Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การจัดการเรียนรู้1

การจัดการเรียนรู้1

Published by Kanyarat Kenprom, 2021-01-30 14:20:34

Description: การจัดการเรียนรู้1

Search

Read the Text Version

การจัดการเรียนร้แู บบ บทบาทสมมติ Role Playing

การแสดงบทบาทสมมติ (Role playing) เป็น การ เทคนคิ การสอนรปู แบบหน่งึ ทชี่ ่วยใหผ้ ูเ้ รียนเขา้ ใจ จัด บทบาท สภาพความเป็นจรงิ จากส่งิ ที่เกิดข้ึน ผา่ นการ การ แสดงออกตา่ ง ๆ ซง่ึ เทคนิคการสอนรูปแบบนี้ นับวา่ เป็น เรียน การสอนทสี่ นบั สนนุ ให้ผ้เู รียนมีส่วนรว่ มและได้ลงมอื รู้ ปฏิบัติร่วมกนั ระหวา่ งผู้เรยี น ซึ่งสอดคลอ้ งกับแนว แบบ ทางการเรียนรู้สมยั ใหม่ ท่มี ุ่งเน้นตัวผู้เรียนเป็นสาคัญ บท บาท สม มติ

การแสดงบทบาทสมมติ หมายถึง การสอน การ ท่ีผูส้ อนสรา้ งสถานการณ์และบทบาทสมมตขิ น้ึ มาท่ี จัด ใกลเ้ คียงกบั ความเปน็ จริง โดยใหผ้ ้เู รียนเปน็ ผู้แสดง การ บทบาทสมมตินั้นๆ ตามวัตถปุ ระสงคท์ ผี่ ู้สอนได้ เรียน กาหนดไว้ เพ่ือให้ผเู้ รยี นได้แสดงออกทางดา้ น รู้ ความรู้ ความคิด ทีค่ ิดว่าตนควรจะเป็น แบบ จุดมุ่งหมายของการสอน โดยการแสดงบทบาท บท สมมติ บาท สม มติ

โดยในการสอนรปู แบบ สามารถแบ่งออกไดเ้ ป็ น 2 ลกั ษณะ 1. การแสดงบทบาทสมมตแิ บบ 2. การแสดงบทบาทสมมตแิ บบ ละคร คือ การแสดงบทบาทสมมุติ แก้ปัญหา คือ การสมมุตสิ ถานการณ์ โดยที่มีเร่ืองราวกาหนดอยกู่ ่อน แลว้ ให้ผูเ้ รยี นแสดงบทบาทสมมุติ เพอ่ื แล้ว ผู้เรยี นทราบถึงเรอื่ งราวครา่ ว แกป้ ัญหาและตอบสนองกับ ๆ และแสดงเร่อื งราวตามบทบาท สถานการณน์ นั้ ตามความคดิ เห็นของ ตัวละครทีไ่ ดร้ ับ ตัวเอง 40% 35%

“ ประโยชน์ของการสอนในลกั ษณะน้ี คือ การทีผ่ ู้เรียนสามารถเรียนรแู้ ละ “ เขา้ ใจ เร่อื งราวหรือสถานการณต์ ่าง ๆ ในมุมมองทม่ี าจากบทบาทการแสดง ได้ มกี ารรว่ มมือกับเพอ่ื นซง่ึ เป็นผลดีตอ่ พฒั นาการทางอารมณ์และสงั คม และ ยงั เปน็ แนวการสอนทีส่ นุกสนานและส่งเสรมิ ความกลา้ แสดงออกให้กับผู้เรียน นอกจากยังแสดงใหเ้ ห็นถึงความคดิ สรา้ งสรรค์ของผ้เู รยี นได้อกี ด้วย

ประเภทของการสอนโดยใช้การแสดงบทบาทสมมติ 2. การแสดงบทบาททไ่ี ม่มกี ารเตรยี ม มากอ่ น วิธกี ารน้ีอาจใชร้ ะหวา่ งบทเรยี นหรือ เป็นวิธีการสอนที่ครใู ชส้ อนกันมากใน เร่ิมต้นบทเรียนเพ่ือเร้าความสนใจของผเู้ รียน ปัจจบุ นั เพราะขนั้ ตอนของการสอนไมย่ าก เป็นต้นว่า ระหวา่ งผ้ทู ่ีสอนกาลังสอนเรื่อง หรือซับซอ้ นมากเท่าใด เพือ่ นามาปฏิบัติใน หน้าทีพ่ ลเมอื งของบุคคลในอาชีพต่าง ๆ และ หอ้ งเรียนนนั้ แยกไดเ้ ปน็ 2 ประเภท คอื ความสาคัญของหนา้ ที่ทีม่ ีตอ่ สังคม ผสู้ อน อาจเรียกผูเ้ รียน 4-5 คน ออกไปแสดง 1. การแสดงบทบาทสมมตทิ ่มี กี ารเตรยี ม บทบาทของบคุ คลในอาชพี ต่าง มาล่วงหนา้ ผสู้ อนจะผกู เรอ่ื งหรอื ประเดน็ ๆ กัน หลงั จากน้นั กจ็ ะใหผ้ ู้เรียนในช้นั เสียกอ่ น แล้วนามาเลา่ ให้ผ้เู รยี นฟงั พร้อมกนั วจิ ารณบ์ ทบาทท่ีแสดงไปแลว้ วิธีการสอน นน้ั กจ็ ะกาหนดตัวผแู้ สดงและบทละครอยา่ ง เช่นนีก้ ็นับวา่ เปน็ วธิ ีการสอนโดยการแสดง ครา่ ว ๆ โดยอาจเพม่ิ เตมิ รายละเอียดตาม บทบาทสมมติเชน่ กัน ความเหมาะสมและตามความเหน็ ของผ้แู สดง เอง

ขนั้ ตอนการสอนตามแบบการแสดงบทบาทสมมติ (Role playing) สามารถแบ่งออกไดเ้ ป็ น 3 ขน้ั ตอน ข้ันเตรียมการ ขั้นแสดง ข้ันสรปุ

ขั้นเตรียมการ คณุ ครแู ละนกั เรียนรว่ มกัน คณุ ครูกาหนดเร่อื งราวหรอื สถานการณ์ กาหนดเรอื่ งราวหรือ ตา่ ง ๆ ใหแ้ ต่ละกลมุ่ และให้สมาชกิ ในกลุม่ เลือกบทบาทกันเอง หรือคุณครูอาจกาหนด สถานการณส์ มมติจากเนื้อหา บทบาทให้นกั เรยี นแตล่ ะคนเองเลยก็ได้ ความรทู้ ไี่ ดเ้ รยี นรู้ ….1 …2 …3 …4 …5 มกี ารจับกลุม่ ผูเ้ รยี นตาม จัดเตรียมพืน้ ทีแ่ ละอปุ กรณ์ จดั เตรียมพน้ื ที่และ ความสะดวกและเหมาะสม ในการแสดง อุปกรณใ์ นการแสดง กับเน้ือหาและบทบาทใน การแสดง

ข้ันแสดง ผเู้ รียนแสดงบทบาทตามเร่อื งราว หรือสถานการณ์ทก่ี าหนด คณุ ครทู าหนา้ ทีเ่ ปน็ ผู้สงั เกตการณ์ และตดั บทการแสดงในจุดทเ่ี หมาะสม

ข้ันสรปุ 01 คณุ ครกู ลา่ วชมเชยผเู้ รยี นท่ีแสดง และสอบถามถึงความรสู้ กึ และความคิดเห็นในการแสดงบทบาทดงั กลา่ ว 02 คณุ ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั แลกเปลยี่ นความคิดเห็นและ อภิปรายถึงเรอื่ งราวหรอื สถานการณท์ ่ีไดแ้ สดง 03 คณุ ครใู หน้ กั เรยี นไดแ้ สดงเพิ่มเติม 04 คณุ ครสู รปุ ถึงสง่ิ ท่ีไดร้ บั จากการแสดงอีกครงั้

ขอ้ ดีและขอ้ จากดั ของวิธีสอนโดยใชบ้ ทบาทสมมติ ข้อดี 1. ช่วยใหเ้ กิดความเขา้ ใจว่าคนอ่ืน 5. สามารถใชพ้ ฒั นาทกั ษะทางสงั คม อาจคิด รสู้ กึ และปฏบิ ตั ิ อยา่ งไร เห็นอกเห็นใจคนอื่น 6. ใชใ้ นการสอนหรอื ประเมินผล การเรยี นรดู้ า้ นจิตพิสยั หรือทง้ั 2. ใชช้ ว่ ยในการ สองประการ เปล่ยี นแปลงเจตคติ 7. ผแู้ สดงบทบาทเรยี นรกู้ าร 3. ผเู้ รยี นไดร้ บั การเตรยี มสาหรบั จดั ระบบความคิด และการ สถานการณจ์ รงิ ที่จะเผชิญ ตอบสนองโดยฉบั พลนั 4. กระตนุ้ ใหเ้ กิดความคิด 8. ฝึ กการใชร้ ะบบส่อื สารจากการ สรา้ งสรรค์ ปฏบิ ตั ิมากกว่าจากการใชถ้ อ้ ยคา

ข้อจากัด หรือ จดุ ด้อย 1. ใชเ้ วลามาก 2. นกั เรยี นเกง่ มกั 5. ถา้ ไมส่ ามารถเช่ือมโยงการ ผกู ขาดสถานการณ์ แสดงบทบาทสมมติกบั บทเรยี น ใหก้ บั ผเู้ รยี นไดก้ จ็ ะทากิจกรรม 3. ผทู้ ี่ขาดทกั ษะท่ี ทงั้ หมดน้ีดอ้ ยคณุ คา่ จาเป็ น เช่น เป็ นคนข้อี าย พดู ติดอา่ ง จะรสู้ ึกไมส่ บายใจและ 4. ผเู้ รยี นบางคนไม่สามารถ เป็ นปัญหามาก แสดงบทบาทตามกาหนดได้

องคป์ ระกอบของการสอนแบบบทบาทสมมติ 1. ผแู้ สดงและผู้ 2. เหตกุ ารณ์ 3. ฉากและส่ือ สงั เกตการณ์ ประเด็น หรอื ปัญหา การสอน เมอื่ นำมำปฏิบัตใิ น ซึ่งอำจจะหยิบยกจำกใน ฉำกมเี พียงท่ีจำเป็ นเทำ่ นน้ั หอ้ งเรียนแลว้ จะแยกกลมุ่ ผเู้ รียน แบบเรียน หรือผสู้ อนสรำ้ งขนึ้ หรืออำจไมใ่ ชเ้ ลยก็ได้ สว่ นสอ่ื ออกเป็ น 2 กลมุ่ คือ ใหมเ่ องตำมวตั ถปุ ระสงคท์ ี่ กำรสอนก็เชน่ กนั จำเป็ นไม่ กลมุ่ ผแู้ สดงเป็ นกลมุ่ ท่ีไดร้ ับ กำหนดไวว้ ำ่ จะใหผ้ เู้ รียนรอู้ ะไร มำกนกั ทง้ั นเี้ พรำะ มอบหมำยบทบำทจำกครผู สู้ อน จำกเหตกุ ำรณน์ นั้ โดยทวั่ ไป ควำมสำคญั ของกำรเรียนกำร แลว้ จำกกำรวำงแผน กำร ผสู้ อนจะเป็ นผกู้ ำหนดเหตกุ ำรณ์ สอนดว้ ยกำรแสดงบทบำท เรียนกำรสอนของผเู้ รียนทงั้ ชน้ั เอง และนำเหตกุ ำรณน์ นั้ ๆ มำ สมมติขนึ้ อย่กู บั บทบำทของผู้ ใหแ้ สดงบทบำทตำ่ ง ๆ กนั กบั เสนอแกผ่ เู้ รียนเพ่ือกำรแสดง แสดงมำกกวำ่ สิ่งใด กลมุ่ ผชู้ มซึ่งจะเป็ นกลมุ่ ตอ่ ไป สงั เกตกำรณ์ โดยจะนำผลจำก กำรสงั เกตไปอภปิ รำยภำยหลงั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook