Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 40 หะดีษเกี่ยวกับเดือนเราะมะฎอน

40 หะดีษเกี่ยวกับเดือนเราะมะฎอน

Published by Ismail Rao, 2021-04-07 04:40:41

Description: หนังสือ : 40 หะดีษเกี่ยวกับเดือนเราะมะฎอน
แปล : ซุฟอัม อุษมาน
ตรวจทาน : อุษมาน อิดรีส
จัดทำโดย : ห้องสมุดอิกเราะอ์

คำอธิบาย : 40 หะดีษว่าด้วยเดือนเราะมะฎอน เป็นการรวบรวม หะดีษฺต่างๆ ของท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม จำนวนสี่สิบกว่าหะดีษฺที่เกี่ยวกับคุณค่าของเดือนเราะมะฎอน และอะมัลต่างๆ ที่สนับสนุนให้ปฏิบัติในเดือนอันเปี่ยมยิ่งด้วยความประเสริฐนี้

Search

Read the Text Version

40 บทหะดษี ฺ สําหรับเดอื นเราะมะฎอน  ‫א‬  E‫א‬F  ‫א‬W‫א‬ จดั ทําโดย : หอ งสมดุ อกิ เราะอ จดั พมิ พโ ดย สาํ นักงานความรว มมอื เพ่ือเผยแพรแ ละสอนอิสลาม อัร-ร็อบวะฮฺ กรงุ ริยาด ประเทศซาอุดอิ าระเบยี : ‫ﻣﻦ إﺻﺪارات‬

พมิ พคร้ังแรก : ฮ.ศ. 1427 - ค.ศ. 2006 สงวนลขิ สทิ ธิ์โดย เว็บไซตอ ิสลามเฮาส อนุญาตใหใชประโยชนจากหนังสือ โดยไมบิดเบือนหรือเปล่ียนแปลงเน้ือหา เดมิ หากมีขอสงสัย คําแนะนําหรือแกขอผิดพลาดใดๆ กรุณาติดตอเราทาง เวบ็ ไซต : www.islamhouse.com (4761) ฮ.ศ.1427 - ค.ศ. 2006 สํานักงานความรว มมือเพ่อื เผยแพรแ ละสอนอสิ ลาม อัร-ร็อบวะฮฺ กรุงริยาด ประเทศซาอุดอิ าระเบยี โทร. +966-1-445 4900, 491 6065 www.islamhouse.com

ดวยพระนามของอลั ลอฮฺ ผทู รงเมตตา ผทู รงปรานียิ่งเสมอ 

40 บทหะดีษฺ สําหรับเดอื นเราะมะฎอน จดั ทาํ โดย หอ งสมดุ อกิ เราะอ บรรณาธิการ ซฟุ อมั อษุ มาน บรรณาธกิ ารรวม อษุ มาน อดิ รสี พิสูจนอ กั ษร ฮซุ เซน็ หะยนี าแว รปู เลม อบู ฟย รซู หนงั สือในโครงการความรว มมอื เพอื่ จดั พิมพห นังสือ โดย หอ งสมดุ อกิ เราะอ www.iqra.in.th โดยความรวมมอื และสนบั สนุนของ สาํ นกั งานความรว มมอื เพอื่ เผยแพรแ ละสอนอสิ ลาม อรั -รอ็ บวะฮฺ กรงุ รยิ าด ประเทศซาอดุ อิ าระเบยี www.islamhouse.com

สารบญั หัวขอ หนา บทบญั ญตั กิ ารถอื ศีลอดจากอัลกรุ อาน...............................................................8 คุณคาของเดือนเราะมะฎอนจากอัลกุรอาน ....................................................... 9 หะดษี ฺท่ี 1 การถอื ศีลอดเดือนเราะมะฎอนเปน ศาสนบงั คบั ...................... 10 หะดีษฺท่ี 2 ประตสู วรรคเปด ประตนู รกปด .........................................................11 หะดษี ฺท่ี 3 เปนไทจากการลงโทษในขุมนรก........................................................12 หะดษี ฺที่ 4 การอภัยโทษสาํ หรับผูถ อื ศีลอด.........................................................13 หะดษี ฺท่ี 5 ผลตอบแทนของการถอื ศีลอดเปนสทิ ธิของอัลลอฮฺ..........14 หะดษี ฺท่ี 6 การถอื ศีลอดเปนโลป อ งกนั ..................................................................15 หะดษี ทฺ ่ี 7 การถอื ศลี อดทาํ ใหอารมณใ ครล ดลง ..........................................16 หะดษี ฺท่ี 8 ความเบิกบานใจของผถู อื ศลี อด......................................................17 หะดษี ฺท่ี 9 กลน่ิ ปากของผูถอื ศลี อด ...................................................................... 18 หะดีษฺท่ี 10 ประตสู วรรค อรั ฺ-ร็อยยาน สําหรบั ผถู ือศลี อด................... 19 หะดีษทฺ ่ี 11 ปลอดภยั จากไฟนรก..............................................................................20 หะดีษทฺ ี่ 12 รกั ษามารยาทในการถอื ศลี อด.........................................................21 หะดีษทฺ ี่ 13 ภยั จากการพูดปดขณะถือศีลอด...................................................22 หะดษี ฺที่ 14 ความประเสรฐิ ของการทาน “สะหูร”ฺ ........................................... 23 หะดษี ทฺ ี่ 15 ใหทาน “สะหรู ฺ” ในชว งทายสดุ ของกลางคืน........................24 หะดีษฺท่ี 16 ใหร บี ละศีลอดทนั ทีเมื่อถึงเวลา...................................................... 25 หะดษี ฺท่ี 17 ละศีลอดดวยลูกอนิ ทผาลมั ..............................................................26 หะดีษทฺ ่ี 18 หลักฐานทสี่ นบั สนุนใหละหมาดตะรอวีหฺ................................. 27 หะดษี ฺท่ี 19 ความประเสริฐของการละหมาดตะรอวีหฺ................................29

หะดษี ทฺ ่ี 20 สงเสริมใหทําบญุ กศุ ลในเดอื นเราะมะฎอน...........................30 หะดีษทฺ ี่ 21 การชวยเหลอื ของอัลกรุ อานและการถอื ศีลอด......................31 หะดีษทฺ ี่ 22 ความประเสรฐิ ของการใหอ าหารละศลี อด............................ 32 หะดีษทฺ ี่ 23 ดุอาอฺของผูถอื ศีลอดไมถกู ผลกั ไส........................................... 33 หะดษี ฺที่ 24 ดุอาอเฺ ม่ือละศลี อด................................................................................34 หะดีษที่ 25 คนื “ลัยละตุล กอ็ ดร”ฺ ...........................................................................35 หะดีษฺท่ี 26 คุณคาของอบิ าดะฮฺในคนื ลัยละตุล กอ็ ดรฺ............................36 หะดษี ที่ 27 ใหมงุ มัน่ ประกอบอิบาดะฮฺในชว งสิบวันสุดทา ย................37 หะดษี ทฺ ี่ 28 คน หาลัยละตุล กอ็ ดรฺ ในชวงสิบวันสดุ ทา ย........................38 หะดษี ฺท่ี 29 การออิ ฺติกา ฟในชว งสบิ วันสดุ ทา ย.............................................39 หะดีษฺท่ี 30 ดุอาอฺสาํ หรบั คนื ลัยละตุล กอ็ ดรฺ ...............................................40 หะดีษทฺ ี่ 31 การจายซะกาตฟฏ เราะฮเฺ ปนฟรฎ ...................................................41 หะดีษฺที่ 32 จดุ ประสงคข องการจายซะกาตฟฏเราะฮฺ................................42 หะดีษทฺ ี่ 33 วันอดี ในบัญญตั อิ สิ ลาม...................................................................43 หะดษี ฺท่ี 34 เส้ือผาสําหรบั ออกไปละหมาดอีด.............................................. 44 หะดษี ฺที่ 35 ใหทานอาหารเล็กนอ ยกอนออกไปละหมาดอดี ลุ ฟฏรฺ...45 หะดีษทฺ ี่ 36 ใหนําสตรีออกไปรว มละหมาดอีด..............................................46 หะดษี ฺที่ 37 ใหท าํ ทานในเชา วนั อดี .........................................................................47 หะดษี ฺท่ี 38 ใหออกไปละหมาดทางหนง่ึ และกลับอกี ทางหนึง่ ............49 หะดีษทฺ ี่ 39 ใหเ ดินเทาออกสทู ่ลี ะหมาดอดี .......................................................50 หะดีษทฺ ี่ 40 การละหมาดอดี ท่ีมศุ ็อลลา(สนามละหมาด)เปน สุนนะฮฺ..51 หะดษี ฺท่ี 41 การถือศลี อดหกวนั ในเดือนเชาวาล............................................ 52

คาํ นํา หนังสือ 40 บทหะดีษฺ สําหรับเดือนเราะมะฎอน เปนการรวบรวม หะ ดีษฺตางๆ ของทานรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม จํานวนส่ีสิบ กวาหะดีษฺท่ีเก่ียวกับคุณคาของเดือนเราะมะฎอน และอะมัลตางๆ ที่ สนบั สนุนใหป ฏบิ ัติในเดือนอนั เปยมยิ่งดว ยความประเสริฐน้ี ตนฉบับเดิมของหนังสือเรียบเรียงโดย อบู อัดนาน อัลฟาริ ตีย ในภาษายาวี ผูจัดทําไดนํามาถอดความเปนภาษาไทยโดยคัดเอา เฉพาะตัวบทหะดีษฺเทาน้ัน หะดีษบางบทไดนํามาอางอิงใหมโดยคัด เอาเฉพาะสายรายงานที่ถูกยอมรับโดยอุละมาอ หมายเลขของหะดีษฺ อาศัยโปรแกรมสารานุกรมหะดีษฺของบริษัท Harf เปนเกณฑ ยกเวน หนังสอื หะดีษทฺ ่ไี มม ีระบใุ นโปรแกรม ผูจัดทําหวังอยางยิ่งวา หนังสือเลมน้ีจะเปนประโยชนแก มุสลิมทุกทานท่ีประสงคจะแสวงหาความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ ใน เดือนแหงความประเสริฐ เดือนเราะมะฎอน อัล-มุบาร็อก ดวยการ ปฏบิ ตั ติ ามจรยิ วตั รของทา นรอซูล ศอ็ ลลลั ลอฮฺ อะลยั ฮิ วะสลั ลัม และใครข อกลาวขอบคุณสํานักงานความรวมมือเพื่อเผยแพร และสอนอิสลาม สํานักงานอัร-ร็อบวะฮฺ กรุงริยาด ประเทศ ซาอุดิอาระเบีย เจาของเว็บไซต www.islamhouse.com ท่ีไดกรุณา รบั จดั พมิ พแ ละเผยแพรห นงั สอื เลมนี้ ส่ิงใดที่ปรากฏเปนขอผิดพลาด ทางผูจัดทําพรอมที่จะรับฟง คําแนะนําจากผูอานทุกทานดวยความยินดี ขออัลลอฮฺทรงประทาน เตาฟก ผจู ดั ทาํ

บทบญั ญตั ิการถือศลี อดจากอลั กรุ อาน Πã $u‹_ÅÁ9#$ ãΝ6à ‹ø n=æt =| GÏ ä. (#θΖã tΒ#™u ⎦t ⎪%Ï ©!$# $γy •ƒr'¯≈tƒ Νö ä3=ª èy s9 Νö 6à =Î 7ö %s ⎯ΒÏ ⎥š ⎪%Ï ©!#$ ’?n tã |=GÏ ä. $ϑy x. ∩⊇∇⊂∪ βt θà)−G?s  E١٨٣W‫א‬F ความวา โอบรรดาผศู รัทธาทัง้ หลาย ไดถูกบัญญัตแิ กสเู จาซ่ึงการถอื ศลี อด เชนท่ีเคยถูกบัญญัติแกประชาชาติกอนหนาสูเจามาแลว เผื่อสูเจา จะตกั วา1(สํารวมและยําเกรง) อัล-บะเกาะเราะฮฺ 183 1 ตักวา หมายถึง การยําเกรงตออัลลอฮฺ ดวยการสํารวมตนและปองกันตัวเองใหรอด พนจากการลงโทษของอัลลอฮฺ ดวยการปฏิบัติตามคําสั่งของพระองคและละทิ้งส่ิง ตอ งหา มทัง้ หลายทีท่ รงหาม 8

คณุ คาของเดอื นเราะมะฎอนจากอัลกุรอาน ”‰W δè ãβ#u™öà)ø9$# ÏμŠùÏ Αt “Ì Ρé& “ü %Ï !© $# βt $ŸÒΒt u‘ ãöκ−y 4 βÈ $s%öà ø9$#ρu “3 y‰ßγø9#$ z⎯ÏΒi M; ≈Ψo Éi t/uρ Ĩ$¨Ψ=j9Ï  E١٨٥W‫א‬F ความวา อันวาเดือนเราะมะฎอนน้ันเปนเดือนที่ถูกประทานลงมาซ่ึง คัมภีรอัลกุรอาน เพ่ือเปนทางนําแกมวลมนุษย และเปนสิ่งอธิบาย เก่ยี วกบั ทางนาํ และการแยกแยะอันชัดแจงยิง่ อัล-บะเกาะเราะฮฺ 185

หะดีษฺท่ี 1 การถือศีลอดเดอื นเราะมะฎอนเปน ศาสนบงั คับ ‫َﻛﺎ َن َﻳ ْﻮ ُم َﺨ ُﺷﻮ َرا َء‬ : ‫َﻟ ْﺖ‬ َ ‫َﻗ ْﻨ َﻬﺎ‬ ‫ا َّ ُﺑ‬ َ ِ ‫َﻗ ْﻦ َﺨﺋِ َﺸ َﺔ َر‬ ‫ﻗﺎ‬ ‫اﻟْ َﺠﺎ‬ ‫َﺗ ُﺼﻮ ُﻣ ُﻪ ُﻗ َﺮﻳْ ٌﺶ ِﻓﻲ‬ ‫َﺻﻠَّﻰ ا َّ ُﺑ‬ ‫َر ُﺳﻮ ُل ا َّ ِﺑ‬ ‫ َو َﻛﺎ َن‬، ‫ِﻫﻠِ َّﻴ ِﺔ‬ ، ‫ُﻣ ُﻪ‬ ‫َﻋﻠَ ْﻴ ِﻪ َو َﺳﻠَّ َﻢ َﻳ ُﺼﻮ‬ ‫َﻣ ُﻪ َو َأ َﻣ َﺮ‬ ‫ْﻟ َﻤ ِﺪ ﻳ َﻨ َﺔ َﺻﺎ‬ ‫َﻗ ِﺪ َم ا‬ ‫َﻓﻠَ َّﻤﺎ‬ ‫ َﻓ َﻤ ْﻦ َﺷﺎ َء‬،‫ر َﻣ َﻀﺎ ُن ﺗَ َﺮ َك َﻳ ْﻮ َم َﺨ ُﺷﻮ َرا َء‬.َ ‫ َﻣ َﻓْﻦﻠَ َّﻤَﺷﺎﺎ ُﻓَء ِﺮﺗَ ََﺮ َﻛض ُﻪ‬،‫ﺑِ َﺻِﺎﺼ َﻴَﻣﺎ ُﻪ ِﻣ َِﻪو‬ (١٨٩٧ ‫ ﻣﺴﻠﻢ رﻗﻢ‬،١٨٦٣‫)اﻛﺨﺎري رﻗﻢ‬ ความวา จากทานหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮา กลาววา “วันอา ชูรออฺ(วันท่ีสิบของเดือนมุหัรฺร็อม) เปนวันที่พวกกุร็อยชถือศีลอดกัน ในยุค ญาฮิลียะฮฺ(ยุคกอนอิสลาม) ทานรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม เองก็ไดถือศีลอดในวันนั้นเชนกันกอนท่ีทานจะเปนรอซูล ครั้นเมื่อทานอพยพไปมะดีนะฮฺทานก็ยังไดถือศีลอดในวันนั้นอีกและ ไดส่ังใหคนอ่ืนๆ ถือศีลอดในวันนั้นอีกดวย จนกระทั่งเมื่อการถือศีล อดในเดือนเราะมะฎอนไดถูกบัญญัติขึ้น ทานรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะ ลัยฮิ วะสัลลัม จึงไดเลิกถือศีลอดวันอาชูรออฺ(หมายถึงไมไดเปน ศาสนกิจบังคับอีกตอไป) ผูใดก็ตามที่ตองการปฏิบัติเขาก็ถือศีลอด(ใน วันอาชูรออฺ)นั้น หรือผูใดไมตองการปฏิบัติเขาก็ละทิ้งมัน(ไมถือศีลอด ในวนั อาชูรออฺ)” (รายงานโดย อัล-บคุ อรีย และมุสลิม)

หะดษี ฺท่ี 2 ประตสู วรรคเปด ประตนู รกปด ‫ﺑ‬،ُ ‫ ْﺖا َأَّﺑْﺑَِﻮا َُبﺻﻠَّاﻰﻟ ْ َﺠا َّﻨ َّ ِﺔ‬.‫َِ َذ َاوا ُﺻََّﺟ ُِّﻔﺑﺎ ََءﺪ َﻗَْر ْتﻨ َﻣُاﻪﻟ َ َأﻀَّﺎﺸ َّنَﻴ ُنﺎ َِرﻃُﻓ ُِّﺘﻴﺳ ُﻮﻦَﺤ َ«ل‬،‫ﺎ ِ»رِإ‬:‫َوََﻋﻗ ُﻠﻏَ ْﻦْﻴِّﻠ َِﻪﻘَأ ِ َْوﺖ َﺳَأﺑْﻠَُّﻫ ََﻮَﻢﺮا ْﻳ َُﻗَﺮبﺎ َة َال َﺠَّر‬ ( ‫ واﻟﻠﻔﻆ‬١٧٩٣ ‫ ﻣﺴﻠﻢ رﻗﻢ‬،١٧٦٦ ‫)اﻛﺨﺎري رﻗﻢ‬ ความวา จากทานอบู ฮรุ อ็ ยเราะฮฺ เราะฎยิ ลั ลอฮฺ อนั ฮุ เลาจากทานรอ ซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ทานไดกลาววา “เมื่อใดที่เราะ มะฎอนมาถงึ ประตทู ั้งหลายของสวรรคจ ะถกู เปดอา(อยางกวางขวาง) ประตทู ้งั หลายของนรกจะถูกปด ตรงึ และเหลา ชยั ฏอนจะถกู มดั ไว” (รายงานโดย อลั -บุคอรยี  และมุสลมิ สาํ นวนหะดษี เปน ของมุสลิม) 11

หะดีษฺที่ 3 เปน ไทจากการลงโทษในขุมนรก ‫ َِﻣَﻀَﻓﺻْﻨﺎﻠَﻠََّﻬ َْنﻰﺎﻢ‬،‫ِْﻠّﻟَْﻠَﻘََﻗﺠٍﺎﺔ َّﻨْ َﺖِلﺔِﻣ َأ ََﺑْْﻓرﻦ َﻮﻠَُاﺳ َْﻢﺷﻮُ ُْبﻬُﻓلاِﺮْﻐا َّﺠﻠََرَّﺎْ َﻖِﺑِرﻣ‬:‫َوﻗﺎُُ َولَبل ُﻏَا‬،َّ‫ﻦِ َو ََ»وُﻓ ِإَِّﻣﺘا ََذﺮ َ َّاﺤَد ُُةﺑ ْﻛَﺖاﺎ َﻟﻗََْأنِْﻨﺠْﺑ َُﻪأَِّﻮﻦا‬:ُ ،‫اُﻓَُﻗﺻَّْﻔ َُِّْﻔﺘﻦﺑ ََْﺪأﺢ َِﻋْ ِتﻣﻠَ ْﻨْﻴا ُﻟَﻫﻬِﻪﺎََّﺮﺸَْﻳَوﺑَﻴ َﺎﺮَﺎﺳ َة ٌﻠَِّﻃبََﻢﻴر‬ ‫ َﻳﺎ َﺑﺎ ِﻏ َﻲ اﻟ َّﺸ ِّﺮ‬.‫ ٍﺔ َ«و‬،َ‫ َﻲ َواَذﻟﻟ ْ َﺨ َ ْﻴﻚﺮِ ُﻛَأُّﻞْﻗﺒَِ ْْﻞﻠ‬،‫ َﻦ َﻳاﺎﺠََّﺑﺎﺎ ِِرﻏ‬:‫ َو َوُﻳ َِﻨ َّﺎﺑِِد ُﻗي َﺘ َُﻘﻣﺎَﻨﺎُء ٍد ِﻣ‬،‫ﺮ‬،ْ ‫َأَﺑﺎْﻗ ٌِﺼب‬ (‫ ﺣﺴﻦ‬: ٧٥٩ ‫ ﺻﺤﻴﺢ اﻟﺠﺎﻣﻊ اﻟﺼﻐﻴﺮ ﻟﻸﻛﺎ رﻗﻢ‬،٦١٨ ‫)اﻟﺘﺮﻣﺬي رﻗﻢ‬ ความวา จากทา นอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เลาจากทานรอ ซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ทานไดกลาววา “เม่ือคืนแรกของ เดือน เราะมะฎอนมาถึง เหลาชัยฏอนและญินที่ช่ัวรายทั้งหลายจะ ถูกมัด ประตูทั้งหลายของนรกจะถูกปดตรึง ไมมีประตูใดของมันที่ถูก เปด อยเู ลย ในขณะท่ีประตูท้ังหลายของสวรรคจะถูกเปดอา ไมมีประตู ใดๆ เลยของมันที่ถูกปด และจะมีผูที่ปาวประกาศเรียกรองวา ‘โอผูท่ี ขวนขวายความประเสริฐ จงรีบมาเถิด1 โอท่ีผูขวยขวายความช่ัวราย จงหยุดเถดิ ’ และสําหรบั อลั ลอฮฺนน้ั มีผทู ี่พระองคจ ะทรงปลดปลอ ยพวก เขาจากนรก สิ่งเหลานั้น(การเรียกรองและการปลดปลอย) จะเกิดขึ้น ทุกคํ่าคนื (ของเดือนเราะมะฎอน)” (รายงานโดย อัต-ติรฺมิซีย) 1 หมายถึง รบี มาแสวงหาความโปรดปรานของอลั ลอฮฺดวยการปฏบิ ัตคิ วามดี 12

หะดษี ฺท่ี 4 การอภัยโทษสาํ หรับผถู อื ศลี อด ‫َﺻﻠَّﻰ‬ ‫َﻗﺎ َل َر ُﺳﻮ ُل ا َّ ِﺑ‬ : ‫ِ َ ا َّ ُﺑ َﻗ ْﻨ ُﻪ َﻗﺎ َل‬ :‫َأَﻋِﻠَ ْﻴ ِﻪُﻫ َﺮَو ْﻳ َﺳَﺮﻠََّة َﻢ َر‬ ‫َﻗ ْﻦ‬ ‫ُﻏ ِﻔ َﺮ‬ ‫إِﻳ َﻤﺎﻧًﺎ َوا ْﺣﺘِ َﺴﺎﺑًﺎ‬ ‫» َﻣ ْﻦ َﺻﺎ َم َر َﻣ َﻀﺎ َن‬ ‫ا َّ ُﺑ‬ .«‫َ ُ َﻣﺎ َﻳ َﻘ َّﺪ َم ِﻣ ْﻦ َذﻧْﺒِ ِﻪ‬ (١٢٧٦ ‫ ﻣﺴﻠﻢ رﻗﻢ‬،٣٧ ‫)اﻛﺨﺎري رﻗﻢ‬ ความวา จากทาน อบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุ เลาจากทาน รอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ทานไดกลาววา “ผูใดที่ถือศีลอด ในเดือนเราะ-มะฎอนดวยเปยมศรัทธาและหวังในผลบุญ เขาจะไดรับ การอภัยจากความผิดบาปที่ผา นมาของเขา” (รายงานโดย อลั -บคุ อรีย และมสุ ลมิ ) 13

หะดีษทฺ ี่ 5 ผลตอบแทนของการถอื ศีลอดเปน สิทธขิ องอัลลอฮฺ ِ‫ ُﺳُﻛ ُّﻮﻞ َل َﻗا َﻤ َّ ِﻞﺑ‬:‫َو َُﺟﺖ َّﻞَر‬.‫ُﺑي ََﻋﺑﺳِ َِِّﺰﻪﻤ«ْﻌ‬:‫َﻗ َْوﻨ» َأ َﻗُﻧَﻪﺎﺎ ََﻗَألﺎاَْﺟل َِّﺰ‬:‫ َﻓا ُُﻫﻘ ََّﻮﻮ ُﺑُِﻟلﻲ‬،‫اﺑََْﻗﺻ ِﻦﻠَّْﻦﻰآ َأاَد ِ َمَّ ُﺑَ ُُﻫ َإﻋَِﺮﻠَْﻳﻻَّْﻴ َﺮ ِاﻪ َﻟة َوَِّرﺼَﺳَﻴ ِﺎﻠَّ َََمﻢ‬ (١٩٤٢ ‫)ﻣﺴﻠﻢ رﻗﻢ‬ ความวา จากทาน อบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุ เลาจากทาน รอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ทานไดกลาววา “องคอัลลอฮฺ ผู ทรงเกรียงไกรและสูงสงไดมีดํารัสวา ‘การงานทุกประการของมนุษย น้ัน(จะไดรับผลบุญ)ตามสวนท่ีเขาไดกระทํา ยกเวนการถือศีลอด (ผลตอบแทนตอ)การถือศีลอดน้ันเปนสิทธิของฉัน และฉันจะตอบ แทน(ตามความประสงคของฉัน)เอง’1” (รายงานโดยมสุ ลมิ ) 1 น่ันคือ พระองคจะทรงเพิ่มพูนผลตอบแทนการถือศีลอดใหเทาทวีดวยความเมตตา ของพระองคตามแตท่ีทรงประสงคโดยไมมีกําหนดตายตัวเชน เจ็ดเทา สิบเทา เจ็ด รอยเทา ฯลฯเหมือนการปฏิบัติความดีอื่นๆ 14

หะดษี ฺที่ 6 การถอื ศลี อดเปน โลป องกัน ‫ا َّ ُﺑ‬ ‫ﻰ‬،‫ﻳَ ْﺠ ََﻬﺻ ْﻠَّﻞ‬.‫ُﻪ ََﻓَأﺻ َّﺎﻼَنﺋِ ٌﻳَﻢَرْﺮـُُﻓﺳ َﻮﻣْ َﺚَّﺮل َﻳ َوْاﻴ ِ َّﻻَﻦ«ِﺑ‬،‫َ َﻳر»َﻤِاﻟُﻪ َ ِّ َﻓﺼاَﻠْﻴﺎَﻴ َّ ُُمﻘُﺑْﻞ ُﺟ َإَِّﻨﻗ ٌِّْﻨﺔ‬:‫ا ََﻋْﻣﻗﻠَُﺮْْﻴﻦٌؤِﻪَأ َِﻗ َوﺎﺗََﺳﻠَﻠَُُّﻫﻪ َﻢَﺮَأ ْﻳَْﻗوﺎَﺮ َََةلﺷﺎ‬ ‫َوإِ ِن‬ (١٧٦١‫)اﻛﺨﺎري رﻗﻢ‬ ความวา จากทาน อบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุ เลาจากทาน รอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ทานไดกลาววา “การถือศีลอด นั้นเปนโลปองกัน1 ดังน้ัน(เมื่อผูใดถือศีลอด)แลว เขาอยาไดพูดจา หยาบโลนและอยา ไดป ระพฤติเย่ียงผูท่ไี รจ ริยธรรม และหากแมนมผี ใู ด ตอ งการทะเลาะเบาะแวงหรอื กลา วดา วา รายเขา ก็ใหเขากลาวแกคนผู น้ันวา ‘แทจริงฉนั เปน ผถู อื ศลี อด แทจรงิ ฉันเปนผถู ือศีลอด’ 2” (รายงานโดย อัล-บคุ อรีย) 1 คือปอ งกนั ไมใ หผถู อื ศีลอดประพฤติส่งิ ท่ไี มด ี หรือปองกันเขาจากการตองเขานรก 2 คือใหกลาวเพียงเทานี้ โดยไมตองตอบโตดวยคําพูดอื่นท่ีอาจจะทําใหการถือศีลอด บกพรอง 15

หะดีษฺที่ 7 การถอื ศลี อดทําใหอ ารมณใครล ดลง ‫ َﻗﺎ َل َر ُﺳﻮ ُل‬: ‫َﻗ ْﻦ َﻗ ْﺒ ِﺪ ا َّ ِﺑ ﺑﻦ َﻣ ْﺴ ُﻌﻮ ٍد َر ِ َ ا َّ ُﺑ َﻗ ْﻨ ُﻪ َﻗﺎ َل‬ ُ‫ َّﻧَﺒ َُﻪ َﻣﺼ َِ ِﻦﺮ‬،‫ ََﺘﺘ َﺰ ِ»ﻄ َّوَْﻊﻳﺎْ َجﻓ َ؛َﻌﻣﻠَْﻌَﻓْﻴ َﺈِﺸِﻪَّﻧ َﺮﺑُِﻪﺎاَﻟأﻟ َّ َ َّﺼﻏﺸ ْﻮَﺒُِّﺎم؛ﺾ ِ َِﻟبﻓﺈِْﻠ‬:‫ﻢﻋ َاﻠَو ْْﻴ ََﻣﻛِﻪﺎ ْﻦََءوﻟََةَ ْﺳﻢﻠََّﻓﻳَ َﻢْﻠْ َﻴﺴ‬،َْ ‫اَاو َأَّْﺳ َْﺘِﺣﺑ َﻄَﺎﺼَﺻ َُﻠﻦَّعﻰﻟِ ِﻠْاﻣ َْﻨﻔ َّ ْﺮُﺑُِﻜج‬ .«‫ِو َﺟﺎ ٌء‬ (٢٤٨٥ ‫ ﻣﺴﻠﻢ رﻗﻢ‬،٤٦٧٨ ‫)اﻛﺨﺎري رﻗﻢ‬ ความวา จากทานอับดุลลอฮฺ อบิ นุ มัสอดู เราะฎยิ ัลลอฮฺ อันฮุ เลาจาก ทานรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ทานไดกลาววา “บรรดาผู เปนหนุมทั้งหลาย ผูใดในหมูพวกทานที่มีความสามารถจะครองคูก็จง แตงงานเสีย เพราะแทจริงแลวมัน(การแตงงานนั้น)ทําใหลดสายตา (จากการมองสิ่งตองหาม)ไดดีกวา และใหการปกปองอวัยวะเพศ(จาก การประพฤติผิด)ไดดีกวา และหากผูใดไมมีความสามารถ ก็ใหเขาถือ ศีลอด เพราะมัน(การถอื ศลี อดน้ัน)จะเปน ตวั ปองกัน(จากการประพฤติ ผดิ ในกามารมณ) ” (รายงานโดย อัล-บุคอรีย และมุสลิม) 16

หะดีษฺที่ 8 ความเบิกบานใจของผถู อื ศลี อด ‫ َﻗﺎ َل َر ُﺳﻮ ُل ا َّ ِﺑ َﺻﻠَّﻰ‬: ‫ِ َ ا َّ ُﺑ َﻗ ْﻨ ُﻪ َﻗﺎ َل‬ ِ‫َأا ْﻋﻓ َّ َ ُﻄﻦﺑ َﺮَأ َِ َﻋﻓ ْﻠَِﺮ ْﻴ َُﻫِحﻪ َﺮﺑَِْﻳوِﻔَﺮَْﺳَةﻄﻠَّ ِﺮََهرﻢ‬ ‫ َوﻟِﻠ َّﺼﺎ ِﺋ ِﻢ َﻓ ْﺮ َﺣ َﺘﺎ ِن َﻓ ْﻔ َﺮ ُﺣ ُﻬ َﻤﺎ ِإ َذا‬...» : .«‫َوإِ َذا ﻟَ ِﻘ َﻲ َر َّﺑ ُﻪ َﻓ ِﺮ َح ﺑِ َﺼ ْﻮ ِﻣ ِﻪ‬ (١٩٤٤ ‫)ﻣﺴﻠﻢ رﻗﻢ‬ ความวา จากทาน อบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุ เลาจากทาน รอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ทานไดกลาววา “สําหรับผูถือศีล อดน้ันมีความเบิกบานใจอยูสองครั้ง เมื่อเขาละศีลอดเขาจะเบิกบาน ใจกับการละศีลอดนั้น และเม่ือเขาไดพบองคอภิบาลของเขา เขาจะ เบิกบานใจกบั (ผลบุญทไี่ ดจาก)การถอื ศลี อดของเขา” (รายงานโดย มสุ ลมิ ) 17

หะดษี ฺที่ 9 กลนิ่ ปากของผูถือศลี อด ‫ﺢ‬،‫ َﻳي َﻗْﻮﺎََمﻏَلْﻔا ْﻟَُر ِﻘ ُﺲَﺳﻴﺎﻮُﻣَُﻣَﺤل ِﺔ َّﻤا ٍِﻣﺪَّ ِْﺑﻦِﻧ َﻴ َِر ِﺻﺪﻳﻠَِّهِﻰ‬:‫ُﻪ َﺪَوَﻗااﺎ ََّ َّ ِل ِﺑ‬.‫ْﻨ ْﻨ‬.‫ﻗِﻋ‬.َ »‫ ُُﺑﺐ‬:َّ ‫ْﻳاَوﻟَﺮ ََةﺳَّﺼﻠَّ َﺎرَﻢﺋِ ِِﻢَﻗ ََﺎأ َْاﻃل َﻴ‬.‫ ِِﻪﻢَ«ﺮ‬.‫ﻓُﻫ‬.َ‫ ْﻴ‬.َ‫ااﻟﻟَْﻋ ُﺨَِّﻤﻠُُﻦْﺑﺴﻮَأ ُِ َِﻋْﻚفﻠ‬ (١٩٤٤ ‫)ﻣﺴﻠﻢ رﻗﻢ‬ ความวา จากทาน อบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุ เลาจากทาน รอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ทานไดกลาววา “ขอสาบาน ดวยอัลลอฮฺผูซ่ึงชีวิตมุหัมมัดอยูในพระหัตถของพระองค แทจริงแลว กลิ่นปากของผูที่ถือ ศีลอดน้ัน มีกลิ่นหอม ณ อัลลอฮฺ ในวันกิยามะฮฺ ย่ิงกวา กลิน่ ของนาํ้ หอมมสิ ก(ฺ ชะมดเชยี ง)” (รายงานโดย มุสลิม) 18

หะดีษฺที่ 10 ประตสู วรรค อรั -ฺ ร็อยยาน สาํ หรับผถู อื ศลี อด ،‫ﺻ َﻟﻠَّﻳَ ْﻴﻰْﺪُﺮا ُُﻫﺧ َُّْﻢ ُﺑﻞ‬،َ‫ْﻌ ْﻮ ٍ»ﺪَمإِ َاَّنر ْﻟ ِِﻓِﻘﻲَﻴَﺎا َﻟﻣ ْا َﺠِﺔ َّﻨَّ ُِﺔﺑَﻻﺑَﺎَﻳَﺑًﻗْﺎﺪْﻨ ُُﻓﻪُﺧ َﻘ ُﺎَﻞﻗُل ِْﻣﻦ َْﻨ ُاُﻪاﻟََّأﺠ َّﺮِﺒََّﻳِّﺣﻲﺎ ٌﺪ ُن‬:‫ََِﻣﻋﻗْﻨﻠَ ُْْﻪﻴﻦ ِﻪا َﻟﺳَو َّْﻬ َﺼﺳ ِﺎﻞﻠَّﺋِ َْﻢُﺑﻤ ِﻮَﻗﻦﺎ َ َن َلﺳ َﻳ‬ ‫ﻪ ُﺧَأ ُﻞَﺣ ٌِﻣﺪ ْﻨ« ُﻪوَأ ِز َ ْﻳﺣ ٌَﺪﺪ‬.ُ «‫ َﻤُﺧﺄْ ْ ََأﻻﻞﺑَ ًَﻳِﺪﻣاْْﻨﺪ‬،‫ﺎ َ ِﺋﺧ» ُﻠَُﻤوﻮﻮَﻣا َُْأنﻦ ْ؟ َﻏدﻠَِ َﻓﺧَ َﻴﻖﻠَ ُﻘُﻪَﻓﻮﻟﻠََ ُﻣْْﻢﻢﻮ ََﻓﻳ َ ْْنﺪﻈ‬:‫ْﻦﻓ ََﻓﻣﻦﺈِﺎ َاذﻟاﺟﻪََّدﺼ‬،‫ُﻓَﻋﻟَﻘﻨْﻴﺎ ُﺮﺪُ ُلاﻫﺑَْﻢأ‬ (١٦٣٠ ‫ اﺑﻦ ﻣﺎﺟﻪ رﻗﻢ‬،١٩٤٧ ‫ ﻣﺴﻠﻢ رﻗﻢ‬،١٧٦٣ ‫)اﻛﺨﺎري رﻗﻢ‬ ความวา จากทาน สะหฺลิ อบิ นุ สะอฺดิ ไดฟงจากทานรอซลู ศ็อลลลั ลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ทานไดกลาววา “แทจริง ในสวรรคน้ันมีประตูหนึ่งมี ชื่อเรียกวา อัรฺ-ร็อยยาน ในวันกิยามะฮฺผูถือศีลอดจะเขาสวรรคจาก ประตูนี้ ไมมีผูใดสักคนเขาจากประตูนี้นอกจากพวกเขา จะมีเสียงถาม ข้ึนมาวา ‘ไหนเลาบรรดาผูถือศีลอด?’ (เพื่อเรียกใหพวกเขาไดเขา สวรรคจากประตูน้ี) แลวพวกเขาก็จะยืนขึ้น ไมมีผูใดสักคนเขาจาก ประตูนนี้ อกจากพวกเขา เมอื่ พวกเขาไดเ ขาไปหมดแลว ประตนู ้ีกจ็ ะถูก ปด จึงไมมีผูใดไดเขาไปจากประตูน้ีอีกนอกจากพวกเขา” มีสํานวน เพม่ิ เติมจากสายรายงานของอบิ นุ มาญะฮวฺ า “ผใู ดท่ีไดเขาจากประตูนี้ เขาจะไมก ระหายอกี เลยชั่วนริ นั ดร” (รายงานโดย อลั -บคุ อรยี , มสุ ลมิ และอบิ นุ มาญะฮฺ) 19

หะดษี ทฺ ี่ 11 ปลอดภัยจากไฟนรก ‫ َﺳ ِﻤ ْﻌ ُﺖ ا َّﺠ ِﺒ َّﻲ‬: ‫ا َّ ُﺑ َﻗ ْﻨ ُﻪ َﻗﺎ َل‬ َ ‫ََﻗﺻ ْﻠَّﻦﻰ َأ ِا َّ ُﺑَﺳ ِﻌَﻋﻴﻠٍَﺪْﻴ اِﻪﻟ ْ َُﺨو َْﺪﺳﻠَِّر َﻢِّي َﻓ َرُﻘ ِﻮ‬ ‫َﻳ ْﻮ ًﻣﺎ ِﻓﻲ َﺳﺒِﻴ ِﻞ‬ ‫ » َﻣ ْﻦ َﺻﺎ َم‬: ‫ُل‬ .«‫ َﻧ َّﻌ َﺪ ا َّ ُﺑ َو ْﺟ َﻬ ُﻪ َﻗ ْﻦ اﺠَّﺎ ِر َﺳ ْﺒ ِﻌﻴ َﻦ َﺧ ِﺮﻳ ًﻔﺎ‬،ِ‫ا َّﺑ‬ (١٩٤٩ ‫ ﻣﺴﻠﻢ‬،٢٦٢٨ ‫)اﻛﺨﺎري رﻗﻢ‬ ความวา จากทาน อบู สะอ๊ีด อัล-คุดรีย เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ไดฟง ทานรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม กลาววา “ผูใดที่ถือศีลอด หนึ่งวันดวยความบริสุทธ์ิใจเพ่ืออัลลอฮฺ (ผลตอบแทนของเขาก็คือ) พระองคจะทรงทําใหเขาหางไกลจากไฟนรกถึงระยะทางเทากับเจ็ดสิบ ฤดูกาลในการเดนิ ทาง” (รายงานโดย อลั -บคุ อรยี  และมุสลิม) 20

หะดษี ฺที่ 12 รักษามารยาทในการถอื ศลี อด َّ‫ﺻا َﻴﺎَّ ِِﺑﻣ ِﻪ َ ِﺻإﻠَّﻻﻰ‬.ِ‫ﻪ َإِ َﻗﺲﺎﻻَََّلُاﻟ َرَِّﻣﺴ ُﺳَﻬْﻦﻮُﺮ ُ«ل‬:ِ ْ‫ﻟَ َﻴْ» َا ُرﺲ َّ ََُّﺑبُ َِﻣﻗَ ْﺻﻨ ْﺎﻦُﻪ ِﺋﻗٍَِﻗﻢَﻴﺎﺎ ََﻟلِﻣﻴ‬:ِ ‫ﻋﻠَ َوْﻴ ُﻫ ُِرﻪَﺮ َّْﻳَبوَﺮ َََﻗةﺳﺎﻠَّﺋَِرٍَﻢﻢ‬،َ‫اا َﻟﻗ ْ َُّﺠ ُْﻦﺑﻮ َأ ُِع‬ (‫ ﺣﺴﻦ ﺻﺤﻴﺢ‬:١٣٧١‫ ﺻﺤﻴﺢ ﺳﻨﻦ اﺑﻦ ﻣﺎﺟﻪ ﻟﻸﻛﺎ رﻗﻢ‬،١٦٨٠‫)اﺑﻦ ﻣﺎﺟﻪ رﻗﻢ‬ ความวา จากทาน อบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุ เลาจากทาน รอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ทานไดกลาววา “บอยคร้ังท่ีผูถือ ศีลอดไมไดรับผลตอบแทนจากการถือศีลอดของเขา นอกเสียจาก ความหิว(เพราะไมรักษามารยาทในการถือศีลอด) และบอยครั้งที่ผูยืน (ละหมาดในเวลากลางคืน)ไมไดรับผลตอบแทนจากการยืนละหมาด ของเขานอกเสียจากการอดนอน” (รายงานโดยอบิ นุ มาญะฮ)ฺ 21

หะดีษทฺ ี่ 13 ภัยจากการพูดปดขณะถอื ศีลอด ‫ َﻗﺎ َل َر ُﺳﻮ ُل ا َّ ِﺑ َﺻﻠَّﻰ‬: ‫ِ َ ا َّ ُﺑ َﻗ ْﻨ ُﻪ َﻗﺎ َل‬ ‫َأ َِﻋﻠَ ْﻴ ُﻫِﻪ َﺮ َْﻳو َﺮَﺳ َةﻠَّ ََﻢر‬ ‫َﻗ ْﻦ‬ ‫ِر َوا ْﻟ َﻌ َﻤ َﻞ ِﺑ ِﻪ‬.«‫ِﻓﻲ» َأ َﻣْن ْﻦﻳَ ََﻟﺪ ْﻢ َع َﻳ َ َﻃﺪ َﻌ ْﺎع َﻣ َﻗُﻪ ْﻮ ََول َﺷا َﺮﻟا ُّﺑَﺰ ُﻪو‬: ‫ا َّ ُﺑ‬ ‫َﻓﻠَﻴْ َﺲ ِ َّﺑِ َﺣﺎ َﺟ ٌﺔ‬ (١٧٧٠ ‫)اﻛﺨﺎري رﻗﻢ‬ ความวา จากทาน อบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุ เลาจากทาน รอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ทานไดกลาววา “ผูใดท่ีไมละท้ิง การพูดเท็จและยังปฏิบัติอยูอีก(ในขณะท่ีถือศีลอด) ดังน้ันไมใช ความจาํ เปน เลยสาํ หรบั อัลลอฮฺ ที่เขาผูนั้นตองละทิ้งอาหารการด่ืมกิน ของเขา1” (รายงานโดย อัล-บุคอรยี ) 1 หมายความวา การถือศีลอดของเขาจะไมมีความหมายหรือผลตอบแทนใดๆ จากอลั ลอฮฺ ตราบใดทเี่ ขาไมละทง้ิ การพดู เท็จในขณะทถ่ี อื ศลี อด 22

หะดีษทฺ ่ี 14 ความประเสริฐของการทาน “สะหรู ”ฺ 1 ‫َﺻﻠَّﻰ‬ ‫ ِﺒ ُّﻲ‬.‫ﻮ ِر َﻗﺎﺑَ ََﺮل َﻛاًﺔ«َّﺠ‬: ‫ ٍ»ﺗﻚ َ َ َﺴر َِّﺤ َُﺮواا َﻓَّﺈُِﺑ َّن َِﻗﻓ ْﻨﻲ ُﻪاﻟ َﻗَّﺎﺴ َ ُلﺤ‬:ِ‫ْﺑَو ِ َﻦﺳﻠَّ َﻣَﻢﺎﻟ‬ ‫َأﻧَ ٍﺲ‬ ‫َﻋﻦ‬ ‫َﻋﻠَ ْﻴ ِﻪ‬ ‫ا َّ ُﺑ‬ (١٨٣٥ ‫ ﻣﺴﻠﻢ رﻗﻢ‬،١٧٨٩ ‫)اﻛﺨﺎري رﻗﻢ‬ ความวา จากทา นอะนสั อิบนุ มาลิก เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เลาจากทาน รอซลู ศอ็ ลลัลลอฮฺ อะลยั ฮิ วะสัลลัม ทา นไดก ลาววา “พวกทา นจงทาน สะหูรฺ เถิด เพราะใน สะหรู ฺ นนั้ มีบะเราะกัต(ความประเสรฐิ )” (รายงานโดย อลั -บุคอรยี  และมุสลมิ ) 1 อาหารที่ผูถือศีลอดทานตอนหัวรงุ กอ นการเร่ิมถือศลี อดในแตล ะวัน 23

หะดษี ทฺ ี่ 15 ใหท าน “สะหรู ฺ” ในชวงทายสดุ ของกลางคนื ‫َّ ُﺑ َﻗ ْﻨ ُﻬ َﻤﺎ‬ ‫أﻧَﺗَِ َﺴﺲ َّﺑﺤ ِْﺮﻦ َﻧﺎ َﻣﺎَﻣﻟِ َﻊٍﻚ َر َُﺳﻗﻮ ْﻦِل َزا ْﻳ َّ ِﺪ ِﺑ ْﺑ َِﻦﺻﻠََّﺛﻰﺎﺑِا ٍ َّﺖ ُﺑ َر َﻋِﻠَ َْﻴ ِﻪا‬:َ ‫َﻗ ْﻦ‬ ‫ ُﻋ َّﻢ‬،‫َو َﺳﻠَّ َﻢ‬ ‫َﻗﺎ َل‬ ‫َﻗﺎ َل‬ ‫َﻛ ْﻢ ﻛَﺎ َن َﻗ ْﺪ ُر‬ : ‫ ُﻗﻠْ ُﺖ‬،‫ُﻗ ْﻤ َﻨﺎ إِ َﻟﻰ اﻟ َّﺼﻼَ ِة‬ : .‫آﻳَ ًﺔ‬ ‫َﻣﺎ َﺑﻴْ َﻨ ُﻬ َﻤﺎ؟‬ ‫َﻗ ْﺪ ُر ﺧَ ْﻤ ِﺴﻴ َﻦ َأ ْو‬ : ‫ و رواﻳﺔ‬.‫ﺧَ ْﻤ ِﺴﻴ َﻦ آﻳَ ًﺔ‬ ‫ِﺳﺘِّﻴ َﻦ َﻓ ْﻌ ِﻨﻲ‬ (١٨٣٧ ‫ ﻣﺴﻠﻢ رﻗﻢ‬،٥٤١ ‫)اﻛﺨﺎري رﻗﻢ‬ ความวา จากทาน อะนสั เลาจากทา น ซยั ดฺ อิบนุ ซาบติ เราะฎยิ ลั ลอฮฺ อันฮุ ไดกลาววา “พวกเราไดทานสะหูรฺกับทานรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะ ลัยฮิ วะสัลลัม เสร็จแลวก็ไดลุกข้ึนไปละหมาด(ศุบหฺ)กับทาน” ฉัน (อะนัส)ถามวา “ชวงเวลาเทาใดระหวางทั้งสอง? (หมายถึงหลังจากท่ี ทานสะหูรฺเสร็จกับเวลาของการละหมาดศุบหฺ)” ซัยดฺตอบวา “หาสิบอา ยะฮฺ(หมายถึงชวงเวลาระหวางนั้นเทากับเวลาที่ใชในการอานอัลกุ รอานประมาณหาสบิ อายะฮ)ฺ ” ในอีกรายงานหน่งึ มีวา “ประมาณหาสบิ หรอื หกสิบอายะฮ”ฺ 1 (รายงานโดย อัล-บคุ อรยี  และมุสลมิ ) 1 บทเรยี นจากหะดีษฺน้คี ือ สุนตั ใหท านสะหรู ฺอยางลาท่ีสุดเทาท่สี ามารถทําได 24

หะดษี ฺท่ี 16 ใหร บี ละศีลอดทนั ทีเม่อื ถงึ เวลา ‫َﺻﻠَّﻰ ا َّ ُﺑ‬ ‫ِ َ ا َّ ُﺑ َﻗ ْﻨ ُﻪ َأ َّن َر ُﺳﻮ َل ا َّ ِﺑ‬ َ‫ ٍﺪ» َرﻻ‬:‫ََﻋﻗﻠَ ْ ْﻦﻴ ِﻪ َﺳ َوْﻬ َﺳِﻞﻠَّﺑَْﻢ ِﻦَﻗﺎ ََﺳل ْﻌ‬ .«‫اﻟْ ِﻔ ْﻄ َﺮ‬ ‫ﻳَ َﺰا ُل اﺠَّﺎ ُس ﺑِ َﺨ ْﻴ ٍﺮ َﻣﺎ َﻋ َّﺠﻠُﻮا‬ (١٨٣٨ ‫ ﻣﺴﻠﻢ رﻗﻢ‬،١٨٢١ ‫)اﻛﺨﺎري رﻗﻢ‬ ،‫اا ِّ َّﻳ ُﺑ ُﻦ َ َﻗﻇْﻨﺎ ُﻪ ِﻫ ًﺮَاﻗ َْﻣﻦﺎا ََّﻋﺠ ِﺒ َّﺠِّﻲ َﻞ َاﺻﻠََّّﺠﻰﺎ اُسَّ ُاﺑ ْﻟ َِﻔﻋ ْﻠَﻄ ْﻴ َﺮ ِﻪ‬ َ ِ ‫َر‬ ‫ﺮ ْﻳ» َﺮ َةَﻻ‬:َ ‫ِ َﻗﺎ َ ُلﻫ‬ َ ‫َﻗ ْﻦ‬ ‫َﻳ َﺰا ُل‬ ‫أ‬ ‫َو َﺳﻠَّ َﻢ‬ ْ ‫َﻷَ َّن ا‬ .«‫َ ُﻬﻮ َد َواﺠَّ َﺼﺎ َرى ﻳُ َﺆ ِّﺧ ُﺮو َن‬ (‫ ﺣﺴﻦ‬:٢٠٦٣‫ ﺻﺤﻴﺢ ﺳﻨﻦ أ داود ﻟﻸﻛﺎ رﻗﻢ‬،٢٠٠٦ ‫)أﺑﻮ داود رﻗﻢ‬ ความวา จากทาน สะหฺลิ อิบนุ สะอฺดิ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ วาทานรอ ซลู ศ็อลลลั ลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ไดกลาววา “ผูคนท้ังหลายจะยังคงมี สุขภาพดี ตราบใดที่พวกเขารีบละศลี อดทันท(ี ทถี่ ึงเวลา)” (รายงานโดย อัล-บุคอรยี  และมสุ ลิม) และจากทาน อบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุ เลาจากทานรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ทานไดกลาววา “ศาสนาจะยังคงเชิด เดน ตราบใดท่ีผูคนยังรีบละศีลอดทันที(เมื่อถึงเวลา) เพราะพวกยิว และครสิ ตจะชักชา(ไมร บี ละศลี อดทันทเี ม่อื ถึงเวลา)” (รายงานโดย อบู ดาวดู ) 25

หะดีษฺที่ 17 ละศีลอดดว ยลูกอินทผาลัม ‫ﺠ ٌ ِﺒتَﻓُّﻲﺈِ َْنَﺣﺻ ََّﻟﻠَّﺴ ْﺎﻢﻰ‬،َّ ‫ْﻦ ُرﻛََُﻳﺎﻃ ََﻤﺒَنﺎْْﻴ َﺮاٍات‬:‫اﻞ ََأﻓﺈِْﷲن ْنﻳَُﻗ َﻟَْﻨﺼُْﻢﻪﻠِّ َْﻲﺗَﻗﺎ ََﻟلُﻜَﺒ‬،َ ‫اَﺗَﻗ ُْﷲﻦُﻜ َأَْﻋﻦﻧَﻠٍَ ُْﻴرﺲَِﻪﻃﺑ ََﺒو ِﺎْﻦَﺳ ٌﻠََّﻣت َﺎْﻢﻟَِﻓُﻓ ٍُﺘ ْﻔﻚَﻤ ِْﻴﻄَرَﺮُﺮْاِ َﻗٍ َْﺒت‬ .‫َﺣ َﺴ َﻮا ٍت ِﻣ ْﻦ َّﻣﺂ ٍء‬ (‫ ﺻﺤﻴﺢ‬: ٥٦٠‫ ﺻﺤﻴﺢ ﺳﻨﻦ اﻟﺘﺮﻣﺬي ﻟﻸﻛﺎ رﻗﻢ‬،٦٣٢ ‫)اﻟﺘﺮﻣﺬي رﻗﻢ‬ ความวา จากทาน อะนัส อิบนุ มาลิก เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เลาวา “ทานรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม จะละศีลอดกอนละหมาด (มัฆริบ)ดวยลูกอินทผาลัมสดจํานวนเล็กนอย ถาไมมีอินทผาลัมสด ทานจะละศีลอดดวยอินทผาลัมแหงเล็กๆ จํานวนหนึ่ง หรือถาไมมี อินทผาลมั แหง ทานจะจิบหรือด่มื น้ําสองสามครงั้ ” (รายงานโดย อตั -ติรมฺ ซิ ีย) 26

‫ฺ ี‪หะดษี ฺท่ี 18 หลักฐานท่ีสนับสนนุ ใหละหมาดตะรอวห‬‬ ‫َﻗ ْﻦ َﺨﺋِ َﺸ َﺔ َر ِ َ ا ُﷲ َﻗ ْﻨ َﻬﺎ َﻗﺎ َﻟ ْﺖ ‪َ :‬أ َّن َر ُﺳﻮ َل ا َّ ِﺑ َﺻﻠَّﻰ‬ ‫ااﺑِ َاﻟْﻋَﺬََّﺠﻤَّﻠَﻟِﺎ ُْﻴْﺴُﺑَِﻪﻚ ِسﺠََ َوﻓِﻋَﺪﻳﺎَ‪،‬ﻠَﺳ ْﺬْﻴْﻠَّ َﺟﻓ َُِﻪﻢَﺘﻛ َ َُﻤِﺮﺼَﻓ َﻠوَّﻊوﻲﻰَﺳََأانﻠَّ ِرﻟْ َﻛﻢَﻠََّذﺟَﺜْﻴﻟِﺎُﺮَﻠٌَلﺧَِﺔِﻚﻣَﺮﺑِ‪ْ،‬ﻨا ََُﻬﻛ ََّﺼﻓﺨجْﻢﺎ‪َ،‬ﻜِﻼَِﻏﻣﺗﺜََُِﻴﻓ َﺮِﻪِْﺔﻦَ‪َ ،‬ﺨأ ََﻓﺮَﻓَْﻫﺄَ ََﺟُجﺼْﻞْﻮﺻﻠَّ َِاَْﺒرﻮ ْﻟاَُﺳفﺢَﻤ ِﺑﻮاْاُﺴَلَّﺠﺼﻟﺎِﺠاﻠَّ ُْﻼَﻴِﺪَّ ِﺗسِﻞِﺑِِﻪﻣَﻓ َ‪ََ ،‬ﺘَﻓﻦﺻَ َﻓَﺤاﻠَّﺄَﺼﻟﻰَّﺪﻠَّْﻠَّ ُﺛاﻰﺻْﻴ َﻮﺒ ِﻠََّﻓ ََُِﻲﺔنﺑﺢ‬ ‫ﻛَﺎ َﻧ ِﺖ اﻟﻠَّ ْﻴﻠَ ُﺔ اﻟ َّﺮاﺑِ َﻌ ُﺔ‬ ‫ﺑِ َﺼﻼَﺗِ ِﻪ‪َ ،‬ﻓﻠَ َّﻤﺎ‬ ‫ا َﻛﻋَّﺨﺎ َﺠِﻛ َﺨَﺰ ِﺔا‪ْ ،‬ﻟ َﻓَﻤ َْﺨﺴ َﺮ ِﺠ َجُﺪ َﻓ َ َﻗﺼ ْﻠَّﻦ ْﻮَأا‬ ‫ْج ِإ َ ْ ِﻬ ْﻢ َر ُﺳﻮ ُل ا َّﺑِ‬ ‫ْﻫﻠِ ِﻪ‪َ ،‬ﻓﻠَ ْﻢ َﻳ ْﺨ ُﺮ‬ ‫ااَﻟََﺷﺻﺣ َّْﺄَّﺠﻠََُّّﺼﺎﻧﻰ ِﻼا َةَُسﻜ‪،‬ﺧَّْﻢَُُﺮﻋَﻓﺑ َّاﻠَﻢَجْﻟَﻢﺗَﻋﻠَّ ِﻟﻳََْﻴﻠَﺸْﺨَْﻴﻠَ َّﻬﺼُﺮَِﻪﺔ َﺪْ‪،‬ﻼََج‪،‬وِةَإِ ََوَﺳﻓاَْﻠﻟََّْﻘﻟِﻬَﺎﻢَِﻔﻜَْﻢ‪ِّ ،‬لﻨ ْﺠَْرَﻲ‪:‬ﻓِﺮُﺳَ‪َ،‬ﻄ»ﻮﺧ ََِﻔُأﻓلََِّﻠَﺸﻣﻖا ْﻴَّﺎﻤﺎََُِّرﻧﺑِﺖَﻗَْﻌ َﺟأَُﺎَﺪﺻ ٌْ‪،‬ﻠَّنلﻰَﻓُااﻳِﺈِﻣَّْْﻟﻔﻧْﻨَّ ََﻔُﺮُُﻪﻬﺑ ََْْﻢﻟﺠ َﻋَْﺮﻢَضﻠﻓَ َْأﻴَُﻘﻳ َِْْﻪﺨﻗﻋﻮ َُﺒَﻠَﻟَوَْﻴﻮﻞﻒَﺳ َﻠﻋَّنََُﻟﻜﻠَََﻢ َّْ‪،‬ﻢﺒ‪:‬ﻲ‬ ‫َﺻﻼَ ُة اﻟﻠَّ ْﻴ ِﻞ َﻓ َﺘ ْﻌ ِﺠ ُﺰوا َﻗ ْﻨ َﻬﺎ«‪.‬‬ ‫)ﻣﺴﻠﻢ رﻗﻢ ‪(١٢٧١‬‬ ‫‪27‬‬

ความวา จากทานหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮา เลาวา ทานรอ ซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ไดออกไปยังมัสญิดในเวลาดึก(ของ เดอื นเราะมะฎอน)แลวทาํ การละหมาด และไดม ีผูชายบางคนละหมาด พรอมทาน เรื่องที่เกิดขึ้นไดกลายเปนที่โจษขานกันในหมูผูคน จนกระทั่งมีคนมาละหมาดกับทานรอซูลมากข้ึน คืนท่ีสองทานรอซูล ไดออกไปละหมาดอีก ไดมีผูคนมาละหมาดกับทานมากขึ้นอีก และ พวกเขาก็ไดพูดถึงเร่ืองน้ีในเวลารุงขึ้น เมื่อถึงคืนท่ีสามทานรอซูลได ออกไปละหมาดอีกและมีผูคนมาละหมาดกับทานเหมือนเดิม พอถึง คืนที่ส่ีมัสญิดก็เต็มจนไมสามารถจุผูคนที่มีจํานวนเยอะได ทานรอซูล ไมไดออกมาในคืนน้ี ผูชายบางคนจึงไดกลาววา “อัศ-ศอลาฮฺ(มา ละหมาดกันเถิด)” ทานรอซูลยังคงไมไดออกไปจนกระท่ังถึงรุงเชา ทานจึงออกไปละหมาดฟจรฺ(ละหมาดศุบหฺ) เมื่อทานละหมาดเสร็จ ทานไดหันหนาเขาหาบรรดาผูที่รวมละหมาด ทานกลาวคําเร่ิมตน เพื่อใหโอวาท และไดใหเทศนาวา “เอาละ แทจริงแลว เรื่องราวของ พวกทาน(การรวมตัวกันเพื่อละหมาด)เมื่อคืนน้ี ไมใชส่ิงที่ปกปด สําหรับฉันแตอ ยา งใด(คือทา นรอซูลรูเหน็ การรวมตัวของเศาะหาบะฮฺ) หากแตฉันกลัววา(ถาฉันออกมาละหมาดกับพวกทานอีก)การละหมาด ในยามค่ําคืนจะถูกบัญญัติใหเปนภารกิจบังคับแกพวกทาน แลวพวก ทา นก็จะออนแรงทจ่ี ะปฏบิ ัติมนั ” (รายงานโดย มสุ ลิม) 28

หะดีษทฺ ี่ 19 ความประเสริฐของการละหมาดตะรอวหี ฺ ‫ا َّ ُﺑ‬ ‫َر ُﺳﻮ َل ا َّ ِﺑ َﺻﻠَّﻰ‬ ‫َّن‬ َ ‫اﷲ َﻋﻨ ُﻪ‬ َ ِ ‫َر‬ ‫ْﻳ َﺮ َة‬ ‫ِ َو َﺳ ُﻠَّﻫ ََﻢﺮ‬ َ ‫َﻗ ْﻦ‬ ‫أ‬ ‫َﻣ ْﻦ‬ ‫َﻗﺎ َل‬ ‫أ‬ ُ َ ‫َﻗﺎ َم َر َﻣ َﻀﺎ َن إِﻳ َﻤﺎ ًﻧﺎ َوا ْﺣﺘِ َﺴﺎ ًﺑﺎ ُﻏ ِﻔ َﺮ‬ ‫َﻋﻠَ ْﻴ ِﻪ‬ .‫َﻣﺎ َﻳ َﻘ َّﺪ َم ِﻣ ْﻦ َذﻧْﺒِ ِﻪ‬ (١٢٦٦ ‫ ﻣﺴﻠﻢ رﻗﻢ‬،٣٦ ‫)اﻛﺨﺎري رﻗﻢ‬ ความวา จากทาน อบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เลาจากทาน รอซลู ศ็อลลัลลอฮฺ อะลยั ฮิ วะสลั ลัม ทา นไดก ลาววา “ผใู ดทล่ี กุ ข้ึน(เพื่อ ละหมาดและประกอบอิบาดะฮฺ)ในคนื ของเดอื นเราะมะฎอน ดวยความ ศรัทธาและหวังในความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ เขาจะไดรับการอภัย โทษจากความผิดบาปทผี่ านมาของเขา” (รายงานโดย อลั -บุคอรยี  และมุสลิม) 29

หะดีษทฺ ่ี 20 สง เสรมิ ใหท ําบญุ กศุ ลในเดือนเราะมะฎอน ‫َاأ َُْﻟﻌنلَْﺟﻓِﺮَّ َﺈﺴِأَاﻮ ُ ََدذَّْﻼَضﺟاﺑِِﺑَُﻮمﺎ َََﻟﻋﻟدَْﻛَِﻠﻘََﺨﺻﺎ ََْﻴﻴْﻴﻠَّﻣ َُِنﻪﺮِﻪﺎﻰ‬،‫َرْﻴﻠَّو ََََُِﻪﻛﺳﻓﻢنﺎ َﻴﻮ‬،‫ﺮََﺦﻠَﺳ َآ‬،ْ‫ﻠَﻳﻟْﻨْْﻴاََﺨﻛََْﻞِﻪﻟْﺎﻴﺴ ُﺮِﻘﻠَََِونﻋ‬:‫ﻠَﺎﻠَُّﻬْﻴ َِّإﻰﺠََِﻤنﻪﺎاَّﺎنَِ َََّوﻗﺣ ُسﺎﺑََِّﺳﺟَ ِْﺒﻠَّﺑلَﻋﺎﺮَِﻢَﻳ‬،‫اأَاﻲِﻣ َّْ َّﺟَََُرﻀﺑَِﺑﻮﺎَﻣَدََََﻋﻋنَﺻﻀﻨا‬.‫ََﻳاَﻳِﻣَرِﺟﻗْﻠ َُّْْﺒَﻦﺳﻘُْﻦُِﺮﺎﻜﺑاﻮ ُﻳهﻟاﻮُ َُِّْﺑﺮِلﻞُﻋﻓ ْﻳنِﻲﻠَﻦاِﻛَِْﻴﺢﻓﺎَُّﻛِﻪَاﻲَِّﻗﻟِنْﻞﺑَّﺒَُﻤَﺎوَﺷرَْﺮٍََْﺳﻬﺳُﺻﺳََﻨﺳِﻠَّﺮﻠسٍَّﻮﺔﻠََﻰﻢََُِﺔرِلرَﻓ‬ (٤٢٦٨ ‫ ﻣﺴﻠﻢ رﻗﻢ‬،٥ ‫)اﻛﺨﺎري رﻗﻢ‬ ความวา จากทาน อิบนุ อับบาส เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุมา เลาวา “ในหมู ผูคนท้ังหลายนั้นทานรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม เปนผูใจ บุญท่ีสุดในการทําความดี1 และทานจะใจกวางท่ีสุดในเดือนเราะ มะฎอน ท้ังน้ี ทุกป ญิบรีลจะมาพบกับทานในทุกคืนของเราะมะฎอน จนกระทั่งหมดเดอื น ทา นรอซูลจะอานศึกษาอัลกุรอานกับญิบรีล และ แทจริงทานรอซูลน้ันเม่ือไดเจอญิบรีลแลว ทานจะเปนผูใจบุญในการ ทําความดีมากกวา/ย่งิ ใหญกวา ลมทห่ี อบพดั เสยี อกี ” (รายงานโดย อลั -บคุ อรยี  และมสุ ลิม) 1 หมายถงึ การใหทานและการทาํ บุญอืน่ ๆ 30

หะดษี ทฺ ี่ 21 การชวยเหลอื ของอัลกรุ อานและการถือศลี อด ِ‫ﺼﷲ َﻴَأﺎ َُْﻋميﻨ ََُﻬرواﻤِّ ْﺎﻟب َُﻘأ َْﻣﺮَّ َﻨنآ ْﻌ َُرُﺘن ُُﻪﺳﻳَاﻮْﻟَﺸلََّﻔﻄاَﻌَﻌﺎﺎَّ َِﺑنم‬:ِّ ‫ِ ِّﺼَ» َﻴاﺎاﻟُم‬:‫ﺳَﻗﻠََّﻓ ْﻤَُﻢﻘ ٍﺮﻮَﻗ ُوﺎل َ َالرﻟ‬،َ ‫ﻟِ ََْﻠﻗﺻ َﻌﻠَّْﻦْﺒﻰ ِﺪاَﻗ َﻳْﺒَّ ُْﻮِﺑﺪ َمااَﻋْﻟَّﻠَِﻘِﺑْﻴ َﻴ ِْﺎﻪﺑ َﻣِ َﻦوِﺔ‬ ‫ َﻣ َﻨ ْﻌ ُﺘ ُﻪ‬: ‫ ْﺮآ ُن‬.‫» َﻓَوﻴَُﻳ َُﻘﺸﻮَّﻔ ُ َﻌلﺎا ِْﻟن ُ«ﻘ‬،‫ﻪ‬:ِ ‫ِﻨﻲَﻗﺎ ِﻓَلﻴ‬،«‫ِﻨﻲَﻓ َﻓِﺸﻴ ِّﻔ ِﻪ ْﻌ‬،‫ا َواﺠَّﻟ ْﻮ َّ َمﺸ َﻬﺑِﺎَﻮﻟاﻠَّ ِْﻴت ِﻞﺑِﺎ َﻓ َّﺠَﺸَﻬ ِّﺎﻔ ِْرﻌ‬ : ٣٨٨٢‫ ﺻﺤﻴﺢ اﻟﺠﺎﻣﻊ اﻟﺼﻐﻴﺮ ﻟﻸﻛﺎ رﻗﻢ‬،٦٣٣٧ ‫)ﻣﺴﻨﺪ اﻹﻣﺎم أﺣﻤﺪ رﻗﻢ‬ (‫ﺻﺤﻴﺢ‬ ความวา จากทานอับดุลลอฮฺ อิบนุ อัมรฺ อิบนุ อัล-อาศฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุมา เลาจากทานรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ทานได กลาววา “การถือศีลอดและอัลกุรอานนั้นจะมาใหความชวยเหลือแก บาวในวันกิยามะฮฺ การถือศีลอดจะพูดวา ‘โอผูอภิบาลแหงขา ขาได สกัดก้ันเขาจากอาหารและการสนองความใครในยามกลางวัน ดังน้ัน ไดโปรดใหขาชวยเหลือเขาดวยเถิด’ อัลกุรอานก็จะพูดวา ‘โอผูอภิบาล แหงขา ขาไดสกัดกั้นเขาจากการหลับนอนในยามคํ่าคืน ดังนั้นได โปรดใหขาชวยเหลือเขาดวยเถิด’ แลวท้ังสองก็ไดรับอนุญาตเพ่ือให ความชว ยเหลอื ” (รายงานโดย อะหฺมดั ) 31

หะดษี ฺท่ี 22 ความประเสรฐิ ของการใหอาหารละศลี อด ‫َر ُﺳﻮ ُل‬ ‫ َﻗﺎ َل‬: ‫ِ َ ا ُﷲ َﻗ ْﻨ ُﻪ َﻗﺎ َل‬ :‫َأا َﻗ َّْﺟ ْ ِﺑﻦِﺮهِ َزَﺻَْﻳﻟﻠَِّْﻴﺪﻰَﺮ ْﺑاَﻛ ِﻧَّﻦَّ ُﻪُﺑ َﺧﺎَﻻَﻋ ِﻠٍََﻓ ْﻴْﻨا ُِﻪﻘﻟ ْ َُُﺠو َﻬَﺺﺳِﻨﻠَِِّّﻣﻲ َﻢ ْ َﻦر‬ ‫َ ُ ِﻣ ْﺜ ُﻞ‬ ‫» َﻣ ْﻦ َﻓ َّﻄ َﺮ َﺻﺎﺋِ ًﻤﺎ ﻛَﺎ َن‬ .«‫َأ ْﺟ ِﺮ اﻟ َّﺼﺎﺋِ ِﻢ َﺷ ْﻴ ًﺌﺎ‬ (‫ ﺻﺤﻴﺢ‬:٦٤٧‫ ﺻﺤﻴﺢ ﺳﻨﻦ اﻟﺘﺮﻣﺬي رﻗﻢ‬،٧٣٥‫)اﻟﺘﺮﻣﺬي رﻗﻢ‬ ความวา จากทานซัยดฺ อิบนุ คอลิด อัล-ุฮะนีย เลาจากทานรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ทานไดกลาววา “ผูใดที่เล้ียงอาหารละ ศีลอดแกผูถือศีลอด เขาจะไดรับผลบุญเทากับผลบุญของผูถือศีลอด(ที่ เขาใหอาหาร) โดยท่ีผลบุญนั้น1 ไมไดลดนอยลงไปจากผูถือศีลอดน้ัน แตอ ยางใด” (รายงานโดย อัต-ติรมฺ ซิ ีย) 1 หมายถงึ ผลบญุ เดมิ ของผถู อื ศลี อดท่เี ขาใหอ าหาร 32

หะดษี ทฺ ่ี 23 ดุอาอฺของผูถอื ศีลอดไมถูกผลักไส ِ‫ َﻗﺎ َل َر ُﺳ ْﻮ ُل اﷲ‬: ‫َﻗﺎ َل‬ ‫ﺑَﻋ ِﻠَﻦ ْﻴ َِﻪﻣﺎ َﻟِو ٍَﺳﻚﻠَّ َﻢَر َﺛِ َﻼَ ُاث َدُﷲ ْﻋ ََﻗﻮا ْﻨ ٍُﻪت‬ ‫َﻗ ْﻦ َأﻧَ ِﺲ‬ ،ِ ِ ‫ َد ْﻋ َﻮ ُة اﻟْ َﻮ ْا‬: ‫َﻻ ُﺗ َﺮ ُّد‬ ‫َﺻﻠَّﻰ ا َّ ُﺑ‬ .‫ َو َد ْﻋ َﻮةُ اﻟْ ُﻤ َﺴﺎﻓِ ِﺮ‬،‫َو َد ْﻋ َﻮةُ اﻟ َّﺼﺎﺋِ ِﻢ‬ (‫ ﺣﺴﻦ‬:٣٠٣٢‫ ﺻﺤﻴﺢ اﻟﺠﺎﻣﻊ اﻟﺼﻐﻴﺮ ﻟﻸﻛﺎ رﻗﻢ‬،٦١٨٥‫)اﻛﻴﻬﻘﻲ ﻓﻲ اﻟﻜﺒﺮى رﻗﻢ‬ ความวา จากทาน อบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เลาจากทาน รอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ทานไดกลาววา “ดุอาอฺสาม ประเภททจ่ี ะไมถกู ผลกั ไส คือดุอาอฺของบุพการี(บิดามารดา) ดุอาอฺของ ผถู อื ศลี อด และดอุ าอขฺ องผูเ ดนิ ทาง” (รายงานโดย อัต-ติรฺมซิ ยี ) 33

หะดษี ฺที่ 24 ดุอาอเฺ ม่ือละศีลอด ‫ا َوَّا ِﺑْﻧ َﺘ َﻠَّﺻﻠَِّﻰﺖ‬،‫ َﻛﻫَﺎ َ َﺐن اَرﻟ ُ َّﺳﻈﻮ َﻤُﺄُل‬:‫ َذ‬.‫َﻗَّﺎُﺑ َ»«ل‬: ‫ ْإﻓُِﷲ َْنﻄ ََﻗﺮ َْﻨﺷ َﺎﻗُﻬﺎَءَﻤَﺎال‬،‫ ْﻴ َِﻪُوﻗ َﻋ ََﻤَﺒو َﺮَﺳَﺖﻠََّر َاﻢ ِ ِإﻷَ َ َذْﺟااُﺮ َأ‬،‫اا ْﻟﻋ َُّﻌ ُﻦﺑُﺮاو َْﺑﻋُ ِقﻠَﻦ‬ (‫ ﺣﺴﻦ‬:٢٠٦٦‫ ﺻﺤﻴﺢ ﺳﻨﻦ أ داود رﻗﻢ‬،٢٠١٠ ‫)أﺑﻮ داود رﻗﻢ‬ ความวา จากทา นอบิ นุ อุมัรฺ เราะฎยิ ลั ลอฮฺ อันฮุมา เลาจากทา นรอซูล ศ็อลลลั ลอฮฺ ،อ‫ ُﺮ‬ะ‫ﺟ‬ลْ ยัَ‫ﻷ‬ฮ‫ิا‬ ว‫ﺖ‬ะَ ส‫َﺒ‬ลั ‫َﻋ‬ล‫َو‬มั ،เ‫ق‬มُ ‫ืو‬อ่ ท‫ ُﺮ‬า‫ ُﻌ‬น‫ا ْﻟ‬ละ‫ِﺖ‬ศลี َّ‫ﻠ‬อ‫ َﺘ‬ด‫ا ْﻧ‬ท‫ َو‬า น،ُ‫ﺄ‬จ‫ َﻤ‬ะ‫ﻈ‬กَّ ล‫اﻟ‬า ว‫ﺐ‬วَ า ‫» َذ َﻫ‬ ‫إِ ْن َﺷﺎ َء‬ «‫ا َّ ُﺑ‬ “ความกระหายไดดบั ลงแลว เสนโลหิตก็เปย กชืน้ และผลบญุ ก็ไดม่ันคง แลว อินชาอัลลอฮฺ (หากอัลลอฮทฺ รงประสงค) ” (รายงานโดย อบู ดาวูด) 34

หะดษี ที่ 25 คืน “ลัยละตลุ กอ็ ดรฺ” ‫ا ُأ َّﻧْ ِﺑ ِﺴﻴَْﺻُﺘﻠََّﻬﻰﺎ‬.‫ِِّﻓي ْﻲ» َإرِاﻟِِّْ َْﻌ َ ُأْﺸاِر ِﺮْﻳا ُﷲُﺖﻷَ َََوﻗاْ ْﻨﻠَُِﻪﺧ َﺔ ِﺮَأا َِّﻓْنﻟ ْﻲَﻘ َراْﻟﺪُْﺳَﻮِرﻮﺗْ َُﻋِﺮل«َّﻢ‬: ‫َأاﻋْوَّ ﻧُﻦﺑُ َِّأﺴ َِﻋْﻴ ْﻠَُﺘ ْﻴَﻬ َﺎِﻪﺳ ِﻌَﻓَوْﺎﻴﻛٍَْﺳﺪﺤَﻠَّ ِاﻤ َﻢﻟ ُْﺴُﺨَﻗ ْﻮْﺎﺪ ََﻫ ِلرﺎ‬ (١٨٧٧‫)اﻛﺨﺎري رﻗﻢ‬ ความวา จากทานอบู สะอี๊ด อัล-คุดรีย เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เลาวา ทา นรอซลู ศอ็ ลลลั ลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ไดกลาววา “แทจริงฉันไดรับ การบอกใหรูเห็นคืนลัยละตุล ก็อดรฺแลว แตฉันก็ถูกทําใหลืมอีก ดังน้ันพวกทานจงหามันในคํ่าคืนสิบวันสุดทาย(ของเราะมะฎอน) ใน ค่าํ คืนท่ีเปน ค”่ี (รายงานโดย อัล-บคุ อรีย) 35

หะดีษทฺ ี่ 26 คุณคาของอบิ าดะฮใฺ นคนื ลยั ละตลุ ก็อดรฺ ُ‫ا َْﻟﻗ َْﻨﻘ ُْﻪﺪ ِرَﻋإِ ِﻳﻦ َﻤاﺎ ًﻧ َّﺠﺎ ِﺒ َِّﻲوا َْﺣﺻﺘِﻠَّ َﻰﺴﺎا ًﺑﺎَّ ُﺑ ُﻏ َِﻔﻋ َﺮﻠَ ْﻴ َ ِﻪ‬ ‫ا َّ ُﺑ‬ ‫ﺮ ْﻳ» َﺮ َﻣَة ْﻦَر َﻗِﺎ ََم‬:َ ‫ِ َﻗﺎ َ ُلﻫ‬ َ ‫َﻗ ْﻦ‬ ‫َ ْﻠَ َﺔ‬ ‫أ‬ ‫َو َﺳﻠَّ َﻢ‬ .«‫َﻣﺎ َﻳ َﻘ َّﺪ َم ِﻣ ْﻦ َذﻧْﺒِ ِﻪ‬ (١٢٦٨ ‫ ﻣﺴﻠﻢ رﻗﻢ‬،١٧٦٨ ‫)اﻛﺨﺎري رﻗﻢ‬ ความวา จากทาน อบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เลาจากทาน รอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ทานไดกลาววา “ผูใดท่ีลุกข้ึน (ประกอบ อิบาดะฮฺ)ในคืนลัยละตุล ก็อดรฺ ดวยเปยมศรัทธาและ ความหวังในความโปรดปรานของอัลลอฮฺ เขาจะไดรับการอภัยโทษ จากความผดิ บาปท่ีผานมาของเขา” (รายงานโดย อลั -บุคอรีย และมสุ ลมิ ) 36

หะดีษท่ี 27 ใหมุงมนั่ ประกอบอบิ าดะฮฺในชวงสิบวนั สุดทา ย ‫ا َّ ُﺑ‬ َ‫ َّﺠ َ ِوﺒَأُّﻲ ْﺣ َ َﻴﺻﺎﻠَّﻰ‬،‫ ِﻣ ْﻛَﺌﺎَﺰ ََرن ُها‬: ‫َﻟ ْﺖ‬ َ ‫َﻗ ْﻨ َﻬﺎ‬ ‫ا َّ ُﺑ‬ َ ِ ‫َﻗ ْﻦ َﺨﺋِ َﺸ َﺔ َر‬ ،‫ْ ﻠَ ُﻪ‬ ‫َﺷ َّﺪ‬ ‫ﻗﺎ‬ ‫َذ‬ ‫ ِإ‬.‫َوَ َأﻋ ْﻓﻠَ َْﻘﻴ َِﻪﻆ َ َأو َْﻫﺳﻠَﻠَّ َُﻪﻢ‬ ‫َد َﺧ َﻞ ا ْﻟ َﻌ ْﺸ ُﺮ‬ ‫ا‬ (٢٠٠٨ ‫ ﻣﺴﻠﻢ رﻗﻢ‬،١٨٨٤ ‫)اﻛﺨﺎري رﻗﻢ‬ ความวา จากทา นหญิงอาอชิ ะฮฺ เราะฎยิ ลั ลอฮฺ อนั ฮา เลาวา ทา นรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม นั้น เมื่อถึงชวงสิบวันสุดทายของเราะ มะฎอน ทานจะรัดสายคาดเอวไวแนน(หมายถึงไมรวมหลับนอนกับ ภรรยา) ทานจะใหชีวิตแกคํ่าคืน(หมายถึงประกอบอิบาดะฮฺในยามคํ่า คืน) และทานจะปลุกบรรดาภริยาของทาน(ใหลุกข้ึนมาประกอบอิบา ดะฮ)ฺ (รายงานโดย อัล-บคุ อรยี  และมุสลมิ ) 37

หะดีษฺที่ 28 คน หาลัยละตลุ ก็อดรฺ ในชวงสบิ วันสดุ ทา ย ‫ﻦ‬،‫ا َْﻷﻛﻟَﺎََﻌواَ ْنﺸ ِﺧ َِﺮر ِﺮ ُاﺳ ِﻣﻮ َﻷُ ْلﻦَوااَر ََِّﻣﺧِﺑ ِﺮَﻀ َﺎِﺻﻣ َﻠَّنْﻰ‬:‫ﺸِﻪ َﺔ»َو ََﺗرَﺳَﺤ ِﻠَّ َّﺮ َﻢَْو ُﻳاا َﺠ َﺎَّْ ُِوﺑﻠَ ُرَﺔ َﻗِﻓاْﻨ ْﻲَﻟﻬﺎَاﻘ ْﻟَْﻗﺪ َﻌﺎ َِرﻟْﺸ ِْﻓِﺮﺖﻲا‬:َ ‫اَ َوﻗ ََّﻳ ُْﺑﻦُﻘﻮََﻋُﺨﻠَﺋلِ ْﻴ‬ .«‫َر َﻣ َﻀﺎ َن‬ (١٨٨٠ ‫)اﻛﺨﺎري رﻗﻢ‬ ความวา จากทานหญิง อาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮา เลาวาทานรอ ซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ไดเก็บตัวอิอฺติกาฟในชวงสิบวัน สุดทายของเดือนเราะมะฎอน และทานไดกลาววา “พวกทานจงคนหา ลัยละตลุ กอ็ ดรฺในชวงสิบวันสุดทายของเราะมะฎอน” (รายงานโดย อัล-บุคอรีย) 38

หะดษี ทฺ ่ี 29 การอิอฺติกา ฟในชวงสิบวนั สดุ ทาย ‫َﺻﻠَّﻰ ا َّ ُﺑ َﻋﻠَ ْﻴ ِﻪ‬ ‫ﻛََّﺠﺎ ِﺒ َِّنﻲ‬ ‫َﻗ ْﻦ َﺨﺋِ َﺸ َﺔ َر ِ َ ا َّ ُﺑ َﻗ ْﻨ َﻬﺎ َز ْو ِج ا‬ ‫َﻓ ْﻌ َﺘ ِﻜ ُﻒ ا ْﻟ َﻌ ْﺸ َﺮ‬ ‫َﻋﻠَ ْﻴ ِﻪ َو َﺳﻠَّ َﻢ‬ ‫ا َو ََﻷﺳ َﻠَّوا َﻢ ِﺧَأ َﺮَّن ِﻣا َّْﺠﻦ ِﺒ ََّرﻲ َﻣ َﺻَﻀﻠَّﺎﻰ َنا َّ َﺣُﺑ‬ ‫ُﻋ َّﻢ ا ْﻗ َﺘ َﻜ َﻒ َأ ْز َوا ُﺟ ُﻪ‬ ‫َّ َﺗ َﻮ َّﻓﺎ ُه ا َّ ُﺑ‬ .ِ‫ِﻣ ْﻦ َﻧ ْﻌ ِﺪه‬ (٢٠٠٦ ‫ ﻣﺴﻠﻢ رﻗﻢ‬،١٨٨٦ ‫)اﻛﺨﺎري رﻗﻢ‬ ความวา จากทานหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮา เลาวา ทานรอ ซูลไดทําการอิอฺติกาฟในชวงสิบวันสุดทายของเดือนเราะมะฎอน(โดย ไมเคยละทิ้ง) จนกระทั่งอัลลอฮฺไดนําชีวิตทานไป หลังจากนั้นบรรดา ภริยาของทานก็ไดเจริญรอยตามดวยการอิอฺติกาฟ หลังจากทาน เสยี ชวี ติ (รายงานโดย อัล-บุคอรีย และมสุ ลิม) 39

หะดษี ทฺ ี่ 30 ดุอาอสฺ าํ หรับคนื ลยั ละตุล ก็อดรฺ ،‫ا َﻗ َّﺎ ِﺑَل‬،‫ُﺳﻴ َﻬﻮﺎَل؟‬.ِ‫ ُﻗ ََﻳﻮﻗﺎُِّﻨلﻲَر«ﻓ‬:‫ ْﻠْﻗ َﻣُُﺎﺖﻒَأ‬،‫ﺪ َﻓ ِرﺎُﻗ‬:ْ ‫أ ََﻗر»َأ ْﻗُﻳْﻦﻮ َِ َﺖﺨإﺋِِا ْﻟَنﺸﻠَّ َﺔُﻬَﻋ َّﻢَﻠِر ْإﻤِ ِﻧَّ ُ َ َﺖﻚ َأا َُّﻗَّي ُُﻔﺑ َ ٌّﻮْ َﻠَﻗﺗُ ٍْﻨﺔﺤِ َﻬ َُّﺎ ْﺐﻠََﻗاﺎُﺔﻟْ َﻟ َاﻌ ْﻟْْﻔ َﺖﻘَﻮ‬:َ (٤٤٢٣‫ ﺻﺤﻴﺢ اﻟﺠﺎﻣﻊ اﻟﺼﻐﻴﺮ ﻟﻸﻛﺎ رﻗﻢ‬،٣٨٤٠ ‫)اﺑﻦ ﻣﺎﺟﻪ رﻗﻢ‬ ความวา จากทานหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮา ไดถามทานรอ ซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม วา “บอกฉันเถิด ถาหากคืนใดฉันรู วาเปน ลัยละตุล ก็อดรฺ จะใหฉันกลาวดุอาอฺใด?” ทานรอซูลตอบวา “จงกลาววา ‫اﻟﻠَّ ُﻬ َّﻢ إِﻧَّ َﻚ ُﻗ ُﻔ ٌّﻮ ﺗُﺤِ ُّﺐ ا ْﻟ َﻌ ْﻔ َﻮ َﻓﺎ ْﻗ ُﻒ َﻗ ِّﻨﻲ‬ ‘โอองคอภิบาลแหงขา แทจริงพระองคนั้นทรงเปนผูอภัยยิ่ง พระองค ทรงรักการอภัย ดังนน้ั ไดโ ปรดอภยั ใหแกขาพระองคดวยเถดิ ’” (รายงานโดย อบิ นุ มาญะฮ)ฺ 40

หะดีษฺที่ 31 การจายซะกาตฟฏเราะฮเฺ ปนฟร ฎ ِ‫ َ َُﻞﺳَوأاﻮْوﻟ ُُﺧلَّ َُﺮﺼﺻا ِﻐﺎو َّﻴًِﺮِﺑﺨج‬،‫ﺮْﺒر‬،ٍَ ‫ﺨ ُﺗَو ََاِﺆﻓﻣ ََّدﺮْ ُﻦﻷ َْﻧىَﻳ ٰضْﻤَﻗ‬:ً‫ِﻔ َُﻬﺮْ ََﻄﻤوﺑِاﺎ ِﺮَﻬ ََّﺎﻗ َﺎَأﺻََﻛﺎلْنِﺮ‬،‫ﺎﺑﻟَةْ َُوﺤََاأﻗِّْﺮﻟَْﻨﻣ‬،ُ‫ َﺴَﺳﻌ َﻠِْﺒﻠَّ ِﻤَِﻢﺪاﻴ َََزَّوﻦ َﻛا‬.ِْ‫ﻣُاَﻗﻋﻟ َ َﻦَﻠَﻤﻟََّْﻴَﺮﺼاﺒِﻟْﻪ َُﻼاَﻤر َوْةِﻟ‬،ِ ‫ا ََِوﻣَﻋاﺻﺠَّ ْْﺎﻟِﻠﻦَّﻦ ِﻰَﻜَااﺷسﺒِْﺑ ِﻴﻌإَِّ ِ ِْﺮﻴﻦﻟَُﺑ ٍﺮﻰ‬ (١٤٠٧ ‫)اﻛﺨﺎري رﻗﻢ‬ ความวา จากทา นอิบนุ อุมัร เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุมา เลาวา ทานรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ไดกําหนดใหบรรดามุสลิมตองจายซะ กาต ฟฏเราะฮฺดวยอินทผาลัมแหงหรือขาวสาลีจํานวนหนึ่งกันตัง(สี่ ลิตร)1 ไมวาคนผูนั้นจะเปนไทหรือทาส ท้ังผูชายและผูหญิง เด็กและ คนแก ในหมูที่เปน มุสลิม(ทกุ คนตองจา ยซะกาตฟฏ เราะฮฺทั้งส้ิน) ทาน ไดสงั่ ใหจ า ยมันกอ นออกไปละหมาดในเชา วนั อีด (รายงานโดย อัล-บคุ อรยี ) 1 อุละมาอฺมีความเห็นวาอาหารประเภทอื่นเชนขาว ถ่ัว ขาวโพด ฯลฯ สามารถท่ีจะ นาํ มาจายซะกาตไดเ ชน กนั โดยอาศยั หลักการกิยาส(เปรยี บเทยี บ) 41

หะดีษทฺ ่ี 32 จุดประสงคข องการจา ยซะกาตฟฏ เราะฮฺ ِ‫ﺎ ِةﻟِ ََﻗﻓﻠ َْﺒﻓَﺮ ََِّﺼﻬَﻞﺎَﻲﺋاِضﻟِﻢ ََرَّﺻﺼِﻣُﺳَﺪ ْﻮﻼَﻦَﻗ ُِةاٌلﺔﻟ َﻓاﻠَِّﻣِْﻬﻐَّ ََ ِﻮﺑﻦﻲ‬:َ‫ ِﻔْﻨْﻌ َُْﻬﻣَﻄﺪ َﻤِْﺮﻦﺎا ُﻟَأ َﻗﻃ َّﺎدَّْﻬﺼاَ َلﺮَﻫًةﻼ‬،‫ ِﻪَﻤسَ ًوﺔَوََرﻣﻟَِﺳ ِﻠْْﻠَّﻦ َﻤََﻢَأَﺴََّادزﺎ َﻛا َّﺎ ِﻛََُةﻫﺑﻴﺎا ِﻦْﻟََﻗﻧ‬،‫ﺑُﺒ ََﻮﻗوَﻋَُﻟَّﺒﻠﻃَﺎٌﺔ ْﻴٍْﻌ‬،ُ ‫َََوَزﻋاَﺻﻛﻟِﺎﻠَّﻦَّﺮٌﻰة َﻓااْﺑَﻣِ َِّﺚْﻦﻘ‬ .‫اﻟ َّﺼ َﺪ َﻗﺎ ِت‬ (‫ ﺣﺴﻦ‬:١٤٨٠‫ ﺻﺤﻴﺢ ﺳﻨﻦ اﺑﻦ ﻣﺎﺟﻪ رﻗﻢ‬،١٨١٧ ‫)اﺑﻦ ﻣﺎﺟﻪ رﻗﻢ‬ ความวา จากทานอิบนุ อับบาส เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุมา เลาวา ทานรอ ซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ไดกําหนดใหจายซะกาตฟฏเราะฮฺ เพ่อื เปนการชะลางแกผ ถู อื ศลี อดจากความบกพรองที่เขาเผลอเรอและ หยาบคาย(ขณะถอื ศีลอด) และเพื่อเปนอาหารแกบรรดาผูยากจน ผูใด ที่จายมันกอนละหมาด(วันอีด)แสดงวาเปนซะกาตฟฏเราะฮฺท่ีถูกรับ แตหากผูใดจายมันหลังละหมาด(วันอีด) นั้นถือวาเปนเพียงเศาะดะ เกาะฮฺ(การจายทาน)ท่ัวๆ ไป (รายงานโดย อิบนุ มาญะฮฺ) 42

หะดษี ทฺ ี่ 33 วนั อีดในบญั ญัติอสิ ลาม ‫ َﻗ ِﺪ َم َر ُﺳﻮ ُل ا َّ ِﺑ َﺻﻠَّﻰ ا َّ ُﺑ‬: ‫َﻗ ْﻦ َأﻧَ ِﺲ َر ِ َ ا َّ ُﺑ َﻗ ْﻨ ُﻪ َﻗﺎ َل‬ ،:‫ﺑﺎﻠِ ََّﻴَﻗل ِﺔْﺪ‬.‫ْﻄاَﺠﺎَِﺮﻓَّ« ََِﻫﻘ‬،ْ‫َﻤ ْﻮﺎ ِﻓَم» ِﻴﻓاِإِﻬﻲﻟْ ََّﻤاِﻔنﺎﻟ‬:َ‫ ُ َﻳﺑﻳَ ُﻛْْﻮﻮَّﻨَََمﺎﻋﻣﺎاﻠََﻧ ْﻴِْﻠنﻷَِﻪَﻌ َْﻳﺿَُﻠْو َﺐ َﻌَﺳ ُﺒِﻓﻠَّﻮﻴ َﻢَوِﻬَنﻳ‬::َّ‫َأ»َ َﻓﺑْﻋَﻣََﻘﻠَﺪﺎﺎْﻟَﻴ َ َِﻪﻫل َُﺬﻜََوارْﻢَ ِﺳُنﺳﺑِﻠَّﻮاِﻬَﻢُْ َﻤَلاﺎْﻮْﻟا ََﻣﻤَﺧﺎَّ ِﺪْﻴِِﺑنﻳًﺮا َﻨ؟ ََ«ﺔِﻣﺻ ْﻨﻠََّﻗَوُﻬﺎﻰﻟَﻟَُﻤُاﻬﻮﺎا ْﻢ‬ (‫ ﺻﺤﻴﺢ‬:١٠٠٤‫ ﺻﺤﻴﺢ ﺳﻨﻦ أ داود رﻗﻢ‬،٩٥٩ ‫)أﺑﻮ داود رﻗﻢ‬ ความวา จากทานอะนัส เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เลาวา ทานรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ไดเดินทางมาสูมะดีนะฮฺ ชาวมะดีนะฮฺ สมัยน้ันมีสองวันที่พวกเขาละเลนรื่นเริงกัน ทานจึงไดถามวา “สอง วันน้ีเปนวันอะไร?” พวกเขาตอบวา “พวกเราเคยร่ืนเริงกันมาในสอง วันนี้ต้ังแตสมัยเกากอน” ทานรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม กลาวตอบวา “แทจริงอัลลอฮฺไดเปล่ียนมันดวยวันท่ีดีกวาท้ังสองวัน นนั้ นั่นคอื วนั อีด อัล-ฟฏรฺ และอลั -อัฎฮา” (รายงานโดย อบู ดาวูด) 43

หะดษี ทฺ ่ี 34 เสือ้ ผา สําหรับออกไปละหมาดอีด ‫َأ َﺧ َﺬ ُﻗ َﻤ ُﺮ‬ : ‫َﻗ ْﻨ ُﻬ َﻤﺎ َﻗﺎ َل‬ ‫ِ َ ا َّ ُﺑ‬ ‫َر‬ ‫ُﻗ َﻤ َﺮ‬ ‫َﻗ ْﻦ َﻗ ْﺒ ِﺪ ا َّ ِﺑ ْﺑ ِﻦ‬ ‫ﺑِ َﻬﺎ َر ُﺳﻮ َل‬ َ ََ ‫َﻓﺄَ َﺧ َﺬ َﻫﺎ‬ ‫اﻟ ُّﺴﻮ ِق‬ ‫ِﻓﻲ‬ ‫ُﻳ َﺒﺎ ُع‬ ‫ُﺟ َّﺒ ًﺔ ِﻣ ْﻦ إِ ْﺳﺘَ ْﺒ َﺮ ٍق‬ ‫ﻓﺄ‬ ِ‫ ا ْﻧ َﺘ ْﻊ َﻫ ِﺬه‬،‫ َﻳﺎ َر ُﺳﻮ َل ا َّ ِﺑ‬: ‫ َﻓ َﻘﺎ َل‬،‫ا َّ ِﺑ َﺻﻠَّﻰ ا َّ ُﺑ َﻋﻠَ ْﻴ ِﻪ َو َﺳﻠَّ َﻢ‬ ‫َر ُﺳﻮ ُل‬ َ ‫َﻓ َﻘﺎ َل‬ ،‫َوا ْﻟ ُﻮ ُﻓﻮ ِد‬ ْ ‫َﺗ َﺠ َّﻤ ْﻞ‬ ‫ا َّ ُﺑ‬ ‫ا َّ ِﺑ َﺻﻠَّﻰ‬ ُ ‫ﻟِﻠ ِﻌﻴ ِﺪ‬ ‫ِﺑ َﻬﺎ‬ .«ُ َ ‫ »إِ َّﻏ َﻤﺎ َﻫ ِﺬهِ ِ َﻛﺎ ُس َﻣ ْﻦ ﻻَ َﺧ َﻼ َق‬: ‫َﻋﻠَ ْﻴ ِﻪ َو َﺳﻠَّ َﻢ‬ (٣٨٥٣ ‫ ﻣﺴﻠﻢ‬،٨٩٦ ‫)اﻛﺨﺎري رﻗﻢ‬ ความวา จากทานอบั ดุลลอฮฺ อิบนุ อุมัร เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุมา เลาวา ทานอุมัร เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ไดนําเส้ือคลุมท่ีทําดวยผาไหมผืนหน่ึง มาจากตลาด และไดนําไปยังทานรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม และกลาววา “โอ ทานรอซูล ทานนาจะซื้อผานี้เอาไวสวมและแตงกาย สําหรับวันอีดและเมื่อตอนรับคณะผูมาเยือน” ทานรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ไดตอบวา “แทจริงแลว น่ีเปนเส้ือผาของพวกที่ ขาดทนุ (ในวนั อาคเิ ราะฮ)ฺ ” 1 (รายงานโดย อัล-บุคอรีย และมสุ ลิม) 1 ความหมายคือ ทานรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ไดยอมรับวาควรตองแตง กายใหสวยงามในวันอีด แตที่ทานปฏิเสธคือการสวมผาไหมซ่ึงเปนที่ตองหามใน บัญญัติอิสลาม 44

หะดีษฺท่ี 35 ใหทานอาหารเล็กนอยกอนออกไปละหมาดอีดุล ฟฏ รฺ ‫ا َو ََّﻳ ُْﺄﺑ ُﻛ َﻋﻠُﻠَُﻬ ْﻴ َِّﻦﻪ‬ ،‫َّ َر َُﻳﺳ ْﺄﻮ ُُﻛل َﻞا ََّﻳ َِﻤﺑ َﺮا َﺻ ٍﻠَّتﻰ‬ ‫ﻛَﺎ َن‬: ‫َﻗﺎ َل‬ ‫َ َوﻗ َﺳْﻦﻠَّ ََأﻢﻧَ ِ َﻻﺲ َﻓ ْﺑ ْﻐ ِ ُﻦﺪ َوﻣﺎ َﻳﻟِ ْﻮ ٍَمﻚ‬ ‫ا ْﻟ ِﻔ ْﻄ ِﺮ َﺣ‬ .‫وِﺗْ ًﺮا‬ (٩٠٠ ‫)اﻛﺨﺎري رﻗﻢ‬ ความวา จากทานอะนัส เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เลาวา ทานรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม จะไมออกไปละหมาดในวันอีดุลฟฏรฺ นอกจากทานจะรับประทานลูกอินผาลัมบางเล็กนอย และทานจะ รับประทานเปน จาํ นวนค่ี (รายงานโดย อัล-บคุ อรีย) 45

หะดษี ฺท่ี 36 ใหน าํ สตรอี อกไปรวมละหมาดอดี ِ‫وَُﺳاَﻓَﻳﻬﺎﺎَﻴﻮ َُْﻷُأﻌَرل َﺘُْْﺿﺧﺰِﺳا ُﺘْﻟَﻮ ََّﻬََﻦلﺑﺎ‬:‫ﻟَﻟ»ﻣْ ِﻔُﻛِﺤَُﻗﺮﺤَُّْﻴَﻠْﻧﻄْﻠﺎ ُِﺒﺮُِﺖَﺾْرَﺴ‬،ْ ‫أﻦا‬:‫لﺎﻴ ََا‬:‫ْ َّﺴﻦ َﻓَْﻗﻠِ ِﺄَﺖﺎﻓِﻤََّﻣﻲ‬،‫َﻟ‬،‫ ََّﻴﺔْﻴْﻻﺪ ِﻪََﻳََرنﺾَِاو ََُﻟوﻜَﺳْ ََﺨذﻮﻠَّ ْﻴَاَوُﻢَناﺮ ََّﻟأََُِوﺑَتﻬَْدﺎنا َْﻗﻋﻟُْﻧ ِْﺟﻨَُْﺨﻮﺨ َْﻠَﻬةُِﺮﺪَﺎﺒاﺎَوﻟْﺟَﻗ ٌُِﻤرﺎُﻬب‬.ََ‫ﻰ َا ُأِإﺗِﺟِﻼا َِّةَﻠْمْﻖَّﺣَﺒ َُﺎَوَﺑﺪَﺑﻳﻋوَِاا َﻬَﻧَِْﻄﻟﺎﺎﺸْﻋ َّﻴ«ُﺤَﻬﻠ‬،‫ااا ِﻣﻟََْﻟﻗَّﺻ ََّْﻌﻦﻠَِّْﺑﺼﻦَﻮ‬ (١٤٧٥ ‫)ﻣﺴﻠﻢ رﻗﻢ‬ ความวา จากทานหญิง อุมมุ อะฏิยฺยะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮา เลาวา ทานรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ส่ังใหเรานําบรรดาสตรี ออกไปในวัน อีดุลฟฏรฺและอีดุลอัฎฮา ไมวาจะเปนสาวๆ ผูท่ีมีรอบ เดือน หรือที่มีใบหนางดงามก็ตาม บรรดาผูท่ีมีรอบเดือนนั้น ใหพวก หลอนแยกไปอยูตางหากไมตองละหมาด ใหคอยเปนสักขีพยานตอ ความดีงามและคํากลาวพรของบรรดามุสลิม ฉันไดถามทานวา “พวก เราบางคนไมม ีเสื้อคลุมใส” ทา น รอซูล ศอ็ ลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ตอบวา “พวกเธอทีเ่ ปนพี่นอ งกจ็ งใหย มื เสื้อคลุมแกหลอนผูน้นั ” (รายงานโดย มุสลิม) 46

‫‪หะดีษทฺ ี่ 37 ใหทําทานในเชา วนั อีด‬‬ ‫ﺑاََِرَﺎﻟﻗَﻟَُّﺳﺠﺒْﺎَّﻦﻮﺼ ِﺑَِلَﻼَﺟسﻼَاﺎةِ ٍِﺑََّلوَﻗِﺮَِﺑْﺒذَﻓَْﺑﺄََّﻞَﻛَِﺻﻦﻣاَﺮﻠََّﺮﻟُﻰْﻫَ ُﺨﻗِﺑاْﻢْْﺒَﺘﻄ‪َِّْ،‬ﺪﻘَﺒ ُﺑَُِﻮﻋﺔا َّﻢَﺑَِّﻋى َﻐﻠََِﺑﻣاْﻴْﻴ ِﺮَِﻪََّر َأِﺑَِوَذ‪،‬اََﺳ ٍََﻠَّونﺣاََﻢَّ َﺣواﻟَُّﷲََﻻأﺚ َّ َإِﺼَََﻗﻗَﻟ َﺎْﻨﻼاﺒَُﻣَﻪةﻟٍَﺔ َﻳَﻨِّ‪،‬ﻗﻃ ْﺎﻮﺎَ ُﻋََﺴم َﺎلَّﻋﻢاَﺘِءْﻟََﻗﺷِﻪﺎِﻌَ ِﻓ‪،‬ﻬﻴَمَْﻮﺪَِﺪوَُﻣ‪،‬ﻗََُﺘوَتَﻓَﻈﻮَﻗَﺒَُِّﻬﻛﻣًََﺌﺪََّ َﻦﻊأﻆﺎ‬ ‫ﻳَََﻓوﺎ ََﻘذﺎَرَّﻛَﻣُﺳَﺮ ِﻮُﻫﺖ َلاَّﻦاْ‪،‬ﻣ َﺮَََّأﻓﺑٌِةَﻘ؟ﺎ‪ِ،‬ﻣَل َْﻗﻦ‪:‬ﺎ َلِ»ﺳ َﺗَ‪:‬ﻄ َ»ِﺔﺼ ِ َّاﻷَﺪﻟﻧَّْﻗِّﻨ ََﻦ ُﺴﻜ‪،‬ﺎ َّ ِءَﻦﻓﺈِﺗُ ََّﺳن ْﻔ َأْﻜَﻌﺜِْﺎﻛ ْﺮُءَﺜ ََﺮان ُﻛﻟاْﻟَﺨَّﻦ ََّّﺪﺸﻳْﻜََﺣ ِﺎﻦَ َة‪،‬ﻄ‪َُ ،‬ﻓ َوﺐَﻘﺗَﺎﻟََﺟ َْْﻜﻬﺖَُّﻨﻔ‪َْ:‬ﻢﺮﻟِ« ََﻢن‪،‬‬ ‫ُﻳ ْﻠ ِﻘﻴ َﻦ‬ ‫َﻗﺎ َل ‪َ :‬ﻓ َﺠ َﻌ ْﻠ َﻦ َﻓ َﺘ َﺼ َّﺪ ْﻗ َﻦ‬ ‫ا ْﻟ َﻌ ِﺸﻴ َﺮ« ‪،‬‬ ‫ِﻓﻲ‬ ‫ُﺣﻠِ ِّﻴ ِﻬ َّﻦ‬ ‫ِﻣ ْﻦ‬ ‫ِﻣ ْﻦ َأ ْﻗ ِﺮ َﻃﺘِ ِﻬ َّﻦ َو َﺧ َﻮاﺗِ ِﻤ ِﻬ َّﻦ‪.‬‬ ‫ﺛَ ْﻮ ِب ﺑِﻼَ ٍل‬ ‫)ﻣﺴﻠﻢ رﻗﻢ ‪(١٤٦٧‬‬ ‫‪ความวา จากทานญาบิรฺ อิบนุ อับดุลลอฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เลาวา‬‬ ‫ิ‪“ฉันไดออกไปละหมาดอีดพรอมทานรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮ‬‬ ‫‪วะสัลลัม ทานไดละหมาดกอนการใหคุฏบะฮฺ(เทศนา) โดยไมมีการอะ‬‬ ‫‪ซานหรืออิกอมะฮฺ จากนั้นทานไดลุกข้ึนและยืนคํ้ากับทานบิลาล‬‬ ‫ฺ‪เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ และได(ใหเทศนาโดย)สั่งใหยําเกรงตออัลลอฮ‬‬ ‫‪และเนนยํ้าใหเชื่อฟงพระองค ทานไดกลาวสั่งสอนและตักเตือนผูรวม‬‬ ‫‪47‬‬

ละหมาด แลวทานก็เดินจนกระทั่งไดยืนอยูหนาเหลาสตรี(ที่มารวม ละหมาด) ทานไดกลาวส่ังสอนและตักเตือนพวกนาง ทานไดกลาววา “พวกนางท้ังหลาย จงใหทานเศาะดะเกาะฮฺเถิด เพราะสวนมากของ พวกเธอนัน้ คอื เชอ้ื ไฟของนรกญะฮันนมั ” เมื่อน้ันไดมีผูหญิงคนหนึ่งที่ ดูเลิศท่ีสุดจากพวกนางลุกขึ้นถามดวยอาการตระหนกท่ีเห็นไดชัดจาก แกมของนางวา “เหตุใดท่ีเปนเชนน้ัน โอ ทานผูเปนศาสนทูตแหง อัลลอฮฺ?” ทานไดตอบวา “เหตุเพราะท่ีพวกนางชอบฟองรองและไม สํานึกคุณของสามี” ดังน้ัน บรรดาพวกนางจึงไดถอดตางหูและแหวน ของพวกนางเพื่อทําเศาะดะเกาะฮฺ โดยไดโยนใสส่ิงตางๆ เหลาน้ันใน เสือ้ ของทาน บิลาล เราะฎยิ ลั ลอฮฺ อันฮุ (รายงานโดย มสุ ลิม) 48

หะดีษทฺ ี่ 38 ใหออกไปละหมาดทางหน่ึงและกลบั อีกทางหนง่ึ ‫ َّﺠ ِﺒ ُّﻲ‬.‫ﻟ َّﻛَﻄﺎ ِﺮ َنﻳ َاﻖ‬:‫ﻳَاْﻮ ُمَّ ُﺑ ِﻗﻴَﻗ ٍ ْﺪﻨ ُﻬ ََﻤﺧﺎﺎﻟَ َﻗَﺎ َﻒلا‬ َ‫ا َﺟ َّﺎ ُﺑِﺑ ِﺮ َﻋْﺑﻠَ ِ ْﻴﻦ ِﻪ َﻗَو ْﺒ َﺳِﺪﻠَّا َﻢ َّإِ ِﺑَذا َرﻛَﺎِ َن‬ ‫َﻗ ْﻦ‬ ‫َﺻﻠَّﻰ‬ (٩٣٣ ‫)اﻛﺨﺎري رﻗﻢ‬ ความวา จากทา น ญาบิรฺ อบิ นุ อับดุลลอฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุมา เลา วาทานรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม นั้น เม่ือออกไปละหมาด ในวันอีด ทานจะออกไปละหมาดดวยทางหนึ่ง และกลับจากละหมาด อกี ทางหนงึ่ เสมอ (รายงานโดย อัล-บุคอรีย) 49


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook