Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงงงานการศึกษาเรื่องน้ำยาล้างจาน-1.pdf-1

โครงงงานการศึกษาเรื่องน้ำยาล้างจาน-1.pdf-1

Published by Guset User, 2021-09-17 08:46:19

Description: โครงงงานการศึกษาเรื่องน้ำยาล้างจาน-1.pdf-1

Search

Read the Text Version

โครงงานการศกึ ษา เรอื่ งน้ายาล้างจานด้วยมะกรดู จดั ทาโดย นางสาวกาญจนาพร เกตุประกอบ เลขที่๒๐ จีน นางสาวเกสรา เกื้อรอด เลขท่ี๙ ญี่ป่ นุ นางสาวณัฐชนก เอง็ มี เลขที่๑๓ ญี่ป่ นุ นางสาวเบญญาภา อิตประดิฐ เลขที่๑๔ ญ่ีป่ นุ นางสาวอารญั ยา ฝนธง เลขท่ี๑๕ ญ่ีป่ นุ ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี๕/๑๒ เสนอ คณุ ครเู พชรณา บริพนั ธ์ รายงายฉบบั นี้ป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา I320201 วิชาIS โรงเรียนสภาราชินี จงั หวดั ตรงั ภาคเรียนท่ี1 ปี การศึกษา 2564

บทคดั ย่อ โครงงานเร่อื ง น้ายาลา้ งจานจากมะกรดู น้จี ดั ทาขน้ึ เพอ่ื ตอ้ งการสรา้ งสอ่ื เพอ่ื การศกึ ษา ทส่ี ามารถเผยแพรค่ วามรเู้ กย่ี วกบั การทาน้ายาลา้ งจานดว้ ยตนเองโดยใชต้ น้ ทนุ ต่าเพราะใ ชว้ ตั ถุ ดบิ จากธรรมชาตแิ ละกระบวนการศกึ ษาเพอ่ื ดวู า่ น้ายาลา้ งจานทท่ี าเองจะมปี ระสทิ ธภิ าพเ ทยี บ เทา่ กบั น้ายาลา้ งจานทวั่ ไปหรอื ไมแ่ ละพบว่าน้ายาลา้ งจานทท่ี าเองมปี ระสทิ ธภิ าพเท่ากนั กบั น้า ยาลา้ งจานทวั่ ไปอกี ทงั้ มตี น้ ทนุ ทต่ี ่ากวา่ สามารถทาใชเ้ องไดภ้ ายในบา้ นทาใหป้ ระหยดั คา่ ใชจ่ ่าย ภายในบา้ นดว้ ย ขอบเขตของการศกึ ษาคน้ ควา้ ทดลอง ใชร้ ะยะเวลา ตงั้ แตว่ นั ท่ี 28 พ.ค 64 ถงึ วนั ท1่ี 3ม.ิ ย64ดา้ นเน้อื หาคอื เรอ่ื งสรรพคณุ ของมะกรดู ประโยชน์ทค่ี าดวา่ จะไดร้ บั คอื น้ายาลา้ งจานมคี ุณภาพเทยี บเท่าน้ายาลา้ งจานเคมี วสั ดอุ ุปกรณ์ ถงั สขี าวหน่ึงใบ ไมพ้ าย 1 อนั ผา้ ขาวหน่ึงผนื เตา หมอ้ ตม้ มะกรดู เกลอื หวั เชอ้ื โซดา น้า

กิตติกรรมประกาศ การโครงงานเรอ่ื งน้ายาลา้ งจานจากมะกรดู คณะผจู้ ดั ทาไดต้ งั้ ใจศกึ ษาคน้ ควา้ และผลติ น้ายาลา้ งจานจากมะกรดู พวกเราไดร้ บั การสนบั สนุนจากคุณครเู พชรณา บรพิ นั ธท์ เ่ี ป็นทป่ี รกึ ษาใหพ้ วกเราจนทาใหโ้ ครงงานน้สี าเรจ็ ลลุ ว่ งไปไดด้ ว้ ยดี จงึ ใคร่ขอขอบพระคณุ ทา่ นทไ่ี ดก้ ลา่ วไวข้ า้ งตน้

สารบญั บทคดั ยอ่ ก กิตติกรรมประกาศ ข บทที่1 บทนา ที่มาและความสาคญั 1-2 บทที่2 เอกสารท่ีเกี่ยวขอ้ ง 3-4 บทท่ี3 วิธีการดาเนินงาน 5-6 บทที่4 ผลการดาเนินการโครงงาน 7 บทที่5 สรปุ อภปิ รายผลและขอ้ เสนอแนะ 8 เอกสารอ้างอิง 9

บทท่ี 1 บทนา ทม่ี าและความสาคญั ของโครงงาน ในปัจจบุ นั นนั้ ประเทศไทยของเราประสบปัญหาเศรษฐกจิ ทต่ี กต่าซง่ึ มผี ลต่อราคาของ สนิ ค้ าทเ่ี พม่ิ สงู ขน้ึ ทงั้ อปุ โภคและบรโิ ภคทาใหป้ ระชาชนตอ้ งประสบปัญหาเหล่าน้แี ละกลมุ้ ใจในราย รบั รายจ่ายทต่ี ามมาภายในครวั เรอื นซง่ึ รายจ่ายมากกวา่ รายรบั พวกเราจงึ ไดป้ รกึ ษาและหาท างออกเพ่ื อชวย่ ทา่ นพอ่ บา้ นและแมบ่ า้ นทงั้ หลาย ใหม้ รี ายจ่ายภายในครวั เรอื นลดน้อยลงบา้ ง ซง่ึ ตอ้ งเรม่ิ จากสงิ่ ทเ่ี ราใชท้ ุกวนั และสน้ิ เปลอื งอยา่ งมาก เชน่ น้ายาลา้ งจาน เราจงึ ไดค้ ดิ คน้ วธิ ศี กึ ษา และวธิ ที าน้ายาลา้ งจานใชเ้ องซง่ึ จะทาใหไ้ ดล้ ดรายจ่ายภายในครวั เรอื นอกี ทงั้ น้ายาลา้ งจานทเ่ี ราได้ ศกึ ษาและนามาเสนอน้ลี ว้ นมวี ตั ถุดบิ ทม่ี าจากธรรมชาตหิ าไดภ้ ายในครวั เรอื นและทอ้ งถน่ิ ไมอ่ นั ตราย แถมยงั ไมต่ อ้ งซอ้ื หา ทาใหป้ ระหยดั ค่าใชจ้ ่ายภายในครวั เรอื นอกี มากมาย ดงั นนั้ ทางคณะผจู้ ดั ทาไดค้ ดิ การสรา้ งสอ่ื เพอ่ื การศกึ ษาโดยใช้ Google Sites เพอ่ื ใหป้ ระชาชนทส่ี นใจเขา้ มาศกึ ษาในการทาน้ายาลา้ งจานโดยใชม้ ะนาว และสรรพคุณทส่ี ามารถรกั ษาโรคทวั่ ไปของมะกรดู โดยไมต่ อ้ งเสยี ค่าใชจ้ า่ ยและประชาชนสามารถเขา้ มาศกึ ษาไดต้ ลอดเวลาอกี ทงั้ ยงั ทาใหเ้ กดิ ป ระโย ชน์สงู สดุ ต่อประชาชนไดอ้ กี ดว้ ย วตั ถปุ ระสงค์

1. เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นมคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ในเรอ่ื ง สรรพคุณและประโยชน์ของมะกรดู ทาใหเ้ หน็ คุณคา่ ของธรรมชาตริ อบตวั 2. เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นมที กั ษะ ประสบการณ์ ในเร่อื ง นาไปพฒั นาเป็นการหารายไดใ้ หค้ รอบครวั 3. เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นมเี จตคตทิ ด่ี ีี มที กั ษะการทางานกลุม่ มคี วามรบั ผดิ ชอบ และสามารถนาความรทู้ ไ่ี ดร้ ีบั ไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งสรา้ งสรรค์ สมมตฐิ าน การทาน้ายาลา้ งจานจากมะกรดู มปี ระสทิ ธภิ าพเทยี บเทา่ กบั ทอ้ งตลาด ตวั แปร ตวั แปรตน้ มะกรดู หวั เชอ้ื น้ายาลา้ งจาน ตวั แปรตาม น้ายางลา้ งจานทท่ี าจากมะกรดู ตวั แปรควบคมุ ปรมิ าณมะกรดู ขอบเขตของการศกึ ษาคน้ ควา้ /ทดลอง 1. พน้ื ท/่ี สถานท่ี : บา้ นสมาชกิ ในกลุ่ม 2. ระยะเวลา : ตงั้ แตว่ นั ท่ี 28 พ.ค 64 ถงึ วนั ท่ี 13 ม.ิ ย 64 3. ดา้ นเน้อื หา : 3.1 เรอ่ื ง สรรพคณุ ของมะกรดู 3.2 เร่อื ง น้ายาลา้ งจานจากธรรมชาติ 3.3 เร่อื ง วธิ กี ารทาน้ายาลา้ งจาน ประโยชน์ทค่ี าดวา่ จะไดร้ บั ผลการศกึ ษาคน้ ควา้ ครงั้ น้ี คาดวา่ จะก่อใหเ้ กดิ ประโยชน์ดงั น้ี 1. นกั เรยี น/ทาใหท้ ราบ รู้ และเขา้ ใจเร่อื ง การทาน้ายาลา้ งจานจากธรรมชาติ ประโยชน์และสรรพคณุ ของมะกรดู

2. นกั เรยี น/ทาใหไ้ ด้ มที กั ษะ ประสบการณ์ ไดเ้ รยี นรวู้ ธิ กี ารทาสงิ่ ใหมๆ่ ทน่ี าไวใ้ ชเ้ องทบ่ี า้ น 3. นกั เรยี น/เป็น แนวทางในการ ทาน้ายาลา้ งจานไปขายเพอ่ื หารายไดเ้ สรมิ นยิ ามศพั ทเ์ ฉพาะ(ในการศกึ ษาคน้ ควา้ อสิ ระครงั้ น้ี) 1 นกั เรยี น หมายถงึ นกั เรยี นระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 โรงเรยี นสภาราชนิ ี จงั หวดั ตรงั 2 โปรแกรม หมายถงึ โปรแกรมทใ่ี ชใ้ นการสรา้ งผลงานสอ่ื สรา้ งสรรคใ์ นการทาโครงงาน คอื โปรแกรม Adobe Flash 3 หวั เชอ้ื N70 หมายถงึ N70 มาจาก Texapon N70 มชี อ่ื ทางเคมวี ่า Sodium

บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง 1.มะกรดู มะกรดู มะกรดู มกี ารใชป้ ระโยชน์อยา่ งมาก เป็นไดท้ งั้ เครอ่ื งเทศและยาสมุนไพร สามารถนาไปประกอบอาหารดบั กลน่ิ คาวและเป็นยารกั ษาโรค เชน่ ช่วยแกอ้ าการทอ้ งอดื แกป้ วดทอ้ ง บารุงโลหติ สตรี ขบั เสมหะ ฯลฯ นอกจากการบรโิ ภคเป็นอาหารและเป็นยารกั ษาโรคแลว้ ยงั สามารถนามาใชเ้ ป็นสว่ นประกอบในเครอ่ื งสาอางประเภทต่าง ๆไดอ้ กี ดว้ ย เชน่ แชมพู ครมี นวด ครมี หมกั ผมเป็นตน้ สว่ นต่าง ๆของมะกรดู สามารถเกบ็ รกั ษาไวใ้ นรปู ของแหง้ คอื ใบมะกรดู แหง้ และผวิ มะกรดู แหง้ หรอื น้ามนั หอมระเหยสารสกดั วธิ ตี า่ งๆปัจจุบนั ความต้องการมะกรดู ของตลาดทงั้ ในประเทศแ ละต่ างประเทศมแี นวโน้มทส่ี งู ขน้ึ เน่อื งดว้ ยสรรพคุณของมะกรดู ทม่ี คี วามหลากหลาย แต่เกษตรกรมกั จะปลกู มะกรดู กนั ในลกั ษณะเป็นพชื ผกั สวนครวั หรอื พชื รองเท่านนั้ 2. ใบมะกรดู มลี กั ษณะเป็นรปู ไขก่ วา้ งถงึ ไขแ่ กมรี หรอื ขอบขนาน ขนาดของใบกวา้ ง 2- 6 เซนตเิ มตรยาว3–15เซนตเิ มตรปลายใบมน โคนใบสอบหรอื มน ขอบใบ จกั มน กา้ นใบมปี ีกเป็นแผน่ คลา้ ยใบคลา้ ยรปู ลม่ิ หรอื ไขห่ วั กลบั ใบเป็น2ตอน ใบคอ่ นขา้ งหนามสี เี ขยี วแกแ่ ผน่ ใบมตี ่อมน้ามนั ใส มกี ลนิ่ หอม 3. ดอกมสี ขี าว อยบู่ รเิ วณตรงซอกใบ มกี ลน่ิ หอม มลี กั ษณะเป็นทงั้ ดอกเดย่ี วและดอกชอ่ มี 2 12ดอก - กลบี เลย้ี ง มี 4-5 กลบี เป็นรปู ไขก่ วา้ ง ปลายแหลม - กลบี ดอก มี 4-5 กลบี กลบี หนา รปู ไขแ่ กมรี ปลายมนแหลม ดา้ นนอกมตี ่อมน้ามนั กลบี รว่ งงา่ ย - เกสรเพศผู้ มจี านวนมาก กา้ นเกสรสขี าว อบั เรณูสเี หลอื งออ่ น - เกสรเพศเมยี คลา้ ยรปู กระบอง สเี หลอื งแกมเขยี ว ยอดเกสรกลม สเี หลอื งแกมเขยี ว - รงั ไข่ คอ่ นขา้ งกลม สว่ นบนกวา้ ง มหี ลายช่อง

4. ผล เป็นผลเดย่ี วคอ่ นขา้ งกลม บางพนั ธมุ์ ผี วิ ขรขุ ระ มจี กุ ทห่ี วั ผล เปลอื กหนา สเี ขยี วเมอ่ื สกุ มสี เี หลอื งมเี มลด็ หลายเมลด็ โครงสรา้ งดา้ นในคลา้ ยพชื ตระกูลสม้ ขนาดของผลประมาณ 3 – 7 เซนตเิ มตร แหล่งทพ่ี บ ไมท่ ราบแหล่งกาเนดิ แต่พบมากตามธรรมชาตใิ นมาเลเซยี อนิ เดยี ศรลี งั กา พมา่ และแถบเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ การใชป้ ระโยชน์จากมะกรดู 1. ใชส้ ว่ นตา่ ง ๆ ของมะกรดู เป็นยาหรอื สว่ นผสมของยาต่าง ๆ1. 1 ใบมะกรดู มรี สปรา่ กลนิ่ หอม แกไ้ อ แกอ้ าเจยี นเป็นเลอื ด แกช้ า้ ใน ดบั กลน่ิ คาว 1.2. ผลลกู มะกรดู มรี สเปรย้ี ว กดั เสมหะ แกน้ ้าลายเหนยี ว กดั เถาดานในทอ้ ง แกร้ ะดเู สยี ฟอกโลหติ ขบั ระดู ขบั ลมในลาไส้ 1.3. ผวิ ลกู มะกรดู มรี สปรา่ กลน่ิ หอมรอ้ น ขบั ลมในลาไส้ ขบั ระดู ขบั ผายลม 1.4. น้าในลกู มะกรดู มรี สเปรย้ี ว แกไ้ อเสมหะ ฟอกโลหติ ขบั ระดู ขบั ลมในลาไส้ 1.5. ราก มรี สจดื เยน็ แกไ้ ข ี้ ถอนพษิ สาแดง แกล้ มจกุ เสยี ด กระทุง้ พษิ ไข้ แกพ้ ษิ ฝีภายใน แก้ เสมหะ 2. ใชใ้ นอตุ สาหกรรมเคร่อื งหอมและเครอ่ื งสาอางตา่ ง ๆ 3. กรดซติ รกิ ทอ่ี ยใู่ นมะกรดู ช่วยขจดั คราบสบ่ทู ห่ี ลงเหลอื อยู่ ทาใหผ้ มหวเี รยี บงา่ ย น้ามนั จากผวิ มะกรดู ช่วยใหผ้ มดกเป็นเงางาม 4. ใชป้ รุงแต่งกลน่ิ รสอาหาร ดบั กลนิ่ คาวของอาหาร ใชเ้ ป็นสว่ นผสมในเคร่อื งแกงตา่ ง ๆ 2.มะละกอ ชอ่ื วทิ ยาศาสตร:์ Carica papaya L. ช่อื สามญั : Papaya, Melan Tree, Paw Paw ช่อื อน่ื : กว้ ยลา (ยะลา), แตงตน้ (สตลู ), มะกว้ ยเทศ (ภาคเหนอื ), มะเตะ๊ (มาเลย-์ ปัตตานี), ลอกอ (ภาคใต)้ , บกั ห่งุ (นครพนม-เลย) วงศ:์ CARICACEAE ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร:์

ไมล้ ม้ ลกุ อายุหลายปีขนาดใหญ่ อายุหลายปี สงู 2-8 ม. ลาตน้ ตงั้ ตรงมกั ไมแ่ ตกกงิ่ ไมม่ แี ก่น ตน้ อวบน้า มรี อยแผลเป็นของกา้ นใบทห่ี ลดุ รว่ งไป มนี ้ายางสขี าวทวั่ ลาตน้ ใบ ใบเรยี งสลบั รอบตน้ บรเิ วณยอด ใบเดย่ี ว รปู ฝ่ามอื กวา้ ง ยาว 25-60 ซม. โคนใบเวา้ ปลายใบแหลม ขอบใบหยกั เวา้ เป็นแฉกลกึ 7-11 แฉก และจกั ฟันเล่อื ย กา้ นใบยาว 25-90 ซม. เป็นทอ่ กลวงยาว ดอก ดอกชอ่ สขี าวนวล มกี ลนิ่ หอม ออกทซ่ี อกใบ มที งั้ ดอกสมบรู ณ์เพศและดอกแยกเพศ ดอกเพศผอู้ อกเป็นชอ่ กา้ นช่อดอกยาว กลบี ดอกเชอ่ื มตดิ กนั เป็นหลอดยาว 1.5-2.5 ซม. ปลายแยกเป็น 5 กลบี เมอ่ื บานเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง 1.5-2.5 ซม. เกสรเพศผมู้ ี 10 อนั ดอกเพศเมยี และดอกสมบรู ณ์เพศออกเดย่ี วหรอื 2-3 ดอก กลบี ดอก 5 กลบี ดอกมขี นาดใหญ่กว่าดอกเพศผู้ ผล ผลเป็นผลสดรปู ยาวรี ปลายแหลม ผลดบิ มเี น้อื สขี าวอมเขยี ว ผลสุกมเี น้อื สแี ดงสม้ เน้อื หนาอ่อนนุ่ม รสหวาน มเี มลด็ มาก รปู ไขส่ นี ้าตาลดา ผวิ ขรขุ ระ มถี งุ เมอื กหมุ้ 3.หวั เชอ้ื ช่อื ทางวทิ ยาศาสตร์ Sodium Laurylether Sulfate หวั เชอ้ื N70เป็นสารประเภท สารลดแรงตงึ ผวิ ประจุลบ มคี ุณสมบตั ใิ นการทาความสะอาดไดด้ ที ีาใหเ้ กดิ ฟองไดเ้ รว็ เป็นสารชาระลา้ ง หรอื หวั เชอ้ื ทส่ี ามารถทา สบู่ แชมพู ฯลฯเป็นสารทป่ี ลอดภยั ไมก่ ่อใหเ้ กดิ มะเรง็ และไมล่ ะคายเคอื งผวิ ALS , AD25 คอื Sodium Lauryl Sulfate (SLS) เป็นสารทอ่ี นั ตรายเมอ่ื ใชไ้ ปนานๆ จะก่อใหเ้ กดิ มะเรง็ และการละคายเคอื งของผวิ N70 มคี วามเขม้ ขน้ 70% N8000 เป็นสารตวั เดยี วกนั กบั N70 แตม่ คี วามเขม้ ขน้ 28% สว่ นผงฟอง คอื สารลดแรงตงึ ผวิ และใหเ้ กดิ ฟอง เอาไวผ้ สมในหวั เชอ้ื ตา่ งๆเพอ่ื ใหเ้ กดิ ฟองมาก

บทที่3 วธิ ดี าเนินการทดลอง วสั ดุ/อปุ กรณ์ 1.ถงั สขี าวหน่งึ ใบ 2. ไมพ้ าย 1 อนั 3. ผา้ ขาวหน่ึงผนื 4.เตา 5.หมอ้ ตม้ วตั ถุดบิ ทใ่ี ชใ้ นการทดลอง 1.มะกรดู 1 กโิ ลกรมั 2.เกลอื 1/2 กโิ ลกรมั 3. มะละกอ 1 กโื ลกรมั 4.หวั เชอ้ื N70 1 กโิ ลกรมั 5.โซดา 1 ฃวด

6.น้า 8 ลติ ร วธิ กี ารทาน้ายาลา้ งจากจากมะกรดู เตรยี มวตั ถดุ บิ 1.นาเกลอื ไปละลายกบั น้าสะอาด 1/2 ลติ ร แลว้ กรองดว้ ยผา้ ขาวไมใ่ หม้ สี งิ่ สกปรก 2.ตม้ มะกรดู ในน้าประมาณ 2 ลติ ร จนเป่ือย แลว้ กรองดว้ ยผา้ ขาวเอาแคน่ ้า หา้ มมเี น้อื มาผสมแมแ้ ตน่ ้อย 3.ตม้ มะละกอในน้าประมาณ 2 ลติ ร จนเป่ือย นามาปัน่ แลว้ กรองดว้ ยผา้ ขาวเอาแค่น้า หา้ มมเี น้อื มาผสมแมแ้ ต่น้อย วธิ ี ทา 1.ลา้ งมะกรดู ใหส้ ะอาดหนั ครง่ึ แลว้ เตมิ น้า2ลติ ร ตม้ น้าพอเดอื ด ยกลงจากเตาแลว้ ตกั ผลมะกรดู ออกตงั้ ทง้ิ ไวจ้ นตกตะกอนรนิ เอาน้าดา้ นบนใสๆ่ ไว้ 2.ละลายน้าเกลอื 1/2กโิ ลกรมั กบั น้า2ลติ ร 3.เทN70ลงในถงั เทน้าเกลอื ลงไป1ลติ รคนจนเป็นครมี แลว้ เทน้าตม้ มะกรดู และน้าเกลอื ทล่ี ะลายไวล้ งไปทลี ะน้อยๆ คอ่ ยๆ คนทงั้ หมดใหเ้ ขา้ กนั 5.ใสโ่ ซดาลงไป1ขวดแลว้ คนใหเ้ ขา้ กนั 6.เตมิ น้าทเ่ี หลอื ลงแลว้ คนใหเ้ ขา้ กนั จากนนั้ เอาฝาปิดถงั ไวแ้ ลว้ ทง้ิ เอาไวส้ องวนั หลงั จากนนั้ กก็ รอกใสข่ วด และนาไปใชล้ า้ งจานไดเ้ ลย

บทที่ 4 ผลการดาเนิ นการโครงงาน คุณสมบตั นิ ้ายาลา้ งจาน 1.ขจดั คราบมนั และความสะอาดหมดจด สามารถขจดั คราบมนั ไดด้ เี ทา่ กนั 2.กลน่ิ มกี ลน่ิ ทห่ี อมกวา่ น้ายาลา้ งจานทท่ี าเอง มกี ลนิ่ ทห่ี อมน้อยกว่าน้ายาลา้ งจานทวั่ ไป 3.ปรมิ าณในการใชน้ ้ายาลา้ งจาน มกี ารใชป้ รมิ าณในการลา้ งจาน มกี ารใชใ้ นปรมิ าณทน่ี ้อยกวา่ น้ายาลา้ งจานทวั่ ไป สรปุ ผลการทดลอง จากตารางการเปรยี บเทยี บระหวา่ งน้ายาลา้ งจานทวั่ ไปและน้ายาลา้ งจานทท่ี าเอง พบว่าทงั้ สองแบบสามารถทาความสะอาดและขจดั ความมนั ไดด้ เี ทา่ กนั แตก่ ลนิ่ ของน้ายาลา้ งจานทวั่ ไปจะมกี ลนิ่ ทห่ี อมกว่าน้ายาลา้ งจานทท่ี าเอง ในสว่ นปรมิ าณในการใชน้ ้ายาลา้ งจานทาเองจะใชป้ รมิ าณทน่ี ้อยกวา่ น้ายาลา้ งจานทวั่ ไป ดงั นนั้ น้ายาลา้ งจานทท่ี าเองมมี ปี ระสทิ ธภิ าพดกี วา่ แถมยงั ค่าใชจ้ า่ ยยงั ถูกอกี ดว้ ย การปรบั ปรุงแกไ้ ข น้ายาลา้ งจานของคณะผจู้ ดั ทาควรจะเพม่ิ กลน่ิ ทม่ี คี วามเขม้ ขน้ หรอื ปรมิ าณของกล่นื มากกวา่ น้ี

บทท5่ี สรปุ อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ อภปิ รายและสรุปผล จากการทเ่ี ราไดศ้ กึ ษาและไดท้ าการผลติ น้ายาลา้ งจานจากมะกรดู ออกมาใชน้ นั้ น้ายาลา้ งจานมปี ระสทิ ธภิ าพในการชาระสงิ่ สกปรก ซง่ึ น้ายาลา้ งจานของเรานนั้ มสี ว่ นผสมของมะกรดู ทช่ี ่วยในการชาระลา้ งสง่ิ สกปรก และชว่ ยขจดั คราบมนั และกลนิ่ คาว เกลอื ชว่ ยขจดั สงิ่ สกปรก สว่ นหวั เชอ้ื N70 และF24 ชว่ ยใหน้ ้าลา้ งจานของเรามฟี องใหด้ นู ่าใช้ อกี ทงั้ มะกรดู ยงั ชว่ ยใหน้ ้ายาลา้ งจานนนั้ มกี ลนิ่ ทห่ี อมมากขน้ึ ดงั นนั้ น้ายาลา้ งจานมะกรดู ทเ่ี ราผลติ ขน้ึ น้ีจงึ เป็นผลติ ภณั ฑท์ าความสะอาดทางเลอื กใหมท่ ด่ี อี ี กทาง หน่ึงของแมบ่ า่ นและพอ่ บา้ นซป่ึ ระหยดั ค่าใชจ้ า่ ยในครวั เรอื น ขอ้ เสนอแนะ ผทู้ ส่ี นใจจะทาน้ายาลา้ งจานสามารถนาไปต่อยอดโดยการใชส้ มนุ ไพรอ่นื ๆ นอกจากมะกรดู อาจจะเปลย่ี นเป็นผลไมห้ รอื อะไรเพม่ิ เตมิ เพอ่ื ใหม้ คี วามหลากหลายมากยง่ิ ข้นึ

เอกสารอ้างอิง https://sites.google.com/site/sukayyathanxk/home http://pornnipa110542.blogspot.com/?m=1 http://jkpraew.blogspot.com/2016/03/blog-post.html?m=1

Thank you


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook