Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สัตว์ป่าน่ารู้

สัตว์ป่าน่ารู้

Published by กิตติพงศ์ หลานวงศ์, 2021-08-26 06:53:00

Description: สัตว์ป่าน่ารู้

Search

Read the Text Version

สัตวมีกระดกู สนั หลงั ท่ีมขี ากรรไกร คลาสเอเวส (Class Aves) เรียกสัตวใ นคลาสนี้วา “สตั วปก ” มีววิ ฒั นาการมาจากสัตวเล้อื ยคลาน ในชวงมหายุคมโี ซโซอกิ โดยพบซากดึกดําบรรพข อง อารค ีออพเทรกิ ซ (Archaeopteryx) ลักษณะเหมอื นสัตวเ ล้อื ยคลาน คอื - มีเกล็ดทข่ี า - มีฟน - มีกรงเล็บ - มหี างยาว แตวามขี นเหมือนขนนก อารค อี อพเทริกซมบี รรพบุรุษรวมกนั กับนกในปจจบุ ัน

สัตวม กี ระดกู สันหลังที่มขี ากรรไกร คลาสเอเวส (Class Aves) นกเปนสัตวเลือดอนุ มีการปรับเปล่ยี นรูปรา งทีช่ วยในการบินไดอยางมีประสทิ ธภิ าพ โดยกระดกู มี รูพรนุ ทาํ ใหมนี ้าํ หนกั เบาแตแ ขง็ แรง มกี ารปฏสิ นธิภายในและออกลูกเปน ไข ขนที่มีลกั ษณะเปน แผง (feather) โครงสรางกระดกู ของนก

สตั วมกี ระดูกสันหลังที่มขี ากรรไกร คลาสเอเวส (Class Aves) นกเจาฟา หญิงสิรนิ ธร (สญู พันธแุ ลว ) นกเงอื ก (ใกลสญู พันธ)ุ

สัตวม กี ระดกู สนั หลงั ที่มขี ากรรไกร คลาสแมมมาเลีย (Class Mammalia) เรยี กสตั วใ นคลาสนว้ี า “สตั วเ ลย้ี งลกู ดว ยนม (mammal)” มวี ิวัฒนาการมาจากสตั วเลอื้ ยคลาน สัตวเ ลี้ยงลกู ดวยนมเรมิ่ แพรกระจายอยางรวดเรว็ เมอื่ ไดโนเสารเริ่มสูญพันธุ สตั วเลย้ี งลกู ดว ยนมในเพศเมยี ทุกชนดิ มตี อมน้ํานมทาํ หนา ที่ผลิตนาํ้ นมสําหรับเลี้ยงลกู ออ น มีขนปกคลมุ ตัว กลุม มอโนทรีม (Monotremes) เปนสัตวเ ลอื ดอุนอุณหภมู ริ า งกายจงึ คอ นขางคงที่ กลุม มาซเู พียล (Marsupials) มกี ารปฏสิ นธภิ ายในรางกายและสวนใหญออกลกู เปนตัว สัตวเ ลย้ี งลกู ดวยนมแบงเปน 3 กลมุ ใหญ กลุมยเู ทเรียน (Eutherians)

สัตวมกี ระดูกสันหลังทีม่ ขี ากรรไกร คลาสแมมมาเลีย (Class Mammalia) : กลุมมอโนทรีม (Monotremes) เปน สตั วเล้ยี งลูกดว ยนมทมี่ ลี ักษณะโบราณคอื ออกลกู เปนไข แตม ขี นและตอ มนา้ํ นม ตัวออนฟกออกจากไขแ ลว จะเลียนํ้านมบริเวณหนาทองของแมก นิ ตนุ ปากเปดพบไดเ ฉพาะในประเทศออสเตรเลีย ตวั กนิ มดหนามพบเฉพาะประเทศนวิ กนิ ี

สตั วม กี ระดกู สันหลังท่มี ขี ากรรไกร คลาสแมมมาเลีย (Class Mammalia) : กลมุ มาซเู พียล (Marsupials) สัตวกลุมน้ีจะต้ังทองในระยะเวลาที่ส้ันมาก ทําใหลูกออนที่คลอดออกมามีขนาดเล็กและจะคลานไปยัง ถุงหนาทองของแมซ่ึงภายในจะมีตอมนํ้านม มีหัวนมใหลูกดูดนม ลูกจะอยูในถุงหนาทองจนกวา จะเจรญิ เติบโตเตม็ ทจ่ี งึ จะออกจากถุงหนา ทอ งของแม จงิ โจ โคอาลา โอพอสซมั



สัตวมกี ระดกู สันหลังทมี่ ขี ากรรไกร คลาสแมมมาเลยี (Class Mammalia) : กลมุ ยูเทเรียน (Eutherians) เปนสัตวเลี้ยงลูกดวยนมท่มี ี “รก” มรี ะยะการตั้งทอ งนานกวามาซเู พยี ล โดยตวั ออ นจะเจริญภายในมดลูกและรับสารอาหาร จากแมผ านรก สตั วในกลมุ ยูเทเรียน ไดแ ก สัตวเลีย้ งลูกดวยนมสวนใหญ รวมทั้งกลุมไพรเมต (Primate) “ไพรเมต (primate)”เปนสัตวที่อาศัยบนตนไมเปนสวนใหญ สัตวกลุมน้ีมีมือและเทาใชยึดเกาะ น้วิ หวั แมมอื พับขวางได มีสมองขนาดใหญ มีขากรรไกรสั้น ทําใหใบหนาแบนมีพฤติกรรมทางสังคม ซับซอ นยิ่งขึ้น โพรซเิ มยี น (Prosimian) กลุมไพรเมตมีวิวฒั นาการแบง เปน 2 สาย แอนโทรพอยด (Anthropoid)

ววิ ัฒนาการของไพรเมต

โพรซิเมียน เปนสัตวกลุมไพรเมตระยะแรกเรม่ิ ที่อาศยั อยูบ นตนไม ลาํ ตัวเล็ก ตากลมโต มีนิ้วมือ 4 นิ้ว และออกหากินในเวลากลางคืน สัตวในกลุมนี้ เชน ลงิ ลมหรอื นางอาย และลงิ ทารซ ิเออร พบอยใู นเขตรอนแถบแอฟรกิ าและเอเชียใต

แอนโทรพอยด เปนสตั วกลมุ ไพรเมตทม่ี นี ้วิ มอื 5 น้ิว มองเหน็ ไดดีในเวลากลางวัน สมองเร่ิมมีขนาดใหญ และหนาผากแบน สัตวในกลุมน้ีไดแก ลิงมีหาง ลิงไมมีหาง และ มนุษย ลงิ มีหาง ไดแ ก ลงิ โลกเกาและลิงโลกใหม “ลิงโลกเกา” อาศัยอยูบนพื้นดิน พบในทวีปแอฟริกาและเอเชีย มีกนเปน แผน หนังหนา เกล้ียง เชน ลิงแสม ลงิ บาบนู

ลงิ มีหาง ไดแก ลงิ โลกเกาและลงิ โลกใหม “ลิงโลกใหม” อาศัยอยูบนตนไม มีแขนขายาวใชประโยชนในการปนปายและหอยโหน มีการแพรก ระจายอยตู ามธรรมชาตใิ นทวปี อเมรกิ ากลางและอเมริกาใต เชน ลงิ สไปเดอร สัตวทง้ั 2 กลุมหากนิ ตอนกลางวันอยูรวมกนั เปน ฝูง มกี ารอยูร วมกันโดยใชพฤติกรรมทางสังคม โดยลิงเพศผทู ่ีแข็งแกรงทีส่ ุดจะไดเ ปนจา ฝูงและมอี ํานาจควบคมุ ฝูงลงิ ทัง้ หมด

ลงิ ไมม หี างหรือเอพ (ape)  มกี ารสืบเชื้อสายมาจากลิงโลกเกา  มแี ขนยาวขาสัน้ และไมม ีหาง  สามารถหอยโหนไปมาได มเี พยี งชะนีและอรุ ังอุตังเทา นน้ั ท่ยี ังคงอาศยั บนตนไม  มีสมองทีพ่ ัฒนาดีกวาลิงโลกเกามาก สมองมีรอยหยักคลายมนุษย มีการส่ือสารระหวา งกลมุ มกี าร



โรงเรยี นมลู มงั หลวงปู่ชอบฐานสโม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook