เสียงเกิดขึ้นได้อย่างไร (Ebook)

เสียงเกิดข้ึนไดอ้ ยา่ งไร เป็ นคล่ืนกลที่เกิดจาก เมื่อวตั ถุถูกทำให้เกดิ กำรส่ันดด้ว การสน่ั สะเทือนของวตั ถุ กำร ดดี สี ตแี ละเป่ ำ หรือด้ว วิธีอื่นด จะทำให้เกดิ เสี ง เช่นด เม่ือเรำเคำะ แก้ว, ดดี สำ ของกตี ำร์, เป่ ำใบไม้, ตี กลอง วตั ถุจะเกดิ กำรส่ันดและเกดิ เป็ นด เสี งต่ำงๆ ขึน้ ด

องค์ประกอบกำรได้ นิ ดเสี ง 1.แหล่งกำเนดิดเสี ง 2.ตัวกลำง คือ ของแข็ง 3.อวั วะรับเสี ง คือ หู เกดิ กำรสะเทือนด > ของเหลว > แก๊ส กำรอดั ตัวและข ำ ตวั ของคลื่นดเสี ง

หูของ คนเราประกอบดว้ ย 3 ส่วน ไดแ้ ก่ ขัน้ ตอนกลไกการได้ยนิ ประสำทหู สมอง (ซีรีบรัม) เสี ง หูช้ันดนดอก หูช้ันดกลำง หูช้ันดในด ประสำทหู สมอง ประสำทสมองคู่ที่ 8 (ซีรีบรัม)

แหล่งกำเนดิดเสี ง (Sound Source) กำรทำเสี งทำได้เฉพำะเพศผู้ โด จะอำศั กล้ำมเนดื้อท่ีอ ่ตู รง ช่องท้องหดและข ำ ทำให้เกดิ เสี งขนึ้ ด กำรทำเสี งส่วนดใหญ่เพ่ือ หำคู่ แต่กใ็ ช้กบั พฤตกิ รรมอ่ืนดๆ เช่นด ข่มขู่ แสดงควำมพอใจ เป็ นดต้นด กำรทำเสี งทำได้เฉพำะเพศผู้ โด จะใช้ปี กคู่หนด้ำถูหรือสีกนั ด ทำให้เกดิ เสี ง เสี งจะมีลกั ษณะต่ำงกนั ดเพ่ือบ่งบอกพฤติกรรม เช่นด หำคู่, บอกอำณำเขต เสี งของมนดุษ ์เกดิ จำกกำรสั่นดของเส้นดเสี ง ซึ่งจะอำศั กำรหำ ใจเข้ำ-ออก ในดผู้ชำ จะมเี ส้นดเสี งที่ ำวกว่ำจึงทำให้เสี งทุ้มกว่ำ วตั ถุทท่ี ำให้เกดิ เสี ง เมื่อวตั ถุนด้ันดเกดิ กำรสั่นดสะเทือนด

กำรเคลื่อนดทข่ี องเสี ง การเดินทางของเสียง ตอ้ งอาศยั ตวั กลางในการเคล่ือนท่ี เสียงมาถึงหูของ เราโดยมีอากาศเป็นตวั กลาง แหล่งกาเนิด เสียงจะทาใหอ้ ากาศรอบๆสนั่ สะเทือน การสน่ั สะเทือนจะกระจายออกไปรอบ ทุกทิศทาง เมื่อคล่ืนเดินทางมาถึงหูของเรา เราจะรับรู้เสียงต่างๆ

ควำมดงั ของเสี ง (Sound volume) ปริมำตรของพลงั งำนดเสี งทมี่ ำถงึ หูของเรำ ขนึ้ ดกบั ควำมเข้มของเสี ง ง่ิ ควำมเข้ม 01 หนด่ว วดั มำตรฐำนด ของเสี งมำก ควำมดงั ของเสี ง ง่ิ มำก 02 ควำมเข้มเสี งคือ เดซิเบล (dB) หูของมนดุษ ์สำมำรถรับควำมดงั ที่ 0-120 dB ควำมถี่ของคล่ืนดเสี ง ต้ังแต่ 20-20,000 เฮิรตซ์ 03 องค์กำรอนดำมั โลกได้กำหนดดว่ำ 04 ระดบั เสี งทด่ี งั กว่ำ 85 เดซิเบล ถือว่ำเป็ นดอนั ดตรำ ต่อมนดุษ ์ เสี งทคี่ ำดว่ำไม่ทำให้เกดิ กำรสูญเสี กำรได้ นิ ด 05 แบบถำวร คือเสี งระดบั 75 เดซิเบล 06

ระ ะทำงจำกแหล่งกำเนดิดเสี ง 1. ควำมแรงในดกำรส่ันดสะเทือนดของ ถงึ หูผู้ฟัง : 3. 2. วตั ถุแหล่งกำเนดิดเสี ง ; ใกล้ = เสี งดงั , ส่ันดแรง = เสี งดงั ไกล = เสี งค่อ /เบำ สั่นดเบำๆ = เสี งค่อ /เบำ ชนดิดของตวั กลำง : 4. ขนดำดและรูปร่ำงของวตั ถุ ของแข็ง > ของเหลว > แก๊ส ทเ่ี ป็ นดแหล่งกำเนดิดเสี ง สั่นดสะเทือนด

ขนดำดและรูปร่ำงของวตั ถุ ทเี่ ป็ นดแหล่งกำเนดิดเสี งส่ันดสะเทือนด วตั ถุทต่ี ้นดกำเนดิดเสี ง 1. ขนดำดของวตั ถุ 2. ควำม ำว ขนดำด ำวนด้อ หรือ ขนดำดเลก็ จะสั่นดสะเทือนดเร็ว กำเนดิดเสี ง ของวตั ถุ ส้ันดจะส่ันดสะเทือนดเร็ว กำเนดิดเสี ง ทำให้เกดิ เสี งสูง ทำให้เกดิ เสี งสูง วตั ถุทตี่ ้นดกำเนดิดเสี ง 3. ควำมตึง ขนดำดควำม ำวมำก ขนดำดใหญ่จะส่ันดสะเทือนดช้ำ ของวตั ถุกำเนดิดเสี ง จะส่ันดสะเทือนดช้ำ ทำให้เกดิ เสี งต่ำ ทำให้เกดิ เสี งต่ำ ควำมตึงนด้อ หรือห ่อนด ควำมตงึ มำกจะ จะสั่นดสะเทือนดช้ำ ส่ันดสะเทือนดเร็ว ทำให้เกดิ เสี งตำ่ ทำให้เกดิ เสี งสูง

ควำมถ่ขี องกำรส่ันดสะเทือนด เกดิ จำก หมำ ถงึ เสี งสูงหรือเสี งตำ่ ของวตั ถุ เสี งสูงตำ่ ขนึ้ ดอ ่กู บั ควำมถี่ ในดกำรส่ันดสะเทือนดของวตั ถุทเี่ ป็ นด แหล่งกำเนดิดเสี ง ส่ันดสะเทือนดด้ว ควำมถี่ต่ำ สั่นดสะเทือนดด้ว ควำมถ่ีสูง จะเกดิ เสี งต่ำ จะเกดิ เสี งสูง



ระดบั เสี งแต่ละเดซิเบลเที บได้กบั เสี งจำกแหล่งกำเนดิดใดบ้ำง

ผลกระทบจำกภำวะมลพษิ ทำงเสี ง เสี งดงั มผี ลต่อ 6.ด้ำนดสิ่งแวดล้อม 1. ผลกระทบ หูหนดวกทันดที (120 db) กำรดำรงชีวติ ของสัตว์ ต่อกำรได้ นิ ด เช่นด ทำให้สัตว์ตกใจ หูอือ้ ช่ัวครำว (80 db) และอพ พหนดี 5.ด้ำนดเศรษฐกจิ 2.ด้ำนดสรีระวทิ ำ หูอือ้ ถำวร (อ ู่ในด บริเวณเสี งดงั นดำนดๆ มผี ลผลติ ตำ่ เนด่ืองจำก 4.ด้ำนดสังคม 3.ด้ำนดจติ วทิ ำ ประสิทธิภำพกำรทำงำนด ผลกระทบต่อ ลดลง เสี ค่ำใช้จ่ำ ระบบหมนุ ดเวี นดเลือด ในดกำรควบคุมเสี ง ผลกระทบต่อระบบประสำท กระทบต่อกำรสร้ำง ผลกระทบต่อ มนดุษ สัมพนั ดธ์ทดี่ ี ระบบ ่อ อำหำร ทำให้ขำดควำมสงบ สร้ำงควำมรำคำญ ส่ งผลต่ อกำรนดอนดหลบั ส่ งผลต่ อกำรทำงำนด/ กำรเรี นด www.presentationgo.com

กำรป้องกนั ดอนั ดตรำ ทเ่ี กดิ จำกเสี ง 01 02 03 ป้องกนั ดจำกแหล่งกำเนดดิ เสี ง ป้องกนั ดทผี่ ู้รับเสี ง ป้องกนั ดกำรเดนิ ดทำงของเสี ง โด วธิ ีกำรบำรุงรักษำ โด กำรสวมใส่ โด วธิ ีใช้โครงสร้ำง หรือวสั ดุทลี่ ดเสี งได้ เครื่องจกั รเพื่อให้เกดิ เสี ง อุปกรณ์ป้องกนั ดเสี ง ได้นด้อ ทสี่ ุด designed by TinyPPT.com

เคร่ืองช่ว ฟัง คือ เครื่องข ำ เสี งให้ดงั ขึน้ ด ประกอบด้ว ไมโครโฟนดเป็ นดตวั รับเสี ง ตัวข ำ เสี ง ให้ดงั ขนึ้ ด และลำโพงเป็ นดตวั ปล่อ เสี งออก ทำงำนดโด อำศั ถ่ำนดเคร่ืองช่ว ฟังทม่ี กี ำลงั 1.4 โวลต์ ขนดำดเท่ำกบั ถ่ำนดนดำฬิกำ หลกั กำรทำงำนดของเครื่องช่ว ฟัง คือ กำรข ำ สัญญำณเสี ง ให้ดังขึน้ ดเพื่อชดเช กำรสูญเสี กำรได้ นิ ดทเ่ี กดิ จำกเซลส์ขนด (Hair cell) ทห่ี ูช้ันดในดตำ ไปโด แต่ละคนดทตี่ ่ำงกนั ดไปตำมช่วง ควำมถ่ี เช่นด ช่วงเสี งควำมถส่ี ูง กพ็ วกเสี งแหลม หรือเสี ง ถุงพลำสติกทด่ี ังกรอบแกรบ

กำรสะท้อนด (Reflection) การเคล่ือนที่ของเสียงไปกระทบสิ่งกีดขวาง ส่งผลใหเ้ กิดการสะทอ้ นกลบั ของเสียง ที่เรียกวา่ “เสียงสะทอ้ น” (Echo). 01

กำรหักเห (Refraction) การเคล่ือนท่ีของเสียงผา่ นตวั กลางต่างชนิดกนั หรือการเคล่ือนที่ผา่ น ตวั กลางท่ีมีอุณหภูมิต่างกนั ส่งผลใหอ้ ตั ราเร็วและทิศทางการเคลื่อนที่ ของเสียงเปลี่ยนไป 02

3.กำรเลี้ วเบนด (Diffraction) การเดินทางออ้ มสิ่งกีดขวางหรือเล้ียวเบนผา่ นช่องวา่ งต่างๆของเสียง 03

4.กำรแทรกสอด (Interference) เกิดจากการปะทะกนั ของ คล่ืนเสียงจากหลายแหล่งกาเนิด 04 ซ่ึงอาจทาใหเ้ กิดเสียงท่ีดงั ข้ึนหรือ เบาลงกวา่ เดิม หากคลื่นเสียงที่มี ความถ่ีต่างกนั เลก็ นอ้ ย (ไม่เกิน 7 เฮิรตซ์) เม่ือเกิดการแทรกสอดกนั จะทาใหเ้ กิดเสียงบีตส์ (Beats)

กำรเสี ดสีของเส้นดเอน็ ด เสียงที่ดงั คลา้ ยเสียงของจกั จนั่ กบั ำงสนด เสี งส่วนดหนดึ่งจะถูกส่งผ่ำนด ทเ่ี คลือบบนดปลำ ไม้ ไปตำมเส้นดเอน็ ด ที่เชื่อมต่อไป งั ท่อ ทรงกระบอก โมเลกลุ อำกำศในด ท่อทรงกระบอกทม่ี ี ท่อทรงกระบอก ปลำ เปิ ด เกดิ กำรสั่นด ด้ำนดหนด่ึงทำหนด้ำท่ี ข ำ เสี ง

หมุนดช้ำ – เสี งเบำโด ควำมถเี่ สี งลดลง กำรหมุนด หมุนดเร็ว – เสี งดงั แรงตงึ เชือกก็ งิ่ มำกแรงตงึ เชือกมำกทำให้ ท่อ ำว – เสี งทุ้ม ควำมถตี่ ำ่ กว่ำ ควำม ำว แผ่นดกระดำษทปี่ ิ ดท่อทรงกระบอกสั่นดแรง ท่อใหญ่ – เสี งทุ้ม ควำมถตี่ ำ่ กว่ำ ของท่อ ส่งผลให้อำกำศในดท่อสั่นดแรงขนึ้ ด ขนดำด ของท่อ ท่อส้ันด – เสี งแหลม ควำมถสี่ ูงกว่ำ ท่อเลก็ – เสี งแหลมควำมถส่ี ูงกว่ำ