วามสามารถ กจิ กรรม และการมอบหมายงานใหบ้ ุคคลปฏบิ ตั เิ พอ่ื พฒั นาทกั ษะสาํ หรบั การ ปฏบิ ตั งิ านในอนาคต การพฒั นาอาชพี นนั้ ทงั้ บุคลากรและองคก์ ารตา่ งตอ้ งมกี จิ กรรมทจ่ี ะตอ้ งปฏบิ ตั ทิ งั้ 2 ฝา่ ย ฝา่ ยบุคลากรจะตอ้ งมกี ารวางแผนอาชพี ตระหนกั ในอาชพี ตน ใชป้ ระโยชน์ จากศนู ยพ์ ฒั นาอาชพี ในหน่วยงานตนใหม้ ากทส่ี ดุ สว่ นกจิ กรรมองคก์ ารครอบคลุม ระบบใหค้ าํ ปรกึ ษา จดั Workshop สมั มนา การวางแผนทรพั ยากรมนุษย์ การประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ าน แผนงานเสน้ ทาง อาชพีทม่ี า: บุญยง ชน่ื สวุ มิ ล 111

การพฒั นาอาชีพ (CD: Career Development) พนักงานฝ่ ายเทคนิคและวิชาชีพ (Technical and Professional Workers) พนักงานเหล่านี้ ไม่อยากเปลี่ยนไปทางานด้านการ บริหาร ทางแก้ไข ใชว้ ธิ กี าร dual-career ladder ใชก้ ารใหช้ อ่ื ตาํ แหน่ง การใหค้ า่ ตอบแทนพเิ ศษ Dual career couples จะเกย่ี วขอ้ งกบั การยา้ ยทท่ี าํ งาน จะตอ้ งวางแผน เรอ่ื งการพฒั นาอาชพี ไว้ 112

ตวั อย่างหลกั สตู รการพฒั นาทรพั ยากรนุษย์ การพฒั นาสขุ ภาพอาสาสมคั รสาธารณสขุ ประจาํ หมบู่ า้ น การพฒั นาภาวะผนู้ ําการเปลย่ี นแปลงสาํ หรบั อสม. การพฒั นาพนกั งานมาลาเรยี ชุมชนชายแดน การพมั นาพนกั งานสขุ ภาพชุมชนชายแดน การพฒั นาพนกั งานสขุ ภาพชมุ ชน การพฒั นานกั บรกิ ารปฐมภมู ิ 113

หวั ข้อที่ 4: การตรวจสอบและปัญหาการพฒั นาทรพั ยากรมนุษย์การควบคมุ การพฒั นาทรพั ยากรมนุษย์การติดตามการพฒั นาทรพั ยากรมนุษย์ปัญหาและอปุ สรรคในการพฒั นาทรพั ยากรมนุษย์แนวโน้มการพฒั นาทรพั ยากรมนุษย์ Q&A 114

การบรู ณาการ ภาวะผู้นา การบริหารจัดการยุคใหม่ ppthttp://www.tot-econference.com/tot/clients/55/5007360506a8697a5304.ppt 115


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook