Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงการของในหลวงราชการที่ 9 เกี่ยวกับ 1

โครงการของในหลวงราชการที่ 9 เกี่ยวกับ 1

Published by Guset User, 2022-06-04 06:35:59

Description: โครงการของในหลวงราชการที่ 9 เกี่ยวกับ 1

Search

Read the Text Version

โครงการของในหลวงราชการท่ี 9 เก่ียวกบั ดินและนา้

โครงการของในหลวงราชการท่ี 9 เก่ียวกบั ดินและนา้ แกลง้ ดิน เป็นแนวพระราชดาริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เก่ียวกบั การแกป้ ัญหาดินเปร้ียว หรือดินเป็นกรด โดยมี การขงั น้าไวใ้ นพ้ืนท่ี จนกระทง่ั เกิดปฏิกิริยาเคมีทาใหด้ ินเปร้ียวจดั จนถึงท่ีสุด แลว้ จึงระบายน้าออกและปรบั สภาพฟ้ืนฟดู ินดว้ ยปูนขาว จนกระทง่ั ดินมีสภาพดีพอท่ีจะใชใ้ นการเพาะปลูกได้ หลงั จากท่ีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จฯ เย่ียมราษฎรในเขตจงั หวดั นราธิวาส เม่ือปี พ.ศ. ๒๕๒๔ ทรงพบวา่ ดินใน พ้ืนท่ีพรุท่ีมีการชกั น้าออก เพ่ือจะนาท่ีดินมาใชท้ าการเกษตรนน้ั แปรสภาพเป็นดินเปร้ียวจดั ทาใหเ้ พาะปลูกไมไ่ ดผ้ ล จึงมีพระราชดาริใหส้ ว่ น ราชการตา่ ง ๆ พิจารณาหาแนวทางในการปรบั ปรุงพ้ืนท่ีพรุท่ีมีน้าแชข่ งั ตลอดปีใหเ้ กิดประโยชนใ์ นทางการเกษตรมากท่ีสุด และใหค้ านึงถึง ผลกระทบตอ่ ระบบนิเวศน์ดว้ ย การแปรสภาพเป็นดินเปร้ียวจดั เน่ืองจากดินมีลกั ษณะเป็นเศษอินทรียวตั ถุ หรือซากพืชเน่าเป่ื อยอยูข่ า้ งบน และมีระดบั ความลึก ๑ - ๒ เมตร เป็นดินเลนสีเทาปนน้าเงิน ซ่ึงมีสารประกอบกามะถนั ท่ีเรียกวา่ สารประกอบไพไรท์ (Pyrite : FeS2) อยูม่ าก

โครงการของในหลวงราชการท่ี 9 เก่ียวกบั ดนิ และนา้  ดงั นัน้ เม่ือดินแหง้ สารไพไรทจ์ ะทาปฏิกิริยากบั อากาศ ปลดปลอ่ ยกรดกามะถนั ออกมา ทาใหด้ ินแปรสภาพเป็นดินกรดจดั หรือเปร้ียวจดั ศูนย์ ศึกษาการพฒั นาพิกุลทองอนั เน่ืองมาจากพระราชดาริ จึงไดด้ าเนินการสนองพระราชดาริโครงการ \"แกลง้ ดิน\" เพ่ือศึกษาการเปล่ียนแปลงความ เป็นกรดของดิน เร่ิมจากวิธีการ \"แกลง้ ดินใหเ้ ปร้ียว\" คือทาใหด้ ินแหง้ และเปียกสลบั กนั ไป เพ่ือเร่งปฏิกิริยาทางเคมีของดิน ซ่ึงจะไปกระตุน้ ให้ สารไพไรทท์ าปฏิกิริยากบั ออกซิเจนในอากาศ ปลดปลอ่ ยกรดกามะถนั ออกมา ทาใหด้ ินเป็นกรดจดั จนถึงขนั้ \"แกลง้ ดินใหเ้ ปร้ียวสุดขีด\" จนกระทง่ั ถึงจุดท่ีพืชไมส่ ามารถเจริญงอกงามได้ จากน้นั จึงหาวิธีการปรบั ปรุงดินดงั กลา่ วใหส้ ามารถปลูกพืชได้ วิธีการแกไ้ ขปญั หาดินเปร้ียว จดั ตามแนวพระราชดาริ คือควบคุมระดบั น้าใตด้ ิน เพ่ือป้องกนั การเกิดกรดกามะถนั จึงตอ้ งควบคุมน้าใตด้ ินใหอ้ ยูเ่ หนือชน้ั ดินเลนท่ีมีสารไพไรท์ อยู่ เพ่ือมิใหส้ ารไพไรทท์ าปฏิกิริยากบั ออกซิเจนหรือถูกออกซิไดซ์ จากการทดลอง ทาใหพ้ บวา่ วิธีการปรบั ปรุงดินตามสภาพของดินและความเหมาะสม มีอยู่ ๓ วิธีการดว้ ยกนั คือ ใชน้ ้าชะลา้ งความเป็นกรด เพราะเม่ือดินหายเปร้ียว จะมีคา่ pH เพ่ิมข้ึน หากใชป้ ๋ ุยไนโตรเจนและฟอสเฟต ก็จะทาใหพ้ ืชใหผ้ ลผลิตได้ ใชป้ ูนมารล์ ผสมคลุกเคลา้ กบั หนา้ ดิน ใชท้ งั้ สองวิธีขา้ งตน้ ผสมกนั

โครงการของในหลวงราชการท่ี 9 เก่ียวกบั ดินและนา้  พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จ ฯ ไปทรงเย่ียมราษฎรในเขตจงั หวดั นราธิวาสในปี พ.ศ. ๒๕๒๔ ทรงพบวา่ หลงั จากมีการชกั น้าออกจากพ้ืนท่ีพรุเพ่ือจะ ได้ มีพ้ืนท่ีใชท้ าการเกษตรและเป็นการบรรเทาอุทกภยั น้นั ปรากฎวา่ ดินในพ้ืนท่ีพรุแปรสภาพเป็นดินเปร้ียวจดั ทาใหเ้ พาะปลูกไมไ่ ดผ้ ล จึงมีพระราชดาริ ใหส้ ว่ นราชการตา่ ง ๆ พิจารณาหาแนวทางในการปรบั ปรุงพ้ืน นท่ีพรุท่ีมีน้าแชข่ งั ตลอดปีใหเ้ กิดประโยชนใ์ นทางการเกษตรมากท่ีสุด และใหค้ านึงถึงผลกระทบตอ่ ระบบนิเวศน์ดว้ ย การแปรสภาพ เป็น ดินเปร้ียวจดั เน่ืองจากดินมีลกั ษณะเป็นเศษอินทรียว์ ตั ถุหรือซากพืชเน่าเป่ื อยอยูข่ า้ งบน และมีระดบั ความลึก ๑ - ๒ เมตร เป็นดินเลนสีเทาปนน้าเงิน ซ่ึงมีสารประกอบกามะถนั ท่ีเรียกวา่ สารประกอบไพไรท์ (pyrite : FeS2) อยูม่ าก ดงั นั้นเม่ือดินแหง้ สารไพไรทจ์ ะทาปฏิกิริยากบั อากาศปลดปลอ่ ยกรดกามะถนั ออกมา ทาใหด้ ินแปรสภาพเป็น ดินกรดจดั หรือเปร้ียวจดั ศูนยศ์ ึกษาการพฒั นาพิกุลทองอนั เน่ืองมาจากพระราชดาริจึงไดด้ าเนินการสนองพระราชดาริโครงการ \"แกลง้ ดิน\" เพ่ือศึกษาการเปล่ียนแปลงความเป็น กรดของดินเร่ิมจากวิธีการ \"แกลง้ ดินใหเ้ ปร้ียว\" ดว้ ยการทาใหด้ ินแหง้ และเปียกสลบั กนั ไป เพ่ือเร่งปฏิกิริยาทางเคมีของดิน ซ่ึงจะไปกระตุน้ ใหส้ ารไพไรทท์ าปฏิกิริยากบั ออกซิเจน ในอากาศ ปลดปลอ่ ยกรดกามะถนั ออกมา ทาใหด้ ินเป็นกรดจดั จนถึงขน้ั \"แกลง้ ดินใหเ้ ปร้ียวสุดขีด\" จนกระทง่ั ถึงจุดท่ีพืช ไมส่ ามารถเจริญงอกงามไดจ้ ากนั้นจึงหาวิธีการ ปรบั ปรุงดินดงั กลา่ วใหส้ ามารถปลูกพืชไดว้ ิธีการแกไ้ ขปัญหาดินเปร้ียวจดั ตามแนวพระราชดาริมีดงั น้ี

การของในโครงหลวงราชการท่ี 9 เก่ียวกบั ดนิ และนา้  ๑. ควบคุมระดบั น้าใตด้ ินเพ่ือป้องกนั การเกิดกรดกามะถนั จึงตอ้ งควบคุมน้าใตด้ ินใหอ้ ยูเ่ หนือชน้ั ดินเลนท่ีมีสารไพไรทอ์ ยู่ เพ่ือมิใหส้ ารไพไรทท์ าปฏิกิริยา กบั ออกซิเจนหรือถูกออกซิไดซ์ ๒. การปรับปรุงดิน มี ๓ วิธีการ ตามสภาพของดินและความเหมาะสม คือ • ใชน้ ้าชะลา้ งความเป็นกรดเม่ือลา้ งดินเปร้ียวใหค้ ลายลงแลว้ ดินจะมีคา่ pH เพ่ิมข้ึนอกี ทง้ั สารละลายเหล็กและอลูมิน่ัมท่ีเป็นพิษเจือจางลงจนทาให้ พืชสามารถเจริญเติบโตไดด้ ีโดยเฉพาะถา้ หากใชป้ ๋ ุยไนโตรเจนและฟอสเฟตก็สามารถใหผ้ ลผลิตได้ • การใชป้ ูนผสมคลุกเคลา้ กบั หนา้ ดิน เชน่ ปูนมาร์ล ปูนฝุ่นซ่ึงปริมาณของปูนท่ีใชข้ ้ึนอยูก่ บั ความรุนแรงของความเป็นกรดของดิน • การใชป้ ูนควบคูไ่ ปกบั การใชน้ ้าชะลา้ งและควบคุมระดบั น้าใตด้ ิน เป็นวิธีการท่ีสมบูรณท์ ่ีสุดและใชไ้ ดผ้ ลมากในพ้ืนท่ีซ่ึงดินเป็นกรดจดั รุนแรง และถูก ปลอ่ ยท้ิงเป็นเวลานาน ๓. การปรบั สภาพพ้ืนท่ีมีอยู่ ๒ วิธีคือ • การปรับระดบั ผิวหนา้ ดิน ดว้ ยวิธีการ คือ o ปรบั ระดบั ผิวหนา้ ดินใหม้ ีความลาดเอยี ง เพ่ือใหน้ ้าไหลไปสูค่ ลองระบายน้า o ตกแตง่ แปลงนาและคนั นาใหม่ เพ่ือใหเ้ ก็บกกั น้าและระบายน้าออกไปได้ • การยกร่องปลูกพืช สาหรับพืชไร่ พืชผกั ไมผ้ ล หรือไมย้ ืนตน้ ท่ีใหผ้ ลตอบแทนสูง ถา้ ใหไ้ ดผ้ ลตอ้ งมีแหลง่ น้าชลประทานเพ่ือขงั และถา่ ยเทน้าได้ เม่ือ น้าในร่องเป็นกรดจดั การยกร่องปลูกพืชยืนตน้ หรือไมผ้ ล ตอ้ งคานึงถึงการเกิดน้าทว่ มในพ้ืนท่ีน้ัน หากมีโอกาสเส่ียงสูงก็ไมค่ วรทา หรืออาจยกร่องแบบ เต้ีย ๆ พืชท่ีปลูกเปล่ียนเป็นพืชลม้ ลุกหรือพืชผกั และควรปลูกเป็นพืชหมุนเวียนกบั ขา้ วได้ วิธีการปรับปรุงดินเปร้ียวจดั เพ่ือการเกษตร

การของในโครงหลวงราชการท่ี 9 เก่ียวกบั ดนิ และนา้  ๑. เพ่ือใชป้ ลูกขา้ ว -•--•-•ดดดดิิิินนนนเขเขขททททนั้ ตต่่่่ีีีีมมมมตชเีีีีคคคคกอลาาาาษ่่่่นปตกppppรราะHHHHนรทป้าารฝนรรนนับนะะออ้้ ปหหยยรววกกุงาา่่ ววดงงาา่่ิน๔๔เ๔๔ป..๐๐..ร๐๐้ีย--วใใชช๔๔หปป้้..ล๕๕ููนนงั ใอจใในชชตัาอใปรก้้ นตัาูนหอรอว๑าตัา่ตั.ร๕น๒ราปา.ต๕๑ูน๑นั ใ.ตตห/๕ไนนััท้ร//า่ตไไกรนรั า่่/ไรรไ่ถแปร และปลอ่ ยน้าใหแ้ ชข่ งั ในนาประมาณ ๑๐ วนั จากน้นั ระบายน้าออกเพ่ือชะลา้ งสารพิษ และขงั น้าใหมเ่ พ่ือรอปักดา ๒. เพ่ือใชป้ ลกู พืชลม้ ลุก • o การปลกู พืชผกั มีวิธีการ คือ ถา้ พ้ืนท่ีนั้นไดร้ บั การ ปรับปรุง o ยกร่องกวา้ ง ๖ - ๗ เมตร คูระบายน้ากวา้ ง ๑.๕ เมตร และลึก ๕๐ ซม. o ไถพรวนดินและตากดินท้ิงไว้ ๓ - ๕ วนั o ทาแปลงยอ่ ยบนสนั ร่อง ยกแปลงใหส้ ูง ๒๕ - ๓๐ ซม. กวา้ ง ๑ - ๒ เมตร เพ่ือระบายน้าบนสนั ร่องและเพ่ือป้องกนั ไมใ่ หแ้ ปลงยอ่ ยแฉะ เม่ือรดน้าหรือเม่ ือมีฝนตก o ใสห่ ินปูนฝุ่นหรือดินมารล์ ๒ - ๓ ตนั /ไร่ คลุกเคลา้ ใหเ้ ขา้ กบั ดิน ท้ิงไว้ ๑๕ วนั • ใสป่ ๋ ุยหมกั หรือป๋ ุยอินทรีย์ ๕ ตนั /ไร่ กอ่ นปลกู ๑ วนั เพ่ือปรบั ปรุงดิน o การปลกู พืชไร่บางชนิด กระทาได้ ๒ วิธีคือ • แบบยกร่องสวนและแบบปลกู เป็นพืชครั้งท่ี ๒ หลงั จากการทานา • การปลกู พืชไร่แบบยกร่องสวนมีวิธีเตรียมพ้ืนท่ี เชน่ เดียวกบั การปลกู พืชผกั การปลูกพืชไร่หลงั ฤดูทานา ซ่ึงอยใู่ นชว่ งปลายฤดฝู น การเตรียมพ้ืนท่ีตอ้ งยกแนวร่องใหส้ ูงกวา่ การปลกู บนพ้ืนทท่ีดอน ๑๐ - ๒๐ ซม. เพ่ือป้องกนั ไมใ่ หน้ ้าแชข่ งั ถา้ มีฝนตกผิดฤดู โดยการใชป้ ูนมาแลว้ คาดวา่ คงไมจ่ าเป็นตอ้ งใชป้ ูนอกี

การของในโครงหลวงราชการท่ี 9 เก่ียวกบั ดินและนา้  ๓. เพ่ือปลูกไมผ้ ล • สรา้ งคนั ดินกนั้ น้าลอ้ มรอบแปลงเพ่ือป้องกนั น้าขงั และติดตง้ั เคร่ืองสูบน้าเพ่ือระบายน้าออกตามตอ้ งการ • ยกร่องปลูกพืชตามวิธีการปรบั ปรุงพ้ืนท่ีท่ีมีดินเปร้ียวจดั เพ่ือปลูกไมผ้ ล • น้าในคูระบายน้าจะเป็นน้าเปร้ียว ตอ้ งระบายออกเม่ือเปร้ียวจดั และสูบน้าจืดมาแทน ชว่ งเวลาถา่ ยน้า ๓ - ๔ เดือนตอ่ ครง้ั • ควบคุมระดบั น้าในคูระบายน้า ไมใ่ หต้ ่ากวา่ ชนั้ ดินเลนท่ีมีสารประกอบไพไรทเ์ พ่ือป้องกนั การเกิดปฏิกิริยาท่ีจะทาใหด้ ินมีความเป็นกรดเพ่ิมข้ึน • ใสป่ ูน อาจเป็นปูนขาว ปูนมาร์ล หรือหินปูนฝุ่น โดยหวา่ นทว่ั ทงั้ ร่องท่ีปลูกอตั รา ๑ - ๒ ตนั /ไร่ • กาหนดระยะปลูกตามความเหมาะสมของแตล่ ะพืช • ขุดหลุม กวา้ ง ยาว และลึก ๕๐ - ๑๐๐ ซม. แยกดินชน้ั บนและดินชนั้ ลา่ ง ท้ิงไว้ ๑ - ๒ เดือน เพ่ือฆา่ เช้ือโรค เอาสว่ นท่ีเป็นหนา้ ดินผสมป๋ ุย คอก หรือป๋ ุยหมกั หรือบางสว่ นของดินชน้ั ลา่ งแลว้ กลบลงไปในหลุมใหเ้ ต็ม ใสป่ ๋ ุยหมกั ๑ กก./ตน้ โดยผสมคลุกเคลา้ ใหเ้ ขา้ กบั ปูนในอตั รา ๑๕ กก./ หลุม • ดูแลปราบวชั พืช โรค แมลง และใหน้ ้าตามปกติสาหรบั การใชป้ ๋ ุยบารุงดินข้ึนกบั ความตอ้ งการและชนิดของพืชท่ีจะปลูก

การของในโครงหลวงราชการท่ี 9 เก่ียวกบั ดินและนา้  ท่ีมา : http://km.rdpb.go.th/โครงการแกลง้ ดิน

การของในโครงหลวงราชการท่ี 9 เก่ียวกบั ดนิ และนา้  โครงการแกม้ ลิง เป็นแนวคิดในพระราชดาริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพ่ือแกป้ ัญหาอุทกภยั โดยพระองคท์ รง ตระหนักถึงความรุนแรงของอุทกภยั ท่ีเกิดข้ึนในกรุงเทพมหานคร เม่ือปี พ.ศ. ๒๕๓๘ จึงมีพระราชดาริ \"โครงการแกม้ ลิง\" ข้ึน เม่ือวนั ท่ี ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๓๘ โดยใหจ้ ดั หาสถานท่ีเก็บกกั น้าตามจุดตา่ งๆ ในกรุงเทพมหานคร เพ่ือรองรบั น้าฝนไวช้ ว่ั คราว เม่ือถึงเวลาท่ีคลองพอจะ ระบายน้าไดจ้ ึงคอ่ ยระบายน้าจากสว่ นท่ีกกั เก็บไวอ้ อกไป จึงสามารถลดปัญหาน้าทว่ มได้ ทง้ั น้ี นอกจากโครงการแกม้ ลิงจะมีข้ึนเพ่ือชว่ ยระบายน้า ลดความรุนแรงของปญั หาน้าทว่ มในพ้ืนท่ีกรุงเทพมหานครและบริเวณใกลเ้ คียงแลว้ ยงั เป็นการชว่ ยอนุรกั ษน์ ้าและส่ิงแวดลอ้ มอีกดว้ ย โดยน้าท่ีถูกกกั เก็บไว้ เม่ือถูกระบายสูค่ ูคลอง จะไปบาบดั น้าเน่าเสียใหเ้ จือจางลง และในท่ีสุด น้าเหลา่ น้ีจะผลกั ดนั น้าเสียใหร้ ะบายออกไปได้

การของในโครงหลวงราชการท่ี 9 เก่ียวกบั ดนิ และนา้  แนวคิดของโครงการแกม้ ลิง แนวคิดของโครงการแกม้ ลิง เกิดจากการท่ีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระราชดาริถึงลิงท่ีอมกลว้ ยไวใ้ นกระพุง้ แกม้ ได้ คราวละมากๆ จึงมีพระราชกระแสอธิบายวา่ \"ลิงโดยทว่ั ไปถา้ เราสง่ กลว้ ยให้ ลิงจะรีบปอกเปลือก เอาเขา้ ปากเค้ียว แลว้ นาไปเก็บไวท้ ่ีแกม้ กอ่ น ลิงจะทาอยา่ งน้ีจนกลว้ ยหมดหวีหรือเต็มกระพุง้ แกม้ จากนนั้ จะคอ่ ยๆ นาออกมาเค้ียวและกลืนกินภายหลงั \" ดว้ ยแนวพระราชดาริน้ี จึงเกิดเป็น \"โครงการแกม้ ลิง\" ข้ึน เพ่ือสรา้ งพ้ืนท่ีกกั เก็บน้า ไวร้ อการระบายเพ่ือใชป้ ระโยชน์ในภายหลงั

การของในโครงหลวงราชการท่ี 9 เก่ียวกบั ดนิ และนา้  ลกั ษณะและวิธีการของโครงการแกม้ ลิง ลกั ษณะของโครงการแกม้ ลิงจะดาเนินการระบายน้าออกจากพ้ืนท่ีตอนบน เพ่ือใหน้ ้าไหลลงคลองพกั น้าท่ีชายทะเล จากนน้ั เม่ือระดบั น้าทะเล ลดลงจนต่ากวา่ น้าในคลอง น้าในคลองจะไหลลงสูท่ ะเลตามธรรมชาติ ตอ่ จากนั้นจะเร่ิมสูบน้าออกจากคลองท่ีทาหนา้ ท่ีแกม้ ลิง เพ่ือทาใหน้ ้า ตอนบนคอ่ ย ๆ ไหลมาเอง จึงทาใหเ้ กิดน้าทว่ มพ้ืนท่ีลดนอ้ ยลง จนในท่ีสุดเม่ือระดบั น้าทะเลสูงกวา่ ระดบั ในคลอง จึงปิดประตูระบายน้า โดยให้ น้าไหลลงทางเดียว (One Way Flow)

การของในโครงหลวงราชการท่ี 9 เก่ียวกบั ดินและนา้  ประเภทของโครงการแกม้ ลิง โครงการแกม้ ลิงมี ๓ ขนาด คือ ๑. แกม้ ลิงขนาดใหญ่ ( Retarding Basin) คือ สระน้าหรือบึงขนาดใหญ่ ท่ีรวบรวมน้าฝนจากพ้ืนท่ีบริเวณนน้ั ๆ โดยจะกกั เก็บไวเ้ ป็น ระยะเวลาหน่ึงกอ่ นท่ีจะระบายลงสูล่ าน้า พ้ืนท่ีเก็บกกั น้าเหลา่ น้ีไดแ้ ก่ เข่ือน อา่ งเก็บน้า ฝาย ทุง่ เกษตรกรรม เป็นตน้ ลกั ษณะส่ิงกอ่ สรา้ ง เหลา่ น้ีจะมีวตั ถุประสงคอ์ ่ืนประกอบดว้ ย เชน่ เพ่ือการชลประทาน เพ่ือการประมง เป็นตน้ ๒. แกม้ ลิงขนาดกลาง เป็นพ้ืนท่ีชะลอน้าท่ีมีขนาดเล็กกวา่ กอ่ สรา้ งในระดบั ลุม่ น้า มกั เป็นพ้ืนท่ีธรรมชาติ เชน่ หนอง บึง คลอง เป็นตน้ ๓. แกม้ ลิงขนาดเล็ก (Regulating Reservoir) คือแกม้ ลิงท่ีมีขนาดเล็กกวา่ อาจเป็นพ้ืนท่ีสาธารณะ สนามเด็กเลน่ ลานจอดรถ หรือสนามในบา้ น ซ่ึงตอ่ เขา้ กบั ระบบระบายน้าหรือคลอง ทงั้ น้ีแกม้ ลิงท่ีอยูใ่ นพ้ืนท่ีเอกชน เรียกวา่ \"แกม้ ลิงเอกชน\" สว่ นท่ีอยูใ่ นพ้ืนท่ีของราชการและรฐั วิสาหกิจจะเรียกวา่ \"แกม้ ลิงสาธารณะ\"

การของในโครงหลวงราชการท่ี 9 เก่ียวกบั ดนิ และนา้  การจดั หาและออกแบบโครงการแกม้ ลิง การพิจารณาจดั หาพ้ืนท่ีกกั เก็บน้านั้น ตอ้ งทราบปริมาตรน้าผิวดินและอตั ราการไหลผิวดินท่ีมากท่ีสุดท่ีจะยอมปลอ่ ยใหอ้ อกไดใ้ นชว่ งเวลาฝนตก โดยส่ิง สาคญั คือตอ้ งจดั หาพ้ืนท่ีกกั เก็บใหพ้ อเพียง เพ่ือจะไดไ้ มเ่ ป็นปัญหาในการระบายน้า ปัจจุบนั มีแกม้ ลิงทงั้ ขนาดเล็ก และขนาดใหญก่ ระจายอยูท่ ว่ั กรุงเทพมหานคร กวา่ 20 จุด ซ่ึงสว่ นใหญเ่ ป็นพ้ืนท่ีทางฝ่งั ธนบุรี เน่ืองจากมีคลองจานวนมาก และระบายน้าออกทางแมน่ ้าเจา้ พระยา ทงั้ น้ีโครงการแกม้ ลิงแบง่ เป็น ๒ สว่ นคือ โครงการระบายน้าในพ้ืนท่ีฝ่งั ตะวนั ออกของแมน่ ้าเจา้ พระยา โดยจะใชค้ ลองท่ีตง้ั อยูช่ ายทะเลดา้ นจงั หวดั สมุทรปราการ ทาหนา้ ท่ีเป็นทางเดินของน้า ตง้ั แตจ่ งั หวดั สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร สว่ นท่ีสอง คือคลองในพ้ืนท่ีฝ่งั ตะวนั ตกของแมน่ ้าเจา้ พระยา ซ่ึงจะใชค้ ลองมหาชยั คลองสนามชยั และแมน่ ้าทา่ จีน ทาหนา้ ท่ีเป็นคลองรบั น้าในพ้ืนท่ี ตง้ั แตจ่ งั หวดั อา่ งทอง อยุธยา ปทุมธานี นครปฐม และกรุงเทพมหานคร แลว้ ระบายลงสูท่ ะเลดา้ นจงั หวดั สมุทรสาคร นอกจากน้ียงั มีโครงการแกม้ ลิง \"แมน่ ้าทา่ จีนตอนลา่ ง\" เพ่ือชว่ ยระบายน้าท่ีทว่ มใหเ้ ร็วข้ึน โดยใชห้ ลกั การควบคุมน้าในแมน่ ้าทา่ จีน คือ เปิดการระบาย น้าจานวนมากลงสูอ่ า่ วไทย เม่ือระดบั น้าทะเลต่า ซ่ึงโครงการน้ีจะประกอบไปดว้ ย ๓ โครงการในระบบคือ ๑.โครงการแกม้ ลิง \"แมน่ ้าทา่ จีนตอนลา่ ง ๒.โครงการแกม้ ลิง \"คลองมหาชยั -คลองสนามชยั \" ๓.โครงการแกม้ ลิง \"คลองสุนัขหอน\"

การของในโครงหลวงราชการท่ี 9 เก่ียวกบั ดนิ และนา้  ท่ีมา : http://km.rdpb.go.th/โครงการแกม้ ลิง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook