Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore pdf เล่ม 4 แผนการจัดการศึกษา

pdf เล่ม 4 แผนการจัดการศึกษา

Published by นายบุญส่ง ขนานแข็ง, 2019-04-16 10:49:13

Description: pdf เล่ม 4 แผนการจัดการศึกษา

Search

Read the Text Version

คานา การจัดการศึกษาในศตวรรษท่ี 21 ให้ความสาคัญกับการพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะการเรียนรู้ ทักษะชวี ิต ความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ คดิ อย่างมีวิจารณญาณ และคิดสร้างสรรค์ การที่จะให้ผู้เรียน มีคุณลักษณะดังกล่าวต้องจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 มาตรา 22 ระบุว่า การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถ เรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสาคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ ซ่ึงครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นปัจจัย สาคัญประการหนึ่งในการจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ หากครูและบุคลากรทางการศึกษามีสมรรถนะ เพียงพอ มีความรู้ความเข้าใจและนาไปประยุกต์ใช้ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับวิธีการ เรียนรู้ของผู้เรียน ความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีย่อมจะทาให้การพัฒนาผู้เรียนบรรลุ เปา้ หมายและมาตรา 52 ระบุว่า ให้กระทรวงศึกษาธิการส่งเสริมให้มีระบบ กระบวนการผลิต การพัฒนา ครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาให้มคี ุณภาพและมาตรฐานที่เหมาะสมกับการเป็นวิชาชีพช้ันสูง ดังน้ันการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นแนวทางหนึ่งของการส่งเสริม สนับสนุนให้ครูและ บคุ ลากรทางการศึกษามสี มรรถนะเพยี งพอ สาหรับการสร้างโอกาสและจัดการเรียนรทู้ ี่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ พัฒนาตนเองเปน็ ผูเ้ รียนรู้ตลอดชวี ติ การพฒั นาครแู ละบุคลากรทางการศึกษาพิเศษในยุคสังคมฐานความรู้ ซ่งึ ความร้มู ปี รมิ าณมาก สามารถเรียนรแู้ ละค้นคว้าได้จากหลายแห่งโดยไม่จากัดเวลา สถานท่ีจึงต้องมีการ ปรับเปลี่ยนวิธีการให้สอดคล้องกับความก้าวหน้าทางวิทยาการ และแนวคิดการพัฒนาคนให้เป็นบุคคล แหง่ การเรยี นรู้และรว่ มสร้างสงั คมแห่งการเรยี นรู้ หลักสูตรการอบรมครูสอนการศึกษาพิเศษเดิมเน้นให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการ อบรม พัฒนาโดยต้องใช้เวลาพบกับผู้ให้ความรู้เป็นส่วนใหญ่ได้ปรับเปลี่ยนให้ผู้เข้าอบรมศึกษาเอกสาร ประกอบหลักสูตรด้วยตนเองก่อนเข้ารับการทดสอบวัดความรู้พ้ืนฐาน หากมีผลการทดสอบผ่านเกณฑ์ท่ี กาหนดในหลักสตู รจะเข้ารบั การอบรมเขม้ เพื่อแลกเปล่ียนเรียนรู้และฝึกปฏิบัติรวมท้ัง ประยุกต์ใช้ความรู้ ในการจัดการเรียนรู้สาหรับผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษในสถานศึกษาที่ตนปฏิบัติงาน ซ่ึงกาหนดเป็น ภาคปฏิบัติท่ีมีการนิเทศ ติดตามให้ครูที่ผ่านการอบรมมีเพ่ือนร่วมทางในการเป็นพี่เล้ียง ช้ีแนะจนมีความ มั่นใจว่าตนเองสามารถจัดการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนได้ เมื่อมีการปรับปรุงพัฒนาหลักสูตรอบรมครูสอน การศึกษาพิเศษ กรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ พุทธศักราช 2544 ใน ปี พ.ศ. 2551 (คร้ังท่ี 1) และ พ.ศ. 2556 (ครั้งท่ี 2) จึงได้มีการปรับสาระให้สอดคล้องกับความก้าวหน้าและการเปลี่ยนแปลงองค์ ความรู้ ในกระบวนการอบรมได้ปรับเปล่ียนให้สถาบันการศึกษาท่ีผลิตครูและบุคลากรทางการศึกษาด้าน การศกึ ษาพิเศษเปน็ หน่วยงานอบรมระยะสนั้ แบบเข้มหลังจากผู้ขอเข้ารับการอบรมผ่านเกณฑ์การทดสอบ วั ด คว า มรู้ พื้ น ฐ า น จ า กกา ร ศึกษา เ อกส า ร ป ร ะ กอบ ห ลั กสู ต ร แล ะก า ร ศึก ษา ค้น คว้ า จ า กแห ล่ งต่ า ง ๆ

เพ่ือให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานได้พัฒนาตนเองสาหรับการนาไปสู่การ ปฏิบัติในสถานศึกษาตามเงือ่ นไขท่ีกาหนดของหลักสตู ร ขอขอบคุณ ผู้ทรงคุณวุฒิ และคณะทางานทุกท่านที่ได้ร่วมกันปรับปรุง พัฒนาหลักสูตร เอกสาร ประกอบหลักสูตรให้เหมาะสมกับสภาพการเปลี่ยนแปลง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารประกอบการจัดการ อบรมตามหลักสูตรการอบรมครูสอนการศึกษาพิเศษฉบับนี้จะอานวยประโยชน์ให้การพัฒนาครูและ บุคลากรทางการศกึ ษาพิเศษมปี ระสทิ ธิภาพและเกดิ ประสิทธผิ ลตามเจตนารมณท์ กุ ประการ นายชนิ ภทั ร ภมู ริ ัตน เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน

คาชแี้ จง เอกสารชุดศึกษาด้วยตนเอง วิชาการศึกษาพิเศษ เร่ือง แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ได้รับอบรมเนื้อหาของการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล เกี่ยวกับหลักการ วัตถุประสงค์ องค์ประกอบของการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล กระบวนการจัดทาแผนการจัดการศึกษา เฉพาะบุคคลและตัวอย่างแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล เพ่ือให้ครูและผู้สนใจนาความรู้ไป ประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนให้มีประสิทธิภาพ พร้อมท้ังเป็น แนวทางความร้แู นะนาแก่ผูป้ กครองตอ่ ไป คณะทางาน

สารบญั หนา้ คานา คาชแี้ จง สารบญั แนวทางการใช้ชุดศึกษาด้วยตนเอง หน่วยท่ี 1 ประวัตคิ วามเป็นมา ความเปน็ มาของการจัดทาแผนการจดั การศึกษาเฉพาะบุคคล.................................................1 หลกั การจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล....................................................................4 วตั ถปุ ระสงค์ของการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล.................................................7 องคป์ ระกอบของแผนการจดั การศึกษาเฉพาะบุคคล................................................................8 กลุ่มเป้าหมายที่ไดร้ บั ประโยชน์จากแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล....................................9 หน่วยที่ 2 กระบวนการจดั ทาแผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบคุ คล ขน้ั เตรยี มการ.........................................................................................................................11 ข้ันจดั ทาแผนการจดั การศึกษาเฉพาะบุคคล..........................................................................11 ขน้ั การนาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลไปใช้.................................................................12 ขน้ั การประเมนิ ผลตามแผนการจดั การศึกษาเฉพาะบุคคล.....................................................12 ขนั้ การสรปุ และรายงานผล.....................................................................................................13 ข้นั การส่งตอ่ (Transfer).......................................................................................................13 หน่วยท่ี 3 วธิ กี ารจดั ทาแผนการจดั การศึกษาเฉพาะบุคคล องค์ประกอบของแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล.............................................................16 ตัวอยา่ งแผนการจดั การศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) ตามทกั ษะการเรียนรู้................................17 แผนการสอนเฉพาะบุคคล (IIP) ตามทักษะการเรียนรู้............................................................24 ตวั อย่างการวเิ คราะหง์ านเพ่ือจดั ทาแผนการสอนเฉพาะบุคคล (IIP) ตามทกั ษะ การเรียนรู้...............................................................................................................................26 ตวั อยา่ งแผนการจดั การศึกษาเฉพาะบคุ คล (IEP) ตามกลุ่มสาระการเรยี นรู้………….….……...27 ตัวอย่างแผนการสอนเฉพาะบุคคล (IIP) ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้........................................42 สรปุ สาระสาคัญ.................................................................................................................... ...................44 แหลง่ ข้อมลู เพิ่มเติมทต่ี อ้ งศึกษา บรรณานุกรม ภาคผนวก คณะทางานชุดศกึ ษาด้วยตนเอง

แนวทางการใชช้ ุดการศึกษาดว้ ยตนเอง ท่านทีศ่ ึกษาเอกสารควรปฏิบัตดิ งั ต่อไปนี้ 1. ศึกษาขอบข่ายของเน้ือหา และสาระสาคัญของเอกสาร 2. ทาความเขา้ ใจเนอื้ หาอย่างละเอยี ด 3. ศกึ ษาจากแหล่งความรูเ้ พิม่ เติม 4. โปรดระลึกไวเ้ สมอว่าการศึกษาจากเอกสารดว้ ยตนเอง เปน็ เพยี งสว่ นหนึง่ ของการพัฒนา ความรู้ด้านการศกึ ษาพเิ ศษเท่านน้ั ควรศึกษาค้นควา้ จากแหลง่ ความรู้อนื่ ๆ เพิ่มเติม

หนว่ ยท่ี 1 ประวัตคิ วามเปน็ มา ความเปน็ มาของการจัดทาแผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะบุคคล การจัดทาแผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบุคคลมีต้นกาเนดิ ท่สี หรัฐอเมรกิ าโดยมีพัฒนาการตามลาดับ ดังน้ี ในปี ค.ศ. 1975 รัฐบาลกลางได้ออกกฎหมาย Education For All Handicapped Children Act of 1975 (Public Law 94 - 142 หรือ PL 94 - 142) ซ่ึงมีผลบังคับใช้ในปี ค.ศ. 1977 สาระสาคัญของ กฎหมายฉบับนี้ กาหนดให้รัฐจัดสรรงบประมาณสนับสนุนการจัดการศึกษาแก่เด็กพิการอายุระหว่าง 3 – 21 ปเี พ่มิ มากขึ้น ต่อมาในเดอื นตุลาคมปี ค.ศ. 1990 รัฐบาลกลางได้ออกกฎหมาย Individuals with Disabilities Education Act: IDEA 1 (PL 101 - 476) ซ่ึงกฎหมายฉบับนี้ได้กาหนดให้จัดทาแผนการจัด การศึกษาเฉพาะบุคคลแก่เด็กพิการทุกคน โดยให้ความสาคัญกับผู้ปกครองเป็นอย่างย่ิงเพราะเชื่อว่า ผู้ปกครองเป็นบุคคลสาคัญในการนาเด็กพิการเข้าถึงบริการทางการศึกษาตามที่กฎหมายให้สิทธิไว้และ มสี ว่ นสาคญั ในการพฒั นาเด็กพิการร่วมกับนักการศึกษา ปัจจุบันสงั คมโลกเกิดกระแสการยอมรับความเท่าเทียมกันของทุกคนเป็นอย่างมาก ข้อบ่งชี้สาคัญ ของความเทา่ เทยี มกันคือ “สิทธิทางการศึกษา” ซ่ึงประกาศไว้ในปฏิญญาโลกว่าด้วยการศึกษาเพื่อปวงชน (World Declaration on Education for All) ระบวุ ่า ผู้ด้อยโอกาสทุกคนมีสิทธิท่ีจะได้รับการศึกษา ตามที่พวกเขาต้องการ พ่อ แม่ ผ้ปู กครองมีสิทธิโดยชอบธรรมที่จะได้รับคาปรึกษาแนะนาเกี่ยวกับรูปแบบ การศึกษาที่เหมาะสมที่สุดกับสภาพแวดล้อมและตามความต้องการพิเศษของคนพิการ (สานักงาน คณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ, 2543) รฐั ธรรมนญู แห่งราชอาญาจักรไทย พ.ศ. 2550 ได้รับรองสิทธิ เสรีภาพ และคุ้มครองสิทธิทางการ ศกึ ษาของคนพกิ ารไว้อยา่ งครอบคลมุ โดยระบใุ นมาตราตา่ งๆ ดงั นี้ มาตรา 49 บุคคลย่อมมีสิทธิเสมอกันในการรับการศึกษาไม่น้อยกว่าสิบสองปี รัฐจะต้องจัดให้ อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย (2) ผู้ยากไร้ ผู้พิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้อยู่ในสภาวะ ยากลาบากต้องได้รับสิทธิตามวรรคหนึ่งและการสนับสนุนจากรัฐเพ่ือให้ได้รับการศึกษาโดยทัดเที ยมกัน (3) บทบัญญตั ิรับรองสิทธใิ นแนวนโยบายพ้นื ฐานแหง่ รฐั มาตรา 80 รัฐต้องดาเนินการตามแนวนโยบายด้านสังคม การสาธารณสุข การศึกษาและ วัฒนธรรม (1) คุม้ ครองและพัฒนาเดก็ และเยาวชน สนบั สนนุ การอบรมเล้ียงดูและการให้การศึกษาปฐมวัย ส่งเสริมความเสมอภาคของหญงิ และชาย เสริมสรา้ งและพฒั นาความเป็นปึกแผ่นของสถาบนั ครอบครัวและ ชมุ ชน รวมทัง้ สงเคราะห์และจดั สวัสดิการให้แก่ผู้สูงอายุ ผู้ยากไร้พิการหรือทุพพลภาพ และผู้อยู่ในสภาวะ ยากลาบาก ใหม้ ีคณุ ภาพชวี ติ ท่ดี ขี ึ้นและพง่ึ พาตนเองได้ เพ่ือให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงได้มีการตรากฎหมาย ทีเ่ กย่ี วข้องกับคนพกิ ารให้ไดร้ บั สทิ ธิทางการศึกษา ซง่ึ ประกอบดว้ ยกฎหมายสาคัญดังนี้ 1. พระราชบัญญัตกิ ารศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และท่ีแกไ้ ขเพ่ิมเตมิ (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2545 มาตรา 10 ระบุว่า การจัดการศกึ ษาตอ้ งจดั ใหบ้ ุคคลมสี ิทธิและโอกาสเสมอกันในการรับการศึกษา ขัน้ พน้ื ฐานไมน่ อ้ ยกวา่ สิบสองปที ี่รฐั ต้องจดั ให้อยา่ งทั่วถึงและมคี ณุ ภาพโดยไมเ่ กบ็ ค่าใช้จ่าย

2 การจัดการศึกษาสาหรับบุคคลท่ีมีความบกพร่องทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา สังคม การสื่อสาร และการเรียนรู้ หรอื มีร่างกายพิการ หรือทพุ พลภาพ หรอื บุคคลไม่สามารถพึ่งตนเองได้ หรือไม่มีผู้ดูแลหรือ ด้อยโอกาส ต้องจดั ใหบ้ คุ คลดงั กล่าวมสี ทิ ธแิ ละโอกาสได้รบั การศกึ ษาขั้นพน้ื ฐานเปน็ พิเศษ การศึกษาสาหรับคนพิการในวรรคสอง ให้จัดการศึกษาต้ังแต่แรกเกิดหรือพบความพิการโดย ไม่เสียค่าใช้จ่ายและให้บุคคลดังกล่าวมีสิทธิได้รับส่ิงอานวยความสะดวก ส่ือ บริการ และความช่วยเหลือ อ่นื ใดทางการศกึ ษาตามหลักเกณฑ์และวธิ กี ารที่กาหนดในกฎกระทรวง มาตรา 22 การจัดการศกึ ษาต้องยดึ หลักวา่ ผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้ และพัฒนาตนเอง ได้และถือว่าผู้เรียนมีความสาคัญท่ีสุดกระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตาม ธรรมชาตแิ ละเต็มตามศักยภาพ มาตรา 24 (1) การจัดกระบวนการเรียนรู้ให้สถานศึกษาและหน่วยงานจัดเนื้อหาสาระและ กิจกรรมใหส้ อดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผูเ้ รยี น โดยคานงึ ถึงความแตกตา่ งระหว่างบคุ คล มาตรา 28 (1) หลกั สตู รการศกึ ษาระดับต่างๆ รวมทั้งหลกั สตู รการศึกษาสาหรบั บุคคลตาม มาตรา 10 วรรคสอง และวรรคสาม ต้องมีลักษณะหลากหลาย ทั้งนี้ให้จัดตามความเหมาะสมของแต่ละระดับโดย ม่งุ พัฒนาคณุ ภาพชวี ิตของบุคคลใหเ้ หมาะสมกบั วยั และศกั ยภาพ มาตรา 60 ให้รัฐจัดสรรงบประมาณแผ่นดินให้กับการศึกษาในฐานะที่มีความสาคัญสูงสุดต่อการ พัฒนาท่ีย่ังยืนของประเทศไทย โดยการจัดสรรเป็นเงินงบประมาณและทรัพยากรทางการศึกษาอื่นเป็น พเิ ศษใหเ้ หมาะสมและสอดคลอ้ งกับความจาเปน็ ในการจัดการศึกษาสาหรับผู้เรียนท่ีมีความต้องการจาเป็น พิเศษแต่ละกลุ่มตามมาตรา 10 วรรคสอง และวรรคสาม โดยคานึงถึงความเสมอภาคในโอกาส ทางการศกึ ษาและความเป็นธรรม ทงั้ นี้ให้เปน็ ไปตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการทีก่ าหนดในกฎกระทรวง 2. พระราชบญั ญัติการศึกษาภาคบงั คับ พ.ศ. 2545 มาตรา 12 ใหก้ ระทรวงศกึ ษาธิการ คณะกรรมการเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสถานศึกษา จัดการศึกษาเป็นพิเศษสาหรับเด็กท่ีมีความบกพร่องทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์ สังคม การส่ือสารและการเรียนรู้ หรือมีร่างกายพิการ หรือทุพพลภาพหรือเด็กซึ่งไม่สามารถ พึ่งตนเองได้ หรือไม่มีผู้ดูแล หรือด้อยโอกาส หรือเด็กที่มีความสามารถพิเศษให้ได้รับการศึกษาภาคบังคับ ด้วยรูปแบบและวิธีการที่เหมาะสม รวมทั้งการได้รับสิ่งอานวยความสะดวก สื่อ บริการ และความ ช่วยเหลืออ่ืนใดตามความจาเป็นพิเศษ เพ่ือประกันโอกาสและความเสมอภาคในการได้รับการศึกษาภาค บังคบั 3. พระราชบัญญตั กิ ารจัดการศกึ ษาสาหรบั คนพิการ พ.ศ. 2551 มาตรา 5 คนพิการมสี ทิ ธิทางการศึกษาดงั นี้ 1) ได้รับการศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายต้ังแต่แรกเกิดหรือพบความพิการจนตลอดชีวิต พรอ้ มทงั้ ได้รบั เทคโนโลยี สง่ิ อานวยความสะดวก สอ่ื บริการและความชว่ ยเหลอื อื่นใดทางการศกึ ษา 2) เลือกบริการทางการศึกษา สถานศึกษา ระบบและรูปแบบการศึกษา โดยคานึงถึง ความสามารถ ความสนใจ ความถนัดและความตอ้ งการจาเป็นพเิ ศษของบคุ คลนนั้ 3) ได้รับการศึกษาท่ีมีมาตรฐานและประกันคุณภาพการศึกษา รวมท้ังการจัดหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้ การทดสอบทางการศึกษา ที่เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการจาเป็นพิเศษของ คนพกิ ารแตล่ ะประเภทและบคุ คล

3 มาตรา 8 ให้สถานศึกษาในทุกสังกัดจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล วรรคสอง ให้สถานศึกษาในทุกสังกัดและศูนย์การเรียนเฉพาะความพิการจัดการศึกษาในรูปแบบที่หลากหลาย วรรคสาม ให้สถานศึกษาในทุกสังกัดจัดสภาพแวดล้อม และระบบสนับสนุนการเรียนการสอน วรรคส่ีให้ สถานศึกษาในระดบั อดุ มศกึ ษามหี น้าที่รับคนพิการในสัดส่วนหรือจานวนที่เหมาะสม วรรคห้า สถานศึกษา ใดปฏิเสธไม่รับคนพิการเข้าศึกษา ให้ถือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมตามกฎหมาย วรรคหก ใหส้ ถานศึกษาประสานความรว่ มมือจากชุมชนและนักวชิ าชีพเพ่อื ให้คนพกิ ารไดร้ ับการศึกษาทุกระดับ 4. กฎกระทรวง กาหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการให้คนพิการ มีสิทธิได้รับส่ิงอานวยความสะดวก สื่อ บริการ และความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษา พ.ศ. 2550 ออกตามความในมาตรา 10 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ซ่ึงกาหนดให้คนพิการ มีสิทธิได้รับสิ่งอานวยความ สะดวก ส่อื บรกิ าร และความชว่ ยเหลอื อ่ืนใดทางการศึกษาตามที่กาหนดไว้ในแผนการจัดการศึกษาเฉพาะ บคุ คล 5. ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะ บุคคลระดบั การศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พ.ศ. 2552 ไดก้ าหนดองคป์ ระกอบ กระบวนการจัดทา บุคคลท่ีเกี่ยวข้อง การนาแผนไปสู่การปฏิบตั ิ การทบทวน ปรับปรุงและความสาคญั ของแผนการสง่ ตอ่ ไวอ้ ยา่ งชดั เจน 6. แผนพัฒนาการจดั การศกึ ษาสาหรบั คนพกิ ารระยะ 5 ปี (พ.ศ.2555–2559) เปน็ แผนยุทธศาสตร์ ท่ีจัดทาข้ึนเพ่ือเป็นกรอบและแนวทางในการดาเนินงานพัฒนาการจัดการศึกษาสาหรับคนพิการ โดยมี เปูาหมายสูงสุด คือ คนพิการทุกประเภทมีสิทธิได้รับการศึกษาและได้รับความช่วยเหลือทางการศึกษา ตั้งแต่แรกเกิดหรือแรกพบความพิการ มีสิทธิได้รับสิ่งอานวยความสะดวก ส่ือ บริการ และความช่วยเหลือ อ่ืนใดทางการศึกษา และการจัดบริการทางการศึกษาให้กับเด็กพิการต้องจัดให้อย่างมีคุณภาพและ ประสทิ ธภิ าพ ด้วยเหตุจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาญาจักรไทย พระราชบัญญัติ กฎกระทรวง ประกาศกระทรวง แผนพัฒนาการจัดการศึกษาสาหรับคนพิการ ดังกล่าวข้างต้นหน่วยงานที่จัดการศึกษาสาหรับคนพิการ จึงต้องจัดการศึกษาให้เป็นไปตามที่กฎหมายกาหนด เพ่ือพัฒนาศักยภาพของคนพิการให้สอดคล้อง กับความต้องการจาเป็นพิเศษ โดยการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลให้กับคนพิการในวัยเรียน ทุกคน ความหมายแผนการจดั การศึกษาเฉพาะบคุ คล (Individualized Education Program: IEP) ผดุง อารยะวิญญู (2542) ได้ให้ความหมายของแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ว่าเป็น แผนการจัดการศึกษาสาหรับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษที่ทางโรงเรียนจัดทาขึ้น โดยได้ร่วมมือและ ความยินยอมจากผู้ปกครองของนักเรียนท่ีมีความต้องการพิเศษ แผนนี้บรรจุเนื้อหาสาระของแต่ละคน เป็นแผนในระยะ 1 ปี และมกี ารทบทวนแผนทกุ ภาคเรียน เบญจา ชลธาร์นนท์ (2543) ได้ให้ความหมายของแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลสาหรับ คนพิการ ดังนี้ แผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบุคคล เป็นแผนการจัดการศึกษาซ่ึงกาหนดแนวทางการศึกษา ที่สอดคล้องกับความต้องการจาเป็นพิเศษของบุคคลพิการแต่ละบุคคลตลอดจนกาหนด ส่ิงอานวยความ- สะดวก สอ่ื บรกิ าร และความช่วยเหลอื อ่นื ใดทางการศึกษาใหเ้ ป็นเฉพาะบุคคล สานักบริหารงานการศกึ ษาพเิ ศษ (2546) ได้ให้ความหมายของแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ว่าเป็นแผนซึ่งกาหนดแนวทางการจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับความต้องการ จาเป็นพิเศษของคนพิการ

4 ตลอดจนกาหนดสงิ่ อานวยความสะดวก สื่อ บรกิ าร และความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษาเฉพาะบุคคล ซงึ่ แผนดังกล่าวเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งในการจัดการศึกษาสาหรับคนพิการท่ีจะทาให้การจัดการศึกษาท่ีมี ประสทิ ธภิ าพในการจดั การเรยี นการสอนคนพกิ ารทกุ ประเภท สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน (2548) ให้ความหมายว่า แผนการจัดการศึกษา เฉพาะบุคคล หมายถึง แผนการให้บริการทางการศึกษาพิเศษรายปี ที่จัดทาข้ึนเป็นลายลักษณ์อักษรให้กับ นักเรียนพิการหรือที่มีความบกพร่องเป็นรายบุคคล โดย พ่อ แม่ หรือผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการจัดทา ซ่ึงจะต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับระดับความสามารถในปัจจุบัน ตลอดจนกาหนดสิ่งอานวยสะดวก สื่อ บริการ และความช่วยเหลืออ่ืนใดทางการศึกษาให้เป็นเฉพาะบุคคล รวมทั้งแนวทางการจัดการเรียน การสอนและการวดั ผลประเมินผล พระราชบัญญัตกิ ารจัดการศึกษาสาหรับคนพิการ พ.ศ. 2551 ใหน้ ิยามไว้ว่า แผนการจัดการศึกษา เฉพาะบคุ คล หมายถึง แผนซ่ึงกาหนดแนวทางการจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับความต้องการจาเป็นพิเศษ ของคนพิการ ตลอดจนกาหนดเทคโนโลยี สิ่งอานวยความสะดวก สื่อ บริการ และความช่วยเหลืออ่ืนใด ทางการศกึ ษาเฉพาะบคุ คล มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา (2556) กล่าวว่า แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล หมายถึง แผนซึ่งกาหนดแนวทางการจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับความต้องการจาเป็นพิเศษของคนพิการ ตลอดจน กาหนดเทคโนโลยี สิ่งอานวยความสะดวก สอื่ บริการ และความช่วยเหลอื อื่นใดทางการศกึ ษาเฉพาะบุคคล กลา่ วโดยสรปุ แผนการจดั การศึกษาเฉพาะบคุ คล หมายความวา่ แผนการจัดการศกึ ษาที่จัดทาข้ึน ให้สอดคล้องกับความต้องการพิเศษของคนพิการรายบุคคลโดยเฉพาะ โดยการมีส่วนร่วมของผู้บริหาร สถานศึกษา ผู้ปกครอง ครแู ละคณะสหวชิ าชีพทีเ่ ก่ยี วขอ้ งรว่ มกนั จัดแผนการจดั การศึกษาให้คนพิการเป็น ลายลักษณ์อักษร ซ่ึงในแผนจะต้องระบุความสามารถในปัจจุบัน เปูาหมายระยะยาว 1 ปี จุดประสงค์เชิง พฤติกรรมเกณฑ์และวิธีการวัดประเมินผล กาหนดส่ิงอานวยความสะดวก เทคโนโลยีสิ่งอานวย ความสะดวก ส่ือ บริการและความช่วยเหลืออ่ืนใดทางการศึกษา ตลอดจนมีการทบทวนปรับปรุงแผน ตามความเหมาะสม หลักการจัดทาแผนการจดั การศึกษาเฉพาะบุคคล กฎหมายการจัดการศึกษาสาหรับคนพิการ (Individual with Disabilities Education Act: IDEA) ดังกล่าวเบ้ืองต้น ระบุให้จัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลเพ่ือการพัฒนาเด็กพิการทุกคน โดยแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลจะต้องได้รับการปรับให้ตอบสนองความต้องการพิเศษของผู้เรียน เป็นรายบุคคลตามกระบวนการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ในกฎหมายฉบับดังกล่าวยังระบุ ถึงหลกั การเบอื้ งต้นตามกฎหมายในการจดั การศึกษาสาหรบั คนพกิ าร 6 ประการ (Heward, 2006) ไดแ้ ก่ 1. เด็กทุกคนต้องได้รับการศึกษา (Zero reject) เป็นการให้โอกาสทางการศึกษาแก่ทุก คน รวมถึงคนพิการ ต้องได้รับการประเมินค้นหาอย่างเป็นระบบ การคัดกรอง และประเมินต้ังแต่แรกเกิด หลักการนี้เป็นการประกันความเท่าเทียมทางการศึกษา รวมไปถึงคนพิการด้วย ผู้เรียนทุกคนจะได้รับ บรกิ ารทเี่ หมาะสม และมีประสทิ ธิภาพตามความต้องการจาเปน็ พิเศษ 2. การไม่เลือกปฏิบัติในการตรวจวัดและประเมิน (Nondiscriminatory identification and evaluation) โดยนักเรียนจะต้องได้รบั การประเมนิ ต่างๆ โดยปราศจากอคติและ นักการศึกษาจะต้อง

5 ใช้กระบวนการและเครื่องมือทีห่ ลากหลายในการประเมิน ซ่ึงจะทาให้สามารถประเมินเด็กได้สอดคล้องกับ สภาพทีแ่ ท้จริงมากทสี่ ดุ 3. การให้บริการทางการศึกษาแบบให้เปล่าที่เหมาะสม (Free Appropriate Public Education: FAPE) โดยเด็กพิการทุกคนจะต้องมีแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ที่สนองตอบต่อความ ต้องการจาเป็น โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายและมีเอกสารต่างๆ ท่ีถูกต้องตามกฎหมาย ท่ีสามารถตรวจสอบ กระบวนการจัดการศกึ ษาของครไู ด้ดว้ ย 4. การจดั การศึกษาในสภาพแวดล้อมท่ีมีขดี จากัดน้อยทส่ี ดุ (Least Restrictive Environment: LRE) ผู้เรียนพิการควรไดร้ ับการจดั การศกึ ษาในห้องเรียนรวมกับเด็กทั่วไปโดยสถานศึกษา จะต้องจดั วางและมบี ริการช่วยเหลือที่เป็นทางเลือกให้กับผู้เรียน ซ่ึงจะทาให้เด็กสามารถพัฒนาทักษะด้าน ต่างๆ รวมทั้งทักษะสังคมและเรียนรู้ในสถานการณ์จริงที่สอดคล้องกับวัยวุฒิ เป็นการให้เด็กได้เรียนรู้ถึง การใช้ชีวติ ในสถานการณ์จรงิ อีกทั้งยงั เปน็ ประโยชนก์ ับนกั เรียนท่ัวไปที่จะไดเ้ รยี นรซู้ ่งึ กนั และกันอีกดว้ ย 5. การพิทักษ์สิทธิในการรับบริการ (Procedural Due Process) เพื่อให้ผู้ปกครองได้รับทราบ กระบวนการขั้นตอน การจัดวาง และสามารถที่จะตรวจสอบ รวมถึงพิทักษ์สิทธิของคนพิการ ระบบ ดงั กล่าว เปน็ การรบั ผดิ ชอบร่วมกันระหวา่ งสถานศึกษากับผ้ปู กครอง 6. การมีส่วนร่วมของผู้ปกครองและคนพิการ (Parental and Student Participation) เป็นการ ใหผ้ ปู้ กครองและผู้เรียนมสี ่วนร่วมในการวางแผน การดาเนนิ การในการรับบริการการศึกษาพิเศษ และการ ตัดสินใจท่ีเก่ียวข้องกับพวกเขากฎหมายดังกล่าวให้ความสาคัญกับคนพิการ ตลอดจนการมีส่วนร่วมของ ผปู้ กครองและคนพกิ ารในการจัดการศึกษา และได้มีการกล่าวถงึ แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ซ่ึงเป็น เครอ่ื งมือที่จะนาไปสูก่ ารไดร้ ับสิทธติ ่างๆ โดยคานงึ ถงึ ความตอ้ งการพิเศษของคนพิการแตล่ ะคนเป็นหลัก นอกจากนีย้ งั มนี กั การศกึ ษาไดใ้ ห้หลักการของแผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบุคคลไว้ ดงั ตอ่ ไปนี้ ซีเกล กล่าวถึงหลักการในการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลว่ามีหลักการ ดังต่อไปน้ี (Siegel, 2002) 1. ผปู้ กครองจะมสี ่วนรว่ มในการจดั การเรียนการสอน 2. เม่ือเด็กไดร้ บั สิทธใิ นการจดั ทาแผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะบุคคล ผู้ปกครองจะต้องเข้า ร่วมประชุมจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล โดยเน้นที่การจัดการศึกษาพิเศษว่าเป็นอย่างไร และ จะมกี ารปรับเปล่ียนอยา่ งไร 3. ผ้ปู กครองและสถานศึกษาจะต้องลงความเห็นและลงนามร่วมกันในการจัดทาแผนการ จดั การศึกษาเฉพาะบคุ คล 4. ถา้ ผู้ปกครองตอ้ งการเปลี่ยนแปลงรายละเอยี ดในการจัดการศกึ ษาต้องมีการนัดประชุม หารอื และลงความเหน็ 5. ผ้ปู กครองสามารถร้องขอใหม้ ีการนัดประชุมได้ตลอดหากพบปัญหาที่เกีย่ วกบั พฒั นาการของเดก็ ปญั หาในหอ้ งเรียนหรือบริการตา่ งๆ 6. สถานศึกษาท่ีใหบ้ ริการตอ้ งดาเนินการจัดหาบริการหรือสือ่ เพื่อสนบั สนนุ การจัด การศกึ ษา ศรียา นิยมธรรม (2546) กล่าวถึง แนวคิดในการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล มหี ลกั การเบ้อื งต้น คอื

6 1. ทุกคนมีโอกาสเทา่ เทยี มกันในการทจี่ ะได้รับบริการทางการศึกษาไม่ว่าจะเป็นคนพิการ หรือคนทั่วไป เม่ือรัฐจัดการศึกษาให้แก่นักเรียนทั่วไปแล้ว ก็ควรจัดการศึกษาให้แก่นักเรียนที่มีความ ต้องการจาเป็นพเิ ศษดว้ ย หากนกั เรยี นทมี่ คี วามตอ้ งการจาเป็นพเิ ศษไม่สามารถเรียนในโปรแกรมการศึกษา ที่รัฐจัดให้นักเรียนท่ัวไปได้ ก็เป็นหน้าที่ของรัฐที่จะจัดการศึกษาให้สนองต่อความต้องการของนักเรียน ดังกลา่ ว 2. นักเรียนที่มีความต้องการจาเป็นพิเศษควรได้รับการศึกษาควบคู่ไปกับการบาบัด การฟ้นื ฟูสมรรถภาพทกุ ด้านโดยเร็วท่สี ดุ ในทนั ทที ที่ ราบว่านกั เรียนมีความต้องการพิเศษ ทั้งน้ีเพื่อเป็นการ เตรยี มนกั เรยี นใหพ้ รอ้ มที่จะเรยี นต่อไป และมีพฒั นาการทกุ ดา้ นถงึ ขดี สูงสดุ 3. การจัดการศึกษาพิเศษควรคานึงถึงการอยู่ร่วมกันกับสังคมท่ัวไปอย่างมีประสิทธิภาพ การเรยี นการสอนนกั เรยี นที่มีความต้องการจาเปน็ พิเศษจึงควรให้เรียนร่วมกับนกั เรียนทัว่ ไปให้มากที่สุด 4. การจัดการศึกษาพิเศษ ต้องปรับให้เหมาะกับสภาพความเสียเปรียบของนักเรียนที่มี ความต้องการจาเป็นพิเศษแต่ละประเภท 5. การศึกษาพิเศษและฟ้ืนฟูบาบัดทุกด้าน ควรจัดเป็นโปรแกรมให้เป็นรายบุคคลในการ จัดกิจกรรมการเรียนการสอนบางอย่างอาจจัดเป็นกลุ่มเล็กสาหรับนักเรียนที่มีความบกพร่อง หรือมีความ ต้องการคล้ายคลงึ กนั และอย่ใู นระดับความสามารถใกลเ้ คียงกัน 6. การจดั โปรแกรมการสอนนักเรียนท่ีมีความตอ้ งการจาเป็นพิเศษควรเน้นท่ี ความสามารถของนกั เรียน และใหน้ ักเรียนได้มีโอกาสประสบความสาเรจ็ มากกวา่ ทจี่ ะคานงึ ถงึ ความพิการ หรือความบกพร่อง เพ่ือให้นักเรยี นมีความม่ันใจวา่ แมต้ นจะมีความบกพรอ่ ง แตก่ ย็ ังมีความสามารถ ซ่งึ จะ ช่วยให้นักเรยี นสามารถปรบั ตัวไดด้ ขี น้ึ 7. การศึกษาพิเศษควรมงุ่ ใหน้ ักเรียนมคี วามเขา้ ใจยอมรบั ตนเอง มีความเช่อื มน่ั ช่วย ตนเองได้ ตลอดจนมีความรับผดิ ชอบตอ่ ตนเองและสังคม สุทธิพร วิจิตรพันธุ์ (2549) กล่าวว่า ลักษณะสาคัญของแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ทีจ่ ดั ทาใหก้ บั เด็กพิการน้ัน มลี กั ษณะดังตอ่ ไปนี้ 1. เด็กพกิ ารแตล่ ะคนมแี ผนการจัดการศึกษาทไ่ี มเ่ หมอื นกนั และอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ 2. การจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลนั้นจะมีเปูาหมายรายปี โดยกาหนด จุดประสงค์ระยะยาวและจุดประสงคร์ ะยะสั้น 3. ในแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลจะเชื่อมโยงการบริการที่เกี่ยวข้องกับความ ต้องการจาเป็นพิเศษของเด็กพิการแต่ละคน เช่น การบริการทางด้านการฟ้ืนฟูสมรรถภาพ การบริการ ทางการศกึ ษา 4. ในแผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะบุคคลจะต้องมีวิธีการประเมินผลประจาปีเพื่อพิจารณา ความกา้ วหนา้ 5. ในแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลจะต้องระบุระดับความสามารถทางการศึกษา และพฤติกรรมของเด็ก โดยการประเมนิ ผลทุกๆ ดา้ น 6. มีการแสดงกาหนดเวลาท่ีเรมิ่ ต้นและส้ินสดุ การให้บริการ 7. แสดงเกณฑ์ วัตถุประสงค์ ขน้ั ตอนการประเมินผลอยา่ งเหมาะสมตามแผน 8. แผนการศึกษาเฉพาะบุคคลเป็นเอกสารที่พิสูจน์การยินยอมของโรงเรียนในการจัด การศึกษาให้กับเดก็ พกิ าร

7 9. เปน็ เคร่ืองมอื ส่ือสารในการกาหนดการจัดการศึกษาพิเศษให้กับเด็ก โดยเป็นที่ยอมรับ ของผปู้ กครองและผทู้ ่เี ก่ยี วขอ้ ง ประคอง ผลพิชญานันท์ (2552) กล่าวว่า แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล คือ การจัดการ ศึกษาให้กับนักเรียนที่มีความต้องการจาเป็นพิเศษ โดยยึดหลักท่ีว่านักเรียนทุกคนมีความสามารถในการ เรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสาคัญที่สุด การจัดการศึกษาต้องมุ่งเน้นส่งเสริมให้ ผู้เรียนสามารถพัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ การจัดการเรียนรู้จะต้องจัดเน้ือหา สาระ และกิจกรรม ให้สอดคล้องกับความถนัด ความสนใจของผู้เรียน โดยคานึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลเป็นสาคัญ มหี ลักการในการจัดทา ดังตอ่ ไปน้ี 1. ต้องยดึ ผู้เรยี นเป็นสาคัญ 2. ต้องกาหนดกระบวนการพัฒนาความสามารถของนักเรียนท่ีมีความต้องการจาเป็น พเิ ศษใหส้ อดคลอ้ งกบั ความต้องการจาเป็นแต่ละคน 3. มุ่งพฒั นานักเรยี นทมี่ คี วามต้องการจาเปน็ พิเศษอยา่ งเต็มศกั ยภาพทกุ ดา้ น 4. บคุ คลทุกฝาุ ยทีเ่ ก่ียวข้องตอ้ งมีสว่ นรว่ มในการจัดทาแผน 5. ต้องดาเนินการจัดทาตามกระบวนการอย่างครบถ้วนตามลาดับ ต้ังแต่การสารวจ ศึกษาข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล ประเมินและคัดแยก ประสานหน่วยงานที่เก่ียวข้อง การวางแผนและจัดทา แผนการเตรียมความพร้อม และการประเมนิ ผล 6. ดาเนินการด้านการจัดกระบวนการเรียนการสอน การจัดประสบการณ์เรียนรู้ การจัด กิจกรรมและการประเมินผลให้เป็นไปอย่างมรี ะเบยี บแบบแผน ตลอดจนมกี ารตรวจสอบได้ ดงั นน้ั หลักการของการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลน้ัน จะต้องเป็นไปตามเจตนารมณ์ ของกฎหมายต่างๆ ท่ีคานึงถึงสิทธิของคนพิการ ต้องมีการประเมิน และวางแผนการจัดการศึกษา ที่เหมาะสมกับความต้องการพิเศษของคนพิการแต่ละคน ภายใต้ความร่วมมือของครู นักการศึกษา คณะสหวิชาชีพ ผู้ปกครองและคนพิการเอง เพ่ือให้คนพิการได้รับการพัฒนาอย่างเป็นกระบวนการ สามารถตรวจสอบ ปรับเปลยี่ น และประเมนิ ผลโดยคานงึ ถงึ ศักยภาพทแี่ ทจ้ รงิ ของคนพิการเปน็ หลัก วัตถุประสงค์ของการจัดทาแผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะบุคคล 1. เพ่ือให้คนพิการได้รับการจัดการศึกษาให้สอดคล้องความต้องการพิเศษเป็นรายบุคคล โดยเฉพาะ 2. เพือ่ ใช้เปน็ กระบวนการจัดการเรียนรู้การตรวจสอบความก้าวหน้าทางการเรียนและพัฒนาการ ของผู้เรยี น 3. เพ่อื ให้ผู้บรหิ ารสถานศึกษา ผู้ปกครอง ครู และคณะสหวิชาชพี มีส่วนรว่ มในการวางแผนการ จัดการศึกษาให้ผู้เรยี นแต่ละคนไดร้ ับพัฒนาเตม็ ศักยภาพ 4. เพ่ือให้สถานศึกษาสามารถวางแผนจัดบริการทางการศึกษา ตลอดจนจัดหา สิ่งอานวยความ สะดวก เทคโนโลยีสงิ่ อานวยความสะดวก สื่อ บริการและความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษา ท่ีสอดคล้อง กับความตอ้ งการพิเศษของผเู้ รียน

8 องคป์ ระกอบของแผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะบคุ คล แผนการจดั การศึกษาเฉพาะบุคคล เป็นแผนให้บริการทางการศึกษาพิเศษ ที่จัดทาเป็นลายลักษณ์ อักษรให้กับผู้เรียนท่ีมีความบกพร่องเป็นรายบุคคล โดยความร่วมมือของบุคลากรท่ีเกี่ยวข้องและได้รับ ความเห็นชอบจาก บดิ า มารดา ผ้ปู กครอง หรือผู้เรยี น และมีการทบทวนแผนทุกภาคเรียน กระทรวงศึกษาธิการได้ออกประกาศกระทรวงเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการจัดทาแผนการจัด การศึกษาเฉพาะบคุ คลระดับการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พ.ศ. 2552 โดยมีองค์ประกอบดงั ตอ่ ไปน้ี 1. ข้อมลู ทัว่ ไปเปน็ ข้อมลู พื้นฐานของผเู้ รยี นและผู้เกย่ี วข้อง ประกอบดว้ ย ช่ือ-สกลุ เลขประจาตัว ประชาชน การจดทะเบียนคนพิการ วันเดือนปีเกิด ประเภทความพิการ ช่ือ-สกุลบิดา-มารดา ชื่อ-สกุล ผ้ปู กครองและทอ่ี ยขู่ องผ้เู รยี นหรอื ผ้ปู กครองทตี่ ิดตอ่ ได้ 2. ขอ้ มลู ดา้ นการแพทย์หรือด้านสขุ ภาพเปน็ ข้อมูลของผู้เรียนซึ่งเก่ียวข้องกับการเจ็บปุวยและการ รักษา ประกอบด้วย โรคประจาตัว ประวัติการแพ้ยา โรคภูมิแพ้ ข้อจากัดอื่นๆ และผลการตรวจทาง การแพทยต์ ่าง ๆ 3. ขอ้ มูลด้านการศึกษาเป็นข้อมูลทผ่ี ู้เรียนได้รับหรอื ไม่ได้รบั การศึกษา บริการทางการศกึ ษา ประกอบด้วย การไดร้ บั การศึกษาหรอื บรกิ ารทางการศึกษาจาก ศูนย์การศึกษาพิเศษ โรงเรียนเฉพาะความ พิการ โรงเรยี นเรยี นร่วม การศกึ ษาด้านอาชพี การศกึ ษานอกระบบ การศึกษาตามอัธยาศยั และอืน่ ๆ 4. ข้อมูลอ่ืนๆ ที่จาเป็น เป็นข้อมูลความสามารถพิเศษ บุคลิกภาพเฉพาะบุคคลหรือข้อมูลบุคคล ทม่ี สี ่วนเกีย่ วขอ้ ง ตลอดจนพื้นฐานสถานภาพครอบครวั 5. กาหนดแนวทางการศึกษาและการวางแผนการจัดการศึกษาพิเศษเป็นข้อมูลของผู้เรียนในการ วางแผนการจัดการศึกษา ประกอบด้วย ระดับความสามารถในปัจจุบัน เปูาหมายระยะเวลา 1 ปี จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (เปาู หมายระยะส้นั ) เกณฑ์และวธิ ปี ระเมนิ ผลและผ้รู ับผดิ ชอบ 6. ความตอ้ งการด้านสง่ิ อานวยความสะดวก เทคโนโลยีสิ่งอานวยความสะดวก ส่ือ บริการ และ ความช่วยเหลืออ่ืนใดทางการศึกษา เป็นการระบุรายการ รหัส สิ่งท่ีมีอยู่แล้ว ส่ิงท่ีต้องการ จานวนเงิน ท่ขี ออดุ หนนุ เหตผุ ลและความจาเป็น และผปู้ ระเมิน 7. คณะกรรมการจดั ทาแผนเป็นการระบุองค์คณะบุคคลในการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะ บคุ คล ประกอบด้วย ผบู้ ริหาร บิดา/มารดา/ผู้ปกครอง ครูประจาช้ัน หวั หน้างานวิชาการ สหวิทยาการ 8. ความเห็นของบิดา มารดา ผู้ปกครองหรือผู้เรียนการลงความเห็นชอบในการจัดทาแผนการจัด การศกึ ษาเฉพาะบุคคล องคป์ ระกอบของแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลท้ัง 8 ข้อ เป็นข้อมูลสาคัญพื้นฐานเพื่อนาไปสู่ การวเิ คราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล อนั จะนาไปสู่กระบวนการวางแผนอย่างมีส่วนร่วม ในการจัดการศึกษา ให้สอดคล้องและเหมาะสมตามความต้องการพเิ ศษของผ้เู รยี น

9 กลมุ่ เป้าหมายท่ีได้รบั ประโยชนจ์ ากแผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะบุคคล แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล จัดทาขึ้นเพื่อให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาทางด้านการศึกษา เต็มศกั ยภาพและสอดคลอ้ งกบั ความต้องการพิเศษของแต่ละบุคคล โดยเกดิ ประโยชน์ตอ่ ผู้ทเ่ี ก่ียวข้องดังน้ี ประโยชนต์ ่อผู้เรยี น 1. ผู้เรยี นไดร้ ับการช่วยเหลอื บาบัด ฟนื้ ฟสู มรรถภาพ บริการทางการศึกษาเต็มศักยภาพอย่างเป็น ระบบและเหมาะสมกบั ความตอ้ งการพิเศษของแต่ละบุคคล 2. ผเู้ รยี นไดร้ ับสิ่งอานวยความสะดวก เทคโนโลยีส่ิงอานวยความสะดวก สอ่ื บรกิ ารและความ ช่วยเหลอื อนื่ ใดทางการศึกษาตามกฎกระทรวง 3. ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการวางแผนการจัดการศึกษา การพัฒนาศักยภาพ การวัดและประเมินผล ตลอดจนการปรบั ปรงุ เปาู หมายในการจัดการศึกษาของตน 4. ผเู้ รยี นได้รับบริการชว่ งเช่ือมต่อ (Transition) ทางการศึกษา และดา้ นอื่นๆ อย่างเหมาะสม ประโยชน์ตอ่ ครูผู้สอน 1. ครผู ู้สอนมขี ้อมูลในการวางแผนการจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการพเิ ศษของผเู้ รียน 2. ครูผสู้ อนรูข้ อบเขตความรับผิดชอบการจัดการเรยี นการสอนของตนเอง 3. ครูผสู้ อนมีขอ้ มูลในการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนให้สอดคลอ้ งกบั ศักยภาพของผเู้ รียน 4. ครผู สู้ อนวัดและประเมินผลการพฒั นาไดส้ อดคลอ้ งกับเปาู หมายที่กาหนดไว้ 5. ครผู สู้ อนสามารถปรบั ปรุงแผนการจดั การศกึ ษาให้เหมาะสมสอดคลอ้ งกบั ศักยภาพของผูเ้ รยี น 6. ครูผู้สอนสามารถจัดสิ่งอานวยความสะดวก เทคโนโลยีส่ิงอานวยความสะดวก ส่ือ บริการและ ความชว่ ยเหลอื อื่นใดทางการศกึ ษาทเี่ หมาะสมกบั ผเู้ รยี น ประโยชน์ตอ่ ผปู้ กครอง 1. ผูป้ กครองมสี ว่ นร่วมในการวางแผนการจดั การศึกษาและรับรู้เปูาหมายในการพฒั นาบตุ รหลาน 2. ผู้ปกครองสามารถขอรับส่ิงอานวยความสะดวก เทคโนโลยีสิ่งอานวยความสะดวก ส่ือ บริการ และความช่วยเหลืออ่นื ใดทางการศึกษา เพอ่ื นาไปใช้ในการพฒั นาบตุ รหลานท่ีบา้ นได้อยา่ งตอ่ เน่ือง 3. ผู้ปกครองมีความรู้ ความเข้าใจและมีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษาของบุตรหลานได้อย่าง ถกู ต้อง 4. ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการวัดและประเมินผล การปรับปรุงแผนการจัดการศึกษาให้สอดคล้อง เหมาะสมกบั ศกั ยภาพของบุตรหลาน 5. ผปู้ กครองรับทราบความก้าวหนา้ และพัฒนาการของบุตรหลานซึ่งสามารถนามาวางแผนพัฒนา คุณภาพชีวิตบตุ รหลานได้อยา่ งมเี ปูาหมาย ประโยชนต์ อ่ สถานศกึ ษา 1. สถานศึกษามีขอ้ มูลในการจดั ผูเ้ รยี นเข้าศึกษาในรปู แบบ ระบบ และระดบั ท่เี หมาะสม 2. สถานศึกษามีขอ้ มลู ในการวางแผนบริหาร จัดงบประมาณ การพัฒนาหลักสูตร และแนวทางใน การจดั การเรียนการสอนแกผ่ ูเ้ รยี น 3. สถานศึกษาสามารถวางแผนจัดบรกิ ารทางการศึกษา ตลอดจนจัดหาส่งิ อานวยความสะดวก เทคโนโลยีส่งิ อานวยความสะดวก ส่ือ บริการและความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษาที่เก่ียวข้องสอดคล้อง กับความตอ้ งการพิเศษของผเู้ รียน

10 4. สถานศึกษามีข้อมูลในการกาหนดทิศทางการจัดการ การประสานความร่วมมือ และการส่งต่อ ผูเ้ รยี นให้กบั หนว่ ยงานท่ีเก่ยี วข้อง 5. สถานศึกษามขี อ้ มูลเพ่ือใช้ในการปรับปรุง พัฒนา ส่งเสรมิ การจดั การศึกษาของผ้เู รียน ประโยชนต์ ่อผูบ้ ริหาร 1. ผู้บรหิ ารมสี ว่ นร่วมในการวางแผนการจัดการศึกษา การวดั ผล ประเมินผลและการปรับปรุงการ จัดการศึกษาใหก้ ับผเู้ รียนอย่างเหมาะสม 2. ผู้บริหารมีข้อมูลในการวางแผนบริหารจัดการสถานศึกษาด้านบริหารงานท่ัวไป แผนงานและ งบประมาณ วิชาการ และบุคลากร ทเี่ ออื้ ต่อการจดั การเรยี นรู้ และพัฒนาศกั ยภาพของผ้เู รียน ประโยชนต์ ่อคณะสหวิชาชพี คณะสหวิชาชีพแต่ละด้านสามารถวิเคราะห์ วางแผน และประเมินผู้เรียนได้อย่างเหมาะสมและ สอดคล้องเพอื่ ร่วมพัฒนาผู้เรยี นให้เตม็ ศักยภาพ

หน่วยท่ี 2 กระบวนการจัดทาแผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบุคคล แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (Individualized Education Program : IEP) เป็นแผนการ จัดการศึกษาที่จัดทาขึ้นให้สอดคล้องกับความต้องการพิเศษของผู้เรียนแต่ละคนโดยเฉพาะความร่วมมือ ของผู้ปกครอง ผู้สอน และคณะสหวิชาชีพท่ีเกี่ยวข้องร่วมกันจัดแผนการศึกษา ให้ผู้เรียนเป็นลายลักษณ์ อกั ษรตลอดจนกาหนดสง่ิ อานวยความสะดวก ส่อื บริการ และความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษา ให้เป็น เฉพาะบุคคล ซ่ึงมขี น้ั ตอนการดาเนินการ ดงั นี้ ขั้นเตรียมการ เม่อื พบวา่ ผู้เรียนมปี ัญหาทางด้านการศึกษา สถานศกึ ษาควรดาเนนิ การดงั นี้ 1. การรวบรวมข้อมลู รวบรวมขอ้ มลู ของผู้เรยี นจากบคุ คลทเี่ กย่ี วข้องกบั ผ้เู รยี นไม่ว่าจะเป็น ผู้ปกครอง แพทย์ ครู หรือบคุ คลอื่นๆที่พอจะสอบถามข้อมูลได้ การรวบรวมขอ้ มลู อาจใชว้ ธิ กี ารต่างๆ เชน่ การสมั ภาษณ์ การสอบถาม การสังเกต และเอกสารหลักฐานทีเ่ กย่ี วข้อง ตลอดจนทาความเขา้ ใจกับ ผู้ปกครอง และผทู้ เี่ ก่ยี วขอ้ งเก่ียวกับสภาพปญั หาและร่วมกนั หาแนวทางช่วยเหลือผ้เู รยี น 2. การคดั กรองประเภทความพิการทางการศกึ ษา ขออนุญาตผู้ปกครองคัดกรองผู้เรียน โดยใช้แบบคัดกรองคนพิการทางการศึกษาของ กระทรวงศึกษาธิการ และอาจใช้แบบคัดกรองของหน่วยงานอ่ืนๆ เพ่ิมเติมตามความเหมาะสมเพ่ือให้ได้ ขอ้ มลู ของผูเ้ รียนท่ลี ะเอียดมากยง่ิ ข้ึน กรณีพบว่าผู้เรียนมีแนวโน้มว่ามีความบกพร่องต้องแจ้งให้ผู้ปกครองทราบว่า โรงเรียน คน้ พบอะไรเก่ียวกับผู้เรยี นและแนะนาให้ผู้ปกครองนาส่งแพทย์ หรือนกั วิชาชพี วนิ จิ ฉยั เพ่มิ เตมิ ขน้ั การจดั ทาแผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบุคคล 1. แตง่ ตั้งคณะกรรมการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบคุ คล แต่งต้ังคณะกรรมการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เร่อื ง หลักเกณฑ์และวิธีการจดั ทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2552 ประกอบด้วย ผูบ้ รหิ าร บดิ า มารดา ผู้ปกครอง ครูประจาชัน้ หรือหัวหน้างานวิชาการ หรือคณะสหวิชาชีพ ตามความตอ้ งการจาเป็นพิเศษของผู้เรยี น 2. การตรวจสอบความสามารถพนื้ ฐาน (Assessment of Basic skill) ตรวจสอบเพื่อประเมินความสามารถพื้นฐานของผู้เรียน (Students) ตามหลักสูตรสถานศึกษาใน แต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้/ทักษะการเรียนรู้ เพื่อให้ทราบจุดเด่นและจุดด้อย (ระดับความสามารถใน ปจั จบุ นั ) - จดุ เด่น คอื ความสามารถหรอื ศักยภาพปัจจุบนั ท่ผี ู้เรียนสามารถทาไดใ้ นสาระการ เรียนรู้/ทักษะการเรยี นรู้ - จุดดอ้ ย คอื สง่ิ ทีผ่ ู้เรยี นไม่สามารถทาได้ในสาระการเรยี นรู้/ทกั ษะการเรียนรู้ ท้ังน้ีควรตรวจสอบจากสภาพจริงในหลายสถานการณ์ ให้ครอบคลุมถึงบริบทด้าน ส่ิงแวดล้อม (Environment) ซ่ึงประกอบด้วยส่ิงแวดล้อมด้านบุคคลและสิ่งแวดล้อมด้านกายภาพที่เอื้อ หรอื เปน็ อปุ สรรคในการพัฒนาศักยภาพผ้เู รยี น ดา้ นกจิ กรรม (Tasks) ท่ีผู้เรียนปฏิบัติได้หรือไม่ได้ หรือยัง

12 ไม่ได้รับการส่งเสริมในการทากิจกรรม กิจกรรมนั้นเหมาะสมกับผู้เรียนหรือไม่ และด้านเทคโนโลยี ส่ิงอานวยความสะดวก ส่ือ บริการ และความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษา (Tools) ท่ีผู้เรียนได้รับหรือ ยังไม่ได้รับก่อนการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล เพ่ือให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง และนาข้อมูลมา วิเคราะหจ์ ัดทาแผนการจดั การศึกษาเฉพาะบุคคลตามความตอ้ งการพเิ ศษของแต่ละบคุ คล กรณสี ถานศกึ ษาตรวจสอบความสามารถพืน้ ฐานแล้ว พบว่าผู้เรียนมีความพร้อมตามกลุ่ม สาระการเรียนรู้/ทักษะการเรียนรู้ หรือผ่านเกณฑ์ตามที่กาหนดไว้ในแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล หรือผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล เห็นว่าผู้เรียนมีความ พร้อมที่จะเรียนในช้ันระดับท่ีสูงขึ้นหรือสมควรจะฝึกทักษะด้านๆ อื่น ให้ดาเนินการเข้าสู่กระบวนการ ช่วงเชอื่ มต่อ (Transition) 3. การจดั ทาแผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะบคุ คล (Individualized Education Program) คณะกรรมการนาขอ้ มูลทไ่ี ด้จากการรวบรวมและขอ้ มลู จากผลการตรวจสอบความสามารถพื้นฐาน มาจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ตามองค์ประกอบที่กาหนดไว้ในประกาศกระทรวงเรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบคุ คล ระดับการศึกษา ข้ันพื้นฐาน พ.ศ. 2552 เพ่อื กาหนดแนวทางการจัดการศกึ ษาและการวางแผนการจัดการศึกษาพิเศษ ตลอดจนกาหนดส่ิงอานวย ความสะดวก ส่ือ บริการ และความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษา ตามความต้องการจาเป็นพิเศษของ ผู้เรียน โดยให้คานึงถึงบริบทด้านผู้เรียน (Students) ด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) ด้านกิจกรรม (Tasks) และด้านเทคโนโลยีสิ่งอานวยความสะดวก สื่อ บริการ และความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษา (Tools) ดว้ ย ขัน้ การนาแผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบุคคลไปใช้ 1. การจดั ทาแผนการสอนเฉพาะบุคคล (Individual Implementation Plan) ครูผู้สอนวิเคราะห์จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม (เปูาหมายระยะส้ัน) ที่กาหนดในแผนการจัด การศึกษาเฉพาะบุคคล มาดาเนินการออกแบบแผนการสอนเฉพาะบุคคลตามองค์ประกอบของแผนการ สอนเฉพาะบุคคลให้เหมาะสมกับความตอ้ งการจาเป็นพิเศษของผู้เรียนแต่ละคน โดยการวิเคราะห์งานหรือ กิจกรรม จากกิจกรรมท่ีง่ายไปสู่กิจกรรมที่ยากขึ้น หรือจากกิจกรรมที่เป็นรูปธรรมไปสู่กิจกรรมท่ีเป็น นามธรรมตามลาดบั เปน็ ต้น 2. การนาแผนการสอนเฉพาะบคุ คลไปใช้ ครูผู้สอนนาแผนการสอนเฉพาะบุคคลไปจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ตามท่ีกาหนดไว้ในแต่ละ ข้ันตอน/วิธีสอน พร้อมทั้งบันทึกหลังการสอนและประเมินผลการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในแต่ละ ครง้ั ขน้ั การประเมินผลการเรียนรู้ตามแผนการจดั การศึกษาเฉพาะบคุ คล คณะกรรมการจดั ทาแผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบุคคลประชุมเพ่ือประเมิน ทบทวนและปรับแผน พร้อมจัดทารายงานผลการเรยี นรอู้ ย่างนอ้ ยปกี ารศึกษาละ 2 คร้งั โดยประเมนิ ตามขัน้ ตอนดงั น้ี 1. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ตามแผนการสอนเฉพาะบคุ คล การประเมินผลการเรียนรู้ตามแผนการสอนเฉพาะบุคคล เป็นการประเมินผลการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้ ให้ทราบว่าผู้เรียนมีพัฒนาการตามที่ระบุไว้ในแผนการสอนเฉพาะบุคคลฉบับนั้นหรือไม่ โดยประเมินตามวธิ ีการ เครื่องมือ และเกณฑ์ระดับคุณภาพทร่ี ะบไุ ว้ในแผนการสอนเฉพาะบคุ คล

13 2. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ตามจุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม (เปา้ หมายระยะสน้ั ) การประเมินผลการเรยี นรูต้ ามจุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ทาได้โดยประมวลผลการผ่านของจานวน แผนการสอนเฉพาะบคุ คล และนามาเทียบกับเกณฑแ์ ละวิธปี ระเมนิ ผลการผา่ นจุดประสงค์ เชิงพฤติกรรม (เปาู หมายระยะสัน้ )ที่กาหนดไว้ในแผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบคุ คล 3. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ตามเปา้ หมายระยะยาว 1 ปี การประเมินผลการเรียนรู้ตามเปูาหมายระยะยาว 1 ปี โดยประมวลผลการผ่าน/ไม่ผ่าน(จานวน) จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม (เปูาหมายระยะสนั้ ) ของผูเ้ รยี น และนามาเทยี บเกณฑ์การผ่านตามท่ีสถานศึกษา กาหนด 4. การประเมนิ ผลการเรียนรู้และระดับคุณภาพตามแผนการจดั การศึกษาเฉพาะบคุ คล การประเมินผลการเรียนรู้ตามแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ทาได้โดยประมวลผลการผ่าน/ ไม่ผ่านจดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม (เปาู หมายระยะส้นั ) ของทุกเปูาหมายระยะยาว 1 ปี มาคานวณหาค่าร้อย ละ และนามาเทียบเกณฑ์การผ่านตามเกณฑ์ระดับคุณภาพของหลักสูตรการให้บริการช่วยเหลือระยะ แรกเริ่มสาหรับเดก็ พกิ าร ศูนย์การศึกษาพิเศษ พทุ ธศักราช 2556/หลักสตู รสถานศกึ ษา ในกรณีท่ีผู้เรียนมีพัฒนาการ หรือผลการเรียนรู้ต่ากว่าหรือสูงกว่าเปูาหมายที่กาหนดไว้ คณะ กรรมการฯสามารถทบทวน ปรับแผนการสอนเฉพาะบุคคล จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม เปูาหมายระยะยาว 1 ปี เพื่อใหผ้ ู้เรยี นได้รับการพัฒนาเตม็ ศักยภาพ ขน้ั การสรปุ และรายงานผล การสรุปและรายงานผลการจัดการเรียนการสอนตามแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลนั้น สถานศึกษาต้องรายงานผลความก้าวหน้าของผู้เรียนตามแบบรายงานผลการพัฒนาผู้เรียน เพ่ือให้ ผปู้ กครอง ผูท้ ่เี กีย่ วขอ้ งรบั ทราบอยา่ งน้อยปีการศึกษาละ 2 ครง้ั ข้นั การสง่ ต่อ (Transfer) การส่งต่อผู้เรียนทจ่ี บการศึกษาแตล่ ะระดบั ชัน้ หรือย้ายสถานศกึ ษา ให้สถานศึกษานาส่งแผนการ จัดการศึกษาเฉพาะบคุ คล รายงานผลการพฒั นาผู้เรียน เพือ่ เป็นขอ้ มลู ในการจดั การศกึ ษาตอ่ ไป หากผู้เรียนต้องการรับบริการด้านอ่ืน เช่น ด้านอาชีพ ด้านการแพทย์ ด้านสังคม เป็นต้น ให้สถานศึกษานาส่งแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล รายงานผลการพัฒนาผู้เรียน เพื่อเป็นข้อมูล พื้นฐานให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และให้สถานศึกษาพิจารณาดาเนินการจัดทาแผนการให้บริการ ช่วงเชอ่ื มตอ่ (Individual Transition Plan) ตามความต้องการพเิ ศษของผู้เรียนเป็นรายบุคคล จากข้ันตอนในการดาเนินการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลดังกล่าวข้างต้น สามารถ สรปุ เป็นแผนภาพการดาเนินการได้ดังน้ี

14 แผนภาพแสดงกระบวนการจดั ทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล กระบวนการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบคุ คล ข้ันเตรยี มการ การรวบรวมข้อมูล การคดั กรอง ประเภทความพกิ ารทางการศึกษา ขน้ั การจดั ทาแผน แต่งต้ังคณะกรรมการจดั ทาแผน T : ส่อื การจดั การศกึ ษา การจดั การศึกษาเฉพาะบคุ คล(IEP) E : สิง่ แวดลอ้ ม เฉพาะบคุ คล การประเมินความสามารถพ้ืนฐาน S : ผูเ้ รยี น T : กิจกรรม การจดั ทาแผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบคุ คล(IEP) ทบทวน/ ปรับปรุงแผน ขน้ั การนาแผนการจัด การจดั ทาแผนการสอนเฉพาะบคุ คล(IIP) การศึกษาเฉพาะบคุ คล การนาแผนการสอนเฉพาะบุคคลไปใช้ ไปใช้ ข้นั การประเมนิ ผล ประเมินแผนการสอนเฉพาะบคุ คล ตามแผนการจัด ประเมินจุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม การศกึ ษาเฉพาะ ประเมินเปา้ หมายระยะยาว 1 ปี ประเมนิ แผนการจดั การศึกษาเฉพาะบุคคล บุคคล การตัดสนิ ระดบั ผลการเรียนรู้ ขัน้ การสรุปและ รายงานผล ขั้นการสง่ ตอ่ (Transfer)

15 แนวทางการประเมินผลตามแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบคุ คล เปา้ หมายระยะยาว 1 ปี จานวนจุดประสงค์เชิง สรปุ ผลการเรยี นรแู้ ละ (Target) พฤติกรรมตาม ระดับคุณภาพของผเู้ รียน เปูาหมายที่ 1 ตามแผนการจัด จานวนจุดประสงค์เชิง การศึกษาเฉพาะบุคคล พฤติกรรมตาม เปาู หมายท่ี ๒ จานวนจุดประสงค์เชิง พฤติกรรมตาม เปูาหมายท่ี .... ผลการประเมนิ จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม (ร้อยละของจดุ ประสงคท์ ่ผี ่าน) ทบทวน / ปรับป ุรง ประเมนิ ไม่ผา่ นจดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม จุดประสงค์ท่ี 1 จดุ ประสงค์ที่ 2 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม จดุ ประสงค์ท่ี... (Behavior Objective) ผลการประเมิน IIP ประเมินผลการเรยี นรู้ แผน (IIP) ท่ี 1 ตามแผนการสอนเฉพาะบคุ คล แผน (IIP) ที่ 2 แผน (IIP) ท.่ี ... ทบทวน / ปรับปรุง ประเมินไมผ่ ่านแผนการสอน

หน่วยท่ี 3 วธิ ีการจดั ทาแผนการจดั การศึกษาเฉพาะบุคคล องคป์ ระกอบของแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล การจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ให้ศูนย์การศึกษาพิเศษ สถานศึกษาเฉพาะความ พิการ สถานศึกษาที่จัดการเรียนร่วม ดาเนินการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ตามประกาศ กระทรวงเร่ือง หลักเกณฑ์และวิธีการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พ.ศ. 2552 โดยมีองค์ประกอบดงั ตอ่ ไปน้ี 1. ข้อมลู ทว่ั ไปเปน็ ขอ้ มูลพ้ืนฐานของผ้เู รยี นและผเู้ กย่ี วข้อง ประกอบดว้ ย ชอ่ื - สกุล เลขประจาตัว ประชาชน การจดทะเบียนคนพิการ วันเดือนปีเกิด ประเภทความพิการ ชื่อ - สกุลบิดา - มารดา ชื่อ - สกุลผู้ปกครองและที่อยู่ของผ้เู รียนหรือผ้ปู กครองที่ตดิ ต่อได้ 2. ข้อมูลด้านการแพทย์ หรือด้านสุขภาพเป็นข้อมูลของผู้เรียนซึ่งเก่ียวข้องกับการเจ็บปุวย และ การรักษา ประกอบด้วย โรคประจาตัว ประวัติการแพ้ยา โรคภูมิแพ้ ข้อจากัดอื่น ๆ และผลการตรวจ ทางการแพทย์ต่าง ๆ 3. ข้อมูลด้านการศึกษาเป็นข้อมูลท่ีผู้เรียนได้รับหรือไม่ได้รับการศึกษา บริการทางการศึกษา ประกอบด้วย การได้รับการศึกษาหรือบริการทางการศึกษาจาก ศูนย์การศึกษาพิเศษ โรงเรียนเฉพาะ ความพกิ าร โรงเรียนเรียนรว่ ม การศกึ ษาดา้ นอาชีพ การศกึ ษานอกระบบ การศึกษาตามอธั ยาศยั และอนื่ ๆ 4. ข้อมูลอื่นๆท่ีจาเป็น เป็นข้อมูลความสามารถพิเศษ บุคลิกภาพเฉพาะบุคคลหรือข้อมูลบุคคล ท่มี สี ่วนเก่ียวข้อง ตลอดจนพื้นฐานสถานภาพครอบครวั 5. กาหนดแนวทางการศึกษาและการวางแผนการจัดการศึกษาพิเศษเป็นข้อมูลของผู้เรียนในการ วางแผนการจัดการศึกษา ประกอบด้วย ระดับความสามารถในปัจจุบัน เปูาหมายระยะเวลา 1 ปี จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม (เปาู หมายระยะส้ัน) เกณฑแ์ ละวธิ ปี ระเมินผล และผู้รบั ผดิ ชอบ 6. ความต้องการดา้ นส่ิงอานวยความสะดวก เทคโนโลยีสิ่งอานวยความสะดวก ส่ือ บริการ และ ความช่วยเหลืออ่ืนใดทางการศึกษา เป็นการระบุรายการ รหัส ส่ิงที่มีอยู่แล้ว ส่ิงที่ต้องการ จานวนเงิน ท่ีขออดุ หนนุ เหตุผลและความจาเป็น และผปู้ ระเมนิ 7. คณะกรรมการจัดทาแผนเป็นการระบุองค์คณะบุคคลในการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะ บุคคล ประกอบด้วย ผู้บริหาร บิดา/มารดา/ผู้ปกครอง ครูประจาชั้น หัวหน้างานวิชาการ คณะสห วชิ าชีพ 8. ความเห็นของบิดา/มารดา/ผู้ปกครอง หรือผู้เรียน เป็นการลงความเห็นชอบในการจัดทา แผนการจดั การศึกษาเฉพาะบุคคล อย่างไรก็ตามวิธีการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล สาหรับสถานศึกษาอาจมีความ แตกต่างกันเน่ืองจากความแตกต่างในส่วนของเนื้อหาตามโครงสร้างของหลักสูตรที่สถานศึกษาใช้ ดังนั้น วิธีการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล แผนการสอนเฉพาะบุคคล รวมไปถึงการวัดและ ประเมินผลตามแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลในสถานศึกษาประเภทต่างๆ จะมีความแตกต่างกันไป ดังจะเห็นได้จากตัวอย่างแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลที่จัดทาตามทักษะการเรียนรู้ และสาระการ เรียนร้ดู งั ตอ่ ไปน้ี

17 ตัวอย่าง (ตามทกั ษะการเรยี นรู้) แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบคุ คล (Individualized Education Program : IEP ) ช่ือสถานศึกษา ศนู ย์การศึกษาพเิ ศษประจาจงั หวัดมหาสารคาม ระดับ เตรียมความพร้อม สงั กดั สานักบรหิ ารงานการศึกษาพเิ ศษ เรมิ่ ใชแ้ ผนวนั ท่ี 16 พฤษภาคม 2555 สนิ้ สดุ แผนวนั ที่ 15 พฤษภาคม 2556 1. ขอ้ มูลท่ัวไป ชอ่ื -ชื่อสกลุ เด็กชายสดุ หล่อ ข้ันเทพ เลขประจาตวั ประชาชน 4 - 7 1 0 5 - 0 0 7 0 1 - 0 0 - 9 การจดทะเบยี นคนพิการ  ไมจ่ ด  ยงั ไมจ่ ด  จดแล้ว วนั /เดอื น/ปเี กิด 10 พฤศจกิ ายน 2551 อายุ 3 ปี 6 เดือน ศาสนา พทุ ธ ประเภทความพกิ าร บุคคลออทิสติก ลักษณะความพิการ ไม่พดู กระตนุ้ ตนเอง เลน่ กบั ผ้อู ่นื ไมเ่ ป็น มพี ฤติกรรมซ้าๆ ช่ือ-ช่อื สกลุ บิดา นายรา่ รวย ขนั้ เทพ ช่อื -ชื่อสกุลมารดา นางสุดสวย ขัน้ เทพ ชือ่ -ชื่อสกุลผ้ปู กครอง นายร่ารวย ข้ันเทพ เกี่ยวขอ้ งเปน็ บิดา ท่ีอยู่ผปู้ กครองทตี่ ดิ ต่อได้บา้ นเลขท่ี 166 ตรอก/ซอย 12 หมู่ที่ - ช่ือหมบู่ า้ น/ถนนนครสวรรค์ ตาบล/แขวง ตลาด อาเภอ/เขต เมือง จงั หวัด มหาสารคาม รหสั ไปรษณีย์ 44000 โทรศัพท์ 043-711111 โทรศัพท์เคลือ่ นที่ 088 -5559559 โทรสาร 043-711111 e-mail address - 2. ขอ้ มูลดา้ นการแพทย์ หรือ ดา้ นสขุ ภาพ  โรคประจาตวั (ระบุ) .....................หอบหืด........................................  ประวัติการแพ้ยา (ระบ)ุ .....................................................................  โรคภูมแิ พ้ (ระบุ) ..................................................................................  ข้อจากัดอน่ื ๆ (ระบุ) ................ทานยาตามแพทยส์ ่ัง.........................  ผลการตรวจทางการแพทย์ (ระบุ) พัฒนาการช้า มภี าวะออทซิ ึม 3. ข้อมูลดา้ นการศกึ ษา  ไมเ่ คยไดร้ ับการศกึ ษา / บรกิ ารทางการศึกษา  เคยไดร้ ับการศึกษา / บริการทางการศึกษา  ศูนย์การศึกษาพเิ ศษ เขตฯ 5 จังหวดั สุพรรณบรุ ี ระดบั เตรยี มความพร้อม พ.ศ. 2553  โรงเรียนเฉพาะความพิการ ....................ระดบั ............................. พ.ศ. .............  โรงเรยี นเรียนรว่ ม ............................. ระดับ ..............................พ.ศ. ..............  การศึกษาด้านอาชพี ......................... ระดับ ................................พ.ศ. ............  การศกึ ษานอกระบบ ......................... ระดับ ..............................พ.ศ. ............  การศกึ ษาตามอัธยาศัย ........................ ระดับ ..............................พ.ศ. ...........  อ่นื ๆ...................................................... ระดับ ..............................พ.ศ. ...........

18 4. ข้อมลู อ่นื ๆ ท่จี าเป็น ฐานะทางเศรษฐกจิ ยากจน บดิ า มารดา มีอาชีพคา้ ขาย กลัวเสียงดงั ทเ่ี ป็นเสยี งแหลม เช่น เสยี งสวา่ น เสียงเลือ่ ยไฟฟูา เสยี งกบไสไม้ เสียงกรง่ิ เป็นตน้ กลัวสัตว์ และสิ่งของที่มีลกั ษณะเปน็ ขนปุย เชน่ สนุ ขั ขนปุย แมว ไมก้ วาดขนไก่ เปน็ ต้น ชอบรถของเล่น (รถฮอตวิลล์) มาก ต้องเอามาโรงเรียนด้วยทกุ วัน มคี วามสามารถในการต่อเลโก้เป็นรูปตา่ งๆ และประกอบหุ่นยนต์ของเลน่ มปี ญั หาเร่อื งการรบั ประทานอาหาร คือ ไม่รับประทานอาหารทเี่ ป็นลักษณะราดแกง ตอ้ งแยกเป็นขา้ วและกบั

5. กาหนดแนวทางการศกึ ษาและการวางแผนการจัดการศึกษาพิเศษ จ ระดับความสามารถในปจั จบุ ัน เป้าหมายระยะเวลา 1 ปี 1.ทกั ษะกล้ามเนอ้ื มัดใหญ่ - 1.1 ภายใน มีพัฒนาการสมวยั 1. ภายในปกี ารศึกษา2555 กาหนดขอ 2.ทักษะกล้ามเนื้อมดั เลก็ เด็กชายสุดหลอ่ สามารถหมนุ หล่อสามา ทกั ษะยอ่ ย การใชม้ ือ เปิด-ปดิ วตั ถไุ ด้ เล่นได้ เนอ้ื หา การใช้น้วิ จดุ เด่น 1. ภายในปกี ารศึกษา2555 1.2 ภายใน เดก็ ชายสดุ หล่อ ข้นั เทพ สามารถ เด็กชายสุดหลอ่ สามารถ กาหนดสถ กาและบิดวตั ถไุ ด้ หยบิ วัตถโุ ดยใช้ ปั้นดินน้ามันแล้วคลึงเป็น เด็กชายสดุ นว้ิ หัวแม่มอื รว่ มกับนวิ้ อน่ื ๆได้ ก้อนกลมได้ ปดิ ประตไู ด จุดด้อย 1.3 ภายใน เด็กชายสดุ หล่อ ขั้นเทพ ไม่สามารถ กาหนดให หมนุ เปิด-ปิดวตั ถไุ ด้ เด็กชายสุด 1.1 ภายใน ทักษะยอ่ ย การประสานสมั พันธ์ กาหนดให ระหวา่ งตากับมือ สามารถเค เน้ือหา การปน้ั จดุ เด่น 1.2 ภายใน เดก็ ชายสดุ หล่อ ขนั้ เทพ สามารถ กาหนดให ปั้นดินน้ามันแล้วคลึงเป็นเส้นยาวได้ เดก็ ชายสุด กอ้ นกลมได

19 จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม เกณฑแ์ ละวิธีประเมนิ ผล ผู้รบั ผดิ ชอบ (เป้าหมายระยะสัน้ ) -- - นเดอื นธันวาคม พ.ศ.2555 เมือ่ สามารถปฏิบตั ไิ ด้ ร้อยละ นางนิ่มนวล โสภา องเลน่ ท่ีมีปมุ ต่างๆให้ เดก็ ชายสุด 70 ของจานวนแผนการ ครูประจาชั้น ารถบิดหรือหมนุ ปมุ ตา่ งๆจากของ สอนพาะบุคคลท้ังหมด นเดือนมกราคม พ.ศ.2556 เม่ือ สามารถปฏบิ ตั ไิ ด้ ร้อยละ นางนิ่มนวล โสภา ครูประจาชั้น ถานการณ์ใหเ้ ปิดหรือปิดประตลู ูกบดิ 70 ของจานวนแผนการ นางนิม่ นวล โสภา ดหลอ่ สามารถหมนุ ลกู บิดเพื่อเปดิ - สอนเฉพาะบุคคลทง้ั หมด ครูประจาชน้ั ด้ นางนิม่ นวล โสภา ครูประจาชน้ั นเดอื นพฤษภาคม พ.ศ.2556 เม่ือ สามารถปฏบิ ตั ไิ ด้ ร้อยละ นางนิ่มนวล โสภา ห้วัตถทุ ี่มีฝาเกลียวขนาดต่างๆกนั ให้ 70 ของจานวนแผนการ ครปู ระจาช้นั ดหล่อ สามารถหมนุ เปิด-ปิดวัตถุได้ สอนเฉพาะบุคคลทั้งหมด นเดอื นตลุ าคม พ.ศ.2555 เม่ือ สามารถปฏบิ ัตไิ ด้ ร้อยละ ห้ใช้มือคลงึ ดินน้ามนั เดก็ ชายสุดหลอ่ 70 ของจานวนแผนการ คลื่อนไหวมือเป็นวงกลมได้ สอนเฉพาะบุคคลท้งั หมด นเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2556 เมื่อ สามารถปฏิบตั ไิ ด้ ร้อยละ ห้ปั้นดินน้ามันโดยคลึงเป็นก้อนกลม 70 ของจานวนแผนการ ดหล่อสามารถคลึงดินน้ามันเป็น สอนเฉพาะบุคคลท้ังหมด ได้

ระดบั ความสามารถในปัจจบุ ัน เปา้ หมายระยะเวลา 1 ปี จ จุดดอ้ ย เด็กชายสุดหลอ่ ข้นั เทพ ไมส่ ามารถ ปั้นดินน้ามันแล้วคลึงเป็นก้อนกลม ได้ 3.ทักษะการช่วยเหลือตนเองใน - ชวี ิตประจาวนั มีพัฒนาการสมวัย 4.ทักษะการรับรู้ 1. ภายในปีการศึกษา2555 1.1 ภายใน และแสดงออกทางภาษา เดก็ ชายสดุ หลอ่ สามารถออก กาหนดรูป ทกั ษะยอ่ ย การแสดงสีหนา้ ท่าทาง เสยี งคาได้ถูกต้อง หล่อ สามา และคาพดู ได้ เนื้อหา การออกเสยี งคาและ การใชค้ ำพูด 1.2 ภายใน จดุ เด่น กาหนดเสีย เดก็ ชายสุดหล่อ ขั้นเทพ สามารถ สามารถออ แสดงสหี นา้ ท่าทางต่อคาพูด หรอื อารมณ์ต่อส่งิ เร้าภายนอก และ 1.3 ภายใน ภายในไดเ้ หมาะสม กาหนดรูป จุดดอ้ ย อา อี อู โอ เด็กชายสดุ หล่อ ข้ันเทพ ไม่สามารถ สามารถออ ออกเสียงคาได้ถูกต้อง

จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม 20 (เป้าหมายระยะส้นั ) เกณฑแ์ ละวิธีประเมนิ ผล ผู้รับผิดชอบ - -- นเดือนสงิ หาคม พ.ศ.2555 เมื่อ สามารถปฏบิ ัติได้ ร้อยละ นางนม่ิ นวล โสภา ปปาก อา อี อู โอ ให้ เด็กชายสุด 70 ของจานวนแผนการ ครูประจาชั้น ารถเลียนแบบรูปปาก อา อี อู โอ สอนเฉพาะบุคคลท้ังหมด นเดอื นธันวาคม พ.ศ.2555 เมื่อ สามารถปฏิบตั ไิ ด้ ร้อยละ นางนิ่มนวล โสภา ยง อา อี อู โอ ให้ เดก็ ชายสุดหล่อ 70 ของจานวนแผนการ ครปู ระจาช้นั อกเสียงเลยี นแบบ อา อี อู โอ ได้ สอนเฉพาะบุคคลท้งั หมด นเดอื นพฤษภาคม พ.ศ.2556 เมื่อ สามารถปฏบิ ตั ไิ ด้ ร้อยละ นางนม่ิ นวล โสภา ปภาพพร้อมออกเสยี งคาท่ีผสมสระ 70 ของจานวนแผนการ ครปู ระจาชั้น อ โดยไมม่ ตี วั สะกด เดก็ ชายสดุ หล่อ สอนเฉพาะบุคคลทั้งหมด อกเสียงได้ถูกต้อง

ระดับความสามารถในปจั จุบัน เป้าหมายระยะเวลา 1 ปี จ 5.ทกั ษะสังคม - มพี ัฒนาการสมวัย - 6.ทกั ษะทางสติปญั ญาหรอื เตรยี ม ความพร้อมทางวิชาการ 1. ภายในปีการศกึ ษา 2555 1.1 ภายใน มีพฒั นาการสมวยั เดก็ ชายสดุ หล่อ สามารถบอก ตอ้ งการส่ิง ความตอ้ งการของตนเองได้ ช้ีสิ่งของท่ตี 7. ทักษะจาเป็นเฉพาะสาหรับ เดก็ ออทิสติก 1.2 ภายใ ทกั ษะย่อย การแสดงออกทาง ต้องการส่งิ ภาษา นาบัตรภา เน้ือหา การแสดงออกทางภาษา จุดเดน่ สามารถปฏบิ ตั ติ ามคาส่งั ได้ จดุ ด้อย ไมส่ ามารถบอกความ ตอ้ งการของตนเองได้

21 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม เกณฑ์และวิธปี ระเมินผล ผรู้ ับผดิ ชอบ (เปา้ หมายระยะส้ัน) -- - -- - นเดอื นสงิ หาคม พ.ศ.2555 เมื่อ สามารถปฏบิ ัติได้ ร้อยละ นางนิม่ นวล โสภา งของ เดก็ ชายสดุ หลอ่ สามารถ 70 ของจานวนแผนการ ครปู ระจาชั้น ต้องการได้ สอนเฉพาะบุคคลท้ังหมด ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2556 เมื่อ สามารถปฏบิ ตั ิได้ ร้อยละ นางนิ่มนวล โสภา งของ เดก็ ชายสดุ หล่อสามารถ 70 ของจานวนแผนการ ครปู ระจาชนั้ าพมาแลกส่ิงของทต่ี ้องการได้ สอนเฉพาะบุคคลทัง้ หมด

6. ความตอ้ งการดา้ นส่งิ อานวยความสะดวก เทคโนโลยีสง่ิ อานวยค สงิ่ ที่มีอยูแ่ ลว้ ท่ี รายการ รหัส ผูจ้ ดั หา วิธกี าร (1) (2) (3) (1) (2) (3) 1. รายการตามบัญชี ก AN0106 เคร่อื งช่วยสื่อสาร(โอภา) 2. รายการตามบัญชี ข BM0115 เวลโก้ CS0802 3. รายการตามบัญชี ค - ------ บริการฝกึ พูดโดยครู 4. รายการอื่นๆ รวมรายการท่ีขอรับการอดุ หนนุ รวมจานวนเงินทขี่ อรบั การ อดุ หนุน หมายเหตุ ผ้จู ัดหา (1) ผ้ปู กครอง (1) ขอรับการอุดหนุน วธิ กี าร

22 ความสะดวก สื่อ บริการ และความช่วยเหลืออนื่ ใดทางการศึกษา สิ่งที่ต้องการ จานวนเงนิ ผจู้ ัดหา วธิ กี าร ทขี่ อ เหตผุ ลและความจาเปน็ ผู้ประเมนิ อุดหนุน(1) (2) (3) (1) (2) (3)   - ผ้เู รยี นมคี วามสามารถในการฟัง แตไ่ มส่ ามารถพูดสอ่ื สารได้ จงึ เหมาะสาหรบั เปน็ การส่ือสาร ทางเลือก  1,000 ใชใ้ นการผลติ สอื่ เพ่ือใช้ในการ นางน่มิ นวล สอนการบอกความต้องการของ โสภา ผเู้ รียน ครูประจาช้นั  1,000 เพื่อพัฒนาความสามารถในการ พูดเปน็ คาเพ่ือให้สอดคล้องกับ แผนการสอนเฉพาะบุคคล ------ - - 2 รายการ (3) สถานพยาบาล/อน่ื ๆ (สองพนั บาทถ้วน) (3) ขอยืมเงิน (2) สถานศึกษา (2) ขอยืม

23 7. คณะกรรมการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ลายมอื ชอ่ื ช่อื ตาแหน่ง นิม่ นวล 7.1 นายพฒุ ภิ ทั ร จฑุ าเทพ ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา งดงาม 7.2 นายรา่ รวย ข้นั เทพ บดิ าหรือผปู้ กครอง ขยนั 7.3 นางนม่ิ นวล โสภา ครปู ระจาชั้น 7.4 นางดอกฟาู น่าดมดอม ครกู ารศึกษาพิเศษ 7.5 นางสาวงดงาม อย่างไทย นักกจิ กรรมบาบดั 7.6 นายขยนั หมั่นเพียร ครศู ลิ ปะ ประชมุ วนั ที่ 10 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2555 8. ความเห็นของบิดา มารดา ผู้ปกครองหรอื ผู้เรยี น การจดั ทาแผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบคุ คล ฉบับน้ี ข้าพเจ้า  เหน็ ด้วย  ไม่เหน็ ด้วย ลงชอ่ื …………………………………… 2555 (นายรา่ รวย ข้ันเทพ) บิดา วนั ท่ี 16 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.

24 ตวั อยา่ ง (ตามทักษะการเรยี นร)ู้ แผนการสอนเฉพาะบุคคล (Individual Implementation Plan : IIP) ช่อื -สกลุ เด็กชายสุดหลอ่ ขนั้ เทพ ประเภทความพกิ าร บุคคลออทิสติก ปกี ารศกึ ษา 2555 ทักษะท่สี อน การใช้กล้ามเน้ือมัดเล็ก เนือ้ หา การใชน้ ิ้ว เปา้ หมายระยะยาว 1 ปี ภายในปีการศึกษา2555 เด็กชายสดุ หลอ่ สามารถหมนุ เปดิ -ปดิ วตั ถุได้ จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่ 1. ภายในเดือนธันวาคม พ.ศ.2555 เมื่อกาหนดของเล่นที่มีปุมต่างๆ ให้ เด็กชายสุดหล่อสามารถบิดหรือหมนุ ปุมต่างๆจากของเล่นได้ ******************************************************************************* แผนที่ 1 เริ่มใชแ้ ผนวนั ท่ี 16 พ.ค.2555 วนั สน้ิ สุดแผน 15 ม.ิ ย .พ.ศ. 2555 ใช้เวลาครง้ั ละ 30 นาที สาระสาคัญ การบดิ หรอื หมนุ ไปในทศิ ทางต่างๆ จุดประสงค์ เด็กชายสดุ หลอ่ สามารถบิดหรอื หมนุ ปมุ ไปทางซ้ายและขวาได้ กจิ กรรมการเรยี นการสอน ขัน้ นา 1. ผู้สอนกล่าวทักทายผู้เรียน และพาผู้เรียนร้องเพลง “ชูมือขึ้น แล้วหมุน” พร้อมกับทาท่า ประกอบเพลง 2. ผู้สอนนาสติกเกอร์รูปรถฮอตวิลล์มาให้ผู้เรียนดู แล้วตกลงเง่ือนไขกับผู้เรียนว่า “ถ้าผู้เรียน สามารถหมุนปุมตามท่ีผู้สอนบอกได้ จะใหส้ ติกเกอร์ 1 แผน่ เพือ่ ตดิ ลงในสมดุ สะสมฮอตวลิ ล์” ขน้ั สอน 1. ผู้สอนนาของเล่นท่ีมีปุมสาหรับบิดหรือหมุนท่ีมีแสง สี เสียง มาให้ผู้เรียนดู พร้อมกับสาธิตการ หมนุ ปมุ ไปทางด้านซ้ายและดา้ นขวา 2. ผ้สู อนฝกึ ให้ผ้เู รยี นบิดหรือหมุนของเล่นตา่ งๆ ท่ีมปี ุม โดยมลี าดับการฝกึ ดังน้ี 1) จบั มือทา 2) ลดการช่วยเหลอื ลง 3) ให้ทาด้วยตนเอง 3. ผู้สอนให้ผู้เรียนบิดหรือหมุนของเล่นต่างๆท่ีมีปุมด้วยตนเอง เม่ือผู้เรียนทาได้ให้กล่าวคาชมว่า “เก่งมาก” พรอ้ มกบั ปรบมือชมเชย ขั้นสรปุ 1. ผสู้ อนสรปุ กจิ กรรมโดยทบทวนว่า “วันนีส้ ดุ หลอ่ ทากิจกรรมอะไร” พรอ้ มบอกวา่ “บดิ หรือหมุนปุม” และให้ผเู้ รยี นบิดหรอื หมนุ ปมุ ของเล่นตามที่ผู้สอนกาหนดให้ แล้วสรุปว่าทาได้หรือไม่ได้ ถ้าไดใ้ หส้ ตกิ เกอรร์ ูปรถฮอตวลิ ลต์ ามข้อตกลง พรอ้ มกับปรบมอื ชมเชย

25 สอ่ื /อุปกรณ์ 1. ของเลน่ ท่มี ปี มุ ชนดิ ตา่ งๆ เช่น วทิ ยุ เคร่อื งมือช่าง ฯลฯ 2. เพลง “ชมู ือขึน้ แล้วหมุน” 3. สติกเกอรร์ ปู รถฮอตวลิ ล์พรอ้ มสมุดสะสม การวดั และประเมินผล – การทดสอบโดยการปฏิบัติจริง วธิ ีการ – แบบบันทึกผลการปฏิบตั ิ เคร่ืองมอื – สามารถปฏบิ ตั ไิ ดใ้ นระดับคณุ ภาพ 4 ขึน้ ไป เกณฑก์ ารประเมินผล ลงชอื่ ...............นม่ิ นวล ..................... (นางนมิ่ นวล โสภา) ครปู ระจาชั้น ความคิดเห็นหัวหน้ากล่มุ บริหารงานวชิ าการ ตรวจสอบแผนการสอนเฉพาะบุคคลแล้ว สามารถนาไปใชส้ อนได้ ลงชอื่ ........................................... (นางจริงจงั ตรวจละเอียดมาก) หวั หนา้ งานวิชาการ

26 ตวั อย่างการวเิ คราะหง์ านเพ่ือจัดทาแผนการสอนเฉพาะบคุ คล (ตามทักษะการเรยี นรู้) ทักษะทสี่ อน ทกั ษะการช่วยเหลอื ตนเอง - การใส่เส้ือยดื คอกลมสวมหวั จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม เมื่อครูให้ ด.ช.............. ใส่เสอ้ื ยืดคอกลมสวมหัว ด.ช........ จะใสเ่ ส้อื ยดื คอกลมได้เอง ลาดับการวเิ คราะห์ 1. จัดเสื้อดา้ นหนา้ – หลงั 2. จับคอเส้อื สวมหัว 3. ดงึ คอเสือ้ ลงมาระดับคอ 4. ยกแขวนขวาใส่ในแขนเส้ือขา้ งขวา 5. ยกแขนซา้ ยใส่ในแขนเสือ้ ขา้ งซา้ ย 6. จดั ชายเสอื้ เมอ่ื ใส่แขนทั้งสองขา้ งแล้ว 7. จับชายเสื้อดว้ ยแขนท้งั สองข้าง 8. ดึงชายเสือ้ ลงให้เรียบรอ้ ย

27 ตัวอย่าง ตัวอยา่ ง (ตามกลมุ่ สาระการเรียนรู้) แผนการจดั การศึกษาเฉพาะบุคคล (Individualized Education Program : IEP) ชอ่ื สถานศึกษา โรงเรยี นบา้ นรมิ นา้ น่าน ระดับชน้ั ป. 3 สังกัด สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาน่าน เขต 1 เริม่ ใชแ้ ผน วนั ท่ี 16 พฤษภาคม 2556 สนิ้ สดุ แผน วนั ที่ 15 พฤษภาคม 2557 1. ข้อมลู ท่ัวไป ชือ่ -ชื่อสกลุ ด.ญ.ลลี า ขาวใส เพศ ชาย  หญงิ เลขประจาตวั ประชาชน 1- 1001-00101 – 00-1 การจดทะเบยี นคนพิการ ไม่จด ยังไม่จด  จดแล้ว วัน/เดือน/ปีเกดิ 1 มิถุนายน 2546 อายุ 9 ปี 11 เดอื น ศาสนา พุทธ ประเภทความพกิ าร บคุ คลท่มี คี วามบกพร่องทางการเรียนรู้ ลกั ษณะความพกิ าร ปัญหาดา้ นการ อ่าน เขียน และคณติ ศาสตรเ์ รอ่ื งการบวก ลบ เลข ชอื่ – ชื่อสกุลบิดา นายราพัน ขาวใส ช่ือ – ช่อื สกลุ มารดา นางมาลา ขาวใส ชอ่ื – ชอ่ื สกลุ ผู้ปกครอง นางมาลา ขาวใส เก่ยี วข้องเป็น มารดา ท่ีอย่ผู ู้ปกครองทต่ี ดิ ต่อได้บา้ นเลขท่ี 3 ซอย - หมทู่ ี่ 11 ถนน นา่ น - พะเยา ตาบล ไชยสถาน อาเภอ เมอื ง จังหวดั น่าน รหสั ไปรษณีย์ 55000 โทรศัพท์ 054-775690 โทรศพั ท์เคลอ่ื นท่ี - โทรสาร - e-mail address - 2. ข้อมูลดา้ นการแพทย์หรือดา้ นสขุ ภาพ  โรคประจาตวั (ระบ)ุ โรคหอบหดื  ประวตั ิการแพ้ยา (ระบ)ุ ................…........................................................................ โรคภมู แิ พ้ (ระบุ) .....................……...........................................................................  ข้อจากัดอืน่ ๆ (ระบุ) ............................……................................................................  ผลการตรวจทางการแพทย์ (ระบ)ุ แพทยว์ นิ ิจฉัยว่าเป็นเดก็ ที่มีความบกพร่อง ทางการเรียนรู้และมีภาวะสมาธสิ นั้ รว่ มด้วย 3. ขอ้ มลู ด้านการศกึ ษา  ไมเ่ คยไดร้ บั การศึกษา / บริการทางการศึกษา  เคยได้รับการศึกษา / บริการทางการศึกษาจาก  ศนู ย์การศึกษาพิเศษ……………….. ระดับ……………………..พ.ศ…...……..….  โรงเรียนเฉพาะความพิการ ระดบั ……………………..พ.ศ……………..

28  โรงเรียนเรยี นรว่ ม โรงเรยี นบา้ นริมนา้ น่าน ระดบั ป.2 พ.ศ. 2555  การศกึ ษาดา้ นอาชีพ……..………….ระดับ……………………..พ.ศ……………..  การศึกษานอกระบบ…….………….ระดบั ……………………..พ.ศ……………..  การศกึ ษาตามอธั ยาศัย…...……….ระดับ……………………..พ.ศ……………..  อื่นๆ……………………...………..…….ระดบั ……………………..พ.ศ……………. 4. ขอ้ มูลอ่ืนๆทจ่ี าเป็น 1. พอ่ แม่แยกกันอยู่ 2. มีความสามารถในการวาดรปู และสนใจดา้ นศลิ ปะเปน็ อย่างมาก 3. มนี ้าใจ ชอบช่วยเหลือครู และเพื่อน

5. การกาหนดแนวทางการศกึ ษาและการวางแผนการจัดการศึกษาพิเศษ ระดบั ความสามารถในปจั จบุ ัน เปา้ หมายระยะเวลา 1 ปี กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ภายในวนั ท่ี 31 มีนาคม 1. สาระท่ี 1 การอา่ น 2557 เด็กหญงิ ลลี า สามารถ 25 มาตรฐาน ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้ อ่านคาพ้ืนฐานในระดบั ชนั้ ป และความคดิ เพื่อนาไปใช้ตดั สินใจ แกป้ ญั หาในการ ป. 1 ทมี่ ตี วั สะกดตรงตาม ใน ดาเนนิ ชวี ติ และมีนิสัยรักการอ่าน มาตราในแม่ กบ กด กก เด ชั้น ป.1 กม กน ได้ 100 คา ท ตัวช้ีวัด 1 การอา่ นออกเสยี งคา คาคล้องจองและ ข้อความสั้นๆ ตัวช้ีวดั 2 บอกความหมายของคาและข้อความ ที่อ่าน จุดเด่น 1.สามารถบอกชอ่ื พยัญชนะ ก-ฮ โดยให้ดูแบบสมุ่ ได้ถูกต้อง 44 ตวั 2.สามารถอา่ นคาพนื้ ฐานหนงั สือภาษาไทยระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 1 แม่ ก กา ได้ จุดดอ้ ย 1. ไมส่ ามารถอา่ นคาพ้ืนฐานในระดับช้ันประถม ศกึ ษาปีท่ี 1 ทม่ี ตี ัวสะกดท้ัง 8 แม่ ตรงตามมาตรา ได้ (แม่ กน กก กม กง กบ กด เกย เกอว)

จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม เกณฑแ์ ละวธิ ปี ระเมินผล 29 (เปา้ หมายระยะสัน้ ) ผู้รับผิดชอบ .ภายในวนั ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. วธิ กี าร/เครือ่ งมือการประเมนิ นางใจดี 556เม่ือให้อา่ นคาพื้นฐานในระดับชน้ั การทดสอบ/แบบทดสอบ เมตตา ป. 1 ทม่ี ีตัวสะกดตรงตามมาตรา เกณฑ์การผา่ น ครปู ระจาวิชา นแม่ กบ จานวน 20 คา แบบสุ่ม 1. อา่ นคาได้รอ้ ยละ 70 ด็กหญิงลีลา สามารถอ่านได้ถกู ต้อง จากจานวน 20 คา ทุกคา 2. แตล่ ะคาต้องอ่านถูกตอ้ ง

ระดับความสามารถในปัจจบุ ัน เปา้ หมายระยะเวลา 1 ปี 2. 25 ชน้ั ใน เด ท 3. 25 ป แม เด ท 4. เม ท กน เด ท

30 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม เกณฑ์และวธิ ปี ระเมนิ ผล ผรู้ บั ผิดชอบ (เปา้ หมายระยะสั้น) นางใจดี .ภายในวันท่ี 10 กนั ยายน พ.ศ. วิธกี าร/เครือ่ งมือการประเมิน เมตตา ครปู ระจา 556เมื่อให้อา่ นคาพื้นฐานในระดับ การทดสอบ/แบบทดสอบ กลุ่มสาระ การเรียนรู้ น ป. 1 ที่มีตัวสะกดตรงตามมาตรา เกณฑ์การผ่าน นางใจดี นแม่ กม จานวน 20 คา แบบสมุ่ 1. อา่ นคาไดร้ อ้ ยละ 70 จาก เมตตา ครปู รพจาชัน้ กลมุ่ ดก็ หญิงลีลา สามารถอ่านได้ถกู ต้อง จานวน 20 คา สาระการ เรยี นรู้ ทกุ คา 2. แต่ละคาต้องอา่ นถูกตอ้ ง นางใจดี . ภายในวนั ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. วธิ กี าร/เคร่ืองมือการประเมนิ เมตตา ครูประจา 556เมื่อให้อา่ นคาพ้ืนฐานในระดบั ชัน้ การทดสอบ/แบบทดสอบ กลมุ่ สาระ การเรยี นรู้ ป. 1 ทม่ี ตี ัวสะกดตรงตามมาตรา ใน เกณฑ์การผ่าน ม่ กก จานวน 20 คา แบบสมุ่ 1. อา่ นคาไดร้ ้อยละ 70 จาก ด็กหญิงลลี า สามารถอ่านได้ถกู ต้อง จานวน 20 คา ทุกคา 2. แต่ละคาต้องอา่ นถูกต้อง .ภายในวันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2557 วธิ ีการ/เครื่องมือการประเมนิ มื่อให้อ่านคาพืน้ ฐานในระดับชั้นป.1 การทดสอบ/แบบทดสอบ ท่มี ตี ัวสะกดตรงตามมาตรา ในแม่ เกณฑ์การผ่าน น จานวน 20 คา แบบสมุ่ 1. อ่านคาไดร้ ้อยละ 70 จาก ดก็ หญงิ ลลี า สามารถอ่านได้ถกู ต้อง จานวน 20 คา ทุกคา 2. แตล่ ะคาต้องอา่ นถูกต้อง

ระดับความสามารถในปจั จบุ ัน เป้าหมายระยะเวลา 1 ปี 5.ภาย เม่อื ให ที่มตี ัว กด เด็กห สาระที่ 2 การเขียน ภายในวนั ที่ 31 มนี าคม 1.เมื่อ มาตรฐาน ท 2.1 ใชก้ ระบวนการเขียน เขยี นสื่อสาร 2556 เด็กหญิงลลี า ป. 1 เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเร่ืองราวใน สามารถเขยี นคาพน้ื ฐานใน แม่ ก รปู แบบต่างๆ เขยี นรายงานข้อมลู สารสนเทศและ ระดับชนั้ ป. 1 ทม่ี ตี ัวสะกด แบบส รายงานการศึกษาค้นควา้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ ตรงตามมาตราในแม่กบ กด ไดถ้ ูก ชนั้ ป.1 กก กม กน ได้100 คา ตวั ช้ีวดั 1.คัดลายมอื ตวั บรรจงเตม็ บรรทดั ตัวช้ีวดั 2.เขียนสอื่ สารดว้ ยคาและประโยคง่ายๆ จุดเด่น 1.สามารถเขียนพยัญชนะ ก - ฮ ตามคาบอก แบบสมุ่ ได้ 2.สามารถเขียนคาพื้นฐานหนังสือภาษาไทย ระดบั ช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 แม่ ก กา ได้ จดุ ออ่ น 1. ไม่สามารถเขียนคาพืน้ ฐานในระดบั ช้ันป. 1 ท่ีมี

31 จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม เกณฑแ์ ละวธิ ีประเมนิ ผล ผรู้ บั ผิดชอบ (เป้าหมายระยะส้ัน) วธิ ีการ/เคร่ืองมือการประเมนิ นางใจดี ยในวันท่ี 31 มนี าคม พ.ศ.2557 การทดสอบ/แบบทดสอบ เมตตา ห้อา่ นคาพื้นฐานในระดับชนั้ ป. 1 เกณฑ์การผา่ น ครูประจา กลุ่ม วสะกดตรงตามมาตรา ในแม่ 1. อา่ นคาไดร้ อ้ ยละ 70 สาระ การเรยี นรู้ จานวน 20 คา แบบสุ่ม จากจานวน 20 คา หญิงลลี า สามารถอา่ นได้ถกู ต้อง 2. แต่ละคาต้องอา่ นถูกต้อง อให้เขียนคาพ้ืนฐานในระดับชั้น วธิ กี าร/เครือ่ งมือการประเมิน นางใจดี ท่มี ีตวั สะกดตรงตามมาตรา ใน การทดสอบ/แบบทดสอบ เมตตา กบ จานวน20 คา ตามคาบอก เกณฑ์การผา่ น ครปู ระจาวชิ า สุ่ม เดก็ หญงิ ลลี า สามารถเขยี น 1. เขยี นคาได้ร้อยละ 70 จาก กตอ้ งทกุ คา จานวน 20 คา 2. แตล่ ะคาต้องเขยี นถกู ต้อง

ระดบั ความสามารถในปัจจุบัน เปา้ หมายระยะเวลา 1 ปี ตวั สะกดทั้ง 8 แม่ ตรงตามมาตราได้ (แม่ กน 2.เมือ่ กก กม กง กบ กด เกย เกอว) ป. 1 ในแม บอกแ เขยี น 3.เมอ่ื ป. 1 ใน แม บอกแ เขยี น 4.เมื่อ 1 ทม่ี กม จ ส่มุ เด ถกู ต้อ

32 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม เกณฑแ์ ละวิธปี ระเมินผล ผู้รบั ผิดชอบ (เปา้ หมายระยะสน้ั ) วิธกี าร/เคร่ืองมือการประเมิน นางใจดี อให้เขยี นคาพื้นฐานในระดบั ชน้ั การทดสอบ/แบบทดสอบ เมตตา ทม่ี ตี วั สะกดตรงตามมาตรา เกณฑ์การผา่ น ครปู ระจาวชิ า ม่ กด จานวน 20 คา ตามคา 1. เขยี นคาไดร้ ้อยละ 70 แบบสุ่มเด็กหญิงลีลา สามารถ จากจานวน 20 คา นางใจดี นได้ถูกต้องทุกคา 2. แตล่ ะคาต้องเขยี นถกู ต้อง เมตตา วธิ กี าร/เครื่องมือการประเมิน ครปู ระจาวชิ า อใหเ้ ขยี นคาพ้นื ฐานในระดบั ชน้ั การทดสอบ/แบบทดสอบ ทม่ี ตี ัวสะกดตรงตามมาตรา เกณฑ์การผ่าน นางใจดี ม่ กก จานวน 20 คา ตามคา 1. เขียนคาไดร้ ้อยละ 70 เมตตา แบบสุ่ม เดก็ หญิงลีลา สามารถ จากจานวน 20 คา ครูประจาวิชา นได้ถูกต้องทุกคา 2. แต่ละคาต้องเขียนถกู ต้อง อใหเ้ ขยี นคาพน้ื ฐานในระดับช้ันป. วธิ ีการ/เคร่อื งมือการประเมิน มีตวั สะกดตรงตามมาตรา ในแม่ การทดสอบ/แบบทดสอบ จานวน 20 คา ตามคาบอกแบบ เกณฑ์การผา่ น ดก็ หญิงลีลา สามารถเขียนได้ 1. เขยี นคาได้ร้อยละ 70 จาก องทุกคา จานวน 20 คา 2. แตล่ ะคาต้องเขียนถกู ต้อง

ระดับความสามารถในปัจจุบัน เป้าหมายระยะเวลา 1 ปี สาระที่ 3 การฟัง 5.เมอ่ื สาระท่ี 4 หลกั การใชภ้ าษา ป. 1 สาระที่ 5 วรรณคดีและวรรณกรรม ในแม บอกแ เขียน กาหนดตามสาระ มาตรฐาน กาหน การเรยี นรู้ตามระดับชัน้ ของ เรยี นร ผูเ้ รียน(ป.3) ผูเ้ รยี น

33 จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม เกณฑ์และวิธปี ระเมนิ ผล ผู้รับผิดชอบ (เป้าหมายระยะสน้ั ) นางใจดี วิธีการ/เครื่องมือการประเมิน เมตตา อใหเ้ ขยี นคาพน้ื ฐานในระดบั ชัน้ การทดสอบ/แบบทดสอบ ครปู ระจาวิชา ทมี่ ีตัวสะกดตรงตามมาตรา เกณฑ์การผา่ น ม่ กน จานวน 20 คา ตามคา 1. เขียนคาไดร้ ้อยละ 70 จาก นางใจดี แบบสุ่ม เดก็ หญิงลีลา สามารถ จานวน 20 คา เมตตา นได้ถูกต้องทุกคา 2. แตล่ ะคาต้องเขยี นถกู ต้อง ครปู ระจาวิชา นดตามตวั ชี้วัดและสาระการ วิธีการ/เครือ่ งมือการประเมิน รแู้ กนกลางตามระดบั ชนั้ ของ 1. ทาชน้ิ งาน,โครงงาน/แบบ น(ป.3) ประเมินชน้ิ งาน,แบบประเมิน โครงงาน 2. ทดสอบ/แบบทดสอบ - ขยายเวลาในการสอบให้มเี วลา มากขนึ้ -จดั แยกหอ้ งสอบที่เหมาะสม -อา่ นข้อสอบให้ฟัง -คาท่ีใชใ้ นการสรา้ งแบบทดสอบ ควรเปน็ คาพืน้ ฐานทีก่ าหนดไว้ใน สาระท่ี 1 เกณฑ์การผา่ น เหมือนนกั เรยี นระดับช้นั เดียวกนั

ระดับความสามารถในปจั จบุ ัน เปา้ หมายระยะเวลา 1 ปี กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ สาระท่ี 1 จานวนและการดาเนินการ มาตรฐาน ค 1.2 เขา้ ใจถึงผลท่เี กดิ ขน้ึ จากการ ดาเนนิ การของจานวนและความสมั พันธ์ระหวา่ งการ ดาเนินการตา่ งๆ และสามารถใช้การดาเนินการใน การแก้ปัญหา การบวก จุดเดน่ ภายในวนั ท่ี 31 มีนาคม 1. ภา 1. รู้ความหมายของการบวกและการใช้เคร่ืองหมาย 2557 เด็กหญิงลีลา 2556 บวก สามารถบวกเลขทม่ี ีการทด ผลลพั 2. สามารถบวกเลข โดยไม่มีการทด ผลลัพธไ์ มเ่ กิน และมีผลลัพธ์ไมเ่ กิน 100 ได้ สามา 100 2. ภ จดุ ดอ้ ย 2556 1. ไม่สามารถบวกเลขท่ีมีการทดและ ผลลพั มผี ลลัพธไ์ มเ่ กนิ 100 สามา

34 จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม เกณฑแ์ ละวธิ ีประเมนิ ผล ผรู้ บั ผดิ ชอบ (เป้าหมายระยะส้นั ) ายในวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. วธิ ีการ/เครือ่ งมือการประเมิน นางใจดี 6 เมื่อให้บวกเลขที่มีการทด การทดสอบ/แบบทดสอบ เมตตา พธ์ไม่เกนิ 50 เด็กหญิงลีลา เกณฑ์การผา่ น ครปู ระจากลุ่ม ารถทาได้ ร้อยละ 80 ผลลัพธถ์ กู ตอ้ งร้อยละ 80 สาระการเรยี นรู้ ภายในวันท่ี 10 กนั ยายน พ.ศ. วธิ ีการ/เครอื่ งมือการประเมิน นางใจดี 6เม่ือใหบ้ วกเลขท่มี ีการทด การทดสอบ/แบบทดสอบ เมตตา พธ์ไม่เกิน 100 เดก็ หญิงลลี า เกณฑ์การผ่าน ครปู ระจากลุ่ม ารถทาได้รอ้ ยละ 80 ผลลพั ธถ์ กู ต้องร้อยละ 80 สาระการเรียนรู้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook