ส่อื การเรยี นร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 14 : แบบฝกึ หดั
ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 14 : แบบฝึกหัด (ต่อ)
ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 14 : เฉลยแบบฝกึ หดั
ส่อื การเรยี นรู้แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 14 : เฉลยแบบฝกึ หัด (ตอ่ )
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 15 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชา ว21102 ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 1 เวลา 1 คาบเรยี น ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 พลังงานความร้อน เร่ือง การคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปล่ียนสถานะของสาร 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธร์ ะหวา่ งสสารและพลังงาน พลังงานในชวี ิตประจําวัน ธรรมชาติของคลนื่ ปรากฏการณท์ เี่ กี่ยวข้อง กบั เสยี ง แสง และคลน่ื แม่เหล็กไฟฟ้ารวมทงั้ นําความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตวั ชี้วัด ตวั ชีว้ ดั ม.1/1 วเิ คราะห์ แปลความหมายข้อมูล และคำนวณปรมิ าณความร้อนท่ีทำให้สสาร เปลย่ี นอณุ หภมู ิ และเปลีย่ นสถานะ โดยใช้สมการ Q = mc∆t และ Q = mL 2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด สาระสําคญั ความรอ้ นมีผลต่อการเปล่ียนสถานะของสสาร เม่ือใหค้ วามร้อนแก่ของแข็ง อนุภาคของของแข็ง จะมพี ลังงานและอุณหภูมเิ พ่ิมขึ้นจนถึงระดับหนงึ่ ซึง่ ของแข็งจะใชค้ วามร้อนในการเปล่ยี นสถานะเป็น ของเหลว เรียกความรอ้ นท่ีใช้ในการเปลยี่ นสถานะจากของแข็งเปน็ ของเหลวว่า ความร้อนแฝงของการ หลอมเหลว และอุณหภูมิขณะเปลี่ยนสถานะจะคงท่ี เรยี กอณุ หภมู ิน้ีวา่ จดุ หลอมเหลว 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ดา้ นพทุ ธพิ สิ ยั (Cognitive domain) นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความร้เู กีย่ วกับการคำนวณปรมิ าณความร้อนกับการเปลี่ยนสถานะของ สารโดยใชส้ มการ Q = mL ได้ ดา้ นทกั ษะพสิ ัย (Psychomotor domain) นกั เรียนสามารถคำนวณปริมาณความร้อนกบั การเปล่ียนสถานะของสารโดยใชส้ มการ Q = mL ได้ ดา้ นจิตพิสัย (Affective domain) นกั เรียนมสี ่วนร่วมในกจิ กรรมการเรยี นรอู้ ยใู่ นระดับดี
4. คุณลกั ษณะผ้เู รียน 4.1 คณุ ลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ อยูอ่ ย่างพอเพียง ซ่ือสัตยส์ จุ ริต ม่งุ มั่นในการทำงาน มวี ินัย รกั ความเป็นไทย ใฝเ่ รยี นรู้ มจี ิตสาธารณะ 5. ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น ความสามารถในการคดิ : นกั เรียนสามารถอธบิ ายความรู้เกยี่ วกับการคำนวณปริมาณความร้อนกับ การเปลยี่ นสถานะของสาร โดยใชส้ มการ Q = mL ได้ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี : นกั เรียนสามารถใช้เทคโนโลยใี นการเรยี นรู้ได้ 6. สาระการเรยี นรู้ การเปล่ยี นสถานะของสารอาจเปน็ การเปลี่ยนแปลงประเภทดดู พลังงานหรือคายพลังงาน ตัวอย่างการ เปลยี่ นแปลงสถานะของสารท่ีพบในชวี ิตประจำวันได้แก่ นำ้ แขง็ หลอมเหลวกลายเป็นนำ้ และนำ้ ได้รับความร้อน กลายเป็นไอเป็นการเปลี่ยนแปลงประเภทดูดความร้อน ในทางตรงกันข้ามเมื่อไอน้ำเปลี่ยนสถานะกลับมาเป็น น้ำและน้ำแข็ง เป็นการเปล่ยี นแปลงประเภทคายความร้อน การคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปลีย่ นแปลงของสาร สามารถแยกพิจารณาได้ 2 กรณี ดังน้ี กรณีที่ 1 การคำนวณปรมิ าณความรอ้ นกบั การเปล่ียนแปลงอณุ หภูมิ คำนวณไดจ้ าก สมการ Q = mc∆t เม่ือ Q คอื ปริมาณความร้อนทสี่ ารได้รบั มีหน่วยเป็นแคลอรี m คือ มวลของสาร มหี น่วยเป็นกรัม c คือ ความรอ้ นจำเพาะของสาร มีหนว่ ยเป็น แคลอรตี อ่ กรัม×องศาเซลเซียส ∆t คือ อณุ หภูมิของน้ำทเี่ ปล่ยี นไป มีหน่วยเปน็ องศาเซลเซยี ส กรณที ี่ 2 การคำนวณปรมิ าณความรอ้ นท่ีกับการเปลย่ี นสถานะ คำนวณไดจ้ าก สมการ Q = mL เม่ือ Q คอื ปรมิ าณความรอ้ น มีหน่วยเปน็ แคลอรี m คอื มวลของสาร มีหน่วยเป็นกรมั L คอื ความรอ้ นแฝงจำเพาะของสาร มหี น่วยเปน็ แคลอรีตอ่ กรมั น้ำมีค่าความร้อนแฝงจำเพาะของการหลอมเหลว 80 แคลอรีต่อกรัม หมายความว่า ในการทำน้ำแข็ง 1 กรมั ใหห้ ลอมเหลวเปน็ น้ำ ต้องใชพ้ ลงั งานความร้อน 80 แคลอรี นำ้ มีค่าความร้อนแฝงจำเพาะของการกลายเป็นไอ 540 แคลอรตี ่อกรัม หมายความว่า ในการทำนำ้ 1 กรมั อณุ หภมู ิ 100 องศาเซลเซียส ใหเ้ ปล่ียนเป็นไอนำ้ 1 กรัม อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซยี ส ต้องใช้พลังงาน ความรอ้ น 540 แคลอรี
7. กจิ กรรมการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นร้แู บบห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom) 7.1 ขน้ั กำหนดยทุ ธวิธีเพมิ่ พูนประสบการณ์ (Experiential Engagement) (ในชั้นเรยี น) นกั เรียนทบทวนความร้เู ดมิ เกี่ยวกับผลของความร้อนกบั การเปล่ยี นสถานะของสาร ผ่านประเดน็ คำถามทค่ี รูตัง้ ขน้ึ จากสถานการณจ์ ำลอง “การเปลย่ี นรปู รา่ งของช็อกโกแลต” ดงั นี้ - นกั เรียนคดิ ว่า เพราะเหตใุ ดชอ็ กโกแลตจึงมรี ูปร่างทแ่ี ตกต่างไปจากเดิม (แนวคำตอบ ชอ็ กโกแลตเกิดการละลาย) - นักเรียนคิดวา่ ช็อกโกแลตที่เกิดการละลายนนั้ มีการเปลีย่ นแปลงอยา่ งไร (แนวคำตอบ เปน็ การเปลย่ี นสถานะจากของแข็งเป็นของเหลว โดยเปล่ียนแปลงประเภทดูดความ ร้อน) - นอกจากสถานการณ์จำลองน้ี นกั เรียนเคยพบเหน็ หรอื มีประสบการณเ์ ก่ียวข้องกบั การพลังงาน ความรอ้ นกบั การเปลย่ี นแปลงสถานะของสารอย่างไรบ้าง และเหตกุ ารณ์ท่ีนักเรยี นเคยพบเหน็ มี ความสัมพนั ธ์ระหว่างการปริมาณความร้อนกับการเปลี่ยนสถานะอย่างไร (พจิ ารณาจากความเหมาะสมของคำตอบ) 7.2 ข้ันสบื ค้นเพื่อใหเ้ กิดมโนทัศน์รวบยอด (Concept Exploration) (ศึกษานอกเวลาเรยี น) นกั เรียนสบื คน้ และศกึ ษาวิดีโอ 3 : การคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปล่ยี นสถานะของสาร เพอ่ื ตอบคำถามในแบบฝกึ หัดขอ้ ที่ 1 เรื่องการคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปลย่ี นสถานะของสาร ดังน้ี - สมการการคำนวณปรมิ าณความร้อนกับการเปลี่ยนสถานะของสาร Q = mL เมื่อ Q คอื ปรมิ าณความรอ้ น มีหน่วยเป็นแคลอรี m คือ มวลของสาร มหี น่วยเป็นกรมั L คอื ความร้อนแฝงจำเพาะของสาร มหี นว่ ยเป็นแคลอรตี อ่ กรมั - ขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหาการคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปลี่ยนแปลงของสารตาม แนวคิดของ Polya (1957) 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1. ทำความเข้าใจปัญหา 2. วางแผนการแกป้ ญั หา 3. ดำเนินการตามแผน 4. ตรวจสอบผลลัพธ์
โดยใหน้ ักเรียนศกึ ษาจากแหลง่ สบื ค้นข้อมูลท่ีครูไดจ้ ัดเตรยี มไวใ้ ห้ ดงั ต่อไปนี้ Google Classroom : https://classroom.google.com/c/MzY4NDU4NDgwMTE1/p/NDQyOTM2MTg3ODQw/details Google sites : https://sites.google.com/wangchan.ac.th/mind-science Facebook Group : https://www.facebook.com/Mind.Julasak.MJ/videos/ 3137393076501379 นักเรยี นสรุปความคิดสำคัญ เรื่อง การคำนวณปรมิ าณความร้อนกับการเปล่ยี นสถานะของสาร ลงในสมุด 7.3 ขั้นสรา้ งองค์ความรู้อย่างมคี วามหมาย (Meaning Making) (ศึกษานอกเวลาเรียน) นักเรียนสรา้ งองคค์ วามรู้ เร่ือง การคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปลีย่ นสถานะของสาร ลงใน สมุด และใหน้ กั เรียนร่วมกันอภปิ รายวธิ ีการแก้โจทยก์ ารคำนวณของแบบฝกึ หัดข้อท่ี 1 ผ่านโพสตใ์ น Facebook Group จากโจทย์การคำนวณ ขอ้ ท่ี 1 ต้องใช้ปรมิ าณความร้อนเทา่ ใดในการทำใหแ้ ทง่ ทองแดงมวล 50 กรัม อณุ หภมู ิ 1,083 องศาเซลเซยี ส หลอมเหลวทัง้ หมดพอดี (ความร้อนแฝงจำเพาะของการหลอมเหลวของทองแดงเทา่ กบั 32 แคลอรี/กรมั ) นกั เรยี นศึกษาและลงข้อสรปุ จากส่ิงทีน่ ักเรยี นศกึ ษา ใหไ้ ด้ถึงขัน้ ตอนการคำนวณปรมิ าณความรอ้ น กับการเปลี่ยนสถานะของสาร การคำนวณ การหาคำตอบ และการตรวจคำตอบ 7.4 ขน้ั สาธิตและประยกุ ต์ใช้ (Demonstration & Application) (ในชัน้ เรียน) ครสู าธติ การแก้โจทยป์ ัญหาการคำนวณปรมิ าณความร้อนกับการเปล่ยี นสถานะของสาร โดย กระบวนการแก้โจทยป์ ัญหาโดยใชก้ ระบวนการของ Polya โดยเร่ิมจากการอธิบายกระบวนการการแก้ โจทย์ปัญหาตามแนวคดิ ของ Polya วา่ ประกอบไปด้วย 4 ข้นั ตอน ไดแ้ ก่ ข้ันที่ 1 ทำความเข้าใจโจทย์ ปญั หา ขั้นที่ 2 วางแผนแก้โจทย์ปญั หา ขั้นที่ 3 ปฏิบตั ิตามแผน ขนั้ ที่ 4 ตรวจสอบผลลพั ธ์ พรอ้ มทัง้ อธิบาย รายละเอยี ดในแต่ละขัน้ ตอน ดังน้ี ข้อท่ี 1 ต้องใชป้ รมิ าณความรอ้ นเท่าใดในการทำให้แทง่ ทองแดงมวล 50 กรัม อุณหภูมิ 1,083 องศาเซลเซียส หลอมเหลวท้ังหมดพอดี (ความร้อนแฝงจำเพาะของการหลอมเหลวของทองแดงเท่ากบั 32 แคลอรี/กรัม)
ข้นั ที่ 1 ทำความเขา้ ใจโจทย์ปญั หา นักเรยี นและครรู ่วมกนั วิเคราะห์ทำความเขา้ ใจโจทย์ โดยให้ นกั เรียนร่วมบอกรายละเอยี ดว่าโจทยป์ ัญหาวา่ เปน็ เร่ืองราวเกย่ี วกับอะไร บอกสง่ิ ท่ีโจทย์กำหนดให้ บอกส่ิง ที่โจทย์ถาม ผา่ นการตง้ั คำถาม ดงั นี้ - โจทยป์ ญั หาข้อนเ้ี ปน็ เร่ืองราวเก่ียวกบั อะไร - โจทย์กำหนดอะไรให้บา้ ง - โจทย์กำหนดประโยค “หลอมเหลวทัง้ หมดพอดี” หมายความวา่ อยา่ งไร - โจทย์ถามอะไร โดยให้นักเรยี นเขียนสิง่ ท่ีโจทยก์ ำหนดให้พร้อมหน่วย ดา้ นบทโจทยป์ ญั หา ขั้นท่ี 2 วางแผนแกป้ ัญหา นักเรยี นรว่ มกนั แกโ้ จทยป์ ัญหาโดยให้นักเรียนบอกขั้นตอน วธิ ีการหา คำตอบวา่ ต้องทำอย่างไร - ตอ้ งใชป้ รมิ าณความร้อนเทา่ ใด หมายถึงใหห้ าค่า Q โดยทองแดงมวลมมี วล 50 กรัม โจทย์ กำหนดอุณหภมู ิของทองแดงมคี า่ 1,083 องศาเซลเซยี ส แต่เมื่อสารเปลย่ี นสถานะอุณหภมู จิ ะคงที่ ดังนนั้ จงึ ไมใ่ ชค้ า่ อณุ หภมู ิมาคำนวณ โจทย์กำหนดให้ความรอ้ นแฝงจำเพาะของการหลอมเหลวของทองแดง มคี า่ 32 แคลอร/ี กรัม จากนน้ั นำค่าไปแทนในสมการ เพ่ือหาคำตอบคา่ Q - นำคา่ ทีโ่ จทยก์ ำหนดใหแ้ ทนลงในสมการ Q = mL เพ่อื หาคำตอบของโจทยป์ ญั หาข้อนี้ ขัน้ ที่ 3 ปฏิบัติตามแผน นักเรยี นและครูลงมอื ปฏิบตั ิตามแผน โดยคดิ คำนวณหาคำตอบและ แสดงวิธที ำ เพ่อื คำตอบของโจทยป์ ญั หา ดังน้ี จากสมการ Q = mL แทนคา่ ������ = 50 ������ 32 Q = 1,600 ดังนนั้ ต้องใช้ปรมิ าณความร้อน 1,600 แคลอรี ขน้ั ที่ 4 ตรวจสอบผลลัพธ์ นกั เรียนและครูรว่ มกันพจิ ารณาความสมเหตุสมผลของคำตอบที่ได้ รวมถงึ พิจารณาวธิ ีการแกป้ ัญหาอ่ืน ๆ อีกหรือไม่ ผ่านการต้ังคำถาม ดงั น้ี - จะมวี ิธกี ารใดในการแก้โจทย์ปัญหาอื่น ๆ อีกหรอื ไม่ อย่างไร - นกั เรียนมีวธิ กี ารตรวจสอบผลลพั ธข์ องตนเองวา่ คำตอบถูกต้องหรอื ไม่ อยา่ งไร
นกั เรียนและครูทำแบบฝึกหดั เรือ่ ง ความรอ้ นกับการเปล่ียนแปลงอณุ หภูมิของสาร หนา้ ที่ 3 ครถู ามนักเรยี นเป็นระยะเพอื่ กระตุน้ และตรวจสอบความเข้าใจ แนะนำ ชว่ ยเหลือนกั เรยี น และตรวจสอบ นักเรียนและใหน้ ักเรียนส่งแบบฝกึ หัดเพ่ือนำมาตรวจสอบการทำงานของนักเรยี นอีกครั้งหน่งึ 8. ชนิ้ งาน / ภาระงาน - แบบฝดึ หัด เร่อื ง การคำนวณปรมิ าณความร้อนกับการเปล่ยี นสถานะของสาร 9. สื่อการเรยี นรู้ / แหล่งเรียนรู้ Google Classroom : https://classroom.google.com/c/MzY4NDU4NDgwMTE1/p/NDQyOTM2MTg3ODQw/details Google sites : https://sites.google.com/wangchan.ac.th/mind-science Facebook Group : https://www.facebook.com/Mind.Julasak.MJ/videos/3137393076501379
10. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ จดุ ประสงค์ วธิ กี ารวัด เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมนิ 1. ดา้ นพุทธิพิสยั (Cognitive domain) นักเรียนสามารถอธิบาย การตอบคำถาม ขอ้ คำถาม ตอบคำถามไดถ้ ูกต้องรอ้ ยละ 70 ความรเู้ กี่ยวกบั การ ในชัน้ เรียน คำนวณปรมิ าณความ รอ้ นกบั การเปล่ียน สถานะของสาร โดยใช้ สมการ Q = mL ได้ 2. ดา้ นทกั ษะพสิ ัย (Psychomotor domain) นักเรียนสามารถคำนวณ การทำแบบฝึกหดั แบบฝกึ หัด ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ทักษะ ปริมาณความร้อนกับ การคำนวณปริมาณความรอ้ นกบั การเปลี่ยนสถานะของ การเปลย่ี นแปลงของสาร สาร โดยใชส้ มการ ร้อยละ 70 Q = mL ได้ 3. ด้านจติ พิสยั (Affective domain) นกั เรยี นมีส่วนร่วม สงั เกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรม มสี ว่ นร่วมในกิจกรรมการเรยี นรู้ ในกจิ กรรมการเรียนรู้ อยใู่ นระดับดี การเรยี น การเรยี น ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70
แบบวเิ คราะหก์ ารประเมินผลการเรยี นรู้ (Assessment blueprint) แบบวเิ คราะหก์ ารประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (Assessment blueprint) ประกอบด้วย วัตถปุ ระสงค์ การเรียนรู้ท่ตี ้องการวัด และความสอดคล้องดา้ นพทุ ธพิ ิสยั ทกั ษะพสิ ยั และจติ พิสยั วตั ถปุ ระสงค์ พฤตกิ รรมการประเมิน เทคนคิ ระดับพฤตกิ รรม (%) การ พทุ ธิพิสยั จติ พสิ ัย ประเมนิ ทกั ษะพสิ ยั 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม นักเรยี นสามารถ แบบประเมนิ อธิบายความรู้ การตอบ เกย่ี วกบั การ คำถาม คำนวณปริมาณ ความรอ้ นกับการ 20 40 40 100 เปล่ยี นสถานะของ สารโดยใชส้ มการ Q = mL 2. นกั เรียน 20 40 40 100 แบบประเมิน สามารถคำนวณ 20 40 20 ทักษะการ ปรมิ าณความร้อน แก้ปญั หา กับการเปล่ียน โจทย์การ สถานะของสาร คำนวณ โดยใช้สมการ ปรมิ าณความ Q = mL ได้ ร้อนกับการ เปลีย่ นสถานะ 3. นักเรยี นมี ของสาร ส่วนรว่ มใน กิจกรรมการ แบบสงั เกต เรยี นรู้ พฤติกรรม อยู่ในระดบั ดี 20 100 การเรยี น รวม 20 40 40 100 20 40 40 100 20 40 20 20 100
**หมายเหตุ : ความหมายของตารางวเิ คราะหก์ ารประเมิน พุทธิพิสยั ทกั ษะพสิ ยั จิตพสิ ัย 1 = ความจำ 1 = การรับรู้ 1 = การรบั รสู้ ิง่ เร้า 2 = เข้าใจ 3 = นำไปใช้ 2 = การตระเตรยี ม 2 = การตอบสนอง 4 = วเิ คราะห์ 5 = ประเมินคา่ 3 = การตอบสนองตามคำช้ีแนะ 3 = การสร้างคณุ ค่า 6 = สรา้ งสรรค์ 4 = การสร้างกลไก 4 = การจดั ระบบคุณค่า 5 = การตอบสนองท่ซี ับซ้อนขึ้น 5 = การสร้างลกั ษณะนสิ ยั 6 = การดดั แปลงให้เหมาะสม 7 = การรเิ ริม่ ใหม่
คำอธบิ ายประกอบการประเมนิ ดา้ นพทุ ธิพสิ ัย (Cognitive domain) แบบประเมนิ การตอบคำถาม คำชแี้ จง : ให้ผปู้ ระเมนิ ทำการตอบคำถามของนักเรยี น ตามเกณฑก์ ารประเมินการตอบคำถาม (ความถูกต้อง) ลำดบั ชื่อ - สกุล ระดับคะแนน สรปุ การประเมนิ ที่ 5 4 3 2 1 0 ผ่าน ไมผ่ า่ น 1 2 3 4 5 6 ลงชื่อ.....................................................ผปู้ ระเมนิ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศกั ด์ิ) วันที.่ ............เดือน.....................พ.ศ............ เกณฑ์การประเมินการตอบคำถาม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : พจิ ารณาดังตารางต่อไปนี้ ประเด็นที่ 5 4 ระดบั คะแนน 1 0 ประเมนิ 32 คำตอบ คำตอบถกู ตอ้ ง คำตอบ คำตอบ คำตอบ ถกู ต้อง 5 ข้อ ถกู ตอ้ ง คำตอบ คำตอบถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ไมถ่ กู ตอ้ ง 4 ข้อ ถกู ต้อง 2 ข้อ 1 ขอ้ 3 ขอ้ เกณฑ์การผา่ นการประเมนิ : นกั เรียนมรี ะดบั คะแนน 3 ข้ึนไป
คำอธบิ ายประกอบการประเมนิ ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor domain) แบบประเมนิ ทักษะการแกป้ ัญหาโจทยก์ ารคำนวณปรมิ าณความรอ้ นกับการเปล่ียนแปลงของสาร คำช้แี จง : ใหผ้ ูป้ ระเมนิ ทำการประเมนิ แบบประเมินทกั ษะการแก้ปัญหาโจทย์การคำนวณ ลำดบั ระดับคะแนน สรปุ การประเมนิ ที่ ชอื่ - สกลุ 9- 7-8 5-6 3-4 1- 0 ผา่ น ไมผ่ ่าน 10 2 1 2 3 4 5 6 ลงชื่อ.....................................................ผ้ปู ระเมนิ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศักดิ)์ วนั ท.ี่ ............เดือน.....................พ.ศ
เกณฑ์การประเมนิ ทกั ษะการแก้ปัญหาโจทย์การคำนวณปรมิ าณความรอ้ นกับการเปลี่ยนแปลงของสาร เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : พิจารณาดงั ตารางต่อไปนี้ เกณฑ์การใหค้ ะแนน คะแนน 1. ทำความเข้าใจปญั หา 2 - เขียนสงิ่ ทโ่ี จทยกำหนดให้ และสงิ่ ทโ่ี จทย์ถามได้ถูกตอ้ งครบถ้วน 2 - เขียนสิ่งทโี่ จทยกำหนดให้ และสิ่งท่โี จทยถ์ ามไดถ้ กู ตอ้ งได้บางสว่ น 1 - เขียนสงิ่ ท่ีโจทย์กำหนดใหแ้ ละสง่ิ ที่โจทย์ถามไมถ่ กู ต้อง หรือไมเ่ ขียน 0 2. วางแผนการแกป้ ญั หา 2 - เขียนวธิ ีแก้ปญั หาไดถ้ กู ต้อง 2 - เขยี นวิธีแกป้ ญั หา ซ่งึ อาจจะนำไปสู่คำตอบท่ถี ูกต้อง แตย่ งั มีบางสว่ นผิด 1 - เขยี นวิธีแก้ปญั หาไม่ถกู ตอ้ ง หรือไม่เขยี น 0 3. ดำเนนิ การตามแผน 4 - เขยี นแสดงการคำนวณไดถ้ ูกตอ้ งชัดเจนและหาคำตอบไดถ้ ูกต้องครบถ้วน 4 - เขยี นแสดงการคำนวณได้ถกู ต้องชัดเจนและหาคำตอบได้ถูกต้องบางส่วน 3 - เขียนแสดงการคำนวณไดถ้ ูกต้องบางส่วนและหาคำตอบได้ถูกต้องครบถ้วน - เขียนแสดงการคำนวณไดถ้ ูกตอ้ งบางสว่ นและหาคำตอบได้ถูกต้องบางส่วน 2 - เขียนแสดงการคำนวณไดถ้ กู ต้องบางส่วนและหาคำตอบไม่ถกู ต้องหรือ 1 ไมเ่ ขยี น 0 - เขียนแสดงการคำนวณไม่ถกู ต้องหรือไม่เขียนและหาคำตอบได้ถูกต้อง 2 2 บางสว่ น 1 - เขียนแสดงการคำนวณไมถ่ กู ตอ้ งและหาคำตอบไมถ่ กู ต้องหรือไมเ่ ขียน 0 4. ตรวจสอบผลลพั ธ์ - เขยี นแสดงการตรวจคำตอบของปญั หาไดถ้ กู ตอ้ ง - เขียนแสดงการตรวจคำตอบของปัญหาได้ถูกต้องบางส่วน - เขียนแสดงการตรวจคำตอบของปัญหาไม่ถูกตอ้ ง - ไมเ่ ขียนแสดงการตรวจคำตอบของปัญหา เกณฑก์ ารผา่ นการประเมิน : นักเรียนมี8คะแนนคิดเป็นร้อยละ 70 ข้ึนไป
บนั ทกึ หลังการสอน หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 พลังงานความร้อน...... ... ... แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 15 การคำนวณปริมาณความร้อนกบั การเปลย่ี นสถานะของสาร 1. สรปุ ผลการเรยี นการสอน 1. นักเรียนจำนวน............คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู.้ ..........คน คดิ เปน็ ร้อยละ.................... ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์.......................คน คดิ เป็นร้อยละ.................... ไดแ้ ก่........................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 2. สรุปผลตามรายจดุ ประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ด้านพุทธพิ สิ ัย (Cognitive domain) ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 2.2 ดา้ นทักษะพสิ ยั (Psychomotor domain) ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 2.3 ด้านจติ พิสยั (Affective domain) ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 3. ขอ้ เสนอแนะหลังการจัดการเรียนการสอน ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ลงชื่อ........................................................ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จุลศกั ดิ์) ครูผูส้ อน
ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ไดต้ รวจแผนการจัดการเรยี นรู้หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เรื่อง พลังงานความร้อน ในแผนการจดั การ เรยี นรู้ที่ 15 เร่ือง การคำนวณปริมาณความรอ้ นกับการเปลีย่ นสถานะของสาร เรยี บร้อยแลว้ โดยมคี วาม คิดเห็น ดังนี้ 1. คณุ ภาพของแผนการจดั การเรียนรู้ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวดั สอดคล้อง ไมส่ อดคลอ้ ง 3. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ได้นำกระบวนการเรยี นรู้ท่ีเนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคญั มาใชไ้ ดอ้ ย่างเหมาะสม ไม่ได้นำกระบวนการเรยี นรู้ท่เี นน้ ผู้เรียนเป็นสำคญั มาใช้ 4. การใช้ส่อื การเรียนรู้ มีความเหมาะสมและสง่ เสรมิ การเรียนรู้ของผูเ้ รยี น ไม่ส่งเสรมิ การเรยี นรู้ของผู้เรียน 5. การวัดและการประเมนิ ผล สอดคลอ้ งกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ไม่สอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์การเรยี นรู้ 6. การนำแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรงุ กอ่ นนำไปใช้ ขอ้ เสนอแนะอื่น ๆ ............................................................................................................................. ............................................ ....................................................................................... .................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................ .................................................................................................................................. ....................................... ลงช่อื ..................................................... (นางรชั นี หนูนอ้ ย) ตำแหน่ง หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วนั ท่ี ............ เดือน ........................... พ.ศ. ..............
ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของผ้บู ริหาร ไดต้ รวจแผนการจัดการเรยี นรูห้ นว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 เร่อื ง พลังงานความรอ้ น ในแผนการจัดการ เรียนรทู้ ่ี 15 เรือ่ ง การคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปลีย่ นสถานะของสาร เรียบรอ้ ยแลว้ โดยมีความ คิดเห็น ดงั น้ี 1. คุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ชว้ี ดั สอดคลอ้ ง ไมส่ อดคลอ้ ง 3. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ไดน้ ำกระบวนการเรยี นรู้ท่ีเนน้ ผเู้ รยี นเปน็ สำคัญมาใชไ้ ดอ้ ย่างเหมาะสม ไม่ได้นำกระบวนการเรยี นรู้ท่ีเน้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญมาใช้ 4. การใชส้ ่อื การเรียนรู้ มคี วามเหมาะสมและส่งเสรมิ การเรียนรู้ของผเู้ รยี น ไม่สง่ เสรมิ การเรียนรู้ของผูเ้ รียน 5. การวัดและการประเมินผล สอดคล้องกบั จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ไม่สอดคลอ้ งกับจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 6. การนำแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้ นำไปใชไ้ ดจ้ รงิ ควรปรบั ปรุงก่อนนำไปใช้ ข้อเสนอแนะอ่ืน ๆ ......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................ ............................................................................................................................. ............................................ .................................................................................... ..................................................................... ลงช่ือ ..................................................... (นางสมัชญา ผุดผ่อง) ตำแหนง่ รองผ้อู ำนวยการโรงเรยี นวงั จนั ทรว์ ทิ ยา กลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ วันท่ี ............ เดอื น ........................... พ.ศ. ..............
ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 15 : ส่อื วดี ิทศั น์
ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 15 : เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้
ส่อื การเรียนร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 15 : เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้ (ตอ่ )
ส่อื การเรียนร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 15 : เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้ (ตอ่ )
ส่อื การเรียนร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 15 : เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้ (ตอ่ )
ส่อื การเรยี นร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 15 : แบบฝกึ หดั
ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 15 : แบบฝกึ หัด (ตอ่ )
ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 15 : เฉลยแบบฝกึ หดั
ส่อื การเรยี นรู้แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 15 : เฉลยแบบฝกึ หัด (ตอ่ )
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 16 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชา ว21102 ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 1 เวลา 1 คาบเรยี น ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 พลังงานความร้อน เร่ือง การคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปล่ียนสถานะของสาร 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธร์ ะหวา่ งสสารและพลังงาน พลังงานในชวี ิตประจําวัน ธรรมชาติของคลนื่ ปรากฏการณท์ เี่ กี่ยวข้อง กบั เสยี ง แสง และคลน่ื แม่เหล็กไฟฟ้ารวมทงั้ นําความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตวั ชี้วัด ตวั ชีว้ ดั ม.1/1 วเิ คราะห์ แปลความหมายข้อมูล และคำนวณปรมิ าณความร้อนท่ีทำให้สสาร เปลย่ี นอณุ หภมู ิ และเปลีย่ นสถานะ โดยใช้สมการ Q = mc∆t และ Q = mL 2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด สาระสําคญั ความรอ้ นมีผลต่อการเปล่ียนสถานะของสสาร เม่ือใหค้ วามร้อนแก่ของแข็ง อนุภาคของของแข็ง จะมพี ลังงานและอุณหภูมเิ พ่ิมขึ้นจนถึงระดับหนงึ่ ซึง่ ของแข็งจะใชค้ วามร้อนในการเปล่ยี นสถานะเป็น ของเหลว เรียกความรอ้ นท่ีใช้ในการเปลยี่ นสถานะจากของแข็งเปน็ ของเหลวว่า ความร้อนแฝงของการ หลอมเหลว และอุณหภูมิขณะเปลี่ยนสถานะจะคงท่ี เรยี กอณุ หภมู ิน้ีวา่ จดุ หลอมเหลว 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ดา้ นพทุ ธพิ สิ ยั (Cognitive domain) นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความร้เู กีย่ วกับการคำนวณปรมิ าณความร้อนกับการเปลี่ยนสถานะของ สารโดยใชส้ มการ Q = mL ได้ ดา้ นทกั ษะพสิ ัย (Psychomotor domain) นกั เรียนสามารถคำนวณปริมาณความร้อนกบั การเปล่ียนสถานะของสารโดยใชส้ มการ Q = mL ได้ ดา้ นจิตพิสัย (Affective domain) นกั เรียนมสี ่วนร่วมในกจิ กรรมการเรยี นรอู้ ยใู่ นระดับดี
4. คุณลกั ษณะผ้เู รียน 4.1 คณุ ลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ อยูอ่ ย่างพอเพียง ซ่ือสัตยส์ จุ ริต ม่งุ มั่นในการทำงาน มวี ินัย รกั ความเป็นไทย ใฝเ่ รยี นรู้ มจี ิตสาธารณะ 5. ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น ความสามารถในการคดิ : นกั เรียนสามารถอธบิ ายความรู้เกยี่ วกับการคำนวณปริมาณความร้อนกับ การเปลยี่ นสถานะของสาร โดยใชส้ มการ Q = mL ได้ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี : นกั เรียนสามารถใช้เทคโนโลยใี นการเรยี นรู้ได้ 6. สาระการเรยี นรู้ การเปล่ยี นสถานะของสารอาจเปน็ การเปลี่ยนแปลงประเภทดดู พลังงานหรือคายพลังงาน ตัวอย่างการ เปลยี่ นแปลงสถานะของสารท่ีพบในชวี ิตประจำวันได้แก่ นำ้ แขง็ หลอมเหลวกลายเป็นนำ้ และนำ้ ได้รับความร้อน กลายเป็นไอเป็นการเปลี่ยนแปลงประเภทดูดความร้อน ในทางตรงกันข้ามเมื่อไอน้ำเปลี่ยนสถานะกลับมาเป็น น้ำและน้ำแข็ง เป็นการเปล่ยี นแปลงประเภทคายความร้อน การคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปลีย่ นแปลงของสาร สามารถแยกพิจารณาได้ 2 กรณี ดังน้ี กรณีที่ 1 การคำนวณปรมิ าณความรอ้ นกบั การเปล่ียนแปลงอณุ หภูมิ คำนวณไดจ้ าก สมการ Q = mc∆t เม่ือ Q คอื ปริมาณความร้อนทสี่ ารได้รบั มีหน่วยเป็นแคลอรี m คือ มวลของสาร มหี น่วยเป็นกรัม c คือ ความรอ้ นจำเพาะของสาร มีหนว่ ยเป็น แคลอรตี อ่ กรัม×องศาเซลเซียส ∆t คือ อณุ หภูมิของน้ำทเี่ ปล่ยี นไป มีหน่วยเปน็ องศาเซลเซยี ส กรณที ี่ 2 การคำนวณปรมิ าณความรอ้ นท่ีกับการเปลย่ี นสถานะ คำนวณไดจ้ าก สมการ Q = mL เม่ือ Q คอื ปรมิ าณความรอ้ น มีหน่วยเปน็ แคลอรี m คอื มวลของสาร มีหน่วยเป็นกรมั L คอื ความรอ้ นแฝงจำเพาะของสาร มหี น่วยเปน็ แคลอรีตอ่ กรมั น้ำมีค่าความร้อนแฝงจำเพาะของการหลอมเหลว 80 แคลอรีต่อกรัม หมายความว่า ในการทำน้ำแข็ง 1 กรมั ใหห้ ลอมเหลวเปน็ น้ำ ต้องใชพ้ ลงั งานความร้อน 80 แคลอรี นำ้ มีค่าความร้อนแฝงจำเพาะของการกลายเป็นไอ 540 แคลอรตี ่อกรัม หมายความว่า ในการทำนำ้ 1 กรมั อณุ หภมู ิ 100 องศาเซลเซียส ใหเ้ ปล่ียนเป็นไอนำ้ 1 กรัม อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซยี ส ต้องใช้พลังงาน ความรอ้ น 540 แคลอรี
7. กจิ กรรมการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนร้แู บบหอ้ งเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom) 7.1 ขน้ั กำหนดยทุ ธวิธเี พมิ่ พูนประสบการณ์ (Experiential Engagement) (ในช้ันเรียน) นักเรยี นทบทวนความรเู้ ดิมเก่ียวกับผลของความรอ้ นกับการเปลีย่ นสถานะของสาร ประเดน็ คำถามทีค่ รูตง้ั ขึน้ จากคลปิ วิดโี อ “ธารนำ้ แขง็ ธรรมชาตทิ ่ีกำลงั ละลายหายไปเพราะโลกรอ้ น - รอบโลก DAILY” - นักเรยี นคิดว่า เพราะเหตุใดธารน้ำแขง็ ถึงมีการเปลี่ยนแปลง (แนวคำตอบ เพราะโลกของเรามอี ากาศร้อนขนึ้ ) - นักเรียนคดิ ว่าหากธารน้ำแข็งมีการละลายมากข้นึ ไปอกี หรอื ละลายจนหมดจะเกิดอะไรขน้ึ บ้าง เพราะเหตุใด (แนวคำตอบ น้ำอาจท่วมโลกได้ เนอ่ื งจากน้ำมปี ริมาณเพ่มิ มากขึ้น จากการเปลีย่ นสถานะจากธาร น้ำแขง็ ท่ีมีสถานะเปน็ ของแข็ง กลายเปน็ น้ำทม่ี สี ถานะเปน็ ของเหลว) - นักเรียนจะมวี ิธอี ยา่ งไร ในการชว่ ยรักษาให้โลกของเราไม่ร้อนมากขึ้นไปอีก (พจิ ารณาจากความเหมาะสมของคำตอบ) 7.2 ขั้นสบื ค้นเพ่ือให้เกิดมโนทัศนร์ วบยอด (Concept Exploration) (ศกึ ษานอกเวลาเรียน) นกั เรียนสบื ค้นและศกึ ษาวดิ โี อ 3 : การคำนวณปรมิ าณความร้อนกบั การเปลย่ี นสถานะของสาร เพ่อื ตอบคำถามในแบบฝึกหัดข้อท่ี 2 เร่ืองการคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปลี่ยนสถานะของสาร ดังนี้ - สมการการคำนวณปรมิ าณความร้อนกบั การเปลี่ยนสถานะของสาร Q = mL เม่ือ Q คอื ปริมาณความรอ้ น มหี น่วยเป็นแคลอรี m คอื มวลของสาร มีหนว่ ยเปน็ กรัม L คอื ความร้อนแฝงจำเพาะของสาร มหี น่วยเป็นแคลอรตี ่อกรัม - ขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหาการคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปลี่ยนแปลงของสารตาม แนวคิดของ Polya (1957) 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1. ทำความเข้าใจปัญหา 2. วางแผนการแก้ปญั หา 3. ดำเนินการตามแผน 4. ตรวจสอบผลลพั ธ์
โดยใหน้ ักเรียนศกึ ษาจากแหลง่ สืบค้นข้อมลู ท่คี รูไดจ้ ัดเตรียมไว้ให้ ดังต่อไปน้ี Google Classroom : https://classroom.google.com/c/MzY4NDU4NDgwMTE1/p/NDQyOTM2MTg3ODQw/details Google sites : https://sites.google.com/wangchan.ac.th/mind-science Facebook Group : https://www.facebook.com/Mind.Julasak.MJ/videos/ 3137393076501379 นกั เรียนสรปุ ความคดิ สำคัญ เรือ่ ง การคำนวณปรมิ าณความร้อนกับการเปล่ียนสถานะของสาร ลงในสมดุ 7.3 ขัน้ สร้างองค์ความรู้อย่างมคี วามหมาย (Meaning Making) (ศกึ ษานอกเวลาเรยี น) นกั เรียนสรา้ งองคค์ วามรู้ เรื่อง การคำนวณปริมาณความร้อนกบั การเปลีย่ นสถานะของสาร ลงใน สมุด และให้นกั เรียนรว่ มกนั อภิปรายขนั้ ตอนการแกโ้ จทย์การคำนวณของแบบฝึกหดั ข้อที่ 2 ผา่ นโพสต์ ใน Facebook Group จากโจทย์การคำนวณ ข้อท่ี 2 น้ำ 2 กรมั 0 องศาเซลเซยี ส เปล่ยี นเปน็ นำ้ แข็ง 2 กรัม 0 องศาเซลเซียส ต้องใช้ปริมาณ ความรอ้ นกี่แคลอรี นกั เรียนศกึ ษาและลงข้อสรุปจากส่งิ ทนี่ ักเรียนศึกษา ให้ได้ถงึ ข้นั ตอนการคำนวณปริมาณความรอ้ น กบั การเปลี่ยนสถานะของสาร การคำนวณ การหาคำตอบ และการตรวจคำตอบ 7.4 ขั้นสาธติ และประยุกต์ใช้ (Demonstration & Application) (ในชัน้ เรยี น) ครสู าธิตการแก้โจทยป์ ัญหาการคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปลยี่ นแปลงอุณหภูมิของสาร โดยกระบวนการแก้โจทยป์ ญั หาโดยใชก้ ระบวนการของ Polya โดยเริม่ จากการอธบิ ายกระบวนการการแก้ โจทย์ปญั หาตามแนวคดิ ของ Polya ว่า ประกอบไปด้วย 4 ขนั้ ตอน ได้แก่ ขน้ั ท่ี 1 ทำความเข้าใจโจทย์ ปัญหา ข้ันที่ 2 วางแผนแกโ้ จทยป์ ญั หา ขั้นที่ 3 ปฏิบตั ติ ามแผน ขัน้ ที่ 4 ตรวจสอบผลลัพธ์ พร้อมท้งั อธิบาย รายละเอียดในแต่ละขน้ั ตอน ดงั น้ี ข้อท่ี 2 น้ำ 2 กรัม 0 องศาเซลเซียส เปล่ยี นเปน็ นำ้ แข็ง 2 กรมั 0 องศาเซลเซยี ส ต้องใช้ปรมิ าณ ความรอ้ นกแ่ี คลอรี
ขน้ั ท่ี 1 ทำความเข้าใจโจทย์ปญั หา นักเรียนและครูรว่ มกนั วเิ คราะห์ทำความเขา้ ใจโจทย์ โดยให้ นกั เรยี นร่วมบอกรายละเอยี ดวา่ โจทย์ปัญหาว่าเปน็ เรือ่ งราวเกีย่ วกับอะไร บอกส่งิ ที่โจทย์กำหนดให้ บอกส่ิง ทโ่ี จทยถ์ าม ผา่ นการตัง้ คำถาม ดังน้ี - โจทย์ปัญหาขอ้ น้ีเปน็ เร่ืองราวเก่ยี วกบั อะไร - โจทย์กำหนดอะไรให้บา้ ง - จากโจทย์กำหนดให้ สามารถวาดแผนภาพไดอ้ ยา่ งไร - โจทย์ถามอะไร โดยใหน้ ักเรยี นเขียนส่งิ ท่ีโจทยก์ ำหนดให้พร้อมหน่วย ด้านบทโจทย์ปัญหา ขน้ั ท่ี 2 วางแผนแก้ปัญหา นกั เรยี นรว่ มกันแก้โจทย์ปัญหาโดยใหน้ ักเรียนบอกขน้ั ตอน วิธกี ารหา คำตอบว่าต้องทำอย่างไร - ตอ้ งใช้ปรมิ าณความรอ้ นเทา่ ใด หมายถึงใหห้ าคา่ Q โดยกำหนดให้ นำ้ 2 กรัม 0 องศาเซลเซยี ส เปล่ยี นเป็นนำ้ แข็ง 2 กรัม 0 องศาเซลเซียส โดยนำ้ เปล่ียนสถานะจากของเหลวเปน็ ของแขง็ ความร้อนแฝง มีค่า 80 แคลอรี/กรัม จากนนั้ นำค่าไปแทนในสมการ เพื่อหาคำตอบค่า Q - นำค่าทโ่ี จทยก์ ำหนดใหแ้ ทนลงในสมการ Q = mL เพื่อหาคำตอบของโจทย์ปญั หาขอ้ น้ี ขัน้ ท่ี 3 ปฏิบตั ิตามแผน นักเรยี นและครูลงมือปฏิบัติตามแผน โดยคดิ คำนวณหาคำตอบและ แสดงวิธีทำ เพื่อคำตอบของโจทย์ปัญหา ดังนี้ จากสมการ Q = mL แทนค่า ������ = 2 ������ 80 Q = 160 ดงั นน้ั ตอ้ งใช้ปรมิ าณความร้อน 160 แคลอรี ขน้ั ที่ 4 ตรวจสอบผลลัพธ์ นกั เรียนและครูรว่ มกนั พจิ ารณาความสมเหตสุ มผลของคำตอบที่ได้ รวมถึงพิจารณาวธิ ีการแก้ปัญหาอน่ื ๆ อีกหรอื ไม่ ผา่ นการต้งั คำถาม ดังน้ี - จะมีวิธกี ารใดในการแกโ้ จทยป์ ัญหาอ่ืน ๆ อีกหรือไม่ อย่างไร - นกั เรยี นมวี ธิ กี ารตรวจสอบผลลพั ธข์ องตนเองวา่ คำตอบถกู ตอ้ งหรอื ไม่ อย่างไร นกั เรียนและครทู ำแบบฝึกหัด เร่อื ง ความรอ้ นกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภมู ิของสาร หนา้ ท่ี 2 (ข้อที่ 3) ครูถามนักเรียนเปน็ ระยะเพอ่ื กระตนุ้ และตรวจสอบความเข้าใจ แนะนำ ช่วยเหลอื นกั เรียน และ ตรวจสอบนกั เรียนและใหน้ ักเรียนสง่ แบบฝกึ หัดเพ่ือนำมาตรวจสอบการทำงานของนักเรียนอกี คร้ังหนึ่ง
8. ชนิ้ งาน / ภาระงาน - แบบฝดึ หดั เร่อื ง การคำนวณปรมิ าณความรอ้ นกบั การเปล่ยี นสถานะของสาร 9. ส่อื การเรยี นรู้ / แหลง่ เรียนรู้ Google Classroom : https://classroom.google.com/c/MzY4NDU4NDgwMTE1/p/NDQyOTM2MTg3ODQw/details Google sites : https://sites.google.com/wangchan.ac.th/mind-science Facebook Group : https://www.facebook.com/Mind.Julasak.MJ/videos/3137393076501379 วิดีทศั น์ ธารนำ้ แข็ง ธรรมชาติทกี่ ำลังละลายหายไปเพราะโลกรอ้ น - รอบโลก DAILY จาก https://www.youtube.com/watch?v=1kkvGUgbhbQ
10. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ จดุ ประสงค์ วธิ กี ารวัด เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมนิ 1. ดา้ นพุทธิพิสยั (Cognitive domain) นักเรียนสามารถอธิบาย การตอบคำถาม ขอ้ คำถาม ตอบคำถามไดถ้ ูกต้องรอ้ ยละ 70 ความรเู้ กี่ยวกบั การ ในชัน้ เรียน คำนวณปรมิ าณความ รอ้ นกบั การเปล่ียน สถานะของสาร โดยใช้ สมการ Q = mL ได้ 2. ดา้ นทกั ษะพสิ ัย (Psychomotor domain) นักเรียนสามารถคำนวณ การทำแบบฝึกหดั แบบฝกึ หัด ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ทักษะ ปริมาณความร้อนกับ การคำนวณปริมาณความรอ้ นกบั การเปลี่ยนสถานะของ การเปลย่ี นแปลงของสาร สาร โดยใชส้ มการ ร้อยละ 70 Q = mL ได้ 3. ด้านจติ พิสยั (Affective domain) นกั เรยี นมีส่วนร่วม สงั เกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรม มสี ว่ นร่วมในกิจกรรมการเรยี นรู้ ในกจิ กรรมการเรียนรู้ อยใู่ นระดับดี การเรยี น การเรยี น ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70
แบบวเิ คราะห์การประเมินผลการเรยี นรู้ (Assessment blueprint) แบบวเิ คราะหก์ ารประเมินผลการเรยี นรู้ (Assessment blueprint) ประกอบดว้ ย วตั ถปุ ระสงค์ การเรียนรทู้ ่ีต้องการวดั และความสอดคลอ้ งดา้ นพทุ ธพิ สิ ยั ทักษะพสิ ัย และจิตพสิ ัย วัตถุประสงค์ พฤติกรรมการประเมนิ เทคนิค ระดับพฤติกรรม (%) การ พทุ ธพิ สิ ยั จติ พิสยั ประเมิน ทกั ษะพสิ ัย 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม นกั เรยี นสามารถ แบบประเมนิ อธบิ ายความรู้ การตอบ เก่ยี วกบั การ คำถาม คำนวณปริมาณ ความรอ้ นกบั การ 20 80 100 เปลีย่ นสถานะของ สารโดยใช้สมการ Q = mL ได้ 2. นกั เรยี น 20 20 20 40 100 แบบประเมนิ สามารถคำนวณ 20 40 20 ทักษะการ ปริมาณความรอ้ น แก้ปญั หา กบั การเปลี่ยน โจทย์การ สถานะของสาร คำนวณ โดยใชส้ มการ ปรมิ าณความ Q = mL ได้ รอ้ นกบั การ เปลี่ยนสถานะ 3. นักเรยี นมี ของสาร สว่ นรว่ มใน กจิ กรรมการ แบบสังเกต เรียนรู้ พฤติกรรม อยู่ในระดับดี 20 100 การเรียน รวม 20 80 100 20 20 20 40 100 20 40 20 20 100
**หมายเหตุ : ความหมายของตารางวเิ คราะหก์ ารประเมิน พุทธิพิสยั ทกั ษะพสิ ยั จิตพสิ ัย 1 = ความจำ 1 = การรับรู้ 1 = การรบั รสู้ ิง่ เร้า 2 = เข้าใจ 3 = นำไปใช้ 2 = การตระเตรยี ม 2 = การตอบสนอง 4 = วเิ คราะห์ 5 = ประเมินคา่ 3 = การตอบสนองตามคำช้ีแนะ 3 = การสร้างคณุ ค่า 6 = สรา้ งสรรค์ 4 = การสร้างกลไก 4 = การจดั ระบบคุณค่า 5 = การตอบสนองท่ซี ับซ้อนขึ้น 5 = การสร้างลกั ษณะนสิ ยั 6 = การดดั แปลงให้เหมาะสม 7 = การรเิ ริม่ ใหม่
คำอธบิ ายประกอบการประเมนิ ดา้ นพทุ ธิพสิ ัย (Cognitive domain) แบบประเมนิ การตอบคำถาม คำชแี้ จง : ให้ผปู้ ระเมนิ ทำการตอบคำถามของนักเรยี น ตามเกณฑก์ ารประเมินการตอบคำถาม (ความถูกต้อง) ลำดบั ชื่อ - สกุล ระดับคะแนน สรปุ การประเมนิ ที่ 5 4 3 2 1 0 ผ่าน ไมผ่ า่ น 1 2 3 4 5 6 ลงชื่อ.....................................................ผปู้ ระเมนิ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศกั ด์ิ) วันที.่ ............เดือน.....................พ.ศ............ เกณฑ์การประเมินการตอบคำถาม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : พจิ ารณาดังตารางต่อไปนี้ ประเด็นที่ 5 4 ระดบั คะแนน 1 0 ประเมนิ 32 คำตอบ คำตอบถกู ตอ้ ง คำตอบ คำตอบ คำตอบ ถกู ต้อง 5 ข้อ ถกู ตอ้ ง คำตอบ คำตอบถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ไมถ่ กู ตอ้ ง 4 ข้อ ถกู ต้อง 2 ข้อ 1 ขอ้ 3 ขอ้ เกณฑ์การผา่ นการประเมนิ : นกั เรียนมรี ะดบั คะแนน 3 ข้ึนไป
คำอธบิ ายประกอบการประเมนิ ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor domain) แบบประเมนิ ทักษะการแกป้ ัญหาโจทยก์ ารคำนวณปรมิ าณความรอ้ นกับการเปล่ียนแปลงของสาร คำช้แี จง : ใหผ้ ูป้ ระเมนิ ทำการประเมนิ แบบประเมินทกั ษะการแก้ปัญหาโจทย์การคำนวณ ลำดบั ระดับคะแนน สรปุ การประเมนิ ที่ ชอื่ - สกลุ 9- 7-8 5-6 3-4 1- 0 ผา่ น ไมผ่ ่าน 10 2 1 2 3 4 5 6 ลงชื่อ.....................................................ผ้ปู ระเมนิ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศักดิ)์ วนั ท.ี่ ............เดือน.....................พ.ศ
เกณฑ์การประเมนิ ทกั ษะการแก้ปัญหาโจทย์การคำนวณปรมิ าณความรอ้ นกับการเปลี่ยนแปลงของสาร เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : พิจารณาดงั ตารางต่อไปนี้ เกณฑ์การใหค้ ะแนน คะแนน 1. ทำความเข้าใจปญั หา 2 - เขียนสงิ่ ทโ่ี จทยกำหนดให้ และสงิ่ ทโ่ี จทย์ถามได้ถูกตอ้ งครบถ้วน 2 - เขียนสิ่งทโี่ จทยกำหนดให้ และสิ่งท่โี จทยถ์ ามไดถ้ กู ตอ้ งได้บางสว่ น 1 - เขียนสงิ่ ท่ีโจทย์กำหนดใหแ้ ละสง่ิ ที่โจทย์ถามไมถ่ กู ต้อง หรือไมเ่ ขียน 0 2. วางแผนการแกป้ ญั หา 2 - เขียนวธิ ีแก้ปญั หาไดถ้ กู ต้อง 2 - เขยี นวิธีแกป้ ญั หา ซ่งึ อาจจะนำไปสู่คำตอบท่ถี ูกต้อง แตย่ งั มีบางสว่ นผิด 1 - เขยี นวิธีแก้ปญั หาไม่ถกู ตอ้ ง หรือไม่เขยี น 0 3. ดำเนนิ การตามแผน 4 - เขยี นแสดงการคำนวณไดถ้ ูกตอ้ งชัดเจนและหาคำตอบไดถ้ ูกต้องครบถ้วน 4 - เขยี นแสดงการคำนวณได้ถกู ต้องชัดเจนและหาคำตอบได้ถูกต้องบางส่วน 3 - เขียนแสดงการคำนวณไดถ้ ูกต้องบางส่วนและหาคำตอบได้ถูกต้องครบถ้วน - เขียนแสดงการคำนวณไดถ้ ูกตอ้ งบางสว่ นและหาคำตอบได้ถูกต้องบางส่วน 2 - เขียนแสดงการคำนวณไดถ้ กู ต้องบางส่วนและหาคำตอบไม่ถกู ต้องหรือ 1 ไมเ่ ขยี น 0 - เขียนแสดงการคำนวณไม่ถกู ต้องหรือไม่เขียนและหาคำตอบได้ถูกต้อง 2 2 บางสว่ น 1 - เขียนแสดงการคำนวณไมถ่ กู ตอ้ งและหาคำตอบไมถ่ กู ต้องหรือไมเ่ ขียน 0 4. ตรวจสอบผลลพั ธ์ - เขยี นแสดงการตรวจคำตอบของปญั หาไดถ้ กู ตอ้ ง - เขียนแสดงการตรวจคำตอบของปัญหาได้ถูกต้องบางส่วน - เขียนแสดงการตรวจคำตอบของปัญหาไม่ถูกตอ้ ง - ไมเ่ ขียนแสดงการตรวจคำตอบของปัญหา เกณฑก์ ารผา่ นการประเมิน : นักเรียนมี8คะแนนคิดเป็นร้อยละ 70 ข้ึนไป
บนั ทกึ หลังการสอน หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 พลังงานความร้อน...... ... ... แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 16 การคำนวณปริมาณความร้อนกบั การเปลย่ี นสถานะของสาร 1. สรปุ ผลการเรยี นการสอน 1. นักเรียนจำนวน............คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู.้ ..........คน คดิ เปน็ ร้อยละ.................... ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์.......................คน คดิ เป็นร้อยละ.................... ไดแ้ ก่........................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 2. สรุปผลตามรายจดุ ประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ด้านพุทธพิ สิ ัย (Cognitive domain) ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 2.2 ดา้ นทักษะพสิ ยั (Psychomotor domain) ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 2.3 ด้านจติ พิสยั (Affective domain) ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 3. ขอ้ เสนอแนะหลังการจัดการเรียนการสอน ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ลงชื่อ........................................................ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จุลศกั ดิ์) ครูผูส้ อน
ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ไดต้ รวจแผนการจัดการเรยี นรู้หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เรื่อง พลังงานความร้อน ในแผนการจดั การ เรยี นรู้ที่ 16 เร่ือง การคำนวณปริมาณความรอ้ นกับการเปลีย่ นสถานะของสาร เรยี บร้อยแลว้ โดยมคี วาม คิดเห็น ดังนี้ 1. คณุ ภาพของแผนการจดั การเรียนรู้ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวดั สอดคล้อง ไมส่ อดคลอ้ ง 3. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ได้นำกระบวนการเรยี นรู้ท่ีเนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคญั มาใชไ้ ดอ้ ย่างเหมาะสม ไม่ได้นำกระบวนการเรยี นรู้ท่เี นน้ ผู้เรียนเป็นสำคญั มาใช้ 4. การใช้ส่อื การเรียนรู้ มีความเหมาะสมและสง่ เสรมิ การเรียนรู้ของผูเ้ รยี น ไม่ส่งเสรมิ การเรยี นรู้ของผู้เรียน 5. การวัดและการประเมนิ ผล สอดคลอ้ งกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ไม่สอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์การเรยี นรู้ 6. การนำแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรงุ กอ่ นนำไปใช้ ขอ้ เสนอแนะอื่น ๆ ............................................................................................................................. ............................................ ....................................................................................... .................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................ .................................................................................................................................. ....................................... ลงช่อื ..................................................... (นางรชั นี หนูนอ้ ย) ตำแหน่ง หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วนั ท่ี ............ เดือน ........................... พ.ศ. ..............
ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของผ้บู ริหาร ไดต้ รวจแผนการจัดการเรยี นรูห้ นว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 เร่อื ง พลังงานความรอ้ น ในแผนการจัดการ เรียนรทู้ ่ี 16 เรือ่ ง การคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปลีย่ นสถานะของสาร เรียบรอ้ ยแลว้ โดยมีความ คิดเห็น ดงั น้ี 1. คุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ชว้ี ดั สอดคลอ้ ง ไมส่ อดคลอ้ ง 3. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ไดน้ ำกระบวนการเรยี นรู้ท่ีเนน้ ผเู้ รยี นเปน็ สำคัญมาใชไ้ ดอ้ ย่างเหมาะสม ไม่ได้นำกระบวนการเรยี นรู้ท่ีเน้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญมาใช้ 4. การใชส้ ่อื การเรียนรู้ มคี วามเหมาะสมและส่งเสรมิ การเรียนรู้ของผเู้ รยี น ไม่สง่ เสรมิ การเรียนรู้ของผูเ้ รียน 5. การวัดและการประเมินผล สอดคล้องกบั จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ไม่สอดคลอ้ งกับจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 6. การนำแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้ นำไปใชไ้ ดจ้ รงิ ควรปรบั ปรุงก่อนนำไปใช้ ข้อเสนอแนะอ่ืน ๆ ......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................ ............................................................................................................................. ............................................ .................................................................................... ..................................................................... ลงช่ือ ..................................................... (นางสมัชญา ผุดผ่อง) ตำแหนง่ รองผ้อู ำนวยการโรงเรยี นวงั จนั ทรว์ ทิ ยา กลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ วันท่ี ............ เดอื น ........................... พ.ศ. ..............
ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 16 : ส่อื วดี ิทศั น์
ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 16 : สอื่ วิดีทัศน์ วดิ ีทศั น์ ธารน้ำแขง็ ธรรมชาติทก่ี ำลงั ละลายหายไปเพราะโลกรอ้ น - รอบโลก DAILY จาก https://www.youtube.com/watch?v=1kkvGUgbhbQ
ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 16 : เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้
ส่อื การเรียนร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 16 : เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้ (ตอ่ )
ส่อื การเรียนร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 16 : เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้ (ตอ่ )
ส่อื การเรยี นร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 16 : แบบฝกึ หดั
ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 16 : เฉลยแบบฝกึ หดั
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263