1 รายงานผลการปฏิบัตงิ านของข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 เพื่อประกอบการประเมนิ ประสทิ ธิภาพและประสทิ ธผิ ลของครผู ู้สอน และเพ่ือประกอบการพิจารณาเลอ่ื นขั้นเงนิ เดอื นครง้ั ท่ี 1 ต้ังแต่ 1 ตลุ าคม 2563 – 31 มนี าคม 2564 ของ นายวิเศษ ฟองตา ตาแหนง่ รองผอู้ านวยการ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแม่แจ่ม จังหวดั เชยี งใหม่ สานกั บรหิ ารงานการศึกษาพเิ ศษ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
2 คานา ตามมาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา พ.ศ.2547 และ ขอ้ 11 แห่งประกาศ สพฐ.เรือ่ งแนวปฏิบัติในการพิจารณาเล่ือนขั้น เงินเดือนข้าราชการ สพฐ. พ.ศ.2551 และ ตามแบบ ก.ค.ศ.กาหนด ได้มอบหมายให้ผู้อานวยการสถานศกึ ษาดาเนนิ การประเมินสิทธิภาพและประสทิ ธผิ ลการ ปฏิบตั งิ านของข้าราชการในสงั กัดตามระเบยี บ ข้นั ตอนอยา่ งเคร่งครดั ข้าพเจ้าจึงได้จัดทารายงานผลการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ประจาปี งบประมาณ 2563 คร้ังท่ี 1 เล่มนี้ เพ่อื ประกอบการประเมนิ ประสิทธภิ าพและประสทิ ธิผลของครผู ้สู อนและเพ่ือ ประกอบการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนครั้งที่ 1 โดยได้สรุปผลการปฏิบัติงานต้ังแต่วันที่ 1 เดือน ตุลาคม 2563 ถึง 31 มนี าคม 2564 ซึ่งได้สรุปกิจกรรมที่ไดป้ ฏิบัติไปแล้วพอสังเขป และแสดงให้เห็นถึงผลท่ีเกดิ ใน ด้านต่าง ๆ ท้ังต่อตนเอง นักเรียน โรงเรยี น และชุมชน นอกจากนี้ยังได้นาเสนอภาพกิจกรรม เกยี รติบัตร รางวัล และหลกั ฐานรอ่ งรอย เพ่อื ใชเ้ ปน็ ข้อมลู อา้ งองิ ในการเขียนรายงานผลงานครัง้ น้ีดว้ ย ผจู้ ัดทาขอขอบคุณผู้บริหาร คณะครู และบุคลากรในโรงเรยี นทุกท่านที่มีสว่ นร่วม ให้ข้อมูลประกอบการ รายงานจนสาเรจ็ ไดด้ ้วยดี และหวงั อย่างย่ิงว่ารายงานเล่มน้ีจะใชเ้ ป็นข้อมูลประกอบ การประเมินประสิทธิภาพ และประสิทธผิ ลของครผู สู้ อนและเพ่อื ประกอบการพิจารณาเลือ่ นข้ันเงินเดือนตอ่ ไป ลงชือ่ ................................................... นายวิเศษ ฟองตา ตาแหน่ง รองผ้อู านวยการ 9 มีนาคม 2564
สารบญั 3 คานา หน้า ก สารบัญ สว่ นที่ 1 ขอ้ มูลท่วั ไป ข ส่วนที่ 2 ขอ้ มลู งานในหนา้ ท่ีที่รบั ผิดชอบ 4 สว่ นที่ 3 ผลการประเมินการปฏบิ ตั ิงานของรองผูอ้ านวยการโรงเรยี น 6 31 ภาคผนวก ภาพกิจกรรม 50
4 ส่วนท่1ี ขอ้ มลู ท่วั ไป 1.1 ขอ้ มูลพน้ื ฐาน ชื่อ นายวิเศษ ฟองตา เกดิ วนั ที่ 30 เดอื น พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕28 อายุ 31 ปี 8 เดอื น อายรุ าชการจนถงึ ปัจจบุ นั 8 ปี ๒ เดอื น ปจั จบุ นั ดารงตาแหนง่ รองผู้อานวยการโรงเรียน ราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่ วทิ ยฐานะ รองผู้อานวยการชานาญการ ตาแหนง่ เลขท่ี 131887๖ รบั เงนิ เดือนอนั ดบั คศ. 2 ข้นั 30,000 บาท ทีอ่ ยู่ปจั จบุ นั เลขท่ี 39 หม่ทู ี่ 10 ตาบลช่างเคิ่ง อาเภอแมแ่ จม่ จังหวดั เชยี งใหม่ วุฒิการศกึ ษา รหสั ไปรษณีย์ 50270 โทร ๐-๕310-6933 ปฏบิ ัตหิ น้าท่ี ปริญญาโท (กศ.ม.) วิชาเอก บริหารการศกึ ษา คณุ วฒุ สิ งู สุด รองผอู้ านวยการกลุ่มบรหิ ารวชิ าการ สถาบนั การศกึ ษา กศ.ม. วิชาเอก การบริหารการศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั กรุงเทพธนบุรี สมาชกิ สมาคมชาวศกึ ษาสงเคราะหแ์ ละการศกึ ษาพิเศษ เลขประจาตัว 0687 ใบประกอบวชิ าชีพครู เลขท่ี 58201890307769 ใช้ไดถ้ งึ 30 มนี าคม ๒563 ใบประกอบวิชาชพี ผบู้ รหิ าร เลขท่ี 58121890020908 ใชไ้ ดถ้ ึง 30 มกราคม ๒๕63
5 1.2 การรบั ราชการ - เร่มิ รับราชการในตาแหน่ง ครู เมอ่ื วนั ที่ 1 เดือน กรกฎาคม พ.ศ.2553 -เคยดารงตาแหนง่ /วิทยฐานะท่สี าคัญ ดงั ตอ่ ไปนี้ วนั เดอื น ปี ตาแหน่ง รับเงินเดอื น ระดับ/อนั ดับ ข้ัน(บาท) 1 กรกฎาคม 2553 ครผู ชู้ ่วย 1 กรกฎาคม 2555 ครู ครผู ชู้ ่วย 7,940 1 กมุ ภาพันธ์ 2559 คศ. 1 10,770 1 เมษายน 2561 รองผอู้ านวยการสถานศกึ ษา คศ.1 21,150 1 ตุลาคม 2562 รองผู้อานวยการสถานศึกษาชานาญการ คศ.2 24,930 1 เมษายน 2563 รองผู้อานวยการสถานศกึ ษาชานาญการ คศ.2 27,820 1 ตุลาคม 2563 รองผอู้ านวยการสถานศกึ ษาชานาญการ คศ.2 28,790 รองผอู้ านวยการสถานศกึ ษาชานาญการ คศ.2 30,000 1.3 ขอ้ มูลเกี่ยวกับเวลาการมาปฏบิ ัติหนา้ ที่ราชการ (ระหว่าง1 ตุลาคม 2563 - 31 มนี าคม 2564) ประเภท จานวน รวม คร้ัง วนั คร้งั วนั (ระหว่าง1 ตุลาคม 2563 - 31 มีนาคม 2564) มาสาย --- - ลาป่วย --- - ลากจิ --- -
6 สว่ นที่๒. ข้อมูลงานในหนา้ ท่ีท่ีรับผิดชอบ งานในหนา้ ท่คี วามรับผิดชอบตามตาแหน่ง รองผอู้ านวยการกลมุ่ บริหารวชิ าการ หนา้ ทีค่ วามรับผิดชอบ ปฏิบตั หิ น้าท่ี รองผ้อู านวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่ ข้าพเจ้ายึดมั่นในหลักการทางานตามจรรยาบรรณผปู้ ระกอบวชิ าชีพทางการศึกษา โดยเป็นผู้ที่มคี วามมุ่งมั่น ตั้งใจ ในการปฏิบตั ิหน้าท่ี ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา เป็นผู้รักษาระเบียบวินัยในตนเอง และปฏิบัติตามระเบียบวนิ ัย ของโรงเรียนและทางราชการ อย่างเครง่ ครัด เป็นผ้ใู ฝร่ ู้ ใฝ่เรียน ศึกษาหาความรู้ พัฒนาตนเองด้านวิชาชีพอย่าง ต่อเนื่อง มีความสารวมท้ังทาง กาย วาจา ใจ วางตัวเหมาะสมกับบุคลิกภาพเปน็ ท่ีเคารพนับถือของเพ่ือนร่วมงาน นักเรยี น ผปู้ กครอง และประชาชนโดยทว่ั ไป เป็นผูท้ ีม่ ีความรูค้ วามสามารถปฏิบตั ิงานจนสาเรจ็ ลลุ ่วงได้เปน็ อย่างดี ได้รับความไวว้ างใจจากผ้บู ังคับบัญชาให้รับผิดชอบกิจกรรม/งานท่สี าคัญมาโดยตลอด เปน็ ผมู้ ีวสิ ยั ทัศน์ หมั่นศกึ ษา หาความรู้ เพือ่ พัฒนาตนเองให้ทันตอ่ การพฒั นาทางวิทยาการ เศรษฐกิจ สังคม และการเมืองอยู่เสมอ โดยศึกษา ข่าวสารข้อมูลท่ีทันสมัย ทั้งนี้เพ่ือนาความรู้ ประสบการณ์มาปรับปรุง พัฒนาใช้ในการบริหารงานในหน้าท่ี ตลอดจน เผยแพร่ข่าวสารข้อมูลด้านวิชาการต่างๆให้กับเพ่ือนร่วมงาน และนักเรียน การปฏิบัติหน้าที่ตาม ขอบข่ายและภารกิจงานวิชาการ ตามท่ีกาหนดในกฎกระทรวงศึกษาธิการ โดยนามาจัดระบบการบริหารงาน วิชาการ ประกอบด้วย ๑) การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ๒) การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ ๓) การพัฒนาส่ือ นวัตกรรม และเทคโนโลยที างการศึกษา ๔) การวิจัยเพื่อพฒั นาคณุ ภาพการศึกษา ๕) การวดั ผล ประเมินผลและ เทียบโอนผลการเรียน ๖) การพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ๗) กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ๘) งานสารสนเทศ ๙) การจัดการศกึ ษาเพ่ือการมีงานทา ๑๐) งานจัดการเรียนรว่ ม ๑๑) งานห้องสมุด ๑๒) งานรับ นักเรยี น ๑๓) การส่งเสรมิ ความรู้ด้านวิชาการแก่ชมุ ชน ๑๔) การประสานความร่วมมือในการพัฒนาวิชาการกับ สถาบันอ่ืน ๑๕) การส่งเสริมและสนบั สนุนงานวิชาการแก่บคุ คล ครอบครัว องคก์ ร หน่วยงาน และสถาบันอ่ืนที่ จดั การศกึ ษา ๑๖) งานสานักงานวชิ าการ ๑๗) การนเิ ทศการศกึ ษา ผลการปฏิบัติงานในหนา้ ทรี่ ับผิดชอบรว่ มกับทีมบริหาร ดงั น้ี ๑. ดาเนนิ งานบรหิ ารงานวิชาการของสถานศึกษาให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบงั คบั นโยบาย และวตั ถุประสงคข์ องสถานศกึ ษา ๒. วางแผนพฒั นาการศกึ ษา ประเมนิ และจัดทารายงานเก่ยี วกับกิจการของสถานศกึ ษา ๓. จดั ทาและพัฒนาหลกั สตู รสถานศกึ ษา การจดั กระบวนการเรียนรู้ การพัฒนาสอื่ นวัตกรรมและ เทคโนโลยีทางการศึกษา การนเิ ทศ และการวัดผลประเมนิ ผล ๔. สง่ เสรมิ และจดั การศึกษาใหก้ ับผ้เู รียนทกุ กลุม่ เปา้ หมายทงั้ ในระบบ นอกระบบและตามอธั ยาศยั ๕. จัดทาระบบประกันคุณภาพทางการศกึ ษา ๖. บรหิ ารงบประมาณ การเงนิ และทรพั ยส์ นิ ๗. วางแผนการบริหารงานบคุ ล การสรรหา การบรรจแุ ต่งต้งั การเสริมสร้างประสทิ ธิภาพในการ ปฏบิ ตั ิงาน วนิ ยั และการรักษาวินยั การดาเนนิ การทางวนิ ยั การออกจากราชการ การอุทธรณแ์ ละการร้องทกุ ข์ ๘. จัดทามาตรฐานและภาระงานของครูและบุคลากรในการศึกษา ประเมนิ ผลในการปฏิบัตงิ าน ตามมาตรฐานของครูและบคุ ลากรทางการศึกษา ๙. สง่ เสริมสนับสนนุ ครูและบุลากรในสถานศกึ ษา ให้มีการพฒั นาอยา่ งต่อเนอ่ื ง ๑๐. ประสานความร่วมมือกบั ชุมชนและท้องถ่นิ ในการระดมทรพั ยากรเพื่อการศึกษาและใหบ้ รกิ าร ด้านวชิ าการแกช่ มุ ชน ๑๑. จดั ระบบควบคุมภายในสถานศกึ ษา
7 ๑๒. จัดระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นกั เรียน ๑๓. เปน็ ผูแ้ ทนของสถานศึกษาในกิจการทัว่ ไป ๑๔. ปฏิบตั ิงานอ่นื ทเ่ี กีย่ วข้องหรือทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ผลการปฏิบตั ิงานในหน้าทีร่ บั ผดิ ชอบในตาแหน่งรองผู้อานวยการกลุม่ บริหารวิชาการ ผลทเ่ี กิดจากการบรหิ ารวิชาการ 1. พัฒนาหลกั สูตรสถานศึกษา(ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ผลการดาเนินงาน ไดห้ ลักสูตรสถานศกึ ษา / หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ / หลกั สูตรกจิ กรรมทกั ษะการดารงชีวติ / กาหนดโครงสรา้ งกจิ กรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ ในระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 ถงึ มัธยมศึกษาตอนปลาย /หลกั สูตรการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน และหลักสูตรทวศิ ึกษา ในระดับ มัธยมศกึ ษาตอนปลาย 2. ปีการศึกษา 2563 นกั เรียน ห้องเรียน ปวช. 1-3 เรียนหลักสูตรประกาศนียบตั รวิชาชพี พุทธศกั ราช 2556 สาขาการบัญชี คอมพวิ เตอร์ธุรกิจ อตุ สาหกรรมช่างเชอ่ื ม และพืชศาสตร์ ตามโครงการเรียน ร่วม อาชีวศึกษาและมัธยมศกึ ษาตอนปลาย (ทวิศึกษา)โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับ วทิ ยาลยั การอาชพี จอมทอง 3. ส่งเสริมสนับสนนุ ใหค้ รผู สู้ อนได้รบั การพฒั นาตนเอง พฒั นาการจดั กระบวนการเรียนรู้ ๘ กลุ่ม สาระการเรยี นรู้ /กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น / โรงเรยี นคุณธรรม / การพฒั นาหลักสตู รการศึกษาต่อเนื่องเช่ือมโยง การศึกษาข้ันพน้ื ฐานกบั อาชีวศกึ ษาและอดุ มศกึ ษา / พัฒนาระบบงานสารสนเทศ / พฒั นางานหอ้ งสมดุ / การจัดการเรยี นรวม /งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ฯลฯ ผลการสนบั สนุน ครูผู้สอนไดน้ าความรแู้ ละประสบการณ์จากการฝึกอบรม ประชุม สมั มนา มาขยายผล และปรบั ประยุกต์ใช้ในงานท่เี ก่ยี วข้อง 4. พัฒนาเอกสารประกอบการจดั กระบวนการเรียนรูข้ องครูผสู้ อน สาเนาแจกตามวาระการประชมุ ประจาเดอื น คอื เอกสารหมายเลข ๑ แบบบนั ทกึ การจัดทาหน่วยการเรยี นรู้ เอกสารหมายเลข ๒ การทาข้อตกลงความเข้าใจ (Memorandum of Understanding : MOU) เพือ่ การยกระดบั คุณภาพการศึกษา โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวดั เชยี งใหม่ เอกสารหมายเลข ๓ แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ เอกสารหมายเลข ๔ แบบประเมินการอา่ น คิด วเิ คราะห์ และเขียน เอกสารหมายเลข ๕ แบบประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น เอกสารหมายเลข ๖ แบบประเมินความพงึ พอใจของนักเรยี นทีม่ ตี ่อการจดั การเรียนการสอน เอกสารหมายเลข ๗ วิเคราะห์ผูเ้ รยี นเป็นรายบุคคล เอกสารหมายเลข ๘ โครงรา่ งการวจิ ยั ในชั้นเรียนและการเขียนรายงานการวิจัยในช้ันเรยี น เอกสารหมายเลข ๙ รายงานการใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้
8 3. รายงานพฤติกรรมทแี่ สดงถึงความเป็นผ้มู วี ินยั คุณธรรมจริยธรรม และจรรยาบรรณวชิ าชีพ ดงั น้ี 3.1. การมวี ินัย 3.1.1 การมวี ินัยในตนเอง ยอมรับและถอื ปฏบิ ัติตามกฎ กติกา มารยาท ขนบธรรมเนียมและแบบ แผนอันดงี ามของสังคม ข้าพเจ้าได้ปฏบิ ัติตนตามกฎ กติกา มารยาท ขนบธรรมเนียม และแบบแผนอนั ดงี ามของสงั คม เป็น ผู้นาในการเสริมสร้างการพฒั นาดา้ นวนิ ัย คุณธรรม จรยิ ธรรม เป็นผมู้ ีวินยั ในตนเอง ปฏบิ ตั ิหน้าที่ โดยยึดระเบียบ กฎหมายและแนวปฏิบัติทถ่ี กู ต้อง ประพฤติตนตามมาตรฐานและจรรยาบรรณแห่งวชิ าชพี ถือปฏิบัตติ ามคาสง่ั ของ ผู้บังคบั บัญชาและคู่มอื การปฏิบัตงิ านของบุคลากรในสถานศกึ ษาและปฏิบัติหน้าท่ีราชการ ในการบรหิ ารและการ จัดการด้วยความมงุ่ มั่นต้ังใจ โดยใชห้ ลกั การทรงงานตามแนวพระราชดาริ “เข้าใจ เขา้ ถงึ พฒั นา” และคานึงถึง ประโยชนข์ องทางราชการเปน็ สาคญั ปฏิบัติตนเป็นแบบอยา่ งทดี่ ี ปฏบิ ัตติ นเป็นผ้นู าในการเสริมสร้างการพฒั นา ผู้อน่ื ประพฤตติ นใหเ้ หมาะสมกบั สถานภาพของผู้บริหารสถานศึกษาและเปน็ แบบอย่างทด่ี ี โดยได้ครองตน คอื การร้จู ักตนเอง เขา้ ใจตนเอง และสามารถควบคมุ ตนเองได้ มีเปา้ หมายในชีวิตท่ีแนน่ อน เรียกว่ามีเป้าหมายแห่ง ตน ร้จู ักควบคุมตน มวี ินัยแหง่ ตน คือการทางานใหส้ าเร็จด้วยตนเอง การครองตน ข้าพเจา้ ใช้หลักการครองตน ตามแนวพระราชดาริเศรษฐกิจพอเพียงและยดึ หลักธรรมสัปปุริสธรรม ๗ คอื รจู้ ักเหตุ รู้จักผล รู้จกั ตน รู้จกั ประมาณ รู้จกั กาล รู้จักบคุ คลและชมุ ชน และฆราวาสธรรม ๔ คือ สจั จะ ทมะ ขันติ และจาคะ ซึง่ ข้าพเจ้าได้ ดาเนินชีวิตดังน้ี ประพฤตปิ ฏิบัตติ นเปน็ ผมู้ ีวินัยในตนเอง เป็นแบบอย่างท่ีดแี กล่ กู ศิษย์ ผ้ใู ต้บังคบั บัญชา เพือ่ น รว่ มงาน และบุคคลทวั่ ไป ดารงชวี ติ ท้งั ดา้ นกาย วาจาและใจ โดยแตง่ กายใหเ้ หมาะสมกับฐานะ และตาแหนง่ เหมาะสมกบั กาลเทศะ ขนบธรรมเนยี มประเพณอี ันดีงามของชาวไทย พูดจาสุภาพออ่ นหวานด้วย ความจริงใจกับบุคคลทุกเพศ ทุกวัย ซึง่ บุคคลท่ไี ด้ฟังจะมีความสบายใจ อยากอย่ใู กลช้ ดิ อยากคบหาสมาคมด้วย มี ความรบั ผดิ ชอบตอ่ คาพูดของตนเอง ดังภาษติ ที่วา่ คาพูดเป็นนาย กายเป็นบา่ ว ซ่งึ หมายความวา่ ให้คิดกอ่ นพูด อยา่ พดู ก่อนคิด พูดแล้วตอ้ งทา และปฏิบตั ิตามคาพดู นอกจากน้ียังมคี วามรบั ผิดชอบงานในหนา้ ทีท่ ี่รับผิดชอบ ดว้ ยความวริ ยิ ะ อตุ สาหะมคี วามอดทนอดกลั้น ไม่ย่อท้อต่อความยากลาบากและอปุ สรรคใด ๆ ทั้งส้ิน ไมห่ มกมุ่น ในอบายมขุ และสง่ิ เสพติดทั้งปวง รู้จกั ใช้จา่ ยตามฐานะ รูจ้ กั มัธยสั ถแ์ ละเก็บออม โดยฝากเงนิ ออมประจาไว้กบั สถาบนั การเงนิ ธนาคาร สหกรณ์ออมทรพั ย์ครูและฝากประจาทกุ เดือน ประพฤตปิ ฏบิ ัตติ นและดารงตนตามแนว พระราชดาริเศรษฐกิจพอเพยี ง พอมี พอกิน โดยปลูกผกั ปลอดสารพษิ ในครัวเรือน เพือ่ รับประทานเองเป็นการลด รายจ่ายภายในครอบครัว จากท่ีขา้ พเจ้าไดก้ ล่าวมาน้นั ทาให้ชีวติ ครอบครัว มีความสขุ มสี ขุ ภาพกายและสุขภาพจิต ที่ดี ซ่ึง ได้นาแนวทางการดาเนินชีวติ ลักษณะนีข้ ยายผลแกน่ กั เรยี น คณะครแู ละบคุ ลากรของโรงเรียน ราชประชานุ เคราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่ และชุมชนไปเปน็ แบบอยา่ งในการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวัน นอกจากนี้ยังเปน็ ตัวอย่างท่ี ดี เปน็ ผู้นาในการเสรมิ สรา้ งการพัฒนาผู้อืน่ โดยการประพฤติตนเปน็ ผ้ใู ฝร่ ู้ใฝ่เรยี น การเข้ารับการประชุม อบรม สมั มนา ศกึ ษาดงู านและเขา้ รบั การศกึ ษาเรียนต่อ ดังน้ี 1. ร่วมงานปฏิรูปการศึกษาเชยี งใหม่ครั้งที่ 3 “โอกาสเชยี งใหม่” 4.0 ในวันที่ 31 มกราคม 2561 ณ ศู น ย์ ป ร ะ ชุ ม แ ล ะ แ ส ด ง สิ น ค้ า น า น า ช า ติ เฉ ลิ ม พ ร ะ เกี ย ร ติ 7 ร อ บ พ ร ะ ช น ม พ ร ร ษ า จังหวดั เชยี งใหม่ 2. เข้าร่วมกิจกรรมงานปั่นจักรยานตามโครงการ \"ปั่นไม่ท้ิงกัน\" สานต่องานที่พ่อทาและ รว่ มกจิ กรรมทอดผ้าป่า ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 ณ โรงเรยี นศรีสังวาล จังหวัดเชียงใหม่ 3. ร่วมประชุมกลุ่มสถานศึกษาสังกัดสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ณ โรงเรียนศรีสังวาล เชียงใหม่ และโรงเรยี นเชยี งรายปัญญานกุ ูล จงั หวดั เชียงราย
9 4. ร่วมประชุมปฏิบตั ิการการจัดทาแนวทางการพฒั นาความสามารถด้านภาษาดา้ นคานวณและด้าน การใชเ้ หตผุ ลขึน้ ในระหว่างวนั ท่ี 21 - 25 กุมภาพนั ธ์ 2561 ณ โรงแรมโฮเตล็ เด ม็อค กรงุ เทพฯ 5. ร่วมปรึกษา การขอเปิด การเรียนการสอนทวิศึกษา ในภาคเรียนที่ 1/2561 ในวันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม 2561 ณ ศนู ยส์ มรรถนะครูและบุคลากรทางการศกึ ษาวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยเี ชียงใหม่ 6. ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการโครงการส่งเสริมข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีความรู้ ด้านกฎหมายวนิ ัยและความโปร่งใสในการปฏิบัติราชการระหวา่ งวันที่ 23-26 กันยายน 2561 ณ โรงแรมชล พฤกษ์ รสี อร์ท จังหวัดนครนายก 7. ร่วมประชุมเพื่อรายงานความกา้ วหน้าและติดตามการเตรยี มความพร้อม เร่ืองการจัดการแข่งขัน งานมหกรรมความสามารถทางศลิ ปะหัตถกรรมวิชาการและเทคโนโลยขี องนักเรยี นปีการศึกษา 2561 ในวนั ที่ 7 ธันวาคม 2561 ณ หอประชมุ ศนู ย์การศึกษาพเิ ศษประจาจงั หวัดพะเยา 8. ร่วมประชมุ เทียบโอนผลการเรียนของแตล่ ะโรงเรียนในวันท่ี 11-13 มีนาคม 2561 ณ ศูนย์ วทิ ยบรกิ ารวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยเี ชยี งใหม่ 9. ร่วมประชมุ เชงิ ปฏิบตั กิ ารพัฒนาหลกั สูตรสถานศึกษาในระหวา่ งวนั ที่ 23-24 มีนาคม 2561 ณ โรงเรียนยพุ ราชวิทยาลยั จงั หวัดเชยี งใหม่ 10. รว่ มประชมุ เชิงปฏบิ ัติการเพื่อสรุปผลการดาเนนิ งานพรอ้ มท้ังวางแผนการพัฒนาอาชีพสาหรับ เด็กพิการและเด็กด้อยโอกาสร่วมกับส่วนประกอบการในวันที่ 24 ถึง 26 กันยายน 2561 ณ โรงแรม โฮเตล็ เด ม็อค กรงุ เทพฯ 11 . ศึกษาดูงานท่ีโรงเรียนบ้านต้น โชค อาเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ใน วัน ที่ 17-18 มกราคม 2561 12. ร่วมประชุมโครงการสถานศึกษาพอเพียงที่มีผลการปฏิบัติงานที่เป็นเลิศ Best Practice : BP ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่หลักนิติธรรมในวันที่ 13 มิถุนายน 2561 ณ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ เชียงใหม่ 13. รว่ มประชุมผู้บริหารสถานศึกษาสัญจรครัง้ ที่ 2/2561 ระหว่างวันที่ 8 พฤศจกิ ายน 2561 ณ อุทยานแห่งชาตแิ มโ่ ถ อาเภอแมแ่ จ่ม จังหวัดเชียงใหม่ 14. ร่วมประชุมปฏิบัติการพัฒนาบุคลากรในสังกัดเพื่อนาหลักสูตรด้านทุจริตสู่การบริหารการ จัดการและการจัดกระบวนการเรียนรู้ในหลักสูตรสถานศึกษาในวันที่ 4 สิงหาคม 2561 ณ อาเภอ จอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ 15. ร่วมประชุมการจัดการศึกษาเรียนร่วมหลักสูตรอาชีวศึกษาและมัธยมศึกษาตอนปลาย(ทวิ ศกึ ษา) ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2561 ณ อาเภอจอมทอง จังหวดั เชยี งใหม่ 16. ร่วมประชุม เชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาเทคนิคการวัดและประเมินผลและแก้ไขแนวทางการ พัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของผู้เรียนในโรงเรียนการศึกษาสงเคราะห์ในระหว่างวันท่ี 23-26 พฤษภาคม 2561 ณ โรงแรมโฮเตล็ เค มอ็ ค กรุงเทพฯ 17. ศกึ ษาดูงานระหวา่ งวันที่ 29 มนี าคม- 2 เมษายน 2562 ณโรงเรียนภูเก็ตปัญญานกุ ลู 18. ร่วมประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมการแข่งขันงานมหกรรมความสามารถทางศิลปะหัตถกรรม วิชาการและเทคโนโลยีคร้งั ที่ 69 ปีการศึกษา 2562 ในวันท่ี 23 สิงหาคม 2562 ณ หอประชุมกุหลาบพัน ปีโรงเรยี นจอมทอง จงั หวัดเชยี งใหม่ 19. นาเสนอนวัตกรรมการศึกษาตั้งแต่วันที่ 16-17 ตุลาคม 2562 ณ ห้องประชุม เรือนคุ้ม โรงแรมค้มุ ภูคา จังหวดั เชยี งใหม่
10 20. ประชุมปฏิบัติการถอดบทเรียนโรงเรียนนาร่องพื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ ใน ระหว่างวันท่ี 30 กันยายน - 1 ตุลาคม 2562 ณ ห้องประชุมโรงแรมฮอลิเดย์การ์เด้น อาเภอเมือง จังหวัด เชียงใหม่ 21. นาเสนอผลงานรูปแบบนวัตกรรมการศึกษาของสถานศึกษานาร่องพ้ืนท่ีนวัตกรรมการศึกษา จังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 23-24 กันยายน 2563 ณ โรงแรมดิเอ็มเพรสเชียงใหม่ ถนนช้างคลาน ตาบลช้างคลาน อาเภอเมอื ง จังหวัดเชียงใหม่ 22. ประชุมเชิงปฏิบัติการสรุปผลการจัดการศึกษาสถานศึกษาพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัด เชียงใหม่ ในวันที่ 8-10 กนั ยายน 2563 ณ โรงแรมคุ้มภูคา อาเภอเมอื ง จงั หวดั เชยี งใหม่ 23. ออกประชาสัมพันธ์รับนักเรียนเชิงรุกในวันที่ 4-6 มีนาคม 2563 ณ อาเภอแม่แจ่ม จังหวัด เชียงใหม่ 24. ศึกษาดูงานด้านการจัดการเรียนการสอนในวันที่ 12 - 13 สิงหาคม 2563 ณ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 24 และศูนยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจาจังหวัดพะเยา 25. ประชุมคณะทางานขับเคล่ือนพ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ระดับหน่วยงานทาง การศึกษาสังกัดสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษในจังหวัดเชยี งใหม่ ในวันที่ 25 - 26 สิงหาคม 2563 ณ ห้อง ประชุมโรงแรมคุ้มภูคา อาเภอเมือง จังหวดั เชยี งใหม่ 26. อบรมการจัดการเรียนร้หู ลักสูตรฐานสมรรถนะของสถานศกึ ษานารอ่ งพ้ืนท่นี วตั กรรมการศกึ ษา จังหวดั เชยี งใหม่ ในวนั ท่ี 1-2 สงิ หาคม 2560 3 ณ โรงแรมคุ้มภูคา อาเภอเมอื ง จงั หวดั เชยี งใหม่ 27. ประชุมวางแผนการขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดาริหน่วยงานทางการศึกษา จังหวัดเชียงใหม่ประจาปงี บประมาณ 2563 ในวนั ที่ 15 พฤษภาคม 2563 ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อาเภอเมอื งเชียงใหม่ จงั หวดั เชียงใหม่ 28. เขา้ ร่วมกิจกรรมการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชพี (Professional Learning Community: PLC )ในวันที่ 26-27 กันยายน 2560 3 ณ โรงแรมค้มุ ภคู า จงั หวัดเชียงใหม่ 29. อบรมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาหลักสูตรฐานสมรรถนะหลักสูตรสถานศึกษา เพื่อการ บริหารจัดการห้องเรียนคุณภาพในวันท่ี 26-27 กันยายน 2563 ณ หอประชุมเฟ่ืองฟ้าล้านนาโรงเรียนศึกษา สงเคราะห์เชียงใหม่ อาเภอเมอื ง จังหวัดเชียงใหม่ 3.1.2การรกั ษาและเสริมสร้างวนิ ยั ในตาแหน่งหน้าที่ราชการ การปฏิบตั ติ ามกฎหมาย ระเบยี บแบบ แผนของทางราชการ ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้บริหารสถานศึกษา ตาแหน่งรองผู้อานวยการโรงเรียน ด้วยความซ่ือสัตย์สุจริต บริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน โดยใช้ความรู้ความสามารถในด้านกฎหมาย กฎระเบียบและแบบแผนธรรมเนยี มต่าง ๆ ของทางราชการมาประยกุ ต์ใชใ้ นการปฏบิ ตั ิงาน ดังนี้ การบรหิ ารงานวิชาการ ขา้ พเจ้าได้ศึกษาค้นคว้าและทาความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ชัดเจน ในเรื่องของหลักสูตรการศึกษา ข้นั พ้นื ฐาน พ.ศ.๒๕๕๑ และไดด้ าเนินการดังนี้
11 ๑. แต่งต้ังมอบหมายภารกิจหลัก (งานการสอน) และภารกจิ รอง (งานอ่ืน ๆ) ๒. ท่ีเก่ียวข้องกับงานวิชาการให้กับคณะครูทุกคนตามความรู้ ความสามารถ ความถนัด ตรง ตามสาขาวิชาที่เรียนมา ๒. ประสานแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวิชาการของโรงเรียน จัดให้ มีการประชุม ปรึกษาหารืองานวิชาการเป็นระยะ ๆ อย่างสม่าเสมอ พร้อมทั้งแต่งต้ังคณะกรรมการนิเทศของ โรงเรียนท่ีมาจากตัวแทนของแต่ละช่วงช้ัน หัวงานกลุ่มงาน และหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ดาเนิน การนเิ ทศ กากับตดิ ตามงานวิชาการอย่างสมา่ เสมอ ๓. มีคณะกรรมการจัดทาหลักสูตรสถานศึกษาและมีการปรับปรุงพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา อ ย่ างต่ อ เนื่ อ ง น อ ก จ าก น้ี ท าง โร งเรี ย น ได้ พั ฒ น าห ลั ก สู ต ร เพ่ิ ม เติ ม เพ่ื อ ส่ งเส ริม ให้ นั ก เรีย น มอี าชีพ ความรู้ และประสบการณ์ ตามความถนดั ของตนเอง โดยเลอื กผา่ นระบบออนไลน์ ๔. จัดทาระเบียบว่าด้วยการวัดและประเมินผลที่สัมพันธ์กับหลักสูตรสถานศึกษา ซึ่ง ปัจจบุ นั โรงเรยี นมกี ารวดั และประเมนิ ผลในระบบออนไลน์ ๕. ประสานจดั แบ่งการบรหิ ารงานวชิ าการเปน็ 2 ระดับ คือ ระดบั ประถมศึกษาและมัธยมศกึ ษา แบง่ การบรหิ ารงานวชิ าการออกเป็น ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ และกจิ กรรมการพัฒนาผเู้ รียน ๖. กาหนดให้คณะครูจดั ทาแผนจัดการเรียนรทู้ ่ีเน้นผู้เรยี นเป็นสาคญั โดยส่งให้หัวหน้ากลุ่มสาระ ก าร เรีย น รู้ หั ว ห น้ า ง าน วิ ช าก า ร แ ล ะ ผู้ บ ริห า ร โร ง เรี ย น ต าม ล า ดั บ เพื่ อ ท าก าร ต ร ว จ ส อ บ แผนจัดการเรียนรู้ ก่อนนาไปสอนในชั้นเรียนทุกคร้ังทุกสัปดาห์ จัดให้มีการวัดและประเมินผลตาม สภาพจริง ให้สอดคล้องกับระเบียบการวัดและประเมินผลของโรงเรียน ครูทุกคนจัดทาแผนจัดการเรียนรู้ได้อย่าง ถูกต้อง นาไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเกิดประสิทธิผล มีการบันทึกหลังสอนทุกครั้ง นาปัญหาที่พบไปใช้ในการ จั ด ท าวิ จั ย ใน ชั้ น เรี ย น เพ่ื อ ด าเนิ น ก าร แ ก้ ปั ญ ห าแ ล ะ พั ฒ น าคุ ณ ภ าพ ก าร ศึ ก ษ า อ ย่ า งน้ อ ย คนละ ๑ เร่ืองต่อ ๑ ภาคเรียน คณะครูสามารถผลิตส่ือการเรียนการสอนและสามารถนาไปใช้ได้อย่าง มีประสทิ ธภิ าพ ๗. ส่งเสริมและสนับสนุนการปรับปรุงและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียนอย่างหลากหลาย ปรับปรุงห้องวิทยาศาสตร์ ปรับปรุงห้องคอมพิวเตอร์ ปรับปรุงพัฒนาฐานการเรยี นรู้ต่าง ๆ อาทิ ฐานการเรียนรู้ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ศูนย์การเรียนรู้บริหารจัดการขยะ ฐานการเรียนรู้ด้านอาชีพ สหวิชาชีพ เป็นตน้ ๘. สง่ เสริมและสนับสนนุ ใหค้ รูผูส้ อนนานกั เรยี นไปศึกษาเรยี นรู้จากแหลง่ เรียนรู้ภายนอกโรงเรียน อยา่ งหลากหลาย และเรยี นรจู้ ากภูมปิ ัญญาท้องถ่นิ เพื่อให้นักเรยี นมจี ิตสานกึ รักษ์และภมู ิใจในทอ้ งถิ่นของตนเอง
12 ๙. จัดให้มีงานวันวิชาการของโรงเรียนปีการศึกษาละ 1 ครั้ง เปน็ การจัดนิทรรศการผลงานทาง วิชาการของครูและนักเรียน กิจกรรมเปิดบ้านในด้านอาชีพ ด้านวัฒนธรรมชนเผ่าของนักเรียน โดยให้คณะครู นั ก เรี ย น ผู้ ป ก ค ร อ ง แ ล ะ ชุ ม ช น แ ล ก เป ลี่ ย น เรี ย น รู้ ซ่ึ ง กั น แ ล ะ กั น ไ ด้ ร่ ว ม ช่ื น ช ม ยิ น ดี ในผลงานของตนเอง โดยทางโรงเรียนได้เชิญบุคคลที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะครู นักเรียน กรรมการสถานศึกษา ผู้ป ก คร อ งนั ก เรีย น ผู้ น าใน ชุม ช น ผู้ น าใน อ งค์ก ร ป ก ค รอ งส่ วน ท้ อ งถิ่ น ค ณ ะ ค รูแ ละ นั ก เรีย น ในกลุ่มเครือข่ายเข้าร่วมกิจกรรม นอกจากนี้ทางโรงเรียนได้เรียนเชิญภูมิปัญญาชาวบ้าน ศิษย์เก่าและวิทยากร บุ ค ค ล ภ า ย น อ ก ม า ร่ ว ม กิ จ ก ร ร ม เพ่ื อ ส ร้ า ง แ ร ง บั น ด า ล ใจ ให้ แ ก่ นั ก เรี ย น ใน ก า ร เรี ย น รู้ สรา้ งประสบการณ์ในการพัฒนาตนเองใหม้ ากยงิ่ ขึ้น 3.1.3 ความซื่อสัตย์ สุจริตในการปฏิบัติหน้าท่ี การรักษาผลประโยชน์ของทางราชการและ ไม่มผี ลประโยชน์ทับซ้อน ขา้ พเจ้าในฐานะผ้บู รหิ ารสถานศึกษา ตาแหน่ง รองผ้อู านวยการโรงเรยี น มีความมงุ่ ม่ันทจ่ี ะสนบั สนุน การดาเนินการบริหารจัดการโรงเรียน โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของความชอบธรรมและมุ่งมั่นสร้างมูลค่าเพ่ิมให้กับ สถานศึกษาและปฏิบตั ิต่อผู้ท่ีมีสว่ นได้เสียอย่างเป็นธรรม ปฏิบัติหน้าท่ีและมคี วามรับผิดชอบให้แกผ่ ู้บริหาร คณะ ครูและบุคลากรทางการศึกษา และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายอย่างชัดเจน รับทราบนโยบายและแนวปฏิบัติในการ บริหารโรงเรียนตามหลักธรรมาภิบาล (การบรหิ ารบ้านเมืองท่ีดี) โดยสนับสนุนให้ทุกคนดาเนินการและถอื ปฏิบัติ โดยเคร่งครัด โดยข้าพเจ้าได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซ่ือสัตย์สุจริต เท่ียงตรงต่อหน้าที่ความรับผิดชอบโดยไม่ใช้ ตาแหนง่ หน้าท่ีบรหิ ารงานแสวงหาผลประโยชน์โดยมชิ อบ รกั ษาผลประโยชนท์ างราชการและประเทศชาตโิ ดยไม่มี ผลประโยชน์ทับซ้อน ในการสนับสนุนการบริหารงานงบประมาณมีเอกสารหลักฐานทางการเงิน พัสดุชัดเจน สามารถตรวจสอบได้ การจัดซ้อื จดั จา้ งของโรงเรียนเปน็ ไปด้วยความบรสิ ุทธ์ิ ยุตธิ รรม ตรวจสอบได้ ไม่เคยกระทา การในลักษณะการทุจริต มุ่งม่ันอุทิศตนปฏิบัติงานราชการด้วยอุดมการณ์ด้วยความรักและศรัทธาในวิชาชีพ จน ได้รับการยกย่องชมเชยอยู่เสมอ จากคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน บุคลากรในสถานศึกษา เพื่อนร่วม วิชาชีพและผู้บังคับบัญชาระดับสูง มีความซ่ือสัตย์ในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายท้ังภายในโรงเรียน หน่วยงานต้น สังกดั และองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ดว้ ยความเต็มใจ ไมแ่ สวงหาผลประโยชน์จากงานราชการ ไม่นาทรัพยากร หรือเวลาราชการไปใช้เพ่ือประโยชน์ส่วนตัวของตนเองหรือผู้อ่ืน ไม่นาความสัมพันธ์ส่วนตัวท่ีมีต่อบุคคลอ่ืนมา ประกอบการใชด้ ุลยพินิจใหเ้ ป็นคุณหรือเป็นโทษแก่บุคคลนนั้ หรือปฏิบัติต่อบุคคลนัน้ ต่างจากบุคคลอนื่ เพราะชอบ หรอื ชงั ร่วมบริหารงบประมาณของทางราชการที่ทางโรงเรยี นได้รับจดั สรรและจากภาคเอกชนที่บริจาคสนับสนุน โรงเรียน ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้โดยผ่านความเห็นชอบการใช้จ่ายงบประมาณจากคณะกรรมการ สถานศึกษาขัน้ พน้ื ฐานของโรงเรียนและคณะกรรมการบรหิ ารโรงเรยี น 3.1.4 การรักษาความสามคั คี มนี า้ ใจ เอ้อื เฟอื้ เผอ่ื แผต่ อ่ เพอ่ื นรว่ มงาน องค์กร และชุมชน ข้าพเจ้าในฐานะผู้บริหารสถานศึกษาได้ปฏิบัติตนในการสนับสนุนการทางานและบริหารจัดการ โรงเรยี นกับท่านผู้อานวยการ ประพฤตปิ ฏบิ ัติตนกบั คณะครู บคุ ลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาข้ัน พื้นฐาน ผู้ปกครอง นักเรียนและผู้ที่มีส่วนเก่ียวข้องทุกคน ในการแสดงออกถึงการมีน้าใจ เสียสละ โดยทางาน รว่ มกับผู้อื่นได้อย่างราบรื่นและประสบผลสาเร็จ ข้าพเจ้าได้ให้ความเคารพในเกยี รติของแต่ละบุคคล ความอิสระ ความเป็นส่วนตัว การมีสิทธชิ อบธรรมตามกฎหมายและสทิ ธิมนุษยชน เอาใจใส่ เห็นอกเห็นใจ เมตตาปรานี และ หวังดีกับผู้อื่นตามหลักการท่ีว่าให้ปฏิบัติตนต่อผู้อ่ืนเช่นเดียวกับที่ต้องการให้ผู้อ่ืน ปฏิบัติต่อเรา มีความยุติธรรม
13 และคณุ ธรรม ไม่ใช้อานาจตามอาเภอใจ มีความยตุ ิธรรมเปิดเผยขอ้ ตกลงเพ่ือให้มีการพิจารณาและปฏิบัติต่อ ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน รักษาความสามัคคีในหมู่คณะและส่วนรวม ไม่กระทาการใดท่ีเป็นการกล่ันแกล้งกัน ร่วมมือและช่วยเหลือซ่ึงกันและกันในการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ให้ความอนุเคราะห์หยิบย่ืนความช่วยเหลือแก่ ผู้ปฏิบัติงานที่ต้องการความช่วยเหลือหรือสนับสนุนด้วยความเต็มใจ จัดให้มีโครงการหรือกิจกรรมต่าง ๆ เพ่ือ ประสานความสัมพันธ์และสร้างสรรค์ความรักความสามัคคีภายในหน่วยงาน ผนึกกาลังร่วมกันปฏิบัติงานเพ่ือ ประโยชนข์ องโรงเรยี นและประเทศชาติ นอกจากนี้ในการปฏิบตั ิงานเพื่อให้เกิดประโยชนส์ ูงสุดต่อโรงเรียน นักเรียนและชุมชนข้าพเจ้าได้ใช้ ห ลั ก ธ ร ร ม ะ ใน ก า ร ค ร อ ง ค น คื อ ก า ร รู้ จั ก ผู้ อ่ื น ม อ ง ผู้ อื่ น ใน แ ง่ ดี ก า ร ค ร อ ง ค น ถื อ ว่ า เป็ น เรื่องยากท่ีสุด เพราะมีคนหลายประเภท เปรียบเสมือนดอกบัวสี่เหล่า ดังนั้นข้าพเจ้าจึงยึดหลักธรรม ในการครองใจคน คือ สังคหวัตถุ ๔ โดยปฏิบตั ิดงั น้ี ทาน คือ การใหค้ วามช่วยเหลือด้วยส่ิงของ เงินทอง ให้ความรู้ ให้คาแนะนาสง่ั สอน ใหน้ ้าใจ ข้าพเจา้ จะมีน้าใจใหค้ วามชว่ ยเหลอื ต่อบุคคลรอบข้างและเพ่ือนรว่ มงานทกุ คนด้วยความจริงใจ เปิดโอกาสให้ทุก คนมีสว่ นรว่ มในการแสดงความคดิ เห็นในการทางานและประเมนิ ผลรว่ มกนั เพื่อพฒั นาองคก์ รไปสเู่ ป้าหมายสงู สุด ปิยวาจา คือ การกล่าวคาสภุ าพ ไพเราะเพราะพรง้ิ อ่อนหวาน พดู จาเหมาะสมกบั บคุ คลและ โอกาส ซึ่งเปน็ วาจาทีท่ าใหเ้ กิดไมตรีและความสามคั คี ตลอดท้งั วาจาที่เป็นเหตเุ ป็นผล ซ่งึ การมีมนษุ ยสัมพันธ์นถี้ ือ ว่าเปน็ จุดเด่นหรอื ข้อดีของขา้ พเจา้ ทมี่ ักจะพูดจาทักทายเพอื่ นร่วมงานและบุคคลท่ัวไป ให้ผฟู้ งั บงั เกิดความรสู้ ึกว่า เ ข า เ ป็ น บุ ค ค ล ส า คั ญ ข้ า พ เ จ้ า จ ะ ค อ ย ถ า ม ส า ร ทุ ก ข์ สุ ก ดิ บ ใ น เ รื่ อ ง ข อ ง เ ข า อย่างสมา่ เสมอ ยอมรบั ฟังปญั หาและขอ้ คดิ เห็นของผู้อน่ื อยู่เสมอและนาปญั หา ขอ้ คดิ เหน็ เหลา่ นนั้ มาแกไ้ ขรว่ มกัน อัตถจริยา คือ ข้าพเจ้าได้ประพฤติและปฏิบัติตนให้เป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานและชุมชน เช่น การนานักเรียน ครูและบุคลากรของโรงเรียนเข้าค่ายคุณธรรม จริยธรรม การบรรพชาสามเณรเฉลิมพระ เกียรตใิ นวโรกาสตา่ ง ๆ การจัดกฬี าเยาวชนต่อต้านยาเสพตดิ การปลกู ปา่ เฉลมิ พระเกียรตฯิ เป็นต้น สมานัตตา คือ การวางตนให้เหมาะสมกับเพศ วัย ฐานะและโอกาส มีสัมมาคารวะต่อผู้ที่สูง วยั กว่าและให้ความเมตตาต่อผนู้ ้อยตามสมควรแก่บคุ คล น อก จาก น้ี ข้าพ เจ้ายังยึดห ลัก ธรรมพ รหมวิห าร ๔ ใน ก ารดูแลบุคคลที่เกี่ ยวข้อ งคือ มีความเมตตา กรุณา เออ้ื เฟือ้ เผือ่ แผ่ มีน้าใจกับทุกคน ยึดถือประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน ปฏิบัติ ตนเสมอต้นเสมอปลาย มีความจริงใจให้กับทุกคน ซ่ึงผลจากการที่ข้าพเจ้าปฏิบัติตนดังกล่าวข้างต้น ส่งผลให้ ข้าพเจ้าปฏิบัติงานต่าง ๆ ประสบความสาเร็จอย่างต่อเน่ือง เป็นที่ยอมรับของผู้ร่วมงาน ผู้ใต้บังคับบัญชา ผู้ บั ง คั บ บั ญ ช า แ ล ะ บุ ค ค ล ทั่ ว ไ ป ซึ่ ง ทุ ก ฝ่ า ย ใ ห้ ก า ร ย อ ม รั บ แ ล ะ ใ ห้ ค ว า ม ร่ ว ม มื อ กั น จนสามารถปฏิบัติงานสาเร็จลุล่วงไปด้วยดี มีความเป็นธรรมในการปฏิบัติต่อบุคคลและสังคมและนอกเหนือจาก การปฏบิ ัติตนดังกล่าวขา้ งตน้ แล้วขา้ พเจา้ ยังประพฤติปฏิบตั ติ ามหลักฆราวาสธรรม ๔ ประการ คือ สจั จะ คือความ จ ริ ง ยึ ด ถื อ ค ว า ม จ ริ ง เ ป็ น ห ลั ก ธ ร ร ม ส า ห รั บ คิ ด พู ด แ ล ะ ก ร ะ ท า เ รี ย ก ว่ า
14 เป็นคนจริง คนซ่ือสัตย์ คนซ่ือตรง มีความจริงใจ พูดจริง ทาจริง ทมะ คือการฝึกใจหรือข่มใจตนเอง ไม่ให้ตกเป็นทาสของกิเลส คือ ความโลภ ความโกรธ และความหลง ขันติ คือ คือมีความอดทนอดกลั้น ต้ังใจ ทางานด้วยความขยันหม่ันเพียร โดยมุ่งม่ันทางานอยู่ที่จุดหมายของงาน ไม่ย่อท้อ ท้อถอย หวั่นไหวต่อความ ยากลาบาก มีจิตใจที่แน่วแน่ แข็งแกร่งแต่อ่อนโยน และจาคะ คือ เป็นคนใจกว้างพร้อมรับฟังความทุกข์ ความ คิดเห็นและความต้องการของคนอื่น เป็นคนจิตใจไมค่ ับแคบ เห็นแก่ตนหรือเอาแต่ใจตน แต่พร้อมที่จะช่วยเหลือ เอ้อื เฟื้อเผอ่ื แผ่ เสียสละความสขุ ส่วนตนเพ่อื ผลประโยชนส์ ่วนรวม 4. การประพฤติปฏิบัตติ นเป็นแบบอย่างทดี่ ี 4.1 ความอุตสาหะ ขยัน อดทน มุ่งม่ันและรับผิดชอบต่อผลสัมฤทธ์ิของงาน โดยยึดหลักประหยัด คุ้มค่ามปี ระสทิ ธภิ าพ ข้าพเจา้ ในฐานะผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา ประพฤติปฏิบัตติ นเปน็ แบบอย่างที่ดใี นเร่ืองของ ความอุตสาหะ ขยนั อดทนมีความมงุ่ ม่ัน รู้จกั หน้าทม่ี ีความรบั ผิดชอบตอ่ ผลสมั ฤทธข์ิ องงาน โดยยดึ หลกั ประหยัด คุ้มค่ามีประสิทธภิ าพ ปฏบิ ัตงิ านในหน้าที่ด้วยความรบั ผดิ ชอบต่องานท่ีได้รบั มอบหมายด้วยความเต็มใจ เต็ม ความรู้ เตม็ ความสามารถ โดยใช้หลักธรรมาภิบาลคอื หลักนติ ิธรรม หลักคุณธรรม หลกั ความโปร่งใส หลกั การมี สว่ นรว่ ม หลักความรบั ผิดชอบ และหลักความคมุ้ คา่ สามารถบรหิ ารกิจการของสถานศึกษาจนมีผลงานเปน็ ท่ี ประจกั ษเ์ กิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล เปน็ ท่ียอมรบั ดูแลเอาใจใสบ่ ุคลากรในโรงเรยี นและนักเรยี นในดา้ นการ เรียนการสอนและความประพฤติใหบ้ คุ ลากรและนกั เรียนเปน็ ผ้ทู ่มี ีความรู้ ความประพฤติท่ีดี สามารถอยใู่ นสงั คม ไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข ข้าพเจา้ ยงั ไดท้ มุ่ เทสติปัญญา ความรู้ ความคดิ ทีม่ ีอย่กู ับงานไดอ้ ย่างเต็มที่ ใช้ทกั ษะ ประสบการณ์ ความชานาญ ภูมปิ ญั ญา ความคดิ ริเร่ิมสรา้ งสรรคใ์ นการปฏบิ ตั ิงานเพ่อื ใหเ้ กิดผลดีทส่ี ุด ปฏิบัตงิ าน ดว้ ยความวิรยิ ะ อตุ สาหะ ม่งุ มัน่ ขยนั และอดทน ใช้ความรู้ ความสามารถในการปฏิบตั งิ านอย่างเต็มกาลัง เตม็ ตาม ศักยภาพ ด้วยความรอบคอบ รวดเร็ว โดยคานึงถึงประโยชน์ของทางราชการและของนกั เรยี นเป็นสาคญั นอกจากนี้ในการประพฤติปฏบิ ัติตนเป็นแบบอย่างท่ดี ี เรือ่ งความอุตสาหะ ขยนั อดทน มงุ่ ม่ันและรบั ผดิ ชอบน่ัน ขา้ พเจา้ ยดึ หลกั ธรรมอทิ ธิบาท ๔ และปฏิบตั ิตนดังนี้ ฉันทะ คือ รักและศรัทธาในงานที่ทา งานอะไรก็ตาม ถ้าเรามีความรักความศรัทธาในงานท่ีทาแล้ว งานนั้น ๆ ย่อมประสบผลสาเร็จ เพราะถ้าเราทางานใดแล้วใจของเราย่อมจะมุ่งม่ันในการทางานนั้นและมีความ พยายามทางานน้ันจนประสบผลสาเร็จ เช่น ตัวของเราเป็นผู้บริหารสถานศึกษาต้องรักและศรัทธาในวิชาชีพ ผู้บริหารสถานศึกษา วิรยิ ะ คือ มคี วามขยนั หม่ันเพียรในการทางาน ถา้ เรามีความขยันหมน่ั เพียรในการทางานแล้วงานน้ัน ๆ ย่อมประสบผลสาเรจ็ โดยงา่ ย จติ ตะ คือ การเอาใจใส่ตอ่ งานท่ีทา ใครก็ตามถ้าทางานโดยมีเป้าหมายแล้วย่อมเอาใจใส่ต่องานที่ทา เสมอ การทางานทเี่ อาใจใส่ งานย่อมประสบผลสาเร็จ วิมังสา คือ หม่ันตรวจสอบข้อบกพร่องของงานและปรับปรุงให้ดีขึ้น การทางานโดยมี การปรบั ปรุงงานให้ดีขึ้นเสมอ จึงจะถอื ไดว้ ่ามกี ารปรับปรงุ งานเหมอื นกบั การประเมินผลงานนนั่ เอง
15 นอกจากนใี้ นการปฏบิ ตั ิงานนนั้ ขา้ พเจา้ ได้พิจารณาองค์ประกอบในการปฏิบตั ิงาน ทางานให้ประสบ ผลสาเรจ็ ดงั น้ี ๑. ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ โดยศึกษาค้นคว้า ความรู้เพ่ิมเติมที่จาเป็นต้องใช้ใน การ ป ฏิ บั ติ งาน อ ยู่ เส ม อ มี ค ว าม ต้ั งใจใน ก าร ป ฏิ บั ติ งาน ให้ ป ระ ส บ ผ ลส าเร็จ ป ฏิ บั ติ งาน ใน ห น้ าท่ี ความรับผิดชอบและงานที่ได้รับมอบหมายอย่างมีประสิทธิภาพและให้ความร่วมมือ ช่วยเหลือใน การปฏิบตั ิงาน ๒. ความรู้ความสามารถและความพึงพอใจในการปฏิบัติงาน โดยคานึงถึงความรู้ความเข้าใจใน หลักเกณฑ์ วิธีการ ระเบียบ กฎเกณฑ์ ข้อบงั คับ มติ กฎหมายและนโยบาย มคี วามสามารถนาความรู้ทมี่ ีอยู่ไปใช้ ในการปฏบิ ตั งิ าน สามารถแก้ปญั หา มีปฏภิ าณไหวพรบิ ในการทางานปฏิบตั งิ านท่รี บั ผดิ ชอบด้วยความเต็มใจ ๓ . มีค วาม คิดริเร่ิม สร้างสรรค์และ ป รับ ป รุงงาน มี ความสามารถใน ก ารคิด ริเร่ิม นาหลักการ แนวทาง วิธีการใหม่ ๆ มาใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติงาน มีความสามารถปรับปรุง งานให้มี ประสิทธภิ าพย่ิงขึน้ มคี วามสามารถในการทางานยาก หรืองานใหม่ใหป้ ระสบผลสาเร็จเป็นผลดี ๔. มีความพากเพียรในการทางาน และมีผลงานเปน็ ท่ีน่าพอใจ มีความกระตือรอื ร้น ปฏบิ ตั ิงานที่ ได้รับมอบหมายใหป้ ระสบผลสาเรจ็ มคี วามขยันหมัน่ เพียร เสียสละและอุทิศเวลาให้แก่ ทางราชการหรืองานท่ี รับผิดชอบ สามารถปฏิบัตงิ านในภาวะที่มขี ้อจากัดไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ๕. การคานึงถึงประโยชน์ของส่วนรวมและประชาชน การปฏิบัติงานยึดหลักผลประโยชน์ของ สว่ นรวมและประชาชน การดาเนินงานสอดคล้องหรอื เป็นไปตามความต้องการของสว่ นรวมและประชาชน ใชว้ สั ดุ อุปกรณ์และสาธารณูปโภคได้อย่างประหยัดและเหมาะสม ร่วมมือ ช่วยเหลือ และประสานงานระหว่างราชการ และประชาชน ซึ่งจากการประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างท่ีดี ในเรื่องของความอุตสาหะ ขยันอดทน มีความมุ่งมั่น รู้จักหน้าท่ี มีความรับผิดชอบต่อผลสัมฤทธ์ิของงาน ข้าพเจ้าได้รับการยกย่องและ การยอมรบั จากหน่วยงานทเ่ี ก่ียวข้องดงั นี้ (1 ) คณ ะกรรมการจัดงาน วัน ครู ป ระจาปี 2 5 6 2 ประก าศ ลงวัน ท่ี 2 มก ราคม พ.ศ. 2562 (2) คณะกรรมการดาเนินการแข่งขันกีฬานักเรียนและเยาวชนอาเภอแม่แจ่ม ประจาปี พุทธศักราช ๒๕๖๒ ประกาศ ลงวนั ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ 2562 (3) คณะกรรมการดาเนินการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ระดับชั้น ประถมศึกษาปีท่ี 6 และระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2562 (คาสั่งสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาเชยี งใหม่ เขต 6 ที่ 7/2563 ลงวนั ท่ี 8 มกราคม 2563)
16 (4) คณะกรรมการดาเนินงานอบรมเชิงปฏิบัติการ “ส่งเสริมการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียน ระดับชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 1-3 “ (5) คณะทางานขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ระดับหน่วยงานทาง การศึกษาสังกัดสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษในจังหวัดเชียงใหม่ ประกาศ ลงวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2563 (6) คณะทางานสรุปผลการจัดการศึกษาสถานศึกษานาร่องพ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัด เชยี งใหม่ประกาศ ลง วนั ที่ 3 เดอื น กนั ยายน พ.ศ. 2563 (7) คณะกรรมการดาเนินงานโครงการแลกเปล่ียนเรียนรู้ผลการจัดการศึกษาสถานศึกษานาร่อง พื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ ประจาปีงบประมาณ 2563 ประกาศ ลงวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2563 (8)คณะกรรมการดาเนนิ งานมุทติ าจิตเกษยี ณอายรุ าชการ ประจาปี พ.ศ. ๒๕๖๓ประกาศ ลงวันที่ 20 กนั ยายน พ.ศ. 2563 จากการปฏิบัติงานจนประสบผลสาเร็จ จึงเป็นท่ียอมรับจากหน่วยงานต่าง ๆ ดังน้ันข้าพเจ้าจึงมี ผลงานท่ีปรากฏชดั เจนและนาไปเป็นต้นแบบพฒั นาผู้อื่นดงั นี้ (1) นายวิเศษ ฟองตา ตาแหน่งรองผู้อานวยการโรงเรียน ได้รับเกียรติบัตรรางวัลระดับรอง ชนะเลศิ ระดับเหรียญทอง ด้านการบริหารจดั การ ประเภท รองผ้อู านวยการสถานศกึ ษายอดเยี่ยม ในการประกวด รางวัลทรงคณุ ค่า สพฐ. OBEC AWARDS ระดบั ชาติ ครัง้ ที่ 8 ประจาปีการศึกษา 2561 (2) นายวิเศษ ฟองตา ได้รับเกียรตบิ ัตรรางวัล “Super Leader” ร่นุ ท่ี 4 ประจาปี 2563 จาก ภาคีเชยี งใหม่เพือ่ การปฏิรปู การศกึ ษา รว่ มกับองค์การบรหิ ารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ (3) นายวิเศษ ฟองตา รองผู้อานวยการโรงเรียน ได้เกียรติบัตรรางวัลระดับเหรียญทอง ด้าน บริหารจัดการ ประเภท รองผู้อานวยการสถานศึกษายอดเย่ียม ในการประกวดรางวัลทรงคุณค่า สพฐ. OBEC AWARDS ระดับชาติ ประจาปี 2561 (4) นายวิเศษ ฟองตา รองผู้อานวยการโรงเรียน ได้รับคัดเลือกเป็นรองผู้อานวยการ ประจาปี 2560 จากกลมุ่ สถานศึกษาสังกัดสานักบริหารงานการศกึ ษาพิเศษกลุม่ 6 (5) นายวิเศษ ฟองตา รองผู้อานวยการโรงเรียน ได้รับคัดเลือกเป็นรองผู้อานวยการ ประจาปี 2561 จากกลมุ่ สถานศกึ ษาสังกดั สานกั บรหิ ารงานการศึกษาพเิ ศษกล่มุ 6 (6) นายวิเศษ ฟองตา รองผู้อานวยการโรงเรียน ได้รับรางวัล คุรุสดุดี ด้านการบริหารดีเด่น ประจาปี 2561 จากสมาคมครแู ม่แจ่ม
17 (7) นายวิเศษ ฟองตา รองผู้อานวยการโรงเรียน รางวัล ประกาศเชิดชูเกียรติผู้ทาประโยชน์ ดีเด่นท่ีได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง เสียสละและเป็นประโยชน์ต่อสังคมของจังหวัดเชียงใหม่ ประจาปี 2559 (8) นายวิเศษ ฟองตา รองผู้อานวยการโรงเรียนได้รับรางวัลต้นแบบคนดีศรีเชียงใหม่ประจาปี 2561 (9) นายวิเศษ ฟองตา รองผู้อานวยการโรงเรียนได้รับรางวัลต้นแบบคนดีศรีแผ่นดินประจาปี 2563 4.2 การยดึ ม่นั ในคุณธรรม จรยิ ธรรม มีความศรทั ธาและปฏิบตั ิตนตามหลกั ศาสนา ข้าพเจ้าปฏิบัติตนเป็นพุทธศาสนิกชนท่ีดีมาโดยตลอด ยึดมั่นในคุณธรรม จริยธรรม มีความศรัทธา และปฏิบัติตามแนวทางพระพุทธศาสนาอันประกอบด้วยคุณธรรมที่พึงประสงค์ของผู้ประกอบวิชาชีพครู ปฏิบัติ ตามคาสอนของพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นทางสายกลาง เรียกว่า อริยมรรคอันมีองค์ ๘ และในฐานะผู้บริหาร สถานศึกษา ข้าพเจ้ายึดหลักคุณธรรม ๔ ประการ หรือ พละ ๔ พละหรือพลัง ๔ ประการ ประกอบด้วย ปัญญา พละ(การรู้ตน รู้คน รู้งาน) วิริพละ อนวัชชพละ สังคหพละ เป็นหลกั ใน การบริหารงาน ข้าพเจา้ มีความ เสยี สละ เมตตา กรุณา มมี นุษย์สัมพันธท์ ดี่ ีกบั เพื่อนร่วมงาน นักเรียน ผปู้ กครอง ชุมชน ประพฤติตนอยู่ในศลี ธรรม มกี ริ ยิ าวาจาและมารยาทสุภาพเรยี บรอ้ ย ยึดมั่นในวัฒนธรรมและประเพณีอนั ดีงามของไทย ตลอดจนการให้ความ อุปการะบิดา มารดา รวมถึงผู้มีพระคุณ และบุคคลอ่ืนท่ีตกทุกข์ได้ยาก โดยการบริจาคทรัพย์เพ่ือทาบุญกุศลแก่ ประโยชน์ส่วนรวม ตลอดจนเข้าร่วมกิจกรรมสาคัญทางพระพุทธศาสนา เข้าวัด ฟังธรรมและทานุบารุง พระพุทธศาสนาในฐานะ พุทธศาสนิกชนท่ีดอี ยา่ งสม่าเสมอ ขา้ พเจ้าส่งเสรมิ และสนับสนนุ ให้บคุ ลากรในสถานศึกษาทกุ คน เพ่อื นร่วมวิชาชีพ ผเู้ รียน และบุคคล ทั่วไป ไดย้ ดึ ม่ันในคณุ ธรรม จริยธรรมมคี วามศรทั ธาและปฏิบตั ติ ามแนวทางพระพุทธศาสนา โดยได้ปฏิบัตเิ ปน็ แบบอยา่ งท่ดี เี สมอมา ใช้หลกั คุณธรรมในการดาเนนิ ชีวิต การบริหารงาน บริหารบุคลากรโดยใชห้ ลักพรมวิหาร ๔ และ สังคหวัตถุ 4 บริหารตนด้วยหลักเบญจศีลและเบญจธรรม จัดกิจกรรมส่งเสริมดา้ นขวญั และกาลงั ใจบคุ ลากร นักเรยี นทเี่ ป็นแบบอย่างทดี่ ีในดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ความซอื่ สัตย์ สุจริต และด้านบคุ ลกิ ภาพ เพ่ือดารงชีวิตใน สงั คมไดอ้ ย่างมีความสขุ ดา้ นการพัฒนาผ้เู รียนได้จัดทาโครงการคุณธรรม จริยธรรม ซง่ึ ประกอบด้วย โครงงาน คณุ ธรรม สพฐ. ของหอนอนและชน้ั เรยี น กจิ กรรมอบรมคุณธรรมให้กบั นักเรยี นทุกวันองั คาร กจิ กรรมการสวด มนต์ ฝึกจิตและทาสมาธิ และกจิ กรรมวันสาคญั ทางพระพุทธศาสนา การสอนและสอบธรรมศึกษา ตรี โท เอก สนามหลวงประจาทกุ ปีการศกึ ษา การครองตนข้าพเจา้ ใช้หลกั การครองตนตามแนวพระราชดาริเศรษฐกิจพอเพียงและยึดหลักธรรมสัป ปุริสธรรม 7 คือ รู้จักเหตุ รู้จักผล รู้จักตน รู้จักประมาณ รู้จักกาล รู้จักบุคคลและชุมชน ฆราวาสธรรม 4 คือ สจั จะ ทมะ ขนั ติ และจาคะ ซ่งึ ขา้ พเจ้าไดด้ าเนินชีวิตดังนี้
18 ประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ นเปน็ แบบอยา่ งท่ีดีแก่ลูกศิษย์ ผู้ใตบ้ งั คับบัญชา เพอื่ นร่วมงาน และบุคคลท่ัวไป ดารงชีวติ ทง้ั ด้านกาย วาจาและจิตใจ โดยแตง่ กายใหเ้ หมาะสมกับฐานะและตาแหน่ง เหมาะสมกับกาลเทศะ เหมาะสมกับขนบธรรมเนียมประเพณีอนั ดีงามของชาวไทย พูดจาสุภาพออ่ นหวานด้วยความจริงใจกบั บคุ คล ทุก เพศ ทกุ วัย รู้จักใชว้ าจาท่ีสุภาพไพเราะอ่อนหวาน ซงึ่ บคุ คลทีไ่ ดฟ้ งั จะมีความสบายใจ อยากอยใู่ กล้ชดิ อยากคบ หาสมาคมด้วย มีความรบั ผิดชอบตอ่ คาพดู ของตนเอง ดังภาษิตทวี่ ่า คาพูดเปน็ นาย กายเป็นบ่าว ซึ่งหมายความว่า ใหค้ ิดก่อนพดู อย่าพูดก่อนคิด พูดแล้วต้องทา และปฏบิ ัติตามคาพดู นอกจากนยี้ งั มีความผิดรับชอบงานในหนา้ ท่ี ที่รับผดิ ชอบดว้ ยความวิรยิ ะ อตุ สาหะ มีความอดกลน้ั อดทน ไม่ย่อท้อต่อความยากลาบากและอปุ สรรคใด ๆ ท้ังสิน้ ไมห่ มกมุ่นในอบายมุข และส่งิ เสพตดิ ทั้งปวง รจู้ กั ใช้จา่ ยตามฐานะ รู้จกั มัธยัสถ์และเกบ็ ออม โดยฝากเงินออม ประจาไว้กบั สถาบนั การเงนิ ของธนาคาร สหกรณ์ออมทรพั ยค์ รู นอกจากนยี้ งั ไดด้ าเนินการฝากออมในรปู แบบการ ประกันชวี ติ เปน็ รายเดอื นและรายปี ประพฤตปิ ฏิบัตติ นและดารงตนตามแนวพระราชดารเิ ศรษฐกจิ พอเพยี ง พอมี พอกิน โดยปลูกผักปลอดสารพษิ เพอ่ื รับประทานเองเป็นการลดรายจา่ ยภายในครอบครัว จากการที่ขา้ พเจ้า ดาเนินชวี ติ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงน้ี ทาให้ชีวิตครอบครัวมีความสุข มสี ุขภาพกาย สุขภาพจิตที่ดแี ละ ไดน้ าแนวดาเนินชวี ติ ลักษณะน้ีไปขยายผลและลงสู่แนวปฏบิ ัตใิ หก้ ับคณะครู นกั เรียนในโรงเรียนและชุมชน เพอื่ นาไปเป็นแบบอย่างในการดาเนนิ ชวี ิตประจาวัน นอกจากน้ีได้ปฏบิ ัติตนโดย ยึดหลักธรรมในการครองใจคน คือ สังคหวตั ถุ ๔ โดยปฏบิ ัติดงั นี้ ทาน คือ การให้ความช่วยเหลือดว้ ยสิ่งของ เงินทอง ให้ความรู้ ให้คาแนะนาสั่งสอน ให้น้าใจ ข้าพเจ้าจะมีน้าใจใหค้ วามชว่ ยเหลือต่อบุคคลรอบขา้ งและเพ่ือนรว่ มงานทุกคนด้วยความจริงใจ เปิดโอกาสให้ทุก คนมีส่วนร่วมในการแสดงความคดิ เห็นในการทางานและประเมินผลรว่ มกันเพ่อื พัฒนาองคก์ รไปสู่เปา้ หมายสงู สดุ ปิยวาจา คือ การกล่าวคาสุภาพ ไพเราะเพราะพร้ิง อ่อนหวาน พูดจาเหมาะสมกับบุคคลและ โอ ก า ส ซึ่ ง เป็ น ว า จ าท่ี ท า ให้ เกิ ด ไม ต รี แ ล ะ ค ว า ม ส า มั ค คี ต ล อ ด ท้ั ง ว า จ า ท่ี เป็ น เห ตุ เป็ น ผ ล ซึง่ การมีมนษุ ยสัมพันธน์ ้ีถอื ว่าเป็นจดุ เดน่ หรอื ข้อดขี องข้าพเจ้าท่มี ักจะพดู จาทักทายเพ่ือนรว่ มงานและบคุ คลทั่วไป ให้ผู้ฟังบังเกดิ ความรู้สึกว่าเขาเป็นบุคคลสาคัญ ข้าพเจ้าจะคอยถามสารทุกข์สุกดบิ ในเรื่องของเขาอย่างสม่าเสมอ ยอมรับฟงั ปัญหาและข้อคดิ เห็นของผู้อน่ื อยูเ่ สมอและนาปัญหา ข้อคดิ เห็นเหลา่ นัน้ มาแก้ไขร่วมกัน อัตถจรยิ า คือ ข้าพเจ้าได้ประพฤติและปฏิบัติตนให้เป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานและชุมชน เช่น การนานักเรียน ครูและบุคลากรของโรงเรียนเขา้ ค่ายคณุ ธรรม จริยธรรม การบรรพชาสามเณรเฉลิมพระเกียรตใิ น วโรกาสต่าง ๆ การจดั กฬี าเยาวชนตอ่ ต้านยาเสพตดิ การปลกู ป่าเฉลิมพระเกยี รติฯ เปน็ ต้น สมานัตตา คือ การวางตนให้เหมาะสมกับเพศ วัย ฐานะและโอกาส มีสัมมาคารวะต่อ ผทู้ ่ีสูงวัยกว่าและใหค้ วามเมตตาตอ่ ผู้น้อยตามสมควรแก่บุคคล น อก จาก นี้ ข้าพ เจ้ายังยึดห ลัก ธรรมพ รหมวิห าร ๔ ใน ก ารดูแลบุคคลที่เกี่ ยวข้อ งคือ มคี วามเมตตา กรุณา เอ้ือเฟอ้ื เผ่ือแผ่ มีน้าใจกับทกุ คน ยึดถอื ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน ปฏิบัติ ตนเสมอต้นเสมอปลาย มีความจริงใจให้กับทุกคน ซ่ึงผลจากการท่ีข้าพเจ้าปฏิบัติตนดังกล่าวข้างต้น ส่งผลให้
19 ข้าพเจ้าปฏิบัติงานต่าง ๆ ประสบความสาเร็จอย่างต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของผู้ร่วมงาน ผู้ใต้บังคับบัญชา ผู้บงั คับบญั ชาและบคุ คลทั่วไป ซึง่ ทกุ ฝ่ายให้การยอมรับและใหค้ วามร่วมมอื กนั ปฏบิ ัติงานจนสาเร็จลลุ ่วงไปดว้ ยดี 4.3 การยึดมั่นในหลักนติ ธิ รรม ยืนหยดั กระทาในส่งิ ท่ีถูกต้อง เปน็ ธรรมและชอบด้วยกฎหมาย ขา้ พเจ้าในฐานะผู้บริหารสถานศกึ ษา ตาแหน่งรองผู้อานวยการ ได้ดาเนินการบริหารจัดการบริหาร โรงเรียน โดยการยึดม่ันในหลักนิติธรรม ยนื หยัดกระทาในส่ิงท่ีถูกต้อง เป็นธรรมและชอบด้วยกฎหมาย ใช้ความรู้ ความสามารถและความพึงพอใจในการปฏิบัติงาน โดยคานึงถึงความรู้ความเข้าใจในหลักเกณฑ์ วิธีการ ระเบียบ กฎเกณฑ์ ข้อบังคบั มติ กฎหมายและนโยบาย สามารถนาความรู้ที่มีอยู่ไปใชใ้ นการปฏิบตั ิงาน สามารถแก้ปัญหา มีปฏิภาณไหวพริบในการทางาน ปฏิบัติงานท่ีรับผิดชอบด้วยความเต็มใจ บริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล (หลกั การบริหารบ้านเมอื งและสงั คมท่ีดี) คือ หลักคุณธรรม หลักนิติธรรม หลักความโปร่งใส หลักความมสี ่วนร่วม หลกั ความรบั ผดิ ชอบและหลักความคุม้ คา่ โดยเฉพาะหลักนติ ิธรรมไดป้ ฏิบัติตามกฎหมายที่ถกู ต้อง เป็นธรรม การ บงั คับให้เป็นไปตามกฎหมาย การกาหนด กฎ กติกา ท่ีตกลงกันไว้อย่างเคร่งครัด โดยคานึงถึงสิทธิเสรีภาพความ ยุติธรรมของผู้เกี่ยวข้องทกุ คน มีภาวะผู้นากล้าทก่ี ระทาในสิ่งท่ีถูกต้องถงึ แมว้ า่ มแี รงกดดันใหก้ ระทาในสิ่งทต่ี รงกัน ข้าม เป็นคนยดึ มนั่ ในหลักการ มคี วามเท่ียงธรรม ไม่ใชก้ ฎระเบียบที่มอี ยู่ไปในทางท่ไี มถ่ กู ตอ้ ง ไมเ่ ลอื กปฏิบัติ ข้าพเจ้าส่งเสริมให้ครูและบุคลากรในสถานศึกษาประพฤติตนตามมาตรฐานและจรรยาบรรณแห่ง วชิ าชพี ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในระเบียบวินัยของขา้ ราชการอย่างเคร่งครัด ถือปฏบิ ัติตามคาสง่ั ของผูบ้ ังคับบญั ชา และคู่มือการปฏิบัติงานของบุคลากรในสถานศึกษาและปฏิบัติหน้าท่ีราชการ ส่งเสริมให้บุคลากรได้เข้ารับการ อบรมพัฒนาด้านวิชาชีพที่ตนเองถนัด เข้าร่วมรับการอบรมเชิงปฏิบัติการกับทุกหน่วยงานเพื่อเป็นการพัฒนา ตนเองอย่างต่อเนื่อง จัดกิจกรรมเพ่ือเป็นการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ให้แก่นักเรียน เช่น โครงการส่งเสริ ม คุ ณ ธ ร ร ม จ ริ ย ธ ร ร ม แ ล ะ ค่ า นิ ย ม อั น พึ ง ป ร ะ ส ง ค์ กิ จ ก ร ร ม จิตอาสา กิจกรรมพีช่ ่วยนอ้ ง เพอื่ นช่วยเพ่อื น โครงการส่งเสรมิ ประชาธปิ ไตยในโรงเรยี น โครงการส่งเสริมกิจกรรม พัฒ น าผู้เรียน เพื่ อให้นัก เรียน เป็ น ผู้มีความรัก สามัคคี มีน้าใจ เอ้ือ เฟื้อ ยึดม่ัน ใน หลัก นิติธรรม ยืนหยัดในส่ิงที่ถูกต้องเป็นธรรมและชอบด้วยกฎหมาย เชื่อในกฎแห่งกรรมท่ีว่า ทาดีได้ดี ทาช่ัวได้ชั่ว มีกิริยามารยาทเรยี บร้อย เป็นท่ีรกั ใครแ่ กผ่ ู้พบเห็นสามารถใช้ชวี ิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ส่งผลให้ข้าพเจ้า ได้ รั บ ร า ง วั ล ต่ า ง ๆ อี ก ม า ก ม า ย แ ล ะ ส่ ง ผ ล ไ ป ถึ ง ร า ง วั ล เกี ย ร ติ ย ศ ผ ล ง า น ดี เด่ น ต่ า ง ๆ ที่สถานศกึ ษา บคุ ลากรและนกั เรียนไดร้ บั จากการเข้ารว่ มแขง่ ขัน 4.4 การยึดม่ันในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และวางตวั เป็นกลางทางการเมอื ง ขา้ พเจา้ ยึดม่ันในการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมุข และ วางตัวเปน็ กลางทางการเมือง และในฐานะขา้ ราชการไทยที่มคี วามสานึกในพระมหากรณุ าธิคุณต่อสถาบัน พระมหากษัตรยิ ์ ขา้ พเจ้าตั้งใจปฏิบัตหิ นา้ ท่ขี องตนเองโดยยดึ มัน่ ในคุณธรรมท่ขี ้าราชการไทย พงึ ปฏบิ ตั ิตามพระ ราชดารสั พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ที่ไดพ้ ระราชทาน เมอื่ วนั ท่ี ๕ เมษายน พทุ ธศักราช ๒๕๒๕ ความวา่ “... คณุ ธรรมท่ีทกุ คนควรจะศกึ ษาและน้อมนามาปฏบิ ตั ิมีอยู่สี่ประการ ประการแรกคอื การรกั ษาความสจั ความ
20 จริงใจต่อตัวเองทจ่ี ะประพฤติปฏบิ ตั ิแตส่ ่ิงท่เี ปน็ ประโยชนแ์ ละเป็นธรรม ประการทสี่ อง คือการรู้จักขม่ ใจตนเอง ฝึกใจตนเองใหป้ ระพฤติปฏบิ ัติอยใู่ นความสจั ความดนี น้ั ประการที่สาม คือ การอดทน อดกล้ันและอดออม ท่จี ะไมป่ ระพฤตลิ ่วงความสจั สุจริต ไม่ว่าจะด้วยเหตุประการใด ประการทสี่ ่ี คือการร้จู กั ละวางความชว่ั ความ ทุจริต และรจู้ ักเสยี สละประโยชน์ส่วนน้อยของตนเพอื่ ประโยชนส์ ่วนใหญข่ องบา้ นเมือง...” ในฐานะประชาชน ชาวไทยทยี่ ดึ มน่ั ในการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย ขา้ พเจ้าไปใช้สทิ ธเ์ิ ลอื กต้งั ทกุ ครั้งทม่ี กี ารเลอื กตงั้ ไม่วา่ จะเปน็ การเลอื กตั้งผใู้ หญบ่ า้ น สมาชิกองคก์ ารบริหารสว่ นตาบล สมาชกิ องค์การบริหารสว่ นจงั หวดั สมาชิกวฒุ สิ ภาและ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร การเลอื กต้ังครูหรือตัวแทนครใู นการเขา้ ไปทาหนา้ ท่แี ทนในองคก์ รหรอื หนว่ ยงานต่าง ๆ และมีสว่ นรว่ มในการสง่ เสรมิ ประชาธปิ ไตยทง้ั ในระดบั โรงเรยี นและนอกโรงเรยี น ข้าพเจ้าส่งเสริมให้มีการจัดกิจกรรมโครงการส่งเสริมประชาธิปไตยในโรงเรียน โครงการส่งเสริม คุณ ธรรม จริยธรรมนั ก เรียน น อก จาก น้ี ยังให้ คณ ะ ครูได้สอ ดแท รก เร่ือ งสิท ธิก ารเลือ ก ตั้งและ การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในการจัดกิจกรรมการเรียน การสอนเพื่อเป็นการย้าเตือนให้นักเรียนมีความรู้และความเข้าใจท่ีถกู ต้อง เพ่ือให้นักเรียนได้มีความรู้ความเขา้ ใจ ความหมายของประชาธิปไตยอย่างถูกต้อง โครงการทาดีเพื่อพ่อเพื่อเป็นการปลูกฝังจิตสานึกของบุคลากรใน ส ถ า น ศึ ก ษ า นั ก เ รี ย น ผู้ ป ก ค ร อ ง แ ล ะ บุ ค ค ล ทั่ ว ไ ป ใ น ชุ ม ช น ใ ห้ มี ส า นึ ก ใ น พระมหากรุณาธิคุณตอ่ สถาบันพระมหากษัตริย์ ส่งผลให้ขา้ พเจ้า ได้รับรางวัลต่าง ๆ อกี มากมายและส่งผลไปถึง รางวัล เกี ย รติ ยศ ผ ลงาน ดีเด่ น ต่ าง ๆ ที่ ส ถาน ศึ ก ษ า บุ ค ล าก ร แล ะ นั ก เรีย น ได้ รับ จาก ก ารเข้ า ร่วมแขง่ ขัน 4.5 การมีสว่ นรว่ มอนุรักษว์ ฒั นธรรมไทยและส่ิงแวดล้อม ข้าพเจ้ามีส่วนร่วมในการสนับสนุนกิจกรรมของโรงเรยี นและชุมชน ในด้านการอนุรกั ษ์วัฒนธรรมไทย และส่ิงแวดล้อม โดยการเข้าร่วมกิจกรรมประเพณีประจาปีท่ีแสดงออกถึงการอนุรักษ์และส่งเสรมิ ศิลปวฒั นธรรม ไทยของชุมชนอย่างสม่าเสมอ โดยจัดให้มีการถ่ายทอดวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทยจากคนรุ่นเก่าสู่คนรุ่นใหม่ สร้างจิตสานึกให้คนไทยเห็นคุณค่าและร่วมกันอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย เช่น ส่งเสริมและปลูกฝังให้นักเรียนรักษา กริ ิยามารยาทแบบไทย มีสัมมาคารวะ เคารพผู้ใหญ่ มีความออ่ นนอ้ มถอ่ มตน และรักนวลสงวนตัว รวมท้ังส่งเสริม ให้ใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้องทั้งการพูดและการเขียน สนับสนุนให้ครูได้อบรมส่ังสอนลูกศิษย์ทุกคนเพื่อเป็นการ ปลูกฝังจิตสานึกที่ดีจากรุ่นสู่รุ่น โดยยึดหลักการอนุรักษ์ การฟ้ืนฟู การพัฒนา การถ่ายทอด การส่งเสริมกิจกรรม การเผยแพรแ่ ลกเปลย่ี น การเสริมสร้างปราชญ์ท้องถิน่ 5. การดารงชวี ิตอยา่ งเหมาะสม 5.1 การดารงชีวติ ตามแนวทางหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ข้าพเจ้าดารงชีวิตโดยได้น้อมนาหลักปรัชญ าของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ มาเป็นหลักปฏิบัติในการดาเนินชีวิต โดยการดาเนินไปในทาง สายกลาง ความพ อเพียง หมายถึง พ อประมาณ ความเหตุผล มีภูมิคุ้มกันใน ตัวท่ีดี โดยข้าพ เจ้า ได้ยึดหลักคุณธรรมแห่งความเป็นจริง หรือท่ีเรียกว่า อริยสัจ ๔ คือ ความจริงอันประเสริฐ ๔ ประการ อันเป็นหลักคาสอนสาคญั ของพระพทุ ธศาสนา ประกอบดว้ ย ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ดาเนินชีวิตอยู่ในหลักธรรม สายกลาง คือ มัชฌิมาปฏิปทา อันได้แก่ อริยมรรคมีองค์ ๘ ข้าพเจ้าพึงประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ เพือ่ นร่วมงานนักเรียนและบุคคลท่ัวไป ใช้ชีวติ อย่างพอเพียง ไม่ใชจ้ ่ายฟมุ่ เฟือยเกินความจาเป็นการจัดการรายได้ ข อ ง ค ร อ บ ค รั ว อ ย่ า ง เห ม า ะ ส ม ป ฏิ บั ติ จ น เป็ น นิ สั ย ท้ั ง อ ยู่ ที่ บ้ า น แ ล ะ ที่ ท า ง า น เช่ น การออมทรัพย์ การปลูกพืชผักสวนครัวปลอดสารพิษเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในครอบครัว และดาเนินชีวิตอย่าง พอเพียง ใช้จา่ ยอย่างประหยัดในสง่ิ ที่จาเป็นต่อการดาเนินชวี ิต รจู้ ักอดออม ยอมรับในความพอดี พอใจในสิง่ ท่ีมี
21 อยู่ ไม่สร้างปญั หาให้ส่งผลกระทบต่อหน้าท่ขี องการปฏิบัติงานบริหารสถานศกึ ษารวมทั้งเอ้ือเฟือ้ เผอ่ื แผ่ มีน้าใจต่อ ค น ร อ บ ข้ า ง ส นั บ ส นุ น แ ล ะ ส่ ง เ ส ริ ม กิ จ ก ร ร ม อ นุ รั ก ษ์ พ ลั ง ง า น แ ล ะ สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม ตามนโยบายของรฐั และหนว่ ยงานมาโดยตลอด ข้ าพ เจ้ าส่ งเส ริ ม ส นั บ สนุ น ให้ ค รู จั ด กิ จ ก รร ม บู ร ณ าก าร ก าร เรี ยน ก าร ส อ น ใน ทุ ก ก ลุ่ ม สาร ะ การเรียนรู้โดยเน้นกิจกรรมตามแนวหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสอดแทรกคุณธรรม หลักธรรมทาง พระพุทธศาสนาที่เกี่ยวข้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงทุกช่ัวโมงที่สอน เพ่ือเป็นการปลูกจิตสานึก ท่ีดีให้กับบุคลากรในสถานศึกษาและผู้เรียนได้มีความรู้ความเข้าใจในการดาเนินชีวิตอย่างมีความสุขท่ีแท้จริง ซ่ึงปัจจุบันโรงเรียนได้ขับเคล่ือนจนเป็นศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้านการศึกษา ปี การศึกษา 2560 บรรลุเป้าหมายวิสัยทัศน์ของโรงเรียนท่ีกล่าวไว้ว่า “ภายในปี พ.ศ.2564 โรงเรียน ราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ มีระบบการจัดการศึกษาท่ีมีคุณภาพ มีครูมืออาชีพ ผู้เรียน มคี ุณลักษณะตามหลักสูตร และเป็นศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ส่งผลให้ข้าพเจ้า ได้รับ รางวลั ต่าง ๆ อีกมากมายและส่งผลไปถึงรางวลั เกียรติยศ ผลงานดเี ด่นต่าง ๆ ที่สถานศึกษา บคุ ลากรและนักเรียน ไดร้ ับจากการเขา้ ร่วมแข่งขนั 5.2 การละเวน้ อบายมขุ และสิ่งเสพตดิ ข้าพเจ้าไดป้ ระพฤติและปฏิบตั ิตนตามกรอบศีลธรรม โดยเครง่ ครัดในระเบียบวินยั ประพฤตติ นอยู่ใน จรรยาบรรณวิชาชีพมาโดยตลอด ไม่เคยถูกตาหนิ กลา่ วหา หรือถูกลงโทษดาเนินการทางวินัย ไม่เคย เกี่ยวข้องกับอบายมุขหรือสิ่งเสพติดใด ๆ จนขาดสติหรอื แสดงกิริยาไม่สุภาพ ไม่เคยประพฤติผิดทางชู้สาวหรอื มี พฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศ ปฏิบัติตนโดยยึดหลักเบญจศีล เบญจธรรม ในการครองตน ต้ังใจปฏิบัติหน้าท่ี ราชการให้เกิดผลดี เพ่ือความก้าวหน้าแก่ราชการปฏิบัติหน้าท่ีด้วยความอุตสาหะ เอาใจใส่ระมัดระวัง รักษา ผลประโยชนข์ องทางราชการ สง่ เสริมให้ครูและบุคลากรในโรงเรียนอย่ใู นระเบียบวนิ ัย ประพฤติตนตามมาตรฐาน และจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ ถือปฏิบัติตามคาสั่งของผู้บังคับบัญชา คู่มือการปฏิบัติงานของบุคลากรใน สถานศึกษาและปฏิบัติหน้าท่ีราชการ 5.3 การใช้หรอื ใหข้ ้อมูลข่าวสารสว่ นบคุ คลและของทางราชการใหเ้ ปน็ ไปด้วยความถูกต้อง ข้าพเจา้ ใชห้ รือให้ข้อมลู ข่าวสารของส่วนบุคคลและของทางราชการด้วยความถกู ต้องเหมาะสม และ เป็นผู้ตดิ ตามข้อมลู ข่าวสารท่ีสาคัญในด้านการศกึ ษาและด้านอื่น ๆ ตลอดจนนาข้อมูลข่าวสารท่ีทันสมัย ความรู้ วิทยาการสมัยใหม่ เผยแพร่ใหแ้ กค่ ณะครู นกั เรยี นและชุมชนได้รบั ทราบเช่นในการประชุมคณะครู ประชุม คณะกรรมการสถานศกึ ษาขั้นพื้นฐานและการประชุมผปู้ กครอง ขา้ พเจ้าจะนาเสนอข้อมลู ท่ีถูกต้องและเป็นจรงิ เสมอ เพ่ือสรา้ งความเขา้ ใจที่ตรงกนั ซ่งึ จะสง่ ผลในการพัฒนาสถานศกึ ษาและพัฒนาคณุ ภาพของผูเ้ รียน ใหป้ ระสบ ผลสาเร็จได้ นอกจากนยี้ ังได้พัฒนาระบบการรบั ขอ้ มูลข่าวสารของโรงเรยี นให้ทนั สมัย โรงเรยี นมีเวบ็ ไซต์ทส่ี ามารถ เผยแพรข่ อ้ มลู ข่าวสารของทางโรงเรียนไดอ้ ย่างถกู ต้องสมบูรณแ์ ละเปน็ ปัจจุบัน พฒั นาระบบอินเตอรเ์ น็ตไร้สาย เพ่อื ใหค้ ณะครูและนกั เรียนสามารถรบั ข้อมูลข่าวสารผ่านทางระบบอนิ เตอร์เน็ตไรส้ ายเพอ่ื ใชใ้ นการเรียนการสอน และการคน้ คว้า มหี อ้ งเรียนระบบการเรียนร้ไู รพ้ รมแดนสาหรับจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนให้ทันต่อโลกแห่ง สงั คมเครือข่ายในปัจจุบนั และมีการบริหาร การใหข้ อ้ มลู ข่าวสารตา่ ง ๆ ผ่านแอพพลิเคชัน่ LINE ตามกล่มุ ที่ กาหนดไว้ เพอื่ ให้การบริหารงานเกดิ ความรวดเรว็ ไดร้ ับขอ้ มูลข่าวสารทนั ต่อเหตกุ ารณ์
22 5.4 การดารงตนเปน็ แบบอยา่ งทดี่ ี เหมาะสมกับสถานภาพและตาแหน่งหน้าที่ ในฐานะท่ีข้าพเจ้าเป็นผู้บริหารสถานศึกษา ตาแหน่งรองผู้อานวยการ ข้าพเจ้าได้ดารงตนเป็น แบบอยา่ งที่ดี เหมาะสมกับสถานภาพและตาแหน่งหน้าที่ โดยการรจู้ ักตนเอง เขา้ ใจตนเอง และสามารถควบคุม ตนเองได้ มเี ป้าหมายในชีวิตท่ีแน่นอนเรียกวา่ มีเป้าหมายแห่งตน รู้จักควบคุมตนหรือมีวนิ ัยแห่งตน คือการทางาน ให้สาเร็จด้วยตนเอง การครองตนข้าพเจ้าใช้หลักการครองตนตามแนวพระราชดาริเศรษฐกิจพอเพียงและยึด หลักธรรมสัปปุริสธรรม ๗ คือ รู้จักเหตุ รู้จักผล รู้จักตน รู้จักประมาณ รู้จักกาล รู้จักบุคคลและชุมชน และ ฆราวาสธรรม ๔ คือ สจั จะ ทมะ ขันติ และจาคะ ซง่ึ ขา้ พเจ้าไดด้ าเนนิ ชีวติ ดังน้ี ประพฤตปิ ฏบิ ัติตนเป็นแบบอยา่ งที่ดีแกล่ ูกศิษย์ ผู้ใตบ้ งั คับบัญชา เพ่อื นร่วมงานและบคุ คลท่วั ไป โดย ข้าพเจา้ จะแตง่ กายให้เหมาะสมกับฐานะและตาแหน่ง เหมาะสมกับกาลเทศะ ขนบธรรมเนยี มประเพณอี ันดงี าม ของชาวไทย พดู จาสภุ าพออ่ นหวานดว้ ยความจริงใจกบั บุคคลทุกเพศทุกวยั ซึ่งบคุ คลอืน่ ไดฟ้ ังแลว้ มีความสบายใจ อยากอยใู่ กล้ชิด อยากคบหาสมาคม มีความรับผิดชอบต่อคาพดู ของตนเอง ดงั ภาษติ ท่ีวา่ คาพูดเปน็ นาย กาย เปน็ บ่าว ซ่งึ หมายความวา่ ให้คิดก่อนพดู อย่าพูดก่อนคดิ พดู แลว้ ต้องทา และปฏิบัตติ ามคาพูด นอกจากนีย้ งั มี ความรบั ผดิ ชอบงานในหน้าทท่ี ีไ่ ด้รบั มอบหมายดว้ ยความวริ ยิ ะ อุตสาหะ มีความอดกล้นั อดทน ไม่ยอ่ ท้อต่อ ความ ยากลาบากและอปุ สรรคใด ๆ ท้งั สิน้ ไม่หมกมุ่นในอบายมขุ และสิ่งเสพติดท้งั ปวง รู้จักใช้จ่ายตามฐานะ รู้จัก มัธยสั ถแ์ ละเก็บออม โดยฝากเงนิ ออมประจาไว้กบั สถาบันการเงินของธนาคาร สหกรณอ์ อมทรพั ย์ครู นอกจากนี้ยงั ไดด้ าเนนิ การฝากออมในรปู แบบการประกันชีวติ เป็นรายเดือนและรายปี ประพฤตปิ ฏิบตั ิตนและดารงตนตามแนว พระราชดารเิ ศรษฐกจิ พอเพยี ง พอมี พอกิน โดยปลูกผกั ปลอดสารพิษและเล้ยี งสตั วไ์ วใ้ นครวั เรือน เพือ่ รบั ประทาน เองเป็น การลดรายจา่ ยภายในครอบครวั จากการท่ีข้าพเจ้าดาเนนิ ชีวิตตามแนวเศรษฐกิจพอเพยี งน้ี ทาใหช้ ีวิต ครอบครัวมคี วามสุข มีสุขภาพกาย สุขภาพจิตทด่ี ี และไดน้ าแนวดาเนินชีวติ ลักษณะนี้ไปขยายผลและ ลงสู่แนวปฏบิ ตั ใิ หก้ ับคณะครู นักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่ และชมุ ชน เพ่อื ใช้เป็นแบบอย่างในการดาเนินชวี ิตประจาวัน จากการทขี่ ้าพเจา้ ได้ดารงตนเปน็ แบบอย่างท่ีดี เหมาะสมกับ สถานภาพ และตาแหน่งหน้าท่ี จึงได้รบั การยอมรบั ได้รบั การยกยอ่ ง ชมเชย จากหน่วยงานต่าง ๆ ดงั น้ี (1 ) คณ ะกรรมการจัดงาน วัน ครู ป ระจาปี 2 5 6 2 ประก าศ ลงวัน ที่ 2 มก ราคม พ.ศ. 2562 (2) คณะกรรมการดาเนินการแข่งขันกีฬานักเรียนและเยาวชนอาเภอแม่แจ่ม ประจาปี พทุ ธศักราช ๒๕๖๒ ประกาศ ลงวนั ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 (3) คณะกรรมการดาเนินการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ระดับชั้น ประถมศึกษาปีท่ี 6 และระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2562 (คาส่ังสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา ประถมศกึ ษาเชยี งใหม่ เขต 6 ท่ี 7/2563 ลงวันท่ี 8 มกราคม 2563)
23 (4) คณะกรรมการดาเนินงานอบรมเชิงปฏิบัติการ “ส่งเสริมการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียน ระดับช้ันประถมศึกษาปีที่ 1-3 “ (5) คณะทางานขับเคลื่อนพ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ระดับหน่วยงานทาง การศึกษาสังกัดสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษในจังหวัดเชียงใหม่ ประกาศ ลงวันท่ี 30 เมษายน พ.ศ. 2563 (6) คณะทางานสรุปผลการจัดการศึกษาสถานศึกษานาร่องพ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัด เชยี งใหมป่ ระกาศ ลง วนั ท่ี 3 เดอื น กันยายน พ.ศ. 2563 (7) คณะกรรมการดาเนินงานโครงการแลกเปล่ียนเรยี นรู้ผลการจัดการศึกษาสถานศึกษานาร่อง พื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ ประจาปีงบประมาณ 2563 ประกาศ ลงวันท่ี 14 กันยายน พ.ศ 2563 (8)คณะกรรมการดาเนินงานมทุ ิตาจิตเกษยี ณอายรุ าชการ ประจาปี พ.ศ. ๒๕๖๓ประกาศ ลงวนั ที่ 20 กันยายน พ.ศ 2563 จากทก่ี ล่าวสง่ ผลใหไ้ ดร้ ับรางวัลต่าง ๆ ดังนี้ (1) นายวิเศษ ฟองตา ตาแหน่งรองผู้อานวยการโรงเรียน ได้รับเกียรติบัตรรางวัลระดับรอง ชนะเลิศระดบั เหรยี ญทอง ด้านการบริหารจัดการ ประเภท รองผู้อานวยการสถานศึกษายอดเย่ียม ในการประกวด รางวัลทรงคุณค่า สพฐ. OBEC AWARDS ระดบั ชาติ ครงั้ ท่ี 8 ประจาปกี ารศกึ ษา 2561 (2) นายวเิ ศษ ฟองตา ไดร้ บั เกียรติบัตรรางวลั “Super Leader” ร่นุ ที่ 4 ประจาปี 2563 จาก ภาคีเชยี งใหม่เพอ่ื การปฏิรูปการศึกษา รว่ มกบั องค์การบรหิ ารส่วนจงั หวดั เชียงใหม่ (3) นายวิเศษ ฟองตา รองผู้อานวยการโรงเรียน ได้เกียรติบัตรรางวัลระดับเหรียญทอง ด้าน บริหารจัดการ ประเภท รองผู้อานวยการสถานศึกษายอดเยี่ยม ในการประกวดรางวัลทรงคุณค่า สพฐ. OBEC AWARDS ระดับชาติ ประจาปี 2561 (4) นายวิเศษ ฟองตา รองผู้อานวยการโรงเรียน ได้รับคัดเลือกเป็นรองผู้อานวยการ ประจาปี 2560 จากกล่มุ สถานศึกษาสงั กดั สานกั บริหารงานการศึกษาพเิ ศษกลมุ่ 6 (5) นายวิเศษ ฟองตา รองผู้อานวยการโรงเรียน ได้รับคัดเลือกเป็นรองผู้อานวยการ ประจาปี 2561 จากกลมุ่ สถานศกึ ษาสังกดั สานกั บริหารงานการศึกษาพเิ ศษกล่มุ 6 (6) นายวิเศษ ฟองตา รองผู้อานวยการโรงเรียน ได้รับรางวัล คุรุสดุดี ด้านการบริหารดีเด่น ประจาปี 2561 จากสมาคมครูแมแ่ จ่ม
24 (7) นายวิเศษ ฟองตา รองผู้อานวยการโรงเรียน รางวัล ประกาศเชิดชูเกียรติผู้ทาประโยชน์ ดีเด่นที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง เสียสละและเป็นประโยชน์ต่อสังคมของจังหวัดเชียงใหม่ ประจาปี 2559 (8) นายวิเศษ ฟองตา รองผู้อานวยการโรงเรียนได้รับรางวัลต้นแบบคนดีศรีเชียงใหม่ประจาปี 2561 (9) นายวิเศษ ฟองตา รองผู้อานวยการโรงเรียนได้รับรางวัลต้นแบบคนดีศรีแผ่นดินประจาปี 2563 5.5 การประหยัด มัธยัสถ์ อดออม ข้าพเจ้าดารงชีวิตโดยได้น้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวฯ มาเป็นหลักปฏิบัติในการดาเนินชีวิต โดยการดาเนินไปในทางสายกลาง ความพอเพียง หมายถึง พอประมาณ ความเหตุผล มีภูมิคุ้มกันในตัวทีด่ ี ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ในเร่อื งการประหยัด มัธยัสถ์ อดออม ไม่ฟุ่มเฟือยเกินจาเป็นใช้จ่ายในส่ิงที่จาเปน็ ต่อการดาเนินชีวิต การจดั การรายได้ของตนเองอย่างเหมาะสมโดยยึด หลัก “เศรษฐกิจพอเพียง” คือ การรู้จักประมาณ การมีเหตุผลและมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี ปฏิบัติจนเป็นนิสัย ท้ังท่ี บ้านและท่ีทางาน ประพฤตปิ ฏบิ ัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เพื่อนรว่ มงาน และนักเรียนในการใช้ชีวิตอยา่ งพอเพียง ไม่ใชจ้ ่ายฟุ่มเฟือย เกินความจาเป็น การจดั การรายได้ของครอบครัวอย่างเหมาะสม ปฏิบัติจนเป็นนิสัย ท้ังอยู่ ที่ บา้ นและที่ทางาน เชน่ การออมทรพั ย์ การปลูกพืชผักสวนครวั ปลอดสารพิษเพื่อประหยัดคา่ ใช้จ่ายในครอบครัว ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยดั ในส่งิ ทจี่ าเปน็ ต่อการดาเนนิ ชวี ติ รจู้ กั อดออม ยอมรับในความพอดี พอใจในสิง่ ทีม่ ีอยู่ ข้าพเจ้าส่งเสริมสนับสนุนให้ครูจัดกิจกรรมบูรณาการ การเรียนการสอนในทุกกลุ่ มสาระ การเรียนรู้โดยเน้นกิจกรรมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สอดแทรกคุณธรรมและหลักธรรมทาง พระพุทธศาสนาที่เก่ียวข้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงทุกช่ัวโมงที่สอน เพ่ือเป็นการปลูกจิตสานึกท่ีดีให้กับ บุคลากรในสถานศึกษาและผู้เรียนได้มีความรู้ความเข้าใจในการดาเนินชีวิตอย่างมีความสุขท่ีแท้จริง สร้างพ่อครูแม่ครู ในโรงเรียน จัดทาโครงการธนาคารโรงเรยี น ออมวนั ละนิดจติ แจ่มใส กิจกรรม สอร. เพอื่ ให้นักเรยี นได้รู้จักประหยัดและ ร้คู ณุ ค่าของเงนิ รจู้ ักรกั ษาและหวงแหนทรัพยส์ นิ ส่วนรวมและทรพั ยส์ นิ ส่วนตัว 6. ความรักและศรัทธาในวชิ าชพี 6.1 การเปน็ สมาชิกทดี่ ีสนับสนุนหรอื รว่ มกจิ กรรมของวชิ าชพี และทางวิชาการอย่างสร้างสรรค์ ขา้ พเจ้ามีความรักและศรทั ธาในวิชาชีพ เปน็ สมาชิกที่ดีขององคก์ รวชิ าชีพ มีความศรทั ธาในอาชีพครู ซงึ่ เป็นวชิ าชีพชน้ั สงู ปฏิบัติงานด้วยความมุ่งม่ันในการพัฒนาสถานศกึ ษา และนักเรียนใหม้ ีความรู้ความสามารถ มี คุ ณ ธ ร ร ม จ ริ ย ธ ร ร ม ท่ี ดี ง า ม ส ร้ า ง ป ร ะ โ ย ช น์ ต่ อ ส่ ว น ร ว ม แ ล ะ ป ร ะ ช า ช น ใ น สั ง ค ม ซง่ึ ข้าพเจา้ ได้ประพฤติปฏบิ ตั ติ น ดังนี้ 1) เป็นสมาชิกคุรุสภา สมาชิก กบข. และให้การสนับสนุน เข้าร่วมกิจกรรมวันครูของอาเภอทุกปี พรอ้ มทงั้ เชญิ ชวนให้เพอ่ื นครทู กุ คนเขา้ ร่วมกจิ กรรมวันครู
25 2) แสดงความชื่นชมและศรทั ธาในคุณค่าของตนเองและวิชาชพี มคี วามรกั ความภูมิใจในวชิ าชีพครู ข้าพเจ้าจึงได้ปฏิบัติตนให้สมกับท่ีได้ชื่อว่าเป็นครู โดยการปฏิบัติหน้าที่เต็มศักยภาพ ทุ่มเท เสียสละ อุทิศเวลา ใหก้ ับการปฏบิ ตั ิหน้าท่ี 3) ปกปอ้ งชอ่ื เสยี งและรักษาศักดิ์ศรีแห่งวิชาชีพ จะไม่ยอมให้ผ้ใู ดมาดูหมิ่นหรือทาลายได้ 4) ยกย่องเชิดชูเกียรติผู้มีผลงานในวิชาชีพให้สาธารณชนรับร้แู ละช่ืนชมร่วมกัน เม่ือมีโอกาสจะยก ย่องเชิดชูเกียรติผูท้ ี่มีผลงานดีเด่นตา่ ง ๆ ให้สาธารณชนได้รบั รู้ เช่น การเข้ารว่ มแสดงความยินดตี อ่ เพ่ือนร่วมงานที่ มผี ลงานดเี ด่น การกล่าวยกย่องชมเชยในทปี่ ระชมุ 5) มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสมาชิกในองค์กร หรือวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง โดยใช้องค์ความรู้ในการ ปฏิบัติงาน มีการประชุมปรึกษาหารือร่วมกับรองผู้อานวยการ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู คณะครูเพื่อ แลกเปลย่ี นประสบการณเ์ กีย่ วกบั การปฏิบัติงานทมี่ ีประสิทธิภาพ 6.2 การศึกษา ค้นคว้า ริเริ่ม สรา้ งสรรค์ ความรใู้ หม่ ๆ มาใชพ้ ฒั นางานในวชิ าชีพ ขา้ พเจ้าศึกษา คน้ คว้า รเิ ร่มิ สรา้ งสรรค์ความรใู้ หมๆ่ มาใช้ในการพัฒนาในวชิ าชพี ดงั นี้ 1) การศึกษาดูงานตา่ งประเทศเพ่อื พฒั นาศักยภาพด้านการบรหิ าร ดงั น้ี - พ.ศ. 2561 ศึกษาดูงานการจัดการศึกษาสาหรับเด็กพิการและด้อยโอกาส ประเทศ จนี ระหว่างวันที่ 24 ตุลาคม 2561 ข้าพเจ้าได้นาความร้ใู นการจัดหา ผลิตสอื่ มาขยายผลให้ครูสามารถผลิตสื่อ การเรียนการสอนได้อยา่ งมคี ุณภาพ 2) การประชุม สัมมนา อบรมเชิงปฏิบัติการต่าง ๆ ข้าพเจ้าศึกษาค้นคว้า แสวงหา เทคนิคด้านวิชาชีพที่ก้าวหน้ามาใช้ในการบริหารจัดการสถานศึกษา โดยได้เข้าร่วมการประชุมอบรมสัมมนาใน โอกาสต่าง ๆ ตามความเหมาะสมอย่างสม่าเสมอ และนาความรู้ เทคนิคทางด้านวิชาชีพมาพัฒนาสถานศึกษา คณะครู และนักเรยี น ใหไ้ ปสูเ่ ปา้ หมายท่พี ึงประสงค์ ศกึ ษาหาความรู้ วางแผนพัฒนาตนเองและพัฒนางานอยา่ ง สมา่ เสมอ ซึ่งได้ศกึ ษาจากเอกสารและส่ือตา่ ง ๆ เพอื่ นาความรมู้ าพัฒนาตนเองและพัฒนางานทีร่ ับผดิ ชอบในฐานะ ผูบ้ รหิ ารสถานศึกษา ตาแหน่งรองผอู้ านวยการ และพัฒนางานใหเ้ ป็นระบบ ส่งผลใหข้ า้ พเจ้าได้รับรางวัลดังน้ี ระดับประเทศ นายวิเศษ ฟองตา รองผู้อานวยการโรงเรียน ได้เกียรติบัตรรางวัลระดับเหรียญทอง ด้านบรหิ ารจดั การ ประเภท รองผอู้ านวยการสถานศึกษายอดเย่ียม ในการประกวดรางวัลทรงคณุ ค่า สพฐ. OBEC AWARDS ระดบั ชาติ ประจาปี 2561 ระดบั ภูมภิ าค (1) นายวิเศษ ฟองตา รองผู้อานวยการโรงเรียน ได้รับคัดเลือกเป็นรองผู้อานวยการ ประจาปี 2560 จากกลุ่มสถานศกึ ษาสงั กัดสานักบรหิ ารงานการศกึ ษาพเิ ศษกลุ่ม 6 (2) นายวิเศษ ฟองตา รองผู้อานวยการโรงเรียน ได้รับคัดเลือกเป็นรองผู้อานวยการ ประจาปี 2561 จากกลุ่มสถานศกึ ษาสังกัดสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษกลุม่ 6
26 ระดบั จังหวดั (1) นายวเิ ศษ ฟองตา ได้รบั เกียรตบิ ัตรรางวัล “Super Leader” รนุ่ ท่ี 4 ประจาปี 2563 จาก ภาคเี ชียงใหมเ่ พื่อการปฏิรปู การศกึ ษา ร่วมกับองค์การบรหิ ารส่วนจังหวัดเชยี งใหม่ (2) นายวิเศษ ฟองตา รองผู้อานวยการโรงเรียน ได้รับรางวัล คุรุสดุดี ด้านการบริหารดีเด่น ประจาปี 2561 จากสมาคมครูแม่แจ่ม (3) นายวิเศษ ฟองตา รองผู้อานวยการโรงเรียน รางวัล ประกาศเชิดชูเกียรติผู้ทาประโยชน์ ดีเด่นที่ได้ปฏิบัติหน้าท่ีด้วยความเข้มแข็ง เสียสละและเป็นประโยชน์ต่อสังคมของจังหวัดเชียงใหม่ ประจาปี 2559 (4) นายวิเศษ ฟองตา รองผู้อานวยการโรงเรียนได้รับรางวัลต้นแบบคนดีศรีเชียงใหม่ประจาปี 2561 (5) นายวิเศษ ฟองตา รองผู้อานวยการโรงเรียนได้รับรางวัลต้นแบบคนดีศรีแผ่นดินประจาปี 2563 6.3 การมีบทบาทเปน็ ผนู้ าทางวชิ าการในวงการวิชาชพี ข้าพเจ้ามีบทบาทการเป็นผู้นาทางวิชาการในวงการวิชาชีพ ทั้งในระดับจังหวัด ระดับ กลุ่มสถานศึกษา และระดับประเทศ ตลอดจนหนว่ ยงานอน่ื ๆ ทง้ั ภายนอกและภายใน ดังน้ี (1 ) คณ ะกรรมการจัดงาน วัน ครู ป ระจาปี 2 5 6 2 ประก าศ ลงวัน ที่ 2 มก ราคม พ.ศ. 2562 (2) คณะกรรมการดาเนินการแข่งขันกีฬานักเรียนและเยาวชนอาเภอแม่แจ่ม ประจาปี พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒ ประกาศ ลงวันท่ี 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 (3) คณะกรรมการดาเนินการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ันพ้ืนฐาน (O-NET) ระดับช้ัน ประถมศึกษาปีท่ี 6 และระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ปีการศึกษา 2562 (คาส่ังสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา ประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 6 ท่ี 7/2563 ลงวนั ท่ี 8 มกราคม 2563) (4) คณะกรรมการดาเนินงานอบรมเชิงปฏิบัติการ “ส่งเสริมการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียน ระดับช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 1-3 “ (5) คณะทางานขับเคล่ือนพ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ระดับหน่วยงานทาง การศึกษาสังกัดสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษในจังหวัดเชียงใหม่ ประกาศ ลงวันท่ี 30 เมษายน พ.ศ. 2563 (6) คณะทางานสรุปผลการจัดการศึกษาสถานศึกษานาร่องพ้ืนท่ีนวัตกรรมการศึกษาจังหวัด เชียงใหมป่ ระกาศ ลง วนั ท่ี 3 เดือน กนั ยายน พ.ศ.2563
27 (7) คณะกรรมการดาเนินงานโครงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผลการจัดการศึกษาสถานศึกษานาร่อง พ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ ประจาปีงบประมาณ 2563 ประกาศ ลงวันท่ี 14 กันยายน พ.ศ. 2563 (8)คณะกรรมการดาเนินงานมทุ ิตาจติ เกษยี ณอายุราชการ ประจาปี พ.ศ. ๒๕๖๓ประกาศ ลงวนั ท่ี 20 กันยายน พ.ศ. 2563 ข้าพ เจ้าสนับสนุน ให้ครูและบุ คลาก ร มีภาวะผู้น าทางวิชาการ โดยการจัดอ บรมให้กั บ คณะครู บุคลากร มีความรู้ทางวิชาการ และส่งเสริมให้ครูเข้ารับการอบรมต่าง ๆ ท่ีหน่วยงานต้นสังกัดได้จัดขึ้น ส่งผลให้ข้าพ เจ้า ได้รับรางวัลต่าง ๆ อีกมากมาย และส่งผลไปถึงรางวัลเกียรติยศ ผลงาน ดีเด่น ต่าง ๆ ที่สถานศึกษา บุคลากรและนักเรยี นได้รับจากการเข้ารว่ มแข่งขนั (ดังเอกสารภาคผนวก หนา้ 57) 6.4 การรกั ษาชอ่ื เสียง ปกป้องศักดิ์ศรแี หง่ วชิ าชพี และการยกย่องเชิดชเู กียรติ ข้าพเจา้ มคี วามรัก ศรทั ธา ซื่อสตั ย์สุจรติ รับผิดชอบต่อวิชาชีพ แสดงความช่นื ชมและศรัทธาในคุณค่า ของวิชาชีพ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์ สุจริต ปฏิบัติตนตามกฎ ระเบียบและแบบแผนของทาง ราชการ ปฏิบัตหิ น้าท่ีด้วยความมุ่งมน่ั ตั้งใจ ใช้ความรู้ความสามารถในการพัฒนาครูและ บุคลากร สนับสนุน และรว่ มกิจกรรมทางวิชาชพี และทางวิชาการท่ีเก่ยี วข้องอย่างต่อเน่ือง ประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ อยู่ในกรอบ ของศีลธรรมอันดีงาม รักษาชื่อเสียงปกป้องศักดิ์ศรีแห่งวิชาชีพ ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีตามกรอบศีลธรรม และวัฒนธรรมไทยโดยเคร่งครัดในระเบียบวินัย ประพฤติตนอยู่ในจรรยาบรรณวิชาชีพ มาโดยตลอดไม่เคยถูก ตาหนิ กล่าวหาหรือถกู ลงโทษ ทางวินัยใด ๆ ตั้งใจปฏิบัตหิ น้าที่ราชการให้เกิดผลดี เพอ่ื ความก้าวหน้าแก่ราชการ ปฏิบัตหิ นา้ ทดี่ ว้ ยความอตุ สาหะ เอาใจใส่ระมัดระวงั รักษาผลประโยชนข์ องทางราชการ ข้าพเจ้า ส่งเสริมและสนับสนุนให้ครู และบุคลากรทางการศึกษาทุกคนตระหนักในบทบาทและ หน้าท่ีของตนเอง รกั ษาชื่อเสียง ปกป้องศักดศิ์ รีแหง่ วิชาชีพ ยกย่องเชิดชูเกยี รติ โดยได้ดาเนินการดังนี้ 1) โครงการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม ครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อพัฒนาครูและ บุคลากรทางการศึกษาให้มคี ุณธรรม จริยธรรม และรักศักด์ิศรีแหง่ วิชาชพี 2) โครงการสรา้ งขวัญกาลังให้กับบุคลากร โดยการยกยอ่ งเชิดชูเกียรตใิ ห้กับคณะครู บุคลากรท่ี มผี ลการปฏบิ ัติงานที่ดีเดน่ หรือปฏบิ ตั หิ นา้ ทโี่ ดยไมม่ ีวนั ลา 3) โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเสริมสร้างการปลูก จติ สานกึ ทดี่ ีแกเ่ พ่ือนร่วมงาน ผูเ้ รยี น ชมุ ชนและสังคม และน้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ใน ชวี ติ ประจาวัน สง่ ผลใหค้ รูวางตัวได้เหมาะสมตามจรรยาบรรณวิชาชีพ ไม่มกี ารสอบสวนหรือลงโทษทางวนิ ัย ไม่มี การออกจากราชการ การอุทธรณ์ และร้องทุกข์ ครูและบุคลากรอยู่ในระเบียบและรักษาวินัยอย่างดีเย่ียมเป็น แบบอย่างใหแ้ กผ่ เู้ รียนและบุคคลท่ัวไปได้ และได้รับเกียรติบตั รยกย่องเชิดชูเกยี รตเิ ปน็ ครดู ศี รเี ชยี งใหม่ 6.5 การเสริมสร้างปลกู จิตสานกึ ที่ดแี กผ่ ู้เรียน ชุมชน สังคม ขา้ พเจ้าประพฤติและปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างท่ดี ตี ามกรอบศลี ธรรมและวฒั นธรรมไทยโดยเคร่งครัด ในระเบียบวินัย ประพฤติตนอยู่ในจรรยาบรรณวิชาชีพ มีจิตสานึกที่ดีต่อวิชาชีพ เป็นพลเมืองที่ดีรับผิดชอบต่อ
28 สังคม เคารพและปฏิบัติตามระเบียบ จารีตประเพณีของท้องถิ่น สังคม และประเทศชาติ เป็นแบบอย่างท่ีดีแก่ คณะครู นักเรียน บุคลากรในสถานศึกษา และบุคคลทั่วไป สร้างจิตสานึกให้กับบุคลากร นักเรียน และชุมชนให้ เห็นคณุ คา่ และรว่ มอนุรักษว์ ฒั นธรรมไทย ส่งเสรมิ การรักษากิริยามารยาทแบบไทย มสี มั มาคารวะ เคารพผู้ใหญ่ มี ความอ่อนน้อมถ่อมตน และรักนวลสงวนตัว รวมทั้งส่งเสริมให้ใช้ภาษาไทยอยา่ งถูกต้องทั้งการพูดและการเขียน สนบั สนุนให้ครูได้อบรมส่ังสอนลกู ศิษย์ทกุ คนเพอื่ เปน็ การปลูกฝังจิตสานึกท่ีดจี ากรุ่นสรู่ ุ่น โดยยดึ หลัก การอนุรกั ษ์ การฟ้นื ฟู การพฒั นา การถ่ายทอด การส่งเสรมิ กิจกรรม การเผยแพรแ่ ลกเปล่ยี น การเสรมิ สรา้ งปราชญ์ทอ้ งถ่นิ ข้าพเจ้าส่งเสริมสนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรมเพื่อเป็นการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ส่งเสริม จิตสานึกท่ีดีให้แก่ผู้เรียน ชุมชนและสังคม เช่น โครงการพัฒนาส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมอันพึง ประสงค์ โครงการจิตอาสาพ่ชี ว่ ยนอ้ ง เพื่อนช่วยเพอ่ื น โครงการส่งเสรมิ ประชาธปิ ไตยในโรงเรยี น โครงการสง่ เสริม กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียน ส่งผลใหน้ ักเรียนเปน็ ผู้มคี วามรัก สามัคคี มีนา้ ใจ เออ้ื เฟอื้ เสยี สละ กิริยา มารยาทเรียบร้อย เป็นที่รักใคร่แก่ผู้พบเห็นสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข จัดให้มีการถ่ายทอดวัฒนธรรมและภูมิ ปัญญาไทยจากคนรุ่นเก่าสู่คนรนุ่ ใหม่ สร้างจิตสานึกให้คนไทยเห็นคุณค่าและร่วมกันอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย เช่น สง่ เสริมและปลูกฝังใหเ้ ยาวชนรกั ษากิรยิ ามารยาทแบบไทย มีสัมมาคารวะ เคารพผ้ใู หญ่ มีความอ่อนน้อม ถ่อมตน และรักนวลสงวนตัว สนับสนุนให้ครูไดอ้ บรมสั่งสอนลกู ศิษยท์ กุ คนเพือ่ เปน็ การปลูกฝังจิตสานึกที่ดีจากรุ่น สู่รุ่น โดยยดึ หลัก การอนุรักษ์ การฟื้นฟู การพัฒนา การถ่ายทอด การส่งเสริมกิจกรรม การเผยแพร่แลกเปลี่ยน การเสริมสร้างปราชญท์ ้องถนิ่ ข้าพเจา้ เป็นผนู้ าในการเสรมิ สรา้ งปลูกจิตสานึกท่ีดแี ก่ผ้เู รยี น ชุมชนสังคม ดงั นี้ 1) ร่วมเป็นวิทยากรอบรมให้กับคณะครู นักเรียน โรงเรียนเครือข่ายอาเภอแม่แจ่ม กลุ่มเครือข่ายส่งเสริมประสิทธิภาพการศึกษาโรงเรียนการศึกษาสงเคราะห์ ภาคเหนือ ในเรื่องการถอดบทเรียน ของเศรษ ฐกิ จพ อ เพี ยง เพ่ื อให้ คณ ะ ครู นั ก เรียน สาม ารถถอ ดบ ท เรียน 2 เง่ือ น ไข 3 ห ลัก ก าร 4 มติ ิ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและสามารถนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ได้ 2) ร่วมเป็นผู้นาโครงการจิตอาสา พัฒนาชุมชน โดยการปลูกฝังให้นักเรียนเป็นคนที่มี จติ สาธารณะและพานกั เรียนรว่ มกจิ กรรมจติ อาสา พฒั นาวัด สวนสาธารณะ ชมุ ชน ในวันเสาร์ทกุ สปั ดาห์ 3) ร่วมเป็นผู้นาอบรมคุณธรรมประจาสัปดาห์ให้กับนักเรียนในวันอังคาร โดยได้รับความ รว่ มมือจากคณะสงฆข์ องอาเภอแม่แจม่ 4) ร่วมเป็นผู้นาในการสร้างภาวะผู้นา โดยการจัดกิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี กิจกรรม นกั ศกึ ษาวชิ าทหาร กิจกรรมยุวชนทหาร เพื่อให้นกั เรยี นเป็นผ้นู าและผตู้ ามท่ีดี 5) ปลกู จิตสานึกที่ดีแก่ผ้เู รยี นโดยการจดั ทาโครงงานคณุ ธรรม โรงเรียนได้ใหน้ ักเรยี นไดเ้ รียนรู้ และจดั ทาโครงงานคณุ ธรรมทุกระดับช้นั และทกุ หอนอน
29 7. ความรบั ผิดชอบในวชิ าชพี 7.1 การเอาใจใส่ ถ่ายทอด ความรู้ หรือส่งเสริมการแสวงหาความรู้โดยไม่บิดเบือน ปิดบังหวังสิ่ง ตอบแทน ข้าพเจา้ มีความมุ่งมั่นและทุ่มเททั้งกาลังกาย กาลังใจในการท่ีจะพัฒนาโรงเรียน ด้วยความเอาใจใส่ ศึกษาหาความรู้สม่าเสมอ โดยได้เข้าร่วมการอบรมเก่ียวกับการบริหารความเป็นผู้นา คุณธรรม จริยธรรมเพื่อ พัฒนาศักยภาพของตนเอง นาความรู้ที่ได้มาใช้ในการบริหารจัดการ และถ่ายทอดความรู้กับผู้ใต้บังคับบัญชา ตลอดจนให้คาแนะนาและคาปรึกษา แกผ่ ู้บริหารด้วยกัน ครู และบุคลากรทางการศกึ ษา ทัง้ เรื่องการทางาน และ เรอื่ งส่วนตัว เพื่อมุ่งหวงั ที่จะใหง้ านประสบความสาเร็จ นอกจากนขี้ า้ พเจา้ ยงั ได้มสี ่วนร่วมอันเป็นประโยชนต์ ่อการ พัฒนาวิชาชีพ เชน่ (1 ) คณ ะก รรมก ารจัดงาน วัน ครู ป ระจาปี 2 5 6 2 ป ระก าศ ลงวัน ที่ 2 มก ราคม พ.ศ. 2562 (2) คณะกรรมการดาเนนิ การแขง่ ขันกฬี านักเรียนและเยาวชนอาเภอแม่แจ่ม ประจาปพี ทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒ ประกาศ ลงวันท่ี 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 (3) คณะกรรมการดาเนินการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ระดับช้ัน ประถมศึกษาปีที่ 6 และระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2562 (คาส่ังสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา ประถมศึกษาเชยี งใหม่ เขต 6 ท่ี 7/2563 ลงวนั ที่ 8 มกราคม 2563) (4) คณะกรรมการดาเนินงานอบรมเชิงปฏิบัติการ “ส่งเสริมการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียน ระดับชั้นประถมศึกษาปที ่ี 1-3 “ (5) คณะทางานขับเคลื่อนพื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ระดับหน่วยงานทาง การศึกษาสังกัดสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษในจังหวัดเชียงใหม่ ประกาศ ลงวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2563 (6) คณะทางานสรุปผลการจัดการศึกษาสถานศึกษานาร่องพื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษาจังหวัด เชยี งใหมป่ ระกาศ ลง วันที่ 3 เดือน กันยายน พ.ศ. 2563 (7) คณะกรรมการดาเนินงานโครงการแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ผลการจัดการศึกษาสถานศึกษานาร่อง พ้ืนท่ีนวัตกรรมการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ ประจาปีงบประมาณ 2563 ประกาศ ลงวันท่ี 14 กันยายน พ.ศ. 2563 (8)คณะกรรมการดาเนนิ งานมุทติ าจติ เกษยี ณอายรุ าชการ ประจาปี พ.ศ. ๒๕๖๓ประกาศ ลงวนั ท่ี 20 กนั ยายน พ.ศ. 2563
30 ส่งผลให้ครูและบุคลากรในสถานศึกษาปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต จนเกิดผลดีแก่ ผู้เรียน สถานศึกษา และชุมชน ทาให้บุคลากรทุกคนได้รบั รางวัลเชิดชูเกียรติต่าง ๆ เช่น รางวัลครูสอนดี รางวัล เค รื่ อ งห ม าย เชิ ด ชู เกี ย ร ติ ห น่ึ งแ ส น ค รูดี จ าก ส านั ก ง าน เล ข าธิ ก าร คุ รุ ส ภ าแ ล ะ ร างวั ล อื่ น ๆ (ดังเอกสารภาคผนวก หน้า 63 รางวัลที่บุคลากรครูได้รับ จากการประเมินความรู้ ตามโครงการพัฒนาครูทั้ง ระบบ) สง่ ผลให้สถานศกึ ษาได้รับการยกย่องจากหนว่ ยงานตา่ ง ๆ 7.2 การเอาใจใส่ช่วยเหลือผู้เรียนและผู้รับบริการเต็มความสามารถตามหลักวิชาชีพ อย่าง สมา่ เสมอเทา่ เทยี มกนั ในฐานะท่ีขา้ พเจ้าเป็นผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา ตาแหน่งรองผู้อานวยการ ขา้ พเจา้ ประพฤติตนท่แี สดงถึง การเอาใจใส่ช่วยเหลือผู้เรียนและผู้รับบรกิ ารเต็มความสามารถตามหลักวชิ าชีพอย่างสมา่ เสมอ เท่าเทียมกัน โดย จัดทาโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างเป็นระบบและย่ังยืน ให้คณะครแู ละบุคลากรทางการศึกษา ทุกคนได้ไปเย่ียมบ้านของนักเรียนทุกคน ในสัปดาห์เยี่ยมบ้านนักเรียน เพ่ือให้คณะครูทุกคนได้เห็นสภาพความ เป็นอย่ขู องนักเรยี นและไดพ้ ูดคยุ พบปะกบั พ่อ แม่ หรือผปู้ กครองของนกั เรยี น เพ่อื จดั เก็บขอ้ มลู สารสนเทศ 7.3 การศึกษา ค้นคว้า รเิ รม่ิ สร้างสรรค์ความรู้ใหมน่ วัตกรรมในการพัฒนางานในหนา้ ที่ ข้าพเจ้าได้ตระหนักถึงการใฝ่รู้ใฝ่เรียน การศึกษาค้นคว้าหาความรูใ้ ห้กับตนเอง รู้เท่าทัน การ เป ลี่ ย น แ ป ล ง ข อ ง โล ก ใน ยุ ค โล ก า ภิ วั ฒ น์ คิ ด ริ เร่ิ ม ส ร้ าง ส ร ร ค์ ใน ง า น วิ ช า ชี พ ก าร บ ริ ห า ร จั ด การสถานศึกษาใหผ้ ้เู ก่ียวข้องทุกคนมสี ว่ นร่วม และใชโ้ รงเรยี นเปน็ ฐาน ดงั น้ี 1) ข้าพเจ้าได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม โดยเข้ารับการอบรมท่ีหน่วยงานต้นสังกัดได้จัดข้ึนและได้ ศึกษาคน้ ควา้ หาความรู้ตามสื่อ อินเตอร์เนต็ งานวิจยั ตา่ ง ๆ อยู่เสมอ 2) ข้าพเจา้ ได้ศึกษาค้นควา้ แสวงหา นาเทคนิคด้านวิชาชีพมาวางแผนพัฒนาตนเองและพัฒนางาน อย่างสม่าเสมอ ซ่งึ ไดศ้ ึกษาจากเอกสารและสื่อต่าง ๆ เพอ่ื นาความรู้มาพัฒนาตนเองและพัฒนางานที่รับผิดชอบใน ฐานะผบู้ ริหารสถานศกึ ษาและพฒั นางานให้เปน็ ระบบ 3) นอกจากนี้ยังส่งเสริมสนับสนุนบุคลากรครูในโรงเรยี นให้ได้รับการพัฒนาตนเอง จัดการอบรมให้ ความรู้ในเรื่องต่าง ๆ ท่ีเป็นการพัฒนาความรู้ความสามารถของบุคลากร เช่น การอบรมระบบดูแลช่วยเหลือ นักเรียน วนิ ัยเชิงบวก การจัดทาวิจัยในช้ันเรยี น การถอดบทเรียนเศรษฐกิจพอเพียง การขยายผลความรตู้ ่าง ๆ ทบ่ี ุคลากรได้เข้ารบั การพัฒนามาถา่ ยทอดขยายผลตอ่ บุคลากรในโรงเรยี นในการประชุมประจาเดอื น
31 สว่ นที่ 3 ผลการประเมินการปฏิบตั ิงานของรองผู้อานวยการโรงเรียน ระดับคณุ ภาพ ต่ากว่า ร้อยละ ๕๐ หมายถงึ ระดบั คณุ ภาพ ปรับปรุง ร้อยละ ๕๐ - ๗๔ หมายถึง ระดบั คุณภาพ พอใช้ รอ้ ยละ ๗๕ - ๘๙ หมายถงึ ระดบั คณุ ภาพ ดี รอ้ ยละ ๙๐ ข้นึ ไป หมายถึง ระดับคณุ ภาพ ดมี าก ระดับคณุ ภาพ ขอ้ สมรรถนะการบริหารงานวชิ าการ ผลสาเร็จ (ร้อยละ) ปรับปรงุ พอใช้ ดี ดี มาก ดา้ นบรหิ ารจัดการการเรยี นรู้ ๑ แนะนากระบวนการการจดั ทาแผนการจัดการเรยี นรู้ ตามสาระการเรียนรใู้ หเ้ ข้าใจอยา่ งชัดเจน ๙๕ / ๒ กระตุ้นใหค้ รูจดั การเรียนการสอนเพ่อื พัฒนาคณุ ภาพ ๙๕ / ผู้เรยี น ๓ ส่งเสรมิ ใหค้ รูจดั กิจกรรมให้นกั เรยี นลงมอื ปฏิบตั ิจรงิ ๙๕ / ๔ สง่ เสรมิ ใหค้ รูจัดการเรยี นการสอนแบบบูรณาการภายใน ๙๕ / กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ๕ ใหค้ าปรกึ ษาการจดั การเรียนการสอนแบบบรู ณาการ ๙๕ / ข้ามกลุ่มสาระการเรยี นรู้ ๖ ส่งเสริมให้มกี ารจัดกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียนอยา่ ง ๙๕ / หลากหลาย ๗ เปน็ ผูน้ าในการจดั กิจกรรมเพือ่ พัฒนานกั เรยี น ๙๕ / ๘ มวี ิธีสง่ เสรมิ ใหค้ รูผู้สอนจัดบรรยากาศสภาพแวดล้อม ๙๕ / ในหอ้ งเรยี นท่ีเอ้อื ต่อการเรียนร้ขู องนกั เรียน ๙ ส่งเสริมให้ครูจัดมุมการเรยี นรู้ในห้องเรยี น ๙๕ / ๑๐ แนะนาใหค้ รผู ู้สอนใช้ส่อื และนวัตกรรมทเี่ หมาะสม ๙๕ / ในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑๑ ส่งเสริมสนบั สนนุ ใหค้ รูผลติ ส่ือใชเ้ อง ๙๕ / ๑๒ วางแผนการจัดสรรงบประมาณในการผลิตส่อื ๙๕ / ๑๓ ติดตามประเมนิ ผลการใช้สอ่ื การสอน ๙๓ / ๑๔ แนะนาการใชแ้ หล่งการเรยี นรูใ้ นโรงเรยี น ๙๕ / ๑๕ พฒั นาแหล่งการเรยี นรูภ้ ายในโรงเรยี น ๙๒ / ๑๖ กาหนดแนวทางส่งเสรมิ ให้นักเรยี นไดไ้ ปเรยี นรู้ ๙๐ / จากแหล่งการเรยี นรภู้ ายนอก ๑๗ ตดิ ต่อประสานงานเชิญภูมปิ ัญญาทอ้ งถิน่ เข้ามาสอน ๙๕ /
32 ๑๘ ส่งเสริมให้ครวู ัดผลประเมินผลนักเรยี นตามสภาพจรงิ ๙๕ / ๑๙ กาหนดวธิ ีการนาผลการประเมนิ ไปใชใ้ นการพัฒนา ๙๕ / การศกึ ษาของโรงเรียน ๒๐ สง่ เสรมิ ให้มีการจัดสอนเสรมิ ๙๕ / เฉลีย่ ๙๔.๕๐ ตัวชีว้ ัดความสาเร็จ ครโู รงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวดั เชียงใหม่ จานวน 66 คน ร้อยละ ๙๔.๕๐ -มแี ผนการจัดการเรยี นรทู้ เ่ี นน้ ผูเ้ รียนเป็นสาคญั -ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนกั เรียนเป็นไปตามทกี่ ลมุ่ สาระการเรยี นรกู้ าหนด -โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวัดเชยี งใหม่ จัดกจิ กรรมการเรียนการสอนที่เนน้ การสอน แบบบรู ณาการ มีกิจกรรมท่หี ลากหลาย และมีการวัดและประเมนิ ผลตามสภาพจริง ผลการดาเนินงาน -ครรู อ้ ยละ ๙๙ จดั ทาแผนการจดั การเรยี นรู้ ๑ รายวิชา/ภาคเรียน -ครูจัดกจิ กรรมเนน้ การสอนแบบบูรณาการ โรงเรยี นคุณธรรม และหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง -ครจู ัดกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี นอย่างหลากหลาย เช่นกิจกรรมสอนเสริม กจิ กรรมโครงงาน -ครูวดั และผลประเมนิ ผลนกั เรียนตามสภาพจรงิ และนาผลการประเมินไปใช้ในการพัฒนาการศกึ ษา ของโรงเรยี น ความสาเรจ็ -ครูมแี ผนการจัดการเรียนรู้ ๑ รายวิชา/ภาคเรียน/คน -ครจู ัดกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียนอยา่ งหลากหลาย -ครู วดั และผลประเมนิ ผลนกั เรยี นตามสภาพจริง และนาผลการประเมนิ ไปใช้ในการพัฒนาการศึกษา ของโรงเรยี น ระดับคณุ ภาพ ข้อ สมรรถนะการบรหิ ารงานวิชาการ ผลสาเร็ ด้านการพฒั นาหลกั สตู รสถานศึกษา จ ปรบั ปรุง พอใ ดี ดี ๑ ดาเนินการจัดระบบงานวชิ าการและการจดั การเรียน (รอ้ ยละ) ช้ มาก การสอนในสถานศึกษา ๒ มีการดาเนนิ งานวิชาการและการเรียนการสอนใน ๙๗ / ๙๗ / รปู แบบท่หี ลากหลายและเหมาะสมกับสถานศึกษา ๓ มกี ารสง่ เสรมิ ใหค้ รจู ัดทาหลักสูตรสถานศกึ ษา ๙๕ / ๔ กาหนดบทบาทหนา้ ที่ในการพฒั นาหลกั สตู ร ๙๕ / ของคณะกรรมการบริหารหลักสตู ร ๙๕ / ๕ อธบิ ายวธิ กี ารวิเคราะห์หลักสูตรการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน ๙๐ / ๖ ส่งเสรมิ การมีส่วนร่วมของคณะกรรมการสถานศึกษา ในการจัดทาหลกั สตู ร
33 ๗ ส่งเสริมใหม้ กี ารสารวจแหลง่ การเรียนร้ใู นทอ้ งถิ่น ๙๐ / ๘ ส่งเสริมใหม้ ีการสารวจภมู ิปญั ญาในทอ้ งถิ่น ๙๐ / ๙ ส่งเสริมให้มีการจัดทาสาระการเรยี นรใู้ นทอ้ งถิน่ ๙๐ / ๑๐ จดั ทา จดั หา เอกสารหลักสูตรให้ครใู ชใ้ นการใช้ ๙๕ / เขียนแผนการจดั การเรยี นรู้ ๙๕ / ๑๑ ส่งเสรมิ ใหม้ กี ารประเมินผลการใช้หลกั สตู ร ๙๕ / ๑๒ นาผลประเมินการใช้หลักสูตรไปปรบั ปรุงพัฒนา ๙๓.๖๗ หลักสตู ร เฉล่ยี ตัวชว้ี ัดความสาเรจ็ -ครูโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวดั เชียงใหม่ จานวน 97 คน จัดการเรียนการสอนใน รปู แบบทหี่ ลากหลาย จากการวิเคราะห์หลกั สูตรการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน และสอดคลอ้ งกบั โครงสร้างหลักสตู ร สถานศกึ ษา -คณะกรรมการบรหิ ารหลักสูตร จัดทาและพฒั นาหลักสูตรสถานศกึ ษา ผลการดาเนินงาน -กาหนดบทบาทหน้าทขี่ องคณะกรรมการบริหารหลกั สตู ร คณะอนุกรรมการกล่มุ สาระการเรียนรู้ ในการพัฒนาหลกั สูตรสถานศึกษา -ครูผสู้ อนวเิ คราะหห์ ลกั สูตรการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน -คณะกรรมการสถานศึกษามีส่วนร่วมในการสง่ เสริมสนบั สนนุ หลกั สูตรสถานศึกษา -พัฒนาแหล่งการเรยี นรู้ภายใน ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่ิน จดั ทาสาระการเรียนรทู้ ้องถิน่ และเอกสารหลกั สตู ร ให้ครใู ช้ในการใชเ้ ขยี นแผนการจัดการเรียนรู้ ความสาเรจ็ -จดั ทาหลักสตู รสถานศกึ ษา หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ หลกั สตู รสาระการเรียนรู้ทอ้ งถนิ่ และจัดทา เอกสารหลกั สตู รให้ครใู ชใ้ นการใช้เขียนแผนการจัดการเรียนรู้ -คณะกรรมการสถานศึกษามสี ว่ นรว่ มในการส่งเสริมสนบั สนนุ หลักสูตรสถานศกึ ษา -คู่มือระเบียบการวดั และประเมนิ ผล ระดับคณุ ภาพ ขอ้ สมรรถนะการบรหิ ารงานวชิ าการ ผลสาเร็จ (รอ้ ยละ) ปรับปรุง พอใช้ ดี ดมี าก ดา้ นการนิเทศการจดั การเรยี นรู้ในสถานศึกษา ๑ วเิ คราะหป์ ญั หาความต้องการของครูในการจัดการเรยี น การสอนในสถานศกึ ษา ๙๕ / ๒ วางแผนปรบั ปรงุ วิชาการและการเรียนการสอนในรูปแบบ ๙๕ / ท่ีเหมาะสมกับสถานศึกษา ๓ ดาเนินการใหม้ ีการนเิ ทศภายในโรงเรียน ๙๐ / ๔ มกี ารวางแผนการนิเทศภายในโรงเรยี น ๙๓ / ๕ จดั ทาปฏิทนิ และตารางการนเิ ทศภายในโรงเรยี น ๙๕ / ๖ ทาให้ครูเกดิ การยอมรบั ในดา้ นวชิ าการ ๙๕ / ๗ ใช้เทคนิคการนเิ ทศหลายรูปแบบ ๙๕ /
34 ๘ ชีแ้ จงครูให้ทราบจุดทคี่ รูตอ้ งพัฒนา ๙๕ / ๙ ส่งเสรมิ ให้ครูนาผลการนเิ ทศมาพัฒนาปรับปรุงการจัด ๙๕ / กจิ กรรมการเรียนการสอน ๙๕ / ๑๐ สง่ เสริมให้ครูนาผลการนิเทศมาพฒั นาปรบั ปรุงพัฒนาสอื่ ๙๔.๓๐ เฉลย่ี ตัวชว้ี ัดความสาเรจ็ - ครูโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่ จานวน 97 คน ได้รับการพฒั นาตนเอง และ ทราบปญั หา ความตอ้ งการในการจดั การเรียนการสอน ผลการดาเนนิ งาน - วางแผนปรับปรุงงานวชิ าการและการเรยี นการสอนในรูปแบบท่เี หมาะสมกับบรบิ ทของโรงเรียน - จัดทาปฏทิ นิ และตารางการนเิ ทศภายในโรงเรยี น ของกลมุ่ สาระการเรียนรู้และฝา่ ยบริหาร ใช้เทคนิคการนเิ ทศหลายรปู แบบ เชน่ สังเกตการณ์สอน สัมภาษณน์ กั เรยี น พดู คยุ กบั ครูผสู้ อน - นิเทศการเรยี นการสอนนาผลมาวิเคราะห์ปัญหาความต้องการของครใู นการจัดการเรยี นการสอน ในโรงเรยี น ความสาเรจ็ - ครูผ้สู อนได้รบั การนิเทศภายใน จากกลุ่มสาระการเรียนร้แู ละฝ่ายบรหิ าร ระดบั คุณภาพ ขอ้ สมรรถนะการบรหิ ารงานวชิ าการ ผลสาเร็จ (ร้อยละ) ปรับปรงุ พอใช้ ดี ดมี าก ด้านการส่งเสริมให้มีการวจิ ยั เพอื่ พัฒนาคุณภาพ การจัดการเรียนรู้ ๑ สามารถกาหนดนโยบายเก่ียวกับการวิจยั ในช้นั เรียน ๙๕ / ๒ จดั หาอปุ กรณ์สง่ิ อานวยความสะดวกสนบั สนนุ การทาวิจยั ๙๐ / ในช้ันเรียนของครู ๓ สง่ เสรมิ พฒั นาครูด้านการวจิ ัยดว้ ยวธิ ีการทหี่ ลากหลาย ๙๕ / ๔ แนะนาวธิ ีการหลากหลายในการประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ๙๕ / อันพึงประสงคข์ องผูเ้ รียน ๕ ให้ความรคู้ วามเข้าใจเกย่ี วกบั การจัดทาเอกสารหลักฐาน ๙๕ / เกย่ี วกับการทาวิจยั ช้ันเรยี น ๖ กระตนุ้ ให้ครูทาวจิ ัยในชน้ั เรยี นควบคู่ไปกับการจัด ๙๕ / การเรยี นการสอน ๗ ใหค้ วามร้แู ก่ครเู กี่ยวกบั กระบวนการการแกป้ ญั หาหรอื ๙๕ / พฒั นาการเรียนการสอนทีต่ นรับผิดชอบ ๘ ดาเนนิ การจดั ทาคู่มือเก่ยี วกบั การวจิ ยั ในชน้ั เรยี น ๙๒ / ๙ จดั ให้มีคอมพิวเตอร์สาหรับครูทาการสบื ค้นขอ้ มลู ๙๕ / ทางอนิ เทอร์เนต็
35 ๑๐ สามารถใหข้ อ้ เสนอแนะ คาปรกึ ษาแก่ครเู ก่ียวกับการ ๙๒ / สารวจและวิเคราะห์ปญั หา การกาหนดวิธกี ารในการ ๙๒ / แก้ปัญหา ๙๕ / / ๑๑ ติดตามใหค้ วามช่วยเหลอื แก้ไขปญั หา พัฒนาวธิ ี หรือ ๙๐ นวัตกรรมการวจิ ัยในชน้ั เรยี นของครู / ๙๕ ๑๒ สรา้ งความตระหนักถงึ บทบาทของครูในฐานะนกั วจิ ัย ครผู สู้ อนและนักพฒั นาหลักสตู รควบคู่กนั ไป ๙๓.๖๔ ๑๓ ดาเนนิ การรวบรวม จดั ระบบขอ้ มลู งานวจิ ยั ในชนั้ เรียน ของโรงเรียน เพือ่ ส่งเสริมให้ครูเผยแพรข่ ยายการทาวจิ ัย ในชั้นเรียน ๑๔ สง่ เสรมิ ให้ครูนาผลการวจิ ยั ไปใช้ในการแกป้ ัญหาการเรียน การสอนปรบั ปรุงหรือพัฒนาคณุ ภาพการเรียนการสอนให้ มปี ระสิทธิภาพ เฉล่ยี ตัวช้ีวัดความสาเรจ็ - ครโู รงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชยี งใหม่ จานวน 97 คน ทาวจิ ยั ในชนั้ เรยี น เพอื่ แกป้ ัญหาปรบั ปรงุ การเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ ผลการดาเนนิ งาน - ส่งเสริมให้ความรูค้ วามเข้าใจเกีย่ วกบั การจดั ทาเอกสารหลกั ฐานเกีย่ วกบั การทาวิจัยชนั้ เรยี น - กระตุ้นใหค้ รทู าวจิ ยั ในช้ันเรยี นควบคไู่ ปกับการจดั การเรียนการสอนทตี่ นรับผิดชอบ - จัดทาค่มู อื เก่ยี วกบั การวจิ ยั ในชน้ั เรยี น - สรา้ งความตระหนักถงึ บทบาทของครใู นฐานะนักวจิ ัยครผู ูส้ อนและนักพัฒนาหลกั สูตรควบค่กู ันไป - ใหข้ ้อเสนอแนะ คาปรกึ ษาแกค่ ณะครใู นการสารวจและวิเคราะหป์ ัญหา การกาหนดวธิ ีการในการ แกป้ ัญหา - ส่งเสริมให้ครเู ผยแพร่ผลงานวจิ ัยในชนั้ เรยี นและสง่ เสริมใหค้ รูนาผลการวจิ ัยไปใช้ในการ แก้ปัญหาการเรียนการสอนปรับปรงุ หรือพัฒนาคณุ ภาพการเรยี นการสอนใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ ความสาเรจ็ - ครมู ีวจิ ัยในชน้ั เรยี นและนาผลการวจิ ยั ไปใช้ในการแกป้ ัญหาการเรียนการสอนปรับปรุงหรอื พฒั นา คณุ ภาพการเรยี นการสอนใหม้ ปี ระสิทธภิ าพ
36 ตอนท่ี 3 ผลการปฏบิ ัติงานตามสมรรถนะของผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา ๓.๑ ดา้ นวนิ ยั คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชพี ระดบั คุณภาพ ระดับ ๑ หมายถึง ปฏบิ ัตนิ ้อย หรอื ไมป่ ฏิบัติเลยหรอื มีนอ้ ย ระดับ ๒ หมายถึง ปฏิบัติ ไม่ปฏิบัตพิ อๆกนั หรอื มีระดบั ปานกลาง ระดบั ๓ หมายถงึ ปฏบิ ัตเิ ปน็ ประจา หรอื ค่อนขา้ งมาก หรอื มมี าก รายการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ หลกั ฐาน ๑.การมีวนิ ยั ๑๒๓ ประกอบการพิจารณา ๑.๑ การควบคุมตนเอง ๑) การตรงตอ่ เวลา / 1.รายงานการปฏิบัติราชการ ๒) การวางแผนการใช้จา่ ย / 2. การปฏิบัติตนตามนัดหมาย ๓) การใช้ทรพั ยากรอย่างประหยัด / 3. บันทกึ ค่าใช้จ่าย ๔) การมคี วามซือ่ ตรงตอ่ ตนเอง / 4. การปฏบิ ัติตนในชวี ิตประจาวนั 5. การแสดงความคิดเห็น ๑.๒ การปฏบิ ตั ติ นตามกติกาของสงั คม / 6. การมหี ลกั การ/อุดมการณ์ในการประพฤติ ๑) การปฏิบัตติ ามกฎ ระเบียบ ขอ้ บงั คบั / ปฏิบัต/ิ การดาเนนิ ชีวติ ๒) การปฏิบัติตามขนบธรรมเนยี มประเพณี / 1. การปฏิบตั ิตนในทปี่ ระชุม ๒. การประพฤติตนเปน็ แบบอย่างทดี่ ี / 2. พฤติกรรมการปฏิบตั งิ าน ๒.๑ การเปน็ แบบอย่างทดี่ ีทางกาย 3. การปฏบิ ัติตนในชวี ติ ประจาวนั ๑) การแต่งไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะ 4. การแตง่ กาย ๒) การปฏิบัติไดเ้ หมาะสมกับบทบาทและ 5. ภาพถ่าย/ การเขา้ รว่ มกจิ กรรม/พธิ ี/ใน สถานการณ์ โอกาสต่าง ๆ ๓) การมมี ารยาทเป็นท่ียอมรบั ของสงั คม ๔) การปฏิบัติตนเป็นมติ รตอ่ ผู้ใต้บังคับบัญชา 1. การปฏิบัติตนในชีวติ ประจาวัน หรอื ผู้เก่ียวข้อง 2. พฤติกรรมการปฏิบัตงิ าน ๒.๒ การเปน็ แบบทด่ี ที างวาจา 3. การแตง่ กาย ๑) การใชค้ าพดู ทีส่ ร้างสรรคก์ ่อให้เกดิ กาลงั ใจ 4. ความประพฤติ กริ ิยามารยาท และประโยชนต์ ่อตนเองและผู้อนื่ ๒) การใช้คาพูดสภุ าพ(ไมพ่ ดุ เพ้อเจ้อ ส่อเสยี ด / เยาะเย้ย ถากถาง) / ๓) การพูดด้วยความจริงใจไม่บิดเบอื นขอ้ มูล 1. การใชค้ าพูดในโอกาสต่าง ๆ / 2. การมปี ฏิสมั พนั ธ์กบั ผู้ท่เี กยี่ วข้อง / /
37 รายการประเมนิ ระดับคุณภาพ หลักฐาน ๑๒๓ ประกอบการพจิ ารณา ๒.๓ การเปน็ แบบอยา่ งท่ดี ดี า้ นจิตใจ 1. การปฏบิ ตั ิตนในชวี ติ ประจาวนั ๑) การมคี วามกตัญญกู ตเวที / 2. พฤตกิ รรมการปฏิบัติงาน ๒) การมคี วามซ่อื สตั ย์สุจริต / 3. การแสดงความคิดเหน็ ในโอกาสต่าง ๆ ๓) การมีความเมตตา กรุณา / 4. การปฏิบัตติ นตอ่ ผรู้ ่วมงาน/ผเู้ กี่ยวข้อง ๔) การมคี วามเปน็ กัลยาณมิตร / ๕) การมหี ริ โิ อตัปปะ / 1. การปฏิบัตติ นในชีวติ ประจาวัน2.ปรัชญา ๖) การมีความยุตธิ รรม / ของตนเองและแผนการดาเนินชวี ติ ๗) การควบคุมอารมณ์ / 3. สภาพความเปน็ อยู่ ๘) การมีอดุ มการณ์เพือ่ ส่วนรวม / 4. การดาเนนิ ชีวติ ตามหลักปรัชญา ๙) การมีความอดทน / เศรษฐกิจพอเพียง ๓. การดารงชวี ิตอย่างเหมาะสม ๓.๑ การปฏบิ ตั ติ ามปรัชญาและแผนการดาเนนิ / ชีวิตทีถ่ กู ตอ้ งดงี าม ๓.๒ การดาเนนิ ชีวิตเหมาะสมกับฐานะ / ๓.๓ การปฏบิ ัติตนหลีกเล่ียงจากอบายมขุ / ๓.๔ การรักษาสทิ ธิประโยชน์ของตนเองและไม่ ละเมดิ สิทธขิ องผอู้ นื่ / ๓.๕ การมีความเอ้ือเฟ่ือเผื่อแผแ่ ละไม่เบยี ดเบยี น ผอู้ ่ืน / ๓.๖ การเคารพกติกาของสังคม ๔. ความรักและศรัทธาในวชิ าชีพ / ๔.๑ การยึดมน่ั ในอุดมการณ์แห่งวชิ าชพี ของตน ๔.๒ การยกยอ่ งชน่ื ชม บคุ คลที่ประสบ 1. ความมุง่ มั่นในการประกอบวชิ าชพี ความสาเร็จ / 2. พฤติกรรมการปฏบิ ตั ิงาน ในการประกอบวิชาชีพ / 3. การเข้ารว่ มกจิ กรรมการพัฒนาวิชาชีพ ๔.๓ การปกป้องในเกียรตภิ มู ิของวชิ าชพี ๔.๔ การสง่ เสรมิ สนบั สนนุ หรอื เขา้ รว่ มกจิ กรรม 4. เกียรตบิ ตั ร /วุฒบิ ตั ร / บนั ทึกการเขา้ การพัฒนาวชิ าชีพ อบรม/สัมมนา/ ประชมุ ปฏิบัตกิ ารเกย่ี วกับ ๔.๕ การเสียสละและอทุ ิศตนเพอ่ื ประโยชน์ / งานทรี่ บั ผิดชอบ ต่อวิชาชีพ ๔.๖ การเปน็ สมาชกิ ทดี่ ขี ององคก์ รวิชาชพี / ๔.๗ การพฒั นาตนเองใหม้ ีความก้าวหนา้ ใน วชิ าชีพ / ๕. ความรับผิดชอบในวิชาชีพ ๕.๑ การปฏิบัติตนตามบทบาทหนา้ ท่ี / ๕.๒ การยอมรับผลการกระทาของตนเอง / 1. แผน / ผลการปฏบิ ัตงิ าน/สรุปผลการ / ดาเนนิ งาน/โครงการ / 2. รายงานปัญหาและการแกไ้ ขปัญหา
38 ในการปฏิบัตหิ น้าที่ 3. รายงานผลการปฏบิ ัติหน้าที่ ๕.๓ การหาแนวทางแก้ไขปญั หา อุปสรรคท่ี / 4. สมุดประวตั ิ เกิดขึ้นในวิชาชีพ ๕.๔ การมงุ่ มน่ั พัฒนาวชิ าชพี ใหก้ ้าวหน้า / เฉลยี่ รอ้ ยละ ๒.๙๗ ตวั ชี้วัดความสาเรจ็ - ผ้มู วี ินยั ในตนเอง ประพฤตติ นเปน็ แบบอยา่ งทีด่ แี กเ่ พือ่ นรว่ มงาน - ดารงชวี ิตอยา่ งเหมาะสม - มีความรกั และศรัทธาในวิชาชีพและรับผิดชอบในวิชาชีพ ผลการดาเนินงาน - ปฏิบัติตนตามกตกิ าของโรงเรยี น - ควบคมุ ตนเอง และเป็นแบบอยา่ งทีด่ ีท้งั ทางดา้ นกาย วาจาและด้านจิตใจ - การดารงชีวิตอย่างเหมาะสม - การยกย่องช่ืนชม บุคคลทป่ี ระสบความสาเร็จในการประกอบวิชาชพี - เปน็ สมาชกิ ทดี่ ขี ององคก์ รวิชาชพี - พัฒนาตนเองใหม้ คี วามกา้ วหน้าในวิชาชีพ - ปฏิบัตติ นตามบทบาทหน้าทีก่ ารมุ่งม่ันพฒั นาวชิ าชีพให้ก้าวหน้า ความสาเร็จ - ผมู้ วี นิ ัยในตนเอง ประพฤตติ นเป็นแบบอย่างทด่ี ีแก่เพือ่ นรว่ มงาน - ดารงชวี ติ อยา่ งเหมาะสม - มคี วามรักและศรัทธาในวชิ าชพี และรับผิดชอบในวชิ าชพี ๓,๒ ดา้ นสมรรถนะหลกั ระดบั คณุ ภาพ ระดับ ๑ หมายถึง มคี วามร้คู วามเข้าใจหรือทกั ษะนอ้ ยไม่เพียงพอทจี่ ะปฏบิ ตั งิ านหรือทาใหเ้ กิดผลงาน ไดด้ ้วยตนเอง ระดับ ๒ หมายถงึ มคี วามรคู้ วามเข้าใจหรอื ทกั ษะปานกลางเพียงพอทีจ่ ะปฏบิ ัติงานหรอื ทาให้เกิดผล งาน ได้ดว้ ยตนเอง ระดบั ๓ หมายถึง มีความรู้ความเขา้ ใจหรือทกั ษะดสี ามารถที่จะปฏบิ ตั ิงานหรอื ทาให้เกดิ ผลงานได้ ดว้ ยตนเอง ระดับ ๔ หมายถงึ มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจหรอื ทักษะดีมากสามารถท่ีจะคดิ คน้ พฒั นา นวัตกรรม สรา้ งองค์ ความรใู้ หม่และเผยแพร่ผลงานให้เปน็ ท่ียอมรับเป็นแบบอย่างทด่ี ี
39 รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ หลกั ฐาน ๑. การมุ่งผลสมั ฤทธ์ิ ๑ ๒ ๓๔ ประกอบการพิจารณา ๑.๑ ความสามารถในการวางแผนปฏบิ ัติงาน ๑) ความรู้ความเข้าใจในการวางแผน 1. การแสดงความคิดเหน็ ๒) การวางแผนการปฏิบัตงิ านแต่ละภารกจิ 2. แผนพัฒนาการศกึ ษาของสถานศึกษา ๑.๒ ความสามารถในการปฏิบัติงาน ๑) การปฏบิ ัตงิ านใหบ้ รรลุเป้าหมายตามแผน / 3. แผนการปฏบิ ตั ิงาน ๒) ความมงุ่ ม่ันกระตือรอื รน้ ในการปฏิบตั ิงาน ๓) การใชค้ วามคิดสร้างสรรค์ในการปฏิบตั งิ าน / 4. รายงานประจาปีของสถานศกึ ษา ๔) การยึดหลกั การประหยัดในการปฏิบัติงาน 5. ปฏิทนิ ปฏบิ ตั งิ าน ๕) การนานวตั กรรมมาใช้เพื่อเพม่ิ ประสิทธิภาพใน การปฏบิ ัติงาน 1. พฤติกรรมการปฏิบัติงาน ๖) การตดิ ตามประเมนิ ผล ๗) การปรับปรงุ แกไ้ ขการปฏิบัตงิ านเพ่อื ใหบ้ รรลุ / 2. ปฏิทินการปฏบิ ัติงาน เป้าหมาย ๘) การรายงานผลการดาเนินงาน / 3. รายงานผลการปฏบิ ัติงาน/โครงการ ๑.๓ ผลการปฏิบัติงาน / 4. รายงานประจาปขี องสถานศึกษา ๑) ความถูกต้องของผลการปฏบิ ัติงาน / 5. ผลงาน /ชน้ิ งาน ๒) ความครบถ้วนสมบรู ณ์ของผลการปฏิบัตงิ าน / / / / 1. รายงานผลการปฏบิ ัติงาน/ / โครงการ / 2. รายงานประจาปขี องสถานศึกษา 3. ผลงาน/ช้นิ งาน 4. รางวลั ผลการปฏบิ ัติงาน 5. ผลการประเมินคณุ ภาพภายนอก
40 รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ หลักฐาน ๒. การบรกิ ารทด่ี ี ๑ ๒ ๓๔ ประกอบการพจิ ารณา ๒.๑ ความสามารถในการสรา้ งระบบการ ให้บริการ 1. แผนภมู กิ ารให้บรกิ ารขององคก์ ร ๑) การศกึ ษาความต้องการของผรู้ บั บริการ ๒) การจัดระบบการใหบ้ ริการบนพ้นื ฐานของขอ้ มลู 2. รายงาน/บันทึกการศึกษา ความตอ้ งการ ๓) การจัดรปู แบบการบริการที่ดี / ความตอ้ งการ ๒.๒ ความสามารถในการใหบ้ ริการ ๑) ความตัง้ ใจ เตม็ ใจ และกระตือรอื รน้ ในการ / 3. แผนงานการให้บริการ ใหบ้ รกิ าร / 4. สภาพการปฏบิ ัตงิ านจรงิ ๒) การศึกษาผลการให้บริการเพือ่ การปรบั ปรุง พัฒนาการใหบ้ รกิ าร / ๓) ความพึงพอใจการใหบ้ รกิ าร ๓. การพฒั นาตนเอง 1. พฤติกรรมการให้บริการ ๓.๑ ความสามารถในการวิเคราะห์ตนเอง / 2. รายงานการปรบั ปรงุ ระบบ ๑)การวเิ คราะหจ์ ุดเด่น จุดด้อยของตนเอง ๒)การเลอื กวิธีพัฒนาตนเองใหเ้ หมาะสมกบั จุดเดน่ การใหบ้ รกิ าร จดุ ดอ้ ย / 3. ความพึงพอใจของผรู้ ับบริการ 4. เอกสาร/หลักฐานเกีย่ วกบั / การบรกิ าร 1. พฤตกิ รรมทแี่ สดงถึงความตระหนัก ในจุดเด่น / จุดด้อยของตน / 2. ขอ้ มูลการเข้ารบั การพฒั นา / 3. แฟม้ สะสมผลงาน ๓.๒ ความสามารถในการใชภ้ าษาไทยเพอื่ การส่อื สาร 1. การแสดงความคิดเห็น 2. การพูดในโอกาสตา่ งๆ ๑)การจับใจความ การสรปุ จากการอ่านและการฟัง / 3. ผลงานเขยี นต่าง ๆ / ๒)ความชดั เจนในการอธิบายและยกตวั อย่าง / 1. พฤติกรรมการถา่ ยทอดความรู้ ๓)การตัง้ คาถามและตอบคาถามไดต้ รงประเดน็ 2. ผลงานเขียน ๓.๓ ความสามารถในการใชภ้ าษาอังกฤษในการแสวงหาความรู้ 1. วชิ าการหรือวิชาชพี ท่ไี ด้ จากการใช้คอมพวิ เตอร์ ๑)การจับใจความ การสรุปจากการอ่านและการฟงั / / 2. พฤตกิ รรมการแลกเปลยี่ นความรู้ ๒)ความชดั เจนในการอธิบายและยกตวั อยา่ ง / / 3. พฤตกิ รรมการใชเ้ วลาว่าง / ในการศกึ ษาคน้ ควา้ ๓)การต้ังคาถามและตอบคาถามไดต้ รงประเด็น / / 4. ผลงานเขียน / ๓.๔ ความสามารถในการติดตามความเคล่อื นไหวทางวิชาการและ / วชิ าชพี ๑)การใช้ Computer เบอ้ื งตน้ ๒)การใช้ Internet ๓)การใช้ E-mail ๔)การเลอื กใช้แหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย ๕)การเลอื กใชแ้ หล่งเรียนรู้ท่เี หมาะสม ๖)การแลกเปลย่ี นเรียนร้กู ับเพอ่ื นร่วมงาน
41 รายการประเมนิ ระดับคุณภาพ หลกั ฐาน ๑ ๒ ๓๔ ประกอบการพจิ ารณา ๓.๕ ความสามารถในการประมวลความร้แู ละนาความรไู้ ปใช้ 1. ผลงานเขยี นและผลงานวจิ ยั ๑) การวเิ คราะห์ รวบรวมความร้เู พอ่ื นาไปใช้ / 2. ผลงานด้านนวตั กรรมและ พฒั นางาน เทคโนโลยี ๒) การนานวัตกรรม และเทคโนโลยีใหมๆ่ ไปใช้ / 3. ความรวดเร็วและถูกตอ้ งของ การปฏิบตั งิ าน พฒั นางาน ๔. การทางานเป็นทีม 1. คาสัง่ มอบหมายงาน ๔.๑ ความสามารถในการวางแผนเพอื่ การ 2. แผนการปฏบิ ัตงิ าน ปฏบิ ตั งิ านเปน็ ทีม 3. มตขิ องการประชุม ๑) การมสี ว่ นรว่ มในการวางแผนร่วมกับผอู้ ่นื 4. การแสดงความคิดเหน็ ๒) การยอมรับขอ้ ตกลงของทีมงาน / 5. การปฏิบัตงิ านตามหนา้ ที่ที่ไดร้ ับ มอบหมาย ๔.๒ ความสามารถในการปฏบิ ัติงานรว่ มกนั 1. พฤตกิ รรมการใหค้ วามร่วมมือ ๑) ความเต็มใจให้ความร่วมมอื ในการปฏบิ ัตงิ าน / 2. พฤตกิ รรมการปฏิบัติงานตาม / บทบาทหน้าที่ ๒) ความรบั ผดิ ชอบในการปฏบิ ตั งิ านตามบทบาท 3. รายงานผลสาเร็จ ของ หน้าท่ีของตน / การปฏิบตั ิงาน ๓) การปฏิบัตติ นเป็นผู้นาหรอื ผู้ตามไดเ้ หมาะสม 4. ความพงึ พอใจจากความสาเรจ็ ตามบทบาท / ในการปฏิบัติงาน ๔) ความรว่ มมอื กับทมี งานในการแกป้ ัญหาการ ปฏบิ ตั งิ าน ๕) การสนบั สนนุ ใหก้ าลังใจ ยกยอ่ งใหเ้ กยี รติผูอ้ ่ืน / ในโอกาสที่เหมาะสม เฉลยี่ ๓.๘๘ ตวั ช้วี ัดความสาเรจ็ - ผลการปฏบิ ัติงานมงุ่ ผลสัมฤทธ์ิมกี ารวางแผนการปฏบิ ัตงิ าน ปฏบิ ตั ิงานบรรลตุ ามเปา้ หมาย มผี ล การปฏบิ ตั ิงานเปน็ ท่ยี อมรับของบคุ ลากรในโรงเรยี นและหน่วยงานอนื่ ทีเ่ ก่ียวขอ้ ง - จัดระบบการใหบ้ รกิ ารแก่เพอื่ นร่วมงาน และเน้นการให้บรกิ ารที่เกดิ ประสทิ ธิภาพ ประสิทธิผล - เข้ารบั การพัฒนาตนเองจากการประชมุ อบรม สัมมนาทางวิชาการ ศกึ ษาดูงาน สบื ค้นขอ้ มูล ทาง Internet และจดั ทาเอกสารเผยแพรแ่ กเ่ พ่อื นครู - วางแผนการทางานร่วมกับบุคลากรในโรงเรียน สามารถทางานเป็นทีมและปฏบิ ัตงิ านรว่ มกบั บคุ ลากร ในโรงเรยี นได้ ผลการดาเนนิ งาน - สรา้ งความตระหนัก ความเขา้ ใจในการวางแผนการปฏบิ ตั งิ าน - นานวัตกรรมมาเพิ่มประสทิ ธภิ าพในการปฏิบตั ิงาน มกี ารนิเทศตดิ ตามประเมนิ ผล ปรับปรงุ ระบบงาน และรายงานผลการปฏิบัติงาน - จัดระบบให้บรกิ ารแก่เพ่อื นรว่ มงานและปรับปรงุ พฒั นาการให้บรกิ าร - พฒั นาตนเอง นานวตั กรรมและเทคโนโลยีใหม่มาใชพ้ ัฒนางาน
42 - รับฟงั ความคิดเหน็ ของเพ่อื นร่วมงาน สนบั สนนุ ให้กาลังใจ ยกยอ่ งใหเ้ ก่ียวผู้ร่วมงาน ปฏิบตั ิตนเปน็ ผนู้ า และผู้ตาม ตามบทบาท และให้คณะครูมสี ่วนร่วมในการปฏิบัติงาน ความสาเร็จ - มแี ผนการปฏบิ ตั งิ านท่ีสามารถตรวจสอบได้ - มปี ฏิทินการปฏบิ ัตงิ าน - ครปู ฏบิ ัตงิ านตามบทบาทหนา้ ทท่ี กี่ าหนดตามคาสง่ั มอบหมายงานวชิ าการ - นาผลการพัฒนาตนเองมาปรับปรุงพฒั นางานและพัฒนาเพ่อื นครู - ครูมีส่วนร่วมและทางานเปน็ ทีม ๓.๓ สมรรถนะประจาสายงาน ระดบั คุณภาพ ระดบั 1 หมายถึง มีความรู้ความเข้าใจ /ทักษะนอ้ ย ไม่เพียงพอทจี่ ะปฏบิ ตั ิงานได้หรือผลงาน ไมม่ ีคุณภาพ ระดบั 2 หมายถงึ มคี วามร้คู วามเข้าใจ / ทกั ษะปานกลางสามารถนาไปปฏบิ ตั งิ าน ได้ดว้ ยตนเอง และมผี ลงานทีม่ คี ุณภาพพอใช้ ระดบั 3 หมายถึง มคี วามรู้ความเข้าใจ/ทักษะดีสามารถปฏิบตั งิ านได้ตามมาตรฐานทก่ี าหนด มีความคดิ สรา้ งสรรค์ มคี วามสามารถประยกุ ต์ใช้แนะนาผอู้ น่ื ได้ และมผี ลงานท่มี ีคณุ ภาพดี ระดบั 4 หมายถงึ มีความรคู้ วามเข้าใจ/ทกั ษะดีมาก สามารถคิดคน้ พฒั นานวัตกรรมสร้างองค์ ความรู้ใหม่ เผยแพร่ผลงานให้เป็นทย่ี อมรับ เปน็ แบบอยา่ งทด่ี แี ละมผี ลงานทมี่ คี ุณภาพดีมาก รายการประเมิน ระดบั คุณภาพ หลกั ฐานประกอบการพิจารณา ๑๒๓๔ ๑. การวเิ คราะหส์ งั เคราะห์และการวจิ ัย 1. แผนยุทธศาสตรก์ ารบรหิ ารสถานศกึ ษา ๑.๑ ความสามารถในการวเิ คราะห์ 2. แผนปฏิบัติการประจาปขี อง ๑) การวิเคราะห์สภาพปญั หาและความต้องการ / สถานศึกษา เพือ่ จัดทานโยบายและ 3. การสนทนา หรือการประชมุ วางแผนการบรหิ ารงานด้านวชิ าการ 4. รายงานการวิจยั ๑.๒ ความสามารถในการสังเคราะห์ 1. แผนยุทธศาสตรก์ ารบรหิ าร ๑)การจดั ทาแผนยทุ ธศาสตร์ของโรงเรียนในดา้ น / สถานศกึ ษา 2. แผนปฏิบัติการประจาปขี องสถานศึกษา วิชาการ / 3. การสนทนา หรือ การประชุม ๒) การจัดทาแผนยุทธศาสตร์ของโรงเรียนใน 4. รายงานการวจิ ยั ด้านอ่ืนๆทเี่ กีย่ วขอ้ ง ๓) การจัดทาแผนปฏบิ ตั ิการประจาและรายงาน / ผลการปฏบิ ัติงานประจาปี ๑.๓ ความสามารถในการเขยี นเอกสารวิชาการ ๑. ชน้ิ งานแสดงผลงานวชิ าการ ๑) บทความ/แจ้งในวาระการประชุม / 2. รูปแบบการเขยี นผลงานวิชาการ / 3. เนอื้ หาสาระจากผลงานวชิ าการ ๒) แบบเรียน/วทิ ยากร ๓) หนังสอื /เอกสารทางวชิ าการ / ๔) รายงานทางวชิ าการ /
43 รายการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ หลกั ฐานประกอบการพิจารณา ๑๒๓๔ ๑.๔ ความสามารถในการวิจัย 1. รายงานการวจิ ัย ๑) ระเบยี บวิธีวจิ ัย / 2. การนาเสนอผลการวิจัย ๒) การวจิ ัยในช้นั เรยี นเพ่อื ให้คาแนะนาแกค่ รู / ๓) การวจิ ยั สถาบันเพือ่ พัฒนาการศกึ ษา / ๔) การวิจัยเพ่อื สร้างองค์ความรู้ใหมท่ างการ / บริหารการศึกษา ๒. การสอื่ สารและแรงจูงใจ 1. การนาการประชุม และการเขา้ ร่วม ๒.๑ ความสามารถในการสื่อสารเพอ่ื การ ประชมุ บรหิ ารการจดั การศึกษา 2. การใหค้ าปรกึ ษาแนะนา ๑) การวิเคราะห์และการสรุปความจากการฟัง / ในเรอ่ื งต่าง ๆ 3. การสนทนา และอ่าน / 4. คาส่งั การมอบหมายงาน ๒) การเป็นผนู้ าการอภิปรายและสรปุ ประเดน็ ใน การประชุม ๓) การนาเสนอแนวคดิ ในทีป่ ระชุมและในโอกาส / ตา่ งๆ ๔) การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศเพอื่ การ / บรหิ ารงาน ๕) การสอื่ สารเพอ่ื สร้างความเข้าใจระหวา่ ง / บุคคลทเี่ กยี่ วขอ้ ง ๒.๒ ความสามารถในการจงู ใจ 1. แผนงาน/โครงการท่สี ่งเสริม ๑) การโน้มนา้ ว จงู ใจใหบ้ คุ ลากรเห็นความสาคัญ / สนบั สนุนบุคลากรในสถานศึกษา ของการพฒั นาความสามารถทางวิชาการและ 2. เจตคตติ อ่ ผอ. ของบคุ ลากรใน วชิ าชีพ สถานศึกษา / 3. รางวลั ทใ่ี หแ้ ก่บุคลากรในสถานศึกษา ๒) การใหก้ าลงั ใจและใหเ้ กียรติผู้อน่ื ๓) การมอบหมายงานใหต้ รงกับความสามารถ / ความถนัดและความสนใจ ๔) การบรหิ ารจัดการใหเ้ กิดความยตุ ิธรรม / ๓. การพัฒนาศกั ยภาพบุคคล 1. เจตคติตอ่ ผอ. ของบคุ ลากร ๓.๑ ความสามารถในการพัฒนาศักยภาพบคุ คล ในสถานศกึ ษา ในโรงเรยี น 2. รายงานการจดั กิจกรรมเพือ่ พัฒนา ๑) การให้คาปรึกษา แนะนาในด้านตา่ งๆแก่ / บุคลากรของสถานศึกษา 3. แผนการนิเทศ และตดิ ตามงาน บคุ ลากร / 4. การเปน็ ผใู้ ห้การอบรมถ่ายทอด ๒) การนเิ ทศ การตดิ ตามงานอยา่ งเปน็ ระบบ / ความรูแ้ ก่บุคลากร ๓) การสง่ เสริม สนับสนุนและ/หรือจัดกิจกรรม 5. แผนงาน/โครงการท่ีสง่ เสรมิ สนบั สนนุ เพอื่ พฒั นาบคุ ลากร / บคุ ลากรให้พฒั นาทางวิชาการ และ ๔) การประเมินผลการปฏิบัติงานของบคุ ลากร
44 ๕) การนาผลการประเมินบคุ ลากรมาใชใ้ นการ / วิชาชพี วางแผนเพือ่ พัฒนาอยา่ งต่อเนอ่ื ง รายการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ หลักฐานประกอบการพจิ ารณา ๑๒๓๔ ๔. การมีวสิ ยั ทัศน์ 1. การนาเสนอความคิดและการมี ๔.๑ ความสามารถในการกาหนดวสิ ัยทศั น์ของตนเอง ส่วนร่วมในการจัดทาวิสยั ทัศน์ ๑) การกาหนดวิสัยทศั น์ / ของสถานศึกษา / 2. แผนงาน/โครงการของสถานศึกษา ๒) การกาหนดแนวคดิ ทิศทางในการปฏิบัติงาน 3. ความคดิ เห็นของผมู้ ีส่วนเกี่ยวขอ้ ง ท่ีกว้างไกลทนั สมยั และเป็นไปได้ ๓) การปรบั เปล่ียนวิสยั ทัศนใ์ หเ้ หมาะสมกับ / สภาพทเ่ี ปลี่ยนแปลง ๔.๒ ความสามารถในการกาหนดวิสยั ทศั นข์ องโรงเรียน 1. การนาเสนอความคิดและการมี ๑) การบูรณาการความรู้ ประสบการณ์ ค่านยิ ม / สว่ นรว่ มในการจัดทาวิสยั ทัศน์ของ สถานศึกษา และสถานการณ์ปัจจุบันเพ่ือการกาหนดวิสยั ทศั น์ 2. แผนงาน/โครงการของสถานศึกษา ของโรงเรยี น / 3. ความคิดเหน็ ของผมู้ ีส่วนเกี่ยวข้อง ๒) การเป็นผู้นาในการกาหนดวิสัยทัศน์และพันธ กจิ ของโรงเรียนใหส้ อดคลอ้ งกับนโยบายของ หนว่ ยงานต้นสังกัด ๓) การใชก้ ระบวนการมีส่วนร่วม เพ่อื เปิดโอกาส / ใหบ้ คุ ลากรท่ีเกี่ยวขอ้ งร่วมกันกาหนดวิสัยทัศนข์ อง โรงเรยี น เฉลี่ย ๓.๘๔ ตัวช้วี ัดความสาเร็จ - ครูไดร้ บั การพัฒนาตนเอง เกิดแรงจูงใจในการปฏิบตั ิงาน มวี สิ ัยทศั น์ในการปฏิบัติงาน ผลการดาเนินงาน - วิเคราะห์สภาพปัญหา ความต้องการของบคุ ลากร - จัดทาแผนยุทธศาสตร์ แผนปฏิบตั ิการประจาปแี ละสรปุ ผลการปฏบิ ัติงาน - เสนอแนวคดิ อภิปราย สร้างขวัญและกาลงั ใจในการปฏบิ ตั ิงาน - มอบหมายภาระงานใหบ้ ุคลากรตรงกบั ความถนัด ความสนใจ - ให้คาปรึกษา นเิ ทศ พฒั นาบุคลากร ประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงานของบุคลากรและนาผลไปวางแผนพฒั นา อยา่ งต่อเนอื่ ง - รว่ มกาหนดวิสยั ทัศน์ พันธกจิ ใหส้ อดคลอ้ งกบั นโยบายของโรงเรียน - เปดิ โอกาสให้บุคลากรมีสว่ นร่วมในการปฏบิ ตั ิงาน
45 ความสาเรจ็ - ส่งเสรมิ และพฒั นาบคุ ลากรใหใ้ ชก้ ระบวนการวเิ คราะหส์ ภาพปญั หาและความตอ้ งการทเ่ี กิด จากการปฏิบตั ิงาน รายงานการพฒั นาตนเอง จากการประพ ฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ในเรื่องของความอุตสาหะ ขยันอดทน มีความมุ่งม่ัน รู้จักหน้าท่ี มีความรับผิดชอบต่อผลสัมฤทธิ์ของงาน ข้าพเจ้าได้รับการยกย่องและ การยอมรับจากหนว่ ยงานท่ีเกีย่ วขอ้ งดงั นี้ (1 ) คณ ะกรรมการจัดงาน วัน ครู ป ระจาปี 2 5 6 2 ประก าศ ลงวัน ท่ี 2 มก ราคม พ.ศ. 2562 (2) คณะกรรมการดาเนินการแข่งขันกีฬานักเรียนและเยาวชนอาเภอแม่แจ่ม ประจาปี พุทธศกั ราช ๒๕๖๒ ประกาศ ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ 2562 (3) คณะกรรมการดาเนินการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ันพ้ืนฐาน (O-NET) ระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ 6 และระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ปีการศึกษา 2562 (คาส่ังสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา ประถมศกึ ษาเชียงใหม่ เขต 6 ที่ 7/2563 ลงวันที่ 8 มกราคม 2563) (4) คณะกรรมการดาเนินงานอบรมเชิงปฏิบัติการ “ส่งเสริมการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียน ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 1-3 “ (5) คณะทางานขับเคลื่อนพ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ระดับหน่วยงานทาง การศึกษาสังกัดสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษในจังหวัดเชียงใหม่ ประกาศ ลงวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2563 (6) คณะทางานสรุปผลการจัดการศึกษาสถานศึกษานาร่องพ้ืนท่ีนวัตกรรมการศึกษาจังหวัด เชยี งใหม่ประกาศ ลง วนั ท่ี 3 เดอื น กนั ยายน พ.ศ. 2563 (7) คณะกรรมการดาเนินงานโครงการแลกเปล่ียนเรยี นรู้ผลการจัดการศึกษาสถานศึกษานาร่อง พื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ ประจาปีงบประมาณ 2563 ประกาศ ลงวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2563 (8)คณะกรรมการดาเนินงานมุทติ าจิตเกษียณอายุราชการ ประจาปี พ.ศ. ๒๕๖๓ประกาศ ลงวนั ท่ี 20 กนั ยายน พ.ศ. 2563 จากการปฏิบัติงานจนประสบผลสาเร็จ จึงเป็นท่ียอมรับจากหน่วยงานต่าง ๆ ดังนั้นข้าพเจ้าจึงมี ผลงานท่ีปรากฏชัดเจนและนาไปเปน็ ต้นแบบพฒั นาผู้อนื่ ดงั นี้
46 (1) นายวิเศษ ฟองตา ตาแหน่งรองผู้อานวยการโรงเรียน ได้รับเกียรติบัตรรางวัลระดับรอง ชนะเลศิ ระดบั เหรียญทอง ด้านการบริหารจัดการ ประเภท รองผอู้ านวยการสถานศึกษายอดเย่ียม ในการประกวด รางวัลทรงคณุ คา่ สพฐ. OBEC AWARDS ระดับชาติ ครงั้ ท่ี 8 ประจาปกี ารศึกษา 2561 (2) นายวิเศษ ฟองตา ไดร้ ับเกียรตบิ ัตรรางวลั “Super Leader” ร่นุ ท่ี 4 ประจาปี 2563 จาก ภาคเี ชยี งใหมเ่ พื่อการปฏริ ปู การศกึ ษา รว่ มกับองค์การบริหารส่วนจังหวดั เชียงใหม่ (3) นายวิเศษ ฟองตา รองผู้อานวยการโรงเรียน ได้เกียรติบัตรรางวัลระดับเหรียญทอง ด้าน บริหารจัดการ ประเภท รองผู้อานวยการสถานศึกษายอดเยี่ยม ในการประกวดรางวัลทรงคุณค่า สพฐ. OBEC AWARDS ระดบั ชาติ ประจาปี 2561 (4) นายวิเศษ ฟองตา รองผู้อานวยการโรงเรียน ได้รับคัดเลือกเป็นรองผู้อานวยการ ประจาปี 2560 จากกลมุ่ สถานศกึ ษาสังกัดสานักบรหิ ารงานการศกึ ษาพิเศษกลุ่ม 6 (5) นายวิเศษ ฟองตา รองผู้อานวยการโรงเรียน ได้รับคัดเลือกเป็นรองผู้อานวยการ ประจาปี 2561 จากกล่มุ สถานศกึ ษาสังกดั สานักบริหารงานการศึกษาพเิ ศษกล่มุ 6 (6) นายวิเศษ ฟองตา รองผู้อานวยการโรงเรียน ได้รับรางวัล คุรุสดุดี ด้านการบริหารดีเด่น ประจาปี 2561 จากสมาคมครแู ม่แจม่ (7) นายวิเศษ ฟองตา รองผู้อานวยการโรงเรียน รางวัล ประกาศเชิดชูเกียรติผู้ทาประโยชน์ ดีเด่นที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง เสียสละและเป็นประโยชน์ต่อสังคมของจังหวัดเชียงใหม่ ประจาปี 2559 (8) นายวิเศษ ฟองตา รองผู้อานวยการโรงเรียนได้รับรางวัลต้นแบบคนดีศรีเชียงใหม่ประจาปี 2561 (9) นายวิเศษ ฟองตา รองผู้อานวยการโรงเรียนได้รับรางวัลต้นแบบคนดีศรีแผ่นดินประจาปี 2563 สรปุ ผลที่เกิดจากการบรหิ ารงานดา้ นวิชาการ ภาคเรยี นที่ 2/2563 พฒั นาครสู อน - ครไู ดร้ บั การพฒั นาตนเอง ให้มีความรู้ ความสามารถในการแสวงหาความรู้ วิจยั วเิ คราะห์แก้ปญั หา สร้างองคค์ วามรู้ เพ่อื พฒั นาการเรยี น การพฒั นาผู้เรยี น - มีบุคลากรท่ีมวี ฒุ ิ วชิ าเอกตรงกบั สาขาวชิ าท่ีสอน - บุคลากรมีวญิ ญาณความเป็นครู คุณธรรม จริยธรรม - มคี วามรู้ ความสามารถในการจดั การเรียนการสอน - มขี วัญและกาลังใจในการปฏิบัติงาน
47 พฒั นากระบวนการบรหิ ารจัดการ - การบรหิ ารจัดการเป็นระบบคล่องตวั ลดข้นั ตอน สะดวก รวดเร็ว ตรวจสอบได้ - ใช้ข้อมลู สารสนเทศท่ีเช่อื ถอื ได้ในการบริหารจัดการ - มแี ผนพฒั นาคณุ ภาพ / กลยทุ ธ์ แผนปฏิบตั กิ าร - มีการปฏิบัติตามแผน - กากบั นเิ ทศ ติดตาม ประเมินผลอย่างตอ่ เนอ่ื ง - การบันทึก การรายงานผล การประเมินผล และประชาสมั พนั ธเ์ ผยแพร่ - การจัดทาขอ้ มูลและผลการประเมนิ ไปใชใ้ นการตดั สนิ ใจ และปรบั ปรุงงาน - มรี ะบบประกันคณุ ภาพการศกึ ษา - จัดใหผ้ ู้ปกครอง ชมุ ชน องคก์ รปกครองส่วนท้องถน่ิ สว่ นราชการทเี่ ก่ยี วขอ้ งมีส่วนร่วมในการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน ตรวจสอบและพฒั นาการศกึ ษาของโรงเรียน พัฒนาผู้เรียน - ผลจากการทไี่ ด้จดั การศึกษาตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ พฒั นา กระบวนการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน กระบวนการสง่ เสรมิ คณุ ลักษณะผู้เรียน ด้านคณุ ธรรมจรยิ ธรรม ค่านิยมทพี่ ึงประสงค์ ด้านศิลปะ ดนตรี กีฬาและงานอาชพี ในแต่ละปีการศึกษา ส่งผลใหผ้ ู้เรยี นมีคุณภาพตาม มาตรฐานคุณภาพการศกึ ษา ส่งเสริมสนับสนนุ งานอาชพี ให้นักเรียนได้ฝกึ ปฏบิ ตั ิเรียนรจู้ ากการปฏิบัตจิ ริง โดยมี วิทยากรท้องถน่ิ มาสอนดา้ นวิชาชพี ในสาขาต่างๆ ผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรยี นกล่มุ เสีย่ งและกล่มุ ทีม่ ปี ัญหาในระบบดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรียน ปีการศึกษา 2561จานวนผ้เู รยี นกลุ่มเสีย่ งและกล่มุ ทีม่ ีปญั หา จานวน.......127.........คน แกป้ ัญหาได้......127....... คน คิดเปน็ ร้อยละ........100.............. ปีการศึกษา 2592 จานวนผู้เรียนกลมุ่ เสีย่ งและกลุ่มทม่ี ีปัญหา จานวน.......102.........คน แก้ปญั หาได้......102....... คน คดิ เป็นร้อยละ.......100............... รวม 2 ปกี ารศกึ ษา จานวนผูเ้ รยี นกลมุ่ เสี่ยงและกลุ่มท่มี ปี ญั หา จานวน......229.........คน แก้ปญั หาได้.....229........ คน คิดเปน็ ร้อยละ.......100...............
48 ปญั หาและอปุ สรรค และข้อเสนอแนะ ปญั หาและอุปสรรคในการบริหารงานวิชาการ นักเรยี น สมาธิสน้ั /ขาดความสนใจ /ขาดความตั้งใจ/ขาดความรับผิดชอบ /ขาดระเบยี บวินัย/ เรียนไม่เขา้ ใจ/ไม่กล้าถามครูผดู้ ูแล/กจิ กรรมเยอะ/ไมส่ ามารถคน้ ควา้ ข้อมูลตา่ งๆตามภาระงานทคี่ รูมอบหมาย/ กจิ กรรมการเรยี นการสอนไมห่ ลากหลาย/นักเรียนอา่ นไม่ออกเขยี นไมไ่ ด้ /พดู เสียงไมช่ ัด ฯลฯ ครผู สู้ อน สอน/รับผดิ ชอบหอ้ งเรียนไม่ตรงวิชาการเอก/ตรงวชิ าเอกแตไ่ มถ่ นดั ในระดับท่ีสอน/ครูไมไ่ ด้ ใชค้ วามสามารถในการจดั การเรียนการสอน/กิจกรรม งานพิเศษมาก/ไมเ่ ขา้ สอนตรงเวลา ออกก่อนเวลา/เช็คช่ือ ออกห้องเรียน/ละทงิ้ ชว่ั โมงสอน/ไปราชการ ลา ไมฝ่ ากงาน/ไมไ่ ด้ประเมนิ ตามสภาพจรงิ /ไมไ่ ด้สอนตามตวั ชวี้ ัดแต่ ยดึ หนังสือเรียนเป็นหลัก/ไม่มีส่อื นวตั กรรมประกอบการเรียนการสอน/ไมไ่ ดใ้ ชเ้ ทคโนโลยมี าประกอบการสอน/ กิจกรรมการเรยี นการสอนไมเ่ น้นให้นักเรียน คดิ วเิ คราะห์ สังเคราะห์ เนน้ ความจามากกวา่ ขอรับรองว่ารายงานผลการปฏบิ ตั ิงานขา้ งต้นเปน็ ความจรงิ ทุกประการ ลงชอื่ ………………………………..........................................…… ผรู้ ายงาน (นายวเิ ศษ ฟองตา) ตาแหน่ง รองผู้อานวยการโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่ วันท่ี 9 มนี าคม 2564 ลงช่ือ ....................................................................... (นายอดิศร แดงเรือน) ผอู้ านวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชยี งใหม่ วันที่ 9 มีนาคม 2564
49 ภาคผนวก
Search