Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รู้จักชัยฏอน

รู้จักชัยฏอน

Published by Ismail Rao, 2020-06-01 03:13:52

Description: รู้จักขัยฏอน

Search

Read the Text Version

รจู ักชยั ฏอน ธาตแุ ท กลอุบาย วิธีตอสูรับมือ วิเคราะหเนื้อหาจากอัลกุรอานและสุนนะฮ รศ.ดร.อิสมาอีลลตุ ฟ จะปะกยี า เขียน ซฟุ อมั อุษมาน บรรณาธิการแปล

รูจักชยั ฏอน : ธาตุแท กลอบุ าย วิธีตอสูรับมอื วิเคราะหเนื้อหาจากอัลกุรอานและสุนนะฮ รศ.ดร.อิสมาอลี ลตุ ฟี จะปะกียา เขียน แปลโดย อษุ มาน อดิ รีส | มคุ ลิศ ดอเลาะ | รอมลี ยโู ซะ อิสมาอีล ราโอ | สฮุ าดา ยามา | อลาวี สาแม ในนามนกั วชิ าการมลู นิธิวทิ ยาทาน และ Home of Sunnah ซุฟอมั อษุ มาน บรรณาธิการ พิมพ์ครัง้ แรก 2,000 เลม่ ซุลเกาะอดฺ ะฮ์ 1440 / กรกฎาคม 2019 จดั พิมพ์ภายใต้ โครงการกองทนุ ดาอยี ์เพ่ือการจดั พิมพ์หนงั สอื e-daiyah.com อํานวยการโดย ท่ีปรึกษา มลู นิธิวิทยาทาน สํานกั เลขานกุ าร ม.ฟาฏอนี www.iqra.in.th www.ftu.ac.th ร่วมสนบั สนนุ การจดั พิมพ์โดย 2

8 3

สารบัญ คาํ นําบรรณาธิการ........................................................................................ 7 คาํ นําทีมงานแปล.......................................................................................... 9 บทนําผู้เขยี น............................................................................................... 11 สาเหตแุ ละวตั ถปุ ระสงค์ของเขียนหนงั สือ.................................................... 13 ความสําคญั ของหนงั สือ ............................................................................ 15 วิธีการเขียนและเนือ้ หา.............................................................................. 16 อปุ สรรคในการจดั เตรียมเนือ้ หา ................................................................. 18 ชโุ กรและขอบคณุ ...................................................................................... 19 หน่ึง ความหมายของชัยฏอนและอิบลีส .................................................... 21 ชยั ฏอนและอิบลีสในอลั กรุ อาน.................................................................. 23 สนั ดานของอิบลีส ..................................................................................... 25 รูปลกั ษณ์ของชยั ฏอน................................................................................ 27 สอง เร่ืองราวของอบิ ลสี กับนบีอาดัม......................................................... 31 สาม อบิ ลีสถกู ขับไล่ออกจากสวรรค์ เพราะความยโสโอหงั และความอจิ ฉาริษยา......................................................................... 35 ความยโสโอหงั นําไปสกู่ ารปฏิเสธ............................................................... 38 อนั ตรายของความอิจฉาริษยาและความหย่ิงยโส ........................................ 40 ส่ี อบิ ลีสทาํ ให้อาดมั ออกจากสวรรค์สู่โลก ................................................. 43 คําสง่ั เสียของอลั ลอฮ์................................................................................. 43 การกระซิบกระซาบและการลอกหลวงของอิบลีส......................................... 45 อลั ลอฮ์ทกั ทว้ งความผิดพลาดของอาดมั ..................................................... 47 คําสง่ั ใหอ้ อกจากสวรรค์............................................................................. 48 4

อาดมั และเหาวาอ์เตาบตั กลบั เนือ้ กลบั ตวั ................................................... 49 ความแตกต่างระหว่างอิบลีสกบั อาดมั ........................................................ 50 ห้า อาดมั ถกู ส่งมายงั โลกพร้อมกับทางนําจากอลั ลอฮ์ ............................... 53 หก ข้อตกลงอันตรายระหว่างอัลลอฮ์กบั อบิ ลีสว่าด้วยลกู หลานอาดมั ...... 57 เจด็ ความสมั พนั ธ์ของชยั ฏอนกับลูกหลานอาดมั ..................................... 65 ศูนย์บญั ชาการของอิบลีส.......................................................................... 65 ทีท่ ํางานของชยั ฏอน.................................................................................. 66 จงเป็นศตั รูกบั ชยั ฏอน ............................................................................... 68 แปด วธิ ีการเเละเป้าหมายการล่อลวงของชยั ฏอนต่อลกู หลานอาดมั ....... 75 1. ทําใหม้ นษุ ย์เขวและไถลออกจากทางสวรรค์ ........................................... 76 2. ทําใหห้ ลงจากแนวทางทีเ่ ทีย่ งตรง........................................................... 77 3. ยยุ งใหเ้ กิดการบาดหมางและโกรธเคือง.................................................. 78 4. กีดขวางมนษุ ย์จากหนทางแห่งการระลึกถึงอลั ลอฮ์ ................................. 79 5. ทําใหผ้ ตู้ ามมนั กลวั ทีจ่ ะเชื่อฟงั อลั ลอฮ์.................................................... 80 6. ตกแต่งความชวั่ ใหด้ ูสวยงามยวั่ ยวน....................................................... 81 7. เปิ ดเผยส่วนของร่างกายทีต่ อ้ งปกปิ ดและอวยั วะเพศ............................... 84 8. ดดั แปลงการสร้างหรือศาสนาของอลั ลอฮ์............................................... 85 9. สร้างฟิ ตนะฮ์ใหเ้ กิดความโกลาหลและหายนะต่อชีวิต.............................. 85 10. เสีย้ มใหเ้ กิดความขดั แยง้ และการจลาจล.............................................. 86 11. สญั ญาลมและโกหกหลอกลวง กระตนุ้ การขีเ้ หนียวและการฟ่มุ เฟือย ..... 89 12. เยินยอและใหค้ วามหวงั ทีเ่ พอ้ ฝนั หลอกลวง........................................... 91 13. กระซิบกระซาบใหเ้ คลือบแคลง/สงสยั /ลงั เล.......................................... 91 14. ทําใหม้ นษุ ย์หลงลืมจากการรําลึกถึงอลั ลอฮ์หรือหนา้ ทีค่ วรปฏิบตั ิ .......... 93 15. กระตนุ้ ใหม้ ีมมุ มองทีผ่ ิดเพีย้ นและชว่ั ร้าย.............................................. 94 16. สอนไสยศาสตร์ใหแ้ ก่มนษุ ย์ ................................................................ 95 5

17. สงั่ ใชใ้ หก้ ระทําความชว่ั เช่น การผิดประเวณี ดืม่ สรุ า การพนนั และกล่าว อา้ งอลั ลอฮ์โดยปราศจากความรู้................................................................ 96 18. สอนใหม้ นษุ ย์ทรยศอลั ลอฮ์ ................................................................. 97 19. เชิญชวนสาวกมนั สู่ขมุ นรก .................................................................. 98 20. บิดเบือนความเขา้ ใจผูอ้ ่านอลั กรุ อานใหห้ นั เหจากเปา้ ประสงค์แทจ้ ริง..... 98 เก้า ประตูท่ชี ยั ฏอนเข้าสงิ มนุษย์.............................................................. 101 สบิ ตัวอย่างการล่อลวงของชยั ฏอน ......................................................... 105 1. การล่อลวงของชยั ฏอนต่อบรรดาเราะสลู อะลยั ฮิมสุ สลาม..................... 105 2. การล่อลวงของชยั ฏอนต่อบรรดาเศาะหาบะฮ์มือธนูในสมรภูมิอหุ ดุ ........ 107 3. การล่อลวงของชยั ฏอนต่อมนษุ ย์ทว่ั ๆ ไป .............................................. 108 สิบเอด็ วิธีการป้องกันตัวเองจากการล่อลวงของชัยฏอน........................ 111 1. จริงจงั ในการต่อสูก้ บั ชยั ฏอน ............................................................... 111 2. กล่าว อิสติอาซะฮ์............................................................................... 112 3. การอ่านสเู ราะฮ์ อลั -มเุ อาวซิ าต (อลั -อิคลาส, อลั -ฟะลกั และอนั -นาส).. 117 4. อ่านบิลมิลลาฮ์ ................................................................................... 118 5. อาซานและอิกอมะฮฺ ........................................................................... 123 6. การส�ุ ูดต่ออลั ลอฮ์ ............................................................................ 124 7. การอ่านอลั กรุ อาน .............................................................................. 125 8. การอา่ นอายะฮ์กรุ สีย์ .......................................................................... 126 9. อิคลาศ บริสทุ ธิ์ใจต่ออลั ลอฮ์ ............................................................... 127 10. ทํางานเป็นญะมาอะฮ์ ....................................................................... 129 11. ซิกิรและรกั ษาคําสง่ั ของอลั ลอฮ์ ......................................................... 130 สิบสอง คาํ ส่ังเสยี ของอัลลอฮ์แก่ลกู หลานอาดมั ...................................... 135 สบิ สาม บทส่งท้าย.................................................................................... 141 6

คาํ นําบรรณาธิการ อลั หมั ดุลิลลาฮ์ หนังสือ “รู้จกั ชัยฏอน” เล่มนี ้ เป็นผลงานอีกเลม่ หนึง่ ท่ีได้รับ ความไว้วางใจจากผ้เู ขียน รองศาสตราจารย์ ดร.อิสมาอีลลตุ ฟี จะปะกียา ให้ ทีมงาน E-daiyah รับผิดชอบแปลเป็นภาษาไทยและจดั พิมพ์เป็นเล่ม ชื่อเต็ม ในภาษามลายขู องหนงั สือเลม่ นีแ้ ปลเป็นไทยวา่ “ข้อเท็จจริงของชยั ฏอนผู้ถกู สาปแชง่ การลอ่ ลวงของมนั และวิธีการรับมอื มนั ตามคาํ สอนของอลั ลอฮ์และ เราะสูลของพระองค์ ศ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวะสลั ลมั ” ซงึ่ ทางผู้จดั พิมพ์ได้ปรับ ใหมใ่ ห้สนั้ ลงเพ่ือให้เรียกและจดจําง่ายขนึ ้ โดยคงความหมายและนยั เดิมของ มนั ไว้ทกุ ประการ ในการทํางานครัง้ นี ้เราได้รับความร่วมมือจากนักแปลอาสารุ่นใหม่ มาช่วยแบ่งเบาภาระการถอดความหนงั สือจากภาษามลายูเป็นภาษาไทย เป็นนกั แปลจากกลมุ่ บ้านอสั -สนุ นะฮ์ Home of Sunnah ความน่าสนใจของหนงั สือเลม่ นีอ้ ย่ทู ี่เนือ้ หาค่อนข้างอดั แน่นสมบูรณ์ แม้จะมีขนาดเล่มเล็กกระทดั รัดเพียงแค่ร้ อยกว่าหน้าเท่านนั้ แต่ได้บรรจุบท วิเคราะห์ จากอัลกุรอานและสุนนะฮฺ ที่สาธยายข้ อเท็จจริ งเก่ี ยวกับชัยฏอน อย่างถึงแก่น เหมาะที่จะใช้เป็นคู่มือประจําตัวและประจําบ้าน หรือเป็น หนงั สอื ท่ีใช้สอนในโรงเรียนหรือตามมสั ยิดได้เป็นอย่างดี ในฐานะบรรณาธิการที่ดูแลการทํางานภาพรวมของนกั แปลในทีม รวมถึงการจดั รูปเล่มและการจดั พิมพ์ พบวา่ เนือ้ หาต่างๆ ที่ถกู ยกมาอธิบาย 7

ในหนังสือเล่มนีเ้ ป็นส่ิงที่สามารถเข้าใจได้ง่ายและกระชบั แต่ก็ยงั สามารถท่ี จะนําไปต่อยอดด้วยการอธิบายเพ่ิมเติมได้อีกมาก สําหรับนักศึกษาหรือ ผ้ ูวิจัยที่ต้ องการใช้ เป็ นแหล่งอ้ างอิงต้ นฉบับเพ่ือการค้ นคว้ ารายละเอียดให้ มากยิ่งขนึ ้ ขอกลา่ วขอบคณุ ทีมงานนกั แปลท่ีอดทนและมีสว่ นร่วมในการจดั ทํา หนงั สอื เลม่ นีจ้ นสําเร็จลลุ ว่ งด้วยดี แม้จะมอี ปุ สรรคและความยากลําบากบ้าง จนล่าช้าในการจดั พิมพ์จากกําหนดการที่ตงั้ ไว้ ขอบคณุ ผู้เขียนที่ได้ให้ความ ไว้วางใจและมอบหมายให้รับผิดชอบอะมานะฮ์สําคญั ครัง้ นีอ้ ีกครัง้ ขอบคุณ ทกุ ท่านท่ีคอยเป็นกําลงั ใจให้กนั ด้วยดเี สมอมา เราหวงั วา่ หนงั สอื เลม่ นีจ้ ะเป็นคมู่ อื อยา่ งดีให้กบั มสุ ลิมทุกคนในการ เผชิญหน้าตอ่ ส้กู บั ชยั ฏอน ศตั รูคปู่ ฏิปักษ์ตลอดกาลของบรรดาผ้ศู รัทธา และ ขอวิงวอนดอุ าอ์ตอ่ อลั ลอฮ์ให้ประทานผลแห่งความดีงามจากหนงั สือเลม่ นีแ้ ก่ ผ้อู า่ นทกุ คนสบื ไป อามีน ซฟุ อมั อษุ มาน บรรณาธิการ 8

คํานาํ ทีมงานแปล 9

10

บทนําผเู ขยี น ‫ﻩﻻ‬،،‫ﻥ َْ ََﻮﻭَﻭﻣَﻻﺭَُْﻋِﺏَُﺇﻦَ�ِﻟﺳﺇَََْ�ﻟ�ﻪْﻮُْ�ﻟﻴِﺁِِﺇُِﻟﺪﻪﻪ ِِﱠﻪ‬،‫ﺘ‬،ُْ‫َِْﻤﻔﺕَﺴً َﻭَﺪ�َﺃﻰْﺃﺍ� ُِْْﻋﻣﺪﺷ َََْﻳهﻋَﻤِْﺤﺎُﺒﻪِﱠﺪﻟُﻤَﺪَﻨﺃٍﻭََُﺎﻧﺪﻩ‬.‫ﻔﻀﺎُِﻨﻠٌََِﻭَﻪﻭْﺴﺃﻞ َﻨََْﺣﺎﻭََﺷِ�ﻓﺒََْهﻴْﻭَُِﻼﺏﺴِﺪﻣَﻨﺘََْﺎهَْﺃﻦﻐﺎﺍِِﱠْﻔﺩﻥﳌَُُ َﺮﺳُﻱُِّﻩﻱْﻣﺼََﺌﻟ ََﻭﺎَُﺤ�َﻪﻄ ﱠ‬:ْ‫ْﻨُﻴ‬،‫ﻩُِﺮََْﺷ�َﺃَﻋ َُﻭﱠﻭََ�َﻣﺮ�ْﻣﺎﻚﻭ�َِْْ�َﺭﻦﺴَﻧﻟَُِْﺘَﺒﻌﻳُﺃِّﻪِْﻱُﻧﻌَﺪ‬،.ُ ‫ََََﺍﺍ ْﻭﻭَﻟ��ﻠََُُُُﷲﷲﻌﺡه�ْْﱠَﻤْﻮَﻓﻢُﺡُﻭﺫِﺪﺒَْﻼِِﺣﺑَﻪ ُﺻَﱠﺎ َﻣﺪِِﺃُّ�ﻞﻩِِْ َﺟ�ﻧَﻀ َﻭﻤْﱠََِﻻﺤﻞﻣِﺳﻌََِّْْﻤ�ﻟﻠﻦََُُْﻪﺪﻢﺷﻥ‬ การสรรเสริญทัง้ มวลเป็นเอกสิทธ์ิของอัลลอฮ์ แท้จริงอัลลอฮ์ทรง สร้ างมนุษย์เพื่อให้เคารพภักดี/อิบาดะฮ์ต่อพระองค์เพียงผู้เดียว ซ่ึงด้วยการ เคารพภกั ดีดงั กล่าวทําให้มนุษย์ได้กลบั คืนส่สู วรรค์อนั เป็นสถานท่ีพํานกั เดิม ของบรรพชนและเป็นจดุ เริ่มต้นของชีวติ เขา เพียงแต่ ด้วยหิกมะฮ์/วิทยปัญญาของอลั ลอฮ์ซ่งึ ไม่มีผู้ใดสามารถ ล่วงรู้ได้นอกจากพระองค์ พระองค์ได้ทรงสร้ างชัยฏอนให้มาเป็นศัตรูกับ มนุษย์นับตัง้ แต่เร่ิมสร้ างนบีอาดัมและนางเหาวาอ์สองสามีภรรยาผู้เป็น บรรพบรุ ุษต้นกําเนิดของมนษุ ย์ที่อาศยั อย่ใู นสวรรค์ จนกระทง่ั ทงั้ สองถกู นําลง มายงั โลกมนษุ ย์ โดยท่ีทงั้ สองคนและลกู หลานยงั คงเป็นศตั รูกบั ชยั ฏอนอย่าง ตอ่ เน่ืองจนกวา่ จะเสยี ชีวติ และจะได้เข้าพํานกั ในสวรรค์อีกครัง้ พร้อมกบั บิดา มารดาคแู่ รกของพวกเขา ถ้าหากพวกเขาประสบความสําเร็จในการต่อส้แู ละ รับมือกับชยั ฏอน หรืออาจจะต้องเข้านรกอนั เป็นสถานที่พํานักของชัยฏอนผู้ 11

ทรยศและเป็นสถานท่ีสุดท้ายสําหรับมนุษย์ ถ้าพวกเขาเพลี่ยงพลํา้ และ พ่ายแพ้ต่อการล่อลวงของชัยฏอน (ขออลั ลอฮ์โปรดคุ้มครองเราให้พ้นจาก ชยั ฏอนผู้ถูกสาปแช่ง) ความพ่ายแพ้ทงั้ หลายล้วนเป็นผลมาจากหลายปัจจยั ในจํานวนนนั้ กค็ ือ 1. ไม่รู้จักข้อเท็จจริงของชัยฏอนผู้เป็นปฏิปักษ์และศัตรูของมนุษย์ ตลอดจนรูปแบบและวิธีการลอ่ ลวงของมนั 2. ไมร่ ู้จกั วธิ ีการที่ถกู ต้องในการเอาชนะการลอ่ ลวงของชยั ฏอน 3. ไม่มีความจริงจังในการเป็นศัตรูและปฏิปักษ์กับชัยฏอนท่ีชอบ ลอ่ ลวงมนษุ ย์อยเู่ สมอ พงึ ทราบว่าไม่มีคําสอนท่ีเท่ียงตรงเกี่ยวกับอิบลีสและความสมั พนั ธ์ ของมนั กับลูกหลานอาดมั นอกจากสิ่งท่ีอัลลอฮ์พระผู้สร้ างได้ทรงเล่าไว้ใน คําภีร์อลั กุรอานซึ่งเป็นคําพูดที่สจั จริงท่ีสดุ และได้รับการอธิบายโดยหะดีษ ของท่านเราะสลู ลุ ลอฮ์ ศ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวะสลั ลมั ซงึ่ เป็นผู้ชีน้ ําท่ีประเสริฐ ที่สดุ ดังนัน้ ผู้เขียนจึงคิดว่าเป็ นหน้ าที่รับผิดชอบของผู้เขียนที่ต้ อง เรียบเรียงค่มู ือเล่มหนึ่ง โดยคดั มาจากคําสอนของอลั กุรอานและสนุ นะฮ์ บน พืน้ ฐานการอธิบายของบรรดาอลุ ะมาอ์สะลฟั ท่ีน่าเช่ือถือเกี่ยวกบั ข้อเท็จจริง ของชยั ฏอนและรูปแบบการล่อลวงต่างๆ ของมนั รวมทัง้ วิธีการที่ถูกต้องใน การเอาชนะการล่อลวงของชัยฏอน โดยผ่านความพยายามเป็นศัตรูกับ ชยั ฏอนอย่างแท้จริงและจริงจัง –ด้วยความเห็นชอบของอัลลอฮ์และความ ช่วยเหลือของพระองค์- เพื่อให้ประสบความสําเร็จในการข้ามทะเลแห่ง ฟิ ตนะฮ์ที่เกิดจากการย่วั ยุและการล่อลวงของชัยฏอน ตลอดระยะเวลาการ ดําเนินชีวิตบนโลกนี ้ ผลสุดท้ายเราหวังว่าจะสามารถรอดพ้นจากการเป็น 12

พลพรรคท่ีต้องพํานักกับชัยฏอนในนรก และได้รับการตอบแทนเป็นสวรรค์ จากอลั ‫ﻪﺓ‬ลِِ‫ﻟﻭ‬อَِ‫ﺪﺍﺁ‬ฮ�َ ์ส‫ﻋ ََ�ﻋ‬บืَ ‫�ﻭ‬ไَ �ปَ‫َ�ﻦ� َِﻧﻋ َِﺒﺒ ِّﻱﺎ ََﻨﺩ ِﺎﺗ ُ َﻣﻚ َﺤ َﱠﻭﻤ ٍَﻋﺪ‬.ِ‫�ﺷ ََْﻭﻜﺭ ِِّﺮَﺏﺻَﱠ�ﻙﺍ ْﻟ� َ َﻌﻭﺎَُﺣِﳌُ ْﷲ�ْ َﺴ َﻥﻋ‬،ُِ ‫ﻔ� َْﻮَِﻭﺍﺫﺯْ ْ�ِﻛﺑ َﺎِﺡْﺮ�َْﻤَﻙُﺝ ﱠﺪﻨ َِﻭﺔ‬،َ ‫َﺳَﱠﻠﻭَﺍﻋ ََْﻟ�ﻢ‬.‫ََﺍﺍﻭﻟﻟ ﱠﻠ ﱠَُهﺸ� َﱠﻴْﻢﺡﺎ ِﺒَِﺃِﻃ ْﻪِ�ﻋ َِﱠﻨﻭﻥﺎ‬ สาเหตุและวัตถุประสงคของเขียนหนังสือ เหตผุ ลและเป้าหมายหลกั ท่ีผลกั ดนั ให้ผู้เขียนต้องประพนั ธ์หนงั สือ เลม่ นี ้เน่ืองจาก 1. เท่าที่ผู้เขียนทราบยังไม่มีหนังสือที่ประพันธ์เกี่ยวกับเรื่องนี ้ โดยตรง ทงั้ ท่ีปัตตานีหรือในประเทศไทย เชน่ เดยี วกบั ในประเทศ อาเซียน 2. เพื่อให้ประชาชนท่ัวไปได้เรียนรู้ เพราะการทําความรู้จักกับ ข้อเท็จจริงของชยั ฏอนที่คอยกระซิบกระซาบและล่อลวงมนษุ ย์ อยู่ตลอดเวลานับตัง้ แต่ได้ รับการปฏิสนธิในครรภ์มารดา จนกระทั่งเสียชีวิตเป็ นสิ่งท่ีจําเป็ นสําหรั บการดําเนินชีวิตของ มนษุ ย์ และถือวา่ เป็นฟัรฎอู ยั น์ที่ทกุ คนจําเป็นต้องเรียนรู้ 3. อลั กุรอานและสนุ นะฮ์ได้สอนบทเรียนท่ีแท้จริงเก่ียวกบั ชยั ฏอน ซึ่งโดยภาพรวมแล้วประชาชนท่ัวไปทัง้ ท่ีเป็นมุสลิมและไม่ใช่ มสุ ลิมอนั เป็นเป้าหมายหลกั ของคําสอนอลั กุรอานและสนุ นะฮ์ ยงั ไมเ่ ข้าใจอย่างถอ่ งแท้ 13

4. ชยั ฏอนเป็นศตั รูของอลั ลอฮ์ เป็นศตั รูของเราะสลู และเป็นศตั รู ของมนุษย์ทุกคนในทุกระดับชัน้ แล้วจะทําเพิกเฉยปล่อยบ่าว ขอ งอัล ล อ ฮ์ ไ ม่มีค ว าม ร้ ู เก่ี ยว กับ ศัต รู ข อง เ ขา โ ดย ป ร า ศจ า ก หนังสือที่ให้ ความกระจ่างต่อข้ อเท็จจริ งของชัยฏอนที่ นอกเหนือจากอลั กรุ อานและสนุ นะฮ์กระนนั้ หรือ 5. เพื่อเป็นคู่มือประจําตัวและครอบครัวในการเผชิญหน้าและ เอาชนะการรุกรานของชัยฏอน เพราะการเพล่ียงพลํา้ ต่อการ รุกรานชัยฏอนจะนําพาสู่ความหายนะทัง้ ในโลกนีแ้ ละวัน อาคิเราะฮ์ และบ่าวแตล่ ะคนจะไม่ไปถงึ สวรรค์จนกว่าเขาจะมี ชยั เหนือการรุกรานของชยั ฏอน 6. เพ่ือให้แต่ละคนต่างรีบกลบั คืนสู่อลั ลอฮ์และความเมตตาของ พระองค์ นั่นคือกลบั คืนส่อู ลั กุรอานและสุนนะฮ์ ด้วยการอ่าน ใคร่ครวญ ทําความเข้าใจ ท่องจํา น้อมนําปฏิบตั ิและเชิญชวน ผ้อู ่ืนสอู่ ลั กรุ อานและสนุ นะฮ์ผา่ นการอธิบายของบรรดาอลุ ะมาอ์ ผู้ที่ได้รับการรับรองและน่าเช่ือถือ เน่ืองจากตราบใดท่ีมนษุ ย์ไม่ ปลอดภยั จากความชว่ั ร้ายของชยั ฏอนผ้ถู กู สาปแช่ง มนษุ ย์ก็จะ ไ ม่ส า ม า ร ถ จ ะ ใ ก ล้ ชิ ด อัล กุร อ า น ไ ด้ เ ห มื อ น ที่ ท่ า น น บี ศอ็ ลลลั ลอฮุอะลยั ฮิวะสลั ลมั และบรรดาเศาะหาบะฮ์ได้ใกล้ชิด กบั อลั กรุ อานและสนุ นะฮ์ท่ีเป็นทางนําของพวกเขา อลั ลอฮ์ตรัสวา่ [١٢٣ :‫ ﴾ ]ﻃﻪ‬١ �ٰ َ ‫﴿ َ� َم ِن ٱ َّ َب َع ُه َدا َي فَ َ� َض لِ ُّ َو َ� � َ ۡش‬ 14

ความว่า “ดงั นนั้ ผู้ใดปฏิบัติตามทางนําของเรา(อลั กุรอานและ สุนนะฮ์) เขาก็จะไม่หลงทางและไม่อัปยศ(บนโลกนีแ้ ละ วนั อาคิเราะฮ์)” (ฏอฮา : 123) ความสําคัญของหนังสือ ในเม่ือมนุษย์ทุกคนมีหน้าที่และจําเป็น (วาญิบอยั นีย์) ต้องเรียนรู้ และสะสมเสบียงชีวิตในการเผชิญหน้ ากับการล่อลวงของชัยฏอนผู้ถูก สาปแช่งอย่างมีชยั และประสบความสําเร็จ ดงั นนั้ การทําความเข้าใจเนือ้ หา ของหนังสือเล่มนีจ้ ึงเป็นสิ่งท่ีมนุษย์ทุกคนจําเป็น (วาญิบอยั นีย์) ต้องเรียนรู้ เชน่ เดยี วกนั เพราะกฎทางนิตศิ าส«‫ﺐ‬ตٌ ร‫์ﺟ‬รِ ะ‫ﻭﺍ‬บَ ‫ﻮ‬วุ َ า่‫» َﻣﺎ َﻻ َﻳ ِﺘ ﱡﻢ ﺍ ْﻟ َﻮﺍ ِﺟ ُﺐ ِﺇﱠﻻ ِﺑ ِﻪ َﻓ ُه‬ ความวา่ “สิ่งใดท่ีส่ิงท่ีเป็นวาญิบไม่สามารถเกิดความสมบรู ณ์ ได้นอกจากต้องอาศัยส่ิงนัน้ แสดงว่าสิ่งนัน้ เป็นส่ิงท่ีจําเป็น (วาญิบ) ด้วย” ไมเ่ พียงเท่านนั้ ยงั จําเป็นต้องนําเนือ้ หาของหนงั สือเลม่ นีไ้ ปสอนบ่าว ของอลั ลอฮ์ทุกคนท่ีเป็นเหยื่อของชยั ฏอน เริ่มต้นสอนตงั้ แต่เป็นทารกอยู่ใน ครรภ์มารดาและเด็กเล็ก ไม่ว่าจะเป็นบิดามารดาที่บ้าน หรือบรรดาอิมาม หรือครูบาอาจารย์ ท่ีมสั ยิดและโรงเรียน ในระดบั อนุบาลเป็นต้นไป หลงั จาก นัน้ ก็ให้นึกถึงข้อเท็จจริงของชัยฏอนอยู่เสมอ (ขออัลลอฮ์โปรดค้มุ ครองเรา จากความชั่วร้ ายของมัน) ผ่านการอ่านและสดับฟังโองการอัลกุรอาน ของอลั ลอฮ์จากอายะฮ์ตา่ งๆ อยา่ งใคร่ครวญทงั้ ในและนอกละหมาด 15

การปฏิบัติเช่นนีต้ ้องให้เกิดขึน้ ในท่ัวทุกประเทศบนโลกนี ้ ไม่ใช่ เฉพาะที่ปัตตานีภาคใต้ของประเทศเพียงแห่งเดียวเท่านัน้ เพราะผู้เขียน เช่ือม่ันว่าความผิดพลาดท่ีเกิดจากการกระซิบกระซาบของชัยฏอนผู้ถูก สาปแช่งไม่ได้เกิดขนึ ้ ในเพียงบางประเทศเท่านนั้ แต่ทวา่ มนั เกิดขึน้ เกือบทว่ั ทกุ มมุ โลก วลั ลอฮอุ ะอฺลมั วะฮวุ ลั มสุ ตะอาน (พระองค์เท่านนั้ ท่ีทรงรอบรู้ และ พระองค์เท่านนั้ ท่ีเราขอความช่วยเหลือ) ขอให้พวกเราทุกคนตระหนักว่า ขนาดนบีอาดมั และท่านหญิงเหา วาอ์ ท่ีอาศัยอยู่ใน สวรรค์ ยังถูกขับ ออกไป อยู่บนโลกมนุษย์ -ด้ วยหิกมะ ฮ์ ของอัลลอฮ์-เน่ืองจากการล่อลวงของอิบลีส-ขออัลลอฮ์โปรดสาปแช่งมัน- ดงั นนั้ เราผ้เู ป็นลกู หลานนบีอาดมั บนโลกใบนีท้ ี่กําลงั เดินทางไปยงั สวรรค์จะ สามารถเข้ าไปพํานักอยู่ในสวรรค์ได้ อย่างไรหากเราไม่สามารถปกป้องและ ตอบโต้การลอ่ ลวงและขดั ขวางของอิบลีส รวมทงั้ บรรดาลกู สมนุ ของมนั ทงั้ ท่ี เป็นญินและมนษุ ย์ และเราจะสามารถรอดพ้นจากความอปั ยศได้อย่างไรหาก เราไมเ่ ข้าใจถงึ ข้อเทจ็ จริงของชยั ฏอนอยา่ งถอ่ งแท้ สบุ หานลั ลอฮ์ วิธีการเขียนและเน้ือหา สําหรับวิธีการเขียนหนังสือเล่มนีค้ ือผู้เขียนพยายามอธิบายและ ชีแ้ จงถึงข้อเท็จจริงของอิบลีสและชยั ฏอนโดยยึดอลั กุรอานและสนุ นะฮ์เป็น บรรทดั ฐาน พร้ อมกับอ้างอิงทัศนะของบรรดาอุละมาอ์ผู้ท่ีได้รับการยอมรับ และนั่นคือแหล่งอ้างอิงหลักท่ีสามารถให้คําอธิบายและชีแ้ จงท่ีถูกต้อง เก่ียวกับข้อเท็จจริงของอิบลีสและชยั ฏอน เพราะทัง้ อิบลีสและชัยฏอนล้วน เป็นมคั ลกู ของอลั ลอฮ์ มนั ทงั้ ชวั่ ร้ายและซอ่ นเร้นจากสายตาของมนษุ ย์ ดงั นนั้ 16

มนุษย์จะไม่สามารถเข้าใจถึงข้อเท็จจริงของมนั ได้นอกจากด้วยการบอกเล่า จากอัลลอฮ์ผู้ทรงสร้ างมัน พระองค์ได้ทรงชีแ้ จงข้อเท็จจริงของอิบลีสและ ชยั ฏอนแก่บา่ วของพระองค์ในอลั กรุ อานและสนุ นะฮ์ไว้ชดั เจนย่ิง เพื่อให้พวก เขาสามารถใช้เป็นเสบียงในการเดนิ ทางบนโลกนีส้ ปู่ ระตแู ห่งสวรรค์ ส่วนเนือ้ หาของหนังสือเล่มนี ้ ผู้เขียนได้ พยายามอย่างสุด ความสามารถ ด้วยความช่วยเหลือและเตาฟี กของอัลลอฮ์ เพ่ือให้เนือ้ หา เป็นไปดงั นี ้ 1. ถกู ต้องตามคําสอนของอลั กรุ อานและสนุ นะฮ์ ซง่ึ โดยรวมแล้ว ล้ วนมาจากสายรายงานที่ถูกต้ องโดยผ่านการอธิ บายของ บรรดาอลุ ะมาอ์ผ้นู ่าเชื่อถือ 2. ให้มีบะเราะกะฮ์/สิริมงคลด้วยการยกอ้างทงั้ ตวั บทอลั กรุ อาน และหะดีษ ไมใ่ ช่อ้างเพียงความหมายอยา่ งเดยี ว 3. เข้ าใจง่ายทัง้ ด้ านภาษาและการเรี ยงลําดับเนือ้ หา อินชาอลั ลอฮ์ 4. ไมส่ นั้ จนเกินไปจนยากท่ีจะเข้าใจอย่างชดั เจน และไม่ยืดยาว จนเกินไปจนทําให้น่าเบื่อและรู้สกึ ท้อท่ีจะอ่านและทําความ เข้าใจ 5. พยายามให้ดึงดูดใจผู้อ่านทงั้ ในด้านเนือ้ หาและวิธีการเรียบ เรียง ดงั นนั้ ผ้เู ขียนจึงหวงั ว่าผ้อู า่ นและผ้ศู กึ ษาหนงั สือเล่มนีจ้ ะปลอดภยั - ด้วยความดูแลของอลั ลอฮ์-จากความช่ัวร้ ายของการกระซิบกระซาบ การ ควบคุม และการล่อลวงของชยั ฏอนที่ถูกสาปแช่งตลอดชีวิตบนโลกนี ้ และ รอดปลอดภยั จากการทรมานในไฟนรกในวนั อาคเิ ราะฮ์ อามีน 17

อุปสรรคในการจัดเตรียมเน้ือหา ผู้เขียนยอมรับว่ารู้สึกเหน็ดเหนื่อยมากในการจดั เตรียมเนือ้ หาของ หนังสือเล่มนี ้ เม่ือเทียบกับประสบการณ์ในการเขียนหนังสือเล่มอ่ืนนก่อน หน้านีน้ ับร้ อยเล่มในหัวข้อต่างๆ นับสิบหัวข้อ หนังสือเล่มนีเ้ ป็นหนังสือที่ ยุ่งยากที่สุดในการจัดเตรียมเนือ้ หา ผู้เขียนเชื่อเหลือเกินว่าสาเหตุดงั กล่าว เป็นผลมาจากการกระซบิ กระซาบของชยั ฏอนผ้ถู กู สาปแชง่ ตอ่ ผ้เู ขียน หนําซํา้ ยงั ลามไปถึงครอบครัว ลูกหลาน และบรรดาผู้ช่วยของผู้เขียน ที่ถูกกระซิบ กระซาบจากชยั ฏอนอย่เู รื่อยเชน่ เดยี วกนั –ขออลั ลอฮ์โปรดค้มุ ครองเราให้รอด พ้นจากส่ิงนัน้ ด้วยเถิด- เพราะหนังสือเล่มนีเ้ ป็นหนังสือท่ีเปิดเผยถึงวิธีการ ทํางานของชยั ฏอนในการหลอกล่อเหยื่อ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือญินก็ตาม นับตงั้ แต่เร่ิมมีการปฏิสนธิในครรภ์มารดาจนกระท่ังเสียชีวิต ด้วยเหตนุ ี ้ ทุก ครัง้ ที่ผู้เขียนจะเร่ิมเขียนหนังสือเล่มนีผ้ ู้เขียนจะขอความค้มุ ครองตอ่ อลั ลอฮ์ ให้รอดพ้นจา‫ﺪﺮ‬กُِّ ‫ﻤﺷ‬กَْ ‫ﺡ‬าَ ‫�ﻦ‬รْ ‫ﺍ‬รْ‫َِﻣﻭ‬บ‫ َﻭ‬ก،،‫ﻥ‬ว‫ِ َﻪ‬น‫ﺮﺎِْﺑﻭ‬แُ‫ﻀَﻘ‬ลُ‫ ِﻋ‬ะ‫َﺤﻭ‬จْ ‫ﻪ‬โู่‫َِﻳ‬จ‫ﻀﻥِﺒ‬มَْ ‫ﺃ‬ขَ‫َ َﻏﻭ‬อ‫ﻥ‬ง‫ﻦ‬ชْ�ْ ‫ﻣﻃ‬ยัِِ ‫ﺎ‬ฏ‫ﺸ َِﻴﺔ‬อ‫ ﱠﱠﻣ‬น‫ﺍﱠﺘﻟﺎ‬ผ‫ﺕ้ﺍﻟ‬ถู ِ‫ﷲ‬กِู ‫ﺰﺍ‬สَ «‫ﻤ‬าَ ‫هﺕﻥ‬ปََِ �ْแ‫َْﻤ ِﳌﻦﺎ‬ช‫َِﻠﻌﻣ َﺎ‬งِ่�‫ﻟَﻭ‬อَْ‫ ِﺍﺑ‬،ย‫ُِّﻩﺫﺏ‬เِู่‫ﺩﻮ‬ส‫ُﺎﻋَِْﺭ‬ม�‫ﻋَﺃَِﺒ‬อ»ِ ผ้เู ขียนยงั เชื่อมนั่ อกี วา่ สาเหตทุ ี่บรรดานกั วิชาการบ้านเรา โดยเฉพาะ ในช่วงร้ อยปีที่ผ่านมา ถูกปิดกนั้ ความรู้สกึ และจิตสํานึกท่ีจะผลิตตําราหรือ หนังสือเกี่ยวกบั ข้อเท็จจริงของชัยฏอนด้วยคําชีแ้ จงท่ีชัดเจนจากอลั กุรอาน และสุนนะฮ์ ส่วนหน่ึงก็เพราะการปิดกัน้ ทางจิตใจที่เกิดจากการกระซิบ กระซาบ ของชยั ฏอนผ้ถู กู สาปแช่ง นบั ประสาอะไรกบั ประชาชนทวั่ ไป ที่ตา่ งก็ 18

ถูกชัยฏอนคอยปิดกัน้ ความรู้สึกและจิตสํานึกในการศึกษาเกี่ยวกับเร่ืองนี ้ นบั วา่ เป็นฟัรฎอู ยั น์สาํ หรับแตล่ ะคนท่ีจําเป็นต้องศกึ ษาจากอลั กุรอานและสนุ นะฮ์ เช่นเดียวกับหนังสืออื่นๆ ท่ีพูดถึงส่ิงนีแ้ ม้ว่ายังมีไม่มากก็ตาม เพื่อให้ เข้าใจอย่างถอ่ งแท้และชดั เจน สบุ หานลั ลอฮ์ วลั ลอฮลุ มสุ ตะอาน แนน่ อนวา่ หนงั สอื เชน่ นีย้ ่อมส่งผลกระทบด้านลบตอ่ ความพยายาม ของเหล่าชัยฏอนในการกระซิบกระซาบและล่อลวงมนุษย์และญิน มนั เป็น หนงั สือท่ีสามารถชว่ ยให้มนษุ ย์และญิน ในฐานะเหย่ือตลอดกาลของชยั ฏอน สามารถเอาชนะการล่อลวงของชยั ฏอนได้ รวมถึงเอาชนะอิบลีสในฐานะผู้ บญั ชาการทวั่ ไปของเหลา่ ชยั ฏอนผ้ชู วั่ ร้าย ท่ีเคยประสบความสาํ เร็จมาแล้วใน การล่อลวงอาดมั อะลยั ฮิสสลาม ด้วยหิกมะฮ์ของอลั ลอฮ์ ซึ่งยงั คงมีชีวิตอยู่ กระทัง่ ปัจจุบนั และมีประสบการณ์มากในการล่อลวงเรา ขอความคุ้มครอง ตอ่ อลั ลอฮ์ให้ปลอดภยั จากอบิ ลสี และเหลา่ สาวกของมนั ด้วยเถิด ชุโกรและขอบคุณ อัลหัมดุลิลลาฮ์ ด้วยทางนําของอัลลอฮ์และความเมตตาของ พระองค์เท่านัน้ ทําให้หนังสือเล่มนีส้ ามารถออกสู่สายตาของประชาชาตินบี มุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ที่เฝ้ารอคอยมานานสองนาน จาก ความสามารถที่มีจํากดั ของผู้เขียน ซึง่ เป็นการอธิบายเนือ้ หาบางส่วนท่ีน้อย นิดจากอัลกุรอานและสุนนะฮ์เก่ียวกับเรื่องนี ้ ผู้เขียนขอกล่าวขอบคุณเป็น อย่างสงู แดอ่ สุ ตาซอบั ดลุ กะรีม อะหมดั และคณุ อษุ มาน อดิ รีส ท่ีเหน็ดเหน่ือย อย่างมากในการช่วยเหลือผู้เขียนเพ่ือให้เนือ้ หาของหนงั สือแล้วเสร็จสมบูรณ์ เช่นเดียวกับพี่น้องท่านอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างย่ิงทีมงานท่ีแปลหนังสือเล่มนี ้ 19

เป็นภาษาและเวอร์ชนั อื่นๆ ท่ีมนุษย์และญินจําเป็นต้องใช้ รวมทงั้ ได้ตีพิมพ์ และเผยแพร่ให้เป็นความเมตตาแก่สากลโลกตอ่ ไป ‫ﺍﻟ ﱠﺸ ْﻴ َﻄﺎ ِﻥ‬ ‫َه َﻤ َﺰﺍ ِﺕ‬ ‫ِﻣ ْﻦ‬ ‫ِ� ﱠﻳﺎ ُه ْﻢ‬.‫ََﻳﻭﺎ َ َﺳﺭﱠﻠ ﱠَﻤﺏ َﻨﺍﺎْﻟ َﻌﺎ َ ِﳌُْﷲ� َ َﻥﻭ‬ ،‫ُﷲ َﺧ ْ� ً�ﺍ‬ ‫َﺟ َﺰﺍ ُه ُﻢ‬ ‫ ﺁ ِﻣ ْ� َﻥ‬.‫َﻭَﻧ ْﻔ ِﺜ ِﻪ‬ ‫َﻭَﻧ ْﻔ ِﺨ ِﻪ‬ 20

หน่ึง ความหมายของชัยฏอนและอบิ ลีส ชยั ฏอนด้านภาษามาจากคําวา่ ชะเฏาะนะ (‫ ) َﺷ َﻄ َﻦ‬แปลวา่ ห่างไกล หมายถงึ ห่างไกลจากความเมตตาของอลั ลอฮ์ ชยั ฏอนเป็นมคั ลกู (ส่ิงท่ีถกู สร้ าง)ประเภทหนึ่งที่อลั ลอฮ์สร้ างมา มนั ดือ้ ดงึ และปฏิเสธไมย่ อมเชื่อฟังอลั ลอฮ์ มคี ญุ ลกั ษณะและนิสยั ที่เลวทรามจึง ทําให้ห่างไกลจากความเมตตาของอลั ลอฮ์ ชยั ฏอนมีทงั้ ญิน มนุษย์ และสตั ว์ เดรัจฉาน ทัง้ หมดล้วนอยู่ภายใต้การนําของอิบลีสผู้เป็นชัยฏอนตนแรก - ขออลั ลอฮ์สาปแช่งมนั ตลอดจนผ้ใู ห้ความช่วยเหลือ ผู้ติดตาม และพลทหาร ของมัน- พวกเขาทัง้ หมดล้วนเป็นประชาชาติที่ปฏิเสธ(กาฟิ ร) และเป็นชาว นรกท่ีคอยล่อลวงมนุษย์และญินให้ตกหลมุ พรางแห่งความอปั ยศพร้ อมกับ พวกเขาตอนมชี ีวิตในโลกนี ้และให้รับการทรมานในนรกพร้อมกบั พวกเขาอีก ครัง้ ในวนั อาคิเราะฮ์ข้างหน้า อิบลีสด้านภาษามาจากคําว่า อบั ละสะ (‫) َﺃ ْﺑ َﻠﺲ‬ แปลวา่ สิน้ หวงั หรือ หมดหวงั อบิ ลสี เป็นมคั ลกู ของอลั ลอฮ์ท่ีปฏิเสธฝ่ าฝืน(กาฟิ ร) มาจากเผ่าญินท่ี ซ่อนเร้ นจากสายตามนุษย์ อิบลีสเป็นชัยฏอนตนแรกในบรรดาชนเผ่าญิน อิบลีสเป็นผู้ที่สิน้ หวงั จากความดีและความเมตตาของอัลลอฮ์ เดิมทีอิบลีส เป็นบ่าวผู้ภักดีต่ออลั ลอฮ์อยู่ในสวนสวรรค์พร้ อมกับบรรดามะลาอิกะฮ์ แต่ หลงั จากท่ีอลั ลอฮ์ได้สร้างนบีอาดมั พร้อมกบั ยกย่องให้เกียรติและยกสถานะท่ี 21

สงู สง่ ให้ อิบลสี รู้สกึ อิจฉาอาดมั มนั จงึ ทรยศและไมเ่ ชื่อฟังคําสง่ั ของอลั ลอฮ์ที่ สงั่ ให้มนั ก้มกราบต่อนบีอาดมั ด้วยการแสดงท่าทีหยิ่งยโส และอวดตนว่ามี ศกั ดิ์ศรีเหนือกว่าอาดมั จึงเป็นเหตใุ ห้อิบลีสกลายเป็นชยั ฏอนท่ีทรยศและช่ัว ร้ าย ถูกขับไล่ออกจากสวนสวรรค์สู่โลกมนุษย์ ในสภาพท่ีถูกสาปแช่งจาก อลั ลอฮ์อย่างน่าสมเพชเวทนา อิบลีสเป็นมัคลูกของอัลลอฮ์ตนแรกที่ถูกตัง้ ช่ือว่า “ชัยฏอน” ซ่ึง กลายเป็นลกู พ่ีหรือหวั หน้าของบรรดาผ้กู ระทําผิดและทรยศต่ออลั ลอฮ์ พวก เขาจะเชื่อฟังและปฏิบตั ติ ามอบิ ลีสจนกระทงั่ ปัจจุบนั และดําเนินต่อไปถงึ วนั กิ ยามะฮ์ ตวั อิบลีสเองพอใจและยอมรับท่ีจะอย่ใู นสภาพถูกสาปแช่งบนโลกนี ้ และถูกทรมานในวันอาคิเราะฮ์ มันยังคงดือ้ ดึงและยืนหยัดบนความ จอมปลอมด้วยท่าทีท่ีหยิ่งยโสและจองหอง ไมย่ อมกลบั ตวั และคืนสกู่ ารภกั ดี ตอ่ อลั ลอฮ์พระผ้ทู รงสร้างโดยเดด็ ขาด ด้วยเหตนุ ี ้อลั ลอฮ์จึงระบใุ ห้อิบลีสเป็น หวั หน้าครองนรกญะฮนั นมั ท่ีต้องอย่ใู นนนั้ ตลอดกาล ชยั ฏอนและอิบลีสเป็นสองชื่อที่อลั ลอฮ์มกั จะกล่าวถึงในอลั กุรอาน และเป็นคําที่ท่านเราะสลู ุลลอฮ์ ศ็อลลลั ลอฮุอะลัยฮิวะสัลลมั ก็กล่าวไว้ใน สนุ นะฮ์ของท่าน อลั ลอฮ์ตรัสวา่ [٢٧ :‫ ﴾ ]ﺤﻟﺠﺮ‬٢ ‫﴿ َوٱ ۡ َ�آ َّ َخ َل ۡق َ�ٰ ُه ِمن َ� ۡب ُل ِمن َّارِ ٱس َّ ُمو ِم‬ ความว่า “และบรรดาญินนนั้ เราได้สร้ างพวกมนั ก่อน (อาดมั ) จากไฟที่ร้อนแรง” (อลั -หิจญ์รฺ : 27) 22

[١٥ :‫ ﴾ ]لﺮﻤﺣﻦ‬١ ٖ‫﴿ َو َخ َل َق ٱ ۡ َ�آ َّ ِمن َّارِ ٖج ِّمن َّار‬ ความมาย “และอลั ลอฮ์ได้ทรงสร้างญินจากไฟท่ีกําลงั ลกุ โชน” (อรั -เราะห์มาน : 15) [٥٠ :‫﴿ِ ّ�َٓ إِبۡلِي َس َ� َن ِم َن ٱ ۡ ِ� ِّن َ� َف َس َق َ� ۡن أَ ۡم ِر َر ّ�ِهِۗ ٓۦ ﴾ ]لاﻜﻬﻒ‬ ความว่า “...นอกจากอิบลีส มันเป็นชนตระกูลเดียวกับญินที่ ชอบฝ่าฝืนคาํ สง่ั ของอลั ลอฮ์พระผ้อู ภิบาลของมนั ” (อลั -กะฮ์ฟฺ : 50) ท่านหญิงอาอิชะฮ์ เราะฎิยัลลอฮอุ นั ฮา ได้เลา่ ว่าท่านเราะสูลลุ ลอฮ์ ศอ็ ลลลั ‫ﻖ‬ลَ ‫ﻠ‬อِ‫ُﺧ‬ฮ‫ﻭ‬อَุ ะ،‫ﺭ‬ลٍ ‫ﺎ‬ยั‫ َﻧ‬ฮ‫ิ ْﻦ‬ว‫ِﻣ‬ะส‫ﺭٍﺝ‬ลัِ ‫ﺎ‬ล‫ َﻣ‬มั ‫ ْﻦ‬ก‫ ِﻣ‬ล‫ﻥ‬า่‫ﺎ ﱡ‬ว‫ﺝ‬วَ �า่ ‫ َﻭ ُﺧِﻠ َﻖ ْﺍ‬،‫ﺁ»َﺩ ُ ُﺧِﻡﻠ َِﻘﻣ ﱠ ِﻤﺖﺎ ُْﺍﻭ َﳌِﺻَﻼِﺋ ََﻜﻒ ُ َﺔﻟ ُِﻜﻣ ْْﻢﻦ«ُﻧ ْﻮ ٍﺭ‬ ความวา่ “มะลาอิกะฮ์ถูกสร้างมาจากรัศมี และญินถกู สร้างมา จากไฟ สว่ นอาดมั ถกู สร้างมาจากส่ิงท่ีได้อธิบายให้แก่พวกเจ้า แล้ว (นนั่ คือดิน)” (เศาะฮีหฺ มสุ ลิม, เลขที่ 2996) ชัยฏอนและอิบลีสในอัลกุรอาน คําว่า “ชัยฏอน” ถูกกล่าวถึงในอลั กุรอานจํานวน 73 ครัง้ โดยถูก กล่าวด้วยสํานวนเอกพจน์จํานวน 61 ค รั ง้ 1 และด้วยสํานวนพหูพจน์จํานวน ๐F 1 คําวา่ “ชยั ฏอน” ที่ถกู กลา่ วถึงในอัลกรุ อานจํานวน 61 ครัง้ ดังนี ้สูเราะฮ์ อลั -บะเกาะเราะฮ์, อายะฮ์ 36, 168, 208, 268, 275 สูเราะฮ์ อาล อิมรอน อายะฮ์ 36, 155, 175 สูเราะฮ์ 23

12 ครัง้ ๑1 สว่ นคําวา่ “อบิ ลสี ” ถูกกล่าวถึงด้วยสํานวนเอกพจน์จํานวน 11 ครัง้ ๒2 เน่ืองจากว่าอิบลีสก็คือชัยฏอน และบางครัง้ คําว่าชยั ฏอนเองก็ถูกระบุว่า หมายถงึ อิบลสี ในหลายท่ีเช่นกนั ตามรายงานของสะอีด บิน มัสอูด ท่านกล่าวว่า “ได้เกิดสงคราม ระหวา่ งมะลาอิกะฮ์และญิน และอิบลีสได้ถูกมะลาอิกะฮ์จบั เป็นเชลย และใช้ ชีวิตอยู่พร้อมกับเหล่ามะลาอิกะฮ์ มนั ม่งุ มนั่ ทําอิบาดะฮ์ต่ออลั ลอฮ์พร้อมกบั อนั -นิสาอ์ อายะฮ์ 38, 60, 76, 76, 83, 119, 120 สเู ราะฮ์ อลั -มาอิดะฮฺ อายะฮ์ 90, 91 สเู ราะฮ์ อลั -อนั อาม อายะฮ์ 43, 68, 142 สเู ราะฮ์ อลั -อะอฺรอฟ อายะฮ์ 20, 22, 27, 175, 200, 201 สเู ราะฮ์ อลั -อันฟาล อายะฮ์ 11, 48 สเู ราะฮ์ ยูซุฟ อายะฮ์ 5, 42, 100 สเู ราะฮ์ อิบรอฮีม อายะฮ์ 22 สเู ราะฮ์ อนั -นะห์ลุ อายะฮ์ 63, 98 สเู ราะฮ์ อลั -อิสรออ์ อายะฮ์ 27, 53, 64 สเู ราะฮ์ อลั -กะฮ์ฟฺ อายะฮ์ 63 สูเราะฮ์ มรั ยมั อายะฮ์ 44, 44 สเู ราะฮ์ ฏอฮา อายะฮ์ 120 สูเราะฮ์ อัล-หจั ญ์ อายะฮ์ 52, 53 สูเราะฮ์ อัน-นรู อายะฮ์ 21, 21 สเู ราะฮ์ อัล-ฟุรกอน อายะฮ์ 29 สเู ราะฮ์ อนั -นมั ล์ อายะฮ์ 24 สเู ราะฮ์ อลั -เกาะศ็อศ อายะฮ์ 15 สเู ราะฮ์ อลั -อนั กะบตู อายะฮ์ 38 สูเราะฮ์ ลุกมาน อายะฮ์ 21 สเู ราะฮ์ ฟาฏิร อายะฮ์ 6 สเู ราะฮ์ ยาสีน อายะฮ์ 60 สูเราะฮ์ ศอด อายะฮ์ 41 สเู ราะฮ์ ฟศุ ศิลัต อายะฮ์ 36 สเู ราะฮ์ อซั -ซุครุฟ อายะฮ์ 62 สูเราะฮ์ มหุ ัมมดั อายะฮ์ 25 สเู ราะฮ์ อลั -มญุ าดะละฮ์ อายะฮ์ 10, 19 สองครัง้ สเู ราะฮ์ อลั -หชั ร์ อายะฮ์ 16 1 คาํ วา่ “ชะยาฏีน” พหพู จน์ของ “ชยั ฏอน” ถกู กลา่ วถงึ ในอลั กุรอานจํานวน 12 ครัง้ ดงั นี ้สเู ราะฮ์ อลั -บะเกาะเราะฮ์ อายะฮ์ 102, สเู ราะฮ์ อัล-อนั อาม อายะฮ์ 71, 121 สเู ราะฮ์ อลั -อะอฺรอฟ อายะฮ์ 27, 30 สูเราะฮ์ อัล-อิสรออ์ อายะฮ์ 27, สูเราะฮ์มัรยัม อายะฮ์ 83, สูเราะฮ์ อลั -อนั บิยาอ์ อายะฮ์ 82 สเู ราะฮ์ อลั -มอุ ์มินนู อายะฮ์ 97 สเู ราะฮ์ อชั -ชอุ ะรออ์ อายะฮ์ 210, 221 สเู ราะฮ์ อศั -ศอฟฟาต อายะฮ์ 65 2 คําวา่ “อิบลีส” ถกู กลา่ วถึงในอลั กรุ อานจํานวน 11 ครัง้ ดงั นี ้สเู ราะฮ์ อลั -บะเกาะเราะฮ์ อายะฮ์ 34 สเู ราะฮ์ อลั -อะอฺรอฟ อายะฮ์ 11 สูเราะฮ์ อลั -หิจญ์ร อายะฮ์ 31, 32 สเู ราะฮ์ อลั -อิสรออ์ อายะฮ์ 61 สเู ราะฮ์ อลั -กะฮ์ฟฺ อายะฮ์ 50 สเู ราะฮ์ ฏอฮา อายะฮ์ 116 สเู ราะฮ์ อชั -ชอุ ะรออ์ อายะฮ์ 95 สเู ราะฮ์ สะบะอ์ อายะฮ์ 20 สเู ราะฮ์ ศอด อายะฮ์ 75 24

มะลาอิกะฮ์ แต่เมื่ออัลลอฮ์สัง่ ให้บรรดามะลาอิกะฮ์ก้มกราบต่อนบีอาดัม อบิ ลสี กลบั ปฏิเสธ”๓1 อิบนุ อบั บาสกลา่ วว่า “ก่อนที่อิบลีสจะกระทําการทรยศต่ออลั ลอฮ์ เขาเป็นหนึ่งในกล่มุ มะลาอิกะฮ์ที่มีช่ือว่า อะซาซีล เขาเป็นชาวโลกและเป็น มคั ลกู ที่มีพลงั ที่สดุ จริงจงั ในการปฏิบตั ิอิบาดะฮ์พร้อมกบั บรรดามะลาอิกะฮ์ เป็นมคั ลกู ท่ีมากด้วยความรู้ ด้วยเหตดุ งั กลา่ วจึงทําให้เขาแสดงท่าทีหย่ิงยโส (และไมเ่ ช่ือฟังตอ่ คาํ สง่ั ของอลั ลอฮ์ท่ีให้ก้มกราบตอ่ นบีอาดมั )”4 2 F สันดานของอิบลีส ต้องเข้าใจว่าอิบลีสเป็นหัวหน้าของเหล่าชัยฏอน มีอุปนิสัยและ สันยดานท่ีเลวทรามและชั่วร้ าย ในบรรดาอุปนิสัยและสันดานอันชั่วร้ าย ของอบิ ลีสคือ 1. ดอื้ ดงึ และไม่ยอมเช่ือฟังอลั ลอฮ์ มนั จงึ เป็นมคั ลกู ท่ีปฏิเสธศรัทธา(กาฟิ ร) ที่ยโสโอหงั ตอ่ นบีอาดมั และ ลกู หลานของท่าน อลั ลอฮ์ตรัสวา่ [٣٤ :‫ ﴾ ]ﺒﻟﻘﺮة‬٣ ‫ٱ ۡل َ�ٰفِ ِر� َن‬ ‫ِم َن‬ ‫َو َ� َن‬ �َ َ ‫َوٱ ۡس َت ۡك‬ �ٰ َ �َ ﴿ ความว่า “...อิบลีสปฏิเสธ (ที่จะก้มสุ�ูดต่ออาดมั ) พร้ อมกับ แสดงท่าทีหยิ่งยโส และเป็นหน่ึงในกลุ่มชนผู้ปฏิเสธศรัทธา” (อลั -บะเกาะเราะฮ์ : 34) 1 อบู ญะอฟฺ ัร อฏั -เฏาะบะรีย์, ญามอิ ฺ อลั -บะยาน เลม่ 1 หน้า 540 2 อบู ญะอฺฟัร อฏั -เฏาะบะรีย์, ญามิอฺ อลั -บะยาน เลม่ 1 หน้า 536 25

ทา่ นนบี ศอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั «ฮ‫ิﺱ‬วِ ะ‫ﺎ‬ส‫ﻟ ﱠﻨ‬ลั ‫ﺍ‬ล‫ ُﻂ‬มั ‫ﻤ‬กْ ‫َﻏ‬ล‫َﻭ‬า่ ‫ﻖ‬วِّ ว‫َﺡ‬า่ �‫» َﺍ ْﻟ ِﻜ ْ� ُ� َﺑ َﻄ ُﺮ ْﺍ‬ ความว่า “ความหย่ิงยโสจะไม่ยอมรับความถูกต้องด้วยการ แสดงทา่ ทีที่หย่ิงยโสและจะดถู กู ผ้คู น”๕F1 2. ทรยศและฝ่ าฝื นคาํ ส่ังของพระองค์ อลั ลอฮ์ตรัสวา่ [٥٠ :‫﴿ َ� َن ِم َن ٱ ۡ ِ� ِّن َ� َف َس َق َ� ۡن أَ ۡم ِر َر ّ�ِهِۗ ٓۦ ﴾ ]لاﻜﻬﻒ‬ ความวา่ “...เดิมทีนนั้ อิบลสี มาจากพวกญิน๖F2 มนั ทรยศตอ่ คําสงั่ ของพระผ้อู ภิบาล” (อลั -กะฮ์ฟฺ : 50) 3. โกหกและหลอกลวงผู้ตดิ ตาม อลั ลอฮ์ตรัสวา่ ‫ُغ ُرو ًرا‬ ّ ‫ٱش َّ ۡي َ�ٰ ُن‬ ‫يَعِ ُد ُه ُم‬ ‫َو َما‬ ۖ‫َو ُ� َم ّنِي ِه ۡم‬ ‫يَ ِع ُد ُه ۡم‬ [١٢٠ :‫]اﻟنﺴﺎء‬ ﴾ ١ َ�ِ ﴿ ความว่า “ชยั ฏอนชอบท่ีจะให้คําสญั ญาแก่ผู้คน(ท่ีมนั ลอ่ ลวง) ด้วยคําสญั ญาท่ีสวยหรูพร้ อมกบั จูงใจพวกเขาด้วยความเพ้อ ฝันที่ไม่เป็นจริง และชัยฏอนจะไม่ให้คําสัญญาแก่พวกเขา นอกจากด้วยความหลอกลวงเท่านนั้ ” (อนั -นิสาอ์ : 120) 1 บนั ทกึ โดยมสุ ลิม หมายเลข 147 (91) 2 ถึงแม้ว่าอิบลีสจะมาจากกลุ่มชนญิน แต่มันก็เคยได้รับการผนวกรวมให้อยู่กับกลุ่มของ มะลาอกิ ะฮ์ เพราะระหวา่ งมคั ลกู ทงั ้ สองมีความเหมือนในแง่ของตวั ตนมนั ที่มนษุ ย์ไม่สามารถ มองเห็นได้ ดู อลั -มฟุ เราะดาต หน้า 76 26

4. ทาํ ให้ผู้ตามเสียใจ สันดานของชัยฏอนอีกประการหนึ่งคือชอบทําให้ ความหวังของ ผ้ตู ามวา่ งเปลา่ (ไมเ่ ป็นจริง) ทงั้ บนโลกนีแ้ ละวนั อาคิเราะฮ์ อลั ลอฮ์ตรัสวา่ �ٗ ‫﴿ َّ َق ۡد َضَل َّ ِ� َع ِن ٱ ِّ� ۡك ِر َ� ۡع َد إِ ۡذ َجآ َء ِ�� َو َ� َن ٱش َّ ۡي َ�ٰ ُن لِ ۡ ِ�� َ ٰ� ِن َخ ُذو‬ [٢٩ :‫ ﴾ ]اﻟﻔﺮﻗﺎن‬٢ ความว่า “(คนท่ีตามชัยฏอนจะกล่าวว่า) แท้จริงชยั ฏอนได้ทํา ให้ฉนั หลงทางห่างไกลจากคําสอนของอลั กรุ อาน หลงั จากท่ีมนั ได้มาถงึ ฉนั แล้ว และชยั ฏอนชอบหลอกลวงหกั หลงั มนษุ ย์” ชยั ฏอนยงั ถกู เรียกช่ือตามคณุ ลกั ษณะตา่ งๆ อีกหลายชื่อ อาทิ - ฏอฆูต แปลวา่ ผ้ทู ี่เลยเถิด - มาริด แปลวา่ ผ้ทู ี่ชวั่ ช้าและดือ้ ดงึ - เกาะรีน แปลวา่ ผ้ทู ่ีเป็นเพ่ือนสนิท รูปลักษณของชัยฏอน ในความเข้ าใจของมนุษย์ ชัยฏอนญินมีรูปอัปลักษณ์และ นา่ รังเกียจ โดยอลั ลอฮ์ได้เปรียบเปรยผล ซกั กูมวา่ น่ารังเกียจเสมอื นดง่ั หวั ของ ชยั ฏอน อลั ลอฮ์ตรัสวา่ [٦٥ :‫ ﴾ ]لاﺼﺎﻓﺎت‬٦ �ِ ‫﴿ َط ۡل ُع َها َ� نََّ ُهۥ ُر ُءو ُس ٱش َّ َ�ٰ ِط‬ 27

ความวา่ “ซกั กมู (อาหารของชาวนรก) ทะลายผลของมนั คล้าย กบั หวั ของชยั ฏอน” (อศั -ศอฟฟาต : 65) แตด่ ้วยความเมตตาของอลั ลอฮ์จงึ ทําให้มนุษย์ไมส่ ามารถมองเห็น รูปลกั ษณ์ท่ีแท้จริงของชยั ฏอนญิน ในขณะที่พวกมนั สามารถมองเห็นมนษุ ย์ ได้ อลั ลอฮ์ตรัสวา่ ۗ‫تَ َر ۡو َ� ُه ۡم‬ َ ‫َح ۡي ُث‬ ‫ِم ۡن‬ ‫َو َقبِي ُل ُهۥ‬ ‫ُه َو‬ ‫يَ َرٮٰ ُ� ۡم‬ ‫ِنَّ ُهۥ‬ [٢٧ :‫]اﻷﻋﺮاف‬ ﴾ � ﴿ ความวา่ “แท้จริงชยั ฏอนญินและกลมุ่ ชนของมนั มองเห็นพวก เจ้า โดยท่ีพวกเจ้าไม่สามารถมองเห็นพวกมนั ” (อลั -อะอฺรอฟ : 27) กระนนั้ ชยั ฏอนญินก็ไมส่ ามารถลว่ งรู้สิ่งเร้นลบั เพราะการล่วงรู้ใน ส่งิ เร้นลบั นนั้ เป็นเอกสิทธิ์ของอลั ลอฮ์แตเ่ พียงผ้เู ดยี วเทา่ นนั้ แต่ชัยฏอนก็สามารถกลายร่างเป็นสิ่งต่างๆ ได้ เช่น เป็นผู้ชาย ผ้หู ญิง งู หมาดํา๗F1 หรือแมวดํา และอ่ืนๆ สถานที่พํานักของชัยฏอนญินคือท่ีโล่ง สนามกว้าง ทะเลทราย บ้านเกา่ ๆ ท่ีถกู ทิง้ ร้าง สถานท่ีสกปรก เช่นห้องนํา้ กองขยะ หลมุ ศพ ตลาดนดั และบ้านท่ีไมม่ ีเสียงอา่ นอลั กรุ อาน ไมม่ ีละหมาด และซิกิรอื่นๆ 1 ทา่ นเราะสลู ศ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวะสลั ลมั กล่าวว่า «‫ » َﺍ ْﻟ َ� ْﻠ ُﺐ ْ َ� ْﺳ َﻮ ُﺩ َﺷ ْﻴ َﻄﺎ ٌﻥ‬ความว่า หมาดํา คือชยั ฏอน, ดู เศาะฮหี ์ มสุ ลมิ หมายเลข 510 28

ชัยฏ อน ญิ น จะ กิ น ดื่มเห มือน มนุษย์ แต่จ ะ กิ น ด่ืมด้ วยมือซ้ าย ๘ 1 อาหารของญินคือกระดูกและมูลสัตว์ เช่น ขีว้ ัวและม้า๙2 เป็นต้น ญินจะมี ครอบครัว มกี ารแตง่ งานและสบื ลกู หลานเหมือนมนษุ ย์๑๐3 พวกมนั จะมีอายขุ ยั (มีวาระท่ีต้องเสียชีวิต) ยกเว้นอิบลีสเพียงตนเดียวเท่านนั้ ท่ีไม่ตายจนกวา่ จะ ถงึ วนั กิยามะฮ์๑๑4 สรุป อบิ ลีสคอื ชยั ฏอนญินตนแรกท่ีเป็นผ้ปู ฏิเสธศรัทธาตอ่ อลั ลอฮ์ เป็นผู้ แรกที่เปิดทางสขู่ มุ นรก ทงั้ ท่ีมนั รู้จกั อลั ลอฮ์ดที ี่สดุ และเคยภกั ดตี อ่ พระองค์ แต่ กลบั ถูกครอบงําด้วยนิสยั อปั รีย์ หยิ่งยโสและอิจฉาริษยาต่อผู้ท่ีได้รับความ โปรดปรานจากอลั ลอฮ์มากกว่าตน น่ันคือนบีอาดัม อะลยั ฮิสสลาม ถึงกับ ยอมทรยศตอ่ อลั ลอฮ์ผ้ทู รงสร้าง และยอมเป็นเจ้าของนรกท่ีต้องพํานกั อย่ใู น นนั้ ชวั่ กาลนานในวนั อาคเิ ราะฮ์ 1 บนั ทกึ โดยมสุ ลิม หมายเลข 2020 2 มตุ ตะฟักอะลยั ฮ์ อลั -บคุ อรีย์ หมายเลข 3860, มสุ ลิม หมายเลข 450 3 ตฟั สีร อิบนุ อบี หาตมิ หมายเลข 12851 4 สเู ราะฮ์ ศอด อายะฮ์ 79-81 29

30

สอง เร่ืองราวของอิบลีสกับนบีอาดัม หลงั จากท่ีอลั ลอฮ์ได้สร้ างนบีอาดมั ด้วยสองพระหัตถ์ของพระองค์ จากนัน้ ก็ทรงเป่ าวิญญาณเข้าสู่ร่างอาดัม พร้ อมกบั ยกย่องให้เกียรติอาดมั ด้ วยการสั่งให้ บรรดามะลาอิกะฮ์และอิบลีสกราบสุ�ูดแก่เขา ดังนัน้ มะลาอิกะฮ์ทัง้ หลายต่างก็สุ�ูดต่ออาดัม เป็นการสุ�ูดให้ เกียรติไม่ใช่ อิบาดะฮ์หรือการเคารพภักดีแต่อย่างใด มีเพียงอิบลีสตนเดียวท่ีไม่ยอมก้ม สุ�ูดต่ออาดัม ด้วยเหตุนี ้ อิบลีสจึงกลายเป็นมัคลูกแรกท่ีทรยศฝ่ าฝืนต่อ พระบญั ชาของอลั ลอฮ์ มนั จงึ ได้ชื่อวา่ “อิบลีส” และ “ชยั ฏอน” อลั ลอฮ์ตรัสวา่ �َ َ ‫﴿ � ۡذ ُق ۡل َنا لِ ۡلَ� ٓ َٰ�ِ َك ِة ٱ ۡس ُج ُدواْ � َد َم َف َس َج ُد ٓواْ ِ ّ� َٓ إِبۡلِي َس َ� َ ٰ� َوٱ ۡس َت ۡك‬ [٣٤ :‫ ﴾ ]ﺒﻟﻘﺮة‬٣ ‫َو َ� َن ِم َن ٱ ۡل َ�ٰ ِف ِر� َن‬ ความว่า “และพึงรําลึกเถิดเมื่อครัง้ ที่เราได้บัญชาให้เหล่า มะลาอิกะฮ์สุ�ดู ต่ออาดมั พวกเขาทงั้ หมดจึงได้ส�ุ ูดต่อเขา นอกจากอิบลีสเท่านัน้ ที่ดือ้ ดึงปฏิเสธ(ไม่เชื่อฟังคําบัญชา ของอลั ลอฮ์) และแสดงออกด้วยความหยิ่งยโส ด้วยเหตนุ ีม้ นั จึง กลายเป็นบ่าวท่ีปฏิเสธศรัทธา” (อลั -บะเกาะเราะฮ์ : 34) อลั ลอฮ์ได้ถามอบิ ลสี วา่ 31

‫ُكن َت‬ ‫أَ ۡم‬ ‫أَ ۡس َت ۡك َ ۡ� َت‬ َّۖ‫ِيَدَي‬ ‫َخلَ ۡق ُت‬ ‫لِ َما‬ ‫� َ ۡس ُج َد‬ َ ‫َم َن َع َك‬ ‫َما‬ ‫﴿ ٓ َٰإِبۡلِي ُس‬ ‫أن‬ [٧٥ :‫ ﴾ ]ص‬٧ �َ ِ‫ِم َن ٱ ۡل َعال‬ ความวา่ “เจ้าอบิ ลสี มีอะไรท่ีไปสกดั กนั้ เจ้าไม่ให้ก้มกราบส�ุ ดู ต่ออาดัมที่ข้าสร้ างมากับสองมือของข้า? เจ้าเป็นผู้ที่หยิ่งยโส กระนนั้ หรือ? หรือเจ้าคดิ วา่ เจ้าเป็นผู้ท่ีสงู สง่ (กว่าอาดมั )” (ศอด : 75) อบิ ลีสตอบวา่ [٧٦ :‫ ﴾ ]ص‬٧ �ٖ ‫ ِّم ۡن ُه َخ َل ۡق َت ِ� ِمن َّارٖ َو َخلَ ۡق َت ُهۥ ِمن ِط‬ٞ�ۡ ‫﴿ َ�نَا۠ َخ‬ ความว่า “ข้าดีกว่าเขา พระองค์ทรงสร้ างข้ามาจากไฟ และ สร้ างเขามาจากดิน (แล้วทําไมข้าจึงต้องก้มหัวให้เขาด้วย?)” (ศอด : 76) กลา่ วคือ ในสายตาของอิบลีสผ้ถู ูกสาปแช่ง มนั เข้าใจและสําคญั ตน ว่าธาตไุ ฟมีความประเสริฐและสูงส่งกว่าธาตุดิน ดังนนั้ ตวั มนั จึงดีกว่าและ สูงส่งกว่าอาดัม ด้วยเหตุนีเ้ องอิบลีสจึงไม่ยอมรับที่จะก้มกราบต่ออาดัม อะลยั ฮิสสลาม แต่อลั ลอฮ์ไม่ยอมรับคําตอบของอิบลีสเพราะข้ออ้างนัน้ ไม่ถูกต้อง เป็ นความคิดท่ีเข้ าใจผิดออกมาจากความร้ ู สึกท่ียโสโอหังและอิจฉาริ ษยา แท้จริงแล้วมคั ลกู ทุกประเภทล้วนมีคณุ ค่าและประโยชน์แตกต่างกันไม่อาจ ปฏิเสธได้ อย่างไรก็ตามองค์ประกอบด้านวตั ถไุ ม่สามารถใช้เป็นเครื่องชีว้ ดั ที่ จะไปกําหนดว่าผู้ใดมีความประเสริฐกว่าหรือต้อยต่ํากว่า แต่ทว่าตวั ชีว้ ัดที่ สําคญั คือลกั ษณะของจิตใจที่มีความยําเกรง วลั ลอฮอุ ะอฺลมั อลั ลอฮ์ทรงรู้ดี ยิ่งที่สดุ 32

สบุ หานลั ลอฮ์ ! ชยั ฏอนอบิ ลีสรู้ดีที่สดุ เก่ียวกบั ข้อเท็จจริงของอลั ลอฮ์ พระผู้อภิบาลซ่ึงก่อนหน้านัน้ อิบลีสได้ทําการภักดีต่อพระองค์มานานนับปี และยงั ยอมรับว่าตนเองถูกอลั ลอฮ์สร้างมาจากธาตไุ ฟส่วนอาดมั นนั้ ถกู สร้าง มาจากธาตดุ ิน ในขณะท่ีบรรดาลูกสมนุ ของอิบลีสอีกจํานวนมากบนโลกนีท้ ี่ ยงั ไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงข้อเท็จจริงดงั กลา่ วเหมือนที่เจ้านายของพวกมนั เข้าใจ สบุ หานลั ลอฮ์ ! ถ้าอิบลีสซ่ึงรู้ดีที่สดุ เก่ียวกบั ข้อเท็จจริงของอลั ลอฮ์ ว่าเป็น ร็อบบ์ อลั -อาละมีน พระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก ผู้ทรงสร้ างตัวของ อบิ ลสี เองและทรงสร้างทกุ สรรพส่ิงทงั้ หมด กระนนั้ มนั กย็ งั ยอมท่ีจะทรยศและ ฝ่ าฝืนอัลลอฮ์ จึงไม่ใช่เร่ืองแปลกถ้าหากจะมีมนุษย์และญินท่ียังไม่รู้จัก พระองค์ดพี อ ไมเ่ ข้าใจข้อเท็จจริงของความเป็นพระผู้สร้างและพระผู้อภิบาล ของพระองค์ อีกทงั้ ไมร่ ู้จกั ตวั ตนท่ีแท้จริงของตนเองในฐานะผู้ถูกสร้ าง ที่จะ ทรยศและฝ่าฝืนบญั ชาของพระองค์ได้งา่ ยดายอย่างทกุ วนั นี ้ สรุป นบีอาดมั อะลยั ฮิสสลาม คือมูลเหตแุ ห่งความอปั ยศของอิบลีสจน ทําให้มนั ต้องถูกขบั ออกจากสวรรค์ลงสู่โลกมนุษย์ สดุ ท้ายก็ต้องตกนรกอนั เป็นที่พํานกั ถาวรของมนั ในทางกลบั กนั อบิ ลสี และบรรดาชยั ฏอนลกู สมนุ ของ มนั กเ็ ป็นต้นเหตแุ ห่งความอปั ยศของลกู หลานอาดมั บนโลกนี ้ด้วยการลอ่ ลวง ยยุ งให้พวกเขาปฏิบตั ิในสิ่งท่ีเป็นความผิดบาป หรือกลายเป็นมนุ าฟิ กผู้กลบั กลอก หรือกาฟิ รผู้ปฏิเสธศรัทธา จนสดุ ท้ายก็กลายเป็นชาวนรกในวนั อาคิ เราะฮ์ สบุ หานลั ลอฮ์ !? 33

34

สาม อบิ ลสี ถูกขับไลออกจากสวรรค เพราะความยโสโอหังและอิจฉารษิ ยา แท้จริงแล้ว ความยโสโอหงั และอิจฉาริษยาคือต้นเหตแุ ห่งการทรยศ และปฏิเสธบัญชาพระเจ้าของอิบลีส มันจึงถูกขับออกจากสวรรค์ เพราะ สวรรค์ไม่ใช่สถานท่ีสําหรับผู้ทรยศอลั ลอฮ์ และไม่ใช่สถานท่ีสําหรับคนบาป อย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะบาปท่ีก่อเกิดมาจากความยโสโอหัง อิจฉาริษยา และการตงั้ ภาคีตอ่ อลั ลอฮ์ สบุ หานลั ลอฮ์ ! อิบลีสยอมท่ีจะทรยศต่ออลั ลอฮ์พระผู้ทรงสร้างของ มนั เพียงเพราะอิจฉาและยโสโอหังในศกั ด์ิศรีจนทําให้ตวั เองต้องอัปยศ นี่ แหละคือคุณลักษณะของอิบลีสมคั ลกู แรกที่ยอมปฏิเสธบัญชาของอลั ลอฮ์ ปฏิเสธคําสอนและความโปรดปรานของพระองค์ เป็นความอิจฉาริษยาและ ความยโสโอหงั ที่พลิกชีวิตของอิบลีสจากการเป็นบ่าวที่ภกั ดีส่กู ารเป็นบ่าวที่ ทรยศ ด้วยเหตุดงั กล่าวทําให้อิบลีสกลายเป็นผ้ปู ฏิเสธศรัทธา และถูกขับไล่ ออกจากสวรรค์ลงมายังโลกมนุษย์ สุดท้ายกลายเป็นเจ้าของนรกซ่ึงเป็นที่ พํานกั ถาวรของมนั ขออลั ลอฮ์โปรดค้มุ ครองเราให้ปลอดภยั ปมและต้นเหตุของการปฏิเสธของอิบลีสคือ ยโสโอหังและอิจฉา ริษยาต่อผู้ท่ีได้รับความโปรดปรานจากอัลลอฮ์มากกว่าตน อันเป็นเหตุให้ อิบลีสยอมที่จะทรยศต่ออัลลอฮ์พระผู้ทรงสร้ างของตน มิหนําซํา้ ยังยอม กลายเป็นผ้ปู ฏิเสธตอ่ อลั ลอฮ์ คณุ ลกั ษณะอนั โสมมดงั กลา่ วยงั คงมีให้เห็นติด 35

ตวั บ่าวทงั้ หลายจนกระทงั่ ปัจจบุ นั ไมว่ า่ จะเป็นในหม่ญู ินหรือมนษุ ย์ ทงั้ ท่ีเป็น ผู้ปฏิเสธศรัทธา(กาฟิ ร) ผู้กลับกลอก(มุนาฟิ ก) หรือคนชั่ว คุณลักษณะ ดงั กล่าวยงั คงดําเนินอยู่ต่อไปจวบจนวนั กิยามะฮ์ ดงั นัน้ พึงระวงั ให้ดีเถิดพี่ น้องทงั้ ชายและหญิง ขออลั ลอฮ์โปรดค้มุ ครองเราด้วยเถิด อลั ลอฮ์ตรัสวา่ َ ‫لَ َك‬ ‫َقا َل‬ ‫ِن َّ َك‬ ‫َفٱ ۡخ ُر ۡج‬ ‫ِ�ي َها‬ ََ �ّ َ‫َتَك‬ ‫أن‬ ‫َي ُ�و ُن‬ ‫َ� َما‬ ‫ِم ۡن َها‬ ‫َفٱ ۡهبِ ۡط‬ ﴿ [١٣ :‫ ﴾ ]اﻷﻋﺮاف‬١ ‫ِم َن ٱ� َّٰغِ ِر� َن‬ ความวา่ “ดงั นนั้ เจ้าจงลงออกไปจากสวรรค์(โอ้ อิบลีส) เพราะ เจ้าไมม่ ีสิทธ์ิที่จะมาอวดเบ่งและยโสโอหงั ในสวนสวรรค์แห่งนี ้ ดงั นนั้ จงออกไปจากสวรรค์เสีย แท้จริง เจ้าเป็นหนึ่งในจํานวน ผ้ทู ่ีตํ่าต้อยไร้เกียรติ” (อลั -อะอฺรอฟ : 13) ทา่ นนบี ศ«�อ็ ٍ �ลْ ‫ ِﻛ‬ล‫ﻦ‬ลัْ ‫ﻣ‬ลِ อ‫ﺭٍﺓ‬ฮ‫َﺫ ﱠ‬อุ ‫ﻝ‬ะُ ล‫ﻘﺎ‬ยَั ‫ْﺜ‬ฮ‫ิ ِﻣ‬ว‫ﻪ‬ะِ ‫ِﺒ‬ส‫ﻗ ْﻠ‬ลัَ ล��มัِ ‫َﻥ‬ก‫�ﺎ‬ลَ า่‫ْﻦ‬ว‫ﻣ‬วَ า่‫»َﻻ َﻳ ْﺪ ُﺧ ُﻞ ﺍ ْ� َﺝ ﱠﻨ َﺔ‬ ความวา่ “ผ้ใู ดกต็ ามที่หวั ใจมคี วามยโสโอหงั แม้เพียงแค่เท่าผง ธลุ ี เขาจะไมไ่ ด้เข้าสวรรค์”๑๒F1 อลั ลอฮ์ไม่ได้แคข่ บั ไลอ่ ิบลีสออกจากสวรรค์เท่านนั้ แต่ทว่าพระองค์ ยงั ทรงสาปแช่งทําให้อิบลีสกลายเป็นผู้ท่ีถูกสาปแช่ง พร้ อมกับถูกประกาศ จากอลั ลอฮ์วา่ จะทรงทําให้นรกญะฮนั นมั เตม็ ไปด้วยอิบลีส ญิน และบรรดาผู้ ที่เช่ือฟังและคล้อยตามพวกมนั 1 บนั ทกึ โดยมสุ ลมิ หมายเลข 149 (91) 36

อลั ลอฮ์ตรัสวา่ ٧ ‫ ن َّ َعلَ ۡي َك لَ ۡع َن ِ ٓ� إِ َ ٰ� يَ ۡو ِم ٱ ِّ�ي ِن‬٧ ‫م‬ٞ ‫﴿ قَا َل فَٱ ۡخ ُر ۡج ِم ۡن َها َإِنَّ َك َر ِجي‬ [٧٨-٧٧ :‫﴾ ]ص‬ ความวา่ “ดงั นนั้ เจ้าจงออกไปจากสวรรค์เสีย(โอ้อิบลีส) เพราะ แท้จริงเจ้ากลายเป็นผู้ที่ถูกสาปแช่งไปแล้ว และการสาปแช่ง ของข้าจะประสบแก่เจ้าจวบจนวนั กิยามะฮ์” (ศอด : 77-78) อลั ลอฮ์ตรัสวา่ ‫َهَن َّ َم‬ َّ َ‫َ�َ ۡم َ ن‬ ‫ِم ۡن ُه ۡم‬ ‫تَبِ َع َك‬ ‫َم ۡذ ُءو ٗما َّ ۡد ُحو ٗر�ۖ َّ َمن‬ ‫﴿ قَا َل ٱ ۡخ ُر ۡج ِم ۡن َها‬ [١٨ :‫﴾ ]اﻷﻋﺮاف‬ ١ �َ ‫ِمن ُ� ۡم أَ ۡ َ� ِع‬ ความว่า “เจ้ าจงออกไปจากสวรรค์ในสภาพท่ีอัปยศและ ห่างไกลจากความเมตตาของอลั ลอฮ์ แน่นอนวา่ เราจะบรรจเุ จ้า และบรรดาผู้ท่ี ติดตามและเชื่อฟั งเจ้ าทัง้ หมดให้ เต็ม นรกญะฮนั นมั ” (อลั -อะอฺรอฟ : 18) อลั ลอฮ์ตรัสวา่ ﴾٦ �‫﴿ َقا َل ٱ ۡذ َه ۡب َ� َمن تَبِ َع َك ِم ۡن ُه ۡم َإِن َّ َهَن َّ َم َج َزآ ُؤ ُ� ۡم َج َزآ ٗء َّ ۡوفُو ٗر‬ [٦٣ :‫]اﻹﺳاء‬ ความว่า “เจ้าจงไปเสีย(โอ้ อิบลีส) ดงั นัน้ ผู้ใดก็ตามท่ีคล้อย ตามและเชื่อฟังเจ้า แน่นอนว่านรกญะฮนั นัมจะเป็นการตอบ แทนสําหรับพวกเจ้า ซง่ึ เป็นการตอบแทนที่สาสมท่ีสดุ (สาํ หรับผู้ ที่ทรยศ)” (อลั -อิสรออ์ : 63) 37

นนั่ คอื ประวตั ิการกําเนิดอิบลีสและชยั ฏอน ซงึ่ ตอนแรกอิบลีสพํานกั อยู่ในสวนสวรรค์พร้ อมกับนบีอาดัมและเหาวาอ์ ต่อมาอิบลีสได้ทรยศ ตอ่ อลั ลอฮ์ มนั จึงถูกขบั ออกจากสวรรค์และถูกส่งมายงั โลกมนุษย์เนื่องจาก ความยโสโอหังและความอิจฉาริ ษยาต่อความโปรดปรานและเกี ยรติท่ีนบี อาดมั ได้รับ ภาพที่ปรากฏเราพบว่ามีเพียงอิบลีสตนเดียวเท่านนั้ ที่กล้าขดั บญั ชา ของอลั ลอฮ์พระผ้อู ภิบาล ทงั้ ที่อิบลีสรู้จกั อลั ลอฮ์ดที ี่สดุ และยงั เคยทําการภกั ดี ต่อพระองค์ด้วยดีตลอดมาพร้ อมๆ กับบรรดามะลาอิกะฮ์ แต่แล้วมันก็ยอม ทรยศด้วยการปฏิเสธท่ีจะน้อมรับคําบญั ชาของอลั ลอฮ์ท่ีสง่ั ให้ก้มกราบส�ุ ดู ตอ่ นบีอาดมั เพียงเพราะรู้สกึ อิจฉาและยโสโอหงั ในศกั ดิ์ศรีของตนที่เข้าใจว่า เหนือกว่าและประเสริฐกว่าอาดมั ดงั นนั้ อิบลีสจึงถูกขับออกจากสวรรค์ใน ฐานะชยั ฏอนที่ชัว่ ร้ายและอปั ยศจวบจนวนั กิยามะฮ์ อีกทงั้ ยงั ถูกประกาศว่า จะต้องเข้านรกในฐานะเจ้าของมนั ขออลั ลอฮ์ค้มุ ครองเราจากสง่ิ เหล่านนั้ ด้วย เถิด พงึ ตระหนกั วา่ การตอบแทนของอลั ลอฮ์ซง่ึ บรรดาผ้ทู ี่มีความหยิ่งยโส อนั เป็นมรดกตกทอดจากอิบลีสจะได้รับ ก็คือ ความอปั ยศและการสาปแช่ง จากอลั ลอฮ์บนโลกนี ้และจะต้องเป็นชาวนรกในวนั อาคเิ ราะฮ์ภายภาคหน้า ความยโสโอหังนําไปสูการปฏิเสธ ลองใคร่ครวญคําสอนของอลั ลอฮ์ในพระดํารัสที่วา่ [٣٤ :‫ ﴾ ]ﺒﻟﻘﺮة‬٣ ‫﴿ِ ّ� َٓ إِبۡلِي َس َ� َ ٰ� َوٱ ۡس َت ۡك َ َ� َو َ� َن ِم َن ٱ ۡل َ�ٰ ِف ِر� َن‬ 38

ความวา่ “นอกจากอิบลีส มนั ดือ้ ดงึ ยโสโอหงั และกลายเป็นผู้ ปฏิเสธที่ทรยศ” (อลั -บะเกาะเราะฮ์ : 34) ﴾ ٧ ‫﴿ قَا َل ٱ ّ َِي َن ٱ ۡس َت ۡك َ ُ� ٓواْ ِنَّا بِٱ ّ َِ ٓي َءا َمن ُتم بِهِۦ َ�ٰ ِف ُرو َن‬ [٧٦ :‫]اﻷﻋﺮاف‬ ความว่า “บรรดาผู้ที่แสดงท่าทียโสโอหังกล่าวว่า แท้จริง เรา เป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาต่อส่ิงที่พวกท่านได้ศรัทธากัน” (อัล- อะอฺรอฟ : 76) :‫]لاﺼﺎﻓﺎت‬ ﴾ ٣ ‫� َ ۡس َت ۡك ِ ُ�و َن‬ َُ ّ ‫ٱ‬ ّ ‫إِ َ�ٰ َه‬ َٓ ‫لَ ُه ۡم‬ ‫�ِي َل‬ ‫إِ َذا‬ ْ‫َ�نُ ٓوا‬ ‫ِ�َّ ُه ۡم‬ ﴿ َ�ِ � [٣٥ ความว่า “แท้จริง ตอนที่ชาวนรกมีชีวิตอย่บู นโลก เมื่อพวกเขา ถกู เชิญชวนด้วยคาํ วา่ ลาอิลาฮะอิลลลั ลอฮ์ (ไม่มีพระเจ้าอ่ืนใด ท่ีควรแก่การกราบไหว้อย่างแท้จริงนอกจากอลั ลอฮ์) พวกเขา แสดงท่าทีหย่ิงยโส (ไมย่ อมรับคําเชิญชวนนนั้ )” (อศั -ศอฟฟาต : 35) ลองไตร่ตรองคําตรัสของอลั ลอฮ์ท่ีวา่ ُّ َ ْ‫يَ َر ۡوا‬ ‫ٱ ۡ َ� ِّق‬ �ِ ۡ ‫بِ َغ‬ َۡ ‫َتَكَ ّ� َُو َن‬ ‫ٱ ّ َِي َن‬ �َ ِ ٰ�َ ‫َءا‬ ‫َ� ۡن‬ ‫َسأَ ۡ ِ� ُف‬ ‫�ن‬ ‫ٱ�� ِض‬ �ِ ﴿ ‫َسبِي َل‬ ْ‫يَ َر ۡوا‬ ‫�ن‬ �ٗ ‫َسبِي‬ ُ‫َت َّ ِخ ُذوه‬ َ ‫ٱر ُّ ۡش ِد‬ ‫َسبِي َل‬ ْ‫يَ َر ۡوا‬ ‫�ن‬ ‫بِ َها‬ ْ‫يُ ۡؤ ِم ُنوا‬ ّ ‫َءايَ ٖة‬ � َ ﴾ ١ �َ ِ‫ٱ ۡل َ ِّ� َت َّ ِخ ُذوهُ َسبِي ٗ�ۚ َ�ٰلِ َك ِ�َ� َّ ُه ۡم َذ َّبُواْ � َ�ٰتِ َنا َو َ�نُواْ َ� ۡن َها َ�ٰ ِفل‬ [١٤٦ :‫]اﻷﻋﺮاف‬ 39

ความว่า“ ข้าจะหันเหจิตใจของบรรดาผู้ท่ีหย่ิงยโสโดยไม่ชอบ ธรรมบนแผ่นดิน ให้ห่างออกจากสญั ญาณต่างๆ ของข้า ถงึ แม้ พวกเขาได้ประจักษ์ในสญั ญาณตา่ งๆ พวกเขาก็จะไมศ่ รัทธาต่อ สญั ญาณเหล่านัน้ และถึงแม้ว่าพวกเขาพบเส้นทางท่ีถูกต้อง พวกเขาก็จะไม่เลือกเดินบนเส้นทางนัน้ แต่หากพวกเขาพบ เส้นทางท่ีหลงผิด พวกเขากลบั เลือกเดินบนเส้นทางนนั้ แทน ท่ี เป็นเช่นนนั้ ก็เพราะพวกเขาไมเ่ ชื่อตอ่ สญั ญาณตา่ งๆของเรา และ พวกเขา)เม่ือครัง้ ที่มีชีวิตอยู่บนโลก(เป็นผู้ที่หลงลืมตอ่ สญั ญาณ เหลา่ นนั้ ” อันตรายของความอิจฉาริษยาและความหย่ิงยโส สุบหานัลลอฮ์ ! เพราะความอิจฉาริษยาและความหยิ่งยโสนี่เองท่ี เป็นเหตใุ ห้ ... - อิบลีสผู้ซ่ึงรู้จักข้อเท็จจริงของอลั ลอฮ์ด้านรุบูบียะฮฺ(ความเป็น พระผู้อภิบาล)ของอลั ลอฮ์เป็นอย่างดีกลายเป็นผู้ท่ีมีจิตใจที่มืด บอดด้านอลุ ฮู ียะฮฺ(ความเป็นพระเจ้าที่ต้องมอบการเคารพภกั ดี) ของพระองค์ - อิบลีสผู้ซงึ่ เดิมทีเป็นมคั ลกู ท่ีสงู ส่งและมีเกียรติ เคยทําการภกั ดี ต่ออลั ลอฮ์อย่างแข็งขันกลายเป็นผู้อปั ยศและปฏิเสธศรัทธาท่ี ทรยศตอ่ บญั ชาของอลั ลอฮ์ ทกุ ความดีงามที่อิบลีสได้เคยปฏิบตั ิ กถ็ กู ไฟแหง่ ความอิจฉาริษยาเผาจนมอดไหม้เสยี สนิ ้ 40

- อิบลีสผ้ซู ง่ึ เคยพํานกั อย่ใู นสวนสวรรค์ที่แสนจะสขุ สบายกลบั ถูก ขับออกจากสวนสวรรค์สู่โลกมนุษย์ท่ีเต็มไปด้วยฟิ ตนะฮ์(การ ทดสอบ)และเหตปุ ัจจยั ตา่ งๆ ท่ีนําไปสคู่ วามอปั ยศ - อิบลีสผ้ซู งึ่ เคยเป็นชาวสวรรค์ที่มีความสขุ กลบั กลายเป็นเจ้าของ นรกที่ทกุ ข์ระทมทงั้ บนโลกนีแ้ ละวนั อาคเิ ราะฮ์ - อิบลีสผู้ซึ่งเคยมีความคิดฉลาดหลักแหลม จนถึงขัน้ สามารถ พดู คยุ สนทนากบั อลั ลอฮ์ กลบั กลายเป็นผู้ท่ีโง่เขลาและดือ้ ดงึ ตอ่ สจั ธรรมของอลั ลอฮ์ ประชาชาติมุสลิมทัง้ หลาย พึงระวงั เถิด โดยเฉพาะผู้ท่ีได้รับความ โปรดปรานอย่างมากมาย ทัง้ ความโปรดปรานในด้านวิชาความรู้ ทรัพย์สิน ตําแหน่ง ยศถาบรรดาศกั ด์ิ หรือการเป็นผู้นํา และโดยเฉพาะอย่างย่ิงผู้ที่มี ความทะเยอทะยานและไลล่ า่ ความสขุ สบายทางโลกอนั เป็นวตั ถุลอ่ ตาล่อใจ ตอ่ หน้า،บ‫َﻙ‬า่ ว‫ﻮﺍ‬.َค‫ ٌﺳﻢ‬นِ‫ﺣ ْﻴ‬อ‫ืﺭِْﻦ‬น่ ‫ﱠﻤﱠ‬ๆ‫ ٌَﻋﻑ‬ท‫ี่ ْﻚﻭ‬ไَ‫ُﺅ‬ด‫้ﻀَِﻠﺭ‬รْ‫ัﻚ‬บَ ‫ﻔ‬ค‫ِِﺑﺇ ﱠَﻧ‬ว‫ﺎﺎ‬า‫� ََﻨﻨ‬ม‫ْﻏَ ِﺭﱠﻨ‬โ،ป‫َﻮﺍﻭَﺃ‬รْ ،‫ﻨ‬ดُ ‫َﻣﻚ‬ปَ‫ﺁ‬ร‫ ِﻦﻣ‬าَ‫ﻳَﺮﺍ‬นْ ‫َِﺬﺣ‬ม‫ﻟ ﱠﻠ‬า‫ﻼ ْ ِﻦ‬ก‫ َﻋ‬ก�‫ﻚ ِﻏ‬วَ‫ﺎ‬า่ ‫ﻟَﻨ‬ตِ�‫ﻮِﻼ‬นْ َ‫ََﺍﻭَﻟ ﱠﻠﻻُهَﺗ ﱠﻢْﺠﺍ َْﻌﻛ ِْﻞﻔ َِﻨ�ﺎْ�ِﺑ ُﻗَُﻠﺤ‬ ความหมาย (โอ้ อัลลอฮ์ โปรดให้เราได้รับส่ิงฮาลาลอย่าง เพียงพอท่ีทดแทนส่ิงหะรอมของพระองค์ โปรดให้เรามงั่ มีด้วย ความโปรด ปรานของพ ระองค์ โดย ไม่ต้ องพ่ึงผ้ ูอ่ืนนอกจา ก พระองค์อีก อย่าได้ทําให้มีความบาดหมางเคียดแค้นในหัวใจ ของเราต่อบรรดาผู้ศรัทธา โอ้ พระผู้อภิบาลของเรา แท้จริง พระองค์ทรงกรุณาย่ิง ทรงเมตตาย่ิง) 41

สรุป อปุ นิสยั หย่ิงยโสและอจิ ฉาริษยาทําให้อบิ ลีสถกู ขบั ไลอ่ อกจากสวรรค์ และเป็นเหตุให้มนั กลายเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาและทรยศต่ออลั ลอฮ์ตลอดกาล ขนาดผ้ทู ่ีเคยพํานกั ในสวนสวรรค์อย่แู ล้วยงั ถูกขบั ออกมาจากสวรรค์ได้เพราะ มีนิสยั หย่ิงยโสและอิจฉาริษยา แล้วนบั ประสาอะไรกบั ผู้ท่ีเย่อหย่ิงและอิจฉา ริษยาแตย่ ังอยู่นอกสวรรค์ เขาจะได้เข้าไปพํานกั อยู่ในสวนสวรรค์ได้อย่างไร น่ีย่อมเป็นสิ่งท่ีลําบากยากเยน็ ย่ิงนกั น่ีคือสันดานโดยธรรมชาติของจิตใจท่ีริษยา อาฆาตมาดร้ าย ผูกพยาบาท และเย่อหย่ิงทะนงตนต่อผู้อ่ืน โดยเฉพาะกับบรรดาผู้ท่ีได้รับ ความโปรดปรานมากกวา่ ตน ช่างเป็นนิสยั ท่ีเลวทรามยิ่ง เป็นนิสยั ที่อนั ตราย และน่าหวาดกลวั ย่ิงในจํานวนนิสัยท่ีอัปยศทัง้ หมด ทัง้ ต่อตนเองและผู้อ่ืน ขออลั ลอฮ์โปรดค้มุ ครองเราด้วยเทอญ โอ้ บา่ วของอลั ลอฮ์ ! จงดบั นิสยั แห่งความหยิ่งยโสโอ้อวดและไฟแห่ง ความอิจฉาริษยาออกจากจิตใจของท่านเสียเถิด อย่าให้มีความรู้สึกนีต้ ่อ บรรดาบ่าวของอลั ลอฮ์ท่ีได้รับความโปรดปรานมากกว่าท่าน แน่นอนว่าท่าน จะรอดปลอดภยั จากความอปั ยศอนั เป็นต้นเหตทุ ําให้ประตสู วรรค์ถูกปิดต่อ หน้าท่าน มิหนําซํา้ นิสยั ดงั กลา่ วยังเป็นส่ิงท่ีผลกั ไสท่านสู่ขมุ นรกญะฮนั นัม พร้อมๆ กบั อบิ ลสี และชยั ฏอน .‫َﺍﻟ ﱠﻠ ُه ﱠﻢ ِﺇ ﱠﻧﺎ َ� ُﻌ ْﻮ ُﺫ ِﺑﺎ ِ� ِﻣ َﻦ ﺍ ْﻟ ِﻜ ْ� ِ� َﻭﺍ ْ� َﺡ َﺴ ِﺪ‬ โอ้ อลั ลอฮ์ แท้จริง เราขอความค้มุ ครองต่อพระองค์ให้รอดพ้น จากนิสยั ยโสโอหงั และอิจฉาริษยาด้วยเถิด 42

ส่ี อบิ ลีสทําใหอาดมั ออกจากสวรรคสโู ลก หลงั จากท่ีอิบลีสถูกไล่ออกจากสวนสวรรค์ในสภาพที่ไร้เกียรติและ ถกู สาปแช่ง ทําให้ความอิจฉาที่มีต่อท่านนบีอาดมั ยิ่งเพ่ิมขนึ ้ เลยคิดวางแผน เพื่อให้ท่านออกจากสวรรค์เชน่ เดยี วกนั อลั ลอฮ์ผ้ทู รงรอบรู้ทรงปรีชาญาณได้เลา่ ถงึ เรื่องนีว้ า่ �َ ‫﴿ َ� ٓ َٰ َـٔا َد ُم ٱ ۡس ُ� ۡن أَن َت َو َز ۡو ُج َك ٱ ۡ َ� َّ َة َف ُ َ� ِم ۡن َح ۡي ُث ِش ۡئ ُت َما َو‬ [١٩ :‫ ﴾ ]اﻷﻋﺮاف‬١ �َ ‫َ� ۡق َر َ�ا َ�ٰ ِذهِ ٱش َّ َج َر َة َ� َت ُكونَا ِم َن ٱ� َّٰلِ ِم‬ ความว่า “โอ้อาดัมเอ๋ย เจ้าและคู่ครองของเจ้าจงอยู่ในสวน สวรรค์นัน้ เถิด แล้วจงบริโภค ณ ท่ีใดก็ได้ท่ีเจ้าทงั้ สองประสงค์ และเจ้าทงั้ สองอย่าเข้าใกล้ต้นไม้ต้นนี(้ มิฉะนนั้ แล้ว)เจ้าทงั้ สอง จะกลายเป็นส่วนหน่ึงจากบรรดาผู้ที่อธรรม” (อัล-อะอฺรอฟ : 19) คําสั่งเสียของอัลลอฮ ‫ َٰ َـٔا� َدۡذ ُم ُقِۡلن َنَّا‬١ٓ ‫ َعَ� ُۡزق ٗمۡلاَنا‬١‫ْفَِنَّ� َِٓ إَِ�بۡلِ َيولَ َۡمس َ ِ�َ� َۡدٰ� َ ُ�ۥ‬ ‫ِمن َ� ۡب ُل‬ ‫َءا َد َم‬ ٰ َٓ�ِ ٓ‫﴿ َولَ َق ۡد َع ِه ۡدنَا‬ ‫فَ َس َج ُد ٓوا‬ ‫� َد َم‬ ْ‫لِ ۡلَ� ٓ َٰ�ِ َك ِة ٱ ۡس ُج ُدوا‬ :َ‫ َّ لَ﴾ َ]كﻃَ ّ�ﻪ‬١‫ ِن‬١�ٰ َ ٰ ‫َ ََ��َنَّ ُ ۡ�َِكجَ َن َّ� َُك� َۡمظا َم ِمُؤاَْن�ِٱي َۡه َ�ا َّ َِةو َفَ� َت تَۡشَۡٓض‬١‫َوها َّ َوَ َك� َولَ�ِ َۡزع َۡور ِج ٰى َك ف‬ّٞ ‫ََ�ُٰ� َوذا َع َع�ُِدي‬ [١١٩-١١٥ 43

ความว่า “และโดยแน่นอน เราเคยสงั่ เสียแก่อาดมั มาแล้ว(ใน สวรรค์)แต่เขาลืม และเราไม่พบความมุ่งมั่นอดทนในตัว เขา และเราได้กล่าวแก่บรรดามะลาอิกะฮ์ว่าจงส�ู ดู คารวะแก่ อาดมั พวกเขาก็ได้สุ�ดู นอกจากอิบลีส มนั ปฏิเสธดือ้ ดงึ แล้ว เราก็ได้กล่าวว่า โอ้อาดัมเอ๋ย แท้จริงนี่คือศัตรูของเจ้าและ ภรรยาของเจ้า ดงั นนั้ อย่าให้มนั นําเจ้าทงั้ สองออกจากสวรรค์ แล้วเจ้าจะลาํ บาก แท้จริงในสวนสวรรค์นนั้ เจ้าจะไม่หิวและไม่ ต้องเปลือยกาย และแท้จริงในสวนสวรรค์นนั้ เจ้าจะไมก่ ระหาย นํา้ และจะไมถ่ กู แดดเผา” (ฏอฮา : 115-119) จากอายะฮ์ข้างต้นชีช้ ดั วา่ 1. อลั ลอฮ์ผ้ทู รงเมตตาย่ิงได้สงั่ เสียแก่อาดมั ให้รู้ถึงการเป็นศตั รูและ อนั ตรายของอิบลีสที่มตี อ่ อาดมั และภรรยาของเขา 2. คาํ เตือนของอลั ลอฮ์สองข้อท่ีสาํ คญั ย่ิง นน่ั คอื คาํ เตือนแรก อบิ ลีสเป็นศตั รูของเจ้าทงั้ สองโอ้อาดมั และเหาวาอ์ ตาํ เตือนท่สี อง เพื่ออาดมั จะได้ไมเ่ ผลอและเชื่อใจต่อคําหลอกลวง ของอบิ ลสี ที่จะทําให้ทงั้ สองออกจากสวนสวรรค์ 3. ท่านนบีอาดัม อะลัยฮิสสลาม ศรัทธาเชื่อมันต่อแนวทาง ของอลั ลอฮ์ แต่ท่านหลงลืม เผลอ และมีความม่งุ มน่ั ท่ีออ่ นแอในการปฏิบตั ิ ตามคําตกั เตอื นของอลั ลอฮ์เก่ียวกบั อบิ ลีส 4. ในสวนสวรรค์นนั้ เตม็ ไปด้วยความผาสกุ ไม่หิว ไมก่ ระหาย ไม่ถูก เปลือยกาย และไม่โดนความร้ อนจากแสงแดด ช่างเป็นความผาสกุ ท่ีเลิศหรู เหลอื เกิน ขอสรรเสริญตอ่ อลั ลอฮ์ ! 44

5. แน่นอน ท่านนบีอาดมั และภรรยามีปรารถนาอย่างยิ่งท่ีจะพํานัก ในสวนสวรรค์อย่างถาวร แต่อิบลีสรับรู้ถึงความปรารถนานีเ้ ลยวางแผนเพื่อ หลอกลวงทงั้ สอง การกระซิบกระซาบและการลอกหลวงของอิบลีส จากแรงผลกั ดนั แห่งความปรารถนาของอาดมั ท่ีอยากจะพํานักใน สวนสวรรค์ตลอดกาล และไม่ต้องการออกจากสวรรค์เช่นที่อิบลีสถูกขับไล่ กลายเป็นจดุ ออ่ นท่ีอบิ ลีสใช้เป็นกลอบุ ายในการหลอกลวงเขา สบุ หานลั ลอฮ์! มนั เลยเริ่มด้วยการกระซิบกระซาบอาดมั และเหาวาอ์ อลั ลอฮ์ผ้ทู รงรอบรู้ทรงปรีชาญาณได้เลา่ ถงึ เรื่องนีว้ า่ ‫َِ� ُ� ۡۡبن ِد َ�َٰي ِذلهَِ ُهٱ َمشا َّ َم َاج َرةُِوۥِرِّ� َٓ َيأَنَ� ۡنتَ ُه َم ُا�ونَِمان َم َلَس َۡوك ۡ� ِتِ� ِهأََم ۡاو‬ ‫ٱش َّ ۡي َ�ٰ ُن‬ ‫﴿ فَ َو ۡس َو َس لَ ُه َما‬ ‫َ� ُّ ُ� َما‬ ‫َو َقا َل َما َ� َهٮٰ ُك َما‬ [٢٠ :‫ ﴾ ]اﻷﻋﺮاف‬٢ ‫تَ ُ�ونَا ِم َن ٱ ۡل َ�ٰ ِ ِ�ي َن‬ ความว่า “และชยั ฏอน(อิบลีส)ได้กระซิบกระซาบแก่อาดมั และ เหาวาอ์ เพ่ือเปิดเผยอวยั วะพึงสงวนที่ถูกปดปิดแก่ทัง้ สอง มนั กล่าวว่า พระเจ้าของท่านทงั้ สองมิได้ทรงห้ามท่านจากต้นไม้ ต้นนีด้ ้วยเหตอุ ่นื ใด นอกเสียจากเพราะเกรงวา่ มนั จะเป็นเหตใุ ห้ ท่านทัง้ สองได้กลายเป็นมะลาอิกะฮ์ หรือไม่ก็กลายเป็นผู้ที่ พํานกั อย่ใู นนนั้ ตลอดกาล” (อลั -อะอรฺ อฟ : 20) เพ่ือให้กระจางชดั ย่ิงขนึ ้ ในเร่ืองนี ้ลองพิจารณาอายะฮ์นีเ้พ่ิมเติม 45

‫﴿ فَ َو ۡس َو َس إِ َ ۡ�هِ ٱش َّ ۡي َ�ٰ ُن َقا َل ٓ َٰ َـٔا َد ُم َه ۡل َدُل ُّ َك َ َ ٰ� َش َج َرةِ ٱ ۡ ُ� ۡ ِ� َو ُم ۡل ٖك‬ ‫َعلَ ۡي ِه َما‬ ‫لَ ُه َما‬ �َ �َ َ‫فَأ‬ ّ ‫َ ۡ� ِص َفا ِن‬ ‫َو َطفِ َقا‬ ‫َس ۡو� ُ� ُه َما‬ ‫َ� َب َد ۡت‬ ‫ِم ۡن َها‬ ١ �ٰ َ ‫َ� ۡب‬ َ [١٢١-١٢٠ :‫ ﴾ ]ﻃﻪ‬١ ‫ِمن َو َر ِق ٱ ۡ َ� َّ ِة� َعَ� ٓ َٰ َءا َد ُم َ� َّ ُهۥ َ� َغ َو ٰى‬ ความว่า “ต่อมาชัยฏอนมารร้ ายได้กระซิบกระซาบเขา มัน กล่าวว่า โอ้อาดมั จะให้ฉันชีแ้ นะท่านไปยังต้นไม้ที่อยู่เป็นนิจ ตลอดกาลและการมีอํานาจท่ีจะไม่สญู สลายตลอดไปหรือไม่? ดงั นัน้ เขาทัง้ สองจึงกินจากต้นไม้นนั้ อวัยวะพึงสงวนของทัง้ สองจึงถกู เผยให้เห็นแก่เขาทงั้ สองคน พวกเขาจึงเริ่มเอาใบไม้ ในสวนสวรรค์นนั้ มาปกปิดบนร่างกายตวั เอง และอาดมั ก็ฝ่ าฝืน พระเจ้าของเขา เขาได้หลงผิดไป” (ฏอฮา 120-121) สุบหานัลลอฮ์ มหาบริ สุทธิ์ยิ่งพระองค์อัลลอฮ์! นั่นคือวิธีการ หลอกลวงของอิบลีสท่ียัว่ ยวนหวั ใจ พร้ อมกับการสาบานที่มนั แสร้ งทําให้ดู จริงจงั ตอ่ คนทงั้ สอง อลั ลอฮ์ตรัสวา่ ‫لَ ِم َن‬ ّ �ٖ‫بِ ُغ ُرور‬ ‫َدَل َّٮٰ ُه َما‬ �َ ‫ٱ� َّٰ ِص ِح‬ ‫َل ُك َما‬ �ِ ِ‫إ‬ ٓ‫َوقَا َس َم ُه َما‬ :‫]اﻷﻋﺮاف‬ ﴾ ٢ ﴿ [٢٢-٢١ ความว่า “และมนั ได้สาบานแก่ทัง้ สองคนว่า แท้จริงฉันอยู่ใน พวกที่จะให้คําแนะนําแก่ท่านทัง้ สอง แล้วมนั ก็ครอบงําให้ทัง้ สองคนตกอย่ใู นส่ิงท่ีมนั ต้องการ อนั เนื่องจากการหลอกลวงท่ี ยวั่ ยวนแยบยล” (อลั -อะอรฺ อฟ : 21-22) สุบหานัลลอฮ์ ! วิธีที่อิบลีสใช้ในการหลอกลวงท่านนบีอาดัมนัน้ สอดคล้องตามความต้องการของอาดมั ท่ีถูกหลอกให้เข้าใจผิด ทําให้เขาไม่ 46

รู้สึกว่าอิบลีสกําลังวางแผนหลอกลวงเขา นอกจากนี ้ เพ่ือให้ บรรลุถึง เป้าหมายที่คาดหวงั อิบลีสถงึ กบั ได้ใช้คําสาบานวา่ เขาเป็นผู้แนะนําที่จริงใจ ต่อคนทัง้ สอง นี่คือส่วนหนึ่งจากวิธีการของอิบลีสและชัยฏอนที่ใช้ในการ หลอกลวงลกู หลานอาดมั บนโลกนี ้ สองเหตผุ ลและหนงึ่ คําสาบานที่อบิ ลีสใช้ในการหลอกลวงอาดมั และ เหาวาอ์สามารถจะครอบงําหวั ใจของทงั้ สองคนได้ นน่ั ก็คอื 1. การได้กินผลไม้ที่ถกู ห้ามนนั้ จะทําให้ทงั้ สองกลายเป็นมะลาอกิ ะฮ์ ซง่ึ เป็นบคุ คลประเภทที่สามารถอาศยั พํานกั อย่ใู นสวนสวรรค์อยา่ งถาวร 2. การกินผลไม้นนั้ จะทําให้ทงั้ อาดมั และเหาวาอ์สามารถอยู่ในสวน สวรรค์อยา่ งนิรันด์กาลแม้จะไมไ่ ด้เป็นมะลาอกิ ะฮ์ก็ตามที 3. เพิ่มเตมิ ด้วยคําสาบานของอิบลสี วา่ ข้าเป็นผ้จู ริงใจตอ่ ทงั้ สองคน นี่คือสาเหตบุ างประการที่สามารถครอบงําหัวใจอาดมั และเหาวาอ์ ท้ายที่สุดแล้ว ทัง้ สองก็หลงลืมต่อคําเตือนของอัลลอฮ์ ด้วยพระประสงค์ และหิกมะฮ์/วิทยปัญญาท่ีพระองค์ทรงรู้ดียิ่ง ทัง้ สองจึงกินผลไม้จากต้นไม้ท่ี ถกู ห้ามนนั้ สบุ หานลั ลอฮ์ ! ทงั้ นี ้ก็เนื่องจากถกู หลอกให้เช่ือว่าต้นไม้ที่อลั ลอฮ์ ทรงห้ามนนั้ คือต้นไม้แห่งความอมตะท่ีจะทําให้ทงั้ สองพํานกั อย่ใู นสวนสวรรค์ อย่างนิรันดร อัลลอฮทักทวงความผิดพลาดของอาดัม หลงั จากที่ทงั้ สองรู้สกึ ผิดและรู้ว่าถูกหลอกจนทําให้อวยั วะพึงสงวน ถกู เปิดเผย พระองค์อลั ลอฮ์จงึ ได้เรียกทงั้ สองวา่ 47

َّ ‫﴿ َونَا َدٮٰ ُه َما َ� ُّ ُه َمآ َ�لَ ۡم َ� ۡ� َه ُك َما َعن تِ ۡل ُك َما ٱش َّ َج َرةِ َوأَقُل َّ ُك َمآ ِن‬ [٢٢ :‫ ﴾ ]اﻷﻋﺮاف‬٢ �ٞ ِ‫و ُّب‬ّٞ ‫ٱش َّ ۡي َ�ٰ َن لَ ُك َما َع ُد‬ ความว่า “และพระเจ้าของเขาทัง้ สองจึงได้เรียกเขาทัง้ สอง (โดยกล่าวว่า)ข้ามิได้ห้ามเจ้าทัง้ สองเกี่ยวกับต้นไม้ต้นนัน้ ดอกหรือ และข้ามิได้กล่าวแก่เจ้าทัง้ สองดอกหรือว่า แท้จริง ชยั ฏอนนนั้ คอื ศตั รูท่ีชดั แจ้งแกเ่ จ้าทงั้ สอง” (อลั -อะอรฺ อฟ : 22) คําส่ังใหออกจากสวรรค จากเหตุการณ์ข้างต้นทําให้ทัง้ สองถูกตัดสิน ซึ่งย่อมเปี่ยมไปด้วย หิกมะฮ์ ด้ วยการชีข้ าดให้ ทัง้ สองต้ องออกจากสวรรค์ ตามพระดํารัส ของอลั ลอฮ์ ‫ر‬ّٞ ‫ُم ۡس َت َق‬ َۡ ‫ۖ َو َل ُ� ۡم‬ ‫و‬ّٞ ‫َع ُد‬ ‫َ� ۡع ُض ُ� ۡم‬ ْ‫ٱ ۡهبِ ُطوا‬ ‫قَا َل‬ ‫َو َم َ�ٰ ٌع‬ ‫ٱ�� ِض‬ ‫ِ َ� ۡع ٍض‬ �ِ ﴿ [٢٤ :‫ ﴾ ]اﻷﻋﺮاف‬٢ �ٖ ‫إِ َ ٰ� ِح‬ ความว่า “พระองค์ตรัสว่า พวกเจ้าจงลงไปเถิด บางส่วนของ พวกเจ้าคอื ศตั รูกบั อีกบางสว่ น และในแผ่นดนิ นนั้ มีท่ีพํานกั และ ส่ิงอํานวยประโยชน์สําหรับพวกเจ้ าจนถึงระยะเวลาหนึ่ง พระองค์ตรัสวา่ ในแผ่นดินนนั้ แหละพวกเจ้าจะมีชีวิตอย่แู ละใน แผ่นดินนัน้ แหละพวกเจ้าจะตาย และจากแผ่นดินนัน้ แหละ พวกเจ้าจะถกู ให้ออกมาอีกครัง้ ” (อลั -อะอฺรอฟ : 24-25) 48

อาดัมและเหาวาอเตาบัตกลับเนื้อกลับตัว ดังกล่าวนัน้ คือคําส่ังของอัลลอฮ์ผู้ทรงเมตตาย่ิงต่ออาดัมและ เหาวาอ์ หลงั จากทงั้ สองได้เสียใจในการกระทําผิด จึงนอบน้อมขอตอ่ อลั ลอฮ์ วา่ «‫ ِﺇ ًﺫﺍ ُﺃ ْﺩ ِﺧ ُﻠ َﻚ ﺍ� َﺝ ﱠﻨ َﺔ‬: ‫» َﻳﺎ َﺭ ِّﺏ َﺃ َ َﺭﺃ ْﻳ َﺖ ِﺇ ْﻥ ُﺗ ْﺏ ُﺖ ﻓﺎ ْﺳ َﺘ ْﻐ َﻔ ْﺮ ُﺕ؟ َﻗﺎﻝ ﷲ‬ ความว่า “โอ้พระผู้อภิบาลแห่งข้า พระองค์เห็นอย่างไรถ้าข้า พระองค์กลบั เนือ้ กลบั ตวั และขออภยั โทษ? อลั ลอฮ์ทรงตอบว่า ถ้าเป็นเช่นนนั ้ แล้ว ข้าจะให้เจ้ากลบั ไปสสู่ วรรค์อีกครัง้ หนงึ่ ”๑๓F1 ทงั้ สองก็ได้กลบั เนือ้ กลบั ตวั โดยกลา่ ววา่ ‫﴿ َقا َ� َ� َّ َنا َظ َل ۡم َنآ أَن ُف َس َنا �ن َّ ۡم َ� ۡغ ِف ۡر َ�َا َوتَ ۡر َ ۡ� َنا ََكُو�َنَّ ِم َن‬ [٢٣ :‫ ﴾ ]اﻷﻋﺮاف‬٢ ‫ٱ ۡل َ�ٰ ِ ِ�� َن‬ ความว่า “เขาทัง้ สองได้กล่าวว่า โอ้พระผู้อภิบาลแห่งเรา พวก เราได้อธรรมแก่ตวั เอง และถ้าพระองค์ไม่ทรงอภยั โทษและไม่ ทรงเอ็นดูเมตตาแก่พวกเราแล้ว แน่นอนเราก็ต้องกลายเป็น พวกท่ีขาดทนุ ” (อลั -อะอฺรอฟ : 23) นี่คือประโยคที่ใช้กล่าวในการกลับเนือ้ กลับตวั ของผู้กระทําผิดและ อธรรมต่อตวั เอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความผิดที่เกิดจากการบริโภคอาหาร 1 หะดีษรายงานโดยเกาะตาดะฮ์ด้วยสายรายงานท่ีเศาะฮีห์ ดู อัต-ตัฟสีร อัศ-เศาะฮีห์ โดย หกิ มะฮ์ บิน ยาสนี 2/307 49

ต้องห้าม และนี่ก็คือวิถีชีวิตของอาดมั และเหาวาอ์ท่ีเป็นแนวทางตวั อย่างแก่ ชาวสวรรค์ กลา่ วคือ: 1. ยอมรับในความผิดที่ได้กระทําไว้ 2. เสยี ใจตอ่ ความผิดที่ผ่านมา 3. ละทิง้ ความผิดนัน้ พร้ อมกับสํานึกว่าตนได้กระทําผิดและได้ อธรรมตอ่ ตวั เอง 4. เร่งรีบในการเตาบตั กลบั เนือ้ กลบั ตวั 5. ไมส่ นิ ้ หวงั กบั การอภยั โทษและความโปรดปรานของอลั ลอฮ์ท่ีเป็น ประตสู สู่ วรรค์ ความแตกตางระหวางอิบลีสกับอาดัม พงึ รู้เถิดวา่ ทงั้ อิบลสี และอาดมั ตา่ งถกู ขบั ไลอ่ อกจากสวนสวรรค์สโู่ ลก แต่อิบลีสถกู ขับไล่ออกจากสวนสวรรค์อนั เนื่องจากความหยิ่งยโสและทรยศ ต่อคําสั่งอัลลอฮ์ที่ใช้ให้ก้มสุ�ูดต่ออาดมั เพราะความหย่ิงยโสและความ อิจฉาที่เต็มอยู่ในหัวใจ แล้วยังยืนกรานดือ้ ด้านในความโอหังพร้ อมกับท้า ทายอัลลอฮ์จนถึงวันกิยามะฮ์ ด้วยเหตุนีท้ ัง้ อิบลีสและชัยฏอนทัง้ หลายจึง กลายเป็นชาวนรก สว่ นอาดมั และเหาวาอ์ถกู ขบั ไลอ่ อกจากสวนสวรรค์อนั เนื่องจากถูก หลอกด้วยการกระซิบกระซาบจากอิบลีส แต่หลังจากนัน้ ทัง้ สองได้เตาบัต กลบั เนือ้ กลบั ตวั ต่ออลั ลอฮ์ ทําให้ทงั้ สองสามารถกลบั มาส่สู วนสวรรค์อีกครัง้ พร้อมกบั ลกู หลานท่ีเดินตามแนวทางนี ้คือเม่ือมีความผิดพลาดก็เร่งรีบสกู่ าร เตาบตั กลบั เนือ้ กลบั ตวั เพื่อกลบั มาสหู่ นทางที่ถกู ต้อง และขอดอุ าอ์ตอ่ อลั ลอฮ์ 50


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook