คำนำ กระทรวงศึกษาธกิ าร มงุ่ เนน้ ให้ครแู ละบุคลากรทางการศึกษา พัฒนาตนเองโดยยึดหลกั การประเมิน สมรรถนะ (Competency Based Approach) จะทำใหผ้ ู้ปฏิบัติงานสามารถรู้จุดเด่น จุดด้อยของ ความสามารถในการปฏบิ ัติงานของตน และสามารถพัฒนาตนเองใหส้ อดคล้องกบั ความต้องการจำเป็น ของหน่วยงาน และของตนเองอยา่ งแท้จรงิ ทั้งน้ี ครูจึงต้องมีการวางแผนการพฒั นาตนเองในการจัดห้องเรียนทีม่ ีคณุ ภาพ (Individual Development Planning : IDP) เพื่อเป็นการพฒั นาที่สนองตอบความต้องการแตล่ ะบคุ คล สนองความ สนใจในรปู แบบวธิ ีการพฒั นา ก็จะสง่ ผลตอ่ สมรรถนะในการปฏบิ ัตหิ นา้ ทีท่ ี่มีประสิทธภิ าพต่อไป และเปน็ การ พัฒนาที่ต่อเน่ืองจนทำให้การปฏิบัตหิ น้าทม่ี ีความสมบรู ณ์ มปี ระสิทธภิ าพและเกิดประสิทธิผล ในการปฏบิ ตั งิ าน อนั นำไปสู่การพัฒนาตนเองให้เปน็ ครมู อื อาชีพทมี่ ีมาตรฐานในการปฏิบัติงานอย่างแทจ้ รงิ สามารถตรวจสอบได้ และพฒั นาสคู่ วามเปน็ วชิ าชพี ต่อไป ธนั ยาภรณ์ จลุ ศักด์ิ
สารบญั เร่อื ง ข้อมูลส่วนบุคคล หนา้ คำนำ ขอ้ มลู สว่ นบคุ คล สารบัญ ผลจากการปฏิบัติงานในตำแหน่งปจั จบุ ัน 1 สว่ นที่ 1 ผลการประเมนิ ตนเอง 2 ผลการประเมนิ ตนเองตามกรอบของ ก.ค.ศ. ส่วนที่ 2 ผลการประเมินศกั ยภาพของผูเ้ รียนในสถานศึกษาตามจุดเน้นของ สพฐ. 5 สรุปผลการประเมินตนเอง 8 ส่วนท่ี 3 แผนการพฒั นาตนเอง 10 ส่วนท่ี 4 แผนการพฒั นาตนเอง รายละเอียดการพฒั นาตนเอง 11 ส่วนท่ี 5 รายละเอยี ดการพฒั นาตนเอง ประวตั กิ ารเข้าการรบั พัฒนา 12 เกยี รติบัตร/วุฒบิ ตั ร ในการเข้ารว่ มพฒั นาตนเอง 23 ภาพกิจกรรม 24 ผลการปฏบิ ตั ิงานจากงานทีไ่ ด้รับมอบหมาย 36 ความต้องการในการพัฒนา 44 ความตอ้ งการในการพฒั นา 50
1 แผนพัฒนาตนเองของข้าราชการครู (ID PLAN : INDIVIDUAL DEVELOPMENT PLAN) ---------------------------------------------------------------------- สว่ นท่ี 1 ข้อมูลส่วนบคุ คล ชอื่ (นาย / นาง / นางสาว) ธันยาภรณ์ ชอ่ื สกุล จลุ ศกั ด์ิ ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชำนาญการ วฒุ กิ ารศึกษา กศ.บ. และ กศ.ม. ปรญิ ญาตรี หรือเทียบเท่า วิชาเอกวทิ ยาศาสตร์ทวั่ ไป ปรญิ ญาโท หรอื เทียบเท่า วิชาเอกการบรหิ ารการศึกษา ปริญญาเอก หรอื เทยี บเทา่ วิชาเอก.......................................................................................... อน่ื ๆ (โปรดระบุ).......................................................................................... เข้ารบั ราชการวนั ที่ 20 เดอื น กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ณ โรงเรยี น วังจันทรว์ ทิ ยา สังกดั สำนักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษามัธยมศึกษาชลบุรี ระยอง สำนักคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ อายุราชการจนถึงปัจจุบัน 6 ปี 8 เดอื น เงนิ เดือน อนั ดบั คศ.1 อตั ราเงนิ เดือน 22,860 บาท สถานท่ที ำงาน โรงเรยี นวังจนั ทรว์ ทิ ยา ตำบลชุมแสง อำเภอวังจนั ทร์ จงั หวัดระยอง รหสั ไปรษณีย์ 21210 วชิ า/สาขา/กลุ่มสาระการเรยี นรทู้ ีท่ ำการสอน รวมจำนวน 17.48 ช่ัวโมง/สัปดาห์ ชัว่ โมงสอนตามตารางสอน กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี จำนวน 12.50 ช่วั โมง/สัปดาห์ - รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ 2 จำนวน 0.83 ชั่วโมง/สัปดาห์ - รายวชิ า โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ 4 กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน จำนวน 0.83 ช่ัวโมง/สัปดาห์ - รายวิชา กจิ กรรมแนะแนว จำนวน 0.83 ช่วั โมง/สัปดาห์ - รายวิชา ลูกเสอื เนตรนารี จำนวน 0.83 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ - รายวิชา กจิ กรรมสง่ เสริมสุขภาพ จำนวน 0.83 ชว่ั โมง/สัปดาห์ - รายวิชา กิจกรรมชุมนุม
2 - รายวิชา กิจกรรมลดเวลาเรยี น เพิม่ เวลารู้ จำนวน 0.83 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ งานท่ไี ด้รับมอบหมาย 1. ปฏิบตั ิหน้าทีง่ านแผนงานและยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นา งานแผนงานงบประมาณ 2. ปฏิบตั ิหนา้ ท่คี รูท่ปี รกึ ษานักเรยี นระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 1/7 3. ครูแกนนำฐานการเรยี นรูเ้ ศรษฐกิจพอเพยี ง การเลย้ี งผ้งึ ชนั โรง 4. ปฏิบตั ิหน้าทีอ่ ่ืน ๆ ตามคำสงั่ ของโรงเรยี น จำนวนช่ัวโมงการปฏบิ ัติงาน รวมจำนวน 10 ชวั่ โมง/สัปดาห์ งานส่งเสรมิ และสนับสนุนการจัดการเรยี นรู้ จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ งานตรวจการบ้านนักเรียน จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ งานครทู ี่ปรึกษา งานดูแลนักเรยี น และงานโฮมรูม จำนวน 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ งานครเู วรประจำวนั จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ การมสี ่วนรว่ มในชุมชนทางวชิ าชพี (PLC) จำนวน 3 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ จัดทำแผนการจดั การเรียนรู้ จำนวน 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ การสรา้ งและพฒั นาส่ือการจัดการเรยี นรู้ รวมจำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ งานพฒั นาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 3 ชั่วโมง/สปั ดาห์ งานแผนงานงบประมาณ รวมจำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์ งานตอบสนองนโยบายและจุดเนน้ จำนวน 3 ชว่ั โมง/สัปดาห์ งานศนู ยเ์ ศรษฐกจิ พอเพยี ง จำนวน 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ งานห้องเรยี นสีขาว/งานสิง่ แวดลอ้ ม จำนวน 1 ชัว่ โมง/สัปดาห์ โครงการคุณธรรมของสถานศึกษา ผลงาน ท่ีเกดิ จากการปฏบิ ัตหิ น้าท่ีในตำแหน่งปจั จบุ นั (ยอ้ นหลัง 1 ภาคเรียน) 1. ผลทเ่ี กิดจากการจัดการเรยี นรู้ 1.1 มแี ผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ 2 (ว21102) ที่มีการวเิ คราะห์หลกั สตู ร สถานศกึ ษา มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง 1.2 มแี ผนการจดั การเรยี นรู้บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ 2 (ว21102) ที่มกี ารวเิ คราะห์หลักสตู รสถานศกึ ษา มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ ได้อยา่ งถกู ต้อง 1.3 มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยการปฏบิ ตั ิ (Active Learning) โดยเน้นผูเ้ รยี นเป็นสำคญั ดว้ ยกจิ กรรมท่ีหลากหลายและสอดคลอ้ งกับธรรมชาตวิ ชิ าวทิ ยาศาสตร์ 1.4 มีแนวทางในการบริหารจัดการช้นั เรียนในการจดั การเรียนการสอนแบบออนไลน์ทเี่ หมาะสม และช่วยส่งเสรมิ การเรยี นรขู้ องนักเรียน
3 1.5 มเี ครื่องมือการวดั และประเมนิ ผลทม่ี ีคณุ ภาพ ผา่ นการหาคุณภาพเคร่ืองมอื วัดผลเบ้ืองต้น และมีความหลากหลายในการประเมนิ อยา่ งรอบดา้ น ทั้งด้านความรู้ ด้านทกั ษะและกระบวนการ และด้าน คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ รวมไปถึงสมรรถนะท่สี ำคญั ของผเู้ รยี น 1.6 มกี ารแก้ปญั หาในชนั้ เรยี นด้วยกระบวนการวิจัยในช้นั เรียน 1.7 มีส่ือการเรยี นรู้ และแหล่งการเรียนสำหรับใช้ประกอบการจัดการเรยี นรู้ และใหน้ ักเรยี นไว้ สืบคน้ เพมิ่ เติม เช่น เอกสารประกอบการเรยี น สื่อสไลด์ คลิปวดิ โี อ นักเรยี นสามารทบทวนบทเรยี นไดท้ าง Google Classroom, Facebook Group, Google Site และ Line group 2. ผลทีเ่ กิดจากการพัฒนาวิชาการ 2.1 มีกจิ กรรมทีส่ ่งเสริมให้นักเรียนได้ศึกษาคน้ คว้า เสริมสรา้ งประสบประการณ์ทางวิทยาศาสตร์ ผา่ นการจัดการเรียนรแู้ บบห้องเรยี นกลบั ดา้ น 2.2 มีกจิ กรรมบูรณาการเน้อื หาในหอ้ งเรยี นกบั เทคโนโลยใี นปจั จบุ ัน ซ่งึ เปน็ การบรู ณการเนอ้ื หาใน ห้องเรียนผา่ นกจิ กรรมวิทยาศาสตร์ 2.3 มีกจิ กรรมวิทยาศาสตร์ เพ่อื เป็นการสรา้ งเจตคติท่ดี ีต่อการเรียนวทิ ยาศาสตร์ และให้นักเรียน ตระหนกั ถึงความสำคัญของวิชาวิทยาศาสตรแ์ ละนำมาประยุกต์ใชใ้ นการดำเนนิ ชวี ติ ประจำวนั 2.4 ครมู คี วามเขา้ ใจในการนำกระบวนการ PLC เขา้ มาใชใ้ นการพัฒนาคุณภาพผ้เู รียน 3. ผลทเ่ี กดิ กับผู้เรียน 3.1 นักเรยี นมีผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นตามเกณฑท์ กี่ ำหนด และไมม่ นี ักเรียนทม่ี ผี ลการเรียนเป็น 0, ร และ มส. 3.2 นกั เรยี นมรี ะดับทักษะและกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ผ่านเกณฑท์ ่ีครผู ู้สอนกำหนดไว้ 3.3 นกั เรยี นมีระดับคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ผา่ นท่ีเกณฑท์ ี่ครูผู้สอนกำหนดไว้ 3.4 นกั เรยี นมชี นิ้ งาน/ผลงาน ทสี่ ะท้อนความคิดขั้นสงู เชน่ การคิดวิเคราะห์ การสงั เคราะห์ การประเมินคา่ และความคิดสร้างสรรค์ชัน้ งาน โดยใช้ความรแู้ ละเนื้อหาทางวทิ ยาศาสตร์ 3.5 นักเรยี นสามารถค้นควา้ หาความรู้จากแหลง่ เรียนรู้ท่คี รูไดร้ วบรวมและแนะนำให้ได้อย่าง ถกู ต้อง 4. ผลทีเ่ กิดกับสถานศกึ ษา 4.1 โรงเรียนมีระบบบรหิ ารงานแผนงานและงบประมาณที่เปน็ ระบบ มีเอกสารที่ครอบคลมุ โปรง่ ใส ตรวจสอบได้ 4.2 โรงเรียนมีฐานการเรยี นรู้เศรษฐกจิ พอเพยี งการเล้ียงผ้ึงชนั โรง ภายในศนู ยก์ ารเรยี นร้เู ศรษฐกิจ พอเพยี งโรงเรยี นวงั จนั ทร์วิทยา ที่เปน็ ศูนยใ์ หค้ วามรตู้ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
4 4.3 ฐานการเรียนรกู้ ารเลย้ี งผ้ึงชนั โรง เป็นแหล่งเรยี นรู้ของนักเรยี น ชมุ ชน โรงเรียนตา่ ง ๆ โดยมี คณะผบู้ รหิ าร ครูและบุคลากรทางการศึกษา เขา้ มาศกึ ษาดูงานการดำเนินงานของศนู ย์การเรยี นรเู้ ศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนวังจันทรว์ ิทยา 4.4 มบี รรยากาศทงั้ ภายในและภายนอกห้องเรยี นที่เอ้ือต่อการเรยี นรูข้ องครแู ละนักเรียน 4.5 มรี ะบบการทำงานท่ีเป็นทมี และมีแนวทางการทำงานทีเ่ ปน็ ขนั้ ตอนชดั เจน 4.6 มแี นวทางดา้ นเอกสาร และการเตรียมความพรอ้ มในการประเมนิ เพือ่ ขอมีและเล่ือนวิทยฐานะ ของครู 4.7 มีแนวทางการแก้ไขปญั หาในการจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค ตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) 5. ผลท่เี กิดกับชุมชน 5.1 เกดิ ความสัมพันธท์ ดี่ ีกบั ผู้ปกครองนักเรียน และชมุ ชน 5.2 มกี ิจกรรมทางสังคมในดา้ นต่างๆ รว่ มกับชมุ ชนอย่างสม่ำเสมอ 5.3 เปน็ แหล่งเรียนรู้ท่ีสามารถใหบ้ คุ คลภายนอกเข้ามาศกึ ษาได้
5 ส่วนท่ี 2 ผลการประเมนิ ตนเอง ระดับความรู้ น้อย มมี าก ปานกลาง (1) ตอนท่ี 1 ผลการประเมินตนเองตามกรอบของ ก.ค.ศ. (3) (2) ดา้ นที่ 1 ความรคู้ วามสามารถในการปฏิบัติงานในหน้าที่ ✓ ✓ รายการพิจารณาตนเอง ✓ 1. เนอื้ หาในรายวิชา/กลุม่ สาระการเรียนรูท้ สี่ อน ✓ 2. วธิ สี อน ถ่ายทอดความร้เู ชิงเนอื้ หา กจิ กรรม บริบท เป้าหมาย การเรยี นรู้ ความร้พู ืน้ ฐาน การปรับพ้นื ฐาน และอปุ สรรคการเรยี นรู้ ✓ ของผู้เรียน 3. หลกั การสอน และกระบวนการเรียนรู้ ✓ 4. หลักสตู ร การออกแบบ วางแผนการใช้ ประเมินและแนวทาง การเรยี นรใู้ นแต่ละเน้ือหา ✓ 5. พน้ื ฐานการศึกษา หลกั การศึกษา ปรชั ญาการศึกษา จติ วทิ ยา ✓ สงั คม นโยบายการศึกษา จดุ ม่งุ หมายการจดั การศึกษาตัง้ แต่ระดบั ✓ ชาติจนถงึ ระดบั หลกั สตู ร 18 6 6. การจัดการศึกษาแบบรวม และการตอบสนองต่อความหลาก หลายของผ้เู รยี น 24/อยใู่ นระดบั มาก 7. ทฤษฎกี ารเรียนรู้ และจิตวทิ ยาการเรยี นรู้ 8. การใชเ้ ทคโนโลยี และส่อื นวัตกรรมเพื่อการเรยี นรู้ 9. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ รวม คะแนนรวม/แปลผล เกณฑ์ คะแนน 9 – 15 ระดบั ความรูน้ ้อย คะแนน 16 – 21 ระดับความร้ปู านกลาง คะแนน 22 – 27 ระดับความรมู้ าก จากผลการประเมิน พบว่า ความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานในหน้าที่ โดยรวมอยู่ในระดับมาก เม่ือ พิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ควรได้รับการส่งเสริมความรู้ในด้านหลักการสอนและกระบวนการเรียนรู้ พื้นฐาน การศึกษา หลกั การศึกษา ปรัชญาการศึกษา จิตวิทยา สงั คม นโยบายการศึกษา จดุ มุ่งหมายการจดั การศึกษาต้ังแต่ ระดับชาตจิ นถึงระดับหลักสูตร และทฤษฎีการเรียนรู้ และจติ วทิ ยาการเรียนรู้ เพือ่ ใหเ้ กิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อการ จัดการเรยี นการสอน
6 ด้านที่ 2 ทกั ษะการปฏบิ ตั ิงาน ระดบั ความสามารถ รายการพิจารณาตนเอง ทำไดด้ ี พอใช้ ไมค่ อ่ ยได้ทำ 1. การสรา้ งและหรอื พฒั นาหลักสูตร (3) (2) (1) 2. การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ 3. การจดั ทำแผนการจัดการเรียนรู้ ✓ 4. กลยทุ ธ์ในการจัดการเรียนรู้ 5. การพัฒนาคุณภาพผูเ้ รียน (ผลสัมฤทธิ์ คุณลกั ษณะ สมรรถนะ) ✓ 6. การสร้างและการพัฒนาสื่อ นวตั กรรม เทคโนโลยที างการศึกษา และแหลง่ เรยี นรู้ ✓ 7. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 8. การวจิ ยั เพือ่ พัฒนาคุณภาพผเู้ รียน ✓ รวม ✓ คะแนนรวม/การแปลผล ✓ ✓ ✓ 18 4 22/อยูใ่ นระดับมาก เกณฑ์ คะแนน 8 – 13 ระดับทักษะนอ้ ย คะแนน 14 – 19 ระดบั ทักษะปานกลาง คะแนน 20 – 24 ระดับทักษะมาก จากผลการประเมนิ พบว่า ทักษะการปฏิบตั งิ าน โดยรวมอย่ใู นระดบั มาก เม่ือพิจารณาเปน็ รายข้อ พบวา่ ควรไดร้ บั การส่งเสรมิ ความรใู้ นเรื่องของการใชก้ ลยุทธใ์ นการจัดการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมให้นกั เรียนไดร้ ับการพฒั นา ด้วยกระบวนการท่ีหลากหลายและเน้นให้ผู้เรยี นได้ปฏิบัตกิ ิจกรรมการเรียนรู้ มากกวา่ การท่คี รเู ปน็ ผบู้ อกความรู้ ให้กับผ้เู รยี น และพัฒนาการสร้างสือ่ นวัตกรรม เทคโนโลยที างการศกึ ษา และแหลง่ เรยี นรใู้ หม้ ากข้นึ และสอดคล้อง กบั มาตรฐาน/ตัวชวี้ ดั หรอื ผลการเรียนรู้
7 ด้านท่ี 3 ความเปน็ ครู ระดบั ความเป็นครู รายการพจิ ารณาตนเอง สงู มาก ปานกลาง ยังต้อง (3) (2) ปรบั ปรุง 1. ยึดมัน่ ผูกพัน ศรัทธาในวิชาชพี และทุ่มเทเพ่อื การเรยี นรู้ของ ผเู้ รยี น (1) 2. มคี ุณธรรม จริยธรรม และปฏิบตั ิตนเป็นแบบอยา่ งทดี่ แี กผ่ ู้เรียน ทง้ั กาย วาจา และจติ ใจ ดำรงตนให้เปน็ ทเ่ี คารพ ศรทั ธาและ ✓ นา่ เชือ่ ถอื ทง้ั ใน และนอกสถานศกึ ษา 3. ปฏิบตั ติ นตามจรรยาบรรณวิชาชีพครู ✓ 4. มีวนิ ัยและการรักษาวนิ ัย 5. เปน็ บุคคลแหง่ การเรยี นรู้ ปรับปรุง และพฒั นาตนเองอยา่ ง ✓ ตอ่ เนอ่ื ง ใหม้ ีความรู้ความชำนาญในวิชาชีพเพ่มิ ข้ึน ✓ 6. ปฏิบัตติ นโดยนำหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาใช้ได้ ✓ 7. มีทัศนคติทด่ี ีต่อบา้ นเมือง 8. มุง่ ประโยชนส์ ว่ นรว่ มในการพัฒนาคณุ ภาพทางการศึกษา ✓ ✓ รวม ✓ คะแนนรวม/การแปลผล 24 24/อย่ใู นระดบั มาก เกณฑ์ คะแนน 8 – 13 ระดับความเปน็ ครูนอ้ ย คะแนน 14 – 19 ระดบั ความเปน็ ครูปานกลาง คะแนน 20 – 24 ระดบั ความเปน็ ครูมาก จากผลการประเมิน พบว่า ความเป็นครู โดยรวมอยูใ่ นระดับสงู มาก เม่ือพิจารณาเปน็ รายขอ้ พบว่า ทุกประเดน็ มรี ะดับคะแนนที่แสดงถึงความเป็นครูอยู่ในระดับมาก
8 ตอนที่ 2 ผลการประเมนิ ศกั ยภาพของผู้เรยี นในสถานศึกษาตามจดุ เน้นของ สพฐ. ระดับศักยภาพ รายการศกั ยภาพของผ้เู รียนในสถานศกึ ษาตามจดุ เน้นของ สพฐ. สูงมาก ปานกลาง ยงั ตอ้ ง (3) (2) ปรับปรุง 1. ด้านอ่านออก อ่านคล่อง เขียนได้ เขียนคล่อง 2. ด้านคิดเลขเปน็ คิดเลขคล่อง (1) 3. ดา้ นการคดิ ขน้ั พื้นฐาน 4. ด้านการคิดขน้ั สูง ✓ 5. ด้านการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ตามชว่ งวัย 6. ดา้ นการใชภ้ าษาต่างประเทศ(ภาษาองั กฤษ) ✓ 7. ดา้ นการใช้เทคโนโลยีเพ่ือการเรยี นรู้ 8. ดา้ นการแสวงหาความรดู้ ว้ ยตนเอง ✓ 9. ดา้ นใฝเ่ รยี นรู้ 10. ด้านใฝ่ดี ✓ 11. ดา้ นทกั ษะชวี ติ 12. ด้านการอยู่อยา่ งพอเพยี ง มุง่ มัน่ ในการศกึ ษาและการทำงาน ✓ รวม ✓ คะแนนรวม/การแปลผล ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 12 12 2 26/อยใู่ นระดบั ปานกลาง เกณฑ์ คะแนน 12 – 20 ระดบั ศักยภาพน้อย คะแนน 21 – 28 ระดบั ศกั ยภาพปานกลาง คะแนน 29 – 36 ระดบั ศกั ยภาพสูงมาก จากผลการประเมิน พบว่า ระดับศักยภาพของผู้เรียนในสถานศึกษาตามจุดเน้นของ สพฐ. โดยรวมอยู่ใน ระดับปานกลาง เมอ่ื พิจารณาเปน็ รายขอ้ พบวา่ ดา้ นท่ตี ้องได้รับการปรับปรงุ คอื ดา้ นการคดิ ขัน้ สูง และดา้ นการใช้ ภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ) และระดับศักยภาพอยู่ในระดับปานกลาง คือ ด้านอ่านออก อ่านคล่อง เขียนได้ เขียนคลอ่ ง ดา้ นคิดเลขเป็น คดิ เลขคล่อง ด้านการใชเ้ ทคโนโลยเี พ่ือการเรยี นรู้ ดา้ นการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ดา้ นใฝ่เรียนรู้ และด้านทกั ษะชวี ิต ท่ีจะตอ้ งได้รับการส่งเสรมิ ในลำดบั ต่อมา
9 ตอนที่ 3 ผลการประเมินศาสตรก์ ารสอน ตามกรอบแนวคดิ ของหลักสูตรของสถาบันครุ ุพัฒนา ระดบั ศักยภาพ รายการศักยภาพของผ้เู รยี นตามจดุ เนน้ สูงมาก ปานกลาง ยงั ต้อง (3) (2) ปรับปรงุ 1. การสอนในศตวรรษท่ี 21 2. การแก้ปญั หาผเู้ รยี น (1) 3. จติ วิทยาการแนะแนว/จติ วิทยาการจดั การเรียนรู้ 4. การจัดการช้นั เรยี น ✓ 5. การวจิ ัย 6. การพฒั นาหลกั สูตร ✓ 7. สะเต็มศกึ ษา (STEM Education) 8. การใช้สือ่ และเทคโนโลยใี นการจดั การเรยี นรู้ ✓ 9. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 10. การออกแบบการเรยี นรู้ ✓ รวม ✓ คะแนนรวม/การแปลผล ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 9 12 1 22/อยูใ่ นระดบั ปานกลาง เกณฑ์ คะแนน 10 – 16 ระดับศาสตร์การสอนน้อย คะแนน 17 – 23 ระดับศาสตรก์ ารสอนปานกลาง คะแนน 24 – 30 ระดบั ศาสตรก์ ารสอนสูงมาก จากผลการประเมิน พบวา่ ระดบั ศาสตร์การสอน ตามกรอบแนวคดิ ของหลักสูตรของสถาบันครุ พุ ัฒนา โดยรวมอยู่ในระดบั ปานกลาง เมอ่ื พิจารณาเป็นรายข้อ พบวา่ ด้านทต่ี ้องได้รับการปรบั ปรงุ คอื สะเต็มศึกษา (STEM Education) และระดบั ศาสตร์การสอน ปานกลาง คอื การสอนในศตวรรษที่ 21 การวิจัย การพัฒนา หลักสูตร การใชส้ ื่อและเทคโนโลยีในการจดั การเรียนรู้ การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ และการออกแบบการ เรยี นรู้
10 สรปุ ผลการประเมนิ ตนเอง ตอนท่ี 1 ผลการประเมนิ ตนเองตามกรอบของ ก.ค.ศ. ดา้ นท่ี 1 ความรคู้ วามสามารถในการปฏบิ ตั ิงานในหน้าที่ ควรไดร้ บั การส่งเสรมิ ความรใู้ นด้านเน้ือหา รายวชิ า หลกั สูตร การออกแบบ วางแผนการใช้ และการประเมินการใชห้ ลักสูตร พ้ืนฐานการศึกษา หลักการศกึ ษา ปรชั ญาการศึกษา จิตวิทยาสงั คม นโยบายการศึกษา จุดมงุ่ หมายการจดั การศกึ ษาต้งั แต่ระดับชาตจิ นถงึ ระดบั หลักสูตร ทฤษฎีการเรียนรู้และจิตวิทยาการเรียนรู้ การใชเ้ ทคโนโลยี และสอ่ื นวตั กรรมเพอ่ื การเรยี นรู้ และการวดั ประเมินผลการเรยี นรู้ ด้านท่ี 2 ทักษะการปฏิบัติงาน ควรได้รบั การส่งเสริมความรู้ในเรอื่ งของการใชก้ ลยทุ ธ์ในการจดั การเรยี นรู้ พัฒนาการสรา้ งส่ือ นวตั กรรม เทคโนโลยีทางการศึกษา และแหลง่ เรียนรู้ ดา้ นท่ี 3 ความเป็นครู ปฏบิ ัติหน้าทีไ่ ดใ้ นระดบั สงู มาก ตอนท่ี 2 ผลการประเมนิ ศกั ยภาพของผเู้ รยี นในสถานศกึ ษาตามจดุ เน้นของ สพฐ. ระดบั ศักยภาพของผ้เู รยี นในสถานศึกษาตามจดุ เน้นของ สพฐ. ด้านทีต่ ้องได้รบั การปรับปรุง คอื ดา้ นการ คิดข้นั สงู และด้านการใชภ้ าษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ) ตอนท่ี 3 ผลการประเมินศาสตร์การสอน ตามกรอบแนวคิดของหลกั สตู รของสถาบนั คุรพุ ัฒนา ระดบั ศาสตร์การสอน ตามกรอบแนวคิดของหลักสูตรของสถาบันครุ ุพฒั นา ดา้ นท่ีต้องไดร้ ับการ ปรบั ปรุง คือ สะเตม็ ศึกษา (STEM Education) เพื่อนำความรู้ทางวทิ ยาศาสตรไ์ ปเชื่อมโยงกับศาสตร์อ่นื ๆ เช่น คณติ ศาสตร์ เทคโนโลยี รวมไปถึงการใช้กระบวนการทางวิศวกรรมศาสตร์มาชว่ ยแกป้ ญั หาในสถานการณต์ า่ งๆ หรือสร้างนวัตกรรมการเรยี นรู้ขึ้น
11 ส่วนที่ 3 แผนการพัฒนาตนเอง 1. อันดบั ความสำคญั /สมรรถนะทจ่ี ะพัฒนา (ใหใ้ สห่ มายเลขเรยี งลำดับความสำคัญของสมรรถนะทจี่ ะพัฒนา) ( 5 ) การสอนในศตวรรษท่ี 21 ( 2 ) การแกป้ ญั หาผเู้ รยี น ( 8 ) จิตวิทยาการแนะแนว/จิตวทิ ยาการจัดการเรยี นรู้ ( 3 ) การจดั การช้นั เรียน ( 7 ) การวจิ ัยพฒั นาการเรียนการสอน/ชมุ ชนแหง่ การเรียนรทู้ างวชิ าชพี (10) การพฒั นาหลักสูตร ( 9 ) สะเตม็ ศกึ ษา (STEM Education) ( 1 ) การใชส้ ่ือและเทคโนโลยีในการจัดการเรยี นรู้ ( 6 ) การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ( 4 ) การออกแบบการเรียนรู้ 2. วธิ กี าร / รปู แบบการพัฒนา รอการลงทะเบยี นหลกั สูตร และเข้ารบั การอบรมตามหลักสูตร 3. ระยะเวลาในการพฒั นา - 4. การขอรบั การสนบั สนนุ จากหน่วยงาน - 5. ประโยชน์ทคี่ าดว่าจะได้รบั ผลลัพธ์ท่ีคาดหวงั ดา้ นความรู้ พฒั นาความรู้ของตนเอง เพ่อื นำไปใช้ในการจดั การเรยี นรใู้ ห้เกิดประโยชนส์ ูงสดุ กับนกั เรยี น ดา้ นทกั ษะ สามารถจดั การเรียนรู้ได้อย่างหลากหลาย สามารถปฏบิ ัตไิ ด้ด้วยตนเอง และเปน็ ตวั อย่างให้ผู้อ่ืนปฏิบตั ิได้ ด้านความเป็นครู พฒั นาใหม้ ีความพร้อม และมีความเป็นครโู ดยสมบรู ณ์ในทุกด้าน เพ่ือประโยชน์ในการถา่ ยทอดความรู้ ให้กบั นกั เรียน
สว่ นท่ี 4 รายละเอียดการพัฒนาตนเอง อันดบั สมรรถนะทจี่ ะพัฒนา วิธีการ /รูปแบบการพัฒนา ความสำคญั สมรรถนะหลกั 1 การมุ่งผลสมั ฤทธ์ิ จดั กจิ กรรมการเรยี นรูท้ เ่ี น้นผเู้ รยี นเปน็ สำ 1. ความสามารถในการวางแผน โดยเนน้ การจัดการเรยี นรดู้ ว้ ยการปฏบิ ัติ การปฏบิ ตั งิ าน (Active Learning) ร่วมกบั การใชส้ ่ือการส 2. ความสามารถในการปฏิบตั ิงาน และแหล่งเรยี นรู้ เทคโนโลยี ท่คี รไู ดส้ รา้ งแ 3. ผลการปฏิบัตงิ าน รวบรวมข้นึ มาประกอบกับการจดั กิจกรรม เรียนรู้ 9 การบริการทดี่ ี กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ชว่ ยเหลือ ใหค้ ำแนะนำเพ่อื นครูในการเ แผนการจดั การเรียนรู้ แผนการจดั การเรีย รปู แบบ OLA การออกแบบกจิ กรรมการเร เน้นผูเ้ รยี นเปน็ สำคัญ และการพัฒนาคณุ ภ ผเู้ รยี นทง้ั ความรู้ และมีพฤติกรรมทเี่ หมาะ
ระยะเวลาในการพัฒนา การขอรับการ ประโยชนท์ ี่คาดวา่ จะไดร้ ับ เรม่ิ ตน้ ส้ินสุด สนบั สนนุ จาก หนว่ ยงาน ำคญั 1 ต.ค. 31 ม.ี ค. โรงเรยี น ครมู ีแผนการจดั การเรยี นรู้ท่เี น้น 2564 2565 วังจันทร์วิทยา การเรยี นร้โู ดยการปฏบิ ตั ิ มีสือ่ การ สอน เรียนรแู้ ละแนวทางการวดั และ และ ประเมินผลทีห่ ลากหลาย และทำให้ มการ นักเรยี นมผี ลสมั ฤทธเิ์ ป็นไปตาม เกณฑ์ที่กำหนดโดยไมม่ นี ักเรียนมผี ล การเรยี นเปน็ 0, ร และ มส. เขยี น 1 ต.ค. 31 มี.ค. โรงเรียน ครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาไดร้ บั วงั จนั ทร์วทิ ยา ความรู้เกยี่ วกบั การจดั การเรียนรทู้ ี่ ยนรู้ใน 2564 2565 เนน้ ผ้เู รยี นเปน็ สำคญั และการจดั ทำ รียนรู้ท่ี โครงการที่ถูกตอ้ ง ภาพ ะสม 12
อันดับ สมรรถนะทจ่ี ะพัฒนา วธิ กี าร /รปู แบบการพัฒนา ความสำคญั แผนงานและงบประมาณ การพัฒนาตนเอง ใหค้ ำแนะนำ การจัดทำโครงการแก่คร 3 1. ความสามารถในการวิเคราะห์ รวบรวมเอกสารโครงการ การประมาณกา ตนเอง จำนวนเงนิ ในแต่ละโครงการ อย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ การเกบ็ รวบรวมสรปุ โครงกา อย่างมีระบบ ใช้แบบประเมนิ สมรรถนะครขู น้ั พนื้ ฐานป ตนเอง และใหเ้ พอ่ื นครหู รือผบู้ ังคับบัญชา แลว้ นำขอ้ มูลมาวเิ คราะหเ์ พอ่ื ดวู ่า ตอ้ งพัฒ ตนเองในสมรรถนะใด 2. ความสามารถในการจดั กิจกรรม ฝกึ ฝนจัดกจิ กรรมการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสต การเรยี นรู้คกู่ บั การใชเ้ ทคโนโลยี ควบคกู่ บั การใช้เทคโนโลยี ใชเ้ ว็ปไซตส์ ร้าง ออนไลน์ เพอื่ ให้นกั เรยี นไดพ้ ัฒนาก้าวทัน เทคโนโลยี ไดเ้ รียนรูผ้ า่ นเกม และจดั การเ การสอนแบบ Active Learning ทเี่ นน้ ผ้เู ร
ระยะเวลาในการพฒั นา การขอรบั การ ประโยชน์ท่ีคาดว่าจะได้รบั เริม่ ตน้ ส้นิ สุด สนบั สนุนจาก หนว่ ยงาน รู ารใช้เงนิ ส าร ประเมนิ 1 ต.ค. 31 ม.ี ค. โรงเรยี น รู้ว่า ตนเองตอ้ งไดร้ บั การพัฒนาใน าประเมิน 2564 2565 วงั จันทร์วทิ ยา สมรรถนะใดทส่ี ดุ และเขา้ รับการ ฒนา พฒั นาได้ตรงกับความต้องการ และ โรงเรียน ได้ฝกึ ความสามารถในการจดั ตร์ วงั จันทร์วทิ ยา กจิ กรรมการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรท์ ่ี งเกม กระต้นั ทกั ษะการคดิ ได้ฝึก ความสามารถในบูรณาการความรใู้ น เรียน สาขาวชิ าต่าง ๆ ได้แลกเปลี่ยน รยี นเปน็ เรียนรู้ ประสบการณ์ในการจดั การ เรียนรู้
อันดับ สมรรถนะทจี่ ะพัฒนา วธิ กี าร /รปู แบบการพัฒนา ความสำคญั สำคัญ เขา้ ใจความแตกตา่ งระหว่างบุคคล มีความเช่อื มนั่ วา่ นักเรียนสามารถเรียนรู้แล พัฒนาตนเองได้ 3. ความสามารถในการใช้และพัฒนา ฝกึ ฝนการใชเ้ ทคโนโลยเี ข้ามาชว่ ยเป็นสือ่ เทคโนโลยีสารสนเทศ เพอื่ จดั การ เรยี นรู้ และมสี ารสนเทศทเี่ ป็นระบบสำหร เรียนรู้ เตรียมกจิ กรรมการเรยี นรู้ 4. ความสามารถในการวัดและ ฝึกฝนการออกขอ้ สอบจากตน้ แบบทดี่ ี ม ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ วิเคราะหข์ อ้ สอบเพอื่ นำไปปรบั ปรงุ ศึกษา วัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ท่หี ลากหลาย ผลงานวจิ ยั หนังสือการวัดผลและประเมนิ วารสาร และสืบค้นความรู้จากอนิ เตอร์เนต็ 8 การทำงานเปน็ ทมี 1. ความสามารถในการวางแผนเพอ่ื รว่ มกิจกรรมการปฏิบตั ิงานเปน็ ทีม ม การปฏิบตั ิงานเป็นทีม วางแผนงานร่วมกนั ก่อนปฏิบตั ิงาน และรับ ความคดิ เหน็ ของผู้อน่ื เพ่ือได้ข้อสรปุ ทีม่ าจ
ระยะเวลาในการพฒั นา การขอรบั การ ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะได้รับ เริ่มต้น สนิ้ สดุ สนับสนุนจาก หนว่ ยงาน ล ละ อการ โรงเรียน รบั การ วังจันทรว์ ิทยา มีการ โรงเรยี น าวธิ ีการ วังจันทร์วทิ ยา ยจาก นผล ต มกี าร 1 ต.ค. 31 มี.ค. โรงเรียน มีความสามารถในการวางแผนเพือ่ บฟงั 2564 2565 วังจนั ทร์วิทยา ปฏิบตั งิ านเป็นทมี และสามารถ จาก ปฏิบัตงิ านร่วมกบั ผอู้ ่ืนได้เป็นอยา่ งดี 14
อันดับ สมรรถนะทจ่ี ะพฒั นา วธิ ีการ /รูปแบบการพัฒนา ความสำคญั 2. ความสามารถในการปฏบิ ตั งิ าน ความคดิ เห็นของทุกคน และเปดิ โอกาสให ร่วมกัน ในทีมมสี ว่ นร่วมในการปฏิบตั งิ านและเสน ความคิดเหน็ สมรรถนะประจำสายงาน 2 การจัดการเรยี นรู้ ศึกษาเอกสารความรเู้ กี่ยวกบั การสรา้ งแ 1. ความสามารถในการสรา้ งและ พัฒนาหลกั สตู ร พัฒนาหลกั สตู ร เขา้ อบรมกบั โรงเรียน ศึก การบรรยายของวิทยากร การสอบถามคร ผูร้ บั ผิดชอบการทำหลักสตู รสถานศกึ ษา ใ จัดทำหลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้ จากน ข้อมูลเขียนคำอธบิ ายรายวิชา โครงสรา้ งร หนว่ ยการเรยี นรแู้ ละจดั ทำเปน็ แผนการจัด เรียน สื่อการเรยี นรู้ และแนวทางการวัดแ ประเมินผล พร้อมเคร่ืองมอื ตา่ ง ๆ
ระยะเวลาในการพัฒนา การขอรับการ ประโยชนท์ ่คี าดว่าจะได้รับ สนบั สนนุ จาก เริม่ ต้น สน้ิ สุด หน่วยงาน และรับฟังความคิดเหน็ ของเพอื่ นครู มากขึน้ พรอ้ มทงั้ ไดแ้ ลกเปลยี่ นความ หบ้ ุคคล คิดเหน็ เพอื่ ให้การดำเนินงานมี นอแนะ ประสิทธภิ าพมากย่งิ ข้ึน ทำให้เกดิ สมั พันธภาพที่ดใี นการทำงานร่วมกนั และ 1 ต.ค. 31 ม.ี ค. โรงเรยี น เขา้ ใจการจัดทำหลกั สตู รกลมุ่ สาระ วงั จันทรว์ ิทยา การเรยี นรู้ หลักสูตรสถานศกึ ษา กษาจาก 2564 2565 และการนำหลักสูตรไปจดั ทำ รู คำอธิบายรายวชิ า โครงสรา้ งรายวชิ า หนว่ ยการเรยี นรู้และแผนการจดั การ ในการ เรียนรู้ น้นั นำ มีความสามารถในการออกแบบ การจดั การเรยี นรูโ้ ดยใชก้ ิจกรรมการ รายวิชา เรยี นรดู้ ว้ ยการปฏิบตั ิ ร่วมกบั การนำ สือ่ เทคโนโลยีมาชว่ ยสง่ เสรมิ ให้ ดการ และ 15
อนั ดับ สมรรถนะทจ่ี ะพฒั นา วิธีการ /รูปแบบการพัฒนา ความสำคญั 2. ความสามารถในเน้ือหาสาระท่ี ศึกษาค้นควา้ และหาความร้เู พม่ิ เตมิ จาก สอน คมู่ อื วิชาวทิ ยาศาสตร์ทง้ั ภาษาไทยและภา ต่างประเทศ จากวดิ ที ัศน์ และการ Infogr 3. ความสามารถในการจดั ต่างๆ รวมไปถงึ ศึกษาสือ่ และเทคโนโลยีให กระบวนการเรยี นร้ทู ่ีเนน้ ผเู้ รยี นเปน็ นา่ สนใจ สำคญั ศกึ ษาเทคนิควิธกี ารสอนของผสู้ อนท่ีมี ประสบการณ์ด้านการสอน รวมไปถงึ ศึกษ เอกสารคมู่ ือ โดยเนน้ การจดั การเรยี นรู้ที่ให ได้ปฏิบตั ิ 4. ความสามารถในการใชแ้ ละพฒั นา ฝกึ การใชเ้ ทคโนโลยี เพื่อรองรับในการใ นวตั กรรม เทคโนโลยี การเรยี นรู้ สรา้ งและพฒั นานวตั กรรมสำห สารสนเทศ เพ่อื จัดการเรียนรู้ ในการจัดการเรียนรู้ ปรบั ปรุงแกไ้ ขให้มี ประสทิ ธภิ าพท่ีดยี ่งิ ข้ึน 5. ความสามารถในการวดั และ ศกึ ษาขอ้ มลู จากเอกสาร หนังสอื เกยี่ วก ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ วดั และประเมินผลการเรยี นรแู้ ละฝึกการอ
ระยะเวลาในการพฒั นา การขอรับการ ประโยชนท์ ีค่ าดว่าจะไดร้ ับ สนบั สนนุ จาก เริ่มตน้ ส้ินสุด หน่วยงาน นกั เรยี นเรยี นรไู้ ดอ้ ยา่ งเขา้ ใจ และ รวดเร็วยิ่งขึ้น ตลอดจนสามารถ กหนังสอื สืบค้นข้อมลู จากแหลง่ เรียนรู้ได้อยา่ ง าษา ถูกตอ้ งและรวดเร็ว raphic หมๆ่ ท่ี ษาจาก ห้ผเู้ รยี น ใช้สือ่ หรบั ใช้ กับการ ออกแบบ 16
อนั ดับ สมรรถนะทจี่ ะพฒั นา วิธกี าร /รปู แบบการพัฒนา ความสำคญั เคร่ืองมอื เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผลท่ี สอดคล้องกบั ธรรมชาติวิชาและเนอื้ หา การพฒั นาผเู้ รยี น 4 1. การปลกู ฝงั คณุ ธรรม จรยิ ธรรมแก่ จดั กิจกรรมสง่ เสรมิ และปลูกฝงั คณุ ธรร ผู้เรยี น จริยธรรมที่ดีใหก้ ับนักเรียนอย่างสม่ำเสมอ ตอ่ เนอื่ ง ผา่ นกิจกรรมโฮมรมู และในชว่ งเช เขา้ แถวและกจิ กรรมก่อนกลับบ้าน 2. การสง่ เสริมกิจกรรมการคดิ จดั กิจกรรมการเรียนรู้ในหอ้ งเรยี นและ วเิ คราะหผ์ ู้เรียน นอกหอ้ งเรียน โดยเนน้ ใหน้ กั เรยี นได้ฝกึ กา 3. การส่งเสรมิ ทกั ษะและ วิเคราะหผ์ า่ นสถานการณห์ รอื คำถามท่คี ร กระบวนการ และนำมาแลกเปลยี่ นเรยี นรู้กนั ในระหว่าง จดั การเรียนรู้ พรอ้ มทัง้ ฝกึ ใหน้ กั เรยี นอธบิ คดิ น้นั อยา่ งเปน็ ขนั้ ตอน จัดกจิ กรรมท่สี ่งเส ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ และฝ นกั เรยี นมจี ติ วิทยาศาสตร์ มีความรบั ผิดชอ
ระยะเวลาในการพฒั นา การขอรับการ ประโยชนท์ ค่ี าดวา่ จะได้รับ เร่ิมตน้ สิน้ สุด สนับสนุนจาก หน่วยงาน รม 1 ต.ค. 31 มี.ค. โรงเรยี น นกั เรยี นเปน็ บุคคลทมี่ คี ณุ ธรรม วงั จนั ทรว์ ิทยา จรยิ ธรรมในการดำเนนิ ชีวติ อและ 2564 2565 รจู้ กั หน้าทีข่ องตนเอง และการปฏบิ ตั ิ ชา้ ก่อน ตวั ทถี่ กู ต้องตามระเบยี บ กฎเกณฑ์ ของโรงเรยี น ารคดิ รสู รา้ งข้ึน นกั เรยี นมีความสามารถในการคิด งการ วิเคราะห์ในสถานการณ์ตา่ งและมี บายการ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สรมิ มีจติ วทิ ยาศาสตร์ มคี วามสามารถใน ฝกึ ให้ การให้เหตผุ ล การส่ือสารนำเสนอ อบ และมีความคดิ สรา้ งสรรค์ 17
อนั ดับ สมรรถนะทจี่ ะพฒั นา วิธีการ /รูปแบบการพัฒนา ความสำคญั ดำเนนิ การจดั บรรยากาศในการเรียนออ 5 การบริหารจดั การชนั้ เรยี น ให้เออ้ื ตอ่ การเรยี นรู้ ใหน้ กั เรียนไดม้ สี ว่ นร การเรยี นรู้ จัดประสบการณ์ต่าง ๆ ผา่ นกิจ การเรยี นรู้แบบห้องเรยี นกลับด้าน มีกิจกร เรยี นรทู้ หี่ ลากหลาย เชน่ กิจกรรมเกม Ra by Blooket กจิ กรรมเกม Quizzi นำมาเช กบั วทิ ยาศาสตร์ส่ชู วี ติ ประจำวนั ใหค้ วามร รูปแบบ Infographic หรือเอกสารใหค้ วาม เปน็ ข้อมลู ขา่ วสารสำหรับการเรียนรู้ และ ห้อเรียนออนไลนอ์ ยา่ งหลากหลายเพือ่ ใหน้ ไดเ้ ขา้ มาทบทวนบทเรยี น จัดทำเอกสารในชน้ั เรียน เช่น ประวตั ินัก เอกสารการเยย่ี มบ้านนักเรยี น เอกสารข้อ ใช้อินเตอร์เน็ตของนกั เรียน เอกสารการรับ เอกสารบญั ชแี ละการรบั เงินชว่ ยเหลือเยยี นักเรียน ใหเ้ ปน็ ปัจจบุ ันและสามารถนำมา ประกอบการวางแผนในการจัดการเรียนร้ไู
ระยะเวลาในการพัฒนา การขอรับการ ประโยชนท์ ่คี าดว่าจะได้รับ สนบั สนนุ จาก เรม่ิ ตน้ ส้ินสดุ หนว่ ยงาน สามารถบรหิ ารจดั การช้ันเรยี น ออนไลนไ์ ดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพและ อนไลน์ 1 ต.ค. 31 ม.ี ค. โรงเรียน เอ้ือตอ่ การเรียนรู้ของนักเรยี น รว่ มใน 2564 2565 สง่ เสริมใหน้ กั เรียนเรยี นรไู้ ด้อย่างมี จกรรม วังจนั ทร์วทิ ยา ความสขุ นกั เรยี นมปี ฏสิ มั พนั ธ์และ รรมการ แลกเปลย่ี นเรยี นรูป้ ระสบการณผ์ า่ น acing กจิ กรรมต่าง ๆ ในชัน้ เรียน ชือ่ มโยง รใู้ น นอกจากนย้ี งั มรี ปู แบบในการ มรเู้ พื่อ บริหารจดั การชั้นเรียนท่เี ป็นระบบ ะจัดทำ มีขั้นตอน มีเอกสารในช้นั เรียนท่ีเป็น นักเรยี น ปจั จบุ นั และสามารถนำมาใช้เป็น ข้อมูลสารสนเทศในการจัดกจิ กรรม กเรียน การพัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี นได้เป็น อมลู การ อย่างดี บวัคซีน ยวยาของ าใช้ ได้ 18 1
อนั ดับ สมรรถนะทจ่ี ะพฒั นา วิธีการ /รปู แบบการพัฒนา ความสำคัญ จัดระบบดแู ลชว่ ยเหลือนกั เรยี น เอกสาร การคัดกรองนกั เรียนกลมุ่ เสี่ยง เอกสารกา บ้านนกั เรยี น เอกสารการจัดประชมุ ผู้ปกค เครอื ข่าย รวมไปถงึ สร้างชอ่ งทางตดิ ตอ่ ผูป้ (LINE) เพื่อใช้ประสานงานไดส้ ะดวก รวดเ นำขอ้ มูลไปใชใ้ นการพัฒนานกั เรยี นด้าน พฤตกิ รรม ดา้ นการเรียน เป็นตน้ 7 การวิเคราะห์ สงั เคราะหแ์ ละการ วิจัยในชัน้ เรียน 1. ความสามารถในการวิเคราะห์ ศกึ ษาเอกสารและคน้ ควา้ หาความรูเ้ ก 2. ความสามารถในการสงั เคราะห์ การจัดทำวิจยั ในชั้นเรียน รปู แบบการวจิ ัย 3. ความสามารถในการเขยี นเอกสาร ทจ่ี ะชว่ ยในการพฒั นาคุณภาพนกั เรียน แล ทางวชิ าการ วเิ คราะหส์ งั เคราะห์ บนั ทึกหลงั แผนการจ 4. ความสามารถในการวิจยั เรียนรเู้ พ่อื นำมาสกู่ ารค้นพบปญั หาของนัก ตอ้ งแกป้ ญั หาด้านการเรยี นรู้ ดา้ นพฤตกิ ร และดา้ นอนื่ ๆ ทีส่ ำคญั ของนกั เรียน เพ่ือให นักเรยี นสามารถเรยี นรู้เนื้อหาวทิ ยาศาสตร ตามทจ่ี ดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้กำหนดไว้ แล
ระยะเวลาในการพัฒนา การขอรบั การ ประโยชนท์ ่ีคาดวา่ จะได้รบั สนบั สนุนจาก เร่ิมตน้ ส้ินสุด หน่วยงาน ร ารเยี่ยม ครอง ปกครอง เร็ว ก่ียวกบั 1 ต.ค. 31 ม.ี ค. โรงเรียน ครูมีความสามารถในการทำวิจัยใน ยตา่ ง ๆ 2564 2565 วงั จันทรว์ ทิ ยา ช้นั เรยี น โดยการวิเคราะห์ ละ สังเคราะห์ ขอ้ มูลจากบันทกึ หลงั จาก จดั การ การจดั การเรยี นรู้ และศกึ ษาคน้ ควา้ กเรียนที่ หาวิธใี นการแก้ปญั หาทเี่ กดิ ขึ้น รรม จากนน้ั สามารถนำมาเขยี นรายงาน ห้ และจดั ทำรปู เล่มวจิ ัยในชั้นเรียนได้ รไ์ ด้ ล้วนำ 19
อันดบั สมรรถนะทจ่ี ะพัฒนา วิธกี าร /รปู แบบการพัฒนา ความสำคัญ จัดทำรปู เล่ม 1 เร่ืองตอ่ หน่งึ ภาคเรยี น สง่ ย วิจยั และพัฒนา 10 การสร้างความร่วมมือกับชมุ ชน 1. ความสามารถในการนำชมุ ชนมา ดำเนินการประสานงานกับผู้ปกครองเคร มีส่วนร่วมในกิจกรรมของ และประชุมผูป้ กครอง เพอ่ื ชี้แจงแนวทางใ สถานศกึ ษา จัดการศกึ ษาของโรงเรียน นโยบายของผู้บ และการปฏิบตั ิของผ้ปู กครองในการรว่ มก นักเรยี น กับทางโรงเรียน 2. ความสามารถในการเข้าร่วม เขา้ รว่ มกจิ กรรมของชุมชนอยา่ งสมำ่ เสม กิจกรรมของชุมชน การรณรงค์ต่อตา้ นยาเสพติด การทำพธิ ีใน สำคญั ของประเทศ วันสำคญั ทางศาสนา 6 ความประพฤติ วนิ ัย คณุ ธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวชิ าชพี 1. การมีวินยั อทุ ศิ เวลาใหก้ ับการทำงานมาโรงเรียนก่อ 2. การประพฤติปฏิบัตติ นเปน็ กลับบา้ นหลงั เวลา ลงเวลาทกุ ครงั้ รบั ผิดช แบบอยา่ งที่ดี หนา้ ท่ีทไี่ ด้รบั มอบหมายอยา่ งเต็มความสา
ระยะเวลาในการพฒั นา การขอรับการ ประโยชนท์ ค่ี าดว่าจะไดร้ ับ เร่ิมตน้ ส้นิ สุด สนับสนุนจาก ยงั ฝ่าย หนว่ ยงาน รือขา่ ย 1 ต.ค. 31 มี.ค. โรงเรยี น โรงเรยี นและชมุ ชนมคี วามสัมพนั ธ์ ในการ 2564 2565 วังจันทร์วทิ ยา อันดตี อ่ กัน และชว่ ยเหลอื เอื้อเฟอื้ ซงึ่ บรหิ าร กันและกนั กนั พัฒนา ผปู้ กครองได้เข้ามามสี ่วนร่วมใน มอ เช่น การพัฒนาคณุ ภาพนักเรยี น และเหน็ นวนั ความสำคญั ในการพัฒนาคณุ ภาพ การศึกษาโรงเรียน อนเวลา 1 ต.ค. 31 ม.ี ค. โรงเรยี น ครูเปน็ ผ้มู ีวินัยในการปฏบิ ตั ิงาน วงั จนั ทริวทิ ยา เป็นแบบอย่างท่ีดตี อ่ นักเรียน ชอบตอ่ 2564 2565 เพื่อนร่วมงาน และผ้ปู กครอง ามารถ 20
อนั ดับ สมรรถนะทจี่ ะพฒั นา วธิ ีการ /รูปแบบการพัฒนา ความสำคญั สามารถทำงานรว่ มกบั ผอู้ ืน่ ไดอ้ ยา่ งมี 3. การดำรงชพี อย่างเหมาะสม ประสทิ ธภิ าพ เห็นประโยชนส์ ว่ นรวมมากอ่ 4. ความรกั และศรัทธาในวิชาชีพ ประโยชนส์ ว่ นตน 5. ความรบั ผดิ ชอบในวิชาชีพ ประพฤติปฏิบตั ติ นเปน็ แบบอยา่ งที่ดีให นักเรียนและเพ่ือนครู เช่น การแตง่ กายให ตามระเบียบ และสภุ าพเรยี บร้อย ใช้คำพูด ทส่ี ุภาพ สรา้ งสรรค์ ไมบ่ ดิ เบือนไปจากควา เขา้ รว่ มกิจกรรมท่สี ่งเสริมความรกั และศ ในวชิ าชพี เชน่ การประชุม สัมมนาในรปู แ ออนไลนท์ จ่ี ัดโดยองค์กรวชิ าชีพครู เช่น ค สำนกั งานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา ชมนทิ รรศการออนไลน์ เป็นต้น เข้าร่วมศ งาน เพื่อแลกเปลย่ี นเรียนร้แู นวทางในการ เรยี นรเู้ พือ่ พฒั นาคุณภาพผู้เรยี น และศึกษ แบบอย่างที่ดจี ากครผู ้มู ปี ระสบการณ์ นอก ยงั เปน็ แบบอยา่ งให้เพอ่ื นครูได้วางแผนกา ปฏิบัตงิ านอย่างเปน็ ระบบ และนำผลการก
ระยะเวลาในการพฒั นา การขอรับการ ประโยชนท์ ีค่ าดวา่ จะไดร้ บั สนับสนนุ จาก เรม่ิ ตน้ สน้ิ สุด หนว่ ยงาน ครมู คี วามรัก ศรทั ธาในวชิ าชีพ และมีความรบั ผดิ ชอบในวิชาชพี ครู อน รว่ มกจิ กรรมสำคญั ทส่ี ง่ เสรมิ ความรัก และศรทั ธาในวิชาชพี อย่างสม่ำเสมอ หก้ บั และเข้าร่วมการพฒั นาตนเองและ ห้ถกู ต้อง พัฒนาวิชาชพี เป็นประจำอยา่ ง ด ตอ่ เนอ่ื ง ามจรงิ ศรัทธา แบบ คุรุสภา เข้าร่วม ศกึ ษาดู รจัดการ ษา กจากน้ี าร การจดั 21
อนั ดับ สมรรถนะทจี่ ะพัฒนา วธิ ีการ /รปู แบบการพัฒนา ความสำคญั การศึกษามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันผ่าน กระบวนการ PLC ศึกษาเก่ยี วกับหลกั ปรชั ญาของเศรษฐก พอเพยี งและนำมาปรับประยกุ ต์ใชใ้ นการด ชีวิต พร้อมทั้งนำความรู้น้ไี ป ถ่ายทอดใหก้ นกั เรียน เพ่ือใหน้ กั เรยี นไดน้ ำไปปฏิบตั ิผา่ กจิ กรรม สถานการณ์ตา่ ง ๆ ในห้องเรียน และเน้นยำ้ ให้นักเรยี นเหน็ คณุ คา่ และประโ ของหลักปรชั ญาของเศรษกจิ พอเพียง ลงชอ่ื ........................................................................ (นางสาวธันยาภรณ์ จลุ ศักด)ิ์ ผ้จู ดั ทำแผนพัฒนาตนเอง
ระยะเวลาในการพฒั นา การขอรับการ ประโยชน์ทีค่ าดว่าจะไดร้ บั เรม่ิ ต้น ส้ินสุด สนับสนนุ จาก หนว่ ยงาน กิจ ดำเนนิ กบั าน โยชน์ ความเหน็ ของผูบ้ ังคบั บญั ชา 22 ……………………………………………………………………… ……………………………………………………………………… ลงชอื่ ........................................................................ (นายศักดา สรรเสริญ) ผู้อำนวยการโรงเรยี นสนุ ทรภพู่ ิทยา ปฏิบตั หิ นา้ ที่ ผู้อำนวยการโรงเรียนวงั จันทร์วทิ ยา
23 ประวัติการเข้าการรบั พัฒนา (1 ภาคเรยี น) ลำดบั ท่ี เรอ่ื ง หนว่ ยงาน จำนวน หมายเหตุ ชว่ั โมง - ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 - - 1 ผา่ นอบรม Microsoft Teams Education OBEC excellent - - center - 2 เข้ารบั การอบรมและผา่ นการทดสอบการใช้ กระทรวงศึกษาธกิ าร งานระบบมาตรฐานดา้ นความปลอดภยั สำนกั งานคณะกรรมการ (MOE Safety Platform) การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน 2 ผ่านการอบรมโครงการอบรมเชงิ ปฏิบัติการ กระทรวงศกึ ษาธิการ เสรมิ สร้างศักยภาพขา้ ราชการครูและ สถาบันสง่ เสรมิ การสอน บคุ ลากรทางการศึกษาดว้ ยกระบวนการ วทิ ยาศาสตร์และ Active Learning ผา่ นระบบออนไลน์ เทคโนโลยี ตลาดนัดการเรยี นรู้วงั จันทร์เกษม เฟส 2 - กจิ กรรมที่ 1 คุณธรรมสรา้ งสุขสำหรับ ครูส่ผู เู้ รียน - กิจกรรมท่ี 2 การสร้างวนิ ยั สู่ความเปน็ เลศิ ทางกีฬา - กิจกรรมที่ 3 เปิดโลกการศึกษา ไรข้ ีดจำกดั ในยุคจักรวาลนฤมิต - กจิ กรรมท่ี 4 ค่านยิ มที่ดงี ามของเดก็ และเยาวชน - กจิ กรรมที่ 6 จำอวดหนา้ วงั (จนั ทรเกษม) “ศลิ ปวฒั นธรรม พื้นบ้าน รากฐานการศกึ ษา สุนทรยี ภาพทางปัญญา คณุ ค่ามรดก แผน่ ดนิ ” - กิจกรรมที่ 7 ส่ือยคุ ใหม่ การศึกษา ออนไลน์ - กิจกรรมท่ี 8 การสอนใหส้ นุกจากครูท่ี มปี ระสบการณ์ - กิจกรรมที่ 9 หลักการปฏบิ ัตริ าชการ - กิจกรรมที่ 10 Active Learning
24 เกยี รติบตั ร/วุฒิบัตร ในการเขา้ รว่ มพัฒนาตนเอง สำเนาถกู ต้อง = (นางสาวธันยาภรณ์ จลุ ศักด์)ิ
25 เกยี รติบตั ร/วฒุ ิบัตร ในการเขา้ ร่วมพัฒนาตนเอง สำเนาถูกตอ้ ง (นางสาวธันยาภรณ์ จุลศกั ดิ์)
26 เกยี รติบตั ร/วฒุ ิบัตร ในการเขา้ ร่วมพัฒนาตนเอง สำเนาถูกตอ้ ง (นางสาวธันยาภรณ์ จุลศกั ดิ์)
27 เกยี รติบตั ร/วฒุ ิบัตร ในการเขา้ ร่วมพัฒนาตนเอง สำเนาถูกตอ้ ง (นางสาวธันยาภรณ์ จุลศกั ดิ์)
28 เกยี รติบตั ร/วฒุ ิบัตร ในการเขา้ ร่วมพัฒนาตนเอง สำเนาถูกตอ้ ง (นางสาวธันยาภรณ์ จุลศกั ดิ์)
29 เกยี รติบตั ร/วฒุ ิบัตร ในการเขา้ ร่วมพัฒนาตนเอง สำเนาถูกตอ้ ง (นางสาวธันยาภรณ์ จุลศกั ดิ์)
30 เกยี รติบตั ร/วฒุ ิบัตร ในการเขา้ ร่วมพัฒนาตนเอง สำเนาถูกตอ้ ง (นางสาวธันยาภรณ์ จุลศกั ดิ์)
31 เกยี รติบตั ร/วฒุ ิบัตร ในการเขา้ ร่วมพัฒนาตนเอง สำเนาถูกตอ้ ง (นางสาวธันยาภรณ์ จุลศกั ดิ์)
32 เกยี รติบตั ร/วฒุ ิบัตร ในการเขา้ ร่วมพัฒนาตนเอง สำเนาถูกตอ้ ง (นางสาวธันยาภรณ์ จุลศกั ดิ์)
33 เกยี รติบตั ร/วฒุ ิบัตร ในการเขา้ ร่วมพัฒนาตนเอง สำเนาถูกตอ้ ง (นางสาวธันยาภรณ์ จุลศกั ดิ์)
34 เกยี รติบตั ร/วฒุ ิบัตร ในการเขา้ ร่วมพัฒนาตนเอง สำเนาถูกตอ้ ง (นางสาวธันยาภรณ์ จุลศกั ดิ์)
35 เกยี รติบตั ร/วฒุ ิบัตร ในการเขา้ ร่วมพัฒนาตนเอง สำเนาถูกตอ้ ง (นางสาวธันยาภรณ์ จุลศกั ดิ์)
36 ภาพกิจกรรม ประชมุ ผปู้ กครอง ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1/7 เพอ่ื สร้างความเข้าใจ แลกเปลย่ี นความคิดเหน็ และผสานความรว่ มมือระหวา่ งครทู ่ปี รึกษาและผู้ปกครอ
Search