Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore DMC-2565_26-5-65

DMC-2565_26-5-65

Published by หทัยวรรณ สะนิ, 2022-08-17 08:22:52

Description: DMC-2565_26-5-65

Search

Read the Text Version

196ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

197ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

198ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

199ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

200ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

201ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

202ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

203ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

204ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

เอกสำรอำ้ งอิง กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑแ์ ละวธิ กี ำรนบั อำยุเด็กเพื่อเข้ำรับกำรศึกษำภำคบังคับ พ.ศ. 2545 (2545,25 กุมภำพันธ์). รำชกจิ จำนเุ บกษำ. เล่ม 119 (ตอนท่ี 20 ก), หนำ้ 5-6. กระทรวงศกึ ษำธกิ ำร. (2535,16 เมษำยน). ระเบียบกระทรวงศึกษำธิกำร ว่ำด้วยทะเบียนนักเรียน พ.ศ. 2535. กระทรวงศึกษำธกิ ำร. (2546,13 มิถุนำยน). ประกำศกระทรวงศึกษำธิกำร เร่ือง หลักเกณฑ์และวิธีกำร ผอ่ นผันให้เด็กเขำ้ เรียนกอ่ นหรอื หลังอำยตุ ำมเกณฑ์กำรศึกษำภำคบงั คับ พ.ศ. 2546. กระทรวงศึกษำธิกำร. (2562,31 ตุลำคม). ประกำศกระทรวงศึกษำธิกำร เรื่อง กำรรับนักเรียน นักศึกษำ ท่ไี มม่ ีหลกั ฐำนทะเบยี นรำษฎรหรอื ไม่มีสญั ชำติ พ.ศ.2562. ประกำศกระทรวงศึกษำธิกำร เร่ือง กำรส่งเด็กเข้ำเรียนในสถำนศึกษำ พ.ศ. 2546 (2547,24 มิถุนำยน). รำชกิจจำนุเบกษำ. เล่ม 121 (ตอนที่ 69 ง), หนำ้ 7-9. ประกำศกระทรวงศึกษำธิกำร เร่ือง หลักเกณฑ์และวิธีกำรปฏิบัติสำหรับผู้ที่มิใช่ผู้ปกครองซึ่งมีเด็กท่ีอยู่ใน เกณฑ์กำรศึกษำภำคบังคับอำศัยอยู่ พ.ศ. 2546 (2547,24 มิถุนำยน). รำชกิจจำนุเบกษำ. เล่ม 121 (ตอนที่ 69 ง), หนำ้ 6. พระรำชบัญญัติกำรศึกษำภำคบังคับ พ.ศ. 2545. (2545,31 ธันวำคม). รำชกิจจำนุเบกษำ. เล่ม 119 (ตอนท่ี 128 ก), หนำ้ 11-14. ระเบยี บกระทรวงศกึ ษำธกิ ำรวำ่ ด้วยหลกั ฐำนในกำรรับนักเรียนนักศึกษำเข้ำเรียนในสถำนศึกษำ พ.ศ.2548. (2548, 19 กนั ยำยน). รำชกจิ จำนเุ บกษำ. เลม่ 122 (ตอนที่ 90 ง), หน้ำ 9-11 205ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

Data Management Center DMC

ภาคผนวก คานิยามศัพท์ท่ีเก่ียวข้อง ระบบการจัดเก็บข้อมูลนักเรียนรายบุคคล (Data Management Center : DMC)

คานิยามศพั ทท์ ีเ่ กย่ี วขอ้ ง ระบบจดั เกบ็ ข้อมลู นักเรยี นรายบคุ คล (Data Management Center : DMC) คำนิยำมศัพทท์ ่ีเก่ยี วข้อง : ระบบจัดเก็บข้อมลู นกั เรยี นรำยบุคคล (Data Management Center : DMC) ระบบจัดเก็บขอ้ มลู นกั เรียนรำยบุคคล (Data Management Center : DMC) หมำยถึง เครื่องมือ ในกำรจัดเก็บข้อมูลนักเรียนรำยบุคคล ข้อมูลสถำนศึกษำและข้อมูลบุคลำกรในโรงเรียน และสำมำรถนำ ข้อมลู สำรสนเทศไปใช้เพือ่ กำรวำงแผน กำรบริหำรจัดกำร กำรกำหนดนโยบำย และกำรตัดสินใจได้อย่ำงมี ประสิทธิภำพ โดยได้พัฒนำระบบจัดเก็บข้อมูลนักเรียนรำยบุคคลผ่ำนระบบเพื่อดำเนินกำรจัดเก็บข้อมูล นักเรียนรำยบุคคล ด้วยระบบกำรจัดเก็บข้อมูลนักเรียนรำยบุคคล (Data Management Center : DMC) ชว่ งที่ 1 ณ วนั ที่ 10 มิถุนำยน ช่วงท่ี 2 วันท่ี 10 พฤศจกิ ำยน และชว่ งที่ 3 ณ วนั ท่ี 30 เมษำยน (ข้อมูลส้ินปี กำรศึกษำ) โรงเรียน หมำยถึง สถำนศึกษำในสังกัดสำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้ันพื้นฐำน กระทรวงศกึ ษำธกิ ำร วนั ที่ต้ังโรงเรียน หมำยถึง วันทก่ี ่อตั้งโรงเรยี นนี้ ซง่ึ ไดบ้ ันทึกไว้ในสมดุ หมำยเหตุรำยวัน เขตทีต่ ้งั ของโรงเรยี น หมำยถงึ ที่ตงั้ ของโรงเรยี นว่ำอยูใ่ นเขตใด แบ่งเป็น 3 ลักษณะคือ 1) เขตกำรปกครอง หมำยถึง สถำนท่ีท่ีต้ังของโรงเรียนท่ีตั้งอยู่ในเขตกำรปกครองตำมท่ี กระทรวงมหำดไทยประกำศ 2) ท่ีต้ังทำงภูมิศำสตร์ หมำยถึง สถำนท่ีต้ังของโรงเรียนตั้งอยู่ในพื้นท่ีหรือบริเวณสภำพทำง ภมู ศิ ำสตร์ 3) โรงเรียนทีต่ ั้งอย่ใู นบรเิ วณเดียวกบั วดั เขตบริกำรของโรงเรียน หมำยถึง เขตพ้ืนที่บริกำรของโรงเรียนท่ีคณะกรรมกำรศึกษำธิกำร จังหวัดกำหนด รอยตะเข็บชำยแดน หมำยถึง โรงเรียนทีม่ เี ขตพืน้ ท่ีเขตบรกิ ำรของโรงเรียนติดตอ่ กับแนวชำยแดน ประเทศเพ่อื นบ้ำน พื้นท่โี รงเรียน หมำยถงึ ขนำดของท่ีดินท่ีเป็นท่ีต้ังของโรงเรียน ท่ีดินท่ีโรงเรียนมีสิทธ์ิครอบครอง หรือใชป้ ระโยชนใ์ นกำรจดั กำรศึกษำจำกท่ดี นิ นนั้ ซึ่งอำจจะมีจำนวนหลำยแปลง รวมถึงลักษณะกำรถือครอง ท่ดี นิ ในแตล่ ะแปลงในลกั ษณะต่ำง ๆ ดังน้ี 1) ที่ป่ำสงวน เป็นท่ีดินที่อยู่ในควำมดูแลของกระทรวงเกษตร และได้รับควำมยินยอมให้จัดตั้ง โรงเรยี น เพอื่ จัดกำรศกึ ษำใหบ้ ตุ รหลำนของประชำชนท่ีอำศัยอยูใ่ นเขตนน้ั เลำ่ เรยี น 2) ที่ธรณีสงฆ์ เป็นที่ดินท่ีอยู่ในควำมดูแลของวัดหรือกรมกำรศำสนำ และได้รับควำมยินยอมให้ จัดตง้ั โรงเรยี น เพอ่ื จดั กำรศกึ ษำใหบ้ ุตรหลำนของประชำชนท่ีอำศยั อยใู่ นเขตนน้ั เลำ่ เรียน 208ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

3) ท่ีรำชพสั ดุ เปน็ ทดี่ ินท่ีอยใู่ นควำมดแู ลของรฐั และยนิ ยอมให้จัดตั้งโรงเรียนเพื่อจัดกำรศึกษำให้ บุตรหลำนของประชำชนทอี่ ำศยั อยใู่ นเขตนน้ั เลำ่ เรียน 4) ที่ดินเชำ่ ผู้อ่นื เป็นทดี่ นิ ท่โี รงเรยี นเชำ่ จำกบุคคลอืน่ เพอ่ื ทำประโยชน์ในด้ำนกำรจัดกำรศึกษำ 5) ท่ีทรัพยส์ นิ สว่ นพระมหำกษัตริย์ ท่ียนิ ยอมให้จัดตั้งโรงเรียนเพ่ือจัดกำรศึกษำให้บุตรหลำนของ ประชำชนทีอ่ ำศัยอยูใ่ นเขตน้นั เล่ำเรียน 6) ท่ีได้รับบริจำค และ/หรือ ให้ใช้ประโยชน์ หมำยถึง ที่ดินที่โรงเรียนได้รับบริจำคหรือให้ทำ ประโยชนด์ ำ้ นกำรจดั กำรศึกษำจำกทดี่ ินผนื น้นั 7) ทส่ี ำธำรณประโยชน์ 8) ที่ ส.ป.ก. ประปำ แบ่งเปน็ 3 ชนดิ คอื 1) ประปำโรงเรยี น หมำยถึง น้ำประปำที่โรงเรียนจัดทำ/ผลติ /ตดิ ตงั้ เอง 2) ประปำหมู่บ้ำน/ประปำเทศบำล หมำยถึง น้ำประปำท่ีชุมชน/เทศบำล จัดทำ/ผลิต และ ใหบ้ ริกำรกบั ชมุ ชน 3) ประปำนครหลวง/ภูมิภำค หมำยถึง น้ำประปำที่กำรประปำนครหลวงหรือกำรประปำส่วน ภมู ิภำคจดั ทำ/ผลิต และใหบ้ รกิ ำรกบั ชมุ ชน โรงเรียนสำขำ หมำยถึง โรงเรียนท่ีจัดต้ังขึ้นเพื่อรองรับควำมต้องกำรของชุมชนหรือท้องถ่ิน ที่ต้องกำรให้บุตรหลำนได้ศึกษำเล่ำเรียนในโรงเรียน ท่ีตง้ั อยูใ่ นทอ้ งถ่ินของตนเอง แต่ไม่มีโรงเรียนต้ังอยู่ก่อน ไดร้ บั อนญุ ำตใหเ้ ปดิ เปน็ โรงเรียนสำขำแลว้ ห้องเรียนสำขำ หมำยถึง เสมือนห้องเรียนของโรงเรียน โดยจัดแบบเคลื่อนที่หรือเป็นสถำนที่ ก่ึงถำวรในพื้นที่หำ่ งไกลและทุรกันดำร ไม่สำมำรถจัดต้ังเป็นโรงเรยี นหรือโรงเรียนสำขำได้ โรงเรยี นท่ีมีไฟฟำ้ หมำยถึง โรงเรียนทไ่ี ด้รับอนุมัตใิ หต้ ิดตัง้ ไฟฟ้ำโดยหนว่ ยงำนรัฐ หรือต่อพ่วงกับ ชุมชน หรอื ใช้โซลำเซล หรอื เคร่ืองกำเนดิ ไฟฟำ้ ปัญหำสภำพแวดล้อมของโรงเรียน หมำยถึง โรงเรียนท่ีต้ังอยู่ในสถำนท่ีซ่ึงมีปัญหำด้ำน สิง่ แวดล้อมซึง่ อำจสง่ ผลกระทบตอ่ สุขภำพอนำมัยของนักเรียน บุคลำกรในโรงเรียน ท่ีเกิดจำกเสียง อำกำศ และนำ้ หนว่ ยงำนทำงกำรศกึ ษำ หมำยถงึ หน่วยงำนทม่ี ีหนำ้ ทจ่ี ัดกำรเรยี นรู้ และ / หรือ ดูแลรับผิดชอบ เกย่ี วขอ้ งกบั กำรจดั กำรศกึ ษำ เช่น มหำวิทยำลยั วทิ ยำลัยชมุ ชน โรงเรียนพื้นท่ีพิเศษตำมประกำศกระทรวงกำรคลัง หมำยถึง โรงเรียนที่กระทรวงกำรคลัง ประกำศเปน็ โรงเรยี นพนื้ ที่พิเศษ พืน้ ท่ีจุดบอด หมำยถึง บริเวณพื้นท่ีทีก่ ันดำร กำรคมนำคมไปไม่ถึง หรือไปลำบำก บริกำรของรัฐ เข้ำไปไดย้ ำก โรงเรยี นตำมโครงกำรพระรำชดำริ หมำยถึง โรงเรียนท่ีมีช่ือตำมประกำศสำนักพระรำชวัง และ ไดร้ ับกำรสนับสนนุ ชว่ ยเหลือ 209ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

โรงเรียนในพ้ืนที่ตำมโครงกำรป้องกันตนเองชำยแดน (ปชด.) หมำยถึง โรงเรียนที่อยู่ในพื้นท่ี ชำยแดน และดำเนินงำนโครงกำรปอ้ งกันตนเองชำยแดน นักเรียนพักนอนประจำ หมำยถึง นักเรียนท่ีมีถ่ินที่อยู่ไม่สะดวก ห่ำงไกล กันดำร ทำให้เป็น อุปสรรคต่อกำรเดนิ ทำงไป-กลับ ระหวำ่ งถ่นิ ทอ่ี ย่กู ับโรงเรยี น จำเป็นตอ้ งพกั อำศัยในสถำนท่ีที่โรงเรียนจัดให้ หรือทซ่ี ึง่ ทโ่ี รงเรียน สำมำรถดำเนนิ กำรควบคุมดูแลได้ เชน่ 1) บ้ำนพกั ครู หมำยถึง บำ้ นพักครูท่ใี หน้ ักเรียนพักนอนประจำ ทั้งนี้นักเรียนอำจจะอำศัยอยู่รวม กบั ครู หรอื อยู่เฉพำะนกั เรียนก็ได้ 2) ท่พี ักนักเรียน หมำยถึง บ้ำนพัก/หอนอน ท่โี รงเรยี นสร้ำงขึน้ โดยเงนิ งบประมำณหรอื เงินบริจำค สำหรบั ให้นกั เรียนพกั นอนประจำ 3) พักรวมกับชุมชน/อื่น ๆ หมำยถึง บ้ำนพักในชุมชนหรือวัด ท่ีชุมชนหรือวัดให้ควำมร่วมมือให้ นักเรยี นท่อี ำศยั พกั นอนประจำ นักเรยี นด้อยโอกำส หมำยถึง นกั เรียนในโรงเรียนท่ีด้อยโอกำสทำงกำรศึกษำ จำแนกได้ ดงั น้ี 1) นกั เรยี นถูกบังคบั ให้ขำยแรงงำน หรือแรงงำนเด็ก หมำยถึง เด็กที่ต้องทำงำนหรือถูกบังคับให้ ทำงำนหำรำยไดด้ ว้ ยกำรขำยแรงงำนก่อนถึงวัยอันสมควร ถูกเอำรัดเอำเปรียบจำกนำยจ้ำงไม่มีโอกำสได้รับ กำรพัฒนำให้เปน็ ไปตำมหลักพัฒนำกำรอนั เหมำะสมกับวยั 2) นกั เรียนที่อยู่ในธุรกิจบริกำรทำงเพศ หรือโสเภณีเด็ก หมำยถึง เด็กที่มีควำมสมัครใจ หรือถูก บังคับล่อลวงให้ขำยบริกำรทำงเพศ หรือถูกชักจูงให้ต้องตกอยู่ในสภำพที่เส่ียงต่อกำรประกอบอำชีพ ขำยบริกำรทำงเพศ 3) นักเรยี นทถ่ี ูกทอดทิ้ง หมำยถึง เด็กท่ีมำรดำคลอดทิ้งไว้ในโรงพยำบำล หรือตำมสถำนท่ีต่ำง ๆ รวมไปถงึ เดก็ ที่พอ่ แม่ปล่อยท้ิงไว้ให้มีชีวิตอยู่ตำมลำพัง หรือกับบุคคลอื่น โดยไม่ได้รับกำรเล้ียงดูจำกพ่อแม่ ท้ังนี้อำจมีสำเหตุมำจำกปัญหำกำรหย่ำร้ำง หรือครอบครัวแตกแยก มีสภำพชีวิตอยู่ท่ำมกลำงควำมสับสน ขำดควำมรกั ควำมอบอุ่น ตลอดถึงเด็กที่ขำดผูอ้ ปุ กำระเล้ียงดู อนั เนอ่ื งมำจำกสำเหตุอ่ืน ๆ 4) นักเรียนท่ีอยู่ในสถำนพินิจและคุ้มครองเด็กและเยำวชน หมำยถึง เด็กที่กระทำผิดและถูก ควบคุมอยูใ่ นสถำนพินจิ และคมุ้ ครอบเด็กและเยำวชน ตำมกฎหมำย ตลอดถึงเด็กหญิงที่ต้ังครรภ์นอกสมรส ซง่ึ มีแนวโน้มทจี่ ะก่อให้เกดิ ปญั หำตำ่ ง ๆ เชน่ กำรทำแท้ง กำรฆ่ำตัวตำย กำรทอดทิ้งทำรก 5) นักเรยี นเร่ร่อน หมำยถงึ เดก็ ท่ีไม่มที อ่ี ยเู่ ปน็ หลักแหลง่ แนน่ อน ดำรงชวี ติ อยู่อย่ำงไร้ทิศทำงขำด ปัจจัยพนื้ ฐำนในกำรดำรงชีวิต เส่ียงตอ่ กำรประสบอนั ตรำย และเปน็ ปัญหำสงั คม 6) นักเรียนทไ่ี ดร้ ับผลกระทบจำกโรคเอดส์ หรือโรคติดต่อร้ำยแรงท่ีสังคมรังเกียจ หมำยถึง เด็กท่ี ติดเชื้อเอดส์ หรือมีพ่อแม่เจ็บป่วยด้วยโรคเอดส์ เป็นเด็กท่ีมักถูกมองอย่ำงรังเกียจจนไม่สำมำรถเข้ำรับ กำรศกึ ษำ หรือบริกำรอนื่ ๆ ร่วมกบั เดก็ ปกติทั่วไปได้ 7) นักเรียนท่ีเป็นชนกลุ่มน้อย หมำยถึง เด็กท่ีเป็นบุตรหลำนของบุคคลท่ีมีวัฒนธรรมแตกต่ำงไป จำกประชำชนส่วนใหญ่ของประเทศ มีปัญหำเก่ียวกับกำรถือสัญชำติไทย จนเป็นเหตุให้ไม่มีโอกำสได้รับ กำรศึกษำหรอื บริกำรอนื่ ๆ ส่วนใหญ่อพยพเขำ้ มำต้ังหลักแหล่งอยู่ตำมบรเิ วณชำยแดนของประเทศไทย 210ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

8) นักเรยี นท่ถี ูกทำรำ้ ยทำรุณ หมำยถงึ เด็กท่ีถูกล่วงละเมิดทำงร่ำงกำย ทำงเพศ หรือทำงจิตใจมี ชีวิตอยู่อย่ำงไม่เป็นสุข ระแวง หวำดกลัว เน่ืองจำกถูกทำร้ำยทำรุณ ถูกบีบค้ันถูกกดดันจำกพ่อแม่ หรือ ผปู้ กครอง ซงึ่ มสี ภำพจติ ใจหรอื อำรมณไ์ มเ่ ป็นปกติ หรอื ถกู ล่วงละเมิดทำงเพศในลักษณะต่ำง ๆ จำกบุคคลที่ อยู่ใกลต้ ัว 9) นักเรียนยำกจน (มำกเป็นพิเศษ) หมำยถึง เด็กซ่ึงเป็นบุตรหลำนของคนยำกจนท่ีมีรำยได้ ไม่เพยี งพอต่อกำรล้ยี งชีพ ครอบครัวอย่รู วมกนั หลำยคน ขำดแคลนปัจจัยพ้ืนฐำน มีชีวิตอยู่อย่ำงยำกลำบำก รวมถึงเดก็ ในแหล่งชุมชนแออดั หรือบุตรของกรรมกรก่อสร้ำง หรือเด็กจำกครอบครัวที่อยู่ในถิ่นทุรกันดำร ขำดโอกำสที่จะได้รับกำรศึกษำและบริกำรอ่ืน ๆ ตำมหลักเกณฑ์กำรคัดกรองนักเรียนทุนเสมอภำค กสศ. โดยพิจำรณำข้อมูลรำยได้เฉล่ียของสมำชิกครัวเรือนต่อคนต่อเดือน พิจำรณำรำยได้เฉล่ียต่อคน ไม่เกิน 3,000 บำทตอ่ คนต่อเดือน 10) นักเรยี นทม่ี ปี ัญหำเก่ยี วกบั ยำเสพตดิ หมำยถงึ เด็กที่ติดสำรระเหยหรือยำเสพติดให้โทษ หรือ เดก็ กลุม่ เสี่ยงกำรถูกชักนำให้ประพฤติตนไม่เหมำะสม เกี่ยวข้องผูกพันอยู่กับกลุ่มมิจฉำชีพ ผู้มีอิทธิพลหรือ บุคคลทแ่ี สวงหำผลประโยชนจ์ ำกกำรประกอบอำชีพผิดกฎหมำย เป็นเด็กด้อยโอกำสที่มีแนวโน้มสูงต่อกำร กอ่ ปญั หำในสังคม 11) อ่ืน ๆ หมำยถึง นักเรียนในโรงเรียนท่ีด้อยโอกำสทำงกำรศึกษำนอกเหนือจำก 10 ประกำร ข้ำงตน้ นกั เรียนทอ่ี อกกลำงคัน หมำยถงึ เดก็ ซ่งึ มีอำยุย่ำงเข้ำปีท่ีเจ็ดจนถึงอำยุย่ำงเข้ำปีที่สิบหก เคยเข้ำ ศึกษำในสถำนศกึ ษำ หรอื เคยเข้ำศึกษำในสถำนศึกษำ ยังไม่จบกำรศึกษำภำคบังคับ ปัจจุบันมีตัวตนอำศัย อยใู่ นเขตพนื้ ท่ีบริกำรของสถำนศึกษำ ออกจำกระบบโรงเรียนระหว่ำงปี โดยไม่สำมำรถกลับเข้ำมำเรียนได้ อนั เกดิ จำกสำเหตุ ดังนี้ 1) มีปัญหำในกำรปรบั ตวั 2) สมรส 3) ต้องคดี/ถูกจับ 4) เจบ็ ปว่ ย/อุบตั เิ หตุ 5) หำเลีย้ งครอบครวั 6) อพยพตำมผปู้ กครอง 7) ฐำนะยำกจน 8) มปี ญั หำครอบครวั เด็กตกหลน่ หมำยถึง เด็กซึ่งมีอำยยุ ำ่ งเขำ้ ปีท่เี จด็ จนถึงอำยยุ ำ่ งเข้ำปีท่ีสิบหก ท่ีไม่เคยเข้ำศึกษำใน สถำนศึกษำใด ปจั จุบันมชี อ่ื ในทะเบยี นบ้ำนหรือมีตวั ตนอำศยั อยู่ในเขตบรกิ ำรของสถำนศึกษำ เด็กท่ีไม่มีหลักฐำนทำงทะเบียนรำษฎร หมำยถึง เด็กท่ีไม่มีเอกสำรหลักฐำนท่ีแสดงถึง สัญชำติ วัน เดอื น ปีเกดิ และถิ่นท่ีอยู่ ท่ีทำงรำชกำรออกให้ ได้แก่ เด็กเร่ร่อน เด็กท่ีติดตำมผู้ปกครองไปทำงำนต่ำงถ่ิน เด็กถกู ทอดท้งิ เดก็ ท่ถี ูกเลีย้ งดูในสถำนสงเครำะห์ หรอื เด็กด้อยโอกำส กล่มุ อนื่ ๆ ที่อยู่ในลักษณะเดียวกัน 211ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

เด็กที่อย่รู ะหวำ่ งดำเนินกำรตดิ ตำม หมำยถึง กำรตรวจนับจำนวนนักเรียนท่ีมีตัวตนอยู่จริงของ นักเรยี นระดบั กำรศึกษำภำคบังคับ โดยมีแนวทำงกำรพิจำรณำ ดังนี้ 1) หำกพบว่ำ มีนักเรียนไม่มำเรียนต่อเนื่องเป็นเวลำนำน สถำนศึกษำได้ดำเนินกำรติดตำมให้ นักเรียนเข้ำมำเรียนตำมระเบียบทุกขั้นตอนแล้ว แต่เด็กมีอำยุไม่พ้นเกณฑ์กำรศึกษำภำคบังคับ และไม่ สำมำรถจำหน่ำยได้ 2) หำกพบว่ำ มีนักเรียนไม่จบกำรศึกษำระดับช้ันมัธยมศึกษำตอนต้นเนื่องจำกติด 0 ร มส ให้ สถำนศกึ ษำติดตำมและเร่งรัดให้ผู้เรียน มำดำเนินกำรตำมระเบียบกำรวัดและประเมินผลโดยเร็ว แต่เด็กมี อำยไุ มพ่ น้ เกณฑก์ ำรศึกษำภำคบังคบั และไม่สำมำรถจำหน่ำยได้ เด็กทีอ่ ยรู่ ะหว่ำงดำเนนิ กำรดำเนินกำร หมำยถึง กำรตรวจนับจำนวนนักเรียนท่ีมีตัวตนอยู่จริง ของนักเรยี นระดบั กำรศึกษำตอนปลำย โดยมแี นวทำงกำรพิจำรณำ ดังน้ี 1) หำกพบว่ำ มีนักเรียนไม่มำเรียนต่อเน่ืองเป็นเวลำนำน สถำนศึกษำได้ดำเนินกำรติดตำมให้ นกั เรยี นเขำ้ มำเรียนตำมระเบียบทุกขัน้ ตอนแล้ว 2) หำกพบวำ่ มนี ักเรียนไม่จบกำรศึกษำระดับช้ันมัธยมศกึ ษำตอนปลำย เนื่องจำกติด 0 ร มส ให้ สถำนศกึ ษำติดตำมและเรง่ รดั ใหผ้ ู้เรียน มำดำเนินกำรตำมระเบยี บกำรวัดและประเมินผลโดยเรว็ กำรจำหน่ำยนักเรียน หมำยถึง เด็กซึ่งมีอำยุย่ำงเข้ำปีที่เจ็ดจนถึงอำยุย่ำงเข้ำปีที่สิบหก เคยเข้ำ ศกึ ษำในสถำนศกึ ษำ สำมำรถจำหนำ่ ยนกั เรียนออกจำกสถำนศึกษำ ไดจ้ ำกสำเหตุ ต่อไปน้ี 1) จบชน้ั สงู สุดของสถำนศึกษำ 2) อำยพุ น้ เกณฑ์กำรศกึ ษำภำคบงั คับ 3) ถึงแกก่ รรม 4) หยุดเรียนติดตอ่ กนั เป็นเวลำนำนและไม่มีตวั ตนอยู่ในพ้ืนท่ี (มหี นังสือรับรอง) เด็กที่ไม่มีสัญชำติไทย หมำยถึง เด็กที่ไม่มีสูติบัตรและทะเบียนบ้ำนของบุคคลท่ีมีสัญชำติไทย (ท.ร.14) หรือมีทะเบียนประวัติของชนกลุ่มน้อย, ทะเบียนสำรวจบัญชีบุคคล ในบ้ำน, บัตรประจำตัวชน กล่มุ นอ้ ยหรือหนงั สือรับรองกำรเกิดทีท่ ำงรำชกำรออกใหแ้ ละเอกสำรอ่ืน ๆ เปน็ ต้น ซ่งึ ไมม่ สี ัญชำติไทย เจ้ำหน้ำที่ข้อมูลระดับโรงเรียน หมำยถึง เจ้ำหน้ำท่ีจัดเก็บข้อมูลลงระบบกำรจัดเก็บข้อมูล นักเรยี นรำยบคุ คล (Data Management Center : DMC) ของระดับโรงเรยี น เจ้ำหน้ำที่ข้อมูลระดับสำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำ หมำยถึง เจ้ำหน้ำที่จัดเก็บข้อมูลลงระบบ กำรจัดเก็บข้อมูลนักเรียนรำยบุคคล (Data Management Center : DMC) ของระดับสำนักงำนเขตพ้ืนที่ กำรศึกษำ 212ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

คำนิยำมศัพท์ที่เกยี่ วข้อง : กองทุนเพ่ือควำมเสมอภำคทำงกำรศกึ ษำ พ.ศ. 2561 นักเรียนทุนเสมอภำค หมำยถึง นักเรียนยำกจนที่ผ่ำนเกณฑ์กำรคัดกรองผู้ขำดแคลนทุนทรัพย์ แบบ (Proxy Means Test: PMT) และอย่ใู นกลุ่มทม่ี คี ำ่ คะแนนควำมยำกจนพเิ ศษ (Extremely Poor) เงินอุดหนุนแบบมีเง่ือนไข หมำยถึง เงินอุดหนุนที่สำนักงำนกองทุนเพื่อควำมเสมอภำคทำง กำรศึกษำ (กสศ.) จัดสรรให้แก่นักเรียนทุนเสมอภำค โดยนักเรียนท่ีได้รับเงินอุดหนุนจำก กสศ. จะต้อง รกั ษำอัตรำกำรมำเรียนสงู กว่ำรอ้ ยละ 80 ของเวลำเรยี นท้งั หมด ค่ำครองชีพ หมำยถึง ค่ำใช้จ่ำยในกำรดำรงชีพระหว่ำงเรียน และค่ำใช้จ่ำยที่เกี่ยวข้องกับ กำรศกึ ษำ ค่ำอำหำร หมำยถึง ค่ำใช้จ่ำยท่ีเก่ียวข้องกับกำรจัดหำอำหำรเช้ำสำหรับนักเรียนทุนเสมอภำค ระดับอนุบำล-ประถมศึกษำ และค่ำใช้จ่ำยท่ี เกี่ยวข้องกับกำรจัดหำอำหำรเช้ำและ/หรืออำหำรกลำงวัน สำหรบั นกั เรียนทนุ เสมอภำคระดับมธั ยมศึกษำ ค่ำกิจกรรมกำรพัฒนำนักเรียนทุนเสมอภำค หมำยถึง ค่ำใช้จ่ำยท่ีเกี่ยวเนื่องกับกำรศึกษำและ กำรจัดกิจกรรมพฒั นำทักษะชีวติ และทกั ษะอำชีพสำหรับนักเรยี นทุนเสมอภำค จำนวนสมำชกิ ครวั เรือน หมำยถึงจำนวนสมำชิกทั้งหมดของครัวเรือน (มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้ำน หรือไม่ก็ได้) ทั้งหมดที่อำศัยอยู่ในบ้ำนเดียวกัน จัดหำหรือใช้สิ่งอุปโภคบริโภคอันจำเป็นแก่กำรครองชีพ ร่วมกนั โดยบุคคลเหลำ่ นัน้ อำจเป็นญำติ หรอื ไมเ่ ปน็ ญำตกิ ไ็ ดไ้ ม่นบั สมำชิกที่ไปทำงำนท่ีอ่ืนโดยไม่กลับมำพัก นอนทบี่ ำ้ นนำน เกนิ 3 เดอื นในรอบ 12 เดือนที่ผ่ำนมำ (ระยะเวลำนับจำกเดือนก่อนสัมภำษณ์ย้อนหลังไป 12 เดือน เช่น เดอื นท่ีสัมภำษณ์คือเดือนมิถุนำยน 2563 ในรอบ 12 เดือนท่ีผ่ำนมำ คือ เมษำยน 2562 – พฤษภำคม 2563) หำกมีสมำชิกในครัวเรือนไปพำนักอำศัยอยู่ที่อ่ืนเกินกว่ำ 3 เดือน ไม่นับเป็นสมำชิกใน ครัวเรือน รำยไดข้ องสมำชิกในครวั เรอื น หมำยถึง รำยได้ของสมำชิกครัวเรือนแต่ละคนต่อเดือน หำกไม่มี รำยได้ให้กรอก 0 รำยได้ของนักเรียนไม่นับเป็นรำยได้ของครัวเรือน กรณีที่สมำชิกในครัวเรือนมีรำยได้ท่ี ไดร้ บั มำจำกสมำชิกที่ไปทำงำนทอี่ น่ื ใหน้ บั ด้วย รำยไดใ้ นครวั เรอื น หมำยถึง รำยไดข้ องสมำชิกทุกคนในครัวเรอื นรวมกัน รำยได้ในครัวเรือนเฉลี่ยต่อคน หมำยถึง รำยได้ของสมำชิกทุกคนในครัวเรือนรวมกันหำรด้วย จำนวนสมำชิกของครวั เรือนทงั้ หมด รำยไดเ้ ฉลี่ยของสมำชกิ ครัวเรอื นต่อคนต่อเดือน หมำยถึง รำยได้ในครัวเรือนเฉลี่ยต่อคนไม่เกิน 3,000 บำท ต่อคน ควำมพิกำร หมำยถึง ผ้ทู ่ีมคี วำมพกิ ำรทำงดำ้ นรำ่ งกำยและด้ำนสตปิ ัญญำ ควำมพิกำรทำงร่ำงกำย หมำยถึง ผู้พกิ ำรทำงกำรมองเหน็ ทำงกำรได้ยิน ทำงกำรสื่อควำมหมำย และทำงกำยหรอื กำรเคลอื่ นไหว ควำมพิกำรทำงสติปญั ญำ หมำยถึง ผู้พิกำรทำงจติ ใจหรือพฤติกรรม และทำงสติปัญญำและกำร เรียนรู้ 213ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

โรคเรื้อรัง ตำมนิยำมทีก่ ระทรวงสำธำรณสุขใช้มี 2 นยิ ำม คือ 1) โรคเร้ือรัง คือ ภำวะเจ็บป่วยเรื้อรังที่ไม่ติดต่อ หรือภำวะที่เกิดจำกควำมเสื่อมของร่ำงกำย ตำมอำยุส่วนใหญ่จะไม่มีสำเหตุที่แน่นอน มีปัจจัยเส่ียงหลำยอย่ำง มีระยะเวลำฟักตัวของโรครวมถึง ระยะเวลำของกำรดำเนินโรคท่ียำวนำน ไมต่ ดิ ต่อโดยทำงสัมผัส สำมำรถทำใหเ้ กิดควำมพิกำรหรือกำรทำงำน ท่ผี ิดปกติของร่ำงกำยและรักษำไมห่ ำย 2) โรคเร้ือรัง คือ ภำวะที่มีควำมผิดปกติหรือเบี่ยงเบนไปจำกปกติของร่ำงกำย เป็นภำวะที่เป็น อย่ำงถำวรทำให้เกิดควำมพิกำร เกิดจำกควำมเปลี่ยนแปลงทำงพยำธิสภำพที่ไม่สำมำรถรักษำให้กลับคืน ปกตไิ ด้ ผูป้ ว่ ยทอี่ ยใู่ นภำวะนตี้ อ้ งกำรกำรกำยภำพบำบดั หรอื กำรปรับตัวสำหรบั สภำวะนี้ นอกจำกน้ันยังต้อง รักษำติดตำมดูแลในระยะยำว รวมทั้งโรคประจำตัวท่ีสำมำรถรักษำหำยได้ แต่ถ้ำรักษำติดต่อกันนำนเกิน 3 เดอื นแล้วยงั ไมห่ ำย ยังคงตอ้ งรกั ษำต่อไป ให้ถือว่ำเปน็ โรคเร้ือรัง กสศ. หมำยถึง หน่วยงำนของรัฐ จัดตั้งขึ้นตำมพระรำชบัญญัติกองทุนเพื่อควำมเสมอภำคทำง กำรศกึ ษำ พ.ศ. 2561 แบบ นร./กสศ.01 หมำยถึง แบบขอรับเงนิ อดุ หนนุ นักเรยี นยำกจน ของ กสศ. 214ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

แบบฟอรม์ ทเี่ กีย่ วข้อง 215ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

216ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

217ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

218ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

219ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

220ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

221ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

222ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

223ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

224ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

225ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

226ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

227ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

228ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

229ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

230ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

231ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

232ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

233ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

234ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

235ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

236ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

237ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

238ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

239ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

240ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

241ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

242ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

243ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

244ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC

245ระบบจดั เกบ็ ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล Data Management Center : DMC


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook