Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การประเมินสถานศึกษาปี ๖๒

การประเมินสถานศึกษาปี ๖๒

Published by Ismail Rao, 2020-06-03 08:42:44

Description: การประเมินสถานศึกษาปี ๖๒

Search

Read the Text Version

คำนำ เอกสารรายงานการประเมินตนเองของโรงเรียนบา้ นบูเกะจือฆา ประจาปีการศึกษา 2562 เลม่ น้ี จัดทาข้ึนโดยมีวตั ถุประสงค์ เพื่อดาเนินการประเมินตนเองตามกฎกระทรวง ปีการศึกษา 2561 เพ่ือรายงาน ผลการดาเนินงานในปีการศึกษา 2562 และนาผลการดาเนินงานไปวางแผนจัดทาแผนปฏิบัติการ ประจาปี 2563 โดยโรงเรียนได้รายงานการประเมินตนเองด้วยวิธีการ ตรวจสอบ ทบทวน และพัฒนาการ ปฏิบัติงานในช่วงเวลาท่ีผ่านมาว่ามีประสิทธิผล มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพเหมาะสมหรือไม่เพียงใดอย่างไร และอยู่ในระดับใด โดยใช้เกณฑ์การประเมิน คุณภาพการศึกษา ซึ่งเป็นผลสาเร็จจากการบริหารจัดการศึกษา ที่สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาข้ันพ้ืนฐานเพื่อการประกันคุณภาพภายใน 3 มาตรฐาน ได้แก่ คุณภาพ ของผู้เรียน กระบวนการบริหารและการจดั การของผู้บริหารสถานศึกษา กระบวนการจัดการเรียนการสอน ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ผลการวิเคราะห์จุดเด่น จุดท่ีควรพัฒนา และระบุแนวทางการพัฒนาสถานศึกษา ในอนาคต เพื่อส่งเสริมให้เกิดกระบวนการกากับดูแลที่ดี และความโปร่งใสในการปฏิบัติงาน ใช้ในการ พฒั นาในปกี ารศกึ ษาตอ่ ไป โรงเรียนขอขอบพระคุณ นางสาวจีราวรรณ ยืนยง และ นางสาวซารินดา บณิ วาฮับ ศกึ ษานิเทศก์ ในการให้ความรู้การจัดทาเคร่ืองมือ คู่มือ ให้คาปรึกษาในเร่ืองต่าง ๆ เป็นอย่างดียิ่งและขอขอบพระคุณ นางพู้ซียะ รักษ์ธรรม ผู้อานวยการโรงเรียนบ้านบูเกะจือฆา คณะครู คณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน รวมท้ังผู้ปกครองนักเรียนทุกท่าน และขอขอบใจนักเรียน ท่ีให้ความร่วมมือในการดาเนินการ ด้วยดี จนทาให้การปฏิบัติงานและการจัดทารายงานการประเมินตนเองของโรงเรียนบ้านบูเกะจือฆา ประจาปกี ารศึกษา 2562 สาเรจ็ ลุล่วงตามวตั ถุประสงคท์ ุกประการ โรงเรยี นบา้ นบูเกะจือฆา

สำรบญั เรือ่ ง หนำ้ บทสรุปผบู้ ริหาร 1 ส่วนที่ 1 7 ข้อมลู พนื้ ฐาน ส่วนท่ี 2 16 31 ผลการประเมินตนเองของสถานศึกษาระดบั การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน 39 มาตรฐานท่ี 1 คณุ ภาพของผู้เรยี น 47 มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบรหิ ารและการจัดการของผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา มาตรฐานท่ี 3 กระบวนการจัดการเรยี นการสอนทเ่ี น้นผเู้ รียนเปน็ สาคญั สรปุ ผลการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา ระดับการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน สว่ นท่ี 3 ภาคผนวก 48 การใหค้ วามเหน็ ชอบของคณะกรรมการสถานศกึ ษา 49 คณะผู้จดั ทา คาสง่ั แต่งตั้ง 50 ตารางแสดงค่าร้อยละของเปา้ หมายและผลการประเมนิ แต่ละมาตรฐาน 54

1 บทสรุปผบู้ รหิ าร โรงเรียนบ้านบูเกะจือฆา ตั้งอยู่หมู่ 5 ตาบลวังพญา อาเภอรามัน จังหวัดยะลา สังกัดสานักงาน เขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 1 เปิดสอนระดับ ชั้นอนุบาล 1 ถึงระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 ชื่อผู้บริหารโรงเรียน นางพู้ซียะ รักษ์ธรรม มีข้าราชการครู พนักงานราชการ ครูอัตราจ้างและเจ้าหน้าท่ีรวม ทั้งหมด จานวน 21 คน โรงเรียนได้ดาเนินงานตามระบบประกันคุณภาพภายในได้ดาเนินการประเมิน ตนเองตามองคป์ ระกอบคุณภาพ ตวั บง่ ช้ี และเกณฑ์การประเมินอยา่ งต่อเน่ืองจนถงึ ปัจจบุ นั โดยไดด้ าเนินงาน ตามกฎกระทรวงวา่ ด้วยเร่ืองการประกันคณุ ภาพการศกึ ษาและมีผลการดาเนินงาน ดงั น้ี 1. ผลการประเมนิ คณุ ภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน ดงั นี้ มาตรฐานการศึกษาระดบั การศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน ระดบั คุณภาพ มาตรฐานท่ี 1 คณุ ภาพของผู้เรียน ยอดเย่ยี ม (ระดับ 5) 1.1 ผลสมั ฤทธิ์ทางวิชาการของผ้เู รียน (ระดบั 5) 1.2 คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ของผเู้ รยี น ดีเลิศ มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบริหารและการจดั การ (ระดับ 4) ยอดเยี่ยม มาตรฐานท่ี 3 กระบวนการจดั การเรยี นการสอนทีเ่ น้นผู้เรียนเปน็ สาคัญ (ระดับ 5) 2. ผลการดาเนินงาน ครูมีความรู้และมีทักษะในการจัดการเรียนการสอน ทั้งน้ีเพราะครูมีความ มุ่งม่ันต้ังใจในการพัฒนาตนเองอย่างสม่าเสมอ สามารถนาความรู้ทักษะที่ได้จากการพัฒนาตนเอง มาใช้ใน การพัฒนาปรับปรุงการเรียนการสอนในห้องเรียน และใช้กระบวนการ PLC ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อ แก้ปัญหาของนักเรียนในห้องเรียน โรงเรียนมีความพร้อมในการส่งเสริมให้นักเรียนได้รับความรู้ด้วยวิธีการที่ หลากหลาย มีแหล่งเรียนรู้ต้นแบบโดยมีโครงการรองรับเพ่ือให้นักเรียนได้เข้าร่วมกิจกรรม ได้ลงมือปฏิบตั ิ โรงเรียนได้จัดสภาพแวดล้อมท้ังภายในและภายนอกห้องเรียนที่สะอาด ร่มรื่นเอ้ือต่อการจัดการเรียนรู้ ผู้บริหารมีภาวะความเป็นผู้นาให้การสนับสนุน เป็นท่ีปรึกษา ติดตาม นิเทศอย่างต่อเน่ือง ส่งเสริมให้ครูใช้ เทคโนโลยีมาเป็นเคร่อื งมือในการจัดการเรียนรู้ เช่น ทักษะการสืบค้น การออกแบบการจัดการเรียนการสอน การจัดทาส่ือ มีโครงการและกิจกรรมท่ีส่งเสริมคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามหลักสูตร เพื่อให้นักเรียนมี ระเบียบวินัย มีมารยาทปฏบิ ัตติ นท่ีแสดงออกถึงความเป็นตนเองตามศาสนา ขนมธรรมเนียมประเพณี

2 วัฒนธรรมและใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง โรงเรียนมีระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยมีโครงการการเย่ียม บ้าน นักเรียนมสี ุขภาพรา่ งกายสมบรู ณแ์ ข็งแรงมีน้าหนักสว่ นสงู และสมรรถนะตามเกณฑ์ มสี ขุ ภาพจิตท่ีดีมี ทกั ษะในการเลน่ กีฬา ส่งเสรมิ ใหน้ ักเรียนออกกาลงั กายยามเชา้ ทกุ วัน 3. ระบุจดุ เดน่ จุดท่ีควรพัฒนำ แผนพฒั นำคณุ ภำพเพือ่ ยกระดบั ให้สูงข้นึ จุดเดน่ จดุ เดน่ จุดเด่น มาตรฐานท่ี 1 คุณภาพของผู้เรียน โรงเรียนมีโครงการท่ีส่งเสริมให้นักเรียนอ่านออกเขียนได้และ โรงเรียนมีแหล่งเรียนรู้ต้นแบบมีเกษตรประณีต มีฐานความรู้หลากหลายท่ีให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติเพิ่ม ทักษะการคิดวิเคราะห์ การคิดเพ่ือแก้ปัญหา ฝึกเรียนรู้ร่วมกันเป็นกลุ่ม แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อการ เรียนรู้ระหว่างกัน ให้นักเรียนมีความรู้สึกท่ีดีต่ออาชีพสุจริตและหาความรู้เก่ียวกับอาชีพท่ีตนเองสนใจ ทางานร่วมกับผู้อื่นได้ ทางานอย่างมีความสุข พัฒนางาน และภูมิใจในผลงานของตนเอง วางแผนการ ทางานและดาเนินการจนสาเร็จโดยมีโครงการและกิจกรรมรองรับสร้างผลงานจากการเข้าร่วมกิจกรรมใน โครงการแข่งขันการแปรรูปอาหารระดับประเทศ ส่งเสริมให้นักเรียนมีความรักความสามัคคีให้เกียรติผู้อ่ืน โดยมีกิจกรรมที่ให้นักเรียนแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ นักเรียนมีน้าหนักส่วนสูง และมี สมรรถภาพทางกายตามเกณฑ์มาตรฐาน ป้องกันตนเองจากสิ่งเสพติดให้โทษและ หลีกเล่ียงตนเองจาก สภาวะท่ีเส่ียงต่อความรุนแรง โรคภัย อุบัติเหตุและปัญหาทางเพศมีคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ยอมรับความ คิดเหน็ ที่แตกต่างและวฒั นธรรมที่แตกต่าง มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ โรงเรียนมีการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียน บรรลุตามเป้าหมายวิสัยทัศน์ ปรัชญาและจุดเน้นของสถานศึกษา โดยมีกิจกรรมและโครงการรองรับเพ่ือ ตอบสนองนโยบาย จุดเน้นตามแนวทางการปฏริ ปู การศึกษาและมีผลการรายงานผลการดาเนินงานมาปรับ พัฒนา ผู้บริหารมีวิสัยทัศน์มีภาวะความเป็นผู้นา มีการติดตาม นิเทศอย่างสม่าเสมอ จึงทาให้การบริหาร จัดการด้านต่างๆ มีประสิทธิภาพและมีการพัฒนา โรงเรียนเปิดโอกาสให้ผู้เก่ียวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วมใน การกาหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาที่สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาข้ัน พ้ืนฐาน และอัตลักษณ์ที่สถานศึกษากาหนด จัดทาแผนพัฒนาของสถานศึกษาที่สอดคล้องกับมาตรฐานที่ สถานศึกษากาหนด ดาเนินการตามแผน มีการประเมินผล และตรวจสอบคุณภาพภายในสถานศึกษา ติดตามผลการดาเนินงาน และจัดทารายงานผลการประเมินตนเองประจาปี นาผลการประเมินไปปรับปรุง และพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา และจัดส่งรายงานผลการประเมินตนเองให้หน่วยงานต้นสังกัด โรงเรียนมี การปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษา มีการนิเทศภายใน กากับ ติดตาม ตรวจสอบ และนาผลไปปรับปรุงการ เรียนการสอนอย่างสม่าเสมอ โรงเรียนได้จัดกิจกรรมท่ีหลากหลายเพ่ือให้ผู้เรียนได้เรียนตามความถนัด ความสามารถและความสนใจ ครูปฏิบัติหน้าที่ตรงกับความรู้ความสามารถหรือคุณวุฒิทางการศึกษา ส่งเสริมและพัฒนาครูและบุคลากรให้มี สมรรถนะตามมาตรฐานวิชาชีพ นาผลท่ีได้จากการรับมอบหมาย

3 มาปรับใช้พัฒนาโรงเรยี นจนส่งผลให้ นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชนเกดิ ความพงึ พอใจในผลของการบริหาร การจัดการศึกษา ผู้บริหารให้ คาปรึกษาคอยแนะนาทางด้านวิชาการและเอาใจใส่การจัดการศึกษาอย่าง เต็มศักยภาพ ห้องเรียน สะอาดปลอดภัยและมีสิ่งอานวยความสะดวก พอเพียง สภาพแวดล้อมร่มร่ืน มี แหลง่ เรียนร้สู าหรบั ผูเ้ รียน จัดโครงการและกิจกรรมท่สี ่งเสริมสุขภาพอนามัยและความปลอดภัยของผู้เรียน จัดห้องสมุดเคล่ือนที่ เพ่ือส่งเสริมการอ่านการเขียน มีการสร้างและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ภายในสถานศึกษา และใชป้ ระโยชน์จากแหลง่ เรียนรู้ ท้ังภายในและภายนอกสถานศกึ ษา เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผ้เู รยี นและ บุคลากรของสถานศึกษารวมทั้งผู้ท่ีเก่ียวข้องร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างบุคลากรภายในสถานศึกษา ระหว่างสถานศึกษากับครอบครัว ชุมชน และองค์กรที่เกี่ยวข้อง โรงเรียนเป็นศูนย์เรียนรู้ต้นแบบทีมี โครงการและกิจกรรมที่ทาให้ นักเรียน ครู ผู้ปกครอง ชุมชนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันและผู้อานวยการยังมี ความคิดท่ีพัฒนาศูนย์เรียนรู้อย่างต่อเน่ือง เช่น เกษตรประณีต สวนไผ่ ทาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ต้นแบบที นักเรยี น ชุมชน และบคุ คลภายนอกทีส่ นใจสามารถนาความรไู้ ปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้ มาตรฐานท่ี 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญโรงเรียนมีกิจกรรมและ โครงการรองรับเพื่อให้นักเรยี นไดล้ งมือปฏิบตั ิอย่างหลากหลายรวมท้ังครูผ้สู อนมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการจัด กิจกรรมการเรียนการสอน โดยจัดกิจกรรมใหน้ ักเรยี นได้เรียนรจู้ ากการคิดวเิ คราะห์ การปฏิบัติจริง และมี การประเมินด้วยวิธีการที่หลากหลาย และโรงเรียนยังมีแหล่งเรียนรู้ต้นแบบที่นักเรียนมีส่วนร่วมในการลง มอื ปฏบิ ัติ เช่น ปลกู ผกั แปลงเกษตร เรยี นรู้การขยายพนั ธไ์ ผ่ การเลี้ยงไก่ไข่ การปลูกผักเกษตรประณตี และ กิจกรรมสรา้ งทางเลือกอาชีพท่หี ลากหลาย ตลาดนดั โรงเรยี นบ้านบเู ก๊ะ กิจกรรมนใ้ี ห้นักเรยี น เขยี นแผนผัง ความคิด และวาดภาพจิตนาการตามที่นักเรียนได้เรียนมา นักเรียนมีส่วนร่วมในการจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อมที่เออื้ ต่อการเรยี นรู้ ครมู ีการใช้สื่อ และเทคโนโลยที ี่เหมาะสมกบั นกั เรยี น มผี ูป้ กครองและนา ชุมชนเข้ามามีสว่ นรว่ มในกิจกรรมต่างๆ และการศึกษาแหล่งเรียนรู้ในชุมชนท้องถิ่น อย่างเป็นรูปธรรมและ ตอ่ เนื่อง จุดควรพฒั นำ มาตรฐานท่ี 1 คุณภาพของผู้เรียน ปลูกฝังให้นักเรียนมีนิสัยรักการอ่านทุกที่ทุกเวลา และมีสื่อ กระตุ้นในเร่ืองการรักเรียนหลากหลายรอบๆ ตัวควรส่งเสริมให้เป็นนิสัยให้นักเรียนรักการเรียน รัก การศึกษาค้นคว้า มที ักษะพน้ื ฐานในการอา่ นที่ยง่ั ยืนและควรดึงผปู้ กครองเข้ามามีสว่ นรว่ ม เพือ่ ชว่ ยกวดขัน นักเรียนในเร่ือง ความขยัน ความรับผิดชอบ และในเรื่องห้องปฏิบัติการควรมีห้องที่กว้าง เพื่อความพร้อม ในการใช้งานคอมพิวเตอร์ ห้องอุปกรณ์ทดลองต่างๆ และห้องปฏิบัติการในการฝึกให้นักเรียนทาโครงงาน อาชพี การแปรรูป เพอื่ ใหน้ ักเรยี นท้ังโรงเรียนทุกคนมีส่วนร่วม เพ่ือพฒั นาในด้านการเรียนและส่งเสริมด้าน อาชพี อีกดว้ ย

4 มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมในการ เสนอความคิดเห็นในการจดั การศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียนสร้างเครือข่ายความร่วมมือของผ้มู ีส่วนเก่ียวข้องใน การจดั การศึกษาของโรงเรียนให้มีความเขม้ แข็ง สง่ เสริม ให้ครู และบุคลากรนากระบวนการวิจัย การวดั ผล ประเมินผลมาใช้ในการพัฒนาผู้เรียน การพัฒนาครูและบุคลากรควรมีการจัดการอบรมให้ครูทุกคนอย่าง ต่อเน่ือง ผลักดันให้ครูเข้ารับการพัฒนาตามมาตรฐานตาแหน่งและมีหรือเลื่อนวิทยฐานะให้สูงขึ้นและมาก ข้ึน ส่งเสริมการสร้างความร่วมมือแลกเปล่ียนเรียนรู้ทางวิชาการ โดยจัดให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา เข้ารับการฝึกอบรม ดูงาน เพื่อเพ่ิมพูนความรู้และประสบการณ์ท้ังภายในและภายนอกสถานศึกษาอย่าง ตอ่ เน่อื ง มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรยี นการสอนท่ีเนน้ ผู้เรยี นเป็นสาคญั ครูควรมกี ารพฒั นาตนเอง อย่างต่อเน่ืองเพื่อนาความรู้มาใช้พัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน สร้างสื่อที่หลากหลายและ เหมาะสมกับนักเรยี นเปน็ รายบุคคล ใหน้ กั เรยี นได้ลงมอื ทดลอง ได้ปฏบิ ตั ใิ นการคดิ วเิ คราะห์ ใช้อปุ กรณท์ ่ีมี อยู่อย่างจากัดได้ลงมือปฏิบัติหลากหลาย แม้ห้องปฏิบัติการอาจไม่พร้อมก็ควรหาที่ท่ีเหมาะสมและใช้ อุปกรณต์ ่างๆ ให้เกดิ ประโยชน์สงู สดุ และควรใช้ขอ้ มูลยอ้ นกลบั แกน่ ักเรยี นทนั ทีเพือ่ ใหน้ ักเรยี นไดน้ าความรู้ กลับไปใช้พัฒนาตนเองสามารถดาเนินชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข การจัดการเรียนการสอนอย่างมี คุณภาพโดยเข้าสอนตรงเวลาให้ความรู้กับนักเรียนอย่างเต็มท่ี ประกอบกับการส่งเสริมให้ครูมีความมุ่งมั่น รว่ มมือกนั ในการจดั การศึกษาเพ่ือพัฒนานกั เรียน ให้มีคณุ ภาพ และประพฤตปิ ฏิบัติตัวเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ นักเรียนและชุมชน ดาเนินการพัฒนาสถานศึกษา โดยพฒั นาให้แหลง่ เรียนรู้ยั่งยืน และสามารถแลกเปลี่ยน เรียนรู้ร่วมกันได้ตลอดเวลาท้ัง ครู ผู้ปกครอง นักเรียน และรวมไปถึงหน่วยงานราชการอื่นๆ ใกล้เคียงจะมี สว่ นช่วย ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาคณุ ภาพการจัดการศกึ ษาให้สงู ข้นึ

5 แผนพฒั นำเพอ่ื ใหไ้ ด้มำตรฐำนทีส่ ูงข้ึน มำตรฐำนท่ี 1 คุณภำพของผู้เรียน แผนปฏิบตั ิงานที่ 1 โครงการท่ี 1 พัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางวิชาการของผ้เู รียน กจิ กรรม ส่งเสรมิ ความเป็นเลิศทางวชิ าการและกิจกรรมยกระดับผลการสอบ NT – O NET แผนปฏิบตั งิ านท่ี 2 โครงการที่ 2 พัฒนาผลสมั ฤทธ์ิทางวิชาการของผเู้ รียน โครงการอา่ นออก เขียนได้ แผนปฏิบตั งิ านท่ี 3 โครงการท่ี 9 พัฒนาผลสมั ฤทธ์ทิ างวชิ าการของผู้เรยี นและพฒั นา คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ โครงการและกจิ กรรมวนั สาคญั แผนปฏิบัติงานท่ี 4 โครงการที่ 10 พฒั นาผลสมั ฤทธิแ์ ละคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผูเ้ รียน โครงการอบรมคุณธรรมและจรยิ ธรรม แผนปฏิบัตงิ านที่ 5 โครงการท่ี 12 พฒั นาคณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงคข์ องผูเ้ รียน โครงการเศรษฐกจิ พอเพียง มำตรฐำนท่ี 2 กระบวนกำรบริหำรและกำรจดั กำร แผนปฏบิ ัตงิ านที่ 1 โครงการท่ี 1 พฒั นาเป้าหมายวสิ ยั ทศั น์ และพนั ธกิจทีส่ ถานศึกษา กาหนดชัดเจน โครงการระบบดูการแลช่วยเหลอื นกั เรยี น แผนปฏบิ ตั ิงานที่ 2 โครงการท่ี 2 พฒั นาเปา้ หมายวิสยั ทัศน์ และพนั ธกจิ ท่ีสถานศึกษา กาหนดชัดเจน โครงการอ่านออกเขียนได้ แผนปฏบิ ัติงานที่ 3 โครงการที่ 3 พัฒนาวชิ าการทเ่ี น้นคุณภาพผเู้ รียนรอบด้านตามหลักสตู ร สถานศึกษาและทกุ กล่มุ เปา้ หมาย กิจกรรมพัฒนาการจดั หลกั สูตร โครงการนเิ ทศ แผนปฏิบตั ิงานท่ี 4 โครงการท่ี 7 พฒั นาระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื สนับสนนุ การ บรหิ ารจัดการและการจัดการเรยี นรู้ โครงการจัดทาส่อื โครงการวิจัย มำตรฐำนท่ี 3 กระบวนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนทเ่ี น้นผเู้ รยี นเป็นสำคัญ แผนปฏิบตั ิงานที่ 1 โครงการที่ 6,2 การแลกเปลยี่ นเรียนรแู้ ละให้ขอ้ มลู สะท้อนกลับเพื่อพัฒนา และปรับปรงุ การจัดการเรยี นรู้ โครงการทศั นศึกษา โครงการอา่ น ออกเขยี นได้ แผนปฏบิ ตั งิ านที่ 2 โครงการท่ี 7 ตรวจสอบและประเมินผเู้ รียนอยา่ งเปน็ ระบบและนาผล มาพฒั นาผูเ้ รยี น โครงการวิจัย การจัดทาสื่อ

6 แผนปฏบิ ัตงิ านที่ 3 โครงการท่ี 8 ตรวจสอบและประเมนิ ผเู้ รยี นอย่างเป็นระบบและนาผล มาพฒั นาผเู้ รยี น โครงการจัดทาส่ือ แผนปฏบิ ัตงิ านที่ 4 โครงการที่ 12 จัดการเรยี นรผู้ ่านกระบวนการคิดและปฏิบตั จิ รงิ และสามารถนาไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตได้ โครงการเศรษฐกจิ พอเพยี ง แผนปฏบิ ัตงิ านที่ 5 โครงการที่ 15 จัดการเรยี นรู้ผ่านกระบวนการคดิ และปฏบิ ตั ิจรงิ และสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ ได้ โครงการสถานศกึ ษาพอเพียง

7 ส่วนท่ี 1 ขอ้ มลู พืน้ ฐำนของสถำนศกึ ษำ 1.1 ขอ้ มูลทัว่ ไป โรงเรียนบา้ นบูเกะจอื ฆา ช่อื สถานศึกษา : หมทู่ ่ี 5 ตาบลวังพญา อาเภอรามัน จังหวดั ยะลา ทอ่ี ยู่ : รหสั ไปรษณีย์ 95140 สานกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 1 สงั กัด : 073-203240 โทรศพั ท์ : โทรสาร : [email protected] E-Mail : เปดิ สอน : ระดับชั้นอนุบาลปที ่ี 1 ถึงระดับชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 6 ข้อมลู ผูบ้ รหิ ำร นางพซู้ ยี ะ รกั ษธ์ รรม ผ้บู ริหารสถานศึกษาช่ือ การศกึ ษามหาบณั ฑติ สาขาบริหารการศึกษา การศึกษา ตั้งแตว่ นั ที่ 6 พฤศจกิ ายน 2557 จนถงึ ปจั จบุ ัน ดารงตาแหนง่ ที่โรงเรยี นน้ี 080-3353758 โทรศพั ท์ E-mail - วสิ ัยทัศน์ (VISION) โรงเรียนบ้านบูเกะจือฆา เป็นสถานศึกษาที่เน้นอ่านออก เขียนได้ เข้าใจ ลายมือสวย ทางาน เรยี บรอ้ ยคดิ เลขเปน็ โดยการมีส่วนร่วมของทุกคนในองคก์ รและทุกภาคสว่ นในสังคม พนั ธกจิ (MISSION) 1. จัดการเรียนการสอนที่มงุ่ เนน้ ให้ผู้เรียนเปน็ คนดี มีปญั ญา สามารถดารงชวี ติ อยใู่ นสังคมได้อยา่ งมคี วามสุข และเป็นบคุ คลแห่งการเรียนรู้ 2. สง่ เสริมและพฒั นาผู้เรียนใหม้ คี ณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์ มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม นอ้ มนา หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสูส่ ถานศกึ ษา

8 3. พัฒนาสภาพแวดล้อมเป็นแหล่งเรียนรู้ และใช้เทคโนโลยีในการจัดการเรียนรู้ส่งเสริม สนบั สนุนครู และบุคลากรทางการศกึ ษาของโรงเรียนทั้งความรู้ ความสามารถและเจตคติท่ีดตี ่อวิชาชีพ 4. เพื่อให้การปฏิบตั ิงานในหนา้ ที่ ความรบั ผดิ ชอบไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพและมี ความก้าวหน้าในวชิ าชพี 5. พัฒนากระบวนการบริหารจัดการ โดยยึดโรงเรียนเป็นฐาน และเปดิ โอกาสให้ทุกภาคส่วน เข้ามามีสว่ นรว่ มในการจัดการศกึ ษา เป้ำประสงค์ (GOALS/COPERATE OBJECTIVE) 1. เด็กวยั เรยี นทกุ กลมุ่ เป้าหมายท่มี ีอายุ 3-5 ปี ในเขตบริการของโรงเรียนทกุ คน ได้รบั การเตรยี มความพรอ้ มในโรงเรยี นเตม็ ศักยภาพ 2. เด็กทกุ คนในเขตบรกิ ารของโรงเรียนได้รับโอกาสทางการศกึ ษาภาคบงั คบั อย่างทว่ั ถึงกันทุกคน 3. ผู้เรยี นทุกคนได้รับการศกึ ษาอย่างมีคุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา และมาตรฐาน ของหลักสูตร 4. โรงเรียนเป็นองค์กรแหง่ การเรยี นรู้ มกี ารบรหิ ารจัดการอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ และมี สว่ นร่วมกบั ชมุ ชน 5. ครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาของโรงเรียนเป็นบุคคลแหง่ การเรยี นรู้ มีสมรรถนะ และคณุ ธรรม จริยธรรมตามมาตรฐานวชิ าชพี อัตลกั ษณข์ องสถำนศึกษำ อตั ลกั ษณเ์ ด็กปฐมวัย คอื ความพร้อมดี มีคณุ ธรรม อตั ลักษณผ์ ู้เรยี นระดบั ประถมศกึ ษา คือ อา่ นออก เขยี นได้ เขา้ ใจ ลายมือสวย ทางานเรียบร้อย คดิ เลขเป็น เอกลกั ษณส์ ถานศึกษา คอื ลายมอื สวยทั้งโรงเรียน

9 1.2 ข้อมลู ครูและบคุ ลำกร 1) จานวนบุคลากร ผบู้ รหิ าร ผู้สอน พนกั งานราชการ อตั ราจ้าง เจ้าหนา้ ท่อี ่นื รวม 1 ครู 21 10 3 43 2) วุฒิการศึกษาสูงสดุ ของบคุ ลากร บคุ ลำกร ตำ่ กว่ำ ปรญิ ญำตรี ปรญิ ญำโท ปรญิ ญำเอก รวมท้งั หมด ปรญิ ญำตรี 13 5 - 21 จานวน 3 3) สาขาวิชาท่จี บการศึกษาและภาระงานสอน สำขำวชิ ำ จำนวน (คน) ภำระงำนสอนเฉลี่ยของครู 1 คน ในแต่ละสำขำวชิ ำ (ชม./สัปดำห)์ 1. บริหารการศกึ ษา 2 20 2. ภาษาไทย 2 20 3. คณติ ศาสตร์ 1 20 4. วิทยาศาสตร์ 1 20 5. ภาษาอังกฤษ 2 20 6. สงั คมศึกษา 1 20 7. ประถมศกึ ษา 2 20 8. สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา 2 20 9. ปฐมวยั 1 25 10. อิสลามศึกษา 3 20 11. การบริหารธุรกิจ - - รวม 17 205

10 1.3 ขอ้ มูลนกั เรยี น จานวนนกั เรยี น ปกี ารศึกษา 2562 รวม 184 คน ระดบั ช้ันเรยี น จำนวนห้อง เพศ หญงิ รวม ชำย 5 อ.1 10 11 อ.2 16 8 12 อ.3 23 17 รวม 12 10 40 ป.1 14 24 ป.2 19 9 29 ป.3 9 20 ป.4 3 17 14 18 ป.5 8 32 ป.6 1 14 62 21 รวม 85 144 รวมท้ังหมด 1 15 184 1 11 19 1 18 15 6 6 82 9 99 1) ร้อยละของนักเรียนท่ีมเี กรดเฉลี่ยผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนแต่ละรายวิชา ในระดับ 3 ข้นึ ไป ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 1 ถงึ ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ปกี ารศกึ ษา 2562 วิชำ ผลกำรเรยี นทีม่ ีคณุ ภำพระดับ 3 ขนึ้ ไป (คน) รวม รอ้ ยละ ภาษาไทย ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 85 60.28 คณิตศาสตร์ 14 15 9 13 17 17 79 56.02 วิทยาศาสตร์ 16 12 10 12 14 15 77 54.60 สงั คมศกึ ษา 15 17 7 13 12 13 110 78.01 สขุ ศกึ ษา/พละ 22 27 20 12 11 18 136 96.45 ศิลปะ/ดนตรี 24 28 19 16 30 21 137 97.16 การงานอาชพี ฯ 24 28 20 16 28 21 119 84.39 ภาษาอังกฤษ 14 26 20 13 25 21 92 65.24 รวม 12 21 11 13 20 15 74.01

11 2) ร้อยละของนักเรียนทมี่ ผี ลการประเมินการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น ในระดับดขี นึ้ ไป ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 1 ถงึ ระดับชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 ปกี ารศึกษา 2562 ระดับช้ัน จำน วน ผลกำรประเมนิ ระดับดี ร้อยละ ป.1 นักเรียน ไม่ผ่ำน ผ่ำน ดี ดเี ย่ียม ข้ึนไป 50 ป.2 44.82 ป.3 24 0 12 9 3 12 70 ป.4 81.25 ป.5 29 1 15 6 7 13 45.16 ป.6 66.66 รวม 20 0 6 9 5 14 357.89 เฉลยี่ 59.64 16 0 3 7 6 13 31 0 17 3 11 14 21 0 7 7 7 14 141 1 60 41 39 80 0.70 42.55 29.07 27.65 56.73 3) ร้อยละของนกั เรียนทมี่ ผี ลการประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ในระดบั ดีข้ึนไประดับ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1 ถงึ ระดับชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 6 ปกี ารศึกษา 2562 ระดบั ชน้ั จำนวน ผลกำรประเมิน ระดบั ดี รอ้ ยละ นกั เรยี น ไม่ผ่ำน ผ่ำน ดี ดเี ย่ยี ม ขึ้นไป 79.16 86.20 ป.1 24 0 5 19 0 19 100 100 ป.2 29 1 3 14 11 25 80.64 100 ป.3 20 0 0 13 7 20 546 91 ป.4 16 0 0 3 13 16 ป.5 31 0 6 10 15 25 ป.6 21 0 0 9 12 21 รวม 141 1 14 68 58 120 เฉลีย่ 0.70 9.92 48.22 41.13 85.10

12 1.5 ผลกำรทดสอบระดบั ชำติของผเู้ รยี น ผลกำรประเมินควำมสำมำรถด้ำนกำรอำ่ นของผู้เรยี น (Reading Test) ชน้ั ประถมศึกษำปีที่ 1 1) ผลการประเมนิ ความสามารถด้านการอ่านของผู้เรยี น (Reading Test) ปีการศกึ ษา 2562 ควำมสำมำรถ คะแนนเฉล่ียรอ้ ยละ ระดบั ประเทศ ระดับโรงเรียน ระดบั สพฐ. การอ่านออกเสียง 20.71 67.49 68.50 การอา่ นรเู่ รอ่ื ง 36.76 72.51 72.81 รวมความสามารถท้งั 2 ดา้ น 28.73 70.00 70.66 2) การเปรยี บเทียบผลการประเมินความสามารถด้านการอา่ นของผ้เู รยี น (Reading Test) ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 1 ปีการศกึ ษา 2561 – 2562 ควำมสำมำรถ ปีกำรศึกษำ ปีกำรศึกษำ รอ้ ยละของผลตำ่ ง 2561 2562 ระหวำ่ งปกี ำรศกึ ษำ การอ่านออกเสียง 40.35 20.71 -19.64 การอ่านรเู่ รอื่ ง 48.20 36.76 -11.44 รวมความสามารถท้ัง 2 ดา้ น 44.27 28.73 -15.54 ผลกำรประเมินทดสอบควำมสำมำรถพ้ืนฐำนของผู้เรียนระดับชำติ (NT)ระดบั ช้ันประถมศึกษำปีที่ 3 3) ผลการประเมนิ ทดสอบความสามารถพืน้ ฐานของผ้เู รียนระดับชาติ (NT) ปีการศึกษา 2562 ควำมสำมำรถ คะแนนเฉลีย่ รอ้ ยละ ระดบั ประเทศ ระดบั โรงเรียน ระดบั สพฐ. 46.46 ด้านภาษา 35.41 46.00 44.94 ด้านคานวณ 27.66 45.64 รวมความสามารถทั้ง 2 ดา้ น 31.54 45.82 45.70

13 4) การเปรยี บเทียบผลการประเมินทดสอบความสามารถพน้ื ฐานของผูเ้ รยี นระดับชาติ (NT) ปกี ารศกึ ษา 2561 – 2562 ควำมสำมำรถ ปีกำรศกึ ษำ ปีกำรศึกษำ ร้อยละของผลต่ำง 2561 2562 ระหวำ่ งปกี ำรศึกษำ ด้านภาษา 37.75 35.41 -2.34 ดา้ นคานวณ 35.91 27.66 -8.25 ด้านเหตุผล 37.14 - - รวมความสามารถทัง้ 3 ด้าน 36.93 31.54 -5.39 ผลกำรทดสอบทำงกำรศกึ ษำระดบั ชำติขน้ั พน้ื ฐำน (O-NET) ระดับชั้นประถมศึกษำปีท่ี 6 5) ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาตขิ นั้ พน้ื ฐาน (O-NET) ปกี ารศึกษา 2562 รำยวิชำ คะแนนเฉลยี่ ระดบั สพฐ. ระดบั ประเทศ ระดบั โรงเรียน 47.95 49.07 ภาษาไทย 40.50 30.86 34.42 ภาษาองั กฤษ 25.45 31.60 32.90 คณติ ศาสตร์ 25.00 34.30 35.55 วทิ ยาศาสตร์ 24.05 6) การเปรียบเทยี บผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาตขิ ั้นพ้ืนฐาน (O-NET) ปกี ารศกึ ษา 2561 - 2562 รำยวชิ ำ คะแนนเฉลี่ย ปีกำรศึกษำ 2562 ผลต่ำง ระหว่ำงปีกำรศกึ ษำ ภาษาไทย ปกี ำรศกึ ษำ 2561 40.50 -9.03 ภาษาองั กฤษ 25.45 - 6.55 คณิตศาสตร์ 49.53 25.00 +2.00 วิทยาศาสตร์ 32.00 24.05 -11.62 รวมคา่ เฉลย่ี 23.00 28.75 - 6.3 35.67 35.05

14 1.6 สรปุ กำรใช้แหลง่ เรยี นรู้ภำยในสถำนศกึ ษำและภำยนอกสถำนศกึ ษำ แหลง่ เรียนรู้ภำยในโรงเรยี น ท่ี ช่อื แหลง่ เรียนรู้ในโรงเรยี น ท่ี ชอ่ื แหล่งเรยี นรู้นอกโรงเรยี น 1 แปลงผกั เกษตร /บ่อเลย้ี งปลา 1 ทัศนศึกษาจงั หวัดสงขลา (สวนสัตวส์ งขลา) 2 โรงอาหาร 2 มัสยิด 3 เกษตรประณีต 3 การทาอาหารแปรรูปในชมุ ชน ( โอทอป) 4 สวนไผ่ 4 ร15 พัน2 คา่ ยพระยาเดชานุชติ อ.รามัน 5 โรงเล้ียงไก่ 5 สถาบันพฒั นาฝมี อื แรงงาน 24 จงั หวัดยะลา 6 ลานกีฬาอเนกประสงค์ 1 สนาม 6 เกษตรอาเภอรามัน 7 หอ้ งสมดุ 8 ห้องพยาบาล 9 สวนหยอ่ ม 10 โรงเพาะเหด็ 11 ปา้ ยประชาสมั พันธ์ 12 โรงทาปุย๋ 13 หอ้ งฝกึ การแปรรปู 1.7 กำรมีผลงำนท่ีโดดเดน่ ของโรงเรยี น โรงเรียนบ้านบูเกะจือฆา จัดโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพ่ืออาหารกลางวันตามแนว พระราชดาริ ในสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการจัดกิจกรรมน้ีได้รบั ความรว่ มมอื จากคณะครูนักเรียน ผู้ปกครองในชุมชน และทหาร ทาให้การดาเนินกิจกรรม เช่น การปลูกพืชผักในแปลง เกษตร การทาปุ๋ย การเพาะเห็ด การทาน้ายาล้างจาน และการขยายพันธุ์ไผ่ การเลี้ยงไก่ไข่ การปลูกผัก เกษตรประณีต เป็นต้น ซึ่งนาผลผลิตท่ีได้มาใช้ในโครงการอาหารกลางวันให้กับนักเรียนได้รับประทานผัก ที่สดสะอาด และปลอดสารพิษตลอดปีการศึกษา และยังมีกิจกรรมสถานศึกษาพอเพียงที่เป็นทางเลือก ในการประกอบอาชีพท่ีหลากหลาย เช่น การปลูกผัก การเล้ียงไก่ การจักสาน ตลาดนัดโรงเรียน บ้านบูเกะจือฆา และการแปรรูปอาหารโรงเรียนได้รับความร่วมมือจากชุมชนมาเป็นวิทยากรในการให้ ความรู้กับนักเรียน ซ่ึงขนมบางชนิดเป็นสินค้าโอทอปในชุมชน ผลจากการจัดกิจกรรมดังกล่าวทาให้เกิด ความภาคภมู ใิ จทาใหโ้ รงเรียนได้รบั การยกย่องและยอมรบั จากหนว่ ยงานต่างๆ มาศกึ ษาดูงาน และโรงเรียน บ้านบูเกะจือฆา ได้รับรางวัลให้เป็นโรงเรียนต้นแบบด้านการน้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จังหวัดยะลา และโรงเรียนได้รับรางวัลเหรียญทอง การประกวดแปรรูปอาหาร ในโครงการแข่งขันทักษะ

15 วิชาการ (ระดับภาค) ระดับประเทศอีกด้วยโรงเรียนบ้านบูเกะจือฆาส่งเสริมนักเรียน ให้กล้าคิด กล้าแสดงออก จนได้รับรางวลั ระดบั ตา่ งๆ ดงั น้ี 1. โรงเรียนไดร้ บั โล่พร้อมเกยี รตบิ ัตร โรงเรยี นศูนยเ์ รียนรตู้ ้นแบบดา้ นการนอ้ มนา หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 2. รางวลั ที่ไดร้ บั จากการแข่งขนั ในโครงการแขง่ ขันทักษะวิชาการ (ระดับเขต) 2.1 การแขง่ ขันเล่านทิ าน (story Telling) (เหรียญทอง) 2.2 การแขง่ ขันขบั รอ้ งเพลงไทยลกู ทุ่ง ประเภทหญิง (เหรียญทอง) 2.3 การแขง่ ขนั ประดิษฐ์ของใชจ้ ากวสั ดุธรรมชาตใิ นท้องถ่นิ (เหรยี ญทอง ) 2.4 การแขง่ ขันประตมิ ากรรมระดบั ชน้ั ป.1 – ป.6 (เหรยี ญทอง ) 2.5 การแข่งขนั การประดิษฐข์ องเล่นจากเศษวสั ดุเหลอื ใช้บกพร่องทางการเรยี นรู้ (เหรียญทอง) 2.6 การแขง่ ขนั ทาอาหารคาวหวานเพอื่ สุขภาพ (เหรียญทอง ) 2.7 การประกวดแปรรูปอาหาร (เหรยี ญทอง ) 2.8 การแข่งขนั กิจกรรมสภานักเรียน (เหรยี ญเงิน) 2.9 การแขง่ ขนั การประดิษฐข์ องใชจ้ ากเศษวัสดุเหลือใช้ ประเภทนักเรียนทมี่ คี วามบกพร่อง ทางการเรียนรู้ (เหรียญเงิน ) 2.10 การแข่งขันทอ่ งอาขยานทานองเสนาะ (เหรียญเงิน) 2.11 การประกวดเล่านิทานคุณธรรม (เหรยี ญเงิน ) 2.12 การแขง่ ขันการจัดสวนถาดแบบแหง้ ประเภทนักเรยี นที่มีความบกพรอ่ งทางการเรยี นรู้ (เหรยี ญทองแดง ) 2.13 การแขง่ ขนั การสร้างสรรคภ์ าพดว้ ยการปะติด (เหรยี ญทองแดง ) 3. รางวัลทไ่ี ด้รบั จากการแข่งขันในโครงการแข่งขนั ทักษะวิชาการระดับภาค (ระดบั ประเทศ) 3.1 การประกวดแปรรูปอาหาร (เหรียญทอง) 3.2 การแขง่ ขันเลา่ นทิ าน ( story Telling ) ( เหรียญเงนิ ) 3.3 การแขง่ ขันการประดิษฐ์ของเล่นจากเศษวสั ดุเหลอื ใช้ บกพร่องทางการเรยี นรู้(เหรยี ญเงิน)

16 สว่ นที่ 2 ผลกำรประเมินตนเองของสถำนศึกษำ มำตรฐำนที่ 1 คุณภำพผู้เรียน ระดับคณุ ภำพ : ยอดเย่ียม 1. กระบวนกำรพัฒนำ โรงเรียนบ้านบูเกะจือฆา ส่งเสริมให้ครูจัดกระบวนการเรียนการสอนท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ โดยการดาเนินงานและกิจกรรมอย่างหลากหลาย ได้แก่ งานหลักสูตรมีการประชุมปฏิบัติการ ปรับปรุง หลักสูตรสถานศึกษาตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด และให้ครูจัดทาวิเคราะห์หลักสูตรรายช้ัน (ฉบับปรับปรุงพ.ศ.2561) เพื่อให้ครูใช้เป็นกรอบในการจัดการเรียนการสอน การพัฒนาผู้เรียน ส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้เรียนบรรลุตามเป้าหมายที่ว่า “การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพ่ือพัฒนาคนไทยใหเ้ ป็นมนุษย์ท่ี สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม จริยธรรม และวัฒนธรรมในการดารงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผอู้ ื่นได้อย่างมีความสขุ ซ่ึงสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ท่ีได้มุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนเป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข ดังนั้นโรงเรียน บ้านบเู กะจอื ฆา จึงกาหนดมาตรฐานการศกึ ษาด้านคณุ ภาพผู้เรียนจานวน 2 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนและ 2) ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ของผเู้ รียน ด้านผลสมั ฤทธิ์ ทางการเรียนมุ่งเน้นให้นักเรียนมีความสามารถ ในการอ่าน การเขียน การส่ือสาร การคิดคานวณ รวมทั้ง การมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา มีความสามารถในการวิเคราะห์ คิดอย่างมี วิจารณญาณ มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ การส่ือสาร และการมี ความรู้ ทักษะพื้นฐาน เจตคติที่ดีต่องานอาชีพ สาหรับด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนมุ่งเน้นให้ ผู้เรียนมีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีตามที่สถานศึกษากาหนด และมีสุขภาวะทางร่างกายและสังคม ความ ภูมิใจในทอ้ งถนิ่ และความเป็นไทยการยอมรับทีจ่ ะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย 1.1 กำรพฒั นำผลสัมฤทธท์ิ ำงวิชำกำรของผูเ้ รยี น 1.1.1 กำรพัฒนำควำมสำมำรถในกำรอ่ำน กำรเขยี น กำรสื่อสำรและกำรคิดคำนวณ โรงเรียนได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามหลักสูตรของสถานศึกษา โดยให้ครู ทา กาหนดการสอน วิเคราะห์หลักสูตรรายช้ัน ให้ครูทุกกลุ่มสาระจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ตามตัวชี้วัด เพ่ือพัฒนาความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสารและการคิดคานวณตามความยากง่ายของแต่ละ ระดับชัน้ โรงเรยี นจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในกลุ่มสาระวิชาภาษาไทย เร่มิ จากใหน้ กั เรียนอ่านคาง่ายๆ จากคาเป็นประโยค อา่ นขอ้ ความสัน้ ๆ บทอาขยาน ฝกึ ให้นกั เรยี นเล่าเรอื่ ง และเพอื่ นๆ ชว่ ยกันสรุปเรอื่ งเล่า

17 ให้นักเรียนทุกคนใช้ภาษาไทยในการส่ือสาร ฝึกเขียนแจกลูกสะกดคา ให้นักเรียนเขียนคาประโยคง่ายๆ ฝึกพูดแนะนาตัวเองหน้าช้ันเรยี นเลือกหนังสือท่ีนักเรยี นชอบออกมาเล่าใหเ้ พอ่ื นฟงั เชน่ นิทาน บทความฝึก ให้นักเรียนบอกความสาคัญและรายละเอียดจากเร่ืองที่อ่าน และให้นักเรียนอ่านบทร้อยแก้วและบทร้อย กรอง ฝึกการเว้นวรรค การอ่านออกเสียงท่ีถูกต้อง ให้นักเรียนเขียนเร่ืองตามจินตนาการ ฝึกเขียนคาและ ฝึกเขียนเรื่องส้ันๆ ให้นักเรียนทบทวนคาศัพท์ท่ียาก จากข้อความ เรื่องสั้นต่าง ๆ จากนิทาน เมื่อเสร็จส้ิน กระบวนการอ่านแต่ละคร้ัง ครูให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเร่ืองท่ีอ่าน สรุปความรู้ และบอก ข้อคิดของเรื่องท่ีอ่านเพ่ือนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน ในส่วนการเขียนการบรรยายเกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้น และการเขียนเร่ืองตามจินตนาการน้ัน ใช้ภาพต่างๆให้นักเรียนบอกลักษณะที่พบเห็น ร่วมกันสนทนา เกย่ี วกบั ภาพทเ่ี หน็ เรม่ิ จากภาพใกลต้ ัว เพ่อื งา่ ยต่อการคิดประเด็นในการเขียนเรื่อง นกั เรียนร่วมกันต้ังช่ือ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพ ให้นักเรียนร่วมกันสื่อสารให้เปน็ เรอ่ื งราว ให้นักเรียนออกมาเขียนหน้าชน้ั เรียน ให้นักเรียนรจู้ กั มารยาทในการพูด หลักการพูดท่ีดี ฝึกให้นักเรียนออกมาแนะนาตนเอง ให้นักเรยี น เล่าเรื่องท่ีประทับใจหรือเหตุการณ์ต่างๆท่ีพบเห็น ในการพูดทุกคร้ังให้นักเรียนฝึกเรียบเรียงคา เพ่ือเป็น การเตรยี มความพร้อม ความถกู ต้องในการพูด ในการพูดส่ือสารเพื่อใช้คาได้ถูกต้องชัดเจนเหมาะสม ครใู ช้ แถบประโยค ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่าส่ือสารได้ถูกต้องหรือไม่ จากนั้นสรุปร่วมกัน ฝึกให้ นักเรียนเขยี นบันทึกและรายงานจากการศึกษาค้นควา้ โดยการตัง้ คาถาม ใหน้ ักเรยี นศึกษาวธิ ีเขียน และให้ ออกมาเล่าและช่วยกันสรุปฝึกให้นักเรียนเขียนแผนภาพ โครงเรื่อง และแผนภาพความคิดเพื่อใช้พัฒนา งานเขียน เช่น แผนภาพของโครงเรื่อง ตัวละครในเร่ือง สถานที่ เหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึน ผลของเหตุการณ์ ข้อคิด ข้อสรุป ฝึกให้นักเรียนเขียนย่อความจากเร่ืองท่ีอ่าน เช่น บทความ นิทาน ให้นักเรียนเขียนสรุปย่อ ความหลายๆเรื่องจนนักเรียนเขียนสรุปได้ดีข้ึน ครูให้นักเรียนเขียนเร่ืองตามจินตนาการโดยให้นักเรียนดู ภาพ แล้วเล่าเรื่อง สังเกตภาพ โดยการต้ังคาถามว่า ใคร ทาอะไร ที่ไหน อย่างไร เม่ือไร แล้วในภาพน้ันให้ ข้อคิดปลูกฝังด้านใด ครูให้นักเรียนดูภาพ นักเรียนกาลังท้ิงขยะลงถัง และถามคาถามกระตุ้นนักเรียนว่า ภาพน้ีควรพูดโน้มน้าวใจเร่ืองใดและการพูดควรใช้คาที่มีเหตุผลน่าเช่ือถืออย่างไร ให้นักเรียนร่วมกันคิด และชว่ ยกนั สรปุ กลุ่มสาระคณิตศาสตร์ใช้วิธีการสอนโดยอธิบายพร้อมยกตัวอย่างเร่ืองการบวกและการลบบน กระดานให้นักเรียนดูเป็นตัวอย่าง จากน้ันให้นักเรียนออกมาแสดงวิธีทาบนกระดาน ใช้คาถามเพ่ือเป็นการ กระตุ้น ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปคาตอบจนแน่ใจว่านักเรียนเข้าใจจึงให้นักเรียนทาแบ บฝึกหัด ครูยกตัวอย่างการหาคาตอบของโจทย์การลบจานวนท่ีมีตัวตั้งไม่เกิน 1,000 ไม่มีการกระจาย โดยใช้วิธีการ คดิ ดังน้ี การเขยี นในรูปกระจาย การใชต้ ารางหลัก วธิ ลี ดั จากน้ันครเู ขียนโจทย์การลบพร้อมทั้งแสดงวิธี ทาในกระดานดา จนนักเรียนนกั เรียนเข้าใจจึงแจกใบงาน เร่ือง การลบจานวนตามแนวตงั้ ใหน้ ักเรยี นคดิ หา คาตอบครูติดบัตรภาพแสดงการหารบนกระดาน อาสาสมัครนักเรียนเฉลยคาตอบหน้าช้ันเรียนครู ยกตัวอย่างการหาผลหารของโจทยก์ ารหารที่ตวั หารและผลหารมหี นงึ่ หลัก โดยการหาจานวนทน่ี ามาคูณกับ ตวั หารแลว้ เท่ากับตัวต้ัง ให้นักเรียนแบ่งกลุม่ หาผลลัพธข์ องโจทย์ตามที่ได้ศึกษาและจากตวั อย่างท่คี รูทาให้

18 ดูในกระดาน โดยนักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนนาเสนอผลลัพธ์ของโจทย์หน้าช้ันเรียน ครูตรวจสอบความ ถูกต้องและอธิบายเพ่ิมเติม ครูให้นักเรียนเปรียบเทียบความแตกต่างของโจทย์การบวก ลบ คูณ หารระคน กับโจทย์การบวก การลบ การคูณ หรือการหาร ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร ซักถามนักเรียนการหา ผลลัพธ์ของโจทย์การบวก ลบ คูณ หารระคน ต้องทาอย่างไร (ต้องหาผลลัพธ์ในวงเล็บก่อนเสมอ) ครูและ นักเรียนร่วมกันอภิปรายเก่ียวกับการหาผลลัพธ์ของโจทย์การบวก ลบ คูณ หารระคน จนได้ว่า ต้องหา ผลลพั ธใ์ นวงเล็บก่อนเสมอ ครยู กตวั อยา่ งการหาผลลพั ธข์ องโจทย์การบวก ลบ คณู หารระคน 3-5 ตัวอย่าง จนนักเรียนเข้าใจ ให้นักเรียนทาใบงาน ติดแถบโจทย์บนกระดาน แล้วให้นักเรียนออกมาเขียนคาตอบ ใช้วิธีการกาหนดโจทย์การคูณที่มีหลักเดียวกับจานวนเต็มสิบ เต็มร้อย เต็มพัน ให้นักเรียนออกมาหาผล คูณบนกระดาน แล้วช่วยกันอภิปรายหาคาตอบ โดยใช้วิธีลัด ช่วยกันสรุปให้ได้ว่าจานวนใดๆ คูณกับ จานวนเต็มสิบ เต็มร้อย เต็มพัน หาคาตอบได้จากการนาจานวนนั้นคูณด้วยเลขในหลักสิบ หลักร้อย หลกั พัน น้นั ๆ แลว้ เตมิ 0 ต่อท้ายอีก 1 ตวั 2 ตัว หรือ 3 ตัว ตามลาดบั ยกตวั อย่างการคูณท่มี ีหลายหลัก นักเรียนร่วมเลน่ เกม เพอ่ื ฝึกทักษะการคณู กลุม่ สาระภาษาต่างประเทศ จัดกจิ กรรมการเรียนการสอนโดยใหน้ ักเรียนเรียนรู้เร่ืองสตั ว์ รู้จกั สตั ว์ ทั้งแม่และลูก ให้บอกลักษณะความเป็นอยู่ รวมทั้งอาหารของสัตว์ บอกประโยชน์ของสัตว์ที่มีต่อมนุษย์ และสามารถเสนอความคิดรวบยอดโดยการพูดและการเขียน การใช้คาที่ถูกต้อง จากนั้นสรุปการเขียน คานามเอกพจน์และคานามพหูพจน์ตามที่กาหนดได้ และสอนการพูดข้อมูลจากการอ่านเก่ียวกับสัตว์ โดยใช้คาทับศัพท์ ใช้สานวนและโครงสรา้ งประโยคท่ีถูกต้อง โดยนักเรียนสามารถระบุ วาดภาพสัญลักษณ์ เครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยคและข้อความสั้นๆ ตามท่ีฟังและอ่าน นาเสนอเป็นแผนผัง ความคดิ แยกประเภทของสัตว์ต่างๆ ทง้ั ทเ่ี ปน็ สตั วป์ ่า สตั ว์เลย้ี ง และสตั วท์ ีอ่ ยู่ในฟาร์ม การใช้ภาษาเพื่อการ ทักทายและแนะนาตนเองเป็นการใช้ภาษาในชีวิตประจาวัน ให้นักเรียนวิเคราะห์สิ่งท่ีฟัง สังเกตการออก เสยี ง เรยี นร้โู ครงสร้างของประโยค แนะนาตนเองได้อยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม โรงเรยี นได้จัดโครงการและกิจกรรมตามแผนปฏิบัติการของโรงเรยี นเพ่อื พฒั นาความสามารถ ในการอ่าน การเขยี น การส่อื สารและการคิดคานวณ ดงั นี้ 1. โครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน จัดเป็นกิจกรรมห้องสมุดเคล่ือนท่ีที่เอ้ือให้ผู้เรียนเรียนรู้ ด้วยตนเอง หรือเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม โดยแบ่งนักเรียนรับผิดชอบประจาวัน รับผิดชอบห้องสมุด เตรียม นทิ าน บทความ เร่อื งสัน้ หนงั สอื อา่ นเสริมอยา่ งหลากหลาย เพ่ือใหน้ กั เรียนในโรงเรียนไดใ้ ช้บริการ 2. โครงการอ่านออกเขียนได้จัดในรูปแบบกิจกรรมชั้นเรียนทุกวันในชั่วโมงแรกของการเรียน ให้นักเรียนเขียนตามคาบอก คณติ คิดเลขเรว็ และอ่านคาศัพท์พื้นฐาน 3. กิจกรรมสอนซ่อมและเสริม สอนซ่อมนักเรียนที่อา่ นไม่ออกเขียนไมไ่ ด้ โดยมีการประเมิน ผูเ้ รยี นชั้น ป.1 – ป.6 ใหน้ กั เรยี นอา่ นแบบทดสอบโดยครูประจาช้ันเป็นผู้ประเมิน หากพบว่าผูเ้ รยี นอา่ นไม่ ออกเขียนไม่ได้ จดั ใหม้ ีซ่อมเสริมโดยดพู ้นื ฐานของนกั เรียนเปน็ รายบุคคล แบบซ่อมเสรมิ เชน่ พยัญชนะ สระ การผันเสียงอักษรสงู กลาง และตา่ การแจกลูกคา การสะกด อา่ นขอ้ ความ ประโยค นิทาน เป็นต้น มีการ

19 บันทึกพัฒนาการอ่านและการเขยี นอย่างชัดเจน ทุกระดบั ช้ันเรยี นและสง่ เสริมนกั เรียนทอี่ า่ นออกเขียนได้ ตามความถนัดและความสนใจ เชน่ อ่านนิทาน แต่งเร่ืองจากภาพ เล่าเรือ่ ง 4. กิจกรรมตดิ ตามนักเรยี นเป็นรายบุคคล กจิ กรรมนี้เป็นกจิ กรรมเสรมิ จากซอ่ มเสริม โดยครูจะมี นกั เรยี นท่อี ่านไม่ออกเขยี นไม่ได้รบั ผดิ ชอบนกั เรียน 4-5 คน และใชเ้ วลาว่างสอนเพื่อให้นักเรียนมีพัฒนาการ ดา้ นการอ่านทีด่ ขี น้ึ 5. โครงการกิจกรรมวนั สาคัญ เป็นโครงการท่จี ัดขึน้ เพื่อพัฒนานักเรยี นให้มีทกั ษะดา้ น การอ่าน การเขยี น และการสื่อสาร เช่น วนั พ่อ วนั แม่ โรงเรยี นไดจ้ ดั กิจกรรมใหน้ ักเรียนเขียนเรียงความ คดั ลายมือ เลา่ นิทาน วาดภาพ แขง่ ขันเป็นรายช้ัน และมอบรางวลั เพือ่ สง่ เสริมนักเรียนและเพ่ิมทกั ษะ ให้กับนกั เรยี นมากขน้ึ 1.1.2 ควำมสำมำรถในกำรคดิ วิเครำะห์ คดิ อยำ่ งมีวจิ ำรณญำณ อภิปรำย แลกเปลี่ยนควำม คดิ เหน็ และแกป้ ญั หำของนกั เรยี น โรงเรียนบ้านบูเกะจือฆาจัดกิจกรรมการเรียนการสอนท่ีส่งเสริมให้นักเรียนเกิดกระบวนการคิด วิเคราะห์ วิจารณญาณ อภิปราย แลกเปล่ียนความคิดเห็นและแก้ปัญหาในทุกกลุ่มสาระวิชา ครูผู้สอนให้ นกั เรยี นร้จู กั การคิดวเิ คราะห์ สรุปเน้อื เรือ่ ง ทาแผนผงั ความคดิ จากเรอ่ื งที่อา่ นให้นักเรยี นศึกษาเพ่ิมเติม ให้ มีการนาเสนอผลงานของตนเอง และร่วมกันอภิปรายเพือ่ เสนอแนะและปรังปรงุ สาหรบั การจัดการสอนใน รายวิชาวิทยาศาสตร์ทุกช่วงช้ันจะเน้นให้นักเรียนได้ทดลองเป็นกลุ่มตามบริบทของสถานศึกษาโดยใช้ เครื่องมืออุปกรณ์การทดลองที่มีอย่างจากัด เช่น ให้นักเรียนนาของใช้ท่ีบ้านมาคนละ 1 อย่างแล้วให้ นักเรียนจาแนกสมบัติของวัสดุ โดยการแยกประเภท พ้ืนผิว ลักษณะ น้าหนัก ความยืดหยุ่น โดยการต้ัง คาถาม ให้นักเรียนยกตัวอย่างพร้อมอธิบายว่าวัสดุแต่ละชนิดมีสมบัติอย่างไรบ้าง ครูยกตัวอย่างโครงงาน และให้นักร่วมกันวางแผนอภปิ ราย แลกเปลย่ี นความคดิ เห็นร่วมกัน โรงเรียนได้จดั โครงการและกจิ กรรมตามแผนปฏบิ ัติการของโรงเรยี น ดงั นี้ 1. โครงการเศรษฐกจิ พอเพียงเพื่ออาหารกลางวัน โครงการนีไ้ ด้รับความร่วมมือจากผู้ปกครองและ ชุมชนเข้ามามสี ว่ นรว่ มในการรับผิดชอบแปลงเกษตรรว่ มกบั นักเรียน โดยได้แบง่ พนื้ ท่รี ับผิดชอบเป็นรายชั้น ปลูกผัก เช่น ผักบุ้ง คะน้า ถ่ัว มะเขือ พริก และอ่ืนๆ อีกมากมาย และกิจกรรมให้ความรู้ในเรื่อง การเพาะ เห็ด การทาปุ๋ย การทาน้ายาล้างจาน แปรรูปผัก การขยายไผ่ เพาะพันธ์ต่างๆ เป็นกิจกรรมที่ให้ความรู้ให้ นักเรยี นลงมือปฏบิ ัติ และสามารถนาความรู้ไปใช้ในชีวติ ประจาวันได้ 2. โครงการสถานศึกษาพอเพียง เป็นอีกหน่ึงกิจกรรมที่นกั เรียนไดล้ งมือปฏิบัตโิ ดยจัดกิจกรรมเป็น ฐานให้ความรู้ เริ่มจาก ฐานที่ 1 เกษตรประณีต ให้นักเรียนทาแผนผังความคิดเมนูอาหารท่ีนักเรียนช่วยกัน ปลูก ฐานท่ี 2 การทาขนม ให้ความรู้นักเรียนเพื่อเป็นการสร้างอาชีพส่งเสริมให้นักเรียนหารายได้ระหว่าง เรียน ฐานที่ 3 การจักสานกล่องใส่ดินสอ ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม 3 คนช่วยกันสานกล่องใส่ดินสอ ฐานท่ี 4

20 การปลกู ผักวิธีการดูแลรักษาตลอดจนการเก็บผัก ฐานที่ 5 การขยายหน่อไผ่ ใหค้ วามรแู้ ละให้นักเรยี นลงมือ ปฏบิ ตั ิ ฐานที่ 6 ใหค้ วามรนู้ กั เรยี นการเลี้ยงไก่ไข่ การดแู ล จนถงึ การเก็บไข่ และกจิ กรรมสุดท้ายใหน้ ักเรียน และครูประจาช้ันช่วยกันขายของเพ่ือเป็นการสร้างอาชีพ และให้นักเรียนรักในอาชีพสุจริต ทุกกิจกรรม นกั เรียนสามารถนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวันได้ 3. โครงการทัศนศีกษาแหล่งเรียนรู้ ที่ส่งเสริมนักเรียนในเร่ืองการคิดวิเคราะห์ ศึกษาแหล่งเรียนรู้ ต่าง ๆ นามาสรุปผล และนาเสนอโดยการวาดรูปสิ่งที่ได้เรียนรู้ ซ่ึงกระบวนการเหล่านี้เกิดจากกการคิด วิเคราะห์ของนักเรียนได้เป็นอย่างดี และให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรงจากการไปศึกษาแหล่งเรียนรู้ นอกสถานที่ 4. โครงการอบรมคุณธรรมจริยธรรม เปน็ กจิ กรรมทสี่ ่งเสริมให้นักเรยี นรจู้ กั คดิ และปลูกฝังในเรื่อง มารยาท วนิ ัย ความกตญั ญรู วมทัง้ การใช้ชวี ติ ในประจาวัน ที่ใหน้ กั เรยี นรว่ มกันคดิ และเสนอแนวทางในการ แก้ปัญหาตา่ งๆ อีกด้วย 1.1.3 ควำมสำมำรถในกำรสร้ำงนวตั กรรมของนกั เรียน โรงเรียนมกี ารจัดการเรียนการสอนและให้ครูทุกคนใชส้ ่อื ในการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน สร้างนวัตกรรมท่ีหลากหลายและบางหน่วยการเรียนรู้นั้นนักเรียนร่วมสร้างสื่อนวัตกรรมเป็นผลงานของ นักเรียนเอง ในกลุ่มสาระวิชาการงานอาชพี ศิลปะ และเกษตร ซ่ึงเป็นรายวิชาท่ีเน้นให้นักเรียนได้ลงมอื ทา ครูให้นักเรียนสารวจและนาเสนอความคิดเห็นเก่ียวกับงานประดิษฐ์ และส่ิงท่ีนักเรียนอยากทา แล้วให้ นักเรียนศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองและลงมือปฏิบัติ การสอนของครูเน้นให้นักเรียนเห็นคุณค่าและ ความสาคัญของวัสดุเหลือใช้ และส่งเสริมการใช้วัสดุท่ีมีอยู่ในท้องถิ่น นามาประดิษฐ์เป็นของใช้ใน ชีวิตประจาวันได้ เพื่อการใช้ประโยชน์ของนักเรียนเอง นักเรียนสามารถประดิษฐ์ของเล่นและของใช้แบบ งา่ ยๆ ได้แก่ การทาเคร่ืองบนิ พัดกระดาษ แจกนั ดอกไม้จากหลอดและกระดาษทิชชู กลอ่ งใสด่ นิ สอ ของ ใช้จากเศษกระดาษเหลือใช้ โมบายแขวนหน้าต่างจากแก้วพลาสติก กระบวยตักน้าจากกะลามะพร้าว และ กระปุกออมสนิ จากไม้ไผ่ เป็นตน้ 1.1.4 ควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยสี ำรสนเทศ และกำรสือ่ สำร การจัดการเรียนการสอนรายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในการจัดการเรียนการสอน โดยมีห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์แต่เครื่อง คอมพิวเตอร์ไม่เพียงพอต่อจานวนนักเรียนในแต่ละช้ัน ครูเริ่มสอนจากส่ิงใกล้ตัวเป็นอันดับแรก สอนให้ นักเรียนรู้จักอุปกรณ์จากง่ายไปหายากและให้นักเรียนออกเสียงคาให้ถูกต้อง เรียนรู้สัญลักษณ์บนเครื่อง คอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะสัญลักษณ์การเปิด- ปิด ให้นักเรียนบอกประโยชน์ของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ประโยชน์ของเทคโนโลยี และวิธีการสืบค้นหาข้อมูลอย่างง่าย ค้นหา รวบรวมข้อมูลท่ีสนใจและเป็น ประโยชน์จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ท่ีเช่ือถือได้ตรงตามวัตถุประสงค์ใช้ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์เพื่อ

21 ทางานโดยใชโ้ ปรแกรม Word ให้นักเรียนมีความรู้พ้ืนฐานในการใช้งานโปรแกรม PowerPoint เพื่อสืบค้น ข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตและนาเสนองานด้วยโปรแกรม PowerPoint ท่ีนักเรียนสามารถนาไปใช้ใน ชีวติ ประจาวนั ได้ 1.1.5 ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนตำมหลักสูตรสถำนศึกษำ โรงเรียนมีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ โดยใช้เคร่ืองมือการวัด และประเมินท่ีหลากหลาย เช่น การใช้คาถาม การทดสอบ การสังเกต ให้นักเรียนลงมือปฏิบัติ มีการสรุป บทเรียนหลังการเรียนรู้ มีการบูรณาการการเรียนการสอนกับกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการ พัฒนาคุณภาพผู้เรียนเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ครูมีการจัดกระบวนการเรียนรู้ท่ีส่งเสริมทักษะ ทางด้านการคิด การสืบค้นความรู้ ส่งเสริมการคิดท่ีหลากหลาย เช่น การคิดคล่อง คิดแก้ปัญหา การวาด ภาพสร้างสรรค์ตามจินตนาการ และส่งเสริมการประกวดทักษะทางวิชาการต่าง ๆ โครงการพัฒนาผู้เรียน จากแหล่งเรียนรู้ ครูมีการจัดกระบวนการเรียนรู้ภายนอกโรงเรียนเป็นการเปิดโลกทัศน์และการส่งเสริม กระบวนการคิดของนักเรียน นักเรียนมีการลาดับความคิดเป็นของตัวเอง การคิดรวมยอด โครงการ ห้องสมุดเคลื่อนท่ี กาหนดกิจกรรมการอ่าน นิทาน บทความ เรื่องสั้น การฟัง การดูและการสื่อสารเน้นสู่ กระบวนการคิด ส่งเสริมให้นักเรียนสร้างองค์ความรู้เป็นความคิดรวบยอดเกิดกระบวนการทักษะการคิด เช่น กิจกรรมการสารวจค้นหา กิจกรรมการอภิปรายแลกเปล่ียนความคิดเห็น การอภิปรายซักถาม ส่งผล การการเรียนรขู้ องนักเรียน เป็นต้น โรงเรยี นมีโครงการทสี่ ่งเสรมิ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นตามหลักสูตรสถานศึกษาในแผนปฏบิ ัติ ดงั นี้ 1. โครงการนิเทศ จัดการนิเทศภาคเรียนละ 2 คร้ัง แต่ในการปฏิบัติจริงผู้อานวยการนิเทศ สม่าเสมอและเกือบทุกวัน ครั้งแรกผู้อานวยการโรงเรียนจะนิเทศเรื่องผลสาเร็จของการนิเทศในปีท่ีผ่านมา และให้ครูเน้นการเขียนบนกระดานหน้าชั้นเรียนเขียนตัวตรง มีหัว เต็มบรรทัดสาหรับนักเรียนช่วงชั้นท่ี 1 และครง่ึ บรรทัดนักเรยี นช่วงชนั้ ที่ 2 เขยี นทุกครง้ั ใหน้ ักเรยี นขีดเส้นใต้ เนน้ ย้าใหน้ กั เรยี นทางานให้เรยี บร้อย และพูดถึงการแก้ปัญหาในเร่ืองที่ต้องพัฒนา ครั้งที่ 2 ให้ครูพูดเสนอวิธีการสอนและเทคนิคท่ีใช้ในการจัด กิจกรรมในชั้นเรียนจากน้ันผู้อานวยการจะเสริมวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนท่ีหลากหลาย ท่ีปฏิบัติ แล้วเกิดผล คร้ังที่ 3 ครูช่วยกันเสนอแนวทางการพัฒนานักเรียนท่ียังอ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้ ครั้งที่ 4 ตดิ ตามเสนอแนะหาวธิ ีช่วยเหลือผเู้ รียนเนน้ รายบคุ คล ในการนิเทศเป็นการตดิ ตามกระบวนการจัดการเรียน การสอนของครูเพื่อให้นักเรียนมีผลการเรียนที่ดีขึ้น และเน้นนักเรียนเป็นสาคัญ เป็นการแลกเปล่ียน เสนอแนะแนวทางการพัฒนานกั เรยี นให้มีผลการเรยี นท่ีดีขน้ึ อีกดว้ ย 2. โครงการจัดบรรยากาศในชั้นเรียน เป็นโครงการที่จัดข้ึนเพ่ือสร้างบรรยากาศในช้ันเรียนโดย นกั เรยี นและครูช่วยกันจัดมุมต่างๆให้สวยงาม และเป็นระเบียบเป็นแหล่งเรียนรู้ของห้องเรียน จัดภาคเรียน ละครั้ง มีการประกวดห้องเรียน เป็นการกระตุ้นให้นักเรียนอยากเรียน มีความสุขในการเรียน รักห้องเรียน และสร้างความรักความสามัคคี การทนี่ กั เรียนมีความสขุ ส่งผลให้นักเรียนอยากเรียนและตั้งใจเรียนมากข้นึ

22 3. โครงการผลิตสอื่ โรงเรียนได้จดั โครงการผลิตสื่อ ให้ครูจัดทาสื่อภาคเรียนละ 2 ชิ้น เพื่อเป็นการ กระตนุ้ ความสนใจของนกั เรยี น เพอื่ ใหน้ ักเรียนเขา้ ใจในเนอื้ หางา่ ยขึ้น 4. โครงการวิจัย โรงเรียนให้ครูทาวิจัยช้ันเรียนภาคเรียนละ 1 ครั้ง โดยนาผลการบันทึกหลังการ จัดการเรียนการสอนมาทาวิจัย เพ่ือหาแนวทางพัฒนาและจัดทาสื่อการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาให้ผลการ เรยี นดยี ่ิงข้ึน 5. โครงการวัดผลและประเมินผล เป็นโครงการท่ีส่งเสริมให้ครูใช้วิธีการวัดผลอย่างหลากหลาย เช่น ทดสอบ ถามคาถาม ให้นักเรียนค้นควา้ พูด อธิบาย สัมภาษณ์ และติดตามการจดั กระบวนการเรยี น การสอนทีส่ ง่ ผลสมั ฤทธ์ิของนักเรียนใหส้ งู ข้นึ 6. โครงการเศรษฐกิจพอเพียง เป็นโครงการท่ีให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง เป็นแหล่งเรียนรู้ใน โรงเรยี นทท่ี ุกกลมุ่ สาระใช้บรู ณการจดั การเรยี นการสอน 7. โครงการสถานศึกษาพอเพียง เป็นกิจกรรมที่สร้างอาชีพหลากหลาย เช่น การทาขนม การจัก สาน การปลูกผัก การเล้ียงไก่ การขยายพันธุ์ไผ่ และการขายของ เป็นกิจกรรมที่ให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติ ช่วยกันคิด แกป้ ัญหาร่วมกันและสามารถนาความรูไ้ ปใช้ในชีวิตประจาวนั ได้ 8. โครงการยกระดับผลสัมฤทธ์ิและติวเข้มเป็นการยกระดับการสอบ NT และ O – NET เป็น กิจกรรมที่ครูจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยครูสอนพร้อมติวเข้มเพื่อเป็นการเตรียมตัวก่อนสอบวัดผล ระดับชาติ 1.1.6 ควำมรู้ ทกั ษะพน้ื ฐำน และเจตคติทดี่ ีตอ่ งำนอำชีพ โรงเรียนจัดการเรียนการสอนในรายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี วิชาเกษตร วิชาศิลปะ แนะแนว และการบูรณาการทุกกลุ่มสาระ สอนให้นักเรียนได้รู้จักอาชีพที่หลากหลาย โดยทุกอาชีพเป็น อาชีพสุจริตและไม่ทาให้ผู้อ่ืนเดือดร้อน และให้ความรู้ทักษะที่จาเป็นในการประกอบแต่ละอาชีพ ครูให้ นักเรียนแสดงบทบาทสมมุติ การวาดภาพอาชีพท่ีสนใจพร้อมบอกเหตุผลประกอบ อีกทั้งยังให้นักเรียน บอกทกั ษะต่าง ๆ ทีด่ ใี นการประกอบอาชีพให้ประสบความสาเร็จ ครูยกตวั อย่างอาชพี ท่ดี ีและอาชีพที่ไม่ดี แล้วให้นักเรียนเปรียบเทียบ การสอนของครูมีการส่งเสริมให้นักเรียนมีความภาคภูมิใจในผลงานของ ตนเอง โรงเรยี นมีโครงการในการพัฒนาความรู้ ทกั ษะพ้นื ฐาน และเจตคติท่ีดีตอ่ งานอาชีพในแผนปฏิบตั ิดังน้ี 1. โครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่ออาหารกลางวัน เป็นการให้ความรู้แก่นักเรียนในการใช้อุปกรณ์ ต่างๆ การปลูกผัก การดูแลผักและบารุงดิน จากนั้นให้นักเรียนลงมือปฏิบัติในแปลงเกษตรของชั้นเรียน ตัวเอง โดยมีผู้ปกครองเข้าร่วมรับผิดชอบแปลงผัก การปลูกผัก ดูแล จนเก็บผักขายสหกรณ์โรงเรียน และ ในโครงการน้ียังมีกิจกรรมอ่ืนๆ เช่น เพาะเห็ด ทาปุ๋ย ทาน้ายาล้างจาน ทาน้าด่ืมสมุนไพร แปรรูปผักต่างๆ อีกมากมายเป็นกิจกรรมท่ีให้นักเรยี นทุกคนลงมือปฏิบัติ เพื่อสร้างทักษะพื้นฐานสามารถนาไปต่อยอดเปน็ อาชีพและนาไปใช้ในชีวิตประจาวันได้ และโรงเรียนได้จัดกิจกรรมให้นักเรียนรับผิดชอบร่วมกับคุณครูคือ

23 การทาเกษตรประณตี นกั เรียนแตล่ ะชัน้ คิดเมนูอาหารไม่ใหซ้ า้ กัน และจาแนกเครือ่ งปรแุ ละสว่ นประกอบใน แตล่ ะเมนู เพอื่ ใชใ้ นการปลูกผักในเกษตรอีกดว้ ย 2. โครงการสถานศึกษาพอเพียง เป็นอีกโครงการหนึ่งที่สร้างทางเลือกในการประกอบอาชีพท่ี หลากหลาย โดยจัดกิจกรรมเปน็ ฐานให้ความรู้ ฐานท่ี 1 ฐานเกษตรประณีตเปน็ ฐานให้ความรู้ในเร่ืองพืชผัก ที่ใช้เป็นส่วนประกอบในการทาอาหารแต่ละเมนู มีส่วนผสมของเคร่ืองแกงและผักท่ีใช้ในการปรุงโดยให้ นักเรียนเขียนแผนภาพความคิด ฐานที่ 2 การทาขนม ให้ความรู้นักเรียนเพื่อเป็นการสร้างอาชีพส่งเสริมให้ นักเรียนหารายได้ระหว่างเรยี น ฐานท่ี 3 การจักสานกล่องใส่ดินสอ ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม 3 คนช่วยกันสาน กล่องใส่ดินสอ ฐานท่ี 4 การปลูกผักวิธีการดูแลรักษาตลอดจนการเก็บผัก ฐานท่ี 5 การขยายหน่อไผ่ ให้ ความรู้และให้นักเรียนลงมือปฏิบัติ ฐานที่ 6 ให้ความรู้นักเรียนการเล้ียงไก่ไข่ การดูแล จนถึงการเก็บไข่ และกจิ กรรมสุดทา้ ยให้นักเรียนและครูประจาช้ันชว่ ยกันขายของเพ่ือเป็นการสร้างอาชีพ และใหน้ ักเรียนรัก ในอาชพี สจุ ริต ทกุ กิจกรรมนกั เรียนสามารถนาความรู้ไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้ 1.2 คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1.2.1 กำรมีคุณลักษณะและค่ำนยิ มทีด่ ตี ำมท่สี ถำนศกึ ษำกำหนด โรงเรยี นมีการพฒั นาคุณลักษณะและค่านยิ มทีด่ ีตามทส่ี ถานศึกษากาหนด โดยการ ใหน้ กั เรียนเข้าแถวยืนตรงเคารพธงชาตใิ นตอนเช้า รอ้ งเพลงชาติ เพ่ือแสดงความรักชาติ อีกท้งั ยงั มีการอ่าน ดุอาที่ใช้ในชีวิตประจาวัน เพ่ือให้นักเรียนตระหนักและสามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวันได้ โรงเรียนยังมี กจิ กรรมการละหมาดดฮู าหลงั เขา้ แถว เพื่อเปน็ การฝึกสมาธิของนักเรยี นก่อนเขา้ ห้องเรียน มกี ิจกรรมชั่วโมง ลูกเสือ ให้นักเรียนบาเพ็ญประโยชน์และรู้จักมีจิตสาธารณะ รู้รักสามัคคี โดยการให้นักเรียนบาเพ็ญ ประโยชนใ์ นวันสาคญั ต่าง ๆ ในกจิ กรรมลกู เสือ เนตรนารี โดยการสอนใหน้ ักเรียนตระหนักถึงหน้าท่ี ความ รับผิดชอบของตนเอง สร้างวินัยในตนเอง ให้ความสาคัญต่อสิ่งแวดล้อมและสถานท่ีสาคัญ เช่น ทาความ สะอาดมัสยิด เก็บขยะในชุมชน และบริเวณแหลง่ น้า ส่งเสรมิ ให้นักเรียนบรจิ าค มนี า้ ใจตอ่ เพื่อนและน้อง ๆ หลังเลิกเรียนทุกวันก็จะมีการออมทรัพย์ซ่ึงนักเรียนจะฝากเงินกับครูประจาช้ันทุกวัน ซ่ึงกิจกรรมทุก กิจกรรมสง่ ผลต่อการมคี ุณลักษณะและค่านิยมที่ดตี ามท่สี ถานศึกษากาหนด การอยรู่ ว่ มกันในโรงเรียนเป็น สังคมใหญ่ มีนักเรียนหลากหลายการสอนให้นักเรียนมีความซ่ือสัตย์ถือเป็นปัจจัยสาคัญในการอยู่ร่วมกัน โดยโรงเรียนมีโครงการอบรมคุณธรรมจริยธรรม กิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมหลังละหมาดทุกวัน โดยการให้ ความรู้และเหตุผลเชิงคุณธรรมจริยธรรม เป็นวิธีการฝึกฝนให้นักเรียนได้ใช้ความรู้และเหตุผลเชิงคุณธรรม จรยิ ธรรม เพือ่ การตดั สินใจก่อนการกระทา การยกตวั อยา่ งให้ดู สอนให้นกั เรียนรจู้ ักผิด ชอบ ช่ัว ดี ปลกู ฝัง คุณธรรมจริยธรรมท่ีดีงาม การให้เกียรติกันโดยการทักทายกัน การให้สาลาม และกล่าวสวัสดี การส่งเสริม ให้นักเรียนนาหลักศาสนามาใช้ในชีวิตประจาวัน เช่น การปฏิญาณตน การละหมาด การถือศีลอด

24 การบริจาค และการไม่ทาช่ัว ครูสอนและอบรมเน้ือหาต่อต้านทุจริต ให้นักเรียนดูเร่ืองส้ัน อีกทั้งครูประจา ชัน้ อบรมนักเรียนทกุ วนั ในชัว่ โมงแรก ครูเปน็ แบบอยา่ งท่ดี ใี หก้ บั นกั เรยี นในเร่ืองการดาเนินชีวติ ประจาวัน มี โครงการส่งเสริมประชาธิปไตยในโรงเรียน ให้นักเรียนรู้และเข้าใจเก่ียวกับการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รู้จักการเป็นผนู้ า ผู้ตามที่ดี รวมถึงการเคารพสทิ ธิและ หน้าท่ีต่อกัน และใช้ชีวิตระบอบประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์แบบ ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ครู ต้องตระหนักให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจในบทเรียน โดยให้นักเรียนมีคุณลักษณะท่ีแสดงออกถึงความ ตัง้ ใจ เพียรพยายามในการเรียน และเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้ แสวงหาความรู้ จากแหลง่ เรยี นรูท้ ัง้ ภายใน และภายนอกโรงเรียนอย่างสม่าเสมอ ด้วยการเลือกใช้ส่ืออย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็น องค์ความรู้ แลกเปล่ียนเรียนรู้ ถ่ายทอด เผยแพร่ และนาไปใช้ในชีวิตประจาวันได้ การจัดการเรียนการ สอนของครู ต้องสอนให้นักเรียนมีความภาคภูมิใจตนเอง เห็นคุณค่าของตนเอง มีความรักตนเอง ซึ่งจะทา ให้นักเรียนเกิดคุณลักษณะท่ีแสดงออกถึงความเป็นตนเองตามศาสนา ขนมธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม ส่งเสริมให้นักเรียนใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง แต่งกายและมีมารยาทงดงามแบบไทย มีสัมมาคารวะ กตัญญู กตเวทีต่อผู้มีพระคุณ ร่วมกิจกรรมที่เก่ียวข้องกับภูมิปัญญาไทย และการแสดงถึงความเป็นไทย การมีจิต สาธารณะการมีน้าใจต่อเพ่ือนและน้อง ๆ ซึ่งส่งผลต่อการมีคุณลักษณะและค่านิยมท่ีดีตามที่สถานศึกษา กาหนด โรงเรยี นมีโครงการในการสง่ เสริมการพฒั นาคณุ ลักษณะและค่านิยมทีด่ ีตามที่สถานศกึ ษากาหนด ในแผนปฏิบัติของโรงเรยี น ดังน้ี 1. โครงการวันสาคัญ เชน่ วนั พ่อ วนั แม่ วันรัฐธรรมนญู ส่งเสริมนกั เรยี นให้มีความรักความกตัญญู ต่อบิดามารดา สถาบันพระมหากษัตริย์และประเทศชาติ โดยจัดกิจกรรมให้นักเรียนจัดป้ายนิเทศ คัดลายมือ เขยี นเรยี งความ แต่งกลอน วาดภาพ และเลา่ เรอื่ ง จัดกจิ กรรมแข่งขันในโรงเรยี น 2. โครงการอบรมคุณธรรมจริยธรรม เป็นโครงการท่ีจัดทุกวันศุกร์ เป็นการพูดในหัวข้อต่างๆ โดยมีครูในโรงเรียนและวิทยากรมาอบรมในหัวข้อต่างๆ เช่น ความซื่อสัตย์ ความสามัคคี ความกตัญญู ความมวี ินัย ทกุ หวั ข้อเรื่องเปน็ การส่งเสริมคุณลกั ษณะและค่านิยมท่ดี ีให้เกิดกบั นักเรียนทกุ คน 3. โครงการเศรษฐกิจพอเพียงและโครงการสถานศึกษาพอเพียง เป็นการส่งเสริมและสร้างความ ตระหนักให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติทากิจกรรมกลุ่มช่วยเหลือกัน แก้ปัญหา เป็นการสร้างความรักความ สามคั คี และฝึกความมีระเบียบวนิ ัยเปน็ การสง่ เสริมคุณลกั ษณะและค่านยิ มที่ดีให้เกิดกบั นักเรียนทุกคน 4. โครงการส่งเสริมระบบประชาธิปไตยในโรงเรียน เป็นโครงการท่ีจัดข้ึนโดยการเลือกตั้งของ นักเรียนในโรงเรียนเพื่อส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย ให้นักเรียนรู้จักการหาเสียง เดินเลือกต้ัง ฝึกการพูด หน้าเสาธงและให้นักเรียนเข้าคูหาใช้สิทธิ์เลือกต้ัง ฝึกให้นักเรียนมีความรับผิดชอบ รู้จักเสียสละและ

25 ยอมรับความจรงิ ให้นักเรยี นมคี วามรกั รจู้ กั การให้ มรี ะเบยี บวนิ ยั รักสถาบันพระมหากษัตรยิ ์ และ ประเทศชาติ ส่งเสริมระบบประชาธปิ ไตยในโรงเรียน กจิ กรรมนจี้ ัดโดยมีทีมงานสภา 30 คน เป็นแกนนาใน การทางานในด้านต่างๆในโรงเรียน เช่น ดูแลเร่ืองการทาความสะอาด ควบคุมแถว จัดความเรียบร้อย ทางานฝ่ายปกครอง ประชาสัมพันธ์เรื่องราวต่างๆ ของโรงเรียน เช่น รายงานข่าวประจาวัน เล่านิทาน บทความ หรือเร่ืองเล่า ซ่ึงมีครูทาหน้าท่ีเป็นท่ีปรึกษากิจกรรมของสภาเป็นการสร้างความรักความสามัคคี ฝึกความมีระเบียบวินัยเปน็ การสง่ เสริมระบอบประชาธปิ ไตย คุณลักษณะและค่านิยมที่ดีให้เกิดกับนักเรยี น ทกุ คน 5. โครงการสถานศึกษาพอเพียง เป็นอีกโครงการหนึ่งท่ีสร้างทางเลือกในการประกอบอาชีพ ที่หลากหลาย โดยจัดกิจกรรมเป็นฐานให้ความรู้ ฐานท่ี 1 ฐานเกษตรประณีตเป็นฐานให้ความรู้ในเรื่อง พืชผกั ทีใ่ ชเ้ ป็นส่วนประกอบในการทาอาหารแตล่ ะเมนู มสี ่วนผสมของเครอ่ื งแกงและผกั ที่ใชใ้ นการปรุงโดย ให้นักเรียนเขียนแผนภาพความคิด ฐานที่ 2 การทาขนม ให้ความรู้นักเรียนเพื่อเป็นการสร้างอาชีพส่งเสรมิ ให้นักเรียนหารายได้ระหว่างเรียน ฐานที่ 3 การจักสานกล่องใส่ดินสอ ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม 3 คนช่วยกัน สานกล่องใส่ดินสอ ฐานที่ 4 การปลูกผักวิธีการดูแลรักษาตลอดจนการเก็บผัก ฐานท่ี 5 การขยายหน่อไผ่ ให้ความรู้และให้นักเรียนลงมือปฏิบัติ ฐานที่ 6 ให้ความรู้นักเรียนการเล้ียงไก่ไข่ การดูแล จนถึงการเก็บไข่ และกิจกรรมสุดท้ายให้นักเรียนและครูประจาช้ันช่วยกันขายของเพื่อเป็นการสร้างอาชีพ และให้นักเรียน รกั ในอาชีพสจุ รติ ทุกกิจกรรมนกั เรียนสามารถนาความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ 1.2.2 ควำมภมู ใิ จในท้องถน่ิ และควำมเปน็ ไทย โรงเรียนได้จัดกิจกรรมการเรยี นรู้โดยใช้ภาษาไทยในการสือ่ สารเป็นหลัก ใชก้ ระบวนการจดั การ เรียนการสอนและการสื่อสารกับนักเรียน มีการสร้างข้อตกลงระหว่างครูและนักเรียน เช่น ในโรงเรียน สื่อสารด้วยภาษาไทย การกล่าวทักทายต้องกล่าวสวัสดี หรือให้สลามกันทุกคร้ัง เพ่ือให้นักเรียนมีมารยาท ที่ดี เป็นคนดี รู้วัฒนธรรม ประเพณีท้องถ่ิน เช่น การท่องดุอาในตอนเช้า และหลังละหมาดมีการละหมาด ร่วมกัน การร่วมงานประเพณี วัฒนธรรมของท้องถ่ิน เช่น งานเมาลิด งานอาซูรอ วันสาคัญทางศาสนาและ ท้องถิ่น มีส่วนร่วมในการดูแลรักษา อนุรักษ์และเผยแพร่ภูมิปัญญาท้องถ่ิน โดยการทาความสะอาดมัสยิด เก็บขยะในชุมชน ปลูกต้นไม้ เป็นต้น โรงเรียนมีโครงการและกิจกรรมในการพัฒนานักเรียนให้มีความภูมิใจในท้องถ่ินและความเป็นไทยใน แผนปฏิบัติของโรงเรียน ดงั นี้ 1. โครงการสัมพนั ธ์ชุมชน เป็นโครงการทีส่ ร้างความสมั พนั ธ์ระหว่างโรงเรียนกบั ชมุ ชน เป็น กจิ กรรมทจ่ี ัดขนึ้ โดยมโี รงเรียน ชมุ ชน ทหารองค์การบริหารตาบล อนามัย เขา้ มามีสว่ นร่วมกิจกรรมทีจ่ ัด ในปนี คี้ ือการแขง่ ขนั กวนอาซูรอ กจิ กรรมที่จัดผู้ปกครองสาธติ การทาและบอกสว่ นประกอบตา่ งๆในการทา อาซูรอ ให้นกั เรยี นศึกษา วาดภาพ บันทกึ สัมภาษณ์และดูวิธีการทาของแต่ละกล่มุ และนักเรยี นได้ร่วมชิม

26 เป็นกรรมการ ทาให้นกั เรยี นเกดิ ความภาคภมู ิใจในชุมชน และการมีส่วนรว่ มสง่ เสรมิ ความเปน็ ไทย รรู้ ัก สามคั คีมากขนึ้ 2. โครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่ออาหารกลางวัน เป็นกิจกรรมที่ได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครอง และชุมชนแวดลอ้ ม ทุกฝ่ายรว่ มพฒั นาใหโ้ รงเรยี นเป็นแหลง่ เรียนรู้ในชุมชน และหนว่ ยงานต่างๆ มาศกึ ษาดู งาน ร่วมดูแล และให้ความรู้ท่ีสามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวันเป็นความภาคภูมิใจของโรงเรียน นักเรียน ผู้ปกครองและชุมชน 3. โครงการสถานศึกษาพอเพียง เป็นอีกโครงการหนึ่งท่ีสร้างทางเลือกในการประกอบอาชีพ ที่หลากหลาย โดยจัดกิจกรรมเป็นฐานให้ความรู้ ฐานท่ี 1 ฐานเกษตรประณีตเป็นฐานให้ความรู้ในเรื่อง พืชผักที่ใช้เป็นส่วนประกอบในการทาอาหารแต่ละเมนู มีส่วนผสมของเคร่ืองแกงและผักที่ใช้ในการปรุง โดยให้นักเรียนเขียนแผนภาพความคิด ฐานท่ี 2 การทาขนม ให้ความรู้นักเรียนเพื่อเป็นการสร้างอาชีพ ส่งเสริมให้นักเรียนหารายได้ระหว่างเรียน ฐานท่ี 3 การจักสานกล่องใส่ดินสอ ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม 3 คน ช่วยกันสานกล่องใส่ดินสอ ฐานที่ 4 การปลูกผักวิธีการดูแลรักษาตลอดจนการเก็บผัก ฐานที่ 5 การขยาย หน่อไผ่ ใหค้ วามรู้และให้นักเรยี นลงมือปฏิบตั ิ ฐานท่ี 6 ใหค้ วามรู้นักเรียนการเลยี้ งไก่ไข่ การดแู ล จนถึงการ เก็บไข่ และกิจกรรมสุดท้ายให้นักเรียนและครูประจาช้ันช่วยกันขายของเพื่อเป็นการสร้างอาชีพ และให้ นักเรียนรักในอาชีพสุจริต ทุกกิจกรรมนักเรียนสามารถนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวันได้และเกิดความ ภาคภูมิใจทีม่ สี ่วนรว่ มและสามารถเขียนออกมาในรูปเลม่ ของชิน้ งานได้ 1.2.3 กำรยอมรบั ท่จี ะอย่รู ว่ มกนั บนควำมแตกตำ่ งและควำมลำยหลำย โรงเรียนจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อให้นักเรียนในกลุ่มสาระ สังคมศึกษา และหน้าท่ี พลเมือง โดยการจัดกิจกรรมการสอนที่หลากหลาย เช่น กิจกรรมกลุ่ม การเล่นเกมและค้นหา โดยสอนให้ ผู้เรียนยอมรับท่ีจะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและความหลากหลาย บูรณาการทุกกลุ่มสาระ ให้มีการจัด กิจกรรมท่ีส่งเสริมให้นักเรียนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ได้ดาเนินการโครงการอบรมคุณธรรมจริยธรรม และมีกิจกรรมอบรมรมหลังละหมาด การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนครูให้นักเรียนแสดงความคิดเห็น อย่างสุภาพและยอมรับในข้อเสนอแนะ รับฟังความคิดเห็นของผู้อ่ืน เช่น การสอนให้นักเรียนมีมารยาท ในการพูดและการฟัง มีการยกมือข้ึนก่อนถามและตอบ ฟังคาถามของเพื่อนอย่างตั้งใจ การส่งเสริมการ แสดงมารยาทท่เี หมาะสมให้เกยี รติซง่ึ กันและกนั ครูจะสอนนกั เรียนในเร่ืองมารยาทตา่ ง ๆ ในการแสดงออก เช่นนักเรียนขออนุญาตเข้าและออกห้องเรียน การเดินผ่านหน้าและหลังผู้ใหญ่ การรับของจากผู้ใหญ่ การกล่าวขอบคุณ เป็นต้น โดยครูต้องเป็นแบบอย่างท่ีดีในเร่ืองมารยาทต่าง ๆ ให้นักเรียน สาหรับการ ปรับตัวและทากิจกรรมร่วมกับผู้อ่ืนด้วยความเต็มใจ และต้ังใจบนความแตกต่างทางสติปัญญาและ ความสามารถของแต่ละบุคคล ครูจะสอนนักเรียนยอมรับในเร่ืองความแตกต่าง ๆ ของแต่ละคน เช่น ความสามารถในการเรียนรแู้ ตกต่างกัน คอื ในการจัดการเรียนการสอนหากมีนกั เรียนไม่เขา้ ใจ ครูจะอธิบาย

27 เพิ่มเติมจนนักเรียนเข้าใจ และให้เพ่ือนช่วยสอนและอธิบายแทนครู เพื่อให้นักเรียนมีความเห็นอกเห็นใจ และเห็นคณุ ค่าของเพอ่ื นมากขึ้น โรงเรียนมีโครงการในการพัฒนาผู้เรียนให้ยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย ใน แผนปฏบิ ัติของโรงเรียน ดังนี้ 1.โครงการสง่ เสริมระบอบประชาธิปไตยในโรงเรียน เป็นกิจกรรมที่ให้นักเรยี นได้ออกเสียงเลือกตัง้ เลือกผู้นาในการดาเนินกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียน เช่น งานปกครอง งานประชาสัมพันธ์ งานวิชาการ งานดูแลโซนการทาความสะอาด โดยมีประธานเป็นผู้ดูแลเป็นผู้ปฏิบัติและร่วมรับผิดชอบโดยมีครูเป็นท่ี ปรึกษา การจัดกิจกรรมและมอบหมายงานคานึงถึงความแตกต่างของแต่ละบุคคล และอยู่ร่วมกันโดย การออกความคิดเห็น การช่วยเหลือเสียสละ เป็นผู้ให้ เป็นการสร้างวินัย และความสามัคคีของนักเรียน ในโรงเรยี น 2. โครงการเศรษฐกิจพอเพียงและสถานศึกษาพอเพียงก็เป็นกิจกรรมท่ีส่งเสริมในเรื่องการอยู่ รว่ มกันบนความแตกต่าง จากการลงมอื ปฏิบตั กิ ิจกรรมต่างๆ เชน่ ปลกู ผัก เพาะเหด็ ทาปุ๋ย แปรรปู ทาขนม นักเรียนต้องช่วยเหลือกัน เสียสละ รู้จักแก้ปัญหา และยอมรับฟังความคิดเห็นเพ่ือให้กิจกรรมต่างๆสาเร็จ ตามท่ีวางไว้ 3. โครงการสถานศึกษาพอเพียง เป็นอีกโครงการหนึ่งที่สร้างทางเลือกในการประกอบอาชีพ ที่หลากหลาย โดยจัดกิจกรรมเป็นฐานให้ความรู้ ฐานที่ 1 ฐานเกษตรประณีตเป็นฐานให้ความรู้ในเร่ือง พชื ผักท่ใี ชเ้ ป็นส่วนประกอบในการทาอาหารแตล่ ะเมนู มสี ว่ นผสมของเครื่องแกงและผักทใ่ี ชใ้ นการปรุงโดย ให้นักเรียนเขียนแผนภาพความคิด ฐานท่ี 2 การทาขนม ให้ความรู้นักเรียนเพ่ือเป็นการสร้างอาชีพส่งเสริม ให้นักเรียนหารายได้ระหว่างเรียน ฐานท่ี 3 การจักสานกล่องใส่ดินสอ ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม 3 คนช่วยกัน สานกล่องใส่ดินสอ ฐานท่ี 4 การปลูกผักวิธีการดูแลรักษาตลอดจนการเก็บผัก ฐานที่ 5 การขยายหน่อไผ่ ให้ความรู้และให้นักเรียนลงมือปฏิบัติ ฐานที่ 6 ให้ความรู้นักเรียนการเลี้ยงไก่ไข่ การดูแล จนถึงการเก็บไข่ และกิจกรรมสดุ ท้ายให้นักเรยี นและครูประจาชั้นชว่ ยกนั ขายของเพ่ือเป็นการสร้างอาชีพ และใหน้ กั เรียนรัก ในอาชพี สุจริต ทุกกจิ กรรมนกั เรยี นสามารถนาความรไู้ ปใช้ในชวี ิตประจาวนั ได้ 1.2.4 สขุ ภำวะทำงรำ่ งกำย และจิตสงั คม โรงเรียนได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนในกลุ่มสาระวิชาสุขศึกษาและพลศึกษาและบูรณ การกับ กลุ่มสาระต่าง ๆ จัดกิจกรรมการสอนในเร่ืองการปฏิบัติตน ในการป้องกันอุบัติเหตุในโรงเรียน อุบัติเหตุท่ี เกิดจากการเล่น การข้ามถนน รวมท้ังการบริหารร่างกายท่ามือเปล่า ประกอบจังหวะ การควบคุมการ เคลื่อนไหวแบบเคลื่อนที่และอยู่กับที่ นักเรียนสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวร่างกายเบ้ืองต้นมีทักษะ พ้ืนฐาน นอกจากครูจะสอนในช่ัวโมงเรียนแล้ว ครูจะอบรมพูดหน้าเสาธงในตอนเช้า มีการช่ังน้าหนักวัด ส่วนสูง และสอนนักเรียนในเร่ือง การดูแลตนเอง การรับประทานอาหารท่ีมีประโยชน์ การส่งเสริมให้ นักเรยี นแสดงออกถงึ ความซอ่ื สัตย์ การแสดงความรกั ความเอาใจใสต่ ่อผู้อ่ืนอย่างสมา่ เสมอและจรงิ ใจในการ

28 อย่รู ่วมกนั ไมล่ กั ขโมย การดแู ลรักษาสมบตั ิของโรงเรียน การมีความรบั ผิดชอบเนน้ ทกั ษะการคิด วิเคราะห์ และได้ลงมือปฏิบัติจริง ส่งเสริมให้นักเรียนมีนิสัยร่าเริง ยิ้มแย้ม แจ่มใส และรักการมาโรงเรียน คือ ไมข่ าดเรยี น หรอื มาสายโดยไม่จาเปน็ โรงเรยี นมโี ครงการและกจิ กรรมในการพฒั นาผู้เรยี นใหม้ ีสุขภาวะทางรา่ งกาย และจติ สงั คม ในแผนปฏิบตั ิการของโรงเรยี น ดังน้ี 1. โครงการกีฬาสี ที่เป็นกิจกรรมส่งเสริมให้นกั เรียนทุกคนได้มีโอกาสเล่นกีฬาต่าง ๆ ตามที่ตนเอง ชอบและถนัด รู้แพ้รู้ชนะและรู้จักให้อภัย เป็นกิจกรรมที่ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแข่งขันกีฬาพ้ืนบ้าน อกี ดว้ ย 2. กิจกรรมออกกาลังกายหน้าเสาธง โดยจะมีนักเรียนท่ีรับผิดชอบในแต่ละวัน มาออกกาลังกาย เป็นผนู้ าในการออกท่าบริหารต่างๆ เพื่อสรา้ งเสริมสุขภาวะ ทางกาย และอารมณ์ของนกั เรยี น 3. โครงการอนามัยในโรงเรียน เป็นโครงการที่จัดให้นักเรียนรู้จักการดูแลสุขภาพร่างกาย โดยมี วิทยากรจากอนามัยมาให้ความรู้ เช่น การล้างมือ การรับประทานอาหาร การแปลงฟัน การดูแลสุขภาพ รา่ งกายตา่ งๆ ให้ปลอดโรค 4. โครงการอาหารกลางวัน โดยมีอาหาร ขนมหวานและผลไม้ตามรายการอาหารของแต่ละวัน เพื่อให้นักเรียนไดร้ ับประทานอาหารครบทุก 5 หมู่ อีกทง้ั ยงั มนี มโรงเรียนให้นกั เรยี นไดด้ ื่มในเวลา 10.00 น. ของแต่ละวัน เพื่อให้นักเรียนรับประทานอาหารท่ีมีประโยชน์ต่อร่างกายส่งเสริมการเจริญเติบโต ของนักเรียนท่ีและโครงการอาหารกลางวันยังสอนให้นักเรียนรู้จักรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์เป็น โครงการท่ีรบั ผดิ ชอบกบั โครงการเศรษฐกจิ พอเพียง เช่น การรบั ประทานผกั ทสี่ ดสะอาดและปลอดสารพษิ 5. จัดกิจกรรมให้ความรู้การปอ้ งกันอุบตั เิ หตุโดยยกตัวอยา่ งการเกิดอุบัติเหตุต่างๆ เชน่ การปอ้ งกัน อุบัติเหตุในบ้าน โรงเรียน และอุบัติเหตุทางจราจร โดยการจัดปีละคร้ังเพื่อให้นักเรียนเกิดความตระหนัก ในการใช้ทักษะชวี ติ มากขึน้ 2. ผลกำรดำเนินงำน จากการดาเนินงานดังกลา่ ว ส่งผลให้นักเรียนช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1-6 มคี ุณภาพผู้เรียนในระดับ ยอดเยี่ยม โดยมีผลสัมฤทธ์ิทางวิชาการของผู้เรียน ประกอบรายด้าน ดังน้ี ความสามารถใน การอ่าน การ เขียน การส่ือสารและการคิดคานวณเฉล่ียร้อยละ 76.97 ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมี วิจารณญาณ อภิปราย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแก้ปัญหาเฉลี่ยร้อยละ 95.62 ความสามารถในการ สร้างนวัตกรรมร้อยละ 99.42 ความสามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร ร้อยละ 99.42 ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ระดับ 3 ข้ึนไป เกณฑ์ประเมินตามท่ีสถานศึกษากาหนด ร้อยละ 74.01 ความรู้ ทกั ษะพืน้ ฐาน และเจตคตทิ ี่ดตี อ่ งานอาชีพ รอ้ ยละ 96.30 และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ประกอบรายดา้ น คุณลักษณะและค่านิยมที่ดีตามที่สถานศึกษากาหนดระดบั ดีข้นึ ไป ร้อยละ 98.21 ความภมู ิใจในท้องถ่ินและ

29 ความเป็นไทย ร้อยละ 97.08 การยอมรับท่ีจะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย ร้อยละ 95.86 มีสุขภาวะทางรา่ งกาย และจิตสังคม รอ้ ยละ 83.49 ซึ่งเปน็ ไปตามเปา้ หมายทโ่ี รงเรยี นกาหนด ผลการประเมินมาตรฐานที่ 1 คุณภาพผู้เรียน ประเด็นกำรประเมนิ ระดบั สรปุ 1.1 ผลสัมฤทธิ์ทำงวิชำกำรของผ้เู รียน คณุ ภำพ 1) มคี วามสามารถในการอา่ น การเขยี น การส่ือสารและการคิดคานวณ ดีเลศิ 2) มีความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ คดิ อย่างมีวิจารณญาณ ยอดเยย่ี ม อภิปรายแลกเปลยี่ นความคดิ เห็น และแก้ปัญหา ยอดเยย่ี ม ยอดเยี่ยม 3) มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม ยอดเย่ยี ม 4) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สาร 5) มผี ลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นตามหลักสูตรสถานศึกษา ดเี ลิศ 6) มคี วามรู้ ทักษะพนื้ ฐาน และเจตคติทดี่ ตี ่องานอาชพี ยอดเยี่ยม 1.2 คุณลักษณะอันพงึ ประสงคข์ องผเู้ รยี น 1) การมีคุณลักษณะและคา่ นยิ มท่ีดีตามทสี่ ถานศกึ ษากาหนด ยอดเยย่ี ม 2) ความภูมิใจในทอ้ งถน่ิ และความเป็นไทย ยอดเยีย่ ม 3) การยอมรบั ท่ีจะอยู่รว่ มกันบนความแตกตา่ งและหลากหลาย ยอดเยย่ี ม 4) สุขภาวะทางร่างกาย และจติ สงั คม ยอดเยย่ี ม 3. จุดเดน่ 1. โรงเรยี นมีแหลง่ เรียนร้ตู น้ แบบเศรษฐกจิ พอเพยี งทีส่ ามารถใหน้ ักเรยี นลงมอื ปฏิบัติจริง 2. มีกิจกรรมซ่อมเสรมิ ให้นักเรยี นเขียนตามคาบอก คิดเลขเร็วในชวั่ โมงแรก 3. มีกจิ กรรมและโครงการหลากหลายทส่ี ่งเสรมิ คณุ ลักษณะและค่านิยมให้กบั นักเรยี น เพอื่ ใชใ้ นการพัฒนาอย่างตอ่ เน่ือง 4. ผู้ปกครองและชมุ ชนให้ความร่วมมือในการเข้ารว่ มกจิ กรรมเป็นอยา่ งดี 5. ครูผู้สอนมีการวเิ คราะห์ผเู้ รียน วิเคราะหข์ ้อสอบในการยกระดบั ผลสัมฤทธิ์ การสอบระดับชาติ

30 4. จุดท่ีควรพฒั นำ 1. นกั เรยี นทอ่ี า่ นไมอ่ อกและเขยี นไม่ได้ควรติดตามและหาเครือ่ งมือดว้ ยวธิ ีการ ทห่ี ลากหลายเน้นเป็นรายบคุ คล 2. ควรมีคอมพิวเตอร์ที่เพยี งพอต่อจานวนนักเรียนและหอ้ งปฏบิ ัติการคอมพวิ เตอร์ กค็ วรทจี่ ะกวา้ งมากกวา่ น้ีเพ่อื เอ้ือต่อการจัดการเรียนรู้ 3. ผู้ปกครองสว่ นใหญ่ ประกอบอาชพี ทาสวนทาไรม่ ีฐานะยากจน จึงไม่มเี วลาในการ ส่งเสรมิ การเรยี นรู้ของผ้เู รยี นเท่าทค่ี วร เช่น เรื่องการทาการบ้าน 5. แผนกำรยกระดบั คณุ ภำพใหส้ ูงขึ้น 1. ติดตามนักเรียนท่ีอ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้โดยให้ผู้ปกครองช่วยกวดขันในเร่ืองการอ่าน การเขียนและความรับผิดชอบ การทาการบ้าน 2. จดั กจิ กรรมเพ่อื ปรบั พฤติกรรมผู้เรยี นให้มีวนิ ยั ในการเรียน มคี วามกระตือรือรน้ อยากเรียนรู้ อยากศึกษาความรู้ ด้วยการฝึกทักษะนิสัยรักการเรียนรู้ การค้นคว้า การสืบค้นด้วยตนเอง มากขึน้ 3. พฒั นาผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นระดับสถานศกึ ษา และระดบั ชาติ (O-NET) ให้สงู ขึน้ ทุก กลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยควรให้ความสาคัญกับการวิเคราะห์ข้อสอบ วิเคราะห์ผู้เรียนและ จดั การสอนซอ่ มเสรมิ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพและประสทิ ธผิ ล 4. สง่ เสริมให้นกั เรียนรูจ้ กั การคดิ วิเคราะห์ การนาเสนอชิน้ งานในรปู แบบที่หลากหลาย 5. ควรจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการพัฒนานักเรียนในทุกๆ ด้านเพ่ือให้นักเรียน สามารถนาความรไู้ ปใช้ในชวี ิตประจาวันได้ และมีผลสัมฤทธทิ์ ีด่ คี วบคกู่ นั

31 มำตรฐำนท่ี 2 กระบวนกำรบริหำรและกำรจดั กำร ระดับคุณภำพ : ดีเลิศ 1. กระบวนกำรพัฒนำ โรงเรียนได้ดาเนินการวิเคราะห์สภาพปัญหา ผลการจัดการศึกษาในปีที่ผ่านมา โดยการศึกษา ข้อมูลสารสนเทศจากผลการนิเทศติดตาม ประเมินการจัดการศึกษาตามนโยบายการปฏิรูปการศึกษา รายงานผลการประเมินตนเอง แผนปฏิบัติงานประจาปี รายงานผลการทดสอบระดับชาติ และผลการจัด ประชุมระดมความคิดเห็นจากบุคลากรในสถานศึกษา เพ่ือวางแผนร่วมกัน กาหนดเป้าหมาย วิสัยทัศน์ พันธกิจ ในการจัดการศึกษา เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน มีการปรับแผนพัฒนาคุณภาพผู้เรียน แผนปฏิบัติ การประจาประจาปี หลักสูตรสถานศึกษา ให้มีความสอดคล้องกับสภาพปัญหา ความต้องการพัฒนาของ ชุมชน ท้องถิ่น และสอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูปตามแผนการศึกษาแห่งชาติ พร้อมท้ังจัดหาทรัพยากร จดั สรรงบประมาณและมอบหมายงานใหผ้ รู้ ับผิดชอบ ดาเนนิ การพฒั นาตามแผนงานเพ่ือให้บรรลุเปา้ หมาย ที่กาหนดไว้ มีการดาเนินการประชุม นิเทศ กากับ ติดตาม ประเมินผลการดาเนินงาน และสรุปผลการ ดาเนินงาน การกาหนดเป้าหมายหรือผลลัพธ์จากการดาเนินงานของสถานศึกษา มีการกาหนดเป้าหมาย ร่วมกันในการพัฒนาสถานศึกษาอย่างชัดเจน เพื่อให้การดาเนินงานในการพัฒนาสถานศึกษาศึกษามีความ ชัดเจน วิสัยทัศน์มีการระบุการดาเนินงาน สร้างแรงจงู ใจหรือกระตุน้ ให้ผทู้ ี่เกี่ยวข้องกับสถานศึกษาเกิดแรง บนั ดาลใจอยากปฏิบตั ิงาน เพอื่ ใหบ้ รรลวุ ิสยั ทัศน์ และท่ีสาคญั วสิ ัยทัศน์ต้องเกดิ จากการกาหนดรว่ มกันของ ทุกฝ่ายที่เก่ียวข้อง สามารถสื่อสารข้อความวิสัยทัศน์ให้ผู้ร่วมงานเข้าใจได้ นอกจากนี้มีการทบทวน วิสัยทัศน์อย่างต่อเน่ือง เป็นการเน้นย้าในการปฏิบัติงานให้ประสบผลสาเร็จ พันธกิจเป็นการนาวิสัยทัศน์ มาลงมือทาให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น มีแนวปฏิบัติและบทบาทหน้าท่ีของสถานศึกษาที่ต้องทาเพ่ือให้บรรลุ วิสัยทัศน์ และใหผ้ ู้ปฏบิ ตั ิร่วมกันกาหนดบทบาทหน้าทที่ ่จี ะต้องปฏบิ ตั เิ พื่อให้บรรลุวิสยั ทัศน์ โรงเรยี นมีโครงการและกิจกรรมที่บอกถึงการกาหนดเป้าหมาย วิสยั ทศั น์ และพันธกจิ ของโรงเรยี นใน แผนปฏบิ ตั ิการและแผนพัฒนาของโรงเรียน ดังน้ี 1. โรงเรียนมีเปา้ หมายดังนี้ 1.1 เดก็ ถงึ วัยเรียนทม่ี ีอายุ 4 – 5 ปี ในเขตบรกิ ารของโรงเรยี นทุกคนต้องไดร้ ับการเตรยี มความ พร้อมในโรงเรยี นเต็มศักยภาพ กิจกรรมท่โี รงเรียนไดด้ าเนนิ การตามแผนปฏบิ ัติการประจาปีและแผนพัฒนา การจดั การศึกษาน้ัน คอื การตดิ ตามและเย่ียมบ้านเพ่ือให้ความรู้กบั ผู้ปกครองในการเตรยี มความพร้อมเพื่อ ส่งลูกให้เข้าเรียนในโรงเรียน

32 1.2 เด็กทุกคนในเขตบริการได้รบั โอกาสทางการศึกษาภาคบังคับอยา่ งท่วั ถึงกนั ทกุ คน กจิ กรรม ท่ีโรงเรียนได้ดาเนินการคือการติดตามและเย่ียมบ้านและสอบถามว่ามีเด็กคนไหนบ้างท่ีไม่เรียนหนังสือ ใน การติดตามนั้นประสานความร่วมมือขอรายชื่อจากอาเภอแล้วติดตามเพื่อให้เด็กทุกคนได้ เข้ารับการศึกษา อยา่ งทว่ั ถงึ ทกุ คน 1.3 ผู้เรียนทุกคนได้รับการศึกษาอย่างมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา โครงการท่ีจัดใน แผนปฏิบัติการประจาปี โครงการระบบดูแลช่วยเหลือ เป็นโครงการท่ีครูประช้ันจะทาหน้าท่ีดูแล ติดตาม นักเรยี น ในทกุ ๆด้าน เป็นท่ปี รึกษาคอยใหก้ าลังใจส่งเสรมิ ให้นกั เรยี นรักการเรียน และมีการพัฒนาการเรียน ท่ีดีข้ึน โครงการจัดบรรยากาศท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้ เป็นโครงการท่ีกระตุ้นให้นักเรียนรักห้องเรียนและมี ความสุขกับการเรียนมีบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้นักเรียนและครูจะช่วยกันออกแบบห้องเรียนและส่ือ ต่างๆ ด้วยกัน โครงการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ โครงการท่ีติดตามเพื่อพัฒนาผลการเรียนของ นักเรียน เร่ิมจากภาคเรียนที่ 1 ว่ามีผลการเรียนระดับใดนาไปสู่การวัด ใช้เกณฑ์การวัดท่ีหลากหลาย เพ่ือ พัฒนาให้มีผลสมั ฤทธิท์ ส่ี งู ข้นึ 1.4 โรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ มีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ และมีส่วน ร่วมกับชุมชน โครงการท่ีจัดในแผนปฏิบัติการประจาปี โครงการเศรษฐกิจพอเพียง เป็นโครงการที่ได้รับ ความรว่ มมือจากกรรมการสถานศกึ ษา ครู นกั เรยี น ผู้ปกครองในชุมชน ทหาร และหน่วยงานอื่น ๆ ในการ เป็นวิทยากรและเข้ามาช่วยพัฒนาปรับพ้ืนที่แปลงเกษตร ร่วมรับผิดชอบ จนโครงการสาเร็จและย่ังยืน สามารถเป็นโรงเรียนต้นแบบที่ดีได้ โครงการสัมพันธ์ชุมชนเป็นกิจกรรมที่ได้รับความร่วมมือจากชุมชนใน การสร้างความรักความสามัคคีซ่ึงในปีน้ีโรงเรียนได้จัดจัดกิจกรรม กวนอาซูรอ และยังมีกิจกรรมต่างๆ ท่ี โรงเรียนและชุมชนมีส่วนร่วม เช่น งานเมาลิด การประชุมปรึกษาหารือ เป็นต้น โครงการสถานศึกษา พอเพียงเป็นอีกโครงการหนึ่งที่ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่องการทาขนม การ ปลูกผัก การจักสาน เป็นการสร้างอาชีพที่หลากหลาย ทาให้นักเรียนได้รับความรู้ สามารถนาเป็นอาชีพ เสริมสร้างรายได้ นักเรียนมีความภาคภูมิใจในโรงเรียนและชุมชน เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง โรงเรยี นและชุมชนอกี ด้วย 1.5 ครูและบุคลกรทางการศึกษาของโรงเรียนเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ มีสมรรถนะ และ คุณธรรมจริยธรรมตามมาตรฐานวิชาชีพ ผู้อานวยการโรงเรียนสนับสนุนให้ครูได้เข้ารับการอบรม และทา วิจัยชั้นเรียน ผลิตและพัฒนาสื่อนวัตกรรม พร้อมท้ังพัฒนาครูทุกคนให้มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เพื่อสามารถนาเทคนิควิธีการสอนท่ีหลากหลาย ตรงตามศักยภาพของผู้เรียน โครงการที่จัดในแผนปฏิบัติ การประจาปี คือ โครงการนิเทศภายในเปน็ โครงการที่จัดขึ้นโดยผู้อานวยการ วิชาการ และคณะครูร่วมกัน นิเทศตามช้ันเรียนในช่ัวโมงสอนของครู ติดตาม เพื่อชี้แนะปรึกษาเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอนที่มี ประสิทธิภาพมากยิ่งข้ึน ในการนิเทศภาคเรียนละ 2 ครั้ง โครงการวิจัยช้ันเรียน โครงการนี้ให้ครูนาปัญหา ของการจดั การเรียนการสอนมาทาสื่อเพื่อพัฒนานกั เรียนในภาคเรียนที่ 2 โครงการผลติ สอ่ื นวตั กรรม เปน็ โครงการทน่ี าผลจากการทาวิจัยมาผลติ และทานวัตกรรม เพอื่ พัฒนาผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนใหส้ ูงข้นึ

33 2. วิสัยทัศน์โรงเรียนบ้านบูเกะจือฆา เป็นสถานศึกษาท่ีเน้นอ่านออก เขียนได้ โดยเข้าใจ ลายมือสวย ทางานเรียบร้อย คิดเลขเป็น โดยการมีสว่ นรว่ มของทุกคนในองค์กรและทุกภาคส่วนในสังคมกิจกรรมที่จัด ในโรงเรียน มีดงั น้ี 2.1 โครงการอ่านออกเขียนได้ จัดในรูปแบบกิจกรรมชั้นเรียนทุกวันในช่ัวโมงแรกของการเรียน ให้นักเรียนเขียนตามคาบอก คณิตคิดเลขเร็ว และมีการประเมินผู้เรียนช้ัน ป.1 – ป.6 ให้นักเรียนอ่าน แบบทดสอบโดยครูประจาช้ันเป็นผู้ประเมิน หากพบว่าผู้เรียนอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ จัดให้มีซ่อมเสริมใน ชว่ั โมงสุดท้ายของการเรยี น มกี ารบนั ทึกพฒั นาการอา่ นและการเขยี นอย่างชัดเจน ทกุ ระดบั ชนั้ เรียนและสง่ เสรมิ นักเรียนท่ีอา่ นออกเขยี นได้ตามความถนดั และความสนใจ 2.2 โครงการ ลายมือสวยทงั้ โรงเรียน โครงการนดี้ าเนนิ กิจกรรมโดยผู้อานวยการโรงเรียนนิเทศ ครใู นเรอื่ ง การเขยี นบนกระดาน เขยี นตวั ตรง หัวกลม เต็มบรรทดั และครง่ึ บรรทดั เขียนเสร็จทุกคร้ังขีดเส้น ใต้ให้เรียบร้อย และเน้นให้นักเรียนเขียนให้เรียบร้อย เขียนสวย และสะอาด โครงการนี้มีการประกวดสมุด การทางานของนักเรียนเป็นห้องเรียน ห้องไหนเขียนลายมือสวย เรียบร้อย สะอาดมากท่ีสุดได้รับรางวลั ทุก คนท้งั ชั้นเรยี น และมกี ิจกรรมใหน้ ักเรยี นคัดลายมอื ประกวดลายมือสวยทง้ั หอ้ ง 3. พันธกจิ ของโรงเรยี นบ้านบูเกะจือฆา จดั การเรียนการสอนมุง่ เน้นให้ผเู้ รยี นเปน็ คนดี มีปญั ญา สามารถ ดารงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข กิจกรรมที่โรงเรียนได้ดาเนินการตามแผนปฏิบัติการประจาปีและ แผนพฒั นาการจัดการศึกษา มดี ังนี้ 3.1 โครงการวิจัยช้ันเรียน ผู้บริหารให้ครูทาวิจัยชั้นเรียนภาคเรียนละ 1 คร้ัง โดยนาผลการบันทึก หลงั การจดั การเรียนการสอนมาทาวจิ ัย เพื่อหาแนวทางพัฒนาและจดั ทาส่ือการเรียนการสอน 3.2 โครงการผลิตส่ือ เป็นโครงการที่จัดข้ึนเพื่อให้ครูจัดทาสื่อภาคเรียนละ 2 ชิ้น เพ่ือเป็นการ กระตนุ้ ความสนใจของนกั เรียน เพ่ือให้นกั เรียนเข้าใจในเน้อื หานั้นง่ายขน้ึ 3.3 โครงการจัดบรรยากาศช้ันเรียน เป็นโครงการท่ีจัดขึ้นเพื่อสร้างบรรยากาศในช้ันเรียนโดย นกั เรยี นและครูชว่ ยกนั จดั มุมต่างๆใหส้ วยงาม และเป็นระเบียบเป็นแหล่งเรยี นร้ขู องหอ้ งเรยี น จัดภาคเรยี น ละครั้ง มีการประกวดห้องเรียน เป็นการกระตุ้นให้นักเรียนอยากเรียน มีความสุขในการเรียน รักห้องเรียน และสรา้ งความรักความสามคั คี การท่นี ักเรยี นมีความสุขสง่ ผลใหน้ กั เรียนอยากเรยี นและต้ังใจเรยี นมากข้ึน 3.4 โครงการอ่านออกเขียนได้ เป็นโครงการที่ดาเนินกิจกรรมตลอดปีการศึกษา เป็นการ ติดตามและหาวิธีช่วยเหลือนักเรียนที่มีปัญหาการอ่าน การเขียน โดยความร่วมมือของผู้ปกครอง นักเรียน ครู และผู้บริหารโรงเรียนร่วมกนั คดิ และหาวธิ กี ารที่หลากหลาย 3.5 โครงการเศรษฐกิจพอเพียง เป็นโครงการท่ีจัดข้ึนตลอดปีการศึกษา ให้นักเรียนได้ลงมือ ปฏิบัติจริง เป็นแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียนท่ีทุกกลุ่มสาระใช้บูรณการจัดการเรียนการสอน และเป็นกิจกรรมท่ี ให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เพื่อฝึกทักษะ การคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา และสามารถนาไปใช้ใน ชวี ิตประจาวนั ได้

34 3.6 โครงการสถานศึกษาพอเพียง เป็นอีกกิจกรรมหน่ึงที่ให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติ ตาม ความชอบ ความถนัดในการเลือกทาขนม การจักสาน การเลี้ยงไก่ไข่ และเปิดตลาดให้นักเรียนได้ขายของ เพ่ือฝกึ ทักษะในการใช้ชีวิต การคิดวเิ คราะห์ แกป้ ญั หา และสามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ 3.7 โครงการวัดผลและประเมินผล เป็นโครงการท่ีส่งเสริมให้ครูใช้วิธีการวัดผลอย่าง หลากหลาย เชน่ ทดสอบ ถามคาถาม เกม ปริศนาคาทาย ใหน้ กั เรยี นค้นคว้า พดู อธิบาย สมั ภาษณ์ และ ตดิ ตามการจดั กระบวนการเรยี นการสอนทส่ี ่งผลสมั ฤทธข์ิ องนักเรยี นให้สงู ขน้ึ 3.8 โครงการติวเข้มและยกระดับผลสัมฤทธ์ิการสอบ NT และ O – NET เป็นกิจกรรมที่สอน พรอ้ มติวเข้มและสอนเสรมิ เป็นพิเศษเพอ่ื เปน็ การเตรยี มตวั ก่อนสอบวดั ผลระดับชาติให้สูงข้นึ 3.9 โครงการนิเทศการสอน เป็นการติดตามการจัดกระบวนการเรียนการสอนของครู เพื่อให้ การจัดกิจกรรมของครูในช้ันเรียนมีการ ใช้สื่อ และวิธีการที่หลากหลาย ส่งผลให้นักเรียนมีความสุขในการ เรยี น และมผี ลการเรียนที่ดขี น้ึ 1.2 มีระบบบรหิ ำรจดั กำรคุณภำพของสถำนศกึ ษำ ผู้บริหารสถานศึกษามีการกาหนดมาตรฐานการศึกษาข้ันพ้ืนฐานท่ีสอดคล้องกับอัต ลักษณ์ของสถานศึกษาโดยการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายร่วมกันต้ังค่าเป้าหมายท่ีเหมาะสมกับบริบทของ โรงเรียนและชุมชน โรงเรียนดาเนินกิจกรรมตามแผนปฏิบัติการประจาปี โดยให้ครูและบุคลากรทางการ ศึกษาใช้ศักยภาพในการทางานอย่างเต็มท่ีภายใต้การกระจายอานาจและการบริหารแบบมีส่วนร่วม สร้าง บรรยากาศให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มีโครงสร้างการบริหารงานท่ีชัดเจน และปฏิบัติงานตามบทบาท หน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล โดยการจัดกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ ผ่านกระบวนการ วางแผนของคณะครู โดยประชุมวางแผนร่วมกัน เพื่อหาแนวทางการปฏิบัติ และการพัฒนาท่ีเหมาะสมใน การดาเนินกิจกรรม จัดทาเป็นคาส่ังแต่งตั้งผู้รับผิดชอบตามความถนัดและเหมาะสม มีการกากับ ติดตาม ให้คาปรึกษา แนะนาให้ความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวข้องกับการดาเนินงาน มีการสรุปรายงานโครงการ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และให้การสนับสนุนการดาเนินงานโดยการจัดสรรทรัพยากรมาใช้ในการ ดาเนินงานเพ่ือให้เกิดความสะดวกสบายให้การดาเนินงานประสบความสาเร็จตามระยะเวลาที่กาหนดไว้ สาหรับกิจกรรมที่ผ่านการประเมินปีท่ีแล้วมีการรายงานผลการปฏิบัติงานและนาผลมาปรับปรุงการ ดาเนินงานเพื่อพัฒนาการดาเนินงานให้ดีย่ิงขึ้น และมีความสะดวกและคุ้มค่าในการดาเนินงานอย่าง ต่อเน่ือง 1.3 ดำเนนิ งำนพฒั นำวชิ ำกำรทีเ่ นน้ คุณภำพผู้เรยี นรอบด้ำนตำมหลักสูตรสถำนศกึ ษำและ ทกุ กลุ่มเป้ำหมำย ผ้อู านวยการโรงเรยี นได้ปฏิบัตงิ านตามบทบาทหนา้ ที่อยา่ งมีประสิทธภิ าพและเกิด ประสิทธผิ ล โดยการจดั ประชมุ คณะครู จดั ทาและปรับปรงุ หลกั สตู รของสถานศึกษา ให้ครูทกุ กลมุ่ สาระ วเิ คราะห์หลักสตู รช้ันเรยี น กาหนดการสอน และการจัดโครงการทุกโครงการ มีการระดมความคิดมกี าร

35 ตดิ ตาม ให้คาปรึกษา นเิ ทศ เพือ่ ใหบ้ ุคลากรทางานได้ถูกต้องตามระเบียบขอ้ บังคับหลักจรยิ ธรรมและ จรรยาบรรณวิชาชพี โรงเรียนมีโครงการและกิจกรรมตามแผนปฏบิ ัติการ ดงั นี้ 1. โครงการนิเทศ จัดการนิเทศภาคเรียนละ 2 คร้ัง แต่ในการปฏิบัติจริงผู้อานวยการนิเทศ สม่าเสมอและเกือบทุกวัน คร้ังแรกผู้อานวยการโรงเรียนจะนิเทศเรื่องผลสาเร็จของการนิเทศในปีที่ผ่านมา และให้ครูเน้นการเขียนบนกระดานหน้าชั้นเรียนเขียนตัวตรง มีหัว เต็มบรรทัดสาหรับนักเรียนช่วงชั้นที่ 1 และครึ่งบรรทัดนักเรยี นชว่ งชั้นที่ 2 เขยี นทกุ ครงั้ ให้นักเรยี นขีดเส้นใต้ เนน้ ยา้ ใหน้ กั เรียนทางานให้เรยี บร้อย และพูดถึงการแก้ปัญหาในเรื่องท่ีต้องพัฒนา คร้ังท่ี 2 ให้ครูพูดเสนอวิธีการสอนและเทคนิคที่ใช้ในการจัด กิจกรรมในช้ันเรียนจากน้ันผู้อานวยการจะเสริมวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนท่ีหลากหลายท่ีปฏิบัติ แล้วเกิดผล ครั้งที่ 3 ครูช่วยกันเสนอแนวทางการพัฒนานักเรียนที่ยังอ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้ ครั้งที่ 4 ติดตามเสนอแนะหาวธิ ีชว่ ยเหลอื ผ้เู รียนเน้นรายบคุ คล ในการนิเทศเป็นการติดตามกระบวนการจัดการเรียน การสอนของครูเพ่ือให้นักเรียนมีผลการเรียนที่ดีขึ้น และเน้นนักเรียนเป็นสาคัญ เป็นการแลกเปลี่ยน เสนอแนะแนวทางการพฒั นานักเรียนให้มผี ลการเรียนท่ดี ีขนึ้ อกี ด้วย 2. โครงการจัดบรรยากาศในช้ันเรียน เป็นโครงการท่ีจัดข้ึนเพื่อสร้างบรรยากาศในช้ันเรียนโดย นกั เรยี นและครชู ว่ ยกันจัดมุมตา่ งๆใหส้ วยงาม และเปน็ ระเบียบเป็นแหล่งเรียนรู้ของห้องเรยี น จัดภาคเรียน ละคร้ัง มีการประกวดห้องเรียน เป็นการกระตุ้นให้นักเรียนอยากเรียน มีความสุขในการเรียน รักห้องเรียน และสร้างความรกั ความสามัคคี การท่นี กั เรยี นมคี วามสุขส่งผลใหน้ กั เรยี นอยากเรยี นและตง้ั ใจเรยี นมากขึ้น 3. โครงการผลิตสื่อ ผู้อานวยการได้ตระหนักถึงความสาคัญของการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เพ่ือเป็นการกระตุ้นนักเรียนจึงจัดให้มีโครงการผลิตส่ือ ให้ครูจัดทาสื่อภาคเรียนละ 2 ชิ้น เพ่ือเป็นการ กระตนุ้ ความสนใจของนกั เรยี น เพ่ือให้นักเรียนเข้าใจในเนื้อหาน้นั มากขึ้น 4. โครงการวิจัย ผู้อานวยการให้ครูทาวิจัยชั้นเรียนภาคเรียนละ 1 ครั้ง โดยนาผลการบันทึกหลัง การจัดการเรยี นการสอนมาทาวจิ ยั เพอื่ หาทางพัฒนาและจดั ทาสือ่ การเรยี นการสอน 5. โครงการวัดผลและประเมินผล เป็นโครงการที่ส่งเสริมให้ครูใช้วิธีการวัดผลอย่างหลากหลาย เช่น ทดสอบ ถามคาถาม ให้นักเรียนค้นคว้า พูด อธิบาย สัมภาษณ์ และติดตามการจัดกระบวนการเรียน การสอนท่ีส่งผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนให้สงู ขึน้ 6. โครงการเศรษฐกิจพอเพียง เป็นโครงการท่ีให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง เป็นแหล่งเรียนรู้ใน โรงเรียนที่ทุกกลุ่มสาระใชบ้ รู ณการจดั การเรียนการสอน 7. โครงการติวเข้มและยกระดับผลสัมฤทธิ์การสอบ NT และ O – NET เป็นกิจกรรมที่ครูจัด กจิ กรรมการเรียนการสอนโดยตวิ สอนพร้อมเข้มเพ่ือเปน็ การเตรยี มตวั ก่อนสอบวดั ผลระดับชาติ 8. โครงการคัดลายมือ ลายมอื สวยทั้งโรงเรยี น เปน็ อีกโครงการหน่ึงที่ผู้อานวยการเน้นย้าครูทุกคน ใหน้ ักเรยี นเขียนตวั ตรง หวั กลม ขีดเสน้ ใต้ ใหน้ กั เรียนทางานด้วยความเรียบร้อยสะอาดทุกคนทุกชัน้ เรยี น

36 1.4 กำรพัฒนำครแู ละบคุ ลำกรให้มีควำมเช่ยี วชำญทำงวิชำชพี ผู้บริหารสถานศึกษาให้คามสาคัญในการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีความ เชี่ยวชาญทางวิชาชีพตามศักยภาพ พัฒนาสมรรถนะทักษะ ความสามารถ ทัศนคติของบุคลากรให้ สอดคล้องกับกลยุทธ์ เพื่อให้สามารถดาเนินงานให้บรรลุวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ โดยมีโครงการพัฒนา ศักยภาพครูในการจัดกระบวนการจัดการเรียนรู้ มีการวิเคราะห์องค์ความรู้ที่ครูและบุคลากรทาง การศึกษาต้องรู้และมีความสามารในการดาเนินงานเพ่ือบรรลุและทาให้บุคลากรได้เข้าถึงความรู้นั้น กิจกรรมการจัดให้มีการเข้าร่วมอบรม ประชุม สัมมนา ส่งเสริมให้ครูทาวิจัยในชันเรียน มีการนิเทศภายใน อย่างต่อเน่ือง การศึกษาดูงาน เพื่อนามาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนและการบริหารจัดการใน โรงเรยี น ตลอดจนการอบรมทางรายการโทรทศั น์ครเู พือ่ ให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาพัฒนาศักยภาพใน การปฏิบัติหน้าท่ี อีกท้ังมีการให้ขวัญกาลังใจในการทางานโดยมีโครงการทัศนศึกษาบุคลากรเพ่ือให้ครูได้ ศกึ ษาดงู านและนาความรทู้ ่ีไดร้ ับมาพฒั นาอย่างต่อเนื่อง โรงเรยี นมีโครงการและกจิ กรรมตามแผนปฏิบัตกิ าร ดงั นี้ 1. โครงการทศั นศึกษา เปน็ โครงการศึกษาดูงานเพื่อเปิดโลกทัศน์ให้ครกู ลบั มาใช้ในการพัฒนา ตนเอง และจัดกิจกรรมการเรียนการสอนดว้ ยวธิ กี ารท่ีหลากหลายมากข้ึน 1.5 จัดสภำพแวดลอ้ มทำงกำยภำพ และสังคมทเี่ อ้ือต่อกำรจดั กำรเรยี นร้อู ย่ำงมีคณุ ภำพ การจัดสภาพแวดล้อมในโรงเรียน ได้ดาเนินการดังน้ี จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพ เชน่ สภาพแวดล้อมท่ีสะอาด ร่มร่ืน มีแหล่งเรียนรู้ต่างๆ และสภาพแวดล้อมท่ีเป็นวัตถุ ได้แก่ บริเวณโรงเรียน อาคารเรียน อาคารประกอบ ห้องเรียน ส่ือ และเทคโนโลยี ดาเนินการให้มีความร่มร่ืน สวยงาม สะอาด ภายในห้องเรยี นเพยี งพอ มั่นคง แข็งแรง ปลอดภยั และเอือ้ ต่อการจัดการเรยี นรู้ และเปน็ ระเบียบเรยี บรอ้ ย เพ่ือให้บรรยากาศมีความอบอุ่นสนุกสนานท้าทาย โดยการร่วมคิดและร่วมทา การจัดสภาพแวดล้อมทาง วิชาการ โดยจัดให้มีบรรยากาศการเรียนการสอนท้ังในและนอกช้ันเรียน ตลอดจนจัดการและบริการ ทรพั ยากรเพื่อส่งเสริมและสนบั สนนุ งานด้านวิชาการต่าง ๆ ท่จี ะทาใหน้ ักเรยี นเกิดการเรียนรู้จากแหล่งการ เรยี นร้ตู ่าง ๆ ในชนั้ เรียนและนอกห้องเรียน การจดั สภาพแวดล้อมทางการบรหิ ารจัดการ การดาเนนิ การใน ทุก ๆ เรื่องสาเร็จด้วยความร่วมมือ ร่วมใจของครูและบุคลากรทางการศึกษา และโรงเรียนยังมีศูนย์เรียนรู้ ต้นแบบ ทเี่ อ้อื ต่อการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนไดด้ ี โรงเรยี นมีโครงการและกิจกรรมตามแผนปฏบิ ตั กิ าร ดงั น้ี 1. โครงการจัดบรรยากาศในช้ันเรียน เป็นโครงการท่ีจัดข้ึนเพ่ือสร้างบรรยากาศในชั้นเรียนโดย นกั เรียนและครูช่วยกนั จัดมมุ ต่างๆ ใหส้ วยงาม และเปน็ ระเบยี บเปน็ แหล่งเรยี นร้ขู องห้องเรียน จดั ภาคเรียน ละคร้ังมีการประกวดห้องเรียน เป็นการกระตุ้นให้นักเรียนอยากเรียน มีความสุขในการเรียน รักห้องเรียน และสรา้ งความรกั ความสามัคคี การท่นี กั เรยี นมคี วามสุขส่งผลให้นักเรียนอยากเรียนและตัง้ ใจเรยี นมากข้ึน

37 2. โครงการเศรษฐกิจพอเพียง แหล่งเรียนรู้ในโรงเรียนแปลงผักเกษตร และฐานการเรียนรู้ต่างๆ เชน่ โรงเพาะเห็ด โรงปุย๋ โรงเลีย้ งไก่ สวนไผ่ เกษตรประณีต เปน็ ตน้ 1.6 จัดระบบเทคโนโลยสี ำรสนเทศเพอื่ สนบั สนุนกำรบรหิ ำรจดั กำรและกำรจดั กำรเรยี นรู้ ผู้บริหารสถานศึกษามีวิธีการจัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือสนับสนุนการบริหาร จัดการและการจัดการเรียนรู้ โดยการใชอ้ ุปกรณ์เคร่ืองมือเทคโนโลยีสารสนเทศ เพ่อื จดั เกบ็ รกั ษาข้อมูลเป็น หมวดหมู่เพื่อให้สามารถใช้งานได้ จัดระบบการสื่อสารเพ่ือให้ทราบและเกิดการยอมรับในวิสัยทัศน์ค่านิยม และผลการดาเนินงานที่คาดหวังของโรงเรียนอย่างหลากหลายรูปแบบ อีกท้ังผู้บริหารโรงเรียนใช้ระบบ เทคโนโลยีส่ือสารและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับบุคลากรในโรงเรียน เพื่อสร้างความรักและผูกพันของ บุคลากรกับโรงเรียน การใช้สารสนเทศที่จัดเก็บรักษาในอุปกรณ์เคร่ืองมือเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการ บริหารจัดการ เพ่ือการตัดสินใจ การสื่อสาร และประชาสัมพันธ์ การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารและบริหาร จัดการด้วยความโปร่งใสสามารถตรวจสอบภายในและภายนอกที่เป็นอิสระ การใช้อุปกรณ์เคร่ืองมือ เทคโนโลยีสารสนเทศในการจัดการเรียนรู้ ได้แก่ การใช้เป็นสื่อในการสืบค้นเรียนรู้หรือถ่ายทอดความรตู้ า่ ง ๆ การจัดทา/ผลิตสื่ออิเลคทรอนิคส์ การประชาสัมพันธ์ การส่งเสริมสนับสนุนให้ครูใช้เทคโนโลยีในการ ส่ือสารอย่างเป็นระบบ การบริการการใช้เทคโนโลยีในการจัดการเรียนการสอนและการสืบค้นข้อมูลเพ่ือ พฒั นาการจดั การเรยี นรู้ 2. ผลกำรดำเนนิ งำน จากการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษา ความสาเร็จด้านกระบวนการบรหิ ารและ การ จัดการได้แก่ โรงเรียนมีเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และพันธกิจ ท่ีโรงเรียนกาหนดชัดเจน สอดคล้องกับบริบทของ โรงเรียน ความต้องการของชุมชน มีระบบการบริหารจัดการคุณภาพอย่างเป็นระบบ วางแผนพัฒนา คุณภาพการจัดการศึกษาโดยนาแผนไปปฏิบัติ ติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และปรับปรุง พัฒนางาน อย่างต่อเน่ือง มีการบริหารอัตรากาลัง ทรัพยากรทางการศึกษา และระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน มีการ นิเทศภายใน นาข้อมูลมาใช้ในการพัฒนาบุคลากร และผู้เก่ียวข้องทุกฝ่ายมีส่วนในการวางแผน ปรับปรุง พัฒนาและร่วมกันรับผิดชอบต่อการจัดการศึกษา มีการบริหารจัดการเก่ียวกับงานวิชาการ มีการส่งเสริม สนับสนุนพัฒนาครูและบุคลากรตรงตามความต้องการและจัดให้มีศูนย์เรียนรู้ต้นแบบ มาใช้ในการพัฒนา งานส่งเสริมอาชีพและการเรียนรู้ของผู้เรียน จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพภายในและภายนอกห้องเรียน และสภาพแวดล้อมทางสังคมท่ีเอื้อต่อการจัดการเรียนรู้ของผู้เรียนที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัย จัดระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศ สนับสนนุ การบริหารจดั การ และการจัดการเรียนรู้ทเ่ี หมาะสมกับสภาพของโรงเรียน พฒั นาบริการดา้ นเทคโนโลยีส่งเสรมิ ใหค้ รูใชเ้ ทคโนโลยีเปน็ ส่ือในการจดั การเรยี นร้อู ย่างเหมาะสม ผลการประเมินมาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ

38 ประเด็นกำรประเมิน ระดบั สรุป คุณภำพ ดีเลศิ 2.1 มเี ป้าหมาย วิสัยทศั น์ และพนั ธกจิ ท่ีสถานศึกษากาหนดชัดเจน ยอดเย่ยี ม 2.2 มีระบบบริหารจดั การคณุ ภาพของสถานศกึ ษา 2.3 ดาเนินงานพฒั นาวิชาการทเี่ น้นคุณภาพผเู้ รยี นรอบดา้ นตามหลักสตู ร ดีเลศิ ยอดเยีย่ ม สถานศกึ ษาและทุกกลมุ่ เป้าหมาย 2.4 พัฒนาครแู ละบคุ ลากรใหม้ ีความเชี่ยวชาญทางวชิ าชพี ดเี ลิศ 2.5 จดั สภาพแวดล้อมทางกายภาพและสงั คมท่ีเอื้อตอ่ การจัดการเรยี นรู้ ยอดเยยี่ ม อยา่ งมีคณุ ภาพ ดีเลิศ 2.6 จดั ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือสนับสนนุ การบรหิ ารจัดการและ การจัดการเรียนรู้ 2. จดุ เดน่ 1. ผู้บริหารมีการติดตามและเน้นการพัฒนานักเรียนในทุกด้าน และส่งเสริม พัฒนาศักยภาพของ ครู และบุคลากรทางการศกึ ษาใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ สถานศึกษารว่ มกันวางแผนการบรหิ ารจดั การศึกษา 2. โรงเรียนมศี นู ย์เรยี นรตู้ ้นแบบเป็นแหล่งเรยี นรนู้ อกห้องเรยี นและมพี ื้นท่ีกวา้ ง สะอาด รม่ ร่นื 3. โรงเรยี นได้รับความรว่ มมือจากครู ผู้ปกครอง ชุมชนเป็นอยา่ งดี 3. จดุ ทีค่ วรพฒั นำ - การวัดผลประเมินผลโครงการ/กิจกรรมยังไม่เด่นชดั และการสรุปโครงการควรปฏิบตั ิ และให้เป็นแนวทางเดยี วกัน 4. แผนยกระดบั คณุ ภำพให้สงู ข้ึน 1. สรา้ งเครือขา่ ยความร่วมมือของผ้มู ีส่วนเกย่ี วข้องในการจดั การศึกษาของโรงเรียนให้มีความ เขม็ แข็ง มสี ่วนร่วมในการรับผิดชอบตอ่ ผลการจดั การศึกษา และการขบั เคลือ่ นคณุ ภาพการศกึ ษา 2. โรงเรยี นควรกาหนดและเนน้ การพัฒนาครอู ยา่ งตอ่ เนื่องโดยการจัดสง่ ครเู ข้ารับการอบรม กับหนว่ ยงานต่าง ๆ เพื่อให้ครูนาความรทู้ ่ไี ดร้ บั มาประยกุ ต์ใช้ในการจดั ประสบการณก์ ารเรียนรกู้ ับนักเรียน อีกทั้งเน้นในเรื่องการคดิ วเิ คราะห์ การวจิ ัยในชนั้ เรยี น และการทาโครงการท่สี ร้างความประสานรว่ มมือ ระหวา่ งครูกบั ผปู้ กครองอย่างตอ่ เน่ือง 3. ควรเพ่ิมการนาภูมิปญั ญาทอ้ งถน่ิ เขา้ มามีส่วนรว่ มในกจิ กรรมการเรียนการสอน 4. การพฒั นาให้มีความเหมาะสมแตล่ ะรายบุคคล

39 มำตรฐำนท่ี 3 กระบวนกำรจดั กำรเรยี นกำรสอนท่ีเนน้ ผูเ้ รยี นเป็นสำคญั ระดับคณุ ภำพ : ยอดเย่ียม 1. กระบวนกำรพฒั นำ โรงเรียนบ้านบูเกะจือฆา ส่งเสริมให้ครูจัดกระบวนการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ โดย การดาเนินงาน/กิจกรรมอย่างหลากหลาย ได้แก่ งานหลักสูตรมีการประชุมปฏิบัติการ ปรับปรุงหลักสูตร สถานศึกษา ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั ให้ครูทาวิเคราะห์รายชั้นเรียน (ฉบับปรับปรุงพ.ศ.2561) ส่งเสริมให้ครูจัดการเรียนการสอนผ่านกระบวนการคิด ปฏิบัติจริง เพ่ือนาไปสู่การเรียนรู้ท่ีลึกซึ้งและคงทน ตามมาตรฐานและตัวชี้วัดของหลักสูตรสถานศึกษา โดยให้นักเรียนได้เข้าร่วมโครงการและกิจกรรมเพ่ือให้ นักเรียนมีส่วนร่วม ครูรู้จักผู้เรียนเป็นรายบุคคล ดาเนินการตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ และนาผลมาพฒั นาผเู้ รยี น รวมทัง้ ร่วมกันแลกเปล่ยี นเรียนรู้ และนาผลที่ได้มาปรบั ปรงุ การจดั การเรียนรู้ ครู มีแผนการจัดการเรียนรู้ทส่ี ามารถนาไปใช้จัดกิจกรรมได้จริง ครใู ชส้ อื่ และแหล่งเรียนรู้ มีการบริหารจัดการ ชั้นเรียนเชิงบวก เพ่ือให้เด็กรักการเรียนรู้และเรียนรู้ร่วมกันอย่างมีความสุข ครูร่วมแลกเปล่ียนเรียนรู้และ นาข้อมูลมาร่วมพัฒนาปรับปรุงการจัดการเรียนรู้และสอนตามแผน ครูผลิตนวัตกรรม แผนการจัดการ เรียนรู้ อีกท้ังปรับโครงสร้างรายวิชา สัดส่วนคะแนนแต่ละหน่วย กาหนดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ท่ี สอดคล้องกับหน่วยการเรียนรู้ สนับสนุนให้ครูจัดการเรียนการสอนที่สร้างโอกาสให้นักเรียนทุกคนมีส่วน ร่วม ได้ลงมือปฏิบัติจริงจนสรุปความรู้ได้ด้วยตนเอง จัดการเรียนการสอนที่เน้นทักษะการคิด เช่น จัดการ เรียนรู้ดว้ ยโครงงาน ครมู กี ารมอบหมายหนา้ ทีใ่ ห้นกั เรยี นจดั ป้ายนิเทศ และบรรยากาศตามสถานท่ตี ่าง ๆทง้ั ภายในหอ้ งเรียนและนอกห้องเรยี น ครูใชส้ ่ือการเรียนการสอน นวัตกรรมและเทคโนโลยี ภูมปิ ญั ญาท้องถ่ิน มีการประเมนิ คุณภาพและประสิทธภิ าพของสื่อการสอนท่ีใชค้ รูทุกคนทางานวิจัยในช้ันเรยี น 1.1 จดั กำรเรยี นรผู้ ่ำนกระบวนกำรคิดและปฏบิ ตั ิจริง และสำมำรถนำไปประยกุ ตใ์ ช้ใน ชวี ติ ได้ โรงเรียนบ้านบูเกะจือฆา ได้จัดกิจกรรมการเรียนรู้บูรณาการทุกกลุ่มสาระท่ีเน้นการมีส่วนร่วมของ นักเรียน และครูจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้น กระบวนการคิด เช่น การคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดอย่างมีเหตุผล การคิดแก้ปัญหา และการประเมินค่า เพื่อให้นักเรียนสามารถใช้กระบวนการคิดในการ ตัดสินใจการเรียนรู้โดยความร่วมมือระหว่างผู้เรียนด้วยกัน ทาให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้มากกว่า กระบวนการเรียนรู้ที่ผู้เรียนเป็นฝ่ายรับเพียงอย่างเดียว ครูเป็นท่ีปรึกษาชี้แนะแนวทาง แต่ได้เพ่ิม กระบวนการและกิจกรรมท่ีจะทาให้ผู้เรียนเกิดความกระตือรือร้น โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการ ปฏิบัติจริง ในการทากิจกรรมต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ผเู้ รียนสามารถเช่ือมโยงความรู้ หรือสร้างความรใู้ ห้เกิดข้ึน ในตนเอง ด้วยการลงมือปฏิบัติจริงผ่านส่ือหรือกิจกรรมการเรียนรู้ ท่ีมีครูผู้สอนเป็นผู้แนะนา กระตุ้น หรือ อานวยความสะดวก ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ เช่น การลงมือทา การทดลอง การสังเกต การสืบค้น การ ประดิษฐ์ การจาแนก ไม่ว่าจะเป็นการแลกเปล่ียนประสบการณ์ โดยการพูด การเขียน การอภิปรายกับ

40 เพ่ือนๆ และการนาเสนอ ส่งเสริมให้นักเรียนมีความรับผิดชอบร่วมกัน ฝึกให้นักเรียนมีวินัยในการทางาน และการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้มีความสอดคล้องกับชีวิตจริง เช่น การใช้วัสดุ อุปกรณ์การทดลองที่อยู่ในชีวิตประจาวัน การสอนดุอา การละหมาดดูฮา นักเรียนสามารถนาความรู้ไปใช้ ในชวี ิตได้อย่างถูกต้อง โรงเรียนมโี ครงการจดั การเรยี นร้ผู ่านกระบวนการคดิ และปฏิบตั ิจริง และสามารถนาไปประยกุ ต์ ใช้ในชีวิตประจาวนั ตามแผนปฏบิ ตั ิของโรงเรยี น ดงั น้ี 1. โครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่ออาหารกลางวัน เป็นกิจกรรมท่ีให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติและ สามารถนาความรู้ท่ีได้รับไปใช้ในชีวิตประจาวันได้เพราะทุกกิจกรรมท่ีนักเรียนได้ลงมือทาในโรงเรียนเช่น การปลูกผัก การทาปุ๋ย การแปรรูปผกั การทาน้ายาล้างจาน การเพาะพันธุ์ขยายพันธุ์พืชผักต่างๆ เช่น ไผ่ พริก เปน็ ต้น นกั เรยี นไดล้ งมือทาเป็นกลุ่มตา่ งช่วยเหลอื กัน ชว่ ยกันคดิ หาวิธีเพื่อใหง้ านทท่ี าประสบผลสาเร็จ ซ่ึงทุกกิจกรรมผ่านกระบวนการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และสร้างทักษะพ้ืนฐานสามารถนาไปต่อยอดเป็น อาชพี และนาไปใช้ในชีวติ ประจาวันได้ และโรงเรียนใหน้ กั เรยี นปลูกผักในเกษตรประณตี โดยใช้กระบวนการ คดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ผักทใี่ ช้เปน็ เครอื่ งปรุงและส่วนผสมในการทอาหารแตล่ ะเมนู 2. โครงการสถานศึกษาพอเพียง เป็นอีกโครงการหนึ่งท่ีสร้างทางเลือกในการประกอบอาชีพที่ หลากหลาย โดยจัดกิจกรรมเป็นฐานให้ความรู้ ฐานท่ี 1 ฐานเกษตรประณีตเป็นฐานให้ความรู้ในเรื่องพืชผัก ท่ีใช้เป็นส่วนประกอบในการทาอาหารแต่ละเมนู มีส่วนผสมของเครื่องแกงและผักที่ใช้ในการปรุงโดยให้ นักเรียนเขียนแผนภาพความคิด ฐานท่ี 2 การทาขนม ให้ความรู้นักเรียนเพ่ือเป็นการสร้างอาชีพส่งเสริมให้ นักเรียนหารายได้ระหว่างเรยี น ฐานที่ 3 การจักสานกล่องใส่ดนิ สอ ให้นักเรียนแบ่งกลมุ่ 3 คนช่วยกันสาน กล่องใส่ดินสอ ฐานที่ 4 การปลูกผักวิธีการดูแลรักษาตลอดจนการเก็บผัก ฐานท่ี 5 การขยายหน่อไผ่ ให้ ความรู้และให้นักเรียนลงมือปฏิบัติ ฐานที่ 6 ให้ความรู้นักเรียนการเลี้ยงไก่ไข่ การดูแล จนถึงการเก็บไข่ และกิจกรรมสุดทา้ ยให้นกั เรยี นและครูประจาชั้นช่วยกนั ขายของเพ่ือเป็นการสร้างอาชีพ และให้นกั เรียนรัก ในอาชีพสุจรติ ทุกกิจกรรมนกั เรยี นสามารถนาความรู้ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้ 3. กิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ เป็นกิจกรรมที่ให้นักเรียนได้เรียนรู้ได้ลงมือปฏิบัติ นักเรียนช่วยกัน แก้ปัญหาในการเข้าฐานต่างๆ เช่น การผูกเงื่อน การปรุงอาหารแบ่งหน้าที่รับผิดชอบ ฐานผจญภัย ทุก กจิ กรรมเนน้ ใหน้ ักเรยี นเกิดทักษะมีระเบียบวนิ ัย ร้จู ักแก้ปญั หา สามารถนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้ 4. โครงการทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้ เป็นโครงการที่ให้นักเรียนได้รับประสบการณ์โดยตรงให้ นักเรียนได้เรยี นรู้ ได้เหน็ และคดิ แกป้ ัญหาการอยู่ร่วมกันในสังคม 5. โครงการกีฬาสี เป็นโครงการที่ให้นักเรียนได้เรียนรู้ รู้จักการแพ้ ชนะ และให้อภัย ในการทา กิจกรรม เช่น การแข่งขันฟุตบอล วอลเล่ย์บอล นักเรียนได้รู้จักช่วยกันแก้ปัญหา ฝึกสมาธิฝึกความอดทน และสามารถนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวันได้

41 6. โครงการอบรมคุณธรรมจริยธรรม เป็นโครงการท่ีให้นักเรียนตระหนักถึงความ กตัญญู ความ ซ่ือสัตย์ ความสามัคคี ความมีวินัย ในการอยู่ร่วมกันในสังคม และยังมีการอบรมต่างๆ ท่ีนักเรียนสามารถ นาไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั ได้ 1.2 ใช้สื่อ เทคโนโลยสี ำรสนเทศ และแหลง่ เรียนรทู้ เ่ี อื้อต่อกำรเรยี นรู้ โรงเรียนบ้านบูเกะจือฆาจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ครูจะใช้ส่ือ การสอนในการจัดการเรียนรูเ้ พื่อกระตนุ้ และให้นักเรียนเข้าใจเน้ือหาได้ง่ายข้ึน และมโี ทรทัศน์ใช้เป็นสื่อและ เทคโนโลยีสารสนเทศการสอนแบบ DLIT ประกอบการเรียนการสอน ใช้ข้อสอบ การติว เกมต่างๆ และมี ส่อื ออนไลน์ ทค่ี รเู ตรยี มไวเ้ พ่ือใช้ในการจัดกิจกรรมต่างๆ การจัดแหลง่ เรียนรู้ที่เอ้ือต่อการเรียนรู้ในโรงเรียน มหี ้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ มีห้องปฏบิ ัติการวทิ ยาศาสตร์ อปุ กรณ์ วสั ดุ และสารตา่ ง ๆ ทส่ี ามารถทดลอง ใช้งานได้ มีห้องสมุดเคลื่อนที่มีหนังสืออย่างหลากหลายสามารถสืบค้นหาข้อมูลได้ เช่น นิทาน การ์ตูน สาร คดี บทความ เรื่องสั้น อีกทั้งยังมีสภาพแวดล้อมนอกห้องเรียนที่เอื้อต่อการเรียนรู้ มีแหล่งเรียนรู้ต้นแบบ โดยมีแปลงเกษตร โรงเพาะเห็ด โรงปุ๋ย บ่อปลา สวนไผ่ โรงเลี้ยงไก่ เกษตรประณีต สนามเด็กเล่น สนาม ฟุตบอล และมีสถานท่ีที่สามารถจัดการเรียนรู้นอกห้องเรียนได้ คือ ใต้ต้นไม้เน่ืองจากมีบรรยากาศที่ร่มร่นื เหมาะสาหรบั การจดั กจิ กรรมนอกหอ้ งเรยี น 1.3 มีกำรบริหำรจดั กำรชน้ั เรียนเชงิ บวก โรงเรียนได้ส่งเสริมให้ครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยเน้นให้นักเรียนมีส่วนร่วม ลงมือปฏิบัติและ ทางานเป็นกลุ่ม ให้นักเรียนได้เรียนรู้ผ่าน การเล่นเกม ทายศัพท์ ตอบคาถาม เล่าเรื่อง ให้นักเรียนรู้จักการ ทางานเป็นกลุ่มโดยการช่วยเหลือกัน รู้จักการสังเกต และรับฟังความคิดเห็นของเพื่อนในกลุ่ม และถ้า นักเรียนตอบถูกครูก็จะชมเชย แต่ถ้านักเรียนตอบผิดครูก็จะให้กาลังใจและให้นักเรียนใช้ความพยายามให้ มากขนึ้ เพราะนักเรียนมีความแตกต่างกนั โดยการบรหิ ารจดั การช้นั เรียนดา้ นกายภาพเชิงบวก เชน่ ครแู ละ นักเรียนช่วยกันจัดบรรยากาศในห้องเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ แบ่งเวรรับผิดชอบเพ่ือให้ห้องเรียนสะอาด โต๊ะเก้าอ้ีสะอาดและสามารถเคล่ือนย้ายเปลี่ยนรูปแบบท่ีน่ังเรียนได้สะดวก เป็นระเบียบเรียบร้อย ให้ ความรสู้ ึกสบายปลอดภยั ตกแตง่ ออกแบบใหส้ วยงาม นา่ ดู สร้างความสนใจให้แก่นกั เรยี น มีมมุ อา่ นหนังสือ เน้ือหาสาระให้สอดคล้องกับบทเรียน มีมุมใช้ติดสรุปบทเรียน ทบทวนบทเรียน หรือเสริมความรู้ให้แก่ นักเรียน มุมเก็บอุปกรณ์ทาความสะอาด ในการจัดกิจกรรมควรสร้างบรรยากาศประชาธิปไตย ให้นักเรียน เรียนรู้สึกว่ามีความเท่าเทียมกัน ให้ได้ทากิจกรรมร่วมกัน มีการสร้างความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างครูกับ นักเรียน การสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือร่วมใจ กิจกรรมกลุ่ม โดยจัดกิจกรรมให้เกิดการปฏิสัมพันธ์ กับกลุ่ม สนบั สนนุ ใหน้ กั เรียนได้เล่น ทางานและเรยี นรจู้ ากกล่มุ เพอ่ื น ครูคอยปรับปรุงการใช้ภาษา มารยาท และพฒั นาพฤติกรรมท่ีพึงประสงค์ เพื่อให้นกั เรยี นสามารถทางานกับกล่มุ เพอื่ นได้อยา่ งดี เป็นทย่ี อมรับของ กลุ่ม สาหรับการจัดชั้นเรียนก็มีความสาคัญ เน่ืองจากเปรียบเสมือนบ้านที่สองของนักเรียน นักเรียนจะใช้ เวลาอยู่ในช้นั เรียนประมาณวันละ 5-6 ช่ัวโมง อิทธพิ ลของช้นั เรียนจึงมีมากพอท่จี ะปลูกผังลักษณะของเด็ก

42 ให้เป็นแบบอย่างที่ต้องการได้ เช่น การจัดช้ันเรียนควรให้ยืดหยุ่นได้ตามความเหมาะสม นอกจากน้ีการ สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ให้เกิดความสุขแก่ผู้เรียนเป็นองค์ประกอบสาคัญประการหน่ึงที่จะสร้าง คุณลักษณะนิสัยของการใฝ่เรียนรู้ การมีนิสัยรักการเรียนรู้ การเป็นคนดี และสามารถอยู่ร่วมในสังคมได้ อย่างมีความสขุ โรงเรยี นมีโครงการท่ีสง่ เสรมิ การบริหารจัดการชน้ั เรียนเชิงบวกตามแผนปฏบิ ตั ิของโรงเรยี น ดังนี้ 1. โครงการจัดบรรยากาศในชั้นเรียน เป็นโครงการท่ีจัดขึ้นเพื่อสร้างบรรยากาศในชั้นเรียนโดย นักเรยี นและครูชว่ ยกันจัดมุมตา่ งๆให้สวยงาม และเป็นระเบียบเป็นแหล่งเรียนรู้ของห้องเรยี น จัดภาคเรียน ละครั้ง มีการประกวดห้องเรียน เป็นการกระตุ้นให้นักเรียนอยากเรียน มีความสุขในการเรียน รักห้องเรียน และการจดั ป้ายนเิ ทศมุมให้ความร้ตู ่างๆ เป็นแหล่งเรยี นรู้ท่เี อ้อื ต่อการเรยี นรขู้ องนกั เรียนอีกด้วย 1.4 ตรวจสอบและประเมินผเู้ รียนอยำ่ งเปน็ ระบบและนำผลมำพฒั นำผ้เู รยี น การตรวจสอบและประเมนิ ผู้เรยี นอย่างเป็นระบบและนาผลมาพัฒนาผู้เรียน ครผู ู้สอนต้อง วางแผนตรวจสอบและประเมินก่อนการจัดการเรียนการสอน ครูกาหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายในการ ประเมนิ สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ มาตรฐานจุดประสงค์ของการเรียนรู้ กาหนดขอบเขตในการประเมิน ได้แก่ ความรู้ ทักษะและกระบวนการ ความรู้สึกและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เป็นต้น มีการประเมิน นักเรียนจากสภาพจรงิ มีข้ันตอนตรวจสอบและประเมินอย่างเป็นระบบ โดยใช้เครื่องมือและวิธีการวัดและ ประเมินผลท่ีเหมาะสมกับเป้าหมายและ การจัดการเรียนการสอน เช่น การทดสอบก่อนเรียน หลังเรียน การสงั เกต การสัมภาษณ์ การบันทกึ พฤตกิ รรม ใบงาน การใช้คาถาม กาหนดเกณฑ์ในการประเมนิ เปน็ การ กาหนดรายละเอียดในการให้คะแนนผลงานวา่ นักเรียนทาอะไร ไดส้ าเร็จหรือมรี ะดบั ความสาเร็จในระดับใด คือ มีผลงานเป็นอย่างไร การให้คะแนนอาจจะให้ในภาพรวมหรือแยกเป็นรายให้สอดคล้องกับงานและ จุดประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนและผู้มีส่วนเก่ียวข้องมีส่วนร่วมในการวัดและประเมินผล และให้ข้อมูล ย้อนกลับแก่นักเรียนท่ีนักเรียนสามารถนาไปใชพ้ ัฒนาตนเองได้ เช่น คาชม ข้อแนะนา และการให้กาลงั ใจ เปน็ ตน้ โรงเรียนมโี ครงการทสี่ ่งเสรมิ การตรวจสอบและประเมนิ ผ้เู รียนอย่างเป็นระบบและนาผลมาพฒั นาผู้เรยี น ตามแผนปฏบิ ัติของโรงเรยี น ดงั น้ี 1. โครงการยกระดับผลสัมฤทธิ์และติวเข้มเป็นการยกระดับการสอบ NT และ O – NET เป็น กิจกรรมที่ครูจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยครูสอนพร้อมติวเข้ม เพื่อเป็นการเตรียมตัวก่อนสอบวัดผล ระดบั ชาติ ครูวเิ คราะห์สอบตามมาตรฐานตวั ชว้ี ดั และวิเคราะหผ์ เู้ รียน

43 1.5 มีกำรแลกเปลีย่ นเรียนรแู้ ละให้ขอ้ มลู สะท้อนกลับเพ่ือพัฒนำและปรับปรุงกำรจดั กำรเรยี นรู้ การบริหารการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพ่ือพัฒนาและปรับปรุงการ จัดการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี โดยโรงเรียนมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เก่ียวกับการพัฒนาและการปรับปรุงการ จัดการเรยี นรู้ คือ การประชมุ ครูทุกเดือน ประชมุ ครูทุกโครงการก่อนดาเนนิ การ เพอื่ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ระหวา่ งครูดว้ ยกนั เองเพื่อให้เป็นสงั คมแห่งการเรียนรู้การให้ข้อมลู สะท้อนกลับด้วยวิธีการตา่ งๆ กบั นักเรยี น เช่น การพูดคุยกับนักเรียนก่อนเรียนในช่ัวโมงแรก เป็นการอบรมและแลกเปล่ียนความคิดเห็นต่างๆ และ โรงเรยี นได้มีการประชุมผปู้ กครอง ปีการศึกษาละ 2 คร้งั เพื่อขอ้ มูลสะท้อนย้อนกลับกับผู้ปกครอง สง่ เสริม และพัฒนาการจัดการเรียนการสอนและพฤติกรรมของนักเรียนท่ีไม่พึงประสงค์ เพื่อหาทางช่วยกันพัฒนา นกั เรยี นให้มผี ลการเรยี นและความประพฤติทีด่ ีขนึ้ โรงเรียนมีโครงการท่ีส่งเสริมการบริหารการแลกเปล่ียนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพ่ือพัฒนาและ ปรบั ปรงุ การจดั การเรยี นรู้ตามแผนปฏบิ ัติของโรงเรียน ดงั น้ี 1. โครงการอา่ นออกเขียนได้ เป็นการติดตาม พูดคุย หาขอ้ เสนอแนะเพื่อหาวธิ ีการท่ี หลากหลายมาพฒั นานกั เรยี น ให้มีผลการอ่านการเรียนท่ดี ขี ้ึน 2. โครงการติดตามเยี่ยมบ้านและระบบดูแลช่วยเหลือเป็นกิจกรรมที่ครูได้ติดตามนักเรียนทีมี ปัญหา เช่น การอ่าน การขาดเรียน ไม่ต้ังใจเรียน ชอบทะเลาะ กิจกรรมน้ีเป็นการปรึกษาโดผู้อานวยการ โรงเรียน กรรมการสถานศึกษา ครู และผู้ปกครอง ร่วมกันปรึกษาหาแนวทางการพัฒนาและช่วยเหลือ นกั เรยี นให้มีผลการเรยี นทด่ี ีขึ้น และรักการเรียน 2. ผลกำรดำเนินงำน จากการจัดการเรียนรู้ผ่ าน กร ะบวน การ คิด แล ะปฏิบัติ จริง ทา ให้นั กเรีย นสา มาร ถ น า ไป ประยุกต์ใช้ในการดาเนินชีวิตได้ทาให้ผู้เรียนเกิดความกระตือรือร้น สนุก ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้ หรือสร้างความรู้ให้เกิดข้ึนในตนเอง นักเรียนเกิดการเรียนรู้ขึ้น เช่น การลงมือทา การทดลอง การสังเกต การสืบค้น การประดิษฐ์ ไม่ว่าจะเป็นการแลกเปล่ียนประสบการณ์ โดยการพูด การเขียน การอภิปรายกับ เพื่อนๆ และการนาเสนอ อีกทั้งยังมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน ผู้สอน สิ่งแวดล้อม ทาให้นักเรียนมีความ รับผิดชอบร่วมกัน การมีวินัยในการทางาน และการแบ่งหน้าท่ีความรับผิดชอบการจัดกิจกรรม การเรียนรู้มีความสอดคล้องกับชีวิตจริง เช่น การเข้าฐานความรู้ในโครงการและกิจกรรมต่างๆ การใช้วัสดุ อุปกรณก์ ารทดลองท่ีอยู่ในชวี ติ ประจาวัน เพอ่ื นาความรู้ ไปประยุกตใ์ ช้ในชีวิตได้ การปลูกผัก ครูผู้สอนมีการใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศทุกคน ทุกห้อง โรงเรียนได้จัดสื่อและอุปกณ์ ท่ีเหมาะสมกับลักษณะธรรมชาติวิชา มีการจัดแหล่งเรียนรู้ท้ังในและนอกห้องเรียนบริการกับนักเรียน ครูนาเทคโนโลยีที่ทนั สมยั มาใช้ในการจดั การสอน ครูผู้สอนมีการบริหารจัดการชั้นเรียนโดยเน้นการมีปฏิสัมพันธ์เชิงบวก มีการจัดกิจกรรมทั้งในและนอก ห้องเรียน ให้เด็กรักครู ครูรักเด็ก และนักเรียนมีความรักความสามัคคีในกลุ่มเพ่ือน สามารถเรียนรู้ร่วมกัน

44 อย่างมีความสุข ครูไปเยี่ยมบ้านนักเรียนเพื่อให้รู้ถึงความเป็นอยู่ของนักเรียนที่แท้จริง เพ่ือที่จะได้แก้ปัญหา และช่วยเหลอื ใหก้ ับนักเรยี นได้ตรงจดุ และถกู ตอ้ ง ครูผู้สอนส่งแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ีเขียน มีการวิเคราะห์หลักสูตร โครงสร้างรายวิชา แผนการ จัดการเรียนรู้ก่อนสอนและหลังสอนเพื่อให้ฝ่ายวิชาการตรวจสอบมาตรฐานและตัวชี้วัด ผลการเรียนรู้ของ รายวิชา และเสนอผู้อานวยการโรงเรียนครูได้รับการนิเทศกการจัดการเรียนการสอน รับฟังข้อเสนอ แนวทางในการปรับปรุงพัฒนาการจัดการเรียนการสอน ครูมีการประชุมกลุ่มของตนเองเพื่อสร้างชุมชน แห่งกาเรยี นร้ทู างวิชาชีพชว่ ยกันคิดเพอื่ พฒั นา โรงเรยี นมีโครงการบริหารการแลกเปลีย่ นเรียนรู้และให้ข้อมลู สะท้อนกลบั เพอ่ื พฒั นาและปรบั ปรุงการ จดั การเรยี นรู้ในแผนปฏบิ ัติการ ดังน้ี 1. โครงการอ่านออกเขยี นได้ เป็นการตดิ ตาม พูดคยุ หาขอ้ เสนอแนะเพ่ือหาวิธกี ารท่ี หลากหลายมาพัฒนานักเรยี น ใหม้ ผี ลการอ่านการเรยี นทดี่ ีข้นึ 2. โครงการตดิ ตามเยี่ยมบ้านและระบบดูแลชว่ ยเหลือเป็นกิจกรรมท่ีครไู ด้ติดตามนักเรียนทมี ี ปญั หา เชน่ การอ่าน การขาดเรียน ไม่ตงั้ ใจเรียน ชอบทะเลาะ กจิ กรรมนี้เป็นการปรึกษาโดผ้อู านวยการ โรงเรยี น ครู และผู้ปกครอง ร่วมกนั ปรึกษาหาแนวทางการพฒั นาและชว่ ยเหลอื นักเรยี นให้มผี ลการเรยี นที่ดี ข้ึน และรกั การเรียน 3. โครงการนิเทศ จดั การนิเทศภาคเรียนละ 2 ครัง้ แต่ในการปฏิบตั จิ ริงผ้อู านวยการนเิ ทศสม่าเสมอ และเกือบทุกวัน คร้ังแรกผู้อานวยการโรงเรียนจะนิเทศเร่ืองผลสาเร็จของการนิเทศในปีท่ีผ่านมาและใหค้ รู เน้นการเขียนบนกระดานหน้าช้ันเรียนเขียนตัวตรง มีหัว เต็มบรรทัดสาหรับนักเรียนช่วงชั้นท่ี 1 และครึ่ง บรรทดั นักเรยี นชว่ งชั้นที่ 2 เขียนทกุ ครง้ั ใหน้ ักเรียนขดี เสน้ ใต้ เน้นย้าให้นักเรียนทางานใหเ้ รียบร้อย และพูด ถึงการแก้ปัญหาในเร่ืองที่ต้องพัฒนา คร้ังที่ 2 ให้ครูพูดเสนอวิธีการสอนและเทคนิคท่ีใช้ในการจัดกิจกรรม ในช้ันเรียนจากน้ันผู้อานวยการจะเสริมวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนท่ีหลากหลายท่ีปฏิบัติแล้ว เกิดผล ครั้งที่ 3 ครูช่วยกันเสนอแนวทางการพัฒนานักเรียนท่ียังอ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้ คร้ังท่ี 4 ติดตามเสนอแนะหาวธิ ีชว่ ยเหลอื ผู้เรียนเน้นรายบุคคล ในการนิเทศเปน็ การติดตามกระบวนการจัดการเรียน การสอนของครูเพ่ือให้นักเรียนมีผลการเรียนที่ดีข้ึน และเน้นนักเรียนเป็นสาคัญ เป็นการแลกเปล่ียน เสนอแนะแนวทางการพัฒนานักเรียนให้มีผลการเรยี นทีด่ ีขน้ึ อกี ด้วย

45 ผลการประเมินมาตรฐานที่ 3 กระบวนการจดั การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรยี นเป็นสาคญั ประเดน็ กำรประเมิน ระดับ สรปุ คุณภำพ 3.1 จัดการเรยี นรู้ผา่ นกระบวนการคดิ และปฏิบัตจิ ริง และสามารถนาไป ยอดเยี่ยม ยอดเย่ียม ประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตได้ ยอดเยี่ยม 3.2 ใช้สือ่ เทคโนโลยสี ารสนเทศและแหล่งเรียนรูท้ ีเ่ ออื้ ต่อการเรยี นรู้ ยอดเย่ียม 3.3 มีการบริหารจดั การชัน้ เรยี นเชิงบวก ยอดเยย่ี ม 3.4 ตรวจสอบและประเมนิ ผ้เู รียนอย่างเปน็ ระบบและนาผลมาพัฒนา ยอดเย่ยี ม ผเู้ รยี น 3.5 มีการแลกเปล่ยี นเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพ่ือพัฒนาและ ปรบั ปรงุ การจัดการเรยี นรู้ 3. จุดเด่น 1. โรงเรียนมแี หล่งเรียนร้ตู ้นแบบ ท่ใี หน้ ักเรียนไดล้ งมือปฏิบตั ไิ ด้ 2. การจัดกจิ กรรมการเรียนร้ทู ่ีหลากหลายและมีโครงการรองรับในการพฒั นาอยา่ งต่อเนือ่ ง 3. การประชมุ ผู้ปกครองเพื่อแลกเปล่ียนเรียนรใู้ นการพฒั นาการศึกษา 4. จุดท่ีควรพฒั นำ 1. ความพร้อมของผ้สู อนทต่ี อ้ งใช้อุปกรณ์ตา่ งๆในการเรยี นรู้ 3. มีคอมพวิ เตอรแ์ ตบ่ างเครอื่ งใช้งานไม่ได้ และหอ้ งก็เล็กมาก 4. การใชผ้ ลของวิจยั ในการพฒั นาการจัดการเรยี นรู้/การปรับการสอนอย่างสม่าเสมอ 5. แผนกำรยกระดับคณุ ภำพให้สูงข้ึน 1. ให้นกั เรียนได้ทากิจกรรม ในฐานการเรียนรู้เป็นโครงงานอาชีพเพื่อสร้างอาชพี และใหน้ กั เรียนสามารถนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้ 2. ประสานความรว่ มมือในการผลติ จดั หา พัฒนาและแลกเปล่ยี นการใช้สอ่ื นวตั กรรมและ เทคโนโลยีการศกึ ษาท่ีทันสมยั สาหรบั ใช้จดั การเรียนการสอนและการพฒั นางาน ดา้ นวชิ าการกับสถานศกึ ษา เขตพื้นท่ีการศึกษา ผปู้ กครอง องค์กรปกครองท้องถนิ่ รวมทั้งหนว่ ยงานและสถาบันอืน่ ๆ

46 3. สง่ เสรมิ สนับสนุนให้พัฒนาครเู พอื่ ผลติ พฒั นาสือ่ นวัตกรรมการเรยี นการสอน รวมทั้ง ประเมินคุณภาพสื่อฯ เพ่อื เลือกใชป้ ระกอบการเรยี นการสอนทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และการใช้สอื่ อยา่ งหลากหลาย 4. จดั เตรยี มชัน้ เรยี นใหม้ ีความพรอ้ มต่อการสอนในแต่ละครั้ง เชน่ การทางานกลุ่ม การสาธติ การแสดงบทบาทสมมตุ ิ 5. ครแู ละผ้มู ีสว่ นเกยี่ วขอ้ งร่วมกนั แลกเปลี่ยนความรูแ้ ละประสบการณ์ รวมทง้ั ใหข้ อ้ มลู ปอ้ นกลับเพ่ือนาไปใชใ้ นการปรับปรงุ และพฒั นาการจดั การเรียนรู้ใหม้ ีมากขนึ้ 6. ครคู วรมีเครอื ขา่ ยในการหาความร้ใู หม่ ๆ เพ่ือพัฒนาตนเองอยเู่ สมอ 7. การพัฒนาเครอื่ งมอื วดั วธิ ีการวัด และประเมินผลการเรยี นท่มี คี ณุ ภาพตามหลักการวัด และประเมินผลสอดคลอ้ งกบั ทุกมาตรฐานและตัวชี้วัด ตามกิจกรรมการจัดการเรยี นรู้

47 สรปุ ผลกำรประเมินมำตรฐำนกำรศกึ ษำ ประเด็นกำรประเมิน ระดับคุณภำพ มำตรฐำนที่ 1 คุณภำพของผู้เรียน ยอดเยย่ี ม 1.1 ผลสมั ฤทธิท์ างวิชาการของผูเ้ รยี น ดีเลศิ 1) มคี วามสามารถในการอา่ น การเขยี น การสอื่ สาร และการคดิ คานวณ ยอดเยย่ี ม 2) มคี วามสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ คิดอย่างมวี จิ ารณญาณ อภิปรายแลกเปลย่ี นความ คดิ เหน็ และแกป้ ญั หา ยอดเยย่ี ม 3) มคี วามสามารถในการสร้างนวตั กรรม ยอดเยี่ยม 4) มคี วามสามารถในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร 5) มีผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา ดเี ลศิ 6) มคี วามรู้ ทักษะพ้ืนฐาน และเจตคตทิ ด่ี ตี อ่ งานอาชีพ ยอดเยย่ี ม 1.2 คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน 1) การมีคุณลกั ษณะและคา่ นยิ มท่ดี ีตามที่สถานศกึ ษากาหนด ยอดเยี่ยม 2) ความภมู ิใจในทอ้ งถ่นิ และความเป็นไทย ยอดเยยี่ ม ยอดเยย่ี ม 3) การยอมรบั ที่จะอยรู่ ว่ มกนั บนความแตกต่างและหลากหลาย ยอดเยย่ี ม 4) สุขภาวะทางรา่ งกาย และจติ สงั คม มำตรฐำนที่ 2 กระบวนกำรบริหำรและกำรจดั กำร ดเี ลศิ 2.1 มเี ปา้ หมายวิสัยทศั น์และพันธกจิ ทส่ี ถานศกึ ษากาหนดชดั เจน ยอดเย่ียม 2.2 มรี ะบบบริหารจดั การคุณภาพของสถานศึกษา 2.3 ดาเนนิ งานพฒั นาวชิ าการท่ีเน้นคณุ ภาพผู้เรยี นรอบด้านตามหลกั สตู ร ดีเลศิ สถานศกึ ษาและทุกกลมุ่ เปา้ หมาย ยอดเยี่ยม 2.4 พฒั นาครแู ละบคุ ลากรให้มคี วามเชย่ี วชาญทางวิชาชพี 2.5 จดั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจดั การเรยี นรู้ ดีเลศิ อย่างมีคณุ ภาพ ยอดเย่ยี ม 2.6 จดั ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื สนบั สนุนการบริหารจัดการและ การจัดการเรยี นรู้ ดีเลิศ มำตรฐำน 3 กระบวนกำรจดั กำรเรยี นกำรสอนที่เนน้ ผเู้ รียนเป็นสำคัญ 3.1 จดั การเรยี นร้ผู า่ นกระบวนการคดิ และปฏิบตั ิจริง และสามารถนาไปประยกุ ต์ ยอดเยย่ี ม ใชใ้ นชวี ติ ได้ ยอดเยี่ยม 3.2 ใช้สอื่ เทคโนโลยสี ารสนเทศและแหล่งเรียนรู้ทเี่ ออ้ื ต่อการเรียนรู้ 3.3 มีการบรหิ ารจดั การชน้ั เรยี นเชงิ บวก ยอดเยย่ี ม 3.4 ตรวจสอบและประเมินผเู้ รยี นอยา่ งเป็นระบบและนาผลมาพฒั นาผเู้ รยี น ยอดเยี่ยม 3.5 มกี ารแลกเปลย่ี นเรยี นรูแ้ ละใหข้ ้อมลู สะทอ้ นกลบั เพือ่ พัฒนาและปรบั ปรงุ ยอดเยย่ี ม การจดั การเรยี นรู้ ยอดเยี่ยม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook