Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือพระ สารวัตรประคอง

หนังสือพระ สารวัตรประคอง

Published by Suppakorn Boss, 2021-08-27 08:31:36

Description: หนังสือพระ สารวัตรประคอง

Search

Read the Text Version

หนงั สอื ทร่ี ะลกึ การจดั สร้างพระพุทธชนิ ราชจาลองประจาหนว่ ย ๘๔ ปี ตารวจภธู รจงั หวดั พษิ ณุโลก

หนงั สอื ทรี่ ะลกึ การจดั สร้างการจดั สร้างพระพุทธชนิ ราชจาลองประจาหนว่ ยตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก เนอื่ งในโอกาสครบรอบ ๘๔ ปี ตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก “จดั พมิ พเ์ พอ่ื ถวายเป็นพทุ ธบูชา ธรรมบชู า สังฆบชู า” พมิ พ์คร้ังแรก : เดือน สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ จำนวนพมิ พ์ : เล่ม เรียบเรียงโดย :คณะกรรมการจดั สร้างพระพุทธชินราชจาลองประจาหน่วยตารวจภูธรจงั หวดั พิษณุโลก เนื่องในโอกาสครบรอบ ๘๔ ปี ตารวจภูธรจงั หวดั พิษณุโลก จดั พมิ พ์โดย:ตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก สงวนสิทธ์ิ:หา้ มคดั ลอก ตดั ตอน เปล่ียนแปลง แกไ้ ข ปรับปรุงขอ้ ความใด ๆ ท้งั สิ้น หรือ นาไปพิมพจ์ าหน่าย หากท่านประสงคจ์ ะพิมพแ์ จกเป็นธรรมทานโปรดติดต่อ ตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก ข้อมูลทำงบรรณำนุกรม: เอกสารจดั สร้างพระพุทธชินราชจาลองประจาหน่วยตารวจภูธรจงั หวดั พิษณุโลก เนื่องในโอกาสครบรอบ ๘๔ ปี ตารวจภูธรจงั หวดั พิษณุโลก หนงั สือประวตั ิหลวงพอ่ พระพุทธชิราช พิมพท์ ่ี: โฟกสั ปริ้น อาเภอเมือง จงั หวดั พษิ ณุโลก

หนงั สอื ทรี่ ะลกึ การจดั สร้างพระพุทธชนิ ราชจาลอง ประจาหนว่ ยตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก เนอื่ งในโอกาสครบรอบ ๘๔ ปี ตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก

คาปรารภ พระพทุ ธชินราชไดร้ ับการยกย่องใหเ้ ป็นหนึ่งในประติมากรรมพุทธศลิ ป์เป็นพระพทุ ธรูปปางมาร วชิ ยั ใช้ชา่ งจากเมอื งศรสี ชั นาลยั และเมืองหริภญุ ชัย หล่อทองสมั ฤทธ์ิ “พระพุทธชนิ ราช” ทีว่ ิจิตรงดงามตาม ศลิ ปะสโุ ขทัย คือ เส้นรอบนอกพระวรกายอ่อนชอ้ ย ชายผ้าสังฆาฏิแยกเป็นเขี้ยวตะขาบ พระพกั ตร์เอบิ อม่ิ คอ่ นข้างกลม พระขนงโก่ง พระเกตุมาลาเป็นรูปเปลวเพลงิ มีลกั ษณะพิเศษเรยี กว่าทฆี งคุลี คอื ปลายน้ิวพระ หตั ถ์ท้งั ส่ีนว้ิ ยาวเสมอกัน ซ้มุ เรอื นแก้วสรา้ งจากไม้แกะสลักในสมยั อยธุ ยา แกะสลักเป็นตัวมกร ลักษณะลำตัว คลา้ ยมังกร มีงวงคล้ายช้าง อยูต่ รงปลายซุ้ม และมลี ำตวั เหรา (คลา้ ยจระเข้) กลางซุ้ม และมีทา้ วเวสสุวรรณ และอาฬวกยักษ์ เทพอสุราปกปอ้ งอยู่สองตน ตำรวจภธู รจังหวัดพิษณโุ ลก มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน ถึง ๘๔ ปี มีการยา้ ยสถานท่ที ำการหลาย คร้งั จนถึงสถานที่ปัจจบุ ันคือ เลขท่ี ๒๓๔ หมู่ ๕ ตำบลหวั รอ อำเภอเมือง จงั หวดั พษิ ณโุ ลก ต้งั แต่ ปี ๒๕๕๘ เป็นตน้ มาแลว้ แตย่ งั ไมม่ ีพระพทุ ธรูปประจำหน่วยของตำรวจภธู รจงั หวัดพิษณุโลก คณะกรรมการจัดสรา้ งพระ พทุ ธชนิ ราชซ่ึงประกอบไปดว้ ยหลายหน่วย อาทิ คณะกรรมการตรวจสอบและตดิ ตามการบริหารงานตำรวจ จงั หวดั พิษณุโลก ผบู้ ังคบั บัญชา หวั หนา้ สถานีทุกแหง่ ในสงั กัด จึงมคี วามประสงคเ์ พ่อื เป็นศิริมงคลและเคารพ บชู าเป็นขวัญกำลังใจให้กับกำลงั พลในหน่วยตำรวจภูธรจงั หวดั พิษณโุ ลก จงึ นับเป็นบุญกุศลอนั ย่งิ ใหญท่ ่ผี มได้มโี อกาสเป็นส่วนหน่งึ ในการสร้างพระประธานประจำหนว่ ยใน คร้งั นเี้ นือ่ งในโอกาสมาดำรงตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจภธู รจงั หวัดพษิ ณุโลกและครบรอบ ๘๔ ปขี อง ตำรวจภธู รจงั หวดั พษิ ณโุ ลก ในโอกาสอนั เปน็ มงคลนี้ ผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและพระพุทธานภุ าพแหง่ พระพทุ ธชิน ราชจงดลบนั ดาลให้คณะทำงาน ทง้ั ผูเ้ กยี่ วข้อง ทุกท่านและครอบครวั ตลอดจนพทุ ธศาสนกิ ชนผู้จติ ศรทั ธา ประสบแตค่ วามสุขความเจริญด้วยจตุรพธิ พรชยั แคลว้ คลาดปราศจาดอนั ตรายทง้ั ปวง พลตำรวจตรี ( ธวัช วงค์สงา่ ) ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวดั พษิ ณโุ ลก

คำนำ พระพทุ ธชนิ ราชมีประวตั มิ าอย่างยาวนานและมีเร่อื งเลา่ ขานต่อกันมา การเปลย่ี นแปลงการพฒั นา ของสภาพวัดและ สภาพแวดลอ้ มของ กาลเวลาผา่ นไปจากสภาพภมู ิประเทศ การพัฒนาปรบั ปรุงวัด ประเพณี วฒั นธรรม แตย่ งั คงเอกลกั ษณ์ของท้องถนิ่ ไว้ จากคำกลา่ วทีว่ า่ วฒั นธรรม คอื วิถชี วี ิต ถือเป็นทนุ ทางสังคม และ ศักยภาพที่สำคัญย่ิงของชุมชนท้องถน่ิ และสงั คมไทย ท่ีได้แสดงออกในรูปแบบและวธิ ีการตา่ งๆ ทั้งใน รูปแบบ ของขนบธรรมเนยี มประเพณี ภูมปิ ัญญา เครื่องมอื เคร่อื งใช้ในการทำมาหากนิ ความเชือ่ แหล่ง วัฒนธรรม ศิลปวตั ถุ โบราณสถาน ที่กลา่ วมานี้ สะทอ้ นให้เห็นถึงคุณค่าและความสำคญั ของวฒั นธรรม ซ่งึ เป็นศกั ยภาพ และทุนทางสังคม ส่วู ฒั นธรรม ในการจดั ทำหนงั สอื ที่ระลึกจดั สรา้ งพระพุทธชินราชจำลองประจำหนว่ ยตำรวจภธู รจงั หวัดพษิ ณโุ ลก เนื่องในโอกาสครบรอบ ๘๔ ปี ตำรวจภูธรจังหวัดพษิ ณุโลกครัง้ นี้ ได้รบั การสนบั สนุนจากทกุ ฝ่ายจึงหวงั เป็น อย่างยงิ่ วา่ หนงั สือเลม่ นี้จะเป็นประโยชนต์ ่อผสู้ นใจเรียนรตู้ ่อไป ขอขอบคุณทุกทา่ นทใี่ หข้ ้อมูลในการจดั ทำ หนงั สือเลม่ น้ี ทำให้การจัดทำหนงั สือประสบความสำเรจ็ ตามวัตถปุ ระสงค์จงึ หวงั เป็นอย่างย่งิ วา่ หนงั สือเลม่ นจ้ี ะ เปน็ ประโยชนต์ อ่ ไป คณะกรรมการจดั สร้างหลวงพ่อพระพทุ ธชินราชจำลองประจำหน่วยตำรวจภธู รจงั หวัดพิษณโุ ลก เนื่องในโอกาสครบรอบ ๘๔ ปี ตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก

สารบญั ประวัติพระพุทธชินราช ประวตั ิพ่อขนุ ศรีอนิ ทราทิตย์ ประวตั ิสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช ประวัตติ ำรวจภูธรจังหวัดพษิ ณโุ ลก วัตปุ ระสงค์ในการสร้างพระประธานประจำหน่วย ประมวลภาพการบวงสรวง พระพุทธชินราช พ่อขนุ ศรีอนิ ทราทิตย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช รายนามพระสงฆเ์ จรญิ พระพุทธมนต์ ในพธิ ีเททองหล่อพระพุทธชินราชจำลอง ภาพพธิ ีเททอง สร้างพระพทุ ธชินราชจำลอง คำบชู าพระพทุ ธชนิ ราช รายนามพระสงฆเ์ จรญิ พระพุทธมนต์ ในพธิ ีพุทธาภิเษก ภาพพระสงฆเ์ จริญพระพทุ ธมนต์ ในพธิ พี ทุ ธาภเิ ษก รายนามพระสงฆผ์ ทู้ รงวิทยาคุณ นั่งปรก ในพธิ ีพุทธภิเษก ภาพพระสงฆผ์ ทู้ รงวิทยาคุณ น่งั ปรกอธิฐานจิต พระพทุ ธชินราชจำลอง ๒๙ น้ิว ประจำหนว่ ยตำรวจภูธรจงั หวัดพษิ ณโุ ลก รายนามพระสงฆผ์ ู้จารกึ จารอักขระในแผ่น ทอง นาก เงนิ ภาพพระสงฆผ์ ู้ทรงจารึกจารอักขระในแผ่น ทอง นาก เงิน ภาพแผ่นทอง ทอง นาก เงิน ท่ีพระสงฆเ์ มตตาจารอักขระและประสาทวิทยาคณุ ในการสร้างวัตถมุ งคล ภาพพระพทุ ธรปู พระพทุ ธชนิ ราช ขนาด ๙.๙ นวิ้ ,ขนาด ๕.๙ นว้ิ เหรยี ญพระพุทธชนิ ราช องคส์ มเดจ็ พระนเรศวรมหาราช เหรียญพระพุทธชนิ ราช พอ่ ขุนศรอี นิ ทราทติ ย์ ตวั อยา่ งหุน่ ข้ีผึ้ง พระพุทธชนิ ราช ประจำหนว่ ย ๒๙ น้ิว ตวั อย่างหุน่ ขผี้ ึง้ พระพุทธชินราช ประจำหน่วย ๙.๙ นว้ิ ตวั อย่างหุน่ ขี้ผ้ึง พระพทุ ธชนิ ราช ประจำหนว่ ย ๕.๙ น้ิว ตวั อยา่ งใบโบชัวร์ในการจัดสร้างพระพุทธชนิ ราช ภาคผนวก คำส่งั แต่งตั้งคณะกรรมการและคณะทำงานจัดสรา้ งพระพทุ ธรูป

ประวตั ิพระพุทธชินราช พระพทุ ธชินราช ประดษิ ฐานอยู่ ณ วหิ ารด้านตะวันตก ในวัดพระศรรี ตั นมหาธาตุ วรมหาวิหาร จงั หวดั พษิ ณโุ ลก เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชยั ขนาดใหญ่หลอ่ ดว้ ยทองสัมฤทธิ์ ตำนานการสรา้ ง พระพทุ ธชินราช ปรากฏหลักฐานทางโบราณคดี สันนิษฐานวา่ สรา้ งข้ึนในปี พ.ศ. 1900 ตรงกับรชั สมยั พระ มหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไทย) รชั กาลที่ ๕ แห่งราชวงคพ์ ระรว่ ง พระมหากษตั ริยแ์ ห่งกรงุ สุโขทยั พระพทุ ธรูปที่ สรา้ งคราวเดียวกนั มี ๓ องค์ คือพระพุทธชนิ ราช พระพุทธชนิ สีห์ แล พระศรีศาสดา พระพุทธชนิ ราช พระพุทธรปู หล่อทั้ง ๓ องค์ มีขนาดต่างกัน คอื พระพุทธชินราช หนา้ ตักกว้าง ๕ ศอก ๑ คืบ ๕ นวิ้ พระพุทธ ชนิ สีห์ หน้าตกั กว้าง ๔ ศอกคืบ ๔ นว้ิ พระศรศี าสดา หน้าตักกว้าง ๕ ศอก ๑ คบื ๖ นว้ิ พระพุทธชนิ ราช ได้รบั การยอมรบั วา่ เป็นพระพุทธรปู ท่ีมีพุทธลักษณะงดงามท่ีสดุ องคห์ น่งึ และยงั เปน็ พระพุทธรูปท่ีนิยมจำลองกนั มาก ท่สี ุดในประเทศไทย นอกจากน้ียังเปน็ พระพทุ ธรปู ที่ประชาชนชาวไทย ศรทั ธา และนยิ มเดนิ ทางมากราบไหว้ มากทสี่ ดุ องคห์ นึ่งด้วย พระพทุ ธชนิ ราช ไมป่ รากฏหลักฐานแนช่ ดั ว่าสรา้ งในสมัยใด คงมีแต่พงศาวดารเหนือ ซ่งึ เป็นเอกสารที่ เล่าถงึ ตำนานเมืองเหนือเรื่องตา่ ง ๆ สมยั กรงุ ศรีอยุธยา ถกู เรียบเรยี งข้ึนใหม่โดยพระวิเชียรปรชี า (น้อย) ในปี พ.ศ. 2350 ทอ่ี า้ งถึงกษตั รยิ ์เชียงแสนพระนามพระเจ้าศรีธรรมไตรปฎิ กเปน็ ผู้สร้าง พร้อมกับการสร้างเมอื ง พษิ ณโุ ลกและพระพทุ ธรูปอีก 2 องคค์ ือพระพุทธชนิ สหี ์และพระศรศี าสดา พ.ศ. 2409 พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจ้าอยูห่ ัวได้มีพระราชนิพนธ์เพ่ิมเตมิ เกีย่ วกบั ประวตั กิ าร สร้างพระพทุ ธชนิ ราช พระพุทธชินสีห์ และพระศรศี าสดา ในช่อื \"ตำนานพระพุทธชินราช พระพุทธชนิ ศรี และ พระศรศี าสดา\" ในหนงั สอื วชิรญาณวเิ ศษ วา่ ”แลเป็นอันมากก็ลงใจเหน็ ว่า พระพุทธชนิ ราช พระพุทธชนิ สหี ์ ๒ องค์น้ีงดงามนัก ไม่มพี ระพุทธรปู น้อยใหญท่ ี่ใหน ๆ ใหมเ่ ก่างดงามไปดกี ว่าน้ีได้เห็นจะเป็นของทีเ่ ทพยดาเข้าสงิ ช่าง ฤาเนรมิตเป็นมนุษย์มาชว่ ยสรา้ งชว่ ยทำเปน็ แน”่ โดยใชพ้ งศาวดารเหนือในการอา้ งองิ จงึ ทำให้มีเน้ือหา หลักคล้ายคลึงกัน แต่เพ่ิมเติมการสรา้ งพระเหลอื เข้าไป และมกี ารระบศุ ักราชในการสร้างพระพทุ ธรปู ท้งั 3 องค์

ไวด้ ังนี้ พระพุทธชนิ สีห์และพระศรีศาสดาหล่อในปี พ.ศ. 1498 และพระพุทธชนิ ราชหล่อขน้ึ ในปี พ.ศ. 1500 (หย่อนอยู่ 7 วัน) พ.ศ. 2423 ในรชั สมัยพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยู่หัว สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระ ยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ได้ทรงแตง่ ตำนานการสรา้ งพระพุทธชินราชข้ึนอีกสำนวนหนึ่ง ช่อื \"พงษาวดารเหนือ : เป็นลิลติ เรื่องนิทานพระรว่ ง แลนทิ านพระเจ้าธรรมไตรปฎิ ก นิทานพระชินศรี พระชินราช พระศาสดา\" ซงึ มี เนอ้ื เรอ่ื งเชน่ เดยี วกับพงศาวดารเหนือและพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ ัว แต่เพิ่ม ความสัมพันธร์ ะหวา่ งพระบรมราชจกั รวี งศ์กบั พระพทุ ธชนิ ราชเขา้ ไปด้วย สมเด็จพระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดำรงราชานภุ าพ ได้มีพระดำรเิ ก่ยี วกบั ประวตั กิ ารสรา้ งพระพทุ ธ ชินราชจากหลักฐานทางพุทธศิลป์นำมาเปรยี บเทยี บกบั พงศาวดารเหนอื วา่ พระพทุ ธชนิ ราช ถูกสร้างข้ึนในสมยั สโุ ขทยั เนือ่ งจากพทุ ธศลิ ป์อย่างพระพุทธรปู สโุ ขทยั ระคนกับพุทธศลิ ปเ์ ชยี งแสนแต่มีพัฒนาการไปกว่า พระพทุ ธรูปทีม่ ีอยเู่ ดิม และช่างผสู้ รา้ งพระพุทธชนิ ราชกบั พระพุทธชนิ สีหน์ น้ั เปน็ ชา่ งเดียวกัน หากแตพ่ ระศรี ศาสดาเป็นช่างอน่ื จากลักษณะประติมากรรมของพระพุทธรปู ทงั้ ๓ องค์ทปี่ รากฏ แต่จะสร้างพรอ้ มกันท้ัง 3 องคห์ รือไมน่ น้ั ไม่ทราบแนช่ ัด และเม่ือพจิ ารณาช่วงเวลาการสรา้ งแลว้ ทรงคาดว่าพระพุทธรปู ทั้ง 3 องค์น่าจะ สร้างในรัชสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 1 ในปี พ.ศ. 1900 มใิ ช่พระเจ้าศรีธรรมไตรปฎิ ก โดยประทานเหตุผล วา่ \"พระเจา้ แผน่ ดินซ่ึงปรากฏพระเกียรติในเร่ืองพระไตรปฎิ กนน้ั มีแต่พระองคเ์ ดยี วคือพระมหาธรรมราชาลิ ไทย...พระมหาธรรมราชาน้ีเองท่ีพงศาวดารเหนอื เรยี กว่า พระเจ้าศรธี รรมไตรปฎิ ก\" นอกจากนี้ยงั มีการสันนษิ ฐานเก่ยี วกับประวตั ิการสรา้ งพระพุทธชินราชวา่ น่าจะถกู สรา้ งข้ึนในสมยั กรุง ศรอี ยธุ ยาโดยพิชญา สุม่ จนิ ดา ซึง่ ไดก้ ำหนดอายเุ วลาของพระพุทธชินราชขึ้นใหม่จากพุทธลักษณะขององค์ พระพุทธรปู จากรปู แบบของเรอื นแก้ว โดยเทียบเคยี งกบั ลวดลายบนซมุ้ เรอื นแก้วที่วัดพระบรมธาตุ จังหวัด นครศรีธรรมราช อายเุ วลาของลวดลายดงั กล่าวอาจกำหนดได้ในช่วงสมัยอยุธยาตอนปลาย และจาก สถาปัตยกรรมของพระวหิ าร ในรัชสมยั ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พ.ศ. 2199-2232) อยา่ งไรกต็ ามความเหน็ ท่ีได้รับการยอมรับมากท่สี ดุ ณ ขณะนคี้ ือความเห็นในแนวทางเดียวกบั สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานภุ าพ ทเี่ ชอื่ วา่ พระพทุ ธรูปท้ัง 3 องค์นี้ถูกสร้างข้นึ ในราว พ.ศ. 1900 ในรัชสมยั ของพระมหาธรรมราชาท่ี 1 (ลไิ ทย) หมายเหต:ุ ซมุ้ เรอื นแกว้ รูปหล่ออาฬวกยกั ษแ์ ละท้าวเวสสุวณั เป็นประติมากรรมทีส่ ร้างขึ้นคนละยุคกับ องค์พระโดยเชื่อว่านา่ จะสร้างข้นึ ในสมยั อยุธยาโดยสงั เกตจากลกั ษณะลวดลายและลกั ษณะทางสถาปัตยกรรม นอกจากน้ยี ังมีการบูรณะพระพทุ ธชนิ ราชโดยการเพ่มิ อณุ าโลมบริเวณพระนลาฏในสมยั หลัง (คาดว่านา่ จะทำ ข้ึนในสมยั อยุธยา เน่ืองจากไม่ปรากฏหลักฐานการบูรณะเพิ่มเตมิ ) ลกั ษณะทางพุทธศลิ ป์ พระเกศรศั มียาวเปน็ เปลวเพลิง พระเกศาขดเป็นก้นหอยขนาดใหญ่ วงพระพักตรค์ ่อนข้างกลมไมย่ าวรี เหมอื นผลมะตูมเชน่ พระพุทธรูปสมยั สโุ ขทัยหมวดใหญ่ มีพระอุณาโลมผลิกอยู่ระหวา่ งพระขนง พระวรกาย อวบอว้ นมีสังฆายาวปลายหยกั เป็นเข้ยี วตะขาบฝงั ดว้ ยแก้ว นวิ้ พระหัตถ์ทั้งสีย่ าวเสมอกนั (ทีฆงคุลี) ฝา่ พระ บาทแบนราบค่อนข้างแคบเมื่อเทียบกบั พระพุทธรปู สมัยสุโขทัยหมวดใหญ่ สน้ พระบาทยาว มีรปู อาฬวกยักษ์ และรูปทา้ วเวสสวุ ณั หล่อดว้ ยทองสัมฤทธ์ิเฝา้ อยู่ท่ีพระเพลาเบ้ืองขวาและซ้ายขององค์ตามลำดบั มซี ้มุ เรือนแกว้ และสลักด้วยไม้สักลงรกั ปิดทองประดบั เบื้องพระปฤษฎางคป์ ราณีตอ่อนช้อยชว่ ยเน้นให้พระวรกายของพระ พทุ ธชนิ ราชมีความงดงามยิง่ ขึ้น

การจัดหมวดหมู่ พระพุทธชนิ ราช ถกู จดั ให้อยู่ในพระพทุ ธรปู หมวดพระพุทธชินราช (พระพุทธรูปสกลุ ช่างเมืองพิษณโุ ลก ซงึ่ มีลกั ษณะตา่ งจากหมวดใหญ่เล็กน้อย คือพระพักตร์ท่ีอวบอ้วนมากกว่าและทสี่ ำคัญคือการทำปลายน้ิวพระ หัตถ์ทงั้ 4 ยาวเสมอกนั ซงึ่ เป็นลักษณะเฉพาะของพระพุทธรูปหมวดน้)ี ถือเปน็ 1 ใน 4 หมวดของ พระพุทธรปู สมยั สุโขทยั ทีม่ า:หนังสอื นครสรสวงสองแคว เมอื งพระพิศณโุ ลกย์ องค์การบรหิ ารส่วนจงั หวดั พิษณุโลก :วกิ พิ ิเดีย สารานกุ รมเสรี พระพทุ ธชินราช

ประวตั ิ พอ่ ขุนศรอี นิ ทราทติ ย์ พ่อขุนศรอี ินทราทติ ย์ หรือพระนามเต็ม กมรเตงอัญศรีอนิ ทรบดนิ ทราทิตย์ พระนามเดิม \"พ่อขนุ บาง กลางหาว\" เป็นปฐมกษัตรยิ ์แห่งราชวงศพ์ ระรว่ ง ตามประวัติศาสตรไ์ ทย ทรงครองราชย์ตั้งแต่ พ.ศ. 1781 ตราบจนเสด็จสวรรคตเมือ่ พ.ศ. 1811 สำหรบั พระนามแรก คือ พ่อขนุ บางกลางหาว นนั้ เป็นพระนามดงั้ เดิมเม่ือครั้งเป็น เจ้าเมืองบาง ยาง เป็นทีย่ อมรบั กันโดยทั่วไปวา่ พ่อขนุ บางกลางหาวเป็น พระนามสมยั เปน็ เจ้าเมืองบางยาง โดยแท้จรงิ พระนามทส่ี องน้ัน เป็นพระนามแบบทางการตามอยา่ งราชประเพณีเขมร เปน็ พระนามทรงใช้เมอื่ เข้ารบั พระราชพธิ บี รมราชาภิเษกแล้ว พระนาม \"ศรีอนิ ทราทติ ย\"์ มกี ล่าวไวอ้ ยูใ่ นศลิ าจารกึ หลักท่ี 2 วดั ศรชี ุมวา่ \"ศรี อนิ ทรปตินทราทิตย\" ซ่ึงเป็นพระนามเกยี รติยศที่พระเจา้ แผน่ ดินเขมรแตโ่ บราณสถาปนาให้แก่พ่อขนุ ผาเมือง องคร์ ัชทายาทผู้ครองเชลยี งสกุ โขไทในราชวงศศ์ รนี าวนำถม ตอ่ มาภายหลังพ่อขุนผาเมอื งทรงยกใหแ้ ก่พระ สหายพ่อขนุ บางกลางหาวแทน พอ่ ขุนศรีอินทราทิตย์ เม่อื คร้งั ยงั เป็นพ่อขุนบางกลางหาวไดร้ ว่ มมือกบั พอ่ ขุนผาเมือง เจา้ เมืองราดแหง่ ราชวงศศ์ รนี าวนำถุม รวมกำลงั พลกนั กระทำรัฐประหารขอมสบาดโขลญลำพง โดยพ่อขุนบางกลางหาวตีเมือง ศรสี ัชนาลัยและเมอื งบางขลังได้ และยกท้งั สองเมืองให้พอ่ ขุนผาเมือง ส่วนพอ่ ขนุ ผาเมืองตีเมอื งสโุ ขทยั ได้ ก็ได้ มอบเมืองสุโขทัยให้พ่อขุนบางกลางหาว พรอ้ มพระขรรคช์ ยั ศรีและพระนาม \"ศรีอินทรบดนิ ทราทติ ย\"์ ซง่ึ ได้ นำมาใชเ้ ปน็ พระนาม ภายหลังไดค้ ลายเปน็ ศรีอินทราทิตย์ การเข้ามาครองสุโขทยั ของพระองค์ ส่งผลให้ ราชวงศ์พระรว่ งเข้ามามีอทิ ธิพลในเขตนครสโุ ขทยั เพ่ิมมากขน้ึ และได้แผ่ขยายดนิ แดนกว้างขวางมากออกไป แตเ่ ขตแดนเมอื งสรลวงสองแคว กย็ ังคงเป็นฐานกำลังของราชวงศศ์ รนี าวนำถุมอยู่

ในกลางรชั สมัย ทรงมสี งครามกบั ขนุ สามชน เจ้าเมืองฉอด ทรงชนชา้ งกับขนุ สามชน แต่ไพรพ่ ลของ พระองค์ ได้เตลิดหนดี งั คำในศิลาจารึกว่า \"ไพร่ฟา้ หนา้ ใสพ่อกู หนญี ญ่ายพา่ ยจแจน๋ \"(หนี-ยอ-ยา่ ย-พา่ ย-จอ- แจ้น) ขณะนนั้ พระโอรสองคเ์ ลก็ (รามราช) มีพระปรชี าสามารถ ได้ขบั ช้างแซงขน้ึ ไปชนช้างชนะขนุ สามชน ภายหลงั จงึ ทรงเฉลิมพระนามพระโอรสวา่ รามคำแหง ในยุคประวตั ศิ าสตรช์ าตินยิ ม มีคตหิ น่งึ ที่เชื่อกันว่า พระองค์ทรงเปน็ ผูน้ ำชาวสยามตอ่ สกู้ ับอิทธพิ ลขอม ในสุวรรณภมู ิ ทรงไดช้ ยั ชนะและประกาศอิสรภาพตงั้ ราชอาณาจกั รสุโขทยั ข้ึน และทรงเป็นปฐมกษตั รยิ แ์ ห่ง ราชอาณาจักรไทย แตภ่ ายหลัง คตดิ ังกล่าวไดร้ ับการพิสูจน์แล้ววา่ ไมจ่ ริง เพราะพระองค์ไมไ่ ดเ้ ปน็ ปฐมกษตั ริย์ อกี ท้ังยังมีพ่อขนุ ศรีนาวนำถุม ครองสโุ ขทยั อยกู่ ่อนแล้ว ท่มี า:หนังสือพ่อขุนศรีอนิ ทราทิตย์ (พ่อขนุ บางกลางทา่ ว) พระปฐมบรมกษตั ริยผ์ ู้สรา้ งชาตไิ ทย สำนักงานประชาสมั พันธ์ จงั หวดั พษิ ณุโลก พิมพ์ครั้งที่ ๑ : ๒๕๕๓ :วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ประวตั สิ มเดจ็ พระนเรศวรมหาราช สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช มีพระนามเดิมว่าพระนเรศ หรือ \"พระองคด์ ำ\" เปน็ พระราชโอรสในสมเด็จ พระมหาธรรมราชาธิราชและพระวสิ ทุ ธกิ ษัตรยี ์(พระราชธดิ าของสมเดจ็ พระศรีสรุ ิโยทยั และสมเดจ็ พระมหาจัก พรรด)ิ์ เสด็จพระราชสมภพเมื่อ พ.ศ. 2098 ทพี่ ระราชวังจันทน์ เมืองพิษณโุ ลก มีพระเชษฐภคินคี ือ”พระ สุพรรณกลั ยา” มีพระอนชุ าคือ”สมเด็จพระเอกาทศรถ (พระองค์ขาว) ทรงเปน็ พระราชนัดดาของสมเด็จพระ ศรสี รุ ิโยทัย พระนามของพระองค์ปรากฏในลายลักษณ์อักษรหลายฉบับเชน่ พระนเรศ วรราชาธิราช พระนเรสส องคด์ ำ จงึ ไม่สามารถสรปุ ได้ว่าพระนาม”นเรศวร” ไดม้ าจากท่ีใดมีการสันนษิ ฐานเบ้ืองต้นวา่ น่าจะเพย้ี นมาจาก” สมเด็จพระนเรศวรราชาธริ าช”มาเป็นพระนเรศวร ราชาธริ าช เสด็จขน้ึ ครองราชยเ์ ม่ือวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2133 ศริ ิรวมครองราชสมบตั ิ 15 ปี เสด็จสวรรคตเมอ่ื วนั ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2148 สริ ิพระ ชนมพรรษา ๕๐ พรรษา สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหาธรรมราชา และพระวิสุทธกิ ษัตรยิ ์ พระ ราชธดิ าของสมเดจ็ พระมหาจักพรรดิ์และสมเดจ็ พระศรีสรุ โิ ยทัย เสดจ็ พระราขสมภพเม่อื ปี พ.ศ.๒๐๙๘ ท่ี พระราชวังจนั ทร์ เมืองพิษณุโลก ในขณะทรงพระเยาว์ ทรงใชช้ วี ิตอย่ใู นพระราชวังจันทร์ เมอื งพิษณโุ ลก จนกระทั่งพระเจา้ บุเรงนองยกทัพ มาตีเมืองพิษณโุ ลกในสงครามช้างเผือก สมเด็จพระมหาธรรมราชาธริ าช เจ้าเมอื งพิษณุโลกยอมอ่อนน้อมต่อ หงษ์สาวดี จงึ ทำให้พษิ ณุโลกต้องแปรสภาพเปน็ ประเทศราชของ หงส์สาวดี ไม่ขนึ้ ต่องกรงุ ศรีอยุธยา พระเจ้า บเุ รงนองทรงขอพระเนศวรไปเปน็ องคป์ ระกันท่หี งส์สาวดีปี พ.ศ. ๒๑๐๗ ทำใหพ้ ระองค์ตอ้ งจากบา้ นเกิดเมอื ง นอนตงั้ แต่มีพระชนมายุเพียง ๙ พรรษา ราชการสงครามในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงหลงั่ ทักษโิ ณทกตัดสมั พันธไ์ มตรกี ับหงษสาวดแี ละ กวาดตอ้ นครวั ไทย(จิตรกรรมฝาผนังวัดสุวรรณดาราม จงั หวัดพระนครศรีอยุธยา) พระองค์ไดน้ ิมนตม์ หาเถรคนั ฉ่องและพระสงฆ์มาเป็นสักขีพยาน ทรงแจง้ คนทง้ั ปวงที่มาชุมนมุ ณ ที่นน้ั ทราบวา่ พระเจา้ หงสส์ าวดคี ิด ประทษุ รา้ ยตอ่ พระองค์ จากน้นั พระองค์ไดห้ ลัง่ นำ้ ลงสแู่ ผ่นดนิ ด้วยสวุ รรณภิงคาร(พระน้ำเต้าทองคำ) ประกาศ แก่เทพดา ฟา้ ดิน วา่ “ ดว้ ยพระเจ้าหงษ์สาวดี มิได้อยู่ครองสุจริตมติ รภาพอนั ขัตตริ าชประเพณี เสยี สามัคครี ส ธรรม ประพฤติพาลทจุ รติ คดิ จะทำอันตรายแก่เรา ตัง้ แตน่ ้เี ปน็ ต้นไป กรุงศรอี ยุธยาขาดไมตรีกบั หงส์สาวดี มิได้

เป็นมิตรรว่ มสุวรรณภูมิปฐพีเดียวกันดุจดังดงั แต่ก่อนสบื ไป” เป็นเหตกุ ารณท์ ย่ี ่ิงใหญ่และสำคัญยง่ิ ของชาตไิ ทย พระองค์ได้กู้อสิ รภาพของไทยจากการเสยี กรุงศรีอยธุ ยาคร้ังแรก และได้ทรงแผ่อำนาจของราชอาณาจกั รไทย อย่างกวา้ งใหญ่ไพศาล นับตง้ั แต่ประเทศพมา่ ตอนใต้ท้ังหมด นั่นคือ จากฝ่ังมหาสมุทรอินเดยี ทางดา้ นตะวันตก ไปจนถงึ ฝง่ั มหาสมทุ รแปซฟิ ิกทางด้านตะวนั ออก ทางดา้ นทิศใตต้ ลอดไปถงึ แหลมมลายู ทางดา้ นทศิ เหนือก็ถึง ฝั่งแม่น้ำโขงโดยตลอด และยงั รวมไปถงึ รัฐไทใหญบ่ างรฐั ในปี พ.ศ.๒๑๓๕ พระมหาอุปราชา นำทัพทหารสองแสนส่หี ม่ืนคนมาตกี รุงศรีอยธุ ยาหมายจะชนะศึก ในครงั้ นี้ สมเด็จพระนเรศวรทรงทราบ จึงทรงเตรยี มไพรพ่ ล กำลังหนงึ่ แสนคนเดนิ ทางออกบา้ นป่าโมกไป สุพรรณบรุ ี ข้ามน้ำตรงทา่ ท้าวอู่ทอง และตั้งค่ายตรงบริเวณหนองสาหรา่ ย วนั จันทรแ์ รม ๒ ค่ำ เดือนย่ี ปีมะโรง สมเดจ็ พระนเรศวรและสมเดจ็ พระเอกาทศรศทรงเครื่องพิชยั ยทุ ธ สมเดจ็ พระนเรศวร ทรงช้างนามว่า “เจา้ พระไชยยานุภาพ”สมเด็จพระเอกาทศรศ ทรงช้างนามวา่ “พระเจา้ ปราบไตรจกั ร” ขณะในทำศึกชา้ งทรงของสองพระองค์ถลำเข้ามาถึงกลางกองทัพ ตกอย่ใู นวงล้อม แตด่ ้วยปฎิ พาลไหวพริบของสมเดจ็ พระนเรศวร จึงไดต้ รสั เชิญพระมหาอุปราชา วา่ “เจ้าพเ่ี ราจะยืนอยทู่ ำไมในร่มไมเ้ ลา่ เชิญออกมาทำยุทธหัตถีด้วยกัน ให้เป็นเกียรติยศไว้ในแผน่ ดนิ เถดิ ภายภาคหน้าไปไม่มีพระเจา้ แผน่ ดินไดย้ ุทธ หัตถีกันแล้ว”ในการทำยธุ หตั ถีสมเดจ็ พระนเรศวรทรงฟันด้วยพระแสงคอง้าวถกู พระมหาอุปราชาเขา้ ท่ีอังวะสะ ขวา สนิ พระชนม์อยู่บนคอชา้ ง ตัง้ แต่สมเดจ็ พระนเรศวรประกาศอิสรภาพเป็นตน้ มา หงสาวดไี ดเ้ พยี รส่งกองทพั เข้ามาหลายครงั้ แต่ก็ ถกู กองทัพกรงุ ศรีอยธุ ยาตแี ตกพ่ายไปทุกคร้ัง เมื่อสมเดจ็ พระมหาธรรมราชาเสด็จสวรรคตเมอื่ ปี พ.ศ. 2133 พระองค์ได้เสดจ็ ข้ึนครองราชยเ์ ม่ือวันอาทิตย์ท่ี 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2133 เมอ่ื พระชนมายุได้ 35 พรรษา ทรง พระนามวา่ สมเดจ็ พระนเรศวร หรือ สมเดจ็ พระสรรเพชญ์ที่ 2 และโปรดเกล้าฯ ให้พระเอกาทศรถ พระอนุชา ขึ้นเป็นพระมหาอุปราช แต่มีศักดิเ์ สมอพระมหากษัตริย์อีกพระองค์ สมเด็จพระนเรศวร กบั สมเด็จพระเอกาทศรถ เสดจ็ ยกกองทพั ออกจากพระนคร เมื่อวนั พฤหสั บดี แรม 8 ค่ำ เดือนย่ี ปีมะโรง พ.ศ. 2148 เสด็จโดยกระบวนเรือจากพระตำหนักป่าโมก แลว้ เสด็จข้นึ บนทีต่ ำบล เอก ราชไปตัง้ ทัพชัย ณ ตำบลพระหล่อ แลว้ ยกกองทัพบกไปทางเมืองกำแพงเพชรสู่เมืองเชยี งใหม่ ครนั้ เสดจ็ ถงึ เมืองเชยี งใหม่กห็ ยุดพกั จดั กระบวนทพั อย่หู น่งึ เดือน แล้วให้กองทัพสมเดจ็ พระเอกาทศรถยกไปทางเมอื งฝาง สว่ นกองทัพหลวงยกไปทางเมืองหางหลวง ครนั้ เสดจ็ ถึงเมืองหางแล้วก็ให้ตั้งคา่ ยหลวงประทบั อย่ทู ท่ี ุ่งแก้ว สมเด็จพระนเรศวรทรงพระประชวรเปน็ หวั ระลอก (ฝ)ี ขึ้นท่ีพระพักตร์ แลว้ กลายเปน็ บาดทะพษิ พระอาการ หนัก จึงโปรดให้ข้าหลวงรบี ไปเชญิ เสด็จสมเด็จพระเอกาทศรถมาเฝ้า สมเดจ็ พระเอกาทศรถเสดจ็ ฯ มาถงึ ได้ 3 วนั สมเด็จพระนเรศวรก็เสดจ็ สวรรคต เมอ่ื วันจันทร์ ขน้ึ 8 คำ่ เดอื น 6 ปีมะเส็ง ตรงกับวันท่ี 25 เมษายน พ.ศ. 2148 สิริพระชนมพรรษา 49 พรรษาเศษ ดำรงราชสมบตั ิ 14 ปีเศษ สมเด็จพระเอกาทศรถจึงได้อัญเชิญพระ บรมศพกลับกรงุ ศรอี ยุธยา ทีม่ า:หนังสอื มหาราชผทู้ รงกอบก้เู อกราช กองทพั ภาคท่ี ๓ (พระราชประวตั ิ) พิมพค์ รัง้ ที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๘ :วิกิพิเดีย สารานกุ รมเสรี สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช

ประวตั ติ ำรวจภธู รจงั หวดั พิษณุโลก นับตั้งแตร่ ัชสมยั ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยูห่ ัว รัชกาลที่ ๕ ปฏิรปู ระบบ ราชการให้ทนั สมัยท่ัวประเทศ มีการจัดการปกครองหัวเมืองต่าง ๆ แบบเทศาภบิ าลเพื่อสรา้ งเอกภาพ ทางการปกครอง และรกั ษาเอกราชของชาติใหพ้ ้นจากภัยคกุ คามของประเทศทางตะวนั ตกที่แผอ่ ทิ ธิพล เข้ามา มณฑลเทศาภบิ าลเริม่ เม่อื ปี พ.ศ. ๒๔๓๕ เป็นหน่วยราชการส่วนภูมภิ าคที่รวมเมืองใกล้เคียงเข้า ด้วยกัน มีขา้ หลวงเทศาภิบาลเปน็ หวั หน้า ในด้านกิจการตำรวจ พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกล้า เจ้าอยู่หัวทรงพัฒนากิจการตำรวจไปส่มู ณฑลต่าง ๆ ทั่วราชอาณาจักรด้วยเริม่ ต้นในปี พ.ศ. ๒๔๔๐ (ร.ศ.๑๑๖) โดยมีพระราชดำริว่า “กิจการทีไ่ ด้ทำอยูใ่ นหัวเมืองมณฑลต่าง ๆ นั้นยังไมเ่ ป็นทีเ่ กรงขามแก่ พวกนักเลงปล้นสะดมและยังไม่เหมาะกบั สมัยของบ้านเมอื ง”เพื่อจะให้ความปลอดภัยและสงบสุขแก่ อาณาประชาราษฎรจ์ ึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เสนาบดีกระทรวงมหาดไทยจดั ตั้งกองตำรวจภูธร ในหัวเมอื งมณฑลต่าง ๆ ขึ้น กิจการตำรวจภูธรได้ขยายขึ้นตามลำดับโดยค่อยๆครอบคลุมเขตพื้นที่ รกั ษาความสงบเรียบร้อยในหัวเมืองใหม้ ีประสิทธิภาพมากยิง่ ขนึ้ โดยในปี พ.ศ. ๒๔๔๔ จดั ต้ังกอง ตำรวจภธู รมณฑลพิษณโุ ลก ขึน้ พร้อมกับ นครศรธี รรมราช และ ปตั ตานี นับเปน็ จุดกำเนิดของกอง ตำรวจภูธรมณฑลพิษณุโลก สอดคล้องกบั หลักฐานลายพระราชหัตถเลขา พระบาทสมเด็จพระ จลุ จอมเกล้าเจา้ อยู่หวั รชั กาลที่ ๕ เนื่องในพระราชวโรกาส เสด็จเลียบมณฑลฝา่ ยเหนอื เม่อื พ.ศ. ๒๔๔๔ ตอนหน่งึ ข้อความวา่ “..เวลาเช้า ๒ โมงเศษลงเรอื ล่องลงไปขนึ้ ที่หน้าตลาด..ตอนปลายไปใกล้ ถึงโรงสุรา เปน็ โรงคนเช่าอยูไ่ มไ่ ด้ค้าขาย...และดโู รงสุราแล้ว กลับขึน้ มาดูโรงเรยี นแผนที่ มีเรอื นครูฝรั่ง หลงั หนึ่ง..ออกจากน้ันไปผ่านหนา้ บ้านเจ้าพนักงาน ป่าไม้และทีพ่ ักตำรวจภูธรซึ่งยังไม่ได้ทำข้ึนใหม่ เป็น แต่อาศยั ที่ดนิ อยู่ ...” ในปี พ.ศ. ๒๔๖๙ มีมหาอำมาตยต์ รพี ระยาเพ็ชรปาณี ดำรงตำแหน่งสมุหเทศาภบิ าลมณฑล พิษณโุ ลก และมีพระยากลั ยาณวัฒนวิศิษฐ์ เปน็ ผวู้ ่าราชการจังหวัด นายพันตำรวจโทพระสท้านไตรภพ (มากมาย มสุ ิลักษณ)์ ผบู้ งั คับการตำรวจภธู ร และนายร้อยตำรวจเอกคณุ คำแหงสงิ หนาท(อน่ั ไชย นิพฒั น)์ ผู้บงั คบั กองตำรวจภธู ร เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๖ กรมตำรวจได้ทำการก่อสร้างอาคารทีท่ ำการตำรวจข้ึนบนถนนบรมไตร โลกนาถ เปน็ อาคารตกึ ๔ ช้ัน ชั้นล่างสุด เปน็ สถานีตำรวจภธู รอำเภอเมืองพิษณุโลก ชั้นทีส่ อง เปน็ กอง กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ช้ันทีส่ าม เปน็ ที่ทำการ ศปร. พตท.๖ ชั้นทีส่ ี่ เปน็ สถานทีเ่ ก็บ เอกสารและวสั ดุสิง่ ของของทางราชการ

ต่อมาเมือ่ ปี พ.ศ. ๒๕๔๗ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้อนุมตั ใิ ห้ย้ายทีท่ ำการตำรวจภธู รภาค ๖ ไปยงั ที่ทำการปัจจบุ ัน ตำบลมะตูม อำเภอพรหมพิราม จงั หวัดพิษณุโลก ตำรวจภูธรจังหวัดพิษณโุ ลก จงึ ย้ายจากชั้น ๒ อาคารเดิมมาอยู่ ณ อาคารตำรวจภูธรภาค ๖ เดิมที่ย้ายออกไป จนถึงปี พ.ศ. ๒๕๕๕ สำนกั งานตำรวจแหง่ ชาติ จงึ ได้อนมุ ตั ิงบประมาณจำนวน ๓๐ ล้านบาท ทำการก่อสร้างที่ทำการ ตำรวจภูธรจังหวดั พิษณโุ ลก ปัจจบุ ันเลขที่ ๒๓๔ หมู่ ๕ ตำบลหัวรอ อำเภอเมอื ง จังหวัดพิษณุโลก เนื้อ ที่ ๗ ไร่ ๑ งาน ๑๒ ตารางวา สร้างเมื่อ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ เสร็จเมื่อ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ และ ย้ายจากที่ทำการเดิมมาเมือ่ ปี ๒๕๕๗ มาจนถึงปจั จบุ นั (ย่อจากบันทึกของ พล.ต.ต.วีระสมพร อยศู่ รีสกลุ อ้างอิง หนังสอื ๑๑๑ ปี ตำรวจภูธรภาค ๕ และเอกสารบรรยายสรุป สภ.อ.เมอื งพิษณุโลก เนื่องในโอกาส คณะจเรตำรวจมาตรวจราชการ เมือ่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๓๑)

วตั ถุประสงค์ ในการสร้างพระประธานประจาหน่วย เพอื่ เป็นทรี่ ะลกึ ในวาระครบรอบ ๘๔ ปี ตารวจภูธร จงั หวดั พษิ ณุโลก เป็นทย่ี ดึ เหนย่ี วจติ ใจและเคารพสกั การะของ ขา้ ราชการตารวจจงั หวดั พษิ ณุโลกและประชาชนทวั่ ไป เพอ่ื เป็นการจดั หารายไดจ้ ดั ตงั้ กองทุนสวสั ดกิ าร ช่วยเหลอื ขา้ ราชการตารวจ ตารวจภธู รจงั หวดั พษิ ณุโลก เพอื่ เกดิ ขวญั และ กาลงั ใจในการปฏบิ ตั หิ นา้ ทใี่นการรกั ษาความปลอดภยั ใน ชวี ติ และทรพั ยส์ นิ ของประชาชน

ประมวลภาพ พิธีขออนุญาตจดั สรา้ ง พระพทุ ธชินราชจำลอง ณ วดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวิหาร วันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔ แรม ๓ ค่ำเดือน ๘







เมอื่ วันพฤหัสบดีท่ี 27 พฤษภาคม ๒๕64 แรม ๓ คำ่ เดือน ๘ พลตำรวจรตรธี วชั วงศ์สง่า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลกพิษณุโลก เป็นประธาน พร้อมด้วย คุณอรชุกร วงศ์สง่า ประธาน แม่บ้านตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก,หัวหน้าสถานีตำรวจภูธร ผู้ กำกับการฝ่ายอำนวยการพิษณุโลก และ คณะกรรมการตรวจและติดตามการบริหารงานตำรวจจังหวัด พษิ ณโุ ลก โดย ดร.สมไทย วงษ์เจริญ บัณฑิตผทู้ ำพิธีการ ร่วมพิธีบวงสรวงขออนุญาติ จดั สรา้ งพระพุทธชินราช จำลอง หน้าตัก 29 นิ้ว เพื่อประดิษฐาน ณ หอพระหน้าที่ทำการ ตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก เหรียญ ดา้ นหน้าพระพุทธชนิ ราช ด้านหลงั สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และ ด้านหน้าพระพทุ ธชินราช ด้านหลังพ่อขุน ศรอี ินทราทติ ย์ เน่อื งในโอกาสที่ ตำรวจภธู รจังหวดั พิษณโุ ลก กอ่ ตัง้ มาเปน็ ระยะเวลา 84 ปี โดยมีวตั ถปุ ระสงค์ เพื่อใหเ้ ป็นศูนยร์ วมจิตใจและเป็นท่ีสักการะบูชาของข้าราชการตำรวจ ในจงั หวดั พิษณุโลก ตลอดจนประชาชน ทว่ั ไป ณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร, ศาลพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ หน่วยพัฒนาการทหาร เคลอื่ นที่ 34 (โรงทอเดมิ ) และ ตำหนกั สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระราชวังจนั ทร์ จังหวัดพษิ ณโุ ลก

ประมวลภาพพิธบี วงสรวงพ่อขุนศรีอนิ ทราทิตย์ ณ ศาลพอ่ ขุนศรอี นิ ทราทิตย์ ณ หน่วยพัฒนาการทหารเคลอ่ื นที่ 34 จังหวัดพษิ ณโุ ลก วนั ที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔







ประมวลภาพพิธบี วงสรวง สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ ตำหนกั สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระราชวงั จันทร์ จังหวดั พษิ ณโุ ลก วนั ท่ี ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔







พระพุทธิวงศมุนี (บำรุง ฐานุตตโร) เจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก เมตตาอนุญาต ใหจ้ ัดสร้างพระพทุ ธชนิ ราชจำลอง รุน่ ๘๔ ปี ตำรวจภูธร จงั หวดั พษิ ณุโลก และเมตตาใหใ้ ชส้ ถานที่ วดั พระศรีรตั นมหาธาตุวรมหาวหิ าร ในพิธเี ททองหล่อพระในวนั ท่ี ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔ และ พธี ีพทุ ธาภเิ ษก ในวันที่ ๔ สงิ หาคม ๒๕๖๔

ประมวลภาพพธิ เีททอง หลอ่ พระ สร้างพระพุทธชนิ ราชจาลอง ในวันท่ี ๒๗ มิถนุ ายน ๒๕๖๔ ณ วดั พระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวหิ าร อำเภอเมือง จังหวัดพษิ ณโุ ลก พระพุทธวิ งศมุนี (เจา้ อาวาสวดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ าร) ประธานฝ่ ายสงฆ์ พลตารวจตรธี วชั วงศ์สงา่ ผูบ้ งั คบั การตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก ประธานฝ่ ายฆราวาส บัณฑิตผูท้ ำพธิ ีพรำหมณ์ ดร.สมไทย วงษ์เจริญ

พระสงฆผ์ ทู้ รงสมณศกั ด์ิ นั่งปรกอธิฐานจิต พธิ เี ททองหลอ่ พระพทุ ธชนิ ราช พระเทพสทิ ธาคม(หลวงปู่สาย กติ ตปิ าโล) พระรตั นโมล(ี หลวงพอ่ ไพรนิ ทร์) เจ้าอาวาสวดั ท่าไม้แดง อาเภอเมอื ง จงั หวดั ตาก พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ าร อาเภอเมอื ง จงั หวดั พษิ ณุโลก หลวงพอ่ ยนต์ ฐิตสำโร วัดหลำ่ ยหนองหมี พระครบู ำสมหุ ว์ รฉัตร สุจิตโต เจ้ำอำวำสวัดปำกเหมือง อำเภอวชิรบำรมี จังหวัดพจิ ิตร อำเภอสำรภี จังหวัดเชียงใหม่ พระพศิ ำลญำณวงศ์ (หลวงป่ ทู องดี อนีโฆ) หลวงพอ่ ฉลวย วัดเมมสุวรรณำรำมตำบลท่ำช้ำง วัดใหม่ปลำยหว้ ย อำเภอ สำมง่ำม จังหวัดพจิ ิตร อำเภอพรมพริ ำม จ.พษิ ณโุ ลก

รายนามพระสงฆผ์ ูท้ รงสมณศกั ดิ์ จานวน ๙ รปู เจรญิ พระพุทธมนต์ธมั มจกั รกปั วตั นสูตร ในพธิ เี ททองหลอ่ พระพุทธชนิ ราชจาลอง ร่นุ ๘๔ ปี ตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก ณ วดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ าร อาเภอเมอื งพษิ ณุโลก จงั หวดั พษิ ณุโลก วนั อาทติ ย์ท่ี ๒๗ มถิ ุนายน พุทธศกั ราช ๒๕๖๔ ***************** ๑. พระสุธรรมมุนี รองเจา้ อาวาสวดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ าร ๒. พระมหาจกั รกฤช ปญฺญาธโร ผูช้ ว่ ยเจา้ อาวาสวดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ าร ๓. พระครูปญั ญารตั นาทร ผูช้ ว่ ยเจา้ อาวาสวดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ าร ๔. พระครรู ตั นเสนาภมิ ุข ผูช้ ว่ ยเจา้ อาวาสวดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ าร ๕. พนะครูกติ ตริ ตั นานุกุล ผูช้ ว่ ยเจา้ อาวาสวดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ าร ๖. พระมหาธนศกั ดิ์ จนิ ตกวี ผูช้ ว่ ยเจา้ อาวาสวดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ าร ๗. พระครูปลดั เถรานุวตั ร ผูช้ ว่ ยเจา้ อาวาสวดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ าร ๘. พระครวู นิ ยั ธรสงิ ห์ ปภากโร เลขานุการรองเจา้ คณะอาเภอเมอื งพษิ ณุโลก ๙. พระหมาราศี รตโน ผูช้ ว่ ยเลขานุการรองเจา้ คณะอาเภอเมอื งพษิ ณุโลก

ภาพจาลอง ในพธิ เี ททองหล่อพระพุทธชนิ ราช๘๔ ปี ตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก ณ วดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ ารจงั หวดั พษิ ณุโลก วนั ที่ ๒๗ มถิ ุนายน ๒๕๖๔

ประมวลภาพ ในพธิ เี ททองหล่อพระพุทธชนิ ราช๘๔ ปี ตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก ณ วดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ ารจงั หวดั พษิ ณุโลก วนั ท่ี ๒๗ มถิ ุนายน ๒๕๖๔







พระสงฆผ์ ูท้ รงสมณศกั ดน์ิ ง่ั ปรกอธฐิ านจติ พธิ เี ททองหลอ่ พระพุทธชนิ ราชจาลอง



ประมวลภาพ พธิ เี ททองหลอ่ พระพุทธชนิ ราชจาลอง ๘๔ ปี ตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก ณ วดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ ารจงั หวดั พษิ ณุโลก วนั ท่ี ๒๗ มถิ ุนายน ๒๕๖๔



วันที่ 27 มิถุนายน.๒๕64 เวลา 07.29 น. นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ประธานคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจจังหวัดพิษณุโลก, พลตำรวจตรี ธวัช วงศ์ สง่า ผู้บังคับการพิษณุโลก รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลกทุกท่าน คุณอรชุกร วงศ์สง่า ประธาน แม่บา้ นตำรวจภูธรหวดั พษิ ณโุ ลก,พลเอก ดร.ศิริ ทวิ ะพนั ธ์ อดีตแมท่ ัพภาค ๓ นาวาอากาศเอกภาณวุ ัตร เรือง ประยูร ผู้บังคับการกองบิน ๔๖ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก, คุณสุวิมล เกียรติ ศรีบุรินทร์ วัฒนธรรมจังหวัดพิษณุโลก, ประชาสัมพันธ์จังหวัดพิษณุโลก, นายมนชัยต์ วิวัฒ์ธนาฒย์ นายก องคก์ ารบริหารส่วนจังหวดั พิษณโุ ลก, นายแพทยไ์ กรสขุ เพชระบรู ณิน สาธารณสขุ จังหวดั พิษณุโลก , ดร.เปรม ฤดี ชามพูนท นายกเทศเทศมนตรีเทศบาลนครพิษณุโลก ,พลตำรวจโทวสันต์ วัสสานนท์ อดีต ผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค ๖ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ชุมพล เสมาขันธ์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงคราม พล.ต.ต.ธรรมนูญ เพชรบุรีกุล อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก คณะกรรมการตรวจสอบและ ติดตามการบริหารงานตำรวจจังหวัดพิษณุโลก ประธานคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงาน ของสถานีตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก นักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น ๔๕ ข้าราชการตำรวจ ตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ผู้กำกับการ กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก หัวหน้าสถานี ตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก พร้อมผู้มีเกียรติได้ร่วมกิจกรรม พิธีเจริญพระพุทธมนต์ พิธี บวงสรวงเทวดาบูชาฤกษ์ เททองหลอ่ พระพุทธชนิ ราชจำลอง ร่นุ 84 ปี ตำรวจภธู รจงั หวดั พิษณโุ ลก ในเวลา ๐๙.๐๙ นาฬกิ า และถวายผ้าปา่ ณ วัดพระศรรี ัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร มพี ทุ ธศาสนิกชนผมู้ จี ติ ศรทั ธา เข้า ร่วมพิธี ภายใตม้ าตรการป้องกนั D-M-H-T-T ปอ้ งกันเช้อื โควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยมี พระพทุ ธิวงศมนุ ี (เจ้าอาวาสวดั พระศรรี ัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พลตำรวจตรีธวชั วงศส์ ง่า ผู้บงั คับการตำรวจภูธรจงั หวัดพิษณโุ ลก เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และ ดร.สมไทย วงษ์เจริญ บัณฑติ ผู้ทำหน้าทพี่ ิธพี ราหมณ์

พธิ พี ุทธาภเิษก พระพุทธชนิ ราชจาลองร่นุ ๘๔ ปี ตารวจภธู รจงั หวดั พษิ ณุโลก ณ วดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ ารจงั หวดั พษิ ณุโลก วนั ท่ี ๔ สงิ หาคม ๒๕๖๔ พระพุทธวิ งศมุนี (เจา้ อาวาสวดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ าร) ประธานฝ่ ายสงฆ์ พลตารวจตรี ธวชั วงศ์สง่า ผูบ้ งั คบั การตารวจภธู รจงั หวดั พษิ ณุโลก ประธานฝ่ ายฆราวาส ดร.สมไทย วงษ์เจรญิ บณั ฑติ ผูท้ าพธิ พี ราหมณ์

รายนามพระสงฆผ์ ูท้ รงสมณศกั ดน์ิ ง่ั ปรกอธฐิ านจติ พธิ พี ุทธาภเิษก พระพุทธชนิ ราชจาลองร่นุ ๘๔ ปี ตารวจภธู รจงั หวดั พษิ ณุโลก ณ วดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ าร จงั หวดั พษิ ณุโลก วนั ที่ ๔ สงิ หาคม ๒๕๖๔ ๑.พระเทพสทิ ธาคม(หลวงปู่สาย กติ ตปิ าโล) วดั ท่าไมแ้ ดง อาเภอเมอื ง จงั หวดั ตาก ๒.พระรตั นโมล(ี หลวงพอ่ ไพรนิ ทร์) วดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหาร อาเภอเมอื ง จงั หวดั พษิ ณุโลก ๓.พระพศิ าลญาณวงศ์(หลวงปู่ทองดี อนโีฆ) วดั ใหม่ปลายห้วย อาเภอสามงา่ ม จงั หวดั พจิ ติ ร ๔.พระอาจารยโ์ รจนศ์ กั ด์ิ เพชรทองทวคี ูณ(หลวงพอ่ ฉลวย) วดั เมมสุวรรณาราม อาเภอพรหมพริ าม จงั หวดั พษิ ณุโลก ๕.พระครูวมิ ลปุญญาภรณ์(หลวงพอ่ พมิ พ์ ผลปุญโญ) วดั พฤษวนั อาเภอบางบุญานาก จงั หวดั พจิ ติ ร ๖.พระครูนวิ ฐิ มณวี งศ์(หลวงพอ่ สะอาด) วดั เขา้ แกว้ อาเภอพยุหครี ี จงั หวดั นครสวรรค์ ๗.พระครพู นิ จิ สลี คุณ (หลวงพอ่ สนม อุ่นใจ)วดั ท้ายน้า อาเภอโพทะเล จงั หวดั พจิ ติ ร ๘.พระครพู สิ ุทธวิ รากร(หลวงพอ่ วทิ ยา)วดั บางคลาน จงั หวดั พจิ ติ ร ๙.พระครูโกวทิ พฒั นาทร (หลวงพอ่ แดง )วดั บางทราย อาเภอเมอื ง จงั หวดั พษิ ณุโลก ๑๐. พระครูอนิ ทวรวชิ ยั (หลวงพอ่ ชนะ อาคมแกว้ ) วดั บงึ พระ อาเภอเมอื ง จงั หวดั พษิ ณุโลก

พระสงฆ์ผูท้ รงสมณศกั ดนิ์ ง่ั ปรกอธฐิ านจติ พธิ พี ุทธาภเิษก พระพุทธชนิ ราชจาลองร่นุ ๘๔ ปี ตารวจภธู รจงั หวดั พษิ ณุโลก ณ วดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ ารจงั หวดั พษิ ณุโลก วนั ท่ี ๔ สงิ หาคม ๒๕๖๔ พระเทพสิทธาคม พระรัตนโมลี(หลวงพ่อไพรินทร์) พระพศิ าลญาณวงศ์(หลวงปู่ทองด)ี (หลวงปู่สาย กติ ตปิ าโล) วดั พระศรรี ตั นมหาธาตูวรมหาวหิ าร จ.พษิ ณุโลก วดั ใหม่ปลายหว้ ย อ.สามงา่ ม จงพจิ ติ ร วัดท่าไม้แดง อ.เมือง จ.ตาก พระอาจารญโืรจนศกั ด(์ิ หลวงพอ่ ฉลวย)พระครวู มิ ลปุญญาภรณ(์ หลวงพอ่ พมิ พ์ ผลปุญโญ)พระครนู วิ ฐิ มณวี งศ์(หลวงพอ่ สะอาด วดั เมมสุวรรณาราม จ.พษิ ณุโลก วดั พฤกษะวนั องบางบุญนาก จ.พจิ ติ ร วดั เขาแก้ว อ.พยุหะครี ี จ.นครสวรรค์ พระครูพนิ จิ สลี คุณ(หลวงพอ่ สนมอุ่นใจ) พระครพู สิ ุทธวิ รากร(หลวงพอ่ วทิ ยา) พระครโู กวทิ พฒั นาทร (หลวงพอ่ แดง )วดั บางทราย วดั ท้ายน้า อ.โพทะเล จ.พจิ ติ ร วดั บางคลาน อ.โพทะเล จ.พจิ ติ ร(วดั บางทราย) อ.เมอื ง จงั หวดั พษิ ณุโลก

พระครอู นิ ทวรวชิ ยั (หลวงพอ่ ชนะ อาคมแกว้ ) วดั บงึ พระ อ.เมอื ง จ.พษิ ณุโลก

รายนามพระสงฆ์เจรญิ พระพทุ ธมนต์พิธีพุทธาภเิ ษก พระพทุ ธชินราชจำลองรนุ่ ๘๔ ปี ตำรวจภูธรจังหวัดพิษณโุ ลก ณ วดั พระศรรี ัตนมหาธาตวุ รมหาวิหารจงั หวัดพิษณโุ ลก วนั ที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๖๔ ๑. พระราชรตั นสุธี เจ้าคณะจงั หวดั พิษณโุ ลก ๒. พระครูปญั ญารตั นาทร เจา้ คณะอำเภอเมืองพษิ ณุโลก ๓. พระครกู ิตติรตั นานกุ ลุ เจา้ คณะตำบลในเมือง เขต 1 ๔. พระมหาจักรกฤช ปญฺญาธโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวดั พระศรีรัตนมหา ธาตวุ รมหาวหิ าร ๕. พระครูรตั นสารสาทร ผู้ชว่ ยเจ้าอาวาสวดั พระศรีรัตนมหา ธาตุวรมหาวหิ าร ๖. พระครูปิยะรัตนานวัตร ผู้ช่วยเจา้ อาวาสวดั พระศรีรัตนมหา ธาตวุ รมหาวิหาร ๗. พระครูปลัดเถรานวุ ัตร ผูช้ ว่ ยเจา้ อาวาสวดั พระศรีรัตนมหา ธาตุวรมหาวหิ าร ๘. พระครธู รรมธรสุบรรณ จณทฺ สวุ ณโฺ ณ ผชู้ ว่ ยเลขานกุ ารวดั พระศรี รัตนมหาธาตุวรมหาวหิ าร ๙. พระมหาสมพงษ์ กติ ตฺ ิภทฺโท วัดพระศรีรตั นมหาธาตวุ รมหาวิหาร

ประมวลภาพ พิธีบวงสรวง พระพทุ ธชินราช ณ วดั พระศรรี ัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จงั หวดั พิษณโุ ลก วันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๖๔


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook